[story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม  (อ่าน 132763 ครั้ง)

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #30 เมื่อ14-02-2007 18:52:44 »

เหอๆ เป็นเราโดนขนาดนี้อะคงไม่เเม้เเต่จะพูดกับมันเเล้วละ ใครจะให้ไปกับมันหัวเด็ดตีนขาดไงก็ไม่ไปหรอก แม้แต่หน้าก็คงไม่มองเเล้วละขอบายยยยยยย  :yeb:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #31 เมื่อ14-02-2007 22:17:11 »

เหอๆๆ

สงสารน้องเป้

ชักไม่ชอบยอดขึ้นมาตะหงิดๆๆ

ไม่ชอบผู้ชายแบบนี้เลยให้ตาย

แต่ตอนท้ายๆคงกลับมาตายรัง ...-*-

ทำให้นึกถึงโฆษณาน้ำปลา  เมียจ๋าผัวหิวข้าวอีกแล้ว

เหอๆๆ   ฮา

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #32 เมื่อ14-02-2007 23:36:43 »

ยอดนะยอด :3125:

โหดร้ายว่ะ สงสารคุณเป้ :monkeysad2:

฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #33 เมื่อ15-02-2007 00:47:20 »

สงสารน้องเป้อ่า :impress:

เฮ้อ โลกช่างโหดร้ายเหลือเกิน :monkeysad2:

ไง กระเทย ไม่ใช่ คนหรืองัย  :pigangry2:

คิดแล้วแค้นแทนเลยน่ะเนี่ย :3125:

(ปล. เพื่อนกระเทยเยอะอ่าน่ะ เอิ้กๆๆ :kikkik:)

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #34 เมื่อ15-02-2007 13:43:28 »

ทนเพราะรัก.... :impress:

เพราะรักจึงทน....  :impress3:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #35 เมื่อ16-02-2007 07:29:14 »

กว่าคนจะรู้ใจตัวเอง บางครั้งก็สายเกินไป
********************************************************


หลังจากที่กินข้าวกับครอบครัวแล้ว ผมรีบปลีกตัวออกมาครับยิ่งครอบครัวไอ้หน้าขาวที่ตามมาสมทบในช่วงก่อนจะเช้ามันทำให้ครึกครื้นมากยิ่งขึ้น แถมตอนนี้ยังมีผู้หญิงที่ผมเกลียดมากที่สุดในโลกอย่าง น้องกิฟต์ .......ผมหละเซ็ง ไม่อยากเห็นไม่อยากให้ใจเจ็บอีกต่อไป แต่มันก็ยังต้องทนเห็นอยู่ดี ภาพของไอ้หน้าขาวที่ตระกองกอดน้องกิฟต์อย่างทนุถนอม ทำให้ผมเจ็บแปลบ ขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาผมพาลจะไหล ทั้งๆที่ตอนนั้น สองครอบครัวเริ่มจะเชื่อมสัมพันธ์กันผ่านทาง.....น้ำเมา ผมทนไม่ไหวจริงๆมันเจ็บที่หน้าอกแปลบๆจนผมต้องเอามือกุมไว้
ความรักที่ไม่ได้รับการแยแส รสชาติมันเจ็บแบบนี้นี่เอง ผมลุกขึ้นตรงไปยังแม่ผมทั้งๆที่น้ำตานองหน้า
“แม่จ๋า น้องเป้ปวดหัวมากๆ เดี๋ยวน้องเป้ขอนอนเลยนะแม่ ไม่ไหวแล้ว”
“เป็นอะไรมากหรือเปล่า หือ น้องเป้ ไหนให้แม่ดูหน่อยสิลูก” แม่ประคองแก้มของผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้างจนน้ำตาผมไหลรินลงไปมือทั้งสองของแม่
“ตัวอุ่นๆหนะลูก ไปเดี๋ยวแม่จะพาไปนอน”แม่จ๋า แม่รู้ไหมว่า แม่ชวนน้องเป้กลับบ้านมา เพื่อให้ไอ้หน้าขาวทำลายหัวใจของลูกแม่แล้ว.......
ผมนอนร้องไห้ทั้งคืนครับคืนนั้น น้ำตาไม่รู้มันมาจากไหนมันไม่ยอมหยุดในสมองก็มีแต่ภาพที่ไอ้หน้าขาวที่ตระกองกอดกับน้องกิฟต์
“พี่ยอด น้องเป้รักพี่.....” ผมคร่ำครวญออกมาพลางซบหน้าลงบนหมอนที่เปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำตา..........
ผมปวดหัวมากมันไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกไปไหนอีกเลย ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลืมตาขึ้นมามองโลกสีครามใบสวยนี้อีก ทำไมมันไม่อยากทำอะไรเลย ผมพยายามที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เบื้องหน้าเท่าที่สายตาพร่ารางเลือน ที่ผมเห็นก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเผ้าไม่อยู่ในระเบียบนัก นัยน์ตาของเธอมีน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย แววตาเหมือนผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่รักผมเสมอมา ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง เลวร้ายยังไง ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่คอยเคียงข้าง และปกป้องผมตลอดเวลา
“น้องเป้ ฟื้นแล้วหรือลูก หนูไม่สบายมากจ๊ะ ช็อคไปตั้งแต่เมื่อตอนดึก อย่าเพิ่งลุกนะลูก” แม่เอามือดันตัวผมลงบนที่นอนของโรงพยาบาล ผมกระพริบตาถี่ๆเพื่อให้หมอกพร่านั้นมันรางเลือน จนแม่ผมต้องเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดมันออกมา
“อย่าร้องไห้เลยนะน้องเป้ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ขวัญเอ้ย ขวัญมา ลูกน้อยของแม่ ”แม่ลูบหัวผมเบาๆ
“น้องเป้อยากกลับกรุงเทพได้มั้ยแม่ วันนี้เลย ไม่อยากอยู่ตรงนี้” ผมปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร
“เดี๋ยววันนี้แม่จะให้พี่ปอ ขับรถไปส่ง แล้วแม่จะไปอยู่กับน้องเป้สักพัก ไม่อยากให้อยู่คนเดียว แม่รักน้องเป้มาเลยรู้ไหมลูก” แม่ผมพูดน้ำตาไหลอาบทั้งสองแก้ม
“แม่จ๋า น้องเป้รักแม่” ผมร้องไห้โฮโผเข้ากอดแม่สะอื้นตัวโยน....................

หลังจากที่ผมฟื้นได้สติขึ้นมา พี่ปอก็ขับรถมาส่งผมกับแม่ ผมรู้สึกเหงาอย่างประหลาด ไอ้หน้าขาวจะหมั้นพรุ่งนี้ ไม่อยากรับรู้ความเจ็บปวดนี้ เมื่อก่อนผมเคยทำได้ไม่ใช่เหรอสองปีที่ผ่านมาผมไม่เคยที่จะเจอกับมันแม้แต่เงา....และการเจอที่ไม่คาดคิดก็ผับคืนที่เกิดเหตุวันนั้น... ทำให้ใจผมไหวแกว่งอีกครั้งหนึ่ง ขอเวลาให้เป้สักนิดนะแม่ ขอให้เป้เข้มแข็งกว่านี้อีกนิด ทีนี้ไม่ว่ากับใครเป้ก็จะไม่อ่อนไหวอีกแล้ว ผมเหลือบไปมองผู้หญิงวัยกลางคน ร่างบางๆที่หลับมาบนเบาะด้านหลัง...บอกกับตัวเอง น้องเป้จะเข้มแข็งแล้วนะแม่..... พรุ่งนี้แล้วสินะ วันที่ไอ้หน้าขาวจะเข้าพิธีหมั้น ผมยอมรับเลยว่าถ้าให้ผมอยู่ร่วมพิธีนั้น ผมคงต้องตายแน่ๆ ทางที่ดีผมต้องหนี หนีไปให้ไกล จะได้ไม่ต้องรับรู้ข่าวสารของกันและกันอีก แค่คิดมันทำไมถึงเจ็บได้ขนาดนี้ พรุ่งนี้เขาก็จะเป็นคนที่มีเจ้าของไปแล้ว ส่วนผมคงได้แต่อยู่ตามลำพัง แบบคนที่หัวใจสลาย.......
วันรุ่งขึ้นแม้จะเป็นวันหยุด ถึงผมจะอยู่ที่กรุงเทพแล้วก็ตาม แต่หัวใจของผม ลิ่วไปอยู่ที่ผู้ชายที่ผมรัก คนที่มีเจ้าของแล้ว ถึงแม้ตอนเด็กๆนั้น ไอ้หน้าขาวแม้มันจะรู้ว่าผมเป็นผู้ชาย ถึงมันไม่ได้เข้ามากีดกันเด็กผู้ชายคนอื่นหรือจีบผมเหมือนเมื่อก่อน แต่มันก็ตามดูแลผมอยู่ไม่ห่างนัก คอยปกป้อง คอยดูแล น้ำใจของมันมีมาให้ผมก็เยอะแยะ จนผมลืมไม่ลง สมัยก่อนต้องไปไหนด้วยกัน กินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน ไปดูหนังก็ไปด้วยกัน ถึงไม่ได้ไปสองต่อสองก็ตาม แต่ก็ยังต้องมีไอ้หน้าขาวติดตามไปด้วยทุกครั้ง แม้ว่าจะโดนล้อมาตั้งแต่ประถมว่าผมเป็นแฟนกับไอ้หน้าขาว แต่เราสองคนไม่เคยเถียง ปล่อยให้คนอื่นๆเข้าใจไปเอง บางทีมันคงรำคาญมั่งหรอก แต่ผมนี่สิมันไม่เป็นอย่างนั้น ผมกลับรักมันยิ่งขั้นทุกวันๆ แต่วันนี้สิมันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่สิความจริงแล้วมันเปลี่ยนไปตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีสาม เมื่อมีน้องใหม่เข้า และน้องปีหนึ่งคนนั้นชื่อ......น้องกิฟต์
น้องกิฟต์เป็นน้องปีหนึ่งที่น่ารักมาก สะสวย เรียบร้อย ร่ำรวยจึงไม่แปลกเลยที่จะเป็นที่กล่าวขานทั่วมหาวิทยาลัย และที่สำคัญเธอเป็นเดือนมหาวิทยาลัยที่ส่องใส มีผู้ชายมากมายรุมล้อมและหนึ่งในนั้น.......ไอ้หน้าขาว


ช่วงที่ไอ้หน้าขาวหมั้นนั้นผมเหม่อลอย บางครั้งคิดจะฆ่าตัวเองด้วยซ้ำไป ครั้นพอเห็นหน้าแม่ ที่แกมาอยู่กับผม มาดูแลผม ผมทำไม่ลงครับ แม้ใจจะเจ็บปวดเพียงไรก็ตาม บางครั้งแม่ก็เอ่ยปากชื่นชมไอ้หน้าขาวพลางบ่นเสียดายที่ไม่ได้ร่วมในงานหมั้น ผมมีอาการทุกครั้งมันเจ็บจริงๆนะครับ เจ็บหัวใจเหมือนถูกใครบีบอย่างรู้สึกได้ จนต้องแอบเดินเลี่ยงออกมาร้องไห้ในห้องน้ำจนตาบวม เวลาสองสัปดาห์ที่แม่อยู่กับผมมันเป็นเวลาที่ทำให้ผมแกร่งโลกมากขึ้น ทำให้ผมรู้ว่าบนโลกใบนี้ในความโหดร้ายบางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดมันอยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง บางคนไขว่าคว้าหามาจากสิ่งที่ไกลตัวอย่างอยากลำบาก จนลืมนึกไปว่าสิ่งใกล้ๆตัวก็ทำให้เรามีความสุขได้เช่นเดียวกัน ช่วงเวลาที่แม่ผมมาอยู่นังต้องก็แวะมาอยู่เนืองๆ มันรู้อาการของผม รู้ว่าผมมีปัญหาแน่นอน แต่มันไม่พูดอะไรออกมา นอกจากที่มันไม่ซักไซ้ผมแล้วมันยังคอยปลอบประโลมผมด้วยซ้ำไป
“กูไม่รู้หรอกนะว่า มึงเปลี่ยนไปเพราะอะไร แต่กูอยากเห็นอีเป้คนเดิมวะ คนที่เคยสดใสร่าเริง มันไปอยู่ที่ไหนวะ กูรู้ ว่ามึงไม่อยากพูดถึงมันอีก แต่มึงจะมาทำตัวท้อแท้ ไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้อย่างนี้ไม่ไหวแล้วนะโว้ย สงสารแม่มึงมั่ง
มึงไม่รู้หรอกว่าแม่มึงกลุ้มแค่ไหน บางทีกูเห็นแกแอบร้องไห้ จนกูทนไม่ไหวแล้วนะเป้ มึงไม่สงสารแม่มึงบ้างเหรอ” นังต้องพูดเสียงเครือพลางร้องไห้ออกมา
“ต้อง กูไม่อยากอยู่เลย กูทนอยู่ทุกวันนี้ เพราะกูไม่อยากให้แม่กูเสียใจ มึงรู้ไหม กูไม่อยากนอนหลับเลย แต่กูต้องฝืนใจหลับตา เพราะกูรู้ว่า ถ้ากูยังไม่นอน แม่กูก็ต้องคอยเฝ้ากูอยู่อย่างนั้น”
“แล้วมึงไม่คิดจะทำให้แม่มึงสบายใจมั่งเลยเหรอ เลิกท้อแท้เหอะเป้ เห็นแก่แม่มึงเหอะ พ่อแม่มึงหนะรักมึงมากนะ”
“กูจะพยายามต้อง” นังต้องมองหน้าผมแล้วยิ้ม
“กูรู้ว่ามึงต้องทำได้ อย่าลืมที่มึงเคยบอกกูไว้หละ อีเรียมไม่มีวันท้อแท้ วันนี้กูเอาคำพูดเดิมๆที่มึงเคยบอกกูมาพูดมั่ง อี่นี่ อกหักมันไม่ตายหรอกว่ะ”
“รู้ได้อย่างไรว่ากูอกหัก”
“อีนี่ ถ้ากูไม่เคยมีอาการแบบมึงกูจะรู้เรอะ สมัยที่กูยังไม่รู้จักกับมึงหนะ กูมีแฟนอยู่คนหนึ่ง รักกันมาตั้งแต่ ม.6 ก็คบกันเรื่อยมา จากนั้นเราก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย คิดดูนะมึงกูเรียนรังสิต มันเรียนหนองจอก กูยังตะลอนๆไปหามันเกือบทุกวัน พอกูอยู่ปีสี่ครอบครัวกูเริ่มมีปัญหาทางการเงิน กูต้องดรอปเมาช่วยงานครอบครัว สรุปแล้วกูจบช้ากว่ามันปีนึงวะ ช่วงที่กูดรอปเรียนมาทุ่มเทช่วยงานที่บ้านเต็มที่ช่วงนี้หละที่มันเริ่มเปลี่ยนแปลง เป็นเพราะกูไม่มีเวลา หรือกูไม่เอาใจใส่มันก็ไม่รู้ มันแอบมีคนใหม่โดยที่กูไม่รู้ แล้วคนที่เป็นแฟนใหม่มันคือเพื่อนสนิทของกู ที่รวยกว่ากูตอนนั้นกูเป็นหนักยิ่งกว่ามึงซะอีก กูยิ่งกว่าคนบ้า อาละวาดมันทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง ในที่สุด กูก็กินยาฆ่าตัวตาย แต่แม่กูมาเห็นพอดี เลยส่งโรงพยาบาลทัน ตอนนั้นหนะ กูก็ยังไม่เลิกคิดหรอกนะ ว่ากูจะทำยังไงที่จะฆ่าตัวเองให้ตาย แต่แม่กูสิ ทำให้กูเลิกคิด สภาพแม่กูตอนนั้น เหมือนแม่มึงตอนนี้ไม่มีผิด กูเห็นแล้วเลยถอดใจ ยอมสู้อีกครั้ง ไอ้ที่แล้วมาให้แล้วกันไป กูก็ทำตัวใหม่แม้กูจะเจ็บจะคิดมาก แต่กูต้องหักใจ เพราะกูรักแม่ แล้วมึงหละเป้ มึงไม่รักแม่มึงเลยหรือ”
“ต้องกูขอโทษ”
“โน่นเลย คนที่มึงควรขอโทษ และกราบตีนขอขมา โน่น แม่มึงโน่น”
ผมเดินเข้าไปหาแม่ ดูแม่จะแปลกใจนิดๆ ใบหน้าแม่หมองหม่น แววตาไม่แจ่มใส ปกติแม่จะดูดีกว่านี้มาก นี่ผมทำร้ายแม่สุดที่รักของผมขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ผมเดินเข้าไปคุกเข่าตรงหน้าแม่ พลางมองหน้าแม่ แม่มองผมแล้วยิ้มให้ น้ำตาผมไหลริน... ดูแม่จะตกใจเล็กน้อยเมื่อผมก้มลงไปกราบแทบเท้าของแม่ น้ำตาผมหยดบนหลังเท้าของแม่ จนแม่ต้องประคองผมขึ้นมา
“แม่จ๋าน้องเป้ขอโทษ น้องเป้ทำให้แม่เสียใจ ทุกข์ใจ ต่อไปนี้จะไม่ทำอีกแล้ว แม่ยกโทษให้น้องเป้นะแม่”ผมร้องไห้ โผเข้ากอดแม่ โดยมีนังต้องยืนมองอยู่ไม่ไกลนัก
“แม่ก็รักน้องเป้มากจ๊ะ แม่ไม่อยากเห็นน้องเป้กลุ้มแบบนี้ ลูกของแม่เคยร่าเริง พอมาเป็นอย่างนี้แม่ทำตัวไม่ถูกเลยลูก”
“น้องเป้ จะเป็นคนที่เข้มแข็งไม่ขี้แยอีกแล้วหละแม่” ผมยิ้มให้กับแม่ที่อยู่ตรงหน้า
“จ้า.....อีคนสวย แหมพอยิ้มขึ้นมาหละขี้ตาเขรอะเลย ร้องไห้ก่อนนอนจะทำให้ขี้ตาเขรอะนะมึงจำไว้”ปากของอีนังเพื่อนผมแต่ผมไม่สนใจหละครับตอนนี้เพราะผมมีความสุขท่ามกลางคนที่ผมรักละยังรักผมมากตั้งสองคนแหนะครับ


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #36 เมื่อ16-02-2007 07:45:50 »



เข้าใจๆ  เพื่อนเจ้มันก็เคยเป็น  เจ้เองก้เคยเป็น อิอิ  แล้วเจ้ก้แรดต่อมาได้จนถึงทุกวันนี้   :yeb:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #37 เมื่อ16-02-2007 08:01:47 »

และคนที่หวังดีที่สุด  ให้ความรักและความเอาใจใส่ตัวเรามากก่าใคร  ก็คงจาไม่พ้น  พ่อกะแม่นี่เองงง
ม่ายมีใครรักเราเท่านี้อีกแล้วอะ :monkeysad:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #38 เมื่อ16-02-2007 08:34:10 »

เฮ้อ เศร้า  :impress3:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #39 เมื่อ16-02-2007 08:41:25 »

ดีแล้วหล่ะ ที่คิดได้ซะที พ่อแม่คือคนที่รักและห่วงใยเราที่สุดแล้ว  :monkeysad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
« ตอบ #39 เมื่อ: 16-02-2007 08:41:25 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #40 เมื่อ16-02-2007 09:11:05 »

ก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าเวลาอกหักแล้วมันจะเจ็บยังไง

เคยได้ยินแต่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า "เจ็บเจียนตาย"

ดีแล้วล่ะครับ ที่อย่างน้อยๆก็คิดถึงคนที่เค้ารักเราทั้งชีวิต  :impress3:

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #41 เมื่อ16-02-2007 16:59:34 »

ชอบมากเลยเรื่องนี้หลากหลายอารมณ์ดี
กว่าจะอ่านจบก็ลุ้นแทบแย่ว่าจะลงเอยยังไง
ชอบเรื่องที่คุณเป้แต่งทุกเรื่องเลย สนุกๆทั้งนั้น

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #42 เมื่อ16-02-2007 17:28:37 »

มีคนที่รักอยู่รอบข้างมากมาย.... :impress3:

คนพวกนี้แหละคับที่จะเป็นกำลังใจหั้ยเราเดินต่อไป.... :monkeysad:

฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #43 เมื่อ16-02-2007 21:54:37 »

เฮ้อ ในที่สุดก็เจอทางสว่าง สะที นี่แหละของดีมักอยู่ใกล็มือ แต่ไม่คว้า ไปคว้าของไกลตัว :monkeysad2:

เข้มแข็งไว ๆ น่ะ น้องเป้ (หรือ พี่เป้ หว่า) :yeb:

ชอบจังเลยเรื่องนี้อ่า แบบว่าโดนมักมากกกก :monkeylove2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #44 เมื่อ16-02-2007 22:09:18 »

อยากรู้ไหมครับว่าเจ็บเจียนตายเป็นอย่างไร
ลองมีความรักดูสักครั้งสิครับ มันปวดไปที่ขั้วหัวใจจริงๆ

***********************************************

ผมเริ่มทำใจได้แล้วครับ เจ็บปวดอาจจะมีบ้าง บางครั้งตอนดึกๆมีบ้างบางคืนที่ต้องนอนร้องไห้น้ำตาไหล แต่อย่างว่าหละครับ เขาไม่ใช่ของเรา ยังไงก็คงไม่ใช่ แม้ว่าเราจะพยายามไขว่คว้ามาก็ตาม แต่มันต้องกลับไปยังที่ ที่มันสมควรที่จะอยู่เหมือนเดิม เหมือนผมกับไอ้หน้าขาว ยิ่งผมทำตัวชิดใกล้ พยายามที่จะลากเอามันมาร่วมเดินเคียงข้างกับผม แต่ว่า..... สุดท้ายมันก็ต้องกลับไป ยังที่ที่มันสมควรนั่นคือ...น้องกิฟต์ แม่ผมเริ่มยิ้มแย้มมากขึ้น จากการที่เฝ้ามองผมอย่างเงียบๆ มาตลอดทั้งอาทิตย์นั้น ผมพาแม่เดินเที่ยวตามห้าง พาแม่ไปทานข้าวเย็นมั่ง การที่แม่มาอยู่ที่ห้อง ทำให้ห้องผมมีระเบียบมากขึ้น อะไรที่ผมเคยชิน ก็ต้องทำตัวใหม่ ผมเริ่มเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เละมีเหตุผลมากขึ้น เพราะแม่ผมยังว่าเลยเมื่อก่อน
“น้องเป้เนี่ย ถ้าทำตัวงอแง ไม่มีเหตุผลแบบนี้ โตขึ้นมาไม่มีครอบครัวแล้ว น้องเป้จะอยู่ลำบากแน่ๆ”
แต่ว่านอนนี้คุณนายแสนดีของผมมองผมด้วยแววตาภาคภูมิใจลึกๆ เหมือนที่แม่เคยมองผมด้วยแววตาแบบนี้ มาครั้งหนึ่งแล้ว ตอนที่ผมรับปริญญา แม้ตอนนั้นผมกับไอ้หน้าขาว จะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันไปแล้ว แต่วันรับปริญญาของเราทั้งสองคน เรายังยิ้มขณะที่ถ่ายรูปคู่ แต่กับมันผมบอกตรงๆเลยว่าไม่เคยยิ้มให้ และหลีกเลี่ยงที่จะไปถ่ายรูปกับมัน หรือกลุ่มเพื่อนสนิทของมัน ที่เข้ามาทักทายผมอย่างดี ยังกับที่พวกมัน ไม่เคยพูดถากถางผมในสมัยก่อน กับเพื่อนมันผมยังพอคุยบ้างแม้จะไม่มากเรียกว่าถามคำตอบคำ ไม่มียิ้มแย้ม แต่กับไอ้หน้าขาวนี่ผมบอกเลยว่า..ไม่ ทั้งที่ตอนแรกที่ ผมมาเจอกับมัน ไอ้หน้าขาวยิ้มให้ผมก่อน และตรงมาเหมือนจะมาคุยกับผม ซึ่งผมก็ยิ้มตอบ คิดว่าคงได้คืนดีกันซะที แต่....คนที่ตามหลังมันมาด้วยนี่สิ ทำให้ผมหยุดยิ้ม และหันหลังกลับ ทำเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักกับมัน.............น้องกิฟต์ครับ ขณะที่ผมห่างไกลกับไอ้หน้าขาว แต่ว่า...อีกคน พี่บอยเริ่มเข้ามาใกล้ชิดผมมากขึ้น ผมก็เริ่มทำตัวสนิทกับพี่บอยมากกว่าเดิม บางครั้งพี่บอยมารับผมกับแม่ไปกินข้าว แต่ว่าผมยังไม่เปิดโอกาสให้แกขึ้นมาที่ห้องผมเลยสักครั้ง จนกระทั่งคุณนายแสนดีเห็นว่าอาการของผมเริ่มดีขึ้น พอที่จะประคองตัวเองสู้โลกใบนี้แล้วถึงได้กลับบ้าน และคราวนี้ มีผมกับนังต้องขับรถไปส่ง เพราะแม่ไม่ไว้ใจให้ผมขับรถไปส่งแกคนเดียว การกลับบ้านคราวนี้ มันเจ็บปวดบ้าง คงเพราะทำใจไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อมองเห็นสถานที่ ที่ผมกับไอ้หน้าขาวเคยเที่ยวเล่นมาด้วยกัน ทำให้ผมหวิวลึกๆในอก แต่กลับไปคราวนี้ผมไม่เจอกับไอ้หน้าขาว หรือแม้แต่น้องกิฟต์ ได้ข่าวว่าไอ้หน้าขาวต้องย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ ส่วนน้องกิฟต์ที่จบปีสี่และรับปริญญาเรียบร้อยแล้วรอเวลาที่จะบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ในเดือนหน้า ดีแล้วหละที่ไม่เจอผู้ชายกับผู้หญิงที่ผมเกลียดที่สุดในโลก ผมบอกตัวเองในใจ ......
เมื่อผมกลับมากรุงเทพ ผมเริ่มเที่ยวมากขึ้นจากเดือนละครั้งกลายเป็นอาทิตย์ละครั้ง แต่คราวนี้ผมเริ่มเที่ยวผับที่เป็นที่ของชาวเราเฉพาะ ทั้งที่เมื่อก่อน ผมจะเที่ยวที่ที่เป็นผับรวมๆ ไม่เคยเที่ยวผับเกย์มาก่อนในชีวิตเลย และการที่ไปผับรวมๆทำให้ค้นพบว่า เกย์ นี่มันมีทุกๆที่จริงๆ ไม่จำเป็นหรอก ที่จะต้องเป็นที่เฉพาะอย่างเดียว ที่แรกที่เคยไปในชีวิตคือ ผับย่านลำสาลี หลังจากที่ตัดสินใจแล้วว่าครั้งแรก ขอไปในที่คนไม่พลุกพล่านมาก และคนที่ไปด้วยคราวนี้คือนังต้องนั่นเองครับ
“ต้อง กูเครียดวะไปเที่ยวปะวะมึง ไปหาผู้ชายกินกัน” ผมชวนมันโดยใช้ผู้ชายเป็นเครื่องล่อมัน
“แหม อีเป้ มึงรู้ใจกูโครตๆ เลยวะ กูกำลังอยากกินผู้ชายเลยวะ ตั้งแต่มึงกลับบ้านกูไม่เคยมีผู้ชายตกถึงท้องเลยนะเว้ย
ขนาดวันก่อนกูแอบไปกับพวกอีแจ๊สนะมึง กูยังอด ที่กูไปมานี่เป็นผับเกย์นะมึง เกย์เยอะแยะเต็มไปหมด กูก็เกือบได้นะ หน้าตาหล่อยังกะดาราเลยมึง จีบกันมาจนเกือบผับปิด เสือกเป็นฉิ่งเหมือนกับกู ไม่อยากตีฉิ่งวะ กูเลยแดกแห้ว ไม่เหมือนอีพวกนังแจ๊ส มันตาดี มันเลือกได้เจอตัวผู้ชาย เมื่อกี้กูโทรไปถามมันนะมึง ว่ามันดูผู้ชายยังไงในผับเกย์ มันบอกกูนะมึง ว่ามันเลือก เอาแต่หน้าเน่าๆ แต่เป้าเริ่ด นั่นแหละจะเป็นผู้ชาย ไอ้กูก็มัวแต่ งมหาแต่หน้าเริ่ดๆเลยอด”
“มึงพากูไปมั่งดิ กูอยากไป อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นยังงัย”
“เอาสิมึง รับรองสวยๆ อย่างมึงหนะแจ้งเกิดอยู่แล้ว”
“มึงเพิ่งรู้เหรอ อีนังต้อง ว่ากูหนะอดีตนางสาวไทยเว้ย”
“อีดอก แหม เข้าใจชมตัวเองนะมึง เอาเป็นว่าสามทุ่มกูไปรับมึงที่คอนโดนะมึง ถ้ากูไปช้ามึงอย่าด่ากูอีกนะ”
“เออ มึงอย่าช้าเกินสี่ทุ่มหละ กว่าจะถึงอีกมึง ผับมันไม่ได้อยู่ใต้คอนโดกูนะเว้ย”
“เออ อีเจ้านาง ว่าแต่มึงจะชวนพี่บอย ที่รักของมึงไปด้วยปะหละ”
“ชวนไปทำไมหละ อีนี่ เวลาส่วนตัวกูนะ กูจะได้หายใจโล่งๆหน่อย อีกอย่างพี่บอยกับกูหนะแค่เพื่อน”
“แหมใจคอมึงจะเอาความสาว ไว้ถวายเทวดาหรือไง อีเป้ เดี๋ยวมึงก็เหี่ยวแล้ว ไม่รีบใช้ เดี๋ยวมึงก็เฉาตายหรอกมึง”
“เออ ช่างกู มึงก็รู้แล้วว่ ากูหนะเก็บเงินสร้างคานทองคำ อยู่ตอนแก่ ผู้ชายบุญไม่ถึงกูหรอก แค่นี้นะมึงเดี๋ยวกูจะไปธุระกับพี่บอยแล้ว”
“ฮั่นแน่ อีนี่”
“แค่นี้นะ” ผมรีบวางสายนังต้อง เพราะรำคาญ รู้ว่ามันต้องแซว หรือพูดอะไรที่ผมไม่อยากฟัง ให้ได้ยินอีก
ผมเตรียมตัวจะไปเที่ยวกับนังต้องครับ คืนนี้กับอารมณ์เหงาๆ กับใครสักคน.....เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น
เจ็บแค้นเคืองโกรธ โทษฉันใย........... ผมรู้ดีครับว่าเสียงนี้เป็นใครโทรมา ผมชั่งใจครู่หนึ่งจะรับโทรศัพท์ดีหรือไม่รับดี จนเสียงมันเงียบลง และดังขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผมตัดสินใจรับโทรศัพท์ครับ แม้มันจะทำให้ผมเจ็บ..............อีกครั้งก็ตาม


฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #45 เมื่อ16-02-2007 22:30:33 »

เอ๋  จะมีอะไรเกิดขึ้นล่ะเนี่ย?????? :untrust: :untrust:

อยากรู้จัง มาต่อเร็วน่ะคร้าบบบบบ  :angellaugh2: :angellaugh2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #46 เมื่อ16-02-2007 22:42:04 »

แค่เสียงริงโทนก็อธิบายอารมณ์คุณเป้ได้แล้วนะเนี่ย

ไหนๆก็เกลียดกันแล้วก็น่าจะปล่อยกันไปนะ จะมาคอยทำร้ายกันอยู่อีกทำไม :monkeysad:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #47 เมื่อ16-02-2007 23:26:40 »

โอ้ยย  มานโดนเจงๆ
รู้ว่าเจบแต่ก้อยังทำเนอะคนเรา   :monkeysad: :monkeysad2: :impress3:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #48 เมื่อ17-02-2007 07:22:52 »

 :o

what will be happened? 

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #49 เมื่อ17-02-2007 07:42:47 »

แม้จะเจ็บก็ต้องทนให้ได้สักวันมันคงจะผ่านไป  :monkeylaugh2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
« ตอบ #49 เมื่อ: 17-02-2007 07:42:47 »





inimeg

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #50 เมื่อ17-02-2007 13:54:53 »

นั่งกินข้าวรอ.....

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #51 เมื่อ17-02-2007 15:44:01 »

น้องเป้สู้ๆๆ

รักคนที่เขารักเราดีกว่า


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #52 เมื่อ17-02-2007 20:22:02 »

ใครๆก็เคยพูดกันว่าเวลาจะช่วยเยียวยา แต่ทำไมกับเขา ถึงไม่เคยลืมเลือน
*****************************************************
“สวัสดีครับ”ผมรับสายและเรียกความมั่นใจของตัวเอง ใจมันสั่นชอบกล มันโทรมาทำไม ทั้งที่ผมกับมันจบสิ้นกันแล้ว อย่างไม่น่าที่จะมีเยื่อใยต่อกันอีก
“ทำไมรับสายช้า” เสียงถามมาเหมือนไม่พอใจ
“มีอะไรหรือเปล่า ที่โทรมาเนี่ย” ผมพูดเสียงแข็งกลับไป
“ต้องมีอะไรด้วยเหรอ เราเป็นเพื่อนบ้านกันนะ”เสียงฝ่ายนั้นตามมากระตุกอารมณ์ผมเล่น
“ถ้าไม่มีอะไรก็แค่นี้นะ กำลังจะไปข้างนอก”
“จะออกล่าผู้ชายอีกหละสิ”
“ถ้าไม่มีอะไร ก็แค่นี้นะ” ผมกลังจะกดตัดสายครับ ไอ้นี่มันกวนผมอยู่ได้
“เดี๋ยวสิ วันนี้กลับบ้านมา แม่เราให้เอาของมาฝาก ”
“ก็เอามาฝากไว้ที่ล็อบบี้ข้างล่างละกัน เดี๋ยวก็เอามาให้เอง”
“เออ งั้นแค่นี้นะ นึกว่าจะเลิกนิสัยบ้าผู้ชาย ที่ไหนได้......”
“เรื่องของใครก็ของใคร ขอร้องได้ไหม จะไปผุดไปเกิดที่ไหน ก็ไปซะที อย่ารบกวนกันอีกเลย มีเวลาว่างนักหละก็ไปเอาใจน้องกิฟต์โน่นไป”
“อิจฉาหละสิ นี่หละนิสัย อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะสนใจตัวเองนักหนาเลยวะ กะอีแค่เกย์ข้างทางคนหนึ่ง”
ผมอึ้งครับ หน้าชา ผมกดสายทิ้งทันทีครับ น้ำตามันไม่รู้มาจากไหนมันไหลออกมาอีกแล้ว เจ็บอีกแล้วครับกับคำว่า “แค่เกย์ข้างทางคนหนึ่ง” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้งแต่ผมไม่รับครับ ผมจะให้มันรู้ไม่ได้ครับ ว่าผมแพ้ ผมยังไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่คนอื่นคิด......

“อีนี่ เป็นไรไปวะ ไม่สดชื่นเลย ไหนว่าชวนกูมากินผู้ชายไงหละมึง” นังต้องถาม เมื่อผมนั่งรถมากับมันได้ครู่หนึ่ง
“เปล่า กูคิดถึงแม่” ผมตอบไปอย่างที่คิดตอนนี้ผมคิดถึงแม่จริงๆ
“คิดถึงแม่....แต่มึงทำท่าสลด ยังกับถูกผัวทิ้งเนี่ยนะ อีแม่หม้ายไทยแลนด์”
“เอ้า ตอนกูเศร้า กูก็คิดถึงแม่ไง ผัวกูก็ยังไม่มี และไม่รู้ว่าจะได้มี หรือเปล่า คนที่กูคิดถึงตอนเศร้าๆ คือแม่กับพ่อกูสิ อีนี่”
“อ้าว..อีนี่ แล้วกูหละ กูหนะเพื่อนมึงนะ มึงลืมคืดไปได้ไง”
“ก็มึงอยู่ข้างๆกูแล้วไง แต่พ่อแม่กูอยู่ไกล อีต้อง ..กูขอบใจมึงจริงๆวะไม่ว่ากูจะยิ้ม หรือหัวเราะ เศร้าหรือสุข มึงก็อยู่ข้างกูมาตลอด กูดีใจจริงๆ ที่กูเกิดมาแล้วรู้จักมึง ได้มึงมาเป็นเพื่อนแท้”ผมพูดพลางน้ำตาเอ่อ ออกมา
“อีบ้า กูเป็นเพื่อนมึงมาจะสามปีแล้วนะ ที่สำคัญ กูมีเพื่อนที่ สวยแต่โง่ อย่างมึงคนเดียวเหมือนกัน ที่เป็นเพื่อนแท้”
คิดไปคิดมาแล้วตลกดีเหมือนกันนะครับ ที่ผมกับนังต้อง มาเป็นเพื่อนกันได้ยังไง อีกคนหนึ่งก็ไฮโซ อีกคนก็โลโซ
อีกคนกล้าๆด้านๆพูดมาก ปากดี ไม่ยอมใครและมั่นใจสุดๆ แต่อีกฝ่ายขี้แย ถึงแม้ไม่ขี้อาย แต่ก็ไม่ค่อยกล้า มั่นใจก็มีเหมือนกันแต่ไม่เกินร้อยเหมือนอีกฝ่าย
ตอนแรก ที่ผมเจอกับนังต้องนั้น เป็นช่วงที่ผมเข้ากรุงเทพมาใหม่ๆ ตอนนั้นผมตื่นเมืองกรุง ก็เลยให้พี่ป่าน ซึ่งตอนนั้นยังทำงานอยู่กรุงเทพฯ พาไปเที่ยวห้าง แต่ว่าพี่ว่าพี่สาวผมครับ มีงานด่วนที่ต้องไปเคลียร์ ผมเลยต้องเดินห้างคนเดียว พี่สาวผมก็ได้แต่บอกว่า เดี๋ยวห้าโมงเย็นจะมารับ ให้ผมเดินเล่นไปก่อน ผมได้แต่เหวอหละครับ โหพูดเสร็จ เจ้แกก็เดินฉับๆ ทิ้งผมไว้คนเดียว ผมก็นานมากๆ จะได้เข้ากรุงเทพสักที รู้หละว่า กลับบ้านไม่ถูกแน่นอน เพราะตอนที่มา ก็มารถพี่สาว ซ้ำยังมองแต่ข้างทางเพลินไม่ได้จำอะไรเลย ผมก็เดินเป๋อ ไปตามประสาผม บางทีก็คิดถึง เวลาที่เดินห้างกับไอ้หน้าขาวแล้วอดยิ้มไม่ได้
ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง..ผมชนกับอะไรสักอย่าง
“อุ๊ย ชนคน ขอโทษนะครับ” ผมพูด พลางประคองร่างของคนข้างหน้าลุกขึ้นมา ผมมองดูคนตรงหน้า วงหน้านั้นเรียวดูดี ผิวขาว แต่ใบหน้ามีสิว จึงลดทอนความดูดีลงไปมาก แต่กระนั้นชุดที่สวมใส่และเครื่องประดับก็พอจะบอกฐานะได้เป็นอย่างดี
“เดินยังไงไม่ทราบ ถึงไม่มองตาม้า ตาเรือ” ดูสีหน้าคนพูดจริงจังมาก
“แต่เราขอโทษแล้วนะ” ผมหน้าสลด
“ขอโทษแล้วมันหายจ็บปะหละ”
“มันไม่หาย แต่ไม่น่าจะเจ็บนาน แล้วอีกอย่างนะเราเดินมาเรื่อยๆไม่ได้เดินเร็วซักหน่อย ไม่น่าเจ็บ”
“มันไม่น่าเจ็บ พูดมาได้ไงเนี่ย ดีนะที่โทรศัพท์ฉันไม่ตกด้วย”
“แสดงว่าคุณ มัวแต่โทรศัพท์ ไม่ได้มองคนอื่นนี่เอง แล้วมาโทษคนอื่นอีก”
“มาจากบ้านนอกใช่ไหมเราหนะ”
“มาจากต่างจังหวัด” ชักเริ่มฉุนแล้วสิครับ หนอย มาว่าผมมาจากบ้านนอก ผมไม่ได้โง่นะ จบปริญญาตรี มาก็ระดับเฉียดเกียรตินิยม ถ้าตอนนั้นมีเวลาทุ่มให้หนังสือ มากกว่าทุ่มให้ผู้ชายอย่างไอ้หน้าขาวหละ ก็ผมคงได้เกียรตินิยมไปแล้ว
“จ้า..แม่หนูน้อย”ดูคนตรงหน้ามันเริ่มอารมณ์ดีแล้ว คือตัวคนตรงหน้าตัวสูงไงครับ สูงกว่าผมเยอะครับ เพราะผมสูงหนึ่งร้อยหกสิบแปด แต่มันสูงถึงหนึ่งร้อยแปดสิบหก สูงกว่าไอ้หน้าขาวของผมนิดเดียว เพราะตอนที่วัดส่วนสูงให้ไอ้หน้าขาว ผมจะบอกมันว่าหนึ่งร้อยแปดสิบสาม แต่มันมันจะเถียงผมเสมอว่ามันสูงหนึ่งร้อยแปดสิบสี่ เลยไม่ยอมจบง่ายๆเพราะไอ้หน้าขาวมันไม่ยอมเตี้ยแม้แต่เซ็นต์เดียว
“ว่าใคร หนูน้อย หือ ป้า...”
“ปากดีจังนะ สงสัยเพิ่งจบม.ปลายมาดิ เดี๋ยวนี้กระเทยม.ปลายแรงนะจ๊ะ พูดคำเถียงคำ”ผมเงียบ ไม่อยากใส่ใจกระเทยควาย ตรงหน้า มันตัวใหญ่ เวลามีเรื่องกันผมกลัว จะสู้มันไม่ได้ เลยคิดจะเดินหนีไปอีกทาง
“เดี๋ยวดิ ชื่ออะไรหละเรา”
“ชื่อเป้”
“หนูเป้ พี่ชื่อต้องนะ บ้านอยู่ไหนหละจะกลับบ้านตอนไหน เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“จะหลอกเด็กอะดิ”
“โธ่ อีหนูเป้เอ้ย กระเทยด้วยกันเนี่ยนะ ถ้าเป็นผู้ชายหล่อๆหละว่าไปอย่าง อีนังต้องจะกินให้เรียบ เอาเป็นว่าพี่ถูกชะตากับหนูละกัน อีกระเทยรุ่นเดียวกัน มันไม่จริงใจ ดูหนูๆซื่อๆดีเลยอยากคบด้วยจ๊ะ”
“ไม่มีใครคบอะดิ”
“เอ๊ะ กระเทยน้อยนี่ เดี๋ยวแม่ก็ตีให้ตูดลายกลางห้างเลยนี่”
“คบก็ได้ แต่ต้องเลี้ยงข้าวเราด้วยนะ แล้วอายุเท่าไรแล้วเนี่ย”
“ปีนี้พี่อายุยี่สิบเอ็ดจ้า เพิ่งจบมหาลัยมาไม่กี่เดือนนี้เอง หนูเป้หละ”
“เราก็ยี่สิบเอ็ดเหมือนกัน” ผมบอกมันด้วยสีหน้าเรื่อยๆ
“เฮ้ย อายุเท่ากันเหรอเนี่ย อีนี่ทำหน้าเด็กหลอกคน อยู่ได้นะหล่อน ชั้นนึกว่าเพิ่งจบม.ปลาย ยังงัยคงไม่เกินปีหนึ่ง แหม....ดูดิ ฉันหน้าแตกเลย” นังต้องครับ ดูสิพอรู้ว่าอายุเท่ากัน มันเปลี่ยนทีท่าเลย เราสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะครับ จากนั้นมาเราก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆครับ ไม่รู้ว่าใครสนิทใจกับใครก่อน เพราะกว่าจะรู้ตัว ผมกับมันก็เป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว อีกอย่าง ผมกับมันเคยมีวีรกรรมกลางห้างอีกครับ ในร้านมือถือแห่งหนึ่ง ที่เราสองคนไปดูมือถือ ด้วยความที่นังต้องเป็นคน ขี้เบื่อ ตามประสาลูกคนรวยหละครับ ขณะที่เรากำลังดูมือถืออยู่นั้น พนักงานขายผู้ชาย หน้าตาดี ก็ตรงเข้ามาที่เราสองคน
“สอบถามได้นะครับ”เจ้าหนุ่มน้อยนั่นถามมายิ้มๆ
“ถามได้จริงอะ”นังต้องถามกลับ พลางยิ้มมองหน้าเจ้าหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้า ผมก็งงเหมือนกัน นังนี่ เฮี้ยนอะไรถึงไปถามน้องเขาแบบนั้น รู้หละว่ามันชอบน้องเขา ดูท่าทีมันก็รู้ แต่ไม่รู้ว่า มันจะอ่อยเหยื่ออีท่าไหน เพราะมันทิ้งห่างผมไปหลายขุม เรื่องผู้ชาย เผื่อมันปล่อยมุกมาจะได้รับมุกมันทัน
“ถามได้ครับพี่ พี่สนใจรุ่นไหนครับ อันนี้ของโนเกียที่ออกมาใหม่นะพี่ ...... เจ้าหนุ่มบรรยายคุณสมบัติของโทรศัพท์มือถืออย่างไม่กลัวคอแห้ง ผมมองที่นังต้อง ดูเหมือนมันจะสนใจฟังมาก มองหน้าผู้ชายตาเยิ้มไม่กระพริบ
“พี่อยากถามน้องว่า....” นังต้องเว้นหยุดเอาไว้
“ถามอะไรครับพี่ โซนี่อิริคสันตัวนี้ก็น่าสนใจนะครับพี่”
“น้องมีแฟนแล้วหรือยัง” ผมอมยิ้ม เพิ่งถึงบางอ้อ เพิ่งรู้ว่านังต้องเรานี่ ก็มีวิธีหาผู้ชาย ไม่ซ้ำใครเหมือนกัน
“ผมมีแฟนแล้วครับ และรักแฟนมากด้วย”น้องพนักงานตอบมายิ้มๆด้วยแววตาที่รู้ทัน ผมอดหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ นังต้องหน้าง้ำ พลางจูงแขนผมเดินลิ่วออกมา อย่างหัวเสีย ปากก็บ่น
“ เชอะ คิดว่าหน้าตาดีนักหรือไง ฉันหาได้ดีกว่า เด็กขายโทรศัพท์เยอะแยะไป หล่อนก็เหมือนกัน หัวเราะเข้าไปเถอะ ฉันเพิ่งพลาดยะ” นังต้องสาวแตก ดูแล้วมันเสียหน้าพอดู ยิ่งกับผมด้วยแล้ว มันน่าขำมากๆ กระเทย ไ ม่แต่งสาว ตัวโตๆ สูงๆ มาทำค้อนควักต่อหน้าอย่างนี้ มันจะไม่ให้ขำได้ยังไง....................

“เฮ้ย อีเป้ ถึงแล้วนะมึง แหม....เหม่อเชียวนะมึง” เสียงนังต้องปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์ ผมมองดูสถานที่ตรงหน้ามันก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายอะไร ดูผู้คนก็เยอะเหมือนกัน ไหนว่าเป็นผับเกย์แต่เห็นมีชะนีดงค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
“อีต้องไหนว่าผับเกย์ไง ทำไมมีชะนีดง เดินเต็มไปหมด”
“อีนี่ ใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ นังชะนีมันก็มาหาผัวเหมือนกันหละผื่อฟลุ๊ก ได้ผัวเกย์ไปเลี้ยงสักคนไง”
“เหรอ” ผมรับรู้อย่าง งงๆ
“ตอนนี้ผู้ชายแท้ๆหายาก ชะนีถึงมาผับเกย์ไง เผื่อบางที เจ้าหล่อนอาจจะได้เสือไบ ไปเป็นแฟนซักคน เดี๋ยวนี้นะมึงขนาดแหล่งเที่ยวปกติ ที่มึงเคยไปนั่นไง กูเห็นเดินหน้าเข้ามาจีบมึง ก็ตั้งหลายคน นี่หละผู้ชายเดี๋ยวนี้ เขาว่าตาดีได้ ตาร้ายเสีย ชะนีเดี๋ยวนี้ถึงไม่คิดมากไง ผู้ชายมันเหลือน้อยแล้วนี่ เลยหันมามองเกย์กัน”
“เจ้าคะ อีคนแสนรู้”ผมถอนสายบัวให้กับมันเมื่อลงรถเสร็จ
“ใครจะโง่ เหมือนมึงหละคะ อีควาย” มันโต้กลับมา ผมยอมรับหละว่ามันฉลาดกว่า
“เออกูโง่ ไม่ฉลาดแสนสวยเหมือนมึงหรอก”ผมประชดมันบ้าง
“มึงรู้ด้วย แสดงว่ามึงเริ่มฉลาดขึ้น”
“อีห่า..” ผมด่ามันพลางดันหลังให้มันเดินนำหน้า เพราะว่าผมไม่กล้าพอ ที่จะเข้าผับที่มีชื่อตรา ว่าเป็นผับของเกย์ หน้ามันร้อนๆ อายๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมก้าวตามนังต้องเข้าไปด้วยใจระทึก........




meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #53 เมื่อ17-02-2007 20:33:18 »

เหมือนผมเลยอ่ะ
จะเข้าผับ/บาร์เกย์ทีไร จะรู้สึกร้อนๆที่หน้า ขาชาๆยังไงชอบกล :try2:

รออ่านต่อนะครับ :yeb:

inimeg

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #54 เมื่อ17-02-2007 21:25:40 »

เกี่ยวมะเนี่ย..... :try2:

FlukeHub

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #55 เมื่อ17-02-2007 23:29:24 »

เหอๆๆ

คุณหมีมิ้ว  แสดงว่าเคยเข้าอ่ะดิครับ

ต่อๆๆครับ

jammy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #56 เมื่อ17-02-2007 23:42:08 »

อ่านะ อยากลองไปดูเหมือนกัน อิๆๆ  :kikkik:

฿oomb@b@

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #57 เมื่อ18-02-2007 00:02:03 »

ยังไม่เคยไปอ่า บาร์เกย์/ผับเกย์ อายุไม่ถึง 5555+ แบบว่ายังเด็กอ่าน่ะ :monkeylaugh2:

เปงงายบอกด้วยเน้อ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #58 เมื่อ18-02-2007 21:22:34 »

อยากไปมั่งอ่ะ ใครพาไปหน่อยเด๊ะ
************************************
ครั้งแรกครับที่เข้าผับเกย์ ผมเดินตามตูดนังต้องเข้าไปอย่างหวาดๆ แต่สถานที่เข้าไปนั้นมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเอาไว้ล่วงหน้า ทุกคนที่มาล้วนแต่ต้องการปลดปล่อยความเครียด ที่ผจญมาทั้งวัน จึงไม่แปลกเลย ที่นังต้องจะแตกสาวมากผิดปกติ จนผมดูแล้วมันโอเวอร์จนขัดตา
“อีนี่ทำไมต้องสาวซะขนาดนี้เลยหละ” ผมสะกิดนังต้องที่กำลังเต้นด้วยลีลานางแมวยั่วสวาท ทันก็ทำได้ดีหรอก แต่ว่ามันตัวสูงเกินไป จนดูว่ามันตัวใหญ่ที่สุดในที่แห่งนั้น เลยค่อนข้างจะเป็นจุดเด่นพอสมควร
“เต้นสิอี่นี่ ยั่วเกย์ผู้ชายให้เคลิ้มไปเลยมึง”นังต้องตะโกนคุยกับผมเพราะเพลงค่อนข้างดังมากแล้วคนก็ทยอยเข้ามากันเรื่อยๆจนที่เล็กๆแคบๆนั้นค่อนข้างเบียดเสียดถูไถ พนักงานเสิร์ฟต้องเดินเบียดแขกที่กำลังเต้นอย่าไม่รู้ทิศทาง ผมก็ไม่ได้เต้นเท่าไร เพราะคนมันเยอะเกินไป แล้วส่วนใหญ่ก็สาวแตกเหมือนกับนังต้อง ที่สติแตกกับการเก็บกดความเป็นเกย์เอาไว้ ในคราบผู้ชายมาทั้งวัน ผมนั่งดูนังต้องเพลินๆต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าตัวเองโดนกอดทางด้านหลัง ที่นี่มันสามารถกอดกันได้ง่ายขนาดนี้เชียวเหรอ ผมหันไปรอบๆ มีหลายคู่ที่กอดกันอยู่ ส่วนหลายคู่ก็จูบกันอย่างไม่กลัวปากจะพัง และก็ไม่อาย ผมพยายามหันไปมองหน้าไอ้คนที่มากอดผมอยู่ พลางดิ้นให้หลุดออกมาจากวงแขนนั้น แต่เจ้านั่นยังไม่วายที่จะเข้ามากระแซะอีก ผมเลยลุกมาเต้นกับมันซะเลย แล้วค่อยๆดึงนังต้องที่มองอยู่มาแทนที่ไอ้หนุ่มน้อยหน้ามน พยามยามที่จะเบี่ยงตัวมาทางผม แต่อีหื่นอย่างนังต้องก็รวบตัวมันซบที่อกใหญ่ๆจนไอ้หนุ่มนั่นดิ้นไม่หลุด ผมได้แต่แอบขำเล็กๆครับ ผมกวาดตามองเรื่อยๆ ที่นี่คนที่มาเที่ยวต่างก็หน้าตาดีซะค่อนข้างมาก แล้วก็มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งตัวสูงๆหัวตั้งเป็นหนามทุเรียนถือแก้วเหล้าเบียดคนมาที่ผม วงหน้านั้นดูดี ผิวขาว ตาตี่ๆ
“แก้วนี้ขอชนกับคนน่ารักครับ” ขายหนุ่มตรงหน้าผมพูด
“เอ้า ชนก็ชน”ผมยิ้ม
“ชื่อไรครับ นั่งคุยด้วยได้ปะ”ผมพยักหน้า หลังจากที่ตะโกนคุยกันสักครู่
“ชื่อเป้ครับ น้องหละชื่อไร”
“อาท ครับพี่ เรียนที่ไหนครับ” คำถามนี้ผมแอบยิ้มในใจ หน้าอ่อนอยู่เว้ย อิอิ
“เลิกเรียนแล้ว ขี้เกียจเรียน”ผมตะโกนบอกเจ้าหนุ่มน้อยตรงหน้า
“เหรอผมนึกว่าพี่อยู่ปีสาม ปีสี่ซะอีกหน้าพี่คุ้นมากเลยครับ”
“เหรอ...สงสัย พี่เป็นดาราปลอมตัวมาเที่ยวมั๊ง”
“ฮ่าๆๆ พี่นี่ขำดีนะครับ ผมหละชอบจังคนขำๆเนี่ย มากับใครครับเนี่ย”
“มากับเปรตตัวโย่ง”ผมตอบน้องเสียงดังมื่อเห็นนังต้องประคองเจ้าหนุ่มที่ซบกันเมื่อครู่ มาที่โต๊ะหลังจากที่หายไปพักใหญ่
“อะไรกันมึง อีนี่ กูไปฉี่แป๊บเดียวมีคนมาจีบแล้วเหรอ”
“หวัดดีครับพี่ เพื่อนพี่เป้เหรอครับ”น้องอาททักทาย นังต้อง ทำเอานังต้องตาโต ก็มันชอบเด็กอะครับ แถมน้องเขานี่ก็ออกแนวตี๋ หน้าใสแบบนี้หละก็โดนใจมันหละ
“ครับเพื่อนอี..เอ้ยเพื่อนเป้ครับ”เพื่อนผมครับมันสวมวิญญาณผู้ชายขึ้นมาทันควันครับ
แล้วเราก็เต้นกันสนุกมากครับ ได้เพื่อนใหม่ด้วยแถม น้องอาทก็แมนๆได้ใจอีก แล้วยังมาเต้นสีกับผมอีก นังต้องก็เต้นสีกับไอ้หนุ่มน้อยอีกคนที่ผมรู้ชื่อทีหลังว่า ป๊อก บางคราก็มาเต้นเฉียดๆน้องอาท อีกสักพักโต๊ะเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ก็เพื่อนๆกลุ่มน้องอาทสิครับ อีกหกคนครับส่วนใหญ่ก็หน้าตาดีๆทั้งนั้น ผมคิดไม่ผิดเลยว่า งานนี้นังต้องมันเป็นเจ้ามือแน่ๆ เพราะว่ามันคิดจะมอม........ผู้ชาย
หลังจากที่ผับปิด ทุกคนแยกย้ายกันกลับรวมทั้งน้องอาท แต่ก่อนไป น้องเขาชวนไปกินข้าวต้มแถวคลองตันครับ ผมก็ โอเค พรุ่งนี้วันหยุดนี่นา แต่น้องอาทเขาต้องขับรถไปส่งเพื่อนเขาก่อน แล้วเขาจะไปหาผม อีนังต้อง กับน้องป๊อก ที่ร้านข้าวต้ม ให้สั่งเผื่อไว้เลย ประมาณตีสองครึ่งครับ น้องอาทถึงเข้ามา แถมอาบน้ำเปลี่ยนชุดมาใส่น้ำหอมซะหอมฟุ้ง น่ารักมากๆครับ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรครับ จวบจนตีสี่ที่เราคุยกันมานานและอิ่ม ผมไม่เมาหรอกครับ เพราะว่าเที่ยวไกลขนาดนี้ต้องไม่เมา ถ้าเที่ยวผับที่ไม่ไกลจากคอนโดที่ผมอยู่ อันนั้นสิน่าเมาแต่ว่า จะอาศัยแท็กซี่ไป-กลับตลอด ถ้าไปกับนังต้องนะเหรอครับ จะต้องมีคนหนึ่งเมา อีกคนหนึ่งต้องไม่เมา เอาไว้คอยขับรถกลับบ้านครับ
“พี่เป้หน้าอ่อนนะครับ ตอนแรกนึกว่ายังเรียนมหาลัยอยู่เลย” น้องหน้าตี๋พูดกับผมไม่รู้ว่าชมหรือกัด
“ตอนนี้หละ นึกว่าอะไร” ผมถามกลับยิ้มๆ
“นึกว่ามึงเป็นโคแก่หนะสิ” นังต้องมันพูดแทรกขึ้นมา
“ดีกว่า กระซู่อย่างมึงละกัน น้องป๊อกระวังให้ดีนะ อีนี่มัน ขวิดไม่เลิก อีกระซู่เถื่อนตัวเนี้ยะ” ผมพูดให้ทุกคนหัวเราะ
“ใกล้สว่างแล้วพี่ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกันดี” น้องป๊อกถามแววตาสบกับผมอย่างมีความหมาย
“กลับบ้านใครบ้านมันดีกว่าเน๊าะ แล้วใครจะยังไง ค่อยนัดกันอีกที”นังต้องเสนอ
“ผมยังไม่อยากกลับเลยอยากคุยกับพี่เป้อีก”น้องอาทครับมันพูดออกมาเล่นเอาผมอายไปเลยครับ โห...เด็กสมัยนี้..กล้ามาก
“เดี๋ยววันหน้าก็ได้เบอร์โทรก็มีแล้วนี่ อยากโทรก็โทรหาได้เลย” ผมให้เบอร์โทรของนังต้องเอาไว้ครับเพราะยังงัยคนที่รู้จักในที่เที่ยวผมจะให้เบอร์ของนังต้องเสมอครับ เพราะว่าผมคือตัวล่อผู้ชายของนังต้องไงครับ
“เอางี้สิ เป้ ก็ให้น้องอาทไปส่งมึง ส่วนกูจะไปส่งน้องป๊อก” ผมมองหน้ามันเห็นมันขยิบตาให้ผมเลยถึงบางอ้อทันที นี่ถ้าไม่มีน้องอาท วันนี้ผมคงได้กลับแท็กซี่อีกแล้วครับ
คืนนั้นน้องอาทต้องมาส่งผมที่คอนโดตอนตีห้ากว่าๆ ดูเหมือนเจ้าเด็กหัวตั้งๆ นี่ดื้อเหมือนกัน จะขอขึ้นไปส่งถึงห้องให้ได้ แต่นั่นหละครับน้อยคนที่จะได้ขึ้นห้องผมถ้าไม่สนิทจริงๆก็ไม่มีวันได้ขึ้นไปหรอก กว่าจะคุยกันรู้เรื่องก็เกือบจะหกโมงเช้า ทำให้ผมเบื่อเด็กๆขึ้นจมเลยครับ ผมเดินขึ้นห้องอย่างเซ็งๆ เหงาจับใจขึ้นมาอย่างประหลาด คิดถึงใครคนหนึ่ง ป่านนี้เขาคงมีความสุขกับคู่หมั้นของเขาแล้ว เมื่อไรกันนะที่ผมจะลบมันออกจากใจได้เสียที.......



meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: [story]ต้นเหตุที่หัวใจ by อีเรียม
«ตอบ #59 เมื่อ18-02-2007 21:42:20 »

น้องอาร์ทๆๆๆ :monkeylove2: อิอิ
จนแล้วจนรอดก็ยังลืมเค้าคนนั้นไม่ได้อยู่ดี :monkeysad:





ปล.ผมเคยไปแค่ไม่กี่ครั้งเอง แล้วก็โดนบังคับไปทุกครั้งเลยด้วย ผมไม่มีทางเลือกอ่ะเลยต้องไป :monkeysad2:
     แต่จะว่าไปก็สนุกดีเหมือนกันนะ :yeb:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด