ธงรบ - 37
ธงรบยืนมองใบหน้าของอาวุธแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะปิดประตูแล้วเดินอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ แต่เมื่อเปิดประตูรถเขาก็ลังเล ในใจอดนึกถึงปัญหาซึ่งอาจจะตามมาไม่ได้หากแผนการณ์นี้ไม่สำเร็จ ขณะที่กำลังสองจิตสองใจอยู่นั้น มือใหญ่แข็งแรงก็วางลงบนไหล่ อธิคมยืนอยู่ด้านหลัง ตัวค่อนข้างโอนเอน ใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา
“เอ็งส่งเอสเอ็มเอสหาอาทิตย์บอกให้ไปรับตัวไอ้วุธที่คอนโดกษิดิษฐ์หรือยัง” อธิคมถาม
“เออจริงสิ ลืมไป” ธงรบละมือจากที่จับประตูรถแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาแต่โดนอธิคมตบหลังอย่างแรง
“ไอ้โง่ เอ็งจะเอาโทรศัพท์ตัวเองส่งหาหอกอะไรวะ ไปเอาโทรศัพท์ไอ้วุธโน่น ยังไม่เมา เสือกคิดอะไรไม่เข้าท่า” พูดเสร็จ อธิคมหันไปบ้วนน้ำลายทิ้ง ทำเหมือนผอืดผอมจะอาเจียน
“ทำไมวะ” ธงรบทำหน้าสงสัย
“เอ็งเอาโทรศัพท์ตัวเองส่งข้อความไปบอกอาทิตย์ให้มาแบกตัวไอ้วุธกลับ แล้วอาทิตย์จะคิดยังไง ไอ้ทึ่ม มิน่าถึงเสียแฟนให้มัน” อธิคมตะคอก
“ยังกะเอ็งไม่เคยเสียให้มันนี่” ธงรบเบ้ปากแล้วขึ้นนั่งบนรถ เอื้อมมือไปล้วงหาโทรศัพท์ของอาวุธโดยมี 'ผู้กำกับการแสดง' คอยควบคุมอยู่ไม่ห่าง
“เบาๆ ซิวะ เดี๋ยวมันรู้สึกตัว แล้วเอ็งก็รีบๆ เข้า เกิดสองคนนี่รู้สึกตัวขึ้นมาจะซวยเปล่าๆ” อธิคมเร่ง “อยากอยู่บ้านเดียวกันดีนัก คราวนี้มาเห็นไอ้วุธนอนเปลือยกายกอดกับกษิดิษฐ์อยู่บนเตียงในห้องของกษิดิษฐ์ อาทิตย์คงโกรธจนรัศมีอำมหิตแผ่ออกมาเหมือนพระอาทิตย์กำลังจะระเบิด ห้องของกษิดิษฐ์ยิ่งมีแต่คริสตัลกับของที่ขว้างแล้วแตกได้ง่ายๆ คราวนี้ล่ะเอ็งเอ๊ย” อธิคมทำเสียงเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเพื่อนพลางหันหน้าไปมองกษิดิษฐ์ซึ่งนั่งหลับไม่ได้สติอยู่ในรถของตัวเอง
“ไอ้ธง เสร็จหรือยังวะ” อธิคมหันกลับมาเร่งคนที่พูดเก่งเป็นต่อยหอยแต่มีปัญหาเรื่องการเขียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการกดปุ่มตัวหนังสือบนเครื่องโทรศัพท์ “เอ็งพิมพ์จดหมายราชการหรือไง ส่งข้อความแค่นี้ทำไมนานนัก เดี๋ยวเหยื่อก็พร้อมใจกันฟื้นขึ้นมาหรอก”
“เสร็จแล้วๆ” ธงรบทำเสียงรำคาญ “โทรศัพท์เครื่องนิดเดียว กดยากฉิบหาย หน้าจอยังเป็นขาวดำอยู่อีก”
“ไฮเทคอย่างไอ้วุธไม่รู้จักใช้ไอโฟน” อธิคมเหยียดปาก “นี่ข้ายังจะขอคุณนุซื้ออยู่เลย”
“ดีแล้วที่มันไม่ไม่ใช้ เพราะถ้ามันใช้ข้าคงไม่มีปัญญาส่งเอสเอ็มเอส” ธงรบเถียงแล้วนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะหันมามองคนที่ยืนตีหน้ายักษ์อยู่ข้างรถและพูดเสียงอ่อยๆ ว่า “คม เอ็งคิดว่าทำแบบนี้ดีแล้วหรือวะ ข้ารู้สึกว่าที่กำลังทำมันโง่ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“เอ็งกดส่งเอสเอ็มเอสแล้วใช่ไหม” อธิคมหลุบตามองโทรศัพท์ในมือของธงรบ
“กดปุ๊บ ไปปั๊บ” ธงรบพยักหน้าช้าๆ
“ถ้าเอ็งมีปัญญาเรียกเอสเอ็มเอสเมื่อกี้กลับมาได้ก็เลิกล้มแผนการนี้ ทำได้ไหมล่ะ” อธิคมถลึงตา “ไอ้ห่_ มาจนถึงขนาดนี้แล้ว เอ็งไม่สู้ตายหรือวะ”
“สู้แค่ตาย” ธงรบพยักหน้าเนือยๆ “เอ็งตายกับข้าด้วยก็แล้วกัน”
อธิคมปิดประตูรถให้เพื่อนแล้วเดินซวนเซเล็กน้อยกลับไปที่รถของตัวเอง ธงรบบิดกุญแจติดเครื่องเมื่อมองเห็นอธิคมหันหลังมาโบกไม้โบกมือเร่งอีกครั้ง
...เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว...
...เพื่ออาทิตย์ เพื่อให้ได้อาทิตย์กลับมา ไหนๆ ใครก็พูดว่า เพื่อรัก คนเราทำได้ทุกอย่าง...
ธงรบมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจเมื่อโดนอธิคมรุนหลังให้ตรงไปที่เตียงของกษิดิษฐ์เพื่อจัดการถอดเสื้อผ้าของอาวุธ นายตำรวจหนุ่มหันไปพูดกับ 'เพื่อนรักนักวางแผน' แล้วถามขึ้นมาเสียงเบาว่า
“เอ็งคิดดีแล้วหรือวะคม ข้ารู้สึกว่าเหมือนเป็นตัวอิจฉาหนังไทยที่แอบมอมเหล้าพระเอกแล้วใส่ร้าย”
“แกไม่ได้รู้สึกว่าโว๊ยธงรบ เรามอมเหล้ามันจริงๆ แล้วที่สำคัญ ไอ้วุธมันเป็นตัวอิจฉา ส่วนเราเป็นพระเอก เอ็งหุบปากทีเถอะ มาจนถึงขนาดนี้หยุดไม่ได้แล้ว” อธิคมกระชากเสียง ท่าทางมุ่งมั่นยิ่งกว่าคนที่เป็น 'เจ้าของเรื่อง'
“เฮ้อ” ธงรบถอนหายใจ “แกคิดว่าไอ้วุธจะรู้ไหมวะว่าเรามอมเหล้ามัน ตั้งแต่รู้จักกันมาไม่เคยเห็นมันกินเหล้าเมาซะที”
“ตอนนี้มันก็เมาแล้วล่ะ แต่ใครมอมใครเอ็งจะไปสนทำไม อยู่กันตั้งหลายคน ไม่ใช่มันกินเหล้าคนเดียวเมื่อไหร่ แล้วมันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไงก็ไม่มีหลักฐาน”
“เอ็งไม่คิดหรือว่าข้าจะต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก ข้าคอแข็งที่สุด เมายากที่สุด เลยอาจเป็นคนเดียวที่ไม่เมา” ธงรบทำหน้ากังวล
“เอ๊ะ ไอ้นี่ คิดเล็กคิดน้อยอยู่ได้ กษิดิษฐ์อาจติดใจไอ้วุธแล้วลากมานอนด้วย ใครจะรู้ เกิดมีใครสงสัยก็บอกว่ากษิดิษฐ์ได้เราทุกคนในวงเหล้าหมดแล้ว มีไอ้วุธคนเดียวเป็นหน้าใหม่ กษิดิษฐ์หมายตาไอ้วุธตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก” อธิคมอธิบายแล้วถลึงตาใส่ธงรบ “เลิกสงสัยได้แล้ว เร็วๆ เข้า เดี๋ยวอาทิตย์โผล่มาพอดี”
“ใครที่จะสงสัยนี่คือใครวะ” ธงรบยังมีคำถาม “อย่าให้เป็นคุณนุเลย แกคงโกหกได้หรอกไอ้สารวัตรมือปราบจอมวางแผน แล้วนี่ถ้ากษิดิษฐ์รู้สึกตัวก่อนไอ้วุธแล้วเกิดอารมณ์หื่นขึ้นขย่มไอ้วุธมันล่ะ หรือไม่ก็ไอ้วุธฟื้นก่อนแล้วหนีไปก่อนที่อาทิตย์จะมา”
“แผนการจะไม่สำเร็จเพราะเอ็งมััวแต่สงสัยอยู่นี่ล่ะ” อธิคมชกแขนธงรบแล้วเร่งเพื่อนอีกครั้ง “เร็วเข้าสิวะ จะได้ไปคอยดูว่าอาตี๋ตะวันแดงมาหรือยัง แกนึกถึงแต่ความสำเร็จเอาไว้ซิวะธง คราวนี้อาทิตย์เข้าใจผิดแน่ๆ ไอ้วุธก็จะกลายเป็นคนเจ้าชู้ สำส่อน ดีแตก ทำท่าเป็นคุณชาย ที่แท้ก็อดไม่ได้”
“งานนี้ถ้าคุณนุจับได้ โดนกันเละทั้งสองคนแน่ๆ” ธงรบบ่น
“ไอ้ธง ข้าจะทนเอ็งไม่ไหวแล้วนะไอ้ห่_ เอ็งพูดไม่เป็นมงคลอีกนิดเดียวได้โดนข้าเตะคอหัก” อธิคมยกเท้าขึ้นประกอบคำพูด ธงรบหันมาชี้หน้าห้ามเพื่อนคู่หูแล้วเดินตรงไปยังเตียงนอนที่ร่างของอาวุธนอนแผ่หราอยู่ไม่ได้สติ จากนั้นจึงจัดการถอดเสื้อผ้าของอาวุธจนเปลือยเปล่า
“โอ้โห ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนะไอ้นี่ ไม่เคยเห็นมันแก้ผ้ามานานแล้ว ลืมไปเลยว่าไอ้วุธมันก็สุดยอดเหมือนกัน อาทิตย์จะเจ็บแค่ไหนบ้างก็ไม่รู้ เจ็บน้อยหรือมากกว่าตอนที่โดนข้าแทง” ธงรบอุทานแล้วรำพึงรำพัน มองร่างขาวสะอาดของอาวุธอย่างพิจารณา
“ไอ้ธงรบ หยุดพล่ามซะที เอ็งก็รู้ว่าข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ไอ้วุธอันดับสอง แล้วเอ็งอันดับสาม”
“เอ็งแน่ใจหรือคม” ธงรบแย้ง “ข้าว่าน่าจะมีการอัพเดทข้อมูลกันใหม่นะเพื่อน”
“เลิกไร้สาระซะที เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเอ็งยังไร้สาระได้ไม่จบสิ้น เร็วซิวะ เสร็จแล้วจะได้ไปกัน” อธิคมถอดเสื้อผ้ากษิดิษฐ์และ 'จัดท่าทาง' ให้ 'เหยื่อผู้โชคร้าย' ทั้งสองเสร็จแล้วจึงเดินตรงไปยังประตู และหันมาพยักหน้าให้ธงรบเดินตาม
“อาทิตย์จะมาทันเห็นภาพบาดตาบาดใจไหมนี่ ข้ากลัวสองคนนี้รู้สึกตัวก่อนจังเลย ตีหัวไอ้วุธมันหน่อยไหมคม” ธงรบยังไม่เลิกกังวล
“ทันสิวะ” อธิคมรับรองเสียงหนักแน่น หันไปมองกษิดิษฐ์แวบหนึ่งก่อนจะพูดประโยคต่อไปค่อยๆ พร้อมกับยิ้มร้ายกาจ “ทันไม่ทัน คราวนี้ไอ้วุธก็ไม่เหลือ”
เมื่อ 'ผู้กลั่นแกล้งสันติราษฎร์' ทั้งสองนายลงมาถึงชั้นหนึ่งของอาคารห้องชุดพักอาศัยหรูหรากลางกรุงเทพฯ ก็ต้องรีบหลบฉากทันทีเมื่อเห็นอาทิตย์เดินเข้ามาในล๊อบบี้ แต่ไม่กี่อึดใจธงรบก็ก้าวออกมาจากที่กำบังแล้วยืนนิ่งอึ้งมองชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์พนักงานต้อนรับ อธิคมยื่นมือไปดึงคอเสื้อธงรบให้หลบเพราะกลัวอาทิตย์เห็นแต่ธงรบก็ยังดึงดันโผล่หน้าออกมามองตาม 'อาตี๋น้อย' ของเขาที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ซึ่งคิดว่าคงสอบถามถึงเรื่องห้องพักของกษิดิษฐ์
“เอ็งไม่ต้องห่วง ข้าติดสินบนพนักงานที่เคาท์เตอร์เรียบร้อยแล้ว” อธิคมกระซิบ
ธงรบมองอาทิตย์ไม่วางตาจนชายหนุ่มเดินหายเข้าไปในลิฟท์จึงครางเบาๆ ว่า “โธ่ อาทิตย์”
“โธ่อะไรวะ” อธิคมถาม
“สงสารอาทิตย์” ธงรบพึมพำ
“ไอ้ธง ไอ้...” อธิคมตวาดเพื่อนเสียงเบาๆ ถลึงตาใส่ธงรบที่ทำท่าเหมือนจะขาดใจ “อย่าบอกนะว่าเอ็งคิดอย่างที่ข้ากำลังสงสัย”
“ถ้าอาทิตย์เข้าไปแล้วเห็นภาพบาดตาบาดใจ อาทิตย์จะเสียใจขนาดไหน”
“นี่เอ็งกำลังยอมแพ้ใช่หรือเปล่่าธงรบ เอ็งตัดใจให้อาทิตย์เป็นของไอ้วุธแล้วใช่หรือเปล่า ไอ้เสาธงหัก ไอ้เสากระโดงผุ ไอ้เสาปูนโฮบเวร เอ็งยอมแบบนี้ได้ยังไงวะ ไอ้...ไอ้”
“ข้าสงสารอาทิตย์ ไม่อยากให้อาทิตย์ร้องไห้ ข้าทำให้อาทิตย์ผิดหวังแล้ว ข้าไม่อยากให้อาทิตย์ผิดหวังอีก โธ่ อาตี๋น้อย” ธงรบพึมพำเหมือนคนไม่มีสติแล้วเดินตัวแข็งทื่อออกจากที่กำบัง ตรงไปยังประตูทางออกของคอนโดมิเนียมหรูที่พักของกษิดิษฐ์ อธิคมส่ายหน้าแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเริ่มหนักใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป แต่ฤทธ์สุราที่ดื่มเข้าไปนั้นทำปฏิกิริยาต่อเขาและธงรบต่างกัน แม้จะรู้สึกแย่อยู่บ้าง แต่ความฮึกเหิมมีมากกว่า ส่วนธงรบนัั้น ตอนนี้กำลังถูกทำให้กลายเป็นผีดิบ
อนุภาพไม่เคยคิดเลยว่าจะโชคร้ายเจอกับกษิดิษฐ์ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เมื่อตอนที่ย้ายกลับมาที่กรุงเทพฯ พร้อมอธิคมเขาทำใจไว้แล้วว่าคงจะต้องเจอกับอดีตเก่าๆ ของอธิคมเพราะความจริงแล้วสังคมเมืองหลวงก็ใช่ว่าจะกว้างใหญ่ แต่คนที่เขาภาวนาว่าอย่าให้พบเจอคือชายหนุ่มคนนี้
“อ้อ เจอคุณนุก็ดีแล้ว ไม่นึกเล๊ย” กษิดิษฐ์ทำเสียงหยัน แววตาเหมือนคำพูด
“พูดมาตรงๆ เลยคุณกษิดิษฐ์ อยากจะหาเรื่องก็กล้าๆ หน่อย” อนุภาพเสียงแข็ง หน้าตาเอาเรื่องไม่แพ้กัน ตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นต้องรักษามารยาทกับกษิดิษฐ์อีกแล้ว
“คุณดูแลพี่คมยังไง ปล่อยให้ไปทำตัวแบบนั้น เป็นตำรวจมือปราบซะเปล่า ทำอะไรไม่เข้าท่า นี่คงหน้ามืดตามัวผสมกับฤทธิ์เหล้าจนสมองฝ่อ”
“คุณกษิดิษฐ์ ผมไม่มีเวลามายืนฟังเรื่องแบบนี้” อนุภาพทำท่าจะเดินหนี
“ผมขอถามหน่อยว่าคุณจะรับผิดชอบการกระทำของพี่คมยังไง” กษิดิษฐ์ส่งสายตาแข็งกร้าว
“หมายความว่ายังไง สารวัตรทำอะไร” อนุภาพขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณไปถามเขาดู” กษิดิษฐ์เปลี่ยนมายิ้มเยือกเย็น แต่นัยน์ตายังลุกโชนเพราะอารมณ์ไม่พอใจ “จะกำจัดกษิดิษฐ์ด้วยวิธิีเลียนแบบจากละครน้ำเน่านั่นนะ งี่เง่าสิ้นดี และที่สำคัญ จะกำจัดผมนั้นไม่ง่ายหรอก”
“คุณบอกผมมาดีกว่า” อนุภาพเสียงเข้ม ใกล้จะหมดความอดทน “อย่างน้อยจะได้รู้ว่าจะพูดเหมือนกันหรือเปล่า”
“ผมบอกให้คุณไปถามพี่คมก็ไปถามเถอะ” กษิดิษฐ์ปฏิเสธ “หรือไม่ก็ไปถามสารวัตรอาวุธก็ได้ หรือไม่ก็คุณอาทิตย์”
“คุณกษิดิษฐ์ ผมไม่มีเวลามาเล่นตลก” อนุภาพตกใจที่กษิดิษฐ์เอ่ยชื่อสองคนนั้น
“เรื่องนี้ไม่ใช่ตลกคาเฟ่” กษิดิษฐ์เสียงห้วน “แต่เป็นละครน้ำเน่าที่พี่คมกำลังจะกลายเป็นตัวอิจฉาต้องการกำจัดมารคอหอย”
“สารวัตรอธิคมทำอะไร”
“อ้อ มีลูกคู่่ด้วยนะ ช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง แต่สองคนนั้นลืมไปว่าสารวัตรอาวุธนั้นฉลาดล้ำลึกกว่าตัวเอง แผนมอมเหล้าพระเอกแล้วหลอกล่อผมให้ติดกับนั่นน่ะ เด็กประถมเขาไม่คิดทำกันหรอก แต่ก็อย่างว่า แรงหึงของคนนี่มันทำให้เราทำได้ทุกอย่าง คุณก็คงจะรู้ หรือถ้าจำไม่ได้ ผมจะทำให้คุณดูอีกครั้งเพื่อเป็นการเตือนความจำ” กษิดิษฐ์เสียงเข้มจัด ตาลุกวาบเหมือนไฟกองใหญ่กำลังสุมอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้น “อยากเห็นไหมแรงหึงของผม อยากเห็นหรือเปล่า”
อนุภาพสูดลมหายใจเข้าเบาๆ แล้วเดินหนีจากกษิดิษฐ์ช้าๆ ในใจเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ส่ิงที่กษิดิษฐ์เล่ามานั้นเป็นความจริงเขาก็พอจะจินตนาการเรื่องราวเติมเข้าไปได้เพราะมีชื่อของอาวุธกับอาทิตย์เข้ามาปนด้วย แต่ถ้าจะให้แน่ใจจริงๆ ก็ควรจะถามอาวุธหรือไม่ก็อาทิตย์
...แต่อธิคมกับธงรบจะไปทำแบบนั้นทำไม...
...หึง ใครหึงใคร แล้วมาเกี่ยวอะไรกับกษิดิษฐ์ ที่แน่ๆ เขารู้ว่าอาวุธหึงอาทิตย์เพราะไปยุ่งกับอาวุธ อธิคมก็คงเข้าข้างธงรบอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กษิดิษฐ์เข้ามายุ่งด้วยทำไม และท่าทางกษิดิษฐ์โกรธมากด้วย...
ธงรบทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในห้องทำงานอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้เขาแทบไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยนอกจากพยายามจัดการกับเรื่องของภานุวัฒน์ เขานึกว่าทุกอย่างเรียบร้อยไปแล้ว แต่เมื่อคืนนี้ภานุวัฒน์โผล่มาที่บ้านเขา นั่งกอดเข่าก้มหน้ามองพื้นอยู่หน้าตึก แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้และเรียกชื่อ ภานุวัฒน์เงยหน้าขึ้นมองเขาช้าๆ ดวงตาคู่นั้นเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา แต่ที่ทำให้เขาตกใจคือรอยแดงบนแก้มและต้นคอ
...
“พี่ธง ช่วยผมด้วย” ภานุวัฒน์สะอื้น เมื่อเห็นหน้าธงรบ น้ำตายิ่งไหลมากกว่าเดิม
“เกิดอะไรขึ้น ใครมันทำแบบนี้กับโจ้อีก”
“พ่อ...” ภานุวัฒน์เม้มปาก ก้มหน้าลงมองเข่าตัวเอง
“พ่อ...” ธงรบพึมพำ ในใจนึกภาพว่าบิดาของภานุวัฒน์เป็นคนทำร้ายลูก “พ่อทำอะไร”
“พ่อตีผม พ่อเอาเข็มขัดฟาดหน้าผม แล้วก็...” เท่านั้้นเองภานุวัฒน์ก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ชายหนุ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กเล็กๆ ที่โดนตีเพราะทำความผิด
“เจ็บมากไหม ไหนดูซิ” ธงรบนั่งยองๆ ลงตรงหน้าภานุวัฒน์แล้วดันคางให้ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นแล้วหมุนหน้าฝ่ายนั้นไปทางซ้ายและทางขวาเพื่อดูรอยที่โดนทำร้าย ภานุวัฒน์สวมเสื้อยืดคอลึกเนื้อผ้าบางๆ เขาจึงเห็นรอยนั้นพาดยาวลงไปถึงหน้าอก
“ทำไมต้องมีเรื่องกัน” ธงรบพึมพำ
“พ่อไม่รักผม” ภานุวัฒน์คราง “พ่อเกลียดผม พ่อบังคับผม”
“พี่บอกแล้วว่า...”
“พ่อบังคับให้ผมไปหาหมอ” ภานุวัฒน์แทรกขึ้น “ผมไม่ได้บ้านะครับพี่ธง ทำไมพ่อต้องให้ผมไปหาจิตแพทย์ พ่อจะให้ผมกินยา จะได้เลิกรักผู้ชาย พ่อจะเอาผมไปบำบัด พ่อไม่เข้าใจผมเลย ทำไมครับ ผมเป็นคนนะ ผมไม่ใช่...”
“หยุดพูดเถอะ” ธงรบถอนหายใจหนักๆ
“พ่อบอกว่าถ้าผมไม่ยอมทำตามก็ให้ไปตายที่ไหนก็ไป ผมพยายามแล้วนะครับพี่ธง แต่พ่อก็จะเอาผมไปหาหมอ ผมไม่ได้ป่วย ผม...” ภานุวัฒน์ซบหน้าลงกับท่อนแขนของตัวเองที่กอดเข่าแน่น ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน “พี่ธง ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว ผมไม่มีที่ไป ใครก็ไม่รักผม”
…
ตอนนี้ธงรบคิดอะไรไม่ออก เขาอยากจะมีมนต์วิเศษยิ่งนัก จะได้เสกให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางของมันแบบที่มันควรจะเป็น
...แล้วมันควรจะเป็นแบบไหนล่ะ...
...อาทิตย์อยู่กับอาวุธก็คงเหมาะสมกันดี ท่าทางอาทิตย์คงจะมีความสุข อาวุธก็เลิกเหงาและลืมแฟนเก่าได้เพราะมีคนใหม่เข้ามาในชีวิต เขาก็ดูแลภานุวัฒน์ คนแค่คนเดียวเขาเลี้ยงได้ ที่สำคัญ ภานุวัฒน์รักเขามาก...
...ถ้าเขาลืมอาทิตย์ได้ เขาก็จะอยู่กับภานุวัฒน์อย่างมีความสุข ภานุวัฒน์ก็จะมีความสุข...
...แล้วเขาก็ไม่ต้องมานั่งถอนหายใจอยู่แบบนี้...
...
“ผมอยากอยู่กับพี่ธง ผมมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ พี่ธงให้ผมอยู่ด้วยนะครับ จะให้ผมดูแลบ้านให้ก็ได้ เลิกเรียนแล้วผมจะรีบกลับมาเตรียมอาหารเย็นให้ทาน ผมจะซักผ้ากวาดบ้านถูบ้านให้ พี่ธงอย่าไล่ผมให้กลับไปอยู่กับพ่อเลยนะครับ” ภานุวัฒน์พูดกับธงรบด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
...
ธงรบฟุบหน้าลงบงโต๊ะ กำมือทุบโต๊ะช้าๆ ประหนึ่งจะช่วยให้คิดออก ในที่สุดคืนที่ผ่านมาเขาก็ใจอ่อน ตอนแรกเขาคิดว่าจะพาภานุวัฒน์ไปอยู่กับชาคริตเช่นเคย แต่ก็เปลี่ยนใจเพราะไม่อยากโหดร้ายต่อความรู้สึกของภานุวัฒน์ไปมากกว่านั้น
“โว๊ย ปวดหัวฉิบหาย” ธงรบพ่นลมหายจออกมาแรงๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองอธิคมซึ่งเดินเข้ามาในห้องแล้วใช้เท้าเตะตู้เอกสารเพื่อเป็นการส่งเสียงเรียกให้รู้ว่ามีคนเดินเข้ามา
“ปวดหัวเรื่องพระอาทิตย์ไม่ส่องแสงหรือไงธงรบ หน้านี้หน้าฝน เมฆหมอกมันก็ครึ้มเป็นธรรมดา” อธิคมยืนกอดอกพิงตู้เอกสาร มองธงรบด้วยสายตาอ่อนอกอ่อนใจ
“แกหุบปากเลยนะคม ไม่มีอารมณ์จะล้อเล่น” ธงรบตอบเสียงห้วน ตาขวาง
“ดูก็รู้ว่าแกคงล้อเล่นไม่ออก”
“ข้าอยากตาย” ธงรบเคาะหน้าผากของตัวเองกับโต๊ะเบาๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนแฟ้มเอกสาร ก่อนจะลุกขึ้นและทำท่าจะเดินออกจากห้อง
“จะกลับบ้านไปหาเมียน้อยหรือไง” อธิคมล้อ แต่ใบหน้าราบเรียบ
“ไอ้ห่_ เมียน้อยที่ไหน” ธงรบกระชากเสียง ยกมือขึ้นทำท่าจะต่อยเพื่อน
“อ๋อ เมียเก็บ”
“คม เพื่อนกำลังหนักใจนะโว้ย เอ็งมาล้ออยู่ได้” ธงรบโวยวาย
“แล้วเมื่อไหร่เอ็งจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยซะที ขืนยังเป็นแบบนี้ สิ่งที่เราทำไปก็จะสูญเปล่า ตอนนี้อาทิตย์เห็นแล้วว่าไอ้วุธมันนอกใจ โอกาสที่จะกลับมาหาเอ็งก็เริ่มมีมากขึ้น แต่เอ็งยังกำจัดเด็กคนนั้นไม่ได้ซักที”
“เรื่องของภานุวัฒน์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นี่หว่า เด็กคนนี้เขา...” ธงรบถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
“เขาน่ากิน ทั้งขาว ทั้งอวบ เนื้อแน่นๆ หวานๆ กระดูกอ่อนๆ เคี้ยวไม่ติดฟัน เอ็งเสียดายใช่ไหมล่ะถึงตัดใจไม่ลง” อธิคมตอบแทน
“ใครว่า” ธงรบส่ายหน้า “แล้วไอ้เรื่องที่เราทำไปน่ะ เอ็งแน่ใจหรือว่ามันจะได้ผล ข้าว่ามันงี่เง่าไปหรือเปล่าวะ”
“ไงก็ทำไปแล้วล่ะ” อธิคมยักไหล่ “แต่เอ็งเสือกมามีเรื่องภานุวัฒน์อีก ถ้าอาทิตย์ไปจ๊ะเอ๋กับเด็กนั่นที่บ้านแกอีกละก็ คราวนี้ล่ะ เอ็งเอ๊ย เก้าอี้เลซี่บอยไม่ลอยไปกระแทกทีวีหรอก มันจะถูกทุ่มเข้าหว่างขาเอ็งแทน ไม่ต้องอึ๊บใครอีกเลยตลอดชีวิต”
“นี่ทะเลาะกับพ่อทีไร วิ่งมาหาข้าทุกที ข้าก็สงสาร ไม่รู้จะทำยังไง” ธงรบไม่ตอบโต้อธิคมเพราะยังคิดเรื่องภานุวัฒน์
“แล้วเอ็งก็เปิดประตูรับพาเข้าไปในบ้าน แล้วก็ไปปลอบโยนกันบนเตียง” อธิคมเติม
“เด็กเขาไม่มีที่ไปนี่หว่า” ธงรบปฏิเสธ “แต่คราวนี้ข้าระวังตัวสุดๆ แทบจะไม่แตะเนื้อต้องตัวภานุวัฒน์เลยรู้หรือเปล่า อยู่ห่างที่สุดเท่าที่จะห่างได้ นอนยังล๊อคห้องเลยนะคม แล้วเวลาจะเดินออกมานอกห้องนอนข้าก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยก่อนเปิดประตูออกมา”
“ไอ้เวร” อธิคมชี้หน้าธงรบ “เวรกำลังรัดคอเอ็งให้ขาดใจตายอยู่นี่ไง แล้วกรรมก็กำลังจะโยนเอ็งลงหลุม โดยมีไอ้วุธเป็นคนกลบดินแล้วเทปูนปิดทับ”
“พอๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เอ็งก็เลิกซ้ำเติมข้าซะที” ธงรบโบกมืออย่างรำคาญเพื่อนคู่หูแล้วเดินออกจากห้องทำงานแต่ก็ต้องหยุดชะงักพลางยกมือขึ้นปิดหน้าและถอยหลังทันที อธิคมเลิกคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะโผล่หน้าออกไปมองด้านนอกเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
---- ๓๗ ----
อืมม เรื่องนี้เขียนไปเขียนมาแล้วรู้สึกว่า ธงรบทำไมช่างซื่อบื๊อสุดๆ อธิคมก็งี่เง่า
เอ หรือว่าคฑาวุธคนเขียนทั้งซื่อบื้อและงี่เง่าเลยออกมาเป็นแบบนี้
แต่ ผมไม่เกี่ยว เพราะผมเป็นคนโพส