ต่อบทที่ 1
การประชุมวันนี้เคร่งเครียดมาก หลังเลิกประชุมธีรดนย์เดินไปหลังบริษัท หามุมเงียบเพื่อสูบบุหรี่ก่อนที่เลขาตัวดีจะโทรตาม ปกติเขาแทบไม่สูบบุหรี่ นอกจากจะเกิดอาการเซ็งหรือเครียดจนถึงขีดสุด
บุหรี่หมดมวน ธีรดนย์โทรหาภูริ ดาราหนุ่มวัยรุ่นที่มาติดพันเขา คุยเล่นสนุกๆ จนสบายใจขึ้นแล้วจึงเดินกลับออฟฟิส ตั้งใจจะกลับไป "จัดการ" เจ้าของสิงห์มอเตอร์ไซด์ขาซิ่งคั้นนั้นให้จบเรื่องไป
ประธานบริษัทหนุ่มรูปหล่อใช้ทางลัดผ่านใต้อาคารหลังหนึ่ง มือล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์ของวศิณ นักร้องหนุ่มที่เพิ่งชนะการประกวด The Shining Star 7 ซึ่งบริษัทเขาเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ วศิณพบกับเขาในงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่จัดให้แก่ผู้ได้รับรางวัลและกลายมาเป็น "เด็กใหม่" ของเขาได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว
ธีรดนย์กำลังจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูแต่ก็พลันชะงักด้วยความตกใจเพราะจู่ๆ ก็มีประแจขนาดใหญ่ตกลงมาเฉียดศีรษะเขาไปเพียงนิดเดียว ผู้บริหารบริษัทหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองด้วยความขุ่นเคืองแล้วอึ้งไปชั่วขณะ ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งนั่งอยู่บนรางเหล็กซึ่งน่าจะเป็นรางสายไฟกำลังมองลงมาที่เขา แขนขวาห้อยอยู่กับรางเหล็กอีกราง และยื่นมือขาวๆ อีกข้างลงมาแล้วขอให้เขาส่งประแจให้
...ฮึ ลิงน้อยรูปหล่อ...
"รู้ไหมเกือบโดนหัวผม" ธีรดนย์ขมวดคิ้ว
"ขอโทษครับ แต่รู้ครับว่าไม่โดน เพราะไม่งั้นคงได้ยินเสียงร้องลั่นไปแล้ว ช่วยส่งประแจให้หน่อยครับ"
"ซ่อมอะไร" ธีรดนย์ถามเสียงห้วน
"คอมพิวเตอร์" เสียงนั้นตอบสั้นๆ
"คอมพิวเตอร์อะไรไปอยู่บนนั้น" ธีรดนย์ถอนหายใจเพราะรู้ว่าเจอคน "กวน" เข้าให้แล้ว
...ช่างแผนกคอมพิวเตอร์หรือนี่ มีพนักงานหน้าตาดีขนาดนี้ด้วยหรือ ตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากแดง บอกว่าเป็นดาราแอบปลอมตัวเข้ามาถ่ายหนังเขาก็จะเชื่อ ที่สำคัญ อืม ก้นสวย...
"ผมซ่อมระบบเน็ตเวิร์ค สายออฟติคอลกับสวิชเชอร์มีปัญหา เซิฟเวอร์หาไอพีไม่เจอก็เลยต้องปีนขึ้นมาอยู่บนนี้" เสียงคนที่อยู่ข้างบนอธิบายเนิบนาบ "ช่วยส่งประแจให้ด้วยครับ"
ธีรดนย์เงียบเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่ชายหนุ่มพูดสักคำ จึงก้มลงหยิบประแจที่วางอยู่บนพื้นแล้วยื่นส่งให้
"เขย่งเท้าหน่อยสิครับ"
...แน่ะ ยังมาสั่งอีก นี่รู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใคร...
"มาทำงานตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่แผนกคอมพิวเตอร์หรือแผนกช่าง" ธีรดนย์ถาม แล้วก็รู้สึกสงสัยเพราะเมื่อมองชัดๆ ก็เห็นว่าช่างคอมพิวเตอร์คนนี้ไม่ได้แต่งชุดช่างอย่างที่เขาเห็นพนักงานคนอื่นๆ แต่งกัน
"เมื่อเช้าครับ เพิ่งทำงานได้หนึ่งชั่วโมงกับอีกสามสิบนาทีพอดีๆ ไม่ขาดไม่เกิน"
"ทำงานเสร็จแล้วไปเจอผมด้วย ชั้นสาม ตึกหน้าสุด ถามหาคุณเต้ย ขาใหญ่ประจำบริษัท" ธีรดนย์เขย่งเท้า ยื่นประแจให้ช่างหนุ่มคนนั้นแล้วเดินจากไปเพราะเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่ต้องรับก็รู้ว่าเป็นใครเพราะเขากำหนดเสียงเรียกเข้าเฉพาะสำหรับเบอร์ของ "ขาใหญ่" ที่มักจะโทรตามเขาทันทีที่การประชุมเสร็จสิ้น
ทันทีที่รับสาย เลขาคนเก่งก็รายงานผลการปฏิบัติงานให้ฟัง ธีรดนย์ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด
"ไม่มีในสารบบครับ ไม่ใช่รถพนักงาน"
"แล้วรถใคร" ธีรดนย์เปรย
"เอ่อ อันนี้ต้องใช้เวลาหน่อย" เต้ยตอบ "แต่ว่าคุณจะอยากรู้ไปทำไมครับ"
"ช่างเถอะ" ธีรดนย์พูดเสียงห้วนแล้วสั่งงานต่อ "คุณเต้ย หาดูให้หน่อยสิว่าแผนกคอมพิวเตอร์มีใครมาทำงานใหม่หรือเปล่า ผู้ชาย อายุไม่น่าจะเกินสามสิบปี หน้าตาดี"
"ไม่มีครับ" เต้ยตอบทันที
"หาเร็วจังเลยนะ" ธีรดนย์เหน็บแนม
"คนล่าสุดที่เข้ามาทำงานอายุสามสิบอัพ อ้วนเตี้ยหัวค่อนข้างล้านแต่งงานแล้ว ถ้ามีหนุ่มหล่อเข้ามาทำงาน ไม่มีวันผ่านตาผมไปได้หรอก" เต้ยหัวเราะเบาๆ ก่อนจะทำเสียงตกใจ "อ๊ะๆ อย่าบอกนะว่าสมภารจะกินไก่วัดช่วงหาดารากินไม่ได้"
"ปากหรือนั่น เดี๋ยวก็ไล่ออกซะเลย คนอย่างธีรดนย์หรือจะขาดอาหาร" ธีรดนย์ทำเสียงดุ
"คุณธีร์ครับ ประชุมเสร็จแล้ว จะกลับถึงออฟฟิสเมื่อไหร่ครับ มีนัดตอน 11 โมงนะครับ" เต้ยเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉย
"อีกห้านาที ไม่ต้องจับเวลานะ" ธีรดนย์พูดเสร็จก็วางสายโดยไม่รอให้เลขาทักท้วงเช่นเคย
แม้จะรับประทานอาหารกลางวันเสร็จและทำงานล่วงไปจนถึงเวลาบ่ายสามโมง ธีรดนย์ก็ยังไม่ลืมคำสั่งของตัวเองที่สั่งให้ "ช่างคอมพิวเตอร์" คนนั้นขึ้นมาหาหลังทำงานเสร็จ ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มยังลอยไปลอยมากวนใจเขาอยู่ตลอดบ่าย แต่เรื่องของมอเตอร์ไซด์นักซิ่งคนนั้นเขาลืมไปแล้ว จนกระทั่งลุกขึ้นยืนไปบิดเอวอยู่ใกล้หน้าต่างแล้วมองลงไปด้านล่างจึงนึกขึ้นได้
...หายไปไหนแล้ว มอเตอร์ไซด์หายไป ลืมไปเสียสนิท รู้อย่างนี้น่าจะบอกให้ยามกักตัวเอาไว้...
...แล้วนี่ช่างคอมพิวเตอร์หน้าหล่อทำไมไม่มารายงานตัวกับเขาอีก...
...เอ แต่ว่าเต้ยบอกว่าแผนกคอมพิวเตอร์ไม่มีพนักงานใหม่หน้าตาดีนี่นา คนล่าสุดก็อ้วนเตี้ยตามที่เลขาเขาบอก...
ธีรดนย์เดินตรงไปที่ประตู ทันทีที่เปิดออกไป เต้ยก็หันขวับ กำลังอ้าปากจะถาม ธีรดนย์จึงรับยกมือขึ้นห้าม
"อย่าถาม และไม่ต้องตามด้วย"
"ไม่ถามครับ แต่เล่าให้ฟัง บ่ายสี่โมงตรง มีนัดกับ Mr. von Bergis นะครับ จากนั้นนิสิตจุฬา แล้วก็ Mr. Kumiyama ตอนค่ำ ทานข้าวกับ Chevron เสร็จแล้วจะไปเที่ยวกับนักร้องน้องรักที่ไหนก็ได้"
"ทำไมต้องนัดอะไรมากมายกันวันเดียวด้วย" ธีรดนย์โวยวาย
"นัดนี้ย้ายมาจากอาทิตย์ที่แล้วนะครับ เพราะคุณบอกว่าไม่ว่าง ต้องไปเที่ยวกับ..."
"อย่าๆ ไม่ต้องมาเหน็บแนมกันอีก" ธีรดนย์ห้าม "ยกเลิกเด็กจุฬา แล้วทำไมผมต้องไปทานข้าวกับ Chevron มาเกี่ยวอะไรกับเรา เขาขายน้ำมัน เราขายเหล้า"
"เชื่อมความสัมพันธ์ อันนี้ต้องไปถามมารเก็ตติ้ง" เต้ยยักไหล่ "แต่นิสิตจุฬายกเลิกไม่ได้นะครับ นี่เลื่อนเด็กมาตั้งสองสามครั้งแล้ว สงสารเด็กกำลังทำวิจัย ผมก็ศิษย์เก่าจุฬา เห็นใจกันหน่อยเถอะ"
"มิสเตอร์ คาวา..."
"คูมิยาม่า" เต้ยแก้ให้ถูก "นั่นก็ยกเลิกไม่ได้เหมือนกัน เพราะ..."
"เพราะอะไร" ธีรดนย์ถามทันที รู้ว่าเลขาจงใจทิ้งท้ายไม่จบประโยคเพราะอยากให้เขาตั้งใจฟัง
"เพราะออเดอร์ใหญ่มากมายมหาศาลล้านแปด"
ธีรดนย์ถอนหายใจแล้วเดินหนีไปโดยเร็ว ได้ยินแต่เสียงเลขาผู้ไม่เคยเหนื่อยที่จะพูดลอยตามหลังมา ตอนนี้เขาต้องไป "ดู" ซักหน่อยว่า ช่างคอมพิวเตอร์คนนั้นทำไมไม่มารายงานตัวกับเขาเสียที
...หรือว่ายังทำงานไม่เสร็จ ทำอะไรตั้งแต่เก้าโมงเช้าจนถึงบ่ายสามโมง...
ธีรดนย์เดินมาหยุดอยู่ที่จุดที่เขาเกือบจะโดนประแจตกใส่หัว แล้วเดินไปเรื่อยๆ โดยมีรางเหล็กเหนือศีรษะเป็นตัวชี้ทาง เขาเดินมาไกลพอสมควรจนเกือบจะถึงด้านหลังของอาคาร จึงเห็นว่ามีคนสองคนกำลังยืนสูบบุหรี่อยู่
"ใครให้สูบบุหรี่ในบริเวณตึก" ธีรดนย์เอาเรื่อง เด็กหนุ่มร่างผอมผิวคล้ำกับอีกคนอ้วนผิวขาวทำท่าอึกอักแล้วรีบทิ้งบุหรี่ลงกับพื้น
"ผมเป็นประธานบริษัท คุณสองคนเป็นใคร" ธีรดนย์เสียงดุ หน้าดุ
"เอ่อ เรา ผม เอ่อ เป็นช่างคอมครับ" เด็กหนุ่มผิวคล้ำละล่ำละลัก
"ซ่อมอะไร"
"เดินสายเน็ตเวิร์คครับผม" ช่างอีกคนตอบแทนเพื่อน
"ที่ปีนขึ้นไปเดินสายบนนั้นใช่หรือเปล่า" ธีรดนย์ชี้ขึ้นไปบนรางเหล็กที่เมื่อเช้าเขาเห็น 'ลิง' หน้าตาดีห้อยตัวอยู่ข้างบนและไม่ระวัง ทำประแจหล่นเกือบตกใส่หัว
ช่างหน้าอ่อนทั้งสองคนพยักหน้า ธีรดนย์จึงถามว่าทำงานที่บริษัทใช่หรือไม่แต่ทั้งสองบอกว่าเป็นช่างจากข้างนอกได้รับการว่าจ้างมาทำงาน
"ทำตั้งแต่เมื่อเช้าเลยหรือ" ธีรดนย์พยายามโยงเข้ากับชายหนุ่มหน้าหล่อคนเมื่อเช้า
"เปล่าครับ พวกผมเพิ่มมาตอนเที่ยง ตอนเช้าวิศวกรใหญ่เป็นคนมา"
...วิศวกรใหญ่ น่าจะใช่ ท่าทางมีการศึกษาสูง ไม่ดูเงอะงะเหมือนเด็กสองคนนี้...
"คนที่หน้าขาวๆ คิ้วเข้มๆ จมูกโด่งๆ ปากแดงๆ ใช่หรือเปล่า"
ช่างคอมพิวเตอร์ทั้งสองพยักหน้า "คุณวิธวินท์ วิศวกรใหญ่ เป็นเจ้าของบริษัทด้วยครับ พรุ่งนี้ก็มาอีก"
...อืม งั้นดีแล้ว ชื่อวิธวินท์หรือ เจ้าของบริษัทเสียด้วย มิน่า กล้าจงใจขัดคำสั่งเขาที่ให้ไปพบ...
...จะเป็นยังไงนะ หากเขายกเลิกว่าจ้างการทำงาน เปลี่ยนบริษัทใหม่...
**จบบทที่ 1***
สุขสันต์วันหยุดสุดสัปดาห์นะครับ