[story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม  (อ่าน 135500 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #90 เมื่อ22-02-2007 22:09:59 »

กร๊าก อารมณ์รุนแรงกันเจงๆเล้ย
*************************************************************
ท่ามกลางสายฝนที่ตกมาพรำๆ พี่บอยตั้งหน้าตั้งตาขับรถมาอย่างเดียว เสียงวิทยุดังกังวานอบอวลด้วยเพลงรักแต่เราทั้งสองคนกลับนิ่งเงียบ ปกติเวลาไปไหนกันผมก็จะเป็นฝ่ายบอกนั่นบอกนี่ เช่น
“พี่บอยฝนตกหลบฝนก่อน”
“ ขับรถเร็วไปพี่ จะรีบไปดูเมียคลอดที่โรงบาลหรือไง”
แต่คราวนี้เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันเลยครับ ระหว่างเราสองคนมีเพียงเสียงวิทยุที่ดังภายในรถ กับเสียงถอนหายใจของพี่บอยดังขึ้นมานานๆครั้ง จนกระทั่งรถเข้าเขตบางนา
“พี่ถามจริงๆนะครับเป้ เป้เคยมีอดีตกับยอดใช่หรือเปล่า”พี่บอยทนไม่ได้ครับแกถามผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เป้เคยรักพี่ยอด” ผมตอบเสียงแผ่ว น้ำตาเริ่มคลอ
“เขามีคู่หมั้นแล้วนะครับน้องเป้ น้องเป้ทำไมต้องชอบคนมีเจ้าของแล้วด้วยหละครับ ทำไมไม่มองคนที่เขาสนใจ พยายามเข้าหาน้องเป้ คนที่ใส่ใจน้องเป้หละครับ”
“จะมีใครใส่ใจเป้หละครับ ขนาดเป้ยอมอาย หน้าด้านไปสารภาพรักกับเขาสมัยเรียนมหาลัย เป้ยังโดนปฏิเสธมาซะขนาดนั้น ทุกวันนี้เป้บอกตรงๆเลยว่า เป้ไม่อยากมีแล้วไม่อยากเริ่มต้น ความรักของเป้เมื่อมันเกิดได้มันก็ตายได้เหมือนกัน”
“แล้วน้องเป้ไม่ลองมองรอบข้างมั่งเหรอ มีใครหลายคนที่เขารักน้องเป้ ห่วงน้องเป้”
“เป้อยากรู้จัง ใครกันคือผู้โชคร้ายคนนั้น นอกจากครอบครัวกับเพื่อนสนิทแล้ว เป้ยังไม่เห้นใครที่เป็นที่พึ่งพิงทสงใจของเป้ได้เลย”
พี่บอยเปิดไฟเลี้ยวแล้วจอดชิดริมถนน แล้วมองหน้าผมนิ่ง
“แล้วพี่หละน้องเป้ พี่อยากให้น้องเป้รับพี่ไว้พิจารณาสักคน ถึงตอนนี้พี่จะไม่ได้อยู่ในใจของน้องเป้แต่ขอโอกาสให้พี่อยู่ข้างใจของน้องเป้สักคนได้หรือเปล่า”
ผมนิ่งครับคาดไม่ถึงครับเพราะเท่าที่รู้จักกันมาพี่บอยแกไม่เคยที่จะแสดงทีท่าหวานจ๋อยกับผมเลยสักที จะมีก็พูดทีเล่นทีจริงกับนังต้องมั่งหละ บางทีเล่นเอานังต้องมันคิดเป้นตุเป็นตะไปก็มี แถมบางทีลับหลังพี่บอย นังต้องมักจะมานินทาให้ฟังบ่อยๆ
“พี่บอยของมึงนี่อ่อยกูซะจริง พอกูจะจริงจังแกก็ทำเป็นเล่นตัว สักวันนะมึงกูจะวางยาแล้วลากเข้าโรงแรมซะให้เข็ด”
“ มึง ก็วางวันนี้เลยสิ พี่เขาดูเหมือนอยากได้มึงเต็มแก่”
“อีดอก...นี่พูดหาตีนให้กูแต่หัววันเลย ถ้าเขาสนใจกูมันก็ไม่ยากหรอกว้า แต่กูรู้วะว่าเขาสนใจใคร...” นังต้องมองหน้าผมยิ้มๆ
“มึงรู้ได้ไงอะ เขาบอกมึงเหรอ” ผมยังตามนังต้องไม่ทัน
“เรื่องอไรเขาจะบอกกู กูดูกูก็รู้ละกัน กูไม่ได้โง่เหมือนมึงนี่”
“เออ กูโง่ แต่กูก็สวยกว่ามึงหละกัน”
“เออ อีดอก อีสวย อีนางฟ้า คอยดูนะมึงกูไปเมืองนอกสองเดือนกูกลับมาไม่สวยขึ้นมึงเหยียบหน้ากูได้เลย”
ผมคิดถึงคำพูดของนังต้องขึ้นมา ว่าพี่บอยเขาสนใจใคร มิน่าตอนนั้นมันมองหน้าผมยิ้มๆ ก็ผมไม่รู้นี่ครับ ดูพี่แกทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัยด้วยซ้ำ กับนังต้องดูแกเล่นเฮฮา แต่กับผมดูแกจะเก๊ก วางท่าเป็นผู้ใหญ่เกินตัว จนผมไม่ได้สังเกตครับว่าแกสนใจใคร
ผมเงียบครับเมื่อพี่บอยพูดเปิดอกมาอย่างนี้ มันตื้อคิดไม่ออกเลยจริงๆ มันไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าพี่บอยแกจะมาคิดกับผมแบบนี้ ปกติผมก็เล่นๆกับแก ล้อแกมั่งแต่ไม่ได้จริงจังอะไรนักอีกอย่างผมก็เห็นแกไปนั่นมานี่บ่อยๆกับใครหลายคนทั้งผู้ชายละผู้หญิงเวลาที่ผมออกไปพบลูกค้า อีกอย่างแกก็เป็นคนที่อยู่ในสังคมคนละชั้นกับผม ผมกลัวมากครับกลัวที่จะไปกันไม่ได้
“พี่บอยล้อป้เล่นหรือเปล่าครับ” แทนที่ผมจะตอบแต่ผมกลับถามแทน
“น้องเป้เคยเห็นพี่พูดเล่นเหรอครับตั้งแต่รู้จักกันมา”
“ขอเวลาเป้ก่อนได้ปะครับ เรายังไม่รู้จักกันดีพอ อีกอย่างเป้ก็ไม่ได้เตรียมใจไว้รับใครเลยครับตอนนี้”
“เราดูกันไปก่อนก็ได้ครับ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ใจของพี่ให้น้องเป้ได้เห็นว่าพี่จริงใจแค่ไหน พี่ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับน้องเป้แล้วครับ เพราะตอนนี้ หัวใจของพี่ มอบให้น้องเป้เก็บเอาไว้แล้ว” แล้วพี่บอยไม่พูดอะไรต่ออีก แกเปิดไฟให้สัญญาณ ก่อนออกรถมาส่งผมที่คอนโด....

**************************************

หลังจากวันที่ไปกินข้าวที่ต่างจังหวัดมาแล้ว พี่บอยได้พาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดผมมากขึ้น มารับผมไปกินข้าวกลางวัน เลิกงานก็พาไปดูหนัง กินข้าว ฟังเพลง จนนังต้อง กัดบ่อยๆว่า “เห็นผู้ชายดีกว่าเพื่อน” ช่วงนี้ผมคงห่างจากนังต้องมาพอสมควรจริงๆ ในขณะที่ผมยังรู้สึกกับพี่บอย ไม่ได้ก้าวหน้ามากไปกว่าคำว่า เพื่อนหรือพี่ชายเลย บ่อยครั้งที่ผมเห็นแกควงคนอื่นไป ทานข้าว ดูหนัง แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมากมายนัก นอกจากว่ารู้สึกเสียหน้าบ้างเล็กๆ ที่บอกมารักมาชอบเรา แต่ควงคนอื่นมาให้เห็น ผมก็พยายามเข้าใจครับว่า พี่บอยเป็นหนุ่มเนื้อหอม และดูแกก็เป็นสุภาพบุรุษตัวจริง กระทิงแดงซะนี่กะไร ดูแกไม่ค่อยกล้าปฏิเสธใครเท่าไรนัก แถมบางครั้งก็หว่านเสน่ห์จนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้ ส่วนทางผมหนะเหรอครับ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานงกๆไปวันๆ จะมีเวลาส่วนตัวก็วันศุกร์หละครับ ที่ผมจะได้ออกไปเที่ยวกับนังต้อง เพราะพี่บอย วันศุกร์-เสาร์ จะต้องไปค้างที่บ้านแม่ เรียกว่าผมมีวันปลอดตั้งสองวัน ที่จะเป็นอิสระ กว่าจะเจอพี่บอยก็เย็นวันอาทิตย์โน่นหละครับ แต่ว่าผมจะไปเที่ยวได้ก็ต่อเมื่อคุณพี่บอยต้องอนุญาตก่อนเท่านั้น ผมถึงจะไปได้ แล้วห้ามผมไปคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนโดยเด็ดขาด อีกอย่างที่พี่บอยห้าม คือห้ามเที่ยว ผับหรือบาร์เกย์ โดยเด็ดขาด โห.... คุณพี่พูดยังกับว่าผับธรรมดาจะไม่มีงั้นแหละ เกย์เนี่ย ขนาดเดินไปแค่ปากซอยยังเจอเลย นับประสาอะไรกับผับ สงสัยแกเองก็ลืมไปว่า ผมกับแกก็เจอกันที่ผับธรรมดาไม่ใช่ผับเกย์เสียหน่อย ผมกับนังต้องไม่สูบบุหรี่ครับไม่ว่าเวลาปกติหรือเวลา ไปเที่ยว ไม่เหมือนพี่บอยครับที่เวลาไปเที่ยวแกจะสูบบุหรี่ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรสิน่า ทั้งที่เวลาปกติ แกจะไม่สูบด้วยซ้ำ แล้วเวลามีคนมาสูบใกล้ๆแก แกก็จะบ่นว่าเหม็นบุหรี่ ผมถึงว่ามันแปลกไงครับ พี่บอยแกไว้ใจนังต้องครับ เวลาไปเที่ยวแกคงคิดว่า นังต้องมันจะช่วยผมได้เวลาเกิดอะไรขึ้น เฮ้อ....พี่บอยแกไม่รู้หรอกครับ ว่าไปกับนังต้องนี่หละครับ ผมถึงต้องกลับแท็กซี่คนเดียว ทุกครั้งที่มันได้....ผู้ชาย
“พี่บอยครับทำไรอยู่อะ”
“พี่จะพาแม่ไปทานข้าว น้องเป้อยู่ไหนครับ” เสียงนุ่มๆถามผมมาตามสัญญาณคลื่น
“เป้อยู่กับต้องครับ คือว่าต้องเขาจะชวนเป้ไปเที่ยวหนะครับ เลยโทรมารายงานตัวก่อน”
“โห...น้องเป้ ไว้วันเสาร์หน้าค่อยไปไม่ได้เหรอครับพี่จะได้ไปด้วย ไปสองคนเดี๋ยวใครก็ฉุดน้องเป้ของพี่ไปหรอก”
“อย่างเป้เนี่ยนะจะยอมโดนฉุด เป้ว่าจะไปฉุดเขาเองซะมากกว่า 555”
“เฮ้ย..อย่าแม้แต่กระทั่งคิดนะน้องเป้ เรียกน้องต้องมาคุยกับพี่ซิ” พี่บอยดูจะห่วงผมทุกครั้งหละครับ เวลาที่ไปเที่ยวโดยไม่มีแก จนผมต้องใช้วิชามารยากายสิทธิ์นั่นคือ
“ถ้าพี่บอยไม่ไว้ใจกันขนาดนี้ เป้ว่าเราเหมือนเดิมดีกว่า คืออยู่ใครอยู่มัน ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน คนที่จะคบกันได้ ต้องไว้ใจกันอีกอย่าง เป้ก็ไปกับต้องด้วย พี่บอยไม่ไว้ใจเป้กับต้องใช่ไหม……บลาๆๆๆๆๆ”
นั่นแหละครับ จนแกสามารถวางใจได้ ว่าผมเที่ยวและกลับอย่างปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน แล้วข้อตกลงอีกข้อหนึ่งคือ เวลาตีหนึ่งครึ่ง แกจะโทรเช็คผมกับนังต้องครับ
“แหม...มึง ขนาดแค่ตกลง ที่จะดูใจกันแค่นั้นเองนะมึง ยังไม่ได้คบเป็นแฟนด้วยซ้ำ ทำยิ่งกว่าพ่อมึงอีก” นังต้องบ่น หลังจากที่คุยกับพี่บอย ขอลากตัวผมไปเที่ยวเสร็จแล้ว
“เออนะ ช่างแกเหอะน่ามีคนเป็นห่วงดีกว่าไม่มี”
“จ้า...อีคนเจ้าเสน่ห์”
“ตกลง คืนนี้มึงจะไปที่ไหน กูอยากไปผับเกย์นะมึง” ผมบอกกับนังต้องครับ
“อีนี่....ไม่ได้ยินที่พ่อมึงสั่งหรือไง ว่าไม่ให้มึงไปผับเกย์หนะ”
“เออ มึงก็ไม่ต้องบอกสิว่าเราไปผับเกย์มา”
“ไปผับธรรมดาดีแล้วหละอีนี่ กูยังเข็ดไม่หายเลย กับอีผับเกย์เนี่ย มึงจำอีน้องป๊อกได้มั้ย ที่ไปกินข้าวต้มที่คลองตัน พอมันไปกับกูนะมึง แม่- หันตูดให้กูเฉยเลย อีบ้า ใครจะตีฉิ่งกับมัน กูเลยไล่มันกลับบ้าน ให้ค่ารถมันไปห้าร้อย คิดดูสิมึง เห็นมันแมนๆห้าวๆ อีห่- เสือ- หันตูดให้กู ขนาดว่ากูทำตัวสาวแตกขนาดนั้น มันยังจะให้กูเสียบอีก อีห่- นั่น ”
“ทำไมมึงไม่เสียบมันหละ”
“อีนี่ มึงจะให้กูตีฉิ่งกับมันหรือไง กูหนะ รับก็รับ รุกก็รุก ไม่ใช่ว่าได้หมด จนไม่รู้ว่าใครเป็นผัวใครเป็นเมีย”
“เออ....อีคนเพศเดียว ว่าแต่วันนี้มึงจะไปที่ไหนหละ”ผมกัดมัน พลางถามมันอย่างเป็นการเป็นงาน เพราะมันมาขลุกกับผมตั้งแต่ตอนเย็น ที่มันไปรับผมมาจากที่ทำงาน แล้วมันยังมาตั้งวง เรียกน้ำย่อยที่ห้องผมอีก โดยมีคุณป้าอเนกประสงค์ รับหน้าที่เป็นฝ่ายพลาธิการจัดหาเสบียง และกับแกล้ม ตามระเบียบ
“ไปที่.................ดีกว่านะไม่ได้ไปมาตั้งนานแล้ว” ที่ที่นังต้องว่า นั่นก็คือ ที่ที่ผมกับมันชอบไปเที่ยวบ่อยๆนั่นเองแต่ผมไม่อยากไปที่ตรงนี้เลยครับ เพราะว่าที่ตรงนี้ ผมรู้ครับว่าผมต้องเจอกับกลุ่มของพี่ชายกับเพื่อนๆของแก ที่แกทำเป็นหมาหยอกไก่ มาจีบผมอยู่เวลาผมไปเที่ยว และที่สำคัญพี่ชายดันรู้จักและเป็นเพื่อนสนิทกับไอ้หน้าขาวด้วยเพราะก่อนวันหมั้นไอ้หน้าขาว ผมเคยเห็นแกขับรถผ่านหน้าบ้านของผม ผมกลัวครับ กลัวที่จะไปเที่ยวแล้วเจอกับไอ้หน้าขาวอีก ผมภาวนาให้คืนนี้เป็นคืนที่ปลอด อย่าได้เจอะได้เจอกับไอ้หน้าขาวอีกเลย ผมภาวนาในใจครับ

***************************************************************************************
ค่ำคืนนี้ที่ผับ ดูเหมือนนักเที่ยวราตรีจะมีมากกว่าเดิมเสียอีก สองสามเดือนที่ผ่านมา ผมไม่ได้มาเหยียบที่ผับนี้เลย
เพราะกลัวเจอไอ้หน้าขาวกับกลุ่มเพื่อนของมัน อีกอย่างพี่บอยแกก็คุมเข้ม ไม่ยอมให้ผมเที่ยวเลย ตอนนี้ผมก็ตกลงปลงใจกับพี่บอยหละครับ ว่าจะลองศึกษานิสัยใจคอกันดู อยู่กับคนที่เขารักเรา ดีกว่าที่จะใฝ่ฝันหา ในสิ่งที่ใกล้แค่เอื้อม แต่คว้าไม่ถึงสักที ไม่รู้ว่าจะยื้อแย่งไปให้เหนื่อยทำไม แค่หำเหี่ยวๆอันเดียว ทำไมใครๆก็ต้องแย่งกันนัก
อีกอย่าง ที่ไม่อยากจะมาผับนี้อีกเลย ก็เพราะว่ากลัวเจอไอ้หน้าขาวแล้วผมทำใจไม่ได้ แผลที่ใจของผมยังไม่หายดีเลย ไม่อยากเจ็บซ้ำเจ็บซากอีก ขนาดเตือนตัวเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ใจเจ้ากรรม มันยังไม่เลิกคิด เลิกห่วงไอ้หน้าขาวเสียที แล้วอีนังน้องกิฟต์มันหวงไอ้หน้าขาวขนาดนั้น ผมคงไม่มีปัญญาไปแย่งมาได้หรอก ยิ่งเจ้าหล่อนประกาศสงครามกับผม ตั้งแต่วันที่ไปกินข้าวคราวโน้นแล้ว มันทำให้ผมอยากลี้ภัยสงครามเพลิงพระนางเสียจริงๆ มันเป็นคู่หมั้นกันมันคงรู้กันหละว่า ผมเคยไปสารภาพรักกับแฟนมัน เพราะเรื่องนี้คนกว่าครึ่งมหาลัยเขาก็รู้กันทั่ว ดีนะที่สอบเสร็จและผมก็ไม่ต้องไปมหาลัยอีก ไม่เช่นนั้นผมคงไม่ได้เรียนจบมาได้อย่างนี้หรอก ความจริงน้องกิฟต์มันก็หน้าตาดี สะสวย ทำไมไม่หึงไม่หวงไอ้หน้าขาวกับชะนีตัวอื่นมั่งหละ ไอ้หน้าขาวมันก็เจ้าชู้ไม่ใช่ย่อย เพราะตอนที่นังน้องกิฟต์ยังไม่ได้เข้ามหาลัย ไอ้หน้าขาวมีแฟนแล้วเลิกมาเป็นสิบๆ ไม่เห็นมันคบใครได้นาน และจริงจังเหมือนนังน้องกิฟต์นี่เลย หรือว่ามันทั้งคู่เคยเป็นเดือนและดาวมหาลัยเหมือนกัน มันถึงอยู่ด้วยกันได้ แต่ผมก็สงสัยมากเหมือนกันแหละว่า อีเหลนรหัสสมัยมหาวิทยาลัยของผมคนนี้ มันตั้งป้อมเป็นศัตรูกับผมเพราะอะไร ผมเคยไปทำอะไรผิดกับมันมากแค่ไหน แค่ผมไปสารภาพรักรักกับไอ้หน้าขาว แล้วโดนมันปฏิเสธแถมประกาศในกลุ่มเพื่อนของมัน จนเรื่องแดงไปค่อนมหาลัยเนี่ยเหรอ ที่ทำให้อีนังชะนีตัวนี้ถึงมาประกาศสงครามกับผมถึงขนาดนี้ เมื่อมาถึงผับและเดินเข้าไปข้างในผมกวาดสายตาไปรอบๆ นึกแล้วว่าต้องเจอ......................

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #91 เมื่อ22-02-2007 22:47:25 »

หุหุหุ  พรหมลิขิตบันดาลชักพา

สงสัยคงเป็นเพราะบุพเพสันนิวาส

แต่ผมเชียร์พี่บอยนะ  น่าร้ากส์!!~

รับพี่ยอดไม่ได้จริงๆ  ดูถูกจริงๆ  เพศที่สามก้อมีหัวใจนะคร้าบบบ!!~

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #92 เมื่อ22-02-2007 22:56:42 »

สงสัยจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังเเหงๆ เเล้วเมื่อไหร่ตูจะรู้ละเนี่ยยยยยยยยยยยยยย :110011: :110011: :110011: :110011: :110011: :110011:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #93 เมื่อ22-02-2007 23:03:55 »

แล้วไปเจอใครเคอะเนี้ยยยยยยยยยยยยยยย

กรีดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขออย่าให้เป็นไอ่ยอดกะนังนีกิฟต์เมียมันเลย


เพราะเจ้เกลียดมันทั้งคู่  เป็นเจ้หน่อยไม่ได้...........อยากตบชะนีจริงๆ   :laugh5:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #94 เมื่อ23-02-2007 11:57:34 »

ชิชิ

ชะนีก็ร้ายยยยยย ชายก็เลวววววววววววววววว

 :ped144:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #95 เมื่อ23-02-2007 18:44:48 »

ในที่สุดก็เจออีกแล้ว.... :pigangry2: :pigangry2:

หั้ยนังต้องช่วยเด๋วก็หมดเรื่อง.... :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #96 เมื่อ23-02-2007 21:28:44 »

เหอะๆ สาวๆเริ่มหายไปจากกระทู้
กลัวโดนตบ
******************************************************
ผมกวาดสายตาไปเจอกับกลุ่มพี่ชายแล้วครับ พี่ชาย พี่ป้อม พี่โอ๊ค และพี่อีกสองสามคนที่ผมยังไม่สนิทมากนัก วันนี้พี่เขามาแปลก มีชะนีมาด้วยสองคนครับ ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีครับ ที่วันนี้ไม่มี...ไอ้หน้าขาว เมื่อพี่ชายเห็นผมกับนังต้อง แกยกแก้วเหล้าชูให้ผมครับ ผมยิ้มพลางสะกิดแขนนังต้อง ที่เดินอยู่ข้างหน้าให้เดินตามผมมั่งครับ ผมเข้าไปทักกลุ่มพี่ชายเขาครับ
“ไม่เจอกันนาน น้องเป้ยังน่ารักเหมือนเดิม” พี่ชายทักมาก่อนครับ
“ทักอยู่คนเดียวนะพี่ ใจคอจะไม่ทักกันเลยหรือไง” นังต้องครับมันตะโกนแข่งเสียงเพลงให้พี่ชายได้ยิน
“น้องต้องมาด้วยกันเหรอเนี่ย ติดกันเป็นตังเมเลยนะ”
“ไม่ได้สิพี่ ไม่มีมัน ต้องก็อดกินผู้ชายพอดี”
“ต้องใช้ตัวช่วยด้วยเหรอ น้องต้อง ถ้าหิว วันนี้กินพี่ก็ได้”พี่ป้อมตะโกนกลับมามั่ง
“ทั้งปีแหละ พี่หนะ ท้าทาย เอาจริงๆหละฝ่อ”
พี่ป้อมหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ยกแก้วเหล้าของแก ยื่นมาให้นังต้อง
“หายไปไหนมาตั้งนาน น้องเป้” พี่โอ๊คถาม พี่กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่หน้าตาดีกันทุกคนไม่รู้มันเลือกคบเฉพาะคนหน้าตาดีหรือเปล่า แต่ละครั้งที่เจอ ผมเห็นมีคนเข้ามาจีบและขอเบอร์พี่กลุ่มนี้กันทั้งผู้หญิงผู้ชายเป็นประจำ
“งานเป้ยุ่งๆอยู่ครับพี่ ไม่ได้มาซะนาน คนเยอะจังเลย มีหน้าใหม่ๆเข้ามาเยอะเชียว”
“เอ้า...มัวแต่คุยกัน ลืมแนะนำให้รู้จักนี่เพื่อนพี่ที่ทำงาน เจ้อ้อยกับน้องสาวเจ้เค้าน้องอั้ม”
ผมทักทายและพูดคุยอยู่ครู่หนึ่ง น้องพนักงานก็มาพาผมและนังต้อง ไปโต๊ะที่นังต้องจองเอาไว้ ซึ่งผมกับนังต้อง จะคุ้นกับน้องๆที่นี่ดีครับ เพราะมาบ่อย แล้วที่สำคัญ นังต้องมันทิปหนัก เรื่องอะไรที่น้องๆในมันจะจำพวกผมไม่ได้ พวกเราเลยกลายเป็นแขก เกือบวีไอพีของที่นี่เลย ไอ้เรื่องเมานะผมไม่ค่อยจะชอบหรอก เพราะมาทีไรต้องไม่เมาครับ เพราะถ้าเมาแล้ว ผมจะหลับไม่รู้เรื่อง เพราะฉะนั้นเครื่องดื่มของผม จะเน้นไปทางน้ำอัดลมกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ มาตอนแรกๆกับนังต้องผมก็เล่นกินแต่น้ำอัดลม เพราะกินเหล้าไม่เป็น จนนังต้องหละ ที่บังคับให้ผมกิน ผลคือนังต้อง เลยมารับบทกรรมกรแบกหาม มันแบกผมขึ้นรถไปที่รถตรงลานจอด แล้วมันยังต้องแบกผมขึ้นไปส่งที่ห้องอีก สมน้ำหน้ามัน คนกินเหล้าไม่เป็น ยังจะมาบังคับให้กินอีก
“คราวหน้านะมึง ถ้าให้กูแบกกลับอีก กูจะทิ้งมึงไว้ในโถส้วมในผับนั่นแหละ” นังต้องบ่นกระปอดกระแปดมาตามสายในวันรุ่งขึ้น แล้วครั้งต่อ นังต้องเริ่มผสมเหล้ากับน้ำอัดลมให้แบบอ่อนๆ จนทุกวันนี้ผมชินซะแล้วครับ แต่ก็ไม่มากเกินห้าแก้ว ส่วนแก้วที่หกเป็นต้นไป จะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีเหล้าเลย เพราะยังไงซะ ถ้านังต้องไม่ได้ผู้ชายไปกิน หลังเลิกจากผับ มันจะต้องเมา และคนที่จะต้องขับรถคือผมนั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นผมจะต้องกินเหล้าด้วยความรู้สึกที่สามารถรับรู้เหตุการณ์อย่างคนปกติและดูแลนังต้อง พามันไป ไว้ที่ห้องผมก่อน เพราะถ้ามันรู้ว่าจะแห้ว หรือตั้งใจจะแห้ว วันนั้นเป็นวันที่ผมจะต้องให้มันค้างที่ห้อง แล้วให้มันตื่นมาพร่ำพรรณนาเรื่องที่มันผิดหวังเพราะไม่ได้ผู้ชายในวันรุ่งขึ้นเสมอๆ
ผมเห็น นังต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย แล้วมันเดินออกไปข้างนอก ผมก็ได้แต่นึกหละครับ ว่าเดี๋ยวนี้อีนังต้องก้าวหน้าขึ้น มีคนโทรมาตามถึงในผับ มันเป็นเรื่องแปลก ที่นังต้องมันจะมีลับลมคมในกับผม รอมันได้สักพักครับ ร่างสูงโย่งๆ ของมันก็เดินนำหน้าผู้ชายคนหนึ่งมาที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ครับ

**************************************


คนที่ตามหลังนังต้องมาคือ น้องอาทครับ น้องอาทยังหล่อใสได้ใจเหมือนเดิม ทรงผมก็ยังคงเป็นหนามทุเรียนอยู่เช่นเดิม ยังไม่พอน้องเขาตรงเข้ามากอดผมครับ
“เฮ้ย....มาได้ไง” ผมตกใจครับ จู่ๆก็เข้ามากอดผมแบบนี้
“คิดถึงพี่เป้จังครับ” หน้าใส ปากชมพู มีไรหนวดอ่อนๆ เข้ากับรูปหน้าที่ยาวเรียวเป็นอย่างดีถ้าตัวสูงใหญ่กว่านี้สักนิดเป็นนายแบบได้สบายเลยนะเนี่ย
“ปากหวานขึ้นนะครับ น้องอาท แหมไม่เจอกันนาน เจ้าชู้ยักษ์เลยนะ เดี๋ยวพี่ก็โดนนังต้องปาดคอเอาหรอกมากอดพี่อย่างงี้”
“โห...พี่เป้คิดได้ไงเนี่ย ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ต้องนะ ถ้าเป็นพี่เป้ว่าไปอย่าง” ผมได้ยินแค่ประโยคต้นๆครับแต่ประโยคหลังๆผมได้ยินไม่ชัดครับเพราะเจ้าดีเจมันเปิดเพลงเสียงดังมาก แต่ว่าก็เห็นน้องอาทหน้าแดงๆ เอ...หรือว่าเป็นเพราะแสงไฟสลัวๆ ที่เดี๋ยวแว่บมาแว่บไปหว่า...
“แล้วตามกันมาเนี่ยนะ” ผมตะโกนแข่งกับเสียงเพลง ไอ้น้องดีเจคนนี้มันเป็นคนใหม่ครับ มันเปิดเพลงไม่ได้เรื่องเลย มันเปิดแต่เพลงทำนองหรือสไตล์เดียวกันตลอด แถมเปิดจนเสียงดังหนวกหู แล้วมันทำเพลงแต่ละเพลงนะ เฮ้อ ไม่มีรสนิยมในการเลือกเพลงให้คนฟังเลย ไม่เกินสามเดือนหรอกผมคนหนึ่งหละที่จะไม่มาอีกถ้าไอ้น้องคนนี้ยังเป็นดีเจเปิดแผ่นอยู่อีก มันสมควรที่จะเปิดเพลง คละๆกันเป็นช่วงๆไปไม่ใช่เพลงเร็ว มันก็เปิดของมันทั้งคืน บางทีไม่เห็นคนลุกเต้นเลยสักคน ทั้งที่มันเปิดเพลงเร็วๆ มันน่าจะมีช่วงเบรกเพลง เปิดช้าๆให้ลูกค้าพักเหนื่อยมั่ง นี่มันเปิดเพลงเร็วรวดเดียว จนวงดนตรีขึ้นมาเล่นต่อ แถมมันเป็นดีเจที่พูดกวน...มาก
“ผมตามพี่ต้องมาหาพี่เป้อะคับ” ออ อ่อ อ้อ อ๊อ อ๋อ ผมเพิ่งถึงบางอ้อครับ ก็ผมไม่ได้ให้เบอร์ผมกับน้องเขาครับแต่ให้เบอร์ของนังต้องเอาไว้ เพราะว่าผมเป็นตัวล่อให้นังต้องจับตะครุบนี่ครับ เลยไม่เคยให้เบอร์ใครที่เจอในที่เที่ยวเลย อยากโทรหาก็ต้องเจอนังต้องไปตามระเบียบ ที่สำคัญผมจะไม่กินเหล้าเมาครับ ยกเว้นที่นังต้องบอกว่าจะไม่เมานั่นหละ ผมถึงจะเพิ่มดีกรีอีกนิดนึง แต่ว่าไม่เคยได้เมาจนขาดสติ ส่วนนังต้องหนะเหรอ ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่มาด้วยกัน มันเมาซะเก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ครับ
“เต้นด้วยกันนะครับ พี่เป้”น้องหัวหนามทุเรียนครับดึงผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ครับ ดูเหมือนน้องอาทจะเมาๆ เพราะผมได้กลิ่นอัลกอฮอลล์ที่โชยมาปากและลมหายใจที่น้องเขามาพูดอยู่ใกล้ๆหูผม ทั้งๆที่ตั้งแต่น้องเขาเข้ามายังไม่ได้แตะเหล้าที่โต๊ะเลย
“เมามาปะเนี่ย กินเหล้าแล้วยังขับรถมาอีก เมาไม่ขับไงครับน้องอาท”
“ไม่เมาครับ เหล้าแค่นี้เอง บังเอิญจังนะครับทุกทีโทรไปเจอแต่พี่ต้อง แต่วันนี้เจอพี่เป้ด้วย อาทิตย์ที่แล้วก็ไปกับพี่ต้องมาไม่หนุกเลยครับอยากให้พี่เป้ไปด้วยมากกว่า”
ผมยิ้มตาผมระยิบครับจนน้องอาทรีบปฏิเสธ
“ผมไม่ได้ไปมีอะไรกับพี่ต้องนะครับพี่เป้ ผมรู้นะว่าพี่เป้คิดอะไร” น้องต้องพูด แล้วกอดผมเอาไว้ ผมใจเต้นตึ๊กตั๊ก นานทีจะมีหนุ่มน้อยหน้าหล่อ อย่างน้องหัวตั้งนี่มากอด ไม่ใช่ว่า จะหาไม่ได้นะครับมันไม่มีเวลาสานต่อเพราะเหนื่อยจากที่ทำงานแล้ว มันอยากพักผ่อน เอ...หรือว่าผมแก่แล้วหละเนี่ย ยี่สิบสี่นี่ แก่หรือยังครับ.......
*******************
“พี่ไม่ได้ว่ามีอะไรนี่ครับน้องอาท”ผมยิ้มๆ
“โห นึกว่าจะคิดถึงกันบ้างหละ ไม่มีเลย เสียดาย ที่เราอุตส่าห์คิดถึงโทรหาพี่ต้องทุกวัน เพราะอยากเจอพี่เป้”
“ขอบคุณครับที่คิดถึง แหม..คนเคยเห็นกันต้องคิดถึงกันบ้างสิครับ” ผมหยอดเอาไว้ครับ
“จริงนะครับ” น้องอาททำเสียงตื่นเต้น
“ค้าบ”
“เลิกกอดนังเป้ได้แล้ว น้องอาท หมดเวลา มาให้พี่กอดมั่ง” นังต้องครับ มันแทรกเข้ามาครับแล้วกอดน้องอาทเฉยเลย ส่วนน้องอาทนั้น งง ครับ เพราะเห็นน้อง เขาชงักไปครู่หนึ่งพลางหันมายิ้มแห้งๆมาให้ผม
“พี่เข้าใจนะครับ พี่เข้าใจ” ผมคิด ส่ายหัว ยิ้ม และมองหน้าน้องอาท สายตาของผม มองสื่อความหมายไปแบบนี้ ไม่รู้ว่าน้องอาทจะเข้าใจหรือเปล่า เห็นน้องเขาพยายามที่จะเบี่ยงหน้ามาเต้นกับผม แต่นังต้องก็ดักทางไว้ตลอด เนื่องจาก นังต้องมันเป็นคนที่ตัวสูง และตัวใหญ่มากๆ มันเคยเล่าว่า ถ้าไม่ติดว่ามันกรี้ดกร๊าด สาวแตกมากสมัยมัธยม ป่านนี้ มันติดทีมชาตินักบาสเก็ตบอลไปแล้ว มันบอกว่า
“กูไม่ชอบเล่นบาสวะ แต่กูชอบดูนักกีฬาบาส” ดูสิครับคำตอบ นึกว่าจะได้มีเพื่อน เป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลทีมชาติซะแล้ว ความจริงนังต้องมันมีพรสวรรค์ ด้านกีฬาครับ เพราะมันเล่นกีฬาได้ดีหลายอย่าง แต่ติดที่นิสัยคุณหนูของมันนี่หละครับ ทำให้มันไม่เป็นโล้เป็นพายสักอย่าง เล่นฟุตบอลมันก็บอกว่าร้อนขี้กียจวิ่ง เล่นบาสก็กลัวเนื้อตัวช้ำ ดูมันคิดได้ยังไง ส่วนผมหนะ ชอบเล่นกีฬาทุกอย่างหละ เล่นได้ทุกอย่าง แต่ไม่ดีซักอย่าง เล่นฟุตบอลกับบาสก็เล่นไม่ได้ครับ เพราะข้อเท้าผมมีปัญหาครับ เลยเล่นแล้วทุกครั้งข้อเท้าผมซ้น เลยไม่เอาหละ...ไม่อยากเจ็บ กีอื่นพอได้แต่กีฬาที่น่ากลัวที่สุด สำหรับผมคือวอลเลย์บอลครับ เพราะตอนเด็กผมเล่นวอลเลย์บอล แล้วได้ลงแข่งเป็นตัวแทนของโรงเรียน โดนลูกตบพุ่งใส่กลางแสกหน้า เลือดกำเดาไหลเลย ครับหน้างี้แดงไปหมด ไม่เอาหละครับลูกกลมๆขาวๆเนี่ย จึงไม่แปลกเลย ที่วิชาวอลเลย์บอล ตอนที่ยังเรียนมัธยมได้เกรดแค่หนึ่ง....เฮ้อ ผมหันไปทางโต๊ะของกลุ่มพี่ชายครับ แกยกแก้วชูมาทางผม ให้เห็นอีกแล้ว ผมเลยปลีกตัวออกมาครับมานั่งคุยกับกลุ่มพี่ชายครู่หนึ่งคราวนี้มันสนุกขึ้นหละครับเพราะเจ้อ้อย แกคุยสนุกครับโผงผางห้าวๆ แต่อีคนทำให้ผมไม่สนุกนี่ก็คือ อีนังน้องอั้มนี่หละครับ ดูมัน สวย เริ่ด เชิด หยิ่ง เห็นมองผมหมิ่นๆเวลาผมคุยกับพี่อ้อยอย่างออกรส แถมขำออกมาเป็นระยะๆ ทำให้นังชะนีมันไม่พอใจครับ เอ....ผมก็นึกไม่ออกว่า ผมไปแย่งผัวชะนีตัวนี้ มาตั้งแต่เมื่อไร ถึงทำหน้าโกรธผม เหมือนโดนแย่งลูกแย่งผัวซะอย่างงั้นแหละ เวลาผมยิ้มให้ไปมันก็แกล้งมองไม่เห็นบ้างหละ
“น้องอั้ม ไม่เต้นเหรอครับ มาเต้นด้วยกันสิ” ตอนแรกผมไม่ได้คิดอะไรครับ ฉุดมือเจ้าหล่อนลุกขึ้นอีกมือหนึ่งก็ดึงพี่อ้อยขึ้นมาพร้อมกัน อีน้องอั้มสิครับมันสะบัดมือผมออก
“อั้ม ไม่ชอบเต้นคะ” หล่อนตอบมาเสียงกระด้าง อีนังนี่ ก่อนที่ผมจะเดินมาที่โต๊ะนี้ ผมก็เห็นมันเต้นกับพี่โอ๊คอยู่ดีๆ แถมดูลีลาก็รู้แล้วหละว่า เจ้าหล่อนหนะ พวกเท้าไฟแน่นอน แล้วพี่เขาก็แว่บไปเข้าห้องน้ำ มันถึงได้นั่งแหมะลง ยังไม่ถึงนาที ผมก็ฉุดมันลุกขึ้นเต้นด้วย แต่มันทำสียงและแววตาให้ผมเห็นนี่ก็ทำให้ผมแน่ใจได้เลยว่าอีนี่มันไม่ชอบผมแน่นอน ผมเครียดครับ มันอะไรกันคนเพิ่งเคยพบกันครั้งแรก มันจะมาชิงชังอะไรผม ผมเลยจ้องหน้ามันกลับมั่ง มันอายุน้อยกว่าผม อีกอย่างผมรู้จากปากพี่อ้อยแล้วหละว่าเจ้าหล่อนเพิ่งจบมหาลัยมาได้ไม่กี่เดือน แล้วผมไปทำอะไรให้มันหละ มันจ้องตาผม แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น อีนังเด็กคนนี้นี่ ผมนึกในใจครับ สักพักครับนังต้องกับน้องอาทมาผมเลยแนะนำน้องอาทให้กับกลุ่มพี่ชายได้รู้จักกัน ดูอีน้องอั้มนี่มันตาวาวทีเดียว
“โธ่...ดูเกย์ ก็ดูไม่ออก กูจะยุให้น้องอาทจีบให้อกหักเลยมึง” ผมคิดในใจในตอนนั้นครับ
“เต้นด้วยกันนะครับ” น้องอาทชวนอีน้องอั้มเต้น เออ .... ดูสิ มันลุกขึ้นอย่างว่าง่ายๆ ไหนว่าไม่ชอบเต้นหละ งงกับเจ้าหล่อน ผมกับนังต้องก็เต้นกับกลุ่มพี่ชาย นังต้องก็พยายามสีพี่ชายสุดฤทธิ์ ส่วนผมก็โคนพี่ป้อมกับพี่โอ๊คขนาบคนละข้างพี่อ้อยแกก็ไม่สนใจใครครับขอให้มันเป็นพอ หันไปอีกที อ้าว...............




ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #97 เมื่อ23-02-2007 21:53:20 »

หน้าขาวมาเหรอ :pandalaugh:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #98 เมื่อ23-02-2007 22:10:09 »

เหอๆๆ หรือว่าพี่อ้อยไปเต้นกะหนุ่มๆแล้ว 555+

อ๊ากกก!!~  ผู้หญิงหน้าสวยนี่....เฮ้อ!!~

สังเกตว่าทุกคอมเมนต์เป็นผู้ชายเกือบหมด

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #99 เมื่อ23-02-2007 22:55:08 »

อ้าว ? :confuse:

อ้าวไรหว่า ?

สงสัย.... เจอ ...  :kikkik: :kikkik:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
« ตอบ #99 เมื่อ: 23-02-2007 22:55:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #100 เมื่อ24-02-2007 00:02:21 »

 :o อ้าวแล้วพี่อ้อยหายไปไหนอ่า หรือว่าโดนฉุดไปล่ะ :pandalaugh:
 มาต่อเร็วน่ะครับ หนุกๆๆ :pighaun:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #101 เมื่อ24-02-2007 01:17:14 »

เจอใครละ  :confuse:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #102 เมื่อ24-02-2007 12:06:28 »

อ้าววว นังอั้ม กอกะน้องอาทซะแล้น

ชิชิ :fire:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #103 เมื่อ24-02-2007 16:05:21 »

ชอบจริงๆล่ะเรื่องนี้
ชอบนังต้องกระเทยควายจริงๆ :laugh5:
ตอนเศร้าๆอ่านแล้วน้ำตาจะไหลสงสารคุณเป้

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #104 เมื่อ24-02-2007 19:54:03 »

ทายถูกกันไหมครับ คิกคิก
****************************************
พี่อ้อยครับ แกไปเต้นนอกกลุ่ม แถมคนที่แกเต้นด้วยนั้นเป็นผู้ชาย ตอนแรกผมก็คิดว่า แกเป็นทอมเหมือนกัน แต่ไหงแกไปเต้นกับผู้ชาย แถมกอดคอคุยไปหัวเราะไป ผมก็หันไปมองแกครับ อยู่ดีๆ แกก็ผลักไอ้ผู้ชายคนนั้นออกจากตัวอย่างแรง แถมยังชกหน้าไอ้ผู้ชายคนนั้นจนเซไปอีก ผมถึงตัวพี่อ้อยก่อนเพื่อนครับ ตามด้วยนังต้องที่อยู่ใกล้พี่อ้อยมากที่สุด เข้าไปกั้นกลางเอาไว้ ผมจับตัวพี่อ้อยไว้ ดูแกฮึดฮัดอยากเข้าไปซ้ำไอ้คนนั้นซะจริงๆ เหตุการณ์นี้ทำให้ แขกข้างๆหยุดมองเหมือนไทยมุง ดีที่ไม่มีข้าวของอะไรแตก ไอ้นั่นมันมากับเพื่อนอีกสองคน ดูๆแล้วผ่ายทางผมจะได้เปรียบทางจำนวนคน และรูปร่าง ผมให้นังต้องรีบเคลียร์กับพนักงาน กับผู้จัดการของร้านที่เดินเข้ามาดูเหตุการณ์ วงดนตรีหยุดเล่นชั่วคราว งานนี้ผมให้คำชมไอ้น้องดีเจครับ ได้ใจผมไปเต็มๆ แหม...มันเปิดเพลงไม่ได้เรื่องนี่ครับ ตอนนี้มันขึ้นประกาศว่า เหตุการณ์ปกติ ไม่มีอะไรทุกคนสนุกต่อ แล้วมันก็เปิดเพลงแดนซ์บ้าบอของมัน นี่สิ...ลูกผู้ชายตัวจริง ฝ่ายพี่ชายแกขอเคลียร์กับกลุ่มไอ้คนนั้นนอกร้านครับ เราเดินตามกันออกมาที่นอกร้าน
“ผมไม่รู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ผมไม่อยากให้คุณอยู่ที่นี่ อยากให้คุณเช็คบิลล์ แล้วกลับบ้านหรือไปเที่ยวที่อื่น”พี่ชายพูดพลางจ้องหน้าไอ้คนนั้นนิ่ง
“ดูมันดิชาย มันว่าลองผุ้หญิงมาเยอะแล้ว วันนี้มันจะขอลองกับทอม เชี่ย... ดูมันพูด แถมมันยังชวนพี่ไปนอนกับมัน จับหน้าอกพี่ด้วย อย่างนี้มันสมควรเอาไว้เหรอ” พี่อ้อยทำท่าจะปรี่เข้าไปหาไอ้นั่นอีก แต่ผมจับแกไว้ทันครับ
“ผมว่าพี่พาเพื่อนพี่กลับดีกว่า เพื่อนพี่เมามากแล้ว ผมไม่อยากมีเรื่องกับคนเมา พี่เช็คบิลล์เลยดีกว่าพี่ หรือผมจะจ่ายให้ แต่ว่าพี่จะต้องไปจากที่นี่” พี่ป้อมพูดกับเพื่อนไอ้นั่นครับ
“ครับผมขอโทษแทน ไอ้นี่มันด้วยนะครับ มันเมาแล้วมันเป็นงี้หละครับ เดี๋ยวผมจะพามันกลับเลย ขอโทษแทนมันด้วยนะครับ” ผมโล่งอก นึกว่าจะมีเรื่องกันซะแล้ว งานนี้อดบู๊เลยครับ 555 ผมก็บอกน้องพนักงานที่ถือบิลล์มารอข้างนอกให้เช็คโต๊ะของไอ้นั่น มันรีบควักตังค์ออกมาจ่าย แล้วลากเพื่อนไปที่รถ พลางด่าเพื่อนมันกระจายไปตามทาง ผมมองรอบๆตัวครับ น้องอั้มตอนนี้ตาปรือเยิ้ม พิงซบไหล่น้องอาทที่ยืนโอนเอนอยู่ครับ เมื่อเห็นผมมอง น้องอาทยิ้มแหยๆให้ผม แต่ก็ไม่ได้ดันน้องอั้มออก ผมเลยเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปยังข้างในครับ คราวนี้ผมกับนังต้องแยกมานั่งโต๊ะของพวกเรา ครู่นึงครับผมก็เห็นน้องอาทเดินตามมา ดูท่าทางน้องอั้มจะไม่พอใจเหมือนกัน เห็นหล่อนทิ้งตัวบนที่นั่ง อย่างไม่กลัวสะโพกพัง เมื่อผมมองไปหล่อนส่งสายตา ชิงชัง มาทางผมอีก แล้วสะบัดหน้าเชิดไปทางอื่น ผมแอบยิ้มครับ เมื่อน้องอาทมาถึงโต๊ะ เป็นช่วงที่นักดนตรีเริ่มเล่นเพลงเร็วอีกแล้ว ผมเลยลุกขึ้นดักหน้าน้องอาทเอาไว้ พลางจับมือน้องเขาไว้ลากมายังที่ว่างที่หมายตาไว้ ผมโผกอดน้องหัวตั้งนี่เลยครับ ท่ามกลางเสียงเพลงที่เร่าร้อน ผมกับน้องอาทเรากอดกันเต้น น้องอาทหันหลังให้กลุ่มโต๊ะพี่ชาย แต่ผมสิครับมองผ่านไหล่น้องอาทไป เห็นน้องอั้มมองมาตาไม่กระพริบ แววตาคู่เดิมยังเกลียดผมเหมือนเดิม ไม่รู้อะไรนักหนากับคนๆนี้ นังต้องก็มองผมแบบอึ้งๆ เพราะผมไม่เคยกอดกับใครเต้นมาก่อนเลย เพราะตอนที่เข้ามาน้องอาทมากอด ผมยังเอนตัวหนีด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นนังน้องอั้มมองผมยิ่งสะใจ ผมเลยซบหน้าไปพิงไล่น้องอาทซะเลย สักครู่หนึ่งผม ผละออกมา สะใจแล้วครับได้แกล้งคน ผมเหลือบตาอีกทีเห็น อีนังน้องอั้มมันถือโทรศัพท์มาแนบหูแล้วเดินออกไปข้างนอก สักพัก ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก จนกระทั่ง เจ้าหล่อนเดินเข้ามากับใครคนหนึ่ง เมื่อผมเหลือบไปเห็นผมตัวชาวาบ.........


********************

เพราะคนที่ตามหลังอีนังน้องอั้มมาแล้วทำให้ผมตัวชาวาบ ผมจำได้ครับ คนนี้หละครับ ที่เมื่อก่อนเป็นเหลนรหัสผม เป็นดาวมหาลัย เป็นคนที่เคยน่ารักมากสำหรับผม แต่เมื่อได้มาเป็นแฟนกับไอ้หน้าขาว ทำให้ความสัมพันธ์ของเราห่างไป ผมไม่กล้าเจอน้องเขามากนัก เนื่องเพราะผมเจ็บครับ เวลาที่เห็นเขาเดินมาด้วยกัน .............น้องกิฟต์
ผมเพิ่งถึงบางอ้อ ตอนนี้เองครับ ว่าทำไมอีนังน้องอั้มมันถึงได้ไม่ชอบผม เพราะว่ามันสองคนเป็นเพื่อนกันนี่เอง โลกนี้มันช่างคับแคบเหลือเกิน ไปไหนก็มีแต่คนที่ไม่อยากเจอ สายตาของน้องกิฟต์จ้องมาที่ผม ที่กอดกับน้องอาทเต้นๆกันอยู่ มันทำให้ผมหน้าร้อนขึ้นมาวูบ มันเป็นแววตาที่บอกถึงการดูแคลนได้เป็นอย่างดี ผมผละตัวออกจากน้องอาท พลางมานั่งตรงที่เดิม ไม่วายที่น้องอาทจะตามมาถามไถ่
“พี่เป้ ไมไม่เต้นต่ออะพี่ เพลงกำลังมันเลย” ผมยิ้มอย่างเดียวครับ มึงไม่รู้หรอกนะ ชะนีสองตัวจ้องซะเกือบไหม้ อุตส่าห์มีแต่ภาพลักษณ์ดีๆ ให้รุ่นน้องทุกคนเห็นในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้หละ สายตาน้องกิฟต์เปลี่ยนไป........................................ ภาพสาวน้อย ที่เคยมองผมด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยศรัทธา คนนั้นเปลี่ยนไป ผมคงถูกมองในภาพเดียว กับที่ไอ้หน้าขาว มันพยายามบอกเพื่อนมันว่า ผมเป็นกระเทยที่ร่านผู้ชาย....
น้องกิฟต์เดินเข้ามาหาผมเลยครับหลังจากที่เข้าไปทักทายกลุ่มของพี่ชายและเจ๊อ้อยแล้ว
“สวัสดีคะ พี่เป้ไม่เจอกันนานนะคะ” ไม่มีแม้การยกมือไหว้ เหมือนที่เคยทำก่อนๆมา
“ไม่ยักรู้ว่าคนอย่างพี่เป้ก็เที่ยวเก่งเหมือนกัน กิฟต์นึกว่าหงิมๆ ....”สายตาหล่อนตวัดมาที่ผม
“ไม่ยักเหมือนที่พี่ยอดพูดให้กิฟต์ฟังเลย”
“เขาพูดว่าไงหละ บางครั้งพูดสิบคนมันก็ไม่เหมือนกับการมาเห็นเองหรอกนะ”
“พี่ยอดบอกว่าพี่เป้อ่อนหวาน นิสัยดี น่ารัก” หล่อนยักไหล่เหมือนจะไม่เชื่อ
“แล้วเธอคิดว่าไงหละ” ผมพูดชักจะไม่พอใจกรุ่นๆเพราะว่าภาพที่ผมเคยเอ็นดูมันหายไปแล้วมันมีแต่คำว่าไม่ถูกชะตา
“กิฟต์ เคยเห็นพี่เป้น่ารัก แสนดีเหมือนกัน สมัยกิฟต์เข้าปีหนึ่ง ใครๆก็พูดถึงพี่เป้ ว่าดีและเก่ง ยิ่งไปไหนมาไหนกับพี่ยอด กิฟต์กับเพื่อนๆเห็นแล้วยังอิจฉาเลยนะคะ แต่ว่าตอนนี้สิคะ มันไม่ใช่ พี่ยอดก็ไม่ชอบพี่เป้แล้ว ยิ่งวันนี้ถ้าพี่ยอดได้มาเห็นภาพพี่เป้เป็นอย่างนี้ คงจะเสียใจนะคะ ที่ยังหลงชื่นชมพี่เป้มาจนถึงทุกวันนี้”
“อยากให้เห็นก็โทรตามมาดูสิ เพราะว่าเราต่างไม่เกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว”
“เพราะว่าพี่ยอดไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยนะสิคะ พี่เป้ถึงได้ทำตัวแบบนี้ พูดก็พูดนะคะว่าแทบไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคู่ของพี่ยอดกับพี่เป้สมัยก่อนใครๆก็พูดถึง แต่ในที่สุดพี่ยอดที่ฮ็อตสุดๆก็มาชอบกับกิฟต์” หล่อนยักไหล่
“ได้ข่าวว่าเดือนหน้าจะไปเรียนต่อเมืองนอกเหรอ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะเบื่อนังชะนีตัวนี้ กลัวว่าถ้ามันพูดเรื่องไอ้หน้าขาวมากๆ ผมอาจจะตบะแตก ตบหน้าสวยๆของมันเข้าให้
“ข่าวเร็วนะคะ ไม่น่าเชื่อ เรียนจบแล้ว กิฟต์คงจะรีบกลับมาแต่งงานกับพี่ยอด พี่เป้คงเลิกหวังได้แล้วคะ เรื่องพี่ยอด เพราะยังไงซะ คงเป็นไปไม่ได้ ที่พี่ยอดจะกลับมาข้องเกี่ยวกับพี่เป้อีก”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ว่าแต่ตัวเธอเหอะ ขยันเรียน แล้วเรียนให้จบกลับมาก็แล้วกัน”
“อีกอย่านะคะ เพื่อนกิฟต์ชอบอาทอยู่ ถ้าพี่เป้คิดจะปั่นหัวผู้ชายที่เข้าในชีวิตหละก็ กิฟต์ขอได้ไหมคะ อั้มเขาชอบอาทอยู่ พี่เป้ไม่ขวางได้ไหมคะ”
“เพื่อนเธอเพิ่งเจอกับน้องอาทเนี่ยนะบอกว่าชอบเขา พี่คงไม่ได้เข้าใจผิดหรอกนะว่าเป็นรักแรกพบ น้องอาทนั่นมันก็ยังเรียนอยู่ เพื่อนเธอก็แปลกคนนะ ใจง่ายดี” ผมยิ้มเยาะไปทางอีนังน้องอั้ม ที่ออเซาะน้องอาทอยู่ไม่ห่างนัก ทำให้น้องกิฟต์หน้าแดง ไม่รู้ว่าจะอายแทนเพื่อนหรือโกรธแทนเพื่อน
“ถือว่ากิฟท์ขอแล้วกันนะ เพราะความรักแบบพี่เป้มันเป็นไปไม่ได้หรอกคะ ใครจะยอมรับ ผู้ชายมีอีกตั้งหลายคน พี่เป้หาได้อยู่แล้ว” มันมองผมด้วยสายตาท้าทายอีกแล้วหละครับ นังน้องกิฟต์ มันกล้ามากจริงๆ กล้าขาดที่มาขอผู้ชาย........................ให้เพื่อน


***********************
น้องกิฟต์เธอกล้ามาก ที่มาขอน้องอาท ให้เพื่อนชะนีสาวของตัวเอง ผมเริ่มโกรธมั่งแล้วครับ ไม่ใช่ว่าหวงผู้ชาย แต่คนเรามันต้องมีศักดิ์ศรีบ้าง นังน้องกิฟต์มันเป็นใคร นึกจะขอใครหรือแย่งใครก็ได้งั้นหรือ ผมหละเกลียดจริงเชียวอีพวกชอบดูถูกคนแบบนี้ แต่ว่าลำพังผมคนเดียว คงจะไม่สามารถ ที่จะปะทะฝีปากกับชะนีทั้งสองตัวได้แน่ มันต้องเจอของจริงอย่าง.... นังต้อง ที่ประวัติในอดีต ตบกับชะนีมาแล้วสิบทิศ ไม่รวมกับต่อยกับผู้ชาย ที่เข้ามาล้อมันว่ากระเทย จนผู้ชายคนนั้น นอนหยอดน้ำข้าวต้มมาแล้ว ที่สำคัญนังต้องมัน ตัวใหญ่ สูง ผู้ชายที่ไหนจะมาสู้มัน ถ้ามันไม่ติดสำออย ลูกคุณหนูหละก็ คงไม่มีใครสู้มันได้ ถ้ามันเอาจริงๆ ผมยิ้มให้น้องอาท ที่เต้นกับน้องอั้มที่เจ้าหล่อน พยายามจงใจเบียดน้องอาทอย่างเห็นได้ชัด หญิงไทยสมัยนี้ใจกล้าน่าดู ถ้านางร้ายช่องเจ็ดสี มาเห็นเข้าคงจะยอมรับกันเลยว่า ฝีมือขนาดนี้ข้ามตัวประกอบไปได้เลย ดูน้องอาทจะเต้นเกร็งและมองมาทางผมบ่อยครั้ง แต่ผมไม่สนใจ ผมตรงไปหานังต้อง ที่แว่บเดียว คุณเธอหายไปเต้นกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ อีกมุมหนึ่ง ถ้าตัวมันไม่สูงใหญ่ จนเห็นหัวโด่เด่ ผมคงต้องตามหามันนาน เสียเวลาแน่ๆ เพราะวันนี้คนค่อนข้างเยอะ ผมตรงไปลาก มันออกมาจากดงผู้ชาย ดูมันงงๆกับอาการของผม
“มึงเป็นอะไร หือ อีนี่ กูกำลังจะได้กินผู้ชาย” ดูท่าว่าผมจะไปขัดลาภมันอีกแล้ว
“มึงดูชะนีตัวนั้นดิ แย่งน้องอาทมึงไปแล้วหละ หัดอยู่โต๊ะมั่งนะมึง เกิดกูโดนฉุดขึ้นมา เดี๋ยวมึงก็ไม่มีเพื่อนมาเที่ยวหรอก”
“เฮ้ย ได้ไงวะ อีชะนีตัวนี้ มาจากไหนวะ กูจองน้องอาทมาตั้งนาน จะให้มันได้ไปก่อนพวกเราไม่ได้” นังต้องก็ไวได้ใจผมดีเหลือเกิน ตรงไปที่น้องอาท ที่กำลังคออ่อนคอพับตรงซอกคออีน้องอั้ม โดยมี อีน้องกิฟต์ทยอยส่งเหล้า ให้น้องอั้มกรอกเข้าปากทุกวินาที โห เจ้าหล่อนเล่น แท็คทีม มอมผู้ชายกันแล้วหรือนี่ หญิงไทยในสมัยนี้ แว่บนึง ผมนึกไปถึงไอ้หน้าขาวไม่ได้ มันจะรู้หรือเปล่าว่า น้องกิฟต์เนี่ยเข้าผับ กินเหล้า สูบบุหรี่ยังกับผู้ชาย แต่ตอนที่ผมเห็นมาตั้งแต่สมัยเรียน ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนั้นจะใสซื่อ จนน่าทนุถนอม และผมยอมหักใจ ทำใจยอมรับให้ได้ว่า ไอ้น้องกิฟต์กับไอ้หน้าขาวมันเกิดมาคู่กัน อย่างที่ตัวผมนั้นไม่สามารถที่แทรกเข้าไป ไม่มีที่อยู่ของผม ระหว่างคนสองคนนี้ได้ ..................... เวลาเพียงสามปี ที่ไม่ได้เจอกัน ทำให้สาวน้อยไร้มารยา กลายมาเป็นแม่มดร้ายในสายตาของผม ไปได้เพียงนี้เชียวหรือ ไอ้หน้าขาวจะรู้ไหมว่า อนาคตแม่ของลูกมันจะมีท่าทางเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ ผมเห็นแล้วปลงในใจเลยครับว่า ............ รู้หน้าไม่รู้ใจ
นังต้องตรงเข้าไปไม่พูดพล่ามทำเพลง เดินเข้าไปพูดสั้นๆ
“ขอโทษนะ”
แล้วมันก็ดึงน้องอาท ออกมาจากอ้อมแขนอีน้องอั้มทันที โดยมีน้องอาทที่ยืนทรงตัวแทบไม่อยู่ พิงที่หน้าอกของมัน ท่ามกลางความตกใจของอีน้องกิฟต์และน้องอั้ม ........................



ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #105 เมื่อ24-02-2007 20:13:52 »

ตบครับ

แบบนี้ต้องตบ

เอาให้คว่ำไปเลย ไม่รู้ฤทธิพ่อซะแล้วววววว

ปล่อยไว้ก็รกโลก

แสดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :pigangry2: :pigangry2: :pigangry2:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #106 เมื่อ24-02-2007 22:00:10 »

เหอๆๆๆ   เหอๆๆนังน้องกิ๊ฟ  ร้ายกาจๆๆ

น่าจับมาเตะซักทีสองที  <<  ตบไม่ได้ครับ  ไม่กล้า

น้องอาทเกือบเสียทีแล้ว  เกือบเสียชาติเกย์  555++

ต่อครับ  กะลังมันส์  สงครามประสาทระหว่างเกย์กะชะนีกะลังเริ่ม

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #107 เมื่อ25-02-2007 00:29:02 »

ตบเลยๆครับ5555
 :monkeylaugh2:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #108 เมื่อ25-02-2007 01:57:47 »

 :o ช่างกล้า

 :pigangry2: :pigangry2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #109 เมื่อ25-02-2007 06:20:55 »


ตบอีนังชะนีบัดเดี๋ยวนี้  แล้วเอามันไปโบกปูนซะ   :ped144: นังชะนีไม่มีป่าจะอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
« ตอบ #109 เมื่อ: 25-02-2007 06:20:55 »





gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #110 เมื่อ25-02-2007 14:52:27 »

บอกแล้ว..ว่าหั้ยนังกระเทยต้องจัดการ...แปบเดียวก็จบ... :laugh5: :laugh5:

และแล้วสงครามกระเทย & ชะนีไม่มีป่าก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น... :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #111 เมื่อ25-02-2007 21:24:01 »

เหอะๆ และแล้วสองคู่ปรับก็มาเจอะกัน
***********************************************************

“ว่าไงครับพี่ต้องงงงง....พี่ปะ..เป้อยู่ที่หนายยยย...”น้องอาทเมาตาปรือแต่ความจำยังดูดีอยู่
“อาท มากินต่อดิ เพลงกำลังมันเลย” น้องอั้มเข้ามายื้อแขนน้องอาทไปเต้นด้วยกันอีก ทั้งๆที่เจ้าหล่อนน่าจะรู้แล้วว่า ท่าทางผู้ชายเมาแทบคลานขนาดนี้ คงจะกินอะไรไม่ได้ เลยกลายเป็นศึกชิงหนุ่มน้อยขึ้น
“ขอโทษนะน้อง ผู้ชายเขาเมาขนาดนี้ ยังจะลากเขาไปให้ได้เหรอ ให้เขาอยู่กับพี่นี่หละ เพราะเขามากับพวกพี่ อีกอย่างเขาเมาขนาดนี้ เดี๋ยวเป็นภาระกับพวกน้องเปล่าๆ”
“จะเก็บไว้กินเองเหรอคะ คุณพี่” นังน้องอั้มครับ มันพูดคำนี้ออกมาจริงๆ เล่นเอานังต้องหันมองหน้านิ่ง
“ถ้าข้องใจยังงัยเคลียร์กันได้นะ ที่ข้างนอก วันนี้ไม่อยากเกิดเรื่องซ้ำกับที่นี่อีก หรือว่าจะลองตอนนี้”นังต้องมันโกรธแล้ว ทั้งที่ปกติ นังต้องมันเป็นคนอารมณ์ดี ขนาดผมด่ามันแรงๆ มันยังหัวเราะเฉยๆ แต่วันนี้มันกินเหล้ามากจนเรียกได้ว่ามันมีอาการ...เมา ส่วนน้องอั้มนั้นพูดได้ว่า หล่อนเมามากกว่านังต้อง แถมยังเป็นประเภทที่เมาแล้วไม่ฟังใคร เมาหาเรื่อง ผมเห็นท่าไม่ดีแน่ จึงเดินไปจับแขนนังต้องเอาไว้ ฝ่ายน้องกิฟต์เมื่อเห็นผมเข้าวงในแบบนั้น เจ้าหล่อนก็เดินมาขนาบข้างเพื่อนหล่อนมั่ง ดูท่าทางจะประกาศศึกสงครามกับผมจริงจังซะแล้ว ผมประสานสายตากับน้องกิฟต์ เห็นแววตา เอาชนะ มุ่งมั่น จนผมนึกกลัว น่าเสียดาย หน้าตา ชาติตระกูล นี่ผมต้องเอาตัวลงมาแย่งผู้ชายที่ผมไม่ได้มีใจให้เลยเนี่ยนะ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ
“แสดงว่าพี่เป้ ไม่ยอมทำตามที่กิฟต์ขอใช่ไหมคะ” น้ำเสียงของน้องกิฟต์ฟังดูไม่ดีขึ้นมาเลย
“พี่ยังไม่ได้บอกว่าจะทำเลยนะกิฟต์ อีกอย่างหนึ่ง เธอ..ไม่มีสิทธิ์บังคับ หรือใช้อำนาจกับพี่ เธออย่าคิด ว่าพี่จะเหมือนเมื่อก่อน ที่ยอมให้กับทุกคน เคยเห็นแต่พี่ใจดีกับเธอมาตลอด เธอยังไม่เคยรู้ตัวจริงพี่ ถ้าเหลืออดมากๆ พี่ก็สู้ยิบตาเหมือนกัน”
“กิฟต์จะจำไว้คะ หวังว่าพี่เป้จะจำไว้เหมือนกันนะคะว่า ถ้ากิฟต์มีสิทธิ์ มีอำนาจ คนแรกที่กิฟต์จะจัดการ คือพี่เป้ เจอกันแน่คะ” พูดเสร็จน้องกิฟต์สบัดหน้ เดินผละออกไปทันที แถมยังไปลากนังน้องอั้ม ที่จ้องตาแถมประคารามกับนังต้องอยู่ ท่ามกลางไทยมุงรอบๆข้าง แรกๆน้องอั้มดูเหมือนจะไม่ยอม สะบัดมือน้องกิฟต์ แต่น้องกิฟต์ตวาดออกมา แล้วลากแขนน้องอั้ม ไปยังโต๊ะเจ้อ้อยที่อยู่อีกมุม โดยไม่สนใจอาการฮึดฮัดของอีกฝ่ายหนึ่ง
“ว่าไงค๊าบบบบ เกิดอารายขึ้นนน…..” ดูเหมือนต้นเหตุของเรื่อง จะเพิ่งผงกหัวขึ้นมารับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผมหละอยากบีบคอไอ้ตัวต้นเหตุซะจริงๆ เมาหนีสงครามไปเลยนะมึง
ผมชวนนังต้องกลับบ้านทันที เพราะอีกไม่กี่นาทีผับมันก็จะปิดแล้ว ดูเหมือนนังต้องมันยังแค้นๆอยู่ นัยว่าจะไปตบชะนีที่ข้างนอกตอนผับปิด ผมเลยเรียกพนักงานมาเคลียร์บิลล์ แล้วลากอีนังต้องกลับบ้านทันที โดยที่พวกเราต้องไปร่ำลากลุ่มพี่ชายกับเจ้อ้อยก่อน ดูเหมือนสองสาวจะทำหน้าเชิด ไม่รับรู้การมาล่ำลาของผมกับนังต้อง เมื่อน้องอาทมาล่ำลาคนสุดท้าย ยัยน้องอั้มลดการเชิดคอ ลงมายืนจับแขนน้องอาทเอาไว้
“แล้วเจอกันใหม่นะคะอาท”
“คร๊าบบบบ” น้องอาทยืนโซเซ ตอบเสียงยาน
สรุปแล้ว ต้องฝากรถน้องอาทไว้ที่ผับ เพราะอีนังโย่งกับเจ้าเด็กหัวหนาม พากันเมาแประทั้งคู่ คืนนี้.....อีเป้รับกรรม ขับรถให้อีนังต้องเหมือนเคย

********************

สมัยเมื่อเรียนปีหนึ่งครับ ได้มีการออกค่ายอาสาและพัฒนาชนบทขึ้น ผมซึ่งเป็นสมาชิกต้องไปร่วมในการออกค่ายครั้งนี้ เมื่อนำใบขออนุญาตจากทางชมรม ไปให้คุณนายแสนดีเซ็นชื่อยินยอม ให้ผมไปร่วมในการออกค่ายอาสาครั้งนี้ แต่คุณนายอ่านจบเท่านั้นหละ
“แม่ไม่ให้น้องเป้ไป โหไปเพชรบูรณ์ทางมันขึ้นเขานะลูก อีกอย่างน้องเป้ไปคนเดียว มันอันตรายแม่เป็นห่วง”
“แต่น้องเป้อยากไปนี่แม่จ๋า” ผมก็อ้อนสุดฤทธิ์ เพื่อให้คุณนายแสนดีใจอ่อนลงมาบ้าง
“โตแล้วนะ น้องเป้ แหม....อ้อนเป็นเด็กเชียว เราหนะ นิสิตมหาลัยแล้วนะเว้ย อายพี่ มั่งไอ้น้องเป้” ไอ้พี่ปอตัวดีหละครับ มันจบมาได้เกือบเดือนหละครับ กำลังเลือกงานอยู่ว่าจะทำที่ไหนดี เพราะว่า มันมีบริษัทมาจองตัวตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ ตั้งสามบริษัท ไม่น่าเชื่อว่าไอ้พี่ปอขี้เก๊ก มันจะมีงานที่ไหนมาจองตัวไปทำงานด้วย อย่างว่าหละนะ ก็พี่ชายผมเก่ง.....
“หุบปากไปเลยนะพี่ปอ ไม่ช่วยแล้วยังขัดอีก”
“อย่าให้มันไปนะแม่ ลูกรักของแม่หนะ ไปอยู่ห่างแม่ได้ไม่ถึงวัน มันก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้ว”ยังไม่วายไซโคคุณนายแสนดีอีก นี่หละครับพี่ชายผม
“จะไปยังไงได้น้องเป้ มันลำบากนะ หนูไม่ชินความลำบากมาก่อน แม่กลัวหนูเป็นอะไรไปขึ้นมา”
“น้องเป้ทนได้ ให้น้องเป้ไปนะแม่ นะ นะนะ”ผมอ้อนอีกแล้ว
“งั้นให้พี่ปอไปด้วย จะได้ดูแลน้องเป้”คุณนายแสนดีบงการเสร็จสรรพ
“ไปได้ไง คนละมหาลัย อีกอย่างถ้าเพื่อนรู้ ว่ามีพี่ชายไปดูแล เดี๋ยวมันล้อน้องเป้แย่เลย”
“เอางี้ดิแม่ น้องยอดไง เรียนอยู่ที่เดียวกัน ให้ไปดูแลอีลูกเจ้าปัญหาของแม่คนนี้ไง”พี่สาวผมครับพี่ป่านแกคงรำคาญเต็มที เลยเสนอมา
“พี่ป่านอะ ว่าน้องเป็นอี หยาบคาย” ผมหน้าง้ำ
“ช่วยไม่ได้ ก็แกสวยกว่าชั้นทำไมหละ” พี่สาวผมพูดหน้าตาย พลางยักไหล่
“จริงสิ ลืมไปหยุดหลายวันด้วย บอกน้องยอดก็ดี ปีนี้จะได้ไม่ต้องพากันตระเวนไปซนที่ไหนอีก”
ปีนั้นตกลงผมได้ออกค่ายอาสา โดยมีคนคุมไปด้วยครับ นั่นก็คือไอ้หน้าขาว….เย้
หน้ามหาลัย ตอนตีสี่ครึ่ง ที่ลานจอดรถเสียงรุ่นพี่เรียกรวมตัวกันเช็คชื่อ ทำกิจกรรม และแจ้งข้อตกลงกันวุ่นวายไปหมด ก่อนที่ผมจะเดินทางมาถึงลานจอดรถ คุณนายแสนดีก็ปลุกสมาชิกในบ้านมาส่งผมเต็มไปหมด จนไอ้พี่ปอมันบ่นเอา
“แหม แม่ไอ้เป้มันไปออกค่ายนะแม่ ไม่ได้ไปเรียนเมืองนอก จะต้องยกขบวนแห่ไปส่งมันขนาดนี้”ผลคือไอ้พี่ปอโดนคุณนายแสนดีทุบไปที่ต้นแขนหนึ่งที...... สะใจ
แว่บแรก ที่ผมเห็นไอ้หน้าขาว ที่ลานจอดรถ ลืมบอกครับ ว่าครอบครัวมันก็มาส่งกันพร้อมหน้า เหมือนกัน ผมกับมันก็ยิ้มให้กัน ก็มันน่ารักมากเลยไง ใส่เสื้อยืดลายทหาร กางเกงทหาร หมวกทหาร เข้าชุด แต่มันไม่เข้ากับหน้าขาวๆตี๋ๆของมันเลย แถมมันตัวโตๆสูงๆ มันเลย ไม่เหมาะไปใหญ่ตามความคิดของผม(ตอนนั้นนะ)
ผมเดินอ้อมรอบตัวมันสองสามรอบ มันมองหน้าผมแล้วยักคิ้ว
“พี่หล่อปะน้องเป้”
“จะไปออกรบที่ไหนเนี่ย”ผมไม่ตอบ แต่ถามมัน
“เตรียมรบกับน้องเป้ไง คราวนี้ไม่มีแม่ช่วยแล้ว ดูซิว่าจะร้องไห้ไปฟ้องใคร”
“มาสิ เดี๋ยวจะให้ นังช้างน้อยจัดการเลย” นังช้างน้อยที่ผมพูดถึงคือ เพื่อนกระเทยแร่ดในกลุ่ม ที่จ้องจะจับไอ้หน้าขาวกินได้ทุกเวลา
“กลัวแล้วจ้า น้องเป้คนสวยที่รักของพี่” มันทำตาเจ้าชู้ใส่ผม ซึ่งมันก็ทำเป็นประจำหละครับ จนคนรู้ไปทั่วมหาลัย แถมต่อหน้าพี่ปอ พี่ป่าน หรือคนในครอบครัวผมหรือครอบครัวมัน มันก็ทำเหมือนจีบผมกลายๆ จนบางทีพี่ปอซึ่งปากปีจอสวนมาดังๆกลางโต๊ะกินข้าว
“ไอ้ยอดมึงอย่าจีบไอ้เป้มาก กูรำคาญ รีบเรียนให้จบ แล้วมาขอมันแต่งงานไปซะ จีบกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่เบื่อกันมั่งหรือไงวะ”
“แม่ว่าหมั้นก่อนก็ดีเหมือนกันนะ” แม่ไอ้หน้าขาวก็มีมุกขำๆ
“แต่งวันนี้ก็ดีเหมือนกันนะคะคุณ”คุณนายแสนดีหันไปถามความเห็นของพ่อผม
“แม๊............”ผมร้องเสียงสูงทันที
“ไอ้พี่ยอดเลิกเล่น เลิกพูดบ้าๆ เลยนะ คนเขาเข้าใจผิดหมดแล้ว ไอ้พี่บ้า..” ผมแหวใส่ไอ้หน้าขาวที่นั่งหน้าระรื่นอยู่ด้านข้าง แล้วรีบตักข้าวใส่ปาก ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว.........................

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #112 เมื่อ25-02-2007 22:10:57 »

เลิกแล้วต่อกันเถอะ อย่าจองเวรจองกรรมกันเลย  เป็นสุขๆ เถิด  :call: :call: :call:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #113 เมื่อ25-02-2007 22:14:08 »

เฮ้อ!!~  แต่ก่อนพี่ยอดก้ออกจะแสนดีแท้ๆ

อะไรมาทำให้เปลี่ยนไปเนี่ย :confuse:

หรือนังน้องกิ๊ฟมันมาเป่าหู

โอ๊ยๆๆๆ  เกลียดมันๆๆๆๆ   :serius2: :serius2:

ต่อๆครับต่อ 

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #114 เมื่อ25-02-2007 22:15:42 »

เห็นทีต้องวางแผนฆาตกรรมนางชะนีเหล่านี้เป็นการด่วนนนนนนนนนน  :pigangry2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #115 เมื่อ25-02-2007 22:36:06 »

ท่าทางเรื่องอีนัวน้อวกิฟต์จะไม่จบง่ายๆ

แสดดดดดดดด

 :pigangry2:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #116 เมื่อ26-02-2007 04:31:13 »

มาให้กำลังใจจ้า ต่อไวไวนะ :yeb:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #117 เมื่อ26-02-2007 10:12:08 »

เคยตั้งใจว่าจะไม่ตบชะนี...เพศเดียวกะแม่เด็ดขาด

แต่งานนี้สงสัยตะบะแตกแหงๆ

 :ped144: อิกิฟต์...เมิงเตรียมตัวตายได้แล้ว  อินังชะนีจำแลง

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #118 เมื่อ26-02-2007 15:20:17 »

เจ้ๆ ใจเย็นๆ เจ้ เอ้าใครก็ได้มาจับเจ้ไว้ที อย่าปล่อยนะ

ว่าแล้วน้องต๊อบก็เดินดุ่มๆ เข้าไป

"เพี้ยะ!!!!!!!!"

นี่แน่ะ เจ้ไม่ต้อง น้องต๊อบเอง

"ว้าย... ตายแล้ว เจ้ หนูขอโทษ นึกว่ากิฟต์ เห็นสวยพอกัน"


55555555

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #119 เมื่อ26-02-2007 17:47:29 »

... :amen: :amen:อย่าจองเวรซึ่งกันและกันเลย...

........แต่ถ้าใครจะตบ...ฝากด้วย... :laugh: :laugh:

ป.ล....น้องต๊อบตบเจ๊ทำไม....พี่ฝากด้วยดิ... :pigha2: :pigha2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด