.........
จู่ๆเขาตื่นขึ้นมาราวกับถูกเปิดสวิตส์ ร่างกายยังปวดระบมไปหมด และยังมีความมึนงงหลงเหลืออยู่ เด็กหนุ่มมองไปรอบๆห้องที่ค่อนข้างสลัวและสะดุดอยู่ที่ข้างตัว เมื่อพิจารณาดูจึงรู้ว่าเป็นเส้นผมหยักหนาของเท็ด
‘ทำไมเท็ดมานอนอยู่ตรงนี้ แล้วที่นี่มันที่ไหน…โรงพยาบาล…จริงสิโรงพยาบาล…เราถูกลักพาตัวแล้ว…ไม่…เรา…ฆ่าคน…เรา….เราฆ่าคน…พระเจ้า…เราเป็นคนฆ่ามัน…เท็ดรู้หรือเปล่า…ถ้ารู้เขาต้องรังเกียจเราแน่…ไม่นะ…ไม่เอา…เราจะไม่ยอมเสียเท็ดไป…ไม่!…’
“…ฮึก…” เด็กหนุ่มหลุดเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ ร่างที่ฟุบอยู่สะดุ้งเฮือกแล้วผุดลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะชะโงกเข้ามาใกล้
“กาย…เป็นอะไรไป…น้องเจ็บตรงไหนพี่จะเรียกหมอให้นะ?”
“ไม่ๆเท็ด…เท็ด…กอดผมหน่อย…กอดผมที”
เท็ดประคองร่างบางขึ้นมากอดไว้กับอก เด็กหนุ่มซุกหน้าแน่นน้ำตาร้อนๆเปียกอกกว้างจนชุ่ม
“กาย…อย่าร้องไห้สิ…กาย”
“เท็ดเกลียดผมไหม…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมไม่ได้ตั้งใจ…ผมจะติดคุกไหม…ผม…ผมขอโทษ”
“กายเป็นอะไรไป…บอกพี่สิน้องเป็นอะไร?”
“ผม…ผมฆ่าคน….ผมฆ่าคนตายเท็ด…ผมไม่ได้ตั้งใจ…”
“หมายความว่าน้องเป็นคนฆ่าซูมานงั้นเหรอ?”
“ผม…ไม่ได้ตั้งใจ…มันจะข่มขืนผม…พอผมหนีมันก็ยิงผม…แล้วผมเจอมีด…ผม…ผมจะถูกประหารไหม…เท็ด…พี่เกลียดผมหรือเปล่า…พี่อย่าเกลียดผมเลยนะ…ผมขอโทษ”
ชายหนุ่มกัดกรามแน่นด้วยความแค้น อยากให้ซูมานฟื้นขึ้นมาแล้วแล่เนื้อมันทีละชิ้นให้สาสมกับที่มันทำ อ้อมแขนแข็งแรงโอบร่างน้อยแน่นขึ้น อยากลบเอาความทุกข์ทรมานออกไปให้หมดไม่อยากให้กายจำช่วงเลวร้ายนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
“พี่รักกาย…พี่ไม่มีวันเกลียดกาย…อย่าร้องไห้…มันไม่ใช่ความผิดของน้องนะ…สถานการณ์อย่างนั้นเป็นพี่พี่ก็ต้องทำแบบกาย…พี่ดีใจเสียอีกที่กายเก่ง สามารถช่วยตัวเองได้ดีขนาดนั้น…กาย…อย่าร้องไห้คนดี…ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยพี่สัญญา…จะไม่ใครแตะกายได้อีกแล้ว”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากอก มือข้างที่มีสายน้ำเกลือยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าเขาแผ่วเบา ปากแดงสั่นระริกน้ำตายังไหลลงมาเป็นทาง
“ผม…ผมคิดว่าจะไม่ได้กลับมาหาพี่อีกแล้ว”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
“ผมคิดว่าจะไม่มีโอกาสเจอพี่อีก…ผมคิดว่าคงต้องตายอยู่คนเดียวเสียแล้ว”
“ไม่…ไม่มีทาง พี่ขอโทษที่คุ้มครองกายไม่ได้…พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มเสียงสั่นคว้ามือเล็กมาจุมพิตซ้ำไปมาด้วยความเสียใจ
“อย่าขอโทษสิครับ…มันไม่ใช่ความผิดของพี่…ผมหาเรื่องเอง…ถ้าผมไม่ไปโรงพยาบาลผมก็ไม่ต้องเจอพวกมัน…อย่าโทษตัวเองเลย”
“แต่พี่เคยสัญญาว่าพี่จะดูแลกาย…พี่เคยสัญญาว่าจะปกป้องน้อง…แต่ก็ทำไม่ได้…น้องต้องเจ็บตัวอีกแล้ว…พี่เสียใจ” ชายหนุ่มกอดร่างในอ้อมแขนแน่นขึ้น เด็กหนุ่มซุกหน้ากับอกกว้างแต่น้ำร้อนๆที่หยดลงบนต้นคอทำให้เขาตัวสั่น
เด็กหนุ่มค่อยๆดันตัวออก เมื่อเงยขึ้นก็เห็นชายหนุ่มจ้องมองมาทั้งน้ำตา แม้ปราศ จากเสียงสะอื้น แต่ความคับแค้นขมขื่นฉายออกมาจากดวงตาทั้งคู่
“ผมไม่อยากได้ยินพี่ขอโทษ…แค่ผมได้เจอพี่อีกครั้ง…มันก็ดีที่สุดแล้ว…อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะครับ…ผม…ไม่อยากเห็นพี่เสียใจเพราะผม…ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้พี่เป็นอย่างนี้”
“กาย…พี่สัญญา…ต่อไปนี้พี่จะไม่ห่างกายอีก…พี่จะไม่ให้กายคลาดสายตาอีกแล้ว…พี่ต้องปกป้องกายให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…พี่จะไม่ปล่อยให้กายต้องเจอเรื่องร้ายๆคนเดียวอีกแล้ว…พี่สัญญานะกาย…พี่สัญญา” เด็กหนุ่มพยักหน้า เขาร้องไห้อยู่นานจึงค่อยสงบลง เท็ดเช็ดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะรินน้ำให้ดื่ม เด็กหนุ่มยึดมือใหญ่ไว้เมื่อสังเกตเห็นรอยแผลและรอยเขียวช้ำทั้งหลังมือและที่ฝ่ามือ
“พี่โดนอะไรครับ?”
“ก็ตอนชุลมุนกันนั้นแหละ…กายดีขึ้นแล้วใช่ไหม…งั้นทานอะไรหน่อยนะ…หิวไหม” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่อง
“แสบท้องจังครับ”
“เดี๋ยวนะพี่จะสั่งซุบมาให้”
ชายหนุ่มโทรไปสั่งอาหาร ครู่เดียวซุบอุ่นๆก็ถูกจัดมาให้พร้อมกับอาหารค่ำชุดใหญ่ ที่มีจดหมายขู่แนบมาว่าถ้าคนเฝ้าไข้ไม่กินจะสั่งห้ามเยี่ยม เท็ดหัวเราะแล้วลงมือจัดการกับอาหารมื้อแรกนับแต่เกิดเรื่อง
“พี่ตามผมเจอได้ยังไง?” เด็กหนุ่มถามขณะที่เท็ดประคองให้นอนลงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ
“พวกมันขโมยเรือของรีสอร์ทหนี เจฟฟรี่เลยตามได้เพราะเรือมีเรดาห์ พวกมันพากายไปที่เกาะร้างพี่กับเจฟตามด้วยเฮลิคอปเตอร์ ความจริงพี่ก็ตามไปติดๆนะมาคลาดกันตอนขึ้นเขา แต่ก็ตามกายไปทันที่หนองน้ำนั่นแหละ”
“คนที่ตามผมไป…เป็นพี่…งั้นแผลพวกนี้…ผมใช่ไหมที่ทำ...ผมทำให้พี่เจ็บใช่ไหมเท็ด?” เท็ดใจหายเมื่อรู้ว่าพลั้งปากไป
“เอ่อ…มะ…ไม่ใช่นะ…คือ…”
“ผมขอโทษ…ผมเสียใจ…ผมไม่รู้ว่าเป็นพี่ผมขอโทษ…ฮือ…เท็ดขอโทษ….ผมเสียใจที่ทำให้พี่เจ็บ…ผม…ผม…เท็ด…ฮือ” เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง น้ำตาไหลพรูลงมา ก่อนจะสะอื้นจนตัวงอด้วยความเสียใจที่เขาทำร้ายชายหนุ่ม
“กาย…อย่าร้องไห้…กาย”
“ผมขอโทษ…ฮือ…ขอโทษ”
“น้องไม่ได้ตั้งใจ…พี่รู้…”
“ทั้งๆที่พี่ตามไปช่วย….แต่ผมกลับทำให้พี่เจ็บ…ผมขอโทษ”
“กายอย่าร้องไห้อีกเลยนะ…พี่ขอร้อง…พี่ไม่อยากเห็นกายร้องไห้อีกแล้ว…”
“ขอโทษครับ…ขอโทษ”
“กาย….ฟังพี่นะ…พี่ดีใจที่สุดที่ได้กายคืนมา…เรื่องอื่นมันไม่สำคัญเลย…เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว…และพี่สัญญาว่าจะดูแลกายให้ดีที่สุด…จะไม่มีวันที่เรื่องร้ายๆจะเกิดกับกายอีก…พี่สัญญา” เด็กหนุ่มคลายสะอื้นค่อยๆแตะที่รอยช้ำ
“เจ็บมากไหมครับ?”
“ไม่หรอกแค่นี้เอง…สมัยพี่เล่นกีฬาพี่เจ็บยิ่งกว่านี้อีก” มือบางเหนี่ยวใบหน้าครามลงมาหา ปากอิ่มแตะบนรอยช้ำแผ่วเบา
“กาย…” เท็ดครางเสียงแผ่วเมื่อลิ้นนุ่มเลียที่รอยช้ำบริเวณมุมปากและบนโหนกแก้มให้ เด็กหนุ่มประคองหน้าเท็ดไว้ แต่เมื่อสบตากันจู่ๆก็มีภาพเด็กชายตัวผอมสูงกำลังก้มลงเป่าที่รอยแดงบนมือเล็กผอมซีดของเขา
‘ฟู่ๆ…หายแล้วแค่นี้เอง กายของพี่เก่งที่สุด…ไม่เจ็บแล้วนะ’
‘เจ็บอ่ะ…ยังเจ็บอยู่เท็ดต้องให้ผมขี่คอด้วยล่ะ’
‘ก็ได้…แต่กายต้องสัญญาว่าจะไม่เล่นไฟอีกตกลงไหม?’
‘สัญญาฮับ’ ภาพซ้อนทับหายวับไป เด็กหนุ่มตัวสั่นมือทั้งสองกุมแก้มสากไว้แน่น จ้องมองตาคมอย่างตื่นตะลึงกับสิ่งที่เพิ่งจำได้ ประตูในความฝันเปิดซ้อนเข้ามาเป็นระรอก
‘กาย…เราคือกายงั้นเหรอ?…เราคือกาย…’
แต่ดูเหมือนเท็ดจะอยู่ในอารมณ์อื่น ตาคมหม่นลงด้วยความปราถนา ชายหนุ่มเอียงหน้าไปจุมพิตที่มือนิ่มทั้งสองข้างก่อนจะเลื่อนลงมาประกบริมฝีปากกับปากอิ่ม ตอนแรกเพียงแค่การสัมผัสแผ่วๆแล้วค่อยๆเน้นหนักขึ้น ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในปากนุ่ม มือเลื่อนมาประคองหน้านวลไม่ให้ถอยหนี เด็กหนุ่มตัวสั่นหัวใจเต้นระทึก ลมหายใจเหมือนถูกสูบออกจากร่าง ในท้องราวกับมีกระแสไฟแล่นผ่านเผลอขยับเบียดอกกว้างแนบชิดยิ่งขึ้น ร่างของทั้งคู่เอนแนบลงกับเตียงช้าๆมือร้อนลูบไล้จากเส้นผมนุ่มละเอียดระเรื่อยลงมาตามลำคอและแผ่นหลัง แขนเรียวโอบรัดรอบลำคอเขาแน่น ไฟปราถนากระพือโหมขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
“เท็ด…” เด็กหนุ่มหลุดเสียงครางแผ่วเมื่อปากร้อนเผยอออก ตาคมเป็นประกายวาววาม ไล้เลียบนริมฝีปากนุ่มอย่างหยอกเย้า ฟันคมขบเม้มริมฝีปากล่างเบาๆแล้วค่อยเบียดจุมพิตลงมาอีกครั้ง กายสะอื้นแผ่วเนื้อตัวร้อนผ่าว รสสัมผัสฉุดคร่าสติสัมปชัญญะสุดท้ายออกจากร่าง ในสมองว่างเปล่าขาวโพลนรับรู้เพียงปลายลิ้นร้อนที่กวาดไล้เขาขึ้นสูงแล้วดิ่งวูบลงมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มถอนปากออกตอนไหน ตราบจนเห็นดวงตาวาววามจับจ้องเขานิ่งนาน สติที่กลับมาอย่างฉับพลันทำให้เขาหน้าร้อนซู่ ไม่อาจทนสบตาชายหนุ่มได้อีก เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับอกกว้างแทนการเผชิญหน้าได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบา ตัวเขายังสั่นระริกหัวใจเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก ความตื่นเต้นที่เกิดจากความทรงจำที่กลับมาอย่างกระทันหันและความในใจที่เปิดเผยออกมา หลังจากที่เขาเฝ้ารอมาตลอด เท็ดจูบเขา!ไม่น่าเชื่อว่าเท็ดจะทำอย่างนี้ได้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่การจูบราตรีสวัสดิ์เหมือนที่ผ่านมาหรือการจุมพิตปลอบประโลมยามเขาหวาดกลัว มันแตกต่างจากทุกครั้ง มันเหมือนกับจูบดื่มด่ำในความฝัน แต่คราวนี้เขาไม่ได้ฝัน เท็ดจูบเขาจริงๆ ทั้งที่ดูชายหนุ่มระมัดระวังยามที่ใกล้ชิดกันตลอดมา แต่วันนี้…….
“เท็ด…พี่…”
“พี่รักกาย” กายนิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะหลุดเสียงกระซิบแผ่วๆ
“ผมก็รักพี่” ชายหนุ่มชะงักก้มลงมองหน้าที่ซุกอยู่ที่อกอย่างตื่นเต้น
“กายเข้าใจความหมายของพี่หรือเปล่า…พี่รักกาย…ไม่ใช่แบบพี่น้องนะ…เข้าใจหรือเปล่า?”
“ขะ…เข้าใจครับ”
“แล้ว…กายก็รักพี่แบบเดียวกัน?”
“อื้อ…เท็ดอ่ะ…ไม่รู้แล้ว” กายตอบเสียงสะบัดแต่กลับซุกหน้ากับอกเขาแน่นยิ่งขึ้น เท็ดรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัว ได้ยินเสียงหัวใจของคนในอ้อมแขนเต้นระทึกไม่แพ้กัน ค่อยๆช้อนหน้านวลขึ้น เด็กหนุ่มตัวสั่นแต่ปากอิ่มเผยอรอรับลิ้นร้อนที่แทรกเข้าไปชิมความหวานในปาก ลมหายใจของทั้งคู่หอบกระชั้น ทั้งตื่นเต้นและวาบหวามราวกับกำลังร่วมรักทั้งที่ยังไม่ได้แตะต้องกันมากไม่กว่าการจูบเท่านั้น
“กาย…กาย…พี่รักกาย…กาย” ชายหนุ่มครางเสียงสั่น เฝ้าวนเวียนจุมพิตทั่วหน้านวลอย่างลุ่มหลง ทั้งคู่ต่างตกอยู่ในห้วงอารมณ์จนไม่ได้ยินเสียงประตูเปิด
จีนส์ผงะถอยกรูดจนเกือบล้ม ก่อนจะหันหลังวิ่งออกมาราวกับคนบ้า ไม่!…ทำไมกลายเป็นอย่างนี้ ทั้งๆที่คิดว่าจะได้เห็นกายเจ็บแบบที่เขาเคยเจ็บ ได้เห็นเท็ดบ้าคลั่งด้วยความแค้นเหมือนที่เขาเคยเป็น และได้เห็นคนทั้งคู่เลิกร้างกัน แต่กลับตรงกันข้าม เท็ดกับกายกอดจูบกันเหมือนกับจะกำลังร่วมรักกันด้วยซ้ำ
‘แพศยา…ทุเรศ…แกไม่น่าจะรอดกลับมา…ทำไมแกไม่ตายไปเสีย…ทำไม!’
“อ๊าาาาาาา!!!!!! ฉันเกลียดแก!!!เกลียดแกที่สุด ทำไมเท็ด! ทำไม!!….พี่ไม่เคยรักผม…ไม่เคยเลย…ไม่มีใครรักผมเลย…ทำไม…ฮือ…ทำไม๊!!”
จีนส์กรีดร้องออกมาสุดเสียงแล้วกระโดดลงไปในทะเล ร่างสูงที่วิ่งตามมากระโจนตามลงไปคว้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จีนส์กรีดร้องและก่นด่าอยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยรูปร่างที่ต่างกันสุดขั้วทำให้เด็กหนุ่มถูกหิ้วกลับไปในโรงพยาบาล พยาบาลสาวปราดเข้ามาหาขณะที่เจฟฟรี่ล๊อคร่างบางไว้ไม่ให้ดิ้น เพียงครู่เดียวอาการทุรนทุรายก็ลดลงและเงียบสงบในที่สุดด้วยฤทธิ์ยา เจฟฟรี่ช้อนร่างเปียกโชก ขึ้นมาอุ้มแล้วพากลับไปยังห้องพัก โชคของจีนส์ยังดีที่ชายหนุ่มสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อน ไหวของเด็กหนุ่มอยู่ตลอดเวลาทำให้สามารถช่วยไว้ได้ทัน เพราะกลางดึกอย่างนี้โอกาสที่จะมีคนเห็นจีนส์โดดลงไปในน้ำคงแทบไม่มี
พยาบาลสาวที่เข้ามาจะวัดไข้รีบถอยออกมาแทบไม่ทันแล้วออกมายืนหน้าตาตื่นอยู่ข้างนอกจนหัวหน้าเดินผ่านมาเจอ
“เธอมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้…วัดไข้เสร็จแล้วเหรอ?”
“หัวหน้าคะ…ในห้องน่ะ…เข้าไม่ได้ค่ะ” พยาบาลสาวกระซิบกระซาบท่าทางมีเลศนัย
“ทำไม?”
“ก็…คุณพอลลิ่ง…เอ่อ…อยู่บนเตียงกับคนไข้นะสิคะ”
“แล้วไง?”
“ก็แหม…ถ้าเข้าไปเกิดเขากำลัง…แฮ่ม!จะทำไงละคะ?”
“มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องสนใจ…หน้าที่เธอคือเข้าไปดูแลคนไข้…นี่คงเข้าไปโดยไม่เคาะประตูอีกละสิ”
“ก็…ขอโทษค่ะ”
“กลับไปทำหน้าที่เธอให้เรียบร้อย”
“แต่ว่า…”
“เลือกเอาว่าจะทำงานให้เรียบร้อยหรือจะให้ฉันเขียนรายงานเธอ”
“ขอโทษค่ะ..จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”
พยาบาลสาวสูดลมหายใจลึกพร้อมกับเคาะประตูเบาๆก่อนจะเข้าไป แต่ร่างสูงยังคงนอนอยู่บนเตียงเธอจึงเปิดไฟดวงเล็กซึ่งแสงสว่างไม่มากนัก เท็ดสะดุ้งเพิ่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มพึมพำขอโทษแล้วรีบลงจากเตียงเพื่อให้พยาบาลเข้ามาดูน้ำเกลือและเลือดให้กาย
‘โธ่เอ๊ย!นึกว่าจะมีฉากเด็ดที่แท้ก็แค่นอนเป็นเพื่อนเฉยๆเหรอเนี่ย…เซ็งเป็นบ้าอุตสาห์ลุ้นแทบตาย’
นอกหน้าต่างหม่นมัวด้วยหมอกยามเช้า แต่หัวใจของกายกลับกระ-
จ่างใสและอบอุ่นด้วยความสุขเมื่อลืมตาขึ้นมาก็ได้สบกับตาคมที่จับจ้องอยู่ก่อนแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ กำลังคิดว่าจะต้องจูบปลุกหรือเปล่า”
“ผมไม่ใช่เจ้าหญิงนิทราสักหน่อย” เด็กหนุ่มบ่นอุบอิ่บอย่างเขินๆ
“นั่นสิ…แต่อยากจูบเฉยๆจะได้ไหม?”
“……” กายอ้าปากค้างแล้วหุบฉับหน้าแดงระเรื่อ ไม่อยากจะเชื่อว่าเท็ดจะพูดจาแบบนี้เป็น ตาคมแพรวพราวและดูเจ้าเล่ห์
“ไม่ตอบถือว่าอนุญาต…อรุณสวัสดิ์จ้ะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ…หรือว่า…ฮะฮะฮะ”
“เท็ดบ้า…หยุดหัวเราะนะ!…หยุดสิ…บ้าๆๆ” เด็กหนุ่มหน้าแดงซ่านด้วยความอาย เพราะคิดว่าชายหนุ่มจะจูบแบบเมื่อคืนจึงเผลอเผยอปากรอ แต่เท็ดเพียงแต่จุมพิตเบาๆที่หน้าผากเหมือนทุกครั้งเท่านั้น ชายหนุ่มหัวเราะชอบใจ ปล่อยให้ร่างบางทุบเขาด้วยความอาย กายดึงผ้าขึ้นมาคลุมศรีษะจนมิดเพราะไม่กล้าสู้หน้า ขณะที่เท็ดยังหัวเราะไม่หยุด ทำให้ชายสองคนที่กำลังจะเข้ามาในห้องหยุดชะงักและเหลียวสบตากันอย่างยินดี ก็อกๆๆ….
“เชิญครับ”
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเท็ด…คุณกายเป็นอย่างไรบ้างครับ…สีหน้าดูดีมาก…ปวดแผลไหมครับ?”
“นิดหน่อยครับ…”
“อืม…ถ้าเป็นอย่างนี้อีกไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว”
“ดีจัง…ผมอยากกลับเร็วๆ…ผมไม่ค่อยถูกโรคกับโรงพยาบาลสักเท่าไหร่…ถึงมันจะดูเหมือนโรงแรมห้าดาวมากกว่าโรงพยาบาลก็เถอะครับ”กายคุยจ้อยๆโดยไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของเจฟ
“กายคุยกับคุณหมอก่อนนะ”
“ครับ”
“มีอะไรเจฟ?” ชายหนุ่มถามทันที่ปิดประตูสนิท
“คุณจีนส์โดดทะเลเมื่อคืน”
“อะไรนะ!!…แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ ผมให้คนจับตาดูไว้ตลอดเลยช่วยไว้ทัน”
“เด็กบ้า!ชอบทำเรื่องบ้าๆอยู่เรื่อยแค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรือไงก็ไม่รู้” เท็ดถอนใจเฮือกยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด
“เมื่อคืนคุณจีนส์แอบมาที่ห้องนี้…”
“มาห้องนี้…ทำไมผมไม่เห็นล่ะ…หรือว่า…”
“ผมเห็นวิ่งกระเซอะกระเซิงออกไปเลยรีบตาม…คุณจีนส์โดดน้ำที่ท่าเรือหน้าโรงพยาบาลนี่เองครับ”
“เฮ้อ!…ทำไมเป็นอย่างนี้นะ….ขอบคุณนะเจฟ…คุณช่วยผมไว้ตั้งหลายเรื่อง…ขอบคุณมากๆ”
“ไม่เป็นไรครับ…แค่นี้ยังไม่ได้ครึ่งที่คุณเคยช่วยน้องผมและช่วยคุณริชกับคุณราเชลด้วยซ้ำ”
“บ้าน่า…เรื่องริชกับราเชลน่ะถึงผมไม่ช่วยคุณก็ต้องทำให้เขาดีกันได้อยู่แล้ว…ส่วนเรื่องน้องคุณเป็นใครก็ต้องทำแบบผมทั้งนั้น”
“ไม่มีใครกล้าเสียงตายขนาดนั้นหรอกครับ…ทั้งๆที่ทุกคนหมดหวังแต่คุณกลับลุยเข้าไปเอาเธอออกมาจนตัวเองเจ็บแทบตาย”
“เอาเป็นว่า…เราต่างคนต่างช่วยกันตกลงไหม…คุณเคยสัญญาแล้วนี่ ว่าเราเป็นจะเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน…จำได้ไหม…เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ถือว่าพี่น้องช่วยเหลือกันดีไหมครับ?”
“ครับผม”
“แล้วแจ็คเป็นไงบ้างครับ?”
“เมื่อคืนรู้สึกตัวดีแล้วครับ สายๆหมอคงให้ย้ายมาห้องพิเศษได้”
“ผมไม่ได้ไปดูเขาเลย…แย่จริง”
“คุณจะแยกร่างไปหรือไงครับ…ทั้งคุณกายทั้งแจ็คจะไปดูแลพร้อมกันได้ยังไง อีกอย่างแจ็คก็อยู่ในความดูแลของหมอไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว แต่คุณกายน่ะไม่ใช่แค่บาดเจ็บทางกายนะครับ เจอเรื่องแบบนี้คงขวัญหายอีกนาน”
“ผมอยากขุดมันขึ้นมาสับเป็นชิ้นๆ…” เท็ดกัดกรามแน่นตาเป็นประกายกร้าว
“ตกลงว่าเป็นฝีมือ…?”
“ครับ…ผมก็นึกไม่ถึงว่ากายจะกล้า”
“ผมดีใจที่คุณกายกล้า…ไม่อย่างนั้นเรื่องคงเลวร้ายกว่านี้” เท็ดหันไปมองหน้าห้องกายด้วยความเสียใจ
“แต่มันทำให้กายเจ็บปวด…ผมรู้ว่ากายกลัวแค่ไหนที่ต้องฆ่าคนตาย…ทำไมนะเจฟ…ผมช่วยใครๆได้…แต่ผมกลับช่วยคนที่ผมรักไม่ได้เลยสักครั้ง…ผมมันทุเรศ…ห่วยแตก”
“คุณเท็ด…คุณไม่ใช่พระเจ้านะครับ…คุณจะควบคุมทุกอย่างในโลกนี้ได้ยังไง…อย่าโทษตัวเองเลยครับ ตอนนี้คุณกายกำลังอ่อนแอถ้าคุณไม่เข้มแข็งคุณกายจะพลอยแย่ไปด้วย”
“ขอบคุณเจฟที่เตือนสติผม” ชายหนุ่มสลัดศรีษะแรงๆเพื่อลดความเครียดก่อนจะถอนใจเฮือกใหญ่ เจฟตบที่ไหล่เบาๆ
“เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ เดี๋ยวคุณกายจะสงสัย”
......
คงจะไม่มีเรื่องเลวร้ายกว่านี้อีกนะ แค่นี้กายก็ช้ำพอแล้ว
ขอบคุณคะ แล้วเจอกันใหม่คะ
