18
[/b]
“ เห็นแบบนี้แล้ว คืนนี้น้องกับพี่ คงนอนเฉยๆ กันไม่ได้แล้วล่ะมั้ง ”
สิ้นเสียงจบประโยคที่ร่างสูงพูดออกมา หลังจากนั้นพี่เอ็มก็พาร่างผมลงจากเตียงนอนแล้วมานั่งอยู่บนพื้นกระเบื้อง สายตาของผมมองร่างสูงที่อีกฝ่ายลุกเดินไปเอาชีทเรียนที่ผมเคยให้พี่เขาเอาไว้ซีร็อก ผมรับชีทเรียนจากมืออีกฝ่ายมาแล้วก้มหน้าก้มตาอ่าน หูผมก็ยังคงทำหน้าที่ได้ดี ฟังคำพูดของร่างสูงที่ออกมาจากริมฝีปากหนาอย่างรวบรวมเอาเนื้อหาสำคัญๆเข้ามาในหัวสมอง จวบจนตอนนี้ที่เวลาล่วงเลยมาจนถึงเกือบตีสี่กว่าแล้ว
ก็บอกแล้วแท้ๆว่าติวหลังจากพี่ไปคุยเรื่องโปรเจคกับอาจาร์ยก็ได้แท้ๆ พี่แม่งก็ไม่ฟังผมเลยด้วยซ้ำ สายตาของผมแอบมองค้อนร่างหนาที่กำลังขีดไฮไลต์บนกระดาษ เน้นเนื้อหาสำคัญที่อาจจะออกสอบ ไอ้ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เดี๋ยวก็ได้นอนพักแต่คนตรงหน้านี่สิ ติวผมเสร็จก็คงได้พักสายตาแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วคงตื่นไปหาอาจารย์เลย
ผมวางปากกาลงกับโต๊ะแล้วยื่นมือไปข้างหน้าก่อนจะใช้นิ้วของตนเองนวดคลึงขมับทั้งสองข้างของอีกฝ่าย คนตรงหน้าเงยหน้าจากกระดาษขึ้นมามองผม ใบหน้าของพี่เอ็มถูกประดับไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆที่ดึงดูดสายตาผมเอาไว้มากๆ
พี่มันยิ้มแบบนี้ .. .. บางที
ผมก็เขินเป็นนะ สองมือของผมยังคงนวดคลึงขมับของอีกฝ่ายอยู่แบบนั้น แต่สายตากลับไม่ได้จดจ้องอยู่ที่โครงหน้าหล่อนั้นเลย แค่นวดขมับให้พี่เอ็มแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้ ผมก็เกิดอาการเขินแปลกๆจะแย่อยู่แล้ว ไอ้ตอนตัดสินใจไปนวดหนะไม่ทันได้คิดอะไรหรอก แต่พอพี่เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมแบบนี้ เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“
เดี๋ยวนี้ทำตัวน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ ” น้ำเสียงนุ่มหูพูดขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศชวนเขิน
“ เปล่าซักหน่อย ” ผมพึมพำตอบกลับพี่เอ็มไปเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่เตียงนอน เพราะสายตาที่คอยจ้องมองผมอยู่ก่อนหน้านี้นี่แหละ ที่ทำเอาใบหน้าของผมอยู่ดีๆก็เริ่มรู้สึกร้อนหน่อยๆ
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่แสงไฟในห้องนั้นถูกปิดโดยร่างสูง สัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากหนาจูบอยู่ที่หน้าผากของผมเบาๆ ผมลืมตาขึ้นมองหวังว่าจะเห็นใบหน้าที่ทะเล้นนั้นส่งสายตาล้อเลียนมาให้แต่ก็เจอเพียงอีกฝ่ายที่นอนหลับตาสนิทอยู่ข้างกาย ผมระบายยิ้มออกมาหน่อยๆ ก่อนจะหลับตาลงละทิ้งความเหนื่อยล้าที่ผ่านมาตลอดทั้งคืน
แสงไฟจ้าที่ส่องสว่างไปทั่วห้องพักทำให้ผมเองนั้นดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมหน้าอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็มีอีกคนที่อยู่ภายในห้องมาดึงผ้าห่มออก ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วออกแรงฉุดแขนผมให้ร่างผมลุกขึ้นนั่ง ผมค่อยๆลืมตาปรับสภาพกับแสงของหลอดไฟก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจอย่างที่เคยทำ สายตาของผมมองไปยังร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้าก่อนจะสำรวจว่าตอนนี้พี่เอ็มเขาใส่เสื้อนักศึกษาแบบยังไม่ได้ติดกระดุมอยู่ สงสัยคงจะเตรียมตัวออกไปหาอาจารย์แล้วแน่ๆ
“ น้ำเต้าหู้อยู่ในตู้เย็นนะ กินรองท้องไปก่อนไม่เกินสิบโมงครึ่งเดี๋ยวไปหาอะไรกินกัน ” พี่เอ็มพูดขึ้นแล้วก็กำลังก้มมองเสื้อติดกระดุมไปด้วย ผมเขยิบตัวไปนั่งใกล้ๆเขาก่อนจะช่วยพี่เอ็มติดกระดุมเสื้อไปด้วย แต่อีกฝ่ายกลับหยุดการกระทำของตัวเองแล้วมองหน้าผม
“ อะไร ” ผมถามกลับไปสั้นๆแล้วติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ ก่อนจะเงยหน้ามองพี่เอ็ม ใบหน้าของเขาดูเหมือนจะออกแนวประหลาดใจหน่อยๆที่ผมติดกระดุมให้เขา ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมาแค่ทำหน้านิ่งๆแค่นั้น
“ เป็นอะไร น้องแค่ติดกระดุมเสื้อให้เอง ”
คิ้วของผมขมวดลงหน่อยๆแล้วเลิกสนใจอีกฝ่าย ก่อนจะทำท่าล้มตัวลงนอนแต่อีกฝ่ายกลับเขยิบตัวมาใกล้แล้วใช้สองแขนโอบรอบเอวผมไว้รั้งเข้าหาตัวเอง ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆจนริมฝีปากหนานั้นทาบทับลงบนริมฝีปากของผม สายตาของผมยังคงจับจ้องใบหน้าคมไว้แน่นิ่ง ไม่มีการรุกล้ำอะไรไปมากกว่านี้ สัมผัสแผ่วเบายังคงตราตรึงอยู่นานเพราะไม่ได้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผละออก ริมฝีปากหนาเม้มเข้าที่กลีบปากผมเบาๆอยู่หลายครั้งจนพอใจแล้วจึงผละออกมา สายตาที่แวววาวของพี่เอ็มนั้นจับจ้องมองมาทางผมอยู่ และเป็นผมเองที่หันหน้าหนีเขาก่อนจะเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้นไป
“ น่ารักขึ้นทุกวันเลยนะเรา ” พี่เอ็มพูดขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วใส่เสื้อนักศึกษาเข้าในกางเกงและคว้ากุญแจรถออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมนั่งหน้าเหวอกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้า
มันไม่ใช่อารมณ์ในละครไทยที่พระเอกจูบแล้วนางเอกจะเขินหรือขัดขืน
ยอมรับเลยว่าผมเต็มใจให้เกิดขึ้นฟีลอารมณ์ผู้ชายอยากจูบก็ให้จูบ ถึงมันจะอายๆเกร็งๆบ้างแต่ก็นั้นแหละ ถึงตอนนี้เราจะอยู่ในช่วงคุยๆกันอยู่ การกระทำของพี่เอ็มที่ผมเคยพบเจอมาก่อนหน้านี้คือหอมแก้มและกอด มีจูบหน้าผากอีกอย่าง แค่นี้จริงๆนะ คือแต่วันนี้ เมื่อกี้ ผมโดนจูบใช่มั้ย ถึงผมจะยอมให้จูบก็เถอะแต่คือผมก็เกิดอาการแปลกๆนะ ก้อนเนื้อที่มันเต้นอยู่ภายในร่างกายตอนนี้มันไม่เป็นจังหวะอย่างที่เคยเป็น จะว่าเขินมันก็เขิน ผมเม้มริมฝีปากตัวเองแล้วภาพเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ก็มาฉายซ้ำแบบ HD เลยทีเดียว มันเลยเกิดคำถามสั้นๆขึ้นมาหนึ่งคำถาม โดยที่ผมเองก็หาคำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร
“ พี่มันนึกไงมาจูบกูว่ะ ”
ผมพับแผนการที่จะนอนต่อเอาไว้แล้วลุกขึ้นเตรียมอาบน้ำ ไม่อยากให้หัวตัวเองตอนนี้มันฟุ้งซ่าน แม่งง่วงก็ง่วง เขินก็เขิน !
พอจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ล้มตัวลงนอนหยิบชีทที่พี่เอ็มไฮไลต์เนื้อหาสำคัญๆไว้มาอ่านทบทวนอีกครั้ง คิดไปคิดมาก็เหมือนผมมีติวเตอร์ส่วนตัวเลยแหะ ริมฝีปากของตนเองยกยิ้มขึ้นมาหน่อยๆก่อนที่สายตาจะไล่อ่านบทเรียนที่แสนจะคุ้นเคยนั้นอีกหลายรอบ แต่พอจะตั้งใจอ่านขึ้นมาจริงๆจังๆ ก็รวบรวมสมาธิไม่ได้เลยจึงไม่อยากต่อต้านกำลังตัวเอง ฮ่าๆ อันที่จริงเห็นตัวหนังสือก็เริ่มง่วงแล้วต่างหากเลยวางมันไว้ข้างตัวก่อนจะหลับตาลงหวังจะพักผ่อนให้เต็มที่ แต่อยู่ดีๆ เสียงฟ้าร้องครืนๆก็ดังพอที่จะทำให้ผมลืมตาขึ้นมาแล้วมองออกไปยังระเบียงห้องพี่เอ็มที่ตอนนี้มีผ้าตากไว้
ผมตัดสินใจเปิดประตูระเบียงออกไปเก็บผ้าของอีกฝ่ายเข้ามาภายในห้อง ลมเย็นๆที่พัดมานั้นนำกลิ่นฝนมาลอยแตะจมูกทำให้รู้สึกผ่อนคลายดีจริงๆ ผมกองเสื้อผ้าไว้บนเตียงก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมากดดูเวลาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว หน้าจอทัชสกรีนขึ้นแจ้งเตือนสายโทรเข้าที่ไม่ได้รับ ปรากฏว่าเป็นพี่เอ็มที่โทรมาแต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
สายตามองเวลาที่ขึ้นอยู่บนหน้าจอใกล้เวลาที่พี่เอ็มใกล้จะกลับจากมอพอดี พร้อมๆ กันกับเสียงไขกุญแจหน้าห้องที่ดังขึ้นทักท้วงความคิดก่อนหน้า
ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกันกับอาหารสองสามกล่องที่ส่งกลิ่นหอมทักทายน้ำลายได้เป็นอย่างดี แต่ที่ผิดไปคือใบหน้าและชุดนักศึกษาที่โดนน้ำมานั้นแหละ
“ โทษทีนะเฟรน ฝนมันตกพี่เลยแวะซื้อข้าวเข้ามาเลย ” พี่เอ็มพูดขึ้นแล้ววางกล่องอาหารไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องแล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมตัวเอง จะว่าไปพี่เอ็มก็เปียกเยอะเหมือนกันนะเนี่ย
“ พี่เอ็มอาบน้ำดีกว่ามั้ย เดี๋ยวจะไม่สบายเอา ” ร่างสูงเพียงแค่พยักหน้าขึ้นลงก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ ผมมองตามอีกฝ่ายแล้วได้แต่สงสัยว่าทำไมสีหน้าถึงเหนื่อยๆแบบนั้นนะ โปรเจคไม่ผ่านไงวะ ผมเลิกสนใจสีหน้าเหนื่อยของเขาแล้วลงมือพับเสื้อผ้าที่กองอยู่จนเสร็จก่อนจะเอาไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบจานช้อนที่อยู่บนหลังตู้เย็นมาวางไว้บนโต๊ะและเปิดกล่องเทอาหารใส่
กลิ่นของอาหารที่มันเรียกน้ำลายตอนนี้ทวีคูณขึ้นไปอีกสิบเพราะตรงหน้าคือข้าวผัดมันกุ้งของโปรดผมอีกอย่าง แม้ข้าวในจานพี่เอ็มจะเป็นข้าวกระเพราหมูกรอบก็เถอะ เห็นแล้วมันน่ากินให้หมดทั้งสองจานจริงๆ ในจะมีน่องไก่ทอดอีก ซื้ออาหารมาได้ล่อตาล่อใจผมเหลือเกิ้น
ผมคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงมากดเปิดเมนูเพลงแล้วเสียบแจ็คกับลำโพงขนาดไม่เล็กมากที่วางไว้ ก่อนจะเลื่อนหารายชื่อเพลง เสียงดนตรีดังขึ้นมาคลอรับกับเสียงฟ้าฝนที่อยู่ด้านนอกห้อง ไม่เบาและไม่ดังมาก ผมกดปิดหน้าจอแล้วหันกลับมาจ้องจานข้าวตัวเองตาปริบๆ หิวชิบหายเมื่อไหร่พี่มันจะอาบน้ำเสร็จว่ะ
เอาจริงๆผมพึ่งรู้นะครับ ว่าพี่เอ็มเป็นคนอาบน้ำนาน พอสมควร เอาคำว่ามากมาใช้ก็ได้นะที่จริง ผมหยิบช้อนมาเขี่ยกุ้งตัวใหญ่ๆในจานไปมาแล้วนึกภาพตอนมันมาอยู่ในปากผมเรียบร้อย มันคงจะอร่อยแน่ๆไหนจะหัวกุ้งที่มีมันเยิ้มออกมานั้นดิ หิวโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!
เสียงฮัมเพลงดังออกมาจากภายในห้องน้ำที่ตอนนี้มีพี่เอ็มยืนอวดร่างกายตัวเองอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ใส่กางเกงแต่ท่อนบนไม่ใส่เสื้อ
เออก็ดี
ผมจะได้มองได้ถนัดๆ ไอ้อาการเขินๆ แบบเจอพี่เขาถอดเสื้อไม่มีอยู่ในหัวผมเลย ยังไงผู้ชายก็คือผู้ชายอยู่วันยังค่ำ แค่เพียงเขาหุ่นดีกว่าผมแค่นั้นเองนะจริงๆ เพราะรูปร่างที่ดูแลตัวเองอย่างดี กีฬาก็เล่น ออกกำลังกายก็ออก ไม่ใช่แบบผมนี่เอาแต่กินแล้วก็นอนถึงได้ลงพุงแบบนี้ สายตาของผมยังคงมองอีกฝ่ายไม่วางตา ถอดก็ดีจะได้มองถนัดๆหน่อย อาหารตาเลยนะนั้น
“ ตอนแรกนึกว่าถอดออกมาแล้วน้องจะเขิน ไม่เห็นเขินพี่เลยว่ะ ” พี่เอ็มพูดขึ้นแล้วเดินเช็ดผมมานั่งอยู่ตั้งข้ามอีกฝั่งของโต๊ะญี่ปุ่น
“ ผู้ชายเหมือนกันมีอะไรให้เขินเหรอพี่ ” ผมตอบกลับไปพร้อมทั้งจับช้อนเริ่มหั่นหัวกุ้งที่จ้องมานาซักที หิวจะแย่
“ แล้วโปรเจคผ่านยังพี่เอ็ม น้องเห็นพี่เหนื่อยๆตอนกลับมา ” ผมพูดออกไปตามความรู้สึก คำแทนตัวว่า น้อง ถูกเอ่ยออกมาอีกครั้ง สรุปผมคงจะชินไปแล้วละมั้งสำหรับที่แทนตัวเองว่าน้องกับเขาประจำแบบนี้ ผมตักกุ้งเข้าปากแล้วตามด้วยข้าวผัดอีกคำแล้วมองหน้าพี่เอ็มที่ตอนนี้ก็กำลังลงมือกินข้าวในจานอยู่เหมือนกัน
“ โปรเจคหนะผ่านแล้ว แค่เหนื่อยๆเท่านั้นเองครับ แล้วพี่ก็กลัวว่าเราน่ะจะโกระที่ไม่ได้ออกไปกินข้าวข้างนอกด้วย ” ร่างหนาที่นั่งอยู่ตรงหน้าพูดขึ้นก่อนจะยิ้มตบท้าย
“ คนดีจังน้า แหม ”
“ แน่นอนครับ ” อีกฝ่ายยักคิ้วส่งกลับมาทำเอาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้
“
จะดีไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“
น่าจะหลายน้ำอยู่นะ เฟรนจะลองดูซักน้ำมั้ยล่ะ ? ”
=================================================================
ขอโทษที่หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เกือบจะครึ่งเดือนแหนะ พอดีช่วงนั้นอารมณ์เฉือยมาก

แต่ก็ยังมาน้า ขอโทษนะคะทุกคน แล้วก็ขอบคุณที่ยังไม่ไปไหนยังคงอ่านนิยายเรื่องนี้อยู่ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีก็เถอะค่ะ

ฝากติดตามเด็กๆทั้งสองคนด้วยนะค่ะ ทั้งพี่เอ็มและน้องเฟรนเล้ยยยย
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ บายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ปล. ด้วยรักและฟักทองมากๆค่ะ ติชมกันได้ตามสบายค่ะส่วนตัวคนเขียนเองจะได้นำไปปรับปรุงในตอนหน้าๆ ขอบคุณค่ะ
