พิมพ์หน้านี้ - My wife is bigboss by Katesnk

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: minchy ที่ 23-08-2008 09:36:44

หัวข้อ: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-08-2008 09:36:44
ตอนเก่า 1 - 25  

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=973.0


นิยายเรื่องนี้ขออนุญาต  ผู้แต่งมาโพสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ตอนที่ 25 ต่อ
---------------------

อาหารค่ำมื้อนั้นผ่านไปอย่างมีความสุข เคนยอมพูดคุยเป็นกันเองกับผมมากขึ้น ไม่ระวังตัวเหมือนเวลาพูดคุยกันเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว

ดูเหมือนเขาจะปรับตัวได้ว่าเมื่ออยู่ในบ้าน ผมจะเปลี่ยนสถานะภาพมาเป็นภรรยาผู้เป็นช้างเท้าหลังเท่านั้น แต่เคนของผมก็ยังคงน่ารักเสมอ

เขาไม่เคยฉวยโอกาสทำตัวเป็นสามีที่รอคอยให้ภรรยามาปรนนิบัติอย่างเดียว อะไรที่เขาช่วยผมได้ เขาก็จะยินดีช่วยอย่างเต็มใจ

มันทำให้ผมรู้สึกรักเขาอย่างมากมาย และดูเหมือนมันจะเพิ่มขึ้นทุกวันจนแทบจะล้นออกมานอกใจแล้ว

“เคนครับ ผมมีเรื่องจะบอก”

หลังจากที่เคนทานอาหารที่ผมทำจนเกือบจะหมดจานแล้ว ผมก็ตัดสินใจบอกให้เขารู้ถึงเรื่องที่ผมได้ตัดสินใจทำลงไปโดยพละการ

ถึงอย่างไรเคนก็จะต้องรู้อยู่ดี ผมไม่อยากให้เราต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ผมแอบไปทำมาโดยไม่บอกให้เขา

“ครับ..เคลวินอยากบอกอะไรเหรอ ห้ามบอกว่ารักผมนะ เพราะอันนั้นผมรู้แล้ว และฟังมาหลายรอบแล้ว”

เขาดักคอล่วงหน้า แต่ท่าทางของเคนไม่ได้ซีเรียสถึงขนาดที่ว่าถ้าได้ฟังแล้วจะเบื่อหน่าย หน้าของเขายิ้มละไม เหมือนว่าเรื่องที่พูดเป็นการล้อเล่นมากกว่า

แหมมันน่านัก ทำมาเป็นรู้เท่าทันผม และห้ามพูด ผมมันก็พวกดื้อเสียด้วย จะพูดซะอย่าง จะทำไมล่ะ แล้วไม่ใช่แค่พูดด้วยนะ แต่ผมจะทำให้เขารู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน

ทว่าตอนนี้ยังก่อนดีกว่า ผมมีเรื่องที่ต้องสารภาพกับเขา มันสำคัญจริงๆ เพราะถ้าเขาไม่เข้าใจ เขาอาจจะโกรธผมก็ได้

“เคนอ่ะ ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อยครับ เรื่องที่ผมจะบอกคุณนี้ เป็นเรื่องที่ผมแอบทำตอนที่คุณนอนหลับอยู่ คุณต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธผม ถ้าผมเล่าความจริงให้คุณฟังจนหมด”

ขอให้เขารับปากว่าจะไม่โมโหใส่ ผมยังไม่รู้เลยว่าบอกไปเขาจะมีปฏิกริยาเช่นไร แต่นึกเดาไปก่อนว่าคนมากศักดิ์ศรีอย่างเคน อาจจะไม่พอใจ แล้วเขาคงจะโกรธ จนเลิกยุ่งกับผมก็ได้

“ต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ ใช่ไหมครับ แอบไปทำอะไรไว้ล่ะ สั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์มาใส่บ้านผมอีกเหรอ”

“มันแย่ยิ่งกว่านั้นอีก แต่..แต่มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับเคนนะ ผมไม่ได้หวังร้ายอะไรเลย อยากให้เคนมีความสุขมากๆอ่ะ”

รีบแก้ตัวไว้ก่อน อย่างน้อยเขาจะได้รู้ว่าผมหวังดีกับเขาแค่ไหน พอได้ยินที่ผมสารภาพ ความโกรธที่มีจะได้เบาบางลง

“ชักไม่แน่ใจเสียแล้ว เคลต้องทำอะไรที่ผมไม่ชอบใช่ไหมครับ บอกมาเถอะ อย่ามัวแต่พูดอ้อมไปอ้อมมาอยู่เลย เคลวินทำไปแล้วนี่ คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีก บอกให้ผมรู้ ผมจะได้ทำใจ”

สามีของผมทำเสียงเข้ม หน้าไม่ยิ้มสักเท่าไหร่ จนผมเริ่มใจเสีย

“เอ่อ ...คือว่า...”

อยู่ๆ ผมก็ติดอ่างขึ้นมากระทันหัน เคนเลิกคิ้วเป็นเชิงถามขณะนิ่งฟังผม

“คือผม...ย้ายเคนมานอนที่บ้านพักเดียวกันนะครับ ตอนไปเที่ยวกับบริษัท”

TBC..
------------------------

บ่ายๆ จะมาลงตอนที่ 26 ค่ะ

ด้วยบังเอิญไปเจอ เรื่องนี้ย้ายไปอยู่ "นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ"  เลยได้โอกาสไปขอเจ้าของเรื่องมาลงต่อซึ่งตอนนี้ก็ยังแต่งไม่จบค่ะ  


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: My wife iss bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 25 ต่อ 23.08.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 23-08-2008 09:38:43
 :กอด1:
หัวข้อ: My wife iss bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (1) 23.08.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-08-2008 10:35:50
บทที่ 26

นั่นไง นึกแล้วไม่มีผิด ประธานตัวแสบใช้อำนาจบาตรใหญ่ เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์บริษัทจนได้ ฟังสิ่งที่เขาบอกแล้วนึกโมโห เมื่อไหร่จะเลิกเอาแต่ใจตัวเอง และทำอะไรโดยนึกถึงจิตใจคนอื่นบ้าง รู้ว่าเขาทำเพื่อเอาใจผม แต่ทำแบบนี้บ่อยๆ มันจะยิ่งทำให้ผมถูกคนอื่นเขม่น และเขาถูกมองไม่ดีไปหรือเปล่า

ที่จริงผมไม่รู้หรอกว่า การไปพักผ่อนกับบริษัทคราวนี้ ผมจะได้นอนกับใคร แต่ที่รู้แน่ๆ คือผมคงไม่ได้พักกับท่านประธานอย่างที่เขาบอก ผมมันก็แค่ลูกจ้างชั่วคราวที่อาจจะโชคดีหน่อยที่เจ้าของบริษัทรับเข้าทำงาน แต่เมื่อเทียบชั้นกับพนักงานคนอื่นๆ ผมก็คงไม่มีทางที่จะได้รับโอกาสให้นอนพักในห้องดีๆหรู ๆ อย่างใครเขา ซึ่งผมก็ยอมรับสภาพได้ แต่ประธานเจ้าเล่ห์กลับโยกย้ายให้ผมมานอนด้วย มันทำให้ผมลำบากใจ เพราะต้องโดนพวกพนักงานด้วยกันเพ่งเล็งและคอยจับผิดอย่างไม่ต้องสงสัย

“เคน โกรธผมหรือครับ ผมขอโทษนะ ที่ตัดสินใจอะไรลงไปโดยพละการโดยไม่ได้ปรึกษาเคนอีกแล้ว...”

เขาคงเห็นผมทำหน้านิ่วคิ้วขมวด อย่างไม่พอใจ ก็เลยส่งสายตาเว้าวอนมาหา คงกลัวว่าผมจะโกรธเขา จนไม่ยอมให้ยุ่งด้วย ซึ่งมันก็สมควรจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไหนว่าไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาพัวพันในเรื่องงานไง ทำไมถึงต้องสั่งการตามใจตัวเองแบบนี้ หรือว่าผมควรจะต้องโทษตัวเองที่ทำให้เขาเริ่มเสียการปกครอง

“เคลทำอะไรลงไป ไม่คำนึงถึงผลเสียเลย ใครเขารู้เข้า เขาจะนินทาทั้งคุณและผมนะ คุณจะมาเสียชื่อเสียงด้วยเรื่องนี้ทำไม”

ผมตำหนิเขาไป ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเคลวินสักนิด แม้จะทำเพราะรู้ว่ารักและห่วงผมมากมายก็ตาม แต่ไม่น่าที่จะต้องพาตัวเองมามัวหมองด้วยเรื่องของผม ไม่อยากให้ใครมานินทาว่าร้ายว่าเขาเป็นเจ้านายที่ลำเอียงไม่ยุติธรรม

“ก็...ผม....”

“ไม่ต้องอธิบายหรอก ผมรู้ครับว่าเพราะอะไร อยากจะบอกว่าผมขอบคุณที่นึกถึงผม แต่ผมไม่เห็นใจคุณนะ เพราะผมไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ของเคลวินแม้แต่นิดเดียว”

ไม่รอให้เขาอธิบาย ผมรีบชิงพูดความรู้สึกของตัวเองขึ้นก่อน จำเป็นต้องทำเสียงดุใส่เขาด้วย เพื่อให้เขารู้ว่าผมเครียดกับสิ่งที่เขาทำ น่าแปลกที่ประธานที่ดื้อรั้น และชอบดุอยู่ตลอดเวลาอย่างเขา กลับนั่งฟังผมต่อว่า ด้วยหน้าจืดจ๋อย ราวกับว่าเราสองคนสลับบทบาทกัน ผมเป็นเจ้านาย และเขาเป็นลูกน้อง

“เคลน่าจะรู้นะครับ การที่คุณใช้อำนาจของประธานบริษัทไปแทรกแซง ทำให้คนที่จัดการดูแลเรื่องห้องต้องเปลี่ยนให้ผมมานอนบ้านพักเดียวกับคุณ มันจะก่อให้เกิดความระแวงสงสัย เขาจะตั้งคำถามว่า ผมมีความสำคัญอย่างไร ถึงได้มาอยู่ใกล้ชิดกับคุณแบบนี้ และคำถามอีกมากมายจะตามมา มันจะสร้างความวุ่นวายใจให้คุณไม่สิ้นสุด”

บอกให้เขาฟังถึงสิ่งที่กังวลใจ ประธานคนเก่ง เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่หวั่นไหว ดูเหมือนเขาไม่ใส่ใจ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ

“ก็ช่างปะไร ผมไม่สนใจว่าใครจะว่าอย่างไรอยู่แล้วนี่ครับ คุณเป็นเลขาของผมนะ โดยตำแหน่งหน้าที่ ก็เหนือกว่าพนักงานทั่วๆไปอยู่แล้ว ผมมีสิทธิ์ที่จะดึงคุณมาไว้ใกล้ๆตัว เพราะคุณต้องคอยรับคำสั่งผมตลอด จะให้อยู่ห่างผมได้ไง”

น้ำเสียงของเขาดื้อดึง จนผมเองก็รู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ

“ผมเพิ่งมาเป็นพนักงานได้ไม่เท่าไหร่ กลับได้อภิสิทธิ์ต่างๆ มากมาย คุณว่าพนักงานคนอื่นๆจะไม่สงสัยหรือครับ ว่าได้มาอย่างไร”

“แล้วยังไงละครับ จะบอกว่าคุณได้มาด้วยความเสน่หาอย่างนั้นหรือ เคนกำลังจะดูถูกตัวเอง และดูถูกผมด้วยนะครับ”

เคลวินเสียงเข้มขึ้น คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน เหมือนไม่พอใจที่ผมพูด

“ก็มันจริงไหมล่ะ...”

สวนกลับไปด้วยน้ำเสียงเข้มไม่แพ้กัน ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าที่ผมได้อะไรมากมาย เป็นเพราะความอยากได้ในตัวของผมหรือเปล่า ท่านประธานจึงประเคนทุกอย่างให้ขนาดนี้ บางทีผมอาจจะไม่มีความสามารถพอก็ได้ เขาเลยต้องช่วยเหลือผมด้วยการมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้

“คุณกำลังโกรธ ก็เลยพาลทุกอย่าง เลยดูถูกตัวเองไปด้วย ผมไม่อยากให้เคนมองว่าที่คุณได้รับอะไรทุกอย่าง เป็นเพราะว่าผมมอบให้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งหน้าที่การงาน หรือเงินเดือน คุณได้ทุกอย่างเพราะตัวคุณเอง...”

คำอธิบายของเขา ทำให้ผมหยุดนิ่งฟัง มันเป็นสิ่งที่ผมเคยได้ยินจากปากเขามาบ้างแล้ว แต่พอได้ฟังอีกครั้ง ทำให้ใจที่คุกรุ่นด้วยความโกรธของผมค่อยๆ สงบลง น้ำเสียงของเขาหนักแน่นจริงจัง ราวกับเขากำลังพูดกับผมในฐานะประธานบริษัท ไม่ใช่เคลวินภรรยาขี้อ้อนของผม

“ผมมองเห็นศักยภาพที่มีอยู่ในตัวคุณนะครับ เลยรับคุณมาทำงานด้วย คุณช่วยงานผมกับนนนี่ได้มาก คุณเหมาะสมกับตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของผม แล้วเมื่อคุณทำดี ทำไมผมจะให้สิ่งดีๆกับคุณบ้างไม่ได้”

น่าแปลกที่คำพูดไม่กี่คำของเขา ก็สามารถสยบผมลงได้ คงเป็นเพราะผมเห็นถึงความจริงใจที่เขามีต่อผม เลยทำให้อยากอภัยให้กับสิ่งที่เขาทำ

“แต่...บางอย่างมันก็มากเกินไป”

น้ำเสียงที่พูดกับเขาเริ่มดีขึ้น ไม่ห้วนสั้นเอาแต่กล่าวหาเหมือนเมื่อครู่

“ข้าวของที่คุณซื้อมาให้ผมนั้น มันเกินกว่าฐานะที่ผมจะรับไว้ได้”

“อย่าเอาไปรวมกันสิครับเคน สิ่งที่ผมให้คุณที่นี่ กับที่บ้าน มันคนละเหตุผลกัน ที่นี่ผมให้คุณในฐานะเจ้านาย ที่ปูนบำเหน็จให้กับลูกน้องที่ทำดี ส่วนที่บ้าน ผมให้คุณได้ทุกอย่างในฐานะภรรยาที่รักสามี ผมไม่เคยเอาสองเรื่องนี้มาปะปนกันให้เสียเลยนะครับ....”

เคลวินแย้งขึ้นมา เขาคงกลัวผมจะคิดว่าเขาใช้ข้าวของซื้อใจผม

“ผมรักเคนจริงๆนะครับ ผมไม่เคยอยากใช้เงินมาซื้อความรัก ผมรู้ดีว่า สำหรับเคน ต้องใช้ใจเท่านั้น ถึงจะซื้อใจเคนได้”

ท่านประธานยื่นสองมือมากุมมือผมไว้ และบีบแน่น สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของผม ขณะที่พูดขอความเห็นใจไปด้วย

“อย่าพูดจาดูถูกตัวเองอีกเลย ถ้าคุณคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอ แต่ได้ทุกอย่างเพราะผมช่วย มันก็เท่ากับคุณคิดว่าผมเป็นไอ้โง่ เป็นแค่คนบ้ากามคนหนึ่ง ที่หวังจะเคลมลูกน้อง จนไม่แยกแยะถูกผิด ไม่เหมาะกับการบริหารงานบริษัทอีกต่อไป....”

นั่นสินะ ผมเองก็ลืมนึกถึงประเด็นนี้ มัวแต่โกรธเขา จนลืมไปว่าคำพูดของตัวเองก็ไปทำร้ายความรู้สึกของท่านประธานได้เช่นกัน เขาทำงานมาหลายปี ทำงานก่อนผมเสียด้วยซ้ำ และนี่ก็เป็นบริษัทของเขา เขาคงไม่ทำลายบริษัทตัวเองเพียงเพราะสนิทเสน่หากับลูกจ้างอย่างผมหรอก มันฆ่าตัวตายชัดๆถ้าหากเขาจะคิดทำอย่างนั้น เคลวินเป็นคนฉลาดพอที่จะไม่ให้ความรักเข้าครอบงำ เสียจนลืมสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ผมเชื่อว่าเขาแยกแยะได้

“ขอโทษนะครับ เคลวิน ผมพูดแรงไปหน่อย”

กล่าวขอโทษเขา กับคำพูดของตัวเองที่พูดถึงเคลวินในแง่ร้าย ใบหน้าของท่านประธานดูเบิกบานขึ้น ริมฝีปากเหยียดออกเป็นรอยยิ้มกว้าง

“ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ ว่าคุณกำลังโกรธผมเรื่องบ้านพัก ผมเองก็ทำไม่ถูกจริงๆ ที่ทำอะไรโดยไม่บอกกล่าว สมควรที่คุณจะโกรธผมแล้ว”

“เปลี่ยนกลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม ให้ผมได้นอนที่ห้องที่เขาจัดให้ดีกว่า จะได้ไม่มีข้อครหา”

ผมเสนอแนะวิธีที่จะไม่ให้เราสองคนถูกมองในแง่ร้าย ทว่าเคลวินส่ายหน้า

“ไม่ได้ครับ นนนี่ดำเนินการเปลี่ยนห้องให้แล้ว ถ้าไปขอให้เขาเปลี่ยนกลับมาอีก ก็จะวุ่นวายเข้าไปใหญ่ เอาตามนี้ไปก่อนแล้วกันนะครับ ไม่ต้องไปกังวลใจกับมันนะ รอให้ปัญหามันเกิดแล้วค่อยแก้ทีหลังก็ได้”

ในที่สุดผมก็ต้องยอมตามใจเขา แม้จะรู้สึกหวั่นใจพิกล แต่ในเมื่อเคลวินยืนกรานหนักแน่นให้เป็นแบบนั้น ผมก็คร้านจะต่อล้อต่อเถียง ก็เขาเป็นประธานบริษัทนี่ จะจัดการอย่างไรก็ย่อมได้เสมอ

เขาทำอะไรลงไป เขาก็คงจะรู้ว่ามันจะต้องเกิดผลที่เขาไม่คาดหวัง แต่เขาคงเตรียมตัวรับมือกับมันไว้แล้ว เมื่อเขาไม่กังวล ผมก็ไม่อยากจะนำมันมาใส่ใจ แม้จะรู้สึกไม่ชอบก็ตาม

“เชื่อผมนะครับ ที่รัก ผมไม่ทำให้คุณเดือดร้อนแน่ๆ”

“บริษัทของคุณนี่ อยากทำอะไรก็ทำสิ”

ตอบเขาไป รู้สึกปลงกับความดื้อรั้น เอาแต่ใจของเขา ในเมื่อมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ ก็คงต้องรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ค่อยแก้ปัญหากันไป แต่ถ้ามันจะไม่มีเรื่องร้อนหูร้อนใจมาให้ก็ยิ่งดี

“ประชดผมอีกแล้ว เคนอ่ะ อีกหน่อย ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว บริษัทนี้ ก็เป็นของคุณด้วยนะครับ คุณก็ต้องมาช่วยผมบริหารงาน เรื่องของผมมันก็จะกลายเป็นเรื่องของคุณไปด้วย โดยปริยายนะ”

นอกจากจะไม่อนาทรร้อนใจว่าสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำลงไปจะก่อปัญหาในภายภาคหน้า ประธานเจ้าเล่ห์ยังจะโมเมให้ผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาจนได้

“อะไร ใครบอกว่าผมจะแต่งงานกับคุณ แล้วใครบอกว่าผมจะช่วยดูแลบริษัทให้ อย่ามาพูดเองเออเองแบบนี้สิ ผมไม่ได้ตกลงอะไรด้วยเลยนะ”

โวยวายใส่เขาเสียงดัง เรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลยแม้แต่น้อย

“อ้าว ทำไมล่ะ ก็เราเป็นสามีภรรยากันโดยพฤตินัยแล้วนะ เหลือแต่แต่งงานกันอย่างเดียวเท่านั้น ตอนนี้คุณก็เท่ากับเป็นสามีประธานบริษัท เรื่องของภรรยา ก็ต้องเป็นเรื่องของสามีนะครับ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว”

อะไรกันนี่ ผมไปเกี่ยวอะไรด้วย เรื่องการเป็นสามีภรรยาอะไรกับเขา ผมก็ไม่ได้เต็มใจสักหน่อย เขานั่นแหละ เป็นคนเริ่มเรื่องทั้งหมด แล้วตอนนี้ จะให้ผมมาร่วมรับผิดชอบบริษัทร่วมกับเขาในฐานะสามี ผมไม่ใช่คนที่ชอบฉกฉวยผลประโยชน์จากใครนะ โดยเฉพาะถ้าไม่ได้เต็มใจด้วย ผมยิ่งไม่อยากได้


“แต่ผมไม่....”

ยังไม่ทันที่ผมจะปฏิเสธ เคลวินก็ชิงพูดขึ้นก่อน เขายกสองมือขึ้นแตะแก้มตัวเอง แล้วทำหน้าเหมือนจะปฏิเสธสิ่งที่คาดว่าจะได้ยิน

“อะไรกัน น้อยใจแล้วนะ นี่คุณจะปฏิเสธความรับผิดชอบในตัวผมเหรอ ทั้งที่ได้ผมแล้ว ตั้งหลายครั้ง เคนใจร้าย ใจร้ายที่สุด”

ประธานทำท่าฟูมฟาย เรียกร้องความเห็นใจ ผมได้แต่นั่งกุมขมับ ไม่คิดว่าเขาจะใช้ลูกไม้นี้กับผม พอหายป่วยแล้วประธานเคลวินก็กลับมาเพี้ยนอีกเหมือนเดิม รู้งี้แช่งให้นอนป่วยอยู่บนเตียงลุกไม่ได้ซะก็ดี

“แต่ที่ผ่านมา ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ มีแต่เคลนั่นแหละที่เป็นฝ่ายยุ่งเกี่ยวกับผมก่อน”

“มันก็เหมือนกันนั่นแหละ เพราะคุณเองก็ร่วมไม้ร่วมมือกับผมด้วยนะ คุณจะมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นได้ยังไง เคนใจร้าย”

เคลวินตัดพ้อต่อว่าเสียงสั่นเครือ เวรกรรม ทำไมผมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ผู้ชายฝรั่งตัวใหญ่ยักษ์ นั่งมองหน้าผมด้วยดวงตาแดงก่ำ ฉายแววปวดร้าว

ราวกับว่าผมทำให้เขาได้รับความทุกข์ทรมาน ทั้งที่เรื่องที่เขากล่าวหาผมมันเป็นเรื่องที่เขาเป็นฝ่ายก่อขึ้นทั้งนั้น

แต่ก็นั่นแหละ ผมเองก็เลี่ยงความรับผิดชอบได้ลำบาก เพราะผมเองก็ร่วมไม้ร่วมมือกับเขา ยอมให้ลวนลามทำตามอำเภอใจ ถ้าผมไม่ชอบจริงๆ และขัดขืนอย่างเต็มที่

เรื่องวุ่นวายทั้งหลายก็คงจะไม่เกิด ผมไม่ต้องมานั่งกลุ้มกับประธานเจ้าเล่ห์ ที่นิสัยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนน่าปวดหัวอย่างที่เป็นอยู่ขณะนี้

“ประธานเคลวินหยุดทำตัวเหมือนเด็กได้แล้วครับ ไม่น่ารักเลยนะ ที่ผู้ใหญ่ตัวโตๆ จะมาทำท่าทางเลียนแบบเด็กๆ ไม่อายผม ก็อายตัวเองบ้างเถอะครับ”

ว่าเขาอย่างหมั่นไส้ คนสองหน้าทำปากยื่นไม่พอใจ ยื่นข้อเสนอให้ผมแลกกับการที่เขาจะไม่ทำตัวง๊องแง๊ง
“หยุดก็ได้ …แต่เคนต้องยอมรับกับผมก่อน ว่าผมเป็นเมียของเคนแล้ว และเคนเป็นสามีของผม”

“จะยอมรับแบบนั้นได้ไงล่ะ...”

ขืนรับไปผมก็ต้องตกที่นั่งเป็นสามีเขาน่ะสิ แล้วประธานจอมเพี้ยนก็คงหาเหตุที่จะทำให้ผมยอมรับอะไรต่อมิอะไรของเขาอยู่เรื่อยๆ แล้วก็อาจจะเข้ามาวุ่นวายในชีวิตผมมากยิ่งกว่าเดิม

พอผมปฏิเสธ เคลวินก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ เขาลุกพรวดจากโต๊ะ เดินมาหาผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาทันที แล้วก็เอามือบีบต้นแขนของผมพลางเขย่า

“ทำไมครับ ทำไมถึงไม่ใช่ ก็เรามีอะไรกันเหมือนสามีภรรยาทั่วไป ทำไมเคนถึงไม่ยอมรับล่ะ เคนรังเกียจผมหรือครับ เคนรับไม่ได้ที่ผมเป็นผู้ชายเหรอ”

“เอ้อ มันก็ไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมดนะ คือ ...จะว่าไงดี ...ผมไม่ได้รังเกียจคุณนะครับ คุณก็เป็นคนดี แต่ว่าแบบนี้มัน ไม่ใช่อย่างที่ผมต้องการ”

พูดออกไปแล้วก็รู้สึกแย่ ที่จริงผมก็ไม่ได้ไม่ชอบเขา แล้วก็ไม่ได้ไม่ชอบเรื่องเซ็กส์ที่เขาปรนเปรอให้ เขาทำให้ผมมีความสุข แล้วก็รู้สึกดี

ผมไม่ได้รังเกียจที่จะมีอะไรกับเขา แต่ถ้าจะให้ผมยอมรับเขาเป็นภรรยาของผม อันนั้นผมทำไม่ได้ ผมอยากมีเมียที่เป็นเมียจริงๆ มีลูกให้ผมได้

สร้างครอบครัวด้วยกันได้ ไม่ต้องมาคอยหลบซ่อน หรือคอยระแวงว่าใครจะนินทา ผมไม่รู้ว่าเขาจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการสื่อหรือเปล่า เพราะตัวผมเองก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจตัวเองเหมือนกัน

“ผมชอบคุณนะ แต่ผมไม่อยากแต่งงานกับคุณ”

ในที่สุดผมก็พูดคำว่า ชอบเขาออกไป แต่ดูเหมือนเคลวินจะไม่ได้ยินประโยคนั้น คิดว่าใจเขาคงจดจ่อกับประโยคสุดท้ายที่ว่า

ผมไม่อยากแต่งงานกับเขามากกว่า เคลวินทำหน้ายุ่งๆ เหมือนรับไม่ได้กับสิ่งที่ได้ยิน
“ทำไมล่ะ ผมทำหน้าที่ภรรยาขาดตกบกพร่องเหรอ ผมดูแลคุณไม่ดีหรือไงคุณถึงไม่อยากแต่งงานกับผม”


--------------------
TBC   

พรุ่งนี้เจอกัน  :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: My wife iss bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (1) 23.08.08
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-08-2008 19:19:31
อิอิ พี่เคทมาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: My wife iss bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (1) 23.08.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-08-2008 14:16:28

อ่านแล้วมึนกันบ้างหรือป่าวคะ   o2   ลงเยอะเกินไปหรือป่าว   ถ้าไม่

ไปต่อกันเลย :oni1: :oni1:


---------------------------------------------

บทที่ 26  (ต่อ)




“เอ่อ ...คุณก็ทำหน้าที่ได้ดีนะครับ”

ผมบอกด้วยใจจริง

“แล้วถ้างั้นเป็นเพราะอะไร ผมทำกับข้าวไม่อร่อย ผมมอบความสุขบนเตียงให้คุณไม่ได้ หรือว่าผมไม่ให้ความเคารพคุณมากพอ”

เขาคาดคั้นเอาคำตอบ ผมไม่รู้จะพูดอะไร เพราะสิ่งที่อยากบอกเขา มันได้บอกไปหมดแล้ว และเขาก็รู้ดี ข้อติดใจของผมมีเพียงเรื่องเดียวคือ เรื่องที่เขาเป็นผู้ชายเท่านั้น

ถึงไม่ต้องบอกซ้ำ เขาก็น่าจะรู้ว่าผมเคยตอบยังไง เขาปล่อยมือจากไหล่ของผมอย่างคนหมดแรง จ้องหน้าผมด้วยแววตาปวดร้าว ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่เขาถามผมเมื่อครู่ เป็นสิ่งที่ผมกังวล

“เคนใจร้าย เคนแบ่งแยกชนชั้น เคนกีดกันในเรื่องเพศ เคนไม่มองเห็นถึงหัวใจของผม เคนมองแต่สิ่งที่เป็นเปลือกนอก เคนไม่มองที่สิ่งที่อยู่ภายใน

เคนรังเกียจผมด้วยเรื่องเพศ เคนเหยียบย่ำความรู้สึกของผม”

สารพัดที่จะต่อว่า พอเห็นผมไม่ตอบ เขาก็ทำหน้าเศร้าๆ ตาของเขาแดงก่ำปากสั่น จากนั้นก็ซบหน้าลงกับฝ่ามือ

“เคล....อย่าทำแบบนี้สิครับ”

ผมเอื้อมมือไปแตะตัวเขา นึกโทษตัวเอง และอะไรก็ตามที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เคลวินเสียใจ ที่จริงวันนี้ เราเริ่มต้นกันด้วยบรรยากาศแห่งความสุข หลังจากเราเพิ่งมีอะไรกันผ่านพ้นไป

แต่แล้วทุกอย่างก็พังลง ด้วยคำสารภาพของเขา แล้วไล่ยาวมาจนถึงเรื่องที่เขาจะมอบบริษัทให้ผมดูแลหากได้แต่งงานกัน ซึ่งผมรับไม่ได้ เพราะไม่ได้คิดจะแต่งงานกับเขา

ทุกอย่างที่เขาทำมันได้เกิดไปแล้ว แก้ไขไม่ได้ กับอะไรที่ยังไม่เกิด แต่ผมเอาคำพูดนั้นมากังวลใจ มันเลยทำให้บรรยากาศแย่ขึ้นมา และผมควรจะหยุดมันเสีย

“ผมขอโทษนะ”

กล่าวคำนั้นด้วยเสียงอ่อนโยน แสดงให้เขารู้ว่าผมรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ทำให้เขารู้สึกแย่กับผม

“ไม่ต้องหรอก...ผมเข้าใจเคนดี ผมผิดเองที่รักเคน และไปบีบบังคับให้คุณต้องหลวมตัวมามีอะไรกับผม มันเป็นเรื่องที่โง่เง่าสิ้นดีที่ผมคิดว่าจะมีใครบางคนที่รักผมจริง ไม่สนใจว่าผมจะเป็นอย่างไร ผมมันคิดฝันลมๆแล้งๆไปคนเดียว น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วว่าความสุขมันไม่มาถึงคนอย่างผมหรอก”

เขาพูดอย่างน้อยใจ พลางลุกขึ้น แล้วเดินออกจากครัวตรงไปยังห้องนอน โดยที่ผมลุกเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

“เดี๋ยวครับ เคนอย่าเพิ่งน้อยใจสิ”

พอเข้าห้องได้ ผมก็ดึงมือเขาไว้ แล้วพามานั่งที่เตียง ก่อนที่จะพูดปลอบโยนเขา ให้เขาคลายความเสียใจ

“ทึ่จริงเคลวินเป็นคนดีนะครับ เป็นคนน่ารัก จิตใจดี ทำเพื่อคนอื่นมาตลอด ผมรู้สึกซาบซึ้งใจมากนะครับสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ผม....”

เคลวินยังนั่งก้มหน้านิ่ง ไม่พูดไม่จา จนผมเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดี กลัวเขาจะโกรธจนไม่ยอมพูดกับผม ทำไมผมถึงต้องกังวลขนาดนี้ก็ไม่รู้

“ผมขอพูดโดยไม่โกหกว่า บางอย่างที่คุณทำให้ ผมก็ชอบนะ อย่างเช่น ที่เคลทำกับข้าวให้ผมทาน คอยดูแลผมตอนกลับมาบ้าน ซักผ้ารีดผ้าให้ ผมประทับใจมาก ไม่คิดว่าคนที่ฐานะเหนือกว่าอย่างคุณจะยอมทำอะไรทุกอย่างให้ผมได้ถึงขนาดนี้ เคลน่ารักมากจริงๆ”

มือใหญ่ของเขาถูกผมดึงมากุมเอาไว้ เคลวินยังคงนิ่งไม่พูด สงสัยงอนผมแน่ๆ จะทำยังไงเขาถึงจะหายโกรธแล้วพูดกับผมนะ

“ถ้าหากว่าเราสองคนไม่ใช่ผู้ชายทั้งคู่ ผมก็คงรักเคลไปแล้วล่ะ เคลน่ารักจิตใจดีแบบนี้ ใครๆก็ชอบ วันหนึ่ง เคลต้องเจอคนที่เขารักเคลอย่างแน่นอน”

ผมลูบไล้มือใหญ่ของเขาไปมา พยายามมองหน้าเขา เพื่อให้เขามองผมบ้าง สักพักเคลวินก็เงยหน้าขึ้น ตาสีฟ้าของเขาเป็นประกาย ขณะมองจ้องผม

“แล้วเคนจริงใจกับผมหรือเปล่า”

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-08-2008 15:16:25
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-08-2008 18:14:41
ตามอ่านตอนเก่าจบแล้ว  o7  เรื่องนี้แปลกดีอะ ภรรยาเป็นรุกด้วย สนุกดี

รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-08-2008 23:57:49
สงสารเคลวินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 25-08-2008 02:17:46
 o13  รออ่านคุนประธาน ก่าหนุ่มเคนมานาน ได้อ่านแล้วโฮ๋ะๆ

เคลวิน จอมเจ้าเล่ห์ ยังไง๊ ยังไง ก้อกล่อมหนุ่มเคนให้ตกหลุมพราง ได้อยู่ดี เอิ้กๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 25-08-2008 06:53:59
 :mc4: ดีใจจัง ที่นำเรื่องของคุณเคท มาลงต่อ รออ่านอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ กรุณานำดอกรักสีม่วง

กลับมาด้วย นะครับ ขอบคุณล่วงหน้า ( บังคับกลาย ๆ ฮิ...ฮิ.. )  +1 เป็นค่ามัดจำ  :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 25-08-2008 23:46:25
 :sad4: :sad4: ผมสับสนคร๊าฟฟฟ ภรรยาที่ไหนคร๊าฟฟฟ จิ้มสามี บอกผมทีผมมึนนนนน :sad3: :sad3:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-08-2008 18:58:10
:mc4: ดีใจจัง ที่นำเรื่องของคุณเคท มาลงต่อ รออ่านอยู่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ กรุณานำดอกรักสีม่วง

กลับมาด้วย นะครับ ขอบคุณล่วงหน้า ( บังคับกลาย ๆ ฮิ...ฮิ.. )  +1 เป็นค่ามัดจำ  :L2: :bye2:

เรื่อง ดอกรักสีม่วง  พี่เคทยังไม่เอาออกมาจากโหลดองเลยค่ะ  :sad2:  ขอบคุณสำหรับ +1 นะคะ  ถ้าได้ฤกษ์ออกจากโหลเมื่อไหร่จะมาลงให้ทันที

:sad4: :sad4: ผมสับสนคร๊าฟฟฟ ภรรยาที่ไหนคร๊าฟฟฟ จิ้มสามี บอกผมทีผมมึนนนนน :sad3: :sad3:

อาจเป็นเพราะเคลวินเจ้าเล่ห์อ่ะคะ   มันอาจจะเป็นแผน  ถ้าให้ชายแท้มาเป็นภรรยา เคนคงไม่ยอม เลยหลอกว่าเป็นสามีนะ แต่... :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (2) 24.08.08 มาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-08-2008 19:04:35
ตั้งใจว่าถ้าไม่ติดปัญหาอะไรจะมาลงให้วันเว้นวัน ถี่ไปหรือป่าว


 :oni1: :oni1: :oni1:   มาต่อกันดีกว่า

---------------------------------------


บทที่ 26 (3)


สักพักเคลวินก็เงยหน้าขึ้น ตาสีฟ้าของเขาเป็นประกาย ขณะมองจ้องผม

“แล้วเคนจริงใจกับผมหรือเปล่า”

“หือ ทำไมจะไม่ล่ะ ผมรู้สึกดีกับคุณตลอด ไม่เคยคิดร้ายกับเคลแม้แต่ครั้งเดียว”

“ถ้างั้นก็แสดงว่าเคนก็รักผมน่ะสิ ใช่ไหมครับ”

เขาถามเสียงหวาน ใบหน้ายิ้มกริ่ม

“สรุปอะไรแบบนี้ ...อ้าว ...เอ๊ะ ...หน้ายิ้มแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้น้อยใจจริงๆใช่ไหมเนี่ย แกล้งผมเหรอ”

เพิ่งจะสังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อกี้เคลวินยังทำท่าน้อยอกน้อยใจอยู่ แต่ตอนนี้ยิ้มแป้นแล้นเหมือนคนที่มีความสุขในชีวิต

“ก็ทำไมต้องน้อยใจล่ะ ผมได้ยินคำพูดแบบนี้มาจากคุณเป็นล้านครั้งแล้ว ผมไม่น้อยใจหรอก แต่ที่แกล้งงอน เพราะอยากให้คุณง้อต่างหาก”

ไหงเป็นแบบนี้ไปได้ เมื่อกี้อุตส่าห์เป็นห่วงความรู้สึกแทบตาย ประธานเจ้าเล่ห์นี่ ชอบทำตัวเป็นคนหลายหน้าจริงๆ

“กรรม ...ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย”

“ก็ผมจะได้รู้ยังไงล่ะ ว่าคุณแคร์ความรู้สึกของผมหรือเปล่า ซึ่งผมก็ได้คำตอบแล้วว่าคุณแคร์ผมมากๆด้วย”

คนตอบยิ้มปากจะฉีกถึงใบหู ตาสีฟ้ามีแววหวานซึ้งขณะจ้องหน้าผม

“ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย ลองใจอะไรของเคลวินนี่ มีแต่คนเพี้ยนๆไม่เต็มเต็งเท่านั้นแหละ จะพิสูจน์แบบนี้”
ว่าเขาไปอย่างหมั่นไส้

“ถึงจะเพี้ยน ก็เพี้ยนเพราะรักแหละ ยังไงมันก็พิสูจน์ได้แล้วกันน่า ว่าคุณก็แคร์ผม แปลว่ามีใจให้นิดๆใช่ไหม”

เขาตอบมาหน้าทะเล้น

“โอ๊ย ไม่เคยเห็นประธานคนไหน หลงตัวแบบนี้มาก่อนเลย”

“ดีแล้วล่ะ คนอย่างผมมีแค่คนเดียวพอ ไม่เหมือนใครดี ขืนมีหลายคน เดี๋ยวเคนจะสับสนเลือกไม่ถูก อยากให้รักแค่ผมเท่านั้น”

โมเมเข้าข้างตัวเองเฉยเลย

“บ้าแล้ว ...เคลบ้ามาก”

รู้สึกขวางท่าทางหลงตัวเองของเขา แต่พอเห็นใบหน้าที่แสดงความมั่นอกมั่นใจในตัวเองอย่างเหลือล้น ก็อดขำไม่ได้

“บ้าก็บ้ารักล่ะ ก็เคนของผมน่ารักนี่นา”

“พูดมากแบบนี้ แปลว่าหายป่วยแล้วใช่ไหม”

ผมเปลี่ยนประเด็นการพูดไปที่ตัวเขาทันทีเพื่อจะได้ไม่ต้องคุยในสิ่งที่มันจะเกี่ยวพันกับตัวผม เคลวินนิ่งไปนิดหนึ่ง แล้วก็เปลี่ยนท่าที

“ยัง ยังเลย นี่ยังเจ็บอยู่ตรงหัวใจ ผมเป็นไข้ใจนะ ดูแลผมดีๆหน่อย”

เขาดึงมือผมไปแนบที่หัวใจ และทำหน้าห่อเหี่ยว เหมือนคนที่สิ้นไร้เรี่ยวแรง เพราะเป็นโรคร้าย ผมรู้สึกขวางหูขวางตากับไอ้เจ้าแอคติ้งระดับเทพของเขานัก แสดงเก่งเหลือเกิน น่าจะไปเป็นดารามากกว่าผู้บริหาร สงสัยจะไปรุ่ง

“แบบนี้ มันต้องจับฉีดยาเสียให้เข็ด”

เอาจุดอ่อนของเขามาแกล้งขู่ เคลวินกลัวการฉีดยาจะตาย เป็นฝรั่งที่ใจเสาะมากๆ ประธานสองหน้าทำตาเป็นประกายวิบวับ ยิ้มเจ้าเล่ห์ และก่อนที่ผมจะทันได้รู้ตัว เคลวินก็อาศัยความไวจับผมกดลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว

“จะจับผมฉีดยาเหรอครับ ผมขอเป็นฝ่ายฉีดเคนก่อนแล้วกัน”

เสียงของเขาหื่นมาก ไม่ใช่แค่คำพูด แต่กริยาอาการก็หื่นตามไปด้วย เขาลงมือฟัดผมอย่างเมามัน ผมทำได้แค่ดิ้นหนีเขาเท่านั้น แต่มันก็ป้อแป้ไร้เรี่ยวแรงเหลือเกิน ดูเหมือนว่าร่างกายของผมกำลังพ่ายแพ้จิตใจ ที่ยินดีกับการที่ตัวเองถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวโดยผู้ชายฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาคนนี้

“เคนครับ ....เจ้าเด็กหื่นของผม มันอยากเข้าไปมุดถ้ำเคนเล่นอีกแล้วครับ”


TBC

แล้วเจอกัน  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (3) 26.08.08 ร้อนๆ จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-08-2008 23:04:15
อิอิ....................อยากดูตอนมุดถ้ำ 555
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (3) 26.08.08 ร้อนๆ จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 26-08-2008 23:28:13
 :o อีกล้ว ภรรยาจาจิ้มสามีอีกแล้ว :o8:

รอ ๆ  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (3) 26.08.08 ร้อนๆ จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-08-2008 23:59:23
ภรรยาออกจะน่ารักขนาดนี้ ลุ้นให้สามีรักภรรยาเร็วๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (3) 26.08.08 ร้อนๆ จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 28-08-2008 16:21:28


ท่านประธานเคลวินเค่อะ คำพูด หวานเลี่ยนเสียวได้ใจจริงๆ เอิ้กๆ   :laugh:
คุณสามีเคนตกหลุมพรางอีกแล้ว  โดนคุณภรรยากิน อีกแล่ะ กรี๊ดดดดดดดด     :o8:



ป๋อล๋อ* ท่าทางโหลยาดองพี่เคทอ่ะ มันจะล้นแล้วนะคะ เอาออกมาซ้าดีๆ   :oni2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (3) 26.08.08 ร้อนๆ จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 28-08-2008 20:39:30


ท่านประธานเคลวินเค่อะ คำพูด หวานเลี่ยนเสียวได้ใจจริงๆ เอิ้กๆ   :laugh:
คุณสามีเคนตกหลุมพรางอีกแล้ว  โดนคุณภรรยากิน อีกแล่ะ กรี๊ดดดดดดดด     :o8:



ป๋อล๋อ* ท่าทางโหลยาดองพี่เคทอ่ะ มันจะล้นแล้วนะคะ เอาออกมาซ้าดีๆ   :oni2:


ไม่รู้ว่าจะได้กินหรือป่าว คงต้องรอดูไปค่ะ   ส่วนโหลดองของพี่เคท ๆ จาระไนออกมาให้ดูปรากฎว่า มีมากว่า 30 เรื่อง โอ้.. อารายกันเนี้ย  คาดว่ายังจะดองกันไปอีกนาน (มิน่าช่วงนี้เกลือแพง พี่เคทเหมาไปหมดแหง่มๆ  :laugh:)


--------------------------------------

มาต่อกันดีกว่า


บทที่ 26 (4)

“เคนครับ ....เจ้าเด็กหื่นของผม มันอยากเข้าไปมุดถ้ำเคนเล่นอีกแล้วครับ”

เคลวินอ้อนเสียงกระเส่า พลางเบียดร่างกายท่อนล่างเสียดสีน้องชายของผม เป็นการแสดงให้รู้ว่าเขาอยากทำอย่างที่ขอจริงๆ

“ไม่ได้ครับ ถ้ำปิดแล้ว เข้าออกบ่อยๆ ไม่ค่อยดีครับ เดี๋ยวถ้ำพัง”

น่าแปลกที่ผมพูดเล่นกลับไปอย่างติดตลก ไม่ได้ปฏิเสธเสียงแข็งแบบเคย ดูเหมือนเคลวินจะพึงพอใจไม่น้อยกับคำตอบของผม เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ตาเป็นประกายแพรวพราว

“ไม่หรอก ถ้ำแคบจะตาย น้องชายผมบอกว่า เวลาเล่นมุดถ้ำทีไร เจ็บตัวทุกที ถ้ำมันเล็กและแน่นมาก แต่ก็รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เข้าไปครับ”

คำพูดของเขาทำให้ผมนึกอาย เคลวินจะพูดไทยเก่งมากไปไหม คนอะไรพูดได้โดยไม่นึกเขินบ้าง พูดมาแต่ละครั้ง หื่นได้โล่เลย หรือถนัดแต่พูดเรื่องสองแง่สองง่ามลามกนะ

“ยังไงก็ไม่ได้ครับ เพิ่งทำมาหยกๆ ผมเหนื่อยแล้ว และเรายังมีกิจกรรมอื่นๆที่ต้องทำไม่ใช่คิดแต่จะมามุดถ้ำเล่นอะไรกันแบบนี้อย่างเดียว

และถ้าหากเคลวินต้องการจะอยู่กับผม เพื่อที่จะทำแต่เรื่องซุกซนของคุณแค่นี้ละก็ ผมจะกลับบ้านแล้วนะครับ ผมคงไม่มีประโยชน์ เพราะคงสนองเคลวินไม่ได้เท่าไหร่”

ตัดสินใจปฏิเสธออกไปทั้งที่อกใจสั่นไหว กับการถูกลวนลามของประธานจอมหื่น ผมไม่ใช่เซ็กส์ทอยของเคลวิน ผมไม่มีวันให้เขาคิดถึงผมในแง่ของการระบายความใคร่แต่เพียงอย่างเดียว

ถ้าเขารักผมจริงอย่างปากว่า ก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องพิสูจน์ความรักด้วยการมีอะไรกันตลอดเวลา ยังมีวิธีอื่นอีกมากมายในการที่จะแสดงออกให้รู้ว่าเรารักใครบางคนมากแค่ไหน

พอผมพูดจบ เขาก็ปิดปากผมด้วยจูบที่หนักหน่วง มือไม้ก็กอดรัดลูบคลำผมไปทั่วกาย ตอนแรกผมเข้าใจว่าเขาทำตัวดื้อด้านเอาแต่ใจ ไม่ฟังเสียงของผม

แต่หลังจากที่เขาจูบกอดผมจนหนำใจแล้ว เขาก็ผละออก มองหน้าผม และปากที่เขาเพิ่งจูบจนมันบวมเจ่ออย่างเสียดาย

“ผมรักเคนมากนะครับ”

ท่านประธานกล่าวกับผม น่าแปลกที่เขาบอกรักผมเป็นร้อยๆครั้ง แต่ฟังทีไรก็รู้สึกวูบไหวทุกที เมื่อก่อนนี้ไม่เคยเป็น รู้สึกรำคาญเสียมากกว่า

แต่ไม่รู้ทำไม ระยะหลังๆมานี้ แม้เคลวินจะพูดกับผมด้วยประโยคเดิมๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่างใด กลับรู้สึกอบอุ่นในใจ และเหมือนว่าผมจะคอยที่จะได้ยินคำๆนี้อย่างคาดหวัง คงเป็นเพราะผมเคยชินกระมัง ก็เลยเหมือนรอว่าเขาจะพูดเมื่อไหร่

“ที่จริงผมอยากจะทำตัวดื้อรั้น ปล้ำทำให้คุณเป็นของผมตอนนี้เลย แต่ถ้าผมทำอย่างนั้น ผมก็คงได้แค่ความสุขชั่วคราว แล้วเคน ก็อาจจะเกลียดขี้หน้าผมไปตลอด ผมเลยขอหยุดแค่นี้ก่อนดีกว่า”

น้ำเสียงละห้อยละเหี่ย ราวกับคนที่พลาดอะไรแล้วเกิดความเสียดายอย่างสุดซึ้ง ผมมองหน้าหงอยๆของเคลวิน รู้สึกแปลกใจ ที่คนเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจตัวอย่างเขา ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ

เขาไม่หักหาญน้ำใจผม หรืออ้อนขออย่างหน้ามึนเหมือนเคย ดูจะตามใจผมเสียด้วยซ้ำ ท่าทางเกรงๆกลัวว่าผมจะโกรธ ไม่เคยเห็นประธานบริษัทที่มีอำนาจอยู่ในมืออย่างเขาทำแบบนี้มาก่อนเลย

หรือว่าเป็นเพราะความรักที่เขามีต่อผมอย่างล้นเหลือ เขาจึงตามใจผมทุกอย่าง ผมโหดกับเขาเกินไปหรือเปล่านะ

โอ๊ย ไม่ได้นะ อย่าใจอ่อนนะเคน แค่นี้ แกยังเจอเรื่องยุ่งยากไม่พออีกเหรอ ขืนใจอ่อนให้ท่านประธานสองหน้า มีหวังแกต้องกลายเป็นเกย์อย่างไม่ต้องสงสัย ท่าทางประธาน คงไม่ยอมปล่อยมือจากแกง่ายๆแน่

“ดีแล้วครับ อย่าหมกมุ่นให้มันมากนักนะ เก็บเรี่ยวแรงไว้ทำอย่างอื่นบ้างนะครับ คุณยังมีเวลาอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ทำวันนี้ ก็ทำวันหน้าก็ได้”

สงสัยผมจะพูดอะไรผิดไปเสียแล้ว ทันทีที่คำสุดท้ายหลุดจากปาก ก็เหมือนไปจุดประกายความคิดบางอย่างของคนเจ้าเล่ห์ เคลวินซึ่งผละจากผมไปเมื่อครู่ พลิกตัวมากอดผมใหม่ แล้วรัดแน่นจนผมแทบหายใจไม่ออก

“แปลว่า เคนยอมให้ผมทำได้อีกในคราวหน้าใช่ไหมครับ...เคนน่ารักที่สุดเลย”


TBC

----------------------

วันหน้าก็ไม่รู้ว่าจะวันไหน   :เฮ้อ:  รอกันไปใช่ป่ะพี่เคท :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-08-2008 23:20:00
แหมนึกว่าจะได้ดูฉากปีนถ้ำมุดถ้ำ 555
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-08-2008 04:49:40
 :serius2: อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 29-08-2008 06:30:49
 :m23:มารอฉากมุดถ้ำ  :m20:

ขอบคุณนะครับ และมารอตอนต่อไป ถ้าได้วัน เว้น วัน ก็ดีนะครับ เป็นกำลังใจให้

ฝากขอบคุณ คุณเคทด้วย ที่กลับมาแต่งต่อหลังจากโดนไวรัสเล่นงานเครื่องคอม ฯ  :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 30-08-2008 15:07:34
 :oni2:  ขอบคุณครับ   
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 30-08-2008 16:15:36
เห่อ ๆ เคนหลวมตัวซ๋ะแร๊ววว งานนี้ไม่รอด :a2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า บทที่ 26 (4) 28.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 30-08-2008 20:21:22
วันนี้ยุ่งจริงๆ  ทำงานหัวหมุน o2 o2  นึกว่าจะไม่ได้เข้าเน็ตซะแล้ว

จบบทที่ 26 ซะที  แล้วมันจบยังไงหว่า

--------------------------------

บทที่ 26 (5)


“แปลว่า เคนยอมให้ผมทำได้อีกในคราวหน้าใช่ไหมครับ...เคนน่ารักที่สุดเลย”

เขาระดมจูบและหอมผมที่แก้ม ผมกำลังงงอยู่ว่าตัวเองพูดอนุญาตตรงไหนเลยไม่ทันได้ระวังตัว ปัดป้องไม่ให้ถูกคุกคามทางเพศ กว่าจะนึกได้ เขาก็หากำไรจากผมไปมากพอควร

“เคลวินนี่ชอบฉวยโอกาสจริงๆนะครับ ผมชักสงสัยแล้ว ว่าธุรกิจของคุณที่ประสบความสำเร็จมาได้นี่ เป็นเพราะคุณชอบเอารัดเอาเปรียบคู่ค้าหรือเปล่า”

ค่อนว่าเขา นึกขำมากกว่าจะคิดด่าทอจริงๆจังๆ

“เปล่าครับ ผมทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่เคยเอาเปรียบคู่ค้า แต่ถ้าเป็นคู่ขาล่ะก็ไม่แน่”

พูดจบเขาก็จูบผมอีก แต่ผมนิ่งแข็งหมดอารมณ์ตั้งแต่ได้ยินคำว่าคู่ขาออกมาจากปากของเขาแล้ว นี่เห็นผมมีประโยชน์แค่นี้ใช่ไหม ในที่สุดก็พูดความคิดของตัวเองออกมา ไอ้ประธานเจ้าเล่ห์ หนอย เห็นผมเป็นอะไรกันวะ

“ปล่อยผมครับ คุณเคลวิน”

เสียงแข็งใส่เขา เคลวินยังพยายามกอดจูบผม แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์แล้ว ผมผลักเขาออกไปอย่างแรง เท่าที่สามารถจะทำได้ เขาหยุดลวนลามผม แล้วมองหน้าอย่างงงๆ

คงสงสัยว่า อยู่ดีๆ ทำไมผมถึงพูดกับเขาห้วนๆ แล้วก็ขัดขืนรุนแรงแบบนี้ ช่างปะไร ผมไม่อยากอธิบายให้คนที่เห็นผมเป็นเพียงของเล่นฟังหรอก

“ผมจะกลับบ้าน”

บอกเขาไป พลางลุกจากเตียง เคลวินผวาลุกตาม แล้วรวบเอวของผมมากอดไว้

“ไม่นะ จะกลับไปทำไมครับ ผมไม่ให้ไป”

เขาปฏิเสธ แล้วเงยหน้ามองผมอย่างงงงัน

“คุณหายป่วยแล้ว ดูแลตัวเองได้ ผมคงไม่ต้องคอยช่วยเหลือ”

ตอบไปด้วยเสียงมะนาวไม่มีน้ำ พลางแกะมือเขาออกจากเอว แต่เขากลับกอดกระชับแน่น ท่าทางเหมือนจะรู้ว่าผมโกรธ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร

“ถึงผมจะค่อยยังชั่ว แต่ผมก็ต้องการเคนนะครับ ผมอยากให้เคนอยู่ด้วย เวลาผมเป็นอะไรไปอีก เคนจะได้ช่วยเหลือผมได้”

เขาทำเสียงอ้อน พลางช้อนตาขึ้นมองผม

“ปากเก่งแบบนี้ คงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ”

ตอบกลับอย่างประชดประชัน รู้สึกหมั่นไส้เขาเหลือกำลัง

“เคนงอนผมด้วยเรื่องอะไรครับ ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า ผมขอโทษนะ ถ้าผมพูดอะไรที่ทำให้เคนไม่สบายใจ ภาษาไทยผมไม่ค่อยแข็งแรง บางทีอาจจะตีความหมายของคำพูดผิดก็ได้”

จะเชื่อดีไหมเนี่ย ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นฝรั่งมังค่า ไม่เชี่ยวชาญภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ไอ้ที่พูดคล่องปร๋อ ออกแนวหื่นๆ ตลอดเวลานี่ จะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไร สิ่งไหนที่ตีความแล้วตัวเองได้ประโยชน์ไม่ผิดใช่ไหม แต่ถ้าอันไหนพูดแล้วตัวเองถูกมองไม่ดี รีบมาแก้ตัวทันที

“ต้องเกี่ยวกับคำพูดแน่ๆเลยใช่ไหม”

เขาถามย้ำ แล้วทำท่านึก สักพัก ตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

“อ๋อ ผมรู้แล้ว เคนโกรธผมที่พูดว่าคู่ขาหรือครับ”

ถึงแม้ไม่ตอบ แต่อาการนิ่งเงียบหน้างอของผม ก็คงจะช่วยเฉลยให้เขารู้ได้ เคลวินเอามือข้างหนึ่งตบหน้าผาก แล้วหงายหน้าหัวเราะ

“ขำนักเหรอ ใช่สิ คุณเห็นผมเป็นตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้นนี่ ผมมันไม่มีดีอะไร เป็นแค่คู่ขาบำบัดความใคร่ของคุณเท่านั้นแหละ”

แหวใส่อย่างฉุนๆ ตลกนักใช่ไหมที่พุดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีได้

“ใครบอกกัน....”

เคลวินถามผมเสียงอ่อนหวาน เขารั้งร่างผมมานั่งตักเขา แล้วโอบกอดผมไว้แนบแน่น พลางกดหน้าของตัวเองเข้ากับศีรษะของผม

-----------------------
TBC   


ไว้วันจันทร์ นะ :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 30-08-2008 21:00:05
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-08-2008 21:43:56
ง้อ.............................แล้วให้รางวัลด้วยน่ะพี่เคท อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 30-08-2008 22:15:47

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด....ด เหมือนหยอดขนมครกเลย   o12

มาหยอดทีละหลุม แล้วทิ้งให้อยาก แล้วก้อจากไป อีกแล่ะ....  :serius2:

 :angry2: ไม่ยอมอ่ะ จะเอาอีกๆๆๆ   

หนุ่มเคน งอนได้ น่ารัก น่าง้อ ชิมิ คุณประธานเคลวิน อิอิ   :m32:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-08-2008 08:12:01
งอนแล้ว  :m14: นั่นไง เผยออกมาให้เห็นแล้ว  มารอวันจันทร์ว่า นายเคนจะทำยังไงเมื่อจนมุม

กับคำพูดตัวเอง :m20: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 31-08-2008 11:02:36
เคนอ่ะ พักหลังนี่ขี้งอนมากไปป่าวอ่ะ .......งอนเก่งขึ้นน่ะเรา :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-09-2008 01:28:17
 :a5: สั้นนิดเดี๊ยะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 26 (5) 30.08.08 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 01-09-2008 22:18:17

:a5: สั้นนิดเดี๊ยะ

ตั้งใจจะลงวันละนิดจิตแจ่มใสค่ะ  เพราะพี่เคทเริ่มดองอีกแล้วจะได้ไม่ขาดตอนและรอนาน


----------------------------------

ขอโทษที่มาซะดึกค่ะ  เพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน :m29:


มาต่อกันเลยดีกว่า

บทที่ 27  (แล้วจริงๆ นะ)



“ผมจะกลับบ้าน”

บอกเขาไป พลางลุกจากเตียง เคลวินผวาตาม แล้วรวบเอวของผมมากอดไว้

“ไม่นะ จะกลับไปทำไมครับ ผมไม่ให้ไป”

เขาปฏิเสธ แล้วมองผมอย่างงงงัน

“คุณหายป่วยแล้ว ดูแลตัวเองได้ ผมคงไม่ต้องคอยช่วยเหลือ”

ตอบไปด้วยเสียงมะนาวไม่มีน้ำ พลางแกะมือเขาออกจากเอว แต่เขากลับกอดกระชับแน่น ท่าทางเหมือนจะรู้ว่าผมโกรธ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร

“ถึงผมจะค่อยยังชั่ว แต่ผมก็ต้องการเคนนะครับ ผมอยากให้เคนอยู่ด้วย เวลาผมเป็นอะไรไปอีก เคนจะได้ช่วยเหลือผมได้”

เขาทำเสียงอ้อน พลางช้อนตาขึ้นมองผม

“ปากเก่งแบบนี้ คงไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกครับ”

ตอบกลับอย่างประชดประชัน รู้สึกหมั่นไส้เขาเหลือกำลัง

“เคนงอนผมด้วยเรื่องอะไรครับ ผมพูดอะไรผิดหรือเปล่า ผมขอโทษนะ ถ้าผมพูดอะไรที่ทำให้เคนไม่สบายใจ ภาษาไทยผมไม่ค่อยแข็งแรง บางทีอาจจะตีความหมายของคำพูดผิดก็ได้”

จะเชื่อดีไหมเนี่ย ถึงแม้จะรู้ว่าเขาเป็นฝรั่งมังค่า ไม่เชี่ยวชาญภาษาไทยเท่าไหร่ แต่ไอ้ที่พูดคล่องปร๋อ ออกแนวหื่นๆ ตลอดเวลานี่ จะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไร สิ่งไหนที่ตีความแล้วตัวเองได้ประโยชน์ไม่ผิดใช่ไหม แต่ถ้าอันไหนพูดแล้วตัวเองถูกมองไม่ดี รีบมาแก้ตัวทันที

“ต้องเกี่ยวกับคำพูดแน่ๆเลยใช่ไหม”

เขาถามย้ำ แล้วทำท่านึก สักพัก ตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

“อ๋อ ผมรู้แล้ว เคนโกรธผมที่พูดว่าคู่ขาหรือครับ”

ถึงแม้ไม่ตอบ แต่อาการนิ่งเงียบหน้างอของผม ก็คงจะช่วยเฉลยให้เขารู้ได้ เคลวินเอามือข้างหนึ่งตบหน้าผาก แล้วหงายหน้าหัวเราะ

“ขำนักเหรอ ใช่สิ คุณเห็นผมเป็นตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้นนี่ ผมมันไม่มีดีอะไร เป็นแค่คู่ขาบำบัดความใคร่ของคุณเท่านั้นแหละ”

แหวใส่อย่างฉุนๆ ตลกนักใช่ไหมที่พุดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีได้

“ใครบอกกัน....”

เคลวินถามผมเสียงอ่อนหวาน เขารั้งร่างผมมานั่งตักเขา แล้วโอบกอดผมไว้แนบแน่น พลางกดหน้าของตัวเองเข้ากับศีรษะของผม

“ที่พูดเมื่อกี้ แค่แหย่เล่นเป็นคำคล้องจองของภาษา ในความเป็นจริง ผมไม่เคยคิดว่าเคนเป็นคู่ขาของผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว และคำนั้นก็ไม่ได้หมายถึงเคนด้วยนะครับ.......”

น้ำเสียงของเขานุ่มนวลขณะที่อธิบายความหมายของคำพูด มือลูบไล้ต้นแขนข้างหนึ่งของผมเบาๆ ราวกับจะปลอบผมไม่ให้ขวัญเสีย

“เคนเป็นสามีของผมนะครับ ผมอยากให้เคนทำตำแหน่งนี้มากกว่าตำแหน่งคนรักชั่วคราว ผมจริงจังกับเคนมาก ผมพร้อมจะเป็นภรรยาของเคน และจะอยู่เคียงข้างคุณไปตลอด รอแต่ว่า เคนจะยอมแต่งงานกับผมหรือเปล่าแค่นั้น”

เจอเขาอ้อนด้วยเสียงอ่อนหวาน ผมก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม บางทีเคลวินก็ชอบทำให้ผมโกรธ บางทีผมก็รู้สึกกลัวเขา บางครั้งก็รู้สึกรำคาญอยากหนีไปให้ไกล แต่หลังๆมานี้ ผมกลับรู้สึกเฉยๆ เวลาเขามานัวเนียพัวพัน ท่าทางขี้อ้อน มันดูน่ารักและน่าหมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน ยิ่งนับวันผมก็ยิ่งรู้สึกดีที่มีเขามาอยู่ด้วย ไม่ได้นึกรังเกียจเขาอีกแล้ว

“เคนอย่างอนผมเลยนะครับ ผมขอโทษนะ เราดีกันเถอะ อย่าโกรธกันเลย นะนะนะ”

เขายังคงอ้อนต่อ แถมเอาหน้ามาถูๆไถๆกับหน้าผม เหมือนแมวที่มาอ้อนเจ้าของ ที่จริงผมหายโกรธเขาแล้ว ตั้งแต่ได้ฟังคำอธิบาย แต่นึกอยากแกล้งฝรั่งตัวโต ที่ชอบเอาแต่ใจ ก็เลยปฏิเสธเสียงห้วน

“ไม่..”

“เคนใจร้ายมาก”

ประธานเคลวินทำเสียงกระเง้ากระงอด จนผมนึกขำ มันช่างขัดกับรูปร่างใหญ่โตเทอะทะ และหน้าเคร่งขรึมของประธานจอมโหดเสียจริงๆ

“เคลวินเองก็เจ้าเล่ห์ เอาแต่ใจตัวเหมือนกัน ชอบพูดไม่ดีกับคนอื่นด้วย ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของใครเลยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร”

ว่าเขาบ้าง นานๆจะมีโอกาสว่าท่านประธานเสียที โดยปกติอยู่ที่ทำงานไม่กล้าว่ากลัวเขาโกรธ แต่ตอนนี้อยู่ด้วยกัน ว่าได้ ก็เขาอยู่ในฐานะเมียผมนี่นะ เอ่อ...เมียเหรอ.....?????

“ผมขอโทษนะ ถ้าสิ่งที่เคนว่าหมายถึงตอนที่อยู่ในงาน อันนั้นผมจำเป็นต้องทำ และผมก็ไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ จะด่าหรือตำหนิใคร ผมก็มีเหตุผล ไม่ใช่แค่ลุแก่โทสะนะครับ”

เคลวินแย้ง

“แต่ถ้ากับคุณนี่ มันก็อาจจะมีบางครั้ง ที่ผมเผลอเอาแต่ใจตัว และพูดไม่ดี แต่ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ เคนก็รู้ ที่ผมทำลงไป เพราะผมก็รักคุณนะครับ”

เขาทำเสียงอ้อน แล้วเอาหน้ามาซุกๆผมอีก อ้อมแขนรัดแน่นเข้า ราวกับกลัวว่าผมจะหนีหายไปไหน เขาทำให้ผมอ่อนใจกับลีลาการอ้อนของเขา

“เคนอย่าใจร้ายกับผมเลยนะครับ ให้อภัยผมเถอะ ถ้าผมพูดไม่ถูกหู ก็ขอโทษด้วย แต่อย่าเมินเฉยต่อผมนะครับ ผมคงขาดใจตายแน่ๆ นะครับ นะครับ”

อ้อนด้วยคำพูด ส่วนมือไม้ก็จนผมอดหัวเราะไม่ได้ เขาเบิกตามองผมที่นั่งขำเขา คิ้วขมวดเข้าหากัน ทำหน้างงๆ

“หัวเราะอะไรครับ ขำผมมากนักเหรอ”

“ก็...มันตลกดีนะ เคลวินนี่มีหลายอารมณ์จังนะครับ ไม่น่าเชื่อว่าประธานกับเมียของผมจะเป็นคนเดียวกัน..เอ่อ”

พอหลุดคำพูดว่าเมียผมออกไป ผมก็หยุดกึก เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าผมได้พูดคำบางคำที่ผมเองก็ไม่เคยคิดจะยอมรับมัน หวังว่าเคลวินจะฟังเพลินจนไม่ทันได้เก็บรายละเอียดคำพูดของผม

ทว่าดวงตาที่เบิกกว้าง และปากที่อ้าค้าง บนใบหน้าที่บานเป็นกระด้งด้วยความดีใจ ทำให้ผมรู้ว่ามันช้าไปเสียแล้ว เขาได้ยินมันเต็มทั้งสองรูหูเลย

“เคนครับ เมื่อกี้เคนพูดอะไรเกี่ยวกับผมนะ”

-----------------------------------------------------------
TBC

ถ้าไม่พลาดวันพุธนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 01-09-2008 22:56:27


ฮ่าๆ  :m20:  และแล้วหนุ่มเคน ก้อหลงกลคุนประธานเคลวิน จแมเจ้าเล่ห์เข้าอีกแล้ว

จะเริ่มหลุดออกมาเรี่อยๆ ชิมิเนี่ยเอิ้กๆ   ยอมรับ ว่า เป็นเมียแล้ว  คำพูดฝังตัวเองชัดๆ หนุ่มเคนเอ๋ย   :laugh:

จะรอจ่ะ..  ขอบคุณนะคะ  
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-09-2008 12:07:22
หลุดปากแบบนี้ก็เป็นเรื่องสิค่ะ สามีเคนขา
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 02-09-2008 12:35:45
หุหุหุ ยอมรับเค้าซ่ะงั้น ยอมรับเค้าแล้วอ่ะดี๊  :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 02-09-2008 13:33:45
 :m14: :m14: :m14:ฮ่าๆหมดกันหนุ่มเคนของพวกเรา
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-09-2008 16:57:12
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (แล้วจริงๆ นะ) 1.09.08 จ้
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 03-09-2008 17:15:08
 :a4:  รอลุ้นด้วยคนคับบบ   :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 03-09-2008 22:23:04
มาซะดึกอีกแล้ว   วันนี้ประชุมยันมืดยันค่ำ  กว่าจะได้กลับ :a6: :a6:


มาต่อกันดีกว่า

-----------------------------------------------

บทที่ 27 (2)

“เคนครับ เมื่อกี้เคนพูดอะไรเกี่ยวกับผมนะ”

เขาทำเสียงล้อเลียน แววตาพราวระยับ ใบหน้าฉาบฉายด้วยความสุข เขากอดผมไว้แน่น แล้วเอาจมูกมาซุกๆแถวแก้มและลำคอผม คลื่นความร้อนบางอย่างไหลผ่านจากตัวเขาเข้าสู่ตัวผมจนรู้สึกร้อนวูบไปหมด

“พูดอะไร หูฝาดหรือเปล่าครับ”

แกล้งเฉไฉ รู้สึกอายที่เผลอพูดคำนั้นออกไป จะคิดมากหรือเปล่านะ เขายิ่งชอบทึกทักเอาเองเสียด้วย สงสัยต้องคิดว่าผมยอมรับเขาเป็นภรรยาแน่ๆ

“เคนอ่ะ เมื่อกี้ผมได้ยินนะครับ คุณเรียกผมว่าเมียด้วย ยอมรับผมแล้วใช่ไหมครับ ดีใจที่สุดเลย”

ประธานตัวโตกอดผมแน่นขึ้นไปอีก พลางระดมจูบผมอย่างเมามัน พอผละออกเขาก็ยิ้มใส่ตาผม หน้าของเคลวินเหมือนยางยืดเลย เวลาจะดุ หน้ามันก็หดๆเครียดๆ เวลามีเรื่องถูกใจก็ยืดย้วยบานออกเป็นกระด้ง แล้วพอจะงอแงหน้าตาก็ย่นยู่ ดูไปก็น่ารักดีไม่ใช่เล่น

“ผมรักเคน รักมากที่สุดเลยรู้ไหม สามีสุดที่รักของผม”

เคลวินออดอ้อนออเซาะ เขาทำให้ผมรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ คำพูดปฏิเสธเขาถูกกลืนลงคอจนหมด ท่านประธานเจ้าเล่ห์ได้ชื่อว่าชอบโมเมเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว ถึงผมจะพูดอะไรออกไป เขาก็ไม่ฟังอยู่ดี ผมเลยขี้เกียจจะพูด เพราะยังไงผมก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ผมไม่รักเคลวินอย่างแน่นอน

“ง่วงจังเลย ขึ้นเตียงกันเถอะครับ”

คนป่วยเจ้าเล่ห์อ้าปากหาว จากนั้นก็ชวนผมนอนดื้อๆ แต่ผมนอนจนเต็มอิ่มแล้ว เลยไม่หลงกลเขา

“อะไรกัน เพิ่งกินข้าวเสร็จจะนอนแล้วเหรอ อ้วนตายพอดี”

“ก็ มันง่วงนี่นา”

เขาทำตาปรอย แต่ผมรู้ดี เคลวินต้องคิดไม่ซื่อกับผมอีกแน่ๆ คนบ้าอะไร เรี่ยวแรงเยอะชะมัด เล่นเอาผมปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด ถ้าถูกเขาจับกดอีกที ผมคงลุกไม่ขึ้นแน่ หื่นซะขนาดนี้คงไม่ปล่อยผมหลุดมือไปไหน แต่ถึงยังไงผมก็ต้องพยายามหนีเขาให้ได้

“งั้นเคลวินก็นอนไปก่อนได้เลยครับ ผมยังไม่ง่วง ขอนั่งเล่นสักพัก ค่อยไปนอนครับ”

“ถ้าสามีไม่นอน ภรรยาจะนอนได้อย่างไร”

เขาตอบกลับมาตาเป็นประกาย ผมล่ะอ่อนใจจริงๆ มันไม่มีกิจกรรมอื่นใดบ้างหรือไงนะ เหมือนว่าเวลาที่ผมอยู่กับเคลวิน กิจกรรมจะมีแค่ กิน นอน แล้วก็ถูกเขาปล้ำ บางทีผมก็อยากจะทำอย่างอื่นบ้าง เช่นดูทีวี หรือนั่งคุยกัน อย่างเช่นสามีภรรยาคู่อื่นเขาทำกัน

จนได้ ผมคิดวกมาเรื่องนี้อีกแล้ว หมู่นี้ คำว่าสามีภรรยา จะผ่านเข้ามาในหัวสมองผมบ่อยๆ และต้องคิดถึงเคลวินทุกที ที่เป็นแบบนี้ต้องโทษอีตาประธานหื่นนั่นคนเดียว เพราะชอบเอาแต่ปล้ำ ทำท่าหื่นใส่ผม จนผมละเมอเพ้อพกตามไปด้วย คงต้องห่างจากประธานเคลวินเสียแล้ว ไม่งั้นผมโดนครอบงำ จนถลำลึกแน่ๆ

“ผมอยากดูทีวีจะได้ไหมครับ อยากดูข่าวสารบ้านเมืองบ้าง”

เอ่ยปากถามเขา เอาตัวไปจ่อมจมอยู่หน้าจอทีวี อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้ห่างจากเคลวินก็ได้

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ”

ฝรั่งตัวโต กุลีกุจอ เดินไปเปิดทีวีที่อยู่ในห้อง แล้วเดินมาหาผมพลางยื่นรีโมทให้ ผมรับมาและแกล้งกดเปลี่ยนช่องหารายการข่าว เคลวินไม่ไปไหน ทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม และนั่งดูข่าวตาแป๋ว แถมวิพากษ์วิจารณ์ร่วมด้วย

“ข่าวต่างประเทศ บาทหลวงเป็นเกย์ เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน โดยมีการแลกแหวนแต่งงาน และมีการให้คำปฏิญาณเหมือนคู่ของชายจริงหญิงแท้”

ผู้ประกาศข่าว อธิบายถึงความเป็นมาของหัวข้อข่าวนี้ เคลวินนิ่งฟังอย่างสนใจ รวมถึงผมด้วย

“......ส่วนที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ จะเปิดให้เกย์และเลสเบี้ยนทั้งที่เป็นชาวรัฐและชาวต่างรัฐจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ตั้งแต่ 16 มิ.ย.นี้เป็น ต้นไป หลังศาลยกเลิกคำสั่งห้ามคู่รักร่วมเพศแต่งงานกัน คาดมีเกย์และเลสเบี้ยนจากทั่วอเมริกาแห่มาแต่งงานที่แคลิฟอร์เนีย ทำให้เศรษฐกิจของรัฐสะพัด มีการคาดการณ์ภายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีคู่เกย์จดทะเบียนในรัฐนี้เกือบ 2 แสนคู่ ….”

สิ้นสุดการอ่านข่าวของนักข่าวสาว จากนั้นก็ตัดเข้าโฆษณา เลยมีเวลาให้ประธานเจ้าเล่ห์ หันหน้ามาคุยกับผมได้

“ดีจังเลยนะครับ ที่ตอนนี้คนหันมายอมรับกันเยอะมากขึ้นแล้ว ผมอยากให้เมืองไทยมีแบบนี้บ้างจัง ผมจะได้แต่งงานกับเคนได้อย่างสบายใจ”

“ไม่พ้นวกเข้ามาเรื่องนี้นะครับ”

พูดเหน็บเคลวิน เขายิ้มกริ่ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่ผมพูด

“ทำไมล่ะ ผมเสียตัวให้คุณแล้วนี่นา ผมก็อยากแต่งงานให้คุณรับผิดชอบชีวิตผมบ้าง มันผิดตรงไหนกัน”
เขาถาม ทำเสียงอ้อน แต่ใบหน้ากลับดูทะลึ่งทะเล้น ท่าทางจะชินเสียแล้วกับการที่ถูกผมบ่ายเบี่ยง แต่ก็หยอดไปเรื่อย คงคิดว่าผมจะใจอ่อน ผมมองหน้านั้น แล้วตอบออกไปว่า มันผิดตรงที่เขามารักคนที่ไม่ได้รักเขาเลยแบบผม สักวันเขาจะต้องเสียใจ และผมไม่อยากให้ความหวังใดๆกับเขา เพราะกลัวว่าเขาจะคิดมาก หากทุกสิ่งทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างต้องการ

คำพูดของผมคงจะทำให้เขารู้สึกเสียใจไม่น้อย หน้าของเขาจืดจ๋อย แต่ก็เพียงครู่เดียว ก็กลับยิ้มละไม นอกจากจะตัวใหญ่แล้ว ใจก็ใหญ่ตามไปด้วย ใบหน้าของเขาฉายแววมุ่งมั่น ขณะที่พูดกับผมว่าจะต้องทำให้ผมรักเขาให้ได้

“ดูละครดีกว่า”

ผมเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากคุยเรื่องที่เข้าตัว ประธานเคลวินฉลาด ในการพูดการจา เขาชอบโน้มน้าวผู้คน จนบางครั้งผมก็เผลอคล้อยตามเขาไปบ่อยๆ

TBC

ไปก่อนน้าง่วงแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 03-09-2008 22:35:36
 :o8:  ตามาติดๆๆครับ 


 :oni2: ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-09-2008 22:46:06
 :m4: มารอตอนต่อไปว่าประธานเควิล จะมาไม้ไหนอีก  :o8: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-09-2008 23:03:09
ไม่มีทางตามเคลวินทัน ยืนยันอีกที 555
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: palpouverny ที่ 05-09-2008 03:56:48
ว้าวๆๆๆๆ
ติดตามต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-09-2008 07:30:25
อ่านก็ยังทะแม่ง เมียเสียบสามี  :a6:

รออ่านต่อนะจ๊ะ  :a1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 05-09-2008 14:14:21
เอาใจช่วยคุณประธาน กล่อมคุณสามีเคน ให้อยู่หมัด 

จนดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ เอิ้กๆ

ปล่อยให้เคนเข้าใจ ว่าเป็นสามีต่อไปอ่ะดีแย้ว ...จะได้ปล้ำง่ายๆ ฮ่าๆ :m20:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (2) 3.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 05-09-2008 20:30:09
อ่านก็ยังทะแม่ง เมียเสียบสามี  :a6:

รออ่านต่อนะจ๊ะ  :a1:

เอาใจช่วยคุณประธาน กล่อมคุณสามีเคน ให้อยู่หมัด 

จนดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ เอิ้กๆ

ปล่อยให้เคนเข้าใจ ว่าเป็นสามีต่อไปอ่ะดีแย้ว ...จะได้ปล้ำง่ายๆ ฮ่าๆ :m20:

คิดอย่างนั้นเหมือนกันอ่ะ :laugh: :laugh:

--------------------------------------------------

บทที่ 27 (จบตอน)


“ดูละครดีกว่า”

ผมเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากคุยเรื่องที่เข้าตัว ประธานเคลวินฉลาด ในการพูดการจา เขาชอบโน้มน้าวผู้คน จนบางครั้งผมก็เผลอคล้อยตามเขาไปบ่อยๆ

กดรีโมทไปมา ก็ยังไม่เจอละครที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นละครชิงรักหักสวาท และมักจะมาในรูปแบบเดิมคือ พระเอกค่อนข้างหูเบา เชื่อง่าย ตัวร้ายวันๆไม่ทำงานทำการอะไร นอกจากวางแผนยั่วพระเอก และแกล้งนางเอก

ดีหน่อยที่นางเอกพัฒนาไม่เป็นคนซื่อ และแสนดีเหมือนก่อน เพราะปัจจุบันนี้ นางเอกจะร้ายทัดเทียมกับตัวอิจฉา และเผลอๆ บางเรื่อง ร้ายกว่าเสียอีก

“เมื่อไหร่ละครบ้านเราจะพัฒนาก็ไม่รู้นะครับ มีแต่เรื่องน้ำเน่า ผมว่าเดี๋ยวนี้คนฉลาดขึ้น คงไม่มีใครโง่ ให้คนเป่าหูได้ง่ายๆหรอกครับ

โดยเฉพาะพระเอกนางเอกที่แสนจะเก่ง เป็นเจ้าของบริษัท คุมคนเป็นร้อยๆ แต่กลับต้องมาตกม้าตาย เพราะเชื่อลมปากคนนี่ มันขัดแย้งกับความเป็นจริงนะครับ”

นั่นเป็นสิ่งที่เคลวินพูดกับผม เมื่อเห็นว่าผมกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปมา เขาทำให้ผมถึงกับทึ่ง นอกจากเคลวินจะเป็นฝรั่งที่พูดไทยได้คล่องปร๋อ กินอาหารไทย รู้ธรรมเนียมวัฒนธรรมไทยอย่างดี เขายังรู้เรื่องราวเกี่ยวกับละครหรือหนังไทยจนถึงขั้นวิพากษ์วิจารณ์ได้อีก

จะเก่งเกินไปแล้ว เอาเวลาที่ไหนมาดูละครพวกนี้นะ เห็นทำงานหนักตลอด แล้วยิ่งช่วงนี้ ก็มาขลุกอยู่กับผมอีก เขาบริหารเวลาได้อย่างไร ถึงทำอะไรต่อมิอะไรได้ตั้งหลายอย่าง

“ตัวร้ายก็ร้ายจนไม่มีเหตุผลที่ไปที่มา จนไม่คิดว่าคนเราจะสามารถร้ายกาจได้ขนาดนี้ ผมไม่เชื่อว่าคนเราจะเกิดมาเพื่อเป็นคนไม่ดีหรอกครับ

มันน่าจะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่ทำตัวแย่กับคนอื่น แต่ละครไทยไม่ค่อยคลี่คลายปมนั้นให้เห็นครับ”

เขายังวิจารณ์ต่อ ผมฟังเขาพูดแล้วก็รู้สึกขำ เคลวินทำตัวเหมือนตัวเองเป็นพวกแม่บ้าน พอมีเวลาว่างหลังจากทำงานบ้าน ปรนนิบัติสามีเมื่อไหร่ ก็ดูละคร แล้วก็จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กับพวกบรรดาเมียๆด้วยกัน

“ขำอะไรหรือครับ”

เคลวินทำหน้าเหรอหรา เห็นหน้าเขาแล้วผมหยุดขำไม่ได้ นี่ถ้าบรรดาลูกน้องของเคลวินมารู้ว่าประธานรูปหล่อ โก้หรู บริหารงานเก่ง และเฉียบขาดของเขา ตอนที่อยู่บ้าน นั่งทำกับข้าว เอาใจสามี และดูละครเหมือนแม่บ้านทั่วไป พวกเขาจะว่าไงนะ

เอาอีกล่ะ ทำไมต้องคิดเรื่องสามีภรรยาขึ้นมาอีกก็ไม่รู้ อีตาประธานนี่ล้างสมองผมได้เก่งจริงๆ เขาพูดเรื่องการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันระหว่างเขากับผมบ่อยมาก จนผมเองก็ติดความคิดนี้ไปด้วย

จะพูดจะทำอะไร ก็คอยแต่จะคิดเรื่องนี้แวบเข้ามาในสมองตลอด ไม่เป็นผลดีกับตัวเองเลย ทำไงผมถึงจะไม่ต้องคิดกับเขาในแง่มุมนี้นะ

“ไม่ดูแล้วหรือครับ”

คนตัวโตถาม เมื่อเห็นผมวางรีโมทลงบนโต๊ะ ผมให้เหตุผลกับเขาไปว่า ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่สิ่งที่ผมไม่ได้บอกเขาไปก็คือ

ผมทำใจไม่ได้ ที่จะนั่งอยู่กับเขา แล้วสมองก็คิดแต่เรื่องการเป็นสามีภรรยากัน มันเหมือนว่าผมกำลังพ่ายแพ้บางสิ่งบางอย่างที่ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

“งั้นนอนดีกว่าไหมครับ”

เขาถาม และทำหน้าเหมือนคาดหวังการตอบรับจากผม ตาสีฟ้าของเขาเป็นประกายหวาน ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างประจบประแจง เฮ้อ นี่ผมไม่มีทางเลือกเลยใช่ไหมเนี่ย มันไม่มีอะไรทำเลยต้องนอนอย่างเดียวใช่ไหม

ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาคงเดาได้ เพราะผมเห็นหน้าเขาจ๋อยๆ ซึ่งเป็นอีกมุมหนึ่งที่ผมเห็นจากคนที่เป็นประธานบริษัทผู้แสนร้ายกาจ มันทำให้ผมอดสงสารเขาไม่ได้

“คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ก็ไม่มีอะไรทำนี่นา”

“ทำไมจะไม่มีครับ ถ้าเคนไม่ง่วง ผมก็มีกิจกรรมที่จะทำให้เคนทำ รับรองเคนต้องชอบแน่ๆครับ”

“อย่าได้คิดที่จะทำเรื่องนั้นนะครับ”

ผมดักคอ เพราะคิดว่าเคลวินต้องชวนผมทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างไม่ต้องสงสัย เขาทำหน้ายิ้มกริ่ม

“อะไรกัน เคนคิดไปถึงไหนกันครับ ผมไม่ได้จะชวนเคนทำอย่างว่าเสียหน่อย”

เคลวินทำหน้าเหมือนขำผม เขาเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของเขา แล้วหยิบเกมส์ครอสเวิร์ดชุดใหญ่ออกมา

“....”

อับจนถ้อยคำที่จะโต้ตอบ ไม่เคยรู้สึกว่าการหน้าแตกในครั้งใดจะน่าอายเท่านี้มาก่อนเลย ผมระแวดระวังมากเกินไปหรือเปล่านะ

“เคนคิดไปถึงไหนเนี่ย ...คิดว่าผมจะชวนเล่นกีฬาในร่มหรือครับ ผมไม่ทำหรอก ถ้าหากว่าเคนไม่เต็มใจ จะว่าไปมันก็น่าคิดนะ ผมยังไม่ทันพูดอะไร เคนก็คิดไปเรื่องนั้นแล้ว

หรือว่าที่จริงแล้วเคนคิดลามกกับผมตลอดเวลา ....สนใจผมแล้วใช่ไหมล่ะ”

คนเจ้าเล่ห์กล่าวหา น้ำเสียงยั่วเย้า ตาแพรวพราวขณะจ้องมองผม อดไม่ได้ที่จะหมั่นไส้เขา คนอะไร ปล้ำคนอื่นแท้ๆ ยังมีหน้ามากล่าวหาว่าเขาคิดมิดีมิร้ายกับตัวเองอีก

ประธานเจ้าเล่ห์ช่างเป็นคนที่หลงตัวเองที่สุดเลย
“ก็เคลวินนั่นแหละ ชอบทำให้ผมคิดอยู่เรื่อย ว่าคุณจ้องแต่จะทำแบบนั้น”

“เรื่องจุ๊กจิ๊กกัน ใช่ว่าผมจะชอบคนเดียวเสียเมื่อไหร่ เคนเองก็ชอบให้ผมทำเหมือนกันไม่ใช่หรือครับ”

เขาทำเสียงยั่วหนักขึ้นไปอีก ผมรู้สึกอาย เพราะมันเป็นเรื่องจริง เดี๋ยวนี้เวลาถูกเขาลวนลามทีไร ผมมักจะใจง่าย ไม่ขัดขืนปกป้อง ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี

ปากปฏิเสธ แต่กายมันยอมทุกที จนผมชักเริ่มสับสนตัวเอง ว่าตอบสนองเขา เพราะรัก หรือแค่เพียงใช้เขาระบายความใคร่เท่านั้น

“นอนเห๊อะ....”

ทำเสียงสูงใส่ประธานเป็นการตัดบท พูดไปก็เข้าตัว เดี๋ยวจะหน้าแตกไม่เลิก ผมลุกจากโซฟา เดินตรงไปยังเตียงนอนของเขา แล้วคลานขึ้นเตียง ไม่มีบ่ายเบี่ยง ไม่เกี่ยงงอน

ผมรู้ชะตากรรมตัวเองดี เลยไม่อยากจะเล่นตัว เพราะถึงไง เขาก็คงตามไปดึงผมมานอนด้วยจนได้ เลยไม่รู้จะขัดขืนไปทำไม

“รอผมด้วยครับ”

เคลวินร้องเรียกเสียงอ้อน เขาวางครอสเวิร์ดที่เพิ่งหยิบมาลงบนโต๊ะทำงานตามเดิม จากนั้นก็ เดินตามผมมาที่เตียง ทำท่าระริกระรื่น เขารอจนผมดึงผ้าห่ม มาคลุมตัวปิดมิดชิดถึงคอ แล้วค่อยปิดไฟในห้องที่ควบคุมจากเตียงของเขา และปิดโคมไฟหัวเตียง

พอขึ้นมานอนบนฟูก เขาก็ขยับมาจนชิดผม แล้วดึงตัวเข้าไปกอด ไหนๆ ก็หนีไม่พ้น ก็เลยตามเลย แต่น่าแปลกที่เคลวินแค่กอดผมไว้ในอ้อมแขนเฉยๆ ไม่ได้หื่นไปมากกว่านั้น

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ สามีสุดที่รักของผม”

คนเจ้าเล่ห์กระซิบบอกที่ข้างมุมปากของผม ก่อนที่จะขโมยจูบผมไป 1 ครั้ง ซึ่งเขาทำเพียงแค่นั้น แล้วก็นอนกอดผมทั้งคืน


TBC

-------------------------------

แอบเม้าท์ พี่เคทสักนิด  คือตอนนี้คอมพี่เคทตายอีกแล้ว และคาดว่าจะไม่ฟื้น  ดังนั้นพี่เคทจึงดำริจะซื้อคอมใหม่ พร้อมส่ง My wife is bigboss เข้าโหลดองอีกแล้วค่ะ

ดังนั้นถ้ามาขาดๆ หายๆ ก็อย่าว่ากันน้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 05-09-2008 21:06:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 05-09-2008 23:59:33
 :a1:  ยังคอยและหวัง 

 :L2:  พร้อมเป็นกำลังใจให้นะครับ  :oni2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 06-09-2008 00:06:18
อ้างถึง
“ทำไมล่ะ ผมเสียตัวให้คุณแล้วนี่นา ผมก็อยากแต่งงานให้คุณรับผิดชอบชีวิตผมบ้าง มันผิดตรงไหนกัน”

เค้าช่างกล้าพูดเน๊อะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-09-2008 01:22:22
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้าโหมดดองอีกแล้วเหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 06-09-2008 07:43:48
 :เฮ้อ:เอาอีกแล้วหรือ คอมพี่เคทนี่ไม่รักดีเลยนะครับ ช่วยบอกพี่เคทด้วยว่า เมื่อคอมฯ มันไม่รักดี

ก็ตัดหางปล่อยเข้าโกดังไปเลย หาเครื่องใหม่ซิง ๆ ความเร็วปูดปาดให้มันสะใจไปเลย  :m23:

ฝาก :L2: ให้ พี่เคทด้วยนะครับ ขอบคุณที่มาลงให้อ่านอย่างสม่ำเสมอ +1 ให้นะครับสำหรับผู้โพส :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 06-09-2008 12:32:52
 :m30: :m30:ห๊า!!!!ถึงขนาดต้องเข้าโหลดองเลยหรือครับ งั้นก็แย่อะดิครับ :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 06-09-2008 15:38:01



ปากบอกว่า ไม่..ไม่..ไม่..... :serius2:

แต่ใจหนุ่มเคนอ่ะไปแล้ว...(ไปหาคุณประธาณเคลวิน)....ชิมิ คะ      :laugh:

แล้ว กาย ก้อยังซื่อสัตย์ กับสัมผัส ของคุนประธานเจ้าเล่ห์อีกตะหาก  อิอิ

ทั้งใจ ทั้งกาย ก้อไปแล้ว เหลือแต่ปากนี่แล่ะ ฮ๋าๆๆ   :m20:
...........


โหลอันเก่าเต็นจนล้น ...แนะนำ พี่เคท หาโหลอันใหม่ ดอง ดีกว่าค่า เอิ้กๆ   :m20:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-09-2008 16:04:48
ลงโหลแล้ว  :a6: 

แต่ไงก็รอค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 27 (จบตอน) 5.09.08 มาแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 09-09-2008 09:32:50
เดี๋ยว  ตอนค่ำๆ จะมาลงต่อให้อีกนะคะ

ตอนนี้ขอลงสั้นๆ ไปก่อน

บทที่ 28.1

เสียงดังโคล้งเคล้งเหมือนอะไรหล่นกับพื้น ทำให้ผมต้องงัวเงียตื่นขึ้นมา ผมควานมือไปด้านข้างโดยอัตโนมัติ ก็พบว่ามันว่างเปล่า ผมใจหายวาบ ลืมตาตื่นทันที

คนที่นอนข้างๆ ผมหายไปไหน ไม่มีเงาของเคนอยู่ในห้อง เสียงน้ำก็ไม่มีให้ได้ยิน เคนสุดที่รักของผมไปไหนกัน เขากลับไปบ้านแล้ว หรือว่าลงไปข้างล่างซื้ออาหารเช้ามาให้ผมทาน

ความกังวลใจกลัวว่าเขาจะทิ้งผมให้อยู่คนเดียว ทำให้ผมรีบลุกลงจากเตียง ไม่ได้ล้างหน้าล้างตา ออกมาจากห้องทั้งที่หัวหูยังฟูยุ่งเหยิง มีเสียงดังตึงมาให้ได้ยินอีก

ผมเดินตามเสียงไปจนถึงในครัว แล้วผมก็พบต้นตอของเสียง ซึ่งทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาเพราะกลั้นไม่อยู่

ภาพของเคนที่ก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น โดยมีตะกร้าผักตกอยู่ข้างตัว ผักส่วนหนึ่ง อยู่บนตัวเขา อีกส่วนหนึ่งอยู่บนพื้นห้อง โดยมีตำราอาหารที่ผมซื้อมาเก็บไว้วางตกอยู่ไม่ห่าง รวมถึงชามที่มีของเหลวข้นเหนียว คว่ำอยู่บนตักเขา

และกระเซ็นไหลเลอะเปรอะตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงหน้าอก เสื้อเขาชุ่มด้วยน้ำขาวๆนั่น จากที่เห็นผมเดาว่าเขาคงกำลังทำอาหารเช้าเผื่อเราสองคน

“ขอโทษครับ ผมกำลังจะทำสลัด แต่เอ่อ อย่างที่เห็น ผมทำครัวคุณเปียกน้ำแล้วลื่นล้มเสียเอง เลอะเทอะหมดเลย เดี๋ยวผมเก็บให้นะครับ”

สามีของผมทำหน้าจ๋อยๆ คงรู้สึกผิดที่ทำให้ครัวสวยๆของผมกลายสภาพเป็นกองขยะชั่วคราว เขาพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ผมกดเขาให้นั่งอยู่แบบนั้น แล้วโน้มตัวลงไปจูบเขาอย่างไม่รังเกียจสิ่งสกปรกที่ติดตัวเขา

“ผมกินสลัดจากตรงนี้ก็ได้”

กล่าวจบ ผมก็เลียน้ำสลัดที่ติดตามแก้ม และใบหน้าของเขา รสชาติมันแปลกๆ ไม่อร่อยลิ้น เคนไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงๆ เขาเหมาะกับการเป็นพ่อบ้าน ที่คอยให้กำลังใจภรรยาอย่างผมเวลาทำอาหารมากกว่า

“น้ำสลัดไม่อร่อยเลยครับ แต่เวลาที่มันถูกเสิร์ฟมาบนตัวคุณแบบนี้ มันทำให้รสชาติดี กินแล้วอร่อยได้อารมณ์มากที่สุดเลยครับ”

TBC

-----------------------------
คืนนี้เจอกัน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-09-2008 09:48:03
อิอิ อยากกินสลัดขึ้นมาทันที  :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 09-09-2008 12:33:59
led by the nose เลยนะเนี่ย  หึหึหึ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-09-2008 19:35:17
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 09-09-2008 22:11:14
วุ๊ย บร๊าาา หื่นจิง ๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 09-09-2008 22:18:49

รีบมาต่อซ้าดีๆ  อย่าปล่อยให้คนฉวย ค้างคานานสิจ๊ะ  ไม่ดี ไม่ดี ฮี่ๆ  :t2:


เอิ่ม เคลวิน "ถึงน้ำสลัดไม่อร่อย...แต่หนุ่มเคนน่ะ ...อร่อยที่สุดในโลก" ชิมิ เจ้าคะ    :m20:


รอฉากหนุ่มเคนโดนหม่ำ แทนสลัด ในห้องครัวอยู่จ่ะ   :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 10-09-2008 09:15:38
 :o8: :o8: :o8:ขออีกครับกำลังหวานๆเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.1 (สั้นๆ ก่อน) 9.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 10-09-2008 11:49:40
ขอโทด   so sorry จริงๆ ค่ะ   

เมื่อคืนไม่ได้เข้า net เลย 

มาต่อกันดีกว่า :mc4: :mc4:

---------------------------------

บทที่ 28.2

“น้ำสลัดไม่อร่อยเลยครับ แต่เวลาที่มันถูกเสิร์ฟมาบนตัวคุณแบบนี้ มันทำให้รสชาติดี กินแล้วอร่อยได้อารมณ์มากที่สุดเลยครับ”

พึมพำเสียงหวานข้างๆหูเขา ผมจัดการเลียน้ำลัดบนหน้าเขาจนเกลี้ยงแล้ว และกำลังก้มลงเม้มผักกาดหอมที่อยู่แถวต้นคอของเคน เขาย่นคอ ทำท่าขนลุก เมื่อปากและลิ้นของผม สัมผัสที่ผิวอ่อนๆตรงต้นคอของเขา

“ผมนี่แย่มากๆเลย แค่ทำกับข้าว ก็ยังทำไม่เป็น แถมยังทำเละเทะอีก”

เคนโทษตัวเอง เขามักจะเป็นอย่างนี้เสมอ ขี้เกรงใจ ไม่ชอบทำให้ใครเดือดร้อน

“อย่าโทษตัวเองเลยนะ ผู้ชายอย่างเคนถูกสร้างมาให้ทำหน้าที่สามีของผม เรื่องการทำกับข้าวกับปลามันหน้าที่ของภรรยา เคนแค่คอยเอาใจช่วยผมก็พอแล้วครับ”

ผมก้มต่ำลง แล้วเลียครีมสลัดที่เลอะอยู่บนหน้าอกแน่นๆของเขา ต้องรีบเลียให้หมดก่อนที่มันจะซึมลงไปใต้เสื้อ เคนสะดุ้งนิดๆ เมื่อลิ้นผมไล้วนไปตามหน้าอกของเขา แม้จะมีเสื้อยืดบางๆกั้น ผมว่าเขาก็คงจะรู้สึกอะไรบ้าง

“ทำแบบนี้จะดีหรือครับ เคลวิน มันสกปรกไม่ใช่หรือครับ”

เคนท้วงผม แต่ฟังจากน้ำเสียงของเขา เหมือนว่าเคนไม่ได้อยากจะให้ผมหยุดชิมเขาสักเท่าไหร่ ผมเลยตีความเข้าข้างตัวเองว่าเคนพอใจ แล้วก็ลุยต่อ มือของผมดึงเสื้อยืดของเขา ขึ้นไปถึงหน้าอก จากนั้นก็ก้มลง เลียครีมสลัดที่ไหลเลอะซึมลงไปบนท้องของเขา

“ผมถึงได้ทำความสะอาดให้เคนอยู่นี่ไงครับ”

พูดจบผมก็ก้มลงดูดเม้มยอดอกของเคนที่แข็งชันขึ้นมา ใบหน้าของสามียอดรักแหงนเงย ปากห่อร้องครางหวิว

“อา.....เคลวิน...ผม...ผมไม่”

สามีสุดที่รักของผมปฏิเสธออกมาตามความเคยชิน ทว่าร่างกายเขากลับมีปฏิกิริยาตอบรับการเล้าโลมจากผม

“ทานแบบนี้ อร่อยมากๆเลยครับ”

ย้ำอีกครั้ง พลางดูดกลืนน้ำสลัดที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนอยู่บนแผ่นอก ก่อนจะลากลิ้นต่ำลงมายังเบื้องล่าง

“อือ.....”

เสียงครางแหบพร่าของเคน และลำตัวที่แอ่นขึ้น ตามปากของผมที่โลมเลียอยู่ทั่วแผ่นท้องของเขาบอกอะไรผมได้หลายอย่าง ที่รู้ๆ เคนเองก็ปรารถนาที่จะถูกผมกินไม่ใช่น้อย

“สำหรับเคนทำเป็นอาหารอะไรก็อร่อย”

ยั่วเย้าเขาเสียงหวาน ถ้าผมกลืนกินเคนลงท้องได้ ผมทำไปนานแล้ว เคนน่ารัก น่าหม่ำเหลือเกิน ช่างเป็นอาหารเช้าที่แสนถูกใจ กินสลัดผักแล้วทำให้อยากกินสลัดอื่นๆขึ้นมาแทน เคนจะว่าผมลามกไหมนะ ถ้าหากว่าผมจะขอกินสลัดที่ใจผมคิด

“ไม่ใช่แล้วครับ ผมไม่ใช่ของกินของเคลวินสักหน่อย”

เคนตอบ ท่าทางเขินอายของเขาน่ารักมากๆ ถึงปากจะพูดเหมือนปฏิเสธ แต่ร่างกายเขากลับไม่ถอยหนี พอผมเลื่อนมือไปจะปลดกางเกงเขาลง เพื่อกินสลัดอย่างอื่นบ้าง เคนก็มองจ้องผมตาเชื่อม ทำท่าระทดระทวย

“ผมทานเคนตรงนี้ได้ไหมครับ”

ขออนุญาตแต่ไม่รอฟังคำตอบ ผมกดเคนลงกับพื้นห้องครัว นอกจากน้ำที่เจิ่งนองจากการทำหกเพราะล้างผักของเคนแล้ว ครัวของผมก็ดูสะอาดเอี่ยม ไม่มีคราบสกปรกให้เห็น เพราะมีคนมาดูแลให้ตลอด สะอาดจนสามารถที่จะนอนลงไปบนพื้นห้องยังได้เลย

ปากที่เผยออ้าจะประท้วงของเคนถูกผมกดปิด ลิ้นแทรกเข้าไปในปากเพื่อลิ้มชิมรสหวาน คนน่ารักของผมลังเลใจอยู่สักพัก แต่คงทนการเล้าโลมโจมตีจากผมไม่ได้ ปากเขาก็โต้ตอบกลับ เราสองคนจึงจูบกันอย่างดูดดื่มเนิ่นนาน

มือสองข้างของเคน ถูกผมตรึงไว้ หลังจากจูบที่ปากของเขาจนหนำใจ ผมก็เคลื่อนไหวมาลิ้มชิมเนื้อตัวที่เลอะด้วยน้ำสลัดครีม มันหวานชื่นใจอร่อยบอกไม่ถูก จนผมนึกอยากจะชิมสลัดเนื้อคนรักอย่างเขาบ่อยๆ

“เมนูพิเศษแบบนี้ มีให้ผมทานทุกมื้อได้ไหมครับ”

บอกเขาเสียงอู้อี้ ตอนนี้ปากของผมกำลังดูดดุนที่คอของเขา ผมรู้ว่าถ้าดูดแรงๆ มันจะเป็นรอย หากใส่เสื้อเชิ้ตปิดไม่ดี ก็จะฟ้องให้คนอื่นได้เห็น และเคนอาจจะอาย และถูกคนที่คอยจับผิด ซักถามไม่หยุด แต่ผมก็ตั้งใจทำให้เกิดรอย อย่างน้อยก็จะได้ประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าเคนของผมมีแฟนแล้ว เผื่อว่ามีใครที่กำลังคิดจะจีบเขาอยู่จะได้ล่าถอยไปเสียโดยดี

“ทำกินเองสิครับ....”

ตอบตามความเคยชินอีกแล้ว เคนไม่รู้ตัวว่าการปฏิเสธแบบนี้ มันก็เข้าทางผมอยู่ดี

“เคนอนุญาตให้ผมทำได้ใช่ไหมครับ”

น้ำเสียงยั่วเย้าของผม คงจะทำให้เคนเริ่มคิดได้ เขาส่ายหน้าปฏิเสธ แก้มแดงก่ำ ดูน่ารักน่าหลง จนผมอดไม่ได้ ต้องจูบเขาซ้ำอีกที่ปากที่เผยอชวนเชิญให้ชิมของเขา

“คนเจ้าเล่ห์”

เขาค่อนขอดไม่จริงไม่จังนัก ตาปรอยฉ่ำเยิ้ม เวลาเคนตกอยู่ในอารมณ์พิศวาส ดูเป็นเด็กดีว่าง่ายจัง ไม่ค่อยจะออกฤทธิ์เดชให้ผมต้องลำบากใจ หรือใช้ความพยายามในการจะปล้ำเขาอย่างมากมาย เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

“ให้อภัยผมเถอะครับ ที่ผมเจ้าเล่ห์ ก็เพราะรักเคนหรอกนะ หรือว่าอยากให้ผมไปเจ้าเล่ห์กับคนอื่นล่ะ”

“ก็ไปสิครับ”

เขาตอบ อุปาทานหรือเปล่าไม่รู้ ดูเหมือนหางเสียงจะสะบัดๆเหมือนไม่พอใจ คนฉลาดอย่างผมเลยตีความเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน ว่าเขาหึง ไม่อยากให้ผมไปทำเจ้าชู้กับคนอื่น คิดแบบนี้ มันมีความสุขกว่าจะคิดลบเป็นไหนๆ อย่างน้อยผมก็มีกำลังใจ และพยายามมากยิ่งขึ้นไปอีก ใจมันคอยแต่คิดว่า อีกนิดเดียว เคนก็จะใจอ่อนให้ผมแล้ว

“ใครจะกล้าล่ะครับ มีเคนคนเดียวพอแล้วล่ะ เคนน่ารักกว่าใครคนไหนในโลกเลย น่ารักน่ากินไปทั้งตัว”
ผมจบคำพูดด้วยการอ้าปากงับเข้าที่แผ่นอกแน่นของเขา หม่ำเนื้อหนุ่มของเคนด้วยปาก แล้วเม้มเบาๆ ในขณะที่มือเลื่อนไปกุมกายแกร่งของเขา แค่นี้เคนก็ดิ้นพล่านแล้ว

“เคลวิน ...อืม....ผม....”

TBC


----------------------------

หวังว่าจะสนุก :a5:   ขอสารภาพว่า เหลือต้นฉบับอีกตอนสั้นที่จะลงในคราวหน้า ถ้าพี่เคทไม่เอาเรื่องนี้ออกมาจากโหลดอง ก็ :o


เสาร์ หรือ อาทิตย์เจอกันค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 10-09-2008 13:07:37
 :t3:>>>ชอบเรื่องนี้ครับ...ไงก็เป็นกำลังใจให้คนโพสแคนแต่งน่ะครับ

 :กอด1:

อยากอ่านต่อมากๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-09-2008 19:51:36
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-09-2008 22:34:56
ทานกันดุเดือดจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 11-09-2008 00:31:20
อ้างถึง
“เมนูพิเศษแบบนี้ มีให้ผมทานทุกมื้อได้ไหมครับ”

กินด้วยคนได้ป่าวอ่ะ....เค้าอยากกินสล๊าดดดดดดด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 11-09-2008 15:39:13
 :m25: :m25: :m25:

อย่าดองนานนะครับเด้วลงแดงตาย :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-09-2008 13:21:15
กลับมาเร็วๆ นะคะ  คู่นี้น่ารักมาก อยากอ่านๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 13-09-2008 14:23:49
 :o    ค้างคาอย่างแรง กรี๊ดดดดดดด....ด

มาต่อซะดีๆ เสาร์แล้วฮี่ๆ  :t2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.2 (มาต่อแล้ว) 10.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 13-09-2008 23:28:57
ค้างอย่างแรง มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ

 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.3 (มาแล้ว) 14.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 14-09-2008 22:56:12
มาแล้ว

มาต่อกันเลยดีกว่า
 :laugh: :laugh:


-----------------------------------------
บทที่ 28.3

“ใครจะกล้าล่ะครับ มีเคนคนเดียวพอแล้วล่ะ เคนน่ารักกว่าใครคนไหนในโลกเลย น่ารักน่ากินไปทั้งตัว”
ผมจบคำพูดด้วยการอ้าปากงับเข้าที่แผ่นอกแน่นของเขา หม่ำเนื้อหนุ่มของเคนด้วยปาก แล้วเม้มเบาๆ ในขณะที่มือเลื่อนไปกุมกายแกร่งของเขา แค่นี้เคนก็ดิ้นพล่านแล้ว

“เคลวิน ...อืม....ผม....”

จะปฏิเสธอีกล่ะสิ พ่อคนปากแข็ง น่าแกล้งนัก ผมนึกในใจอย่างมันเขี้ยว เน้นมือรูดรั้งแรงๆ บนเนื้อตัวที่แข็งตึงของเขา ลิ้นก็ไล้เลียไปทั่วแผ่นท้องเขม็งเกร็งของเคน พอคะเนว่าเขาเสียวซ่านได้ที่ ผมก็เคลื่อนต่ำลงมาตรงจุดยุทธศาสตร์ของเขา ปืนใหญ่ของเคนตั้งลำกล้อง พร้อมยิง ผมเช็คความพร้อมของมันด้วยการใช้ปากครอบงำสร้างความอบอุ่นเพื่อให้กระสุนไม่ขัดลำจะได้ยิงได้แม่นขึ้น

“อื้อ....อืม...เคล..วิน...”

เขาครางเสียงขาดห้วง มือเปะปะจะผลักผมออก แต่ความเสียวกระสันต์รัญจวนที่ผมมอบให้ คงทำให้เคนหมดแรงต้าน

ลิ้นของผมลากผ่านไปบนเนื้อตัวที่แข็งเขม็งของเคนอย่างชำนาญชาญ ที่จริงผมแทบไม่เคยทำแบบนี้กับใคร เรียกได้ว่าเคนคือคนที่ทำให้ฝีมือผมพัฒนาขึ้น ความที่อยากผูกมัดใจเคน อยากเอาชนะเขา ทำให้ผมทุ่มเทพละกำลังความสามารถเต็มที่ และยิ่งเห็นเคนไม่อาจจะอยู่นิ่งเฉยได้

ตอนถูกผมโลมไล้ครอบครองเรือนกายของเขา มันก็ยิ่งทำให้ผมได้ใจ งัดเอากลวิธีที่ไปเรียนรู้มา และคิดขึ้นเอง ปรนเปรอให้เคนมีความสุขอย่างเต็มที่ และมันก็ได้ผลแทบทุกครั้ง เคนก้นแทบไม่ติดพื้น ปล่อยให้ผมทำจนจบ และปลดปล่อยความสุขให้ผมได้กลืนกินจนหมดแทบทุกครั้ง

และครั้งนี้ก็เช่นกัน หลังจากผมเพียรพยายามทำให้ร่างกายของเคนเติบใหญ่ขึ้นสู้มือผม และจับตัวรูดรั้งรัวเร็ว ในที่สุดเด็กน้อยของเคนก็เวียนหัว และอ้วกออกมาเลอะคามือผม ปากและลิ้นจึงทำหน้าที่เป็นพนักงานทำความสะอาดให้เคนอีกครั้งอย่างเต็มใจ ทั้ง ดูดกลืนเม้มและชิมรสจนของเหลวสีขาวหมดเกลี้ยงไม่เหลือติดให้เห็น

“อ๊า.............”

เคนครวญคราง และกระตุกร่างถี่ๆ จากนั้นก็นอนสิ้นเริ่ยวแรงโดยที่มีร่างกายบางส่วนเป็นตัวประกันอยู่ในมือของผม เราต่างคนต่างมองหน้ากัน เคนยิ้มให้ผมอย่างอายๆ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ผมยิ้มตอบ ปล่อยมือจากตัวประกัน แล้วล้มลงไปนอนเคียงข้างเขา ดึงตัวเขามากอดเอาไว้ พลางกระซิบยั่วเย้า

“น้ำสลัดธรรมชาติของเคน อร่อยกว่าน้ำสลัดที่คุณลงมือทำอีกนะครับ เหมาะกับการกินร่วมกับผักได้เป็นอย่างดี รสชาติไปกันได้ดีทีเดียวครับ”

กล่าวชมเขา พลางหยิบผักที่หลงเหลือในตะกร้าผักสดที่อยู่ข้างๆตัวเคนขึ้นมากิน เคนแก้มแดงอีกแล้ว เหมือนเขาจะอายผม ทำให้หน้าตาเขาน่ารักมากขึ้นไปอีก ผมเริ่มหิวจริงๆจังๆขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อกี้ กินสลัดเป็นออร์เดิฟ คราวนี้ ขอกินเมนคอร์สเลยดีกว่า

หลังจากจดๆจ้องๆมองกันไปกันมา เพราะไม่กล้าที่จะเริ่ม แต่แล้ว ความหื่นที่มีอยู่ในใจผมก็มากกว่าความรู้สึกเกรงใจที่มีต่อสามีสุดที่รัก ด้านได้อายอด เป็นคติที่ผมจะยึดไว้ใช้ให้กับตัวเอง ในเมื่อสามีผมปากหนัก ผมก็ต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

ขืนรอให้พ่อคุณพ่อทูนหัวของผมเป็นคนเริ่ม ผมก็คงจะอดกินและต้องเหี่ยวแห้งหัวโต

คนน่ารักอยู่ใกล้แบบนี้ ไม่จัดการ ก็เหมือนว่าผมไร้น้ำยา ประธานบริษัทผู้มองกาลไกล ตัดสินใจอะไรไม่เคยผิดพลาด เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ เรื่องใหญ่ๆเผชิญมาเยอะแล้ว กะแค่เรื่องเล็กน้อย เช่นทำให้สามีหันมารักผม แค่นี้ ถ้าไม่สู้ ก็ไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าเป็นนักบริหารที่เก่งกาจได้อย่างไร

“รักผมบ้างไหม”


TBC
--------------------------


ค้างมั้ย ไม่เนอะ

แอบสงสัย  หนุ่มเคน จะตอบว่ารักหรอ
แว๊ปไปก่อนอ่ะ :oni1:  :oni1:

อาทิตย์หน้าเจอกัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.3 (มาแล้วจ้า) 14.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 19-09-2008 10:56:07
เรื่องชอบอีกแล้ว ดีจังที่มีคนเอามาโพสต์ให้ที่เวปนี้ เอาไปเลย +1  o13

ขอตัวไปอ่านอีกรอบก่อน :m32:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.3 (มาแล้วจ้า) 14.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 20-09-2008 13:58:19
ขอบคุณสำหรับ ทุก + ที่ให้นะคะ :mc4: :mc4:


มาต่อกันดีกว่า  (มีคนอ่านบ้างป่าวเนี้ย) :t3:


---------------------------------

บทที่ 28.4  NC?

“รักผมบ้างไหม”

อดไม่ได้ที่จะถาม รู้ว่าคำตอบมันคงจะไม่ได้ทำให้ผมพึงพอใจนัก แต่ผมก็หวังเผื่อฟลุ๊ค บางทีเวลาที่คนเราทำอะไรในขณะที่สติสตังค์ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อาจจะเผลอพูดสิ่งที่ใจคิดออกมาก็ได้ ทฤษฎีเข้าข้างตัวเองของผม ตีความให้ตัวเองพึงพอใจในทุกสิ่งเสมอ

“ไม่...ไม่ครับ”

นั่นไง กะแล้ว ผมต้องได้คำตอบแบบนี้ เป็นไปตามที่คิดไว้ ผมเลยไม่เสียใจสักเท่าไหร่ ทว่าคนอย่างผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆ น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน หัวใจอ่อนๆของเคน ที่เปี่ยมไปด้วยความสงสาร เห็นใจคนอื่น และซื่อสัตย์ด้วย คงจะเอนเอียงมาทางผมได้สักวัน ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ผมต้องไม่ท้อถอย ต้องพยายามจนถึงที่สุด

“แต่อย่างน้อยก็ชอบผมใช่ไหมครับ”

ถามคนน่ารัก พลางตวัดลิ้นไล้เลียบนยอดอกที่ชูชันของเขา มือก็เลื่อนลงล่าง กอบกุมแก่นกายของเขาไว้อีกครา เคนแอ่นกายขึ้น ครางฮือ...

“เคนยังไม่ตอบเลย ผมเข้าใจถูกไหมครับว่าเคนชอบผม”

ย้ำคำถามเดิมอีกครา พลางลงมือหนักแน่น ตัวประกันอยู่ในมือของผมแล้ว เคนต้องเลือกว่า จะปฏิเสธ หรือยอมรับความจริง

“อือ....ทำไม...อื้อ ....ต้องถามด้วย... สำคัญ..อืม...มะ มาก...หรือครับ...อ๊า...”

เคนยังเฉไฉ ทั้งที่พูดออกมาแทบจะไม่เป็นภาษาแล้ว ด้วยผมลงมือกับร่างกายส่วนนั้นของเขาอย่างหนักหน่วง ขยับมือรูดรั้งเป็นจังหวะ จนก้นเคนลอยตามมือของผมมา แทบไม่ติดพื้น

“อย่างน้อยๆ ผมจะได้มีกำลังใจว่ามาถูกทางไงครับ”

ไม่พูดเปล่า ผมอ้าปากงับหัวนมของเขาแล้วดูดดุนอย่างไหลหลง ตาของผมเหลือบแลไปยังใบหน้าเขา เห็นเคนนิ่วหน้า สูดปากเหมือนทานของเผ็ดร้อน

“ผม...เอ้อ...ผม...”

จะปฏิเสธอีกล่ะสิ ปากแข็งจริงๆ ไม่มีทางเสียหรอก ยังไงผมก็ต้องได้ยินอะไรจากปากของเขาที่เป็นการยอมรับว่ามีใจให้ผมบ้าง ความหวังทำให้ผมมีพละกำลังในการจะต่อสู้เพื่อให้ได้เคนยอดรักมาเป็นของผม

มือของผมขยับแรงและถี่รัว ได้ยินเสียงเคนหอบหายใจ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเสียวซ่าน ผมไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจ ใช้ปากและมือโจมตีแถวบริเวณแผ่นอกทั้งสองข้างของเคนพร้อมๆกัน

“อา....ซีด...ผม...ผม...ชะ...เอ้อ...อืม...”

ทำม๊าย ทำไม คำว่าชอบ หรือรัก นี่พูดยากนักหรือยังไง คิดแล้วขัดใจนัก เอาเถอะ อยากลองดูว่าจะปากแข็งได้นานแค่ไหน

คราวนี้ผมก้มต่ำลงไปอีก จนหน้าชิดท้องน้อยของเขา มือก็ยังกอบกุมน้องชายของเคนเอาไว้ เขามีการผงกศีรษะขึ้นมาดูผมด้วย ผมมองตอบด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้ม และในขณะที่เขามองผมอยู่ ผมก็อ้าปากครอบครองของรักของหวงของเขาไว้ในโพรงปากของตัวเอง มือก็นวดเฟ้นส่วนที่อ่อนไหวของเขากระตุ้นให้อารมณ์ของเคนเตลิดเพริศมากกว่าเดิม

โดนรุกกระหน่ำทั้งมือทั้งปากด้วยลีลาอันช่ำชองของผม เคนก็ดิ้นพล่านอย่างไม่อาจจะทนสงบนิ่งได้ไหว ร่างบิดเกร็ง สะโพกและคางเชิดสูงด้วยพายุอารมณ์ที่โหมซัด เสียงครางอือ ดังลอดออกมาให้ได้ยินจากปากที่เผยอเพียงเล็กน้อยของเขา

เห็นสภาพของเคนแล้ว ผมยิ่งมีกำลังใจ ชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อม คราวนี้เห็นทีคนปากแข็งจะพูดคำปฏิเสธออกมาไม่ได้ ว่าไม่รู้สึกหลงใหลไปกับการปรนเปรอของผม อย่างน้อยเคนก็ต้องรู้สึกละอายแก่ใจ เพราะร่างกายของเขาอ่อนไหว ง่ายดายกับผมเสียเหลือเกิน และผมก็รู้จุดอ่อนของเขาดีว่าจะกระตุ้นตรงไหนที่จะทำให้เคนคลั่ง

“เคนชอบผมใช่ไหมครับ ชอบให้ผมทำแบบนี้ด้วยใช่ไหม”

หลังจากใช้ปากดูดกลืนและเล็มเนื้อตัวของเคนน้อยจนเขาเก็บอาการไม่ไหว ต้องส่ายสะโพกร่อนตาม ผมก็ปล่อยให้มือทำหน้าที่นวดเค้นคลึงแทน แล้วเงยหน้าขึ้นถามเขา

“ไม่...ไม่....”

เคนส่ายหน้าไปมาไม่ยอมหยุด ทว่าเนื้อตัวเปิดเปลือยกับผม ไม่ปิดป้องยามถูกลูบคลำ ปากปฏิเสธ แต่ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างนี้ ต้องแกล้งเสียให้เข็ด ผมโจมตีตัวประกันไม่ยั้ง เคนแอ่นสะโพกเข้าหา ครางอื้ออึง มือของเขาที่ตั้งท่าจะผลักศีรษะผมออก เปลี่ยนมาเป็นลูบไล้และกดแนบเข้ามาร่างกายของเขา ปากแข็งแต่เอวอ่อนแบบนี้ เห็นทีจะทำให้เปลี่ยนใจมาชอบผมได้ไม่ยาก

“งั้นต้องพิสูจน์”

TBC

---------------------------

ขอพักเหนื่อย กะปฏิบัติการง้างปากหนุ่มเคนไว้อาทิตย์หน้านะคะ

 :oni1: :oni1:


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 20-09-2008 14:37:26
เคนคร๊าฟฟ ชอบ ๆ เค้าไปเห๊อะ ไม่งั้นมีขาดใจตายแน่ๆ  :laugh:
:m28:หรือว่าเคนชอบให้ทำแบบนี้หว่า??
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 20-09-2008 22:34:45
 :a5: ตั้งอาทิตย์หน้า หนุ่มเคนไม่ขาดใจตายก่อนหรือครับ  และประธานเควิลอีก ไม่เมื่อยแย้หรือครับ :m20:

ล้อเล่นนะครับ รอ ยังไงก็ต้องรอ  ขอบคุณมากนะครับที่ยังลงให้อ่านอย่างสะหม่ำเสมอ   :pig4:

ฝากขอบคุณพี่เคทด้วย  :pig4: :pig4: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-09-2008 23:15:28
อิอิ.......................อดใจรอไม่ไหวแล้นนนนนนนนนนนนนน  :jul1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-09-2008 23:29:01
รีบๆๆ มาต่อนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 22-09-2008 10:02:32
 :m25:โอ๊ยๆนี้บอกว่าไม่ยังขนาดนี้แล้วบอกว่ารักหรือชอบจะขนาดไหนกันละเนี้ยไม่กล้าคิดเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 22-09-2008 22:40:42
ค้างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 26-09-2008 03:25:33

ทำไมหนังมันครึ่งๆกลางๆ ล่ะ คิคิ ยังไม่ถึงช็อตเด็ดซ้าที   :t2:

หนุ่มเคนเสียน้ำไปสองรอบแล้วนา เอิ้กๆ    :jul1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 27-09-2008 00:16:07
หึๆๆๆๆๆ
ทำสถิติยิงลูกโทษอีกแล้ว ฮ่าๆๆ
คราวนี้หวังแรงนะเนี่ย
ดูซิว่า จะปล่อยให้หลุดมาง่ายๆหรือเปล่า :a2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 27-09-2008 21:26:03
ขอโทษทุกท่านอย่างมากค่ะ
 :m15:

จะเข้ามาขอเลื่อนโพสต์ค่ะ   เนื่องจากตอนนี้พี่เคทไปเริงร่าอยู่ที่ฮ่องกง  เนื่องจากโชคดีได้รางวัล (สรุปไปฟรี) 
ดังนั้น รอต่อไปอีก สักนิดนะคะ

 :o12: :o12: :o12:



จะมาต่ออย่างเร็วที่สุด

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.4 (NC ?) 20.09.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 05-10-2008 18:30:00
ไม่มีอะไรจะแก้ตัว


มาต่อกันเลยดีกว่า


-------------------------------------

บทที่ 28.5  (NC ? ภาคต่อ)


“งั้นต้องพิสูจน์”

บอกเขาด้วยเสียงหื่นๆ แล้วก้มหน้าก้มตาจัดการกับเรือนกายที่ผมครอบครองไว้ด้วยปากและมือ เคนดิ้นเร่า ปากก็ส่งเสียงร้องครวญคราง ทว่าผมไม่หยุดแค่นั้น ยิ่งเห็นเคนทุกข์ทรมานกับแรงปรารถนา ผมก็ยิ่งถ่วงเวลาให้เขาคลั่งมากยิ่งขึ้น อยากให้เคนตระหนักว่า เขาต้องการผมมากแค่ไหน

“เคล....ได้โปรดเถอะ....”

ใบหน้าของเคนเหยเก เมื่อผมปลุกเร้าเขาถึงขีดสุด ลิ้นของผมเลื่อนมาจ่ออยู่ตรงปากถ้ำ แล้วลากเลียพลิกพลิ้วจนฉ่ำชุ่ม ก่อนที่จะใช้นิ้วสอดเข้าไป ไล้วนเพื่อให้ขยายตัว ขาของเคนขยับกว้างออกโดยอัตโนมัต เหมือนรู้งาน

“หือ....อะไรนะครับ”

แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเขา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเคนเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว ขาของเคนเกร็งกระตุกเหมือนกำลังจะเป็นตะคริว มือกดศีรษะของผมไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้เคลื่อนไหวไปที่อื่นนอกจากบริเวณกลางลำตัวของเขา เรียวนิ้วสอดแทรกเข้าไปในเรือนผม

“อย่าทรมาน..ผมเลย”

ในที่สุดเคนก็พูดประโยคนั้นออกมา แต่มันยังไม่ชัดเจนอย่างที่ผมต้องการ ผมแทรกนิ้วเข้าไปอีกหนึ่งนิ้ว แล้วขยับไปมา ในขณะที่มือข้างที่ว่าง รวมถึงปากและลิ้น ก็โจมตีตรงบริเวณที่เป็นเสาธง และจุดยุทธศาสตร์ของเขา

“อ๊า......”

เคนดิ้นพล่าน มือสองข้างขยำผ้าปูที่นอนแน่น ผมคอยลอบสังเกตอาการของเคนไปด้วย ยิ่งรู้ว่าเขามีอารมณ์มากเท่าไหร่ ผมก็โจมตีเคนไม่ยั้ง เรียวลิ้นแทรกเข้าไปเพิ่มความรัญจวน สอดประสานกับนิ้วที่ขยับสร้างความหฤหรรษ์

“เคนต้องการผมแล้วใช่ไหมครับ”

ยั่วเย้าเอาคำตอบ เคนหน้าแดงก่ำ ตาปรือ ตอบรับแทบไม่เป็นเสียง

“อื้อ...อืม....”

“อะไรนะครับ ช่วยบอกอีกทีได้ไหม”

ถามเขาเสียงดัง อยากได้คำตอบที่ทำให้ชื่นใจ

“ได้โปรดเถอะเคลวิน อย่าทรมานผมอีกเลย ผมต้องการเคลนะครับ”

หัวใจของผมเต้นโครมครามด้วยความดีใจ แม้จะรู้ว่าเคนพูดกับผมเพราะทนต่อแรงปรารถนาไมไหว แต่ผมก็รู้สึกยินดี ที่ผมสามารถทำให้เคนต้องการผมจนได้ ถ้าหากผมสามารถผูกมัดใจเขาด้วยลีลารักอันช่ำชอง ผสมผสานกับความดีที่ผมทำให้เขา เคนก็น่าจะใจอ่อนให้กับผมในเร็ววัน

“ยอดรัก ผมรักคุณที่สุดเลยครับ”

กระซิบบอกเคนเสียงแหบพร่า หลังจากที่ผมสอดแทรกเรือนกายที่ใหญ่โตเข้าไปในช่องทางเล็กแคบของเคนแล้ว เคนไม่ตอบอะไร ได้แต่กอดผมไว้แน่น หลับตาปี๋ เหมือนว่าเขากำลังจุกที่รับร่างผมเอาไว้ภายใน ผมค่อยๆผ่อนแรงเพื่อไม่ให้คนที่ผมรักเจ็บมาก เคนยังไม่ชินกับผม ถ้าเราสองคนตกลงปลงใจอยู่ร่วมกัน เราคงมีโอกาสได้ทำกันมากกว่านี้ และเคนก็คงจะไม่เจ็บอีก

“เคนแต่งงานกับผมนะ”

เอ่ยปากขอ ขณะที่เคนกำลังดื่มด่ำอยู่ในอารมณ์พิศวาส

“แต่งได้ไง เราสองคนเป็นผู้ชายนะ”

เสียงของเคนไม่แข็งขันเหมือนเคย ทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นมาก ผมขยับสะโพกเข้าออกเป็นจังหวะ ในขณะที่ปากก็จูบซุกไซ้ที่แก้มและลำคอของเคนเพื่อหล่อเลี้ยงอารมณ์ของเขาให้ร้อนรุ่มอย่างต่อเนื่อง

“ได้สิครับ เรื่องเพศไม่มีปัญหานะ”

ผมก้มลงไปประกบปากกับเคน และมอบจูบที่ดื่มด่ำให้ ในขณะที่ท่อนล่าง ก็ยังส่งแรงลงไปไม่ยอมหยุดพัก
“อ๊า....แล้วเราจะอยู่กันยังไง”

เมื่อผมถอนปากออก เคนก็ถามขึ้นมา เขาไม่ได้สงสัยใคร่รู้ แต่มันคือคำปฏิเสธของเขา ผมขัดใจเหลือกำลัง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงแกล้งเขาด้วยการถอนกายออกไปจนเกือบสุด เคนแอ่นสะโพกตาม เหมือนเสียดาย ไม่อยากให้ผมจากไป

“ก็แบบที่เป็นอยู่ไงครับ ผมทำหน้าที่ภรรยา แล้วเคนเป็นสามี”

แก่นกายกำยำถูกกระแทกกลับไปอีกครั้ง คราวนี้แรงนิดๆอย่างตั้งใจ เคนสะดุ้งโหยง หน้าบิดเบี้ยวเหยเก

“แต่มันเป็นไปไม่ได้”

คนน่ารักของผม ส่ายหน้าปฎิเสธ แล้วพลิกเอาหน้าแนบกับหมอนแน่น

“ได้สิครับ ก็นี่ไง เราก็กำลังทำแบบสามีภรรยาเขาทำกันอยู่”

สะโพกของผมหมุนควงเพื่อให้เคนเกิดกำหนัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ได้ผล เคนโอบขาเกี่ยวไปรอบเอวผม สองแขนโอบรัดร่างผมและดึงให้แนบชิดกับเขา คลื่นความร้อนไหลเวียนผ่านร่างของเราสองคน ดูอบอุ่น อ่อนหวาน และเร่าร้อนอยู่ในที

“อื้อ...อืม..”

เคนส่งเสียงครางออกมา ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะความสุขที่ผมมอบให้หรือเขากำลังตอบรับผมกันแน่

“ตกลงนะครับ คนดี ผมสัญญาว่าจะทำให้เคนมีความสุขครับ”

ผมขยับกายดุเดือดรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เสียงเนื้อเสียดสีกันดังก้องให้ได้ยิน ความร้อนรุ่มทำให้ร่างกายทั้งผมและเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ เคนดูเซ็กซี่ยิ่งนักในสภาพที่เนื้อตัวชุ่มแบบนี้ ผมขยับเร่งแรงรุนแรงจนมีเสียงดังออกมาจากช่องทางที่เชื่อมประสานกัน

“ชอบให้ผมทำอย่างนี้กับเคนทุกวันหรือเปล่าครับ”

ขณะที่ถาม ผมก็กระแทกกระทั้นเข้าไปในกายเคนอย่างหนักหน่วงและถี่ยิบ จนคนที่อยู่ใต้ร่างผมดิ้นพล่าน คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ใบหน้าเหยเก มือเลื่อนตกลงบนที่นอน จับผ้าปูเกร็งแน่น ผมเอามือไปประกบมือของเคน และสอดนิ้วเข้าไปประสาน

“อือ ..ชะ...ชอบ ครับ”

คนน่ารักยอมรับโดยดุษฏี ผมยิ้มอย่างพอใจ

“ถ้าเคนตอบรับแต่งงานกับผม เราจะได้ทำอย่างนี้กันทุกวันยังไงล่ะ ดีไหม”

“ดะ..ดีครับ”

เขาตอบกลับมาอย่างเลื่อนลอย เคนคงเคลิบเคลิ้มกับอารมณ์พิศวาสจนเผลอพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ .....
ทว่ามันเป็นคำตอบที่ทำให้ผมดีใจอย่างที่สุด

“จริงๆนะครับ เคนจะแต่งงานกับผมจริงๆนะ”

ถามออกไปอย่างดีใจ แต่แล้วผมก็รู้ตัวว่าผมพูดผิดจังหวะ เคนปรือตามองผม และเหมือนเขาจะฉุกคิดอะไรได้ เขารีบส่ายหน้า

“ไม่ ...ไม่แต่ง....แบบนี้..ดีแล้ว”

ก็ยังดี ที่เคนไม่ได้มองว่าการอยู่กินกันแบบปัจจุบันนี้มันน่ารังเกียจ ถึงแม้ว่าจะไม่สมปรารถนา เพราะเคนไม่ยอมรับปากแต่งงานกับผม แต่แค่เขายอมรับได้ว่าจะอยู่ด้วยกันไปอย่างนี้ ผมก็ดีใจแล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องของการทำให้เกิดการยอมรับการในวงกว้าง ผมอยากให้เกียรติเคนของผม แต่ในเมื่อเขายังไม่พร้อม ผมก็อาจจะให้เวลาเขานิดหน่อย บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจได้ในวันข้างหน้า

--------------------------------------

ณ ต่อไปนี้ พี่เคทก็ส่งฟิคเรื่องนี้กลับเข้าไปสู่โหลดองอีกแล้ว เจ้าค่ะ

มีต้นฉบับเมื่อไหร่  จามาลงต่อทันนี้น้า

 :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: Joobperman ที่ 05-10-2008 21:41:41
 :jul1:  :jul1:  :jul1:
nc ตอนนี้ยาวนานเป็นเดือน คริคริ
แต่ก็ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบจ้า
น้องเคนก้อ...น่ารักจัง ปากหนักเหลือเกิน
ไม่ค่อยตามใจท่านประธานเลยนิ....
 :pig4: ที่มาต่อจ้า มอบ  :L2:   :กอด1:  น้อง minchy 
จะรอนะ รอจนพี่เคทเอาเรื่องออกจากโหลจ๊ะ อิอิ

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 06-10-2008 11:47:52
 :กอด1:ยังก็จะรอน๊าคร๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 06-10-2008 14:14:08
รอๆๆๆๆๆๆๆๆ เสมอ น๊า :oni1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 06-10-2008 14:44:42
อุตส่าห์ลุ้นฉากเรียกเลือด   :jul1:  นึกว่าหนุ่มเคน จะเคลื้อม จนตอบ เยส...ออกไป

ที่ไหนได้  ...  “ไม่ ...ไม่แต่ง....แบบนี้..ดีแล้ว”  << ฮ่าๆ   :m20:  ไม่หลงกลอีกแล้ว

เอาน่า คุนเคล  ตะล่อมบ่อยๆ เด๋ว หนุ่มเคนก้อ ตอบ เยส.. หลายๆคำแล้วเอิ้กๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 18-10-2008 22:49:40



เคลวินจังดูอบอุ่นจังเลย   :m1:

เคนปฎิเสธอ่า มีผู้ชายดีๆ อย่างงี้มาขอแต่งงาน

เสียดายแทนเคนจริ๊ง..จริง! o7







หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 25-10-2008 17:17:35
ยังปากแข็งได้อีกนะ   
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 26-10-2008 01:29:22
:m32: มาแอบดูคนปากแข็ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 27-10-2008 21:58:01
 :serius2: อย่าดองชั้นเลยอย่าดองชั้นเลย

เป็นเสียงร้องจากเคนและเคลวิน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.5 (NC ? ภาคต่อ) 5.10.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 17-11-2008 22:04:27
มาแล้วค่ะ  พี่เคทเพิ่งมาลงต่อให้  เนื่องด้วย ดองใส่โหลไว้แล้ว คอมของพี่เคทเจ๊ง

แถมพี่เคทบอกมาอีกว่า จะมาต่อตอนต่อไปวันพุธ   :mc4: :mc4:

----------------------------------------------------

บทที่ 28.6  มาแล้วจ้า


“ไม่ ...ไม่แต่ง....แบบนี้..ดีแล้ว”

ก็ยังดี ที่เคนไม่ได้มองว่าการอยู่กินกันแบบปัจจุบันนี้มันน่ารังเกียจ ถึงแม้ว่าจะไม่สมปรารถนา เพราะเคนไม่ยอมรับปากแต่งงานกับผม แต่แค่เขายอมรับได้ว่าจะอยู่ด้วยกันไปอย่างนี้ ผมก็ดีใจแบล้ว การแต่งงานเป็นเรื่องของการทำให้เกิดการยอมรับการในวงกว้าง ผมอยากให้เกียรติเคนของผม แต่ในเมื่อเขายังไม่พร้อม ผมก็อาจจะให้เวลาเขานิดหน่อย บางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจได้ในวันข้างหน้า

“ก็ได้ครับ ผมจะรอ”

ตอบพร้อมกับซุกหน้าลงที่ซอกคอของเขา และใช้ทั้งปากและลิ้นเฟ้นฟอนให้เคนเกิดกำหนัดในตัวผมมากยิ่งขึ้น

มีเสียงครางหวานดังมาจากปากน่าจูบของเคนเป็นระยะ มันราวกับเสียงสวรรค์ ทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิม พลังวังชามีเท่าไหร่ โถมทุ่มลงไปเพื่อปรนเปรอให้เคนได้เอมอิ่มในรสแห่งความสุขที่ผมมอบให้จนแทบสำลัก

ในเวลาไม่นานนักเราสองคนก็ถึงปลายทางแห่งสวรรค์ ผมกอดสามีสุดที่รักไว้แนบแน่น หายใจหอบถี่เหมือนคนที่วิ่งสุดกำลัง พอถึงเส้นชัยแล้ว เราก็หยุดยืนพัก เพื่อให้ร่างกายเรากลับคืนเข้าที่

เคนเองก็มีสภาพไม่แพ้กัน เขานอนนิ่ง มีเพียงแผ่นอกที่สะท้อนขึ้นลง กับปากที่อ้า โกยอากาศเข้าสู่ร่างกาย ผมอยู่บนตัวของเคนสักพัก จนกระทั่งร่างกายบางส่วนของเราทั้งสองคลายความตื่นเต้นลงจนสู่ปกติ ผมก็ไถลลงมานอนเคียงข้างเคนบนพื้นห้องครัว

“เลอะหมดแล้วครับ”

สามีหนุ่มของผมเปิดปากพูดเป็นคำแรก หลังจากเรามีกิจกรรมแห่งความรักด้วยกัน ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยของเขาทำให้ผมรู้สึกเป็นสุข

“เคนนอนบนพื้นได้ ผมก็นอนได้เช่นกัน ยังไงพื้นห้องนี้ ก็เป็นสวรรค์ของเราสองคนเมื่อช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมไม่รังเกียจหรอกครับ แล้วมันก็ไม่ได้สกปรกเท่าไหร่ด้วย”

ผมบอกกับเคน รู้ว่าเขามองผมในฐานะที่สูงส่ง เพราะผมเป็นคนรวย เป็นเจ้านายของเขา คงไม่อยากให้ผมลงมาคลุกอยู่กับอะไรต่ำๆ แต่ผมกลับคิดว่า เรื่องความยากดีมีจน ความต่ำต้อยใดๆ ไม่ใช่สาระสำคัญ

สำหรับผมแล้ว หัวใจที่งดงามต่างหากที่มีคุณค่ายิ่ง ผมนับถือคนที่คุณงามความดีที่เขาทำ และความซื่อสัตย์ ผมรักเคนก็เพราะเขามีทุกอย่างที่ว่ามา

เคนร่ำรวยน้ำใจมากกว่าใครๆเสียอีก ความสุขของผมคือการได้อยู่ใกล้ๆเคน เขาทำให้ผมรู้สึกว่าอยากทำดีเพื่อคนอื่น เขาทำให้ผมเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เครื่องจักรที่จะคอยผลิตเงินทุกวัน โดยไม่มีหัวจิตหัวใจ

“ผมไม่อยากให้เคนคิดเรื่องความมั่งมีหรือความยากจน เพราะผมไม่ใช่คนที่จะถือเรื่องนี้เป็นใหญ่ เราอยู่ร่วมกันมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว เคนน่าจะรู้จักผมดีพอนะครับ ว่าผมไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่าง ไม่ได้นับถือเงินตราเป็นพระเจ้า ผมอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าที่นั่นมีคุณอยู่ด้วย”

สิ่งที่ผมพูดล้วนแล้วแต่ออกมาจากใจ ผมอยากให้เคนเข้าใจว่าผมรักเขาที่ตัวเขา ไม่อยากให้เคนเอาความแตกต่างทางสังคมมาเป็นข้ออ้างที่จะทำให้เราห่างกัน รักกันไม่ได้

ที่ผ่านมาผมก็พยายามพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าผมก็ติดดิน เป็นคนธรรมดาที่สามารถกินข้าวแกงข้างถนน หรือ นอนในห้องเช่าแคบๆ ราคาถูกๆได้ การาที่ผมให้ทุกอย่างกับเคน ก็เพื่อให้เขามีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

“พูดซะยืดยาวเลย ไม่เหนื่อยหรือครับ”

เคนทำเสียงล้อๆ พลางหัวเราะ คงเห็นผมพูดมากจริงๆ ผมหัวเราะขำตามเขา แล้วย่นจมูกใส่
“เคนใจร้าย ผมแค่อยากอธิบายให้เคนเข้าใจไงครับ”

“ผมรู้ครับ ผมก็แค่คิดว่า พื้นห้องนี่มันเลอะเทอะด้วยน้ำด้วยผัก ผมทำสกปรก ไม่ได้คิดเลยเถิดไปถึงความแตกต่างทางชนชั้นเสียหน่อย ใครกันนะ ที่คิดวุ่นวายใจอยู่ตลอดเวลา”

สามีทำหน้ายิ้มขำ ทำเอาผมเก้อกระดากเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาพูด สงสัยผมจะคิดมากไปจริงๆ คนที่กังวลใจเรื่องความต่างชั้นกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาจจะเป็นตัวผมเอง เนื่องจากผมคอยแต่จะกังวลใจ ห่วงใยความรู้สึกของเคนตลอด เลยคิดว่าเขาจะอึดอัดใจกับการที่ผมทำโน่นทำนี่ให้

และด้วยความที่กลัวว่าเขาจะไม่รักตอบผม เลยต้องพยายามหาเหตุผลต่างๆ ที่จะทำให้เคนไม่ตกลงปลงใจแต่งงานด้วย เพียงเพื่อที่จะหาทางอุดช่องว่างเหล่านั้น เคนจะได้ปฏิเสธผมไม่ได้ มันเลยทำให้ผมคิดมาก และกังวลใจไปหมด

“ขอโทษครับ ผมอาจจะคิดมากไปเองจริงๆ เพราะผมกลัวนี่ครับ กลัวว่าเคนจะปฏิเสธผม เพราะผมรวยกว่า ผมเป็นเจ้านาย และ ...และ...และ...เพราะผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง”

ข้อความสุดท้าย ผมพูดออกไปเสียงเบามาก มันคือปัญหาหนักอกหนักใจผมมาตลอด ผมไม่เคยกังวลอะไรมากเท่าครั้งนี้เลย ก่อนหน้านั้น เวลาผมคบกับใคร ผมไม่เคยกังวลใจกับเพศของตัวเอง

ผมคิดอย่างเย่อหยิ่งว่าถึงผมจะเป็นเกย์ ชอบผู้ชาย แต่ผมก็ไม่เคยที่จะให้ใครมาเอาเปรียบผมโดยใช้ความรักเป็นเครื่องต่อรอง หากเขาไม่ชอบผมเพราะผมเป็นผู้ชาย ผมก็ไม่สน จะไม่เสียใจถ้าเขาจะจากไป และผมก็ยินดีที่จะคบกับคนใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าผมจะเจอคนที่เขารักในสิ่งที่ผมเป็น

ทว่าในกรณีของเคน ผมรักเขามาก อยากได้เขามาเป็นคู่ชีวิต มันทำให้ผมกลัวการถูกปฏิเสธ กลัวว่าวันหนึ่งผมจะเสียเขาไป ยิ่งเขาทำท่าเฉยเมย ไม่ยอมรับรักผม แถมมีคนที่เขาจะแต่งงานด้วยอยู่ที่บ้านนอก ทำให้ผมรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก ถ้าวันหนึ่งเขาต้องจากผมไปแต่งงานกับผู้หญิงจริงๆ ผมต้องคลั่งตายแน่ๆ

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ....”

ขณะที่ผมกำลังเริ่มวิตกจริตอีกครั้ง เคนก็พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน

“ผู้ชาย หรือผู้หญิง ไม่ใช่สิ่งที่ผมใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองของผมหรอกครับ....”

คำพูดประโยคต่อมาของสามีสุดที่รัก ทำเอาผมตาโตหูผึ่ง

“ถ้าผมจะรักใครสักคน ผมจะเลือกรักเขาที่หัวใจ มากกว่าร่างกายครับ”

น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากเสียจน มันทำให้ผมอยากจะเชื่อว่าเคนไม่ได้รังเกียจในเรื่องเพศ แล้วไม่ได้ใช้มันเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกคนรักอย่างที่เขาว่า ผมกลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ได้ยินมันจะทำให้ผมคิดหลงระเริงไปว่า เขาเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับผมบ้างแล้ว ผมไม่อยากเสียใจกับการคาดเดาผิด เพราะเคนเป็นคนจิตใจดี เขาอาจจะกำลังพูดเพื่อให้ผมเลิกกังวลก็ได้

................................................


TBC  วันพุธนะคะ :really2: :really2:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.6 (มาแล้ว) 17.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 17-11-2008 22:33:25
อร๊ากกกกกกกกกก

รอ ร๊อ รออ ต่อปายยย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.6 (มาแล้ว) 17.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-11-2008 22:57:10
ร้อนๆ จากบ้านพี่เคทเลยค่ะ



บทที่ 28.7

-------------------------------------------

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ....”

ขณะที่ผมกำลังเริ่มวิตกจริตอีกครั้ง เคนก็พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยน

“ผู้ชาย หรือผู้หญิง ไม่ใช่สิ่งที่ผมใช้เป็นเกณฑ์ในการเลือกคู่ครองของผมหรอกครับ....”

คำพูดประโยคต่อมาของสามีสุดที่รัก ทำเอาผมตาโตหูผึ่ง

“ถ้าผมจะรักใครสักคน ผมจะเลือกรักเขาที่หัวใจ มากกว่าร่างกายครับ”

น้ำเสียงของเขาดูจริงจังมากเสียจน มันทำให้ผมอยากจะเชื่อว่าเคนไม่ได้รังเกียจในเรื่องเพศ แล้วไม่ได้ใช้มันเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกคนรักอย่างที่เขาว่า

ผมกลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ได้ยินมันจะทำให้ผมคิดหลงระเริงไปว่า เขาเริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับผมบ้างแล้ว ผมไม่อยากเสียใจกับการคาดเดาผิด เพราะเคนเป็นคนจิตใจดี เขาอาจจะกำลังพูดเพื่อให้ผมเลิกกังวลก็ได้

แต่แม้จะห้ามใจตัวเองไม่ให้รู้สึกยินดีกับสิ่งที่ได้ยิน ทว่าผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลาบปลื้ม คนเราก็มีสิทธิ์ที่จะคิดให้ตัวเองมีความสุขไม่ใช่หรือ อะไรที่ทำให้เราไม่สบายใจ ก็ไม่อยากเก็บมันไว้ให้รกสมอง เลือกฟังแต่ในสิ่งที่รื่นหูดีกว่า

แล้วไอ้เจ้าความคิดที่ว่า เคนไม่ได้รังเกียจคนรักเพศเดียวกัน มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากๆ เริ่มมองเห็นโอกาสที่จะพิชิตใจเขามากขึ้น คงไม่ผิดใช่ไหมที่ผมจะคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเคนมีใจให้ผมบ้างแล้ว

“ทำไมทำหน้าตาประหลาดแบบนั้นล่ะครับ”

ผมคงจะดีใจจนออกนอกหน้า เลยอาจจะทำหน้าตาแบบคนที่มีความสุขจนล้นเหลือ ปากยิ้ม ตายิ้มอย่างลิงโลดสุดๆ แล้วมันคงจะดูตลกในสายตาเขา

“ก็ มันดีใจนี่นา ก่อนหน้านี้ เคนปฏิเสธเสียงแข็ง ว่าจะไม่มีวันรักและแต่งงานกับผู้ชายอย่างเด็ดขาด แต่มาถึงวันนี้ เสียงเคนไม่แข็งเหมือนเดิมแล้ว ผมจะแปลตามสิ่งที่ผมเห็นและได้ยินได้ไหมครับ ว่าเสน่ห์ผมแรงจนเคนเริ่มจะหลงใหลผมแล้ว”

อายอยู่นะ ที่ต้องชมตัวเองแบบนี้ แต่ช่วยไม่ได้นี่นา ความคิดที่แอบเข้าข้างตัวเองว่า เคนมีใจให้ผม ทำให้รู้สึกว่าโลกมันสดใส น่าอยู่ขึ้นเยอะกว่าเดิม ตอนนี้ความสุขที่ผมได้รับจากการได้ยินคำพูดประโยคนั้นของเขามันล้นเอ่อไปถึงคอหอยแล้ว

เคนเบะปากยิ้มให้ผม คงทั้งขำ และระอาที่ผมมักจะเข้าข้างตัวเองเสมอ ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ผมเป็นนักธุรกิจ ต้องมองหาโอกาสที่จะก้าวหน้าประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ

การทำให้เคนยอมรับผมเป็นภรรยา เป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ และผมต้องบรรลุเป้าหมายนี้ให้ได้ โดยมีเคนเป็นรางวัลสูงสุดที่ผมจะได้รับ ดังนั้นผมจะไม่มีวันยอมแพ้ หรือล้มเลิกความพยายามที่จะทำให้เขาหันมารักผมกลางครันอย่างเด็ดขาด

“เคลวินไม่เบื่อหรือครับ พูดเองเออเองแบบนี้”

น้ำเสียงที่เคนพูด ดูไม่จริงไม่จังนัก ท่าทางเหมือนเขาจะขำผมมากกว่า

“มันช่วยทำให้ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นนะครับ ถ้ารอเคนพูดเองผมคงเหี่ยวแห้งตายแน่ๆ”

แอบใส่ความน้อยอกน้อยใจลงในน้ำเสียงด้วย เคนจะได้รู้ว่าผมทุกข์ทรมานกับการรอคำว่า “รัก” จากเขามานานมากเพียงใด เคนนอนนิ่ง ไม่โต้ตอบ สักพักเขาก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วบอกว่าจะไปอาบน้ำ เพราะเหนียวตัว

เขาขออนุญาตผมใช้ห้องน้ำด้วย ผมมองค้อนเขาด้วยความหมั่นไส้ จนป่านนี้แล้ว ยังจะมาทำเป็นเกรงอกเกรงใจกันอีกทำไม ของๆผมก็เหมือนเป็นของๆเขา จะหยิบ จะใช้อะไรตรงไหน ผมก็ไม่เคยหวงห้าม

รู้สึกดีใจเสียด้วยซ้ำที่เขายอมใช้ของของผม เคนเป็นคนหยิ่งจะตาย ไม่เอาของใครฟรีๆ แถมยังขี้เกรงใจอีกด้วย เขาไม่เคยฉวยโอกาสที่ผมหยิบยื่นให้เลยสักครั้ง มีแต่ผมเท่านั้นที่ขยั้นคะยอให้เขารับ ซึ่งบางทีเคนก็ยอมทำตามอย่างเสียไม่ได้

“ที่นี่ก็เหมือนบ้านของเคนนะครับ เคนจะทำอะไรก็ตามสบายเลยนะ”

ผมบอกสุดที่รักของผม เคนแค่ยิ้มให้ผมเฉยๆ แต่ไม่พูดอะไรออกมา ผมไม่รู้ว่าท่าทีนิ่งๆของเคนนั้น เขากำลังคิดถึงเรื่องใดอยู่ อาจจะกำลังคิดเรื่องระหว่างเราอยู่ก็ได้

ผมภาวนาขอให้เคนใคร่ครวญเรื่องของเราไปในทางที่ดีด้วยเถิด ความหวังเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงใจของผม ปลุกปลอบให้ผมพยายามสู้เพื่อให้ได้เคนมาครอบครอง ผมคงมีความสุขมากหากว่าผมทำสำเร็จ

“ผมอาบด้วยคนนะ”

พอเขาลุกขึ้น ผมก็ลุกตามเขาไปด้วย เคนหันมาทำหน้าเหรอหรา คงนึกไม่ถึงว่าผมจะกล้าขอตามเขาไปอาบน้ำ แต่ผมทำเป็นมึน ไม่รู้ไม่ชี้ เดินตามเขาไปติดๆ หน้าตาระรื่น เคนส่ายหัวไปมา แต่ก็ไม่ว่าอะไร มีแต่ผมร้องฮูเล ฮ่าฮ่า ในใจ ที่เคนไม่ห้ามผม

น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน หัวใจอ่อนๆของเคนจะไปไหนเสีย ตอนนี้เคนเริ่มยอมผมหลายๆอย่างไม่โวยวายขัดขืนเหมือนเดิม อาจจะเพราะเผลอไผล หรือไม่ก็เกรงใจที่ผมดีกับเขา หรือจะคิดเข้าข้างตัวเอง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเคนเริ่มมีใจให้ผมบ้าง

แต่ไม่ว่าเหตุผลมันจะคืออะไร มันก็ทำให้ผมเป็นสุขอย่างที่สุด ผมเลยไม่พยายามจะพูดอะไรให้เคนฉุกคิดอีก ทำเนียนๆ บื้อๆไป คงต้องอาศัยเวลาสักพักถ้าหากจะเปลี่ยนหัวใจของเคนให้หันมารักผม

เราอาบน้ำด้วยกันเนิ่นนาน แน่นอนว่า ห้องน้ำไม่ใช่เป็นสถานที่ชำระล้างร่างกายอย่างเดียว แต่มันเป็นสถานที่สำหรับบอกรักเคนอีกด้วย ใครจะอดใจไหว เมื่อได้เห็นร่างเปลือยของคนที่เรารักอยู่ตรงหน้า แถมอยู่ในสภาพที่ยั่วตายั่วใจซะขนาดนั้น

ในท้ายที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นล่วงเกินเคนอีกจนได้ และเป็นอีกครั้งที่เคนยินยอมพร้อมใจ ไม่ขัดขืนมากมาย แม้จะแอบเหน็บผมว่า หื่นไม่เลือกเวลา แต่พอผมปลุกเร้าเขาจนอารมณ์เตลิด เสียงบ่นของเคนก็เปลี่ยนมาเป็นเสียงครางแทน

สายน้ำที่เย็นฉ่ำ ไม่สามารถดับไฟรักของเราให้มอดลงได้เลย หากไม่เป็นเพราะเราต้องมีภารกิจอื่นๆที่ต้องทำ ผมคงไม่ปล่อยให้เคนออกจากห้องน้ำอย่างแน่นอน จะกักขังเขาไว้ในนั้น และร่วมรักกับเขาทั้งวัน อยากบอกเคนด้วยกายและใจว่าผมรักเขามากเพียงไหน


--------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 19-11-2008 23:46:03
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:


มาต่อแล้วววว


 :man1: :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: jowchaykob ที่ 20-11-2008 00:05:41
 :a5: หื่นไม่มีที่ ติ ครับ
มาจนถึงบัดนาว กะผม ยัง งง ใคร เป็น สามี กันแน่ ครับ :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 20-11-2008 12:27:53

จะว่าไปหนุ่มเคนก้อใจอ่อนลงไปเยอะแล้วนะ

ตะล่อมไปเรี่อยเควิล เด๋วหนุ่มเคน ก้อยอมเองแล่ะ อิอิ :z1:

ใช้ร่างกายตะล่อมบ่อยๆ หนุ่มเคนจะได้ชิน ฮ๋าๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 20-11-2008 12:44:04
:impress2: ใช้ร่างกายตะล่อมทำให้ชิน เออน่ะ ใ้ช้ได้ๆ  :jul3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 21-11-2008 06:55:49
แงงานกันนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 21-11-2008 09:32:33
  :-[ในที่สุดหนุ่มเคนก็ใจอ่อนแล้วหวังว่าคงไม่มีอะไรให้บอสของเราเศร้าหรอกน๊า :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 28.7 (ร้อนๆๆ) 19.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 21-11-2008 21:16:39



บทที่ 29

--------------------------

"เคนจะกลับแล้วหรือครับ”

ผมนั่งมองเคนที่แต่งตัวเตรียมจะกลับบ้านด้วยสายตาเศร้าสร้อย แม้อยากจะให้เคนอยู่กับผมที่เพนเฮ้าส์ใจจะขาด แต่ผมก็ไม่อาจจะรั้งตัวเขาไว้ได้

เคนจำต้องกลับบ้านหลังจากที่หายมาหลายวัน อีกทั้งวันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงานตามปกติ หากมีคนเห็นเขาปรากฏกายขึ้นที่บริษัทแต่เช้า คนอาจจะสงสัยเอาได้

ตัวผมไม่แคร์เลย หากเคนจะถูกจับได้ว่ามาอยู่กับผม เพราะอยากจะประกาศตัวตนของเคนในฐานะสามีของประธานบริษัท แต่การที่พนักงานคนหนึ่งจะข้ามขั้นจากลูกจ้างชั่วคราว มาเป็นสามีของเจ้านายภายในชั่วคืน อาจจะทำให้เป็นที่ครหานินทา

ผมรักเคนมากเกินกว่าที่จะทำร้ายเขาด้วยความเห็นแก่ตัว อยากให้เคนเติบโตก้าวหน้า สร้างตัวเองให้สง่าภาคภูมิด้วยความสามารถของตัวเอง เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะไม่มีใครว่าสุดที่รักของผมว่าใช้ร่างกายไต่เต้าสู่ความสำเร็จ ชีวิตเขาจะได้ไม่ต้องมัวหมองอื้อฉาว หนทางรักของเราจะได้ราบรื่น

“ผมเป็นห่วงบ้านครับ”

นั่นคือคำตอบที่เคนให้ผม ห้องเช่าเล็กๆแคบๆที่เขาเรียกว่าบ้าน เป็นสิ่งที่เขากังวลนึกถึงตลอด ไม่ได้เป็นเพราะสมบัติที่เขาเก็บไว้ในนั้น เพราะมันแทบจะไม่มีข้าวของอะไรที่จะให้ห่วงได้เลย

แต่ความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความภาคภูมิใจที่เขาเช่ามาด้วยน้ำพักน้ำแรงมากกว่า ที่ทำให้เขาอยากกลับไป

ที่เพนเฮ้าส์ที่เราอยู่ด้วยกันตอนนี้ มันเป็นของผม เคนคงรู้สึกอึดอัดที่ต้องมาอยู่ในฐานะผู้พักอาศัย มันไม่เหมือนห้องเช่าของเขาเอง ที่เขาจะสามารถทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

แม้ว่าผมจะให้สิทธิ์เขาเต็มที่ในการจะหยิบจะจับ จะอยู่จะกินตามสบาย แต่มันก็คงไม่เหมือนบ้านของเขาเอง

ยิ่งนานวันไป ผมก็ประทับใจในตัวของเคนมากยิ่งขึ้น สุดที่รักของผม เป็นคนที่เจียมเนื้อเจียมตัวยิ่ง ไม่เห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ ไม่หลงระเริงกับสิ่งที่ได้มาง่ายๆ มีทีท่าอึดอัดใจด้วยซ้ำกับของที่ได้มาฟรีๆ ไม่ได้หามาเอง


เพราะเขาเป็นอย่างนี้เลยทำให้ผมรักเขามาก และคิดจะฝากชีวิตไว้กับเขา เชื่อมั่นว่า ถ้าเราได้อยู่ด้วยกัน เคนจะทำให้ผมมีความสุข

และไม่ต้องมานั่งระแวง ว่าเขาจะสูบเลือดสูบเนื้อผมจนหมดตัว ความหยิ่งที่เขามี จะทำให้เขามุมานะสร้างตนจนประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องอาศัยบารมีของผม

“อยากไปกับเคนด้วยจังเลยครับ”

บอกออกไป รู้สึกใจหวิวๆ เมื่อจะต้องจากกัน ทั้งที่รู้ว่าเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมก็ต้องเจอเขาในที่ทำงาน แต่ผมก็ยังอยากจะอยู่กับเขาอยู่ดี ผมคงรักเขามาก เลยรู้สึกว่า เวลาที่อยู่ด้วยกันมันไม่เคยพอสำหรับผมเลย อยากอยู่กับเขาตลอดไป ไม่อยากพรากจากเขาแม้สักวินาที

-------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 21-11-2008 21:44:56
^
^
^
^
ตามๆๆๆๆๆๆ อ่านแล้วสงสาร Boss  :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 21-11-2008 22:06:04
คุนประธาน ขี้อ้อนขึ้นกว่าเดิมอีกนะเนี่ย
ติดเคนหนึบหนับ
ไม่อยากจะห่างหนุ่มเคนแม้แต่ วินาทีเดียวเลยจิ อิอิ :impress2:

พากลับบ้านไปด้วยเลยเคน คุนภรรยาออกจาน่าร๊ากกขนาดนี้
แต่ความหื่นนี่...ทะลุเพดานไปแล่ะเอิ้กๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-11-2008 22:57:57
เคนคือสามีที่โดนกระทำ  :z1: ยังไม่เห็นเคนได้กระทำกลับเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Akiizz ที่ 22-11-2008 05:48:58
มาต่อไวๆนะคับบบ


แล้วคุนเคนก้เห้อ  สามีหนอ ทำไมโดนอยู่ฝ่ายเดียวหล่ะ


หึหึ


รอต่อปายคับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 22-11-2008 06:30:26
 o13 เยี่ยมอ้อนเข้าไว้เป็นภรรยาต้องรู้จักอ้อนเพื่อสิ่งที่อยากได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-11-2008 06:52:34
ออดอ้อนกันเข้าไว้ ท่านประธาน ฯ ยังไงซะ

ตอนนี้หัวใจหนึ่งใน สี่ ของเคน คงแบ่งไว้ให้แล้วละ

พยายามต่อไปนะ เอาใจช่วย

ขอบคุณนะครับที่ยังคงส่งต่อความสุขมาให้กัน

ขอบคุณ คุณเคท ที่ยังไม่ลืมเพื่อนเก่า ๆ ในเล้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-11-2008 10:36:23
ท่านประธานพยายามต่อไป สู้ๆๆๆ  สามีใจอ่อนเยอะแล้ว ฮิ้วววววววววว

ขอบคุณนะคะ  รอตอนต่อไปนะคะ มาเร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 22-11-2008 11:47:39
 :laugh: ท่านประทานเคลตามหมุ่นเคนกลับบ้านมีหวังหมุ่นเคนของเราไปทำงานไม่ไหวแน่ๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 29 มาแล้ว 21.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: kamjaa ที่ 22-11-2008 17:31:48
 :z2: :z2: :z2: :z2:

   :-[ อดใจไม่ไหว ขอเซิ้งรอ :-[

       สนุกมากค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.1 มาแล้ว 22.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-11-2008 22:56:04

บทที่ 30.1  มาแล้วค่า

------------------------------------------


“เคลวินอยู่ที่นี่ดีแล้วครับ ที่ห้องเช่าผมมันไม่ค่อยสะอาด เดี๋ยวเคลวินจะไม่สบายอีก”

น้ำเสียงของเคนแฝงแววห่วงใย เขาไม่ได้ประชดประชัน หรือทำเสียงแบบคนที่รู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า เพื่อเรียกร้องความสนใจ อยากได้อะไรจากผม

แต่มันมาจากความกังวลต่อสุขภาพ เพราะผมเพิ่งหายไข้ เคนโทษว่าห้องของเขาไม่สะอาด มีเชื้อโรค ความเป็นอยู่ไม่สบาย ทำให้คนที่เคยชินกับสิ่งแวดล้อมดีๆ มาติดโรคจนป่วยเข้า แล้วก็โทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผมติดหวัดด้วย

ซึ่งไม่เป็นจริงสักนิด ผมเต็มใจที่จะอยู่กับเขา แม้ว่าจะติดโรคภัยไข้เจ็บจากเขาก็ตาม เพราะผมรู้ว่า ในท้ายที่สุด ผมก็จะหายไข้ เพราะได้พยาบาลน่ารักอย่างเขามาดูแล

“ถ้างั้นทำไมเคนไม่ย้ายมาอยู่ที่นี่กับผมล่ะครับ เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอด”

แม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าไม่มีทางที่เคนจะย้ายมาอยู่กับผม ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ผมก็ยังอยากอ้อนเขาอยู่ดี

“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวเคลวินจะเสียหาย”

คำพูดของเขาทำให้ผมขอบตาร้อนผ่าว ดูสิ แค่อยู่ใกล้ๆ เคน ได้รับรู้ถึงความห่วงใยที่เขามีต่อผม

มันทำให้คนที่เข็มแข็ง เด็ดขาดอย่างผม กลายเป็นคนอ่อนแอ บ่อน้ำตาตื้นขึ้นมาง่ายๆ มันจะดีมากๆเลย หากว่าเคนจะพูดเพราะรักและห่วงใยผมในฐานะคนรักจริงๆ ไม่ใช่เกรงใจในฐานะเจ้านาย

“ผมเข้าใจครับ”

และนั่นเป็นคำตอบของคนที่ไม่รู้จะพูดอะไร เข้าใจเขาทุกอย่าง ไม่อยากดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเอง การที่เคนยอมมาอยู่ด้วยกับผมหลายวัน ก็มากพอแล้ว ถึงผมอยากจะทำอะไรตามใจตัวเอง ไปอยู่กับเขาที่ห้องเช่า

แต่เมื่อคำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา หากมีคนเห็นเราสองคน ผมก็จำต้องตัดใจ อดเปรี้ยวไว้รอกินหวานดีกว่า ยังพอมีเวลาที่จะทำให้เคนเปลี่ยนใจมารักผม

ช่วงนี้คงต้องทำตัวดีๆ ไม่ดื้อ หรือเอาแต่ใจ สามีจะได้ในอ่อน ยอมรับรักผมในเร็ววัน ถึงตอนนั้นแล้ว ผมคงไม่ต้องมานั่งอ้อนวอนให้เขามาอยู่กับผมอีกต่อไป เพราะเราคงอยู่ด้วยกันแล้ว

“ถ้างั้นกลับบ้านดีๆนะครับ”

สิ่งที่ทำได้คือยืนส่งเขาที่หน้าประตูลิฟท์ แล้วยืนมองเขาตาละห้อย

“พรุ่งนี้อย่ามาสายนะครับ...ผมคิดถึง....”

หยอดด้วยคำอ้อน นึกห่อเหี่ยวใจที่ต้องอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ตามลำพัง เมื่อก่อนเคยชอบใจที่ได้อยู่ที่นี่ พ่อแม่ขอร้องให้กลับไปบ้านบ้าง ผมก็ไม่ยอมกลับ เพราะเบื่อกับความวุ่นวายของคนที่บ้าน และไม่อยากตอบคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานเสียที

มาอยู่ที่นี่ ผมมีโลกส่วนตัวของตัวเอง อยู่ได้โดยไม่เหงาหรือเบื่อ แต่ตั้งแต่ได้รู้จัก และรักเคน ผมกลับกลัวการอยู่คนเดียว นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่า ผมจะผ่านค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไร ในห้องที่มีแต่กลิ่นไอของเคน ผมคงนอนไม่หลับแน่ๆ เพราะคิดถึงเขาทั้งคืน

“จะพยายามครับ”

เคนยิ้มให้ผม ก่อนจะกดลิฟท์ลง ผมเอามือแตะปากตัวเอง แล้วยื่นส่งให้เคน ก่อนที่ลิฟท์จะปิดลง ผมเห็นเคนยิ้มออกมาด้วยความขำ ยิ้มที่ทำให้ผมใจละลาย


เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังขึ้น ทำให้ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอน ไม่มีการงัวเงีย หรือง่วงเหงาหาวนอนแม้แต่น้อย ที่จริงเหมือนผมเตรียมตัวจะตื่นอยู่ตลอดเวลา ใจจดจ่อที่จะไปทำงานแต่เช้า

หลังจากกลับมาถึงบ้านเมื่อคืนนี้ ผมปัดกวาดเช็ดถูบ้าน แล้วก็ขึ้นมานอนบนเตียง ตั้งใจจะนอนหลับพักผ่อน ทว่าไม่อาจจะข่มตาลงได้ มันรู้สึกแปลกๆ

ห้องแคบๆ ที่ผมเคยนอนหลับเป็นตายเนื่องจากเหนื่อยล้ากับงานในทุกวัน คราวนี้มันกลับดูโล่งและโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่พื้นที่มันไม่ได้กว้างขึ้น กลับแคบลงมากกว่าเดิมด้วยของที่เคลวินนำมาบรรจุลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผม

เตียงที่เคยนอนเป็นประจำ แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา มันดูกว้างจนผมพลิกไปมากระสับกระส่ายทั้งคืน รู้สึกหนาวจับใจ ทั้งที่ห้องผมไม่มีแอร์ แถมอากาศภายนอกก็เย็นสบาย แถมไม่ใช่ฤดูหนาวด้วย แต่ทำไมผมรู้สึกเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก จนต้องห่มผ้าห่มนอนทั้งคืน

พอไม่หลับ ก็เริ่มคิดอะไรไปฟุ้งซ่านเรื่อยเปื่อย คิดเรื่องครอบครัว เรื่องพ่อแม่ เรื่องงาน และในท้ายที่สุดก็มาจบลงที่เรื่องเจ้านายที่ชอบมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตของผมจนปั่นป่วนไปหมด รู้สึกรำคาญในบางเวลา แต่บางครั้งก็รู้สึกดีที่มีเขาอยู่ด้วย

เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยรู้สึกกลัวเคลวินเหมือนเมื่อก่อน อยู่ด้วยกันตามลำพัง ผมสามารถวางตัวได้เป็นธรรมชาติขึ้น เขาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมน่ารักขี้อ้อน จนไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งร่างยักษ์ ที่เข้มงวดดุดันอยู่ตลอดเวลา จะมีมุมน่ารักๆกับเขาก็เป็นเหมือนกัน

แค่นึกชื่อของเคลวิน ร่างกายของผมก็ร้อนซู่ขึ้นมา เหมือนมีไฟฟ้าไหลวนอยู่ในกาย อบอุ่นอย่างประหลาด ผมกอดตัวเองไว้ ใจก็พลันคิดไปถึงอ้อมกอดของคนตัวใหญ่ที่โอบกอดผมไว้ทั้งคืน และได้ตระหนักว่า การที่ผมรู้สึกว่าเตียงนอนมันกว้าง ทั้งที่ความจริงมันแคบ ก็เพราะคนตัวใหญ่ที่เคยนอนเบียดผมอยู่ทั้งคืนไม่อยู่ในห้องนั่นเอง

ช่วงเวลาที่เคลวินมาอยู่กับผม ห้องที่เล็กอยู่แล้วกลับคับแคบมากขึ้น ที่จะเดินก็ไม่มี แล้วไหนจะบรรดาข้าวของที่เขาหาซื้อมาให้ เพื่อให้ผมสบายขึ้นอีก มันเกะกะไปหมด จนผมรู้สึกอึดอัด พยายามผลักไสเขาให้กลับไปบ้านตัวเองอยู่ตลอด เพราะไม่ชินกับการมีคนมาช่วยแย่งอากาศหายใจ ทว่าพอกลับมายังห้องที่ว่างเปล่า ไม่มีเคลวินมาคอยนัวเนียชิดใกล้ ห้องมันกลับใหญ่ขึ้นมาจนผมรู้สึกกลัว

โดยที่ไม่รู้ตัว เคลวินก็กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปเสียแล้ว จากเมื่อก่อนที่ผมคิดว่าเขาเป็นส่วนเกินของชีวิต เป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ และพยายามขจัดออกไป มันกลับกลายเป็นว่า เขาเป็นความคุ้นเคยของผม เวลาเขาไม่อยู่ ก็ห่วงหาอาลัย อยากให้วันเวลาที่อยู่ด้วยกันกลับคืนมา อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน ผมคงไม่ได้กำลังรักเคลวินอยู่หรอกนะ

พอคิดว่าตัวเองอาจจะมีใจให้เคลวิน ผมก็รู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะรักผู้ชาย ถึงแม้ตอนนี้ความรู้สึกผมจะเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ไม่ได้รู้สึกรังเกียจคนที่รักเพศเดียวกัน ทว่าผมก็ยังนึกไม่ออกว่า หากตัวเองต้องแต่งงานกับผู้ชายมันจะเป็นอย่างไร

นึกถึงคำพูดของตัวเองที่พูดกับเคลวิน หลังจากมีอะไรกัน ผมก็นึกอายขึ้นมา เคลวินจะเข้าใจเอาเองหรือเปล่าว่า ผมพูดเปิดทางให้กับเขา ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่ด้วย ป่านนี้ไม่ดีใจยกใหญ่ไปแล้วหรือ คงคิดว่าผมมีใจให้ แล้วคำพูดของผมมันก็ชวนให้คิดไปเช่นนั้นเสียด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ให้ความหวังอะไรเคลวินเลยแม้แต่น้อย แค่ตอบไปตามความรู้สึกของตัวเองเท่านั้น


--------------------
TBC

 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.1 มาแล้ว 22.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 23-11-2008 08:32:39
 :3123: จองที่ไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.1 มาแล้ว 22.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 23-11-2008 09:44:17
 :-[รักเค้าแล้วละซี กิ๊วๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.1 มาแล้ว 22.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 23-11-2008 11:10:13
 :-[ :-[ :-[


รักเค้าไปเถอะ

><
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-11-2008 21:59:03

30.2   มาแล้ว มาแล้ว
---------------------------------


นึกถึงคำพูดของตัวเองที่พูดกับเคลวิน หลังจากมีอะไรกัน ผมก็นึกอายขึ้นมา เคลวินจะเข้าใจเอาเองหรือเปล่าว่า ผมพูดเปิด

ทางให้กับเขา

ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งชอบคิดอะไรเข้าข้างตัวเองอยู่ด้วย ป่านนี้ไม่ดีใจยกใหญ่ไปแล้วหรือ คงคิดว่าผมมีใจให้ แล้วคำพูดของ

ผมมันก็ชวนให้คิดไปเช่นนั้นเสียด้วย ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมไม่ได้ให้ความหวังอะไรเคลวินเลยแม้แต่น้อย แค่ตอบไปตามความ

รู้สึกของตัวเองเท่านั้น

ยังจำได้ถึงหน้าตาที่แสดงออกถึงความดีอกดีใจของเคลวิน เขายิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงหู ตาสีฟ้าที่มองมาหวานเยิ้ม ผม

เห็นความรักและหลงใหลในสายตาคู่นั้นที่มองมา มันทำให้ผมร้อนวูบไปทั้งตัว น่าประหลาดที่สายตาของผู้ชายคนหนึ่งทำ

ให้ผมหวั่นไหวได้ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตราย เหมือนว่าผมกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงชีวิต ให้กลายเป็นใครอีก

คนที่ผมไม่อยากเป็น

ผมต้องต่อสู้กับความคิดของตัวเองจนนอนตาค้างไปทั้งคืน ภาพของประธานเจ้าเล่ห์ตามมาหลอกหลอนผมตลอดเวลา ผม

พยายามมองไปรอบๆห้อง เพื่อให้ตัวเองไม่จดจ่ออยู่กับเรื่องของเขามากเกินไป แต่นอกจากจะไม่ช่วยให้เลิกคิดได้แล้ว ผม

กลับเห็นภาพของเขาอยู่แทบจะทุกๆมุมในห้อง

ไม่ว่าจะเป็นที่โต๊ะกินข้าว ที่หน้าเตาไฟ ยามที่เขาทำอาหารให้ผม บนพื้นที่เรานั่งกินข้าวด้วยกัน หรือแม้แต่บนเตียง ผมก็ยัง

เห็นร่างของเขาอยู่ใกล้ๆ ต้องยื่นมือออกไปเพื่อจับดูว่าตาผมฝาดหรือไม่ ก็พบว่ามือของผมแตะต้องเข้ากับอากาศธาตุ

ไปๆมาๆก็นึกโกรธคนเจ้าเล่ห์ขึ้นมา อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำไมเขาต้องมาสร้างความวุ่นวายในชีวิตของผมด้วย ผมเคยอยู่ของ

ผมดีๆ อดมื้อกินมื้อบ้าง แต่ผมกลับมีความสุข พอมาเจอเคลวิน ผมกับพบทั้งความสุขและความทุกข์ ทำอย่างไรผมจะหลุด

พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่นี้ไปได้นะ ผมพยายามหาคำตอบให้ตัวเองในใจ

เสียงนาฬิกาปลุกที่ผมตั้งเอาไว้ทำให้ผมหลุดจากความคิดคำนึงถึงคนเจ้าเล่ห์ ผมรีบลุกขึ้น ฉวยผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่เคลวิ

นซื้อมาให้ แทนที่จะเป็นผ้าขาวม้าผืนเก่าที่เคยนุ่ง นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่เคลวินได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม เขาซื้อข้าวของ

มากมายมายัดเยียดให้ผมใช้ โดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ แรกๆผมก็ปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาหวังดีที่มองมา ก็ทำให้ผมใจอ่อน ไม่

กล้าหักหาญน้ำใจเขา ยอมใช้ของที่คนเจ้าเล่ห์ซื้อให้ ใช้ไปใช้มาก็เพลินจนกลายเป็นความเคยชินใหม่

ผมมองผ้าในมือด้วยความรู้สึกหลากหลาย สักพักก็รู้สึกว่าปากตัวเองกระตุกออกเหยียดยิ้ม หน้าของเคลวินลอยมาให้เห็น

ทันที หนทางที่ผมจะหนีเคลวินพ้นก็คือการที่ไม่ยอมแตะต้อง หรือเกี่ยวข้องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขา ถ้าหากผมใจแข็งเพียงพอ

เรื่องผิดธรรมชาติระหว่างเราที่เกิดขึ้น ก็คงจะจบลงเสียที อยู่ที่ว่าผมจะกล้าพอที่จะทำร้ายจิตใจของเคลวินหรือเปล่า

ตรงหน้าประตูห้องน้ำ มีถึงขยะใบใหญ่ที่เคลวินซื้อมาให้ วางอยู่ ผมมองผ้าขนหนูสีขาวในมือ สลับกับการมองที่ตะกร้า ผม

จะทิ้งของที่เคลวินให้มาดีไหมนะ เขาจะเสียใจไหม ถ้าผมจะปฏิเสธสิ่งที่เขาให้

ในที่สุดผมถือผ้าขนหนูผืนนั้นเดินเลยถังขยะเข้าไปในห้องน้ำ ให้คำตอบกับตัวเองว่า สิ่งของไม่มีความผิด ไหนๆก็ถูกซื้อมา

เผื่อเอาไว้ใช้ ก็ต้องทำให้มันเกิดประโยชน์ ไม่งั้นต้นไม้ใบหญ้า สรรพสิ่งทุกอย่างที่ถูกทำลายลงเพื่อสรรสร้างสิ่งใหม่ก็จะ

ตายอย่างไร้ค่า หลังจากให้คำตอบในเชิงรักษ์โลกกับตัวเองแล้ว ผมก็อาบน้ำอย่างสบายใจ


--------------------
TBC

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-11-2008 03:57:05
เคนเริ่มใจอ่อนปะเนี่ย  :o8: คิดถึงอ้อมกอดของเคลวิน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 24-11-2008 05:07:36

ชอบคนอย่างเคนอ่า

เป็นอย่างนี้ใครก็รัก...:กอด1:

ยังไงเคลวิ่นก็น่าร๊ากก เป็นอย่างนี้ใครล่ะไม่หวั่นไหวบ้าง?

 o18



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-11-2008 21:53:52
ท่าทาง เคน จะหนีไม่รอดแล้ว   :o8:


ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 24-11-2008 23:52:55
 :impress2: :impress2: :impress2:


ใจอ่อนไปแล้วนะนั่น

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 30-11-2008 07:02:04
 :กอด1: รักแท้ อยู่ไหนก็รักแท้

ใกล้ชิดยังไง ก็ดีว่าไกลห่าง ว่าป่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 30.2 มาแล้ว 23.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 30-11-2008 20:57:04
ตอนที่ 31  มาแล้ว
-------------------------------------

“วันนี้มาเร็วจริง สถิติดีกว่าเดิมตั้งครึ่งชั่วโมงแน่ะ แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เร็วทันใจท่านประธานนะ เห็นถามหาเธอตั้งแต่เช้าแล้ว”

ยังไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ พี่นนนี่ก็เอ่ยทักทายผม ตามด้วยประโยคที่ทำให้ผมถึงกับนั่งไม่ลง

“ท่านมีเรื่องอะไรจะเรียกใช้ผมหรือเปล่าครับพี่นนนี่”

ผมถามอย่างแปลกใจ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองป่วย หยุดงานไปเสียหลายวัน ยังมีงานบางอย่างที่คั่งค้างอยู่ สงสัยประธานเคลวินคงจะรีบใช้ เพราะวันนี้เขามีประชุมเสียด้วย

“ไม่รู้สิ คุณเคลวินเดินลงมาข้างล่างนี่ เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว และเพิ่งกลับขึ้นไปก่อนเธอมาสัก 10 นาที เหมือนว่าจะมารอเธอแน่ะ แต่ไม่ได้สั่งอะไรไว้นะ ลองไปพบท่านก่อนไหม เผื่อว่าจะเอาอะไร”

พี่นนนี่แนะนำ เธอเป็นเลขาที่ค่อนข้างรู้ใจเจ้านาย เพราะทำงานร่วมกันมานาน บางครั้งประธานเคลวินไม่ต้องสั่งการอะไรมาก พี่นนนี่ก็สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างลุล่วง สิ่งที่พี่นนนี่พูดมักถูกเสมอ ผมต้องเรียนรู้จากเธออีกเยอะ จึงจะสามารถทำถูกใจเจ้านายได้

“งั้นผมขึ้นไปหาคุณเคลวินก่อนนะครับพี่นนนี่”

ด้วยความอยากรู้ว่าประธานมาหาผมด้วยเรื่องอะไร ผมจึงขออนุญาตพี่นนนี่ไปพบประธานเคลวินที่ห้องทำงาน พี่นนนี่กำลังง่วนอยู่กับบรรดาเอกสารที่จะให้เจ้านายเซ็นต์ โบกมือให้ผมไปได้ โดยฝากแฟ้มเสนอเซ็นต์ไปให้เคลวินด้วย

“ฝากชงกาแฟให้คุณเคลวินด้วยนะ ท่าทางคุณเคลวินง่วงๆ เดี๋ยวจะหลับในห้องประชุมเสียก่อน”

เลขาผู้รู้ใจเจ้านาย ร้องสั่งผม รู้สึกทึ่งในใจกับความช่างสังเกตของเธอ พี่นนนี่สมกับเป็นคนที่เคลวินไว้วางใจ เพราะจะคอยห่วงใยดูแลภาพลักษณ์ของเจ้านายตลอด ผมเองก็ต้องหมั่นฝึกสังเกตบ้างแล้ว เป็นเลขาก็ต้องเข้าใจเจ้านายตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะได้รับความไว้วางใจได้อย่างไร วันหนึ่งข้างหน้า หากผมต้องไปทำงานเป็นเลขาของใครคนอื่นที่ไม่ใช่เคลวิน ผมจะได้ปฏิบัติตัวให้เจ้านายพึงพอใจได้





“เข้ามา”

เสียงห้วนสั้น และมีอำนาจ ดังออกมาหลังประตูไม้หนาหนัก ผมหอบแฟ้มในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งที่ถือถุงใส่ของ หมุนลูกบิดประตูเข้าไปในห้องทำงานกว้างใหญ่

เคลวินนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานทำจากไม้โอ๊คขนาดใหญ่ เขากำลังสนใจอะไรบางอย่างที่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พอผมเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา ท่านประธานก็ละสายตาจากจอสี่เหลี่ยม แล้วเงยหน้าขึ้นมองผม ตาสีฟ้าของเขาเต้นระริกอย่างดีใจ สักพักก็กลับมาว่างเปล่าตามเดิม

“มาถึงนานหรือยัง”

เขาถามผมเสียงเรียบ ใบหน้าเฉยเมย ตอนนี้เขาอยู่ในบทบาทประธานจอมเฮี๊ยบ ไม่ใช่ภรรยาขี้อ้อนของผม ดังนั้นผมก็ต้องปรับท่าทีให้สอดคล้องกับเขา จะทำเป็นต่อปากต่อคำเหมือนอยู่กันสองต่อสองที่บ้านไม่ได้

“ได้สักพักแล้วครับ ...เห็นว่าคุณถามหาผม ก็เลยขึ้นมา เผื่อว่าท่านประธานอยากเรียกใช้อะไร แล้วพี่นนนี่ก็ฝากเอกสารมาให้ท่านเซ็นต์ด้วยครับ”

ตอบออกไปด้วยท่าทีสุภาพ ผมยืนตรง เอามือประสานกันไว้ด้านหน้า รอรับคำสั่งจากเขา

“วันนี้มีประชุม มีหัวข้อที่เกี่ยวกับกฎหมายด้วย ผมอยากให้คุณเข้าไปนั่งจดรายงานการประชุมให้ผม คุณป่วยเสียหลายวัน อาจจะตามเรื่องยังไม่ติด ให้ไปถามจากนนนี่ และศึกษารายละเอียดก่อนมาเข้าประชุม มีเวลาอีก 1 ชั่วโมง หวังว่าคุณคงไม่ทำให้ผมผิดหวัง”


--------------------

TBC


ขอโทษที่มาลงให้ช้านะคะ  จริงๆ ได้ต้นฉบับมาสักพักแล้วแต่ไม่ค่อยว่างเลยช่วงนี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 30-11-2008 22:02:23
หนุ่มเคน ใจอ่อนลงเรี่อยๆ
 เคลวิล รีบทำให้เคน ซึมซับ ไปเรี่อยๆ
เด่วเคนก้อถอนตัวไม่ขึ้นเองแล่ะ อิอิ   :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 30-11-2008 22:18:54
ปรับเปลี่ยนอารมณ์กันให้ทันนะเคน ไม่งั้นเจอ...

มารอตอนต่อไปดีกว่า หวังว่าคงไม่ดองเค็มอีกนะครับ

ฝากความคิดถึง ถึงคุณเคทด้วย นึกถึงอยู่เสมอนะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 30-11-2008 22:39:33
 :man1: :man1: :man1:



เปลี่ยนโหมดอย่างว่องไวเลยนะคะ


อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 30-11-2008 23:21:01
 :-[  ไม่รอดแน่ๆนายเคน หุหุหุ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 01-12-2008 03:47:23
อ๊ากกกกกกกกกกกเคนใจอ่อนกับเคลวินเหอะ

ทนลูกอ้อนพ่อคุณเคลวินไม่ไหวแล้ว

ภรรยาอะไรไม่รู้น่ารักเป็นบ้าเลย :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-12-2008 10:12:21
มามาดโหดอีกแล้ว คนเรา  :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 01-12-2008 10:44:20
เคนครับ ทำใจหน่อยน่ะ ภรรยามีหลายหน้า.............. :m20:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 02-12-2008 14:36:20
 :impress2: น้องเขิลลลแทนฮะ     o13
 :c4: :c4: :c4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 02-12-2008 16:21:15
 :m16: ทำได้ไงว่ะ

เป็นประธานก็เฮี้ยบสุดฤทธิ์

เป็นภรรยาก็อ้อนสุดขีด

ช่างทำได๊ :z10:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 06-12-2008 14:43:28
 :กอด1: มากอดให้กำลังใจน้องมิ้นค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับการลงนิยายเรื่องนี้ให้พี่เคท

ไม่ได้มาเสียนาน เพราะคอมเจ๊งไปสองเครื่อง หาทางเข้าเวปนี้ไม่ได้ จนไปเจอเจ้าของเวป เลยให้ลิงค์มา
ก็ยุ่งๆ ไม่ได้เข้ามาอีก วันหลังจะพยายามเข้ามาบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 06-12-2008 14:53:37
ตอนนี้กำลังจะพยายามเอานิยายออกมาจากโหลดองเยอะๆนะคะ เขียนไว้เยอะมาก มันอยู่ในฮาร์ดดิสก์ที่เจ๊งไปบ้างก็มีค่ะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-12-2008 20:10:09
รีบๆนะพี่เคท  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 06-12-2008 22:03:39
อร๊ายยยยยยยย คนด้านบนนั่น  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 08-12-2008 00:53:33
จะมาแจ้งว่าประมาณกลางเดือนจะมีฟิคเรื่องนี้ลงล็อตใหญ่อีก 19 ตอน คิดว่างานหนักสำหรับน้องมิ้นน่ารักอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 08-12-2008 02:12:49
จะมาแจ้งว่าประมาณกลางเดือนจะมีฟิคเรื่องนี้ลงล็อตใหญ่อีก 19 ตอน คิดว่างานหนักสำหรับน้องมิ้นน่ารักอีกแล้ว


เอาใจช่วยคุณมิ้น ... 19 ตอน โอ้ สววรค์  :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 09-12-2008 10:51:19
 :mc4: ฉลองด้วยคน 19 ตอน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 09-12-2008 16:44:34
 :impress2: :impress2: :impress2:



กลางเดือนๆๆๆๆ



 :call: :call:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 12-12-2008 16:57:42
พี่เคทเพิ่งลงนิยายเรื่องนี้ต่อที่บ้านพี่เคทค่ะ ลง 11 ตอน ตอนนี้ลงไปแล้ว 6 นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 12-12-2008 20:20:43
พี่เคทเพิ่งลงนิยายเรื่องนี้ต่อที่บ้านพี่เคทค่ะ ลง 11 ตอน ตอนนี้ลงไปแล้ว 6 นะคะ


 :z3: :z3: :z3:


มิ้นขอโทษ  ผิดไปแล้ว   ช่วงนี้ยุ่งมากๆเลยยังไม่ได้มาลงตอนต่อ   :sad4:


มาต่อกันดีกว่า

v
v
v
v
v
v

โล้ด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 31 มาแล้ว 30.11.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 12-12-2008 20:35:03

บทที่ 32 มาแร้ว

----------------------------

เขาสั่งงานผมเสียงโหดๆ ผมจดรายละเอียดสิ่งที่ต้องทำลงในสมุดบันทึก เมื่อครบถ้วนตามที่ต้องการ ผมก็เงยหน้าขึ้น และเห็นเขาจ้องมองผมอยู่ก่อนแล้ว เหมือนจะรออะไรบางอย่าง ผมนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้ทำ นั่นคือชงกาแฟมาให้เขา ผมเลยรีบพูดขึ้นก่อนที่เขาจะถาม

“พี่นนนี่ ให้ผมชงกาแฟขึ้นมาให้ท่าน แต่ผมเห็นว่ามื้อเช้า ไม่ควรทากาแฟ เพราะมันไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ผมเลยไปซื้อโจ้กมาให้ท่านครับ”

พูดออกไปแล้วก็ยืนลุ้นว่าจะถูกด่ากลับมาหรือไม่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมทำอะไรลงไปโดยพลการ ขัดคำสั่งของเจ้านาย ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์กับเขา แต่สิ่งที่ผมทำ อาจจะทำให้เจ้านายไม่พอใจก็ได้

ตาดุที่มองมามีแววอ่อนโยนขึ้น เหมือนว่าเขาจะยิ้มให้กับผม ทว่าใบหน้าไม่ขยับ เขายังมองผมนิ่งๆ จนผมอึดอัดใจรีบพูดออกมาอย่างร้อนรน

“เอ้อ...ผมขอโทษที่ขัดคำสั่งครับ ผมแค่อยากให้ท่านลองเปลี่ยนวิธีการกินดูบ้าง มันน่าจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่าที่จะทานกาแฟนะครับ เอ่อ ..ถ้าผม...”

ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอธิบายถึงเหตุผลของการขัดคำสั่งให้เขาฟัง เคลวินก็ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ผมพูดอีก สงสัยคงรำคาญที่ผมพูดมากไป

“ขอบใจนะ ที่หวังดี”

เสียงตอบกลับมาเรียบเฉย ทว่าดวงตาของเขาไม่ได้เฉยชาเหมือนหน้าตา มันกลับพราวระยับ และเต็มไปด้วยรอยยิ้ม คำพูดที่ว่า ตายิ้มได้ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมเพิ่งเคยเห็น

“ถ้างั้น ท่านจะทานเดี๋ยวนี้เลยไหมครับ เดี๋ยวผมจะเอาไปใส่ถ้วยให้”

ถามอย่างเกรงๆ เขาโบกมืออนุญาต ผมรีบเดินไปที่แคนทีน เผื่อเอาโจ้กไปใส่ชามให้เขา แล้วรีบเดินนำมันกลับมา เขาให้ผมนำมันไปวางไว้ที่โต๊ะกลางหน้าโซฟา ผมรีบทำตามคำสั่งเขา จัดวางถ้วยโจ๊ก พร้อมแก้วใส่น้ำดื่มไว้ให้ พอหันมาอีกที ก็เจอเขามายืนอยู่ข้างหลังแล้ว มาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไวเสียจริง

“ผมขอตัวไปเตรียมตัวเรื่องประชุมก่อนนะครับ”

เอ่ยปากขออนุญาตลงไปข้างล่าง เสร็จธุระของผมบนนี้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปที่ผมจะอยู่ อีกอย่างรู้สึกอึดอัดด้วย ผมไม่ชอบเวลาที่เคลวินในสภาพประธานบริษัทสักเท่าไหร่ รู้สึกหวั่นใจกลัวจะทำผิดพลาดอยู่ตลอด และยิ่งเคลวินเป็นเจ้านายที่โหดมากเสียด้วย ขืนผมทำไม่ถูกใจ มีหวังถูกว๊ากใส่แน่

“เชิญ”

คำพูดห้วนสั้นที่ไร้อารมณ์ ทำให้ผมแทบจะเผ่นทันทีที่ได้ยิน ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะเดินไปถึงประตู ก็ถูกเรียกไว้ก่อน ผมหยุดกึก ยืนตัวแข็งอยู่ตรงประตู ไม่กล้าเปิดออกไป นึกสงสัยว่าตัวเองทำอะไรผิดอีก หรือว่าผมปรุงเครื่องปรุงไม่อร่อยถูกปากเขา แต่มันก็รสเดิม จากป้าขายโจ๊กที่ผมเคยซื้อมาให้เขากินวันก่อนนี่นา เขายังบอกว่าอร่อย แล้วคราวนี้มีปัญหาอะไรอีกล่ะ

เคลวินเดินมาหยุดยืนที่หน้าผม จ้องมองผม จนอดไม่ได้ที่จะขนลุก คิดว่าตัวเองคงโดนว๊ากใส่แน่ๆ ด้วยความผิดอะไรบางอย่าง แต่แล้วสิ่งที่คาดไว้ก็ไม่ได้เกิดขึ้น เคลวินไม่ได้ด่า หรือตำหนิผม หากแต่ยื่นมือมาที่คอเสื้อเชิ้ตที่มันตั้งขึ้นจับมันพับลงจนดูเรียบร้อย

“ผมนี่แย่จริง ไม่ได้อยู่ดูแลคุณ ดูสิ เลยไม่มีใครจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้เคนเลย”

น้ำเสียงของเขาที่พูดกับผม เหมือนจะตำหนิตัวเองกลายๆ ผมมองใบหน้าอ่อนโยนของเคลวินแล้วใจอ่อนยวบ ตอนนี้วิญญาณของภรรยาสิงร่างเขาอยู่ คงพยายามจะทำหน้าที่ของภรรยาที่ดี ในการปรนนิบัติผม

“เนคไทมันเบี้ยวนะครับ ดูไม่เรียบร้อย เดี๋ยวเข้าประชุมแล้วใครจะว่าได้ เดี๋ยวผมช่วยผูกให้นะ”

ยังไม่ทันที่ผมจะร้องห้าม เคลวินก็แก้ปมเนคไทของผมออก แล้วลงมือผูกให้ใหม่ ผมได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้เขาทำ ความแข็งกระด้างในใจ ถูกทำให้อ่อนลงราวขี้ผึ้งลนไฟ จากการดูแลเอาใจใส่ของท่านประธานเจ้าสองหน้า เขาทำให้ผมรู้สึกดีกับเขาเรื่อยๆ จากที่เคยแข็งขืน ก็เริ่มยอมเขามากขึ้น

-----------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 12-12-2008 20:58:38
อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


อย่าตัดกันแบบนี้


ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-12-2008 21:00:12
สั้นไปม้ายยยยยยยยยย  :-[ แต่เขินแทน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 12-12-2008 21:17:34
กรี๊ดดดดดด คุนประธาน ดูแล คุนสามี ดีม่อกๆ  :impress2:

รีบ ย้ายหนุ่มเคนมาอยู่ด้วยกัน ซ้าเถอะค่ะท่านประธาน อิอิ  :z1:

มาแบบสั้นๆ แต่มาเรี่อยๆ ก้อไม่เป็ป้นไรค่ะ     :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 12-12-2008 21:34:34
 :mc4: :mc4:



ดูแลกันดีจังเลยอ่ะ


อิจฉาๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 12-12-2008 22:07:45
ลุ้นแทบตาย

จะให้หัวใจวายกันไปข้างหรือไง :angry2:

ลุ้นกันต่อไป  :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 12-12-2008 22:20:33
กรี๊ดคุณภรรยาทำอะไรคุณสามีคะ


เหอะๆๆๆคุณเคนขา ย้ายไปอยู่บ้านศรีภรรยาที่น่ารักคนนี้เสียทีเถอะค่ะ


จะได้ไม่ต้องลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย :z1:


รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ

ชอบเรื่องนี้จัง o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 13-12-2008 13:50:29
 :-[ หูยยยยย  มาสั้นๆแต่หวานได้ใจ สามีภรรยาคู่นี้เค้าดูแลกันดีมากมาย อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 13-12-2008 14:34:28
 :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 32 มาแล้ว 12.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-12-2008 16:18:43
กรี๊ดดดดดดดดด  เคลวิน น่ารักกกก  ดูแลสามีสุดยอด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 13-12-2008 22:20:30

บทที่ 33

----------------------



“เนคไทมันเบี้ยวนะครับ ดูไม่เรียบร้อย เดี๋ยวเข้าประชุมแล้วใครจะว่าได้ เดี๋ยวผมช่วยผูกให้นะ”

ยังไม่ทันที่ผมจะร้องห้าม เคลวินก็แก้ปมเนคไทของผมออก แล้วลงมือผูกให้ใหม่ ผมได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้เขาทำ ความแข็งกระด้างในใจ ถูกทำให้อ่อนลงราวขี้ผึ้งลนไฟ จากการดูแลเอาใจใส่ของท่านประธานเจ้าสองหน้า เขาทำให้ผมรู้สึกดีกับเขาเรื่อยๆ จากที่เคยแข็งขืน ก็เริ่มยอมเขามากขึ้น

“เรียบร้อยแล้วครับ ดูดีกว่าเมื่อกี้ตั้งเยอะ”

เขาเอียงคอไปมา ขณะมองดูผม ทำสีหน้าพออกพอใจ ผมยิ้มขอบคุณเขา แล้วก็รีบขอตัวจากไปทันที ทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาทำหน้าโหดใส่ผมอีก เลยรีบไปตอนที่ยังเห็นรอยยิ้มของเขาดีกว่า

เปิดประตูออกไปแล้ว ก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกเรื่องที่ไม่ได้พูด ผมหันหน้ามาหาเคลวิน แล้วรีบบอกบางสิ่งบางอย่างให้เขารู้

“ท่านประธานครับ หน้าตาของท่านเหมือนคนอดนอน ตาโรยๆ ดูโทรมมากเลยครับ ช่วยดูแลตัวเองก่อนเข้าประชุมด้วยครับ”

พูดเสร็จ ผมก็รีบเดินลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆ นี่ผมบังอาจสั่งท่านประธานให้ดูแลตัวเองหรือนี่ เสียงที่ใช้ก็เหมือนจะไม่ค่อยนุ่มนวลเท่าไหร่ ท่านประธานจะโกรธหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมหวังดีกับประธานนี่นา หน้าตาเขาโทรมอย่างที่พี่นนนี่ว่าจริงๆ เหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน เป็นอะไรของเขากันนะ หรือว่าไม่สบายจนนอนไม่ได้ อยู่ดีๆ ผมก็นึกห่วงใยเขาขึ้นมา

อันที่จริงสภาพของเคลวินก็คงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ ผมเองก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเหมือนกัน ตอนดูหน้าตาตัวเองที่กระจกยังตกใจ กับขอบตาดำคล้ำอย่างคนอดนอน แล้วไหนจะต้องไปประชุมอีก เรื่องกฎหมายเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ขนาดผมเรียนมาทางด้านนี้ บางครั้งเวลาฟังเลคเชอร์จากอาจารย์ ผมก็จะหลับเสียให้ได้ สงสัยต้องหาอะไรโด๊ปเสียแล้ว

ผมเดินตรงไปที่แคนทีน แล้วชงกาแฟมากิน ตามปกติ ผมไม่ค่อยจะดื่มกาแฟ เพราะมันไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ช่วงหลังๆผมทำงานดึกๆดื่นๆ ผมก็มีดื่มแก้ง่วงบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับติด หากไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่โยงทำงานโดยไม่ได้นอน ผมก็จะไม่แตะมัน ซึ่งครั้งนี้ ผมจำเป็นต้องทำตัวให้สดชื่น กาแฟคงช่วยทำให้ผมตาสว่างได้ นึกแล้วก็ขำตัวเอง ไม่ยอมชงกาแฟให้เคลวินเพราะห่วงสุขภาพเขา แต่กลับไม่ดูแลตัวเองเสียนี่

กลับลงไปข้างล่าง ผมก็เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการเข้าประชุม เอาแฟ้มงานมาอ่าน ทำความเข้าใจในเรื่องที่จะมีการพูดคุย ดูกฎหมายที่จะนำมาใช้กับเรื่องที่จะประชุม และขอคำปรึกษาจากพี่นนนี่

พี่สาวคนสวยไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะท่านประธานมอบหมายให้คุยงานกับลูกค้าแทนในขณะที่เขาเข้าประชุม หน้าที่ในการเข้าไปจดรายงานจึงกลายเป็นของผมแทน ผมนั่งศึกษาข้อมูลจนจำขึ้นใจ ในเมื่อได้รับมอบหมายให้ทำงานแทนเลขามือหนึ่ง ผมก็ต้องทำให้ดีที่สุด จะได้ไม่เสียชื่อพี่นนนี่ที่สอนผมมา และเพื่อให้ช่วยให้งานของเคลวินลุล่วงไปด้วย

การประชุมในวันนี้ น่าเบื่ออย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด ผมแอบเห็นผู้เข้าร่วมประชุมหลายท่านแอบหาวหงอดๆ ยิ่งตอนพูดคุยถกประเด็นกันในแง่กฎหมาย ผมเห็นหลายคนที่ไม่ค่อยมีความรู้ด้านกฎหมาย แต่ต้องเข้ามานั่งฟังเพราะเกี่ยวข้องในเนื้องานที่ตัวเองรับผิดชอบ ต่างคนต่างนั่งทำตาปรือๆ เหมือนจะหลับ

หันไปมองเคลวินก็เห็นเขาจดอะไรยุกยิกง่วนอยู่ ตาไม่ได้เหลือบแลไปยังทีมกฎหมายที่นั่งพูดคุยถึงกฏหมายมาตราต่างๆ ผมไม่รู้ว่าเขาจดอะไรลงไปบ้าง ส่วนผมพอจะเข้าใจในสิ่งที่นักกฎหมายของบริษัทพูด เพราะเรียนมาบ้าง แค่ปรับทฤษฎีกับของจริงให้มันเชื่อมโยงกันเท่านั้น และจดประเด็นต่างๆที่น่าสนใจ และจะทำสรุปรายงานให้เคลวินอีกที

“เอาล่ะ เราเบรกกันสัก 15 นาที”


--------------------

TBC

ว่าจะมาลงทุกวัน  จะพยายามน้า :really2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 13-12-2008 22:35:57
^
^
^
^


จิ้มก่อน เด๋วค่อยอ่าน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 13-12-2008 22:38:14
เอ๊!!!!

ไมมันสั้นจังเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 13-12-2008 22:40:04
  เควิลนี่ดูแลหนุ่มเคนดีจิงจิ๊งงง... แล้วหนุ่มเคนล่ะ

คุณประธาน โทรมแบบนั้น หนุ่มเคนก้อต้องดูและดีๆสิ  ชิมิ   :impress2:

รีบใจอ่อน เร็วเข้า คนอ่านลุ้นนะคะ  เอิ้กๆ  
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-12-2008 23:02:54
รออ่านต่อ  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 14-12-2008 07:50:17
 :m20: คนในเล้าเป็ด เม้นต์กันน่ารักจัง  o13 ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้นะคะ รับรองว่า คุณจะรักเคลวิน กับเคนไปอีกนานค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-12-2008 11:07:49
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 14-12-2008 11:17:24
อิอิ ท่านประธานลืมตัวซะแล้ว เผลอทำหน้าที่ภรรยาเจ๋ยเลย น่าร๊ากจัง  :impress2:

อยากอ่านต่อแล้วฮับ ต่อวันละ 2 ตอนมะได้เหยอ แหะๆ
ก็คิดถึงท่านประธานกะเลขาอ่ะ นอนม่ายยหลับบบบบบ คริ คริ

+1 ให้ทั้งคนโพส กะ คนแต่งนะฮับ

(แอบตามไปอ่าน 11 ตอนที่บ้านพี่เคทด้วยแหละ แต่หามะเจออ่ะ  :m15:)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 33 :D 13.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 14-12-2008 14:02:53
อิอิ ท่านประธานลืมตัวซะแล้ว เผลอทำหน้าที่ภรรยาเจ๋ยเลย น่าร๊ากจัง  :impress2:

อยากอ่านต่อแล้วฮับ ต่อวันละ 2 ตอนมะได้เหยอ แหะๆ
ก็คิดถึงท่านประธานกะเลขาอ่ะ นอนม่ายยหลับบบบบบ คริ คริ

+1 ให้ทั้งคนโพส กะ คนแต่งนะฮับ

(แอบตามไปอ่าน 11 ตอนที่บ้านพี่เคทด้วยแหละ แต่หามะเจออ่ะ  :m15:)

ขอบคุณสำหรับ +1 นะคะ

แหมๆ ใครๆก็ว่าสั้น  ก็พี่เคทตัดตอนแบบนี้อ่ะ

จะให้ลงวันละ 2 ตอน   อยากได้จัดให้เลยค่ะ :L2:


บทที่ 34

--------------------

ท่านประธานไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ ตอนผมเดินกลับมา สงสัยคงไปเข้าห้องน้ำ เอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะเขาเต็มไปหมด ผมจัดวางใหม่ให้เป็นระเบียบโดยแยกเอกสารประกอบการรายงานไว้ด้วยกัน

และสิ่งที่เขาจดก็หาคลิปมาหนีบไว้ให้ จะได้ไม่กระจัดกระจายสูญหาย เรื่องบางอย่างเป็นความลับ ที่เขาอาจจะขีดเขียนบันทึกการตัดสินใจอะไรไว้ ไปตกอยู่ในมือคนอื่นคงไม่ดี เป็นหน้าที่ของเลขาที่จะต้องคอยช่วยระมัดระวังให้

ตอนที่ผมเก็บของบนโต๊ะให้เคลวินอยู่นั้น พลันผมก็เหลือบไปเห็นกระดาษสำหรับจดที่เต็มไปด้วยรูปภาพการ์ตูน ผมกลั้นหัวเราะแทบแย่เมื่อเห็น ถ้ารูปพวกนั้นไม่ได้วางอยู่ในแฟ้มบนโต๊ะของเคลวิน ผมคงนึกว่าเป็นภาพจากผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆที่รู้สึกเบื่อเป็นแน่

ฝีมือการวาดการ์ตูนของเคลวินสวยใช้ได้ จนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นภาพจากการเขียนของเขา ลายเส้นดูอ่อนช้อย เหมือนคนที่มีอารมณ์อ่อนไหว เป็นศิลปินมากกว่าที่จะเป็นนักธุรกิจที่เข้มงวดดุดัน

ผมอมยิ้มเมื่อมองภาพที่เคลวินวาด การได้เห็นความเป็นเด็กในตัวของท่านประธานทำให้ผมเริ่มคิดถึงเขาในแง่มุมที่อ่อนโยนกว่าเดิม เคลวินนี่มีหลายบุคลิกในตัวเสียจริง ผมเห็นมาแล้วทั้งความดุดัน ได้เห็นความอ่อนหวาน ขี้อ้อนในตัวเขา ตอนนี้ได้เห็นเด็กชายเคลวินผู้เบื่อการประชุมจนต้องนั่งวาดการ์ตูนเล่นอีก

ตอนแรกผมไม่คิดจะละลาบละล้วง แอบอ่านอะไรของใคร หากแต่มันมีอะไรบางอย่างในภาพการ์ตูนของเคลวินที่ทำให้ผมละสายตาไปไม่ได้

ในกระดาษสำหรับจดบันทึก เคลวินวาดการ์ตูนผู้ชายสองคน ในคาแรคเตอร์ต่างกัน และในอิริยาบถที่หลากหลาย คนหนึ่งใส่สูท หน้าดุๆ มาดเข้ม นั่งอยู่บนเก้าอี้บุนวมตัวใหญ่ ที่อยู่ตรงหน้าคือกองเอกสารที่เปิดอ่านค้างอยู่ ส่วนอีกคนหนึ่งดูท่าทางซื่อๆ กำลังนั่งขีดเขียนอะไรอยู่บนโต๊ะ ลักษณะท่าทางของตัวการ์ตูน คุ้นๆอย่างบอกไม่ถูก

ถัดจากภาพแรก เป็นภาพใบหน้าของคนที่ใส่สูท หน้าดุๆ มีไอคอนข้อความเป็นการแสดงคำพูดในความคิดของตัวการ์ตูนตัวนั้นด้วย เป็นคำว่า “ขาดทุน” แล้วมีลูกศรโยงมาที่ภาพคนนอนอยู่บนเตียงใหญ่ ตามลำพัง มีขยายความข้อความแรกด้วย

“ขาดทุน = นอนคนเดียว 9 ชั่วโมง”

“กำไร = คืนนี้ = ถอนทุนคืน 9 ครั้ง”

ข้อความที่สองถูกลากโยงมาที่ภาพการ์ตูนผู้ชายสองคนกอดกัน ผมรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัวเมื่อตีความภาพที่เขาเขียนออก

อีตาเคลวินจอมลามก หื่นไม่เลือกที่ แม้แต่ตอนประชุมก็ยังคิดเรื่องใต้สะดืออีก แล้วที่บอกว่าขาดทุน กำไรมันคืออะไร เขาหมายความว่าจะหาทางเอาคืนจากการที่ผมกลับมาบ้าน ปล่อยเขาให้อยู่คนเดียว 9 ชั่วโมงกว่าจะได้เจอกันงั้นเหรอ หนอยแน่ะ จะถอนทุนคืนตั้ง 9 ครั้ง ฝันไปเถอะ

ผมโวยวายในใจ นึกขวางประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ในหัวของเขาคิดแต่เรื่องหาเศษหาเลยกับผมตลอดเวลาเลยหรือไง ช่างเป็นบุคคลที่อันตรายเสียจริง ไม่ควรเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย

“ดูอะไรอยู่”

มีเสียงถามดังขึ้นข้างตัว ไม่ดังมากนัก แต่ก็พอได้ยินกันสองคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครมายืนข้างหลังผม ประธานที่คิดแต่เรื่องหื่นกับผมตลอดเวลา มายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แล้วเขาก็คงจะเห็นหมดว่าผมยืนอ่านการ์ตูนทะลึ่งของเขา


--------------------

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 14-12-2008 14:05:14
บทที่ 35

-----------------------

“เอ่อ....เปล่าครับ”

เจอเขาทำเสียงดุใส่ ผมก็รู้สึกลัวขึ้นมาทันที การมายืนอ่านข้อความของคนอื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยืนอ่านข้อความลับของท่านประธาน มันเป็นเรื่องที่ผิดมาก นอกจากจะผิดในแง่ของการล่วงละเมิดคนอื่น มันยังเป็นการผิดกฎบริษัทอีกด้วย

ผมอยากจะรับสารภาพใจจะขาด เพื่อลงโทษตัวเองที่ไปละลาบละล้วง อ่านข้อความของคนอื่น แต่ผมก็พูดไม่ออก อายด้วยที่จะบอกว่าผมรู้แล้วว่าเขาคิดอย่างไรกับผม อีกทั้งการยอมรับว่าอ่าน ก็เท่ากับยอมรับว่าผมรู้ว่าเขาจะทำอะไรกับผมในค่ำคืนนี้ และมันอาจจะเป็นสิ่งที่ผูกมัดทำให้หลีกเลี่ยงการมีอะไรกับเขาไม่ได้ ผมเลยคิดเอาเองว่า การทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ โกหกออกไป น่าจะดีกว่าที่จะยอมรับออกมา

“ผมเอากาแฟมาให้ท่านประธานครับ”

ชี้ไปที่ถ้วยกาแฟประกอบคำพูด เพื่อให้เขาเห็น เคลวินพยักหน้า และโบกมือไล่ให้ผมไปทำธุระของตัวเอง ผมรีบเดินไปเข้าห้องน้ำทันทีเพื่อสงบสติอารมณ์ นึกในใจว่าโชคดีแค่ไหนที่ไม่ถูกดุ คราวต่อไปจะไม่ไปแอบอ่านอะไรของใครอีกแล้ว นอกจากจะไม่ทำให้เราได้ประโยชน์ อาจจะมีโทษตามมาอีก






สามทุ่มสิบนาที ผมก็มายืนอยู่ที่หน้าห้องเช่าของตัวเอง วันนี้ผมอยู่ทำโอทีเหมือนเคยจนถึงสองทุ่ม แล้วก็ฝ่าการจราจรที่คับคั่งกลับมาถึงปากซอยบ้าน และปั่นจักรยานของเคลวินที่ซื้อให้ผมใช้ ซึ่งผมปั่นออกจากห้องเช่าในตอนเช้าและไปจอดทิ้งไว้ ยังที่จอดรถจักรยานที่ทางสำนักงานเขตทำไว้ให้ และใช้ขี่กลับบ้าน เหนื่อยหน่อย แต่ก็คุ้ม ทำให้ผมประหยัดเงินค่ารถแท็กซี่ไปได้เยอะ และได้ออกกำลังกายไปด้วย กลับถึงบ้านก็เหงื่อโทรมกาย

มีแสงไฟลอดออกมาจากหน้าต่างห้องเช่าของผม ทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ในห้อง ไม่ต้องสืบไม่ต้องเดาก็รู้ว่าต้องเป็นเคลวินแน่ๆ เขาคงมาหาทางเอากำไรจากผมนั่นเอง แค่คิดว่าจะต้องเจออะไร ผมก็หวั่นใจไม่อยากเข้าห้อง แต่ความเหนื่อยล้าจากการงาน และการเดินทาง ทำให้ผมอยากกลับเข้าไปพักผ่อนเต็มแก่ เอาวะเป็นไงเป็นกัน จะปล้ำคนที่หลับเป็นตาย ก็ให้มันรู้ไปสิ พอคิดดังนั้น ผมก็หมุนลูกบิดประตูเพื่อเข้าห้อง ทว่ายังไม่ทันจะเปิดประตู บานไม้อัดก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ผมอ้าปากค้างเมื่อเห็นเคลวิน จากนั้นก็หลุดขำออกมาก๊ากใหญ่

ผู้ชายฝรั่งร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือเคลวินไม่ต้องสงสัย ทว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขาตอนนี้ถูกซ่อนไว้ใต้หน้ากากที่ใช้สำหรับพอกหน้า เพื่อความเนียนกระชับเต่งตึง ผิวพรรณสดใส เคลวินใช้มาปิดหน้าตัวเอง ดูราวกับหนังทีสยองขวัญที่ตัวละครโรคจิตใส่หน้ากากไล่ฆ่าคน นี่ถ้าผมขวัญอ่อน ตกใจง่าย ผมคงช๊อคตายไปแล้ว

“เคนใจร้าย เห็นหน้าผมแล้วหัวเราะทำไม หัวเราะที่ผมมาสก์หน้าเหรอ”

เขาทำเสียงกระเง้ากระงอด ผมเลยหัวเราะดังกว่าเดิม แค่เห็นเขาเอาหน้ากากมาโปะหน้า ทำตัวเหมือนพวกภรรยาที่อยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำ กลัวสามีไม่รักเลยต้องโบ๊ะหน้าให้สวยๆดึงดูดใจสามี ผมก็รู้สึกฮาแล้ว พอเห็นเขาทำท่างอนๆแบบผู้หญิง ต่อมหัวเราะผมก็เลยทำงานไม่หยุด รู้สึกทั้งขำ และเอ็นดูในคราวเดียวกัน


--------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 14-12-2008 14:36:47
 o18 แผนของภรรยาสุดที่รัก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 14-12-2008 15:13:59
เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นเลย วางแผนอะไรกันไว้หนอ

ขอบคุณที่รีบมาอัพให้อ่านกันนะคะ :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 14-12-2008 15:29:23
กร๊ากกกกกกกกกก....ก  ไอที่ขีดๆเขียนๆตอนที่ประชุมเนี่ย

คือวาดการ์ตูนเองหรอกเหรอคะ ท่าประธาน ฮ๋าๆ   :m20:

ความหื่น ไม่เคยเลือกสถานที่ชิมิเคอะ อิอิ


โถ... น่าจ๋งจ๋าน เควิลโนะ โดนคุณสามีบอกว่า หน้าโทรม ก้อเลย ต้องมาบำรุงผิวหน้าเป็นการใหญ่ คึคึ

..ดูจิ ดูแลเอาใจใส่ตัวเองแบบนี้ กลัวคุนสามี ไม่ร๊ากกกกกอ๊ะป่ะ   :z1:

ว่าแต่ หนุ่มเคน เมื่อไหร่จะใจอ่อน ...ให้ใจอ่อนไม่ใช่หัวเราะนะ เอิ้กๆ( คนอ่านยังขำเลย อิอิ)  :laugh:


* จุ๊บๆ  พี่เคท คิดตึ๋งค่า   :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 14-12-2008 20:45:25
คิดถึงน้องซินค่ะ ไม่ได้คุยกันนานมากแล้วโนะ ว่างๆ จะเปิดออนเอ็ม
ไม่ได้เล่นเอ็มนานเลยเหมือนกัน มัวแต่ปั่นนิยาย เพราะคอมเจ๊งเป็นเดือนอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 14-12-2008 21:26:49
จิ้มคุณเคท ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วนะครับ ตั้งแต่ Plam โน้น

ผม kts ไงครับ หวังว่าคงได้อ่านผลงานต่อไปเรื่อย ๆ นะครับ

ตั้งแต่เข้ามาที่เล้านี้แล้ว ไม่ได้ไปไหนอีกเลย คิดถึงคุณเคทนะครับ   :กอด1: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 14-12-2008 21:34:45
 :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 14-12-2008 23:23:27
 :laugh: อยากเห็นๆ คุณภรรยาตัวโตๆ พอกหน้าจัง คงน่าร๊ากกก...

ขอบคุณ น้องมิ้น กะ พี่เคท คร๊าบ

เอาใจกันอย่างนี้ รักตายเลย  :man1:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-12-2008 16:38:46
เคลวิน มาร์กหน้า  นึกภาพตามแล้วฮากระจาย   :pandalaugh:

ทำหล่อก่อนถอนทุนคืนใช่ป่ะเนี่ย

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 34-35 :D 14.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 15-12-2008 21:27:26

บทที่ 36

-------------------------


“เคนใจร้าย เห็นหน้าผมแล้วหัวเราะทำไม หัวเราะที่ผมมาสก์หน้าเหรอ”

เขาทำเสียงกระเง้ากระงอด ผมเลยหัวเราะดังกว่าเดิม แค่เห็นเขาเอาหน้ากากมาโปะหน้า ทำตัวเหมือนพวกภรรยาที่อยู่ว่างๆไม่มีอะไรทำ กลัวสามีไม่รักเลยต้องโบ๊ะหน้าให้สวยๆดึงดูดใจสามี ผมก็รู้สึกฮาแล้ว พอเห็นเขาทำท่างอนๆแบบผู้หญิง ต่อมหัวเราะผมก็เลยทำงานไม่หยุด รู้สึกทั้งขำ และเอ็นดูในคราวเดียวกัน

“ผมไม่เคยเห็นเคลวินทำแบบนี้นี่ครับ”

กล่าวขอโทษขอโพยที่หัวเราะเขา แล้วบอกเหตุผลที่ทำตัวไร้มารยาทจนทำให้เคลวินสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ แต่น้ำเสียงที่พูดก็ยังเง้างอนอยู่ดี

“ก็เคนบอกว่าผมหน้าโทรม ผมก็เลยกะว่าจะมาพอกหน้าให้สดใส เคนเห็นแล้วจะได้สบายใจ ไม่นึกเบื่อผมไงครับ”

โถ นี่เหรอเหตุผลที่เขาต้องลุกมาทำอะไรแบบนี้ ที่แท้ก็กลัวว่าปมจะไม่รักไม่สนใจนี่เอง เขาช่างคิดมากจริงๆ ต่างจากประธานเคลวินผู้เข้มแข้ง ตัดสินใจเฉียบขาดและไม่เคยก้มหัวให้ใคร แต่กับผมเหมือนเขาจะเป็นกังวล ห่วงใยความรู้สึกของผมตลอดเวลา มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่าทุกครั้งเวลาอยู่กับเขา

“หน้าตาอาจจะเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้คนมารักมาคบหากับเรา แต่ความหล่อความสวยมันเสื่อมค่าได้ ความดีในจิตใจต่างหากที่เพิ่มคุณค่าให้ตัวเองอยู่ตลอดเวลา เคลวินอย่าไปยึดติดกับร่างกายภายนอกดีกว่านะครับ คุณมีสิ่งดีๆอยู่ในตัวอยู่แล้ว”

พูดเพื่อให้เขาสบายใจ เคลวินจัดว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ยิ่งเขาเป็นฝรั่งที่รวยและรูปหล่อ ยิ่งดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มาก ไหนจะฐานะครอบครัว ตำแหน่งหน้าที่การงานอีก มีแต่คนอยากรู้จัก อยากเป็นเพื่อนกับเขาทั้งนั้น

นอกเหนือจากรูปหล่อ พ่อรวย การศึกษาดี นิสัยใจคอของเขาก็ดีด้วย เหมือนจะโหด แต่ที่จริงเป็นคนใจดีมากๆ ต้องสัมผัสตัวตนที่แท้จริงของเขาถึงจะรู้

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ แต่ถึงอย่างไร ผมก็อยากทำตัวให้ดูดีมากๆ จะได้เหมาะสมกับเคนไงครับ”

ดูวิธีที่เขาเลือกพูดสิ เคลวินเป็นภรรยาที่ขี้อ่อน ถ่อมตนเสียจริง แทนที่เขาจะเลือกคนที่เหมาะสมกับเขา แต่เขากลับเลือกที่จะทำตัวให้ดูดี เหมาะสมกับผม ทั้งทีผมไม่มีอะไรจะเทียบเขาได้เลยแม้แต่น้อย

“ผมอยากให้เคนภูมิใจในตัวของผมครับ และถ้าผมดูแลตัวเองดีๆ ไม่ปล่อยตัวทรุดโทรม เวลาเคนไปเจอใคร ก็จะได้กล้าอวดผมกับคนอื่นๆได้ครับ”

เขาพูดเสียงอ้อน จนผมซึ่งหยุดขำไปแล้ว ต้องหัวเราะก๊ากออกมาอีกครั้ง ช่างกล้าพูดออกมาได้นะ ว่าอยากให้ผมอวดเขากับใครๆว่าเป็นแฟน เคลวินนี่เป็นโรคชอบยัดเยียดเสียจริง เมื่อก่อนเคยนึกรำคาญใจ แต่เดี๋ยวนี้ผมกลับขำในความพยายามของเขา บางครั้งการเอาแต่ใจของเคลวินก็ดูน่ารักดีไม่น้อย

-------------------------------


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 36 :D 15.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-12-2008 21:38:55
เคววินพอกหน้า  :laugh: เอาใจสามีรับ กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 36 :D 15.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 15-12-2008 22:00:59
เหอะๆๆ กลัวไม่หล่อหรือเคน กร๊ากๆๆๆๆ น่าร๊ากกกกก

ฮ่าๆๆๆ
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 36 :D 15.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 15-12-2008 22:13:07
อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

สั้นอีกแล้วๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 36 :D 15.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 15-12-2008 22:30:33
คุนประธาน กลัว โทรมกลัวไม่หล่อ เด๋วหนุ่มเคนจะอาย มีภรรยาไม่หล่อชิมิคะ :m20:
รู้สึกคุนประธาน จะขี้อ้อน +เจ้าเล่ห์ ขึ้นทุกวันนะคะ
เอ? หรือนี่ เป็นวิธีมัดใจคุณสามีเคอะ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 36 :D 15.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 16-12-2008 18:40:47
มามะ มาต่อกัน

ช่วงนี้ต้องขยันโพสต์หน่อยเพราะพี่เคทขยันแต่งอ่ะ เดี๋ยวจะตามต้นฉบับไม่ทัน


บทที่ 37

---------------------------------

“ผมอยากให้เคนภูมิใจในตัวของผมครับ และถ้าผมดูแลตัวเองดีๆ ไม่ปล่อยตัวทรุดโทรม เวลาเคนไปเจอใคร ก็จะได้กล้าอวดผมกับคนอื่นๆได้ครับ”

เขาพูดเสียงอ้อน จนผมซึ่งหยุดขำไปแล้ว ต้องหัวเราะก๊ากออกมาอีกครั้ง ช่างกล้าพูดออกมาได้นะ ว่าอยากให้ผมอวดเขากับใครๆว่าเป็นแฟน

เคลวินนี่เป็นโรคชอบยัดเยียดเสียจริง เมื่อก่อนเคยนึกรำคาญใจ แต่เดี๋ยวนี้ผมกลับขำในความพยายามของเขา บางครั้งการเอาแต่ใจของเคลวินก็ดูน่ารักดีไม่น้อย

“ผมจะไม่อวดภรรยาของผมด้วยเรื่องหน้าตาหรอกครับ เพราะว่าคงจะอวดได้ไม่กี่ปี แต่ผมจะอวดในเรื่องคุณงามความดี และจิตใจของเขาครับ เพราะมันคงเป็นเรื่องที่เล่าได้ไม่รู้จบ อาจจะเล่าได้ทั้งชีวิตด้วย”

ยังคงยืนยันคำเดิมโดยไม่เปลี่ยนแปลง เคลวินส่งยิ้มภายใต้หน้ากากมาให้ผม มันดูตึงๆตลกพิกล ผมมองหน้าเคลวิน พลางยื่นมือไปที่หน้าเขา แล้วแตะที่ขอบหน้ากาก สะกิดเบาๆจนเผยอขึ้น

“เอาออกเถอะครับ หน้าของเคลวินดูดีอยู่แล้ว ขืนใส่หน้ากากคุยกันแบบนี้ ผมคงได้หัวใจวายตาย”

มือของผมค่อยๆลอกหน้ากากออกจากหน้าของเคลวินอย่างแผ่วเบา เขายืนให้ผมลอกออกโดยดี ตาก็จ้องมองมือผมที่เคลื่อนไหวอยู่บนใบหน้าของเขา

“แบบนี้ดูดีกว่าตั้งเยอะ”

ผมบอกกับเขา เมื่อลอกหน้ากากออกเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเคลวินตอนนี้ไม่มีสิ่งใดบดบัง ทำให้เห็นความหล่อเหลาอย่างชัดเจน ผมยิ้มให้เขาอย่างพึงใจ ประธานเคลวินยิ้มตอบผม จากนั้นก็กางแขนออก แล้วสวมกอดผมแนบแน่น

“คิดถึงเคนจังเลยครับ”

ฝรั่งร่างยักษ์ทำเสียงอ้อน ผมหัวเราะเบาๆ นึกขำเคลวิน เขาทำอย่างกับว่าเราพลัดพรากจากกันไปนาน ทั้งที่ในความเป็นจริง

ผมเจอเขาตลอดทั้งวันเพราะนั่งประชุมด้วยกัน จะไม่เจอกันก็แค่ช่วงเลิกงานที่เขากลับมาก่อน ส่วนผมต้องทำโอทีเลยต้องกลับดึก

ผมยังไม่รู้สึกว่าเราห่างกันนานสักเท่าไหร่ ทำไมเขาถึงได้แสดงความคิดถึงออกมาราวกับว่าเราจากกันไปเป็นปีๆ

“เคนอาจจะคิดว่ามันตลก ที่ผมมานั่งคร่ำครวญคิดถึงคุณ ทั้งที่เราก็อยู่ด้วยกันตลอดทั้งวันในที่ทำงาน

เคนไม่เข้าใจหรอกว่า ช่วงเวลาเหล่านั้น ผมทรมานแค่ไหน เห็นเคนอยู่ตรงหน้า แต่จะกอด จะอยู่ใกล้ก็ไม่ได้ ต้องพยายามห้ามใจไม่ให้แสดงความรักความคิดถึงคุณออกมา ผมไม่รู้ว่าความอดทนของผมจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ กลัวจะเผลอใจแสดงออกให้ใครรู้เข้าสักวัน”

ราวกับจะเดาใจผมออก เคลวินพูดถึงเรื่องที่ผมสงสัยขึ้นมา เขาทำหน้าเศร้า จนผมรู้สึกสงสาร รับรู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร

เคลวินหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวผมมาก จนอยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา หากแต่ตำแหน่งหน้าที่การงานมันค้ำคอ ทำให้เขาทำตามใจนึกไม่ได้ และผมก็ไม่ยอมเปิดทางให้เขาทำเช่นนั้นด้วย เขาคงทุกข์ทรมานใจจริง ถึงได้พูดออกมาเพื่อเป็นการระบาย และเรียกร้องขอความเห็นใจจากผมในที


--------------------
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 16-12-2008 18:43:50
บทที่ 38
------------------

“เข้าไปข้างในกันดีกว่าครับ เปิดประตูห้องไว้นานแล้ว เดี๋ยวยุงเข้า”

ใช่ว่าจะไม่ใส่ใจความรู้สึกของเคลวิน แต่ที่ผมตัดบทชวนเขาเข้าห้อง ไม่พูดเรื่องนี้ เพราะผมเองก็ไม่มีคำตอบให้กับเขา ผมเข้าใจว่าเคลวินรู้สึกอย่างไรกับผม แต่ไม่อาจจะตอบสนองเขาได้ เลยไม่อยากจะให้ความหวังอะไร เดี๋ยวเขาจะเสียใจถ้าพบว่าผมหลอกลวงเขา

“หิวข้าวหรือยังครับ วันนี้ผมทำกับข้าวอร่อยๆไว้ให้คุณทานเยอะแยะเลยนะ”

เคลวินเป็นคนฉลาดพอที่เดาออกว่าผมเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงประเด็นที่เขาออดอ้อน เขาเองก็ไม่เซ้าซี้แต่เปลี่ยนเรื่องพูดแทน ทำให้ผมไม่ต้องทนอึดอัดใจมาก เราสองคนชวนกันเข้าห้อง เคลวินอุ่นอาหารให้ผม จากนั้นก็มานั่งกินข้าวด้วยกัน ผมทานจนหมดเกลี้ยง โดยมีเขานั่งเชียร์เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ พอเห็นผมกินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย เคลวินก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางภูมิอกภูมิใจในฝีมือตัวเองที่ทำอาหารได้ถูกปากผม

ทานเสร็จเขาก็ไล่ให้ผมไปอาบน้ำ โดยเตรียมเสื้อผ้าชุดนอนที่ซักรีดเรียบร้อยเอาไว้ให้ ส่วนตัวเองก็ไปนั่งล้างจาน ทำตัวเป็นแม่บ้านสุดฤทธิ์ ผมมองเคลวินที่นั่งยองๆ ล้างถ้วยชามแล้วก็รู้สึกสงสาร เขาต้องมาลำบากลำบนทุกอย่างเพื่อผม ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ โดยไม่ปริปากบ่น เห็นเขาทุ่มเทให้ผมอย่างนี้ ก็เลยทำให้ผมใจอ่อนให้กับเขาทุกที จนต้องยอมให้เขาบ้าง อย่างเช่น การมีอะไรกับเขาในยามค่ำคืน ทว่าผมก็มีข้อแม้ ไม่ยอมตามใจเขาทั้งหมด

“ให้แค่ครั้งเดียวนะครับ”

บอกกับเขาเสียงเข้มในขณะที่ถูกฝรั่งร่างยักษ์โรมรันจนผมเกิดอาการเคลิบเคลิ้มคล้อยตาม เคลวินงอแง อ้างว่า ขาดทุน เขาตั้งใจจะมีอะไรกับผม 9 ครั้ง และผมก็รับรู้แล้วจากการที่ไปยืนอ่านการ์ตูนหื่นของเขา ดังนั้น เขาจะทำตามที่ตั้งใจไว้ แต่ผมปฏิเสธเสียงแข็ง บอกว่าผมทำกับเขาไม่ไหวแน่ เพราะผมต้องทำงาน ผมไม่อยากหมดแรง ผมมีสิทธิ์ที่จะขัดขืนไม่ให้ความร่วมมือกับเขาก็ได้ และถ้าเขาไม่ยอมตามเงื่อนไขของผม ผมก็จะไม่ให้เขาทำอีกเลย

เจอการขู่ของผมเข้า เคลวินก็จำใจต้องรับอย่างเสียไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เมื่อผมไม่ยอมตกปากรับคำมีอะไรกับเขาตามที่เคลวินตั้งเป้าหมายเอาไว้ เขาก็ใช้วิธีการให้ผมยอมรับทางอ้อม ด้วยการปลุกเร้าความรู้สึกของผมให้เตลิดเพลิด แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการงาน ทำให้ผมรอดตัวจากเขา เพราะหลังจากที่ผ่านการมีอะไรกันอย่างเร่าร้อนไปหนึ่งครั้ง ผมก็หมดแรงหลับเป็นตาย ก่อนจะปิดเปลือกตาลง ผมได้ยินเสียงเคลวินกระซิบอยู่ข้างหู

“เคนยังเป็นหนี้ผมอีก 8 ครั้งนะครับ ถ้าไม่มาชดใช้หนี้ ผมจะคิดดอกเบี้ยทบต้นไปเรื่อยๆนะ”
จำได้ว่า ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแค่ยิ้มให้เขา ฟังแล้วรู้สึกขำกับการเอาแต่ใจตัวเองของเคลวิน เขาหาทางฉวยโอกาสกับผมตลอดเวลา คิดเอง สรุปเอง แล้วก็หาทางหลอกล่อให้ผมร่วมไม้ร่วมมือไปกับเขาอย่างตกกระไดพลอยโจน

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมไม่ได้สัญญาว่าผมจะมีอะไรเก้าครั้ง เขาต่างหากที่คิดและเขียนเป็นเป้าหมายเสร็จสรรพ แค่ผมเผลอไปอ่านเจอ ก็เลยถูกจับเป็นพยานในการหากำไรจากร่างกายผม พอผมไม่ให้ ก็กลายเป็นหนี้เขาเสียอีก เจ้าหนี้แสนโหด และขึ้นดอกเบี้ยตามใจตัวแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ผมจะหมดหนี้ “พิศวาส” กับเขาเสียที


--------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: pantanakan ที่ 16-12-2008 19:47:06
หนี้พิศวาส    กรี๊ดดดดดด

หนูเคนน่ารักจัง   ใจอ่อนกับเคลวินทุกทีเลย  ป้าชอบเหลือเกิน

เคลวินก็ดี๊ดีนะคะ   จะมีไหมเนี่ย  ผู้ชายแบบนี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 16-12-2008 20:04:18
ฮ่าๆๆ หนุ่มเคนเอ๊ยยย...

มีภรรยาแสนดีอย่างนี้   ยอมๆ ไปเห๊อะ

โดนค้ากำไร นิดๆ หน่อยๆ ก้อช่างเต๊อะ ( แค่ 9 ครั้งเอง ) ถ้าไม่ยอม ระวังดอกเบี้ย เพิ่มนะเออ  อิอิ  :z1:   
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 16-12-2008 20:08:51
ชอบๆ..ครับ

 :call: มาลงบ่อยทีเหอะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 16-12-2008 21:54:14
 :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-12-2008 10:05:34
อ๊าย ท่านประธานนั่งล้างจาน  น่ารักกกกกกกกก  :m3:

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 17-12-2008 12:22:22
 :-[  น่ารักจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 17-12-2008 15:34:48
หนี้พิศวาส  

อ่านแล้วฮากร๊ากกก
นึกถึงหนังสือโรมานซ์  อิๆๆๆ
ชอใช้กันจน.... อ่ะน่ะ คนอ่านเลือดแทบหมดตัว :m25:
อุ้ยๆๆ
น่ารักจัง เคลวิน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 17-12-2008 15:42:04
ตามมาอ่านรวดเดียวกี่ตอนเนี่ย

แต่ถูกใจมากเลยค่ะ

อ่านไปยิ้มไป

คุณสามี ภรรยาคู่นี้น่ารักมาก

ชอบหนี้พิศวาสที่เคนติดค้างเคลมากเลย

ชอบค่ะชอบ

รออ่านความรักของคู่นี้ต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 37 - 38 :D 16.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 17-12-2008 18:06:00
ภรรยาอะไร ... หวานซะ


น่ารักอ่พ อ่านเรื่องนี้ทีไร อมยิ้มได้นานๆ ทุกที
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 17-12-2008 21:18:19
บทที่ 39

---------------------------

หลังจากค่ำคืนนั้นแล้ว ผมก็ไม่ได้ยุ่งกับเคลวินอีก เพราะผมทำโอทีทุกวัน แถมหอบงานมาทำบ้านด้วย

เคลวินในบทบาทภรรยาก็บ่นน้อยอกน้อยใจไปตามเรื่องตามราวที่ผมเอาแต่ทำงาน ไม่สนใจทำการบ้านกับเขา แต่เขาก็ว่าอะไรผมไม่ได้มาก เพราะเขาในภาคประธานก็ให้งานผมเสียเยอะแยะ

เมื่อผมทำไม่ทันในเวลาทำงานปกติ จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่ผมต้องหอบงานกลับมาที่บ้าน และหมกมุ่นอยู่กับการทำงานจนละเลยที่จะให้ความสนใจกับภรรยาร่างยักษ์ที่อยู่ในห้อง

ถึงแม้จะบ่นน้อยอกน้อยใจ แต่เคลวินก็ยังทำตัวเป็นภรรยาที่ดี คอยปรนนิบัติพัดวีเอาใจ เห็นผมทำงานดึก เขาก็คอยชงกาแฟ ทำโจ๊กมาให้กันหิว

บางครั้งก็นั่งเป็นเพื่อนจนดึกดื่น จนผมต้องไล่ให้ไปนอนทุกครั้ง แต่เขาก็ไม่ยอมนอนคนเดียวหากผมไม่หยุดทำงานแล้วไปนอนกับเขา เขาก็จะนั่งเฝ้าเป็นเพื่อน

คืนแรกๆที่เคลวินนั่งข้างๆผม คอยผมทำงาน ผมรู้สึกเกรงใจเขา เลยรีบนอน แต่พอคืนหลังๆ งานที่มีมากมาย ทำให้กว่าที่ผมจะคลานขึ้นเตียงก็เกือบเที่ยงคืนทุกครั้ง

เคลวินก็นั่งรอผมด้วย ทำตาละห้อยคอยมองอยู่ตลอด จนผมรู้สึกผิดที่ทำให้เขาไม่ได้หลับได้นอน ผมเลยหาทางให้เคลวินหลับพักผ่อนก่อนผม ด้วยการโจมตีจุดที่เขาอ่อนไหวที่สุด นั่นคือสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ

ความกลัวแก่ กลัวเหี่ยว แล้วจะทำให้ผมเบื่อทำให้เคลวินวิตกกังวลอยู่ไม่น้อย แต่แทนที่เขาจะไปหลับนอนให้เพียงพอ เพื่อให้หน้าเด้งเนียนใส เขากลับไปเสาะหาวิธีทำให้ผิวพรรณเขาเต่งตึงสดชื่นมาใช้กับตัวเอง บางครั้งมันก็ทำให้ผมขำจนหัวเราะออกมา

“ทำอะไรกับหน้าล่ะเนี่ย”

ผมถามเขาในคืนหนึ่งเมื่อเห็นเคลวินละเลงหน้าตัวเองด้วยแตงโมปั่น แล้วมานอนหงายอยู่ข้างๆผม กำลังทำงานเพลินๆ หันไปเห็นหน้าที่เต็มไปด้วยแตงโมเละๆของเขาโดยมีผ้าก๊อตบางๆคลุมอยู่ ผมหัวเราะก๊ากราวกับคนสติแตก

“บำรุงผิวด้วยแตงโมครับ ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นสดใส”

เขาตอบกลับมาหลังผ้าก๊อต ผมกลัวว่าตัวเองจะทำงานไม่ได้ เพราะหัวเราะไม่หยุด เลยรีบหันกลับมาทำงานต่อ



คืนถัดมา เคลวินก็มานอนข้างๆผมอีก คราวนี้หน้าของเขามีกลิ่นหอมของกล้วยหอมกับน้ำผึ้ง เขาเอามาบดผสมกันและทาหน้าเพื่อทำให้ผิวพรรณนุ่มเนียน

“ลองทำดูบ้างไหมครับเคน มันช่วยให้ผิวพรรณดูนุ่มขึ้นจริงๆนะ”

“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวมดขึ้นหน้า”

ผมปฏิเสธความหวังดีของเขา แค่เห็นเคลวินเที่ยวได้ไล่เอาผลไม้มาทำเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิว ผมก็ขำจะแย่อยู่แล้ว จะให้เอามาโปะหน้าตัวเองบ้าง ผมก็นึกไม่ออกว่ามันจะตลกแค่ไหน





“เอาแตงกวามาเล่นอีกแล้ว”

ร้องแซวเขาเมื่อเห็นเคลวินนอนหงาย โดยมีแตงกวาที่หั่นเป็นแว่นๆ โปะอยู่บนใบหน้า ผมเอื้อมมือไปหยิบชิ้นที่วางอยู่บนเปลือกตาของเขา เคลวินลืมตาขึ้นมองแล้วได้ทันเห็นผมเอามันใส่ปากเข้าพอดี

“เคน เอาไปกินได้ไงครับ”

“อ้าว ก็มันเป็นผัก ผลไม้ ทำไมจะกินไม่ได้ล่ะครับ”

ถามเขาอย่างขำขำ เมื่อเห็นเคลวินโวยวาย เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโต

“แต่มันอยู่บนหน้าผมอ่ะ มันอาจจะสกปรก”

“อ้าว ...แล้วเคลวินไม่ได้ดูแลผิวพรรณจนสะอาดหรอกหรือครับ”

ย้อนถามเขา เคลวินอึ้งพูดไม่ออก เห็นท่าทางของเขาแล้วผมก็อดขำไม่ได้

“อร่อยดีออก”

บอกเขาแล้วก็หันมาสนใจงานที่ทำอยู่ สักพักเคลวินก็กระดื๊บกระดื๊บมานอนใกล้ ๆแล้วเอาสองแขนสอดโอบกอดเอวผมไว้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยแตงกวาแทรกลอดใต้วงแขนมาเกยที่ตักผม

“คราวนี้กินแตงกวา คราวหน้าเคนกินผมบ้างนะครับ”

ผมถึงกับหลุดขำก๊ากออกมา เมื่อเห็นหน้าและได้ยินคำพูดของเขา คนเจ้าเล่ห์ หื่นได้ทุกสถานการณ์จริงๆ จะโกรธก็โกรธไม่ลง ขำเขามากกว่า

ไปๆมาๆ ผมก็เริ่มรู้สึกว่า ไอ้อาการหื่นๆของเขาบางครั้งมันก็ดูน่ารักดี เพราะเขาหลงใหลในตัวผม ทำให้กล้าพูดกล้าคิด ไม่ปิดบังความต้องการของตัวเอง การตรงไปตรงมาในเรื่องการแสดงความรู้สึก ทำให้บางครั้งเคลวินก็ดูเป็นคนที่ซื่อๆคนหนึ่ง


--------------------

TBC


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนะคะ

ปล. พี่เคทคะ  เห็นม่ะใครๆ ก็รักคู่นี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 17-12-2008 21:38:00
 :z3: ก็ยังตามมาอ่านอยู่ดี อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-12-2008 21:52:31
อ่านไปก็ขำไป กับมุขของท่านประธาน ฯ

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ รีบเอามาลงบ่อย ๆ น้า +1 ให้กับความขยัน

ปล. ฝากความคิดถึง คุณเคทด้วย  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 17-12-2008 22:25:29
ตอนนี้ไม่ใช่ แค่ชอบ น๊า รักเลยแหละ ทั้งคู่เลย (คนแต่งกะคนโพสไง  :o8: )

วันนี้ลงแค่ตอนเดียวหรือฮะ  :m15:

เด๋วไปหาผลไม้มาโบ๊ะให้หน้าเด้งมั่งดีก่า อ่านไป เด้งไป คริ คริ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-12-2008 23:42:33
ท่านประธานน่ารักอีกแล้ว  :m3:

ออดอ้อนแบบนี้ เคน จะไปไหนรอดเนี่ย


ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 18-12-2008 09:18:02

“คราวนี้กินแตงกวา คราวหน้าเคนกินผมบ้างนะครับ”


  :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:

เข้ามาเพื่อรอฉากนี้โดยเฉพาะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 18-12-2008 19:21:25
เอ่อ  ท่านประธานนี่น่ารักเนอะ   :o8:

ปล.  ที่เคท  รอเจตกะวินด์  อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 18-12-2008 19:27:53
 :m13:

แอบมานั่งรอ  วันนี้จะได้อ่านไหมหนอ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 18-12-2008 19:46:56
รอ ร๊อ  รอ.......
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 39 :D 17.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 18-12-2008 22:09:14
มาแล้วค่ะ  ช่วงนี้ยุ่งนิ๊ดดดดดดนึง  ช้าหน่อยก็อย่าว่ากันเน้อ

บทที่ 40

------------------

ตลอดทั้งอาทิตย์ผมวุ่นวายอยู่กับการงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ดูเหมือนผมจะสร้างความพอใจให้กับท่านประธานเคลวิน ไม่ใช่น้อย เขาไม่ค่อยดุด่า หรือมองผมด้วยสายตาตำหนิเหมือนเคย มีแต่ส่งมอบงานให้ผมทำมากขึ้น จนบางครั้งผมก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นว่าทำไมต้องทำงานมากมายขนาดนี้ แต่ทว่าผมได้รับคำแนะนำ และกำลังใจที่ดีจากพี่นนนี่ เธอพูดให้ผมได้คิดว่า การทำงานหนัก จะช่วยให้เราสามารถที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และนี่อาจจะเป็นวิธีการสอนงานของประธานเคลวินที่จะให้ผมเป็นงานอย่างรวดเร็วก็ได้

เหนื่อยกลับมาบ้าน ผมก็ได้รับการต้อนรับที่ดี จากเคลวินในภาคภรรยา ที่สรรหาวิธีการมาเอาอกเอาใจ ไม่ว่าจะเป็นการปรุงอาหารอร่อยๆให้ผมกิน การคอยพูดคุยให้กำลังใจ หรือทำอะไรแปลกๆให้ผมหัวเราะ เวลาผ่านไปอย่างเนิบช้า และโดยไม่รู้ตัว ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่า การมีเคนอยู่ในห้องเป็นเรื่องเกะกะสร้างความวุ่นวายใจให้ผมอีกต่อไป








ทำงานไปเพลินๆ จนลืมเวลา จนกระทั่งล่วงเลยถึงวันสุดสัปดาห์ที่ทางบริษัทจัดให้มีปิกนิกพนักงาน เป็นการประชุมสัมมนาที่พ่วงการพักผ่อนหย่อนใจให้กับพนักงานด้วย เคลวินตื่นแต่เช้ามืดและกลับไปที่เพนเฮ้าส์ของเขา โดยมีลุงเทพคนขับรถมารับ ส่วนผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและล็อคบ้าน นั่งรถไปยังจุดนัดพบที่บริษัท เราต่างคนต่างแยกกันไป เขาไปรถส่วนตัว ส่วนผมไปกับรถบัสที่ฝ่ายบุคคลหามาเพื่อขนพนักงานไปเที่ยว
นัดหมายกันแปดโมงตรง ผมไปก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เพราะไม่อยากให้ใครมารอ แต่ปรากฏว่ากว่าที่รถทั้ง 6 คันที่ใช้ขนพนักงานจะได้เคลื่อนขบวนออกไปจากจุดนัดพบก็ปาเข้าไปเกือบเก้าโมง เนื่องจากรอกันไปรอกันมา เพราะมีพนักงานที่มาไม่ตรงเวลาด้วย

บนรถมีกิจกรรมแนะนำตัวให้รู้จัก ไกด์จะให้บอกชื่อจริง ชื่อเล่น แผนกที่สังกัด รวมถึงอายุงานด้วย ดูเหมือนคนในรถจะรู้จักกันบ้างแล้ว สังเกตได้จากเวลาที่แต่ละคนออกไปแนะนำก็จะมีเสียงปรบมือเฮฮา และการพูดแซวกันอย่างสนุกสนาน แต่พอถึงคราวที่ผมออกไปแนะนำตัวบ้าง ผมก็รับรู้ได้ถึงสายตาแปลกๆที่มองมา มันผสมผสานทั้งการมองอย่างดูแคลน มองอย่างอยากรู้อยากเห็น แถมมีการแอบนินทาผมด้วย จะมีเพียงสายตาไม่กี่คู่เท่านั้นที่มองผมอย่างเป็นมิตร

ผมเข้าใจว่า การที่ผมก้าวหน้าข้ามขั้น จากเด็กลูกจ้างชั่วคราว ไปทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท สร้างความกังขาให้กับพนักงานที่อยู่กันมาเก่าก่อนอย่างมาก คำถามที่อยู่ในใจของทุกคน คงอยากรู้ว่าผมคือใคร มาจากไหน และทำคุณงามความดีอะไร ถึงได้เลื่อนชั้นก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และคงมีหลายคนที่อาจจะแอบคิดไปในทางไม่ดี ว่าผมมีเส้นมีสาย ได้บารมีของประธานค้ำหัว และบางคนก็อาจจะคิดลึกคาดเดาไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเจ้านายด้วย

ถึงแม้พวกเขาจะติฉินนินทาผม และแสดงท่าทางกริยาไม่พอใจออกมาให้เห็น แต่ผมก็ไม่มีสิทธิไปโกรธใครได้ เพราะการมาของผม มันอาจจะไปก้าวข้ามหัวใครโดยที่ผมไม่รู้ตัว ทางเดียวที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะกับบริษัทนี้ คือการทุ่มเททำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ให้ใครมาพูดว่าเอาได้ ว่าผมมีประธานผลักดันอยู่เบื้องหลังจนประสบความสำเร็จ เพราะมันจะไม่แค่เสียหายกับผมเท่านั้น แต่ประธานเคลวินอาจจะโดนนินทาว่าร้ายไปด้วย


--------------------
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 18-12-2008 22:12:08
“ผมชื่อ มอดนะ เป็นยามอยู่ชั้นทำงานของท่านประธาน”

ตอนที่ผมเดินมานั่ง หนุ่มร่างใหญ่ หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นคนบ้านเดียวกันกับผม ก็ชะโงกหน้าข้ามเบาะมาแนะนำตัว ผมยิ้มให้เขา เราสองคนคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน เขาเป็นยามที่เฝ้าอยู่ที่ชั้นทำงานของท่านประธานเคลวิน ส่วนใหญ่จะทำช่วงกลางวัน แต่เสาร์อาทิตย์ จะมียามอีกคนมาเปลี่ยนกะแทน

ปีนี้บริษัทใจดีให้พนักงานประจำ ลูกจ้างชั่วคราว เด็กฝึกงาน แม่บ้าน และยามไปเที่ยวด้วย เรียกว่าปิดบริษัทกันทีเดียว ตอนแรกไม่มีนโยบายนี้ หลายปีที่ผ่านมา บริษัทจะให้แต่พนักงานประจำได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวเท่านั้น

แต่พอคุณเคลวินเข้ามาดูแลบริษัท เขาก็เปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์หลายอย่าง โดยเฉพาะ การให้สวัสดิการให้พนักงานกินดีอยู่ดี และการจัดกิจกรรมเพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของพนักงานในองค์การ ก็ได้ริเริ่มขึ้นในปีนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานรู้สึกติดองค์กร และมีความรู้สึกจงรักภักดี ทำงานอย่างทุ่มเท ไม่คิดจะหนีหายไปที่อื่น

การเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่สนับสนุนส่งเสริมพนักงานที่ทำงานดีเด่น ขยัน ตอบแทนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ทำให้พนักงานมีความรู้สึกรักองค์กรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเด็ดขาด ดุดัน ก็ทำให้หลายคนรู้สึกเกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ประธานหนุ่ม เพราะกลัวจะทำอะไรไม่ถูกใจ แล้วจะโดนว๊ากใส่

ดังนั้นการที่เด็กใหม่อย่างผม ได้โอกาสทำงานใกล้ชิดกับเจ้านายใหญ่ของบริษัท จึงสร้างความคลางแคลงใจให้เกิดขึ้นกับใครๆหลายๆคน จนไม่มีใครอยากยุ่งกับผม แม้แต่เพื่อนที่แผนกเดิมก็ยังมองผมด้วยสายตาไม่ดี ผมจึงกลายเป็นคนที่มีเพื่อนน้อยมาก และมักจะคบกับคนที่อยู่ในระดับชั้นฐานะทางสังคมแบบเดียวกับผม เช่นพวกแม่บ้าน หรือยาม ซึ่งมักจะให้ความเมตตาปราณีกับผม มากกว่าพนักงานที่มีตำแหน่งหน้าที่ดีๆเสียอีก

ผมแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการกับมอดบ้าง เราเคยคุยกันแต่เราไม่รู้จักชื่อของอีกฝ่าย เพราะเวลาอยู่ที่บริษัท เราต่างก็ยุ่งในงานของตัวเอง และความที่ผมพยายามทุ่มเทให้กับงาน เพื่อไม่ให้ถูกคนครหาว่าผมไม่มีความสามารถแต่เล่นเส้น ผมจึงพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นเห็น วันทั้งวันผมก็เลยคลุกอยู่กับกองงาน ไม่ค่อยได้ไปนั่งพูดคุยเล่นกับใครที่ไหน กอร์ปกับผมไม่ชอบสายตาที่มองมาอย่างดูหมิ่น ไม่เป็นมิตร ผมเลยเก็บตัวเงียบๆ อยู่กับงานอย่างเดียว ถ้าไม่มีใครชวนพูดคุยด้วย ผมก็คงไม่คุยกับเขาก่อน เพราะผมไม่รู้ว่า เขาต้องการเป็นมิตรกับผมหรือเปล่า

การมาเที่ยวครั้งนี้ ผมก็เลยได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน มอดอายุแก่กว่าผมสามปี แต่เขาไม่ยอมให้ผมเรียกเขาว่าพี่ เพราะตำแหน่งหน้าที่การงานของเขาด้อยกว่า กลัวว่าจะเป็นการตีเสมอ มอดเรียนน้อยกว่าผม เขาจบแค่ ป.6 เท่านั้น ความยากจนแร้นแค้น ทำให้เขามุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อหางานทำ


เขาจับมาหมดแล้วทุกอย่างตั้งแต่งานกรรมกรแบกหาม งานรับจ้าง หรือแม้กระทั่งการเป็นหนุ่มโรงงาน จนวันหนึ่งมอดมีโอกาสได้เจอท่านผู้จัดการชาตรี เขาเป็นคนแนะนำให้มอดมาสมัครที่นี่ และเคลวินก็รับไว้ด้วยความสงสาร เห็นว่ามอดท่าทางซื่อๆ ท่าทางขยันไว้ใจได้ เลยให้มอดมาทำงานเป็นยาม

ตอนแรกมอดเฝ้าลานจอดรถก่อน จากนั้นก็ขยับขึ้นมา เฝ้าในอาคาร คอยตรวจตราดูแลตามชั้นต่างๆ ความขยันขันแข็งของมอด ทำให้ท่านประธานพอใจ จึงมีคำสั่งให้มอดขึ้นมาดูแลชั้นที่ท่านทำงานอยู่ จนปัจจุบัน มอดก็ทำงานกับเคลวินมาได้ 2 ปีแล้ว

เราสองคนคุยกันอย่างถูกคอ ท่าทางซื่อๆของเขา ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เจอคนที่มีลักษณะนิสัยอย่างเดียวกัน ทำให้ผมสนิทกับเขาโดยง่าย เขาเล่าเรื่องอะไรต่ออะไรให้ผมฟังหลายอย่าง ทั้งเรื่องครอบครัว และเรื่องงาน มอดบอกว่า ในชีวิตของเขา มีคนที่ต้องขอบคุณอยู่สองคน คนหนึ่งคือท่านประธานเคลวิน ที่ใจดีมีเมตตา ให้โอกาสเขาได้ทำงานด้วย และอีกคนที่จะลืมเสียไม่ได้คือคุณชาตรี ผู้แนะนำเขามาทำงานที่นี่ และเป็นผู้ช่วยเหลือดูแลตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ ผมฟังเขาเล่าถึงนายชาตรีแล้วก็ขำ ไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนที่มีใจอ่อนโยนเป็นด้วย เพราะที่ผ่านมา เขาเอาแต่ตีหน้ายักษ์และคอยจ้องจับผิดผมโดยตลอด บางทีบุคลิกภาพที่เห็น กับตัวจริงที่เป็นอาจจะแตกต่างกันก็ได้ สงสัยผมคงต้องหามุมใหม่ๆ เพื่อมองนายชาตรีบ้างแล้ว


--------------------

TBC

ขอบคุณสำหรับ ทุกเม้นท์นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 18-12-2008 22:19:45
 :o8: ดีใจที่มาต่อคะ..








..ถึงจะสั้นไปนิดก็เถอะนะ...  :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 18-12-2008 23:49:45

อยากมีภรรยาแบบนี้บ้างจัง  อิจฉาแทนเคนเลย  เอิ๊กๆๆ :impress2:

หลงรักในตัวเคลวิ่นขึ้นเรื่อย ๆ

เวลามองฝรั่งคนไหนก็นึกถึงเคลวิ่นเลย โฮะ ๆ หนักแล้วเรา 555+



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: pantanakan ที่ 19-12-2008 00:27:07
หนูเคน  ระวังเคลวินจะหึงนะ   เดี๋ยวก็ไม่รอดหรอก

พ่อคนนั้นยิ่งขี้น้อยใจอยู่ด้วย   ขอบคุณที่มาต่อนะคะ   รักสองหนุ่มนี้จังเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 19-12-2008 00:41:45
,มีคุณภรรยาแบบนี้ รักตัยเยย อิอิ

แต่เอ๊ะๆๆ นั่นจิ ระวัง คุนประธานหึงเอานา เอิ้กๆ

เด่วจะโดน ลงโทษมิใช่น้อย

ของเก่า ยังใช้ไม่หมดเลย เด๋วคุนภรรยาก้อเพิ่ม ให้อีกหรอก    :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 19-12-2008 01:33:29
เหอะๆๆ ภรรยาน่ารักอ่ะ แง่มๆๆ
แต่สนิทกันแบบนี้ ระวังน๊า
อิๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 19-12-2008 06:42:53
เรื่องเริ่มดำเนินออกจากกรอบแล้ว

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 19-12-2008 08:04:34
ว่าแต่ว่าไปสนิทกะชาวบ้านเค้า ภรรยาจะไม่หึงเอาเหรอ :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 19-12-2008 09:27:40
 :-[ อย่าหึงกันรุนแรงน๊า เด้วเลือดท่วมอิอิ



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 19-12-2008 10:00:36
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 19-12-2008 10:52:40
 o18 เหมือนพายุจะเริ่มตั้งเค้าหรือเปล่า

ใช้หนี้เก่ายังไม่หมดอาจต้องเพิ่มหนี้ใหม่เข้าไปอีกนะคุณเคน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 40 :D 18.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-12-2008 11:39:17
นายมอด ไปจี้จ้ากะ เคน มาก ระวังนะภรรยาเคนเขาขี้หึงมากมาย   :laugh:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 20-12-2008 21:10:20

บทที่ 41

-----------------------

ประมาณสามชั่วโมง รถก็มาถึงโรงแรมที่จัดให้เป็นที่พักสำหรับพนักงาน มันเป็นโรงแรมระดับห้าดาว ที่ปลูกสร้างอยู่บนเนินเขาหน้าอ่าว เป็นตึกสูง 5 ชั้น 2 ตึก อยู่ทางด้านปีกซ้ายขวา โดยด้านหลังโอบล้อมด้วยเขาสามด้าน มีเรือนพักชั้นเดียว แยกต่างหาก ปลูกรายล้อมลดหลั่นกันไป ตั้งแต่เชิงผาด้านบน จนมาถึงเนินดินด้านล่างทั้งหมด 10 กว่าหลัง ด้านหน้าเป็นหาดทรายโค้งวงพระจันทร์ ทรายสวยงามสะอาดตา มีสระว่ายน้ำ ขนาดใหญ่ประมาณสามสระ ให้คนที่ไม่ชอบน้ำทะเล ได้ลงเล่นด้วย

เจ้าหน้าที่บริษัทประสานงานกับเจ้าหน้าที่โรงแรมในการรับเช็คอินพนักงานแต่ละห้อง เมื่อทุกคนได้รับกุญแจเรียบร้อยแล้ว ไกด์ก็ให้เวลาพนักงานให้อาบน้ำล้างหน้าเปลี่ยนชุดกีฬา 30 นาที จะมีการจัดกิจกรรมแข่งกีฬาสีที่ชายหาดให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกัน โดยจะแบ่งเป็นการแข่งขันระหว่างพนักงาน กับพนักงาน และพนักงาน กับ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ผมเองก็ถูกจองตัวให้ลงแข่งกีฬาด้วย ทั้งวิ่งสามขา ชักเย่อ และการแข่งขันเกมส์วิบาก เป็นตัวแทนของฝ่ายบริหาร ซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน พี่นนนี่ซึ่งตัดสินใจมาเที่ยวและพาครอบครัวมาด้วย ไม่ได้ลงแข่ง เพราะต้องดูแลครอบครัว คนอื่นๆก็ไม่ยอมลง กลายเป็นว่า ผมเลยเป็นตัวแทนของเพียงแค่คนเดียวที่ร่วมเล่นสนุกกับคนอื่นๆ

รับกุญแจเสร็จ ผมกับมอดก็แยกย้ายกันไปยังที่พักของตน ผมได้ห้องที่เรือนพักเดียวกับเคลวิน ซึ่งเป็นเรือนเดี่ยวแยกออกมาต่างหากบนชะง่อนผา หันหน้าออกไปยังทะเล ผู้บริหารระดับสูง อย่างประธาน รองประธาน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ จะได้รับสิทธิเป็นวีไอพีพักบ้านเดี่ยว คนละหลังเพราะแต่ละคนก็เอาครอบครัวของตัวเองไป จึงไม่สะดวกที่จะให้พักในห้องพักของโรงแรม เคลวินไม่มีครอบครัว เลยให้ผมได้พักอีกห้องข้างๆ เพื่อคอยช่วยเหลืองานเขา พนักงานคนอื่นๆ ก็กระจายพักกันในโรงแรม ซึ่งถูกเหมาหมดทุกห้อง ให้กับพนักงานในบริษัทของเคลวินทุกเครือ

ตอนที่ผมไปถึงบ้านพัก ห้องของเคลวินถูกเปิดใช้งานแล้ว แสดงว่าเคลวินมาถึงก่อนผม และตอนนี้เขาคงพักผ่อนอยู่ในห้อง ผมรีบเดินย่องๆ ไปเปิดห้องของตัวเองด้วยฝีเท้าแผ่วเบา กลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียง ผมรู้สึกกลัวท่านประธานเคลวินขึ้นมา กลัวว่าเขาจะทำอะไรรุ่มร่ามกับผม ยิ่งอยู่กันสองคนในเรือนพักแบบนี้ ประธานจอมหื่นอาจจะหาเรื่องลวนลามผมก็ได้

ความกังวลใจของผมไม่ได้อยู่ที่การกลัวที่จะถูกเคลวินปล้ำทำมิดีมิร้าย แต่ผมกลัวคำครหา หากบังเอิญมีคนมาพบเห็นเราสองคนในสภาพที่ไม่ใช่เจ้านายไม่ใช่ลูกน้องแต่เป็นลักษณะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน คงจะหลีกเลี่ยงที่จะถูกนินทาได้ยาก ผมเป็นเพียงลูกจ้างก็คงไม่แคล้วถูกมองว่าใช้ร่างกายเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ แต่เคลวินซึ่งอยู่ในฐานะเจ้าของบริษัท กลับมายุ่งเกี่ยวกับพนักงานของตัวเอง คงจะโดนหนักกว่า ว่าใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะประธานบริษัทไปในทางที่ผิด มีความลำเอียง เลือกปฏิบัติ ไม่ยุติธรรมต่อคนอื่น ทำให้พนักงานเสื่อมศรัทธา และอาจจะทำให้เขามีปัญหาในการบริหารงานได้ ผมจึงต้องระมัดระวังตัว โดยพยายามอยู่ห่างเคลวินเข้าไว้ จะได้ไม่มีเรื่องเสียหายให้คนเอาไปว่าร้าย

ทว่าดูเหมือนสิ่งที่ผมคิดกังวลมันมีวี่แววว่าจะเป็นจริง เมื่อผมถูกซุ่มโจมตีข้างหลังด้วยชนเผ่าชีกอ ขณะที่ผมไขกุญแจเข้าห้อง ประธานเคลวินมาจากไหนไม่รู้สวมกอดเอวผมหมับ แล้วระดมจูบผมอย่างเมามัน

“ทำไมมาช้าจังเลย ผมคิดถึงเคนมากรู้ไหมครับ”

เขาพร่ำพูดต่อว่า ขณะที่กอดและจูบผม มือเขาเหนียวหนึบยังกับตุ๊กแกเกาะไม่ปล่อย ผมพยายามผลักไสเขา ออกไปให้ห่างตัว ตาก็มองไปรอบๆ ด้วยกลัวใครมาเห็น เวลานี้ถึงแม้ว่าเราจะอยู่กันตามลำพังสองคน แต่เขายังอยู่ในคราบประธานเคลวิน ไม่ใช่ภรรยาของผม ดังนั้นต้องปลอดภัยไว้ก่อน

“รถแวะเที่ยวมาตลอดทางนี่ครับ ตามโปรแกรมของทางทัวร์ครับ”

ผมตอบเขาไปอย่างสุภาพ เวลานี้เวลางาน ผมไม่ใช่สามีของเขาแต่อยู่ในฐานะลูกจ้าง ต้องพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน เคลวินจะได้สะกิดใจ

“จริงสิ ผมลืมไปเลย ผมไม่ได้แวะไหน ตรงดิ่งมานี่เลย เพราะคิดว่าจะได้เจอคุณ กะว่าจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆสักหน่อย”

เคลวินทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่วายบ่นกระปอดกระแปด

“เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกครับ เคลวิน ตอนนี้คุณอยู่ในฐานะประธานบริษัทนะ ต้องไปปรากฏตัวเป็นขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานไม่ใช่เหรอครับ เดี๋ยวอีกสักพักเขาจะมีแข่งกีฬากันริมทะเล คุณก็ต้องแข่งด้วยนี่”
เมื่อเห็นว่าเขาแสดงท่าออดอ้อน อยากอยู่กับผม ก็เลยพูดเตือนสติเขาหน่อย แปลกใจตัวเองที่กล้าดุเขา อาจจะเป็นเพราะเคลวินยังคงลืมตัวนึกว่าอยู่ในบทบาทภรรยา เขาเลยทำตัวขี้อ้อนให้ผมตามใจ ผมเลยกล้าที่จะบอกกล่าวเขาได้ หวังว่าเมื่อเขากลับคืนมาสู่บทบาทประธาน เขาจะเข้าใจได้ถึงความหวังดีของผม ที่ไม่ต้องการให้เขาตกเป็นขี้ปากของใคร

“จริงสิ ผมลืมไปซะสนิทเลย ว่ามันมีโปรแกรมนี้ด้วย ผมเองก็ต้องลงแข่งเหมือนกัน เคนเองก็แข่งด้วยไม่ใช่หรือครับ ถ้างั้นเราก็จะได้เจอกันในสนามสิ ผมไม่อ่อนข้อให้คุณหรอกนะ”

ดูเหมือนการเบี่ยงเบนเรื่องได้ผล เคลวินให้ความสนใจกับเรื่องกีฬาที่จะลงแข่งขึ้นมาทันที แถมคุยโว ว่าจะเอาชนะผมได้แน่

“ก็ต้องลองดูนะครับ เพราะพวกผู้บริหาร ทำแต่งานใช้สมอง ไม่ค่อยได้ออกแรง แต่พวกพนักงาน เน้นปฏิบัติตามคำสั่งเป็นหลัก พวกเราแข็งแกร่งกว่าพวกคุณอยู่แล้ว ถ้าแพ้ อย่ามาโทษกันนะครับ”

ผมได้โอกาสคุยทับกลับไปบ้าง นานๆจะมีโอกาสข่มขวัญคนเป็นเจ้านาย แม้จะเป็นเพียงแค่การแข่งกีฬาแต่มันก็ทำให้หายเครียดได้ดี

ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้ เราเลยตกลงกันว่าจะไปเจอกันในสนาม เพื่อวัดความสามารถกัน

“ถ้าผมชนะ เคนต้องนอนกับผมในห้องนะครับ”

นี่คือรางวัลที่เขาต้องการ หากเขาเอาชนะผมได้ เคลวินสมกับเป็นนักธุรกิจผู้เล็งผลเลิศจริงๆ เขาชอบการแข่งขัน ชอบเอาชนะ ท้าทายตนเองเพื่อการบรรลุเป้าหมายตลอดเวลา และไม่เคยละโอกาสที่จะฉกฉวยเอารางวัลที่เขาต้องการ

“เดิมพันอย่างอื่นไม่ได้เหรอครับ แบบนี้มันอันตรายนะ”

สิ่งที่เขาร้องขอ เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้ มีความรู้สึกว่าผมกับเขากำลังทำอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกเปิดโปงง่ายๆ ดังนั้นผมต้องจำเป็นต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม เพราะหากมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้น มันจะแก้ไม่ทัน ทว่าเคลวินกลับไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้สึกกลัวว่าจะมีคนมาล่วงรู้ความลับระหว่างผมกับเขา

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ บ้านพักของผม ไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามนอกจากว่าผมจะสั่ง ทุกคนรู้ดีว่าหากฝ่าฝืนจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่มีใครมาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเราหรอกครับ”

เขาให้คำตอบในสิ่งที่ผมกังวลใจ แต่ผมก็ยังเป็นห่วงกลัวความลับจะแตกอยู่ดี

“แต่ผมอยากเปลี่ยนเดิมพันนี่ครับ”

“ทำไมล่ะ กลัวว่าจะต้องแพ้ผมหรือไง เคนไม่มั่นใจตัวเองเหรอ ไหนว่า พนักงานอย่างพวกคุณ แข็งแรงมากกว่าผู้บริหารไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าล่ะ”

น้ำเสียงของเขาเจือแววดูหมิ่น ผมรู้ว่ามันไม่ได้มาจากความรู้สึกดูถูกของเขา เคลวินแค่ต้องการให้ผมเอาชนะคำสบประมาทให้ได้ต่างหาก และผมก็โง่พอที่จะตกหลุมพรางที่เขาดักล่อไว้

----------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 20-12-2008 21:55:10
 o18 o18 o18






รู้ว่าจะตกหลุมพรางอ่ะนะ




อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 20-12-2008 22:19:16
มารอดูผลแพ้ ชนะ  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 20-12-2008 22:32:04
 :impress2:  มารอลุ้นผล...




 :o8: :o8: :o8: :o8: ถ้าเคนแพ้..สงสัยมีเฮ...!!!!  :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 20-12-2008 22:41:30
มารอดูคนเต็มใจตกหลุมพราง (แห่งความรัก)   :z1:


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 20-12-2008 22:46:21

ทว่าดูเหมือนสิ่งที่ผมคิดกังวลมันมีวี่แววว่าจะเป็นจริง เมื่อผมถูกซุ่มโจมตีข้างหลังด้วยชนเผ่าชีกอ


 :a5: :a5: :a5: :a5:

ชนเผ่านี้มันอยู่ที่ใดครับพี่เคท  อยากเห็นตัวเป็น ๆ จัง

+1 เป็นกำลังใจให้ครับ

ปล.วันนี้นู๋จะได้เห็นบอดี้การ์ดไม๊คับ   :m17: :m17:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 20-12-2008 22:51:20
อิๆๆๆ
จะเล่นเกมส์อ่ะไรกันอ่ะ
แน่ๆ ท่านเคลวินของเราคงควันออกหูชัวร์ๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 20-12-2008 23:08:02
ชักอยากให้เคนแพ้แล้วสิ 55 5+   :m3:

:ped149: เคลวิ่น

+1 สำหรับความขยันที่อัพบ่อย  :กอด1:


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 20-12-2008 23:41:16
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ  สนุกดีอ่ะ

คุณสามี อ่อนข้อแพ้ให้กับคุณภรรยาเห๊อะ :impress2:

ว่าแต่คุณสามี เมื่อไร จะยอมรับรักคุณภรรยาอ่าเนี่ย :-[

รออ่านตอนต่อไปครับ :really2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 20-12-2008 23:51:34
 :z1: ถ้าหนุ่มเคนของเราแพ้ส่งสัยเลือดท่วมแน่เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 21-12-2008 02:01:18
เจอ เควิล ท้าประลอง แบบนี้ หนุ่มเคนจะยอมได้ไงเค่อะ
เอาเลยค่ะ อย่างเก่ง ก้อแค่ แพ้
และก้อ... ต้องนอนห้องเดียวกับเควิลแค่นั้นเอง  คึคึ  :z1:   
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 21-12-2008 02:13:35
:duck1: ขนขบวนมาร่วมเชียร์เป็นกำลังใจให้เคลวินเผด็จศึกหนุ่มเคน  :ped149: :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:


ปล.รักคนมอง จองคนอ่าน  :-[

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-12-2008 03:20:21
งานนี้เคลวินชนะแง๋ๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: muhan ที่ 21-12-2008 12:07:42
  :-[ :o8: อิอิ ขอรางวัลกันแบบนี้ เห็นทีเคนจะมีแต่เสียกับเสีย ห้าห้าห้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 41 :D 20.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 21-12-2008 22:11:29
บทที่ 42

--------------------


“ถ้าผมชนะ เคนต้องนอนกับผมในห้องนะครับ”

นี่คือรางวัลที่เขาต้องการ หากเขาเอาชนะผมได้ เคลวินสมกับเป็นนักธุรกิจผู้เล็งผลเลิศจริงๆ เขาชอบการแข่งขัน ชอบเอาชนะ ท้าทายตนเองเพื่อการบรรลุเป้าหมายตลอดเวลา และไม่เคยละโอกาสที่จะฉกฉวยเอาประโยชน์จากสิ่งที่ทำ

“เดิมพันอย่างอื่นไม่ได้เหรอครับ แบบนี้มันอันตรายนะ”

สิ่งที่เขาร้องขอ เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้ มีความรู้สึกว่าผมกับเขากำลังทำอะไรที่เสี่ยงต่อการถูกเปิดโปงง่ายๆ ดังนั้นผมต้องจำเป็นต้องตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม เพราะหากมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้น มันจะแก้ไม่ทัน ทว่าเคลวินกลับไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้สึกกลัวว่าจะมีคนมาล่วงรู้ความลับระหว่างผมกับเขา

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ บ้านพักของผม ไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามนอกจากว่าผมจะสั่ง ทุกคนรู้ดีว่าหากฝ่าฝืนจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่มีใครมาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเราหรอกครับ”

เขาให้คำตอบในสิ่งที่ผมกังวลใจ แต่ผมก็ยังเป็นห่วงกลัวความลับจะแตกอยู่ดี

“แต่ผมอยากเปลี่ยนเดิมพันนี่ครับ”

“ทำไมล่ะ กลัวว่าจะต้องแพ้ผมหรือไง เคนไม่มั่นใจตัวเองเหรอ ไหนว่า พนักงานอย่างพวกคุณ แข็งแรงมากกว่าผู้บริหารไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าล่ะ”

น้ำเสียงของเขาเจือแววดูหมิ่น ผมรู้ว่ามันไม่ได้มาจากความรู้สึกดูถูกของเขา เคลวินแค่ต้องการให้ผมเอาชนะคำสบประมาทให้ได้ต่างหาก และผมก็โง่พอที่จะตกหลุมพรางที่เขาดักล่อไว้

“ก็ได้ครับ แต่ถ้าเคลวินเป็นฝ่ายแพ้ เราห้ามมีอะไรกันอีกนะครับ”

ยอมตกลง แต่ผมก็เสนอเดิมพันของตัวเองเช่นกัน น่าจะเป็นวิธีหนึ่งที่กันไม่ให้เคลวินมายุ่งกับผมได้
พอได้ยินข้อต่อรองของผม เคลวินก็หน้าบึ้งขึ้นมาทันที จนผมรู้สึกกลัว มองหน้าเขาประเมินสภานการณ์ว่าตอนนี้ เคลวินกำลังเป็นใครอยู่ ประธานแสนดุ หรือว่าภรรยาขี้อ้อน สักพักผมก็ได้คำตอบ น้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าที่ดังออกจากปากของเคลวิน ทำให้ผมโล่งใจเมื่อรู้ว่าเขาสวมบทบาทภรรยาของผมอยู่ เพราะผมยังสามารถรับมือได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เขาเป็นประธานเคลวิน พลังผมจะอ่อนกว่าเขาทันที

“เคนรังเกียจการที่จะมีอะไรกับผมถึงขนาดนี้เลยหรือครับ ถึงต้องนำมันมาต่อรองกับการเล่นกีฬาของเรา ที่ผ่านมาผมทำให้เคนอึดอัดไม่สบายใจหรือครับ ผมบีบบังคับใจเคนใช่ไหม”

เขาถามด้วยเสียงสั่นเครือ ผมตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นเคลวินในสภาพอ่อนแอแบบนี้มาก่อน คนที่เคยเข้มแข็งจนดูเหมือนเป็นคนโหดร้าย คนที่เคยออดอ้อนเอาใจ พยายามทำตัวเป็นภรรยาที่แสนดี ตอนนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าผม ตาแดงก่ำ เม้มริมฝีปากแน่น ท่าทางเขาเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่ถูกขัดใจ ช่างแตกต่างกับมาดเข้มของเขาเสียจริง

“เอ้อ....ไม่ใช่แบบนั้นครับ”

ผมเกาหัวแกรกๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอธิบายอย่างไรดี เคลวินเข้าใจผิดเสียแล้วว่าผมชิงชังรังเกียจเขา ทว่ามันไม่ใช่เลย การที่ผมกันเขาออกห่าง ก็เพราะป้องกันความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า หากเรายังใกล้ชิดกัน และมีอะไรทุกวันแบบนี้ ต่อไปการแยกจากกันจะทำได้ลำบาก ที่ผมกลัวไม่ใช่ใจของเคน เพราะรู้ดีว่า เขามีความรักมั่นคงให้ผมแค่ไหน แต่ที่กลัวคือหัวใจของตัวเอง ที่นับวันมันอ่อนไหว ยอมเคลวินอย่างง่ายดายทุกที ผมกลัวว่าผมจะตัดใจจากเขาไม่ได้ และกลัวว่าในท้ายที่สุดผมจะรักเขาเข้าสักวัน

นอกจากจะกลัวว่าผมจะยอมรับเขามาเป็นภรรยาของผมแล้ว ผมยังกลัวการต่อต้านจากกระแสสังคมอีกด้วย คนในบริษัทจะพากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องระหว่างเรา ทั้งเขาและผมเสียด้วยกันทั้งคู่ ใครจะเชื่อว่าผมทำงานด้วยความสามารถ คนอาจจะมองว่าผมขายตัวขายศักดิ์ศรี แลกกับตำแหน่งหน้าที่การงาน แล้วประธานเคลวินก็จะถูกล้อเลียน ถูกมองในแง่ไม่ดี แล้วจะมีใครบ้างที่ใจกว้างยอมรับการใช้ชีวิตคู่ของคนที่เป็นเพศเดียวกัน ใครบ้างที่จะไม่มีอคติ แล้วชีวิตคู่แบบระหว่างผู้ชายกับผู้ชายก็ไม่รู้ว่ามันจะยืนยาวหรือขนาดไหน

ไม่ว่าจะมองมุมแง่มุมใด ผมก็ไม่เห็นว่าความรักระหว่างเรามันจะราบรื่น ในขณะที่ผมยังไม่ได้ถลำใจให้กับเขามาก ก็น่าที่จะหาทางแยกจากกับเขาโดยเร็ววัน เคลวินเป็นคนดี เขาคงเจ็บปวดไม่นาน ผมเชื่อว่าเขาต้องหาคนที่เหมาะสมกับเขาได้

นั่นคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด ทว่าพอเห็นท่าทางเสียอกเสียใจของเคลวิน ผมก็รู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ทำร้ายคนที่เขารักและหวังดีกับเราให้น้ำตาตก ตลอดเวลาที่ผ่านมา เคลวินไม่เคยทำความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผม แม้เขาจะเป็นประธานที่โหดและดุ แต่เขาก็ทำไปเพราะอยากให้ผมได้ดี เวลาที่เราอยุ่ด้วยกันตามลำพังที่บ้าน เคลวินก็จะทำตัวน่ารักกับผมตลอดเวลา ไม่เคยมีใครทำดีกับผมได้เท่าเขามาก่อน การที่ผมจะทิ้งเคลวินไป จึงเป็นเรื่องที่โหดร้ายต่อความรู้สึกของเขาอย่างยิ่ง

ถึงตอนนี้ผมรู้สึกลังเลใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกที่มีต่อเคลวินมีทั้งอยากอยู่ใกล้ แล้วอยากหนีไปให้ไกล มันวนเวียนสลับกันไปตลอดเวลา ทว่ามันเอนเอียงไปทางอยากให้เขาอยู่ข้างๆกาย เคลวินทำให้ชีวิตผมไม่น่าเบื่อ มีรสชาติขึ้น ไม่เหงาเหมือนตอนที่อยู่คนเดียว ถึงแม้เขาจะวุ่นวาย เอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลา น่ารำคาญ แต่ผมกลับอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเขา เคลวินทำให้ผมหัวเราะเสียงดังได้ เคลวินทำให้ผมกล้าที่จะเป็นตัวเอง กล้าดุ กล้าว่าเขา และสิ่งที่ผมกล้าพูดได้อย่างไม่อายปากคือ เคลวินทำให้ผมมีความสุขทางเพศรส จนผมมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่างการมีอะไรกับผู้หญิง หรือผู้ชายเลย

“แล้วมันแบบไหนกันครับ”

เคลวินยังทำเสียงกระเง้ากระงอด ไม่พอใจ

“เคลวินก็รู้ว่า เราสองคนมีสถานะแบบไหน เป็นเพียงเจ้านายกับลูกน้อง บางบริษัท แค่พนักงานกับพนักงานเป็นแฟนกัน คนใดคนหนึ่งยังต้องลาออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา คุณกับผมต่างกันมากนะครับ หากใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเรา ย่อมไม่เกิดเรื่องดีแน่ ผมเลยคิดว่าเราน่าจะงดมีอะไรกันดีกว่า”

อธิบายให้เขารู้ถึงสิ่งที่กังวลใจ เคลวินมีสีหน้าดีขึ้น เมื่อรู้ว่าเหตุผลของผมไม่ได้เกิดจากการที่รังเกียจเขา ประธานผู้มาดมั่นสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่จะเอ่ยกับผมด้วยดวงตาแข็งกร้าว

“ถ้าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เคนกังวลใจ ผมก็ขอบอกเลยว่าผมไม่แคร์ครับ ถ้าวันหนึ่งมีคนรู้เรื่องเรา ผมก็พร้อมจะเปิดเผย ผมเคยบอกกับเคนเสมอไม่ใช่เหรอ ว่าผมอยากแต่งงานกับคุณ อยากใช้ชีวิตร่วมกับคุณ หากใครยอมรับประธานบริษัท ที่แต่งงานมีความสัมพันธ์กับผู้ชายไม่ได้ จะลาออกไปเพราะใจเขาคับแคบ ก็ช่างเขาสิครับ ผมก็ไม่ต้องการคนแบบนี้ ในบริษัทเหมือนกัน ต่อให้เขาทำงานเก่งแค่ไหนก็ตาม”

เคลวินตอบอย่างดื้อดึง ผมรู้ว่าเขาเป็นพวกมั่นใจในตัวเอง กล้าเสี่ยง กล้าตัดสินใจ และไม่กลัวการผิดพลาด แต่ผมล่ะ ผมจะทนคำครหานินทาได้แค่ไหน ผมไม่ต้องการให้ใครมองว่าผมได้ดี เพราะขายตัว

“เคนไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาทำลายความรักที่เรามีต่อกันได้หรอก เราต้องเชื่อมั่นในกันและกัน และต้องช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคนะครับ”

เขากุมมือผมเอาไว้ แล้วมองจ้องผม ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมจริงจัง ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมต้องการปฏิเสธเขา ไม่ใช่ยอมรับ เคลวินกลับมัดมือชกให้ผมร่วมสู้เพื่อรักแท้ไปกับเขาซะนี่ ตีขลุมได้เก่งจริงๆ

“เปลี่ยนเดิมพันของคุณใหม่เถอะครับ ผมไม่ยอมรับข้อเสนอเรื่องการไม่มีอะไรด้วยตลอดไป หากคุณยืนกรานที่จะใช้เรื่องนี้ท้าทายผมล่ะก็ ผมก็อยากขอให้คุณช่วยลดเงื่อนไขลงมาหน่อยได้ไหม เอาแค่ไม่มีอะไรกันแค่สามวันพอ ได้ไหมครับ”

เอาอีกแล้ว สรุปเงื่อนไขตามใจตัวเองอีกจนได้ ใครเป็นคนตั้งเดิมพันกันแน่ เขาหรือผม

“โหย เคลวิน สามวันน้อยไปหรือเปล่าครับ สักสามเดือนได้ไหม”

“นั่นมันมากไปแล้วนะครับ เห็นใจผมบ้างสิ ผมจะทนอยู่กับคุณโดยไม่มีอะไรกันตั้งสามเดือนได้อย่างไร ของอะไรที่มันไม่ได้ใช้นานๆ มันก็เหี่ยวแห้งพอดีสิ เอางี้ สัก 7 วันได้ไหม นี่มากสุดๆแล้วนะ”

เขาทำน้ำเสียงหงุดหงิด จนผมชักรู้สึกเกร็งๆขึ้นมา ด้วยกลัวว่าประธานจอมโหดจะกลับเข้าร่างเคลวิน ถึงตอนนั้น ต่อรองไปคงไม่มีประโยชน์ เพราะเขาคงบังคับผมด้วยอำนาจที่มี

“1 เดือน แล้วห้ามต่อรองอีก”

ตัดใจยื่นข้อเสนอใหม่ ถ้าผมชนะ ผมก็จะสบายตัวไปตั้ง 1 เดือน

“เอางั้นก็ได้ แต่ผมต้องเปลี่ยนเงื่อนไขการเดิมพันให้มันเหมาะสม ถ้าหากผมสามารถชนะคุณได้ คุณจะต้องมานอนกับผมคืนนี้ และยอมให้ผมมีอะไรด้วยทุกคืน”

เขาไม่ยอมแพ้ด้วยเช่นกัน เคลวินนี่ไม่ยอมเสียเปรียบใครจริงๆ

“แต่เราเคยตกลงกันไว้ว่าแค่เสาร์อาทิตย์นี่ครับ”

ผมร้องอุทธรณ์

“ที่ผ่านมา สัญญาไม่เคยทำได้ ถือว่าเราต่างฝ่ายต่างทำผิด ดังนั้นยกเลิกสัญญาเดิมเอาสัญญาใหม่ครับ”
เขาสรุปแบบมัดมือชก

“โหย เอาเปรียบกันนี่นา”

“ถ้าคิดว่าเอาเปรียบ ก็พยายามเอาชนะผมให้ได้สิครับ”

เคลวินยักไหล่ แล้วท้าทาย ด้วยความที่อยากเอาชนะผมเลยตอบตกลง เขายิ้มอย่างพึงพอใจ และหมุนตัวกลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับเล่นกีฬา ผมเข้าห้องของตัวเองบ้าง แต่งตัวไปก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เราต่อรองกัน แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ผมกับเคลวินทำเรื่องเล็กๆเช่นการแข่งขันกีฬาให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ โดยมีเดิมพันเป็นร่างกายของผม ไม่รู้หลวมตัวไปตกลงกับเขาได้อย่างไร ขืนแพ้ คงถูกเขาย่ำยีหมดอิสรภาพแน่ๆ มีทางเดียวเท่านั้นคือชนะให้ได้ ในเกมกีฬาครั้งนี้

--------------------------------
TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 21-12-2008 22:15:11
+1 ให้คนขยัน 

ขยันจริงๆ ..ว่าจะเข้ามาทวงซะหน่อย

กลับเป็นว่าได้อ่านสมใจ...



.... ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งลุ้นให้เคนแพ้...อย่างราบคาบ  :laugh: :laugh:


เชียร์ท่านประธานสุดใจ ขาดดิ้น..
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 21-12-2008 22:27:34
+1 ให้คนขยัน 

ขยันจริงๆ ..ว่าจะเข้ามาทวงซะหน่อย

กลับเป็นว่าได้อ่านสมใจ...



.... ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งลุ้นให้เคนแพ้...อย่างราบคาบ  :laugh: :laugh:


เชียร์ท่านประธานสุดใจ ขาดดิ้น..

 o18 ไม่ต้องกลัวครับผมจะจัดการตัดกำลังหนุ่มเคนให้เอง

กีฬาครั้งนี้เคลวินต้องชนะ  :laugh3: :laugh3: :laugh3:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 21-12-2008 22:32:37
เชียร์เคลวินขาดใจ






 :mc4: :mc4: :mc4:





 :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-12-2008 23:01:06
อยากให้ท่านประธานชนะจริงๆ เลย  :z1:

ขอบคุณทั้งคนโพสต์คนแต่งเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 22-12-2008 00:56:55
กรี๊ดดดดดดด

ในที่สุดก้ตามอ่านทัน

 :-[ :-[ อ่านไปยิ้มไป

เชียร์ท่านประธานขาดใจ :z1: :z1:

ปล :กอด1: +1ให้จร้าา ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่าน อิอิ

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: PrInceZz ที่ 22-12-2008 01:05:40
เหอๆ

สงสัยเราคงใจร้ายจิงๆ

ไม่คงแอบซาดิสๆ นิดนึงเหอะ

 :-[

เชียเคนอ่ะ

 :mc4:

ชอบให้พระเอกขาดใจไป

อิอิ

 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 22-12-2008 01:33:30
คนจ๋วยว่า.. ไม่ว่าจะเป็นคุณประธานผู้เคร่งขรึม ดุ หรือคุณภรรยา ขี้อ้อน

หนุ่มเคนก้อรับมือยากทั้งนั้นแล่ะค่ะ ดูสิคะ มีทั้งลูกล่อลูกชนขนาดนี้

หนุ่มเคนรอดยาก...โฮ่ะๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 22-12-2008 12:42:37
 o18 หมุ่นเคนต้องแพ้เท่านั้น ไม่งั้นมีหวังท่านประธานของเราต้องลงแดงตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 22-12-2008 22:55:08
 :o12:  ไม่มา
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 22-12-2008 23:26:23
ไม..วันนี้ยังไม่มาน้อ

ใครจะชนะน้า ท่านประธาน หรือ ท่านเลขา อยากรู้ อยากรู้  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 22-12-2008 23:29:25
 :really2: เฮ้อ เราก็มาตกหลุมที่คนเขียน
เขียนทิ้งไว้ให้ค้างเหมียนกันนะนี่  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 22-12-2008 23:35:33
 :m26: แว่ว ๆ มาว่าพี่เคทไม่สบายหลัีงกลับจากทำบุญ

เลยมาโพสนิยายไม่ได้สักพัก
ยังไงก็อดทนรอกันหน่อยนะคร๊า ~ บ  :impress:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 23-12-2008 12:12:56
 :L2: หายไวๆ นะคะ รักษาสุขภาพด้วย


..ยังไงก็รอได้คะ.. :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-12-2008 22:53:26
:L2: หายไวๆ นะคะ รักษาสุขภาพด้วย


..ยังไงก็รอได้คะ.. :o12: :o12: :o12:

มิ้นขอบอก  คือตอนนี้พี่เคทหายดีแล้วค่ะ  ป่วยตอนไปอมก๋อย  แถมแต่งตอนเพิ่มมาให้แล้วด้วย
ขอบคุณแทนพี่เคทนะคะที่เป็นห่วง

บทที่ 43

-----------------------

หาดทรายหน้าโรงแรม ถูกเตรียมเป็นสถานที่สำหรับการแข่งขันกีฬาชายหาด มีการตั้งเต็นท์หลังใหญ่ กันแดด สำหรับให้ผู้บริหารและพนักงานได้นั่งชมการแข่งขัน มีถังใส่น้ำแข็ง และขวดน้ำดื่ม ประเภทน้ำเปล่า และน้ำอัดลมเอาไว้แจกจ่าย และของขบเคี้ยวไว้บริการ

การแข่งขันแบ่งออกเป็นสองลักษณะ คือพนักงานแข่งขันกันเอง โดยจะแบ่งออกเป็นห้าสี คือ สีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีเหลือง และสีแดง โดยแบ่งคนแต่ละแผนกออกเป็นจำนวนที่เท่ากัน กับการแข่งขันลักษณะที่สองคือ พนักงานกับระดับบริหารแข่งขันกัน

รางวัลที่ได้ จัดสรรมาจากงบประมาณส่วนหนึ่งของบริษัท ซึ่งจัดไว้สำหรับกิจกรรมพนักงาน เป็นรางวัลไม่ใหญ่โตนัก ส่วนมากก็จะเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกพัดลม หม้อหุงข้าว และเตารีด ซึ่งไม่ใช่ได้คนเดียว แต่จะได้ทั้งทีมเลยหากชนะได้ที่หนึ่งขึ้นมา ยังมีรางวัลเล็กๆลดหลั่นกันไป เป็นขนมนมเนย และของที่ระลึกที่มีตราสัญลักษณ์ของบริษัท

เมื่อได้เวลาเริ่มการแข่งขัน ไกด์ทัวร์ก็ขึ้นมาทำหน้าที่พิธีกร โดยเชิญประธานบริษัทขึ้นมากล่าวถึงการจัดการแข่งขันในครั้งนี้

เคลวินซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตปกฮาวายลวดลายท้องทะเลสีฟ้าคราม และกางเกงลำลองขาสั้นสีขาว เดินขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้า และรับไมค์จากไกด์ซึ่งทำหน้าที่จัดกิจกรรมครั้งนี้

เขาทักทายพนักงานทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กล่าวชมเชยความเพียรพยายามของพนักงานทุกคนที่ทุ่มเท แรงใจแรงกาย ทำงานให้บริษัท จนบริษัทเติบโตก้าวหน้าขึ้น และเพื่อเป็นการขอบคุณพนักงานทุกคน ทางบริษัทจึงได้จัดให้มีกิจกรรมมอบความสุขให้กับทุกคนในฐานะครอบครัวเดียวกัน โดยพามาท่องเที่ยว และพักผ่อนที่รีสอร์ทแห่งนี้ โดยการมาท่องเที่ยวในครั้งนี้ ขอให้ทุกคนทำตัวตามสบาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน ถอดวางทิ้งไว้ที่บริษัท และขอให้ปฏิบัติตัวแบบพี่ๆน้องๆเมื่ออยู่ที่นี่ สนุกกันให้เต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจเขา เพราะเขาเอง ก็ถอดหัวโขนของประธานบริษัทไว้ที่ทำงานแล้ว

สิ่งที่เคลวินพูด สร้างความพึงพอใจให้กับพนักงานทุกคนไม่ใช่น้อย เมื่อเขาพูดจบก็มีเสียงปรบมือแสดงความชอบใจจากทุกๆคน เคลวินมีทำท่าถอดหัวโขนออกจากหัวตัวเองด้วย

ผมได้ยินพนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งข้างๆผม กล่าวชื่นชมเคลวินกันยกใหญ่ ทำนองว่า หล่อ ใจดี แถมนิสัยดีด้วย มีการถามไถ่ว่าเคลวินมีแฟนหรือยัง จากนั้นพวกเธอก็พากันกระซิบกระซาบ พูดคุยถึงประธาน และคนรักที่พวกเขาไม่เคยเห็นกัน บ้างก็ว่าเคลวินคงมีคนที่ชอบพออยู่แล้ว บ้างก็ว่าเคลวินยังโสด เพราะไม่เห็นข่าวว่าคบใครเป็นตัวเป็นตน ต่างก็คาดเดากันไป ผมซึ่งนั่งฟังอยู่ ได้แต่อมยิ้มด้วยความขำ มีเพียงผมกับเขาเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้ เคลวินคบใครอยู่

พอประธานพูดจบ เสียงเพลงเชียร์ก็ดังขึ้น พร้อมด้วยทีมเชียร์ลีดเดอร์ ซึ่งก็คือพนักงานสาวๆของบริษัทก็ออกมาบูม พร้อมๆกันทุกสี เป็นสัญญาณเริ่มเปิดการแข่งขัน

ประเดิมการแข่งขันแรกเป็นการแข่งกันเองระหว่างพนักงาน เป็นกีฬาง่ายๆสนุกๆ ใช้เวลาไม่นานมากนัก เช่น วิ่งเปี้ยว ชักเย่อ เก้าอี้ดนตรี และเกมกินวิบาก ผมไม่ได้ร่วมลงแข่งในรายการเหล่านี้ เพราะถูกจัดให้ลงในเกมที่ต้องแข่งกับฝ่ายบริหารของบริษัท

ซึ่งพวกพนักงานไม่ค่อยมีใครอาสาสมัครลงแข่ง เนื่องจากเกิดความเกรงกลัวว่าจะไปทำอะไรไม่ถูกใจ และจะมีผลต่องาน

เดิมทีผมไม่อยู่ในรายชื่อของคนที่จะแข่ง แต่ในเมื่อไม่มีใครกล้าเล่นกับผู้บริหาร ผมซึ่งทำงานรับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ก็เลยถูกเลือกให้ลงแทบจะทุกรายการ จะบอกปัดก็ไม่ได้ ก็เลยจำใจต้องลงเล่นอย่างเลี่ยงไม่ได้

มอดเองก็มีโอกาสได้ลงแข่งกับเขาด้วย ในการแข่งระหว่างพนักงานกับพนักงาน เขาลงแข่งกีฬาที่ต้องอาศัยแรงกาย อย่างเช่นชักเย่อเป็นต้น

ผมยืนเชียร์มอด เป็นกำลังใจให้เขา ดูเหมือนมอดจะเป็นคนเดียวตั้งแต่ผมมาทำงานที่นี่ ที่ชวนผมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่ค่อยอยากจะพูดคุยยุ่งเกี่ยวกับผม ยิ่งผมได้ทำงานใกล้ชิดท่านประธานบริษัท ก็ดูเหมือนว่าผมจะได้ถูกใครหลายต่อหลายคนเขม่น

ผมไม่ค่อยถือเรื่องชั้นวรรณะสักเท่าไหร่ ไม่ได้คิดรังเกียจว่ามอดเป็นเพียงแค่ยามเท่านั้น แต่เขามีศักดิ์ศรีความเป็นคนเท่าเทียมกับคนอื่น

เขาเป็นพนักงานเหมือนๆกันกับผม และในเมื่อเขากล้ามาพูดคุยกับผม ในขณะที่คนอื่นเมินหน้าหนี แล้วอย่างนี้ ผมจะปฏิเสธไมตรีเขาได้ไง

“มอดเล่นกีฬาเก่งจังเนอะ”

ขณะที่ผมกำลังยืนดูมอดแข่งชักเย่อเพลินๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างตัว คุณชาตรี ผู้จัดการฝ่ายที่ผมเคยไปทำงานด้วยในระยะหนึ่ง เดินมายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

วันนี้เขาแต่งตัวแปลกตาออกไปจากที่เคยเห็น ใส่เสื้อกล้าม และมีเสื้อฮาวายสีสันฉูดฉาดคลุมทับอีกที นุ่งกางเกงขาสั้นแค่เข่าสีแดงสด

ที่คอมีพวงมาลัยดอกกล้วยไม้คล้องอยู่ ที่ข้อมือก็มี ตาของเขามองไปที่การแข่งขัน ผมมองเขาแล้วก็มองตามสายตาของเขา ก็พบว่ามันโฟกัสอยู่ที่มอดเพียงคนเดียว อะไรบางอย่างบอกให้ผมรู้ว่า มันมีบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ผมยังนึกไม่ออกว่ามันคืออะไร

“แข็งแรงดีเนอะ”

เขาพูดกับผมอีก ผมหันไปมองหน้าเขาแล้วก็หันกลับไปมองที่มอดอีกครั้ง รู้สึกแปลกๆ

---------------------------
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-12-2008 22:57:13



“เธอเล่นกีฬากับเขาด้วยหรือเปล่า”

อยู่ดีๆ เขาก็ถามผมขึ้นมา

“เล่นครับ”

ตอบเพียงแค่นั้น เพราะคิดว่า เขาคงไม่ได้อยากรู้อะไรมากมาย คงแค่ถามเพื่อชวนคุยเท่านั้น แต่ผิดคาดเขากลับซักถามต่อ

“ลงอะไรไว้บ้างล่ะ”

“ก็มีชักเย่อ วิ่งสามขา และเกมอีกสองสามเกมครับ”

เมื่ออยากรู้ ผมก็ตอบให้หายข้องใจ เขาพยักหน้าให้กับผม โดยไม่มองหน้า ผมคิดว่าสายตาของเขากำลังจับจ้องอยู่ที่กีฬาชักเย่อมากกว่า

“เล่นแข่งกับผู้บริหารสินะ”

เขาเดา ผมพยายามจับน้ำเสียงของเขาดูว่ามันประชดหรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่มี เป็นอีกเรื่องที่ผมแปลกใจ

“ใช่ครับ”

“เต็มที่ล่ะ อย่าออมมือให้กับพวกฉันนะ ตอนนี้เราไม่มีหัวโขนอะไรทั้งนั้น อย่าคิดว่าเป็นเจ้านายลูกน้องกัน มีฝีมือเท่าไหร่ก็ปล่อยออกมาให้หมดล่ะ”

ฟังน้ำเสียงที่เขาพูดกับผม มันไม่ได้ประชดหรือแดกดันอะไร แต่เป็นลักษณะชวนพูดคุยออกความเห็นตามปกติ แม้จะรู้สึกแปลกที่เขามาพูดดีกับผม

แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย ไม่ต้องมาคอยระวังตัวว่าจะถูกคนมาพูดจากระทบกระแทกแดกดัน และคิดเอาเองว่าการมาเที่ยวครั้งนี้ จะสร้างความสนุกให้ผมได้ไม่มากก็น้อย

“ต๊ายยยยยยยยยย มอดชนะด้วย เก่งจัง”

ผมถึงกับสะดุ้งอีกครั้ง เมื่อคุณชาตรีร้องอุทานออกมาเสียงดัง พร้อมกระโดดโลดเต้นตบไม้ตบมือ ผมมองแกอย่างอึ้งๆ

ผู้ชายสูงอายุ วัยประมาณสี่สิบปลายๆ ที่จู้จี้ขี้บ่น ชอบตำหนิผู้อื่น และดูถูกคน กลับส่งเสียงชื่นชมยามของบริษัทที่นำทีมชนะการแข่งขัน ด้วยท่าทางเหมือนหนุ่มน้อย

สังหรณ์แปลกๆของผมเริ่มชัดเจนขึ้น ...ท่าทางแบบนี้ หรือว่า คุณชาตรี จะเป็นเกย์...วัยนี้นี่นะ

และเหมือนว่าเขาจะรู้ตัวว่าเผลอหลุดอาการบางอย่างออกมา เขาหันควับมาทางผม แล้วก็เปลี่ยนท่าที เป็นนิ่งเฉยเหมือนเดิม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมเบนสายตาหนีไปทางชายหาด กลัวว่าแกจะเขิน ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าแกมีอาการตามที่ผมคิดหรือเปล่า หรือว่าผมอคติต่อแก เลยทำให้มองเห็นว่าแกทำท่าราวกับเกย์แก่ๆ ที่ปลื้มเด็กหนุ่ม

“และแล้วผู้ชนะเลิศในกีฬาชักเย่อก็คือ สีแดง ขอเชิญท่านผู้จัดการชาตรี ให้เกียรติมามอบรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศด้วยครับ”

เสียงพิธีกร เรียกชื่อคุณชาตรีดังขึ้น ผมหันหน้าไปมองผู้จัดการที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผม และทันได้เห็นแววตาที่ฉายประกายแวววาวด้วยความลิงโลดใจจากแก ก่อนที่เขาจะเดินออกไปมอบรางวัลให้กับทีมสีแดงทุกคน

ผมเห็นเขาส่งนม 1 แพ็คซึ่งเป็นของรางวัลให้กับพนักงานแต่ละคนซึ่งอยู่ในทีมนี้อย่างรวดเร็ว ทว่าพอถึงมอดซึ่งเดินรั้งท้าย เขากลับส่งให้ด้วยท่าทีนุ่มนวล และจับมือแสดงความยินดีกับมอดด้วย

ผมเห็นท่าทางของแก แล้วก็อดขำไม่ได้ หรือว่าแกจะเป็นเกย์ แต่พยายามเก็กให้เป็นผู้ชายแท้เพื่อไม่ให้ใครรู้ มิน่าแกถึงจู้จี้ขี้บ่นและปากจัดนัก

ถ้าแกเป็นเกย์จริงๆ ก็เป็นเรื่องน่าขำมาก ที่คนระดับผู้บริหารต่างพากันเป็นเกย์ ตั้งแต่ประธานบริษัทลงมาถึงผู้จัดการฝ่าย

คิดมาถึงตรงนี้ ผมก็อดที่จะเหลือบแลไปทางเคลวินไม่ได้ และเห็นว่าเขากำลังมองจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ตาสีฟ้าของเขาหวานฉ่ำ

มีรอยยิ้มน้อยๆ ระบายที่ริมฝีปาก ผมรีบหันหน้ากลับ กลัวว่าจะยิ้มตอบกับท่านประธานแล้วมีคนจับได้

“การแข่งขันกีฬาสีระหว่างพนักงานก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว และต่อไปนี้จะเป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร ขอให้นักกีฬาจากทั้งสองทีมมารายงานตัวด้วยครับ”

เสียงพิธีกรประกาศรายชื่อนักกีฬาที่จะแข่งเป็นรายการต่อไป ซึ่งแน่นอนว่ามีชื่อของผม และเคลวินด้วย ผมเห็นเขาลุกขึ้นเดินนำทีมมาหยุดอยู่ที่ด้านขวามือของพิธีกร โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนเดินตามเขามา

ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในวัย 30 ปลายๆขึ้นไป มีเพียงเคลวินที่หนุ่มที่สุด นอกจากเคลวินแล้ว ก็มีเพียงแค่สองสามคนที่มีร่างกายแข็งแรง

นอกนั้นดูก๊องแก๊ง ไม่มีใครมีหุ่นเหมือนนักกีฬาเลยสักคน ซึ่งต่างจากฝ่ายพนักงาน ที่ดูหนุ่ม และดูท่าทางแข็งแรงกว่า

ผมปรายตามองผู้ร่วมทีม แล้วยิ้มกริ่ม เผื่อแผ่ยิ้มนั้นไปทางเคลวินด้วย ส่งสายตาบอกเขาว่า งานนี้ผมชนะแน่ แค่เห็นคนในทีมก็บอกได้แล้วว่าใครจะเป็นฝ่ายปราชัย

เคลวินยิ้มตอบมาเช่นกัน ดวงตาของเขาฉายแววมุ่งมั่น ผมรู้ว่าเคลวินไม่มีทางยอมแพ้เช่นกัน งานนี้เขาต้องสู้สุดตัว ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะอดยุ่งเกี่ยวกับผม


--------------------
TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-12-2008 23:07:39
แอร๊ยส์ เคลวินกะแข่งกะเคนแล้ว รอลุ้น  :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 23-12-2008 23:33:03
 :m1: หลงรักประธานอย่างรุนแรงเลย ขอให้ชนะนะคร๊าบ ~

สายตาของเขา ก็พบว่ามันโฟกัสอยู่ที่มอดเพียงคนเดียว อะไรบางอย่างบอกให้ผมรู้ว่า มันมีบางอย่างที่ปกติ แต่ผม
มันตกอะไรไปหรือเปล่าจ๊ะ  :m28:
 
:pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-12-2008 10:55:04
คือแบบว่า คุณชาตรี  ......  :m29:


รอลุ้นผลการแข่งขัน เคลวินๆๆๆๆ   : 222222:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 24-12-2008 11:49:54
 :laugh: เป็นกลางแต่เชียร์ท่านประธาน  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 24-12-2008 17:06:20
ฮูเล  ฮูเล   :z12:  มาเชียร์ท่านประธาน :เหอะ1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-12-2008 18:06:29
(http://i200.photobucket.com/albums/aa319/teerak_photos/Merry_Christmas_Glitter_Wreath.gif)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 43 :D 23.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minkking ที่ 24-12-2008 20:19:26
(http://i223.photobucket.com/albums/dd277/akapong/newyear/Christmas01.gif)

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 42 :D 21.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-12-2008 22:14:22
:m1: หลงรักประธานอย่างรุนแรงเลย ขอให้ชนะนะคร๊าบ ~

สายตาของเขา ก็พบว่ามันโฟกัสอยู่ที่มอดเพียงคนเดียว อะไรบางอย่างบอกให้ผมรู้ว่า มันมีบางอย่างที่ปกติ แต่ผม
มันตกอะไรไปหรือเปล่าจ๊ะ  :m28:
 
:pig4:

แก้แล้วค่ะ  ขอบคุณมากนะคะ


           :L2:      Merry Christmas    :L2:

  มีความสุขมากๆ กันถ้วนหน้านะคะ :L1:


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-12-2008 22:17:33

บทที่ 44

---------------------


“เรามาเริ่มต้นแข่งขันกันด้วยการเล่นเกมเบาๆกันก่อนนะครับ เผื่อเป็นการวอร์มร่างกาย เกมนี้ง่ายมาก เราจะให้ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองทีมยืนเข้าแถวเป็นคู่ขนานกัน ทำอย่างไรก็ได้ที่จะทำให้แถวของตัวเองยาวกว่าแถวของคนอื่น มีเวลาให้ 3 นาที”

เมื่อกรรมการเป่านกหวีดปรี๊ด นักกีฬาของสองทีมก็มาเข้าแถวต่อกัน ตอนแรกก็คิดว่า ต่างคนต่างส่งเสียงบอกกันว่าจะทำอย่างไรถึงจะสามารถต่อแถวได้ยาวที่สุด

เราลองจับมือกัน เรียงกันไป ได้แถวยาวจนน่าพอใจ พอหันไปทางกลุ่มของผู้บริหาร ผมเห็นเคลวินเรียกคนในทีมมาสุมหัวกันวางแผน ยังไม่ต่อแถว

พวกเรายืนมอง ในใจก็ลุ้นให้หมดเวลา และในช่วงประมาณ 1 นาทีสุดท้าย ผู้บริหารเหล่านั้น ก็มายืนเรียงแถวกันอย่างรวดเร็ว

และพอเคลวินนับ 1 -3 ผู้บริหารทั้งหมด ก็นอนราบลงกับพื้น และเหยียดมือออกไปจนสุด โดยที่ปลายนิ้วของอีกคน แตะปลายเท้าของอีกคน

เคลวินอยู่หัวแถว คอยดูความเรียบร้อย จากการคำนวณคร่าวๆ ผมเห็นว่าต้องแพ้ ทีมเคลวินแน่ๆ เลยตัดสินใจตะโกนให้เพื่อนๆ นอนลงเลียนแบบกลุ่มของนักบริหารบ้าง เพื่อนในทีมไม่รอช้ารีบนอนราบทันที

ผมเห็นเคลวินยิ้มที่มุมปาก และแล้ว ขณะที่เวลาเดินมาใกล้จะหมด เคลวินก็ทำในสิ่งที่คนฮือฮา นั่นก็คือการถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามข้างใน แล้วให้คนที่ต่อจากเขาถือปลายเสื้อด้านหนึ่งเอาไว้

จากนั้นก็พุ่งตังนอนราบโดยหันหัวมาทางคนที่ต่อจากเขา แล้วปลายเท้าชี้ไปด้านหลัง

ในขณะที่ผมกำลังลังเลว่าจะถอดเสื้อแบบเขาดีหรือไม่ ผมก็เห็นกรรมการยกนกหวีดขึ้นมาเป่าพอดี เสียงมันดังบาดลึกเข้าไปในหัวของผม เคลวินหันมายักคิ้วให้ผมแล้วยิ้มอย่างมีชัย

“เป็นอันว่า เกมแรก ทีมผู้บริหารเป็นฝ่ายชนะ สมแล้วกับที่เป็นฝ่ายบริหาร เพราะมีการวางแผนได้เยี่ยมยอดมาก”

พิธีกรขานคะแนน แล้วอวยผู้บริหารยกใหญ่ พวกเขายิ้มกันหน้าบานแฉ่ง โดยเฉพาะเคลวิน ยิ้มกว้าง อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

“ดูสิ คุณเคลวินท่าทางจะดีใจมาก ยิ้มใหญ่เลย หล่อจัง น่าจะยิ้มแบบนี้บ่อยๆนะ”

หนึ่งในทีมของผม กล่าวชมเคลวิน พวกเขาคงรู้สึกประทับใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเคลวิน เพราะนานๆจะได้เห็นเขายิ้มที ส่วนผมกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้น ช่างเจ้าเล่ห์เสียจริงๆ และกวนอารมณ์ที่สุด

“การแข่งขันลำดับถัดไป คือ การแข่งขันชักเย่อ ประลองพละกำลังระหว่างทีมบริหาร กับทีมพนักงานว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน”

พิธีกร ทำน้ำเสียงตื่นเต้น เพื่อสร้างความสนใจให้กับคนดู กรรมการกวักมือเรียกทั้งสองทีมมาแข่งกัน ทีมของผม ทีมผู้บริหารมีการเปลี่ยนแปลงคนเล่นเพื่อความเหมาะสม โดยเลือกคนที่ดูแข็งแรง ลงแข่ง

แต่ขนาดแข็งแรงของเขา ยังสู้ทีมทางฝั่งผมไม่ได้ คราวนี้ผมเริ่มเห็นหนทางชนะลอยมาแล้ว เพราะมันเป็นเกมที่ใช้กำลังไม่ได้ใช้สติปัญญา

แล้วพวกผู้บริหารที่วันๆเอาแต่นั่งทำงานอยู่ในห้อง ใช้แต่สมองวางแผน แทบไม่ได้ออกกำลัง จะมาสู้พนักงานที่ทำงานอย่างหนักอย่างพวกเราได้อย่างไร

“โยนหัวโยนก้อย เพื่อเลือกข้าง หัว อยุ่ทางซ้าย ก้อย อยู่ทางขวา โอเคป่ะ”

กรรมการบอกกติกากับหัวหน้าทีมทั้งสอง ซึ่งก็คือ เคลวิน ส่วนผมถูกผลักให้กลายเป็นหัวหน้าทีมไปโดยปริยาย เพราะไม่มีใครกล้าต่อกรกับประธานบริษัท

แม้ว่าเขาจะบอกกับทุกคนว่าวันนี้เขาจะไม่สวมหัวโขนเจ้านายแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขาอยู่ดี ลำบากต้องเป็นผมอีก

“ทีมบริหารอยู่ฝั่งซ้าย ฝ่ายพนักงานอยู่ทางขวาครับ กติกาคือ ให้ดึงเชือกเส้นนี้ให้เข้ามาในถิ่นของตัวเองมากที่สุด

การตัดสินจะดูจาก โบว์สีฟ้าเขียว ที่ผูกไว้บนเชือกเส้นนี้เป็นหลัก มันจะอยู่ตรงเส้นกึ่งกลาง ที่ขีดไว้ตรงทรายนี่พอดี

หากเชือกเส้นนี้มันถูกดึงไปอยู่ในแดนใครตั้งแต่ ครึ่งเมตรขึ้นไปโดยวัดจากโบว์ที่ผูกไว้ ทีมนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะ”

กติกาถูกอธิบายให้ทั้งสองฝ่ายฟังอย่างละเอียด จากนั้น ทุกคนก็ไปยืนประจำที่ของตัวเอง ประธานเคลวินยืนอยู่ด้านหน้าเป็นคนสาวเชือก เพราะเขาตัวใหญ่แข็งแรง

ทางฝั่งผม ต่างเกี่ยงกันว่าใครจะอยู่หัวแถว ผมตัวเล็กสุด ควรจะอยู่กลางๆ หรือไม่ก็ค่อนไปทางด้านหลังเป็นตัวช่วย กลับกลายมาเป็นหัวแถวอีกครั้ง เพราะทุกคนไม่กล้าเผชิญหน้ากับท่านประธาน เลยส่งผมมาทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้อีกครั้ง

“ไม่ต้องออมมือให้ผมนะ”

เขาพูดเสียงดังให้ได้ยินโดยทั่วกัน แล้วเหยียดยิ้ม ท่าทางมั่นอกมั่นใจมาก ผมมองดูลูกทีมของเขาแล้ว แต่ละคนตัวใหญ่ก็จริง ทว่าร่างกายเต็มไปด้วยไขมันมากกว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ และอายุก็มากกว่าฝั่งผมเยอะ

ผมยิ้มให้เคลวินบ้าง มั่นใจว่าครั้งนี้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-12-2008 22:19:03

“ปรี๊ดดดดด “

เสียงนกหวีดจากคณะกรรมการดังขึ้น เป็นการเริ่มต้นการแข่งขัน ท่านประธานเคลวินลงมือสาวเชือกทันที ผมโอนอ่อนให้เล็กน้อย เพื่อให้เคลวินตายใจ

แต่ผมได้จัดวางกำลังไว้สามจุดแล้ว โดยให้คนที่ตัวใหญ่สุด อยู่ตรงกลาง เพื่อถ่วงดุลน้ำหนัก และมีคนตัวใหญ่อีกคนรั้งท้าย เพื่อคอยดึงอีกแรง

เคลวินฉีกยิ้มกว้างให้ผม ท่าทางเหมือนเขาดีใจที่ดึงเชือกให้เข้ามาในแดนของเขาได้ ผมคอยจับตามอง ไม่ให้โบว์สีฟ้าเขียว ล้ำไปจนถึงจุดที่เป็นอันตราย

พอคะเนว่าเควิลย่ามใจคิดว่าตัวเองชนะ ผมก็ตะโกนบอกเพื่อนทันที ตามที่นัดกันไว้

“ดึง....”

สิ้นเสียงของผม คนที่อยู่ตรงกลาง และท้าย ซึ่งมีพละกำลังมาก ก็ออกแรงดึงเต็มที่ เคลวินทำหน้าเหรอ คงคาดไม่ถึงว่าทีมผมจะวางแผนแกล้งอ่อนแรงให้เห็น แล้วตลบหลังด้วยการออกแรงดึงเต็มที่

เขาเอนตัวไปข้างหลัง พยายามออกแรงดึงเต็มที่ เรายื้อกันสักพัก ก็สามารถที่จะลากแถวของผู้บริหารให้เข้ามาในแดนของเราทีละน้อย

เคลวินซึ่งอยู่หัวแถวเอนตัวเต็มที่ เท้าคอยยันพื้น เพื่อไม่ให้เข้ามาในแดนของผม แต่ดูเหมือนความพยายามของเขาและคนในทีมจะไร้ผล แค่ดึงไม่กี่ครั้ง ทั้งโบว์ ทั้งคนก็ล้ำเข้ามาในแดนของผมมากขึ้นเรื่อยๆ

“โอ๊ะ....”

เสียงอุทานดังลั่นอย่างตกใจ เมื่อเคลวินเซถลาเป็นนกปีกหัก หล่นลงมาทับร่างผม ที่เป็นอย่างนั้นก็เนื่องจากตอนที่ผมและคนในทีม สาวเชือกเข้ามา ทางกลุ่มของเคลวินที่ดึงเชือกอยู่คงเห็นว่า สู้ไม่ได้แน่ เลยถอดใจ ผ่อนมือออกจากเชือก

พอถูกดึงกระตุกครั้งสุดท้าย ทุกคนก็ต่างปล่อยมือออก แล้วพากันล้มระเนระนาด เหลือแต่เคลวินถือเชือกอยู่เพียงคนเดียว พอพวกผมกระตุกเขาเข้ามา เคลวินก็เลยเสียหลัก ล้มลงมาทับผมที่อยู่หน้าสุด จนกลิ้งไปด้วยกัน

“เคล..เอ้อ ท่านประธาน”

อุทานออกมาอย่างตกใจ ตอนนี้เคลวินคร่อมทับอยู่บนตัวผม หน้าเราใกล้ชิดกันมาก ผมเหลือบแลไปยังคนที่อยู่รอบข้าง ก็เห็นแตกตื่นกันยกใหญ่ มีหลายคนวิ่งมาหาผม เพื่อช่วยประคองท่านประธานให้ลุกขึ้น และก่อนที่คนเหล่านั้นจะถึงตัวเคลวิน เขาก็กระซิบบางคำที่ทำให้ผมถึงกับหน้าแดงก่ำ

“ยกนี้ผมยอมให้ แลกกับรอยยิ้มของคุณ เราเสมอกันแล้วนะครับที่รัก”


--------------------

TBC

มีความสุขกับการอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-12-2008 22:25:54
กรี๊ดดดดดดดด เคลวินน่าร๊ากกกกกกกกก  :m3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 24-12-2008 22:30:26

:m3:
อ่านแล้วมีความสุขจริง ๆ ด้วย
 
:pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-12-2008 22:59:19
ท่านประธานน่ารักจริงๆเลย

 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 24-12-2008 23:42:51
กรี๊ดดดดด...เสมอกันซะแล่ะ    o18

คุนประธาน สู้สู้   ( เชียร์ ข้างคุนภรรยาเต็มที่ อิอิ)     :z2:

(http://i246.photobucket.com/albums/gg100/jairuk/jr1/zuzaa1/cm2.gif)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 25-12-2008 00:20:43
คุณภรรยา   น่าจะเป่าหูให้คุณสามีตื่นเต้นบ้างน๊าคับ :haun4: แฮะๆๆ

รออ่านตอนต่อไปค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 26-12-2008 02:58:21
 :impress2:

กรี๊ดด ลุ้นระทึก ใครจะชนะหว่าาา

 :a5: เอิ่ม ช๊อคเล็กๆกะคุณชาตรี

 :กอด1: merry x'masด้วยนะจร้า(ถึงเรยแร้วก้เถอะ :sad4:)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 26-12-2008 06:46:41
Merry Christmas นะครับ หนูมิ้น - คุณเคท

อ่านไปยิ้มไปกับความเจ้าเลห์ ของท่านประธาน ฯ

กับความคิดที่ขัดแย้งกันในตัวเองของเคน รอตอนต่อไปอยู่นะครับ คุณเคท

+1 ให้เป็นของขวัญวันคริสมาสให้หนูมิ้นนะครับ  :L1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-12-2008 10:21:05
เสมอเหรอ  ไม่ได้ๆๆๆ  เคลวิน สู้ๆๆๆๆๆ   :interest:



Merry Christmas to u ALL naka
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 26-12-2008 10:45:16
 :L1: น่ารักจังเลย


ยังคงลุ้นท่านประธานเหมือนเดิม...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 26-12-2008 16:08:29
พึ่งอ่านบอร์ดเก่าจบค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากมาย

ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 27-12-2008 02:23:41
เคลวิน สู้ๆๆๆๆ  :mc4:
สู้ตายเพื่อ.. :oo1:... :z1:
ป.ล.+1 Thanks You.
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 29-12-2008 20:10:56
อย่าแพ้เค้านะเคลวินนนนนนนนน



 :mc4: :mc4:



+1 ให้คนโพส ><
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 29-12-2008 21:20:17
น้องมิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนน (ตะโกนเรียกดังๆๆๆๆ)

ท่านประธาน กะ ท่านเลขา หนีไปเที่ยวปีใหม่แล้วเหรอฮับ คิดถึง คิดถึง :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 30-12-2008 10:36:00
มาส่งความสุขให้กับทุกๆคนค่ะ เดี๋ยววันนี้จะอัพฟิคเรื่องนี้ในเวปของพี่เคท แล้วรอให้น้องมิ้นเอามาแปะ อิอิอิ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ และพรปีใหม่จากทุกคน

ตอนนี้สุขภาพร่างกายแข็งแรงค่อยยังชั่ว เหลือแต่สุขภาพใจค่ะ เพราะคนบางประเภทที่คอยจ้องแต่จะทำร้ายคนอื่นๆ
เพียงเพื่อความสะใจของตัวเอง ก็ขอให้คนเหล่านั้นจงพบทางสว่างในชีวิต อย่าให้จิตใจมืดดำไปกว่านี้อีกเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: SheRbEt ที่ 30-12-2008 20:26:00

ก๋า ได้จิ้มพี่เคทด้วย อิอิ

ขอให้ปีใหม่มีสิ่งดีดีเข้ามา สิ่งร้ายให้หายไปนะคะ

ความสุขอยู่ที่ใจของเราเท่านั้นคะ ยิ้มไว้นะคะแล้วสิ่งดีดีจะเข้ามาหา :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 30-12-2008 23:50:01
เย้ๆ จะได้อ่านต่อแย้ววว

พี่เคท อย่าไปสนใจพวกนั้นเลยฮับ คนเราต่างจิตต่างใจ เค้าไม่เข้าใจเราก็ปล่อยเค้าไป

จะปีใหม่แระ มาทำใจเราให้ผ่องแผ้วต้อนรับปีใหม่ดีกว่า

เป็นกำลังใจให้พี่เคทเสมอนะคร๊าบบบ   :L1:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 01-01-2009 01:34:30
(http://i242.photobucket.com/albums/ff298/akapong999/glitter/newyear/09-12-2008_06.gif)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 01-01-2009 09:16:07
สวัสดีปีใหม่คร้าบ

ขออวยพรฮื้อประสบความสำเร็จและความสมหวังกุ๊อย่าง

สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง

ป๊ะก่ะสิ่งตี้ดีๆ ตลอดปี๋ใหม่นี้เน้อ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 01-01-2009 12:34:12
(http://img100.imageshack.us/img100/9721/hnyltahsetgp1.gif)


รักมากมาย

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 01-01-2009 16:16:56
 :mc4: :mc4:


happy new year ค่า


มีความสุขในวันปี ใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 44 :D 24.12.08
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 01-01-2009 22:18:12
หวัดดีค่ะทุกคน


Happy New Year 2009   :mc4: :mc4:


ที่หายไป  คือไปเที่ยวปีใหม่มาค่ะ  เมื่อวานได้ เคาท์ดาวน์ที่ริมน้ำปิง ดูพลุสวยมากๆๆ

มีความสุขถ้วนหน้ากันทุกคนนะคะ


ฉลองปีใหม่ มาลงกันต่อเลย






บทที่ 45

------------------------

“ยกนี้ผมยอมให้ แลกกับรอยยิ้มของคุณ เราเสมอกันแล้วนะครับที่รัก”

มีมือยื่นมาช่วยฉุดเคลวินให้ลุกขึ้น แล้วพาเคลวินกลับเข้าเต็นท์ ส่วนผมถูกทิ้งให้นอนบนพื้นทราย โดยไม่มีใครใส่ใจ ต้องลุกขึ้นเอง ทุกคนไปรุมออเอาหน้ากันอยู่ที่เคลวินหมดแล้ว

ผมเอามือปัดทรายออกจากตัว และจากแก้ม มือของผมลูบไล้ไปที่แก้มตัวเองเบาๆ และละเลยมาถึงริมฝีปาก จะมีใครทันเห็นไหมหนอ ว่าตอนที่ที่เคลวินล้ม ปากเราสัมผัสกันด้วย

แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมาก และมันก็ชั่วแว๊บเดียวที่ปากเราแตะกัน คงไม่มีใครสังเกต

“ท่านประธานเป็นไงบ้างครับ เจ็บไหม”

“พวกผมขอโทษครับ ที่ปล่อยมือจากเชือก ตอนนั้น พวกเราหมดแรงกันจริงๆ”

“ท่านประธานเจ็บเพราะพวกเราแท้ๆ

เสียงพูดเซ็งแซ่รอบๆตัวเคลวิน มีทั้งขอโทษขอโพยจากพนักงานระดับผู้บริหารที่อยู่ในทีมเขา และการถามไถ่อาการอย่างเป้นห่วง เสียงเหล่านั้นดังลอยมาเข้าหูผม ทำให้สามารถเกาะติดสถานการณ์ได้

ที่จริงผมเองก็อยากรู้ว่าเคลวินมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง เขาเสียหลักล้มลงมา แม้ว่าจะมีร่างผมรองรับอยู่ แต่เขาก็อาจจะมีเจ็บปวดที่ไหนสักแห่ง รู้สึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาทันที แต่คนที่รุมล้อมอยู่เป็นแผงหนาอยู่รายรอบทำให้ผมเข้าไม่ถึงตัวของประธานเคลวิน

“เคนอยู่ไหน”

เสียงใครบางคนเรียกผม

“ทำไมไม่มาดูเจ้านาย”

อีกเสียงพูดถึงผมเจือแววตำหนิ ผมปัดทรายเสร็จ ก็รีบเดินแหวกเข้าไปหาเคลวิน ในฐานะที่ผมเป็นผู้ช่วยเลขา ผมก็ควรจะต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิด นี่ผมกลับเฉย ก็สมควรที่จะถูกคนต่อว่า

“ผมไม่เป็นไรหรอก ไม่เจ็บอะไรเลย ยังแข่งไหว...”

ได้ยินเสียงเคลวินพูดกับคนที่มุงล้อมตัวเขา ผมแหวกเข้าไปตรงกลาง และเห็นเคลวินนั่งเหงื่อแตก คิดว่าเขาคงร้อนเพราะคนมุงดูเขานั่นเอง เห็นสภาพที่เขาถูกห้อมล้อมไปด้วยคนที่ห่วงใยเขา แล้วก็อดขำไม่ได้

ปกติแล้วเคลวินไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับเขา ยิ่งมายืนดูยืนมองห้อมล้อมแบบนี้ มีหวังโดนว๊ากใส่แน่ๆ แต่นี่คงเป็นเพราะเขาได้ถอดหัวโขนท่านประธานออกแล้ว เขาจึงไม่ใช้อำนาจตามที่เขาบอก และคงเข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วง เลยไม่โวยวายใส่ใคร

“ท่านพักก่อนก็ได้นะครับ ให้คนอื่นแข่งแทนเถอะ”

คุณชาตรี ซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ พูดกับเขา เคลวินเหลือบตามาทางผมนิดหนึ่ง แล้วส่วนหน้าปฏิเสธ

“ไม่เป็นไร คุณชาตรี ผมแข่งได้ ไม่ต้องห่วง ผมเอาชนะทีมพนักงานได้แน่ๆ”


ขาตอบออกมาอย่างมั่นใจ ผมล่ะอยากจะถอนความรู้สึกห่วงใยเมื่อครู่นี้กลับคืนนัก คนอะไร ไม่น่าสงสารเอาเสียเลย คิดแต่จะเอาชนะท่าเดียว ไม่มีวันเสียหรอก ครั้งต่อไป เขาต้องแพ้ผมแน่ๆ ถึงจะอ่อนข้อให้ก็ช่วยไม่ได้ ถึงยังไงผมก็จะต่อสู้เพื่อความอิสระ 1 เดือนจากนี้ไป

หลังจากที่พูดให้ใครต่อใครเลิกห่วงแล้ว ประธานสองหน้าก็ลุกขึ้น เพื่อแสดงว่าตัวเองยังไหว และเขาก็พร้อมที่จะเข้าสู่เกมที่สาม นั่นคือ เกมวิ่งเปี้ยว อ๊ะ พอได้ยินชื่อเกม ผมก็ชักหวั่นๆ เคลวินตัวสูงใหญ่กว่าผม

แขนขายาวกว่า เขาต้องชนะผมแน่ๆ แต่ไม่เป็นไร คนในทีมเขาแต่ละคน ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่สูงวัยกันทั้งนั้น วิ่งแข่งคงไม่อึดเท่ากับพวกพนักงานอย่างแน่นอน ผมคิดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เห็นชัยชนะลอยมาแต่ไกล

คณะกรรมการเรียกหัวหน้าทีมมาตกลงกติกา ผมกับเขาจึงเดินมาหยุดหน้ากรรมการและคอยฟังกฎการแข่งขัน เคลวินกับผมจะอยู่กันคนละฝั่ง เราจะวิ่งจากเขตแดนของตัวเอง ไปยังเขตแดนของฝ่ายตรงข้าม และขโมยไข่ในตะกร้าของอีกฝ่ายมา แล้ววิ่งกลับไปเก็บไว้ในแดนของตัว

คนจัดเกมเพิ่มความยากให้มากกว่าการวิ่งเปี้ยวตามปกติ คือการลักไข่ ซึ่งมีข้อแม้ว่าไข่จะต้องไม่ตกแตก และจะต้องหนีอีกฝ่ายให้ได้ หากอีกฝ่ายตามทัน และแย่งไข่กลับคืนมาได้ จะถือว่าฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายแพ้ โดยผู้ที่ชนะ สามารถปาไข่ใส่คนแพ้ได้เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจในความพ่ายแพ้

เมื่อเข้าใจในกติกาแล้ว กรรมการก็ให้พวกเรากลับเข้าประจำที่ ก่อนที่จะแยกจากกัน ผมหันไปมองหน้าเคลวิน เพื่อจะยิ้มเย้ย เป็นการข่มขวัญเขา ทว่าผมกลับเจอเคลวินฉีกยิ้มให้ผมก่อน ตาของเขาเปล่งประกายคมกล้า ท่าทางมั่นอกมั่นใจยิ่งนัก เห็นสีหน้าท่าทางของเขาแล้ว ผมก็ชักลังเลไม่แน่ใจ

“ประจำที่ ...ระวัง....ไป”

ทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น ผู้แข่งขันคนแรกของทีมผมก็พุ่งตัวออกจากจุดสตาร์ททันที ที่ฝั่งตรงข้าม ผู้จัดการฝ่ายบุคคล ซึ่งอยู่ในทีมของเคลวินกำลังออกจากจุดสตาร์ท ผมเห็นท่าทางการวิ่งของเขาแล้วก็ยิ้มกริ่ม ฝีเท้าของเขาเป็นรองคนของทีมผม และออกตัวได้ช้ากว่า ตอนนี้ ทีมผมขโมยไข่จากแดนเคลวินได้แล้ว และหมุนตัวออกวิ่ง ในขณะที่ผู้จัดการเพิ่มเอื้อมมือไปแตะตะกร้าไข่

นักขโมยไข่คนที่สอง ออกจากจุดสตาร์ทแล้ว เมื่อคนแรกนำไข่มาตั้งวางบนโต๊ะ ผมมองไปยังฝั่งเคลวิน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเพิ่งวิ่งไปถึง ผมรู้สึกลิงโลดใจอย่างบอกไม่ถูก แค่คนแรก ทีมผมก็ชนะแล้ว และมีทีท่าว่าจะชนะจนถึงคนสุดท้ายด้วย ท่านประธานเคลวินเอ๋ย วันนี้แหละที่ท่านจะได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ ผมดีใจไปก่อนล่วงหน้าแล้ว

การแข่งขันดำเนินไปอย่างสนุกสนาน คนแล้วคนเล่าที่วิ่งออกจากจุดสตาร์ท ขโมยไข่ และวิ่งกลับมา เพื่อให้คนต่อไปได้วิ่งไปขโมยไข่บ้าง ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่แบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่าย

พนักงานเชียร์พนักงานด้วยกัน มีแอบปันใจ ไปเชียร์เจ้านายของตัวเองที่ลงแข่งบ้าง ในขณะที่ทางฝ่ายผู้บริหารเชียร์ทีมของตัวเองอยู่แล้ว

และในที่สุดก็ถึงคิวผู้แข่งคนสุดท้าย ซึ่งก็คือเขา และ ผม พอคนที่วิ่งไปก่อนหน้าผมขโมยไข่มาวางตั้งบนโต๊ะเรียบร้อย ผมก็ออกวิ่งทันที

ที่ฝั่งตรงข้าม หลังจากผมออกวิ่งไปได้เกือบครึ่งทาง เคลวินก็ออกจากจุดสตาร์ท จากสายตาของผมที่มองเขา ผมเห็นอะไรบางอย่างขาวๆ ที่เคลื่อนไหวได้เร็วมาก ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนั้น คือประธานเคลวินนั่นเอง เขาวิ่งได้ไวมาก จนไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งที่ตัวใหญ่เทอะทะแบบนั้น จะวิ่งได้รวดเร็ว

คงเป็นเพราะผมประมาทเขามากเกินไป คิดว่าทีมเขามีแต่คนอายุเยอะ และไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เลยน่าจะงุ่มง่ามเชื่องช้า ลืมคิดไปว่า ประธานเคลวิน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเขาเป็นฝรั่งตัวสูงขายาว แค่สับขาไม่กี่ครั้ง เขาก็วิ่งพรวดมาถึงตะกร้าไข่ใบสุดท้ายของทีมผมแล้ว

เคลวินเอื้อมมือยาวๆไปคว้าตะกร้าไข่ โดยไม่หยุดวิ่ง จากนั้นก็ตีโค้งมาอย่างรวดเร็ว ผมเหลียวไปมองเพื่อกะว่าเขาอยู่ตรงตำแหน่งใด ใกล้ผมมากหรือเปล่า เพื่อคำนวณระยะทางและเวลาการจะไปให้ถึงฝั่งตัวเอง พอหันไปมองผมก็ต้องตกใจ เขาวิ่งมาเร็วมาก เผลอแป๊บเดียว เขามาใกล้ผมมากแล้ว


--------------------

TBC


ปล.เคท มีความสุขมากๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 01-01-2009 23:38:59
 :z1: ท่านประธานร้ายจริงๆ แต่ยังไงก็เชียร์ให้ชนะอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 02-01-2009 19:56:07
เชียร์ท่านประธานนนนนนนนน



 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 02-01-2009 22:17:46
กรี๊ดเอาใจเชียร์คุณภรรยาร่างใหญ่สุดฤทธิ์ค่ะ

เคนอย่าน้อยใจเน้อ

ก็คนอ่านอยากให้นอนห้องเดียวกันนี่นา

งั้นลุ้นผลในตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 03-01-2009 00:05:01
แอร๊ย... ลุ้นนะคะ

คุนประธาน ก่า คุนเลขา งานนี้  ใคร จะขโมยไข่ใครได้ก่อนกันเคอะ โฮ่ะๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-01-2009 02:21:06
ใครจะชนะนะ  :laugh: แต่อยากให้เคลวินชนะ เพราะจะได้  :z1: กะเคน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-01-2009 07:07:32
เสร็จแน่ ๆ นายเคน  :z2:

สวัสดีปีใหม่นะครับ หนูมิ้น ขอให้มีความสุข กับปีใหม่นี้นะครับ มีแต่สุข

ทุกข์อย่ามี แลมาใกล้  :L1: +1 เป็น ส.ค.ส. นะครับ

ปล. คุณเคทด้วยนะครับ  :m5:ขอให้คนที่คิดไม่ดีกับคุณเคท จงหู ตา สว่าง ด้วยเถิด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-01-2009 10:15:32
ยังคงเชียร์เคลวินต่อไป

เคลวิน สู้ๆๆๆ   :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 03-01-2009 16:41:29
ใครจะชนะในศึกชิงไข่หว่า :z1:

HNY 2009 คับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 03-01-2009 17:47:31


งานนี้ขอเชียร์เคลวินดีกว่า

เพราะ   :-[


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 03-01-2009 21:20:52
รอลุ้น

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 04-01-2009 09:26:30
ท่านประธานทุ่มเต็มที่เลยนะเนี่ย

รอลุ้นๆ จะสำเร็จรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: fround ที่ 04-01-2009 21:17:55
 :sad4: :sad4:

ค้างอย่างแรง

อุว้าวชอบมาก


อย่าดองนานนะจ๊ะ

เดี่ยวเค็ม

มาต่อไวๆ

แอบลุ้นให้เคลวินแพ้ :o8:

แต่ถึงจะแพ้กลยุทธ์แต่ก็พิชิตชัยในสงครามได้ในที่สุด

  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: PrInceZz ที่ 04-01-2009 21:35:29
เคนสู้ๆ

 :mc4:

อิอิ

ลุ้นต่อไป

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 05-01-2009 10:01:19
 :L2: happy new year นะคะ

กลับมาจากเที่ยวแล้ว...ได้เจอกับเคนและก็เคลวินเลยเนี่ย..


้happy จริงๆๆ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 45 :P 1.1.09 ลงรับปีใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 05-01-2009 21:42:41
บทที่ 46

----------------------------------


ความที่กลัวจะแพ้ และต้องนอนกับเขาในคืนนี้ ทำให้ผมรีบเร่งซอยเท้าวิ่งหนี ทว่าดูเหมือนสวรรค์ไม่เป็นใจ ในขณะที่ผมรนเพราะไม่อยากให้เคลวินชนะ กลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ผมพลาดมากขึ้น

ช่วงจังหวะที่ผมวิ่งไปและเหลียวมองไปด้านหลัง ขาที่ก้าวไปข้างหน้าก็เกิดก้าวผิดจังหวะ เป็นขาพันกัน ทำให้ผมล้มโครมลงกับพื้น ตะกร้าไข่ลอยละลิ่ว

ผมเอื้อมมือไปคว้า แต่ไม่ทันแล้ว มือหนึ่งเอื้อมมาคว้าเอาไว้ได้ สายตาของผมมองตาม และได้เห็นเคลวินมาหยุดอยู่ข้างๆผม และฉีกยิ้มกว้างอย่างคนสมใจ เขาถือตะกร้าไข่สองใบไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกขว้างหนึ่งคว้าไข่ขึ้นมาถือไว้

ผมรีบพลิกตัวจะลุกขึ้นวิ่ง เมื่อตระหนักได้ว่ารเขาคิดจะทำอะไร ทว่ายังไม่ทันได้ลุกขึ้น ไข่สองใบก็ถูกขว้างเข้าที่ก้นของผมด้วยท่าทางสะใจ

ของเหลวๆ เหนียวข้น ไหลซึมเข้าไปในกางเกงผม ประธานเจ้าเล่ห์ หัวเราะร่วน ที่ทำให้ผมเลอะเทอะได้ ผมรีบลุกขึ้น เพื่อจะวิ่งกลับไปยังฝั่งของตัวเอง ทว่าคิดช้าไปหน่อย ทันที่ที่เห็นผมขยับ เคลวินก็เผ่นแผล็วกลับเข้าไปในแดนของตัวเองเรียบร้อย

“การแข่งขันคราวนี้ ทีมที่ชนะคือทีมจากฝ่ายบริหารครับ”

พิธีกรภาคสนามประกาศด้วยเสียงอันดัง มีเสียงปรบมือขานรับกระหื่ม จากฝ่ายบริหารด้วยกัน และกองเชียร์ ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท ในขณะที่ทีมของผมยืนหงอยๆ ยอมรับความพ่ายแพ้

การแข่งขันระหว่างผู้บริหารและพนักงานสิ้นสุดลง โดยที่ผลจากคะแนนรวมทั้งหมด แข่ง 3 เกม ทีมผมแพ้ 2 ครั้ง ชนะ 1 ครั้ง ก็เลยแพ้ไปโดยปริยาย ของรางวัล ซึ่งก็คือพัดลมตั้งโต๊ะ ก็เลยไม่ได้ ได้แค่น้ำอัดลมคนละแพ็คแทน

“แกทำให้พวกเราอดได้พัดลมเลยนะ ไอ้อ่อนหัด”

ชายหนุ่มร่างใหญ่ ผิวคล้ำ หน้าโหด คำรามใส่ผม ท่าทางไม่พอใจมาก เขาคงคาดหวังว่าจะได้รางวัลติดมือไป แต่ผมดันสะดุดขาตัวเองล้ม เลยทำให้ชวดรางวัลใหญ่ เป็นใครก็ต้องโทษผมทั้งนั้นว่าเป็นตัวถ่วง ทำให้ทีมแพ้

“หรือว่าแกแกล้งยอมแพ้วะ เจ้านายแกจะได้ไม่ต้องเสียพัดลมให้พนักงาน”

เขากล่าวหาอีก ผมมองหน้าพนักงานคนที่กำลังต่อว่าผมด้วยสีหน้าบึ้งตึง ผมจำเขาได้ เขาคือพนักงานในแผนกที่ผมเพิ่งย้ายมา เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมนัก

ตอนที่ผมทำงานอยู่ในแผนกเก่า ผู้ชายคนนี้ ก็ชอบใช้ให้ผมทำโน่นทำนี่อยู่ตลอด ราวกับผมเป็นคนรับใช้ของพวกเขา

พอผมได้รับโอกาสให้ย้ายขึ้นไปทำงานกับประธานบริษัท เขาก็เป็นคนแรกที่พูดจาดูถูกผม หาว่าใช้เส้นใช้สาย และ ใช้ร่างกายเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ

“เฮ้ย อย่าไปว่าเขาเลย เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก”


พี่อีกคนหนึ่งร้องห้าม เมื่อเห็นคนตัวใหญ่คนนั้นจะเอาเรื่องกับผม แรกๆ ผมก็รู้สึกผิดที่ทำพลาด ทำให้ทีมผมได้รับความพ่ายแพ้ ทว่าเมื่อเห็นท่าทางอันธพาลของพนักงานคนนั้น ผมก็ไม่ได้รู้สึกสงสารเขาอีกต่อไป
พนักงานคนนั้นทำท่าว่าจะด่าผมต่อ ทว่าเพื่อนของเขาบอกให้เงียบ และสะกิดให้หันไปมองด้านหลัง เคลวินกำลังเดินตรงมาที่กลุ่มเรา

“ขอบคุณพวกคุณทุกคนมากนะ ผมสนุกมากจริงๆ”

ท่านประธานเอ่ยปากกับพวกผม เขากวาดตามองหน้าพนักงานทุกคนที่ร่วมแข่งขันกับทีมผู้บริหาร และมาหยุดอยู่ที่หน้าผม ตาของเขาที่จ้องมองมา วาววามและแฝงด้วยความหมาย

“ขอบคุณที่ไม่ได้ออมมือให้ เพียงเพราะเห็นว่าผมเป็นเจ้านาย แพ้ชนะไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะสิ่งที่ได้มา คือมิตรภาพที่มีค่ามากกว่ารางวัลใดๆ”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ สายตาของเขาก็เลื่อนไปจับจ้องอยู่ที่หน้าของพนักงานร่างใหญ่คนนั้น ผมเห็นเขาก้มหน้านิ่ง จะซาบซึ้งในสิ่งที่เคลวินพูดหรือเปล่า ไม่อาจจะรู้ได้ แต่สิ่งที่ผมได้ยินมันทำให้ผมรู้สึกดีกับเคลวินมากมาย ที่เขาใส่ใจในความรู้สึกของพนักงาน และรวมถึงผมด้วย ผมคิดว่าการที่เขาเดินมาหาพวกเรา เป็นความตั้งใจของเขา เคลวินคงเห็นว่าผมกำลังมีเรื่อง หูตาของเขาไวจะตาย ไม่มีอะไรที่รอดสายตาคมกริบของเขาไปได้หรอก

“ขอบคุณพวกคุณอีกครั้งนะ”

เขากล่าวสรุป พนักงานในทีมผมที่ร่วมแข่งขัน ต่างพากันยิ้มรับ และแย่งชิงพูดคุยกับท่านประธาน เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่ได้คุยกันอย่างใกล้ชิด และเคลวินเองก็ไม่ได้ถือตัวด้วย แรกๆ พวกเขาก็กล้าๆกลัวๆ ที่จะคุย แต่พอเคลวินเริ่มต้นคุยก่อน พวกนั้นก็เลยชวนพูดชวนคุยบ้าง

ผมค่อยๆ เดินห่างออกมา เพื่อให้พวกเขาได้ใกล้ชิดประธานเคลวินกัน ผมมีโอกาสได้เจอเขาบ่อยมาก แทบจะ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปร่วมวงคุยด้วย แล้วผมก็ไม่อยากให้คนเขม่นผมไปมากกว่านี้

มอดยืนอยู่ตรงถังน้ำ กำลังขอน้ำอัดลมมาดื่มกิน แก้กระหาย ผมเดินตรงไปยังเขาทันที เพื่อหาเพื่อนคุย ทว่าไม่ทันถึง ผมก็ต้องหันหลังกลับ เมื่อเห็นคุณชาตรี ตรงรี่ไปที่มอด ผมเห็นสองคนคุยกันสนิทสนม ผู้จัดการที่ไว้เนื้อถือตัว ไม่ค่อยสนิทกับใคร โดยเฉพาะกับพวกพนักงานอย่างเขา กลับคุยกันดี มีหัวเราะให้กันด้วย ท่าทีที่เปลี่ยนไปของคุณชาตรี ทำให้ผมงง แต่ด้วยความที่ไม่ใช่เรื่องอะไรของผม ทำให้ผมเลี่ยงไปยืนรวมกลุ่มกับพนักงานที่นั่งพักกันอยู่ในเต็นท์

“การแข่งขันระหว่างพนักงานกับผู้บริหารได้จบลงไปแล้ว แต่การแข่งขันยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้นะครับ เพราะเราได้เตรียมการแข่งขันพิเศษขึ้นมาอีก 1 เกม ซึ่งจะเป็นการแข่งขันเพื่อเชื่อมสามัคคีให้ทุกคนมีใจเป็นหนึ่งเดียวกัน รักกันเหมือนคนในครอบครัว เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ เหมือนน้อง ไม่มีช่องว่างระหว่างกัน ....”

พิธีกรประกาศการแข่งขันรายการต่อไป ซึ่งไม่มีอยู่ในรายการ เป็นสิ่งที่คนจัดงานทำเซอร์ไพรส์ให้เกิดความตื่นเต้น พนักงานที่มาดูการแข่งขัน ที่เตรียมตัวจะกลับ ก็หันมาให้ความสนใจ และรอดูการแข่งขันพิเศษที่ว่า

“เกมนี้เราจะให้ชื่อว่า “วิ่งสามขาสามัคคี” พวกเราเคยเห็นเกมวิ่งสามขากันใช่ไหมครับ รู้แล้วใช่ไหมว่าเล่นอย่างไร สามขาก็คือเล่นกันสองคน โดยผูกขารวมกันหนึ่งขา จากนั้นก็ออกวิ่งไปพร้อมๆกันให้เร็วที่สุด คู่ไหนถึงเส้นชัยก่อนคู่นั้นชนะ...”

พอประกาศชื่อเกมออกมา ก็มีเสียงคนฮือฮา แต่เป็นไปในทางผิดหวัง เพราะยังไม่เห็นว่าเกมนั้นจะพิเศษตรงไหน ทว่าคำอธิบายเกมต่อไป กลับเรียกเสียงฮือฮาได้อีกครั้ง แต่ไปในทางตื่นเต้น

“เกมนี้ เราเล่นเป็นคู่ใช่ไหมครับ ความพิเศษมันอยู่ตรงที่ เกมนี้ เราจะให้ผู้บริหารจับคู่กับพนักงาน เพื่อร่วมกันฝ่าฟันไปให้ถึงเส้นชัย เหมือนกับการทำงาน ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นกำลังสำคัญให้บริษัทเพียงฝ่ายเดียว แต่บริษัทจะก้าวหน้าเพราะความร่วมมือกันของฝ่ายบริหาร และฝ่ายปฏิบัติงาน ดังนั้น เกมนี้ก็จะเป็นเกมเชื่อมใจที่หัวหน้าและลูกน้อง ต้องช่วยกันวิ่งไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้”

มีเสียงอื้ออึงอยู่รอบๆตัวผม หลายคนรู้สึกสนุก อยากลงไปร่วมเล่นเกม แต่หลายคนก็ปฏิเสธเสียงหลง สิ่งที่พวกเขากลัวไม่ใช่การแพ้ แต่กลัวที่จะต้องไปเล่นเกมกับฝ่ายบริหารมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะเล่นดี หรือไม่ดี ถูกใจคู่ของตัวหรือเปล่า พอดีพอร้าย อาจจะส่งผลถึงหน้าที่การงานอีก เสียงหนึ่งจึงเห็นด้วย และเสียงอีกส่วนหนึ่งก็ไม่เห็นด้วย

“เอาล่ะ นี่คือท่านผู้บริหารที่อาสาจะลงสู้ศึกในครั้งนี้”

สิ้นเสียงประกาศ พนักงานในระดับผู้บริหาร ก็ก้าวออกมา 7 – 8 คน เท่าที่ผมจำได้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารระดับสูงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขึ้นไป และใน 8 คนนั้นมีอยู่ สองคน ที่พนักงานส่วนใหญ่ ไม่กล้าเล่นด้วย นั่นก็คือประธานเคลวิน และ คุณชาตรี

ตอนที่พิธีกรประกาศการแข่งขัน ผมก็เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจว่างานนี้ต้องมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับผมอีกแน่ๆ และยิ่งพอเห็นเคลวินก้าวเข้าไปรวมในกลุ่มคนเข้าแข่งขัน ผมก็เริ่มที่จะรู้ชะตากรรมตัวเอง

เสียงพิธีกรพูดจาโน้มน้าว ให้พนักงานออกมาสนุกร่วมกับผู้บริหาร มีคนใจกล้าสองสามคน เดินมาหาผู้บริหารที่ตนจะเล่นด้วย ผมยืนมองดู ก็พบว่า พนักงานเหล่านั้น จะเลือกหัวหน้าของตัวเอง และบางคนก็เลือกเฉพาะคนที่ใจดี ส่วนคนไหน มีวี่แววว่าดุ หรือมักจะทำหน้าขรึมๆ โหดๆ ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นด้วย ต้องมีการพูดชวนเชื่ออีกรอบ และมีการกวักมือเรียกตัวกันออกมา ถึงจะมีคนกล้าลงมาเล่นด้วย

มันทำให้บ่งบอกได้ว่า บริษัทนี้ ระดับความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ยังห่างเหินกันมาก น่าจะฝังรากหยั่งลึกมาตั้งแต่การบริหารงานของประธานคนก่อน ซึ่งได้ชื่อว่าเฮี้ยบ เข้าถึงตัวยาก และผมรู้ว่าเคลวินเองต้องการทะลายกำแพงตรงนี้ เลยพยายามจะลดช่องว่างระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เกรงกลัวกันในงานได้ แต่นอกเวลางานแล้ว ทุกคนคือคนในครอบครัวเดียวกัน นี่คือสิ่งที่ท่านประธานต้องการเห็นในบริษัทนี้

“ยังเหลือผู้กล้าที่จะมาร่วมฟันฝ่าทำกิจกรรมกับท่านผู้บริหาร ไม่ทราบว่ามีผู้ใดอยากเล่มเกมสัมผัสใกล้ชิดกับทั้งสองท่านนี้บ้าง”

พิธีกรกวาดสายตาไปยังพนักงานที่ยืนอยู่ บางคนส่ายหน้า บางคนพยายามหลบด้วยการก้มหน้า หรือไม่ก็เบือนหนี ผมมองผู้บริหารทั้งสองอย่างเห็นใจ คนหนึ่งคือคุณชาตรี ผู้จุกจิกจู้จี้ขี้บ่น และขึ้นชื่อว่าดุมากๆ พนักงานมักจะกลัวหงอ เพราะเวลาแกว่าใครแกจะด่าเสียงดังไม่ไว้หน้า พนักงานส่วนใหญ่มักไม่ค่อยชอบแก แต่ดูเหมือนคุณชาตรีก็ไม่เคยสน

ส่วนอีกคน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพราะอะไร ประธานเคลวิน ผู้บริหารตำแหน่งสูงสุดของบริษัท ผู้มีความดุดัน และเฉียบขาด ตัดสินปัญหาต่างๆอย่างเด็ดเดี่ยวและแข็งกร้าว เข้าถึงตัวยากพอๆกับประธานคนก่อน แต่เขาก็ไม่ใช่คนปิดเสียทีเดียว ลูกน้องสามารถเข้าพบเขาได้ และเขาก็เป็นคนฉลาดมีเหตุผล รับฟังความเห็นของคนอื่น ทว่ากิตติศัพท์ความดุอันเป็นเลื่องลือ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ และยิ่งประธานคนก่อนซึ่งคือพ่อของเขาได้เปิดตำนานความดุดันเอาไว้ จนพนักงานกลัวหัวหด พอมาถึงรุ่นลูกขึ้นบริหาร คนก็เลยยังไม่กล้าที่จะเข้าใกล้อยู่ดี

“จะไม่มีใครอาสามาเล่นวิ่งสามขาคู่กับคุณชาตรี และท่านประธานเลยหรือครับ เป็นอะไรกัน กลัวท่านเหรอ ไม่ต้องกลัว ท่านประธานบอกแล้วไง ไม่มีหัวหน้า ไม่มีลูกน้อง มีแต่เพื่อนพี่น้อง คนในครอบครัวเดียวกัน ให้โยนหัวโขนทิ้งไป วันนี้จะไม่มีโกรธ ไม่มีโมโห มีแต่ให้อภัยกันไงครับ”

พิธีกรพยายามสร้างโน้มน้าวใจเพื่อให้พนักงานอาสาลงเล่นเกมกับผู้บริหารที่ยืนรอคนจะมาเล่นด้วยนานแล้ว ผมรู้สึกสงสารทั้งท่านประธานและพนักงานอย่างบอกไม่ถูก ทั้งสองท่านเป็นคนที่ทุกคนกลัวเกรง จะเข้าใกล้ก็ยังกลัว นี่จะให้เล่นเกมร่วมกัน ใครจะกล้า

ขนาดคนในทีมผมซึ่งเมี่อครู่คุยดีกับเคลวิน ถึงตอนนี้พอเขาหาอาสาสมัครที่จะออกไปเล่นเกมกับเขา ทุกคนก็ส่ายหน้า กลัวตัวเองจะเดือดร้อนกันทั้งนั้น กลายเป็นว่าสองคนเหมือนโดนคนรังเกียจ

“เธอออกไปคู่กับประธานสิ”

ผมได้ยินสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังพูดกับเพื่อน

“ฉันก็อยากไปนะ แต่ว่าฉันกลัว ดูสายตาท่านสิ มองพวกเราแต่ละที ชวนขนหัวลุก คนอะไรตาดุชะมัด”

จากบทสนทนาของสองสาว ทำให้ผมมองไปที่หน้าเคลวินเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นอย่างที่พูดหรือไม่ แล้วก็พบว่าตาของเขาที่จ้องมองมานั้นแฝงไว้ด้วยความดุดัน เขามองผมเขม็ง สายตาเหมือนจะตำหนิกลายๆ ว่าทำไมผมยังไม่ยอมเสนอตัวออกมาคู่กับเขาอีก ปล่อยให้เขารออยู่ทำไม ผมควรจะรักษาหน้าให้เขานะ
ผมเบนหลบสายตาที่จ้องมองมา เริ่มลังเลว่าจะช่วยเคลวินดีหรือไม่ ผมไม่อยากให้ใครมาพูดจาดูถูกผมอีก การที่ยืนอยู่เฉยๆ ก็เพราะต้องการให้คนอื่นได้สัมผัสเคลวินบ้าง ทว่าก็ไม่มีใครกล้า

พนักงานเหล่านี้ทำเหมือนไม่ให้เกียรติเขา การที่เจ้านายยืนอยู่ตามลำพัง ในขณะที่ผู้บริหารคนอื่นๆ มีคู่กันไปหมดแล้ว มันเป็นภาพที่ดูไม่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว คนอาจจะคิดกันไปว่าเขาเป็นคนร้ายกาจ ทั้งที่จริงๆแล้วเขาไม่ใช่คนแบบนั้น

“ผมเล่นด้วยได้ไหมครับ”

เสียงมอดดังขึ้น เขาคงเห็นว่าไม่มีใครยอมเล่นกับทั้งสองคนแน่ และรอเวลาก็จะเป็นการทำให้เจ้านายทั้งสองคนขายหน้าเปล่าๆ และเสียเวลาด้วย เขาเลยอาสา แต่ต้องถามก่อน เพราะเขาเป็นเพียงแค่ยามเท่านั้น ไม่ใช่พนักงานประจำที่มีความสำคัญอะไร

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้”

คนที่ตอบไม่ใช่พิธีกร แต่เป็นคุณชาตรี ตอนแรกแกยืนหน้าหงิก เพราะรออยู่นานแล้ว แต่ไม่มีใครยอมมาคู่กับแก พอมอดยกมืออาสา แกก็เลยชิงตอบแทน ใบหน้าแกสดชื่นมาก จนผมชักสงสัย

“ถ้างั้น คุณมาคู่กับท่านผู้จัดการชาตรีเลย”

พิธีกรกวักมือเรียกมอดให้เดินมาคุณชาตรี เขาเดินมาอย่างว่าง่าย ผู้ช่วยพิธีกร หาเชือกมามัดขาทั้งสองคนไว้ด้วยกัน

“ยังเหลือผู้กล้าอีกหนึ่งท่านครับ...”

ขณะที่ผมลังเลว่าจะออกไปตามคำเชิญชวนของพิธีกรดีหรือไม่ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างๆหู ....

“จะปล่อยให้เจ้านาย ยืนเด๋อด๋าไม่มีใครต้องการไปอีกนานเท่าไหนหือ เคน”

เสียงของพี่นนนี่นั่นเอง แกมายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้แก รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ยอมช่วยเคลวิน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร พี่นนนี่ก็ยกมือขึ้น แล้วตะโกนบอกพิธีกรเสียงดัง
“เคนอาสาค่ะ”


--------------------

TBC


มาคะ   ในที่สุดก็รู้ผลแพ้ชนะซะที  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: PrInceZz ที่ 05-01-2009 21:55:47
อ๊า

รอผลตัดสินคืนนี้

อิอิอิ

ว้าๆๆ

อีกนิดนึงน้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 05-01-2009 22:04:23
 :m20: Oh! วิ่ง 3 ขา โฮะ ๆ แกล้งกันอ่ะ แอบเสียบหยอ
เค้าอุตส่าห์ รู้แย้วนะ ว่าเคลวิน ชนะ มะยอมๆ  :serius2:
ต่อเลยๆ นะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-01-2009 22:06:31
^^
^^

จิ้มหนูมิ้น  ขอบคุณนะครับ ที่รีบเอามาลงให้ +1 เป็นของขวัญปีใหม่นะครับ  :L2:

อะ ไม่ทันแล้ว
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 05-01-2009 23:09:13
 :z1: รู้ผลแล้วจะเป็นไงต่อน๊าอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-01-2009 23:26:29
งั้นตอนหน้า ของกลางคืน เคนก็โดน  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 05-01-2009 23:57:15
อิอิ


^V^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 06-01-2009 00:53:24
กรี๊ดด... เคนโดนปาไข่ ฮ๋าๆ   :laugh: 

(แพ้ซะแล่ะ โดนๆๆ)   :z1:


 คึคึ พี่นนนี่  นี่ได้ใจเจงๆเลย   :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Asahi ที่ 06-01-2009 11:29:07
:m32:

คืนนี้แล้วสินะ ฮุฮุ

:pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 06-01-2009 14:09:40
:m32:

คืนนี้แล้วสินะ ฮุฮุ

:pig4:



ใช่แล้ว..ฮุฮุ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-01-2009 16:47:08
คืนนี้ๆๆๆ  ลุ้นจะแย่แล้ว  หุๆๆ :z1:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 06-01-2009 19:57:14
 :z1: :z1:

ลุ้นๆๆๆๆ

เคน  :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 06-01-2009 19:59:52
ขอจองที่นั่ง  V.I.P  แถวๆขอบเตียง  ด่วนค่า   :z1: :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 07-01-2009 01:32:25
 :impress2: :impress2: :impress2:

รออ่านตอนต่อไปอย่าใจจดจ่อ :oo1:

 :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 07-01-2009 19:15:42
แอบลุ้นตอนต่อไป

หุหุ

^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 07-01-2009 22:06:22
คืนนี้จะเป็นไงน้อ รอลุ้นด้วยคน คริ คริ :z2:

รอน้องมิ้นท์คนงามอยู่นะฮับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 07-01-2009 23:53:52
 :z1: หุหุ มีปาไข่ด้วย

กร๊ากกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: SheRbEt ที่ 08-01-2009 00:04:06

แหม น่าให้เคลวินลงโทษเคนหน่อยนะคืนนี้  o18

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 08-01-2009 00:18:16
 :z2: มารออ่ะคร้าบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 08-01-2009 11:02:29
 :z13:

ยังไม่มาอีกเหรอ...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 46 :P 5.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 09-01-2009 19:13:48
มาแล้วค่า


บทที่ 47

-----------------------------

“จะปล่อยให้เจ้านาย ยืนเด๋อด๋าไม่มีใครต้องการไปอีกนานเท่าไหนหือ เคน”

เสียงของพี่นนนี่นั่นเอง แกมายืนข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมหันไปยิ้มแห้งๆให้แก รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ยอมช่วยเคลวิน แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร พี่นนนี่ก็ยกมือขึ้น แล้วตะโกนบอกพิธีกรเสียงดัง

“เคนอาสาค่ะ”

มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของเคลวินทันที เขาทำท่าเหมือนโล่งอกที่ผมอาสาจะไปเล่นคู่กับเขา พิธีกรกวักมือเรียกให้ผมออกไป ซึ่งผมก็จำต้องเดินไปยืนอยู่ข้างๆเคลวินทันที ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ที่มองมายังผม

“ทำไมปล่อยให้ผมรอนาน รังเกียจที่จะเล่นคู่กับผมเหรอ”

เคลวินพูดลอดไรฟัน ให้ได้ยินกันแค่สองคนระหว่างผมกับเขา ท่าทางเขาน้อยใจไม่ใช่เล่น ผมถอนหายใจ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ใช่ว่าผมจะไม่สงสารเขา แต่ผมไม่อยากให้เราสองคนมีปัญหา ถูกมองในแง่มุมไม่ดี

“เคนใจร้าย”

เมื่อเห็นผมไม่ยอมตอบอะไร เขาก็ต่อว่ามาอีก จากนั้นก็เงียบไป คงกำลังงอนผมอยู่ ผมลอบมองเคลวิน ก็เห็นเขาทำหน้านิ่งๆ ตามองไปที่พิธีกร แต่ปากที่เม้มเป็นเส้นตรงของเขา ทำให้ผมรู้ว่าเคลวินกำลังอยู่ในอารมณ์ขุ่นข้องหมองใจ

ผมอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าผมไม่ได้รังเกียจเขาเลยแม้เพียงนิด แต่ต่อหน้าคนมากมายอย่างนี้ ผมจึงทำได้แค่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่อยากให้งานเข้าเราทั้งสอง

ผู้ช่วยไกด์เอาเชือกมาผูกขาของผมกับเคลวินไว้ด้วยกัน ในขณะที่พิธีกรบรรยายกติกา

แต่ละทีมจะต้องเดินจากจุดเริ่มต้น ไปจนถึงที่หมายซึ่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ทีมไหนไปถึงก่อน ทีมนั้นชนะ จะได้รางวัล โดยจะมอบให้กับพนักงานที่กล้ามาเล่นเกมคู่กับผู้บริหาร ซึ่งจะเป็นบัตรกำนัลสำหรับที่พักในรีสอร์ทที่ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง

“เมื่อเข้าใจกติกาแล้ว ขอให้ทุกคนประจำที่ และรอสัญญาณจากผมนะครับ”

พิธีกรประกาศให้เตรียมตัว ผมยืนอยู่ในท่าเตรียมพร้อม ลังเลใจว่าจะพูดคุยกับเคลวินดีหรือไม่ ว่าเราจะเดินกันอย่างไรดี

ผมกลัวว่าเราสองคนจะก้าวพลาด เพราะใจไม่ตรงกัน เขาอยากก้าวขาซ้ายก่อน ส่วนผมอยากก้าวขาขวา เราสองคนคงได้ล้มคว่ำ คะมำหงายแน่

หันไปมองคู่ของคนอื่นๆ ก็เห็นเขาคุยปรึกษากันว่าจะเดินอย่างไร บางคู่มีการจับมือกันเพื่อจูงกันไป คู่ของคุณชาตรีกับมอด มีการโอบไหล่กัน

ผมเห็นมอดยกมือไหว้คุณชาตรี จากนั้นก็เอามือพาดไปที่ไหล่ของเขา ซึ่งคุณชาตรีก็ไม่ว่าอะไร ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางมีความสุข เหมือนไม่ได้กำลังแข่งกีฬา แต่มาออกเดทยังไงยังงั้น

ขณะที่ผมกำลังมองดูคู่อื่นว่าเขาเตรียมตัวกันอย่างไร อยู่ดีๆ ก็มีแขนข้างหนึ่งสอดมาด้านหลังและโอบเอวผมเอาไว้

แขนของเคลวินที่โอบกระชับและดันตัวผมจนใกล้ชิดกับเขา ผมเงยหน้าขึ้นมองเคลวิน ก็เห็นใบหน้าเรียบเฉย และตาที่มองไปข้างหน้า หากแต่มีมุมปากยกสูงเหมือนยิ้ม

“ระวัง .....1...2....3.....ไป.....”

เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณ ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมก็ออกเดินจากจุดสตาร์ท รวมทั้งคู่ของผมกับเคลวินด้วย

เขากระซิบเบาๆกับผมว่า “ซ้าย” ผมเข้าใจได้ในทันทีว่าหมายถึงให้ผมยกขาซ้ายเดินก่อน ผมเดินตามที่เขาบอก

“ขวา ซ้าย ขวา...”

เคลวินพูดอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะผมกับเขา เริ่มเข้าขากันมากขึ้นแล้ว เราสองคนเดินไปอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบ

ไม่เหมือนคู่ข้างหน้าเราสองคนที่จ้ำพรวดๆ ผมหันไปมองเคลวิน แล้วถามเขาว่าเราไม่รีบอย่างคนอื่นหรืออย่างไร เดี๋ยวก็แพ้ เขายิ้มให้ผม แล้วตอบกลับมา

“อย่าสนเรื่องการแพ้ชนะ ตอนนี้ แค่สนว่า เราเดินได้ถูกจังหวะเป็นพอ ไม่อย่างนั้นจะเหมือนคู่โน้น”

เขาบุ้ยใบ้ให้ดูคู่ที่เดินก่อนหน้าเรา ซึ่งจ้ำพรวดๆไปข้างหน้า ตอนนี้ ทั้งคู่เกิดสะดุดกันเอง ล้มคว่ำไถลไปกับพื้น บาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ และต้องออกจากการแข่งขัน

ผมเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เคลวินพูด บางทีการแพ้ชนะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญนัก อยู่ที่จังหวะก้าวที่มั่นคงของเรามากกว่า รีบร้อนไปก็อาจจะเสียผลก็ได้

เราสองคนต่างค่อยๆเดินโดยรักษาระดับความเร็วเอาไว้ ไม่รีบร้อนจ้ำเดิน และไม่เชื่องช้าเป็นเต่าคลาน ตำแหน่งของเราไม่ถึงกับเป็นที่โหล่ ยังมีอีกคู่หนึ่งที่รั้งท้าย

ผมเหลียวไปดูก็เห็นเขายังห่างกับเราสองคนมาก ดูท่าทางเขาไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่นัก ต่างคนต่างเดินไม่ประสานกัน คนเป็นหัวหน้าก็พยายามก้าวนำ ในขณะที่คนเป็นลูกน้องก็ถูกรั้งให้เดินตาม มันเลยดูทุลักทุเล

ผมละสายตาจากคู่นั้น แล้วหันมามองคู่ที่นำหน้าเราอยู่ คุณชาตรี กับ มอด เดินนำอยู่สองช่วงตัว มือของมอดโอบไหล่ของคุณชาตรีเอาไว้ แล้วเดินพรวดๆ ลากผู้จัดการสูงวัยให้เดินตามเหมือนจะปลิว

หากคุณชาตรีไม่เอาแขนประคองไว้ที่สะโพกของมอด คงได้มีการล้มกลิ้งโค่โร่แน่

ไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวที่มองคู่ของมอดและคุณชาตรี จากหางตา ผมเห็นว่าเคลวินก็กำลังมองสองคนนั้นเหมือนกัน มีรอยยิ้มน้อยๆระบายในหน้า ท่าทางเหมือนคนกำลังขำอะไรบางอย่าง

ผมไม่แปลกใจเลยถ้าหากว่าเขากำลังนึกหัวเราะลูกน้องของตัวเอง เพราะขนาดผมเห็น ผมยังอดรู้สึกว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ชวนหัวจริงๆ
ที่ผู้จัดการจอมเฮี๊ยบ ที่ไว้เนื้อไว้ตัว จะมาเดินโอบประคองกับพนักงานระดับล่างอย่างยามเฝ้าบริษัท ซึ่งใครๆก็มองว่าต่ำชั้น และไม่คิดจะเสวนาด้วย โลกนี้มักมีอะไรแปลกๆที่เราไม่คาดคิดอยู่เสมอ

มือของเคลวินโอบรอบเอวผมกระชับขึ้นไปอีก จนผมอดไม่ได้ ต้องเหลือบตามองเขา นึกสงสัยว่าการที่เคลวินเดินช้า ไม่รีบร้อนนี่เป็นแผนของเขาหรือเปล่า

เขาอาจจะไม่สนรางวัล การแพ้ชนะ เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับเขา แต่สิ่งที่เคลวินต้องการอาจจะเป็นอะไรบางอย่างที่ผมคาดไม่ถึงก็ได้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 09-01-2009 19:17:10
ต่อ ๆๆๆ

“เคลวิน ขืนเดินแบบนี้ แพ้แน่นอนนะครับ”

ถามออกไปอย่างสงสัย แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็ตาม มีเสียงหัวเราะหึๆดังมาให้ได้ยิน จากนั้นเคลวินก็ถามผมกลับเบาๆ

“เคนรีบหรือครับ”

พูดจบเขาก็อมยิ้มในหน้า ผมรู้สึกหมั่นไส้ประธานเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก นี่วางแผนจะเดินช้าๆล่ะสิ

“เดินด้วยกันแบบนี้ ดีออก ผมชอบนะ”

เขาพูดโดยไม่มองหน้า ทำเหมือนกับพูดคุยกับผมธรรมดา ชนิดที่ใครมองมา ก็ไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไร แต่คนอยู่ใกล้อย่างผม รับรู้ได้ถึงน้ำเสียงหวานยั่วเย้าของเขา

“คนมองนะเคลวิน เดี๋ยวโดนนินทาแน่”

สิ่งที่ผมพูดไม่ได้เกินจริงเลย จากการลอบสังเกตคนที่อยู่รอบข้างที่ยืนดูเราอยู่ ถึงแม้ว่ามันจะห่างกันมาก แต่ผมก็เห็นได้เห็นสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา

มีทั้งคนที่มองอย่างสงสัย มองมาด้วยความหมั่นไส้ ครึ่งหนึ่งเป็นสายตาที่มองมาด้วยความไม่เป็นมิตร นอกนั้นก็มองแบบว่างเปล่า มีสายตาที่มองมาด้วยความอิจฉาประปราย

“ช่างปะไร เคนไม่ต้องสนใจหรอกครับ ใครจะว่าไงก็ช่าง ผมไม่สน”

“เคลวิน อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณเป็นประธานบริษัทนะครับ เขาจะเอาคุณไปว่าร้ายให้เสียหาย เดี๋ยวคนจะหมดความนับถือเคลวินนะ”
บอกเขาด้วยความเป็นห่วง ทว่าดูท่าทางเคลวินไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนสักเท่าไหร่ กลับตอบผมด้วยคำพูดชวนคิด

“คนเราถ้าเขาอยากจะนินทาคนอื่น เขาก็ไม่สนหรอกครับว่าคนๆนั้นจะเป็นอะไร ต่อให้ผมไม่ใช่ประธานบริษัท ถ้าเขาไม่ชอบผม เขาก็นินทาได้ทั้งนั้นแหละ”

มือที่โอบกระชับเอวของผมรั้งแน่นเข้ามาอีก เหมือนจะบอกผมกลายๆว่าเขาพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่ง เคียงข้างไปกับผม

“อย่าคิดมากเลยนะครับ เรากำลังเล่นแข่งกีฬาอยู่นะเคน แข่งกับตัวเราเอง ไม่ได้แข่งกับคนอื่น จะแพ้ชนะ เพราะตัวเราเอง ไม่ใช่จากแรงเชียร์ของคนอื่นเช่นกัน”

มีรอยยิ้มบางให้กำลังใจผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเคลวินเมื่อเขาพูดจบ ผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เลยพูดแย้งเขา แล้วเดินเคียงข้างไปกับเคลวินอย่างช้าๆ ทว่ามั่นคง
เราสองคนถึงเส้นชัย รองบ๊วย คู่ที่ชนะการแข่งขันในครั้งนี้ ก็คือคุณชาตรี และมอด ที่พอถึงเส้นชัย ก็กระโดดกอดกันตัวลอยแล้วก็ผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเช่นกัน

คงเป็นตอนที่ท่านผู้จัดการจอมโหด นึกขึ้นได้ว่าเผลอตัวทำกริยาอาการที่ไม่เคยทำมาก่อนออกไป ผมเห็นพนักงานหลายคนมองไปที่คุณชาตรี แล้วก็สะกิดให้กันดูพลางแอบหัวเราะเยาะหยัน

ผมรู้สึกไม่ชอบคนเหล่านั้นเลย และรู้สึกสงสารคุณชาตรีขึ้นมาจับใจ แม้เขาจะเคยร้ายใส่ผม แต่พอเห็นเขาโดนนินทาว่าร้าย ผมก็อดที่จะเห็นใจเขาไม่ได้

“เก่งจังเลยคุณชาตรี มอดก็ด้วย”

เคลวินกล่าวอย่างชื่นชม ขณะมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศ ดูท่าทางเขาจะรู้จักคุ้นเคยกับมอดไม่น้อย คงเป็นเพราะมอดทำงานเฝ้ายามในชั้นที่เคลวินทำงานอยู่มาสองปีแล้วกระมัง

และมอดก็เป็นคนที่คุณชาตรีพามาสมัครงานกับเคลวินด้วย พวกเขาถึงได้รู้จักและสนิทกัน

“ขอบคุณครับนายฝรั่ง”

มอดกล่าวอย่างนอบน้อม ท่าทางที่มอดแสดงออกต่อเคลวิน บ่งบอกถึงความจงรักภักดี ซึ่งหาได้ยากในแววตาของพนักงานบริษัทคนอื่นๆ

“ถ้าจะไปเที่ยว ก็บอกแล้วกันนะ ว่าจะไปวันไหน”

ท่านประธานกล่าวกับพนักงานด้วยท่าทีที่มีเมตตา ผมมองเคลวินอย่างชื่นชม ภาพความอ่อนโยนของเคลวินที่มีต่อลูกน้อง เป็นภาพที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก

ผมมักจะชินกับภาพประธานบริษัทที่เข้มงวดดุดันมากกว่า พอเจอแบบนี้ ก็เลยรู้สึกแปลกๆ ทว่ามันก็เป็นไปในทางที่ดี

ผมรู้สึกชอบเคลวินที่ใจดี พอๆกับเคลวินที่เฉียบขาด และดุดัน เขาเป็นคนหลายบุคลิก และเขาก็สามารถนำมันมาใช้ในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างกลมกลืนจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน

หลังจากมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทแล้ว ทางคณะกรรมการจัดงานก็ได้แจ้งตารางกิจกรรมคร่าวๆ ให้พนักงานทุกคนได้รับทราบ ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป เพื่อให้พนักงานได้เตรียมตัว

เย็นนี้ จะมีงานปาร์ตี้ นอกจากจะมีอาหารค่ำไว้เลี้ยงพนักงานแล้ว ก็จะมีกิจกรรมหลากหลายบนเวที เริ่มจากการมีทอล์คโชว์จากนักพูดฝีปากกล้า ในหัวข้อ Service Mind เพื่อให้พนักงานได้ตระหนักถึงคุณค่าของการให้บริการ ซึ่งจะพูด 1 ชั่วโมงก่อน จะเริ่มทานอาหารเย็น

และจะมีการแสดงของพนักงานในแต่ละสี ที่แบ่งกันเรียบร้อยแล้ว ใครอยู่สีไหน ก็จะต้องรวมกลุ่มประชุมกัน เพื่อหาการแสดงมาเล่นบนเวที มีรางวัลให้กับทีมที่ชนะเลิศ 1 หมื่นบาท ซึ่งเป็นรางวัลที่ล่อใจพอสมควร สลับกับการแสดงของนักร้อง ที่จ้างมาให้ขับกล่อมพนักงาน

นอกจากนี้ยังมีการประกวดการแต่งกาย ในคอนเซปต์ หาดทราย สายลม และผองเรา ตามชื่องานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ด้วย ใครแต่งตัวได้เข้าบรรยากาศที่สุดจะได้รับรางวัลจากมือของท่านประธาน

ผมไม่ต้องไปร่วมประชุมกับสีของตัวเอง เพราะต้องมีหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดเจ้านาย ที่จริงผมก็อยากไปร่วมงานกับพวกเขา เพื่อสร้างความสนิทสนม ไม่อยากแยกตัวมาคนเดียว

อยากใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักคนอื่นๆบ้าง ทว่า ถึงผมจะไม่ถูกเคลวินดึงตัวมาช่วยงานเขา ผมก็ถูกพนักงานด้วยกันกันออกมาจากกลุ่มอยู่ดี

หัวหน้าสีของผม แสดงท่าใจดี อนุญาตให้ผมไม่ต้องไปร่วมจัดกิจกรรมกับพวกเขา โดยบอกว่า ผมควรจะไปดูแลเจ้านายซึ่งเป็นหน้าที่อันสำคัญยิ่ง

ทว่าแม้ปากเขาจะพูดออกมาอย่างหนึ่ง แต่ใจของเขาต้องการบอกอีกอย่างหนึ่งแน่นอน ผมเดาว่า เขาคงอยากบอกประมาณว่า ผมไม่ได้รับการต้อนรับให้เข้ากลุ่ม เพราะผมไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขา

พวกเขาไม่ต้องการคบกับผม เขาไม่ได้บอกออกมาชัดเจนเป็นคำพูด แต่จากสีหน้าแววตาที่แสดงออก ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 09-01-2009 19:24:40
เคลวินเต๊ะอั๋งเคน  :z1: แล้วเมื่อไหร่เคลวินจะได้รางวัลที่ชนะเคนเนี่ย รออยู่
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 09-01-2009 19:40:34
อิอิ



อย่างนี้เคลวินก็ชนะนะอ่ะจิ




 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-01-2009 19:49:45
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 09-01-2009 20:18:42
 รอดูรางวัลผู้ชนะ  อิอิ    :o8:


ว่าแต่ คุน ชาตรี กับ นายมอดมันยังไงๆ เนอะ

หรือจะมีลุ้น อีกคู่ โฮ่ะๆ    :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: SheRbEt ที่ 09-01-2009 20:27:48

สงสารเคน  :เฮ้อ:  ต้องมาเจอคนแบบนี้

เอ๋ หรือจะสงสารเพราะคืนนี้ท่าทางจะต้องรับศึกหนักดี  :impress2:


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-01-2009 23:54:58
พวกปากอย่างใจอย่าง แถมชอบนินทาคนอื่นนี่ น่าเบื่อเจรงๆๆ  :m16:

สนใจสามีภรรยาคู่นี้ดีกว่า สงสัยได้มีการทวงรางวัลกันน่าดู  :m25:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 10-01-2009 00:09:02
 :เฮ้อ: สงสารเคนจัง จังเลยนะ
อ้ะ แต่เนียนไปไหมอ่ะพี่ม้นท์
มาจบตอนนี้อ่ะ เค้ารอรางวัล
ของเคลวินอยู่น้า  :oo1:  :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 10-01-2009 06:47:26


น่าสงสารเคนอ่า....  :sad11:

เคนไม่ต้องไปเล่นเกมอยู่กับเคลวิ่นอ่าดีแล้ว

อะไรจะได้ง่าย ๆ ขึ้น เอิ๊กกก ก!  :laugh:

 :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 10-01-2009 21:58:53
เคลวิน อีกนิดเดียว ก็ชนะแล้ว

รู้สึว่าเคนจะเอนเอียงมาทางเคลวินบ้างแล้วนะ

งานนี้เคลวินชนะใส :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 11-01-2009 16:10:59
 :o8: ยังน่ารักมิเปลี่ยนแปลง..

เซ็งช่วยเคนอีกแรง... :เฮ้อ:


..แต่มิเป็นไรเดี๋ยวภรรยาผู้แสนดี..คงคอยให้กำลังใจ..อิอิ


......คืนนี้แล้ว.....คืนนี้..อิอิอิ.. :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 11-01-2009 18:21:53
คิคิ

รอลุ้นรางวัลของเคลวิน :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 11-01-2009 20:25:31
 :z1: ตอนหน้าเข้านอนNC NCเราจะเอาNC อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 47 :P 9.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 11-01-2009 21:18:36
:z1: ตอนหน้าเข้านอนNC NCเราจะเอาNC อิอิ


ยังค่ะยัง  รอก่อนยังไม่มืดเลย


บทที่ 48

-----------------------------------

พวกเขาไม่ต้องการคบกับผม เขาไม่ได้บอกออกมาชัดเจนเป็นคำพูด แต่จากสีหน้าแววตาที่แสดงออก ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ และมันก็ทำให้ผมรู้สึกเซ็งอย่างบอกไม่ถูก

เมื่อไม่มีอะไรทำ ผมก็เดินเงื่องหงอยกลับมาที่พัก เคลวินไม่ได้อยู่ในห้อง เขาไปเตรียมตัวสำหรับงานตอนเย็นนี้ พี่นนนี่บอกว่าจะมีการแสดงเซอร์ไพรส์จากผู้บริหาร ซึ่งเก็บเงียบไม่ให้ใครรู้ว่าแสดงอะไร

แม้แต่พี่นนนี่ ก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปดูในห้องที่เขาเตรียมไว้ให้ผู้บริหารได้ซ้อมกัน ดูเหมือนผู้บริหารแต่ละคนตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ ไม่ยอมแพ้พนักงานที่เตรียมการแสดงมาประกวดประชันกัน

ผมเดินไปเดินมาในห้องโถง ที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องพักของผมกับห้องพักของเคลวิน มันเป็นโถงแคบๆไม่กว้างมากนัก ผมเดินกลับไปกลับมาจากประตูห้องเขาถึงประตูห้องผมหลายรอบในระยะเวลาไม่อันสั้น

ทว่าผมกลับรู้สึกว่ามันนาน แถมห้องก็ดูกว้างเหลือเกิน คงเป็นเพราะคนที่ทำให้เวลาในชีวิตของผมผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเป็นคนที่ทำให้ห้องไหนๆ ที่เราอยู่ด้วยกัน คับแคบไปถนัดใจ ไม่ได้อยู่ด้วย ณ ที่นี้ ทุกอย่างมันเลยดูโล่งๆ โหวงๆ ไปหมด

เมื่อไม่มีอะไรให้ทำ ผมก็เลยรู้สึกเคว้งคว้าง ผมไม่ต้องไปซ้อมการแสดงเหมือนคนอื่นๆ เพราะเขาตัดผมออกกลุ่ม กีดกันไม่ให้เข้าร่วมด้วยท่าทีสุภาพ ในขณะที่เคลวินก็แยกไปซ้อมกับผู้บริหารตามลำพัง ผมเลยมีเวลาว่างมากมาย โดยไม่รู้ว่าจะทำอะไร

อีกตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาปาร์ตี้ จะแอบงีบหลับตอนนี้ แล้วค่อยตื่นมาแต่งตัวไปงาน ผมก็ยังไม่ง่วง ช่วงหลังๆนี้ ผมนอนดึกบ่อย จนชินแล้ว จะให้มาหลับกลางวัน ผมก็ทำไม่ได้

ในเมื่อผมกลายเป็นคนว่าง ไม่มีอะไรทำอยู่คนเดียว ผมเลยหาเรื่องแก้เซ็งให้กับตัวเอง โดยการไปเล่นที่ชายหาดซึ่งยามนี้ ร้างผู้คน เพราะนี่เป็นหาดส่วนตัว บริษัทได้เหมาโรงแรมไว้ทั้งหมด จึงไม่มีแขกอื่นใดพัก

ตอนนี้ก็ไม่มีคนลงมาที่หาด เพราะทุกคนวุ่นวายอยู่กับการเตรียมการแสดง คนที่ไม่มีหน้าที่อะไร ก็พักผ่อนเอาแรง มีแต่ผมที่มาเดินท่อมๆ อยู่คนเดียวอย่างเหงาหงอย

ผมเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ตามชายหาด ถลกขากางเกงยีนส์ที่สวมมา จนถึงหัวเข่า ถอดรองเท้า แล้วเดินย่ำไปบนทรายที่เปียกจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง บ่ายคล้อยมากแล้ว แต่แสงแดดยังแรงอยู่ พอให้ร้อนกาย ทว่าน้ำทะเลเย็นๆ ที่ผมเดินลุยไป ก็ช่วยทำให้คลายร้อนได้บ้าง

เดินจนเหนื่อย ผมก็เลยหลบมาพักที่ใต้หินก้อนใหญ่ ตรงสุดอาณาเขตของรีสอร์ทที่พัก ซึ่งจะเป็นกลุ่มโขดหิน ไม่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ แต่เป็นที่นั่งพักผ่อนมากกว่า

ผมเลือกนั่งหันหน้าไปทางทะเล ตามองยังผืนน้ำสีครามที่ระยิบระยับไปด้วยประกายเจิดจ้า ของแดดที่ตกกระทบผิวน้ำ ทำให้ตาพร่า ไกลออกไป เป็นภูเขาลูกย่อมๆ ที่โผล่ขึ้นมากลางทะเล และมีเรือนักท่องเที่ยวหลายรำ แล่นอยู่ลิบๆ

ขณะที่ผมกำลังเพลิดเพลินกับการชมธรรมชาติอยู่นั้น หูของผมก็แว่วยินเสียงหนึ่งที่ทำลายความเงียบขึ้นมา

เสียงของคนที่พูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกัน ….

เสียงของผู้ชายกับผู้ชาย....

เสียงของคุณชาตรี และ....

มอด.....

เสียงนั้นดังขึ้นหลังโขดหินที่ผมนั่งพิงอยู่นั้นเอง.....

---------------------









นาฬิกาข้อมือที่ผมมองดูอยู่ขณะนี้ บอกเวลา 17.30 น. อีกประมาณครึ่งชั่วโมง ฝ่ายกิจกรรมพนักงานก็จะเปิดให้คนเข้าไปในห้องที่จัดงานเลี้ยง

ซึ่งจะมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่นอีกครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการเปิดงานปาร์ตี้ “หาดทราย สายลม และผองเรา” อย่างเป็นทางการ

ผมและทีมผู้บริหาร ติดแหงกอยู่ในห้องซ้อมการแสดงเกือบสองชั่วโมงแล้ว คืนนี้ เราจะมีการแสดงเพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์ให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นแนวคิดของผมเองที่ต้องการลดช่องว่างระหว่างเจ้านายกับลูกน้องให้ลดน้อยลง

ผมอยากได้บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่นแบบครอบครัว ที่พนักงานทุกคนต่างมีความรัก และความรู้สึกดีๆให้แก่กัน ซึ่งจะส่งผลให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่น

และแน่นอนว่า ถึงแม้ผมจะอยากได้ความเป็นกันเอง และการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันในการทำงาน แต่ที่จะต้องไม่ลืมก็คือ การทำงานอย่างมุ่งมั่น ขยัน และอดทน ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องผองเพื่อนของตัวมากกว่า

ประโยชน์ของบริษัท พนักงานจึงต้องมีพฤติกรรมการทำงานทั้งสองด้าน ถึงจะเป็นพนักงานที่ดีได้

และแล้วเสียงนกหวีดก็เป่าปรี๊ดหมดเวลา หลังจากซ่อมแบบเอาจริงเอาจังเกือบสองชั่วโมง ผู้ฝึกซ้อมการแสดงของผู้บริหารก็ปล่อยให้พวกเรากลับไปยังที่พักได้ เพื่อให้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะกลับมาแต่งตัวเตรียมแสดงเปิดงาน

เมื่อได้เวลาส่วนตัวกลับคืนมา ผมก็เดินจ้ำอ้าวๆกลับไปยังที่พักทันที ไม่เสียเวลาคุยกับใคร ฝ่ายบริหารคนอื่นๆ ต่างก็รีบกลับไปยังที่พักของตัวเองเช่นกัน เนื่องจากเหลือเวลาอีกไม่มาก ก็จะเริ่มงานแล้ว

ใจผมจดจ่ออยู่ที่บ้านพัก คิดถึงสุดที่รักใจจะขาด ป่านนี้เคน จะเป็นไงหนอ เขาจะได้ร่วมฝึกซ้อมการแสดง ในค่ำคืนนี้หรือเปล่า

ผมอยากรู้ว่าเคนจะแสดงอะไร ละคร เต้น ร้องเพลง หรือทอล์คโชว์ เวลาที่เขาอยู่บนเวที คงจะน่ารักดี คิดแล้วผมก็แทบจะอดใจรอดูไม่ไหว

ไม่เกิน 10 นาที ผมก็เดินถึงที่พัก เคนไม่อยู่ในห้อง สงสัยไปซ้อมยังไม่กลับมา ผมเลยเข้าไปอาบน้ำอาบท่าก่อนระหว่างที่รอสามีสุดที่รักของผม

ขณะที่ผมกำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง ผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิด เคนคงกลับมาแล้ว สงสัยคงจะเหนื่อย ผมหันซ้ายหันขวาเจอตู้เย็นที่ตั้งอยู่ในซอกใต้โต๊ะแต่งตัว

ผมจึงเดินไปเปิดประตูตู้ หยิบขวดน้ำเย็นขึ้นมา และรินใส่แก้ว แล้วเดินออกจากห้องไปหาเขา

เคนนั่งทอดตัวอยู่ที่โซฟากลางห้องโถงที่อยู่กึ่งกลางระหว่างห้องเขาและห้องผม หลังพิงพนัก เหยียดขาวางบนพื้น

ท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง และเขาคงจมอยู่ในความคิดของตัวเอง จนกระทั่งไม่สังเกตเห็นว่าผมเดินมานั่งข้างๆเขา และนั่งมองหน้าคนที่กำลังเหม่อ

“เหนื่อยไหมครับ”

หลังจากที่เคนไม่มีทีท่าว่าจะรู้ตัวว่ามีผมอยู่ในบ้านด้วย ผมก็อดรนทนไม่ไหว เอื้อมมือไปแตะมือของเคน และเอ่ยปากถาม

“เอ้อ...อะไรนะครับ”

นั่นไง คิดแล้วไม่มีผิด เคนต้องกำลังคิดอะไรอยู่แน่ๆ เห็นสีหน้าของเขาแล้ว ผมก็รู้สึกกังวลใจ มันเหมือนคนที่เหนื่อยหน่าย และไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง เคนมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจอะไรอยู่หรือเปล่านะ

“เคนเป็นอะไรครับ ท่าทางเหม่อลอย มีเรื่องอะไรกลุ้มใจเหรอ บอกผมได้ไหมครับ”

ถามออกไปด้วยความห่วงใย มือก็บีบนวดแขนให้เคนไปด้วย อยากให้เขาคลายความกังวลใจ อยากให้เขาแชร์เรื่องทุกอย่างให้ผมได้รับรู้บ้าง อยากร่วมรับรู้ทุกข์สุขไปกับเขา

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

เคนปฏิเสธ แล้วเอามือมาบีบมือผม ทว่าสีหน้าของเขากลับไม่สู้ดีนัก ผมรู้ว่าเคนต้องโกหกผมแน่ๆ แต่ไม่รู้ไม่อยากเล่าเรื่องที่เขาไม่สบายใจให้ฟัง

ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าเคนมีนิสัยไม่ขี้บ่น ไม่โวยวาย ไม่ชอบเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟัง ผมก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ที่เขาไม่ยอมแบ่งปันความทุกข์ใจให้ผมได้รู้บ้าง

ผมเป็นภรรยาของเคนนะ ผมก็อยากรู้บ้างสิ ว่าสามีของผมกำลังมีเรื่องอะไรที่ทำให้เขาเขาเครียดอยู่ขณะนี้

“เคนโกหก เคนไม่ไว้ใจผมใช่ไหมครับ”

ต่อว่าเขาเสียงกระเง้ากระงอด รู้สึกงอนจริงๆ ที่เขาไม่บอกให้ผมรู้

---------------------------


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 11-01-2009 21:29:32
“เคนโกหก เคนไม่ไว้ใจผมใช่ไหมครับ”

ต่อว่าเขาเสียงกระเง้ากระงอด รู้สึกงอนจริงๆ ที่เขาไม่บอกให้ผมรู้

“ไม่มีอะไรจริงๆครับ อย่างอนสิ”

เสียงของเคนขณะพูดปลอบ มันฟังดูนุ่มนวลจริงๆ โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่บอกว่า “อย่างอนสิ” มันไม่ได้เป็นการตำหนิ

หรือประชดประชัน แต่เหมือนว่าเขาจะแคร์ความรู้สึกของผม มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ยังงอนอยู่ดี

ผมอยากรู้เรื่องของเคนมากกว่านี้ และไม่อยากให้เขาปิดบังผมเลย

“แล้วเคนคิดอะไรอยู่หรือครับ”

คราวนี้ผมเปลี่ยนท่านั่ง หันมาเผชิญหน้าและจ้องเขาอย่างจริงๆจังๆ มือของผมกุมมือของเคนเอาไว้

“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ”

เคนปฏิเสธอีก แล้วก็ยิ้มให้ผม แต่มันดูเหมือนฝืนๆยังไงชอบกล ท่าทางเคนจะไม่ยอมบอกให้ผมรู้จริงๆ เซ้าซี้ไปก็คงไม่เกิด

ประโยชน์

เคนปากแข็งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขนาดความรู้สึกที่มีต่อผม เคนก็ไม่เคยบอกออกมา แล้วนับประสาอะไรกับเรื่องที่เขาเป็น

กังวลอยู่ขณะนี้ เคนไม่มีทางพูดให้ผมฟังแน่นอน

แม้จะคับข้องใจ แต่ผมก็ต้องอดใจเอาไว้ ไม่เค้นให้เขาตอบ ด้วยกลัวว่าเคนจะหงุดหงิด รำคาญผม

“ถ้างั้นผมไม่ถามเรื่องนั้นก็ได้ ถ้าเคนไม่สะดวกใจจะเล่าให้ผมฟัง ก็ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่ไปซ้อมเป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมครับ”

เปลี่ยนเรื่องพูด เคนจะได้สบายใจ

“ไม่ได้ไปซ้อมครับ ตัวแสดงเต็มหมดแล้ว”

เคนตอบผม น้ำเสียงของเขาดูเนือยๆ ท่าทางห่อเหี่ยว ฟังสิ่งที่เคนพูด ผมก็อดสงสัยไม่ได้

ในการจัดงานแสดงคืนนี้ กำหนดให้พนักงานแต่ละฝ่ายไปคิดการแสดง และต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อความสมัครสมาน

สามัคคีในทีม จะไม่มีใครเอาเปรียบใคร ทุกคนต้องมีส่วนในการแสดงทั้งหมด

หากไม่ได้ขึ้นไปแสดงบนเวที ก็จะต้องทำงานเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมข้าวของอุปกรณ์เครื่องใช้มาให้ ช่วยนัก

แสดงแต่งตัว และช่วยเตรียมงาน

แต่ดูจากการที่เคนนั่งห่อเหี่ยวไม่ร่าเริงแบบนี้ มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เคนอาจจะถูกกันไม่ให้เข้าร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย

ทำไมผมจะไม่รู้ว่า การที่ผมให้โอกาสกับเคน ให้เขามาทำงานใกล้ชิดกับผม สร้างความกังขาให้พนักงานบางคนได้มาก

ขนาดไหน พวกเขาไม่พอใจที่เคนมาทำงานกับผม

ทั้งที่เคนก็เป็นเพียงแค่ลูกจ้างชั่วคราว แต่กลับได้ตำแหน่งดีๆข้ามหัวคนที่ทำงานมานานหลายคน พวกเขาคิดว่าเคนไม่มี

ความสามารถเพียงพอ

คนใจแคบบางคนดูถูกเคนว่าได้ดีเพราะมีเส้นมีสาย และประจบสอพลอเอาใจผม และก็คงมีบ้างที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเคน

เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากให้เคนได้ดีเกินหน้าเกินตาพวกเขานั่นเอง

ถ้าทุกอย่างเป็นอย่างที่ผมคิด ผมก็รู้สึกเสียใจ เสียใจที่ทำให้เคนต้องเดือดร้อน เสียใจที่สิ่งที่ผมทำเพื่อพนักงาน และเพื่อ

บริษัทกำลังจะสูญเปล่า การที่ผมจัดให้มีงานปิกนิกพนักงานขึ้น

เป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อที่ต้องการให้สวัสดิการกับพนักงาน ให้ได้รับความสุขกันถ้วนหน้า หลังจากตรากตรำทำ

งานกันมาอย่างหนัก เป็นรางวัลหนึ่งของพวกเขา

และผมได้เพิ่มเป้าหมายใหม่ลงไปในการจัดงาน นอกเหนือจากความสนุกสนาน นั่นก็คือความรู้รักสามัคคี ให้พวกเขาได้

รู้จักกัน ใครที่รู้จักแต่คนในฝ่ายหรือแผนกของตัวเอง ก็จะได้พบปะรู้จักกับเพื่อนต่างฝ่ายด้วย

ผมไม่ได้คาดหวังว่าพวกเขาจะรักใคร่กลมเกลียวกันในเวลาแค่วันสองวันที่มาปิกนิกกันที่นี่ แต่อย่างน้อย เมื่อไปเจอหน้ากัน

ที่บริษัท ก็จะได้ทักทายพูดคุยกันอย่างคุ้นเคย

การติดต่องานระหว่างฝ่าย ก็จะสามารถทำได้ราบรื่น ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เพราะต่างฝ่ายต่างรู้จักกันนั่นเอง

“แล้ว เขาให้เคนทำอะไรบ้างครับ เคนช่วยพวกเขาเตรียมการแสดงหรือเปล่า”

ถามไปอย่างนั้น เพื่อคอนเฟิร์มสิ่งที่ตัวเองคิด การได้เห็นเคนนั่งนิ่งเงียบ ไม่พูด ก็ทำให้ผมรู้ว่าจริงอย่างที่ผมคาดไว้

เคนไม่ใช่คนช่างฟ้อง ไม่ทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูดของตัวเอง เรื่องที่หวังว่าจะได้ยินเคนพูดถึงคนอื่นในทางที่เสียหายจึงไม่มี

แต่แค่นี้ ผมก็เดาออกแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องแสดงร่วมกับพวกเขาก็ได้ เพราะเคนมีหน้าที่ที่ต้องดูแลผม ทุกคนคงไม่ว่าอะไร หากว่าเคนไม่ได้มี

ส่วนร่วมในการแสดงคืนนี้”

ผมปลอบใจเคน ไม่อยากให้เขาคิดมาก ว่าถูกกันออกนอกกลุ่ม ในใจก็วางแผนการอะไรบางอย่างไว้ ผมจะต้องจัดการเอา

คืนพนักงานที่มีใจคอคับแคบของผม

สิ่งที่ผมตั้งใจจะทำ ไม่ใช่เพราะว่าผมเคียดแค้นที่คนพวกนั้นทำกับคนที่ผมรัก แต่ผมต้องการสั่งสอนคนพวกนั้น ไม่ให้

ปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างมีอคติ

ในเมื่ออยู่ร่วมกัน ทำงานบริษัทเดียวกัน ก็ควรจะรักและเข้าอกเข้าใจกัน ไม่ใช่มัวแต่แก่งแย่งชิงดี คิดเล็กคิดน้อย อิจฉาริษยา

คนอื่น

หากปล่อยให้มีคนประเภทนี้อยู่ในบริษัทมากๆ นอกจากจะไม่ช่วยทำให้บริษัทเติบโตแล้ว อาจจะต้องถอยหลัง เพราะ

พนักงานขัดขากันเอง

“ครับ...”

เขาตอบสั้นๆ ผมรู้ว่าเคนรู้สึกแย่แค่ไหน ที่โดนเพื่อนร่วมงานปฏิบัติต่อเขาแบบนี้ การโดนคนอื่นปฏิเสธคงจะทำให้เคนเสีย

กำลังใจไม่น้อย

มือของผมเอื้อมไปบีบที่มือของเคน ปรารถนาที่จะส่งผ่านความเข้าอกเข้าใจ เห็นใจไปให้เขา ผมเชื่อมั่นในสามีของผม เคน

เป็นคนดี และความดีของเขาต้องชนะใจคนทั่วไป เช่นเดียวกับที่เคยชนะใจผมมาแล้ว

“แล้วเคนไปอยู่ที่ไหนมาครับ ช่วงที่คนอื่นๆเขาซ้อมกัน”

ไม่ได้ตั้งใจจะจับผิด แต่ผมถามเขาด้วยความเป็นห่วง คิดว่าเคนคงจะเซ็งไม่น้อยที่ถูกกีดกัน แล้วอาจจะไปหาอะไรทำให้มัน

สบายใจ ผมแค่อยากรู้ว่าตอนที่เคนรู้สึกแย่ เขามีวิธีในการบำบัดความเครียดของตัวเองอย่างไร

“ไปนั่งเล่นที่ชายหาดครับ”

เคนตอบเสียงนุ่ม ไม่มีท่าทีว่ารำคาญที่ผมถาม คงรู้ว่าผมเป็นห่วงเขาจริงๆ ไม่ได้ต้องการจุกจิกกวนใจ

“นั่งคนเดียวตั้งเกือบสองชั่วโมงเลยเหรอครับ โถ น่าสงสารจัง”

ผมยื่นมือไปลูบแก้มของเขา รู้สึกเห็นใจเคนอย่างมาก เขาคงจะเคว้งคว้าง ไม่มีอะไรทำ เลยไปนั่งปล่อยอารมณ์เล่นแถวชาย

หาด ผมอยากจะอยู่ด้วยตอนที่เขาทุกข์ใจจริงๆ

“แล้วทำไมถึงไม่กลับมานอนพักที่บ้านล่ะครับ”

“ก็...มันไม่ง่วงนี่ครับ ..อยู่เฉยๆ ก็ไม่มีอะไรทำ ...เคลวินก็ไม่อยู่ด้วย”

เคนตอบคำถามของผมอย่างซื่อๆ เขาคงไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสิ คิดไปไกลแล้ว ตีความตามคำพูดของเขามันแปลว่า เขาอยาก

ให้ผมอยู่ด้วย

และถ้าเราอยู่ด้วยกัน เราก็จะมีอะไรทำใช่ไหม และอะไรที่ว่านั่น มันทำให้ผมเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา จนบางสิ่งบางอย่าง

ในกายผมมันตื่นตัวจากภาพวาดที่อยู่ในสมองผม

“ถ้างั้น ตอนนี้ ผมอยู่ที่นี่แล้ว เราก็หาอะไรทำกันดีไหมครับ เคนจะได้ลืมเรื่องกังวลใจต่างๆได้”

ทำเสียงอ้อน และส่งสายตาหวานให้เคน เขากระพริบตาปริบๆ ขณะมองผม จากนั้นปากของเขาก็เหยียดออกเป็นรอยยิ้ม

ก่อนจะตามด้วยเสียงหัวเราะในเวลาต่อมา

“เคลวิน หื่นจริงๆเลยนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย”

“ผมรู้ครับ ว่าเคนหมายถึงอย่างอื่น แต่ช่างมันเถอะ ไหนๆ เราก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่ เราจะไม่ใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ ทำอะไรให้มัน

คุ้มค่าหน่อยเหรอ

อุตส่าห์มาเที่ยวในสถานที่สวยๆอย่างนี้ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศในการมอบความรักให้แก่กันดีไหมครับ”

อ้อนเขาต่อเนื่อง มือข้างหนึ่งของผมก็วางแปะลงที่หน้าขาของเคน พลางลูบไล้ไปมาเพื่อปลุกอารมณ์ของเขา

------------------------
TBC

ปล.  พี่เคทคะ  คนอ่านอยากเห็น NC แล้วอ่ะ

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 11-01-2009 21:49:53
ืNC NC NC


อยากอ่าน nc



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :impress2:








ทำไมคนอื่นหื่นอย่างนี้เนี่ย


อายๆ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-01-2009 22:43:48
กรี๊ดดดดดดดดด ตอนหน้าห้ามพลาดใช่มั้ยค่ะ  :m25:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 11-01-2009 23:45:28
ถูกต้อง  อยากอ่านNC แว้ววว

แต่ดูท่าทางแล้ว ไม่แน่ว่าเคนจะปฏิเสธเคลวินป่ะเนี่ย

ดังนั้นเคนจงอย่าปฏิเสธน๊า :oni3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 12-01-2009 00:00:53
 :call: NC คร้าบ Pleaseeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeeee...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-01-2009 00:16:06
NC ด่วนจ้า

 :5555:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 12-01-2009 02:12:39
งานนี้ หนุ่มเคน ท่าจะปฎิเสธ ยากซะแล่ะ

เอาน่า ทำอะไร ฆ่าเวลา ก่อนงานเริ่ม อิอิ

เรียกเหงื่อ ซักหน่อย ก้อดีนะเคอะ พี่เคทขรา อากาศ ยิ่งหนาวๆอยู่ อิอิ   :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 12-01-2009 19:09:18
NC  NC   NC    o18
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: k_aluvis ที่ 12-01-2009 20:21:09
 :z1: :z1:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 13-01-2009 10:20:45
 :o8: NC เป็นไงเหรอ... :-[ :-[ :-[


....อยากรู้จังเลย..พี่เคทขอสัก 5 หน้า A4 ได้ไหม...


เดี๋ยวจะเข้าใจคลาดเคลื่อน..อิอิ.....  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: SheRbEt ที่ 13-01-2009 17:19:31

พี่เคท

เอ่อ...ขออย่างที่รีบนๆเขาขอกัน  :-[

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 13-01-2009 18:17:58
ไม่น่าพลั้งปากไปเลย นายเคน สุดท้ายก็เข้าทาง...  :jul3:

รีบทวงมาด่วนหนูมิ้น  เอา +1 ให้ก่อนก็ได้  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 13-01-2009 21:17:46
ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 14-01-2009 00:04:12
 :oo1: NC จงเจริญ :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 16-01-2009 13:21:33
มารอ.....


ไม่มา......................... :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 16-01-2009 15:52:07
 :z2: NC NC NC 



อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 17-01-2009 02:08:52
 :sad4: ยังไม่มาอีกหรอ นานแย้วนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 18-01-2009 00:42:22
 :m16: :m31: :fire:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-01-2009 01:51:16
NC ด่วนจ้า

 :5555:

      ^
      ii
      ii
      ii

หื่น  หื๊น  หื่น


อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 48 :P 11.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 19-01-2009 07:52:47
วันนี้ก็ยัง.....





.....................ไม่มา... :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-01-2009 22:50:48
มิ้นขอโทษนะคะ  มิ้นอู้เองอ่ะ  ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย


บทที่ 49

------------------------


“เคลวิน ทำแบบนี้จะดีหรือครับ ...เดี๋ยวใครมาเห็นนะ”

เขาพยามปัดป้อง ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เกิดจากรังเกียจ แต่คงเพราะกลัวจะมีคนมารู้เห็นเรื่องของเรามากกว่า แต่ความรักมันบังตา และความเชื่อมั่นว่าไม่มีใครมายุ่งที่เรือนพักของผมแน่ๆ ทำให้ผมดื้อรั้น ไม่ยอมฟังคำทัดทาน และรุกรานเขาอย่างย่ามใจ

“ไม่มีใครผ่านมาแถวนี้หรอกครับ หากผมไม่ได้เรียก ที่นี่มีแค่เราสองคนเท่านั้นเองนะครับ”

ผมโน้มน้าวเคนด้วยวาจา มือไม้ก็ซุกซนไปเรื่อย หวังปลุกอารมณ์ของเคน รู้สึกผิดนิดหน่อยที่คอยหื่นทุกสถานการณ์ ตอนนี้เคนไม่สบายใจ ผมกลับหาประโยชน์ จากตัวเขา

แต่คิดอีกที นี่อาจจะเป็นโอกาสเหมาะ ในการที่จะทำให้เคนคลายความเครียด การที่เราแสดงความรักต่อกัน น่าจะทำให้เคนปลดปล่อยอารมณ์ได้บ้าง

“ยังไงมันก็ไม่ดีหรอกครับ เคลวิน เดี๋ยวงานก็จะเริ่มแล้วไม่ใช่เหรอ คุณมีคิวที่ต้องแสดงด้วยนี่ครับ”

คนน่ารักของผมพยายามจะเตือนสติให้ผมห่วงงานมากกว่าจะมาเสียเวลากับเรื่องส่วนตัว แต่ผมคำนวณเวลาเอาไว้แล้วว่าหากเราจะกุ๊กกิ๊กกัน คงไม่ต้องใช้เวลานานมากนัก ถึงไง ผมก็ไปทันก่อนงานเริ่มอยู่ดี

“เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมง...ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เขามีกิจกรรมต่างๆมากมาย ให้พนักงานสนุกสนานกันก่อนเริ่มงาน เราสองคนก็มีเวลาเหลือเฟือนะครับ กุ๊กกิ๊กกันสองสามรอบสบายๆ”

ผมพูดเว่อร์เกินจริง เพื่อโน้มน้าวใจเคนให้ยอมทำตามใจผม แต่สุดที่รักของผม ก็ไม่ยอมคล้อยตามอยู่ดี ดื้อชะมัดยาด

“เคลวินอย่าเอาแต่ใจตัวเองสิ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทำอะไรกันแบบนั้นนะครับ งานต้องมาก่อน เรื่องส่วนตัวต้องมาทีหลัง เคลวินพูดแบบนี้เสมอไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงจะทำผิดกฎเสียเองล่ะ “
เขาทำเสียงดุผม ช่วงหลังๆนี้ เคนเริ่มกลัวผมน้อยลง และดุผมมากขึ้น แต่ผมกลับไม่โกรธเขา กลับรู้สึกดีที่สามีของผมเป็นลูกผู้ชายที่เข้มแข็ง

ต่อไปในภายภาคหน้าเขาคงเป็นผู้นำผมได้ แล้วสิ่งที่เขาว่า ก็มาจากความปรารถนาดีที่มีต่อผม เขาพยายามปกป้องไม่ให้ผมโดนครหานินทาจากพนักงานคนอื่นๆต่างหาก

“เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกมากนะครับ ทำไมรีบร้อนนักล่ะ วันอื่นก็ได้ ผมไม่ได้อยู่กับเคลวินวันนี้วันเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ”

สามีพยายามจะทำให้ผมเปลี่ยนใจ

“เอาไว้วันหลังนะครับ”

เคนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ผมหลงรักความซื่อของเคนเหลือเกิน ความที่เขาหวังดีกับผม เลยพูดประโยคนั้นออกมาเพื่อให้ผมเลิกล้มความตั้งใจของตัวเองที่จะมีอะไรกับเขาตอนนี้

เคนคงไม่รู้หรอกว่า คำพูดของเขามันทำให้ผมมีความหวัง และผมก็ชอบตีความเข้าข้างตัวเองอยู่แล้ว

ดังนั้นการที่เขาพูดว่า เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกนาน และ เขาก็ไม่ได้อยู่กับผมแค่วันเดียว ทำให้ผมฝันไปไกล ถึงการได้อยู่ร่วมกันกับสามีสุดที่รักของผมไปตลอดชีวิต

“สัญญาแล้วนะ....”

ผมเอานิ้วก้อยไปเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของเคน แล้วเกี่ยวนิ้วเขาขึ้นมา ให้มือมาชูอยู่ตรงหน้าเราสองคน และทวงคำมั่น

“อะ...อะไรเหรอครับ”

สามีสุดที่รักของผม ทำท่าเงอะงะ หน้าตาตอนเอ๋อๆ นี่น่ารักมากๆ จนผมแทบอดใจไม่ไหว

“ก็ที่บอกว่าเคนจะอยู่กับผมอีกนาน ไม่ได้อยู่กับผมแค่วันเดียว”

“เอ้อ......”

มีสีแดงเรื่อ ปรากฏขึ้นที่แก้มของเคน เขากำลังอาย เมื่อเข้าใจความหมายของผม

“ผมหมายความว่างั้นเหรอครับ”

ยังจะมาถามอีก หมายความตามนั้นหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมสรุปตามความคิดของผมแล้ว ว่าใช่ พอผมยืนยันความเห็นของตัวเอง เคนก็ยิ้มเขินๆ

การที่เขาไม่ได้ตอบปฏิเสธผม เอาแต่ยิ้ม ทำให้ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก อาการแบบนี้ แปลว่าเคนเริ่มยอมรับในตัวผมหรือเปล่านะ


--------------------
“แต่ถึงยังไงคืนนี้ เคนก็ต้องนอนกับผม แล้วเราก็ต้องกุ๊กกิ๊กกันด้วยนะ”

ผมทวงคำสัญญาที่ตกลงกันไว้

“อ้าว...”

เขาทำหน้างงอีกแล้ว สามีของผมนี่ ลืมจริงๆ หรือแกล้งทำเป็นจำไม่ได้กันแน่นะ น่าจับลงโทษด้วยการจับกดซะตอนนี้เลย เผื่อว่าจะจำได้ว่าสัญญาอะไรกันไว้

“ก็ผมชนะคุณ 2 ต่อ 1 ไง จำไม่ได้แล้วเหรอว่าเราพนันกันไว้อย่างไร”

ทวนกติกาให้ฟังอีกครั้ง คราวนี้ เคนหน้าแดงก่ำมากกว่าเดิม เขาคงจำได้แล้วสินะ ว่าเราตกลงกันว่าอย่างไร
“ห้ามเบี้ยวนะ ...”

ผมเกี่ยวก้อยเขย่าไปมา เป็นการย้ำเตือนไม่ให้เขาบิดพลิ้ว

“รู้แล้วครับ...”

เขารีบตอบ คงกลัวว่าผมจะเซ้าซี้มากยิ่งขึ้น หรือไม่ก็กลัวว่าผมจะหาว่าเขาจะเบี้ยว ผมลอบยิ้มอย่างสมหวัง การเป็นคนซื่อๆของเคนมันดีตรงนี้เอง ตรงที่ซื่อสัตย์ รักษาสัญญา และหลอกง่าย ทำให้ผมฉวยโอกาสกับเขาได้บ่อยๆ

“งั้น ผมขอมัดจำเคนไว้ก่อนนะครับ”

โดยไม่รอฟังคำอนุญาต ผมก็ก้มลงไปจูบเบาๆที่แก้ม และพยายามยั้งใจเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนริมฝีปากไปที่อื่นด้วยกลัวว่าผมจะหยุดตัวเองไม่ได้ จะพาลล่วงเกินเขาเลยเถิด จนไปงานไม่ทัน สู้อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ฮันนีมูนกับเขาคืนนี้ดีกว่า

จังหวะที่ผมกำลังผละจากเคน เสียงอะไรบางอย่างก็ดังขึ้น ฟังคล้ายเสียงประตูเปิด และของหล่นลงบนพื้น และจากการที่ได้เห็นดวงตาที่เบิกกว้างของเคนอย่างตกใจ ทำให้ผมคาดเดาเอาว่า ตอนนี้ เราสองคนไม่ได้อยู่กันตามลำพังเสียแล้ว

มีใครบางคนที่บังอาจ โผล่เข้ามาที่บ้านพักของเราสองคน โดยที่ไม่ได้เชื้อเชิญ ผมจำได้ว่าไม่ได้เรียกใครให้มาหาที่บ้านพัก

แม้แต่เลขาคนสนิทอย่างนนนี่ ผมก็ปล่อยให้เขาได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว กับสามีของเขา ไม่ต้องมาตามรับใช้ผม แล้วผมก็มีเคนอยู่แล้วด้วย

หากผมต้องการอะไร ผมจะสั่งที่เคน และกำชับใครต่อใคร ว่าห้ามรบกวน แต่ตอนนี้มีคนฝืนคำสั่งแล้ว และคนๆนั้นจะต้องโดนดีแน่ๆ ที่กล้าขัดคำสั่งผม

“เคล..เอ่อ ท่านประธาน”

เคนกระซิบเบาๆ ท่าทางยังไม่หายตกใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความกังวล มือที่ผมกุมไว้ เย็นเฉียบ เขาคงกลัวถูกเปิดโปงความลับ คงกลัวว่างานจะเข้าผม และผมจะเดือดร้อน

“ชู่...”

ผมจุ๊ปาก แล้วส่งสายตาห้ามไม่ให้เคนแสดงปฏิกิริยาอะไร ส่วนตัวผมเอง ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิม ไม่แม้แต่จะขยับหันไปมองผู้บุกรุกที่น่ารำคาญ แต่ในใจหมายไว้แล้ว ว่าคนที่เข้ามา ชะตาต้องถึงฆาตแน่


--------------------
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-01-2009 22:53:57


“เอาล่ะ ผมเขี่ยผงออกจากตาให้คุณเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวคุณไปหาน้ำสะอาดๆมาล้างตานะ”

พูดด้วยเสียงอันดัง เพื่อให้คนมาใหม่ได้ยิน เป็นการแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าที่ผมคิดได้ขณะนั้น ไม่การันตีว่าคนมาใหม่จะเชื่อหรือไม่

แต่ดีกว่าการที่จะต้องหันกลับไปด่า หรืออาละวาดโวยวาย สู้ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ดีกว่า แล้วหาทางจัดการกับคนที่ล่วงล้ำเข้ามาในสถานที่ส่วนตัวของผม และหากเขายังกล้าที่จะพูดมากปากโป้ง คงได้เห็นดีกัน

หลังจากทำเป็นว่าผมเขี่ยผมเข้าตาให้กับเคนแล้ว ผมก็ค่อยๆหันหน้าไปทางประตูบ้านช้าๆ นายชาตรียืนหน้าตาเลิ่กลั่ก เหงื่อแตกอยู่กลางห้อง

จากอากัปกริยาของเขาทำให้ผมเดาได้ทันทีว่า ผู้จัดการเก่าแก่เห็นผมแสดงความรักกับเคนเข้าเต็มตา และเขาคงอยู่ในภาวะละล้าละลัง ว่าจะยืนอยู่ต่อ หรือรีบออกไปดี

ผมยิ้มให้เขาหน้าเครียด ก่อนจะร้องทักทายเขาออกไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ ทว่าแววตาที่มองเขาใส่ความดุดันเข้าไปเต็มที่

“ว่าไงคุณชาตรี มีอะไรให้ผมรับใช้ ถึงได้มาหาผมถึงบ้านพักส่วนตัวที่นี่”

ผมจงใจเน้นคำลงไปให้เขาได้ตระหนักว่า เขากำลังรุกล้ำอยู่ในเขตหวงห้ามของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายชาตรี ทำหน้าจืดจ๋อย มองผมด้วยสายตาหวาดๆ ยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก ก่อนจะเอาลงมากุมมืออีกข้างที่ตรงหว่างขา

“เอ่อ...ขอโทษครับ ท่านประธาน คือว่า...เอ้อ...พอดี ...ทางสต๊าฟจัดงานเขาถามหาท่านประธาน ผมก็เลยเอ้อ...ก็เลยเดินมาตามท่าน...เอ้อ..ที่นี่ครับ”

เขาพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก การที่ได้เห็นคนแก่วัยกว่ามาทำท่ากลัวหงอ ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีอำนาจมากขึ้น กลับรู้สึกสงสารแกมากกว่า

หากแต่ความผิดที่แกบังอาจเข้าบ้านพักผมมาโดยพลการ จนทำให้ล่วงรู้เรื่องของผมกับเคนโดยบังเอิญเป็นสิ่งที่อภัยให้ไม่ได้ จำเป็นต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม

การข่มขู่วางอำนาจเหนือเขา จะทำให้นายชาตรีไม่กล้าปากโป้งเอาเรื่องของผมกับเคนไปพูดให้ใครฟังได้สักระยะหนึ่ง ก่อนที่ผมจะคิดวิธีการจัดการกับเขาได้ใหม่

“ผมว่าสัญญาณมือถือก็เต็มอยู่นะ ถึงที่นี่จะเป็นรีสอร์ท อยู่ใกล้ภูเขากับทะเล แต่คลื่นก็เต็ม ผมยังโทรคุยกับพ่อผมอยู่เลย คุณใช้มือถือระบบไหนเหรอ ถึงไม่มีคลื่น จนโทรมาหาผมไม่ได้”

คำพูดประชดประชันของผม ทำให้นายชาตรี ซึ่งยืนหลังงุ้มกุมเป้าคงจะรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กลีบเข้าไปใหญ่ ผมเห็นเขาก้มหน้าไหล่ห่อ หมดสภาพผู้จัดการจอมโหด ที่ใครๆก็กลัวเกรง

เกือบจะสงสารแล้ว แต่จำเป็นต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้เขาได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองทำคือความผิดพลาดขนาดไหน

“เอ่อ...ผม..ผม...ขอโทษครับ...ท่าน...ท่านประธาน ผมไม่..ไม่ทันคิด”

คนที่เคยพูดจาฉาดฉาน กลายเป็นคนติดอ่างขึ้นมาทันที

“เลขาผมก็อยู่ไม่ใช่เหรอ คุณโทรมาหาเลขาผมก็ได้”

ตำหนิเขาอีก เขาไม่โต้ตอบอะไร ทำท่าสำนึกผิด

“เอาล่ะ ครั้งนี้ไม่เป็นไร ผมคิดว่าคุณอาจจะรีบร้อนมาตามผม เลยทำให้คุณไม่ทันได้ฉุกคิดเรื่องความเหมาะสมอย่างที่คุณว่า คราวหน้าคุณคงไม่ทำเช่นนี้อีก”

สำทับเขาไปเป็นการข่มขู่ว่าผมเอาจริง นายชาตรีรีบผงกหัวรับคำ จากนั้นก็รีบลนลานออกจากบ้านผมไป เขาเสร็จธุรการบอกกล่าวของเขาแล้ว และไม่กล้าเสนอหน้าอยู่ต่อ

กลัวผมวีนใส่ ทั้งที่จริงๆ ผมก็ไม่ได้ต้องการจะเอะอะเอ็ดตะโรใส่เขา ผมแค่พูดเสียงเข้ม และทำตาดุใส่เท่านั้น เขาก็เกรงกลัวไปแล้วโดยที่ผมไม่ต้องแสดงพลัง

“เป็นเรื่องแล้วไหม...เคลวิน...เขาจะเอาคุณไปนินทาไหมครับ”

สีหน้าของเคนไม่สู้ดีเลย จนผมอยากจะดึงมากอดปลอบขวัญ เขาห่วงผมมากกว่าห่วงตัวเองเสียอีก คนที่สมควรจะผิดในกรณีนี้ น่าจะเป็นผมมากกว่า ที่ไม่รู้จักระมัดระวัง มั่นใจว่าจะไม่มีใครมายุ่มย่ามแถวบ้านพักของตัวเอง

โดยลืมคิดไปว่า พวกพนักงานหลายคนก็ห่วงใยในตัวผม อยากมาช่วยดูแลอำนวยความสะดวกให้ แม้ว่าผมจะอยู่กับผู้ช่วยเลขาของผมก็ตาม แต่พวกเขาก็คงกลัวว่าผมจะได้รับความลำบาก

นี่ยังไม่นับรวมพนักงานบางจำพวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็น

สำหรับนายชาตรี ผมว่าน่าจะเป็นพวกแรกมากกว่า เพราะผมรู้จักเขามานาน นายชาตรีเป็นคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับบริษัท

แม้ว่าส่วนหนึ่งจะทำเพื่อหวังความเติบโตในหน้าที่การงาน และชอบประจบประแจง วางก้าม แต่เขาก็มีส่วนช่วยเหลือบริษัทได้มากโขอยู่

แค่ปรับเปลี่ยนนิสัยบางอย่างของเขาเท่านั้น นี่อาจจะเป็นโอกาสดี ที่ผมจะได้จัดการกับเขาก็ได้

“ผมขอโทษนะครับ ..”

มือใหญ่ของผมยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าของเคนอย่างแผ่วเบา เขาพยายามเบี่ยงหน้าหนี มันทำให้ผมรู้สึกปวดใจ แม้ผมจะรู้ว่าเคนไม่ได้ทำเพราะรังเกียจ แต่กลัวมีคนเห็น ผมก็รู้สึกน้อยใจอยู่ดี

ทำไมผมจึงไม่สามารถจะแสดงความรักกับเขาได้อย่างที่ใจต้องการได้นะ ผมไม่ต้องการการหลบๆซ่อนๆ ผมอยากเปิดเผยเรื่องราวความรักระหว่างเขากับผม

อยากเดินควง อยากที่จะแสดงความรักกับเขาได้อย่างเปิดเผย ผมไม่สนว่าใครจะชิงชังรังเกียจ ผมรักเขา และผมไม่ต้องการดูถูกความรักของตัวเอง การลักกินขโมยกินทำให้ผมรู้สึกแย่

“จะทำอย่างไรดีครับ เคลวิน คุณชาตรี เขาจะเอาเรื่องที่เขาเห็นไปเล่าให้คนอื่นฟังไหมครับ”

น้ำเสียงของสามีแสดงออกถึงความกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด ผมสบตาของเคนแล้วส่ายหน้า ผมเองก็ไม่รู้จริงๆว่า นายชาตรี เห็นอะไรไปมากน้อยแค่ไหน

แล้วสิ่งที่ผมแก้สถานการณ์ไปเมื่อครู่ มันจะทำให้นายชาตรีเข้าใจหรือเปล่า ว่าผมไม่ต้องการให้เขานำไปพูด

แม้ว่าผมจะค่อนข้างมั่นใจว่าผู้จัดการของผมคนนี้ จะไม่กล้าปากโป้งเอาเรื่องของผมไปพูดคุยกับใครๆฟัง เพราะกลัวหน้าที่การงานสั่นคลอน

แต่สิ่งที่ผมไม่รู้เลยก็คือ เขาจะย้อนเอาสิ่งนี้มาเป็นเครื่องต่อรองกับตำแหน่งหน้าที่การงานของเขาหรือเปล่า ผมเกลียดมากๆ

หากใครจะมาใช้วิธีการสกปรกเพื่อการเลื่อนขั้น และผมไม่มีทางยอมแน่ๆ หากนายชาตรีขืนใช้เรื่องที่เห็นมาบีบบังคับผม เขาคงได้เจอการตอบกลับอย่างสาสม ผมไม่ห่วงตัวเองอยู่แล้ว แต่ผมห่วงเคนสุดที่รักของผมมากกว่า

“ถ้าเขาเอาไปพูดหมด เคลวินจะทำไงล่ะครับ แล้วพวกพนักงานที่รู้เรื่องนี้ เขาจะพูดถึงเคลวินในแง่ไม่ดีหรือเปล่า

เขาจะศรัทธาคุณเหมือนเดิมไหม จะแสดงปฏิกิริยาที่ไม่ดีใส่ หรือไม่เชื่อฟังคุณ ไม่เคารพคุณหรือเปล่า แล้วคุณจะได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานบริษัทอีกไหมครับ”

สีหน้าของเคนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน ตาที่มองมามีแววห่วงใยอยู่ในนั้น

หลังจากที่เขารัวคำถามออกมามากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับผมในวันข้างหน้า ผมก็กางแขนออกโอบไปรอบตัวเคน กอดเขาไว้แนบแน่นด้วยความซึ้งใจกับความทุกข์ที่สามีสุดที่รัก มีต่อเรื่องของผม

“ไม่ต้องกลัวครับ คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก นายชาตรีคงไม่ตัดอนาคตตัวเองด้วยการปากโป้งพูดเรื่องของผมกับคุณหรอก”

สร้างความมั่นใจให้กับเขา แต่เคนก็ยังคงไม่สบายใจอยู่ดี

“ถ้าคุณโดนรังเกียจ ผมคงอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่มีความสุขแน่ บางที ผมอาจจะลาออกดีไหมครับ คุณจะได้ไม่เดือดร้อน”

อยู่ๆ เคนก็พูดในสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจขึ้นมา

“เคนจะหนีผมไปไหน รังเกียจผมถึงขนาดที่ต้องลาออกเลยหรือครับ”

ตัดพ้อต่อว่าเขา

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้รังเกียจเคลวิน แต่ ...แต่ว่า ถ้าหากคุณชาตรี เอาเรื่องของเราป่าวประกาศไปทั่ว คุณก็ต้องเดือดร้อน พนักงานต้องนินทาคุณให้เสื่อมเสียแน่ๆ”

นี่คือเหตุผลของเขา น่าซึ้งใจยิ่งนัก เคนเสียสละตัวเองเพื่อผม ทั้งที่เขาเองก็มีความจำเป็นเรื่องงานการ ฐานะเขาก็ไม่ค่อยดี ตกงานไปแล้ว

กว่าจะหางานใหม่ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เขาจะอยู่อย่างไร ครอบครัวจะอยู่อย่างไร การที่เขาตัดสินใจจะลาออก ก็เพราะกลัวผมจะมีปัญหา แล้วผมจะใจจืดใจดำ เอาตัวรอด ปล่อยให้สุดที่รักของผมไปตกระกำลำบากได้อย่างไร

แขนของผมกางออกเพื่อโอบกอดเคนอีกครั้ง หลังจากที่ผละออกเมื่อครู่เพื่อเค้นหาความจริงจากสามีของผม

ผมกอดเขาไว้แน่น ปรารถนาที่ปลอบโยนไม่ให้เคนคิดมากวุ่นวายใจ ร่างในอ้อมกอดของผมยุกยิก สักพักผมก็รู้สึกว่ามีแขนของใครคนหนึ่งโอบกอดรอบตัวผม …

แขนของเคน....

สามีที่รัก กอดตอบผม

โอ๊ย....

อะไรกันนี่...

ผมอยากจะกรีดร้องด้วยความดีใจ

เคนกอดผม เขาเป็นฝ่ายกอดผมเอง….

ผมจะเป็นลมไหม...

เคนห่วงผม...เคนกอดผม...เขากำลังปลอบใจผมเช่นกัน

หัวใจของผมพองโตคับอก ไม่กล้าแม้จะพูด หรือขยับตัว ด้วยกลัวว่าเคนจะเขิน แล้วชักมือกลับ หากผมทำกระโตกกระตากให้เขาอาย

เคนคงห่วงใยความรู้สึกของผมเช่นกัน ถึงได้มอบอ้อมกอดของเขาให้ผม อ้อมกอดของสามีสุดที่รัก ช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน จนผมแทบละลาย

เคนจ๋า...เคนจะรู้ไหมหนอ สิ่งที่เขาทำให้ผม มันทำให้ผมรู้สึกเป็นสุขมากแค่ไหน พร้อมจะลุยกับทุกๆคนที่จะพรากเราสองคนให้จากกัน

แค่อ้อมกอดของเคน ซึ่งไม่ว่าเขาจะแสดงออกมาโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม มันทำให้ผมเริ่มมั่นใจว่าเคนเองก็มีใจให้ผมอย่างแน่นอน

ผมดีใจมาก มีความสุขที่สุด ทุกสิ่งที่ผมทำ ผมไม่เคยต้องการอะไร นอกจากความเข้าอกเข้าใจ และการยอมรับจากเคน และนี่ก็นับเป็นนิมิตรหมายที่ดี สำหรับการเริ่มต้นชีวิตของเราสองคน

“ทุกอย่างจะต้องลงเอยด้วยดีนะครับ”

หลังจากเราสองคนกอดกันได้สักพัก ผมก็เป็นฝ่ายผละออกก่อน ที่จริงก็เสียดายอยู่ไม่น้อย เพราะนานๆ เคนจะเป็นฝ่ายกอดผมก่อน แต่หลังจากที่มีคนโผล่เข้ามาในบ้านพักส่วนตัวของผมโดยไม่บอกกล่าว ผมก็ชักไม่ไว้ใจ

ไม่รู้ว่าตอนออกไปนายชาตรีล็อคประตูบ้านให้ผมหรือเปล่า ตอนผมเข้ามาผมลืมล็อค เพราะมัวแต่มองหาเคน และไม่คิดว่าจะมีใครกล้าดี โผล่เข้ามายุ่มย่าม แต่ตอนนี้ชักเริ่มระแวง

แค่นายชาตรีเห็นคนเดียวก็เกินพอแล้ว ความกังวลที่จะมีคนมาล่วงรู้ความลับของเราสองคน ทำให้ผมหมดอารมณ์ที่จะสวีทหวานอีกต่อไป


--------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 22-01-2009 23:15:47
 :-[ เคลวินเจ้าเล่ห์จิงๆ

รอดูผลต่อไปคุณชาตรีจะพูดมั้ย  o18
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 23-01-2009 00:23:36
กำลังหวานได้ที...อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นมาเลย... :sad4:


ลุ้นๆๆๆ อย่าหายไปนานนะ 


จะรอจ้า.. :กอด1:



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 23-01-2009 00:36:25
 :serius2: -ขี้โกง อ่ะ  NC   NC  เค้าอ่ะ ต้องรอต่อไปใช่ป่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 23-01-2009 00:55:28
NC หาย ใครพบเจอกรุณาเรียกกลับมาด่วน!!!!!!!


 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 23-01-2009 01:23:23

แม๊.... โผล่เข้ามาตอนไหนไม่โผล่  น่าขัดใจจริงเชียว คุนชาตรีเนี่ย.. :beat:

อดเลย  เควิลอดเลย...คนอ่านอย่างไฉไลก้ออดอ่านเช่นกัน กรี๊ดดดดดดด...ด  :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 23-01-2009 02:32:24
ตาลุง(ป้า)ชาตรีเนี่ย  มาโผล่ขัดจังหวะเจงๆ

เคลวินเก็บป้าเอ๊ยลุงแกด่วน

รออ่านตอนต่อไปนะครับ :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-01-2009 16:33:15
คุณชาตรี คงไม่พูดหรอกมั้ง เพราะขืนปากโป้ง ดับอนาถแน่ๆๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 49 :P 22.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 23-01-2009 17:22:24
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-01-2009 19:17:29
  :laugh: :laugh:  สำหรับผู้ที่รอ NC ยังต้องรอต่อไปอ่ะ  พี่เคทใจร้าย :sad4:  ส่งนายชาตรีมาขัดจังหวะได้  :เฮ้อ:


บทที่ 50

------------------

“เคนไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะครับ จะได้ไปพร้อมๆกัน”

ผมเสนอว่าจะนั่งรอเขาอยู่ที่นี่ เราจำเป็นต้องไปด้วยกัน เพราะเคนต้องทำหน้าที่คอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ชิดผม การปล่อยให้ผมเดินคนเดียว โดยที่ไม่มีเคนเดินตามมาด้วย จะทำให้เคนถูกตำหนิเอาได้ ว่าไม่ใส่ใจจะดูแลหัวหน้าตัวเอง

ที่จริงห้องจัดเลี้ยงก็ไม่ไกลจากที่พักของผมมากนัก ผมสามารถเดินไปเองได้โดยไม่ต้องให้ใครมาลำบากกับผม แต่ครั้งนี้ ผมยอมรอเคนเพื่อที่จะไปพร้อมกัน เพราะเสียงเรียกร้องจากหัวใจของตัวเอง และไม่อยากให้งานเข้าสุดที่รักของผมด้วย

20 นาทีต่อมา เคนก็ออกมาจากห้องของตัวเอง เขาแต่งกายด้วยเสื้อฮาวายลายดอกที่สต๊าฟจัดงานได้แจกให้กับพนักงานบนรถ เพื่อไว้ใส่กันในค่ำคืนนี้

เคนในเสื้อกล้ามสีขาว สวมทับด้วยเสื้อฮาวายลายดอกสีเขียวฟ้า กับกางเกงเลสีน้ำเงินเข้มดูน่ารักไปอีกแบบ ที่จริงเขาแต่งตัวอะไรก็หล่อที่สุดในสายตาของผม จะยิ่งดูดีเมื่อไม่สวมอะไรเลย

“ไปกันได้แล้วครับ ผมพร้อมแล้ว”

เคนเอ่ยปากชวนเมื่อเห็นผมเอาแต่จ้องมองเขาตาค้าง มีอาการเขินให้เห็นเล็กน้อย

ผมยื่นมือไปหาเคน เพื่อให้เขาดึงผมขึ้นจากเบาะนั่ง ทว่าเคนรีบเอามือไพล่หลังทั้งสองข้าง แล้วส่ายหน้า สงสัยคงเดาออกว่าผมจะดึงเขามาจูบ เกลียดชะมัดคนรู้ทัน เอาใจกันหน่อยก็ไม่ได้ ยิ่งเครียดที่ถูกคนจับได้อยู่ ผมคิดในใจอย่างพาลๆ

เราสองคนเดินอย่างรีบเร่งไปที่งาน จนแทบจะไม่ได้คุยกัน ถ้าเป็นในยามปกติ ผมก็อยากจะรั้งให้เคนเดินทอดน่องเคียงข้างผม แต่เราสองคนกลับเห็นพ้องต้องกันโดยที่แทบไม่ต้องขอความเห็นกัน นั่นคือ เราต้องไปที่งานให้เร็วที่สุด เพื่อดูว่าข่าวจากคุณปองศักดิ์แพร่ขยายออกไปแค่ไหน

ที่หน้างานตรงประตูทางเข้า ผมแอบมองอย่างสำรวจตรวจตราไปทั่วบริเวณเพื่อมองหานายชาตรี ก็เห็นเขายืนอยู่โดดเดี่ยวอยู่ตรงซุ้มเล่นเกมส์ปาเป้า หันหน้าออกไปยังซุ้มที่อยู่ตรงข้าม ซึ่งเป็นซุ้มสาวน้อยตกน้ำ สายตาของนายชาตรีไม่ได้อยู่ที่สาวน้อยที่ตัวเปียกโชกเพราะถูกปาจนตกลงในแท็งค์ แต่อยู่ที่คนปาที่กำลังหัวเราะอย่างดีกับความแม่นของตัวเองที่ทำให้ได้รับของรางวัลมากมาย

เพื่อทดสอบดูปฏิกิริยาของพนักงานในบริษัท ว่าจะมีใครนินทาว่าร้ายอะไรผมกับเคนหรือเปล่า ผมก็เลยแกล้งเดินผ่านเข้าไปในกลุ่มพนักงานที่กำลังเล่นกันสนุกสนาน มีบางคนที่หันมาเห็นผม ก็หยุดเล่นแล้วก็ยกมือไหว้ ส่งยิ้มให้ บางคนก็ทำตัวลีบด้วยความเกรงกลัว ผมเดินไปหยุดยืนมองคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้บ้าง และเดินผ่านพวกเขาอย่างช้าๆ ทันทีที่ผมคล้อยหลังก็ได้ยินเสียงลอยมาเข้าหู

“ท่านประธานหล่อจังเลยเนอะเธอ”

“มาดแมนแฮนด์ซั่ม”

“ท่าทางไม่เห็นดุอย่างที่เขาพูดกันเลย”

“มีแฟนหรือยังนะ”

ผมยิ้มขำพวกผู้หญิงเหล่านั้นที่จับกลุ่มนินทาผมด้วยท่าทีชื่นชม ทว่าผมอารมณ์ดีได้เพียงครู่ ก็ต้องหัวเสียเมื่อได้ยินเสียงซุบซิบของพนักงานอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามพูดกันเบาๆ ตอนผมเดินผ่านไป แต่หูผมก็ไวพอจะได้ยิน

“เขาว่าท่านประธานกับอีตาเลขาเป็นคู่เกย์กัน เธอเชื่อฉันไหม”

ประโยคนั้นทำให้ผมหุบยิ้มลงอย่างรวดเร็ว ต้องบังคับตัวเองแทบแย่ที่จะไม่หันไปว๊ากใส่คนพูด ผมไม่ได้ต้องการทำให้เรื่องมันใหญ่โตขึ้น แค่ต้องการรู้ว่าใครพูดอะไรถึงผมกับเคนบ้าง

สงสัยมานานแล้วว่ามันต้องมี วันนี้ได้ยินกับหูตัวเองถึงกับอึ้ง พนักงานพวกนี้ กล้านินทาเจ้านายตัวเองที่เป็นถึงประธานบริษัทได้ในระยะเผาขนขนาดนี้เทียวหรือ

“ฮ้า...จริงเหรอ...เป็นไปได้ไง”

คู่สนทนาอีกคนทำเสียงไม่เชื่อถือ ตอนนี้ผมนึกเดาโดยไม่ต้องหันไปมองว่าคนพูดคงกำลังยกมือทาบอก อ้าปากค้าง ทำตาโตมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้ยินเขาเล่าๆมา ว่าอีตาเลขาได้ตำแหน่งเพราะคุณเคลวินอยากได้ไปร่วมงานด้วย ทั้งที่เพิ่งเข้ามาทำงานไม่กี่เดือน

แถมก่อนหน้านั้นก็เป็นแค่เด็กลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น ฝีมือก็ไม่มี แต่ก้าวหน้าพรวดๆ ถ้าไม่ใช่ใช้เส้นคุณเคลวินคอยดัน จะไปไกลข้ามหัวคนเก่าๆได้ไง”

นั่นไง ที่พูดมาทั้งหมด เพราะคิดว่าเคนข้ามหน้าข้ามตาพวกเขานั่นเอง พนักงานของผม ยังคงใจแคบอยู่เหมือนเดิม

“นั่งดันนอนดันกันกระมังเลยเติบโตเร็ว”

เสียงที่สามเสริมขึ้น จากนั้นแม่สาวๆพวกนั้นก็หัวเราะคิกคัก ผมอยากจะเห็นหน้าพวกเธอเหลือเกินว่าเป็นใคร ทำงานแผนกไหนกัน จะได้จัดการสั่งสอนให้เข็ด โทษฐานที่ปากดี นินทาเจ้านาย

แทนที่จะเอาเวลาไปคิดเรื่องดีๆ มีประโยชน์ต่อหน้าที่การงาน กลับมาจับกลุ่มพูดคุยในเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แต่ถึงจะอยากรู้จักว่าพวกเธอเป็นใคร ผมก็ไม่อาจจะทำตามใจตัวเองด้วยการหันไปมองจ้องพวกเธอได้

เพราะไม่ใช่เวลาจะจัดการพวกปากเปราะ ทำได้แค่หยุดยืนนิ่งๆ ห่างจากพวกเธอเพียงนิดเดียว ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะพวกเธอค่อยๆเงียบเสียงลง และหยุดพูดไปทันที

หลังจากเสียงที่พนักงานสาวพวกนั้นสงบปากลง ผมก็ค่อยๆหันไปยังด้านหลัง ด้วยนึกขึ้นได้ว่า เคนเดินตามผมมาห่างๆ และเชื่อว่าเขาต้องได้ยินถ้อยคำที่คนเหล่านั้นนินทาลอยๆเข้าหูบ้าง คำพูดเหล่านั้นคงทำร้ายจิตใจเขาพอสมควร

สิ่งที่ผมเห็นบนใบหน้าเขากลับไม่ใช่ความเศร้าหมอง แต่มันเป็นใบหน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มที่มองมา แม้ว่ามันจะดูฝืนๆ แต่มันก็บ่งบอกให้ผมรู้ว่า เคนไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่ได้ยิน

แววตาของเขาเป็นประกายกล้า เหมือนคนที่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ ผมไม่รู้ว่าเคนกำลังรู้สึกอย่างไร แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เกรงกลัวต่อคำนินทาเท่าไหร่

คงเป็นเพราะว่าเขาโดนจนชินแล้ว หรือไม่ก็ เขาไม่ได้รู้สึกผิดที่รักกับผม เมื่อคิดถึงเหตุผลอย่างหลัง ทำให้ผมอดยิ้มตอบเขาไม่ได้ เราต่างส่งกำลังใจให้กันผ่านทางรอยยิ้มจากปากและดวงตา

“อย่าคิดมากนะครับ”

เมื่อเราเดินตามกันเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง ผมก็แอบพูดกับเขาให้ได้ยินกันสองคน เคนพยักหน้า และยิ้มให้ผม

“ไม่เป็นไรครับเคลวิน มันไม่ใช่สิ่งที่เหนือความคาดหวังอะไร คิดอยู่แล้วว่าต้องโดนนินทาแบบนี้ ผมเลยเฉยๆครับ โดนจนชินแล้ว จะโดนอีก ก็ไม่รู้สึกเจ็บใจมากไปกว่าเดิมหรอก แล้วเคลวินล่ะครับ เป็นอย่างไรบ้าง โกรธไหม”

ประโยคท้าย เคนถามผมด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเอื้ออาทร จนผมใจอ่อนยวบเมื่อได้สัมผัสด้านอ่อนไหวของเคนอีกครา เขาห่วงใยความรู้สึกของผม เขาห่วงภรรยาของเขา ดีใจจัง....

“นิดหน่อยครับ ไม่คิดว่าพนักงานของตัวเองจะกล้านินทาเจ้านายขนาดนี้ แต่ก็ช่างเถอะ โลกเสรี ทุกคนมีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เห็น

ผมมาคิดอีกที อย่าเอาเรื่องพวกเขาเลยดีกว่า คนมีปากก็สักแต่พูดไป หากเราไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญกับมัน เดี๋ยวเขาก็เลิกพูดกันไปเอง”

ผมตอบเคนอย่างปลงๆ ตอนได้ฟังครั้งแรก ผมอยากเอาเรื่องผู้หญิงพวกนั้น แต่พอได้เห็นใบหน้าเรียบเฉยของเคน อารมณ์ของผมก็สงบลง

บางทีนิสัยเย็นๆ ไม่ทุกข์ร้อน หรือคิดร้ายอะไรกับใครของเคน ก็เป็นเรื่องดีในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะในกรณีนี้

จะโกรธไปทำไมมี เพราะมันก็คือเรื่องจริง เขาพูดความจริง ผมก็ไม่ควรต้องโกรธ เพราะหากโกรธ ก็แปลว่าผมก็รับไม่ได้กับการไม่ยอมรับของใครต่อใคร ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่คนจะมองความสัมพันธ์ของคนเพศเดียวกันว่าไม่เป็นเรื่องผิดปกติ

เราสองคนต้องฝ่าฟันอะไรกันอีกเยอะ ดังนั้นโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เขาอยากนินทาก็ให้เขาพูดไป นินทาจนเบื่อก็เลิกพูดไปเอง สักพักก็เกิดความชิน และในที่สุดก็จะมองเรื่องของผมกับเคนเป็นเรื่องปกติ

“ถ้าเคนไม่โกรธ ผมก็ไม่โกรธครับ”

ย้ำให้สามีของผมสบายใจ เขายิ้มกว้างยอมรับในการตัดสินใจของผม แววตาของเขาเต้นระริก เหมือนจะดีใจที่ผมไม่โกรธเคือง และไม่คิดเอาเรื่องกับใคร

เราสองคนคงจะยืนยิ้มให้กันอีกนาน หากไม่มีใครมาขัดจังหวะ ด้วยการทักผมเสียงดัง เมื่อหันไปมองก็เห็นสต๊าฟที่คุมคิวการแสดงของผู้บริหาร เดินตรงมาหาผม กล่าวขออนุญาตที่มาขัดจังหวะด้วยท่าทีนอบน้อม

จากนั้นก็แจ้งให้ผมทราบเรื่องกำหนดการคร่าวๆเกี่ยวกับคิวงานการแสดงเซอร์ไพรส์ของผู้บริหารที่จะต้องเล่นก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการ

และดึงตัวผมแยกจากเคน เพื่อไปแต่งหน้าแต่งตัว เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับงานที่จะเริ่มในอีกไม่ถึงชั่วโมง



--------------------
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-01-2009 19:20:37







ผมยืนมองเคลวินที่ถูกดึงตัวไปยังห้องแต่งตัว พลางยิ้มส่งกำลังใจไปให้เขา หลังจากเคลวินเดินจากไปแล้ว ผมก็เดินเตร็ดเตร่ไปดูโต๊ะที่นั่งของวีไอพีว่าอยู่ที่ไหน

ผมไม่แน่ใจว่าผมจะต้องนั่งโต๊ะเดียวกับท่านประธานหรือเปล่า โดยปกติผมจะต้องนั่งอยู่ใกล้ๆเขา เพื่อคอยจด หรือรับคำสั่งต่างๆ แต่ในงานรื่นเริงสังสรรค์แบบนี้ ผมไม่รู้ว่าเราควรจะนั่งโต๊ะเดียวกับเขา หรือแยกออกไปดี

ใจจริงผมอยากนั่งร่วมวงกับพนักงานคนอื่นๆมากกว่า จะได้พูดคุยทำความรู้จักกันไปด้วย เพราะผมเองมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานนี้น้อยมาก

คนส่วนใหญ่ชอบมองผมด้วยสายตาแปลกๆ มีคนพูดคุยกับผมบ้าง แต่ก็ผิวเผิน และดูเหมือนพวกเขาจะไม่มีความจริงใจกับผมสักเท่าไหร่

แม้ว่าผมจะทำงานด้วยความมุ่งมั่นอดทน แต่อคติในใจของพวกเขาก็ยังไม่เลือนหาย พวกเขายังคงไม่เชื่อว่า ผมได้มาทำงานนี้

เพราะเคลวินเล็งเห็นถึงความสามารถของผม แต่มองว่าผมใช้ร่างกายเบิกทางมากกว่า

ได้ฟังครั้งแรกผมรู้สึกไม่พอใจที่พวกเขาดูถูกผม และคนที่พูดเช่นนี้ก็เท่ากับว่าเขาไม่เข้าใจประธานของเขาดีพอ

ผมไม่เชื่อว่าเคลวินจะเป็นคนเช่นนั้น ถ้าเขาเป็นคนที่ชอบผลักดันพนักงาน โดยหวังเพียงแค่เซ็กส์เป็นสิ่งตอบแทน ป่านนี้คนคงเกลียดเคลวิน และนินทาว่าร้ายเขาทั้งบริษัท

แต่นี่ ผมได้ยินแค่คนบางคนพูดลับหลังเท่านั้น และเป็นช่วงที่ผมเริ่มมาทำงานกับเขา นอกนั้นพนักงานหลายคนที่ดีๆ ก็ยังมองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชมยกย่อง

“เป็นไงเคน”

ขณะที่ผมกำลังยืนคิดว่าผมจะนั่งตรงไหนดี พี่นนนี่ซึ่งมายืนอยู่ข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ก็ทักขึ้นด้วยเสียงอันดัง

“คิดอะไรอยู่เหรอ”

ถามอย่างรู้ทัน เธอคงเห็นผมยืนเหม่ออยู่

“กำลังคิดว่า ผมจะนั่งตรงไหนดี”

ตอบไปตามตรง มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปากของพี่สาวสุดสวยอย่างล้อเลียน

“ไม่อยากนั่งกับคุณเคลวินเหรอ”

“เอ้อ..ปละเปล่าครับ คือ ผมไม่แน่ใจว่า งานแบบนี้ ผมต้องนั่งโต๊ะเดียวกับท่านประธานหรือเปล่า หรือสามารถแยกไปนั่งรวมกับคนกลุ่มอื่นๆได้”

รีบปฏิเสธ กลัวพี่นนนี่เข้าใจผิด

“แหม แซวเล่น รีบปฏิเสธเลยนะ ...อืม...สำหรับพี่คิดว่า งานปิกนิก ที่จัดให้พนักงานสังสรรค์เฮฮากันแบบนี้ คุณเคลวินคงไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องใช้งานเคนหรอก จะไปนั่งที่โต๊ะอื่นๆก็คงไม่ผิด

แต่ก็ควรจะอยู่ใกล้ๆ เผื่อเวลาคุณเคลวินเรียกใช้ หรือไม่ก็ต้องเปิดโทรศัพท์เอาไว้ จะได้ตามตัวมาได้ง่ายๆ ว่าแต่มีเพื่อนที่จะไปนั่งด้วยไหมล่ะ”

คำถามประโยคต่อมาของพี่นนนี่ แทงใจผมอย่างจัง ผมไม่ได้รู้สึกว่าพี่สาวคนสวยจะพูดถากถางผม เธอคงพูดไปโดยไม่ทันคิดมากกว่า ซึ่งผมก็ยอมรับว่ามันโดนอย่างจัง

จริงสิ ผมมีเพื่อนที่จะนั่งด้วยแล้วหรือ นอกจากพี่นนนี่ซึ่งให้ความรักใคร่เอ็นดูผมแล้ว ก็ยังมีป้าแม่บ้าน ที่คุยดีกับผม และมอดซึ่งเป็นเพื่อนใหม่ แต่ก็ยังไม่พอที่จะเปิดโต๊ะนั่งเอง

และแถมแต่ละคนอาจจะมีเพื่อนที่จะรวมกลุ่มเพื่อนั่งโต๊ะกันหมดแล้วก็ได้ ผมไม่มีทั้งเพื่อนสนิทที่จะนั่งสังสรรค์กัน

และไม่มีแม้แต่โทรศัพท์ที่จะให้เคลวินได้ตามตัว สงสัยคงต้องนั่งอยู่กับเขาอีกตามเคย และนั่นก็คงจะทำให้ผมกับเคลวินถูกนินทาอีกครั้ง แม้ว่าผมจะทำในสิ่งที่ถูกต้องก็ตาม

“เสียดายนะ ที่พี่พาครอบครัวมาด้วย แล้วก็รวมโต๊ะกับเพื่อนที่เขาพาครอบครัวมาด้วยไปแล้ว ไม่งั้นจะชวนเธอมานั่งด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่า นั่งใกล้ๆท่านประธานดีกว่า เพื่อท่านจะมีอะไรเรียกใช้”

“อืม...นั่นก็เป็นความคิดที่ดี พี่คิดว่า คุณเคลวินเอง ก็คงเบื่อจะนั่งโต๊ะเดียวกับผู้บริหารเช่นเดียวกัน เพราะอยู่ที่บริษัทก็เจอหน้ากันออกบ่อยๆ คงอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง

ถ้าไงก็ช่วยนั่งเป็นเพื่อนคุณเคลวินหน่อยนะ อย่างน้อยๆ ท่านจะได้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น...”

พี่นนนี่เดินจากไปแล้ว พร้อมทิ้งคำพูดกับรอยยิ้มที่เป็นปริศนาเอาไว้ให้ มันไม่ได้เป็นการเยาะเย้ยถากถาง แต่เหมือนจะเป็นคำพูดจากคนที่รู้อะไรบางอย่าง และยินดีสนับสนุนไม่ขัดขวาง

อยู่ดีๆ ผมก็เผลอยิ้มอย่างมีความสุขออกมา เมื่อรับรู้ได้ว่า ท่ามกลางคนที่ไม่เข้าใจผม ก็ยังมีพี่นนนี่ ที่เป็นมิตรกับผมเสมอ เธอมีความรักในตัวเจ้านายของเธออย่างมาก ชื่นชมและยกย่อง แถมเผื่อแผ่ มาถึงผมอีกด้วย

ผมคิดว่าพี่นนนี่ ก็คงระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับท่านประธานเคลวินอยู่บ้างเหมือนกัน เพราะเธอสนิทกับเขาและทำงานใกล้ชิดมาหลายปี

เรียกได้ว่าเป็นเลขาคนสนิทและรู้ใจเจ้านายมาก ผมไม่รู้ว่าเคลวินเล่าอะไรให้พี่นนนี่ฟังบ้างหรือเปล่า แต่ด้วยสายตาอันแหลมคมของพี่สาวใจดี คงสามารถเดาอะไรได้ออกบ้าง แม้ว่าเจ้านายของเธอจะไม่พูดเลยก็ตาม

โชคดีของเคลวินที่ได้พี่นนนี่เป็นเลขา เพราะเธอไม่เคยปากโป้ง ไม่เคยนินทาเจ้านายให้ได้ยิน เธอรักษาความลับได้เก่งมาก ไม่มีใครจะสามารถง้างปากให้เธอพูดได้

ที่สำคัญเธอไม่ชอบเรื่องซุบซิบ หากได้ยินใครกำลังพูดถึงคนอื่นๆ ในแง่ไม่ดี เธอก็จะแกล้งว่าเหน็บให้ได้อายทุกครั้ง และเพราะเหตุนี้กระมัง

เธอจึงได้รับความไว้วางใจจากเคลวินอย่างมาก จนล่วงรู้เรื่องราวส่วนตัวของเคลวินหลายอย่าง ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ามีเรื่องของผมด้วยหรือเปล่า

จากสายตา จากคำพูดเป็นนัยๆของเธอหลายอย่าง มันทำให้ผมอดรู้สึกไปเองไม่ได้ว่าเธอรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับเคลวิน

แต่เธอเลือกที่จะไม่พูดให้ทั้งผมและเคลวินอับอาย เธอเป็นคนที่น่ารักมาก และผมก็รักเธอ เหมือนที่เคลวินก็รักเธอเช่นกัน

ระหว่างที่รอเคลวินมานั่งที่โต๊ะ ผมก็เดินเตร็ดเตร่ไปแถวๆซุ้มจัดงาน เพื่ออยากจะลองไปเล่นสนุกกับเขาบ้าง

มีซุ้มปาเป้า ซุ้มสาวน้อยตกน้ำ ซุ้มสายไหม ซุ้มสอยดาว บรรยากาศคล้ายงานวัด แต่มาจัดที่รีสอร์ทริมทะเล เลยแปลกไปอีกแบบ

“สอยดาวไหมคะ”

“ปาเป้าไหมคร้าบบบบบบบ”

“สาวน้อยตกน้ำค่ะ ลูกเดียวก็เสียวได้”

เสียงโฆษณาชวนเชื่อให้พนักงานเข้าร่วมเล่นเกมในซุ้มต่างๆดังแข่งกันเซ็งแซ่ไปหมด มีพนักงานหลายคนต่อแถวเข้าคิวเล่นเกม

บางซุ้มก็มีมายืนออกัน มีคนเล่น มีคนเชียร์ ดูน่าสนุกสนานยิ่งนัก ผมเดินดูพวกเขาเล่นกันและนึกสนุกอยากเล่นด้วย เลยเดินเมียงมองว่ามีอะไรที่ผมพอจะร่วมได้บ้าง

ขณะที่เดินมองๆตามซุ้มต่างๆอยู่นั้น ผมก็ถูกขัดจังหวะ เมื่อมีมือหนึ่งกระชากไหล่ผมให้หันไปด้านหลัง

ผมมองคนที่ทำตัวไม่สุภาพกับผม ก็พบว่าเขาคือคนเดียวกับคนที่ต่อว่าผมเมื่อตอนกลางวัน เรื่องที่ผมแข่งวิ่งแล้วแพ้ทีมของผู้บริหาร ทำให้อดได้รางวัลใหญ่

เขายืนอยู่ข้างหลังผม พร้อมกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่รุมด่าผมเมื่อตอนกลางวัน

“ว่าไง ไอ้อ่อน ใหญ่มากนักหรือไง”

เขาพูดกับผมเสียงเหี้ยม หน้าตาถมึงทึง มือข้างหนึ่งยังจับอยู่ที่ไหล่ของผม

“ใหญ่อะไรครับ..พูดอะไรผมไม่เข้าใจ”

ถามเขาอย่างงงๆ

“ก็ได้ทำงานใกล้ชิดเจ้านายใหญ่ เลยทำตัวใหญ่โต กร่างไปทั่วไงล่ะ”

กร่าง เฮอะ ผมนี่นะ ผมไปทำอะไรล่ะ ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย

“เมื่อกี้แกเดินเหยียบตีนฉัน จะขอโทษสักหน่อยก็ไม่มี”

สงสัยเขาเห็นผมทำหน้างงๆ ก็เลยช่วยเฉลย แต่สิ่งที่เขาบอก ยิ่งทำให้ผมงงหนักเข้าไปใหญ่ เมื่อครู่ถึงผมจะเดินมองดูซุ้มนั้น ซุ้มนี้ แต่ผมก็พยายามระวังตัว ไม่ให้เกะกะขวางทางคนอื่น

แถมซ้ำผมก็ไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่แถวๆที่ผมเดินมา จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไปเหยียบเท้าใคร และผมก็ไม่ทราบด้วยว่าทำไมเขาจึงมากล่าวหาผมเช่นนั้น

“ขอโทษกูเดี๋ยวนี้นะมึง”

เขาร้องสั่งเสียงกร้าว แถมซ้ำใช้วาจาหยาบคายกับผม ที่จริงคำพูดพวกนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร

เพราะเวลาอยู่กับเพื่อนที่สนิทที่บ้านเดิม ผมก็พูดมึงกูกับพวกนั้นเหมือนกัน แต่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนเมือง จากปากพนักงานที่ไม่ได้รู้จักกันมักคุ้นแบบนี้

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่จะให้ขอโทษก็ได้”

แม้จะแน่ใจว่าผมไม่ได้เหยียบเท้าเขาแน่ๆ แต่เมื่อแปรเจตนาของคนพวกนี้ได้แล้วว่าต้องการหาเรื่องผม

จึงป่วยการที่จะไปทุ่มเถียงกับพวกเขา ถ้าคำขอโทษคือสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ยิน และทำให้มันจบเรื่อง ไม่มีปัญหาบานปลายใหญ่โต ผมก็พร้อมจะพูดคำนี้ออกจากปาก ผิดถูกรู้ในใจก็พอ

“หนอย ไอ้อ่อน พูดแบบนี้แปลว่ามึงไม่สำนึกเหรอ”

เสียงของเขาเริ่มดังขึ้น ท่าทางเหมือนไม่พอใจ ผมกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นผู้คนเริ่มหันมามองผมและพวกเขาอย่างสนใจใคร่รู้

และดูเหมือนเพื่อนๆของพนักงานในคราบนักเลงโตคนนั้น จะเริ่มกลัวว่าจะมีปัญหา จึงสะกิดเตือนเพื่อให้เขาสงบลง

“เฮ้ย อย่าเพิ่งมีเรื่องเลย คนมองกันใหญ่แล้ว เดี๋ยวเรื่องไปถึงหูท่านประธานจะยุ่ง”

เพื่อนคนหนึ่งพูดเบาๆ ให้ได้ยินเฉพาะในกลุ่ม

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง อย่านึกนะว่าประธานเคลวินจะคุ้มกะลาหัวมึงไปได้ตลอด ไอ้อ่อน”


--------------------

TBC

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 23-01-2009 19:28:29
^

จิ้มคนโพสต์  อิอิ

+1 ให้นะ

ให้กำลังใจ เคน เคลวิน   สู้ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-01-2009 19:45:33
 :angry2:พวกเลว จะทำไรเคน เดี๋ยวไม่ตายดีแน่
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 23-01-2009 22:01:17
อย่ายอมนะเคน

ต้องทำไรซักอย่างแล้ว

ไม่งั้นคงโดนกลั่นแกล้งแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แน่

 :fire:


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-01-2009 22:12:26
เล่นของสูง สงสัยไม่ตายดี :m16:

คนจะดี ใช่ดีที่ใบหน้า  สมคำโบราณว่าจริง ๆ

มารอตอนต่อไปอยู่นะครับ คุณเคท

+1 ให้หนูมิ้นนะครับ คนดี :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 23-01-2009 22:35:42


คนพวกนั้นน่าจะโดนแบบนี้!!!

 :beat: +  :z6:

เคนน่าสงสารอ่า...สู้ๆ นะ

รอเรื่องนี้มาหลายวันแล้ว ได้อ่านสักที โฮะ ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 24-01-2009 01:06:17
ว่าแล้ว มาคุ มาคุซะแล้ว  :sad4:


มาต่อไวๆ นะคะ

เดี๋ยวจะลงแดงซะก่อน ... :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 24-01-2009 03:56:41
แอร๊ยยย...แบบนี้ หนุ่มเคนก้อตกอยู่ในอันตรายสิคะ

เควิลอยู่หนายยยยยยยย...ย

อย่าปล่อยให้หนุ่มเคนอยู่ ลำพังคนเดียวนะเค่อะ กลัวว่าจะมีเรื่องตามมาแน่ๆ  o22
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 24-01-2009 11:57:22
 :z6:สำหรับไอ้พวกเลว กล้ามากที่มาเรื่องนายเคน




 :z1:ว่าแต่ตอนหน้าจะNCปะครับ อิอิรอมาหลายตอนละครับอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-01-2009 12:16:08
น่าสงสาร เคน ไม่รู้จะมีอะไรแย่ๆ เกิดขึ้นหรือเปล่า


ปล. ตกลงคนที่เข้าไปเห็นภาพ คือ คุณชาตรี หรือ ปองศักดิ์ ค่ะ   :confuse:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 25-01-2009 12:44:15
        :mc4: ซินเจียยู่อี่ ซินนีฮวดใช้   :mc4:

 :mc4: เจ้าของบ้าน แล้วก็ลูกบ้านทูกคน จ้า  :mc4:

       :mc4:  :mc4:  :mc4:  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 50 :P 23.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 25-01-2009 19:56:27
 :z2:

มารอจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 25-01-2009 22:02:07
บทที่ 51

------------------

“เฮ้ย อย่าเพิ่งมีเรื่องเลย คนมองกันใหญ่แล้ว เดี๋ยวเรื่องไปถึงหูท่านประธานจะยุ่ง”

เพื่อนคนหนึ่งพูดเบาๆ ให้ได้ยินเฉพาะในกลุ่ม

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง อย่านึกนะว่าประธานเคลวินจะคุ้มกะลาหัวมึงไปได้ตลอด ไอ้อ่อน”

เขาสำรากใส่ผม ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนอยู่ท่ามกลางสายตาคนมองและคำติฉินนินทาถึงเรื่องที่เกิด สิ่งที่ได้ยินมันทำให้ผมหน้าชา ทั้งที่ผมพยายามทำใจตลอดมา

คำกล่าวหาใส่ไคล้เกินจริงเกี่ยวกับเคลวินและผม ทำให้ได้รับรู้ถึงความใจแคบของคนบางคน มันยิ่งทำให้ผมสงสารเคลวินมากยิ่งขึ้น

ผมรู้ว่าเคลวินรักผมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเขาก็ไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ในการผลักดันผมให้ก้าวหน้า ที่ผ่านมา

ผมถูกเขาดุด่าว่ากล่าวเกี่ยวกับเรื่องงานบ่อยมาก ไม่เคยทำงานได้เป็นที่พอใจเขาในระยะแรก แต่ระยะหลังเมื่อผมเรียนรู้งานได้มากขึ้น เขาก็ยิ่งมอบหมายงานให้ผมทำอีก เพื่อให้ผมได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองว่าผมทำได้

คนที่มีอคติ ยังไงก็มองพวกเราในแง่ไม่ดีอยู่ดี ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะไม่ใส่ใจ และพยายามมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักให้สมกับที่ท่านประธานมอบโอกาสให้กับผม

แต่สิ่งที่ผมเพียรทำ คนกลับไม่เห็นค่า แถมยังพุ่งเป้าโจมตีมาที่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเคลวินอีก ทั้งที่เราไม่เคยทำเรื่องเสียหายให้ใครเห็นเลยแม้แต่น้อย

และในเวลางาน เราก็ไม่เคยนัวเนียประจ๋อประแจ๋กันด้วยซ้ำ เคลวินที่เป็นประธานและเคลวินที่เป็นภรรยาแบ่งบทบาทหน้าที่ได้อย่างลงตัว และไม่มีหลุดสลับบทบาทออกมาให้ใครเห็นอย่างแน่นอน

ผมเดินกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง ไม่รู้สึกสนุกอีกต่อไป สต๊าฟที่จัดโต๊ะนั่ง รู้ว่าผมเป็นใคร เลยพาไปนั่งที่โต๊ะวีไอพี ซึ่งจัดไว้ให้เคลวินนั่ง

ซึ่งทั้งโต๊ะว่างเปล่าเนื่องจากผู้บริหารระดับสูงไปแต่งตัวเตรียมขึ้นแสดงกันหมด จึงเหลือผมคนเดียวที่นั่งเฝ้าโต๊ะ เพราะไม่ต้องไปแสดงอะไรกับใครที่ไหน

นั่งมองบรรดาพนักงานที่ทยอยเข้ามานั่งตามโต๊ะต่างๆ จนเกือบเต็มห้อง สักพักไฟก็ดับพรึ่บลง มีเสียงซาวนด์ดนตรีเปิดงาน พร้อมกับสปอร์ตไลท์ส่องสว่างกลางเวที

จอสไลด์เลื่อนลงมาจากเพดาน แล้วภาพจากวีทีอาร์ก็ปรากฏขึ้น ซึ่งเป็นภาพของพนักงานในบริษัทที่ทางสต๊าฟจัดงานได้ส่งตากล้องไปเก็บภาพอิริยาบถต่างๆของพนักงานมาทำเป็นภาพนิ่งประกอบเพลงสนุกๆ ได้รับเสียงฮือฮา เสียงปรบมือ และเสียงหัวเราะขำดังขึ้นจากพนักงานที่ได้เห็นสไลด์ชุดนี้

มีทั้งภาพที่แสดงถึงความเอางานเอาการของพนักงานแต่ละคน ท่าทางมุ่งมั่นจริงจังของเขาเหล่านั้น เมื่อดูแล้วก็ก่อให้เกิดความรู้สึกชื่นชมกับความตั้งอกตั้งใจที่พวกเขามีให้กับการทำงาน

นอกจากนี้ก็มีภาพหลุดต่าง ๆ เช่นภาพพนักงานง่วงเหงาหาวนอน แอบหลับ แอบกินขนมในที่ทำงาน โทรศัพท์ หรือแม้แต่นั่งคุยกับเพื่อน เรียกเสียงหัวเราะกันลั่น เมื่อภาพจับอิริยาบถอันไม่พึงประสงค์ของแต่ละคนได้

เจตนาของคนทำสไลด์ไม่ได้เป็นการประจาน แต่เป็นการหยิกหยอกกันเล่นๆ ซึ่งในแต่ละภาพก็จะมีคำพูดแซวประกอบด้วย

จบจากสไลด์ จอก็เลื่อนขึ้น ปล่อยเวทีให้มืด สักพักก็มีเสียงโฆษกประกาศว่าการแสดงชุดต่อไป จะเป็นการแสดงเซอร์ไพรส์ซึ่งนำแสดงโดยเหล่าผู้บริหารระดับสูง ซึ่งตั้งใจแสดงเพื่อเป็นการเปิดงาน และต้อนรับพนักงานทุกคนเข้าสู่งานปาร์ตี้อย่างเป็นทางการ

ประกาศจบ ไฟสปอร์ตไลท์ก็ส่องมากลางเวที และเสียงเพลงประกอบการแสดงก็ดังขึ้น เพลง Love Is Color Blind ของ Sarah Conner โดยมีท่อนแร๊พนำมาก่อน สำเนียงคนร้องคุ้นหูมาก และพูดภาษาอังกฤษชัดเป๊ะ

เพลงปลากรอบ

It don't matter if you're black
White or yellow, if you're brown or red
Let's get down to that
Love is color-blind



จบท่อนแร๊พ ซึ่งไม่เห็นตัวหนุ่มคนร้อง ม่านก็เปิดออก แล้วนักร้องกิตติมศักดิ์ท่านแรกก็เปิดตัวออกมา เป็นท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ซึ่งเป็นสาวสวยเปรี้ยว แม้ว่าจะอายุเข้าหลัก 40 กว่าแล้ว แต่เธอก็แต่งตัวเก่ง และดูอ่อนกว่าอายุ เธอมาในชุดแต่งกายแบบสาวจีน และร้องแบบไม่ต้องลิปซิงค์ แม้จะเพี้ยนหลงคีย์ไปบ้าง แต่ก็แก้ได้ด้วยลีลาประกอบเพลง

[Verse 1:]
I remember when
I was a child and couldn't understand
People having fun
Discriminating all the different ones
Mama just used to say
When you grow up you'll maybe find a way
To make these people see
That everything I do comes back to me

คนต่อมาที่ออกมาร้องท่อนนี้คือ ท่านผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฝ่ายวางแผนธุรกิจ และฝ่ายผลิต ออกมาเป็นนักร้องทรีโอ แต่งกายเลียนแบบนักร้องเคป๊อบ พวกดงบังชินกิ เรียกเสียงฮา เป่าปากกิ๊วก๊าวจากพนักงานได้กระหื่มห้องจัดเลี้ยง

ด้วยท่านผู้อำนวยการทั้งสาม ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บริหารหนุ่มสุดฮอตของบริษัท เพราะเสียงดัง ทำงานเก่ง และดูแลบริหารพนักงานในฝ่ายมีคุณภาพมากสุดเมื่อเทียบกับฝ่ายอื่น

และยังเป็นพวกหัวคิดทันสมัยด้วย ดังนั้นการได้เห็นหนุ่มๆรุ่นใหม่ไฟแรงมาแต่งตัวเลียนแบบนักร้องดัง ทำให้ได้รับเสียงกรี๊ดกร๊าดจากพนักงานบริษัทมากเป็นพิเศษ


[Bridge:]
You gotta live your live
We're all the same, no one's to blame
They gotta live their lives
Just play the game and let love reign

ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาคุณภาพ , ฝ่ายฝึกอบรม เดินออกมาจากข้างเวที และประสานเสียงร้องกัน ทั้งหมดมาในชุดการแต่งกายแบบพวกชาวเผ่าแอฟริกา

งานนี้ดูเหมือนว่าผู้บริหารจะแต่งกายในสไตล์นานาชาติ สอดคล้องกับเนื้อเพลง คงเพื่อจะแสดงให้เห็นว่า ในความรักที่แท้ ไม่มีเรื่องสีผิว เชื้อชาติ วัฒนธรรม ความชอบมาเป็นตัวแบ่งแยก

ผมไม่รู้ว่าใครคิดการแสดงชุดนี้ขึ้นมา แต่ผมฟังเนื้อร้อง บวกกับได้เห็นการแต่งกายและลีลาการแสดงประกอบเพลง ทำให้ผมรู้สึกทึ่ง และชื่นชอบการแสดงชุดนี้มาก

คิดว่ามันต้องมีความหมายอะไรบางอย่างที่ทางคนคิดคอนเซ็ปต์ต้องการสื่อมาให้ถึงพนักงานทุกคน และเดาเอาว่า

เคลวินน่าจะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นด้วย เพราะเขาเป็นคนลึกซึ้ง ฉลาดและช่างคิด คงไม่ละเว้นที่จะใช้โอกาสนี้ สั่งสอนพนักงานของตัวเอง



[Chorus:]
It don't matter if you're black
White or yellow, if your brown or red
Let's get down to that
Love is color-blind
You're my brother, you're my friend
All that matters in the very end
Is to understand
Love is color-blind

มันไม่สำคัญว่าคุณจะมีสีผิวอะไร ชาติไหน ดำหรือขาว หรือผิวเหลือง รักปราศจากสีผิว นี่ก็พี่ชาย นั่นก็เพื่อนฉัน ทั้งหมดทั้งมวล เพียงอยากให้เข้าใจ ว่าความรักนั้นปราศจากซึ่งการเหยียดกัน นี่กระมังคือสิ่งที่ต้องการบอก และผู้ที่มาขับขาน ก็แสดงออกได้อย่างทรงพลังมากๆ


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 25-01-2009 22:06:33


[TQ:]
I remember as a young boy
I watched my neighbourhood go up in flames
I saw the whole thang through tears of pain
And a situation's rackin' my brain
I wish I could fly away and never come back again
We need some love you all
We need some real deal help from above you all
I mean the kids watchin'
And I just can't see it stoppin', I don't understand
I mean we all bleed the same blood, man!


พอถึงท่อนต่อมา เสียงที่คุ้นหูก็ดังขึ้น พร้อมๆกับที่ร่างของเคลวินที่เดินออกมาจากเวทีด้านหนึ่ง ทันทีที่เขาโผล่ออกมา เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอย่างถล่มทะลาย เมื่อฝรั่งตัวใหญ่ แต่งตัวในชุดฮิบฮอบออกมาร้องเคลวินร้องท่อนแร๊พ ร้องได้ดี เหมือนนักร้องอาชีพ แถมสำเนียงแบบเจ้าของภาษามาเอง ยิ่งทำให้พนักงานฮือฮากันใหญ่

ผมมองเคลวินที่ทั้งร้องทั้งโยกย้ายส่ายตัวอยู่บนเวทีอย่างเพลิดเพลิน รู้สึกเหมือนปากตัวเองฉีกออกเป็นยิ้มกว้างด้วยความรู้สึกชื่นชม

ประธานสองหน้านี่ทำอะไรได้หลายอย่างมากมาย นอกจากจะเป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ ภรรยาขี้อ้อน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ตอนนี้เขาเป็นนักร้องที่แร๊พได้มันมากอีกด้วย จะเก่งรอบด้านไปถึงไหนกัน

บนเวที ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ออกมาแสดงกันจนเต็มเวที ด้วยเครื่องแต่งกายนานาชาติ แต่งเป็นฝรั่งบ้าง จีนบ้าง อินเดีย ญี่ปุ่น นักร้องเคป๊อบ บางคนทาสีผิวออกคล้ำๆ

บางคนทาผิวออกสีแดง เต้นจับคู่กันบ้าง สลับคู่กันบ้าง แสดงอารมณ์ประกอบไปตามเพลง คนไหนถนัดร้อง ก็โชว์พลังเสียง คนไหนไม่ถนัดก็ช่วยเป็นแดนเซอร์ให้

แม้จะไม่พร้อมเพรียงแบบมืออาชีพ แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่นักแสดง ทำได้ขนาดนี้ ก็นับว่าเก่งกันมากแล้ว

โดยเฉพาะเคลวินของผม เขาเก่งมากจริงๆ ร้องท่อนแร๊พได้โดดเด่น ราวกับนักร้องอาชีพ เรียกเสียงกรี๊ดได้ทุกครั้งที่ถึงท่อนที่เขารับผิดชอบ เขาทำได้ดี จนผมอยากจะยกสองนิ้วโป้งให้เลย

[Bridge:]
You gotta live your life
Better than our fathers did
Let's make some love, baby, have some kids
They gotta live their lives
And I don't care what color they are, or you are, or we are
It's all love, baby!

[C-Part:]
You have been my mother
You could have been my brother
What if you were my sister
If you were my father?
You could have been my fella
You could have been my teacher
What if you were my friend?
Would be so nice to meet ya

[Verse 2:]
Take it out to the world
Tell every boy and every little girl
Be proud of yourself
Cause you're as good as anybody else
Put away your prejudice
Open your mind, don't need a stick to this
Try to make this earth
A better place without a racial curse

[TQ:]
Yeah, it's time for some changes

[Chorus]

เสียงปรบมือดังกึกก้องเป็นเกียรติให้กับนักแสดงกิตติมศักดิ์ทุกๆคนที่ได้เสียสละเวลามาฝึกซ้อมและแสดงเป็นของขวัญให้กับพนักงานทุกคน

เหล่าคนดูต่างคว้าดอกไม้ที่ปักในแจกันมาให้กับศิลปินจำเป็น แล้วแต่ความชอบของตัว ใครชอบใครก็ให้คนนั้น

บ้างให้เพราะร้องดี บ้างให้เพราะเป็นหัวหน้าโดยตรงของตัวเอง เคลวินได้ดอกไม้เต็มกำมือ รู้สึกจะมากกว่าคนอื่นๆ เสียอีก

เขายิ้มหน้าบาน สายตากวาดไปทั่วห้องจัดเลี้ยง และในท้ายที่สุดก็มาหยุดจ้องที่ผมชั่วขณะ ก่อนที่จะเบนสายตาไปที่อื่นต่อ

พิธีกรขึ้นมาบนเวที กล่าวขอบคุณท่านผู้บริหาร และเชิญทุกคนถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก ก่อนจะเชิญทุกท่านลงจากเวที โดยรั้งตัวเคลวินเอาไว้ เพราะเขาต้องเป็นประธานในการเปิดงาน

เคลวินกล่าวต้อนรับทุกๆคนเข้าสู่งานปาร์ตี้ “หาดทราย สายลม และผองเรา” อย่างเป็นทางการ จากนั้นก็พูดถึงการแสดงของพวกผู้บริหารว่าตั้งใจจัดให้เป็นพิเศษแก่พนักงานทุกคน

เคลวินมีส่วนในการช่วยเลือกเพลงอย่างที่ผมคาดเดาเอาไว้ เขาให้เหตุผลว่า เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ

โลกนี้จะอยู่ไม่ได้ถ้าปราศจากความรักและความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน ความรักไม่มีพรหมแดน ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ

ไม่มีการเหยียดผิว หรือจำกัดอยู่แต่เฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง ความรักเป็นสิ่งสวยงาม และความรักช่วยขับเคลื่อนให้โลกหมุนไป

ความรักมีมากมายหลายแบบ ทั้งรักแบบคู่รัก รักในสายโลหิต รักแบบเพื่อนฝูง และความรักที่มีต่อเพื่อนร่วมโลก

ในฐานะเจ้าของบริษัท สิ่งที่เขาอยากเห็นจากพนักงานของเขาทุกคนคือ ความรักใคร่กลมเกลียวกัน ทุกคนในบริษัทเหมือนคนในครอบครัวของเขา

มีอะไรก็อยากให้ช่วยเหลือถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน แม้ว่าแต่ละคนจะมาจากต่างที่ ต่างพื้นฐานการเลี้ยงดู และการศึกษา ทำให้มีความคิดที่แตกต่างกัน จะให้คิดเห็นไปในทางเดียวกันคงเป็นไปไม่ได้

ทว่าความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรคต่อการทำงาน การได้เห็นมุมมองอื่นๆที่ต่างจากตัวเองบ้าง น่าจะก่อให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์แตกยอดออกไปหลายแขนง ซึ่งจะเป็นการดีที่เราจะยอมรับในความแตกต่างที่มี

การแข่งขันกันทำงานเป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ลืมคุณธรรม การที่ต้องเติบโตก้าวหน้าในอาชีพ โดยการเหยียบย่ำทำร้ายคนอื่น เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

นอกจากนี้เคลวินยังบอกอีกด้วยว่า เขายินดีสนับสนุนพนักงานทุกๆคน ถ้าใครเก่งกาจมีความสามารถ และถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติต่างๆตามที่กำหนด เขาก็พร้อมจะผลักดันให้ได้รับตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี

เขาพิจารณาคนจากการทำงาน ไม่ได้พิจารณาจากความใกล้ชิดสนิทสนม และยืนยันกับทุกคนว่า เรื่องการเห็นแก่พวกพ้อง หรือคนของตัวจะไม่มีให้เห็นในบริษัทนี้อย่างแน่นอน ขอให้วางใจได้

และใครที่กำลังน้อยอกน้อยใจว่าทำไมตัวเองไม่ถูกพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง แทนที่จะโทษหัวหน้างาน ก็ให้ย้อนกลับมาดูตัวเองก่อน ว่าเพราะอะไร

เราทำเต็มที่หรือไม่ หากทำเต็มที่แล้ว แต่ถูกกลั่นแกล้งไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ให้มาบอกเขา ประตูห้องเขาเปิดต้อนรับทุกคนเสมอ

ในขณะเดียวกัน หากเขาทราบว่าพนักงานคนไหน ไม่ทำงานการ และมัวแต่ร่ำร้องโอดครวญในสิ่งที่ตัวเองไม่ควรจะได้ และอิจฉานินทาว่าร้ายคนอื่น ให้ได้รับความเสียหาย เขาก็จะจัดการอย่างไม่ไว้หน้าเช่นกัน

เขาไม่ชอบการนินทาว่าร้ายกันหลับหลัง การปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นจริง หากพนักงานคนใดเอาเวลาที่ควรจะทุ่มเทให้กับงานการไปคิดในเรื่องวุ่นวายไร้สาระ จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและเพื่อนร่วมงาน เขาก็จะมีบทลงโทษคนเล่านี้เช่นกัน

เคลวินยังพูดอะไรต่อมิอะไรเกี่ยวกับการทำงานหลายๆอย่าง และสรุปตบท้ายด้วยการกล่าวขอบคุณทุกๆคนที่เชื่อมั่นในบริษัทนี้ และขอบคุณที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำงานอย่างหนัก

และเขาสัญญาว่าจะดูแลพนักงานทุกคนให้มีความสุขกันถ้วนหน้า ไม่มีลำเอียงรักใครมากกว่ากัน คนที่ทำความดีย่อมได้ดี

และคนที่ทำไม่ดี ก็ควรจะพิจารณาตัวเองว่าสมควรจะอยู่ที่บริษัทนี้หรือไม่ และถ้าพิจารณาตัวเองไม่ได้ เขาจะเป็นผู้พิจารณาให้เอง

หลังจากเปิดงานด้วยมาดที่เคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง จนพนักงานที่ได้ฟังนั่งกันตัวลีบแล้ว เคลวินก็เบรกอารมณ์ทุกคน ด้วยการบอกให้ทุกคนลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เอามือสองข้างแตะไว้ที่คาง แล้วทำท่าถอดหัวโขนที่ทุกคนสวมใส่อยู่ออกไป โดยเขาทำท่าให้ดู

จากนั้นก็ขอให้ทุกคนสนุกสนานรื่นเริงกับงานในค่ำคืนนี้อย่างเต็มที่ ใครใคร่ดื่ม ดื่ม ใครใคร่กิน กิน ใครอยากจะร้องเพลง เต้นรำ ตามสบาย

เขามีเวลาให้พนักงานทุกคนถึงเที่ยงคืน และต้องแยกย้ายกันไปนอน เพราะในวันรุ่งขึ้นจะมีการสัมมนาวิชาการตอนเช้า 1 ชั่วโมงหลังอาหารเช้า ก่อนที่รถบัสจะพาพนักงานไปแวะเที่ยวระหว่างทางที่จะกลับกรุงเทพ

ทันทีที่เคลวินพูดจบ การแสดงจากคาร์บาเร่ต์ที่จ้างมาก็เริ่มต้นขึ้น พนักงานที่นั่งกันสงบเสงี่ยมเมื่อครู่ก็เริ่มร่าเริงมีชีวิตชีวา ตาจ้องอยู่บนเวที ที่มีสาวประเภทสองหน้าตาสะสวยและหุ่นดีออกมาร้องลิปซิงค์บนเวที

“เคน...ผมแสดงเป็นอย่างไรบ้างครับ”

----------------------
TBC


พรุ่งนี้จะมาลงต่อให้อีกค่ะ  สัญญา

คุณ  February   :กอด1:  มากอดกัน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 25-01-2009 22:11:17
555 มาแล้ว มาแล้ว

ขอบคุณคับ +1 จัดไป
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 25-01-2009 22:47:44
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 26-01-2009 00:49:11
เคลวินร้องแรพซะด้วย เหอๆๆ  เก่งรอบด้านๆๆ

รออ่านตอนต่อไปนะครับ :really2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 26-01-2009 02:55:12
อิๆๆ เคลน่ารักอ่ะ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 26-01-2009 10:35:23
แวะมาจิ้ม +1 ก่อน เดี๋ยวเย็นๆ กลับมาอ่าน  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 51 :P 25.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-01-2009 22:23:36
บทที่ 52

---------------------------------

“เคน...ผมแสดงเป็นอย่างไรบ้างครับ”

เคลวินเดินมานั่งที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก่อนแล้ว เขาพูดกับผมพอได้ยินกันสองคน ผมแอบยกนิ้วโป้งให้เขาเห็น เคลวินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางดีใจที่ผมชื่นชอบการแสดงของเขา

“ไปหัดร้องมาจากไหนกันครับ เก่งจัง”

ชมเขาอย่างจริงใจ เคลวินยิ้มเขินๆ แล้วตอบอย่างถ่อมตัวว่าเขาชอบร้องเพลงอยู่แล้ว เวลาอยู่คนเดียวก็ชอบร้องเพลงบ่อยๆ สำหรับการร้องแร๊พนั้น เขาไม่ได้ชอบนัก แต่ก็พอร้องได้ และทางสต๊าฟเห็นว่าเขาเป็นฝรั่ง น่าจะพูดได้คล่องกว่าคนอื่นๆ จึงมอบท่อนนี้ให้เขาร้อง

เห็นเคลวินทำท่าอายๆ แล้วผมก็อดนึกเอ็นดูเขาไม่ได้ ตามปกติเวลาอยู่ในที่ทำงาน ผมจะชินกับภาพประธานเคลวินที่ดุดัน พอเขามาทำท่าถ่อมตนไม่อวดตัว เหมือนคนไม่มั่นใจในตัวเองแบบนี้ มันก็เลยดูแปลกๆ แต่ก็น่ารักดี

“ท่านประธานไม่เปลี่ยนชุดก่อนหรือครับ”

ผมถามเขาเมื่อเห็นเคลวินยังอยู่ในชุดฮิบฮอบ เสื้อตัวโคร่ง กางเกงตัวใหญ่ และใส่หมวกกลับหน้ากลับหลัง
“อีกสักพักว่าจะไปเปลี่ยนครับ มาทักทายเคนก่อน...คิดถึง”

เขาหยอดคำหวาน และทำตาเยิ้มใส่ผม ช่างไม่เกรงว่าคนจะมองบ้างเลย เดี๋ยวก็โดนนินทาอีกหรอก ไม่เข็ดหรือไง ผมคิดในใจ แต่ไม่ได้พูดออกมา เพราะเคนหุบยิ้ม และทำหน้าเรียบเฉย คงจะเห็นสีหน้าเป็นกังวลของผม เลยรีบเปลี่ยนท่าที นับว่าเคลวินเป็นคนที่ช่างสังเกตและหัวไวมาก

“ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”

ในที่สุดเคลวินก็ลุกขึ้นยืนแก้เก้อที่เผลอทำหวานใส่ผม คงรู้ตัวว่าคนรอบข้างคอยแอบมองเราสองคนอยู่ แม้ว่าเคลวินจะรู้จักแยกแยะบทบาทตัวเองระหว่างที่บ้านกับที่ทำงาน

ทว่าเมื่อครู่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเผลอหลุดออกมา อารมณ์คงประมาณดีใจที่มีคนชอบ และคงอยากได้คำชมจากผม พอผมบอกความรู้สึกไปตามตรง เขาก็เลยภูมิใจจนหลุดหวานใส่ผม

โชคดีที่ตอนที่เขาทำตาหวานใส่ผม โต๊ะใกล้ๆเรากำลังให้ความสนใจกับภาพที่เห็นบนเวที ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น และการที่เขาลุกไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ก็เป็นการปรับอารมณ์ของเขานั่นเอง

“นั่งโต๊ะวีไอพี สบายไหมเคน”

ทันทีที่เคลวินเดินจากไป ที่นั่งว่างๆข้างๆผมก็ถูกแทนที่ด้วยผู้จัดการชาตรี ซึ่งทรุดตัวลงนั่งอย่างถือวิสาสะ เขาคงมองดูเราสองคนจากที่ใดสักแห่ง และพอเห็นเคลวินลุกไป เขาก็เลยฉวยโอกาสนี้มานั่งกับผม

และเขาคงไม่ได้มานั่งคุยด้วยเรื่องสัพเพเหระแน่ๆ เพราะร้อยวันพันปี เขาไม่เคยพูดดีกับผม ดังนั้นการมาครั้งนี้คงมีเป้าหมายต้องการเคลียร์อะไรกับผมสักอย่างเป็นแน่ ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ริมทะเลเมื่อตอนบ่ายทันที


“ก็เริ่มจะคุ้นแล้วครับ”

ตอบคำถามของเขาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย คำถามเริ่มต้นในการชวนคุยนี่มันฟังแล้วเหมือนคำเหน็บแนมเหลือเกิน

แม้จะรู้ว่าเขามีนิสัยชอบพูดจาตำหนิติเตียนคนอื่น ผมก็ยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ดี แต่ด้วยความที่เขาเป็นอดีตเจ้านายเก่า และมีอาวุโสกว่า ผมก็เลยพยายามไม่แสดงอารมณ์กับเขา

“ความหรูหรา ไฮโซ และการเป็น Somebody มันมีเสน่ห์แบบนี้แหละ”

เขายังคงพูดเหน็บผมต่อไป ในขณะที่ตาก็มองไปบนเวที ดังนั้นการคุยกันของเราสองคน จึงเหมือนการวิพากษ์วิจารณ์การแสดงบนเวที มากกว่าจะเป็นการคุยกันด้วยเรื่องส่วนตัว

“ชอบที่ท่านประธานแสดงบนเวทีไหม”

พอเห็นผมไม่สนใจคำเหน็บแนมของเขา คุณชาตรีก็เปลี่ยนเรื่องพูดโดยการถามถึงความชอบไม่ชอบการแสดงของเคลวินที่ผ่านไปเมื่อครู่

ผมพยักหน้าตอบรับ แล้วก็บอกว่าการแสดงของเคลวินเรียกเสียงกรี๊ดจากพนักงานได้ท่วมท้น แสดงว่าทุกคนถูกใจเขา

ผมใช้มวลชนอ้างอิง จะได้ไม่ตกหลุมคุณชาตรี เพราะคิดว่าการที่เขามาถามผมแบบนี้ คงไม่ได้ถามความคิดเห็นทั่วไปแน่ ๆ คงมีวาระซ่อนเร้น ดังนั้นการคุยกับเขาต้องระวังตัวให้มาก

“ท่านประธานเก่งนะ สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง คนไหนที่ได้คุณเคลวินไปเป็นแฟนก็คงจะโชคดีมาก”

เขาพูดจบก็หันมาจ้องหน้าผม และเหยียดยิ้มเป็นปริศนา ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด แล้วก็เงียบเฉยไม่ต่อปากต่อคำ สายตามองผ่านใบหน้าของเขาไปยังเวทีที่มีการแสดงของสาวประเภทสอง

“เธอชอบแบบนี้เหรอ”

พอเห็นผมไม่สนใจเขา นายชาตรีก็เปลี่ยนคำถามใหม่

“เอ่อ ครับ ก็พวกเขาสวยดี บางคนเหมือนผู้หญิงเลย”

ตอบไปตามตรง บางครั้งผมรู้สึกทึ่งสาวประเภทสองเหล่านี้ที่มีใบหน้าและทรวดทรงองค์เอวสวยงามกว่าผู้หญิงหลายๆคนที่ผมเคยพบเจอ

และเสียดายแทนพวกเธอเหล่านั้นที่กำเนิดมาในเพศของชาย ทั้งที่ใจอยากเป็นเพศหญิง และการที่พวกเธออยากจะเป็นคนอื่น ก็กลับถูกสังคมรังเกียจ และไม่ให้โอกาสกับพวกเธอมากนัก

ทั้งๆที่พวกเธอก็ไม่ใช่คนเลวร้าย หลายคนเป็นคนดี และทำประโยชน์ให้กับสังคม มากกว่าคนที่เป็นชายจริงหญิงแท้หลายคนเสียอีก

“อยากเห็นท่านประธานเคลวินเป็นแบบนี้บ้างหรือเปล่า”

เอาอีกแล้ว นายชาตรีตั้งคำถามไร้สาระให้ผมตอบอีก เขาคาดหวังจะได้คำตอบอะไรจากผม “อ๋อ ดีๆครับ ผมชอบ

อยากเห็นเคลวินเป็นผู้หญิงคงจะน่ารักดี” หรือ “บ้า คุณชาตรีพูดอะไรแบบนั้น ทุกวันนี้เคลวินก็ยิ่งกว่าสาวประเภทสองอีก” เขาอยากได้ยินผมพูดแบบนี้เหรอ

“ทำไมถามแบบนี้ล่ะครับ...”

ย้อนถามออกไปบ้าง

“ก็..ไม่มีอะไร เคยเห็นประธานในมาดดุๆ ก็อยากเห็นในมาดหวานๆบ้าง คงจะน่ารักดี”

นายชาตรีตอบกลับมา แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงของเขาอย่างแน่นอน เพราะคำว่าหวาน กับสาวประเภทสอง มันคนละเรื่องกันเลย

ผู้จัดการคนนี้ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ อาจจะอยากแขวะเรื่องของผมกับเคลวินก็ได้ แต่แขวะโดยลากเอาเคลวินซึ่งเป็นเจ้านายของตัวเองมาพูดเล่นแบบนี้ เห็นทีจะไม่เหมาะกระมัง

“ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เหมาะสมกับท่านประธานดีแล้วครับ”

บอกเขาเสียงเรียบ พยายามระงับอารมณ์โกรธเต็มที่ ไม่ชอบใจเลยที่ได้ยินเขานินทาว่าร้ายเจ้านายตัวเอง

อยากรู้ว่าถ้าเคลวินมาได้ยินสิ่งที่ท่านผู้จัดการชาตรีพูด เขาจะรู้สึกอย่างไร คงเสียใจที่พนักงานเก่าแก่ที่ทำงานมาตั้งแต่สมัยพ่อเขาเป็นประธานบริษัทจะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับสาวประเภทสองแบบนี้

“นั่นสินะ คุณเคลวินเป็นอย่างที่เป็นอยู่ก็คงเหมาะสมแล้วล่ะ เธอเองก็คงชอบท่านประธานมากสินะ”

ดูเหมือนเขายังคงไม่รู้ตัวว่าคำพูดของเขาทำให้คนฟังอึดอัดใจแค่ไหน เขายังคงยิงคำถามผมต่อเนื่อง

“ครับ ...ผมชอบท่านประธาน แล้วคุณชาตรีล่ะ ไม่ชอบท่านหรือครับ”

แม้จะไม่ค่อยชอบใจกับคำถามของเขา แต่ผมก็ตอบคุณชาตรี และย้อนถามเขาไปบ้าง

“ชอบสิ ท่านประธานเคลวิน กับ คุณพ่อของท่านเป็นคนดี มีความสามารถ ฉันทำงานกับทั้งสองคนมานานมาก ฉันชอบการทำงานของพ่อลูกคู่นี้มากๆ และฉันก็รักท่านประธานทั้งสองคนด้วย”

นายชาตรีพูดคำว่ารักท่านประธานด้วยสีหน้าแววตาที่แสดงออกถึงความซาบซึ้งอย่างจริงใจ จนผมแทบจะเชื่อว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

หากเขาโกหกผม เขาก็คงเป็นนักแสดงที่เก่งมากเพราะเขาเนียนน่าเชื่อถือ มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมสงสัยก็คือ คนที่รักกัน เขาพูดถึงกันในแง่มุมอย่างนี้ด้วยหรือ

“กำลังสงสัยอยู่ใช่ไหม ว่าทำไมฉันถึงพูดจาแบบนี้กับเธอ”

เขาหัวเราะขำ คงเห็นว่าผมทำหน้ายุ่งๆ และแสดงอาการอึดอัด เหมือนไม่อยากพูดคุยกับเขา

“ครับ”

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันคิดว่าเราสองคนอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน”

พูดชวนให้คิดอีกแล้ว อยากจะพูดอะไรก็ว่ามา ไม่น่าจะอ้อมค้อม

“เอ้อ...ผมไม่เข้าใจ”

“เรื่องเมื่อตอนบ่ายนี้ไงล่ะ”

เขาเฉลย ผมเลยถึงบางอ้อ ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนบ่าย ผ่านเข้ามาในสมองผมอีกครา

หลังจากได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิก และเสียงพูดอันแสนจะคุ้นหู ดังให้ได้ยินหลังโขดหิน ความอยากรู้อยากเห็นว่าสิ่งที่ผมคาดเดาถูกต้องหรือไม่

ทำให้ผมกลายเป็นนักถ้ำมองจำเป็น ผมลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลังโขดหินที่ผมนั่งอยู่ ตรงนั้นมีช่องเว้าเข้าไปข้างในมีขนาดคนสองสามคนเข้าไปยืนได้ และลับตาคน

ถ้าไม่สังเกต ก็จะไม่รู้ว่ามีใครเข้าไปหลบอยู่ในนั้น

เสียงคุยเงียบหายไป แต่มีเสียงอื่นเข้ามาแทนที่ เสียงหายใจ เสียงร้องครวญคราง เหมือนคนที่กินของเผ็ดร้อนเข้าไป

เสียงนั้นไม่ดังมากนัก เพราะถูกกลบด้วยเสียงคลื่นที่ซาดซ่า ผมพยายามเงี่ยหูฟัง แต่ก็จับใจความไม่ได้

ยิ่งอยากรู้มากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งยื่นหน้าเข้าไปใกล้ช่องนั้นมากขึ้น จนกระทั่งผมได้เห็นบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้ผมตกใจสุดขีด

ในช่องว่างตรงโขดหินนั้น นายชาตรีกับมอดกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเร่าร้อน ท่อนบนของทั้งคู่เปลือยเปล่า เห็นอกแห้งๆเหี่ยวๆของผู้จัดการสูงวัยกับอกที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของรปภ.หนุ่มที่บดเบียดเสียดสีกัน

พอผมหายตกใจ และเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ผมก็ถอยหลังกลับ ตั้งใจจะรีบหนีไปจากภาพที่เห็น ไม่อยากให้สองคนเกิดความอับอายที่ผมได้ล่วงรู้ความลับของคนทั้งสองโดยบังเอิญ

ทว่าคนมันเกิดมาดวงซวย จังหวะที่ผมเดินถอยหลังออกไปนั้น เท้าของผมก็สะดุดเข้ากับก้อนหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นทราย และล้มลงไปก้นจ้ำเบ้ากับพื้น

เสียงมันคงดังพอสมควร จนทำให้ทั้งคู่ได้ยิน นายชาตรีผละออกจากมอดทันที และมองผมด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ และแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ ในขณะที่มอด เพียงแต่หน้าถอดสีเท่านั้น

ด้วยความตกใจที่ถูกจับได้ว่าไปแอบดูพวกเขา ทำให้ผมยกมือไหว้ขอโทษคู่รักต่างวัยทั้งคู่ จากนั้นก็หันหลังโกยแน่บกลับบ้านพัก และตั้งใจจะปิดปากเงียบไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง แม้แต่เคลวิน

ผมไม่ต้องการทำร้ายใคร ถึงนายชาตรีจะพูดไม่ดีกับผมตลอดเวลา แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา หากมีคนอื่นมาล่วงรู้ เขาอาจจะถูกคนอื่นดูหมิ่นเกลียดชัง ทำให้เกิดผลเสียต่อหน้าที่การงาน

ผมไม่อยากให้คนอื่นมองเคลวินในแง่ร้ายอย่างไร ผมก็จะไม่ทำอย่างนั้นกับคนอื่นเช่นกัน เรื่องของหัวใจ เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะรักใคร ไม่ว่าจะแตกต่างกันแค่ไหน เป็นเพศใด หรือฐานะอย่างไรก็ตาม

ผมไม่เคยดูถูกความรักของเคลวิน และผมก็ไม่ดูถูกความรักของนายชาตรีด้วย

“ถ้าเธอไม่เอาเรื่องระหว่างฉันกับมอดไปเล่าให้คนอื่นฟัง ฉันก็จะไม่พูดเรื่องเธอกับคุณเคลวินเช่นกัน”

นี่คงเป็นข้อสรุปของการที่เขามานั่งคุยกับผมกระมัง เขาเองก็คงต้องการความมั่นใจว่าผมจะไม่ปากโป้งเรื่องของเขา เพราะเขาก็มีเรื่องของผมกับเคลวินในมือเช่นกัน

ผมไม่ชอบการขู่แบบนี้เลยจนนิดเดียว แต่เมื่อมองว่ามันจะมีประโยชน์ต่อเคลวิน ผมก็จำต้องยอมรับข้อเสนอนั้นอย่างไม่มีทางเลี่ยง


“ฉันไม่ได้แบล็คเมล์เธอกับท่านประธานนะเคน อย่าเข้าใจฉันผิด ฉันแค่อยากมีพื้นที่ส่วนตัวที่ฉันจะสามารถรักกันกับมอดได้ โดยไม่มีใครมาคอยขัดขวางความรักของเราสองคน”

นายชาตรีสารภาพอย่างหมดท่า ทั้งหมดที่เขามาพูดกับผมเพียงแค่ปกป้องความรักของตัวเองเท่านั้น คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกเห็นใจผู้จัดการขึ้นมาทันที

เขาคงรู้สึกทรมานใจไม่น้อยเช่นกัน ผู้จัดการบริษัทที่แต่งงานมาหลายปี มีภรรยา มีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่น กลับมีรักที่ซ่อนเร้นกับยามรักษาความปลอดภัยของบริษัท

มันเป็นรักต้องห้าม ที่ถึงเขาจะมีความสุขด้วยกันมากขนาดไหน เขาก็บอกกับใครไม่ได้ เพราะสถานภาพของการเป็นเจ้านาย เป็นพ่อและสามีที่ดีมันค้ำคอ

การที่เขายังรักษาความลับระหว่างเขากับมอดไว้ได้ นั่นหมายถึงระยะเวลาที่จะมีความสุขกับคนที่เขารัก มันก็จะยืดได้มากขึ้น จนกว่าจะมีคนล่วงรู้

“หวังว่าเธอจะเข้าใจถึงความจำเป็นของฉันนะเคน ขอร้องเถอะนะ อย่าแพร่งพรายเรื่องของฉันออกไปให้ใครรู้นะ”

เขาวิงวอน ภาพผู้จัดการที่จู้จี้ขี้บ่น โมโหร้าย หายไป ตอนนี้มีเพียงชายสูงอายุที่กำลังวิตกกังวลกลัวความลับของตัวเองจะถูกเปิดโปง

ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงรับปากว่าจะไม่ปากโป้งเอาเรื่องที่เห็นเขากับมอดไปเล่าให้ใครฟัง ที่ผมยอมตามไม่ใช่เกิดจากการที่ผมกลัวว่าเขาจะเอาเรื่องผมกับเคลวินไปพูดบ้างเป็นการแก้คืน

แต่ผมรู้สึกสงสารเขามากกว่า ผมเห็นสายตาเศร้าๆของเคลวินอยู่ในตาของนายชาตรี เขาสองคนมีดวงตาแบบเดียวกัน ตาของคนที่กำลังอยู่ในห้วงรักและทุกข์ ความรักทำให้เขาต้องทำตัวผิดแผกไปจากคนอื่นๆ

ทั้งๆที่พวกเขาไม่ผิด เขามีสิทธิ์ที่จะรักใครก็ได้ แต่สังคมกลับไม่ยอมรับความรักของพวกเขา ทำให้ต้องปิดบังซ่อนเร้นเพื่อรักษาสถานภาพของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับสำหรับคนทั่วไป

“ขอบคุณเธอมากนะเคนที่รับปากว่าจะไม่พูดเรื่องของฉัน และต้องขอโทษด้วยนะ ที่ผ่านมา ฉันพูดจาไม่ดีกับเธอไว้เยอะ

ส่วนหนึ่งเพราะฉันคิดว่าเธอยังเด็ก ไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะทำงานใหญ่ๆ โดยเฉพาะงานผู้ช่วยเลขาที่ต้องใกล้ชิดท่านประธาน

เพราะมันเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญๆและส่วนใหญ่เป็นความลับ หากแพร่งพรายไปถึงหูใคร ก็อาจจะมีผลเสียหายต่อบริษัท....”

เหมือนเป็นช่วงปรับความเข้าใจกัน นายชาตรีผู้เคยทำท่าดูหมิ่นเหยียดหยาม และมักพูดไม่ดีกับผมทุกครั้ง กลับพูดกับผมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลชวนฟัง

เขากำลังสารภาพกับผม ถึงอคติต่างๆที่มีในใจ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เขาปฏิบัติต่อผมอย่างไม่ให้เกียรติในอดีตที่ผ่านมา

“ฉันไม่มั่นใจว่าเธอจะมีวุฒิภาวะพอ เธออาจจะเผลอพูดออกไปก็ได้ หรือไม่เธอก็อาจจะโอ้อวดตัวว่าได้ทำงานใหญ่ข้ามหัวคนอื่น เลยพยายามค้าน ไม่ให้เธอได้ทำงานนี้

แต่แล้วเธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีความสามารถจริงๆอย่างที่ท่านประธานพูดไว้ไม่มีผิด”

เมื่อเขาพูดจบลง ทุกสิ่งที่เคยติดค้างในใจระหว่างเขากับผมก็มลายหายไป ผมมองเห็นผู้ใหญ่ใจดี นั่งอยู่ตรงหน้า ที่จริงนายชาตรีก็เป็นผู้หนึ่งที่รักและหวังดีกับบริษัทจริงๆ

ความที่อยู่บริษัทนี้มานาน ทำงานมาตั้งแต่รุ่นพ่อยันรุ่นลูกก็คงจะรู้สึกผูกพัน และแกก็ค่อนข้างจะหัวเก่านิดๆ พอเห็นผมซึ่งอายุไม่เท่าไหร่ แถมเพิ่งมาทำงานได้ไม่นาน ก้าวข้ามขั้นจากลูกจ้างชั่วคราว กลายเป็นผู้ช่วยเลขา แกก็คงอดมีอคติต่อผมไม่ได้

“ขอโทษที่ดูถูกเธอ หาว่าเป็นเด็กเส้นของท่านประธาน ฉันก็ไม่ได้มีเจตนาจะหลบหลู่ดูหมิ่นคุณเคลวินนะ แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้น เพราะฉันไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอ ก็เลยต้องการด่ากระแทกแดกดันให้เจ็บๆ ถ้าเธอหน้าบาง เธอจะได้ไปซะจากบริษัทนี้....”

อือ เป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าวันนั้นที่ผมเจอกับเขาที่ร้านป้าขายโจ๊ก เขาก็คงจงใจพูดจาแดกดันให้ผมได้อายนั่นเอง โชคดีที่ป้าไม่สนใจ แถมยังเข้าข้างผมอีก คนที่อายก็เลยเป็นเขาเสียเอง

“ฉันเองก็ปากไม่ดี แถมยังลืมคิดไปอีกว่าหากเธอเป็นพวกใช้ร่างกายไต่เต้า เธอต้องเอาไปฟ้องคุณเคลวิน และฉันต้องโดนไล่ออกแน่ๆ ที่ปากเสีย ฉันพูดไปแล้วก็ลุ้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มี แสดงว่าฉันดูเธอผิดไปจริงๆ”

นายชาตรีกล่าวขอบคุณผมและยิ้มให้ ผมยิ้มตอบ แล้วก็นั่งนิ่งอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมไม่ชินกับการที่มีคนอายุมากกว่า มาสารภาพเรื่องที่เขาทำผิดกับผมแบบนี้ จึงไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจไม่ให้เขาต้องคิดมาก หรือควรจะโวยวายกลับเพราะเป็นทีของผมแล้วที่จะด่าที่เขาเข้าใจผิด

“ฉันดีใจนะ ที่ได้ยินเธอบอกว่าเธอชอบท่านประธานจริงๆ และหวังว่าท่านประธานก็คงดูคนไม่ผิด”
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-01-2009 23:01:51


อยู่ๆเขาก็วกมาที่เรื่องของผมกับท่านประธานจนได้ นั่งนึกอยู่นานว่าผู้จัดการชาตรีจะพูดจากำกวมมีเลศนัยหรือเปล่า ทว่าสายตาที่จ้องมองกลับมาเต็มไปด้วยความจริงใจ จนผมเลิกคิดสงสัยผู้จัดการเฒ่า

“ฉันรู้สึกอิจฉาคุณเคลวินจัง ที่เขากล้าที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ฉันเสียอีก ที่ขี้ขลาดตาขาว อยากจะทำอะไรก็ไม่กล้า กลัวคนจะนินทา กลัวคนรังเกียจ ฉันเลยเสียโอกาสดีๆในชีวิตไปเยอะเลย”

เขายังคงพูดเรื่องของเขาต่อไป น่าแปลกตรงที่เราสองคนคุยกันรู้เรื่อง ทั้งที่เสียงดนตรีที่ประกอบการแสดงบนเวทีนั้นค่อนข้างดัง จนแทบจะกลบเสียงคุยของเรา

ทว่าผมกลับได้ยินเสียงของเขาชัดเจน คงเป็นเพราะเรานั่งใกล้กัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะผมใช้ใจฟังเขา เลยทำให้ผมได้ยินคำบอกกล่าวของเขาทุกคำ ราวกับเรานั่งคุยกันแค่สองคนในห้องที่ปราศจากสรรพเสียงใดๆรบกวน

“แต่ฉันก็พอใจในชีวิตของฉันตอนนี้นะ ฉันไม่อยากได้อะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันก็หวังแค่เพียงได้มีพื้นที่เล็กๆที่จะอยู่ด้วยกันสองคนกับมอดของฉันเท่านั้นก็พอ”

น้ำเสียงที่พูดถึงหนุ่มคนรักเต็มไปด้วยความอ่อนโยน มันทำให้ผมตระหนักว่านายชาตรีรักมอดเพียงใด

จะว่าไปแล้ว นายชาตรีก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรอย่างที่คิด แกก็คงเป็นเพียงคนสูงอายุที่ขี้เหงาคนหนึ่ง

การที่เขาต้องการมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงๆ เพราะอยากมีอำนาจ เพราะการมีอำนาจ นำไปสู่การได้รับการยอมรับ ซึ่งเขาจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา โดยไม่มีใครกล้านินทาว่าร้าย

คนอย่างคุณชาตรี เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เห็นความทุกข์ของคุณชาตรีแล้ว ผมก็อดนึกถึงเคลวินไม่ได้

ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยนึกถึงใจของเคลวินเลย คิดแต่จะปฏิเสธน้ำใจของเขาท่าเดียว เพราะผมรับไม่ได้กับการที่ต้องอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับผู้ชายด้วยกัน

ทว่าเวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ถึงตอนนี้ ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์เคลวินอีกแล้ว แต่จะรักเขาหรือไม่ ผมยังให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้

“คุยอะไรกันอยู่หรือเคน คุณชาตรี”

คนอะไรตายยากชะมัด พอคิดถึง ก็มายืนอยู่ข้างๆตัวผมแล้ว ทำตัวเหมือนผีหลอกจริงๆ ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ ฝรั่งตัวใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา ตาสีฟ้า ในชุดแต่งกายชุดเดิมที่เขาใส่ตอนออกจากบ้านพัก กำลังมองผมด้วยสายตาดุๆ คงหึงผมกับคุณชาตรีแน่ๆเลย

“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่มานั่งคุยกับเขาเรื่องการแสดงเท่านั้นครับ และกำลังจะลุกไปนั่งโต๊ะตัวเองครับ”

พูดจบเขาก็ลุกไปหน้าตาเฉย ปล่อยให้ผมเผชิญหน้ากับเคลวินที่ยังทำตาดุใส่ผมไม่เลิก ผมเหลียวมองไปรอบโต๊ะวีไอพี ตอนนี้ ผู้บริหารคนอื่นๆ ยังไม่มานั่ง สงสัยยังเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวไม่เสร็จ ทั้งโต๊ะเลยมีแต่ผมและเคลวินนั่งคุยกันอยู่แค่สองคน

“คุยเรื่องการแสดงบนเวทีจริงๆเหรอ”

พอผู้จัดการลุกไป เคลวินก็หันมาถามผมเสียงเขียว ผมหัวเราะก๊าก เพราะเดาถูก เคลวินหึงผมกับคุณชาตรีจริงๆด้วย ช่างคิดได้เนอะ ว่าผมจะเป็นสนใจอีตาผู้จัดการขี้บ่นจู้จี้จุกจิกคนนั้น แค่มีคนสองหน้าอยู่ใกล้ๆ ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ผมไม่หาเรื่องวุ่นวายใส่ตัวอีกหรอก

“จริงครับ เราพูดกันว่า ถ้าเคลวินแต่งตัวแบบสาวประเภทสองขึ้นไปแสดงจะเป็นอย่างไรบ้าง คงจะน่ารักพิลึก”

ความที่ผมอารมณ์ดีเนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆคลี่คลายไปหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของนายชาตรีด้วย ที่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเขาไม่ได้เป็นศัตรูของผมอีกต่อไป

ผมก็เลยย่ามใจ แซวเคลวินอย่างลืมตัว พอเห็นเขาทำแก้มป่อง หน้างอๆ ผมก็เลยหุบยิ้ม แล้วหันไปมองรอบๆตัว เพื่อดูว่าใครจะมองเราสองคนหรือเปล่า เคลวินมองตาม แล้วก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ

“อยากเห็นผมเป็นสาวประเภทสองนักเหรอ”

เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันถาม คงนึกว่าผมชอบผู้หญิง ก็เลยอยากเห็นเขาเป็นสาวประเภทสอง ผมกลั้นหัวเราะจนน้ำตาไหล เคลวินนี่ขี้ระแวงจริงๆ

“ใช่ที่ไหนกันล่ะ แบบนี้ก็น่ารักดีออก”

“จริงๆนะ”

คราวนี้ทำเสียงกระดี๊กระด๊ามาเชียว ผมล่ะกลัวคนได้ยินจริงๆ

“จะโกหกทำไมกัน”

“ดีแล้ว ห้ามโกหก ถ้าไม่อยากให้ผมน้อยใจ แล้วก็ ห้ามเบี้ยวเรื่องคืนนี้ด้วย”

เคลวินทำเสียงขู่ แต่ตาหวานฉ่ำ ไปๆมาๆ ก็วกมาถึงเรื่องนี้อีกจนได้ ช่างเป็นภรรยาที่หื่นจริงๆ คิดเรื่องกุ๊กกิ๊กอยู่ได้ตลอดเวลา นี่ขนาดผมยังไม่ได้ยอมรับเขาเต็มที่นะเนี่ย ถ้าหากผมยอมรับเขาเป็นภรรยาเมื่อไหร่ สงสัยมีหวังฟ้าเหลืองแน่ๆ

ผมไม่มีโอกาสได้ตอบโต้สนุกๆกับเคลวินอีก เพราะผู้บริหารที่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกับเคลวิน พากันทยอยกันมานั่ง สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ

ข้อดีของการนั่งโต๊ะวีไอพี คือไม่ต้องเดินไปตักอาหารเอง มีพนักงานคอยบริการ ผมมองเพื่อนพนักงานที่ไปต่อแถวตักอาหารบุฟเฟ่ต์แล้วนึกสนุกอยากไปเดินเข้าแถวต่อแบบนั้นบ้าง

ทว่าถ้าผมไปปะปนอยู่กับพวกเขา เขาจะต้อนรับผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ นั่งสบายๆอยู่กับเคลวิน น่าจะดีที่สุดสำหรับตอนนี้

เมื่อใดก็ตามที่ผมสนิทกับคนในบริษัทมากขึ้น บางทีผมอาจจะไปต่อแถวตักอาหารกับพวกเขาบ้าง จะได้มีความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน



--------------------

TBC


วันนี้เน็ตอืดมากๆๆ  ไว้พรุ่งนี้จามาต่ออีกนะคะ  สนุกกับการอ่านกันค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 26-01-2009 23:24:23
 :z13:

ขอแว้บไปอ่านก่อน

ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 26-01-2009 23:52:16
ขอบคุณที่มาต่อให้นะคร๊าบบบบ

ในที่สุด นายชาตรีก็ปรับความเข้าใจกับเคนแร่ะ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 27-01-2009 00:15:47
แฮ่กๆๆๆๆๆๆ   เพิ่งตามอ่านทัน   อ่านรวดเดียวตั้งแต่ภาคแรก อิอิ

เคลวินน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกอย่างแรงงงงงงง :m1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 27-01-2009 06:36:45
ดีใจที่มาต่อให้ค่ะ

แต่สรรพนามผิดอยู่ 1 ที่นะคะ ^_^  เหมือนเคลวินสลับที่กันอยู่นิดนึง
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 27-01-2009 07:52:44
ขอบคุณค้าบบบบบ  o22
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 27-01-2009 10:22:11
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-01-2009 10:55:18
ความบาดหมางก็หายไป   :กอด1:

แล้วก็มาลุ้นคืนนี้ต่อไป  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 27-01-2009 11:54:09
 :กอด1:  กอดกัน กอดกันนะ...


+1 ให้ minchy คนน่ารักด้วยนะ


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-01-2009 17:36:36
มารอตอนกลางคือของเคลวินกะเคน  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 27-01-2009 19:32:25
มารอด้วยคน


ตอนกลางคืนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 27-01-2009 20:38:04
minchy  >>+1  ให้นะคะ   

รอด้วยคน  ขอมุดใต้เตียงด้วย   :z1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 28-01-2009 00:05:46
นั่นสิ คุนภรรยา ของเคน ทำไม หื่นจัง อิอิ   :z1:

คืนนี้ หนุ่มเคน ไม่รอดแน่ๆ   ฮ๋าๆ   :m20:


*ในที่สุด คุณชาตรี ก็เปิดใจซะทีเนอะ  
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 28-01-2009 01:21:28
คนไรอ่ะ ไม่เคยลืมทำการบ้านเล้ย

ขยันจิงเชียว เอาไปเล้ย +1 เคลวินน่ะ  :z1:

รอ รอ ค่ำคืนอันหวานฉ่ำ  :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 52 :P 26.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 28-01-2009 19:44:23
ก็ไม่รู้ว่าจะหวานฉ่ำกันหรือป่าวนะคะ

ขอบคุณ สำหรับทุก +  :-[

บทที่ 53

----------------------------

“เป็นไงบ้างเคน ทำงานกับคุณเคลวินสนุกไหม”

ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินสาวเปรี้ยว ถามผมระหว่างที่ทานข้าว ฟังจากน้ำเสียงแล้ว เธอคงตั้งใจถามไถ่ธรรมดา มากกว่าจะเหน็บแนม

และคงไม่มีเหตุผลใดที่เธอจะทำเช่นนั้น เพราะเราก็รู้จักกัน ผมเจอเธอบ่อยๆ เวลามีประชุมระดับผู้บริหาร แต่ส่วนใหญ่ก็จะพูดคุยเป็นทางการ เกี่ยวกับเรื่องรายงานการประชุมที่ผมทำ

และข้อสรุปแต่ละครั้ง มีคราวนี้ที่เธอพูดกับผมด้วยท่าทางสนิทสนม ไม่เหมือนเจ้านายพูดกับลูกน้อง

“สนุกดีครับ”

“ท่านประธานดุหรือเปล่า ใครๆเขาก็บอกว่าดุกัน”

ดูเหมือนเธอจงใจจะพูดแหย่ท่านประธาน ท่าทางไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด คงเป็นเพราะทำงานร่วมกันมานาน ต่างรู้ฝีมือซึ่งกันและกัน

และเคลวินก็ทำงานแบบฝรั่ง คือเอาจริงเอาจังเวลางาน แต่พอนอกงานแล้วก็เป็นเพื่อนกับทุกคนได้ ที่สำคัญท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงินก็อายุมากกว่าเคลวิน และเอ็นดูเคลวินเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง

ถึงแม้เคลวินจะเป็นหัวหน้าของเธออีกที แต่เคลวินก็ให้ความเคารพเธอตามอาวุโส ซึ่งเป็นมารยาทอันดีงามของคนไทยซึ่งฝรั่งต่างชาติอย่างเคลวินทำได้ไม่ขาดตกบกพร่อง

ผมเห็นเคลวินยิ้มรับ และหันมามองหน้าผม เพื่อฟังคำตอบ ผมไม่กล้าพูดเล่นกับเคลวินต่อหน้าใครอยู่แล้ว เลยตอบไปตามตรงว่าเคลวินดุอย่างที่คนอื่นเขาว่าจริงๆ

แต่เคลวินก็หวังดีกับผม ช่วยสอนงานให้หลายอย่าง ถ้าเคลวินไม่ดุ ไม่เข้มงวด ป่านนี้ผมก็อาจจะยังไม่คล่องงานเหมือนทุกวันนี้ ซึ่งคำตอบของผมคงจะทำให้เคลวินและคนถามพอใจได้ไม่น้อย

พวกเราทานข้าวกันไป คุยกันไป เรื่องงานบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้าง บางครั้งก็พูดคุยเกี่ยวกับการแสดงบนเวที ทุกคนพูดคุยกันอย่างสบายๆไม่มีมาด ทำให้บรรยากาศในโต๊ะวีไอพี ที่ผมมีโอกาสนั่งร่วมโต๊ะเต็มไปด้วยความสนุกสนาน

การนั่งกับผู้ใหญ่ของบริษัท ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว ผมได้รับรู้แนวคิด และคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์เหล่านั้นมากมาย และตั้งใจว่าจะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์

หลังที่งองุ้ม ด้วยความเกร็งและเกรงกลัว เปลี่ยนเป็นยืดตรงตามปกติ ผมเริ่มพูดคุยตอบโต้กับทุกคนอย่างเป็นกันเอง ไม่ต้องระวังตัวว่าจะพูดไม่ถูกหูใคร เหมือนจะเป็นวันปล่อยผีสักวันหนึ่ง

ทุกคนทำตัวสนุกเต็มที่ เวลาที่เขาปล่อยให้ออกไปเต้น แล้วมีพนักงานมาโค้งบรรดาผู้บริหารให้ออกไปเต้นด้วย

ทุกคนก็ร่วมมือเป็นอย่างดีไม่มีเกี่ยงงอน การไม่ถือเนื้อถือตัวของผู้บริหาร ได้ใจพนักงานไปเป็นกอง ทำให้พนักงานเพิ่มความนิยมชมชอบหัวหน้าของตัวเองมากยิ่งขึ้น

เคลวินเองก็ถูกเชิญให้ออกไปเต้นหลายครั้ง กับพวกสาวน้อยสาวใหญ่บ้าง ท่าทางจะสนุกไม่ใช่น้อย ทั้งคนเชิญและคนถูกเชิญ ส่วนผมผูกขาดการนั่งดูอยู่กับโต๊ะ เพราะเต้นไม่เป็น และไม่อยากทำตัวเด่นด้วย


การแสดงบนเวทีสลับสับเปลี่ยนกันไป หลังจากการแสดงโชว์คาร์บาเร่ต์เป็นการเปิดงานแล้ว นักร้องก็ขึ้นมาขับกล่อมด้วยเพลงจังหวะสนุกสนาน ให้พนักงานได้มีโอกาสออกมายืดเส้นยืดสายกัน

หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงของแต่ละฝ่าย สลับกับการเล่นดนตรี การประกวดขวัญใจพนักงาน และการแต่งกายยอดเยี่ยม

ตลอดระยะเวลาเหล่านั้น ผมได้แต่นั่งลุ้นเพื่อนๆอยู่ที่โต๊ะ เพราะตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมในการแสดง ส่วนเคลวินและผู้บริหารคนอื่นๆ ก็เดินขึ้นเดินลงเพื่อมอบรางวัลเป็นว่าเล่น

ผมก็เลยกลายเป็นคนเฝ้าโต๊ะเฝ้าของให้กับพวกเขาไปโดยปริยาย แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไร ยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง ยังคงมีคนที่ไม่เข้าใจผมอีกมากมาย คงต้องใช้เวลานานมากในการพิสูจน์ตัวเอง

“เคนเหงาแย่เลย”

ท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงินพูดกับผมอย่างเห็นใจ

“ไม่ได้ร่วมแสดงอะไรกับเขาบ้างเลยเหรอ”

คำถามต่อมาเกิดเพราะความไม่รู้ ผมส่ายหน้า ยิ้มแหยๆให้เธอ อย่างไม่รู้จะตอบอะไรดี มืออุ่นๆของเคลวินเลื่อนมาบีบที่ต้นเข่าของผมใต้โต๊ะเหมือนจะปลอบใจไม่ให้ผมคิดมาก โชคดีที่เขาแหวกมือสอดเข้ามาตรงรอยแยกของผ้าคลุมโต๊ะที่ยาวถึงพื้น เลยไม่มีใครสังเกตเห็น

“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ หน้าที่ดูแลคุณเคลวินสำคัญกว่าอยู่แล้วใช่ไหม”

พอเห็นผมทำหน้าจ๋อยๆ ท่านผู้อำนวยการสาวเปรี้ยวก็เหมือนจะรู้ว่าเป็นเรื่องที่ผมไม่สบายใจอยู่ เลยเลี่ยงมาลงที่เคลวินแทน เหมือนจะให้เขารับลูกไป

เคลวินก็น่ารักมาก พยักหน้ารับคำเห็นด้วย ทั้งสองคนช่วยให้เหตุผลที่ผมไม่ต้องขึ้นเวทีกันยกใหญ่ ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ที่มีคนเข้าใจผมเพิ่ม

“อ๊ะ ถึงไม่ได้แสดงแต่ก็ร่วมสนุกได้นี่”

อยู่ดีๆ เธอก็มีไอเดียที่จะให้ผมมีส่วนร่วมในงานไม่ต้องนั่งเหงาขึ้นมา และโดยไม่บอกว่าเธอมีความคิดอะไร

เธอก็เรียกสต๊าฟจัดงานที่ยืนอยู่แถวนั้นเข้ามาหา และกระซิบกระซาบอะไรสักอย่าง สต๊าฟคนนั้นรับคำ แล้วก็เดินไปพูดกับผู้กำกับรายการแสดงที่ยืนอยู่ข้างเวที และผมเห็นเขาเดินไปบอกกับพิธีกรอีกที

ผมไม่กล้าถามเธอว่าจะทำอะไร ได้แต่นั่งมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม แต่เธอกลับนั่งอมยิ้ม ผมหันไปมองเคลวิน ก็เห็นเขาทำหน้าเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไร ผมเลยได้แต่รอว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผม

การแสดงชุดสุดท้ายผ่านไปแล้ว พิธีกรขึ้นไปประกาศบนเวที เพื่อเรียกร้องให้พนักงานช่วยกันร่วมโหวต ว่าการแสดงชุดใดของพนักงานประทับใจที่สุด

โดยจะเอาคะแนนโหวตสูงสุดที่ได้รับ ไปบวกกับคะแนนของคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ ซึ่งก็คือท่านผู้อำนวยการฝ่าย และผู้จัดการบางท่านที่ได้รับมอบหมายให้เป็นคณะกรรมการในครั้งนี้

เคลวินไม่ต้องร่วมให้คะแนนกับเขาด้วย เพราะอยู่ในฐานะเป็นกลาง เป็นเพียงแค่ผู้มอบรางวัลเท่านั้น

และเมื่อรวมคะแนนแล้ว ทีมใดได้คะแนนสูงสุด ก็จะได้เงินรางวัล 1 หมื่นบาท และได้บัตรกำนัลเป็นที่พักฟรีที่รีสอร์ทแห่งนี้ทั้งทีม

หลังจากประกาศกติกา และชวนให้ทุกคนร่วมโหวตโดยจะมีกระดาษลงคะแนนแจกให้ พิธีกรก็แจ้งรายการต่อไป นั่นคือการให้พนักงานได้ร่วมสนุกบนเวที ด้วยการร้องเพลง

ใครสนใจอยากร้องเพลงไหน ก็มาลงชื่อไว้ และเพื่อเป็นการประเดิมเวทีให้ได้ร้องเพลงร่วมสนุกกัน ก็จะขอเชิญนักร้องรับเชิญขึ้นมาร้องบนเวที

พิธีกรคลี่กระดาษในมือเพื่ออ่านรายชื่อนักร้องที่คนเสนอมา ซึ่งเป็นพนักงานบริษัท มีอยู่ประมาณสี่ห้าคน เสียงประกาศชื่อดังให้ได้ยิน ผมตกใจเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองเป็นลำดับสุดท้าย

แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะได้ทำอะไรแปลกๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการถูกเชิญให้ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ผมไม่ถนัดในเรื่องการร้องเพลงต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเท่าไหร่

เคยร้องเล่นๆ เวลาอยู่คนเดียว ตอนอาบน้ำบ้าง ตอนทำงานบ้านบ้าง และไม่ได้ร้องนานมากแล้วตั้งแต่เคลวินย้ายมาอยู่กับผม เพราะอายเสียงตัวเอง

ท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ในขณะที่ผมยิ้มไม่ออก

การที่ต้องร้องเพลงต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ที่ไม่ค่อยได้สนิทกัน ทำให้ผมรู้สึกเป็นกังวลและกลัวทำงานล่ม ความเครียดก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางกาย จนผมปวดท้องอยากไปเข้าห้องน้ำ

ผมเลยขออนุญาตลุกไปทำธุระก่อนที่มันจะเรี่ยราดประจานความตื่นเต้นของตัวเอง

ตอนผมเดินออกไปจากโต๊ะได้ยินเสียงหัวเราะขำของท่านประธานสองหน้ากับผู้อำนวยการสาวเปรี้ยวที่หางานให้ผม

หัวเราะกันเข้าไป ทำให้คนกังวลใจได้นี่มันน่าสนุกนักเหรอ เดี๋ยวก็เบี้ยว หมกตัวอยู่ในห้องน้ำ ไม่ยอมขึ้นซะเลยนี่

ทว่า ผมไม่จำเป็นต้องแกล้งเบี้ยวไม่ขึ้นเวทีไปร้องเพลง เพราะมีคนที่หมั่นไส้ ไม่ชอบขี้หน้าผมจัดการให้เสร็จสรรพ

ขณะที่ผมเดินเข้าห้องน้ำและทำธุระเสร็จเรียบร้อย กำลังจะเดินออกมา ผมก็ถูกปิดล้อมด้วยคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าอลังการที่ใช้ในการแสดงโชว์บนเวที

ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าพวกเขาได้แสดงเป็นชุดสุดท้าย แต่การแต่งหน้าตาที่หนาเตอะ และการทำผมทำเผ้าที่แปลกไป ทำให้ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นใครจนกระทั่งตัวหัวหน้าพูดขึ้นมา

“กลัวจนฉี่ราดเลยหรือไงไอ้อ่อน”

ไอ้คนอันธพาลเมื่อตอนกลางวันและตอนหัวค่ำนั่นเอง ตามมาราวีผมถึงในห้องน้ำเลยเชียวนะ

“ขอโทษทีครับ หลีกทางผมหน่อย ผมจะกลับเข้าไปในงาน เดี๋ยวไม่ทัน”

ผมไม่ตอบคำถามนั้น แต่ขอร้องเขาอย่างสุภาพ ตอนนี้อยากเข้าไปในงานเต็มแก่แล้ว

ต่อให้ต้องขึ้นไปร้องเพลงแล้วล่มกลางครันเพราะประหม่า ก็ยังดีกว่าจะหายไปนานเพราะมีเรื่องมีราวกับคนกลุ่มนี้ ผมไม่อยากให้เคลวินไม่สบายใจที่ลูกน้องตัวเองมาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“กลัวไม่ได้ขึ้นเวที พรีเซนต์เฟซเหรอวะ อยากได้หน้าไปถึงไหนกัน ที่ผ่านมา มึงยังได้หน้าไม่พอหรือไง อยากให้ผู้ใหญ่ปลื้มมึงจนยกก้นลอยฟ้าไปถึงไหน”

คำพูดแต่ละคำบ่งบอกถึงความต่ำทรามของจิตใจคนพูดได้ดี

“กูยังไม่ให้มึงไปไหนทั้งนั้น จนกว่ามึงจะขอโทษกูก่อน ไอ้อ่อน”

“ผมขอโทษครับ”

เอ่ยปากขอโทษพวกเขาอีกครั้ง ไม่ได้กลัวพวกมากกว่า เพราะอย่างดีก็สู้แค่ตาย หากพวกเขาจะหาเรื่องจริงๆ แต่ผมอยากให้มันจบๆไป เพราะตอนนี้คงใกล้จะถึงเวลาที่เป็นคิวการแสดงของผมแล้ว ไม่อยากให้ใครเป็นกังวล

“ไม่ได้ ต้องกราบตีนกูก่อน”

อะไรเนี่ย มันจะมากไปแล้วนะ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เหยียบตีนพวกเขาก็ไม่ได้ทำ เรื่องการแข่งขันที่แพ้ มันก็แค่เป็นเหตุสุดวิสัย ผมอุตส่าห์ขอโทษให้เรื่องมันจบ ทำไมต้องให้ผมทำถึงขนาดกราบตีนด้วย ขอมากไปแบบนี้ ใครจะไปยอม

“เร็วๆสิ กราบตีนพี่เขาก่อน มึงจะได้ออกไปเสนอหน้าร้องเพลงบนเวทีไง”

พวกเพื่อนๆของนักเลงโตที่มาด้วย ร้องบอกให้ผมทำตาม แต่ผมยืนนิ่งไม่ปฏิบัติตามคำขู่ที่มันมากจนเกินงาม
“อยากโดนดีหรือไง บอกให้กราบตีนกูเป็นการขอโทษ ก็กราบสิ”

หัวโจกที่มีเรื่องกับผม ขู่กรรโชกโฮกฮาก ทำตัวเหมือนนักเลงอันธพาล ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีคนนิสัยแบบนี้อยู่ในบริษัทของเคลวินด้วย

ผมมองใบหน้าถมึงทึง และดวงตาแดงก่ำของคนพูด มีกลิ่นเหล้าโชยฉุยมาจากปากของเขาเวลาพูด ฤทธิ์เหล้าผสมกับนิสัยอันธพาลส่วนตัวเลยทำให้เขาสำแดงความหยาบกระด้างออกมาให้เห็นอย่างน่ารังเกียจ

“ไม่”

ผมยืนกรานเสียงแข็ง แม้ผมจะคนเดียวต้องต่อสู้กับพวกหมาหมู่ผมก็ไม่หวั่น คนเราก็ต้องมีศักดิ์ศรี ด่าผมแบบจิกหัว ผมก็สู้ทน ไม่อยากมีเรื่องให้เคลวินไม่สบายใจ แต่ถ้าถึงขนาดต้องก้มกราบกรานคนเลวๆพวกนี้ เห็นทีจะทำไม่ได้ มีเรื่องก็คงต้องยอม

“อยากลองดีเหรอมึง นึกว่ามีพวกผู้ใหญ่คุ้มหัว แล้วมึงจะกร่างกับใครก็ได้งั้นเหรอ สงสัยต้องสั่งสอนให้รู้จักสำนึกเสียบ้าง”

คนพูดทำหน้าตาเหี้ยมเกรียม เขาย่างสามขุมเข้ามาหา ในขณะที่ผมกำหมัดขึ้น เตรียมต่อสู้ เดชะบุญที่ผมกับนักเลงโตไม่ต้องวางมวยกันให้ขายหน้า เพราะขณะที่เขาเต้นฟุตเวิร์คเข้ามาหา เตรียมต่อยผมให้ล้มคว่ำแบบนักมวยที่ไล่อัดคู่ต่อสู้ ระฆังก็ตีบอกหมดเวลาเสียก่อน

“ทำอะไรกัน ใครกร่าง ใครมีคนคุ้มกะลาหัว”

น้ำเสียงห้วนและวางอำนาจ ดังขึ้นทางเบื้องหลังของนักเลงโตกลุ่มนั้น ทั้งหมดรวมทั้งผมด้วย หันไปมองทางต้นเสียง

เคลวินยืนอยู่ตรงช่องประตู เขามองมาด้วยใบหน้าถมึงทึง ท่าทางโกรธจัด ไอ้นักเลงโตที่วางก้ามข่มขู่ผมเมื่อครู่หน้าถอดสี เขาถลึงตาใส่ผมเป็นเชิงให้หุบปากเงียบ ก่อนที่จะค่อยๆหันไปทำท่าพินอบพิเทาประธานบริษัท

“ไม่มีอะไรครับท่าน เรากำลังซ้อมละครกันอยู่ ใช่ไหมหือเคน”

ไอ้หมอนั่นทำท่าประจบประแจง และเรียกชื่อผมอย่างสนิทสนม เคลวินหรี่ตามองพวกนั้น ท่าทางไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่พวกนั้นพูดสักเท่าไหร่

“แล้วพวกคุณซ้อมเสร็จหรือยัง ถ้าซ้อมเสร็จแล้ว ก็กรุณาหลีกทางหน่อย ผมจะเข้าไปใช้ห้องน้ำบ้าง”

เขาพูดเสียงเข้ม พวกนั้นคงพิจารณาแล้วว่าการต่อกรกับฝรั่งที่ตัวโตกว่าตัวเองมาก แถมซ้ำเป็นถึงประธานบริษัทที่มีอำนาจเด็ดขาดในการชี้เป็นชี้ตายชีวิตการทำงานของพวกเขาได้ เป็นเรื่องที่โง่อย่างยิ่ง สู้สงบปากสงบคำล่าถอยดีกว่า

จึงพากันหลบออกจากห้องน้ำไป ผมรู้ดีว่าพวกเขาแค่ไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ จนกว่าจะจัดการผมได้ เพียงแต่ไม่ต้องการมีเรื่องกับผมต่อหน้าท่านประธานเท่านั้น มันเป็นการท้าทายเกินไป จากนี้ผมคงต้องระวังตัวเพิ่มขึ้น เพราะอาจจะถูกพวกนั้นลอบกัดเอาเมื่อไหร่ก็ได้ จนกว่าจะเห็นผมพ่ายแพ้ยอมสิโรราบให้กับพวกเขา

ทันทีที่พวกนั้นลับตาไป เคลวินก็ปราดเข้ามาถามไถ่ผมด้วยความห่วงใย มือไม้ก็จับต้องเนื้อตัว ตาสำรวจไปทั่วว่าผมมีบาดแผลอะไรหรือเปล่า เห็นอากัปกริยาของเขาแล้ว ผมก็เต็มตื้นไปทั้งหัวอก ตระหนักได้ถึงความรักที่เขามีต่อผม มันมากมายจนผมเองก็พ่ายแพ้ในความจริงใจของเขา

“เป็นอย่างไรบ้างครับ พวกนั้นทำร้ายเคนบ้างไหม”

น้ำเสียงของเขาร้อนรน ความกังวลใจฉายชัดให้เห็นในใบหน้า เคลวินผู้เย็นชาและเคร่งขรึมกลายเป็นคนสติแตกขึ้นมาทันตาเห็น

ผมคาดเดาเอาว่าเขาคงมาได้ยินการทุ่มเถียงของผมกับคนพวกนั้นได้สักระยะ จนเกิดเป็นความวิตกและโกรธขึ้นมา

เคลวินคงห่วงกลัวว่าผมจะโดนทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บ ผมต้องจับมือเคลวินมาบีบเอาไว้ ไม่ให้เขาวิตกไปมากกว่านี้

“ไม่ครับ เคลวินมาเร็วไป ถ้ามาช้ากว่านี้ พวกนั้นอาจจะสลบเหมือดเพราะถูกผมน็อคเอาก็ได้”

พูดเล่นโอ้อวดตนให้เขาขำ เพื่อคลายความกังวลใจของเขา เคลวินมองค้อนผม แล้วพูดเสียงเครียด

“ทำเป็นปากดี มันไม่ตลกเลยนะครับ ตัวแค่นี้จะไปสู้พวกนั้นได้ไง พวกนนั้นตัวใหญ่กว่าคุณตั้งเยอะ พวกก็มากกว่า

ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่า บริษัทของผมจะมีอันธพาลในคราบพนักงานอยู่ด้วย คอยดูนะ กลับไปถึงบริษัทเมื่อไหร่ ผมจะเรียกคนพวกนี้มาเล่นงานให้สาสมกับความกักขฬะของพวกเขา”

เคลวินพูดอย่างโมโห เขาคงโกรธแทนผมที่ถูกพวกนั้นกระทำ ผมบีบมือใหญ่ที่อยู่ในมือของผม แล้วพูดเสียงนุ่มนวลเพื่อให้เขาเย็นลง

“อย่าเลยครับ มันเป็นปัญหาระหว่างผมกับพวกเขา หากเคลวินลงมายุ่งเกี่ยวด้วย มันจะยิ่งไปกันใหญ่ เขาจะหาว่าผมช่างฟ้อง และกล่าวหาว่าคุณลำเอียงไม่เป็นธรรม

เคลวินอยู่เฉยๆ ดีกว่านะครับ ปล่อยให้ผมกับพวกเขาจัดการแก้ปัญหากันเองดีกว่านะครับ”

“แล้วถ้าพวกนั้นทำร้ายคุณล่ะครับ”

เขายังคงมีสีหน้ากังวล

“เขาคงไม่กล้าหรอกเคลวิน เราเป็นพนักงานบริษัทนะครับ ไม่ใช่นักเลงโต กฎระเบียบของบริษัทก็มี ถ้าพนักงานทะเลาะกัน ก็มีโทษตั้งแต่ถูกทำทัณฑ์บน พักงาน และไล่ออก เขาคงไม่อยากเสี่ยงตกงาน เพราะเรื่องแค่นี้หรอกครับ”

ผมพูดเพื่อให้เขาสบายใจ แม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจนักว่าพวกนั้นจะทำอะไรผมหรือเปล่า สู้กันซึ่งๆหน้าผมไม่กลัวหรอก แต่ผมกลัวการลอบกัดมากกว่า

“แต่ผมก็ยังไม่วางใจเลย คนพวกนี้อาจจะหาทางแกล้งเคนก็ได้ ให้ผมจัดการดีกว่าไหมครับ”

เขายังคงดื้อที่จะจัดการพวกนั้นด้วยตัวเอง แต่ผมขอร้องเขาว่าให้ปล่อยมือจากเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้เขาถูกลากมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้ใครนินทาว่าร้ายให้เสียหาย เรื่องของพนักงาน อยากให้จัดการเคลียร์กันเอง พนักงานทะเลาะกันไม่ถูกกัน เขาทำหน้าที่แค่วางตัวเป็นกลางไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่งั้นเขาจะโดนคนอื่นสงสัยในความบริสุทธิ์ยุติธรรม และคนอาจจะเสื่อมศรัทธาในตัวเขาและหันหลังให้เขาก็ได้

เคลวินยอมรับแต่โดยดี เขายอมรับกับผมว่า ความห่วงใยที่มีต่อตัวผม และความใกล้ชิดสนิทสนมกันทำให้เขารู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร เขารู้ว่าผมเป็นคนดี และคนดีไม่ควรจะถูกคนอื่นทำร้าย เขาเลยอยากจะช่วยเหลือ ผมก็ปลอบเขา บอกให้เขาทำใจให้สบาย มันเป็นปัญหาที่ผมต้องแก้ และผมต้องผ่านมันไปให้ได้

เมื่อทำให้เขาคลายความกังวลได้แล้ว ผมก็ดักคอเขาว่ามาตามผมใช่ไหม เขาก็ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ บอกว่าเห็นผมหายไปนาน เลยมาตาม เพราตอนนี้ นักร้องรับเชิญ ร้องกันไปสามคนแล้ว ร้องเสร็จมีสัมภาษณ์ ก็พอถ่วงเวลาได้บ้าง ตอนนี้ก็น่าจะได้คิวของผมแล้ว พูดจบก็ชวนผมออกจากห้องน้ำ ตอนที่เดินออกมาก็เห็นเงาคนแว๊บๆหลังเสาแถวหน้าห้องน้ำ แต่ผมไม่ได้หันไปมองให้ชัดๆ เพราะมัวแต่รีบ และใจก็คิดว่าคงไม่มีใครมาแอบฟังเราสองคนคุยกันหรอก ผมจึงเดินจ้ำอ้าวๆ ตามเคลวินกลับเข้าห้องจัดเลี้ยง ซึ่ง พิธีกรกำลังประกาศเรียกชื่อผมพอดี ผมรีบวิ่งขึ้นเวทีแทบไม่ทัน

“จะร้องเพลงอะไรครับ”

พิธีกรถามผม ซึ่งผมก็กระซิบบอกชื่อเพลงให้เขาฟัง แล้วหันไปบอกกับนักดนตรีว่าผมจะร้องเพลงอะไร โชคดีที่นักดนตรีสามารถเล่นเพลงนี้ได้ ผมจึงไม่ต้องหาเพลงใหม่

เพลงที่ผมจะร้องนี้เป็นเพลงลูกทุ่ง ผมเคยฟังตอนอยู่ที่บ้านเดิม และร้องตามบ่อยๆ มันเป็นเพลงที่มีความหมายดี และผมเลือกเพลงนี้เพื่อมอบให้แก่ใครบางคน ....ใครคนนั้นที่มอบความรักความหวังดีให้ผมเสมอมา ขอบคุณที่ยังรักกัน ของหลวงไก่

เพลงปลากรอบ -- ขอบคุณที่ยังรักกัน --หลวงไก่

อยากขอบคุณอีกสักครั้ง ที่เธอยังไม่ทอดทิ้งกัน
ที่เธอนั้นยืนข้างฉัน ในวันที่ไม่มีใคร
ในวันที่ฉันล้มลง ในวันที่ฉันร้องไห้
วันที่ต้องเหงาเดียวดาย เธออยู่ข้างกายเสมอ

ขอบคุณฟ้าและสวรรค์ ที่ให้เราได้มารักกัน
แต่งเติมชีวิตของฉัน เติมฝันให้เต็มหัวใจ
ขอบคุณที่เธอรักกัน ขอบคุณที่เธอมั่นใจ
ด้วยศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายให้เธอมั่นใจได้เลย

ผู้ชายคนนี้สัญญา จะเก็บรักษาใจเธอ
จะรักให้สมที่เธอ มอบใจของเธอให้ฉัน
จะดูแลรักตัวเธอ ให้เท่าที่เธอรักฉัน
ตราบใดที่เธอรักกัน คำมั่นคือฉันรักเธอ

อยากขอบคุณอีกพันครั้ง ฉันว่ามันคงยังน้อยไป
ในตอนนี้ไม่มีคำใด จะอธิบายใจฉัน
ตอนนี้พูดได้คำเดียว ขอบคุณที่เธอรักกัน
แต่นี้และทุก ทุกวัน ฉันจะรักเธอคน

ผู้ชายคนนี้สัญญา จะเก็บรักษาใจเธอ
จะรักให้สมที่เธอ มอบใจของเธอให้ฉัน
จะดูแลรักตัวเธอ ให้เท่าที่เธอรักฉัน
ตราบใดที่เธอรักกัน คำมั่นคือฉันรักเธอ

ผู้ชายคนนี้สัญญา จะเก็บรักษาใจเธอ
จะรักให้สมที่เธอ มอบใจของเธอให้ฉัน
จะดูแลรักตัวเธอ ให้เท่าที่เธอรักฉัน
ตราบใดที่เธอรักกัน คำมั่นคือฉันรักเธอ

จะดูแลรักตัวเธอ ให้เท่าที่เธอรักฉัน
ตราบใดที่เธอรักกัน คำมั่นคือฉันรักเธอ

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 28-01-2009 19:47:52
มีความเงียบงันเกิดขึ้น หลังจากที่เพลงจบไป ผมยืนนิ่งอยู่บนเวที ใจเต้นระทึก

อยากรู้ว่าเพื่อนพนักงานจะมีปฏิกิริยาใดบ้างเมื่อฟังเพลงที่ผมร้องจบลงไปแล้ว การที่พวกเขาเงียบกันทั้งห้องทำให้ผมใจเสีย

ผมคงจะร้องเพลงได้ไม่ดีจนพวกเขาทนฟังกันไม่ได้ การแสดงของผมคงไม่น่าประทับใจ และอาจจะทำให้เคลวินขายหน้าไม่น้อยที่มีลูกน้องไม่ได้เรื่อง

ทว่าขณะที่ผมกำลังจะถอดใจอยู่นั้น เสียงปรบมือก็ดังขึ้น จากเปาะแปะ ไม่กี่คน กลายเป็น 10 เป็นร้อยคน

แม้ว่าเสียงปรบมือที่ได้ยินจะไม่ได้ดังอย่างท่วมท้นจากคนทั้งห้อง แต่แค่มีบางส่วนที่ยอมรับ ผมก็ดีใจยิ้มแก้มแทบแตกแล้ว

หันไปมองทางโต๊ะผู้บริหาร ก็เห็นเคลวินยิ้มหน้าบาน ดูเหมือนว่าเขาจะแสดงความดีใจออกมานอกหน้าภูมิใจยิ่งกว่าผมเสียอีก

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก และโค้งคำนับไปรอบทิศ รู้สึกดีจริงๆ ที่มีคนยอมรับในตัวผม มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากที่สุดนับตั้งแต่ร่วมเดินทางมาเที่ยวกับพนักงานบริษัทในครั้งนี้

พิธีกรเรียกผมไปสัมภาษณ์ตามธรรมเนียม ถามชื่อจริง ชื่อเล่น ทำงานอยู่ฝ่ายไหน ใครเป็นหัวหน้า ทำงานมานานหรือยัง

ทุกคำถามเกี่ยวข้องกับผมและบริษัท ผมก็ตอบไปอย่างตื่นเต้น ตอบผิดตอบถูก คนก็ฮากัน ความประหม่าของผมเป็นเรื่องที่ทำให้คนตลก แต่ผมก็รู้สึกดี

อย่างน้อยๆ พวกเขาก็ยิ้มให้ผมแล้ว ต้องขอบคุณท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงินที่ส่งชื่อผมให้ขึ้นมาร้องเพลง ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ได้สัมผัสช่วงเวลาความสุขที่มีคนยอมรับเราได้มากขนาดนี้

สัมภาษณ์เสร็จ ผมก็ลงมาจากเวที เพื่อให้พิธีกรได้ดำเนินรายการอื่นๆต่อไป ตอนที่เดิมกลับมาที่โต๊ะ ผมเห็นหลายคนมองมาทางผม

คราวนี้มีสายตาที่ชื่นชม อยากรู้จัก แทรกมากับสายตาที่ไม่เป็นมิตร ความตื่นเต้นดีใจทำให้ผมแข้งขาสั่น นึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ วันที่มีคนรู้สึกดีๆกับเราบ้าง หลังจากเราตกอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่เข้าใจ และไม่ยอมรับเราเป็นพวกมานาน

เดินมาถึงโต๊ะ สิ่งที่ผมเห็นเป็นสิ่งแรกคือรอยยิ้มหวานของเคลวิน เขาส่งยิ้มให้ทั้งปากและตา โดยไม่ได้เกรงกลัวเลยว่าจะมีคนเห็น ปากเกือบจะฉีกไปถึงหู

เขายิ้มให้ผมตั้งแต่ตอนอยู่บนเวที พอลงมานั่งข้างๆเขา ก็ยังยิ้มไม่หยุด ไม่รู้จะดีใจอะไรกันนักหนา แถมซ้ำพอผมจ้องเขาอย่างงงๆที่เห็นเขายังไม่หยุดยิ้ม เขาก็ทำหน้าเหมือนอายผม

“ไม่ยักจะรู้ว่าเคนร้องเพลงเพราะเหมือนกันนะ”

ท่านผู้อำนวยการที่ส่งผมขึ้นไปร้องเพลง กล่าวชมเชยผม ทำให้ผมละสายตาจากเคลวินและหันมาให้ความสนใจกับเธอทันที

ผมกล่าวขอบคุณเธอ และพูดถ่อมตัวว่าผมร้องไม่เก่ง รู้สึกประหม่ามากๆเลยที่ขึ้นไปร้องบนเวที และให้ขึ้นอีกก็คงไม่กล้าแล้ว

ท่านก็ดุผมว่ามีความสามารถแล้วจะนั่งปกปิดอยู่ทำไม ท่านผู้บริหารคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในโต๊ะก็สนับสนุนความคิดของเธอด้วย ผมเลยยกมือไหว้ กล่าวขอบคุณพวกเขารอบโต๊ะ รู้สึกดีที่พวกเขาเห็นความสามารถของผม

“คุณเคลวินมีลูกน้องเก่งงาน แถมยังร้องเพลงเพราะอีก ต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ให้เขาอยู่กับบริษัทเรา อย่าให้เขาไปอยู่ที่อื่นนะ เสียดายแย่”

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกล่าวกับประธานเคลวิน ผมเห็นเขานั่งอมยิ้ม ท่าทางภูมิใจในตัวผมไม่น้อย จนผมรู้สึกเขิน ผมก็แค่ร้องเพลง ไม่ได้ทำอะไรให้พวกเขารู้สึกว่าผมเก่งกว่าใครต่อใครเสียหน่อย

“ใช่ๆ เดี๋ยวเกิดมีค่ายเทปมาซื้อตัวไป จะทำให้บริษัทสูญเสียบุคลากรรุ่นใหม่ไฟแรงไปคนหนึ่ง”

สาวเปรี้ยวคนเดียวในกลุ่มสนับสนุนคำพูดของผอ.ฝ่ายการตลาด ผมได้แต่กล่าวขอบคุณพวกเขา ที่รู้สึกดีกับผม

รู้สึกดีที่เคลวินให้โอกาสผมได้เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารระดับสูงด้วยบ่อยๆ ความตั้งใจทำงาน คงจะทำให้พวกเขาได้เห็นว่าผมมุ่งมั่นทุ่มเทเพียงไร จนพวกเขาวางใจในตัวผม และเห็นว่าเป็นบุคลากรที่สำคัญคนหนึ่งของบริษัท

“ผมเชื่อมั่นว่า เคนคงไม่ทอดทิ้งพวกเราไปเป็นนักร้องให้ค่ายเทปใดๆแน่นอนครับ”

เคลวินกล่าวอย่างมั่นใจ ก่อนจะสบตาผมหวานฉ่ำ จนผมต้องเบือนหน้าหนี ด้วยกลัวว่าท่านประธานสองหน้าจะแสดงอาการอะไรมากมา

ย ดูเหมือนวันนี้เขาจะครึ้มอกครึ้มใจเป็นพิเศษ ตั้งแต่ชนะการแข่งขันแล้ว เขาก็ไม่ค่อยเก็บอาการอะไรเลย ยิ่งตอนผมเดินลงมาเวทีหลังจากร้องเพลงเสร็จ เขาก็ทำตาหวานใส่ผมตลอด

กลายเป็นว่าคนที่เป็นฝ่ายกลัวว่าจะมีคนสังเกตเห็นและเอาไปนินทาว่าร้ายให้เสียหาย กลับเป็นผมเสียเอง ผมไม่อยากให้ใครตำหนิประธานบริษัทด้วยเรื่องของผม กลัวคนจะเสื่อมศรัทธาในตัวเขา และส่งผลกระทบต่อบริษัท

เมื่อเคลวินแสดงความมั่นใจในตัวผมแบบนี้ ผมก็เลยให้คำมั่นสัญญากับทุกคนว่าผมจะไม่ทิ้งที่นี่ไป ผมชอบที่นี่ แล้วทุกคนก็ดีกับผมมากๆ

ผมขอบคุณทุกๆคนที่ให้โอกาสผมได้เรียนรู้งาน ถ้าพวกเขาไม่ให้ความเมตตากับผม ผมคงไม่สามารถจะทำงานได้สำเร็จลุล่วง

คำกล่าวนอบน้อมของผมคงเป็นที่พึงพอใจของทุกคน เพราะท่านผู้บริหารที่นั่งอยู่ในโต๊ะก็รุมกันให้คำแนะนำผมในการทำงานกันยกใหญ่

ตอนนี้ทั้งโต๊ะก็กลายเป็นการสัมมนาวิชาการย่อยๆกัน โดยที่มีวิทยากรหลายคนและมีผมเป็นผู้ฟัง

บนเวที มีการแสดงหมุนเวียนเปลี่ยนไปเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับพนักงาน สักพักก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย คือการประกาศผลการประกวดการแสดงจากฝ่ายต่างๆ

คณะกรรมการได้รวบรวมคะแนนจากพนักงานและคณะกรรมการเรียบร้อยแล้ว พิธีกรเชิญเคลวินขึ้นไปบนเวทีเพื่อมอบรางวัลให้กับทีมผู้ชนะ

บรรยากาศในห้องเงียบลงอีกครา ทุกคนตั้งใจรอฟังผล พลางลุ้นไปด้วยว่าทีมที่ตัวเองเชียร์จะติด 1 ในสามของทีมที่ชนะรางวัลหรือเปล่า

เสียงดนตรีดังเป็นจังหวะตื่นเต้นขณะที่พิธีกรประกาศรางวัล โดยเขาเริ่มประกาศจากรางวัลสุดท้ายคือรองอันดับ 2 มาก่อน จนถึงรางวัลผู้ชนะเลิศ

ทันทีที่ประกาศจบไปแต่ละรางวัล เสียงเฮก็ดังขึ้น เมื่อทีมที่ตัวเองเชียร์ได้รางวัล และนักแสดงก็วิ่งกรูกันขึ้นมาบนเวที รับรางวัลเสร็จก็ถ่ายภาพกับท่านประธาน แสงแฟลชพรึ่บพรั่บไปหมด คนได้รับรางวัลก็หน้าบานอย่างมีความสุข

ทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ เป็นทีมจากฝ่ายการตลาด ท่านผู้อำนวยการกระโดดลุกขึ้นเชียร์สุดตัวอย่างดีอกดีใจ ที่พนักงานในฝ่ายสามารถทำการแสดงจนเป็นที่ยอมรับ แถมยังวิ่งขึ้นไปถ่ายรูปร่วมกับทีมจากฝ่ายตัวเองอีกด้วย

งานนี้เธอให้ความเป็นกันเองกับพนักงานสุดฤทธิ์ ไม่มีถือเนื้อถือตัว ไม่ได้สวมหัวโขน แต่ถือว่าตัวเองเป็นพนักงานคนหนึ่งที่มีสิทธิ์จะทำตัวกรี๊ดกร๊าดได้ ไม่ต้องรักษาภาพ เพราะเป็นงานรื่นเริงสนุกสนานที่ไม่ต้องมีฟอร์มกันแล้ว

หลังจากประกาศรางวัลไปจนครบทุกรางวัลแล้ว ก็เป็นการปล่อยเวทีให้ว่างลง เพื่อให้นักดนตรีได้เล่นเพลงสนุกสนาน เป็นการปิดท้ายอำลางานปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้ โดยจะปล่อยฟรี 1 ชั่วโมง ใครต้องการออกมาร้องเล่นเต้นรำ ก็สามารถทำได้

มีพนักงานที่ใจกล้าออกมาเต้นหน้าเวทีอย่างสนุกสนาน ท่านผู้บริหารหลายคนถูกพนักงานมาโค้งเชิญออกไปเต้น

ซึ่งแต่ละท่านก็ทำตัวน่ารักยอมเดินออกไปแต่โดยดี เคลวินเองก็ถูกห้อมล้อมด้วยพนักงานทั้งสาวและไม่สาว ที่ดึงเขาไปเต้นไม่ยอมให้กลับเข้ามานั่งโต๊ะ

ผมนั่งมองพวกเขาที่ออกไปวาดลวดลายบนฟลอร์อย่างรู้สึกสนุกสนานตามไปด้วย ซักพัก ก็มีพนักงานสาวคนหนึ่งที่ใจกล้ามาชวนผมออกไปเต้น

ผมรู้สึกอายเพราะเต้นไม่ค่อยเก่ง แต่เพื่อไม่ให้เธอหน้าแตกที่เชิญผมแล้วผมไม่ไป ผมก็เลยเดินตามเธอออกไปเต้นเก้ๆกังๆหน้าเวทีกับเขาด้วย

เต้นไปก็เผลอไปเหยียบเท้าคนชวนบ้าง มือไม้ไปกระแทกคนอื่นบ้าง ก็ต้องขอโทษขอโพยกันใหญ่

เต้นไปเต้นมาก็ชักรู้สึกสนุก มีสาวๆหลายคนเห็นผมเต้น ก็มารายล้อมเต้นกับผมด้วย ผมก็เต้นกับพวกเธอเหล่านั้น

รู้สึกขอบคุณที่พวกเธอให้เกียรติผม ทำให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่ผมสนุก และรู้สึกดีที่ได้รับมิตรภาพจากพนักงานบริษัทด้วยกัน หลังจากที่ทุกคนมองผมอย่างระแวงแคลงใจ และไม่เป็นมิตร

จังหวะที่เต้นๆนั้น ตาผมก็มองไปทั่ว คอยสังเกตว่าคนอื่นเขาเต้นอย่างไร จะได้เต้นเป็นกับเขาบ้าง เนื่องจากผมเหยียบเท้าสาวๆเหล่านั้นจนรู้สึกเกรงใจพวกเธอ

พลันสายตาผมก็สบเข้ากับตาสีฟ้าคู่งามที่มองจ้องมายังผม และได้เห็นความรู้สึกภูมิใจปนหวงแหนนิดๆอยู่ในดวงตาคู่นั้น ทำให้ผมรู้สึกหนาวนิดๆ

ด้วยความที่เต้นไปมองเคลวินไปด้วย กลัวเขาจะแสดงท่าไม่พอใจออกมาให้คนอื่นๆเห็น ทำให้ผมไม่ทันระวังตัว

จนเต้นไปชนกับใครบางคน ผมหันไปจะขอโทษแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นตาเขียวปัด จ้องตอบกลับมา ดวงตาคู่ที่ผมเห็นตอนไปเข้าห้องน้ำ ดวงตาของอันธพาลในคราบนักเลงโต เจ้าตัวหัวโจกที่หาเรื่องผม

วันนี้คงเป็นวันซวยของผมจริงๆ ที่ทำให้วงโคจรชีวิตของผมต้องไปมีเรื่องกับพนักงานคนนี้อยู่ตลอดเวลา และหนนี้ผมผิดจริงๆที่ไปชนเขา

ทว่าในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี เพราะข้างหลังผม เป็นเคลวินซึ่งยืนเต้นอยู่กับท่านผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน

อันธพาลที่มีเรื่องกับผม มองข้ามหัวของผมไป หน้าของเขาเครียดขึ้ง เขามองไปด้านหลัง แล้วสายตาของเขาก็กลับมามองที่ผม

มีแววตาดุดันเหี้ยมเกรียมอยู่ในดวงตาคู่นั้น ก่อนที่เขาจะหมุนตัวแล้วหันไปเต้นกับคู่ของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมไม่รู้สึกสนุกอีกต่อไป จึงขอตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะ ปล่อยให้สาวๆสนุกกันต่อไป ผมนั่งมองดูคนเหล่านั้นเงียบๆสักพัก เคลวินก็เดินตามมานั่งที่โต๊ะ

“มีอะไรหรือเปล่าเคน”

น้ำเสียงของเขาแสดงความห่วงใย จนผมรู้สึกผิดที่ทำให้เคลวินหมดความสนุกตามไปด้วย

“ไม่มีอะไรครับ ผมแค่เต้นไปชนเขา คราวนี้ผมผิดเอง แล้วผมก็ขอโทษเขาแล้วครับ”

รายงานให้เขาทราบ เคลวินจะได้สบายใจ

“กลับที่พักดีไหมครับ”

เขาเอ่ยชวน แล้วก็หน้าแดง ผิดวิสัยเคลวินที่ชอบทำหน้ามึนและหื่นตลอดเวลา

“เคลวินอยากกลับแล้วหรือครับ”

---------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 28-01-2009 19:54:05
งั้นเอาไปอีกบวกหนึ่ง    :impress2:

ที่ขยันโพสต์จ้า!
***
“เคลวินอยากกลับแล้วหรือครับ”

กลับเลยครับ>>  แล้วNC  ต่อเลย

555+





หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 28-01-2009 20:07:04
http://media.imeem.com/m/ekAtoWPEf6

เพลงที่เคนร้องให้เคลวิน  :-[ ซึ้งๆ

แล้วเคลวินก็ชวนเคนกลับห้อง  :z1: งานนี้มีลุ้น
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 28-01-2009 22:04:49
อูยยยย หายไปแป๊บเดียว ตอนที่ 53 แล้วเหรอ

มีร้องเพลงให้กันด้วย แอร๊ยยยยย หวานซะ

พลิกๆ อ่านถึงหน้าไหนแล้วหว่า
ขอตัวชะแว๊บไปกอดท่านประธานกะท่านเลขาก่อนนะคร๊าบบบบ :กอด1:

 :กอด1: กอดคนโพส กะ คนแต่งด้วยฮับ อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 28-01-2009 22:12:18
เคลวินอยากกลับที่พัก



อิอิ :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 29-01-2009 00:24:06
รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ

 :oo1:   :-[

เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 29-01-2009 00:43:22
เคลวินพาเคนไปส่งที่ห้องเลย

ดึกแล้วนะ

นอนได้แล้ว

 :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 29-01-2009 01:30:32
อ้ะ มุบมิบไรไว้อ่ะ

เค้ารอมา 300 ตอนเเล้วนะ

 :oo1: ไปนอนได้แล้วเคน

ดึกแล้ว เป็นห่วงเคนนะ ไม่ได้คาดหวังไรหรอก  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 29-01-2009 08:04:14
ขอบคุณค้าบบบบบบ  :z10:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 29-01-2009 10:02:51
 :o8: หวานซะ.....


กลับบ้านได้แล้วเคน ดึกแล้ว เดี๋ยวนอนไม่พอ..... :haun4:


+ อีก1 ให้คนน่ารักแสนขยัน...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 30-01-2009 15:43:38
 :L2: ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ เรื่องนี้พี่เคทเขียนจบแล้ว และมีตอนพิเศษด้วย อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณน้องมิ้นมากๆนะคะ ที่อาสามาลงให้นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 30-01-2009 16:40:58
:L2: ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ เรื่องนี้พี่เคทเขียนจบแล้ว และมีตอนพิเศษด้วย อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณน้องมิ้นมากๆนะคะ ที่อาสามาลงให้นะคะ

+1 ให้พี่เคทคนเก่ง รออ่านอยู่นะคะ  :L2:


แล้วเรื่องดอกรักสีม่วง  พี่เคทคงไม่หมายความว่าปีใหม่คือปี 53 นะคะ ... :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ┗◎┗◎ ที่ 30-01-2009 18:42:12
น่าร้ากกกกกกก :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 53 :P 28.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 30-01-2009 20:25:27
:L2: ขอบคุณทุกๆท่านค่ะ เรื่องนี้พี่เคทเขียนจบแล้ว และมีตอนพิเศษด้วย อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณน้องมิ้นมากๆนะคะ ที่อาสามาลงให้นะคะ

+1 ให้พี่เคทคนเก่ง รออ่านอยู่นะคะ  :L2:


แล้วเรื่องดอกรักสีม่วง  พี่เคทคงไม่หมายความว่าปีใหม่คือปี 53 นะคะ ... :sad4:


พี่เคทบอกมาว่าจะลงต่อให้หลังจากจบเรื่องนี้ค่ะ


บทที่ 54

-----------------------


“เคลวินอยากกลับแล้วหรือครับ”

ถามเขาอย่างสงสัย เพราะผมยังเห็นเขาสนุกอยู่เลย พนักงานก็พากันดีอกดีใจกับความไม่ถือเนื้อถือตัวของเขา อยากให้เขาร่วมสนุกด้วย ผมไม่อยากให้ความกังวลใจที่เขามีต่อผม ทำให้เขาละเลยต่อพนักงานคนอื่นๆ

“ก็...ผมเห็นเคนดูเหงาๆ เหมือนว่างานมันไม่สนุก แล้วผมก็ไม่อยากให้เคนไปมีเรื่องมีราวกับใครด้วยครับ....”

เขาบอกเหตุผลให้ฟัง ผมรู้สึกตื้นตันในหัวอก เคลวินห่วงผมมากจริงๆ คงเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมแล้วไม่สบายใจ ด้วยนิสัยของเขา ไม่ชอบให้อะไรมันค้างคา

เขาคงอยากจะจัดการกับคนพวกนั้นให้เด็ดขาด แต่ผมขอร้องไม่ให้เคลวินยุ่งเรื่องนี้ เขาก็เลยอึดอัดใจและกังวล ทางเดียวที่เขาจะช่วยผมได้ ก็คือดึงผมออกห่างจากเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นอันตราย

“อย่าห่วงเลยครับ คงไม่มีอะไรหรอก เขาไม่กล้าทำอะไรผมในงานนี้อย่างแน่นอน ขืนทำเกิดถูกไล่ออกมาจะว่าไง”

ให้ความมั่นใจกับเคลวินอีกครั้ง แต่เหมือนเขาจะยังกังวลอยู่ไม่เลิก

“เคลวินอย่าคิดมากสิครับ แล้วก็อย่าส่งสายตากับทำหน้าอ้อนๆแบบนี้กับผมในที่ที่มีคนอยู่เยอะๆแบบนี้สิครับ เดี๋ยวคนเห็นจะทำไง ทำหน้าดุๆเคร่งขรึมแบบเดิมดีแล้วนะ คนจะได้ไม่เอาไปพูดกัน”

เตือนให้เขารู้ตัวว่าเขากำลังหลุดบทบาทของภรรยาออกมาให้เห็นทุกที หากเขาไม่ควบคุมตัวเอง มีหวังความแตก

“เคนกลัวเหรอ”

เขาถามเสียงกระเง้ากระงอด โชคดีที่รอบข้างเราไม่มีคนอยู่ ออกไปเต้นหน้าเวทีกันจนหมด จึงไม่มีใครเห็นเขาทำท่าตัดพ้อผม

“ผมกลัวเคลวินโดนนินทาครับ”

“เคนยังบอกว่ารักผมออกอากาศเลย”

เขาบอกพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ ผมพยายามนึกว่าไปบอกรักเขาออกอากาศตั้งแต่เมื่อไหร่ สักพักก็นึกออก เคลวินคงหมายถึงเพลงที่ผมร้องให้เขานั่นเอง

ที่จริง ผมไม่ได้บอกอะไรให้ใครฟังเลย ทุกอย่างมันอยู่ในใจผมเท่านั้น ผมรู้สึกดีกับเขา ถึงร้องเพลงนี้ออกมา เพื่อบอกให้รู้ว่าผมให้คำมั่นที่จะรักษาความรักที่เขามีต่อผมเอาไว้

จะไม่รังเกียจหรือดูถูกความรักของเขา จะเข้าใจเขาให้มากขึ้น แต่ผมยังไม่ได้บอกรักเขาเป็นกิจลักษณะสักหน่อย เพลงมันพาไปต่างหาก

ใครจะกล้าบอกรักกันต่อหน้าผู้คน เรื่องแบบนี้ต้องเก็บไว้บอกกันสองคนเมื่อมั่นใจแล้วต่างหาก

ผมเถียงเคลวินในใจ ยังไม่อยากยอมรับกับตัวเองตอนนี้ว่าผมรักเขา ผมคงแค่แพ้ความดีของเคลวินที่เขาทำทุกอย่างเพื่อผมแค่นั้น จะให้รักผู้ชายด้วยกัน ผมก็ยังทำใจลำบาก

แม้ว่าจะไม่ได้นึกรังเกียจเรื่องนี้แล้วก็ตาม แต่อนาคตวันข้างหน้ามันก็ไม่แน่ ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่าจะไม่มีทางรักเขา

ถึงทุกวันนี้ผมก็ยอมให้เคลวินหลายอย่างมากแล้ว บางทีผมอาจจะรักเขาในวันข้างหน้าก็ได้ใครจะรู้ แต่ตอนนี้ขอปฏิเสธไว้ก่อนดีกว่า

“เพลงที่เคนร้องเพราะมากเลยนะครับ ผมชอบเพลงนี้นะ”

เคลวินทำตาเยิ้มใส่ผมอีก เห็นท่าจะไม่ได้การแล้ว ดูเหมือนเขาจะถูกบทบาทภรรยาครอบงำมากขึ้นกว่าเดิม ประธานบริษัทผู้เคร่งขรึมถูกเบียดหายไปไหนไม่รู้

ตอนนี้เคลวินพร้อมจะหลอมละลายด้วยความรักที่มีต่อผมได้ทุกเมื่อ คงเป็นเพราะเพลงที่ผมร้องให้เขานั่นเอง ขืนยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่นานคงมีคนสังเกตเห็น

ถ้าเขาจะหวานใส่ผมอีก ก็ชวนไปในที่ลับหูลับตาคนดีกว่า จะได้ไม่มีใครคอยมองและเอาไปนินทาให้เสียหาย

ผมลุกขึ้นยืน แล้วชวนเขากลับบ้าน เคลวินลุกตามอย่างว่าง่าย ผมยืนนิ่งยังไม่ยอมไป ให้เคลวินเดินนำไปก่อน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นประธานบริษัท เขาต้องเป็นผู้นำ แล้วผมเป็นผู้ตาม ดังนั้นผมจะเดินไปก่อนเขาไม่ได้

ตอนแรกเคลวินก็รีรอจะให้ผมเดินไป แต่พอเห็นผมหยุดให้เขานำไปก่อน เขาคงคิดได้ จึงก้าวเดินฉับๆ โดยมีผมเดินตามไปติดๆ ผมเจอสต๊าฟจัดงานที่หน้าประตูห้องจัดเลี้ยง

เขามองเคลวินกับผมที่เดินออกมา ซึ่งผมก็ทำหน้าที่เลขาในการชี้แจงให้เขาทราบว่าเคลวินง่วงนอน และจะกลับไปพักผ่อน และผมจะไปส่งเขา เพราะพักอยู่ที่เดียวกัน

เขาก็เข้าใจ และก็บอกว่าทางนี้พวกเขาจะดูแลรับผิดชอบไม่ให้เกิดปัญหา ให้ผมรายงานกับเคลวินด้วย ซึ่งผมก็รับปาก ก่อนที่จะเดินตามไปสมทบกับเคลวินซึ่งเดินรีๆรอๆผมอยู่

“เคนร้องเพลงนั้นให้ผมหรือครับ”

พอเราอยู่ด้วยกันสองคน บนทางเดินที่จะไปยังตัวบ้านพัก เคลวินก็ถามผมด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ผมพยักหน้า ไม่ปฏิเสธความจริง ดูเหมือนคำตอบของผมจะสร้างความปลาบปลื้มให้กับเคลวินไม่น้อย เขาเดินมาใกล้ผมมากขึ้น จากเดิมที่เดินรักษาระยะห่างเอาไว้ ไม่ให้คนครหา

“ผมชอบเพลงนั้นที่สุดเลย เคนต้องร้องไห้ผมฟังบ่อยๆนะครับ เคนเสียงดีมากๆเลยรู้ไหม แล้วเพลงนั้นก็เพราะและมีความหมายมากด้วย”

เขาฉอเลาะชวนคุยจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มด้วยความขำเขา เคลวินเวลาอ้อนนี่ดูน่ารักดี บางครั้งก็อารมณ์เหมือนผู้หญิง มีงอนให้ง้อด้วย

“เคนต้องการจะบอกอะไรกับผมเป็นนัยๆหรือเปล่า”

ถามนำทางเพื่อให้ผมตอบในสิ่งที่เขาได้ยิน แต่ใครจะบอกกันล่ะ เรื่องแบบนี้มันก็น่าเขินอยู่เหมือนกันนะ

“อะไรหรือครับ”

แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ก็ที่เคนบอกในเพลงไงครับ ว่าจะเก็บรักษาใจของผม และจะรักผมให้เท่ากับผมมอบใจให้เคนไงครับ”

เคลวินทำน้ำเสียงขึ้นจมูกแบบขัดใจ และทวนเนื้อหาตามเพลงที่ผมร้องบนเวที ผมหัวเราะเบาๆด้วยความขำฝรั่งตัวโต นึกแล้วว่าเขาต้องเอาเพลงของผมมาตีความเข้าข้างตัวเอง ที่จริงจะโทษเขาก็ไม่ถูกเพลงมันหวานซะขนาดนั้น ตอนร้อง ผมก็ส่งสายตามาทางเขาบ่อยๆด้วย ถ้าเขาจะเข้าใจผิด ผมเองก็มีส่วนที่ทำให้เขาเข้าใจแบบนั้นตั้งแต่เลือกเพลงที่ร้องแล้ว

“เคนหัวเราะแบบนี้ จะบอกผมหรือว่า ที่ร้องมานั้น เคนแค่โกหก ไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมแม้แต่น้อย”

เขาทำเสียงน้อยอกน้อยใจ ท่าทางจะงอนจริงๆที่

“เปล่าครับ อย่าเข้าใจผิดนะ ผมร้องเพลงนั้น เพื่อเคลวินจริงๆ ร้องด้วยความรู้สึกจากใจ ผมพูดจริงๆไม่ได้โกหกเลยครับ ผมรู้สึกขอบคุณเคลวิน ที่มอบความรัก ความหวังดีให้กับผม ผมรู้ว่าเคลวินรักผมมาก และผมก็ตั้งใจจะเก็บรักษาความรักที่เคลวินมอบให้ผมไว้ตราบนานเท่านาน...”

ผมอธิบายถึงที่ไปที่มาของการขึ้นไปร้องเพลงนั้นให้เขาฟังว่าผมรู้สึกกับเขาอย่างไร เคลวินเป็นผู้ฟังที่ดี หน้าที่งออยู่เมื่อครู่เริ่มมีรอยยิ้ม

“มีเพียงแค่สิ่งที่ผมยังไม่อาจจะฟันธงลงไปได้ ก็คือความรัก ผมบอกไม่ได้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกรักเคลวินหรือเปล่า ผมก็เลยไม่อยากให้สัญญายังไงครับ เพราะกลัวว่ามันจะเป็นการให้ความหวังกับคุณ แล้วถ้าเกิดผมทำไม่ได้ คุณจะเสียใจเปล่าๆ”

บอกไปตามความเป็นจริง หวังว่าเคลวินคงเข้าใจ คนขี้งอนเงียบไปสักพัก จากนั้นเขาก็พูดกับผมด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“สำหรับผม แค่นี้ก็ถือว่าพอใจที่สุดแล้วครับ ก่อนหน้านี้เคนปฏิเสธผมเสียงแข็งจนผมแทบจะหมดหวังในตัวเคน แต่ตอนนี้เคนยอมตามใจผมหลายเรื่อง และก็ยอมรับว่าเคนเองก็รู้สึกดีกับผม มันทำให้ผมเป็นสุขมากรู้ไหม ...”

ดีจังที่เคลวินยอมเข้าใจ ไม่ดื้อรั้นที่จะเอาคำว่ารักจากผมให้ได้ อย่างน้อยเขาก็ยังให้เวลาผมในการคิด ไตร่ตรอง ว่าอะไรคือสิ่งที่ผมต้องการ

“ผมรอเวลาที่เคนจะรู้ใจตัวเองได้เสมอครับ...ไม่ได้รีบร้อนอะไร ถึงยังไงผมก็ยังมีเวลาอยู่กับเคนอีกนาน ใช่ไหมครับ”

เขาเอาสิ่งที่ผมพูดกับเขามาย้อนเพื่อเอาคำมั่น ผมไม่ตอบว่าอะไร ได้แต่ยิ้มในความมืด และถึงผมไม่ตอบเคลวินก็คงฉลาดพอที่จะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่

“แต่ตอนนี้ ผมแทบไม่อยากรอเลย อยากกลับถึงบ้านพักเร็วๆ แล้วครับ คิดถึงห้องนอน คิดถึงเตียงนุ่มๆ”
“เคลวินง่วงนอนแล้วหรือครับ”

ถามเขาเสียงเย้า ดูท่าเขาไม่น่าจะง่วงสักเท่าไหร่ ผมเห็นตาเขาเป็นประกายใสแจ๋วสะท้อนแสงไฟตามทางเดิน
“อืม...ยังไม่ง่วงหรอก แต่ผมอยากไปเช็คของรางวัลมากกว่า”

พูดจบคนพูดก็หัวเราะอิ๊อิ๊ เป็นเสียงเจ้าเล่ห์ ผมเลยเดาออกว่าเขาหมายถึงอะไร

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 30-01-2009 20:28:11
“ยังจะหื่นอีกนะครับ”

แซวเขาอย่างนึกขำ ความหื่นกลายเป็นโลโก้ติดตัวของเคลวินไปเสียแล้ว

“อ้าว...ผมชนะนี่นา เคนก็ต้องทำตามสัญญาสิครับ หรือว่าเคนจะเบี้ยวล่ะ ผมไม่ยอมจริงๆนะ”

เขาโวยวายกลับ ทำให้ผมต้องจำนน หลวมตัวไปท้ากับเขาเอาไว้ แล้วดันแพ้เสียอีก ก็ต้องยอมรับกติกาโดยดี

“ผมรักเคนนะครับ”

เคลวินพูดกับผมเสียงหวาน หลังจากที่ผมยอมรับที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้ ท่าทางของเคลวินมีความสุขมาก

น่าแปลกที่ผมเองก็เกิดร้อนวูบไปทั้งตัว มีความสุขด้วยเช่นกัน ทั้งที่ผมเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทั้งที่ผมต้องยอมทำตามที่เขาต้องการ แต่ผมกลับไม่มีความรู้สึกที่จะต่อต้านมันแม้แต่น้อย

“คืนนี้ผมต้องมีความสุขอย่างแน่นอน....เคนเดินเร็วๆเถอะครับ”

คนเจ้าเล่ห์เร่งผมยิกๆให้รีบเดิน ผมหัวเราะขำความกระตือรือร้นของเขา เคลวินนี่เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ อยากได้อะไรต้องได้ คิดว่าคนอื่นเขาต้องยอมตามใจตัวเองทุกอย่างหรือไง ผมค่อนว่าเขา แต่ก็เร่งฝีเท้าเดินตามไปโดยดี

ไม่ถึง 5 นาที เราก็ถึงหน้าบ้านพัก เขาหันมายิ้มหวานให้ผม ก่อนจะเอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง ผมเห็นเขาล้วงควักไปมาหลายรอบ พลางทำหน้าตาเลิกลั่ก เหมือนมีบางอย่างหายไป

“มีอะไรหรือครับเคลวิน ทำกุญแจบ้านพักหายเหรอ”

ถามเขาอย่างสงสัยเมื่อเห็นเคลวินทำหน้าไม่ดี

“เอ้อ กุญแจบ้านพักมีครับ แต่ผมหามือถือไม่เจอ สงสัยจะเผลอทำหล่นระหว่างทาง หรือไม่ก็ลืมทิ้งไว้ที่ห้องจัดงานเลี้ยงครับ...”

เคลวินพยายามนึกว่าเขาวางไว้ที่ไหน แล้วก็บอกสถานที่ที่เขาสงสัย

“หาดูดีๆแล้วหรือยัง ลืมไว้ที่ห้องหรือเปล่าครับ”

“ไม่ได้ลืมนะ ปกติ ผมจะเอาติดตัวไปด้วยเสมอ ที่จริงแค่มือถือ ผมไม่ซีเรียสหรอกครับ ถ้าหากว่าในนั้นไม่มีรูปของเคนที่ผมถ่ายไว้”

เขาตบที่กระเป๋ากางเกงของตัวเอง เพื่อยืนยันว่าเขาเอามาไว้ในกระเป๋าจริงๆ เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเขาแล้วผมก็เชื่อว่าเขาพูดจริง ทว่าประโยคต่อมาของเขาสร้างความตกใจให้ผมไม่น้อย

“หา...คลิปหลุดอะไรแบบนั้นหรือเปล่า”

เห็นสีหน้าที่แสดงความกังวลของผม เขาก็หัวเราะออกมา พลางเฉลย

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับเคน ถึงผมจะหื่น แต่ผมก็ไม่ได้โรคจิตนะครับ ผมแค่ถ่ายภาพเคนตอนนอนหลับเอาไว้เท่านั้นเอง เพราะว่ามันน่ารักดี”

“ค่อยยังชั่วหน่อย แต่มันก็ไม่ดีเหมือนกันถ้าใครมาเปิดเห็นเข้า ความลับของเราสองคนแตกแน่ๆ”

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ได้มีเรื่องร้ายแรงอย่างที่คิด แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังวางใจไม่ได้ การมีรูปของผมอยู่ในมือถือของเคลวิน

แล้วเป็นตอนนอนหลับด้วย มันชวนให้จินตนาการได้มากมาย ใครที่มาเปิดเห็นเข้าก็คงสงสัยว่าทำไมเคลวินจึงมีรูปผมซึ่งถ่ายในแบบส่วนตัว คนไม่คิดเห็นรูปก็คงคิดกันไปไกล และคงปะติดปะต่อจนใกล้ความจริง

“นั่นสิ ทำไงดีอ่ะครับ”

หน้าของเคลวินบ่งบอกถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด ผมเลยอาสาจะไปตามมือถือให้เขา เคลวินจะได้สบายใจ และปลอดภัยจากการมีคนมาล่วงรู้ความลับ

“ผมไปลองหาดูให้ไหมครับ”

“อย่าไปเลยครับ อยู่กับผมก่อนก็ได้ เดี๋ยวใช้โทรศัพท์หาดูดีกว่าเพื่อใครเก็บได้ ก็ให้เอามาคืน”

เขาไม่ยอมให้ผมไป แต่ผมเริ่มเป็นกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้เราสองคนต้องระวังตัวให้มาก เพราะมีคนเริ่มรู้เกี่ยวกับเรื่องเราแล้ว

แม้ว่านายชาตรีเองก็มีชะนักติดหลัง มีเรื่องที่ต้องปกปิดด้วยเช่นกัน แต่คนอื่นที่ไม่ใช่นายชาตรี หากบังเอิญมาได้รู้ได้เห็น อาจจะไม่ปิดปากเหมือนผู้จัดการก็ได้

“เดี๋ยวมันจะไม่ทันการณ์นะสิครับ ผมไปหาก่อนดีกว่า จะรีบไปรีบมาครับ”

“เคนอย่าไปนานนักนะครับ ผมคิดถึง”

“รู้ครับ ยังไงผมก็มาทำตามสัญญาอยู่ดี เคลวินรีบเข้าบ้านเถอะครับ ตรงนี้ลมมันเย็น เดี๋ยวจะไม่สบายไปซะ”

ผมรีบไล่ให้เขาเข้าบ้าน จากนั้นก็รีบเดินกลับไปตามทางเก่าที่ผมกับเขาเพิ่งเดินมา สายตาก็สอดส่ายมองหามือถือที่อาจจะหล่นตามข้างทาง แต่ก็ไม่เจอ

ผมเดินมาเรื่อยๆจนถึงสวนหย่อม ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างที่พักกับห้องจัดเลี้ยง ตรงนั้นรกครึ้มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ กลางวันดูร่มรื่น กลางคืนก็ดูเปลี่ยวนิดๆ มีเพียงแสงไฟจากโคมไฟข้างทางที่พอส่องสว่างให้เห็น

ขณะที่ผมกำลังก้มๆเงยๆ มองหาของให้เคลวิน ก็มีเงาวูบผ่าน เข้ามา เมื่อผมเงยขึ้นมอง ก็เห็นโจทก์เก่าของผมยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับเพื่อนชุดเดิม ท่าทางจะเมาทั้งกลุ่ม เพราะได้กลิ่นเหล้าหึ่ง พวกเขายืนขวางทางไม่ให้ผมเดินไปต่อ หัวโจกพูดกับผมด้วยเสียงกระโชกโฮกฮาก

“เจอกันอีกแล้วนะไอ้อ่อน”

ผมไม่อยากมีเรื่อง จึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่พวกเขาก็ดักหน้าผมเอาไว้

“จะไปไหน คุยกันก่อนสิ”

“ผมไม่มีอะไรจะคุยกับพวกคุณ”

ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แม้จะขุ่นเคืองใจ และนึกกลัวนิดๆ แต่ผมก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ และพูดกับคนพวกนั้นดีๆ

“แต่กูมีเรื่องจะพูดกับมึงไอ้อ่อน”

เจ้าตัวหัวหน้าพูดเสียงเกือบเป็นตะคอก แล้วเอามือผลักไหล่ผมจนเซไปด้านหลัง ผมจ้องหน้าคนพวกนั้น ตั้งสติมั่น เตรียมพร้อมสำหรับการมีเรื่อง ก่อนที่จะถามออกไปอย่างไม่เกรงกลัว

“เรื่องอะไรไม่ทราบ”

เสียงหน้าต่างที่กระทบกันปึงปัง ทำให้ผมต้องเดินไปจับมันงับเข้าหากันแล้วลงกลอนอย่างแน่นหนา อยู่ดีๆ ก็มีลมกระโชกมาหอบใหญ่ ทำท่าเหมือนฝนจะตกทั้งที่ไม่มีเค้ามาก่อน

ผมรู้สึกห่วงเคนขึ้นมาอย่างจับจิต เขาไปหามือถือให้ผมนานมากแล้ว ป่านนี้ยังไม่กลับมา

ต้องโทษว่าเป็นความผิดของผมเอง ที่ไม่หาข้าวของให้ดีก่อน หลังจากที่เคนเดินกลับไปหาของให้ผมแล้ว ผมก็ไขกุญแจเข้ามาในบ้าน อาบน้ำอาบท่าเพื่อรอต้อนรับสามีกลับมา

ตอนที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็เจอมือถือของตัวเอง ในกระเป๋า ผมคงลืมเอาใส่ไว้ ตอนแต่งตัวออกจากบ้านพักในตอนเย็น

จะโทรหาเคนเพื่อบอกว่าผมเจอโทรศัพท์แล้ว ก็ติดต่อเขาไม่ได้ เพราะโทรศัพท์ที่ผมให้เคนเอาไว้ใช้ เขาก็ไม่ยอมเอาไป เคนยังคงเกรงใจ ไม่กล้าใช้โทรศัพท์ของผม

ทั้งที่ผมอนุญาตเขา และบอกว่ามันจำเป็นต่อการทำงาน ผมต้องติดต่อเขาตลอด เขาจะไม่ใช้ไม่ได้ เขาก็ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง และมักจะเก็บมันเอาไว้ที่บ้านบ่อยๆ

ตอนมาที่นี่ผมก็ใส่มือถือไว้ในกระเป๋าเขา เคนก็ไม่ได้เอาติดตัวไปเสียอีก ผมเลยติดต่อเขาไม่ได้เลย ต้องรอคอยเขากลับมาอย่างเดียว

ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว เคนก็ยังไม่โผล่มา ผมเดินวนไปวนมาในห้องอย่างงุ่นง่าน ทั้งโกรธทั้งน้อยใจ เมื่อคิดว่าเคนคงจะเบี้ยวผมเสียแล้ว

เขาไม่อยากนอนกับผม เลยหาเรื่องถ่วงเวลา นี่คงจะกลับเข้าไปในงาน และเต้นระบำรำฟ้อนอยู่กับเพื่อนพนักงานด้วยกันแหงๆ

จริงสิ ก่อนออกมาจากงานเลี้ยง มีสาวๆกลุ่มหนึ่งเต้นอยู่กับเขา ท่าทางเคนจะสนุกไม่น้อย ถ้าผมไม่ส่งสายตาไม่พอใจให้เขาเห็น

เคนก็คงไม่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ คงจะสนุกกับสาวๆพวกนั้นไม่เลิก เป็นไปได้ไหมนะ ที่เคนจะไปนั่งคุยกับสาวๆพวกนั้น สานสัมพันธ์กันต่อ

ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม ผมอุตส่าห์ดีใจที่เคนร้องเพลงนั้นให้ผม แต่แล้วเขาก็บอกว่าเขายังไม่คิดอะไร เขากลัวผมเสียใจ

หรือว่าการที่เขาพูดแบบนี้ เพราะผู้หญิงพวกนั้นทำให้เขาไขว้เขว เคนอาจจะฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าในท้ายที่สุดผู้หญิงก็ดีกว่าผู้ชายอย่างผมวันยังค่ำ

การที่เขาไม่กลับมาตามที่สัญญาไว้ ทำให้ผมคิดฟุ้งซ่านวุ่นวายใจไปหมด และเมื่อสรุปเอาเองว่าเขาต้องการหนีผม ไม่อยากนอนด้วย ผมก็รู้สึกเสียใจมาก

ผมไปบีบบังคับทำให้เคนไม่สบายใจ เขาต้องตกปากรับคำผมทั้งที่เขาไม่ต้องการ ผมทำให้คนที่ผมรักอึดอัด เขารับปากผมอย่างเสียไม่ได้ ในท้ายที่สุดเขาก็เลยหนีผมไปดื้อๆ

ผมไม่น่าให้เคนไปหาของให้เลย ผมน่าจะปล่อยเลยตามเลยถ้าหากมันหายจริงแล้วมีใครเก็บได้ เรื่องของผมกับเคน จะได้เปิดเผยให้ใครต่อใครรู้เสียที ไม่อยากจะต้องหลบๆซ่อนๆอีกต่อไป

ทว่าเปิดเผยแล้วจะได้ประโยชน์อะไรกัน ในเมื่อเคนไม่มีใจให้ผมเลย ผมมันหลงคิดเข้าข้างตัวเองไปคนเดียว ว่าเขามีใจให้ เห็นเขาร้องเพลง ก็คิดว่าเขาร้องให้ผม ที่จริงเขาอาจจะร้องให้คนอื่นฟังก็ได้

อยู่ดีๆ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ ผมไม่เคยอ่อนแอถึงขนาดนี้เลย แต่ครั้งนี้ยอมรับว่าผมเจ็บมาก ถ้าเคนไม่รักผม ไม่ชอบให้ผมทำอย่างนี้ก็น่าจะบอกผม ไม่ใช่หนีผมไป ผมรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ภรรยาที่สามีไม่ต้องการคงจะรู้สึกอย่างนี้นี่เอง

ข้างนอกฝนตกแล้ว ได้ยินเสียงหลังคาดังกราวๆ มองไปนอกหน้าต่างห้องที่เป็นกระจก ก็เห็นสายฝนลงมาเป็นเม็ดหนา ความกังวลถึงคนที่ผมรัก มีมากกว่าความน้อยอกน้อยใจที่เขาไม่กลับมา มันทำให้ผมปาดน้ำตาทิ้ง และเอาโทรศัพท์มากดหาเลขาของผมอีกคน

ผมต้องทนฟังเสียงรอสายนานอยู่เกือบ 5 นาที กว่าที่นนนี่จะรับโทรศัพท์ผม แถมเสียงก็ดังซ่าๆอู้อี้ เนื่องจากสัญญาณถูกรบกวนเนื่องจากฝนตกกระหน่ำ ผมพยายามเงี่ยหูฟังเลขาพูด และกล่าวด้วยเสียงอันดัง เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ยินชัดเจน

“นนนี่เหรอ เห็นเคนหรือเปล่า”

“ไม่เห็นค่ะคุณเคลวิน เขากลับไปพร้อมกับเจ้านายแล้วไม่ใช่เหรอคะ”

เลขาของผมตอบกลับมาด้วยเสียงที่งัวเงีย เธอกับครอบครัวคงจะพักผ่อนแล้ว ผมคงโทรไปรบกวนเวลาของเธอ แต่ผมจำเป็นจริงๆ

“กลับมาแล้วก็ออกไปอีก ไปหาของให้ผม แต่ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลย”

บอกเธอไปตามตรง ด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“เอ ไปไหนของเขานะ ฝนก็ตกหนักซะด้วย หรือว่าติดฝนอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงคะ แต่ช่วงนี้งานก็น่าจะเลิกแล้วนี่นา”

นนนี่พยายามเดา แต่มันไม่ช่วยทำให้ผมสบายใจขึ้นเลย

“นั่นสิ งานน่าจะเลิกแล้ว แล้วเขาไปไหนกัน”

“ใจเย็นๆค่ะเจ้านาย เดี๋ยวนนนี่ ถามให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ”

นนนี่วางสายไปแล้วหลังจากรับปากว่าจะติดต่อให้ ผมรออย่างกระวนกระวายใจเกือบ 20 นาทีกว่านนนี่จะโทรกลับมา

“เจ้านายคะ นนนี่ลองเช็คให้หมดทุกที่แล้ว เขาบอกว่าไม่เจอเคนเลย เคนไม่ได้กลับเข้าไปในงานคะ”

คำตอบของเธอทำให้ผมยิ่งเพิ่มกังวลใจหนักขึ้นไปอีก เคนไม่ได้เข้าไปในงาน แล้วเคนไปไหนกัน หรือว่าไปเจอสาวพวกนั้นระหว่างทาง แล้วก็พากันหายไปอยู่บ้านผู้หญิงเหล่านั้นคนใดคนหนึ่ง

แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เคนจะไวไฟขนาดนั้นเลยเหรอ เขาไม่ใช่คนอย่างนั้นนี่นา หรือว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุอะไรระหว่างทาง

“อ้าว แล้วเขาไปไหนกันล่ะ ไม่มีใครเห็นเขาบ้างเลยเหรอ”

“ไม่มีค่ะเจ้านาย ครั้งล่าสุดที่มีคนเห็นเขาก็คือ สต๊าฟจัดงาน เขาบอกว่าเห็นเจ้านาย กับ เคน กลับไปที่บ้านพัก แล้วก็ไม่เห็นเคนกลับเข้ามาอีก แล้วเรื่องมือถือ ก็ไม่มีใครมาเดินหา หรือมาเก็บค่ะ”

เธอรายงานให้ผมฟังทุกอย่างตามที่ได้ไปโทรศัพท์ตามหาเคนกับคนที่น่าจะเห็นเขา

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ นนนี่ช่วยผมที ช่วยโทรไปยังเจ้าหน้าที่โรงแรมหน่อยนะ ให้เขาช่วยกันตามหาเคนให้หน่อย เพื่อว่าจะมีใครเห็นเขาบ้าง”

ผมสั่งงานให้นนนี่ทำ นึกขอโทษเลขาของผมในใจที่ไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ แต่ผมไม่สามารถจะออกมาจัดการด้วยตัวเอง

เพราะเดี๋ยวเรื่องมันจะเอิกเกริกกันไปใหญ่ ที่พนักงานหายไปทั้งคน แล้วประธานบริษัทต้องออกโรง ตามหา คนก็จะเริ่มสงสัยว่า เคนสำคัญเพียงใด

เดี๋ยวจะเกิดการคุ้ยแคะตามล่าหาความจริงกันใหญ่ ซึ่งไม่ปลอดภัยกับทั้งตัวผมและเคนด้วย

“ค่ะ เจ้านาย เดี๋ยวนนนี่จัดการให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 30-01-2009 20:30:05
เลขาของผมรับปากก่อนจะวางหูไป ผมนั่งไม่ติดแล้ว เดินไปเดินมา พยายามคิดว่าเขาไปไหน ผมพยายามไม่คิดว่าเคนไปกับผู้หญิงพวกนั้น แม้ว่าใจมันจะเชื่อไปบ้างแล้วก็ตาม

พยายามคิดในแง่ดีจากการที่ได้รู้จักเคนมานาน ผมไม่คิดว่าเขาจะกล้าไปหลบอยู่ในห้องสาวคนไหน

เพราะเขาต้องรู้ว่าการทำแบบนั้นกับผมมันหมายถึงการทรยศหักหลังซึ่งไม่ใช่นิสัยของเคน ถ้าเขาจะเดินจากไป

เขาต้องมาจบเรื่องราวกับผมก่อน และเคนไม่ใช่คนเจ้าชู้ เรื่องที่จะไปขอเบอร์โทรศัพท์ใครก่อน หรือไปเจ้าชู้กระหลีกะหลอกะลิ้มกะเหลี่ยผู้หญิงคนไหนคงไม่มี

ผมจึงค่อนข้างไว้ใจ ว่าเคนจะไม่มีทางไปยุ่งเกี่ยวกับสาวคนไหน ในขณะที่ยังมีผมอยู่ทั้งคนแน่ๆ

ส่วนเรื่องการหนีผม ไม่ยอมนอนด้วยนั้น ตอนแรก ผมก็คิดไปอย่างพาลๆ เพราะผมเป็นคนบังคับให้เขาพนันกับผม แต่พอคิดไปคิดมา

ผมก็เริ่มคิดได้ว่า เคนไม่ได้มีทีท่าว่าไม่อยากจะนอนกับผม เขายอมรับในกติกา แพ้ก็คือแพ้ ไม่งอแง หรือต่อรองอะไร

ถ้าเป็นช่วงแรกๆ ที่ผมกับเขาอยู่ด้วยกัน เขาก็แสดงท่ารังเกียจผมอย่างชัดเจน แต่ช่วงหลังๆ เคนไม่มีทีท่าว่าไม่พอใจที่ผมอยู่ด้วย และเขายังตามใจผมในหลายๆเรื่อง

และคนอย่างเคนรักศักดิ์ศรีจะตายไป ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าเขาไม่มีทางหนีผมไปเพราะไม่อยากทำตามสัญญาอย่างแน่นอน

ถ้าอย่างนั้น สามีของผมอยู่ไหน ผมควรจะออกไปตามเขาดีไหม แล้วฝนตกหนักไม่ยอมหยุดอย่างนี้ ผมจะเจอเขาได้ที่ไหน ร่มก็ไม่ได้ติดเอามาด้วย

มีอยู่สองสามคันในรถของผม ถ้าเดินออกไปเอาร่ม ก็ไม่ต่างอะไรจากการเดินไปหาเคนเลย เพราะยังไงก็เปียกอยู่ดี แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ เคนอยู่ที่ไหนต่างหาก ผมจะเจอเขาได้ที่ใด

ขณะที่ผมกำลังคิดวุ่นวายใจนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ผมพยายามเงี่ยหูฟังว่าเป็นเสียงอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงชัดเจน ผมจึงรีบเดินไปที่ประตู และเปิดรับคนที่ทั้งเคาะทั้งตะโกนเรียกผม

วูบแรกผมนึกดีใจ คิดว่าเคนกลับมาแล้ว แต่เมื่อประตูเปิดออก และเห็นคนสองสามคนที่โผล่เข้ามาในสายตา ผมก็ต้องเบิกตากว้าง เอามือขึ้นปิดปากด้วยกลัวว่าจะร้องตะโกนออกมาอย่างเสียจริต

นายชาตรีกับมอด พยุงร่างไร้สติของเคนที่เปียกโชกไปด้วยฝน เข้ามาในบ้าน แสงไฟจากโคมที่เพดาน ทำให้ผมมองเห็นเคนถนัดถนี่

ร่างของเคนเหมือนถูกคนรุมกระทืบมา เสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกจากตัว ใบหน้าบวมปูด ปากเจ่อ คิ้วแตก มีเลือดไหลซึมเปรอะ แต่ถูกฝนชะลงมาเลอะเสื้อผ้า เห็นสีจางๆ เนื้อตัวเปียกโชกไปหมด

เห็นสภาพของเคนแล้ว น้ำตาผมแทบจะไหลออกมาให้ได้ แต่ความที่ผมเป็นประธานบริษัท หัวโขนที่ใส่ไว้ ทำให้ผมอ่อนแอออกมาให้ลูกน้องสองคนของผมเห็นไม่ได้ จึงทำได้แค่เพียงถามไถ่ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจ

นายชาตรีกับมอดเล่าให้ฟังว่า พวกเขาออกมาหลังงานปาร์ตี้ แล้วก็ชวนกันไปเล่นน้ำทะเลกลางคืน เขาไม่ได้บอกว่าไปกันกี่คน

แต่ดูจากสภาพและสายตาที่มองกันแล้ว ผมก็รู้ว่าเขาไปกันตามลำพังอย่างแน่นอน ใช่ว่าผมจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาสองคน พอระแคะระคายบ้าง

แต่ผมไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะถึงอย่างไร นายชาตรีกับมอด ก็เป็นแบบเดียวกับผม คือรักผุ้ชายด้วยกัน ผมเลยไม่อยากทำร้ายเขา ดังนั้นเขาจะลอบคบกันไม่ใช่ปัญหาของผม

เสียงของเขาเล่าสืบไป ดูเหมือนเขาก็ไม่ได้จงใจจะปิดบัง เพียงแต่ไม่เล่าละเอียดเท่านั้น พูดแต่เพียงว่า เขาไปเล่นน้ำกัน แล้วฝนตก เล่นกันต่อไปไม่ไหว เลยพากันขึ้นมา แล้วไปเจอกับเคน นอนสลบอยู่ที่ชายหาด สงสัยจะถูกคนทำร้าย เลยพาเคนมาที่นี่

ขณะที่สองคนเล่าให้ผมฟัง ผมก็กำมือแน่น ด้วยความโกรธจัด กรามบดเป็นสันนูน นึกโกรธและเจ็บแทนเคน นี่กระมังที่เป็นเหตุให้เคนไม่ได้กลับบ้านพักมาตามสัญญาที่ให้ไว้กับผม

ในขณะที่ผมมัวแต่นั่งน้อยอกน้อยใจในตัวเขา เคนก็ไปหามือถือให้ผม และคงจะเจอพวกนักเลงอันธพาลเข้า ใครกันหนอที่ทำร้ายคนน่ารักของผมได้ลงคอ

อย่าให้ผมรู้ตัวเชียวนะ มันผู้ใดก็ตามที่บังอาจมาทำให้เคนต้องเจ็บ คนพวกนั้นก็จะเจ็บกว่าหลายร้อยเท่า และถ้าคนที่ทำร้ายเคนเป็นพนักงานบริษัทผมละก็ ผมไม่มีวันเก็บพวกเขาไว้แน่ๆ

“ขอบคุณมากนะครับคุณชาตรี ขอบคุณมากนะมอด ถ้าพวกคุณสองคนไม่ไปเจอเขา เคนจะเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้”
กล่าวขอบคุณทั้งสองอย่างจริงใจ นายชาตรีมองผมด้วยสายตาที่ฉายแววปราณี เขาเองก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของผมคนหนึ่ง ทำงานด้วยกันมานานแล้ว แม้จะจุกจิก ขี้บ่นไปบ้าง ไม่ค่อยมีใครชอบแกเท่าไหร่

แต่ผมก็ยังรับรู้ได้ว่าแกมีความหวังดีต่อบริษัท ต่อผม และพ่อ ถึงแกจะทำท่าอยากได้ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้นออกหน้าออกตาไปหน่อยก็ตาม ถ้าตัดเรื่องเสียของแกออกไปบางเรื่อง แกก็เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพคนหนึ่ง

“ให้พวกเราอยู่เป็นเพื่อนไหมครับคุณเคลวิน จะได้ช่วยกันดูแลเคน”

เขาเสนอ แต่ผมปฏิเสธ เวลานี้ผมอยากอยู่กับเคนสองคนมากกว่า ผมอยากกอดเขา อยากขอโทษที่เข้าใจผิด อยากอยู่พยาบาลเขาทั้งคืน ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย ผมคงทำหน้าที่ภรรยาไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะหวังดี ผมก็คงรับไว้ได้เพียงแค่น้ำใจ แต่ในทางปฏิบัติ ผมขอทำเอง

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมดูแลเขาเอง คุณสองคนช่วยกันพาเขาไปนอนในห้องเถอะครับ”


---------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 30-01-2009 20:32:33

เอาไป ๑+ สำหรับความขยันนะคะ คุณน้อง

อิเจ้  :L1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-01-2009 20:53:51
แอร๊ยยยส์ เคลวินจัดการพวกนั้นให้หมดเลยนะ สงสารเคน  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-01-2009 21:40:40
เคลวิน อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลนะ  :fire:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 31-01-2009 07:51:18
มาเป็นกำลังใจให้  เคน กะ เคล ดีก่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 31-01-2009 10:42:19
 :m15: คืนที่แสนหวานของเรา...หายวับไปกับตา ... o22



 :z3: :z3: :z3: อย่าปล่อยมันไว้.....
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 54 :P 30.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 31-01-2009 20:26:21

บทที่ 55

------------------------

พอผมร้องขอ ทั้งสองก็ปฏิบัติตามโดยไม่ต้องสั่งซ้ำ เมื่อเขาพาเคนเข้าไปนอนในห้องแล้ว ผมก็ขอให้มอดไปยังบ้านพักของนนนี่ เพื่อขอร่วมยา นนนี่จะเป็นฝ่ายเตรียมอุปกรณ์พวกนี้เอาไว้ เผื่อมีพนักงานเจ็บป่วย บาดเจ็บจากกิจกรรมต่างๆ จะได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น

มอดรับคำแล้ววิ่งไปบ้านนนนี่ตามที่ผมบอก ทิ้งให้ผมอยู่กับนายชาตรีตามลำพัง เขาช่วยผมเช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เคน เป็นครั้งแรก ที่ผมยอมให้เขาเห็นร่างกายของสามีผม เพราะผมไม่อาจจะเปลี่ยนด้วยตัวเองได้โดยไม่ถูกครหา

และมันมีความจำเป็นที่จะต้องทำตัวเขาให้แห้ง ก่อนที่เขาจะเป็นปอดบวมเพิ่มขึ้น แต่ผมก็มีลิมิตคือไม่ยอมถอดปราการด่านสุดท้ายของเคนออก เพราะของแบบนี้จะมาให้ใครเห็นง่ายๆได้อย่างไร

“คุณชาตรีคิดว่า เคนไปเจอใครทำร้ายครับ”

ขณะที่เช็ดตัวเคนให้แห้ง ปากผมก็ถามเขาไปเรื่อย อยากรู้ว่านายชาตรี ระแคะระคายอะไรบ้างไหม

“เอ ผมก็ไม่ทราบสิครับ ตอนแรก ก็คิดว่าน่าจะเป็นพวกโจรผู้ร้าย ที่ประสงค์ต่อทรัพย์ของนักท่องเที่ยวหรือเปล่า

แต่มาคิดอีกทีก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ รีสอร์ทหรูขนาดนี้ แถมมีเวรยามรักษาความปลอดภัยเข้มงวด คงไม่ปล่อยให้มีโจรผู้ร้ายเข้ามาปล้นจี้ แขกที่มาพักเป็นการหยามน้ำหน้าหรอกครับ”

คำพูดของเขาตรงกับที่ใจผมคิดเช่นกัน ผมไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกโจร แต่น่าจะเป็นฝีมือจากคนในมากกว่า

“ถ้าตัดโจรนอกออกไป ก็อาจจะเป็นคนภายในนี่แหละทำร้ายเขา แต่คงไม่ใช่พนักงานรีสอร์ท เพราะถ้าถูกจับได้คงถูกไล่ออกแถมติดคุกด้วย

แต่ถ้าเป็นพนักงานบริษัท ใครกันที่จะทำร้ายเขา เคนเองก็ไม่ค่อยได้ยุ่งสุงสิงกับคนอื่น ทำแต่งาน จึงไม่น่าจะมีใครคิดเป็นศัตรูด้วย

ถ้าจะมีก็พวกที่เขม่นเขา ที่ได้ดีข้ามหัวคนอื่น แต่พนักงานพวกนั้นก็ไม่มีใครเป็นนักเลงสักคน คงไม่มีใครกล้าทำเขาหรอกมั๊งครับ”

นายชาตรีสรุปอย่างไม่มั่นใจนัก แต่ผมปักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นฝีมือใคร

“สงสัยต้องพึ่งมือตำรวจสืบหาตัวคนร้ายมั๊งครับ”

ผู้จัดการของผมตอบอย่างหมดท่า ผมไม่โทษอะไรเขา เพราะนายชาตรีคงไม่รู้เรื่องอะไร คนที่ประสบเหตุมีแค่ผมกับเคนเท่านั้น

ผมคิดว่าต้องเป็นนักเลงอันธพาลกลุ่มนั้นแน่นอนที่ทำร้ายเคน ผมไม่รู้ว่าเกิดจากเหตุผลใด ที่คนเราจะไม่ชอบขี้หน้ากันถึงขนาดลงมือทำร้ายกัน

ทั้งที่พวกเขาก็เป็นพนักงานบริษัท เปรียบไปก็เหมือนลงเรือลำเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน จะมาทำร้ายกันทำไม

และยิ่งไม่น่าเชื่อก็คือ พนักงานเหล่านี้ถูกคัดมาอย่างดี และมีการศึกษาที่ดี ไม่ใช่พวกที่ไม่รู้หนังสือหนังหา เขาต้องรู้กฎระเบียบว่า หากทำร้ายพนักงานในบริษัท จะถูกลงโทษสถานใด

ตอนนี้พยานปากเอกที่จะชี้ตัวคนร้ายก็มีเพียงเคนที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่เท่านั้น หากเขาฟื้นเมื่อไหร่ คงได้เวลาสอบสวน และหากว่าพวกนั้นทำร้ายเคนจริงๆ ผมจะจัดการอย่างเด็ดขาด ไม่ฟังคำทัดทานจากเคนอีกแล้ว

จัดการซะแต่ทีแรกก็คงไม่ปวดใจ แต่นี่เพราะผมทำตามที่เคนขอร้องคือต้องการเคลียร์ปัญหาระหว่างพนักงานด้วยกันเอง โดยที่ประธานบริษัทไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยว แล้วนี่เคลียร์กันอีท่าไหน เคนของผมถึงถูกซ้อมถึงขนาดนี้

ยังไม่ได้ตรวจดูเลยว่ากระดูกกระเดี้ยวแตกหักเสียหายตรงไหนหรือเปล่า ถ้าฝนไม่ตกหนัก ผมคงพาออกไปหาหมอแล้ว แต่ฝนตกราวกับฟ้ารั่วแบบนี้

แค่จะพาเคนไปขึ้นรถยังลำบาก ต่อให้เรียกรถมา ตอนพาเขาขึ้นรถก็ลำบากอยู่ดี เลยตั้งใจจะดูอาการเคนสักคืน ในขณะที่ผมก็จะสืบเรื่องไปด้วย

“มอดมาแล้วครับคุณเคลวิน”


กล่องยาถูกนำมายื่นให้ผม มอดเล่าว่าตอนแรกนนนี่จะตามมาด้วยหลังจากได้ฟังมอดเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเคน

แต่ฝนตกหนัก ไม่สะดวกมา เลยฝากข้อความมาบอกผมว่าเธอจะจัดการกับทางโรงแรมเอง จะให้เขาช่วยกันสอบถามพนักงานของเขาว่ามีใครมีพิรุธน่าสงสัย หายไปจากเหตุการณ์นี้หรือเปล่า

เธอรับปากว่าจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมและสถานที่ให้หมด

นนนี่ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังจริงๆ เธอรู้ใจผมไปหมดทุกอย่าง และโดยที่ผมไม่ได้สั่งเธอก็จัดการทุกอย่างให้ตรงกับที่ใจผมต้องการ

เธอเป็นเลขาที่เก่งมากๆ สมแล้วที่ผมมอบความไว้วางใจให้เธอทำงานแทนผมในหลายๆเรื่อง

ผมเอาสำลีชุบแอลกอฮอลล์เช็ดบาดแผลให้กับเคน จากนั้นค่อยใส่ยาแล้วปิดผ้าพันแผลให้เขา ฝีมือผมไม่ได้เรื่องได้ราวนัก แต่ก็ทำเอาไว้ก่อน เพื่อเป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น

หลังจากทำบาดแผลให้กับเคนเสร็จและใส่เสื้อผ้าให้เขาเรียบร้อยแล้ว ผมก็เอ่ยปากอนุญาตให้นายชาตรีกับมอดเข้าไปพักผ่อนได้

ผมไม่อยากรบกวนเวลาของพวกเขา แต่ก่อนไป ผมก็ฝากให้ผู้จัดการของผม ช่วยสืบหาตัวคนร้ายรายนี้มาลงโทษให้ได้ โดยไปหาจากในกลุ่มพนักงาน เผื่อจะมีบุคคลที่ต้องสงสัย

ผมไม่ได้ระบุเจาะจงไปยังคนกลุ่มนั้น เพราะผมไม่อยากจะปรักปรำ จนกว่าจะได้หลักฐานมัดแน่นหนา ผมถึงจะกล่าวโทษและดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด เพราะทำร้ายกันขนาดนี้ ก็คงจะปล่อยให้ลอยนวลอยู่ในบริษัทไม่ได้

หลังจากนายชาตรีไปได้สักพัก นนนี่ก็โทรมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ผมบอกอาการของเคน ณ ปัจจุบันให้ฟัง และบอกไม่ต้องกังวล

นนนี่ปลอบใจผม แล้วก็รับปากว่าจะจัดการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับเคน ผมกล่าวขอบคุณเธออย่างจริงใจที่เธออาสาจะช่วยผม หลังจากนั้นจึงวางหู

พอไม่มีใครอยู่ในห้องแล้ว น้ำตาที่กลั้นมานาน ก็ไหลออกมาไม่ยอมหยุด ผมนั่งลงบนเตียง ข้างๆเคนที่นอนไม่ได้สติ แล้วก็ร้องไห้โฮออกมา

รู้สึกสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูก นึกโกรธตัวเองที่ไม่มีความพยายามเพียงพอที่จะห้ามเคนไว้ไม่ให้ออกไปตามหามือถือให้ผม โทษที่ตัวเองไม่หาของให้ดีก่อน แล้วทำเป็นจิตตกให้เคนกังวลตาม หากไม่เป็นเพราะผม เคนก็คงไม่เจ็บตัวแบบนี้

มือของเคนถูกดึงขึ้นมาจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมอยากจะเป็นฝ่ายเจ็บปวดเสียเอง ยิ่งเห็นใบหน้าที่บวมช้ำของเคน ก็ยิ่งประจานความผิดของตัวเอง

นึกละอายใจที่เคยสงสัยในความรักของเคนที่มีต่อผม และเรียกร้องไม่มีสิ้นสุด สิ่งที่เกิดขึ้นกับเคนในค่ำคืนนี้ มันทำให้ผมตระหนักว่า

เคนทำเพื่อผมมากมายเพียงไร ถ้าเขาไม่ห่วงผมมากพอว่าจะถูกครหานินทา เขาไม่จำเป็นจะต้องไปเอามือถือมาให้ผมก็ได้ เคนดีกับผมถึงเพียงนี้ ผมยังอยากได้อะไรจากเขาอีก

“เคนครับ อย่าเป็นอะไรนะ ผมขอโทษ...ผมสัญญาว่าจะลากตัวคนผิดมาจัดการให้จงได้ จะไม่ยอมให้เคนเจ็บตัวฟรีๆอย่างเด็ดขาด”

ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหูของเขา น้ำตาของผมตกต้องหน้าเคนพอดี ผมเอามือที่สั่นระริกป้ายน้ำตาออกจากหน้าของเขา

จากนั้นก็ลูบเลยไปที่หัวคิ้วที่มีผ้าพันแผลปิดไว้ แล้วเลื่อนต่ำมาที่โหนกแก้มบวมเป่ง และปากที่แตกบวมเจ่อ ลูบไป น้ำตาก็ไหลไม่ยอมหยุด จนร่วงหล่นโดนหน้าของเคนเปียกไปหมด

ในที่สุดผมก็หมดความอดทน ฝืนกลั้นสะอื้นต่อไปไม่ไหว ต้องทรุดตัวลงกอดเขาไว้แน่น และเกลือกหน้าที่ชุ่มน้ำตากับอกเสื้อของเขา

หลังจากที่อยู่โยงเฝ้าเคนทั้งคืน ผมก็ผล็อยหลับไปในตอนเกือบรุ่งเช้า ตื่นขั้นมาอีกที เมื่อร่างที่ผมนอนกอดทั้งคืนขยับยุกยิก พอผมลืมตาขึ้นก็เห็นเคนนอนจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ดวงตาที่อยู่ภายใต้หนังตาที่บวมเป่งมองผมอย่างอ่อนโยน ผมร้องเรียกชื่อเขาอย่างดีใจ

“เคน ฟื้นแล้วหรือครับ”

เขาขยับปาก ทำท่าจะพูด แต่คงเจ็บปากที่แตก เพราะได้ยินเสียงเขาสูดปากด้วยความเจ็บ ผมลุกขึ้นแล้วเอามือแตะปากเขาเบาๆเป็นเชิงว่าห้ามพูด เคนคงไม่สะดวกสักเท่าไหร่ เพราะปากของเขาบวมเจ่อไม่ใช่น้อย

“หิวน้ำไหม อยากกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวผมหามาให้”

เขาไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้า ผมเลยรินน้ำใส่แก้วมาวางไว้ข้างๆโต๊ะ แล้วพยุงเขาให้ลุกขึ้น เอาหมอนสองใบมาวางซ้อนหลังเขาไว้ ให้อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน จากนั้นก็ประคองแก้วน้ำให้เขาดื่มกิน เคนคงจะกระหายน้ำมาก เพราะเขาดื่มจนหมดแก้ว

“ทานโจ๊กนะครับ เดี๋ยวผมสั่งให้พนักงานโรงแรมเอามาให้”

บอกเขาเสร็จ ก็กดโทรศัพท์ที่อยู่ในห้องตามหมายเลขที่ต่อถึงห้องอาหารโดยตรง แล้วสั่งอาหารเช้าสำหรับเคน 1 และตัวผมเอง 1 ชุด วันนี้ผมคงไม่ไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร แต่จะทานจากที่บ้านพักเลย ก่อนที่จะไปร่วมประชุมในตอนเช้ากับพวกพนักงาน

“วันนี้เคนนอนพักอยู่ที่นี่นะครับ ไม่ต้องไปเข้าร่วมประชุมกับเขาแล้วล่ะ วันนี้เป็นแค่ฟังวิชาการเฉยๆ เรื่อง “หัวใจการบริการ” เคนมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัวเปี่ยมล้น ไม่ต้องไปฟังก็ได้”

ผมปลอบใจเขา ไม่ให้กังวล เพราะรู้ดีว่าเคนเป็นคนดื้อ เขาไม่ชอบทำตัวมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ถ้าพนักงานบริษัทได้รับสิทธิ์แค่ไหน หรือต้องมีบทบาทหน้าที่อะไร เขาก็จะทำเหมือนกัน ไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเองก็เห็นด้วยกับเขาอย่างมาก

เพราะในฐานะนายจ้าง ย่อมต้องการลูกน้องที่มีคุณภาพ และรู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไร ไม่ต้องมีใครมาบอกกล่าว กฎระเบียบมีไว้ต้องศึกษาและต้องพยายามทำตามให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ผมไม่เคยกังวลใจกับพฤติกรรมการทำงานของเคนเลยแม้แต่น้อย

“แล้วก็ วันนี้เคนไม่ต้องกลับรถบัสนะครับ ผมบอกนนนี่ให้จัดการไว้แล้ว คุณกลับกับผมนะครับ ผมจะได้ดูแลคุณได้เต็มที่”

คราวนี้ผมสั่งเขาโดยไม่ขอความเห็นก่อน มีเรื่องเกิดขึ้นกับเคนอย่างนี้ ผมไม่มีทางปล่อยให้เคนไกลหูไกลตาผมแน่ การให้เคนกลับกับผมจึงเป็นวิธีการเดียวที่ผมจะสามารถปกป้องเคนได้

“ผมอนุญาตให้เคนหยุดงานได้สักสองสามวันนะครับ ต้องรักษาตัวก่อน จะไปทำงานทั้งอย่างนี้ไม่ได้ เดี๋ยวไม่หาย แถมคนโน้นคนนี้มาถามวุ่นวายอีก”

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำสั่งของผม ต้องห้ามกันไว้ก่อน เพราะเคนดื้อ เขาไม่ค่อยห่วงตัวเอง ห่วงงานมากกว่า การไปทำงานในสภาพหน้าตาบวมปูดแบบนี้รับรองเป็นจุดสนใจอย่างแน่นอน และต้องมีคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และก็คงถามไถ่กันไม่มีหยุด ดีดีไม่ดี อาจจะทำให้การสืบหาตัวคนที่ทำร้ายเคนต้องคว้าน้ำเหลว เพราะผู้ร้ายไหวตัวเสียก่อน

“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมจะทวงถามหาความยุติธรรมแทนเคนเอง เคนไม่ต้องกังวลนะครับ อ้อ ไม่ต้องห้ามปรามผมด้วย”

รีบพูดดักคอ เพราะเห็นเคนอ้าปากจะค้าน โชคดีที่เขาเจ็บปากเลยพูดไม่ทันผม ซึ่งรีบสรุปให้เขาฟังหมดแล้ว ว่าผมต้องจัดการคนที่ทำร้ายคนที่ผมรักอย่างแน่นอน และห้ามขอให้ผมอภัยให้คนพวกนั้น เพราะการที่พนักงานคนหนึ่งทำร้ายพนักงานคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่ควรจะจัดการให้เด็ดขาด ไม่ใช่ปล่อยนิ่งเฉยๆ เพราะเท่ากับจะเป็นการให้โอกาสพวกเขาได้ทำอีก

สั่งเสร็จสรรพโดยที่เคนไม่มีโอกาสโต้แย้ง สามีของผมก็น่ารักมาก นั่งฟังตาปริบๆบนเตียง เหมือนเขาจะพยายามยิ้มให้ผมด้วย

ผมนั่งพูดคุยกับเขา ให้คำมั่นว่าผมจะดูแลเขาจนกว่าจะหาย เคนบีบมือผมไว้แน่น และกล่าวขอบคุณผม กว่าจะพูดได้แต่ละคำ ก็ลำบาก ฟังแทบไม่รู้เรื่อง เพราะปากเจ่อไปหมด

ผมสงสารเขาไม่อยากให้เขาพูดหรือทำอะไร เลยบังคับให้เขานอนนิ่งๆ เอาผ้ามาเช็ดเนื้อเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขา พออาหารมา ผมก็บริการตักป้อนให้ถึงปาก หลังจากนั้นจึงค่อยจัดการอาหารเช้าของตัวเอง

กินไปได้นิดหน่อย ก็ต้องหยุดกิน ความแค้นเคืองที่เคนถูกทำร้ายมันอัดแน่นอยู่ในอก ยิ่งเห็นใบหน้าที่บวมปูดของเคน ผมก็ยิ่งปวดร้าว

อยากให้ถึงเวลาไปประชุมเร็วๆ อยากดูน้ำหน้าไอ้คนที่ผมสงสัยว่าจะทำร้ายเคน ดูสิว่าหน้าตามันเป็นอย่างไรบ้าง มันจะได้รับบาดเจ็บอย่างที่พวกมันทำกับเคนหรือเปล่า

หลังจากดูแลเคนให้นอนพักผ่อนเรียบร้อย ผมก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปงานสัมมนาที่จะมีขึ้นในภาคเช้า ก่อนที่พนักงานจะเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมกลับกรุงเทพ โดยมีโปรแกรมเที่ยวต่อระหว่างทาง

โดยก่อนออกจากบ้าน ผมไม่ลืมที่จะโทรไปบอกคุณชาตรีให้ส่งมอดมาอยู่เป็นเพื่อนเคน เพราะมอดเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย โดยเนื้องานแล้ว เขาไม่ต้องเข้าร่วมประชุมเรื่องหัวใจการบริการก็ได้

ซึ่งนายชาตรีก็รับปากจะจัดการให้ ผมเลยค่อนข้างสบายใจที่มีคนมาดูแลเคนในช่วงที่ผมไม่อยู่ ผมจะได้ดำเนินการจัดประชุมโดยไม่ต้องพะวักพะวน

ความร้อนใจทำให้ผมไปถึงห้องประชุมแต่เช้า ยังไม่มีพนักงานคนไหนโผล่มา เพราะคงมัวแต่ทานอาหารกันอยู่ ผมเจอแค่นนนี่ กับสต๊าฟจัดงานแค่สองสามคนเท่านั้น

ทันทีที่นนนี่เห็นผม เธอก็ปราดเข้ามาถามไถ่เรื่องเคน พอรับรู้ว่าผมให้พักผ่อนอยู่ที่บ้านพักเธอก็โล่งใจ จากนั้นก็รายงานเรื่องที่เธอรับปากจะจัดการให้ผม ซึ่งมันก็ตรงกับสิ่งที่ผมคิดไว้

ไม่มีพนักงานคนไหนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น และไม่มีพนักงานคนไหนไปอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ ไม่มีใครหายไปอย่างผิดสังเกต

ทางโรงแรมยินดีจะให้ตรวจสอบพนักงานทุกคนเพื่อความบริสุทธิ์ใจ และยินดีจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการตามหาตัวบุคคลที่ต้องสงสัยอีกแรงหนึ่ง

ผมกล่าวขอบคุณนนนี่ และเล่าถึงสิ่งที่สงสัยให้ฟัง ผมกล้าพูดบางเรื่องให้เลขาของผมได้รู้ เพราะเธอเป็นคนที่ไว้ใจได้ ที่สำคัญนนนี่เข้าใจผม

ถึงผมจะไม่บอกเรื่องระหว่างผมกับเคนให้เธอทราบ แต่ด้วยความช่างสังเกต นนนี่ก็คงจะพอเดาออก แต่เธอก็ไม่เคยทำเป็นอวดฉลาด

เรื่องไหนที่ไม่เกี่ยวกับงานเธอจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวาย ไม่ทำให้ผมอึดอัดใจด้วยการเข้ามาสอดรู้สอดเห็น ผมจึงวางใจที่จะพูดให้เธอฟัง โดยไม่กลัวว่าเธอจะปากโป้ง ทำให้ผมเดือดร้อน

หลังจากเราคุยกันไปได้สักพัก พนักงานก็ทยอยกันเข้ามาในห้อง พอเห็นผมรออยู่ก่อนแล้ว ทุกคนก็หน้าตาตื่น รีบเดินตัวลีบเข้าห้องประชุมไป

การที่ได้เห็นผมมาก่อนเวลา ทำให้พวกเขารู้สึกละอาย เพราะสำหรับประธานบริษัทไม่จำเป็นจะต้องมารอพนักงานก็ได้ ให้ทุกคนเข้าห้องประชุมเรียบร้อยก่อน คนที่กำกับรายการค่อยไปเชิญผมมาเปิดงาน

แต่พอผมมาก่อนเวลาแบบนี้ พวกเขาก็คงรู้สึกผิดที่มัวแต่เถลไถลล่าช้าต้องให้ผมเป็นฝ่ายมาคอย

ผมนั่งดูพนักงานที่เข้านั่งในห้องประชุมจนเกือบเต็ม กลุ่มคนต้องสงสัยเข้ามาเกือบจะสุดท้าย สายตาของผมตวัดไปที่คนที่มีเรื่องกับเคนทันที

เขาเองเมื่อหันมาเจอผมจ้องที่เขา ก็มีทีท่าตกใจเช่นกัน ผมมองผ่านอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้คนกลุ่มนั้นรู้ตัวว่าผมกำลังจับผิดพวกเขา สายตาพยายามเก็บรายละเอียดเต็มที่

ดูจากสภาพร่างกายแล้ว พนักงานที่มีเรื่องกับเคน ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ มีเพียงโหนกแก้มที่เขียวช้ำนิดหน่อย ซึ่งก็บ่งบอกไม่ได้ว่าไปโดนอะไรมา

ผมเห็นหน้าเขาแล้วก็ปวดใจ หากเขามีเรื่องกับเคนจริงๆ เคนก็โต้ตอบเขาได้น้อยมาก แทบไม่ระคายเคืองอะไรเลย แต่สภาพบอบช้ำของเคนที่ผมเห็น มันทำให้ผมตระหนักได้ว่า เคนโดนกระทำหนักหนาสาหัสเพียงไร

แทบไม่อยากจินตนาการถึงการที่สามีของผมถูกกลุ้มรุมทำร้าย เขาคงสู้ยิบตา แต่สามีของผมไม่ใช่คนตัวใหญ่มากมาย เทียบกับคู่ต่อสู้ของเขาคนนี้

ร่างกายของเคนเป็นรองหลายเท่า ยังไม่นับว่าเขาคนเดียว กับฝ่ายนั้นที่มีพวกอีกหลายคน เคนจะไปต้านทานนักเลงอันธพาลเหล่านั้นได้อย่างไร

มือของผมกำแน่น เกร็งจนเห็นข้อขาว พยายามระงับอารมณ์ตัวเองอย่างที่สุดที่จะไม่แสดงความโกรธออกมา ผมกลัวว่าตัวเองจะยับยั้งชั่งใจไม่อยู่ เดินไปกระชากคอเสื้อพนักงานของตัวเองแล้วตะคอกถามว่าทำร้ายเคนของผมหรือไม่

ผมอยากจะถอดหัวโขนประธานบริษัททิ้งใจจะขาด อยากเป็นคนธรรมดาสามัญ ที่สามารถทำอะไรได้ตามใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะนินทาว่าร้าย หรือเสื่อมศรัทธาในตัวเรา

ผมอยากจะเอาคืนคนที่ทำร้ายคนที่ผมรักเพื่อปกป้องเกียรติของเขา แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้คือเพียงแค่นิ่งเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในใจถูกแผดเผาด้วยไฟแค้นที่สุมอก

เมื่อทุกคนเข้านั่งที่ประชุมเรียบร้อย พิธีกรก็กล่าวเชิญผมเพื่อเปิดงาน ผมขึ้นไปกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการสัมมนาในช่วงเช้านี้ ในหัวข้อ หัวใจของการบริการ เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำงาน

งานของเราคือผลิตสินค้าและบริการ และลูกค้าคือพระเจ้า เราต้องดูแลและบริการลูกค้าของเราอย่างเต็มที่ เพื่อให้เขาเกิดความประทับใจ จะได้เกิดเป็นความจงรักภักดีต่อบริษัท และต่อสินค้าของเรา

เมื่อเขาชื่นชอบนิยมในตัวสินค้าและการบริการของเรา เขาก็จะเรียกใช้ต่อไปในภายภาคหน้า และก็จะแนะนำบอกต่อกันไป

ซึ่งการบริการนี้ไม่ใช่มีแต่เฉพาะตอนขายสินค้าเท่านั้น แต่ต้องมีบริการหลังการขาย ซึ่งทุกคนจะต้องทำด้วยใจ และเต็มที่กับมัน หน้าที่ในการบริการเป็นของทุกคน ทุกระดับชั้น

ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายบริการลูกค้าหลังการขาย ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายการตลาด หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องปฏิบัติ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของบริษัท

และการบริการนั้นไม่ใช่จะต้องทำเฉพาะกับลูกค้าที่มาติดต่อซื้อสินค้าและรับบริการของบริษัทเราเท่านั้น แม้แต่พนักงานแต่ละฝ่ายก็ถือว่าเป็นลูกค้าที่เราจะต้องบริการด้วยใจ

เช่นฝ่ายการตลาดเวลาไปติดต่อกับฝ่ายประชาสัมพันธ์ ก็ให้ถือว่า ฝ่ายการตลาดเป็นลูกค้าของฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งฝ่ายประชาสัมพันธ์จะต้องดูแลและให้บริการด้วยความเต็มอกเต็มใจ ไม่ถือว่าต่างฝ่ายต่างพวก

ทุกคนในบริษัทคือเพื่อนร่วมงาน คือพี่คือน้อง และในขณะเดียวกัน ก็ให้ถือว่าเป็นลูกค้าที่เราจะต้องดูแลเอาใจใส่ด้วย

ผมบอกกับพวกเขาว่า ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้รับเกียรติให้มากุมบังเหียนดูแลกิจการที่นี่ ที่ผ่านมา ทุกคนมุ่งมั่นขยันทำงาน เป็นที่น่าพอใจ อัตราการเติบโตของบริษัทเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นผลมาจากความตั้งใจจริงของทุกคน

และผมย้ำว่า สำหรับคนที่ขยันอดทน ทุกคนจะได้รับรางวัลอย่างแน่นอน ผมยินดีสนับสนุนคนทำงาน คนที่ตั้งใจจริง และผมไม่นิยมการเล่นเส้นสาย

ใครที่คิดว่า การประจบสอพลอ จะทำให้ก้าวหน้าขอให้เลิกคิดได้ หรือใครที่กำลังคิดอยู่ว่าตัวเองไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง เป็นเพราะผู้บังคับบัญชาลำเอียงไม่ให้ความเป็นธรรม และรู้สึกข้องใจ ก็ให้เดินมาหาผม ห้องทำงานของผมเปิดต้อนรับทุกคน เรามาคุยกัน จะได้รู้ว่าเพราะอะไรทำไมถึงไม่ได้

สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะขอร้องพวกเขาคือ อย่าไปคิดสรุปกันเอาเองว่าที่ตัวเองได้รับการเมินเฉยเพราะถูกหัวหน้ารังเกียจ อย่าไปเชื่อข่าวลือ จนกว่าจะได้เห็นด้วยตา หรือได้ยินจากหูของตัวเอง

เพราะบางทีข่าวลือก็ถูกปล่อยออกมาจากผู้ไม่ประสงค์ดี หรือต้องการทำลายกัน และที่สำคัญอย่ากล่าวโทษคนอื่นที่เขาได้ดีกว่า เพียงเพราะเชื่อคำที่ได้ยินได้ฟังเขาเล่ามา เพราะคุณอาจจะเป็นเหยื่อของผู้ที่ต้องการทำให้เกิดความแตกแยก

ข้อสรุปสุดท้ายของผมที่บอกกล่าวกับทุกคนคือ ผมรักพนักงานของผมทุกคน และยินดีให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา หากใครมีเรื่องอะไรขุ่นข้องหมองใจ ไม่สบายใจให้เดินมาบอกผม หรือบอกหัวหน้าของพวกเขาก็ได้

เพราะทุกเรื่องถึงผมเหมือนกันหมด ผมขอให้พวกเขารักกัน อย่ามีอคติต่อกัน เพราะทุกคนคือเพื่อนร่วมงาน ถ้าใครไม่ชอบคนไหน ก็ขอให้ไปเคลียร์กันอย่างมีเหตุผล

อย่าใช้ความรุนแรง หากผมพบว่า มีใครเกลียดกัน และทำร้ายกันด้วยวิธีป่าเถื่อน ผมจะจัดการขั้นรุนแรงกับคนพวกนั้น เพราะถือว่าเขาไม่เคารพเพื่อนร่วมงานของตัวเอง โทษมีสถานเดียวก็คือไล่ออก และผมจะไม่รอมชอมใดๆทั้งสิ้น

ตอนที่ผมพูดเรื่องนี้ สายตาของผมจับจ้องตรงไปที่พนักงานที่มีเรื่องกับเคน ผมเห็นเขาก้มหน้าก้มตา เหมือนกลัวความผิด สังหรณ์บางอย่างทำให้ผมคิดว่าเขาคือคนที่เล่นงานเคนอย่างแน่นอน

แต่ในเมื่อตอนนี้หลักฐานที่จะมัดตัวเขา ยังมาไม่ถึงมือผม ก็คงทำอะไรไม่ได้ คงได้แต่ตักเตือนทางอ้อม บอกให้รู้เป็นนัยๆว่าผมรู้เรื่องนี้ และไม่มีวันที่จะนิ่งเฉยอย่างเด็ดขาด

อย่างน้อยๆ ก็คงปรามเขาได้บ้าง ไม่ให้ไปเล่นงานเคนอีก เพราะถ้าเขายังขืนรังแกคนของผม เขาก็จะได้รับการตอบแทนที่สาสมเช่นเดียวกัน

ลงจากเวทีแล้ว พิธีกรก็กล่าวเชิญวิทยากรรับเชิญที่เราจ้างมาบรรยายในหัวข้อหัวใจการบริการ ขึ้นไปพูดถึงวิธีการที่จะดูแลลูกค้าให้ประทับใจ

ผมนั่งฟังไปสักครึ่งชั่วโมง ก็เดินออกมาข้างนอก เพื่อโทรศัพท์ถามไถ่มอดเรื่องอาการของเคน มอดรายงานว่าเคนหลับตลอดตั้งแต่ผมออกจากบ้านพัก คงเพราะความอ่อนเพลีย และฤทธิ์ยาที่ผมบังคับให้เคนทาน ทำให้เขาหลับไป ซึ่งก็เป็นการดีที่เคนจะได้พักผ่อนร่างกายบ้าง

เมื่อหมดห่วงเรื่องเคนแล้ว ผมก็กลับเข้าไปในห้องประชุมตามเดิม เพื่อนั่งฟังวิทยากรบรรยายจนจบ เพื่อเป็นการให้เกียรติวิทยากรที่เชิญมา และรอมอบของที่ระลึกให้เขาด้วย

เสร็จสิ้นการสัมมนา ผมก็กล่าวปิดประชุม และอวยพรให้พนักงานทุกคนที่กำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพ ให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอให้ทุกคนกลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้น อย่างสดชื่นแจ่มใส

แง้มถึงโบนัสที่ผมจะให้กับพวกเขาด้วย ข่าวนี้สร้างความดีใจและฮือฮาให้พวกเขาไม่น้อย ทุกคนปรบมือและร้องตะโกนขอบคุณผมกันยกใหญ่

ผมยิ้มให้กับทุกคน และโบกไม้โบกมืออำลาพวกเขาซึ่งกำลังจะเดินทางกลับกัน

ก่อนที่จะกลับบ้านพัก ผมเสียเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมงกับการคุยกับผู้จัดการโรงแรมที่มาพบผมเพื่อขอโทษขอโพยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมจะสืบสาวราวเรื่องให้

ผมกล่าวขอบคุณเขาที่แสดงความรับผิดชอบออกมา ที่จริงผมไม่ติดใจเอาความทางรีสอร์ท เพราะรู้ว่าคนของเขาคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเคน

ตอนนี้ผมปักใจว่า คนในบริษัทผมเองที่ทำร้ายสามีของผม แต่ถึงอย่างไร ผมก็ต้องการเบาะแสบ้าง เผื่อว่าในค่ำคืนนั้นจะมีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเคน อันจะสาวไปถึงตัวผู้ร้ายตัวจริง ซึ่งผมจะได้ใช้เป็นหลักฐานมัดตัวเอาคนทำผิดมาลงโทษ

จบจากการพูดคุยกับผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมก็ตรงดิ่งกลับบ้านทันที ใจผมไปอยู่ที่เคนหมดแล้ว

เป็นห่วงกังวลไปสารพัด กลัวว่าเขาจะเจ็บหนัก กลัวจะไข้ขึ้น กลัวว่าเขาจะช้ำใน แม้ว่าผมจะตรวจตราดูบาดแผลของเขาก่อนออกจากบ้าน ว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากก็ตาม

แต่ผมก็วางใจไม่ได้อยู่ดี เกิดเคนเป็นอะไรขึ้นมาระหว่างนี้ ผมคงรู้สึกแย่ที่ไม่ได้อยู่ข้างเขา ตอนที่เขาต้องการใครสักคน

มอดรายงานเกี่ยวกับอาการของเคนให้ผมฟัง ผมกล่าวขอบคุณเขาที่ช่วยดูแลเคนเป็นอย่างดี ตอนแรกว่าจะให้เงินเป็นรางวัลกับเขา แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

การได้อยู่ใกล้ชิดเคนทำให้ผมรู้ว่า บางครั้งเงินก็ซื้อความรักความภักดีจากคนไม่ได้ ผมควรจะตอบแทนน้ำใจของมอดด้วยวิธีการอื่นดีกว่า ซึ่งน่าจะทำให้มอดรู้สึกดีที่จะตบรางวัลเป็นเงินกับเขา

หลังจากมอดกลับที่พักของตัวเองเพื่อเตรียมตัวไปกับรถบัส ผมก็นั่งเฝ้าเคนต่อข้างๆเตียง จนกระทั่งเคนตื่นลืมตาขึ้นมาอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง

เมื่อเขาเห็นผมนั่งมองเขาหน้าเศร้าอยู่ข้างเตียง เคนก็เอามือของเขามาจับมือผมไว้ แล้วพูดเย้าผมด้วยเสียงอู้อี้ เนื่องจากปากแตกบวมทำให้พูดไม่ค่อยถนัด

“ทำหน้าแบบนี้ไม่หล่อเลยนะ”

“เคนอ่ะ อารมณ์แบบนี้ใครจะมาห่วงหน้าตาตัวเองกัน”

ตัดพ้อเขา แต่ก็ไม่วายยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง เอ...หรือว่าผมจะโทรมจริงๆ จนเคนมองแล้วไม่สบายตา ไม่ได้การแล้ว กลับไปบ้าน ต้องโปะครีมบำรุงสุดฤทธิ์ หน้าจะได้เด้งเนียนใส เคนจะได้หายป่วยเมื่อมองหน้าผม

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 31-01-2009 20:28:56
“อย่ากังวลเรื่องผมมากนักนะ คนดี”

เขาพูดอย่างอยากลำบาก จนผมต้องตะแคงหูฟัง แต่ถึงกระนั้น ผมก็ได้ยินคำว่า “คนดี” ผ่านปากบวมเจ่อของเขา มันทำให้ผมปลื้มถึงกับน้ำตารื้น..

โถ.... พ่อคุณของเมีย เห็นสภาพสามีเป็นอย่างนี้แล้ว ใครจะรื่นเริงอย่างไรไหว ต้องทนสงบอกสงบใจ ไม่อาละวาดเอากับคนที่ผมมั่นใจว่าทำร้ายเขา ก็มากพอดูแล้ว

ใจจริงอยากจะชกหน้าสักเปรี้ยงให้หายแค้น แต่หัวโขนประธานค้ำคอ ทำให้ไม่สามารถทำรุนแรงกับลูกน้องตัวเองได้

ต้องกล้ำกลืนฝืนทนเห็นพวกนั้นลอยนวล โดยไม่มีใครทำอะไร ได้แต่หวังว่า นนนี่และนายชาตรี จะหาหลักฐานมาให้ผมเอาผิดคนเลวได้ในเร็ววัน

“อย่าพูดมากเลยครับ เดี๋ยวทานข้าว แล้วทานยาแก้ปวดสักนิดนะครับ ผมสั่งพนักงานเขาจัดอาหารกลางวันมาให้เคนแล้ว

ทานเสร็จเราจะได้กลับกัน กลับบ้านของเรา เอ้อ...ผมหมายถึงเพนท์เฮาส์ของผมนะครับ เคนเจ็บแบบนี้ ผมไม่ให้กลับบ้านเช่าของเคนแน่ๆ”

ผมถือวิสาสะจัดการเรื่องที่พักของเคนซะเอง ที่ผมไม่อยากให้เคนกลับห้องเช่า เพราะที่นั่นคับแคบ และสิ่งแวดล้อมไม่ดี เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆก็ไม่มี ไม่เหมาะกับการจะใช้ที่นั่นเป็นสถานที่พักผ่อนตอนที่เคนเจ็บแบบนี้

สู้ไปนอนพักที่บ้านผมดีกว่า ผมจะได้แวบขึ้นมาดูแลอาการเคนได้บ่อยๆ ไม่ต้องนั่งคอยกังวลว่าเคนจะเป็นอะไรหรือเปล่า

สามีของผมไม่โต้แย้งอะไร อันที่จริง เขาไม่อยู่ในสภาพที่จะขัดขืนอะไรได้มากกว่า หน้าตาบวมปูด ปากแตกแบบนั้น แค่จะพูดตอบผม ก็ยังลำบากเลย เขาก็เลยต้องยอมทำตามผมไปโดยปริยาย

หลังทานอาหารเที่ยง และเช็คเอาท์เรียบร้อยแล้ว ผมก็พาเคนกลับบ้าน โดยลุงเทพคนขับรถของผมเป็นคนขับ ส่วนผมกับเคนนั่งข้างหลัง

ผมให้เคนนอนหนุนตักหลับไปอย่างสบาย ตอนแรกเขาไม่ยอมเพราะอายคนของผม ต้องอาศัยการหว่านล้อมว่าลุงเทพรู้เรื่องของเราเป็นอย่างดี และไม่มีวันปากโป้ง เคนถึงได้ยอม

แต่กระนั้นก็ยังไม่ยอมหลับ นั่งจ้องด้านหลังคนขับตาแป๋ว คงกลัวลุงจะหันมาให้ความสนใจ สักพัก ฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปก็ทำให้เขาง่วง ก็เลยผล็อยหลับไป

ด้วยความช่วยเหลือของลุงเทพ เราสองคนก็ช่วยกันพยุงเคนขึ้นมายังเพนท์เฮ้าส์ ของผมได้ ผมไม่ลืมสั่งให้ป้าหมี่ แม่บ้านของผม ซึ่งเคยดูแลเคนมาก่อนตอนเคนป่วย ให้ช่วยมาดูแลเขาด้วย

อย่างน้อยๆ ตอนที่เคนนอนป่วยอยู่ตามลำพัง ในขณะที่ผมไปทำงาน จะได้มีคนช่วยดูแลเขา และเคนก็คุ้นกับป้าหมี่แล้ว คงจะดูแลกันได้

“ไม่ให้ผมไปทำงานจริงๆเหรอ”

ตอนเย็น หลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว เขาก็ถามผมทันที เหมือนว่ามันเป็นเรืองคาใจเขา ผมยิ้มให้สามี และกุมมือเขาไว้แน่น ก่อนจะพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน

“นอนอยู่ที่นี่ดีแล้วนะครับ หน้าตาบวมอย่างนี้ จะไปทำงานได้ไง”

มือข้างหนึ่งของผมเอื้อมไปแตะที่หน้าของเขาแผ่วเบา

“ผมรู้ว่าเคนห่วงงาน แต่ห่วงตัวเองก่อนดีไหมครับ ผมไม่ใช่เจ้านายใจร้าย ที่จะใช้ลูกน้องทั้งที่เขาเจ็บป่วยหรอกนะ คุณไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้นี่นา”

ปลอบเขาให้คลายความกังวลใจ เคนพยายามยิ้มให้ผม แม้มันจะคลี่ปากออกยาก เพราะมันคงจะตึงและแสบ
ไปหมด แต่ดวงตาที่พราวระยับทำให้ผมรู้ว่าเคนกำลังยิ้มให้ผม

“เคนต้องพักผ่อนให้มากๆนะครับ เมื่อครู่ตอนคุณนอนหลับ ผมให้หมอมาตรวจดูอาการคุณแล้ว

หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ไม่มีกระดูกแตกหัก และไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าช้ำใน แผลภายนอกอย่างนี้ อีกไม่กี่วันก็หาย แต่เคนต้องทานยา และพักผ่อนนะครับ”

ขอร้องแกมสั่งเขา ซึ่งเคนไม่มีทางเลี่ยง ต้องจำยอมรับปาก ผมรู้ว่าเขาห่วงงาน กลัวทำไม่ทัน ในฐานะประธานแค่ได้ฟังอย่างนี้ผมก็ชื่นใจแล้ว

มีลูกน้องที่ทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างนี้ ผมคงใจดำปล่อยให้เขาไปทำงานทั้งที่หน้าตาบวมปูดไม่ได้หรอก

ยิ่งในฐานะคนเป็นเมียย่อมไม่อยากเห็นสามีอาการทรุดหนักย่ำแย่กว่าเดิม ดังนั้น การตัดสินใจให้เขานอนพักผ่อนอยู่กับบ้าน ในขณะที่ผมไปทำงานและสืบเรื่องคนทำร้ายเขา จึงเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสมแล้ว

“เลยอดกุ๊กกิ๊กกับเคนเลย”

ผมบ่นกระปอดกระแปด นึกเสียดายช่วงเวลาที่จะได้ฮันนีมูนกับเคนในบรรยากาศสุดโรแมนติก ไอ้คนเลวบางคนดันมาทำให้พังทลายเสียได้

“แต่ไม่เป็นไรหรอก เท่ากับเคนยังติดค้างผมอีก รวมกับหนก่อน เป็น 9 ครั้งนะ”

อดไม่ได้ที่จะทวง ตาของเคนเต้นระริกด้วยความขำ มุมปากกระตุก เหมือนเขาจะหัวเราะ แต่ปากที่บวมเจ่อ ทำให้รอยยิ้มของเขานั้นดูแปลกๆพิกล

“9 ครั้งนี่ แล้วพอเลยใช่ไหมครับ แล้วไม่ยุ่งกันอีกเลย”

สามีของผมแซวขำๆ เออหนอ ยังมีแก่ใจจะอำผมอีก และผมก็บ้าจี้พอที่จะโวยวาย เหมือนเด็กที่ถูกริบของที่ชอบกลับคืน

“อะไรอ่ะ ผมหมายถึง 9 ครั้งในคืนเดียวต่างหาก ส่วนวันอื่น ก็ต้องกุ๊กกิ๊กกันตามปกติ”

ผมไม่ยอมสูญเสียโอกาสดีๆ ที่จะได้ผูกสัมพันธ์แนบแน่นกับเคนหรอก

“รู้ตัวบ้างไหม ว่าเคลวินเป็นภรรยาที่หื่นมากๆเลย ในสมองนี่คิดเรื่องอื่นเป็นบ้างไหมครับ”

เขาทำเสียงเย้า ดวงตาที่เขาทอดมองมา อ่อนโยนนัก ผมโน้มตัวลงไปกอดเขาอย่างแนบแน่น เอาหน้าเกลือกที่หน้าอกเคน

คำว่า “ภรรยา” ที่เขาเผลอพูดออกมา ดังก้องสะท้อนในหัว ดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่เคนเรียกผมด้วยคำนี้ ต้องพยายามอย่างมาก ที่จะไม่เผลอพูดถึงเรื่องนี้ออกไป ด้วยกลัวว่าเคนจะเอาแต่ระวังตัว และไม่ยอมเรียกผมด้วยคำนี้อีก

“ก็...แหม...พูดอย่างนี้อายนะเนี่ย ...ที่หื่นน่ะ ก็หื่นกับเคนคนเดียว ไม่เคยหื่นกับใครเลยนะ ...หื่นเพราะรัก ผมรักเคนนะครับ”

แขนของเคนสอดเข้ามากอดตอบผมอย่างเก้ๆกังๆ เหมือนเขาจะไม่แน่ใจในการกระทำของตัวเอง ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ใจลุ้นระทึกว่าเขาจะกอดผมหรือคลายอ้อมแขนออก

แล้วผมก็ต้องแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเขากอดผมแน่น เคนคงรับรู้ได้ถึงความรักที่ผมมีต่อเขาอย่างท่วมท้นหัวใจ

และเขาคงกำลังตอบแทนความรักของผมด้วยวิธีการของเขา แม้จะเป็นแค่การกอด ผมก็รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว และได้แต่หวังว่า การสัมผัสทางกายอื่นๆ ที่บ่งบอกว่าเขารักผม คงจะตามมาในไม่ช้า







หลังจากที่นอนหลับพักผ่อนเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกัน ผมก็ตื่นลืมตาขึ้นมาในสภาพที่หนักตรงหน้าอกและลำตัวด้านข้าง

ผมเอี้ยวมองคนที่เอนตัวมาซบผมในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน แล้วเกิดความรู้สึกสงสาร

ตั้งแต่เกิดเรื่องเคลวินเฝ้าดูแลผมไม่ยอมห่าง ปรนนิบัติพัดวี ป้อนข้าว ป้อนน้ำ ดูแลให้ผมกินยา และพักผ่อน จนตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีอาการดีขึ้นบ้างแล้ว

แผลบนใบหน้าเริ่มแห้ง ตึงบ้างในบางที่ตรงบริเวณที่มันแตก แต่ไม่ค่อยเจ็บเหมือนวันแรกๆที่โดนซ้อมมา
เหตุการณ์วันที่ผมโดนทำร้ายผมยังจำได้ติดตา

ทว่าผมไม่พยายามจะพูดถึงมัน เพราะกลัวว่าจะเป็นการสุมไฟแค้นให้เคลวิน ผมรู้ดีว่า เมื่อไหร่ที่ผมหาย เคลวินก็คงจะต้องซักถามผมถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อหาตัวคนผิดมาลงโทษ

แต่ผมไม่อยากลากให้เคลวินมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แค่ที่เป็นอยู่ เคลวินก็มัวหมองเพราะผมมากเกินไปแล้ว ผมไม่อยากให้เขาเสียคนด้วยเรื่องของเรา มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องปกป้องเกียรติของเขาเอาไว้

แน่นอนว่า ผมไม่มีทางปล่อยให้เรื่องมันจบลงแค่นี้ ผมต้องหาวิธีจัดการกับคนพวกนั้นด้วยตัวเอง ผมรู้ว่าคนเหล่านั้นคงไม่หยุดแค่การทำร้ายผม

เขาคงต้องหาวิธีในการที่จะทำให้ผมอยู่ที่บริษัทนี้ไม่ได้ และวิธีการนั้นอาจจะดึงเคลวินมาเกี่ยวข้องโดยปริยาย

ผมอยากไปทำงานเหลือเกิน อยากไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รู้ตัวดีว่าผมคงนอนพักผ่อนในสภาพที่จิตใจร้อนรุ่มไม่ได้

แต่ในสภาพที่เป็นอยู่ ผมคงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากนอนพักรักษาตัวให้หาย แล้วก็ไปจัดการเรื่องที่มันยังคั่งค้างอยู่

“เคลวิน..สายแล้วนะครับ ไม่ไปทำงานหรือไง”

คนขี้เซาไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ยังคงนอนซบอกผมอยู่อย่างเดิม ตามปกติเขาเป็นคนความรู้สึกไว และตื่นเช้ามาก วันนี้กลับนอนตื่นสาย คงเพราะเฝ้าพยาบาลผมจนอ่อนเพลีย ทำให้ไม่ลุกมาง่ายๆ

“ประธานเคลวิน ตื่นได้แล้วนะ”

ผมเอานิ้วไปแหย่รูหูเขา แล้วไชนิ้วยุกยิก เคลวินทำคอย่น มีเสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยิน แต่ตายังหลับ ผมเลื่อนมือไปดึงจมูกโด่งสวยของเขา แล้วบีบที่ปลายจมูก สักพักเขาก็ลืมตาขึ้น แล้วร้องโวยวาย

“นี่ตอบแทนความดีของผม ด้วยการที่จะฆ่ากันให้ตายหรือไง”

“ก็ถ้าไม่ทำแบบนี้จะตื่นขึ้นมาหรือครับ”

“นี่เหรอวิธีการปลุกของเคน ต้องแบบนี้ครับ”

พูดจบ เคลวินก็เลื่อนตัวขึ้น แล้วเอาสองมือประคองใบหน้าผมเข้าไปหาเขาแล้วประทับจูบ สักพักเขาก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ ก็ผละออก แต่มือยังประคองหน้าผมไว้ เขาจ้องผมตาโต แล้วก็ถามผม ด้วยท่าทางเหมือนคนไม่มั่นใจตัวเอง

“ผมมีกลิ่นปากยามเช้าหรือเปล่าครับ”

คำถามของเขาทำให้ผมหัวเราะก๊ากออกมา แล้วก็ต้องสูดปากที่ตึงเพราะแผลแห้ง เคลวินทำหน้างอ เมื่อเห็นผมหัวเราะเขา และหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มอย่างดีใจ เมื่อผมส่ายหน้าแทนคำตอบว่า “ไม่”

“ดีจังยาสีฟังยี่ห้อนี้ ต้องซื้อมาใช้บ่อยๆ ....ถ้างั้น เรามาปลุกกันต่อนะครับ”

เคลวินยังคงความหื่นต่อเนื่อง ผมไม่รู้ว่าใครปลุกใครกันแน่ เป็นผมที่ปลุกให้เขาตื่น หรือเป็นเขาที่ปลุกอารมณ์ผมให้กระเจิง

“ไม่อยากไปทำงานเลย...อยากอยู่กับเคน”

---------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 31-01-2009 20:38:35
 :z6: มันเป็นใคร มากไปแล้วบังอาจมาทำ เคนจังของเค้า

โดนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :beat:  :z6:  :beat:  :z6:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 31-01-2009 20:53:14
อยากอยู่[ดู]ด้วยคน


อิอิ o18
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 31-01-2009 21:19:45
 :o8:

อีกนิด ๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-01-2009 22:34:21
รออยู่นะครับ หนูมิ้น อย่าได้ชักช้า ได้ข่าวว่าคุณเคทแต่งจบแล้ว  :z2:

+1 ให้แล้วด้วย พร้อมกับของ คุณเคทด้วย +1 เหมือนกัน

ปล. หวังว่าคงได้อ่านต้นน้ำในเร็ว ๆ นี้ ใช่ไหมครับ คุณเคท  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 31-01-2009 23:04:58
เป็นกำลังใจให้เคนนะ 
ต้องมีวิธีให้ เคล เอาคืนสิเนอะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 01-02-2009 00:53:34
หวานมากมาย

^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 01-02-2009 02:04:22
 :serius2:

ขออีกซักครึ่งตอนไม่ได้หรอ :monkeysad:

เหอะๆๆ คราวนีเมื่อเคนเอาจริงคงตายกันเป็นเสี่ยงๆ
หึๆๆๆ :fire:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-02-2009 02:53:45
 :angry2: ใครนะที่ทำร้ายเคน จัดการมันเลย เพราะทำให้อดอ่านเอ็นซี  :z1: ต้องรอไปอีกจนกว่าเคนจะหาย แอร๊ยยยส์ ขัดใจ  :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 01-02-2009 09:54:33
 o13 กำลังรอลุ้น การเอาคืนของเคน...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 01-02-2009 11:33:51
เคนจะทำยังไงเนี่ย อยากรู้จริงๆ


ปล. เมื่อไหร่ท่านประธานจะสมหวังซะที

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 55 :P 31.1.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 02-02-2009 09:19:39
บทที่ 56

-----------------------------

“ไม่อยากไปทำงานเลย...อยากอยู่กับเคน”

หลังจากจูบผมเสร็จ เคลวินก็ทำท่าออดอ้อนงอแง จะไม่ไปทำหน้าที่ของตัวเองเอาดื้อๆ

“อย่าทำอย่างนี้สิครับ ผมรู้สึกผิดนะ เพราะผมเจ็บ เคลวินเลยห่วงใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นเราไปทำงานด้วยกันดีไหม เคลวินจะได้ไม่ต้องห่วงผม”

ยื่นข้อเสนอ เคลวินตาโต ร้องห้าม

“ไม่นะ เคนไม่ต้องไปหรอก ผมไปเอง”

เขาพูดพลางลุกขึ้น ด้วยกลัวว่าผมจะไปทำงานกับเขาจริงๆ ทว่าแทนที่จะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เคลวินก็ยืนมอง ส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยผม

“งั้นก็ไปซะทีสิครับ จะมายืนอยู่ทำไม สายแล้ว”

ผมโน้มตัวมาใกล้เขา แล้วเอามือฟาดเบาๆไปที่ก้นของเคลวิน เหมือนกระตุ้นม้าให้เดิน เขาจิกตามองผม มือหนึ่งเลื่อนขึ้นมาลูบหน้าอก อีกมือหนึ่ง แตะที่ริมฝีปาก เขาใช้นิ้วชี้ของตัวเอง ลากไปบนริมฝีปากล่างสไลด์จากมุมหนึ่งไปมุมหนึ่ง ทำท่ายวนยั่วเหมือนผู้หญิง และพูดด้วยเสียงเซ็กซี่

“ตีก้นเค้าด้วย ชอบเขาใช่ป่ะล่ะ ตัวเอง”

เห็นท่าของเขาเล่นเอาผมหลุดก๊ากออกมาอย่างไม่กลัวเจ็บปาก

“โอ๊ย ยั่ว ยั่วมาก...แต่ยั่วโมโหนะ”

เคลวินหลุดหัวเราะออกมาเช่นกัน ท่าทางเขามีความสุขไม่น้อย ที่การทำท่าตลกๆของเขาทำให้ผมร่าเริงได้ แกล้งผมเสร็จเขาก็เดินผิวปากหวือเข้าห้องน้ำอย่างสบายใจ ทิ้งให้ผมมองตามเคลวินอย่างนึกเอ็นดู

ตอนสายๆ หลังจากเคลวินลงไปทำงานแล้ว ป้าหมี่ก็มาเยี่ยมเยียนผมที่ห้องของเคลวิน คราวนี้ไม่ต้องสืบกันเลยว่าผมกับเคลวินเป็นอะไรกัน

แกมองหน้าผมยิ้มๆ ไม่ได้เยาะหยัน แต่เป็นลักษณะชื่นชมมากกว่า เคลวินคงคุยเรื่องผมกับแกไว้เยอะ เพราะดูเหมือนแกจะไม่แปลกใจเลยที่เห็นผมนอนอยู่บนเตียงคุณหนูของแก

“ลำบากป้าหมี่แย่เลย ต้องมาดูแลผมแบบนี้ ที่จริงผมก็ไม่เป็นอะไรมากเลยนะครับป้า ยังพอช่วยเหลือตัวเองได้”

พูดกับแกอย่างเกรงใจ ผมรู้สึกไม่คุ้นกับการที่มีแม่นมมาคอยดูแลผม ท่านประธานเคลวินอาจจะเคยชินกับการถูกประคบประหงมเป็นคุณหนูไฮโซ

แต่ผมเคยอยู่กับพ่อกับแม่ ซึ่งก็ไม่ต้องดูแลกันมากนัก พอมีคนมาคอยรับใช้ทำอะไรหลายๆอย่างให้ แถมคนนั้นยังแก่กว่าผมด้วย ผมก็เลยไม่ชิน

“อย่าคิดมากสิ คุณหนูเคน ป้ายินดี และ เต็มใจที่จะดูแลคุณหนูเคนนะคะ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นคนไกลสิ คุณหนูเคนเป็นคนในครอบครัวของคุณหนูเคลวินนะคะ”

เล่นพูดกันแบบนี้ผมก็เขินหน้าแดงสิ ป้าหมี่นะป้าหมี่ ไปฟังที่เคลวินพูดทำไมก็ไม่รู้ ขานั้นชอบโมเมสรุปเอาเองอยู่เรื่อยเลย ดูสิ ใครต่อใครเข้าใจผิดหมด

“ไม่ต้องเขินหรอกค่ะ คนในบ้านของคุณเคลวินหลายคนรู้ว่าคุณเคลวินมีคนพิเศษอยู่ที่บริษัทนี้ แล้วหลายคนก็อยากมาดูหน้าคุณหนูเคนอยู่”

คำพูดของป้าหมี่ทำเอาผมเกือบช็อค คนที่บ้านของเคลวินรู้เรื่องผมกับเขาแล้วเหรอ หนอยประธานสองหน้าเจ้าเล่ห์ เอาไปปูดให้คนในครอบครัวฟังจนหมดแล้วหรือไง ไม่อายบ้างเหรอ

“ใครบ้างครับป้าหมี่”

ถามออกไปอย่างร้อนรน

“ก็ พวกพี่ๆของคุณเคลวิน และคุณแม่”

ป้าหมี่ตอบด้วยสีหน้าปกติ เหมือนไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไร ตรงกันข้ามกับผม ที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“หา พี่กับแม่ ก็รู้ด้วยเหรอ”

“ค่ะ คุณเคลวินเขาสนิทกับพวกพี่ๆ แล้วก็คุณแม่ แต่คุณพ่อยังไม่รู้”

แม่นมของเคลวินตอบยิ้มๆ
“ตายละสิ แล้วป้าหมี่พอจะรู้ไหมครับ ว่าท่านประธานไปพูดอะไรไว้บ้าง”

ซักป้าหมี่อีก อยากรู้นักว่าพ่อตัวดีพูดถึงเรื่องราวของเราสองคนไว้อย่างไร อย่างน้อยผมจะได้เตรียมตัวเตรียมใจได้ถูก หากพ่อแม่ญาติพี่น้องของเขามาถามผม

“ก็ ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ แค่เปรยๆว่าอยากแต่งงาน คุณพี่กับคุณแม่ก็เลยจะพาสาวๆมาแนะนำตัว คุณหนูเคลวินจะได้เลือกเป็นแฟนสักคน

แต่เธอบอกกับที่บ้านว่า เธอมีคนที่เธอรักและพร้อมจะแต่งงานด้วยแล้ว คุณแม่กับคุณพี่ก็เลยอยากรู้จัก อยากเห็นแฟนเธอกันใหญ่”

ผู้สื่อข่าวรายงานให้ผมทราบคร่าวๆ ดูเหมือนคราวนี้ป้าหมี่จะไม่ค่อยรักษาความลับเหมือนครั้งแรก คงเป็นเพราะเรื่องนี้ได้ถูกพูดกันในครอบครัวของเคลวินแล้ว ป้าหมี่เลยพูดเหมือนกับมันเป็นเรื่องทั่วๆไป

“เหรอครับป้า แล้วเคลวิน เอ๊ย ท่านประธานได้บอกชื่อคนๆนั้นไปหรือยังครับ”

ร้องถามป้าหมี่เสียงดัง ปากก็แสบ แต่ยังน้อยกว่าความวิตกจริตที่ผมมี ทำไมถึงมีเรื่องมีราวไม่หยุดอย่างนี้

ผมทะเลาะกับพนักงานอันธพาล ด้วยเรื่องเกี่ยวกับรางวัล และลามมาถึงเรื่องการปกป้องเกียรติให้เคลวิน แต่เจ้าตัวเหมือนจะไม่รู้สึกรู้สาอะไร กลับพร้อมที่จะบอกใครต่อใครด้วยเรื่องของเราอีก

นี่ผมจะเจ็บตัวฟรีๆหรือไงกัน

“ไม่ได้บอกหรอกค่ะ คุณพี่กับคุณแม่กำลังสืบอยู่”


ป้าพูดพลางหัวเราะที่เห็นผมทำท่าแตกตื่น

“ตายล่ะสิ ทำไงดีอะครับป้า”

“ไม่เห็นจะต้องทำอะไรนี่คะ คุณหนูเคน ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ คุณหนูเคนคือคนพิเศษของคุณเคลวินจริงๆไม่ใช่หรือคะ ป้าไม่เห็นว่าจะต้องปกปิดอะไรนี่ คุณเคลวินเองเธอก็เปิดเผยจะตาย อยากให้ใครต่อใครรู้ด้วยซ้ำ ว่าคนรักของเธอเป็นใคร”

ป้ากล่าวอย่างติดตลก ท่าทางเธอจะเอ็นดูคุณหนูของเธอไม่น้อย แต่ผมไม่ขำด้วย นึกภาพที่ญาติพี่น้องเธอมาที่บริษัท มาสืบหาคนที่เคลวินอยากแต่งงานด้วย และถ้ารู้ว่าคนๆนั้นคือผม ทั้งบริษัทคงโกลาหลแน่

“โธ่ ป้าครับ มันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่ป้าพูดอย่างนั้นนะครับ”

แย้งอย่างไม่เห็นด้วย

“ทำไมล่ะ”

แม่นมของเคลวินถามอย่างสงสัย

“ก็….”

อยู่ๆก็ติดอ่างขึ้นมา จะให้ผมพูดออกไปอย่างชัดแจ้งได้อย่างไร ว่าที่ผมไม่เห็นด้วยเพราะความรักระหว่างชายกับชาย ใครจะยอมรับ

“ก็อะไรคะ ...คุณหนูเคนจะบอกว่าเพราะคุณสองคนเป็นผู้ชายเหมือนกันเหรอ”

ในขณะที่ผมมัวแต่อ้อมค้อม ป้าก็พูดโพล่งออกมาจนผมสะดุ้ง

“ทำนองนั้นแหละครับ”

พยักหน้ายอมรับอย่างจำใจ

“ไร้สาระมากค่ะ คุณหนูเคน คนที่เอาเรื่องเพศมาเป็นอคตินี่ หัวโบราณ ใช้ไม่ได้เลยค่ะ คุณแม่กับคุณพี่ของคุณหนูเคลวิน เขารับได้ตั้งนานแล้ว

เรื่องที่คุณหนูอยากเป็นเจ้าสาว แล้วก่อนหน้านั้นคุณหนูเคลวินก็เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อน เพียงแต่ไม่ได้พาเข้าบ้านพ่อบ้านแม่เท่านั้นเอง

บ้านนี้เขามีแนวความคิดแปลกดีจัง ตั้งแต่คุณนายของบ้าน ลูกสาว ยันคนรับใช้ ขนาดป้าหมี่แก่ขนาดนี้ แกยังมีหัวคิดทันสมัย ไม่คิดว่าความรักในเพศเดียวกันจะเป็นเรื่องผิดปกติ

ฟังแกพูดแล้วผมยังรู้สึกละอายใจแทน ที่บางครั้งก็แอบมีอคติในเรื่องรักร่วมเพศ หัวคิดสู้แกไม่ได้สักนิด

“ครอบครัวของคุณเคลวินเขาไม่คิดมากเรื่องนี้หรอกค่ะ ยิ่งแม่ของคุณเคลวินเธอเป็นหญิงไทยหัวก้าวหน้า ที่สำคัญเธอรักลูกมากนะคะ

อะไรก็ตามที่เป็นความสุขลูก เธอไม่คิดขัดขวางหรอก เพียงแต่เธอต้องการความแน่ใจว่าลูกเธอจะเจอะเจอแต่คนดีๆ”

ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเข้าใจลูกได้ดีจริงๆ แต่ผมจะเหมาะสมกับคุณหนูเคลวินแน่เหรอ

“ท่านประธานบอกเรื่องนี้กับครอบครัวนานหรือยังครับ”

“ก็หลายเดือนแล้วค่ะ ตอนที่กลับไปบ้าน คือคุณแม่ของคุณเคลวินให้ป้าโทรตามลูกชายท่านให้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้าง เพราะคุณเคลวินไม่ยอมกลับบ้านหลายเดือนแล้ว

ท่านคิดถึงก็เลยให้ไปหาท่าน คุณเคลวินก็ไป คุณแม่เขาก็แซวลูกตัวเองว่าไม่กลับบ้าน สงสัยติดพันใครอยู่แน่ๆ

คุณเคลวินก็ตอบว่าใช่ ทีนี้คุณแม่ก็เลยอยากรู้ขึ้นมา ไปเล่าให้คุณน้าฟัง คุณน้าก็ไปพูดกับญาติๆ ทุกคนก็มาถามคุณเคลวินค่ะ เธอก็เลยเปรยๆ ว่าเธอจะแต่งงานกับคนที่เธอรัก ตอนนี้กำลังดูใจกันอยู่ค่ะ”

คราวนี้ป้าหมี่เล่าเสียละเอียดลออเลย ไม่ปิดบังเหมือนคราวแรกที่แกมาดูแลผม ก็แน่ล่ะสิ พ่อตัวดี เอาไปพูดซะขนาดนั้น แล้วคนฉลาดอย่างป้าหมี่ คงพอจะเดาออกว่าเคลวินหมายถึงผมนั่นเอง

หนก่อนที่แกมาเฝ้าไข้ผมแทนเคลวิน แกก็พูดเป็นนัยๆหลายอย่าง ตอนนั้นเคลวินคงจะปากโป้งพูดถึงความสัมพันธ์ของเราสองคนให้แม่นมของเขาได้รู้บ้าง

และตอนหลังๆ ก็คงจะพูดมากขึ้น ยิ่งมีคนซักถาม ก็ยิ่งแย้มพรายให้คนรู้เพิ่มขึ้นไปอีก ก็เขาอยากแต่งงานจะตาย เทียวไล้เทียวขื่อให้ผมยอมรับเขาเป็นภรรยา นี่ก็เล่นแผนใต้ดิน บอกให้คนที่บ้านรับรู้อีก เจ้าเล่ห์จริงๆเลย

“แม่ของคุณเคลวินใจดีนะคะ เธอตามใจลูกจะตาย แต่ถ้าเป็นคุณพ่อล่ะไม่แน่ แม้จะเป็นฝรั่งหัวนอก แต่คุณพ่อก็ชอบให้ลูกเป็นผู้ชายเต็มตัวมากกว่า แต่อย่างว่าแหละ ความสุขของลูกจะห้ามได้อย่างไรละคะ”

การมาดูแลผมของป้าหมี่คราวนี้ แกมาพร้อมกับเรื่องราวต่างๆภายในครอบครัวของเคลวินที่ผมไม่เคยได้รู้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้เล่าให้ผมฟังเหมือนกัน

อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการให้ผมยอมรับในตัวของเขาก่อน ถึงจะเปิดเผยเรื่องครอบครัวของผมให้รู้ คงไม่อยากให้ผมยกเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธเขา

อย่างน้อยๆ ตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่า ในครอบครัวของเคลวิน ก็ยังมีคนที่คิดเหมือนกับคนอื่นทั่วๆไป ที่คิดว่าลูกผู้ชาย

ต้องทำตัวให้สมกับเป็นผู้ชาย และพ่อของเคลวินน่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เขาไม่สามารถทำตามใจปรารถนาได้

ยิ่งได้ยินแบบนี้ ผมก็ยิ่งไม่อยากทำให้เคลวินลำบากใจ ผมรู้ว่าเขารักผมมาก และจากการที่ได้ยินได้ฟังป้าหมี่เล่า ก็รู้ว่าครอบครัวทางฝ่ายแม่ของเคลวินคงไม่มีปัญหาเรื่องที่ลูกตัวเองจะรักชอบใคร

แต่เมื่อพ่อไม่ยอมรับ เคลวินก็คงไม่สามารถทำใจตัวเองได้ แล้วไหนจะพนักงานในบริษัทอีก ถ้ามีใครรู้ว่าเขากับผมมีอะไรกัน

จะมีสักกี่คนที่รับได้ เคลวินคงไม่พ้นถูกนินทาว่าร้าย หรือล้อเลียนให้ได้อาย ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งที่ผมจะทำให้ประธานบริษัทถูกคนพูดถึงราวกับเป็นตัวตลก

“อย่าไปคิดอะไรมากเลยค่ะ คุณหนูเคน ป้าก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ไม่อยากให้คุณหนูไม่สบายใจเพิ่มหรอกนะคะ บางทีเรื่องมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอกค่ะ”

ป้าหมี่คงเห็นหน้าตาที่บ่งบอกถึงความไม่สบายใจของผมก็เลยปลอบใจ ผมยิ้มให้แก แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แกคงรู้ตัวว่าได้เผลอพลาดพูดเรื่องที่ไม่ควรออกไป แกเลยนิ่งเงียบเหมือนกัน แล้วหันไปเข้าครัว ทำอาหารมาให้ผมทาน







ตอนกลางวันเคลวินขึ้นมาหาผมที่ห้อง ป้าหมี่ทำอาหารไว้สำหรับเราสองคนแล้ว อาหารรสชาติอ่อนๆ เพราะเคลวินทานเผ็ดไม่เก่ง ส่วนผมเป็นอาหารอ่อนเช่นกัน และเป็นอาหารย่อยง่าย ไม่ต้องเคี้ยวมากมาย เพราะผมยังเจ็บปากอยู่

ตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไม่พูดไม่จากับเคลวิน เอาแต่นั่งนิ่ง เขาชวนคุยก็ตอบไปบ้าง เป็นลักษณะถามคำตอบคำ จนในที่สุด เคลวินก็ทนไม่ไหว

ตลอดเวลาที่นั่งกินข้าวด้วยกัน ผมไม่พูดไม่จากับเคลวิน เอาแต่นั่งนิ่ง เขาชวนคุยก็ตอบไปบ้าง เป็นลักษณะถามคำตอบคำ จนในที่สุด เคลวินก็ทนไม่ไหว
“เคน ยังเจ็บปากอยู่หรือครับ”

เขาถามผมขึ้นมา หลังจากเรานั่งกินข้าวกันไปสักพัก

“ก็..ไม่นี่ ค่อยยังชั่วแล้ว”

ตอบแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าว ผมไม่ได้ให้เขาป้อน แต่ลุกขึ้นมานั่งกินเองที่โต๊ะอาหาร เพราะผมแค่เจ็บที่หน้าและลำตัวที่โดนซ้อม แต่ไม่ได้เป็นง่อย ถึงขนาดที่จะเดินไม่ได้

“เอ้อ...แล้วที่หัวล่ะ ยังเจ็บไหมครับ”

เคลวินมองไปที่ศีรษะผม

“ไม่เจ็บแล้วครับ”

“รู้สึกมึนๆ งงๆ บ้างไหม”

ยังคงถามต่อเนื่อง จนผมแปลกใจว่าทำไมอยู่ๆถึงมาซักไซ้อาการของผม

“ไม่นี่ครับ”

“อ้าว แล้วทำไมเคนถึงไม่ค่อยมีปฏิกิริยาตอบสนองผมเลยล่ะ ถามอะไรก็ทำท่าเหมือนไม่อยากพูดอยากตอบ พอตอบออกมาก็ตอบแบบเสียไม่ได้

ถ้าเคนไม่ได้กำลังเจ็บปวดหรือไม่สบายอยู่ งั้นเคนเป็นอะไรหรือครับ งอนผมเหรอ งอนที่ผมไม่มาอยู่ด้วย งอนที่ผมขึ้นมาหาช้าหรือครับ”

ในที่สุดเขาก็เอ่ยถึงสิ่งที่คลางแคลงใจออกมา

“ไม่ใช่ครับ..”

“แล้วทำไมเฉยชากับผมล่ะ ผมทำอะไรผิดเหรอ”

“เปล่าครับ”

ตอบปฏิเสธ โดยไม่มองหน้าเขา ผมรู้ว่าเคลวินฉลาด เขาคงจับสังเกตได้ ว่าผมมีอาการแปลกไป แต่จะให้ผมทำอย่างไรล่ะ ผมพยายามแล้วที่จะทำตัวปกติ

แต่สิ่งที่ป้าหมี่บอก ทำให้ผมโกรธเคลวินนิดๆ ที่เขาเอาเรื่องของเราไปพูดกับคนใกล้ชิดจนหมดเปลือก โดยไม่บอกให้ผมรู้

ทั้งที่ผมก็อุตส่าห์เฝ้าระวัง กลัวว่าเขาจะเสียภาพพจน์ ยอมแม้กระทั่งเจ็บตัว ทะเลาะกับพนักงานที่โมโหผมเรื่องการพลาดของรางวัล ที่ดันมารู้เรื่องของเราโดยบังเอิญ แล้วก็เอามาข่มขู่ แต่เขากลับไม่พยายามจะปกปิดเรื่องของตัวเองจนนิดเดียว

“ไม่จริงอ่ะ ผมไม่เชื่อ เคนทำท่าเหมือนงอนผม มีอะไรก็พูดออกมาให้หมดสิ เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันแล้วนะ”

เขาฉลาดอย่างที่ผมว่าไว้ รู้ได้โดยการสังเกตว่าผมมีอะไรในใจ และไม่ยอมบอกเขา

“เบาๆสิครับ เดี๋ยวป้าหมี่ได้ยิน”

ผมเอามือจุ๊ปาก มองเขาด้วยสายตาตำหนิ เมื่อเคลวินทำเสียงดังใส่ พลางกวาดสายตาไปรอบห้อง ป้าหมี่ไม่ได้อยู่บริเวณนั้น คงจะไปทำความสะอาดห้องนอนให้เคลวิน

ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วหันมามองเคลวิน ซึ่งคนเจ้าเล่ห์มองผมอยู่ก่อนแล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก ป้าหมี่รู้เรื่องระหว่างคุณกับผมทุกอย่าง”

ประธานสองหน้าลดเสียงลง แต่หน้ายังไม่หายยุ่ง

“เคลวิน นี่คุณบอกป้าหมี่หมดเลยเหรอ”

ถามอย่างตกใจ ผมรู้ว่าป้าหมี่รู้เรื่องของเราสองคน แต่ไม่คิดว่าจะรู้ละเอียดทุกเรื่อง

“ครับ ก็ป้าหมี่เป็นแม่นมของผมนี่นา ตามปกติ ผมก็ไม่เคยมีความลับกับแกอยู่แล้ว แกรู้ทุกเรื่องของผมแหละครับ แล้วแกก็ไว้ใจได้ด้วย”

คนพูดทำราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร ไม่เห็นจะต้องมาตกอกตกใจ ตื่นเต้น

“แต่เรื่องแบบนี้ มันสมควรพูดเหรอครับ เรื่องระหว่างเรานี่อ่ะ”

ถามเขาอย่างหวั่นวิตก เคลวินยักไหล่ ดูเขาไม่เป็นกังวลกับเรื่องระหว่างผมกับเขานัก

“แล้วทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะ ก็มันเรื่องจริงนี่ คุณกับผม เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ ทำไมถึงจะบอกใครให้รู้ไม่ได้ล่ะ”

“แต่ก็ไม่ใช่จะบอกใครทุกคนไปทั่วนี่ มีใครรู้บ้างนอกจากป้าหมี่”

ถามอย่างกังวล กลัวคนจะรู้เรื่องของเรามากมาย

“ก็ ป้าหมี่ ลุงเทพ หมอเต้”

เคลวินตอบด้วยท่าทีสบายๆ แถมยังยิ้มให้ผมอีก

“หา ทั้งสามคนรู้เรื่องเราหมดเลยเหรอ”

“ก็ใช่ แต่พวกนี้ไว้ใจได้หมดเลยนะ”

เขาการันตีความน่าเชื่อถือของคนเหล่านั้น

“นอกจากสามคนนี้แล้ว ยังมีใครอีกไหมที่รู้เรื่องของเรา”

“ก็ ที่รู้ว่าเรามีอะไรกัน ก็สามคนนี้ ที่รู้แบบระแคะระคาย ก็นนนี่ นายชาตรี และมอด ส่วนที่กำลังสงสัยอยู่ว่าคนรักของผมคือใคร ก็แม่ พี่สาว และญาติๆที่สนิทบางคนครับ”

โอย ผมอยากตายเสียให้ได้ เคลวินเล่นบอกไปหมดเลยทุกคนหรือนี่ นับไปนับมาคนที่รู้เรื่องของเราสองคนก็เป็นสิบคนแล้ว คนรู้เรื่องของเราเยอะขนาดนี้ เขายังไม่รู้สึกเป็นกังวลอะไร แถมเป็นเขาที่ปล่อยข่าวเสียเอง

“เคนกลัวอะไรเหรอ กลัวเรื่องมันจะไปถึงหูคนนอกเหรอครับ ไม่ต้องกลัวหรอก ผมเลือกบอกเฉพาะคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น ถ้ามันหลุดไป ก็มาจากคนกลุ่มนี้แหละครับ จัดการได้ง่าย”

พอเห็นหน้าเหวอๆของผม เคลวินก็ทำเสียงไม่พอใจ รีบพูดเพื่อให้ผมหยุดตื่นตระหนกเสียที ทว่าผมยังไม่เลิกกังวล

“เคลวินไม่อายหรือครับ ที่เที่ยวไปบอกใครต่อใครแบบนี้”

“อายทำไมล่ะครับ เรื่องการเป็นสามีภรรยากัน มันเป็นเรื่องปกตินี่นา โตมาขนาดนี้แล้ว ผมก็ต้องคิดเรื่องแต่งงาน เรื่องสร้างครอบครัวนี่ครับ หรือเคนไม่คิด”

เคลวินย้อนถาม

“แต่เรื่องของเรามันไม่ปกติ”
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 02-02-2009 09:22:14
พอพูดออกไปแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามันอาจจะกระทบกระเทือนใจของเคลวิน อยากจะเอาคำพูดกลับคืน แต่มันก็สายไปแล้ว เคลวินหน้าตึง และตอบอย่างโกรธๆ

“ใครกันล่ะครับที่คิดว่ามันไม่ปกติ คุณ ผม หรือคนนอก ถ้าคุณไม่คิดว่ามันผิดปกติ ผมเองก็ไม่คิดว่ามันผิดปกติ คนนอกจะคิดอย่างไรก็ช่างเขาสิครับ เขาไม่ได้มาทุกข์มาสุขกับเรืองของเราเสียหน่อย”

“เคลวินไม่ห่วงเรื่องชื่อเสียงตัวเองหรือครับ”

ถึงอย่างไรผมก็ยังเป็นกังวลอยู่ดี จึงถามออกไปอีก ทั้งที่รู้ว่าเคลวินกำลังโกรธอยู่ที่ผมกลัวนั่นกลัวนี่ จนกลายเป็นคนตื่นตระหนกที่น่ารำคาญ

“ไม่เลย... ชื่อเสียงมันก็แค่เปลือกนอกที่หุ้มห่อตัวเราครับ เนื้อในแท้ๆต่างๆหากคือสิ่งที่สำคัญ

ผมไม่เชื่อว่าการที่ผมชอบผู้ชาย จะทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูล หรือทำลายหน้าที่การงานของผม หากมีใครบางคนไม่เห็นด้วย จนถึงกับเลิกคบผม เพียงเพราะผมชอบผู้ชาย ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ

เพราะแสดงว่าเขาไม่ได้รักในสิ่งที่ผมเป็น เขารักแค่เปลือกสวยงามที่ห่อหุ้มผมอยู่เท่านั้น ”

น้ำเสียงของเคลวินจริงจังมาก หน้าตาก็ดุดัน เหมือนตอนที่เขาอยู่ในสถานะของประธานบริษัทที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ผมฟังเหตุผลของเคลวินแล้ว ก็รู้สึกชื่นชมแนวคิดของเขา จนเกิดคล้อยตามไปด้วย

จริงสินะ ความรักของเรา ความสุขของเรา ทำไมต้องไปอ้างอิงคนอื่นด้วย ใครจะชอบหรือไม่ชอบ ทำไมต้องสน

ในเมื่อคนที่จะสัมผัสทุกข์สุขจริงๆคือคนสองคนที่ร่วมชีวิตกัน ไม่ใช่คนอื่นที่คอยเชียร์หรือคอยห้าม ดังนั้นจะแคร์ไปทำไมว่าจะมีคนเห็นด้วยหรือไม่

“ผมไม่ชอบทำตัวลวงโลกนะครับ ผมต้องการพูดความจริง เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ถ้าโอกาสเอื้ออำนวยให้ผมพูดได้ผมก็จะพูด

แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ผมไม่พูดก็ได้ แต่ผมจะไม่โกหก ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็มีความสุขกับสิ่งที่ผมเลือกอยู่แล้ว และถ้ามันจะเจ็บปวดบ้างก็ช่างมัน เพราะมันคือสิ่งที่ผมเลือกเอง”

นี่คือข้อสรุปของเคลวิน เขาจบคำพูดของเขาด้วยการจ้องผมนิ่งๆ ใบหน้าเรียบเฉย ปราศจากรอยยิ้ม ผมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อก ก้มหน้าก้มตากินอาหารในจาน ไม่กล้าสู้หน้าเขา

ในที่สุดผมก็ต้องพ่ายแพ้ความตั้งใจจริงของเคลวินอีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เคลวินมีเหตุและผลที่สยบผมได้เสมอ

สมแล้วที่ใครๆก็ว่าเขาฉลาด และเป็นคนที่มีความคิดกว้างไกล ยิ่งได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ทำให้ผมไม่แปลกใจเลย ว่าเคลวินได้วิธีการคิดมาจากไหน

“เคน...ถามจริงๆนะ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เป็นเพราะว่าคุณกลัวคำครหานินทา หรือว่ารังเกียจผมกันแน่”

เขาไม่ปล่อยให้ผมลอยนวล พอเห็นผมนั่งเงียบ เคลวินซึ่งคงอารมณ์ค้าง และรอดูปฏิกิริยาของผมอยู่ ก็เลยทนไม่ได้ ต้องซักไซ้ผมให้ตอบให้หายคาใจ

“ผมไม่ได้รังเกียจเคลวินนะครับ แต่ผมกลัวว่าคุณจะถูกคนนินทา”

บอกไปตามตรง นี่คือสิ่งที่ผมกังวลใจเสมอมา

“ถ้าผมบอกว่า ผมไม่แคร์คำนินทา ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม คุณจะเลิกกังวล และเลิกใส่ใจกับคนอื่นสักทีได้ไหมครับ”

เคลวินคาดคั้นให้ผมตอบ

“คนที่คุณควรจะใส่ใจคือผมต่างหาก ไม่ใช่คนอื่น ผมรักเคนนะ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อเคน แล้วทำไมเคนต้องแคร์คนอื่น มากกว่าแคร์ผมล่ะ”

นั่นสิ ผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน รู้สึกสับสนไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร การที่เป็นกังวลอยู่ทุกวันนี้ เป็นเพราะผมกลัวว่าเคลวินจะเสียหาย

แต่ในเมื่อเจ้าตัวเขาไม่แคร์แม้แต่นิดเดียว แล้วผมจะต้องกังวลใจแทนเขาไหม หรือว่าผมควรจะทำตัวไม่แคร์สังคมแบบเขาบ้าง

“ผมดีกับเคน น้อยกว่าที่คนอื่นดีกับเคนหรือครับ คุณถึงได้แคร์คำพูดของพวกเขามากกว่าคำพูดของผม”

ประธานถามคำถามที่ทำเอาผมถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก สิ่งที่เคลวินพูดมามันจี้ใจดำผมอย่างจัง จริงอย่างที่เขาตัดพ้อ

ทำไมผมต้องแคร์คนอื่นที่ไม่เคยดีกับผมเหมือนอย่างเคลวิน ทำไมคำพูดของคนที่รักเรา ทำเพื่อเราทุกอย่าง เรากลับไม่ใส่ใจ ไม่แคร์

คนที่ผมควรจะให้ความสำคัญ ควรจะเป็นเคลวินเท่านั้น ผมนี่โง่จริงๆ ถ้าเขาไม่แคร์ แล้วทำไมผมต้องแคร์ด้วย

ถ้าหากเรื่องมันถูกเปิดเผยออกไป คนที่จะเสียหายมากที่สุดก็คือเขาไม่ใช่ผม แต่เคลวินก็เลือกที่จะไม่สนใจ เลือกที่จะรับมือกับมันอย่างกล้าหาญ ผมก็ควรที่จะยืนเคียงข้าง เป็นกำลังใจให้กับเขา ไม่ใช่คิดหลบเลี่ยงปัญหา อย่างคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ


จริงอยู่ ที่ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของเราสองคนมันเริ่มต้นจากเคลวิน แต่ในเวลาต่อมา ผมก็ยินยอมพร้อมใจ ร่วมไม้ร่วมมือไปกับเขา ก็เท่ากับผมได้รับรู้แล้วว่ามันจะเกิดอะไรตามมา

แต่ผมก็ไม่ยับยั้งตัวเอง ปล่อยทุกอย่างให้เกิดขึ้น ดังนั้นจะให้เคลวินเผชิญปัญหาคนเดียวได้ไง

เก้าอี้ถูกเลื่อนถอยไปด้านหลัง เคลวินวางช้อนส้อมบนจาน เช็ดปาก แล้วลุกขึ้น ท่าทางงอนเต็มที่ เขาคงเข้าใจว่า ผมห่วงแต่เรื่องชื่อเสียง มากกว่าความรู้สึกของเขา

คนตัวโตเดินตรงไปที่ห้องของเขา เดาเอาว่าน่าจะเข้าไปเพื่อสงบจิตสงบใจ ก่อนที่จะลงไปทำงานข้างล่างต่อ ผมนั่งเบื้อใบ้ได้สักพัก ก็ตัดสินใจลุกขึ้น แล้วเดินเร็วๆ ไปหาเขา พอทันกัน ผมก็คว้าตัวเขามากอดเอาไว้

“ขอโทษครับ”

พูดได้แค่นั้น เคลวินก็หันกลับมาสวมกอดผมไว้แน่น เราต่างคนต่างกอดกันอยู่อย่างนั้น โดยไม่พูดอะไรสักคำ ความเข้าอกเข้าใจผ่องถ่ายถึงกันโดยไม่จำเป็นต้องเอื้อนเอ่ยออกมา

ผมให้สัญญาว่า นับจากนี้ไป ผมจะไม่พูดเรื่องการยอมรับของสังคมเกี่ยวกับเรื่องของเราอีกแล้ว จากนี้ไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะยืนเคียงข้างเคลวิน จะสู้ไปกับเขา

ในฐานะที่ผมเองก็มีส่วนที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ต้องห้ามนี้ขึ้น จะปกป้องเขาด้วยสองมือของผม ให้สาสมกับที่เขามอบความรัก และความปรารถนาดีให้ผมเสมอมา

ที่ด้านหลังเคลวิน ป้าหมี่เปิดประตูห้องนอนของเขาออกมา เจอเราสองคนกำลังยืนกอดกันพอดี ป้าหมี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางลิ่วตาล้อผม

เธอรู้หน้าที่ดีว่าไม่ควรเข้ามาขัดจังหวะในตอนนี้ จึงหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องเคลวินตามเดิม ห้องของเคลวินคงสะอาดเรี่ยมหมดจดคราวนี้ เนื่องจากป้าหมี่ไม่กล้าออกมานอกห้อง แล้วก็คงทำความสะอาดซ้ำไปซ้ำมาด้วยความสุขใจ


-----------------------------

TBC

คืนนี้จะมาต่ออีกตอนนะคะ  ถ้าเน็ตไม่เน่า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 02-02-2009 10:17:00
 :-[ จะรอคืนนี้  รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 02-02-2009 12:42:19
 :-[ :-[ :-[

อยากอ่านต่อเลย

จะรอคืนนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 02-02-2009 12:57:07
รอคืนนี้ค่ะ

อย่าลืม  NC  จะแถม SM ก็ไม่มีใครว่า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-02-2009 16:05:14
เหตุผลของเคลวินนี่ เถียงไม่ออกเลยจริงๆๆ เก่งมาก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 02-02-2009 16:10:25
งานนี้เคนไม่รอดจากเคลวินแน่ๆ  :laugh: ดักได้ทุกทางเลย  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-02-2009 17:19:41
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 56 :P 2.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 02-02-2009 19:47:03
บทที่ 57

-------------------------


“ขอโทษครับ”

ผมท่องคำพูดของเคน ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบด้วยความปลื้มใจ มือก็กอดตัวเองโดยสมมุติว่าผมกำลังอยู่ในอ้อมกอดที่อบอุ่นของสามีสุดที่รัก

ตอนที่ผมลุกออกจากโต๊ะ ผมน้อยใจสุดๆ ที่เคนทำท่าเหมือนไม่สนใจความรู้สึกของผม จริงอยู่การที่เขาห่วงกลัวว่าคนจะนินทาว่าร้ายผม

มันเป็นความห่วงใยของเขาที่มีให้ แต่ในเมื่อผมบอกว่าผมไม่แคร์คำพูดของคนที่ไม่หวังดี แล้วเขาจะมานั่งห่วงอยู่ทำไม

ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ใครจะทำร้ายผม แต่มันอยู่ที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องทำร้ายกันหรือเปล่ามากกว่า

คำนินทาว่าร้าย มีอยู่ในทุกๆวงการ และมันมีทุกเรื่อง ไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะเป็นการชอบกันฉันท์คนรัก ถ้าคนเรามีอคติกับคนอื่น ก็หาข้อมาวิพากษ์วิจารณ์ด่าทอกันได้สนุกปาก

ตั้งแต่เรื่องหน้าตา ความรู้ความสามารถ นิสัยใจคอ ความรวยจน ความชอบ หรือไม่ชอบสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ล้วนแล้วแต่เอามาเป็นประเด็นโจมตีได้หมด

ที่ผมไม่ใส่ใจ ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงตัวเอง หรือไม่ห่วงคนรอบข้าง ที่จริงผมรักตัวเองมากพอที่จะไม่ใส่ใจคำพูดไร้สาระของคนอื่นต่างหาก และผมไม่ยอมให้คำพูดของใครมาหยุดยั้งสิ่งที่ผมอยากจะทำ

ผมเชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อว่าผมไม่ได้ทำเรื่องเลวร้าย เรื่องของความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่มีใครรู้ดีกว่าพวกเรา ว่ามีความทุกข์หรือสุขมากมายเพียงไร

ผมค่อนข้างเชื่อว่าคนที่รักผมจริง ย่อมเข้าใจในตัวผม และคงไม่ขัดขวางความรักของผมกับเคนอย่างแน่นอน ส่วนใครที่ไม่เข้าใจ ก็ปล่อยเขาไป ผมคงไปห้ามความคิดของเขาไม่ได้

ตอนที่เคนมากอดผม และเอ่ยคำว่าขอโทษ ผมรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก อ้อมกอดของเขาอบอุ่นยิ่งนัก แม้ว่าตอนที่กอดกันเราจะไม่ได้พูดอะไรกันเลยก็ตาม

แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าเคนแคร์ความรู้สึกของผมเช่นกัน

หลังจากกอดกันสักพัก เราสองคนก็เริ่มคุยกันดีๆ เคนบอกกับผมว่า เขาไม่ได้รังเกียจผมเลย เขาแค่รู้สึกตกใจที่ผมบอกเรื่องระหว่างเราให้คนอื่นรู้หมด เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร เพราะเขาเป็นแค่ลูกจ้าง

แต่ตอนนี้กลับมีความสัมพันธ์กับเจ้านาย คนในครอบครัวของผม จะรู้สึกอย่างไร จะดุว่าผมไหมที่มายุ่งเกี่ยวกับผู้ชายที่เป็นลูกน้องของตัวเอง ญาติพี่น้องของผมอาจจะไม่ชอบเขา

และคิดว่าเขากำลังหาทางลัดเพื่อไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จโดยใช้ผมเป็นเครื่องมือก็ได้ เขาไม่กลัวว่าใครจะนินทาเขา แต่เขากลัวผมเสียหาย

ผมเข้าใจความรู้สึกของเคนดี เขาไม่ได้รักผมตั้งแต่แรก แล้วการที่เขามีอะไรกับผม ก็มาจากความเจ้าเล่ห์มารยาของผม ทำให้เขาต้องตกกระไดพลอยโจน มีสัมพันธ์กับผมเรื่อยมา

เขายังไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ว่าคิดกับผมอย่างไร และเขาก็ยังรับไม่ได้เรื่องที่จะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ในขณะที่ผมเปิดเผยหมดทุกอย่าง รวมถึงบอกครอบครัวของตัวเองด้วย

เคนก็คงเหมือนถูกมัดมือชก โดนผมผูกมัดทางอ้อม ทำให้เขาดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ การที่คนในครอบครัวผมรู้ ก็ยิ่งทำให้เขาปฏิเสธผมได้ลำบาก

ตอนนี้เขาอาจจะเริ่มมีใจให้ผมบ้างแล้ว จากการที่เขาแคร์ความรู้สึกของผม และพร้อมจะเคียงข้างผมเพื่อเผชิญหน้ากับปัญหา

สำหรับเคนอาจจะต้องใช้เวลาสำหรับการเรียนรู้หัวใจตัวเอง ดังนั้นหากผูกมัดเขาเร็วเกินไป เขาอาจจะตกใจ และต่อต้านก็ได้

ที่จริงผมก็ไม่ได้มีเจตนาจะผูกมัดเขา หากเคน ไม่ได้รักผมจริงๆ ผมก็คงต้องคืนอิสรภาพให้เคน การที่ผมบอกให้คนใกล้ชิดผมได้รู้ เป็นเพราะผมภูมิใจในตัวเขา จนอดไม่ได้ที่จะอวดใครต่อใคร ว่าผมมีคนที่ผมรักและหวังจะแต่งงานด้วย

และคนๆนั้น ก็ดีเพียงพอที่ผมจะพามาให้ครอบครัวรู้จัก ผมอยากให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนของเคน ได้รับรู้ว่าเขามีดีที่ตรงไหน

ทำไมผมถึงต้องการเลือกเขาเป็นคู่ชีวิต และทำไมผมไม่ลังเลที่จะเปิดเผยเรื่องระหว่างเรา ผมภูมิใจในตัวเขา จนอยากจะให้ทุกคนได้มาร่วมชื่นชมในตัวเขาด้วย

สิ่งที่ทำให้ผมปลื้มใจเกี่ยวกับตัวเขาอีกอย่างคือ การที่เขาห่วงผม เขากลัวว่าผมจะเสื่อมเสียชื่อเสียง กลัวว่าคนจะดูถูกเกลียดชังผม กลัวว่าผมจะถูกคนนินทา

เขาห่วงผมมากกว่าห่วงตัวเอง ที่เขาตกอกตกใจส่วนหนึ่งก็มาจากการที่เขากลัวว่าคนที่ล่วงรู้จะเอาไปพูดกันปากต่อปากแล้วทำให้ผมได้รับความเสียหาย

การที่เขาคิดถึงผมก่อนตัวเขาเองเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก ทำให้ผมยิ่งรักและอยากใช้ชีวิตอยู่กับเขามากยิ่งขึ้น

เราใช้เวลาปรับความเข้าใจกันหลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมกล่าวขอโทษเขาที่ถือวิสาสะเล่าเรื่องของเราให้ใครต่อใครฟัง โดยไม่ปรึกษาเขาสักนิด พร้อมอธิบายถึงเหตุผลให้เขาฟัง และสัญญาว่าจะไม่พูดกับใครอีก

เพราะผมเองก็ไม่อยากให้เขาเดือดร้อนเช่นกัน ผมบอกกับเขาเรื่องแม่และพี่ที่อาจจะมาที่บริษัทในวันใดวันหนึ่งเพื่อดูหน้าเขา

ขอให้เขาอย่าตื่นตระหนกและวิตกกังวล แม่กับพี่ผมไม่ได้เป็นคนน่ากลัวอะไร พวกเขามีเหตุและผล และพวกเขารักผมมาก และผมเชื่อว่า แม่กับพี่ๆของผม คงจะรักและเอ็นดูเคน เหมือนที่ผมรักเช่นกัน

พูดคุยเรื่องครอบครัวของผมให้เขาฟังจบ ผมก็พูดกับเขาเรื่องงาน ฝ่ายบุคคลรับรู้เรื่องการที่เขาบาดเจ็บจากการถูกซ้อมและกำลังเร่งสืบหาตัวคนผิดมาลงโทษ

ขณะที่ผมเล่า ผมก็เฝ้าสังเกตอาการของเคนไปด้วย เห็นเขาฟังอย่างสนอกสนใจ ผมก็เดาเอาว่า เขาต้องรู้อย่างแน่นอนว่าใครเป็นคนทำร้ายเขา เพียงแต่เคนไม่ยอมพูดออกมา

และการที่เขาไม่พูด นั่นอาจจะแปลได้ว่า คนผิดอยู่ที่บริษัทผมนั่นเอง เพราะหากเป็นคนนอก หรือเป็นคนท้องถิ่น เคนต้องเล่าให้ผมฟังจนหมดแล้ว

แต่นี่นิ่งเงียบ ไม่พูดถึงตั้งแต่กลับมาจากไปเที่ยว ก็แสดงว่าเขาต้องมีบางอย่างปกปิดผมเอาไว้ และต้องการแก้ปัญหาเอาเอง

“ถ้าผมจับได้ว่าใครทำกับเคน ผมไม่เอาไว้แน่นอน”

บอกถึงความตั้งใจของผมให้เคนได้ทราบ เขาทำหน้าเจื่อนเล็กน้อย ยิ่งมีพิรุธเข้าไปใหญ่ ผมต้องสืบรู้ให้ได้ว่าใครทำร้ายเคน อยากรู้นักว่าเพราะอะไร

เคนถึงไม่ยอมกล่าวโทษพวกนั้น และอะไรบางอย่างน่าจะสำคัญเพียงพอจนเคนยอมเจ็บตัวฟรีๆ ผมต้องทำให้มันกระจ่างให้ได้

กลับลงไปข้างล่างเพื่อทำงานต่อ ผมก็พบว่า นนนี่มารอผมอยู่ก่อนแล้วพร้อมกับชาตรี สองคนทำงานได้ไวมาก หลังจากผมมอบหมายให้ช่วยติดตามหาตัวคนมาทำผิดให้ผม แค่สองวัน พวกเขาก็ได้เบาะแสแล้ว

งานนี้มอดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ในฐานะพยานรู้เห็น ซึ่งมันก็ต้องแลกกับการเปิดโปงเรื่องระหว่างเขากับนายชาตรี

ผมนับถือน้ำใจของผู้จัดการของผมมาก ที่เขารักผมมากพอที่จะกล้าพูดเรื่องของตัวเอง อันนำไปสู่การคลี่คลายคดี เพราะที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องของตัวเองเพื่อช่วยผมกับเคนก็ได้

มอดเล่าว่าในวันเกิดเหตุ เขากับนายชาตรี ชวนกันไปเล่นน้ำทะเลกันตอนกลางคืน อาศัยช่วงที่พนักงานกำลังสนุกสนานในงานเลี้ยง ก็แวบกันออกมา

เพราะที่ริมทะเล มันมีที่ลับตาคนได้มากกว่าที่จะไปพูดคุยกันสองต่อสองคนในบ้านพัก โดยที่มอดจะเป็นฝ่ายไปรอนายชาตรีก่อน แล้วนายชาตรีจะหาจังหวะเหมาะๆ เล็ดลอดออกจากงานในภายหลัง

ตอนที่มอดออกมาจากงาน มอดสวนกับคนสามสี่คน ซึ่งนั่งพูดคุยกันที่ตรงสวนหย่อม ระหว่างทาง ระหว่างบ้านพัก กับ ห้องจัดเลี้ยง คนกลุ่มนั้นท่าทางเมาๆ พูดกันเสียงดังพอควร

มอดได้ยินแว่ว ว่าจะหาทางจัดการกับใครบางคนที่ทำให้พวกเขาชวดรางวัล และบ่นเรื่องการตัดสินที่ไม่ยุติธรรม พวกเขาแสดงบนเวทีอย่างเต็มที่ แต่ไม่ถูกโหวต เพียงเพราะมีคนไปเป่าหูประธาน ทำให้คะแนนเปลี่ยนไป

มอดไม่ได้สนใจคนพวกนั้น เดินผ่านไปเพื่อมุ่งหน้าลงไปที่ชายทะเล เพื่อไปเจอกับนายชาตรีตามที่ได้นัดแนะกันไว้ พอนายชาตรีมาพวกเขาก็ลงเล่นน้ำกัน

สักพัก อารมณ์มันพาไป นายชาตรีก็ให้มอดดอดมาที่บ้านพักของตัวเอง เพื่อหยิบถุงยางอนามัยที่เตรียมเอาไว้ ตอนเดินขึ้นมา มอดเห็นเคนเดินออกมาจากบ้านพักของผมพอดี และเดินมุ่งตรงไปยังห้องจัดเลี้ยง

แต่มอดไม่ได้เข้าไปทัก เพราะกลัวจะมีคนรู้เรื่องของเขากับนายชาตรี จึงแอบไม่ให้เคนเห็น พอหยิบของที่ต้องการเสร็จ ก็วิ่งลงไปทางหาดทราย

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ฝนก็ตกหนัก สองคนเสร็จกิจกรรมกันแล้วก็รีบวิ่งขึ้นมาบนเนิน เพื่อจะกลับที่พัก แต่ก็มาเจอร่างเคนที่ถูกทำร้ายแล้วลากมาทิ้งที่ชายหาด ก็เลยพามาหาผม

มอดได้บอกรูปพรรณสัณฐานของกลุ่มคนที่นั่งคุยกันตรงสวนหย่อมให้ฟัง ซึ่งมันตรงกับนักเลงอันธพาลในคราบพนักงานของผมทุกประการ

แม้ว่ามอดจะไม่ได้บอกว่าเขาเห็นพวกนั้นรุมทำร้ายเคนด้วยสายตาของตัวเอง แต่สิ่งที่ได้ยินจากปากของพนักงานรักษาความปลอดภัยของผม มันทำให้ผมเชื่อว่าต้องเป็นคนกลุ่มนั้นอย่างแน่นอน

“ขอบคุณทุกๆคนมากครับ ขอบคุณคุณชาตรีกับมอดด้วย สำหรับการที่ยอมบอกเรื่องราวให้ผมฟัง โดยไม่กลัวว่าตัวเองจะเสียหาย

ผมรับปากว่าเรื่องของคุณสองคนต้องเป็นความลับตลอดไป จะไม่มีการแพร่งพรายเรื่องนี้ออกมาอย่างเด็ดขาด”

เมื่ออยู่กันเพียงแค่สามคน คือผม คุณชาตรี และมอด ผมก็ให้คำมั่นกับคนทั้งสองที่มีน้ำใจให้ผม พวกเราต่างมีสภาพเดียวกัน คือมีรักที่ซ่อนเร้น บอกใครไม่ได้

นายชาตรีมีความจำเป็นเรื่องครอบครัว ส่วนมอดก็ไม่แตกต่างจากเคนสักเท่าไหร่ เพราะดันไปรักกับเจ้านายของตัวเอง

สถานภาพของสองคนดูแตกต่างกันมากๆ หากใครรู้เข้า เขาก็คงอยู่ที่นี่ลำบาก ผมอยากให้เขาอยู่กันอย่างสบายใจ ไม่ทิ้งกันไปไหน

แม้นายชาตรีจะมีข้อบกพร่องอยู่มาก เกี่ยวกับการวางตัวและนิสัยใจคอบางอย่าง แต่เขาก็เป็นคนที่มีความจงรักภักดีให้กับบริษัท เขาทำประโยชน์ให้บริษัทมานานตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ จนถึงรุ่นผม

หากเปลี่ยนนิสัยใจคอเขาได้ เขาก็น่าจะเติบโตรุ่งเรืองมากกว่านี้ ผมคิดว่าอาจจะถึงเวลาที่ผมจะเปลี่ยนนิสัยใจคอของเขา เพื่อตอบแทนสิ่งที่เขาทำเพื่อผมกับเคน และบริษัทตลอดมา

รู้สึกไม่ดี ที่เมื่อก่อนคิดระแวงสงสัยเขา ตอนที่เคนเล่าให้ฟังว่าเจอเขาที่แถวบริษัทในวันหยุด ตอนนั้นผมเป็นวัวสันหลังหวะ

กลัวว่าเขาจะมาสอดแนมเรื่องผมกับเคน แต่ที่ไหนได้ ผมเข้าใจผิดถนัด นายชาตรีคงมาหามอด เพราะเขาเฝ้ายามให้ผมที่นี่ และคงนัดแนะกันไปเที่ยวมากกว่า

เขาเองก็คงตกใจที่เห็นเคนอยู่แถวๆนั้น เลยพูดจาดูถูกดูแคลน เคนจะได้รีบกลับบ้านไป เขาคงไม่คิดว่าเคนจะอยู่กับผมในวันนั้นเช่นกัน

คิดแล้วก็สงสารผู้จัดการของผมไม่น้อย เขาต้องคอยหลบๆซ่อนๆ ลักลอบคบกันกับมอด เนื่องจากสถานภาพของเขาไม่ใช่คนโสด สมรสแล้ว มีครอบครัวที่อบอุ่น

การที่เขามีรสนิยมเบี่ยงเบนทางเพศ แถมซ้ำมารักกับยามบริษัทซึ่งคนทั่วไปมองว่าต่ำต้อย จึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างยิ่ง

เทียบกับเรื่องระหว่างผมกับเคน ปัญหาที่เราสองคนเผชิญเทียบไม่ได้เลยกับปัญหาของเขา ทว่านายชาตรีก็ยังกล้าที่จะเอาเรื่องของเขามาเสี่ยงเพื่อช่วยผม ที่จริงผมก็คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นคนกลุ่มนี้ เพราะจากการวิเคราะห์หลายแง่มุม

ผมไม่คิดว่าคนที่ทำร้ายเคนจะเป็นพวกโจรท้องถิ่น เนื่องจากรีสอร์ทแห่งนั้นเป็นสถานที่ส่วนบุคคล มีเวรยามคอยดูแล พนักงานของเขาก็คงไม่มีใครคิดสั้นฆ่าตัวตายด้วยการทำร้ายแขกที่มาพัก ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องมีราวกัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่ไม่พอใจเคนกลุ่มนั้นกลุ่มเดียว

การควานหาตัวคนทำผิดมันเลยแคบลงไป ยิ่งมอดมาให้การเป็นพยานแบบนี้ เรื่องมันก็ง่ายเข้า เหลือแต่การหาหลักฐานจับให้มั่นคั้นให้ตายเท่านั้น

ในระหว่างนี้ ผมก็คงต้องกำชับทุกคนไม่ให้กระโตกกระตากไป เดี๋ยวคนร้ายตัวจริงจะไหวตัวเสียก่อน อีกทั้งเพื่อไม่ให้เรื่องมันสาวไปถึงผู้จัดการชาตรีและมอดด้วย ไม่งั้นพวกเขาจะอยู่ที่อย่างลำบาก ความลับอาจจะถูกเปิดเผย ความเสื่อมเสียชื่อเสียงจะตามมา และอาจจะส่งผลกระทบถึงครอบครัวเขาด้วย

หลังจากได้ข้อมูลจากพนักงานที่ผมไว้วางใจทั้งสามคนแล้ว ผมก็ให้นนนี่ติดตามสอบถามไปทางรีสอร์ทที่พัก ผมคิดว่าคืนนั้น น่าจะมีใครสังเกตเห็นความผิดปกติบ้าง

ถ้ามันจำเป็นต้องสัมภาษณ์คนทั้งรีสอร์ท หรือสืบค้นพนักงานบริษัทของผมที่น่าจะมีส่วนรู้เห็น ก็ต้องทำ และผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมขอให้นนนี่ ช่วยดำเนินงานอย่างเงียบเชียบอย่าแพร่งพรายให้คนรู้อย่างเด็ดขาดว่าผมกำลังตามหาความจริงเรื่องนี้อยู่ และขอให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว อย่าล่าช้าเป็นอันขาด ภายใน 1 อาทิตย์น่าจะหาหลักฐานมาให้ผมได้แล้ว

เมื่อมอบหมายงานทุกอย่างให้คนที่ผมไว้ใจดำเนินการแล้ว ผมก็มั่นใจว่าในไม่ช้าไม่นาน ผมคงสามารถเอาตัวคนผิดมาลงโทษได้ ที่ผมต้องลงมาดำเนินการเอง

ไม่ใช่เพราะผมโกรธแทนเคนสามีของผม แต่ที่ผมโกรธจัดก็คือ พวกนั้นคือพนักงานบริษัท พวกเขาควรจะตั้งหน้าตั้งตาทำงาน ไม่ใช่มาอิจฉาริษยา อาฆาตมาดร้ายกัน และไม่ควรจะทำร้ายกันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ

ผมไม่ได้เชื้อเชิญนักเลงอันธพาลให้มาร่วมงานในบริษัทของผม หากพวกเขาชอบเรื่องชกต่อย ชอบการหาเรื่อง พวกเขาก็ควรจะออกไปหางานอื่นที่เหมาะสม และหากผมนิ่งเฉย ปล่อยให้เกิดศาลเตี้ยขึ้นในบริษัท

ใครไม่พอใจใครก็ลากมาชกต่อย มาทำร้ายกัน โดยที่ผมไม่จัดการอะไรสักอย่าง ก็ถือว่าผมบกพร่องในฐานะผู้บริหาร ผมปกป้องพนักงานที่ทำตัวดีๆ ขยันทำงานไม่ได้ ผมก็ไม่สมควรจะคุมบังเหียนบริษัทนี้ต่อไป

เพื่อไม่ให้เคนล่วงรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมเลยวางตัวเป็นปกติ ยังคงตื่นแต่เช้า ไปทำงาน ไปประชุมหรือไปพบปะลูกค้าเหมือนเดิม

กลับมาบ้านก็ทำตัวเป็นภรรยาที่น่ารักของสามี ปรนนิบัติพัดวี เฝ้าดูแลรักษาพยาบาลไม่ห่าง สลับกับป้าหมี่ ที่มาช่วยเหลือดูแลเคนในตอนกลางวัน โดยที่ผมไม่ปริปากพูดเรื่องที่เคนโดนทำร้ายเคนอีก

และน่าแปลกที่เขาก็ไม่พูดเรื่องนี้เช่นกัน เหมือนเคนจะพยายามลืมๆมันไปเสีย ผมคิดว่าเขาต้องมีแผนการอะไรในใจสักอย่าง เขาคงต้องการจัดการด้วยตัวเอง ที่ไม่บอกให้ผมรู้ เพราะไม่ต้องการให้ผมยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้

ซึ่งผมไม่ยอมวางใจ ปล่อยให้เขาแก้ปัญหาคนเดียว คิดจะจัดการให้เรียบร้อยตัดหน้าเขา ผมเชื่อในตัวเคน แต่ไม่เชื่อในคนพวกนั้น หากผมไม่ยื่นมือมาช่วย เคนอาจจะเพลี่ยงพล้ำโดนทำร้ายอีกก็ได้

สามวันผ่านไปนับตั้งแต่เคนโดนทำร้ายจนต้องหยุดพักรักษาบาดแผลให้หาย อาการของเคนดีขึ้นเรื่อยๆ รอยแผลบนใบหน้าเริ่มจางลงบ้างแล้ว

อาการช้ำใน หรือบาดเจ็บที่ร่างกายก็ไม่มีให้ต้องกังวล สามีของผมเริ่มบ่นเรื่องการไปทำงาน เขาไม่อยากนอนนานๆ กลัวว่าจะทำงานไม่ทัน

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 02-02-2009 19:50:02
หนก่อนจะไปเที่ยวก็ป่วยเสียหลายวัน หนนี้ก็ยังหยุดงานอีก เขาไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น

ทว่าผมไม่อยากให้เคนไปทำงาน ในขณะที่ผมกำลังสืบเรื่องอยู่ ผมกลัวว่าความใจดีของเคนจะทำให้เสียเรื่อง บางทีหากเขารู้ว่าผมสงสัยใครอยู่

เขาอาจจะขอร้องให้ผมวางมือหรือจัดการเรื่องเองตัดหน้าผม ซึ่งจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่นั่นอาจจะทำให้คนเลวลอยนวลอยู่ในบริษัทผม และไม่ได้รับการลงโทษ ซึ่งผมยอมไม่ได้

ถึงเคนจะใจดี ยอมอภัย แต่คนเหล่านั้นเป็นพนักงานบริษัทของผม เขาจะมาทำตัวอันธพาลข่มขู่หรือทำร้ายคนอื่นไม่ได้อย่างเด็ดขาด คนผิดต้องได้รับการลงโทษ ผมจะให้ความยุติธรรมกับพนักงานของผมทุกคน ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร

เพื่อปกปิดเรื่องที่ผมกำลังดำเนินการอยู่ ผมจึงไม่อนุญาตให้เคนไปทำงาน ไม่ว่าเขาจะขอร้องอย่างไรก็ตาม ผมใช้อำนาจความเป็นประธานบีบบังคับเขาให้ทำตามสั่ง

และเพื่อให้เขาไม่รู้สึกผิด ผมก็หอบงานที่เคนจะต้องรับผิดชอบ ติดมือไปให้เขาด้วย เพื่อให้เขาทำตอนที่พักรักษาตัวอยู่บนเพนท์เฮ้าส์ของผม ซึ่งก็ทำให้เคนรู้สึกพอใจได้บ้าง

ล่วงเข้าวันพฤหัสบดี หลักฐานสำคัญที่ผมต้องการก็มาถึง ทางนนนี่แจ้งให้ทราบว่า หลังจากที่ผู้จัดการรีสอร์ทได้เรียกพนักงานทุกคนมาสัมภาษณ์อย่างละเอียด ก็มีพนักงานคนหนึ่งยอมเปิดปาก

พนักงานคนนี้ทำงานอยู่กะบ่ายและเลิกตอนสามทุ่ม ทำงานเสร็จก็มาช่วยเพื่อนๆที่อยู่ห้องจัดเลี้ยงสักพัก เห็นฝนทำท่าจะตก ก็เลยรีบกลับไปที่พัก ตอนเดินไปได้ครึ่งทาง ฝนเทลงมาหนักมาก

พนักงานคนนั้นเลยไปหลบฝนที่ศาลาตรงสวนหย่อม และได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังหิ้วปีกใครบางคนไปชายหาด สักพักก็กลับขึ้นมา แต่จำนวนคนไม่เท่าเดิม

ที่เขาพูดแบบนั้น เพราะตอนขากลับ คนกลุ่มนั้นวิ่งผ่านศาลาที่พนักงานคนนั้นหลบฝนอยู่ และวิ่งไปทางตึกพี่พักที่จัดไว้ให้พนักงานบริษัทที่มาปิกนิค

ตอนแรกพนักงานคนนั้นคิดว่าเพราะฝนตกหนักเลยทำให้ตาฝาด ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไร และไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครทราบ

จนกระทั่งมีเพื่อนๆในกลุ่มเหล่าให้ฟังว่าแขกที่มาพักถูกทำร้าย และนำไปทิ้งที่ชายหาด เขาก็นึกขึ้นได้ แต่ก็ยังปิดปากเงียบอยู่

เพราะไม่อยากถูกกันตัวเป็นพยาน จนกระทั่งมีการเรียกสอบปากคำพนักงานทุกคนที่เข้ากะคืนวันนั้น เขาก็เลยเล่าให้หัวหน้าของเขาฟังในสิ่งที่เห็น

ที่สำคัญ เขาพอจะจำรูปพรรณสัณฐานของคนในกลุ่มนั้นได้บางคน แม้จะเห็นหน้าเพียงแวบๆ จากแสงจากโคมไฟข้างทาง

ทว่ารูปร่าง และชุดที่สวมใส่เขาจำได้แม่น เพราะเขาเห็นคนกลุ่มนี้ขึ้นไปประกวดในงานด้วย
นนนี่ทำงานได้ดีมาก

เธอเอารูปภาพจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท ที่ถ่ายภาพงานคืนนั้นไปให้ดูด้วย โดยเลือกกลุ่มนักแสดงทุกกลุ่มสแกนผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์และส่งอีเมล์ไปให้พนักงานคนนั้นชี้ตัว

ซึ่งรออยู่ 1 วันเต็มๆ ก็มีอีเมล์ส่งกลับมา แต่พนักงานคนนั้นไม่ได้ชี้ตัวเจาะจงว่าเป็นใคร เพียงแต่เลือกกลุ่มนักแสดงที่เขาเห็นในค่ำคืนนั้นส่งกลับมาให้ด้วย

ผมมองภาพในมือนนนี่ที่เอามาให้ดู พอเห็นหน้าคนในภาพผมก็กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว

วันนี้วันศุกร์แล้วสินะ ห้าคืนกับสี่วัน ที่ผมต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านของเคลวิน โดยไม่ได้ทำอะไร นั่งๆนอนๆ กินข้าว กินยา เดินไปเดินมา เหมือนคนไร้ประโยชน์

เคลวินพาผมมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ ไม่ให้ผมกลับบ้านโดยอ้างว่าจะได้ดูแลผมได้ง่ายๆ ซึ่งผมก็ยอมตามใจโดยไม่ขัดขืน

เพราะผมเห็นถึงความรักความห่วงใยที่เคลวินมอบให้ ซึ่งเขาก็คอยปรนนิบัติพัดวีผม เอาอกเอาใจไม่ยอมห่าง จนผมซาบซึ้งในความรักที่เขามีต่อผม

ทว่าเคลวินห่วงใยผมมากเกินไป เขาไม่ให้ผมหยิบจับทำอะไรเลย แถมซ้ำยังส่งคนมาดูแลผมราวกับเป็นเจ้านายอีกคนของบ้าน

เขาไม่อนุญาตให้ผมลงไปทำงาน อ้างว่าผมยังไม่หายดี พอเห็นผมมีทีท่าว่าเบื่อ ก็หอบงานมาให้ผมทำ ซึ่งมันก็ช่วยให้ผมหายเบื่อได้บ้าง แต่มันก็ไม่เหมือนการทำงานที่บริษัท เพราะถึงอย่างไร ผมก็ต้องถูกป้าหมี่คอยควบคุมดูแลราวกับคนป่วยหนัก

เจ้านายลูกน้องนิสัยเหมือนกันไม่มีผิด พอเห็นว่าผมไม่เชื่อตามที่บอก ก็ดุผมทั้งสองคน แล้วก็ประคบประหงมดูแลจนผมรู้สึกอึดอัด บางครั้งก็เริ่มสับสนว่าตัวเองบาดเจ็บเพราะถูกซ้อมแค่นั้นจริงๆ หรือว่าผมมีอาการช้ำใน ปางตาย หรือเจ็บป่วยระยะสุดท้าย ด้วยโรคที่ผมไม่เคยรู้ เขาถึงได้โอ๋เอาใจผมกันนัก

ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว ทันทีที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้า และเห็นเคลวินกำลังแต่งตัวจะออกไปทำงาน ผมก็ตื่นขึ้นมาบ้าง นั่งดูเคลวินทำกิจวัตรประจำวัน และกำหนดแผนการในใจ

“วันนี้อยู่บ้านอีกหนึ่งวันนะครับที่รัก วันจันทร์ผมอนุญาตให้คุณไปทำงานได้อย่างแน่นอน อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ”
เขาสั่ง พร้อมกับก้มลงจูบที่แก้มผม ก่อนจะออกไปทำงานที่ออฟฟิศส่วนตัวของเขาที่อยู่ข้างล่างเพนท์เฮ้าส์ที่เราอาศัยอยู่อีก 1 ชั้น ทันทีที่เขาลับตาไป ผมก็ลุกขึ้นอาบน้ำ แต่งเนื้อแต่งตัวไปทำงานบ้าง โชคดีที่มีเสื้อผ้าชุดทำงานของผมอยู่ที่นี่ด้วยสองสามชุด เคลวินเอามาซักให้ และไม่ได้เอากลับ เพราะผมดันมาเจ็บตัวนอนซมเสียก่อน ผมจึงไม่ต้องกลับไปบ้านอีก

ก่อนจะออกจากห้องผมสำรวจหน้าตาของตัวเองว่ามีร่องรอยบาดแผลหลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า ก็พบว่ามันเป็นแค่รอยจางๆ เท่านั้น หมอเต้มาทำแผลและให้ยามาทานจนค่อยยังชั่วขึ้น เมื่อใบหน้าของผมไม่ได้ดูน่าเกลียดนัก ผมก็เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยก็คงไม่มีใครสังเกตและมาถามให้วุ่นวายใจอีก อาจจะมีถามบ้างว่าผมหายไปไหนมา ผมก็คงจะบอกเขาว่าไม่สบาย ก็น่าจะหมดปัญหา

ผมไม่ลืมที่จะแปะโน้ตถึงป้าหมี่ด้วย เพราะคาดว่าวันนี้แกคงมาเฝ้าดูแลรับใช้ผมเช่นเคย ผมบอกให้แกกลับบ้านได้ เพราะผมสามารถมาทำงานได้แล้ว และขอบคุณแกที่ช่วยดูแลผมมาตลอด ป้าหมี่ก็เหมือนญาติผู้ใหญ่ของผมคนหนึ่ง ผมมาอยู่กรุงเทพตัวคนเดียว ญาติที่มี ก็แยกย้ายกันอยู่ ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กัน ก็มีแกเท่านั้นที่ช่วยดูแลผม แม้ว่าจะทำตามที่ได้รับมอบหมายคำสั่งมาจากเคลวินก็ตาม แต่แกก็ดูแลผมดีมาก จนผมรับรู้ได้ว่าป้าหมี่รักและเอ็นดูผมไม่ใช่น้อย

“อ้าว มาทำงานได้แล้วเหรอ”

พอผมโผล่เข้าห้องทำงานมา พี่นนนี่ก็ทักผมอย่างแปลกใจ ในห้องนอกจากพี่สาวคนสวยกับผมแล้ว ก็ยังไม่มีใครมาทำงาน เนื่องจากยังเป็นเวลาเช้ามาก พี่นนนี่ติดนิสัยเจ้านาย คือเคลวินมาทำงานแต่เช้า เลยทำให้เลขาอย่างเธอต้องมาแต่เช้าตามไปด้วย มาก่อนเวลางานเข้าตั้งชั่วโมง เพื่อที่จะเตรียมตัวรับคำสั่งต่างๆ ตามที่เคลวินจะมอบหมาย

ส่วนใหญ่ผมจะมาทำงานหลังจากพี่นนนี่ทุกครั้ง เนื่องจากบ้านไกล ต้องนั่งรถเมล์มา แม้ว่าเคลวินจะสั่งให้ผมมาทำงานแต่เช้า แต่ผมก็มาได้เร็วเต็มที่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง บางครั้งก็เฉียดฉิวเส้นยาแดงผ่าแปด หากวันไหนออกสายและรถติดมากๆ

ถึงแม้วันนี้ผมสามารถที่จะมาแต่เช้าได้ เนื่องจากผมนอนอยู่บนเพนท์เฮ้าส์ แค่กดลิฟต์มาชั้นทำงานก็ได้แล้ว แต่ด้วยความที่ผมกลัวใครจะล่วงรู้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเคลวิน ทำให้ผมต้องใช้ลิฟต์ส่วนตัวของเขา กดลงไปชั้นล่างสุด แล้วก็เดินออกไปลานจอดรถ เพื่อที่จะทะลุไปยังถนนใหญ่ แล้วเดินตามทางเท้า ผ่านป้ายรถเมล์ ก่อนที่จะเข้าบริษัท เพื่อให้ใครๆเห็นว่าผมมาทำงานด้วยช่องทางปกติ

เสียเวลาทั้งหมดไปประมาณเกือบ 20 นาที กว่าจะโผล่ขึ้นมายังชั้นบนที่เป็นส่วนงานสำนักประธานกรรมการบริษัท แต่ยังไงผมก็ยังมาเช้ากว่าคนอื่นอยู่ดี ถ้าไม่นับพี่นนนี่ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกภูมิใจที่วันนี้มาก่อนคนอื่นๆได้ แต่ก็นั่นแหละ มีผมคนเดียวที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมถึงได้มาเช้า

“ไม่อยากนอนอยู่บ้านเฉยๆครับ พี่นนนี่ แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วด้วย เลยอยากมาทำงานครับ”

ตอบพี่นนนี่ไปตรงๆ พี่สาวคนสวยยิ้มอย่างพึงพอใจ ทำเสียงเล็กเสียงน้อยใส่ผม

“จ้า พ่อคนขยัน เจ้านายได้ยินคงปลื้มตายแน่ๆ”

“เคล..เอ้อ ท่านประธานมาแล้วหรือครับ”

แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แล้วถามถึงเคลวิน พี่นนนี่มองผมแล้วยิ้มเหมือนรู้ทัน แต่เธอก็ไม่พูดแซวอะไรออกมา

“มาตั้งแต่เช้าแล้ว เป็นผู้ช่วยเลขาประสาอะไร ถึงถามแบบนี้ ก็น่าจะรู้ดีนี่ ว่าเจ้านายเธอมาทำงานเช้าขนาดไหน”

พี่นนนี่แสร้งทำเป็นดุผม แต่ตายิ้มพราว ถ้าเป็นช่วงที่ผมหายดีเป็นปกติ เธอจะดุทั้งหน้าและแววตา แต่นี่คงเห็นว่าผมเพิ่งเจ็บตัวมา เลยไม่กล้าว่าให้เสียใจ

“ผมไปทำงานก่อนนะครับ ไม่ได้มาหลายวัน งานคงกองสุมกันเยอะน่าดู”

บอกพร้อมกับเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง ที่จริงมีงานบางส่วน ผมทำไว้บ้างแล้ว แต่อยู่บนห้องเคลวิน ไม่ได้นำลงมาด้วย เพราะเดี๋ยวจะมีคนสงสัย ว่าผมไม่ได้มาทำงานหลายวัน แล้วหอบแฟ้มงานมาได้อย่างไร

บนโต๊ะทำงานของผม มีแฟ้มงานอยู่สองสามแฟ้ม ที่ผมจะต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่เป็นงานที่ไม่เร่งด่วนนัก เนื่องจากงานสำคัญ เคลวินเอาใส่แฟ้มขึ้นไปให้ผมหมดแล้ว และผมก็จัดการทำและส่งให้เคลวินเรียบร้อย จึงไม่เหลืองานที่ต้องเร่งทำให้กับเขา แต่กระนั้น ผมก็ลงมือทำให้เคลวินโดยไม่พูดไม่คุยกับใคร ตั้งใจกับกองงานตรงหน้า และลงมือทำอย่างรวดเร็ว

ภายในไม่ถึงชั่วโมง แฟ้มงานที่จะนำเสนอก็ถูกผมนั่งอ่านและนั่งสรุปสั้นๆเรียบร้อย พร้อมที่จะส่งให้เคลวินพิจารณาได้ ผมเงยหน้าขึ้นมาและบิดเนื้อตัวไล่ความเมื่อยขบ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์บนโต๊ะของผมดังขึ้น พี่นนนี่โทรมาหาผม และแจ้งว่าประธานเคลวินเรียกตัวเข้าพบ ผมลุกไปตามคำสั่งทันที ทั้งที่ใจนึกอิดออดไม่อยากไป แต่ไม่กล้าแสดงออกให้พี่นนนี่เห็น

เคลวินคงรู้แล้ว ว่าผมมาทำงาน ถ้าไม่เขาเป็นฝ่ายโทรไปหาผมที่เพนท์เฮ้าส์ ก็ต้องเป็นป้าหมี่ซึ่งมาเจอโน้ตของผมแต่ไม่เจอตัว ก็เลยโทรมาแจ้งเคลวิน แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การถูกเรียกไปอย่างนี้ ก็คงไม่พ้นการถูกตำหนิจากท่านประธานจอมเฮี๊ยบแน่ๆ

สิ่งที่ผมเดาไว้ถูกต้องทุกอย่าง จนผมน่าจะซื้อหวย จะได้ร่ำรวยกับเขาบ้าง

ทันทีที่ผมเปิดประตูห้องประธานบริษัทเข้าไป ก็พบเคลวินนั่งหน้าบึ้งตึงอยู่หลังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ เขาไม่พูดอะไร จนกระทั่งผมเดินมานั่งตรงหน้าเขา เรามองหน้ากันสักพัก เคลวินก็เปิดฉากโวยวายใส่ผมขึ้นมา

“ผมสั่งไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าไม่ต้องมาทำงาน ทำไมต้องขัดคำสั่งผมด้วย”

----------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 02-02-2009 21:11:01
+1 ให้คนขยัน


 :o8: น่ารักอย่างนี้ รักตายเลย.... :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 02-02-2009 22:55:11
คนโพสต์น่ารักมั่ก ๆ ๆ

 :man1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 02-02-2009 22:58:56
อยากอ่านต่อเลย

อยากรู้ว่าท่านประธานจะทำยังไง  :call: :call:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 02-02-2009 23:35:01
อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลนะ
 :angry2:

จัดการเลย เคลวิน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 03-02-2009 01:23:19
เคนดื้อ  แอบมาทำงาน ยังงี้ต้องให้เคลวินลงโทษ :z1: :z1: :z1:

 :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 03-02-2009 01:38:11
ซักรอบเลยเคลวินจะได้เชื่องๆ
กร๊ากกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-02-2009 01:54:02
แอร๊ยยยยส์ แผนเคลวินจะพังมั้ย ไล่เคนกลับไปนอนเลยจะได้จัดการคนพวกนั้นได้สะดวก  :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 03-02-2009 11:08:55
แหม เป็นภรรยา ไหง มาขึ้นเสียง ถามสามีอย่างนี้เนี่ย
เคน บอกไปเลยว่า คืนนี้ จะกลับห้องตัวเองอ่ะ

..
..
เอิ๊กกกก
กว่าจะเข้า มาอ่านได้ แทบขาดใจตาย

สู้ๆ สู้กันต่อไป
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 57 :P 2.2.09 (รอบสอง)
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 03-02-2009 16:09:08
 :m17: แล้ววันนี้..จะมีซักรอบ..สองรอบ ไหมหนอ....
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 03-02-2009 17:54:43
บทที่  58

-------------------------

ขอโทษนะครับท่านประธานที่ผมขัดคำสั่ง ผมอยากมาทำงานเพราะทิ้งไปหลายวัน แล้วผมก็หายดีแล้วด้วย น่าจะแบ่งเบาภาระท่านประธานได้บ้าง ผมไม่อยากเอาเปรียบพนักงานคนอื่นๆครับ ท่านประธาน”

ถึงจะโกรธก็ไม่ว่า แต่ผมขอพูดตามความรู้สึกของตัวเองสักหน่อย ผมไม่อยากมีอภิสิทธิ์เหนือใคร ในเมื่อผมหายจากบาดเจ็บแล้ว ผมก็น่าจะกลับเข้ามาทำงาน ไม่ใช่นอนอยู่กับบ้าน โดยอ้างคำสั่งของประธานบริษัทมาหาประโยชน์ใส่ตัวเอง

“แน่ใจแล้วนะ ว่าหายดี แข็งแรงพอที่จะรับงานหนักได้”

เขาถามเสียงขุ่น ผมพยักหน้า แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าแข็งแรงพอที่จะทำงาน อย่างที่ทำให้เห็นในบ้าน เพราะตอนนี้บทบาทของผมไม่ใช่สามีของเขา แต่เป็นแค่ลูกจ้าง จะมาทำล้อเล่นกับเจ้าของบริษัทไม่ได้

“ก็ดี ถ้าคิดว่าตัวเองแกร่งพอจนกล้าขัดคำสั่งผมได้ ก็เอานี่ไปทำอีก”

เขาดันกองแฟ้มหนาปึก สี่ห้าแฟ้มมาให้ผมตรงหน้า แบ่งเป็นแฟ้มรายงานการประชุม แฟ้มคำสั่งและประกาศต่างๆ และเอกสารบทความภาษาอังกฤษ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสินค้าของบริษัททั้งทางตรงและทางอ้อม โดยที่ผมต้องมีหน้าที่แปลบทความเหล่านั้น ลงวารสารของบริษัทเพื่อแจกให้กับลูกค้า เขาโยนมาให้ผมทำทั้งหมด เพื่อประชดประชันที่ผมทำเป็นเข้มแข็ง และส่วนหนึ่งก็คงเพื่อพิสูจน์ความสามารถของผม

“ท่านประธานต้องการเมื่อไหร่ครับ”

ถามเขาด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่ร้อนรนหวาดวิตกว่าจะทำงานให้ไม่ทัน ผมรู้ว่าเคลวินต้องการแกล้งผมเท่านั้น เพราะผมดื้อไม่เชื่อเขา เคลวินหน้าบึ้งๆ แล้วก็พูดเสียงห้วน ตอบว่าต้องการวันนี้ พอได้ยินเดดไลน์ของเขา ผมก็อมยิ้ม

ความพาลของเคลวิน ตามปกติ เขาเป็นคนดุเอาจริงเอาจัง เวลาที่เขาสั่งให้ใครทำอะไร เขาจะเผื่อเวลาให้คนที่รับคำสั่งสามารถทำงานตามที่เขาต้องการได้อย่างสบาย ยกเว้นงานที่เร่งด่วนจริงๆ ก็จะให้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงในการทำให้เสร็จ แต่แฟ้มงานสี่ห้าแฟ้มที่เขาเอามาให้ผมทำนี่สิ มันไม่น่าจะทำวันเดียวเสร็จได้เลย จึงน่าจะเป็นการแกล้งเพื่อให้ผมยอมรับว่าตัวเองผิดมากกว่า ซึ่งไม่มีวัน ผมก็อยากแกล้งเคลวินกลับเหมือนกัน ผมเลยพยักหน้ารับคำสั่ง แล้วลุกจากโต๊ะ จะกลับลงไปทำงาน ตั้งใจว่า จะทำให้มันเสร็จให้หมด แม้ว่าจะต้องกลับบ้านดึกก็ตาม

ยังไม่ทันเดินไปถึงประตู เคลวินก็เรียกผมไว้ และลุกจากโต๊ะก้าวเร็วๆ มาหา เมื่อเราสองคนยืนเผชิญหน้ากัน เคลวินก็จ้องมองผมตาดุ สักพักเขาก็ยกมือขึ้น กางมือออก ผมหลับตาปี๋ นึกว่าจะโดนท่านประธานบริษัทตบหน้า ที่บังอาจทำจองหองแล้ว แต่กลายเป็นว่าเคลวินไม่ได้ตบผม มือนั้นเลื่อนลงมาลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบาเท่านั้น

“ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้างเลย”

น้ำเสียงตัดพ้อต่อว่าของเคลวิน ทำให้ผมลืมตาขึ้นมอง ก็เห็นเขาทำหน้าน้อยอกน้อยใจ ตอนนี้เขาคงตกอยู่ในภวังค์ของผู้เป็นภรรยา ไม่ใช่เคลวินอีกต่อไป

“เชื่อสิครับ ถ้าไม่เชื่อเคลวิน ผมก็มาทำงานตั้งแต่วันแรกแล้วล่ะ แต่นี่ผมก็นอนอยู่ในห้องตั้ง 4 วันแล้วนะ ตอนนี้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว ผมก็อยากมาทำงานบ้าง เกรงใจเคลวิน จะทำงานสบายๆ ถึงเวลารับเงินเดือนได้ไง ต้องทำงานให้คุ้มค่าจ้างสิ แล้วจะได้ไม่มีใครเอาเยี่ยงย่างด้วย เคลวินก็ไม่ต้องคิดมากหรอกนะครับ ผมเชื่อเคลวินเสมอนะ”

อธิบายให้เขาฟังด้วยเสียงอ่อนโยน สีหน้าของเคลวินดีขึ้น ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม

“จริงหรือครับ เชื่อผมทุกอย่างจริงๆเหรอ”

ดวงตาของเคลวินเป็นประกายระยิบระยับขณะพูด

“จริงสิ สั่งอะไรมา หากผมทำได้ ผมก็พร้อมจะทำตามคำสั่งท่านประธานเคลวินนะครับ”

พูดเพื่อให้เขาสบายใจ เคลวินทำท่าเป็นนึก สักพักก็ยิ้มเจ้าเล่ห์

“งั้น....ผมขอสั่งให้เคนต้องทำการบ้านกับผมให้ครบ 9 ครั้งนะครับ”

ว่าแล้ว เห็นทำหน้ากรุ้มกริ่ม ที่แท้ก็คิดเรื่องหื่นๆนี่เอง ผมหัวเราะหึๆ ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ นึกในใจว่าไม่น่าทำเป็นแข็งแรงเลย ลืมไปสนิทว่าเคลวินรอเรื่องนี้อยู่ รู้งี้แกล้งทำเป็นบาดเจ็บอย่างเดิมดีกว่า อุตส่าห์รอดเงื้อมือเคลวินมาได้ถึง 4 วัน สงสัยวันนี้คงเหนื่อยอีกแล้ว

“ลูกผู้ชายพูดคำไหนคำนั้นนะ...”

เขาเน้นย้ำ เหมือนกลัวผมจะเบี้ยว

“เคลวินอ่ะ ผมหมายถึงเรื่องงานต่างหาก ไม่ว่าคุณจะสั่งอะไรมา ผมยินดีทำตามที่คุณต้องการเสมอ”

“การนอนกับภรรยาก็เป็นงานในหน้าที่อย่างหนึ่งเหมือนกันนะ หน้าที่ของสามียังไงล่ะ เคนอย่าทำให้มันขาดตกบกพร่องสิ”

เอากับเขาสิ ไอ้เรื่องที่จะพูดให้ตัวเองได้ประโยชน์นี่ ไม่มีใครกินเคลวินได้ลงแน่ สมแล้วกับตำแหน่งนักบริหารมือทอง เขาสามารถเจรจาต่อรองได้ทุกเรื่องจริงๆ

“ผมรักเคนนะครับ”

เคลวินกางมือออก แล้วโอบกอดผมไว้ ผมได้แต่ยืนนิ่งขึง รู้สึกตกใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยถูกเขากอด แต่นั่นมันที่บ้าน ในที่ลับตาคน ไม่ใช่ที่ทำงาน ตามปกติ เคลวินจะพยายามระวังรักษาภาพพจน์ อยู่ที่บริษัทก็เป็นคนหนึ่ง อยู่ที่บ้านก็เป็นอีกคน ต่างบุคลิกกัน ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะหลุดอีกบทบาทได้มากขนาดนี้ ดูเหมือนบทบาทที่เคยเป็นคู่ขนานกัน มันเคลื่อนใกล้กันเข้ามาทุกที และทับซ้อนกันจนสับสนปนเปไปหมด จนผมรู้สึกกลัวว่าวันหนึ่ง เคลวินจะแสดงบทบาทภรรยาออกมาให้เห็นในที่ทำงานบ่อยๆ เมื่อนั้น เราสองคนคงไม่พ้นคำนินทาเป็นแน่

“ตั้งใจทำงานนะครับ”

พอผละออกแล้ว เคลวินก็พูดกับผมด้วยเสียงนุ่มนวล เขาบอกว่าจะเป็นกำลังใจให้ผม ขอให้ผมตั้งใจทำงาน ทุกอย่างมันดีกับตัวผมทั้งนั้น ผมนึกว่าเขาจะเอางานกลับคืนบ้าง แต่เขาก็ไม่พูดถึงมัน ปล่อยให้ผมหอบแฟ้มเอกสารสี่ห้าแฟ้มกลับลงไปทำข้างล่าง คนอะไร ใจร้ายชะมัด

พี่นนนี่เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นผมหอบเอกสารเดินผ่านโต๊ะเธอ พี่นนนี่ยิ้มขำ เมื่อเห็นผมวางแฟ้มลงบนโต๊ะและทำหน้าเหนื่อยๆ เธอลุกเดินมาหาผม แล้วก็จ้องแฟ้มกับหน้าผมสลับกันไป

“โดนดีมาล่ะสิ”

เธอแซว ยังขำผมไม่เลิก ผมพยักหน้า และก็บอกว่าเคลวินให้ผมทำงานทั้งหมดนี้ให้เสร็จภายในวันนี้ พอได้ยินผมตอบ พี่นนนี่ก็หัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ พลางเลื่อนแฟ้มออกมาบางแฟ้ม และชี้ที่สันข้างให้ดู ผมมองตาม แล้วก็หัวเราะก๊าก แฟ้มทั้งหมด มันเป็นของปีที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการสรุปไปเรียบร้อยแล้ว เคลวินคงแกล้งให้ผมถือมาหนักๆเล่นเท่านั้นเอง คงไม่ได้ต้องการให้ผมทำอย่างจริงจัง นึกถึงหน้าบึ้งๆ ของเขาแล้วก็อดขำไม่ได้ ประธานสองหน้าทำเป็นเก๊ก ดุดัน คงกะให้ผมสำนึกผิด พอผมทำมึน จะทำงานทั้งหมด เขาก็เลยหลุดมาดเสียเอง

ที่จริงเคลวินนี่ก็น่ารักดีเหมือนกัน เขาไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำอย่างที่ผมเคยคิด เขามีความเมตตาปราณี และรักลูกน้อง ที่เขาดุด่าว่ากล่าว ให้พนักงานทำงานหนักๆ เพราะเขาอยากให้พวกเราได้ดี การเติบโตของบริษัทต้องอาศัยการร่วมไม้ร่วมมือจากพนักงานทุกคน ถ้าทุกคนทุ่มเท บริษัทก็อยู่รอด และเมื่อบริษัทอยู่รอด พนักงานทุกคนก็จะได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส สวัสดิการและผลตอบแทนต่างๆ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียอะไรไป อยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ก็ต้องทุ่มเทเอาใจใส่ ทำงานให้เต็มที่ แต่ถ้าเวลาพนักงานเหนื่อยล้า ไม่สบาย เขาก็พร้อมจะดูแลให้หายป่วยไข้ ในกรณีของผม เขาก็ดูแลในฐานะพนักงานของบริษัทคนหนึ่ง ให้ลาป่วยได้ เมื่อทำงานไม่ไหว เพียงแต่ว่า การให้ผมพักนานๆมันดูเหมือนเป็นการลำเอียงนิดหน่อย เพราะผมไม่ได้ป่วยหนักจนลุกมาทำงานไม่ไหว แค่หน้าตามีรอยฟกช้ำ และมีแผลแตกเท่านั้น แต่รักษาตัวอยู่หลายวันมันก็หาย ผมเลยมาทำงานจะได้ไม่มีใครแอบนินทาว่าร้าย นึกว่าเขาจะโกรธให้งานมากมาย ที่ไหนได้ กลับหลอกให้ผมหอบแฟ้มมาเฉยๆอย่างนั้น สุดท้าย ผมก็ไม่มีงานจะทำอยู่ดี นอกจากที่กองอยู่บนโต๊ะก่อนหน้าที่ผมจะขึ้นไปหาเคลวิน

“เอาแฟ้มพวกนี้ไปเก็บใส่ตู้เลยเคน ช่วงนี้ไม่มีงานรีบด่วนอะไร ทำไปสบายๆ ถ้าเหนื่อย หรือเพลียก็พักบ้างแล้วกัน อย่าโหมมากนัก เดี๋ยวจะยิ่งป่วยหนัก”

พี่นนนี่สั่งขำๆ สุดท้ายก็ห้ามให้ผมทำงานหนักตามเคลวินและป้าหมี่ไปอีกคน สงสัยว่าคนพวกนี้จะเห็นว่าผมไร้สมรรถภาพกระมัง จึงกลัวว่าผมทำงานหนักแล้วจะเหนื่อยไม่สบาย สงสัยต้องแสดงให้รู้ว่าผมแข็งแรงกว่าที่เขาคิด เขาจะได้เลิกห่วงผมเสียที

หลังจากเอาแฟ้มงานของปีที่แล้วไปใส่ในตู้เก็บเอกสารแล้ว ผมก็ลงมือสะสางงานที่คั่งค้างอยู่บนโต๊ะ นั่งทำเพลินๆไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาอาหาร ด้วยความที่ผมทำงานติดพัน ผมก็เลยไม่ได้ลงไปทานข้าว กว่าจะเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสาร ก็ปาเข้าไปเที่ยงกว่า

เสียงกริ่งโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาบนโต๊ะผม ทำให้สะดุ้ง พยายามเดาว่าใครโทรมา คงไม่ใช่เคลวินหรอกมั๊ง ป่านนี้เขาคงไปทานข้าวแล้วกระมัง

เป็นเคลวินจริงๆด้วย เขาโทรมาถามว่าผมทำงานไปถึงไหน ผมหัวเราะหึหึแล้วพูดแหย่ไปประมาณว่า ฝากไว้ก่อนเถอะ แกล้งผมดีนัก พูดไปแล้วก็ชะงักทั้งผมและเขา ผมเองก็ลืมตัวไปชั่วขณะที่เผลอแซวประธานเคลวินตอนอยู่ที่บริษัท เขาเองก็คงตกใจ เพราะตอนที่โทรมา น้ำเสียงของเคลวินเป็นงานเป็นการมาก ไม่ได้ยั่วเย้ากระเซ้าแหย่ แบบที่ชอบทำเวลาเป็นภรรยา แต่พักเดียว เขาก็ส่งเสียงดุแต่ฟังแล้วหวานมาตามสาย บอกให้ผมเลิกทำงาน ไปทานข้าวได้แล้ว เพราะผมต้องกินยาตามเวลา เดี๋ยวจะไม่หาย ผมได้แต่รับคำ ครับ ครับผม คร้าบตลอด ไม่มีโอกาสโต้แย้ง เขายังขู่อีกว่า ถ้าผมไม่ลงไปทานข้าว เขาจะให้คนเชิญผมขึ้นไปกินข้างบนเป็นเพื่อนกับเขา ซึ่งแน่นอนว่า ผมลงไปทานข้างล่างน่าจะดีกว่า

ตอนนี้ต้องพยายามอยู่ห่างๆท่านประธานให้มากที่สุด หลังจากเกิดเรื่องวันที่ไปปิกนิกแล้ว ผมก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เคลวินถูกนินทาว่าร้ายให้เสียหาย ผมไม่รู้ว่าหลังจากวันนั้น จะมีใครพูดเรื่องของผมกับเคลวินหรือไม่ การลงไปทานข้าวข้างล่างก็เป็นการสำรวจเรตติ้งอย่างหนึ่ง หากมีใครพูดหรือถาม ก็จะได้เตรียมตัวรับมือได้ทัน

ร้านอาหารแถวบริษัทในช่วงพักกลางวัน ตั้งแต่สิบเอ็ดโมง จนถึงบ่ายหนึ่ง คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่ทยอยลงมาทานข้าว ร้านไหนที่ฝีมือดี ราคาไม่แพง ก็จะมีคนไปอุดหนุนกันเต็มร้านแน่นขนัด ร้านไหนฝีมือปานกลาง หรือร้านที่มีราคาสูงหน่อย คนก็จะบางตากว่า ทว่าในบางวันที่ร้านอาหารยอดนิยมคนเต็ม ร้านเหล่านี้ก็จะพลอยได้อนิสงส็ไปด้วย

ผมเดินดูร้านอาหารที่อยากทาน ตาก็กวาดไปยังตู้ที่โชว์กับข้าว บางร้านก็ดูสีสันน่าทาน บางร้านก็มีกลิ่นหอมลอยออกมายวนยั่ว ให้อยากลิ้มชิมรส ผมเดินดูไปเรื่อยๆ ยังไม่ได้ปลงใจกับร้านไหน ที่จริงร้านที่มีคนเยอะๆ ก็ดึงดูดให้ผมอยากเข้าไปนั่งทาน เพราะคิดว่ามันต้องอร่อย ไม่อย่างนั้นคนคงไม่เต็มร้าน แต่เมื่อมองไปเห็นจำนวนคนที่ต้องนั่งรออาหาร ผมก็ยกธงขาวยอมแพ้ เพราะไม่มีเวลามากมายที่จะมานั่งรอ อยากรีบทาน แล้วรีบขึ้นไปทำงานมากกว่า

ในที่สุด ผมก็มาสะดุดอยู่ตรงร้านด้านในสุด ดูจากอาหารที่อยู่ในถาด หน้าตาก็น่ากินพอประมาณ ที่สำคัญ ร้านก็ไม่แน่นมาก มีคนอยู่ประมาณ 10 กว่าคนเห็นจะได้ นั่งรวมกลุ่มกัน แบ่งเป็น 2 โต๊ะ 6 คน กับสี่คน ดูจากเสื้อผ้ายูนิฟอร์มที่สวมใส่ ก็รู้ว่าเป็นคนจากบริษัทผมนั่นเอง

ตัดสินใจเดินเข้าไปนั่ง เพราะเห็นว่าคนน้อย ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเป็นร้านเปิดใหม่ และอยู่ด้านในสุด คนยังไม่รู้จัก ก็เลยเดินเข้ามาไม่ถึง ส่วนใหญ่ไปหยุดอยู่ที่ร้านต้นซอยกันซะส่วนใหญ่ ผมเลือกสั่งข้าวราดกับสองอย่าง และน้ำเปล่า จากนั้นก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ สักพักเด็กร้าน ก็เอาอาหารที่ผมสั่งมาให้
นั่งทานอย่างไม่สนอกสนใจใครได้สักพัก หูผมก็แว่วได้ยินเสียงนินทา ตอนแรกก็ฟังผ่านๆ เพราะไม่ใช่เรื่องอะไรของตัวเอง ผมไม่ชอบเรื่องเกี่ยวกับการนินทาว่าร้ายอยู่แล้ว ใครที่ตั้งวงนินทาอยู่ ผมก็จะไม่เข้าไปร่วมด้วย ครั้งนี้ก็เช่นกัน เห็นเขาพูดคุยกันได้ยินลอยมาเข้าหูผม ผมก็ไม่สนใจ จนกระทั่งได้ยินเขาเอ่ยชื่อ ผมกับเคลวิน ผมก็เลยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะเธอ ว่าคนเราจะหาความก้าวหน้าให้กับตัวเองด้วยการใช้ทางลัดแบบนี้”
หนึ่งในกลุ่ม 4 คน ซึ่งนั่งใกล้ผมที่สุดพูดขึ้นมา
“เคยได้ยินแต่ผู้หญิงใช้เต้าไต่ เพื่อไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต แต่กับผู้ชายไม่เคยได้ยินอ่ะ อย่างนี้เขาจะเรียกว่าอะไรล่ะ”
“คงเรียกว่า มนต์รักถั่วดำละม๊าง ฮ่าฮ่าฮ่า”
พอคนหนึ่งหัวเราะ คนในกลุ่มก็หัวเราะตาม จากนั้นก็พูดคุยนินทากันต่ออย่างสนุกปาก ผมนั่งนิ่ง ถึงไม่หันไปมอง ก็รู้ว่าคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาก็คือผมกับเคลวินนั่นเอง ที่ผมรู้ เพราะได้ยินตั้งแต่ครั้งแรกๆ ถึงแม้ตอนหลังๆ เขาจะไม่เอ่ยชื่อ แต่จากการนินทาว่าร้าย ก็ทำให้ผมเดาได้ว่าเขาต้องการโจมตีผมกับเคลวินนั่นเอง
อยากจะหันไปโต้ตอบใจจะขาด แต่มันติดที่ทั้งกลุ่มเป็นผู้หญิง หากผมทำอะไรไป ก็จะกลายเป็นว่าผมรังแกเพศที่อ่อนแอกว่า อีกทั้งหากมีเรื่องมีราวกัน มันจะไม่ใช่แค่จบลงตรงที่ร้านอาหาร แต่น่าจะลุกลามไปทั่ว และข่าวเสียๆหายๆก็จะถูกกระพือไปทั่วบริษัท ทำให้เคลวินตกเป็นขี้ปากพนักงานอีก ผมจึงทำได้แค่นิ่งเฉย นั่งทานข้าวต่อไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สักพัก แม่สาวกลุ่มนั้นก็จ่ายค่าอาหาร และเดินผ่านหน้าผมไป ผมเงยหน้าขึ้นมองพวกเธอ ก็เห็นสาวกลุ่มนั้น ส่งสายตามาที่ผมอย่างรังเกียจเดียดฉันท์ ราวกับผมเป็นสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่าง ผมหน้าชาเหมือนถูกตบ ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แล้วมองผ่านคนกลุ่มนั้นไป ทำเหมือนกับว่าพวกเธอไม่มีตัวตนเช่นกัน
“คุณเคนใช่ไหมคะ”
พอพวกนั้นเดินออกจากร้านไปหมด สาวนางหนึ่ง ในกลุ่ม 6 คนที่ยังนั่งทานข้าวกันอยู่ ก็เดินมานั่งที่เก้าอี้ ตรงข้ามผม และเอ่ยปากทักทาย ผมพยักหน้าแทนคำว่าใช่ แล้วก็มองเธอซึ่งยิ้มซื่อๆให้กับผม
“วันนั้นคุณเคนร้องเพลงเพราะจังเลยค่ะ”
เธอกล่าวชมผมออกมา ผมกล่าวขอบคุณเธอ และนั่งฟังว่าเธอจะพูดอะไรต่อ
“คุณเคนเป็นนักร้องได้สบายๆเลยค่ะ”
คำชมต่อมาเล่นเอาผมเขิน เพราะผมเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเก่งถึงขนาดนั้น แต่เมื่อมีคนชม ผมก็น้อมรับ และกล่าวขอบคุณเธอ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาทันที หลังจากที่เจอเรื่องที่ทำให้หัวเสีย อย่างน้อยๆ โลกก็ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป มีคนเกลียดผม ก็มีคนชอบผมบ้างเหมือนกัน
“พวกเราได้ยินมาว่า คุณถูกคนทำร้าย ในวันปิกนิค จริงหรือเปล่าคะ”
คุยกันสักพัก เธอก็ถามประโยคนี้ขึ้นมา เล่นเอาผมอึ้ง มองหน้าคนถามอย่างสงสัยว่าเธอจะมาไม้ไหน และเธอเป็นใครกันแน่ ต้องการสืบข่าว หรือแค่แสดงความเห็นใจ

“เอ้อ ขอโทษค่ะ ที่ถามแบบนั้น พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรนะคะ เผอิญว่า พวกเรานั่งรถคันเดียวกับคุณตอนขามา แล้ววันกลับคุณก็ไม่ได้กลับด้วย มีคนเล่าว่าได้ยินว่ามีพนักงานบริษัทถูกคนลอบทำร้ายบาดเจ็บ และไม่ได้กลับมาพร้อมกัน พอดีพวกเราไม่เห็นคุณก็เลยคิดว่าต้องเป็นคุณเคนแน่ๆ แล้วคุณก็ไม่ได้มาทำงานหลายวันด้วย”
เธอเฉลยให้ผมฟัง พลางหันไปยังกลุ่มเพื่อนที่พยักหน้าสนับสนุนคำพูดของเธอ ผมหันไปมองตาม ก่อนจะกลับมามองที่เธออีกครั้ง ดูเธอเป็นคนซื่อๆ ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร
“มันเป็นอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ”
ผมไม่ปฏิเสธเรื่องการได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ตอบเรื่องการถูกทำร้าย พูดให้ฟังแค่เพียงว่ามันเป็นอุบัติเหตุเท่านั้น สำหรับเรื่องนี้ ผมคิดว่าไม่จำเป็นที่จะต้องเล่าให้ใครฟัง เนื่องจากเห็นว่ามันไม่สมควร ผมมีเรื่องกับพนักงานบริษัทกลุ่มหนึ่ง และถูกพวกเขารุมทำร้าย มันเป็นปัญหาระหว่างผมกับพวกเขา ไม่อยากให้รู้กันมาก ไม่อยากให้เกิดความแตกตื่น คนกลุ่มนั้นอาจจะมีเพื่อนฝูง มีคนรู้จักสนิทสนมในบริษัทแห่งนี้ คงไม่เป็นการดี ที่จะพูดเรื่องของเขาจนทำให้ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
“อือ หรือคะ แต่เราได้ยินคนเขาพูดกันว่าคุณถูกพวกพนักงานทำร้าย เราก็เลยอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่า”
ท่าทางคนพูดเหมือนไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน คงรับข้อมูลมาหลายด้าน
“ใครเขาไปพูดกันแบบนั้นหรือครับ”
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 03-02-2009 17:56:09
ถามอย่างสงสัย ใจกระหวัดนึกไปถึงอันธพาลในคราบพนักงานกลุ่มนั้น
“พวกพนักงานธุรการค่ะ เขาบอกว่าเขาสนิทกับพวกแผนกช่าง และคนพวกนี้เขาคุยกันว่า เขาไปมีเรื่องกับพนักงานคนหนึ่งค่ะ”
สิ่งที่เธอเล่า เล่นเอาผมถึงกับมึน คิดไว้แล้วว่าพวกนั้นต้องเล่นไม่เลิก แต่ไม่คิดว่าจะกล้าพูดเรื่องการทำร้ายพนักงานด้วยกันให้คนอื่นฟังอย่างไม่รู้สึกรู้สา ต้องการอวดเบ่ง ว่าตัวเองเก่ง โดยไม่แคร์ว่าใครจะเอาไปเล่าจนตัวเองโดนตักเตือนหรืออย่างไร
“งั้นหรือครับ เขาเล่าว่าไงบ้าง”
“ก็พูดแค่ว่า พวกเขาไปเล่นงานพนักงานคนหนึ่ง เพราะหมั่นไส้ พนักงานคนนี้ที่ทำให้เขาพลาดรางวัลการแสดงค่ะ แล้วก็พูดประมาณว่าพนักงานคนนี้ไม่มีฝีมือ แต่ชอบเล่นเส้นสายจนได้ดิบได้ดี แถมผู้บริหารยังลำเอียงเข้าข้างด้วยค่ะ”
ข้อมูลที่หญิงสาวคนนี้ได้มา เป็นข้อมูลหลอกลวงชัดๆ ทำแบบนี้เหมือนไม่ได้รู้จักเคลวินดีพอ หากผมจะเล่นเส้นสายเนื่องจากเป็นคนสนิทของเคลวินเพื่อไต่เต้าไปให้ถึงดวงดาว ผมคงไม่ต้องมานั่งทำงานอย่างหนักเพียงเพื่อให้คนยอมรับหรอก
“อืม แล้วคุณเชื่อพวกเขาหรือเปล่า”
อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ จะมีความเชื่อข่าวลือ ข่าวมั่วมากน้อยแค่ไหน
“เชื่อบางเรื่องค่ะ บางเรื่องก็พูดเกินไปค่ะ”
เธอตอบกลับมาอย่างตรงไปตรงมา
“ขอบคุณนะครับที่นำข่าวมาบอกกัน ว่าแต่ทำไมคุณถึงมาบอกกับผมล่ะ”
คราวนี้ผมเป็นฝ่ายตั้งคำถามกลับบ้าง เพราะสงสัยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาบอกผม ทั้งที่เราก็ไม่รู้จักกัน ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องยื่นมือยุ่งเกี่ยวด้วยเรื่องนี้ แล้วการที่เธอมาคุยกับผมนี่ก็เสี่ยงมาก หากว่าผมเป็นพวกคิดมากหวาดระแวง ผมอาจจะปฏิเสธความหวังดีของเธอกับเพื่อน โดยไม่ฟังสิ่งที่เธอเล่าก็ได้

“คือ พวกเราคิดว่าคุณเป็นคนดีค่ะ ที่จริงก็ได้ยินได้ฟังเรื่องของคุณมาบ้าง ที่เล่าต่อๆกันมา จนได้เจอตัวจริงที่คุณแนะนำตัวเองบนรถ ท่าทางคุณก็สุภาพดี ไม่กร่างอย่างที่ใครต่อใครพูด ตอนเล่นกีฬา คุณก็ตั้งอกตั้งใจเล่น ไม่ได้จะทำให้แพ้เสียหน่อย แต่คนพวกนั้นเขาพาลเพราะเขาเสียผลประโยชน์ก็เลยหาเรื่องค่ะ”
จบคำอธิบายยืดยาว เธอก็ยิ้มให้ผมอย่างจริงใจ ผมกล่าวขอบคุณเขา และเพื่อนๆ ที่เข้าใจและเชื่อใจในตัวผม รู้สึกมีกำลังใจขึ้นเป็นกอง อย่างน้อยๆสิ่งที่ผมเพียรทำมาตลอด ก็เริ่มมีคนมองเห็นบ้างแล้ว
“สู้สู้นะคะ เอาใจช่วย อยากให้พวกนั้นเจอเล่นงานบ้าง ไม่ชอบเหมือนกันค่ะ”
ในที่สุดเธอก็แง้มสิ่งที่อยู่ในใจของเธอออกมา ผมไม่ถามอะไรต่อ เพราะคิดว่าเราไม่ได้สนิทกันพอที่เธอจะมาเล่าอะไรต่อมิอะไรให้ฟัง แล้วผมก็ไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นด้วย แค่มองดูสีหน้าและแววตาของเธอขณะพูดถึงคนกลุ่มนั้น ก็รับรู้ได้ว่าเธอไม่ชอบคนกลุ่มนั้นมากแค่ไหน
เธอนั่งคุยกับผมสักพัก แล้วก็กลับไปสมทบกับเพื่อนๆของเธอ โดยก่อนจะไปก็แนะนำตัวเสร็จสรรพ เธอชื่อแคท ทำงานอยู่ฝ่ายบัญชี ซึ่งชั้นที่เธอนั่งทำงานอยู่ จะรวมกลุ่มอยู่กับพวกธุรการ และฝ่ายช่าง จึงเป็นไปได้ที่เธอจะเห็นพฤติกรรมต่างๆ ของคนพวกนั้นและเกิดความไม่ชอบใจขึ้นมา พอได้ยินเรื่องของผม และมีจังหวะที่ได้เจอกัน เลยมาเล่าบางอย่างให้ฟัง
ทานข้าวเสร็จ ผมก็กลับขึ้นไปทำงานอีกครั้ง ด้วยหัวใจที่พองโตกว่าเดิม มิตรภาพที่เพิ่งได้รับจากพนักงานบริษัทเดียวกัน ทำให้ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ข้าวที่กินเข้าไปจนเต็มท้อง ยังทำให้ผมรู้สึกอิ่มเอมได้ไม่เท่า ด้วยความที่ผมถูกปล่อยให้อยู่โดดเดี่ยวมานาน ไม่มีใครอยากคบหา พอมีคนหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้ ผมก็รู้สึกยินดี แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่คนกลุ่มเล็กๆก็ตาม แต่แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว
เพื่อนใหม่ที่มีโอกาสได้พบ ทำให้ผมรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจอย่างบอกไม่ถูก เดินยิ้มอารมณ์ดีเข้าไปในลิฟต์ซึ่งมีผมเพียงแค่คนเดียว เนื่องจากยังไม่ค่อยมีใครกลับขึ้นมาจนกว่าจะบ่ายแก่ๆโน่น แถวที่ทำงานของผมมีตลาดนัดทุกวัน พวกสาวๆ ชอบไปช้อปปิ้ง ซื้อของติดไม้ติดมือกลับบ้าน แม้แต่พนักงานหนุ่มๆ ก็ยังไปเดินเลือกข้าวของ เพราะมีของหลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าผู้หญิง เสื้อผ้าผู้ชาย ของใช้ในบ้าน อาหารการกิน หนังสือ และวีซีดี ทานข้าวแล้วก็เดินย่อยด้วยการเดินดูข้าวของได้สบายๆ จนกว่าจะได้เวลาเข้างาน ซึ่งบางทีก็มีการเข้าช้าบ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคลด้วย ว่าจะเบียดบังเวลาทำงานมากน้อยแค่ไหน
ลิฟต์เลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ และมาจอดที่ชั้นลอย ซึ่งเปิดไปสู่ลานจอดรถ และเป็นสถานที่พักสำหรับสิงห์อมควันทั้งหลาย ทางอาคารออกกฎไม่ให้สูบบุหรี่ในอาคาร หรือในห้องน้ำ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้ แต่ก็จัดสถานที่ให้กับคนสูบบุหรี่ ให้มีที่ระบายความเครียดอยู่ที่ชั้นลอย ซึ่งแทบจะเป็นที่พบปะพูดคุยกันของนักดูดทั้งหลาย
การที่มีนโยบายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยๆ ก็ช่วยทำให้ความอยากจะสูบบุหรี่น้อยลง เพราะกฎข้อห้าม ต้องการจะสูบบุหรี่สักตัว ก็ต้องกดลิฟต์ลงมาข้างล่าง หายอยากกันพอดี แต่ก็มีบ้างที่อาศัยกฎเกณฑ์นี้เป็นข้ออ้าง ในการอู้งาน มาสูบบุหรี่ และหายลงมาทีเป็นเวลานานๆ ซึ่งหัวหน้าก็ต้องจัดการกันไป
ขณะที่ผมกำลังยืนยิ้มเพลินๆ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก มีคนกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามา ผมต้องยืนหลบไปอยู่ด้านหลังสุด เพราะทำงานอยู่ชั้นสูงกว่าคนอื่น กลุ่มคนที่เข้ามาใหม่ คงไปสูบบุหรี่กัน เพราะได้กลิ่นบุหรี่ที่ติดตามเสื้อผ้าและเนื้อตัวของพวกเขา ทั้งหมดคุยกันเสียงดัง สักพักเสียงก็เงียบ ผมเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมา และมีคู่หนึ่งที่คุ้นตาเป็นพิเศษ เพราะมันคือดวงตาของนักเลงอันธพาลในคราบพนักงานที่มีเรื่องกับผม โชคชะตาช่างเล่นตลกเสียจริงที่ทำให้ผมได้เจอกับพวกเขาอีก ความโกรธที่หายไปเมื่อครู่หลังจากได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ เริ่มกลับคืนมา

“ว่าไงไอ้อ่อน แผลหายแล้วสิท่า”
หัวโจกที่มีเรื่องกับผมหมุนตัวมาเผชิญหน้า พลางเอ่ยปากถามอย่างเยาะหยัน มือเลื่อนมาจะจับคางผม แต่ผมยกมือขึ้นปัดกันไว้ก่อน
“กรุณาอย่ายุ่งกับผม”
ตอบพร้อมกับจ้องนักเลงโตคนนั้นเขม็ง ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวแม้แต่น้อย แม้ว่าเราจะเคยชกต่อยกันมาแล้ว และผมเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ แต่ผมก็พร้อมจะสู้อีก เผื่อปกป้องตัวเอง และคนที่ดีกับผมเสมอมาอย่างเคลวิน
“ใครอยากยุ่งกับมึงวะไอ้อ่อน แค่ตรวจดูบาดแผลที่พวกกูฝากรอยเอาไว้เท่านั้นเอง หายเร็วนี่หว่า สงสัยได้พยาบาลดี ท่านประธานเขาดูแลไปกี่ยกกี่ดอกกันล่ะ”
สำรอกคำพูดเน่าๆของตัวเองออกมาแล้วก็หัวเราะลั่น กรามของผมบดกันเป็นสันนูน มือกำแน่น รู้สึกโกรธที่พวกนั้นปากเสียละลาบละล้วงล่วงเกินเคลวินซึ่งเป็นประธานบริษัทของตัวเองด้วยถ้อยคำก้าวร้าวหยาบคาย ไม่เกรงกลัวว่าเรื่องจะรู้ไปถึงหูของเจ้าของบริษัท แล้วตัวเองจะเดือดร้อน แสดงว่าคนพวกนี้ต้องมีพฤติกรรมแย่ๆอย่างที่สาวๆกลุ่มนั้นพูดถึงจริงๆ ทำไมถึงได้ทำตัวน่ารังเกียจเยี่ยงนี้ อยู่บริษัทเขา ทำงานให้เขา กินเงินเดือนของเขา ยังพูดจาถึงเจ้าของไม่ดีอีก ไม่ละอายกันบ้างหรือไง
“กรุณาอย่าพาดพิงถึงคุณเคลวิน เขาไม่ได้มาเกี่ยวอะไรด้วย”
กระชากเสียงใส่อย่างไม่พอใจ ผมไม่ชอบให้เขามาพูดจาหยาบคายกับคนที่เป็นเจ้านายของตัวเองแบบนี้ มันแสดงถึงความไม่เคารพคนที่ให้โอกาสตัวเองได้ทำมาหากิน คนที่ไม่รู้บุญคุณคนอื่นแบบนี้ ก็ไม่ควรได้รับการปฏิบัติดีๆตอบเช่นกัน
“แน่ใจเหรอว่าไม่ได้เกี่ยว จำได้ว่าวันนั้นกูบอกมึงแล้วไม่ใช่เหรอ ว่ากูได้ยินอะไรแถวห้องน้ำ มึงกับประธานเคลวินมีอะไรกัน มึงถึงได้เลื่อนตำแหน่งข้ามหัวคนอื่นกลายเป็นคนสนิท คงจะใกล้ชิดกันทั้งตัวและหัวใจสิท่า”
พูดจบ คนน่ารังเกียจก็หัวเราะอีก น่าแปลกที่ลูกคู่ของเขา กลับไม่ร่วมวงด้วย ต่างพากันยืนเฉยๆ และหันหน้ามองไปทางอื่น ไม่มองผมกับเขาแม้สักนิด เหมือนไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวด้วย
“กรุณาอย่าก้าวร้าว คนที่เขามีบุญคุณต่อตัวเอง คุณกำลังทำงานอยู่ในบริษัทของคนที่คุณด่าอยู่นะ”
ผมพยายามเตือนสติ ทว่าไม่เป็นผลเขากลับทำหน้าตาถมึงทึง คงโกรธที่ถูกผมสั่งสอน
“ใครมีบุญคุณ กูไม่ได้ทำงานบริษัทนี้ฟรีๆ นะ ใช้แรงงานเข้าแลก ต่างตอบแทน ไม่จำเป็นต้องไปสำนึกบุญคุณใคร เงินเดือนแค่นี้ซื้อใจกูไม่ได้หรอกโว้ย”
เขายังสำรากต่อเนื่อง ผมมองเขาด้วยสายตาดูหมิ่น เป็นครั้งแรกที่ผมมองใครด้วยสายตาแบบนี้ แต่สำหรับพนักงานคนนี้ ผมไม่จำเป็นต้องทำดีกับเขาอีกต่อไป
“งั้นทำไมไม่ลาออกไปเสียล่ะ จะอยู่เปลืองเงินบริษัทไปทำไม”



--------------------
TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-02-2009 18:19:36
ลานจอดรถ มันมีกล้องวงจรปิดนะ งานนี้มีเสียว  :laugh: ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-02-2009 18:36:48
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 03-02-2009 21:35:41
เคนสู้ๆ เอาพวกนี้ออกไปเลย

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-02-2009 22:34:03
ตามราวีไม่เลิกราแฮะ  สงสัยคราวนี้ต้องมีพยานรู้เห็นแบบจะๆๆ แน่ๆๆ

เคน สู้ๆๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 03-02-2009 23:15:02
ประโยคสุดท้ายนี่เด็ดจริงๆ
 o13
โดนอย่างแรง

อยากพูดได้อย่างนี้บ้างจัง

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 04-02-2009 00:45:54
ลาออกไปเลยยยยย



ไอหมาบ้า :angry2: :angry2:



เนรคุณ!!!!!!!! :m16:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 04-02-2009 02:26:01
หึๆๆๆ คราวนี้มีเสียวววววววว

กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 04-02-2009 07:32:17
กรี๊ด... ตามอ่านหลายหน้า หลายตอนด้วย แหะๆ


ดูท่าว่า งานนี้ จะได้หลักฐานมัดตัว คนทำร้าย หนุ่มเคนซะล่ะมั๊งโฮ่ะๆ

พนักงานแบบนี้ อย่าเอาไว้รกบริษัท เป็นดีที่สุด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 04-02-2009 09:52:29
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขค่ะ  ละเมียดดี
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 04-02-2009 15:06:30
อ้างถึง
“งั้นทำไมไม่ลาออกไปเสียล่ะ จะอยู่เปลืองเงินบริษัทไปทำไม”

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-02-2009 22:08:46
คงใกล้ได้เวลาชำระความแล้ว

รีบมาต่อด่วนเลยนะหนูมิ้น ได้ยินว่าคุณเคทแต่เอาไว้แล้วอะ  ( ขี้ตู่ ) :z1:

+1ให้เป็นกำลังใจ ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 58 :P 3.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 04-02-2009 22:43:26
บทที่ 59

--------------------------

ไม่ได้ต้องการจะอัปเปหิเขาออกจากบริษัท เพราะผมไม่มีอำนาจสิทธิ์ขาดใดๆ ที่จะไปพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ต้องการแสดงความคิดเห็นในฐานะพนักงานคนหนึ่ง เมื่อเขาไม่มีใจ จะอยู่ที่บริษัทนี้เพื่อผลาญงบบริษัทเล่นเพื่ออะไร
“ไล่กูเหรอไอ้อ่อน มึงคิดว่ามึงเป็นใคร ใหญ่มาจากไหน ถึงมาไล่กู หรือคิดว่ามีความสัมพันธ์กับประธานแล้ว มึงจะกร่างยังไงก็ได้ คิดว่าตัวเองเป็นนายน้อยของที่นี่อีกคนสิ”
น้ำเสียงนั้นกระโชกโฮกฮาก ดังลั่นจนแก้วหูสั่นระริก พวกเพื่อนเขาที่ทำเป็นนิ่งเฉย ต่างพากันหันมามอง เหมือนรอดูสถานการณ์
“ไม่เกี่ยวกับท่านประธาน ผมพูดในฐานะพนักงานคนหนึ่ง ซึ่งมองว่าการกระทำของคุณมันไม่ถูกต้อง ก็ในเมื่อคุณมองว่าบริษัทนี้ไม่ดี ประธานบริษัทก็ดูแย่ แล้วจะมาอยู่ทำไมล่ะครับ”
ย้อนถามนักเลงโต ที่ทำหน้าบูดบึ้งด้วยความโกรธจัด
“ไม่ถูกต้องตรงไหน ที่กูต่อยมึง กระทืบมึง จนหมอบคาตีน หรือว่าที่กูเปิดโปงความสัมพันธ์ของมึงกับเจ้านาย คนที่นี่ควรจะขอบคุณกูด้วยซ้ำที่กูช่วยกระชากหน้ากากพวกมึงออกมา สิ่งที่กูทำอยู่มีประโยชน์ต่อพนักงานหลายคน เพราะกูกำลังทวงถามหาความยุติธรรมให้กับพวกเขา คนที่เขาทำงานเหนื่อย แต่ไม่เคยได้เลื่อนขั้น ในขณะที่มึงมาจากไหนไม่รู้ กลับได้ทำงานในตำแหน่งใหญ่โต มึงต่างหากที่สมควรออกไปไม่ใช่พวกกู”
ใบหน้าของอันธพาลในคราบพนักงานแดงก่ำ เขาแผดเสียงใส่ผมจนหูชา ทว่าผมกลับยืนจ้องหน้าอย่างไม่หวั่น ในใจก็คิดว่าเมื่อไหร่จะถึงชั้นทำงานของคนพวกนี้สักที ผมเบื่อที่จะทะเลาะกับคนพวกนี้เต็มแก่ คนที่ใจคับแคบ ต่อให้พูดอะไรไป ก็คงไม่ฟัง เพราะใจเต็มไปด้วยอคติ และมักจะมองคนอื่นในแง่ลบอยู่แล้ว คงไม่มีวันเข้าใจคนอื่น เพราะตาและหัวใจของพวกเขามันบอดสนิท
“แต่อย่างว่าแหละ ประธานเขาคงไม่เอามึงออกหรอก เพราะถึงมึงจะทำงานห่วยแตกอย่างไร แต่ถ้าลีลาบนเตียงดีเลิศ มันก็คงมีภาษีดีกว่าคนอื่น เสียดายกูไม่ชอบกินถั่วดำซะด้วย ไม่งั้นจะสนองเจ้านายซะหน่อย อยากรู้ว่า กูจะมีสิทธิ์ได้ตำแหน่งใหญ่โตบ้างไหม”
ชิ้ง.....ผมได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขาดผึง ไม่ใช่เสียงสายพิณ หรือกีตาร์ แต่มันมาจากในหัวของผมนั่นเอง ตอนนี้สติของผมขาดผึงลงไปแล้ว มือกำแน่น กรามบดเป็นสันนูน ตาจ้องนักเลงโตที่กำลังลอยหน้าลอยตาพ่นคำหยาบคายใส่ผมและพาดพิงไปถึงเคลวินคนดีของผมด้วย
พอเห็นผมจ้องหน้าเขาอย่างไม่ลดละ ก็เหมือนไปเพิ่มความโกรธให้อันธพาลคนนั้น เขาจ้องผมตอบด้วยสายตาเกลียดชัง
“ไอ้ตุ๊ดเอ๊ย มึงมันตุ๊ด ประธานก็ตุ๊ด บริษัทนี้กำลังจะถูกครอบครองด้วยตุ๊ดแล้วโว้ย มิน่าคนปกติถึงไม่ได้ดิบได้ดี เพราะไม่มีตูดให้ดันนี่เอง”
ถ้อยคำหยาบคายนั่น เกินกว่าที่ผมจะทนฟังไหว มือที่กำยกขึ้น และฟาดเปรี้ยงไปที่ใบหน้าครึ่งปากครึ่งจมูกของนักเลงโตนั่น มันไม่ได้แรงมากมาย แต่ก็ทำให้เขาเซได้เหมือนกัน
“ไอ้อ่อน มึงกล้าทำกูเหรอ”
ทันทีที่ตั้งหลักได้ เขาก็โถมเข้ามาหาผม แต่ผมรออยู่แล้ว พอเขาพุ่งตัวมา ผมก็หลบไปอีกทางด้านหนึ่ง ตอนแรกก็กลัวว่าจะเกิดกรณีหมาหมู่ขึ้น แต่แปลกที่เพื่อนๆของเขาไม่ช่วย แถมซ้ำยังร้องห้ามปรามอีก
“อย่ามีเรื่องเลยว่ะ ปล่อยมันไปเถอะ”
“นั่นสิ มึงอยากเจอดีอีกหรือไง ถูกเตือนมาแล้วครั้งหนึ่งนะ”

“มึงมีเรื่องอีก เดี๋ยวโดนไล่ออกแน่ เขาคาดโทษไว้แล้วนะโว้ย มึงอย่าลืม”
“ไปยุ่งกับคนของท่านประธาน เดี๋ยวก็ชะตาขาดหรอกมึง”
เพื่อนๆของเขาพากันยื้อยุดฉุดกระชากไม่ให้นักเลงโต เอาเรื่องกับผม และพากันพูดเพื่อเตือนสติ ซึ่งผมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนว่านายคนนี้จะเคยเจออะไรบางอย่าง แต่ผมไม่มีเวลาจะพิจารณาถ้วนถี่ เพราะต้องคอยระวังตัว ไม่ให้ถูกทำร้าย
วันนี้เหมือนลิฟต์มันจะช้าๆเอื่อยๆอย่างไรไม่รู้ กว่าจะถึงชั้น 17 ที่ผมทำงานอยู่ก็นานพอสมควร ราวกับถูกล็อคลิฟต์ ถ้าจะต้องสู้กัน ผมก็อยากจะได้พื้นที่กว้างๆกว่านี้ ในที่จำกัดอย่างในลิฟต์ และต้องสู้แบบ 1 ต่อ 5 ผมคงถูกอัดจนน่วมเหมือนเดิม
“กูไม่กลัว ออกเป็นออก หมั่นไส้แม่งมานานแล้ว เอามันไว้ทำไม ไอ้ตัวซวยแบบนี้ นอกจากจะข้ามหัวคนอื่นๆไปได้ตำแหน่งดีๆแล้ว ยังทำให้กูพลาดรางวัลแม่งหมดทุกอย่าง ตัวมารอย่างมัน ต้องถูกขจัด ถ้ากูจะถูกไล่ออก ก็ขอกระทืบแม่งให้น่วมอีกทีแล้วกัน”
เขาขยับเท้าก้าวเข้ามาหา ในขณะที่เพื่อนก็รั้งตัวเอาไว้ แต่ดูเหมือนเพื่อน 4 คน จะสู้แรงอาฆาตที่มีอยู่ในตัวคนๆเดียวไม่ได้ ในที่สุดเขาก็ดิ้นหลุด และโถมตัวเข้ามาหาผม ซึ่งยืนอยู่ตรงประตูลิฟต์ จังหวะที่เขาชกเปรี้ยงเข้าที่ใบหน้าผม ลมเย็นๆก็ปะทะวูบที่ด้านหลัง ทำให้ผมถึงกับยิ้มออก เมื่อโชคช่วย
ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกจากด้านนอกคงเพราะมีคนกดเรียก ผมหมุนตัวกระโดดออกมานอกลิฟต์ ไม่ได้หนี แต่ออกมาตั้งหลัก นักเลงคนนั้นไม่ทันตั้งตัว เพราะมัวแต่คิดจะทำร้ายผม พอลิฟต์เปิดกว้างในจังหวะที่เขาโถมตัวเข้าหาผมพอดี เขาก็เลยเสียหลักล้มคว่ำลงไปกับเพื่อน มีเสียงร้องหวีดจากหญิงสาวที่ยืนรออยู่ด้านนอก เธอยกมือขึ้นปิดปาก แฟ้มเอกสารที่ถือมาหล่นกระจาย
“ไอ้เห้.........มึงตาย....”
คนที่เสียท่าคำรามลั่น พอลุกขึ้นได้ เขาก็ทะยานออกจากลิฟต์ แล้วไล่ต่อยผม ซึ่งผมก็พยายามต่อสู้และปัดป้อง โดยมีเพื่อนๆของเขาคอยตามยื้อยุดไม่ให้เกิดเรื่อง ซึ่งผิดวิสัยเอามากๆ เพราะครั้งหนึ่งคนกลุ่มนี้ ที่ช่วยนักเลงโตรุมกระทืบผมที่รีสอร์ท จนอ่วม น่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น จนทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจไม่ร่วมรุมยำผม
“มึงไม่มีทางสู้กูได้หรอกไอ้อ่อน คราวที่แล้วกูยั้งมือไว้ คราวนี้กูเอามึงตายแน่ ออกเป็นออกโว้ย”
เมื่อไม่สามารถทำอะไรผมได้มาก เพราะผมหลบหลีกและโต้ตอบเขาบ้าง ประสบการณ์ที่โดนรุมคราวนั้น ทำให้ผมเริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น เวลาเขาต่อยมา ผมก็หลบหลีก แล้วก็ส่งหมัดโต้ตอบกลับ โดนบ้างไม่โดนบ้าง เพราะผมไม่ใช่นักมวยมืออาชีพ แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเลงโตหงุดหงิดหัวเสียได้
“อย่าคิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายเหมือนเดิม คนที่เขาไม่เกรงกลัวพวกนายก็มี”
ผมตอบกลับ และสวนหมัดตูมเข้าไปที่ปลายคางนักเลงโตอีกครั้ง เมื่อเขาเพลี่ยงพล้ำ หลังจากสวนหมัดเข้ามาหาผมหมายที่ใบหน้าแต่ผมเบี่ยงตัวหลบ หมัดของผมไม่แรงเพราะตัวผมเล็กกว่าเขา หมัดก็ไม่หนัก แต่พอได้จังหวะเหมาะ และถูกที่ปลายคางถนัดถนี่เขาก็หน้าหงายไปเหมือนกัน และนั่นเหมือนจะยิ่งเพิ่มความแค้นให้กับเขา เพราะนักเลงโตถลันเข้ามาใหม่ด้วยความคลั่งแค้นกว่าเดิม คราวนี้เพื่อนก็ห้ามไม่ได้แล้ว เขาก้าวเร็วๆเข้ามาหาผม ตาจับจ้องมองหาเป้าหมายบนใบหน้า ด้วยความที่ผมมัวแต่ระวังหน้าตาตัวเอง เลยเปิดช่องว่างที่ลำตัวให้เขา กว่าจะรู้ตัวก็เจ็บจุกเข้าที่ชายโครง เนื่องจากถูกต่อยเข้าเต็มแรงจนตัวงอ ต้องฝืนอย่างมากให้ยืนอยู่ไม่ล้มลงไปก่อน

“เป็นไงไอ้อ่อน มึงมันอ่อนจริงๆอย่างที่กูเดาไว้ไม่ผิด คราวนี้มึงจะได้รู้เสียทีว่าคนที่กล้าหยามกูมันจะได้ผลอย่างไร”
เขาตามมาซ้ำผมด้วยการต่อยอัดเข้าที่ลำตัว พอผมลดแขนลงมาปิดป้อง ก็เปิดช่องว่างบนหน้าให้เขาอีก เลยถูกต่อยเต็มแรง ถึงผมจะเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็โดนเข้าที่กกหูอยู่ดี ถึงกับหน้าหัน เซถลา ร่วงลงพื้นดุจนกปีกหัก นักเลงโตเดินตามมายกขาจะกระทืบซ้ำ แต่กลับถูกรวบตัวไว้ได้ก่อนจากรปภ.ร่างใหญ่ ซึ่งโผล่มาตอนไหนไม่รู้
ผมหันไปมองคนที่ช่วยเหลือผม ก็พบว่าด้านหลังเขาคือพนักงานสาวคนที่ยืนอยู่หน้าลิฟต์ ตอนสู้กันผมไม่ทันสังเกตเห็นเธอ คาดว่าน่าจะไปเรียกรปภ.มาจัดการแยกพวกเราออกจากกัน ถัดจากพนักงานหญิงคนนั้น ก็เป็นพวกพนักงานที่ทำตัวเป็นไทยมุง อยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนเพื่อนของนักเลงโต เผ่นแน่บไปหมดแล้ว ปล่อยให้เขาดิ้นรน โวยวายด่าทอ รปภ.และผม รวมไปถึงเคลวินด้วย เสียงดังลั่น

ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งผมและนักเลงอันธพาลคนนั้นก็มานั่งอยู่ด้วยกันในห้องประชุม ซึ่งถูกจัดเป็นห้องสืบสวนชั่วคราว เราสองคนนั่งข้างๆ กัน ถัดจากผมเป็น พนักงานสาวคนที่เห็นเหตุการณ์และไปตามรปภ. ส่วนที่นั่งถัดไปจากพนักงานคนที่มีเรื่องกับผม คือกลุ่มเพื่อนๆของเขา ที่นั่งก้มหน้านิ่ง ท่าทางกลัวหงอ
เบื้องหน้าของเราคือพนักงานระดับบริหาร 4- 5 คน หนึ่งในนั้นคือคุณชาตรี ซึ่งดูแลฝ่ายธุรการ และ ฝ่ายผลิต ซึ่งรวมทั้งแผนกช่างด้วย เมื่อพนักงานในฝ่ายของเขามีเรื่อง เขาก็ต้องมาร่วมรับรู้ รับผิดชอบ ผมเห็นสีหน้าเขาไม่สู้ดี ดูเหมือนจะโกรธมาก สังเกตได้จากตอนที่เขานั่งคุยอยู่กับผู้จัดการฝ่ายบุคคล ดูท่าทางเหมือนเขาไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ คงรู้สึกอับอายขายหน้าที่คนใต้การปกครองของตัวเองทำเรื่องเลวร้าย ให้เขาต้องกลุ้มใจ ถัดจากคุณชาตรี เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลที่ต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะดูแลพนักงานทั้งบริษัท ข้างๆเขาคือหัวหน้าแผนกช่าง ที่เป็นต้นสังกัดโดยตรงของนักเลงที่มีเรื่องกับผม ทั้งสามคนคือผู้ที่จะสอบสวนเรื่องความขัดแย้งระหว่างผมกับพนักงานคนนี้
“ไหนบอกมาสิ ว่าเกิดบ้าอะไรกัน พวกเธอถึงได้มาต่อยตีเหมือนกับกุ๊ยข้างถนน ไม่อายตัวเอง ก็น่าจะอายคนอื่นบ้าง”
“ก็ไอ้เด็กนี่มันต่อยผมก่อนนี่ครับ ผมก็ต้องป้องกันตัวสิ”
เมื่อสิ้นคำถามของผู้จัดการชาตรี นักเลงโตพนักงานแผนกช่างก็กล่าวหาผมทันที
“เคน เธอคิดจะเป็นนักเลงหรือไง ถึงได้ไปต่อยตีคนอื่น หน้าตารูปร่างก็ไม่ให้เลย คิดจะเอาดีทางนี้หรือไง”
นายชาตรีหันมาถามผมเสียงเข้ม ทว่าแววตาที่มองมานั้นแฝงไว้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
“ผมมีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้ครับ”
ตอบได้เพียงเท่านั้น เพราะไม่อยากพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ผมต้องทะเลาะเบาะแว้งกับพนักงานด้วยกัน
“ความจำเป็นอะไรของเธอ เขาแย่งแฟนเธอ ด่าพ่อล่อแม่ หรือว่ากลั่นแกล้งเธอให้ช้ำใจ”
ท่านผู้จัดการยังถามอีก ผมคิดว่าเขาคงทำไปตามหน้าที่ ต้องซักฟอกหาเหตุผลที่ทำให้คนสองคนทะเลาะกันให้ได้ เพื่อตัดสินคดี
“บอกมาสิไอ้อ่อน เอ้อ คุณเคน ผมไปทำอะไรให้คุณ คุณถึงมาต่อยผม”
นักเลงโตหันมาถามผม พลางตีหน้าเศร้า ราวกับเป็นผู้ที่ถูกกระทำเลยต้องป้องกันตัว
“บอกไม่ได้ เพราะว่าผมไม่ได้ทำร้ายคุณก่อน แต่คุณทำผมก่อนใช่ไหม”

พอรู้ว่าผมพูดไม่ได้ เพราะพูดไปแล้ว เรื่องก็ต้องพัวพันไปถึงเคลวิน เขาก็เลยได้ที รุกไล่ผมใหญ่ ผมนั่งนิ่ง เม้มปากกลัวว่าจะหลุดคำพูดออกมา รู้สึกอึดอัดอย่างเหลือเกิน อยากบอกให้ใครๆรู้ว่า นักเลงโตคนนี้ ทำเรื่องไม่ดีไว้อย่างไร แต่หากผมพูดออกไปว่าผมทนไม่ได้เรื่องที่เขาลบหลู่ประธานบริษัทด้วยเรื่องคาวๆ ระหว่างเขากับผม เคลวินก็จะถูกลากลงมาเกี่ยวข้องทำให้ชื่อเสียงมัวหมองไปด้วย แม้ผมจะเจ็บใจแค่ไหน แต่ก็ต้องทนนิ่งไม่พูดออกไป ปล่อยให้คนใจทรามพูดจาเย้ยหยันผม
“เห็นไหมครับท่านผู้จัดการ เขาตอบไม่ได้ เพราะผมไม่ได้ทำอะไรเขา แต่เขาทำร้ายผมก่อน ถ้างั้นผมขอร้องเรียนบ้าง ท่านผู้จัดการต้องให้ความเป็นธรรมกับผมนะครับ ผมถูกทำร้าย ทั้งที่ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ผมขอให้เขารับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นครับ”
เขาทำเสียงเย้ยหยัน คงจะรู้ว่าตัวเองเป็นต่อ เนื่องจากผมไม่กล้าพูดกล่าวหาเขา งานนี้นอกจากผมจะเจ็บตัวฟรีคราวก่อนแล้ว คราวนี้ผมก็ยังเอาคืนไม่ได้ แถมซ้ำเกือบจะทำให้เคลวินมัวหมองอีกด้วย
“แน่ใจนะ ว่าเขาทำร้ายคุณก่อน โดยที่คุณไม่ได้ไปพูดจายั่วยุเขา ตัวคุณเองก็อยู่ในระหว่างการภาคฑัณฑ์ไม่ใช่เหรอ คุณก็น่าจะรู้นี่ ว่าทำผิดอีกหน จะเกิดอะไรขึ้น”
คุณชาตรีหรี่ตามองพนักงานในสังกัดตัวเองอย่างคลางแคลงใจ ดูท่าทางเขาไม่เชื่อคำพูดของลูกน้องตัวเองเท่าไหร่ คำพูดของเขาทำให้ผมคิดตามไปด้วย
รู้สึกว่า นายคนนี้จะถูกลงโทษจากบริษัทด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง และกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพฤติกรรม หากเขาทำผิดก็จะถูกลงโทษขั้นร้ายแรง หวังว่าเรื่องที่เขาโดนลงโทษครั้งก่อน คงไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการที่เขาซ้อมผมที่รีสอร์ทหรอกนะ
“ครั้งก่อน ผมอาจจะก่อเรื่องไปด้วยความเมา แต่ครั้งนี้ ผมไม่ได้ทำแน่ๆ ถ้าผมทำร้าย เขาก็ต้องพูดออกมาแล้ว นี่เขาก็นิ่งยอมรับความจริงแล้วนี่ครับ ทำไมไม่เชื่อกันบ้าง หรือผมเคยทำผิดแล้วครั้งหนึ่ง ก็ต้องคิดว่าผมจะก่อคดีซ้ำสองอีก”
สีหน้าของเขาขณะพูดดูกวนๆ ท่าทางเหมือนจะไม่ค่อยเกรงอกเกรงใจผู้จัดการฝ่ายของตัวเองเท่าไหร่ ซึ่งตามปกติแล้ว ผู้จัดการชาตรีเป็นคนดุ ไม่มีใครที่จะมากล้าต่อปากต่อคำกับแก ดังนั้นการที่นักเลงโตพูดจายอกย้อนก็ย่อมไปกระตุกต่อมความโกรธของผู้จัดการอย่างจัง
“มันเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐานเท่านั้น เพราะคนที่เคยทำผิดมาแล้ว มักมีแนวโน้มที่จะทำผิดต่อไป เพราะไม่มีความเกรงกลัวหรือละอายในสิ่งที่ตัวเองทำ สำหรับคุณ ถ้ายืนยันว่าไม่ได้ทำผิด ก็ไม่ต้องมาร้อนตัว เดี๋ยวดูหลักฐานจากในเทปวิดิโอก็รู้ ว่าใครเป็นคนลงมือก่อน”
พูดจบ นายชาตรีก็สั่งให้หัวหน้าแผนกช่าง ซึ่งเป็นลูกน้องของเขาและเป็นหัวหน้าของนักเลงโต ไปกดปุ่มเครื่องเล่นซีดีซึ่งบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ทางฝ่ายอาคารได้ถ่ายลงแผ่นซีดีมาให้ โดยตัดต่อตั้งแต่ช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง
ภาพที่เห็นบนจอทีวีซึ่งมีแต่ภาพ ไม่มีเสียง เริ่มตั้งแต่ผมก้าวเข้ามาในลิฟต์และยืนยิ้มอยู่ สักพักก็มีกลุ่มคนก้าวเข้ามา ยืนคุยกัน จากนั้นก็มีคนหันมาคุยกับผมด้วยท่าทางข่มขู่ ซึ่งก็คือนักเลงโตคนที่นั่งข้างผมนั่นเอง
เราต่างมองภาพภายในจอด้วยความรู้สึกที่ต่างกันไป นักเลงโตนั่งกอดอกมองภาพที่อยู่บนจอ ท่าทางลุ้นๆ เหมือนจะให้มันผ่านๆไป พอดูไปถึงช่วงที่ผมต่อยเขาก่อน เขาก็ร้องลั่น ชี้ไม้ชี้มือให้ทุกคนดู
“นั่นไง หลักฐานชัดเจน เห็นกันชัดใช่ไหมครับ เขาต่อยผมก่อน เขาทำร้ายผม เห็นกันหรือยัง”
“อือ เห็นแล้ว ผมไม่ได้ตาบอด เห็นชัดเจนว่าเคนต่อยคุณก่อน และก็เห็นด้วยว่าคุณทำท่าคุกคามเขา”

นายชาตรีเบือนหน้าจากจอภาพ มาที่หน้าของนักเลงโต ก่อนจะกล่าวกับเขาอย่างรู้ทัน ถึงแม้ว่ามันจะมีภาพไม่มีเสียง และจากที่เห็นผมเป็นฝ่ายผิดเต็มๆ เพราะไปซัดปากเขาก่อน การที่ไม่ได้ยินเสียงทำให้ไม่รู้ว่าเราโต้ตอบอะไรกัน แต่นายชาตรีก็ทำท่าเหมือนจะเข้าข้างผม ไม่เชื่อลูกน้องตัวเอง ทั้งที่หลักฐานมีอยู่ให้เห็นทนโท่
งานนี้ผู้จัดการชาตรี ออกโรงเต็มที่ ทั้งที่ควรจะเป็นหน้าที่ของผู้จัดการฝ่ายบุคคล ที่จะต้องสอบถามพวกเราเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แต่กลายเป็นว่าผู้จัดการฝ่ายธุรการดำเนินการสอบถามซะเอง คงเพราะขายหน้าส่วนหนึ่ง เนื่องจากคนที่มีเรื่องราวเป็นลูกน้องในฝ่าย เขาจึงต้องทำอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้คนมองว่าเขาไม่จัดการอะไรเลย ปล่อยให้ลูกน้องลอยนวล ทำผิดอยู่เรื่อยๆ
“คุกคาม ?...ผมนี่นะ จะไปคุกคามเขาเรื่องอะไร”
นักเลงโตขึ้นเสียงสูง ทำท่าไม่พอใจที่ถูกซักถามราวกับเขาเป็นต้นเหตุ ไอ้หมอนี่แสดงละครเก่งชะมัด ทำตัวเหมือนผู้บริสุทธิ์ที่กำลังถูกกล่าวหา
“ก็ ใครจะไปรู้ บางทีคุณสองคนอาจจะมีเรื่องขัดแย้งกันมาก่อนก็ได้ อย่างเช่น ความไม่พอใจที่ถูกตัดสินไม่ให้ได้รับรางวัลในการประกวด จนเก็บมาผูกใจเจ็บ”
การเปิดประเด็นของผู้จัดการชาตรี ทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง และตั้งใจฟังการโต้ตอบของคนทั้งสอง ภาวนาว่าอย่าให้สิ่งที่ผมคิดเป็นจริงเลย
ผมไม่ได้มาทำงานหลายวัน ระหว่างนั้นผมก็ไม่รู้ว่าเคลวินจัดการเรื่องของผมไปอย่างไรบ้าง เขาไม่พูดถึงเลยสักครั้ง มีแต่ปลอบโยนให้กำลังใจ และดูแลผม ในขณะที่ผมเองก็ไม่ได้ซักถามเพราะกลัวว่าเขาจะอยากรู้ว่าใครทำผม การที่เราสองคนไม่พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ผมไม่รู้ความคืบหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง การมาได้ยินว่านักเลงโตคนนี้ถูกภาคทัณฑ์ในความผิดที่เขาก่อ ทำให้ผมรู้สึกสังหรณ์ใจ
สมมติว่าเคลวินได้จัดการเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ผลที่ได้ก็จะเป็นสองอย่าง คือการลงโทษทำให้คนทำผิดเข็ดหลาบ หรือไม่ก็ผูกใจเจ็บแค้น แต่ดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในวันนี้ น่าจะเป็นกรณีหลังมากกว่า ผมกลัวเหลือเกินว่า เขาจะไม่แค้นผมคนเดียว แต่อาจจะต้องการทำลายเคลวินด้วย
“อะไรกัน ท่านผู้จัดการอย่ามากล่าวหาผมแบบนี้สิ ผมจะไปโกรธเขาทำไมกัน เขาไม่ได้เป็นคนให้คะแนนผมนี่ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนที่ไปบอกท่านประธานให้เปลี่ยนผลการตัดสินไม่ใช่เหรอ ...”
เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาพัลวัน ตาก็เหลือบแลมาทางผม
“ถ้าคุณเคนเขาทำอย่างนั้นก็โง่มากๆ เพราะคงไม่ใช่แค่ผมไม่พอใจ พนักงานคนอื่นๆ ก็ต้องสงสัยว่าเพราะอะไรคุณเคนเขาถึงได้มีอิทธิพลอยู่เหนือท่านประธานที่จะสั่งอะไรประธานก็เชี่อ ใช่ไหมเคน”
ประโยคท้ายเขาหันมาถามผม ทำเหมือนกับไม่เชื่อว่าผมจะทำตัวอย่างนั้น แต่สีหน้าแววตาของเขาไม่ได้คิดดีแบบคำพูด ตาของเขาจ้องผมอย่างแค้นเคือง เหมือนเขากล่าวหาผม และที่พูดมาทั้งหมด เขากำลังหมายถึงสิ่งที่อยู่ตรงกันข้าม เขาโทษว่าผมเป็นคนทำให้ท่านประธานเปลี่ยนใจไม่มอบรางวัลการแสดงให้เขา แม้ว่าผมจะอธิบายอย่างไร เขาก็ไม่ฟัง และในที่สุดก็จบลงด้วยการที่ผมถูกเขาทำร้าย เพราะเข้าใจผิด
“ผมไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอกน่า เคนเขาเป็นคนโปรดของคุณเคลวิน ผมจะไปกล้ามีเรื่องกับคุณเคน เลขาท่านประธานได้อย่างไรล่ะครับ มีหวังโดนเล่นงานน่ะสิ อาจจะโดนตัดเงินเดือนหรือโดนไล่ออกก็ได้”
เขายังโยกโย้ต่อไป และไม่วายแขวะมาถึงเคลวินด้วย
ไม่จำเป็นต้องเป็นคนโปรดของคุณเคลวินหรอก ทุกๆคนที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะทุจริตในหน้าที่การงาน หรือเป็นอันธพาล ระรานพนักงานที่ดีๆไปทั่ว เราก็ไม่เอาไว้หรอก”
คราวนี้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง เพราะเขาเป็นผู้รักษากฎระเบียบ ดูแลพนักงานทุกคนให้ปฏิบัติตามข้อบังคับ การปล่อยให้พนักงานทะเลาะกัน ก็เหมือนเขาบกพร่องในหน้าที่ เพราะสอดส่องดูแลไม่ทั่วถึง
“โอ๊ย สาธุ ถ้าความยุติธรรมมันมีจริงก็ดีสิ พนักงานจะได้อยู่บริษัทนี้นานๆ แต่นี่มีแต่ความลำเอียง เลือกที่รักมักที่ชัง จนพนักงานไม่อยากอยู่กันแล้ว”
นักเลงโตยกมือท่วมหัว ราวกับจะกราบไหว้ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้ศรัทธาอะไรอย่างจริงจัง เพราะในท้ายสุด เขาก็พูดจาแดกดันอยู่ดี
“และคุณอยากจะออกไปจากบริษัทนี้ไหมล่ะ ถ้าไม่อยากอยู่จะไปก็ได้นะ”
ดูเหมือนคำพูดของเขาจะทำให้นายชาตรีหมดความอดทน จึงโพล่งขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้า เล่นเอานักเลงโตในคราบพนักงานหน้าถอดสี สักพักก็โวยวายเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว
“นี่ไล่ผมอีกคนแล้วเหรอ โห วันนี้ดวงซวยจริงๆ โดนไล่สองหนติดกัน ทั้งเคน ทั้งคุณชาตรี ผมคงหาความยุติธรรมจากคนในห้องนี้ จากประธาน จากบริษัทนี้ไม่ได้แน่ๆ”
“ความยุติธรรมมีให้เสมอ กับพนักงานที่ทำตัวดีๆ แม้แต่พนักงานที่เป็นกาฝาก เป็นแกะดำ ทำตัวมีปัญหา เราก็หยิบยื่นให้ได้เช่นกัน ก็ในเมื่อคุณมองว่าบริษัทนี้ไม่ดี และคุณไม่อยากอยู่ เราก็ให้โอกาสคุณในการไปอยู่ที่อื่นยังไงล่ะ ไม่ดีหรอกเหรอ เราไม่ได้รั้งคุณไว้ อยากไปก็ไป”
ท่านผู้จัดการตอบด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น มาดเข้มของเขาทำให้ผมแอบทึ่ง ตามปกติ จะเห็นเขาปากร้ายด่าใครต่อใครไปทั่ว แต่คราวนี้นอกจากจะไม่ด่า แต่กลับเชือดเฉือนได้ถึงอารมณ์
“ผมผิดข้อหาอะไรไม่ทราบ ถึงไล่กันนักหนา”
พอเห็นว่าผู้บริหารทั้งหมดไม่มีใครเข้าข้างเขา แถมยังไม่ใส่ใจกับคำพูดเขาอีก นายนักเลงโตก็เลยโกรธมากยิ่งขึ้น ตั้งคำถามกับทุกคนด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“เฮ้ย พวกมึงดูสิวะ คนผิดไม่ไล่ แต่มาไล่คนไม่ผิด”
หันไปหาพรรคพวกซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีใครตอบเขา ทุกคนต่างพากันนั่งก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาใคร คางแทบจะจรดอก รักตัวกลัวสูญเสียงานกันทั้งนั้น เห็นแล้วก็ได้แต่ปลง ครั้งหนึ่งคนพวกนี้ เห็นดีเห็นงามร่วมด้วยช่วยเขากระทืบผม แต่ครั้นพอมีเรื่องมีราวขึ้นมา ต่างคนก็ต่างเอาตัวรอด ปล่อยให้นักเลงโตโดดเดี่ยว เพราะห่วงใยหน้าที่การงานของตัว ไม่อยากเอาตัวพัวพันกับปัญหา มันน่าสังเวชตรงที่ว่า ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่มีมิตรแท้ที่ยืนเคียงข้างเขา
“ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ หรือจะต้องให้พูด ตั้งแต่คุณมาทำงานที่บริษัทนี้ คุณก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาสามครั้งแล้ว ครั้งแรกก็มีเรื่องกับพนักงานธุรการ ไปตบหน้าผู้หญิง แต่ตอนนั้นเห็นว่ามันเป็นเรื่องของคู่รักที่ไม่เข้าใจกัน ทางบริษัทก็ไม่อยากเอาเรื่องคุณ ครั้งที่สองคุณก็ไปก่อเหตุที่รีสอร์ทอีก และครั้งนี้ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทอีก คุณพูดมาสิ ว่าคุณไม่ผิด”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลทำเสียงเข้มขึ้น ท่าทางเขาก็คงจะโกรธไม่น้อยเช่นกัน ที่นายนักเลงโตพูดจาดูหมิ่น เหมือนว่าทุกคนรุมรังแกเขาคนเดียว ก็เลยอ้างถึงประวัติการทำผิดของเขาที่ผ่านมา พลอยทำให้ผมรู้ไปด้วยว่า ไอ้หมอนี่ก็เกเรไม่ใช่ย่อยเหมือนกัน ทำร้ายผู้หญิงด้วย หวังว่าพนักงานธุรการที่โดนตบ คงจะไม่ใช่แคทนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 04-02-2009 22:47:01
“อะไรกัน ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาพูดทำไมอีก สองครั้งนั่นผมก็ยอมรับผิด แล้วโดนลงโทษไปแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ผิด ทุกคนก็เห็นอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิด ก็เป็นพยานหลักฐานได้ดี แล้วทำไมต้องปรักปรำผม พวกคุณต้องเอาเคนไปลงโทษสิ”
พอถูกฉีกหน้าด้วยคดีเก่าๆที่เขาทำเอาไว้ นายนักเลงโตก็หน้าบึ้งตึง เถียงผู้จัดการฝ่ายบุคคลปากคอสั่น
“ผมต้องลงโทษคุณสองคนแน่นอน และครั้งนี้ ผมก็เชื่อว่าคุณเองก็ผิดเช่นกัน แม้ว่าคู่กรณีของคุณจะไม่ยอมปริปากบอกว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร แต่คุณก็มีส่วนร่วมในการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ เพราะฉะนั้น ผมจะลงโทษคุณสองคน...”
เมื่อโดนท้าทาย ผู้จัดการฝ่ายบุคคลซึ่งต้องทำหน้าที่เปาบุ้นจิ้นพิพากษาคดี ก็เลยตัดสินออกมา ซึ่งผมก็คิดว่ามันยุติธรรมดี คนที่ทำผิดต้องถูกลงโทษ เพื่อไม่ให้คนอื่นๆเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะได้พูดต่อ นักเลงโตก็ชิงพูดขึ้นมากลางปล้อง
“อะไรกัน เห็นแค่นี้แล้วตัดสินเลยหรือไง ทำไมไม่ถามเพื่อนๆผมล่ะ ว่าเขาเห็นอะไรบ้าง พวกเขาเป็นพยานให้ผมได้ ว่าไม่ได้เริ่มก่อน ”
เขาหันไปทางเพื่อนๆที่นั่งก้มหน้างุดๆ ผู้จัดการชาตรี เลยตั้งคำถามเอากับคนพวกนั้น
“ว่าไงพวกคุณ ไหนลองตอบผมมาสิ ว่างานนี้ใครผิดใครถูก ใครเริ่มก่อน ใครยั่วยุ”
พอถูกตั้งคำถาม แต่ละคนก็เงยหน้าขั้นมามองกันเลิ่กลั่ก จากนั้นก็หันมาสบตานักเลงโต ซึ่งตีหน้ายักษ์ใส่
“พูดมาตามตรงนะ ห้ามโกหก เพราะถ้าโกหก และตอนหลังผมจับได้ ผมจะไล่พวกคุณออกทันที”
คำขู่นั้น ได้ผลพอสมควร อย่างน้อยๆ ก็ทำให้เพื่อนของนักเลงโต ไม่กล้าที่จะพูดปด แม้จะไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดก็ตาม
“เอ่อ เคนเริ่มก่อนครับ เคนต่อยเพื่อนผมก่อน”
พยานคนแรกตอบก่อน เขาเลือกพูดเฉพาะความจริงที่ผมเป็นฝ่ายลงมือ นักเลงโตยิ้มอย่างสะใจที่เพื่อนเข้าข้าง
“แล้วเขาพูดอะไรกันในลิฟต์ จากที่เห็นเหมือนเพื่อนคุณไปพูดอะไรบางอย่าง ทำให้เคนเขาไม่พอใจ จนเกิดการชกต่อยขึ้น”
นายชาตรีซักต่อ คนที่พูดคนแรกอึกอัก ไม่กล้าตอบ นายชาตรีจึงหันไปถามคนที่สอง เขาก็อึกอักอีก แต่พอถูกขู่ด้วยประโยคเดิม เขาก็คายออกมา ถึงข้อความที่เป็นต้นเหตุให้ผมทนไม่ไหว และลงมือทำร้ายนักเลงโตก่อน
“คุณพูดจาดูถูกเขา และยังลากโยงไปถึงประธานด้วยนี่ คุณเคนเขาก็คงทนไม่ไหวมั๊ง ถ้าเป็นอย่างที่เพื่อนคุณเล่า คุณก็มีความผิดนะ”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลสรุป ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับนักเลงโตไม่ใช่น้อย เขาอ้าปากจะโต้เถียง แต่ท่านผู้จัดการชาตรียกมือขึ้นเป็นการห้ามไม่ให้พูด แล้วก็พยักเพยิดให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตัดสินความต่อไป
ท่านเปาบุ้นจิ้นหันมาทางผม ซึ่งผมก็เตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับรับการลงโทษ เพราะผมเองก็ผิดงที่ไม่ระงับอารมณ์ ชกต่อยเขาก่อน มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้จริงๆ ในเมื่อสิ่งที่นักเลงโตคนนั้นพูดถึงเคลวินมันน่ารังเกียจสิ้นดี ใครจะทนฟังไว้ ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะปกป้องเกียรติของเคลวิน ดังนั้นจึงยอมให้ใครว่าร้ายเขาไม่ได้ ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับผมก็ตาม
“เคน ผมขอพักงานคุณ 1 อาทิตย์ สำหรับการลงมือชกต่อยเพื่อนร่วมงาน ระหว่างนี้คุณก็กลับไปทบทวนถึงสิ่งที่ทำลงไป ว่ามันเหมาะมันควรหรือไม่ คุณถูกคัดเลือกให้มาเป็นพนักงาน ไม่ใช่ให้มาเป็นนักเลง จะไปท้าตีท้าต่อยกันทำไม ให้คนนินทา แทนที่จะรักสามัคคีกัน ร่วมไม้ร่วมมือกันทำงาน กลับมาบาดหมางทะเลาะวิวาทกันอีก หวังว่าการลงโทษด้วยการพักงานครั้งนี้ จะทำให้คุณสำนึกได้บ้าง”

เขากล่าวตำหนิผม และบอกบทลงโทษ ซึ่งผมก็พยักหน้ายอมรับโดยดุษฎี ไม่มีโต้เถียง ผมคิดว่ามันสมควรแล้วกับสิ่งที่ผมทำลงไป แม้ว่าผมจะมีเหตุผลในการทำผิดก็ตาม แต่กฎก็คือกฎ จะยกเว้นให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้
พูดกับผมเสร็จก็หันไปทางนักเลงโต ซึ่งนั่งเอนตัวพิงพนัก มือกอดอก เอียงคอ ทำหน้าไม่พอใจ แม้แต่การนั่งก็ยังไม่ให้เกียรติผู้บริหาร แถมซ้ำเป็นเจ้านายตัวเองถึงสองคน นั่นก็แสดงว่า นิสัยของหมอนี่มันแย่เกินจะรับไหวแล้ว
“ส่วนคุณเนื่องจากเป็นการทำผิดในระหว่างการภาคทัณฑ์ ดังนั้นคุณต้องถูกลงโทษสถานหนัก เนื่องจากทำความผิดซ้ำซาก ไม่สำนึกตัว ดังนั้นบริษัทจะลงโทษด้วยการงดโบนัส และตัดเงินเดือนคุณ 10 % จะได้จดจำ และไม่ทำพฤติกรรมอย่างนี้อีก”
ปัง...
ทันทีที่ผู้จัดการบุคคลพูดจบ ก็มีเสียงตบโต๊ะดังปัง นักเลงโตผลุดลุกขึ้นยืน และเอามือชี้หน้าท่านผู้จัดการ ท่าทางโกรธจัดจนคุมสติไม่อยู่ ผมคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว ถึงกล้าทำตัวก้าวร้าวต่อหน้าผู้บังคับบัญชา แทนที่จะทำตัวให้ดีๆ เจ้านายจะได้เห็นใจ ลดโทษให้บ้าง แต่ปล่อยให้โมหะเข้าครอบงำ จนทำตัวราวกับกุ๊ยข้างถนน
“เกินไปแล้วนะ ไม่มีความยุติธรรมเลย ผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม ไอ้นี่มันทำผมก่อน ทำไมมันถูกลงโทษแค่พักงานอาทิตย์เดียว ส่วนผม ไม่ได้ทั้งโบนัส และถูกตัดเงินเดือนอีก มันเกินไปไหม”
นักเลงโตโวยวายเสียงลั่น โดยไม่ได้เกรงอกเกรงใจผู้เป็นเจ้านาย ผมเห็นผู้จัดการชาตรี กัดฟันกรอด หน้าแดงก่ำ ท่าทางโกรธเต็มที่ นี่คงเป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าดีมาลองของกับผู้จัดการจอมโหดอย่างเขา
“นี่ยุติธรรมแล้ว เพราะเว้นโทษการไล่ออก คุณทำผิดมาหลายหน โทษย่อมมากกว่าเคน ซึ่งมีความผิดครั้งแรก คุณควรจะยอมรับ และกลับไปทบทวนตัวเองว่าเพราะอะไรที่ทำให้ต้องถูกลงโทษอย่างนี้”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตอบอย่างใจเย็น ผมเห็นเขาเอามือแตะนายชาตรีไว้เป็นเชิงปราม เพราะเห็นว่าเพื่อนผู้บริหารกำลังอารมณ์เสีย ในฐานะที่เขาเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลพนักงาน เขาควรยื่นมือไปจัดการเอง
“ผมไม่ทบทวนอะไรทั้งนั้น มันเปล่าประโยชน์ ถึงอย่างไร ผมก็คงไม่ได้รับความยุติธรรม เพราะงานนี้มันขึ้นอยู่กับคนของใคร ใช่สิ ผมไม่ได้ถูกดันตูดนี่ จะเป็นเด็กโปรดได้ไง ใครจะไปสู้เคนเล่า ท่านประธานรักหลงอย่างกับอะไรดี ใครแตะต้องมีอันเป็นไปทุกราย”
ในที่สุดก็มาลงที่ผมกับเคลวินจนได้ นายนักเลงโตคงจะเป็นพวกแพ้ไม่เป็น ในเมื่อตัวเองไม่เห็นด้วยกับบทลงโทษที่ได้รับ ก็เริ่มพาล และหาเรื่องแขวะคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย
“พูดอะไรน่ะ ระวังปากหน่อยนะ คุณกำลังล่วงเกินผู้บังคับบัญชาอยู่นะ”
คุณชาตรีทำเสียงเขียวใส่ ใบหน้าบึ้งตึง ท่าทางไม่พอใจอย่างมาก
“ผมพูดความจริง รับไม่ได้หรือไง”
อันธพาลในคราบพนักงานตอบกลับอย่างยียวน ท่าทางพร้อมจะมีเรื่องได้ตลอดเวลา
“ความจริงอะไร”
เจ้านายโดยตรงของเขาย้อนถาม ซึ่งเท่ากับเปิดทางให้นักเลงโตพูดแฉออกมา
“ก็ความจริงที่ว่า เคนเป็นเด็กของท่านประธานไง คนที่ทำงานหนักต้องอยู่กับเครื่องจักรตลอด กับคนที่ทำงานอยู่บนเตียง ศักดิ์ศรีมันจะเสมอกันได้ไง”
“ถอนคำพูดดูหมิ่นนั้นเดี๋ยวนี้นะ”

คำพูดนั้นสร้างความโมโหให้กับผมเป็นอันมาก ทว่ากลับมีคนที่แสดงความไม่พอใจให้เห็นจนออกนอกหน้า ท่านผู้จัดการชาตรี โดดเข้าปกป้องเคลวินเต็มที่
“ไม่ถอน เป็นไงเป็นกัน ถ้าพูดความจริง แล้วใครมันจะแสลงใจก็ช่วยไม่ได้ จะได้รู้กันไปซักที ว่าบริษัทนี้ คนดีๆไม่ควรอยู่ นอกจากพวกตุ๊ด...คนทำงานก็ตุ๊ด คนคุมบริษัทก็ตุ๊ด ใช้ตูดดันกันจนได้ดี อย่างไอ้เด็กเคนนี่เป็นต้น”
ลอยหน้าท้าทายอย่างอวดดี สงสัยไอ้หมอนี่คงไม่รู้ชะตาตัวเอง เขาแกว่งปากหาเท้าโดยแท้
ผลั๊วะ
ผมเห็นตัวเองผลุดลุกขึ้น และชกเปรี้ยงเข้าครึ่งปากครึ่งจมูกของนักเลงโตอีกครา ได้ยินเสียงดังลั่น เมื่อหมัดกระทบกับหน้าของเขา เลือดกำเดาไหลพรูเป็นสาย
โอ๊ะ....
เสียงร้องอุทานอย่างตกใจ ของคนที่ถูกต่อยโดยไม่ทันตั้งตัว เขาหล่นโครมลงจากโต๊ะ ผมตามไปกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมา แล้วต่อยซ้ำไปอีกที่ใบหน้า ความโมโห ทำให้ผมหน้ามืดขึ้นมา ลืมสิ้นทุกสิ่งทั้งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี รู้เพียงอย่างเดียวว่า ไอ้หมอนี่มันว่าเคลวินเสียๆหาย ๆ และมันสมควรจะถูกตอบโต้อย่างรุนแรง เพื่อจะได้หยุดปากชั่วๆของเขาได้
“นั่นไง เห็นไหม มันต่อยผม มันจะฆ่าผม จับมันสิ เอาตัวไปลงโทษ”
ส่งเสียงฟ้องใครต่อใคร น่าแปลกที่เขาไม่สู้ผม ทำตัวเหมือนเสือสิ้นลาย ความที่ผมมัวแต่ตกอยู่ในอารมณ์โกรธ ก็เลยไม่ทันได้ระวังตัว ก้าวพลาดตกหลุมพรางของไอ้หมอนี่จนได้
“ฉันอยากเอาเลือดชั่วๆ ออกจากปากแก แกจะได้พูดจาก้าวร้าวใครไม่ได้อีกต่อไป”
เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความหมั่นไส้ มือกำและชกเปรี้ยงที่หน้าของอีก
พลั๊วะ
“อย่า เคน อย่าทำ เดี๋ยวจะยุ่งไปกันใหญ่ ปล่อยเขาได้แล้ว”
เสียงร้องห้ามดังมาก่อนจากปากผู้จัดการชาตรี ซึ่งเผ่นพรวด มายื้อยุดฉุดผมไว้ ไม่ให้ทำร้ายลูกน้องของเขา ผมรู้ว่านายชาตรีไม่ได้กำลังปกป้องคนของตัว แต่คงกลัวผมจะมีเรื่องมากกว่า
“อย่าห้าม ผมทนไม่ไหวแล้ว”
ผมพยายามดิ้นหนีการเกาะกุม ต้องการทำร้ายคนที่ดูถูกเคลวินให้สาแก่ใจ ไอ้หมอนั่นก็ยังตีหน้าเศร้า ทำตัวน่าสงสารไม่เลิก โอดครวญเสียงดังว่าผมทำร้ายเขา ฟ้องคนทั้งห้องประชุมไปทั่ว เห็นแล้วหมั่นไส้
“พอได้แล้วเคน เธอจะทำเขาถึงตายหรือไง แค่นี้ เขาก็ได้รับบทเรียนสาสมแล้ว ถ้าเธอทำอะไรมากกว่านี้ เธอนั่นแหละจะถูกลงโทษสถานหนัก”
ผู้จัดการชาตรีกระซิบบอก
“อยากให้คุณเคลวินเสียใจหรือไง”
เพราะคำพูดประโยคนั้นของเขาทีเดียว ที่ทำให้อารมณ์ของผมค่อยๆสงบลง เริ่มคิดได้ นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ ผมบอกตัวเองว่าผมกำลังปกป้องชื่อเสียงของเขา แต่สิ่งที่ผมทำ น่าจะเป็นการทำลายชื่อเสียงของเขาให้มัวหมองมากกว่า เมื่อคิดได้ ผมก็กล่าวขอบคุณคุณชาตรี แล้วเดินไปนั่งที่ ไอ้หมอนั่นตะกายลุกขึ้นจากพื้นทันที แล้วฟ้องทุกคนที่อยู่ในที่นั้น
“เห็นหรือเปล่า ผมถูกทำร้าย ลงโทษมันสิ มันต่อยผมทุกคนก็เห็น”

เขาร้องเรียนที่ถูกผมต่อย ผู้จัดการฝ่ายบุคคล เรียกให้เขานั่ง และกล่าวตักเตือนผมต่อหน้าเขา ซึ่งผมก็นั่งฟังโดยดี ผมถูกพักงานเพิ่มเป็นสองอาทิตย์ ซึ่งก็นับว่านานพอสมควร ทว่าโทษที่ผมได้รับ กลับไม่เป็นที่พอใจของนักเลงโตคนนั้น เหมือนเลือดเข้าตาเขาแล้ว เขาก็เลยพยายามต่อสู้ถึงที่สุดในการที่จะลากผมลงไปนรกด้วยกัน
“ผมตัดสินไปแล้ว ทำไมคุณยังไม่พอใจอีก”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลตอบอย่างเครียดขึ้ง เขาพยายามระงับอารมณ์ วางท่าทีนิ่งเฉยมาตลอด ทว่าไอ้หมอนี่ก็เก่งพอที่จะทำให้เขาโกรธขึ้นมาได้
“มันต่อยผม ทำไมโทษมันถึงได้น้อยจัง ทำร้ายพนักงานด้วยกัน ทำไมถึงไม่ไล่ออก”
นักเลงโตตั้งคำถาม แสดงท่าทางเย้ยหยันเต็มที่
“คุณเองก็ทำร้ายเขา เราก็ไม่ไล่คุณออกเหมือนกัน เราก็ยังให้โอกาสคุณลอยนวล จนทำผิดซ้ำอีก คราวนี้ถึงคุณจะไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มชกต่อย แต่การพูดจายั่วยุ โดยเฉพาะการล่วงเกินดูหมิ่นเขา มันก็เกินกว่าที่จะทนได้แล้ว”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลพูดเข้าข้างผม มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก ที่มีคนเข้าใจว่าที่ผมชกต่อยเขาไม่ได้เกิดจากความแค้นส่วนตัว แต่เกิดจากการบันดาลโทสะเพราะถูกหมิ่นเกียรตินั่นเอง
มีบางอย่างในคำพูดของเขาที่ดูสะดุดหู ผู้จัดการพูดถึงกรณีที่นายนักเลงโตทำร้ายผม มันหมายความว่าอย่างไร คดีนี้ถูกตัดสินไปแล้วหรือ ใครเป็นคนจัดการกัน เคลวินมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า
“ที่จริงผมต้องแจ้งข้อหาคุณอีกเรื่องด้วย คือการลบหลู่ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชา โทษถึงขนาดนี้ต้องสมควรไล่ออกสถานเดียว แต่คุณยังลอยนวลอยู่ได้ ก็เพราะเราไม่อยากทำให้คุณเสียอนาคตไปมากกว่านี้”
นับว่านโยบายของบริษัทที่มีต่อพนักงานก็มีความเป็นธรรมพอสมควร ไม่ได้ตัดสินลงโทษอย่างรุนแรง ให้โอกาสพนักงานได้แก้ไขในสิ่งผิด ทว่าคนบางคนก็มืดบอดเกินกว่าจะเข้าใจ
“ก็ไล่ออกสิ กล้าไหมล่ะ ถ้าจะไล่ผมออก ต้องไล่ไอ้อ่อนนี่ออกไปด้วย จะได้เสมอภาคกัน”
นักเลงโตท้าทาย พอเห็นผู้จัดการฝ่ายทั้งสอง และหัวหน้าแผนกของตัวเงียบงัน ก็พูดจายั่วยุต่อ
“ไม่กล้าใช่ไหม แน่ละสิ ใครจะกล้าแตะผัวของประธานบริษัทล่ะ ต้องเอาใจไว้ก่อน อีกหน่อยได้เป็นเจ้าของบริษัทจะได้เมตตากันบ้าง แบ่งเศษเงินให้เลื่อนตำแหน่ง พินอบพิเทากันไปสิ เทิดทูนไอ้เด็กบ้านนอกกันเข้าไป ผัวข้าใครอย่าแตะ ถ้าแตะมึงตาย โอ๊ย...”
สุดจะทนให้ไอ้หมอนี่พล่ามต่อไป ผมเหวี่ยงหมัดเข้าที่ปลายคางคนพูดเต็มเหนี่ยว จนหงายหลังตกเก้าอี้ไปอีกครั้ง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเคน”
เสียงหนึ่งดังขึ้นทางเบื้องหลัง จากสำเนียงที่ได้ยินบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าของเสียงอยู่ในอารมณ์ที่โกรธจัด ไม่ต้องหันไปมอง ผมก็รู้ว่าใครคือเจ้าของเสียง
ใครไปตามเคลวินมากันนะ ไม่รู้ว่ามานานแล้วหรือยัง แต่จากน้ำเสียงดุดันของเขา แสดงว่าเคลวินคงเห็นผมชกต่อยนักเลงโตลงไปกองกับพื้น และคงไม่พอใจมาก
“ทำไมทำตัวแบบนี้”
เขาเดินมาเผชิญหน้ากับผม และถามเสียงกร้าว นายชาตรีเห็นท่าไม่สู้ดี เลยพยายามจะอธิบายช่วยผม
“เคนเขาบันดาลโทสะนิดหน่อยครับท่านประธาน”
“บันดาลโทสะ เลยชกต่อยกับคนอื่นอย่างนั้นเหรอ แบบนี้มันไม่ใช่พนักงานแล้ว มันอันธพาล ผมจำได้ว่าไม่ได้รับกุ๊ยมาทำงานนะ หรือว่าผมมองผิด”

-----------------------

TBC


ยาวไปมั้ย  ถ้าไม่  มิ้นจามาลงต่อให้อีก  เอาป่ะๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-02-2009 23:26:21
แอร๊ยยยยส์ ค้างงงงงงงงง  :serius2: ขออีกตอนได้มั้ย


เคลวินจะไล่เคนออกไปอยู่บ้านเฉยๆชิมิ  :jul3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 04-02-2009 23:27:04
นั่นสิ



ขออีก>< o18
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-02-2009 23:27:31
ค้างๆๆๆ ต่ออีกตอนนะคะ   :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 05-02-2009 00:04:50
รู้สึกเหมือนกลังขับรถขึ้นเขา

แล้วรถถอยหลังอย่างเร็ว


 :serius2:  ค้างอย่างแรง

เคลวินจะทำไรอ่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 05-02-2009 00:36:13
ไล่มันออกเล๊ยยย :angry2:

นักเลงนั่น   งืมๆ

รออ่านตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 05-02-2009 01:25:52
คไฉไล ขัดใจ ค่ะ ขัดใจม่อกๆค่า   :z3:
มันอะไรเนี่ย แอร๊ยยยย...ย

ถ้าเคนมัวแต่อ้ำอึ้ง ปิดปากเงียบไม่พูดไม่จา

แถม ยัง ลุแก่โทษะ ที่โดน ไอนักเลงโต ปั่นหัวด้วยคำพูด  เคน ก้อจะยิ่งเป็นฝ่ายผิดหนักเข้าไปอีก

ขัดใจหนุ่มเคนค่า  ไม่ใจเล้ยยยยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดด  :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 05-02-2009 02:33:46
ค้างอ่ะ ขออีกๆๆๆ

อยากอ่าน อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 05-02-2009 07:47:50
 :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 05-02-2009 09:35:41
ตามต่อ ต่อ ต่อ ต่อ นะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 05-02-2009 09:50:26
 :a5:
 :z3:
 o9
 :o211:
 :sad4:
 :o12:



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 05-02-2009 10:04:27
ขออีกได้ม่ะ ขออีกนะๆๆๆๆ

ค้างงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 05-02-2009 16:11:08
รู้สึกเหมือนกลังขับรถขึ้นเขา

แล้วรถถอยหลังอย่างเร็ว


 :serius2:  ค้างอย่างแรง

เคลวินจะทำไรอ่ะ

เห็นควรด้วย ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 05-02-2009 23:09:35
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 06-02-2009 00:08:11
 :o12:

ไม่รักเคลวินแล้ว

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 59 :P 4.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 00:15:37
บทที่ 60

-------------------

ประธานสองหน้าทำหน้าโหดๆใส่ผมซึ่งยืนนิ่งอย่างสำนึกผิด น้ำเสียงของเขาเยียบเย็น ฟังแล้วบาดใจ
“พวกคุณทำอะไรกันอยู่ ทำไมปล่อยให้พนักงานทะเลาะกัน โดยไม่ขัดขวาง แล้วเรื่องที่ให้จัดการ ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ ผมลงมาดูนึกว่าพวกคุณจะตัดสินกันเรียบร้อย ไม่คิดว่าเข้ามาดูแล้วจะเจอเหตุการณ์แบบนี้”
เคลวินหันไปอาละวาดใส่ท่านผู้จัดการทั้งสองที่ยืนมองกันไปมาตาปริบๆ ส่วนไอ้ตัวดี นอนหมอบอยู่กับพื้นไม่ยอมลุก ส่งเสียงครางเหมือนคนเจ็บหนัก
“เรากำลังตัดสินกันอยู่ครับ”
ผู้จัดการฝ่ายบุคคลกล่าวอย่างนอบน้อม
“ตัดสิน ? ด้วยวิธีให้ชกต่อยกันอย่างนี้เหรอ”
ประธานเคลวินถามด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว ยิ่งทำให้ท่านประธานทั้งสองหงอเข้าไปใหญ่ มองตากัน เกี่ยงกันตอบท่านประธาน ในที่สุด นายชาตรีก็เลยต้องเป็นผู้ตอบ
“เอ้อ..ไม่ใช่ครับ พวกเราตัดสินลงโทษเขาสองคนไปแล้ว แต่เอ้อ...พวกเขาเกิดความไม่พอใจกันอีก ก็เลยชกกัน”
“แล้วพวกคุณก็ไม่ห้ามปราม ได้แต่นั่งดูอย่างนั้นเหรอ”
ถามอย่างไม่พอใจ
“ห้ามแล้วครับ แต่ห้ามไม่อยู่ เอ้อ เคนเขา เขาคงโมโหมาก”
คุณชาตรีตอบตามความเป็นจริง แต่ก็พยายามช่วยแก้ต่างให้ผม
“โมโหอะไรกัน ถึงต้องทำร้ายกันด้วย มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า”
เคลวินแค่นหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขาจะมองสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ เขาหันมาถามผม ซึ่งผมก็ตอบไปตามตรง
“ไม่ครับ สิ่งที่เขาได้รับ มันสาสมแล้ว”
“อย่าบอกนะว่าต้องการแก้แค้นที่เขาทำร้ายคุณที่รีสอร์ทเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา”
ประโยคนั้นทำให้ผมมองจ้องเขาอย่างแปลกใจ
“ท่านประธานรู้ด้วยหรือครับ”
“ทำไมจะไม่รู้ ผมลงโทษเขาแทนคุณไปเรียบร้อยแล้ว ไม่นึกว่าคุณจะยังผูกใจเจ็บไปจัดการกับเขาอีก”
นั่นไง ลางสังหรณ์ของผมแม่นจริงๆ เขาจัดการกับคนที่ทำร้ายผมเรียบร้อยแล้ว มิน่าพอนักเลงโตเห็นหน้าผม เลยปรี่มาหาเรื่อง เพราะคงโกรธที่พวกเขาถูกลงโทษ และคงคิดว่าผมฟ้องท่านประธานแน่ๆ เลยต้องการจัดการกับผม ในขณะที่พวกเพื่อนๆเขาก็คงถูกเล่นงานเช่นกัน ถึงได้ดูกลัวหงอ เหมือนไม่อยากจะมีเรื่องอีก
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้น แล้วก็ไม่รู้เรื่องที่ท่านประธานจัดการเรื่องนี้ด้วย”
ผมพูดตามสัตย์จริง ผมไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวกับใคร ถ้าเป็นไปได้ ผมจะพยายามเลี่ยง ในคืนวันที่เกิดเหตุ หลังจากที่ผมเจอพวกเขาขวางหน้า ผมก็พยายามที่จะหลบหลีกไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา ยิ่งเห็นว่าเมาด้วย เลยไม่อยากมีเรื่องใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ให้ผมไปที่ห้องจัดเลี้ยง กลับกักตัวผมไว้
หัวโจก ซึ่งก็คือนักเลงโตที่ถูกผมต่อย แล้วทำสำออยโอดครวญอยู่ขนะนี้ คือคนที่เริ่มทะเลาะกับผมก่อน เขาหาว่าผมเป็นคนเปลี่ยนคะแนนให้ท่านประธาน ทำให้พวกเขาชวดรางวัลหนึ่งหมื่นบาท สำหรับการแสดงที่ชนะเลิศ พวกเขามั่นใจอย่างผิดๆ ว่าการแสดงของเขาต้องได้ เพราะเรียกเสียงตลกเฮฮาจากผู้ชม เนื่องจากพวกเขาลงทุนแต่งเป็นผู้หญิง ทำหน้าอก เสริมสะโพก ให้ดูแปลกชวนขำ ถ้าวัดจากการตบมือ เขาก็น่าจะมีคะแนนเป็นที่หนึ่ง ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย

มิใยที่ผมจะอธิบายว่าผมไม่เกี่ยวข้อง คะแนนมันมาจากการโหวต และการตัดสินของกรรมการมารวมกัน เขาก็ไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องผมต่อไป จากนั้นก็พูดถึงการแข่งขันกีฬาชายหาด ซึ่งผมแพ้ประธานเคลวิน ทำให้อดได้ของรางวัลใหญ่ๆ อีก เขาสรุปง่ายๆ ว่าผมเป็นตัวซวย ทำให้เขาไม่ได้รางวัลอะไรเลย
ผมเถียงเขาว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นดวงของเขาเอง ผมไม่ได้กลั่นแกล้งเขา ในเรื่องการแสดงนั้น เขาทำได้ไม่ดีเพียงพอที่กรรมการจะโหวตให้ จะมาโทษผมก็คงไม่ได้ เพราะผมไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงอะไร พอแก้ข้อนี้ได้ เขาก็ขุดเรื่องอื่นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ผมทำงานข้ามหน้าข้ามตาคนอื่น จนทำให้เกิดกระแสรังเกียจไม่พอใจ และกล่าวหาว่าที่ผมยังลอยนวลอยู่ได้ เพราะมีท่านประธานคุ้มกะลาหัว
เขาพูดเป็นนัยๆประหนึ่งว่ารู้เรื่องของผมกับเคลวิน ผมเริ่มเดาออกแล้วว่าเขาน่าจะได้ยินผมคุยกับท่านประธานในห้องน้ำ ที่เคลวินเผลอหลุดร่างทรงภรรยาออกมา ผมจำได้ว่าเห็นเงาคนแว๊บ ๆ อยู่หน้าห้องน้ำ ไม่คิดว่าจะเป็นเขา เลยทำให้ ความลับแตกจนได้ และเขาก็ใช้มันมาเล่นงานผม
เมื่อคนที่ผมรู้สึกดีด้วย ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้อง บวกกับความไม่พอใจที่พวกเขามีต่อผม การตะลุมบอนจึงเกิดขึ้น โดยที่เขาเปิดเกม และมีพรรคพวกตามน้ำ ในที่สุดน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ผมถึงรุมกระทืบโดยคน 5 คน โชคดีที่พวกเขายังยั้งมือไว้บ้าง ไม่ทำร้ายผมจนตายกลายเป็นผีเฝ้าหาด
ทว่าเมื่อรอดมาได้ ผมก็ไม่คิดจะติดใจเอาความ เพียงแต่ต้องการจะมาเจรจาสงบศึกกับเขาไม่ให้พูดเรื่องระหว่างผมกับเคลวิน แลกกับการที่ผมไม่เอาเรื่องเอาราวเขา แต่สิ่งที่ผมประเมินผิดไปคือ จิตสำนึกของคน นักเลงโตกับเพื่อนนอกจากจะไม่ละอายต่อสิ่งที่เขาทำกับเพื่อนร่วมงานอย่างผม เขากลับลบหลู่เจ้านายตัวเอง ด้วยการปล่อยข่าวเรื่องเคลวินกับผมไปทั่ว สิ่งที่ต้องการปิด ก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่ใครต่อใครอยากรู้ ทำให้ผมต้องการแก้แค้นให้กับเขาที่ถูกกระทำโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทว่าผลตอบแทนสิ่งที่ทำลงไปคือการที่ต้องมาถูกคนที่เราปกป้องด่าว่าเสียๆหาย ทำให้ผมรู้สึกน้อยใจมาก
“ใช่ ผมไม่ได้บอกให้คุณรู้ เพราะมันไม่จำเป็น และผมก็ไม่คิดว่าคุณจะจัดการเองแบบนี้”
คำตอบของเขา ทำให้ผมรู้สึกเจ็บในอก เคลวินจัดการหาตัวคนผิดมาลงโทษโดยไม่บอกผมสักคำ ผมไม่ได้ร้องเรียน ตั้งข้อกล่าวหา เขาก็ไปหาหลักฐานมามัดคนร้ายเสร็จสรรพ แถมลงโทษไปเรียบร้อยโดยไม่บอกกล่าวให้ผมรู้สักคำ มันคงเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ
“ผมขอโทษครับ”
กล่าวขอโทษออกไปด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว แต่คำพูดที่ตอบกลับมาทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก
“ขอโทษอย่างเดียว มันช่วยทำให้สถานการณ์มันดีขึ้นไม่ได้หรอก ในเมื่อคุณทำผิด คุณก็ต้องได้รับโทษหนักเช่นกัน เมื่อครู่นี้ พวกคุณลงโทษเคนอย่างไร ให้บวกเพิ่มไปอีก เป็นสองเท่า และไม่ต้องมีค่าชดเชยใดๆ เขาจะได้หลาบจำ และตระหนักว่า เขาเป็นพนักงาน มีหน้าที่ทำงานตามที่มอบหมาย อะไรที่ไม่ได้ใช้ให้ทำ ก็ไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว และที่นี่ไม่ต้องการนักเลง หากอยากทำตัวเกะกะระรานเป็นอันธพาล ก็ควรจะออกจากงานไปทำอย่างอื่น”

นี่หรือคือการตัดสินความของเคลวินที่บอกว่ารักและเข้าใจผมมากที่สุด เขาลงโทษผมโหดเกินไปไหม ผมโดนพักงานสองอาทิตย์ในข้อหาเก่า แต่ข้อหาใหม่ที่เคลวินตัดสิน ทำให้ผมต้องถูกพักงานถึง 1 เดือนเต็ม โดยไม่ได้เงินเดือนหรือเงินชดเชยทั้งสิ้น แล้วช่วงนี้ ผมจะอยู่อย่างไร ผมไม่ต้องการแบมือขอเงินพ่อแม่แล้ว ที่จริงผมต้องเป็นฝ่ายให้พวกเขามากกว่า ตั้งแต่ทำงานมา ผมส่งเงินไปให้ที่บ้านทุกเดือน เพื่อตอบแทนบุญคุณ เขามาตัดเงินเดือนผมแบบนี้ ผมจะมีเงินที่ไหนส่งไปให้กับทางบ้าน
นี่ไม่นับรวมความรู้สึกทางใจที่สูญเสียไป เมื่อเคลวินมาดุด่าว่ากล่าวผม ต่อหน้าผู้จัดการ ต่อหน้าพนักงานบริษัทคนอื่นๆ ที่ถูกกันมาเป็นพยาน และต่อหน้าคนผิดตัวจริงด้วย สิ่งที่ผมทำมันผิดมากนักหรือ การที่เราปกป้องคนของเราไม่ให้ใครมาว่ากล่าวได้ มันสมควรจะถูกลงโทษเช่นนี้ใช่ไหม

“สมน้ำหน้าไอ้อ่อน โดนเกลียดแล้วไหมล่ะ วันนี้สุขใจจริงโว้ย ความยุติธรรมมีจริง”
หลังจากท่านประธานเคลวินกลับขึ้นไปห้องทำงานแล้ว และผมกับนักเลงโตและกลุ่มเพื่อน เซ็นชื่อลงในใบตักเตือนความประพฤติพนักงาน และเซ็นชื่อยอมรับสภาพการหักเงินเดือน และโบนัสของพนักงานช่าง กับ การเซ็นยินยอมที่จะไม่ได้รับเงินเดือนของผม เสร็จธุระ ผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็ให้แยกย้ายกันไปทำงานได้
ตอนเดินออกมา นักเลงโตก็พูดจากระทบกระแทกแดกดันลอยๆ ไม่ยอมรามือจากผม สงสัยกะทำให้อยู่บริษัทนี้ไม่ได้ ซึ่งความพูดที่ชั่วร้ายของเขา ก็ได้ผลไม่น้อย ในสภาพที่ผมกำลังใจตก น้อยใจ เลยทำให้ใจไม่เข้มแข็ง รู้สึกอยากไปให้พ้นๆ บริษัทนี้ ไปที่ไหนก็ได้ ที่จะได้ไม่ต้องเจอกับคนใจร้ายที่ลงโทษผม
“กูคงคิดถึงมึงแย่ ไม่ได้เจอมึงตั้งหนึ่งเดือน เหงาว่ะ แต่ถ้าจะให้ดี มึงไม่ต้องกลับมาเลยดีกว่า ออกจากบริษัทไปเลย ไปออดอ้อนออเซาะกับท่านประธานเคลวินให้พอใจ เพื่อว่าเขาจะปลอบให้หายเศร้าบ้าง”
นักเลงโตเดินตามพูดจาเสียดสีผมตลอด แต่ผมเดินเฉยๆ ไม่ตอบโต้ กำลังอยู่ในโหมดน้อยใจ เลยไม่ตกหลุมพรางที่คนพาลดักล่อ
“แต่เอ ...เขาไม่เข้าข้างแบบนี้ น่าสงสัยว่าจะตกกระป๋องแล้ว ใครว่าพวกตุ๊ดมีรักมั่นคงวะ น่าสงสารว่ะ ถูกฟันแล้วทิ้ง แบบนี้ มาอยู่กับพี่ไหม พี่จะสนองให้ถึงพริกถึงขิงไม่แพ้ที่ประธานทำให้เลย”
ปากพล่อยๆ ของนักเลงโตยังคงทำหน้าที่ต่อไป ผมกัดฟันกรอด พยายามอย่างมากที่จะไม่โต้ตอบ เพราะถึงผมจะปกป้องเคลวินอย่างไร เขาก็ไม่เห็นค่า แถมซ้ำยังดุด่าว่ากล่าวผมต่อหน้าคนอื่น แถมลงโทษอย่างรุนแรงอีก ต้องโดนพักงาน ในขณะที่คนที่ด่าว่าเขากลับลอยนวล โดนตัดโบนัส ตัดเงินเดือน แต่ยังคงมาทำงานได้ เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ จนไม่อยากจะเอาตัวเข้าไปแลกกับคนปากเสียแบบนี้อีกแล้ว จะว่าอะไรก็ว่าไปเถอะ ผมไม่เอาด้วยหรอก
“พูดด้วย ก็ไม่พูดด้วย ทำเป็นหยิ่งหรือจ๊ะน้องสาว”
พอเห็นผมเฉย เขาก็ยั่วอีก นี่ถ้าหากผมไม่หมดใจแล้ว ผมคงได้ต่อยหน้าคนที่มากวนอารมณ์ซักเปรี้ยง พยายามนับหนึ่งถึงสิบ ไม่เล่นตามเกมของเขา เจ้านักเลงโตคงสะใจที่ผมก็อยู่ในช่วงภาคทัณฑ์เหมือนกัน เลยพยายามยั่วยุให้ผมหัวเสีย และหากผมหันไปเล่นงาน เขาก็คงเล่นบทคนถูกทำร้ายน่าสงสาร จนผมต้องถูกเพิ่มโทษอีก
“ก้นงอนจังเลยนะจ๊ะ”
การเงียบของผม ทำให้เขาได้ใจ พูดไม่พูดเปล่า แต่เอามือมาบีบก้นผมด้วย คราวนี้สิ่งที่เขาทำได้ผลมาก เพราะผมหันไปซัดเปรี้ยงเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของเขาอีกครา หมัดแม้ไม่หนัก แต่ต่อยซ้ำๆที่เดิม ก็ทำให้เกิดแผลแตกเลือดท่วมหน้าได้อีก ถ้าเขาต้องการให้ผมออก คราวนี้ก็คงสมใจ

มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเบื้องหลัง เจ้านักเลงโตนั่น แหกปากเสียงลั่น ทำให้พนักงานที่กำลังเดินกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศ พากันแตกตื่น วิ่งมาดูกันใหญ่
ละครเศร้าเรียกเรตติ้งให้คนดูสงสารเริ่มขึ้น พนักงานเจ้าเล่ห์คนนั้นคร่ำครวญ ฟ้องคนอื่นๆ ว่าผมทำร้ายเขา แต่ผมไม่แคร์ ผมเดินหนีไปจากตรงนั้น ตรงไปที่ลิฟท์ และกดขึ้นไปชั้นทำงานของตัวเอง ยังไม่มีใครขึ้นมาทำงาน แม้แต่พี่นนนี่ ผมเก็บข้าวของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง แยกแฟ้มงานที่คั่งค้าง ออกจากแฟ้มงานที่ทำเสร็จแล้ว และเดินเอามันมาวางไว้ที่โต๊ะของพี่สาวคนสวย จากนั้นก็นั่งลงหน้าคอม และพิมพ์ข้อความบางอย่างลงไป หลังจากอ่านตรวจทานเรียบร้อย ผมก็สั่งพิมพ์ออกมา เอาพับใส่ซอง จ่าหน้าถึงประธานเคลวิน จากนั้นก็ปิดคอม แล้วก็เดินถือจดหมายฉบับนั้น ขึ้นไปบนสำนักประธานกรรมการบริษัท ที่อยู่ชั้นบน

เคลวินกำลังนั่งจ้องคอมพิวเตอร์ง่วนอยู่ ท่าทางของเขาเคร่งเครียด สีหน้าไม่ยิ้ม ตอนที่เปิดประตูเข้าไป โดยไม่เคาะ เขาเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นผมก็ขยับปากเตรียมจะตำหนิ แต่พอเห็นหน้าของผมที่เครียดขึ้งไม่แพ้กัน เขาก็เลยทำหน้านิ่งเฉย ตาจับจ้องมองที่ผม และรอให้ผมเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
ผมไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ยื่นซองขาวไปตรงหน้าเคลวิน แล้วก็หมุนตัวจะเดินออกมา ทว่าเขารั้งผมไว้ด้วยเสียงวางอำนาจ
“จะทำอะไรหรือคุณเคน”
“ผมมาขอลาออก”
บอกออกไปด้วยเสียงราบเรียบ แววตาว่างเปล่าขณะมองดูเขา ทว่าลึกๆลงไปข้างใน ผมกำลังรู้สึกปวดร้าว น้อยใจ สับสน และหวังว่าการตัดสินใจของผมคราวนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เคลวินใจร้ายกับผมมากเกินไป เขาไม่รู้บ้างเลย ว่าผมทำเพื่อเขา แต่เมื่อเขาไม่ต้องการจะให้ผมทำงานที่นี่อีก ผมก็ขอลาออก กลับบ้านนอกดีกว่า ไม่ต้องให้ใครมาไล่ ผมขอไล่ตัวเองออกจากงาน
มีเสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยิน แต่มันเหมือนจะแค่นออกมา หน้าตาของเคลวินก็ไม่ได้ขำตามไปด้วย มันดูเครียดอย่างบอกไม่ถูก
“นี่หรือวิธีการแก้ปัญหาของคุณ ทำแบบนี้ เขาเรียกว่า “ไอ้ขี้แพ้” จะเปราะบางไปถึงไหน อะไรนิดอะไรหน่อย ก็แตะไม่ได้ เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า”
น้ำเสียงของเขาเยาะหยัน ทำให้ผมรู้สึกขุ่นข้องหมองใจอย่างมาก ทำไมเขาต้องว่าผมถึงขนาดนี้ด้วย หากผมไม่ใช่ลูกผู้ชายพอ ผมคงไม่ไปชกต่อยกับนักเลงอันธพาลเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเมียหรอก
“การที่ผมลงโทษคุณให้พักงาน 1 เดือน เพราะคุณทำผิด แทนที่คุณจะใช้เวลานี้ในการทบทวนบทบาทของตัวเองในบริษัทนี้ว่าคุณเป็นอะไร นักเลง หรือว่าลูกจ้างที่ต้องทำงานกินเงินเดือน คุณกลับไม่พอใจคำสั่งของผม และต่อต้าน ผมบอกได้เลยนะเคน หากคุณยังทำตัวเป็นคนขี้ใจน้อย ไม่พอใจคำตัดสินของเจ้านาย และตอบโต้ คุณก็ไม่ต่างอะไรกับอันธพาลในคราบพนักงานนั่น คุณอยากมีชีวิตอย่างนั้นหรือไง...”
เคลวินใส่ผมเป็นชุด เล่นเอาผมอึ้ง พูดไม่ออก ทั้งน้อยเนื้อต่ำใจ ทั้งโมโห และในอารมณ์โกรธ ก็เกิดความคล้อยตามสิ่งที่เขาพูดแทรกขึ้นมา เอหรือว่า มันจะเป็นจริงอย่างที่เคลวินพูด ผมมันไอ้ขี้แพ้ ไอ้ลูกแหง่ ใครแตะต้องไม่ได้ เหมือนแก้วเปราะบางตา กระทบนิดก็ร้าว หรือคอยที่จะแตกตลอดเวลา

ที่ผ่านมาผมคิดว่าตัวเองเข้มแข็ง เพราะผ่านเรื่องอะไรมาหลายอย่าง แต่ผมกลับอ่อนแอ ขี้ใจน้อยง่าย เมื่อถูกท่านประธานเคลวินต่อว่า ทั้งที่เขาก็ทำตามหน้าที่ของประธานบริษัท ที่ต้องตัดสินลงโทษคนที่ทำผิด และผมก็ได้รับโทษอย่างสาสม ตามกรรมที่ผมก่อไว้ ผมชกต่อยคนอื่น ต่อหน้าคนในบริษัทด้วยโทสะ และไม่เกรงกลัวว่าใครจะเห็น การกระทำของผม ย่อมก่อให้เกิดความตระหนก และหวาดกลัวกับพนักงานคนอื่นๆ ทุกคนอาจจะมองว่าผมทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล ซึ่งไม่ต่างอะไรจากนักเลงโตคนนั้นที่ให้อารมณ์เป็นเครื่องนำทางชีวิต
คิดมาถึงตรงนี้ผมก็รู้สึกละอายแก่ใจ และยิ่งอยากลาออกจากบริษัทมากขึ้น การก่อเรื่องทะเลาะวิวาทภายในบริษัท ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง เนื่องจากมีปัญหาภายใน พนักงานอยู่ร่วมกันไม่ได้ ซึ่งก็แปลว่าคนกุมบังเหียนบริษัทนี้ไม่เข้มแข็งเพียงพอ เพราะไม่สามารถคุมคนให้มีปัญหากันได้ แล้วจะไปดำเนินธุรกิจใหญ่โตที่จะต้องมีการแข่งขันกันกับบริษัทอื่นได้อย่างไร
“หรือว่าไอ้การเป็นนักเลง ใครดูหมิ่นศักดิ์ศรี ต้องต่อยตีเขาไปทั่ว มันสำคัญกว่าเป้าหมายในชีวิตของคุณ ถ้าหากคุณคิดอย่างนั้น ผมก็ทำนายอนาคตคุณได้เลย ว่าไม่มีวันเจริญหรอก และถ้าจะใช้วิธีการนี้ ก็บอกได้เลยว่าผมไม่ง้อ”
หน้าตาของเคลวินบึ้งตึง น้ำเสียงที่พูดกับผมก็ห้วนสั้น ไม่ถนอมน้ำใจ ผมคอตก มองมือของตัวเองสองข้างที่ถูกางเกงอย่างคนที่จนคำพูดที่จะโต้ตอบ เคลวินพูดมาก็ถูกทุกอย่าง แต่ทำไมเขาต้องพูดกับผมรุนแรงด้วย เขาไม่ใส่ใจสักนิดเลยหรือว่าผมจะรู้สึกอย่างไร ทั้งที่ผมทะเลาะกับนักเลงโตคนนั้น เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเขา แต่เขากลับมองว่ามันเป็นการกระทำไร้สาระ แล้วที่ว่าไม่ง้อนั้น เขาหมายความตามที่พูดจริงใช่ไหม ผมมันคงไม่สำคัญพอสำหรับบริษัทเขา ถึงไม่มีผม บริษัทนี้ก็อยู่ได้ เขาจะต้องมางอนง้อพนักงานกระจอกๆอย่างผมทำไม
“กลับไปทบทวนเสียใหม่ เอาจดหมายลาออกของคุณกลับคืนไปด้วย ผมไม่อ่าน และไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น”
เขาโยนจดหมายกลับคืนมาให้ผม ตาจ้องเขม็ง
“ไปได้แล้ว..”
น้ำเสียงของเขาแห้งแล้งเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ พูดจบเขาก็หมุนเก้าอี้ไปอีกด้าน และก้มลงหาอะไรง่วนอยู่ ไม่สนใจผมสักนิด ผมรู้สึกเจ็บแปลบในหัวอก น้อยใจที่เขาเมินเฉยต่อผม ตามปกติเวลาที่เคลวินอยู่ที่บริษัท เขาจะแสดงในด้านที่เข้มงวด ดุดันออกมาให้เห็น ส่วนด้านอ่อนหวานจะแสดงต่อเมื่ออยู่ที่บ้าน ทว่ายามที่ผมต้องการกำลังใจ ผมอยากเห็นสีหน้าอ่อนโยนจากเขา อยากเห็นแววตาที่บ่งบอกว่าเขาเข้าใจผม
ทว่า..มันกลับไม่มี
สมองของผมสั่งการให้เดินออกไปจากห้องของเขาเงียบๆ โดยไม่ได้หยิบจดหมายฉบับนั้นกลับมาด้วย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 00:30:40
หยดน้ำเล็กๆ ตกต้องที่หลังมือของผม มันไหลออกจากตาที่แดงช้ำ เนื่องจากความอัดอั้นตันใจ ถ้าผมหันกลับมาช้าเพียงนิดเดียว ผมคงร้องไห้ต่อหน้าสามีสุดที่รัก และทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมตั้งใจทำเพื่อเขาก็คงพังทลายลง
ตลอดทั้งวันนี้ มีเพียงช่วงเดียวที่ผมมีความสุข นั่นคือตอนที่ได้กอดและคุยเล่นกับเขา นอกนั้นเต็มไปด้วยความระทมทุกข์ ตั้งแต่รู้ว่าเขาแอบหนีมาทำงาน ไม่ยอมนอนอยู่ในห้องเหมือนเดิม เขาขัดคำสั่งของผม เพียงเพราะอยากลงมาทำงาน ไม่อยากนอนงอมืองอเท้า ไม่ทำอะไร
ความตั้งใจจริงของเขามันทำให้ผมปลาบปลื้ม การที่มีคนทุ่มเททำงานให้บริษัท ไม่เอารัดเอาเปรียบ และไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย ฉวยโอกาสที่ผมหยิบยื่นให้ หาประโยชน์ส่วนตัวนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าในความปลื้มปิติ ก็มีความห่วงใยแฝงอยู่ด้วย
ผมเพิ่งเล่นงานอันธพาลในคราบพนักงานที่ทำร้ายเคนไปเมื่อวาน หลังจากได้หลักฐานทุกอย่างมัดตัวแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคลที่เป็นพนักงานโรงแรม หลักฐานจากมอด และจากเพื่อนๆของเขา ที่ผมให้คุณชาตรีดำเนินการเอาตัวมาสอบสวนอย่างลับๆ ทุกคนให้การซัดทอดว่าพนักงานฝ่ายช่างคนนั้น เป็นคนทำร้ายเคน เหตุเกิดจากความไม่พอใจ ที่เคนทำให้พวกเขาชวดรางวัลทั้งจากการแข่งขันกีฬาชายหาด รวมถึงรางวัลการแสดง ซึ่งเขาเข้าใจว่า ผมเปลี่ยนการให้คะแนน เพราะเคนเป่าหูผม
เมื่อสืบสาวราวเรื่องลึกลงไป ก็พบว่า ไม่ใช่แค่เพียงสาเหตุไร้สาระนั่นที่ทำให้เขาลงมือทำร้ายเคน แต่ก่อนหน้านั้น เขามีความไม่พึงพอใจในตัวเคนอยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เคนทำงานอยู่ใต้อานัติของผู้จัดการชาตรี
เคนทำงานในแผนกพัสดุ ซึ่งขึ้นตรงต่อฝ่ายธุรการ ในตำแหน่งเด็กฝึกงาน และเป็นลูกไล่ให้พนักงานประจำในแผนกนั้น จนกระทั่งผมไปพบเจอเคน และเห็นในความสามารถของเขาว่าน่าจะทำประโยชน์ให้กับบริษัทได้มากกว่านี้ หากไปอยู่กับผม ไม่ต้องมาจมปลักอยู่กับกองเอกสาร และการตกเป็นเบี้ยล่างให้คนโน้นคนนี้ใช้งาน
และการหยิบยื่นโอกาสให้กับเคน กลายเป็นดาบที่ทิ่มแทงทำร้ายเขา เมื่อพนักงานที่เคยจิกหัวเคนใช้ เกิดไม่พอใจขึ้นมา ที่เคนได้เลื่อนขั้นมาเป็นผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท นั่นหมายความว่าเด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งทำงานได้ไม่นาน ก้ามข้ามหัวพวกเขาไป ได้รับตำแหน่งใหญ่โต แถมซ้ำ พวกเขาต้องปรับสถานภาพมาทำหน้าที่บริการเคนอีก ทำให้พนักงานส่วนหนึ่งเริ่มยอมรับกันไม่ได้
เมื่อพวกเขาไม่พอใจเคนที่ได้ดิบได้ดี เขาก็หาเรื่องแอนตี้ ไม่ให้ความร่วมมือกับเคน แถมยังนินทาว่าร้าย ปล่อยข่าวลือให้ผมกับเคนเสียหาย ทำนองว่าเคนเป็นเด็กปั้นของผม และเราสองคนมีความสัมพันธ์ล้ำลึกต่อกัน ทำให้ผมดันเคนให้ทำงานใกล้ตัว การปั้นน้ำเป็นตัว พูดเรื่องไม่จริง ทำให้เคนได้รับการดูหมิ่นเกลียดชัง จากเพื่อนพนักงานด้วยกัน
ปากต่อปากนินทากันไป จากแผนกพัสดุ ลามมาทั้งฝ่ายธุรการ และถึงแผนกช่างด้วย เมื่อคนจากแผนกธุรการบางคน นำเรื่องของเคนไปเล่าในทางที่เสียๆหายๆ จนเกิดความไม่ชอบขี้หน้าเกิดขึ้น
ผมไม่เคยรู้เลยว่า ระยะเวลาที่ผ่านมา เคนต้องเผชิญอะไรบ้าง เขาต้องเหนื่อยยากกับการติดต่อประสานงานแต่ละฝ่าย แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบ่น พยายามทำจนสำเร็จ และนำมาเสนองานต่อผม ซึ่งผมมองแค่ผลสรุปของงานไม่ได้มองวิธีการว่าเขาทำมันมาอย่างไร พอได้มารับรู้ ผมก็รู้สึกสงสารเคนจับใจ และนึกโกรธพนักงานของผม ที่จิตใจเต็มไปด้วยความริษยา แทนที่จะร่วมไม้ร่วมมือกันทำงาน กลับมาคิดแค้นในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนพวกนั้นไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเคน ต่างพากันตัดสินว่าเขาเป็นคนไม่ดี ใช้ร่างกายไต่เต้าเพื่อหาความสำเร็จ ความเกลียดชังแพร่ขยายลุกลาม จนในที่สุดก็เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับคนที่ผมรัก เคนถูกทำร้ายจากคนที่มีอคติต่อเขา
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเคน ผมไม่มีวันให้อภัย ในฐานะที่เคนเป็นพนักงานคนหนึ่งของผม เป็นคนดีมีฝีมือ เมื่อเขาโดนรังแกอย่างไม่เป็นธรรม ผมก็ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อผมสืบสาวราวเรื่องได้ความ ผมก็ให้ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเรียกพนักงานคนนั้นมาจัดการ ตอนแรกเขาไม่ยอมรับว่าเขาทำร้ายเคน แต่เมื่อจำนวนด้วยพยานหลักฐานต่างๆ เขาก็ยอมรับสารภาพ และอ้างว่าทำไปเพราะความมึนเมา และสัญญาว่าจะไม่ทำตัวเป็นนักเลงอันธพาลอีก

ที่จริงผมอยากจะไล่เขาออกใจจะขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับพนักงานคนอื่น ๆ ถ้าไม่เป็นเพราะหัวหน้าแผนกช่างของเขามาขอร้องเอาไว้ บอกว่าเขาต้องเลี้ยงดูเมียและลูกที่ยังเล็ก หากไล่เขาออกไป เขาก็คงไม่สามารถหาเงินมาจุนเจือครอบครัวได้ มนุษยธรรมที่มีอยู่ในใจผม บอกว่าเราควรให้โอกาสคนผิดได้แก้ตัวใหม่ เพราะเขาอาจจะกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้ ผมเลยลงโทษเขาเพียงแค่ตัดโบนัสที่เขาควรจะได้ ไม่พิจารณาผลงานปลายปี และไม่ปรับเงินเดือนขึ้นให้ แถมซ้ำยังริบเงินเดือนเขาส่วนหนึ่ง เท่านี้ก็น่าจะเป็นบทลงโทษที่โหดพอสมควร
ผมไม่ได้บอกเล่าเรื่องการตัดสินคดีความของผมให้เคนฟัง เพราะเคนเองก็ไม่พูดเรื่องนี้กับผม ในเมื่อเขาต้องการลืมมันไป ผมก็อยากจะให้มันจบลงด้วยดีเช่นกัน ไม่นึกเลยว่าผมจะคาดการณ์ผิด เรื่องมันไม่ได้จบลงอย่างที่ผมต้องการ และพนักงานเลวๆคนนั้น ก็กระหายที่จะทำผิดอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ผมได้รับแจ้งจากผู้จัดการฝ่ายชาตรี ว่าเคนมีเรื่องกับพนักงานแผนกช่าง ผมนึกถึงนักเลงโตคนนั้นทันที พอได้รับรายงาน ทั้ง เทปบันทึกภาพ และจากคำบอกเล่าทางโทรศัพท์ที่นายชาตรีเล่าให้ผมฟังเป็นระยะ ผมก็ถึงกับนั่งไม่ติด รู้สึกตกใจที่เคนไปมีเรื่องกับคนกลุ่มเดิม แถมซ้ำคราวนี้ เคนก็เป็นฝ่ายลงมือเสียด้วย
ผู้จัดการฝ่ายชาตรี รายงานให้ผมทราบเป็นระยะ ตั้งแต่การสอบสวนเคนกับพนักงานที่มีเรื่องกับเขาคนนั้น ใจจริงผมอยากจะลงไปรับฟังเรื่องราวด้วยตนเอง แต่ติดขัดตรงที่ผมเป็นประธานบริษัท ผมจะล้วงลูกการทำงานของผู้จัดการฝ่ายบุคคลและต้นสังกัดเขาไม่ได้ ต้องให้เขาจัดการกันเอง ส่วนตัวผมเพียงแค่รับผลรายงานเท่านั้น
ผมเดินไปเดินมาภายในห้องทำงานหลายรอบ คอยลุ้นว่าผลการสอบสวนจะเป็นอย่างไร อยากลงไปจัดการกับนักเลงโตคนนั้นด้วยตัวเองใจจะขาด อยากลงโทษเขาด้วยการไล่ออก ให้สาสมกับที่เขาทำร้ายเคนของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทว่าผมก็ทำตามใจตัวไม่ได้ ถ้าผมลงไป นอกจากจะเป็นการรบกวนการทำงานของลูกน้องผมแล้ว คนก็คงจะครหาอีก คำถามคงมีมากมาย ว่าเคนสำคัญกว่าพนักงานคนอื่นอย่างไร ทำไมประธานบริษัทต้องลงมากำกับเรื่องนี้ด้วย แล้ว ความบริสุทธิ์ยุติธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่ ในเมื่อพนักงานคนนั้นมีเรื่องกับคนใกล้ชิดกับท่านประธาน
เมื่อคิดสารตะแล้ว ว่าได้ไม่คุ้มเสีย มีแต่จะทำให้ผมกับเคนตกเป็นขี้ปากของพวกพนักงาน ผมจึงเลือกที่จะรอฟังข่าวสารอยู่ในห้องด้วยความวิตกจริต
เทปบันทึกภาพจากกล้องวิดิโอวงจรปิดที่ทางฝ่ายอาคารสถานที่เซฟใส่แผ่นซีดีมาให้ผม ถูกเปิดดูซ้ำไปซ้ำมา แม้ไม่ได้ยินว่าพูดอะไรกัน แต่จากท่าทางคุกคาม ที่เขาทำต่อเคน ทำให้รู้ว่าหมอนั่นต้องพูดจายั่วยุจนเคนโมโหโกรธาแน่ๆ ภาพที่ผมได้เห็นจากจอคอม ทำให้ผมตกตลึงไม่น้อย เนื่องจากผมไม่เคยเห็นเคนโกรธใครจัดๆแบบนี้มาก่อน เขาต่อยพนักงานคนนั้นครึ่งปากครึ่งจมูก หมอนั่นไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลา และภาพก็ตัดไป เป็นหน้าลิฟท์ ที่คนทั้งสองตลุมบอนกัน
เห็นภาพทุกชอตทุกตอนแล้วผมก็กำมืออย่างคั่งแค้น อยากจะร่วมด้วยช่วยกันกับเคนรุมกระทืบเจ้าหมอนั่น จินตนาการภาพที่เคนโดนทำร้าย หลอกหลอนผมอยู่ในหัว ผมยอมรับอย่างไม่อายว่าหลังจากที่ผมหายตกตะลึงแล้ว ผมรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูกที่เคนเอาคืนคนที่ทำร้ายเขาได้
ทว่าหลังจากที่ผมได้ดูภาพการชกต่อยของเคนกับพนักงานช่างคนนั้นหลายรอบเข้า ผมก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาอีก คราวนี้ไม่ได้เกิดจากความกลัวว่าเคนจะเพลี่ยงพล้ำ แต่ผมกลัวว่าเคนจะถูกคนรังเกียจเพิ่มไปอีก
เดิมทีคนก็เข้าใจว่าเคนเป็นเด็กของผม เป็นคนของประธานบริษัทที่แตะต้องไม่ได้ ไม่มีใครอยากยุ่งกับเคน เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผม เมื่อเคนไปลงมือทำร้ายคนอื่นอีก ความเกลียดชังที่มีต่อตัวเคนก็จะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คนคงมองว่าเคนเป็นนักเลงโต ไม่พอใจใครก็หาเรื่องชกต่อย และที่เคนกล้าทำแบบนั้น เพราะผมถือหางข้างเคน

และเพื่อเคลียร์ตัวเขาให้ใสสะอาดปราศจากข้อกังขาใดๆว่าเคนเป็นเด็กเส้น ผมก็จำเป็นต้องปฏิบัติต่อเคนอย่างเท่าเทียมกันกับคนอื่น
กฎก็ต้องเป็นกฎ ในเมื่อเคนทำผิด เคนก็สมควรได้รับโทษเช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากเคนทำผิดเป็นครั้งแรก โทษของเคนก็ต้องเบากว่าคนอื่น แต่ถึงกระนั้นก็ควรจะเหมาะสมกับสิ่งที่เขาทำ
ตอนที่นายชาตรี โทรมารายงานผลการตัดสินลงโทษรอบแรก และบอกกับผมว่า เคนยอมรับความผิด และไม่โต้เถียง ผมรู้สึกดีใจมาก ที่เคนเข้าใจทุกอย่าง ผมดูคนไม่ผิด เคนไม่ได้มีจิตใจร้ายกาจ เขาทำลงไปเพราะบันดาลโทสะ แต่เมื่อคิดได้ เขาก็ยอมรับผลที่เกิดขึ้น การที่เคนไม่โต้แย้งคัดค้านคำตัดสิน ทำให้ภาพของเคนดูใสสะอาดขึ้น คนเราทำผิดกันได้ เมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด นั่นคือลูกผู้ชายที่แท้จริง
ทว่าความดีใจของผมมีอยู่เพียงชั่วครู่ โทรศัพท์จากนนนี่ ที่แจ้งว่าเกิดเรื่องในห้องประชุมทำให้ผมตัดสินใจลงไปดูทันที ผมไม่อยากให้เคนทำผิดซ้ำซาก เพราะมันจะกลายเป็นภาพติดตัวเขาไปตลอด คนจะยิ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย ตอนที่ผมลงไป ทันได้เห็นเคนชกพนักงานคนนั้นจนล้มคว่ำ
ความโกรธ และเสียใจที่เห็นเคนแสดงด้านมืดของตัวเองออกมาต่อหน้าคนอื่น ทำให้ผมดุด่าว่ากล่าวเขาอย่างรุนแรง ทั้งนี้เพื่อแสดงให้คนอื่นได้เห็นว่าผมมีความยุติธรรมเพียงพอ ไม่ลำเอียงเข้าข้างใคร
ตัดสินโทษเขาไปใจก็ปวดร้าว ภายใต้ใบหน้าดุดัน และน้ำเสียงเฉียบขาด ใครจะรู้บ้างไหมหนอ ว่าผมอยากจะเศร้าแค่ไหน อยากจะดึงสามีของผมเข้ามากอดปลอบใจ และขอให้เขาเข้มแข็งอดทน ทว่าผมก็ทำอย่างใจคิดไม่ได้ สิ่งที่ผมทำจึงมีแค่เพียงการส่งสายตาตำหนิมายังเขา แล้วลงโทษเขาอย่างหนัก ที่เขาทำผิดซ้ำซาก
เห็นหน้าหมองๆของเคนแล้ว ผมรู้สึกปวดร้าวอย่างบอกไม่ถูก ต้องตัดใจเดินหนี เมื่อตัดสินเสร็จ กลัวว่าอยู่นาน จะยั้งใจไม่อยู่ และร้องไห้ออกมา ผมจะอ่อนแอ ให้ใครเห็นไม่ได้ ทุกคนกำลังมองดูผมอยู่ ท่านประธานบริษัท ต้องตัดสินใจเฉียบขาด ไม่เห็นแก่หน้าใคร ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกคน ไม่ลำเอียง ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนสนิทชิดเชื้อแค่ไหน หากทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ ผมต้องทำหน้าที่ตามหัวโขนที่ผมสวมใส่อยู่ แม้ว่าใจผมจะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
ขึ้นมาบนห้องก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน ได้แต่นั่งคลิกเวปต่างๆให้มันผ่านสายตา เผื่อว่าสมาธิผมจะกลับมา แต่เรื่องของเคนกลับมารบกวนจิตใจ ทำให้ฟุ้งซ่าน เป็นกังวล
ผมกลัวว่าเคนจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำ กลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด คิดว่าผมฉีกหน้าเขา ทำไมผมจะไม่เข้าใจว่าเคนชกหน้านักเลงโตคนนั้นทำไม ผมไม่ได้โง่พอที่จะไม่รู้ว่าพนักงานคนใดคิดอย่างไรกับผม มีคนหวังดีมารายงานให้ผมทราบเป็นระยะ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับรสนิยมส่วนบุคคล ผมรักเคน แล้วผมก็ไม่คิดจะหลบซ่อนปิดบัง ใครจะว่า จะนินทาอย่างไรก็ช่าง เพราะมันเปลี่ยนความจริงที่ว่าผมรักเคนไม่ได้
อาจจะดูกล้าบ้าบิ่นสักหน่อย ที่ประธานบริษัทจะกล้าเปิดตัวคู่รักที่เป็นชายให้ใครต่อใครได้รับรู้ ทว่ามันยังดีกว่าการที่ต้องทนหลบๆซ่อนๆ ราวกับว่าความรักของเรามันเป็นสิ่งผิด และไปจีบผู้หญิงเพื่อบังหน้า หรือแต่งงานเพื่อรักษาวงศ์ตระกูลไว้ หากการมีตัวตนอยู่ในสังคมของผม ต้องหลอกลวงใครต่อใคร ผมก็ขอเลือกที่จะถูกนินทาว่าร้าย แต่ยอมเป็นตัวของตัวเองดีกว่า ให้คนเขาเกลียดในสิ่งที่เราเป็นดีกว่าให้ใครต่อใครมารักในสิ่งที่เราไม่ได้เป็น ดังนั้นต่อให้มีคนรู้กันทั้งบริษัทว่าผมกับเคนเป็นสามีภรรยากันผมก็ไม่แคร์
แต่สำหรับเคนแล้ว เขาคงกลัวว่าผมจะเสียหน้า ชื่อเสียงมัวหมอง เขาจึงพยายามปกป้อง การที่ถูกพนักงานคนนั้นและเพื่อนของเขารุมทำร้าย ส่วนหนึ่งก็เพราะคนพวกนั้นพูดจาดูถูกดูหมิ่นผม เคนทนไม่ได้ ก็เลยมีปากเสียกัน และคนพวกนั้นก็ยังเอาเรื่องของเรามาพูดอีก จนน่าจะไปเข้าหูของเคน ทำให้เขามีเรื่องกันต่อในลิฟท์

รู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของเคน ที่เขาพยายามทุกวิถีทางที่จะพิทักษ์ชื่อเสียงของผม ทว่าการที่เขาทำอย่างนั้นทำให้เขาต้องเจ็บตัวมากขึ้น และกลับกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาคนอื่นๆ ซึ่งหัวอกเมียอย่างผม คงทนไม่ได้ที่จะให้ใครมาเกลียดชังสามีตัวเอง ผมอยากให้เคนเติบโตอยู่ในบริษัทนี้อย่างสง่างาม ไม่ใช่ถูกมองด้วยความหวาดระแวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับผม หรือเรื่องการเป็นนักเลงโต
และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมต้องตำหนิและลงโทษเขาอย่างรุนแรง ผมได้แต่หวังว่าเคนคงจะเข้าใจเจตนาของผม ว่าทำไปเพื่ออะไร แม้ว่าวันนี้เขาอาจจะไม่เข้าใจ วันหนึ่งข้างหน้า เมื่อเขาคิดได้ เขาก็จะรู้ว่าสิ่งที่ผมทำนั้น มันดีกับเขาแค่ไหน
ทว่าเคนกลับทำให้ผมผิดหวังอีกครั้ง เมื่อเขามาหาผมถึงห้อง เพื่อยื่นใบลาออก ผมอึ้งเมื่อเขาบอกเจตนารมณ์ของเขา ความรู้สึกหลายอย่างประดังประเดกันเข้ามา ทั้งเสียใจที่เคนคิดสั้น หนีปัญหา ไม่กล้าเผชิญหน้ากับความเป็นจริง แถมไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมทำเพื่อเขา โกรธที่เคนเลือกเอาการลาออกเป็นวิธีการโต้ตอบผม เพราะไม่พอใจในคำสั่ง รู้สึกน้อยใจที่เขาจะทิ้งผมไปง่ายๆ ไม่อยู่ช่วยกันสร้างบริษัท และอารมณ์หลากหลายนั้น มันแปรออกมาเป็นความโกรธจนถึงขีดสุด ทำให้ผมพูดจารุนแรงและไม่รักษาน้ำใจเขาออกไป
ดูจากสีหน้าของเคนผมก็รู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าผมจะสบายใจ พูดอออกไปแล้ว ผมก็อยากกัดลิ้นตาย ผมไม่ต้องการทำร้ายเคนสักนิด แต่ผมจำเป็นต้องใจร้าย เพียงเพราะรักษาสถานภาพการเป็นพนักงานของเคนเอาไว้
เคนดูเศร้ามากเมื่อฟังผมพูดจนจบ เขาคงงุนงงสงสัย ว่าทำไมผมถึงทำเหมือนไม่ใยดีในตัวเขา เคนไม่มีทางรู้เลยว่าผมอยากกอดเขาแค่ไหน อยากขอโทษที่ทำให้เขาเสียใจ อยากปลอบขวัญ อยากพูดอยากคุย อยากปรับความเข้าใจกัน อธิบายเหตุผลว่าทำไมผมต้องลงโทษเขา แต่มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะปลอบใคร ผมตัดสินใจในฐานะท่านประธาน ดังนั้นผมจะทำตัวอ่อนหวาน เหลาะแหละไม่ได้ เพราะจะทำให้ความน่าเชื่อถือหมดไป อีกหน่อยคงจะไม่มีใครฟังคำพูดของผม
แต่ถึงกระนั้นผมก็ตั้งใจไว้แล้ว ว่าเมื่อกลับถึงบ้าน ผมจะหาโอกาสพูดคุยทำความเข้าใจ ผมรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องยาก เพราะเคนอาจจะเข้าใจผิดผมไปแล้ว แต่ผมก็จะพยายามทำให้เคนเข้าใจในตัวผมให้ได้ เวลา 1 เดือนที่เคนต้องพักงาน จะไม่สูญเปล่าไปอย่างน่าเสียดาย ผมเตรียมหากิจกรรมให้เคนทำแก้เหงาเอาไว้แล้ว ซึ่งเคนจะได้ใช้ช่วงเวลาว่าง เรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ทำงานให้ตัวของเขาเอง
ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้ง รู้สึกสงสารตัวเองที่แสดงความอ่อนแอออกมา แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นก็ตาม แต่การร้องไห้ในที่ทำงาน มันบ่งบอกว่าผมไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่ตัวเองคิด เปลือกแข็งๆถูกสร้างขึ้นมาหุ้มห่อเนื้อในที่เปื่อยยุ่ย มันพร้อมที่จะสูญสลายได้ตลอดเวลา

ได้เวลาเลิกงาน ผมสั่งให้ลุงเทพขับรถมารับผมไปที่บ้านเช่าของเคน แต่ก่อนที่จะถึงบ้าน ผมก็ให้คนขับรถของผมแวะไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้ออาหารสด และอาหารแห้ง เพื่อเตรียมไว้สำหรับทำกับข้าวต้อนรับสามีกลับบ้าน
ผมเลือกไปรอเคนที่บ้านเช่า เพราะนั่นเป็นที่เดียวที่เคนจะกลับมา ความน้อยใจที่เขามีให้ผม คงไม่ทำให้เขากลับมาพักที่เพนท์เฮ้าส์กับผม เคนเป็นคนที่หยิ่งพอควร เมื่อเขาคิดว่าผมไม่ต้องการเขา เคนก็จะกลับมายังที่ของตัวเอง
นนนี่บอกกับผมว่า เคนเก็บของบนโต๊ะเรียบร้อย และออกจากออฟฟิศไปตามเวลางานเลิก เขาไม่ได้อยู่ทำโอทีเหมือนเคย เพราะมันไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากเขาถูกพักงาน และผมก็สั่งให้นนนี่รับงานคืนมาจนหมด จะได้ไม่มีอะไรคั่งค้าง นนนี่สามารถสานต่องานไปได้เลย

คำนวณจากเวลาแล้ว อีกประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ เคนก็น่าจะถึงบ้าน ผมควรจะไปถึงก่อนเขาเพื่อเตรียมทุกอย่าง รอรับสามีที่หัวใจแตกสลาย
เมนูสุดพิเศษ ถูกเลือกมาเป็นอาหารรับขวัญสามี การจัดฉากโรแมนติก น่าจะช่วยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวของเคนสดใสขึ้น อาหารมากมายถูกลำเลียงมาไว้บนโต๊ะที่ผมซื้อให้เขา ผมจัดแต่งโต๊ะด้วยผ้าปูสีขาวระบายลูกไม้ และมีผ้าลายตารางสีเขียวฟ้าปูทับอีกที บนโต๊ะประดับประดาด้วยกุหลาบสีขาวดอกโตๆในแจกัน
ห้องทั้งห้องถูกปัดกวาดจนสะอาดเรี่ยมเร้เรไร ผมฉีดสเปรย์ดับกลิ่น ทำให้ห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม จากนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูสะอาดสะอ้านหอมฟุ้ง เผื่อว่าเมื่อเราปรับความเข้าใจกันแล้ว อาจจะมีรายการปลอบขวัญยามค่ำคืน ผมเตรียมพร้อมสู้ตายอย่างเต็มที่ กะมอบความสุขให้กับเขาชดเชยสิ่งที่ตัวเองทำร้ายเขาเอาไว้ นั่งนึกถึงฉากรักที่เคยเห็นในหนังเอวี ที่ผมเคยดู พยายามนึกท่าทางต่างๆที่เขาใช้กัน ตั้งใจจะเอามาใช้ให้จนหมดเพื่อเพิ่มความหฤหรรษ์ อยากเนรมิตค่ำคืนนี้ให้เป็นค่ำคืนที่แสนสุข
จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ผมก็มานั่งรอเคนอยู่บนเตียง แล้วก็ดูทีวีไปด้วย เคนคงโกรธผมแน่ๆ ที่ผมแอบซื้อทีวีเครื่องใหม่มาให้เขา ก็ห้างที่ผมไปเดินตรงแผนกอาหารสด ดันติดกับแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า เดินไปเดินมาเห็นทีวีแล้วคิดถึงเคน ก็เลยตัดสินใจซื้อมา เอาไว้เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน จะได้นั่งดูทีวีและคุยกันกระหนุงกระหนิงในยามว่าง
คิดแล้วก็อยากให้ถึงเวลาที่เคนจะกลับบ้านมาเร็วๆ ถ้าเขามาถึงแล้ว ผมจะพูดอะไรกับเขาก่อนดีหนอ เคนครับ ผมขอโทษนะครับ หรือ เคนครับ เหนื่อยไหม เคนหิวข้าวหรือยัง เคนอยากกินข้าวหรืออยากกินผม คำพูดมากมายเกิดขึ้นในหัว บางอันก็ดูหื่นจนผมเองรับไม่ได้

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 00:31:56
นาฬิกาบนข้อมือของผม บอกเวลาสามทุ่มแล้ว เป็นเวลา 4 ชั่วโมงกว่าที่ผมรอเคนอยู่ที่บ้าน ทว่าเคนก็ยังไม่กลับมา วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ สุดสัปดาห์ รถอาจจะติด เลยทำให้เคนกลับมาล่าช้า ผมน่าจะรออีกหน่อย เดี๋ยวพอเขากลับมาแล้ว ค่อยอุ่นกับข้าวอีกที
อีก 15 นาทีจะห้าทุ่ม 6 ชั่วโมงแล้ว ที่นั่งรอ อาหารเย็นชืดหมดแล้ว สเปรย์ปรับอากาศเริ่มกลิ่นจางลง หน้าผมเริ่มมันขึ้น ไม่สดใสเหมือนตอนอาบน้ำใหม่ๆ เนื่องจากห้องของเคนร้อนอบอ้าว ทั้งที่อากาศภายนอกเย็นสบาย เคนยังคงกลับมาไม่ถึงบ้าน ผมเริ่มเป็นกังวล เกิดอะไรขึ้นกับเคนหรือเปล่านะ
โทรศัพท์มือถือที่ผมให้เคน เขาก็ไม่ได้เอาไปใช้ เคนดื้อจริงๆ ไม่ยอมรับข้าวของราคาแพงจากผม เขาเป็นคนขี้เกรงใจ แม้ว่าผมจะบอกว่าให้เขาเอาไปใช้ทำงาน เพราะมันเป็นออแกไนเซอร์ได้ แต่เขาก็ยังสะดวกที่จะใช้สมุดจดเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังอ้างว่า เขากับผมอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่จำเป็นจะต้องโทรหากันก็ได้ เมื่อเขาไม่ใช้โทรศัพท์ของผม การตามตัวมันก็ยากแบบนี้นี่เอง
ความอยากรู้ว่าเคนอยู่ที่ไหน ทำให้ผมโทรศัพท์ไปถามนนนี่ แต่เธอไม่รู้ไม่เห็น ว่าเคนไปไหน เนื่องจากสามีของผมไม่ได้บอกไว้ เลิกงานแล้วเขาก็มาลาเธอ แล้วออกไปเลย ตอนนั้นนนนี่กำลังยุ่งอยู่ก็เลยไม่ทันได้ซักถามอะไร
พอเห็นว่าผมเริ่มเป็นกังวล เธอก็เลยอาสาจะสอบถามไปยังคนที่เคนรู้จัก ซึ่งอาจจะรู้ว่าเคนอยู่ที่ไหน เมื่อได้เรื่องแล้ว เธอก็สัญญาว่าจะโทรมาบอก ข่าวคราว
วางหูจากเธอ ผมก็นั่งซึม ใจเริ่มเสีย กลัวว่าเคนจะหนีผมไปจริงๆ พยายามนึกว่าจะมีที่ใดบ้าง ที่เคนจะไปพักอาศัยได้ นอกจากบ้านหลังนี้ ทว่าผมก็นึกไม่ออก

ตามประวัติของเคน เขามาอยู่กรุงเทพเพียงลำพัง ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะญาติเขาอยู่ต่างจังหวัดหมด ส่วนใหญ่ก็ทำงานอยู่บ้านนอก จะมีแค่บางคนที่มาหางานทำในกรุงเทพ แต่เขาก็ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน
เอ๊ะ...เมื่อกี้ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่า ผมถอยความคิดคำนึงของตัวเองกลับไปเมื่อครู่ สักพักผมก็คิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
ตอนที่ผมป่วย แล้วพยายามหลอกล่อเคนให้มาเพนท์เฮ้าส์กับผมเป็นครั้งแรก ผมพาเขาไปเดินห้าง แล้วก็ไปดูหนังด้วยกัน ออกมาจากโรงหนัง เคนก็เจอญาติของเขาที่ลงมาทำงานกรุงเทพ และกำลังหางานทำอยู่ เขาให้เบอร์โทรศัพท์ผมเอาไว้ด้วย บางที เขาอาจจะรู้ว่าเคนอยู่ที่ไหนก็ได้
ผมค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของญาติเคนในโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งนานมากกว่าจะเจอ เพราะผมจำไม่ได้แล้วว่าเขาชื่ออะไร ไล่ไปไล่มาก็เจอชื่อแปลกๆ ไม่คุ้น ซึ่งไม่ใช่ลูกค้าของบริษัทที่ติดต่อทำธุรกิจด้วย ผมตัดสินใจเสี่ยงโทรไป
โทรศัพท์เรียกไปสักพัก ทางปลายสายก็ตอบมา เป็นเสียงผู้หญิง ผมกล่าวทักทายเธอ และแนะนำตัวว่าผมคือใคร หญิงสาวคนนั้นนิ่งไปนาน คงนึกไม่ออก เพราะตั้งแต่วันนั้น เราก็ไม่มีโอกาสได้คุยกันอีก ผมเลยเอ่ยชื่อเคนเพื่อเป็นการอ้างอิง ทันทีที่ได้ยินชื่อเขา หญิงสาวคนนั้นก็ร้องอ๋อ อย่างดีใจ เธอจำผมได้แล้ว
“คุณเคลวิน ประธานบริษัทที่เคนทำงานอยู่ใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ เอ่อ ไม่ทราบว่าเคนอยู่ที่นั่นหรือเปล่า”
ถามเสียงเป็นงานเป็นการ พยายามไม่ให้มันดูร้อนรนเกินไปเดี๋ยวจะเกิดความสงสัย
“ไม่อยู่ค่ะ ตามหาเคนเหรอคะ เขาก็คงอยู่บ้านเช่าของเขานั่นแหละค่ะ”
ตอบมาแบบนี้ ก็แปลว่าเขาคงไม่รู้แน่ๆว่าเคนอยู่ที่ไหน ผมไม่อยากจะรบกวนเวลาของเขา เลยทำท่าจะวางหู แต่ก็ถูกรั้งไว้ จากเจ้าของเบอร์ที่ผมโทรไปหา
เธอพร่ำขอบคุณผมที่ช่วยดูแลเคนเป็นอย่างดี ทำให้เคนมีงานมีการทำจนมีเงินส่งไปให้พ่อแม่เป็นการตอบแทนบุญคุณ และยังบอกด้วยว่าเคนพูดถึงผมเสมอ เป็นทำนองชื่นชมว่าผมดีกับเขามากๆ และเขาตั้งใจว่าจะทำงานอยู่บริษัทนี้ไม่หนีไปไหน เพื่อตอบแทนน้ำใจของผม
แม้ไม่ได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเคนว่าเขาไปอยู่ที่ไหน แต่คำพูดที่ได้ยินจากปากญาติของเคนก็ทำให้ผมรู้สึกชุ่มชื้นในหัวใจ เคนจะทำงานอยู่ที่นี่ไปตลอด เพื่อตอบแทนที่ผมดีกับเขา สามีสุดที่รักของผมช่างน่ารักเสียจริง แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมหลงรักเขาได้อย่างไร
แล้วตอนนี้เขาไปอยู่ที่ไหนกัน เขาสัญญาว่าจะอยู่บริษัทนี้ไม่จากไปไหน แล้วไม่ทันไร เขาก็หายตัวไปเสียแล้ว ได้โปรดเถอะเคน รีบกลับบ้านเถอะ ผมห่วงจะแย่อยู่แล้ว

ประมาณเกือบเที่ยงคืน นนนี่ก็โทรหาผม หลังจากที่ไล่โทรไปตามบ้านคนที่เคนรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นมอดหรือแม้แต่คุณชาตรี อาจจะดูเอิกเกริกไปหน่อย ที่คนหายหนึ่งคนต้องโทรตามถามหาคนอื่นๆให้วุ่นวาย แต่ผมก็ต้องรอบคอบ ต้องแน่ใจจริงๆ ว่าผมไม่ได้พลาดใครไปสักคนที่จะนำไปสู่เบาะแสว่าเคนอยู่ที่ใด
ไม่มีใครรู้ว่าเคนไปอยู่ตรงส่วนไหนของโลก เขาออกจากบริษัทไปโดยไม่พูดไม่จากับใคร แม้แต่นนนี่ที่เขาสนิทด้วย เขาก็ไม่บอก ผมคิดไปต่างๆนานา คิดว่าเขาอาจจะกลับบ้านนอก ไปหาพ่อกับแม่ เพราะตอนนี้เขาไม่ได้ทำงานตั้ง 1 เดือน อาจจะอยากกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อกับแม่ และอาจจะอยู่ถาวรไม่กลับมากรุงเทพแล้วก็ได้

ถ้าหากเขาไม่ได้กลับไปบ้านของเขา ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับเคน ผมไม่อยากคิดในแง่มุมที่ร้ายกาจ แต่การที่เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยก็ชวนคิดไม่ใช่น้อย เขาอาจจะประสบอุบัติเหตุ และตอนนี้อาจจะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่งก็ได้
หรือถ้ามองโลกในแง่ร้าย เขาก็อาจจะประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว และร่างของเขาอาจจะอยู่ที่นิติเวช โอย...ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด แต่ละอย่างที่เป็นเหตุผลที่เคนไม่กลับมา มันทำให้ผมอยากจะบ้าตาย ขออย่าให้เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ผมคิดเลย

มีเสียงก๊อกแก๊กดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ทำให้ผมสะดุ้งตื่น ตายล่ะ นี่ผมรอเคนจนหลับไปหรือนี่ เหลือบดูนาฬิกาข้อมือ มันบ่งบอกเวลาตีสามกว่าเข้าไปแล้ว ผมอยากจะกรีดร้องด้วยความคุ้มคลั่ง เคนไปไหน นี่เขาหายตัวไปเกือบ 10 ชั่วโมงแล้วนะ ทำไมหายไปนานอย่างนี้
ขณะที่ผมลุกขึ้นเดินอย่างหงุดหงิด ที่ติดต่อใครไม่ได้เลย ไม่มีใครรู้สักคนว่าเคนไปไหน เสียงเดิมก็ดังขึ้น ผมหยุดเดินและเงี่ยหูฟัง ก็พบว่าเสียงมันดังมาจากทางประตูห้อง ใครกัน หวังว่าคงไม่ใช่ขโมยหรอกนะ
ผมเดินย่องๆไปที่ประตูห้อง แล้วเอาหูแนบกับบานไม้ ฟังเสียงจากข้างนอก ห้องเคนไม่มีตาแมว ทำให้ไม่สามารถดูได้ว่าคนข้างนอกคือใคร ผมคว้าไม้กวาดที่อยู่ตรงมุมห้องมาถือไว้ในมือ เตรียมจะแพ่นกระบาลเจ้าโจรร้าย ที่บังอาจจะมาลักทรัพย์ในห้องเคนยามวิกาล
มีเสียงคลิกเหมือนกุญแจประตูถูกไขออก สักพักประตูก็ถูกดันเข้ามาจากข้างนอก ผมเงื้อไม้เตรียมจะฟาด ทว่าใบหน้าที่โผล่พ้นขอบประตูมา ทำให้ผมมือไม้อ่อน ไม้กวาดร่วงหล่นจากมือ
“เคน...เคนจริงๆด้วย”
ผมอุทานด้วยความดีใจ ในที่สุดเขาก็กลับมาแล้ว กลับมาในสภาพที่ไม่บุบสลาย เพียงแต่เนื้อตัวมอมแมม สกปรกนิดหน่อย และมีกลิ่นเหล้าโชยหึ่ง ที่หายไปทั้งคืน เคนคงไปเที่ยวมา แต่ผมไม่รู้ว่าเคนไปคนเดียว หรือไปกับคนอื่น
ผมตั้งท่าจะกระโดดกอดเขา แต่พอเห็นสายตาว่างเปล่าที่มองมา ทำให้ผมเลิกล้มความคิดที่จะออดอ้อนเขา เคนคงกำลังโกรธผมอยู่ ผมต้องรักษาระยะห่างไว้ช่วงหนึ่ง จะได้ปลอดภัย

“ผมช่วยประคองคุณเข้าบ้านนะครับ”
กุลีกุจอเปิดประตูให้กว้างออก แล้วยื่นมือจะไปสอดใต้แขนเขาเพื่อช่วยพยุง ทว่าเคนสะบัดแขน ไม่ให้ผมแตะต้องตัวเขา
“มาทำไม ...”
คำถามของเขา เล่นเอาผมหน้าชา รู้สึกน้อยใจที่เขาถามผมแบบนั้น พยายามระงับอารมณ์ไม่ถือโทษโกรธเขา เคนกำลังเมา และยังคงเข้าใจผมผิดอยู่ เขาก็เลยแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบในทางร้ายๆกับผม
“ก็ที่นี่มันบ้านสามีของผม ทำไมผมจะมาไม่ได้ล่ะครับ”
ตอบเขาไป และพยายามจะช่วยพยุงเคนเข้าบ้าน แต่เขาเอามือผลักผมให้ไปห่างๆ
“ไม่ต้องมายุ่ง ผมเดินเองได้”

--------------------
TBC

มาช้ายังดีกว่าไม่มาเน้อ   แล้วเจอกันอีกทีตอนค่ำๆๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-02-2009 00:39:39
น่าสงสารทั้งคู่เลย  :monkeysad:

รีบๆ ปรับความเข้าใจกันซะนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 06-02-2009 00:54:04
ว้าววว  มาเยอะมากมาย

ขอบคุณมากค๊าบบบ

ตอนแรกคิดว่า เคนกลับบ้านนอกแล้ว กำลังเชียร์ให้เป็นแบบนั้น  จะได้แบบพ่อแง่แม่งอนน 

แต่เคนโกรธมากๆ ก็ชอบครับ(ซาดิสม์ป่ะเนี่ยเรา)

เพราะจะได้ให้เคลวินง้อ+รักให้หนักๆ อิอิ

จะได้เข้าใจกันและกันมากกว่าเดิม

รออ่านตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-02-2009 00:56:07
 :serius2: :serius2:
อยากอ่านต่อแล้ว  ทำไมมันเป็นแบบเน้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 06-02-2009 02:12:09
เคนต้องโกรธและน้อยใจเคลวินมาแน่เลย

แต่ขออย่าให้เคนหลุดปากอะไรออกมาเพื่อเป็นการทำร้ายเคลวินเลย

แต่ตอนนี้ค้างได้ใจจริง

 :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 06-02-2009 06:34:28
ถ้ารู้ว่าหนุ่มเคนโดนกระแนะกระแหน โดนว่า..โดนจับก้น อีก  ..แล้ว เคนทนไหวเลยต่อยไปอีกชุด

เควิล จะยัง ว่าเคนอีกหรือเปล่า

เข้าใจ ตรง จุดที่เควิลทำนะ แต่ เอิ่ม มัน ช้าไปมั๊ยคะ ช้าไปมั๊ย  :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 06-02-2009 07:18:54
บทที่ 60 ยังอ่านไม่หมด แต่เวลาหมดต้องไปทำงานแล้ว

คืนนี้ค่อยมาต่อ ของคุณหนูมิ้น ลงให้อย่างจุดใจ แต่ถ้ามันค้างอยู่ก็รีบลงให้หมดเลยนะครับ

+1 เป็นกำลังใจให้กับความขยัย ขอบคุณ คุณเคทด้วย  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 06-02-2009 08:20:13
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

รีบๆ ง้อ

รีบๆหายงอนเลย....

มันเศร้า.... :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 06-02-2009 10:46:26
ดีกันเร็วๆนะ อ่านแล้ว เศร้ามากมาย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 06-02-2009 22:18:14
มันดึกแล้วนะหนูมิ้น ไม่ค่ำแล้ว  :z2: แซวเล่น

รออยู่นะครับ สงสัยคงเป็นพรุ้งนี้แล้วละ  :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 60 :P 6.2.09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 22:30:46
มันดึกแล้วนะหนูมิ้น ไม่ค่ำแล้ว  :z2: แซวเล่น

รออยู่นะครับ สงสัยคงเป็นพรุ้งนี้แล้วละ  :bye2:

 :serius2: :serius2:  มาแล้วค่ะมาแล้ว

บทที่ 61

----------------------


“ผมช่วยประคองคุณเข้าบ้านนะครับ”
กุลีกุจอเปิดประตูให้กว้างออก แล้วยื่นมือจะไปสอดใต้แขนเขาเพื่อช่วยพยุง ทว่าเคนสะบัดแขน ไม่ให้ผมแตะต้องตัวเขา
“มาทำไม ...”
คำถามของเขา เล่นเอาผมหน้าชา รู้สึกน้อยใจที่เขาถามผมแบบนั้น พยายามระงับอารมณ์ไม่ถือโทษโกรธเขา เคนกำลังเมา และยังคงเข้าใจผมผิดอยู่ เขาก็เลยแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบในทางร้ายๆกับผม
“ก็ที่นี่มันบ้านสามีของผม ทำไมผมจะมาไม่ได้ล่ะครับ”
ตอบเขาไป และพยายามจะช่วยพยุงเคนเข้าบ้าน แต่เขาเอามือผลักผมให้ไปห่างๆ
“ไม่ต้องมายุ่ง ผมเดินเองได้”
พูดจบเขาก็เดินเซแซ่ดๆเข้าไปข้างใน โดยมีผมเดินตามไปติดๆ
“เคนนอนพักตรงนี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ คุณจะได้สร่างเมา”

ผมพยายามพูดดีกับเขา ไม่สนใจกับการผลักไสไล่ส่งของเคน พยายามคิดว่าเขาเมาและเขาโกรธผม เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เขาไม่สบายใจ ผมจะไม่โต้เถียงเขา และช่วยดูแลปรนนิบัติตลอดค่ำคืนนี้
“บอกแล้วไงไม่ต้องมายุ่ง พูดไม่รู้เรื่องเหรอ”
เคนโวยวายใส่ผม น่าน้อยใจนัก จะเอาแต่ผลักใสผมอยู่ทั้งคืนหรืออย่างไร
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกครับ เคนเมาอย่างนี้ ให้ผมช่วยดูแลคุณดีกว่า”
ผมยังดื้อจะปรนนิบัติเขา สามีผมเมา คงต้องการคนอยู่ใกล้ๆคอยปรนนิบัติ จะให้ผมทิ้งเขาไปได้อย่างไร
“อย่าเลย ผมไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคน”
เขาพูดแบบตัดไมตรี ทำให้ผมสะอื้นในหัวอก แต่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าผมจะทำดีกับเคน ดังนั้นไม่ว่าเขาจะว่าผมอย่างไร ผมก็ต้องอดทน จนกว่าเราจะปรับความเข้าใจกันได้
ในที่สุดผมก็ดื้อ เข้าถึงตัวเคนและประคองร่างของเขามาถึงเตียงนอนจนได้ เคนพยายามผลักไสผม แต่ด้วยความที่เขาเมาจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ทำให้ไม่มีแรงจะขัดขืน ผมค่อยๆประคองสามีสุดที่รักนอนลงบนเตียง และพยายามแกะกระดุมเสื้อของเขา เคนเอามือปัดป้องเปะปะ ต้องยื้อกันอยู่นาน กว่าจะปลดกระดุมเขาออกได้จนหมด
เสื้อของเขาถูกถอดออกจากตัว มีกลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง เคนคงทำเหล้าหกใส่เสื้อตัวเอง ดีที่เคนไม่ได้อ้วกด้วย ไม่งั้นผมคงเป็นลมแน่ ทำไมต้องกินเหล้ามากมายขนาดนี้ด้วย ตัวเองก็ไม่ใช่คอแข็งสักหน่อย สงสัยคงโกรธผมมาก เลยไปกินเหล้าแก้กลุ้ม ผมต้องโทษตัวเองที่ทำให้สามีคิดมากอย่างนี้
ปล้ำถอดเสื้อเขาออกจากตัว หัวสมองก็คิดไปเรื่อยเปื่อย จำได้ว่าตอนที่ผมได้เสียกับเขาครั้งแรก ก็เพราะเขาเมามายไม่ได้สติ แล้วผมก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาแบบนี้ จากนั้นทุกอย่างก็เลยตามเลย ทว่าตอนนี้มันคนละกรณีกัน ผมคงไม่สามารถนัวเนียอย่างครั้งแรกได้ ตราบใดที่เรายังไม่เข้าใจกัน เคนคงไม่ยอมผม แถมอาจจะโกรธผมด้วย
“อย่ามายุ่งกับผม”
เคนปัดป้องผลักไส แต่ผมก็ตื้อจนกระทั่งถอดกางเกงเคนออกจากตัวได้ ขนาดเมานะเนี่ย แรงก็ยังพอดิ้นสู้ใช้ได้เลย แต่ผมก็จับกดถอดกางเกงออกจากตัวจนได้ ผมโยนเสื้อผ้าที่สกปรกมอมแมม และคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเหล้า ลงในกะละมังซักผ้า เปิดน้ำใส่แช่ผ้าเอาไว้ซักวันรุ่งขึ้น จากนั้นก็เอากะละมังใบเล็กรองน้ำจากก๊อกครึ่งกะละมัง และเอาผ้าขนหนูมาเตรียมไว้ นำทั้งหมดเดินมาที่เตียงซึ่งเคนนอนเปลือยเหลือเพียงปราการด่านสุดท้ายบนเตียง
ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นๆถูกบิดจนหมาดๆ แล้วนำไปเช็ดที่ใบหน้าของเคน เพื่อขับไล่ความมึนเมาให้เขา เคนผลักผมให้ออกห่าง แต่ผมก็พยายามประชิดตัวและทำความสะอาดให้เขาจนได้
เสร็จจากใบหน้าผมก็เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับเขา เคนปัดป้อง ไม่อยากให้ผมแตะเนื้อต้องตัวเขา จนผมแอบน้อยใจ จะโกรธอะไรกันขนาดนี้ ทำไมไม่เห็นความหวังดีของผมบ้าง ผมไม่ได้อยากจะทำร้ายใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ต้องดุว่ามันเป็นหน้าที่ของประธาน เขาเป็นพนักงานของผม ทำผิด ก็ต้องว่ากันไปตามผิด จะให้ผมมาโอ๋เอาใจได้ไง ทำไมเขาไม่ยอมเข้าใจเลย
“ผมเกลียดท่านประธานเคลวิน ได้ยินไหม ผมเกลียดท่านประธาน”
คำพูดของเขาเล่นเอาผมน้ำตาซึม ที่ผ่านมา เคนไม่เคยบอกว่ารักผมเลยสักครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยพูดคำว่าเกลียด แต่เมื่อครู่เขาพูดคำนั้นออกมา มันทำให้ผมหัวใจสลาย ไม่นึกว่าสิ่งที่ผมทำลงไป นอกจากจะทำให้เขาไม่เข้าใจแล้ว เขายังเกลียดชังผมอีกด้วย
“ทำไมต้องมายุ่งกับผมด้วย บอกว่าเกลียดไง ไปให้พ้นสิ”
ขาไล่ผมอีก มือก็ผลักไส ไม่ยอมให้ผมเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาอีก
“ประธานเคลวินไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ ที่นี่มีแต่เคลวินเมียของเคนเท่านั้น”
ตอบเขาออกไป พยายามจะบังคับเสียงไม่ให้สั่น ผมเข้าใจเคน เขากำลังโกรธผมอยู่ เลยพูดจาทำร้ายจิตใจผมออกมา และหากว่าผมน้อยอกน้อยใจ และไปจริงๆ ความพยายามของผมที่จะทำให้เขารักผมให้ได้ ก็จะไร้ประโยชน์
เคนผลุดลุกขึ้นนั่ง ตามองผมด้วยแววตาปวดร้าว ต่างจากครั้งแรกที่เข้ามาบ้าน ซึ่งเขามองผมอย่างเฉยเมย ไม่มีตัวตน แต่นี่เหมือนเขากำลังตัดพ้อต่อว่าผมด้วยสายตา ผมแทบไม่อยากมองหน้าเขาเลย ด้วยกลัวจะร้องไห้ออกมาให้เห็น ทำไมเคนต้องมองผมด้วยสายตาแบบนี้ด้วยนะ
“ผมเกลียดคนใจร้าย”
ช่างเป็นคำพูดที่บาดลึกลงไปในหัวใจของผมอย่างที่สุด ผมกลายเป็นคนใจร้ายไปแล้วหรือนี่ ทั้งที่ผมคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว จะให้ผมเพิกเฉยต่อความผิดของเขาได้อย่างไร
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็เชิญ ผมจะไป”
พูดจบเคนก็ลุกขึ้น มีเซนิดๆ แต่เขาก็ทรงตัวได้ ผมผวาลุกตาม ใจหายตั้งแต่ได้ยินว่าเขาจะไปแล้ว นี่เกลียดผมถึงขนาดไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากอยู่ร่วมบ้านกันเลยเหรอ ผมคงทำให้เขาโกรธมาก เขาถึงอยากได้หนี แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนกัน จะกลับบ้านนอก ไม่ทำงานกับผมจริงๆ หรือจะหนีไปเช่าบ้านอยู่ที่อื่น คำถามมากมายอยู่ในใจ
“เคนจะไปไหนไม่ได้นะ”
ผมขวางเขาเอาไว้ รู้สึกใจจะขาด ถ้าเคนจะหนีผมไปจริงๆ แค่เขาหายไปคืนหนึ่ง ผมก็กระวนกระวายจะแย่ ถ้าเขาจะหายไปจากชีวิตตลอดไป ผมคงอยู่ไม่ได้
“คุณไม่มีสิทธิ์ห้าม”
เขาบอกพลางผลักผมให้พ้นทาง
“มีสิ ผมเป็นเมียของคุณนะเคน ผมไม่อยากให้คุณไปไหนทั้งนั้น ทำไมเราไม่พูดอะไรกันบ้างล่ะ อะไรก็ได้ที่จะทำให้เราเข้าใจกัน”
ขอร้องเขา แต่เคนไม่ฟัง เดินชนไหล่ผม จะเข้าห้องน้ำ ผมเดินตามไปติดๆ พอถึงตัวก็กอดเขาไว้แน่น
“อย่าไปนะครับ”
“ปล่อยผมนะ”
เขาตวาดใส่ผมอย่างฉุนเฉียว ซึ่งนี่ก็เป็นกริยาอย่างหนึ่งที่เขาไม่เคยทำใส่ผม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเมา หรือเพราะความเกลียดชังในตัวผม จึงทำให้เขาพูดเสียงแข็งใส่ผมอย่างนั้น
“ไม่ปล่อย”
ยังคงดื้อดึงไม่ทำตาม เพราะรู้ดีว่า หากผมยอมแพ้ ผมจะไม่มีวันได้สามีสุดที่รักกลับคืนมาแน่ๆ
“ถ้าไม่ปล่อยเจอดีแน่... จะปล่อยไม่ปล่อย”
เคนโวยวายเสียงดังใส่ผมมากขึ้นกว่าเดิม
“ไม่...”
ยืนกรานปฏิเสธ และกอดเขาแน่นเข้า เคนดิ้นหนีอ้อมกอดของผม ออกแรงทั้งหมดที่มี ทั้งผลักทั้งดันให้ผมออกห่างพ้นตัว เรายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่หน้าห้องน้ำ ผมไม่ให้เขาเข้าไป เพราะเขาคงจะปิดประตูขังผมอยู่ในนั้น และเราคงไม่ได้พูดจาปรับความเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 22:34:50
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ หรืออยากให้ผมอ้วกใส่หน้าคุณ”
เขาร้องบอก ผมชะงักเริ่มลังเลว่าเคนหมายถึงอะไร แต่แล้วผมก็ได้รับคำเฉลย เมื่อเคนก้มตัวลง แล้วอาเจียนออกมากองโต ก่อนจะทรุดฮวบ ลงไปนั่งกับพื้น ข้างกองอ้วกของตัวเอง
“บอกแล้วไงว่าให้ปล่อย เป็นบ้าอะไรเนี่ย ถึงได้มาห้ามไม่ให้คนเข้าห้องน้ำ”
เคนตะคอกใส่ผมอย่างหัวเสีย น้ำตาของผมหยดแมะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ พยายามกลั้นจนสุดความสามารถแล้ว ที่จะไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็น แต่มันก็ทำไม่ได้
รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกิน แถมขี้ระแวงอีก เมื่อครู่เห็นเขาเดินจะเข้าห้องน้ำ ผมก็คิดว่าเขากำลังจะอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้าน เพื่อหนีผม เพราะเขาประกาศแบบนั้น แต่พอไม่ใช่ ผมก็ดีใจ ที่เขาไม่ได้จะหนี แต่จะไปอาเจียนเอาสิ่งที่กินไปแล้วออกมา พอเขาตวาดใส่ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน ผมก็ต่อมน้ำตาแตกขึ้นมากะทันหัน รู้สึกเสียฟอร์มอย่างบอกไม่ถูก ที่คนอย่างผม ต้องมาจิตตกร้องห่มร้องไห้ให้กับใครบางคนขนาดนี้
“ผมขอโทษครับ ผมนึกว่าคุณจะหนีผมไป”
ปาดน้ำตาออกจากแก้มด้วยหลังมือ ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษเขา จากนั้นก็เอาผ้ามาจัดการทำความสะอาดกองอ้วกที่เคนทำเลอะเทอะเอาไว้ โดยมีสามีสุดที่รักของผมนั่งมองตาม
“อาบน้ำไหมครับเคน ตัวคุณสกปรกอีกแล้ว”
บอกเขา พลางเดินไปพยุงให้เคนลุกขึ้น คราวนี้เคนคนดียอมลุกตามอย่างว่าง่าย แถมซ้ำยอมให้ผมประคองไปเข้าห้องน้ำ ผมเอาเก้าอี้พลาสติกที่เคนมีไว้สำหรับนั่งซักผ้า เอามาให้เคนนั่ง จากนั้นผมก็ตักน้ำในถังที่รองน้ำไว้จนเต็มราดรดตัวเคน น้ำมันคงเย็น ทำให้เคนขนลุกซู่ แต่ก็ดีเหมือนกัน เคนจะได้สร่างเมาเร็วขึ้น
ผมหยิบแชมพู มาเทบนศีรษะของเขา และสระผมให้ จากนั้นก็ถูสบู่ ล้างเนื้อล้างตัวให้กับเคน ซึ่งนั่งนิ่งๆอยู่บนเก้าอี้ ปล่อยให้ผมอาบน้ำทำความสะอาดให้เขา
ผ้าขนหนูที่พาดอยู่ในห้องน้ำ ถูกนำมาใช้เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เคนจนแห้งหมาดๆ เขาลุกขึ้นยืน และถอดกางเกงในที่เขานุ่งออกจากตัว ต่อหน้าต่อตาผม ทว่าไม่มีเวลาที่จะมัวมาคิดเรื่องหื่นๆอีกแล้ว ตอนนี้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ผมต้องแก้คือ ทำอย่างไรเคนถึงจะยอมคุยดีกับผม เพื่อที่ผมจะได้อธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง
สามีสุดที่รักของผม เดินออกจากห้องน้ำในสภาพที่เปล่าเปลือย โดยมีผมเดินตามมาติดๆ ผมเปิดตู้หาเสื้อผ้าให้เขาใส่ เจอเสื้อยืดกับกางเกงเลที่ผมซื้อมาให้เขานุ่งใส่นอน หรืออยู่บ้าน จึงหยิบออกมา เพื่อเตรียมให้เขาใส่ พอหมุนตัวหันกลับมา ก็พบว่าเคนยืนอยู่ตรงหน้า เขาจ้องผมเขม็ง
ผมมองตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ ไม่แน่ใจว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน ยังโกรธผมอยู่หรือเปล่า ผมควรจะพูดอธิบายตอนนี้เลยดีไหม แต่พอเห็นหน้าเฉยเมยของเขา ผมก็ปิดปากเงียบ ส่งเสื้อผ้ายื่นให้เขา ทว่าพอเห็นเขายืนเฉย ผมก็เลยเป็นฝ่ายจัดการให้เขาเอง
ผมดันให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าวที่ผมอุตส่าห์ทำเตรียมรอเขาอย่างดิบดี จากนั้นก็เอาเสื้อยืดสวมใส่ให้เขาทางด้านศีรษะ เมื่อเห็นเขายังนั่งเฉยอีก ผมก็ดึงแขนเขาขึ้นมาแล้วสอดใส่เข้าไปในแขนเสื้อ ทำเหมือนกันทั้งสองข้าง ตอนนี้เสื้อยืดถูกสวมบนตัวเคนเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่กางเกง ผมก้มลงคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าเขา แล้วคลี่กางเกงเลออก จากนั้นก็ยกขาเขาขึ้นข้างหนึ่งสอดใส่เข้าไปในกางเกง ผมทำเหมือนกับเล่นแต่งตัวตุ๊กตา เพราะคนที่ผมใส่เสื้อผ้าให้ไม่ยอมช่วยตัวเอง เอาแต่นั่งนิ่งๆ ขยับเคลื่อนไหว เมื่อถูกผมจับเท่านั้น ใบหน้าเขาเรียบเฉย แต่ตายังคอยมองจ้องผมทุกอิริยาบถ

ผมค่อยๆขยับกางเกงจากข้อเท้าเลื่อนสูงขึ้น จนไปถึงต้นขาของเขา เคนยังคงนั่งนิ่ง ไม่ให้ความร่วมมือกับผมในการขยับตัว เพื่อให้ผมใส่กางเกงให้เขาได้สะดวก เมื่อเขาไม่พูดกับผมสักคำ ผมก็ไม่ถามไถ่ หรือขอร้องให้เขาขยับตัว แต่ผมค่อยๆขยับกางเกงซะเอง จนในที่สุด กางเกงด้านหน้าก็เลื่อนมาถึงเอวของเขา
“ทำไมต้องมาทำดีกับผมด้วย”
เป็นเคนที่พูดขึ้นมาก่อน
“เคนเป็นสามีของผมนี่ครับ ถ้าผมไม่ทำให้เคนแล้วผมจะไปทำให้ใคร”
ตอบพร้อมกับโน้มตัว ผ่านต้นขาของเขา เพื่อขยับดึงกางเกงทางด้านหลังให้เลื่อนขึ้น กลิ่นกายของเคนที่เพิ่งอาบน้ำใหม่ๆมันสดชื่นจนผมเผลอตัวสูดกลิ่นกายเขาเข้าปอดเฮือกใหญ่ แต่ก็ต้องแอบๆทำไม่ให้เคนได้รู้
“ผมเกลียดท่านประธานเคลวิน คนใจร้ายใจดำ ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของคนอื่น”
ใบหน้าของเคนขณะพูดนั้นดูบึ้งตึง ราวกับโกรธผมมาสัก 100 ปี ผมหลบตาที่จ้องมองมา มือสองข้างก็อ้อมไปรอบเอวของเคนเพื่อขยับมุมกางเกงเลทางด้านหลังที่ผมดึงผ่านมาได้แล้ว
“ครับผมเข้าใจ คุณอาจจะมีปัญหากับเจ้านาย ไม่รู้จะระบายกับใคร ก็ระบายมากับผมได้เลยครับ ผมยินดีรับฟังทุกอย่าง”
รู้ว่าเขาไม่สบายใจ ก็เลยเปิดโอกาสให้เขาพูดออกมา เคนจะได้หายเครียด เมื่อเขาพูดจนหมดแล้ว ผมจะได้อธิบายให้เขาฟังอีกที
“ระบายเหรอ ที่จริงแล้ว ผมไม่ใช่แค่เกลียด แต่ผมอยากต่อยหน้าเขาด้วยซ้ำ”
คำพูดของเขาทำให้ผมถึงสะอึก เงยหน้าขึ้นมองเคนอย่างนึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดคำนั้นออกมา นี่เขาเกลียดผมจนถึงขนาดที่อยากจะทำร้ายเชียวหรือ
“แล้วทำไมไม่ทำล่ะครับ”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้น แต่คิดว่าคงเพราะมันอาจจะช่วยให้เขาสบายใจได้บ้าง เขาเป็นพนักงาน เมื่อได้รับการตัดสินที่เขาคิดว่าไม่ยุติธรรมสำหรับเขา เขาก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะต่อต้านเต็มที่ รวมถึงระบายให้คนใกล้ชิดได้ฟัง
“ทำเถอะครับ หากมันจะช่วยให้คุณหายโกรธผม”
เอ่ยปากอนุญาตอีกครา ทันทีที่ผมพูดจบ เคนก็คว้าคอเสื้อผมและดึงเข้ามาหา กำปั้นเงื้อง่าขึ้น ผมหลับตาปี๋ รอวินาทีที่เคนจะกระแทกกำปั้นใส่หน้า อยากลองโดนสักครั้งบ้าง จะได้ร่วมซึมซับประสบการณ์ที่เคนถูกคนเกเรต่อยหน้าเพราะปกป้องเกียรติให้ผม
ทว่าวินาทีนั้นไม่มาถึง …….
เมื่อผมลืมตาขึ้น ก็พบว่าเคนมองผมด้วยสายตาที่อ่อนโยนกว่าเดิม พอเห็นผมจ้องมองเขา เคนก็ยิ้มที่มุมปาก จากนั้นกำปั้นในมือของเขาก็พุ่งมาโดนโหนกแก้มผมเบาๆ มันไม่แรงมากก็จริง แต่ตรงข้อนี้ที่กระแทกหน้าก็ทำให้ผมเจ็บไม่น้อย
“มีเมียนี่ มันดีจริงๆเลยนะ”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยน และใบหน้าก็เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม เคนเลื่อนตัวลงมานั่งคุกเข่าที่พื้น แล้วดึงผมมากอดไว้แน่น ผมตกตะลึง ตัวแข็งทื่อ ไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุการณ์มันจะกลับตาลปัตรเหนือความคาดหมายอย่างนี้

-------------------------

TBC

จะขอบอกว่า  พรุ่งนี้น่าจะจบแล้ว  แต่แว่วมาว่าพี่เคทจะมีตอนพิเศษ มาให้อ่านต่อกันด้วย

ซึ่งตอนพิเศษนี่ได้ข่าวว่ายาวประมาณ 6 - 7 ตอนจบ

ถ้าไม่ผิดพลาดประการใด  พรุ่งนี้จะมาต่อจนจบนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-02-2009 22:37:00
แถมให้อีกหน่อยนึง เป็นน้ำจิ้มสำหรับพรุ่งนี้





พอตั้งตัวได้ ผมก็กอดตอบเคน เราสองคนกอดกันแนบแน่น สักพัก เคนก็ผลักให้ผมนอนลงกับพื้นห้อง จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาทาบทับ ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ไม่อยากจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้สึกสับสนไปหมด ตอนแรกเคนทำท่าโกรธและรังเกียจผม ขับไสไล่ส่ง แต่ตอนนี้เหมือนเขากำลังทำท่าเหมือนว่ารักใคร่พิศวาสในตัวผมขึ้นมา
ผมไม่มีเวลานึกหาเหตุผลว่าเพราะอะไรเคนถึงได้เปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วอย่างนี้ เพราะเคนก้มหน้าลงมาหาผม และประทับจูบที่ริมฝีปาก ท่าทางเขาดูเงอะงะพอควร อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มมาก่อน พอผมรู้ว่าเคนกำลังทำอะไร ผมก็ช่วยเปิดทางให้เขาทำได้สะดวกขึ้น
ริมฝีปากของเราสองคนบดขยี้กันอย่างเร่าร้อน เคนเป็นนักเรียนที่เรียนรู้เร็ว แป๊บเดียวเขาก็รู้ว่าต้องทำอย่างไร หลังจากที่ประกบปากบดเบียดกันสักครู่ เคนก็เปิดปากผมให้อ้าขึ้นด้วยริมฝีปากของเขาก่อนจะสอดแทรกลิ้นออกไป เขาใช้ลิ้นชอนไชเข้าไปในปากผม มันทำให้ผมรู้สึกขนลุกกรูเกรียว ความตื่นเต้นที่ถูกเคนรุกเร้าก่อนทำให้อารมณ์ของผมเตลิดเพริศอย่างยั้งไม่อยู่
เสื้อที่ผมสวมใส่อยู่ ถูกเคนดึงออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ท่อนบนของผมเปลือยเปล่า ต่อหน้าต่อตาเขา เคนยิ้มให้ผม เป็นยิ้มหวานที่สุดที่เคยเห็น เขาก้มลงจูบซุกไซร้ซอกคอผม ยิ่งทำให้ผมขนลุกมากขึ้นไปอีก ผมโอบกอดไปรอบตัวเคน มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเรือนผมของเขา
ปากและลิ้นของเคนทำหน้าที่ปลุกเร้าผม แม้ว่าเขาจะไม่ชำนาญแบบมืออาชีพ แต่เสน่ห์มันอยู่ที่ความเงอะงะ มันทำให้เขาดูไร้เดียงสา เมื่อต้องเป็นฝ่ายกระทำ และนั่นทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้น
หลังจากเคนโจมตีผมที่ซอกคอจนแดงช้ำไปหมด เขาก็เลื่อนตัวมาที่แผ่นอก ทั้งจูบซุกไซร้มือไม้ก็เคล้าคลึง จนผมเริ่มระทวย แอ่นตัวขึ้นรับมือไม้ของเขา
“เคน...อา...เคน...ครับ...”
เสียงครางหวานเรียกชื่อเขาดังออกมาจากปากผม ดูเหมือนจะทำให้เคนพอใจไม่น้อย เขายิ่งลงไม้ลงมือหนักขึ้น
“อ๊ะ ...อืม...เคน...ผม...ผมรักเคน....”
ครวญครางหนักขึ้น เมื่อเคนเลื่อนลงต่ำ และโจมตีส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของผมด้วยปากและมือ การที่เคนเป็นฝ่ายเริ่มบทรักกับผมก่อน มันทำให้ผมตื่นเต้นถึงขีดสุด ทุกอย่างเหนือความคาดหมายไปหมด เคนเรียกผมว่าเมีย และกำลังเล้าโลมผม ทั้งที่ตลอดมามีแต่ผมที่เป็นฝ่ายปลุกเร้าอารมณ์เขาเสมอ เขายอมรับผมแล้ว ผมดีใจมากจริงๆ

----------------------------------------------


แฮะๆๆๆ  มาแค่นี้แหละ  ไถ่โทษที่ช้านะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-02-2009 22:50:46
กรี๊ดดดดดดดดดดด ฆ่ากันเลยดีกว่า  :z3: ค้างงงงงงงง

แล้วงี้เคนจะโดนเสียบหรือได้เสียบเมียคืนมั้งเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 06-02-2009 22:57:55
โอ้ๆๆ  ขอบคุณมากครับ  รออ่านตอนต่อไปครับ

แต่มันค้างคาง่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 06-02-2009 23:33:01
ค้างอย่าแรง เคนมาอารมณ์ไหนเนี่ย

 :call: :call:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 07-02-2009 00:12:38
 :serius2: ไถ่โทษ หรือกลั่นแกล้งอ่ะ

 :a5: ค้างมากมาย  :m31:

พรุ่งนี้จบหรอ จะมาปูเสื่อนอนรอจ้า

แล้วก็จะมารอ ตอนพิเศษของพี่เคทด้วย

อยากอ่านมากมาย  :impress2:

+1 ขอบคุณ  minchy ที่กรุณามาแบ่งปันและขยันโพสจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 07-02-2009 01:40:41
 :serius2: :serius2:




ค้างที่สุด









เคนอ่ะ












แรง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 07-02-2009 03:57:19
 :z3:  -ดใจ ค้างคา แอร๊ยยยยยยยยย...ย

เคนจะรุก เควิล ชิมิ 

เชียร์เคนรุกเควิล จะได้เป็นสามีจริงๆซักที อิอิ :z2: 
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 07-02-2009 04:49:14
ฝันแล้วอยากจะฝันอีก....
แต่โดนฉุดลงมาซะงั้นน่ะ
เอามาต่อให้จบจิคร๊า
กำลัเคลิ้มเลย อิๆๆๆๆๆๆๆ
 :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 07-02-2009 05:12:44
อร๊ายยยยยย จะจบแล้วเหรอ

ขอบคุณสำหรับของว่างมื้อดึกจ้า จุ๊บ จุ๊บ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-02-2009 06:57:39
เอามาแบบติด ๆ เลยนะหนูมิ้น แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มาใช่มะ

คงไม่ได้อ่านตอนจบหรอกวันนี้ เพราะจะไปทำธุระ สองสามวัน

วันอังคารกลับมาค่อยมาเก็บตก  :กอด1: :bye2:

ปล. อย่าลืมทวงคุณเคทเรื่องดอกรักสีม่วงด้วยนะครับ  ฝากด้วย  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 07-02-2009 09:18:59
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: shibao ที่ 07-02-2009 15:22:47
จบแบบหักมุมนี่ ไม่เอานะคับ

ประมาณว่า

เคน เอ่อ . . . ตายแล้ว

แต่ไม่รู้ตัว ยังกลับมาห้อง
 o22
แล้วมาบอกรักเคลวิน

แล้วก็ไป
 :serius2:
อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

คิดได้ไง
 :sad4:

อยากทราบตอนจบเร็วๆ

มาลั้ล ลา รอ
 :z2:
อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 07-02-2009 19:21:57
ค้าง

ว่าแต่จะจบแล้วหรอ

ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย

^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] บทที่ 61 :P 6.2.09 (รอบดึก)
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 07-02-2009 20:08:59
to K. Wan  พี่เคทบอกว่าจะแต่งเรื่องดอกรักสีม่วงเป็นเรื่องต่อไปหลังจากเรื่องนี้จบ

อืม o22 คงหลังจากตอนพิเศษเรื่องนี้จบด้วยอ่ะ


K. shibao  คะ  เรื่องนี้ไม่มีหักมุมอ่ะ o18   มันจาเศร้าเกินไปมั้ยถ้าเป็นงั้น :serius2:



มาต่อตอนจบกันดีกว่า



บทสุดท้ายแร้ว

--------------------------


พอตั้งตัวได้ ผมก็กอดตอบเคน เราสองคนกอดกันแนบแน่น สักพัก เคนก็ผลักให้ผมนอนลงกับพื้นห้อง จากนั้นเขาก็โน้มตัวลงมาทาบทับ ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก ไม่อยากจะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง รู้สึกสับสนไปหมด ตอนแรกเคนทำท่าโกรธและรังเกียจผม ขับไสไล่ส่ง แต่ตอนนี้เหมือนเขากำลังทำท่าเหมือนว่ารักใคร่พิศวาสในตัวผมขึ้นมา
ผมไม่มีเวลานึกหาเหตุผลว่าเพราะอะไรเคนถึงได้เปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วอย่างนี้ เพราะเคนก้มหน้าลงมาหาผม และประทับจูบที่ริมฝีปาก ท่าทางเขาดูเงอะงะพอควร อาจจะเป็นเพราะเขาไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มมาก่อน พอผมรู้ว่าเคนกำลังทำอะไร ผมก็ช่วยเปิดทางให้เขาทำได้สะดวกขึ้น
ริมฝีปากของเราสองคนบดขยี้กันอย่างเร่าร้อน เคนเป็นนักเรียนที่เรียนรู้เร็ว แป๊บเดียวเขาก็รู้ว่าต้องทำอย่างไร หลังจากที่ประกบปากบดเบียดกันสักครู่ เคนก็เปิดปากผมให้อ้าขึ้นด้วยริมฝีปากของเขาก่อนจะสอดแทรกลิ้นออกไป เขาใช้ลิ้นชอนไชเข้าไปในปากผม มันทำให้ผมรู้สึกขนลุกกรูเกรียว ความตื่นเต้นที่ถูกเคนรุกเร้าก่อนทำให้อารมณ์ของผมเตลิดเพริศอย่างยั้งไม่อยู่
เสื้อที่ผมสวมใส่อยู่ ถูกเคนดึงออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ท่อนบนของผมเปลือยเปล่า ต่อหน้าต่อตาเขา เคนยิ้มให้ผม เป็นยิ้มหวานที่สุดที่เคยเห็น เขาก้มลงจูบซุกไซร้ซอกคอผม ยิ่งทำให้ผมขนลุกมากขึ้นไปอีก ผมโอบกอดไปรอบตัวเคน มือข้างหนึ่งสอดเข้าไปในเรือนผมของเขา
ปากและลิ้นของเคนทำหน้าที่ปลุกเร้าผม แม้ว่าเขาจะไม่ชำนาญแบบมืออาชีพ แต่เสน่ห์มันอยู่ที่ความเงอะงะ มันทำให้เขาดูไร้เดียงสา เมื่อต้องเป็นฝ่ายกระทำ และนั่นทำให้ผมมีอารมณ์มากขึ้น
หลังจากเคนโจมตีผมที่ซอกคอจนแดงช้ำไปหมด เขาก็เลื่อนตัวมาที่แผ่นอก ทั้งจูบซุกไซร้มือไม้ก็เคล้าคลึง จนผมเริ่มระทวย แอ่นตัวขึ้นรับมือไม้ของเขา
“เคน...อา...เคน...ครับ...”
เสียงครางหวานเรียกชื่อเขาดังออกมาจากปากผม ดูเหมือนจะทำให้เคนพอใจไม่น้อย เขายิ่งลงไม้ลงมือหนักขึ้น
“อ๊ะ ...อืม...เคน...ผม...ผมรักเคน....”
ครวญครางหนักขึ้น เมื่อเคนเลื่อนลงต่ำ และโจมตีส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของผมด้วยปากและมือ การที่เคนเป็นฝ่ายเริ่มบทรักกับผมก่อน มันทำให้ผมตื่นเต้นถึงขีดสุด ทุกอย่างเหนือความคาดหมายไปหมด เคนเรียกผมว่าเมีย และกำลังเล้าโลมผม ทั้งที่ตลอดมามีแต่ผมที่เป็นฝ่ายปลุกเร้าอารมณ์เขาเสมอ เขายอมรับผมแล้ว ผมดีใจมากจริงๆ





อ๊า....เคน”
ผมร้องลั่นด้วยความเสียวซ่านเมื่อเคนครอบครองแก่นกายผมไว้ในปาก น้ำตาปริ่มที่ขอบตาเมื่อตระหนักได้ว่าสามีทำสิ่งนี้เพื่อผม ผู้ชายซึ่งเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิง คงไม่เคยคิดที่จะทำสิ่งนี้กับผู้ชายด้วยกัน เพราะมันเหมือนกับการทำสิ่งนั้นให้ตัวเอง แต่เคนไม่เพียงเริ่มต้นบทรัก แต่เขาทำทุกอย่างเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผม แม้ว่าเขาจะไม่ได้เก่งกาจ อย่างคนเชี่ยวชาญศึก แต่ผมกลับประทับใจกับความพยายามของเขา และมันส่งผลต่อร่างกายของผมซึ่งมีปฏิกิริยาสนองรับการรุกรานของเขา
“ผม..ผมไม่ไหวแล้วครับเคน”
ร้องบอกด้วยเสียงแหบพร่า เมื่อตัวเองเดินทางมาถึงจุดที่สุดจะกลั้น เคนยิ้มให้ผม แล้วหยัดกายขึ้น ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าออกจากตัวอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน ก่อนจะโน้มตัวลงมากอดรัดผมใหม่ คราวนี้ผมไม่ยอมให้เคนเป็นฝ่ายกำชัยเหนือผม เพราะถึงเขาจะเป็นสามี แต่ผมก็ยังไม่ทิ้งคอนเซปต์เดิมที่ว่า ผมเป็นภรรยาที่ชอบทำ ผมจึงจับเคนกดลงกับที่นอน ด้วยความที่ผมตัวใหญ่กว่าเขามาก ผมเลยจับเขาพลิกหงายโดยง่าย และดูเหมือนเคนก็ไม่มีทีท่ารังเกียจรังงอนอะไร เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายเริ่มรุกก่อน แต่เขาก็ยอมให้ผมจัดการเขาอยู่ดี เคนเป็นสามีที่น่ารักมาก ตามใจผมทุกอย่าง แล้วอย่างนี้ผมจะไม่รักไม่หลงเคนได้อย่างไร
ผมแยกขาของเคนออกจากกัน แล้วใช้มือช้อนสะโพกขึ้น ก่อนจะส่งแก่นกายที่ขึงตึงของตัวเองเข้ามาในร่างเล็กแคบของเคน มันช่างเป็นความรู้สึกที่น่ามหัศจรรย์ยิ่ง ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่ร่างกายเราหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน การที่เคนเป็นฝ่ายปลุกเร้าผมก่อน กับการที่ปลุกเร้าสามีเองให้ความสุขที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง เขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ที่สามียอมแตะต้องตัวผมก่อน ทั้งที่ผ่านมาผมเริ่มมาตลอด
เคนหลับตาปี๋ เมื่อร่างของผมค่อยๆ แทรกเข้าไปในร่างของเคนทีละน้อย ผมกลัวว่าเคนจะเจ็บเนื่องจากสรีระของเราต่างกัน แม้ผมจะเคยมีอะไรกับเคนหลายครั้ง แต่ผมก็ต้องทนุถนอมเคนให้เขาเจ็บตัวน้อยสุด เพื่อที่เขาจะได้รู้สึกมีความสุข และสนุกที่จะทำกับผมบ่อยๆ
ผมค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในตัวเขาอย่างช้าๆ ในขณะที่ร่างกายของผมอยู่ในตัวเขาเพียงครึ่ง ผมก็ก้มลงมาทาบทับ แล้วก็จูบซุกไซร้เคนทั่วใบหน้าและลำคอ ก่อนจะมาจบลงที่ริมฝีปาก
เราต่างแลกจูบหวานล้ำต่อกัน การตอบสนองของเคนทำให้ใจของผมสั่นไหว รู้สึกได้ว่าใจเต้นแรงราวจะกระดอนมานอกอก ร้อนซู่ไปทั้งตัว เหมือนมีไฟฟ้าไหลวนอยู่ในร่างกาย มือของเคนเริ่มทำงานไปพร้อมๆ กับปากและจมูก เพียงแค่ลูบไล้ไปทั่วร่าง ผมก็รู้สึกซ่านสยิว จนต้องเบียดบดร่างกายกอดรัดเพื่อรองรับการโลมเล้าของเขา
“อ๊ะ..อา...อึก...เคน...”
ร้องเสียงหลง เมื่อผมแทรกร่างกายของตัวเองเข้ามาในตัวเคนจนมิด ผมอ้าปากหอบหายใจ รู้สึกได้ถึงความตึงแน่นที่ช่องทางเล็กแคบของเคนซึ่งบีบรัดแก่นกายของผมแน่น จนผมแทบจะทะลักทะลายความสุขออกมาเดี๋ยวนั้น ทั้งที่ผมกับเขาก็มีอะไรกันมาหลายครั้ง ทว่าการที่เคนยินยอมพร้อมใจแถมร่วมไม้ร่วมมืออย่างดีในครั้งนี้ มันทำให้ผมรู้สึกเร้าใจอย่างมาก และอารมณ์พุ่งโพลงถึงขีดสุด
เคนขยับสะโพกเข้าตอบรับอย่างเนิบช้า ตามจังหวะการรุกรานของผม ดูเหมือนเขาพยายามจะทำให้ผมพึงพอใจกับการสนองตอบของเขา ซึ่งมันได้ผลเสียด้วย ผมรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก ไม่ต้องใช้เรี่ยวแรงมากมายในการจะปลุกปล้ำเล้าโลมเคนอย่างที่เคยทำ ก่อนหน้านั้นผมเหนื่อยมากมายกว่าจะทำให้เคนเคลิ้ม แต่ตอนนี้เหมือนแค่เริ่มต้น เราสองคนก็แทบจะไปถึงสวรรค์ ร่างกายเคนตอบรับผมดีจริงๆ โดยเฉพาะช่องทางเล็กแคบนั้นก็ตอดรัดผมตลอดเวลาจนผมเกร็งไปหมดด้วยความเสียวซ่าน จนต้องพักเป็นระยะ ด้วยกลัวผมจะเขื่อนแตกเสียก่อน

พอเราสองคนเริ่มคุ้นจังหวะกันแล้ว ผมก็ขยับท่อนล่างเร็วขึ้น ในจังหวะที่สม่ำเสมอกัน เขาเองก็ขยับสะโพกตามเพื่อให้สอดรับกับจังหวะของผม สะโพกของเรากระทบกัน และเสียดสีบดเบียด ยิ่งเพิ่มแรงกำหนัดให้ผมมากขึ้น
“รู้สึกดีไหม...”
ท่าทางเขาไม่ค่อยแน่ใจว่าสิ่งที่เขาทำ ถูกใจผมหรือเปล่า ผมรีบพยักหน้า ด้วยกลัวสามีจะเสียกำลังใจ ที่จริงอยากจะบอกว่าผมเป็นสุขมาก สุขอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทว่าผมก็ไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มเสียง เปล่งออกมาได้แค่การร้องครวญครางอย่างสุขสม เริ่มรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองติดขัด ร่างกายไหวระริกจากการถูกสัมผัส
มีรอยยิ้มอย่างดีใจ ปรากฏที่หน้าของเคน เขาโน้มคอผมลงไปหาและจูบผมอีกครา ซึ่งผมก็สนองตอบเขาเต็มที่ สองแขนโอบรัดไปรอบตัวเขา กอดไว้แนบแน่น กลัวว่าเขาจะหนีผมไปอีก
ผมยังคงเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของเคนอย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็ก้มต่ำลงและเล็มยอดอกของสามีสุดที่รัก จนมันแข็งเป็นตุ่มไต เคนอ้าปากร้องครวญครางไม่หยุด มือสอดแทรกไปในกลุ่มเรือนผมของผม และกดหน้าผมแนบยอดอกของเขา ในขณะที่สะโพกก็แอ่นขึ้นรับการกระแทกกระทั้นจากผม
“ไม่...ไม่ไหว...ผมไม่ไหวแล้ว”
เคนร้องบอกเสียงสั่น ทุกครั้งที่ผมขยับกาย เคนก็ขยับตามไปด้วย และเมื่อผมกระแทกกระทั้นลงมาอย่างหนักหน่วง ทิ่มแทงแบบไม่มีพัก เคนก็แทบหายใจหายคอแทบไม่ทัน ต้องอ้าปากโกยอากาศเข้าปอด ร่างสั่นระริก แขนขาเกาะเกี่ยวผมไว้แน่นเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรงและต้องการที่ยึดเหนี่ยว
“ไม่ไหว ..ก็ไม่ต้องทนครับ”
ผมกระซิบข้างหู ก่อนขยับตัวรัวเร็ว
“...เรา...ไปพร้อมกันนะ”
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 07-02-2009 20:11:39
กระซิบบอกสามีเสียงพร่าก่อนจะกระหน่ำสะโพกลงมาสองสามครั้ง พร้อมกับปลดปล่อยสายธารรักที่อบอุ่นเข้าสู่ร่างกายของเขา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่เคนก็ปลดปล่อยมันออกมาเลอะหน้าท้องของตัวเอง หลังจากนั้นผมก็ล้มตัวลงมาทาบทับบนตัวคนน่ารัก อกเบียดอก สะโพกบดสะโพก และบางส่วนของร่างกายเราทั้งสองแนบชิดติดกัน ผมสอดแขนโอบกอดเคนไว้แน่น ขาเกี่ยวกระหวัดรัดสะโพกของเคนเอาไว้ เราสองคนนอนกอดเกี่ยวกันในสภาพแบบนั้นสักครู่หนึ่ง จนความร้อนรุ่มในกายเราเริ่มลดระดับสู่ภาวะปกติ ผมจึงปลดปล่อยเคนแล้วไถลลงมานอนเคียงข้างเขา โดยที่รั้งร่างเคนมากอดไว้แน่น

“เคน ผมรักเคนนะครับ”
คนที่อยู่ในอ้อมกอดของผมบอกรักด้วยเสียงแผ่วเบา ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เคลวินกำลังขวยอายเหมือนเด็กสาวๆเมื่อแรกรัก ทำให้ผมรู้สึกเอ็นดูเขาอย่างมาก หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งความหฤหรรษ์ เราสองคนก็กลับขึ้นมานอนเบียดกันบนเตียงอีกครั้ง เคลวินนัวเนียเกาะติดผมแจไม่ยอมห่างไปไหน
“ผมรู้ครับ”
ตอบด้วยเสียงอ่อนโยน มือข้างหนึ่งลูบไล้ต้นแขนเปลือยของคนที่นอนอิงแอบอกผม
“เมื่อกี้เคนพูดว่าอะไรหรือครับ ผมอยากได้ยินอีกครั้ง”
คนถามตาเป็นประกายสุกใส
“พูดอะไร...อ๋อ ...ที่ว่า ผมเกลียดประธานเคลวินเหรอ อยากให้ผมพูดให้ฟังซ้ำๆเหรอ”
หยอกล้อขำขำ เคลวินหน้างอ รีบปฏิเสธว่าไม่ใช่ เขาหมายถึงตอนที่ผมจะต่อยหน้าเขาต่างหาก ผมขยับตัวตะแคงข้าง โดยที่เคลวินเลื่อนตัวลงนอนหนุนหมอน และนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาผมเช่นกัน ผมมองใบหน้าหล่อเหลานั้น และเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าของเขา ไม่ตอบคำถามเดิม แต่กลับถามเรื่องอื่นแทน
“เจ็บไหมครับ”
เคลวินชะงักนิดหนึ่ง ผมเห็นตาของเป็นประกายด้วยน้ำหล่อเลี้ยง เบะปากเหมือนจะร้องไห้ ซึ่งผมไม่ต้องการเห็นความอ่อนแอของเขา จริงอยู่มันทำให้เคลวินดูเหมือนคนธรรมดาที่มีอารมณ์อ่อนไหว ร้องไห้เป็น แต่ผมอยากได้ภรรยาที่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสมากกว่า
“ไม่เจ็บเลยครับ”
เขาจับมือของผมเอาไว้แนบแก้ม แล้วตอบด้วยเสียงแผ่วเบา ราวกับพูดอะไรไม่ออก
“ขอโทษนะครับที่ทำให้เจ็บ”
รู้สึกผิดนิดๆที่ไปต่อยเขา แม้จะเบาๆก็ตาม ลูกคุณหนูอย่างเคลวิน คงไม่เคยเจอใครทำแบบนี้ ถ้าเขาจะโกรธ ผมก็คงไปโทษเขาไม่ได้
“ไม่เป็นไรครับ มันเทียบไม่ได้เลย กับการที่ผมทำให้คุณเจ็บอยู่ในใจ”
คนตัวโต วางมือลงบนหน้าอกเปลือยด้านซ้ายของผม ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมเดาเอาว่า เขาคงหมายถึงเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวันที่เขาดุด่าผมต่อหน้าคนอื่น และลงโทษผมอย่างรุนแรง แถมใช้คำพูดแบบไม่มีเยื่อใย ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกไม่ดี เคลวินเองก็คงจะรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย
“ผมต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษเคน ขอโทษนะครับ ที่ผมพูดแรงไปหน่อย”
เคลวินกล่าวขอโทษผม สีหน้าเหมือนคนสำนึกผิดจริงๆ
“นี่เรากำลังหมายถึงเคลวินที่เป็นภรรยาของผม หรือเคลวินที่เป็นประธานกัน ถ้าเคลวินที่เป็นประธานก็ช่างเขาเถอะ เขาทำตามหน้าที่ของเขา ผมไม่สนเขาหรอก เขาดุด่าว่ากล่าวผมจนชินแล้ว สำหรับเขาผมก็คงเป็นได้แค่พนักงานธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ผมคงไม่อยู่ในสายตาของเขาหรอก ไม่จำเป็นที่เขาจะต้องมาใส่ใจ”
จงใจเล่นคำให้เขาสับสน ประธานเคลวินอยากมีสองหน้า เล่นหลายบทบาทดีนัก เขาจะรู้สึกอย่างไรบ้าง หากผมชอบตัวตนแบบหนึ่งของเขา และเกลียดตัวตนอีกแบบหนึ่งของเขา เพราะไม่ว่าจะตัวตนแบบไหน ก็สวมบทบาทโดยคนๆเดียวกัน
“ไม่จริงเลยครับ ผมรับรองได้ว่าประธานเคลวิน ไม่เคยเห็นคุณเป็นเพียงแค่พนักงานธรรมดา เขาเห็นคุณเป็นคนที่มีคุณค่า เป็นทรัพยากรที่เป็นกำลังสำคัญของบริษัท เขาชื่นชมคุณมาก และเขาก็ฝากความหวังไว้กับคุณเยอะ เขาคิดว่าคุณจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่จะช่วยทำงานให้บริษัท และช่วยกันทำให้มันเจริญเติบโตก้าวหน้าครับ”
เขาอธิบายยืดยาว กลัวเขาเข้าใจผิด ผมมองหน้าหล่อๆของเขา แล้วหัวเราะร่า ตาสีฟ้าของเขาเบิกกว้างอย่างงุนงง ที่ผมหัวเราะขำเขา
“ทำไมต้องแก้ตัวแทนประธานเคลวินด้วย นอกใจผมเหรอ”
แกล้งหยอกเขาเล่น ดูเหมือนเคลวินจะยิ่งแปลกใจนักเมื่อผมหยอกเย้าเล่นหัวกับเขา ซึ่งผมไม่เคยทำมาก่อน
“เคนอ่ะ ...ดูพูดเข้า...ผมไม่ได้แก้ตัวแทนใคร แต่ผมรู้ว่าประธานเคลวินรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
ท่าทางเขาดูจริงจัง คงกลัวว่าผมจะไม่เชื่อ ที่จริงผมหมดข้อสงสัยไปนานแล้ว หลังจากมีเวลาทบทวนเรื่องต่างๆ แต่ก็ยังอยากแกล้งเขาอยู่
“แล้วเคลวินที่เป็นเมียผมล่ะ รู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้”
เอามือชี้ไปที่ตัวเขา เป็นการระบุเฉพาะเจาะจงว่าผมหมายถึงเคลวินที่อยู่ตรงหน้าผม
“ก็...รู้สึกว่าบทลงโทษมันรุนแรงไปจริงๆ”
ฝรั่งตัวโต พูดเสียงอ่อยๆ เลยเข้าทางผม

“เห็นป่ะ เคลวินที่เป็นภรรยายังรู้สึกว่าเคลวินที่เป็นประธานทำกับผมรุนแรงเกินไป อย่างที่ผมบอกใช่ไหมเขาใจร้าย ใจดำ โหดเหี้ยม ”
เน้นย้ำให้เขาเห็นถึงความร้ายกาจของตัวเอง เคลวินรีบเถียงทันที สงสัยกลัวภาพลักษณ์ในตัวตนอีกแบบหนึ่งของเขาจะเสียหาย
“ครับ แต่ความรุนแรงของการลงโทษ มันก็มีเหตุมีผลของมันไม่ใช่หรือครับ ในเมื่อเคนทำผิด เคนก็ต้องได้รับการลงโทษ มันอาจจะแรงไปหน่อย ที่คุณต้องถูกพักงานตั้ง 1 เดือน แต่การที่ลงโทษแรงๆ มันก็ดีสำหรับเคนนะครับ อย่างน้อย ก็ทำให้คนเข้าใจเคนมากขึ้น ไม่ได้มองว่าเคนเป็นเด็กเส้นแตะต้องไม่ได้ เมื่อทำผิดเคนก็โดนลงโทษได้เช่นกัน และโดนหนักเหมือนคนอื่นๆด้วย จะไม่มีทางที่จะเกิดความลำเอียงเกิดขึ้นในบริษัทอย่างแน่นอน”
ผมนิ่งฟังเขาอธิบาย แล้วก็ยิ้มตาม ตอนแรกผมรู้สึกโกรธเคลวินไม่ใช่น้อย ที่ดุด่าว่ากล่าวผมด้วยถ้อยคำรุนแรง ต่อหน้าคนอื่นๆ แถมซ้ำลงโทษผมหนักเกินไป โดยไม่คำนึงว่าสาเหตุที่ผมทำตัวเป็นนักเลงลงไม้ลงมือกับคนอื่นมันเกิดจากอะไร ทว่าพอได้มีโอกาสนั่งตรึกตรองดู ถึงสิ่งที่เขาทำ ผมก็รู้ว่าเขาไม่ได้หวังร้าย เขาตั้งใจดีที่จะช่วยเหลือผม ทว่าเขาเป็นถึงประธานบริษัท จะมาพูดจาอ่อนหวาน หรือโอนอ่อนผ่อนปรนให้ผมก็ใช่ที่ ยิ่งผมเป็นเลขาคนสนิท เวลาทำผิดก็มักจะถูกจับตามองว่าได้รับการลงโทษหรือไม่ ดังนั้นความเที่ยงธรรมคือสิ่งที่จะต้องแสดงให้ทุกคนเห็น ทุกคนจะต้องได้รับการปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่งั้นจะเกิดข้อครหาได้
“นี่ไง ผมถึงได้บอกว่ามีเมียมันดีอย่างนี้นี่เอง เคลวินทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นรู้ไหมครับ”
หยอดคำหวานใส่เขา จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่ในบทบาทไหน ก็สร้างความประทับใจให้ผมทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นบทประธานที่วาจาแข็งกร้าว ดุ แต่ใจดี ยินดีรับฟังความคิดเห็นคนอื่น และเป็นธรรม กับภรรยาขี้อ่อน ช่างเอาอกเอาใจ และแสนจะอดทน ขนาดผมไม่กลับมาทั้งคืน เขาก็ไม่ปริปากบ่น กลับปรนนิบัติพัดวี ดูแลอย่างดี ทำหน้าที่ศรีภรรยาได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เลยทำให้ผมไปไหนไม่รอด
“จริงเหรอ คุณรู้สึกดีที่มีผมเป็นเมียเหรอ”
ท่าทางเขาตื่นเต้นไม่ใช่น้อยที่ได้ยินคำชมจากผม เคลวินเอามือเขย่าแขนผมเพื่อให้ตอบ ดวงตาเป็นประกายวิบวับเมื่อรอฟัง
“ก็ใช่น่ะ ผมเข้าใจว่าตัวเองพูดคำนั้นนะ”
ยืนยันคำพูดตัวเอง เพื่อให้เขามั่นใจ มีรอยยิ้มปรากฏบนหน้าใสเนียนของเคลวิน
“งั้นก็แปลว่า เคนยอมรับผมเป็นเมียแล้วใช่ไหมครับ”
เขาถามย้ำเพื่อความมั่นใจ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“จนป่านนี้แล้ว จะมาถามอะไรอีก”
ตอบไม่ตรงคำถาม ทำหน้างอนใส่อีก แต่ดูเหมือนเคลวินจะไม่สน เขาเขย่าแขนผมอีก ท่าทางกระตือรือร้น
“เมื่อไหร่กัน...บอกหน่อยนะ ผมอยากรู้ เมื่อไหร่กันที่คุณคิดที่จะยอมรับผมเป็นเมีย”
เคลวินเซ้าซี้จะให้ผมตอบให้ได้ ดวงตาที่มองมาฉ่ำเยิ้ม ใบหน้ายิ้มละไม
“ไม่รู้สิ ...ตอบไม่ได้ ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อไหร่ รู้แต่ว่า ตอนนี้ผมมีเมียแล้วคือคนที่นอนอยู่เคียงข้างผมตอนนี้”
นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับผม ถ้าจะถามว่าผมยอมรับในตัวเขาตั้งแต่ตอนไหน ผมคงชี้ชัดลงไปไม่ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นปุ๊บปั๊บ แต่มันค่อยๆซึมลึกมาเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้ ผมยังแอนตี้การมีคนรักเป็นผู้ชายอยู่เลย ไม่เคยสักครั้งที่คิดจะเออออห่อหมกไปกับเคลวิน บ่ายเบี่ยงตลอดเวลา ต่อมาด้วยอารมณ์พาไป ด้วยความอยากจะตอบแทนความดีของเคลวิน ทำให้ผมยินยอมตามใจเขาในบางเรื่อง และโดยไม่รู้ตัว เคลวินก็มานั่งอยู่ในใจผม จนรู้สึกว่าขาดเขาไม่ได้
เมื่อวานนี้ ผมน้อยใจท่านประธานเคลวินมาก ก็เลยตั้งใจว่าจะหนีหน้าไปสักพัก ไปในที่ไกลแสนไกล จนเขาตามไม่เจอ บางทีการที่ผมเดินจากไป จะได้ไม่ทำให้เคลวินวุ่นวายไม่สบายใจ เขาจะได้ปกครองลูกน้องได้โดยไม่มีข้อครหา
หลังจากเลิกงาน ผมก็รีบออกไปทันที ไม่อยากอยู่รอเจอเคลวิน และตั้งใจจะไม่กลับบ้าน เดินออกไปริมถนนผมก็รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปที่ไหน จึงโบกรถเมล์นั่งไปเรื่อยเปื่อย ไร้จุดหมายปลายทาง จนกระทั่งรถผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ผมก็ตัดสินใจลง ตั้งใจจะไปนั่งเพื่อที่จะสงบจิตใจ
นั่งอยู่นาน มันก็ยังไม่หายกลุ้ม สมองครุ่นคิดแต่เรื่องที่ถูกตำหนิ และโดนต่อว่าจากคนที่บอกว่ารักผม ความโกรธ ความน้อยใจ ทำให้ผมต้องการประชดชีวิต ด้วยการทำตัวสำมะเลเทเมา เลยเดินไปซื้อเบียร์มาดื่มหลายกระป๋อง กะเมาให้เต็มคราบ อยากทำตัวเลวๆบ้าง จะได้สะใจใครบางคนที่มองว่าผมทำตัวไม่ดี
นั่งดื่มไปผมก็สังเกตผู้คนในสวนสาธารณะไปด้วย ได้เห็นชีวิตผู้คนที่ทำกิจกรรมต่างๆ วิ่งบ้าง เดินบ้าง ออกกำลังกายบ้าง เพื่อรักษาสุขภาพ เห็นพ่อแม่ลูกมาปูเสื่อนั่งกินข้าวกัน มีคู่รักหนุ่มสาวมาพลอดรักตามใต้ต้นไม้ หยอกเย้ากระเซ้าแหย่ ดูแล้วมีความสุขน่าอิจฉา แอบคิดขึ้นมาว่า ตัวเองจะมีความสุขแบบนี้บ้างไหม แล้วอยู่ดีๆ ผมก็คิดถึงเคลวินขึ้นมา
ภาพความทรงจำต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาระหว่างผมกับเขาฉายชัดในความคิดคำนึง นึกถึงวันแรกที่ผมกับเขาเจอกัน วันที่ผมทำงานพลาด แล้วเขาหยิบยื่นโอกาสใหม่ให้ และวันเดียวกันนั้นที่ผมสูญเสียความเป็นชายให้เขาไป ทั้งที่ตั้งใจจะมอบให้ผู้หญิงที่ผมรักในวันแต่งงาน
ทุกสิ่งทุกอย่างไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นงานใหม่ เพื่อนใหม่ ประสบการณ์แปลกใหม่ และเมียใหม่ที่ผมได้รับการยัดเยียดให้มา เขาสร้างความสับสนวุ่นวายใจให้ผมไม่น้อย ต้องปรับตัวอยู่นานกว่าจะสามารถตามทันคนสองบุคลิกได้ ผมเริ่มสนุกมากขึ้น รายได้ที่มากพอ ทำให้ผมเลี้ยงดูตัวเองให้อยู่รอดได้ในสังคมกรุงเทพ และมีเหลือเผื่อแผ่ส่งให้พ่อแม่เป็นการตอบแทนบุญคุณ
ความเอื้ออาทรในฐานะประธานบริษัท ที่เคลวินมีให้ ภายใต้ท่าทีเย็นชา กับการเอาใจใส่ดูแลในฐานะภรรยา ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ เคลวินแบ่งบทบาทได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อเป็นประธานเขาก็เข้มงวดกวดขัน สั่งสอนผมจนเป็นงาน เมื่อเป็นภรรยาก็เอาอกเอาใจสามี ดูแลปรนนิบัติ ไม่ให้ผมทำอะไรเลย จนถึงวันหนึ่ง ผมก็ไม่นึกรำคาญเวลาที่เขาอยู่ข้างกาย รวมถึงสามารถที่จะมีอะไรกับเขาได้อย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
คิดไปคิดมา ความรู้สึกลบที่มีต่อเขาก็แปรเปลี่ยนกลับมารู้สึกดีดังเดิม ผมนั่งทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม และก็ได้ข้อสรุปว่าผมทำผิด ที่คิดจะตั้งศาลเตี้ยพิพากษาคน ผมเป็นเพียงแค่พนักงานคนหนึ่ง มีหน้าที่ทำงานตามที่ได้มอบหมาย ไม่ทำให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ก่อการทะเลาะวิวาทภายในบริษัท เมื่อผมไม่รู้จักควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง ปล่อยให้โมหะเข้าครอบงำ จนลงมือทำร้ายเพื่อนพนักงานด้วยกัน แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ถึงยังไง สิ่งที่ผมทำมันก็ไม่เหมาะกับการเป็นพนักงานที่ดีของบริษัท จึงเป็นเหตุผลอันควรที่เคลวินจะลงโทษผมแล้ว
สำหรับโทษที่หนักหนาสาหัสตามความคิดของผม มันก็เป็นไปตามกฎข้อบังคับ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในบริษัท ป้องกันไม่ให้พนักงานทะเลาะวิวาทกัน หากไม่ลงโทษอย่างรุนแรง คนก็ไม่หลาบจำ และอาจจะก่อความผิดอยู่เรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบริษัท ทำให้คุมพนักงานยาก และพนักงานอาจจะก่อเรื่องใหญ่โตร้ายแรง จนบริษัทไม่อาจจะรับมือไหว

หลังจากพิจารณาไตร่ตรองถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็พบว่าผมโง่ไปถนัด ที่ยื่นใบลาออก เพียงเพื่อต้องการจะหนีหน้าท่านประธาน การหนีหน้านั้นมันบ่งบอกถึงความเป็นคนขี้แพ้ของผม พอโดนทำโทษ ผมก็ไม่ยอมสู้ต่อ หันหลังให้ปัญหาโดยไม่ยอมแก้ไข ในเมื่อได้รับโอกาสดีๆขนาดนี้แล้ว ผมควรจะพิสูจน์ตัวเองว่าผมก็สามารถทำได้ ไม่ได้ไร้ความสามารถ ต้องอาศัยประธานบริษัทช่วยดันดังที่โดนกล่าวหา
ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจที่จะไม่ลาออก ตั้งใจว่าครบ 1 เดือนที่ถูกลงโทษ ผมจะกลับไปทำงานใหม่ จะใส่ความทุ่มเทลงไปอย่างเต็มที่ ทำให้คนอื่นเห็นว่าผมก็สามารถเป็นพนักงานที่ดีของบริษัทนี้ได้
ทว่าเรื่องการทำงาน กับการกลับไปบ้านมันเป็นคนละเรื่องกัน แม้ว่าผมจะหายโกรธเคลวินแล้ว แต่ความน้อยใจยังมีอยู่ ผมรู้ว่าเขาต้องกลับไปรอผมที่บ้าน ผมก็เลยไม่ยอมกลับ นั่งเถลไถลจนสวนสาธารณะปิด เลยหอบเบียร์ไปนั่งกินต่อที่ร้านลาบ แถวนั้น จนเบียร์หมด ร้านปิด และเริ่มเดินไม่ตรงทาง ผมจึงโบกแท็กซี่ให้มาส่งที่บ้านเช่า
แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคาดไว้ไม่มีผิด เคลวินมาคอยผมที่ห้องแล้ว ทันที่ที่ได้เห็นหน้า ความรู้สึกน้อยใจที่ถูกเขาดุด่า ก็กลับคืนมาอีก ทำให้ผมมึนชาใส่เขา แต่เคลวินกลับไม่ย่อท้อ ตามง้อ ตามเอาใจ จนผมเริ่มจะใจอ่อนเกือบจะเอ่ยปากยกโทษให้เขา แต่ไม่ทันจะบอก ผมก็เกิดอยากจะอาเจียนขึ้นมา จะเข้าห้องน้ำ เคลวินก็ดันมาขัดขวาง ในที่สุดผมก็ไม่ไหว อ้วกออกมา น่าขายหน้ายิ่งนัก
ความตั้งใจที่จะไม่พูด ไม่คุยกับเขาถูกล้มเลิกไป เมื่อผมเห็นเคลวินก้มหน้าก้มตาใช้ผ้าเช็ดอ้วกให้ผม ตอนนั้นผมรู้สึกสงสารเขามาก ลูกคนรวยอย่างเขา แถมดำรงตำแหน่งใหญ่โต คงไม่เคยชินกับการเอาใจใครสักเท่าไหร่ แต่เขากลับมานั่งทำให้ผม กำแพงหัวใจที่ผมสร้างไว้ทะลายลงทันที
ยิ่งตอนที่เขาตักน้ำให้ผมอาบ และสระผมให้ผม มันทำให้ผมหายบ้า และตาสว่างขึ้น ผมมัวแต่ไปยึดติดกับความคิดแบบเดิมๆ ที่ว่าชายหญิงต้องคู่กัน ทำให้หลงลืมไปว่า ผมมีคนที่แสนวิเศษอยู่ข้างๆผมตลอดเวลา ความสุขที่ผมต้องการ มันอยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงแค่ผมจะเปิดใจยอมรับหรือไม่เท่านั้น
ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจทำให้ผมเลิกงอน เลิกน้อยใจเคลวิน ตอนที่เขาก้มลงสวมกางเกงให้ผม ทำตัวเสมือนเมียทาสที่ปรนนิบัติสามีที่เป็นเจ้านาย มันทำให้ผมตระหนักว่าผมหลงรักผู้ชายคนนี้ เคลวินดีกับผมเหลือเกิน ขนาดผมงอน ผมพูดจาทำร้ายจิตใจเขา เขาก็ยังอดทน ไม่โกรธ ไม่หนีหาย แต่ก้มหน้าก้มตารับใช้ผมโดยไม่ปริปากบ่น
ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว ต้องบอกรักเขาด้วยวิธีการของผมเอง
“ขอบคุณเคนมากนะครับ ที่เล่าให้ผมฟังทุกอย่าง ผมดีใจจริงๆนะ ที่เคนเข้าใจความรักและความหวังดีของผม ขอบคุณมากจริงๆ”
เสียงของเขาสั่นเครือ ด้วยความสะเทือนใจ ผมแพ้น้ำตาอยู่แล้ว เลยยอมให้เขาร้องไห้ไม่ได้
“คนที่ทำความดี ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนสิ ในเมื่อเคลวินดีกับผมเสมอมา ผมก็ขอมอบสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของผมให้กับเคลวินกลับคืนไปยังไงละครับ ดีไหม”
มือของผมยื่นไปเช็ดน้ำตาที่เอ่อล้นจนอาบสองข้างแก้มให้เคลวิน ก่อนจะถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ดีสิครับ มันดีมากจริงๆ นี่ผมตื้นตันใจไปหมดแล้ว รอวันนี้มานานมากๆ ในที่สุดความฝันของผมก็เป็นจริงสักที”
ท่าทางปลาบปลื้มนั้นทำให้ผมพูดไม่ออก ได้แต่จ้องหน้าของเคลวิน และได้เห็นสายตาที่บ่งบอกถึงความรักความเทิดทูนของเขา มันทำให้ผมรู้สึกเต็มตื้นในหัวอก เมื่อสัมผัสได้ด้วยตาและหัวใจ ว่าเคลวินรักผมมากมายจริงๆ คำว่ารอเวลานี้มานาน มันบาดลึกลงไปในใจ

ผมเสียเวลามากมาย เพื่อตามหาใครบางคนที่ใช่ และเกือบจะสูญเสียมันไปเพราะความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง และเวลานี้ เราสองคนได้กลับมาคืนดีกันดังเดิม ผมจะไม่มีวันปล่อยเคลวินให้หลุดมือไปได้อีก ผมจะพยายามทำตัวเป็นคนรักที่ดีที่สุดของเคลวิน จะทำให้เขามีความสุขให้ได้
“แต่ผมอาจจะเป็นคนรักที่ไม่ดีเท่าไหร่นะครับ ผมไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อความสุขให้กับคุณได้ ฐานะก็ต่ำต้อยไม่เชิดหน้าชูตา การศึกษาก็ไม่สูงนัก ไม่มีอะไรจะคู่ควรกับคุณเลยจนนิดเดียว”
ปัญหาเดียวที่ผมมีอยู่ตอนนี้คือ ความไม่เท่าเทียมกันของชนชั้น ผมไม่รู้ว่าจะมอบความสุขให้เขาได้ยาวนานแค่ไหน หลังจากได้ฟังผมพูดถึงข้อกังวลของผม เคลวินก็ยื่นมือมาปิดปากไม่ให้ผมพูดอีกต่อไป
“ไม่จำเป็นเลยครับ สิ่งเหล่านั้นผมมีพอแล้ว สิ่งที่ผมต้องการคือตัวและหัวใจของเคนต่างหาก คุณคือของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิตของผมเลยครับ”
ชื่นใจจริงๆ ที่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเขา ริมฝีปากของผมคลี่ออกเป็นรอยยิ้มกว้าง ร่างของเคลวินถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดผมอีกครา ไม่ต้องมีคำพูดใดๆอีกแล้ว เราสองคนต่างรู้ว่าต้องการอะไร
ในความมืดมิด มีเพียงเสียงหอบหายใจของเราสองคน กับเสียงร้องครวญครางดังประสานกัน เราต่างคนต่างมอบความสุขให้กันและกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ผมเหมือนคนตายอดตายอยาก พอมีโอกาสได้ลองลิ้มชิมรสอาหารถูกปาก ผมก็ตะกรุมตะกรามกินแล้วกินอีกไม่ยอมเลิก ถึงจะอิ่มจนแน่นท้องก็ยังกินต่อ จนกระทั่งหมดแรงที่จะกิน ต้องนอนแผ่ผึ่งพุง โดยมีคนรู้ใจที่ร่วมทานของหวานกับผมด้วย นอนซุกตัวอยู่ใกล้ๆ
“ครบตามจำนวนที่ผมติดหนี้เคลวินหรือยัง”
หยอกเอินเขาด้วยข้อผูกมัดจากการเล่นเกมที่ผมค้างคาเอาไว้ เคลวินยิ้มเอียงอายอยู่ตรงไหล่ผม แล้วชูสามนิ้ว
“ยังเหลืออีก 3 ครั้ง”
“อะไรกัน นี่เพิ่งทำไปห้าครั้งเองเหรอ ทำไมมันเหนื่อยเหลือเกิน ยังกับทำมาแล้ว 19 ครั้ง”
แสร้งพลิกตัวก่ายหน้าผาก ทำหน้าอ่อนล้า เคลวินรีบพลิกร่างเปลือยของเขามาทับร่างผม
“ก็เคนเพิ่งเคยทำเป็นหนแรกๆนี่ครับ เลยยังไม่ชิน เดี๋ยวพอเคนรู้จังหวะแล้ว ก็จะเร็วกว่าเดิมเองแหละ”
ภรรยาของผมตอบ พลางใช้นิ้วมือเขี่ยยอดอกของผมเล่นอย่างซุกซน
“นี่กะเอากันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยใช่ไหม ผมเมาอยู่นะ จะหมดแรงแล้ว”
บอกพลางปัดมือเคลวินออกจากหน้าอกผม เพราะผมเริ่มจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้ว
“ไม่เชื่อหรอก เคนสร่างเมาแล้ว ไม่งั้นจะมีเรี่ยวแรง ต่อกรกับผมได้ไง”
ไม่พูดเปล่า มือไม้ของเขาก็ยังเปะปะไปยังน้องชายของผมด้วย โชคดีที่ผมเอามือกุมไว้ทัน ไม่อย่างนั้นคงได้เหนื่อยอีกรอบแน่
“ที่จริงก็ไม่ไหวหรอก แต่เมียท้า ใครจะยอมแพ้ล่ะ”
โต้ตอบอย่างนึกสนุก ทั้งที่จริงก็เหนื่อยใจจะขาด ลงมือรุกเองนี่มันเหนื่อยกว่าการนอนเฉยๆ ให้เคลวินจัดการเองเป็นไหนๆ แม้ว่าความภูมิใจมันจะต่างกัน แต่ถ้าต้องมาทำตามสัญญาของภรรยาจอมหื่น ผมคงได้อายุสั้น ตายคาอกภรรยาสุดที่รักอย่างไม่ต้องสงสัย
“งั้นเราต้องมาท้าเล่นเกมกันบ่อยๆแล้วละครับ เคนเองก็ชอบมีอะไรกับผมใช่ไหม”
คนพูดป้วนเปี้ยนอยู่แถวหน้าอก ตอนนี้มันเปิดช่องว่างแล้ว เนื่องจากผมใช้สองมือปิดป้องของสงวนของผมไม่ให้เคนล่วงเกิน เขาเลยโจมตีหน้าอกผมแทน

“พูดเองเออเองอีกแล้ว ผมไม่หื่นแบบเคลวินนะ”
ต่อว่าอย่างขำขำ ไม่มีใครหื่นเกินหน้าเกินตาเมียผมอีกแล้ว
“โห ขนาดไม่หื่นนะ ก้นผมระบมไปหมดแล้วรู้ไหม พรุ่งนี้จะนั่งได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้”
เขาทำเสียงง๊องแง๊งเถียงผมได้อย่างน่ารักมาก จนรู้สึกมันเขี้ยว อยากจับกดอีกครา
“ช่วยไม่ได้นี่นา ใครใช้ให้ซ่าส์ละครับ
ตอบเขาไปอย่างยียวน
“ก็ผมรักเคนนี่นา ผมถึงอยากมีอะไรกับเคนตลอดเวลาเลยรู้ไหม”
เคลวินแก้ต่างให้ตัวเอง
“รู้ว่ารักครับ แต่ช่วยถนอมผมเอาไว้ใช้งานนานๆหน่อยได้ไหม ทำแบบนี้ ผมจะอายุสั้นเอานา”
พูดไปอย่างนั้นเอง เอาเข้าจริง การมีเซ็กส์กับผู้ชายด้วยกัน ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อเราใส่ความรักเข้าไปด้วย มันกลับมีความสุขอย่างน่าประหลาด
“ไม่หรอกน่า ครบ 9 ครั้งแล้ว ต่อไปเราค่อยลดจำนวนลงก็ได้”
“เท่าไหร่ดีกันฮึ คนหื่นกาม ไหนว่ามาสิ”
ถามขำขำ ไม่จริงจังนัก เพราะบอกมากก็ไม่ให้อยู่ดี
“ก็สัก 8 ครั้งเป็นไง”
เขาตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“โห มากไปป่ะ ลดหน่อยสิ”
แสร้งต่อรอง แต่แอบบอกในใจว่าฝันไปเถอะ ไม่ให้เยอะขนาดนั้นหรอก ของดีมีน้อย ต้องให้มีความต้องการมากๆ ถึงจะปล่อยของ
“งั้นก็ 7 ครั้ง”
“ที่พูดมานี่ มีแรงไหมล่ะนั่น”
เห็นท่าทางเคลวินที่ทำเป็นนึกแล้วขำ ตอนนี้เหมือนอำกันเล่นๆมากกว่าที่จะคิดเป็นจริงเป็นจัง
“ไม่มีหรอก บอกเว่อร์ๆเอาไว้ก่อน ถ้าบอกน้อย เดี๋ยวเคนจะไม่มีแรงจูงใจ”
“ผมให้ได้เต็มที่แค่ 3 ขาดตัว ห้ามต่อรอง ไม่บอกผ่าน”
นึกสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกับเขา เคลวินยิ้มเริงร่า รีบถือเอาเป็นคำมั่นสัญญาทันที
“ 3 ก็ 3 ห้ามเบี้ยว”
“แน่นอน ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น”
“ถ้างั้นมาทำกันเถอะ เหลืออีกสามครั้งพอดี”
เขาชวนหน้าทะเล้น ในที่สุดผมก็ใจอ่อนกับเขาจนได้ ช่างมัน ถึงไงผมก็นอนตื่นสายได้ตั้งเดือน จะมอบความรักให้กันทั้งคืน ผมก็ไม่มีห่วงอะไร เคลวินต่างหากที่มีปัญหา เมื่อเสนอมาก็จัดให้ ภรรยาผมน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ ไม่แสดงความรักด้วยก็บ้าแล้ว



--------------------
end

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 07-02-2009 20:14:48
ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจนะคะ :really2: :really2:


ในที่สุดก็จบลงแล้ว :-[  ไม่รู้ว่าจะยังไงแต่มิ้นจะรีบเอาตอนพิเศษมาลงให้เร็วที่สุดนะคะ


ว่าแต่ยังไม่ได้ต้นฉบับเลยอ่ะพี่เคท



 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-02-2009 20:25:46
 :pig4: ขอบคุณจ้าชอบเรื่องนี้มากๆ

แล้วจะรออ่านตอนพิเศษนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 07-02-2009 21:28:53
ขอบคุณคุณเคทที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่าน ขอบคุณน้องมิ้นที่ขยัน post ให้ด้วยนะคะ ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย มีทั้งหวาน หื่น บางตอนก็สามารถทำให้น้ำตาร่วงได้เหมือนกัน ครบรสเลยค่ะ ชอบทุกเรื่องที่คุณเคทแต่งเลยค่ะ ขอสมัครเป็น fc คุณเคท กับน้องมิ้นตลอดไปนะคะ ... :pig4: จะรอตอนพิเศษนะคะ ... :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 07-02-2009 23:09:36
เอ่อ... สองหนุ่มเขากะจะทำให้ครบทั้ง 9 ครั้งเลยเหรอเค่อะ  โอ้วววว   :haun4:

เอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหนเค่อะ  :z1:

สงสัยต้องโด๊ป ไข่ลวกซักโหลซะล่ะมั๊ง เควิล หนุ่มเคน โฮ่ะๆ


ขอบคุณ พี่เคท (คนเขียน)  ขอบคุณ minchy (คนโพส) จ่ะ  :L2:

จะรอตอนพิเศษ คู่นี้ค่า ^^  
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 07-02-2009 23:19:58
จบแล้ววว   ขอบคุณมากครับทั้งผู้เขียนแล้วก็ผู้โพส  สนุกดีอ่า

ว่าแต่ตอนก่อนจะจบเนี่ย  ที่ทำต่อ  สรุปเคลวินก็โดนเคนทำเหรอ(หรือว่าเคลวินพักคอนเซ็ปท์ตัวเองชั่วคราวบ้างเนี่ย)

เพราะเห็นเคลวินว่า “โห ขนาดไม่หื่นนะ ก้นผมระบมไปหมดแล้วรู้ไหม พรุ่งนี้จะนั่งได้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้” :z13:

 :o8:

ยังไงก็รออ่านตอนพิเศษน๊าคับ  ขอบคุณค๊าบบ :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-02-2009 23:43:57
จบแบบมีความสุขแบบนี้ น่ารักที่สุดดดดดดดดดด  :กอด1:

ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพสต์ เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 08-02-2009 01:21:12
อิ้วๆๆ ในที่สุดก็ แฮ๊ปปี้ แอ่น สะดิง ดิ่ง ดิ้ง กิ้วๆๆ

น่ารักกันมากมายและล้นเหลือ อยากได้ตอนพิเศษคร๊า ขอตอนพิเศษๆ แบบ พิเศษสุดๆบ้างได้มะ :-[

นะๆๆ พรีสๆๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 08-02-2009 09:52:08
จบอย่างแฮปปี้ นึกว่าท่านประธานจะหื่นไม่ออกซะแล้ว

เหอๆ เคนทำผิดคาด

รอตอนพิเศษอยู่นะจ๊ะ

ปล.แอบเสียดายท่านประธานเอาคนทำผิดออกไม่ได้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 08-02-2009 10:46:42
 o13 จบเสียแล้ว ว้าว รักันๆ  :o8:

จะรอตอนพิเศษ นะจ้า o22

+1 :pig4: จ้า minchy   :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 09-02-2009 01:26:54
จบแล้วววว

ชอบเลข 9 อะ

555+

ขอบคุณค่ะ

+1

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 09-02-2009 14:15:33
 o13 ยอดเยี่ยมเลยคะ


..จะรอตอนพิเศษต่อไปนะคะ...



ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ที่เอานิยายดีๆ แบบนี้มาให้อ่านกัน


ขอบคุณทั้งคนโพส และ คนแต่ง


 :L2: :L2: :L2: :L2: ขอบคุณมากๆ คะ :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 10-02-2009 12:46:07
มารอตอนพิเศษ แล้วจ้า  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-02-2009 07:10:33
ในที่สุด เคนก็แพ้ความพยายามของภรรยา

อ่านแล้วมีความสุขจัง ขอบคุณนะครับ คุณเคท ที่มอบความสุขให้บนหน้า บอร์ด

ขอบคุณหนูมิ้น ที่ช่วยเป็นธุระมาโพสต่อให้ แต่ยังไม่หมดหน้าที่นะจะ

รอตอนพิเศษอยู่นา +1 ให้ด้วยนะหนู แล้วรีบลงเลยนะครับ ถ้าได้ต้นฉบับจากคุณเคทแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-02-2009 06:00:07
เพิ่งตามอ่านจบจบทั้งสองส่วน
พอดีไปอ่านดอกรักสีม่วงมาก่อน
เห็นบอกว่าคุณเคทจะต่อเรื่องโน้นหลังจากจบเรื่องนี้ เลยมาตามอ่านด้วย
จบแบบแฮปปี้มีความสุขด้วยอ้ะ ชอบมากมาย
แต่แอบอยากรู้ว่าเมื่อเคนตัดสินใจอย่างนี้แล้ว เหตุการณ์มันจะเป็นไงต่อ
จะได้รู้เพิ่มจากตอนพิเศษรึเปล่าคะ

ขอบคุณมากๆๆๆค่ะ :L2:
บวก 1 ให้นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 7.2.09 บทสุดท้ายมาถึงแร้ว
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 13-02-2009 08:04:20
ดี นะตอนนี้ยุ่ง ๆ มีเวลาตามอยู่ไม่กี่เรื่อง คิดถึง ทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 13-02-2009 23:07:31
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่มารอตอนพิเศษนะคะ


คือเมื่อประมาณอาทิตย์ที่ผ่านมา  พี่เคท โดนตะขาบกัดมือบวม  เลยไม่สามารถแต่งนิยายต่อได้

(พิมพ์ไม่ไหวอ่ะ)



แต่ตอนนี้อาการ ดีขึ้นแล้วค่ะ  แถมบอกว่าจะมาต่อตอนพิเศษให้   คาดว่า  วาเลนไทน์นี้จะได้อ่านกัน



ขอบคุณที่รอกันนะคะ

มิ้น
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: shibao ที่ 13-02-2009 23:30:35
ไปทำอิท่าไหนครับเนี่ย ถึงโดนตะขาบกัดมือ

หรือว่าเจ๊แกจะจับไปดองเหล้า เลยพลาด

55555+

รอครับ รออ่านเหมือนเดิม

 :L3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-02-2009 23:40:52
รับทราบจ้า ขอให้พี่เคทหายไวๆนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 14-02-2009 07:11:33
 :L2: ฝากดอกไม้เยี่ยมคุณเคทด้วยนะครับ หนูมิ้น

Happy Valentine 's Day ทั้งหนูมิ้น และคุณเคท นะครับ  :L1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 14-02-2009 07:32:00
ขอให้คุณเคทหายไวๆนะคะ
แพ้ตะขาบด้วยหรือเปล่าคะเนี่ย

ขอให้มีความสุขวันแห่งความรักกันทั้งคนโพสและคนแต่งนะคะ :L1:
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับตอนพิเศษด้วยค่ะ

(http://i715.photobucket.com/albums/ww159/namtaansai/valentine-card-001.gif)

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 14-02-2009 07:49:12
แฮปปี้วันวาเลนไทน์เดย์จ้า  :L2:

เป็นห่วงคุณเคทนะ หายไว ๆ จ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 14-02-2009 16:51:37
หายไวไว นะค้าพีเคท  เคยโดนแมงป่องต่อยเอาเหมึอน โครตปวดเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-02-2009 18:52:16
หายไวๆๆ นะคะ   :กอด1:

แล้วก็สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ   
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 14-02-2009 21:34:14
แฮปปี้  วาเลนไทน์  ค่ะ ทุกคน

 :L1:



มิ้นยังไม่ได้ตันฉบับเลย 



ถ้าได้ยังไงจะรีบมาลงให้นะคะ  ขอโทษที่ให้รอค่ะ   คาดว่าคงจะยังไม่ได้ลงให้วันนี้ :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: Silent_Y ที่ 14-02-2009 23:25:00
มาฝาก รัก และ กำลังใจ ให้ พี่เคท หายเร็วๆ นะฮับ  :3123:
สำหรับน้องมิ้นท์ นี่เลย  :กอด1:

 :L1: Happy Valentine......คร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 14-02-2009 23:34:14
:m1: "HAPPY  :L2: VALENTINE" :m3:

minchy พี่เคท และเพื่อนๆ จ้า


รอตอนพิเศษนะคะ พี่เคทหายไวไวนะ


[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 15-02-2009 07:47:06
เข้ามารอตอนพิเศษด้วย

ขอให้มือหายเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 19-02-2009 11:25:01
ขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ ตอนนี้มือหายดีแล้ว (มีแค่รอยแผลเป็น) ตอนนี้ก็เขียนเรื่องนี้ต่อไปบ้างแล้วค่ะ ตอนพิเศษลงในบ้านตัวเองไปเยอะแล้ว เดี๋ยวน้องมิ้นก็คงเอามาแปะให้ค่ะ

รักคนอ่านทุกๆคนนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 19-02-2009 12:52:39
อิอิ ดอดมาจิ้ม  :z13: คุณเคท
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 13.2.09 แจ้งข่าว
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 19-02-2009 17:00:24
+1 ให้คุณเคท สำหรับข่าวดี



คุณมิ้นท์  รออยู่นะคะ... :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-02-2009 19:15:30
มิ้นมาโพสต์  ตอนพิเศษให้แล้วน้า

อืมพี่เคท  ตอนพิเศษนี่  ยาวได้ใจมากอ่ะ   เรียกว่าภาคต่อได้เลยมั้ง :z2:




มาแล้วจ้า เพิ่งหายจากอาการตะขาบกัด มือไม่บวมแล้วล่ะ แต่แผลนี่สิ มันเป็นแผลเป็นนูนขึ้นมาตรงที่ถูกกัดอ่ะค่ะ แล้วมันคัน

แรกๆ พี่เคทก็พอห้ามใจได้ไม่ให้เกา แต่พอมันคันมากๆ ก็เลยขอเกาหน่อยน่า เกาอีกนิด คราวนี้เป็นเรื่องเลย ตรงแผลมัน

ถลอกปอกเปิก ช้ำเลือดช้ำหนองเลยอ่ะ แง้ ไม่น่าซนเลยช้าน แถมลืมกินยาตามเวลาด้วย ฮือ   

.............................................

แต่ก็นะ ไหนๆ สัญญาว่าจะลงตอนพิเศษ ก็เลยเอามาลงให้ตามที่บอกไว้ นะคะ ล่าช้าไปหน่อย เพราะยังไม่หายป่วย ไม่ว่า

กันนะคะ

...............................................



ตอนพิเศษ

“ผมกลับมาแล้วครับ”

ทันทีที่เปิดประตูบ้าน ผมก็ส่งเสียงเข้าไปก่อน เพื่อให้สามีสุดที่รักของผมได้รับรู้ว่า ณ ตอนนี้ ผมได้กลับมาถึงบ้านของเรา

สองคนแล้ว

ตั้งแต่เราสองคนปรับความเข้าใจกันได้เมื่ออาทิตย์ก่อน ผมก็ย้ายจากเพนท์เฮ้าส์มาอยู่กับคุณสามีที่ห้องเช่า ยอมละทิ้งความ

สะดวกสบายทั้งหลายทั้งปวงมาอยู่กับชายหนุ่มอันเป็นที่รัก เนื่องจากว่าเขาของผมไม่ยอมย้ายตามผมไปอยู่เพนท์เฮ้าส์ด้วยกัน

แม้จะรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง แต่ผมก็เข้าใจความรู้สึกของเคน เขาไม่ใช่ผู้ชายนักฉวยโอกาส ที่จะอาศัยความรักความภักดีที่ภรรยา

ที่แสนจะร่ำรวยมีให้เพื่อตักตวงผลประโยชน์ใส่ตัว เขายังเป็นชายหนุ่มที่เจียมตัว พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี แม้ว่าผมจะเสนอให้

เขาไปอยู่ด้วยกัน เพื่อที่เขาจะได้มีความสะดวกสบายขึ้น แต่เขาก็ปฏิเสธ โดยบอกว่า เขาอยู่ที่นี่สบายใจกว่า และไม่อยากให้

ใครมองว่า เขาเกาะเมียกิน

เมื่อเขาไม่ยอมไปอยู่ที่เพนเฮ้าส์ ผมก็เลยย้ายข้าวของบางส่วนมาอยู่กับเขาที่ห้องเช่าเสียเลย ห้องที่เล็กแคบอยู่แล้ว พอมีข้าว

ของเครื่องใช้ของผมใส่เข้าไป ก็เลยแคบไปถนัดตา แต่ผมกลับมีความสุขมากกว่าที่จะต้องอยู่ห้องกว้างใหญ่เพียงลำพัง โดย

ที่สามีอยู่อีกที่หนึ่ง

ตอนแรกเคนเป็นกังวลใจ เมื่อผมอ้อนขอมาอยู่ด้วย เขากลัวว่าผมจะลำบาก เพราะบ้านเช่าของเขาทั้งแคบ ทั้งร้อน และไม่มี

ความสะดวกสบาย แถมสภาพแวดล้อมก็ไม่ชวนให้อยู่อาศัยเท่าไหร่ ทั้งเปลี่ยว ทั้งลึก คุณหนูลูกคนรวยอย่างผม คงอึดอัด

และไม่มีความสุข แต่ผมก็ยืนยันกับเขาว่าผมอยู่ได้ ที่ผ่านมาผมก็เคยมาอยู่ด้วยกันกับเขาช่วงหนึ่ง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่น่าอยู่

เหมือนบ้านผม ทว่าสภาพแวดล้อมก็ไม่ได้เลวร้าย การมีเขาอยู่ด้วย ช่วยทำให้บรรยากาศในบ้านดูอบอุ่น สดชื่น เต็มไปด้วย

กลิ่นไอของความรัก ผมมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆเขา

ในที่สุดเคนก็เลิกคัดค้านผม และยอมตามใจให้ผมมาอยู่ด้วย เพราะผมได้แสดงเจตนารมณ์อันแน่แน่วว่า เขาอยู่ไหน ผมอยู่

ด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ในเมื่อเขาไม่อยู่กับผม ผมก็ต้องมาอยู่กับเขา เราเป็นสามีภรรยากัน ผมไม่มีวันแยกจากสามีสุดที่

รักของผมเด็ดขาด เคนโต้เถียงไม่ได้ ก็เลยไม่ว่าอะไรผมอีก แถมยังทำตัวน่ารัก ด้วยการเรียนรู้บทบาทการเป็นสามีที่ดี นอก

จากจะช่วยผมทำการบ้าน ตอนกลางคืนแล้ว เขายังพยายามแบ่งเบาภาระด้วยการช่วยทำงานบ้านอีกด้วย

ทว่าผู้ชาย ยังไงก็เป็นผู้ชายวันยังค่ำ เคนไม่เก่งเรื่องการบ้านการเรือนเหมือนผม เขาซักผ้าไม่สะอาด กวาดบ้านไม่เกลี้ยง ฝุ่น

และหยากไย่ ยังคงมีอยู่ให้เห็นประปราย อาหารก็ทำไม่อร่อย แถมซ้ำยังทำถ้วยชามแตกอยู่เรื่อยๆ จึงเป็นหน้าที่ศรีภรรยา

อย่างผมที่ต้องรับอาสาทำแทน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน

วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากผมงับประตูบ้านเรียบร้อย ผมก็เดินตามหาเคน ซึ่งไม่ต้องใช้เวลานานมาก เพราะห้องแคบๆ เดินไม่กี่

ก้าว ก็เห็นกันแล้ว ผมไปเจอเคนอยู่หน้าเตาแก๊ส เขากำลังลงมือทำอาหารอยู่ รอบตัวเขา มีกองผัก ถุงพลาสติก กระดาษ

เปลือกไข่กระจายเกลื่อน สามีสุดที่รัก กำลังพยายามทำอาหารให้ผมทานอยู่แน่ๆ คิดแล้วก็ปลื้มกับความพยายามของเคนยิ่ง

นัก แต่ผมกินอาหารไหม้ๆ กับข้าวเค็มไปหวานไปไม่ได้รส ไม่ได้อีกแล้ว

“เคนครับ ทำอะไรอยู่”

ผมย่องไปด้านหลังเขา แล้วโอบเอวเขาไว้แนบแน่น แนบหน้าลงกับแผ่นหลังของเขา ได้กลิ่นเหงื่อจากตัวของเคน มันเป็น

กลิ่นที่กระตุ้นกำหนัดชะมัดยาด ได้กลิ่นแล้วเกิดอารมณ์จัง

“กลับมาแล้วเหรอครับเคลวิน เหนื่อยไหมคนดี”

สามีถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนผมเคลิ้ม เขาเอี้ยวตัวมาหาผม และจุ๊บที่หน้าผากผมทีหนึ่ง ผมรู้สึกขนลุก ร่างกายเริ่มมี

ปฏิกิริยา เลยกอดเขาแน่น พยายามระงับอารมณ์ของตัวเอง ด้วยกลัวว่าจะห้ามใจไม่อยู่แล้วเผลอจับเขากดลงกับพื้น แทนที่

จะได้กินข้าว จะกลายเป็นกินเคนแทน

“เหนื่อยนิดหน่อย แต่กลับมาบ้าน แล้วได้เจอเคน ผมก็หายเหนื่อยแล้ว”

ตอบเสียงอ้อน พลางเอาจมูกถูไถ กับจมูกของสามี อยากจะแสดงให้เขารู้ว่าผมรักเขาแค่ไหน ยิ่งนานวัน ผมก็ยิ่งรักเขามาก

ขึ้นทุกที จนตระหนักแก่ใจตัวเอง ว่าชาตินี้ผมคงขาดเขาไม่ได้อย่างแน่นอน

“วันนี้ทำอะไรให้ผมกินเหรอครับ”

“ผมกำลังจะทอดปลาครับ คิดว่าง่ายที่สุดแล้ว แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด”

เขาบอกผมเสียงอ่อยๆ ผมชะโงกข้ามไหล่เขาไปดูที่กระทะ เห็นปลานิล ตัวใหญ่อยู่ในน้ำมันที่ท่วมมาเสียครึ่งกระทะสี

เหลืองน้ำตาล แต่หนังลอกเว้าๆแหว่งๆ ติดอยู่ตรงก้นกระทะและตะหลิว ที่ฝาผนังมีคราบน้ำมันกระเซ็นเป็นจุดๆ

“ใช้ไฟแรงมากไปหรือเปล่า ระวังมันจะไหม้เอานะครับ”

ผมก้มลงหมุนปุ่มปิดแก๊สที่เขาเปิดจนแรงมากไปอยู่ในระดับไฟกลางๆ จากนั้นก็ยืดตัวขึ้น มองสำรวจไปทั่วตัวเขา อย่างที่

ผมคิดไม่ผิดเลย มีรอยแดงๆ อยู่ตรงแขน ของเขาหลายแห่ง เหมือนโดนน้ำมันกระเด็นใส่ พอลองจับมือของเคนขึ้นมาดูก็

เห็นนิ้วชี้กับนิ้วกลางมีพลาสเตอร์ผันแผลปิดไว้ เป็นพลาสเตอร์อันใหม่ รวมกับรอยเก่าๆ ที่เกิดขึ้นจากการถูกมีดบาดเมื่อทำ

กับข้าว ก็ครบ สิวนิ้วพอดี ผมถึงกับน้ำตาซึม เมื่อเห็นความลำบากกายที่สามีได้รับ จากการพยายามทำตัวเป็นพ่อบ้านให้กับ

ผม

เคนคงเห็นว่าผมทำตาแดงๆ เหมือนจะร้องไห้ เขาก็ยกมือขึ้นมาลูบที่ใบหน้าผม ผ้าพันแผลที่ติดนิ้ว ลากไปตามแก้ม มันดู

สากๆ ยิ่งทำให้ผมอยากจะร้องไห้มากขึ้น เคนต้องเจ็บตัวเพราะผม ช่างน่าสงสารจริงๆ
“อย่าขี้แยสิ มันทำให้ผมรู้สึกผิดนะครับ ดูสิ แม้กระทั่งหน้าที่พ่อบ้านที่ดี ผมก็ทำไม่ได้”

ว่าจะไม่ร้องแล้วนะ พอได้ยินคำพูดจากปากเขาแบบนี้ ผมก็ทนไม่ไหว น้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ผมผวาเข้ากอดเขา

แน่น แล้วพูดเสียงเครือ

“เคนเป็นพ่อบ้าน เป็นสามีที่ดีที่สุดแล้วครับ แค่รักผม ผมก็พอใจแล้ว เรื่องงานบ้านงานเรือน ผมทำเองได้ครับ ผมปรนนิบัติ

เคนได้”

“แต่ผมไม่อยากเอาเปรียบเคลวินนะ เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ผมก็อยากแบ่งเบาภาระของเคลวินบ้าง คุณไปทำงานมาทั้ง

วัน กลับมาเหนื่อยๆ แล้วผมจะนั่งอยู่เฉยๆ รอให้คุณทำกับข้าว และทำความสะอาดบ้านให้ผมได้อย่างไร”

คำพูดของเขาทำให้ผมชื่นหัวใจยิ่งนัก โดยเฉพาะคำว่า เราอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว มันทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด นั่นสินะ

เราอยู่กันเป็นครอบครัวแล้ว เขาเป็นสามี ผมเป็นภรรยา เคนพยายามทำหน้าที่พ่อบ้าน เพื่อเอาใจผม ทำให้ผมมีความสุข แล้ว

ผมล่ะ จะทำเพื่อสามีสุดที่รักไม่ได้เชียวหรือ ยังไงก็ตาม งานบ้านงานเรือน มันเหมาะกับผมมากกว่าเขาอยู่แล้ว ถึงจะไปทำ

งานมาเหนื่อยแค่ไหน กลับถึงบ้าน ผมก็พร้อมที่จะทำหน้าที่แม่บ้านให้เขาอยู่ดี

“ผมเต็มใจครับเคน ผมอยากทำอาหารให้คุณทาน อยากทำบ้านของเราให้เรียบร้อยสะอาดสะอ้าน เพราะมันเป็นบ้านของเรา

สองคนครับ”


--------------------

TBC




หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-02-2009 19:18:53
แถมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

-------------------------------------------




ไม่อยากให้เขาเป็นกังวลในเรื่องนี้ ผมรู้ว่าเคนคิดมาก เขาไม่อยากเอาเปรียบผม อยากช่วย อยากเห็นผมสบาย เขากังวลใจว่า

ตัวเองเป็นต้นเหตุให้ผมต้องมาตกระกำลำบาก ละทิ้งชีวิตที่แสนจะเพียบพร้อมทุกอย่าง อยากได้อะไรก็ต้องได้ มาอยู่บ้าน

เช่าซ่อมซ่อ เทียบไม่ได้กับเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของเขาสักนิด




“ได้ฟังอย่างนี้แล้ว ผมก็รู้สึกว่าเป็นสามีที่แย่มากๆ ที่ทำให้คุณต้องลำบาก ชักอยากจะมีบ้านสักหลัง ไม่ต้องใหญ่มาก เอาไว้

อยู่ด้วยกัน คุณกับผม มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ คุณจะได้ไม่ต้องลำบากอย่างเช่นทุกวันนี้”

เคนปรารภขึ้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเขาพูดเรื่องนี้ มันทำให้ผมรู้สึกดีใจที่สุด เขาอยากมีบ้านเพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน

บ้านที่เคนจะหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แม้ว่าตอนนี้จะยังมองไม่เห็นทาง แต่ผมก็อดเป็นปลื้มไม่ได้

“สักวัน ผมจะมีบ้านเป็นของตัวเองในกรุงเทพ ไม่ใช่ห้องเช่าแคบๆอย่างนี้ ไม่รู้ว่าเคลวินจะอยากมาอยู่กับผมหรือเปล่า”

เขาถามผม แล้วนิ่งรอคำตอบ ผมรีบพยักหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิด

“อยากสิครับ คุณอยู่ไหน ผมอยู่ด้วย”

“แต่เงินเดือนผมไม่เยอะมากนัก ถ้าจะเก็บรวบรวมเพื่อซื้อบ้าน ก็คงจะได้บ้านหลังเล็กๆ อาจจะใหญ่กว่าห้องเช่า แต่คงเล็ก

กว่าเพนท์เฮ้าส์ของคุณแน่ๆ”

สีหน้าของสามีสุดที่รักบ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ เขาคงไม่เชื่อว่าจะทำให้ผมมีความสุขได้ในวันข้างหน้า ผมเองก็ไม่ได้คาด

หวังว่าเขาจะต้องทำให้ผมถึงขนาดนั้น เพราะรู้ว่ากำลังทรัพย์ของเคนมีแค่ไหน ผมไม่เคยกังวลใจกับการมีบ้านหลังใหญ่

หลังโต เพราะตลอดชีวิตผมเคยสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ตลอด แต่สิ่งที่ผมไม่เคยหาได้เลยคือรักแท้ ดังนั้นเมื่อผมเจอแล้ว ผมก็ไม่

อยากให้เรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราสองคนอยู่ร่วมกันไม่ได้

“ขนาดไม่สำคัญหรอกครับ ผมอยู่ได้ทุกที่ที่มีคุณอยู่ แคบสิดี เราจะได้ไม่ต้องหากันนาน เดินไปเดินมา ผมก็ได้เจอเคนแล้ว

อบอุ่นดีออก”

บอกเขาไปตามที่ใจคิด จะมีประโยชน์อะไร ถ้าจะอยู่บ้านหลังใหญ่โต แต่หาความอบอุ่นไม่ได้ บ้านหลังเล็กที่เปี่ยมไปด้วย

ความรักที่คนสองคนมีให้กัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผม

เคนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน เขาไม่พูดอะไรอีก เราสองคนแค่มองตา ก็รู้กันในใจ ว่าอีกฝ่ายสำคัญกับเรามากแค่ไหน

“เคลวินมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีไหมครับ”

“เคนเหม็นผมเหรอ”

เพื่อเช็คดูว่าตัวเองมีกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์หรือเปล่า ผมก็ยกแขนขึ้นสูงเพื่อดมกลิ่นตัวเอง มีคนไทยบางคนเคยบอกผมว่า

ฝรั่งจะกลิ่นตัวแรง คงเป็นเพราะฝรั่งอยู่เมืองหนาว เลยไม่ค่อยอาบน้ำบ่อย จนติดเป็นนิสัย แต่ผมมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็ก ๆ ก็

เลยติดนิสัยการอาบน้ำแบบคนไทย ซึ่งต้องอาบน้ำทุกวัน และดูแลเรื่องกลิ่นกายของตัวเองอย่างดี ไม่มีทางที่คนข้างๆ จะได้

กลิ่นตัวผมแน่ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่มั่นใจ ด้วยกลัวว่าจะทำให้สามีสุดที่รักรังเกียจกลิ่นจนไม่กล้าเข้าใกล้ผม

“ไม่หรอกครับ แต่ผมเห็นว่าเคลวินทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน อาบน้ำแล้ว จะได้ช่วยทำให้สดชื่นบ้าง”

พอเขาอธิบายเหตุผลว่าเขาถามเพราะอะไร ผมก็ค่อยยิ้มออก เอียงแก้มไปใกล้เขา ให้สามีได้หอมแก้มผมเพื่อเป็นการยืนยัน

ว่าไม่ได้เหม็นจริงๆ เคนก็แสนจะน่ารัก ยื่นจมูกมาสูดกลิ่นที่ผิวแก้มแล้วส่ายหน้าประกอบคำพูดตัวเอง

“ถึงจะไม่เหม็น แต่ไปอาบน้ำให้สบายตัวดีกว่า”


 เขารุนหลังผมให้เดินเมื่อเห็นผมทำท่าอิดออด

“ผมเตรียมผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าที่จะใส่เปลี่ยนไว้ให้บนเตียงแล้วนะครับ เห็นเคลวินชอบใส่เสื้อกล้าม กับนุ่งกางเกงเลบ่อยๆ

ผมก็เลยเตรียมไว้ให้”

น่ารักจริงๆสามีผม ช่างสังเกตเสียด้วยว่าผมชอบใส่อะไร

“ผมรออาบน้ำพร้อมเคนไม่ได้เหรอครับ”

ต่อรองเขา เพราะอยากช่วยเคนทำกับข้าว เสร็จแล้วจะได้ไปอาบน้ำด้วยกัน ผมชอบที่จะเห็นเคนตัวเปียกท่ามกลางสายน้ำ

มันดูเซ็กซี่ดี

“ห้องน้ำมันแคบ เข้าไปทีละคนน่ะดีแล้ว”

เคนไม่ยอมหลงกล เขาต้องรู้แน่ๆว่าผมคิดจะทำอะไร หมั่นไส้คนรู้ทันนัก มาเหนื่อยๆ เอาใจหน่อยก็ไม่ได้

“เราก็เคยอาบน้ำด้วยกันออกบ่อยๆ”

ยังไม่ยอมแพ้ อ้อนชวนเคนเผื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ ทว่าสุดที่รักของผมไม่ยอมทำตาม กลับรุนหลังให้ผมเดินมาที่ห้องน้ำ และ

เดินไปที่เตียง หยิบเสื้อผ้าที่เตรียมไว้มาใส่มือผม พอเห็นผมยืนนิ่ง ทำหน้าดื้อๆ เขาก็ผลักผมเบาๆเข้าห้องน้ำ จับผ้าในมือผม

มาวางที่ราวเหนือหัว จากนั้นก็ทำท่าจะเดินออกไป ผมเลยใช้มายาครั้งสุดท้าย

“ถอดเสื้อให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”

“เคลวิน ....”

สามีส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ เขาทำหน้าดุใส่ผม

“เป็นผู้บริหารบริษัท มีลูกน้องมากมาย ไม่ใช่เด็กๆนะครับ อย่าอ้อนนะ ทำเองก็ได้ไม่ใช่เหรอ”

“ก็...ก็...ผมอยากให้เคนทำให้ผมบ้างอ่ะ”

ทำเสียงออดอ้อน ที่จริงผมเกลียดการทำตัวแอ๊บแบ๊ว ปัญญาอ่อน เพราะอายุอานามผมก็เลยวัยนั้นมาแล้ว แต่เวลาอยู่กับคนที่

ผมรัก ผมกลับอยากทำตัวเป็นเด็กๆ มันเป็นอารมณ์ของคนที่อยากให้คนใกล้ตัวตามใจเราบ้าง แคร์เรา ทำอะไรให้เราเท่านั้น

แต่ถ้าเคนไม่ทำให้ ผมก็ไม่ได้น้อยใจอะไร แค่อ้อน เผื่อฟลุ๊คเท่านั้นเอง

“ก็ได้ แต่ครั้งนี้ทำให้แค่อีกครั้งเดียวนะ”

แล้วเคนก็ตามใจผม ตั้งแต่วันที่เขายอมรับผมเป็นภรรยา เคนก็ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหลายต่อหลายอย่าง โดยเฉพาะการตามใจ

ผม ถ้าผมเสียคน เคนก็มีส่วนนิดหนึ่ง เพราะเคนมักไม่ค่อยขัดเวลาผมทำมารยาสาไถย บางทีเขาทำเป็นรับปากผมเหมือนกับ

เสียไม่ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ กริยาที่ปฏิบัติกับผมนั้นอ่อนโยน ออกมาจากความรู้สึกของเขาที่อยากดูแลผมจริงๆ และยิ่งเคนตาม

ใจผมเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอยากอ้อนเคนมากเท่านั้น เพราะมันทำให้ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่เขาแคร์ความรู้สึกของผม เหมือนว่าผม

เป็นของมีค่าสำหรับเขา และยิ่งทำให้ผมรักเขามากขึ้นไปอีก

“ครับ”

รับคำเสียงหวาน และยืนคอยให้เคนถอดเสื้อผ้าให้ ในใจก็นึกแผนการที่จะอาบน้ำกับสุดที่รักให้ได้ ตั้งแต่สูดกลิ่นเหงื่อจาก

ตัวเคน มันทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมา และต้องการเคนมากมาย อยากปล้ำเคนใจจะขาด ที่จริงผมอยากจะแสดงความรักกับ

เคนทุกวันด้วยซ้ำ อยากให้รู้ว่าผมรักและต้องการเขามากแค่ไหน และเป็นการผูกมัดใจและกายของเคนด้วย

ทว่าอยู่ดีๆ จะปล้ำสามีเลยก็ไม่ได้ เคนยิ่งค่อนขอดว่าผมเป็นภรรยาแสนหื่นอยู่ด้วย กลับถึงบ้านจะแสดงความรักแบบลึกซึ้ง

กับสามีทันทีก็ดูไม่เข้าท่า สามีจะว่าเอาได้ ว่าในหัวผมคิดเป็นแต่เรื่องใต้สะดือ ดังนั้นผมต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมในการที่จะทำให้

เคนยินยอมพร้อมใจกับผมด้วย จะได้ไม่ต้องถูกต่อว่า


--------------------

พรุ่งนี้เจอกันน้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-02-2009 19:53:44
 :laugh: รออ่านพรุ่งนี้ยังไม่จุใจเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 19-02-2009 19:55:38
ฮ่าๆนึกภาพหนุ่มเคน ทำหน้าที่พ่อบ้าน ลุกขึ้นทำกับข้าวแล้ว   :laugh:
ให้เควิลทำต่อไป เหอะดีแล้ว
มิใช่อะไรกลัวว่า ...กลัวเคนจะเฉือนนิ้วตัวเองอีก..แค่นี้ก้อพันแผลครบสิบนิ้วไปแล่ะ

รอทำหน้าที่ บนเตียงดีที่สุดแล่ะเคนอ่ะ เอิ้กๆ  
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 19-02-2009 21:24:15
รอตอนต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 19-02-2009 21:30:59
มาเข้าแถว อย่างเป็นระเบียบ รอจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 19-02-2009 21:46:15
อย่าลืมสัญญานะ หนูมิ้น
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 19-02-2009 22:46:50
มาต่อคิวรอด้วยคนคับ

 :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 19-02-2009 22:50:50
เอ่อ ปลาที่ทอดไว้ไหม้แล้วมั้ง

มั่วแต่อ้อนกันอยู่นี่ 555

ปล. รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 20-02-2009 00:32:15
เอ่อ ปลาที่ทอดไว้ไหม้แล้วมั้ง

มั่วแต่อ้อนกันอยู่นี่ 555

ปล. รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

5555 คิดเหมือนกันเลยนะ
แค่หรี่แก๊สเอง ยังมะได้ปิดเตาเลย ปลาจะไหม้มั้ยล่ะนั่น

ขอบคุณคุณเคทมากๆนะคะ ยังไม่หายดีก้อยังมาต่อให้ น่ารักมากๆ
ขอบคุณคนโพสด้วยจ้า บวก 1 ให้เลยจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 20-02-2009 01:02:17
รอๆๆๆๆๆๆ

อิๆๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.2.09 ตอนพิเศษมาแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 20-02-2009 01:07:28
รออ่านตอนต่อไปนะครับ

ขอบคุณที่เอามาต่อให้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 20-02-2009 20:06:46
มาตามสัญญา


ตอนพิเศษ [2]


-----------------------------



เสื้อผ้าทุกชิ้นของผมถูกถอดลงไปกองอยู่กับพื้น เหลือแต่ปราการด่านสุดท้ายของท่านชาย เขาไม่ได้ถอดให้กับผม เพราะเห็นว่าผมจะอาบน้ำ แค่นี้คงถอดเองได้ ไม่ต้องให้เขาช่วย ซึ่งผมก็พอใจแค่นั้น พอเขาหมุนตัวกลับจะออกจากห้องน้ำ ผมก็ใช้ขันจ้วงลงไปในถังที่รองน้ำไว้เต็ม แล้วสาดใส่เคนจนตัวเปียกโชก

“จะเล่นสงกรานต์กันตอนนี้หรือไงหือ ...ยังไม่ถึงเวลาสักหน่อย”

เขาหันมาทำตาดุใส่ผม แต่ผมไม่กลัวหรอก เพราะผมวางแผนไว้แล้วว่าจะทำอย่างไร ผมยิ้มสู้ตาดุของเขา ส่งตาหวานให้ แล้วก้าวเข้าประชิด

“ไหนๆเคนก็ตัวเปียกแล้ว เรามาอาบน้ำพร้อมกันนะครับที่รัก”

มือไม้ไปพร้อมกับคำพูด ผมดึงเสื้อยืดออกจากตัวเคนอย่างรวดเร็ว จนร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่า แล้วผวากอดรัดเข้าไว้แน่น เอามือประคองศีรษะของเขาเอาไว้ก่อนจะประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของเขา แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นๆของเคนด้วย

“เจ้าเล่ห์นักนะ”

สามีทำเสียงเหมือนระอาใจ ทว่าแขนของเขาก็สอดเข้ามากอดรัดผม และสนองตอบจูบผมอย่างเร่าร้อน ตอนนี้เคนเก่งขึ้นมาก จุมพิตของเขาไม่ต้องอาศัยผมนำร่องอีกแล้ว เขาสามารถสร้างความเคลิบเคลิ้มให้กับผมได้ด้วยตัวเอง แถมยังเป็นจูบที่ทำให้ผมอ่อนระทวย หมดเรี่ยวหมดแรงทุกครั้ง

“เคนครับ ผมรักเคน”

“อื้อ ผมรู้ครับ”

คนน่ารักของผมตอบเสียงกระเส่า เขาน่าจะมีอารมณ์บ้างแล้ว ผมคิดในใจอย่างลิงโลด และพยายามเล้าโลมให้เคนเกิดการตอบสนองทางกายมากขึ้น โดยไม่รอช้า มือของผมป่ายเข้าตรงกึ่งกลางลำตัวของเคนทันที ลูบคลำอย่างทนุถนอม ก่อนจะเน้นมือนวดเฟ้นน้องชายผ่านกางเกงที่เขาใส่อยู่บ้าน สักพักผมก็ปลดกระดุมกางเกง และรูดซิบลงสอดมือลงไปสัมผัสแก่นกายที่ขึงตึงของสามีสุดที่รัก เพื่อสร้างความกำหนัดให้เคนมากยิ่งขึ้น

สุดที่รักของผมสูดปากเหมือนทานของเผ็ดร้อนเข้าไป ยามที่ผมกอบกุมน้องชายของเขาไว้ในอุ้งมือ เคนมองผมตาปรอย ท่าทางพร้อมเต็มที่สำหรับการมอบความรักให้กัน

มือของผมเลื่อนไปดึงกางเกงของเคนออกจากตัว โดยที่สามีของผมขยับร่างกายให้ผมได้ถอดกางเกงของเขาได้อย่างถนัด จนในที่สุด มันก็เลื่อนลงไปกองที่ข้อเท้า เคนสลัดกางเกงไปทางหนึ่งก่อนที่จะผวาเข้ากอดรัดผมแนบแน่น และมอบจุมพิตที่เร่าร้อนให้

เราสองคนยืนแลกจูบกันครู่หนึ่ง จากนั้นเคนก็ดันผมไปติดกำแพงห้องน้ำ เขาใช้ขันตักน้ำในถังราดรดลงมาที่ตัวผมสองสามขันจนตัวเปียกไปหมด จากนั้นก็หยิบสบู่มาถูให้ทั่วตัว

ฟองสบู่ช่วยทำให้เกิดความลื่นไหลอย่างดี ทำให้มือของเคนเคลื่อนที่ไปทั่วตัวของผมได้เร็วขึ้น ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวามรัญจวนใจ ผมส่งสายตาเซ็กซี่มองเคนเพื่อยั่วยวนให้เขาหวั่นไหวยิ่งขึ้น ตาปรือ ฟันบนกัดริมฝีปาก มีเสียงสูดปากรอดไรฟันดังเป็นระยะ เมื่อเคนลูบไล้ไปบนจุดที่อ่อนไหว

เคนช่วยอาบน้ำถูสบู่ให้ผมจนสะอาดสะอ้าน ทั้งที่เขาไม่เคยทำให้ผมมาก่อน ผมรู้สึกประทับใจสามีอย่างมาก ที่เขาเอาใจผมถึงเพียงนี้ ผมก็เลยตอบแทนสามีด้วยการอาบน้ำให้เขาบ้าง ทว่า แค่ตักน้ำราดร่างเคนจนเปียกโชก ได้แค่นั้น ผมก็พ่ายแพ้ความเย้ายวนตาที่เห็น ร่างเปลือยเปียกโชกด้วยน้ำของเคนมันดูเร้าใจ จนผมอดไม่ไหว ต้องเป็นฝ่ายเริ่มรุกรานเคนอีก

ในที่สุดผมก็ไม่ได้ช่วยเคนอาบน้ำอย่างที่ตั้งใจ เพราะผมเปลี่ยนมาเป็นอาบรักให้เคนแทน เราต่างกอดรัดและผลัดกันปลุกเร้าจนเราสองคนเริ่มรู้สึกร้อนแรงด้วยกันทั้งคู่ ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

ผมพลิกร่างของเคนให้หันหน้าเข้าหาผนัง จากนั้นก็ใช้สองมือช้อนสะโพกของเคนขึ้นรองรับกายแกร่งของผมที่ค่อยๆแทรกเข้าไปในร่างของเขาอย่างช้าๆ

เคนผวาเฮือก ครางออกมาเสียงลั่น มือที่ทาบอยู่กับผนังเกร็งทั้งสองข้าง ความเปียกลื่นจากน้ำ ทำให้ร่างของเราผสานกันได้ไม่ยากนัก แขนของผมสอดกอดรัดเคนเมื่อแทรกร่างเข้าไปจนหมด

หลังจากหยุดให้เคนได้ปรับตัวสักพัก ผมก็เริ่มขยับโยกสะโพกเป็นจังหวะ มือของผมสองข้าง รั้งสะโพกของเคนให้เข้ามาหา

ประสบการณ์สอนให้เคนรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ถึงจะได้รับความสุขที่ผมมอบให้อย่างเต็มที่ เขาขยับสะโพกเป็นจังหวะสอดรับกับการขยับของผม

“อา...ดีไหมครับ เคน.....”

กระซิบถามเสียงพร่า มือข้างหนึ่งแตะสะโพกของเคน ส่วนอีกข้างอ้อมไปด้านหน้า เพื่อปลุกเร้าน้องชายของเคนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

“อืม...สุด...สุดยอด...ครับ...”

เสียงของเคนเริ่มขาดหายเป็นห้วงๆ แต่ก็ยังพอฟังออก

“เดี๋ยวนี้เคนเก่งขึ้นมากเลยครับ ผมเองก็รู้สึกสุขสุดๆเลย”

พูดให้สามีชื่นใจ เดี๋ยวนี้เคนไม่ใช่เด็กอนุบาลแล้ว แต่ข้ามขั้นเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และในไม่ช้าไม่นาน เขาก็คงเทียบชั้นกับครูอย่างผมได้ ถึงวันนั้นแล้ว เราก็คงจะสามารถรักกันได้ทุกวันอย่างสนุกสุดเหวี่ยง

“ดีใจจัง ที่เคลวินชอบ”

เขาตอบกลับมาแทบไม่เป็นเสียง เพราะผมเพิ่มแรงในการโหมกระแทก จนร่างเคนไหวสั่นใต้ร่างผม มือก็กระตุกรูดรั้งไม่หยุด

“อา...อึก ..อ๊า.....”

สามีผมครวญครางเสียงลั่น เมื่อผมเคลื่อนไหวทั้งสะโพกและมือไม่ยอมหยุด

“ร่างกายคุณตอบสนองดีเยี่ยมมากเลยครับ”

กล่าวชมเขา เมื่อแก่นกายถูกตอดรัดจากช่องทางเล็กแคบ จนทำให้ผมรู้สึกเสียวซ่านไปหมด จนต้องหยุดเป็นพักๆ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะทะลักทะลายความสุขเร็วเกินไป จูบและลูบไล้ ถูกนำมาใช้สลับกับการขยับเคลื่อนไหวสะโพก

“ผมรักเคนที่สุดรู้ไหมครับ”

อดไม่ได้ที่จะบอกรักเขาอีก

“อ๊า...อื้ม ....”

เคนครวญครางแทนคำตอบ เสียงของเขาแหบพร่า เพราะถูกดำฤษณาครอบงำจนร้อนรุ่มไปด้วยไฟพิศวาส มันช่างเป็นเสียงตอบรับที่แสนไพเราะยิ่ง ทำให้ผมรู้สึกหึกเหิม โถมแรงลงไปอีก จนร่างของเคนสั่นไปมาตามแรงกระแทกกระทั้น

“โอว ...ผม...ผมจะไม่ไหวแล้ว...อ๊า....”

ในที่สุดเคนก็เดินทางมาถึงจุดที่ไม่อาจจะต้านทานได้อีก ร่างกายมันฟ้องว่าเขาต้องปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมา ผมช้อนสะโพกของเขาให้โด่งมากขึ้นอีก เพื่อรองรับการกระแทกชุดสุดท้าย ก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดเคนไว้แนบแน่น จูบซุกไซร้ไปทั่ว

หลังไหล่ ลำคอ และใบหู สะโพกก็ส่งแรงลงไปไม่ยั้งในขณะที่คนใต้ร่างก็ส่งแรงสวนมาไม่หยุด มือของผมทำหน้าที่ประสานกับสะโพกและแก่นกายของตัวเองราวกับเป็นเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพ

ในเวลาไม่นาน เคนก็ทะลักทะลายความสุขออกมากระเซ็นเปรอะผนังห้อง ในขณะที่ผมพ่นสายธารรักเข้าไปในโพรงแคบอุ่นของเขา


--------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 20-02-2009 20:32:39
ได้จิ้มคนลง

อ่านตอนนี้แล้ว
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 20-02-2009 21:30:56
 :jul1:  :jul1:

เลือดท่วมจอ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 20-02-2009 21:51:44
รีบตอนที่เหลือมาลงด่วน หนูมิ้น อย่าให้รอนานนะครับ

ไม่ลืมที่จะ +1 ให้ด้วยครับ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 20-02-2009 22:00:26
ข้าวเขิ้ว ไม่ต้องกินแล้ว  :laugh:
ปลามันไหม้ไปหมดแล่ะ แต่คงไม่เป็นปัญหาหรอกชิมิ

เพราะ เควิลกับเคน อิ่มรัก กันเต็มที่แล้วนินา โฮ่ะๆ   :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 20-02-2009 22:27:43
 o22 เผลอไปแป๊ปเดียว..... ไปถึงไหน ถึงกันแล้ว...




ว่าแต่ว่านะ  เค้ามีแต่ข้าวใหม่ ปลามัน..


เคนกับเคลวินนี่


สงสัยจะ....ข้าวดิบ..ปลาไหม้   :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 21-02-2009 01:08:34
 :haun4: เคลวินหื่นได้อีก ชอบๆเอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-02-2009 02:14:43
 :m25:
เป็นตอนพิเศษที่เรียกเลือดเจงๆๆๆ

บวก 1 ให้นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 21-02-2009 14:18:24
 :z2: :z2: ตามมานานมากเรื่องนี้ อิอิ ขอบคุงนะค๊าบบบบ จิ้มๆๆๆๆๆ :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 20.2.09 ตอนพิเศษ [2]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 22-02-2009 15:39:08
ข้าวเขิ้ว ไม่ต้องกินแล้ว  :laugh:
ปลามันไหม้ไปหมดแล่ะ แต่คงไม่เป็นปัญหาหรอกชิมิ

เพราะ เควิลกับเคน อิ่มรัก กันเต็มที่แล้วนินา โฮ่ะๆ   :z1:

ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาหรือป่าว  ต้องตามต่อค่ะ   เพราะตอนพิเศษนี่ยังไม่จบง่ายๆๆ



ตอนพิเศษ [3]

------------------------



 “อ๊า.............”

เคนเปล่งเสียงแห่งความสุขออกมาดังลั่น จากนั้นก็ยืนนิ่ง ตัวแนบกับผนังห้องน้ำอย่างคนอ่อนแรง ผมขยับสะโพกสองสามครั้ง จากนั้นก็กอดเขาแน่น จนร่างเราสองแทบจะละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ผมกอดเขานิ่งๆ ประมาณ 5 นาที จนร่างกายอ่อนตัวลง จึงค่อยผละออกจากเขา

“อาบน้ำกันไหมครับ”

ถามเขาแล้วทำหน้าทะเล้น เคนยิ้มเนือยๆ ให้ผม คงอ่อนใจกับความเจ้าเล่ห์ของผมเต็มที่ ช่วยไม่ได้นี่นา ผมรักเคน มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆเขา ชอบในทุกๆกิจกรรมที่ทำร่วมกัน รวมทั้งกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์อันแนบแน่น ระหว่างสามีภรรยาอย่างที่เราเพิ่งทำไปเมื่อครู่

อีกเหตุผลหนึ่งคือ อยากให้สิ่งที่เราทำร่วมกันผูกมัดใจเขาไม่ให้ห่างหายหนีจากผมไปไหน ผมยอมรับว่ากลัวมากๆ กลัวว่าเคนจะเปลี่ยนใจจากผม แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาแล้วก็ตาม แต่มันก็เป็นไปอย่างลับๆ ไม่ได้ออกหน้าออกตา ไม่ผ่านการยอมรับของสังคม ระหว่างเราไม่มีอะไรผูกมัด นอกจากหัวใจ หากว่าเคนไปเจอคนที่ดีกว่า และไม่ทำให้เขาถูกนินทาจนขายหน้า เขาก็อาจจะไปอยู่กับคนๆนั้นก็ได้

เคนเคยชอบผู้หญิงมาก่อน ไม่เคยคิดชอบผู้ชายคนไหนเลย การที่เขามาอยู่กับผม เป็นการตกกระไดพลอยโจน หากว่าวันหนึ่ง เคนเกิดคิดได้ขึ้นมาว่าการเป็นแฟนกับผู้ชายอาจจะทำให้ตัวเขาเดือดร้อน ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม อาจจะทำให้เขาคิดอยากจะไปแต่งงานกับผู้หญิงก็ได้

แม้ว่าการใช้ร่างกายผูกมัด จะเป็นเรื่องโง่ และอาจจะไม่ได้ผล แต่ผมก็เลือกที่จะทำ เพราะอย่างน้อยๆ การที่เคนไม่ได้แสดงท่ารังเกียจ แถมยังร่วมไม้ร่วมมืออย่างเต็มใจ มันก็บ่งบอกได้ว่าเคนเองก็รับได้ และมีความสุขกับความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ หากผมสามารถทำให้เคนพึงพอใจในความสุขที่ผมมอบให้ เคนอาจจะอยู่กับผม และไม่คิดตีจากไปไหน

“ต้องอาบแน่นอนอยู่แล้วครับ สภาพแบบนี้น่ะ”

สามีตอบกลับมาพลางยิ้มขำ จากนั้นก็ก้มลงใช้ขันตักน้ำจากถังมาสาดใส่ผมกลับคืน ผมเลยกระโจนใส่เขาอีกครั้ง แย่งขันน้ำมาตักสาดใส่เขาบ้าง เราสองคนเล่นสาดน้ำกันในห้องน้ำอย่างสนุกสนาน ทำตัวเป็นเด็กกันอีกครั้ง ต่างไม่มีใครยอมใคร ไม่มีห้ามกัน กว่าจะอาบน้ำเสร็จ ก็ปาเข้าไปเกือบชั่วโมง

เราสองคนก้าวออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูห่อหุ้มร่างเอาไว้ เสื้อผ้าที่เตรียมไปใส่ข้างใน เปียกน้ำไปหมด ทั้งที่เราอาบน้ำมาจนตัวเปียกโชกด้วยกันทั้งคู่ เรากลับรู้สึกร้อนอย่างบอกไม่ถูก อาบน้ำเสร็จก็รีบออกมาจากห้องน้ำ ตั้งใจจะเปลี่ยนเสื้อผ้า กินข้าว แล้วก็ชวนกันไปเดินเล่นรับลมเย็น ก่อนนอน

ทว่าเมื่อก้าวออกมาจากห้องน้ำ เราก็พบว่าบางอย่างมันผิดปกติไป มีกลิ่นเหม็นไหม้ พร้อมกับควันคละคลุ้งลอยตลบอบอวนไปทั่วห้อง แถมอากาศก็ร้อนอบอ้าว เราสองคนมองหน้ากันอย่างงๆ ผมพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น กลิ่นเหม็นไหม้ และควันมาจากไหน มีใครเผาอะไรหรือเปล่า

บ้านเช่าหลังนี้ อยู่สุดซอย ข้างทาง เป็นต้นไม้ และป่ารก แต่ไม่มีหญ้าแห้งที่จะทำให้จุดไฟติดได้ จะว่าป้าเจ้าของบ้านเผาขยะก็ไม่ใช่ เพราะมันไม่ได้เป็นกลิ่นเหม็นกระดาษ หรือพลาสติก เหมือนเวลาเผาขยะทั่วไป แต่กลิ่นมันเหมือนอาหารไหม้บนเตา...

อาหารไหม้...

หรือว่า.....




 สายตาของผมหันควับไปที่ครัวซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำทันที เคนเองก็หันไปมองเช่นกัน และสิ่งที่เราสองคนเห็นก็สร้างความตกอกตกใจให้กับเราไม่น้อย

ตรงที่ตั้งเตาแก๊สปิกนิก ซึ่งเคนตั้งกระทะทอดปลาไว้ บัดนี้ มีควันพวยพุ่งขึ้นมามากมาย สงสัยปลาที่ทอดไว้จะไหม้ไฟ เพราะเราสองคนไม่ได้ใส่ใจกับมัน มัวแต่ไปทำกิจกรรมของสามีภรรยาอยู่กันนานสองนาน จนลืมสิ่งที่เคนทำค้างเอาไว้

ผมใจหายวาบ นึกหวั่นเกรงเหตุร้ายจะตามมาหากเกิดไฟไหม้ขึ้นและแก๊สหุงต้มระเบิด ผมรีบพุ่งไปที่แก๊สทันที เพื่อที่จะปิดมันก่อนที่จะเกิดอุบัตเหตุ ทว่าช้าไปกว่าเคนซึ่งถลาไปที่เตาแก๊สแล้ว เขาเอื้อมมือไปปิดแก๊ส ในขณะที่ผมลุ้นระทึก กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับเขา

ทว่าโชคดีที่เคนปิดแก๊สได้ทัน จึงไม่เกิดเรื่องร้ายอย่างที่ผมหวั่น ผมเดินไปหาสามีสุดที่รัก ซึ่งยืนมองดูกระทะที่มีควันขึ้นโขมง ในนั้นมีปลาทอดไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก และมีน้ำมันติดก้นกระทะนิดหน่อย

เคนเงยหน้าขึ้นมองผม หน้าตาเขาซีดเผือด เหมือนคนที่ผ่านเรื่องที่ทำให้ตกใจสุดชีวิต สักพักหน้าของเขาก็มีสีเรื่อขึ้น ริมฝีปากคลี่ออกเป็นรอยยิ้ม จากนั้นเขาหัวเราะออกมา ทำให้ผมพลอยหัวเราะไปด้วย

“เกือบไม่มีบ้านอยู่แล้วนะ คราวหลังต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ จะหื่นทั้งทีก็ต้องดูกาลเทศะและเวลาด้วย”

สามีของผมพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เขายังไม่หายขำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจอเรื่องอย่างนี้แทนที่เขาจะโกรธ แต่เขากลับหัวเราะได้อีก

ผมเห็นเคนส่ายหัวและทำหน้าระอาขณะมองดูซากปลาไหม้เกรียมในกระทะ สลับกับใบหน้าของผม ทว่าสายตาที่มองผมไม่ได้ตำหนิ แม้ว่าอาการหื่นของผมจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกือบจะไฟไหม้บ้าน

เราไม่ได้มีความระมัดระวังเพียงพอ เลยไม่ได้ปิดแก๊สให้เรียบร้อย ตัวผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดเรื่องขึ้น แต่ด้วยอารมณ์ที่พาไป ทำให้หลงลืมกิจกรรมที่สามีของผมทำแต่แรก และเขาก็ลืมเช่นกัน

นับว่าโชคดียังเป็นของเรา หากออกมาจากห้องน้ำ แล้วแก๊สเกิดระเบิด ไฟไหม้บ้าน มันคงเป็นโศกนาฏกรรมจากความหื่น ถึงเราสองคนไม่เป็นอะไร แต่ก็คงอับอายถ้าใครมารู้เรื่องนี้

ขณะที่เราสองคนกำลังยืนมองหน้ากันอยู่นั้น เสียงเคาะประตูปังๆ ก็ดังขึ้น เคนสบตาผม โดยไม่ต้องบอก ผมก็รู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอย่างไร ผมรีบเดินเข้าไปหลบในห้องน้ำทันที ด้วยสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวอย่างนี้ คงไม่เหมาะกับการไปต้อนรับแขก เดี๋ยวคนจะครหานินทาจนเสียหายมาถึงเคน

หากมีใครมาเจอหนุ่มสองคนอยู่ในห้องเดียวกันในสภาพเปลือยท่อนบนทั้งคู่ คนต้องคิดไปในทางอกุศลอยู่แล้ว ในเมื่อเคนยังต้องอยู่ที่บ้านเช่าหลังนี้ไปอีกนาน ผมก็อยากให้เคนอยู่อย่างสบาย ไม่ต้องโดนใครนินทา

จากประตูห้องน้ำที่แง้มไว้นิดๆ พอให้มองเห็นเหตุการณ์ภายในห้อง ทำให้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผมเห็นเคนเดินไปหยิบเสื้อยืดมาสวมใส่ท่อนบน โดยที่ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขนหนูอยู่ เขาเดินไปเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน

“เกิดอะไรขึ้น หือเคน มีคนได้เห็นควันไฟลอยออกมาจากห้องของเธอ และได้กลิ่นไหม้ด้วย”

ป้าเจ้าของห้องนั่นเอง เธอส่งเสียงถามเคนดังลั่น และยังไม่ทันที่เคนจะตอบ ผมก็ได้ยินเสียงเธอดังขึ้นในห้อง แสดงว่าเธอถือวิสาสะเข้าห้องเคนโดยที่เขาไม่ได้เชิญ

“โห ทำไมมีกลิ่นเหม็นไหม้ขนาดนี้ล่ะ ทำอะไรอยู่ จะเผาห้องฉันเหรอ”

ถามด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว

“เปล่าครับป้า ผมแค่ทอดปลา แล้วมันไหม้ มันก็เลยควันเยอะครับ”

เคนแก้ตัว ทว่าป้าทำหน้าไม่เชื่อถือ

“ทอดปลาภาษาอะไร ทำไมถึงปล่อยให้มันไหม้ขนาดนี้ จะฆาตกรรมหมู่หรือไง”


--------------------
 

TBC



หมดสต๊อกของมิ้นแล้วค่ะ   ต้องช่วยกันทวงพี่เคทแล้วมั้ง :a5:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 22-02-2009 20:08:10
อดกินปลาทอด เพราะมัน(ไหม้) ไปแล้ว  แต่ก้ออิ่มเซ็กส์กันไปแล่ะนิ โฮ่ะๆ
เกือบทำห้องเช่าไหม้ไปด้วยนี่จิ เอิ้กๆ เกือบแล้ว อิอิ
แต่ไหม้ก้อดีนะ  เคนจะได้ไปอยู่กับเควิลที่เพนเฮ้าส์ ซะเลย เอิ้กๆ

แอร๊ยย...เสียงคุนป้าเจ้าของห้องเช่า มหาภัย ป่ะ เอิ้กๆน่ากลัวมากกกก
ฆาตกรรมหมู่ที่ไหนคุนป้าก้อ  มีแต่หมูกำลังหามกันอยู่ กร๊ากกกกกกกกกกกก   :m20:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-02-2009 21:51:23
สงสัยคืนนี้ต้องออกไปกินข้าวนอกบ้านซะแล้ว

นอนก็คงนอนไม่ได้เพราะกลิ่นควันที่ไหม้  :z2:

จุดหมายปลายทางก็เป็น ชั้นบนสุดของตึกสำนักงาน  :z1:

รออยู่นะครับ หนูมิ้น +1 ให้ด้วยตามเคย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 22-02-2009 22:19:31
มารอ มารอคุณเคท
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 23-02-2009 02:33:36
ตอนพิเศษ แบบนี้



เค้าชอบบบบบ


 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2009 02:57:48
ตอนพิเศษช่วงนี้  :m25:

ว่าแล้วปลาไหม้จริงๆ
แต่ป้าแกเข้ามาถึงในห้องแบบนี้ แกจะสร้างปัญหาอะไรรึเปล่าเนี่ย ท่าทางจะโหดนะนั่น
รอคุณเคทมาต่อ รอหนูมิ้นมาโพสนะจ๊ะ
บวก 1 ให้จ้า ขอบคุณนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 23-02-2009 07:21:26
ปลาไหม้จริงๆด้วย :laugh: :laugh:

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 23-02-2009 12:48:14
 :o8: อ๊า.....ปลาไหม้หมดเลย

เจ้โหดเจ้าของบ้านเช่าออกโรง..สงสัยโครงการบ้านในฝันคงจะเริ่มเร็วขึ้นแล้วมั้ง...

ตอนพิเศษนี่จะมีฉากงานแต่งงานที่นายเคลวินฝันไว้  บ้างหรือเปล่า....

อยากอ่านจัง... :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 23-02-2009 13:39:11
555+ เกือบตายหมู่ซ๋ะแร๊ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 22.2.09 ตอนพิเศษ [3]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-02-2009 17:06:36
 :m20:  :laugh:   :jul3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-02-2009 22:09:51


ตอนพิเศษ [4]

---------------------

เจ้าของห้องเช่าแหวใส่เสียงลั่น พลางโบกมือไปมาเพื่อไล่ควันที่ยังคละคลุ้งอยู่ในห้อง กลุ่มควันลอยกระจัดกระจายไปตาม

มือที่โบก ก่อนจะลอยหายไปในอากาศ

ผมเห็นเคนแก้ต่างให้กับตัวเอง ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุให้ผู้คนตกอกตกใจ มันเป็นเหตุสุดวิสัย และเขาก็แก้สถานการณ์

ได้แล้ว ไม่มีอะไรเสียหาย

ทว่าคำตอบของเขากลับไม่เป็นที่พอใจของคุณป้าห้องเช่า ป้าโวยวายว่ามีคนมาเคาะประตูห้องเธอบอกว่าไฟไหม้ และต้น

เหตุมาจากห้องของเคน

คนที่มาเช่าข้างห้องเขาพากันแตกตื่นขนข้าวขนของหนี ด้วยกลัวว่าไฟจะไหม้บ้าน ป้ามาดูก็เห็นควันลอยออกมาจากห้องเขา

เขา

พยายามเคาะประตูเรียกเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครตอบรับ นึกว่าเคนสำลักควันสลบอยู่ในห้อง กำลังคิดจะพังประตูเข้ามา เคนก็เปิด

ประตูเข้ามาพอดี

ป้าบ่นว่ามากมาย เนื่องจากเคนเป็นคนซื่อ ไม่ใช่คนที่ทำอะไรไม่รับผิดชอบ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องของตัวเอง เคนก็

พร้อมจะน้อมรับความผิด เขายืนนิ่งให้ป้าเจ้าของบ้านด่าจนพอใจ

ป้าเจ้าของบ้านท่าทางโหดมาก เธอไม่ได้มาคนเดียว แต่เธอมากับเพื่อนข้างห้องของเคน ซึ่งพวกเขาก็รุมด่าเคนด้วย ที่ทำให้

พวกเขาตกอกตกใจ นึกว่าไฟไหม้บ้านเช่าขึ้นมา

เคนขอโทษขอโพยคนเหล่านั้น และรับปากว่าจะไม่ทำอีกรวมถึงรับปากจะชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับห้องที่เขาเช่าอยู่

ตั้งแต่ผนังห้อง และฝ้าเพดาน ซึ่งมีเขม่าควันติด เนื่องจากควันไฟ กลิ่นเหม็นไหม้ต่างๆ

ผมยืนแอบมองอยู่ในห้องน้ำ รู้สึกโกรธที่คนพวกนั้นมารุมด่าเคนของผม และรู้สึกผิดที่ทำให้เคนโดนด่า แต่ความสำนึกผิดมี

น้อยกว่าทิฐิมานะ ฆ่าได้ หยามไม่ได้

ผมไม่ต้องการให้เคนก้มหัวให้ใคร จริงอยู่ที่เหตุเกิดจากห้องของเรา แต่เขาก็น่าจะด่าเคนแบบพอประมาณ ในเมื่อเคนก็ยอม

รับผิดแล้ว และไฟก็ไม่ได้ไหม้จริงๆ ไม่มีใครได้รับอันตราย พวกเขาก็ไม่น่าจะด่าว่ากันหนักขนาดนี้ คอยดูนะผมจะพาสามี

ออกไปจากบ้านเช่าแห่งนี้ให้ได้ ไม่อยากให้สามีอยู่กับคนใจร้ายพวกนี้

“ผมขอโทษครับ”

พอป้าเจ้าของบ้าน และเพื่อนข้างห้องเคนพากันกลับไปแล้ว ผมก็ออกมาจากห้องน้ำ และเดินตรงมาหาเคน อยากจะดึงเขา

มากอดเอาไว้ แต่ด้วยความที่ผมเป็นต้นเหตุให้เคนถูกคนรุมด่า ผมเลยไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะไม่รู้ว่าเคนอยู่ในอารมณ์ไหน และ

เขากำลังโกรธที่ถูกด่าอยู่หรือเปล่า

สิ่งที่พอจะทำได้ตอนนี้คือกล่าวคำว่าขอโทษ และพร้อมจะชดใช้สิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกสำนึกผิดที่เกือบจะเผาห้องเช่าของเคน

และบ้านเช่าทั้งหลัง หากผมไม่รั้งตัวเขาไว้ในห้องน้ำ เขาก็คงทำกับข้าวต่อ และปลาก็ไม่ไหม้ จนเกิดเป็นควันไฟลุกท่วม ช้า

นิดเดียวอาจจะเกิดการย่างสด อย่างที่ป้าเจ้าของบ้านโวยก็ได้

“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก ยังไงเราก็ยังมีบ้านอยู่ บ้านไม่ได้ไหม้ไฟอะไร”

เขาดึงตัวผมมากอดไว้หลวมๆ แล้วพูดปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมา

“แต่คุณถูกด่านี่ครับ แถมยังต้องชดใช้ความเสียหายด้วย”

“ไม่เป็นไรหรอก ก็เราผิดจริงนี่นา แล้วป้าก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก แค่ทาสีใหม่เพื่อลบลอยคราบเขม่าควันเท่านั้นเอง”

สามีไม่อยากให้ผมคิดมาก จึงพยายามพูดให้ผมสบายใจ ทว่าหน้าตาเขาไม่ได้แช่มชื่นสักเท่าไหร่ ท่าทางเหมือนหนักใจกับ

เรื่องที่เกิดขึ้น เคนคงกังวลใจเรื่องเพื่อนบ้าน คงกลัวว่าจะถูกป้าเจ้าของห้องเช่าไล่หนี

เขาคงไม่รู้จะไปเช่าที่ไหน ที่ค่าเช่าถูกได้เท่านี้ ตัวผมไม่ยี่หระกับเรื่องที่เคนจะไม่มีห้องอยู่ ถ้าป้าไล่เคนไม่ให้พักที่นี่ ผมยิ่งจะ

ยินดีใหญ่ เคนจะได้ไปอยู่กับผมที่เพนท์เฮ้าส์ด้วยกัน ที่นั่นสบายกว่าที่นี่เยอะ

“เคนเดือดร้อนเพราะผมแท้ๆ ”

ยังคงรู้สึกผิดที่เคนต้องเสียเงินโดยใช่เหตุ ที่จริงห้องเช่าของเคนก็เก่ามากแล้ว แถมสกปรกกระดำกระด่าง แม้จะขัดทำความ

สะอาดอย่างไร ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นมา

เขม่าจากควันไฟก็ไม่ได้จับหนาจนน่าเกลียด การที่เคนต้องชดใช้ด้วยการทาสีห้องให้ใหม่ จึงเป็นเรื่องของการเรียกร้องให้

ชดใช้เกินความพอดี

“ใช่ครับ เพราะเคลวินมัวแต่หื่นไม่เลือกเวลา ถ้าปล่อยให้ผมทำกับข้าวก่อน ก็ไม่มีปัญหา”

เขาทำหน้าเฉยเมยขณะพูด พอเห็นผมทำหน้าจ๋อย ๆ เคนก็หัวเราะ

“ล้อเล่นครับ อย่าคิดมากเลย ไม่ใช่ความผิดของเคลวินคนเดียวหรอก ผมก็มีส่วน เพราะผมไม่ได้ห้าม หรือขัดขืนคุณ ถ้าผม

นึกสักนิดว่าตัวเองกำลังทอดปลาค้างอยู่ ไม่ยอมใจอ่อนกับคุณ ปลาก็คงไม่ไหม้ ควันก็ไม่เกิด เพื่อนบ้านก็ไม่ตกใจกันนะ

ครับ”

เคนโทษตัวเองว่ามีส่วนร่วมในความผิดครั้งนี้ด้วย ผมรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก นอกจากเคนจะไม่กล่าวโทษผมแล้ว ยัง

ร่วมรับชะตากรรมด้วย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดไปใหญ่

“หิวข้าวหรือยังครับ”

สามีไม่พูดถึงเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายอีกต่อไป แต่หันมาใส่ใจผมแทน ผมพยักหน้า เมื่อครู่ไม่หิว แต่ตอนนี้ท้องเริ่มร้องแล้ว

“กับข้าวคงกินไม่ได้แล้วล่ะ เพราะมันไหม้หมดแล้ว กระทะก็ไหม้ด้วย เรากินของง่ายๆกันเถอะ”

เขาเดินไปที่ตู้และหยิบซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชูให้ผมดู ผมพยักหน้าให้เขาอีก ตอนนี้กินอะไรก็ได้ทั้งนั้น จะเลือกนักก็ไม่ได้

เพราะสิ่งที่เคนเตรียมให้ มันไหม้ดำปิ๊ดปี๋ อยู่ในกระทะ มีบะหมี่เหลือให้กินก็ดีแล้ว

“อดกินปลาทอดฝีมือผมเลยเคลวิน”

สามีทำน้ำเสียงล้อเลียน ผมรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ถ้าเป็นตอนอยู่ในช่วงอารมณ์ปกติ ผมคงทำท่าหื่นใส่ แต่ตอนนี้ผมกำลังจิต

ตกที่ทำให้เคนถูกด่า เลยฝืนร่าเริงไม่ได้ และดูเหมือนว่าเขาจะจับสังเกตผมอยู่ พอเห็นผมยังจ๋อยไม่เลิก เขาก็ทำเสียงเข้ม

“เคลวินอย่าคิดมากสิ เดี๋ยวหน้าตาแก่เร็วนะ แล้ว ทำไมถึงไม่ไปใส่เสื้อผ้าเสียที จะเดินไปเดินมาโดยนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว

อย่างนั้นหรือครับ”

ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำ ผมรีบไปแต่งตัวตามที่เคนบอกทันที ไม่อยากเถียงสามีตอนนี้ เพราะผมทำเรื่องให้เขางานเข้า เลยไม่

อยากทำให้เขาหงุดหงิดเรื่องผมอีก แต่งตัวเสร็จก็รีบมานั่งข้างๆเขา บะหมี่ในถ้วย ปรุงเสร็จพร้อมกินพอดี

“คืนนี้จะนอนกันอย่างไรดี กลิ่นเหม็นไหม้คลุ้งเต็มห้องแบบนี้ นอนไม่ได้แน่”

ถามเขาเป็นเชิงปรึกษาที่จริงผมคิดแก้ปัญหาไว้แล้ว

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวสักพักกลิ่นก็หายไปเองนั่นแหละ”

เขาตอบกลับมา

“อีกนานเลยนะครับ ดูสิ กลิ่นยังคลุ้งอยู่เลย นอนไม่ได้แน่ๆ”

พูดให้เว่อร์เข้าไว้ให้เป็นไปตามแผน

“เคลวินนอนไม่ได้หรือครับ เหม็นใช่ไหม”

แทนที่จะห่วงตัวเอง กลับห่วงผม ซึ้งใจยิ่งนัก แต่เพื่อบรรลุสิ่งที่หวังไว้ ทำให้ผมเล่นตามน้ำ เล่นกับความห่วงใยของสามีสุด

ที่รัก

“ครับ ผมไม่ชินกลิ่น มันหายใจไม่ออก”

“งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม เคลวินกลับไปนอนบ้านตัวเอง ส่วนผมนอนที่นี่”


-------------------------------

TBC


งานเข้าแล้วมั้ยหล่ะทั่นประธาน  :jul3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-02-2009 22:19:50
^^

^^ จ่อท้ายหนูมิ้น

ท่านประธาน ฯ จะแก้สถานการณ์ยังไง ในเมื่อถูกไล่ให้กลับไปนอนบ้าน

อย่าช้านะหนู รีบมาต่อซะดี ๆ +1 ให้ด้วยนะ ใจดีเปล่า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2009 22:27:47
^
^
 :z13: wan จ้า
เพิ่งมีโอกาส หุหุ เห็็นไปจิ้มเราไว้ในทู้หนู Mint


ตอนพิเศษนี่เหมือนจะช่วยต่อเติมให้เรื่องสมบูรณ์และชัดเจนขึ้นอีกนะคะเนี่ย
ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพสเลย
บวก 1 ให้นะจ๊ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 23-02-2009 23:12:09
เหมือนเคนจะรู้ทันนะ 555

งานเข้าแล้วท่านประธาน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: ไฉไล ที่ 23-02-2009 23:31:23
ฮ่าๆ เควิลแอบเจ้าเล่ห์ แต่เจอคำตอบเคน แบบนี้ เข้าเป็นไงล่ะ จ๋มๆ  เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 24-02-2009 00:27:01
555+

เคลวิน  แผนนี้ชวดซะแล้ว  ใช้ไม่ได้ผล  งานเข้าเรย

รออ่านตอนต่อไปนะครับ  ดูว่าเควินจะแก้เกมยังไง
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-02-2009 11:39:59
เจอคุงสามี หักมุมเป็นไงค่ะ คุงภรรยา  :laugh:

เดี๋ยวนี้ เคน เก่งขึ้นมากเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 24-02-2009 12:17:26
บวก ให้กำลังใจน้องก่อน จ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 23.2.09 ตอนพิเศษ [4]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 24-02-2009 18:24:11
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 25-02-2009 21:25:38

ตอนพิเศษ [5]

--------------------------------


“งั้นเอาอย่างนี้ดีไหม เคลวินกลับไปนอนบ้านตัวเอง ส่วนผมนอนที่นี่”


“ไม่ได้นะ ทำไมต้องให้ผมแยกจากเคนด้วย ผมไม่ยอม ถ้าคุณไม่ไป ผมก็ไม่ไป เราสัญญากันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน ไม่แยกจากกัน

ทวงสัญญากับเขา สัญญาที่ผมตั้งขึ้นมาฝ่ายเดียว โดยที่เขายินยอมที่จะทำตามเพื่อผม

“แต่คุณจะไม่สบาย หายใจไม่ออกนะครับ”

เคนเริ่มติดกับผมทีละนิดแล้ว ผมรีบลุยต่อ

“งั้นเอางี้สิ คุณก็ไปกับผมนี่แหละ ไปพักที่เพนท์เฮ้าส์ชั่วคราว พอคุณทำความสะอาด และทาสีห้องเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาพักที่ห้องนี้ตามเดิม”

ข้อเสนอแนะของผมทำให้เคนนิ่งคิด ผมลุ้นอยู่หลายนาที เพื่อรอคำตอบ กลัวว่าเคนจะปฏิเสธ นับตั้งแต่กลับมาจากเพนท์เฮ้าส์ของผม เคนก็ไม่เคยย่างกรายเข้าไปอีก

เขาไม่ได้รังเกียจ แต่เขาคงอึดอัดใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างผู้อาศัย เคนหยิ่งพอที่จะไม่พึ่งพาใคร ยิ่งผมเป็นเจ้านายใหญ่โต มีเงินทองรวยล้น

เขายิ่งไม่อยากวุ่นวายกับทรัพย์สินของผมใหญ่ ไม่อยากให้ใครมาตราหน้าเขาได้ ว่าใช้ผมเป็นสะพานในการไต่เต้าไปสู่ความสำเร็จและความร่ำรวย

หลังจากนิ่งไปสักพัก ในที่สุด เคนก็พยักหน้าตกลง เขาคงคิดรอบคอบแล้วว่าวิธีนี้เหมาะสมที่สุดสำหรับเราสองคน โดยเฉพาะถ้ามันเป็นความสุขของผม เขาก็ยินดีทำ

ผมกระโดดกอดเคนอย่างดีใจ ในที่สุดแผนแรกของผมก็สำเร็จแล้ว ถ้าเคนไม่นึกถึงความยากลำบากของผม ที่ต้องทนอยู่ในห้องเช่าคับแคบ เหม็นกลิ่นควันไฟ เขาก็คงไม่ตกลง

ต้องขอบคุณความรู้สึกดีๆที่เขามีให้ผม ที่ทำให้เคนยอมตกลงไปอยู่ด้วยกันกับผมง่ายๆ

จะตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อนๆ เคนตกลงปลงใจแล้วที่จะย้ายไปอยู่กับผมเป็นการชั่วคราว และเพื่อเป็นการกันไม่ให้เคนเปลี่ยนใจ เกิดเขาหาวิธีอื่นได้ และไม่ยอมไปอยู่กับผมที่เพนเฮ้าส์ แผนที่ผมวางไว้ก็จะเสียเปล่า

ผมเลยโทรเรียกลุงเทพให้ขับรถมารับผมกับเคนไปที่เพนเฮ้าส์ โดยระหว่างรอ ผมก็ช่วยเขาจัดกระเป๋าเสื้อผ้าให้เขาไปพลางๆ ผมกระตือรือร้นอย่างมากในการจัดเก็บข้าวของให้เคน

เอาเสื้อผ้าของเขายัดใส่กระเป๋าไปมากมายเหมือนจะอยู่เป็นเดือนๆ จนโดนเคนแซวว่าผมลัลลาเกินเหตุ เหมือนจะดีใจที่เกิดเรื่องจนทำให้เขาไม่สามารถอยู่ที่บ้านเช่าได้

ผมแกล้งทำเป็นเฉไฉ บอกว่า ผมเป็นห่วงเขา ไม่อยากให้เขาสุขภาพเสื่อม เพราะสูดกลิ่นควันพิษเข้าไปมากๆ รู้ตัวว่าตอบไม่เป็นเหตุผลเท่าใดนัก

แต่ก็ไม่อยากยอมรับออกไปตรงๆ ว่าผมดีใจแค่ไหนที่เขาจะไปอยู่กับผม เชื่อว่าเคนเองก็ดูออก แต่ความที่เขาห่วงผมมากกว่า เขาเลยไม่ว่าอะไรมาก ปล่อยให้ผมสนุกสนานกับการจัดกระเป๋าของเขาต่อไป





ในที่สุดผมก็ต้องกลับมาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของเคลวินอีกจนได้ ที่จริงผมไม่ได้อยากมาที่นี่สักเท่าไหร่ รู้สึกไม่สบายเหมือนอยู่ในห้องของตัวเอง ทั้งที่ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายต่อหลายอย่าง

สภาพแวดล้อมก็ดี แถมอยู่ใจกลางเมือง ไปมาสะดวก ทว่ามันไม่ใช่ที่ของผม มันเป็นของเคลวิน ภรรยาที่เป็นประธานบริษัท และเบื้องล่างคือบริษัทต่างๆที่อยู่ในเครือของเขา

นอกจากความอึดอัดที่ต้องมาขออาศัยเคลวินอยู่ชั่วคราว จนกว่าจะซ่อมแซมห้องเรียบร้อยแล้ว ผมยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องความลับระหว่างเราสองคนอีก

กลัวว่าจะมีใครรู้เห็นเรื่องที่ผมอยู่กับเคลวินที่ชั้นบนนี้ กลัวว่าเคลวินจะถูกนินทาว่าร้าย กลัวจะทำให้เขาเสื่อมเสีย

ทว่าความกังวลใจที่มีก็ถูกเก็บเอาไว้ภายใน เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขของเคลวิน การได้กลับมานอนที่เพนท์เฮ้าส์ของตัวเอง คงทำให้เคลวินรู้สึกสบายตัวสบายใจมากกว่าอยู่ที่ห้องเช่าของผม

ที่นี่เหมาะกับเขามากกว่า คุณหนูลูกผู้ดีอย่างเคลวิน ไม่เคยกินอยู่อย่างยากลำบาก เขาสามารถเนรมิตทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการ

แค่ชี้นิ้วสั่ง ก็มีคนมารองไม้รองมือ ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้ มีคนรับใช้ ไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่เหมือนเวลามาอยู่กับผมที่เขาต้องทำทุกอย่างเอง เคลวินจึงเหมาะกับการอยู่ที่นี่มากกว่าอยู่ที่บ้านของผม

“เคนครับ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ เหมือนไม่มีความสุขเลย คิดถึงห้องเช่าหรือครับ”

เคลวินเงยหน้าขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อผ้าของผมที่เขารื้อออกมาจัดใส่ตู้เสื้อผ้า และถามขึ้นมาทำลายความเงียบ ผมส่ายหน้า ไม่อยากให้เขาล่วงรู้ว่าผมคิดอะไร แต่ผมลืมไปว่าเคลวินเป็นคนช่างสังเกต และเขาก็ฉลาดมากพอที่จะเดาออกว่าผมรู้สึกอย่างไร

เขาเดินมาหาผม และกอดเอวผมไว้หลวมๆ เอียงศีรษะมาซบใกล้ๆ

“ไม่อยากอยู่ที่นี่หรือครับ”

น้ำเสียงนั้นเหมือนตัดพ้อ

“ทนแค่ไม่กี่อาทิตย์เอง ถ้าจัดการห้องนั้นเสร็จเราค่อยย้ายกลับนะครับ”

คำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจ เคลวินคงอยากให้ผมอยู่กับเขาที่นี่ มากกว่าที่จะให้ไปอยู่บ้านเช่า แต่เขาก็ขัดใจผมไม่ได้ พอๆกับที่เขาก็ขาดผมไม่ได้เช่นกัน

เคลวินจึงยอมละทิ้งความสะดวกสบายไปเผชิญความยากลำบากกับผมที่บ้านเช่าแห่งนั้น แล้วผมล่ะ ผมจะยอมทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อคนที่รักผมมากขนาดนี้ได้หรือเปล่า

“เปล่าครับ ไม่ได้ไม่อยากอยู่ แต่กำลังคิดว่าผมทำหน้าที่สามีที่ไม่ดีเลย ดูแลคุณให้ได้รับความสะดวกสบายก็ไม่ได้

ที่ผ่านมาคุณต้องลำบากมาอยู่กับผม ในห้องเช่าที่คับแคบอึดอัด ทั้งที่คุณเคยอยู่ดีกินดี มีทุกอย่างที่ต้องการ แต่คุณต้องมาทนลำบากลำบนกับผม เลยรู้สึกแย่นิดหน่อยครับ”

บอกไปตามตรง รู้สึกผิดที่ให้ความสุขกับเขาไม่ได้ พอผมบอกเล่าถึงสิ่งที่อยู่ในใจของผมให้เขาฟัง เคลวินก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“เฮ้อ..โล่งอกไปที ผมนึกว่าคุณไม่อยากอยู่กับผมเสียอีก เรื่องสถานที่ ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับผมหรอกครับ บอกแล้วไง ว่าคุณอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ด้วย ขอแค่มีเคนก็พอ ผมสามารถมีความสุขได้ทุกที่ครับ”

เขากอดผมแน่นเข้าไปอีก แล้วเอาจมูกมาถูๆไถๆกับจมูกของผม ทำท่าอ้อนๆนัวเนียเหมือนแมว มือที่ตกอยู่ข้างตัวของผมสอดเข้ากอดตอบเขา

“รอหน่อยนะคนดี สักวันผมจะมีบ้านของเรา บ้านที่ผมหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง ผมจะหาคนมาช่วยคุณทำงานบ้านด้วย คุณจะได้ไม่เหนื่อย ผมอยากให้เคลวินมีความสุขเวลาที่อยู่กับผมครับ”

บอกถึงความตั้งใจของตัวเองให้เขาฟัง จำได้ว่าเคยพูดกับเขาไปแล้วครั้งหนึ่งตอนอยู่ด้วยกัน แต่เขาคงจำไม่ได้ แต่ผมไม่เคยลืมเลือน

ผมอยากให้เคลวินมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ แม้ไม่ดีเท่ากับที่เขาเคยได้รับ แต่ผมก็จะพยายามทำให้เขามีความสุขให้ได้

คนที่อยู่ในอ้อมกอดผมนิ่งเงียบจนผิดสังเกต ปกติ เขาจะระริกรื่นหน้าเป็น เวลาผมพูดอะไรที่ทำให้เขารู้สึกดี แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ

นอกจากร่างที่สั่นระริก สักพักผมก็รู้สึกเปียกที่หน้าตัวเอง เลยดันเขาออกห่างจากตัว เพื่อจะได้มองหน้าชัดๆ ก็เห็นน้ำตาสองสายไหลคลอตาคู่สวยของเขา

“ร้องไห้ทำไมกัน ไม่พอใจที่ผมจะซื้อบ้านเล็กๆ หรือครับ”

หยอกล้อเสียงหวาน ถ้าเดาไม่ผิด เคลวินไม่ได้ร้องไห้ เพราะเสียใจ แต่กำลังปลื้มต่อสิ่งที่ผมพูดต่างหาก เขาใช้หลังมือเช็ดน้ำตา แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ

“ผมดีใจ ที่เคนใส่ใจในตัวผม อยากให้ผมมีความสุข อยากให้ผมอยู่ด้วย ....”

เหมือนเขาจะบังคับให้พูดได้เป็นเสียงแค่นั้น เพราะประโยคต่อมา ผมฟังแทบไม่เป็นคำ เพราะเขาร้องไห้ออกมาเสียก่อน ผมดึงเขากลับเข้ามากอดอีกครั้ง ก่อนจะพูดแหย่คนขี้แยเหมือนเด็กๆ

“แย่จัง ร้องไห้ทำไมครับ ประธานบริษัทต้องเข็มแข็งกว่านี้นะ”

“ตอนนี้ผมไม่ใช่ประธานบริษัทครับ ผมเป็นเมียของเคน ผมร้องไห้

-------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 25-02-2009 21:53:26
จ่อก้นหนูมิ้น ขยันจัง มามาะ :กอด1: ให้หายคิดถึง นึกว่าวันนี้จะไม่มาลงซะแล้ว

ขอบคุณนะครับ +1 ให้ตามเคย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 25-02-2009 22:20:50
ขอบคุณค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 25-02-2009 22:30:17
 o18 o18 o18


+1ให้ค่ะ


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 25-02-2009 23:02:33
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 26-02-2009 02:29:23
คู่นี้น่ารักจริงๆๆ  รักกันดีจังเลย

รออ่านตอนต่อไปนะครับ  ขอบคุณที่มาต่อให้น๊า o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 26-02-2009 17:23:48
up ไว  น่ารักมาก ๆ ๆ ๆ  +1
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.2.09 ตอนพิเศษ [5]
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 26-02-2009 18:41:23
+1 ให้คุณ minchy เป็นกำลังใจให้แก่คนแต่ง เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านแล้วมีความสุขจัง

ขอให้แต่งตอนพิเศษออกมาเรื่อย ๆ

รักคนแต่ง + เคลวิน + เคน

 :impress2: :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 26-02-2009 21:05:17
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คำชมนะคะ    :o8:


มาต่อกันดีกว่าค่ะ


ตอนพิเศษ [6]

-------------------------------------


“ตอนนี้ผมไม่ใช่ประธานบริษัทครับ ผมเป็นเมียของเคน ผมร้องไห้ได้”

เขาเถียงข้างๆคูๆ ผมก็เลยหัวเราะขำเขา รู้สึกตลกที่เห็นฝรั่งตัวใหญ่ แถมซ้ำยังมีหน้าที่การงานใหญ่โตมาร้องไห้แบบเด็กๆ ให้ลูกน้องอย่างผมเห็น

ช่วงหลังๆนี้ ผมได้เห็นด้านอ่อนไหวของเคลวินเยอะมากกว่าด้านดุดันแข็งกร้าว ทำให้เขาดูเหมือนคนธรรมดาที่มีหัวจิตหัวใจมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่หัวหน้าที่ชอบทำตัวเป็นยักษ์เป็นมาร เอาแต่ใจ และชอบทำร้ายลูกน้องด้วยวาจาเชือดเฉือน

ภาพเหล่านั้นไม่มีหลงเหลือให้เห็นตลอดระยะเวลาที่ผมถูกพักงาน เคลวินทำตัวเป็นศรีภรรยาที่ดี คอยดูแลเอาอกเอาใจผมไม่ห่าง

กลับถึงบ้านก็เข้าครัวปรุงอาหาร เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่บ่น ผมไม่อยากเห็นเคลวินเหนื่อยกับผมอีก เลยพยายามที่จะทำตัวเป็นพ่อบ้าน เอาใจใส่ดูแลภรรยาบ้าง

อุตส่าห์เรียนการทำอาหารจากป้าหมี่ แต่ก็ยังไม่ได้เรื่องได้ราวสักที ทำกับข้าวไหม้บ้าง เค็มบ้าง หวานบ้าง ผมเองยังกินไม่ลง ไม่มีความอร่อยลิ้น แต่เคลวินก็ช่วยกินหน้าตาเฉย แถมให้กำลังใจผมอีกด้วย

“ผมรักเคนนะครับ”

ในที่สุดเขาก็หยุดร้องไห้ และหันมาอ้อนผมต่อ ผมรู้สึกขำอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเคลวิน นี่ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน จนรู้จักนิสัยใจคอกัน ผมต้องคิดว่าเขาเพี้ยนแน่ๆ

เขาเป็นคนมีหลากหลายบุคลิก แต่ไม่ใช่โรคจิต เพียงแต่กำหนดบทบาทตัวเองไปตามสถานการณ์ เวลาทำงานก็เอาจริงเอาจัง ดุผม จนเข้าหน้าแทบไม่ติด เวลาทำอะไรผิด ก็โดนตำหนิติเตียน โดนสั่งให้ทำใหม่ซ้ำๆจนกว่าจะผ่าน

แต่เวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เขาก็อ่อนหวานน่ารัก ขี้อ้อน เอาใจเก่ง ผมเริ่มชินกับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเขาแล้ว และปรับตัวรับมือได้เป็นอย่างดี อยู่ที่ทำงานผมจะให้เกียรติเขา

แต่เวลาอยู่ที่บ้าน ผมก็มีอำนาจเต็มที่ในฐานะสามีของเขา มีบ้างบางครั้งที่ผมอยากเอาคืนเคลวินบ้าง แต่พอเห็นท่าทางอ้อนๆ ผมก็แกล้งเขาไม่ลง ต้องใจอ่อนยอมเขาอยู่ร่ำไป




วันรุ่งขึ้น หลังจากที่เคลวินลงไปทำงานแล้ว ผมก็โทรศัพท์ไปหาคุณป้าบ้านเช่า เพื่อพูดคุยเรื่องการทาสีตกแต่งห้องที่ผมทำควันไฟไหตามที่ได้รับปากไว้ แต่คำตอบที่ได้รับทำให้ผมรู้สึกอารมณ์เสีย ท่านประธานสองหน้าเจ้ากี้เจ้าการทำในสิ่งที่ผมไม่ได้ร้องขอ และงานนี้ต้องมีเคลียร์

ตกตอนเย็น เคลวินกลับขึ้นมาที่เพนท์เฮ้าส์ด้วยท่าทางที่ร่าเริงผิดปกติ แน่ละ จัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามใจตัวเองหมดแล้วนี่ ไม่มีการบอกกล่าวให้ผมรู้บ้าง ทำอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหน บอกแล้วว่าจะทำอะไรให้ปรึกษาผมก่อน

ไม่ใช่ตัดสินใจทำเองโดยพลการ ห้องนั้นเป็นของผม ผมควรที่จะมีสิทธิ์ตัดสินใจ เขาไม่ควรจะก้าวก่าย
เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าทำให้ผมโกรธ พอเข้าบ้าน

เห็นผมนั่งหน้าเครียดอยู่ที่โซฟา เขาก็เดินเลี่ยงเข้าครัวไป และขลุกอยู่ในนั้นเป็นนานสองนาน ไม่ยอมออกมา ผมนั่งเรียบเรียงคำพูดที่จะต่อว่าเขาอยู่นาน จากนั้นก็เดินไปหาเขาที่ครัว แต่ยังไม่ทันจะไปถึงตัวเขา เคลวินก็หันหน้ามาเผชิญกับผม

“ขอโทษครับ เคนอย่าโกรธผมเลยนะ ให้ผมอธิบายก่อน”

เขาทำน้ำเสียงอ้อนวอน ดูน่าสงสาร ผมยืนนิ่ง ตามองจ้องเขาอย่างโกรธๆ อยากฟังเหมือนกันว่าเขาจะแก้ตัวอย่างไร เรื่องที่ไปยกเลิกการเช่าห้องของผมโดยไม่บอกกล่าว

เคลวินหันไปปิดแก๊ส และยกกับข้าวที่เขาปรุงสำเร็จเรียบร้อยแล้ว มาวางบนโต๊ะ กลิ่นของมันหอมฉุย น่าลิ้มลอง ผมลอบกลืนน้ำลาย รู้สึกหิวขึ้นมาทันที

วันนี้ผมแทบไม่ได้แตะต้องอาหาร เพราะมัวแต่โมโหคนที่อยู่ตรงหน้า จะลงไปซักถามก็ไม่กล้า เพราะผมถูกพักงานอยู่ ไม่อยากไปวุ่นวายในบริษัทให้ใครเห็น แต่ผมก็ไม่อาจจะสงบสติอารมณ์ได้ ตั้งใจว่าถ้าวันนี้เคลียร์กับเขาไม่รู้เรื่อง ผมก็จะไม่กินอะไรทั้งนั้น ให้มันรู้ไปว่าเคลียร์กับเมียไม่ได้เลยปล่อยให้ตัวเองหิวตาย

“ผมรู้ว่าผมทำผิด ที่ไปบอกเลิกการเช่าห้อง ที่จริงผมควรจะบอกคุณก่อน แต่ผมคิดขึ้นมาได้กะทันหันวันนี้เอง ก็เลยยังไม่ได้บอกคุณ กะว่ากลับมาแล้วจะบอก แต่คาดว่าคุณคงจะรู้แล้วใช่ไหมครับ”

เขาถามเสียงอ่อย เดินมาหาผม แต่ผมขยับถอยหลังไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ เคลวินทำหน้าจ๋อยๆ และหยุดยืนห่างๆ เขาเอามือเกาหัว เหมือนไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอย่างไรดี นี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่ผมได้เห็นท่าทางที่ไม่มั่นใจของเขา

“มันอาจจะดูน่าสงสัยในเจตนารมณ์ของผมสักหน่อย ที่ไปบอกเลิกการเช่าห้องแทนคุณโดยที่คุณไม่ได้ขอให้ผมจัดการ แต่ผมทำไปด้วยความหวังดีต่อคุณนะครับเคน ผมอยากให้คุณมีชีวิตที่สุขสบายกว่านี้”

พอเขาเริ่มต้นพูดขึ้นมา ผมก็เดาเจตนาเขาได้ทันที ที่แท้เคลวินก็รังเกียจความยากลำบากที่เกิดขึ้น ห้องเช่าของผมไม่ได้เลิศหรูเหมือนที่นี่ สิ่งอำนวยความสะดวกก็ไม่มี

เคลวินคงนึกรังเกียจไม่อยากอยู่ แต่เพราะเขารักผม เขาเลยต้องจำทนฝืนอยู่ด้วย พอได้โอกาสที่ห้องพักเลอะเทอะไปด้วยเขม่าควันจากไฟไหม้กระทะทำกับข้าวจนเจ้าของเขาให้ผมรับผิดชอบ เคลวินก็ฉวยโอกาสบอกเลิกห้องเช่าเสียเลย เรื่องเจ้าเล่ห์แบบนี้ เคลวินถนัดนัก

“ผมไม่ยักจะรู้ว่า ตัวเองกำลังประสบความยากลำบากอยู่...คุณนี่ช่างรู้ดีเกี่ยวกับตัวผมจริงๆ”

เหน็บเขาอย่างโกรธๆ เคลวินหน้าเจื่อนมากยิ่งขึ้นที่เห็นผมโกรธเขาจริงๆ

“อย่าทำเสียงเยาะหยันผมแบบนั้นสิครับเคน ผมเจ็บนะ ผมรู้ว่าคุณต้องโกรธผม ที่ผมยุ่งวุ่นวายในชีวิตคุณ ตัดสินใจแทนคุณทุกอย่างราวกับว่านี่คือชีวิตของผมเอง

ผมรู้ว่าผมผิดที่ไม่ถามคุณเลยว่าคุณต้องการให้ผมทำแบบนี้หรือไม่ แค่เห็นคุณประสบความยากลำบากในการใช้ชีวิต ผมก็ด่วนตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อคุณไปแล้ว”

เขาพยายามสบตาผม แต่ผมเลี่ยงที่จะมองหน้าเขา เสก้มลงมองพื้น รู้ว่าหากยังขืนจ้องตากับเขาอยู่ ผมคงใจอ่อนแน่ๆ

“ผมไม่อาจจะทนเห็นสามีของผม อยู่ในบ้านเช่าที่อยู่ในสภาพแวดล้อมไม่ดี ห่างไกลความเจริญได้อีกต่อไป แถมเพื่อนบ้านปากร้าย รุมด่าไม่ให้เกียรติคุณอีก พวกเขาไม่มีเหตุผล กล่าวโทษคุณ ทั้งที่คุณเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ที่สำคัญ มันยังไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น แต่พวกเขาก็ด่าว่าคุณราวกับเป็นฆาตกร ผมทนไม่ได้จริงๆ”

เคลวินพูดถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ผมเองก็ตกใจมากเหมือนกัน ไม่คิดว่าแค่ควันไฟจากกระทะที่ติดไฟไหม้ จะทำให้เพื่อนบ้านแตกตื่นตกใจขวัญเสียกันได้มากขนาดนั้น แต่เพราะผมคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกือบจะเกิดเพลิงไหม้ ผมเลยยอมให้เขาด่า และไม่ผูกใจเจ็บแค้นใคร ทว่าเคลวินกลับไม่พอใจแทนผม

“เมื่อวานนี้ ผมยืนฟังคนพวกนั้นด่าคุณในห้องน้ำ ผมอยากจะเข้ามาช่วยคุณใจจะขาด แต่ผมไม่อยากให้ใครมานินทาว่าร้ายคุณมากกว่าเดิม ผมไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอย่างไร ที่คุณกับผมอยู่ด้วยกัน สำหรับผม ผมไม่เคยแคร์ แต่ผมกลัวเคนจะเสียหาย ...”

ประธานสองหน้าพยายามอธิบายต่อ ตอนนี้อารมณ์ของผมเริ่มสงบลงแล้ว จึงสามารถฟังคำแก้ตัวของเขาโดยไม่รู้สึกหงุดหงิด เหมือนตอนได้รับข่าวสารครั้งแรกจากป้าเจ้าของบ้าน

“ตอนที่คุณถูกเรียกร้องให้ทาสีห้องเสียใหม่ เพื่อลบรอยเขม่าควัน ตอนนั้นผมคิดในใจว่าคุณกำลังถูกเอาเปรียบ พวกเขาใช้สถานการณ์เป็นเครื่องต่อรองให้คุณต้องรับผิดชอบเกินจริง ในเมื่อเจ้าของบ้านเห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ คุณก็ไม่ควรที่จะอยู่ที่บ้านเช่านั้นอีกต่อไป

นี่คงเป็นข้อสรุปของเขา เคลวินโกรธแทนผม เลยไม่อยากให้ผมอยู่บ้านเช่าแห่งนั้นอีกต่อไป

“คุณก็เลยจัดการยกเลิกห้องเช่านั้น เพราะหวังดีไม่อยากให้ผมอยู่กับพวกคนโกง และคนที่พูดจาไม่ดีใช่ไหม”

“ครับจะว่าอย่างนั้นก็ได้ มันก็..เอ่อ...เป็นเหตุผลหนึ่งในหลายๆเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจแทนคุณไป...”

เคลวินกล่าวอย่างเก้อกระดาก เมื่อผมรู้เท่าทันความคิดของเขา


--------------------
TBC



อ้าวทะเลาะกันซะแล้ว   จะง้อกันยังไงมาต่อพรุ่งนี้นะคะ


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 26-02-2009 22:25:15
ขอบคุณค่ะ

รอพรุ่งนี้

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 26-02-2009 22:35:03
มาไม่ทันจอก้น หนูมิ้น  แต่ไม่เป็นไร

รอพรุ้งนี้ก็ได้  :a14:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 27-02-2009 00:36:56
 o18 คุณภรรยาไม่เคยเข็ด...

เพราะรู้ดีว่าคุณสามีใจแข็งได้ไม่นาน...
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 27-02-2009 00:53:56
เชียร์เคลวิน ต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 27-02-2009 12:52:42
 :n1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-02-2009 15:26:24
ต่างเพราะรักกัน แคร์กัน ห่วงใยกันแท้ๆๆ  ดีกันเถอะ  :n1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 26.2.09 ตอนพิเศษ [6]
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 27-02-2009 18:45:24
ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง แต่น่าจะค่อย ๆ พูดจาปรับความเข้าใจและความรู้สึกให้ตรงกันดีกว่าทะเลาะกันนะ

เอาใจช่วยทั้งสองคนค่ะ

+ 1 และ  :กอด1: เป็นกำลังใจให้ minchy นะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 27-02-2009 20:28:13
ตอนพิเศษ [7]

----------------------


“แสดงว่ามีเหตุผลอื่นอีก....”

ทำเสียงเยาะเย้ยเขาอีก เคลวินยิ่งจ๋อยหนักเข้าไปใหญ่ แต่เขาก็ยังมีสติดีพอ รีบอธิบายต่อเพื่อแก้ความเข้าใจผิดของผม

“ใช่ครับ อย่างแรกเลยก็คือ ห้องเช่าของคุณไกลจากที่ทำงานมาก ไปมาก็ลำบาก ต้องใช้เวลาไปกลับหลายชั่วโมง มันทำให้คุณเหนื่อยเกินความจำเป็น แทนที่จะเอาเวลาทั้งหมดที่เสียไปกับการเดินทาง ก็สู้เอาเวลาเหล่านั้นมาทำอะไรให้เกิดประโยชน์ดีกว่า”

ข้อนี้ผมเห็นด้วยกับเขา เพราะหลายต่อหลายครั้งที่ผมรู้สึกท้อใจ ที่ต้องตื่นแต่เช้า ปั่นจักรยานไปจอดไว้ที่ริมฟุตบาท ตรงถนนใหญ่ ต่อรถเมล์เพื่อไปทำงาน ซึ่งบางครั้งก็โชคดีได้นั่ง บางวันก็ต้องยืนยาว กว่าจะถึงที่ทำงานก็เหงื่อตก

แถมตอนกลับบ้าน วันไหนงานเยอะ ต้องอยู่ทำโอที กว่าจะกลับมาถึงบ้าน ปั่นจักรยานกลับก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด แถมบางวัน ภรรยาจอมหื่นก็ยังกวนใจไม่ให้ผมได้หลับได้นอนอีก

ผมเคยคิดจะย้ายบ้านเช่าหลายครั้งเหมือนกัน แต่ยังไม่สบโอกาส เนื่องจากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ผมต้องแบ่งเงินไว้ใช้สำหรับตัวเอง ส่งให้พ่อแม่และน้องๆ และยังเป็นค่าเช่าบ้านอีก

จะไปอยู่อาศัยในเมือง ผมก็คงสู้ค่าที่พักไม่ไหว เลยต้องพับโครงการไว้ก่อน ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะเจอคนใกล้ตัวจับมัดมือชก อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนไร้ที่อยู่ที่เป็นของตัวเอง

“ข้อที่สอง บ้านของคุณ อยู่ในซอยลึก เปลี่ยว น่ากลัวมาก ถึงห้องเช่าจะราคาถูก แต่ก็ไม่ค่อยปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน หากคุณกลับมาดึกๆ แล้วมีผู้ประสงค์ร้ายดักจี้ชิงทรัพย์คุณระหว่างทาง คุณจะทำอย่างไร ผมมารอคุณอยู่ที่นี่ ไม่รู้ไม่เห็น ก็ไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้”

ข้อนี้ก็จริงของเคลวินอีกเช่นกัน บ้านเช่าราคาถูก มักอยู่ไกล และเปลี่ยว ราคาจึงเป็นเครื่องจูงใจให้คนตัดสินใจมาเช่าอยู่ หากผมมีเงินเยอะ ผมก็คงอยู่ในที่ปลอดภัยกว่านี้

“อาหารการกินก็ลำบาก หาซื้อได้ยาก ต้องซื้อตั้งแต่ปากซอยเข้ามา หากวันไหนกลับมาดึกๆ ลืมซื้ออะไรเข้ามากิน ก็จะต้องนอนหิวทั้งคืน”

นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมเคยรู้สึกหงุดหงิด เพราะบางที ผมทำงานเพลินๆ รู้สึกหิวอยากหาอะไรกิน แต่แถวบ้านไม่มีอะไรขาย อยากจะกินก็ต้องเดินออกไปซื้อที่ปากซอย

สมัยก่อนไม่มีตู้เย็นแช่ของ ผมก็ต้องกินให้อิ่มก่อนเข้าบ้าน หรือไม่ก็ซื้อเข้ามาทาน แต่ก็ต้องซื้อให้พอกิน เพราะถ้าซื้อมาน้อย ก็ต้องทนหิว ถ้าซื้อมาเยอะ ก็ไม่มีที่เก็บ ต้องทิ้งให้เน่าเสีย

“ที่สำคัญ ห้องของเคนแคบมาก ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งของผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท คุณน่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่านี้ จะได้สมฐานะนะครับ ทำงานในบริษัทใหญ่โต จะทำตัวกระจอกงอกง่อยได้ไง”

ในท้ายที่สุดข้อสรุปของเขาก็มาลงที่ความมีหน้ามีตาในสังคมจนได้ ผมไม่เห็นด้วยเลย กับเปลือกนอกสวยงาม ที่ทุกคนพยายามจะให้ความสำคัญกับมัน ผมสนแต่เรื่องของจิตใจมากกว่า

“ถึงผมจะเอาหนังราชสีห์มานุ่งห่ม แต่ยังไงผมก็คงเป็นได้แค่หมาตัวหนึ่ง จะให้ผมแสร้งทำเป็นคนรวย ผมคงทำได้ไม่เนียน เหมือนพวกผู้ดีมีสกุลหรอกครับ”

ตอบอย่างประชดประชัน เคลวินนิ่งอึ้งไปสักพัก ใบหน้าของเขาถอดสี รีบปฏิเสธเสียงลั่น

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้น เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว ผมไม่เคยดูถูกเรื่องความรวยความจน ไม่ได้เห็นว่ามันสำคัญที่สุดในชีวิตของคนเรา

แต่ที่ผมพูดแบบนั้นก็เพราะว่า เคนทำงานอยู่ในบริษัทของผม ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการเงินและความมั่นคง สินค้าและการบริการของเราช่วยสนับสนุนส่งเสริมให้ลูกค้าดูดี

เราขายภาพลักษณ์ที่สวยหรูมีระดับ นั่นหมายความว่า เราต้องทำให้ลูกค้าของเราเชื่อว่าเราเป็นพวกคนชั้นแถวหน้าจริงๆ ถ้าเราทำสวนทางกับสิ่งที่เรานำเสนอ แล้วลูกค้าจะเชื่อมั่นศรัทธาเราได้อย่างไร”

เหตุผลที่เขาอธิบายฟังพอเข้าท่าบ้าง ในแง่ของเจ้าของกิจการคงต้องคำนึงถึงหน้าตาขององค์กรเป็นหลัก แต่ในฐานะสามีภรรยากัน จำเป็นด้วยหรือที่ต้องยึดถือหน้าตามากกว่าหัวใจ

“การที่ผมบอกว่า ไม่ให้คุณทำตัวกระจอกงอกง่อย ผมไม่ได้กำลังบอกให้คุณทำตัวฟุ้งเฟ้อ ผมแค่ให้คุณทำตัวสมกับฐานะ

คุณเป็นเลขาของท่านประธานนะครับ ประธานที่มีบริษัทในเครือมากมาย จะปล่อยให้ลูกน้องตัวเองอยู่ในบ้านซอมซ่อได้อย่างไร มันแสดงให้เห็นว่าผมไม่เคยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานในบริษัท ภาพลักษณ์ขององค์กรจะเสียหายไปด้วย”

นี่เขาห่วงภาพลักษณ์ขององค์กรมากกว่าจิตใจของผมหรือนี่ แล้วที่ผ่านมานั้นมันคืออะไร เขาหลอกผมให้ตายใจ

คิดว่าเขายอมทำทุกอย่างเพราะรักผม เพื่อหวังจะให้ผมตกลงปลงใจกับเขาใช่ไหม พอผมตัดสินใจเลือกเขา เคลวินก็ถือโอกาสเปลี่ยนแปลงผมอย่างที่ตัวเองต้องการ ทำแบบนี้ผมรับไม่ได้

“เคนครับ เชื่อผมเถอะนะ ผมหวังดีกับคุณจริงๆ ผมรักคุณนะครับ”

เขาบอกรักผม เมื่อก่อนนี้ผมอาจจะเชื่อ แต่ตอนนี้ผมเริ่มคลางแคลงใจในตัวเขาเสียแล้ว ความโกรธที่เคลวินทำอะไรลงไปโดยพลการ ยังไม่เท่ากับการที่เขาทำร้ายจิตใจผมด้วยการพูดจากคล้ายดูถูกกันเช่นนี้

ใช่สิ ผมมันกระจอก ผมมันไม่คู่ควรกับเขา ผมไม่ได้รวยล้นฟ้า มีทรัพย์สินมากมาย เป็นคุณหนูอย่างเขานี่ บางที

ผมอาจจะคิดผิดก็ได้ ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับเขา เพราะถึงยังไง กาก็ต้องเป็นกาอยู่วันยังค่ำ ไปรวมอยู่กับฝูงหงส์ คงไม่เป็นหงส์ ขึ้นมาได้

ความน้อยเนื้อต่ำใจที่เคลวินเห็นศักดิ์ศรีหน้าตามีราคามากกว่าหัวใจของผม ทำให้ผมไม่อยากให้ความสำคัญกับเคลวินอีกต่อไป

ผมหมุนตัวเดินหนีเขาเข้าห้อง และขังตัวอยู่ในนั้น ไม่ยอมออกมาทานข้าว แม้เขาจะร้องเรียกอ้อนวอนอย่างไร ผมก็ไม่ยอมออกมา จวบจนกระทั่งได้เวลานอน คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ผมนอนแยกจากเขา นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน





หลังจากเหตุการณ์ไม่ลงรอยกันในวันนั้น ผมก็พยายามเลี่ยงที่จะเจอหน้าเคลวิน ผมนอนก่อนเขา และตื่นทีหลังเขา เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเจอกัน ผมจะทานข้าวเย็นก่อนเคลวิน ทานเสร็จก็จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องซึ่งเคลวินเตรียมไว้ให้แขกที่มาเยี่ยมเยียนได้พัก แต่ผมยึดเอาไว้เป็นของตัวเอง ใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือพวกฮาวทูต่างๆ ที่เคลวินขนมาให้อ่าน

เขากลัวว่าผมจะไม่มีอะไรทำตอนที่ถูกพักงาน 30 วัน เลยค้นหาหนังสือที่เกี่ยวกับบริหาร การจัดการคนมาให้ผมได้ศึกษา เขาเคยพูดกับผมว่า ผมเป็นคนดีมีความสามารถ วันหนึ่งผมจะเป็นใหญ่เป็นโต และผมควรจะเรียนรู้ทุกอย่างให้เยอะเข้าไว้ ความรู้สามารถหามาจากหลายๆแหล่ง ทั้งการเข้ารับการอบรม การอ่านตำรา และการลงมือปฏิบัติ ถ้าผมขยันและมุ่งมั่น ผมต้องประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

หนังสือทุกเล่มที่เขาให้มา ผมอ่านและศึกษาค้นคว้าภายในเวลารวดเร็ว ที่จริงผมไม่ใช่คนที่ชอบอ่านหนังสือสักเท่าไหร่ แต่เมื่อไม่มีอะไรทำ และต้องการหนีหน้าเคลวิน หนังสือจึงเป็นที่พึ่งสุดท้าย บางครั้งผมหนีเขาไม่ได้ ผมก็งัดหนังสือขึ้นมาอ่าน และไม่สนใจเขา ทำให้เคลวินเลิกตอแยผมไปโดยปริยาย

ดูเหมือนว่าเคลวินจะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี เขารู้ว่าผมโกรธเขามาก กับคำพูดของเขา โดยปกติเคลวินจะมาอ้อน มานัวเนียใกล้ๆ ทำให้ผมวุ่นวายใจ แต่คราวนี้เขากลับถอยห่าง คงอยากปล่อยให้ผมได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง พอเวลาผ่านไป ผมอาจจะได้คิดและเลิกโกรธเขาก็ได้ แต่คงไม่มีวันนั้น

-----------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 27-02-2009 20:50:56
เคนเขาโกรธจริงๆ แล้วนะนั่น ทั่นประธ๊านนนน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 27-02-2009 21:06:43
มาไม่ทันอีกแล้ว  :serius2: โดนเจ้เบ็ตตี้ตัดหน้า  :jul3:

ไม่เป็นไรคนกันเอง จอที่สองก็ได้ +1 ให้หนูมิ้นอีกเช่นเคย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 28-02-2009 01:29:22
เคนอย่าขี้น้อยใจสิจ๊ะ



คิดมาก~~~
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 28-02-2009 01:48:39
แมตซ์ นี้ขอเข้าข้างเคน ละกัน

เคลวิน ไม่น่ารักแล้ว ไม่ถามเคนบ้างเลย

เจ้าเล่ห์นัก  :z1: ภรรยาจอมหื่น
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-02-2009 03:47:17
มาอ่านต่อสามตอนเลย
ไม่ได้เข้ามาหลายวัน
มาเจอตอนท่านประธานเคลวินงานเข้าเลยทีเดียว

บวก 1 ให้มิ้นจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-02-2009 12:18:32
เฮ้อออออออออออออ  :เฮ้อ:  ผิดใจไปกันใหญ่
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 03-03-2009 15:05:44
 :กอด1: จะงอนกันอีกนานไหมคะ....

เคนกับเคลวินนะคะ

คนอ่านเค้ารออยู่นะ

+1 ให้คนโพส เผื่อใจอ่่อนมาลงต่อเร็วๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 04-03-2009 01:41:26
 :serius2:

เคนๆๆๆๆๆ  เค๊นนนน   นายเคลวินเค้ารักเคนมากต่ะหากกล่ะ

พูดคุย คืนดีกันซะให้ไว

รออ่านตอนต่อไปนะครับ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 04-03-2009 20:26:20
สนุกมากกกกกเลย ท่านประธานน่ารักสุดๆ

รอตอนต่อไปฮ้าบบบบ  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 05-03-2009 07:32:12
ยังให้กำลังใจเคลวิน เคน พี่เคท และคนโพสต์เสมอค่ะ  ตอนนี้งานเข้า ก็ให้เข้าใจกันเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 06-03-2009 12:56:32
^^

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 07-03-2009 21:45:30
น้องมินท์ หายไปไหนอ่ะ หลายวันแล้วนะจ๊ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-03-2009 18:41:13
เนี้ยตามอ่านจนทันแล้ว   รออ่านต่ออยู่น๊า ชอบพี่เคนมั่กมั่ก
คุณเคลวินก้อชอบจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-03-2009 19:28:50
มาส่งกำลังใจให้คนโพสและคนแต่งจ้า
หายไปไหนเอ่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 09-03-2009 09:00:41
คิดถึงจังเลยอ่ะ...หายหน้าหายตาไปหลายวันแล้วนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 09-03-2009 17:14:33
อะนะ ทีนี้จะทำไงดีล่ะ หึหึหึ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 10-03-2009 14:16:30
ตามอ่านตอนพิเศษทันแระ

หึหึ สนุกดี

 o13

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-03-2009 06:22:11
เงียบมากเลย
 :เฮ้อ:
ส่งข่าวหน่อยจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 17-03-2009 18:33:19
เคนกะเคลวิน หายไปไหนแล้วเนี่ยยยยยยยย



คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 19-03-2009 06:40:15
สวัสดีสาวกเคน กับเคลวินทุกท่าน

แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน หลังจากหายไปนานค่ะ ปัญหาสุขภาพบ้าง ปัญหาคอมบ้าง เรื่องส่วนตัวบ้างอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ ลงนิยายที่เมืองลับแล ของตัวเองไว้แล้วนะคะ รอน้องมิ้นท์ มาสอยเอาไปค่ะ อิอิอิ

ตอนนี้กำลังแต่งตอนจบค่ะ คิดว่าแต่งจบวันนี้แน่นอน อิอิอิ


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้&#
เริ่มหัวข้อโดย: February ที่ 20-03-2009 11:12:09
 :L2: ขอให้ผ่านปัญหาทุกอย่างไปด้วยดีนะคะ ขอเป็นกำลังใจให้




ตอนนี้ก็นอนคิดถึงเคนกับเคลวินกันต่อไป.... :impress3:


คุณมิ้น..... :sad4: เค้าคิิดถึงแล้วนะ........

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 21-03-2009 14:32:55
เข้ามาแจ้งว่า เรื่องนี้แต่งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ รอน้องมิ้นมาเอาไปลงนะคะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 21-03-2009 16:35:12
 :mc4: เย้เย้ !!! รออ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 23-03-2009 17:36:55
 :sad11: รออ่านอยู่นะครับ...รีบเอามาให้อ่านเร็วๆ เหอะ... :call:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 23-03-2009 19:42:55
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=9114.0

มีเรื่องใหม่มาให้อ่านกันค่ะ อย่าลืมไปแวะเยี่ยมทักทายบ้างนะคะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-03-2009 03:17:19
ขอบคุณคุณเคทมากค่ะ

รออ่านเรื่องนี้

และไปติดตามอ่านเรื่องใหม่ด้วยค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 27.2.09 ตอนพิเศษ [7]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-03-2009 19:14:58
ขอโทดที่หายไปซะนานนะค่ะ :3123:


มาต่อตอนที่ [8] กันดีกว่า


----------------------------------


“เคน จะออกไปไหนหรือครับ”

เคลวินซึ่งนั่งหงอยเหงาอยู่ที่โซฟา ยืดตัวขึ้น เมื่อเห็นผมเดินผ่านมา ผมไม่สนใจที่จะตอบด้วยยังน้อยใจเขาอยู่ เดินผ่านเขาไปที่ตู้เก็บรองเท้า และหยิบรองเท้าของตัวเองขึ้นมาสวม เคลวินรีบลุกขึ้น และเดินมาหาผม มองตาละห้อย

“เคนจะหนีผมไปไหน เกลียดขี้หน้าผมจนไม่อยากจะอยู่ที่นี่เลยหรือครับ”

เขาถามผมอีก มือใหญ่ของเขายื้อยุดฉุดแขนผมไว้

“ผมอยากกลับบ้าน”

บอกเคลวินเสียงดัง เหมือนกลัวเขาจะไม่ได้ยิน พลางสลัดแขนให้พ้นจากการเกาะกุมของเขา

“บ้าน ..บ้านที่ต่างจังหวัดหรือครับ”

เขาพูดอย่างหวาดระแวง ผมไม่ตอบ ที่จริงผมยังไม่ได้คิดที่จะกลับไปหาพ่อกับแม่ที่บ้าน เพียงแค่อยากหาบ้านเช่าหลังใหม่เท่านั้น แต่ถ้าเคลวินจะคิดอย่างนั้นผมก็ไม่สน

“ผมไปด้วยนะ”

คนเจ้าเล่ห์อ้อนขอไปด้วย แต่ผมปฏิเสธเสียงแข็ง ตอนนี้ผมยังทำใจไม่ได้ ที่เคลวินพูดจาเหมือนดูถูกคน ที่ผ่านมาผมมองคนผิดไป

คิดว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ถือยศถือศักดิ์ แต่แล้วเขาก็เหมือนกับคนรวยคนอื่นๆ ที่ชอบเปลือกที่สวยงาม มากกว่าจะให้ความสำคัญกับจิตใจ

ผมเดินออกมาจากเพนท์เฮ้าส์ของเคลวิน มาหยุดยืนอยู่ที่หน้าลิฟท์ รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปไหนดี โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีพนักงานมาทำงานในตึกนี้ นอกจากบางคนที่อาจจะเข้ามาทำงานล่วงเวลา

แต่ผมก็จะเอ้อระเหยลอยชายอยู่แถวๆนี้ไม่ได้ เพราะผมถูกสั่งพักงาน ไม่มีกิจธุระอันใด หากมีใครพบเจอผมที่ทำงาน

คงมีคนสงสัย ดีไม่ดีอาจจะโยงเรื่องไปถึงเคลวิน ทำให้เขาถูกนินทาจนเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ง่ายๆ ผมจึงควรจะหลบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดดีกว่า

ลิฟท์เลื่อนขึ้นมาตามการกดเรียก ผมก้าวเข้าไปในนั้น และกดลิฟท์ปิด ขณะที่ประตูลิฟท์เลื่อนเข้าหากัน เคลวินก็สอดมือเข้ามาเพื่อให้ลิฟท์มันเปิด ผมตกใจมากที่เคลวินทำตัวเสี่ยงต่อการถูกลิฟท์หนีบมือขาด รีบกดเปิดลิฟท์แทบไม่ทัน

คนเจ้าเล่ห์ยิ้มเรี่ยราดให้ผม ในขณะที่ผมจ้องเขาตาขุ่น นึกโมโหที่เคลวินทำอะไรเป็นเด็กๆ ไม่รู้จักคิด ทั้งที่ก็โตเป็นผู้ใหญ่ เป็นถึงประธานบริษัทแล้ว ยังชอบทำอะไรตามใจตัวเองอีก นี่คงกะตามผมไปด้วยล่ะสิ ก็ลองดูกันสักตั้ง ว่าเขาจะตามได้แค่ไหน

พอถึงชั้นล่างที่ผมกดเลือกเอาไว้ ลิฟท์ก็เปิดออก ผมก้าวพรวดออกไปโดยไม่สนใจเคลวิน พยายามจะเดินให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เขาตามได้ แต่เคลวินก็ตามติดไม่ยอมให้ผมคลาดสายตา

“คุณจะตามผมมาทำไม เดี๋ยวใครมาเห็นก็เอาไปนินทาหรอก ไม่กลัวเสียชื่อเสียงหรือไง”

ถามกึ่งประชด กึ่งห่วงใย เคลวินส่ายหน้า

“ผมไม่ได้แคร์เรื่องชื่อเสียง ผมแคร์ความรัก แคร์เคนมากกว่า”

คำตอบนั้นทำให้ผมอึ้ง พูดไม่ออก เคลวินดีตรงนี้ ตรงที่ตรงไปตรงมากับความรู้สึกของตัวเอง เขาแสดงออกอย่างโจ้งแจ้งว่ารักผม และพร้อมจะเปิดเผยมันตลอดเวลา มีแต่ผมที่พยายามห้ามไม่ให้เขาทำแบบนั้น เพราะไม่อยากให้ใครนินทาว่าร้ายเคลวิน และผมก็ไม่ได้ชอบเรื่องนี้ในตอนแรก

“ถ้าเคนไม่กลับบ้าน ผมก็จะตามไปทุกที่ จนกว่าคุณจะยอมพูด ยอมคุยกับผม”

คนตัวโตทำหน้าดื้อดึง แต่คนละแบบกับที่เคยเห็น ประธานบริษัทเวลามั่นใจในความคิดและสิ่งที่ตัวเองทำ หน้าตาเขาจะนิ่งเฉย ดูหยิ่งๆ ทว่าใบหน้าที่เห็นอยู่นี่เหมือนคนที่กำลังพ่ายแพ้ และพยายามทุกวิถีทางที่จะกลับมาชนะให้ได้

“เรายังมีเรื่องอะไรคุยกันอีก”

ย้อนถามกลับไปเสียงขื่น ด้วยยังโกรธและน้อยใจเขาอยู่ เคลวินทำหน้าจ๋อย ตอบกลับมาด้วยเสียงอ่อยๆ
“ก็เรื่องห้องพักไงครับ ผมไม่อยากให้เคนเข้าใจผมผิด”

“ผมเข้าใจถูกแล้ว เข้าใจท่านประธานได้อย่างถูกต้อง หลังจากที่ผมเคยเข้าใจผิดมานาน”

พูดเหน็บเขาอีก เคลวินทำสีหน้าเหมือนปวดใจ คำพูดของผมคงไปกระทบความรู้สึกของเขาพอสมควร ผมเบือนหน้าหนี รีบเดินเร็วขึ้น ไม่อยากถูกเคลวินรั้งไว้ด้วยหน้าตาและท่าทางที่น่าสงสาร กลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน ให้กับคนที่ทำร้ายใจผม

“ถ้าเคนไม่ยอมให้ผมอธิบาย เคนก็จะเข้าใจผมผิดอย่างนี้ไปเรื่อย นี่มันเป็นสิ่งที่เคนต้องการให้มันเกิดขึ้นแล้วใช่ไหมครับ..... ความบาดหมางที่จะนำไปสู่การแยกทางกัน”

เคลวินเหมาะสมกับเป็นประธานบริษัทจริงๆ พอผมเดินหนี เขาก็เดินตาม แถมซ้ำยังใช้วาทะที่ทำให้ผมปวดใจ คำพูดของเขาทำให้ผมฉุกคิด ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี่มันเป็นสิ่งที่ผมต้องการจริงๆหรือเปล่า ผมพยายามหนีจากเคลวิน เพราะผมโกรธที่เขาพูดเหมือนดูถูกคน หรือเพราะว่าผมไม่อยากอยู่กับเขากันแน่

ระหว่างที่ฉุกคิด ผมก็เดินช้าลง ทำให้เขาเดินตามมาทัน เคลวินไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่เดินเคียงข้างผมอย่างเงียบๆ สักพักผมรู้สึกว่าเขาไม่ได้ตามผมต่อไป

ตอนแรกผมคิดว่าเคลวินท้อใจ แต่เมื่อเหลียวไปมอง ก็เห็นเคลวินยืนนิ่ง ตามองไปข้างหน้า ท่าทางตกใจ

ตอนแรกผมคิดว่าเขามองผม แต่บางอย่างมันบอกว่าไม่ใช่ ผมเหลียวไปมองข้างหน้าตัวเอง ก็เห็น รถคันหนึ่งมาจอดไม่ไกลจากจุดที่เราสองคนเดินอยู่เท่าไหร่ มีผู้หญิงสองคนเปิดประตูลงจากรถมา เป็นผู้หญิงฝรั่ง รูปร่างผอมเพรียว คนหนึ่งสูงอายุกว่าอีกคนหนึ่ง แต่ดูสวยทั้งคู่

สองคนนั้นชะงักเล็กน้อย และมองข้ามผมมาที่เคลวิน ก่อนจะเดินตรงมาทางที่เราสองคนยืนอยู่ ลางสังหรณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับผม เริ่มรู้สึกว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับผมและเขา ทำให้ผมระวังตัวขึ้นมาทันที

“เคลวิน ลูกชายสุดที่รักของแม่ ใจคอจะไม่กลับบ้าน กลับช่องไปเยี่ยมพ่อแม่บ้างหรือไง”

ทันทีที่เดินมาถึงตัว ผู้หญิงฝรั่งที่สูงวัยกว่า ก็ต่อว่าเคลวิน ซึ่งยืนยิ้มเจื่อนๆ หน้าตาแตกตื่น จากคำเรียกชื่อที่ได้ยิน ทำให้ผมต้องเขม้นมองผู้หญิงสองคนนั้นอีกครั้ง

คงจะเป็นแม่และพี่สาวของเคลวินแน่ๆเลย ผมนึกถึงเรื่องที่ได้ยิน เกี่ยวกับครอบครัวของเคลวิน ที่กำลังพยายามหาว่าลูกชายมาติดใจใครในบริษัทนี้ เริ่มเห็นเค้าลางของความลำบากเกิดขึ้นแล้ว

“มาได้ยังไงกันครับแม่”

ได้ยินเสียงเคลวินตอบหญิงฝรั่งคนนั้น เขาพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผมพอฟังออก ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ผมไม่รีบเดินจากไปจากที่ตรงนั้น รอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

“ก็ให้สเตฟานี่เขาพามาน่ะสิ พี่เขาบ่นๆ ว่ามาบ้านทีไรไม่ได้เจอเคลวินเลย พอรู้ว่าเคลวินอยู่ที่นี่ ก็เลยรบเร้าให้พามาที่นี่แหละ”

เสียงของคนเป็นแม่ตอบกลับมา จากนั้นก็มีอีกเสียงขานรับสนับสนุน

“ใช่ พี่ไม่ได้เจอหน้าเธอนานมากเลยนะ ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ เลยชวนแม่มาหาเธอที่เพนท์เฮ้าส์ ลองเสี่ยงมา ไม่ได้โทรมาก่อน เพราะกลัวเธอจะแอบหนีเพราะไม่อยากเจอหน้าพวกเรา นับว่าตัดสินใจถูกที่ไม่กระโตกกระตากให้เธอรู้ ในที่สุดก็เจอเธอจริงๆด้วย”

พี่สาวของเคลวิน ทำท่าตื่นเต้นดีใจ มันทำให้ผมตระหนักได้ว่า เคลวินไม่ได้เจอคนในครอบครัวนานเพียงไร ได้ฟังคนในครอบครัวเขาพูดเชิงตัดพ้อกัน ผมก็รู้สึกผิดไปด้วย เนื่องจากตัวต้นเหตุที่ทำให้เคลวินไม่ได้กลับบ้านก็คือผมนั่นเอง

“ที่นี่มีอะไรดีเหรอ ถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง หรือว่า....”

แม่ของเคลวินถามอย่างสงสัย ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที รู้สึกสังหรณ์ใจว่าคำพูดที่เว้นไว้ให้เติมคำในช่องว่าง อาจจะมีอะไรเกี่ยวพันมาถึงผม

“แอบซุกซ่อนคนรักไว้ที่นี่”


--------------------

สั้นๆ ก่อน   ถ้าต้นฉบับยังเหลือ  พรุ่งนี้เจอกัน :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 24-03-2009 19:56:30
จะเป็นยังงัยต่ออะ ลุ้นลุ้นลุ้น  เรื่องใหม่จาตามไปอ่านน๊า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 24-03-2009 21:43:02
ดู ดู๋ ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้

ทิ้งให้ค้างอย่างงี้ได้ยังไง หนูมิ้น  :เฮ้อ: พรุ่งนี้ ก็พรุ่งนี้

เอาใจก่อน +1 ให้หนูมิ้น อย่าช้านะครับ เพราะได้ยินคุณเคท บอกว่าจบแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 25-03-2009 01:35:59
โอ๊ะ โอ  ค้างง่ะคับ :serius2:

ขอบคุณที่มาต่อให้นะครับ  แล้วจะรออ่านตอนต่อไปน๊า o13

+1เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-03-2009 01:57:46
บวก 1 ให้หนูมิ้นก่อน ขอบคุณมากจ้า

มารอตอนต่อไป กะลังลุ้นเลยนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-03-2009 20:10:46
ค้างได้ที่เลยอะ  :z3:

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 24.3.09 ตอนพิเศษ [8]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 25-03-2009 22:40:36
ดู ดู๋ ดูเธอทำ ทำไมถึงทำกับฉันได้

ทิ้งให้ค้างอย่างงี้ได้ยังไง หนูมิ้น  :เฮ้อ: พรุ่งนี้ ก็พรุ่งนี้

เอาใจก่อน +1 ให้หนูมิ้น อย่าช้านะครับ เพราะได้ยินคุณเคท บอกว่าจบแล้ว :z2:


พี่เคทบอกว่าแต่งจบแล้ว  แต่ยังได้ต้นฉบับมาแบบยังไม่จบค่ะ  ต้องช่วยกันทวงพี่เคทแล้ว 

 :call:  พี่เคท The Master จบแล้วนะพี่  มาลงให้จบเถอะ  อยากอ่านอ่ะ



ตอนต่อไปเลยค่ะ

----------------------------


“ที่นี่มีอะไรดีเหรอ ถึงไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง หรือว่า....”

แม่ของเคลวินถามอย่างสงสัย ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที รู้สึกสังหรณ์ใจว่าคำพูดที่เว้นไว้ให้เติมคำในช่องว่าง อาจ

จะมีอะไรเกี่ยวพันมาถึงผม

“แอบซุกซ่อนคนรักไว้ที่นี่”

นั่นไง นึกแล้วไม่มีผิด พี่สาวของเคลวินต่อประโยคที่แม่เขาพูดค้างไว้ มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่บอกผมไว้

แม่ของเคลวินกำลังอยากรู้ว่าอะไรที่เป็นสิ่งดึงดูดเคลวินไว้ที่นี่ งาน หรือความรัก และใครกันคือคนที่เคลวินติดพันอยู่

“เงียบอย่างนี้แปลว่าไม่ปฏิเสธใช่ไหม”

พี่สาวถามอีก

“แม่ชักอยากรู้จักหน้าตาลูกสะใภ้ของแม่เสียแล้วสิ ว่าจะมีหน้าตาอย่างไร”

ประโยคนั้น ทำให้ผมขยับเท้าก้าวเดิน ด้วยกลัวจะกลายเป็นตัวปัญหาให้เคลวิน ทว่ายังไม่ทันจะเดินไปไหนไกล เสียงของ

เคลวินก็ดังขึ้น ทำเอาผมหยุดกึก เดินไม่ออกขึ้นมา

“ไม่ใช่ลูกสะใภ้ครับแม่ ลูกเขยต่างหาก”

โธ่ เคลวิน ไปพูดแบบนั้นทำไม ถึงจะเป็นคนมั่นใจแค่ไหนก็ตาม แต่ไปบอกคนในครอบครัวตัวเองอย่างนั้น ไม่กลัวแม่กับพี่

สาว ช๊อคตายหรือไง ใครมันจะรับได้ล่ะ ที่ลูกตัวเอง จะกลายเป็นเมียของผู้ชายด้วยกัน

ทุกอย่างรอบตัวของผมดูเงียบงัน หลังจากเคลวินหลุดประโยคนั้นออกมา ทว่าผมกลับไม่ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากผู้เป็น

แม่และพี่สาวของเคลวิน สงสัยพวกเขาอาจจะกำลังตกตะลึงอยู่ก็ได้ ผมอยากเห็นหน้าพวกเขา แต่ด้วยความที่กลัวงานจะเข้า

เคลวิน ผมเลยได้แต่นิ่งเฉย และพยายามบังคับตัวเองให้ก้าวเดิน ทว่าเสียงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นทำให้ผมต้องหยุดฟังด้วย

ความตกใจ

“พาแม่ไปดูหน้าลูกเขยหน่อยสิ อยากรู้ว่าใครกันนะที่ทำให้ใจลูกของแม่หวั่นไหว”

น้ำเสียงนั้น ไม่ได้แสดงความโกรธแม้แต่นิดเดียว มีแต่ความตื่นเต้น คนที่รู้สึกแปลกใจกลับเป็นผมเอง ผมไม่คิดว่าจะมีพ่อ

แม่คนไหนยอมรับได้ ต่อให้รักลูกแค่ไหนก็ตาม แต่หากลูกชายคนเดียวที่หวังฝากผีฝากไข้ กลายเป็นเกย์รักผู้ชายด้วยกัน ก็

คงทำใจลำบากกันบ้าง ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่เกิดกับแม่และพี่สาวของเคลวิน พวกเขาทำเหมือนไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

แถมซ้ำยังทำน้ำเสียงให้รู้ว่าพวกเขากระตือรือร้นอยากเห็นหน้าลูกเขยแค่ไหน

ได้ยินอย่างนี้แล้ว ผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทาง ผมควรจะหลบไปจากตรงนี้ จะได้ไม่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เคลวิ

นและครอบครัวรู้สึกวุ่นวายใจ ผมไม่รู้ว่าพวกเขายินดีจริงๆที่ลูกชายจะมีสามี หรือว่าเป็นแค่การหยอกล้อกันเล่นขำขำ

ระหว่างคนในครอบครัวเท่านั้น

ผมยังคงเป็นคนที่คิดช้าเหมือนเดิม ในขณะที่ผมตัดสินใจเดินหนีออกมาจากตรงนั้น เสียงเคลวินก็ดังขึ้นทางเบื้องหลัง เขา

เรียกชื่อผมด้วยเสียงอันดัง ไม่ได้เป็นการสั่ง แต่มันเว้าวอน จนผมต้องหยุดยืนนิ่ง ไม่กล้าก้าวต่อ
“เคน อย่าเพิ่งไปนะครับ แม่อยากรู้จักเคน”

เล่นพูดกันแบบนี้ ก็เท่ากับเป็นการประกาศตัวผมกับแม่ของเขาน่ะสิ เคลวินนะเคลวิน ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย เดี๋ยวก็ซวย

กันหมดหรอก ทั้งผมและเขา ผมน่ะไม่เท่าไหร่ อย่างดีก็อาจจะถูกไล่ออก เพราะบังอาจไปทำให้ลูกชายเจ้าของบริษัทมัว

หมอง แต่เคลวินนี่สิ ถ้าไม่เรียกผม แม่กับพี่ก็อาจจะมองว่าเป็นการล้อเล่นธรรมดา แต่เคลวินพูดออกมาแบบนี้ ก็เป็นการบอก

ให้คนในครอบครัวของเขารู้ว่า เราสองคนเป็นอะไรกัน

ประธานสองหน้าก้าวเร็วๆ มาหาผม โดยมีแม่และพี่สาว ก้าวตามมาติดๆ ทั้งหมดมายืนอยู่ตรงหน้าผม เราต่างคนต่างมอง

หน้ากันอย่างดูท่าที แม่และเคลวินมองผมด้วยสายตาเป็นประกาย ผมเห็นแววอยากรู้อยากเห็นอยู่ในนั้น และเหมือนว่าพวก

เขาจะขำผมด้วย มันทำให้ผมอึ้ง พูดไม่ออก รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก ที่คนมองผมและทำท่าเหมือนจะหัวเราะ

นี่คงเห็นผมเป็นตัวตลกอยู่ล่ะสิ สายตาแบบนี้ตีความเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ พวกเขาคงนึกดูถูกผม และไม่คิดว่าคนอย่างผม

จะสามารถทำให้เคลวินเปลี่ยนใจได้ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อยน้อยวาสนายิ่งนัก ตัวเขาและครอบครัวของเขา คงไม่ชอบ

คบหากับคนที่ต่างชั้นกับตัวเองเท่าไหร่ ผมมันบ้าไปเองที่คิดว่าเขาจะมีจิตใจดี ไม่มองคนที่เปลือกนอก ที่แท้ตัวเขากับครอบ

ครัวเขาก็ไม่ต่างกันเลย

“แม่ครับ นี่เคน เอ้อ..เคนเป็น...สา...”

ก่อนที่เขาจะหลุดคำพูดออกมาเต็มประโยค ผมก็ยกมือไหว้ทักทายทุกคน พร้อมกับจงใจแนะนำตัวด้วยท่าทางสุภาพและ

นอบน้อมที่สุด ก็ผมมันเป็นแค่ลูกจ้างนี่นะ ไม่ใช่คนสำคัญอะไรของเคลวินนี่

“สวัสดีครับ ท่านประธาน ผมชื่อเคนครับ เป็นผู้ช่วยเลขาของเคล เอ้อ คุณเคลวินครับ”

ตอบออกไปแล้วก็เหลือบมองหน้าเคลวิน เห็นเขาทำหน้าเจื่อนๆ มองผมด้วยแววตาตัดพ้อ คงรู้สึกผิดหวังล่ะสิ ที่ผมไม่ยอม

ให้เขาพูดอย่างที่ใจคิดออกมา ในเวลาที่เราโกรธกันแบบนี้ จะเป็นการดีถ้าจะไม่พูดถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของเรา เพราะ

บางทีเราอาจจะเลิกกันก็ได้ ผมไม่อยากถูกผูกมัด หากคนในครอบครัวของเคลวินรู้เรื่องที่ผมมีอะไรกับลูกชายของเขา อาจ

จะมีปัญหาขึ้นภายหลัง และทำให้ผมไม่สามารถไปจากเคลวินได้ในที่สุด

“นี่หรือจ๊ะ เคนที่เขาร่ำลือกัน”

แม่ของเคลวินรับไหว้ผม และเอามือมือจับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้ พลางจ้องหน้า แววตาของเธอ ฉายแววปราณี ท่าทาง

ไม่ถือเนื้อถือตัว ทำให้ผมเริ่มลังเลใจ ความคิดเมื่อครู่ ที่คิดถึงเธอกับครอบครัว อาจจะเป็นความคิดที่ผิด

“ร่ำลือ ...เรื่องอะไรหรือครับ”

ถามอย่างระแวง หรือว่าแม่ของเคลวินรู้เรื่องที่ผมชกต่อยกับพนักงานในบริษัท จนต้องถูกพักงาน ถ้าอย่างนั้น ภาพของผม

ในสายตาแม่ของเคลวินต้องไม่ดีแน่ๆ อยู่ดีๆก็เกิดหวั่นใจขึ้นมา

“ก็ เขาว่ากันว่า เธอคือคนที่ทำให้เคลวินเปลี่ยนแปลงไปยังไงล่ะจ๊ะ”

เปลี่ยนแปลงที่ว่า คงหมายถึงการไม่กลับบ้านกลับช่องกระมัง รู้สึกผิดอีกแล้ว อยากจะขอโทษที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แม่ลูก

ไม่ได้พบหน้าค่าตากัน เคยคิดมานานแล้วว่าเคลวินมาขลุกอยู่กับผมมากเกินไป คนที่บ้านน่าจะเป็นห่วง ถึงแม้ว่าเคลวินจะ

โตพอเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม แต่คนที่บ้านก็คงกังวล คิดถึงเขาอยู่ดี

“ไหน ขอดูหน้าชัดๆหน่อย ....อืม.....ก็จัดว่าเป็นคนหน้าตาดีนี่ ไม่หล่อมาก แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่น่าเกลียด”

ท่านประธานใหญ่พูดแล้วก็ยิ้มให้ มันเป็นยิ้มที่จริงใจ และดูเป็นมิตร ทำให้ผมเริ่มผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ผมคงมองเธอผิดไป

จริงๆ เธออาจจะไม่ได้นึกดูถูกผมก็ได้

“ผ่านไหมคะ แม่”

คราวนี้หัวข้อสนทนา กลับเป็นเรื่องหน้าตาของผม สองสาวเอียงคอมอง แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์ผมใหญ่ จนผมรู้สึกงง แต่มันก็

เป็นความโล่งใจ เพราะจับน้ำเสียงได้ ว่าเป็นไปในทางชื่นชม มากกว่าดูแคลน เหลือบไปมองเคลวิน ก็เห็นหน้าจ๋อยๆ เมื่อครู่

บานเป็นกระด้ง คงถูกใจที่แม่ของเขาไม่ได้รู้สึกรังเกียจผม

“ก็...สำหรับแม่ ยังไงก็ได้ ถ้าเคลวินชอบ แม่ก็โอเค”

พูดจบก็ส่งยิ้มให้อีก ก่อนที่จะลดมือลงแล้วคว้ามือผมไว้ ส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปจับแขนของเคลวิน พลางพูดเสียงดังฟังชัด

เล่นเอาผมอึ้ง นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้จากปากแม่ของท่านประธานสองหน้า

“ความสุขของเคลวินคือความสุขของแม่”

อ้าว ....ทำไมมันง่ายอย่างนี้ล่ะ จะไม่ไต่สวน ซักถาม หรือโมโหลูกบ้างเลยเหรอ ดุด่า ว่าลูกสักนิดก็ยังดี ที่ทำตัวผิดปกติ มา

ชอบผู้ชาย ซึ่งจะทำให้ครอบครัวมัวหมอง มีมลทิน จะมีคำติฉินนินทาไปทั่ว หากแม่ของเคลวินจะโกรธเกรี้ยว ผมจะไม่รู้สึก

โกรธสักนิด กลับจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนเป็นแม่จะโวยวายใส่ลูกตัวเอง และมันจะได้ช่วยทำให้ผมรู้สึกว่ายังอยู่ใน

สังคมของคนปกติ สังคมของคนที่ยังมีอคติทางเพศ ไม่ใช่ยอมรับกันอย่างง่ายดาย เหมือนว่าการเป็นเกย์ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

แถมทำท่าสนับสนุนอีก



หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 25-03-2009 22:42:30


ผมรู้สึกงุนงงกับพฤติกรรมของคนในครอบครัวนี้จริงๆ งงกับการเป็นคนสองหน้าของเคลวิน ที่เดี๋ยวแข็งกร้าว เดี๋ยวนุ่มนวล

อ่อนหวาน เดี๋ยวเอาแต่ใจ เดี๋ยวขี้อ้อน แล้ว ยังมาความใจกว้าง ที่ยอมรับเรื่องผิดปกติ ให้กลายเป็นเรื่องปกติและถูกต้องของ

แม่กับพี่สาวของเคลวินอีก ท่าทีง่ายๆสบายๆ ไม่ปริวิตกกับการที่คนในครอบครัวชอบผู้ชาย ทำให้ผมรู้สึกแปลกแกมทึ่ง นึก

ไม่ถึงว่าคนในครอบครัวของเคลวินจะยอมรับกันง่ายๆแบบนี้

ไม่ใช่แค่แม่กับพี่สาวเคลวินเท่านั้น ป้าหมี่และลุงเทพที่เป็นคนรับใช้เก่าแก่ ก็พลอยเป็นไปด้วย ทั้งคู่ไม่ได้รังเกียจที่เจ้านายจะ

มีสามี แทนที่จะมี ใจคอจะเห็นดีเห็นงามกันไปหมดทั้งบ้านหรือไง ครอบครัวนี้แปลกเกินไปไหม อย่าสมยอมกับคนที่เอาแต่

ใจตัวเองอย่างเคลวินนักเลย เพราะมันจะทำให้ผมลำบากใจ ไม่สามารถจะเลิกรากับเขาได้

“ใจคอจะยืนพูดกันตรงนี้เลยเหรอ จะไม่ชวนแม่กับพี่ขึ้นไปข้างบนหรือไงเคลวิน”

ผู้เป็นพี่สาวท้วง เคลวินเลยกล่าวเชิญทุกคนขึ้นไปคุยกันที่เพนท์เฮ้าส์ของเขา ซึ่งแน่นอนว่า ผมต้องไปด้วยปริยาย หมด

โอกาสที่จะหนีหน้าเคลวินไปที่อื่น และคงต้องถูกแม่และพี่สาวของเคลวินซักฟอกจนกว่าจะพอใจ เผลอๆวันนี้ผมคงต้อง

ติดแหงกอยู่บนห้องพักของเคลวินไม่ได้ไปไหนอีกวัน

“ขอโทษนะครับ เลยทำให้เคนลำบากเลย”

เคลวินชะลอการเดินเพื่อรอผม เขากล่าวขอโทษ แต่หน้าตาไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกผิด ดูเหมือนมันจะมีรอยยิ้มพึงใจให้เห็น

การที่แม่กับพี่ของเคลวินมาที่นี่ คงสร้างความตกใจให้เขาไม่น้อย แต่ในท้ายที่สุด ก็กลายเป็นเรื่องเข้าทางเขาพอดี เพราะผม

ถูกบีบบังคับทางอ้อมให้ขึ้นไปคุยกับท่านประธานใหญ่แม่ของเขาด้วย ทำให้ผมต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะออกไปหาบ้าน

เช่าข้างนอก

“เจ้าเล่ห์นักนะเคลวิน”

ผมกระซิบบอกเขา เคลวินยิ้มกว้างขึ้น ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเข้าใจถูก เคลวินคงจะอาศัยยืมมือแม่ ช่วยจัดการประสานรอย

ร้าวระหว่างผมกับเขาแน่ๆ จะสำเร็จไหมต้องคอยดูกันต่อไป






“เคนทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว”

เมื่อขึ้นไปบนที่พักของเคลวินแล้ว ผมก็ถูกเรียกตัวให้เข้าไปนั่งคุยกับแม่และพี่สาวของเคลวินที่โซฟาในห้องรับแขก โดยที่

เคลวินรีบชิ่งเข้าครัว เพื่อทำอาหารให้กับพวกเรา เมื่ออยู่กันตามลำพัง ผมก็ถูกซักประวัติทันที โดยหญิงสองวัยที่ผลัดกัน

ซักไซ้ไล่เลียง

“ทำมาจะครบปีแล้วครับ ตอนแรกเป็นลูกจ้างชั่วคราวก่อน แล้วคุณเคลวินก็ได้ให้โอกาสผมมาทำงานด้วยในตำแหน่งผู้ช่วย

เลขาของคุณเคลวินครับ”

ผมเล่าเรื่องราวคร่าวๆให้ท่านประธานแม่ของเคลวินฟัง หญิงสูงวัยมองจ้องหน้าผมอย่างเอาจริงเอาจัง ไม่ว่าผมจะตอบคำ

ถามที่เธอป้อนมากี่ครั้ง ตาเธอก็ไม่ห่างหายไปจากใบหน้าผม ทำให้ผมเริ่มรู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

“พ่อแม่ล่ะ อยู่ที่ไหน ทำงานอะไร”

คราวนี้พี่สาวของเคนถามบ้าง ผมจึงบอกไปตามความเป็นจริง ไม่ได้ปิดบังอะไร เข้าใจว่า สองสาวต่างวัย คงทำหน้าที่แทน

คนในครอบครัวของเคลวิน ในการจะตรวจสอบคุณสมบัติของผมว่าเหมาะสมกับเคลวินหรือไม่

“เธอรักเคลวินหรือเปล่า”

และแล้วก็มาถึงคำถามเด็ด หลังจากที่ล้วงลึกเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของผมจนหมดเปลือกแล้ว แม่ของเคลวินก็วกเข้ามาถาม

ความรู้สึกของผมที่มีต่อลูกชายของเธอ

“เอ้อ....”

เริ่มติดอ่าง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร จะตอบว่า “ใช่” ก็ไม่ได้ เพราะตอนนี้ ผมกับเคลวินยังมีเรื่องที่งอนกันอยู่ ผมเองก็ยังไม่รู้ว่า

ตัวเองอยากอยู่กับเขา หรืออยากหนีห่างไปให้ไกล แต่ครั้นจะตอบว่า “ไม่” มันก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ ผมรู้ดีว่าผมเองก็มีใจให้

กับเคลวินอยู่บ้าง ไม่อยาก โกหกตัวเองว่าเกลียดเขา เพราะบางครั้งผมก็รู้สึกเหมือนกับขาดเคลวินไม่ได้

การที่ผมทำท่าลังเลใจ ไม่ยอมตอบออกมา ว่าคิดอย่างไรกับลูกชายของเธอ ทำให้ใบหน้าสวยๆของท่านประธานดูเครียดขึ้น

“ไม่ต้องกลัวหรอก ขอให้พูดออกมาเลยว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับลูกชายฉัน ชอบหรือไม่ชอบก็บอกออกมา ฉันจะได้รู้ว่าจะ

ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรกับเธอ”

ท่าทางคนบ้านนี้จะเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกันหมด ประธานสองหน้าเคลวินก็คงจะถอดแบบมาจากคุณแม่ของตัวเอง

อยากรู้อะไรก็จะเอาคำตอบให้ได้ ซึ่งผมเองก็อึดอัดไม่น้อยที่ต้องตอบ พูดดีก็ดีไป พูดขัดหูเข้า ชะตากรรมที่ผมจะได้รับ อาจ

จะถึงขั้นถูกไล่ออก ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

“มันสำคัญมากนะเคน เราจำเป็นต้องรู้คำตอบของเธอ เราจะไม่ถามเคลวินว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ เพราะที่ผ่านมา การที่

เขาไม่กลับบ้าน และอยู่กับเธอตลอด มันก็บอกได้แล้วว่าเขารู้สึกอย่างไร ในฐานะที่ฉันเป็นแม่ ฉันอยากจะรู้ว่าเธอจริงใจกับ

ลูกฉันหรือเปล่า ฉันไม่อยากให้เขาผิดหวัง เธอคงเข้าใจ”

คนเป็นแม่อธิบายให้ผมฟังถึงเหตุผลที่ต้องถาม ซึ่งก็ตรงกับที่ผมคิดไว้ ท่านประธานคงอยากทำหน้าที่แม่ที่สมบูรณ์ นอกจาก

จะดูแลเลี้ยงดูจนลูกเติบโตทำงานได้ เมื่อลูกรักจะเป็นฝั่งเป็นฝาก็พยายามกลั่นกรองคัดเลือกคนที่เหมาะสมกับลูกของตัว

ไม่อยากให้เขาเผชิญกับความผิดหวังล้มเหลวกับการเลือกคู่

“ผม..เอ้อ...ผมรู้สึกดีกับเคลวินครับ”

ถึงตอนนี้ผมจะงอนเคลวิน แต่ผมก็เลือกที่จะไม่โกหกตัวเอง ความจริงก็คือ ผมรู้สึกดีกับเขา จะให้บอกว่าผมเกลียด ไม่ชอบ

เขาได้อย่างไร

“อือ...แค่รู้สึกดีแค่นั้นเหรอ”

ท่านประธาน ถามอย่างคลางแคลง เธอคงไม่ค่อยพอใจกับคำตอบสักเท่าไหร่ คิดว่าเธอน่าจะคาดหวังคำตอบที่รื่นหูจากปาก

ผม

“ไม่ได้รักเลยเหรอ ...ฉันคิดว่า ลูกชายฉันรักเธอนะ”

ตาโตคมกล้าจ้องมาที่ผมเขม็ง เหมือนผมจะเห็นแววตาแบบเดียวกับเคลวินอยู่ในนั้น สมแล้วกับที่เป็นแม่ลูกกัน แววตาของ

เธอกับเขา มันดูคล้ายกันจริงๆ

“ครับ...ผมทราบว่าท่านประธานรักผม แต่....”

อึกอัก ไม่กล้าตอบ เพราะไม่แน่ใจความรู้สึกของตัวเอง การที่ผมห่วงใย คิดถึงเขาตลอดเวลา น้อยใจเวลาที่เขาพูดเหมือนดู

ถูกผม รู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้กัน อย่างนี้เขาเรียกว่ารักหรือเปล่านะ

“แต่เธอไม่แน่ใจว่าเธอรักเขาหรือเปล่าใช่ไหม”

พี่สาวของเคลวินพูดดักคอ ผมพยักหน้า

“เอ้อ..ทำนองนั้นครับ”


--------------------

TBC


พรุ่งนี้เจอกัน :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 25-03-2009 23:46:38
คุณแม่กะพี่สาวเปรี้ยวมากกกกก :z2:

แผนง้อของประธานเจ้าเล่ห์จะสำเร็จมั๊ยเนี่ยยยย

เคนใจอ่อนเหอะ เคลน่าระขนาดดดดดนี้  :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 26-03-2009 00:36:57
พี่สาว ดักคอซะ :serius2:

รออ่านตอนต่อไปนะครับ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 26-03-2009 00:56:11
 o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 26-03-2009 11:18:40
 :o12: เคน ใจ ร้าย  :o12:


 :sad4: ไม่ สงสาร เคลวิน มั่ง หรอ  :angry2:


 :m15: มาต่อไวๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-03-2009 16:23:40
ทั้งคุงแม่ กับ พี่สาว จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นมั้ยอะ  สงสารเคลวินจริงๆๆ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 27-03-2009 07:24:59
เรื่องจะไปกันใหญ่แล้วนะ เคน ทำเป็นมาสับสน จริง ๆ ก็รักเค้าจนหมดใจแล้วละ

คงต้องให้ท่านประธานใหญ่ จัดการให้อยู่หมัดซะแล้ว

รีบมาต่อนะ หนูมิ้น +1 ให้คิดว่าเป็นการติดสินบนละกัน  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 27-03-2009 07:38:22
^
^
จ่อก้นน้องวันบ้างหละ  :laugh:

เคนยังไม่แน่ใจ สงสัยท่านประธานต้องทำหน้าที่พิสูจน์ความรู้สึกของเคนให้กระจ่างเพื่อลูกชายสุดที่รักซะแล้ว
บวก 1 ให้หนูมิ้นจ้า กำลังค้างคาเลย รีบมาต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 28-03-2009 14:53:37
มาเป็นกำลังใจให้น้องมิ้นค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 30-03-2009 23:00:02
ลุ้นๆ

^^

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 30-03-2009 23:28:58
ช่างเป็นครอบครัวที่ดีจังเลยอะ คิดถึงความสุขของลูกมาก่อน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 31-03-2009 13:03:55
เข้ามาบอกว่า...
กฏข้อที่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณถูกแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน

ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน

การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น

ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ    เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง

***ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่ห้องอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ***


ต่อไปนี้จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของดิฉันในฐานะโมฯ นะคะ
เพื่อธำรงไว้ซึ่งกฏระเบียบของเล้าฯ  ไม่ได้ทำไปเพราะสาเหตุส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
ถ้าใครไม่สบายใจได้การปฏิบัติหน้าของดิฉัน  เชิญตั้งกระทู้เพื่อสอบถามได้ที่ "ห้องพูดคุยทั่วไป" นะคะ
เพราะห้องนั้นเรามีไว้ให้พูดคุย ซักถาม แสดงความคิดเห็น-คิดถึง ต่อกันได้อย่างอิสระ
ผิดจากห้องนี้ซึ่งเป็นห้องนิยายที่เปรียบไปก็คล้ายกับห้องสมุดกลายๆ
ดังนั้นหากต้องการจะพูดคุย-ไต่ถามกันก็เชิญได้ที่ห้องพูดคุยนะคะ
แล้วดิฉันจะได้เรียนชี้แจงเป็นรายบุคคล และถี่ถ้วนนะคะ
หวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้อ่าน  แฟนคลับ  นักโพสต์ และนักเขียน นะคะ

เราเตือนคุณแล้วนะคะ
เจ้สอง  กะเทยอาวุโส  อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 03-04-2009 12:19:33
หายไปไหนน๊า....หลายวันแล้วอ่ะ

อยากรู้เรื่องต่อแล้วอ่ะ....รอนะครับ.
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 04-04-2009 13:01:20
ผ่านมาหลายวันแล้วแหะ  พี่มิ้นยังไม่มาต่อเลยอ่ะ :m15:
ท่าทางพี่มิ้นคงจะยุ่งอยู่แน่เลย
รออ่านอยู่นะคะ  รีบมาลงต่อเร็วๆน้า ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 25.3.09 ตอนพิเศษ [9]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 05-04-2009 15:56:26
ผ่านมาหลายวันแล้วแหะ  พี่มิ้นยังไม่มาต่อเลยอ่ะ :m15:
ท่าทางพี่มิ้นคงจะยุ่งอยู่แน่เลย
รออ่านอยู่นะคะ  รีบมาลงต่อเร็วๆน้า ^^


แฮะๆๆ  :a5:  ช่วงนี้ยุ่งมากมาย  เพราะต้องรีบสะสางงานที่สะสมไว้ ให้หมดก่อนสงกานต์ค่ะ   พอจะอภัยกะข้ออ้างเราได้มั้ยเนี้ย o22  อีกอย่างก็คือพี่เคทยังแต่งเวอร์ชั่น เคน - เคลวิน  ออกมาไม่จบ


พี่เคท  มิ้นขออนุญาตทวงเลยนะพี่


คงต้องรอกันหน่อยนะคะ


--------------------------







ตอนที่ 10


----------------------

ตอบออกไปตามตรง ตอนนี้ผมยังตอบไม่ได้ว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อเคลวินเรียกว่ารักหรือเปล่า เลยไม่อยากจะพูดให้ความหวังกับเคลวิน และครอบครัวของเขา กลัวว่าถ้ามันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกกตัญญู ตอบแทนน้ำใจดีๆที่มีให้กัน มันจะทำให้เขาเข้าใจผิด .....

“อะไรกัน จนป่านนี้แล้วยังไม่มั่นใจอีกเหรอ ฉันคิดว่าเธอกับลูกชายฉันคงไม่ได้อยู่ด้วยกันเฉยๆใช่ไหม เอ้อ...ฉันคิดว่า เธอสองคนต้อง เอ้อ...”

แม่ของเคลวินแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ทำท่าเหมือนไม่อยากจะพูดประโยค คงจะกลัวว่าผมจะอาย แต่ในท้ายที่สุดก็พูดออกมา คงคิดว่าอ้ำอึ้งไป เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดไปอีก เลยพูดตรงๆเลยดีกว่า

“มีอะไรลึกซึ้งกันใช่ไหม”

ผมถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก มองตอบท่านประธานที่มองมาด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น เล่นถามกันโต้งๆ แบบนี้ มีหรือที่ผมจะปฏิเสธได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครเล่า คนที่รู้เรื่องนี้ นอกจากผมและเคลวินแล้ว ก็มีป้าหมี่และลุงเทพ ใครคนใดคนหนึ่งต้องเล่าให้แม่ของเคลวินฟังแน่ๆ ถ้าโกหกบอกว่าไม่ใช่ เรื่องก็คงจะแย่กว่าที่เป็นอยู่

“เอ้อ...ครับ...ผม...ผมขอโทษ”

กล่าวออกไปอย่างรู้สึกสำนึกผิดที่ได้ล่วงเกินลูกชายของท่านประธาน แม้ที่ผ่านมาเคลวินจะเป็นฝ่ายปลุกปล้ำผมตลอด แต่ถ้าผมไม่ยินยอมพร้อมใจด้วย เรื่องทุกอย่างคงไม่เกิด

“จะขอโทษทำไม ฉันไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องผิดซักหน่อย คนเรารักกัน มีอะไรกันก็เรื่องปกติ ที่ถามเพราะอยากรู้ว่า ลูกชายฉันรักเขาข้างเดียวหรือเปล่า ถ้าเธอไม่ได้รักเขา ฉันก็จะได้คุยกับลูกชายฉัน ให้ทำใจ เขาจะได้ตัดใจจากเธอ”

สีหน้าแววตาและคำพูดเต็มไปด้วยความเด็ดขาดจริงจัง จนผมรู้สึกเกรง ท่าทางเอาเรื่องแบบนี้ เหมือนเคลวินไม่มีผิด ถ้าหากผมจะบ่ายเบี่ยงโดยไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ผมคงต้องถูกเล่นงานอย่างไม่ต้องสงสัย

“อย่ากลัวที่จะตอบความจริง ถ้าเธอกำลังกลัวว่า คำพูดของเธอจะทำให้ฉันไม่พอใจ และจะไล่เธอออกล่ะก็ เธอคิดผิด เรื่องของความรักมันฝืนใจกันไม่ได้ ถ้าเธอไม่รักลูกชายฉัน ก็เป็นเพราะเธอกับเขาไม่ได้ถูกสร้างมาคู่กัน มีบางอย่างที่ไปด้วยกันไม่ได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของเธอกับเขา และฉันจะไม่ขับไล่ใสส่งคนที่ไม่มีใจให้กับลูกฉันหรอก มันจะเป็นการแพ้แล้วพาล ซึ่งไม่ใช่นิสัยของพวกเรา”

ถึงแม้ว่าท่านประธานจะรับรองกับผมว่าทุกสิ่งที่ผมพูดออกไป จะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อหน้าที่การงานของผมทั้งสิ้น ผมก็ยังไม่กล้าพูดอยู่ดี

“ขอถามอีกครั้ง เธอรักลูกชายฉันหรือเปล่า”

“เอ้อ...ผมไม่รู้จะตอบอย่างไรครับท่านประธาน ผมไม่รู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อคุณเคลวิน เรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าผมรู้สึกดีกับเขา รู้สึกเป็นห่วง อยากให้เขามีความสุข...อยากเห็นเขายิ้ม ไม่อยากเห็นเขาเศร้าครับ”

ในที่สุดก็ตัดสินใจพูดทุกสิ่งที่เป็นความรู้สึกที่ผมมีต่อเคลวิน ท่านประธานใหญ่นั่งฟังอย่างตั้งใจ มีรอยยิ้มน้อยๆระบายในหน้า พี่สาวของเคลวินก็มีอาการดุจเดียวกัน ดูเหมือนว่าผมจะมาถูกทาง ทั้งสองน่าจะถูกใจไม่น้อย

“ขอบใจนะ ที่พูดความรู้สึกของตัวเองให้ฟัง แม้เธอจะไม่ได้บอกว่ารักลูกชายฉัน แต่สิ่งที่เล่ามา ก็บอกได้ว่าเธอคิดอย่างไร และฉันก็เชื่อว่าลูกชายฉันไม่ได้คิดเอาเองฝ่ายเดียวแน่”

ท่านประธานส่งยิ้มที่เป็นมิตรมาให้ผม มันทำให้ผมโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ที่พวกเขาเข้าใจผม และไม่เซ้าซี้จะเอาคำรักออกจากปากผมให้ได้ ซึ่งทำให้ผมได้มีเวลาคิดไตร่ตรองว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเคลวิน ไม่ใช่รีบตอบเพื่อที่จะเอาใจ ให้ตัวเองอยู่รอดได้ในบริษัทนี้

“เคลวินฝันอยากเป็นเจ้าสาวมาตลอด ตั้งแต่เป็นเด็กแล้วที่เขาแย่งดอกไม้เจ้าสาวมาครอบครอง เขาก็ไม่เคยที่จะคิดเป็นเจ้าบ่าวอีก ฉันรู้ว่ามันอาจจะฟังดูแปลกๆที่บ้านเราจะยอมให้ลูกชายแต่งงานกับผู้ชาย แทนที่จะหาเจ้าสาวมาแต่งงานด้วย แต่อะไรที่มันเป็นความสุขของลูก คนเป็นพ่อแม่คงไม่นิ่งดูดาย....”

เมื่อได้ฟังคำตอบจากปากผมแล้ว ท่านประธานใหญ่ก็เอ่ยปากเผาลูกชายให้ฟัง คำพูดของท่านแสดงให้เห็นถึงความรักและความเข้าใจที่มีในตัวลูกชายอย่างเปี่ยมล้น สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้สำหรับครอบครัวของเคลวิน คือความรักที่มีให้กันอย่างเปี่ยมล้น ยอมรับได้ในสิ่งที่คนในครอบครัวเป็น ไม่ชิงชังรังเกียจ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมเป็นที่ยอมรับของสังคม

“ เราจะไม่ขัดขวางความรักของเขา จะไม่ขีดเส้นให้เขาเดิน ไม่ฝืนใจให้เขาทำในสิ่งที่พวกเราเป็นสุข แต่ตัวเขาต้องเป็นทุกข์ ถ้าสิ่งไหนที่เคลวินทำแล้วสบายใจ มีความสุข เราก็พร้อมจะสนับสนุน และนั่นหมายรวมถึง หากลูกอยากจะอยู่กินกับคนรักที่เขาเลือกไว้ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชาย พวกเราก็พร้อมจะยอมรับ”

ช่างเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบจริงๆ ฟังแล้วน่าปลื้มแทนเคลวินยิ่งนัก ที่คนในครอบครัวรักและเข้าใจเขาขนาดนี้ มิน่าเคลวินถึงได้มั่นอกมั่นใจตัวเองนัก และกล้าที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่เกรงใจใคร ที่แท้เพราะครอบครัวสนับสนุนนี่เอง

“แม่กับพี่สเตฟานี่ คุยอะไรกับเคนอยู่ครับ”

หลังจากผมถูกแม่ของเคลวินล้วงความลับของหัวใจได้สักพัก เคลวินก็เดินยิ้มแฉ่งออกมาจากห้องครัว สงสัยจะแอบฟังเรื่องที่พวกเราคุยกัน เลยอารมณ์ดี เมื่อได้ยินคำตอบของผม

คนเจ้าเล่ห์เดินมานั่งเบียดกับผมที่โซฟา ตัวเขาใหญ่โตมาก ในขณะที่โซฟาที่ผมนั่งอยู่มันสำหรับคนเดียวนั่งสบายๆ พอเขามาเบียดนั่งด้วย ก็เลยดูอึดอัด ผมกวาดตามองไปยังเก้าอี้ตัวที่ว่างอื่นๆ แล้วก็มองเคลวินเป็นเชิงให้เขาไปหาที่นั่งที่เหมาะสม แต่ประธานสองหน้ากลับนิ่งเฉย ไม่ยอมขยับ แถมหันหน้ามายิ้มให้ผมอีก ท่าทางไม่ลุกไปไหนง่ายๆแน่ แล้วผมก็ย้ายที่นั่งไม่ได้ด้วย เดี๋ยวมันจะน่าเกลียด ผมก็เลยได้แต่ทอดถอนใจ แล้วก็ปล่อยเลยตามเลย นั่งเบียดกับเขาในโซฟาอยู่อย่างนั้น

“คุยเรื่องของเราอยู่นั่นแหละ เคลวิน ทำไมมีคนรักแล้วไม่ยอมบอกคนในครอบครัวให้รู้ ทำไมต้องปิดเงียบ แล้วหนีมาอยู่กันสองคนด้วย”

พี่สาวคนสวยของเคลวินพูดขึ้นบ้าง หลังจากเป็นฝ่ายฟังผมกับแม่ของพวกเขาตอบโต้กันอยู่นาน

“ก็ ผมยังไม่แน่ใจนี่นาว่าเคน เขาจะยอมรับรักผมหรือเปล่า”

นั่นแน่ะ โยนเรื่องมาให้ผมเสียแล้ว เจ้าเล่ห์นัก ตอนนี้แม่กับพี่ของเคลวินละสายตาจากเขามามองที่ผมเป็นตาเดียว ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆให้ จำไว้เลยนะเคลวิน ร้ายกาจนักนะ กะให้แม่กับพี่ช่วยเรื่องของเราหรือยังไง ถึงไง ผมก็ยังงอนเขาอยู่ รอให้สองสาวออกจากห้องก่อนเถอะ ผมจะจัดการกับเคลวินให้สาสม

ว่าแต่...ผมจะจัดการอย่างไรดีเนี่ย...

ปล้ำเขาเอาคืนบ้างดีไหม.....

หรือว่าจะแกล้งยั่วให้อยากแล้วจากไป ทรมานเขาเล่นดี

เอ๊ะ...ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย...ตกลงผมโกรธเขาจริงใช่ไหม ทำไมบทลงโทษที่คิดได้ มันถึงแปลกๆจัง

ผมนั่งนึกวุ่นวายอยู่ในใจ เกี่ยวกับตัวเคลวิน มารู้ตัวอีกที ก็เมื่อประธานสองหน้าเอามือโอบรอบเอวผมไว้ แล้วเบียดมาชิดผมอีก


“นี่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็คงไม่คิดจะบอกพ่อแม่หรือคนที่บ้านให้รู้เลยสินะ ..มันน่าน้อยใจนัก ที่พวกเรารู้ทีหลังคนรับใช้ในบ้าน”

คนเป็นแม่ตัดพ้อต่อว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ คนรับใช้ที่ว่านั้น ก็คงไม่พ้น ป้าหมี่และลุงเทพแน่ๆ ก็น่าอยู่หรอกที่แม่ของเคลวินจะไม่พอใจ ขนาดตัวเองเป็นผู้ให้กำเนิดยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับลูกชายเลย คนทำงานบ้านกลับได้รู้ก่อน

“แม่ครับ พี่ครับ ผมขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดจริงๆครับ แต่ผมต้องการคำตอบจากเคน อยากให้แน่ใจก่อนว่าเขามีใจให้ผมบ้าง ผมก็กะจะพาเคนเข้าบ้านให้พ่อกับแม่และพี่ๆดูตัวครับ”

เคลวินบอกสิ่งที่คิดไว้ออกมา เล่นเอาผมถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาจะมีความคิดเปิดตัวผมเช่นนี้ นอกจากจะเป็นจอมบงการแล้ว ยังเป็นจอมวางแผนอีก ร้ายนักนะ

“ตอนนี้ก็เปิดตัวได้แล้วสิ เพราะเคนเขาก็รู้สึกดีกับเรานี่ ไม่เห็นเขาจะมีทีท่าว่าเกลียดเคลวินตรงไหน”

แม่กับลูกรับส่งเข้าขากันดีจริง พอลูกพูดจบ แม่ก็เสริม เปิดทางให้เสร็จสรรพ

“จริงหรือครับที่รัก เคนรู้สึกดีกับผมจริงๆใช่ไหม”

พอได้ยินแม่พูดอย่างนั้น คนเจ้าเล่ห์ก็ก้มหน้าลงมาหาผมซะใกล้ ก่อนจะกระซิบถามเสียงหวาน มือที่กอดเอวไว้หลวมๆก็กระชับแน่นเข้า

“ฝากไว้ก่อนนะเคลวิน”

ผม กระซิบตอบลอดไรฟัน แต่เคลวินแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำขู่ของผม เขาตอบกลับแม่ตัวเองด้วยเสียงร่าเริง

“ครับแม่ เดี๋ยวถ้าไง ผมจะพาเคนไปให้คนในครอบครัวเราดูตัวกันอีกครั้งนะครับ จะนัดวันไป ยังไงก็อยู่กันให้ครบๆนะครับ”

พูดเองเออเองเสร็จสรรพ ไม่ถามผมสักคำ ว่าอยากไปด้วยไหม เรื่องห้องพักของผมก็ยังไม่เคลียร์ให้จบ กลับมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องใหม่อีก เคลวินนี่หน้ามึนจริงๆ

“ต้องพาไปจริงๆนะเคลวิน แม่เองก็อยากเปิดตัวลูกเขยเต็มแก่แล้ว ดูสิว่าคนอื่นจะชอบเคนอย่างที่แม่ชอบไหม”

“ลูกเขย” “ชอบเคน” สองคำนี้ดังก้องอยู่ในหัวของผม มันทำให้ผมตกตะลึงอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าแม่ของเคลวินจะยอมรับผมง่ายดายอย่างนี้ แค่พูดคุยกันไม่กี่ประโยคก็ยอมรับผมแล้วหรือ จะตัดสินใจเร็วไปหน่อยไหม
ไม่ใช่แค่แม่ของเคลวินอย่างเดียวที่แสดงออกว่ายอมรับผมเป็นลูกเขย พี่สาวเคลวินเองก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ บ้านนี้เขาจะไม่คิดขัดคอกันเลยใช่ไหม ตามใจกันแบบนี้เคลวินถึงเหลิง ลูกจะชอบใคร ไม่ว่าซักคำ แค่ลากตัวผมมาซักถาม แล้วก็สรุปจบว่าพอใจ อะไรมันจะง่ายขนาดนี้

รู้สึกงงไปหมด ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อครู่นี้ ผมยังงอนเคลวินอยู่ จะหนีออกจากบ้าน ลงไปข้างล่าง เจอแม่เคลวิน แล้วก็ถูกพากลับขึ้นมา ถูกซักถูกถาม ผมยังหวาดหวั่นกลัวเกรงอยู่เลย ตอนนี้ผมกลายเป็นลูกเขย กลายเป็นคนที่แม่ชอบไปแล้ว ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัวเลย

“ดีใจจังที่แม่กับพี่ชอบเคนเหมือนผม รู้งี้ พาไปเปิดตัวตั้งแต่ทีแรกก็ดี ทุกอย่างมันจะได้ง่ายกว่านี้”

คนเจ้าเล่ห์พูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข เขากอดผมแน่น ก้มหน้ามาใกล้ และต่อหน้าต่อตาแม่ เขาก็หอมแก้มผมฟอดใหญ่ จนผมถึงกับสะดุ้ง ทำไมเขาถึงไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจแม่ของตัวเองบ้างนะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่งมังค่ากันทั้งครอบครัว แต่มาอยู่เมืองไทยนานขนาดนี้ จะซึมซับประเพณีวัฒนธรรมไทยมาใช้หน่อยไม่ได้หรือไง การนัวเนียใกล้ชิด กิจกรรมของคนรัก มันควรจะทำกันแค่สองต่อสองใช่ไหม ทำไมต้องมาทำให้คนอื่นเห็นด้วย เขาไม่อาย แต่ผมอายนี่


“ตอนนี้ก็ยังไม่สายหรอก รีบเปิดตัวตอนนี้ก็ดีนะ หลายต่อหลายคนเริ่มสงสัยแล้วล่ะ ว่าเคลวินหายไปไหนหลายเดือนไม่ยอมกลับบ้านช่อง ก่อนที่จะมีคนแห่มาที่บริษัทเพื่อหาสาเหตุการหายตัวไปของเธอ เธอก็ควรชิงเปิดตัวคนรักให้คนในครอบครัวเราได้รับรู้ไว้นะ”

พี่สาวเสนอความคิด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ทำให้ผมตกใจ คนในครอบครัวนี้เขาคิดอะไรกันอยู่ เปิดตัวว่าลูกชายอยู่กินกับผู้ชายด้วยกันนี่นะ ไม่อายเหรอ ไม่กลัวคนนินทาให้เสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งตระกูลหรือไง

“ดูเคนสิ ทำหน้าตกใจใหญ่แล้ว คงไม่คิดว่าบ้านเราจะยอมรับกันง่ายขนาดนี้”

แม่ของเคลวินคงเห็นผมมีสีหน้าแตกตื่น ก็เลยเอ่ยปากแซวขึ้นมา เคลวินเอี้ยวตัวมามองหน้าผม แล้วหัวเราะ
“เราปกครองคนในครอบครัวด้วยความรักจ๊ะเคน ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน ใครอยากทำอะไรก็ทำ ใครชอบสิ่งไหน และถ้ามันไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไป เราไม่เคยห้าม ไม่เคยกีดกัน ทุกคนโตแล้ว คิดเองได้ ถ้าคิดแล้วผิด ก็ต้องยอมรับชะตากรรมไป พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่จะสนับสนุนให้กำลังใจจ้ะ”

สเตฟานี่พี่สาวของเคลวินแก้ข้อสงสัย ผมรู้สึกดีใจแทนเคลวินไปด้วย ที่ถือกำเนิดมาในครอบครัวที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความเข้าใจ ซึ่งหาได้ไม่ง่ายในสังคม ส่วนใหญ่พ่อแม่ก็อยากให้ลูกของตัวเองได้ดิบได้ดี เป็นในสิ่งที่ตัวเองคาดหวังไว้

บางครอบครัวถึงกับบีบบังคับให้ลูกทำอย่างที่ตัวเองต้องการ ถ้าหากไม่ได้ดั่งใจก็ลงโทษลูก แต่ไม่ใช่กับครอบครัวเคลวิน พวกเขาแคร์ความรู้สึกของกันและกันมากกว่าความรู้สึกของตัวเอง คงเป็นเพราะพวกเขาเป็นฝรั่ง การเลี้ยงดูเลยเน้นหลักประชาธิปไตย เคารพสิทธิส่วนบุคคล ไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ทุกคนจึงมีเสรีในการใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างเต็มที่

“ไม่ต้องกลัวพวกเรานะเคน เราไม่ใช่ครอบครัวใจร้าย ที่จะกีดกันลูกเขย หรือสะใภ้ หากไม่ชอบใจ เรื่องฐานะครอบครัว หรือความแตกต่างทางสังคม เราไม่เอามาเป็นประเด็นในการเลือกคนเข้ามาอยู่ในครอบครัวเรา ลูกหลานเราชอบใคร เราชอบคนนั้นด้วย ความสุขของเขาคือความสุขของเรา เคลวินรักเธอ พวกเราก็รักเธอด้วย”

ท่านประธานแม่ของเคลวินคงกลัวว่าผมจะเครียดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เลยพูดให้ผมสบายใจ ยอมรับตามตรงว่าผมเครียดตั้งแต่เห็นพวกเขาที่ลานจอดรถข้างล่าง พอถูกซักถามก็เป็นกังวล กลัวเคลวินจะมีปัญหา และกลัวว่าแม่และพี่ของเคลวินจะแสดงความรังเกียจผม คิดไปต่างๆนานาว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับเคลวิน กลัวจะได้ยินคำพูดดูหมิ่นดูแคลน เหมือนที่เคลวินหลุดปากพูดออกมา ทว่าสิ่งที่กลัวไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งแม่และพี่ของประธานเจ้าเล่ห์ปฏิบัติต่อผมด้วยท่าทีเป็นมิตร มีทีท่าพึงพอใจกับคำตอบของผมด้วย

“เคนเป็นคนน่ารัก และมีเสน่ห์ ใครเห็นก็อดจะหลงรักไม่ได้ ขนาดแม่กับพี่ได้เจอเคนแค่วันเดียว ยังหลงรักเลย แล้วผมล่ะ ต้องเจอหน้าเคนทุกวัน จะไม่รักเคนได้ไง”

เคลวินพูดด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้ม และชมเสียจนผมเขิน จะปิดบังอารมณ์ตัวเองสักนิดก็ไม่มี รู้สึกอายน่ะ มีบ้างไหม

“ก็จริงนะ เคนน่ารัก ดูซื่อๆดี ก็เหมาะกับคนเจ้าเล่ห์อย่างเธอแหละ เคลวิน”

เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินพี่น้องหยอกเอินกัน และผมก็เห็นด้วย เคลวินเจ้าเล่ห์มากๆ

“ผมเจ้าเล่ห์แต่ก็รักจริงนะครับ ผมรักเคนคนเดียวเท่านั้น”

พูดจบเขาก็กอดผมแน่น ผมพยายามแกะมือเคลวินออก รู้สึกอายที่เขาแสดงความรักที่มีต่อผมอย่างโจ่งแจ้ง ไม่อายคนในครอบครัว ผมมองสองสาวต่างวัยด้วยสายตาตื่นๆ ทว่าสายตาที่มองกลับมา แสดงความเอ็นดูแกมขำ

“เชื่อแล้วว่ารักจริงๆ แต่ไม่ต้องแสดงออกมากก็ได้ สงสารเคน คงไม่ชินกับการแสดงความรู้สึกอย่างนี้”


-------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 5.4.09 ตอนพิเศษ [10]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 05-04-2009 19:42:46
เย้เย้ จิ้ม จิ้ม ได้อ่านแล้ว  ชอบเคลวินที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 5.4.09 ตอนพิเศษ [10]
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 05-04-2009 21:25:29
แฮ๊ปปี้  ฉะนี้งานหน้าต้องมีแอบเสียวววววว

เหอะๆๆๆ :m25:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 06-04-2009 23:02:47
ตอนพิเศษ  [11]

------------------------------

พี่สาวของเคลวินพูดปรามน้องชายที่กอดผมซะจนหายใจแทบไม่ออก แต่ประธานสองหน้าก็ไม่ยอมปล่อยมือจากผมซะที ยังคงกอดแน่น แล้วเอาคางวางเกยกับไหล่ผม แม้จะรู้สึกว่าเคลวินหน้าด้านหน้ามึน ชอบฉวยโอกาส ชอบฝืนใจคนอื่น ทว่าในส่วนลึกของหัวใจ ผมกลับรู้สึกอบอุ่น และชอบสิ่งที่เขาทำ

“บ้านเราเป็นอย่างนี้แหละเคน ไม่ค่อยจะเก็บงำความรู้สึก ถึงจะอยู่เมืองไทยกันมานาน ก็ติดนิสัยฝรั่งกันอยู่ดี ชอบแสดงความรักต่อหน้าคนอื่นๆ เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร อยู่ไปเรื่อยๆ เคนก็จะชินเองแหละจ้ะ”
แม่ของเคลวินพูดเพื่อให้ผมสบายใจ ครอบครัวนี้ร่วมไม้ร่วมมือกันดี คนหนึ่งพูด คนหนึ่งเสริม โน้มน้าวจนผมแทบเคลิ้ม

“ไหนๆแม่กับพี่สเตฟานี่ ก็อุตส่าห์มาเยี่ยมเยียนทั้งทีแล้ว และได้รู้จักกับเคนคนที่ผมรัก เราก็มาถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองกันดีไหมครับ”

เจ้ากี้เจ้าการอีกแล้ว พ่อตัวดี หาเรื่องมัดมือชกผมอีกจนได้ แถมซ้ำแม่กับพี่ของเขาก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย พอเคลวินเสนอปุ๊บ สองสาวต่างวัยก็ตอบรับด้วยท่าทีกระตือรือร้น มีแต่ผมคนเดียว ที่ยังงงๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนเดินไปที่โต๊ะอาหารที่เคลวินจัดเตรียมไว้ ตัวก็ยังลอยๆอยู่ เคลวินต้องโอบประคองไป

ที่เขาว่าตกกระไดพลอยโจน มันคงเป็นอย่างนี้ นี่เอง เอาเถอะ แม่กับพี่ของเคลวินกลับไปเมื่อไหร่ ผมจะจัดการกับจอมวางแผนทันที

อาหารมื้อนั้นผ่านไปด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเอง แม่กับพี่ของเคลวินผูกขาดการสนทนา ส่วนใหญ่ก็เป็นการพูดคุยซักถามเรื่องราวของผม สลับกับการพูดเกี่ยวกับเคลวิน ทำให้ผมรับรู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตัวเขามากมาย หลายอย่างตรงกับที่ป้าหมี่เล่าให้ผมฟัง และบางเรื่องก็เพิ่งได้ยิน เช่น เรื่องเกี่ยวกับคนรักเก่าๆของเคลวินก่อนหน้าผม ซึ่งที่บ้านไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ แต่ก็ตามใจเคลวิน เพราะลูกชอบ แต่ในที่สุด ด้วยนิสัยบางประการ ทำให้ไปด้วยกันกับเคลวินไม่ได้ เขาก็เลยอยู่เป็นโสด จนกระทั่งมาเจอผม

ถึงแม้จะถูกเปิดโปง แต่เคลวินกลับไม่ได้รู้สึกอับอาย เขากลับร่วมวงเผาตัวเองอย่างสนุกสนาน ผมเห็นสายใยความรักความอบอุ่นที่ครอบครัวนี้มีให้กันแล้วรู้สึกประทับใจ พวกเขาอาจจะล้อเลียนกันบ้าง ตำหนิกันบ้าง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความรัก และความห่วงใย ไม่เคยเหยียบย่ำซ้ำเติม มีแต่ส่งเสริม สนับสนุนเป็นกำลังใจให้กัน

ดูภายนอกแม่ของเคลวิน เป็นคนแข็งๆ ท่าทางดุ ทว่าในเวลาส่วนตัวแบบนี้ เธอก็คือแม่ผู้อารี ที่มีแต่ความรักและปรารถนาดีให้กับบุตรชายสุดที่รัก ในขณะที่พี่สาวของเคลวิน ก็เป็นคนร่าเริง ช่างแหย่น้อง ตลอดเวลาที่คุยกัน เธอไม่ค่อยจะเข้าข้างเคลวินเท่าไหร่ คอยขัดคอตลอดเวลา

เธอเข้าข้างผมมากกว่า และสอนเป็นระยะถึงวิธีปราบเคลวินให้อยู่หมัด จนน้องชายร้องโวยวายว่าเธอกำลังสอนให้ผมแข็งข้อกับเขา แทนที่จะเข้าข้างน้องชายตัวเอง กลับเข้าข้างคนอื่น สเตฟานี่ก็แย้งว่า ผมไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นน้องเขยของเธอต่างหาก อย่างน้อยต้องมีใครสักคนเข้าข้างผมบ้าง จะได้ไม่ถูกเคลวินรังแก

ผมนิ่งฟังสองพี่น้องเถียงกัน ด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่ได้ชิงชังรังเกียจ แต่รู้สึกแปลกๆกับความสนิทสนมที่พวกเขามีให้ ทุกอย่างมันดูเร็วเกินไป จนผมตั้งตัวไม่ทัน ผมไม่คิดว่าจะได้รับการยอมรับอย่างง่ายดาย จากครอบครัวของเคลวิน ไม่คิดว่าจะมีครอบครัวไหน ที่จะรับได้ที่ลูกชายอยู่กินกับผู้ชายด้วยกัน

แถมซ้ำยังยินดีที่จะรับผมเป็นสมาชิกของบ้านอีกคน ทั้งที่ผมเป็นแค่ลูกจ้างในบริษัทคนหนึ่ง ฐานะก็เทียบกันไม่ติด เคลวินเป็นลูกชายเพียงคนเดียว พ่อแม่น่าจะให้เขาสืบทอดวงค์ตระกูล การมาชอบพอกับผู้ชาย อาจจะทำให้ขาดทายาทสานต่อกิจการของตระกูล และไหนจะการยอมรับจากสังคมอีก พวกเขาจะทนให้คนรู้จักนินทาว่าร้ายได้หรือ

ทว่าสิ่งที่ผมกังวลกลายเป็นเรื่องที่ผมคิดไปเองฝ่ายเดียว เพราะครอบครัวของเคลวิน เหมือนจะประสานสามัคคีกันตอบรับตัวผม ไม่มีความลังเล หรือแสดงออกถึงความรังเกียจให้เห็น ทำให้ผมอดปลาบปลื้มไม่ได้ ความระแวงแคลงใจที่เคยมีต่อเคลวิน และครอบครัวของเขา เริ่มหายไป ความรู้สึกดีๆ เข้ามาแทนที่ จากที่เกร็งตอนแรกเจอ ผมก็ผ่อนคลายขึ้น พูดคุยกับพวกเขาได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องระวังตัว


แม่กับพี่สาวของเคลวินใช้เวลาอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาจนกระทั่งเย็น ทั้งสองก็ขอตัวกลับ มิใยที่เคลวินจะขอให้อยู่ต่อ และอาสาจะทำอาหารเย็นให้ทาน ก็ไม่อาจจะรั้งไว้ได้ สเตฟานี่บอกกับเราสองคนว่า จะนำข่าวดีเรื่องผมกับเคลวินไปเล่าให้คนในครอบครัวฟัง ทุกคนอยากเห็นเคลวินเป็นฝั่งเป็นฝา ถ้าได้รู้ว่าเคลวินมีคนรักแล้ว พวกเขาคงจะดีใจ

ผมรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก ให้ร่วมหอลงโรงกับเคลวิน แย้งก็ไม่ได้ ทั้งแม่และพี่ต่างแสดงความพอใจที่ได้ผมมาเป็นเขย แถมพูดฝากฝังให้ผมดูแลเคลวินด้วย ข้างฝ่ายประธานเจ้าเล่ห์ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะดีใจแค่ไหน ที่มีคนเข้าข้าง หน้าบานเป็นจานเชิง ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เบียดกระแซะผมตลอดเวลาจนผมแทบหายใจไม่ออก

“วางแผนไว้ใช่ไหมครับท่านประธาน”

เมื่อเหลือเราสองคนในห้อง ผมก็หันมาเล่นงานเคลวินทันที หน้าที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มของเขาเจื่อนลงนิดหนึ่ง แต่แล้วก็เบิกบานเหมือนเดิม

“เรื่องอะไรหรือครับเคน”

คนเจ้าเล่ห์ยังนัวเนียกอดผมไม่ปล่อย ผมพยายามแกะมือเคลวิน แต่มือเขาก็เหนียวเหมือนมือปลาหมึก ติดหนึบแกะยาก

“ยังจะมาถามอีก นี่กะให้แม่กับพีช่วยประสานรอยร้าวเรื่องของเราสองคนใช่ไหมครับ”

ดักคอเขา แต่แทนที่เคลวินจะปฏิเสธ กลับยอมรับหน้าชื่นตาบาน

“ก็มันดีแล้วไม่ใช่เหรอครับเคน จะโกรธทำไมกันนานๆใช่ไหม ถ้าเคลียร์กันได้ลงตัว เราก็จะได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขไงครับ”

คนตัวโตกอดผมแน่นเข้า ไม่ให้ผมดิ้นหนีไปไหน ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้อรั้นและเอาแต่ใจตัวของเคลวิน เลิกดิ้นหนี หันมาพูดจาประชดประชันแทน เผื่อว่าวิธีนี้จะได้ผลทำให้เขาผละจากผม

“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ใครจะอยากอยู่ด้วยกัน ”

จงใจพูดเสียงเยาะ

“ผมไง ผมอยากอยู่กับเคนตลอดไป เราสองคนเป็นสามีภรรยากันนะ จะแยกกันอยู่ได้ไงจริงไหม ผมไม่มีวันยอมอยู่ห่างจากเคนหรอก อะไรก็ตามที่ทำให้เราบาดหมางกัน ต้องพยายามเคลียร์กันให้ได้เร็วที่สุด อย่าทะเลาะกันอีกเลยนะ”

นอกจากจะไม่รู้สึกรู้สมอะไรกับคำพูดของผม เคลวินยังทำท่าออดอ้อน เพื่อขอให้ผมเห็นใจยอมอภัยให้เขา
“ผมไม่อยากอยู่กับคนที่ดูถูกคนอื่น”

ผลักเขาออกอีกครา คราวนี้ เคลวินยอมปล่อยผมง่ายๆ ผมทำท่าจะเดินหนีจะเข้าห้อง แต่เคลวินมายืนขวางเอาไว้ แล้วจ้องผมตาโต

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่เคยคิดจะดูถูกใคร ผมอาจจะใช้คำพูดแรงไปหน่อย แต่ผมไม่ได้หมายความตามนั้น เคนก็รู้ว่าผมไม่ค่อยเก่งภาษาไทย ผมอาจจะพูดแล้วสื่อความหมายผิดก็ได้”

โทษเรื่องการสื่อสารไปนั่น ผมไม่เชื่อเขาหรอก เพราะว่าเขาไม่ได้อ่อนด้อยถึงขนาดนั้น แม้จะเป็นฝรั่งมังค่า แต่ก็พูดไทยคล่อง อ่านออกเขียนได้ ไอ้เรื่องที่จะเข้าใจผิดพลาดคงไม่มี คงเป็นการแก้ตัวมากกว่า

“แล้วคุณต้องการจะสื่ออะไร ถึงได้พูดแบบนั้น”

ถามเสียงห้วน


“ผมแค่อยากจะให้คุณได้อยู่ในสถานที่ที่จะช่วยทำให้คุณดูดีในสายตาคนอื่นๆนะครับ ไม่ได้มองว่าอยู่บ้านเช่า มันจะทำให้คุณเสียเกียรติ แต่อย่างที่บอกไปแล้ว บริษัทเราขายภาพลักษณ์ ความดูดี ทุกคนในบริษัทก็ต้องมีสิ่งแวดล้อมดีๆ ให้เขาเชื่อถือศรัทธาไงครับ”

เคลวินพูดกับผม

“ผมรักเคนนะครับ หวังดีกับเคนอย่างจริงใจ ไม่เคยคิดจะดูถูกเคนเลยสักครั้ง ที่ผ่านมาผมก็พยายามจะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อให้เคนยอมรับผม ไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวความยากลำบาก ไม่ว่าเคนจะอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ได้ ผมเคยแสดงความรังเกียจให้เห็นหรือเปล่าครับ”

เขาตัดพ้อ เมื่อเห็นผมทำท่าไม่เชื่อเขา ผมยืนนิ่ง ปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นจริงอย่างที่เคลวินว่า เขารักและดูแลช่วยเหลือผมมาตลอด แม้บางครั้งจะทำเกินกว่าเหตุไปบ้าง แต่ทุกครั้งก็เป็นการทำทุกอย่างเพื่อให้ผมมีความสุข รวมถึงการสละความสะดวกสบายส่วนตัวมาตกระกำลำบากกับผม คงจะเป็นเรื่องเห็นแก่ตัวไปหน่อย หากผมจะดื้อดึง รักแต่ศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยไม่ได้คำนึงถึงความสุขของคนที่รักผมเสมอมา

“เคนหายโกรธผมเถอะนะครับ เราอย่าโกรธกันเลยนะ ผมทรมานใจมากเลยรู้ไหมครับ เราไม่ได้พูดกันหลายวันแล้วนะ คุณอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ก็เหมือนไกล อยากจะพูดจะคุย คุณก็ไม่ให้โอกาส ผมเจ็บนะรู้ไหมครับ”

หน้าตาของเคลวินเศร้าไปตามคำพูด เห็นแววตาที่จ้องมองมาเหมือนรอความหวัง พลันผมก็เกิดใจอ่อนให้กับเขา

“คืนดีกันนะ”

เคลวินยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าผม เป็นการขอคืนดี น่าตลกที่ประธานบริษัทผู้แข็งกร้าวดุดันกลับทำตัวเป็นหนุ่มขี้อ้อน วอนขอให้คนที่ตัวรักเห็นใจ ถ้าไม่รักผม เขาคงไม่ทำอะไรที่ทำให้ตัวเองเสียฟอร์มอย่างนี้

“จะให้ผมทำอะไร ผมก็ยอมทุกอย่างเลยครับ”

“แน่ใจเหรอว่าจะทำจริง”

ผมชักสงสัยว่าเขาจะทำอย่างที่ปากพูดได้แค่ไหน

“ก็ถ้า..ถ้ามันจะทำให้เคนเข้าใจผม ผมก็พร้อมจะยอมทำตามที่เคนต้องการครับ”

เขารีบรับคำอย่างกระตือรือร้น ผมเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะได้เอาคืนเคลวินที่ทำให้ผมไม่สบายใจ ก็เลยยื่นข้อเสนอให้เขาทำ

“ถ้างั้น ห้ามยุ่งเกี่ยวกับผมอีก ต่างคนต่างอยู่”

“ไม่ได้ครับ บอกได้เลย ข้อนี้ ผมไม่ตกลง”

ประธานสองหน้าปฏิเสธรัวเร็ว

“อ้าว ก็ไหนบอกว่า ให้ทำอะไรก็จะทำไม่ใช่เหรอ แค่นี้ก็ทำไม่ได้”

ทำเสียงเหมือนเยาะเขา

“แต่ข้อนี้มันโหดร้ายเกินไปไหม ไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ผมก็ขาดใจกันพอดีสิ ขนาดไม่ได้พูดกับคุณผมยังแทบบ้า ขอเป็นอย่างอื่นได้ไหมครับ”

เขาไม่ยอมและพยายามต่อรอง

“ถ้างั้น ห้ามเคลวินลวนลามผม เราจะไม่เกี่ยวข้องทางกายต่อกัน”

ผมยื่นข้อเสนอไปใหม่ เคลวินฟังจบก็ส่ายหัวไม่ยอมรับ ผมรู้สึกขำท่าทางเขายิ่งนัก

“โห ...เคนอยากฆ่าผมหรือครับ ขอมาแต่ละอย่างนี่ มีแต่เรื่องที่ผมทำไม่ได้ทั้งนั้นเลย ขออย่างอื่นไม่ได้หรือครับ”

“โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ ถ้างั้นก็เป็นเหมือนเดิมดีกว่า”

พูดจบผมก็เดินหนีไปยังทิศตรงข้าม เนื่องจากเคลวินยืนขวางประตู ผมเลยเข้าห้องนอนไม่ได้ เลยตั้งใจจะลงไปข้างล่างอีกข้าง แต่เคลวินไม่ยอมให้ผมหนีรอดพ้นไปจากเขา คนเจ้าเล่ห์เดินตามติด แล้วดึงแขนผมมากอดเอาไว้

“ดีครับ เราเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิมนะ”

เขายิ้มท่าทางดีอกดีใจ ผมรู้ว่าเขาแกล้งตีความผิดเข้าข้างตัวเอง ซึ่งเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของเคลวิน เวลาอยากได้อะไร เขาจะพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ได้สิ่งนั้นมา รวมถึงการทำเป็นมึนพูดไม่รู้เรื่อง

“อะไรกันเคลวิน ผมไม่ได้ตกลงเรื่องนี้นะ”

รู้สึกอ่อนอกอ่อนใจกับเคลวินเหลือกำลัง เขายิ้มกริ่ม เอาจมูกโด่งแหลมของตัวเองมาคลอเคลียใกล้ๆ กับแก้มของผม ส่วนมือไม้ก็ลูบไล้แขนของผมไปทั่ว

“ก็ตกลงเสียสิครับ สามีภรรยากัน อย่าโกรธกันนานเลยนะ”

คนตัวโตทำเสียงอ้อน

“....”

ผมไม่ตอบ ที่จริงหายโกรธเคลวินไปตั้งแต่ตอนได้พูดคุยกับครอบครัวของเขา ซึ่งเรียกความเชื่อมั่นของผมกลับมา ว่าเคลวินและครอบครัวของเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร และไม่ได้ดูถูกคนด้วย ยิ่งแม่และพี่ของเคลวินดีกับผมมากเท่าไหร่ มันก็ทำให้ผมมีความรู้สึกดีๆกับคนในครอบครัวนี้มากขึ้น และผมก็เริ่มได้คิดว่า ที่เคลวินยกเลิกห้องพัก ก็เป็นการทำเพื่อผมเท่านั้น เขาอยากให้ผมมีภาพพจน์ที่ดี เป็นที่เชื่อถือแก่คนทั่วไป ดังนั้นจึงพยายามสรรหาสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เหมาะสมให้

หากแต่ความที่ผมหมั่นไส้ที่เขาชอบเจ้ากี้เจ้าการ ก็เลยทำให้ผมยังแกล้งทำเป็นโกรธเขาอยู่ พอเห็นเคลวินวุ่นวายใจ ผมก็แอบขำ โดนเอาคืนเสียบ้าง พูดอะไรจะได้เชื่อฟัง ไม่ดื้อรั้นเอาแต่ใจตัวเองอีก

“ผมเหงานะครับ เคน นอนคนเดียวมานานแล้วนะ”

เขายังพยายามอ้อนต่อ คงเห็นว่าผมลดอาการแข็งขืนลงบ้างแล้ว

“เคนไม่เหงาบ้างหรือครับ”

มือใหญ่ของเคลวินลูบเนื้อตัวผมลงต่ำ มันทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนในอารมณ์ยิ่งนัก

“ผมคิดถึงเคนมากเลยนะครับ”

ตามมาด้วยกระซิบเสียงหวาน ทว่าผมยังคงยืนนิ่ง พยายามระงับอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านอยู่ ไม่อยากหายโกรธเร็วเกินไป เดี๋ยวคนเจ้าเล่ห์จะได้ใจ

“เราไปรื้อฟื้นความสัมพันธ์กันดีกว่านะครับ”

เคลวินดึงแขนผมให้ตามไปในห้อง ผมไม่ยอมเดินตาม กำลังต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง เคลวินจอมเจ้าเล่ห์ ปลุกอารมณ์ผมจนเตลิดเพริศ สิ่งที่ทำให้ผมตกใจไม่น้อยไปกว่าการที่เคลวินสามารถปลุกอารมณ์ของผมให้ก่อตัวขึ้นมา ก็คือผมได้ตระหนักว่า ผมเองก็ต้องการเคลวินไม่น้อยเช่นกัน

พอเห็นผมยังยืนนิ่ง เคลวินก็เดินมากอดผมเอาไว้ทางด้านหลัง แล้วเอาคางเกยกับไหล่ผม ทำเสียงออดอ้อน ชวนผมเข้าห้อง ส่วนมือไม้ก็เลื่อนลงลูบไล้เข้าไปในกางเกงของผม จนกระทั่งเจอส่วนที่อ่อนไหว
“เคนน้อยไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะครับ เดี๋ยวสุขภาพไม่แข็งแรงนะครับ”

ไม่พูดเปล่า คนเจ้าเล่ห์เอามือนวดคลึงจนน้องชายของผมตื่นตัวขึ้น ในที่สุดผมก็ตบะแตก ทนให้เขาปลุกอารมณ์แต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ผมหันขวับแล้วจับใบหน้าเคลวินไว้ แล้วจูบที่ริมฝีปากเชิญชวนของเขา


--------------------
TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 06-04-2009 23:47:22
^
โห เจ้ อ่ะ ไม่ได้มาอัพ ตั้งนาน

ยัง ทำ  :a5: ค้างอีกอ่ะ ใจร้าย

เจ้าเล่ห์จิ๊งจิ้ง ทั้งเจ้ ทั้งเคล เนี่ยนะ  :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-04-2009 00:30:46
หุหุหุ เคลวินนี่เจ้าเลห์จิงจิง
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 07-04-2009 19:38:57
 :serius2:มันช่างตัดตอน :o12:


:m31:ได้ปวดร้าวมาก :z3:



 o22มาต่อไวๆๆนะ :oo1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 07-04-2009 23:53:44
อ๊ะ ค้าง :serius2:  :-[

ขอบคุณที่มาต่อนะครับและก็จะรออ่านตอนต่อไปน๊า o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 6.4.09 ตอนพิเศษ [11]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 08-04-2009 17:04:01
ตามทันจนได้


แต่!!!

แต่!!!


ค้างได้ไงอ่า.....



 :serius2: :serius2:


Next --->>  :oo1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 08-04-2009 20:12:11
แหมๆๆๆๆๆๆๆๆ   ไม่ได้ตั้งใจให้ค้างนะ  แค่อยากให้ลุ้น  (อืม :impress2: มันต่างกันตรงไหนหว่า) :laugh:


ตอนพิเศษ [12]

--------------------------



เคนน้อยไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะครับ เดี๋ยวสุขภาพไม่แข็งแรงนะครับ”

ไม่พูดเปล่า คนเจ้าเล่ห์เอามือนวดคลึงจนน้องชายของผมตื่นตัวขึ้น ในที่สุดผมก็ตบะแตก ทนให้เขาปลุกอารมณ์แต่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ผมหันขวับแล้วจับใบหน้าเคลวินไว้ แล้วจูบที่ริมฝีปากเชิญชวนของเขา

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก หลังจากที่เราสองคนยืนแลกจูบกันหน้าห้องจนอารมณ์ผมเตลิดได้ที่ ผมก็เป็นฝ่ายดึงเคลวินเข้าห้อง และจัดการลงโทษเคลวินตามที่คิดเอาไว้ คนตัวโตให้ความร่วมไม้ร่วมมือเต็มที่ ตอบสนองผมเหมือนคนอดอยากหิวโหยมานาน ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราทั้งคู่ก็นอนหอบหายใจเคียงข้างกัน โดยที่ผมนอนหมดแรงอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“ผมรักเคนมากที่สุดเลยครับ”

กระซิบแรกหลังจากเราผ่านช่วงเวลาหฤหรรษ์มาด้วยกัน ผมยิ้มให้เขา เอามือลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มฝรั่งเจ้าเล่ห์ เคลวินมองผมตาปรอย มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าผมเช่นกัน

“เราหายโกรธกันแล้วใช่ไหมครับ”

เขาถามผมอย่างไม่แน่ใจ ผมยิ้มขำ จนป่านนี้แล้ว ยังจะถามอีก เขากลายเป็นคนไม่มั่นใจตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“ยังมั๊ง”

แกล้งเขาเล่นๆ แต่ผมคงโกหกคนไม่เก่ง เคลวินมองหน้าผมสักครู่ก็หัวเราะออกมา เขาเอียงศีรษะมาซุกซบผม

“ต่อไปนี้ ผมสัญญาว่า ผมจะไม่ทำให้เคนไม่สบายใจอีกแล้ว มีอะไรผมก็จะปรึกษาคุณตลอดเลยนะครับ”

“เห็นพูดอย่างนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังทำทุกที”

แอบค่อนแคะเขา

“ขอโทษครับ ผมนี่แย่จริง ไม่รักษาสัญญากับคุณเลย ก็สมควรแล้วที่เคนจะโกรธ”

คนตัวโตทำหน้าเหมือนสำนึกผิด ผมเอามือลูบแก้มเขาอย่างแผ่วเบา

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องคิดมาก ผมหายโกรธแล้วนะ”

“จริงหรือครับ เคนไม่โกรธผมจริงๆนะ”

หน้าตาของเคลวิน แสดงให้รู้ว่าเขาดีใจมาก ที่ผมให้อภัยเขา

“อืม....จะโกรธทำไมล่ะ เคลวินทำไปเพราะหวังดีกับผมไม่ใช่เหรอ”

พูดจากใจจริง ผมไม่ได้รู้สึกโมโหเขาแล้ว เข้าใจถึงความห่วงใยที่เคลวินที่มีให้ผม จนทำให้เขาเผลอทำผิดทำพลาดไปบ้าง ในเมื่อเขาทำให้ผมถึงทุกอย่าง ผมจะใจจืดใจดำ โกรธเขาลงได้อย่างไร

“เย้...ดีใจจังที่คุณเข้าใจ ขอบคุณมากๆเลยครับ”

คนตัวโตทำอากัปกริยาเหมือนเด็กๆ เขาผวาเข้ากอดผมเสียแน่น และหอมแก้มผมแรงๆหลายฟอด พลางให้คำมั่นสัญญา

“ผมก็ขอบคุณเคลวินเช่นกัน ที่รักและดีกับผมเสมอมา คุณทำอะไรให้ผมตั้งมากมาย ผมเสียอีก ที่ไม่เคยทำอะไรเพี่อคุณเลย ต่อไป ผมก็จะพยายามทำตัวดีๆ ไม่ให้คุณต้องเป็นห่วงครับ”

พูดถึงความตั้งใจของตัวเองให้เขาฟังเช่นกัน ผมอยากทำตัวดีๆ ตอบแทนเคลวิน ไม่อยากให้เขาลำบากใจ เขาทำเพื่อผมมาเยอะ ผมควรจะทำให้เขาบ้าง

“ที่จริงผมก็ไม่ต้องการอะไรมากมายเลย แค่เคนดีกับผม ผมก็พอใจแล้วล่ะ ผมสัญญานะว่า ต่อไปผมจะไม่ทำอะไรโดยพลการ ผมจะปรึกษาคุณก่อน ในฐานะหัวหน้าครอบครัวนะครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกเคลวิน มาถึงตอนนี้ผมก็ไม่ได้ซีเรียสว่าใครจะเป็นผู้นำหรือผู้ตามแล้วล่ะ คุณอยากจะทำอะไร ก็ทำไปเถอะ ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณชอบ ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามผมทุกอย่าง จนสูญเสียความเป็นตัวเอง ผมเชื่อว่าคุณรักและหวังดีกับผม และคุณก็จะระมัดระวังไม่ทำให้เราเกิดปัญหากันอีก”

ผมอนุญาตให้เคลวินได้เป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับผม ไม่บีบบังคับว่าเขาจะต้องมาคอยทำอะไรตามใจ เคลวินเป็นคนฉลาด เขาคงจะรู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวต่อผมอย่างไร การทะเลาะเบาะแว้งกันที่ผ่านมา คงทำให้เขารู้ดีว่า อะไรที่ผมชอบ และอะไรที่ผมไม่พอใจ หากเขายังทำตัวอย่างเดิม เขาอาจจะสูญเสียผมไปอีกครั้งก็ได้

“ขอบคุณครับที่ไว้เนื้อเชื่อใจผม และขอบคุณที่ให้ผมได้เป็นตัวของตัวเอง ผมจะเป็นภรรยาของเคนให้ดีที่สุดครับ”

เขารับคำเป็นมั่นเหมาะ ทำให้ผมเบาใจ ไม่ได้คาดหวังว่าเคลวินจะเปลี่ยนแปลงนิสัยของตัวเองจนสิ้นเชิง เพราะมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากมาย ถ้าตัดความเจ้ากี้เจ้าการวุ่นวายออกไป มองถึงเนื้อในรักแท้ที่เขามีให้ มันก็เป็นสิ่งดีที่เขาทำเพื่อผม เรื่องเล็กน้อยบางอย่างถ้าเรามองข้ามไป ไม่เก็บมาคิดมาใส่ใจ เลือกมองแต่สิ่งดีๆ ก็จะทำให้ใจเรามีความสุข

เคลวินเป็นคนดี และเขาก็รักผมมาก ผมรู้สึกมีความสุขเวลาอยู่ร่วมกันกับเขา ทะเลาะกันบ้าง แล้วก็กลับมาคืนดีกัน ลิ้นกับฟันมีกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา เราเป็นสามีภรรยาก็ย่อมมีเรื่องขัดแย้งพราะเห็นไม่ตรงกัน แต่ความรัก จะนำพาให้เราเข้าใจกันได้ในที่สุด

“โคร๊กกกกกกกกกกกกกกกก”

ขณะที่เราสองคนกำลังดื่มด่ำกับความสุขอยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ผมมองหน้าเคลวินแล้วหัวเราะ เสียงที่ได้ยินดังมาจากในท้องของพวกเรานั่นเอง ได้เวลาทานข้าวเย็นแล้ว เรามัวแต่ทานของหวานกันจนลืมอาหารหลักที่จะทำให้อิ่มท้อง อาการหิวกระหายก็เลยฟ้องขึ้นมา จนทำให้นอนกอดกันอยู่บนเตียงไม่ไหว เด้งตัวขึ้นมาพร้อมกัน เคลวินสวมเสื้อผ้า แล้วรีบเข้าครัว เพื่อทำอาหารสำหรับเราสองคน ส่วนผมเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะไปทานอาหารค่ำกับภรรยาสุดที่รัก










หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่แม่กับพี่สาวของเคลวินมาหาเราสองคนที่เพนเฮ้าส์ บางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน เริ่มจากตอนเย็นวันศุกร์เคลวินกลับมาบ้าน ใบหน้ายุ่งๆ ท่าทางเหนื่อยหน่าย เขาไม่ได้เข้าครัวมาช่วยผมทำอาหารเหมือนเคย แต่ปล่อยให้ผมจัดการเอง ไม่มาเจ้ากี้เจ้าการ หรือเดินมาเฉียดใกล้

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เขาก็ยังหมกตัวอยู่ที่โซฟา ตาจ้องไปยังจอแอลซีดีที่เขาเปิดทิ้งไว้ ทว่าเคลวินไม่ได้สนใจ ละครหรือข่าวในทีวีแม้แต่น้อย

การที่เขาเงียบขรึม ไม่ร่าเริงเหมือนเคย ทำให้ผมรู้สึกผิดปกติ พอผมทำกับข้าวเสร็จ ก็เดินไปหาเขาที่โซฟาทางด้านหลัง แล้วโน้มตัวเข้าไปกอดเขาไว้

“เหนื่อยไหมครับ”

คำถามแรกเพื่อดูอารมณ์ของเคลวิน เขาเอาแต่เหม่อ ไม่ได้ยินที่ผมพูดเลยต้องถามซ้ำ

“เคลวินเป็นอะไรเหรอ ที่ทำงานมีเรื่องยุ่งๆหรือครับ”

ถามซ้ำอีกครั้ง ใจผมคิดไปถึงเรื่องที่บริษัท อาจจะมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้เขาไม่สบายใจ

“ไม่มีอะไรหรอกครับ”

เขาปฏิเสธ และแหงนเงยหน้าขึ้นมองผม ผมก้มลงจูบที่หน้าผาก แล้วเลื่อนไปที่ริมฝีปากของเขา ก่อนจะยืดตัวขึ้นและเลื่อนตัวไปนั่งตรงพนักโซฟา มือหนึ่งยื่นไปลูบไล้แก้มของฝรั่งตัวโต

“ผมไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องการทำงานของเคลวิน แต่ในฐานะสามีผมมีสิทธิ์ถาม แต่หากคุณไม่บอกก็ไม่เป็นไร แค่อยากให้รับรู้ไว้ ว่าผมเป็นห่วงเคลวินนะครับ”

พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยน เคลวินช้อนตาขึ้นมองผม เขาพยายามยิ้มให้แต่มันดูฝืนๆชอบกล

“มีเรื่องที่ทำงานนิดหน่อยครับ”


ในที่สุดเขาก็เปิดปากเล่าให้ฟัง ไม่ปกปิดเหมือนครั้งแรก คงเพราะผมแสดงออกว่าห่วงเขา เลยอยากแบ่งปันให้ผมได้รู้บ้าง ถึงสิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจ เรื่องเล่าไหลผ่านปากของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง ท่าทางของเคลวินเคร่งเครียดขณะพูด

เรื่องมันเกิดขึ้นกับแผนกช่าง ภายใต้การดูแลของผู้จัดการชาตรี พนักงานเกิดแข็งข้อ ไม่เชื่อฟัง ความจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น และชอบโวยวายใส่ลูกน้อง ทำให้พนักงานหลายคนไม่ชอบ โดยเฉพาะแผนกช่าง ถึงขนาดรวมตัวกันประท้วงหยุดงาน และให้เปลี่ยนตัวผู้จัดการออก เคลวินได้เรียกคุณชาตรีมาไต่สวน แต่ก็พบว่า นอกเหนือจากการวางตัวเป็นเจ้านายเข้มงวดดุดันแล้ว นายชาตรีก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นการย้ายผู้จัดการไปอยู่แผนกอื่น หรือให้ลาออกตามข้อเสนอของพนักงาน จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เคลวินไม่ยอมทำตาม และไม่ยอมให้ลูกน้องข่มขู่ แถมยังประกาศว่า หากใครไม่พอใจ อยากจะลาออกก็เชิญ แต่ถ้ายังรักจะทำงานก็อยู่ต่อ เขาจะไม่ยอมให้คนที่ใช้ศาลเตี้ย มาบีบบังคับหรือเปลี่ยนกฏเกณฑ์ของบริษัทอย่างเด็ดขาด

การตัดสินใจของเคลวิน ทำให้ถูกพนักงานมองว่า เขาเข้าข้างแต่ผู้บริหาร ไม่เห็นใจพนักงาน พวกหัวแข็งก็เลยรวมตัวประท้วงไม่ยอมทำงาน ซึ่งหนึ่งในแกนนำในการประท้วง ก็คือคนที่มีเรื่องกับผมนั่นเอง
คนที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงก็คือ หัวหน้างาน ผู้จัดการชาตรี เขาไปเจรจาให้แกนนำยุติการประท้วง แต่พนักงานหัวแข็งเหล่านั้นไม่เชื่อฟัง แถมซ้ำยังโจมตีนายชาตรี เรื่องรักซ่อนเร้นกับยามบริษัท คือมอด ไม่รู้ว่านายชาตรีไปพลาดให้พวกนั้นเห็นได้อย่างไร พนักงานพวกนั้นใส่สีตีไข่ บอกกล่าวกันต่อ ว่านายชาตรีไม่มีความชอบธรรมในการเป็นหัวหน้างาน เพราะมีพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรม ขนาดครอบครัวยังไม่ซื่อสัตย์ แล้วจะมาดูแลพนักงานอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างไร

หลังจากประท้วงไปได้ สามวัน สร้างความเดือดร้อนไปทั้งบริษัท ทำให้ภาพพจน์เสียหาย และงานบางอย่างที่ต้องอ้างอิงกับฝ่ายช่างไม่เดิน แม้จะมีพนักงานบางคนกลับใจกลับมาทำงานแล้ว แต่เมื่อจะไปทำงานในแผนกก็ถูกข่มขู่ ทำให้ไม่กล้าทำงาน เคลวินจึงจัดการขั้นเด็ดขาด ตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้การประท้วงขยายผลและสร้างความเดือดร้อนได้อีก ในเมื่อแกนนำเป็นคนทำเรื่องยุ่ง เขาจึงให้ฝ่ายทรัพยากรจัดการคนเหล่านั้น ตามกฏเกณฑ์ของบริษัท

แกนนำทั้งหมดถูกไล่ออกจากงาน โดยบริษัทยังใจดี มีเงินชดเชยสามเดือน ทว่าพนักงานเหล่านั้นไม่พอใจ ก่อความวุ่นวาย ทำลายข้าวของของบริษัท จนต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจัดการ จับนักเลงในคราบพนักงานกลุ่มนั้นไปปรับ และลงบันทึกประจำวันเอาไว้

ผมไม่เคยรู้เลยว่าช่วงเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เรามีความสุขกัน เคลวินต้องเผชิญกับปัญหาในที่ทำงานหนักขนาดไหน ถ้าเขาไม่เอ่ยปาก ผมก็ไม่มีทางรู้ เพราะกลับถึงบ้าน เคลวินก็จะยิ้มแย้มมีความสุข และตัวผมเอง ก็ไม่ได้ออกไปวุ่นวายนอกที่พักของเคลวิน เพราะไม่อยากให้ใครเห็น เดี๋ยวจะเอาไปลือจนเสียมาถึงเคลวิน จึงหมกตัวอยู่แต่ในเพนท์เฮ้าส์ และศึกษาตำรับตำราเกี่ยวกับการบริหารงาน จะได้ช่วยเหลือเคลวินได้

เมื่อไม่ได้ไปไหน ผมก็เลยไม่ได้รับรู้ข่าวสาร แม้แต่มอดที่ทำงานต่ำลงไปอีก 1 ชั้น ผมก็ไม่ได้ลงไปพูดคุยด้วย ทำให้ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง พอมาได้ฟังจากปากของเคลวิน ผมก็รู้สึกสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูก นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเครียดหนัก จนแสดงอาการออกมาให้ผมเห็น

“แย่จังเลย ตอนที่คุณเผชิญปัญหา ผมไม่ได้อยู่เคียงข้างคุณด้วย”

รู้สึกเสียใจที่ตัวเองถูกพักงาน หากผมอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่พวกนั้นมาทำลายข้าวของของบริษัท ผมจะได้ช่วยเคลวินจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คนพวกนั้นออกจากบริษัทไปแล้วครับ คงไม่มากวนใจอีก”

น่าแปลกตรงที่เคลวินพูดคำนี้ด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง เหมือนว่าเรื่องมันยังไม่จบอย่างที่เขาบอก สังหรณ์ใจว่ามันจะต้องมีเรื่องอะไรที่ทำให้ทั้งเขาและผมไม่สบายใจ และอาจจะถึงขั้นทำให้เราแยกทางกัน

ทว่าเมื่อเคลวินไม่พูด ผมก็ไม่กล้าเซ้าซี้มาก บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรจริงๆ ก็ได้ ผมอาจจะคิดมากไปเอง เห็นเคลวินเหนื่อยก็เลยอดเป็นห่วงไม่ได้ สงสัยต้องทำให้เคลวินคลายเครียดแล้ว

“ถ้างั้น เคลวินก็ไปอาบน้ำอาบท่าเถอะครับ เดี๋ยวมาทานข้าวกัน วันนี้ผมทำกับข้าวไว้เยอะแยะ อยากให้คุณลองชิมดู ว่าฝีมือผมพอไหวไหม”

ดึงเขาลุกขึ้นจากโซฟา แล้วพาไปส่งหน้าห้องน้ำ

“ท่าทางเคลวินจะเหนื่อยมาก หน้าโทรมเชียว เหี่ยวเป็นคนแก่แล้ว เดี๋ยวคืนนี้ผมช่วยนวดกระชับผิวหน้าให้นะครับ”

อาสาเป็นหมอนวดให้เขา ที่จริงผมก็ไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญอะไร เคยบีบนวดพ่อกับแม่บ้าง คงพอจะทำให้เขาคลายเครียดได้

“อย่างอื่นก็เหี่ยวครับ อยากให้เคนนวดฟื้นฟูให้มันคึกคักบ้าง หวังว่าเคนคงไม่ปฏิเสธ”

ฝรั่งตัวโตพูดสองแง่สองง่าม แถมยังยิ้มเจ้าเล่ห์อีก ผมมองค้อนเขา เคลวินนี่ไม่ละโอกาสในการที่จะวกเข้าเรื่องใต้สะดือจริงๆ ไม่รู้จะหื่นไปถึงไหนกัน

“ล้อเล่นนะครับ คืนนี้คงงด เพราะผมเหนื่อยจริงๆ แค่อยากนอนให้เคนกอดเท่านั้น”

“ไม่ขัดข้องครับ เดี๋ยวจัดห้ายยยยยย”

รับคำเสียงยานคาง พลางผลักคนเกเรเข้าห้องน้ำไป







วันศุกร์ซึ่งเป็นวันทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ เคลวินตื่นไปทำงานแต่เช้า ช่วงนี้บริษัทมีปัญหา เขาจำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยมีผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และคุณชาตรี คอยร่วมสอดส่องไม่ให้พนักงานที่ถูกให้ออก กลับมาสร้างปัญหาอีก

ผมขออนุญาตไปทำงาน เพราะอยากอยู่เป็นเพื่อนเวลาเขามีปัญหา แต่เคลวินไม่ตกลง เขาไม่อยากให้ผมเดือดร้อน ทุกอย่างจัดการได้ด้วยกลไกของบริษัท และที่สำคัญ ผมอยู่ในระหว่างการภาคฑัณฑ์ หากผมโผล่ไปที่บริษัท ต้องมีคนสงสัยแน่ๆ

แม้จะรู้สึกอึดอัดใจที่ไม่ได้ช่วยเหลือเคลวินเลย แต่ผมก็ต้องยอมรับในกฏเกณฑ์ของบริษัทที่วางไว้ ทำได้แต่เพียงส่งกำลังใจ ให้เขาจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยด้วยดี

“รีบกลับบ้านมาเร็วๆนะครับ วันนี้ผมจะทำอาหารอร่อยๆให้เคลวินทานอีก”

พูดกับภรรยาของผม หลังจากที่ผละออกมาจากการจูบลาที่ยาวนาน เขายิ้มแล้วให้คำสัญญากับผมว่าจะรีบมาอยู่กับผม แล้วจะใช้เวลาวันหยุดอยู่ด้วยกัน ไม่ออกไปไหน

ตอนกลางวัน เคลวินโทรมาหาผมก่อนจะออกไปทานข้าวกลางวันกับลูกค้า เขาห่วงว่าผมจะหิว ไม่มีอะไรกิน ให้ผมสั่งอาหารตามสั่งมากิน แต่ผมเตือนเขาว่า ผมอยู่ในระหว่างพักงาน หากมีคนมาเห็นผมอยู่กับเคลวิน คงเกิดปัญหาแน่ และตอนนี้ผมพอทำอาหารกินเองได้บ้างแล้ว คงไม่ลงไปข้างล่างให้ใครจับได้ จากนั้นก็แซวเขาว่าเคลวินขี้ลืมเป็นตาแก่ เมื่อเช้ายังห้ามไม่ให้ผมลงไปไหน ตกบ่ายจะให้ผมไปหาอะไรกินเสียแล้ว เขาก็หัวเราะชอบใจ

ห้าโมงเย็นได้เวลากลับบ้าน ผมได้รับโทรศัพท์จากเคลวิน ว่ามีงานคั่งค้าง อาจจะกลับบ้านช้าหน่อย ผมก็บอกเขาไปว่าไม่ต้องเป็นห่วง จัดการงานให้เสร็จผมรอได้ และรายงานว่าผมกำลังทำอาหารให้กับเขา โดยกางตำราทำ เขาก็หยอดคำหวานว่ามันต้องอร่อยแน่ๆ เขาจะรีบกลับมาทาน

ประมาณ 1 ทุ่ม เคลวินโทรมาด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี บอกว่าที่บ้านโทรมาหาเขา บอกว่าพ่อไม่สบาย และส่งลุงเทพให้มารับกลับบ้าน เขารู้สึกเป็นห่วงพ่อมาก พอๆกับที่ห่วงผม อยากไปดูพ่อ แต่ก็กลัวว่าผมจะอยู่คนเดียว แม้ว่าผมจะอยากอยู่กับเคลวิน แต่ผมก็เห็นแก่ตัวไม่ได้ ตั้งแต่ผมกับเคลวินอยู่ด้วยกัน เขาแทบไม่ได้กลับบ้านเลย ถ้าแม่กับพี่ไม่มาหาที่เพนท์เฮ้าส์ เขาก็คงไม่มีโอกาสเจอหน้าญาติๆของตัวเอง ตอนนี้พ่อของเขาไม่สบาย และคิดถึงลูกชายมาก ผมเลยไม่อยากรั้งเขาไว้ อยากให้เคลวินไปมีเวลาอยู่กับครอบครัวบ้าง

“ถ้าพ่อค่อยยังชั่วแล้ว ผมจะรีบกลับบ้านมานะครับ”

นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางโทรศัพท์ ก่อนที่เขาจะหายไปทั้งคืน โดยไม่ส่งข่าวมา
วันรุ่งขึ้น ผมอยู่เพนท์เฮ้าส์คนเดียวอย่างเงียบเหงา เอากับข้าวที่ทำเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มาอุ่นบนเตา เตรียมพร้อม เผื่อว่าเคลวินจะกลับมา เขาจะได้ทานข้าวเลยไม่ต้องรอ ทว่า ตลอดทั้งวันเสาร์ นอกจากจะไม่เห็นเงาของเคลวินแล้ว เสียงของเขาก็ยังไม่ได้ยิน ทั้งโทรศัพท์บ้าน และโทรศัพท์มือถือนิ่งสนิท ไม่มีใครสักคนติดต่อเข้ามา





วันอาทิตย์ ผมรอการติดต่อจากเคลวินอย่างกระวนกระวาย ใจนึกเป็นห่วงไปสารพัด กลัวว่าที่บ้านของเขาจะมีปัญหา บางทีพ่อของเคลวินอาจจะป่วยหนัก และเคลวินต้องดูใจ ทำให้ไม่สามารถติดต่อมาหาผมได้ ผมฟุ้งซ่าน คิดมาก แต่ละเรื่องที่แว่บเข้ามา มีแต่เรื่องเลวร้าย จนผมต้องสลัดศีรษะ ขับไล่ความคิดที่ไม่ดีออกไป ไม่อยากแช่งคนในครอบครัวของคนที่ผมรัก บางทีผมอาจจะคิดมากไป มันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้

ถ้างั้น....เคลวินไปไหน ทำไมถึงไม่ติดต่อกลับมา....





วันสุดสัปดาห์ผ่านไป โดยไร้เคลวินข้างกาย ผมอยู่เพนท์เฮ้าส์อย่างเดียวดาย โดยที่เจ้าของบ้านหายตัวไปไม่ส่งข่าวคราวให้ทราบ ผมรู้แค่ว่า เคลวินกลับบ้าน เพราะพ่อป่วย แต่เรื่องราวหลังจากนั้น ผมไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าอาการของพ่อเคลวินเป็นอย่างไรบ้าง และตอนนี้เคลวินอยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาที่เพนท์เฮ้าส์เมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่โทรมาหาผมบ้าง ขาดการติดต่ออย่างนี้ ผมใจคอไม่สู้ดี กลัวว่าเราต้องแยกจากกัน

เมื่ออยู่คนเดียว ผมก็มีเวลาทบทวนเรื่องอะไรหลายต่อหลายอย่าง สิ่งหนึ่งที่ค่อยๆกระจ่างชัดในใจผม คือความรู้สึกที่มีต่อเคลวิน เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า ผมรักเคลวิน เพราะสงสารที่เขาทำดีกับผม แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ความรักที่มีต่อเคลวิน เป็นรักเพื่อรักเท่านั้น ผมรักเคลวิน เพราะคุณงามความดีของเขา ไม่ได้รักเขาเพราะผมสงสารเขาอย่างที่เข้าใจเอาเองแต่แรก ผมอยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเขา อยากได้เขาเป็นภรรยา โดยไม่สนใจว่าเขาจะเป็นชายหรือหญิง ผมมองข้ามตรงจุดนั้นไปเรียบร้อยแล้ว มองที่จิตใจของเคลวินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

และนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ผมรัก การหายไปนานๆอย่างนี้ไม่ใช่นิสัยของเคลวิน ถึงเขาจะงานยุ่งแค่ไหน เขาก็จะพยายามปลีกตัวมาหาผม หรือหาวิธีติดต่อให้ได้ แต่นี่ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์มาให้ได้ยินเสียง ถึงจะยุ่งสักแค่ไหน ก็น่าจะมีช่วงเวลาโทรมาหาผมบ้าง สัก สองสามนาทีก็ยังดี

โทรศัพท์มือถือที่เขาให้ผมมา ถูกนำออกมาใช้ หลังจากลังเลใจอยู่นาน ผมก็ตัดสินใจโทรไปหาเขาทันที สิ่งที่ได้กลับมาคือการตอบรับอัตโนมัติ แจ้งให้ฝากข้อความเอาไว้ ผมฝากไปหลายสิบข้อความ ส่วนใหญ่ให้เขาโทรกลับ แต่ก็ไร้วี่แวว เคลวินไม่โทรมาหาผมสักที

เช้าวันจันทร์ ผมรอเคลวินด้วยความกระสับกระส่าย คืนที่ผ่านมาผมนอนไม่เต็มตา เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องยุ่งกับครอบครัวเขา ทำให้เคลวินต้องอยู่รอเพื่อแก้ไข ขณะที่ผมพยายามหาเหตุผลให้เคลวิน ใจผมก็เริ่มหวาดระแวง

ผมนั่งดูข่าวตลอดทั้งวัน เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นข่าวซุบซิบ เม้าท์แตก ข่าวสังคม ข่าวเด็ดต่างๆ เพื่อดูว่ามีข่าวเกี่ยวกับเขาบ้างไหม


----------------------------
TBC


เห็นมะ  ไม่ได้ค้างซะหน่อยก็มันมีแค่นั้น :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-04-2009 21:21:29
อืมมมม อ่านต่อแบบยาวๆ จุใจจริงๆ
แต่จบแบบให้ลุ้นต่อหละนะ
เคลวินหายไปไหนเนี่ย เกิดอะไรขึ้น
บวก 1 ให้หนูมิ้น รอคุณเคทมาต่อให้ด้วยจ้้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 08-04-2009 22:24:50
^^
^^
^^
พี่น้ำตาล ครั้งนี้ผมส่ง 3 เลยนะ มีความสุขวันนี้นอนหลับฝันดีแน่ ๆ 

+1 ให้พี่น้ำตาลด้วยเป็นค่าทำขวัญ  :z1:

หนูมิ้น ถ้าได้เรื่องแล้วก็รีบมาต่อนะครับ อยากรู้ว่าท่านประธาน ฯ หายไปไหน

หรือว่าพวกฝ่ายช่าง ดักทำร้ายท่านประธาน ฯ

ของหนูมิ้น ก็ + ให้ด้วยนะครับ แล้วรีบมาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 08-04-2009 22:30:48
รอค่ะ

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 09-04-2009 20:14:11
เคลวินอะ เคนเป็นห่วงจาแย่แล้ว กลับมาเตอะ :m15:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 09-04-2009 21:44:48
เฮ้ยยยยยยย เคลวินหายไปหนายยยยย

เพิ่งจะดีกันเองงงงง ก็หายไปไหนแล้วววว

แบตมือถือหมดป่าว ไม่ก็คงวุ่นกับทางบ้าน

อย่างมีไรเลยน้า....... โนวววววว :serius2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 10-04-2009 12:56:52
ขอบคุณมากค้าบบบบบบบบบบบบ


ปล.ไปเที่ยวกันเดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพค่า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 10-04-2009 15:51:17
กลับมาต่อเร็วๆนะค๊าบบ :call:

 :m25:เคน จะแย้วแล้วค๊าบบ :sad4:

หลังสงกรานต์ ก็ได้ได้ค๊าบบบบ   :sad11:

พักผ่อนให้เพียงพอแล้มาเร็วๆนะค๊าบบบบ :กอด1:


 :L1:เป็นกะลังจายให้ค๊าบป๋ม :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 10-04-2009 16:45:01
 :serius2: :serius2:



เคลวินหานไปไหนนนนน



ปล่อยให้เคนเป็นห่วงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 8.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 10-04-2009 19:24:10
 :serius2:

:serius2:

 :z3:

 :z3:

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 11.4.09 ตอนพิเศษ [12]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 11-04-2009 23:12:32
ตอนพิเศษ [13]

---------------------------



ผมนั่งดูข่าวตลอดทั้งวัน เพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นข่าวซุบซิบ เม้าท์แตก ข่าวสังคม ข่าวเด็ดต่างๆ เพื่อดูว่ามีข่าวเกี่ยวกับเขาบ้างไหม

ล่วงเข้าวันพุธ ผมก็ไม่อาจจะทนรออย่างกระวนกระวายใจอยู่เพียงคนเดียวได้ จึงหาทางออกไปจากเพนท์เฮ้าส์เพื่อสืบเรื่องราวของเคลวิน

ผมใส่ชุดเสื้อผ้าทำงาน แล้วลงจากลิฟท์ส่วนตัวของเคลวินจากเพนท์เฮ้าส์ลงไปลานจอดรถ และเดินย้อนมาหน้าบริษัท ก่อนจะเข้าไปข้างใน และขึ้นลิฟต์ ผมได้เจอกับพนักงานสาวที่ผมได้เจอในร้านอาหารก่อนจะมีเรื่องกับนักเลงอันธพาลคนนั้น เธอแสดงความเสียใจกับผมที่รู้ว่าผมถูกพักงาน เธอบอกว่าเรื่องนี้ รู้กันทั้งบริษัท เพราะคนที่มีเรื่องกับผมเอามาโพทนาว่าผมถูกลงโทษ

เธอเล่าให้ผมฟังว่า พนักงานคนนั้นตั้งตัวเป็นหัวโจก แข็งข้อกับคุณชาตรี โดยพยายามขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวขึ้นมาพูด ให้ขาดความน่าเชื่อถือ มีพนักงานส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบผู้จัดการของตัวเอง ก็หลงเชื่อ และไปประท้วงกับเขา ในขณะที่บางคนก็ไม่ได้ให้ความสนใจจะไปร่วมประชุมด้วย

สิ่งที่เธอเล่าตรงกับที่เคลวินบอกผมทุกประการ หากแต่มันมีแง่มุมลึกซึ้งมากกว่า เพราะมีที่มาจากพนักงาน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้โดยตรง

ผมแสร้งทำเป็นเพิ่งได้ฟังเรื่องนี้ครั้งแรก และซักถามเธอหลายอย่าง จนในที่สุดผมก็ได้สิ่งที่ต้องการ พนักงานคนนั้นถูกให้ออกจากบริษัทจริงๆ ในข้อหาทำให้เกิดความวุ่นวายในบริษัท ไม่เคารพเจ้านาย และปลุกระดมให้เกิดการประท้วง ซึ่งก็เป็นข้อหาร้ายแรงพอสมควร เขาถูกจับไปโรงพัก พอเจอหน้าตำรวจเท่านั้น นักเลงก็สิ้นลาย กลายเป็นแมวเชื่องๆ ยอมรับสารภาพอย่างหมดเปลือก และรับปากว่าจะไม่มาก่อความวุ่นวายในบริษัทอีก

เธอเล่าแบบรู้ลึกรู้จริง เพราะเธอได้เดินทางไปสถานีตำรวจในฐานะพยานด้วย เธอรู้สึกดีใจที่เอานักเลงอันธพาลในคราบพนักงานพวกนี้ออกไปได้ และขอบคุณการตัดสินใจของประธานบริษัทที่สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ทำให้พนักงานอยากทำงานมากขึ้น ไม่ต้องมีใครมาทำตัวกร่าง ข่มขู่

คุยเรื่องคู่อริของผมได้สักพัก เธอก็เปลี่ยนเรื่อง มาถามเกี่ยวกับตัวผมว่าทำไมถึงมาที่บริษัททั้งที่ถูกพักงาน พอดีระฆังช่วยไว้ก่อน ลิฟต์เปิดตรงชั้นของเธอพอดี ทำให้ผมไม่ต้องตอบคำถามเธอ

ผมขึ้นไปยังชั้นสูงสุดซึ่งเป็นสำนักประธานกรรมการของบริษัท ตั้งใจจะไปถามพี่นนนี่ให้รู้เรื่องว่าเคลวินไปไหน พี่นนนี่ พอจะรู้เรื่องประธานกับผมบ้าง เนื่องจากเคลวินไม่ได้ปิดบังเลขารู้ใจ ซึ่งพี่นนนี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เธอเก็บความลับอย่างดี ไม่มีทางที่ใครจะได้รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเคลวินจากปากเธอ

พี่นนนี่ เงยหน้าขึ้นมามอง คงจะเห็นเงาของผมผ่านเข้ามาในหางตาของเธอ ทันทีที่เห็นว่าเป็นผม เธอก็ยิ้มให้ ท่าทางไม่ได้ตกใจสักนิดที่เห็นผมเดินเข้ามา

“ว่าไงพ่อหนุ่ม ออกจากถ้ำได้แล้วหรือเรา มานี่ มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่า”

เธอเอ่ยปากทักทายด้วยการแซวผม

“พี่นนนี่ ครับ ท่านประธานมาทำงานหรือเปล่า”

“อะไรกัน มาถึงก็ถามถึงแต่ท่านประธานเลยเหรอ ไม่ถามสารทุกข์สุขดิบพี่บ้างเลยนะ”

พี่สาวสุดสวยถามอำผมอีกรอบ รู้สึกแก้มตัวเองร้อนผ่าว นึกอายที่ถูกจับได้ แม้จะรู้ว่าพี่นนนี่รู้เรื่องระหว่างผมกับท่านประธาน แต่ผมก็อดที่จะเขินไม่ได้อยู่ดี ที่จะพูดเรื่องของเคลวินต่อหน้าคนอื่น

“ผมรู้ว่าพี่นนนี่สบายดี เพราะถ้าป่วยคงมาทำงานไม่ได้ แล้วหน้าตาก็ไม่สดชื่นรื่นเริงแบบนี้หรอกครับ”

ตอบไปตามที่เห็น

“เป็นไงบ้าง นอนอยู่กับบ้านมาสองอาทิตย์แล้ว รู้สึกเหงา อยากกลับมาทำงานบ้างไหม”

พี่นนนี่ยังไม่ตอบคำถามผมเรื่องเคลวิน แต่หันมาพูดคุยเกี่ยวกับตัวผมแทน แม้ว่าผมอยากจะรู้เรื่องของเขาใจจะขาด แต่ก็ต้องรักษาความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ไม่ให้มีมากไปจนผิดปกติ แล้วตอบคำถามพี่สาวใจดีแทน

ผมบอกกับเธอว่าผมอยากจะกลับมาทำงานใจจะขาด เป็นห่วงงานที่คั่งค้าง และไม่อยากเอาเปรียบพี่นนนี่ อยากช่วยแบ่งเบาภาระเธอ และช่วยงานเคลวินด้วย พี่นนนี่ฟังไปยิ้มไป ดูเหมือนพอใจกับคำตอบของผม เธอคงรู้ว่าผมไม่ได้เสแสร้ง แกล้งพูดเอาใจ แต่ผมพูดเพราะผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แค่สองอาทิตย์ที่ต้องแกร่วอยู่กับบ้าน อ่านแต่ตำราการบริหารอย่างเดียว มันน่าเบื่อ ยังดีที่มีเคลวินมาช่วยทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวา ทำให้คลายเหงาได้บ้าง แต่ตอนนี้เขาก็ไม่อยู่แล้ว

“ไม่ต้องห่วงเรื่องงานนะ พี่จัดการแทนเธอไปบ้างแล้ว ที่ผ่านมาก็ถือว่าไปพักผ่อนหย่อนใจ ชาร์ตไฟให้กับตัวเองแล้วกัน กลับมาก็จะได้ลุยงานหนักได้ รับรองยังมีงานที่จะรอให้เธอช่วยอีกเยอะ”

พูดจบพี่นนนี่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานที่คั่งค้างต่อ โดยไม่สนใจจะตอบคำถามผม ทิ้งให้ผมเคว้งคว้าง หาทางไปไม่ถูก คำตอบที่ต้องการก็ยังไม่ได้ เคลวินหายไปไหน พี่นนนี่ ก็ไม่ให้ความกระจ่าง อุตส่าห์ดั้นด้นมาถึงนี่ ผมไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก จะต้องรู้ให้ได้ว่าภรรยาของผมตอนนี้ทำอะไร และอยู่ที่ไหน

“เอ้อ พี่นนนี่ครับ พี่ยังไม่ได้ตอบผมเรื่องท่านประธานเคลวินครับ”

ตัดสินใจถามออกไป แล้วก็ยืนรอคำตอบ พี่นนนี่ เงยหน้าขึ้นมองผม มีรอยยิ้มขำผุดขึ้นที่ริมฝีปาก

“อ้าว...นึกว่าเธอจะรู้เสียอีก”

“ไม่ครับ ..ไม่รู้”

ผมส่ายหน้า ถ้ารู้จะมาถามทำไม รู้ว่าพี่นนนี่หยอกเล่น เธอรู้ว่าผมกับเคลวินอยู่ด้วยกัน เพราะอีตาประธานเจ้าเล่ห์ไม่เคยปกปิดเรื่องส่วนตัวกับเลขาคนสนิท แม้จะไม่ได้พูดออกไปตรงๆ แต่คนฉลาดอย่างพี่นนนี่มีหรือจะไม่รู้

“ทางบ้านของคุณเคลวิน แจ้งว่า คุณเคลวินไม่สบาย นอนซมอยู่ที่บ้าน มาทำงานไม่ได้”

สิ่งที่ได้รับฟัง ทำให้ผมตกใจอย่างบอกไม่ถูก เคลวินไม่สบายนี่เอง มิน่าเขาถึงไม่ได้โทรมา

“แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ”

ถามด้วยเสียงร้อนรน ตอนนี้ผมรู้สึกเกลียดดวงตาของพี่นนนี่จัง เหมือนจะรู้เท่าทันความคิดผม

“ห่วงท่านประธานเหรอ”

มาเจอคำถามนี้เข้า ผมถึงกับหน้าแดงก่ำ แต่ก็พยักหน้าหงึกๆ ก็มันห่วงจริงๆนี่นา เมียหายไปทั้งคน หลายวันแล้วด้วย ยิ่งรู้ว่าเขาไม่สบาย ผมจะใจเย็นอยู่ได้ไง

“ก็ เขาเป็นหัวหน้านี่ครับ ถ้าไม่ห่วงท่านประธานแล้วจะห่วงใคร”

แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ พี่นนนี่หัวเราะออกมาพรืดใหญ่ สงสัยขำความเป็นผู้ร้ายปากแข็งของผม

“ไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่านะ รู้แค่ว่า คุณเคลวิน นอนซมอยู่ที่ห้องมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว คงไม่มาทำงานอีกหลายวัน”

คำตอบของพี่นนนี่ ทำให้ผมเริ่มวิตกกังวล

“จริงหรือครับ แล้วพี่นนนี่ได้คุยกับท่านประธานหรือเปล่าครับ”

“ได้คุยนะ แค่ครั้งเดียว เมื่อวันจันทร์นี้เอง”

แม้จะรู้สึกน้อยใจที่เคลวินโทรคุยกับพี่นนนี่ ไม่ยอมโทรหาผมบ้าง แต่ความกังวลเรื่องการป่วยของเขา ทำให้ผมลืมเรื่องนี้ไปชั่วขณะ ใจมุ่งไปที่อาการเจ็บป่วยของเขามากกว่า

“เหรอครับ เคล...เอ้อ ท่านประธานว่าอย่างไรบ้าง แล้วป่วยเป็นอะไร ไปหาหมอหรือยัง แล้วกินยาบ้างหรือเปล่าครับ”

“โห ถามเป็นชุด แสดงว่าห่วงมากจริงๆ ใจเย็นๆนะ จะตอบให้ทีละข้อ อาการป่วยทางกายของคุณเคลวิน น่าจะไม่เท่าไหร่ แต่อาการป่วยทางใจนี่น่าจะหนัก คุณเคลวินไม่ได้ไปหาหมอ เพราะที่บ้านนั้นมีหมอประจำตระกูลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องฉีดยา กินยาอะไรนั่น ไม่แน่ใจ คุณเคลวินกินยายากพอสมควร ต้องมีคนบังคับให้กิน”

พี่สาวคนสวยไขข้อข้องใจ เธอพูดไป ก็จ้องหน้าผมไป เหมือนจะจับผิด ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หน้าตาจะแดง จะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาห่วงภาพพจน์ มากกว่าห่วงคนที่รัก

“เอ้อ...แล้วพ่อของคุณเคลวินล่ะครับ เป็นไงบ้าง”

นึกขึ้นมาได้ว่าพ่อของเคลวินก็ป่วยเช่นกัน สงสัยเคลวินไปพยาบาลพ่อ จนติดโรคตามไปด้วย หวังว่าคงไม่ร้ายแรง และคงจะค่อยยังชั่วขึ้นทั้งคู่

“พ่อ..ท่านประธานใหญ่นะเหรอ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ เขาก็สบายดี แข็งแรงมากด้วย เมื่อวันจันทร์ยังมาทำงานอยู่เลย”

คำตอบของพี่นนนี่สร้างความงุนงงให้ผมไม่ใช่น้อย มันยังไงกันแน่นี่ ไหนตอนที่โทรศัพท์คุยกัน เคลวินบอกว่าพ่อไม่สบายยังไงล่ะ น้ำเสียงเขาไม่สู้ดีเลย แสดงให้เห็นถึงความวิตกกังวลไม่ใช่น้อย

เคลวินคงไม่หลอกผม ด้วยการเอาเรื่องการป่วยของพ่อมาล้อเล่นหรอกนะ แล้วผมก็ยังมองไม่เห็นว่าเขาจะทำอย่างนั้นทำไม จะว่าอยากเลิกกับผมก็ไม่ใช่ เพราะผมเคยพยายามเลิกกับเขามาตลอด เขาก็ไม่ยอมและตามงอนง้อผมตลอดจนผมใจอ่อน จึงไม่น่าจะใช่ แล้วทำไมเรื่องที่เขาพูด กับเรื่องที่พี่นนนี่พูดจึงไม่ตรงกัน

รู้สึกไม่ชอบมาพากลอย่างมาก เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างแน่ๆ ผมไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับเขา แต่มันก็มีบางอย่างที่บอกให้รู้ว่าเขาไม่เคยที่จะละเลยผม ตอนที่อยู่ด้วยกัน เคลวินจะล่วงรู้เกี่ยวกับตัวผมทุกอย่าง เขารู้ว่าผมชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร ถ้าไม่สังเกตสังกาจริงๆก็คงไม่รู้ เขาคอยที่จะโทรมาหาผมเสมอ ก่อนจะกลับบ้านก็โทรมาที่โต๊ะ กำชับให้กลับบ้านไวๆมาทานกับข้าวฝีมือเขา ถ้าเขาจะกลับดึก เพราะมีประชุมข้างนอก เขาก็จะโทรมาบอกเสมอ จะป่วยไม่สบาย เขาก็ต้องอ้อนให้ผมดูแล เขาไม่ยอมพลาดการติดต่อกับผมสักครั้ง ดังนั้นการที่เขาหายไปไม่ส่งข่าวจึงเป็นเรื่องน่าสงสัย

“พี่นนนี่ แน่ใจหรือครับ ว่าท่านประธานใหญ่สบายดี”

ถามย้ำอีกครั้ง

“เธอเห็นฉันเป็นคนโกหกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ยะ ตาฉันก็ไม่ได้ฝาดด้วย เมื่อวันจันทร์ท่านประธานใหญ่มาทำงานแทนคุณเคลวินจริงๆ และคาดว่าต้องมาอีกภายในอาทิตย์นี้อย่างแน่นอน”

ผมเดินมึนออกจากบริษัทหลังจากรับทราบเรื่องของเคลวิน ข้อมูลที่ได้รับทำให้ผมสับสน สิ่งที่ได้ยินได้ฟังตีกันไปหมด ผมเชื่อว่าพี่นนนี่พูดจริง และเชื่อว่าเคลวินก็พูดจริงด้วย เคลวินไม่โกหกผมแน่ๆ เขาไม่จำเป็นต้องโกหกผม แม้ว่าที่ผ่านมา เขาจะเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่เขาก็ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง เขารักผม และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาพร้อมจะอยู่กินกับผม ดังนั้น เขาไม่มีทางจะกุเรื่องขึ้นมาเพื่อแยกห่างจากผมอย่างแน่นอน

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เรื่องนี้มันต้องมีตรงไหนที่ผิดปกติแน่ๆ แล้วผมจะรู้ได้ไงกัน

มีชื่อบางชื่อแวบเข้ามาในสมอง ...

ป้าหมี่ ..ป้าหมี่ต้องรู้แน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

ผมรีบค้นหาเบอร์โทรของป้าหมี่ แกให้เบอร์มือถือกับผมไว้ ตอนที่ผมป่วย เผื่อว่าผมจะต้องการอะไร เคลวินให้เบอร์มือถือกับป้าไว้ ให้ติดต่อกับผมโดยเฉพาะ ไม่ได้ให้เบอร์ที่บ้าน เขาคงกลัวว่าผมจะโทรไปเจอญาติพี่น้องของเขา ซึ่งผมอาจจะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามอย่างไร เลยให้โทรตรงกับป้าหมี่ดีกว่า

หลังจากค้นหาในกระเป๋าเงิน แต่ไม่พบ เพราะผมไม่ได้เก็บไว้ในนั้น ผมก็มานึกได้ว่า ป้าเขียนเบอร์และแปะเอาไว้ตรงตู้เย็นที่ครัวของเคลวิน ผมเลยรีบกลับขึ้นไปเพื่อจะโทรศัพท์

เบอร์โทรของป้าหมี่ เขียนอยู่ในกระดาษโพสต์อิท และติดไว้ที่ประตูตู้เย็น ผมใช้มือถือที่เคลวินให้มา โทรไปตามเบอร์ที่เขียนเอาไว้ มีเสียงรอสายดังอยู่สักพัก จากนั้น เสียงป้าหมี่ก็ดังขึ้น ผมรีบพูดกับคนเลี้ยงเคลวินทันที

“ดีใจจริงๆที่คุณหนูโทรมา รู้ไหมคุณเคลวินรอคุณหนูตั้งหลายวัน”

น้ำเสียงของป้าหมี่บ่งบอกถึงความดีอกดีใจจนสังเกตเห็นได้

“รอ...ทำไมต้องรอล่ะ ทำไมไม่โทรมาหาผมล่ะครับ ป้าหมี่”

ถามแกอย่างงุนงง ทว่าเมื่อแม่บ้าน และคนเลี้ยงเคลวินตอบกลับมา ผมกลับงงยิ่งกว่า

“เอ้อ ...คุณหนูเคลวินถูกยึดโทรศัพท์ค่ะ”

“ทำไมต้องห้ามใช้โทรศัพท์ด้วยละครับป้าหมี่ เคลวินป่วนหนักขนาดที่ทำอะไรไม่ได้หรือครับ”

ผมนึกถึงรังสี หรือคลื่นบางอย่างในมือถือ ที่ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย มันอาจจะทำให้เคลวินป่วยหนักก็ได้

“คุณพ่อของคุณเคลวินไม่ต้องการให้ติดต่อกับใครค่ะ คุณพ่อเตรียมจะให้คุณเคลวินแต่งงานกับคนที่ท่านหามา”

รู้สึกเหมือนของตกใส่หัวจนมึนไปหมด เคลวินจะแต่งงานกับผู้หญิงที่พ่อหาไว้ให้ อะไรกันเนี่ย มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ เคลวินทำไมไม่บอกผมเลย

แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนี่นา เขาทำให้ผมรักเขา แล้วก็จะหนีไปแต่งงานดื้อๆ ผมอุตส่าห์ไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนแล้ว อยากอยู่กับเขาคนเดียว แต่เขากลับจะกลายเป็นผู้ชายปกติ แต่งงานสร้างครอบครัวกับผู้หญิง ความจริงที่ได้รู้แบบนี้มันทำให้ผมปวดใจ

“คุณหนูเคลวินไม่ได้เต็มใจนะคะ คุณหนูรักคุณเคนมากๆ ท่านไม่อยากแต่งงานกับคนที่คุณพ่อหามา คุณหนูอยากแต่งงานกับคุณเคนค่ะ”

เหมือนจะรู้ว่าผมกำลังวิตกกับข่าวที่ได้ยิน ป้าหมี่ก็เลยรีบพูดขึ้นมา ผมจะได้ไม่ใจเสียไปมากกว่านี้ ซึ่งนับว่าช่วยได้ไม่น้อย ผมรู้สึกดีขึ้น เคลวินไม่ได้ยินยอมพร้อมใจ แต่เคลวินถูกบังคับ

“แล้วเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไงป้าหมี่ ทำไมอยู่ดีๆ ท่านประธานใหญ่ถึงอยากให้คุณเคลวินแต่งงานล่ะ”

“เรื่องมันซับซ้อนค่ะคุณหนูเคน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวป้าหมี่จะแอบออกไปหาคุณหนูดีกว่า จะได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง พูดที่นี่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ”

ป้าหมี่พูดกระซิบกระซาบ สงสัยกลัวคนดักฟัง ถ้าเรื่องรู้ไปถึงหูท่านประธานใหญ่ ป้าหมี่คงมีปัญหา ผมกับป้าหมี่เลยตกลงนัดแนะกัน โดยที่ป้าหมี่จะมาหาผมที่เพนท์เฮ้าส์ เราไม่ได้นัดเจอกันในที่สาธารณะเพราะกลัวคนจะเห็น และอาจจะมีคนที่รู้จักกับครอบครัวของเคลวินนำข่าวไปบอกก็ได้

ประมาณบ่ายๆ แม่บ้านของเคลวินก็มาเยือนเพนท์เฮ้าส์ของเจ้านายตัวเองอีกครั้ง ป้าหมี่ติดอาหารมาฝากผมด้วย แต่ผมไม่มีกระจิตกระใจกิน เพราะเป็นห่วงเคลวิน อยากรับรู้เรื่องของเขา

“ทานเสียหน่อยเถอะค่ะ คุณเคลวินเขาสั่งมาว่าต้องให้คุณเคนทานให้หมดให้ได้ ป้าหมี่ทำอาหารตามออเดอร์ของคุณเคลวินเลยนะ คุณหนูบอกว่าเป็นของที่คุณหนูเคนชอบ”

ได้ฟังอย่างนี้ ผมถึงกับน้ำตาซึม เคลวินยังอุตส่าห์ห่วงผมอีก ทั้งที่ตัวเขาน่าจะเผชิญกับความยากลำบากมากกว่าผม ช่างเป็นภรรยาที่แสนดีจริงๆ แล้วอย่างนี้ผมจะทำให้เคลวินผิดหวังได้ไง

อาหารที่ป้าหมี่จัดหามาให้ ผมทานจนเกลี้ยง แล้วก็ฝากให้ป้าหมี่ไปบอกเคลวินด้วย ว่าผมทานอาหารจนหมดตามคำสั่งของเขาแล้ว ฝากเสร็จ ผมก็ซักถามป้าหมี่ถึงสิ่งที่คาใจ ซึ่งป้าหมี่ก็เล่าให้ฟังจนหมดเปลือก


---------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 11.4.09 ตอนพิเศษ [13]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 12-04-2009 00:16:30
อ๊าาาาาาาาา


ท่านพ่อ


ทำแบบนี่ได้เยี่ยงไร


 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 11.4.09 ตอนพิเศษ [13]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 12-04-2009 00:32:34
อ้าวววว ไหงเป็นงี้
คุณแม่กะคุณพี่สาวก็เข้าใจดี บอกว่าครอบครัวเข้าใจ แล้วทำไมคุณพ่อกลับหักหาญน้ำใจลูกได้
หรือว่านี่จะเป็นแผนลองใจอะไรหรือเปล่า
รอฟังคำอธิบายจากป้าหมี่ก่อน
บวก 1 ให้หนูมิ้น ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 11.4.09 ตอนพิเศษ [13]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 12-04-2009 01:13:23
 :m15:

 :sad4:

 :sad4:

ใจรายจิง ๆ ง่า

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 11.4.09 ตอนพิเศษ [13]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 12-04-2009 16:19:07
ง่ะ

ทำไมเป็นแบบนี้

 :serius2:

รอตอนต่อไปค่ะ

ุู^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 12-04-2009 16:25:52
หวัดดีวันสงกานต์ค่ะ


ตอนพิเศษ [14]

--------------------------------



เรื่องมันเริ่มต้นจากงานปิกนิกพนักงาน ที่ผมไปมีเรื่องมีราวกับพนักงานฝ่ายช่าง จนต้องมีการทำโทษผมโดยการพักงาน และ ลงโทษพนักงานอันธพาล ด้วยการตัดเงินเดือนและโบนัส เรื่องนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างวงกว้าง จนกระทั่งไปถึงหูท่านประธานพ่อของเคลวิน ชื่อของผมถูกนำไปพูดถึงควบคู่กับชื่อของเขา ในฐานะผู้ช่วยเลขาคนสนิท และมีการปล่อยข่าวลือเรื่องผมกับเคลวินออกมา ว่าผมเป็นคนที่เคลวินต้องการจะผลักดันให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โต

คนที่ปล่อยข่าวคือกลุ่มคนที่ไม่ชอบหน้าผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอผมมีเรื่องมีราวชกต่อยกับพนักงานบริษัทด้วยกัน และไม่ถูกเคลวินไล่ออก ก็ยิ่งทำให้ข่าวลือโหมกระพือเร็ว และ แรงขึ้น

เมื่อมีการพูดถึงชื่อผม พาดพิงไปถึงเคลวินมากขึ้น ทำให้คนในครอบครัวของเคลวินเริ่มเกิดความสนใจ กอร์ปกับเคลวินไม่กลับบ้าน แต่มาพักอาศัยอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ ทุกคนก็เลยพากันสงสัย ว่าที่นี่มีอะไรดี จึงสามารถดึงดูดเคลวินเอาไว้ มีเสียงเล่าลือว่าเคลวินเก็บตัวแฟนไว้ที่เพนท์เฮ้าส์ ทำให้แม่และพี่สาวของเคลวินต้องมาพิสูจน์ด้วยตาตนเอง จนกระทั่งรู้ว่า หนุ่มคนนั้นคือผม

แม้ว่าแม่และพี่สาวจะยอมรับในสิ่งที่เคลวินเป็น เพราะเคลวินเคยใฝ่ฝันอยากจะเป็นเจ้าสาวตั้งแต่เด็กๆ และชอบเล่นเป็นเจ้าสาวอยู่บ่อยๆ คนในครอบครัวก็ไม่มีใครคิดว่าเคลวินจะเอาจริงเอาจังถึงขนาดนี้

เคลวินไม่ได้มีผมเป็นคนรักเพียงแค่คนแรก เขามีแฟนมาสองสามคน ก่อนที่จะเจอผม แต่ส่วนใหญ่ก็เลิกกันไปก่อน ไม่มีใครคบนานเหมือนผม

ตอนแรก แม่กับพี่สาวของเคลวินทำใจอยู่นาน ไม่อยากยอมรับความจริงเรื่องนี้ แต่เพื่อเห็นแก่ความสุขของลูกและน้องชายของตัวเอง ทำให้ทั้งสองยอมรับในตัวผม ว่าเป็นคนสำคัญของเคลวิน และนำเรื่องนี้ไปบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องของเคลวินรู้ ซึ่งก็มีทั้งคนที่รับได้ และรับไม่ได้ แต่แม่และพี่สาวก็พูดโน้มน้าวให้ทุกคนเห็นความสุขของเคลวิน สำคัญกว่าความสุขของตัวเอง

ในที่สุดทุกคนก็ยอมรับได้ ยกเว้นแต่พ่อของเคลวินคนเดียว ที่หัวโบราณ ไม่อยากให้เคลวินคบกับผู้ชาย เลยหาผู้หญิงจะมาแต่งงานกับเคลวิน ซึ่งก็คือลูกสาวของเพื่อน ที่แอบชอบเคลวินมานานแล้ว

เมื่อพ่อของเคลวินบอกความคิดของตัวเอง ให้แม่กับพี่ๆของเคลวินทราบ ก็ได้รับการคัดค้าน ไม่มีใครอยากฝืนใจเคลวิน ครอบครัวนี้เลี้ยงลูกแบบประชาธิปไตย อยากจะทำอะไรก็ทำ หากไม่เดือดร้อนใครก็ทำไป จึงไม่เคยบังคับให้ลูกทำอย่างที่ตัวเองต้องการ

ทว่าครั้งนี้พ่อกลับดื้อรั้น ไม่ฟังเสียงคนในครอบครัว จะให้เคลวินแต่งงานให้ได้ จึงวางแผนที่จะดึงเคลวินให้ออกห่างจากผม โดยการออกอุบายว่าตัวเองไม่สบาย แล้วให้คนที่บ้านโทรไปบอกเคลวินให้มาเยี่ยมพ่อที่กำลังป่วย

เคลวินหลงเชื่อโดยง่าย เพราะเคลวินเองก็รู้สึกผิดกับครอบครัวที่ไม่ได้ไปมาหาสู่เยี่ยมเยียนพวกเขาบ้าง ก็เลยตัดสินใจไปเยี่ยมพ่อ ด้วยหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ทว่าเมื่อไปถึง ก็ถูกพ่อกักตัวไว้ เรียกตัวไปด่าเรื่องที่มาคบกับผู้ชาย ทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย พ่อยากให้เคลวินสืบทอดกิจการของครอบครัว และดูแลไปจนชั่วลูกชั่วหลาน บังคับให้เลิกคบกับผม และให้แต่งงานกับคนลูกสาวเพื่อนพ่อ

พ่อลูกทะเลาะกันใหญ่โต ในที่สุด พ่อก็ใช้อำนาจของความเป็นผู้ให้กำเนิดบีบบังคับให้เคลวินอยู่กับบ้าน ไม่ออกไปไหน เพื่อแลกกับการที่ไม่ไล่ผมออกจากงาน เคลวินยอมเสียสละตัวเองเพื่อผม ในขณะที่ตัวเองได้รับความทุกข์ทรมานใจ ถูกจำกัดเสรีภาพ ไม่ให้ไปทำงานที่บริษัท ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ เพราะกลัวว่าเคลวินจะหาทางติดต่อผม เคลวินเลยตรอมใจ ป่วยไม่สบาย เพราะคิดถึง และเป็นห่วงผม

เรื่องที่ป้าหมี่เล่า มันดูเหลือเชื่อ จนไม่อยากจะคิดว่า นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในครอบครัวของฝรั่งหัวสมัยใหม่ ไม่คิดว่าความรักของเราสองคนจะมีกำแพงขวางกั้น ซึ่งคนที่สร้างกำแพงก็คือพ่อของเคลวินเอง

แต่ป้าหมี่ก็ยืนยันหนักแน่น ว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ในฐานะคนที่ทำงานให้กับครอบครัวนี้มานาน จนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนในบ้าน ทำให้ป้าหมี่ได้รู้อะไรหลายอย่าง ทั้งจากปากเคลวินเอง จากแม่และพี่สาวของเคลวิน และจากการได้ยินโดยบังเอิญ ทำให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

คนรับใช้เก่าแก่ทำหน้าเศร้าขณะที่เล่าให้ผมฟัง เธอขอร้องให้ช่วยคุณหนูของเธอไม่ให้ต้องทนทุกข์ทรมาน เธอสงสารคุณหนูของเธอ ที่ประท้วงพ่อ ด้วยการไม่ยอมกินข้าวปลาอาหาร ปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรมจนไม่สบาย เธออยากให้ผมไปหาคุณพ่อของเคลวิน เผชิญหน้าท่านอย่างลูกผู้ชาย และพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับเรื่องของเคลวิน

ถึงแม้ป้าหมี่ไม่ขอร้อง ผมก็ตั้งใจจะทำให้อยู่แล้ว ในเมื่อเคลวินเสียสละเพื่อผม ผมจะเสียสละเพื่อภรรยาสุดที่รักไม่ได้เทียวหรือ

“แต่คุณหนูเคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมนะคะ ท่านประธานเป็นคนดุมากๆ ดื้อรั้นเหมือนคุณเคลวิน พ่อลูกถอดแบบกันมาเลยค่ะ อยากจะได้อะไรก็ต้องได้ เมื่อไม่ชอบให้คุณเคลวินอยู่กินกับผู้ชาย ก็ต้องบังคับให้คุณหนูแต่งงานจนได้”

ยิ่งป้าหมี่เล่าถึงพ่อของเคลวินเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้สึกหนักใจมากยิ่งขึ้น ผมไม่เคยเจอตัวท่านประธานใหญ่มาก่อน แต่ได้ยินว่า เขาดุมากกว่าเคลวินอีก พนักงานกลัวกันทุกคน พอมาถึงรุ่นเคลวิน เขาปกครองพนักงานเหมือนเจ้านายปกครองลูกน้อง

ในขณะเดียวกันก็ทำให้พนักงานรู้สึกอบอุ่น เหมือนเป็นคนที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน คนทำงานรู้สึกผ่อนคลาย แม้เคลวินจะดุ เฉียบขาด แบบพ่อ แต่เคลวินก็มีมุมที่ใจดีที่พนักงานรับรู้ได้เช่นกัน

ผมต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายดุๆคนหนึ่ง เพราะรักลูกชายของเขา ไม่รู้ว่าผมจะสามารถทำให้เขาเห็นใจความรักของเราได้หรือเปล่า

แต่ถึงมันจะยากอย่างไร ผมก็จะลองพยายามดู เพื่อพิสูจน์ให้เคลวินเห็นว่าเขามีค่าสำหรับผมแค่ไหน และผมจะไม่มีวันให้ใครมาพรากเขาไปจากผมอย่างแน่นอน ไม่ว่าคนๆนั้น จะเป็นใครก็ตาม

ที่สำคัญ ท่าทางท่านจะไม่ชอบคุณหนูเคนเอามากๆ เพราะคือคนที่ทำให้ลูกชายไม่กลับบ้านกลับช่อง แถมยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทหลายๆครั้ง ท่านประธานคิดว่าเรื่องยุ่งยากนั้นมาจากคุณหนูเคน หากให้คุณหนูออก จากงานหรือย้ายงานไปทำแผนกอื่น ก็จะทำให้ คุณหนูเคนกับคุณหนูเคลวินอยู่ห่างกันไปโดยปริยาย”

ช่างเป็นคำพูดที่บั่นทอนจิตใจผมเสียเหลือเกิน ยังไม่ทันได้ไปขอลูกชายท่าน ก็จะตั้งกำแพงกีดกันเสียแล้ว จะให้ผมไปอยู่ที่อื่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอเคลวิน จะได้เลิกรักกัน มันดูโหดร้ายไปหน่อย แล้วข้อหาที่ว่าผมเป็นต้นเหตุของการทะเลาะวิวาทกัน ก็เป็นการฟังความด้านเดียว ผมทำเพื่อปกป้องลูกชายท่าน เคลวินยังเข้าใจ ทำไมพ่อเขาถึงอคติ หรือว่าเขาไม่รู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น สงสัยผมต้องหาโอกาสไปพบตัวท่าน เพื่อให้ความกระจ่าง ท่านจะได้เปลี่ยนแปลทัศนคติที่มีต่อผม และยอมรับผมเป็นลูกเขย

“เชื่อมั่นผมเถอะครับป้าหมี่ ผมจะไม่มีวันทำให้เคลวินเสียใจที่เลือกรักผมครับ และผมจะทำให้พ่อของเคลวินยอมรับความรักของเราให้ได้”

บอกกับแม่นมของเคลวินอย่างเชื่อมั่น หวังว่าเธอคงเอาไปถ่ายทอดให้เขารู้เช่นกัน ตอนนี้เริ่มรู้สึกดีที่ได้พักงาน ผมจะได้มีเวลาในการคิดหาทางเอาตัวคนที่ผมรักกลับคืนมาให้ได้ ผมไม่ใช่คนเฉลียวฉลาดแบบเคลวินที่จะอ่านเกมนี้อย่างทะลุปรุโปร่งและรับมือได้

ผมต้องใช้เวลาในการคิดว่าผมจะจัดการอย่างไร คนที่ผมจะต่อกรด้วย ไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ใช่นักเลงโตเหมือนอันธพาลจากฝ่ายช่าง แต่เป็นประธานบริษัท เป็นพ่อของคนที่ผมรัก หากผมไม่วางแผนให้ดี ทำพลาด ผมอาจจะต้องสูญเสียเคลวินไปตลอดกาล






“คุณหนูเคลวินคะ ได้เวลาทานข้าวแล้วค่ะ”

เสียงป้าหมี่คนที่ดูแลผมตั้งแต่เด็กดังขึ้นอยู่หน้าห้อง เรียกร้องความสนใจจากผม เธอคงได้รับคำสั่งจากพ่อหรือแม่ให้มาเรียกผมไปทานข้าวด้วยกัน แต่ผมไม่รู้สึกอยากกิน จึงปฏิเสธไป

หลายวันมานี้ ผมรู้สึกไม่มีความสุขเลย นับตั้งแต่รีบร้อนกลับบ้าน เพราะป้าหมี่โทรตาม แจ้งว่าพ่อผมป่วย ด้วยความที่ผมรู้สึกผิดที่ละเลยท่าน มัวแต่มาอยู่กับคนที่ผมรัก ไม่ค่อยได้กลับบ้านไปเจอหน้าพ่อกับแม่

แม้ว่าผมจะโทรคุยกับท่านทุกวัน มันก็อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขนาดแม่ยังมาหาผมถึงที่เพนท์เฮ้าส์ ท่านมาเพราะความรักและคิดถึง รวมถึงต้องการเห็นหน้าคนรักของผมด้วย ว่าเป็นใครมาจากไหน มีดีอะไรจึงสามารถรั้งตัวผมไว้ได้ ไม่ให้กลับบ้านกลับช่อง

คำว่าพ่อป่วยทำให้ผมใจเสีย ผมไม่ได้เจอพ่อหลายเดือน นับตั้งแต่มาอยู่กับเคน ล่าสุดที่ผมเจอท่าน ก็ยังเห็นว่าท่านแข็งแรงดี ตอนคุยกันทางโทรศัพท์ก็ไม่มีทีท่าว่าเจ็บป่วยอะไร แต่ผมก็ไม่ได้เฉลียวใจสักนิดว่า โทรศัพท์แจ้งเรื่องการไม่สบายของพ่อจะเป็นกลลวงที่จะกักขังตัวผมไว้ที่นี่

ความที่ผมเป็นห่วงพ่อผู้ให้กำเนิด และไม่คิดว่าท่านจะโกหกผม ทำให้ผมรีบร้อนกลับมาบ้าน โดยปล่อยเคนให้อยู่เฝ้าห้องของผมคนเดียว พอมาถึงผมก็ตรงดิ่งไปหาพ่อทันที เพื่อที่จะพบว่าท่านแข็งแรงดีไม่ได้เป็นโรคภัยไข้เจ็บอะไร

“ถ้าฉันไม่ป่วยหนักใกล้ตาย แกก็จะไม่มาหาฉันใช่ไหมเคลวิน”

นี่คือประโยคแรกที่พ่อพูดกับผมเมื่อเจอกัน ผมส่ายหน้าปฏิเสธ ไม่อยากให้พ่อเข้าใจอย่างนั้น สำหรับผมแล้ว พ่อแม่มีความสำคัญเป็นที่หนึ่งสำหรับผมเสมอ ถึงแม้ว่าผมจะย้ายไปอยู่กับเคน แต่ผมก็ยังระลึกถึงพวกท่าน โทรหาทุกๆวันไม่เคยขาด

ที่ผมไม่ได้กลับมาพักที่บ้านในช่วงนี้ เป็นเพราะผมกำลังทำคะแนนกับเคนอยู่ หากผมปล่อยให้เกิดช่องว่างระหว่างผมกับผู้ชายที่ผมรัก ผมก็เกรงว่าผมจะเสียเขาไป การอยู่กินกับเขา ทำความดีให้เขาเห็นน่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงจิตใจของเขาได้

ในท้ายที่สุดความพยายามของผมก็ประสบความสำเร็จ เคนรู้สึกดีกับผมมากขึ้น ยอมตามใจผมหลายเรื่อง ผมไม่รู้ว่าเขารักผมบ้างหรือเปล่า เพราะเขาไม่ได้พูดออกมาชัดเจน แต่การกระทำของเขาที่ผ่านมา ทำให้ผมมั่นใจ ว่าเขารักผมอย่างแน่นอน แต่ผมก็อยากได้ฟังเขาพูดจากปาก มากกว่าคาดเดาเอาเอง

สิ่งที่ผมเฝ้ารอ คงจะประสบความสำเร็จ หากว่าผมไม่ถูกเรียกตัวมาก่อน ผมเข้าใจว่าพ่อป่วยจริงๆ มาหาด้วยความเป็นห่วง มาทำหน้าที่ลูกที่ดี แต่พอเจอหน้าพ่อ ก็ถูกต่อว่าอย่างน้อยอกน้อยใจ ผมปฏิเสธว่าไม่เคยมีความคิดอย่างนั้น ท่านก็หาว่าผมแก้ตัว ตำหนิผมที่ไม่ยอมกลับบ้านมาเยี่ยมกันบ้าง พ่ออยู่เมืองไทยมานาน จนชินกับการอยู่รวมกันเป็นครอบครัวแบบคนไทย ทั้งที่ฝรั่งอย่างเรา พอโตขึ้นก็แยกไปใช้ชีวิตอยู่เอง เป็นเรื่องปกติ แต่พ่อกับแม่กลับอยากให้ผมอยู่ด้วย และหากมีครอบครัว ก็อยากให้มาอยู่ด้วยกัน วัฒนธรรมไทยเปลี่ยนแปลงพ่อของผมไปเสียแล้ว

“นี่พ่อไม่ได้ป่วยใช่ไหมครับ หลอกผมใช่ไหม”

ถามอย่างคลางแคลงใจ ลองด่าผมได้ขนาดนี้ คงไม่ใช่คนป่วยหนักแน่ๆ

“ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้ ฉันจะทำให้แกกลับมาบ้านได้ยังไง”

พ่อทำเสียงดังใส่ผม ท่าทางจะยังโมโหผมไม่เลิก ผมเห็นพ่อกำลังอารมณ์ไม่ดี เลยไม่อยากโต้แย้ง พยายามพูดดีๆกับเขาอย่างน้อยก็เพื่อให้พ่อสบายใจ ผมไม่ได้กลับมาบ้านบ่อยๆ นานๆมาที ก็ไม่อยากชวนทะเลาะ

“ก็โทรมาบอกกันก็ได้นี่ครับพ่อ ไม่เห็นจะต้องใช้เรื่องการเจ็บป่วยมาหลอกให้ผมมาหาเลย พูดไม่ดีเกี่ยวกับตัวเอง มันเหมือนเป็นการแช่งเลยนะครับ”

บอกอย่างห่วงใย ไม่ได้โกรธที่โดนหลอก แต่ไม่สบายใจมากกว่า การเอาเรื่องของสุขภาพมาเป็นข้ออ้างให้ผมมาหา มันได้ผลตรงที่ผมรีบมาทันทีอย่างไม่รั้งรอ แต่หากใช้มุขนี้บ่อยๆ มันก็ขาดความน่าเชื่อถือ มันจะกลายเป็นเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ พอเจ็บป่วยจริง ผมอาจจะคิดว่าหลอกเล่น แล้วไม่มาหาก็ได้ ถ้าแค่บอกว่าคิดถึงกัน อยากให้ผมกลับบ้านบ้าง ผมก็คงไม่ใจดำทำเมินเฉย ถึงไงนี่ก็ครอบครัวผม ถึงผมจะไปสร้างครอบครัวของตัวเอง แต่ผมก็ยังมีครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ผมมีแต่เดิม และผมไม่มีวันลืมเลือนบุญคุณของพ่อแม่อย่างแน่นอน


--------------------
TBC


หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 12-04-2009 17:42:42
ดูความมุ่งมั่นของเคนแล้ว จะมีอะไรขวางอยู่อีกไหม

มารอตอนต่อไป หนูมิ้น ขยัน ๆ ลงหน่อยซิครับ +1 ให้เต็มร้อยแล้วน้า

 :z13: หนูมิ้นให้ขยัน ๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 12-04-2009 18:48:26
^
^
มีความสุขมากมายที่ได้จิ้มน้องวัน มาเจอช่วงสงกรานต์ซะด้วย
สุขสันต์วันสงกรานต์นะจ๊ะน้องจ๋า บวก 1 คืนให้ด้วยจ้า

ตอนนี้ยังคลางแคลงใจจริงๆ ว่าพ่อของเคลวินจะยังไงกันแน่
คิดจะพรากคนรักกันจริงๆหรือ

ยังบวกเพิ่มให้หนูมิ้นไม่ได้ ขอกอดแน่นๆ แทนนะจ๊ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 12-04-2009 21:45:27
สู้ๆนะ เคน




 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 12-04-2009 23:06:31
 :m15: :m15:

สู้ ๆ น่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 13-04-2009 00:08:11
 :angry2: พ่อใจ ร้าย ไม่สงสาร เควิลมั่งหรอ  :m31:






 :fire: เคนๆ ๆ ๆ สู้ ๆ ๆ ๆ เพื่อ ศรีภรรยานะจ๊ะ  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-04-2009 15:23:27
เคนสู้สู้ ทำให้ว่าที่พ่อตา สยบเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: sweetiiz ที่ 13-04-2009 15:31:31
 :กอด1: :กอด1:


เคนสู้ ๆนะ ^^"


 :call: :call:


สวัสดีปีใหม่ไทยคัฟ ^/|\^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 14-04-2009 16:53:23
เพิ่งจะตามทัน

 :o12:

ทำไมเรื่องมันเศร้าอย่างนี้้ :o12:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 15-04-2009 12:24:26
 :เฮ้อ:

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 15-04-2009 15:19:06
เจอพ่อตาโหดซะแระ

มาส่งกำลังใจให้ เคน & เคล

รักแท้จะมาแพ้พ่อตาดุได้ไง

สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 12.4.09 ตอนพิเศษ [14]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 15-04-2009 21:25:50
^
^
มีความสุขมากมายที่ได้จิ้มน้องวัน มาเจอช่วงสงกรานต์ซะด้วย
สุขสันต์วันสงกรานต์นะจ๊ะน้องจ๋า บวก 1 คืนให้ด้วยจ้า

ตอนนี้ยังคลางแคลงใจจริงๆ ว่าพ่อของเคลวินจะยังไงกันแน่
คิดจะพรากคนรักกันจริงๆหรือ

ยังบวกเพิ่มให้หนูมิ้นไม่ได้ ขอกอดแน่นๆ แทนนะจ๊ะ
สุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยจ้า


ขอสารภาพบาปค่ะ  มิ้น ให้ +  ไม่เป็น   :serius2:  เมื่อก่อนนี้มิ้นเคยทำได้แต่ตอนนี้ งง   o22  มันกดบวกยังไง  อ้ากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 15-04-2009 21:29:23
ตอนพิเศษ [15]

-----------------------------


เพราะห่วงอนาคตของเคน เลยทำให้ผมยอมที่จะหมั้นหมาย กับคนที่พ่อหามาให้ ในขณะที่ก็แอบวางแผนการล้มเลิกการแต่งงานที่จะมาถึง

ที่คิดเอาไว้ก็คือ ผมจะเปิดเผยความจริงให้ผู้หญิงคนนั้นทราบ ว่าผมมีรสนิยมอย่างไร ผมยอมทำร้ายใจตัวเอง แต่ผมจะไม่ยอมทำร้ายใจคนอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงดีๆ ที่ควรจะแต่งงานอยู่กินกับคนที่เธอรัก มากกว่าจะมาแต่งงานกับผู้ชายที่รักผู้ชายอย่างผม ไม่อยากหลอกลวงใคร ไม่อยากทำให้ใครต้องเจ็บช้ำ การที่ผมบอกความจริงกับเธอไป แม้ว่าจะต้องแลกกับการเสียชื่อเสียง แต่มันก็ดีกว่าที่จะใช้เธอเป็นเครื่องมือลบภาพเกย์ของตัวเอง

“คุณหนูเคลวินคะ คุณพ่อบอกให้อาบน้ำแต่งตัวค่ะ สักบ่ายๆ แขกที่เชิญไว้จะมาค่ะ”

ตอนสายๆ ป้าหมี่ก็มาเคาะห้องผม และนำความของพ่อมาบอก ป้าหมี่เลี่ยงที่จะพูดคำว่า “ว่าที่คู่หมั้น” เพราะไม่อยากให้ผมสะเทือนใจ ป้ารู้ว่าผมไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพ่อ แต่คนรับใช้อย่างป้าก็ทำอะไรเกินหน้าที่ตัวเองไม่ได้

“เคนติดต่อมาบ้างหรือเปล่าครับป้า”

ผมถามป้าเสียงละห้อยละเหี่ย เริ่มรู้สึกหมดหวังที่เคนไม่โทรมา ป้าปฏิเสธ แกเองก็ไม่รู้เหตุผลเช่นกันว่าทำไมเคนเงียบหายไป แต่แกก็พยายามปลอบใจผมว่าเคนคงกำลังหาวิธีมาช่วย จากนั้นก็พูดกระตุ้นให้ผมไปอาบน้ำแต่งตัว ไม่อยากให้ผมขัดใจพ่อ เดี๋ยวจะมีปัญหา ผมลุกขึ้นจากเตียง เข้าห้องน้ำ อย่างเสียไม่ได้



หนึ่งชั่วโมงต่อมา ผมก็มานั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงสาว หน้าตาสะสวย ดวงตากลมโต ยิ้มหวาน ท่าทางเฉลียวฉลาด

พ่อแนะนำว่าเธอชื่อโบว์ เป็นลูกของเพื่อนพ่อ ซึ่งจบมาจากเมืองนอก ผมทักทายเธออย่างห่างเหิน ในขณะที่เธอพูดคุยกับผมด้วยท่าทางร่าเริงสดชื่น

“เคลวินตักกับให้น้องหน่อยสิ น้องเอื้อมตักไม่ถึง”

พ่อซึ่งนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เอ่ยปากสั่งผมให้เอาใจ สาวสวยลูกเพื่อน คงมองผมกับโบว์อยู่นาน และเห็นทาทางหมางเมินเย็นชาไม่เอาใจใส่ของผม เลยกลัวเสียหน้าเพื่อน ใช้คำพูดบีบบังคับผมทางอ้อมให้ปฏิบัติต่อว่าที่คู่หมั้นดีๆ

ผมสบตาพ่อก่อนจะเบือนหน้าหนี รู้สึกโกรธนิดๆ แต่พยายามไม่แสดงอารมณ์ออกมาให้เห็น ไม่ใช่ความผิดของโบว์ที่ผมต้องมาเอาใจเธอ คนแก่เจ้าอารมณ์ จอมเผด็จการที่นั่งอยู่หัวโต๊ะต่างหากที่ทำไม่ถูก มาบังคับฝืนใจลูกให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ อะไรที่ไม่ได้ออกมาจากใจ จะให้มันออกมาดีได้ไง





“พี่เคลวินไม่ชอบโบว์หรือคะ”

สาวสวยตากลมโต เอ่ยปากถามผมทันที เมื่อเราอยู่กันตามลำพัง ทั้งพ่อและแม่ ของผมและของโบว์ หายเข้าไปคุยกันในห้องรับรองแขกพิเศษ ซึ่งมีไว้สำหรับต้อนรับแขกวีไอพีซึ่งต้องการพูดคุยกันเป็นส่วนตัว เหมือนว่าพวกเขาจะจงใจให้ผมได้ทำความรู้จักกับ”ว่าที่คู่หมั้น”ที่พ่อแม่สรรหามาให้

“ทำไมถามแบบนั้นล่ะ พี่ไร้มารยาทกับโบว์เหรอ”

เรียกตัวเองว่าพี่ ตามลำดับวัยวุฒิ และความคิดเห็นส่วนตัว โบว์คงเป็นได้แค่น้องสาวของผมเท่านั้น

“เปล่าหรอกค่ะ พี่เคลวิน แต่โบว์สังเกตเห็นว่า พี่ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เหมือนถูกบังคับให้ต้องมาคุยกับโบว์อย่างนั้นแหละ”

นับว่าเธอฉลาดจริงๆ ที่ดูออก ทั้งที่ผมพยายามปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพและให้เกียรติ แต่เธอกลับสังเกตเห็นความไม่เต็มใจของผม

“โบว์จะโกรธพี่ไหม ถ้าพี่จะบอกว่า พี่ไม่เห็นด้วยกับการถูกจับคลุมถุงชนครั้งนี้”

ตัดสินใจพูดความจริงออกไป ผมไม่ต้องการหลอกลวงโบว์ ยิ่งเห็นความร่าเริงแจ่มใสเป็นมิตรของเธอ ผมยิ่งไม่อยากทำร้ายความรู้สึกผู้หญิงน่ารักคนนี้

สาวน้อยลูกเพื่อนพ่อ เบิกตาโต ก่อนจะหัวเราะกิ๊กกั๊ก ท่าทางชอบใจ เธอไม่ได้โกรธที่ผมพูดตรงๆ กลับแสดงท่าเหมือนดีใจด้วยซ้ำ

“คิดไว้แล้ว ว่าพี่เคลวินต้องรู้สึกเหมือนกับโบว์ เราสองคนถูกพ่อแม่บีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ แบบนี้เราต้องต่อต้าน พี่เคลวินว่าไหม”

คำพูดของโบว์ เรียกรอยยิ้มตื่นเต้นจากผม การที่เธอพูดอย่างนี้ ย่อมแสดงว่าเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับการคลุมถุงชนกับพ่อแม่ อย่างนี้ผมก็มีหวังที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กับเคนแล้วสิ หากร่วมมือกับโบว์ในการต่อต้านการแต่งงานครั้งนี้

“โบว์ไม่โกรธพี่เหรอ”

“จะโกรธทำไมละคะ พี่เคลวิน โบว์ไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่พ่อก็มาคะยั้นคะยออยู่ได้ บอกว่า จะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน เงินต่อเงินอะไรไม่รู้ โบว์ไม่อยากแต่งงาน โบว์ยังสนุกอยู่กับงานที่ทำ อายุโบว์ก็แค่ 24 เอง จะรีบให้โบว์แต่งงานไปทำไมนักก็ไม่รู้”

สาวน้อยตากลมโต บ่นกระปอดกระแปด ฟังแล้วขำ ช่างเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ ผมชักชอบเธอเสียแล้ว ผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง มีแต่พี่สาว ไม่มีน้องเลยสักคน โบว์น่าจะเป็นน้องสาวน่ารักของผมได้

“โบว์อยากเป็นนักร้อง อยากเข้าวงการบันเทิง ตอนนี้ ก็พยายามพาตัวเองไปประกวดรายการต่างๆ อยู่นะคะ แต่พ่อโบว์ไม่ชอบอาชีพเต้นกินรำกิน พ่อบอกว่า จะทำให้ครอบครัวเสื่อมเสีย อาชีพมีเกียรติกว่านี้มีเยอะแยะ แล้วโบว์ก็เป็นลูกผู้หญิง ยังไงก็ต้องแต่งงาน มีครอบครัว พ่ออยากให้โบว์มาดูแลธุรกิจแทนพ่อ เลยพยายามจะหาผู้ชายมาผูกมัดโบว์ จะได้ไม่ต้องไปทำงานในวงการบันเทิงค่ะ”

เธอเล่าด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ฟังแล้วอดรู้สึกเห็นใจเธออยู่ไม่น้อย ผมเองก็ถูกบีบบังคับให้ดูแลธุรกิจสืบทอดแทนพ่อเช่นกัน และถูกบังคับให้แต่งงาน จะได้มีทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลต่อ หัวโบราณชะมัด

“เรามาล้มเลิกการแต่งงานกันเถอะค่ะ พี่เคลวิน โบว์รู้ว่าพี่ไม่ได้อยากแต่งงานกับโบว์แน่ๆ แล้วโบว์ก็สืบรู้มาว่า พี่เคลวินมีคนที่รักอยู่แล้ว พี่ควรจะได้อยู่กับคนที่พี่รัก มากกว่าอยู่กับโบว์นะคะ”

สาวที่พ่อพามาให้ผมดูตัว เสนอความคิดกับผม กลายเป็นว่า โบว์เข้าใจผมมากกว่าพ่อเสียอีก ในเมื่อเปิดใจกันถึงขนาดนี้แล้ว ผมก็เลยสารภาพสิ่งที่อยากจะบอกกับเธอออกไปตามความตั้งใจเดิมของตัวเอง




“แสบมากนักนะเคลวิน แกไปบอกโบว์เขาทำไมว่าแกเป็นเกย์ พ่อแม่เขาไม่พอใจมาก หาว่าฉันย้อมแมวขาย”

พ่อตบโต๊ะทานข้าวดังปัง ก่อนจะชี้หน้าด่าผมด้วยความโกรธกริ้ว ผมยิ้มน้อยๆให้พ่อ ไม่สะทกสะท้านกับอาการโมโหโกรธาของเขา

“ผมพูดเรื่องจริง ทำไมพ่อต้องโกรธด้วย”

“เรื่องจริงเพียงเรื่องเดียวคือ แกเป็นลูกฉัน แล้วแกจะต้องหมั้นกับหนูโบว์”

น้ำเสียงพ่อห้วนและวางอำนาจ พ่อติดนิสัยชอบสั่งลูกน้อง ก็เลยนำมันมาใช้กับครอบครัวด้วย แต่ผมไม่มีวันยอมให้พ่อบงการอย่างแน่นอน

“แต่ผมชอบเคนนะพ่อ ผมจะหมั้นกับโบว์ได้ไง”

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 15-04-2009 21:34:04
แย้งออกไปเสียงดังดุจเดียวกัน ผมกับโบว์ตกลงใจกันแล้วว่าจะคบกันแบบพี่น้อง เราจะไม่ยอมให้ผู้ใหญ่จับเราสองคนแต่งงานกัน ทั้งโบว์และผมต่างมีความฝันกันคนละอย่าง โบว์อยากโลดแล่นในวงการบันเทิง ส่วนผมอย่างแต่งงานสร้างครอบครัวกับเคน เราจะไม่ยอมให้ผู้ใหญ่หักหาญน้ำใจเราอย่างเด็ดขาด

“ได้ไม่ได้ ฉันตกลงกับพ่อแม่หนูโบว์แล้ว ว่าจะให้แกหมั้นกับลูกสาวเขา วันพรุ่งนี้จะมาพูดคุยกันเรื่องการจัดงาน”

“อะไรนะพ่อ ..”

อุทานอย่างตกใจ ไม่คิดว่าพ่อจะรวบรัดมัดมือชกให้ผมกับโบว์หมั้นกันเร็วขนาดนี้ พ่อไปตกลงกับพ่อแม่ของโบว์เมื่อไหร่กัน ทำไมไม่ถามความเห็นผมก่อน เมื่อกี้พ่อบอกว่าครอบครัวของโบว์ไม่พอใจ ที่ผมไปบอกโบว์ว่าเป็นเกย์ แล้วทำไมถึงยอมให้ลูกสาวมาหมั้นกับผม ฟังพ่อพูดแล้ว ผมก็อยากรู้ความคิดของโบว์เช่นกัน อยากรู้ว่าโบว์ตอบพ่อแม่ของเธอไปว่าอย่างไร ยอมตามหรือขัดขืน

พ่อตอบผมด้วยน้ำเสียงดังฟังชัด พรุ่งนี้ โบว์กับครอบครัวจะมากันที่บ้านเรา เพื่อคุยเรื่องการจัดงานหมั้นซึ่งจะกำหนดในเร็ววันนี้ พอผมอ้าปากจะคัดค้าน พ่อก็ยกเรื่องเคนมาขู่ ถ้าผมไม่ยอมตาม พ่อจะไล่เคนออกจากงาน และจะไม่ให้ผมได้พบกับเคนอีก

สิ้นคำของพ่อ ผมก็มองท่านด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความผิดหวัง ผมไม่คิดว่าพ่อจะใจร้าย และไร้เหตุผลเช่นนี้ ไม่คิดว่าพ่อจะใช้อำนาจในฐานะประธานบริษัท บีบบังคับพนักงานของตัวเอง เพียงเพราะไม่ชอบใจที่มายุ่งกับลูกชายท่าน ทำเกินไปแล้ว เคนผิดอะไร ทำไมเขาต้องได้รับการปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมด้วย

การเอาเคนมาเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้ผมต้องยอมจำนนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมไม่พูดกับพ่อ ใช้การดื้อเงียบ อยากสั่งอะไร ก็สั่งไป ผมไม่โต้เถียง แต่ในใจไม่ยอมรับ พยายามจะหาวิธีในการที่จะหลีกเลี่ยงการหมั้นครั้งนี้ ผมไม่ใช่เด็กๆแล้ว อายุก็ตั้ง 30 คิดเองเป็นว่าผมอยากได้ใครมาเป็นคู่สมรส ไม่ใช่คนที่พ่อแม่หาให้อย่างแน่นอน และจะไม่ยอมถูกบีบบังคับแน่ๆ

สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ พยายามหาหนทางที่ดีที่สุดสำหรับเคน และผม เคนจะต้องไม่ถูกไล่ออก และผมก็ไม่ต้องแต่งงานกับโบว์ด้วย

คุยกับพ่อเสร็จ ผมก็กลับเข้าห้อง เรียกป้าหมี่ให้ต่อสายตรงถึงโบว์ พ่อไม่ยอมให้ผมใช้โทรศัพท์มือถือ ทำเหมือนกับผมเป็นนักโทษ คอยส่งคนมาควบคุมตลอด ทำให้ผมขาดอิสระ จะใช้โทรศัพท์บ้าน มันก็เป็นเครื่องพ่วง ดักฟังได้ จะออกไปข้างนอก ก็ถูกยึดกุญแจรถ ป้าหมี่จึงเป็นเพียงคนเดียวที่ผมหวังพึ่งพา

“พี่เคลวินเหรอ แย่แล้ว โบว์ถูกควบคุมไม่ให้ออกไปไหนค่ะ”

น้ำเสียงของโบว์ไม่สู้ดีนัก ท่าทางโบว์จะไม่ค่อยพอใจที่ทุกการเคลื่อนไหวถูกจับตามอง เราสองคนมีชะตากรรมเดียวกัน แต่โชคดีที่ยังสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ผมกับโบว์ต่างปรับทุกข์ซึ่งกันและกัน จากนั้นก็ร่วมกันวางแผนดัดหลังพ่อแม่ตัวเอง เราจะไม่ยอมให้ผู้ใหญ่กำหนดชะตาชีวิตให้อย่างเด็ดขาด

เช้าวันต่อมา ผมถูกปลุกจากป้าหมี่ให้อาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมพูดคุยเรื่องการหมั้นของผมกับโบว์ ผมไม่อยากจะลุกขึ้นมาเลย อยากประท้วง ด้วยการหมกตัวอยู่ในห้อง แต่มาคิดได้ว่า วันนี้ผมจะได้มีโอกาสพูดคุยกับโบว์ เราจะได้วางแผนที่จะล้มงานหมั้นคราวนี้ สองหัวดีกว่าหัวเดียว บางทีโบว์อาจจะมีความคิดดีๆ ก็ได้ เพราะตอนนี้ผมมืดแปดด้านไปหมดแล้ว หากพ่อไม่กำอนาคตของเคนเอาไว้ ผมคงหาวิธีในการหลบเลี่ยงการแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักได้

“ป้าหมี่ กดโทรศัพท์ไปที่บ้านน้องโบว์สิ ทำไมป่านนี้ถึงยังมาไม่ถึงกันอีก”

พ่อร้องสั่งป้าหมี่ซึ่งยืนรอรับใช้อยู่ ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ล่วงเลยเวลานัดหมายมาเกือบชั่วโมงแล้ว แต่ทางบ้านว่าที่คู่หมั้นของผมก็ยังไม่โผล่มา ในขณะที่พ่อเดินไปเดินมาอย่างกับหนูติดจั่น เพราะต้องคอยอยู่เนิ่นนาน ผมกลับรู้สึกสบายๆ นั่งหน้าเปื้อนยิ้ม จนพ่อหันมาตีหน้ายักษ์ใส่

“อารมณ์ดีจริงนะเคลวิน”

แม่ซึ่งนั่งรออยู่ด้วย ถามด้วยน้ำเสียงปราณี ผมยิ้มให้แม่ ไม่ตอบว่าอะไร ในใจนึกถึงโบว์ น้องสาวตาโตของผมคงแผลงฤทธิ์อยู่แน่ๆ เธอบอกว่า ถ้าบังคับมากๆ เธอจะหนีออกจากบ้าน และนี่อาจจะเป็นเหตุผลของความล่าช้าของบ้านนั้น

“ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ คุณผู้ชาย ไม่มีใครรับสายเลย”

ป้าหมี่รายงาน

“เป็นอะไรกันนะ หรือว่าจะเบี้ยว ไม่มา”

พ่อพูดอย่างหงุดหงิด เขาเองก็กดโทรศัพท์มือถือ หาพ่อกับแม่ของโบว์ แต่ก็ไม่มีใครรับสายเช่นกัน

“พ่อกับแม่โบว์อาจจะฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายที่รักผู้ชายอย่างผม”

โพล่งขึ้นไปอย่างอารมณ์ดี พ่อหันมาขึงตาใส่

“สงบปากสงบคำไปเลยเคลวิน ถ้าหากว่าเขาเปลี่ยนใจเพราะเรื่องนั้นจริงๆ แกกับฉันมีปัญหากันแน่”

พ่อเอ็ดตะโรเอากับผม แล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟา หน้าตาบอกบุญไม่รับ แม่กับผมสบตากัน ผมเห็นแววตาของแม่เต้นระริกด้วยความขบขัน จากนั้นแม่ก็ยิ้มให้ผม เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแม่ยิ้มขำท่าทางของพ่อ เราสองคนเมินหน้าหนีกันไปคนละทาง ด้วยกลัวจะหัวเราะออกมา แล้วทำให้พ่อโกรธหนักขึ้นไปอีก

10 นาทีต่อมา คนรับใช้คนหนึ่ง ก็เข้ามาแจ้งว่า มีคนต้องการพบพ่อของผม สีหน้าของพ่อคลายจากความบึ้งตึง มีรอยยิ้มพึงใจปรากฏที่ริมฝีปาก พ่อปรายตามามองผมแวบหนึ่ง ก่อนที่จะบอกให้คนรับใช้คนนั้นไปเชิญแขกเข้ามา

ผมเตรียมจะลุกหนี รู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่โบว์ขัดขวางพ่อแม่ไม่สำเร็จ แขกที่มาพบคงเป็นพ่อแม่และโบว์นั่นเอง แต่พ่อไม่ยอมให้ผมกลับเข้าห้อง ให้ผมนั่งอยู่เพื่อเจรจาเรื่องการจัดงานหมั้น

ขณะที่ผมนั่งอย่างก้มหน้าก้มตาหักข้อนิ้วของตัวเองอย่างเซ็งๆ อยู่บนโซฟานั้น คนรับใช้คนเดิมก็พาแขกเข้ามา ความผิดปกติเกิดขึ้น เมื่อบรรยากาศเงียบลง ปราศจากคำพูดใดๆ มีแต่เสียงฝีเท้าที่มาหยุดลงตรงที่พวกเรานั่งอยู่ ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง แล้วก็เบิกตากว้างขึ้น ทั้งตกใจ และดีใจในคราวเดียวกัน

“เคน...”

อุทานเรียกชื่อสามีสุดที่รักเสียงสั่น น้ำตาพาลจะไหลออกมาด้วยความตื้นตันใจเสียให้ได้ ในที่สุดเคนก็มาที่นี่ มาหาผม มารับผมออกไปอยู่ด้วยกัน ผมผวาจะลุกขึ้นไปกอดเขา ทว่าแม่จับมือผมเอาไว้ พลางส่งสายตาห้ามปราม ไม่ให้ทำตามใจปรารถนา

“เธอมาที่นี่ทำไม”

หลังจากที่พ่อผมตั้งสติได้ พ่อก็ตวาดเคนด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว ผมมองเคนที่ยืนด้วยท่าทีสำรวมอย่างนึกสงสาร ขยับปากจะช่วยพูด แต่แล้วเคนก็ทำในสิ่งที่ทุกคนต้องอึ้ง

สามีสุดที่รักของผม ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น จากนั้นก็โน้มตัวลงกราบแทบเท้าพ่อของผม และพูดด้วยเสียงดังฟังชัด ทำให้พวกเราอึ้งซ้ำสอง โดยเฉพาะพ่อกับแม่ ซึ่งพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ คงไม่คิดว่า เคนจะเล่นไม้นี้ ถึงแม้พ่อกับแม่จะอยู่เมืองไทยมานาน แต่ด้วยความที่ท่านทั้งสองเป็นฝรั่ง การที่มีคนไทยมาหมอบกราบแบบนี้ ก็เลยรู้สึกแปลกๆ และทำตัวไม่ถูก

พวกเรานับถือในความเสมอภาคกัน ไม่ได้ถือยศศักดิ์ หรือชั้นวรรณะ ไม่ได้คิดว่าตัวเองร่ำรวยกว่าใคร แล้วจะมองว่าใครต้อยต่ำ เวลาปฏิบัติตัวต่อคนทั่วไป หรือแม้แต่คนรับใช้ในบ้าน เราก็ไม่เคยทำเหมือนกับว่าเขาเป็นคนต่างชนชั้นกันกับเรา จะไม่มีการคลานเข่าหรือพินอบพิเทาเข้ามาหา เราจะให้เกียรติพวกเขา

ถึงแม้ว่าเขาจะรับเงินค่าจ้างจากเรา แต่เขาก็คือมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน ทว่ายิ่งเราดีกับคนในบ้านเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเกรงอกเกรงใจเราเท่านั้น ถึงจะไม่ทำตัวเหมือนเป็นบ่าวอย่างที่ทำกับครอบครัวคนไทย แต่พวกเขาก็สุภาพให้เกียรติกับพวกผม จนทำให้พวกเราชื่นชมมารยาทที่แสนจะงดงามของพวกเขา

“ผมมากราบขอโทษคุณพ่อครับ”

“ขอโทษเรื่องอะไรกัน”

พ่อชักเท้าหนี ไม่ยอมรับคำขอโทษจากเคน สามีสุดที่รักของผมยืดตัวขึ้นนั่งบนส้นเท้า แล้วพนมมือไหว้พ่อของผม เห็นได้ชัดเลยว่าพ่อผมอึดอัดกับการอ่อนน้อมถ่อมตนของคนที่ท่านไม่ชอบหน้า

“เรื่องที่ผมอยู่กินกับเคลวินโดยไม่ได้ขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ เอ้อ ท่านประธานทั้งสองครับ”

เคนปริปากบอกถึงสาเหตุที่เขามาปรากฏกายที่นี่ด้วยท่าทางสุภาพ มือก็ยังคงยกประนมอยู่ตรงระหว่างอก

“อ้อ รู้ตัวเหมือนกันเหรอ ว่าทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ เอาล่ะ เมื่อมาขอโทษฉันก็อภัยให้ แต่จากนี้ไป อย่าได้มายุ่งกับลูกชายฉันอีก”

พ่อตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุดัน ทว่าเคนส่ายหน้า

“ผมเกรงว่าจะทำไม่ได้ครับ ผมรักเคลวิน และเคลวินก็รักผม เราสองคนรักกัน และผมจะไม่มีวันไปไหน หากไม่มีเคลวินไปด้วย”

สุดที่รักของผมโต้ตอบพ่อด้วยท่าทางมุ่งมั่น ไม่หวาดหวั่น ผมรู้สึกเต็มตื้นในหัวอก เคนกล้ามาหาพ่อของผมที่นี่ เพื่อบอกว่าเขารักผม มันช่างเป็นเรื่องที่วิเศษสุดจริงๆที่เขาทำเพื่อผมขนาดนี้ โดยไม่กลัวเกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง

“ที่ผมมาวันนี้ เพื่อที่จะมาขอร้องท่านประธานทั้งสอง .......”

เขาเว้นวรรคกลืนน้ำลาย สิ่งที่กำลังจะพูดออกมาคงเป็นเรื่องที่สร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย เหมือนว่าเขาจะกลัวว่าผลลัพธ์ของมันจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ผมนั่งลุ้นไปกับเคนด้วย อยากรู้ว่าเคนจะพูดอะไร สักพักก็เห็นเคนสูดลมหายใจเข้าปอด แล้วพูดประโยคที่ทำให้หัวใจผมแทบจะหยุดเต้น

“โปรดยกลูกชายให้ผมด้วยเถิดครับ”

ทันทีที่ประโยคนั้นผ่านออกมาจากปากของเคน แม่ของผมก็ยกสองมือขึ้นปิดปาก เหมือนกลัวว่าเสียงกรีดร้องจะหลุดลอดออกมา ตาของแม่เบิกกว้าง มีแววดีใจระคนประหลาดใจให้เห็นในตาคู่สวยนั้น แม่คงคิดไม่ถึงว่าเคนจะกล้าพูดคำนี้ เท่าที่ผมรู้ แม่ชื่นชมเคนอยู่ไม่น้อย แม่ไม่ขัดขวางความรักของผมกับเคน แต่แม่ไม่อยากขัดแย้งกับพ่อเท่านั้น การกระทำของเคนไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้เกิดขึ้นเฉพาะกับพ่อแม่ ผมเองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน จากนั้นอารมณ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นปลื้มปิติ ความประทับใจที่มีต่อเคน ทำให้น้ำตาของผมเอ่อท้นขอบตา ผมหันไปหาพ่อ มองผ่านม่านน้ำตา เห็นใบหน้าถมึงทึงของพ่อที่จ้องมองเคนด้วยสายตากราดเกรี้ยว

“กล้าดียังไง ถึงมาพูดอย่างนี้กับฉัน”

เสียงของพ่อสั่น หน้าตาบึ้งตึง ท่าทางโกรธจัด ไม่เคยมีใครกล้าลองดีกับพ่ออย่างนี้ จากที่ป้าหมี่เล่าให้ฟัง พ่อไปหาเคน คงไปพูดอะไรบางอย่างให้เขาตัดใจจากผม ซึ่งประธานบริษัทไปพูดด้วยตัวเองแบบนี้ พนักงานตัวเล็กๆอย่างเคนน่าจะกลัวและเลิกยุ่งกับผมตามคำสั่ง แต่เคนกลับดื้อดึง และกล้ามาขอลูกชายพ่อถึงที่นี่ พ่อเลยไม่พอใจที่เคนไม่เชื่อฟัง และมาลูบคมถึงถิ่น

ผมรักลูกชายท่านครับ ผมต้องการแต่งงานอยู่กินกับเคลวิน ได้โปรดอย่าขัดขวางความรักของเราทั้งสองคนเลยครับ”

เคนกล่าวขอร้องพ่อของผม ท่าทางจริงจังจนผมรู้สึกทึ่ง ผมไม่เคยเห็นเคนมีท่าทีเช่นนี้มาก่อน เขาดูดื้อรั้น มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ปผมระทับใจในตัวเคนอย่างบอกไม่ถูก นึกลุ้นตามไปด้วย ว่าพ่อจะยอมแพ้เคนหรือไม่

ทว่าพ่อ กลับมองไม่เห็นความตั้งใจจริงของเคน พ่อโกรธจัด หน้าแดงก่ำ เขาเงื้อฝ่ามือขึ้นสูงหมายฟาดหน้าเคน ผมหลับตาปี๋ไม่อยากเห็นพ่อตบหน้าสุดที่รัก อยากจะเข้าไปห้าม แต่แม่ก็จับแขนไว้แน่นไม่ให้เข้าไปยุ่ง ผมเลยต้องทนนั่งลุ้นอย่างปวดใจ ภาวนาอย่าให้พ่อทำรุนแรงกับสามีของผม ทว่าเวลาผ่านไป ผมกลับไม่ได้ยินเสียงอย่างที่นึกกลัว จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พบว่าเคนหมอบลงไปกราบเท้าพ่อผมอีกครั้ง

“เห็นใจเราด้วยเถอะครับ เราสองคนรักกันจริงๆ ผมอยู่ไม่ได้โดยไม่มีเคลวินครับ”

คำพูดของเคน ทำให้น้ำตาผมไหลพรากลงอาบแก้มด้วยความตื้นตันใจ ผมสะบัดข้อมือจากการเกาะกุมของแม่ แล้วถลาไปหาเคน จากนั้นก็ก้มลงกราบพ่อ ตามอย่างสามี และอ้อนวอนขอพ่ออีกแรง

“พ่อครับ อนุญาตให้เราได้อยู่ด้วยกันเถอะครับ”

“ไม่มีวัน ฉันไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียว ไปแต่งงานกับผู้ชายอย่างเด็ดขาด”

เสียงพ่อประกาศกร้าว ก่อนจะเอ่ยปากไล่

“ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว และไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก และพรุ่งนี้ เธอไปรับเงินชดเชยได้เลย ฉันขอไล่เธอออก”

“พ่อ”

“ท่านประธาน”

ผมอุทานอย่างปวดร้าว พร้อมๆกับที่เคนอุทานเรียกพ่อผมอย่างตกใจ เราสองคนเงยหน้าขึ้นมองพ่อเกือบจะพร้อมกัน

“พ่อทำอย่างนี้กับเคนไม่ได้นะครับ”

ตัดพ้อต่อว่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง พ่อสัญญากับผมแล้วว่าจะไม่ไล่เคนออก ทำไมถึงมาเปลี่ยนใจง่ายดายอย่างนี้ ถึงพ่อจะไม่ชอบเคนที่บังอาจมาสู่ขอผม พ่อคงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ที่ลูกชายมีผู้ชายมาสู่ขอ เลยโกรธเคน แต่ในฐานะที่พ่อเป็นประธานบริษัท เป็นเจ้านาย พ่อจะมาใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรมบีบบังคับพนักงานที่ไม่มีความผิดออกจากบริษัทไม่ได้ และผมไม่มีวันยอมให้พ่อทำตามอำเภอใจอย่างเด็ดขาด
ยังไม่ทันที่ผมจะได้แสดงท่าทีต่อต้านพ่อออกไป เคนก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ โดยยื่นข้อแลกเปลี่ยนกับพ่อ

“ไล่ผมออกจากงานก็ได้ครับ ผมยินยอมทำทุกอย่าง แต่ผมขอความเมตตาจากท่านเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ได้โปรดเห็นใจความรักของเราด้วย ให้เราได้อยู่ด้วยกันเถอะครับ”

“พูดเอาแต่ได้จังเลยนะ เธอเป็นใคร แล้วลูกฉันเป็นใคร ประธานบริษัท จะมารักกับลูกจ้างของตัวเองได้ไง ฝันใหญ่ไปหรือเปล่า”

น้ำเสียงพูดของพ่อแสดงออกถึงความหยามหยัน ผมรู้สึกเจ็บปวดในใจแทนสามีของผม เคนเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เขาไม่ชอบให้ใครมาดูถูกดูหมิ่น ถึงเขาจะจน เขาก็ไม่เคยคิดจะก้าวหน้าทางลัดด้วยการเกาะคนมีเงิน เรื่องนี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวของผมเอง

“ผมรู้ครับ ว่าผมมันก็แค่พนักงานต่ำต้อยคนหนึ่งในบริษัทของท่าน คนอย่างผม ไม่มีค่าอะไร ถ้าเทียบกับเคลวิน แต่สิ่งที่ผมมีไม่แพ้คนอื่น คือหัวใจ...ผมรักเคลวินมาก และผมจะไม่มีวันทำให้เคลวินพบกับความลำบากอย่างแน่นอน ถ้าท่านยอมยกเคลวินให้ผม ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาอย่างดี”



----------------------------------------------

TBC



ปล.  ขออนุญาตลงยาวนิดนึง   ฉลองที่ได้หยุดยาวสงกานต์  และเรื่องวุ่นๆๆ คลี่คลายไปด้วยดี

ปล.2 มิ้นได้ต้นฉบับเรื่องนี้ครบแล้ว  จะทยอยลงนะคะ  คาดว่าอีกไม่กี่วันคงจบ :mc4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 15-04-2009 21:53:24
 :z13:

จิ้มคนโพส

รออ่านต่อไปค่ะ

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 15-04-2009 23:26:54
คุณพ่อก็ใจดีหน่อยจิ


อย่าโหดร้ายกันเคนนะคร๊ะะะะะะะะะ





 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 16-04-2009 01:13:48
 :serius2:  ช่าง อัพ ได้ ทรมานใจคนอ่านมากกกกกก  :m15:



 :o12: ช่างค้าง ในอารมณ์ เสียอย่าง นี้     :a5:



 :z3: จุ๊บุ๊ จุ๊บุ๊ คนอ่าน อารมณ์ ค้างงงงงงงงงง  :m31:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 16-04-2009 06:45:54
บุกเข้าถ้ำเสือ หวังจะได้ลูกเสือ แต่เจอพ่อเสือขวางทาง ฮิ ฮิ....

แล้วเคนจะทำยังไงต่อไปอย่าช้า นะครับหนูมิ้น +1 ให้ด้วยครับ

ปล. เห็นถามว่า + ยังไง มามะ มนุษย์โบราณคนนี้จะบอกให้ ( เมื่อก่อนก็ไม่เป็น 555.... )

มองไปด้านขาวมุมบนของกระทู้เรา จะมีคะแนนโหวตอยู่ ใต้คะแนนโหวต จะมี เครื่องหมาย + และ -

ถ้าจะให้คะแนน + ก็เลื่อนเม้าส์ ไปที่ + แล้วคลิก คะแนนที่เรากดให้ก็จะปรากฎขึ้นเพิ่มจากเดิมที่เค้ามีอยู่

แต่ถ้าไม่ชอบใจก็กด - คะแนนที่เรากดก็จะไปลบจากเดิมที่เค้ามีอยู่ แต่อย่ากด - ให้ใครเลย ถ้าไม่ชอบก็

อยู่เฉย ดีกว่า สงสารคนถูกกด - นะ จริงเปล่าจะหนูมิ้น  แต่ยังไงพี่ก็กด + ให้หนูมิ้นอยู่แล้ว

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ รีบด่วนน้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 16-04-2009 09:29:37
ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-04-2009 11:17:30
กรี๊ดดดดด คุณพ่อขา  ใจเย็นๆๆ นิ๊ดส์ นะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-04-2009 05:39:00
รอลุ้นการตัดสินใจของท่านประธาน
เคนเยี่่ยมมาก กล้าสุดๆ
จะมีอะไรทำให้ท่านประธานยอมเปลี่ยนใจได้บ้างเนี่ย

บวก 1 ให้หนูมิ้นเช่นเคย ขอบคุณจ้า

ปล ตอบหนูมิ้นเรื่องบวกคะแนน
    ตอนนี้จะกดบวกคะแนนให้คนอื่นได้ เราต้องมีจำนวนโพสขั้นต่ำ 250 รีพลายจ้า ปุ่มกดคะแนนถึงจะแสดงให้เห็นนะจ๊ะ
    และก้อจะบวกซ้ำให้คนเดิมได้ ก้อต้องรอให้ครบ 24 ชม.ก่อนน้า
    (เห็นน้องวันตอบไปแล้ว แต่แอบงงนิดนึง แบบว่า ด้านขวากระทู้ ปุ่มมันมีอยู่อีกตรงไหนอ้ะ หาไม่เจอเลยงงค้าบ)

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 15.4.09 ตอนพิเศษ [15]
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 17-04-2009 17:59:29
มาให้กำลังใจ น้องมิ้นท์ค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 17-04-2009 18:53:41
ตอนพิเศษ [16]

----------------------



“ผมรู้ครับ ว่าผมมันก็แค่พนักงานต่ำต้อยคนหนึ่งในบริษัทของท่าน คนอย่างผม ไม่มีค่าอะไร ถ้าเทียบกับเคลวิน แต่สิ่งที่ผมมีไม่แพ้คนอื่น คือหัวใจ...ผมรักเคลวินมาก และผมจะไม่มีวันทำให้เคลวินพบกับความลำบากอย่างแน่นอน ถ้าท่านยอมยกเคลวินให้ผม ผมสัญญาว่าจะดูแลเขาอย่างดี”

น่าแปลกที่เคนไม่โกรธ เขากลับอ้อนวอนขอให้พ่อเห็นใจยอมยกผมให้เขาอย่างไม่ย่อท้อ เห็นความพยายามของสามีแล้ว มันทำให้ผมทนนิ่งเฉยไม่ได้

“พ่อครับ ให้เราอยู่ด้วยกันเถอะนะครับ ที่ผ่านมา เคนดูแลผมดีจริงๆ ผมอยู่กับเคนแล้วมีความสุขมากๆครับ”
“ไม่ได้”

พ่อตวาดใส่หน้า

“ลำพังตัวเอง ยังจะเอาตัวไม่รอดเลย ริอ่านจะมาเลี้ยงดูลูกชายฉัน ฝันไปหรือเปล่า พรุ่งนี้จะถูกไล่ออกจากงานอยู่รอมร่อแล้ว ยังจะมีหน้ามาขอดูแลลูกฉันอีก เตี้ยแล้วยังจะมาอุ้มค่อม ลูกจ้างอย่างเธอ ไม่มีวันทำให้ประธานบริษัทมีความสุขได้หรอก”

นับเป็นถ้อยคำดูถูกที่รุนแรงมาก ปกติพ่อผมจะไม่ใช่คนที่ไม่รักษาน้ำใจคนอื่น แม้จะดุ แต่ก็ไม่เคยเหยียบย่ำ ซ้ำเติมใคร หรือแบ่งชั้นวรรณะ แต่วันนี้พ่อผมทำตัวต่างจากที่เคยเห็น คงเป็นเพราะต้องการกำจัดเคนไปจากวงจรชีวิตของผม ไม่ให้เข้ามาทำให้ผมไขว้เขว ผมเห็นใบหน้าสามีสุดที่รักถอดสี แต่เขากลับไม่ถอดใจ กลับตอบอย่างเชื่อมั่น

“ถ้าท่านให้โอกาสผมได้พิสูจน์ตัวเอง ผมจะทำให้ท่านได้เห็นว่าผมสามารถทำให้เคลวินมีความสุขได้จริงๆ”

“ให้โอกาสเราสองคนนะครับพ่อ”

ช่วยเสริมคำพูดของสามี และรอฟังคำตอบจากพ่อ

“ถ้าเป็นกรณีอื่น ฉันอาจจะให้โอกาส แต่กรณีนี้ ฉันไม่ยอม กลับเข้าห้องแกไปได้แล้วเคลวิน ไม่ต้องมาพูดช่วยพนักงานบริษัทตัวเองหรอก รู้จักรักศักดิ์ศรีของประธานบริษัทบ้างนะ”

พูดจบ พ่อก็ไล่ให้ผมกลับเข้าห้อง เมื่อเห็นผมยังดื้อด้าน นั่งข้างเคนไม่ยอมขยับ พ่อก็ส่งเสียงเรียก ให้คนรับใช้ในบ้าน ตัวล่ำ ๆ สองสามคน มาดึงตัวผมไป ผมพยายามดิ้น แต่เคนส่ายหน้า แล้วมองผมเป็นเชิงปราม ผมเห็นความเป็นผู้ใหญ่ในตัวของสามี เขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับพ่อของผมอย่างไม่หวาดหวั่น ท่าทางเหมือนไม่อยากให้ผมต่อต้าน ด้วย ปฏิกิริยารุนแรง สามีของผมคงจะพยายามใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว บางที วิธีการของสามีอาจจะถูกก็ได้

“เธอออกจากบ้านฉันไปได้แล้ว”

ยังไม่ทันที่ผมจะคล้อยหลัง พ่อก็หันมาเล่นงานเคน เบื้องหลังเขามีรปภ.ที่พ่อจ้างให้มาดูแลบ้านยืนอยู่

“ได้โปรดเถอะครับท่าน...”

เคนพยายามจะอ้อนวอนพ่อผมต่อ ทว่า รปภ.สองคนตรงเข้ามาหิ้วปีกเขาให้ลุกขึ้น ตามคำสั่งของพ่อ

“อย่าเสียเวลาเลย ไม่มีประโยชน์หรอก อาทิตย์หน้าเคลวินก็จะหมั้นแล้ว เธอตัดใจเสียดีกว่า”

เพื่อให้เคนไปจากผม พ่อถึงกับงัดไม้ตาย เอาเรื่องการหมั้นหมายที่จะเกิดขึ้นใน 1 อาทิตย์ข้างหน้ามาบอกให้เคนได้รับรู้ พ่อผิดสัญญาที่ให้ไว้กับผม เขาบังคับให้ผมยอมรับเรื่องการหมั้น โดยแลกกับการที่เคนจะได้ทำงานในบริษัทต่อไป แต่เมื่อครู่พ่อไล่เคนออก ไม่ให้ทำงานที่บริษัทแล้ว แต่พ่อก็ยังไม่ยอมล้มเลิกสิ่งที่ได้คุยกันไว้ พ่อยังคิดจะให้ผมแต่งงานกับโบว์ ทั้งที่พ่อเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงระหว่างเรา แล้วผมจะโง่ยอมทำตามเพียงฝ่ายเดียวได้อย่างไร

“จริงหรือเคลวิน คุณจะแต่งงานจริงๆ เหรอ”

เคนหันมาถามผม น้ำเสียงของเขาเจือไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ใช่นะเคน ผม...ผมจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากคุณคนเดียว”

ตะโกนบอกเขา ทว่าพ่อสวนโพล่งขึ้นมาทันควันว่า ผมไม่มีสิทธิเลือก ยังไง ผมก็ต้องแต่งงานกับโบว์ เพื่อสร้างครอบครัว มีลูกมีหลานสืบทอดวงศ์ตระกูล ฟังดูมันหัวโบราณมาก ไม่น่าเชื่อ ว่าฝรั่งอย่างพ่อจะคิดเรื่องการรักษาสมบัติ ด้วยการบังคับให้ลูกดองกับคนที่พ่อหามาให้ ผมพยายามปฏิเสธไม่ยอม แต่ยังไม่ทันได้อธิบายอะไรให้เคนเข้าใจ ผมก็ถูกพาไปที่ห้องนอน โดยมีป้าหมี่ตามไปติดๆ เพื่อช่วยดูแลผม

ประตูห้องนอนถูกปิดจากข้างนอก ผมเดินไปนั่งที่เตียงอย่างกลัดกลุ้ม โดยมีป้าหมี่เดินมายืนอยู่ใกล้ๆ ผมอ้าแขนออกกว้าง ป้าหมี่เดินเข้ามาหาผมอย่างรู้งาน ผมโอบกอดร่างของหญิงวัยกลางคนแนบแน่น

“ป้าหมี่ พ่อจะทำอะไรเคนหรือเปล่า”

“ไม่หรอกค่ะ คุณหนู คุณพ่อคงแค่ไล่คุณหนูเคนออกไปจากบ้านแค่นั้น คงไม่ถึงกับทำร้ายร่างกายหรอก ถึงพ่อของคุณหนูจะดุ แต่ก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำหรอกค่ะ คุณเคลวินก็น่าจะรู้จักพ่อตัวเองนี่คะ”

แม่นมที่เลี้ยงผมมาแต่เล็ก กล่าวปลอบใจ ผมเองก็เชื่ออย่างนั้น พ่อไม่ใช่คนที่จะทำร้ายใครด้วยความเกลียดชัง พ่อมีวิธีการฆ่าคนทางอ้อมด้วยคำพูด ซึ่งประสิทธิภาพของมันชะงัดนัก คนที่ได้ฟังพ่อผมพูดเหน็บเชือดเฉือน มักจะบ่นบอกเป็นเสียงดีกัน ว่ามันแสบเข้าไปถึงทรวง ทำให้เสียความรู้สึกได้มากกว่า ดังนั้นผมจึงเชื่อมั่นว่า พ่อคงไม่จับเคนไปต้มยำทำแกงที่ไหน แต่คงจะใช้วาทศิลป์ทำให้เคนอึดอัดไม่สบายใจ และยอมพ่ายแพ้ไปในที่สุด

“หนีออกจากบ้านกันดีไหมป้าหมี่ ผมไม่อยากได้แล้วสมบัติพัสถานอะไรเนี่ย ผมอยากอยู่กับเคน เราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน”

ปรึกษาแม่นมที่ผมสนิทที่สุด แต่ป้าหมี่ไม่เห็นด้วยกับการที่ผมจะต่อต้านพ่อของตัวเองแบบนั้น มันเป็นความคิดของเด็กๆ ผมเป็นถึงผู้บริหารบริษัท คงไม่เห็นแก่ความรักจนต้องละทิ้งพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตที่ต้องดูแล คนเหล่านั้น เขาก็รักผมเช่นกัน และหากผมยอมแพ้ลาออกจากบริษัท พ่ออาจจะเข้าไปควบคุมเอง หรือจ้างคนอื่นไปดูแล รากฐานที่ผมเพิ่งวางใหม่ให้บังคับใช้ในบริษัทอาจจะถูกล้มเลิก แล้วบริษัทก็เข้าสู่รูปแบบเดิมอย่างที่พ่อของผมเคยดูแลมาก่อน

คำแนะนำของป้าหมี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจ ถึงแม้ป้าหมี่จะเป็นเพียงแม่บ้าน เป็นคนที่คอยดูแลผมและคนในครอบครัว แต่แกก็สนใจใฝ่หาความรู้ เมื่อมาอยู่บ้านประธานบริษัท ต้องต้อนรับแขกที่เป็นลูกค้าคนสำคัญบ่อยๆ เพื่อให้การต้อนรับเป็นที่น่าประทับใจ แม่ของผมก็จะจับคนในบ้านติวเข้ม เรื่องการดูแลให้บริการ ให้ทุกคนทำหน้าที่ให้มากกว่าการเป็นแค่คนรับใช้ในบ้าน แถมให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัวบ้างเล็กๆน้อยๆ เช่น ครอบครัว ทำอะไร มีกิจการอะไรเป็นต้น เวลามีใครมาถามอะไร จะได้พอตอบได้บ้าง ไม่ให้เสียชื่อว่าเป็นคนของประธานบริษัทซึ่งมีกิจการใหญ่โต คนในบ้านทุกคนก็ต้องรอบรู้ด้วย

ป้าหมี่แกเคยเป็นพนักงานในโรงงานของพ่อมาก่อน ทำตำแหน่งแม่บ้าน แม่เห็นหน่วยก้านดี ก็เลยให้มาทำงานที่บ้าน พอแม่ท้องผม ป้าหมี่ก็เลยได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง คอยดูแลผมอีกด้วย บางทีผมมีเรื่องไม่สบายใจที่บริษัทซึ่งไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ ก็จะมาพูดให้แกฟังเสมอ ป้าเป็นผู้รับฟังที่ดี นานวันเข้า แกก็ขยับมาให้คำแนะนำผมในบางครั้ง

“ผมจะบ้าตายแล้วนะป้าหมี่ อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะให้ผมทำไงดีล่ะเนี่ย”

เมื่อไม่รู้จะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ผมก็เลยบ่นอย่างหงุดหงิด

“ป้าว่าใจเย็นๆ ก่อน รอดูท่าทีคุณท่านก่อนเถอะค่ะ อีกอย่าง บ้านโน้นก็ยังไม่ติดต่อกลับมาเลย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า บางทีอาจจะเปลี่ยนใจแล้วก็ได้”

จริงสินะ ผมลืมคิดประเด็นนี้ไปเลยพวกผู้ใหญ่นัดกันมาพูดคุยเรื่องหมั้น แต่ครอบครัวของโบว์ยังมาไม่ถึง และไม่มีการติดต่อกลับมาด้วย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า หรือว่าโบว์ทำให้พ่อแม่เปลี่ยนใจได้สำเร็จ ผมน่าจะโทรไปถามน้องสาวตาโต ว่าที่เราตกลงกันเรียบร้อยไหม บางทีมันอาจจะช่วยทำให้พ่อเปลี่ยนใจก็ได้ หากทางฝ่ายว่าที่คู่หมั้นของผมไม่อยากเกี่ยวดองกับพวกเราอีกต่อไป

“เดี๋ยวป้าจะไปสืบข่าวมาให้นะคะ คุณหนูเคลวินก็ใจเย็นๆนะคะ”

คนอาสาคลายทุกข์ให้ผม ลุกไปปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนม ผมกล่าวขอบคุณป้า แล้วบอกให้แกระวังตัว อย่าให้พ่อผมจับได้ พ่อผมไม่ชอบให้ลูกน้องทรยศตัวเอง และพ่อจะลงโทษคนที่หักหลังอย่างสาสม
แม่นมของผม ทำอะไรให้ผมมากมาย เป็นทั้งพี่เลี้ยงคอยดูแล เป็นคนที่ปลอบโยนให้กำลังใจ ในยามที่แม่ไปเข้าข้างพ่อ แล้วผมไม่เหลือใคร แถมซ้ำยังเป็นหน่วยกล้าตาย คอยเป็นสปายสืบข่าว และเป็นนางนกต่อให้ผมอีก นี่ถ้าสาวกว่านี้ แกคงไปทำงานในหน่วยข่าวกรองได้สบายๆ เพราะแกทำอย่างเต็มที่ด้วยใจ ผมรู้ว่าแกรักผม และผมก็รักป้าหมี่เช่นกัน หากผมกับเคนสมหวังในความรัก ผมจะตอบแทนป้าหมี่ให้สมกับที่แกทำเพื่อผม






“อะไรนะ ป้าหมี่ น้องโบว์กินยานอนหลับเกินขนาดเหรอ”

ผมถามย้ำอย่างตกใจ เมื่อป้าหมี่กลับเข้ามาอีกครั้งในตอนเย็น กับข่าวที่ไปสืบมา เป็นอย่างที่คาด พ่อไล่เคนกลับไป แล้วก็ใส่ไฟเรื่องผมให้เคนรู้ เคนเสียใจมาก เลยถอดใจยอมออกจากบ้านโดยดี สิ่งที่ผมได้ฟัง มันทำให้ผมรู้สึกปวดร้าวมากที่พ่อทรยศหักหลังกับผมอย่างนี้ แต่สิ่งที่ผมได้ยินเรื่องต่อมา กลับทำให้ผมตกใจ ลืมความเศร้าที่ตัวเองเจอเสียสิ้น

“ค่ะ คุณเคลวิน ตอนนี้ทางบ้านคุณหนูโบว์ อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ เฝ้าอาการป่วยกันอยู่ และรู้สึกจะบอกเลิกการหมั้นไปเรียบร้อยแล้ว”

ข่าวต่อมาทำให้ผมรู้สึกยินดี การที่ไม่ต้องหมั้นกับคนที่ผมไม่ได้รัก ทำให้ผมรู้สึกเป็นสุข แต่ผมก็รู้สึกแย่ ที่การล้มเลิกการหมั้น มาจากการที่โบว์ตัดสินใจฆ่าตัวตาย รู้สึกเศร้าใจที่ลูกๆต้องใช้ชีวิตเป็นเครื่องต่อรอง เพื่อไม่ให้พ่อแม่บังคับจิตใจ ทำไมผู้ใหญ่ถึงไม่ฟังความต้องการของเด็กบ้าง มาคิดได้ตอนนี้ มันสายไปไหม

“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกันป้าหมี่”

ความสงสารในชะตากรรมของน้องสาวคนสวย ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้โบว์จะเป็นอย่างไรบ้าง ที่บอกว่าจะหาทางให้พ่อเปลี่ยนใจให้ได้ มันคือการกินยาเพื่อฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือโง่จริงๆ เลยเด็กคนนี้ วิธีการอื่นมีถมเถไปทำไมไม่เลือกใช้ ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วย

ป้าหมี่คงเห็นผมมีสีหน้าวิตกกังวล ป้าเลยปลอบให้ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้ว โบว์ปลอดภัย โชคดีที่ไปถึงมือหมอได้ทันการ ผมฟังข่าวของโบว์อย่างโล่งใจที่สาวน้อยน่ารักคนนั้นไม่เป็นอะไรมาก พอเห็นผมคลายความกังวล ป้าหมี่ก็เริ่มต้นเล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาให้ผมฟัง

หน่วยสอดแนมสูงอายุเล่าว่า เมื่อตอนเช้า แม่ของโบว์ขึ้นไปปลุกลูกสาวให้แต่งตัวเพื่อจะมาที่บ้านผม แต่เรียกเท่าไหร่ โบว์ก็ไม่ขาน จนกระทั่งสาย ก็ไม่ยอมออกมา รู้สึกผิดสังเกต เลยพังประตูกันเข้าไป เห็นโบว์นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น รอบตัวเกลื่อนไปด้วยยานอนหลับ ข้างตัวมีจดหมายลาตาย โบว์ขอโทษพ่อแม่ที่ทำให้ผิดหวัง แต่โบว์อยากเลือกชีวิตของตัวเอง โบว์อยากทำงานบันเทิง ไม่อยากแต่งงาน ในเมื่อพ่อแม่ขัดขวาง โบว์ก็ขอคืนชีวิตโบว์ให้พ่อแม่ พวกเขาอ่านจดหมายที่โบว์เขียน ก็รู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกคิดสั้น หลังจากพาลูกสาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ปรึกษากันว่า จะตามใจลูก ไม่บังคับฝืนใจอีกต่อไป ในเมื่อลูกไม่อยากแต่งงาน พวกเขาก็จะให้อิสระ ให้ลูกทำในสิ่งที่ต้องการ เมื่อตกลงใจกันได้แล้ว ก็เลยโทรมายกเลิกการหมั้นกับพ่อของผม

“แล้วพ่อว่าไงบ้าง”

อยากรู้ความรู้สึกของพ่อนัก การเอาแต่ใจของตัวเอง เกือบทำให้เด็กสาวคนหนึ่งต้องจบชีวิตลง พ่อจะเสียใจ หรือรู้สึกผิดบ้างไหม แล้วยังคิดจะบังคับใจเราอีกหรือเปล่า หรือว่าพ่อต้องการเห็นโศกนาฏกรรมมันเกิดขึ้นในครอบครัวตัวเองบ้าง จะได้เลิกฝืนใจคนอื่น

“คุณพ่อคุณหนูไม่พูดอะไรเลยค่ะ นั่งหน้าเครียดเมื่อรู้ข่าว ดูเหมือนคุณแม่จะไม่เห็นด้วยกับการหมั้นนะคะ ยิ่งพอได้รับข่าวคุณหนูโบว์ คุณแม่ยิ่งไม่อยากให้คุณหนูแต่งงานใหญ่ นี่คุณแม่ก็นั่งคุยอยู่กับคุณพ่อในห้อง คงกำลังพยายามทำให้คุณพ่อคุณหนูเปลี่ยนใจ”

น่ายกตำแหน่งสปายยอดเยี่ยมให้ป้าหมี่จริงๆ ป้าแกเก็บรายละเอียดเรื่องราวต่างๆ มาบอกเล่าให้ผมได้รับรู้ โดยที่ผมไม่ต้องออกไปยุ่งวุ่นวายข้างนอก ผมกล่าวขอบคุณป้าหมี่ที่มาเล่าเรื่องให้ผมฟัง และฝากให้แกไปช่วยหาข่าวเกี่ยวกับเรื่องเคนต่อ ผมอยากรู้ว่าเคนสุดที่รักของผมเป็นอย่างไรบ้าง หลังจากโดนพ่อไล่ไปแล้ว เขากลับบ้าน หรือยังอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์ ถ้าเป็นอย่างหลัง ก็ยังพอมีหวังว่าจะพูดคุยให้เขาเข้าใจได้ แต่ถ้าเคนถอดใจไม่อยู่ที่กรุงเทพแล้ว ผมคงตามเขาลำบาก

ส่วนเรื่องพ่อคงต้องปล่อยให้แม่จัดการ ผมจะไม่พูดอะไรกับพ่ออีก เพราะเราสองคนคุยเรื่องนี้กันไม่รู้เรื่อง แม่เข้าข้างผมอยู่แล้ว แม่เห็นใจในความรักของผม แต่ที่ผ่านมา แม่ไม่อยากขัดใจพ่อ เกิดเรื่องของโบว์ขึ้นมา แม่คงรู้สึกผิดที่เป็นส่วนหนึ่งให้โบว์คิดสั้นฆ่าตัวตาย แม่คงต้องหาทางลบล้างความผิดในใจ หวังว่าแม่คงจะรู้ว่าควรจะทำอย่างไร พ่อถึงจะยอมเลิกรา ปล่อยมือจากผมกับเคน และไม่บังคับใจเราอีก

สำหรับเรื่องน้องโบว์ ผมตัดสินใจจะหาโอกาสไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล อาจจะไปด้วยตัวเอง หากผมสามารถหากุญแจรถมาได้ หรือพ่ออนุญาตให้ลุงเทพขับรถให้ผม หรือหากพ่อกับแม่ออกไปเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล ผมก็จะขอตามไปด้วย แม้เราจะพูดคุยกันไม่กี่ครั้ง ผมก็รู้สึกถูกชะตากับสาวสวยคนนี้ ผมนับถือความใจเด็ดของเธอ ที่กล้าเอาชีวิตเข้าเดิมพัน และสามารถเปลี่ยนใจพ่อแม่ได้สำเร็จ หากเธอทำพลาด พ่อแม่มาไม่ทัน เธออาจจะไม่มีโอกาสได้ฟื้นขึ้นมาทำตามความฝันของตัวเอง ต้องขอบคุณเธอที่ทำให้เรื่องมันคลี่คลายไปในทางที่ดี การกินยาฆ่าตัวตายของเธอ นอกจากจะทำให้การหมั้นของเราล้มเลิก มันอาจจะช่วยทำให้พ่อของผมคิดขึ้นมาได้บ้าง








ตอนบ่ายของวันนั้น หลังจากที่พ่อแม่และผมกลับมาจากโรงพยาบาล เพื่อเยี่ยมอาการของน้องโบว์ ความเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างก็เกิดขึ้น พ่อของผมเงียบขรึมยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าที่ดุดัน เชิดหยิ่ง กลับดูอ่อนล้า ท่าทางเหมือนคนขาดความมั่นใจในตัวเอง ภาพใบหน้าซีดเซียวของน้องโบว์ที่นอนอยู่บนเตียง คงสะเทือนอารมณ์พ่อผมไม่น้อย

ยิ่งได้เห็นน้ำตาของผู้เป็นแม่ ที่ร่ำไห้สะอึกสะอื้น โทษตัวเองที่ไม่ฟังเสียงลูก เอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ว่าลูกสมควรได้รับอะไรบ้างที่จะทำให้ลูกมีความสุข มันยิ่งทำให้พ่อผมเครียดหนัก ตลอดระยะเวลาที่นั่งรถกลับมาบ้านด้วยกัน พ่อเงียบราวคนใบ้ ใช่แต่พ่อคนเดียวที่เหมือนไม่ได้เอาปากมา ทุกคนก็พากันสงบปากสงบคำ ไม่มีใครปริปากพูดคุยกัน เราต่างคนต่างนั่งเงียบจนกระทั่งถึงบ้าน และแยกย้ายเข้าห้องนอนตัวเอง
แม่กับพ่อเข้าห้องนอนไปพร้อมๆกัน ส่วนผมเรียกป้าหมี่มาคุยในห้อง ตอนผมขยิบตาเรียกป้าหมี่ ผมเห็นพ่อชำเลืองมองมาที่เราสองคน แต่ผมไม่ได้ใส่ใจ ความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของเคนทำให้ผมไม่สนใจว่าพ่อจะสงสัยในตัวเราสองคนหรือไม่

“ติดต่อเคนได้หรือเปล่าป้าหมี่”

ทันทีที่ลับสายตาคนอื่น ผมก็เอ่ยปากถามความคืบหน้าจากป้าแม่บ้านคนสนิท รู้สึกกระวนกระวายใจที่ไม่ได้ข่าวคราวจากสามีสุดที่รัก อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง คำพูดของพ่อทำร้ายเคนมากน้อยแค่ไหน ผมไม่อาจจะรู้ได้ ภาวนาขอให้เคนอย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจปล่อยมือจากผมตอนนี้ เรื่องราวอาจจะจบลงด้วยดี หากพ่อเห็นตัวอย่างจากโบว์แล้วคิดได้ว่าไม่ควรฝืนใจลูก พ่ออาจไฟเขียวให้เราได้แต่งงานกัน

“ไม่ได้เลยค่ะคุณหนูเคลวิน คุณหนูเคนปิดมือถือ ป้าโทรไปหลายรอบก็ไม่มีการตอบกลับมาค่ะ”

ข่าวของป้าหมี่สร้างความทุกข์ใจให้ผมไม่น้อย เคนไปไหน ทำไมถึงไม่ยอมติดต่อกลับมา หรือว่าเขาจะเชื่อว่าผมจะแต่งงานจริงๆ และถอดใจกลับบ้านต่างจังหวัดไปแล้ว โธ่เอ๊ย ผมจะทำอย่างไรดี จะลอบหนีไปหาเคนที่เพนเฮ้าส์ดีไหม ว่าแต่เขาจะอยู่ที่นั่นหรือเปล่า

ผมลองให้ป้าหมี่โทรไปที่เพนท์เฮ้าส์ แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง ไม่มีใครรับโทรศัพท์ แสดงว่าเคนไม่ได้อยู่ที่ห้อง ผมให้ป้าหมี่ลองโทรไปที่มอด ซึ่งเป็นรปภ.เฝ้ายามประจำชั้นที่ผมใช้เป็นที่พัก มอดก็ตอบกลับมาว่า เคนออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขามาหาผมที่บ้าน เคนออกมาแล้ว และไม่ได้กลับเข้าไปอีก ถ้าอย่างนั้น เคนไปอยู่ที่ไหน

ยิ่งคิดยิ่งกังวลใจ เขาไม่มีที่อาศัยที่อื่นอีก นอกจากบ้านผม เพราะบ้านเช่าก็คืนไปแล้ว ญาติพี่น้องที่เคนรู้จักก็อยู่ต่างจังหวัดกันหมด แล้วเขาจะไปพึ่งพาอาศัยใครได้....

“ป้าหมี่....”

ผมนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง จึงเรียกชื่อแม่นมของผมอย่างตื่นเต้น

“ป้าช่วยอะไรผมหน่อยได้ไหมครับ”

ขณะที่ผมกำลังมืดมนหาหนทางแก้ปัญหาไม่เจอ อยู่ๆ ชื่อของใครบางคนก็ปรากฏในห้วงความคิด ผมมัวแต่กังวลใจเรื่องที่ติดต่อกับเคนไม่ได้ เลยทำให้ลืมอะไรไปบางอย่าง

เคนขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพเพียงลำพัง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ญาติขาดมิตร อย่างน้อยๆก็มีญาติสองคนของเคนที่ขึ้นมาหางานทำในกรุงเทพ วันที่เราไปดูหนังด้วยกัน ผมเจอญาติของเขาตอนออกมาจากโรงหนัง และเก็บเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ในมือถือ และในสมุดโทรศัพท์ซึ่งอยู่ในกระเป๋าเอกสาร ผมทิ้งมันไว้ในรถ ตอนที่รีบร้อนกลับมาบ้าน มาดูอาการป่วยของพ่อ ไม่ได้นำมันกลับมาบนห้อง แล้วก็ถูกกักตัวเอาไว้ ไม่ให้ไปไหน ไม่ให้ใช้รถ หากป้าหมี่ไปเอากุญแจจากลุงเทพไขเอาสมุดโทรศัพท์ออกมาได้ และโทรไปหาญาติของเคน บางทีอาจจะรู้ว่าเขาไปไหนก็ได้

นักสืบรุ่นเดอะของผม รับคำแล้วออกจากห้องผมไปดำเนินการ ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ป้าก็กลับมาพร้อมกับรายงานความคืบหน้าที่ทำให้ผมพอใจ

“คุณหนูเคนอยู่กับญาติค่ะ ป้าหมี่โทรไปเจอตัวพอดี แต่ถ้าทางเหมือนจะไม่ค่อยสบายใจ คงน้อยใจคิดว่าคุณหนูเคลวินจะแต่งงานจริงๆ แต่ป้าแก้ตัวให้แทนแล้วนะคะ ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน คุณหนูถูกคุณพ่อบังคับ ไม่ได้ต้องการแต่งงานแต่อย่างใด”

สุดยอดมากป้าหมี่ ให้มันได้อย่างนี้สิ นอกจากจะเป็นสปายสืบความลับมาให้ ยังทำหน้าที่เป็นกาวใจประสานให้อีกด้วย ผมดึงป้าหมี่มากอดแน่น กล่าวขอบคุณที่แกช่วยดูแลผมมาตลอด ป้าหมี่กอดตอบ และบอกว่า แกรักผมเหมือนลูกในไส้ แกอยากเห็นผมมีความสุข แกเชื่อว่าเคนคือคนที่สำคัญที่สุดของผม และแกก็พยายามจะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าจะต้องโดนไล่ออกก็ตาม

เมื่อได้รับทราบความเป็นไปของเคนแล้ว ผมก็สบายใจขึ้น ที่รู้ว่าเขาไม่ได้หนีหายไปไหน เขาคงถูกพ่อผมให้ออกจากเพนท์เฮ้าส์ ทำให้เขาต้องไปอาศัยกับญาติ ป้าหมี่บอกว่าเคนเข้าใจในตัวผมแล้ว โชคดีที่เคนเข้าใจอะไรง่ายๆ เขาเลยมีกำลังใจจะสู้ต่อ ผมเองก็มีกำลังใจเช่นกัน

ที่จริงอยากพูดอยากคุยกับเขา ไม่ต้องอาศัยป้าเป็นล่ามให้ แต่ผมถูกควบคุมในเรื่องการใช้โทรศัพท์ มือถือก็ถูกยึดไป โทรศัพท์ในห้อง ก็ถูกดึงออก พ่อต้องการให้ผมตัดขาดจากเคน จึงบังคับผม ราวกับว่าผมเป็นเด็กเล็กๆ ไม่ใช่ชายหนุ่มที่อายุ 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาผมยอมทุกอย่าง เพราะพ่อขู่ผมไว้เยอะเรื่องเคน แต่ตอนนี้ ผมจะไม่ยอมให้พ่อข่มขู่ผมอีก รอเพียงแค่ข่าวจากเคนเท่านั้น ว่าจะให้ผมทำอะไร ผมก็พร้อมจะทำตามแผน เพื่อให้เราได้อยู่ร่วมกัน


-----------------------------------------------

TBC


ปล.  รบกวนช่วยบอกหน่อยจะกด + ได้ยังไง :z3:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 17-04-2009 19:34:12
เป็นกำลังใจให้เคน+เคลวินนะจ๊ะ

ที่สำคัญ ป้าหมี่น่ารักมาก  อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้&#
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 17-04-2009 19:47:20
ประกาศ

เนื่องจากพักนี้มีการโหวตคะแนนกันแบบไม่ค่อยตรงวัตถุประสงค์เท่าไหร่
ดังนั้นจะปรับให้ เป็ดน้อยร่าเริง หรือ ผู้ที่โพสมากกว่า 250 ขึ้นไป
จะสามารถโหวตได้เท่านั้นนะครับ
และให้โหวต ต่อคน ได้ทุกๆ 24 ชั่วโมงแทนนะครับ

^^

รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 17-04-2009 19:52:27
 :m15:

คุณพ่อใจร้ายมากเลย

อย่าทำแบบนี้เลยก๊าบบ

ความรักบังคับกันไม่ได้หรอกน่ะ

 :call: :call:

ให้คุณพ่อเปลี่ยนใจ

เคนสู้ ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 17-04-2009 21:56:51
วุ่นวายๆๆ


คุณพ่อใจร้ายๆๆๆๆๆๆ



 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 17-04-2009 22:02:31
พ่อตาโหดร๊ายยยยยยยยยย  :sad4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-04-2009 22:16:04
มาแล้ว มาแล้ว ยาวเลย เคนเราทำมัยน่ารักอย่างงี้น๊า รอก่อนตอนต่อไปอยู่น๊า อิอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 17-04-2009 22:16:39
พ่อใจยักษ์  :m16: :m16:

น่าสงสารเคน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-04-2009 07:18:25
เป็นกำลังใจให้เคนและเคลวิน
พ่อเคลวินเริ่มคิดได้หรือยังเนี่ย

บวก 1 แต้มเช่นเคยจ้า ขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 18-04-2009 15:21:04
 :angry2:    เป็นไงหล่ะ คุณพ่อ ซึมเลยย  :m16:





 :o12: สู้ต่อไปนะ เคนจัง  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: jaideejung007 ที่ 18-04-2009 18:02:49
ส่งกำลังใจไปให้ที่บ้าน รอรับที่หน้าประตูนะครับ
และมาฝากตัวอ่านด้วยคนครับ

ฝากด้วยนะครับ

โจ้คับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-04-2009 18:23:03
คุณพ่อ อาจจะเริ่มอ่อนลงแล้ว (ล่ะมั้ง)   :monkeysad:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 17.4.09 ตอนพิเศษ [16]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 18-04-2009 22:17:18
พ่อตาดุลิงๆ เคนจะถอดใจปะเนี่ยยยย

ส่งกำลังใจให้เคนนนนน เคลด้วยยยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-04-2009 21:49:26
ตอนพิเศษ [17]

--------------------------



ตกเย็น ผมมานั่งร่วมโต๊ะทานอาหารตามปกติ เรานั่งทานข้าวกันสามคนพ่อแม่ลูก แต่ต่างคนต่างเงียบ ไม่มีการพูดคุยกันระหว่างมื้ออาหาร พ่อของผมนั่งทำหน้านิ่งเฉย เหมือนไม่มีความรู้สึกใดๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผมแอบเห็นแววตาของพ่อหม่นลง ไม่กล้าแข็งเหมือนเดิม จนผมอดสงสารท่านไม่ได้

“เรื่องการหมั้น.....แกคงรู้แล้วนะว่าทางนั้นเขาขอยกเลิก จะไม่มีการหมั้นเกิดขึ้น”

หลังจากนั่งกินกันไปสักพัก โดยไม่พูดคุยกัน พ่อของผมก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมา ด้วยการบอกให้ผมทราบถึงการตัดสินใจของสองครอบครัว

“ครับ ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น”

“แต่ถึงจะไม่มีการแต่งงานกันเกิดขึ้น ฉันก็ไม่มีวันยอมให้แกไปคบกับเด็กคนนั้น”

พ่อยังคงดื้อดึงตามความคิดเดิม

“คุณคะ เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าจะไม่บีบบังคับลูกอีก ลูกโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆนะ เขามีสิทธิในชีวิตของตัวเองเต็มที่”

แม่เอ่ยขึ้นมาบ้าง จากที่ได้ยิน แม่คงคุยกับพ่อมาบ้างแล้ว แต่พ่อไม่ยินยอม ไม่รู้จะกีดขวางความรักของเราทำไมกันนักหนา พ่อน่าจะเปิดใจให้กับเคนบ้าง ไม่ใช่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงแบบนี้ หรือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับโบว์ไม่ได้ทำให้พ่อรู้สึกผิดเลยแม้แต่น้อย ถึงได้คอยมาบังคับจิตใจลูกของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

“ผมสัญญาว่าจะไม่บีบบังคับลูกอีก แต่ไม่ได้สัญญานี่ ว่าจะอนุญาตให้เคลวินคบกับเด็กนั่น พวกเขาไม่เหมาะสมกัน จะให้ผมอนุญาตได้อย่างไร”

พ่อเริ่มเสียงดังใส่แม่ ผมเห็นท่าไม่สู้ดี เลยรวบช้อนส้อม ทั้งที่กินไม่อิ่ม ไม่อยากอยู่ในเหตุการณ์ปะทะคารมระหว่างพ่อกับแม่ ด้วยเรื่องของตัวเอง

ทว่ายังไม่ทันจะได้ลุกออกจากโต๊ะ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ตอนแรกได้ยินไม่ถนัด เลยต้องเงี่ยหูฟังซ้ำ มันเป็นเสียงพูดที่ดังออกมาจากเครื่องขยายเสียง น่าจะเป็นรถขายของที่วิ่งผ่านเข้ามาในซอย เดี๋ยวก็ผ่านออกไป แต่เสียงนั้นกลับดังขึ้นเรื่อยๆ

บ้านของเราอยู่ห่างจากถนนเข้ามาหลายสิบเมตร และพวกเราก็อยู่ในห้องทานข้าว การที่เสียงดังเล็ดลอดเข้ามาถึงในบ้าน แสดงว่าข้างนอกต้องเสียงดังน่าดู

“ใครมาขายอะไรนะ ทำไมเปิดลำโพงเสียงดังกันจัง ไม่กลัวโดนด่าหรือไง”

แม่เลิกคุยกับพ่อ หันมาบ่นหนวกหูเสียงที่ดังอยู่ข้างนอก คนใช้สาวๆที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ถูกเรียกใช้ให้ออกไปดู และหากเป็นพวกรถขายของก็ให้ปฏิเสธไป จะได้ไม่ต้องมาจอดทำเสียงรบกวนอยู่นอกบ้าน

ผ่านไป 10 นาที เสียงก็ยังดังอยู่อย่างนั้น คนที่แม่ใช้ให้ไปไล่พวกขายของเร่ วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาแจ้งข่าว ว่ามีรถกระบะที่บรรทุกเครื่องขยายเสียงมาจอดหน้าบ้าน ไม่ได้มาขายของ แต่มาตามหาคน พร้อมกับคำพูด สาวใช้คนนั้นก็มองมายังผม อย่างกล้าๆกลัวๆ ผมดีดตัวลุกขึ้น วิ่งออกไปหน้าบ้านทันที

เป็นอย่างที่ผมสังหรณ์ใจไม่มีผิด บนรถกระบะที่จอดอยู่หน้าบ้าน พร้อมด้วยลำโพงตัวใหญ่สี่ห้าตัวด้านหลัง สามีสุดที่รักของผมยืนอยู่ พร้อมด้วยไมโครโฟน เขาเรียกชื่อผมดังลั่น

ริมฝีปากผมเหยียดออกเป็นยิ้มกว้าง สามีของผมกลับมาอีกครั้งพร้อมกับญาติของเขาทั้งสองคนที่ผมคุ้นหน้า เคนมาเพื่อรับผมไปอยู่ด้วยกัน เขากำลังต่อสู้กับพ่อของผมด้วยวิธีของเขาเอง

มือผมเอื้อมไปจับประตูจะเปิดออก แต่มันไม่ขยับเพราะมันถูกควบคุมโดยระบบไฮดรอลิก ผมหันไปสั่งรปภ.ให้เปิดประตูให้ แต่เขาไม่ยอมทำตาม ผมหันไปเบื้องหลัง ก็พบพ่อกับแม่ยืนอยู่ ทั้งสองเดินตามผมมาจนทัน พวกเราเลยประจันหน้ากันโดยมีประตูรั้วกั้นกลาง ผม กับคนในครอบครัวอยู่หลังประตู โดยมีเคน กับ ญาติของเขาอยู่ด้านนอก

“ท่านประธานครับ ผมมาขอรับภรรยาของผมไปอยู่ด้วยกันครับ”

ทันทีที่เห็นพวกเรามายืนพร้อมกัน เคนก็พูดออกไมค์เสียงลั่น ลำโพงตัวใหญ่สามสี่ตัวที่เคนบรรทุกมาด้วยทำหน้าที่กระจายเสียงเต็มที่ ดังลั่นไปทั้งซอย

“ออกไปจากหน้าบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความมาจับเธอกับเพื่อน ข้อหาก่อกวนความสงบ”

เสียงขู่กราดเกรี้ยว ดังมาจากปากพ่อ ซึ่งใบหน้าบึ้งตึง แดงก่ำ

“ผมจะไปต่อเมื่อ เมียของผมไปด้วยครับ ผมรักเคลวิน เราจะไปอยู่ด้วยกัน โปรดเห็นใจด้วยครับ”

เคนไม่ยอมแพ้ พูดออกไมค์โต้ตอบผมด้วยเสียงดังอย่างไม่กลัวใครจะได้ยิน ผมยิ้มให้กับการแก้เผ็ดพ่อของเคน แม้จะดูลูกทุ่งไปหน่อย ที่มาบอกรักกันกลางซอยอย่างนี้ แต่ผมก็รู้สึกดีใจ และตื่นเต้นตามไปด้วย ที่เห็นเคนทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ครอบครองตัวผม

“ถ้างั้นก็เตรียมตัวเข้าคุกได้เลย”

พูดจบพ่อก็หันไปบอกรปภ.ให้กดโทรศัพท์ไปหาตำรวจ เมื่อเห็นดังนั้น สามีของผมก็หันไปพยักเพยิดกับญาติผู้พี่ของเขา สักพัก เสียงดนตรี ก็ดังขึ้น เคนซึ่งยืนถือไมค์อยู่บนกระบะรถทางด้านหลัง ก็ส่งเสียงร้องเป็นเพลงทำนองตัดพ้อต่อว่า

เพลงปลากรอบ - ไม่อาจตัดใจ (เสก โลโซ)

เธอได้ยินไหม ว่าใครมันร่ำร้องเรียกอยู่
อยากให้ได้รู้ ว่าใจของฉัน มันจะขาด
จากกันเพราะคำที่ตอกย้ำ ว่าฉันด้อยกว่า
ตีราคากันต่ำเกิน

แค่เริ่มต้น เพลงมันก็โดนเสียแล้ว พ่อของผมยืนคบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มือกำแน่น ลูกเขยลองดีเสียแล้วด้วยการร้องเพลงว่า พ่อตาจะทำอะไรได้ไหม

เมื่อมันไม่รู้ สมองมันก็คิดไปร้อยแปด
จากเคยรักแท้ ก็กลายเป็นชอกช้ำ ซ้ำๆแสบ
เจ็บก็เพราะรัก ไม่คิดว่าเธอจะทำฉันได้ลง คิดแล้วปลง ทรงกับทรุด

แม้ว่าเคนจะไม่ใช่นักร้องอาชีพ แต่เขาก็ถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้กินใจมาก คงเป็นเพราะคนร้องอินไปกับเพลง เนื่องจากเนื้อหามันตรงกับชีวิตจริงของตัวเอง เลยซาบซึ้งกับมันเป็นพิเศษ จึงเป็นเหตุให้เขาร้องออกมาได้ไพเราะมาก สะกดคนในบ้านผม ให้ยืนฟังนิ่งๆ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน

แต่ใจมันรักเธอ ก็เลยไม่ยอมตัดใจ ไม่ปล่อยให้ไป
ยังยื้อเธอไว้อย่างนั้น เมื่อเธอไม่รักกัน ก็เลยต้องการจากไป
ทิ้งให้ใคร ต้องนอนปวดใจ ให้ตายทั้งเป็น

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 19-04-2009 21:51:13
ใบหน้าของเคนเศร้าสร้อยยิ่งนัก เมื่อร้องมาถึงท่อนสุดท้าย ผมตีความตามท่าทางของเคนเอาว่า เขาเสียใจที่ถูกจับแยกห่างจากผม แม้จะพยายามทำทุกวิถีทางให้พ่อเปลี่ยนใจ แต่ดูเหมือนพ่อจะใจแข็งเกิน ไม่เห็นใจในความรักของเราเลยแม้แต่น้อย

ผมยิ้มให้กำลังใจสามีสุดที่รักของผม ถ้าเสียงเพลงที่เขาร้อง สามารถสื่อไปถึงพ่อของผม แล้วทำให้คล้อยตาม เลิกมีอคติ เลิกเกลียดคนที่ผมรักได้ จะเป็นเรื่องที่ดีมาก เราจะได้มีความสุขกันเสียที

มิโทษฟ้าที่ทำให้เธอเป็นอื่น ต้องทนฝืนแม้คนเขาจะดูถูก
แม้ว่ารักไม่ทำให้ใจเป็นสุข จะโง่ก็ยอม

แต่ใจมันรักเธอ ก็เลยไม่ยอมตัดใจ ไม่ปล่อยให้ไป
ยังยื้อเธอไว้อย่างนั้น เมื่อเธอไม่รักกัน ก็เลยต้องการจากไป
ทิ้งให้ใคร ต้องนอนปวดใจ ให้ตายทั้งเป็น…..

เสียงปรบมือเปาะแปะเมื่อเคนร้องเพลงจบ จากนั้นก็ค่อยๆดังขึ้น เมื่อผมกวาดตามองออกไป ก็พบไทยมุงยืนกระจายอยู่รอบๆ รถของเคน เสียงจากลำโพงคงดังเรียกความสนใจจากผู้คนที่อยู่กันละแวกนั้น ให้ออกจากบ้านมุ่งตรงมาที่หน้าบ้านผม

พอเห็นเคน ร้องเพลงอยู่บนรถกระบะ ก็วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา คงมีบ้างที่นึกว่ามีการแสดงเกิดขึ้น เลยมาร่วมชื่นชมจึงปรบมือกันยกใหญ่ หารู้ไม่ว่าพวกเขากลายมาเป็นพยานให้กับการประกาศความรักของเคนครั้งนี้เสียแล้ว นับว่าเป็นการวางแผนแก้เกมพ่อที่ได้ผล

พ่อของผมเป็นคนรักษาหน้าตัวเอง เขาไม่ยอมให้มีเรื่องเสื่อมเสียมาถึงครอบครัวและวงค์ตระกูลอย่างเด็ดขาด การที่เคนมาส่งเสียงดังหน้าบ้าน โดยที่มีคนมามุงดูมากมายอย่างนี้ พ่อคงยอมไม่ได้อย่างแน่นอน

ประตูรั้วอัลลอยด์สลักค่อยๆเลื่อนเปิดออก พ่อเป็นคนบอกให้รปภ.เปิดประตูรับเคนเข้ามา ระหว่างการพูดคุยข้ามรั้ว กับการเชิญคนที่พ่อไม่ชอบขี้หน้าเข้ามาคุยกันในบ้าน วิธีหลังน่าจะสร้างความอับอายได้น้อยที่สุด และเป็นการไล่คนสอดรู้สอดเห็นให้กลับบ้านใครบ้านมันได้ในทางอ้อม

เมื่อพ่อกวักมือเรียกเคนให้เข้ามาคุยด้วย ผมก็ลอบยิ้มอย่างสมใจ ในที่สุดเคนก็ทำสำเร็จ แม้วิธีที่เขาใช้จะเปิ่นเชย ไม่ทันสมัย ลูกทุ่งมากไปหน่อย แต่มันกลับได้ผล อย่างน้อยๆ พ่อก็ไม่ไล่เคนไปตอนนี้ พ่อกลัวจะถูกซุบซิบนินทาวุ่นวายจากพวกชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน เลยให้สามีของผมเข้ามาพูดคุยด้วย ถ้าเคนสามารถพูดให้พ่อยอมรับในความรักของเราได้ เรื่องก็จะจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง มีความสุขด้วยกันทุกฝ่าย






“เธอกล้ามากเลยนะ ที่ทำแบบนี้”

ไม่รู้ว่าเป็นคำชมหรือคำด่า ที่ออกมาจากปากของท่านประธานใหญ่ หลังจากที่เราเข้ามานั่งกันในห้องรับแขกแล้ว พ่อกับแม่ของเคลวินนั่งที่โซฟาบุนวมหนาขนาดใหญ่ตัวเดียวกัน แต่คนละมุม เคลวินนั่งอยู่ที่เก้าอี้นวมเดี่ยวฝั่งซ้ายมือของแม่ ในขณะที่ผม นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นห้อง ก็ผมมันคนต่ำต้อยด้อยค่า ริอ่านจะมาขอลูกชายของท่านประธานผู้ร่ำรวยล้นฟ้า ก็ต้องเจียมตัวกันสักนิด จะไปนั่งเสมอพวกเขาได้อย่างไร

“กล้าเพราะความรักครับ”

ตอบออกไปอย่างมั่นอกมั่นใจเต็มที่ ถึงตอนนี้ผมกล้าบอกกับใครๆอย่างไม่อายปากว่าผมรักเคลวิน เขาเป็นคนสร้างความรักในมุมมองใหม่ให้กับผม ความรักที่ไม่มีเพศ ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ รักที่มาพร้อมกับความปรารถนาดี อยากให้คนที่เรารักมีความสุข ผมไม่เคยรู้สึกรักใครเท่านี้มาก่อนในชีวิต ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมารักผู้ชายด้วยกัน ไม่เคยคาดฝันว่าจะต้องมาสร้างครอบครัวกับคนที่มีเพศเดียวกับตัวเอง แถมซ้ำยังเป็นถึงเจ้านายใหญ่ที่มีอำนาจในการชี้เป็นชี้ตายอนาคตการงานของผมอีกด้วย แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อผมได้พบกับเขา ความรักของเคลวินทำให้ผมมีความสุข และผมก็อยากทำให้เขามีความสุขเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายขนาดไหน ผมก็พร้อมจะฝ่าฟัน สู้กับมันอย่างไม่หวั่นเกรง ขอเพียงข้างกายผมมีเคลวินภรรยาสุดที่รักของผมอยู่ด้วยเท่านั้น

“แน่ใจนะ ว่าเธอรักลูกชายฉันจริงๆ ไม่ได้หวังเพียงแค่สมบัติ”

คำดูถูกออกมาจากปากพ่อของคนที่ผมรักอีกครั้ง เหมือนวันที่เขาไปหาผมที่เพนท์เฮ้าส์ และขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับเคลวิน เขาพูดอะไรต่างๆมากมาย ถึงความไม่เหมาะสมคู่ควรกัน รวมความแล้ว ผมมันต่ำต้อยด้อยค่า ไม่เหมาะสมกับลูกชายของเขา เคลวินจะไม่มีความสุข เมื่ออยู่กับผม

จำได้ว่าผมไม่ยอมรับข้อเสนอที่เขายื่นมาให้ ผมบอกไปว่าผมรักเคลวิน เราสองคนรักกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะแต่งงานอยู่กินกับเคลวินให้ได้ พ่อของเขาโกรธมาก และไล่ผมออกจากเพนท์เฮ้าส์ ผมเลยต้องไปอยู่กับญาติที่ขึ้นมาหางานทำในกรุงเทพ และวางแผนกันที่จะดัดหลังพ่อตา ชิงเมียรักของผมคืนมาให้ได้

พวกเราไปหาเช่ารถกับเครื่องเสียง โดยใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งที่ผมสะสมไว้ตั้งแต่ทำงาน ผมตั้งใจจะเก็บเงินก้อนนี้ไว้เป็นทุนรอนในการแต่งงานกับผู้หญิงคนที่ผมรัก ตอนนี้ผมไม่มีผู้หญิงคนไหนในชีวิต นอกจากเคลวินคนเดียว เงินจำนวนนี้จึงถูกถอนออกมาเพื่อเคลวินโดยเฉพาะ

“ความรวยของเคลวิน นำพาให้เราเจอกัน เพราะถ้าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัท ผมก็คงไม่ได้มีโอกาสรู้จัก และรักเขา แต่ตอนนี้ ต่อให้ท่านประธานตัดเคลวินออกจากกองมรดก เคลวินไม่มีเงิน สักบาท ไม่มีสมบัติติดตัว ผมก็ยังรักเคลวินเหมือนเดิม และผมจะเลี้ยงดูเขาด้วยลำแข้งของผมเอง เมียผมทั้งคน ผมไม่ยอมให้เขาลำบากอย่างแน่นอน”

ไม่รู้ว่าคำพูดของผมจะทำให้พ่อของเคลวินเชื่อได้แค่ไหน ผมมีความจริงใจให้เขาอย่างเต็มเปี่ยม จะให้ผมไปบุกน้ำลุยไฟ เพื่อพิสูจน์ว่าผมมีรักแท้ให้กับเคลวินแค่ไหน ผมก็พร้อมจะทำ

ท่านประธานใหญ่นั่งหน้าเคร่ง ผมพูดจบแล้ว ท่านก็ยังเฉย ไม่ตอบอะไรสักคำ มีแต่ส่งสายตาดุๆ มายังผม เงียบๆอย่างนี้ไม่ดีเลย โวยวายใส่ผมเหมือนตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ยังจะดีกว่า ผมจะได้รู้ว่าท่านคิดอย่างไร แต่นิ่งเฉยแบบนี้ ผมเดาไม่ออก จะปฏิเสธ จะยกให้ จะขัดขวางอย่างไรก็บอกกันมาเลยดีกว่า จะได้เตรียมทำใจไว้ได้

“แปลว่า ถ้าฉันปลดเคลวินออกจากตำแหน่ง และตัดสิทธิ์ในสมบัติทุกอย่าง เคลวินกลายเป็นคนธรรมดา ก็จะรักใช่ไหม”

หลังจากเงียบไปชั่วขณะ ท่านประธานใหญ่ก็เอ่ยปากถามผม ด้วยท่าทางเคลือบแคลงสงสัย

“แน่นอนครับ ผมรักเคลวินที่หัวใจ ไม่ใช่สถานะที่ติดตัวเขามาครับ”

ตอบอย่างมั่นใจ

“แล้วเคลวินล่ะ แกพร้อมจะไปลำบากกับเด็กคนนี้ไหม”

พ่อของเคลวินหันมาถามลูกชาย คนน่ารักหันมาสบตาผม ตาของเขาเบิกกว้างขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจ

“พร้อมครับพ่อ ....ตกลงให้เราไปอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหมครับ”

คนเป็นพ่อนิ่งเงียบ เมื่อเจอคำถามของลูกชาย เคลวินมองพ่อด้วยดวงตาที่เปี่ยมล้นด้วยความหวัง ผมเองก็มีอารมณ์ไม่ต่างจากเคลวินเช่นเดียวกัน ลุ้นกับคำตอบของพ่อคนรัก ว่าจะใจอ่อนยอมยกลูกชายให้ผมหรือไม่

“คุณคะ เห็นแก่ความสุขของลูกเถอะค่ะ สองคนนี้เขารักกัน เราจะไปขัดขวางเขาทำไมคะ”


----------------------------------------------------

TBC
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 19-04-2009 22:14:43
ว่าที่พ่อตาอ่อนลงแล้ว

จะยอมรับเคนแล้วใช่มั๊ย

มาต่อเร็วๆนะคะ

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 19-04-2009 22:40:54
ก่อนอื่นต้องขอโทษเรื่องบวก ที่บอกหนูมิ้นไป ไอ้ที่อธิบายนะถูกแล้ว แต่เรื่องมุมนะ ไม่ใช่ทางขวานะครับ

ทางมุมซ้ายต่างหาก ขอบคุณพี่น้ำตาลที่แซวผมมานะครับ  :z3:

ลองกลับไปอ่านดูที่บอกนะครับ ไม่ยากหรอกครับหนูมิ้น เป็นกำลังใจให้เสมอ พร้อม +1 ให้อีกด้วย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 19-04-2009 22:56:54
ว้าวววว ๆ ๆ ๆ ๆ


ยอมเถอะครับคุณพ่อ

 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 20-04-2009 01:19:35
 :m15:  คุณพ่อเริ่มใจอ่อนละ  :laugh:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 20-04-2009 01:53:24
เป็นวิธีการสยบพ่อตาที่ร้ายกาจมากนะเคน :laugh:

ได้ใจๆๆ  ใจอ่อนแล้วล่ะคุณพ่อตา

รออ่านตอนต่อไปนะครับ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 20-04-2009 07:21:49
คุณพ่อจะพิสูจน์รักแท้ ด้วยการให้เคลวินไปอยู่กับเคนแต่ตัวหรือป่าวหนอ
รอลุ้นการตัดสินใจของคุณพ่อ

บวก 1 ให้หนูมิ้น เป็น 111 เลขสวย หุหุ


ปล น้องวันค้าบ พี่งงจริงๆ มะได้แซว เหอๆๆ แต่พอน้องบอกก้อเข้าใจหละ
หมายถึงใต้ชื่อคนเมนท์ในแต่ละรีพลายนั่นเอง พอเรียกว่ากระทู้แล้วงงเองอะค้าบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 20-04-2009 10:09:58
เย้ๆๆๆ  เคนสู้ๆ  .... :angellaugh2:

มาต่อเร็วๆ นะครับ..
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 20-04-2009 11:41:32
มีลุ้นแล้ว

 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 20-04-2009 20:17:07
มา บวก ให้น้องที่น่ารักเช่นเคย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 21-04-2009 16:21:35
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

 :serius2:

รอตอนต่อไปค่ะ

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 21-04-2009 18:20:00
อิอิให้เค้ารักกันเถอะคุณพ่อ




 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-04-2009 19:24:52
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 21-04-2009 21:30:04
เหมือนเห็นไฟเขียวรำไร

พ่อตาท่าจะอ่อนลงแล้วนะ สู้ๆนะเคนนนนน เคลด้วยยย  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 23-04-2009 08:38:45
เอาใจช่วยขอให้พ่อตาใจอ่อนเร็วๆๆๆ +1 :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P 19.4.09 ตอนพิเศษ [17]
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 23-04-2009 23:28:25
ขอโทษที่หายไปค่ะ  ขอสปอยหน่อยว่า กำลังจะจบแล้วค่ะ  เหลืออีกไม่ยาวนัก


เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะมาลง ตอนพิเศษให้จน (จบ) นะคะ



พรุ่งนี้ จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง :mc4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 24-04-2009 08:01:38
จารอนะคะ :impress2:




 :กอด1: :z2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ruduj ที่ 24-04-2009 08:16:41
มารอคร้าบๆๆๆๆๆๆ

รีบมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 24-04-2009 08:38:31
รอครับ  รอ..
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 24-04-2009 18:54:47
พรุ้งนี้ = วันนี้ค่ะ

 :z6:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 24-04-2009 19:20:00
รอค่ะ

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 24-04-2009 20:45:15
 :seng2ped:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P ตอนพิเศษ (จบ) รอพรุ่งนี้
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-04-2009 20:51:46
ตอนจบ ???


--------------------------------


“คุณคะ เห็นแก่ความสุขของลูกเถอะค่ะ สองคนนี้เขารักกัน เราจะไปขัดขวางเขาทำไมคะ”

แม่ของเคลวินซึ่งนั่งฟังอยู่นาน พูดขึ้นมาบ้าง ผมเห็นท่านประธานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะกวาดสายตามายังพวกเราสามคนที่ทำสีหน้าอ้อนวอนวอให้เขาเปลี่ยนใจ แต่ท่านประธานกลับนิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปาก

ผ่านไปหลายนาที ท่านประธานใหญ่ก็ขยับตัว พวกเราพลอยขยับตามไปด้วย ตาก็ยังจับจ้องที่ท่านประธานว่าท่านจะตอบว่าอย่างไร

“พิสูจน์ให้เห็นสิ ว่าเธอคู่ควรกับลูกฉัน”

แม้จะไม่ใช่คำตอบรับ แต่มันก็ไม่ใช่คำปฏิเสธที่จะให้ผมกับเคลวินคบหากัน ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะก้มลงกราบแทบเท้าพ่อของเคลวินด้วยความขอบคุณที่เขาให้โอกาสผม เข้าใจความรู้สึกของท่านดี ที่ไม่ยินยอมยกลูกชายให้ง่ายๆ มันไม่ใช่แค่ความรักอย่างเดียวที่จะทำให้เราอยู่ด้วยกันได้ แต่มันต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่าง หากผมสามารถพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับจากคนในครอบครัวของเขา และคนรอบข้าง การครองรักกันระหว่างผมกับเคลวินก็คงจะเต็มไปด้วยความสุข

ผมค่อนข้างจะพอใจในการตัดสินใจของท่านประธาน มันเป็นเรื่องยากที่พ่อคนหนึ่งจะสามารถยอมรับได้ว่าลูกผู้ชายเพียงคนเดียวในครอบครัวไม่สามารถให้ทายาทสืบสกุลได้แล้ว เนื่องจากไปรักชอบผู้ชายด้วยกัน ไหนจะเสียหน้า เสียชื่อเสียง ไม่ได้รับการยอมรับนับถือในสังคม คนอาจจะนินทาว่าร้าย แต่พ่อของเคลวินก็เลือกที่จะทำตามสิ่งที่ลูกต้องการ นับว่าเป็นการเสียสละอย่างใหญ่หลวง ของคนที่เป็นผู้ให้กำเนิด ผมควรตระหนักในข้อนี้ และรักลูกชายเขาให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ

“ถ้าเธอทำไม่ได้ ฉันจะเอาลูกชายฉันคืน และเคลวินต้องแต่งงานกับคนที่ฉันหาให้ทันที”

ท่านประธานขู่ว่าจะพรากลูกชายหนี แต่มีหรือที่ผมจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น ผมไม่มีวันอยู่ห่างจากภรรยาสุดที่รักของผมอีกแล้ว แค่ไม่ได้เจอกันอาทิตย์เดียว ผมยังคิดถึงเขาแทบตาย ชีวิตที่ขาดเคลวิน เป็นชีวิตที่น่าเบื่อสุดๆ เขาเข้ามาเติมเต็ม ทำให้ชีวิตของผมสมบูรณ์ขึ้น

“ขอบคุณท่านประธานมากนะครับ ที่ให้โอกาสผม ผมจะพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าท่านตัดสินใจถูกต้องแล้ว”

ให้สัญญากับท่านประธาน ยืนยันหนักแน่นว่าจะดูแลลูกท่านให้มีความสุข

“ขอบคุณพ่อมากนะครับ ที่เข้าใจเราสองคน”

เคลวินเลื่อนตัวลงมานั่งที่พื้น และกราบแทบเท้าพ่อตามผม ท่านประธานขยับตัวไปมา ท่าทางเก้ๆกังๆ ยื่นมือมาจะลูบหัวลูก แล้วก็ปล่อย คงยังทำใจไม่ได้ จะปลอบขวัญ ก็กลัวลูกลำพองได้ใจ เห็นพ่อยอมอ่อนข้อให้ ไอ้ครั้นจะดุลูกแบบที่เคย ก็เกรงว่าบรรยากาศเสีย ท่านเลยวางตัวไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไร

“พ่อครับ ผมรักพ่อนะครับ”

ภรรยาของผมยืดตัวขึ้น แล้วผวาเข้าไปกอดพ่อแนบแน่น ผมเห็นท่านประธานนั่งนิ่งตัวแข็ง สักพักท่านก็ใจอ่อนกับลูกชายตัวเอง อ้าแขนโอบกอดลูกชายตอบ พร้อมลูบหลังไปมา ภาพที่เห็นสร้างความประทับใจให้ผมไม่น้อย ถึงจะขัดแย้งกันอย่างไร แต่สายสัมพันธ์ในครอบครัวที่แน่นแฟ้น ก็ทำให้พ่อลูกเข้าใจในกันและกันในที่สุด

จากนี้ไป เป็นหน้าที่ของผมที่จะพิสูจน์ความจริงใจที่มี และทำให้พ่อของเคลวินยอมรับในตัวผมให้ได้ ผมรักครอบครัวนี้ เพราะเป็นครอบครัวของคนที่ผมรัก และผมจะไม่มีวันทำร้ายพวกเขาอย่างเด็ดขาด ผมให้สัญญากับตัวเอง ขณะที่มองภาพพ่อแม่ลูกกอดกันกลมด้วยความประทับใจ

ทำไมเคนมาช้าจังครับ”

สุดที่รักถามผม หลังจากที่เราผ่านค่ำคืนยุ่งยากมาด้วยกัน และมาจบลงบนเตียงนุ่มในคฤหาสน์หลังงามของเคลวิน พ่อของเขาอนุญาตให้ผมนอนที่บ้านได้ หลังจากที่พวกเราตกลงทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว

“มัวแต่หารถครับกับเครื่องเสียงครับ ได้ปุ๊บก็มาหาเคลวินเลย ไม่ได้เถลไถลที่อื่นเลยนะ”

ผมกระซิบตอบคนตัวโตที่นอนตะแคงมองผม ทำตาวาวๆ และใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม

“ไปหัดร้องเพลงจากที่ไหนครับ เพราะจัง”

เขาชมผม มือใหญ่วางทาบอยู่ตรงหน้าอก ปลายนิ้วสะกิดหัวนมผมเล่นไปมา จนผมขนลุกซู่

“จากแถวๆบ้านพี่ครับ บ้านเขาอยู่ใกล้ๆร้านลาบ พวกเด็กวัยรุ่นอกหัก ไปนั่งกินเหล้า แล้วเปิดเพลงนี้วนไปวนมา จนผมร้องได้”

เล่าให้เขาฟังถึงที่ไปที่มาของเพลงที่ผมร้อง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะใช้วิธีนี้ในการทวงความรักคืน ยังแอบคิดว่ามันเป็นมุขน้ำเน่ามาก เสี่ยงต่อการแป๊กสูง แต่พอมันอับจนหนทาง คิดอะไรได้ก็เลยทำไว้ก่อน กลายเป็นว่ามันสำฤทธิ์ผล พ่อของเคลวินหลงเสียงผม จนต้องเชิญเข้าบ้าน คงกลัวชาวบ้านชาวช่องแห่กันมาให้กำลังใจผม
“วันนี้เคนเจ๋งมากเลยครับ เท่ห์สุดๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอเคนในมาดนักร้องมาอ้อนขอความรัก ความเห็นใจ”
คนชมเลื่อนมือลงต่ำ และซุกซนอยู่แถวตรงท้องน้อยของผม

“ไม่รู้ว่าพ่อจะชอบนักร้องอย่างผมหรือเปล่า เห็นท่านประธานอึ้งไปเลย ตอนฟังผมร้อง”

“เพลงมันแทงใจดำพ่อน่ะสิ แต่ก็ดี ทำให้พ่อคิดได้บ้าง ว่าการบังคับฝืนใจคนอื่น ทำให้คนที่ถูกบังคับเจ็บปวดขนาดไหน”

ภรรยาของผมตอบแบบสะใจเล็กๆ ผมหัวเราะขำ บางครั้งเคลวินก็กลายร่างเป็นปีศาจ เวลาที่ถูกขัดใจ อย่างตอนนี้เป็นต้น ท่าทางชอบที่พ่อตัวเองถูกเอาคืน

“เคนสัญญากับพ่อแล้วนะครับว่าจะดูแลผมอย่างดี ไม่ให้ผมลำบาก ไม่ทำให้ผมเสียใจ”

คนเจ้าเล่ห์เริ่มทวงคำมั่น มือข้างหนึ่งเลื่อนมาเกาะกุมเคนน้อยของผมเป็นตัวประกัน ตาจ้องมองผมอย่างเอาเรื่อง ผมหัวเราะขำหน้าตาเคลวิน แต่ก็รีบพยักหน้า เด็กน้อยผมอยู่ในมือเขาแล้ว จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด แล้วผมจะหาเรื่องเจ็บตัวทำไม

“แล้วเคนก็สัญญากับพ่อแล้วนะครับ ว่าเคนจะรักผมคนเดียว ไม่มีคนอื่น”

ข้อนี้เคลวินโมเมเอาเองนี่นา ผมรับสารภาพว่าผมรักเคลวิน แต่ผมไม่ได้บอกว่าจะไม่มีคนอื่นสักหน่อย

“ครับ ผมสัญญาว่าจะรักเคลวินคนเดียว ไม่มองคนอื่นแน่นอนครับ”

ไม่ได้สัญญากับพ่อ ก็สัญญากับลูกแล้วกัน เดี๋ยวคนเจ้าเล่ห์จะงอนป่อง

“รักเคนจังครับ”

คำตอบของผมทำให้ประธานสองหน้าออกอาการลัลลาดีใจ เขาดึงตัวผมไปกอดแน่น และประทับจูบที่ริมฝีปากผม เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม การสัมผัสกันอย่างใกล้ชิดทำให้ไฟพิศวาสลุกโชนขึ้นอีกครา เขาพลิกกายขึ้น แล้วจับผมกดลง ก่อนจะกอดจูบลูบคลำอย่างคลั่งไคล้

ร่างกายที่เปล่าเปลือยของเราสองนัวเนียแนบชิดกัน อารมณ์ถูกปลุกเร้าจนเตลิดเพริด ในขณะที่กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น โทรศัพท์ของผมที่เคลวินให้ไว้ เคลวินชักสีหน้าหงุดหงิดที่มีคนโทรมาหาผมไม่รู้จักเวล่ำเวลา ผมขอตัวจะรับโทรศัพท์ เขาก็ไม่สนใจ พยายามจะดำเนินกิจกรรมรักกับผมต่อ แต่เสียงเพลงเรียกเข้าก็ยังดังขึ้นเรื่อยๆ ผมทนรำคาญใจไม่ไหว และคิดว่าคนติดต่อกลับมาน่าจะมีเรื่องเดือดร้อน อยากจะคุยกับผมก็ได้ ผมก็เลยเอามือควาญไปหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียง กดรับ แต่คนทางปลายสายซึ่งเป็นผู้หญิงไม่ได้ต้องการพูดกับผม เขาเอ่ยชื่อของท่านประธานเคลวินออกมา ผมเลยยื่นส่งให้ เคลวินทำหน้างงๆ แต่ก็รับโทรศัพท์มาโดยดี

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-04-2009 20:55:52
ใบหน้าที่บึ้งตึงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม เขาหยุดการเคลื่อนไหวเหนือร่างผม เพื่อรับโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขาสุภาพนุ่มนวล เมื่อพูดกับคนปลายสาย

“อาการเป็นอย่างไรบ้างน้องโบว์ ดีขึ้นหรือยัง”

“อะไรนะ ไม่ได้เป็นอะไรเลยจริงๆเหรอ เป็นไปได้ไง ...ก็พี่เห็นโบว์ป่วยนอนโรงพยาบาล”

“หือ...ไม่ได้กินยาไปเกินขนาด กินไปแค่เม็ดเดียวเองเหรอ ...”

“หลอกพ่อกับแม่.....ฮ่าฮ่าฮ่า...ร้ายจังน้องโบว์”

“ไม่อยากหมั้นถึงขนาดลงทุนจัดฉากเลยนะ ไปเอาความคิดมาจากไหน...อ่อ ในละครเอ็กแซกส์”

“อาทิตย์ชิงดวง .อืม....ไม่เคยดูหรอก...”

“โกหกแบบนี้ แล้วหมอที่ตรวจจะไม่เจอเหรอ....”

“หา...หมอกับพยาบาล เพื่อนกัน เป็นนักแสดงที่มาร่วมด้วยช่วยหลอก......”

“โอย พี่ขำจังโบว์.....พ่อกับแม่โดนต้มเสียสุกเลย เจ้าเล่ห์นักนะ....”

“แล้วรู้เบอร์เคนได้ไง ...ป้าหมี่บอกเหรอ...”

“อืม ยุ่งอยู่จ้า โทรมาขัดจังหวะพอดีเลยล่ะ ถ้าไงไว้คุยกันนะ ขอพี่ทำธุระก่อน”

“บ๊ายบายจ้า ขออย่าให้พ่อแม่จับได้นะ จะได้ทำตามความฝันตัวเองเสียที”

คุยจบ เคลวินก็ยื่นโทรศัพท์ส่งให้ พร้อมทั้งอธิบายคร่าวๆ ว่าคนทางปลายสายคือ โบว์ ว่าที่คู่หมั้น ที่เพิ่งล้มเลิกการจัดงานไป เขาเล่าถึงแผนการของโบว์ให้ฟังอย่างขำขำ พอเล่าจบเขาก็หัวเราะออกมาพรืดใหญ่อย่างสมใจ

“ดีนะที่ทุกอย่างเป็นแค่การจัดฉากของโบว์ ถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วพ่อกับแม่ช่วยไม่ทัน โบว์ได้ไปสวรรค์แน่ๆ”

เคลวินยังไม่หยุดขำ

“เหมือนเราหรือเปล่าครับที่กำลังไปสวรรค์กันตอนนี้...”

แสร้งถามยิ้มๆ เคลวินตาโต ทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ ว่ากำลังทำอะไรค้างไว้ เขาก้มลงมากอดรัดฟัดเหวี่ยงผมอีกครา คราวนี้ผมยิ้มบ้าง ที่ดึงเคลวินกลับมายังสวรรค์ของเราได้ ปลุกอารมณ์ผมแล้ว จะปล่อยทิ้งไว้ให้ไฟมันมอดลงไปเองได้ไง ผมค้างเติ่งตายพอดี คืนนี้ผมตั้งใจจะมีความสุขกับเคลวินจนหมดแรงกันไปข้าง ให้สมกับที่ห่างกันมาตั้งหลายวัน ยังไงผมก็อยู่ในช่วงพักงาน นอนตื่นสายได้ เคลวินเอ๋ย เตรียมตัวเหนื่อยได้เลย ผมไม่มีทางยอมแพ้เขาหรอก

ผมไม่มีเวลากระหยิ่มยิ้มย่องใจได้นาน เพราะเคลวินปลุกเร้าผมเต็มที่ ผมเองก็ไม่ยอมแพ้ ในเวลาไม่นาน ห้องของเคลวินก็กลายเป็นสมรภูมิรบ ที่มีนายทหารสองคน ซัดกันนัวเนีย ไม่มีใครยอมใคร การโรมรันเป็นไปอย่างยาวนาน ตลอดคืน พักรบบ้าง มีกำลังวังชาแล้วก็ต่อสู้กันใหม่ จนกระทั่งแสงแรกแห่งอรุณโผล่ฉาบฉายทั่วแผ่นฟ้า ผมกับภรรยาสุดที่รัก ก็สลบไสลในอ้อมกอดของกันและกัน



.......................จบบริบูรณ์............................




หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-04-2009 21:01:39
ในที่สุด  ก็จบลงแล้วนะคะ



ขอบคุณพี่เคทเป็นอย่างยิ่งที่อนุญาตให้มิ้นเอาเรื่องมาลงในบอร์ด



และก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ให้มา และยังใจเย็นรอคอยกันอย่างอดทน o22







ความล่าช้าทั้งปวง  ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย นะคะ



มิ้น :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 24-04-2009 21:11:18
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: luna ที่ 24-04-2009 21:42:55
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 24-04-2009 22:04:00
ขอบคุณคุณเคท ที่แต่งจนจบ  โดยใช้เวลานานนนนนนนนนนนนนน มาก ( แซวเล่น ๆ นะครับ )

ขอบคุณหนูมิ้น ที่เอามาโพสให้อ่าน และรออ่านนานนนนนนนนนนน มาก ( อันนี้ก็แซวเล่น ๆ นะจ๊ะ )

+1 เป็นการขอบคุณส่งท้ายของเรื่องนี้นะครับ ถ้ามีเรื่องใหม่มาคงได้พบเจอกันอีก เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: saseum ที่ 24-04-2009 23:45:35
จบซะแล้ว  :o12: :o12:



ในที่สุดก็ได้รักกันจนได้ เย้ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-04-2009 00:06:58
มีความสุขกันซะที  :กอด1:

ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องสนุกๆๆ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-04-2009 04:05:46
แฮปปี้เอนดิ้งซะทีเคนกะเคลวิน
ขอบคุณคุณเคทมากจ้าสำหรับเรื่องสนุกๆ ที่จบลงอย่างมีความสุข
ขอบคุณหนูมิ้นที่ตั้งใจโพสให้อ่านตลอดมา
บวก 1 แต้มอำลาเรื่องนี้
แล้วจะติดตามผลงานเรื่องอื่นๆต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 25-04-2009 09:58:32
+1 เป็นกำลังใจให้น๊ะค๊ะ หวังว่าจะมีผลงานใหม่เร็วๆนี้  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Ottomechan ที่ 25-04-2009 10:54:33
ขอบคุณพี่เคทที่แต่เรื่องดีๆมาให้ติดตาม


ขอบคุณคุณคนโพสมากนะคะที่นำเรื่องมาให้อ่านกัน


+1ให้เป็นกำลังใจกันนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: White..BroccO ที่ 25-04-2009 13:58:25
ขอบคุณผู้แต่ง และคนที่ลงเรื่องนี้ค้ะ

อร๊ายยยยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: LIZZ ที่ 25-04-2009 22:10:38
จบลงด้วยดี พ่อตาก็ยอมใจอ่อนจนด้ายยยยยย

ชอบฉากจบ ถูกใจ  :z1:

คู่นี้น่ารัก อ่านกี่ทีก็ขอประธานสองหน้ามากๆ :laugh:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆเรื่องนี้นะคะ สนุกมากค่ะ^^

ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพส จ๊วบบบบบบบบบบบ

+หนึ่งให้กำลังใจคนโพสน่ารักๆค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 25-04-2009 23:10:42
 :pig4:

สุดท้ายก็ลงเอยกันได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 27-04-2009 01:40:03
จบซะแล้ว...ไม่ได้เข้ามาในเล้าซะนานนนนนนมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณมากนะครับทั้งผู้แต่งแล้วก็คนโพส :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 27-04-2009 11:03:51
ขอบคุณมากๆค่ะ

ทั้งพี่เคทคนแต่ง

และ

พี่มิ้นคนโพส

^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 28-04-2009 14:06:45
ขอบคุณคนโพสกับคนแต่งมากมาย
ได้อ่านอะไรหวานๆ หุๆๆ สนุกมากที่สุดเลย
กิ้วๆๆๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 29-04-2009 22:31:13
จบแล้วอะ ขอบคุณมากอะ ในที่สุดก้อแฮปปี้ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 02-05-2009 12:20:34
ฝากประชาสัมพันธ์ค่ะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=10176.0

My First Boyfriend และ My Wife Is A Big Boss เปิดรับจองแล้วนะคะ รายละเอียดอยู่ในทู้นี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: katesnk ที่ 02-05-2009 12:22:49
ลืมบอกไปค่ะ เคลวินในฉบับนิยายที่รวมเล่ม จะมีตอนพิเศษ ตอนที่เคลวินต้องเผชิญกับพ่อสามีด้วยค่ะ อิอิอิอิ และชีวิตหลังจากการยอมรับเป็นสามีภรรยากันแล้ว ที่ทำงานจะเป็นอย่างไรค่ะ ...ตอนพิเศษจะติดตามได้ในหนังสือเท่านั้น

(หมายเหตุไม่สามารถลงได้หมด เพราะมันเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ค่ะ)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 20-05-2009 19:10:49
 :L1:

ขอบคุณมากนะคับที่นำเรื่องดีๆ สนุกๆ มาให้อ่านค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Seiki ที่ 20-05-2009 20:20:04
ขอบคุณคนแต่ง และคนโพสมากฮะ รออ่านเรื่องต่อๆไป
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: hene2526 ที่ 22-05-2009 23:38:48
สาหนุกจิง จิง เลย...สมหวังกันสักที ลุ้นจนเพลียเลยงะ :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 23-05-2009 23:34:37
 :pig4: ขอบคุณที่เอาเรื่องดี ๆ มาให้อ่านคับ  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-05-2009 01:58:28
เย้ๆ

ในที่สุดก็จบลงไปได้ด้วยดีนะครับ

ลุ้นมากๆ

ลุ้นทุกตอนจริงๆ

ว่าเมื่อไรเคนจะใจอ่อนกับเคลวินเสียที

แต่แล้ว "ความรัก" ก็นำพาให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันจริงๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะครับ

ชอบมากๆ เลย o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: BaoBao ที่ 04-06-2009 02:54:00
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ น๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 05-06-2009 20:13:41
เรื่องนี้มาแปลกสามีโดนภรรยาจิ้มตูด
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 19-12-2009 23:09:23
สนุกดีจ้า  ชอบๆ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: tannumsailailin ที่ 21-12-2009 16:53:43
ขอบคุณพี่เคทที่แต่งนิยายที่ทั้งสนุก และน่ารักให้อ่านนะค่ะ

ขอบคุณคุณมิ้นที่สละเวลามาโพสต์ให้อ่านนะค่ะ
 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: nakema ที่ 25-12-2009 03:40:01
เข้ามาอ่านแล้วสนุกมากค่ะ
น่ารักทั้งคู่เลย
พี่เคทแต่งสนุกมากค่ะอ่านไปแล้ว :o8:
ขอบคุณคุณมิ้นมากค่ะที่มาโพสต์ให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ 26-12-2009 02:53:46
ตอนอ่านแรกๆก็หวานๆดีอยู่(แอบมึนกะภาษาเล็กน้อย)
แต่ตอนหลังนี่สิ อ่านไปน้ำตาก็ไหลพรากๆ  :o12: กดดันจริงๆ อ่านแล้วก็เศร้า
มีปัญหาเข้ามาได้ตลอด แต่สุดท้ายก็ดีใจที่ทั้งสองคนสามารถรักกันได้
ความรักเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร บังคับใจกันไม่ได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องชาติ ภาษา หรือว่าเพศ
อยากมีคนรักดีๆแบบเคลวิลบ้างจัง จะหาได้จากที่ไหนเนี่ย :impress2:
แล้วคนดีๆแบบเคนล่ะ จะมีไหม อยากเจอจัง

 :pig4: คนโพส + คนแต่งคร้าบบบบบ (แต่งได้กินใจมากๆเลย)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 10-02-2010 15:51:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Phelyra ที่ 22-02-2010 03:19:51
ขอบคุณนะค่ะ Happy Ending ซะที ขอบคุณมากค่ะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 22-02-2010 18:47:40
เคยอ่านค้างที่บอร์ดนึงดีจังเลยค่ะที่ได้อ่านจนจบ

ขอบคุณพี่เคทและคุณมิ้นท์นะคะที่ทำให้ได้อ่านเรื่องดีๆน่ารักๆแบบนี้ :bye2:

ปล.เคนไม่คิดจะกดเคลวินกลับมั่งเลยเหรอ (ตอนที่เคลวินสัญญาว่าจะยอมทำอะไรก็ได้อุตส่าห์จิ้นว่าเคนจะบอกขอกด 555+)
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 07-03-2010 09:40:59
เคยอ่านค้างที่บอร์ดนึงดีจังเลยค่ะที่ได้อ่านจนจบ

ขอบคุณพี่เคทและคุณมิ้นท์นะคะที่ทำให้ได้อ่านเรื่องดีๆน่ารักๆแบบนี้ :bye2:

ปล.เคนไม่คิดจะกดเคลวินกลับมั่งเลยเหรอ (ตอนที่เคลวินสัญญาว่าจะยอมทำอะไรก็ได้อุตส่าห์จิ้นว่าเคนจะบอกขอกด 555+)


นั่นสินะ  มิ้นจะเอาไปบอกให้พี่เคท แต่งเป็นตอนพิเศษดีม่ะ o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 25-04-2010 23:26:35
 :jul3:
ใช้เวลาหลายวันตามอ่านจนจบ...สนุกสนานมักๆๆๆ
ทำไปทำมาเคนกับเคลวินใครหื่นกว่ากัน  :m25:

 :L2: :3123: :L2:
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆคับบบบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 01-05-2010 21:39:34
สนุกมากจร้า

แล้วจะติดตาม
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: b2friend ที่ 06-05-2010 21:31:25
น่ารักที่สุด....ในที่สุดก็ชนะใจพ่อตาแม่ยายจนได้

นึุกว่าเคนจะให้พ่อแม่มาขอ ที่แท้ก็มาร้องเพลงอ้อนนี่เอง o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Phing ที่ 18-05-2010 07:14:33
น่ารักดี
เคยอ่านเรื่องนี้ที่บอร์ดนึง
กลับมาอ่านที่นี่ก็ยังชอบ
สนุกมากๆๆ
 :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Laxxeez ที่ 22-05-2010 14:14:58
จัยมากมายเลยคับ :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: mameaw_1926 ที่ 09-06-2010 20:26:34
อาจจะช้าไปนิด แต่เพิ่งจะมาได้อ่านค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ที่มอบความทรงจำหลาย ๆ อย่างที่มีค่าให้ได้อ่านกัน มีความสำคัญมากมายจิง ๆ จะติดตามผลงานเรื่อย ๆ นะค่ะ
 o13 o13 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: jeje ที่ 15-06-2010 12:54:56
ชอบเรื่องนี้มาก  ทั้งเคนและเคลวินน่ารักทั้งคู่
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-06-2010 01:19:02
ขอบคุณมากนะค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: aeyja55 ที่ 26-06-2010 18:14:11
ขอบคุณคนโพสกับคนแต่งมากเลย น่ารักสุดๆ ชอบความจริงใจของเคลวิน และความซื่อของเคนมากเลย :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 14-07-2010 22:34:20
อ่านแล้วชอบสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 
ยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้ว

หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk [ขอตั้งทู้ใหม่ต่อจากโหลดองเก่า] :P จบบริบูรณ์ / 24..04..09
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 31-07-2010 11:21:57
น่ารักอ่า

ตอนจบน่ารักได้อีก 555

ขอบคุณค้าบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: LoveVariety ที่ 16-09-2010 17:22:25
จบแล้ว
เป็นเรื่องที่สนุกมากเลย

ขอบคุณไรเตอร์
และผู้โพส
ที่เอาเรื่องดี
มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: วิหคท่องนภา ที่ 29-09-2010 19:32:28
 :-[ชอบค่ะ  ฮ่าๆๆๆ  เคนลูกทุ่งดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 01-10-2010 12:42:19
ก่อนจะตามไปที่กระทู้ต่อไป
ขอบคุณไรเตอร์ และขอบคุณที่ช่วยกันโพสต์เรื่องสนุกเรื่องนี้นะครับ
ถึงจะดูแปลกๆ ที่เรียกคนอยู่บนว่าเมียก็เหอะ แต่ก็นะ เรื่องนี้สนุกมากมาย
 :3123:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 02-10-2010 01:57:36
อ่า าาา ในที่สุดก้ออ่านจบสักที
ใช้เวลาว่างสองวัน จบเลย

เรื่องนี้สนุกมากๆเคลวินเอาแต่ใจสู๊ด ดดดดดด
อ่านไปก้องง ภรรยาแต่ทำหน้าที่(บนเตียง)ซะคล้ายสามี :laugh:
กว่าเคนจะยอมรับว่ารักเคลวินได้ก้อเล่นซะลุ้นแทบแย่เน๊าะ
วิธีพิชิตใจพ่อตา เจิ่ดมากก ก o13
ส่วนคู่พี่ยามมอด ไม่รู้จะจบลงยังไง อิอิ แอบเอาใจช่วย

ขอบคุณทั้งคนโพสและคนแต่งค่ะ
สำหรับเรื่องดีดีแบบเน้
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 02-10-2010 23:40:53
โฮะๆ อ่านจบแล้ว
อ่านไปกรี๊ดไป สามีโดนเสียบ :-[
ขอบคุณค้า :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: spok1234 ที่ 06-10-2010 21:17:22
อ่าน จบ แล้ว ค้าบ

ขอบ คุณ สำ หรับ เรื่อง ดี ๆ ครับ

สนุก มาก ๆ อยาก มี เมีย บ้าง แหละ

ผม ยอม เป็น สา มี หละ กัน

ฮ่า ๆ

หื่น ๆ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 08-10-2010 00:39:46
ตามอ่านจนจบแล้วค่า
ความรักของเคนกับเคลวินยิ่งใหญ่มากเลยนะคะ
เคนเป็นสามีที่ดีมาก เคลวินก็เป็นภรรยาที่น่ารักมาก
อยากมีแบบนี้บ้างจัง  :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: pinkky_kiku ที่ 26-10-2010 00:45:36
สนุกจังค่ะ เคน กะเคลวิน นี่ อุปสรรค์เยอะเหลือเกินจริงๆ

แต่ก็ดีที่ผ่านไปได้ด้วยดีทุกอย่างเพราะความรักแท้ๆ

ขอบคุณพี่เคท กับคนโพสนะคะ ที่ทำให้มีนิยายดีๆ อ่านกัน ขอบคุณค่า

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 28-10-2010 18:51:20
ตามอ่านจนจบแล้ว

หลงรักคุณภรรยาแสนเจ้าเล่ห์ หึหึ

ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เรื่องนี้น่ารักมากเลยค่ะ ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 14-12-2010 18:10:26
มาแปะโป้งไว้ก่อนค่ะยังอ่านไม่จบเลยแต่สนุกมากๆ  o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: หัวเเม่มือ ที่ 14-12-2010 20:39:17
แปะเดี๋ยวมาอ่าน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 15-12-2010 00:52:22
น่ารักทั้งสองคนเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 16-12-2010 03:15:03
 :m25: :m25:

อ๊ากกกกกกกกกกกกกชอบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 16-12-2010 13:12:33
มาเม้นท์ตามสัญญาค่ะในที่สุดก็อ่านจบแล้วฮูเร่ o7

เป็นนิยายที่ใช้เวลาอ่านถึง3วันกว่าจะจบแต่อ่านไปยิ้มไปน่ารักมากๆเคลวินน่ารักมาก :-[

อยากได้ภรรยาแบบนี้ซักคนจังเล้ยยยยย  :กอด1:

แต่วิธีการเคนที่มาขอลูกชายบ้านนี้ได้ใจมากมาดลูกทุ่งสุดๆแต่เอาใจไปเลย  :mc4:

สุดท้ายนี้ขอบคุณมากนะคะทั้งมิ้นท์ซังที่เอามาโพสท์ให้อ่านแล้วก็เคทซังที่อุตส่าห์เขียนมาให้อ่านกัน ขอบคุณมากๆค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 16-12-2010 15:39:16
มาจิ้มๆไว้ก่อนเดียวมาอ่านจ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 09-04-2011 19:02:26
อ่านหลายรอบแล้วไม่เบื่อเลย

ชอบมากเคลวินน่ารักมากเป็นภรรยาขี้อ้อนจริงๆๆๆๆๆๆๆ
+1
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: vutloor ที่ 10-04-2011 00:51:38
จบไปก่อน เลยไม่รู้ว่าพนักงานอันธพาล  โดนทำโทษแค่ตัดเงินเดือนหรือเปล่า เฮ้อ ไม่สะใจเลย   :m15: :m15: :m15:
เป็นผม ไม่ใช่แค่ไล่ออก แต่ฆ่าทิ้งไปนานแล้ว 5555 :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ziza ที่ 12-04-2011 01:59:09
อ่า~~ อ่านรวดเดียวจบแบบนี้เล่นเอา ปวดตาเลย
แต่... สนุกมากครับ
ขอบคุณคนแต่งกับคนโพสนะครับ
ที่สร้างสรรค์เรื่องสนุกๆ มาให้เสพกัน
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 12-04-2011 12:05:36
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 07-07-2011 22:46:16
อ่านแล้วอ่านอีก ชอบมากเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 12-07-2011 09:12:21
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้มได้มากมาย อ่านแล้วมีความสุขมาก ทั้งเคนและเคลน่ารักทั้งคู่เลยค่ะ ได้ข้อคิดดีๆ แทรกมาด้วย

ขอบคุณนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 22-07-2011 17:58:26
บ้างที่ก็อยากตบประธานเควินมั้งพูดเเต่ละที่ไม่คิดใจผู้ฟังเลย เเต่มาเห็นในบทเมียก็ยอมให้

เคนซื่อมากน่ารักเคมเหมาะเป็นสามีผู้ชอบถูกกระทำ มากกระทำเอง 555
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 30-07-2011 14:18:59
สนุกมากๆๆเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 06-08-2011 02:43:45
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆเลยครับ แหมจะยังแอบงงๆเรื่องสามี-ภรรยาอยู่ดี

ขอบคุณมากๆนะครับ ที่เอามาลงให้อ่าน ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 04-09-2011 01:58:32
ขอบคุณค่ะอ่านจบแล้ว อยากได้หนังสือไม่ทราบว่าต้องทำยังไงค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 31-10-2011 14:43:52
เรื่องนี่น่ารักมากๆเลยอ่ะ...นึกภาพฝรั่งตัวโตๆเป็นภรรยาผู้อ่อนหวานแล้วแบบว่า :a5:

เนื้อเรื่องได้แง่คิดในเรื่องการทำงานแล้วก็เรื่องการดูแลลูกน้องในปกครองด้วย
ดีค่ะ  จะได้นำไปประยุกต์ใ่ช้

 :o12:แต่เค้ามาช้าอ่ะ....อยากได้รวมเล่มอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 08-02-2012 23:34:21
 :3123: ชอบมาก ขอบคุณที่เอามาลงนะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-02-2012 22:27:26
จองอ่านๆๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 11-02-2012 18:23:27
โอ้ ชอบเรื่องนี้มากๆค่ะ
เลยอ่านมาแล้วบ้างแต่ก็ขาดหายไป๋
ตอนนี้ก็ต่อจนจบแฮปปี้เอน
แต่มีข้อกังขาค่ะ
รู้สึกว่าผู้ร้ายที่ทำร้ายเคนน่ะ โดนน้อยไปหรือเปล่าคะ
แบบว่าแอบแค้นค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 20-04-2012 09:21:27
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: netsu ที่ 27-04-2012 23:12:32
ดีจังเลยที่จบแบบมีความสุข
อุปสรรคเข้ามาเยอะจริงๆคนอ่านเลยต้องลุ้นไปด้วย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 18-08-2012 13:27:54
ขอบคุณค่ะ อ่านแล้วมีความสุข ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwjung ที่ 23-08-2012 22:26:48
หนุกมากเลยค่ะ  เคนน่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 25-08-2012 00:22:19
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 28-08-2012 19:27:41
ขอบคุณค่่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: puna ที่ 29-08-2012 12:16:13
ขอบคุณสำหรับความสุขในการอ่านนะค่ะ ^_____________^ o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 31-08-2012 09:51:26
ขอบคุณจ้า น่ารักดี  :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 04-09-2012 10:26:58
 :pig4:ขอบใจนะจ๊ะที่เอามาลง

สนุกมากมาย น่ารักอ่าคุณภรรยา ><
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: vocaloid ที่ 05-09-2012 14:52:12
สนุกมาก  o13 o13
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 19-10-2012 13:32:20
ในที่สุดเราก็อ่านจบ :laugh3:
สนุกมากกกกกค่ะ :z2:
ขอบคุณมากนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 21-11-2012 01:46:16
 :z13: o13 cute mak mak (: thx u na ka khun Kate and khun mint
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: rainfall ที่ 05-12-2012 04:35:19
สนุกมากๆๆ ขอบคุนนะ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 09-12-2012 00:13:07
จบแล้วหรอครับ

มันเหมือนขาดๆไปหรือเปล่า

แต่สนุกดีครับ ผมชอบ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 12-12-2013 15:55:43
เคลวินน่ารักมากมายนึกภาพฝรั่งตัวใหญ่ๆ มาออดอ้อนแทบไม่ออกเลยแฮะ
เนื้อเรื่องแปลกดี น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณค่าสำหรับนิยายดีๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 18-08-2014 17:02:20
เคลน่ารักอะ มุ้งมิ้งสุดๆ ขี้อ้อนด้วย เจอแบบนี้รักตายเลย :-[
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 21-08-2014 12:35:01
เรื่องแปลกดีค่ะ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าใครเป็นพระเอก-นายเอกกันแน่
ภรรยาเป็นฝ่ายกดคุณสามี แอบงง 5555
แต่เรื่องน่ารักมากค่ะ ชอบเคลวินที่มี 2 บุคลิกทั้งดุและขี้อ้อนคุณสามี
เคนก็มุ่งมั่น ชอบค่ะ


+1 เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 21-08-2014 14:17:54
 :o8:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 23-08-2014 13:19:24
ขอบคุณนะคะ ชอบเรื่องนี้มากๆเลย

แอบเสียน้ำตาไปหลายตอน
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 05-11-2014 19:09:53
 :haun4: สนุกมากครับเรื่องนี้ ทีแรกก้อรู้สึกแปลก ภรรยาเป็นรุก สามีเป็นรับ แต่อ่านจนจบแล้วสนุกมากครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 06-04-2015 11:38:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 09-04-2015 00:45:28
หนุกมาาากกกก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 09-04-2015 17:01:07
สนุกมากเลยยยน่ารักมากคู้นี้
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 10-04-2015 14:37:51
สนุกจังเลยครับ.. ชอบมาก
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 26-12-2015 01:09:31
ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน รักกันนานๆน้าาา
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 26-01-2016 12:57:06
เนื้อเรื่องเหมือนการ์ตูนวายที่ผมเคยอ่านเลยครับ ภรรยาผู้รักการเสียบเนี่ย  :hao7:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะครับ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 28-05-2016 02:55:30
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 03-02-2018 19:22:17
ขอบคุณมากๆค่ะ สนุกมากๆเลยค่ะ
ชอบความมั่นคงของพระเอก
ชอบความแมนของนายเอก
ชอบการดำเนินเรื่องที่สมจริงและสนุก
ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-02-2018 04:32:46
 :pig4:
หลงรักเริ่องนี้เลย

นึกว่าจะไม่จบซะแล้ว
หัวข้อ: Re: My wife is bigboss by Katesnk
เริ่มหัวข้อโดย: witch ที่ 06-03-2018 11:27:46
 :mew1: :pig4: