7
ธีรดนย์แอบย่องออกมาจากห้องประชุมก่อนการประชุมเลิก เขาเบื่อที่จะต้องประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการประชุมสัมนาระดับชาติที่ประกอบไปด้วยการประชุมย่อยกลุ่มเล็กๆ ที่กินเวลาถึงสองวันเช่นนี้
โชคดีที่เลขาของเขาเอาแต่นั่งจดบันทึก มีผู้ช่วยของเขาอีกสามคนนั่งคั่น โทรศัพท์ก็ปิดเครื่องเอาไว้ตลอดการประชุม เขาจึงออกมาจากห้องได้โดยไม่ต้องโดนดักคอเอาไว้ให้เสียอารมณ์
แต่ธีรดนย์ก็อารมณ์เสียจนได้ เมื่อโทรศัพท์หาริคกี้ ดาราหนุ่มลูกครึ่งที่เขานัดมาเจอกันที่หัวหินแล้วไม่มีคนรับสาย
...อย่ากระนั้นเลย หาตัวสำรองดีกว่า...
...โดโด้นั่นไง จำได้ว่าจะมาร้องเพลงในงานดนตรีที่หัวหิน บ่ายวันนี้เบื่อๆ ทำอะไรสนุกๆ กับนักร้องน้องรักดีกว่า ตอนเย็นค่อยลองโทรหาริคกี้อีกซักครั้ง...
ภมรนั่งหน้าบึ้งอยู่ในร้านกาแฟ ปากก็บ่นว่าร้อนจนแสบหน้าไปหมด ส่วนวิธวินท์นั่งเงียบๆ อยู่ไม่ไกล มองบารมีกับภมรเถียงกันเช่นเคย
"แกไม่รู้จะมาทำไม บ่นอยู่ได้" บารมีส่ายหน้า
"ใครจะรู้ว่ามันร้อนขนาดนี่วะ รู้ยังงี้ขับรถเก๋งแอร์เย็นๆ มาก็ดี นี่ถ้าไม่มีงานเทศกาลดนตรีแจ๊ซไม่มาเด็ดขาด เจ้าวินท์ก็ขับเร็ว จะรีบไปไหนก็ไม่รู้" ภมรปรายตามามองวิธวินท์อย่างขวางๆ
"แกขับช้าต่างหาก" บารมีแก้ตัวแทนเพื่อน "เป็นผู้ชายภาษาอะไร บ่นอยู่ได้ ไอ้วินท์ไม่เห็นพูดมากเหมือนแก"
"ก็นั่นมันขาซิ่งนี่หว่า ซิ่งจนเจอดีไม่เห็นหรือ เฉี่ยวกับรถสปอร์ตหรูเกือบเสียเงินเป็นหมื่น เขาจะแจ้งความหรือเปล่าก็ยังไม่รู้"
"แจ้งก็ไม่กลัว" วิธวินท์ยักไหล่
"จะฟ้องอายุธ นายขับรถฉวัดเฉวียนน่าหวาดเสียว" ภมรชี้หน้าเพื่อน
"เชิญ" วิธวินท์ท้า "ยังกับว่าวิธวินท์กลัวคุณศรายุธนักนี่"
"พอแล้ว เดินทางต่อ" บารมีห้าม แล้วลุกขึ้น หันมาพูดกับวิธวินท์ว่า "คุมความเร็วที่ 120 นะวินธ์ เดี๋ยวโดนตำรวจจับ"
"100 เดียวไม่ได้หรือ" ภมรร้อง ทำหน้าตาอ่อนล้าเต็มทน
"ไอ้ผึ้ง ยิ่งช้ายิ่งตากแดดนาน เดี๋ยวได้ตัวไหม้เกรียมหรอก เร็วเข้า อย่าช้า เดี๋ยวไม่ทันดูวง The Exodus ร้องเพลง" บารมีเร่งแล้วเปิดประตูเดินนำหน้าชายหนุ่มทั้งสองออกจากร้านกาแฟ โดยมีภมรเดินบ่นตามหลังไปเช่นเคย
เพื่อความสนุก ธีรดนย์ยอมเดินทางไปหา "ตัวสำรอง" ของเขาพักซึ่งอยู่ที่โรงแรมริมหาดชะอำ โดโด้บอกว่าคิวร้องเพลงของตัวเองคือเที่ยงคืน และตอนนี้มีเวลา "สนุก" เหลือเฟือ
"คุณดนย์อย่าเห็นผมเป็นแค่ของเล่นนะครับ พอได้กินผมแล้วก็ตอบแทนกันบ้าง" โดโด้ต่อรอง
"ตอบแทนยังไง" ธีรดนย์ถามทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่านักร้องหนุ่มต้องการอะไร
"ผมอยากเป็น The Voice of December ที่ The Dazzle" นักร้องหนุ่มเรียกร้อง
"งั้นก็ต้องฟาดฟันกับอีกหลายคนนะครับ เพราะเท่าที่ผมรู้มีคนต้องการขึ้นเวทีช่วงคริสต์มาสถึงปีใหม่อยู่หลายคน แล้วผมคิดว่าเขาเลือกกันไว้แล้ว" ธีรดนย์บอกปัด เขารู้ว่าที่คลับ เดือนธันวาคมและมกราคมนั้นเป็นช่วงเวลาที่เรียกได้ว่าเป็นเวลาทอง และเป็นเวลาที่นักร้องดังๆ อยากจะขึ้นร้องเพลงบนเวที The Dazzle มากที่สุดเพราะคลับจะเต็มไปด้วยบุคคลชั้นนำในวงการบันเทิง ไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่มีบุคคลระดับ "วีไอพี" มาจากทั่วเอเชีย โอกาสที่ "โฆษณา" ตัวเองต่อผู้บริหารระดับสูงในวงการบันเทิงต่างประเทศนั้นจึงเป็นสิ่งที่นักร้องต้องการไขว่คว้า
"แต่คุณเป็นเจ้าของ ลองคุณได้เลือก ใครจะกล้าขัด"
"เอาไว้ผมจะลองคุยดู" ธีรดนย์รับปากเอาไว้ก่อน "แต่ผมก็ต้องฟังเสียงผู้บริหารคนอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน"
"คิดถึงคุณดนย์จังเลย รีบมานะครับ ผมจะอาบน้ำคอย" นักร้องหนุ่มทำเสียงออดอ้อน เลิกพูดเรื่องการร้องเพลงเพราะไม่อยากจะเซ้าซี้ธีรดนย์มากนัก
"เอาไว้อาบด้วยกันดีกว่า ผมจะถูสบู่ให้" ธีรดนย์ทำเสียงทุ้งต่ำ แล้วหัวเราะชอบใจ ก่อนจะวางสาย แต่โทรศัพท์กลับดังขึ้นมาทันใด
ริคกี้โทรศัพท์มาบอกว่ามาสาย กำลังจะขับรถออกจากเพชรบุรีเพราะมีเรื่องกับมอเตอร์ไซด์ขาซิ่งที่ขับปาดไปปาดมาจนรถของตัวเองเบียดกับถังขยะข้างถนน ทำให้ธีรดนย์อดนึกถึงสิงห์นักบิดคนนั้นไม่ได้
"อืม ถ้ายังงั้นเราเจอกันพรุ่งนี้เช้า" ธีรดนย์หาทางออก ตามองตรงไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังเพราะกำลังเข้าโค้ง และรถคันข้างหน้าเปลี่ยนช่องทางเดินรถโดยไม่เปิดสัญญาณไฟ
"ทำไมล่ะครับ นี่อีกชั่วโมงผมก็ถึงหัวหินแล้ว ไหนคุณบอกว่าจะแวบออกมาสนุกกันในสระว่ายน้ำที่โรงแรม" ริคกี้ทำเสียงหงุดหงิด
"ผมก็แวบออกมาแล้ว แต่ก็ต้องแวบกลับเข้าไปอีก เลขาผมวิ่งมาตาม มีเรื่องสำคัญ คุณก็รู้ว่าเลขาผมร้ายขนาดไหน กระดิกตัวไม่ได้เลยถ้าเป็นเรื่องธุรกิจที่อาจทำให้สูญเสียรายได้เข้าบริษัท"
"คุณก็บอกว่าเลขาทำให้คุณปวดหัวจะตายมาหลายครั้ง ทำไมยังไม่ไล่ออกไปซะที"
...ไล่คงออกหรอก อย่างเต้ยนั่นหรือจะกลัว เป็นลูกรักพ่อเขามาตั้งแต่เรียนจบเข้ามาทำงานใหม่ๆ...
"นี่ผมก็คิดๆ อยู่เหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้เรื่องงานมันสำคัญ ต้องประชุมจนค่ำ เลิกประชุมผมต้องไปทานข้าวกับรัฐมนตรีพาณิชย์ กว่าจะเสร็จคงดึก" ธีรดนย์หาทางออก
"ไปทานข้าวเฉยๆ คุณไม่ได้ไปนอนกับรัฐมนตรีฯ ด้วยนี่นา ห้าหกทุ่มคุณก็มาเจอผมที่ผับก็ได้นี่ ทำไมต้องรอถึงพรุ่งนี้"
"ทานข้าวกับพวกรัฐมนตรีก็ไม่ได้เสร็จง่ายๆ นะครับ"
...ตื๊อจริงโว๊ย เดี๋ยวพ่อก็ทิ้งซะเลยนี่...
"กินข้าวหรือกินคน ทำไมต้องนานขนาดนั้น" ริคกี้อดเหน็บแนมหนุ่มเจ้าสำราญรูปหล่อไม่ได้
"กินรัฐมนตรีทั้งเกือบคณะเลยมั๊ง" ธีรดนย์ประชด "ผมไม่ได้อยากไปนะ แต่ต้องไปเพราะมันมีผลต่อธุรกิจ เลขาผมเกาะตัวผมแจ ไม่ยอมให้ผมแวบเด็ดขาด คุณก็รู้ว่าเต้ยจิกเก่งขนาดไหน" ธีรดนย์ทำเสียงเหนื่อยหน่าย โยนความผิดให้เลขาอีกครั้ง แล้วเงียบไปชั่วครู่
"เมื่อไหร่คุณจะไล่ออกซะที" ริดกี้ทำเสียงฉุนเมื่อนึกถึงคู่ปรับที่คอยขวางเขากับธีรดนย์ "คุณจะไปเที่ยวจะไปอะไรกับผม เป็นต้องได้ถูกขัดแข้งขัดขา"
"มันก็เรื่องงาน ผมก็ต้องเข้าใจว่าเขาต้องทำงาน" ธีรดนย์แก้ตัวให้เลขาหลังจากใส่ร้ายมาแล้ว "ถ้าไม่ได้เต้ยผมก็แย่ แต่คุณก็ต้องเข้าใจว่าเลขาผมเขากวนใจผมมากเวลานัดเรื่องธุรกิจ นี่ผมต้องไปตีกอล์ฟกับประธานสภาหอการค้าเอเชียด้วยนะ เต้ยเพิ่งเอาตารางยาวเหยียดมาให้ผม"
...เชื่อได้หรือเปล่านี่ ธีรดนย์ ตอนนี้คงพยายามสับรางอยู่ละสิ เกลียดนัก คนเจ้าชู้...
ริคกี้ถอนหายใจ จำต้องยอมปล่อยธีรดนย์ ดาราหนุ่มบอกตัวเองว่า เจอกันตอนดึกก็ยังดี เลิกจากผับแล้ว จะได้ลากธีรดนย์ไปนอนด้วยเสียเลย
"คุณดนย์ ผมจะไปถ่ายละครที่สก๊อตแลนด์ตั้งหนึ่งเดือน มาอำลากันหน่อยสิครับ" ริคกี้เปลี่ยนมาทำเสียงอ้อนเพราะเห็นธีรดนย์เงียบไป "ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว นะ นะ"
"งั้นก็เจอกันตอนหกทุ่มก็ได้ ผมจะแวบออกมาจากงานเลี้ยง" ธีรดนย์จำต้องยอมผ่อนปรน ในหัวเริ่มนึกเปลี่ยนแผนเพราะจำได้ว่าโดโด้ต้องขึ้นร้องเพลงตอนหกทุ่ม กว่าจะเสร็จก็ตีสอง
...เฮ้อ ตกลงคืนนี้จะนอนกับใครดี...
...หรือพร้อมกันทั้งสองคน แต่โดโด้กับริคกี้คงไม่ยอม สองคนนี้ท่าทางไม่ค่อยจะถูกกัน...
ธีรดนย์อมยิ้มเมื่อนึกถึงอะไรแผลงๆ ก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อมองข้ามไปอีกฝากของถนน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ริคกี้ทำเสียงอ้อนว่า "ผมยังไม่มีโรงแรมพักเลย"
"ริคกี้ เอาไว้ค่อยคุยกัน ผมมีเรื่องด่วน ท่านนายกฯ อยากจะคุยกับผม แค่นี้ก่อนนะ" ธีรดนย์รีบวางสาย มือหักพวงมาลัยรถเข้าช่องทางเดินรถขวาสุดเตรียมกลับรถ
"ขอดูก้นหน่อยเถอะ ว่าใช่พ่อตัวแสบหรือเปล่า" ธีรดนย์พึมพำอยู่คนเดียว มองมอเตอร์ไซด์สามคันที่วิ่งผ่านไปด้วยความเร็วสูงในเวลาเดียวกันที่รถเขาจ่ออยู่ตรงที่กลับรถ
...หนึ่งในสามคันคือ BMW แน่ๆ และหากเดาไม่ผิด จุดหมายปลายทางก็น่าจะเป็นงานเทศกาลดนตรีที่หัวหิว...
...สองวันนี้หัวหินไม่น่าเบื่อซะแล้ว มีเกมแมวไล่จับหนูให้เล่น...
ธีรดนย์ยิ้มมุมปากแล้วกระทืบเท้าเร่งความเร็วเบนซ์เอสคลาสของเขาให้ทะยานไปข้างหน้า ลืมนัดที่จะไป "สนุก" กับคนที่รออาบน้ำพร้อมเขาที่ชะอำเสียสิ้น
...ตำรวจหายไปไหนหมด ทำไมไม่มาจับชาซิ่ง มอเตอร์ไซด์วิ่งเร็วขนาดนี้ รอดมาถึงชะอำได้ยังไง...
ธีรดนย์เร่งความเร็วขึ้นอีกเมื่อเห็นว่ามอเตอร์ไซด์ทั้งสามคันนั้นเริ่มทิ้งห่าง รถของเขาคันใหญ่และไม่คล่องตัว หนำซ้ำเขาต้องคอยหลบหลีกรถที่วิ่งช้าๆ การจราจรฝั่งที่มุ่งหน้าไปหัวหินค่อนข้างหนาตากว่าอีกด้าน
...อย่าบอกนะว่าจะตามไม่ทัน...
ธีรดนย์ถอนหายใจเมื่อเห็นรถโดยสารประจำทางสีฟ้าวิ่งอยู่เลนซ้ายข้างหน้า มีรถเก๋งคันเล็กตีคู่อยู่เลนกลาง และรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่เลนขวา
...บ้าจริงๆ เต่าสามคันกำลังแข่งกัน...
ชายหนุ่มบีบแตรเสียงดังและกระพริบไฟขอทาง แต่รถกระบะไม่มีท่าทีจะเร่งความเร็ว ธีรดนย์จำต้องมองท้ายมอเตอร์ไซด์ทั้งสามคันทะยานลับหายไปกับตา แต่ทันไดก็นึกอะไรได้บางอย่าง เขามีเพื่อนเป็นตำรวจอยู่ที่หัวหิน บางทีพันตำรวจตรีนเรศว์อาจจะช่วยได้
...ช่วยดักนักซิ่งให้หน่อยเถอะ...
ไปล่ะ ไปดูหนัง The Transformers (หุ่นยนต์แปลงเพศ) ก่อนนะคร้าบบ แล้วเจอกัน