-
**************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
**********************************************************************
รวมงานเขียนของ BaoBao จ้า (https://www.facebook.com/notes/baobao-story/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2-baobao-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%8A%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%A1/105373206277195)
อ่านก่อน ชั่งใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีชมพู คือ แนวน่ารักไม่ปวดใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีม่วง คือ แนวเจ็บปวดหน่วงหัวใจ
เรื่องที่เป็นอักษรตัวสีเขียวฟ้า คือ แนวที่จัดอารมณ์ไม่ได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องสั้น
[หึง & ง้อ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32258.0)
[ข้างๆ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32730.0)
[บังเอิญ]… ณ โรงพยาบาล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34345.0)
[อย่าเงียบสิวะ!] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34200.0)
[แค่นี้ได้มั้ย?] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34200.30)
[บังเอิญ]… คำบางคำกับช่อดอกไม้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37207.msg2319691#msg2319691)
ซีรีย์สั้นกุด [บังเอิญ]...คน (ไม่) รู้จัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43183.msg2778253#msg2778253)
ซีรีย์สั้นกุด คำ บ า ง คำ [Silence speaks...] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39086.msg2471624#msg2471624)
เรื่องกึ่งสั้น-กึ่งยาว
[แอบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32607.0)
[สองก้าว] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32258.msg1903406#msg1903406)
[เวลา] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32382.0)
[รู้แล้ว] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33130.msg1981862#msg1981862)
เรื่องยาว
[กระดาษ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32535.0)
[กระซิบ] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32646.0)
[บอก] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32646.msg1970179#msg1970179)
[บังเอิญ]… สวนทาง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34952.0)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-
(https://scontent.fbkk5-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/152459791_1930014020479762_5755546490072919737_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=3&_nc_sid=0debeb&_nc_ohc=hxYAmKBzSUEAX8KV_Z2&_nc_ht=scontent.fbkk5-4.fna&oh=2c28c81ddebd2e57fd7c665dd17d1ea2&oe=605D82EF)
กระซิบ
*** แค่เห็นก็นึกชอบ
เสียงที่เขาพูดมันนุ่มน่าฟัง
รอยยิ้มของเขาเห็นแล้วอยากยิ้มตาม
เห็นเก้าอี้ที่ข้างเขาว่างเมื่อไหร่ มันอยากจะไปนั่งใกล้ๆ........
แต่เวลาเห็นตามีประกายของเขาหม่นลง ต้องหักห้ามใจแทบแย่ที่จะไม่ให้ไปกระซิบข้างใบหูของเขาว่า.... “อย่าร้องไห้....คุณยังมีผมอีกคน ที่รักคุณ”
----แต่ไม่เคยได้ทำ***
คำที่หนึ่ง
มนุษย์เกิดมาก็ย่อมอยากมีความรัก...สักครั้งก่อนตาย
นายมะยมซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่งในโลกที่รู้จักความรักมาหลายครั้ง.... แต่ไม่เคยสมหวังในรักกับเค้าสักครั้ง ไม่อกหักก็รักคุด ไม่ถูกหลอกก็ถูกลวง หลายครั้งนายมะยมโดน “คนน่ารัก” แปลงร่างให้เป็น “สะพาน” โดยไม่รู้ตัว
ผิดเหรอที่มีเพื่อนหล่อกว่า! ผิดเหรอที่เพื่อนมันมีเสน่ห์กว่า! ผิดเหรอที่ “คนน่ารัก” ของนายมะยมเขามักไปชอบเพื่อนๆ ของนายมะยมเกือบทุกราย... แต่เพื่อนไม่ได้ผิด เพื่อนนายมะยมเป็นเพื่อนที่ดี และแฟนของเพื่อนๆ ก็ไม่ได้มาจากรายนาม “คนน่ารัก” ของนายมะยมเลยสักคนเดียว----
เพื่อนๆ ไม่ผิด.... “คนน่ารัก” ก็ไม่ผิด... นายมะยมก็ไม่ได้ผิด...ไม่มีใครผิด------ มันก็แค่ “เนื้อคู่” ของนายมะยมเค้ายังเดินทางมาไม่ถึง...ก็แค่นั้น
แต่สามสิบแล้วนะครับ... ทำไมเดินนานจังอ่ะ อย่าบอกนะว่าเพิ่งเกิด!
.......
......
.....
....
...
..
.
ครั้งนี้ก็อีกครั้งที่นายมะยมถูกแปลงร่างให้เป็น “สะพาน”
.......
......
.....
....
...
..
.
“คนน่ารัก” ของนายมะยมในช่วงนี้ชื่อว่า น้องกัส (เห็นว่ามาจากซูกัส...รู้จักกันมั้ย?)
นายมะยมเจอน้องซูกัสในร้านหนังสือ น้องยังเด็ก น้องยังตัวไม่สูง แต่น้องอยากได้หนังสือที่อยู่ในชั้นที่สูง... นายมะยมที่เป็นสุภาพบุรุษมาแต่กำเนิดจึงเดินเข้าไปช่วยหยิบให้
น้องยิ้มขอบคุณ และกอดหนังสือวิ่งไปหาเพื่อนๆ ซึ่งยืนเลือกหนังสืออยู่ห่างออกไปพอควร เด็กละอ่อนน่าเคี้ยว เอ้ย! เด็กนักเรียนมุงดูหนังสือที่นายมะยมช่วยหยิบให้น้องกัสกันอย่างตื่นเต้น
เท่านั้นล่ะ.....พอแล้วสำหรับการตกหลุมรักในแบบฉบับของนายมะยม
หลังจากนั้นนายมะยมก็เสี่ยงดวงเทียวไปเทียวมาร้านหนังสือนั้นอยู่สองอาทิตย์ น้องกัสก็กลับมาที่ร้านนั้นอีกครั้งพร้อมผองเพื่อน
นายมะยมแกล้งไปยืนดูหนังสือใกล้ๆ แอบฟังหัวข้อสนทนาของเหล่าเด็กน้อย จับประเด็นที่เชื่อมกับตัวเองมาได้หนึ่งอย่าง-----ภาษาญี่ปุ่น
นายมะยมยิ้มมุมปากแต่หัวเราะเป็นสัตว์ประหลาดตอนเปิดตัวมาเจอฮีโร่...อยู่ภายในใจ
ฝ่ายต่างประเทศ----คือแผนกที่นายมะยมทำงาน ภาษาอังกฤษเป็นเอก ภาษาญี่ปุ่นเป็นโท... แล้วน้องกัสจะไปไหนเสีย
.......
......
.....
....
...
..
.
เสียตังค์ซื้อการ์ตูนเล่มใหม่ล่าสุดที่เป็นหัวข้อสนทนาของเหล่าเด็กน้อย...แน่นอนฉบับภาษาญี่ปุ่น จากนั้นก็แกล้งเดินไปนั่งที่ร้านกาแฟเล็ก ในร้านหนังสือใกล้ๆ กับเก้าอี้ที่เด็กน้อยยืนมุงกันอยู่
ตกเบ็ดไม่ได้ตกกันแค่วันเดียว .......
......
.....
....
...
..
.
แต่หากมีเหยื่อ ปลาก็มาติดเบ็ดได้ง่ายกว่า ใช้เบ็ดที่ไม่มีเหยื่อ
.......
......
.....
....
...
..
.
หนึ่งเดือนจากนั้น ขณะที่นายมะยมเล็งแล้วว่า กลุ่มน้องกัสเดินเข้ามาในร้าน เขาจึงทำทีว่ากำลังเขียนอะไรหยิกๆ ลงในกระดาษ พร้อมทั้งมองการ์ตูนในมือไปด้วย ความที่นายมะยมหน้าตาดี (แต่น้อยกว่าเพื่อนๆ) ดูใจดีและสุภาพ น้องกัสจึงเดินมาชวนคุยแบบสุภาพ----แล้วปลาก็ฮุบเหยื่อ
.......
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #7
-
เรื่องนี้จะเศร้าไหมหนอ...
-
:mc4:
ดีใจได้อ่านเรื่องใหม่
ใช่มะยมมั้ยน้อที่เว่นตอนแรก หรือเป็นอีกคนที่คอยมองมะยมอยู่
น่าสนใจๆ บวกเป็ด
-
:mc4:มาแล้วๆๆๆๆๆ
-
สวัสดีท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน
ได้เจอกันอีกแล้ว.... จากที่หัวมันกลวงมาหลายวัน แล้วมันก็มาก่อนนอน
มันมา [กระซิบ] บอก.....นอนก็ไม่หลับ เลยต้องมาพิมพ์ลงทู้ มันถึงหลับได้ :เฮ้อ:
รีพลายนี้ ขอแจ้งสักเล็กน้อย
1. วันหยุดหมดไปแล้ว ดังนั้น [กระซิบ] จึงไม่สามารถลงได้รวดเร็วฉับไว้เท่าเรื่องอื่นๆ.... โปรดจงเข้าใจ
2. [กระซิบ] ... ยังไม่ได้พิมพ์ พิมพ์แล้วเท่าที่เห็น.... ดังนั้น จบเมื่อไหร่ ยาวแค่ไหน..... "อร๊ายยย มะรุอ่ะคร่า"
3. [กระซิบ] .... เป็นแนวเดียวกับเรื่อง [กระดาษ] ......หุหุหุ หากอยากมีลุ้น ต้องไปอ่าน [กระดาษ] ก่อนมาตาม [กระซิบ] นะขอบอก :laugh:
******************
นอกเรื่องสักนิด
:pig4: ทุกเม้นท์ ทุกตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ เรื่องสั้น... หากไม่มีมัน [กระซิบ] คงไม่ถือกำเนิด
จำได้ใช่ไหมคะ? ..... ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านคือแรงใจของผู้เขียนเสมอ
ผู้เขียนอาจไม่ค่อยได้ตอบเม้นท์....เพราะระหว่างลงเรื่องไปเรื่อยๆ ผู้เขียนก็นั่งพิมพ์ไปเรื่อยๆ เหมือนกัน หากตอบเม้นท์ เนื้อที่พิมพ์ก็คงค้างไม่ต่อเนื่อง :laugh: เลยไม่ได้ตอบใดๆ กับผู้อ่าน.....แต่ผู้เขียนก็คอยอ่านทุกความเห็น และจดจำนำไปแก้ไขปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่องนะคะ....
ดังนั้น เชิญพูดคุยได้ยาวๆ เลยค่ะ ไม่ต้องกั๊ก ผู้เขียนชอบมากกกก
คำผิด...ทุกเรื่องมีบานเลย นั่นเพราะไม่ได้ตรวจอ่านก่อนลง และเพราะพิมพ์ จากนั้นก็ลง เพื่อให้จบ (ผู้เขียนกลัวลืม ว่าคิดอะไรไว้ หากพิมพ์ไม่ทันหัว มันจะหายไป)..... แต่หากเรื่องจบไปแล้ว ผู้เขียนก็จะตามเก็บอีกครั้ง----- หากเวลาที่อ่าน ท่านผู้มีอุปการะคุณ ขัดใจและอ่านไม่เข้าใจ...ขออภัยมา ณ ที่นี้ และสามารถท้วงติงได้ทันทีเช่นกันนะคะ...
หากท่านผู้มีอุปการะคุณซึ่งมาใหม่------ เรื่องของผู้เขียน ดูว่าจบแล้วหรือยังให้สังเกตุได้ 2 ที่
1. หัวข้อเรื่องมีคำว่า จบในตัว..... คือเรื่องนั้นจบแล้วมาอ่านกันได้ คือทำใจซะว่ามันจบที่ตรงนั้น :laugh:
2. เอวัง :pig4:----- หากมีตัวแบบนี้อยู่ท้ายเรื่อง นั่นคือที่คุณกำลังอ่านมันจบแล้วจ้า
3. ตอนเสริม-----บางเรื่อง...อาจมีตอนเสริมมาต่ออีก เนื่องจากเรื่องนั้นยังมีให้เขียน / แต่บางเรื่อง(อาจ)ไม่มีตอนเสริม เนื่องจากอารมณ์มันสุดที่ตรงนั้น....จึงไม่มีต่อ
4. ไม่รู้จะแจ้งเรื่องอะไรแหละ :laugh:
อีกครั้ง :pig4: ทุกแรงใจ love you!
-
:mc4:เรื่องใหม่มาอีกแล้ว
คนเขียนน่ารักจริงๆ :L1:
บวกเป็ด
-
คำที่สอง
*** ช่วงนี้ยิ้มบ่อย เห็นแล้วชื่นใจดี
ถึงเป็นยิ้มที่มีให้คนอื่นก็ตาม...
คุณไม่เสียใจแล้วก็ดี แต่คุณเริ่มตกหลุมรักครั้งใหม่------อีกแล้ว
เฮ้อ....อยากบอกคุณจังครับว่า “คุณน่ารักชะมัด” ***
นายมะยมตกน้องกัสได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ขอดเกล็ด .... เพราะลูกปลายังตัวเล็ก นายมะยมเลยเลี้ยงให้อ้วนก่อนค่อย “เคี้ยว”
ไม่เคยอ่านหรอกการ์ตูน แต่ก็ทำเนียนไปว่า รุ่นน้องที่รู้จักชอบเรื่องนี้ เลยขอให้แปลให้อ่าน เขาก็แปลในกระดาษไปให้...และไม่ลืมที่จะให้น้องกัสเอาไปถ่ายเอกสาร
จากหนึ่งเรื่องก็กลายเป็นหลายเรื่อง
จากพี่คนหนึ่งที่เจอในร้านก็กลายเป็น..... “พี่มะยม ผมหุ้นกับเพื่อนซื้อเล่มใหม่แล้วนะ หากพี่ว่างๆ ก็รบกวนด้วยนะคร๊าบ”
เด็กนักเรียนกางเกงน้ำเงินยื่นถุงพลาสติกใบเล็กให้กับมะยมพร้อมรอยยิ้มเจิดจ้าละลายใจชายหนุ่ม “ครับ แต่เดือนนี้อาจไม่ค่อยว่างนะ กัสรอพี่ไหวเหรอครับ”
“ได้ครับ เอาเป็นตอนๆ ก็ได้พี่ ลุ้นดี” กัสพยักหน้าหงึกๆ
“โอเค ไว้จบตอนทีค่อยนัดกัน พี่ต้องเข้างานแล้วครับ ไปก่อนนะครับ” นายมะยมขอตัวเพราะใกล้หมดเวลาพักเที่ยงแล้ว
“ครับ! อ๊ะ พี่มะยม ผมเลี้ยงไอติมนะ แป๊บนึง” พูดจบน้องกัสก็วิ่งไปซื้อไอศครีมโคนมาให้นายมะยมอันหนึ่ง และของตัวเองอันหนึ่ง....รสเดียวกันไม่ต้องเลือก*0*
นายมะยมรับไอศครีมโคมมาถือแล้วขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม----มือเด็กๆ เค้านุ่มนะครับ เคยจับกันมั้ย?
.......
......
.....
....
...
..
.
แผนคราวนี้ของนายมะยมคือการเอาความดีแทรกเข้าไปในหัวใจ.... น้องกัสยังเป็นเด็ก แต่นายมะยมก็จริงใจ อยากเลี้ยงดูปูเสื่อน้องเค้าจริงๆ หากน้องเขายอม นายมะยมก็พร้อมอ้าแขนรับ---- นี่คือแผนที่ปรึกษาแล้วกับเพื่อนๆ
นายมะยมเดินกินไอติมมาพร้อมรอยยิ้ม เขาเดินเข้าไปในตัวตึก ขณะที่จะเลี้ยวไปตรงจุดที่ตั้งของลิฟท์ เขาเจอเพื่อนที่ทำงานคนละแผนกแต่เข้ามาในรุ่นเดียวกัน จึงทักทาย
“ไงไอ้กัน ยืนเล่นไรอยู่วะ?”
เพื่อนของเขาเงยหน้าขึ้นมาจากถุงผลไม้ และยื่นถุงให้เขากินด้วยกัน “รอให้เสื้อมันแห้งก่อนว่ะ เกรงใจคนอื่น”
นายมะยมยัดไอศครีมคำสุดท้ายเข้าปากแล้วหยิบฝรั่งชิ้นหนึ่งมาเตรียมเคี้ยวเล่น... คนเดินมาเข้าลิฟท์ไม่ขาดสาย แต่ยังไม่มีอารมณ์ขึ้นไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เลยกะคุยเล่นกับเพื่อนก่อน
“มึงไปเที่ยวกับกูป่าว เสาร์นี้ ที่เดิม ก๊วนเดิม”
นายกันคิดหนักก่อนจะบอกว่า “กูถามเชษฐก่อนนะ ถ้าเค้าไม่ไปกูคงไม่ไป”
“คนมีเจ้าของ.....น่าอิจฉา” นายมะยมแซวเพื่อน
“แต่เพื่อนกูแม่งกำลังพรากผู้เยาว์ น่าเป็นห่วง” กันยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย
“อ๊ะ!.....มึงเห็นอะไร?” นายมะยมตาโตใส่เพื่อน แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะกันก็เป็นเกย์เหมือนกัน ก่อนนี้ไอ้กันเป็นเพื่อนในก๊วน ท่องราตรีด้วยกันตลอด มันสอยเด็กมาได้เยอะ แต่อยู่ดีๆ มันก็หยุดไป มันว่าเบื่อ....
“อาตี๋กางเกงน้ำเงิน” นายกันกระหยิ่มยิ้ม
“แค่หย่อนเบ็ดเว้ย ยังไม่ได้ตวัด!” นายมะยมหัวเราะในลำคอ
นายกันกำลังจะอ้าปากแซวต่อ ใครคนหนึ่งก็มาจับที่บ่าของนายมะยมแล้วบอกว่า “ไอ้ยม! พ่อมึงตามงาน”
“ไว้เจอกันไอ้กัน” นายศรโบกมือให้นายกันแล้วเดินจ้ำไปที่ลิฟท์ก่อนเพื่อน
“อ้าว! ฉิบ... กูไปแหละไอ้กัน ไว้คุยกัน ฝากบอกแฟนมึงด้วย พวกกูเชิญเพื่อนเขยกินข้าวจิบน้ำชา” นายมะยมโบกมือแล้วเดินตามเพื่อนร่วมแผนกไปโดยมีเสียงอวยพรตามหลังมา
“ไอ้เลว! สู่รู้!”
.......
......
.....
....
...
..
.
-
....
...
..
.
ในลิฟท์ตอนนี้คนไม่แน่นมาก ยืนสบายๆ เลยชั้น 20 มาแล้วก็เลยเหลือคนไม่กี่คน....แผนกต่างประเทศอยู่ชั้นที่ 30 ชั้นเดียวกับผู้บริหาร แต่แยกกันคนละฟากตึก ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน
การทำงานฝ่ายต่างประเทศ นายมะยมและเพื่อนๆ ต้องทำทั้งงานเอกสารและรับรองแขกต่างชาติ... บางครั้งก็ต้องตามเจ้านายไปต่างประเทศด้วย เป็นงานที่สนุกดี....
นายมะยมเริ่มงานกับบริษัทนี้เมื่อ 6 ปีก่อน เขามีเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันอยู่ก๊วนหนึ่งซึ่งสนิทกันมาก แต่ต่างก็แยกแผนกกันไป เพราะไอ้ก๊วนนี้เป็นเกย์ทั้งเซ็ตจึงเข้ากันได้เป็นพิเศษ ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ นายมะยมก็สนิทกับพวกเค้านะ นายมะยมเป็นคนมีมิตรไมตรี ชอบมีเพื่อน ไม่ชอบสร้างศัตรู
หากว่างจากงาน วันเสาร์ช่วงกลางคืน ก๊วนของพวกเขาชอบนัดกันไปนั่งเล่นในผับ ตอนยังย่างยี่สิบเป้าหมายเพื่อไปหาความรัก เจอบ้างไม่เจอบ้างสลับกันไป ทว่าเมื่อย่างสามสิบการไปเที่ยวกลางคืน คล้ายกับการไปเดินเล่นในห้างตอนกลางวันซะมากกว่า---
ความรักก็ยังตามหาอยู่ แต่เจ็บมาเยอะ เลยขอเพลาๆ ลงหน่อย
เพื่อนในก๊วนมีคนสละโสดไปบ้างแล้ว บางคนก็เจอเนื้อคู่ของตัวเองแล้ว บางคนก็ค่อยๆ เรียนรู้กันอยู่ และมีแค่เขากับไอ้ศรที่ยังมองหา “เนื้อคู่” ของตัวเองไม่เจอ
.......
......
.....
....
...
..
.
เดินออกจากลิฟท์มาก็เห็นหัวหน้าแผนกถือเอกสารผ่านหน้าพวกเขาไปทางฝ่ายของผู้บริหาร หัวหน้าแผนกของพวกเขาชี้นิ้วโป้งกลับหลัง บอกด้วยท่าทางให้พวกเขารีบเข้าไปที่แผนก----งานเข้า!
นายมะยมกับศรรีบวิ่งเยาะๆ เข้าไปในแผนกของตัวเอง และรีบนั่งที่เก้าอี้ประจำตัว.... สางงานเก่าที่ทำค้างไว้เมื่อเช้า ให้เสร็จก่อนที่หัวหน้าจะกลับมาจากห้องผู้บริหาร
.......
......
.....
....
...
..
.
“หัวหน้าไปนานเนอะมึง” ศรที่สางงานตัวเองเสร็จแล้วหมุนเก้าอี้มาชวนเขาคุยเล่น
นายมะยมจดโน้ตของตัวเองเงียบๆ สักพัก เขาแปะกระดาษไว้ที่หน้าคอมของตัวเอง แล้วค่อยหันไปคุยกับเพื่อนตัวเอง “อาทิตย์หน้า มึงไปเจอน้องกัสกับกูหน่อยดิ”
ศรเบ้ปาก แล้วส่ายหน้าพรืด “ไม่เอา เดี๋ยวน้องเค้าตกหลุมรักกู กูกลัวตำรวจจับ ช่วงนี้หัวใจกูยิ่งไม่แข็งแรงอยู่ด้วย”
“เลว!” นายมะยมชมเพื่อน
เป็นที่รู้กันในก๊วนเพื่อนว่า....หน้าฝนทีไร ไอ้ศรมักเป็นโรคเปลี่ยวเหงา... ฤดูนี้ ไอ้ศรจะเปิดรับใครก็ได้เข้ามาในชีวิต หากมันเจอกองไฟ มันชอบเข้าไปราดน้ำมัน
“มึงดูห่างๆ ก็ได้... กูแค่อยากให้มึงช่วยดูว่าน้องเค้ามีเปอร์เซ็นต์มั้ย?” นายมะยมหมายถึงว่า เขาจะจีบน้องกัสติดมั้ย และน้องกัสนิยมไม้ป่าเดียวกันมั้ย?.... สายตาของกำลังหลงรัก มันมัวและฝ้าฟางมองสิ่งอื่นไม่เห็นหรอก.....นอกเสียจาก หน้าของคนที่อยู่ในหัวใจตัวเอง
นายศรเบ้ปากให้เพื่อน ลุกขึ้นเดินไปจากโต๊ะ
นายมะยมถอนหายใจทิ้ง...และหันหน้ากลับมาเปิดคอมเล่น สักพักแก้วกาแฟหอมฉุยก็ลอยมาตั้งอยู่บนโต๊ะของเขา พร้อมคำพูดว่า “กูอยู่ห่างๆ นะมึง...เอาแบบไม่รู้จักกันดีกว่า”
นายมะยมหันขวับไปยิ้มกริ่มแบบไม่ให้เห็นฟัน แต่เห็นแล้วมันคงน่าหมั่นไส้มาก นายมะยมจึงได้ขนมแกล้มกาแฟยามบ่ายเป็น “ขนมเพี๊ยะ” จากนายศรหนึ่งที
นายมะยมลูบหลังหัวตัวเองพลางยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ จากนั้นก็เล่าให้เพื่อนฟังว่า เมื่อเที่ยงที่นัดเจอกับน้องกัสคุยอะไรกันไปบ้าง.....โดยไม่ลืมเรื่องที่น้องเค้าเลี้ยงไอศครีมโคนอันหนึ่งตบท้าย
ขณะที่ความคิดกำลังจะเริ่มฟุ้ง หัวหน้าแผนกก็เดินเข้ามา หน้าของหัวหน้าตึงมาก นายมะยมถึงกับหุบยิ้มทันควัน
และตั้งสมาธิเตรียมรับมรสุมงานที่กำลังจะพัดเข้ามาหา
.......
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #10
-
คำที่สอง....~~~
ไม่เคยอ่านหรอกการ์ตูน แต่ก็ทำเนียนไปว่า รุ่นน้องที่รู้จักชอบเรื่องนี้ เลยขอกให้แปลให้อ่าน เขาก็แปลในกระดาษไป
“ครับ! อ๊ะ พี่มะยม ผมเลี้ยไงอติมนะ แป๊บนึง”
นายมะยมหันขวับไปยิ้มกริ่มแบบไม่ให้เห็นฟัน แต่เห็นc]h;มันคงน่าหมั่นไส้มาก
เค้าเจอแค่นี้เน่อ ตาเค้าบ่ดี คริคริ
เค้าก็อยากมา [กระซิบ] บอกคุณคนเขียนเหมือนกันว่า "น่ารักอีกแล้ว" : )
หลงเด็ก'เกงน้ำเงินเหมือนกันเลยพี่(มะ)ยม~
เค้าตั้งเต้นท์รอคุณคนเขียนอยู่ตรงนี้นะคะ มาแล้วฝากพี่ศรมาราดน้ำมันใส่เค้าก็ได้ เค้าเต็มใจ เอิ้กๆๆ
จุ๊บ~~~*
-
.....
....
...
..
.
ค่ำคืนหนึ่งในยามราตรี
คืนวันเสาร์ คืนแห่งการพัก.... ใครหลายคนใช้โอกาสนี้นัดเจอเพื่อนฝูงและคนรัก บ้างก็เอาคืนสุดท้ายของสัปดาห์วันทำงานไปทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายความตึงเครียดจากงาน
ค่ำคืนนี้ นายมะยมและก๊วนเพื่อนมาเลี้ยงต้อนรับเพื่อนเขยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง... เห็นเพื่อนมีความสุข นายมะยมยิ่งเป็นสุขกว่าเพื่อน... เพราะไอ้กันเพิ่งได้เป็นฝั่งเป็นฝานั่นเอง :mc4:
“ก่อนนี้มันเคี้ยวแต่เด็กน๊า...ไอ้รุ่นเดียวกันนี่แทบไม่แล” ศรบอกเพื่อนเขย
“คบเผื่อเลือกด้วยน๊า...ไม่เคยหร๊อก คนเดียวเนี่ย ไม่มีในสารบบของมัน” มะยมบอกเพื่อนเขย
“อาฮะ......ที่แท้ก็มีเบื้องหลังเยอะนี่เอง” นายเชษฐหันหน้าไปหาแฟนตัวเอง
“ไรครับ....ฮ่าฮ่าฮ่า....” นายกันพูดจบก็กระดกแก้วขึ้นจิบ... นายกันพยายามไม่เล่าอดีตให้แฟนของตัวเองฟัง ไม่ใช่ว่าปิดบังอะไร ก็แค่....ไม่มีอะไรให้น่าเล่า
นายเชษฐมองจ้องแฟนตัวเองนิ่งเฉย อมยิ้มไว้ในแก้มโดยไม่พูดอะไรอีกเลยสักคำ
เพื่อนๆ ต่างนิ่งเงียบ หยิบของกินใกล้มือเข้าปาก...และรอ
.......
......
.....
....
...
..
.
“เอ้า เคี้ยวไป คิดมากน่า!” นายกันหยิบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ใส่ปากแฟน----หน้าแดงเรื่อ...นายกันไม่ชอบสายตาแบบนั้นของแฟนเลย... มันขนลุกง่า*0*
เรียกเสียงโฮ่กิ๊วก๊าวของเพื่อนร่วมโต๊ะได้เฮลั่น......
บางอย่างนายกันจำแทบไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ---- ตอนนี้จำได้แค่เรื่องของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กันนี้เท่านั้น
แต่แฟนกลับชอบรบเร้าให้เล่าอดีตให้ฟัง แฟนชอบคะยั้นคะยอให้พูด..... ทีแรกกลัวว่าแฟนอาจหึง อาจรู้สึกไม่ดี แต่นายกันมารู้ทีหลังว่า....ไม่ใช่เลย----- แฟนเค้าแค่อยากรู้ว่าตัวเขาสมัยก่อนเป็นยังไงก็เท่านั้น
ไอ้ครั้นจะเล่าเองมันก็กระดากปาก เลยเอาแฟนมาหาเพื่อน ปล่อยให้เพื่อนมัน “ตีแผ่” ความหลังให้แฟนฟัง----
.......
......
.....
....
...
..
.
เห็นคนมีความสุขแล้วมันจักกะเดี่ยมหัวใจ...
คืนนี้นายมะยมมีความสุข เขายิ้มไม่หุบ และด้วยความครึ้มอกครึ้มใจจากเด็กกางเกงน้ำเงิน เขาจึงยกแก้วชนกับก๊วนจนลืมโลก.... พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ไม่มีภาระ เมาก็หลับ ตื่นมาก็ถอน.... สุขเหลือเกินชีวิต
.......
......
.....
....
...
..
.
แรงเขย่าที่หัวไหล่ ปลุกนายมะยมขึ้นมาจากการหลับใหล นายมะยมเห็นเพื่อนมีฝาแฝด ส่วนเพื่อนเขยก็มีสองหัว นายมะยมหัวเราะฮึฮึกับภาพที่เห็น
“มึงเดินไหวมั้ยเนี่ย กูขึ้นไปส่งป๊ะ” นายกันถามเพื่อนหน้าเครียด ขณะที่เขากำลังจะสอดแขนมาช่วยพยุงนายมะยม คนขับรถก็ร้องขึ้นมาก่อน “คุณ! ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมพาคุณมะยมขึ้นไปเอง คุณไปดูคุณศรเถอะครับ”
นายกันหันขวับไปมองแฟนตัวเอง ขณะที่แฟนกำลังปลดสายเข็มขัดนิรภัย นายกันก็ร้องบอกว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมพามันขึ้นไปส่งห้องแป๊บเดียวเอง” ว่าแล้วก็คว้าแขนของเพื่อนมาคล้องคอตัวเอง จับแขนเพื่อนไว้ให้มั่นด้วยมือข้างซ้าย ส่วนแขนข้างขวาก็โอบตัวนายมะยมเป็นการพยุงตัว
ยังไม่ทันจะก้าวไปถึงสามก้าว แฟนของนายกันก็เดินมาเอาตัวมะยมไปหิ้วปีกให้แทน
“คุณ! ไม่ต้องครับ ผมเอง... หนักคุณเปล่าๆ” นายกันเดินมาและจะแย่งนายมะยมมาจากแฟนตัวเอง
“ไม่ครับ! ผมเอง...” นายเชษฐยึดตัวนายมะยมไว้
นายกันขมวดคิ้ว “คุณเป็นไรรึเปล่า? ทำตัวแปลกๆ”
“ปะ....”
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดให้เป็นคำเสียงอ้อแอ้หนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมาแทน “เพื่อน...เขย...กู...หึงงงงงงงง คิก คิก คิก”
นายมะยมที่เมาแอ๋เอาฝ่ามือข้างที่ว่างไปตบอกเพื่อนเขยดัง ปุ ปุ.... จากนั้นก็ผลักตัวเองออกมาจากการประคองของอีกฝ่าย
“เฮ้ย!” -------เสียงสองเสียงดังประสานกันทันทีที่นายมะยมหงายหลังลงไปนอนแผ่กับพื้น
นายมะยมหัวเราะร่ากับความซุ่มซ่ามของตัวเอง ไอ้กันและเพื่อนเขยช่วยพยุงเขาลุกขึ้นมา และทั้งสองก็เถียงกันอีกว่าใครจะเป็นคนพานายมะยมขึ้นไปที่ห้อง....
นายมะยมปฏิเสธ แต่ไม่มีใครฟังเขา
นายมะยมฉวยโอกาสตอนที่ทั้งสองคนนั้นยังเถียงกันอยู่เดินโซเซขึ้นห้องพักตัวเองไปเลยโดยไม่ร่ำลาใคร....
เขาเกาะบันได พิงผนัง ไถตัวเองไปถึงลิฟท์....
“อืม... ตัวเลขแม่งเล็กแท้วะ!” นายมะยมพยายามจ้องเลขที่ต้องการ...มองไม่เห็น แต่ประตูปิดแล้ว----ต้องกด!
.......
......
.....
....
...
..
.
เสียงดึงตัวของลวดสลิงดังขึ้น นายมะยมเริ่มรู้สึกมวนท้อง.....ขณะที่ลวดสลิงถูกสาวไปให้เร็วขึ้น อะไรบางอย่างเริ่มมาจุกที่ลำคอของนายมะยม
ติ๊ง! แสงสว่างวาบที่เลข 5... ประตูเปิด นายมะยมพุ่งลงไปคลานสี่ขากับพื้นหน้าประตูลิฟท์ทันที
ปึ๊ก!....ประตูปิดอีกครั้ง นายมะยมพยายามทรงตัวยืนด้วยการคลานไปหาผนังและตะกายขึ้นมายืนพิง... เขาตั้งสติที่เหลือเล็กน้อย พาตัวเองเดินไปตามทางเดิน
นายมะยมไม่มวนท้องแล้ว แต่นายมะยมง่วงมากและมึนหัว หนังตาของนายมะยมกำลังจะปิด.....
.......
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่สติของนายมะยมกำลังจะดับลง หูของเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินก้าวมาใกล้ตัวเองมากขึ้น...และใกล้มากยิ่งขึ้นทุกที
เสียงพื้นรองเท้าหนังที่หนักกระทบบนพื้นกระเบื้องราวกับจังหวะกลอง ดังเป็นสัญญาณให้หัวใจของนายมะยมเต้น...ตาม
.......
......
.....
....
...
..
.
‘นอนพักซะนะครับ...’
.......
......
.....
....
...
..
.
‘จุ๊บ....’ ความอุ่นหนึ่งประทับลงที่ข้างหน้าผากของเขา
.......
......
.....
....
...
..
.
เสียงนาฬิกาปลุกดังรัว... นายมะยมผุดลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ
เขาเอามือตะปบปิดเสียงดังสนั่นแก้วหูนั้น เขาแผนตัวลงนอนอีกรอบ มือของเขาควานไปมราข้างหมอน....หารีโมท
หากยังไม่ตื่นดี นายมะยมชอบเปิดทีวีฟังเสียงครึกครื้นเพื่อกระตุ้นระบบประสาทตัวเอง
“สวัสดีครับ เจอกันอีกครั้ง กับเรื่องเล่าเช้านี้ วันนี้วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม.... ข่าวเยอะแยะมากมายเลยนะครับ จะหมดไหม มาลองดูก่อน เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ไปที่ภาค......”
นายมะยมฟังเสียงผู้ประกาศข่าวรายงานข่าวน่าตื่นเต้นหนึ่ง เขาหันหน้าไปดูที่จอทีวีเมื่อภาพตัดเข้าไปที่สถานที่เกิดเหตุ.... ข่าวที่หนึ่งขบไป ข่าวที่สองเริ่มต้น...คราวนี้กลับมาที่ในเขตกรุงเทพฯ
นายมะยมฟังข่าวไปเรื่อยๆ จนสะดุดใจที่คำหนึ่งของผู้ประกาศข่าวสาวซึ่งนั่งข้างๆ กัน “เมื่อเช้าแทบแย่แน่ะค่ะ ดิฉันก็ผ่านเส้นนั้น ช่วงที่เกิดเหตุพอดี วันจันทร์รถก็เยอะนะคะ นึกว่าจะมาสายซะแล้ว”
“แน่สิครับ หากวันนี้ใครไปสาย ก็ถือว่าอินเทรนน่าดูนะครับ ฮ่าฮ่าฮ่า”
.......
......
.....
....
...
..
.
“ฉิบหายแล้ว! วันจันทร์ได้ไงวะ?!” นายมะยมสบถพลางผุดลุกขึ้นจากเตียง เขามองหามือถือของตัวเอง มันวางอยู่ที่ ชั้นข้างทีวี .... นายมะยมเปิดดูวันที่ในมือถือ-----มันวันจันทร์จริงๆ ด้วย!!
นายมะยมรีบตาลีตาเหลือกไปอาบน้ำ
ห้านาทีผ่านไป นายมะยมก็ตัวล่อนจ้อนออกมาจากห้องน้ำ... เขาแต่งตัวภายในสิบนาที และรีบคว้าของที่จำเป็นใส่กระเป๋า
.......
......
.....
....
...
..
.
สิ้นเสียง “ปัง!” จากการปิดประตู
นายมะยมวิ่งห้อลงบันไดจากชั้นที่หกมาถึงชั้นล่างของหอพักโดยไม่อาศัยเทคโนโลยีของลิฟท์...
เขารีบโบกมอเตอไซด์รับจ้างคันหนึ่ง บอกจุดหมายคือสถานีรถไปใต้ดินแห่งหนึ่ง... “ซิ่งเลยพี่ ผมสายแล้ว!” นายมะยมร้องบอกพี่วิน พี่วินก็พยักหน้าทั้งที่สวมหมวกกันน๊อค
.......
......
.....
....
...
..
.
และแล้วนายมะยมก็มาถึงสถานีรถไฟใต้ดินได้อย่างรวดเร็วราวสายฟ้าแลบ นายมะยมทิปพี่วินไปยี่สิบบาท จากนั้นก็วิ่งหน้าตั้งเข้าไปในสถานี.....
สามนาทีจากนั้น และแล้วนายมะยมที่วิ่งสู้ฟัดมาตลอดทางก็มายืนหอบอยู่ในรถไฟใต้ดินขบวนหนึ่ง----จนได้
.......
......
.....
....
...
..
.
บางอย่างมันหายไป!----นายมะยมคิด
.......
......
.....
....
...
..
.
วันอาทิตย์มันหายไปไหน?! ---- นายมะยมถามตัวเอง
.......
......
.....
....
...
..
.
แล้วกลับมาที่หอได้ยังไง?!----นายมะยมตั้งคำถาม
.......
......
.....
....
...
..
.
เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย!?----- นายมะยมสบถอยู่ในใจ
.......
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #22
-
เอาล่ะสิมะยมเอ้ย! ใครเป็นคนลากมาส่งที่ห้องล่ะนั่น เขาคือใคร Who is he?? 555+ เพื่อนกันก็ดูมีลับลมคมใน(รึเปล่า...)
น็อคข้ามวันข้ามคืนเลยพ่อคู๊ณณณ
อย่าว่าแต่มะยมจะสงสัยเลย คนอ่านก็สงสัยเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ
-
:กอด1:
-
ต่ออีก ต่ออีก อยากอ่านอีก เอิ๊ก ลุ้นๆ ใครกันนะที่มากระซิบข้างมะยม จะเป็นเพื่อนในก๊วนรึเปล่าหว่า
สงสัยเหมือนกันว่าวันอาทิตย์หายไปไหน รึมะยมหลับข้ามวัน โอ้ สุดๆ ไปเลยนะเนี่ย!
-
วันอาทิตย์หายไปไหนน้าาาาาาาาาาาาาาาา
-
มะยมโดนนายศรกระซิบใส่ป่ะเนี่ย
เรื่องนี้ออกหวานเหมือนกันน้า
ปล.เพิ่งรู้ว่าเรื่องกระดาษตัวเอกชื่อกันกับเชษ
และเพิ่งรู้ใครได้ไม้สั้นไม้ยาว :laugh:
-
กระซิบอบอุ่นเนอะ
แล้ววันอาทิตย์ล่ะค้าบบบบบ....นอนข้ามวันเลยเรอะ @o@
-
หนุ่มกระซิบเป็นหนุ่มข้างห้องหรือเปล่า
-
:กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
หาวันอาทิตย์ให้เจอนะคุณมะยมมมม~~
หาคนขโมย'จุ๊บ'ด้วยนะพ่อคู๊ณ
อยากเป็นพี่วิน ได้ทิปตั้งยี่สิบบาท อิอิ
คุณเพื่อนกับคุณเพื่อนเขยน่ารักจังเลยค่ะ ใช่พี่ขวดขาวกับพี่ขวดดำรึเปล่าาา~~
รอ ร๊อ รอ ค่ะ
:o8:
-
ใครน๊า มาจุ๊บแถมอวยพรให้ฝันดีอีก
ตามล่าหาต่อไป
-
ใครอ่า ปริศนาตะล้อดดดดด
แต่ก้อชอบอ่ะ น่าค้นหา :z1:
เค้ารอนายกระซิบอยู่นะ
-
คำที่สาม
** แม้ว่าคุณจะมองใคร...ไม่สำคัญ
ผมขอแค่เป็นคนหนึ่งในสายตาคุณ...ก็พอ
...
..
.
แม้คุณจะมีใครในหัวใจ...ไม่สำคัญ
ขอเพียงแค่ได้มองดูคุณ...อยู่ห่างๆ ผมก็พอใจ**
-
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในแผนก
ภาพที่ปรากฏแก่สายตาของเขา---- โพสอิทลายมือไอ้ศรที่เขียนว่า ‘มาถึงแล้วบอกกู.... ด่วนสุดตีน!’
นายมะยมหน้าเหวอ ตัวเย็นวาบ... สายไม่ว่า แต่หากมาสายโด่งในวันที่มีประชุมด่วน... ข้ออ้างอะไรก็คงเอาไม่อยู่
“ซวยอะไรแบบนี้วะ” นายมะยมพึมพัมกับตัวเอง เขาเดินเขาของเข้าไปเก็บที่โต๊ะ และข้อความไปหาศร... รอสักพัก ศรก็ข้อความมาบอกให้ไปที่ห้องประชุมเล็กหมายเลข 3 ที่อยู่ฝั่งพื้นที่ส่วนรวมของสองแผนก----ฝ่ายบริหารและฝ่ายต่างประเทศ
นายมะยมระบายลมหายใจยาว ความดีในความซวยนี้คือ อย่างน้อยๆ ห้องประชุม 3 .....หมายถึงว่าเป็นการประชุมย่อยเป็นการภายในของแผนก... แม้ว่าอาจมีคนจากฝ่ายบริหารมาร่วมประชุมด้วยก็ตามที แต่นายมะยมก็ถือว่า---- “เอาวะ ก็แค่โดนด่า(ล่ะมั๊ง?)วะ”
นายมะยมสูดลมหายใจลึก และตั้งสมาธิ... จากนั้นก็ลุกขึ้น หยิบสมุดบันทึกและของจำเป็นสำหรับการประชุมมาถือไว้แน่น.... เขาปล่อยให้ขาทั้งคู่ของตัวเองพาตัวเองไปยังห้องประชุมเล็กที่ 3
....
...
..
.
“ขอโทษครับ” นายมะยมกล่าวกับคนที่อยู่ภายในห้องประชุมด้วยเสียงดังฟังชัด เขาใช้น้ำเสียงที่เรียบเป็นปกติ กับสีหน้าตึงและเฉยกรุยทางเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆ เพื่อนของตัวเอง
หลังจากที่นั่งลง เขากลั้นใจเลยหน้ามองทุกคนที่อยู่ในที่นั้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ก้มหน้าลง.....เขานั่งนิ่งฟังการสนทนาในที่นั้นอย่างเงียบๆ ด้วยความปลงตก----และไว้อาลัยให้ตัวเอง
คนจากแผนกต่างประเทศมีแค่หัวหน้าแผนกของเขา ศร น้องพันซ์ที่เป็นเลขา และเขา
ส่วนคนจากฝ่ายบริหารมีเพียง 2 คน..... ผู้บริหารและผู้ช่วยผู้บริหารเท่านั้น!!!!!
....
...
..
.
ประชุมด่วน!เป็นการภายในของแท้ *0*
....
...
..
.
“ผมไม่ไว้ใจทางนั้น” ผู้บริหารบอกเสียงเครียด
“ให้ส่งตัวอย่างมาให้เรา...หรือเราจะไปดูเอง...?” หัวหน้าแผนกต่างประเทศเอ่ยถาม
ยังไม่ทันที่ผู้ช่วยผุ้บริหารจะเสนอความคิดเห็น ผู้บริหารก็สรุปให้เลยว่า “คุณหาคนไปกับคุณ ไหนๆ ก็ไปแล้ว ไปดูพวกนี้ด้วยละกัน หากมันดีก็พ่วงเรื่องนำเข้าสินค้าพวกนี้เข้าไปด้วย....จะได้ไม่เสียเที่ยว” พูดจบก็ยื่นกระดาษอีกแผ่นไปให้หัวหน้าแผนกต่างประเทศ
หัวหน้าแผนกต่างประเทศรับกระดาษแผ่นนั้นไปดู แล้วเงยหน้าขึ้นมาถามผู้บริหาร “น่าจะควรเอาฝ่ายการตลาดไปด้วยสักคนนะครับ ผมดูของพวกนี้ไม่เป็น”
“แล้วแต่คุณจัดสรร ไปสักสองสามคนก็พอ หากมีอะไรก็ส่งเมลมาละกัน อาทิตย์หน้าผมอยู่ฮ่องกง.... เอาตามนี้นะ ผมต้องไปล่ะ” ผู้บริหารบอกพร้อมลุกขึ้นจากที่นั่ง
ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
....
...
..
.
เมื่อผู้บริหารไปแล้ว จากนั้นทุกคนก็นั่งลงอีกครั้ง
“ฝ่ายตลาดตอนนี้น่าจะยุ่งมาก ถ้ายังไงคุณลองไปคุยกันเองดูก่อน หากต้องบินไปญี่ปุ่นทั้งทีน่าจะถืองานอื่นไปด้วยอีกสักอย่างสองอย่าง.... ไว้ผมจะให้เลขาถามแต่ละแผนกดูละกัน หากตัวไหนท่านเห็นควรว่าให้เดินการไปพร้อมกันได้ ผมจะแจ้งทางคุณ” ผู้ช่วยยังคิดคำนวนต่อในหัวถึงความคุ้มค่ากับการตีตั๋วนั่งเครื่องไปหนึ่งเที่ยว
“ครับ” หัวหน้าแผนกต่างประเทศกล่าว “หากได้วันที่สะดวกจากทางญี่ปุ่นมาแล้วผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ”
“โอเค... งั้นก็ฝากด้วยละกันนะ” ผู้ช่วยผู้บริหารบอกพร้อมกับลุกขึ้น ... ทุกคนในที่นั้นต่างผุดลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง
....
...
..
.
หลังจากที่ผู้ช่วยผู้บริหารเดินออกไปจากห้องและลับหายไปจากสายตาแล้ว เสียงสั่งการจึงดังขึ้น “คุณไปส่งเมลถามทางญี่ปุ่น คุณคอยตามเรื่องกับเลขาของท่านผู้ช่วย ส่วนคุณ.... อยู่ต่อ ผมต้องการคุยด้วย”
หน้าที่ส่งเมลไปหาบริษัทที่ญี่ปุ่น-----เป็นของศร
หน้าที่ตามเรื่องกับเลขาของท่านผู้ช่วย----เป็นของพันซ์
คนที่อยู่ต่อ----คือนายมะยม
นายมะยมก้มหน้าไม่เงยตั้งแต่ที่เดินเข้ามาในห้องนี้แล้ว และเขาก็ตั้งใจว่าจะก้มหน้า...รับผิดต่อไป
....
...
..
.
ต่อ...reply #26
-
ตามติดชีวิตรักนายมะยม
-
จิ้ม
ตามมาอ่านเรื่องนี้ต่อ อิอิ
อยากรู้จังว่าชายปริศนาคนนั้นเป็นใคร
น้องมะยม สลบข้ามวันข้ามคืน ขนาดนี้ มีอะไรกันแน่หนอ
-
....
...
..
.
“ขอเหตุผลครับ” เสียงเฉียบขาดแต่ไม่ดังไม่เบาบอกกับนายมะยม
“ตื่นสายครับ” นายมะยมบอก
“คุณอายุเท่าไหร่?” เสียงแบบเดิมถามเขา
“สามสิบครับ” นายมะยมบอก
“รู้มั้ยครับว่าคุณมาถึงที่ทำงานกี่โมง?” เสียงแบบเดิมถามเขา
“สิบเอ็ดโมงครับ” นายมะยมบอก
“เรามีประชุมแปดโมงเช้า ผมให้คุณพันซ์แจ้งพวกคุณแล้ว ไม่ทราบว่าคุณได้รับการแจ้งไหมครับ?” หัวหน้าแผนกสอบถามข้อมูลกับเขาก่อน
“ได้รับครับ” นายมะยมบอก
“เหตุผลที่คุณมาสาย คือตื่นสาย?” หัวหน้าถามย้ำ
“ครับ” นายมะยมบอก
“เงยหน้าครับ แล้วตอบ” หัวหน้าสั่ง
นายมะยมเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสั่ง.....”ครับ ผมตื่นสาย” หัวหน้าคนนี้เทรนงานเขาและศรมาตั้งแต่แรกเข้าบริษัท ความเข้มงวดของเขามีมากแค่ไหนนายมะยมรู้ดีแก่ใจ
คำสอนที่นายมะยมท่องจนขึ้นใจ
ความผิดพลาดห้ามให้เกิด....
หากมันเกิดต้องรับผิดด้วยความซื่อสัตย์....
ดังนั้นเมื่อการติเตียนเริ่มต้นขึ้น นายมะยมจึงต้องเงยหน้ารับผิด
....
...
..
.
ตื่นมาแปดโมงกว่า... เจอข้อความในโทรศัพท์ก็รีบออกมาจากห้อง
สายสักชั่วโมงก็ไม่น่าเป็นปัญหามากนัก หากแต่ว่าตอนที่นายมะยมยืนอยู่ในรถไฟใต้ดินแล้วเขาจะไม่ได้ยืนอยู่ใกล้ผู้หญิงท้องคนหนึ่ง
หากแต่ว่าผู้หญิงท้องคนนั้นจะไม่เกิดเจ็บท้องคลอด
หากแต่ว่าเขาจะไม่เป็นคนดี...นั่งรถพยาบาลไปส่งเธอจนถึงโรงพยาบาลด้วยตัวเอง
.....ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว เขาคงไม่ต้องมานั่งฟังหัวหน้าดุเป็นชั่วโมงแบบนี้
....
...
..
.
ต่อ...reply #43
-
นายมะยม
คนดีจัง
-
เป็นเหตุผลอันสมควร แต่...ใคร ๆ ต้องบอกว่าโคตรบังเอิญ
-
ก็ไม่บอกไปให้หมดเล่ามะยมเอ้ย
-
ในสายตาหัวหน้าย่อมต้องมองแค่นั้นเป็นธรรมดา
สายคือสาย ให้เหตุผลก็เหมือนแก้ตัว
มะยมนายน่าสงสารจัง
-
วันอาทิตย์หายไม่พอ ไปทำงานสายโดนเจ้านายดุอีกไง
เฮ้ออออออ~ ทำใจไปก่อนนะมะยมมมม
-
:call: จุดธูปเรียก มาต่อเถอะนะ (ไปต่อเรื่องทะเลด้วยนะ)
อยากอ่านต่อแล้ว สงสารมะยม
-
:กอด1:ต่อๆๆๆๆ
-
ไม่สงสัยศรว่าชอบมะยม
แต่สงสัยหัวหน้านี่แหละ มาเป็นตัวล่อรึเปล่าหว่า
-
อยากรู้จะแย่แล้ววววววววว
ว่าใครคือหนุ่มปริศนา เก็งคุณหัวหน้าไว้เหมือนกัน ดูน่าจะไม่ใช่ก๊วนเพื่อน
แต่เป้นคนรู้จักมองแบบห่างๆห่วงๆ แต่เฮ้ย.. วันเมาไปจุ๊บหน้าผากได้ไง
ไม่ใช่ว่าเป็นคุณเชษฐ์เพื่อนเขยหรอกนะ เห็นอยากอุ้มจัง......
-
แอ็ก ต่ออีกกกกกกกกกก
อยากอ่านต่อ คุณหัวหน้าชักยังไงๆ นะคะเนี่ย (คิดไปเองป่ะหว่าเรา)
มะยมสู้ๆ :)
-
ยอมรับผิด
ได้แมนมากมะยม :กอด1:
บวกเป็ด
-
เอาใจช่วยนายมะยม สู้ๆๆ
-
เข้ามานั่งรอนายมะยมคนดีศรีสยาม 555
-
เหตุผลตื่นสาย ถ้าจะงานเข้ามะยม
-
หนุกอ่า....
-
เขาคือใครหนอ
-
....
...
..
.
วันจันทร์ที่แสนสั้นสิ้นสุดลงด้วยงานที่ตึงเครียด....
นายมะยมซึ่งเคยแต่หน้าแป้นแล้น ทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉยไปทั้งวัน....
ตอนที่จะกลับบ้าน ไอ้ศรทักเรื่องที่จะไปหาน้องกัสพรุ่งนี้ขึ้นมา... รอยยิ้มจากนายมะยมก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันควัน
ขณะที่เดินออกจากลิฟท์.....
“ฉิบแล้วมึง ไอ้ศร กูแปลตอนแรกไม่ทันแน่เลยว่ะ มึงเอาไปครึ่งนึงนะ นะ นะ นะ....ช่วยกูหน่อย น๊า น๊า--------” นายมะยมแกว่งแขนเพื่อนไม่ยอมหยุด
นายศรเงียบมาตลอดทางจนเดินมาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน เสียง ...นะ...น๊า... หยุดลง เขาจึงหันไปหาคนต้นเสียง----โน่น ไอ้หัวลูกเจี๊ยบมันไปยืนอยู่ตรงที่คนมุงกันเยอะๆ
:m16:“ไอ้ชั่ว ปล่อยให้กูเดินอยู่คนเดียว ไม่บอก! นี่โชคดีนะว่ากูไม่พูดคนเดียวให้คนเค้าคิดว่าบ้า.....” นายศรบ่นพึมพลางเดินกลับไปหาเพื่อน
“ดูไรวะ?” นายศรพึมพำกับตัวเอง และยืนรอเพื่อนอยู่ห่างๆ ที่ด้านหลัง....ไม่เข้าไปมุงด้วย จนเพื่อนที่จ่ายเงินแล้วหิ้วถุงออกมา เพื่อนก็เดินหน้าแป้นมาหานายศร และชูของในมือ-----อวด
“ไรของมึง?” นายศรถาม
“เมล็ดผักเว้ยมึง กูจะเอาไปปลูกแดกที่ห้อง” นายมะยมบอก
!!! *0*------ นานศรเง็งกับอารมณ์เพื่อน......
ตั้งแต่โดนเรียกไปคุยส่วนตัว มันก็ตั้งอกตั้งใจทำงานเงียบกริบตลอดทั้งวัน เห็นมันไม่เล่น ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะแล้วศรแปลกๆ คล้ายกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จแต่ไม่ได้ดื่มน้ำล้างปากยังไงยังงั้น....
ตอนลงมาจากตึกนายศรเอาน้องกัสมาล่อ ไอ้ยมมันก็ยิ้มได้...โล่งใจไปหนึ่ง
มาตอนนี้มันจะเอาผักไปปลูกในหอ? .....ระเบียงห้องไอ้ยมมันก็แคบแสนแคบ จะปลูกยังไง??? ....นายศรเป็นเง็ง
“มึงจะปลูกยังไงวะ จะเอาวางตรงไหน?” นายศรอดไม่ได้ที่จะถาม
“อ๊ะ! อันนี้ของมึง กูซื้อมาเผื่อ” พูดปุ๊บก็ยื่นถุงในมือให้เพื่อน โดยเลือกซองหนึ่งในนั้นออกมาถือไว้ในมือ
“อันนี้ของกู โหระพา ส่วนตำลึง แม่งขึ้นแล้วว่ะ นกแม่งมาขี้ที่กระถางต้นไม้ที่ตายไปพอดี เดี๋ยวมึงไปหอกับกูก่อน เอาหนังสือการ์ตูนไปนั่งแปลบ้านมึง แล้วเดี๋ยวกูไปปลูกไอ้พวกในถุงนี้ที่บ้านมึงเอง ไม่รบกวนมึงหรอก อ้อ ...ขากลับ กูขอยืมก้านไม้บ้านมึงหน่อยนะ จะเอามาทำที่ให้ตำลึงกูมันเลื้อยอ่ะ...ป๊ะ...มึง เดี๋ยวดึก เรื่องแม่งเยอะว่ะ ป๊ะ ป๊ะ”
นายมะยมร่ายยาวจบก็ลากแขนนายศรมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน
“เหี้ย!” นายศรที่หน้าเหวอสะบัดแขนหลุดตอนที่ก้าวมาเหยียบบันไดเลื่อนแล้ว “เกี่ยวไรกับบ้านกู มึงจะปลูกก็ไปปลูกที่ห้องมึงซี่”
“เอ๊า! มึงควายป๊ะ? ตาบอดรึไง ระเบียงห้องกูแค่นอนแผ่เฉยๆ ยังไม่พอเลย มึงจะให้กูปลูกเหี้ยไรได้” นายมะยมเอานิ้วจิ้มหน้าผากเพื่อน
ใช่----หอนี้นายศรก็เป็นคนช่วยหาให้นายมะยม.... ห้องกว้าง คนเช่ามีมารยาท เป็นคนทำงานทั้งตึก ความเงียบสงบค่อนข้างมีเป็นปกติ....อย่างที่นายมะยมชอบ---- แต่มันเกี่ยวอะไรกับการบริการหลังการเข้าอยู่วะ :angry2:
“เวลามึงจะแดก มึงโทรหากูนะ เดี๋ยวกูปั่นจักรยานไปส่งให้มึงถึงหน้าประตูห้องเลย” นายศรประชด
“ได้ก็ดี แต่กูไม่รบกวนดีกว่า ฝากลงดินเฉยๆ เวลากูอยากกินเดี๋ยวกูไปเด็ดเอง...อ้อ ยืมจักรยานด้วยนะ ไอ้ศิลป์มันไปอยู่หอแล้วนี่” พูดจบนายมะยมก็ยื่นแบ๊งค์ยี่สิบใส่มือนายศรที่แบออกมา------นายศรเดินเข้าไปต่อแถวแลกเหรียญ
แลกมาได้แล้วก็เอาเหรียญหนึ่งใส่มือเพื่อน จากนั้นเพื่อนเกลอหนุ่มโสดสองหน่อของก๊วนก็เดินเถียงกันไปตลอดทาง จนกระทั่งขึ้นรถไฟได้แล้วก็ยังเถียงกันอยู่--------เรื่องปลูกผัก
....
...
..
.
บ้านของนายศรกับหอพักของนายมะยมอยู่ในซอยเดียวกัน ห่างกันพอควร.... แต่ไปมาหาสู่ถึงกันสะดวก...ปั่นจักรยาน 10 นาทีก็ถึง นั่งมอไซด์แบบรถไม่ติดก็ 5 นาทีถึง
จะให้ปั่นเอาผักไปให้ก็ยังได้ ใกล้กันแค่นี้เอง....
จักรยานก็ให้ยืมได้เลย.....ถึงมันเป็นของไอ้ศิลป์ก็ตาม แต่ไอ้ศิลป์ที่เป็นน้องของนายศรกลับเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับไอ้มะยมจนดูเหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่าพี่ชายแท้ๆ เสียด้วยซ้ำ--- ไอ้ศิลป์ไม่หวงของกับพี่มะยมของมันแน่นอน
บ้านของนายศร.....เป็น “บ้าน” ของจริง ไม่ใช่เช่าหอพักอยู่แบบนายมะยมก็จริง แต่บ้านของนายศรก็มีพื้นที่เป็นดินนิดเดียว มองยังไงก็ไม่พอกับไอ้สิ่งที่นายมะยมเค้าอยากจะปลูก
เช่นนี้นายศรจึงอดไม่ได้ที่จะเถียงความคิดของเพื่อนรักไปตลอดทาง.... เถียงมันมากมันก็หงุดหงิด เงียบ ไม่พูด แก้มป่อง.... ไอ้มะยมมันเป็นคนนิสัยสนุกร่าเริง แต่ลองมันอารมณ์ไม่ดีหรือหงุดหงิดขึ้นมา----มันจะงี่เง่ามาก...เขารับมือไม่ไหว
พวกไอ้กันชอบว่าว่าไอ้ศรตามใจไอ้มะยมมากไป.... มากไปรึเปล่านายศรไม่รู้ เขาก็ทำเหมือนเลี้ยงน้องชายนั่นแหละ.... ก็แค่เห็นมันเป็นแบบนี้แล้วไม่สนุก นายศรแค่อยากได้ความบันเทิงในชีวิต---ก็แค่นั้น
....
...
..
.
นายศรสอดแขนไปเหนี่ยวไหล่เพื่อน รั้งตัวมาหาแล้วบอกว่า “เดี๋ยวกูรอข้างล่าง มึงขึ้นไปเอาการ์ตูนมึงมา เดี๋ยวกูแปลให้ทั้งตอนเลยก็ได้ แต่ผักมึงน่ะ ปลูกเองดูแลเองนะเว้ย รดน้ำเองด้วย! ห้ามโบ้ยให้กู! โอเคป๊ะล่ะ?”
จากที่แก้มป่องปิดปากเงียบจนมาถึงหน้าหอพัก มันก็ฉีกยิ้มแป้น------
รอแค่ 10 นาทีนายมะยมก็วิ่งลงมาพร้อมหนังสือเล่มหนึ่งในมือ แล้วเพื่อนสองหน่อก็เดินลึกเข้าไปในซอยกันต่อ
ระหว่างทางนายมะยมก็คุยฟุ้งกับนายศร.... เรื่องน้องกัส
นายศรก็อือออไปเรื่อย...ให้เพื่อนรู้ว่ายังฟังอยู่ แต่เนื้อความว่ายังไงนั้น นายศรไม่ได้จำเข้าสมองเลยสักอย่างเดียว
....
...
..
.
ต่อ...reply #47
ความร้อนเป็นศัตรูของจินตนาการ!!!
อนึ่ง: เรื่องนี้มันต้องยาว เรื่องนี้มันต้องจบช้า..... "ดิชั้นรู้สึกได้" :laugh:
-
จบช้าบ่เป็นหยัง
ขอให้จบเถอะค่า
ว่าแล้วตอนนี้ศรตามใจมะยมมากจริงๆ แทบไม่ขัดใจเลย
-
ตอนนี้อ่านแล้วนี่หน่า ลบออกและลงใหม่เหรอคะ :really2:
รู้สึกจะมีอีกตอนด้วย หรือต้องการเปลี่ยนเนื้อหาอ่ะ
ยังไงก็รอค่ะ
-
ตอนนี้อ่านแล้วนี่หน่า ลบออกและลงใหม่เหรอคะ :really2:
รู้สึกจะมีอีกตอนด้วย หรือต้องการเปลี่ยนเนื้อหาอ่ะ
ยังไงก็รอค่ะ
ครับผม เมื่อวานลงแล้วลบ---- เนื่องจากผู้เขียนแก่มาก ลืมพิมพ์เรื่องวันอาทิตย์ โผล่ไปวันอังคารเลย 55555+
อีกอย่าง....เปลี่ยนเนื้อหาด้วยอ่ะค่ะ
พอดีตอนดึกเมื่อวานพิมพ์บทจบแล้วมันไม่เข้ากัน เลยลบแล้วเอามาปรับใหม่จ้า
นี่ละคือสาเหตุว่ามันต้องช้ามาก จนผิดปกตินะคะ
พิมพ์แล้วลง ปึงๆ ไม่ได้ เนื่องจากฉากเชื่อมกับตอนจบมันยังไม่เกิดอ่ะ *0*
ปล. เปลี่ยนเป็นเรื่องเศร้าได้มะคะ.... ทางนั้นถนัดกว่า 55555+
ขอกันกลางอากาศเลยตรู
-
....
...
..
.
นายศรเดินเข้าไปในบ้าน แต่ไอ้ยมยังไปคุยเล่นกับยายข้างบ้านของนายศร....
ไอ้ยมมันหน้าตาเป็นมิตร แถมยังชอบผูกมิตรกับคนเค้าไปเรื่อย
ถึงแม้เป็นคนดี แต่การเป็นคนดีมันก็มีโทษในแบบของมัน----นั่นเพราะ “คนดี” กับ “ความรัก” ....เป็นสิ่งที่ไปด้วยกันไม่ได้ (?)
‘พี่ยมเป็นคนดีนะครับ แต่เราคงไปด้วยกันไม่ได้’-----ประโยคคลาสสิคที่ไอ้ยมเจอบ่อย มันเอามาเล่าทีไรไอ้ศรก็ขำมันทุกที
ไม่ใช่ว่าเด็กๆ เค้าชอบคนเลวอะไรหรอก.... นายศรคิดว่า มันก็แค่จับขั้วไม่ตรงกันเฉยๆ คนที่นิสัยเสียหน่อยๆ เจอคนดีมันก็แค่ชอบ ....ไม่ใช่ “โดน”
ดังนั้น อย่างไอ้ยมมันต้องเจอคนที่ “ดีโคตรๆ” ขั้วมันถึงจะตรงกัน
....
...
..
.
นายศรก้มหน้าแปลความลงในสมุดฉีกยิกๆ แปลไปได้ครึ่งตอน ไอ้ยมก็เดินมา นายศรเงยหน้ามอง “มึงไม่รีบปลูก เดี๋ยวแม่งก็ดึก แล้วในมือมึงนั่น...อะไรอีกวะ?”
“อ๋อ ใบย่านางเว้ยมึง ยายเค้าแบ่งมาให้ เดี๋ยวกูต้มให้มึงนะ” พูดจบไอ้ยมก็เตรียมเดินเข้าไปในครัว
นายศรรีบร้องยั้ง “มึงไม่ต้องเลย ไปปลูกผักมึงโน่น!”
“ไม่ปลูกแล้ว ไว้อาทิตย์หน้า ยายเค้าบอกว่าเดี๋ยวซื้อกระถางกับดินกับปุ๋ยมาก่อนค่อยปลูก” ไอ้ยมวางใบย่านางลงไปในอ่างล้างจาน เปิดน้ำ แล้วถกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาจนเลยข้อศอก
“ดินบ้านกูก็มี มึงจะไปลำบากยายเค้าทำไมวะ” นายศรเป็นเง็งอีกคำรบ
“ไอ้คนไร้น้ำใจ ผักมีเป็นถุงๆ มึงจะปลูกแดกคนเดียวรึไง เพื่อนบ้านมีก็รู้จักทำกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์กับเค้าบ้าง..........” แล้วไอ้ยมก็บ่นนายศรต่อพร้อมกับเด็ดใบย่านางล้างน้ำไปด้วย
นายศรหันหน้ากลับมาที่การ์ตูน...ตั้งใจกับงานแปลที่เหลืออีกครึ่ง นายศรไม่ได้ปิดหู แต่ก็ไม่สนใจฟังคำที่ไอ้ยมบ่นด้วย------ ปล่อยมันไป เดี๋ยวแม่งพูดจนเหนื่อยมันก็หยุดเอง
....
...
..
.
นายมะยมต้มใบย่านางเสร็จ วางพักไว้บนโต๊ะกินข้าว จากนั้นก็เดินมานั่งกับเพื่อน เห็นเพื่อนยังนั่งนิ่งและตั้งใจกับงานตรงหน้า นายมะยมจึงนั่งเฉยๆ ไม่กวนใจเพื่อน...แต่แล้ว พอมองหน้าเพื่อนได้สักแป๊บ นายมะยมก็คิดอะไรขึ้นมาได้!
“เมื่อวันเสาร์ ใครไปส่งกูที่ห้องวะ?”
ศรเงยหน้าขึ้นมามอง “ไอ้กันกับเพื่อนเขย ไมวะ? จำไม่ได้?”
“เออว่ะ...เหมือนว่า------” นายมะยมพูดค้าง และไม่ได้พูดต่อ
นายศรโดนสะกิดต่อมเสือก “เหมือนเหี้ยไร มึงอย่ามายั่วกู เอาให้จบ เอาให้จบ”
“.......” นายมะยมจ้องหน้านายศรสักพัก ก่อนจะถามว่า “มึงบอกกูก่อนว่าใครไปส่งกูที่ห้อง?”
“ไอ้กระเบื้อง! กูจะตรัสรู้มั้ย!” นายศรเริ่มหงุดหงิด
“สำคัญมึง สำคัญ ต้องรู้อันนี้ก่อน กูถึงบอกมึงได้!” นายมะยมทำหน้าเอาจริงเอาจัง
นายศรหยิบมือถือที่วางอยู่ใกล้มือมากด และรอสาย..... นายมะยมขมวดคิ้วกับการกระทำของเพื่อนตัวเอง “มึงโทรหาใคร? กูถามมึง มึงก็ตอบกูดิ”
“เหี้ย! กูก็เมาเป็นหมา จะตรัสรู้มั้ย? ที่มึงถามกูมันต้องถามไอ้คนที่เอากูมาส่ง....” นายศรบอกนายมะยมยังไม่ทันจบประโยค ปลายสายก็รับสายขึ้นมาก่อน นายศรจึงเปลี่ยนไปคุยกับอีกคน
“ไอ้กัน! วันเสาร์ใครพาไอ้ยมไปส่งที่ห้องวะ?” นายศรถามอย่างไม่อ้อมค้อม
‘ฮ่าฮ่าฮ่า..... มันเดินขึ้นไปเอง กูจะขึ้นไปส่งอยู่ แต่แม่งก็เดินเป๋ขึ้นไปเองว่ะ ไมวะ?’ นายกันบอกและย้อนถาม
“ไอ้กันบอกว่ามึงเดินขึ้นไปเองว่ะ” นายศรหันมาบอกนายมะยม
“ไม่ ไม่...ไม่มีทาง กูหลับเป็นตายตั้งแต่คืนนั้น มาตื่นเอาเช้าวันจันทร์ จนไปทำงานสายฉิบหายเนี่ยนะ...ไม่ใช่แน่ๆ...แถม-------” นายมะยมเถียงคอเป็นเอ็น
นายศรเปลี่ยนมาเปิดลำโพง
‘มึงมีไรวะ ใครทำไรมึงเปล่า?’ นายกันถามด้วยเสียงเป็นห่วง
นายศรมองหน้าเพื่อนตัวเองนิ่ง....พลางลุ้น
“......พวกมึงอย่าหัวเราะกูนะ” นายมะยมขอคำสัญญา
“อื้ม!” / ‘เออ!’ สองเสียงประสานกัน
นายมะยมเกาหัวแกรกๆ ..... พลางคิดตัดสินใจว่าจะเล่าให้เพื่อนฟังดีมั้ย?
....
...
..
.
หลายอึดใจแล้ว นายศรเริ่มของขึ้น นายศรยกมือถือขึ้นมา หันหน้าจอไปทางนายมะยม และเอานิ้วเคลื่อนไปหาปุ่ม “ปิด” อย่างเชื่องช้า
นายมะยมทนการไซโครจากเพื่อนไม่ไหว....เพราะตัวเองก็อัดอั้นแทบแย่อยู่แล้ว เขาจึงรีบโพล่งไปก่อนที่นายศรจะกดตัดสายกับนายกันว่า---- “มีคนลักหลับกูว่ะ!”
“เหี้ยแล้ว!” / ‘เจ๋งว่ะ!’ สองเสียงประสานในความเห็นที่ต่างกัน
....
...
..
.
ต่อ...reply #50
-
สองเสียงประสานสุดท้ายฮามาก
"เหี้ยแล้ว" "เจ๋งว่ะ" ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นใคร
มะยมโดนเจ้านายปล้นจูบซะแล้วมั้ง
ปล.รับทราบแล้วค่ะ และรอตอนต่อไป
-
น่าสงสารพี่(มะ)ยม ไม่รู้โดนใครลักหลับ
ฮิฮิฮิฮิฮิฮิฮิ~
ทำไมพี่ศรถึงไม่จำเรื่องของพี่มะยมกับน้องกัสล่ะค๊าา~ คิดไรป่ะเนี่ยย กิ้วๆๆๆๆๆ
ละที่ไม่ยอมช่วยพี่มะยมดูแลผักน่ะ อยากให้เจ้าตัวเค้ามาดูแลผักเองแน่นะ ไม่ใช่ว่ามาดูแลเจ้าของห้องที่ปลูกผักนะ คิกคิก
มาต่อเร็วๆนะค๊าา คิดถึงจังเบ้ยย~
-
....
...
..
.
“ไอ้กัน! ไอ้เลว! มันใช่เรื่องน่ายินดีมั้ย!” นายมะยมถล่มเพื่อนตัวเอง
‘โรแมนติกดีออกมึง! มีคนมาแอบชอบมึงเชียวนะเว้ย!.....ว่าแต่มึงโดน “อ๊ะ” หรือมึง “อ๊ะ” เค้าวะ?’ นายกันถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ ‘อ๊ะ’....เหี้ยไรวะ ศัพย์ดาวไหนของมึง” คิ้วนายศรขมวดปม
‘ศัพย์ดาวเชษฐ....ฮ่าฮ่าฮ่า....’ นายกันหัวเราะร่วน
“ไม่ใช่....ไม่ได้ถึงขนาดนั้น...” นายมะยมเป็นคนดาวเชษฐจึงรู้ความหมายของนายกันได้ทันที ว่าแล้วเขาก็แก้ต่างความเข้าใจผิดของเพื่อน และเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเท่าที่จำได้ให้เพื่อนๆ ฟัง
“ตอนขึ้นลิฟท์กูรู้สึกเหมือนจะอ้วก พอประตูเปิดกูก็รีบเดินออกไป กูจำได้แค่กูยืนพิงกำแพงอยู่....อีกทีก็เหมือนมีเสียงกระซิบดังอยู่ในหัว แล้วตื่นมาอีกทีก็เช้าวันจันทร์เลย...ตอนนี้เสียงนั่นแม่งก็ยังดังอยู่เลยว่ะ” นายมะยมบอก
‘กระซิบว่าไรวะ?’ นายกันถาม
“เค้าบอกประมาณว่า นอนพักนะครับ...งี้อ่ะมึง” นายมะยมบอกเสียงเครียด
‘ครับเหรอ?.... งั้นก็ผู้ชาย โชคดีของมึงว่ะ ไอ้ยม’ นายกันพูดด้วยเสียงปนอิจฉาเล็กน้อย
นายศรที่เงียบและฟังอยู่นานอดเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัยขึ้นมาไม่ได้ “แล้วมันลักหลับมึงยังไง?”
“ก็..........” นายมะยมลากเสียงยาวพูดไม่ออก หน้าเริ่มร้อน “.......จุ๊บง่ะ”
‘จูบเหรอ?’ นายกันถามย้ำ
“ป่าว...กูบอกว่า จุ๊บ ไม่ใช่ จูบ....ไอ้กัน มันไม่เหมือนกันนะเว้ย” นายมะยมย้อนเพื่อน
“ตรงไหน?” นายศรถามหน้าเครียด
นายมะยมทำหน้าเบ้ และค่อยๆ ยกมือขึ้นมาขี้ที่หน้าผากข้างซ้ายของตัวเอง
“ไอ้เหี้ย! จุ๊บหน้าผาก บ้านมึงเรียกว่าลักหลับเรอะ!” นายศรถวายขนมเพี๊ยะให้ไอ้ยมด้วยความหมั่นเขี้ยวโดยไม่หยุดมือ
เสียงโอ๊ยโอ๊ยของนายมะยมดังผสมกับเสียงหัวเราะงอหายของนายกัน
....
...
..
.
หลังจากศรที่แปลงร่างเป็นยักษ์ได้คืนสติกลับมาเป็นเพื่อนคนเดิมแล้ว นายมะยมก็รีบขอตัวกลับห้องตัวเอง แต่เพราะมัวคุยเล่นกันเพลิน มอไซด์ที่วิ่งในซอยจึงหมด....เวลาให้บริการ
เดือดร้อนให้นายศรต้องปั่นไปส่งที่หอ....และก็โดนบ่นอีกแล้ว*0*
....
...
..
.
นายมะยมลุกขึ้นจากเบาะหลัง และบอกลาเพื่อน
นายศรทำหน้าเครียดและบอกด้วยสีหน้าจริงจัง “มึงระวังตัวไว้มั่งนะเว้ย แม่งมันเป็นใครก็ไม่รู้ ปล่อยให้เข้าถึงตัวมึงง่ายๆ ...ไม่ดีนะมึง”
“เออ.... กูรู้น่า ใจว่ะ.....ไปนะมึง แต๊งค์ที่มาส่งด้วย!” นายมะยมพูดพลางยกมือที่จับหนังสือการ์ตูนโบกลาเพื่อน
นายศรส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วค่อยเลี้ยวรถกลับไปยังทางเดิม....
นายมะยมมองตามหลังเพื่อนไปจน...จักรยานหักเลี้ยวหายเข้าไปในซอยหนึ่ง
....
...
..
.
ไม่ใช่ว่าไม่กลัว.... แต่เพราะกลัวนี่ล่ะ ถึงบอกให้เพื่อนฟัง----- นายมะยมคิด
นายมะยมแหงนหน้ามองไปรอบลิฟท์----ไม่มีกล้องวงจรปิด
พอประตูเปิดที่ชั้น 6..... นายมะยมเดินออกมา และหันมองรอบตัว ----- ไม่มีกล้องวงจรปิดอีกเช่นเดิม
นายมะยมถอนหายใจยาว แล้วเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักของตัวเอง
ระบบรักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูหอ มีพอประมาณ และเข้มขึ้นในช่วงกลางวันที่ผู้เช่าต่างออกไปทำงาน ส่วนกลางคืนจะเข้มงวดแค่พอประมาณ
คนที่กระซิบและขโมยจุ๊บเขา อาจเป็นคนที่พักในหอนี้หรือจะเป็นคนที่เข้ามาหาคนรู้จักในหอนี้ก็ได้
นายกันสนุกกับความโรแมนติกแบบนี้....ทว่า ไม่ใช่สำหรับนายมะยม
นายมะยมคิดเหมือนที่นายศรบอก-----ใครก็ไม่รู้ ไม่รู้จัก....น่าขนพองสยองเกล้า
....
...
..
.
หากจะมีความรัก....นายมะยมอยากรู้จักอีกฝ่าย
....
...
..
.
หากจะให้อยู่ในฐานะคนถูกแอบรัก.... นายมะยมก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร----- ทั้งนี้เพื่อ “พิจารณา”
....
...
..
.
ถึงจะไม่หล่อ ไม่มีเสน่ห์ ไม่รวย ไม่เร้าใจ-----แต่นายมะยมก็ค่อนข้างที่จะเลือก...เหมือนกันนะ
....
...
..
.
-
....
...
..
.
“ขอบคุณครับพี่มะยม”
น้องกัสพนมมือไหว้พร้อมฉีกยิ้มกว้างจนนายมะยมต้องยิ้มตาม
“คร๊าบ ไม่เป็นไร.... แต่ตอนอื่นอาจช้าหน่อยนะ พอดีพี่มีงานด่วนเข้ามา” นายมะยมบอกน้องกัสไว้ก่อน...
ส่วนในใจนั้นบอกว่า ------ พี่ไม่ได้จะหายไปไหนนะครับ.... แค่อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ นะครับเด็กโง่
“อาทิตย์หน้าพี่ต้องไปญี่ปุ่น... กว่าจะว่างมาเจอกัสคง--”
นายมะยมยังไม่ทันพูดจบ น้องกัสก็ตะโกนขึ้นมาก่อน
“ญี่ปุ่น!”
“กัส! ชี่-----” นายมะยมเอานิ้วชี้ขึ้นมาตรงปาก เป็นสัญญาณให้หรี่เสียงเบาลงนิดนึง เกรงใจคนอื่นๆที่อยู่ในร้านหนังสือ
“.....อุ๊บ.....” กัสรีบเอาสองมือปิดปากตัวเองไว้ “----------อู้อี้อู้อี้---------”
กัสพูดอะไรสักอย่างที่ฟังไม่รู้เรื่อง แต่นายมะยมนึกขำกับอากัปกริยาของน้องกัส เขายื่นมือไปจับฝ่ามือของน้องกัสที่ป้องปากตัวเองเอาไว้แน่น “เอามือออกก่อนพูดสิครับ พี่ฟังไม่ออก”
มือของกัสติดไปกับมือของนายมะยม หน้าของน้องกัสแดงเรื่อๆ ด้วยความอายที่รู้ว่าตัวเองทำเรื่องเปิ่นไปซะแล้ว
“แหะ แหะ แหะ....” กัสหัวเราะแห้งๆ สักครู่ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ้อนว่า “พี่มะยม”....ลากหางเสียงยาว
นายมะยมยิ้มตาหยีและเลียนเสียงน้องกัส “น้องกัส”....ลากหางเสียงยาว
กัสหัวเราะอย่างอารมณ์และเริ่มเลียบเคียงถามนายมะยมว่าจะไปที่ไหนของญี่ปุ่น... ที่ที่ต้องไปติดต่องานอยู่ในเขตโตเกียว... น้องกัสเลยอ้อมแอ้มถามว่าจะสะดวกมั้ยหากน้องจะฝากซื้อของ
‘ถึงตายพี่ก็จะไปซื้อให้ครับ’----นายมะยมตอบในใจไม่ได้พูดออกไป
....นายมะยมทำทีเป็นว่าดูก่อนนะ แล้วให้กัสจดของที่ต้องการมาให้เขา.... และให้บอกด้วยว่าต้องไปซื้อที่ไหนยังไง น้องกัสเลยขออีเมล์ของนายมะยมไว้เพื่อนเอาละเอียดส่งให้ทีหลัง
หุหุหุ....ได้มาแล้ว เบอร์โทรศัพท์....และที่กำลังจะได้คืออีเมล์..... ส่วนอนาคตคือตัวและหัวใจของน้องกัส----- อีกไม่นานเกินรอ----นายมะยมวาดหวังไว้ในใจเงียบๆ....คนเดียว
ระหว่างที่น้องกัสก้มหน้าจดอีเมล์ของนายมะยมลงสมุดบันทึกของตัวเอง นายมะยมหันไปยักคิ้วให้เกลอ
น่าแปลก....แวบหนึ่งเขาเหมือนเห็นสีหน้าแปลกๆ แบบบอกไม่ถูกจากเพื่อน.... แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น
-----คงตาฝาดไป
....
...
..
.
ใกล้ได้เวลางานแล้ว นายมะยมขอตัวกับน้องกัสเพื่อไปทำงานช่วงบ่ายต่อ.... นายมะยมลุกเดินออกมาจากร้านกาแฟเล็กๆ ในร้านหนังสือนั้น เดินมาพ้นเขตร้านกาแฟนายมะยมก็หันหน้ากลับไปส่งยิ้มให้
น้องกัสที่ยังมองตามเขาอยู่โบกพร้อมส่งยิ้มหวานตอบพี่มะยมทันที... หัวใจนายมะยมแทบละลาย เขาไม่อยากไปทำงานเลย อยากนั่งมองหน้าน้องทั้งวัน
จู่ๆ............
“อุ๊บ!”
“อุ๊”
ร่างของคนสองคนชนกัน หนังสือตั้งหนึ่งหล่นใส่เท้าของนายมะยม... นายมะยมน้ำตาเล็ด.... เพราะหนังสือสองเล่มนั้นหนามาก!!
นายมะยมทรุดเข่ากองอยู่กับที่.... เสียงน้องกัสลอยใกล้เข้ามา “พี่มะยม! เป็นไรรึเป่าฮะ? พี่มะยม! พี่มะยม! พี่มะยม!”
นายมะยมจับมือที่กำแขนของเขาไว้ เขาพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด “พี่โอเคครับ ไม่เป็นไร”
นายมะยมมองรองเท้าหนังที่อยู่ด้านหน้าของตัวเองด้วยความขุ่นเคือง เขากัดปากแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขาเงยหน้ามองคนที่เดินมาชนเขาอย่างเอาเรื่อง
....
...
..
.
นายมะยมหันไปบอกน้องกัส “กัส พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วงนะครับ” พูดจบนายมะยมก็ก้มลงเก็บหนังสือหนาๆ สองเล่มที่แผ่อยู่บนพื้นขึ้นมา.... เขาส่งมันให้กับคนที่เดินชนเขา
อีกฝ่ายยื่นมือมารับหนังสือจากมือของเขาไป
นายมะยมก้มหัวนิดๆ ให้อีกฝ่าย
คนที่เดินชนเขาเดินเลยเข้าไปด้านใน และตรงไปทางโต๊ะชำระเงิน
นายมะยมมองตามหลังเขาไป สายตาเขามองเห็นศรที่เดินผ่านหลังคนคนนั้น ศรชี้ไปที่นาฬิกาเพื่อเตือนเขา นายมะยมรู้สึกตัวขึ้นมาและรีบหันหน้ากลับไปจะลากัส
“นิสัยไม่ดีอ่ะ ชนกัน ไม่ขอโทษกันสักคำ!” น้องกัสมองตามคนที่ถือหนังสือไปด้วยสายตาขุ่นเคือง
“พี่ชนเค้าเองครับ กัสอย่าไปว่าเขา.... ขอบคุณที่เป็นห่วงพี่นะครับ เดี๋ยวพี่ต้องรีบเข้างานแล้ว ไปก่อนนะ อ้อ...พี่รอเมล์กัสอยู่นะครับ อย่าลืมนะ” นายมะยมพูดพลางปลดฝ่ามือที่กำแขนตัวเองออกไปด้วยความเสียดาย...แทบแย่
“เดินดีๆ นะครับพี่มะยม” กัสร้องบอกตามหลังมา
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงบันไดมาและเดินเข้าไปสมทบนายศรที่ซื้อตั๋วรถไฟฟ้ารอไว้อยู่แล้ว พอนายมะยมเดินมาถึง นายศรก็ยื่นบัตรให้ นายมะยมรับไปถือและเอ่ยถามเพื่อนเสียงเครียดว่า “พ่อกูมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?”
“พ่อมึงอ่ะนะ.....” นายศรพูดค้างไว้ เพราะทั้งสองเดินมาถึงช่องสอดบัตรพอดี
นายมะยมเดินมาสมทบเพื่อนอีกครั้ง ที่บันไดเลื่อนซึ่งจะนำขึ้นไปยังอีกชั้น
“มาเมื่อไหร่กูไม่แน่ใจ แต่กูเห็นพ่อมึงมองจ้องมึงนิ่งเลยว่ะ” นายศรบอก
....
...
..
.
มาทำงานสาย! ----- หนึ่งคดี
....
...
..
.
กลับไปจะโดนคดีหลอกเด็กอีกมั้ย?----- นายมะยมยังสงสัย
ถึงการเป็นเกย์ไม่ใช่สิ่งที่เขาปกปิด แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องให้ไปคุยอวดได้.....
หัวหน้าจะคิดยังไงกับสิ่งที่เห็น----นายมะยมไม่รู้
แต่..... หน้าที่เรียบตึง ไม่มีการทักกันเลยเมื่อครู่-----ทำเอานายมะยมเสียวสันหลังวาบ สายตาของหัวหน้าเย็นยะเยือกยังไงไม่รู้บอกไม่ถูก
....
...
..
.
นายมะยมกับนายศรเข้าไปล้างหน้าที่ในห้องน้ำก่อนเดินเข้าไปในแผนก
ขณะที่รอหน้าแห้งอยู่นั้น เพื่อนก็ถาม “มึงชอบน้องเค้าจริงอ่ะ?”
“อื้ม!.... มึงว่ามีเปอร์เซ็นต์มั้ยวะ?” นายมะยมตอบและถามต่อ
“อื้อ.....มี เยอะด้วย” นายศรบอก
“หึหึหึ....... แหล่มที่สุด เนี่ยน้องกัสบอกจะฝากกูซื้อของจากญี่ปุ่น วันนี้กูได้เมล์มาด้วยนะเว้ย.... แม่งอยากได้หัวใจน้องกัสเร็วๆ ว่ะ อื้ม... มือนุ๊มนุ่มว่ะมึง คิกคิก” นายมะยมพูดไปหัวเราะไป และเดินฝันเฟื่องออกไปจากห้องน้ำ
สบายใจแล้ว ได้คำตอบเพื่อเสริมความมั่นใจจากเพื่อนแล้ว..... นายมะยมมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ-----วางแผนฉกหัวใจน้องกัส!
....
...
..
.
นายศรมองที่กระจก เขายิ้มคาไว้ที่มุมปากจนเพื่อนลับสายตาหายไป รอยยิ้มจึงหุบลง นายศรจ้องตาตัวเองนิ่ง
....
...
..
.
นายศรเปิดน้ำ แล้วกวักมันล้างหน้าอีกครั้ง
นายศรเงยหน้าขึ้นมองหน้าตัวเอง.....
....
...
..
.
เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ------ เสียงฝ่ามือของตัวเองตบที่แก้มของตัวเอง
แก้มที่ถูกตบแดงเพียงนิด ทว่าความรู้สึกที่ลอยล่องไปไกลถูกเรียกกลับคืนมาได้แล้ว.....
....
...
..
.
“ช่างมัน!” นายศรบอกกับตัวเอง----- มันเป็นคำสั่งกลายๆ
....
...
..
.
นายศรหันหลังให้กระจก.... เขาเดินออกไปจากห้องน้ำ กลับไปทำงานของตัวเองต่อไป
....
...
..
.
-
คำที่สี่
*** ยิ้มคุณมันสดใสก็จริง... แต่ผมอยากเป็นฮิตเลอร์
สั่งเก็บรอยยิ้มของคุณ...ให้มีเพื่อผมคนเดียว
----ก็ได้แต่คิด
--ก็ได้แค่คิด***
-
พนักงานหนุ่มสาวเดินกรูออกมาจากลิฟท์
นายศรเดินคุยมากับนายมะยม นายศรมองเห็นหลังของเพื่อน จึงรีบวิ่งตามไป และทิ้งให้นายมะยมเดินตามมาเอง
นายมะยมค่อยๆ เดินไหลไปกับฝูงคน แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนมาเหนี่ยวแขนเขาไว้.... นายมะยมหันหน้ากลับไปมอง
เด็กหนุ่มผมรองทรงแบบเทรนเกาหลี คิ้วกดคมเข้ม ปากสีชมพูดตามธรรมชาติ-----โดนใจอีกแล้วครับท่าน
จากที่อารมณ์เสียเมื่อครู่ นายมะยมฉีกยิ้มหวานและถามแบบสุภาพอ่อนโยน “มีอะไรให้ช่วยเหรอครับ?”
ชายหนุ่มกระพริบตาต้องเขา สักครู่ก็เอ่ยปากว่า “พี่....ไม่คุ้นหน้าผมเลยเหรอ?”
....
...
..
.
-
....
...
..
.
หน้าน่า “รัก” ขนาดนี้ หากเจอพี่ยมต้องจำได้สิครับ----- คิดแต่ไม่ได้พูด *0*
“เคยเจอกันเหรอครับ?.... พี่คงเบลอๆ ทำงานเยอะเลยจำไม่ได้ น้องอยู่แผนกไหนล่ะครับ?” นายมะยมถามด้วยรอยยิ้ม
“ฝ่ายจัดซื้อครับ พี่มะยมฝ่ายต่างประเทศ อยู่หอxxxxx ชั้น 6.... ถูกมั้ยครับ?” น้องเทรนเกาหลีถามอย่างละเอียดยิบ
นายมะยมผงกหัวให้ “ครับ”
“พี่มะยมเป็นคนที่จะต้องไปญี่ปุ่นกับหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศใช่มั้ยครับ? หรือเป็นคนอื่นที่ต้องไป?” น้องเทรนเกาหลีถาม
“อ๋อ พี่เองครับ จะฝากซื้ออะไรเหรอครับ” นายมะยม....ติดเหยื่อใส่ปลายตะขอ ----และหย่อน
“ไม่ฝากของครับ ขอฝากตัว” น้องเทรนเกาหลีส่งยิ้มหวานให้ --------พี่มะยมละลาย
....
...
..
.
ชายหนุ่มนี่คนเดินออกมาจากตึก พวกเขาเดินเลี้ยวเข้าไปในซอยแคบๆ ...... และเดินไปจนสุดปลายซอยนั้นก็มาทะลุถนนอีกเส้นหนึ่ง
พวกเขาเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง และเดินลึกเข้าไปในซอยที่อยู่ตรงหน้า.... พวกเขาเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวสีเขียว
ชายคนหนึ่งที่เดินนำมาตลอดเลือกที่นั่งตรงกลางร้าน เขาร้องสั่งเส้นเล็กต้มยำหนึ่งชาม และมองจ้องไปที่เด็กหนุ่มซึ่งเกาะติดมากับเพื่อนของเขา----ไอ้ยมเลี้ยงต้อยอีกแล้ว
“ป๋องเอาไรครับ?” นายมะยมถามอย่างใส่ใจ
“พี่มะยมกินไรล่ะครับ?” ป๋องเหมือนนึกไม่ออก
“อืม....ว่าจะกินข้าวสองหน้าน่ะครับ” นายมะยมบอก
“เอาเหมือนพี่ครับ” ป๋องบอกพร้อมรอยยิ้ม
อันที่จริงน้องป๋องก็เดินคุยแบบยิ้มไม่หุบมาตลอดทางนะ...... น้องป๋องคนนี้ เป็นคนของฝ่ายจัดซื้อที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นด้วยกัน เพื่อเลือกสินค้าตัวใหม่สำหรับช่วงปลายปี งานสองอย่างที่ผู้บริหารฝากไปตามและดูความเรียบร้อย เขากับหัวหน้าแบ่งกันไปคนละงาน จากที่วางแผนไว้คือเสร็จจากสองงานนี้แล้ว พวกเขาค่อยพาคนของฝ่ายจัดซื้อไปเลือกดูสินค้า จากนั้นค่อยเดินทางกลับ
น้องป๋องเพิ่งบรรจุมาได้ครบปี... และเหตุเนื่องจากเวลานี้ฝ่ายจัดซื้อยุ่งมาก คนอื่นที่ “ควรต้องไป” ไม่สามารถวางมือจากงานที่ถืออยู่ได้ ป๋องจึงถูกเลือกมาเป็นตัวแทนของแผนกจัดซื้อ... อย่างที่หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศบอก ฝากไปดูน่ะได้ แต่หากจะให้เลือกของว่าอะไรดี อะไรน่าจะขายได้....คนฝ่ายต่างประเทศไม่มีใครทำเป็นสักคน
ที่น้องป๋องมาหานายมะยมก็เพราะมาฝากฝังตัวกับเขา น้องป๋องเป็นกังวลมาก เพราะน้องป๋องพูดได้แต่ภาษาไทย เกิดมายี่สิบกว่าปีก็ไม่เคยนั่งเครื่องบินสักครั้ง ... น้องป๋องทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าไปแล้วจะหลง ไม่รู้ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง....สารพัดที่จะคิดมาก
พอไปพูดกับเลขาของหัวหน้าแผนก เธอก็แนะนำให้มาคุยกับคนที่ชื่อมะยม....
“พี่เค้าบอกว่าพี่ใจดี.... แล้วก็ใจดีจริงด้วย” น้องป๋องยกแก้วน้ำขึ้นมาดูด
ข้าวสองหน้าหมดแล้ว แต่คนตัวโตอย่างนายมะยมยังไม่อิ่ม... นายกันเริ่มสั่งจานที่สองไปแล้ว แต่ของที่สั่งยังไม่มา
นายมะยมมองหน้าเพื่อนที่นั่งตรงกันข้าม “ศร เอาบะหมี่แห้งป๊ะ แบ่งกัน สั่งพิเศษเนอะ”
ศรที่นั่งกินอย่างเงียบๆ มาตลอดคีบหมูกรอบอันสุดท้ายในชามเข้าปาก จากนั้นถึงบอกว่า “กูเพิ่งกินบะหมี่แห้ง มึงจะสั่งอีกทำเหี้ยไร? ถ้าอยากกินก็สั่งกินเองคนเดียวเหอะ!” แล้วก็เคี้ยวหมูกรอบในปากต่ออย่างเมามัน
เสียงหัวเราะคิกจากนายกันดังลอยขึ้น แต่พอบะหมี่น้ำของนายกันมาวาง นายกันก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเองต่อไป
“น้อง บะหมี่น้ำสองหน้า พิเศษนะครับ” นายมะยมหันไปสั่งพนักงานของร้าน
“พี่มะยม ผมคงต้องไปก่อนนะครับ ใกล้เวลาเข้างานผมแล้ว” น้องป๋องบอก
“ครับ ไว้เจอกันครับ” นายมะยมฉีกยิ้มหวาน
“ไปนะครับ พี่กัน พี่ศร” น้องป๋องกล่าวลาพนักงานรุ่นพี่อีกสองคนอย่างมีมารยาท
นายศรและนายกัน เงยหน้าส่งยิ้มให้---ตามมารยาท
ป๋องเดินไปจ่ายเงิน จากนั้นก็เดินออกไปจากร้าน........
“ไปแล้ว!” นายศรบอกเบาๆ
“อ๊ากกกกกก.... อาตี๋....กระชากใจว่ะ” นายกันครางฮือ
“กูจะฟ้องเพื่อนเขยว่ามึงคิดจะหากิ๊ก” นายมะยมแหย่เพื่อนตัวเอง
“ไอ้หมาหวงก้าง!” นายกันชมเชยเพื่อน
“มึงเอาน้องกัสไว้ไหน?” นายศรยิ้มมุมปากดูคล้ายเยาะเย้ย
“น้องกัสอยู่ในนี้” นายมะยมชี้ที่----ตำแหน่งของหัวใจ “ส่วนน้องป๋องอยู่ตรงนี้” นายมะยมชี้ที่ตาข้างหนึ่งของตัวเอง
----- น้องป๋องเป็นอาหารตาของนายมะยม
“ฮึ” นายศรออกเสียงในลำคอ
“ไร ไร ....อิจฉาล่ะซี่!” นายมะยมเย้ยเพื่อน
พอชามบะหมี่ถูกวางลง นายศรยันชามที่ว่างของตัวเองไปทางนายมะยม....
นายมะยมหยิบชามบะหมี่น้ำมาแบ่งใส่ชามว่างๆ ของเพื่อนแบบเท่ากัน พลางพูดว่า “น้องป๋องเพิ่งย้ายเข้าหอกูด้วยนะเว้ย น้องเค้าอยู่ชั้น 5 .....คิกคิกคิก แหล่มว่ะ”
นายกันเงยหน้าขึ้นมาจากชาม “ฮะ ฮะ ฮะ..... คงไม่ใช่คนที่ลักหลับมึงหรอกนะ”
นายศรและนายมะยมหันขวับไปมองหน้าเพื่อนตัวเอง
....
...
..
.
!!!!!!!
....
...
..
.
-
ญี่ปุ่น...... กลางเดือนพฤษภาคม
หมดช่วง Golden week ของญี่ปุ่นแล้ว พวกเขาจึงเดินทางมาเพื่อติดต่อและดูงาน... วันที่มาชายทั้งสามสวมเสื้อผ้าลำลองแบบไม่เป็นทางการ เพราะเข้าที่พักในช่วงบ่ายคล้อยเย็น ไม่ได้ทำงานทันที
นายมะยมและป๋องสวมกางเกงยีนส์เสื้อยืดและสวมแจ๊คเกตทับอีกที----เหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป
หัวหน้าสวมเสื้อเชิ้ตแบบไม่เป็นทางการ แต่ยีนส์ของหัวหน้าทำไมมันดูเหมือนกางเกงแสล็คนักก็ไม่รู้-----ยังไงก็เหมือนพนักงานออฟฟิช
...
..
.
ลงเครื่องมาปุ๊บก็ต่อแท๊กซี่ไปยังโรงแรมซึ่งจองไว้ หลังจากเอากระเป๋าวางไว้ในห้องแล้ว พวกเขาก็ออกมาหาที่ทานมือเย็นกัน
นายมะยมหาข้อมูลมาแล้ว เขาเอาสมุดจดออกมาให้หัวหน้าดู... หัวหน้าเอาไปดูสักัพก จากนั้นก็เดินไปหาพนักงานต้อนรับ....
นายมะยมชวนป๋องไปนั่งรอที่โซฟาหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้น... ป๋องดูนิ่งๆ แต่นั่นแหละ กำลังตื่นเต้นมากจนคึกไม่ออก....
หลังจากที่คุยกันวันนั้น ป๋องก็มาถามเรื่องของที่จะเอาไป ชุดใส่แบบไหนดี เอาอะไรไปบ้าง เตรียมยามั้ย เอามาม่าเข้าญี่ปุ่นได้มั้ย?------- สารพัดเก็บเอามาถาม แต่นายมะยมก็ชอบคุยด้วย .... เพลินตา เอ้ย ฟังเพลินดี
ห้องป๋อง...นายมะยมไปเยี่ยมมาแล้ว
ห้องนายมะยม...น้องป๋องไปกลิ้งเกลือกมาแล้วเช่นกัน
....
...
..
.
“เนื้อย่างมั้ย? วันนี้มีเวลา” หัวหน้าที่ถามข้อมูลเสร็จแล้วเดินมาถามพวกเขา
“แล้วมันมีข้าวให้ด้วยมั้ยครับ?” ป๋องถามหัวหน้า
“มีสิ สั่งได้” นายมะยมตอบแทนด้วยรอยยิ้มนึกขัน
“งั้นก็ไปกัน เดินไปนะ ไม่ไกลเท่าไหร่” หัวหน้าบอกเช่นนั้นแล้วเดินนำพวกเขาไป
อากาศวันนี้ค่อนข้างสดชื่น ไม่มีลมแต่เย็นสบาย ....
นายมะยมขี้ร้อนจึงไม่เอาเสื้อแจ๊คเก็ตลงมาด้วย
หัวหน้ายังคงใส่เสื้อตัวเดิมซึ่งเนื้อผ้าดูไม่หนาไม่บาง....หากเป็นผ้าเนื้อดี มันจะเหมาะกับสภาพอากาศได้หลายแบบ...
ป๋องเป็นคนภาคกลางไม่ค่อยได้เจออากาศหนาว มาเจอฤดูสบายๆ แบบเดือนพฤษภาคมก็บ่นอุบว่าเย็น
พวกเขามาญี่ปุ่นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมและจะกลับในช่วงสิ้นเดือนพอดี....จังหวะนี้พวกเขาอาจได้เจอทั้งลมฝนและวันฟ้าใสในคราวเดียวกัน... ถึงอย่างไรก็ดีกว่ามาในช่วงหน้าหนาวของที่นี่ล่ะนะ
....
...
..
.
นายมะยมเดินคุยกับป๋องไปเรื่อยๆ สักพักเขาก็เห็นหัวหน้าหยุดยืนอยู่บนทางเดิน.... คาดว่าน่าจะถึงร้านแล้ว เขาจึงเร่งเท้าไปสมทบ
....
...
..
.
เมื่อเข้าไปในร้านเสียงจอแจของผู้คนจึงดังลอดเข้ามาในหูของคนทั้งสาม...คนค่อนข้างเกือบเต็มแล้ว แต่พนักงานก็ยังถามเพื่อให้พวกเขาเลือกแบบที่นั่ง....โต๊ะแบบญี่ปุ่นหรือโต๊ะแบบตะวันตก
มะยมหันหน้าไปมองหัวหน้า หัวหน้าหันหน้ามามองเขา.... ต่างคนต่างไม่พูดอะไร
....
...
..
.
หัวหน้าหันไปบอกพนักงาน
นายมะยมยิ้มด้วยความดีใจ
พนักงานเดินนำพวกเขามายังด้านในของร้าน.....
....
...
..
.
“นั่งขัดสมาธิก็ได้นะป๋อง” นายมะยมบอก และตัวเขาก็นั่งในท่านั้นด้วยเหมือนกัน
ป๋องมองไปที่หัวหน้าและพี่มะยม....ป๋องยิ้มแหะแหะ แล้วชักขากลับมานั่งขัดสมาธิเหมือนพวกผู้ใหญ่
นายมะยมปรึกษาเรื่องชุดอาหารกับหัวหน้าสองคนเพราะป๋องขอสละสิทธิ์ที่จะเลือก เขาบอกแค่ว่าไม่ทานเนื้อวัว
นายมะยมจึงสั่งเนื้อหมูมาให้ป๋อง ส่วนตัวเองกับหัวหน้า....ลองเนื้อวัวกันหลายแบบให้สะใจ!
....
...
..
.
หลายปีก่อน ศรและมะยมเคยได้ตามหัวหน้ามาญี่ปุ่นครั้งหนึ่ง หัวหน้าที่ดุและน่ายำเกรงเวลาทำงาน...นอกเวลางานก็ยังเหมือนเดิม ไม่ค่อยพูด หน้านิ่ง เสียงเข้มดุ.....
ถึงกระนั้น หัวหน้าในสไตล์นอกเวลางานกลับมีสิ่งหนึ่งที่ศรและมะยมชอบ------พวกชอบลองชิม
นิสัยนี้เหมือนกันทั้งสามคน ศร มะยม และหัวหน้า....พวกเขาไม่ถือว่ามันเป็นสิ่งใด หากพอกินได้ พวกเขาลองหมด... ไม่ได้ใช้เงินของบริษัทด้วย เพื่อความสุขส่วนตัวก็ควรใช้เงินส่วนตัวสิ!
....
...
..
.
ถึงเรียกว่าหัวหน้า...แต่อายุหัวหน้าไม่ต่างจากนายศรและนายมะยมเท่าไหร่นัก---- แค่ 6 ปีเอง
หัวหน้าทำงานเก่งมาก....เข้าขั้นอัจฉริยะย่อมๆ
หัวหน้าเรียนจบมาสูงลิบ...ได้กระดาษแปะฝาผนังเกิน 4 ใบ
หัวหน้าพูดได้สี่ภาษา---- ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น....แถมยังคล่องทั้งพูด อ่าน เขียนเลยด้วย
หัวหน้ามีความยุติธรรมสูง ถืองานเป็นหลัก ไม่เคยเอาอารมณ์จากที่อื่นมาใส่ในงาน....
หัวหน้าซื่อสัตย์ มีอุดมการณ์..... หนักแน่น
หัวหน้าเหมือนไม่ให้สนิท แต่พอดูไปดีๆ แล้ว ลูกน้องสนิทกับหัวหน้าได้ เพียงแค่หัวหน้าไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบพูด---- แต่หัวหน้าเป็นผู้ฟังได้...และเป็นได้ดีด้วย (นายมะยมลองมาแล้ว)
หัวหน้าเป็นคนเร็วและคล่องตัวมาก ความรู้รอบตัวก็เยอะ.... มากกกกกกกก
....
...
..
.
ด้วยเหตุที่บรรยายได้อีกเยอะแยะนี้ ทำให้... จากเดิมที่บรรจุเข้าฝ่ายต่างประเทศมาได้ครึ่งปี นายมะยมก็คิดจะย้ายแผนก.... กลับเปลี่ยนความคิดไปเพราะหัวหน้าคนนี้นี่ละ
ห้าปีที่กรำงานกับฝ่ายต่างประเทศในฐานะพนักงาน และในเวลานี้----ผู้ช่วยหัวหน้าแผนก... ทำให้ศรและมะยมมีความห่างเหินกับหัวหน้าน้อยนิด.... ถึงไม่มีการพูดเล่นกับหัวหน้าอย่างสนิทสนม แต่พวกเขาก็รู้จักหัวหน้าตัวเองในลิมิตที่จำเป็นหมดแล้ว
งานหนัก แต่งานท้าทาย หัวหน้าดุและเข้ม แต่หัวหน้าตั้งใจปั้นพวกเขาให้มาถึงจุดนี้.... ศรและมะยมจึงทั้งเคารพ ทั้งนับถือ.... ในแบบของพวกเขา
นิคเนมของหัวหน้าที่นายมะยมตั้งขึ้นคือ-----พ่อกู
หากนายศรเรียกหัวหน้าเขาจะเรียกว่า-----พ่อมึง
------พูดแค่นั้นก็เป็นอันรู้กันว่าหมายถึงใคร
....
...
..
.
ต่อ...reply #71
-
:call:อ่ะต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆมาๆๆๆๆๆ
-
แน่นอนเลยงานนี้ หัวหน้าผู้เคร่งขรึมแน่ๆที่แอบชอบมะยม
:z2:
-
กลงใครเป็นแอบมองมะยมอยู่น้าาาาาาาาาาาา
ตอนนี้ใจมันเอียงไปอยู่ที่ศร
-
โฮ่ย ตัวเลือกมาเพียบ
ช้อยส์เยอะขนาดนี้เดาไม่ถูกเลยว่าใครกันแน่ที่ "กระซิบ" น้องมะยมของเรา
แต่ว่า ศร มาแรงแซงโค้งสุด *0*
หัวหน้ามาอันดับสอง ส่วนอาตี๋หล่อกับน้องกัสยังอีกไกล
แต่ก็ไม่แน่ๆ
-
กำลังสนุกเลย ดูมะยมน่าจะมีคนมาแอบชอบเยอะ
แต่อกหักกับเด็กๆ ซะงั้น
-
อย่าเศร้านะ ที่เราอ่านเพราะคนเขียนทำลิ้งค์ไว้ ว่าเป็นโหมดน่ารัก ไม่บีบตับนะตัวเอง o22
ช้าแค่ไหนเราก็รอ เศร้าในเนื้อเรื่องยังทนได้ มันก็เป็นสีสรรดี ขอแค่อย่าจบเศร้าละกัน ขอร้องคนเขียน จุ๊บๆ
นี่ใครจะคู่กับน้องมะยมเนี่ย มีคนเข้ามาเรื่อยๆเลย อยากรู้ใครจะเป็นตัวหลอก
ว่าแต่น้องมะยม ทำงานที่เดียวกับเขา ในเรื่องกระดาษหรือเปล่าคะ สั่งข้าวสองหน้าเหมือนกันเลย
เข้าไปอ่านเรื่อง แอบแล้ว แงๆ คนเขียนหลอกเค้า เศร้าอ่ะ แม้จะเข้าใจเหตุผล แต่มันก็เศร้านะเคอะ :a5:
-
แล้วใครจะคู่กับมะยมล่ะคะ
-
อ๊ากกก แอบเชียร์พ่อมึงนะ 5555
ส่วนนายศรนี่ก็มีสิทธิ์แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่
ส่วนอีกสองคน เด็กเกิ๊น ไม่ไหวๆ 5555
อย่างนายมะยมนี่ต้องเจอหัวหน้า คิคิ
-
ทายว่า หัวหน้า ฮะๆ เพราะ พูดน้อย ควรค่าแก่การกระซิบ
-
แล้วมะยมจะเลือกใคร
-
เลือกไม่ถูก :z2:
บวกเป็ด
-
มาลงชื่อ เชียร์หัวหน้าจ้า
-
โป้งค่ะโป้ง!
คุณคนเขียน [กระซิบ] หน่อยสิคะว่าใคร~~
อยากรู้ใจจะขาดดดดดดด
รอรอรอรอ นะคะ จุ๊บ~
ปล. เค้าชอบพี่ศรค่ะ!!!!! จุ๊บบบบ~~
-
ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน
ผู้เขียนกำลังจะไปทำหน้าที่น้องสาวที่ดีของเฮียซินอยู่ ..... :oni1:กับ Singular Khon Kaen Road show
คาดว่าวันอาทิตย์นี้..... หัวคงกลวงโบ๋ด้วยตัวอักษร.....และถูกแทนที่ด้วย "เฮียของน้อง" :กอด1:
จึงขออำภัยทุกๆ ท่านมา ณ ที่นี้
เรียนอีกครั้ง.....
[กระซิบ] มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาจากเดิม (เปลี่ยนเมื่อวานค่ะ) ดังนั้น ฉากอันเป็นรอยต่อกับช่วงต้นและตอนจบจึงยังไม่บังเกิด..... รบกวนรอกันอีกสักพักนะคะ
เข้าใจกันน๊า :กอด1:
สุดท้ายขอขอบคุณทุกแรงใจทั้งรีพลายแอนด์ตัวเลขทุกๆ เลข
ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านคือแรงใจของผู้เขียนเสมอมา...และตลอดไป :pig4:
แสดงความเห็นได้...มอบอิสระให้ทุกๆ ท่านที่มาอ่านครับผม
พิมพ์เลยไม่ต้องกั๊ก o13
-
เลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว
-
ผู้เขียน:
ขอบคุณไฟฟ้าที่ดับจนเทียนหมดเล่มในเมื่อคืน .....
ขอบคุณที่ทำให้คนคนหนึ่งหลับไม่ลง
ขอบคุณความร้อนระอุที่ทำให้คนหนึ่งที่เพิ่งจะได้หลับต้องตื่น
ขอบคุณความเครียดจากงานที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องหนีมาในโลกไซเบอร์
เพราะมีสิ่งเหล่านี้ จึงมีอักษรมากมายด้านล่าง.....
....
...
..
.
สามวันในญี่ปุ่นหมดไปกับการวิ่งไปดูงานและดูสินค้าที่โรงงาน.... หัวหน้า นายมะยม และป๋องต้องไปด้วยกันทั้งหมด
สามวันที่น่าเบื่อของนายป๋องกำลังจะผ่านไป
วันพรุ่งนี้ ค่อนข้างสบายๆ สำหรับนายมะยมและหัวหน้า เพราะงานต่อไปคือการพาป๋องไปดูสินค้า.... ในทางกลับกันอาจเป็นวันที่น่าเบื่อของหัวหน้าก็เป็นได้
หือ?... นายมะยมน่ะเหรอ?
....
...
..
.
“หัวหน้าครับ พรุ่งนี้เสร็จงานของป๋องแล้ว ผมขอไปซื้อของฝากหน่อยนะครับ เราไปทางนั้นพอดีด้วย” นายมะยมเงยหน้าจากหม้อไฟขึ้นมาบอกหัวหน้าตัวเอง
“อือ” รับคำในลำคอและคีบเนื้อวัวเข้าปาก พอเคี้ยวและกลืนไปแล้วเขาก็ยกมือร้องบอกพนักงานเป็นภาษาญี่ปุ่น
“พี่มะยมจะไปไหนอ่ะ?” นายป๋องที่นั่งข้างๆ หันหน้ามาถาม
“นี่..” นายมะยมเอาแผ่นพับอันหนึ่งยื่นให้ป๋อง
“โหหหหหห....ไปด้วยน๊าาาาา” นายป๋องฉีกยิ้มกว้างและเขย่าแขนร้องขอ
นายมะยมทำหน้าบุ้ยใบ้ไปทางอีกคนที่กำลังรับจานเนื้ออันใหม่มาจากพนักงาน
“คุณภักครับ เสร็จงานพรุ่งนี้แล้วผมขอไปกับพี่มะยมด้วย....ได้ไหมครับ?” นายป๋องขอความเห็น
“........งั้นก็ไปด้วยกันหมด แล้วค่อยกลับพร้อมกันเลยละกัน” หัวหน้าพูดพลางค่อยๆ คีบเนื้อไปแกว่งในหม้อ
พอมันสุกแล้วเขานำมันเข้าปากโดยไม่จิ้มน้ำจิ้มอะไรให้เสียรสชาติความสดของมัน.... เขาเคี้ยวเนื้อในปากไปพลางมองดูลูกน้องในแผนกตัวเองและเด็กรุ่นน้องในออฟฟิศพูดคุยกันด้วยความตื่นเต้น
....
...
..
.
ญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เคยสนใจที่จะซื้ออะไรเป็นจริงเป็นจัง...ของฝาก เขาก็เลือกเอาจากที่ที่ผ่านทาง หรือไม่ก็ซื้อเอาตามร้านแถวโรงแรมที่ไปพัก
ครั้งนี้งานกดดันพอตัว ยอมรับเลยว่านอนไม่ค่อยจะหลับ...แต่ทุกอย่างก็ยังปิดจบได้โดยสวัสดิภาพ เขาจึงคิดว่าไม่เสียหายอะไรนัก หากเขาจะไปเดินเล่นบ้าง----คลายเครียด
....
...
..
.
ต่อ...reply #74
-
ต่อๆๆ
รอมาต่อนะคะ
-
:3123:
-
....
...
..
.
ย่านชอปปิ้งแหล่งใหญ่ของญี่ปุ่น คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ....
เนื่องจากเวลาที่พวกเขาสามคนมาที่แห่งนี้เป็นช่วงหลังเลิกงาน บรรยากาศจึงค่อนข้างคึกคัก.... แม้มัเวลาเดินดูของได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ระยะเวลานั้นก็เพียงพอแล้วที่จะให้ผู้ชายเค้ามาชอปปิ้งกัน
....
...
..
.
นายป๋องกับนายมะยม คล้องคอกันแบะฉีกยิ้มอยู่หน้าสี่แยกที่ปรากฏภาพอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่อง....
“หนึ่ง สอง สาม!” เสียงไฟจากล้องสว่างวาบ
“ขอดูหน่อยครับ ขอดูหน่อย” นายป๋องวิ่งกลับมาดูภาพที่หัวหน้าถ่ายให้ และวิพากษ์วิจารณ์กับนายมะยมอย่างเอาจริงเอาจัง
“หัวหน้า.....” นายมะยมสะกิดไหล่หัวหน้าตัวเอง
คนที่ถูกสะกิดเบนสายตาจากของที่วางโชว์ในร้านหนึ่งในบริเวณนั้นมาหาคนที่เรียกตัวเอง “ครับ”
“ขออีกแอ๊คนะครับ” นายมะยมยิ้ม....แบบเอาใจ แบบขอความเอ็นดู
คนที่ถูกร้องขอถอนหายใจอย่างเอือมระอา แต่แล้วก็ยังรับกล้องมาไว้ในมือ พร้อมพูดด้วยเสียงเฉียบขาดว่า “ครั้งสุดท้ายแล้วนะ”
....
...
..
.
จุดสุดท้ายที่นายมะยมและนายป๋องถ่ายรูป.... แต่ไม่ใช่ภาพสุดท้ายที่พวกเขาต้องการถ่าย หนุ่มๆ เค้าคลีเอทท่ากันเต็มที่ เลยต้องมีการถ่ายหลายเทค---มาก
....
...
..
.
“หนึ่ง สอง สาม” เสียงพูดรัวเร็วและเสียงไฟก็สว่างวาบแทบจะในทันทีที่คำพูดสุดท้ายหลุดออกจากปาก
ไร้ปัญหาว่าแอ๊คท่าไม่ทัน เพราะท่านั้นตกลงกันและตั้งท่าเตรียมไว้นานแล้ว ก่อนร้องบอกให้เขาถ่ายให้
เขายื่นกล้องให้คนที่เดินมา และเอามือทั้งสองข้างของตัวเองล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง.... วันนี้อากาศเย็นพิกล เขาคิดว่าอาจมีฝนเทลงมาได้....เมื่อไหร่ก็ไม่แน่
คนอื่นอาจร้อนหรือว่าอากาศตอนนี้กำลังดี แต่เขาเป็นขี้หนาว แค่แอร์ในห้องทำงานก็หนาวได้แล้ว... เขายินนิ่งดมกลิ่นชื้นของน้ำที่เริ่มลอยมาในอากาศ อยู่ดีๆ ก็มีคนเดินมาชิดไหล่เขา และบอกว่า “ยิ้มครับ”
เขาหันหน้าไปด้านข้างเพื่อมองคนที่พูด..... คนนั้นหันไปอีกทาง และฉีกยิ้มเหมือนกำลังสนุก
เสียงไฟจากกล้องถ่ายรูปสว่างวาบ..... เขาหันขวับไปยังข้างหน้าทันที
“ว๊า------- เอาใหม่ๆ คุณภักหันหน้ามาทางนี้สิครับ... เอาน๊า...เตรียม หนึ่ง สอง สาม ยิ้ม!” นายป๋องร้องบอก
....
...
..
.
แสงไฟสว่างวาบมาอีกครั้ง แล้วคนที่ยืนข้างๆ ก็เดินไปหาคนที่ถ่ายรูปให้ พวกเขาสำหรับตำแหน่งกัน และเขาก็ต้องยืนถ่ายรูปกับอีกคน
....
...
..
.
เสร็จจากรูปนั้น ก็ต้องถ่ายร่วมกันสามคนอีกสองสามใบ----กดเผื่อเลือก
....
...
..
.
การบันทึกภาพเป็นที่ระลึกจบลง และการเดินทางชอปปิ้งก็เริ่มขึ้น
เขาไม่มีจุดหมายปลายทางหรือเป้าหมายว่าจะไปที่ไหนซื้ออะไร...จึงเดินตามอีกสองคนไปเรื่อยๆ หยุดดูของที่น่าสนใจและเตะตาตัวเองบ้างในบางครั้ง
....
...
..
.
พอเดินเข้าไปลึกขึ้น คนก็เยอะมากขึ้น... พวกเขาก็เดินเกาะกลุ่มกันเหนียวแน่นมากขึ้น
เขาเดินตรงกลาง มีนายป๋องอยู่ซ้าย มีนายมะยมอยู่ขวา หากใครจะเข้าไปดูร้านไหน ก็ให้ดึงคนที่เหลือตามกันไปด้วย
อันที่จริงถนนสายนี้ก็ไม่กว้างจนหากันไม่เจอหากพลัดหลงกันไป...นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดคืออุบัติเหตุมากกว่า.... อาธิ กระเป๋าเงินหาย หรือหนึ่งในกลุ่มหายตัวไปอยู่ในโรงพยาบาล เป็นต้น
....
...
..
.
“ป๋องอยู่ร้านนี้นะ เดี๋ยวพี่มา” นายมะยมบอกนายป๋องที่หูตาเป็นประกายกับของในร้านหนึ่ง.....
กางเกงยีนส์และเสื้อแจ๊คเกต ร้านนี้มีสไตล์และทำแบบเองจึงหาซื้อที่อื่นไม่ได้ นายป๋องเลยขอพี่มะยมจ่อมอยู่ในร้านนี้นานหน่อย
นายมะยมสอนนายป๋องไว้ว่า เวลาซื้อของทำอย่างไร แล้วก็ฝากเจ้าของร้านให้ช่วยดูให้ด้วยแล้ว จึงขอไปต่อที่ร้านอื่น
“หัวหน้าจะซื้ออะไรรึเปล่าครับ?” นายมะยมเดินเข้ามาถามเขา
เขาส่ายหน้า
“งั้นไปกับผมหน่อยนะครับ” นายมะยมบอก
เขาพยักหน้า และเดินเคียงไปกับนายมะยม....
....
...
..
.
นายมะยมมาถึงหน้าประตูของร้านหนึ่ง.... ทีแรกเขาก็ไม่คิดอะไร แต่พอเดินเข้าไปในร้าน และเดินตามนายมะยมไปที่---ชั้นวางของนั้น!!!!!!
....
...
..
.
“คุณจะซื้ออะไรไม่ทราบ?” เขากระชากปกคอเสื้อของลูกน้องตัวเองมากระซิบเสียงเข้ม
“อ๋าว ก็ซื้อไอ้นี่สิครับ” ลูกน้องของเขาชี้ไปที่ของบนชั้น
“ผมจะไปรอข้างนอก!” เขาปล่อยมือจากคอเสื้ออีกฝ่าย แล้วหันหลังจะเดินออกไปนอกร้าน ทว่า กลับถูกอีกฝ่ายคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิครับ! ช่วยผมเลือกก่อนสิ ผมเลือกไม่เป็น!” อีกฝ่ายบอกเขา
“ผมก็เลือกไม่เป็น! คุณอยากได้ก็เลือกเองสิ!” เขาตอบเสียงเฉียบขาด....เลือดกำลังจะขึ้นหน้า
“ไม่ได้อยากได้ครับ แต่จะซื้อฝากเค้า!” ลูกน้องของเขาบอกเหตุผล
“คุณชอบยังไงก็หยิบไปแบบนั้นเหอะ! ปล่อยผม!” เขากัดฟันกรอด
เขาพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากอุ้งมือนั้น.....เท่าไหร่ก็ไม่หลุด
“ให้เกย์เลือกหนังโป้ให้ผู้ชายเนี่ยนะ! เพื่อนผมมันก็อ้วกกันหมดสิครับ!” นี่คือเหตุผลสำคัญ
“คุณ!.....” เขาพูดไม่ออก
“น่านะ... ขอยื๊มความเป็นผู้ชายของหัวหน้าหน่อยนะครับ เลือกให้ผมหน่อย เอาแบบสาวๆ น่ารัก ไม่เอาวัยทำงาน ไอ้คนฝากมันบอกมางี้น่ะครับ” ลูกน้องเขาบอกแนวให้เขาพร้อมสรรพ
....
...
..
.
ต่อ...reply #78
-
กร๊าสสสส 555
ให้มันได้อย่างนี้สินายมะยมคนดี
ยืมความเป็นผู้ชายของท่านพ่อเลือกหนังโป๊ให้เพื่อน 55
ฮาจริงอะไรจริง
-
แล้วนายมะยมรู้ได้ไงว่าหัวหน้าไม่ใช่เกย์หัวหน้าอาจจะใช่ก็ได้นะ
-
>_____<
อะไรอะ อะไรอ๊าาาาา
ละถ้าหัวหน้าไม่ดูชาย-หญิงแล้วทำไงอ้า เอิ้กๆๆๆๆ
จะว่าไปคุณหัวหน้าก็น่ารักดีเนอะ *ยิ้มเขิล*
ปล. ขอบคุณ คุณคนแต่งด้วยนะคะ ถ้าไม่มีคุณคนแต่งเราคงไม่มีนิยายน่ารักๆอย่างนี้อ่านแน่นอน
ขอบคุณค่ะ จุ๊บบบบ~ :-[
-
....
...
..
.
นายมะยมดึงข้อมือเขาให้เดินตามเข้าไปในชั้นหนังสำหรับผู้ใหญ่.....
“เดี๋ยวผมไปเอาตะกร้าก่อนนะครับ” นายมะยมบอกแล้วเดินหายไป
....
...
..
.
เขาถูกทิ้งให้อยู่ตรงชั้นหนังสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งตั้งตะหง่านราวกับกำแพง.....
เขามองซ้ายมองขวาดูภาพที่อยู่บนปกพร้อมครวญคราวอยู่ในใจคนเดียวเงียบๆ
....
...
..
.
จะให้เลือกยังไง?
....
...
..
.
ไม่เคยดูของแบบนี้เหมือนกัน!
....
...
..
.
ถ้าจะให้เลือกขอเป็นชั้นที่อยู่ข้างๆ เหอะ!
....
...
..
.
“ตะกร้าครับ ไอ้นี่มันแผ่นละเท่าไหร่น่ะครับ?” นายมะยมเดินมาแล้วหยิบแผ่นหนังอันหนึ่งมาพลิกดูราคา
“ของแท้ก็แพงหน่อยล่ะ เอากี่แผ่นล่ะ” เขาถาม
“เท่ากันหมดมั้ยครับ?” นายมะยมหันหน้าไปถาม
“ไม่....แล้วแต่เรื่อง แล้วแต่ค่าย” เขาบอก
“ฮั่นแน่! ไหนว่าเลือกไม่เป็น” นายมะยมยิ้มยั่ว
“จะเอากี่แผ่น!” เขาถามเสียงเข้ม.... อยากออกไปจากตรงนี้เร็วๆ!
“หึหึหึ....เอาที่เด็ดๆ อ่ะครับ 10 เรื่องก็ได้” นายมะยมพูดกลั้วหัวเราะ
เขาฉวยตะกร้ามาถือแล้งเดินเข้าไปด้านใน เขาไล่ดูตามป้ายของแต่ละชั้นวาง---- ไม่มีหมวดหมู่ให้ดู ....
เขาจึงเดินไปถามพนักงาน โดยบอกว่า ขอแผ่นขายดี แนวเด็กหน้าตาน่ารัก ไม่เอาผู้ใหญ่ ไม่เอา SM ไม่เอาแอบถ่าย เอาของใหม่ของปีนี้เท่านั้น
พนักงานเดินนำเขามาที่แต่ละชั้นแล้วหยิบแผ่นตามที่เขาบอกประเภทมาใส่ให้ในตะกร้า.... เขาขอบคุณพนักงานแล้วเดินกลับมาหาลูกน้องของตัวเอง
“เอ้า! เอาไปเลือกเอง!” เขายื่นตะกร้าให้
“ไหน?” นายมะยมไม่รับตะกร้า แต่เอามาล้วงเข้ามาหยิบแผ่นหนึ่งไปอ่านบรรยายหลังปก เขาขมวดคิ้ว “ไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ ประโยคนี้คืออะไร?” นายมะยมชี้นิ้วที่ประโยคหนึ่งตรงกลางของคำบรรยายหลังปกดีวีดี
“ก็....แปลไทยว่าอะไรดีล่ะ....” เขาเอามือจับที่คางตัวเองพลางนึกเทียบคำ
“อ๊ะ...นี่หรือเปล่าครับ.....” นายมะยมเหมือนนึกคำออก
....
...
..
.
และโดยไม่มีใครทันรู้ตัว นายมะยมและนายภักดีก็เรียนภาษาญี่ปุ่นผ่านคำโปรยปกดีวีดีโป้กันเป็นนานสองนาน------ฮา
....
...
..
.
“เกินสิบแล้ว” เขาบอกอีกฝ่าย
“คนนี้น่ารักเนอะ” นายมะยมมองผู้หญิงที่สวมแค่กางเกงชั้นในตัวจิ๋วบนหน้าปกดีวีดีด้วยสายตาเคลิ้ม
เขายื่นหน้าไปดูหน้าที่ “น่ารัก” ตามที่ลูกน้องตัวเองบอก..... เขาอ่านชื่อของนักแสดงเอวี----Risa Tsukino
เขาเงยหน้าจ้องลูกน้องตัวเอง....สักพักฝ่ายที่มองดีวีดีตาเยิ้มก็รู้สึกตัวว่าถูกมองจ้องอยู่
....
...
..
.
นายมะยมจ้องตาที่กำลังมองตัวเองเขม็ง
....
...
..
.
ด้วยความงุนงง??
....
...
..
.
แล้วจู่ๆ เขาก็นึกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้!
“ไม่ใช่ๆ คนที่ผมชอบเค้าหน้าตาเหมือนผู้หญิงคนนี้... ผม 100 % ครับ” นายมะยมบอกด้วยเสียงร้อนรน และการันตีความเป็นชายรักชายของตัวเองกับอีกฝ่าย
“ใครถาม?” เขาเบ้ปากแค่นๆ เหมือนไม่เชื่อ “ตกลงเอาหมดนี่ใช่มั้ย?”
“ไม่อ่ะครับ อันนี้ไม่เอา นี่ด้วย” นายมะยมหยิบดีวีดีสองแผ่นออกมาจากตะกร้า
เขามองตาม “สองแผ่นนั้นก็ดีนี่”
นายมะยมมองหน้าเขา และเอาหน้าปกพลิกกลับมาดู.... “ฮันแน่! ชอบแบบนี้นี่เอง....โอ๊ย!”
ฝ่ามือลงทัณฑ์กลางหน้าผากของนายมะยมอย่างแรงไม่มียั้ง!
“เอาไปจ่ายซะ!”
พูดจบตะกร้าก็ถูกอีกฝ่ายเสือกใส่เข้ามาใส่มือของนายมะยม
....
...
..
.
นายมะยมมองตามหลังของคนที่สวมเสื้อสูทสีเทาแกมกรมท่าเข้าชุดกับกางเกงไปด้วยรอยยิ้มขบขัน จากนั้นก็หิ้วตะกร้าเดินลึกเข้าไปยังชั้นที่อยู่ด้านใน
เขาไม่ได้มีความสนใจกับหนังผู้ใหญ่ชาย-หญิง
เป้าหมายของนายมะยมอยู่ชั้นวางด้านในซึ่งอยู่ข้างๆ กันต่างหาก-------ดีวีดีเกย์
....
...
..
.
นายมะยมยืนเลือกด้วยความตั้งใจและรวดเร็ว.... กับความชอบของตัวเอง แป๊บเดียวก็เสร็จ
....
...
..
.
นายมะยมเอาแผ่นของตัวเองใส่ลงในตะกร้าและเดินไปจ่ายเงิน จากนั้นก็ตามไปสมทบกับนายป๋องที่ร้านเดิม
ตอนที่เขาเดินเข้ามา เขามองไม่เห็นหัวหน้าของตัวเอง พอถามนายป๋อง ก็เลยรู้ว่าหัวหน้ากำลังลองกางเกงยีนส์อยู่
....
...
..
.
พรืด------ เสียงรูดผ้าม่าน ดังลอยขึ้น เขาหันไปตามเสียงนั้น
....
...
..
.
ใจนายมะยมกระตุกวูบ
....
...
..
.
กางเกงยีนส์สีดำแกมน้ำเงินเข้มรัดขาคู่หนึ่งแบบพอดีๆ ไม่มากจนเกินไป....หรือคนที่สวมใส่มันต่างหากที่มีขาซึ่งได้รูปอยู่แล้ว
เสื้อเชิ้ตสีขาวซึ่งก่อนนี้อยู่ในสูทตัวเข้มถูกนำชายของเยื้อยัดไว้กางเกงยีนส์ พอคนนั้นเดินเลยเขาไปที่ราวกางเกงยีนส์ บั้นท้ายในดวงใจของนายมะยมก็สะท้อนเข้าสู่ลูกนัยน์ตาของเขา
กลมได้รูป ยกกระชับน่าจับ พอมาหุ้มด้วยกางเกงยีนส์นั้นด้วยแล้ว----นายมะยมถึงกับลืมหายใจไปเลย
....
...
..
.
-
....
...
..
.
“โห คุณภัก ขาสวยมาก พอดีเด๊ะเลย” นายป๋องชมและเดินเข้าไปลองของตัวเองต่อ
“ไม่ชอบเหรอครับ ผมว่าก็ใส่เหมาะนะ” นายมะยมเดินไปที่ราวกางเกงยีนส์
“มันก็พอดี เลยว่าจะดูสีอื่นด้วย” หัวหน้าตอบพวกเขาแต่ไม่วางตาจากราวกางเกงยีนส์
นายมะยมมองเห็นสีที่ชอบ เขายื่นมือไปจับที่ไม้แขวน มือของอีกคนที่วางทับที่หลังมือเขาพอดี
นายมะยมหันไปมองหน้าที่เรียบเฉยไม่เคยเปลี่ยนพร้อมบอกว่า “จะเอาสีนี้เหรอครับ?”
มือที่วางทับอยู่ด้านบนถูกดึงกลับไปและไล่ดูสีอื่นต่อ “สีสวยดี แต่ผมไม่ชอบ ใส่กับเชิ้ตไม่ได้”
นายมะยมยกไม้แขวนยีนส์ที่ตัวเองหมายตาขึ้นมาดูสักพักก็พูดว่า “ก็ใส่ได้นะครับ”
“ผมไม่ชอบ มันดูเหมือนใส่เล่นๆ” นายภักดีตอบอีกฝ่ายและหยิบยีนส์อีกตัวที่อยู่ในราวออกมาดู
“เอาแต่สีดำมันก็ไม่ใช่ยีนส์สิครับหัวหน้า” นายมะยมมองอีกตัวที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้วอดท้วงขึ้นมาไม่ได้
นายภักดีหันหน้ามาหานายมะยม เขามองกางเกงยีนส์ในมือของอีกฝ่ายสลับกับหน้าของอีกฝ่าย สองสามครั้ง จากนั้นจึงบอกอีกฝ่ายว่า “ถ้าคุณชอบก็เอาไปสิ ผมชอบของผมแบบนี้”
นายมะยมส่งยิ้มให้ “สีสวยเนอะ งั้นผมอิ๊บตัวนี้นะ หัวหน้าเปลี่ยนใจทีหลังไม่ได้นะครับ”
นายภักดีไม่ตอบอะไร เขาเอาหน้าที่ไม่เปลี่ยนอารมณ์เลยของตัวเองกลับมาเลือกกางเกงยีนส์ในราวนั้นต่อ... โดยพร้อมกับฟังสิ่งที่คนข้างๆ พูดจ้อไม่หยุดไปพร้อมกัน
....
...
..
.
ชายหนุ่มในชุดสูทสามคนเดินหิ้วถุงใหญ่ๆ มาเต็มสองมือกันถ้วนหน้า
ขากลับ พวกเขาเดินออกมาจากแหล่งท่องเที่ยวนั้นมาประมาณ 20 นาทีก็เข้าไปในร้านอาหารหนึ่งซึ่งนายมะยมหาข้อมูลเตรียมไว้ก่อนมา
มื้อเย็นกลายเป็นมื้อดึก.....
แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขา เพราะพรุ่งนี้กว่าจะเริ่มออกไปดูงานก็ช่วงบ่ายสอง แถมบริษัทที่จะไปก็อยู่ใกล้กับโรงแรมด้วย
พวกเขาจึงนั่งกินไปอย่างไม่รีบร้อน แล้วค่อยนั่งรถแท๊กซี่กลับที่พัก
ต่อ...reply #81
-
หัวหน้า ก็ เลือกไม่เป็นนี่นา
มะยมเอ๊ย .... ได้ดูหนังด้วยกันแน่ๆ ฮ่ะๆ
-
....
...
..
.
“เหนื่อยจังเลยยยย” นายป๋องวางถุงลงพื้นและพุ่งหลาวไปที่เตียง
“ไปอาบน้ำก่อน จะได้มานอนทีเดียว” นายภักดีบอกแล้วเดินเลยเข้าไปวางถุงที่มุมห้องใกล้กับกระเป๋าเดินทางของตัวเอง
นายมะยมที่เดินตามหลังมาเป็นคนสุดท้ายจึงต้องเป็นคนปิดประตูห้อง พอเขาเดินเข้ามาอยู่ดีๆ คนที่นอนบนเตียงก็ผุดลุกขึ้น “ไปแช่น้ำร้อนกันครับ!”
“ไม่เอา ร้อนจะตาย” นายมะยมบ่นพึมแล้วเดินเอาถุงไปวางตรงข้างๆ กระเป๋าเดินทางของตัวเอง
“พี่มะยม ไปด้วยกันน๊า น๊า .....ผมไม่กล้าไปคนเดียวอ่ะ” นายป๋องเดินมาเขย่าแขน
“ไม่อ่ะ พี่ร้อน ไปเองเหอะ” นายมะยมหลุดคอนเซปของการเป็นพี่ชายแสนดีเป็นการชั่วคราว.... นายมะยมเป็นพวกขี้ร้อน... อากาศวันนี้อ้าวสำหรับเขา หากมองอากาศให้ดีๆ แบบนี้หมายถึงอีกไม่นานฝนจะตก แต่ช่วงที่มันยังไม่ตกนี่ละตัวดี----ร้อนบรรลัยสำหรับนายมะยมเค้าทีเดียว
นายป๋องเปลี่ยนเป้าหมาย “คุณภัก ไปกับผมมั้ย?” ทำหน้าตาเว้าวอน
นายภักดีหันไปมองหน้าลูกน้องตัวเองสลับกับหน้าของรุ่นน้องในที่ทำงาน พลางนึกในใจ---- บทจะตามใจก็ตามใจไปหมด แต่บทไม่ชอบก็ไม่ทำซะงั้น!
“อื้อ.... เปลี่ยนไปใส่ยูคาตะไป” นายภักดีพยักหน้าเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
“เหรอ ได้ใส่ด้วยอ่ะ.... ว่าแต่มันใส่ไงอ่ะพี่” นายป๋องปลื้มใจที่จะได้ใส่ชุดคลุมแบบญี่ปุ่น แต่พอคิดได้ว่าไม่เคยใส่และไม่รู้ว่ามันใส่ยังไงก็เลยหันกลับไปถามพี่มะยม
“ก็ถอดให้หมดไม่ให้เหลือสักชิ้น แล้วก็ใส่มัน ผูกเชือก เสร็จ!” นายมะยมบอก
“ถอดหมดตั้งแต่อยู่นี่เลยเหรอ?” นายป๋องถาม เพราะคิดว่าควรไปถอดปราการด่านสุดท้ายที่ห้องแช่น้ำร้อน
“ถอดไปเลยเถอะ จะได้สะดวก เอาผ้าเช็ดตัวไปก็พอ จะอาบน้ำไปก่อนก็ได้ หรือไปอาบที่นั่นก็ได้” นายภักดีที่หายเข้าไปในห้องน้ำและเปลี่ยนมาใส่ยูคาตะเสร็จแล้วบอกนายป๋อง
“คุณภักอาบไหนล่ะครับ” นายป่องถาม
“ผมว่าจะไปอาบที่นั่นครับ” นายภักดีบอก
“งั้นผมเปลี่ยนเสื้อแป๊บนึงนะครับ” นายป๋องผละออกมาจากพี่มะยม เดินไปหยิบชุดของตัวเองและหายเข้าไปในห้องน้ำ
นายภักดีเดินมานั่งที่ปลายเตียง เขากดรีโมทและเลือกช่องหนึ่งมาดู
นายมะยมเอาของที่ซื้อมาจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางเสร็จ ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้
....
...
..
.
“คุณควรไปหน่อยนะ” เสียงจากคนที่มองทีวีดังลอยมา
“ไม่ล่ะครับ ผมไม่ชอบ มันร้อน” นายมะยมที่ถอดรองเท้าเสร็จแล้วและกำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกพูดตอบเขา
“อย่างน้อยก็ควรไปแช่เท้า วันนี้เดินกันเยอะไป” เสียงจากคนที่ยังไม่วางตาจากทีวีดังลอยขึ้นมาอีกครั้ง
“เดี๋ยวผมแช่ในห้องก็ได้ ไปกันเถอะครับ” นายมะยมถอดเสื้อเชิ้ตออกจากตัว พลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หลับตา ระบายลมหายใจด้วยความโล่งออก เสื้อที่สวมค่อนข้างระคายตัวเขาเพราะมันชื้นเหงื่อ พอผิวของลำตัวได้สัมผัสกับไอเย็นภายในห้อง เขาก็จึงอดไม่ได้ที่จะผ่อนลมหายใจ----เสียงดัง
นายมะยมรีบลืมตาขึ้นมาทันควันเมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสของผิวและผิวที่เหนือเท้าตัวเอง
“เจ็บนะครับ” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
“บวมขนาดนี้ สมควรที่จะไป ไปเปลี่ยนชุด!” คนที่เขาเท้ามาเหยียบหลังเท้าของนายมะยมยกเท้าตัวเองออกมา และ----สั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
....
...
..
.
ต่อ...reply #83
-
ก๊ากๆๆๆ :laugh: :laugh:
ให้หัวหน้าเลือกหนังโป๊ให้ นายมะยมนะ นายมะยม :m20: :m20:
-
....
...
..
.
ชายหนุ่มสามคนวิ่งฝ่าสายฝนเข้ามาในโรงแรมที่พวกเขาพัก....นั่นคือปัจจุบัน
แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่
วันนี้เป็นทำงานวันสุดท้าย แต่เป็นการสั่งลาประเทศนี้ด้วยความ....ทรหด
เริ่มด้วยการออกมาจากโรงงานที่พานายป๋องเข้าไปดูสินค้า ทีแรกอากาศก็โปร่งใสดี พวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะเดินไปที่ป้ายรถเมลกันเอง แต่แล้วเดินมาได้นิดเดียวท้องฟ้าก็เริ่มครึ้ม และท้องฟ้ายังไม่ทันมืดดีพวกเขาต้องวิ่งฝ่าฝนเม็ดโตมาที่ป้ายรถประจำทาง...
นายมะยมวิ่งมาถึงเป็นคนสุดท้าย.... ที่ป้ายมีนักเรียนและแม่บ้านจำนวนหนึ่งหลบฝนอยู่แล้ว นายมะยมจึงเหลือพื้นที่เพียงคลุมหัวไม่ให้เปียก...แค่นั้น
พอสักพักใหญ่แท๊กซี่ก็มา พวกเขาวิ่งขึ้นไปและไปต่ออีกที่.....
รถวิ่งมาถึงครึ่งทางก็เกิดเสีย พวกเขาต้องรอเปลี่ยนรถคันใหม่อีกเกือบชั่วโมง..... และเนื่องจากขาเข้าเมืองเกิดมีอุบัติเหตุ พวกเขาจึงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่รถจะกระดึ๊บพาพวกเขามาถึงโรงแรมที่พัก
จากการเผชิญความเย็นมาทั้งที่ตัวเปียกครึ่งหนึ่ง ขณะขึ้นลิฟท์มายังห้องพัก นายมะยมจึงจามติดๆ กันจนผิดปกติ และถูกนายป๋องและหัวหน้ารบเร้าให้ไปแช่น้ำอุ่นก่อนมานอน
....
...
..
.
นายมะยมเดินหน้าบูดเข้ามาในห้องแช่น้ำร้อน
ที่ด้านในนั้นมีคนสี่ห้าคนแช่ตัวอยู่ในบ่อใหญ่.... นายมะยมล้างตัวเสร็จก็เดินลงไปในบ่อน้ำอีกอันซึ่งทำเลียนแบบธรรมชาติ
นายมะยมเอนหลังพิงบ่อ โดยหันหน้าไปทางประตูเข้าออก... เขาหลับตา นั่งอยู่ในนั้นนิ่งๆ ----- กะว่าจะนับให้ถึงร้อยแล้วจะขึ้นเลย แต่พอนับได้ 52 เสียงประตูครืดก็ดังขึ้น
นายมะยมลืมตาขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
....
...
..
.
แล้วนายมะยมก็ลืมหายใจ----อีกครั้ง
....
...
..
.
ต่อ...reply #88
-
ท่านหัวหน้าภักน่าสงสัยจริงๆ
ได้แผ่นGV มาด้วย ก็ดูด้วยกันซะเลยสิ 555
-
หัวหน้าเริ่มมีบทมากขึ้นเรื่อยๆ
-
'พ่อ'ของพี่มะยมเนี่ยยยยยยยยยยย น่ารักจังเบยย
ไม่ดูชาย-หญิงแต่ก็ยังเลือกได้ ถ้าเป็นชาย-ชาย หลับตาเลือกก็รู้ใช่มั้ยว่าเรื่องไหนแจ่ม 555
ชอบ.. ชอบพี่มะยมใจกระตุก
เป็นแบบนี้กับ'พ่อ'บ่อยๆก็ดีนะคะ ....โคตรน่ารักเลย
แล้ว'พ่อ'จะทำอะไรให้นายมะยมคนนี้เค้าใจกระตุกอีก
กรี๊ด เขิลอาย~~
ไปนอนแล้วน้า เค้าจะไปฝันถึงบั้นท้ายคุณภักดี ฮี่ฮี่~~~
มารอต่อทูโมโร่วนะคะ นะคะ .. วันนี้ลาแล้ว ราตรีสวัสดิ์ค่า
จุ๊บ~~
-
มะยมใจกระตุกเพราะเห็นหัวหน้าแก้ผ้าป่ะเนี่ย
:laugh:
-
....
...
..
.
ชายคนหนึ่ง.....
....
...
..
.
ใบหน้าที่คุ้นตาเดินเข้ามา
....
...
..
.
เขาเดินพาร่างกายที่พร้อมไปด้วยกล้ามเนื้อสวยกระชับซึ่งระบายด้วยสีขาวเหมือนน้ำนมไปยังฝักบัวซึ่งมีไว้สำหรับให้ล้างตัวก่อนลงแช่ตัวในบ่อ
ชายคนนั้นหันหลังมาทางบ่อและหันหน้าไปหาฝักบัว
ผมที่เคยถูกเซ็ทเก็บอย่างเรียบร้อยเปียกน้ำ และมันก็ถูกเขาเสยขึ้นไป..... เป็นทรงคล้ายเดิมดูไม่ต่างกัน ทว่า ในความรู้สึกของคนมองนั้น-----มันช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นายมะยมมองคนคนนั้นอย่างไม่วางตา----โดยไม่รู้ตัว
....
...
..
.
ชายเจ้าของบอดี้ในฝันของนายมะยมเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดราวใกล้ๆ ไว้มาพาดบ่า และหันหลังเดินตรงมายังบ่อเล็กที่นายมะยมนั่งแช่อยู่-----คนเดียว
....
...
..
.
ร่างแน่นเนื้อและมีส่วนเว้าไปตามรูปกล้ามสวยกระชับนั้นค่อยๆ จมหายลงไปในน้ำอุ่นซึ่งใสแต่มัวด้วยไอร้อน
....
...
..
.
นายมะยมกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกใหญ่
....
...
..
.
คนคนนั้นนั่งอยู่ในตำแหน่งตรงกันข้ามกับเขา
....
...
..
.
ในห้องแช่น้ำนี้มีบ่อเล็กและบ่อใหญ่... เมื่อสามวันก่อนนายมะยมมาแช่เท้าก็เลือกแช่ที่บ่อเล็ก เพราะมีก่อที่นั่งให้แบบพอดีกับตัวเขาซึ่งน้ำจะท่วมแค่ระดับเอว
ทำให้เวลานี้เขาได้เห็นผิวกายท่อนของคนที่นั่งไม่ไกลกันกำลังเริ่มค่อยๆ เป็น-----สีกุหลาบ
....
...
..
.
แขนอันน้อยซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของนายมะยมเริ่มเคารพธงชาติ!!
....
...
..
.
นายมะยมรับเอาผ้าที่วางบนหัวลงไปบังมันไว้ พร้อมมือทั้งสองข้างของตัวเอง
....
...
..
.
เขามองคนที่นั่งตรงข้ามนิ่ง------นาน
แต่อีกฝ่ายมองเลยเขาไปเฉย คล้ายกับว่าไม่เห็นกันมากกว่าที่จะตั้งใจไม่ทักทายกัน
นายมะยมจึงลองเอ่ยปากทดสอบ ... “เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วเหรอครับ”
“อ้าว นั่นคุณหรอกเหรอ?” สีหน้าเรียบนิ่งเฉยนั้นพลันเปลี่ยนเป็นมีชีวิตขึ้นมาเล็กน้อย
“อ้าว มองไม่เห็นผมเหรอครับ?” นายมะยมลองถามอย่างที่สงสัย
“ผมถอดคอนแทคแลนส์ก่อนเข้ามาน่ะ เห็นแค่เบลอๆ” เขาบอกอีกฝ่าย
“เออ ผมไม่ยักรู้เลยว่าหัวหน้าสายตาไม่ดี ค่าสายตามากมั้ยล่ะครับ” นายมะยมชวนคุยด้วยหวังในใจว่า หากพอไม่คิดอะไรเลยเถิดสมบัติส่วนตัวจะหยุดเคารพธงชาติไปเอง
“ก็เยอะอยู่” หัวหน้าบอก
“แค่ไหนถึงเห็นล่ะครับ” นายมะยมชวนคุยต่อ....
เสียงเคลื่อนไหวของน้ำดังลอยมาพร้อมที่คนอีกคนเลื่อนตัวเดินมาหาเขา
....
...
..
.
หน้าท้องในฝันของนายมะยมซึ่งเป็นลอนสวยและกลายเป็นสีกุหลาบไปแล้วนั้น เวลานี้มันมาอยู่ตรงหน้านายมะยม...ในระยะแค่ยืดมือไปเพียงครึ่งหนึ่ง...ไม่ต้องสุดแขน เขาก็สามารถสัมผัสมันได้
....
...
..
.
นายมะยมลืมหายใจอีกครั้ง
....
...
..
.
เสียงจอแจของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเคยแช่ตัวอยู่ในบ่อใหญ่ดังเคลื่อนไปทางประตูเข้า-ออก แล้วก็เงียบไป
....
...
..
.
“ถ้าระยะนี้ก็เห็นชัด....ผมไปบ่อใหญ่นะ”
คนที่พูดเดินไปทางขอบบ่อ ขาสวยได้รูปลากขึ้นมาจากน้ำ และค่อยๆ พาร่างกายเดินไปยังบ่อใหญ่
คนคนนั้นยังไม่ลงไปในบ่อทันที เขาก้มมองอีกสักพักเพื่อความแน่ใจ และค่อยๆ หยั่งเท้าลงไปเหยียบ----ทีละก้าว
พาร่างกายตัวเองให้ค่อยๆ จมลงไปในน้ำที่มีควันจางๆ ลอยคลุ้ง------จนระดับน้ำถึงช่วงไหล่
เขาคงนั่งได้ที่แล้ว เพราะนายมะยมเห็นเขาแหงนหน้าพิงกับขอบบ่อ และเอาผ้าขนหนูที่ไหล่มาคลุมหน้า
....
...
..
.
คนในบ่อใหญ่เป็นคนในลัทธิชอบแช่น้ำร้อน---- แต่เขาไม่ใช่!
....
...
..
.
ผิดที่เขาเผลอมองมากเกินไป!
....
...
..
.
ผิดที่เขาคิดไปเยอะ!
....
...
..
.
ถึงเกลียดน้ำร้อนแทบตาย แต่นายมะยมก็ยังต้องนั่งแช่อยู่ในน้ำร้อนนั้น..... อีกเป็นนานกว่าที่ตัวเองจะหยุดเคารพธงชาติได้!
....
...
..
.
ช่างเป็นวันสั่งลาที่----ทรหดสุดๆ!!!!
....
...
..
.
ต่อ...reply #90
-
แล้วเราก็ได้รู้ความลับของคุณหัวหน้าที่มะยมไม่รู้ เหอ เหอ
-
คำที่ห้า
*** อยากดูแลคุณ...
...
..
.
“หายเร็วๆ นะครับ” -----อยากนำคำอวยพรนี้ไปบอกคุณด้วยตัวเอง
...
..
.
แต่ก็ได้แค่คิด...
...
..
.
ได้แต่คิด...
...
..
.
ได้ยินมั้ย? คำที่มันร้องอยู่ในใจผม...
...
..
.
คุณได้ยินมันมั้ย? ***
-
“ฮ๊าดชิ้ว!” เสียงจามขนานใหญ่ดังสนั่นลิฟท์
ผู้คนภายในนั้นหันมามองคนที่จามแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไป
นายศรที่ยืนอยู่ข้างๆ คนจามถวายมะเหงกให้ทีหนึ่ง แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
คนที่จามเมื่อครู่รับผ้าเช็ดหน้าไปและรีบเอามันผิดจมูกทันควัน----- “ฮั๊ดชิ้ว” เสียงฟังดูเบาลง
....
...
..
.
ติ๊ง! ------ลิฟท์เลื่อนลวมาถึงชั้นที่ 1
ผู้คนที่ยืนนิ่งอยู่ภายในเริ่มขยับ.... นายมะยมกับศรเดินไหลไปตามฝูงชนมนุษย์เงินเดือน
พอพ้นตัวลิฟท์มาได้ปุ๊บ ลิฟท์อีกตัวที่อยู่ตรงข้ามกันก็เปิดออก
เพื่อนสนิทของพวกเขาเดินออกมาจากลิฟท์ตัวนั้นเป็นคนแรก... เพื่อนทั้งสามต่างยกมือทักทายกัน
....
...
..
.
“ฮ๊าดชิ้ว!” เสียงจามขนานใหญ่ดังขึ้นโดยที่เจ้าตัวไม่ทันยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิด
“สกปรก! เชี่ยนี่! ไม่สบายแล้วยังมาแพร่เชื้ออีกนะมึง” นายกันพูดพลางยันไหล่ตัวเชื้อโรคไปห่างๆ
นายมะยมเซซัดเพราะไม่ทันตั้งรับ... นายศรรีบคว้าแขนไว้ได้ทันก่อนนายมะยมจะเซล้มลงไป
“มึงอย่าเล่น! มันเบลอไปหมดแล้ว!” นายศรหันมาดุเพื่อน
“อ๊าว! เป็นจริงจังเลยเหรอวะ?” นายกันหน้าหงาย
“ร้อนว่ะ ไปกินในห้างนะ” นานมะยมบอกเสียงอู้อี้
“มึงจะไปตากแอร์อีกเหรอ!” นายกันแย้ง
“มึงก็รู้ว่ามันขี้ร้อน ไปนั่งตามร้านเดี๋ยวแม่งเดี้ยงกว่านี้ ไปเหอะๆ ” นายศรบอกนายกัน และเดินนำพวกเพื่อนไปยังห้างซึ่งอยู่ใกล้ตึกที่ทำงาน
....
...
..
.
นายมะยมล้างหน้าระบายความร้อน.... เขาหยิบกระดาษมาเช็ดหน้า พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นคนสูงโย่งยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
“มีไรวะ ไอ้ไม้?” นายมะยมถาม
“ได้ข่าวมึงเดี้ยง!” นายต้นไม้ถาม
“ยังไม่ตาย...มาเอาของใช่ป๊ะ?” นายมะยมกลับหลังหันและเดินเข้าไปหา
“เออ...เอามากี่แผ่นวะ?” นายต้นไม้ถามด้วยเสียงตื่นเต้น
“อยู่โต๊ะกูว่ะ มึงตามกูมา” นายมะยมบอกแล้วเดินนำเพื่อนไปที่แผนกของตัวเอง
....
...
..
.
พอเขาจะเปิดประตูของแผนก เด็กผู้ชายตัวเท่าเข่าของนายมะยมก็วิ่งตื๋อมาแทรก
นายมะยมก้มหนัาลงมองสิ่งชีวิตตัวเล็กๆ
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ก็เงยหน้ามองเขา----เช่นกัน
....
...
..
.
‘หน้าคุ้นๆ วุ้ย’ *0* ------ นายมะยมคิดในใจ
....
...
..
.
“เปิดประตูให้หน่อยฮะ” สิ่งมีชีวิตเล็กๆ บอกเสียงแหลมเล็ก----- พี่มะยมใจละลาย :man1:
“คร๊าบบบบ จะไปไหนครับ มาหาใครเอ่ย” นายมะยมผลักเปิดประตูพลางถามเด็กน้อย
“มาหาคุณพ่อฮะ” เด็กน้อยพูดจบก็วิ่งตื๋อไปทางขวา พร้อมส่งเสียงร้องดังลั่น “คุณพ่อ!!!!!!”
นายมะยมมองตามเด็กน้อยไปด้วยรอยยิ้ม....แล้วนำเพื่อนไปที่โต๊ะของตัวเอง
“อ๊ะ ถุงนี้!” นายมะยมยื่นถุงกระดาษใบใหย่ให้นายต้นไม้
ทันทีที่นายต้นไม้รับถุงไป นายมะยมก็นึกขึ้นมาได้ “เดี๋ยวก่อนมึง!” เขาร้องเสียงดัง
“ไรวะ?” นายต้นไม้สะดุ้งโหยง
“มึงเอามานี่ก่อน! กูลืมเอาของตัวเองออกว่ะ” นายมะยมเอาถุงมาแล้วคุ้ย เขามองไม่ถนัด เลยเอาแผ่นหนังทั้งหมดออกมาจากโต๊ะ และเลื่อนหา...
“เจอแล้ว!” นายมะยมหยิบแผ่นของริสะจังออกมากจากในกองดีวีดีที่จะให้นายต้นไม้
“เห็นพ่อหนูมั้ยฮะ?” สิ่งมีชีวิตเล็กๆ เงยหน้าถาม
“อุ้ย!” นายมะยมสะดุ้งเฮือก
“ดูหนังเหรอฮะ ขอหนูดูด้วยนะฮะ” สิ่งมีชีวิตเล็กๆ กระโดดโลดเต้นมาเกาะขานายมะยม!
นายมะยมส่งสายตาให้เพื่อนช่วย
“ไม่ใช่การ์ตูนนะครับ เด็กดูไม่ได้ครับ” นายต้นไม้อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา
เด็กน้อยหันมามองหน้านายต้นไม้ “หนูดูหนังได้ การ์ตูนหนูก็ดูได้ หนูดูหนังกับคุณพ่อทุกวันเลย”
ระหว่างที่เด็กหันไปคุยกับนายต้นไม้ นายมะยมรีบยัดแผ่นของตัวเองไปไว้ในชั้นหนังสือข้างโต๊ะ และรีบเอาที่กองอยู่กลับใส่ลงไปในถุง
....
...
..
.
นายมะยมปาดเหงื่อ แล้วถาม “คุณพ่อหนูอยู่ไหนเอ่ย?”
เด็กน้อยที่ถูกนายต้นไม้อุ้มวางบนแขนข้างหนึ่งหันมาหานายมะยม “คุณพ่อไม่อยู่ที่ห้องฮะ ไม่รู้ไปไหน?”
“ห้องไหนครับ?” นายมะยมถาม
“ห้องโน้นฮะ ที่ประตูเปิด ห้องมืดตื๋อเลย...น่ากลัว น่ากลัว” เด็กน้อยพูดจบก็ซุกหน้าไปกับอกของนายต้นไม้
นายต้นไม้รักเด็ก----- ไม่มีทาง!..... นายต้นไม่เกลียดเด็กเข้าเส้นเลือด เจอเด็กมาซุกอก นายต้นไม้ถึงกับขนลุกซู่
นายมะยมรู้นิสัยเพื่อนดีจึงรับเด็กมาอุ้มไว้แทน
พอเด็กหลุดจากมือนายต้นไม้ เขาก็รีบคว้าถุงบนโต๊ะเพื่อนไปและบอกก่อนเดินไปจากตรงนั้นว่า “เท่าไหร่มึงค่อยบอกกูนะ กูไม่ไหวว่ะ ไปละมึง”
นายต้นไม้ที่สูงโย่งก้าวไม่กี่ก้าวก็ไปถึงประตู
“คุณพ่อหนูไปไหนฮะ?” สิ่งมีชีวิตเล็กๆ มองจ้องนายมะยม
“ห้องคุณพ่อปิดไฟอยู่เหรอครับ” นายมะยมพูดพลางเดินไปทางห้องหนึ่งที่ถูกเปิดประตูไว้ และไม่ได้เปิดไฟ ห้องที่มีป้ายหน้าห้องซึ่งเขียนด้วยตัวอักษรสีดำ บนกรอบสีทอง----- หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศ
นายมะยมชี้ไปที่ห้องมืดนี้แล้วถามเด็กน้อยให้มั่นใจอีกครั้ง “นี่ห้องคุณพ่อเหรอครับ?”
“ฮื้อ....มื๊ดมืด น่ากลัว น่ากลัว” สิ่งมีชีวิตน้อยๆ พยักหน้าและมุดกับอกของนายมะยม----ดูท่าคงไม่ชอบความมืด
....
...
..
.
ต่อ...reply #95
น่ากลัว น่ากลัว..... (หน่วงคืองานของเรา) :a12:
-
น่ากลัว น่ากลัว..... (หน่วงคืองานของเรา)
เตรียมตัวรับความหน่วง T T แต่อย่าหน่วงมากนะคะ
ขอให้ยิ้มๆ บ้างเถอะ ... กลัวเครียด
หนูน้อยคนนั้น ลูกคุณหัวหน้าเหรอคะ? จริงอ่ะ!!?? "โอ้ว!" (เอามือทาบอก)
ฮามากตอนมะยมให้หัวหน้าเลือกหนังโป๊ให้
กร๊าก
-
อ้าวๆ ไอ้หนู
จำผิดห้องปะเนี่ย
ขอเคลียร์ๆเลยนะ
ป.ล.ลดความหน่วงลงหน่อยก็ได้ค่ะ ขอแบบเบาๆ 5555
-
ปิดหูปิดตาไม่ยอมรับความหน่วง .. ไม่รู้ไม่ชี้ คิคิ
ลูก....พ่อมึง
อย่างงี้ครอบครัวสุขสันต์เลย พ่อ แม่ ลูก : ))))
-
....
...
..
.
เด็กน้อยนั่งเล่นกับนายมะยมอีกสักพัก ศรก็เดินเข้ามาพร้อมขวดใบหนึ่ง
ศรวางมันลงที่โต๊ะของนายมะยม.. “ลูกใครวะ?”
“ลูกพ่อกูว่ะ” นายมะยมบอก พลางหยิบขวดมาดู
“ห๊า!!!.... พ่อมึงเนี่ยนะ!” นายศรจ้องเด็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเองด้วยตาโตเท่าไข่ห่าน
“มึงจะตกใจทำไม พ่อกูจะมีลูกตัวเท่านี้มันก็เรื่องปกติเว้ย” นายมะยมบอกเพื่อน และดมกลิ่นของของเหลวในขวด “น้ำไรวะ?”
เด็กน้อยตะกายแขนนายมะยม แสดงอาการว่าจะดมด้วย นายมะยม ลดระดับมือลง แต่ไม่ได้ปล่อยมือไปจากขวด เด็กน้อยเอามือเล็กๆ จับที่มือของนายมะยม เด็กน้อยดมกลิ่นตามที่เห็นผู้ใหญ่ทำ
“น้ำใบย่านางที่มึงต้มก่อนไปญี่ปุ่นไง” นายศรบอก
“อ้าว ยังอยู่เหรอวะ?” นายมะยมดีใจ
กำลังนึกอยากหาอะไรมาดับร้อนในตัวอยู่พอดี...เขาเหมือนคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นไข้อยู่พอดี นายมะยมเป็นคนพิลึกเล็กน้อย เขาขี้ร้อน อุณหภูมิในตัวก็สูงกว่าคนทั่วไปหน่อย... ไม่ใช่เรื่องใหญ่ในการดำเนินชีวิต ------ แต่เวลาที่เกิดไม่สบายขึ้นมา นายมะยมจะร้อนจนทรมานมากกว่าคนอื่นๆ
นายมะยมเทน้ำลงในแก้วของตัวเอง และยกขึ้นดื่มจนหมดแก้ว พอเอาแก้ววางก็เห็นเด็กน้อยจ้องตาแป๋ว
“เอามั้ยครับ?” นายมะยมถาม
“น้ำอะไรฮะ?” เด็กน้อยสงสัย...สีดำเหมือนกัน แต่ไม่มีเสียงซ่าๆ แบบที่เคยได้ยิน
“น้ำผักครับ” นายมะยมบอก
“อี๋....ขม!” เด็กน้อยร้องและยกมือขึ้นปิดปากตัวเองทันที
“ฮ่าฮ่าฮ่า....เหมือนไอ้ศิลป์ตอนเด็กเลยว่ะ เห็นผักปุ๊บปิดปากปั๊บ....” นายศรหัวเราะร่วน
“หวาน เนี่ยพี่ยังกินได้เลย ไม่ขมเลย” นายมะยมพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
นายมะยมเทน้ำลงแก้ว แล้วลองยื่นให้เด็กน้อย เด็กน้อยเอามือข้างหนึ่งดีนแก้วไปทางนายมะยม นายมะยมเอาแก้วยกขึ้นมาดื่มไปครึ่งหนึ่ง แล้วเอาที่เหลือยื่นไปให้เด็กน้อย
เด็กน้อยมองน้ำในแก้วสลับกับมองหน้านายมะยม
นายศรมองด้วยความลุ้นระทึก
....
...
..
.
“เล่นอะไรกันอยู่ครับน้องหนู” เสียงเคร่งขรึมดังลอยมาจากด้านหลังของนายศร
นายศรหันหลังขวับไปแทบจะในทันที “น้องเค้าสนใจน้ำของไอ้ยมน่ะครับหัวหน้า”
“น้ำอะไร?” นายภักคิ้วขมวด
“น้ำผักอี๋อี๋....” เด็กชายบอกผู้เป็นพ่อตัวเองด้วยเสียงเจื้อแจ้ว "คุณพ่อ ชิมหน่อย!”
ใบหน้าของพ่อชะงักกึก สายตาเขาเบนไป-----ถาม "เจ้าของน้ำผัก"
“น้ำคั้นใบย่านางครับหัวหน้า” นายมะยมบอก
“เอามาจากไหน?” นายภักดีถามเพิ่ม
“ผมทำเอง เนี่ยทั้งขวดเลยครับ” นายมะยมเลื่อนขวดบนโต๊ะให้หัวหน้าตัวเองดู
“คุณพ่อชิม...ชิม...ชิม” เด็กชายไถมือที่นายมะยมกำลังถือแก้วไปทางคุณพ่อ-----สายตามีความหวัง หากคุณพ่อชิมแล้วบอกว่าไม่ขม หนูก็อยากชิมมั่ง!
....
...
..
.
มือสีขาวละเอียดยื่นไปจับแก้วมาจากมือที่มีผิวสีค่อนไปทางเหลือง เจ้าของมือสีขาวมองน้ำในแก้ว เขาดมกลิ่นมัน แล้วเงยหน้าไปถาม “คุณดื่มไปรึยัง?”
“พี่เค้ากินไปสองแน่ะฮะ” เด็กน้อยตอบแทนพร้อมชูนิ้วป้อมๆ สองนิ้ว
....
...
..
.
แก้วถูกยกจรดริมฝีปาก.... น้ำในแก้วถูกเทให้ไหลลงไปในภายใน...ปากสีแดงเรื่อตามธรรมชาติ
....
...
..
.
แก้วเปล่าถูกคืนให้แก่เจ้าของ
“เย็น!” เสียงวิจารณ์เพียงสั้นๆ จากคนที่เพิ่งชิมมัน
“ขมมั้ยฮะ?” เด็กน้อยถามพ่อตัวเอง
“ไม่ขมครับ น้องหนูกินสิ” ผู้เป็นพ่อบอกลูก
เด็กมักไม่ชอบกินผัก หากกินน้ำผักได้ ถือเป็นสิ่งที่ดี----น่าส่งเสริม
“อ่ะ ชิมก่อน ไม่ชอบไม่ว่ากัน” นายมะยมเทน้ำลงไปในแก้วนั้น---นิดนึง และส่งมันไปให้เด็กชาย
“ให้เค้าถือเอง” หัวหน้าพูดจบก็เดินเลยเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
นายมะยมและนายศรมองตาม.......
ไฟในห้องทำงานถูกเปิด จากนั้นประตูก็ถูกปิด
“ถือดีๆ นะครับ” นายมะยมบอกพลางยื่นแก้วให้เด็กชาย
....
...
..
.
ต่อ...reply #106
หนีงานมาหน้าไมค์ :oni1:
-
คุณพ่อปากแดง ขาสวย มีลูกแล้ว
-
5555
มันยังค้างคาใจ
มีลูกแล้วแบบนี้นายมัยมกมีน้องน่ะสิ
ลูกพ่อกู !! ตึ่งโป๊ะ 5555
ป.ล.มาทำให้อยากแล้วจากไปแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ o18
-
:กอด1: :L1:
-
นายมะยมหลงเสน่ห์หัวหน้าแล้วสิ
มีเด็กด้วยน่ารัก
-
'พ่อ'มีลูกตั้งแต่เมื่อไรค่ะ
แต่มีก็ดีนะค่ะ เพราะมะยมรักเด็ก o3
ความสัมพันจะได้แนบแน่น อาาา :m3: :m3:
-
เข้าทางมะยมเลยค่ะ "คุณพ่อ" เพราะพี่มะยมรักเด็ก
:3123:
-
:กอด1:น่ารักมาก
-
พ่อมึงมีลูกชายซะแล้ว
จะได้ สามคนพ่อแม่ลูก นะนายมะยม
ยังเชียร์พ่อมึงไม่เปลี่ยนแปลง
ขอบคุณมากที่ลงให้อ่านกันเยอะมาก และสม่ำเสมอ
ขอบคุณมากจ้า
รักษาสุขภาพด้วยจ้า
-
เอาจริงๆ นะ ตั้งแต่อ่านมาจนตอนนี้ รู้สึกว่า...
ไม่อยากให้มะยมเมะเลยอ่ะ!!!
ม่ายยยยยยยยยย
แต่ถ้ามะยมจะเมะก็จะทำใจ ดูๆ แล้วน่าจะเมะ ถ้าเกิดว่าหัวหน้าเป็นคนที่มากระซิบล่ะก็นะ มะยมคงเมะแน่ แบบว่าสรีระหัวหน้าไปทางเคะชัดๆ กร๊าก แล้ว...
ฉันมาวุ่นวายอะไรเรื่องเคะเมะฟร้า!!
ตอนนี้มันต้องชมลูกของหัวหน้าเซ่
"ลูกของหัวหน้าน่ารักจังเลยอ้า~" รักเด็กขึ้นมาทันตา
ใจจริงแอบเชียร์เสมอว่าให้เป็นายศรอ่ะนะ ปลื้มเป็นการส่วนตัว เพื่อนรักเพื่อน อร๊าง โรแมนกะติกสุดๆ
-
:กอด1: :กอด1: ขอบคุณทุกแรงใจ
คืนนี้อยากให้ฝนตก.... อยากให้ไปถึงตอนจบ :a2:
-
....
...
..
.
"น้องหนู"....นั่งเล่นกับนายมะยมจนถึงเวลาเลิกงาน.....ผู้เป็นแม่ของเด็กชายก็มารับ
“แหม สนุกใหญ่เลยสิ ขอบคุณมากนะคะ” แม่ของน้องหนูยื่นมือไปหาลูกชายตัวน้อย เด็กชายวิ่งไปจับมือแม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“คุณแม่...คุณแม่ ......” เด็กชายแกว่งมือของผู้เป็นแม่ “วันนี้หนูกินน้ำผักด้วยฮะ” เด็กชายอวด
ผู้เป็นแม่นั่งลงทำตาโตและหอมแก้มนุ้ยๆ นั้นข้างละทีหนึ่งเป็นรางวัล “เหรอคะ เก่งจังเลย แล้ววันนี้ดื่มน้ำอะไรบ้างคะ”
“ผักใบคุณย่าฮะ พี่ชายทำเองด้วย” เด็กชายชี้นิ้วไปยังพี่ชาย
“ใบย่านางน่ะครับ” นายมะยมยิ้มให้กับชื่อเรียกของเด็กชาย
“อ๋ออออ....” ผู้เป็นแม่เข้าใจละ
เธอกล่าวขอบคุณนายมะยมอีกครั้งที่ทำให้ลูกชายดื่มน้ำสีเขียวตุ่นๆ ได้ และขอโทษนายศรและนายมะยมที่ลูกชายเธอมารบกวนเวลางาน
น้องหนูไม่ดื้อเท่าไหร่ สามารถเล่นได้ด้วยตัวเอง หากน้องหนูเห็นผู้ใหญ่เงียบ น้องหนูก็เงียบตาม แต่หากชวนน้องหนูเล่น น้องหนูก็เล่นด้วย....คาดว่าจะจะถูกคุณพ่อสอนมาเป็นอย่างดี
พอนายภักดีเดินออกมาจากห้องทำงานเธอก็ขอตัวลา
“คุณพ่อ!....อุ้มมมม” เด็กชายวิ่งตื๋อไปหาคุณพ่อของตัวเอง
แม่ของน้องหนูเดินตามไป “คุณภัก มื้อเย็นอยากทานอะไรดีคะ?”
สิ้นคำนั้น...พ่อแม่ลูกสามคนก็เดินออกไปจากประตูของแผนก
....
...
..
.
ได้เวลาเลิกงานแล้ว
นายศรและนายมะยมหันกลับไปเก็บของและเตรียมกลับบ้าน
....
...
..
.
นายศรเดินขึ้นบันไดเคียงมากับนายมะยม..... ตอนอยู่ในห้องทำงานก็ดีอยู่ แต่พอเลิกงานมาเจออากาศอบอ้าวบรรลัยแค่นั้น นายมะยมก็เหมือนไข้ขึ้นมาทันที
อากาศที่เหมือนว่า ร้อนสุดติ่งก่อนที่ฝนจะเทลงมาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่นายมะยมเกลียดที่สุด จะร้อนก็ร้อนมาเหอะ รึจะตกก็ตกมาสักที.....มาอั้นๆ แบบนี้ ------ คนที่หายใจอยู่บนโลกอย่างนายมะยมรู้สึกอึดอัดมาก
“มึงหาเวลาออกกำลังมั่งเถอะว่ะ เอ้อ วันนี้ไปเอาจักรยานบ้านกูมั้ย?” นายศรบ่นและถาม
“เออ ก็ดี” นายมะยมบอก
แล้วทั้งสองคนก็นั่งมอเตอไซด์วินซึ่งอยู่ตรงสถานีรถไฟใต้ดินนั้นไปยังบ้านของนายศร
ทันทีที่ลงรถ ยายข้างบ้านของศรก็เดินมาทักนายมะยม และชวนกันปลูกผัก
นายมะยมหน้าระรื่นขึ้นทันควัน
นายศรอยากบอกเพื่อนว่า.... มึงกลับไปพักเหอะ----แต่ถึงพูดเพื่อนคงไม่ฟัง เขาจึงเดินเข้าไปในบ้าน หยิบขวดน้ำใบย่านางมาเทน้ำลงแก้ว แล้วเอาไปให้เพื่อนที่กำลังขนดินและกระถางมายังบ้านของนายศร
......
.....
....
...
..
.
“กูไปนะเว้ย” นายมะยมบอกเพื่อนก่อนจะปั่นจักรยานของศิลป์กลับไปที่หอพักตัวเอง
"กลับห้องก็แดกยาด้วนะมึง" นายศรตะโกนไล่ตามหลังมา
......
.....
....
...
..
.
พอปั่นข้ามสะพานหนึ่งมาได้ เสียงคลืนของฟ้าก็ดังลอยมา นายมะยมรีบปั่นให้เร็วขึ้น ทว่า-----ไม่ทัน!
......
.....
....
...
..
.
ฝนห่าใหญ่ที่กั๊กมานาน....เทลงมาราวกับฟ้ารั่ว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมปั่นจักรยานต่อไปจนตัวเริ่มเปียก เขามองเห็นสวนหย่อมที่อยู่ใกล้หอพัก
เขาตัดสินใจปั่นไปจอดที่นั่น และเดินเข้าไปหลบฝนในสวนหย่อมแห่งนั้น
......
.....
....
...
..
.
เก้าอี้ตัวหนึ่งใต้ร่มไม้ใหญ่เดียวของที่แห่งนั้นคือเป้าหมายของนายมะยม-----และของคนอีกคนในชุดวอร์ม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมและคนที่สวมชุดวอร์มวิ่งมานั่งหลบฝนที่ใต้ต้นไม้เดียวกันนั้น
......
.....
....
...
..
.
ฝนเทกระหน่ำอย่างไม่เกรงใจใครอยู่เป็นชั่วโมงถึงซาลง
......
.....
....
...
..
.
คนที่สวมชุดวอร์มลุกขึ้นและวิ่งเหยาะๆ ออกไปจากสวนหย่อม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมมองท้องฟ้าและเงี่ยหูฟังเสียงฝน------ ยังแรงเกินไปสำหรับนายมะยมที่ค่อนข้างไม่สบายอยู่ในเวลานี้
......
.....
....
...
..
.
แต่แล้ว ชั่วสองสามนาทีต่อมา สายฝนก็ซาลงยิ่งกว่าเดิม
นายมะยมรีบฉวยจังหวะนี้.....ปั่นจักรยานแบบไม่ลืมหูลืมตากลับมาที่หอพัก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเอาจักรยานไปจอดที่ลานของหอ เขาเอาสายโซ่คล้องไว้ ล็อคกุญแจ จากนั้นจึงเดินจ้ำเข้าไปในหอพัก
นายมะยมไปยืนรอลิฟท์....ทันทีที่ลิฟท์เลื่อนลงมา เขารีบเดินเข้าไปด้านใน
จังหวะที่เขาเดินก้าวเข้าไป หางตาของเขาเหลือบไปเห็นคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาในตัวตึก
เขาก้าวเข้าไปในลิฟท์ แต่ยังไม่กดปิดประตู เขากดปุ่มเปิดค้างไว้-----เสียงฝีเท้าวิ่งใกล้เข้ามา
......
.....
....
...
..
.
คนที่สวมชุดวอร์มและเปียกซกไม่ต่างจากเขาเดินเข้ามาในลิฟท์
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมกดปิดประตู
นายมะยมกดเลข 6 ....จากนั้นก็หันหน้าไปถามอีกคน “ชั้นไหนครับ?”
“ห้าครับ ขอบคุณ” คนที่สวมชุดวอร์มบอกเขา
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์ถูกดึงขึ้นไป
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยืนมึนอยู่ในลิฟท์ เขาเริ่มปวดหัวตึบ
นายมะยมหันไปพิงผนังลิฟท์เพื่อพยุงตัว
นายได้มองดูชายที่สวมชุดวอร์มคนนั้นโดยไม่ตั้งใจ
......
.....
....
...
..
.
ชุดวอร์มขายาวและเสื้อวอร์ม....ชุดเต็มยศ
นายมะยมคาดว่าคนนี้คงไปวิ่งออกกำลังที่สวนหย่อม
นายมะยมมองไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายเพราะเขาเอาฮู๊ดขึ้นมาคลุมหัวตัวเองไว้ แต่สามารถเห็นเส้นผมสีดำซึ่งระตกลงมาบังใบหน้าช่วงบนไปบางส่วน
......
.....
....
...
..
.
แว่นตากรอบหนาสีดำ...แบบน่าตลกเสียบอยู่บนใบหน้าของชายที่ใส่ชุดวอร์ม
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง!!!....ชั้นที่ 5
ประตูเปิดออก ชายที่สวมชุดวอร์มเปียกซกก้าวออกไปจากลิฟท์และจ้ำไปตามทางเดินอย่างรวดเร็ว
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง....ชั้นที่ 6
นายมะยมเดินออกไป และตรงเข้าไปที่ห้องตัวเอง
ทันทีที่เข้ามาในห้องได้ เขาก็รีบไปอาบน้ำอุ่น
นายมะยมที่คาดเพียงผ้าเช็ดตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ ยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้าเขาก็รีบไปหายามากิน
......
.....
....
...
..
.
ใส่ชุดนอนเสร็จแล้ว นายมะยมเดินไปที่ระเบียง ลากเอาที่ต่างผ้าเข้ามาด้านในห้อง และพาดผ้าเช็ดตัวผึ่ง ......จากนั้นนายมะยมก็เดินออกไปที่ระเบียงห้องเพื่อสำรวจต้นตำลึงของตัวเอง
ต้นตำลึงถูกน้ำฝนสาดจนชุ่มแล้ว วันนี้เขาไม่จำเป็นต้องรดน้ำมันอีก.....
สิ่งหนึ่งไหวเข้ามาในสายตาของเขา
......
.....
....
...
..
.
เขาคิดว่าจะชโงกหน้าไปนอกระเบียงห้องของตัวเองเพราะเห็นอะไรไหวๆ อยู่ข้างนอก แต่แล้วเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อหยิบร่ม...มากาง
นายมะยมมองเห็นยอดของต้นอะไรสักอย่าง....เขาก้มลงไปมองที่ด้านล่างของห้องตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เมื่อมองดีๆ แล้วนายมะยมก็พบว่า ห้องที่อยู่ด้านล่างเขาก็ปลูกต้นไม้ไว้ด้วยเหมือนกัน
ห้องด้านล่างเอาไม้ยาวเหยียดมาขัดให้ต้นมันได้เลื้อย....เป็นพุ่มใหญ่-----ปลายของไม้ยาวเกือบถึงระเบียงห้องเขาเลยทีเดียว
และดูเหมือนตำลึงของห้องด้านล่างจะสูงวัยกว่าต้นของเขามาก....
“ตกลงต้นบุพการีแกก็อยู่ข้างล่างนี่เองหรอกเรอะ! ดีลูกดี อยู่ใกล้พ่อใกล้แม่ อุ่นใจดีนะเมิง......” นายมะยมยืนกลางร่มคุยกับต้นตำลึงน้อยของห้องตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
ยาเริ่มออกฤทธิ์ นายมะยมเดินกลับเข้ามาในห้อง แต่ไม่ได้ปิดประตูระเบียง เขาเปิดมันไว้ เพื่อให้อากาศสดชื่นชื้นน้ำพัดเข้ามาภายในบรรเทาความอ้าวของห้องนี้ไปบ้าง
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินไปปิดไฟ----จากนั้นก็กลับมาซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม....และหลับไปด้วยฤทธิ์ของยา
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #114
-
อยากถามอะไรคุณนักเขียนหน่อยแบบว่าเราชอบคอมเมนท์ตอนจบเรื่องแล้ว(มันจะได้ยาวๆได้อารมณ์) คุณนักเขียนยังเข้ามาอ่านฟีดแบ็คไหมคะ หรือว่าชอบอัพไปเมนท์ให้กำลังใจไปด้วย จะได้ทำแบบนั้น แบบว่าอยากตามใจคนเขียนบ้างน่ะค่ะ เพราะเราติดใจในฝีมือคุณเข้าแล้วล่ะ อิมเมจตัวละครของคุณโดนใจเราทั้งนั้นเลย ปลื้มมาก ไปโพสในเฟซจนเพื่อนหลายคนขอลิ้งมาอ่าน คิก
-
คนชั้นล่าง เป็นเจ้าของพ่อตำลึงแน่ๆ เลย
-
เอาล่ะ มีคนในชุดวอร์มเจ้าของบุพการีตำลึงที่ระเบียงของนายมะยมมาอีกคนแล้ว
แล้วเขาก็อยู่ตึกเดียวกันด้วย แค่คนละชั้นเอ๊ง!!
มีฮู้ดคลุม มีแว่นทรงตลก และเส้นผมสีดำ นี่ถ้ากระชากผมได้จะดึงออกมาซักสองสามจุก
เอาไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอระบุตัวไปเลย ลึกลับหนัก ฮา
และ ขอให้ฝนตก อยากอ่านถึงตอนจบ ฮี่ๆ
-
อยากถามอะไรคุณนักเขียนหน่อยแบบว่าเราชอบคอมเมนท์ตอนจบเรื่องแล้ว(มันจะได้ยาวๆได้อารมณ์) คุณนักเขียนยังเข้ามาอ่านฟีดแบ็คไหมคะ หรือว่าชอบอัพไปเมนท์ให้กำลังใจไปด้วย จะได้ทำแบบนั้น แบบว่าอยากตามใจคนเขียนบ้างน่ะค่ะ เพราะเราติดใจในฝีมือคุณเข้าแล้วล่ะ อิมเมจตัวละครของคุณโดนใจเราทั้งนั้นเลย ปลื้มมาก ไปโพสในเฟซจนเพื่อนหลายคนขอลิ้งมาอ่าน คิก
ขอบคุณมากๆ ค่ะ (โค้งสุดตัว)
ใจเย็นๆ นะคะ.... อย่าคาดหวังมาก ได้โปรด...... [กระซิบ] อาจทำให้หลายคนผิดหวัง...ก็ได้ :monkeysad:
*******************
ที่ถามมา.....ตอบไม่ถูก
เอาเป็นว่าเล่าให้ฟัง....ละกัน
เพราะไหนๆ ก็ไม่ค่อยได้คุยกับท่านผู้มีอุปการะคุณทุกๆ ท่านเลย
....
...
..
.
ปกติ... ผู้เขียนจะพิมพ์ตอนต้น
เสร็จแล้วจะนั่ง "นึ่ง"......จนพิมพ์ตอนจบได้แล้ว----ถึงเริ่มลงเรื่องนั้นๆ ในทู้
ผู้เขียนทำแบบนี้ทุกๆ เรื่อง
บางเรื่อง...ที่ค่อนข้างกระชับ ไม่มีเหตุการณ์มาก
ผู้เขียนจะพิมพ์ไปด้วยลงไปด้วย
ตอนพักหายใจจะมานั่งอ่านเม้นต์ หรือเวลาที่มาลงตอนใหม่ก็มานั่งอ่านเม้นต์----เช่นกัน (อ่านทวนหลายครั้งด้วยนะ ขอบอก 5555+ เข้ามาอ่านแล้วจะบวกเป็ดให้ทุกครั้งค่ะ)....
วนไปแบบนี้จนพิมพ์คำว่า "เอวัง" :pig4:
....
...
..
.
เมื่อจบ "เอวัง" คราวนี้ผู้เขียนจะมานั่งกด เอฟ 5 ...รออ่านเม้นต์บ้างละ
อยากรู้มากว่าผู้อ่าน---- คิดยังไงกับเรื่องนั้นและตอนจบ (ตามอ่านต่อไปแม้ถูกย้ายไปที่ห้อง "จบแล้ว" ด้วย)
หลายครั้ง...เพราะเม้นต์ในตอนท้ายๆ นำพาตอน "ต่อมา" ให้กำเนิด... (ทั้งๆ ที่ผู้เขียนเองคิดว่า 'เออ มันจบแล้วนี่นา แต่ยังต่อได้อีกวุ้ย' 5555+ (งงตัวเอง))
และอีกหลายครั้งที่เม้นต์ในเรื่องหนึ่งก่อรูปให้อีกเรื่องหนึ่งได้มีบทเริ่มต้น
....
...
..
.
ดังนั้น ทุกๆ "ข้อความ" และ "ตัวเลข" ที่เพิ่มขึ้นทั้งในเรื่องที่กำลังลงและลงจบไปแล้ว ล้วนเป็น "แรงใจ" ให้ผู้เขียน....เสมอค่ะ
ด้วยความสัตย์จริง.....ผู้เขียนไม่อยากให้ผู้อ่านมาตามใจ
แต่ผู้เขียนขอให้อิสระกับผู้อ่านมากกว่า
ดังนั้น คุณผู้อ่าน....ชอบแบบไหน ถนัดแบบไหน-----ทำได้โดยอิสระค่ะ :man1:
มาก่อน มาหลัง มาตลอด มาประปราย มารวดเดียว มาเพิ่มเลขไม่พูดคุย-----มายังไงก็ได้ ผู้เขียน OK และดีใจเสมอค่ะ
....
...
..
.
หากไม่มีฟีคแบ๊คเลย....ผู้เขียนก็ยังจะเขียนต่อไป 55555555555+ (เค้าเป็นคนโรคจิตนะขอบอก)
....
...
..
.
เพราะฉะนั้น...... ท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ได้มาประสบพบเจอกันใน "ทู้" นี้
ขอจงโบยบินในโลกของตัวอักษรของผู้เขียนกันโดยอิสระ
จงโบยบิน :oni1:
....
...
..
.
ขอบคุณสำหรับการติดตาม...ขอบคุณจริงๆ จากใจอีกครั้งค่ะ
-
เราต้องตัดพ่อมึงออกจากผู้เข้าแข่งขันแล้วสินะ กลับบ้านไปพร้อมลูกเมียซะแล้ว
บุรุษลึกลับในชุดวอร์ม จะมาวินหรือเปล่าติดตามลุ้นกันต่อไป
อ่า...ครูสอนว่าเวลาฝนตกไม่ให้ไปหลบใต้ต้นไม้ เดี๋ยวฟ้าผ่า หรือหนุ่ม ๆ สมัยนี้ไม่กลัวฟ้าผ่ากันแล้ว อิอิ
-
เล่ามาแบบนี้รักคนเขียนตายเลย ชอบนะนักเขียนแบบนี้ เจอทีไรหลงทุกที แต่ก็ไม่ค่อยจะเจอบ่อยนักหรอก
อยากจะบอกว่าเราไม่ผิดหวังหรอก เพราะเราไม่ได้คาดหวังนิยาย เรื่องสั้นที่เราอ่าน จะเป็นยังไงจะจบแบบไหน เราไม่ใช่พระเจ้า เรากำหนดไม่ได้ เราพร้อมที่จะเดินไปกับเนื้อเรื่อง ที่อ่านก็เพราะชอบ ไม่ได้หวัง ดังนั้นเรื่องจะเป็นไปแบบไหน เราก็เป็นไปตามนั้นค่ะ แต่กับคนอื่นก็ไม่รู้นะ^^
-
นั่น..ไม่ใช่คุณภรรเมียของพ่อมึงใช่ป่าว ใช่มั้ยยย พ่อมึงงง~
น้องหนูน่ารักจังเลยค่ะ ..น้ำใบคุณย่า ฮิฮิ อย่างนี้พ่อมึงก็จุ๊บลูกทางอ้อมสิคะเนี่ย
ว้ายยยยยย เขิลลลล ./////. 555
แล้วเฮียมะยมขี่จักรยานออกไปตากฝนแบบนั้นเดี๋ยวก็ไข้ขึ้นหรอกพ่อคุณ
ถ้าพ่อคุณไข้ขึ้นจะให้พ่อมึงมาจัดการ *ตีก้นแปะๆ*
:z13:
ปล. เราตามใจคุณคนเขียนเลยค่า ตามสะดวกเลย
อย่าตามใจเราเลย เราเรื่องมาก ก๊ากกๆๆ
แค่เขียนให้เราอ่าน เราก็ดีใจแย้ว
กอดแน่นๆ // รอ รอ รอ รอ ~~
-
วันรุ่งขึ้น
นายมะยมตื่นมาพร้อมด้วยอาการจามของตัวเอง....
เขามองไปนอกระเบียง----ความเย็นไหลผ่านมวลอากาศมากระทบผิวของเขาซึ่งนั่งอยู่บนเตียง
....
...
..
.
ท้องฟ้าไม่สดใส แต่คาดว่าวันนี้คงไร้ซึ่งแดดที่แผดเผาผู้คน------ ฤดูฝนเริ่มย่างกรายเข้ามาแล้ว
....
...
..
.
ตี๊ดดดดด---- เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
นายมะยมเด้งตัวออกมาจากเตียงและเข้าไปในห้องน้ำ.....เมื่อแต่งตัวเสร็จ ชีวิตในวันใหม่จึงเริ่มต้น----อีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
ใครหลายคนชอบพูดว่า---- อีกแล้ว น่าเบื่อ วันเดิมเดิม
......
.....
....
...
..
.
แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่นายมะยมคิดแบบนี้.... นายมะยมชอบพูดว่า “สวัสดีเช้าวันใหม่” และยิ้มรับวันใหม่ที่เข้ามา....ทุกวัน
......
.....
....
...
..
.
วันนี้นายมะยมพาร่างซึ่งกำลังบ่มเพาะเชื้อหวัดมายังที่ทำงานตามเวลาปกติ...เขาทานข้าวเช้าไม่ลง จึงซื้อแค่ขนมปังชิ้นเล็กอันหนึ่งตามข้างทางขึ้นมากินบนที่ทำงาน
แม่บ้านประจำตึกมาทำความสะอาดรอบเช้าและเปิดเครื่องปรับอากาศให้แล้ว
นายมะยมทักทายเพื่อนๆ พนักงานที่ยืนเกาะกลุ่มคุยกันบ้าง นั่งเล่นเน็ทที่โต๊ะตัวเองบ้าง....อย่างทั่วถึง
....
...
..
.
นายมะยมเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง เขาแกะถุงขนมปัง และกดเข้าปากไปหนึ่งคำ... ขณะที่เขากำลังจะกลืนมัน มันเกิดสำลัก
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่เขากำลังไอโขลกไม่หยุดอยู่นั้น เขารู้สึกว่ามีของคนคนหนึ่งมาลูบที่หลังเขา
......
.....
....
...
..
.
จนเขาเริ่มหยุดไอ น้ำเปล่าขวดหนึ่งถูกส่งมาให้เขา
นายมะยมรับขวดนั้นมาและมองไปที่คนคนนั้น
นายมะยมยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มสองสามอึกแล้วบอกกับอีกฝ่ายว่า “ขอบใจนะ โหย แทบตาย”
“พี่เป็นอะไรมากมั้ยครับ?” ชายหนุ่มที่ยังลูบหลังให้นายมะยมอยู่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“โอเค พี่โอเค พอดีหนมปังมันแห้งไปน่ะ” นายมะยมส่งยิ้มน้อยๆ ให้อีกฝ่ายเพื่อทำให้เขาหมดห่วง
“หลังพี่ร้อนจังนะครับ ไม่สบายรึเปล่าพี่” ยังคงเป็นห่วง
“เออ ดูเหมือนมีไข้ตั้งแต่เมื่อวานน่ะ ...ว่าแต่ป๋องมีไรครับ” นายมะยมบอกและถามอีกฝ่าย
“อ๋อ พี่อ่านเมล์ให้ผมหน่อยสิ ทางนั้นเค้าเมล์มา” นายป๋องยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้นายมะยม
นายมะยมรับและดูข้อความ สักแป๊บเขาก็เงยหน้าขึ้นไปถาม “ภาษาอังกฤษนี่ ทำไมไม่อ่านเองล่ะครับ”
“ก็ผมไม่เก่งนี่พี่ กลัวอ่านผิดเข้าใจผิดอ่ะ พี่แปลให้ผมฟังหน่อยน๊า นะนะนะ” นายป๋องเลื่อนฝ่ามือที่วางบนหลังพี่มะยมมากำต้นแขนเขาและสั่นมันพลางร้องขอ
“มันก็ได้ แต่ป๋องควรฝึกเองด้วยนะ ถ้าอ่านเองเป็นมันจะดีกับงานนะครับ” นายมะยมบอกแกมสอน
หลังจากแปลข้อความให้นายป๋องฟัง นายป๋องก็อยู่คุยเล่นต่อ.... ป๋องเล่าให้ฟังว่า หลังจากกลับมาเขานำเสนอรายงานเข้าที่ประชุมเมื่อวานตอนเย็น... ผลตอบรับจากคนในแผนกดีมาก
นายมะยมยิ้มด้วยความพลอยยินดี...
เท่าที่เขาไปดูสินค้ากับป๋อง เขาก็ชอบความคิดของป๋องเป็นการส่วนตัวอยู่ด้วยเหมือนกัน ป๋องเลือกของที่ดีราคาถูก แต่เน้นสิ่งแปลกใหม่เป็นสำคัญ----อย่างว่าละนะ...วัยรุ่นนี่เนอะ ย่อมรู้ใจคนรุ่นเดียวกันอยู่แล้ว
“อ้อ! เกือบลืม...รูป!...อ่ะ” นายป๋องยื่นซองพลาสติกแสนบางมาให้นายมะยม
“รูปไรครับ?” นายมะยมรับไปและพลิกมาดู “เฮ้ย! จะไปอัดให้เปลืองเงินทำไมครับ เอาไฟล์มาหมดเลยดีกว่า” พูดจบนายมะยมก็เปิดลิ้นชักเอาเฟรชไดร์ส่งให้ป๋อง
ป๋องรับมันมาและบอกว่า “ไม่ได้ให้พี่ ผมฝากให้คุณภักเขาต่างหาก”
“อ้าว ไม่ให้เองล่ะ?” นายมะยมเอียงคอถาม
“หึ...” นายป๋องหันมองซ้ายขวา-ใกล้ไกลจนแน่ใจแล้วถึงยื่นหน้ามากระซิบที่หูนายมะยมว่า “คุณภักหน้าดุอ่ะ ผมกลัว”
นายมะยมหัวเราะในลำคอและยิ้มกริ่ม....
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมและศรก็เคยเป็นอย่างป๋อง....
หัวหน้าหน้าดุ จนไม่กล้าแม้แต่จะทักทายหรือมองหน้าเวลาที่เจอกันข้างนอก
......
.....
....
...
..
.
ช่วงแรกที่เข้ามาทำงานในแผนกนี้...คนที่พวกเขาเห็นว่าคุยกับหัวหน้ามากคำที่สุดของน้องพันซ์ที่เป็นเลขา... นอกนั้นจะคุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น
แต่พอพวกเขาได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ...และได้คลุกคลีทำงานกับหัวหน้ามากขึ้น
นานวันเข้า...ธรรมชาติของหัวหน้าและธรรมชาติของนายมะยมกับนานศรก็มาพบกันคนละครึ่งทาง
มาถึงตอนนี้ก็ห้าปีแล้ว.... ไอ้กลัวก็ยังกลัวอยู่ แต่ไม่ใช่หงอตลอดเวลาแบบในตอนแรกอีกแล้ว
หากแบ่งได้ระหว่าง “เวลางาน” และ “เวลาส่วนตัว”......
หากอยู่นอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางานแล้ว หัวหน้าก็ไม่ใช่แค่ผู้ “บังคับบัญชา” สำหรับนายศรและนายมะยมอีกต่อไป-----เป็นพี่ที่เคารพและนับถือ
......
.....
....
...
..
.
ซองพลาสติกถูกวางลงบนตรงกลางของโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ขณะที่คนซึ่งวางมันจะถอนมือออกมา เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“พี่มะยม” เสียงแหลมหวานเรียกเขา
“ครับ” นายมะยมผมหันหน้าไปหาคนที่เรียกตัวเอง
“พี่รับรองคนที่จะมาดูงานให้หน่อยได้ไหมคะ” น้องพันซ์เดินหน้าเครียดเข้ามาบอก
“ใครจะมาครับ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” นายมะยมถามรายละเอียด เนื่องจากการมาและไปของชาวต่างชาติซึ่งเกี่ยวข้องในงานต้องมีกำหนดการณ์บอกล่วงหน้า แต่บอกวันนี้ไปวันนี้... ถึงเคยเกิดขึ้นมาบ้างแต่ก็ควรถามถึงที่มาที่ไปด้วย
“ก็คุณคนนี้ พอดีเค้ามาติดต่องานที่ลาว เค้าเลยมาที่ไทยด้วย กะทันหันไปหน่อย แต่มากันแค่สองคนค่ะ” น้องพันซ์เดินไปนั่งที่โซฟาในห้องทำงานของหัวหน้า นายมะยมเดินตามไปนั่งและฟังรายละเอียดต่อ
คุณหวง...เป็นคู่ค้ารายใหม่กับทางบริษัท เขามักเดินทางมากับลูกน้องสักคนหรือสองคน และชอบมาที่หนึ่งโดยแวะไปอีกที่หนึ่งเสมอ.... ถึงค่อนข้างกะทันหันในทุกครั้ง แต่นายมะยมเคยรับรองคุณหวงมาแล้วสองครั้ง จึงค่อนข้างโอเคสำหรับนายมะยม เขาจึงรับที่จะเป็นล่ามและรับรองให้
ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วเพราะคนที่พูดภาษาจีนมีแค่เขา ศร และหัวหน้า----และคนที่ว่างอยู่ในขณะนี้เหลือแค่เขาคนเดียว
ศรต้องไปรับรองชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งตั้งแต่วันนี้
หัวหน้าไม่ว่างแน่นอน...เพราะไม่ใช่คู่ค้ารายใหญ่
......
.....
....
...
..
.
“กำลังจะกลับบริษัทว่ะ....ครึ่งชั่วโมงคงถึงมั๊ง” นายมะยมบอกคนที่ปลายสายเสร็จก็วางสายไปเลย
เขาพาคุณหวงและคนติดตามไปดูงานเสร็จแล้วและพากลับมาส่งยังโรงแรมซึ่งคุณหวงพักมาตั้งแต่เมื่อคืน...อันที่จริงคุณหวงชวนนายมะยมอยู่ต่อ เพื่อทานมือค่ำด้วยกัน---ซีฟู๊ดด้วยนะ!
โชคร้ายที่นายมะยมไม่ค่อยสบายตัวนัก เขาจึงจำต้องกัดปากบอกปฏิเสธไปด้วยความเสียดายยิ่ง
นายมะยมมองนาฬิกา....
หากนั่งแท๊กซี่คงสบายกว่า แต่นายมะยมกลับเลือกที่จะนั่งรถประจำทางในระยะสั้น และมาต่อรถไฟใต้ดินเพื่อไปยังออฟฟิศ
เขากะว่าคงไปถึงที่ทำงานคงสักสี่โมงเย็นได้----หากเป็นเวลานี้เขาจะไม่ได้เลทจากเวลางานเท่าไหร่นัก และไม่กินเวลาส่วนตัวด้วย
ว่าแล้วนายมะยมก็ก้าวเท้าขึ้นไปบนรถประจำทางสีชมพู
......
.....
....
...
..
.
เขาเลือกที่นั่งข้างกระจกซึ่งเป็นเก้าอี้เดี่ยว..... ขณะที่รถมาติดไฟแดงในสี่แยกหนึ่ง เสียงครืนครางดุดันจากท้องฟ้าก็ดังขึ้น
......
.....
....
...
..
.
รถประจำทางเคลื่อนต่อมาเรื่อยๆ ท่ามกลางสายฝนที่เทมาอย่างหนักหน่วง
นายมะยมไหล่เปียกเล็กน้อยเนื่องจากปิดหน้าต่างของที่นั่งตัวเองไม่ทัน... โชคดีที่กระเป๋ารถเมล์มาช่วยดึงลงให้ ไม่งั้นเขาคงต้องนั่งตัวเปียกไม่ก็คงต้องยืนให้ขาเปียก----เลือกสักอย่าง
......
.....
....
...
..
.
รถกำลังจะเทียบที่ป้ายซึ่งมองเห็นลิบๆ อันเป็นจุดที่นายมะยมต้องลง
แต่แล้วรถมอเตอไซด์คันหนึ่งก็แฉลบกับรถเก๋งคันหนึ่ง ส่งผลให้คนขับรถเก๋งคันนั้นตกใจและหักล้อมาชนรถเมล์ที่นายมะยมโดยสารอยู่อย่างแรงพอควร
อุบัติเหตุเกิดขึ้น....แม้ไม่รุนแรงจนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ทว่า ผู้โดยสารตาดำๆ หลายคนในรถเมล์คันนั้นต้องลงจากรถ...และวิ่งฝ่าสายฝนไปยังป้ายรอรถประจำทางที่ไกลออกไประยะที่มองเห็น----ลิบๆ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมพาตัวที่เปียกซกไปถึงทางเลื่อนลงไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน... เขายืนแอบอยู่มุมหนึ่ง ยังไม่ลงไปด้านล่าง
เขาเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหน้าตัวเอง... เขาลูบเอาน้ำที่ซึมอยู่ในพุ่มผมออก...จากนั้นจึงถอดเฉพาะเสื้อเชิ้ตออกมาบิด เสร็จแล้วก็ถอดเสื้อกล้ามออกมาบิด
ตอนที่เขาใส่พวกมันกลับคืนที่เดิม เขาก็คิดว่าจะทำยังไงดีกับกางเกง
เขาไม่ชอบความร้อน...ระอุ
เขาไม่ชอบความชื้น...แฉะ
สิ่งเหล่านี้ทำให้นายมะยม....รู้สึกไม่สบายตัว
......
.....
....
...
..
.
เสียงฟ้าผ่าแผดกรรโชก..... นายมะยมรีบเดินลงบันไดเลื่อนลงไปทันที
......
.....
....
...
..
.
น้องหนูกลัวความมืด
......
.....
....
...
..
.
พี่มะยมกลัวเสียงฟ้าร้อง----ดังๆ
......
.....
....
...
..
.
เดี๋ยวจะหาว่าไม่แมน...นายมะยมเค้ากลัวแค่เสียงฟ้าร้องดังๆ เท่านั้น...ฟ้าร้องธรรดานั้น นายมะยมแค่ยืนนิ่งๆ----*0*
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินเข้าไปในตัวรถไฟฟ้า คนที่เปียกมีให้เห็นบ้าง---แต่นายมะยมเป็นคนเดียวที่ดูแล้วเปียกซกที่สุด
นายมะยมหันหลังให้แก่สายตาทุกคู่ในรถขบวนนั้น
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้เขาขนลุกซู่.....ไม่นานนักการจามก็เกิดขึ้น และเมื่อมันเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่ง ครั้งต่อๆ มาจึงตามมาอีกได้โดยง่าย
......
.....
....
...
..
.
“บ้าเอ้ย!” นายมะยมสบถทันทีที่เดินขึ้นมายังสถานีซึ่งเป็นปลายทางของจุดหมาย
ออฟฟิศอยู่แค่ตรงหน้า แต่ผมยังเทกระหน่ำ.... นายมะยมยืนรอ 5 นาที-----เท่านั้น
......
.....
....
...
..
.
“อุ้ย! พี่มะยม ไปตกน้ำที่ไหนมาคะ?” น้องพันซ์ร้องเสียงหลง
นายมะยมตอบอะไรไม่ได้เขาจามไม่หยุด และไอ.... เขาเริ่มไอมาตั้งแต่ยืนอยู่ในลิฟท์.... เสียงไอแห้งๆ ทำให้นายมะยมรู้ตัวว่า---ท่าจะไม่ดีแล้ว
นายมะยมเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเอง.... น้องพันซ์ที่หายไปเอาแก้วกาแฟมาให้เขา “พี่มะยมดื่มน้ำอุ่นก่อนนะคะ”
น้องพันซ์เดินจากไปและร้องถามคนในแผนก “มีใครติดเสื้อผ้าแห้งๆ มาบ้างคะ ขอให้พี่มะยมหน่อยค่ะ”
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมดื่มน้ำอุ่นจนหมดแล้ว อาการไอหยุดลง----เป็นการชั่วคราว
เขาเปิดลิ้นชักตัวเองและค้นยา.....มีแค่พารา ไม่มียาลดน้ำมูกหรือแก้ไอ
เขาลุกขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ซึ่งอยู่ข้างๆ กัน....ลิ้นชักของไอ้ศรมียาครบ นายมะยมเลือกเอาที่ต้องการออกมาวางบนโต๊ะ
“พี่มะยม ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนค่ะ อ้าว มียาใช่มั้ยคะ? เดี๋ยวหนูไปเอาน้ำอุ่นมาให้ นี่ค่ะเสื้อ” น้องพันซ์ยื่นเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาให้นายมะยม และหยิบแก้วกาแฟเดิมออกไปจากแผนก
บริเวณที่เป็นส่วนของเครื่องดื่มจะถูกจัดแยกไว้ต่างหาก และเป็นพื้นที่ส่วนรวมในชั้นนั้น
ขณะที่นายมะยมหยิบเสื้อผ้าชุดนั้นขึ้นมาและคิดว่าจะเดินไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำ มือหนึ่งก็คว้าหมับที่ต้นแขนของเขา
“คุณไปเปลี่ยนที่ห้องผม แล้วก็นอนพักที่โซฟาในนั้นซะ” คนที่จับต้นแขนเขาบอกเสียงเข้ม
นายมะยมเริ่มเบลอ ประสามสั่งการช้าลง ในขณะที่เขาประมวลความหมาย... เสียงดุนั้นก็เอ่ยออกมาอีก “เปลี่ยนเสื้อ กินยาแล้วพักในนั้น เดี๋ยวศรจะกับมา คุณค่อยกลับบ้านพร้อมเขา”
คนที่พูด พูดจบก็เดินเลยเขาไปทันที
คนคนนั้นเดินสวนกับน้องพันซ์ เขาเปิดประตูให้เลขาตัวเล็กซึ่งถือแก้วมาทั้งสองมือ “ขอบคุณค่ะหัวหน้า กลับเลยเหรอครับ?”
“ครับ... พรุ่งนี้ผมคงเข้าช่วงบ่าย มีอะไรโทรมานะครับ” เขาบอกเลขาตัวเอง และเดินออกไปจากแผนก
......
.....
....
...
..
.
น้องพันซ์เดินเอาแก้วน้ำไปวางไว้บนโต๊ะรับแขกหน้าโซฟา และเดินกลับออกมาเอายาที่วางอยู่บนโต๊ะของพี่ศร... จากนั้นก็ปล่อยให้พี่มะยมพักอยู่ข้างในคนเดียว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมนั่งเซื่องอีกสักครู่ และจัดการถอดเสื้อเชิ้ตและเสื้อกล้ามที่เปียกชื้นแนบตัวออก เขาวางมันที่โต๊ะกระจกใกล้มือ...
เขาเอาผ้าขนหนูที่อยู่บนกองเสื้อผ้าขึ้นมาเช็ดหน้าและหัว---กลิ่นเย็นสดชื่นลอยเตะจมูก...บอกไม่ถูกว่าเป็นกลิ่นอะไร
นายมะยมหมดความสนใจจากกลิ่นนั้นเมื่อเขาจามติดๆ กันอีกครั้ง... เขาจึงรีบถอดกางเกงของตัวเองออกมา และเช็ดตัวให้แห้ง ก่อนที่จะสวมเสื้อผ้าแห้งชุดนั้นไว้บนตัว
......
.....
....
...
..
.
ยาสามเม็ดถูกวางลงฝ่ามือ
......
.....
....
...
..
.
ฝ่ามือถูกยกขึ้นมาที่ริมฝีปากซึ่งเปิดอ้า
......
.....
....
...
..
.
ยามสามเม็ดถูกโยนเข้าไปในปาก.... น้ำอุ่นถูกนำตามเข้ามาเพื่อดันยาทั้งสามเม็ดให้ไหลลงสู่ลำคอได้อย่างสะดวก
......
.....
....
...
..
.
เมื่อจามติดกันอีกครั้ง นายมะยมจึงเอายาลดน้ำมูกเม็ดเล็กอีกเม็ดใส่ปากตามเข้าไปอีก
......
.....
....
...
..
.
น้ำอุ่นถูกดื่มหมดแล้ว.... ร่างกายของนายมะยมเริ่มมีการปรับตัว
......
.....
....
...
..
.
เพียงสิบห้านาทีต่อมา...หนังตาของนายมะยมก็เริ่มหนัก
เขาหยิบหมอนอิงอันหนึ่งไปวางไว้ที่ปลายสุดของโซฟาตัวยาว....เขาเอนหลังลงนอน และเอาหมอนอิงอีกสองใบมาวางที่หน้าอกอันหนึ่งและที่หน้าท้องอันหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
หากอยู่ที่ห้องตัวเอง เวลานี้เขาจะกอดหมอนข้างและนอนหลับไปได้โดยง่าย...แต่ไม่ใช่ที่นี่
......
.....
....
...
..
.
ที่ทำงาน.... ในห้องทำงานของหัวหน้าแผนก....ถึงแม้ได้รับอนุญาติแล้ว และรู้ว่าเจ้าของห้องจะไม่กลับเข้ามาอีก ----นายมะยมก็หลับไม่ค่อยลง
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่ยาเริ่มออกฤทธิ์
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่สติเริ่มเคว้งลอย
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่ดวงตาซึ่งปิดลงมานานแล้วกำลังจะหมดความรู้สึก
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นมาในหูของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าซึ่งก้าวย่างอย่างสม่ำเสมอดังใกล้เข้าหาตัวเขาอย่างช้าๆ ....
......
.....
....
...
..
.
เสียงพื้นรองเท้าหนังที่หนักกระทบบนพื้นกระเบื้องราวกับจังหวะกลอง ดังเป็นสัญญาณให้หัวใจดวงหนึ่งเต้น...ตาม
......
.....
....
...
..
.
กลิ่นมินต์สดชื่นจากนำยาโกนหนวดลอยขึ้นมาเตะจมูกของเขา
......
.....
....
...
..
.
ลมหายใจแผ่วเข้า-ออกของคนที่ก้าวมาอยู่ใกล้ตัวเขา...ฟังดูเป็นปกติดี
......
.....
....
...
..
.
หึ...ไม่ใช่เย้ยหยันหากแต่เหมือนขบขันด้วยความเอ็นดูหนึ่งดังลอยขึ้นมา
......
.....
....
...
..
.
บรรยากาศมีเพียงเสียงครางฮือของเครื่องปรับอากาศหามีเสียงอื่นไม่....
......
.....
....
...
..
.
และเขาฟังประโยคหนึ่งนั้นไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน------ “หายเร็วๆ นะครับ”
......
.....
....
...
..
.
ความแรงจากฤทธิ์ยาทำให้นายมะยมไม่อาจลืมขึ้นมาได้
......
.....
....
...
..
.
แต่ไม่ทันแล้ว เสียงฝีเท้าลอยห่างไปแล้ว-----เฉกเช่นเดียวกับสติของนายมะยม...
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #132
หน่วง เบาๆ :a12:
-
โอ๊ย ใครกันเนี่ย
-
ตอนนี้มีให้สงสัยสองคน
ท่านหัวหน้ากับน้องป้อง
-
เราจะเริ่มทำตัวเป็นโคนัน ตามกลิ่นเอา กร๊าก ไม่ใช่ละ
รวบรวมข้อมูลฮ่ะ
ผู้ชายกลิ่นมินต์ ใส่รองเท้าหนัง (น่าจะ) ทำงานที่เดียวกัน (น่าจะ) เป็นเจ้าของเสื้อผ้าชุดใหม่...ที่มีกลิ่นหอมสดชื่น ฟื้ด~ หอม แล้วก็ อาจจะอยู่คอนโดเดียวกัน อยู่คนละชั้น เลี้ยงตำลึงด้วย *0*
อืม ครบรึยังหว่า?? (ทำหน้าซีเรียส เอามือลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด เท่ซะไม่มี)
หัวหน้าบอกจะกลับมาเข้างานพรุ่งนี้บ่าย ถ้าหัวหน้าไม่โม้ล่ะก็...
บุคคลที่เป็นไปได้ตอนนี้จะเหลือแค่สองคน !! "หนูป๋อง กับ หนูศร (ที่เค้าเชียร์สุดใจ)" ผู้ที่มีความเป็นไปได้กันคนละสองสามสิ่งอย่าง ทีนี้ต้องดูกันว่าใครโกนหนวดใหม่ๆ
ตามลุ้นกันต่อไป ส่วนอิตาชุดวอร์มคงเป็นใครสักคนในสองคนนี้ละ (มั้ง)
-
โฮกฮาก
แบบว่าไร้คำบรรยาย ทำไมชีวิตนายมะยมมันถึงยุ่งเหยิงขนาดนี้
แต่แบบว่า...ก็โรแมนติกดีนะ อิอิ
พ่อมึงมีเมียแล้ว?? จริงเหรอ?? นายศร นายป๋อง ไหนจะอีตาชุดวอร์ม โอ๊ยย
ทำไมมันถึงซับซ้อนเช่นนี้ แต่ตอนนี้พอจะรู้ได้ว่าต้องเป็นที่ทำงาน
แล้วใครอะ ใครก๊านนน 555 เอาเป็นว่าลุ้นต่อไป แต่ทำไมในใจยังแอบเชียร์พ่อมึง ว๊ากก
พอละพล่ามมาก ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ รักที่สุดเลยอะ อิอิ
-
ใครกันนะ เจ้าของเสียงกระซิบ
อิอิ ใครกันนะอยากกินมะยม
เชียร์ พ่อมึง
-
โอ๊ยใครกันนะใครกัน
อยากรู้จะแย่แล้ว
แอบเชียร์พ่อมึง :z2:
บวกเป็ด
-
อ่านรวดเดียวว เพิ่งเข้ามาเจออ่ะ -..-
ตอนแรกนึกว่านายมะยมเราจะเป็นฝ่ายรับซะอีก
อ่านไปอ่านมา อ้าวมันรุก!! แล้วจะคู่ใครล่ะเนี่ยย
ตัวเลือกเยอะเกิ๊นนนน เชียร์พ่อมึง!! หุหุ
-
เฉลยเถอะค่่า.... ใครกันเนี่ย
คนเข้ามาหาน้องมะยมเยอะเกิน เชียร์ไม่ถูกแล้ววววว
จะเชียร์พ่อมึงก็ดันมีลูกมีเมีย เฮ้อ
จะเชียร์ศรก็ เอ๊ะ ยังไง รู้สึกไม่มีออร่านายเอก
หรือจะเชียร์น้องป๋องดีน้อ ยังมีพ่อตำลึงชั้นห้าอีก
เอาเถอะ อะไรก็ได้ ห้ามจบแบบเรื่อง แอบนะ อ่านจบแล้ว ขอบอก หน่วงโคดๆๆๆๆๆ
-
แอบอยากให้นายมะยมได้กับพ่อมึงนะ
-
พี่มะยมนอนอยู่ห้องพ่อมึง ถ้าไม่ใช่พ่อมึงแล้วใครจะกล้าเข้าห้อง~~ เนอะ เนอะ เนอะ
((ถึง...คุณหัวหน้าแผนก เราเชียร์เต็มร้อย ขอของกำนัลเป็นพี่ศรกับน้องกัสก็พอไม่ขอเยอะ))
-
:m20: ฮาหลายความเห็น... โคนันกันสุดๆ
หนุ่มๆ สมัยนี้ไม่กลัวฟ้าผ่ากันแล้ว--- อันนี้ฮามาก :jul3:
:pig4:ทุกความเห็น...
ร่างโครงเรื่องเสร็จแล้ว แต่ยังไม่พิมพ์...อย่างน้อยก็เบาใจกันได้ว่า หัวกับหางมาชนกันเ็ป็นที่เรียบร้อย
แต่ท่านผู้มีอุปการะคุณคะ [กระซิบ] ของนายมะยมเค้ายาวจริงๆ ค่ะ...ยาวกว่าเวลาเสียด้วยซ้ำ :z3:
แต่คงเป็นความยาวที่ท่านๆ น่าจะชอบ (ผู้เขียนคิดเอาเอง)
ปัญหาตอนนี้...มี 3 อย่าง
1. ยังตัดสินใจเรื่องเวลา+ระยะเวลาในเนื้อหาไม่ได้...หากลงตอนหน้านั่นคือเราตัดสินใจเรื่องนี้ได้แล้ว
2. มีหนึ่งประโยคที่ผู้เขียนรอมันมาจาก...เพื่อนผู้เขียน หากมันได้มาแล้ว มันจะ :m25:
3. มีอีกสิ่งที่ตั้งใจทำเพื่อผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน....ส่วนนี้ไม่กำหนดว่ามันจะมาตอนนี้หรือตอนจบเรื่องแล้ว... มาตอนไหนก็ได้ ทุกท่านคงรับกันได้ "เมื่อมันมา"
ทุกสิ่งใน 3 ข้อนี้ที่ทำให้ลงตอนต่อๆ ไปไม่ไ่ด้.... ถือเป็นคำขอบคุณจากผู้เขียนสู่ท่านผู้มีอุปการะทุกท่านนะคะ
หากไม่มีทุกท่าน....ผู้เขียนคงไม่คิดเยอะปานนี้ :laugh:
แล้วเจอกันค่ะ....อาจนานสักหน่อยก็หวังว่าจะยังกรุณาผู้เขียนตาดำๆ คนนี้นะคะ :กอด1:
-
รอค่ะรอ
:3123:
-
ยินดีรอด้วยความเต็มใจค่ะ
รอ 'มัน' ด้วยเหมือนกัน อิอิ
-
รอได้จ้า :z2:
-
รอ รอ รอ รอ ร๊อ รอ และ รอค่ะ อิอิ
เป็นกำลังใจให้นะคะ >O<
-
มีผู้ต้องสงสัยเพิ่มมาอีกแล้ว
-
:กอด1: กำลังพิมพ์ตอนต่อไป
และสิ่งที่พิมพ์นี้เกิดด้วย... http://youtu.be/lFvNW0pgEy8
ขอบคุณ WhatChaRaWaLee ...อิชั้นรักคุณ
-
คำที่หก
*** ได้ยินมั้ย?
....
...
..
.
คำที่มันร้องอยู่ในใจผม...
“.......” คุณได้ยินมันมั้ย?***
เปรี๊ยง!!!!------เสียงครางคืนจากฟากฟ้าปลุกใครคนหนึ่งซึ่งหลับใหลบนที่นอนอุ่นนุ่มให้ลืมตาขึ้นมา
ดวงตาที่ปรือเพียงครึ่งมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความ---ไม่เข้าใจ
เพดานห้องที่ต่างจากตอนที่เขาล้มตัวลงนอนบนโซฟา.... คนที่ลืมตาเมื่อกี้ก้มหน้าลงมา...เขาเห็นผ้าห่มที่คุ้นตา
สายตาคู่นั้นเริ่มกวาดมองไปรอบๆ ห้อง....หลังของคนที่-----คุ้นเคย
เขาลองขยับตัวจะลุก....ลุกไม่ได้ แต่ตะแคงตัวได้....เขานอนมองแผ่นหลังด้วยความอุ่นใจ
นานแล้วที่ไม่ได้ป่วยขนาดนี้...แต่หลังจากที่เสียแม่ไป และหลังจากที่พ่อของเขาขอเขาไปปลีกวิเวก...คนที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ในสายตาเขาเวลานี้----ยังอยู่กับเขาในเวลาเช่นนี้...ด้วยเสมอ
......
.....
....
...
..
.
คนที่หันหลังมาตลอดหันหลับมาและเดินเข้ามาหาคนที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงพร้อมรอยยิ้ม.... “ตื่นแล้วเหรอ นอนแดกบ้านแดกเมืองเลยนะมึง”
“กี่โมงแล้ววะ?” คนที่นอนถามเสียงแหบ...พออ้าปากและพูดถึงรู้สึกระคายในลำคอ
“ตีห้า...กูว่าจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้ออยู่พอดี มึงนอนเองได้มั้ย? อยากแดกไรล่ะ เดี๋ยวซื้อขึ้นมาให้” ศรบอกและถามคนป่วย
“เจ็บคอว่ะ เอาที่กินง่ายๆ ก็พอ” นายมะยมบอก
นายศรเดินไปที่โต๊ะหัวเตียง หยิบมือถือและกระเป๋าสะพายข้างของตัวเองขึ้นมา
“กูไปแป๊บนึงนะ เดี๋ยวมา” พูดจบก็โบกมือให้ แล้วเดินออกไปเปิดประตู นายศรเปิดมันให้กว้างๆ และเอาเก้าอี้ตัวนึงมากั้นไว้ ก่อนจะบอกว่า “เปิดไว้แบบนี้แหละ อยู่ชั้นบนสุด คงไม่มีอะไร เผื่อมึงตายจะได้มีคนรู้....แต่เดี๋ยวไอ้ป๋องมันก็คงมา กูเพิ่งให้มันกลับไปอาบน้ำที่ห้องมันเมื่อกี้เอง”
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าก้าวออกไปเหยียบพื้นกระเบื้องยาง ...สักพักเสียงลงเท้าดังตุบๆ เป็นจังหวะก็ดังขึ้น เป็นเวลานานพอดูเพราะนายศรไม่ชอบใช้ลิฟท์ หากเดินถึงและเดินไหว นายศรมักเดินขึ้นลงเองเสมอ
เสียงฝีเท้าที่ไกลออกไปแต่ยังได้ยิน...ถูกกลบด้วยเสียงไอ
นายมะยมลุกขึ้นมา มองหาขวดยา.... น้ำมูกที่อั้นอยู่ในโพลงจมูก เริ่มไหล.....ออกมา
นายมะยมรีบคว้าทิชชู่ขึ้นมาซับ....และลุกขึ้นไปที่ขวดยา...ยาลดน้ำมูกเม็ดสีเหลืองเล็กถูกแกะมาไว้ในอุ้งมือ และเมื่อน้ำเปล่าถูกเทลงแก้ว ยาเม็ดนั้นก็ถูกพาเข้าไปในปาก
น้ำนำพามันเข้าไปในลำคอและไปต่อยังที่ที่ควรไป....นายมะยมเดินกลับมาที่เตียงพร้อมขวดยาแก้ไอ เขาจิบมันสองครั้ง และล้มตัวลงนอน
......
.....
....
...
..
.
ประตูกระจกตรงระเบียง ศรเปิดทิ้งไว้....อากาศเย็นๆ จากยามเช้ารุ่งพัดไอฝนเข้ามา----อากาศไม่อบอ้วนเฉกเช่นเดิมที่เคยเป็นอีกต่อไป
นายมะยมชอบหน้าฝน....เพราะหน้าฝนอากาศจะเย็นสดชื่น...ปีนี้นับว่าผิดแผนไปมาก....เพราะไม่สบาย เขาเลยอดต้อนรับฤดูฝนด้วยความยินดี เหมือนที่เคยทำ ในทุกๆ ปี
......
.....
....
...
..
.
ด้วยความเพลียและบรยากาศขับกล่อมนายมะยมจึงปิดตาลง.....เพียงไม่กี่นาที หนังตาเขาก็เริ่มหนัก นายมะยมปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่ภวังค์
......
.....
....
...
..
.
เสียงรองเท้าเสียดสีกับพื้นกระเบื้องยาง
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าเอี๊ยดอ๊าดนั้นดังเคลื่อนมาหา....
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้านั้นหยุด
......
.....
....
...
..
.
ไอเย็นขับกล่อมนายมะยมให้หลับไปด้วยรอยยิ้ม
......
.....
....
...
..
.
พร้อมกระชับไออุ่นหนึ่งซึ่งกำมือของตัวเอง...เอาไว้
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #134
-
ช่างเป็นชายที่น่าอิจฉา
รอบข้างมีแต่.. ชาย ชาย ชาย ชาย และ ชาย
[กระซิบ] ติดกล้องวงจรปิดเบย เดี๋ยวก็รู้ว่าใคร~
เราจะตั้งใจรอให้มากกว่าตั้งใจทำงานค่ะ สัญญาเลย <3
ปล. เราฟัง 'ทราย' แล้วคิดถึงขวดขาวกับขวดดำจังเลยค่ะ T T
-
......
.....
....
...
..
.
วันเสาร์... วนมาอีกครั้ง
อาทิตย์นี้เพื่อนในก๊วนไม่ได้มีนัดกัน ทุกคนมีนัดกับ “คนอื่น”....และนายมะยมก็ไม่ได้น้อยหน้าเพื่อนๆ...วันนี้เขามีนัดกับเด็กน้อยกางเกงน้ำเงิน
นายมะยมป่วยเป็นอาทิตย์ รบกวนเพื่อนศรและน้องป๋องสุดติ่ง สองคนนั้นเขาต้องสลับกันมาดูนายมะยมทั้งช่วงเช้าก่อนไปทำงานและช่วงเย็นหลังงานเลิก...
ทุกคืนป๋องจะมานอนเป็นเพื่อน
ส่วนศรจะอยู่ด้วยจนดึกถึงปั่นจักรยานกลับไปบ้าน และมาอีกทีตอนเช้าเพื่อเอาของกินมื้อเช้ามาให้นายมะยม จากนั้นถึงออกไปทำงานพร้อมกับป๋อง
ตอนกลางวันที่ศรไม่อยู่ แต่ศรจะคอยโทรเช็คเป็นระยะ----- ทุก 4 ชั่วโมง ....บางทีไอ้ไม้กับไอ้กันก็โทรมาคุยเล่นบ้าง..... นายมะยมจึงไม่เบื่อ
จนอาการทุเลาและหัวเบา นายมะยมจึงมีอารมณ์ลุกขึ้นมานั่งเล่น
พอเห็นป๋องนั่งอ่านหนังสือการ์ตูน นายมะยมจึงนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองลืมไปหาน้องกัสตามที่นัดกับน้องเอาไว้!!
ทันทีที่นึกขึ้นมาได้นายมะยมรีบไปเปิดเมลแล้วก็พบ----เมลจากน้องกัส...เมื่อ 5 วันก่อน
หวัดดีครับพี่มะยม
ผมไปรอพี่จนห้างปิด แต่ไม่เห็นพี่เลย
ผมไม่มีเบอร์โทรพี่ เลยกลับมาบ้านแล้วถึงค่อยส่งเมลหาพี่
พี่มะยมเป็นอะไรรึเปล่าครับ?.....
ปล. ถ้าผมรบกวนอะไรพี่ พี่บอกผมได้นะ จริงๆ นะครับ
กัส
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมอ่านข้อความในเมลจบก็รีบตอบกลับในทันที...รอสักพัก เมลใหม่ก็เด้งขึ้นมา เขารีบเปิดมันอ่าน
งั้นเจอกันวันเสาร์ละกันเนอะ พี่มะยมสะดวกมั้ยครับ?
จริงๆ อยากนัดวันอาทิตย์ แต่ผมกลัวพี่ไม่ได้พัก...
ปล. วันเสาร์กินข้าวกันนะครับ.....หรือดูหนังดี??
อันไหนก็ได้แล้วแต่พี่มะยมนะครับ
กัส
......
.....
....
...
..
.
นายมะยม---ตายกันไปเลย
และเพราะเมลนี้ละ นายมะยมถึงได้มายืนอยู่หน้าโรงหนังแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง....ด้วยรอยยิ้มที่ไม่จางจากใบหน้า
......
.....
....
...
..
.
“พี่มะยม”
เสียงเรียกชื่อของเขาดังมาจากด้านข้าง....ไกลๆ นายมะยมหันไปตามเสียงเรียก เขาเห็นเด็กกางเกงน้ำเงินกลุ่มเล็กๆ เดินมาหาเขา
“หวัดดีครับพี่....” เด็กกางเกงน้ำเงินยกมือไหว้เขาอย่างพร้อมเพรียงเมื่อเดินมาถึงเขา
“ไม่ต้องไหว้ก็ได้ พี่ไม่อยากแก่ว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมยกมือรับไหว้พร้อมบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“พี่ วันนี้ให้พวกผมเลี้ยงนะ ดูหนังเสร็จ ไปกินข้าวกัน” เพื่อนน้องกัสคนหนึ่งบอกเขา ทันทีที่ยื่นมือรับของที่ฝากซื้อถุงเบ้งมาจากพี่มะยม
“เฮ้ย ไม่ต้องๆ อเมริกันแชร์... ให้เด็กเลี้ยงได้ไง ใครรู้อายเค้าตาย” นายมะยมบอก
“ไม่ได้ครับ รบกวนพี่ตั้งเยอะ...ไหนจะฝากซื้อของอีก...ไม่เอาอ่ะ เกรงใจโคตร โคตร!!” น้องอีกคนบอก
“ก็ให้เงินค่าของพี่มา...พอ แค่นี้แหละ” นายมะยมบอกเด็กๆ
“อันนั้นให้อยู่แล้วครับ แต่อย่างอื่นอ่ะ น้ำใจ.... รับหน่อยสิครับ” น้องกัสบอก
นายมะยมคร้านจะเถียงต่อ จึงตอบรับคำขอของเด็กๆ.....วันนี้นายมะยมกินเที่ยวฟรีตลอดรายการ ปล่อยให้เด็กๆ เค้าแชร์กัน-----แทนคำขอบคุณที่เขาหิ้วของฝากมาจากญี่ปุ่น
ก่อนเข้าไปดูหนังเด็กๆ ขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อน เพื่อความสะดวกในกิจกรรมวาระต่อไป
......
.....
....
...
..
.
ดูหนังเสร็จ....สองทุ่มกว่า
เด็กๆ ขอให้พาไปกินข้าวที่เยาวราช นายมะยมก็เป็นตัวแทนผู้ปกครอง....พาลูก (ของคนอื่น) ไปกินข้าวและตะเวนราตรี---- จากเยาวราช ต่อสะพานพุทธ จบด้วยสถานีรถไฟฟ้า...เที่ยวสุดท้ายของวัน
และด้วยคำว่า “ถึงบ้านแล้วบอกพี่ด้วยนะ เกิดพวกเราเป็นอะไรไป พี่ไม่มีเมีย ทำลูกใช้พ่อแม่เราไม่ได้นะเว้ย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า.....แล้วผมจะโทรบอกพี่ได้ไง พวกผมไม่มีเบอร์พี่นะ” น้องคนหนึ่งในกลุ่มบอกเขา...ตอนที่คนอื่นๆ ยังหัวเราะไม่หาย
“อ้าวเหรอ? ...เออว่ะ ลืม! ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมหน้าเหวอ และเกาหูแกรกๆ ด้วยความอาย
......
.....
....
...
..
.
ตลกแดกไปงั้นละ------ เล่นให้อายนิดโหน่ย แต่เขาจะได้เบอร์น้องกัสมา.... แผนของนายมะยมประสบความสำเร็จ!!
ขั้นต่อไป....เหลือแค่หัวใจ---เท่านั้น
......
.....
....
...
..
.
กว่าจะถึงห้องพัก....น้องๆ ก็ถึงบ้านกันหมดแล้ว
นายมะยมกดมองหมายเลขสุดท้ายที่ส่งข้อความมาหาเขา.....ด้วยรอยยิ้ม
หมายเลขนั้นถูกเมมชื่อไว้ว่า----คนน่ารัก
ถึงบ้านแล้ว วันนี้ขอบคุณมากนะครับ พี่มะยมน่ารักที่ซู๊ดเลย
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเก็บข้อความนั้นไว้ในกล่องต่างหาก และลบข้อความอื่นๆ ทิ้งไป-----ทั้งหมด
จากนั้นนายมะยมก็เดินไปอาบน้ำ และกลับมานอน....ฝันหวาน
......
.....
....
...
..
.
ในฝันคืนนั้น... นายมะยมพาน้องกัสไปเที่ยวหลายที่
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #137
-
อิจฉานายมะยมเหมือนกันนะเนี่ยเรื่องนี้น่าจะเป็นมะรุมมะตุ้มรุมรักมะยมนะ
-
คนแอบรักเค้าก็ยังแอบต่อไป
คนอ่านก็ลุ้นตามทุกตอน
มีน้องกัสมาให้นายมะยมและคนอ่านได้กระชุ่มกระชวยบ้าง
บวกเป็ด
-
......
.....
....
...
..
.
ชายคนหนึ่งยืนหอบเหนื่อยอยู่ในทางคอนกรีตขนาดเล็กที่พอให้คนเดินสวนทางกันได้ เขาไม่ค่อยได้ออกกำลังหนักแบบนี้.... อันที่จริงมันก็แค่วิ่งเยาะๆ แต่เขาวิ่งได้แค่ 10 นาทีก็หอบแล้ว
ลมหนึ่งพัดวูบผ่านตัวเขาไป....ชายที่สวมชุดวอร์มเต็มยศและเอาฮู๊ดขึ้นคลุมหัว วิ่งผ่านเขาไป---- นายมะยมนับได้....รอบที่สี่
นายมะยมปรับลมหายใจตัวเอง เขาสะบัดเสื้อตัวโคร่งที่เปียกแนบตัวกระพรือลม.... สูดลมหายใจเข้าลึกสร้างกำลังใจให้ตัวเอง
“เม่งเอ้ย! น้อยหน้ามันได้ไงวะ” นายมะยมพึมพำกับตัวเอง และยกลูกฮึดขึ้นมาอีกครั้ง
เขาเริ่มออกวิ่งเยาะๆ วนรอบสวนหย่อมใกล้หอพักนั้น----รอบที่สอง
......
.....
....
...
..
.
ในสวนแห่งนี้... ช่วงเย็นจะมีเด็กเล็กและแม่บ้านมาชุมนุมกัน
นายมะยมไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนั้น จึงออกมาวิ่งในช่วงเช้า
วันแรกที่ตื่นมาวิ่ง เขาตื่นตีห้า เดินลงไปที่สวนหย่อมตีห้าสิบนาที แต่วันแรกที่ไปเขาวิ่ง แค่รอบเดียวฝนก็เทลงมา.... วันที่สองก็ไม่ต่างกัน
จากที่ตั้งใจว่าจะวิ่งตอนเช้า ทำให้นายมะยมต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นช่วงเย็นแทน....
แรกๆ ก็ประดักประเดิกอยู่เหมือนกัน แต่นานไปเขาก็พบว่า มีคนผลัดเปลี่ยนมาวิ่งอยู่ในสวนนี้อย่างมากหน้าหลายตา----- และขาประจำของสวนนี้คือนายชุดวอร์มที่วิ่งไกลๆ อยู่เบื้องหน้าเขาเวลานี้นี่แหละ
เพราะมีเพื่อนวิ่ง (??? เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่*0*) นายมะยมจึงมาออกกำลังที่นี่ทุกวัน
......
.....
....
...
..
.
ส่วนใหญ่....พอวิ่งเสร็จ เขาจะปั่นจักรยานไปบ้านเพื่อน ไปทำกับข้าวโดยมีผักที่ปลูกเองเป็นเครื่องปรุงและเครื่องเคียง แบ่งให้เจ้าของบ้านกินตามมารยาท กินอิ่มก็ไปรดน้ำผักของตัวเอง และปั่นจักรยานกลับมาหอพัก อาบน้ำนอน
ส่วนน้อย เมื่อวิ่งๆ อยู่ “คนคนหนึ่งจะมารับ” และพวกเขาจะพากันไป....ติวหนังสือ
......
.....
....
...
..
.
และวันนี้ก็เป็นวันส่วนน้อยที่ว่านั้น
นั่นไง พูดไม่ขาดคำ---มาแหละ!
เด็กกางเกงน้ำเงินโบกมือหวอยๆ ให้นายมะยมพร้อมรอยยิ้ม... นายมะยมโบกมือให้ และวิ่งไปที่ประตูของส่วนหย่อม
“โห เหงื่อซกอีกแหละ” น้องกัสพูดด้วยรอยยิ้ม
“ร้อนนี่ครับ ป๊ะเหอะ” นายมะยมที่หอบนิดๆ ชวนกลับ
“ผมซื้อข้าวมาแล้ว วันนี้มีของโปรดพี่ด้วยนะ นี่!” น้องกัสชูถุงกับข้าวอวดนายมะยม
“โห---- ลาภปาก” นายมะยมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าผ้าใบเดินเคียงไปกับเด็กนักเรียน ม. ปลายที่ตัวเล็กเท่าหน้าอกของเขา------ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม
ทั้งสองหารู้ไม่ว่า ภาพของพวกเขาถูกโฟกัสตามติดทุกวินาที....ทุกอากัปกริยา-----ด้วยดวงตาสองคู่
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่คนสองคนเดินลับหายเข้าไปในตัวตึกของหอพัก----- เจ้าของดวงตาคู่หนึ่งซึ่งสวมชุดวอร์ม...กลับไปวิ่งต่อ
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่คนสองคนเดินลับหายเข้าไปในตัวตึกของหอพัก----- เจ้าของดวงตาคู่หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหารซึ่งอยู่เฉียงไปจากสวนหย่อม...จ่ายเงินค่าอาหารและเดินออกมา เขาหยิบจักรยานที่จอดไว้หน้าร้าน..... ปั่นมันลึกเข้าไปในซอยแห่งนั้น----อย่างเหม่อลอย
-
......
.....
....
...
..
.
“บายครับ ถึงบ้าน ติ๊ด---ติ๊ด มาบอกพี่ด้วยนะ” นายมะยมบอกน้องกัสที่ขึ้นไปซ้อนหลังมอเตอไซด์รับจ้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รอยยิ้มพิมพ์ใจส่งมาพร้อมคำขอบคุณ “ขอบคุณครับ บายครับ”
แล้วพี่วินก็พาดวงใจที่น่ารักของนายมะยมวิ่งลึกเข้าไปในซอยแห่งนั้น
บ้านของน้องกัสไม่ได้อยู่ในซอยนี้ แต่หากไปสุดซอยนี้ น้องกัสจะข้ามสะพานลอยอีกครั้ง และนั่งมอไซด์รับจ้างเข้าบ้านได้....เป็นทางลัดที่น้องกัสบอก
ครั้งแรกที่น้องกัสมาติวหนังสือ นายมะยมเป็นห่วงและอยากไปส่ง แต่กัสบอกว่าไม่เป็นไร เคยมาทางนี้และกลับทางนี้ ...น้องกัสอธิบายทางไปอย่างละเอียด เป็นทางในแบบที่นายมะยมรู้เหมือนกัน เขาจึงปล่อยให้น้องกัสกลับไปเอง
......
.....
....
...
..
.
น้องกัสมาหานายมะยมเพื่อให้ช่วยติวภาษาอังกฤษกับญี่ปุ่นให้... ช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นการสอบวิชาสามัญ... น้องกัสลงเรียนพิเศษไว้กับโรงเรียนมีชื่ออยู่แล้วก็จริง แต่บางอย่างน้องกัสว่าไม่เข้าหัว
น้องกัสบ่นให้นายมะยมฟัง นายยะยมจึงออกตัวช่วย... ถึงกัสดีใจแต่กัสก็เกรงใจ นายมะยมหย่อนเบ็ดอีกครั้งให้ปลาเริ่มส่วนใจเหยื่อ---คราวนี้เขาโรยขนมปังไปผิวน้ำสองสามก้อนด้วยเพื่อให้ปลาตายใจ
“ไวยากรณ์แน่นขนาดไหนมันอาจใช้จริงไม่นะครับ ติวกับพี่...พี่ช่วยฝึกฟังฝึกพูดให้ได้นะ ทุ่นค่าเรียนไปได้เยอะเลยละ... แต่หากกัสไม่สะดวกใจ กลัวเหนื่อยก็ไม่เป็นไรครับ พี่ก็แค่แนะนำในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ตรงมาก่อนเท่านั้นละครับ”
......
.....
....
...
..
.
บางครั้ง เราก็สามารถเอาความ “ฐานะของผู้ผ่านประสบการณ์มาก่อน”...... มาใช้ประโยชน์ได้
......
.....
....
...
..
.
เช่นนี้เอง น้องกัสจึงขอพ่อและแม่มาติวภาษากับพี่มะยม...ที่สอบสัมภาษณ์จากแม่ของน้องกัสผ่านแล้ว...ได้
ประวัติในการทำงานทำให้นายมะยมดูน่าเชื่อถือมาก... ค่าเรียนที่คิดเล็กน้อยและขอแลกเป็นอาหารมื้อค่ำในวันที่มาเรียนนั้นด้วย ทำให้น้องกัสสบายที่จะมาใช้บริการการศึกษากับพี่มะยม
ตลอดการเรียน นายมะยมยังไม่ได้แปลงร่างเป็นหมาป่า... นายมะยมยังสวมชุดหนังของพี่ชายใจดีเอาไว้แน่น....ไม่มีโผล่หางให้เห็น!
ไม่ใช่ว่าเบื่อ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแล้ว.... แต่เพราะยิ่งรู้จักยิ่งชอบมากๆ ยิ่งๆ ขึ้น นายมะยมจึงตั้งใจถนอมความสัมพันธ์นี้ให้----เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
หากนับวันนี้ด้วย.... อีกเจ็ดวันจะครบสี่เดือนที่น้องกัสมาติวภาษาในห้องนายมะยม
น้องกัสหายเกร็งนานแล้ว และให้ความสนิทกับนายมะยมมาก
นายมะยมไม่ได้เปิดเผยความเป็นเกย์ของตัวเอง----แต่เขาไม่ได้ปิดบัง
ทุกสิ่งในห้องถูกวางในที่ของมันโดยไม่มีปิดซ่อน....หากน้องกัสจะเดินเล่นในห้อง และไล่รายชื่อของหนังที่วางอยู่ในชั้นข้างทีวี...น้องกัสจะเห็นหนังผู้ใหญ่ฉบับพิเศษของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
น้องกัสเขารับได้
......
.....
....
...
..
.
รู้ได้ยังไงน่ะหรือ....ก็น้องกัสเคยขอยืมหนังไปดูที่บ้าน
......
.....
....
...
..
.
วันหนึ่ง ก่อนกลับบ้าน น้องกัสเอ่ยปากขอยืมหนังไปดูที่บ้าน นายมะยมปล่อยให้กัสเลือกและหยิบไปเอง โดยอ้างว่ามีธุระจะลงไปคุยกับป๋อง แล้วให้น้องกัสปิดห้องให้ จากนั้นตัวเขาก็เดินลงไปคุยเล่นกับป๋องที่ชั้นห้า
น้องกัสลงมาหาและบอกว่าจะกลับแล้ว
นายมะยมลาป๋องและลงไปส่งน้องกัสขึ้นรถมอไซด์รับจ้าง
คำพูดเดิม รอยยิ้มเดิม และรถก็ขี่ไปในทางเดิม
......
.....
....
...
..
.
แต่ที่ชั้นหนังของนายมะยม...ไม่เหมือนเดิม!
หนังจากฮอลลีวูดหายไปแค่ 1 เรื่อง----แต่หนังจากนิปปอนหายไปถึง 5 .....!!!!
นายมะยมอมยิ้มพลางมองช่องว่างที่เกิดขึ้นบนชั้นวางดีวีดีของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
ยังไม่ใช่เวลากระตุกเบ็ด..... เขาจะปล่อยปลาน้อยให้ตอดเหยื่อไปทีละนิด----ละนิด...ก่อน
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #141
-
อะไร อะไร อะไร อาร๊ายยยยยยยยยยยยย
ก็มัน ก็มัน
จากตรงนี้ > ส่วนใหญ่....พอวิ่งเสร็จ เขาจะปั่นจักรยานไปบ้านเพื่อน ไปทำกับข้าวโดยมีผักที่ปลูกเองเป็นเครื่องปรุงและเครื่องเคียง แบ่งให้เจ้าของบ้านกินตามมารยาท กินอิ่มก็ไปรดน้ำผักของตัวเอง และปั่นจักรยานกลับมาหอพัก อาบน้ำนอน
มันทำให้วูบนึงคิดไปแล้วว่า ไม่ใช่ ไม่ใช่ศรแน่วะ! ฮือ เศร้า เสียใจ คงไม่ใช่แล้วล่ะ เพราะถ้าเป็นศรมันจะวิ่งไป กลับไปกลับมา เหนื่อยไปไหม จะไปทันก่อนมะยมเหรอ ไม่มั้ง งั้นคงไม่ใช่ศรหรอก ทำใจ...แต่!!
แต่จากตรงนี้! > ทันทีที่คนสองคนเดินลับหายเข้าไปในตัวตึกของหอพัก----- เจ้าของดวงตาคู่หนึ่งซึ่งสวมชุดวอร์ม...กลับไปวิ่งต่อ
และตรงนี้! > ทันทีที่คนสองคนเดินลับหายเข้าไปในตัวตึกของหอพัก----- เจ้าของดวงตาคู่หนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหารซึ่งอยู่เฉียงไปจากสวนหย่อม...จ่ายเงินค่าอาหารและเดินออกมา เขาหยิบจักรยานที่จอดไว้หน้าร้าน..... ปั่นมันลึกเข้าไปในซอยแห่งนั้น----อย่างเหม่อลอย
ปั่นจักรยาน = บักศร , ชุดวอร์ม = บักป๋อง
บักศร + บักป๋อง + มะยม = 3P ทรีซั่ม !!!!! กรี๊ด สมการกระชากเลือดโดยแท้ !!! (อินี่ก็ช่างคิดไปได้เนอะ :z3: ฮ่าๆ ก็มันมีแนวโน้มอ่ะ กร๊าก)
รอตอนต่อค่ะ
EDIT เพิ่มเติม : อุ้ย โพสปั๊ปได้อ่านต่อเลย ดีนะที่ไม่ปาด เอ๊ะ รึปาด จะมีต่อข้างล่างเปล่านะ ขออภัยล่วงหน้าค่ะ
ไหนๆ ก็ ไหนๆ ละ ว่าต่อที่ตอนที่เพิ่งอ่านไปเมื่อกี้ น้องกัส น้องมามีบทเยอะไปแล้ว ถึงนายมะยมจะปลื้ม แต่พี่เปล่าปลื้มนะคะ ชิ้ว (ออกอาการผลักไล่ไสส่งอย่างโจ้งแจ้ง :laugh:)
อ้อ อีกนิดนึง สมมุตินะ ว่าถ้าอิตาชุดวอร์มมันเป็นตัวหลอกก็อาจเป็นไปได้ ก็มัน...
เจ้าของดวงตาคู่หนึ่งซึ่งสวมชุดวอร์ม...กลับไปวิ่งต่อ
มันกลับไปวิ่งต่ออ่ะ!!!! o22
มันอาจเป็นตัวลวงก็ได้ ไม่มีความเกี่ยวข้อง เพราะอย่างนั้นมันก็จะเหลือแค่ศรเท่านั้น
กลายเป็น ศร+มะยม = ดีเลิศเพอร์เฟกต์ กิ๊บก๊าว หวานๆ โรแมนติก
อุคิกๆๆ คุๆๆ คิกๆๆ < เป็นเสียงหัวเราะที่แสดงถึงอาการปลื้มใจกับการคาดเดาแบบมั่วแนวของตัวเองเป็นอย่างมาก ฮ่าๆ
-
มากกว่าหนึ่งจริงด้วย ไม่เผยตัวเดี๋ยวก็เสียใจ
มะยมกะลังจะกินลูกปลาอยู่รอมร่อ
-
ฤดูฝนเริ่มเคลื่อนคล้อยไปจากกาลเวลา.... ด้วยความผิดเพี้ยนของสภาพอากาศ จากที่ควรเป็นเวลาของฤดูหนาว ชาวโลกในประเทศไทยกลับต้องทวนเข็มมายังฤดูร้อน---กันอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเด็ดตำลึงที่ห้องใส่ถุงพลาสติก.... วันนี้เขาจะทำแกงจืดตำลึง
ตำลึงห้องเขาเริ่มแผ่นเป็นพุ่มหนา ก่อนนี้เขาใช้แค่ซี่ไม้สองสามอันมาปักให้มันเลื้อย ที่ไหนได้ แดดดีน้ำดีไม่นานนัก ซี่ไม้ของเขาก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นระแนงไม้... มันเป็นระแนงที่ใหญ่พอดู
เขาขัดมันและตอกตะปูที่บ้านเพื่อน และให้เพื่อนปั่นจักรยานโดยมีเขาซ้อนท้ายมายังหอพักของเขาเอง เขาแบกมันขึ้นมาจนถึงห้องตัวเอง และปล่อยให้เพื่อนจัดการเอามันไปตั้งที่ระเบียงห้องให้
สองอาทิตย์ผ่านไป...วันนี้เขาจึงต้องเอาตำลึงที่น่ารักในห้องตัวเองไปชดเชยค่าแรงของเพื่อน
ระแนงที่ระเบียงมีสองฝาก และเว้นช่องตรงกลางไว้ ความกว้างพอดีให้หัวคนคนหนึ่งลอดผ่านไปได้... นายมะยมชอบก้มลงไปมองตำลึงต้นบุพการีที่อยู่ห้องด้านล่างเขา----มันกดมว๊าก...เยอะจนนายมะยมอิจฉา
ต้นพ่อต้นแม่ออกดอกแล้ว แต่ของนายมะยมยังไม่เคยเห็นเลยสักดอกเดียว... นายมะยมกะไว้ว่า หากมันออกดอกแรก เขาจะเด็ดมันไปลอยน้ำ เอาขึ้นไหว้พระบนหิ้งพระของบ้านเพื่อนศร---- เป็นสิริมงคล ให้ตัวเองมีกินมีใช้ และมีชีวิตที่รอบด้วยกลีบดอกไม้....*0*
......
.....
....
...
..
.
ลมเย็นๆ พัดประทะตัวนายมะยมที่ปั่นจักรยานลึกเข้าไปในซอย... เขาหันไปเห็นสมาคมแม่บ้านและแก๊งค์เด็กน้อย... แต่ไม่มีเพื่อนวิ่งที่สวมชุดวอร์มคนนั้น
นายมะยมไม่เห็นนายชุดวอร์มมาหลายวันแล้ว ซึ่งเขาก็ยังวิ่งอย่างสม่ำเสมอนะ ไม่ได้ขาดเลย---- รึว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว?
......
.....
....
...
..
.
เอี๊ยด------- เสียงเบรคของจักรยานดังขึ้น
เสียงร้องว่าพี่มะยมดังลอยเข้ามาหาเขา
“ไง กลับมาบ้านแล้วเหรอเรา” นายมะยมตั้งขาตั้งรถ และหิ้วถุงตำลึงเข้าไปในบ้าน เขาขยี้หัวคนที่มาเกาะประตูหน้าบ้านทีหนึ่งด้วยความเอ็นดู
“คิดถึงจัง” น้องชายของเพื่อนกระโดดเกาะนายมะยมและติดหนึบเข้าไปในบ้านด้วยกัน
“มึงจะเวอร์ไปแล้ว กูนี่พี่มึง มานี่มาเกาะกูนี่” นายศรตะโกนเม้ง
“เฮียใจดีแบบพี่มะยมดิ” ตุ๊กแกที่เกาะหลังนายมะยมบอกนายศรที่นั่งคิ้วขมวดอยู่หน้าทีวี
“กูไม่ดีตรงไหน?” นายศรถามย้อน
“ทุกอย่างนั้นแหละ” ตุ๊กแกตอบสั้นๆ
ขณะที่พี่น้องจะตีฝีปากกันนายมะยมก็ห้ามมวยไว้ก่อน “ศิลป์ไปเข้าครัวกัน แกงจืดตำลึง แล้วเอาไรอีก?”
“มึงให้มันล้างผักพอนะ เดี๋ยวแดกไม่ได้” นายศรเบ้ปากและบอกสำทับก่อนที่น้องชายและเพื่อนจะเดินเลยเขาไปในครัว
นายมะยมคว้าต้นแขนน้องเพื่อนไว้ และลากเข้าไปในครัว
“เอาตำลึงไปล้างป๊ะ แล้วเอาผักชีต้นหอมในตู้เย็นออกมาล้างด้วยนะ” นายมะยมสั่งและเท้าสะเอวมองที่ตู้เย็นสักพัก ก่อนจะเดินไปที่ตู้กับข้าว สิ่งที่เขามองหายังมีอยู่----กระเทียมโทน
“เอาหมูกระเทียมหรือไก่กระเทียมดี?” นายมะยมถามศิลป์
ศิลป์ไม่ตอบและบุ้ยปากไปทางคนที่อยู่นอกห้องครัว
“ไปถามดิ” นายมะยมบอกศิลป์
“หึ...พี่ยมถามเองเหอะ” นายศิลป์ปฏิเสธและก้มหน้าไปล้างผักต่อ
“พวกมึงนี่น๊า พี่น้องกันซะป่าว กัดกันเป็นหมาเลย” นายมะยมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
......
.....
....
...
..
.
ข่าวบันเทิงกำลังรายงานอย่างเมามัน คนที่จ้องมันก็ตาเขม็งนิ่ง
อาจเป็นภาพที่ปกติสำหรับคนอื่น แต่ไม่ใช่กับนายมะยม.... ไอ้ศรเกลียดดารา มันเลยเกลียดข่าวบันเทิง ปกติ หากข่างรายงานมาถึงช่วงบันเทิง นายศรจะรีบเปลี่ยนช่องทันที
วันนี้นายศรนั่งดูมันจนเกือบจบช่วง------แปลกประหลาดที่สุด
......
.....
....
...
..
.
ฝ่ามือหนึ่งมาบังอยู่ตรงหน้า
คนที่เหม่ออยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งเฮือก
เขามองเจ้าของฝ่ามือ และถอนหายใจโล่งอก
ทันทีที่เขาถอนหายใจ เจ้าของฝ่ามือก็นั่งลงข้างๆ เขา
มืออีกข้างจากคนนั้น เอื้อมมาจับที่หัวไหล่เขา ใบหน้านั้นอยู่ใกล้
เสียงเบาๆ ที่พูดให้ได้ยินกันสองคน ..... “ช่วงนี้มึงเป็นไรวะ เหม่อพิกลมาหลายวันแล้วนะ เป็นเหี้ยไรก็บอกกูดิ กูเพื่อนมึงนะ ไม่ใช่หัวหลักหัวต่อ”
ศรปัดมือที่กุมหัวไหล่ตัวเองออก เขาหยิบรีโมทขึ้นมา กดเปลี่ยนช่องมาเป็นรายการข่าวที่ตัวเอง...เป็นนาน เขาก็ไม่พูด
นายมะยมรอ....
......
.....
....
...
..
.
เท่าไหร่เพื่อนก็ไม่พูด เพื่อนนิ่ง เพื่อนเงียบ เพื่อนตั้งกำแพงใส่
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมถอนหายใจดังๆ ให้เพื่อนได้ยิน จากนั้นก็ตัดใจและลุกขึ้นไป....จะทำกับข้าว
......
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งคว้าหมับที่ข้อมือนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหันควับด้วยรอยยิ้ม---ดีใจ
......
.....
....
...
..
.
“มึงชอบน้องกัสเค้าจริงอ่ะ แบบจะเอาเป็นแฟนเหมือนไอ้กันกับไอ้เชษฐ หรือชอบเล่นๆ เดี๋ยวเบื่อก็เลิก... มึงชอบน้องเค้าแบบไหนกันแน่?” นายศรถามด้วยสีหน้าจริงจัง
......
.....
....
...
..
.
เป็นคำถามที่ตอบง่ายมาก เพราะนายมะยมมีคำตอบอยู่แล้วในใจ
......
.....
....
...
..
.
“แบบไอ้กันกับคุณเชษฐ.... หากน้องเค้ารักกูนะ กูก็จะรักเค้า ...พอใจมึงยัง?” นายมะยมพูดด้วยเสียงยียวน
“เออ.....” นายศรกระแทกเสียงและปล่อยมือโดยฉับพลัน “หิว! จะทำเหี้ยไรให้กูแดกล่ะ?”
“อ้อ จะมาถามมึงนี่แหละ เอาไก่กระเทียมหรือหมูกระเทียม” นายมะยมนึกออก เกือบลืมไปแล้วมั้ยล่ะ
“หมู อย่าใส่พริกไทยล่ะ!” นายศรบอกโดยที่ไม่ละตาจากจอทีวี
นายมะยมรับคำในลำคอและเดินกลับมาในครัว และรีบทำกับข้าวให้เสร็จเร็วๆ
......
.....
....
...
..
.
เจ้าของบ้านเหมือนอารมณ์เสีย---- ต้องรีบทำเครื่องเซ่น
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #143
ที่บ้านผู้เขียนมีลมฝนนิดๆ แต่ยังไม่ลงเม็ด :mc4:
-
นับนิ้วๆ
โอ้..........เมมฯเราเต็มแล้ว
เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะนั่งทำมายด์แม็ปปิ้ง!!!
:serius2:
-
......
.....
....
...
..
.
‘พี่มะยมคะ หัวหน้าเชิญที่ห้องค่ะ’ น้องพันซ์บอกเขาทันทีที่เขารับสาย
“ครับ” นายมะยมตอบรับ และวางสาย เขาเตรียมสมุดคู่มือและดินสอกด ยื่นนิ้วไปคีบหูฟังที่อยู่ในหูของคนซึ่งนั่งข้างๆ ออก “กูไปห้องพ่อกูนะ”
นายศรพยักหน้านิดๆ และรับหูฟังมาจากมือเพื่อน แล้วเอาใส่เข้าไปในที่เดิม
นายมะยมเดินตรงไปยังห้องของหัวหน้าของตัวเอง เขาเคาะประตูสามครั้ง จากนั้นจึงบิดลูกบิด แล้วเข้าไปด้านใน
“เชิญครับ” หัวหน้าผายมือให้เขานั่ง
“ขอบคุณครับ” นายมะยมเดินไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง และนั่งลง
หัวหน้าหยิบเอกสารหนึ่งให้เขาดู ไม่มีคำพูด แต่กริยาเป็นที่รู้กันว่า-----เชิญคุณอ่านก่อน
นายมะยมรับกระดาษแผ่นนั้นมาและไล่สายตาดู...คล้ายการท่องเที่ยวดูงาน.... เขาเงยหน้าขึ้นและถาม “ให้ผมไปเหรอครับ?”
“ไม่ได้บังคับ แต่ผมอยากถามความสะดวกใจ ไม่คุณก็คุณศร ใครสักคนต้องไปกับผม... ทริปนี้ผู้บริหารจะไปด้วย มันก็เหมือนไปเที่ยวกลายๆ แต่อย่างไรเสียมันก็คือธุรกิจ” หัวหน้าบอกเป็นนัย
ไปเที่ยวเฉยๆ ไม่เคยมีในการทำธุรกิจ....มันต้องมีเหตุและผลอะไรสักอย่าง
นายมะยมไม่เห็นรายชื่อของคนที่ไปในทริปนี้....และการที่ผู้บริหารจะไปเที่ยวแกมดูงานไม่ใช่เรื่องแปลกก็จริง แต่หากไม่ใช่ “เหตุเฉพาะ”.... ล่ามจากบริษัทจะไปเพียงแค่หนึ่งซึ่งจะตัดติดกับผู้บริหาร และล่ามของบริษัททัวร์จะถูกจัดให้แก่ผู้ร่วมเดินทาง
หากแต่ครั้งนี้ล่ามจากบริษัทมีสอง---นั่นหมายความว่ามีความพอเศษในการพูดคุยในระหว่างท่องเที่ยวนั่นเอง
“ตอบเลยเหรอครับ?” นายมะยมยังตัดสินใจไม่ได้
“เอาไปคุยกับคุณศรละกันครับ พรุ่งนี้ค่อยมาแจ้งผมก็ได้ เท่านี้ครับ.......คุณพันซ์มาพบผมหน่อยครับ” หัวหน้าพูดจบก็ยกหูไปหาเลขาตัวเอง
นายมะยมลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินออกมา
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง! ลิฟท์ลงมาถึงชั้น 1----ประตูเปิด
ผู้คนต่างทยอยเดินออกไป... นายมะยมเห็นหลังไวๆ ของคนสองคน เขารีบวิ่งตามไป
......
.....
....
...
..
.
มือของนายมะยมคว้าหมับที่หัวไหล่ของหนึ่งในสองคนนั้น คนที่ถูกจับไหล่หันมาทางเขาและร้องทัก “อ้าว คุณมะยม หวัดดีครับ”
“คุณเชษฐมากี่วันแล้วเนี่ย ไม่เจอนายเลยนะเนี่ย คิดถึงอ่ะ” นายมะยมทำเสียงเลียนแบบโก๊ะตี๋
มือของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนที่ทักนายมะยมปัดมือนายมะยมออกไปจากหัวไหล่แฟน “อย่ามาซี้ซั๊วจับ ไหนดูสิ ช้ำมั้ย?” พูดจบนายกันก็แหวกคอเสื้อแฟนตัวเองไปมองผิวที่หัวไหล่
นายมะยมเบ้หน้า “ไอ้เหี้ย แค่นี้สึกหรอมึงก็ไม่ต้องให้เพื่อนเขยกูทำเหี้ยไรแหละ”
นายเชษฐคว้าคอเสื้อตัวเองกลับมาเข้าที่ และบอกแฟนว่า “ไว้ค่อยดูตอนเลิกงานนะครับ” ยิ้มมุมปาก
นายกันหน้าแดงเรื่อ
นายมะยมหัวเราะร่า
......
.....
....
...
..
.
นายศรยืนหน้านิ่ง
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มสี่คนเดินมายังร้านก๋วยเตี๋ยวสีเขียว พวกเขาต่างคนต่างสั่งอาหารของตัวเอง
“มึงท้องผูกเหรอวะ?” นายกันถามเพื่อน
ศรหันมาทำหน้างง “ไร? ไม่ได้เป็น มึงถามเหี้ยไร?”
“ก็หน้ามึงน่ะ คิ้วขมวดเป็นปมแล้ว...อย่านึกว่าไม่ได้ไปก๊งแล้วกูไม่รู้นะ มึงนั่งทำงานหน้าแบบเนี้ยมาหลายอาทิตย์แหละนะ” นายกันเอาตะเกียบที่หยิบมารอกินก๋วยเตี๋ยวจิ้มที่หน้าผากนายศร
“คุณ! ของใช้กิน อย่าทำแบบนั้น เดี๋ยวพลาดไปจิ้มตาคุณศรจะทำไงครับ?” นายเชษฐคว้ามือของแฟนตัวเองคืนมา และตีแปะๆ สามทีเป็นการทำโทษ
นายกันสะบัดมือหนี “เวอร์ ผมทำออกบ่อยไป” แล้วหันมาจ้องหน้านายมะยมแทน “มันเป็นไร มึงบอกกูมาดิ”
นายมะยมส่ายหน้าแทนคำตอบ
“กูไม่ได้เป็นไร เอ้า! แดกๆ ไปไอ้กัน” นายศรถือโอกาสยื่นชามก๋วยเตี๋ยวที่เพื่อนสั่งไปหาเพื่อน และเอาของตัวเองมาวางตรงหน้า คีบเส้นที่อุ่นร้อนเข้าปากและเคี้ยว----ตัดการสนทนา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมล้างหน้าและหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าหลังออกมาเช็ด....
นายศรล้างหน้าและหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าหลังออกมาเช็ด....
......
.....
....
...
..
.
“เซี่ยงไฮ้น่ะ กูไปเองนะ” นายมะยมบอกเพื่อน
นายศรไม่ได้หันมามองเขา แต่มองเขาในกระจกแทน “กูไปเอง มึงมีสอนเด็กมึงนี่”
พูดจบนายศรก็เดินออกไปจากห้องน้ำทันที
มะยมถอนหายใจเฮือกใหญ่....และยืนกอดอกอยู่ตรงอ่างล้างหน้า
......
.....
....
...
..
.
เสียงเปิดก๊อกน้ำดังซู่
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเอามือหนึ่งกอดอก อีกมือลูบคาง-----ครุ่นคิดว่า ‘เพื่อนกูแม่งเป็นไรวะ?’
“เพื่อนคุณเป็นอะไร?” เสียงที่อยู่ข้างๆ เอ่ยถามนายมะยม
“เออ กูก็คิดอยู่เนี่ย!” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
......
.....
....
...
..
.
!!!!!!------ ใครวะ?
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
“ถึงช่วงพักจะเป็นนอกเวลางาน แต่คุณไม่ต้องให้ความสนิทผมขนาดนี้ก็....จะดีนะครับ” เสียงดุเข้มกล่าวตักเตือน
นายมะยมเด้งตัวห่างออกมาจากอ่างล้างหน้าและโค้งให้เขาครึ่งตัว “ซุมิมาเซนเดส!”
“ฮื้อ.... ภาษาไทยก็ได้ครับ” คนที่ถามล้างมือเสร็จก็เดินไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือที่เปียกน้ำ
“ครับ!” ตอบแต่ยังไม่เงยหน้าขึ้น
"เอาธรรมดาเถอะ ผมไม่ได้จะว่าอะไรคุณมากมาย แค่ผมไม่ค่อยชอบคำว่ากูมึง....ก็แค่นั้น” เขาบอกเสียงเข้ม---น้อยลง...นี๊ดดดด
“ครับ หัวหน้า!” ตอบและเงยหน้าขึ้น
“ตกลงคุณศรเขาเป็นอะไร?” นายภักดีถามซ้ำ
“ไม่ทราบครับ แต่ช่วงนี้มันแปลกๆ” นายมะยมบอก....ใจยังไม่หายตุ๊บๆ ต่อมๆ
“สนิทกันก็ถามสิครับ” นายภักดีบอก
“ถามสิครับ แต่คนมันไม่ยอมตอบ หัวหน้าจะให้ผมทำไงล่ะครับ?” นายมะยมเริ่มหาที่ปรึกษา
“................” นายภักดีขมุ่นคิ้วนิดหน่อย
......
.....
....
...
..
.
“ก็ปล่อยเค้าไป เดี๋ยวเค้าสบายใจก็บอกเราเอง” นายภักดีบอก
“อ๊าว------” นายมะยมลากเสียงยาวเหยียด-------- ตูรอฟังตั้งนาน แค่เนี้ยเนี่ยนะ
หัวหน้าจ้องลูกน้องด้วยสีหน้าขรึม “เรื่องบางเรื่อง หากคนคนนั้นยังไม่พร้อมที่บอกกับใคร คุณก็ไม่ควรไปคาดคั้นเอากับเขา”
นายมะยมสะอึก----- ก็จริงของหัวหน้า... ถึงเป็นเพื่อนกัน ถึงเป็นเพื่อนสนิท ก็ย่อมมีเรื่องที่อยากคิดด้วยตัวเองคนเดียว-----กับคนที่เป็นแฟนก็ยังต้องมีเวลาเช่นนี้
นายมะยมยิ้มกริ่มให้หัวหน้าตัวเอง “ขอบคุณครับ”
คนที่ถูกขอบคุณรับคำในลำคอและเตรียมเดินออกไป แต่แล้วกลับถูกอีกคนเรียกเขาไว้...“หัวหน้า!”
เขาหันกลับไป และยืนคอย
“เซี่ยงไฮ้น่ะครับ ให้ผมไปนะ หากไอ้ศรมันมาขอเปลี่ยน หัวหน้าห้ามให้มันนะครับ” นายมะยมเดินเข้ามาบอก
“อื้ม” นายภักดีรับคำ
“สัญญาแล้วนะครับ อ้อ.... ความลับนะครับ หัวหน้า” นายมะยมยื่นสัญญาให้อีกฝ่ายเซ็นต์รับโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว หนำซ้ำพูดเสร็จนายมะยมก็เดินลิ่วออกไปจากห้องน้ำ---โดยทันที
......
.....
....
...
..
.
คนที่ไม่เคยทำสีหน้าในแบบหนึ่ง.... ได้ทำสีหน้าหนึ่งนั้นอยู่คนเดียวในห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
ริมฝีปากที่เป็นสีชมพูตามธรรมชาติ คลี่อยู่บนใบหน้า------
......
.....
....
...
..
.
ความอ่อนโยนที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดในออฟฟิศ-----เคยเห็น!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #146
จากนี้ไป ผู้เขียนขอตัดเป็นช่วงๆ ตามอารมณ์และสถานการณ์ในตัวเรื่อง แทนการลากยาวๆ แบบเดิมนะคะ....รีพลายอาจเยอะขึ้น ไม่รู้ผิดกฏของเล้าเป็ดมั้ย? แต่ผู้เขียนมิได้มีเจตนาที่จะปั่นทู้นะคะ :กอด1:
ทั้งนี้ก็เพื่อผู้มีอุปการะหลายท่านที่แอบอ่านใน "ที่ทำงาน" เป็นสำคัญ
แต่กรณีลากยาว---- ท่านยังอาจพบเห็นอีกบ้าง.... ก็เนื่องจาก รูปแบบการเขียนในเรื่องนี้ ลดทอนการบรรยายลงกว่าเรื่องอื่นๆ มาตั้งแต่ต้น หากปรับการเขียนไป อารมณ์ของนายมะยมจะผิดไป
ผู้เขียนจึงมาอภัยมา ณ ที่นี้
หวังว่าการปรับปรุงนี้จะช่วยเพิ่มความสนุกในการอ่านของท่านผู้มีอุปการะคุณที่ "ต้องแอบอ่าน"
ร่วมด้วยช่วยกันค่ะ
ด้วยรักจากผู้เขียน
-
ขอต้อนรับพ่อมึงกลับสู่สังเวียนการแข่งขันอีกครั้ง แปะ..แปะ..แปะ
มันยังไม่ถึงเวลาก็เลยยังบอกไม่ได้ เข้าใจ ๆ
-
คำที่เจ็ด
*** อยากเดินเข้าไปหาคุณ
อยากไปนั่งข้างๆ คุณ
....
...
..
.
อยากบอกคุณว่า “ผู้ชายคนนี้ จะไม่มีวันทำให้คุณเสียน้ำตา”
....
...
..
.
ก็ได้แต่คิด
...
..
.
ได้แค่คิด ***
กระทาชายนายหนึ่งยืนหน้ายืนรอลิฟท์อยู่คนเดียวในเวลาตีห้า....ด้วยเสื้อยืดสีเทายุ่ยๆ และกางเกงขาสั้นเหนือเข่า และรองเท้าผ้าใบ
ติ๊ง-----ประตูลิฟท์เปิด
กระทาชายนายนั้นเดินเข้าไปและกดปุ่มเลข----1
ตู้เหล็กอันหนักอึงถูกดึงลงไปอย่างรวดเร็วเพียงไม่นาน เสียงติ๊งก็ดังขึ้นอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
ชั้นห้า.... ชายที่สวมชุดวอร์มเต็มยศซึ่งเป็นเพื่อนของกระทาชายนายนั้นเดินเข้ามาอย่างเงียบๆ
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เคลื่อนตัวอีกครั้งและนำพวกเขาสองมายังชั้นที่หนึ่ง... ประตูเปิด
ชายในชุดวอร์ม เดินฉับฉับออกไป เขาตั้งต้นวิ่งเยาะๆ ไปที่สวนหย่อมตั้งอยู่ในตัวอาคารของหอพัก
‘ทำแบบนี้ตลอดเลยเหรอ?’-----นายมะยมตั้งคำถามในใจเมื่อตอนที่เห็นครั้งแรก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมไม่เลียนแบบดารา เขาเดินเอื่อยๆ มายังสวนหย่อม... อากาศยามเช้าตรู่ก่อนที่แสงอาทิตย์จะโผล่พ้นขอบฟ้า เป็นบรรยากาศที่นายมะยมชอบมากที่สุด
ความเงียบที่ตื่นเพียงลำพัง
ความเย็นของไอไม้ที่คายอากาศบริสุทธิ์ซึ่งหากได้ยากยิ่งในเมืองแห่งปูน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยืดร่างการทุกส่วนตัวในท่าต่างๆ เพื่อวอร์มอัพก่อนวิ่ง
----รอบที่สอง..... คือจำนวนที่เพื่อนวิ่งของเขาได้มันไป
......
.....
....
...
..
.
เมื่อเพื่อนวิ่งของเขาวิ่งไปได้สองรอบครึ่ง นายมะยมถึงเริ่มออกวิ่งบ้าง
......
.....
....
...
..
.
เขาเจตนาให้ทิ้งละระห่างจากเพื่อนวิ่งของเขาแบบคนละครึ่ง....
เพื่อนของเขาไม่เคยคุยกับเขาเลยสักคำยกเว้นคำว่า ‘ชั้นห้าครับ ขอบคุณ’ ที่เจอกันครั้งแรก
แต่นายมะยมไม่ได้ไปตีซี้...
อีกฝ่ายก็เห็นเขามาวิ่งอยู่เรื่อยๆ หลายเดือนแล้วด้วย... เขาไม่นึกอยากชวนคุยก็ไม่เป็นไร
เป็นเพื่อนกันแบบนี้ก็ได้...หนุกไปอีกแบบ---- นายมะยมคิด
......
.....
....
...
..
.
ห้าเดือนแล้วที่เขาเริ่มวิ่ง จากที่เคยวิ่งในช่วงเย็นเพราะหนีฝน ในที่สุดเขาก็นึกออกว่าหน้าฝนมันผ่านไปแล้ว เขาจะไปวิ่งอวดหุ่นกับสมาคมแม่บ้านทำไมกัน! (หากเป็นสมาคมพ่อบ้านวัยหนุ่มค่อยว่าไปอย่าง...เนอะ*0*)
เดิมที่โดนเพื่อนวิ่งทิ้งห่างสองสามรอบในเวลาหนึ่งชั่วโมง....มาตอนนี้เขาวิ่งทันอีกฝ่ายแล้ว
แต่หลังจากวิ่งเสร็จเขาไม่ได้ขึ้นห้องไปเลยแบบเพื่อนวิ่งของเขา...นายมะยมจะไปเดินที่ตลาดเช้า หาของมากิน แล้วถึงค่อนออกไปทำงาน
การออกกำลังเช้าทำให้ระบบการย่อยอาหารของเชาเรียกร้องที่จะทำงาน...เขาก็สนองมันอย่างเต็มที่
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมพาหน้าที่ขาวอมชมพูเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติชั้นไปในขบวนรถไฟใต้ดิน
เช้านี้ก็ได้รอยยิ้มน้อยๆ จากหนุ่มออฟฟิศซึ่งร่วมขบวนเดียวกัน....สองสามคน
เขายิ้มให้ นายมะยมยิ้มตอบ แต่หันหน้าและไม่หันไปทางนั้นอีก....เป็นการปฏิเสธอยู่กลายๆ
นายมะยม----- ผู้ชายที่ขึ้นเลขสามซึ่งมีหน้าตาธรรมดา (หากเทียบกับเพื่อนในก๊วน) คนหนึ่งสามารถดูดีเป็นที่สนใจได้ก็ด้วยความมีสุภาพดีนี่ละ
การออกกำลังกายดีกว่ายาชนิดไหนๆ ... หากคุณอยากเป็นผู้ชายที่กำลังสูงวัยแต่อยากดูดี... นอกจากควบคุมอาหารแล้ว คุณต้องอย่าลืมออกกำลังให้พอเหมาะด้วย----นี่คือคำแนะนำจากใจของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
เดินออกมาจากขบวนรถไฟ
หนุ่มออฟฟิศรายหนึ่งที่ส่งยิ้มให้เดินมาเคียงไหล่เขา และบอกว่า “สวัสดีครับ” พร้อมรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ” นายมะยมยิ้มบางๆ และกล่าวตามมารยาท
อีกฝ่ายไม่ได้แรงมาเขาจะแรงกลับไปทำไม
......
.....
....
...
..
.
อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ยังเดินเคียงไหล่กันไปตามกระแสคน
......
.....
....
...
..
.
เขาก้าวขาขึ้นมาบนบันไดเลื่อนโดยให้นายมะยมขึ้นไปก่อน
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่ก้าวพ้นบันไดเลื่อน... นายมะยมเดินไปทางประตู 3
อีกฝ่ายก็ยังคอ่ยๆ เดินตามมา.....จนทันกัน
......
.....
....
...
..
.
“ไม่ทราบว่า ทำงานที่ไหนเหรอครับ? หากถามมากไป ก็ขอโทษด้วยครับ” ประโยคที่รุกและรับอยู่ในตัวส่งมาให้นายมะยม
“ก็ตึกที่สูงที่สุดของแถบนี้ครับ” นายมะยมบอก
ทั้งสองหนุ่มยังเดินไปเรื่อยๆ ตามกระแสงฝูงชนคนกินเงินเดือน
“ไม่ทราบว่ามีคน----”
คนที่พูดยังพูดไม่จบ เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมาในการสนทนานั้นก่อน
“มีแล้ว!.... จำไว้ หน้าแบบนั้นน่ะ---- คนมีเจ้าของ... จบมั้ย?” เสียงห้วนสะบัดถามทิ้งท้ายพร้อมสีหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
แขนของคนพูดล็อคคอของคนกลางเอาไว้กับตัว-----แสดงความเป็นเจ้าของ
“ขอโทษครับ” ชายที่เดินติดสอยห้อยถามนายมะยมมาตลอดทางกล่าวขอโทษกับคนที่ล็อคคอนายมะยม จากนั้นก็รีบเดินกลับไปใน----ทางเดิม!!!
“ไหนมึงว่าชอบน้องกัส...เดินอ่อยให้มันจีบทำเหี้ยไร? ความบันเทิงมึงเหรอ!” ตบกบาลเพื่อนหนึ่งที และเดินฉิวก้าวขึ้นบันไดรถไฟใต้ดินไป----ด้านบน
นายมะยมลูบหัวข้างที่ถูกเพื่อนเบิ๊ด แล้วก็รีบวิ่งตามไปทันที
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมวิ่งตามมาทันก่อนที่เพื่อนจะข้ามถนน เขากอดไหล่เพื่อนสนิท “หึงเหรอมึง...”
“ไม่ใช่!” นายศรสะบัดเสียงห้วนและแข็ง
นายมะยมขำในลำคอ และเดินดอกไหล่เพื่อนข้ามถนน
......
.....
....
...
..
.
ข้ามพ้นมาแล้ว เพื่อนถึงเอ่ยปากออกมาอีก “กูบอกว่ากูจะไปเอง มึงไปบอกหัวหน้าทำไม?”
“ไปอะไร?” นายมะยมแกล้งโง่
“ไม่ได้ต้องมาทำเป็นโง่! อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วมึงน่ะ!” พูดกระแทกเสียงโดยที่ไม่หันมามองหน้าเพื่อน
“ก็กูเห็นมีเรื่องให้คิด กูเลยจะไปเอง ถึงกูช่วยมึงไม่ได้ในเรื่องที่มึงเครียดอยู่ แต่กูก็ช่วยทางอ้อมได้....นี่ไง!” นายมะยมอวดตัวเอง
“ไม่ต้องเสือก! เรื่องของกู กูแก้เองได้! แล้วมึงไป ใครจะติวให้เด็กมึง!” นายศรถาม
“ก็มึงไง! เดี๋ยวพรุ่งนี้กูเอาหนังสือไปให้มึงดูก่อน พอดีแหละ ฝากรดน้ำลูกกูด้วย ติวที่ห้องกูนั่นแหละ” นายมะยมบอก อีก 3 วันน้องกัสถึงมาติวรอบต่อไป และวันที่น้องกัสมาเขาต้องขึ้นเครื่องไปเซี่ยวไฮ้กับหัวหน้าแล้ว เขากะว่าจะบอกวิธีการสอนกับเพื่อนตัวเองก่อน
ส่วนน้องกัสนั้น เขาบอกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทีแรกน้องก็โยเยไม่เอา บอกว่าจะรอพี่มะยม.... มันก็ปลื้มอยู่ แต่ไม่ดีกับการศึกษาของน้อง... เปลี่ยนคนสอนมั่งก็ดีเสียอีก จะได้ฟังออกหลายสำเนียง... ศรมันติดสำเนียงอเมริกัน มะยมติดสำเนียงอังกฤษ ----- รู้ไว้ทั้งสองสำเนียง ในอนาคตน้องกัสมีแต่กำไรเห็นๆ
......
.....
....
...
..
.
“ไม่! เรื่องของมึง มึงจัดการเอง!” นายศรปัดแขนที่โอบไหล่ตัวเองทิ้งและเดินหน้าตึงขึ้นไปบนตึกคนเดียว
“ไอ้เหี้ยนี่! สงสัยเมนส์จะมา” นายมะยมวินิจฉัยอาการของเพื่อน
......
.....
....
...
..
.
ไม่เป็นปัญหา.... นายมะยมเอากุญแจให้น้องกัสไปแล้ว น้องกัสคงไปรอที่ห้องตามเวลา (เรื่องนี้นายมะยมกั๊กไว้ไม่ได้บอกนายศร) ส่วนไอ้ศรมันก็มีกุญแจอีกดอกที่บ้านมัน----ยังไงมันก็ต้องไปรดน้ำตำลึงอยู่ดี!
ลูกศิษย์นั่งรอยู่ในห้อง อาจารย์มันจะปฏิเสธได้ลงคอรึ!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #152
เข้มข้นก่อนนอน :a12:
-
อยากเป็นมะยม ปู้จายรอบๆตัว :z1:
อ่านตอนนี้แล้ว สงสารศรแฮะ ชอบเค้าก็บอกเด้าไปดิ
ดีกว่ามาเก็บเอาไว้คนเดียว
มะยมเป็นแฟนกับน้องกัสเมื่อไรตัวเองนั่นแหละที่จะมาเสียใจ ที่ไม่ได้พยายามทำอะไรเลยเพื่อความรักของตัวเองเน้อ
รอตอนต่อไป
-
โอ๊ยยยย
ให้ตายดิ ช่วงนี้มันช่างเข้มข้นอย่างที่บอกจริงๆ
พ่อมึงก็ยังทำตัวแปลกๆ นายศรนี่ออกอาการชัด
ตอนนี้รู้สึกได้แค่สองคน ที่น่าจะเป็นไปได้
ส่วนอีตาชุดวอร์มเหมือนตัวประกอบยังไงพิกล เอ...
หรือจะมีอะไรมากกว่านั้น ป๋องเป้นอีตาชุดวอร์มปะเนี่ย
รอตามต่อ มันยากขึ้นทุกที 5555555
-
ศรกับกัสชัวร์ ๆ มะยมกับหัวหน้าแน่ ๆ
-
อยากให้นายมะยมเก็บผู้ชายรอบตัวให้เรียบไปเลย :laugh:
บวกเป็ด
-
เดี๋ยวเค้าจะจับนายพี่ศรกับนายน้องกัสขังคู่อยู่ในห้อง !
แล้วก็จะให้คุณหัวหน้าจัดทริปไปเซี่ยงไฮ้คราวนี้เป็นทริปฮันนีมูน!!!!
ช่าง.....เพอร์เฟ็ค
ส่วนเพื่อนชั้นห้า กับนายป๋อง จะมอมยาสลบไม่ให้มีบทบาท
ฮ่าาาาๆๆๆๆ ~~ ฝันกลางวัน zzzZzzzZ
จุ๊บ~
เค้าเชียร์นายภักดีสุดพลังเจ้าค่า!
ปล. มีความสุขกับขวดขาวขวดดำ คิคิ
-
......
.....
....
...
..
.
เด็กชายกางเกงน้ำเงินผิวขาวผมฟูหยักศกเดินก้าวเข้ามาในตัวตึก เด็กชายกำลังรอลิฟท์ เสียงหนึ่งก็ทักเขา
“อ้าว กัส มาทำไมอ่ะ พี่มะยมไปเซี่ยงไฮ้นะ” ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คบอกเขา
“อ๋อ รู้แล้วครับพี่ป๋อง แต่วันนี้มาเรียนกับเพื่อนพี่มะยมน่ะครับ” น้องกัสบอก
อันที่จริงเขาบอกพี่มะยมแล้วว่า ไม่ต้องไปรบกวนเพื่อน แค่ไม่กี่วันเอง กัสฝึกที่บ้านเองได้ แต่พี่มะยมบอกว่า เพื่อนพี่มะยมพูดคนละสำเนียง ถึงไม่เรียนตอนนี้ พี่มะยมก็จะให้สลับมาสอนให้อยู่แล้ว มาตอนนี้หรือตอนไหนก็เหมือนกัน
เมื่อพี่มะยมยืนยันแบบนั้น กัสจึงเถียงไม่ออก และจำใจมาเรียนกับใครก็ไม่รู้----ที่ไม่เคยรู้จัก
“เพื่อนเหรอ? ใครอ่ะ?” พี่ป๋องถาม
“ไม่รู้ครับ เห็นพี่เค้าบอกว่าอยู่แผนกเดียวกัน” กัสบอกและก้าวเข้าไปในลิฟท์พร้อมกับพี่ป๋อง
คนที่พักในหอพักเดินเข้ามาด้วยอีกห้าคน...ลิฟท์จึงแคบลงไปถนัดตา
“อ๋ออออ....พี่ศรแหง๋เลย” ป๋องนึกออกแล้ว
กัสเงยหน้ามองหน้าพี่ป๋องทันควัน----ใจกัสกระตุกวูบ...กับชื่อนั้น
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างที่อึ้งอยู่ และยังไม่ทันจะถามให้หายสงสัย จู่ๆ พี่ป๋องก็บอกว่า “ไปนะกัส บายครับ” พูดจบปุ๊บ พี่ป๋องก็เดินออกจากลิฟท์ไปปั๊บ
“พี่ป๋อง!” กัสเรียกแล้ว แต่ประตูกลับปิดเสียก่อน
กัสหน้าเหวออยู่ในลิฟท์ จนมันเลื่อนขึ้นมาถึงชั้นบนสุด..... กัสจึงก้าวออกไป
......
.....
....
...
..
.
กัสมองที่ประตูห้องพี่มะยม มือหนึ่งล้วงเข้าไปในกางเกงของตัวเองและกำกุญแจที่ได้มาจากพี่มะยมไว้แน่น
......
.....
....
...
..
.
เข้าไป / ไม่เข้าไป
......
.....
....
...
..
.
กัสตัดสินใจไม่ได้
......
.....
....
...
..
.
คนที่ชื่อศรมีกี่ร้อยกี่พันคนในประเทศนี้
......
.....
....
...
..
.
แต่กัสรู้ดีว่าตัวเองยังไม่พร้อมเผชิญกับความเสี่ยงที่เขาอาจเจอแจ๊คพ๊อตหนึ่งในล้าน กัสจึงหันกลับหลังและเดินห่างออกมาจากประตูห้องของพี่มะยม
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่กัสเลี้ยวจะลงบันได... เขาก็ชนกับคนที่เดินสวนมา
......
.....
....
...
..
.
กัสเสียหลักจะลื่นตกลงไปจากบันได คนที่ชนกับกัสคว้าตัวกัสไว้ได้ในเส้นยาแดงผ่าแปด
......
.....
....
...
..
.
นักเรียนเตรียมสอบ-----มีแต่คนบอกให้ระวัง เพราะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต มักเกิดเหตุไม่คาดฝันได้เสมอ
......
.....
....
...
..
.
กัสกอดคนที่รับตัวเองไว้ได้ทันอย่างแน่นหนา จิตใต้สำนึกบอกกัสว่าให้เกาะไว้ดีๆ ไม่งั้นได้ตกลงไป
ทว่า ทันทีที่เสียงหนึ่งเอ่ยถาม กัสแทบอยากจะปล่อยมือตัวเอง และยอมให้ตัวเองตกบันได----เอาให้สลบไปเลยก็ได้
แต่มือเจ้ากรรมมันดันไม่ยอมเชื่อฟังนี่สิ!!!
......
.....
....
...
..
.
“ไม่เป็นไรแล้วครับ น้องโอเคมั้ย?” เสียงทุ้มเข้มบอกเด็กชาย
......
.....
....
...
..
.
มีใครเคยบอกคนนี้ไหมว่า เสียงเขาดุ
......
.....
....
...
..
.
กัสเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ถามเขา
......
.....
....
...
..
.
มีใครเคยบอกคนนี้ไหมว่า หน้าเขาดุ
......
.....
....
...
..
.
กัสกลัวคนที่ช่วยตัวเอง-----จับใจ
......
.....
....
...
..
.
กัสกลัวว่าจะเผลอทำความในใจตัวเอง...หลุดลอยไปให้คนคนนี้รู้
......
.....
....
...
..
.
กัสกลัวความลับที่เก็บไว้มานานจะถูกคนคนนี้พบ
......
.....
....
...
..
.
แค่เพื่อนของน้องชาย.....
แค่เพื่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน
แค่เพื่อนที่เรียนอยู่ระดับชั้นเดียวกัน
แค่เพื่อนที่เรียนอยู่ในห้องเดียวกัน
..... เพื่อนคนละกลุ่มกัน
เพียงแค่นี้ คนคนนี้จะจำกัสได้ไหม?------กัสยังสงสัย
......
.....
....
...
..
.
“ขอบคุณครับ” กัสเรียกสติอันน้อยนิดของตัวเองคืนมาและกล่าวของคุณเขา
“ครับ น้องโอเคมั้ยครับ?” ถามย้ำอีกครั้ง
“ครับ โอเคครับ” กัสคลายมือออกจากการเกาะรั้งตัวเขาคนนั้น และคิดว่าจะเดินลงไปด้านล่างเพื่อขึ้นลิฟท์
“อ้าว ไม่ติวเหรอครับ?” เสียงนั้นถามไล่หลังกัสมา กัสหันขวับทันที
......
.....
....
...
..
.
“พี่....เพื่อนพี่มะยม” กัสย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ครับ พี่เอง โทษที พอดีพี่นั่งรถเข้าบ้าน ไปเปลี่ยนเสื้อก่อนออกมาอีกที เลยมาเลทไปหน่อย ขึ้นมาสิครับ กัส” นายศรบอกเสร็จก็เดินลิ่วไปที่หน้าห้อง
กัสรีบวิ่งขึ้นไปและล้วงเอากุญแจให้กับคนคนนั้น
เมื่อกัสก้มมองมือตัวเองจึงพบว่าพี่ศรเองก็มีกุญแจในมือด้วยเหมือนกัน
......
.....
....
...
..
.
การเรียนจบลง
กัสจะคืนกุญแจให้พี่ศร แต่พี่ศรบอกว่าพี่มะยมเป็นคนให้กัส ก็ให้กัสคืนที่พี่มะยมเอง
พี่ศรเดินลงมาส่งกัส และรอจนกัสเรียกมอไซด์รับจ้างได้... กัสลาอีกครั้งและก้าวคร่อมขึ้นรถมอไซด์
......
.....
....
...
..
.
รถสองล้อพากัสวิ่งลึกเข้ามาในซอย...กัสบอกให้พี่วินชะลอลงหน่อย แต่ไม่ได้ให้จอด
......
.....
....
...
..
.
บ้านสองชั้นที่มีแปลงผักหนึ่งคือเป้าหมายของกัส
......
.....
....
...
..
.
เมื่อรอวิ่งเลยบ้านหลังนั้นมาแล้ว กัสจึงบอกให้พี่วินขี่ต่อไปได้ตามเดิม
......
.....
....
...
..
.
กัสลงจากรถจ่ายค่ารถให้พี่วินโดยเพิ่มเงินให้อีกสิบบาท....กัสทำเช่นนั้นทุกครั้งมาหลายเดือนแล้ว
......
.....
....
...
..
.
แค่ได้เห็นหลังคาบ้านคนที่รัก-----แค่นั้นกัสก็พอใจแล้ว
......
.....
....
...
..
.
กัสเดินเอื่อยขึ้นบันไดสะพานลอย
......
.....
....
...
..
.
จนไปถึงด้านบน กัสจำเป็นต้องหยุดเดิน-----กัสมองไม่เห็นทาง มันฝ้าไปหมด กัสไม่มั่นใจว่าจะเดินไปให้ถึงอีกฝากของสะพานลอยนี้ได้ยังไง
กัสจึงหยุดเดิน และยืนนิ่งอยู่กับที่
......
.....
....
...
..
.
น้ำจากดวงตาตัวเองหล่นลงมากี่เม็ด-----กัสไม่ได้นับ
เนื่องจากเพียงเสี้ยวนาทีผ่านไป มันหลั่งออกมาเป็นสาย
......
.....
....
...
..
.
พี่ของศิลป์.... พี่ศร
แรกเห็นก็นึกชอบ
ทีแรกมองพี่ศรแค่ว่าพี่ศรเท่
หน้าพี่ศรดุ เสียงก็เข้ม
แต่จริงๆ แล้วพี่ศรใจดีมาก
......
.....
....
...
..
.
กัสรู้จัก....รสนิยมที่ชอบเพศเดียวกัน
แต่กัสไม่ใช่เกย์----หรือจะเป็น....?
......
.....
....
...
..
.
ไม่ว่าเป็นหรือไม่... มันไม่สำคัญ..อีกต่อไป
......
.....
....
...
..
.
ศิลป์เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาแต่ ม.ต้น ศิลป์มาอยู่หอพักในโรงเรียนตั้งแต่ขึ้น ม. ปลายเพราะแม่ของศิลป์ต้องย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัด พี่ศรไปทำงานทุกวัน ครอบครัวจึงตกลงให้ศิลป์เข้ามาอยู่ในหอ ไม่ใช่ว่าไม่มีคนดูแล แตา่เพราะน้องชายกับพี่ชายบ้านนี้ไม่กินเส้นกัน ไม่รู้เพราะอะไร?
อาทิตย์หนึ่งกัสได้ข่าวจากศิลป์ว่า พี่ศรจะมารับกลับบ้าน
วันศุกร์ต่อมา กัสทำทีว่าเอาขนมของฝากจากต่างจังหวัดไปให้พี่ศร พี่ศรรับไป
...
..
.
ในนั้นมีจดหมายฉบับหนึ่งที่กัสเขียนไว้นานแล้ว แต่ไม่รู้จะให้พี่ศรยังไง.... กัสใส่มันลงไปในกล่องขนมซึ่งเป็นของฝากลวงโลก
......
.....
....
...
..
.
ทุกวันนี้กัสกลับมานั่งเสียใจว่า เขาไม่ควรให้จดหมายฉบับนั้นกับพี่ศร
......
.....
....
...
..
.
ไม่ใช่ว่าจดหมายไปถึงผิดคน ไม่ใช่ว่าศิลป์รู้เรื่องแล้วเอามาล้อ
......
.....
....
...
..
.
วันจันทร์ต่อมาจากวันนั้น กัสได้ขนมตอบแทนมาจากศิลป์
......
.....
....
...
..
.
กัสรีบเอามันไปแอบเปิด กัสค้นมันไปทั่วกล่อง-----จดหมาย-----ไม่มี
มีแค่กระดาษแผ่นหนึ่ง แค่กระดาษที่ฉีกออกมาจากสมุดฉีกเล่มหนึ่ง.... มันดูไม่มีค่า ทว่า ข้อความด้านนั้นราวกับอัญมณี----ในความคิดของกัส
แต่แล้ว อัญมณีก็กลายเป็นกรวดในทันทีที่กัสอ่านข้อความนั้น
......
.....
....
...
..
.
ขอบคุณสำหรับความรู้สึกของน้อง แต่พี่คงรับมันไม่ได้... ขอรับแค่ขนมนะครับ
......
.....
....
...
..
.
ไม่ต้องลงชื่อ... กำกับกัสก็รู้ว่ามันมาจากใคร
ก็เขาเขียนถึงใครล่ะ
......
.....
....
...
..
.
เสียใจน่ะมันมีตั้งแต่วันนั้น...และอีกนานกว่ามันจะหยุดลงได้
......
.....
....
...
..
.
แต่แล้ว.... วันนี้กลับตอกย้ำหัวใจดวงน้อยของกัสว่า....เขายังคงชอบพี่ศร
......
.....
....
...
..
.
ไม่ใช่สิ! เจ็บขนาดนี้น่ะต้องเรียกว่า---หลงรักเขา...มากกว่า
......
.....
....
...
..
.
เจ็บชะมัดที่รู้ว่า รักเขา....แถมยังรู้เลยว่าเขาไม่มีวันรักตัวเอง.... แต่ก็ยังไม่วายรักเขาอยู่นั่นแหละ
......
.....
....
...
..
.
กัสไม่รู้จะทำยังไง.... จะเดินไปให้สุดปลายสะพานนั้นได้ยังไง ทั้งที่ตัวเองยังร้องไห้ไม่เลิก
กัสจะกลับบ้านได้ยังไง...ในสภาพแบบนี้
......
.....
....
...
..
.
แล้วจะทำยังไงดีกับวันมะรืนนี้
......
.....
....
...
..
.
เจ็บจากการที่เขาไม่สามารถรักตัวเองได้ยังไม่พอ กัสกลับต้องเจ็บซ้ำจากการที่พี่ศรจำกัสไม่ได้เลยแม้แต่น้อย.....อีกอย่างหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
กัสปล่อยน้ำตาให้ไหล....เสียงสะอื้นดังลอดออกมาจากจากปากที่ถูกฟันกัดเอาไว้....บ้าง จากในบางครั้งที่ก้อนสะอื้นนั้นใหญ่เกินไปกว่าที่จะกักเก็บมันไว้ได้
กัสเริ่มก้าวต่อไปทั้งที่ยังมีม่านน้ำตาบัดบัง
......
.....
....
...
..
.
กัสก้าวไปถึงปลายสะพาน....และก้าวลงบันไดไปทีละขึ้นด้วยความระมัดระวัง
......
.....
....
...
..
.
ไม่จำเป็นต้องใช้บริการของพี่วิน... กัสอยากเดินเข้าไปในบ้านตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
ถึงมันกินเวลาเกือบชั่วโมง...แต่เวลาขนาดนั้น อาจช่วยให้น้ำตาของกัสลดปริมาณลงไปได้บ้าง
......
.....
....
...
..
.
กัสหวังเช่นนั้น
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #169
หนีงานมาหน้าไมค์ :oni1:
-
เฮ่ยยย เอาแล้วไง
พลิกโผอย่างรุนแรงงงง
สงสัยสรุปกัสได้คู่พี่ศร ???
มันมาแนวๆนี้ เพราะจากที่ดูอาจจะเหมือนศรชอบมะยม
แต่จริงๆแล้วที่มอง ที่พูดแบบนั้น อาจจะเป็นห่วงกัสมากกว่า
มันมาเป็นฉาก 5555
รอลุ้นต่อไป ส่วนพ่อมึง ไปลัลล้ากับนายมะยมที่เซี่ยงไฮ้ละ ฮิ้ววววว
-
:z3: อะไรกันนี่ เป็นศรกัสเหรอเนี่ย
พลิกล๊อคกันมากมาย ถล่มทลาย
เดาทางไม่ถูกแล้ว โอยมึน โคนันยังยอมแพ้อ่ะ
กลับไปเชียร์พ่อมึงต่อไป
-
หุ ....................... หุ ........................... หุหุหุหุหุหุหุ
ชอบบบบบ แค่ก็สงสารน้องกัส
จีบก่อนเลย ด้านได้อายอดนะหนู ((ทำเป็นพูดดีสอนเค้า....ตัวเองก็อาย เหอะ!))
วันมะรืนหนูก็ล็อคห้องขังตัวเองกับพี่ศรเลยนะ ฮ่าๆๆ
รักน้องกัส
จุ๊บบบบ~
-
:เฮ้อ:
เดาไม่ถูกเลย ออกมาแบบนี้ได้ไง
กัสศรเหรอ ส่วนมะยมกับพ่อมึง ป่ะ
เฮ้อ! คาดการณ์ใดๆไม่ได้ รอลุ้นต่อไป
บวกเป็ด
-
ว่าแล้วเชียว กัสกับศร งี้มะยมกับคุณหัวหน้าอะดิ
-
ในที่สุดก็อ่านทันแล้ววว!!
ตามมาจากเรื่อง [กระดาษ] ค่ะ ซึ่งเรื่องนั้นคุณแต่งได้สนุกมาก อยากลองอ่านเรื่องอื่นของคุณดู ก็เลยได้รู้จักกับ [กระซิบ] เรื่องนี้
------
ก่อนอื่น ออกตัวว่าเป็นแฟนคลับ'พ่อมึง'ค่ะ ชอบจังเลยเว้ยเห้ย ผู้ชายแบบนี้ โบกธงเชียร์
------
เรื่องนี้เดายาก เพราะมันเดาได้หลายทาง แต่ละทางที่ชวนให้คิดมีความเป็นไปได้ แต่สนุกดีค่ะ ดูดีๆ มันก็มีเงื่อนงำที่คุณคนเขียนปล่อยออกมาบ้างแล้ว เช่นเรื่องศรกับน้องกัส ตอนที่อ่านช่วงแรกเริ่มจะรู้สึกแนวๆว่า เฮ้ย.. ตอนท้าย ศรต้องได้น้องกัสไปแน่เลยอ่ะ พอต่อมา เอิ่มมม ศรมันไม่ซื่อ คิดเกินเพื่อนหรือเปล่าวะ? (แต่เราชอบนะ แลว่าเขาจะห่วงเพื่อนมากๆเลยล่ะ) พอมาตอนนี้ /ตบเข่าฉาด นั่นไง!
ส่วนมะยม ลุ้นต่อไปเถอะพ่อคุณ ตามหาเสียงกระซิบให้เจอนะ
------
กางเต้นท์รอค่ะ
-
เรื่องนี้มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆ
น้องกัสน่าสงสารโพดๆเลย
-
แม้จะยังต้องลุ้นว่าจะลงเอยยังไง แต่ดูเหมือนจะถูกฝาถูกตัวแล้วเนาะ
-
ตอนนี้สงสารน้องกัสจังเลยแล้วถ้านายมะยมรู้จะว่าไงล่ะทีนี้แต่อยากให้รู้นะเพราะนายมะยมจะได้ตัดใจจากน้องกัสเค้าเชียคุณภักดีนะถึงแม้จะยังไม่เคลียเรื่องลูกเมียก็เถอะ
-
แต่พ่อมึงมีลูกเมียแล้วนะ....
-
เรียนท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน
เพลานี้ผู้เขียน เร่งงานหลวงอยู่ อีกนิด แต่ไหงไม่หมดสักทีหว่า...ยังมะได้กินข้าวเลย :dont2:
เลยมาแจ้งว่าวันนี้จะมาลงดึกมากทีเดียว....
ท่านที่รอ หากไม่สะดวกสามารถไปนอนแล้วค่อยตื่นมาอ่านก็ได้นะคะ
ส่วนท่านที่ว่างและจะรอ ก็ดึกค่ะ..... :oni1:
ปล. มันยาวมว๊าก ไม่จบในวันนี้แน่นอน คาใจกันต่อไป
ขอบคุณทุกแรงใจ :กอด1:
-
55555
ให้กำลังใจนะคะ
อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วย ทานข้าวด้วยนะคะ
เดี๋ยวโรคกระเพาะถามหา
ด้วยรักและห่วงใย อิอิ
-
สู้ๆนะคะ
งานหลวงของเราก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จซักที แต่เราก็ดอดมาเฝ้าตลอด คิคิ
พักก่อนนะคะแล้วค่อยทำงานต่อ ทานข้าวตามด้วยน้ำเย็นๆ
สุโคร่ย~~~!!!!! แค่คิดก็หายเหนื่อยแล้ว .. หิวแทน ^^
รักคุณ จุ๊บ~~~
-
รักษาตัวด้วยนะคะ เราก็อยากอ่านนะ แต่ก็อยากให้คนเขียนมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ
ถ้าวันไหนเหนื่อยมากๆ พักก่อนก็ได้นะ เรารอกันได้
เอาไปหนึ่งกอดนะ :กอด1:
สู้ๆจ้า
-
:pig4: และ :L2: เอาใจช่วยค่ะ
-
รอได้เสมอ ^_^
-
......
.....
....
...
..
.
ความสงบเงียบในห้องพักหนึ่งถูกทำลายด้วยเสียงของ-----นาฬิกาปลุก
คนที่คลุมโปงอยู่ในผ้าห่มยื่นแค่มือมาคลำหา---ต้นเสียง
นิ้วชี้ของเขาคลำเจอปุ่ม....เขากดลงไปทันที
......
.....
....
...
..
.
5 นาทีต่อมาเสียงเดิมที่ดังขึ้นอีก
คนที่นอนคลุมโปงผุดลุกขึ้น เขาเอาฝ่ามือตะปบปุ่มนั้นให้มันหยุดแผดเสียง...เขาบ่นพึมและลากตัวเองที่ลืมตาเพียงครึ่งเข้าไปในห้องน้ำ----ล้างหน้า แปรงฟัน...เดินกลับมาที่ตู้เสื้อผ้า ถอดกางเกงขาสั้นที่สวมติดต่อออกไป นำกางเกงชั้นในมาสวม และเอากางเกงขาสั้นขาบานตัวเดิมกลับมาใส่อีกครั้ง...
เขาเดินมาที่หน้าประคูห้อง หยิบถุงเท้าที่อยู่ในกล่องพลาสติกเหนือตู้รองเท้าออกมาสวม... เสร็จแล้วจึงสวมรองเท้าผ้าไป หยิบลูกกุญแจใส่กระเป๋ากางเกง... เดินสะลึมสะลือออกไปจากห้องนอนของตัวเอง...เขาเดินไปถึงหน้าลิฟท์ และกดปุ่มเรียกลิฟท์ให้ขึ้นมา
ขณะที่ยืนโงกเงกอยู่นั้น-----เขาเกิดนึกอะไรบางอย่างออก เขาเดินกลับไปที่ห้อง และเดินเข้าที่ระเบียงห้อง...หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาพาดบ่า
จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
ตอนที่เขากำลังเดินลงบันไดมา ประตูลิฟท์เปิดและกำลังจะปิด
“เฮ้ย!” เขาร้องอุทาน....
......
.....
....
...
..
.
ประตูลิฟท์เปิดค้าง เขารีบเดินลงไปและมองเข้าไปด้านใน
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนวิ่งของเขาอยู่ด้านใน เขาจึงก้าวเข้าไปในลิฟท์พร้อมกล่าวขอบคุณ
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์ถูกดึงลงมาอย่างรวดเร็ว... ไม่นานนักมันก็มาถึงชั้นหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนชุดวอร์มออกวิ่งตั้งแต่หน้าลิฟท์----เหมือนเดิม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินหาววอดออกไปอย่างขี้เกียจ.....อันที่จริงเครื่องถึงกรุงเทพตอนสามทุ่มสิบห้า.... กว่าจะถึงห้อง *0* ......นี่ขนาดไม่เก็บกระเป๋า วางมันแหมะไว้ เดินไปอาบน้ำ ทุ่มตัวลงเตียง----- ตอนนี้เขายังรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่มอยู่เลย
นายมะยมเดินหาวไม่รู้ครั้งที่เท่าไหร่เข้ามาในสวมหย่อม เขาวอร์มร่างกายอย่างช้าๆ ตาหลับบ้างตาเปิดบ้าง....เพื่อนวิ่งนำหน้าเขาไปกี่รอบแล้ว วันนี้นายมะยมไม่สนใจ
นายมะยมกะว่า วันนี้จะเอาแค่ 30 นาทีก็พอ
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #179
:กอด1:ขอภัยด้วย หากผู้ใดอ่านตอนต่อไปจากนี้เมื่อคืนแล้วมัน...หายไปแหละ
คือเหมือนอารมณ์มันยังไม่ใช่
ผู้เขียนขอตามใจตัวเองสักนิด
ขอลบทิ้ง และถอนคืนมาก่อนนะคะ
ขออภัยด้วยจากใจ
27/4/2012 ป.ล. ขอลาหยุด 1 อาทิตย์นะคะ ไปธุระด่วนไกลปืนเที่ยง...ไม่มีสัญญาณเน็ท
ขออภัยมา ณ ที่นี้
-
:laugh:
อ่านตอนนี้ฮามาอ่ะ ตอนที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร
ทายไว้ในใจก็ใช่จริงๆด้วย เพราะอยู่ๆก็นึกภาพข่าว
จากจีนเมื่อนานมาแล้วที่มีป้าแก่นั่งขายดิลโด้ข้างถนน
แถมมันใส่ถ่านและแกว่งไปมาเหมือนที่ปัดแมลงวันบ้านเราอ่ะ
เห็นข่าววันนั้นฮามาก ขำน้ำตาเล็ด ไม่น่าเชื่อว่าคนเขียนจะเอา
เรื่องนี้มามิคพอดี
ปล.แอบสงสารพ่อมึงเนอะ คงอายน่าดู แต่นายมะยมไม่มีอายเลยน้า
แร๊งงงง
บวกเป็ด
-
เออออออออะ! อายแทนพ่อมึง (ซุ่มอ่านในมือถือตั้งแต่เมื่อคืน)
555555555
ชอบจังเลยค่า
อีกหนึ่งอาทิตย์เจอกันนะคะ
กอด~
-
มาช้าเลยอดอ่าน TT
แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอได้
เดินทางปลอดภัย รักษาสุขภาพด้วยค่าา
-
:กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
ง่าาา ไปไหนแล้ว.. จะรอนะคะ
-
อ้าว อดอ่านเลย
-
ใครจะได้คู่กับมะยมน๊า มีชายให้เลือกเยอะจริง
ว่าแต่สุดท้ายมะยมคงไม่แห้วนะ
-
คนรักคนหลงมะยมอย่างเยอะเลย...อ๊าก เสียดายที่อ่านอันเก่าไม่ทัน
จะรอจนครบอาทิตย์นึงนะจ๊ะ ชอบมากมาย จุ๊บ!
-
ไม่ทันอ่านช่วงที่โดนถอนคืน ว้า เสียดาย ว่าแต่ น้องกัสกับนายศร - -?
ไม่นะ ม่ายยยยย ไม่เคยคิดถึงคู่นี้เลย แหงอยู่แล้ว! ก็มันพึ่งโผล่!
แบบนี้มันจะยังไงละเนี่ย
ค้างคา!... T_T ฮือ ถึงอย่างนั้นเราก็ยังเชียร์นายศรอยู่นะ
แม้ว่าคอมเม้นส่วนใหญ่เขาจะเชียร์พ่อมึงกัน กร๊าก
อิฉันขอเป็นขบถต่อประตูหลังของนายมะยมเพื่อเชียร์นายศรต่อไป๊ ฮ่าๆๆ ฮ้า
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ รอ ร๊อ รอ น้า~
-
......
.....
....
...
..
.
มาเซี่ยงไฮ้คราวนี้....เหมือนไปเที่ยวชัดๆ แต่ละที่ที่ไกด์พาไป สุดยอด!
ทั้งทะเลสาบซีหู เจดีย์บนเกาะกลางน้ำ บ้านของดอกเตอร์ซุนยัดเซ็น .... ได้ไปหังโจวด้วยนะ อยู่ตรงนั้นทั้งวันเลย.... ของน่ากินเต็มไปหม๊ด ไปก๊ะผู้ใหญ่ท้องนายมะยมเปรมกันเลยทีเดียว ผู้ใหญ่อยากชิม ท่านซื้อ นายมะยมเลียจานให้-----ฮา
วันหนึ่งไปเมืองเก่าที่นึง..จำไม่ได้ว่าชื่ออะไร แต่ขนมจีบอร่อยดี แปลกๆ อันเท่ากำปั้น.... นึกอยากชิมหลายไส้เลยขอแชร์กับหัวหน้า และนับแต่นั้นมานายมะยมขออเมริกันแชร์กับหัวหน้าตลอดทริป ก็เซี่ยงไฮ้----อะไรมันก็ยั่วน้ำลายไปหม๊ด
พอเข้ามาในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ ตอนกลางคืนผู้ใหญ่ปล่อยให้ไปเดินเล่นกันเองได้ ส่วนคนแก่เหนื่อยแล้วและจะนั่งจิบชากันที่ร้าน้ำชาข้างโรงแรม เขาจึงไปเดินตลาดกลางคืนกับหัวหน้าและคนหนุ่มสาวอีกสี่คนซึ่งร่วมทริปมาด้วยกัน
เดินไปๆ เจอแผงขายหนังโป้ หัวหน้าเดินหนีไปเลย... นายมะยมขำคิก งวดนี้เพื่อนไอ้ไม้ไม่ฝากซื้อแผ่น เพราะพวกนั้นนิยมสาวญี่ปุ่นมากกว่าสาวจีน แต่พอเดินลึกเข้าไป นายมะยมก็เห็นคนหนุ่มๆ ไปมุงอะไรกันสักอย่าง นายมะยมจึงชวนหัวหน้าไปมุงด้วย แต่โชคร้ายที่นายมะยมเข้าผิดทางเลยเดินเข้าไปไม่ถึงด้านในสักที
หัวหน้าเดินถึงแล้ว... แต่หน้าไม่ดีเลย นายมะยมก็งงว่าทำไม--- อีร้านแบกะดินนี่ขายอะไร หัวหน้าถึงทำหน้าเครียดแบบนั้น!!
......
.....
....
...
..
.
พอคนหนึ่งที่ยืนบังนายมะยมขอตัวออกไปเพราะซื้อเสร็จแล้ว นายมะยมจึงเริ่มมองเห็นสินค้าที่วางโชว์กับผ้าสีแดงแจ๋
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมฮากิ๊ก :jul3:------ เขาเจอของฝากให้ไอ้ต้นไม้กับไอ้กันแล้ว รับรองพวกมันต้องกระโดดจูบเขาแน่ๆ
“หัวหน้า! เอาอันนั้นอ่ะ แถวที่สาม สีน้ำเงินกับสีดำนั่นอ่ะ หยิบให้หน่อยครับ....จ่ายตังต์เลย!” นายมะยมร้องแข่งกับเสียงชาวจีนที่เม้งกันครื้นเครง
“ไม่!” เสียงปฏิเสธห้วน และหันหลังกลับทันที
“เร็วสิครับ! เดี๋ยวไอ้หนวดนั้นเอาไป หยิบสองอันน่ะ จ่ายตังค์เลย ผมเข้าไม่ถึง!” นายมะยมร้องสั่งง
“........” ไม่มีเสียงตอบรับ และคนที่นายมะยมร้องสั่งก็แหวกฝูงชนชาวจีนออกมาทันทีโดยไม่แยแส
“โหย...ไม่มีน้ำใจกันเล๊ย!” นายมะยมมองตามหัวหน้าตัวเอง เขาเกาหัวแกรกกราก พลางหันกลับมามองมาที่-----แผงแบกะดิน
นายมะยมหมดปัญญาแหวกเข้าไป เพราะคนที่เข้าไปแล้วและกำลังจ้องจะเข้าไปมีอัตตาการแย่งชิงกันรุนแรง นายมะยมจึงลองเอาการซื้อขายแบบในสำเพ็งมาใช้ที่เซี่ยงไฮ้
นายมะยมตะโกนบอกพ่อค้า “เก้อเกอะ! ฉิ่งหว่อน่าเกอะ เฮยเซ่อ เหอ หลันเซ่อ.... ตัวเซ่าอ่ะ?” (พี่ชาย! ขออันนั้นให้ผมหน่อย สีดำกับสีน้ำเงิน....เท่าไหร่อ่ะ?)
พ่อค้าตะโกนถาม “เย้าจี่ชุ่น?.... ซาน ซื่อ อู่ ลิ่ว ชี” (เอากี่นิ้ว?... สาม สี่ ห้า หก เจ็ด)
นายมะยมหน้าเหวอ----- ไอ้เหี้ย! แม่งเจ๋งว่ะ! มีไซด์ดิลโด้ให้กูเลือกด้วยวุ้ย*0*
นายมะยมชี้ไปที่เป้าหมายซึ่งวางอยู่บนผ้าแดง “น่าเกอะอ่ะ จี่ชุ่น?” (อันนั้นอ่ะ กี่นิ้ว?)
“ซานอ่ะ” (สาม) พ่อค้าชูสีดำขึ้นมาและบอกเบอร์ของมัน จากนั้นก็หยิบสีชมพูอันข้างๆ ขึ้นมาแล้วบอกว่า “เจ้อเกอะ ชีอ่ะ” (อันนี้ เจ็ด)
อันสีชมพูมันเบ้งมาก *0*นายมะยมเริ่ม------เลือกไม่ถูก
พ่อค้าตัวแสบร้องบอกนายมะยมทันทีว่า อันเจ็ดนิ้วเหลืออันเดียว ไม่มีอีกแล้ว!
นายมะยมเบ้ปาก-----เชื่อแม่งก็บ้า!
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมร้องบอกพ่อค้า “หว่อเย้า! เกอะเกอะ ซานต้าวชี เหม่ยอีเกอะ! หน่าเซ่อจิ้วโอ้เคล่ะ” (ผมเอา! พี่ชาย 3-7 เอาอย่างละหนึ่ง! สีไหนก็โอเค).............
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมแหวกฝูงชนออกมาพร้อมถุงใบใหญ่พอดีมือ.... เขาเดินไปเรื่อย พร้อมมองหาผู้ร่วมเดินทางของตัวเองที่เมื่อกี้....ทิ้งกันไป
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินมองของกินน้ำลายสอ เขาแวะเข้าไปซื้อ กะว่าจะเอาไปแบ่งกันกินกับหัวหน้า
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมรักเซี่ยงไฮ้.... หากมีโอกาสจะพาไอ้ต้นไม้ ไอ้กัน ไอ้ศร อ้อ เพื่อนเขยด้วย...มาเที่ยวด้วยกัน!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #180
หนีงานมาหน้าไมค์
อารัมเล็กน้อย: แปลกมาก ในสถานที่ที่ไม่น่าจะพิมพ์อะไรแบบนี้ออก...เออ มันนึกออกได้เฉยเลย
ด้วยรักจากผู้เขียน
ปล. ไม่ต้องเฝ้านะจ๊ะ ไม่รู้จะหนีงานมาได้อีกตอนไหน
-
ลิฟท์ที่แออัดเริ่มเบาบางลงเมื่อถึงชั้นที่ 20
จากชั้นที่ 24 คนที่มาถึงชั้น 30 เหลือเพียงแค่นายมะยมคนเดียว
นายมะยมเดินอย่างอารมณ์ดีพร้อมหิ้วถุงใบใหญ่ขนาดพอเหมาะเข้ามาในแผนกของตัวเอง
เขามองไปที่โต๊ะซึ่งอยู่ติดกับของตัวเอง.... มีกระเป๋ามาวางไว้แล้ว แต่ไม่มีตัวของเจ้าของโต๊ะ
นายมะยมวางถุงใบนั้นลงที่เก้าอี้ของเพื่อน และเดินออกไปที่ห้องส่วนรวมเพื่อชงกาแฟ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินถือแก้วกาแฟเข้ามา....นายศรมานั่งที่ของตัวเองแล้ว
ถุงใบนั้นวางอยู่บนโต๊ะของนายมะยม
นายมะยมตบบ่าเพื่อน “ของฝากกูมึงเอาไปยัง กูให้มึงเลือกก่อนใครเลยนะเนี่ย!” .....ส่งยิ้ม
“ไอ้เหี้ย!” นายศรชมเพื่อน “มึงเอาของฝากปกติมาให้เพื่อนเป็นมั้ยวะ?” นายศรบ่นอุบ---- คราวก่อนไอ้ยมมันก็เอาแผ่นดีวีดีมาให้เลือก คราวนี้เสือกเอาดิลโด้มาให้เลือก... เปลืองค่าตั๋วเครื่องบินให้แม่งบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปชัดๆ
......
.....
....
...
..
.
กินข้าวกลางวันเสร็จ นายมะยมนัดเพื่อนๆ ให้มาหาที่ห้องน้ำบนชั้นที่ 30
ไอ้กันกับไอ้ต้นไม้แย่งของในถุงกันชุลมุน...นายมะยมกอดอกก้นพิงขอบอ่างล้างหน้า มองเพื่อนด้วยอาการยิ้มไม่หุบ
“มึงดู! มึงดู! ต้องแบบนี้สิถึงจะสมคุณค่ากับของฝากกู หนอย..ทำเป็นไม่สน แอบหยิบไปป่าววะ?” นายมะยมพูดกระทบกระเทียบคนที่ล้างมืออยู่ข้างๆ
นายศรล้างมือเสร็จก็ก้าวฉับฉับออกไปทันที---ไม่พูดอะไรสักคำ
นายมะยมกอดอกท่าเดิม แต่สีหน้าเปลี่ยนไป
“เมนส์มันยังไม่หายรึไงวะ?” นายต้นไม้ถาม
“ไม่รู้ดิ รมณ์แม่งไม่ดีตั้งแต่เช้า” นายมะยมบอก
นายกันเอาถุงผ้าที่เหน็บกระเป๋าหลังออกมาใส่ของลงไป---สองชิ้น!...จากนั้นก็บอกว่า “แม่งทำหน้ายังกับเมียมีชู้งั้นแหละ!”
“มันก็ใช่.....แต่มันก็ไม่ใช่ว่ะ” นายมะยมพูด
“ไรของมึง? ใช่ ไม่ใช่.....อะไรใช่ไม่ใช่วะ?” กันเง็ง
“ก็มึงบอกว่ามันหน้าเหมือนเมียมีชู้ไง....กูว่ามันก็เหมือนอยู่ แต่ไอ้ศร...แม้แต่แฟนมันก็ยังไม่มีเลยนะเว้ย” นายมะยมแจง
“ใครจะรู้ มันอาจแอบหลงรักใครแล้วไม่บอกมึงก็ได้...” นายต้นไม้หิ้วถุงกระดาษและเดินออกไปจากห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
เพี๊ยะ!-----นายกันและนายมะยมตบมือดังฉาด...ถึงบางอ้อกันทันที
......
.....
....
...
..
.
แต่ใครล่ะที่นายศรไปแอบ----หลงรัก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ทั้งวัน
......
.....
....
...
..
.
-
เพราะปั่นจักรยานไปรดน้ำและเอากระเพราที่บ้านเพื่อน....วันนี้นายมะยมจึงเดินมาเจอน้องกัสที่หน้าหอพอดี
ขาดแคลนอาหารรสจัดจ้านของไทยมาหลายมื้อ กะว่าเย็นนี้จะผัดมาม่าขี้เมาสักหน่อย----โชว์เสน่ห์ปลายจวักให้น้องกัสชิม (หุหุหุ)
......
.....
....
...
..
.
กัสยิ้มแล้ววิ่งเข้ามาหา....กัสกอดเอวและซบหน้ากับหน้าอกของนายมะยมพร้อมพูดว่า “คิดถึงพี่มะยมจังฮะ”
นายมะยมกักเก็บปีกที่ตีกระพรือไว้ในใจ... เขายกมือไปวางที่หัวของน้องกัสและลูบเบาๆ “เป็นเด็กดีรึเปล่าครับ? ฟังสำเนียงไอ้ศรได้มั้ยเอ่ย?”
กัสส่ายหน้าพรืดๆ กับหน้าอกของพี่มะยม ไม่เงยหน้ามอง ไม่ปล่อยแขนที่กอดพี่มะยม “ผม....”
......
.....
....
...
..
.
แล้วกัสก็ร้องไห้...นายมะยมเป็นงงว่าเกิดอะไรขึ้น พยายามปลอบก็แล้ว.....กัสก็ไม่พูดอะไร
นายมะยมจึงรีบพาขึ้นไปบนห้อง....
......
.....
....
...
..
.
เจ้าของสายตาสองคู่.....จับจ้องคนทั้งสองตั้งแต่พวกเขาเดินมาเจอกัน....ตลอดจนฝ่ายที่อายุมากกว่าโอบประคองพาอีกคน...ขึ้นไปบนตึก
......
.....
....
...
..
.
เจ้าของสายตาคู่หนึ่งซึ่งนั่งดูดโค้กกระป๋องอยู่หน้าร้านของชำ----“ซู๊ดดดดดดดดดด” เสียงดูดน้ำจนหมดกระป๋อง
แกร๊ง----กระป๋องตกลงบนพื้น
เท้าข้างหนึ่งเขี่ยมันให้ตั้งขึ้นและ-----เปรี๊ยะ!
กระป๋องสีแดงถูกบี้จนแบนไปกับพื้นทางเท้า....มือของเจ้าของเท้าคู่นั้นหยิบมันขึ้นมา นำมันหย่อนลงถังขยะหน้าร้านค้า จากนั้นขาคู่เดียวกันนี้ก็เดินพาร่างของตัวเองมาที่จักรยานคันหนึ่ง
จักรยานถูกปั่นลึกเข้าไปในซอยอย่างรวดเร็ว
......
.....
....
...
..
.
สายตาอีกคู่หนึ่งซึ่งเป็นของคนที่นั่งอยู่ในรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามหอพัก เห็นคนทั้งสามในทุกอากัปกริยา....
......
.....
....
...
..
.
คนที่นั่งอยู่ในรถยนต์ซึ่งดับเครื่องไปนานแล้ว มองจนคนที่ปั่นจักรยานไปไกลจากสายตาก่อนถึงค่อยเปิดประตูรถเดินออกไป
เขาเดินถือกระเป๋าหนังเข้าไปในตึกเดียวกันกับคนคู่แรก
......
.....
....
...
..
.
เขารอสักพัก...ลิฟท์ก็มา...เขาก้าวเข้าไปและกดปุ่มหมายเลข 5
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์มาถึงชั้นที่ 5
เขาเดินออกไป....เสียงรองเท้าดังกระทบพื้นกระเบื้องยาง..เอี๊ยด เอี๊ยด----
เขาล้วงกุญแจห้องออกมาไข
เขาเดินเข้าไปในห้องและปิดประตู
เขาถอดรองเท้าและวางมันไว้ในตู้รองเท้าสีโอ๊คหน้าห้อง เขายังไม่ถอดถุงเท้า....เขาเดินไปในห้องน้ำ
“ซ่-------------า” เสียงรองน้ำดังขึ้นครู่หนึ่งจึงหยุดลง
......
.....
....
...
..
.
ปึ๊ก----- ประตูกระจกถูกเปิด
เขายืนฝักบัวในมือไปรดต้นตำลึงพุ่มใหญ่ที่อยู่ตรงระเบียงห้องของตัวเองโดยรดที่โคนก่อนถึงค่อยสะบัดพรมใบที่เรื้อยไปตามไม้ระแนง
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
มาม่าผัดขี้เมาถูกวางลงบนโต๊ะญี่ปุ่นหน้าทีวี
เขาเลื่อนจานใบหนึ่งไปใกล้เด็กที่เพิ่งผ่านการร้องไห้จนตาแดง...คนกำลังเสียใจ ให้กินแบบนี้จะดีไหมนายมะยมไม่แน่ใจ
แต่น้องกัสบอกว่าหิว ก็เลยเอานี่แหละ จะได้ไม่ต้องรอนานด้วย
แกร๊ง แกร๊ง ------- เสียงช้อนส้อมดังกระทบกันโดยเคล้าไปกับเสียงรายงานข่าว
วันนี้ไม่เป็นอันเรียน.... ถึงน้องกัสหยุดร้องไห้แล้ว นายมะยมเองก็ไม่เป็นอันสอนด้วย
นายมะยมอยากรู้ว่าน้องร้องไห้ทำไม...แต่ไม่ได้ถาม กลัวน้องจะว่าว่าเขาละลาบละล้วง... แต่จะปล่อยให้น้องร้องไห้คนเดียว นายมะยมก็ยอมไม่ได้อีก
คนที่ตัวเองชอบมีน้ำตา....ใครบ้างไม่อยากเช็ดน้ำตาพวกนั้นให้!
......
.....
....
...
..
.
“กัส........ ระบายให้พี่ฟังได้นะ พี่มันปากหนัก ไม่บอกใครแน่ครับ” นายมะยมอดรนทนไม่ไหว เห็นคนที่ชอบทำหน้าซึมแล้วมัน....จี๊ดที่หัวใจ
“...........” ไม่มีเสียงตอบ แต่ช้อนที่ถือ---นิ่งค้าง
“โอเคครับ ถ้ากัสไม่สะดวกใจ ก็----”
นายมะยมยังไม่ทันพูดจบดี เสียงแผ่วๆ จากที่นั่งอยู่ใกล้กันได้เอ่ยถามขึ้นมาว่า
“พี่เป็นเกย์ใช่มั้ยครับ?”
......
.....
....
...
..
.
ถามง่ายก็ตอบง่าย
......
.....
....
...
..
.
“ครับ” นายมะยมบอก
“..........” กัสยังคงก้มหน้าเงียบต่อ
“มันเกี่ยวอะไรกับที่กัสถามพี่....รึเปล่าครับ” นายมะยมจี้ถาม....มาถึงขั้นนี้แล้ว หากไม่กระจ่างวันนี้นายมะยมคงนอนไม่หลับ
......
.....
....
...
..
.
“พี่มะยม...” กัสเงยหน้าที่มีน้ำตาคลอมามองเขา เสียงที่พูดสั่นเครือ “ผม.........”
......
.....
....
...
..
.
“ชอบ................พี่...............”
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #185
-
น้องกัสตกคำว่า "ศร" ไปในประโยคที่พูดรึเปล่า
เหอ เหอ เหอ
-
“ชอบ................พี่...............”
พูดให้จบสิน้องเอ้ย!!!
แหม่ ขัดใจ อีกนิ๊ดดดดดดดดดดดเดียวเองนะ
แบบนี้เดี๋ยวเข้าใจผิดกันใหญ่ปล่อยให้มะยมดีใจเก้อหรอก
หวังแต่ว่าคุณน้องแกคงไม่บอกชอบพี่มะยมแค่นั้นแหละ
ไม่งั้นคุณน้องไม่อยู่ดีแน่ค่ะ เพราะพี่ไม่เชียร์คุณน้องฮ่าๆๆ ฮ้า
ปริศนาลึกลับแต่จากเสียงพื้นรองเท้าเอี๊ยดอ๊าด ... หึหึ
เอาเหอะ ขอติดตามดูต่อไปยังไงนายคนที่อยู่ชั้น 5 มันต้องเกี่ยวด้วยแน่
แต่ เขาเป็นใครนะคะ ฮู้ เขาเป็นใครนะคะ ฮู้
-
“มันเกี่ยวอะไรกับที่กัสถามพี่....รึเปล่าครับ” นายมะยมจี้ถาม....มาถึงขั้นนี้แล้ว หากไม่กระจ่างวันนี้นายมะยมคงนอนไม่หลับ
......
.....
....
...
..
.
“พี่มะยม...” กัสเงยหน้าที่มีน้ำตาคลอมามองเขา เสียงที่พูดสั่นเครือ “ผม.........”
......
.....
....
...
..
.
“ชอบ................พี่...............”
......
.....
....
...
..
.
“...........ศร..............”
......
.....
....
...
..
.
แคร๊ง! นายมะยมทำช้อนร่วง-----ไปพร้อมหัวใจของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
ทำไม เกิดอะไรขึ้น?! เจอหน้ากันแค่ไม่กี่วันแค่เนี๊ยะ!...... แค่เนี๊ยะก็ชอบเค้าแล้วเหรอกัส?!!
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมอยากถามน้องกัส แต่เขาอ้าปากไม่ออก.... น้งกัสยังคงมองจ้องเขาด้วยความรู้สึกสองอย่าง---- ขอความช่วยเหลือและเชื่อใจ
......
.....
....
...
..
.
อยากได้ความเชื่อใจมานานแล้ว...แต่ไม่อยากได้มาในรูปแบบนี้
......
.....
....
...
..
.
ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เพื่อนในก๊วนจะหักหลังเขา
ถึงมีหลายครั้งซึ่งคนที่เขาชอบจะไปชอบเพื่อนของเขา
แต่ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เพื่อนจะตลบหลังเขา
......
.....
....
...
..
.
ทว่า คราวนี้...เพื่อนของเขาเองก็ผิดสังเกตด้วยเหมือนกัน!!!
......
.....
....
...
..
.
“มัน....ยังไงครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่? ตอนที่พี่ไม่อยู่นี่เหรอครับ?” นายมะยมสะกดกลั้นความขุ่นมัวที่มีภายในเอาไว้ แล้วถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ไม่....ใช่....” กัสส่ายหน้าพรืดและน้ำตาก็ยิ่งไหลหนักกว่าเดิม
นายมะยมยื่นแขนทั้งคู่ของตัวเองไปคว้าเอาน้องกัสมากอดไว้
......
.....
....
...
..
.
นี่เป็นครั้งแรก
......
.....
....
...
..
.
และอาจเป็นครั้งสุดท้าย....ที่จะได้กอดน้องที่น่า “รัก”
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
ส่งกัสขึ้นรถมอไซด์รับจ้างแล้ว นายมะยมยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม....
เสียงติดสะอื้นของน้องกัสที่ตอบคำถามเขายังดังก้องอยู่ในหู-----
-----
----
---
--
-
‘ผม...เลิกรักพี่ศรไม่ได้ ไม่รู้ทำไมถึงทำไม่ได้... ผมอยากหยุดนะพี่มะยม ผมร้องไห้จนปวดตาไปหมดแล้ว ผม.....’
‘กัสครับ กัสไว้ใจพี่มั้ย? กัสเชื่อใจพี่มั้ยครับ?’ นายมะยมถามอีกฝ่ายด้วยหน้าตาจริงจัง
‘ครับ ผมเชื่อใจ ผมถึงได้บอกเรื่องนี้กับพี่ พี่มะยมเป็นคนดีมากๆ ผมรู้สึกอย่างนั้น’ กัสชมเขาทั้งที่น้ำตาของตัวเองยังไหลริน-----เพื่อใครอีกคนซึ่งไม่ได้อยู่ ณ ที่นี้
‘งั้นฟังพี่นะครับ รักครั้งแรกไม่มีใครลืมมันได้ง่ายๆ หรอกครับ แต่ทุกครั้งที่มีรัก กัสอย่าจมไปกับมัน กัสต้องรักให้เป็น...กัสเข้าใจที่พี่พูดมั้ยครับ?’ นายมะยมพูดแกมสอน
‘พี่----’ กัสโผเข้าไปกอดพี่มะยม
......
.....
....
...
..
.
กับความรักในแบบชายรักชาย กัสไม่มีใครเป็นที่ปรึกษาให้ได้ กับความรักในแบบนี้ กัสเพิ่งเคยรู้จัก....กัสไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไร
......
.....
....
...
..
.
แม้ความรักจะเป็นเรื่อง “เหมือนกัน” ไม่ว่าคุณเป็นเพศอะไร....แต่เคยรักกันมั้ย? ------ ปัญหาความรักของคนอื่น เราอาจเป็นที่ปรึกษาให้เขาได้ดีขนาดไหน..เราทำได้หมด!
ครั้นมาถึงคราวตัวเองตกหลุมแห่งความรักบ้าง....เรากลับทำอะไรไม่เป็น คิดอะไรไม่ออกซะงั้น!
......
.....
....
...
..
.
‘กัสจะให้พี่.....’ นายมะยมกัดปากเฉือนหัวใจตัวเองเป็นชิ้นๆ เพื่อเอ่ยถาม “ดวงใจ” ของตัวเอง ‘ช่วยอะไรมั้ยครับ.......เรื่องไอ้ศร’
------- เมื่อมีรัก ต้องรักให้เป็น!
‘........’ กัสไม่พูดในทันที
สักพักใหญ่ กัสถึงผละจากอ้อมกอดที่กระชับตัวเองไว้ และเงยหน้าบอกที่ปรึกษาเพียงหนึ่งเดียวของตัวเองว่า ‘พี่เค้าปฏิเสธผมมาแล้ว.......เค้าจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ............. ถึงต้องเสียใจ แต่ผมก็ยังอยากเจอหน้าพี่เค้า อยากพูดคุยด้วย อยาก....รู้จักกัน.........พี่มะยม ผมมันโง่ใช่มั้ยครับ?’
‘ในเส้นทางความรัก เราทุกคนโง่เท่ากันหมดครับ’ นายมะยมฉีกยิ้มอย่างมีอารมณ์ขันให้เด็กโง่ที่กำลังสับสนและหลงทางอยู่ใน “เส้นทางแห่งรัก”
‘.....ถ้าพี่เค้าจะจำผมได้เพราะเคยสอนพิเศษให้.....แค่นั้นก็ยังดีครับ ระหว่างที่ผมยังหักใจตัวเองไม่ลง...ผมขอมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่จะได้เจอหน้าพูดคุยกับพี่เค้าบ้าง......ได้มั้ยฮะ?’ แววตาวอนขอและขอคำปรึกษาส่งมายังนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
คนที่รักเสียน้ำตาเพราะคนอื่นเขายังเช็ดให้ได้ ประสาอะไรกับคนที่รักขอความสุขเล็กๆ น้อยๆ--------ให้ก็เจ็บไม่ให้ก็เจ็บอยู่ดี....ไอ้มะยมเอ๊ย!!
......
.....
....
...
..
.
‘ได้สิครับ หากกัสอยากได้....อืม...ก็ให้ไอ้ศรมันผลัดมาสอนละกันเนอะ แต่น้องของพี่ต้องอย่าร้องไห้อีกนะ โอเคมั้ยครับ?’ นายมะยมพูดพลางยกมือขึ้นวางบนหัวที่เล็กกว่าของตนเอง
‘ครับ...ขอบคุณมากครับพี่มะยม’ กัสบอกขอบคุณด้วยเสียงสะอื้น
น้ำตากัสไม่ได้หยุดไหลง่ายๆ....เฉกเช่นเดียวกับ “หัวใจที่มีรักให้น้องกัส” ของนายมะยมซึ่งได้ตกอยู่ในฐานะตัวสำรองโดยไม่ทันรู้ตัว
‘เพื่อน้องพี่ทำให้ได้เสมอครับ’ นายมะยมจับหัวกัสมาซบที่หน้าอกตัวเอง และปล่อยให้น้องระบายความเศร้าที่อัดแน่นในหัวใจตัวเอง....ออกมา จนกว่าเจ้าตัวเขาจะ----พอใจ
-----
----
---
--
-
เขาเปลี่ยนใจไม่ขึ้นไปบนห้องและเดินไปนั่งเล่นที่เก้าอี้ตัวโปรด----ในสวนหย่อม
ใต้ร่มไม้ที่มีเสียงแสกสากจากการเสียดสีของใบไม้...ลมเย็นๆ พัดเอื่อย...คำคืนอันเงียบสงบ เหมาะแก่การใช้ความคิด
ความโมโหหรือความขุ่นมัวในอารมณ์....ไม่อาจแก้ไขปัญหาใดๆ ได้.....
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเริ่มคิด.... เขาทวนถึงสิ่งที่กัสบอกเล่าให้ฟัง...ทั้งหมดก่อน
......
.....
....
...
..
.
ไม่เคยรู้เลยว่ากัสจะเรียนห้องเดียวกับศิลป์------แต่จะว่าไปก็ไม่เคยถามศิลป์ว่าเรียนห้องไหน เขาจึงรู้แค่ว่าน้องกัสเรียนโรงเรียนเดียวกับศิลป์
ไม่คิดว่ากัสจะเคยพบกับศรแล้ว เคยแม้แต่สารภาพรัก....และโดนปฏิเสธมาแล้วด้วย
......
.....
....
...
..
.
รักแรกมันคงลืมกันไม่ได้ง่ายๆ.... นายมะยมเข้าใจดี
แต่เขาก็ชอบกัสจริงๆ.... หากกัสยอมเปิดใจให้เขาเข้าไปนั่งอยู่ในนั้น
นายมะยมกล้าสาบานกับท้องฟ้าและดวงดาวเลยว่า เขาจะไม่มีวันทำให้น้องกัสต้องเสียน้ำตา
......
.....
....
...
..
.
ทว่า ยังมีสิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนผิดไหม? ดูจะไม่ใช่ประเด็น.... ในสงครามความรัก หากมีด้วยกันสามฝ่าย...
การรบของคนสองคนซึ่งอยู่ตรงฐานของสามเหลี่ยม แม้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตวับดาบของอีกฝ่ายให้หลุดไปจากมือได้-------ก็หาได้เป็นผู้ชนะไม่
ต้องดูว่า "ใคร" คือคนที่ยอดสามเหลี่ยมนั้น....หยิบยื่นหัวใจตัวเองมาให้----นั่นต่างหากคือผู้ชนะ
......
.....
....
...
..
.
ไม่ใช่ว่ากล้ามั้ยที่จะไปถามเพื่อน... แต่เพื่อนมันจะตอบจากใจจริงรึเปล่า----นี่คือข้อสำคัญ
......
.....
....
...
..
.
ในทางเส้นทางสายความรัก ต้องกล้าได้กล้าเสีย.....แต่อย่าทะลึ่งผลีผลามทำอะไรลงไปโดยไม่คิด!
......
.....
....
...
..
.
เวลานี้ ถึงเป็นตัวสำรองของน้องกัส แต่ไอ้ตัวสำรองที่คอยปลอบใจอาจได้ขึ้นแท่นเป็นตัวจริงในอนาคต----ก็ได้ใครจะรู้!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #190
-
อยากกรี๊ดดดดังดัง
มะยมนาย o13
บวกเป็ด
-
เมื่อไหร่คู่ของนายมะยมจะเปิดตัววววว ~
-
:เฮ้อ:
รอต่อไป ไม่ใช่แค่สามเส้านี่มัน สี่หรือห้าเส้า ด้วยซ้ำ
บวกเป็ด
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมนั่งคิดหาวิธีนั้นอยู่ในสวนหย่อมซึ่งถูกคลุมด้วยความมืดในยามค่ำคืน...แต่เพียงลำพัง
......
.....
....
...
..
.
สายตาคู่เดิมซึ่งเวลานี้ยืนอยู่ที่ชั้น 5 ของหอพัก....จับจ้องที่นายมะยมซึ่งนั่งนิ่งอยู่ในสวนหย่อมอย่างไม่วางตา
เจ้าของสายตาคู่นั่นยืนดู...และเมื่อสิบนาทีผ่านไป เขาจึงลากเก้าอี้เล็กๆ ออกมานั่ง...มองต่อ
ระแนงตำลึงที่เป็นผืนอยยู่ตรงระเบียงห้อง บดบังร่างของเขาเอาไว้...จากสายตาของใครภายนอก
......
.....
....
...
..
.
นานแค่ไหนทั้งนายมะยมและเจ้าของดวงตาคู่นั้นไม่ได้จับเวลา...พวกเขาต่างก็นั่งแบบ...ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ แต่ไม่เสียเปล่า...เพราะต่างก็จมอยู่ในความคิดของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
จนกระทั่งนายมะยมลุกขึ้นจากเก้าอี้ยาวในสวนหย่อมและค่อยๆ เดินเข้ามาในตัวตึก...ชายเจ้าของดวงตาคู่นั้นจึงลุกจากเก้าอี้ตรงระเบียงห้องของตัวเองมายังด้านใน
เขาปิดไฟที่หัวเตียง และซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาแต่ไม่หนักเนื่องจากมันแค่พองตัวมากไปก็เท่านั้น
......
.....
....
...
..
.
ค่ำคืนนี้คนหลายคนอาจไม่สามารถหลับได้ลง....ทว่า ไม่ใช่กับเขา
......
.....
....
...
..
.
คนที่เป็นแค่ ‘ฝ่ายแอบมอง’ ทำได้แค่ห่วงอยู่ห่างๆ....สิ่งที่ต้องคิดจึงไม่หนักเท่าคนที่อยู่ในวงสามเหลี่ยม---- พวกนั้น
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
เดือนกันยายนอันแสนหนักและหน่วงของกัสกำลังจะหมดลง....ทั้งที่ปัญหาหัวใจยังเกาะกุมกัสอยู่ไม่ขาด
การไปติวกับคนที่ตัวเองแอบรัก...ถึงปวดหัวใจ แต่ตอนที่เห็นหน้าเค้า ได้พูดคุยกับเค้า....มันกลับเกิดความสุขเล็กๆ ในหัวใจ
จากที่เคยมองแค่หลังคาบ้าน เวลานี้ผมกลับได้เข้ามาอยู่ในบ้านเค้า
วันที่พี่ศรติวให้ พี่มะยมจะปั่นจักรยานพามาที่บ้านของพี่ศร.... วันนั้นพวกพี่ๆ จะทำกับข้าวกินกันเอง ผมไม่ซื้อกับข้าวข้าวมาให้พี่มะยม แต่จะเปลี่ยนเป็นหิ้วผลไม้มาให้แทน
พี่มะยมบอกว่ากินอะไรก็ได้....แต่พี่ศรเลือกกินมาก ผมจึงคัดแต่ผลไม้ที่พี่ศรกินได้มาให้เท่านั้น
จริงอยู่ว่าตอนนี้...ตัวเองก็ยังแอบกลับบ้านไปร้องไห้ทุกครั้งที่กลับไป... แต่เพราะสัญญากับพี่มะยมไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ ผมจึงพยายามยิ้มตอนที่อยู่ด้วยกัน----ทรมาน แต่มันก็เป็นความสุขแบบแปลกๆ....
......
.....
....
...
..
.
“อ้าว น้องอยู่ห้องเดียวกับไอ้ศิลป์มันเหรอ? เฮ้ย! ไม่เห็นรู้เลยว่ะ มึงทำไมไม่บอกกูวะ?” พี่ศรทำหน้าตกใจนิดๆ และหันไปถามพี่มะยม
“มึงเคยถามมั้ยล่ะ?” พี่มะยมยวนเพื่อนตัวเอง
“คนละกลุ่มครับพี่ ไม่รู้ก็ไม่แปลกหรอกครับ” ผมบอกพี่ศร
“นั่นไง ถึงว่า...ไอ้ศิลป์ไม่เคยเล่าให้ฟังเลยว่ามีเพื่อนชื่อกัส” พี่ศรพูด
------ แค่คำพูดทั่วไป แต่ตอกย้ำความไม่มีตัวตนของผม....มาเหลือเกิน
“กูว่ามึงไม่เคยฟังที่น้องตัวเองพูดมากกว่า มันมาบ้านมึงก็กัดกันเป็นหมาทุกที” พี่มะยมแย้งเพื่อนตัวเอง
“อ้าว ทำไมล่ะครับ?” ผมงง
“ก็ไอ้เนี่ยมันไม่กินเส้นกับน้องตัวเอง อยู่ด้วยกันทีไร ทะเลาะกันทุกที ต้องอยู่ห่างๆ กันถึงจะสมกับเป็นพี่น้องกัน” พี่มะยมอธิบาย
ผมพยักหน้า....และแอบดีใจที่ได้รู้เรื่องคนที่ชอบอีกหนึ่งอย่าง
“ใครจะแสนดีแบบมึง... โหย คนแบบมึงเนี่ย หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ! รู้ตัวมั้ย? รู้ตัวมั้ย?” พี่ศรล็อคคอพี่มะยมแล้วยีหัวเล่น...พี่มะยมดิ้นขลุกๆ จะให้หลุด....แต่ก็ไม่หลุด
ผมชอบนะ เวลาที่เห็นพี่มะยมกับพี่ศรเค้าเล่นกัน มันดูสนิทกันดีมาก....ในใจลึกๆ อยากเป็นให้ได้แบบนั้นบ้าง...แต่คงไม่มีวันเป็นไปได้
หากติวเสร็จ และหากเริ่มสอบ ผมของไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
“ไปเลย หิวแล้ว ทำไรให้กูแดกล่ะ ไม่เอาผัดกระเพราแล้วนะเว้ย กูเบื่อ!” พี่ศรยอมปล่อยแขนให้พี่มะยม...ไปทำกับข้าว
พักทำกับข้าวและกินข้าวกันสักชั่วโมง แล้วพวกเราถึงค่อยมาเรียนกันต่อจนถึงสามทุ่ม
......
.....
....
...
..
.
ในห้องครัวมีเสียงน้ำไหลจากก๊อกมาเรื่อยๆ ..... มือของผมยังคงถูที่ใบของผักแต่ละใบด้วยความตั้งใจ แต่คอมันกลับคอยเอี้ยวไปมองคนอีกคนที่นั่งดูทีวีอีกทาง
“อ้าว---- อ้าว---- เดี๋ยวก็คอเบี้ยวหรอกครับ หันหน้ามาเดี๋ยวนี้เลย!” พี่มะยมร้องทักเสียงเข้ม แต่หน้ายังยิ้มแบบใจดีเหมือนเดิม
ผมส่งยิ้มปุเลี่ยนไปให้พี่มะยม และหันหน้ากลับมาล้างผักต่อ
“แกงเห็ดเผ็ดหน่อยได้มั้ยครับ? ไอ้ศรมันชอบรสจัดหน่อย” พี่มะยมถามตอนหยิบเอาพริกสดจากในตระกร้ามาหย่อนลงในครกไปทีละเม็ด
“ได้ฮะ... พอดีๆ นะพี่มะยม ผมไม่ใช่คอพริก” ผมตอบแบบขอกันคนละครึ่งทาง
“ว๊า...งี้ต้องหัดกินเผ็ดไว้หน่อยนะครับ เผื่อวันหลังจะได้ทำให้แฟนกิน” พี่มะยมพูดด้วยน้ำเสียงเสียดาย และเริ่มยกสากขึ้นตำ
“ไม่มีวันนั้นหรอกครับพี่” พูดเอง....ก็เจ็บเอง
“เป็นพระเจ้าหรือเรา? กำหนดอนาคตได้เองงั้นสิ” พี่มะยมแซว
เสียงครกกับสากหยุดลง ผมกำลังจะอ้าปากเถียง ทว่า กลิ่นฉุนของพริกโชยขึ้นเตะจมูก....ผมจามอุตลุต พี่มะยมหัวเราะร่าและไล่ผมให้ออกมาจากห้องครัว เพราะอีกเดี๋ยวในครัวกลิ่นจะฉุนกว่านี้
ผมเอาผักขึ้นมาวางในตะกร้าเพื่อให้มันสะเด็ดน้ำ เช็ดมือเสร็จก็หันหลังเดินออกมาจากห้องครัว
สายตาของผมสบกับสายตาของพี่ศร...เข้าพอดี
......
.....
....
...
..
.
พี่ศรรีบหันหน้ากลับไปมองทีวี
“พี่มะยม ผมไปรดน้ำสวนผักให้นะครับ” ผมร้องบอกพี่มะยม และรอฟังเสียงตอบรับ
“ครับ” พอสิ้นเสียงพี่มะยมที่ร้องบอกมาแล้ว ผมจึงเดินไปนอกบ้าน
......
.....
....
...
..
.
ผมหยิบบัวรดน้ำไปรองน้ำ...ตรงนี้มีช่องหนึ่งของกระจกที่สามารถมองเข้าไป.....เห็นด้านใน
พี่ศรหันหน้าไปทางห้องครัวอีกแล้ว และไม่ได้หันหน้ากลับมามองทีวีอีกเลย
น้ำเต็มแล้ว...ผมยกมันไปรดที่ผักแปลงแรก
......
.....
....
...
..
.
กลับมารองน้ำอีกครั้ง....สายตาของพี่ศรก็ยังคงมองไปที่ห้องครัวอยู่เหมือนเดิม
......
.....
....
...
..
.
หลายครั้ง...ที่แอบเห็นอะไรแบบนี้....ผมเกิดความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา
......
.....
....
...
..
.
และหลายครั้ง....ที่ตัวผมเผลอคิดว่า...พี่ศรแอบชอบพี่มะยมอยู่รึเปล่า?
อีกหลายครั้งที่คิดมาถึงจุดนี้ ผมก็คิดต่ออีกว่า...ที่ผมขอพี่มะยมให้ทำแบบนี้ ผมกำลังทำบาป ขวางทางรักของพี่ศรอยู่ใช่มั้ย?
ทีแรกผมยังคิดไปว่า...พี่มะยมแอบชอบผมอยู่เสียด้วยซ้ำ
แต่เนื่องจากคราวก่อนที่ไปร้องไห้แล้วสารภาพเรื่องราวที่อัดอั้นอยู่ในใจกับพี่มะยม....
พี่มะยมรับฟัง ให้คำแนะนำดีๆ และยอมช่วย....
พี่เค้าทำตัวเหมือนพี่ชายใจดีคนหนึ่งมาตลอด------ ด้วยเหตุนี้ ความคิดของผมที่มีในตอนแรกนั้นจึงสลายไป
......
.....
....
...
..
.
“ขอเวลาผมอีกนิดนะครับพี่ๆ... อีกไม่กี่วันผมก็ไปจากพี่ๆ แล้ว...ขอผมเห็นแก่ตัวอีกนิดนะครับ” ผมพึมพำกับตัวเอง..คนเดียว
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #198
-
โอ นี่มันเกิดอารายขึ้นกันนะ
น้องกัสก็แอบน่าสงสารเหมือนกัน
แต่เรื่องนายมะยมก็ยังไม่เคลียร์เสียที
ตกลงไอ้ผู้ชายปริศนาคนนั้นมันเป็นครายยยยยย :z3:
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ อิอิ
-
สามเหลี่ยมนี้รู้ว่าใครอยู่มุมไหน ชัดเจน
แต่ไอ้คนชั้นห้าช่วยออกมาจากมุมมืดหน่อยได้มั้ย
และกระโดลงไปกลางสามเหลี่ยมนี้เพิ่มมุมไปเลย
:กอด1:
บวกเป็ด
-
คนเขียนเรื่องนี้เก่งมากเลยครับ.....
.......เดาไม่ออกเลยว่า ใครแอบชอบใครอยู่....ใครจะคู่ใคร......ชวนให้ติดตามตลอด
-
ขอบคุณน้องกัส การที่พี่ได้อ่านจากมุมของน้องกัสมันทำให้พี่...
ปลื้มใจจจจจจจจจจจ
อย่างมาก!
อย่างน้อยศรก็ชอบมะยมล่ะว่ะ!! เยสสสสส! :a2:
อนาคตจะเป็นไงไม่รู้แต่ตอนนี้ฟิน
กรี๊ดดดดดด (กัดผ้าเช็ดหน้ากรี๊ดกร๊าด)
นี่ท่าศรกับมะยมเขาได้กันจริงตอนนั้นคงน้ำตาไหล ฮา ลุ้นคู่นี้จัด
ส่วนน้องกัส เห็นแก่ความดีความชอบในบทนี้ พี่ขอปลอบน้องว่า
อย่าเศร้าไปลูก อนาคตหนูยังอีกไกล เข้ามหาลัยเดี๋ยวก็มีคนมาดามใจนะลูกนะ
อย่าแซดไปเบเบ๋ โอ๋ๆ ปลอบๆ ...จบค่ะ การปลอบจบลงแล้ว
แต่ที่ไม่จบคือ
ไอ้คุณมนุษย์ตำลึงชั้นห้า!!!
จะใช่ป๋องป่ะหว่า???
แสดงตัวมาซ้าาาาาาาา เร้ววววว
-
:pig4: ค่ะ รอลุ้น :เฮ้อ:
-
ลุ้นๆๆๆ :serius2:
-
......
.....
....
...
..
.
1 ตุลาคม - 14 พฤศจิกายน คือสัปดาห์แห่งวันสอบอันหนักหน่วงของเหล่านักเรียนมัธยมปลาย
เมื่อสอบเสร็จแล้ว เพื่อนผมจึงบอกให้ศิลป์ขอพี่ชายให้พาพวกเราไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลายสมองกันหน่อย
พี่มะยมเสนอให้ไปเที่ยวเขาใหญ่โดยเหมารถตู้กันไปสองคัน
ทีแรกศิลป์ต้องไปด้วยกัน แต่เพราะเพื่อนของศิลป์ที่รวมกลุ่มกันไปแข่งเต้นในรายการโชว์แห่งหนึ่งช่วงอาทิตย์หน้าต้องการเก็บตัวฝึกซ้อม ทำให้ศิลป์ไปด้วยกันไม่ได้
ไม่ใช่ว่าซ้อมกันไม่พอแต่อย่างใด เหตุมันเนื่องมาจากหยุดไปพักใหญ่เพราะการสอบแล้วปรากฏว่า ทุกคนเริ่มลืมลำดับและจังหวะกันไปเกือบหมด ทั้งกลุ่มจึงต้องเก็บตัวฝึกซ้อมกันใหม่อีกครั้ง
“เที่ยวเผื่อกูด้วยนะเว้ย! เฮียเอาของฝากเยอะๆ...พี่มะยมเสียดายอ่า” ศิลป์บอกพวกผม แล้วหันไปสั่งพี่ชายตัวเอง สุดท้ายก็กอดพี่ชายนอกไส้หมับ
“เออ ไว้คราวหน้าพี่ค่อยพาเราไปอีกทีก็ได้” พี่มะยมบอกพลางตบหลังน้องชายนอกไส้
“จริงนะ! อย่าหลอกผมนะพี่ บาปน๊า” ศิลป์ดีใจจนออกนอกหน้า
พี่มะยมเอาฝ่ามือวางปุ๊ที่หัวศิลป์ “จริงแท้แน่นอน!”
“น่ารักจังเลย!” ศิลป์กอดหมับพี่มะยมอีกครั้ง และหิ้วกระเป๋าใบโตลงไปจากรถ
“มึงลาพี่มึงแค่เนี๊ยะ!” พี่ชายเริ่มทวง
“ลาล่ะครับเฮีย ของฝากเยอะ แล้วจะบอกแม่ว่าเฮียดูแลผมดีมาก โอเค๊” ศิลป์ยกมือไหว้พี่ชายตัวเองพร้อมยียวนไม่หาย
พี่ศรยกมะเหงกให้ศิลป์แทนการร่ำลา
......
.....
....
...
..
.
ส่งศิลป์ที่บ้านซึ่งจะมาเก็บตัวฝึกซ้อมเสร็จ รถตู้สองคันจึงเริ่มเดินทางไปสู่เป้าหมาย
......
.....
....
...
..
.
ถึงที่พักตอนช่วงเที่ยง... เราเอากระเป๋าไปเก็บของเสร็จก็ตะลอนทัวร์กันเลย
วันแรกไปที่ใกล้ๆ ก่อนเพื่อประหยัดระยะทางและเวลา.... ขากลับเราแวะทานข้าวที่ร้านนอกรีสอร์ทก่อนถึงเข้ามาพักผ่อน
มาถึงลอบบี้ของรีสอร์ท เราจึงเริ่มแบ่งห้องกัน.... แต่ยังไงเสียทุกคนก็จะไปนอนห้องใครก็ได้อยู่ดี
“พี่กับพี่ศรนอนห้องเดียวกัน พี่เชษฐนอนห้องเดียวพี่กัน น้องเหลือเศษเป็นใครก็คนนั้นไปนอนกับพี่ต้นไม้นะครับ” พี่มะยมสรุปให้
พวกผมจุ๊กจิ๊กกันอยู่อีกสักพักก็เหลือตัวเศษ
“ไอ้กัสนอนกับพี่ต้นไม้ครับ”
“โอเค ป๊ะ กัสอาบน้ำนอนกัน” พี่ต้นไม้ที่ถือกุญแจห้องรอท่าไว้นานแล้วบอก
......
.....
....
...
..
.
พวกเราเดินมาทางเดียวกัน แวะเอากระเป๋าที่ห้องแรกซึ่งนำมารวมกันไว้เมื่อตอนเที่ยง หลังจากนั้นต่างก็แยกกันเข้าห้องไปตามหมายเลข... ห้องของผมกับพี่ต้นไม้อยู่สุดปลายของที่พักในโซนนี้
“โห เหมือนเราเหมาทั้งโซนเลยนะเนี่ย” พี่ต้นไม้พูดพลางไขกุญแจ
“ฝั่งโน้นมีแค้มป์ด้วยนะพี่ไม้ ไม่รู้เลยอ่ะ” ผมบอกอย่างเสียดาย...หากรู้ล่วงหน้า พวกเขาอยากนอนรวมกันในนั้นมากกว่า
“เหรอ เห็นที่ไหน?” พี่ต้นไม้ถาม
“โน่นพี่ อีกฝากโน่น ตรงกันข้ามกับฝั่งที่เราอยู่นี่แหละ ใหญ่เลยอ่ะ พรุ่งนี้ไปดูกันมะ?” ผมชวนพี่ต้นไม้
“เออดี...” พี่ต้นไม้พูดพลางผลักประตูเปิดออก
การตกแต่งภายในของห้องพักดึงดูดความสนใจของผมกับพี่ต้นไม้ไปโดยฉับพลัน
“ว้าว ดีโคตร.... อยากนอนฝั่งไหนกัส พี่ให้เลือกก่อนเลย” พี่ต้นไม้มองตาวาวและให้ผมเลือกเตียงที่อยากนอน
“แหะแหะ.....อืม.....งั้นผมขอฝั่งติดหน้าต่างนะครับ ตรงระเบียงมันแปลกๆ”
เตียงถูกตั้งไว้สองฝั่งหนึ่งติดหน้าต่าง อีกหนึ่งติดประตูกระจกซึ่งเปิดไปนั่งเล่นตรงระเบียงได้
“โอเค...” พี่ต้นไม้บอกและหิ้วกระเป๋าใบโตไปทางเตียงของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
พี่ต้นไม้เข้าไปอาบน้ำก่อน ผมจึงเอาเสื้อผ้าไปแขวนในตู้เสื้อผ้าซึ่งใช้รวมกัน โดยเลือกวางไว้ทางฝั่งเตียงของตัวเอง เพื่อไม่ให้สับสน
เสร็จแล้วผมก็มานั่งรออาบน้ำต่อที่ตรงระเบียงห้อง
อากาศหลังพระอาทิตย์ตก กำลังดี ไม่ร้อนตับแลบเหมือนช่วงกลางวัน
ผมนั่งมองดวงจันทร์เต็มดวงที่ลอยเคว้งอยู่บนท้องฟ้า ด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว.....
......
.....
....
...
..
.
ผมเองละที่เป็นตัวต้นคิดให้เพื่อนผมไปชวนกลุ่มเพื่อนของศิลป์มาเที่ยว.... ไม่ใช่นึกสนุกอะไรเลย แต่เพราะอยากสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย
ติวเสร็จแล้ว....สอบเสร็จแล้วด้วย....ผมไม่เหลือโอกาสที่ควรไปเสนอหน้ากับพี่ศรอีกแล้ว
ถึงไม่แน่ชัดว่า...พี่ศรชอบพี่มะยมจริงรึเปล่า?
แต่ความจริงที่กองอยู่ตรงหน้าคือ ผมหลงรักคนที่เขาไม่ได้รักตัวเอง
มันเป็นความรู้สึกที่แสนทรมาน....และผมควรหยุดมันเสียที
......
.....
....
...
..
.
พี่มะยมแสนดี เชื่อได้ว่าพี่เค้าจะไม่ขาดการติดต่อไปแน่
......
.....
....
...
..
.
แต่ยิ่งเห็นพี่มะยม ก็ยิ่งคิดถึงพี่ศร
ผมควรหักดิบตัวเอง เพื่อให้ตัวเอง “ดีกว่านี้” ก่อน...ถึงค่อยกลับมาหาพี่มะยมอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
หวังว่าทริปนี้จะเป็นไปอย่างรอดปลอดภัย
ขอให้ทริปนี้เป็นสิ่งดีๆ ที่....ผมสามารถเก็บไว้ในความทรงจำได้...ตราบเท่านิจนิรันดร์
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #203
-
สาม(เศร้า)เส้าก็แบบนี้
:sad4:
-
กดรีเฟรชถี่ยิบ จะมีมาต่อไหมนะ
-
ศร อดทนดีแหะ รักเพื่อนมานาน
มะยมหันมามองคนข้างตัวที่รักจริงบ้างนะ
ว่าแต่ เจ้าของเสียงกระซิบ เป็นใครกันหนอ
-
เค้าสงสารน้องกัส
T___________________________________________T
อยากหัวหน้ามาด้วย 5555
กลับมาแล้ว ดีใจ เย่เย่
-
......
.....
....
...
..
.
เวลาสามวัน หากเราจะคิดว่ามันช้า...มันก็ช้า
สำหรับกัส เวลาสามวันช่างผ่านไปเร็วมาก....วันสุดท้าย คืนสุดท้าย ความทรงจำดีๆ ที่อาจเป็นครั้งสุดท้าย
เพื่อนๆ ผมอ้อนขอพี่ๆ จนได้ลิ้มรสสุรากัน...นิดหน่อย
พี่ต้นไม้เอาเท่าที่ดื่มได้มาตั้งให้พวกเราที่ล้อมวงกันอยู่ตรงสนามหญ้าหน้าห้องพัก...จำนวนของขวดดูมากกว่าฝั่งของพี่ๆ อักโข------แต่ดีกรีของเบียร์และเหล้ามันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
วงของกัสและเพื่อนๆ เปิดเบียร์ไปแล้วครึ่งลัง แต่ฝั่งของพี่ๆ ยังอยู่ในขวดเดียว-----รีเจนซีขวดสวิง
......
.....
....
...
..
.
เด็กชายผมหยักศกนั่งคอพับซบไหล่เพื่อน
“ใครแม่งมึนผสมเหล้าให้น้องวะ?” นายต้นไม้เกาหัวแกรกๆ
“ฮ่าฮ่า มันเมาเบียร์พี่...ไอ้กัสมันอ่อน” เพื่อนกัสบอกพี่ๆ ด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“โฮะ! วิทยายุทธเจ้ายังอ่อนนัก” ไอ้ไม้บอกหน้าเครียด...เสียงฮาครืนดังขึ้น
สักพักพี่ต้นไม้ก็ไล่ทุกคนให้ไปนอน พรุ่งนี้จะกลับกันแต่เช้า ราวเก้าโมง....เพราะยังต้องแวะไปซื้อของฝากกันอีก
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังหลับฝันหวาน...ด้วยฤทธิ์ของน้ำเมา
เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึง...ลมหายใจแผ่วๆ ที่ข้างหูบ้าง...ต่ำลงไปบ้าง
เมื่อสติและความง่วงมาเจอกันครึ่งทาง...เด็กหนุ่มเหมือนรับรู้ถึง...สัมผัสแผ่วๆ...บนใบหน้าตัวเอง
ความอุ่มที่เคลื่อนไปมาอยู่บนร่างกาย...แรกนั้นเด็กหนุ่มรู้สึกแปลกพิกล แต่แล้วไม่นานนักเขากลับรู้สึก...ดี และพึงพอใจ
ร่างกายและความคิดของเขาเริ่มลอยขึ้น ดุจว่ามันมีปีก ดั่งตัวทั้งตัวลอยอยู่บนปุยเมฆ
ใจที่เต้นเป็นปกติ เริ่มเต้นถี่ขึ้นจากความรู้สึกดีที่เกิด.....ในขณะนั้น
......
.....
....
...
..
.
------ เกิดอะไรกับเขา...เด็กหนุ่มไม่รู้
......
.....
....
...
..
.
------ นี่เป็นความฝัน....หรือเปล่า?....เด็กหนุ่มไม่แน่ใจ
......
.....
....
...
..
.
ฤทธิ์ของน้ำเมากดไม่ให้เขาทำอะไรได้ดังใจคิด...
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #205
-
:impress2: เชียร์ๆๆๆๆ นะครับ
-
......
.....
....
...
..
.
ความอุ่นที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้เริ่มรุกล้ำเข้ามาภายในร่มผ้า...
ความรู้สึกพอใจและล่องลอยกลับการรับรู้ของเขาไปสิ้น...ใจลึกๆ ของเขามันร้องว่าต้องตื่น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร เขาก็ไม่อาจเปิดเปลือกตาหนักอึ้งของตัวเองขึ้นมาได้
เมื่ออากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิว....นั่นหมายความว่าเสื้อของเขาได้หลุดไปจากเรื่องของตัวเองแล้ว
......
.....
....
...
..
.
หัวใจที่สั่นระรึกเริ่มระรัวเร็วด้วยความตื่นตระหนก...
ความอบอุ่นจากสิ่งหนึ่งนั้นลูบไล้ที่ยอดอกของเขาอย่างแผ่วเบานุ่มนวล เขารับรู้แล้วว่าสัมผัสแผ่วๆ ที่มาพร้อมลมหายใจใกล้ใบหูและแก้มของตัวเองนั้นคืออะไร----จูบ
......
.....
....
...
..
.
ใครกำลังทำอะไรกับเขาอยู่....เขาอยากรู้
เขาต้องการหยุดมัน
......
.....
....
...
..
.
เขาขยับร่างกายขืนออกมาจากความอบอุ่นซึ่งลูบไล้บริเวณหน้าอกของตัวเอง...เท่าที่จะทำได้
เขาได้ยินเสียงครางฮือแบบไม่พอใจหลุดลอดออกมาจากปากของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
สิ่งที่อุ่นๆ ซึ่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกของเขา หยุด....และเปลี่ยนมาวางทาบที่ตรงตำแหน่งหัวใจของเขา...แทน
เสียงแผ่วนุ่มที่แลดูคุ้นหูดังขึ้นที่ข้างหูของเขา... “ตื่นแล้วเหรอครับ?”
ฝ่ามืออุ่นที่ทาบอยู่เหนือตำแหน่งหัวใจของเขาจะรู้ไหมว่า....เมื่อเขาได้ยินเสียงนั้นแล้ว หัวใจของเขามันยังเต้นรัวได้มากกว่าที่มันเต้นอยู่ในขณะนี้...ได้อีก!!
......
.....
....
...
..
.
เขาลืมตาไม่ขึ้น แต่ในใจเขาร้องถามอีกฝ่าย------พี่...จะทำอะไรผม ทำไม ทำไม
......
.....
....
...
..
.
เขาไม่รู้ว่าน้ำตาตัวเองไหลออกมาแล้วหรือยัง แต่ทว่า...ในขณะนี้ เวลานี้...เขาอยากร้องไห้
ความรู้สึกบางอย่างมันอัดแน่นอยู่ภายใน
......
.....
....
...
..
.
ไม่! เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
เขาไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้
เขาไม่อยากได้แบบนี้
......
.....
....
...
..
.
‘อย่าให้ผมเลวไปกว่านี้อีกเลย แค่นี้ผมก็เป็นคนเห็นแก่ตัวพออยู่แล้ว’ ---- เขาร่ำร้องอยู่ในใจ...ตัวเอง คนเดียว
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #209
-
อ๊ากก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ
ใครเป็นคนทำน้องกัส
เรื่องนายมะยมยังไม่เคลียร์ มีเรื่องน้องกัสมาให้ปวดหัวเพิ่มอีกละ
-
ใครรักหลับหนูกัสเนี่ย
o22
-
มารอตอนต่อไปครับ
-
......
.....
....
...
..
.
เมื่อน้ำเริ่มเอ่อท้นขอบตา
เมื่อเม็ดน้ำตาไหลลื่นลงสู่แก้ม
เมื่อน้ำตาเริ่มขับออกมาเป็นสาย
เปลือกตาหนักของเด็กหนุ่มจึงสามารถปรือขึ้นมาได้
......
.....
....
...
..
.
ห้องของเขา...รึเปล่า เขาไม่แน่ใจ
ดวงไฟในห้องถูกเปิดไว้แค่...ตรงหัวเตียง
แสงไฟสลัวสีเหลืองนวลค่อยมาทางขาวเปลือกไข่...ให้ความสว่างแก่ดวงตาของเด็กหนุ่ม
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้ซึ่งทำให้เขาเกิดความรู้สึกดีจากการสัมผัสลูบไล้...เขาหักห้ามความเสียใขที่ผุดขึ้นมาของตัวเอง...ไม่ได้
น้ำตาเริ่มถังไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ เขาพยายามเรียกชื่อของคนคนนั้น...มันติดอยู่ในลำคอ มันปวดร้าวไปถึงหัวใจที่เจ็บหนักมากอยู่แล้ว...ของตัวเอง
นิ้วของคนที่คร่อมตัวของเขาอยู่เช็ดหยดน้ำตาที่ขอบตาของเขาให้อย่างอ่อนโยน
ใบหน้าของคนคนนั้นยังคง-----ความใจดีเอาไว้ได้ทุกกระเบียดนิ้ว...
คนที่ใจดีคนนี้กำลังทำเรื่องโหดร้ายกับเขาอยู่... ทว่า จะว่าว่าเขาประสาทกลับก็ได้------สิ่งโหดร้ายในสายตาคนอื่นนี้คือน้ำหวานที่รดลงสู่หัวใจของเขา
เขาไม่ใช่คนที่ไม่มีใคร “รัก”.... เขามีคนใจดีน่ารักและอ่อนโยนคนนึงมอบความรักมาให้เขา....นานแล้ว โดยที่เขาไม่เคย...เหลียวแล
แต่ทำไมหัวใจเขามันถึง....ไม่ยอมรับ
ทำไมเขาต้องร้องไห้ด้วยความรู้สึก....เสียใจ
ทำไมคนดีๆ แบบพี่เค้าจะต้อง...เสียใจ
......
.....
....
...
..
.
“มันอาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะ แต่พี่รู้สึกว่าพี่จะไม่ได้เจอกัสอีก” ชายหนุ่มกระซิบบอกความคิดของตัวเอง
น้ำตาของเด็กหนุ่มยังคงหลั่งริน นิ้วของชายหนุ่มก็ยังคงกรีดเช็ดมันให้....ไม่มีหยุด
“หากกัสไม่ถือ และพี่เป็นได้....ให้พี่ดูแลหัวใจกัสได้มั้ยครับ?”
“พี่มะยม” เด็กหนุ่มสามารถพูดได้แล้ว แม้น้ำเสียงจะเบา...มากก็ตาม
“ถึงเป็นแค่ตัวสำรอง พี่ก็เป็นได้ครับ พี่ชอบกัสจริงๆ นะครับ ชอบมานานแล้ว ก่อนที่กัสจะมาทักพี่ตั้งหลายเดือนแน่ะ พี่แอบมองกัสมาตลอดนะครับ แต่กัสคงไม่รู้ตัว” ชายหนุ่มจับมือของเด็กหนุ่มขึ้นมากุมไว้ยังเบื้องหน้าของพวกเขา...และจรดริมฝีปากประทับลงไป
รายประทับหาได้เป็นรูปริฝีปากไม่....หากแต่มันเป็นรอย...รูปหัวใจ ดุจดั่งจะสื่อความนัยว่า------ขอฝากหัวใจตัวเองไว้ในอุ้งมือที่เล็กกว่านี้
“พี่อย่าทำแบบนี้ ผมไม่ยอมให้พี่อยู่ในฐานะนั้น ไม่ได้ครับ คนดีๆ อย่างพี่จะมา......” เด็กหนุ่มพูดไม่ออก ก้อนของความรู้สึกผิดมันติดอยู่ที่ลำคอของตัวเอง....... “ตัวสำรอง...อะไร...กัน ไม่ได้....ไม่ได้....ผมไม่ยอม......”
“ก็หากกัสเปิดใจ เราก็อาจเป็นตัวจริงของกันได้ในอนาคตไงครับ” ชายหนุ่มจรดริมฝีปากอีกครั้ง สายตาของชายหนุ่มจับจ้องกับดวงตาที่ชุ่มน้ำ...อย่างไม่วางวาย
“พี่มะยม.....” เด็กหนุ่มยิ่งสะอื้นหนักขึ้น
ชายหนุ่มสอดแขนเข้าไปโอบรัดตัวเด็กหนุ่มเข้ามากอดไว้แนบอกของตัวเอง...แผ่นอกที่ไร้เสื้อสวมใส่ทั้งสองแนบส่งความอุ่นให้แก่กัน
มือของชายหนุ่มลูบหลังของเด็กชายเบาๆ...โดยไร้ซึ่งอารมณ์สิเนหา
ความอ่อนโยนจากอีกฝ่าย กลับทำให้เด็กหนุ่มยิ่งรู้สึกบาดลึกเข้าไปในหัวใจ “พี่ถามผมตอนนี้ ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ... ถ้าผมไม่เคย....รักพี่ศรมาก่อน ถ้าผมไม่ได้ยังโง่ที่จะรักพี่เค้าอยู่แบบนี้ ผมคงสามารถให้คำตอบพี่ได้ในทันที”
“ครับพี่เข้าใจ แต่พี่ก็อยากบอกกัสไว้.....เป็นทางเลือก” ชายหนุ่มยืนยันความคิดตัวเองด้วยน้ำเสียง...หนักแน่น
เด็กหนุ่มยันตัวเองออกมาจากอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นอ่อนโยนของอีกฝ่าย
เด็กหนุ่มเอาฝ่ามือกอบกุมสองแก้มของอีกฝ่าย บอกอีกฝ่ายด้วยเสียงสั่นเครือว่า “พี่อย่าพูดแบบนั้นสิ พี่มะยมของผมมีดีพอที่จะเลือกคนอื่น ไม่ใช่เป็นตัวเลือกให้ใคร พี่มะยมของผมมีดีกว่าที่ใครจะคาดคิด!”
“ถ้าพี่ดี กัสก็รับรักพี่สิครับ เราเป็นแฟนกันนะ...นะครับ นะ” ชายหนุ่มหยิบมือข้างหนึ่งของเด็กหนุ่มมาพรมจูบลงที่ฝ่ามือ
“พี่.....” เด็กหนุ่มยิ้มทั้งน้ำตา “ลองมองรอบตัวพี่ให้ดีๆ ก่อนมั้ยครับ..แล้วเรา--”
“กัส...พี่ไม่สนนะว่าใครกำลังคิดอะไรกับพี่อยู่ พี่ชอบกัส ไม่ใช่ชอบคนอื่น...อย่าเสือกไสไล่พี่ไปให้คนอื่นจะได้มั้ยครับ” ขอบตาของชายหนุ่มเริ่มร้อนผะผ่าว ดวงตาเริ่มดูมีประกายน้ำ เสียงที่เขาพูดแห้งลงไปทุกถ้อยคำ
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #212
-
ที่แท้ก็นายมะยมนี่เอง
เฮ่ยๆ อย่าเพิ่งตกลงปลงใจเสะ
ยังมีพ่อหนุ่มกระซิบนั่นอยู่อีกคนนะ
-
สงสารน้องกัส
สงสารศร
สงสารมะยม
ไม่สงสารคนแอบมองคนนั้น เพราะคงมีความสุขกับการได้แอบต่อไป
-
......
.....
....
...
..
.
เด็กหนุ่มพูดด้วยเสียงสั่นเครือ....“รอผมก่อนได้มั้ยครับ?”
“ได้สิครับ...นานแค่ไหนพี่ก็รอได้ สัญญากันนะ” ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจิดจ้า พลางยกนิ้วก้อยขึ้นมา
นิ้วก้อยที่มีขนาดเล็กกว่ายกขึ้นมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยที่มีขนาดใหญ่กว่า...เพียงหลวมๆ
......
.....
....
...
..
.
สำหรับชายหนุ่ม-----สัญญา...ถึงแม้เลื่อนลอย แต่ก็ยังดีกว่าคว้าลม
......
.....
....
...
..
.
สำหรับเด็กหนุ่ม----สัญญานั้น...มีแต่เลื่อนลอย เขาเพียงแค่ประวิงเวลา
พี่มะยมที่แสนใจดี เขาไม่อยากทำให้พี่มะยมเสียใจ... แต่เวลาที่เขายื้อไว้นี้ ขอให้พี่ศรรีบทำอะไรสักอย่าง....
หากไม่เช่นนั้นแล้ว หากเมื่อเขาสามารถหักใจจากพี่ศรได้แล้ว...เมื่อถึงเวลานั้น หัวใจของเขาจะมิอาจมองข้ามคนอย่างพี่มะยมได้เลย
......
.....
....
...
..
.
หักใจจากพี่ศร.... พูดได้แต่ทำยาก
แม้ขณะนี้...ขณะที่เขามีคนแสนดีและสามารถฝากหัวใจเอาไว้ด้วยได้มาอยู่ตรงหน้า...
เขากลับยังปฏิเสธทางอ้อมกับอีกฝ่ายได้ในทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดเสียด้วยซ้ำ
ไม่เข้าใจเลยความรัก...ทำไมมันถึงยากเย็นแสนเข็ญขนาดนี้
......
.....
....
...
..
.
พี่มะยมขอสิ่งแทนคำสัญญา
กัสไม่มีสิ่งอื่นตอบแทน “ใจ” ที่พี่มะยมมีให้ตัวเอง
กัสปล่อยอารมรณ์และความรู้สึกของตัวเองไปตามแต่พี่มะยมจะชักพา
......
.....
....
...
..
.
รักแรกของกัส...เขามอบให้พี่ศร
จูบแรกของกัส...เขามอบให้พี่มะยมที่แสนดี
ครั้งแรกแห่งสัมผัสเร่าร้อนของคลื่นอารมณ์...เขายินดีให้มันกับพี่มะยม...แทนคำสัญญาที่จะไม่มีวันเป็นจริง
แทนคำขอบคุณกับความรู้สึกที่ดียิ่งซึ่งพี่มะยมมีให้แก่....ตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
พี่มะยมสอนจูบให้แก่ผม... จูบที่นุ่มนวล จูบที่จักกะจี้หัวใจ และจูบที่กระพรือแรงปรารถนา
......
.....
....
...
..
.
พี่มะยมสอนให้ผมรู้ว่า จุดไหนของตัวเองที่เป็นจุดอ่อนไหวง่าย...
ริมฝีปากของพี่มะยมซึ่งพรมจูบไปทั่วทั้งร่างที่เปลือยเปล่าของผม มอบความสุขที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแก่ผม
ผมยังคงรับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยดวงตาที่ชุ่มน้ำและหัวใจที่ปวดร้าว
......
.....
....
...
..
.
จวบจนกระทั่ง ขณะที่เรียวนิ้วของพี่มะยมกำลังจะรูดรั้งกางเกงชั้นในของผมออกไปนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ผมยังคงล่องลอยและไม่อาจขยับเขยื้อนได้
ผมอยากเอาผ้าห่มมาคลุมตัวเองเอาไว้... แต่ไม่อาจทำมันได้ด้วยมือตัวเอง ฤทธิ์ของน้ำเมายังคงครองสติของผมไว้ ฤทธิ์ของความปรารถนาครอบงำการเคลื่อนไหวของผม...ให้นอนรอแค่สัมผัสจากคนอื่น
พี่มะยมผลุดลุกขึ้นไปทันทีที่มีเสียงเคาะประตู
ผมหลับตา...ไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป
ขณะที่ผมกำลังจะหลับ...ไปอีกครั้ง ผมได้ยินเสียง-----พี่ศร
เสียงดุกระด้างที่ดังขึ้นก่อนที่ผมภาพตรงหน้าผมจะดำมืดลง...... “มึงแลกห้องกับไอ้ไม้ทำไม?!”
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #216
-
เอาแล้วไง
ลุ้นๆ ตอนต่อ
-
ไม่ใครก็ใคร รีบ ๆ ทำอะไรหน่อยเถอะนะ เดี๋ยวมันจะวุ่นไปหมด
-
ลุ้นจนเครียดดด
มีแต่รักข้างเดียวทั้งนั้น
สุดท้ายใครจะสมหวังเนี่ย
-
......
.....
....
...
..
.
นายศรกระชากแขนเพื่อนแล้วดึงออกมานอกห้อง “มึงคิดจะทำอะไร?! น้องมันยังเด็กอยู่นะ”
“ไม่เด็กแล้ว กัสโตจนรักคนอื่นเป็นแล้ว มีแต่มึงล่ะที่โตแต่ตัว!” นายมะยมทำเสียงดูแคลนใส่เพื่อนสนิท
......
.....
....
...
..
.
คำว่า “เพื่อนสนิท” หมายถึง....คนที่เราถูกคอและคุยกันได้ทุกเรื่อง คนที่สามารถเล่นกันได้แรงแค่ไหนก็ได้ คนที่สามารถทะเลาะกันแรงแค่ไหนก็ได้ คนที่ไม่รู้สึกเสียหน้าเลยหากจะบอกว่าขอโทษแล้วเราก็กลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ คนที่เราเชื่อใจ ไว้ใจ และมีความรู้สึกจริงใจให้เสมอ คนที่เราอยากดูแล และคนที่เรายอมให้ดูแลเรา
......
.....
....
...
..
.
ศรเป็นทุกอย่างในความหมายที่มะยมคิด... ศรเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากที่สุดของมะยม
เพื่อนที่แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่!
......
.....
....
...
..
.
สายตาแข็งกร้าวของนายมะยมจ้องตากับเพื่อนสนิท
“อย่ามาทำเป็นหึงกู!” นายมะยมกัดฟันพูด
นายศรบอกเพื่อนด้วยสีหน้าละเหี่ยใจ “กูแค่อยากให้มึงจริงใจกับน้องมัน ไม่ใช่ทำเล่นๆ ด้วย”
นายมะยมยกนิ้วชี้ขึ้นมาชี้ที่หน้าอกตัวเอง “หากคนอย่างกูไม่เรียกว่าจริงใจ แล้วคนอย่างมึงกูเรียกว่าพญามารได้มั้ย?”
ศรย่นคิ้ว “มึงมาว่ากูทำไม? กูแค่มาเตือนมึงเฉยๆ นะ”
“กูไม่ได้บังคับใคร? กัสเค้ายอมให้กูจูบเอง" นายมะยมแสยะยิ้มอย่างคนมีชัย "กูถามหน่อยเหอะ! มึงไม่ใช่พ่อใช่แม่เค้า แล้วมึงจะห่วงอะไรเค้านักวะ?”
หน้าเรียบตึงของเพื่อน คนที่ไม่รู้จักอาจแค่รู้สึกว่าน่ากลัว หน้าดุ... แต่สำหรับเพื่อนสนิท หน้าเรียบตึงและนิ่งของศรเวลานี้ หมายถึง------โมโห ขัดใจ
“มันอายุเท่าน้องกู มันยังเด็ก มึงไม่ควรทำอะไรที่ชิงสุกก่อนห่าม” นายศรพูดเสียงเข้มโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยน
“มึงหึงมากกว่าละมั๊ง?” มะยมแหย่เพื่อน
“ไม่ใช่!” สะบัดเสียงห้วน
“แล้วมึงโมโหกูทำไม?! ใช่ว่ากูไม่เคยกินเด็กมาก่อน มึงเป็นอัลไซเมอร์หรือมึงชอบน้องกัสกันแน่!” นายมะยมข่มและรุกต่อ
“มึงหยุดคิดไปเลย! กูปฏิเสธไปแล้ว! มันนานแล้ว!” ศรฮึดฮัด
“แต่น้องเค้ายังรักมึงอยู่!” มะยมกัดฟันบอกอีกฝ่าย
“แต่กูไม่ได้รัก!” ศรพูดด้วยเสียงหนักแน่น
“ถ้ามึงเป็นเพื่อนกู มึงมาแข่งกันกูแบบแฟร์ แฟร์” นายมะยมยื่นข้อเสนอไปแบบตรงๆ
“มึงเป็นเพื่อนรักกู กูจะไม่มีวันทรยศเพื่อนตัวเองเด็ดขาด!” ศรยื่นคำขาดด้วยเช่นกัน
“มึงพูดอะไร? ทรยศอะไร? มึงคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย?!” นายมะยมขวดคิ้วจนเป็นปม
“อย่ากิ๊กกับเด็กที่ไอ้ยมมันจีบอยู่...พวกกูทำแบบนี้มาตลอด” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากมุมมืดของพุ่มไม้
นายต้นไม้เดินหน้าเครียดมาทางที่ศรและมะยมยืนเถียงกันอยู่...พอนายต้นไม้พ้นออกมาจากความมืดร่างของคนอีกสองคนก็เดินตามหลังมา
ไม่ใช่ว่านายมะยมหน้าตาไม่ดี ไม่มีเสน่ห์...แต่หากเทียบกับเพื่อนในก๊วนแล้ว เขาดูด้อยที่สุดก็เท่านั้น
กระนั้นเพื่อนๆ ก็ยังแคร์ความรู้สึกของนายมะยม... ไอ้ยมมันเป็นคนดี มันวิ่งหาความรักมาตลอด และเพื่อนๆ ก็อยากให้มันเจอกับความรักที่มันเสาะหา...เสียที
ปรบมือข้างเดียว...ไม่ดัง--- ด้วยเหตุนี้เพื่อนๆ จึงตั้งสัญญานี้ขึ้นมาในกลุ่ม
ตลอดเวลาสัญญาถูกนำไปใช้โดยดีมาตลอด....เพราะไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เพื่อนๆ ในกลุ่มจะหลงชอบเด็กที่ไอ้ยมกำลังจีบ
เพราะไม่เคยมีเลยสักครั้ง... ไอ้ศรมันถึงได้คิดป่วงๆ ได้ถึงป่านนี้
“ไอ้ศร ถึงเราเคยให้สัญญากันไว้แบบนั้น แต่หากมึงชอบน้องเค้าด้วย มึงก็ควรทำตามที่ไอ้ยมมันบอก” นายกันบอกพวกเขาด้วยสีหน้าครุ่นคิดและเป็นกังวล
“ไม่! กูจะไม่มีวันผิดสัญญา” นายศรยังไม่ยอม
พลั๊ก! ------ หมัดหนึ่งลอยลิ่วไปยังโหนกแก้มของคนที่ยังไม่ยอม....“ไอ้เหี้ย! สัญญาของพวกมึง กูไม่รับรู้ กูไม่ได้เป็นคนตั้งแม่งขึ้นมา! มึงหยุดบ้าซะที เอาใจจริงมึงมาพูดกับกูเดี๋ยวนี้!”
นายมะยมกัดฟัดกรอด...เขาโมโหกับความบ้าของเพื่อน ความคิดวายป่วงแค่นี้ ทำให้น้องกัสมีน้ำตาแค่ไหน....มันเคยรู้บ้างไหม?
ทุกวันนี้น้องก็ยังร้องไห้ ทำไมเขาจะไม่รู้ แต่ไม่อยากทัก เพราะน้องตั้งใจและพยายามด้วยตัวเองอยู่ เขาจึงคอยเป็นกำลังใจให้อยู่ห่างๆ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยังคงตามไปต่อยศรที่ยืนนิ่งให้ต่อยเฉย...ไม่โต้ตอบ และไม่รับปากว่าจะแข่งกับนายมะยม
การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้นายมะยมโมโหหนัก...
ไม่เคยโกรธเพื่อนคนนี้มากขนาดนี้ แต่วันนี้เขาอยากเอาเลือดปากมันออก อยากให้มันซื่อสัตย์กับความรู้สึกแท้จริงของมัน อยากให้มันแฟร์กับทั้งเขาและน้องกัส
......
.....
....
...
..
.
มันจะสำนึกบ้างมั้ย?....ก็ไม่รู้!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #220
-
โห่ย จากเรื่องสบายๆมันดราม่าขึ้นทุกที
แล้วจะลงเอยกันยังไงล่ะเนี่ย
-
เอ็นดูศรนะเนี่ย
-
เอาล่ะนะ
แล้วอิฉันก็เศร้าไปตามระเบียบ จากที่เคยฟินก็เหลือแต่ฟีบ
เก็บของกลับบ้านแล้วนั่งช้ำใจ
เอาวะ!!! ตามเชียร์ความรักของนายมใยมต่อไป บทนี้มะยมเท่อ่ะ
ศรแกป๊อดเกินไปแล้ว น้องมันยังกล้ากว่าแกอีกนะ ดูเด้
ปรับความเข้าใจและเคลีย์ให้จบๆ ไปซะ ฉันอยากอ่านเรื่องของมะยมกับนายกระซิบต่อ
แกไม่ใช่นายกระซิบก็ไปไกลๆ เลยไป๊ ฮือ
... เศร้า :o12:
-
......
.....
....
...
..
.
แสงแดดสาดส่อง....เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้น---อีกครั้ง
ชายหนุ่มที่สวมรองเท้าผ้าใบ กางเกงขาสั้น เสื้อยืดตัวเก่าๆ เดินถือถุงต้มเลือดหมูขึ้นมาบนห้อง... ต้นตำลึงที่ระเบียงงอกงามด้วยแสงแดดของฤดูหนาวซึ่งไม่ควรถูกเรียกว่า “หนาว”
เขาสวนกับเพื่อนวิ่งอยู่หน้าตึกของหอพักตอนราวๆ หกโมงเช้า
เขามองตามหลังของเพื่อนวิ่งไปด้วยความประหลาดใจ
ปกติหากเป็นเวลานี้ เขาอาจได้เดินเข้าตึกมาพร้อมกับเพื่อนวิ่ง...แต่วันนี้แปลก เพื่อนวิ่งไม่วิ่งเข้ามาในหอ แต่วิ่งไปทางตลาด
นายมะยมไม่ได้สนใจหาคำตอบต่อ... เขาหันหน้ามาและเดินเข้าไปในหอพัก
นายมะยมเดินเข้าไปในห้อง เขาวางถุงต้มเลือดหมูไว้ จากนั้นจึงเอากะละมังไปเด็ดใบตำลึงมาขยุ้มหนึ่ง....เขาเอามันเติมลงไปในต้มเลือดหมูที่ตัวเองซื้อมา
วันนี้วันเสาร์...เขาจึงนั่งกินข้าวเช้าไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน
พอกินข้าวไปได้ครึ่งหนึ่งเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น.... เขาหันไปมองหาที่มาของเสียง เพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองวางมันไว้ที่ไหน
เขาเดินที่เตียงนอน และยกหมอนสองใบขึ้นมา... เจอแล้ว!
เขาดูชื่อของสายที่โทรเข้ามา...น้องกัส----ชื่อเปลี่ยนเพราะฐานะเปลี่ยน
“ครับ” เขากรอกรับสาย
“พี่มะยม เดี๋ยวเอาผักไปให้นะครับ” กัสบอก
“ครับ?”
“เอ่อ....พี่ลงมาเอาด้านล่างได้มั้ยครับ? แหะแหะแหะ” เสียงเหมือนเกรงใจแต่ก็ยังต้องพูด
“ฮึ...ก็ได้! แต่ฝากบอกมันด้วยนะครับว่า มึงอย่าเผลอ!” นายมะยมแต่นเสียงอย่างหมั่นไส้และฝากบอกใครอีกคนที่น่าจะอยู่ด้วยกันกับกัสในตอนนั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่บอกหรอก เดี๋ยวไม่ได้ไปยืมดีวีดีห้องพี่อ่ะ” กัสพูดทั้งที่หัวเราะร่วน “เจอกันที่สวนหย่อมนะครับ สักพักนึง”
ไม่คิดว่าตัวเองจะทำมันได้
ไม่ใช่ว่าชอบกัสน้อยลง แต่วันนั้น...แค่เกิดรู้สึกว่า “ต้องรักให้เป็น” ... เมื่อรักใครสักคน เหนือสิ่งอื่นใดคือ.....
------
-----
----
---
--
-
แดดที่เคยเปรี้ยงปร้าง....จู่ๆ ก็มีเมฆดำเข้ามาครอบคลุม ลมกรรโชกพัดวูบไปทั่วทุกซอกซอย
คนที่เดินไปมาต่างรีบเร่งฝีเท้าของตัวเอง...ให้ไปสู่ที่หมาย เฉกเช่นเดียวกับชายสามคนที่สวมกางเกงเสล็คสีดำ
“ฝนหลงฤดูแน่เลยว่ะ” นายกันบอกทันทีที่พวกเขาสามคนวิ่งมาจนถึงบริเวณภายในของตึกที่ทำงานแล้ว
“หวังว่าตอนเย็นมันจะหยุดนะ กูไม่อยากเปียกฝนกลับบ้านเลยว่ะ” นายมะยมบ่นหุบ
“อ๊ะ!” เสียงคนคนสุดท้ายในสามคนดังขึ้น ดึงความสนใจของเพื่อนทั้งสองไปในทันที
สายตาของคนที่ร้องอุทานมองเลยไปยังด้านนอก นายมะยมเห็นตัวคนคนหนึ่งที่คุ้นเคย... เขารีบเดินไปหาคนที่ยืนมองบรรยากาศภายนอกของตึกด้วยสีหน้าเป็นกังวล
นายมะยมเดินไปใกล้แล้วเอามือไปวางบนบ่าของคนคนนั้น... “ไม่เจอกันนานนะครับ น้องกัส”
คนที่ถูกเรียกชื่อรีบหันขวับมาหาและส่งยิ้มที่น่ารักน่าเอ็นดูให้นายมะยม “หวัดดีครับพี่มะยม บังเอิญจังเลย”
“ถ้าฝนไม่ตก พี่คงไม่มีโอกาสอีกเลยในชีวิตที่จะได้เจอกัส” นายมะยมพูดตรงๆ กับอีกฝ่าย
รอยยิ้มน้อยๆ คลี่คลาย “ผมยุ่งเรื่องสอบน่ะครับ วุ่นมากเลย ไหนจะเดินเรื่อง ไหนจะทำวีซ่า”
คำสุดท้ายจากน้องกัสสะดุดหูของนายมะยม เขาตกใจมากพอดู “วีซ่า กัสจะไปไหนครับ? กัสไม่ลงที่ที่เคยบอกพี่ไว้แล้วเหรอ”
กัสอยากสอบเข้ามหาลัยที่มีชื่อติดอันดับสี่ของประเทศ....นับว่าเป็นความท้าทายอย่างสูง แต่กัสก็มีพื้นฐานนิสัยที่ “มีความพยายามสูง” ติดตัว...เป้าหมายที่ไกลเกินเอื้อม แต่ในสายตาของนายมะยมแล้วเขาเห็นว่ากัสอาจสามารถไปถึงเป้านั้นได้ก็ได้
แล้วทำไม?....เปลี่ยน
“คือ...ผมชอบภาษานะพี่มะยม ยิ่งได้เรียนกับพี่ ผมยิ่งชอบ พ่อกับแม่เลยบอกว่า ให้ไปเรียนที่อเมริกาดีกว่าเรียนที่ไทย” กัสบอก
“แล้วกัสจะไปอยู่กับใครครับ? หอพักเหรอครับ?” นายมะยมเป็นห่วงสุดจิตสุดใจ
“เปล่าครับ กัสจะไปอยู่กับลูกของน้าน่ะครับ คุณน้าอรเค้าเป็นน้องสาวของแม่ผม น้าอรส่งลูกตัวเองไปเรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้นมัธยมแล้วล่ะครับ” กัสอธิบายเพิ่ม
นายมะยมรู้สึกโล่งอกกับสิ่งที่ได้ยิน แม้ในส่วนหนึ่งของหัวใจยังมีความรู้สึก----ใจหายวาย
“คุยอะไรกันคร๊าบ?” นายกันที่เอาแขนคล้องคอนายศรถามทันทีที่เดินมาถึงตรงที่พวกเขายืนคุยกัน
“สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานเลยนะครับพี่ๆ” กัสยกมือไหว้สองครั้ง----พี่กันและพี่ศร
“มึงลาน้องกัสซะนะเว้ย เดี๋ยวน้องเค้าจะไปเรียนเมืองนอกแหละ คงได้เจอกันยากเนอะ” นายมะยมหันไปบอกเพื่อนตัวเอง และหันไปพยักเพยิ่นกับน้องกัส
“อ้าว ไปเรียนต่อเหรอครับ? ที่ไหนล่ะ?” นายกันถาม
“ครับ ที่อเมริกาครับ” กัสตอบ
“โห...ไม่ได้กลับง่ายๆ แน่ ไหนจะปูภาษา ไหนจะเตรียมตัว โห!...ขนลุกแทน” นายกันทำหน้าสยอง และพูดทิ้งท้ายว่า “พี่อวยพรให้เดินทางปลอดภัย เรียนสำเร็จได้เร็วๆ นะครับ ลูกผู้ชายต้องอดทนนะครับ”
กัสบอกมือไหว้รับพรและขอบคุณพี่กันไปในตัว “ครับพี่ ขอบคุณครับ”
“น่าห่วงนะเราน่ะ มีเมล์พี่นะ เมล์มาคุยกันได้ อย่าหายไปแบบก่อนหน้านี้อีกนะครับ” นายมะยมวางฝ่ามือลงที่หัวของน้องกัส และลูบเบาๆ
“ผมไม่ได้จะหายไป ผมยุ่งมากจริงๆ พี่มะยม” น้องกัสเถียงเล็กน้อย....ตรงข้ามกับความเป็นจริง
กัสตั้งใจหายหน้าไปจากพี่มะยมและตั้งใจที่จะไม่เจอกับพี่ศรอีก-----หักดิบแบบที่เคยตั้งใจเอาไว้ และเพราะเหตุนี้ เขาจึงรับข้อเสนอของน้าอรที่ว่า หากอยากไปเปิดหูเปิดตาก็ให้ไปเรียนและพักกับลุกของน้าอรได้
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ของปีหน้า คือกำหนดที่กัสต้องออกเดินทางไป....
ไม่รู้ว่าควรเรียก “โชคดี” หรือ “ โชคร้ายที่” สามเดือนก่อนเดินทางเขาจะได้บังเอิญมาพบกับพี่มะยมและพี่ศร
“เอาเถอะ พี่ห่วงนะครับ แค่อยากรู้ว่าน้องสบายดีมีความสุขพี่ก็โอเคแล้ว” นายมะยมย้ำชัดถึงความประสงค์ของตัวเอง
ถึงทุกวันนี้ นายมะยมก็ยังรอ...ตามที่ได้ขอสัญญาเอาไว้
“ผมขอโทษ...จะไม่ทำอีกครับ” กัสยิ้มอย่างเอาใจ
“แล้วกัสจะไปไหนครับ ฝนจะตกแล้วนะ” นายกันเอ่ยถาม
“อ๋อ มาแลกเงินให้น้าอรน่ะครับ เมื่อกี้ว่าจะเดินไปสถานีรถไฟใต้ดิน แต่ฟ้ามันมืดมากเลยมาหลบดูสถานการณ์ที่นี่ก่อนน่ะครับ” กัสบอก
“อื้ม งั้นรีบไปเถอะครับ ก่อนฝนจะตกก่อน” นายกันบอก
“มึงไม่อวยพรให้น้องเค้าหน่อยเหรอ?” นายมะยมถามเพื่อนตัวเองที่เงียบเป็นเป่าสากมาโดยตลอด
“ก็เหมือนๆ พวกมันละ โชคดีละกัน” นายศรพูดด้วยหน้าที่เรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ-----ไม่แม้แต่เศษเสี้ยวของความใส่ใจ
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #222
-
มาแบบนี้แสดงว่าเคลียร์กันลงตัวสินะ เฮ้ออ
-
......
.....
....
...
..
.
ถึงจะเจ็บแต่การได้ประจักษ์แก่หัวใจและสายตาตัวเองว่า...ไม่ใช่คนในสายตาของคนคนนั้น---- สิ่งนี้ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของกัสขาดลงไป
......
.....
....
...
..
.
“งั้น ผมลาก่อนนะครับ ขอบคุณสำหรับคำอวยพร” กัสบอกมือไหว้พี่ทั้งสามอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
---- สัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้
ตัดสินใจไว้แล้วว่า ก่อนไปจะไปหาพี่มะยมเพื่อบอกว่า...สัญญาของเราสองคนในคืนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ และจะบอกให้พี่มะยมไม่ต้องรอ...
แต่ตอนนี้ความรู้สึกเสียใจมันมาจุกที่ลำคอ กัสพูดไม่ออกอีกแล้ว อยากไปจากที่ตรงนี้...เร็วๆ
เปรี๊ยง!!-------- เสียงฟ้าผ่าอย่างแรง ฟ้าแลบจนสาดเข้ามาภายในตัวตึก.... ส่องหัวใจที่ดำมืดของใครก็ไม่รู้ให้....รู้สึกตัว
เมื่อแผ่นหลังของกัสหันมาให้เขาทั้งสาม และเมื่อกัสเดินไปทางประตูใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าออกของตึก.....ภายนอกมีฝนเทกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา
......
.....
....
...
..
.
------ ฝนทำให้หัวใจคน...ง่ายต่อความหวั่นไหว
......
.....
....
...
..
.
“ถ้ามึงชอบน้องเค้า มึงควรตามน้องเค้าไป” นายมะยมพูดลอยๆ ขึ้นมาโดยไม่ระบุตัวบุคคล
ไม่มีคำตอบจากใครสักคน นายมะยมถอนหายใจแล้ว หันไปหาเพื่อนสนิทของตัวเอง ยกฝ่ามือกุมแก้มของเพื่อน ให้เพื่อนจ้องตากับตัวเอง “มึงฟังกูนะ กูไม่โกรธมึงแน่ ขอแค่มึงทำตามใจตัวเอง”
“........” ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายเช่นเคย แต่นายมะยมเห็นแววตาที่....สั่นไหว ด้วยความรู้สึกที่กำลังท่วมท้น
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนสนิทที่แค่พูดก็เห็นลิ้นไก่.... เพื่อนที่แค่ขยับมือหรือเท้าเพียงนิดก็รู้ว่าเพื่อนจะเอาอะไร
“กูรักมึง มึงเป็นเพื่อนรักกูเสมอและตลอดไป กูอยากเห็นมึงมีความสุข” นายมะยมบอกเสียงเข้มพร้อมใบหน้าที่จริงจัง
“กัส...”
อีกฝ่ายเอ่ยได้แค่นั้น นายมะยมก็พูดตัดประโยคมาเลยว่า “ใครจะชอบกัสไม่สำคัญ สิ่งที่มึงต้องแคร์คือกัสรักใคร...มึงทำให้คนที่ตัวเองชอบร้องไห้ได้ยังไง?”
“กูไม่ใช่คนดี...แบบมึง” เสียงคล้ายตัดพ้อเอ่ยออกมาได้ในที่สุด
“แต่คนดีแบบกูก็ไม่สามารถซับน้ำตาของน้องเค้าได้สักที...มึงไปซะ! ทำเพื่อตัวเอง หากมึงยอมรับไม่ได้ ก็ไปทำเพื่อกู...กูอยากเห็นน้องยิ้มมากว่าร้องไห้ กูอยากเห็นมึงยิ้มมากกว่าทำหน้าบึ้ง เข้าใจกูมั้ย?” นายมะยมบีบสองแก้มของเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นไส้
“อ่ะ ให้ยืมอุปกรณ์” นายกันที่เงียบ และคอยดูกับฟังสิ่งที่เพื่อนๆ พูดเหมือนอย่างตัวเองไม่มีตัวตนกล่าวขึ้น พร้อมยื่นสิ่งหนึ่งให้
“เอาไปทำอะไรวะ?” นายศรและนายมะยมถามขึ้นมาพร้อมกัน
“อ๋าว แทนร่มไงมึง! เร็วดิ๊ เดี๋ยวก็ไม่เจอหรอก!” นายกันเร่งยิกๆ
นายมะยมฉวยเสื้อแจ๊คเกตผ้าร่มจากมือนายกันมายัดใส่มือนายศร และผลักไหล่เป็นการส่งเสริมและจุดประกายให้เพื่อน “เร็วเลย อย่าช้า!”
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว..... นายศรหันหน้ามาทางประตู และรีบวิ่งฝ่าสายฝนออกไปนอกตึก เขาวิ่งไปจนสุดแรงเกิด ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ
ฟ้าลงโทษเขาแล้ว.... ฝนเม็ดใหญ่ทำให้เขามองไม่เห็นอะไร น้ำฝนทำให้เปลือกตาของเขาลืมแทบไม่ขึ้น เขาวิ่งไปเรื่อยๆ ตามทางของรถไฟใต้ดิน
ไม่มีร่างของคนที่เขาวิ่งตามมาเลย...
......
.....
....
...
..
.
เขาหันหลังหลับไปด้วยความร้อนใจแกมลังเล.... 'หรือว่าจะมองพลาดไป'-----ศรคิด
แต่ไม่ว่าอย่างไร คนที่เขาวิ่งตามมาต้องมาขึ้นรถไฟตรงประตูนี้....นายศรไปรอที่ทางขึ้นลงก่อน
เขาเดินมาถึงบันไดเลื่อนทางขึ้นลง เขาควักกระเป๋าเงินออกมา และยื่นไปตรงหน้าพนักงานการรถไฟซึ่งยืนรับผู้มาใช้บริการ
“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่า เห็นเด็กคนนี้เดินลงไปรึยังครับ วันนี้เค้าใส่เสื้อสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว สะพายเป้สีดำ ตัวสูงประมาณนี้” นายศรทำฝ่ามือมาเรียบราวนมของตัวเองซึ่งเป็นระดับความสูงของกัสเมื่อเทียบกับตัวของเขา
พนักงานมองภาพที่เขายื่นมาถามและบอกว่า “เดินลงไปแล้วครับ”
“ฮ้า!” นายศรรีบเดินตรงเข้าไปยังบันไดเลื่อน พอก้าวไปได้หนึ่งก้าวเขาก็หันกลับมาขอบคุณพนักงาน “พี่ ขอบ-----” นายศรพูดไม่ครบคำ เพราะคนที่เขาวิ่งตามมากลับยืนอยู่ตรงหน้าของพนักงานที่เขาเพิ่งถามเมื่อตะกี้!!!!
......
.....
....
...
..
.
‘ไหนว่าลงไปแล้ววะ? แม่งมั่ว! เหี้ยเอ้ย! แล้วจะเอาไงเนี่ย!’ นายศรสบถอยู่ในใจ สายของเขายังมองที่ร่างของคนซึ่งเขาตามหาโดยไม่วางตา
......
.....
....
...
..
.
เร็วเท่าความคิด นายศรตัดสินใจ วิ่งสวนขึ้นไปกับบันไดเลื่อนซึ่งเป็นทางลง*๐* (ใครสั่งใครสอนมึงวะไอ้ศร!)
ด้วยความเบาปัญญาโดยไม่รู้ตัว...ส่งผลให้นายศรไปหาคนที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อมแค่นี้...ไม่ได้สักที
เมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ คนที่เขาวิ่งตามหาก็ก้าวเท้ามายืนบนบันไดเลื่อน
......
.....
....
...
..
.
นายศรก้าวเท้าขึ้นไปหาอีกฝ่าย
......
.....
....
...
..
.
สายตาทั้งสองต่างจ้องกัน...ไม่มีคำพูด ไม่มีอัปกริยาอื่นใดอีก
......
.....
....
...
..
.
นายศรเดินไปยืนอยู่บันไดเลื่อนขั้นเดียวกัน...
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินเคียงไปกับเด็กชาย
เขายื่นธนบัตรใบละห้าสิบให้เด็กชายทันทีที่พวกเขาก้าวข้ามบันไดเลื่อนนั้นมาแล้ว
เด็กชายไม่รับมัน และเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยความ....แปลกใจมาก
นายศรไขข้อข้องใจในแววตาของอีกฝ่ายด้วยประโยคเดียว “จะไปส่ง”
“ทำไมครับ?” น้องกัสยังไม่หายข้องใจ
“ฝนตก” นายศรบอกเหตุผลสั้นๆ
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีคำพูดใดอีกจากคนทั้งสองอีกเลย
ต่างเดินทางไปยังสถานีปลายทางด้วยกันอย่างเงียบๆ.... มีใครได้ยินเสียงกลองมั้ย? คิดว่ากำลังรัวอยู่ในหัวใจของคน...สองคน
......
.....
....
...
..
.
เมื่อขึ้นมาถึงสถานีปลายทางแล้วปรากฏว่าฝนยังตกอยู่
"ไปไงต่อ" นายศรเอ่ยถาม
"ต้องเดินทะลุซอยนั้นไปครับ" กัสตอบคำถาม
“ป๊ะ เดินนำไป” นายศรบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไม่มีร่ม เดี๋ยวไม่สบายนะครับ” ไม่ใช่ห่วงตัวเอง แต่ห่วงว่าพี่ศรจะไม่สบายมากกว่า กลัวว่าหากตากฝนพี่ศรจะต้องหยุดงาน
นายศรเอาเสื้อแจ๊คเกตผ้าร่มที่ได้มาจากนายกันขึ้นมาคลุมไว้บนหัวของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ....ความใหญ่ของเสื้อสามารถให้ร่มกันน้ำแก่คนได้สองคน เสียแต่ว่าอาจต้องเดินชิดๆ กันหน่อย
กัสยังทำหน้าเหวอ แต่ขาตัวเองมันกลับก้าวเข้าไปหาเขา....เฉยเลย!!!
......
.....
....
...
..
.
พี่ศรเดินนำไป แต่เหมือนยังไม่ได้ท่าที่ควร พี่ศรจึงกระซิบบอกที่หูกัสว่า “กัสจับฝั่งนั้นไว้”
กัสยกมือขึ้นไปจับใรตำแหน่งที่พี่ศรเคยจับ... แล้วกัสก็ต้องตัวเย็นวาบเมื่อแขนข้างที่พี่ศรปล่อยลงมาจากชายเสื้อด้านนั้น มาโอบไหล่ของตัวเองไว้... กระชับตัวของพี่และของกัสให้ชิดสนิทกัน
“โอเค ไปกันต่อ บอกทางพี่ด้วย” พี่ศรบอก
ทางเส้นนี้เป็นอีกทางซึ่งสามารถทะลุไปถึงบ้านของกัสได้ เสียแต่ว่ามันต้องเดินเข้าไปเองเท่านั้น!
......
.....
....
...
..
.
เดินทางถึงครึ่งทางพี่ศรก็พูดขึ้นมาว่า “ขอพี่พูดอะไรสักคำได้มั้ย?”
กัสพยักหน้าแทนคำตอบ
มือที่กุมหัวไหล่กัสมาตลอดทางเหนี่ยวให้ฝีเท้าของกัสต้องหยุดกึก...
......
.....
....
...
..
.
กัสไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าพี่ศร
......
.....
....
...
..
.
พี่ศรก้มหน้ามาหา และกระซิบพูดคำหนึ่งที่ข้างหูของกัส!!!
......
.....
....
...
..
.
คำสั้นๆ ที่ได้ใจความ...คำที่มีความหมายในตัวของมันเอง...
คำที่กัสไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินมัน....คำพูดจากปากของพี่ศร
......
.....
....
...
..
.
เสียงเครือพล่าถามอีกฝ่าย “พี่ไม่ได้รักพี่มะยม...”
“รักสิ มะยมเป็นเพื่อนรักของพี่ ทำไม?” พี่ศรบอก
กัสเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาของพี่ศร----- หน้าต่างของหัวใจของพี่ศรไม่ได้โกหกกัส
“ผมคิดว่าพี่แอบชอบพี่มะยม” น้ำตาเจ้าเอ๋ยมันไหลลงมาอีกแล้ว...ทว่าครั้งนี้มันหลั่งออกมาเพื่อแสดงความยินดีที่อัดแน่นเต็มหัวอก
......
.....
....
...
..
.
“บ้าสิ! คิดไรน่ะ! ฮึ๊ย! ขนลุก!” พี่ศรทำหน้าประหลาดที่สุดตอนที่พูดประโยคนี้
......
.....
....
...
..
.
กัสหัวเราะทั้งน้ำตา
......
.....
....
...
..
.
ปลอบใจใครไม่เป็น ยิ่งกับคนคนนี้ยิ่งไม่รู้จะทำยังไง เช็ดน้ำตาให้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวน้องจะเปียกฝน
เร็วเท่าความคิด...นายศรผู้เบาปัญญาเอาเสื้อที่คลุมบังฝนคลุมหัวของอีกฝ่าย และรวบตัวอีกฝ่ายเข้ามาหาตัวเอง โดยให้เสื้อของตัวเองซับน้ำตาให้กับน้อง..... ปล่อยตัวเองยืนตากฝนจนเปียกซกไปทั้งตัว------ แต่เจ้าตัวหาได้แคร์ไม่ เขากำลังจมอยู่ในความคิดหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
นายศรยืนตัวเปียกกอดน้องกัสหลวมๆ โดยเอามือตัวเองประสานกันอยู่เหนือบั้นท้ายของน้อง...
พลางนึกถึงวันที่ไอ้ยมมันบอกว่า ไม่ได้ฝืนใจใคร ไม่ได้บังคับจูบใคร------ ยิ่งคิดนายศรก็ยิ่งรัดคนที่ซบหน้าอยู่กับอกของตัวเองให้แน่นยิ่งๆ ขึ้น...ด้วยความแค้นใจ!
......
.....
....
...
..
.
ยิ่งแรงจากแขนของพี่ศรรัดแรงขึ้น กัสก็ยิ่งรัดวงแขนแน่นขึ้น....ตอบอีกฝ่าย..ด้วยเช่นกัน
------
-----
----
---
--
-
ต่อ...reply #227
-
:pig4:
-
จับได้ซะทีผู้ร้ายปากแข็ง
สารภาพผิดเกือบนาทีสุดท้ายเลยนะนายศร
ทำให้เราเข้าใจผิดมาตั้งนาน
-
โอละพ่อ o22
คนแต่งเก่งจริงๆ
-
ในที่สุด ก็คลี่คลายลงไปอีกเปลาะหนึ่ง ศรกัสจริงๆด้วย
คนเขียนหลอกเราซะ จับคู่ไม่ถูกกันเลย
สงสัยยอดชายนายมะยมจะคู่กับพ่อหนุ่มชั้นห้านั่นแหละเนอะ
แต่เริ่มปันใจไปเชียร์ต้นไม้ได้ป่าว เริ่มรู้สึกพูดแล้วเท่ อิอิ
-
นายมะยมมานั่งรออยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งในสวนหย่อม...เพียงอึดใจ คนที่เขารอก็เดินหิ้วถุงพลาสติกมาหาเขาด้วย..รอยยิ้ม
“เต็มเลยอ่ะพี่มะยม” กัสชูถุงผักในมือให้ดู
“โห...อาทิตย์นึงจะกินหมดมั้ยหว่า?” นายมะยมรับไปถือ
“พี่รีบไปไหนมั้ยครับ?” กัสถาม
“ไม่ครับ วันหยุดจะไปไหนล่ะครับ?” นายมะยมบอกด้วยเสียงร่าเริง
“งั้นนั่งคุยกันนิดนึงนะครับ” น้องกัสบอกและเดินนำไปที่เก้าอี้ตัวนึงซึ่งอยู่ใกล้ๆ จากที่พวกเขายืนคุยกันอยู่
......
.....
....
...
..
.
“กัสมีอะไรให้พี่ช่วยเหรอครับ?” นายมะยมถามพลางค่อยๆ หย่อนก้นลงนั่ง
“เปล่าครับ แค่จะมาแจ้งพี่ให้เรียบร้อย ก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อน่ะครับ” กัสพูดด้วยรอยยิ้มที่จางลง
“เรื่อง?” นายมะยมเดาไม่ออก
“สัญญาที่ผมให้พี่คืนนั้น...ที่ขอให้พี่รอ...” กัสพูดอย่างตรงประเด็น
“อ๊ะ... ไม่ต้องรอแล้วนี่ครับ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมหัวเราะร่วน
“ฮ่าฮ่าฮ่า...ก็จริงครับ แต่ก็อยากให้มันชัดเจน...” กัสยิ้มเขินสักครู่ถึงบอกต่อว่า “พี่ไม่ต้องรอกัสแล้วน๊า... แล้วกัสก็ขอบคุณพี่มะยมมากๆ ที่ช่วยดันอยู่ข้างหลัง... ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ผมยินดีช่วยพี่เสมอ ขอให้พี่บอก ผมจะทำให้พี่...แทนคำขอบคุณจากผม”
นายมะยมยกมือขึ้นไปขยี้หัวอีกฝ่าย “อย่าร้องไห้อีกนะครับ พี่ขอแค่นี้...และพี่ยังเหมือนเดิม มีอะไรปรึกษาพี่ได้ หากจะให้ช่วยอะไรก็บอกมาเลย โอเคมั้ย?”
“ครับ” กัสยิ้ม
......
.....
....
...
..
.
เป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้าแบบที่นายมะยมชอบ ทว่ารอยยิ้มนี้ไม่ได้มีได้....เพราะเขา
......
.....
....
...
..
.
ถึงอย่างไรเสีย ก็ต้องรักให้เป็น...สิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเรารักใครรักคนนั่นคือ การได้เห็นและรู้ว่าคนที่เรารัก...เขามีความสุข------คติของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
“ไปล่ะครับพี่มะยม พี่เค้ารอกินข้าวอยู่”
น้องกัสที่นั่งอยู่บนจักรยานหันมาโบกมือให้...หลังจากที่เอาผักซึ่งควรเก็บมากินในวันนี้ก่อนที่มันจะเหี่ยวคาต้นมาให้พี่มะยม
นายมะยมมองตามหลังกัสไปจน...สุดสายตา
......
.....
....
...
..
.
เห็นทีไรก็เจ็บที่หัวใจ... ไม่รู้ปล่อยไปได้ได้ยังไง
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากร้องไห้!!
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมวางถุงผักไว้ที่เก้าอี้ และเริ่มออกวิ่งอีกครั้ง....
......
.....
....
...
..
.
เขาวิ่งกี่รอบแล้วก็ไม่ได้นับ แต่เหงื่อมันซกไปทั้งตัว...ขาเขาเริ่มอ่อนแรง เขากลับมายังเก้าอี้ตัวเดิมซึ่งวางถุงผักเอาไว้
เขานั่งเงยหน้าพาดกับพนักพิงของเก้าอี้...แล้วปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นมานานดีดัก...ไหลออกมาสู่โลกภายนอก
......
.....
....
...
..
.
น้ำนองกลบดวงตา...เสียงสะอื้นดังลอดเข้ามาในหูบ้างแล้ว...
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยกฝ่ามือขึ้นมากุม...ปิดบังดวงตาของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
อยากให้ภาพของกัสหายไปจากสมอง....แต่ไม่รู้จะทำยังไง
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่นายมะยมกำลังปวดร้าวและเจ็บยอกอยู่หัวอก
สิ่งหนึ่งก็คลุมลงมาบนมือของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมสะดุ้ง... ผ้าเช็ดหน้าผืนขนาดกลางที่สามารถคล้องคอตอนวิ่งออกกำลังกายผืนหนึ่งตกอยู่บนตักเขา----สีกรมท่า
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเงยหน้าขึ้น เขาเห็นคนที่สวมชุดวอร์มสีกรมท่ากำลังวิ่งเหยาะๆ ออกไปจากสวนหย่อม
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนวิ่งที่ไม่เคยคุยกันเลย...นึกห่วงเขาจนเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้???
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหยุดร้องไห้โดยไม่รู้ตัว...
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเอง จากนั้นก็เอามันซับทั้งหน้า....ท่องหนึ่งถึงห้าสิบ
......
.....
....
...
..
.
จากนั้นนายมะยมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวนั้น.... คว้าถุงผักขึ้นมา
คิดในใจว่าจะเอาผ้านี้ไปซักมาคืน...นายเพื่อนวิ่ง...และกะว่าจะเอาผักแบ่งให้ด้วยแทนคำขอบคุณ
......
.....
....
...
..
.
“เค้าจะเอามั้ยว๊า? รู้แต่ว่าอยู่ชั้นห้า ...ห้องไหนก็ไม่รู้” นายมะยมบ่นกับตัวเองพลางเดินเข้าไปในตึก
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #233
-
สงสารมะยมอ่ะ... :impress3: รักคนที่เขารักเราดีกว่านะมะยมนะ
คุณbao bao จ๋าน่ารักจังเลย ลงตอนต่อเรื่อยๆอย่างนี้ เราก็รออ่านเรื่อยๆนะ ไหนๆพรุ่งนี้เป็นวันหยุด เราจะรอ
คืนนี้จะจบเลยไหมเนี่ย จะได้ไม่ต้องลุ้นรักให้มะยมอีก
-
ในที่สุด......พี่ศรเค้าก็ยอมรับใจตัวเองซักที
อยากขอน้องกัสมาเป็นของตัวเองซะหน่อย แต่เค้ายกให้พี่ศรก็ได้ (?)
เค้ายังรักมั่นคงกับพ่อมึงอยู่ เค้ายังเชียร์พ่อมึงสุดใจ
แต่ถ้าพ่อมึงยังจะเก๊กขรึมทำไมรู้เรื่อง...
เค้าจะเชียร์ให้พี่มะยมเป็นหม้ายยยยย น้องกัส(เกือบจะเป็นว่าที่เมีย)ก็ทิ้งไปแล้ว อยู่คนเดียว ตามหารักแท้ต่อปายยยย เท่ห์กว่าเยอะ!
เห้อ........ ถึงจะตัดคู่รักพี่เพื่อนเพื่อนน้องไปแล้ว ตัวเลือกก็ยังเยอะอยู่ดี เฉลยเค้าหน่อยเร็ววว~~
รอนะคะ นะคะ
-
พลิกล็อค...นึกว่าศรชอบมะยมซะอีก
ว้าว สุดยอดอ่ะ นึกว่าจะกินเพื่อนซะแล้ว
แอบดีใจเพราะจะได้ลุ้นหาเนื้อคู่ให้มะยมอีก
-
ท่านผู้มีอุปการะคุณคะ
มันเกือบถึงครึ่งเรื่องแหละ...ไม่จบง่ายๆ และยาวอย่างที่เคยบอกไว้
คงค่อยๆ ลงเหมือนสองวันนี้
ก็ตามผลโหวตอ่ะนะคะ... มาเรื่อยๆ อย่าได้ขาด หุหุหุ
หากเสร็จงานจากถิ่นไกลปืนเที่ยงแล้ว
กลับไปแหล่งเจริญ อาจจะปิดจบกันเลยได้
ตอนนี้ ลงเรื่องแต่ละครั้ง รอโหลดนานมว๊ากกกก :z3:
ขอบคุณทุกๆ แรงใจ :pig4:...ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันรึเปล่า
[กระซิบ] อาจไม่น่ารักเท่า [กระดาษ] .... แต่ก็จบแอปปี้ชัวร์ค่ะ
ด้วยรักจากผู้เขียน
-
“บ้าสิ! คิดไรน่ะ! ฮึ๊ย! ขนลุก!” พี่ศรทำหน้าประหลาดที่สุดตอนที่พูดประโยคนี้
กรี๊ด แกแอบว่าฉันใช่ม้ายยยยยไอ้ศร ที่ฉันคิดอะไรขนลุกๆ เฮอะ!
แฮปปี้กับน้องแล้วแกก็ไปไกลๆ เลย แม่ง โกรธ
ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นมองเข้าไปในครัวๆๆๆ จะไปรู้เรอะ ฉันก็คิดเส่ะ!
กระทืบเลยหมั่นไส้ นี่แน่ะๆๆๆ :z6: :z6:
ตกลงแล้วนักวิ่งเป็นใคร ลุ้นกันหายใจหายคอไม่ทัน
แต่เดี๋ยวมะยมก็จะไปเคาะประตูห้องแบ่งผักให้แล้วอ่ะเนอะ
เดี๋ยวเขาคงได้เจอกัน...ยาก! มั้ง
ก็มันเพิ่งมาถึง...เกือบถึงครึ่งเรื่องเอง 555555
ขอบคุณคนแต่งนะคะที่มาลงต่อให้อย่างไม่ขาด
เข้าใจเลยว่าเวลารอโหลดนานมันเซ็งขนาดไหน ฮ่า ฮ้า
รับบวกหนึ่งไปเลย เป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
[กระซิบ] จะมีทั้งสิ้น เก้าคำ นะคะ....ความยาว แล้วแต่อารมณ์ผู้เขียนนะคะ :mc1:
คำที่แปด
*** แววตาของคุณ...หม่นลงอีกแล้ว
....
...
..
.
อยากเดินเข้าไปหาคุณ
อยากไปนั่งข้างๆ คุณ
....
...
..
.
รู้ตัวว่าเป็นคนนอกสายตาของคุณ....แต่คนนอกสายตาคนนี้ก็อยาก...ดูแลหัวใจของคุณ
----คุณจะรับมันไหม
----หรือคุณจะปฏิเสธ***
-
ก็ไม่ทำอะไรสักทีจนบทแปดล่ะ
ถ้ายังไม่ทำไรอีกก็นอกสายตาต่อไปเถอะ
(จริงๆแอบเคืองที่มัวแต่กระซิบ ไม่เปิดเผยตัวสักที ทำเดาผิด หน้าแตกไปหลายรอบแล้วนายพระเอกเนี่นะ >_<)
-
อย่ามัวแต่อยากดิ อย่าอยู่อย่างอยาก เคยได้ยินอะป่าว
เข้าไปหาเลย เข้าไปหาสักที :really2:
คนอ่านลุ้นจนตัวเกร็งไปหมดแย้ววว
ว่า...คุณเป็นใคร (ตอนนี้ขอเดาว่าคุณคือคนที่อยู่ชั้นห้า หรือป๋อง)
คุณคนเขียน น่ารักจริงๆเลย :กอด1: ขนาดอยู่ไกลยังเห็นใจคนที่รออ่าน
เรื่องนี้ก็น่ารักนะ เราว่าคุณBao Bao ก็เขียนเรื่องแบบน่ารักๆได้ดีไม่แพ้เรื่องหน่วงๆเลย
ป๋อหลอ ไม่ต่อตอนพิเศษของกระดาษอีกนิดเหรอคะ อ่านตอนพิเศษไปหลายรอบแล้ว ยังไม่แน่ใจอยู่ดี ว่าใครได้ไม้สั้นไม้ยาว อยากเคลียร์ๆ หุหุ :impress2:
-
อ่านทันแล้วๆๆๆ เฮ่อออ เหนื่อย :laugh:
คนแต่งเก่งมากเลยค่าา แล้วก็ขยันมากด้วย
เราชอบมากเลย จะทยอยตามอ่านเรื่องอื่นด้วยนะคะ
เป็นกำลังใจให้และขอบคุณมากค่าา :กอด1:
-
อ่าว ที่ผ่านมาอุตสาห์เชียร์นายศร แอร๊ยยยยย >< แล้วตกลงพ่อหนุ่มชั้นห้านี่ เริ่มมีรีแอคชั่นมั่งแล้วใช่มั้ยนี่ (ปาไปครึ่งเรื่อง?!?)
-
มัวแต่กระซิบผ่านสายลมแบบนี้ ใครเค้าจะไปได้ยินก๊านน
ออกมาเปิดเผยตัวซะดีๆ
อิอิ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
ป.ล.นายชุดวอร์มเริ่มมีลุ้น คนเดียวกับนายป๋องเปล่าหว่า
-
เปิดเผยตัว
หน่อยสิคะ
พ่อหนุ่มกระซิบ
อยากรู้จะแย่ :z3:
บวกเป็ด
-
เจ็บมาก อ่านแล้วเจ็บแทนมะยม :L3:
:เฮ้อ:
-
คุณขามัวทำลับ ๆ ล่อ ๆ ใครเขาจะไปเห็นคุณอยู่ในสายตาล่ะค้า
เผชิญหน้าตรง ๆ ก็ไม่ ต้องคอย ..แอบ..
บอกตรง ๆ ก็ไม่ ต้องคอย..กระซิบ..
ตกลงคุณเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่ วุ้ย'รมณ์เสีย
-
กระซิบใส่ไมค์บ้างก็ได้นะครับผม~
-
[กระซิบ] จะมีทั้งสิ้น เก้าคำ นะคะ....ความยาว แล้วแต่อารมณ์ผู้เขียนนะคะ :mc1:
คำที่แปด
*** แววตาของคุณ...หม่นลงอีกแล้ว
....
...
..
.
อยากเดินเข้าไปหาคุณ
อยากไปนั่งข้างๆ คุณ
....
...
..
.
รู้ตัวว่าเป็นคนนอกสายตาของคุณ....แต่คนนอกสายตาคนนี้ก็อยาก...ดูแลหัวใจของคุณ
----คุณจะรับมันไหม
----หรือคุณจะปฏิเสธ***
รับค่ะ นายมะยมรับอยู่แล้ว สำคัญคือเราไม่อยากให้มะยมรุก มะยมเลยต้องรับ
กร๊าก...มันเกี่ยวกันไหม อิบร้าาา!! (ทำกำปั้นเอาทุบโต๊ะปั๊กๆ)
ถึงยังไงก็เถอะช่วยออกมาจากมุมมืดซักทีเถอะค่าพ่อคู๊ณ ลุ้นจนเหงือกบานแล้วค่ะ
เห็นใจหน่อยเหงือกบานแล้วเหงือกมันจะแห้งนะคะ ไม่ดีต่อสุขภาพช่องปาก...ถรุ้ย
นี่ฉันเม้นอะไร มันเกี่ยวกับนิยายหม้ายยยย
สรุป โผล่ออกมาจากมุมมืดซักที ไม่งั้นจะเปิดไฟไล่ล่าเลี้ยวนะเคอะ!
เหอะๆ รอตอนต่อค่า มา มา มา กระซิบดังๆๆๆๆๆ โว้ว
-
:man1: ท่านผู้มีอุปการะคุณอินกันจัด
หาก นายกระซิบ เผยตัวจิเอาเปลือกทุเรียนตบหน้าเค้ามะคะ (ผู้เขียนนึกห่วงตัวละคร)
: 222222:กลับมาถิ่นทุรกันดานแล้ว
เพลานี้กำลังรอเรียกองค์มาประทับ...
แต่ทุกท่านไม่ต้องรอนะคะ เพราะองค์จะประทับเมื่อใด ผู้เขียนไม่แน่ใจ...ไปเดินเล่นกันก่อน ดึกแล้วก็นอนซะ
ว่างๆ ค่อยมากดอ่านเด้อคร่าเด้อ....(อร๊าย หลุดสำเนียงนกน้อย....)
-
5555555
ถึงขั้นเปลือกทุเรียนตบนี่ คงเป็นประเภทบุคคลที่ไม่คาดคิดเป็นแน่แท้
ยังไงก็จะรอดูพร้อมเปลือกทุเรียนนะคะ กร๊ากกกก
-
“บายครับพี่...กลับเร็วๆ นะ” เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนจักรยานโบกมือให้คนที่เมื่อกี้ซ้อนหลังกันมา
นายมะยมมองภาพที่เห็นด้วยรอยยิ้ม....ถึงมีในใจจะเจ็บปลาบก็ตาม
นายมะยมชอบเป็นมิตรกับคนอื่น นายมะยมไม่ชอบมีศัตรู
นายมะยมไม่ชอบมองคนทะเลาะกัน นายมะยมชอบเห็นคนรักกัน
นายมะยมชอบเห็นผู้คนมีความสุข แม้ตัวเองไม่มี “มัน”
......
.....
....
...
..
.
“ฮันนีมูนกันทุกวันเลยนะมึง” นายมะยมพูดทักเพื่อนตัวเองที่เดินหน้าอิ่มมาทางบันไดเลื่อน
เพื่อนเดินอมยิ้มแล้วยื่นแขนมาพาดคอของนายมะยม….เดินเคียงไปด้วยกัน “ก็แค่ช่วงนี้ละวะ พอมันไปเรียนแล้วก็นะ”
ชายหนุ่มสองคนเดินคุยกันเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดิน…เพื่อทำงาน
......
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่ตกลงเป็นแฟนกัน วันทำงาน….
กัสจะมาบ้านนายศรแต่เช้า อยู่จนกินข้าวเช้ากับนายศร เสร็จแล้วจึงปั่นจักรยานมาส่งนายศรที่สถานี แล้วถึงปั่นไปเก็บที่บ้านนายศร…จากนั้นกัสมีธุระอะไรที่ไหนก็จะไปตามนั้น โดยจะกลับมาอีกทีช่วงเย็นก่อนหรือหลังที่นายศรเลิกงานแล้ว และจะอยู่ด้วยจนราวๆ สองทุ่มนายศรถึงไปส่งกัสที่บ้าน
สำหรับวันที่นายศรหยุด ไม่ได้ไปทำงาน กัสจะมาคลุกอยู่ด้วยกันทั้งวัน…
นายมะยมจะแวะไปทำกับข้าวกินที่บ้านศรเหมือนเดิม แวะไปรดน้ำสวนผักน้อยๆ ของตัวเองตามปกติ… เขาไม่ได้ทำตัวแปลกแยกออกมาแต่อย่างใด
เขารู้ว่าทั้งนายศรและกัสแคร์ความรู้สึกเขามาก… ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัวให้เป็นปกติ…ทุกอย่าง
อีกไม่กี่เดือนกัสก็ต้องไปเรียนต่อแล้ว…
......
.....
....
...
..
.
เดือนธันวาคม----- เดือนสุดท้ายของปี เดือนแห่งการประชุม และเดือนแห่งการสะสางงาน
ใกล้วันปีใหม่… พนักงานกินเงินเดือนต่างจะต้องตกอยู่ในสภาพโหมงานหนักเพื่อวันหยุดยาว… งานมีเท่าไหร่ต้องสางมันให้มัน ถึงเหนื่อยและล้าแค่ไหน ทุกคนก็ใจสู้
...
..
.
25 ธันวาคม... วันหยุดของต่างประเทศ ไม่ใช่ของไทย... ดังนั้นนายมะยมจึงต้องทำงานแม้ในคืนคริสต์มาสก็ตาม
....
...
..
.
ต่อ...reply #252
-
ลุ้นกันต่อ ด้วยใจจดจ่อ
-
จดจ่อ...
-
จดจ่อด้วยค่ะ
-
จดจ่อ.....ที่สี่
^_____________^
-
จดจ่อตามกระแสนิยม *-*
-
วันที่ 23 ธันวาคม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก… เสียงเคาะประตูสามครั้งดังขึ้นตามมารยาท จากนั้นประตูก็ถูกเปิด และผู้ที่เคาะประตูก็เดินก้าวเข้าไปภายในห้อง…ทำงานแห่งนั้น
“เชิญนั่งครับ” ชายที่สวมสูทสีเทาซึ่งนั่งอยู่ด้านในบอกเขา
เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้ซึ่งถูกจัดไว้…ตรงกันข้ามกัน โดยมีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่พอควรกั้นกลาง
โต๊ะที่เคยเป็นระเบียบและโล่งดูสบาย เวลานี้เต็มไปด้วยแฟ้มและกองเอกสาร… งานที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อนสิ้นปีกับงานที่ต้องเตรียมให้พร้อมเพื่อปีหน้าซึ่งจะมาเยือนในอีกไม่กี่วัน
“วันที่ 25 นี้คุณมีนัดรึยังครับ?” หัวหน้าแผนกของเขาถาม
“ยังครับ?” เขาตอบ…และคิดล่วงหน้าว่าตัวเองจะได้ “อะไร” จากคำถามนี้
“คุณสะดวกไหม หากต้องไปรับรองลูกค้า… ตอนนี้พวกเขามากันแล้ว ท่านอยากให้ทางเราดูแลเขาคืนนี้ พรุ่งนี้ลูกค้าจะมาเซ็นต์สัญญากับเราก่อนเดินทางกลับ” หัวหน้าของเขาแจกแจง
‘ท่าน’ ที่ถูกเอ่ยถึงคือผู้บริหารของบริษัทนั่นเอง
“ไม่ทราบว่าลูกค้าเป็นใครครับ?” เขาถามผู้บังคับบัญชาของตัวเอง
“คุณหวง…แต่หากคุณไม่สะดวก เดี๋ยวผมไปเองครับ” หัวหน้าของเขาบอกทิ้งท้าย
“ง่า….ผมไปเองครับ ว่าแต่พรุ่งนี้ต้องไปรับพวกเขามาที่บริษัทรึเปล่าครับ?” เขาสอบถามเพิ่มเติมต่อทันที
ถ้าเป็นลูกน้องที่ดีต้องรู้ว่าหัวหน้าตัวเองงานอะไรอยู่บ้าง… และเดือนนี้หัวหน้าของเขากำลัง ‘หัวยุ่งเหมือนยุงตีกัน’
เครื่องยืนยันหนึ่งดูได้จากทรงผมของหัวหน้า…ความยาวของเส้นผม
ความยาวซึ่งก้ำกึงระหว่างรองทรงกับบ็อบที่เคยเสยเรียบเป็นทรงแบบดูดี แม้ใส่มูสแต่งผมก็ยังดูเหมือนเสยขึ้นไปเองตามธรรมชาติ ….
เมื่อถึงช่วงเวลานี้ของทุกปีมันจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง----ผมด้านหน้ามัดด้วยยางรัดผมสีดำ(เท่านั้น) ส่วนผมที่ยาวระคอเกือบเคลียไหล่จะถูกมัดอีกช่อเมื่อต้องออกไปเดินข้างนอกตึกเท่านั้น
“แค่รับรองทางนั้นก็พอ หากดึกเกินไปคุณเปิดห้องที่นั่นได้ เพราะยังไงตอนเช้าคุณก็ต้องพาพวกเขามาที่นี่อยู่ดี” หัวหน้าบอกเขา
“เอาเต็มที่เลยใช่มั้ยครับ” ที่เขาถามเช่นนี้คืออยากย้ำให้แน่ใจว่า…การรับรองในคืนนี้หมายถึงว่า ต้องถึงไหนถึงกับลูกค้า---กิน ดื่ม เที่ยว
“ท่านบอกให้ทางเรารับรองทุกรายการของคืนนี้ไปจนกระทั่งคุณส่งพวกเขาขึ้นเครื่อง พวกเขาจะไปไหนยังไง จะไปสนามบินกี่โมง คุณไปสอบถามทางเขาเอาเองละกัน รายละเอียดผมไม่ทราบ… อ้อ คุณเอาใบเสร็จค่าใช้จ่ายมาเบิกให้ครบด้วยนะครับ” หัวหน้าพนักหน้าและย้ำเขาไปในตัว
“ครับ… วันเสาร์นี้ให้ผมทำโอมั้ยครับ” นายมะยมรับคำและสอบถามถึงวันพรุ่งนี้กับหัวหน้า…
พรุ่งนี้แม้เป็นวันเสาร์ที่หยุดงาน แต่เขาก็อยากเข้ามาช่วยหัวหน้าสะสางงาน…
เหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวก็ถึงวันสิ้นปี กองแฟ้มและตั้งกระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของหัวหน้ายังคง…ถูกทำให้ลดระดับลงไปได้ยาก---หากทำมันคนเดียว
“ฮื้อ….” หัวหน้าระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ทีหนึ่งก่อนเอ่ยปากว่า “ก็มาสายหน่อยละกันครับ 10 โมงเช้า…หรือ 11 โมงก็ได้”
“หัวหน้าจะมากี่โมงล่ะครับ?” เขาถาม
“ไม่แน่ครับ ที่กะไว้ก็…ประมาณที่ผมบอกคุณ” หัวหน้าตอบคำถาม
“ไอ้ศรด้วยนะครับ เดี๋ยวผมออกไปบอกมัน---”
นายมะยมเอ่ยปากบอก แต่ถูกหัวหน้าแย้งไว้ก่อน
“ถามความสะดวกของเขาก่อน”
นายมะยมฉีกยิ้มกว้าง “โหย หัวหน้ายอมให้ช่วยทั้งที มันไม่ปฏิเสธหรอกครับ”
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #254
-
ไม่อยากจะเดาแล้วว่านายกระซิบเป็นใคร
รอเฉลยดีกว่า เพราะจับทางไม่ถูกเลย
:กอด1:
เป็นพ่อมึง หรือ นายสวมฮูดคนนั้นน้า หรือ เป็นคนที่เราคิดไม่ถึงกัน
-
......
.....
....
...
..
.
ช่วงพักกลางวัน แต่ละร้านอาหารต่างเต็มไปด้วยพนักงานและบุคคลทั่วไปซึ่งมาใช้บริหาร---- แหล่งทำงานอันเป็นใจกลางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นอีกแหล่งของที่ชอปปิ้งและจุดนัดผมของคนทั่วไป---ด้วยในตัว
แม้ผู้คนจะมากกว่าปกติ แต่ด้วยบรรยากาศสดใสและเสียงเพลงคึกคักของเทศกาลที่กำลังจะมาถึงในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ทำให้น้อยคนนักที่จะอารมณ์เสียกับฝูงชนและการรอ
ชายหนุ่มสองคนเดินออกมาจากตึก… ชายคนหนึ่งยื่นเหรียญสิบให้เพื่อน
ชายที่รับเหรียญไป เก็บมันเข้ากระเป๋าเสื้อข้างซ้าย และเอามือล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังของตัวเอง…. ธนบัตรสีเขียวติดมือเขาออกมา…มันถูกหย่อนลงไปในกล่องของนักดนตรีตาบอดสองคนซึ่งบรรเลงเพลงขับกล่อมแก่ผู้คนซึ่งเดินสวนกันไปมาอย่างขวักไขว่
ชายหนุ่มสองคนเดินต่อไปยังร้านค้าเป้าหมาย----ร้านก๋วยเตี๋ยวสีเขียวซึ่งไกลจากแหล่งทำงานและไกลจากแหล่งชอบปิ้ง ทว่า เวลานี้ร้านที่ไกลปืนเที่ยงแห่งนี้ก็ยังต้องให้พวกเขา….ยืนรอ
“จะได้กินมั้ยวะ?” นายศรเอ่ยปาก
“มึงนึก----” นายมะยมพูดยังไม่ทันจบประโยค ไหล่ของเขาก็มีคนมาสะกิด เขาหันไปมองด้านหลัง “อ้าว มานี่เหมือนกันเหรอครับ?”
“แถวตึกคนเยอะอ่ะ ผมขี้เกียจรอ” นายป๋องบอกด้วยใบหน้ายู่
“ฮ่าฮ่าฮ่า…หนีเสือปะจระเข้ซะแล้วมั๊งครับ” นายมะยมบอก
“ช่างมันครับ มีเพื่อนรอดีกว่ารอคนเดียว” นายป๋องฉีกยิ้มกว้างและชวนคุยสัพเพเหระต่อ
......
.....
....
...
..
.
ป๋องเริ่มสนิทคุ้นเคยกับเขามานับแต่ที่ไปดูงานด้วยกัน…
เจอกันที่หอบ้าง ร้านข้าวบ้าง ร้านสะดวกซื้อบ้าง….ก็ทักทายกันไปตามแต่อารมณ์และเวลาที่ต่างคนต่างมี ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงวันหยุดที่ได้เห็นหน้าคร่าตากัน เพราะวันธรรมดาเขาจะไปคลุกที่บ้านไอ้ศรจนค่ำถึงค่อยกลับมาห้องตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“ทำไมมากินข้าวคนเดียวล่ะครับ?” นายมะยมถามเมื่อสั่งรายการอาหารและนั่งรอ
“เพื่อนๆ มันไปกับแฟนอ่ะพี่ คนในแผนกเดียวกันก็เบื่อหน้าแหละ” นายป๋องตอบ
“หน้าตาดีแบบนี้ไม่มีใครเลยจริงง่ะ ไม่เชื่อว่ะ” นายศรทัก
“นั่นไง! ก็คิดกันแต่แบบนี้ไง ผมเลยไม่มีใครกับเค้าสักทีอ่ะครับ” นายป๋องโอดครวญ
“ก็ไปจีบเค้าซี่ ผู้ชายซะเปล่า” นายมะยมบอก
“แล้วจีบผู้ชายมันทำกันยังไงล่ะครับ กลัวเจอบาทาล่ะไม่ว่า” นายป๋องยกแก้วน้ำขึ้นมาดูดทันทีที่พูดจบ
......
.....
....
...
..
.
!!!!!!------ ใจไอ้ยมหล่นตกตามตุ่ม
......
.....
....
...
..
.
!!!!!------ ปากไอ้ศรอ้าค้าง…แบบหุบไม่อยู่
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
“เป็นไรพี่ศร เวอร์น่า ตกใจอะไรกัน” นายป๋องวางแก้วน้ำและถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“ที่พูดเนี่ย พูดเฉยๆ หรือ…..” นายมะยมมะยมทิ้งท้ายไม่พูดต่อเพื่อแสดงนัยยะให้อีกฝ่ายเติมคำลงในประโยค
“ก็พูดเฉยๆ … คนป่าเดียวกันนี่เนอะ” นายป๋องยักคิ้วให้รุ่นพี่
“ฮ่าฮ่าฮ่า…เออ เออ รับก็ได้วะ มีไรก็ปรึกษาพี่ได้นะน้อง” นายศรหัวเราะร่วน
“ก็เนี่ยแหละ ผมถึงชอบมาคุยกับพวกพี่…มันถนัดปากกว่าคุยกับเพื่อนๆ ในแผนก…พวกนั้นมันคนละป่ากัน” ป๋องกระซิบกระซาบ
อาหารถูกวางลงบนโต๊ะ….ต่างคนต่างหยิบของตัวเองไป
“แล้วปิ๊งใครอยู่ล่ะครับ?” นายมะยมคลุกเส้นบะหมี่แห้งในชามพลางถาม
“ฮึ! ไม่บอกหรอก!” นายป๋อง…ลีลา
“แล้วอย่ามาให้ช่วยทีหลังนะมึง!” นายศรเอาปลายตะเกียบในมือชี้หน้าคาดโทษ จากนั้นก็เริ่มกินมื้อกลางวันของตัวเอง
“โห ใจร้ายอ่ะ น้องนุ่งขอมีความลับบ้างก็ไม่ได้” นายป๋องเบ้ปาก
นายมะยมกินบะหมี่ไปพลางฟังที่เพื่อนตัวเองและรุ่นน้องตีฝีปากกัน
“วันสิ้นปีป๋องมีนัดรึยังล่ะครับ?” นายมะยมเอ่ยถาม
“ก็มี..มั๊ง ว่าจะไปนั่งเล่นกับเพื่อนมหาลัยน่ะพี่ แต่ไม่ได้นัดกันมั่นเหมาะอะไร ทำไมเหรอครับ” นายป๋องถามบ้าง
“ถ้าเซ็งๆ ไม่มีที่ไปก็ไปเที่ยวกับพวกพี่ได้นะ อืม…แต่ไปกับคนแก่ป๋องอาจไม่สนุกซะล่ะมั๊ง” นายมะยมเพิ่งนึกขึ้นได้ก็เมื่อเอ่ยปากชวนไปแล้ว
“พี่จะไปนั่งสมาธิข้ามปีเหรอครับ?” นายป๋องถาม
“มึงบ้าป่าว! หน้าอย่างพวกกูเนี่ย ดูใกล้ชิดวัดมากนักเรอะ!” นายศรอดไม่ได้ที่จะแย้ง
“หน้าพี่มะยมน่ะใช่ แต่พี่ศรน่ะไกลมากอย่างเห็นได้ชัด” นายป๋องหันไปบอก
“ฮ่าฮ่าฮ่า….” นายมะยมฮาครืน “ไปนั่งฟังเพลง ดื่มนิดหน่อย แค่นั้นครับ แต่ไม่ใช่เธคนะ ว่าจะไปผับกัน”
“อ๊ะ! งั้นไปด้วย!”
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #257
-
จดจ่อ...อีกครั้ง
-
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้น 6
ประตูลิฟท์เปิด---- นายมะยมเห็นคนที่สวมชุดวอร์มสีกรมท่ายืนอยู่ในนั้น
“สวัสดีครับ” นายมะยมเอ่ยทักเมื่อเดินเข้ามาภายในแล้ว
“ครับ” คำตอบรับสั้นๆ
แล้วความเงียบก็เข้าปกคลุม----จนไปถึงชั้นล่างสุดของตึก
เพื่อนวิ่งผงกหัวให้เล็กน้อยแทนการขอตัว จากนั้นเขาก็ออกวิ่งเยาะๆ
นายมะยมค่อยๆ เดินตามชายเพื่อนวิ่งไปที่สวนหย่อม
......
.....
....
...
..
.
สองสามวันหลังจากที่ได้รับผ้าจากเขามาซับน้ำตา นายมะยมซักมันและเอาไปคืนเขา ตอนที่เขาวิ่งเสร็จแล้ว…
นายมะยมบอกขอบคุณเขาและบอกว่าซักให้เป็นอย่างดี…
อีกฝ่ายพยักหน้าและรับมันไป
นายมะยมได้ยินเสียงหายใจแรงจากอีกฝ่าย…เสื้อวอร์มเปียกซกจากการวิ่ง---- ‘ขอตัวนะครับ’ ….นั่นคือประโยคแรกและประโยคเดียวที่นายมะยมได้ยินจากเพื่อนคนนี้
และหลังจากนั้นนายมะยมก็ทักเขาอีกทุกครั้งทีได้เจอกัน… ทุกครั้งเขาจะได้คำตอบจากอีกฝ่ายว่า
‘สวัสดีครับ’---‘ครับ’
‘ตื่นเช้าจังนะครับ’---‘ครับ’
‘วันนี้อากาศดีนะครับ’---‘ครับ’
......
.....
....
...
..
.
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่าย…ไม่อยากสนทนาต่อ นายมะยมจึงละไว้แค่นั้น…อย่างที่อีกฝ่ายต้องการ
ถึงอย่างไรเพื่อนวิ่งก็ไม่ได้เลวร้ายสุดๆ เพราะทักกี่ครั้ง เขาก็ตอบ… ‘ครับ’
เพื่อนวิ่งยังคงไปวิ่งเหมือนเดิม…ไม่ได้หนีหน้าหรือเปลี่ยนเวลาวิ่งแต่อย่างใด
คงเป็นคนไม่ค่อยพูด-----นายมะยมสรุปให้กับตัวเอง…ในใจ
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเทเฉพาะน้ำแกงลงชามและเอาใบตำลึงที่เด็ดจากระเบียงห้องมาใส่….เอาเข้าเวฟ
สามนาที---เขาก็นำชามที่ร้อนๆ นั้นออกมา เทเนื้อที่เหลือในถุงลงไปในชาม…ข้าวสวยตั้งรออยู่แล้ว
เขาเปิดทีวีและนั่งละเลียดกินต้มเลือดหมูกับข้าวสวยไปจนหมดเกลี้ยง จากนั้นถึงค่อยไปอาบน้ำและแต่งตัว
เขามองนาฬิกา----เวลายังเช้าเกินไปสำหรับการไปตามนัด
เขาจึงปิดทีวีและนอนเล่นบนเตียง…ลมเย็นๆ ของหน้าหนาว พัดเข้ามาในห้อง…. เขาหลับตาและสัมผัสกับความระรื่นชื่นใจที่ลอยเข้ามาแตะไล้ผิวที่อยู่ภายนอกเสื้อผ้าของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
หน้าฝนทำให้ใจศรหวั่นไหว----แต่ไม่ใช่กับนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
สำหรับมะยมแล้ว เขาหวั่นไหวกับหน้าหนาวมากกว่า
ยิ่งหนาวมากแค่ไหน เขาก็ยิ่งรู้สึกว้าเหว่...ใจ
อยากกอดใครสักคน
อยากได้ความอุ่นจากผิวกายมากกว่า...ผ้าห่ม
......
.....
....
...
..
.
เขาหลับตา และจมลึกลงไปในความต้องการของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เขาหลับไปอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
......
.....
....
...
..
.
เสียงเรียกเขาดังขึ้น...ปลุกเขาให้---สะดุ้งตื่น
เขารีบไขว่คว้าหาที่มาของเสียง....แต่ควานมือหาเท่าไรห่ก็ไม่เจอ
เขารีบผุดลุกขึ้นมานั่ง...เขาตะปบลงไปกระเป๋าข้างของกางเกงยีนส์ที่สวมอยู่
......
.....
....
...
..
.
“ไรวะ?” นายมะยมถามคนที่โทรเข้ามา
“มึงให้คนอื่นแหกขี้ตามาแต่เช้า แล้วมึงยังไม่มาเนี่ยนะ” นายศรพูดด้วยเสียงมีอารมณ์
“ไร? กูนอนรอเวลาเฉยๆ เนี่ย แต่งตัวเสร็จแล้ว!” นายมะยมแก้ข้อกล่าวหา
“มึงนัดกูกี่โมง?” นายศรถาม
“10 โมง” ตอบทันควัน ทว่า สายกลับถูกตัดไปทันทีหลังจากที่เขาตอบ...คำถาม
นายมะยมมองมือถือในมือ หน้าจอกลับมาสู่หน้าพักหน้าจอ เขาไม่ได้ใช้รูปอะไรเป็นภาพพักหน้าจอ...เขาเลือกเมนูที่มีของในมือถือ----ภาพนาฬิกาแบบเข็มบอกเวลา
เข็มสั้นชี้ที่เลข 10 เข็มยาวชี้ที่เลข 6
นายมะยมเกาหัวแกรกๆ เมื่อรู้ว่าตัวเอง...ไปสาย---- ดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ไปช่วยหัวหน้าทำงานเฉยๆ... 10 โมง หรือ 11 โมงก็ยังอยู่ในช่วงระยะที่หัวหน้าบอก
......
.....
....
...
..
.
‘ดันนัดไอ้ศรไว้ 10 โมง....สงสัยต้องหาเครื่องเซ่นให้มันซะแล้ว’ ---- นายมะยมนึกพลางปิดและล็อคประตูห้องของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เปิดที่ชั้น 5..... คนหน้าตาคุ้นเคยเดินยิ้มเข้ามา
......
.....
....
...
..
.
“ไปเที่ยวแต่เช้าเลยนะครับ” คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในลิฟท์ทักทาย
“ไปทำงานครับ ไม่ใช่ไปเที่ยว” นายมะยมบอก
“อ้าว แต่งแบบนี้ไปเหรอครับ?” ป๋องทำหน้างง
“ครับ ใส่ยีนส์ได้แต่ก็ต้องสุภาพ...” นายมะยมบอก...
ถึงแม้วันนี้เขาสวมกางเกงยีนส์ แต่เขาก็เลือกยีนส์ที่ไม่มีรอยขาดปะ และสวมเสื้อเชิ้ตแทนเสื้อยืด...
ติ๊ง! เสี้ยวนาทีหลังจากที่เสียงสัญญาณร้องเตือน ประตูลิฟท์ก็เปิด
“โชคดีครับพี่ ขอให้งานเสร็จเร็วๆ นะครับ” นายป๋องอวยพรเสร็จก็เตรียมเดินแยกไปทางตลาด
“ครับ” นายมะยมรับคำ และรีบก้าวจ้ำไปยังอีกทาง
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมวิ่งเยาะๆ เข้าไปในตึก…พอเข้าไปในลิฟท์เขาก็เจอเพื่อนในก๊วน
“อ้าว มึงมาทำไมไอ้ยม” นายต้นไม้ที่เข้าไปในลิฟท์ก่อนเขาเอ่ยทักพร้อมทำหน้าประหลาดใจ
“มาช่วยงานหัวหน้าว่ะ นี่มึงได้หยุดกับเค้าบ้างรึยัง?” นายมะยมเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
ถึงอยู่ตึกเดียวกัน แต่คนละบริษัท บริษัทของไอ้ไม้มาเช่าสำนักงานกับตึกแห่งนี้… งานในฝ่ายออกแบบของไอ้ไม้ ค่อนข้าง…มีให้ทำตลอด วันหยุดแทบไม่มี แต่ทางบริษัทก็ชดเชยในหลายส่วนให้กับพนักงาน ทั้งเป็นตัวเงินและอิสระในเรื่องเวลาเข้าและออกงาน---ขอแค่ให้งานเสร็จ จะมาสายหรือกลับก่อนเวลาออฟฟิศเลิกก็ย่อมได้
“เดี๋ยวก็หยุดปีใหม่แหละ ช่างมันเหอะ ได้เงินซะอย่าง” นายต้นไม้บอกเหมือนไม่แคร์
คุยเล่นหัวไปหน่อย ก็ถึงชั้นของไอ้ไม้ ก่อนมันเดินออกไป มันบอกว่า “วันที่นัดกันน่ะ มึงโทรตามกูด้วยนะ คาดว่ากูคงน๊อคอยู่”
“เออได้” เขารับปากเพื่อน
น๊อค…ที่เพื่อนของงเขาพูด หมายถึง การที่ทำงานไม่ได้หลับได้นอนหลายคืนจนเสร็จ แล้วค่อยหลับยาว
แม้วันที่ 31 คือวันสิ้นปี แต่ปีนี้วันที่ 30 เป็นวันศุกร์ ดังนั้นพวกเขาเหล่าพนักงานกินเงินเดือนจึงต้องทำงานกันไปจนหยดสุดท้าย… พวกเขาจะได้วันชดเชยวันหยุดในปีต่อมาแทน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินเข้าไปในแผนกของตัวเอง...
ที่นั่งข้างๆ เขาไม่มีเงาของเพื่อน
คอมพิวเตอร์ของเขาถูกเปิดทิ้งไว้---หนังการ์ตูน
เขาเดินขมุ่นคิ้ว...พลางคิดว่า ไอ้ศรมันนึกยังไงถึงเปิดการ์ตูนดู ปกติเพื่อนเขาจะชอบหนังแอ๊คชั่นนี่นา
ทว่า เมื่อเขากำลังจะเดินไปถึงโต๊ะทำงานของตัวเอง... ประตูห้องของหัวหน้าแผนกก็เปิด
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ วิ่งปรอตรงมาทางเขา...และหักเลี้ยวเข้าไปทางซอกโต๊ะทำงานของเขา
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ เหยียบกล่องใบหนึ่งที่วางอยู่ข้างเก้าอี้หมุนของเขา...และขึ้นไปนั่งขัดสมาธิบนนั้น สายตาจ้องที่ภาพซึ่งกำลังเคลื่อนไหว...อยู่ในจอ
เขาอมยิ้มแล้วเดินเข้าไปหาเด็กน้อย
......
.....
....
...
..
.
“มาหาคุณพ่อเหรอครับ” เขาถามเด็กน้อย
สิ่งมีชีวิตตัวเล็กหันมาหาเขา....และยิ้ม “ฮะ” เสียงดังฟังชัด
“แล้วคุณพ่ออยู่ไหนเอ่ย?” เขาชวนคุยต่อ
“อยู่ในห้องทำงานฮะ” เด็กน้อยบอก
“แล้วพี่ที่นั่งเก้าอี้นี้เขาไปไหนครับ?” เขาถามพลางตบปุ๊ๆ ที่เก้าอี้หมุนของโต๊ะทำงานข้างเคียง
“อยู่ในห้องทำงานคุณพ่อฮะ” เด็กน้อยบอก
“เหรอ” นายมะยมเอานิ้วเขี่ยแก้มขาวๆ ของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู “ชื่ออะไรครับ?”
“น้องหนูฮะ” เด็กชายพูดจบก็หันหน้าไปมองหน้าจอ... เสียงบรรเลงอย่างตื่นเต้นของหนังดึงดูดความสนใจของเด็กน้อยไปแล้ว
นายมะยมลุกขึ้นจากท่านั่งยองๆ และเดินผมยิ้มเข้าไปในห้อง...
......
.....
....
...
..
.
โดนเพื่อนกระทบกระเทียบเล็กน้อย แล้วเขาก็เริ่มทำงานในส่วนของตัวเองไปอย่างเงียบๆ
เครื่องเขาถูกยึดโดยแขกกิตติมศักดิ์...ดังนั้นเขาจึงยืนเครื่องของน้องพันซ์ใช้ทำงานแทน
แต่พอทำงานเริ่มมันมือก็ต้องไปกินข้าวซะแล้ว
......
.....
....
...
..
.
กริ๊ง!.... เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
นายมะยมรับสายด้วยความแปลกใจ “สวัสดีครับ”...สุภาพไว้ก่อน
“คุณกับคุณศรไปพักทานข้าวกันก่อนเถอะ” คนที่โทรเข้ามาบอกเขา
“หัวหน้าทานไหนครับ? ไปด้วยกันมั้ยครับ?” นายมะยมถาม
“อืม...ไม่รู้เจ้าหนูเค้าจะอยากกินอะไร ช่างเถอะ พวกคุณไปเถอะ” เขาพูดรวบรัด
“วันหยุดร้านสะอาดๆ ไม่ค่อยมีเปิดนะครับ” นายมะยมเตือนหัวหน้าตัวเอง
“เอ้อ” เสียงอุทานเหมือนเพิ่งคิดออก “งั้นแค่นี้ครับ” พูดจบก็วางสายไป
ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเวียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามา....ประตูเปิดออก พร้อมประโยคที่ว่า “เดี๋ยวผมถามเค้าก่อน”
หัวหน้าของเขาเดินเลยเขาไป... เขาเดินผ่านหลังของนายศร และนั่งยองๆ ลงข้างเก้าอี้ที่ลูกชายตัวน้อยของตัวเองกำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่...
คนพ่อพูดอะไรสักอย่างนายมะยมไม่รู้ เห็นแต่ปากที่ขยับ...ทว่า คนลูกก็ไขข้อสงสัยของเขา “บะหมี่น้ำหมูแดงฮะ!” เสียงดังฟังชัด
นี่ถ้าไม่รู้ว่าเป็นลูกหัวหน้า นายมะยมคงคิดว่าน้องหนูมีพ่อเป็นทหาร...แน่ๆ*0*
สักพัก...หัวหน้าก็ยืนขึ้น....เด็กน้อยลงมาจากเก้าอี้----พ่อเดินจูงลูกชายออกมา
นายศรผุดลุกขึ้น
นายมะยมจึงลุกจากเก้าอี้ที่โต๊ะน้องพันซ์แล้วเดินไปหาพวกเขา
“เอาร้านที่ไปกับไอ้กันนะ” นายศรบอกเพื่อนตัวเอง
“หัวหน้าทานได้มั้ยครับ ที่ร้านนั้นจะมีข้าวหมูแดงหมูกรอบ ส่วนก๋วยเตี๋ยวจะไม่มีลูกชิ้น มีแค่หมูแดงหมูกรอบกับหมูสับน่ะครับ” นายมะยมแจกแจงให้หัวหน้าฟังก่อนเดินทางไปยังร้านที่นายศรบอก
“ได้ครับ! มะ...คุณพ่ออุ้มนะ” หัวหน้าตอบรับและหันไปส่งมือหาลูกชาย
พอเด็กน้อยหยักหน้ายอม...คนเป็นพ่อก็อุ้มตัวลูกชายขึ้นมาวางบนท่อนแขนตัวเอง น้องหนูเอาสองมือโอบรอบคอคุณพ่อ....
จากนั้นเสียงเจื้อยแจ้วเล่าเนื้อหาของหนังการ์ตูนที่ตัวเองดูดังไปตลอดทาง
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #267
:m8:
-
:L2: :pig4:
-
ฮ่าๆ อิโมตัวสุดท้ายมันอะไรกัน คนเขียนยกธงยอมแพ้แล้วเหรอคะ
อย่าเพิ่งท้อนะ โอ๋ๆ ปลอบๆ กอดให้กำลังใจ มะ...กอด :กอด1:
เป็นกำลังใจให้ค่ะ คนอ่านยังปักธงเชียร์นายมะยมลุ้นรักสุดกำลัง
เอิ๊ก...
ตอนนี้ไม่อยากบอกว่า รู้แล้วว่าเป็นใคร เท่าที่อ่านมา
หึหึ
รู้แล้วละว่าคนคนนั้นต้องเป็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
.
.
.
"น้องหนู" กร๊ากกกก อิบร้า!!!!!!!!!!! ฮ่าๆ
(รู้สึกว่าตั้งแต่อ่านเรื่องนี้จะด่าตัวเองด้วยคำนี้บ๊อยบ่อย :laugh:)
ท่าทางจะเดาไม่ออกแล้วล่ะ จะใช่คุณหวงรึปล่านะ
รออ่านดีกว่า ค่อยๆ เดา ตื่นเต้นดี อิอิ
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ ตอนนี้เตรียมเปลือกทุเรียนพร้อมแล้วนะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ้า
รอด้วยใจจดจ่อคนที่ 6 ค่ะ อิอิ
เห็นเขาจดจ่อกันเยอะดี เราเอามั่ง ฮ่าๆ
-
เห็นรีบนแล้วสะท้อนใจ เอ๊ะ หรือจะเป็นอย่างที่ว่า กร๊ากกกก//โดนตบ
ยังลุ้นกับคนปริสนาของนายมะยมอยู่เรื่อยๆ
มันตัดออกได้บางส่วนแต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครอยู่ดี
ได้โปรดออกมาเร็วๆเถอะ พรีสต์....
-
เอิ่ม พี่มะยมลองถามคนใส่ฮู๊ดนะครับว่า 'เป็นแฟนกันมั้ย?'
แล้วเค้าก็จะตอบกลับมาว่า -- ครับ
จะได้ไม่ต้องเป็นโสดหน้าหนาวววว มันหนาวเป็นสองเป็นสามเท่าของคนอื่นนน~~
แต่ปัญหามันอยู่ที่........เค้าเชียร์นายหัวหน้าภักดีพ่อมึงอ๊า!
จดจ่ออีกครั้ง ;)
-
คนเขียนสู้สู้
อย่าพึ่งยกธงขาว :กอด1:
บวกเป็ด
-
จนถึงตอนรองสุดท้าย เราก็ยังไม่รู้จักเจ้าของเสียงกระซิบเลยเนี่ย
ป๋องชอบใครอ่ะ???
-
คิดมาตลอดว่าหัวหน้าเมะ แต่พอเจอมัดผมนี่รีบย้ายข้างให้เลย XD
-
ขณะที่ชายสามคนเดินตามกันมาจนถึงหน้าตึกสูง...ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานของพวกเขา
“อยากกินไอติม” จู่เด็กน้อยก็บอกผู้ใหญ่
“เอาหวานเย็นหรือถ้วยครับ” ผู้เป็นพ่อถามลูกชาย
“หนูจะเอาโคน...สตอเบอรี่!” เด็กชายบอกสิ่งที่ต้องการ
“ผมฝากแกที พาไปรอข้างบนก็ได้” ผู้เป็นพ่อวางลูกชายลง และส่งมือเล็กๆ ให้กับชายอีกคนซึ่งยืนใกล้ๆ กัน
“ป๊ะ น้องหนู ไปกับพี่นะครับ” นายมะยมรับมือเล็กๆ นั้นมากุมไว้ และพาเดินเช้าไปในตึก
......
.....
....
...
..
.
“ไม่เอา รอคุณพ่อก่อน” เด็กน้อยขืนตัวไม่ยอมเข้าไปในลิฟท์
“อ๊าว คุณพ่อให้ไปรอข้างบนนะครับ” นายศรบอกเด็กชายให้เข้าใจ
“ม่ายอาว....หนูจะรอคุณพ่อ” เด็กชายขืนตัวและสะบัดมือหลุดไปจากการกุมของนายมะยม
เด็กชายวิ่งซอยเท้าถี่ห่างไปจากที่ที่พวกเขายืนอยู่... พวกเขาวิ่งตามหลังเด็กชายไปทันที
นายมะยมวิ่งตามทันก่อนเพื่อนและอุ้มเด็กชายขึ้นมาอุ้มทันที... “รอในนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวคุณพ่อก็มาแหละ เนอะ”
“ตรงโน้นอ่ะ หนูจะไปตรงโน้น” เด็กชายชี้ไปที่ประตูใหญ่ของตึก
“ครับ ครับ” นายมะยมตามใจเด็กน้อย และพากันไปยืนรอพ่อของเด็กน้อยตรงจุดที่เด็กชายชี้บอก
......
.....
....
...
..
.
“น้องหนู วันหลังอย่าวิ่งหนีพี่แบบนี้นะ เดี๋ยวคนไม่มีดีจับตัวไปน๊า” นายมะยมรอจังหวะสอนเด็กน้อย
“อื้ม!” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ
“เนี่ย ถ้าเมื่อกี้พี่เค้าจับกนูไม่ทัน หลงทางเลยนะ!” นายศรขู่เด็ก
“หนูมีอันนี้” เด็กชายล้วงเข้าไปในคอเสื้อ ถุงผ้าขนาดเท่าฝ่ามือถูกดึงออกมา.... นายศรขมวดคิ้วแล้วขอดูของข้างใน
“ฮะ” เด็กน้อยยอมให้ดู
......
.....
....
...
..
.
กระดาษแผ่นหนึ่งถูกใส่ไว้ในถุงพลาสติก...แจ้งชื่อที่อยู่และเบอร์ติดต่อของพ่อแม่เด็กไว้อย่างละเอียด....พร้อมรูปที่ถ่ายด้วยกัน 4 คน...พ่อ แม่ ลูกชาย ทารก
“น้องหนูมีน้องด้วยเหรอครับ?” นายมะยมแปลกใจ...ไม่เคยรู้เลยว่าหัวหน้าจะมีลูกสองคน
“น้องสาวฮะ น้องเพิ่งเกิด” เด็กชายบอกพี่ๆ
“แล้วน้องไม่มาหาคุณพ่อเหรอครับ” นายศรถาม
“น้องอยู่โรงบาลฮะ...คุณแม่พาน้องไปหาคุณหมอ” เด็กชายส่ายหน้าและตอบคำถามของพี่ๆ
“น้องเป็นอะไรเหรอครับ” นายมะยมถามด้วยความนึกกังวล ภาพในรูปถ่าย เด็กชายดูไม่ได้โตไปกว่าที่เห็นในรูป ดังนั้นน้องสาวของเด็กน้อยน่าจะครบขวบหรือไม่ครบขวบดี...น่าสงสาร ป่วยตั้งแต่เด็ก
“น้องไม่สบายฮะ” เด็กชายตอบ
พ่อแม่คงบอกเด็กแค่นี้...มากกว่านี้บอกไปเด็กก็ไม่เข้าใจ
นายมะยมมองหน้าเพื่อน...เขาเห็นสีหน้าอึ้งๆ แฝงความเห็นใจ...ในตัวหัวหน้าของตัวเอง
ลูกคนเล็กไม่สบายขนาดแม่ต้องไปยู่ที่โรงพยาบาลด้วย... แต่งานก็ล้นมือและเร่งจนผู้เป็นพ่อไปดูลูกคนเล็กไม่ได้....น่าเห็นใจจริงๆ
......
.....
....
...
..
.
“คุณพ่อ!” เด็กชายร้องเสียงดังอย่างดีใจที่เห็นพ่อของตัวเองเดินเข้ามาในตึก
“อ้าว ทำไมมาอยู่กันตรงนี้ครับ” หัวหน้าถามลูกน้องของตัวเอง
“น้องหนูจะรอคุณพ่อครับ” นายศรบอกหัวหน้า
“ดื้อนะเรา จะฟ้องคุณแม่!” คนเป็นพ่อเอานิ้วชี้จิ้มที่แก้มลูกชายเป็นการคาดโทษ แต่ลูกชายหาได้สนใจไม่ เด็กน้อยร้องทวงจะเอาไอติมท่าเดียว
คุณพ่อบอกให้ไปกินข้างบน แต่ลูกชายไม่ยอมและโยเยเสียงดัง
“ให้แกถือกินก็ได้ครับหัวหน้า ขึ้นลิฟท์ไปแป๊บเดียวเอง” นายมะยมช่วยประนีประนอม
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เลื่อขึ้นมาถึงชั้น 20
คนที่เหลือนอกจากพวกเขา 3 คนครึ่งออกไปกันหมด
ศรคุยเรื่องงานที่ทำค้างกับหัวหน้า...ให้เข้าใจก่อนที่จะขึ้นไปทำต่อให้เสร็จทันช่วงบ่าย
จู่ๆ ระหว่างที่ลิฟท์เลื่อนมาถึงชั้น 24 ไฟก็กระพริบและดับ!
......
.....
....
...
..
.
“กรี๊ด!” เด็กชายกรีดร้องที่ข้างหูของนายมะยม ซบหน้ากับซอกคอของเขา
นายมะยมกอดเด็กชายไว้แนบอก และตบหลังเด็กชายเบาๆ เป็นการปลอบใจ “ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรนะ”
เพียงเสี้ยวนาทีจากนั้นไฟสำรองก็กระพริบและให้แสงสว่างเพียงเล็กน้อยแก่ผู้ที่อยู่ในลิฟท์
หัวหน้าเดินไปที่แผงควบคุมและกดกริ่งฉุกเฉิน... เสียงตอบรับจากปลายทางดังขึ้นทันทีโดยไม่ต้องรอกันนาน
......
.....
....
...
..
.
10 นาทีต่อมาไฟก็ติด และลิฟท์ก็เคลื่อนต่อไปยังชั้นที่พวกเขาต้องลง
......
.....
....
...
..
.
“อ้าว ทำเสื้อพี่เค้าเปื้อนเลย!” เดินออกมาจากลิฟท์ หัวหน้าเตรียมจะเอาลูกชายไปอุ้มต่อ เด็กชายที่ก้มหน้าเลียไอติมโคนเงยหน้ามามองพ่อตัวเองแบบงงๆ
ไอติมโคมในมือของเด็กชายแปะอกเสื้อของนายมะยมจนเปื้อนเป็นวงใหญ่
“ฮ่าฮ่าฮ่า...สงสัยตอนตกใจที่ไฟดับ ไม่เป็นไรครับ ไปล้างก็ไม่เป็นรอยแล้วครับ” นายมะยมบอกอย่างอารมณ์ดี
“น้องหนูขอโทษพี่เค้าสิครับ” พ่อบอกลูกชาย
“ขอโทษฮะพี่” เด็กน้อยหันหน้าเบ้ๆ ที่ถูกคุณพ่อดุไปบอกนายมะยม
“ไม่เป็นไรครับ” นายมะยมยิ้มและแอบหอมแก้มเด็กที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ “ไปดูการ์ตูนนะ เดี๋ยวค่อยเล่นกันต่อ” ....นายมะยมวางเด็กชายลง ปล่อยให้เขายืนด้วยตัวเอง “ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ถ้ามีรอยเดี๋ยวผมชดใช้ตัวใหม่ให้ครับ” หัวหน้าบอกเขา
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เอง เสื้อถูกๆ ครับ” นายมะยมยิ้มด้วยความจริงใจ
หัวหน้าพยักหน้ารับรู้ และยื่นมือไปหาลูกชาย ... เด็กน้อยเดินไปหาพ่อ และให้พ่อจูงเดินไปยังออฟฟิศ
“งั้นกูเข้าไปก่อนนะ” นายศรบอกและเดินตามหัวหน้าไป
นายมะยมรับคำในลำคอ และเดินแยกไปยังห้องน้ำชาย
......
.....
....
...
..
.
บรรยากาศสงบเงียบของห้องทำงาน มีเพียงแค่เสียงจากหนังการ์ตูนที่ดังให้ได้ยิน
นายมะยมเดินไปยังโต๊ะทำงานของน้องพันซ์ เขาผิดสังเกตุอะไรสักอย่าง... เขามอง “มัน” และเดินกลับไปหาเพื่อน
“ถุงนั่นอะไรวะ?” นายมะยมถามเพื่อนพลางชี้ไปยังถุงพลาสติกหนึ่งซึ่งวางอยู่กลางโต๊ะของน้องพันซ์
“หือ?” นายศรละสายตาจากหน้าจอ และชโงกหน้าไปดูตำแหน่งที่เพื่อนชี้ก่อนจะบอกว่า “ไม่รู้ว่ะ กูไม่ทันสังเกต”
“เหรอ” นายมะยม...หมดความสงสัย
เขาเดินกลับไปยังที่เดิม เอาถุงใบนั้น ไปวางบนตู้เหล็กที่อยู่ข้างๆ...และเริ่มทำงานของตัวเองต่อไป
......
.....
....
...
..
.
อะไรของใครก็ไม่รู้ มีโน้ตเขียนบอกก็ไม่... อาจมีคนเอามาให้น้องพันซ์ก็ได้-----เหตุนี้นายมะยมจึงเอามันวางในจุดที่น้องพันซ์จะเห็นง่ายๆ
......
.....
....
...
..
.
เข็มนาฬิกาเดินมาถึงเลข 4.... หันหน้าออกมาบอกศรและนายมะยมให้กลับไปกันได้
แต่งานก็พวกเขาเล็งไว้ยังไม่ยุบเท่าที่ควร พวกเขาจึงทู้ซี้อยู่ต่อจนสองทุ่มถึงค่อยกลับ
......
.....
....
...
..
.
“หัวหน้า ผมปิดคอม ปิดไฟข้างนอกแล้วนะครับ” นายมะยมโทรเข้าไปบอก
“ครับ ขอบคุณ น้องหนูตื่นรึยังครับ?” หัวหน้าถาม
“ยังครับ ให้พาไปนอนในห้องมั้ยครับ?” นายมะยมมองเด็กชายที่นอนหลับปุ๋ยบนโต๊ะเรียงเอกสารซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ เครื่องถ่ายเอกสาร... โดยมีหมอนและผ้าห่มประจำตัวหนุนและคลุมไว้อย่างเรียบร้อย
“ไม่เป็นไรครับ” พูดจบปุ๊บสายก็ถูกวางลง
นายมะยมลุกขึ้นจากเก้าอี้ และเดินไปหาเพื่อนเพื่อจะเอากระเป๋า...ประตูห้องก็เปิดมาพอดี หัวหน้าเดินไปอุ้มลูกชายตัวเองเข้าไปในห้อง
นายมะยมเดินไปรับกระเป๋าจากเพื่อนและบอกลาหัวหน้าตัวเองอย่างพร้อมเพรียง “กลับก่อนนะครับ หัวหน้า”
“คุณลืมของรึเปล่า?” คนที่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องเอ่ยถาม
นายมะยมและนายศร---ไม่เข้าใจ
“ไม่นี่ครับ” นายศรบอก
“ถุงนั่น-----” หัวหน้าพูดพลางพยักเพยิ่นหน้าไปที่โต๊ะของน้องพันซ์
“อ๋อ ถุงนั่นอ่ะ ไม่รู้ของใครครับ” นายมะยมบอก
“อย่าวางทิ้งไว้แบบนี้ครับ เดี๋ยวหนู แมลงสาปจะมากินเละเทะห้องเปล่าๆ... ช่วยจัดการด้วยนะครับ” พูดจบหัวหน้าก็เดินหายเข้าไปในห้อง
นายมะยมพยักเพยิ่นหน้าให้นายศรหิ้วถุงนั้นมาและพากันเดินออกจากออฟฟิศ
“ที่มึงถามกูน่ะเหรอ?” นายศรถามเมื่อเดินออกมาจากแผนกแล้ว
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างที่ลงลิฟท์มา
พวกเขาแวะมาลงยังชั้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทของเพื่อนสนิทในก๊วน...งานแบบของนายต้นไม้ มักอยู่ทำงานกันจนดึก... เลยเที่ยงคืนไปถือเป็น----ปกติ
อันที่จริงนายศรบอกว่าของกินดูปลอดภัยและกินได้ แต่นายมะยมไม่ยอมกินท่าเดียว... ตัวนายศรเองก็ไม่ชอบของหวาน สุดท้ายขนมปังที่ไม่มีที่มานั้นจึงถูกส่งต่อไปให้---นายต้นไม้
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #269
คำที่แปดมันยาวมากเลยซาร่า :z3:
-
ลุ้นๆ จนหมดแรงแล้ว คนแต่งจ๋า เอาตอนหวานๆหลังจากเปิดตัวบุคคลปริศนามาเซ่นด้วยนะ
จนเพื่อนศรเขามีฟามสุขไปแล้ว อิบุคคลปริศนาก็ยังไม่เปิดตัวอยู่นั่นแหละ
รักนะแต่ไม่แสดงออก ใครเขาจะไปรู้ยะ ปล่อยน้องมะยมเขาเหงาใจอยู่ได้
คนแต่งจ๋าอย่าเพิ่งถอดใจนะตัวเอง เห็นอิโมแล้ว คนอ่านใจเสีย
เค้าชอบทุกเรื่องที่คุณแต่งเลยนะ :กอด1:
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินนำชายจากเมืองจีนสองคนเข้าไปยังสถานเริงรมณ์แห่งหนึ่ง
เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้นายมะยมเอารถตู้ของบริษัทมารับลูกค้าไปเที่ยวทะเลเมืองชล มื้อเที่ยงเขาพาคุณหวงและผู้ติดตามอีกสองคนไปทานอาหารทะเล... ช่วงบ่ายแก่เขาพาทุกคนกลับมายังโรงแรม
คุณหวงบอกว่า ทานมื้อเย็นให้ดึกหน่อยแล้วขอรบกวนให้พาผู้ติดตามสองนายไปลงอ่าง... ส่วนคุณหวงจะไปเดินเล่นในห้างใกล้โรงแรมเอง
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมออกมารออยู่ที่ร้านกึ่งผับแห่งหนึ่งใกล้ๆ บริเวณสถานเริงรมณ์แห่งนั้น... เขาเอามือถือสองเครื่องให้หนุ่มชาวจีนสองคนนั้นไว้แล้ว พร้อมบอกว่าหากจะกลับให้โทรมาบอก
อันที่ตริงอาตี๋สองคนนั้นชวนนายมะยมลงอ่างด้วยกัน แต่ก็นะ...มันไม่ใช่รสนิยมของนายมะยม นายมะยมไม่ใช่ดื่มนม----แต่บอกลูกค้าไม่ได้.... ‘แฟนผมเค้าไม่ชอบน่ะครับ ตามสบายนะครับ ผมรอได้’ ------ คำปฏิเสธจากนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
“ลุงไปนั่งในร้านด้วยกันมั้ยครับ?” นายมะยมชวนลุงสว่างที่มาทำหน้าที่โชเฟอร์ให้พวกเขาทั้งวันนี้
“ไม่ล่ะครับ ลุงขอนอนรอในรถดีกว่า จะได้พักสายตาด้วย” ลุงสว่างบอก
เขาก็ไม่ตื๊ออะไรลุงมากนัก เวลานี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว กว่าจะได้กลับโรงแรมอาจเลยเที่ยงคืน.... ให้ลุงได้พักบ้างก็ดี
นายมะยมจึงเดินเข้าไปในร้านกึ่งผับคนเดียว
บรรยากาศของเทศกาลคลุ้งไปทั่วทั้งร้าน.... ถึงฉลองอยู่คนเดียว แต่นายมะยมก็ไม่กระไรอย่างไร... ได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่ยิ้มแย้ม เขาก็รู้สึกดี----กว่าอยู่ในห้องคนเดียว..ลำพัง
......
.....
....
...
..
.
เที่ยงคืน
เสียงโห่ร้องและดนตรีบรรเลงเพลงประจำเทศกาล
นายมะยมโห่ร้องร่วมไปกับแขกที่อยู่ในร้าน
แขกที่เป็นชาวต่างชาติจูบและแสดงความรักกันอย่างเปิดเผย.... นายมะยมดูแล้วต้องอมยิ้มตาม
......
.....
....
...
..
.
สิ้นเสียงอึกทึก... จังหวะของเพลงก็เปลี่ยนมาเป็นทำนองที่ช้าชวนให้เคลิ้มไหว
......
.....
....
...
..
.
ผู้มาใช้บริการต่างจับคู่กันไปเต้นสโลว์ซบ.... ความหวานอบอวลร้านแห่งนี้อีกคำรบ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมสั่งเครื่องดื่มแก้วที่สี่กับบริการชาย
สักพักบริกรชายก็เดินกลับมาพร้อมแก้วสองใบและจานเล็กๆ หนึ่งอัน...บริกรวางมันทั้งหมดลงที่โต๊ะของนายมะยม
“น้อง พี่สั่งแค่นี้นะครับ พวกนี้ไม่ใช” นายมะยมเสือกจานเค้กหน้าตาน่ากินและเครื่องดื่มสีสวยเข้ากับบรรยากาศคืนพนักงาน
“มีคนฝากมาให้ครับพี่” บริการชายบอก
“ไม่เอาอ่ะครับ พี่ไม่รู้จักใคร” นายมะยมถือมากเรื่องการรับของจากคนอื่นในที่ที่ไม่คุ้นเคย แถมเวลานี้เขามาคนเดียวด้วย.... เหตุร้ายเกิดได้ด้วยความคิดน้อยของ.....ตัวเองเสมอ
“แต่ผมรับออเดอร์มาแบบนี้” พนักงานทำหน้าอึกอักชวนน่าสงสาร....
“โอเค ไม่เป็นไรครับ พี่รับไว้” นายมะยมตัดปัญหา---- รับไว้แต่เขาจะไม่กินก็ได้
“ครับ อ้อ คนที่ฝากมาฝากบอกว่า... You may not have known how I much love you.
” บริการชายพูดประโยคที่ถูกฝากบอกมาอย่างชัดถ้อยคำ แม้สำเนียงจะแปล่งไปบ้าง แต่เขาก็ฟังเข้าใจ
“ใครครับ? ชี้สิ” นายมะยมเริ่มสนใจ
“เค้าไม่ให้บอกครับ” บริกรบอกเขา
“แล้วรู้รึเปล่าที่ตัวเองพูด หมายถึงอะไร” นายมะยมถามย้ำกับพนักงาน
“รู้ครับพี่ ผมพอฟังภาษาอังกฤษออก” บริการยืนยันด้วยรอยยิ้ม.... เหตุแบบนี้เกิดบ่อยในที่แบบนี้ อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของร้านกึงผับแห่งนี้ ผู้มีใช้บริการเกินกว่าครึ่งดูจะเป็นคนต่างชาติ พนักงานในร้านจึงควรที่จะฟังภาษาสากลออก และพูดได้บ้างตามสมควร
“งั้นก็ชี้สิครับ พี่คาใจนะ” นายมะยมไม่ยอม
“บอกไม่ได้จริงๆ ครับพี่ แต่หน้าตาไว้ใจได้ครับ” บริการเจอกับนายมะยมครึ่งทาง
“ผู้ชายผู้หญิง?” นายมะยมยังไม่ยอม
“ผู้ชายครับ หน้าตาดีนะพี่ ตอนจะลับบ้านก็มองหลังบ้างนะครับ อาจมีคนมองตามพี่อยู่ก็ได้” บริกรบอกทริคให้นายมะยม
นายมะยมหัวเราะร่า...และกล่าวขอบคุณกับข้อเสนอแนะของอีกฝ่าย ดูท่าเขาคงไม่ใช่คนแรกและคนเดียวที่บริการชายคนนี้ต้องมาเป็นพ่อสื่อให้
......
.....
....
...
..
.
“You may not have known how I much love you.” นายมะยมทวนคำที่ได้รับมาด้วยหน้าที่อมยิ้ม “เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะมารักอะไร”…..
......
.....
....
...
..
.
ถึงเชื่อในรักแรกพบ..... แต่นายมะยมก็ไม่สะดวกที่จะรับไมตรีจากใครก็ไม่รู้ซึ่งเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
นายมะยมชอบที่จะเรียนรู้อีกฝ่าย ก่อนที่จะรับรักและบอกรักกับอีกฝ่าย
อายุและประสบการณ์สอนให้นายมะยมไม่ผลีผลามเดินเข้าไปใน ‘ตกหลุมแห่งความรัก’ แบบง่ายๆ เหมือนสมัยวัยรุ่น
......
.....
....
...
..
.
เวลานี้เขาต้องการคนที่จะอยู่เคียงข้างกัน....ตลอดชีวิต
ไม่ใช่ ‘แฟน’ หรือ ‘ใครสักคน’
......
.....
....
...
..
.
ดังนั้น เขาจึงนั่งเฉยๆ ไม่แตะเครื่องดื่มและขนมเค้กที่อีกฝ่ายส่งมาให้
เขานั่งเล่นต่ออีกครึ่งชั่วโมงได้ อาตี๋สองนายโทรมาตามเขา นายมะยมจึงลุกออกไปจากร้านแห่งนั้น
......
.....
....
...
..
.
ตอนที่เขาเดินพ้นประตูมาแล้ว เขาเหลียวหลังไปดูภายในร้าน----ตามที่บริการคนนั้นแนะนำ
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีสายตาของใคร…ที่มองมาทางเขา
......
.....
....
...
..
.
มีเพียงเสียงเพลงหนึ่งที่นายมะยมชอบ...เป็นการส่วนตัว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดิมฮัมเพลงนั้นไปยังสถานเริงรมณ์ที่ห่างจากกันระยะหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
โดยไม่รู้เลยว่า มีเจ้าของสายตาคู่หนึ่งซึ่งยืนอยู่ในมุมมืดของสวนด้านหน้าของร้านกึ่งผับแห่งนั้นเคยจ้องมองตามเขา--ในทุกอากัปกริยา
เจ้าของสายตาคู่นั้น ถอนหายใจยาว…. สิ่งที่ถูกส่งไป อีกฝ่ายไม่แตะเลยสักนิด
......
.....
....
...
..
.
ไม่เหนือความคาดหมายของเจ้าของสิ่งนั้น
......
.....
....
...
..
.
รองเท้าหนังเดินพาร่างของชายที่สวมกางเกงยีนส์สีหม่นเช้าไปยังลานจอดรถซึ่งอยู่หลังร้าน
......
.....
....
...
..
.
รถยนต์สีบอร์นเทาคันหนึ่งถูกขับออกมาจากร้านแห่งนั้นและมุ่งไปยังทิศทางซึ่งตรงกันข้ามกับทางที่นายมะยมเดินไป
......
.....
....
...
..
.
มือที่จับพวงมาลัยเคาะนิ้วไปตลอดทาง----เขากำลังครุ่นคิด
......
.....
....
...
..
.
รถมาจอดที่หน้าสวนหย่อมเล็กๆ แห่งหนึ่ง
ผู้ที่ขับรถเดินออกมาจากรถ และเดินตรงเข้าไปในตัวตึกซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกัน
เขาไม่ได้รอลิฟท์ เขาเดินขึ้นบันได
......
.....
....
...
..
.
รองเท้าหนังพาชายหนุ่มที่สวมกางเกงยีนส์สีหม่นมายังชั้น 5 โดยที่ร่างนั้นไม่มีอาการหอบเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #273
-
โอ้ววว พฤติกรรมนี้มันคุ้นๆนะ
แต่นึกไม่ออกว่าใคร ว้าาาาา
อยากรู้แล้วว่าคนคนนั้นเป็นใคร
จดจ่อกันต่อปายยย
-
ใครเขาจะกล้าไปกินยะ พ่อคู๊ณ ของใครก็ไม่รู้ ใส่ยาไว้ก็ตายสิ
กล้าเอาของให้เขา ก็กล้าไปจีบเลย อึมอยู่นั่นแหละจ๊ะ
ตอนนี้ ขอฟันธง ว่า ป๋องชัวร์
-
จดจ่อด้วยคน อิอิ
คำที่แปดแล้ว คำที่แปดเล่า โอ้วว~มันยาวจริงจอร์จ
ว่าจะเม้นๆ ก็กลัวไปปาด
ปกติชอบอ่านเรื่องยาวนะ แต่คนแต่งบอกว่าคำที่เก้าจบ
เลยกระวนกระวาย อยากรู้เฉลยอ่ะ เหอๆๆ
นี่ก็เฉลยมาหน่อยแระ คนกระซิบอยู่ชั้น 5 (ป๋องเรอะ?)
สงสัยจั๊งงง นายกางเกงสีหม่นชั้น 5 เป็นใคร
สงสัยจริ๊งงง นายป๋องแอบชอบใคร
สงสัยโค๊ดดด น้องหนูลูกใคร
ป.ล. ขอเป็นแฟนคลับภักดีนะ เห็นว่าหุ่นดี โอ้วว~น้ำลายไหล :z1: (คสบ.อื่นๆอีกเพียบ แต่อันนี้โดนสุด! :-[)
-
......
.....
....
...
..
.
เสียงโอ๊กอ๊ากดังขึ้นในห้องน้ำในสุดของที่แห่งนั้น
เสียงวิ่งตึงตังดังใกล้เข้ามาหาเขาเรื่อยๆ….
ปึง ปึง… เสียงเคาะประตูแรงๆ สองครั้ง
คนที่เกาะคอห่านอยู่ค่อยๆ ทรงตัวลุก…อย่างเชื่องช้า
“ไอ้ยม! เปิดสิวะ เหี้ยนี่! กูใจไม่ดีนะ” นายศรร้องบอกเขา
นายมะยมเอื้อมมือไปคว้ากลอน…และเปิด
ทันทีที่ประตูเปิด…นายมะยมก็หงายหลังไปนั่งเป๊ะที่ชักโครก นายศรเดินเข้ามาพร้อมผ้าเช็ดหน้าเปียก เขาเอาผ้านั้นโปะที่หน้าของเพื่อน
“แดกอะไรนัก ไม่รู้จักระวัง รู้ก็รู้ว่าวันนี้วันทำงาน มึงนี่ ไม่มืออาชีพเล๊ย” นายศรบ่นเพื่อน
“พวกไอ้ตี๋….เฮ้อ…กูไม่ระวังเองล่ะ” นายมะยมหมดแรงพูด
เมื่อคืนหลังจากออกมาจากสถานเริงรมณ์ อาตี๋สองนายขอให้เขาพาไปเที่ยวเธคของเมืองไทยสักสองชั่วโมง
เขาก็พาไป…. แต่ใครจะคิดว่า แก้วเหล้าที่ตัวเองดื่มมันจะมีบางอย่างใส่ลงไปเสริมด้วย
เขาไม่รู้ตัว รู้แค่ว่ามึนดี เมาดี…. กลับห้องก็นอนหลับดี
แต่ตื่นมาตอนที่ลุงสว่างขับรถมารับ…ตอนนั้นแหละ ทั้งมึนตึ๊บและอ้วกแตก
เขากินยาแก้เมามาแล้ว แคชต่มันมีแค่เม็ดเดียว…จึงเอาไม่อยู่
มาถึงที่ทำงาน เขาพยายามกลั้นแทบตาย กะว่าจะมาเอายาที่ไอ้ศรมากินอีก… ที่ไหนได้ ถึงชั้นที่ 30 ปุ๊บไอ้ตี๋สองนายก็สะกดอาการกระอักกระอ่วนของตัวเองไม่ไหวอีกแล้ว
เขาจึงต้องเอายาสองเม็ดที่เหลือของศรให้สองตี๋นั้นไปก่อน
คุณหวงด่าเปิงใหญ่…สองตี๋โดนเบิ๊ดกระโหลกไปคนละสองที โทษฐานดื่มมากจนเมาค้าง…เสียการเสียงาน
......
.....
....
...
..
.
“เดี๋ยวกูลงไปซื้อยามาให้มึงใหม่ มึงอยู่ได้มั้ยเนี่ย?” นายศรบอก
“เออ ไปเหอะ” นายมะยมเอนหลังพิงถังชักโครก
พอเขาได้ยินเสียงนายศรเดินออกไปแล้ว นายมะยมก็ลุกมาอ้วกอีกรอบ…
......
.....
....
...
..
.
“เฮ้อ-----” นายมะยมถอนหายใจยาว และเอาผ้าเช็ดหน้าที่เย็นเจี๊ยบมาวางแผะคุลมหน้าอีกครั้ง
ความเย็นและกลิ่นหอมสดชื่นทำให้เขาเริ่มสงบลง…นายมะยมหลับตาและพยายามอยู่นิ่งๆ
......
.....
....
...
..
.
เขาเพลียและเหนื่อยจากการอาเจียน… เขากำลังอยู่ระหว่างอาการเคลิ้มใกล้จะหลับ
......
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าหนึ่งเดินเข้าในห้องน้ำ… มันดังเป็นจังหวะ----ให้หัวใจของนายมะยมเต้นตาม
......
.....
....
...
..
.
แกร๊ก แกร๊ก---- เสียงแผ่วๆ ดังที่หน้าประตูห้องน้ำที่นายมะยมนั่งพักอยู่
จากนั้นเสียงฝีเท้าเดิมก็ค่อยๆ ดังไกลออกไป และหายไปในที่สุด
นายมะยมเอาผ้าเช็ดหน้าที่เย็นและหอมสดชื่นนั้นออกมาจากหน้า เขาพยายามทรงตัวลุก และเปิดประตูออกไปมอง----ไม่มีใคร
......
.....
....
...
..
.
ตอนที่เขาจะปิดประตูห้องน้ำ เขาได้ยินเสียงแกรบกราบดังอยู่ใกล้ๆ … เขาเดินออกมาจากห้องน้ำและมองไปที่บานประตูด้านนอก
......
.....
....
...
..
.
ถุงพลาสติกหนึ่งถูกแขวนไว้ที่ลูกบิดของประตูห้องน้ำที่เขาใช้อยู่
นายมะยมหยิบมันขึ้นมาดู---ของข้างใน….. แฮ๊งค์ 2 ขวด น้ำดื่มเกลือแร่อย่างดีของญี่ปุ่น 1 ขวด ยาแก้เมา 2 เม็ด
......
.....
....
...
..
.
และการดาษแผ่นเล็กๆ
-----ใช้มันนะครับ ผมรับรองความปลอดภัย-----
......
.....
....
...
..
.
ไม่ลงชื่อแต่ลงท้ายไว้ว่า ----ด้วยความเป็นห่วง-----
......
.....
....
...
..
.
“ไม่เอาน้ำเปล่ามาให้ด้วยล่ะครับพ่อคุ๊ณ แล้วจะกินยายังงะ-----” นายมะยมบ่นอุบไม่ทันจบคำ จู่ๆ เขาก็รีบผลุบเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง….โก่งคออ้วก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมกดน้ำล้างสิ่งสกปรก ปิดฝาชักโครก และนั่งอย่างหมดแรงอยู่บนนั้น เอาผ้าเช็ดหน้าเย็นๆ และหอมชื่นมาโปะที่หน้าตัวเองต่อ
เขาปวดหัวจะตายอยู่แล้ว… แล้วนี่มันของใคร อะไรกันอีก ขี้เกียจคิด!
......
.....
....
...
..
.
เมื่อหลับตาและนั่งนิ่งอีกครั้ง
ความทรงจำของเขาก็ถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นจากผ้าที่อยู่บนหน้าตัวเอง
กลิ่นเดียวกับทุกครั้งที่เขาได้ยินเสียงกระซิบ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมลองนึกทวนดูว่า เมื่อไหร่บ้างที่เขาได้กลิ่นนี้…
......
.....
....
...
..
.
หนึ่งในหลายครั้ง เขาคิดว่ามันเป็นความฝัน… คราวนั้นไม่มีคำกระซิบอะไร---ความอุ่นจากมือที่อีกฝ่ายกุม
......
.....
....
...
..
.
หากคำที่เขาได้ยินตอนไม่ค่อยรู้ตัวและมีสติดีนักเหล่านั้น----เป็นความจริง
หมายความคนคนนั้นทำงานที่นี่ หรือเป็นคนที่เกี่ยวกับกับที่แห่งนี้…. และหากความอุ่นของมือในวันนั้นเป็นความจริง… คนคนนั้นก็จะอยู่ที่หอพักเดียวกับเขาด้วย
......
.....
....
...
..
.
ตัวเลือกของนายมะยมเหลือเพียงแค่สอง---- สองจากคนที่เขารู้จัก… และหนึ่งในนั้นควรที่จะตัดทิ้ง เพราะมันกำลังลงไปซื้อยาแก้เมามาให้เขา
......
.....
....
...
..
.
เหลืออีกหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
เล่นแบบนี้ก็น่าสนดีนะ เล่นด้วยก็ได้------นายมะยมคิดในใจ
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินขึ้นตึก เสียงเรียกชื่อเขาดังลอยตามหลังมา เขาหันไปหาต้นเสียง…และยิ้มให้คนที่เรียกเขา
“พี่มะยม จะออกไปบ้านพี่ศรรึเปล่า?” คนที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหาเขาเอ่ยถาม
“ไม่ครับ ทำไมล่ะ มีอะไรให้พี่ช่วยเหรอครับ?” นายมะยมถาม
“ขอผมยืมหนังพี่มาดูได้ป๊ะครับ” นายป๋องถามด้วยสีหน้าลิงโลด
“ได้สิครับ ขึ้นไปเลือกเอาเองละกัน” นายมะยมบอก
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน ป๋องขอกลับห้องไปอาบน้ำก่อนแล้วถึงค่อยขึ้นไปห้องพี่มะยม
......
.....
....
...
..
.
พอนายมะยมอาบน้ำเสร็จ… ยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้า เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เขานุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวไปเปิดประตูแง้มมอง…ยังไม่ถอดโซ็คล้องประตูออก
“อุ้ย มาเร็วไปป๊ะเนี่ย” นายป๋องพูดออกตัว
“ป่าวครับ อาบเสร็จแล้ว เข้ามาสิ” นายมะยมเปิดกระตูให้กว้างขึ้น เชิญอีกฝ่ายเข้ามาในห้องตัวเอง “ป๋องเลือกเอานะ พี่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
“อื้ม ไว้รอพี่เลือกให้ดีกว่า” ป๋องบอกเขา
นายมะยมงง แต่ก็รับคำในลำคอ และเดินเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
หนังอะไรที่นายป๋องต้องรอให้เขาไปเลือกให้?
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินไปที่ตู้เย็นหยิบขวดน้ำออกมาก่อนจะถามรุ่นน้องว่า “ป๋องอยากได้หนังแบบไหนล่ะ?” เขายกขวดขึ้นดื่ม อึ๊ก อึ๊ก
“หนังเอวีน่ะพี่ ผมอยากรู้วิธีมีอะไรกับผู้ชายอ่ะ” นายป๋องบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“แค๊ก! แค๊ก! แค๊ก!” นายมะยมสำหนักน้ำเปล่า
......
.....
....
...
..
.
นี่มึงซื่อหรือมึงจะยั่วพี่วะ ไอ้ป๋อง-----นายมะยมคิดพลางไอโขลก…อย่างไม่สามารถหยุดได้ง่ายๆ
......
.....
....
...
..
.
“พี่มะยม เฮ้ย! ค่อยๆ หายใจพี่ ค่อยๆ” นายป๋องเข้ามาลูบหลังพี่มะยมด้วยความเป็นห่วง
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #278
-
นายป๋อง
ตอนนี้ตกเป้นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งไปโดยปริยาย ..
-
อั๋ยยะ :really2:
-
ป๋องหรอ? ไม่ม๊างงง
-
......
.....
....
...
..
.
ป๋องบอกว่า แอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอยู่…
อีกฝ่ายมาสารภาพกับเขาเมื่อวันคริสต์มาสที่เพิ่งผ่านมาได้แค่ 4 วัน
ป๋องบอกว่า เพิ่งเคยได้คบกับผู้ชายเป็นครั้งแรก ก่อนนี้ถึงแม้มีความรู้สึกดีๆ กับผู้ชายบ้าง แต่ก็ไม่เคยคบหากับผู้ชายคนไหนมาก่อน ฐานะแฟนของป๋องที่ผ่านมาจึงมักตกไปอยู่กับผู้หญิงซะมากกว่า
......
.....
....
...
..
.
ตัวเก็งที่เขามองไว้...ตกแท่น “บุคคลลึกลับ” ทันทีไม่พอ
......
.....
....
...
..
.
ยิ่งนึกถึงไอ้คนลึกลับนั่นก็ยิ่งโมโห!...
......
.....
....
...
..
.
หลังจากที่ให้ของในห้องน้ำเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั่นแล้ว
......
.....
....
...
..
.
วันต่อมาก็มีถุงขนมปังแบบโฮมเมคเหมือนเมื่อวันเสาร์ที่เขามาช่วยหัวหน้าทำงานพร้อมเครื่องดื่มเกลือแร่วางไว้ที่โต๊ะทำงานของเขา พร้อมกระดาษโน้ตที่เขียนว่า ---ด้วยความห่วงใย----
ด้านหลังของกระดาษเขียนว่า
----You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.----
ถามใครก็ไม่มีใครรู้เลย
......
.....
....
...
..
.
วันต่อมาขนมปังเปลี่ยนเป็นมัฟฟิ่นสองอันและกาแฟลาเต้ร้อนหนึ่งแก้ว… ถ้วยยังอุ่น----น่าเจ็บใจมาก
กระดาษด้านหนัายังคงเป็นข้อความเดิม ---- ด้วยความห่วงใย---
ด้านหลังของกระดาษเพิ่มขึ้น
----You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.----
ถามคนอื่นที่มาก่อนเขา
คนที่เห็นบอกว่ามีพนักงานจากร้านกาแฟ ชั้น 2 ของตึกเดินเอาขึ้นมาวางบนโต๊ะของนายมะยม
ตอนกลางวัน เขาลงไปถามหาคนที่ยกเอากาแฟขึ้นไปชั้น 30 แผนกต่างประเทศ…ปรากฏว่าไม่ใครรู้เรื่องและทำแบบนั้น… สักคนเดียว
......
.....
....
...
..
.
วันนี้ขนมปังเปลี่ยนเป็นเอแคลร์กล่องเล็กกล่องหนึ่งและกาแฟลาเต้ร้อนหนึ่งแก้ว… ถ้วยยังอุ่น----เหมือนเดิม
กระดาษด้านหนัายังคงเป็นข้อความเดิม ---- ด้วยความห่วงใย---
ด้านหลังของกระดาษเพิ่มอีกแล้ว
----You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.
But you will understand it someday.----
......
.....
....
...
..
.
ทีแรกเขาเก็งว่าเป็นป๋องเขาจึงยอมเฉย
แต่ตอนนี้นายมะยมเริ่มเปลี่ยนความคิด...แล้ว!
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมข่มความโมโหที่มีภายในและฟังที่นายป๋องเล่าต่อ
ป๋องบอกว่าตอนที่อีกฝ่ายมาสารภาพและขอให้คบด้วย ป๋องก็ดีใจแต่ก็ยังไม่รู้ว่าที่ตัวเองชอบนั้นคือความรักหรืออะไร ป๋องจึงขออีกฝ่ายว่าให้อยู่ในฐานะ “ดูใจ” กันไปก่อน…. ช่วงวันหยุดปีใหม่ที่จะถึงนี้เขากับคนคนนั้นมีนัดไปเที่ยวกัน
“เดี๋ยว! ดูใจกันแล้วจะรู้ไอ้เรื่องพวกนี้ไปทำไมครับ” นายมะยมที่อึ้งยังไม่หายสงสัย
“อ๊าว พี่มะยมนี่! ลูกผู้ชายนะพี่ มันต้องพร้อมรบเสมอ” นายป๋องบอก
นายมะยมไม่ไหวจะเถียงสู้นายป๋อง เขาจึงเอ่ยถามข้อมูลจากรุ่นน้องก่อน “แล้วฝ่ายนั้นน่ะ เค้ารุกหรือรับครับ?”
“เห็นบอกว่าเคยแต่รุก” นายป๋องบอก
“งั้นป๋องก็มีเรื่องต้องรู้เยอะหน่อยนะ” นายมะยมพูดพลางหันไปที่ชั้นหนังเอวีจากต่างแดน เขาเลือกเอาที่มีฉากซึ่งเตรีมความพร้อมให้ฝ่ายรับเยอะๆ หน่อยมาให้ป๋อง
พอยื่นกล่องดีวีดีสามสี่กล่องไปให้ป๋องแล้ว นายมะยมจึงหันไปหยิบกระดาษปเล่ามาจุดของจะเป็นสำหรับการเป็นรักให้นายป๋องไปวื้อเครียมไว้ “เดี๋ยวพี่จดของใช้จำเป็นให้ป๋องไปหาซื้อเองนะ”
“ครับ พี่มะยมเนี่ยน่ารักจัง” นายป๋องชมเปราะ
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า…. น่ารักแต่ไม่เห็นมีใครรักพี่สักคน” นายมะยมบ่นอุบ
“อ้าว ผมยังเคยชอบพี่เลยนะ แต่พี่อ่ะ เอาแต่มองน้องกัส” นายป๋องทำปากจู๋…ไม่พอใจ
“ห๊า!” หนุ่มตี๋เทรนเกาหลีในดวงใจ แอบชอบตัวเองไม่พอ ยังใช้ว่าคำว่า “เคยชอบ”....รูปอดีตในภาษาไทย---
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมช็อครอบสอง----- ใครก็ได้บอกทีว่าวันนี้เป็นวันโลกาวินาศรึยังไง
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่หัวใจของนายมะยมกำลังคลุ้มคลั่งอยู่เงียบๆ แต่ฝ่ายเดียว ป๋องก็เอ่ยถามเขา
“พี่ ไอ้ที่สวนเนี่ยพี่จะให้ผมใช้เองเหรอ?” คิ้วนายป๋องขมวดปม
“อ้าว ก็ป๋องต้องเป็นอีกขั้วนี่ครับ” นายมะยมบอก
“เฮ้ย! ไม่ใช่นะ ผมไม่เอานะ ฝ่ายรับอ่ะ!” นายป๋องตาโตเท่าไข่ห่าน
“เอ่อ... เรื่องนั้นไปตกลงกันเองนะครับ” นายมะยมมึนตึ๊บ
“พี่ขีดออกเลย เอาแต่ที่คนเป็นฝ่ายรุกใช้ดิ” นายป๋องยื่นกระดาษมาคืนพี่มะยม
นายมะยมปวดเส้นประสามที่ขมับตุ๊บตุ๊บ----
......
.....
....
...
..
.
“ป๋องครับ! ถึงเราฝ่ายเป็นรุก แต่เราก็ควรรู้เรื่องของอีกฝ่ายด้วยนะครับ เขาจะได้ประทับใจเราไง เอาไปเตรียมให้พร้อมแหละดี เชื่อพี่ รู้เขารู้เราร้อยศึกมิพ่ายเคยได้ยินมั้ยครับ” นายมะยมชักแม่น้ำทั้งแปดมาให้รุ่นน้อง
เขาไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายที่มาสารภาพรักกับป๋องจะปล่อยให้ป๋องลอยนวล---- สรีระไอ้คุณป๋องมันให้เป็นรับซะขนาดนั้น
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
วันสุดท้ายของปีเก่า เพื่อนในก๊วนมากันพร้อมหน้า… คนที่มีแฟนก็พาแฟนมาด้วย เวลานี้ในก๊วนเหลือแค่เขาคนเดียวที่ยังโสด
......
.....
....
...
..
.
พวกเขามานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งก่อนที่จะไปต่อ
นายมะยมเล่าเรื่อง “นายลึกลับ” ที่มากระซิบและแอบเอาของมาให้ตัวเอง…ให้เพื่อนๆ ฟังอย่างละเอียด
......
.....
....
...
..
.
“จริงหรือแกล้งกูไม่รู้ แต่กูไม่ชอบ ทำอะไรลับๆ ล่อๆ… ส่อแววไม่น่าไว้ใจ คนแบบนี้กูไม่เอาหรอก!” นายมะยมพูดเสียงเด็ดขาด
“ทางนั้นเค้าอาจมีเหตุจำเป็นก็ได้นะครับพี่มะยม” น้องกัสที่เคยตกอยู่ในสภาพนั้นกลายๆ ยื่นมาจับแขนของพี่มะยม.... แฟนของน้องกัสก็ยื่นมือมาหยิบมือของน้องกัสออกไปแขนเขาแทบจะในทันที
“มึงอย่าเผลอนะไอ้ศร!” พี่มะยมกัดฟันกรอด
“ฮ่าฮ่าฮ่า…มึงก็ตามหาเค้าซี่ กูยังตามเลย” นายกันบอก
“ไม่! ไม่ใช่สเป็คกู” นายมะยมบอก
“มึงรู้จักเขาแล้วรึไงถึงบอกว่า เขาไม่ใช่สเป็คมึง” นายศรย้อนเพื่อนตัวเอง
“ก็ชอบคนใจๆ แฟร์ๆ กล้าๆ ไม่ใช่อะไรแบบนี้ แค่ทำเท่าที่ผ่านมาทั้งหมดนี่ก็ติดลบจากกูไปแหละ! คนคนนี้ไม่ใช่…สำหรับกูว่ะ!” นายมะยมบอก
“คุณมะยม เคยคิดแบบนี้มั้ยครับ คือระหว่างที่เรามองหาคนที่ใช่....” เชษฐเงียบไปสักพักพอให้ผู้ฟังอึดอัดจึงค่อยพูดต่อว่า “เราอาจมองข้ามคนที่รักเราอยู่....ก็เป็นได้นะครับ”
นายกันตบอกแฟนตัวเองฉาดฉาดพร้อมพูดว่า “แฟนกูเอง! แฟนกูเอง! คมตัวพ่อมั้ยล่ะมึง ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะครืนดังขึ้นมาจากในโต๊ะ
นายมะยมยกแก้วเหล้าขึ้นซด...หมดแก้ว
......
.....
....
...
..
.
ไม่ชอบใจ…สุดๆ!!!!
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #284
-
อั๊ยยะ
ตกแท่นไปแล้ว งั้นใคร ใคร ใครกัน!!!
-
ลุ้นจน ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว อยากรู้มากใครกัน :z3:
-
โอ้ยตายละ คนอ่าน จะเป็นเชอล็อก โฮม โคนันกันหมดแล้ว
-
แอบโล่งใจที่ไม่ใช่ป๋อง งี้หัวหน้าก็มีลุ้นอ่ะดิ (แต่หัวหน้ามีครอบครัว?)
-
......
.....
....
...
..
.
เสียงเพลงในจังหวะที่แรงและเร็วดังกลบไปทั้งเธค
ยิ่งดึกบรรยากาศก็ยิ่งคึกคัก
ยิ่งใกล้เที่ยงคืนคนก็ยิ่งเบียดเสียดกันมาขึ้น
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมดื่มลืมเมา เต้นจนลืมหายใจ…. สั่งลาปีเก่า
เขากะเมาให้ปลิ้น… แล้วเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสดใส
......
.....
....
...
..
.
ลาทีปีที่ชอกช้ำ
......
.....
....
...
..
.
ลาทีปีที่วุ่นวาย
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเตรียมปล่อยทุกอย่างไปกับปีเก่า
......
.....
....
...
..
.
ไม่เอาอะไรอีกแล้ว
......
.....
....
...
..
.
ปีใหม่ก็เริ่มใหม่
......
.....
....
...
..
.
มองหาคนใหม่
......
.....
....
...
..
.
ต้องมีความรักรอเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในปีที่กำลังจะมาถึงนี่สิน่า
......
.....
....
...
..
.
“10!” เสียงบรรเลงเพลงหยุดกึก เหลือเพียงเสียงดังจากไม์...บนเวที
......
.....
....
...
..
.
“9” ทั้งนายมะยมและคนรอบข้างต่างแข่งกันตะโกน----นับถอยหลัง
......
.....
....
...
..
.
“8”
......
.....
....
...
..
.
“7”
......
.....
....
...
..
.
“6”
......
.....
....
...
..
.
“5” ------ ไฟในเธอดับวูบลงทั้งหมด ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งใดได้---เลย
......
.....
....
...
..
.
“4” ------ ข้อมือของนายมะยมถูกใครคนหนึ่งจับและตึงไว้กับร่างของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“3” ------ นายมะยมพยายามดิ้น….ไม่หลุด
......
.....
....
...
..
.
“2”----- กลิ่นน้ำยาโกนหนวดสดชื่น…ที่เคยได้กินมาแล้วหลายครั้ง โชยเตะจมูกของนายมะยม… มันมาพร้อมลมหายใจที่ดังอยู่ข้างหู
......
.....
....
...
..
.
“1”------
เสียงกระซิบบอกที่ข้างหูของเขา….เสียงแผ่วที่นุ่มนวลชวนให้ละลาย
“You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.
But you will understand it someday.”
......
.....
....
...
..
.
“0!!!!! สวัสดีปีใหม่” เสียงจากเวทีดังนำ และเสียงจากทุกผู้ทุกคนก็ดังเกียวกราวตาม
เสียงบรรเลงเพลงสวัสดีปีใหม่ดังขึ้นมาอย่างกระหึ่มท่ามกลางความมืด!!!!
......
.....
....
...
..
.
ใครไม่รู้มาชนนายมะยม… เขาเสียหลักเซไปข้างหลัง…ชนเข้ากับอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา---มือที่เคยจับข้อมือเขาไว้ไม่แน่นไม่ยอมปล่อย เปลี่ยนมาโอบประคองเขาไว้
กลิ่นมินต์สดชื่นอบอวล…ตัวนายมะยม
ชั่วอึดใจที่นายมะยมทรงตัวยืนได้ อ้อมกอดนั้นก็คลายลง นายมะยมรีบกลับหลังหัน
......
.....
....
...
..
.
ไฟสว่างโร่!!! ในฉับพลัน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหลับตา เพราะสู้กับแสงสว่างที่จู่ๆ ก็เปิดพรึ่บขึ้นมาไม่ได้!
......
.....
....
...
..
.
ชั่วกระพริบตา----- นายมะยมพลาด!!!
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหันซ้ายแลขวาไปตามทิศที่ใกล้ๆ มองหาคนที่แปลกกว่าคนอื่น… คนที่เดินแหวก คนอื่นๆ
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีเลย…ใครที่ทำท่าแบบที่นายมะยมคิด
ทุกคนที่อยู่กลางลานหน้าเวที ต่างจับกลุ่มกัน คุยบ้าง ดื่มฉลองบ้าง สวีทกันบ้าง … ทุกคนต่างยืนเฉยๆ ไม่ไก้เดินไปหาอีกกลุ่ม
......
.....
....
...
..
.
“เพลงแรกของปีใหม่ วงเราขอยกให้ตามคำของพิเศษของชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาฝากบอกว่า ….คุณมะยม ถึงผมไม่ใช่ผู้ชายในสเป๊คคุณ แต่ผมก็มีแต่ความห่วงใยและความหวังดีให้แก่คุณ ขอโทษที่ทำให้ไม่รู้สึกไม่ดี แต่…. ลองฟังเพลงนี้ดูนะครับ ……วัน ทรู ทรี!”
http://youtu.be/hZXc-1AMjGU
......
.....
....
...
..
.
เมื่อเพลงบรรเลง
ทำนองและคำร้องที่เขาชอบดังขึ้น
......
.....
....
...
..
.
พร้อมเสียงกระซิบที่จากไปแล้ว ทว่า เสียงกระซิบนั้นยังคงดังอยู่ในหัวใจของ....นายมะยม
......
.....
....
...
..
.
You may not have known how I much love you.
อาจยังไม่เห็นว่ารักมากมาย
......
.....
....
...
..
.
You may also have question about this guy.
อาจยังสงสัยผู้ชายคนนี้
......
.....
....
...
..
.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.
อาจยังไม่เห็นสายตาแห่งความหวังดี
......
.....
....
...
..
.
But you will understand it someday.
แต่เธอก็คงเข้าใจมันสักวัน.
......
.....
....
...
..
.
ต่อ...reply #293
:m2: แปดครบแย้ววววว
-
อ๊ากกกก
กรีดร้องด้วยความโหยหวนนน
ทำไม ทำไม ทำไม ไม่รีบคว้าเอาไว้นะนายมะยม
คนอ่านลุ้นฉี่แทบราด แต่ แต่ก็ยังไม่เจอ TT
จดจ่อกันต่อไป ..
-
เป็นนินจาหรือไงน๊า
แวบไปแวบมา นายมะยมจับไม่ได้ไล่ไม่ทันซักที
อ๊ากกกกกกกกก อยากรู้เฟ้ยยยยว่าใครกัน
แล้วก็จดจ่อตามอีกคน
-
มา ม้วนเดียวจบกันเลย
ใครที่ทำงานพรุ่งนี้ ก็นอนเร็วๆ นะคะ ...ตื่นมาค่อยอ่าน หรือเสาร์-อาทิตย์นี้ค่อยอ่านก็ได้
คำที่เก้า ความยาวไม่แพ้กัน
ช่วงของ [กระซิบ] มีแต่การเล่า ไม่มีฉากเข้าพระ-นายเลย!!!!... เย็นไว้นะโยม :จุ๊บๆ:
-
กรี๊ด...... ไม่ไหวแล้ว
ลุ้นมาก อ่านถึงตอนลืมตาแล้วอยากจะปาข้าวของ อ๊าก....
-
เข้ามากรี๊ดอีกรอบบบบ และรอต่อไปอย่างสงบ
-
นายกระซิบ = สโตคเกอร์
ตามติดมะยมไปทุกที่เลย ใครว้า
:really2:
บวกเป็ด
-
ไม่เข้าใจเฟ้ย o22. จะเผยตัวไม่ได้หรือไงฟะ มาขนาดนี้แล้ว
อยากเขวี้ยงเปลือกทุเรียนใส่อิลึกลับแล้ว จะเอาไงก็เอาสักทีดิ
ป๋องตกรอบไปแล้ว งั้นเอาใหม่ เป็นต้นไม้แทนละกัน
เดาจากที่คุณเชษฐ์พูด
คืนนี้จะลงจบเลยเหรอคะ เราจะได้รอ ทนไม่ไหวแล้ว อ่านรู้มว๊ากกกก
-
อ่านตอนแปดจบ อารมณ์นี้เลยยยยย
>>>>>>>>>> ใครฟร้าาาาา :serius2: :m31:
-
คำที่เก้า
*** สมมุติว่า....โลกนี้เหลือผมกับคุณแค่สองคน
อยากรู้ว่าคนนอกสเป็คอย่างผมจะมีสิทธิบ้างไหม
...
..
.
หากคุณพบว่าผมไม่ได้เพรียบพร้อมอย่างใครๆ ที่คุณวาดฝันไว้
คุณจะรังเกียจผมไหม...
...
..
.
หึ....ก็แค่ฝันเล็กๆ ของคนเพ้อเจ้อคนหนึ่ง
...
..
.
ก็ได้แค่คิด
...
..
.
....ไม่กล้าทำมันจริง***
-
โอ๊ยย
พ่อหนุ่มไม่ตรงสเป็ค
รีบๆโผล่ออกมาให้เห็นหน้าได้แล้วนะคะ
รอนานแล้ว ไม่อยากได้ยินแค่เสียงกระซิบ
อยากเห็นตัวเป็นๆ
-
ชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อน กางเกงเสล็คสีดำ รองเท้าหนังสีดำ... เหมือนพนักงานออฟฟิศทั่วไป เดินลงมาจากรถยนต์... เขาเดินเข้ามาทางด้านหลังของตึกที่ทำงาน
ปกติเขาจะเดือนไปทางที่ตั้งของลิฟท์ เละขึ้นไปยังที่ทำงานของตัวเองทันที... แต่หลายเดือนมานี้ เขาต้องเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของตึกก่อน
......
.....
....
...
..
.
เขานั่งดื่มกาแฟที่มุมลับตาหนึ่งของร้านกาแฟ... เด็กสาวหน้าเดิมเดินมาหาเขา พร้อมแก้วกาแฟที่เขาสั่ง
“อาทิตย์ก่อน พี่เค้านั่งรอกาแฟด้วยนะคะ บ่นหนูด้วยว่ามาช้า” เด็กสาวกระซิบกระซาบบอกข่าวคราวเล็กน้อยกับเขาตอนที่ก้มวางแก้วและจัดวางให้ลูกค้าอย่างเป็นระเบียบ
“แล้วยังถามหาคนให้อยู่ไหม?” เขากระซิบถามเด็กสาว
“ไม่ได้ถามตั้งแต่อาทิตย์ก่อนนั่นแหละค่ะ” เด็กสาวกระซิบตอบ
เขายิ้มนิดๆ.... “ขอบคุณครับ วันนี้เอาเอสเพรชโซ่นะครับ”
“ค่ะ” เด็กสาวยิ้มให้หนุ่มออฟฟิศคนนั้น และเดินออกมาสั่ง... กาแฟเอสเพรชโซ่หนึ่งแก้ว...ไม่ทานที่ร้าน
สักพักหนุ่มออฟฟิศคนนั้นก็ลุกไปจากที่นั่ง เขาเดินไปจ่ายบิล.... กาแฟสองแก้ว
เสร็จแล้วก็เดินจากไป
เด็กสาวคนเดิมเดินมาเก็บแก้วที่โต๊ะของหนุ่มออฟฟิศคนนั้น....ในถาดมีแก้วกาแฟร้อนหนึ่งใบ และถุงกระดาษขนาดพอเหมาะมือหนึ่งถุง
เธอเช็ดโต๊ะด้วยใบหน้าอมยิ้ม
......
.....
....
...
..
.
“เอสเพรชโซ่ได้แล้ว” พี่ที่ทำหน้าที่ชงกาแฟร้องบอกเธอ
เด็กสาวหยิบถุงขนมในถาดติดมือมารับกาแฟถ้วยนั้น…และเดินออกไปจากร้าน
......
.....
....
...
..
.
อันที่จริง ร้านของเธอไม่มีบริการยกขึ้นไปให้ถึงแผนก...
ครั้งแรกที่เธอรับสินจ้างให้เอาขนมซึ่งชายหนุ่มถือติดมาด้วย และเอามันขึ้นวางบนโต๊ะเป้าหมายพร้อมกาแฟจากร้านของเธอ...เธอคิดว่าแค่ครั้งเดียว เธอจึงบอกคนที่ร้านว่า เธอขอไปเข้าห้องน้ำ
ไม่ทันไรจากที่เธอกลับมาถึงร้าน หนุ่มออฟฟิศหน้าตาธรรดาแต่มีเสน่ห์ด้วยรอยยิ้มคนหนึ่งมาถามหาคนที่ขึ้นไปส่งกาแฟที่แผนกต่างประเทศ ชั้นที่ 30...
เพราะไม่ได้บอกใคร จึงไม่มีใครรู้... และทุกคนก็ตอบว่าไม่รู้ ทางร้านเราไม่มีบริการแบบนั้นด้วยความจริงใจ
......
.....
....
...
..
.
วันต่อมา หนุ่มออฟฟิศคนเดิมก็มาว่าจ้างเธออีก...
......
.....
....
...
..
.
ครั้นทำไปเรื่อยๆ ได้หนึ่งอาทิตย์ ผู้จัดการร้านก็จับได้... เธอขอแลกเวลาที่เสียไปกับการเดินขึ้นไปส่งกาแฟด้วยการเพิ่มเวลางานให้อีกในช่วงที่เท่าๆ กัน
เดิมทีชายที่ว่าจ้างเธอไม่รู้... แต่มีวันหนึ่งที่เธอกำลังเตรียมของอยู่ด้านใน พอเขาโทรตามและเธอรีบเดินออกมา ปรากฏว่าผู้จัดการบอกทุกอย่างกับเขาไปหมดแล้ว
......
.....
....
...
..
.
เด็กสาวถูกชายที่ว่าจ้างเธอโดนดุว่าไม่บอกในสิ่งที่ควรบอก
......
.....
....
...
..
.
แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้ทำหน้าที่นั้นไปตามเดิม ด้วยความยินยอมจากผู้จัดการร้าน.... ดูจากท่าทางที่ผู้จัดการร้านปฏิบัติและพูดคุยกับเชาแล้ว เธอคิดว่าพนักงานออฟฟิศรายนั้นคงมีตำแหน่งใหญ่โตใช้ได้ทีเดียว
แน่นอนว่า คนอื่นในร้านผิดสังเกตบ้าง แต่ผู้จัดการสั่งว่าแก้วนี้เป็นพิเศษต้องให้เธอไปส่งทุกวัน... คนอื่นๆ จึงไม่กล้าซักไซ้ไล่เลียงเธอ---- แน่นอนว่า เป้นความลับของร้าน ระดับเดียวกับสูตรของกาแฟ
......
.....
....
...
..
.
เธอยืนนิ่งๆ อยู่ในลิฟท์ที่แน่นไปด้วยพนักงานกินเงินเดือนซึ่งสวมใส่เสื้อผ้าที่สวยและดูภูมิฐาน… ก่อนนี้เธอเคยนึกอิจฉาเหล่าชนพวกนี้
แต่แล้ว… การเป็นพนักงานบริการในร้านกาแฟเล็กๆ ถึงแม้จะเหนื่อย แต่เธอก็ไม่มีเรื่องผูกพันให้ปวดขมองไปถึงบ้าน----เด็กสาวพอใจแล้วกับงานสุจริตที่ตัวเองได้ทำ
......
.....
....
...
..
.
สาววายจนๆ ตัวเล็กๆ แบบเธอ----- กำลังทำหน้าที่ยิ่งใหญ่อยู่นะเอ้อ!!
......
.....
....
...
..
.
-
แม้....อยากเป็นแม่สาวส่งกาแฟนี่จริงๆนะเออ
จดจ่อกันให้ถึงที่สุด
-
จริง! เริ่มรู้สึกเหมือนมะยมแล้ว......นายกระซิบนี่คือใครหว่าาาา
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง… เขาหันเก้าอี้ไปทางประตูเข้าออกของแผนก
นายศรเดินหน้าเหี่ยวเข้ามา…. วันนี้น้องกัสเดินทางไปแล้ว หมดเวลาฮันนีมูน
นายศรวางกระเป๋าและนั่งลงที่เก้าอี้ พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่
“กูให้ยืมค่าตั๋วไป-กลับมั้ย?” นายมะยมแซว
“ไอ้บ้า! ยังไม่ถึงวันเลย” นายศรขยับเท้าจะกระทืบเท้าของเพื่อน แต่เพื่อนหลบได้ทันและบอกทิ้งท้ายด้วยว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า…… หมาหงอยเลยนะมึง สมน้ำหน้า”
นายมะยมลุกหนีเพื่อนที่ตามมาจะเอาเรื่อง เขาสาวเท้าถอยหนี---- “เฮ้ย! ระวัง!”
นายมะยมถอยไปชนกับคนคนหนึ่ง เขาเห็นแขนขาวๆ ของคนที่อยู่ด้านหลังด้วยหางตา เขาตั้งหลักได้ และคว้าแขนของอีกคนไว้….ไม่ให้ล้ม
“ขอโทษครับหัวหน้า!” นายศรเดินไปหาหัวหน้าแผนกของตัวเองและรีบเก็บกระเป๋าที่ตกลงพื้นขึ้นมาให้
“โกเมนนาไซ!” นายมะยมรีบกลับหลังและก้มหัวเสียครึ่งตัว
“ฮื้อ! ภาษาไทยก็ได้! ระวังกันหน่อยสิครับ ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้วนะ” เสียงเข้มดุพวกเขา
นายศรก้มหัวให้ครึ่งตัวเท่าเพื่อน… เล่นด้วยกันก็รับผิดด้วยกัน-----
หัวหน้าไม่พูดอะไรอีก เขาเดินเลยพวกเขาไป….และเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“เกือบโดนแล้วมั้ยล่ะ! มึงนี่เล่นห่าไรไม่รู้จักดูเวลา” นายศรดีดหูเพื่อนระบายอารมณ์
“……..” นายมะยมร้องอูย แต่ไม่ต่อปากเหมือนเดิม
“มึ-----” นายศรยังถามไม่ได้สักคำ นายมะยมก็ร้องแทรกขึ้นมาก่อน
“รอตั้งนานแน่ะ ไหนวันนี้มีอะไรมาให้กินครับ?” นายมะยมเดินเข้าไปรับแก้วกาแฟ และถุงขนมปัง
“เอสเพรชโซ่ค่ะ!” เด็กสาวคนเดิมกับทุกๆ ครั้งบอกเขาด้วยรอยยิ้ม เธอมอบของเสร็จก็เดินออกไปทันที… ไม่เคยยอมคุยเล่นกับนายมะยมสักครั้งเดียว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเพียรถามเด็กสาวทุกวัน กะให้เธอเผลอและออกปากมาเอง ทว่า ไม่ว่าอย่างไร เด็กสาวคนนี้ก็ไม่ยอมบอกว่าใครที่สั่งให้เธอเอาของพวกนี้มาให้เขาทุกๆ วัน… เดือนกว่าแล้ว เขาจึงเลิกที่จะถามและรอของฟรี…
ขนมที่เขาได้มาในทุกวัน เหมือนทำใหม่ทุกวัน พวกมันเปลี่ยนไปทุกวันไม่ค่อยซ้ำกันในรอบหนึ่งอาทิตย์ ขนมพวกนั้นไม่ใช่ของทางร้าน… แม้ขนาดเด็กสาวเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าวันนั้นๆ เธอถืออะไรมาให้เขา---- เธอจะรู้แค่รสของกาแฟเท่านั้น!
นายมะยมเคยปรึกษาเพื่อน และเพื่อนๆ ก็บอกให้ไป--- สอดแนม…. แต่ทำเองนะ ไม่มีใครยอมช่วย!
พวกมันสนุกกับคืนวันปีใหม่นั้นมาก…. ไอ้กันกับเพื่อนเขยทำหน้าเป็นปลื้มเหมือนตอนที่กำลังจีบกันใหม่ๆ-----*0*
......
.....
....
...
..
.
ถึงกระนั้นใจหนึ่งมันก็สั่งว่า อย่าไปอยากรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร… ใจหนึ่งของเขามันไม่ชอบการกระทำของอีกฝ่าย----ดังนั้นถึงอยากรู้ แต่เขาก็คิดไม่ขวนขวาย
......
.....
....
...
..
.
ตอนนี้เขามีคนน่า “รัก” คนใหม่แล้ว…. ครั้งนี้ไม่โดนคดีพรากผู้เยาว์แน่นอน…. แต่ก็ยังแค่หลักสิบ
น้องบอส----นักศึกษาฝึกงานของแผนกไอ้กันนั่นเอง
......
.....
....
...
..
.
น้องบอสเหมือนมีทีท่าเหมือนโอนเอียงมาหานายมะยม… แต่รักครั้งนี้มีไอ้กันเป็นก้างชิ้นใหญ่----มันกับเพื่อนเขยเข้าข้างไอ้คนลึกลับนั่น!
......
.....
....
...
..
.
“กูไม่รอกับมึงแล้วนะ เชี่ย! น่าเบื่อว่ะ” นายศรบ่นเพื่อน และบอกลาที่จะยืนรอน้องบอสลงมาทานมื้อกลางวัน
ทุกวันนายมะยมจะยืนรอน้องบอสที่ทางเดินก่อนถึงประตูใหญ่ของตึก…
ครั้งแรกก็ใช้มุกบังเอิญเจอ… เพราะน้องบอสเดินลงมากินข้าวพร้อมไอ้กัน… ทักทายเสร็จก็ทำเป็นว่าไปกินพร้อมเพื่อนตัวเอง
บอสมาฝึกงานที่นี่คนเดียว จึงมักตามพี่ๆ ในแผนกไปกินข้าวกลางวัน… กับพี่คนนั้นบ้าง พี่คนนี้บ้าง….
หลังๆ ที่เปิดตัวแล้วว่าจีบน้องบอสนะคร๊าบ…. นายมะยมไม่ใช้บริการจากใครอีกแหละ มารอเองเลย
“หวัดดีครับพี่มะยม” เสียงใสกิ๊กไม่ต่างจากหน้าทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม
“ป๊ะ อยากกินไรครับ” นายมะยมถาม
“อ้าว พี่อีกคนไม่มาเหรอครับ” น้องบอสถาม
“อ๋อ มันจะรีบกินน่ะครับ เลยแยกไปแหละ ไม่สะดวกใจที่จะไปกับพี่เหรอครับ?” นายมะยมถาม
“ปะ.. เปล่าครับ กินอะไรก็ได้ อืม เอาเป็นข้าวก็ดีครับ” น้องบอสรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ครับ งั้น็เดินไกลหน่อยนะ แต่มีของให้เลือกเยอะ” นายมะยมบอกและเดินนำน้องบอสไปที่ศูนย์อาหารแห่งหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในห้างสรรพสินค้า
......
.....
....
...
..
.
น้องบอส…หน้าตาไม่เหมือนน้องกัส แต่มีส่วนนิดๆ ที่คล้ายกัน
อันที่จริง นายมะยมไม่ได้มองหากัสในตัวใคร
เขาแค่ชอบแบบนี้ น่ารัก น่าเอ็นดู…งอแงบ้างบางที ---- ก็มีความสุขไปอีกแบบ
......
.....
....
...
..
.
ตอนที่บอกน้องบอสว่าขอจีบ… น้องทำหน้าเหวอไปชั่วขณะ----เหมือนนึกไม่ถึง
......
.....
....
...
..
.
“เอ่อ…ผมยังไม่รู้จักพี่มะยมดีเลย… เลย เลย” น้องบอสติดคำนั้นและไปต่อไม่ได้
“งั้นก็ดูๆ กันไปก่อน… พี่แค่อยากบอกให้น้องรู้ตัวว่าเท่านั้นครับ ไม่ใช่จะเอาคำตอบเลย” นายมะยมหย่อนเบ็ด
“ครับ! แต่ผมยังเด็ก ผมอาจน่ารำคาญสำหรับพี่มะยมก็ได้นะครับ” น้องบอสบอกด้วยใบหน้าเขินอาย
-----ปลาฮุบเหยื่อ!
“เท่าที่ชอบอยู่เนี่ย พี่ยังไม่เคยนึกรำคาญสักครั้งนะ มีแต่คิดว่าน่า ‘รัก’ ” นายมะยมเน้นคำหลังให้ชัดๆ
หน้าที่แดงไปถึงใบหูก้มลงมองจานข้าวและไม่เงยขึ้นอีกเลยจนนายมะยมแยกจากน้องบอสที่ในลิฟท์
......
.....
....
...
..
.
-
ถึงกับขำกิ๊กแม่สาววายตัวเล็ก ๆ กับหน้าที่อันยิ่งใหญ่
เดาผิดจนหัวทิ่มมาหลายรอบแล้ว ยังเหลือใครให้เดาอีกนี่
เห็นชื่อนายต้นไม้หลายรอบ แต่นี่ต้องไปชิงกับไตรเรื่องหินนินา
อย่าว่าแต่นายมะยมจะไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้เลย คนอ่านก็เริ่มเครียดนิด ๆ แล้ว
อ้าวหันไปตกเหยื่อรายใหม่ซะแล้ว สเป็คนายมะยมต้องวัยนักศึกษา น่ารัก ๆ สินะ
-
นายมะยมนี่ก็ไปเรื่อยเปื่อย
แต่หัวใจมันก็ยังตงิดๆอยู่กับพ่อมึง
อยากกรีดร้อง หาแว่นดำ แว่นขยาย ชุดโค๊ช
จะไปเป็นนักสืบ!!!
-
หัวหน้า พ่อมึง กรี๊ดๆ
-
รอหัวหน้า นะ
-
แอบเซ็งนิดหน่อย
นายมะยมได้เหยื่อใหม่ แล้วชายลึกลับเล่า!
แบบว่านะ เรายังคงคิดว่าชายลึกลับคือท่านหัวหน้า
ถึงแม้ตอนนั้นจะพาลูกมาเปิดตัว
แต่ก็ไม่แน่มันพลิกผันกันได้ ฮ่าๆ
แล้ววันไหนละจ๊ะ คุณล่องหน ? ที่มะยมจะเข้าใจ
รออ่านตอนต่อไปจ้าาา ลุ้นๆ
-
......
.....
....
...
..
.
บรรยากาศหวานอมชมพูวนมาอีกรอบ
คนหนุ่มสาวต่างคึกคักกับเทศกาลที่กำลังจะใกล้เข้ามา
......
.....
....
...
..
.
วาเลนไทน์ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์… นายมะยมจึงจำเป็นต้องขอนัดนอกสถานที่กับน้องบอส
แต่วันนี้ดันมีไอ้กันมาเป็นก้าง เขาเลยไม่มีโอกาสขอนัดน้องบอสสักที
......
.....
....
...
..
.
“บอกก็บอกไปแล้วว่าน้องเค้าดูๆ กันอยู่กับเพื่อนมึง…มึงจะไม่สนับสนุนกูหน่อยเลยรึไง” นายมะยมกระซิบว่าเพื่อนตอนที่น้องบอสขอตัวไปซื้อกาแฟก่อนเดินขึ้นไปบนตึก
“กูไม่ชอบให้มึงคบเด็ก กูว่าเด็กไม่เหมาะกับมึง มึงเลิกเหอะ!” นายกันพูดด้วยเสียงและสีหน้าเคร่งเครียด
“ก็ไม่มีใครดีแบบคุณเชษฐนี่นา แบบนั้นมีอีกมั้ยวะ?” นายมะยมแหย่เพื่อนตัวเอง
“เลิก! เลิก! คนนี้กูไม่เห็นด้วย มึงไปหาเด็กใหม่ไป รอเด็กฝึกงานรอบหน้าก็ได้” นายกันพูดสรุปจบและเดินขึ้นตึกไปเลย..ไม่รอใคร
......
.....
....
...
..
.
“อ้าว พี่กันไปไหนละครับ” น้องบอสถาม
“อ๋อ มันจะรีบไปเข้าห้องน้ำน่ะครับ” นายมะยมตอบคำถามและเดินนำน้องบอสเข้าไปในตึกสูง
ระหว่างที่เดินไปยังที่ตั้งของลิฟท์…นายมะยมค่อยๆ ตะล่อมถาม “วันหยุดน้องบอสทำอะไรบ้างครับ เบื่อมั้ย?”
น้องบอสเคยบอกว่ามาเช่าหอที่กรุงเทพฯ คนเดียว มหาลัยของน้องบอสอยู่ที่ภาคอื่น และครอบครัวของบอสก็เป็นคนต่างจังหวัดด้วย
“ก็ซักผ้า นอนเล่น อ่านหนังสือ เบื่อๆ ก็ไปเดินห้างน่ะครับ ไม่มีอะไรมาก” น้องบอสบอก
“มะรืนกินข้าวกันมั้ยครับ?” นายมะยมฮุคตรง
“หือ?” น้องบอสหันหน้าฉงนฉงายมามองพี่มะยม “ทำไมต้องวันมะรืนครับ?”
“ก็เพราะว่าต้องวันมะรืนเท่านั้นไงครับ” นายมะยมยักคิ้วให้พร้อมคำตอบยียวน
......
.....
....
...
..
.
เอาน่า…ใครๆ เขาก็รู้กันว่า 14 กุมภาพันธ์น่ะมันวันมะรืนนี้---วันอาทิตย์
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างยืนอยู่ในลิฟท์ ตอนที่น้องบอสรอคิวเดินออกไป คำตอบที่นายมะยมรอคอยมาอย่าลุ้นระทึกก็ดังขึ้นมา “ที่ไหนกี่โมง พี่มะยมค่อยโทรบอกผมละกันนะครับ”
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้าไปในห้องน้ำประจำชั้นที่ 30
เขาเจอคนหน้าคุ้นสองคนยืนอยู่ในนั้น….หน้าเครียดพิกล
“อ้าว! ไอ้ไม้ขึ้นมาทำไมวะ?” นายกันทักและเดินไปเข้าซอง
“งั้นกูไปล่ะ มึงมีไรก็โทรบอกกูละกัน ช่วงนี้แม่งงานเร่ง” นายต้นไม้บอกกับคนยืนข้างๆ และค่อยหันมาบอกเขา “กูไปนะไอ้ยม เคี้ยวเด็กก็ระวังเจอกระดูกด้วยนะเว้ย”
“ขอบใจว่ะ!” ไม่แคร์ ไม่ถือ---กูอารมณ์ดี
......
.....
....
...
..
.
ไอ้ปากดีเดินไปแล้ว นายมะยมทำธุระเบาเสร็จแล้ว
เขาเดินมาล้างมือและเอ่ยถามเพื่อน “มึงมีอะไรกับมันวะ?”
“ก็มี แต่ยังไม่ชัดเจน มึงรอไปก่อน!” นายศรพูด…เสียงจริงจังน่าดู
“อ่าว….พวกมึงนี่เน้อ!” นายมะยมบ่นแต่ไม่คาดคั้นเอากับเพื่อน
เพื่อนคนนี้สนินกันดี----ไม่มีปิดบังกันสักเรื่อง หากเพื่อนยังไม่พร้อมที่จะบอก เขาก็รอได้… ไม่มีปัญหา
......
.....
....
...
..
.
-
ตามติด...
-
อั๊ยยะ
เค้ามีอะไรกัน
และยกป้ายไฟเห็นด้วยกับนายกัน
นายมะยมเลิกเหอะเลิก ไม่เหมาะกับเด็ก เห็นด้วยอย่างแรง
ตามต่อ..
-
จะใช่ไม้หรือเปล่าเนี่ย..
ตามต่อด้วยคนค่ะ
-
ทายซิใครเอ่ย
ขออย่างเดียวอย่าเศร้านะ :o12:
-
......
.....
....
...
..
.
วันอาทิตย์แห่งความรักเดินทางมาถึงแล้ว
นายมะยมเอาตัวเองที่ระชากวัยแต่ไม่ได้หลุดกับความชอบของตนเองไปรับน้องบอสที่หอพัก…
วันนี้เขาไปยืมรถมาจากเพื่อนไอ้ไม้ที่ยังกรำงานอยู่ในออฟฟิศ โดยไม่ได้หลับมาสองวัน แถมยังไม่ได้กลับบ้านอีกเป็นอาทิตย์--- มีรถไม่หมั่นสตาร์ตเครื่อง มันอาจเสียได้ นายมะยมเลยอาสาพารถไปซดน้ำมันเล่น
รถเก๋งสีไข่ไก่ป้ายแดงจอดที่ลานกว้างหน้าหอพักหนึ่ง คนขับรถหยิบมือถือขึ้นมากดเลขหมาย
“พี่มาแล้วนะครับ”
ปลายสายตอบรับเขาแล้ว เขาจึงวางสายและรอด้วยหัวใจลุ้นระทึก…ไม่นานเด้ฏหนุ่มหน้าใสก็เดินออกมา เขาบีบแตรรถ และเปิดกระจกไปโบกมือให้
......
.....
....
...
..
.
“โทษทีครับ ไม่คิดว่าพี่จะขับรถมา” น้องบอสแลบลิ้นน้อยๆ แบบน่ารักและขอโทษอยู่ในที
“ไม่ครับ พี่ผิดเองที่ลืมบอกบอส” นายมะยมขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว
“แล้ววันนี้จะไปไหนครับ ดึกมั้ยครับ?” น้องบอสถาม
“กินข้าว สวนสยาม กลับบ้าน” นายมะยมบอก
“หา สวนสยาม!” น้องบอสทำหน้า--ตลกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า…ล้อเล่นครับ ไปสยาม โอเชี่ยน เวิร์ลกัน เคยไปรึยัง?” นายมะยมถาม
“ที่พารากอนใช่มั้ยครับ?” น้องบอสดูดีใจจนออกนอกหน้า
“ใช่แล้วครับ บอสอยากกินข้าวก่อนหรือไปที่นั่นแล้วค่อยออกมากินข้าว?” นายมะยมให้ทางเลือกแก่ปลาตัวน้อย
“แล้วแต่พี่มะยมคร๊าบ” เสียงเริงรื่นบอกตอบนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
ท่าทางเดทนี้จะไปได้สวย…ลงทุนนิดหน่อยแต่อาจได้กำไรก็เป็นได้!
......
.....
....
...
..
.
ไปถึงพารากอนนายมะยมพาบอสไปที่สยาม โอเชี่ยน เวิร์ลก่อน
เป็นไงอย่างที่คาด…พวกเขาต้องรอคิวสักพัก เพราะวันนี้คนล้นหลาม… นายมะยมจึงตัดสินใจรอและเดินในนี้ให้เสร็จก่อนถึงไปกินข้าว
......
.....
....
...
..
.
ตอนอยู่ข้างในบอสดูสนุกมาก ยิ้มไม่หุบตลอด…. นายมะยมเองก็หุบยิ้มไม่ได้ตามเค้าอีกคน
......
.....
....
...
..
.
เดินกันสักสองชั่วโมง….พวกเขาก็มากันจนสุดทาง
ตอนที่นายมะยมขับรถพาน้องบอสออกมาจากพารากอนก็ห้าโมงเย็นแล้ว…เขามีร้านน่ารัก อาหารอร่อยและเป็นส่วนตัวนำเสนอ
......
.....
....
...
..
.
เหล็กมีล้อสี่ล้อพาพวกเขาวกวนเข้ามาถึงบ้านไม้ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
เมื่อจอดรถ…และเดินออกมา ความเย็นที่ได้จากต้นไม้ใหญ่พัดประทะหน้าของนายมะยม…. วูบหนึ่งเขานึกถึงบ้านที่ต่างจังหวัด
บ้านไม้ที่รูปทรงใกล้เคียงกับร้านอาหารแห่งนี้ แต่มีขนาดเล็กกว่า… เรือนหอของพ่อและแม่ของเขา…บ้านที่ไม่ว่าเวลาใดก็ร่ม เย็น และอบอุ่น
......
.....
....
...
..
.
บ้านที่ว่าแห่งนั้นเริ่มแห้งและแล้งไปเมื่อแม่ของเขาเสียชีวิต…
......
.....
....
...
..
.
ตอนนี้มันไม่มีคนอยู่….. เมื่อเขาเริ่มทำงาน เขาออกมาจากบ้านหลังนั้นพร้อมพ่อ
พ่อขอเขาว่าจะไปปลีกวิเวก…..ตัดตัวเองออกจากสังคม….และนุ่งห่มผ้าเหลือง---โดยไม่สึกเลยตลอดชีวิต
เขาอนุโมทนากับพ่อตัวเอง…ทางที่พ่อเลือกและอยู่ด้วยความสบายใจ ไม่ว่าทางไหน ลูกชายคนเดียวของพ่อและแม่ก็ยอมรับได้เสมอ
บ้านมันใหญ่ไป หากอยู่แล้วนายมะยมจะรู้สึกว้าเหว่…เขาจึงเลือกที่จะเช่าหอพักและอยู่ไปเรื่อยๆ… หอพักแม้ไม่รู้จักกันหมด แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ว่า ในที่แห่งนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย ห้องข้างๆ ห้องข้าล่าง ยังมีคนที่มีชีวิต..อาศัยอยู่ด้วยกันกับเขา
......
.....
....
...
..
.
ไอ้ศรกับศิลป์เปรียบเหมือนพี่น้องกันไปแล้ว…เพื่อนๆ ก็สนิทกันมากรู้เรื่องของกันและกันอย่างละเอียด…พ่อแม่ของเพื่อนก็เหมือนพ่อแม่ของเขา
นายมะยมเป็นคนน่ารัก ชอบช่วยเหลือคนอื่น เอื้อเฟื้อกับคนอื่น มีความเป็นมิตรเหลือเฟือ ด้วยเหตุเหล่านี้เขาจึงเป็นที่นิยมในหมู่พ่อแม่ของเพื่อนๆ
------ไม่รู้ว่าพวกเขารู้ไหมว่า…สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องค้ำจุนใจของนายมะยมมาโดยตลอด
......
.....
....
...
..
.
เขารู้ว่าเขาขาดความรัก
......
.....
....
...
..
.
เขารู้ว่าตัวเองต้องการตามหา “ครอบครัว”
......
.....
....
...
..
.
เขารู้ว่ารักมีทั้งสมหวังและไม่สมหวัง
......
.....
....
...
..
.
เขาก็แค่ใช้ชีวิตไป มองหาความรักไป…เรื่อยๆ
......
.....
....
...
..
.
เขาก็แค่รอ “เนื้อคู่” ของตัวเอง….ที่ไม่รู้ว่าเกิดแล้วหรือยัง?
......
.....
....
...
..
.
“พี่มะยม เป็นอะไรครับ ขับรถเหนื่อยนรึเปล่า?” น้องบอสเขย่าแขนของเขาพร้อมถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อ้อ เปล่าครับ โทษที พี่มองต้นไม้เพลินไปหน่อย” นายมะยมส่งยิ้มให้อีกฝ่ายคลายความกังวล
“ต้นไม้ใหญ่ดีเนอะ หายากนะครับ” น้องบอสเงยหน้าขึ้นไปมองบ้าง
“อื้ม… ป๊ะ กินข้าวกัน” นายมะยมชักชวน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมบอกบริการด้วยชื่อของตัวเอง เขาจองที่พิเศษไว้แล้ว สำหรับคืนพิเศษนี้
......
.....
....
...
..
.
พนักงานเดินนำพวกเขาเข้าไปด้านใน พอถึงประตูกระจกบานหนึ่ง พนักงานก็บอกให้พวกเขาถอดรองเท้าเก็บไว้ในตู้ พร้อมยื่นกุญแจของตู้มาให้นายมะยม จากนั้นพนักงานก็บอกว่า สักพักจะมารับออเดอร์อีกครั้ง
“ทำไมต้องถอดรองเท้าครับ?” คิ้วน้องบอสขมวดปม
“เข้าไปก็รู้ครับ” นายมะยมอุบไว้
......
.....
....
...
..
.
ทันที่บอสเดินมาถึงทางซึ่งจะนำพวกเขาไปที่โต๊ะอาหารเขาก็อุทานเสียงหลง “โอ้โห้!”
“ป๊ะ ไปนั่งที่โต๊ะกันก่อน” นายมะยมเดินนำไปยังโต๊ะไม้ทรงต่ำตัวหนึ่งบนสนามหย็าสีเขียวซึ่งมีหมายเลขเดียวกับกุญแจที่เขาถืออยู่ในมือ
......
.....
....
...
..
.
ร้านแห่งนี้จะมีสองฝาก หนึ่งเป็นโต๊ะในสวน
อีกหนึ่งเป็นโต๊ะที่วางให้นั่งกับพื้นหญ้า
ไม่ว่าฝากไหน ผู้มาใช้บริการต่างไม่ต้องเป็นกังวลกับยุงหรือแมลง-----เพราะทางร้านมีเทคนิคที่ดีมาก
......
.....
....
...
..
.
คืนพิเศษของนายมะยม---เขาเลือกที่นั่งบนสนามหญ้าเพื่อความตื่นตาตื่นใจของน้องบอส----และก็เป็นไปดังคาด….ปลาน้องฮุบเหยื่อเขาแล้ว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมสั่งอาหารที่เด็ดๆ และแปลกตามาให้น้องบอสชิม
น้องบอสกินได้ไม่เยอะเท่าไหร่…แต่ก็นั่งคุยนั่นนี่ให้เขาฟังไปเรื่อยจนนายมะยมอิ่ม
......
.....
....
...
..
.
“ของหวานมั้ยครับ?” นายมะยมถามระหว่างที่พนักงานกำลังทยอยเก็บจานชามบนโต๊ะ
น้องบอสส่ายหน้า “ผมไม่ไหวแล้วครับ แต่ถ้าพี่มะยมจะกินผมก็ขอชิมหน่อยเดียว”
“วันนี้มีเมนูแนะนำไหมครับ” นายมะยมหันไปถามพนักงาน
ของหวานวันนี้เหมาะกับบรรยากาศแห่งความรัก เค้กสเตอเบอรี สตอเบอรีลอยแก้ว ไอศครีมสตอเบอรีเชอเบท
นายมะยมสั่งทั้งสามเมนูแต่เอาแค่อย่างละจาน….พอ
......
.....
....
...
..
.
“น่ากินจังครับ” น้องบอสทำตาโตทำนทีที่เห็นของหวาน
“ร้านนี้เค้ามีชื่อเรื่องของหวานนะครับ เอาอันไหนก่อนดีครับ?” นายมะยมพูดพลางยกช้อนขึ้นมาเตรียมท่า
“ไอติมก่อนดีกว่าครับ” น้องบอสบอก
ช้อนเหล็กด้ามยาวถูกจรดและตักเนื้อไอศครีมขึ้นมายื่นอยู่ใกล้ปากของน้องบอส
......
.....
....
...
..
.
น้องบอสทำหน้าอึ้งไปชั่วครู่ก่อนจะครวญครางด้วยความเขิน “อายเค้าน่าพี่มะยม”
“เหรอครับ ไม่เห็นรู้สึกนะ” นายมะยมทำหน้าเฉย
......
.....
....
...
..
.
สักพักริมฝีปากสีชมพูก็เปิดอ้า มือของนายมะยมก็ป้อนไอศครีมเข้าปากให้----อย่างนุ่มนวล
......
.....
....
...
..
.
ดูประดักประเดิกแค่สองสามคำแรก นอกเหนือจากนั้นก็เฉยๆ
อันที่จริงหากมองไปยังโต๊ะอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันแล้ว …..คู่ของนายมะยมดูอนุบาลมากๆ!!!
......
.....
....
...
..
.
เตรียมเปลือกทุเรียนกันรึยังจ๊ะ
-
......
.....
....
...
..
.
พนักงานมารับธนบัตรสีน้ำตาลสองใบไปจากนายมะยม
ระหว่างรอเงินทอน นายมะยมลองเอ่ยปากแย๊บ “โอเคมั้ยครับ?”
“อร่อยดีครับ อร่อยทุกอย่างเลย” น้องบอสบอกด้วยสีหน้าร่าเริงและมีความสุข
“ไม่ใช่ หมายถึง คนคนนี้ โอเคกับหัวใจน้องรึเปล่า? มากไป น้อยไป…บอกพี่ได้นะครับ” นายมะยมตีมุกหน้าตาเฉย
รอยยิ้มหุบลง สีแดงของหน้าเรื่อยขึ้นมาจนถึงใบหู ไม่านเสียงตัดพ้อก็ลอยขึ้นมา “พี่มะยมอ่ะ พูดไรไม่รู้”
“งั้นรู้แล้วบอกพี่ทีนะครับ พี่รออยู่” นายมะยมเอาต้นตีเหล็กที่เริ่มร้อนฉ่า
......
.....
....
...
..
.
เขามั่นใจตัวเองเสมอมา… หากไม่มีเพื่อนในก๊วนมาแข่ง เขาก็เคยได้รับชัยชนะมาบ่อยๆ
......
.....
....
...
..
.
แต่ความรัก…ที่ผ่านมา ทำไมมันถึงไม่ยั่งยืนก็ไม่รู้สิ
......
.....
....
...
..
.
น้องบอสเงียบมาตลอดทาง…ที่นายมะยมขับรถออกมาจากร้านอาหารจนมาถึงที่หอพักของบอส
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมบอกเด็กหนุ่ม “ถึงแล้วครับ” และเปิดประตูออกไปยืน
เด็กหนุ่มเดินออกมาจการถ ปิดประตู และเดินอ้อมหน้ารถมาหานายมะยมแล้วบอกว่า “ขอบคุณมากครับ วันนี้ผมสนุกมากครับ พี่มะยมขับรถดีๆ นะครับ”
“บอสมานี่ก่อนสิ” นายมะยมบอกและเดินนำไปที่หลังรถ เขาเปิดกระโปรงหลัง
......
.....
....
...
..
.
กล่องที่ยาวขนาดหนึ่งไม้บรรทัดสูงราวคบหนึ่งวางอยู่ตรงกลางที่เก็บของด้านหลังรถ..คันนั้น
โลโก้ของแบรนด์ที่มีชื่อแบรนด์หนึ่ง…ไม่หรู แต่ค่อนข้างมีราคา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหยิบกล่องนั้นมายื่นให้น้องบอสพร้อมบอกว่า “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ แค่ของขวัญครับ ไม่ต้องคิดมากก็ได้ พี่อยากให้เฉยๆ”
น้องบอสไม่รับ….แต่น้องบอสมีน้ำตา
......
.....
....
...
..
.
“เป็นอะไรครับ ไม่เอานะครับ ไม่ร้อง พี่ทำอะไรผิดครับ” นายมะยมวางกล่องนั้นลงที่เดิมและหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาให้เด็กหนุ่ม
......
.....
....
...
..
.
เด็กหนุ่มไม่หยุดร้องไห้ง่ายๆ…
ถึงแม้จะดึกแล้ว แต่หากใครมาเห็นอาจว่าเขารังแกเด็กอยู่ก็เป็นได้… เขาจึงประคองพาน้องกลับเข้ามานั่งที่เบาะหลังของรถ
นายมะยมกอดน้องบอสไว้ และลูบหลังเป็นการปลอบประโลม
......
.....
....
...
..
.
หลายสิบนาทีหลังจากนั้น เสียงสะอื้นจึงแผ่วลง
......
.....
....
...
..
.
“บอสไม่สบายใจอะไรรึเปล่าครับ? บอกพี่ตรงๆ ได้นะครับ พี่รับได้” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
ให้เขาคิดเอาเองว่าน้องเป็นอะไร…เขาจนปัญญา
เขาทำผิดทำถูกอะไร…เขาปรับปรุงได้ เขาแก้มันได้
ขอเพียงแค่น้องบอกมา เขาพร้อมรับเสมอ!------ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม
......
.....
....
...
..
.
“พี่ชอบบอสจริงๆ เหรอครับ?” บอสพูดงึมงัมกำบอกของนายมะยม
“ครับ” คำตอบที่แผ่วเบา ทว่า หนักแน่นและจริงใจ
“พี่มะยม…เป็นคนดี…ดีมาก แต่ผมมันไม่ได้มีดีอะไรเลย ถ้าพี่รู้…พี่คงไม่ชอบผม…พี่คงเกลียดผม” น้องบอสบอกและเสียงสะอื้นก็กลับมาอีกครั้ง
“พี่ชอบที่บอสเป็น คนที่พี่เห็น คนที่พี่รู้จัก หรือบอสจะบอกว่า ตลอดมานั้นไม่ใช่ตัวตนของบอสล่ะครับ” นายมะยมย้อนถาม
บอสขืนตัวออกมาจาก้อมแขนของพี่มะยม เด็กหนุ่มมองหน้าพี่มะยมด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ…
......
.....
....
...
..
.
มือทั้งคู่ที่บางกว่าของนายมะยม กอบกุมใบหน้าของนายมะยมเอาไว้
......
.....
....
...
..
.
ใบหน้าที่อยู่ตรงข้ามกับของนายมะยมเคลื่อนเข้าใกล้
......
.....
....
...
..
.
ริมฝีปากชมพูดที่เขาเพิ่งป้อนของหวานให้….แนบชิดกับริมฝีปากของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
และยั่วนิดๆ ให้นายมะยม----ลิ้มชิม
......
.....
....
...
..
.
-
......
.....
....
...
..
.
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด---เสียงนาฬิกาปลุกดังไม่ยอมหยุด
มือหนาหนักเอื้อมออกมาจากผ้าห่มผืนบาง….
“อื้----อ” เสียงคล้ายรำคาญอันเกิดจากการขัดจังหวะการนอนดังขึ้นที่ข้างๆ ตัวชายหนุ่ม
......
.....
....
...
..
.
จุ๊บ--- ชายหนุ่มแนบริมฝีปากที่หน้าผากของคนที่นอนอยู่ข้างๆ “นอนต่อนะครับ”
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มมองดูจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว เขาจึงขยับตัวลงมาจากเตียง…ด้วยความระมัดระวัง
เขาเดินไปในห้องน้ำและเปิดฝักบัวชำระล้างร่างกายตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เพิ่งจะได้หลับพักกันไม่ถึงชั่วโมงดี นาฬิกาก็ปลุกเขาแล้ว
จะไม่ตื่นก็ไม่ได้ เพราะไม่มีวันหยุดชดเชยเทศกาลวาเลนไทน์
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มเดินตามเก็บชิ้นส่วนของเสื้อผ้าตัวเองที่กองเป็นหย่อมๆ ไปทั่วห้อง…. จะเรียกว่าเป็นคืนแสนหวานหรือคืนที่ร้อนแรงดี?
......
.....
....
...
..
.
ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร แต่มันก็เป็นเช่นนั้นทั้งสองอย่าง
ชายหนุ่มไม่ถือสาเรื่องการเป้คนที่เท่าไหร่สำหรับอีกฝ่าย
เขามีแค่ความจริงใจและหัวใจที่พร้อมให้….เซ็กส์อาจไม่ใช่คำตอบจากอีกฝ่าย
ทว่า หากมันเหนี่ยวใจของอีกฝ่ายให้โน้มเข้ามาหาเขาได้เพิ่งขึ้น---เขาก็ยินดี
......
.....
....
...
..
.
จุ๊บ-----เสียงจากริมฝีปากที่แนบกับหน้าปากของคนที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง
ชายหนุ่มเลื่อนริมฝีปากไปที่ใบหูของอีกฝ่าย กระซิบเบาๆ ว่า “พี่กลับก่อนนะครับ กลางวันกินข้าวด้วยกันนะ”
“อื๊----อ” เสียงครางเหมือนรับรู้ ดวงตาที่ปรือไม่ถึงครึ่ง แขนที่เรียวเล็กโน้มคอของชายหนุ่มเข้ามาหา----และจูบสั่งลา
......
.....
....
...
..
.
“พี่ต้องไปแล้วครับ” ชายหนุ่มถอนปากออกมาอย่างเสียดาย
แต่หากไม่กลับเขาอาจไปทำงานสายได้ ที่สำคัญ-----เขานัดจะคืนรถให้เพื่อนไอ้ไม้ตอนหกโมงเช้าเสียด้วย
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องนั้นด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
......
.....
....
...
..
.
วันดีๆ สำหรับเขากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
......
.....
....
...
..
.
สิ่งที่เขาตามหากำลังจะมาสู่ชีวิตของเขา
......
.....
....
...
..
.
-
:z13: แวบไปอ่าน
-
:z13:
-
มันระแวงบอกไม่ถูกง่ะ :try2:
-
ไม่ไว้ใจเหมือนกันอ่ะ
เหมือนมันจะไม่ใช่อย่างที่อ่านยังไงไม่รู้
คืนนี้จะหายอกแตกไหมคะ ยอมไม่นอน :monkeysad:
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมขับรถมาถึงหอพักตัวเองตอนตีห้าครึ่ง
เขาขับมันไปจอดที่ข้างสวนหย่อม… ยังทันจะลงจากรถ เขาก็มองเห็นเพื่อนวิ่งที่กำลังวิ่งเหยาะๆ อยู่ในสวนหย่อม
เขาตัดสินใจไม่ขึ้นห้อง และนั่งรอไอ้ไม้กับเพื่อนไอ้ไม้ที่ในสวนหย่อม
เวลานี้เป็นเวลาที่เขาควรมาวิ่งออกกำลัง…แต่เพราะเขาออกกำลังในร่มมาแล้วทั้งคืน เขาจึงไม่มีแรงเหลือสำหรับกิจกรรมยามเช้าตรู่นี้
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินเข้าไปนั่งในเก้าอี้ตำแหน่งโปรดของตัวเอง
ไม่นานนัก เสียงเบรคของจักรยานก็ดังขึ้นมาเรียกความสนใจจากเขา…เงยหน้าขึ้นไปมองที่มาของเสียง
เขานึกประหลาดใจว่า คนคนนั้นปั่นจักรยานมาที่นี่ทำไมในเวลาแบบนี้----ผิดปกติ
ยังไม่ทันที่คนคนนั้นจะเดินเข้ามาถึงเขา รถคันหนึ่งที่คุ้นตาก็ขับมาจอดยังหน้าสวนหย่อม…ตามเวลาที่นัดกันไว้
......
.....
....
...
..
.
“มึงปิดโทรศัพท์ทำไม?” เสียงขุ่นในอารมณ์เอ่ยถามเขา
“กูก็มีธุระส่วนตัวของกูบ้างน่ะสิ” นายมะยมตอบเพื่อน
เพื่อนสนิทของเขาไม่พูดอะไรต่อ แต่กระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน
......
.....
....
...
..
.
ไม่นานนัก ชายสองคนก็เดินมาหาเขา คนสูงโย่งกว่า เอ่ยถามประโยคเดียวกับเพื่อนสนิทของเขา “มึงปิดโทรศัพท์ทำไม?”
“นี่พวกมึงเป็นห่าไร กูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ กูมีเดทครับ กูเลยต้องขอเวลาส่วนตัวหน่อย โอเคมั้ยครับพวกมึง” นายมะยมตอบเพื่อน
“มึงนอนไหน กูไปเคาะห้องมึงต้องหลายรอบ” นายศรพูดเสียงเข้ม
“อ๊าว! ก็ต้องห้องน้องบอสสิครับ หุหุหุ” นายมะยมบอกด้วยความอารมณ์ดี
เพื่อนสองคนมองหน้ากัน….และต่างก็ไม่พูดอะไร
“มึงเอากุญแจคืนเพื่อนกูก่อน” นายต้นไม้แบมือมาหาเขา
“อ่ะ ขอบคุณมากนะครับ ผมเติมน้ำมันให้แล้วนะ เต็มถังเลย” นายมะยมวางกุญแจบนมือเืพ่อน และหันหน้าไปบอกกับเจ้าของรถ
“โอเค งั้นกูไปล่ะ พวกมึงก็ค่อยๆ คุยกันนะเว้ย” เพื่อนนายต้นไม่รับกุญแจมาจากมือนายต้นไม้ และขอตัวไปอย่างไม่พิรี๊พิไร
......
.....
....
...
..
.
คำพูดของเพื่อนไอ้ไม้ฟังพิกล------นายมะยมเริ่มฉุกคิด
......
.....
....
...
..
.
“พวกมึงมีอะไรก็ว่ามาเลย ไม่ต้องมาอ้อม” นายมะยมตัดสินใจเปิดประเด็นให้ก่อน
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างที่รอไอ้เพื่อนสองนายซุบซิบปรึกษากัน นายมะยมก็มองที่อื่นไปเรื่อยๆ
เพื่อนวิ่งของเขายังคงวิ่งอยู่ วันนี้เขาเห็นอีกฝ่ายหยุดบ่อยกว่าปกติ… ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับที่พวกเขายกโขยงกันมานั่งคุยในยามวิกาลนี้รึเปล่า?
......
.....
....
...
..
.
ไม่รู้วันนี้เป็นวันอะไร ตื่นมาก็ดีอยู่หรอก แต่หลังๆ ทำไมมันถึงมีแต่---เรื่องพิกล
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเงยหน้ามองต้มไม้ที่แผ่กิ่งอยู่เหนือศรีษะของตัวเอง… เสียงลมที่พัดใบไม้ดังแกรกกรากทำให้เขาคิดถึง….ความค่ำคืนในบ้านของตัวเอง----ที่ต่างจังหวัด…อีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
มือถืออันหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้านายมะยม
นายมะยมรับมันมาถือ----อย่างงงๆ .. “อะไรวะ?”
“มึงเปิดดูเอาเองละกัน” นายต้นไม้บอกเขา
นายมะยมเสียบหูฟังและดูที่หน้าจอ คลิปถูกเลือกรอไว้อยู่แล้ว…นายมะยมเพียงแค่กดปุ่ม “เล่น” คลิปนั้นก็ค่อยแสดงภาพที่มันบันทึกเอาไว้!
......
.....
....
...
..
.
มือของนายมะยมแข็งค้างที่เห็นซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในโทรศัพท์!!-----ต่างกับหัวใจ….ที่มันกำลังสั่นระรัว ราวกับว่าจะเด้งออกมาจากหน้าอกของเขา..เมื่อไหร่ก็ได้
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหยุดภาพ และเปลี่ยนไปดูวันที่บันทึกคลิปนี้-----12/2/21xx
......
.....
....
...
..
.
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เอง!
......
.....
....
...
..
.
แค่สองวันเท่านั้น!
......
.....
....
...
..
.
มือที่เริ่มควบคุมไม่ได้ของนายมะยมเผลอไปแตะปุ่ม “เล่น” อีกครั้ง โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ
......
.....
....
...
..
.
สิ่งที่ไม่อยากเห็นปรากฏสู่สายตา
เสียงที่ไม่อยากได้ยินดังลอดเข้ามาในหูของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
น้องบอสที่ร้องครวญครางอย่างมีความสุขและสุขสมเหนือร่างของเพื่อน…เขาเอง!
......
.....
....
...
..
.
ไม่ต้องดูมากไปกว่านี้เขาก็รู้ว่าไอ้ไม้กับน้องบอสทำอะไรกันอยู่-----ไม่ได้ต่างจากเขาทำเมื่อคืนเลยสักนิดเดียว
ทั้งลีลาและเสียงครางของน้องบอส…. เหมือนเป๊ะกับที่เขาเพิ่งได้ "มัน" มาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
-
:กอด1: นึกว่าไปนอนกันหมดแล้ว
กะลักไก่ไปนอนเหมียนกาน หวายยยยยยยย
แฮปปี้เอ็นดิ้งจ้า มิต้องเตรียมทิชชู่น๊า
-
จะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย
-
นั่นนนนนน ว่าและน้องบอสแปลกๆ
รอต่อจ้ะ คนแต่งสู้ๆๆๆ >.<
-
ตกลงจะมีใครรักมะยมจริงๆสักที สงสารมะยมมากๆ
นี่มันเรื่องอะไรกัน น้องบอสเป็นแฟนไม้เหรอ
สุดยอด เดาไม่ออกอีกต่อไป
รอตอนต่อไปดีกว่า วันนี้คนแต่งจะมาต่ออีกไหมอะคะ
ลุ้นจนไม่ยอมปิดคอมแล้วเนี่ย
-
:เฮ้อ:
บรรยายไม่ถูกเลย ออกจะขัดใจต้นไม้อยู่
คงรู้มานานว่าบอสเล่นด้วยกับตัวเอง แต่ก็มัวอึกอัก
ไม่บอกมะยมซะงั้น มะยมเลยซ้ำลอยแบบไม่รู้ตัว
แถมเจ็บอีกต่างหาก ปากมีไว้ทำไมว้า ไม่บอกมาบอกตอนนี้ทำเพื่อ?
-
ฮ่าฮ่า เจอเด็กล่าแต้มเข้าให้
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเอามือที่สั่นระริกคืนโทรศัพท์ให้เพื่อน… “น้องเค้าบอกกูเมื่อคืนว่าเค้าไม่ได้ดีอย่างที่กูคิด”
นายต้นไม้ลงมานั่งที่อีกข้างของนายมะยม เขาเอามือกุมมือที่เพื่อนกำกางเกงของตัวเองไว้แน่น เป็นเครื่องแสดงความจริงใจว่าเขามาดีก่อนจะค่อยๆ บอกให้เพื่อนฟังว่า “กูไม่ได้ว่าการที่น้องเค้าไปนอนกับอื่นมันสิ่งไม่ดี กูกับพวกมึงก็เคยทำกันมาก่อน…. แต่ที่กูต้องมาพูดกับมึงคือ…มึงต้องการคู่นอนหรือต้องการคนรัก”
“ไอ้ยม ถ้ามึงต้องการคนรัก…กูว่าน้องเค้าเป็นให้มึงไม่ได้หรอก กูจะบอกมึงแค่นี้” นายศรยกมือกุมบ่าที่เริ่มสั่นระริกของเพื่อนตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนกำลังอดกลั้นกับความเสียใจ… ศรรู้ดี ถึงสงสาร แต่หากไม่ทำแบบนี้ เพื่อนอาจเสียใจไปมากกว่านี้
......
.....
....
...
..
.
นายต้นไม้ไม่ได้คิดจะมาแย่งใครไปจากเพื่อน… แต่เขาแน่ใจว่าน้องบอส ไม่ใช่คนนิสัยที่จะหยุดอยู่กับใครเพียงคนใดคนหนึ่ง
เขาซึ่งยังคงเป็นเหยี่ยวราตรี ย่อมรู้จักพวกเดียวกันดี
วันที่ถ่ายคลิปนี้ก็หลังจากที่เจอน้องเค้าเป็นครั้งที่สอง….ครั้งแรกที่เจอน้องทอดสะพานให้ก่อน และเข้าก็เดินข้ามไป
จนอาทิตย์ก่อนที่ไปกินข้าวกลางวันกับไอ้กันแล้วมันชี้ให้ดูว่าคนไหนเป็นคนน่า “รัก” ของเพื่อนเราอยู่ในขณะนี้
เขาใจหายวาบ และบอกไอ้กันทันที
ไอ้กันไม่ใช่รังเกียจอะไรน้องบอส ที่ยืนกรานปฏิเสธที่จะรับคนนี้เป็นเพื่อนเขยมาตลอดก็เพราะเหคุผลเดียว---- ‘ไอ้ยมมันไม่เหมาะกับเด็ก หากมันอยากได้คนรัก มันต้องเอาคนที่อายุเท่ากันหรือมากกว่า… ถึงจะเติมเต็มกันได้’ ….เท่านี้แค่นั้นที่นายกันยืนยันและพูดมาตลอด
......
.....
....
...
..
.
“เมื่อคืนบอสบอกว่า หากกูรู้ตัวจริงของเขา กูอาจเกลียดเขา…. แต่กูไม่ยักกะเกลียดน้องเค้าเลยสักนิด” นายมะยมกัดปากพูดประโยคนั้นออกมา….ทั้งที่หัวใจบอบช้ำ
......
.....
....
...
..
.
ยากมากกับการที่จะทำให้คนคนหนึ่งซึ่งไม่หยุดอยู่กับคนคนเดียว….ให้หยุด
นายมะยมเคยเจอคนแบบนั้นมาแล้ว…ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว
และเขาก็เหนื่อยและเสียใจทุกครั้งกับการที่ตัวเองทุ่มเททั้งหัวใจ….เพื่อเปลี่ยนคนคนนั้น
......
.....
....
...
..
.
จะเอาอีกเหรอ-----นายมะยมถามตัวเองในใจ…คนเดียว
......
.....
....
...
..
.
“ไปนอนบ้านกูป๊ะ มึงกลับไปนอนเหอะไอ้ไม้” ศรกระชับไหล่เพื่อนมาพิงที่ตัวเอง และไล่ไอ้ไม้ให้กลับไปนอน
ไอ้ไม้โผเข้ากอดนายมะยมแน่นๆ “กูรักมึงนะ เนื้อคู่มึงอาจอยู่ใกล้จนมึงมองไม่เห็นก็ได้ มึงคิดให้ดีๆ เอาละกัน”
ไอ้ไม้คลายวงแขนออก และลุกขึ้น และพูดทิ้งท้ายเดินจากไป “กูไปก่อนนะ มึงดูมันดีๆ ละ มีไรโทรหากูเลย เวลาไหนก็ได้ ได้เสมอ”
......
.....
....
...
..
.
-
นั่งอยู่หน้าจอคอม กดเอฟห้าทุกๆห้านาทีเพื่อเรื่องนี้โดนเฉพาะ
-
เหมือนรีบนเป๊ะ ไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว
กดrefresh ตลอดเวลา
อ่านตอนนี้ น้ำตาแทบไหล เคยเจอคนที่ไม่ยอมหยุดเหมือนกัน ทำร้ายตัวเองโดยการทน จนน้องสาวต้องเข้ามาบอกว่า เหนื่อยไหม หยุดเถอะนะ
อินนนนซะไม่มี เข้าใจมะยมที่สุด แค่อยากมีใครสักคนข้างๆกันเท่านั้น ทำไมไม่เจอสักที
:o12:
กดเป็ดให้แล้วนะ คุณBao Bao
-
......
.....
....
...
..
.
“ป๊ะ ไอ้ยม ถ้าไม่ไหวมึงก็นอนบ้านกู ไม่ต้องไปทำงาน สายๆ ไอ้ศิลป์มันจะกลับมาพอดี มึงจะได้มีมันเป็นเพื่อน”
นายศรพูดพลางกระชับไหล่เพื่อนให้เแย่กว่าเดิมเพื่อบอกว่า----มึงไม่ได้อยู่คนเดียว มึงยังมีกูอยู่กับมึง มึงยังมีพวกกูเป็นกำลังใจให้เสมอ
“กูโอเค…. ขอกูทำใจหน่อย มันเร็วไป แม่งรับไม่ทันว่ะ!” นายมะยมพยายามปรับเสียงให้ฟังดูดีที่สุด… เขาไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลไปด้วย
เขาอายุเท่าไหร่แล้ว----ถึงเสียใจก็ไม่จำเป็นต้องมีคนมาคอยโอ๋.
สิ่งที่จำเป็นที่เขาต้องการคือ เวลา
......
.....
....
...
..
.
ศรยอมกลับไปโดยไม่มีเพื่อนไปด้วย
เขารู้ว่าเพื่อนอยากอยู่คนเดียว..เขาจึงไม่เซ้าซี้ให้เพื่อนต้องลำบากใจไปกว่านี้
......
.....
....
...
..
.
บางครั้งการอยู่คนเดียว….ก็ทำให้อาการบาดเจ็บที่หัวใจ…ทุเลาลงเร็วกว่าการมีคนอื่นนั่งร่วมรับรู้อยู่ด้วยก็เป็นได้----
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้…ฟ้าที่มืดเริ่มมีแสงนิดๆ…
เมื่อไม่มีใครคนอื่นอีก เขาจึงได้ยินเสียงฝีเท้าซึ่งวิ่งอย่างสม่ำเสมอ…อย่างชัดเจน
......
.....
....
...
..
.
เสียงเรียกเข้า…ดังขึ้น
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมล้วงมือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาดู----รายชื่อ
เบอร์นั้นขึ้นหมายเลขต่างจังหวัด… รหัสทางไกลของบ้านเกิดของเขา
......
.....
....
...
..
.
“ครับ” เขารับสาย
“โยมมะยมใช่มั้ย?” สรรพนามที่เรียกเขา….ทำให้เขาตื่นตัว
“ครับ พระคุณเจ้ามีอะไรหรือครับ”
“โยมอยู่ที่ไหนรึ?” ผลายสายถามเขา
“หอพักครับ ท่านมีอะไรครับ” นายมะยมเร่งถาม…ใจเขาบอกว่า---แปลก
“โยมมะยม…หลวงพ่อของผมท่านหมดลมหายใจแล้วนะ”
......
.....
....
...
..
.
เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกระกล่อมของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
ตัดขาดทางโลก ถึงฟังดูเหินห่างแต่ไม่ใช่เหมือนเวลานี้---- ตอนนี้เขาไม่สามารถไปกราบ ไปเห็นหน้าบิดาตัวเองได้อีกแล้ว
......
.....
....
...
..
.
หมายความว่า เขาไม่เหลือใครอีกแล้วใช่ไหม?
......
.....
....
...
..
.
“เมื่อไหร่ครับ” นายมะยมพูดจบก็รีบกัดปากตัวเองเอาไว้ เขายังมีเรื่องต้องถามอีกมาก
“ราวๆ ตีห้านี่เองโยม หลวงพ่อท่านป่วยมาได้อาทิตย์นึงแล้ว แต่หลวงพ่อไม่ให้อาตมาหรือใครบอกโยม ท่านต้องการกลับสู่ธรรมชาติด้วยความสงบ โยมเข้าใจหลวงพ่อมั้ย?” พระคุณเจ้าเล่าแกมสั่งสอน
ผู้ที่อยู่ในผ้าเหลือง ไม่มีห่วงใดๆ ในโลกอีกแล้วนับแต่นุ่งห่มผ้านั้น
พระคุณเจ้ากำลังบอกเขาเป็นนัยว่า อย่ไาด้เสียใจ อย่าได้โทษตัวเอง… หลวงพ่อของเขาแค่เป็นไปตามกรรม----เท่านั้น
......
.....
....
...
..
.
“พระคุณเจ้าจะจัดพิธีวันไหนครับ” นายมะยมเอ่ยปากถาม
“วันสองวันนี้ล่ะโยม แต่อาตมาอยากบอกโยมก่อนที่จะจัดการอะไรๆ ลงไป ว่าแต่โยมสะดวกมาทำพิธีไหม หากไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ พวกอาตมาทำกันเองได้ ท่านสั่งไว้ว่าให้ทำแบบเรียบง่าย”
......
.....
....
...
..
.
หลังจากวางสายนายมะยมก็ไม่อาจกลั้นก้อนสะอื้นที่พากันมารออยู่นานแล้วได้
......
.....
....
...
..
.
เขาเงยหน้าเอาคอพาดกับพนักของเก้าอี้
เขาหลับตา และปล่อยน้ำตาให้ไหลพรากๆ ลงมา…ตามแต่ที่มันต้องการ
......
.....
....
...
..
.
เขาปล่อยตัวเองไปตามธรรมชาติ…ไม่ฝืน
......
.....
....
...
..
.
บางครั้ง…หลายๆ สิ่งมันจะประดังประเดมาพร้อมๆ กัน
......
.....
....
...
..
.
เพื่อทดสอบเรา
......
.....
....
...
..
.
เพื่อให้เรารู้ว่าสิ่งใดสำคัญกับเราที่สุด
......
.....
....
...
..
.
กลิ่นหอมอ่อนๆ เลยเตะจมูก…ผ้านุ่มๆ คลุมลงลนใบหน้าเขา
เสียงเหนื่อยหอบดังลอยเข้ามาในหูของเขา
เขายกมือขึ้นมากุมหน้าตัวเอง ระหว่างฝ่ามือและใบหน้าเปียกโชกของเขามีแค่ผ้าขนหนูบางๆ ผืนเดียว
......
.....
....
...
..
.
กับเพื่อนเขาไม่กล้าร้องไห้----กลัวว่าเพื่อนจะห่วง
......
.....
....
...
..
.
กับคนที่รู้จักเขาไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้เห็น
......
.....
....
...
..
.
กับคนที่แทบจะไม่รู้จักกันเลย….นายมะยมสามารถทำได้ทุกอย่าง
......
.....
....
...
..
.
-
โอ๊ย..มะยมจะไปคิดออกได้ไง ขนาดคนอ่านรู้มากกว่ายังหัวแทบแตก
-
น้ำตาไหลแล้วอะ นี่มันสงครามชีวิตมะยมเหรอเนี่ย
อะไรกันฟะ มีแต่เรื่องเข้ามาพร้อมกันๆ
เมื่อไรมะยมจะยิ้มจริงๆได้เสียที :monkeysad: :sad4:
-
......
.....
....
...
..
.
คนเราไม่ว่าร้องไห้มากแค่ไหน มันจะมี “ช่วงหยุด” ของมันเอง
น้ำตาที่หยุดไหลไม่ได้หมายความว่า ความเสียใจนั้นหมดไป… ร่างกายมันแค่เพลียและล้า----ก็เท่านั้น
นายมะยมนึกถึงคำสอนต่างๆ ที่หลวงพ่อเคยเพียรบอกกับเขาเสมอ…
‘โยม เสียใจเท่าไหร่ก็ทำไปเถอะ แต่อย่าลืม…ลืมตาและก้าวต่อไป ความเสียใจมันก็แค่ส่งที่เกิด….และดับไป ทุกอย่างล้วนแล้วแต่มีเกิด…และไม่นานมันก็จะดับไปด้วยตัวมันเอง…. จงอย่ายึดติดกับสิ่งใด จงอยู่กับปัจจุบัน แล้วโยมจะเป็นสุขในทุกๆ ก้าวของชีวิต’
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเริ่มเหมือนหนังตาหนัก เขาจึงหยิบผ้าออกมจากหน้าอละเอามันเช็ดคราบน้ำตาของตัวเอง เขาก้มหน้าลง….หางตาเขามองเห็นรองเท้าผ้าใบคู่หนึ่ง ขาคู่นั้นอยู่ในกางเกงวอร์มสีกรมท่าที่คุ้นตา
เพื่อนวิ่งที่แทบไม่เคยคุยกัน…ให้ผ้าเช็ดน้ำตาเขา…แถมยังนั่งเป็นเพื่อนเขาอีก
ช่างมีน้ำใจจริงๆ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมซับน้ำตาอีกรอบ และสูดน้ำมูกเข้าไปแรงๆ
เขาตบหน้าตัวเองแรงๆ สองสามที เพื่อเรียกสติ….
......
.....
....
...
..
.
เขาหันไปหาเพื่อนวิ่งเพื่อจะกล่าวขอบคุณกลับพบว่า อีกฝ่ายหันมามองเขาอยู่แล้ว----ผมยาวและเปียกจากเหงื่อรกใบหน้าของเขา…
“โทษทีครับ เรียกสติน่ะครับ ไม่ได้เป็นอะไร” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
ใบหน้านั้นหันกลับไป แว่นตากรอบหนาถูกถอดออกมาเช็ดด้วยชายเสื้อวอร์มของตัวเขาเอง
“ผ้ามันเปื้อนมาก ไว้ผมจะซื้อผืนใหม่มาให้นะครับ” นายมะยมบอกเพื่อนวิ่ง
“หากระบายแล้วสบายใจก็เชิญครับ” เพื่อนวิ่งยกแว่นตาขึ้นมาส่องกับแสงยามเช้า เมื่อเลนส์สะอาดแล้ว เขาก็ผมหน้าที่ชื้นด้วยเหงื่อขึ้นไป จากนั้นเขาก็สวมแว่นกลับไปที่เดิม
......
.....
....
...
..
.
เพื่อนวิ่งนั่งหน้าตรง…คล้ายรอฟังเขา--ระบาย
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมไม่ได้สนใจที่จะพูดอะไร….ความสนใจของเขามันขมวดอยู่ที่ใบหน้าของเพื่อนวิ่งซึ่งนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ เขา-------ทำไมหน้าคุ้นๆ…. เสียงก็คุ้นๆ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยื่นนิ้วไป….จิ้มแก้มของเพื่อนวิ่ง
ใบหน้าของเพื่อนวิ่งหันขวับมาทางเขาอย่างทันควัน
นายมะยมถือวิสาสะถอดแว่นตาของอีกฝ่ายออก
......
.....
....
...
..
.
เขาแพ่งอยู่นาน….ใบหน้าของคนคนหนึ่งก็เคลื่อนมาซ้อนทับกับเพื่อนวิ่งในชุมวอร์มของเขา
......
.....
....
...
..
.
หัวใจนายมะยม--กระตูกวูบ…ด้วยคงามคาดไม่ถึง!
......
.....
....
...
..
.
“หัวหน้า!!!”…. เขาตะโกนเรียกอีกฝ่ายตามความคุ้นชินของปากตัวเอง
“อยู่กันแค่นี้ คุณจะตะโกนทำไม? แล้วตกลงร้องไห้ทำไม? พ่อเสียรึไงครับ?” อีกฝ่ายเริ่มคิ้วขมวดปมด้วยความไม่พอใจ
“ครับ เพิ่งเสียเมื่อสักพักนี้เองครับ” นายมะยมบอกอีกฝ่ายแบบพาซื่อ…ไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำว่ามันเป็นคำประชด
“ห๊า!!!!” ….หัวหน้าตะโกนเสียงดังและผุดลุกขึ้นแทบจะในทันที
"อยู่กันแค่นี้จะตะโกนทำไมครับ?" นายมะยมบ่นอุบ
......
.....
....
...
..
.
ไม่เคยเห็นหน้าที่ตกใจแบบนี้จากหัวหน้าเลย…. ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมานี่ก็ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว… หกปีถึงจะได้เห็นสีหน้าแบบนี้
พ่อเสียก็จริงนะ-----ทว่า นายมะยมตลกหัวหน้าจนอดที่จะหัวเราะก๊ากขึ้นมาไม่ได้
......
.....
....
...
..
.
-
พ่อมึงจริงๆด้วย
-
กรี๊ดดดด แอร๊ยยยยย :a5: ขอกรีดร้องให้ดังสุดเสียง
เป็นพ่อมึงจริงด้วย สลบดีฝ่ากรู
-
......
.....
....
...
..
.
“มึงอยู่ไหนนะ” เสียงเพื่อนสนิทดังกรอกมาในสาย
“อยู่วัดxxxx” นายมะยมกระซิบ
“ไปทำเหี้ยไร? อกหักเลยจะบวชงั้นเรอะ มึงบ้าเปล่า!” เสียงไอ้ต้นไม้ถาม
“กูมางานศพหลวงพ่อ ไม่ใช่มาบวช นรกจะกินกบาลมึง ไอ้ไม้ เก็บปากเก็บคำหน่อย!” นายมะยมสั่งสอนหมาในปากนายต้นไม้
“ไปกับใครไอ้ยม? แล้วจะกลับเมื่อไหร่?” เสียงไอ้กันถาม…คนนี้ดีเสียงนุ่ม แสดงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
“มากับ ‘พ่อกู’ เค้าใจดีขับรถมาส่ง คงกลัวกูมาถึงวัดแบบนอนมางั้นมั๊ง ฮ่าฮ่าฮ่า” ปากไอ้ยมก็ไม่ต่างเพื่อนๆ เลยแม้แต่น้อย
“มึงจะปีนต้นงิ้วเรอะ!” ไอ้กันด่าขรม
“อ๊าว! มึงนี่ พ่อกูเค้ามีน้ำใจ กูก็รับดิ๊ กูไม่ได้คิดส้นตีนแบบนั้นสักนิ๊ด ปากนะพวกมึง!” นายมะยมเอือมระอากับเพื่อน
“ไอ้ยม มึงจะกลับวันไหน?” ไอ้ศรถาม
“เสร็จพิธีก็กลับแหละ” นายมะยมบอกบอกแบบยียวน
“แล้วมันเสร็จวันไหนล่ะวะ” ไอ้ศรตะคอกด้วยความเหลืออด
“พรุ่งนี้มะรืนนี้ มึงๆ ไปก่อนนะ หลวงตาเดินมาแล้ว” นายมะยมรีบวางสายทันทีที่เห็นหลวงตามายืนรอเขา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินไปก้มลงกราบเท้าหลวงตา
“เจริญพร โยมมาทำพิธีให้หลวงพ่อใช่ไหม?”
“ครับ หลวงตา ผมต้องทำอะไรบ้างครับ หลวงตาสั่งผมมาได้เลยนะครับ” นายมะยมนั่งคุกเข่าพรมมือ
“ไม่มีอะไรมากเลยโยม เราเป็นผู้ที่ไม่มีอะไรมาแต่ต้น มาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น ว่าแต่โยมรู้รึยังว่า หลวงพ่อของโยมสั่งเสียให้ทำพิธีแบบไหน?” หลวงตาถามเขา
“แบบเรียบง่ายครับ” นายมะยมตอบตามที่ได้ยินมา
“แล้วรู้ไหมว่าเป็นอย่างไร?” หลวงตาถามย้ำ
“อันที่จริงก็ไม่ทราบครับหลวงตา” นายมะยมบอก
“อื้อ… นั่นใครล่ะ มากับโยมรึเปล่า?” หลวงตาเอ่ยถาม สายตาของท่านมองเลยไปด้านหลังของเขา
“ครับ มากับผมครับ หัวหน้าของแผนกที่ผมทำงานอยู่น่ะครับ เขามีน้ำใจขับรถมาส่งผม” นายมะยมแจ้งกับหลวงตา
“เจริญพร” หลวงตาพูดทันทีที่นายภักดียกมือขึ้นพนมไหว้ จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า “ไป ไปคุยกันในกุฏิดีกว่า”
......
.....
....
...
..
.
พิธีจะจัดในช่วงบ่ายของวันนี้… ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากอย่างที่หลวงตาบอก
หลวงพ่อของเขาส่งเสียให้เผาร่างท่านบนเชิงตะกอน….เมื่อเผาเหลือเถ้ากระดูกก็ให้เขาหรือใครก็ได้ นำไปโปรยที่โคนต้นโพธิ์หลังวัดซึ่งท่านมักมานั่งสมาธิ…อยู่เป็นประจำ
ทุกอย่างสัปเหร่อเตรียมไว้พร้อมแล้ว พวกเขาแค่อยู่รอร่วมพิธีเท่านั้น
......
.....
....
...
..
.
เมื่อหลวงตาขอตัวไปพัก…. เขาก็พาหัวหน้าออกไปจากกุฏิ
พ้นกุฏิมาได้ไม่เท่าไหร่ หัวหน้าก็ล้วงมือถือขึ้นมารับสาย “ครับ” / “พรุ่งนี้…ถึงวันที่หมอนัดแล้วเหรอครับ?” / “ครับ ได้ครับ” / “ครับ สวัสดีครับ”
“หัวหน้าจะกลับเลยก็ได้นะครับ ไม่ต้องอยู่รอจนเสร็จหรอก ผมอยู่ได้” นายมะยมบอกอีกฝ่ายอย่างเกรงใจ
“คุณจะค้าง?” หัวหน้าถาม
“ครับ กว่าจะเก็บเถ้ากระดูกได้ก็คงพรุ่งนี้ครับ” นายมะยมบอก
“แล้วคุณจะไปพักที่ไหน?” หัวหน้าถามต่อ
“อ๋อ นอนวัดครับ กุฏิหลวงตานั่นแหละครับ” นายมะยมบอก และก่อนที่อีกฝ่ายจะถามประเด็นอื่น เขาก็พูดต่อว่า “ผมเคยตามหลวงพ่อมาเป็นเด็กวัดอยู่บ่อยๆ ที่นี่ผมคุ้นทางดีครับ พรุ่งนี้เสร็จ”
“อื้อ…งั้นผมขอตัวเลยละกัน ส่วนใบลา…กลับไปแล้วคุณค่อยเขียนมาส่งผมก็ได้” หัวหน้าบอก
“ครับ ขอบคุณครับ” นายมะยมยกมือไหว้
อีกฝ่ายรับไหว้และเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีก
......
.....
....
...
..
.
:a12: มันยาวมากเลยซาร่า ไปนอนกันเถอะ....หนังตาจาปิดแย้ววว
-
หายข้องใจล่ะ นอนกันๆ
-
โอเช เราก็ใกล้สิ้นชีพแล้วเหมือนกันค่ะ 555
ยังดีที่คุณBao Baoคอนเฟิร์มว่าไม่ต้องใช้ทิชชู่
เลยไปนอนได้อย่างสบายใจ ฟิ้ววว
-
หัวหน้าาาาา !
-
เรายังนอนไม่ได้
งานยังไม่เสร็จจ ฮืออ T_____________T
อยากตีตูดพ่อมึงงงงงง~~
-
หัวหน้า
รอหัวหน้า กระซิบ อิอิ
-
หัวหน้าคือนายกระซิบเหรอ
อะไรก็ไม่แน่นอน ไม่เดาแล้ว รอต่อไปดีกว่า
บวกเป็ด
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: แล้ว ลูก เมีย ของหัวหน้า อ่ะ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
แล้วถ้าไม่ใช่หัวหน้าล่ะ?
o2
-
กรี๊ดดดดดด
พ่อมึง พ่อมึง พ่อมึง
เชียร์นายนะพ่อมึง 555
ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ แต่น่าจะใช่แล้วมั้ง??
-
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง! ลิฟท์ขึ้นมาถึงชั้น 6
เมื่อประตูเปิด นายมะยมก็ก้าวเข้าไปด้านในพร้อมกับทักทายคนที่ยืนอยู่ข้างมาก่อนเขา “อรุณสวัสดิ์ครับ”
“คุณกลับมาเมื่อไหร่?” คนที่สวมชุดวอร์มถามเขา
“ตีสองได้มั๊งครับ” นายมะยมไม่แน่ใจ
“ก็ไม่นอนต่ออีกหน่อย” คนที่สวมชุดวอร์มบอก
“นอนในรถมาแล้วครับ” นายมะยมบอก
......
.....
....
...
..
.
ติ๊ง! ลิฟท์มาถึงชั้นล่างสุด
ชายที่สวมชุดวอร์มเริ่มวิ่งเหยาะๆ ออกไป-----เหมือนเช่นเคย
นายมะยมเดินอมยิ้มออกไปที่สวนหย่อม
......
.....
....
...
..
.
ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น...ไม่ว่าจะดีหรือเลวร้ายสักแค่ไหน เรื่องเหล่านั้นมาเกิดมาเพื่อสั่งสอนเราให้เข้าใจ----ชีวิต
หากมีเรื่องดีใจ----เราควรแบ่งปันกับคนอื่น...เพื่อให้เขาร่วมยินดีและมีความสุขไปกับเรา
หากมีเรื่องเศร้าใจ----เราควรที่จะระบายมัน...ออกมา เพื่อให้เราตั้งตัวกลับมาได้ใหม่...ให้เร็วที่สุด
เมื่อเกิดมามีลมหายใจ...มนุษย์ทุกคนต่างต้อง...ดิ้นรน ต่อไปในโลกว้างใหญ่แห่งนี้
......
.....
....
...
..
.
ความรักเป็นเศษส่วนเล็กๆ...ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับมนุษย์
......
.....
....
...
..
.
ความรัก---ไม่ได้มีแค่ สามี ภรรยา แฟน...เท่านั้น
รักเพื่อน รักครู รักพี่น้อง รักสัตว์เลี้ยง รักดารา....รักใครก็ได้ รักไปเถอะ
รักกันดีกว่าเกลียดกัน
......
.....
....
...
..
.
การเป็นคนดีไม่ใช่ทำยาก ก็แค่ทำทัศนคติของเราให้มองโลกในแง่บวก
......
.....
....
...
..
.
การเป็นคนดี...มันสบายใจ ลึกๆ แล้วมันจะมีความอิ่มใจอยู่ในหัวอก
......
.....
....
...
..
.
เมื่อเป็นคนดีโดยไม่เสแสร้ง----นั่นละ “เป็นสุข”..... อัรเป็นความรู้สึกที่นายมะยมรับรู้อยู่ในขณะนี้
......
.....
....
...
..
.
หลังจากกลับมาจากงานศพของหลวงพ่อ
นายมะยมเจอน้องบอส... เขาไม่พูดอะไร เขายังคงทำตัวเองแบบเสมอต้นเสมอปลาย
นายมะยมรู้ดีว่า หากน้องบอสฝึกงานเสร็จแล้ว...การแยกจากจะเกิดขึ้นเอง
หากมองในสายตาของนายมะยม----น้องบอส...น่าสงสาร
ไม่ใช่ว่าน้องบอสอยากมีอะไรกับใครไปทั่ว.... น้องบอสทำแบบนั้นเพราะกำลังมองหาใครสักคนที่จะมาหยุดตัวเอง... อยู่รึเปล่า?
สำหรับใครหลายคน---ที่มองหาความรัก.... ต่างคนต่างมีวิธีของตัวเอง .... ส่วนวิธีนั้นจะดีในสายตาของคนอื่นหรือไม่.... มันสำคัญด้วยหรือ?
......
.....
....
...
..
.
-
มาตามกันต่อ
-
......
.....
....
...
..
.
วันเวลาเดินทางอีกครั้ง... ไม่สิ จะว่าไปมันก็ไม่เคยหยุด.... ที่เรารู้สึกว่ามันหยุดเดิน----ก็แค่รู้สึกไปเอง
นายมะยมกลับมาทำงานด้วยจิตใจที่ผ่องใสกว่าเดิม
อะไรจะเกิดก็เกิด... ใครอยากทำอะไรก็เชิญ
......
.....
....
...
..
.
ขนมหวานและกาแฟ----ยังคงถูกส่งมาทุกวัน
......
.....
....
...
..
.
กลางวันนายมะยมยังไปกินข้าวกับน้องบอส----เช่นเคย
......
.....
....
...
..
.
ตกเย็นนายมะยมเดินทางกลับบ้านพร้อมศร...และแวะไปกินข้าวที่บ้านศรไม่เว้นแต่ละวัน... เขารดน้ำผักที่แปลงผักเล็กของตัวเอง ก่อนกลับมานอนที่หอพัก
......
.....
....
...
..
.
เช้ารุ่งขึ้นก็ออกไปวิ่ง.....พร้อมเพื่อนวิ่งในชุดวอร์ม----อ๊ะ! ไม่สิ ต้องเรียกว่า “พ่อ” สรรพนามนี้เหมาะแล้วกับคนคนนี้
......
.....
....
...
..
.
วันเสาร์ไหนว่างๆ เพื่อนในก๊วนก็จะนัดกันไปดื่มไปกินคุยถามสารทุกข์สุขดิบกัน
......
.....
....
...
..
.
ครั้งนึง เคยไปหาไอ้น้องป๋องที่ห้องมัน..ชั้น 5
เจอหัวหน้ากำลังเดินออกมาจากห้อง... ก็หยุดคุยกันนิดหน่อย แต่ตามไม่ได้สอดส่ายน่ะ----- แต่ไอ้ต้นตำลึงที่ขึ้นเป็นดงมันโคตรเตะตาของนายมะยมเค้า ....เลยรู้ว่า ห้องของหัวหน้าเป็นห้องบุพการีของไอ้ลูกตำลึงที่ขึ้นดกในห้องเขานี่เอง!
......
.....
....
...
..
.
มันน่าขำ! อยู่แค่นี้ เจอกันบ่อยขนาดนั้น... ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่เคยสังเกต ไม่เคยฉุกคิด----- อันที่จริงต้องบอกว่าตัวเองไม่ได้สนใจเสียมากกว่า
เคยถามหัวหน้าว่าจะปิดบังฐานะทำไม----- หัวหน้าบอกว่า ‘ผมก็เป็นของผมแบบนี้’
ฮ่าฮ่าฮ่า.... เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
......
.....
....
...
..
.
ฝนแรกของปีนี้โปรยลงมาอย่างหนัก แต่ยังไม่มีเสียงฟ้าร้อง.... นายมะยมวิ่งตัวเปียกเข้ามาในตึก
เขามายืนหน้าลิฟท์สักแป๊บ คนที่สวมชุดวอร์มซึ่งเปียกไม่ต่างกันก็เดินมายืนอยู่ข้างๆ
“อ้าว เปียกเลย” นายมะยมทักทาย
“คุณหิ้วอะไรมา?” หัวหน้าถาม
“ต้มเลือดหมูครับ เอาไปกินกับตำลึงที่ห้อง อร่อยนะครับ” นายมะยมบอก
ติ๊ง! ประตูลิฟท์ค่อยๆ เลื่อนเปิด.... หญิงสาวที่ใส่ชุดวอร์มสีขาวลายชมพูเดินถือร่มออกมา เธอกล่าวทักทาย “คุณภัก พอดีเลยอยากทานอะไรคะ?”
“ต้มเลือดหมู” คุณภักตอบภรรยา
“คิดเหมือนกันเลย” หญิงสาวบอก และส่มยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับนายมะยม...จากนั้นก็เดินไปจากตรงนั้น
นายมะยมและหัวหน้าก้าวเข้าไปในลิฟท์....
......
.....
....
...
..
.
“วันนี้น้องหนูมาพักด้วยเหรอครับ” นายมะยมชวนคุยฆ่าเวลา
“อื้อ น้องนามาตรวจสุขภาพ” หัวหน้าบอก
“น้องนาเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?” นายมะยมถามด้วยความเป็นห่วง เด็กแค่ขวบ...เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น... น่าสงสารมาก
“ช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ต้องมาหาหมอตามที่นัดสักระยะนึง เห็นว่าถ้าอายุมากกว่านี้ จะแข็งแรงขึ้นเอง” หัวหน้าบอก
น้องนาคลอดก่อนกำหนด จึงร่างกายอ่อนแอกว่าเด็กทั่วไป... ทว่า ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี น้องนาไม่มีโรคอื่นๆ ที่มาช่วยกันดึงสุขภาพให้ตกต่ำ... ทำให้ช่วงแรกๆ ในขวบปี ภรรยาของหัวหน้าต้องขยันเทียวพามาหาหมอบ่อยหน่อย
......
.....
....
...
..
.
“พี่------------” เสียงแจ๋วดังลอยตามหลังเขามา ...นายมะยมหันขวับไปส่งยิ้มกว้าง เด็กน้อยที่เดิมจับมือผู้เป็นพ่อเดินมาด้วยกัน....วิ่งถลามาหานายมะยม
“ไงครับ จะไปเที่ยวไหนเอ่ย?” นายมะยมลงนั่งคุกเข่าเพื่อคุยกับเด็กชายตัวน้อย
“ไม่ได้เที่ยว น้องนามาหาคุณหมอฮะ” เด็กน้อยบอกนายมะยม
“คุณภัก ไปกันเลยมั้ยคะ?... อ้าว ขอโทษคะ พอดีไม่เห็นมีคุยกันอยู่” หญิงสาวหน้าตาดีที่เดินเข้ามาพวกเขาบอกนายภักดี และทันทีที่เข้ามาใกล้และมองเห็นนายมะยม เธอก็ชะงัก
“นี่ผู้ช่วยผม คุณน่าจะจำได้มั๊ง คนที่เอาน้ำผักให้น้องหนูกินน่ะ” สามีแนะนำภรรยา
“อ๋อ อุ้ย! วันนั้นต้องขอบคุณมากๆ นะคะ น้องหนูติดใจใหญ่เลย เดี๋ยวนี้กินผักได้ตั้งหลายอย่างแน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าเป็นสุข
“น้องหนูเค้าเก่งครับ...” นายมะยมผุดลุกขึ้น “ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” โค้งให้หัวหน้าตัวเองเล็กน้อยเป็นการขอตัว
“อ้าว นั่งรถไปด้วยกันก็ได้สิคะ” หญิงสาวชักชวน
“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบนั่งใต้ดินไปครับ” นายมะยมปฏิเสธอย่างสุภาพ
“คุณขึ้นรถไฟใต้ดินไปทำงานเหรอคะ?” หญิงสาวที่เพิ่งเดินมาเอ่ยถามนายมะยม
“ครับ!” นายมะยมตอบ
“คุณจะถามไปเรื่อยอีกละ ไม่เอาน่า” หัวหน้าดุภรรยาตัวเอง
“ถามหมดล่ะค่ะ ชั้นต้องหาตัวเขาเจอสักวันสิน่า” ภรรยาของหัวหน้าหันหน้ากลับไปว่าสามีตัวเอง ก่อนจะหันมาหานายมะยมอีกครั้ง และเอ่ยถาม “คุณเคยช่วยคนเจ็บท้องแล้วพาส่งโรงพยาบาลมั้ยคะ?” หญิงสาวถาม
“ครับ...ก็เคย...ครั้งนึง” นายมะยมค่อยๆ ลำดับความคิด
“โรงพยาบาลอะไรคะ?” เธอถามต่อ
นายมะยมบอกชื่อโรงพยาบาลที่ตัวเองไปจ่อมอยู่หลายชั่วโมงในวันนั้นกับเธอด้วยความงงงวย
“คุณภัก! นี่ไงคะ! คนที่เขาช่วยชั้นวันนั้น ถ้าไม่ได้เขาพาฉันไปโรงพยาบาลชั้นคงแย่ ยัยน้องนาก็ไม่ได้เกิดกับเค้าหรอก” คุณผู้หญิงหันไปบอกคุณภักดีแล้วถึงหันมาขอบคุณนายมะยม “ชั้นต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ นะคะ คุณก็ไม่น่ารีบไปเลย ชั้นฟื้นมาก็เลยไม่รู้จะขอบคุณใคร”
“ไม่เป็นไรครับ...เป็นหน้าที่” นายมะยมตอบไปทั้งๆ ที่ตัวเองยังจับต้นชนปลายไม่ถูกดีนัก
“หน้าที่อะไรของคุณ” หัวหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ก็หน้าที่ของพลเมืองดีไงครับหัวหน้า” นายมะยมตอบ
“คิกคิกคิก... “น้องหนู ขอบคุณคุณพี่เค้าสิครับ” หัวหน้าบอกลูกชาย
เด็กชายตะแคงหน้าถาม “ทำไมล่ะครับ?”
“ก็คุณพี่เขาช่วยพาคุณแม่ส่งโรงพยาบาล เพราะพี่เขาใจดี น้องหนูเลยมีน้องนาไงครับ” ผู้เป็นพ่ออธิบายแก่ลูกชาย
เด็กน้อยหันไปถามคุณแม่ “คนนี้เหรอคุณแม่!”
“ค่ะ พี่ใจดี!” หญิงสาวพยักหน้าให้ลูกชาย
เด็กชายวิ่งไปกอดขานายมะยม ซบหน้ากับหน้าขาของนายมะยมและพูดไม่หยุดปากว่า “พี่ใจดี ขอบคุณฮะ ขอบคุณ ขอบคุณ----------”
นายมะยมฉีกปากจนหุบยิ้มไม่ลง....เด็กอะไรไม่รู้น่ารักจริงๆ----นายมะยมอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาพักที่แขนข้างหนึ่ง เด็กน้อยจ้องหน้านายมะยมด้วยรอยยิ้ม
“คิกคิก..... หน้าเหมือนในรูปเลยฮะ!” เด็กน้อยร้องบอก
นายมะยมหุบยิ้ม---อย่างอัตโนมัติ
.....
....
...
..
.
เหมือนในรูป????
.....
....
...
..
.
เด็กน้อยถูกผู้เป็นพ่อเอาคืนไปจากอ้อมแขนของนายมะยม
“ผมไปรอในรถนะครับ”
พูดจบพ่อกับลูกก็เดินตรงไปยังประตูเข้าออกของหอพัก
“คุณชื่ออะไรคะ?” หญิงสาวถามด้วยใบหน้าอมยิ้ม
“อ้อ....มะยมครับ” นายมะยมหันหน้าที่เหวอและอึ้งกลับมา
“ไม่ทราบว่า....จะตอบแทนคุณยังไงดีคะ? ชั้นอยากทำอะไรให้คุณบ้าง” หญิงสาวถาม
“ชะอุ้ย! ไม่ต้องครับ แค่นี้ก็พอแล้วครับ” นายมะยมปัดมือเป็นพัลวัน
“ไม่ได้ค่ะ! หากสามีชั้นรู้ว่าชั้นไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลย ชั้นคงโดนว่าแน่ๆ” หญิงสาวสีหน้าเป็นกังวล
“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง หัวหน้าเขาดูแลและเทรนงานผมมาหลายปี ผมเสียอีกที่ทำให้สามีของคุณลำบากหลายอย่าง” นายมะยมบอก
“เอ๋?.......” หญิงสาวทำหน้างุนงงเล็กน้อยจากนั้นจึงค่อยๆ พูดประโยคหนึ่งว่า “หัวหน้าคุณก็เรื่องนึง สามีชั้นก็อีกเรื่องสิคะ ไม่เกี่ยวกันนะคะคุณมะยม” หญิงสาวเปลี่ยนมาเป็นสีหน้างงงวย
“เห?...................” นายมะยมงงกว่า
.....
....
...
..
.
“หัวหน้าผม.....ไม่ใช่สามีคุณเหรอครับ? ก็น้องเค้าเรียกคุณพ่อ” นายมะยมถามย้ำ
.....
....
...
..
.
“ไม่ใช่ค่ะ! คุณภักเธอเป็นน้องชายของสามีชั้นค่ะ พอดีเค้าเป็นฝาแฝดกัน น้องหนูเลยชอบเรียกรวมน่ะค่ะ” หญิงสาวหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ฮ่าฮ่าฮ่า...เค้าใจผิดกันบ่อยๆ คุณภักนี่ก็ไม่รู้อะไร ปล่อยให้น้องหนูเค้าเรียกแบบนี้ตั้งแต่เด็กจนโตเนี่ยล่ะค่ะ”
.....
....
...
..
.
-
เริ่มจะปูเหตุผลไปสู่นายกระซิบล่ะ อิ..อิ
-
:z1: ฮี่ๆๆ หัวหน้า
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: หัวหน้า พ่อมึง จัดหนักน้องมะยมไปเร้ยยยยย
-
อ๊ายยยย~คุณภักๆๆๆๆ :-[
ยังโสดจริงๆด้วย
เหมือนในรูปคืออะไรเอ่ยยย
คนแต่งขยันมากมาย นั่งโพสต์ตลอดสองวัน
+vote+duck
:pig4:
-
ข้าปลาไม่ทานละค่ะ นั่งรีเฟชหน้าจอแทน!
-
เออ เว้ยย ว่าและ
มันต้องมีเงื่อนงำ กร๊ากก (แถไปเรื่อย)
ตามต่อนะคะ
-
:กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
o13
-
เอาอีก more more more and more
แล้วก็นะ กร๊าก
"พ่อมึง" จริงด้วยว่ะเฮ้ย เอาเห้อ ดูท่าพ่อมึงคงชอบมานมนาม
เราเองก็ตะหงิดในใจตั้งแต่ตอนที่คนแต่งบรรยายลักษณะเสื้อผ้าแล้ว
แบบว่า ... กูว่าแล้ว คราวนี้เดาไม่ผิดแหง
และแล้วก็ ตบเข่าฉาด! ป้าดเฮ้ย! จริงด้วยว่ะ
ฮ่า ชอบตอนวันฉลองปีใหม่ อารมณ์มันชวนให้แทบจะเอาหมอนอิงข้างตัวมาจิกทึ้ง
กรี๊ดกร๊าด อีกนิดเดียวๆ ประมาณนั้น ฮ่าๆ
*EDIT เพิ่มเติม : หวังแต่ว่า มันคงจะไม่มีอะไรผลิกโผอีกนะ
ไม่งั้นล่ะก็ เพล้ง!!! หน้าแตกยับเยินค่ะ วะฮ่าๆๆๆ :laugh:
-
อร๊ากกกก....เชี่ย พ่อมึง สุดริด 555+
-
เอ็มเอสเอ็นในเครื่องคอมพิวเตอร์ 4 เครื่องถูกเปิด.....
นิยม--ประชุมด่วน!!!!
คันศร--บ้าแต่เช้า
ต้นไม้--ว่าไป
กัน_CK--ไร ว่ามา กูมีงาน
นิยม--พ่อกูโสด!
ต้นไม้--มึงเพิ่งไปเผาพ่อมึงไม่ใช่เหรอ??
คันศร--ไม่ใช่ ไอ้ยมมันหมายถึง หัวหน้าแผนกต่างประเทศของพวกกู
ต้นไม้--อ่อ
กัน_CK--อ้าว แล้วที่วิ่งเกาะขานั่นกุมารทองเหรอ...
นิยม--ตบปาก 1 ที
ต้นไม้--55555
คันศร--มึงรู้ได้ไงไอ้ยม
นิยม--เมื่อเช้ากูเจอเมีย เอ้ย... แม่ของน้องหนู คุยไปคุยมา เค้าก็บอกว่า สามีเค้าน่ะ เป็นพี่ชายฝาเแฝดของพ่อกูเว้ย น้องหนูเค้าเห็นหน้าเหมือนกันเลยเรียกพ่อกูว่าคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กแล้ว
กัน_CK--ดีแล้วมึง จะได้ไม่ต้องปีนต้นงิ้ว... ไป ไป๊ แก้ผ้าอ่อยเหยื่อแม่งเลย ข่าวว่าอยู่ชั้น 5 ห้องด้านล่างมึงนิ ตำแหน่งถูกต้องแหละ
ต้นไม้--55555
นิยม--ตบปาก 2 ที ....ไอ้เลว! มึงกินยาม้าก่อนทำงานรึไงวะ?
คันศร--ตกลงมึงจะจีบพ่อมึง?
นิยม--ป่าว กูเล่าให้ฟังเฉยๆ.... กูตกใจว่ะ เลยอยากมาแบ่งปัน
ต้นไม้--ส้นตีนเหอะ แค่เนี่ย คราวหลังอย่าสะเออะเรียกประชุมนะ! เสียเวลาส่องเด็กกูหมด!
กัน_CK--555555+
ต้นไม้--ออกจากห้องสนทนา
คันศร--กูว่ามึงเอาเวลาไปตามหาเจ้าของกาแฟของมึงดีกว่านะ สร้างสรรค์กว่าเยอะ
กัน_CK--555555+ เห็นด้วย!
นิยม--ไม่เอาอ่ะ ทำตัวไม่น่าไว้วางใจ ติดลบหัวใจกูว่ะ
กัน_CK--เดี๋ยวพอรู้จัก ขี้คร้านมึงจะบวกให้เค้าเอง หุหุหุ
คันศร--พ่อมึงเรียกกูแหละ บาย
คันศร--ออกจากห้องสนทนา
นิยม--อ้าว ไปกันหมดเลย... กูตกใจจะตาย พวกมึง...แค่เนี๊ยะอ่ะนะ ชิชิชิ
กัน_CK--ตกใจหรือดีใจมึงบอกให้ถูก หุหุหุ
นิยม--กูไม่นิยมคนสูงวัย มึงไม่ต้องเชียร์!!!
กัน_CK--555555+ ไปแหละ ทำงานก่อน
นิยม--เอออ
กัน_CK --ออกจากห้องสนทนา
.....
....
...
..
.
นายมะยมปิดโปรแกรมเอ็มเอสเอ็นและหยิบมัฟฟิ่นชิ้นสุดท้ายเข้าปาก....ไอ้ศรถูกเรียกเข้าห้องไปแล้ว เช้านี้นายมะยมยังไม่มีงาน....
.....
....
...
..
.
-
ตามติดชิดสถานการณ์แบบเกาะขอบสนาม
-
ทำไมกันถึงรู้อะไรมาดว่าคนอื่น
คนเขียนกินข้าวยังจ่ะ ขยันจัง เป็นปลื้ม *3*
-
เพราะพ่อมึงเป็นรุกหรือเปล่า เลยเกรงใจมะยม :laugh:
หรือไม่ก็คิดว่าตัวเองแก่อะ สเปคมะยมต้องละอ่อนเท่าน้านนนนนนนนน :z1:
-
:L2: :L2:
-
ตื่นเต้นมาก ชอบพ่อกู พ่อมึง สุดๆ ^____^
:L2: :L2:
-
คุณภักอยู่นอกสายตาอย่างแรง
เพื่อนๆไม่มีใครเดาได้เลย
พ่อมึง เนียนนนนน :laugh:
ลุ้นๆๆ :z2:
-
ตื่นเต้นมาก ชอบพ่อกู พ่อมึง สุดๆ ^____^
:L2: :L2:
ชอบเหมือนกันค่ะ อิอิ ตั้งแต่แรก แอบเชียร์มาตลอด ตอนนี้ก้ยังเชียร์อยู่ แต่ชอบคู่ CK มากเลยค่ะ เพิ่งรู้ว่าชื่อกัน กับเชษฐ์ อิอิ
-
รอต่อ รอต่อ
เรายังเชียร์ให้นายมะยม "รับ"
...รัก คุณคนกระซิบอยู่นะคะ ฮุๆ :haun5:
เห็นด้วยกับกันถ้ารู้ตัวจริงขี้คร้านจะให้แต่คะแนนบวก บวก บวก บวก และบวก
ดูเหมือนกันจะรู้อะไรดีๆ นะ
จากนัยยะคำพูด หึหึ (รึคิดไปเอง กร๊าก)
-
รอต่อ รอต่อ
เรายังเชียร์ให้นายมะยม "รับ" รัก คุณคนกระซิบอยู่นะคะ ฮุๆ :haun5:
เห็นด้วยกับกันถ้ารู้ตัวจริงขี้คร้านจะให้แต่คะแนนบวก บวก บวก บวก และบวก
ดูเหมือนกันจะรู้อะไรดีๆ นะ
จากนัยยะคำพูด หึหึ (รึคิดไปเอง กร๊าก)
เห็นด้วยอย่างแรงกับความเห็นนี้ อยากให้นายมะยมรับ กร๊ากกก
-
เริ่มจะเปิดกันทีละนิดๆแล้ว
-
พี่กัน-ck ขา ตำแหน่งที่ถูกต้องอะไรกันคะ ตำแหน่งที่ถูกต้องน้องมะยมเขาต้องอยู่ล่างต่างหากเล่า นอกจากน้องจะon top :z1:
กรี๊ดพี่ตั้งแต่เรื่องกระดาษแล้วนะเออ
สิ่งที่ได้จากเรื่องนี้ คือปฏิภาณไหวพริบ คอยสังเกตตัวละครตลอดเวลา ว่าใตรมีพิรุธ เหมือนนิยายสืบสวนเล้ยยย
อีกอย่างคือ ต้องไปหาต้มเลือดหมูใส่ตำลึงกิน อ่านทีไร อยากกินทุกที
-
พ่อมึง ให้ลุ้นแทบแย่ อยู่ใกล้ตัวนี่เอง
-
เป็นปลื้ม~ พ่อมึงน่ารักไป
อะไร...ที่ทำให้พ่อมึงมาอยู่หอเดียวกับพี่มะยมได้ อะไรกัน อะไร~
เฉลยเร็วว~
จูจุ๊บบบบ
-
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น อิอิ
-
อะโถ เพราะเหตุว่ามีลูกมีเมียทำให้เราต้องตัดออกจากการแข่งขันทั้งที่ส่อแววมาตั้งหลายครั้ง
อาทิ พ่อมึงปากแดง ขาสวย แอบชำเลืองหนังช-ช ตอนไปญี่ปุ่น เป็นต้น
ตอนนี้โสดสนิท จะรออะไรอยู่ละพ่อมึง
-
เข้ามาปูเสื่อรอพ่อมึงกับนายมะยมคนดีต่อ
อิอิ
-
.....
....
...
..
.
นายมะยมมาลองนั่งคิด...ว่าคนที่ผลุบโผล่มากระซิบหลายครั้งนี้ เป็นคนเดียวกับผู้มีอุปการะคุณกาแฟร้อนและขนมหวานในทุกๆ วัน...หรือไม่
แต่ก่อนที่จะเริ่มคิด... นายมะยมมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ตัวเองก่อน
.....
....
...
..
.
รู้แล้วจะทำยังไงกับ "นายลึกลับ" คนนั้น
.....
....
...
..
.
ถุงยาแก้เมาที่ไม่ได้ใส่น้ำเปล่ามาให้....เป็นเจ้าของเดียวกับชุดกาแฟยามเช้า----ลายมือในกระดาษโน้ต
นายกระซิบที่ขอเพลงในเธคคืนนั้น...เป็นเจ้าของเดียวกับชุดกาแฟยามเช้า----ลายมือและข้อความที่ต่อเนื่องกัน...ในโน้ต
นายกระซิบที่เจอในเธคคืนนั้น.....เป็นรายเดียวกับนายกระซิบตอนที่เขาป่วย----กลิ่นน้ำยาโกนหนวด
แต่คนที่จับมือตอนเขาป่วยอยู่ที่หอ....เป็นใคร?.... เป็นคนคนเดียวกันหรือเปล่า?
คนที่เคยเป็นตัวเก็งก็ไม่ใช่แล้ว และตัวเก็งเดิมก็ไม่ใช้น้ำยาโกนหนวดกลิ่นนี้ด้วย.....
.....
....
...
..
.
‘อ๊ากกกกก ยิ่งคิดยิ่งปวดหัววุ้ย!’ นายมะยมกุมหัวและฟุบหน้ากับโต๊ะ
.....
....
...
..
.
ใครสักคนสะกิดที่ไหล่นายมะยม... นายมะยมรีบเงยหน้าและหันกลับไป
“พี่มะยมไม่สบายรึเปล่าคะ?” น้องพันซ์ถาม
“เปล่าครับ พอดีไม่มีอะไรให้ทำเลยง่วงนิดหน่อย” พูดพลางส่งยิ้มให้
“งั้นพอดีเลย ลงไปช่วยฝ่ายจัดซื้อหน่อยสิคะ เค้าขอคนจากแผนกเราไปเป็นล่ามน่ะค่ะ.... ลูกค้าชาวญี่ปุ่น” น้องพันซ์บอก
“ครับ ตอนนี้เลยเหรอ?” นายมะยมถามย้ำ
“ช่วง 10 โมงค่ะ อีกเกือบชั่วโมงแน่ะ เดี๋ยวใกล้เวลาแล้วพันซ์จะมาเรียกนะคะ”
“ครับ”..... ทันใดนั้น นายมะยมก็เหมือนนึกอะไรออก “อ๊ะ ไม่ต้องครับ เดี๋ยวพี่ลงไปนั่งเล่นที่นั่นเลยละกัน เผื่อจะได้ดูเอกสารการเจรจาไว้ล่วงหน้าด้วย”
“ค่ะ ติดต่อน้องป๋องนะคะ” น้องพันซ์บอกชื่อคนที่เขาต้องไปประสานงาน
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงไปที่ฝ่ายจัดซื้อ... เขาเดินไปหานายป๋องที่โต๊ะ
“ไงเรา ต้องล่ามรึครับ?” เขาเอ่ยทักก่อน
“อ้าว พี่! รีบมาทำไมอ่ะ อีกตั้งนาน” นายป๋องประหลาดใจที่เห็นเขา
“เช้านี้ว่างน่ะ เลยจะมาคุยเล่น ป๋องงานยุ่งป๊ะล่ะครับ” เขาแย๊บถามอีกฝ่าย
“เดี๋ยวนะพี่ ขอปรินส์นี่ก่อนก็เสร็จแหละ ไว้ไปนั่งรอที่ห้องประชุมเล็กกัน” นายป๋องบอกและชี้นิ้วไปที่เอกสารซึ่งยังพิมพ์ค้างอยู่ในจอ
.....
....
...
..
.
นายมะยมปล่อยให้ป๋องทำงานของตัวเองไปก่อน ส่วนตัวเองก็เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ตัวหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน
สัก 10 นาที ป๋องก็ทำงานเสร็จและรวมเอกสารกับแฟ้มมาไว้ในมือ จากนั้นก็เรียกพี่มะยมให้ไปในห้องประชุมเล็ก
.....
....
...
..
.
นายป๋องเดินไปเปิดไฟแค่พอสำหรับพวกเขาสองคน....เครื่องปรับอากาศ กระจายความเย็นให้แล้วทั้งแผนกอย่างพอเหมาะ โดยที่ไม่ต้องเปิดเพิ่มอีก
นายมะยมเลือกนั่งฝั่งตรงข้ามกับอีกคน.... เขาฟังป่องเล่าเกี่ยวกับลำดับงานและจุดหลักของการติดต่อจัดซื้อครั้งนี้อย่างคร่าวๆ...ด้วยความตั้งใจ
จวบจนเรื่องเกี่ยวกับงานเสร็จสิ้น... นายมะยมจึงค่อยเริ่มชวนคุยเล่น “แล้วตกลง กับคนที่ดูใจกันอยู่เป็นไงบ้างล่ะครับ”
“ก็...ไม่อะไร เรื่อยๆ น่ะพี่” นายป๋องบอก..แต่หน้าเหมือนเซ็ง
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ ไม่ถูกใจอะไร?” นายมะยมเอ่ยถาม
ป๋องทำปากจู๋และเริ่มพูด “ก็...เหมือนๆ เป็นแฟนกันอยู่แล้วนะพี่ แต่พี่เค้าอ่ะจะรุกท่าเดียวเลย นี่ถ้าหลวมตัวไปนั่งเล่นห้องพี่เค้านะ สงครามประสาทชัดๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...ก็ "เป็นที่รัก" ดีนี่ครับ” นายมะยมขำ
“ดีกับผีสิพี่มะยม......" นายป๋องบ่นฉิว "นี่ถ้าพี่เค้าไม่คอยตามใจผมมากขนาดนี้นะ ผมชิ่งไปนานแล้ว”
“โถ...เชื่องขนาดนี้ พี่ชิ่งยากนะครับ” นายมะยมแหย่
“ใครเชื่อง?" ป๋องทำตาเคืองใส่พี่มะยม "ฮึ... นี่ว่าอาทิตย์หน้า ผมว่าจะเอายานอนหลับใส่ในเหล้าให้กินอยู่พอดี จะได้ตัดสินกันสักที คาราคาซัง มัน...ฮึ๊ยยยยยย!” นายป๋องอารมณ์ขึ้น
“อืม.... ใจเย็นๆ.... นี่พี่ว่าจะมาถามอะไรนิดหน่อย อารมณ์ไม่ดีแบบนี้ พี่คงต้องคุยวันหลังแล้วมั๊ง” นายมะยมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“เรื่องนั้นช่างมัน! พี่มะยมถามเลยครับ เรื่องไรอ่ะ?” นายป๋องเปลี่ยนสีหน้าทันควัน
“ป๋องจำวันที่พี่ป่วยแล้วเราต้องไปนอนเฝ้าพี่ที่ห้องได้มั้ยครับ?” นายมะยมเท้าความ
“อ๋อ ได้สิพี่ มีไรเหรอ?” นายป๋องย้อนถาม
“ป๋องได้กุมมือพี่ตอนพี่หลับบ้างมั้ยครับ?” นายมะยมถามสิ่งที่ยังคาใจตัวเอง
“เฮ้ย! ไม่กล้าครับพี่ พี่ศรอยู่ด้วยตลอดง่า” ป๋องปฏิเสธเสียงแข็ง
.....
....
...
..
.
ป๋องยืนยันว่าทุกครั้งที่อยู่ในห้อง พี่ศรจะอยู่ด้วยกันตลอด ... และถึงตอนนั้นป๋องจะแอบชอบพี่มะยมอยู่ แต่นายป๋องก็ไม่เดียงสากับความรู้สึกรักในสรีระผู้ชาย
ป๋องบอกว่า ชอบที่คุยกับพี่มะยม ไปเที่ยวเล่นอะไรแบบนี้ อยากเดินควงแขนเล่นก็เคยมีคิดบ้าง แต่ไม่เคยติดที่จะจับมือ หรืออะไรที่มากไปกว่านั้น
.....
....
...
..
.
คนที่อยู่ทั้งในออฟฟิศและตึกเดียวกัน------เหลืออีกแค่เพียงหนึ่งตัวเลือก
.....
....
...
..
.
แต่ถามหน่อย คิดอะไรอยู่... หากดูตามปฏิทินมันนานกี่เดือนแล้ว... ทำไมยังนิ่งๆ เฉยๆ แบบนั้น.... หรืออีกฝ่ายเขาตั้งใจที่จะ----
.....
....
...
..
.
นายมะยมฉุกคิดและถามตัวเองอีกครั้ง ------ ถึงรู้แล้วจะได้อะไร ถึงรู้ว่าคนลึกลับเป็นใครแล้วเขาจะทำอะไรกับอีกฝ่าย...งั้นเหรอ?
.....
....
...
..
.
ไม่เคยจีบผู้ใหญ่
.....
....
...
..
.
เคยถูกผู้ใหญ่จีบครั้งหนึ่ง-----รู้สึกว่าผู้ใหญ่น่าเบื่อ ไม่น่ารัก ไม่ร่าเริงเหมือนเด็กๆ... คบด้วยแล้วไม่สนุก
.....
....
...
..
.
คุณภักดี----- ตรงข้ามกับสเปคของนายมะยมทุกอย่าง
.....
....
...
..
.
หน้าเฉยไม่ยิ้ม....ติดว่าดุอีกต่างหาก
เสียงก็ดุ....พูดจาก็เข้ม ไม่ชอบคุยเล่น แทบไม่พูดเป็นปกติเสียด้วยซ้ำ
อายุก็มากกว่า...ถึงแค่ 6 ปีก็เหอะ
ทำกับข้าวไม่เป็น
ไม่ดูหนังโป้
เป็นคนซีเรียส
เป็นคนในที่ทำงานเดียวกัน แผนกเดียวกัน แถมยังเป็นหัวหน้าของเขาอีก
ไม่ว่าทางไหนนายมะยมก็ไม่โอเค
.....
....
...
..
.
-
ก็คงเพราะพ่อมึงรู้ว่าไม่ใช่สเป็คล่ะมั้งเลยไม่กล้าเผยตัว กลัวถูกปฏิเสธ
-
อ๊ากก ไม่โอเคแล้วยังไง
ไม่รอดูเค้าก่อนล่ะ
อาจจะมีดีกว่าที่คิดก็ได้นะ อิอิ
จดจ่อ ลุ้นกันต่อ
-
เพิ่งเคยอ่านครั้งแรก มะยมน่ารักดี :m18: :m18:
:pig4: :pig4:
-
มะยมอย่าเพิ่งปิดกันพ่อมึงสิ ลองก่อนมั้ยว่าถูกใจป่ะ
-
.....
....
...
..
.
เอ็มเอสเอ็นในเครื่องคอมพิวเตอร์ 5 เครื่องถูกเปิด.....ในสถานที่ต่างกัน
กัน_CK-- ครบยังวะ? ห้าคน นับดิ?
คันศร-- กูมาแล้ว
ต้นไม้-- เออ
คนมีเจ้าของ-- ครับ
CAN-- ครับ
กัน_CK-- โอเค พวกมึงซ่อนตัวให้หมด เด๋วไอ้นิยมมันจะเห็น
ต้นไม้-- แล้ว
CAN-- เรียบร้อยครับ
คนมีเจ้าของ-- คุณนิยมเค้าไม่มีเมลผม เค้าไม่เห็นผมอยู่แล้วครับคุณ
คันศร-- แม่งนั่งน้ำลายย้อยข้างกูเนี่ย!! ทำไมต้องตอนนี้วะ?
กัน_CK-- อ้าว... ก็เสือกจะมาพร้อมหน้ากันเวลานี้ทำไมละ!
ต้นไม้-- ไอ้ที่ชื่อ CAN / คนมีเจ้าของ ... พวกมึงเป็นใครวะ?
คนมีเจ้าของ-- อ๊าวววววววว ผมเชษฐไงครับ คุณต้นไม้
CAN-- ผมป๋องฝ่ายจัดซื้อครับ ตึกเดียวกับพี่ไม้อ่ะ
ต้นไม้-- ป๋องไหน? ทำไมกูไม่รู้จัก?
กัน_CK-- เออ เดี๋ยวกูเอาหน้าน้องป๋องไปให้มึงดู แต่มึงเข้าเรื่องก่อนไอ้ไม้
ต้นไม้-- เออ!
คันศร-- แล้วป๋องเกี่ยวไรกับเรื่องไอ้ยม? กูไม่เข้าใจ
กัน_CK-- เกี่ยวที่สุด!
ต้นไม้-- ยังไง?
กัน_CK-- จัดไปครับน้องป๋อง
CAN-- ครับพี่กัน... คือพี่ๆ หาคนที่สั่งกาแฟให้พี่มะยมทุกเช้าใช่ป๊ะ?
คันศร-- อื้ม
ต้นไม้-- เออ
CAN-- ผมรู้ว่าเป็นใคร ผมเคยเห็น
คันศร-- ป๋อง ไม่เอาเดาสุ่มนะ ต้องมีหลักฐาน ต้องมีพยาน ต้อง “ชี้ถูกตัว” เท่านั้น!
ต้นไม้-- ใช่ๆๆๆๆ
คนมีเจ้าของ-- ผมเป็นพยานให้ได้ครับ ผมก็เคยเห็น
คันศร-- จริงงงงงงงงงงงงงงง
ต้นไม้-- !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.....
....
...
..
.
-
คืนนี้จะมีต่ออีกมั้ย? จะได้ไม่นอน... :t3:
o13 o13 o13 o13
ขอบคุณมากค่ะ
-
อ๊ากกก
มันลุ้นขึ้นทุกวินาที
คืนนี้คงนอนไม่หลับ
ถ้าไม่จับนายกระซิบให้ได้คาหนังคาเขา อิอิ
-
แอบคิดว่ากันจะคิดว่าหัวหน้ากับนายกระซิบเป็นคนเดียวกัน เพราะเห็นนายกันเชียร์สองคนนี้อะ
-
ลุ้นกับคำที่เก้าใจจะขาด !
-
ตกลงนายกระซิบใช่พ่อมึงป่าวค้า แอบเชียร์นะค้า โฮ่ๆๆ
-
เกาะชิดติดขอบจอ รอคำตอบจากพยาน
-
.....
....
...
..
.
ป๋องเล่าว่า
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มหน้าขาวทรงผมสไตล์เกาหลีนั่งหน้าตึงอยู่ในร้านกาแฟชั้นสองของตึกที่ทำงาน.... เขากำลังรอคำขอโทษจาก “แฟน”
ทว่า แฟนเค้าไม่มีท่าทีรู้สึกผิดเลยสักนิดเดียว ดูดู๊ ดูดิ๊!!!
กาแฟร้อนหอมกรุ่นถูกชายหนุ่มผมเกรียนซึ่งแต่งเครื่องแบบที่สุภาพมาก...กว่าพนักงานคนอื่นๆ ในร้าน----- เมื่อวางถ้วยกาแฟเสร็จแล้ว ชายคนนั้นก็เดินไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ผมโมโหอยู่นะ จะให้กินของร้อนอีกเรอะ!” ชายหนุ่มหน้าขาวเคี้ยวฟันบอกอีกฝ่าย
ชายที่ไว้เคราเตียนๆ จนทำให้หน้าดูดุดันใช้นัยน์ตาแขกคู่โตของตัวเองมองชายหนุ่มหน้าขาว... “ก็เห็นว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนี่ครับ”
“เพราะใครล่ะ!” ชายหนุ่มกระแทกเสียง...เบาๆ
“ก็เราท้าพี่ทำไมล่ะครับ ก็รู้อยู่ว่าพี่ยุขึ้นง่าย” เขาโป้ยความผิดให้กับชายหนุ่มหน้าขาว
“ทำไมเป็นคนแบบนี้! เลิก! เลิก! พอ! ไม่เอาแล้ว!” ---- พูดเหมือนขอเลิกแต่คนที่พูดไม่ยักจะลุกหนี...ไปไหน
“มันก็เจ็บแค่ครั้งแรกละ ครั้งต่อๆ ไปมันก็ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะครับ เชื่อฝีมือพี่สักทีสิครับ” เขาบอกอีกฝ่ายอย่างหน้าตาเฉย ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เป็นบทสนทนาทั่วไปซึ่งสามารถพูดในที่รโหฐานได้
“หุบปากเลย! มียางอายซะบ้างสิ!” ชายหนุ่มหน้าขาวยกนิ้วชี้ไปที่อีกฝ่าย
“เราก็อย่าดื้อนักสิครับ เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ” เขาทวงถามฐานะที่มีระหว่างกัน
“ไม่เกี่ยว!” ชายหนุ่มพูดเสียงหนัก
เขาระบายลมหายใจแบบ...จนปัญญา และเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นแทน “ไม่ดื่มละครับ เดี๋ยวมันเย็นนะครับ”
“ร้อน! ไม่กิน!” ชายหนุ่มหน้าขาวยกมือทั้งคู่ของตัวเองขึ้นมากอดอก
เขาส่ายหน้า และลุกขึ้นมายกแก้วกาแฟถ้วยเดิมไปจากโต๊ะ... เขาเดินไปที่พนักงานชงกาแฟและพูดอะไรบางอย่าง พนักงานพยักหน้าและรับถ้วยกาแฟไปจากมือของเขา
ระหว่างนั่งเงียบๆ ให้คลายความโมโห....ชายหนุ่มหน้าขาวหันหน้าไปคว้านิตยสารเล่มหนึ่งมาเปิดอ่าน----ไม่อยากมองตามคนไม่มียางอาย!
ขณะที่ชายหนุ่มกำลังอ่านบทความหนึ่ง สายตาของเขามีคนคนหนึ่งเดินแวบผ่าน... เขาเหลือบตาไปมองลูกค้ารายใหม่ที่เข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟ....ตามนิสัยที่ชอบมองนู่นนี่ไปเรื่อย
พอเห็นคนที่เพิ่งมาใหม่ว่าเป็นใครแล้ว ชายหนุ่มก็รีบยกนิตยสารขึ้นมาบังหน้าทันที---- ก็คนนี้เค้าหน้าดุ ถึงไม่มีเครา ตาไม่โตแบบแฟนของเขา... ไม่รู้ยังไงเขาถึงรู้สึกว่า คนหน้าเกลี้ยงเกลา ผมเรียบเสยเป็นระเบียบ และแต่งตัวแสนสุภาพคนนี้...น่ากลัว
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มเห็นคนน่ากลัวเดินออกไปจากโต๊ะแล้วจึงวางนิตยสารลง... ที่โต๊ะซึ่งเขานั่งดื่มกาแฟเมื่อครู่ มีถุงกระดาษสีน้ำตาลเรียบอันหนึ่งวางทิ้งไว้
เขากะว่าจะบอกแฟนทีหลังว่าลูกค้าลืมของ.... แต่แล้ว เสียงของแฟนเขาก็ดังขึ้น “ต่ายครับ เอสเพรชโซ่ได้แล้ว” พนักงานหญิงของร้านคนหนึ่งมาเก็บแก้วกาแฟและเอาถุงกระดาษนั้นวางใส่ในถาดอย่างเร่งรีบ จากนั้นก็เดินหายเข้าไปในเค้าเตอร์กาแฟ
เธอออกมาอีกครั้งพร้อมแก้วกาแฟร้อน...พลาสติก และถุงกระดาษสีน้ำตาลเรียบ---อันนั้น
ชายหนุ่มมองตามพนักงานหญิงคนนั้นไปอย่างความงุนงงระคนประหลาดใจ....แฟนเขาเห็นถุงกระดาษสีน้ำตาลนั้นแล้ว แต่ก็ปล่อยให้เธอเอามันไปที่อื่นพร้อมกาแฟ------มีบริการส่งกาแฟนอกสถานี่ด้วยเหรอ?... ไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย
ระหว่างที่เขากำลังสงสัยอยู่ในใจ แฟนของเขาก็เอากาแฟปั่นแก้วหนึ่งมาวางให้เขา
“คิ้วขมวดทำไม พอแล้ว ไม่เอา ทำหน้าดีๆ ครับ” แฟนของเขาเอานิ้วชี้จิ้มที่กลางหว่างคิ้ว แล้วปัดที่ปลายจมูกของเขาเล่น
เขาปัดนิ้วอีกฝ่ายออกไปและบอกเหมือนไม่พอใจว่า “ไหนว่าไม่มีบริการส่งกาแฟนอกสถานที่ไง”
“ก็ไม่มีนี่ครับ” แฟนของเขายืนกราน
“ก็น้องต่ายอ่ะ เอากาแฟไปให้ใครล่ะ ผมจะมาช่วยทำร้าน ส่งกาแฟตามแผนกให้พี่ พี่ก็ไม่เอา! เพราะผมจะมาช่วยสินะถึงไม่ได้!” เขาเริ่มฉุนขาด---และน้อยใจ
“ป๋อง! ร้านพี่พี่ทำเองได้ งานป๋อง ป๋องชอบก็ควรทำงานนั้น เราคุยกันแล้วไงครับ ส่วนต่าย...อันนั้นกรณีพิเศษ” แฟนของเขาพูดเสียงเข้ม
“กรณีพิเศษ!” นายป๋องฉุนขาด หยิบแก้วกาแฟปั่นขึ้นมาถือและเดินลุกออกจากโต๊ะนั้น....ก้าวฉับๆ ออกไปจากร้านกาแฟของแฟนตัวเองราวกับพายุพัด
.....
....
...
..
.
นายป๋องยืนเคี้ยวหลอดกาแฟอยู่ในลิฟท์ด้วยความไม่พอใจ.... แฟนชอบเอาอกเอาใจเขาก็จริง แต่แฟนชอบขัดคอเขาตลอด
ล่าสุดที้เป็นประเด็นใหญ่ในช่วงนี้คือเรื่องที่ป๋องว่าจะลาออกจากงาน แล้วมาช่วยแฟนทำร้านกาแฟ...โดยจะเพิ่มบริการสองตามสถานที่ เพิ่มทำขนมขายด้วย----ก็ไม่เอา ยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว
แล้วนี่อะไร?----กรณีพิเศษ!!!!
.....
....
...
..
.
ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห!
ขณะที่นายป๋องกัดหลอดจนขาด ลิฟท์ก็มาถึงชั้นที่ 30 พอดี
เมื่อประตูเปิดเขาและชายอีกคนเดินออกมาจากลิฟท์และเลี้ยวไปทางเดียวกัน
นายป๋องเดินพลางชำเลืองมองคนที่เดินถัดกันไปนิดเดียว... ป๋องจำได้ว่า ผู้ชายคนนี้ก็นั่งอยู่ในร้านด้วยกัน เขานั่งโต๊ะที่ถัดไปตรงช่วงกลางร้าน... ที่ป๋องจำหน้าเขาได้ก็เพราะชายคนนี้นั่งหันหลังให้หน้าร้าน และหันหน้ามาทางป๋องพอดี----ป๋องเลยจำได้ติดตา
.....
....
...
..
.
ขณะที่ป๋องจะเปิดประตู ชายคนนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดประตูก่อนเขา----- ชายคนนั้นผายมือให้เขาเดินเข้าไปก่อน
“ขอบคุณครับ” นายป๋องส่งยิ้มและกล่าวขอบคุณให้อย่างเป็นมิตร
“ไม่เป็นไรครับ” ชายคนนั้นบอกเขา
ทันทีที่พวกเขาเข้ามายืนอยู่หน้าประตูแผนกต่างประเทศ... พนักงานฝ่ายคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี เธอกล่าวทักทายพวกเขาสองคน “มาหาใครคะ?”
“พี่มะยมครับ” เขาบอก
“คุณมะยมครับ” ชายคนนั้นบอก
-
ขอบอกว่าตอนนี้ทุกคนที่อ่านนิยายเรื่องนี้อยู่ในสถานะ "ใกล้บ้าา"ขอเท้ออจบวันนี้ตี3ก็ย๊อมมมเค้ามะไหวแล้วจะขาดใจ
-
ขอบอกว่าตอนนี้ทุกคนที่อ่านนิยายเรื่องนี้อยู่ในสถานะ "ใกล้บ้าา"ขอเท้ออจบวันนี้ตี3ก็ย๊อมมมเค้ามะไหวแล้วจะขาดใจ
55555 ใกล้ไปเปิดสำนักงานนักสืบได้เลยล่ะค่ะ
ตามพ่อมึงกันต่อไป งานนี้ต้องจับให้ได้
นั่งรีเฟรชทุกๆสามนาที ฮาาา
-
ถูกใจสองรีบนที่สุด ใจจะขาดแล้วเอย
ไม่ทำอะไรแล้ว นั่งรอ กดกันแต่ f5 นี่แหละ
อยากกรีดร้อง ใครวะเฮ้ย.... :z3:
-
เกิดอาการเดียวกันกับทุกรีด้านบนค่ะ
งานการไม่ทำแล้วค่ะ!
-
อาการตื่นเต้น ทำให้ต้องเข้ามาดูตลอดเวลา
"พ่อมึง พ่อกู" สถานีอื่นไม่เอา 555
สนุกมากกกกกกค่า
รีเฟรชต่อไป หุหุ
:L2: :L2:
-
.....
....
...
..
.
CAN-- ผมเห็นถุงขนมอันนั้นกับกาแฟแก้วนั้นอยู่คาปากพี่มะยมเลย
คนมีเจ้าของ-- ใช่ครับ อันเดียวกัน ผมเป็นพยานได้
ต้นไม้-- แค่ครั้งเดียว มันยืนยันไม่ได้เว้ย!
CAN-- ที่ไหนอ่ะ ผมเห็นทุกวันเลย
คันศร-- แน่ใจ!
CAN-- ชัวร์ป๊าบ! ผมเค้นคอถามแฟนผมมาแล้ว นั่นอ่ะตัวดี สมรู้ร่วมคิดเลยล่ะ!
กัน_CK-- พวกมึงคิดว่าไง ผ่านมั้ยล่ะ
คันศร-- ถ้าเป็นพ่อไอ้ยม กู....พูดไม่ถูกว่ะ
ต้นไม้-- ไม่ดีเหรอวะ?
คันศร-- ไม่ใช่... มันทะแม่งว่ะ หัวหน้าแผนกนะมึง ต้องเห็นหน้ากันทุกวัน เวลาทำงานมันจะยังไงวะ?
คนมีเจ้าของ-- มันก็ต้องแบ่งเวลางานกับเวลาส่วนตัวสิครับ
ต้นไม้-- แล้วอย่างอื่นล่ะวะ นิสัย ความเข้ากันได้
CAN-- ผมว่าพี่มะยมเข้ากับคุณภักได้เนียนดีนะครับ ตอนไปญี่ปุ่น ผมกลัวคุณภักแทบตาย เกร็งมากๆ แต่พี่มะยมก็แหย่คุณภักเล่นเฉยเลย ทีแรกผมนึกว่าคุณภักจะโกรธ ที่ไหนได้ไม่มี พี่มะยมแหย่มากนัก คุณภักก็เฉยใส่ พี่มะยมก็หยุดไปเอง ไปเล่นอย่างอื่นแทน ก็โอเคดีนะพี่
คันศร-- นิสัย พี่ไม่เถียง ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ มีระเบียบ คิดเป็น ก็คุมไอ้ยมได้ง่าย
กัน_CK-- กูว่างั้นแหละ ถ้าได้คนเนี้ย กูละนอนตายตาหลับ
คนมีเจ้าของ-- ไม่ได้นะครับคุณ เรื่องของความรัก เราต้องแล้วแต่คุณมะยมเค้า อย่าบังคับใครครับ มันไม่ดี
กัน_CK-- ผมไม่ได้จะคลุมถุงชนมันนะคุณ
ต้นไม้-- แล้วที่คุยมาเนี่ย พวกมึงจะมาเล่าให้กูฟังเฉยๆ??
กัน_CK-- บ้าดิ... กูจะให้พวกมึงช่วยกันคิดว่าจะทำยังไง ให้ไอ้ยมมันรู้ว่าเจ้าของกาแฟนั่นเป็นใคร
คันศร-- กูว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำว่ะ ตอนนี้แม่งจะคิดสนมันยังไม่สนเลย ถึงรู้ว่าเป็นใครแล้ว มันจะได้อะไรขึ้นมา
CAN-- ที่เหลือค่อยว่ากันใหม่พี่ศร ถ้าไฟมันไม่สปาร์ค มันก็ตัดไปเองแหละพี่.... แต่ทำดีกว่าปล่อยไปเฉยๆ
ต้นไม้-- เออ กูเห็นด้วยกับไอ้น้องแคน เด๋วเพื่อนกูแม่งเหงาใจไปคว้าไอ้บอสเบอร์สองมาอีก.... ไม่ไหวว่ะ ไม่ไหว
CAN-- ผมป๋อง ไม่ใช่แคน...เรียกซะเสี่ยวเลย!
ต้นไม้-- มึงหน้าตาดีมากว่างั้น
CAN-- ชัวร์
ต้นไม้-- อยากเล่นชู้กับกูมั้ย? สนุกนะ
CAN-- ....................
.....
....
...
..
.
-
5555555
ฮาเพื่อนอะ
แต่ตรงนี้ น่าจะเป็นนายป๋องมากกว่านายกันใช่มั้ยคะ
กัน_CK-- ผมว่าพี่มะยมเข้ากับคุณภักได้เนียนดีนะครับ ตอนไปญี่ปุ่น ผมกลัวคุณภักแทบตาย เกร็งมากๆ แต่พี่มะยมก็แหย่คุณภักเล่นเฉยเลย ทีแรกผมนึกว่าคุณภักจะโกรธ ที่ไหนได้ไม่มี พี่มะยมแหย่มากนัก คุณภักก็เฉยใส่ พี่มะยมก็หยุดไปเอง ไปเล่นอย่างอื่นแทน ก็โอเคดีนะพี่
-
โอ่ยๆๆๆ เปิดสำนักงานนักสืบกันเถอะค่ะ 555555
-
คุณภักดี----- ตรงข้ามกับสเปคของนายมะยมทุกอย่าง
...
..
.
ไม่ดูหนังโป้
รู้ได้ยังไงว่า นายภักดีหัวหน้าพ่อมึงคนใส่ฮู๊ดไม่เคยดู
กล่าวหากันขนาดนี้ ระวังจะโดนข้อหาดูถูกเจ้าพนักงานอย่างแรวงนะฮว๊าฟฟ~~
ต้นไม้-- มึงหน้าตาดีมากว่างั้น
CAN-- ชัวร์
ต้นไม้-- อยากเล่นชู้กับกูมั้ย? สนุกนะ
CAN-- ....................
.
.
.
.
แล้วคนอื่นไปไหนหมดดดดดดดด เจอช็อตนี้เข้าไปออฟไลน์กันไปเลยสิท่า กร๊ากกกกกกกกกก
มาเร็วๆๆๆ F5 รออออ
-
CAN-- ผมป๋อง ไม่ใช่แคน...เรียกซะเสี่ยวเลย!
ต้นไม้-- มึงหน้าตาดีมากว่างั้น
CAN-- ชัวร์
ต้นไม้-- อยากเล่นชู้กับกูมั้ย? สนุกนะ
CAN-- ....................
:m29:
แทบจะออฟไลน์ตาม
-
.....
....
...
..
.
ท่ามกลางสายฝน เสียงฝีเท้าลงหนักของขาสองคู่.......ดังราวกับเสียงกระซิบกระซาบ
คนสองคนวิ่งเข้ามาในทางเดียวกัน....ตึกหอพัก
เมื่อก้าวมาถึงขอบเขตของตึก ตัวของพวกเขาก็ไม่เปียกฝนอีก
“อยู่ๆ ก็ตก ไม่ให้ซุ่มให้เสียงกันเลย” นายมะยมบ่นอุบ
“อย่าโทษฟ้าโทษฝน ไม่มีฝนคนอื่นเขาลำบาก” คนที่อยู่ในชุดวอร์มพูด
นายมะยมเลิกชายเสื้อขึ้นมาและถอดมันออกจากตัว....บิดน้ำจนแห้ง
คนที่สวมชุดวอร์มหันหน้ามามองเขา นายมะยมหันหน้าไปถามจึงสบสายตากับดวงตาในแว่นกรอบหนานั้น...เข้าพอดี “ไม่ขึ้นห้องล่ะครับ ยืนตัวเปียกเดี๋ยวก็ไม่สบาย”
“คุณจะไปไหน?” คนที่อยู่ในชุดวอร์มถามเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายก็ไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นไปบนห้อง
“ผมจะไปซื้อต้มเลือดหมู” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
“ไว้ไปหากินที่อื่น จะเดินตากฝนไปได้ยังไง!” เสียงเข้มดุตวาดใส่เขา
“แค่นี้เอง” นายมะยมเถียง
“ใช่เรื่องมั้ยครับ? หากินอย่างอื่นเอาสิครับ” เสียงนั้นยังคงเข้มและดุ
“เสียดายตำลึงอ่ะ เด็ดรอไว้แล้วก่อนลงมาวิ่งเนี่ย” นายมะยมยกข้ออ้าง
“เด็ดแล้วก็กิน ไม่จำเป็นต้องใส่ในอาหาร” คนที่อยู่ในชุดวอร์มบอกเขา
นายมะยมขมวดคิ้ว...เป็นเง็ง “ทำไงครับ กินเปล่าๆ?”
“ผมปั่นน้ำกินทุกวัน ไม่เห็นยาก” คนที่อยู่ในชุดวอร์มบอกวิธีการกินตำลึงริมระเบียงกับเขา
“หา!! อี๋ ไม่เอาหรอก!” นายมะยมเบ้ปาก
“น้ำใบย่านางยังกินได้ แค่ตำลึงอี๋ทำไมครับ” คนที่อยู่ในชุดวอร์มคิ้วขมวดปม
“อันนั้นมันหวาน ไม่เหมือนกัน”
“น้องหนูยังกินได้เลย เวลามานอนกับผม ผมก็ให้เค้าดื่มทุกเช้า บางวันก่อนนอนยังขออีกแก้ว” คนที่อยู่ในชุดวอร์มพูดหน้าตาเฉย
.....
....
...
..
.
----------หยามกันชัดๆ
.....
....
...
..
.
คนที่อยู่ในชุดวอร์มเดินนำเข้าไปในห้อง
นายมะยมเดินเข้ามาถึงแค่ตรงหน้าตู้รองเท้าและยังไม่ยอมเข้าไปด้านใน....ตัวเขาเปียก เขาเกรงใจพื้นห้อง
คนที่อยู่ในชุดวอร์มเดินเข้าไปปุ๊บ...ตรงไปที่หัวเตียง เขาเอื้อมมือไปทำอะไรสักอย่างกับกรอบสี่เหลี่ยม จากนั้นถึงหันมาหาเขา
“เข้ามาสิ!” คนที่อยู่ในชุดวอร์มบอก
“เดี๋ยวพื้นเปียกครับ” นายมะยมบอกเจ้าของห้อง
“ตามใจ” เขาพูดจบก็เดินไปที่โต๊ะทรงผืนผ้าหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมห้องติดระเบียง เขาเสียบปลั๊กไฟ แล้วเอาใบตำลึงตะกร้าใส่ลงไปในโถของเครื่องปั่น.... เสียงมอเตอร์มันดังเบาดี ไม่รบกวนผู้ที่อยู่ห้องข้างเคียง
ระหว่างที่เจ้าของห้องทำน้ำตำลึงของตัวเอง นายมะยมก็ส่ายสายตามองไปรอบๆ ห้อง
.....
....
...
..
.
น่าอยู่ดีแฮะ-----นายมะยมคิด
.....
....
...
..
.
“อ่ะ สักพักคุณค่อยเอามาคืน ผมว่าจะอาบน้ำก่อน” เจ้าของห้องยื่นเครื่องปั่นมาให้นายมะยม
นายมะยมรับมันมาอุ้ม และกล่าวขอบคุณ
.....
....
...
..
.
พอเขาหันหลังเดินมาได้สองสามก้าว นายมะยมก็ได้ยินเสียงปิดประตู...
นายมะยมเดินอุ้มเครื่องปั่นขึ้นมายังห้องของตัวเอง---- เขาเดินขึ้นบันไดไปพลางคิดว่า ‘นี่ตูต้องกินน้ำตำลึงเฉยๆ จริงๆ เหรอ... ’
.....
....
...
..
.
ในความคิดของนายมะยม ผักที่ชื่อ “ตำลึง” มันเหมาะกับการทำอาหารคาว
“ตำลึง” ไม่เหมือนใบย่านางที่ดื่มแทนเครื่องดื่มได้
“ตำลึง” ไม่ใช่สะระแหน่ที่โรยของคาวได้ ใส่ปนในเครื่องดื่มได้ โรยในของหวานได้
.....
....
...
..
.
-
น้ำตำลึงปั่น แม่เจ้า :really2:
พ่อมรึงงงงง คิดได้ไงจ๊ะ
-
ดูเหมือนพ่อมึง กับ ลูกกู จะเริ่มมีปฏิสัมพันธ์นอกเหนือจากงานมากขึ้นแล้วน๊า
-
ก้อ เพราะ เป็น พ่อมึง นะสิ ถึง ทำได้
เหมือนแอบด่างัยไม่รู้
คึ คึ คึ
-
อยาก กิน....ต้มเลือดหมู...บ้างเลย
-
พ่อมึงช่วยกลายร่างเป็นนายกระซิบทีเถอะ
ไม่มีหวานใส่มะยมเลย แบบนี้มะยมจะใจอ่อนได้ไงน้อ
ทีเป็นนายกระซิบนะอย่างหวานอ่ะ
:-[
-
น้ำตำลึง...พึ่งเคยได้ยินว่าเอามาปั่นเป็นน้ำได้ :a5:
-
.....
....
...
..
.
นายมะยมที่แต่งชุดทำงานเสร็จแล้วสะพายกระเป๋าและเดินอุ้มเครื่องปั่นลงมาที่ชั้น 5...เขาเดินไปยังห้องของหัวหน้า....แผนกของตนเอง
เคาะประตูตามมารยาท 3 ครั้ง....ประตูก็เปิด
“คืนครับหัวหน้า ขอบคุณครับ” นายมะยมยื่นเครื่องปั่นคืนเจ้าของ
เจ้าของมันรับมันไปและวางมันไว้ที่ตู้รองเท้า... นายมะยมเพิ่งสังเกตว่า หัวหน้าของเขา ใส่รองเท้าหนังและแต่งชุดทำงานเสร็จแล้ว
เพียงชั่วอึดใจ หัวหน้าของเขาก็หิ้วกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเช้าชุดกับรองเท้า ออกมาจากห้องพักของตัวเอง
ขณะที่อีกฝ่ายล็อคกุญแจห้อง.... “จะไปทำงานเลยเหรอครับ”
“ผมไปเวลานี้ทุกที” หัวหน้าพูด
.....
....
...
..
.
นายมะยมลงลิฟท์มาพร้อมหัวหน้าของตัวเอง
.....
....
...
..
.
ตอนที่พวกเขามาถึงประตูทางออกของตึก.....สายฝนยังไม่หยุดตก แต่ค่อนข้างซาลงแล้ว
.....
....
...
..
.
นายมะยมคว้าแขนของคนที่อยู่ข้างๆ เอาไว้ทันทีที่เห็นท่าทีว่าอีกฝ่ายจะเดินฝ่าสายฝนไป....ที่รถ “เดี๋ยวไม่สบาย!”
“ผมทำแบบนี้ทุกที ไม่เห็นเป็นไร” อีกฝ่ายบอกเขา
“ถ้าผมไม่เห็นหัวหน้าจะทำก็ได้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ครับ!” นายมะยมยื่นคำขาด....วิญญาณคนดีเข้าสิง
“แค่นี้เอง คุณไปเถอะน่า” หัวหน้าไล่เขา....สีหน้าเริ่มระบายความขัดใจขึ้นมา...นิดเดียว
นายมะยมไม่ปล่อยมือที่จับแขนของอีกฝ่ายไว้ เขาเอามืออีกข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋า....ปลดและกางร่มด้วยมือเดียว---อย่างชำนาญ
ตอนที่หันหน้ามาหาอีกฝ่ายเขาเห็นสายตาทึ่ง...จากอีกฝ่าย.... “ทำไมครับ?”
“ทำได้ไง?” อีกฝ่ายถามเขา
“กางมือเดียวน่ะเหรอครับ?” เขาย้ำประเด็นให้แน่ใจ
“อื้อ” เสียงรับในลำคอ
“ก็ฝึกสิครับ” นายมะยมบอก
ไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้....
ใครจะว่าเขาประหลาดก็ตามสบาย....
เขาชอบทำ----ฝึกกางร่มด้วยมือเดียว ฝึกขีดไม้ขีดด้วยมือเดียว ฝึกเสียบหลอดน้ำผลไม้กล่องด้วยมือเดียว---- ไม่ใช่ไร้สาระนะ.... ชีวิตคนเมื่อกรุง บางครั้งเราไม่ได้มีมือว่างทั้งสองมือเสมอไป ฝึกทำอะไรด้วยมือเดียวบ้าง มันก็เป็นประโยชน์----อย่างที่เห็นนี่ไง!
.....
....
...
..
.
“ผมไปส่ง” นายมะยมกางร่มและเว้นที่เผื่อให้คนอีกคนเดินมาในร่มเดียวกัน
.....
....
...
..
.
ร่มพับส่วนใหญ่จะมีความกว้างไม่มาก... ร่มคันนี้หากกางคนเดียวมันจะกว้างและคลุมได้เกินหัวไหล่
.....
....
...
..
.
หากคนที่อยู่ใต้ร่มมีสองคน ถ้าไม่อยากเปียก ก็ต้องชิดๆ กันหน่อย
.....
....
...
..
.
ระหว่างที่เดินฝ่าสายฝน....ไป
เม็ดฝนที่เป็นฝอยเริ่มเพิ่มขนาดมากขึ้น
พวกเขาสองคนเริ่มเดินให้เร็วขึ้น
.....
....
...
..
.
หัวหน้าเดินพามาถึงรถของตัวเอง เขาล้วงกุญแจรถออกมาและไขประตูเปิด
นายมะยมถอยให้เขาเดินเข้าไปในรถ
.....
....
...
..
.
เมื่ออีกฝ่ายหันหลังและเบียดตัวเขาเข้าไป ..... นายมะยมได้กลิ่นหอม
.....
....
...
..
.
“คุณจะไปด้วยกันไหม?” หัวหน้าชวนเขา
นายมะยม ส่ายหน้า “ขอบคุณครับ ไม่รบกวนดีกว่า ผมว่าจะแวะไปกินข้าวก่อนเข้าออฟฟิศ ร้านมันอยู่ระหว่างทาง ขับรถไม่สะดวกหรอกครับ”
“ตามใจ” หัวหน้าบอก และค่อยๆ ปิดประตูรถ
นายมะยมถอยห่างออกมา
.....
....
...
..
.
เขาหันหน้ากลับไปดูรถคันนั้นอีกครั้ง!
.....
....
...
..
.
เขาตกใจและรีบวิ่งไปที่รถคันเดิมที่ซึ่งเพิ่งเดินห่างออกมา
.....
....
...
..
.
เขารีบเคาะกระจกรถคันนั้น....อย่างแรงหลายที
.....
....
...
..
.
นายมะยมรีบเดินไปที่ประตูหน้าของรถ... กระจกถูกเลื่อนลงมา
หัวหน้าขมวดคิ้วและตะโกนถามเขา “มีอะไรครับ?”
นายมะยมเกาะหน้าต่างรถ และยื่นหน้าไปบอก “ล้อรถมันแบนแต๋เลยครับ หัวหน้า ขับไม่ได้นะครับ”
.....
....
...
..
.
เมื่อจมูกของนายมะยมสัมผัสความเย็นของแอร์ภายในรถยนต์...... เขาได้กลิ่น
.....
....
...
..
.
น้ำยาโกนหนวด...ที่สดชื่น..... กลิ่นเหมือนมินต์
.....
....
...
..
.
นายมะยมตกตะลึงพึงเพริดนิ่งค้าง!
.....
....
...
..
.
แม้เหลือตัวเลือกแค่หนึ่ง... แต่นายมะยมก็พยายามไม่คิดว่าเป็นคนคนนี้...
เพราะเขาไม่เคยได้กลิ่นนี้จากตัวคนคนนี้...เลยสักครั้ง
.....
....
...
..
.
แต่เขาไม่เคยใช้น้ำยาโกนหนวด.... เขาใช้แค่มีดโกนหน้าเขาก็เกลี้ยงพอแล้ว
.....
....
...
..
.
เขาจึงลืมคิดไปว่า... น้ำยาโกนหนวดมันจะมีกลิ่นแค่ช่วงสั้นๆ----- ช่วงหนึ่งเฉพาะหลังโกนหนวดเสร็จแล้วเท่านั้น!
.....
....
...
..
.
กลิ่นอ่อนๆ ที่จางได้ง่าย และหากไม่ใกล้กันจริงๆ ก็จะไม่ได้กลิ่น “มัน”
.....
....
...
..
.
แต่อาจไม่ใช่ก็ได้!
.....
....
...
..
.
หรือหากใช่....เขาจะทำอย่างไรดี
.....
....
...
..
.
และถ้า------- ‘หากคนคนนั้นยังไม่พร้อมที่จะบอก คุณก็ไม่ควรไปคาดคั้นเขา’
คำพูดในวันนั้นผุดขึ้นมาในหัวของนายมะยม.... คำปรึกษาที่อีกฝ่าย...ให้คำแนะนำกับเขา
.....
....
...
..
.
เขาได้สติอีกครั้งเมื่อคนที่อยู่ในรถพูดเสียงดังกับเขา..... “ถอยหน่อยครับ ผมจะลงไปดูรถ!”
“คะ... ครับ” นายมะยมหลีกทางให้เขาเปิดประตู
.....
....
...
..
.
หัวหน้าเดินวนรอบรถ...พร้อมเขาที่คอยกางร่มให้
.....
....
...
..
.
ล้อทั้งสี่ด้านแบนแต๋ทั้งหมด... ไร้ร่องรอยฉีกขาด แต่เป็นอุบัติเหตุที่---ไม่ธรรมดา
.....
....
...
..
.
“คงถูกเด็กมือบอนเล่นซะล่ะมั๊งครับ” นายมะยมพูด
“อื้อ” เสียง....ค่อนข้างสะบัด
.....
....
...
..
.
หัวหน้าเปิดประตูหน้าและหยิบเอากระเป๋าหนังออกมา ล็อคกุญแจรถ หันมาหาเขา
.....
....
...
..
.
นายมะยมนิ่งมองสายตาที่ดุดันนั้น...
.....
....
...
..
.
“คุณมองอะไร?” ริมฝีปากอมชมพูขยับถาม
“หัวหน้ามีอะไรจะบอกผมมั้ยครับ?” นายมะยมถามอีกฝ่าย
.....
....
...
..
.
-
:impress3:
บอกไปเลยว่ารัก
:L1:
-
สงสารพ่อมึงจัง
-
.....
....
...
..
.
“มีครับ”
สิ้นคำนั้น หัวใจนายมะยมร้อนวูบและสั่นระทึก
.....
....
...
..
.
“ขอรบกวนไปที่สถานีใต้ดินด้วยนะครับ” หัวหน้าบอกเขา....ด้วยสายตาและสีหน้าที่จริงจัง
.....
....
...
..
.
นายมะยมยืนอยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดินขบวนหนึ่ง...ด้วยความเซ็ง
เซ็งทำไม... ไม่รู้ แต่มันเซ็ง
เมื่อเลยมาสองสถานี เหล่าพนักงานออฟฟิศและนักเรียนนักศึกษาก็เฮโรกันขึ้นมา
เนื้อที่ที่มีภายในเริ่มถูกจับจองไปทุกตารางนิ้ว
คนที่อยู่ก่อน...ตามมารยาทอันดีก็ควรเบียดคนอื่นนิดหน่อย เพื่อให้ร่วมทางไปได้กันได้.....หลายๆ คน
.....
....
...
..
.
“เขยิบมานี่ครับ” นายมะยมดึงแขนของหัวหน้าที่ถูกคนอื่นเบียดจนเหมือนยืนไม่ถนัด....มาแถวหน้าประตู
หัวหน้าทำหน้าเรียบ...แต่นายมะยมเดาออกว่าหัวหน้าอารมณ์เริ่มไม่ดี
นายมะยมกระซิบ “ไม่ชอบเบียดกับคนอื่นถึงยอมตื่นเช้าขับรถไปทำงานสินะครับ”
อีกฝ่ายเหมือนสะดุ้ง...เล็กน้อย----- กับการที่เขาเอาหน้าเข้าไปใกล้เพื่อ...กระซิบชวนคุย
“อื้อ” เสียงรับคำในลำคอ.... และก้มหน้าลงต่ำทันที
.....
....
...
..
.
นายมะยมยิ้มมุมปาก
.....
....
...
..
.
เขารู้แล้วว่า ไอ้ไม้มันรู้สึกยังไงเวลาได้แกล้งคนที่......
.....
....
...
..
.
“หัวหน้าไปกินข้าวเช้าด้วยกันมั้ยครับ?” นายมะยมก้มหน้านิดๆ เพื่อกระซิบถามอีกฝ่าย
“.....” อีกฝ่ายพูดอะไรสักอย่าง ถึงเบาก็ควรได้ยิน----หากไม่ใช่ว่าแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ฮ๊ะ อะไรนะครับ” นายมะยมยื่นหน้าไปให้ใกล้กับอีกฝ่ายอีก...นิด----แต่อีกนิดที่ว่าก็เกือบถึงแก้มของอีกฝ่ายเขาแล้ว
“ผมไม่ทานมื้อเช้า” อีกฝ่ายพูดเสียงดังขึ้น
“อุ้ย! ไม่ดีนะครับ แค่น้ำตำลึงมันไม่พอนา” นายมะยมยังปล่อยให้หน้าตัวเองชิดอยู่ในระยะเท่าเดิม
“ผมจะไปทานกาแฟกับขนมปังที่ตึกก่อนขึ้นไปทำงาน” เขาบอก
“ก็ยังดี อ๊ะ! ถึงแล้วครับ” นายมะยมบอกอีกฝ่ายเมื่อรถไฟฟ้าเริ่มเคลื่อนเข้าชานชาลา
คนที่ก้มหน้ามาตลอดเงยหน้าขึ้นมา...มองตรง
.....
....
...
..
.
พวกเขาเดินไหลไปตามมวลชน
.....
....
...
..
.
หัวหน้าเดินเลยไปยังบันไดที่อยู่ถัดไปอีกทาง-----บันไดที่ไม่เลื่อน
นายมะยมเดินตามเขาไป....อย่างเงียบๆ
.....
....
...
..
.
แกล้ง----ก็เอาแค่หอมปากหอมคอ อย่าลามปาม
.....
....
...
..
.
ถึงยังไงเขาก็เห็นหัวหน้า
.....
....
...
..
.
ถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่กว่า
.....
....
...
..
.
หากเขายังให้คำตอบหัวใจตัวเองไม่ได้.... เขาไม่ควรทำอะไรมากไปกว่านี้!
.....
....
...
..
.
“หัวหน้า ผมไปทางนี้ครับ ขอตัวก่อนนะครับ” นายมะยมชี้ไปที่ทางออกอีกทาง
“อื้อ” อีกฝ่ายหันหน้ามาหาเขา และพยักหน้า
จากนั้นพวกเขาก็แยกกันขึ้นไปด้านบน-----กันคนละทาง
.....
....
...
..
.
-
อยากจะเห็นเขาหวานกันแล้ววว กรีีดร้องงงงงง
-
เมื่อไหร่จะหวานกันเนี่ย ลุ้นสุดตัวเเล้วนะ
-
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินขึ้นมาด้านบนของอีกฝากถนนซึ่งตรงข้ามกับฝั่งของตึกที่ตนทำงานอยู่
ที่นี่ยังไม่มีฝน.... แต่กลิ่นอายของความชื้นยังมีลอยมาให้รู้สึก...บ้าง
เขาเดินไปตามทางเรื่อยๆ ราวสิบนาที เขาก็เลี้ยวเข้าไปในซอยแห่งหนึ่ง ร้านโจ๊กริมทางที่อร่อยเหาะตั้งขายอยู่ตรงหน้าเขาไม่ไกล
เนื่องจากยังเช้า ผู้คนจึงไม่ค่อยล้น
นายมะยมสั่งโจ๊กใส่ตับและเดินไปขอร่วมโต๊ะกับเมสเซนเจอร์คนหนึ่ง...
.....
....
...
..
.
เมื่อได้อาหารเช้าของตัวเอง.... เขาค่อยๆ นั่งละเอียดกินมัน
.....
....
...
..
.
หัวหน้ามีอะไรดีบ้าง?-----นายมะยมตั้งคำถามอยู่ในใจ
.....
....
...
..
.
ดุ....เกือบ 6 ปีแล้ว เขาไม่กลัวหน้านิ่งเป็นน้ำแข็งแบบนั้นแล้ว ----ถึงดุ แต่ก็ใจดี ดูอย่างที่ขับรถพาเขาไปวัดนั่นก็หนึ่งละ
ไม่ชอบคุยเล่น----แต่ก็เป็นผู้ฟังที่ดี ไม่เคยเห็นทำหน้าเบื่อ หรือเดินหนีเลยสักครั้ง
เป็นคนซีเรียส----เฮ้อ อันนี้หนักหัวใจชะมัด
อายุมากกว่า... 6 ปี ครึ่งรอบ---- ไอ้เราก็สามสิบแล้ว-----30 กับ36 มันก็ต่างกันนิดเดียว
ทำงานที่เดียวกัน....ไอ้กันมันเฉยๆ คุณเชษฐก็เฉยๆ----- ไม่น่าจะมีปัญหา
ตำแหน่งหน้าที่การงานดี.... บริหารงานดีก็ต้องบริหารเงินดีด้วย----เอาวะ กูคงไม่อดตาย
.....
....
...
..
.
เหลือแค่....ชอบเขาเหรอรึเปล่า?
.....
....
...
..
.
“เฮ้อ....แม่ง หลุดสเปคทุกประตู คิดยากฉิบหาย!” นายมะยมบ่นพึมพัมกับตัวเองพลางลุกจากเก้าอี้กลมที่ทำด้วยสังกะสีและไม้
เขาเดินไปจ่ายเงิน และเดินข้ามถนนไปยังตึกสูงตะหง่าน----ฝั่งตรงข้าม
.....
....
...
..
.
อีกนิดนะโยม อย่าเพิ่งปาเปลือกทุเรียน เก็บไว้ก่อน
-
.....
....
...
..
.
“มีครับ”
สิ้นคำนั้น หัวใจนายมะยมร้อนวูบและสั่นระทึก
.....
....
...
..
.
"ขอรบกวนไปที่สถานีใต้ดินด้วยนะครับ”
^
^
ตรูว่าแล้วววววววว :z3:
-
เอ้าดักตีหัวพ่อมึงไปถวายให้มะยมดีกว่า
ปล.พ่อมึงแอบมีเขิลด้วยวุ้ย :o8:
-
ชอบไปเลยเหอะ คนอ่านลุ้นตอนหวานๆจะตายแล้วเนี่ย
อยากเห็นเขารักกันแล้ว
ได้โปรดเถอะ คุณBao Baoที่รัก
ตอนนี้สิ่งชะโลมใจมีอย่างเดียวคือคุณBao Bao บอกว่าจบแฮปปี้ นะเนี่ย ยังไม่เห็นแววเลยยยยย
-
เอาเปลือกทุเรียนง้างปาก(อนาคต)พ่อ(ทูนหัว)คุณหน่อยซิ คุณมะย๊มมมม
พูดเยอะหน่อยจะหล่อมากเลยพ่อคุณ
-
.....
....
...
..
.
โขลก โขลก โขลก---- เสียงไอแห้งถี่ๆ ดึงความสนใจของคนที่นั่งข้างๆ กัน
“มึงไปตากฝนมาอีกแล้วเหรอ?” นายศรถามเพื่อนสนิท
“เมื่อเช้าวิ่งอยู่ดีๆ ฝมก็ตก แต่ไม่ได้ทิ้งไว้นานนะเว้ย” นายมะยมพูดได้ลำบาก เพราะเหมือนจะไออยู่ตลอดเวลา
“เออ เออ” นายศรพูดเสียงติดรำคาญและลุกออกไปจากเก้าอี้
.....
....
...
..
.
นายมะยมทำงานต่อ... แต่ยิ่งโดนแอร์นานเท่าไหร่ เขาก็เหมือนแห้งคอมากขึ้น
.....
....
...
..
.
โขลก โขลก โขลก----- ขณะที่เขาก้มหน้าไออยู่นั้น
“เอาจิบหน่อย! ถ้าไม่ดีค่อยแดกยา” นายศรเอาแก้วที่มีกลิ่นขิงมาวาง
โขลก โขลก นายมะยมรับมันไปจิบ------- อุ่นพอดี ไม่ต้องรอให้มันเย็น สามารถค่อยๆ ดื่มได้เลย
“ฮ้า! ใจว่ะ” นายมะยมดื่มไปได้ครึ่งแก้วก็ร้อนคอจึงหยุดไว้ก่อน
.....
....
...
..
.
โขลก โขลก โขลก---- นายมะยมยังคงไออยู่
“มึงไม่ต้องลงไปเลย เดี๋ยวกูเอาข้าวขึ้นมาให้” นายศรพูดพลางเปิดลิ้นชักตัวเองคุ้ยหายามาให้เพื่อนสนิท
“พี่มะยมไม่สบายรึคะ? ไหนตัวร้อนมั้ย?” น้องพันซ์เดินมาอังคอและหน้าผากของพี่มะยมด้วยความห่วงใย
“กินก่อนเลย ไว้ค่อยกินข้าวตามทีหลัง นอนพักเลยนะมึง” นายศรเลือกยาออกมาวาง และทยอยแกะมันใส่กระดาษโน้ตใบเล็ก
“อุ่นๆ ร้อนๆ เดี๋ยวพันซ์ซื้อน้ำขิงมาฝากนะคะ เจ็บคอด้วยมั้ย จะได้ไม่ให้เค้าใส่น้ำตาล....”
น้องพันซ์ที่พูดกับนายมะยมอยู่ หันหน้าไปหาคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในแผนก
“หัวหน้าคะ เมื่อกี้มีสายจากท่านค่ะ ถ้าสะดวกท่านว่าให้หัวหน้าโทรกลับทันที หรือไม่ก็ช่วงบ่ายสามค่ะ”
“ครับ” หัวหน้าตอบและเดินไปทางห้องทำงานของตัวเอง
“เอานี่นะ แรงหน่อย แต่หลับเลย ไว้กูขึ้นมาปลุกทีหลัง” นายศรบอกเพื่อนสนิทเสียงดัง
“เดี๋ยวบ่ายทำงานไม่ได้!” นายมะยมแย้งเพื่อน
“ได้ ยามันมีฤทธิ์แค่ 3 ชั่วโมงเอง เดี๋ยวกูซื้อกาแฟสดมาให้มึงด้วยก็ได้” นายศรเจรจากับคนที่เริ่มป่วย
“ไม่เอา!” นายมะยมยืนยันความคิดตัวเอง
“เดี๋ยวกูแตะ มึงนี่ แดกเลย อย่าดื้อ!” นายศรเริ่มเสียงเข้มและดังข่ม
.....
....
...
..
.
“ไปนะมึง” นายศรที่ดูจนเขากินยาที่จัดให้ลงคอกับตาแล้วถึงเดินออกไปนอกแผนก
นายมะยมระบายลมหายใจ
เขาฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองที่ขดมารองรับศรีษะ... เขาหลับตา
.....
....
...
..
.
อันที่จริงไม่ได้รู้สึกง่วงแต่อย่างใด.... แต่ก็ไม่รู้จะลืมตามมองอะไร เขาจึงหลับพักและรอให้ยาออกฤิทธิ์
.....
....
...
..
.
ไม่นานนัก เสียงฝนที่ดังเผาะเผาะจากภายนอกเริ่มขับกล่อมให้นายมะยมเข้าสู่------นิทรา
.....
....
...
..
.
ท่ามกลางเหล่าพนักงานกินเงินเดือนซึ่งก้มหน้าก้มตาทานมื้อกลางวัน นายศรนั่งเท้าครางหน้ามุ่ยอยู่คนเดียว---- ที่โต๊ะอาหารซึ่งนายศรนั่งอยู่ ไม่มีขานหรือชามใดๆ สักใบ ไม่มีแม้แต่แก้วน้ำเสียด้วยซ้ำ
.....
....
...
..
.
“คุณศร” ใครสักคนจับบ่าของเขา
“อ้าว เชิญครับ เพิ่งมาหรืออิ่มแล้วล่ะครับ” นายศรเขยิบที่ให้อีกฝ่ายนั่ง
“เพิ่งมาครับ กันเค้าไปซื้อข้าวมันไก่อยู่น่ะครับ” นายเชษฐตอบคำถามและตอบเผื่ออีกคำถามให้ในคราวเดียว
แล้วนายศรก็คุยเล่นกับเพื่อนเขยพลางรออาหารที่สั่งใส่กล่องและรอไอ้กันเดินมาที่โต๊ะ
.....
....
...
..
.
“ไอ้ยมมันไปซื้ออะไรล่ะ นานแท้” นายกันถามเพื่อนทันทีที่วางจานข้าวมันไก่สองจานบนโต๊ะ... กว่าได้คิวนี้ ก็เกือบ 20 นาที แต่ไอ้ศรมาก่อนยังไม่ได้กิน... ไม่รู้ไอ้ยมไปรออาหารเลิศรสของร้านไหนอยู่
“มันไม่ได้มา กูจะซื้อขึ้นไปให้มัน” นายศรบอกเพื่อน
“อ้าว งานยุ่งมาก” นายกันถาม
“เปล่า มันสบาย” นายศรบอก
“เป็นไรวะ?” นายกันขมุ่นคิ้ว
“แม่งตากฝนเมื่อเช้าตอนวิ่งออกกำลัง นี่ก็ไอแห้งๆ แต่ยังไม่มีไข้” นายศรบอกอาการของเพื่อนแก่เพื่อนอีกคน
“อื้ม... แล้วเมื่อเช้ามันมากับใครรึเปล่า?” นายกันยิ้มอย่างมีเลศนัย
“กูยังไม่ได้ถามว่ะ!” นายศรบอกนายกัน
“แล้วคุณต้นไม้เขาทำสำเร็จมั้ยล่ะครับ คุณถามเขาก็ได้นะครับ” นายเชษฐบอกแฟนตัวเอง
“ถามแล้ว ก่อนลงมากินข้าว แบนแต๋ทั้ง 4 ล้อ มันอยู่ดูจนแบนชัวร์ถึงค่อยกลับ” นายกันยักคิ้วและทำหน้าเหมือน---ผู้ชนะ
“มันจะได้เรื่องเร๊อ” นายศรยังสงสัยวิธีการของเพื่อนๆ
“ได้ดิ” นายกันยังแสดงสีหน้ามั่นใจ
“พ่อไอ้ยมมันขับรถมาทำงาน เขาก็ต้องออกมาก่อนไอ้ยมสิวะ แล้วมันจะเจอพ่อมันได้ไง?” นายศรแย้งด้วยเหตุผลที่ทราบมาจาก----ไอ้ยม
“หากคุณยมไปวิ่งด้วยกันกับหัวหน้าทุกเช้า คุณยมน่าจะมาทำงานพร้อมกับหัวหน้าสิครับ” นายเชษฐวิเคราะห์ในมุมมองของตัวเอง
“ยังไง?” นายศรไม่เข้าใจ
“เมื่อเช้าบ้านมึงฝนตกกี่โมง” นายกันถามเพื่อน
“ตีห้าครึ่งมั๊ง” นายศรบอกเพื่อน เขามักตื่นช่วงตีห้าครึ่ง และเขาลืมตาได้ไม่เท่าไหร่ เสียงฝนก็ตกกระหน่ำทันที
“นั่นไง แล้วก็ต้องวิ่งหนีฝนกลับมาที่หอด้วยกัน” นายกันบอก
“แล้วต่างคนก็ต่างขึ้นไปห้องของตัวเอง แล้วต่างคนก็ต่างไปทำงาน กูไม่เห็นทางว่า การที่พวกมึงเจาะยางรถพ่อไอ้ยม มันจะช่วยให้ไอ้ยมได้มาทำงานพร้อมพ่อมันที่ตรงไหน!!”
“ก็ที่ตรงโชคชะตานำพาไงครับคุณศร... เค้าว่า เนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกครับ” นายเชษฐบอก
“ถึงขาไปไม่ได้ มึงก็ช่วยมันตอนขากลับดิ” นายกันบอกแผนสำรอง
“.............” นายศรนิ่งไม่โต้ตอบ
ท่าทีที่ประหลาด สะดุดใจนายกัน..... “มึงเป็นไรวะ?”
“เมื่อกี้.....กูทำไรไปวะเนี่ย?” นายศรเกาหัวแกรก
“ใจเย็นครับคุณศร ค่อยๆ พูด ค่อยๆ นึก” นายเชษฐบอก
“เมื่อกี้ กูเอายาให้ไอ้ยมมันกิน” นายศรบอก
“แล้ว” นายกันวางช้อน และหันมาตั้งใจฟังสิ่งที่เพื่อนพูด
“กูเห็นหัวหน้าเพิ่งเดินเช้ามา เลขาหัวหน้าบอกว่าท่านให้โรกลับมาทันที กูก็ว่าหัวหน้าน่าจะยังอยู่ในห้องทำงาน ต้องไม่ลงมากินข้าวกลางวันแน่”
“แล้ว” นายกันถามด้วยความลุ้น
“กูเลยเอาวิตามินให้ไอ้ยมมันกินแทนยา... แต่กูมานั่งๆ นึกดู ถ้าหัวหน้าเค้าต้องคุยงานกับท่าน เค้าจะเดินออกมาดูมันที่นอนฟุบกับโต๊ะเหรอ ว๊า ทำเหี้ยไปไรไปก็ไม่รู้” นายศรปวดกบาลกับตัวเอง เพราะรู้สึกผิดที่เพื่อนไม่สบายและไม่ได้ให้ยาเพื่อน
“คุณศร ทำถูกแล้วครับ!” นายเชษฐตบบ่าแบบให้กำลังใจ
“เหรอ?” นายศรไม่แน่ใจในคำชม
“คิดมากน่า ไม่ได้ทางนี้ก็ทางอื่น ทำดีกว่าไม่ทำเว้ย ปล่อยไอ้ยมมันไปเอง มันก็เอาแต่เอ้อละเหยแหละวะ” นายกันสรุปความให้
.....
....
...
..
.
ถึงยังไม่สบายใจ แต่นายศรก็ทำอะไรไม่ได้.... เขาต้องรออาหารกล่องของตัวเองเสร็จก่อนถึงขึ้นไปข้างบนนั้นได้
.....
....
...
..
.
-
เลือกหัวหน้า ไม่อดตายแน่นอน กาแฟขนมทุกวัน
อิอิ o13
-
ลุ้นนนนนน
-
.....
....
...
..
.
เสียงฝนเผาะเผาะขับกล่อมคนที่นอนหลับ
.....
....
...
..
.
เสียงฝนเผาะเผาะสั่นรัวหัวใจของคนที่นั่งอยู่ในห้องทำงาน....ส่วนตัว
.....
....
...
..
.
อากาศดีๆ... ทำให้คนที่เริ่มป่วยหลับพริ้ม
.....
....
...
..
.
คนที่อยู่ในห้องระบายลมหายใจยาว-----สักพักเขาก็ลุกขึ้น และค่อยเดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว
เขาเดินเรื่อยๆ มาถึง....จุดหนึ่ง
.....
....
...
..
.
คนที่เริ่มป่วยได้ยินเสียง กึกกึก ดังแทรกมากกับเสียง เผาะเผาะ ของสายฝน
เสียงนั้นเริ่มดังชัดขึ้น เมื่อประตูบานหนึ่งถูกเปิด
เสียงฝีเท้าหนึ่งดังขึ้นอย่างเป็นจังหวะ----เดียวกับหัวใจของเขา
.....
....
...
..
.
เสียงฝีเท้าดังเข้ามาหา...ตัวเขา
.....
....
...
..
.
มันหยุด----- และไม่มีเสียงอื่นใดอีกนอกเสียจากเสียงของสายฝนที่พรำอยู่ภายนอกตัวอาคาร
.....
....
...
..
.
นายเท่าไหร่เขาไม่อาจรู้
เขารู้แค่ว่าหัวใจเขามันเต้นจนตัวเองรู้สึก----เจ็บ
.....
....
...
..
.
ยิ่งเมื่อหน้าผากของเขาสัมผัสได้ถึงผิวหนังอุ่นและนุ่ม----หัวใจเขายิ่งเต้นรัวมากยิ่งๆ ขึ้น
.....
....
...
..
.
ความอุ่นและนุ่มนั้นย้ายมาที่ช่วงลำคอของเขา------- เสียงระบายลมหายใจยาวดังลอดเข้ามาในใบหูของเขา
.....
....
...
..
.
เขายังไม่หลับ ยายังไม่ออกฤทธิ์
.....
....
...
..
.
นิ้วที่ลากไล้แก้มเขาเบาๆ ทำให้เขาขนลุกซู่ ----- “หายเร็วๆ นะครับ”..... เสียงกระซิบกระซาบในครานี้ฟังดูไกลและแผ่ว..... หากไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจรอฟังมานาน เขาก็คงฟังมัน----ไม่ออก
.....
....
...
..
.
เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปคว้าข้อมือที่ไล้แก้มตัวเองเล่น!
.....
....
...
..
.
“ฮึ๊!” เสียงอุทานที่ฟังไม่มีความหมายดังขึ้นที่ข้างๆ เขา
เขาหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงกระซิบที่คาใจเขามา....โดยตลอด
.....
....
...
..
.
คนที่ใกล้ตัวเขามาก...อย่างที่เขาคิด
.....
....
...
..
.
“ทำไมทำแบบนี้ครับ?” เขาเอ่ยถามคนที่ตัวเองกำข้อมือเค้าไว้อยู่
“...............” ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย
เมื่ออีกฝ่ายไม่ตอบเขาจึงไล่ต้อน “ผมรู้นะว่าเป็นคุณ ทั้งยาแก้เมา ทั้งในเธอวันปีใหม่ ทั้งกาแฟของทุกเช้า ทุกคำพูดที่คุณกระซิบ ผมได้ยิน มือนี้ผมก็จำได้! วันที่ผมไม่สบายอยู่ที่ห้อง! มือนี้ใช่มั้ยที่มันกุมมือผมไว้”
“...............” ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย....ใบหน้านั่นยังคงไม่เปลี่ยน---- ตกตะลึง
“มือนี้ใช่มั้ยครับ ที่กุมมือผมไว้ตอนที่ผมไม่สบายอยู่ที่ห้อง” เขาลดความดุดันของเสียงตัวเองลง
“...............” ยังคงไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย-----เช่นเดิม
“ทำไมไม่ตอบครับ พูดสิครับ อะไรก็ได้” เขาบอกอีกฝ่าย
.....
....
...
..
.
สีหน้าตกตะลึงคืนสู่สภาพปกติ ดวงตาโตที่จ้องกับของเขา อ่อนลง อีกฝ่ายระบายลมหายใจทีหนึ่งก่อนขยับริมฝีปากที่สีสดตามธรรมชาติว่า “ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
.....
....
...
..
.
“คุ๊-------”
เขายังพูดไม่ทันจบคำ ประตูของแผนกก็เปิดพร้อมเสียงร้องบอกว่า “ไอ้ยม! ตื่น! กินข้าวเว้ย!”
.....
....
...
..
.
ผลจากที่เขาตกใจ มือที่กำข้อมือหนึ่งไว้จึงคลายลง เป็นโอกาสให้อีกฝ่าย------เดินหนีไปได้อย่างง่ายดาย
.....
....
...
..
.
จากภาพแรกที่เห็นเมื่อก้าวเข้ามาในห้อง และเห็นหัวหน้าแผนกของตัวเองเดินตัวปลิวออกไปจากแผนก... นายศรหน้าเหวอเมื่อรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่า --------- มาผิดคิวแล้วสิกู*0*
.....
....
...
..
.
-
พ่อมึงจะหนีไปไหน กลับมา :serius2:
พูดๆไปเลย สงสัยวันนี้คงรอไม่ไหวแล้ว
ต้องลาไปเข้าเฝ้าที่นอนแล้วนะ
พรุ่งนี้มาลุ้นต่อปายยย หวานๆกันสักทีเหอะ :laugh:
-
ง่วง แต่ยังไม่นอนค่ะ
-
... นายศรหน้าเหวอเมื่อรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่า --------- มาผิดคิวแล้วสิกู*0*
^
^
เอาซักทีดีมั้ย ไอ้คุณเพื่อนศร :z6:
แต่ก็ต้องขอบคุณนายนะที่เอาวิตะมินให้มะยมทานแทนยาอะ ไม่งั้นคงจับพ่อมึงไม่ได้คาหนังคาเขาแบบนี้ :pig4:
-
.....
....
...
..
.
นายมะยมอาบน้ำเสร็จก็เดินไปทุ่มตัวลงบนเตียง
เขาคว่ำหน้าลงใส่หมอนและปล่อยความคิดที่เก็บล็อคไว้ในลิ้นชักซึ่งเขย่ารบกวนตนเองมาทั้งวัน....ให้ออกมา
.....
....
...
..
.
ไอ้ศรขอโทษขอโพยไม่หยุดที่เข้ามาขัดจังหวะ
เขานึกสงสัยว่ามันรู้อะไร....จึงเค้นคอถาม
ปรากฏว่าไอ้เพื่อนๆ มันจับนายลึกลับได้คาหนังคาเขามากกว่าเขาเสียอีก.... แต่พวกมันไม่ยอมบอก แถมยังเล่นพิเรนท์ไปเจาะยางรถของอีกฝ่ายให้ด้วย
นายมะยมคาดโทษว่าห้ามทำเกิดเหตุแบบนั้นอีกเด็ดขาด!
ส่วนเรื่องที่ไอ้ศรเอาวิตามินให้เขากินแทนยา...ก็พออภัยโทษให้ได้ เพราะหากเขาหลับ เขาคงไม่ได้เห็นคนคนนั้นกับตาตัวเอง
.....
....
...
..
.
แม้จะรู้แก่ใจกลายๆ ทว่า หากไม่เห็นกับตา ไม่ได้ยินกับหู-----เขาก็ทำใจให้มั่นใจได้ยาก
.....
....
...
..
.
‘ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร’-------- คำที่สะท้อนซ้ำไปซ้ำมาในหัวของเขา....มาทั้งวัน
เขากำลังหงุดหงิด
.....
....
...
..
.
คืนนั้น เขาข่มตาหลับได้ยาก
.....
....
...
..
.
เมื่อแน่ใจว่านอนไม่หลับแน่แล้ว เขาจึงลุกไปกินยา------พรุ่งนี้เป็นวันหยุด หากตื่นสายหน่อยก็ไม่เป็นไร
.....
....
...
..
.
เขาเดินกลับมาพร้อมอัลบั้มรูป
.....
....
...
..
.
ภาพตอนไปญี่ปุ่นและเซี่ยงไฮ้.... มุมดี แสงดี บรรยากาศดี ดูแล้วเพลินดี เขาจึงเอาภาพที่ชอบไปอัดใส่อัลบั้มไว้ดูเล่น
ภาพคู่กันมีแค่ใบเดียว----- ถ่ายที่ถนนใจกลางแหล่งชอปปิ้งของญี่ปุ่น
.....
....
...
..
.
เขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงกับคนคนนี้ดี....
หากอีกฝ่ายจะเด็กกว่านี้
หรือหากอีกฝ่ายจะไม่ใช่หัวหน้าในที่ที่เขาทำงาน
หากอีกฝ่ายเปิดปากแสดงความรู้สึกมาสักหน่อย
.....
....
...
..
.
หากได้ยินประโยคอื่นที่ไม่ใช่ไอ้ที่ว่า ‘ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร’
.....
....
...
..
.
สมมติว่าเป็นประโยคอื่น เขาก็คงมีความกล้าที่ก้าวเข้าไปหาอีกฝ่าย
.....
....
...
..
.
เขาไม่เข้าใจ! ทำไมต้องตั้งกำแพงกับเขาทั้งๆ ที่ทำเหมือน “จีบ” เขาด้วย!
.....
....
...
..
.
ลมเย็นๆ พัดเข้ามาทางระเบียงห้อง.....
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น....เขาผุดลุกขึ้นมา----ปิดมัน
.....
....
...
..
.
เขายังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียงอีกสักพักใหญ่ถึงค่อยลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
.....
....
...
..
.
เขาเดินออกมาหลังจากที่แปรงฟันและล้างหน้าเสร็จแล้ว
เขาเดินไปที่ระเบียงห้อง และมองลอดไปยังช่องหนึ่งของระแนง..... ไม่มีเงาคนที่เคลื่อนไหวอยู่ในสวนหย่อม
เขาถอนหายใจ และตัดสินใจลงไปวิ่ง-------หากเหนื่อยมากๆ เขาอาจหลับได้สักที
ตลอดคืนที่ผ่านมาถึงกินยาก็แล้ว เขากลับยังหลับไม่ลง!
.....
....
...
..
.
เขาสวมรองเท้าผ้าใบเสร็จ คว้ากุญแจมาใส่ในกระเป๋ากางเกง และเปิดประตูห้องออกไป
แสงไฟที่ระเบียงตอนกลางคืนจะเปิดไว้แค่หน้าลิฟท์ และช่วงกลางของตึก---เท่านั้น
เมื่อเขาโผล่หน้าออกมาจากห้องพัก และก้าวขาแรกออกมาจากตัวห้อง หางตาเขาเหลือบไปเห็นเงาที่คล้ายคน อยู่ตรงราวบันได-----ใจเขาสะดุดวูบ ตัวเขาเย็นเชียบ
.....
....
...
..
.
ครั้นเมื่อมองดีๆ ------ คนคนนั้นไม่ใช่ผีตามความคิดในวูบแรกของเขา
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ตกใจหมด นึกว่าผีหลอกซะอีก”
“..........” ไม่มีเสียงพูดใดๆ จากอีกฝ่าย
“..........” เขาก็ไม่พูดบ้าง
.....
....
...
..
.
สงครามเย็นปะทุขึ้นมาด้วยความตั้งใจของนายมะยม
.....
....
...
..
.
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด..... เสียงเสียดสีของรองเท้าผ้าใบดังแหวกความเงียบของยามหัวรุ่ง ก้าวที่สี่เขาก็มาถึงตัวของนายมะยม พร้อมคำพูดหนึ่ง “ใช่!”
“อะไร...ใช่?” นายมะยมถามอีกฝ่าย
“ที่คุณถามตอนเที่ยง” อีกฝ่ายบอกเขา
“คุณมีอะไรจะบอกผมอีกมั้ย?” นายมะยมถาม
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์” อีกฝ่ายบอกเขา
“แล้วมายืนตรงนี้ทำซากอะไรมิทราบ!” นายมะยมตะโกนก้อง.....เขาโมโหจนอดไม่อยู่
ไม่นอนมาทั้งคืนเพราะคนคนนี้.... ของเก่ายังไม่จบ ยังมากระตุ้นต่อมกันอีก!
.....
....
...
..
.
“อยู่กันแค่นี้ ตะโกนทำไม” อีกฝ่ายบอกเขา
“งั้นก็ไปเลย ไปไกลๆ หน้าผม ถ้าพูดแล้วไม่มีประโยชน์อะไร คุณก็ไม่ต้องเอาอะไรมาให้ผมอีก ยกเว้นเรื่องงาน นอกนั้นผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคุณ!” นายมะยมตะโกนก้อง...ทำไมต้องฟัง ทำไมต้องเชื่อ -----โมโห....ทำไมขนาดตัวเองก็ยังไม่เข้าใจ
.....
....
...
..
.
ข้อมือของเขาถูกคว้าและลากกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง.....
.....
....
...
..
.
ปัง---- เสียงปิดประตูดังไม่แรงไม่เบา
“ใครให้คุณเข้ามา!” นายมะยมเหวี่ยงใส่
“ถ้าคุณไม่ตะโกน ผมก็ให้คุณอยู่ข้างนอกได้” อีกฝ่ายบอกเขา คิ้วเริ่มขมวดปม
“สนุกมั้ย...ที่ทำน่ะ? มีความสุขมากมั้ย? พอได้รึยัง?” เขาถามอีกฝ่าย
“คุณใจเย็นหน่อยสิ!” อีกฝ่ายเริ่มเสียงแข็งใส่เขา
“ทำไม่เป็น!” เขาพูดเสียงสะบัดแข็ง
“ผมจะพูดหรือไม่พูด คุณก็ไม่คบกับผมอยู่แล้ว แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ?” อีกฝ่ายเสียงแข็งตามเขา
“ยังไม่พูดแล้วคุณรู้ได้ไง? มานั่งอยู่ในหัวใจผมรึไง!” เขาประชดอีกฝ่าย
“ผมไม่ใช่สเปคคุณ!" อีกฝ่ายตอบคำถามของเขา แล้วเริ่มบอกกับเขาอย่างครบถ้วนกระบวนความ "ให้มันจบเถอะ ถือซะว่าเมื่อวานไม่ได้เกิดอะไรขึ้น หากคุณไม่ชอบผมก็จะไม่ทำแบบนั้นอีก...ผมจะหยุดทุกอย่าง!”
“รู้ได้ไงว่าตัวเองไม่ใช่สเปค!” เขาตะคอกอีกฝ่าย
“ผมรู้ได้ด้วยตาตัวเองสิครับ!” อีกฝ่ายตะคอกแข่งกับเขา
“แล้วทำไมผมต้องนอนไม่หลับ! ทำไมหลับตาทีไรมันต้องเห็นหน้าคุณ! ทำไมผมต้องรอคุณมาพูดกับผม! ทำไมผมต้องทวงเอาคำคำเดียวกับคุณ!” เขาระบายคำถามที่ค้างคาใจตัวเองมาทั้งคืนใส่อีกฝ่าย ก่อนที่จะเดินไปยังประตูห้องของตัวเอง...เขาเปิดบานประตู “พอที! ออกไป! ให้มันจบอย่างที่คุณว่า! ยกเว้นเรื่องงาน ระหว่างผมกับคุณเราไม่รู้จักกัน!”
.....
....
...
..
.
คนที่ถูกเขาเชิญออกไปยังคงยืนนิ่งกับที่
.....
....
...
..
.
เช่นเดียวกับเขาที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
.....
....
...
..
.
“ผมไม่ได้ชอบคุณ ผมหลงรักคุณ หากคุณจะให้โอกาส ผมขอโอกาสนั้น ผมจะพยายามทำให้คุณชอบผม แต่หากสุดท้ายแล้ว ผมไม่ใช่คนที่ใช่ของคุณ ก็ขอให้บอก ผมจะไป” นายภักดีพูดตามสิ่งที่ใจคิดทั้งหมด-----เป็นครั้งแรก
.....
....
...
..
.
น้ำตาที่เกิดจากความรู้สึกอะไร----ไม่อาจทราบได้.... มันไหลลงมาทีละหยด
.....
....
...
..
.
หยดน้ำตาคู่แรกกรุยทางให้กับอีกหลายๆ หยด
.....
....
...
..
.
“ชู่-------- อย่าร้องสิครับ ผมขอโทษ” เสียงกระซิบดังขึ้นที่ข้างขมับ....ของเขา
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาถูกคนที่สวมชุดวอร์มรวบไปกอด
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ประตูห้องของเขาปิด
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ห้องของเขาราวกับถูกตัดขาดจากผู้คน....และโลกใบนี้
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกเขาเริ่มสร้างโลกส่วนตัวให้แก่กันและกัน
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คนซึ่งสวมชุดวอร์มเริ่มที่จะหลงรักเขา
.....
....
...
..
.
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขา...ตกหลุมรักคนคนนี้
.....
....
...
..
.
“ไปวิ่งกัน” เสียงกระซิบที่ขมับชักชวนเขา
“อารมณ์ไหน?” เขาพูดเสียงอู้อี้กับอกของเขา
“เสร็จแล้วกลับมากินต้มเลือดหมูกัน” เสียงกระซิบที่ขมับชวนเขาต่อ
“อื้อ” เขารับคำในลำคอ
.....
....
...
..
.
วงแขนที่รัดตัวเขาคลายลง
.....
....
...
..
.
คนที่สวมชุดวอร์มเอาผ้าขนหนูที่คล้องคออยู่มาซับน้ำตาให้เขา และเอามันคล้องคืนที่เดิม
.....
....
...
..
.
คนที่ไม่ใช่เจ้าของห้อง เปิดประตูและเดินออกไปนอกห้อง..... เขาหันหน้ากลับมา และยื่นมือข้างหนึ่งมาหาเขา
http://youtu.be/lFvNW0pgEy8
.....
....
...
..
.
เจ้าของห้องยืนมือไปวางที่มือ....ซึ่งยื่นมาหา
.....
....
...
..
.
มือที่ขาวกว่าแต่ขนาดเท่ากันกุมมือของอีกคนไว้.....เพียงหลวมๆ
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งจูงอีกมือเดินลงบันไดไปด้วยกัน
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งกุมอีกมืออยู่ในลิฟท์
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งกุมอีกมือออกไปจากลิฟท์ และจูงพาเดินออกไปที่สวนหย่อม
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งจูงอีกมือมาที่เก้าอี้ตัวโปรดของอีกคน
.....
....
...
..
.
มือหนึ่งปล่อยอีกมือ และเจ้าตัวก็เริ่มวิ่งเยาะๆ ....วนรอบสวนหย่อม
.....
....
...
..
.
เจ้าของมือที่เคยถูกกุม....เริ่มวอร์มร่างกาย
.....
....
...
..
.
ห้านาทีต่อมา ขาสองคู่ก็วิ่งเคียงกันไป....วนรอบสวนหย่อม
.....
....
...
..
.
[กระซิบ] เอวัง :pig4:
-
กรี้ดดดดดดดดดดดดดด
--Edit ค่ะ--
เอวังแล้ว.. แต่ถึงอย่างงั้น ตอนจบทำเราน้ำตาซึม ปลื้ม จนต้องพิมพ์ 'กรี้ด' ยาวๆให้คุณอ่านก่อน
สมบูรณ์แบบที่สุดเลยคะ
ยินดีกับมะยมด้วยนะ ในเรื่องนี้กลายเป็นว่าเราชอบมะยมที่สุด เขาเป็นคนดี.. คนดีจริงๆ ส่วนพ่อมึง ..มีบางช่วงเกิดอาการอยากเอาเปลือกทุเรียนตบหัวระบายความอึดอัดอ่ะ
แต่ตอนท้ายๆน่ารัก..แฮะ ..อยากให้มะยมกดพ่อมึงซะ 555+
รอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปของคุณนะคะ
-
มะยมน่ารัก พ่อมึงก็น่ารัก :-[ :-[
-
ชอบตอยบอกรักมาก เต็มอารมณ์สุดๆ
สงสารหัวหน้านะเนี่ยะ ดีจังที่สมหวัง
ปล. อยากได้กระซิบพิเศษจากหัวหน้าจัง
-
เอาปืนจี้
อยากเห็นซีนหวานๆ ของคู่นี้บ้างงงงงงงงงงงงงงงงงง อะไรบ้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ได้โปรดเถอะคะคุณคนเขียนที่รัก....งื้อๆ ๆ ๆ
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยยย :o8: :-[
ตื่นมาอ่าน ไม่อยากให้ เอวัง เลยอ่าค่ะ น่าร๊ากกกกก (หลังจากมึนงงและใกล้บ้าเป็นนักสืบมาพักใหญ่ 55555)
พ่อมึงก็นะ จีบเค้าได้ แต่พอมีโอกาสกลับถอยซะงั้น ถ้ามะยมไม่ปรี๊ดนี่คงไม่ได้ลงเอย :เฮ้อ:
เรื่องหน้าเอาอีกนะตะเอง >.<
ปล. ถ้ามีตอนพิเศษด้วยก็ดีนะคะ o18
ขอบคุณมากเลยค่าาาา หนุกมากจริงๆ! :กอด1:
-
o13
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ มะยมกับภักดี ทำเอาลุ้น
เดาไม่ถูกทางเลย รอตอนหวานๆได้ม้า ไหนบอกจะมีให้ไง :o8:
รอนะรออยู่
-
ในที่ซู้ดดดดดดดดดดด ในที่สุด ในที่สุดๆๆๆๆๆๆ
น้องมะยมของเราก็ "รับ" รักคุณหัวหน้าคนกระซิบกิ๊บก๊าวซักที
โฮ่ยยยยยยยยยยยยย ตื้นตันใจ
อยากจะร้องไห้ ทราบซึ้ง เป็นเรื่องที่สวยมากค่ะ
สมบูรณ์ดี
ชอบตอนจบนะ หลังจากจบคำสารภาพรัก มันดูเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องที่เป็นปกติมาก
แต่ ในความปกตินั้นมันเจือกลิ่นหวาน ละมุนๆ
เหมือนตอนฝนหยุดตกใหม่แล้วเราได้กลิ่นชื้นของไอดินกับใบหญ้า
ชุ่มชื่นหัวใจดีค่ะ... ขาสองคู่ที่วิ่งเคียงกันไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ปลื้มปิติ
*โปรดสังเกตว่าเรายังเน้นคำว่า "รับ" รัก อยู่นะคะ กร๊าก
ยังยึดคอนเซ็ปเดิมที่จะเป็นขบถต่อประตูหลังของนายมะยมต่อไปค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ้า รอแต่คนแต่งจะเมตตา
จากนี้ก็รอตอนพิเศษนะคะ แอบหวังว่าจะได้อ่านยาวๆ แบบนี้ไปอีกซักหน่อยให้หายกระหาย
แต่ว่ากันตามจริงอ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เราอิ่มมากค่ะ อิ่มอกอิ่มใจ เรื่องมันสมบูรณ์จริงๆ
ขอบคุณนะคะ บวกหนึ่งค่า
รอตอนพิเศษอยู่นะ :L2:
-
กรี๊ดดดดดดดดด น่ารักมาก
มะยมกับพ่อมึง อิอิ
-
ชอบเพลงตอนจบนี่จัง บ่งบอกตัวตนของพ่อมึงที่มีความรักให้มะยมดีจัง
รอตอนพิเศษ อยากเห็น พ่อกูของนายมะยม หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนบ้าง
-
ตอนมะยมปรี๊ดดดด ออกแนวรับมาเชียว 555
ดีใจที่เห็นนายมะยมมีคนที่รักจริงๆ ซักที
-
ขอตอนหวานๆ
ด้วยจ้ายังไม่ได้
อ่านตอนหวานกันเลย :L1:
:pig4:ล่วงหน้า
บวกเป็ด
-
กรี๊ด น่ารักอ่ะ
อยากได้หวานอีก ได้ไหม
-
โอเค เห็นเค้ากรี๊ดกันมาหลายคนก็ขอเอาบ้าง
กรี๊ดดดด
เป็นเรื่องที่ลุ้นที่สุดในสามโลก อ๊ากกกก คนอ่านจะกลายพันธุ์เป็นนักสืบกันหมดแล้ว
แต่ในที่สุดก็จบลงแล้ว ฮาาา
อย่างที่บอก เหมือนเช่นคนอื่นๆ
อยากได้กระซิบพิเศษ อยากเห็นเขาหวานกันบ้างอะไรบ้าง
ตามหากันมานานจนถึงตอนนี้
ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ แล้วจะรอตอนพิเศษนะคะ
มัดมือชกกันเลยทีเดียว 5555
-
ขอบคุณจ้า
อ่านเรื่องนี้แล้วลุ้นตลอด ลุ้นกลัวจะไม่ใช่พ่อมึง แต่สุดท้ายก็ใช่พ่อมึงจริงๆ ด้วย เย้ๆๆๆ
ชอบแก๊งเพื่อนของมะยมมาก แต่ละคนน่ารักสุดๆ ประชุมสายหาตัวคนลึกลับ สร้างสถานการณ์ น่ารักมาก
อิจฉานายมะยมที่มีเพื่อนน่ารักอย่างนี้
ขอบคุณจ้า (อ่านแล้วคอยกด f5 ตลอด ลุ้นมากกว่าทุกเรื่องที่อ่านงานของคุณมา)
รออ่านเรื่องต่อไปนะ
-
แล้วลูกสองเมียหนึ่งของคุณภัก จะทำยังไงหล่ะคะ
-
แล้วลูกสองเมียหนึ่งของคุณภัก จะทำยังไงหล่ะคะ
ลูกสองเมียหนึ่ง....เป็นของพี่ชายฝาแฝดของคุณภักสิคะ (หุหุหุ....ต่างคนต่างสร้างครอบครัวไง)
-
เป็นเรื่องที่เราเดาทางไม่ถูกเลย โดนเต็มๆ ก็ตอนที่นึกว่าศรรักมะยมอ่ะ
พลิกกลายมาว่าศรไปรักเด็กกัสซะงั้น
มะยมดูตามหารักความรักมาพอสมควร จนลืมหันมองคนที่ใกล้ตัวไป
ในที่สุดก็เหมาะสมกับเวลาที่เนื้อคู่? จะได้เจอกันเสียที
หัวหน้าก็มีมุมน่ารักเยอะ คึคึ
-
โอ๊ย....มะโย้ม.....คุณพ่อมึง......น่าร้ากเว่อ......น่ารักเว้ย.....ว่าแล้วก็ไปหาต้มเลือดหมูมากิน
-
หุๆ น่าร้ากกก จูงมือกันไป จูงมือกันมา :-[
ไม่ใช่สเป็คเลย แต่ดันคิดถึงตลอด และอยากให้บอกรักนี่นา
ป.ล. อยากชมหุ่นพ่อมึงอีกอ่ะ มะยมจัดให้ทีดิ นะๆๆๆ :m1:
-
กว่าจะลเงอยกันได้ เดินวนไปวนมาตั้งแต่ต้นจบจบเรื่องเลยนะนี้
อ่านแล้วอบอุ่น ชวนผวา สนุกเฮฮามากจริงๆ
-
ในที่สุดก็เป็นคุณหัวหน้า
แอร๊ยย ชอบมากๆเลย
เรารู้ว่าเวลานายมะยมอยู่กับพ่อมึง
บรรยากาศมันดูสบายๆยังไงไม่รู้อะ
ชอบมากๆเลยจ้า
อ่านแล้วลุ้น ใจเต้นตึกตักๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
+1 ให้จ้าาา คนแต่ง
ปล.ขอตอนพิเศษอีกบ้างได้ไหมคะ
อยากอ่านตอนสองคนนี่เค้าใช้เวลาอยู่ด้วยกันบ้าง
ฮ่าๆๆ ติดตามเรื่องต่อไปจ้า
-
โถ ๆ คุณหัวหน้าผู้ภักดีแอบรักมะยมมานานแค่ไหนล่ะเนี่ย ได้แต่มองตามตาละห้อยเลยสิเวลามะยมอ่อยเด็ก
ได้แต่เจียมและปลงว่าตัวเองไม่ใช่สเป็ค กระนั้นก็ต้านทานหัวใจตัวเองไม่ไหว คอยตอดทีเผลอ ทีป่วย
ได้ดูแล ลูบ ๆ คลำ ๆ แอบบอกความรู้สึกเวลาอีกฝ่ายไม่ได้สติ นึก ๆ ดูก็เป็นความรักที่น่าสงสารและน่าเห็นใจ
เข้าใจนะว่าถ้าบอกไปตรง ๆ แล้วอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย แล้วต้องทนเจอหน้าทุกวัน คงรับไม่ได้
-
แอร๊ยยยย พ่อมึงมาทำคะแนนได้ตอนสุดท้ายแบบพรวดๆ อั๊งงงงง
ส่วนแก๊งตัวเพื่อนนักจับผิดนี่แสบจริงๆ สืบไม่พอ เจาะล้อแถมให้อีก55555
ว่าแต่ขอตอนพิเศษหน่อยซิค้า อยากอ่านตอนสองคนนี้หวานๆ กันจังเลย ><
-
กรื้ดดดดด จบแล้วอ่ะจบแล้ว
สรุปเป็นหัวหน้าแผนกจริงด้วย
ในที่สุดก็ลงเอยกันซักทีเน้อ
ต่อไปหัวหน้าจะได้ไม่ต้องแอบ'กระซิบ' อีกแล้วสิ
รักกันนานๆเน้อ อิอิ
-
ฮว๊ากกกกก
ปฏิบัติการง้างปากคุณหัวหน้าสำเร็จแล้ว!
ว่าแต่งานนี้.....ต้องจับ'ไม้สั้นไม้ยาว'กันอีกรึปล่าวคะ คิคิ
ชอบจังเลยค่า ชอบที่มากระซิบกันแบบนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ขอบคุณมากมายเลยค่า :)
-
(https://scontent.fbkk5-7.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/152130408_1930024113812086_8258275084275912931_o.jpg?_nc_cat=108&ccb=3&_nc_sid=0debeb&_nc_ohc=7aOKjYyhNhsAX_vnNBB&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.fna&oh=16f542ded089f37df6bddb0ddb9527d4&oe=605D9286)
บอก
คำเริ่มต้น
ระหว่างที่เรากำลังมองหาคนที่ใช่.... เรากำลังมองข้ามคนที่รักเรา...อยู่รึเปล่า?------ ประโยคหนึ่งที่ใครบางคนบอกเขา
ผมเริ่มหันมามอง...คนที่บอกว่ารักผม
แม้หัวใจผมยัง.....ร้องบอกว่า "ไม่มั่นใจ"
ถึงกระนั้นสายตาและความรู้สึกนึกคิด------ทุกอย่างมันกลับเทและทุ่มอยู่กับเขาไปทั้งหมดแล้ว...โดยไม่ทันรู้ตัว
รู้ว่าความลังเลของผม...ทำให้เขาเสียใจ
แต่ผมอยากได้เวลาอีกนิดเพื่อ....เรียนรู้กันและกัน
และหวังว่า.... "เขา" จะยังรอ "ผม"
-
มาตามกันต่อ
แลจะหม่นๆ
แต่หวังว่าคงจะผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ
-
เสียงฝีเท้าก้าวย่างสม่ำเสมอดังใกล้เข้าหาตัวเขาอย่างช้าๆ ....
เสียงพื้นรองเท้าหนังที่หนักกระทบบนพื้นกระเบื้องราวกับจังหวะกลอง ดังเป็นสัญญาณให้หัวใจดวงหนึ่งเต้น...ตาม
ลมหายใจแผ่วเข้า-ออกของคนที่ก้าวมาอยู่ใกล้ตัวเขา...ฟังดูเป็นปกติดี
หึ...ไม่ใช่เย้ยหยันหากแต่เหมือนขบขันด้วยความเอ็นดูดังลอยขึ้นมา
บรรยากาศมีเพียงเสียงครางฮือของเครื่องปรับอากาศหามีเสียงอื่นไม่....เขาที่นอนเหยียดอยู่บนโซฟารอฟังคำที่อีกฝ่ายจะกระซิบบอก
....
...
..
.
“กลับกันเถอะครับ” เสียงกระซิบไหลลื่นเข้ามาในใบหูเขา.... ความอบอุ่นซึมซาบเข้าสู่หัวใจเขา----ปลุกเขาที่นอนหลับไปแล้วขึ้นมา
....
...
..
.
เขาปรือตามามองใบหน้าที่…อมยิ้ม
เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเขาลืมตาแล้ว อีกฝ่ายจึงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง หยิบกระเป๋าหนังสีน้ำตาลซึ่งวางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาถือ….
เขาลุกขึ้นมานั่งและหาวหวอดใหญ่
อีกฝ่ายเดินมาที่โซฟา หยิบสายสะพายของกระเป๋าหนังสะพายขึ้นมาใส่บ่า และเดินไปทางประตูของห้องทำงาน…ส่วนตัว
เขาผุดลุกขึ้นและเดินตามหลังไป…. ก่อนที่เดินพ้นประตูห้องมา เขาไม่ลืมที่จะเอื้อมมือไปทาบยังกำแพงของห้อง----ปิดไฟ
……
…..
….
....
...
..
.
ลิฟท์คงจอดค้างอยู่ที่ชั้นที่ 30 มาแต่เดิม เพราะพวกเขากดปุ่มปุ๊บ ประตูก็เปิดออกปั๊บ
พวกเขาเดินก้าวเข้าไปด้านในของตัวลิฟท์
เขากดปุ่มเลข 1… และบิดขี้เกียจตัวใหญ่ “ฮื๊อออออออออออออออออออออ”
……
…..
….
....
...
..
.
“วันหลังกลับไปก่อนนะครับ” คนที่ทั้งสะพายและหิ้วกระเป๋าเอ่ยบอก
“กลับไปก็เบื่อ” เขาบอกอีกฝ่าย
“อยู่ก็เอาแต่นอน” อีกฝ่ายบอกในสิ่งที่เห็น
“……………..” เขาไม่พูด และยืนมองไฟของตัวเลขเหนือประตู…ซึ่งกำลังถอยหลัง
คนที่ทั้งสะพายและหิ้วกระเป๋ายืนมือมาเกี่ยวปลายนิ้วทั้งสี่ของเขา…แบบหลวมๆ “เป็นอะไรครับ”
“……………..” ไม่มีคำตอบจากอีกหนึ่งคนซึ่งอยู่ภายในลิฟท์ตัวนั้น
……
…..
….
....
...
..
.
มือที่ยื่นมาเกี่ยวปลายนิ้วทั้งสี่ของเขายังคงอยู่ที่เดิมจวบจนประตูของลิฟท์เปิด
……
…..
….
....
...
..
.
เขายื่นมือไปเอากระเป๋าสะพายของตัวเองคืนมา
อีกฝ่ายเดินนำเขาออกไปจากลิฟท์
พวกเขาค่อยๆ เดินตามกันไปจนถึงรถยนต์คันหนึ่ง
ในลานจอดรถของบริษัทดูเวิ้งว้างเนื่องจากเวลานี้ไม่ใช่เวลาทำงาน แถมยังหมดเวลาทำงานมาแล้วถึง 3 ชั่วโมง
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินไปที่อีกฟากของรถ…ที่นั่งข้างคนขับ
เจ้าของรถเสียบกุญแจและไขเปิด
เจ้าของรถก้าวเข้าไปนั่งยังที่นั่งของคนขับ เขาเอี้ยวตัวเอากระเป๋าถือสีน้ำตาลของตัวเองไปวางไว้ที่เบาะหลัง
เมื่อคนที่นั่งข้างๆ เปิดประตูและก้าวเข้ามานั่ง… เจ้าของรถยื่นมือไปหาเขา…เขาส่งกระเป๋าสะพายของตัวเองให้อีกฝ่าย----เอาไปวางไว้ที่เบาะหลัง
……
…..
….
....
...
..
.
เหล็กสี่ล้อ พาพวกเขาสองคนออกมายังท้องถนนที่สว่างโร่ไปด้วยแสงไฟจากร้านรวงและห้างสรรพสินค้า
ที่แห่งนี้แม้เป็นเวลากลางคืนแล้ว ทว่า มันกลับยังสว่างราวกับช่วงกลางวัน
ถนนซึ่งไม่เคยหลับด้วยฝากหนึ่งเป็นแหล่งรวมของบริษัทห้างร้านอันเป็นกระแสเลือดใหญ่ของประเทศ
ฝั่งตรงข้ามนั้นก็ไม่ต่างกัน…
แม้มันจะคึกคักในช่วงเวลาซึ่งตรงกันข้าม ทว่า อีกฝากหนึ่งนั้นก็เป็นเส้นเลือดใหญ่ของเหยี่ยวราตรี
……
…..
….
....
...
..
.
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เอาไปเลยยกให้เอง"รางวัลนักเขียนดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี"คุณbao bao กลับมาต่อเนื้อเรื่องให้เราบ้ากันอีกแล้ว วันๆไม่ทำอะไรเข้ามาแล้วเข้ามาอีกถึงกระซิบจะจบแอบคาดหวังว่าจะมีพิเศษ แล้วก็มีพิเศษจริงๆ. พิมพ์ขายมะคะเรื่องนี้ของจองเป็นno.1 :monkeysad:
-
มาตามต่อค่ะ
-
ตามกันต่อไป คิคิ
รอลุ้นดูความหวานบ้างหลังจากตามหากันมานาน ฮิ้ววว
-
จะหวานได้ขนาดไหนน๊า นายมะยมเงียบเชียว
อยู่กับพ่อมึงต้องเรียบร้อย
-
กิ๊วก๊าว ดีใจ มีต่อจริงๆด้วย เย้~ :oni2:
ตามต่อๆๆ ฮุๆๆ
-
……
…..
….
....
...
..
.
เหล็กมีล้อหักเลี้ยวเข้าไปยังข้างทาง….
เมื่อเครื่องยนต์ถูกดับลง คนสองคนที่นั่งอยู่ภายในนั้นต่างขยับปลดเซฟตี้เบลล์….. “อยากกินอะไรครับ?”
“แล้วแต่หัวหน้าครับ?” คนที่นั่งข้างๆ ตอบ
คนขับยื่นนิ้วไปเขี่ยแก้มของคนซึ่งนั่งข้างๆ พร้อมบอก “เลิกงานแล้วครับ เรียกใหม่”
“พี่จะกินอะไรก็เร็วๆ เหอะ” คนที่นั่งข้างคนขับปัดนิ้วของอีกฝ่ายออก
“โมโหหิวหรือโมโหอย่างอื่นครับ?” คนขับรถถาม
คนที่นั่งข้างๆ ไม่ตอบ….เขาเปิดประตูและเดินออกไปยืน---รอ
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีเดินนำไปที่ร้านข้าวหมูแดง…
เขาสั่งข้าวหมูแดงหนึ่งจาน และเดินมานั่งที่โต๊ะ… และปล่อยให้อีกคนที่ “กำลังดูใจ” กันอยู่ไปมองหาว่าอะไรน่ากิน
……
…..
….
....
...
..
.
“กำลังดูใจกันอยู่”------ กริยาตรงตามความหมาย เป็นคำจำกัดความที่พวกเขาสองคนกำหนดให้แก่กัน
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีรู้ตัวดีว่า… ตนไม่ใช่คนในสเปคของอีกฝ่าย ทว่า เมื่อวันนั้นที่อีกฝ่ายเริ่มมีความสนใจในตัวเองขึ้นมา เขาไม่อยากปล่อยให้มันเลยผ่านไปเฉยๆ
หากเขาพยายามและตั้งใจที่จะขยับฐานะในหัวใจอีกฝ่าย…ให้ได้ในสักวัน
แต่มันไม่ง่ายเลย…
……
…..
….
....
...
..
.
นิสัยที่ต่างกันเสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้กิจกรรมของพวกเขาสองคนค่อนข้างไปคนละทิศละทาง
……
…..
….
....
...
..
.
หน้าที่การงานทำให้ช่วงเวลากลางวันของพวกเขาถูกสูบหายวับไปโดยที่ต่างก็ทำอะไรไม่ได้
ทำงานที่เดียวกัน แถมตนเองยังเป็นหัวหน้าของเขาอีก
จะพูดจะทำอะไรก็ต้องระมัดระวัง… เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา และกระทบไปถึงหน้าที่และงาน
……
…..
….
....
...
..
.
9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น… คือเวลางาน
ไม่กี่ชั่วโมงทีเหลือเป็นเวลาส่วนตัว….
แต่ก็บ่อยครั้งที่เวลางานมากินเวลาส่วนตัว----เหมือนเช่นวันนี้
……
…..
….
....
...
..
.
แรกๆ นายมะยมนั่งรออยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองและกลับพร้อมกันกับเขา….
ตอนนั้นเขาก็บอกให้นายมะยมกลับไปก่อน ไว้ค่อยไปเจอกันที่หอก็ได้----นายมะยมไม่ยอม… เขาบอกว่า กลับไปห้องมันน่าเบื่อ อยู่ตรงนี้ดีกว่า
ซึ่งเขาก็ดีใจที่อีกฝ่ายมีแก่ใจที่อยากจะอยู่ด้วยกัน…จึงปล่อยไป
ครั้นหลายครั้ง…เขาแอบแง้มประตูห้องมาดู แล้วเห็นนายมะยมฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะทำงาน----มันยังไงไม่รู้ เหมือนตัวเองไปทรมานเขา
นายมะยมต้องตื่นตี 5 มาวิ่งพร้อมกับเขาทุกวัน…สองทุ่มก็ควรได้นั่งเล่นนอนเล่นแล้ว เขากลับปล่อยให้คนที่ตัวเองรักมานั่งหลับหลังขดหลังแข็งได้ยังไง
……
…..
….
....
...
..
.
ครั้งนั้นแค่เขาบอกว่าครั้งหน้าไม่ต้องรอแล้ว นายมะยมก็หน้าตึงไปเลย
รู้ดีว่า นายมะยมโกรธ แต่นายภักดีก็อธิบายความคิดของตัวเองให้เขาฟัง… นายมะยมยื่นข้อเสนอใหม่ว่า ขอนอนรอที่โซฟา
……
…..
….
....
...
..
.
ถึงจะลำบากใจ แต่ก็ดีใจที่อีกฝ่ายดื้อกับเขา
ยิ่งดื้อมากๆ เขาก็ยิ่งดีใจ------มันเหมือนว่าเขาได้สิทธิ์พิเศษจากอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีรู้สึกดีที่อีกฝ่ายแสดงออกตามอารมณ์และทุกความคิดของตนเองให้เขาได้เห็น
……
…..
….
....
...
..
.
หลายเดือนแล้วที่สานสัมพันธ์กันในฐานะของคนที่ดูใจกัน….
นายภักดีบอกรักเขาไปครั้งหนึ่ง
แต่คนที่เขารัก ยังไม่เคยบอกคำคำนี้กับเขาเลยสักครั้ง
อาจต้องใช้เวลา…. ซึ่งเขาก็รอได้
……
…..
….
....
...
..
.
แต่งอนหรือโกรธนี่… เขาไม่รอให้นายมะยมหายเองเด็ดขาด!
เขาไม่ชอบที่จะเห็นนายมะยมทำหน้าบึ้งและไม่พูดด้วย…
เขาชอบมองนายมะยมเวลายิ้ม หัวเราะ และพูดจ้อเรื่องนู่นนี่ไปเรื่อย… เขายอมให้นายมะยมนิ่งได้เฉพาะเวลาหลับ---เท่านั้น
……
…..
….
....
...
..
.
ฉะนั้น เมื่อจับได้ว่าถูกนายมะยมโกรธหรืองอน นายภักดีไม่เคยปล่อยให้-----ข้ามคืนเลยสักครั้งเดียว
……
…..
….
....
...
..
.
-
:laugh:55555555 ระหว่างรอคนเขียนขอบอกว่าตามอ่านคนเม้นท์ทุกคนอ่ะฮาดี. แบบไม่อยากบ้าคนเดียวหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์บ้าด้วยกัน ยังไงซะค่ำคืนนี้ไม่ใช่คุณคนเดียวที่กดre ยังมีอีกหลายคน ที่อยู่เป็นเพื่ิอนคุณ :-[ :z2:
-
ตามกันต่อไป
นายมะยมเริ่มน่ารักน่าหยิกแฮะ มีดื้อกับเค้าด้วย
พ่อมึงนี่ก็รักน่าดู อิอิ
ป.ล.จิ้มรีบน คนอ่านเรื่องนี้เค้าสมัครสมานสามัคคีกันดี 5555
-
เข้ามากรี๊ดอีกคน
จะน่ารักไปไหน
คุณมะยม :L1:
บวกเป็ด
-
นายมะยมกำลังลดอายุตัวเองเท่าน้องกัสแล้ว
-
มีง้อมีงอนนนน :-[
-
เหมือนพ่อมึงยังต้องพยายามอีกเยอะ
สู้ๆ พ่อมึ๊งงงง!!!! (รู้สึกเหมือนเป็นเด็กช่างเลยวุ้ย^^')
-
นายมะยมเอาแต่ใจแบบนี้ยิ่งทำให้พ่อมึงหลงหนัก
เพราะได้สิทธิ์พิเศษ เออ ดีแฮะที่คิดแบบนี้
ชอบซีนที่หัวหน้าเขี่ยแก้มคนขี้งอนอ่ะ งอนมากนักจับกดไปเลย
หายงอนชัวร์ :laugh:
-
พ่อมึงสู้ สู้
-
พ่อมึงน่ารักอ่ะ รักมะยมมากมาย
ยินดีกับมะยม
-
กระซิบ :m26:
"พ่อมึง..ที่บอกว่าไม่ปล่อยให้ข้ามคืนเนี่ย ง้อกันยังไงเหรอ..."
กระซิบ :m26:
รักคนเขียน ทำเป็นรูปเล่มเถอะค่ะ ถ้าไม่ว่าง นิมาจัดการให้ โรงพิมพ์พร้อมค่ะ แอร้ยยยยยยย o13 o13 o13
-
นายมะยมเหมือนเด็กเรียกร้องความสนใจอะ!!
5555 คุณหัวหน้าก็ตามใจจริงเทียว
นี่แหละน้า ...
ความแตกต่างระหว่างคบคนที่อายุเด็กกว่ากับแก่กว่า
มันก็ดีไปอีกแบบใช่ไหมล้ามะยม
รออ่านต่อจ้าาา
-
น่าร๊ากกกกอ่ะ :กอด1: :กอด1:
-
ชอบนิยายของคุณ BaoBao ค่ะ
ชอบพล็อต ชอบการดำเนินเรื่องราว
แต่เป็นคนที่เวลาอ่านแล้วชอบอินกับเรื่องราวมากก
เวลาอ่านแล้วมันค้างคาจะนอนไม่หลับ
ก็เลยรอให้เรื่องราวใกล้จบหรือจบแล้วค่อยเข้ามาอ่าน
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ
ติดตามยิ่งกว่านิยายสืบสวนสอบสวน
คนนี้ก็น่าสงสัย คนโน้นก็น่าจะใช่ 5555
ชอบบุคลิกของมะยมค่ะ
เป็นคนคิดดี ร่าเริง รักเพื่อน
โอ๊ยย สเป็คไปหมด อิ อิ
พ่อมึงก็เท่ห์ไปหมด
ตอนนี้ก็ถึงตอนกำลังดูใจกันล่ะเนอะ
รอดูกันต่อไป ว่าสองคนนี้จะปรับตัวหากันอย่างไร
เป็นกำลงใจให้คนเขียนนะคะ ^^
- นิยายเรื่องแอบที่เราไปอ่านมา ทำเราน้ำตาตกไปหลายวันเลยล่ะ T__T
-
อ๊าก กรี๊ด วี๊ด ว๊าย !!!!
บทนี้แทบจะทำให้คนอ่านลงไปแดดิ้น วิดพื้นออกกำลังกาย
ก็นายมะยมอ่ะ นายมะยมช่าง...
น่ารัก น่าหยิก น่าฟัด น่าหม่ำ น่าขย้ำ เป็นที่ซู้ดดดดดด
โฮกกกกกกกกกกกก
น้ำลายไหล ชอบนายมะยมเวอร์ชั่นนี้ยิ่งกว่าเวอร์ชั่นอ่อยเด็กให้ติดเบ็ดอีกนะ กร๊าก
ชอบตรงที่ได้เห็นอีกด้านของนายมะยมเนี่ยละ
แล้ว...ดูท่าว่าคุณภักดีเองก็คงชอบเหมือนกัน ท่าจะชอบมากซะด้วยนะ
นายมะยมเวอร์ชั่นแอบดื้ดนิดๆ แต่ดื้อแบบน่ารักน่าหยิก น่าจิก น่ากัด น่า...
ฝังเขี้ยวคมๆ เป็นรูปกลีบกุหลาบตามลำคอ
มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮุๆ
เป็นเราเป็นคุณภักดีนะปล้ำไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ
:laugh: :laugh:
-
ขำแฟนคลับเรื่องนี้ตามเชียร์ยังกะเชียร์มวย
ถึงคนยังไม่เยอะแต่ก็อบอุ่น
ช่วยกันกดเป็ดเหลืองให้เพื่อนๆ ในเล้าเข้ามาอ่านกันมากๆ ดีกว่า
-
ขำแฟนคลับเรื่องนี้ตามเชียร์ยังกะเชียร์มวย
ถึงคนยังไม่เยอะแต่ก็อบอุ่น
ช่วยกันกดเป็ดเหลืองให้เพื่อนๆ ในเล้าเข้ามาอ่านกันมากๆ ดีกว่า
เห็นด้วยกับรีนี้ค่ะ :กอด1: อบอุ่นๆ รักกันๆ
:laugh:
(เสนอหน้าตลอดแหละชั้น!)
ว่าแล้วก็กดรีเฟรชเป็นจังหวะอย่างเมามันส์ ฮ่าๆ
-
โคตรละเหี่ยใจกับพฤติกรรมมะยม....แกอยากเป็น "รับ" แทนพ่อแกหรืองัยฮะ :angry2:
ถ้าไม่ติดว่าพ่อแกปากแดงนะ ช้านจะเชียร์ให้พ่อแกจับแกกดซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย :oo1:
-
เห็นด้วยกับรีนี้ค่ะ :กอด1: อบอุ่นๆ รักกันๆ
:laugh:
(เสนอหน้าตลอดแหละชั้น!)
ว่าแล้วก็กดรีเฟรชเป็นจังหวะอย่างเมามันส์ ฮ่าๆ
จิ้มกันต่อเนื่องเป็นทอดๆ ตอนนี้อ่านมันทั้งเม้นท์(อย่างกับเป็นเจ้าของเรื่อง)
อ่านทั้งเนื้อเรื่อง ใครเข้ามาเม้นท์อ่านมันหมดทุกคน ฮาาา สังคมเล็กๆ
แต่รู้สึกดีแบบบอกไม่ถูก
โคตรละเหี่ยใจกับพฤติกรรมมะยม....แกอยากเป็น "รับ" แทนพ่อแกหรืองัยฮะ :angry2:
ถ้าไม่ติดว่าพ่อแกปากแดงนะ ช้านจะเชียร์ให้พ่อแกจับแกกดซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย :oo1:
ส่วนรีนี้ กระทืบไลค์ให้เลยค่ะ 5555
-
โคตรละเหี่ยใจกับพฤติกรรมมะยม....แกอยากเป็น "รับ" แทนพ่อแกหรืองัยฮะ :angry2:
ถ้าไม่ติดว่าพ่อแกปากแดงนะ ช้านจะเชียร์ให้พ่อแกจับแกกดซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย :oo1:
พ่อมึงขาสวยด้วยยยยยย ชอบบบบบ
-
……
…..
….
....
...
..
.
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้อง…
เขาวางกระเป๋าสะพายไว้ที่บนเตียง และเดินไปหยิบผ้าขนหนูซึ่งตากไว้ตรงระเบียงติดมือ เข้าไปในห้องน้ำ----ประตูห้องน้ำยังเปิดค้าง
เสื้อเชิ้ตและกางเกงถูกถอดออกอย่างรวดเร็ว… มือหนึ่งของชายหนุ่มคว้ามันขึ้นมาจากพื้นและเอามันหย่อนลงในตะกร้าซึ่งวางไว้เฉียงกับหน้าประตูห้องน้ำ
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเปิดฝักบัวและเดินเข้าไปให้สายน้ำราดรด…ทั้งตัวของเขา
เขาหยิบขวดแชมพูสระผมมาบีบ…หยดเดียว ก็เพียงพอแล้วสำหรับเส้นผมซึ่งเป็นทรงอย่างกับหัวลูกเจี๊ยบของเขา
เพราะเส้นผมที่แข็งแรงดีอยู่แล้วเขาจึงใช้แค่แชมพูสระผม…. ครีมนวดเขาจะใช้มันแค่อาทิตย์ละครั้ง เพื่อไม่ให้เส้นผมดูมันจนเกินไป… เขาหลับตาและเห็นภาพของเส้นผมที่เล็กและดูพริ้ว--- กว่าของเขา
เขาตบหน้าผากของตัวเองจนภาพนั้นดับไปจากสมอง…จากนั้นจึงอาบน้ำต่อ
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมอาบน้ำเสร็จจนผมแห้งก็แล้ว ยังไม่มีเสียงเคาะประตู…ของห้องเขา
เขาปิดไฟในห้อง เปิดทีวีและนอนเล่นบนเตียง
รายการโชว์ที่ฉายหลังละครตอนค่ำเริ่มทยอยออกอากาศ เขาเลือกรายการที่น่าสนใจหนึ่งขึ้นมา…..และดูมันไปเรื่อย
……
…..
….
....
...
..
.
ราวสิบนาทีต่อมา เสียงหนึ่งพลันดังขึ้น…
เขาลุกขึ้นไปเปิดประตู
……
…..
….
....
...
..
.
คนผิวขาวในชุดนอนแบบปาจามากอดหมอนใบหนึ่งด้วยแขนข้างขวาซึ่งเป็นข้างที่ถนัด ยืนอยู่หน้าประตูที่นายมะยมเปิด
นายมะยมกลับหลังหันและปล่อยประตูเปิด…ทิ้งไว้---นอนตะแคงดูรายการทีวีต่อ
……
…..
….
....
...
..
.
คนที่สวมชุดนอนเต็มยศเดินเข้ามา…ปิดประตู ถอดรองเท้าแตะ และอ้อมมาที่ปลายเตียง ก่อนที่จะขึ้นไปนอนอยู่ข้างหลังนายมะยม
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่นานนักนายมะยมก็ได้ยินเสียงลมหายใจเข้า-ออกที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
นายมะยมหันควับไปมองคนที่นอนอยู่ข้างหลังตัวเอง….. ผมหน้าที่ยาวจนระถึงช่วงกลางจมูก ดูพริ้วและเข้มกว่าปกติ
นายมะยมยื่นมือไปจับปอยผมของอีกฝ่าย-----ยังหมาดๆ
ผมที่นุ่มลื่นผสมกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้นายมะยมเผลอจับมันเล่น…
……
…..
….
....
...
..
.
“โกรธอะไรครับ?” เสียงจากคนที่เขาคิดว่าหลับไปแล้วเอ่ยถาม
“ไม่ได้โกรธครับ?” นายมะยมดึงมือตัวเองคืนมาและยกรีโมทขึ้นมาปิด
ขณะที่นายมะยมกำลังสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกัน อีกฝ่ายก็พูดกับเขาอีก “ถ้าผมทำผิดหรือพูดผิดอะไรก็บอกเถอะครับ ผมคิดเองไม่ทัน”
นายมะยมแก้มป่องอยู่ในความมืด…
……
…..
….
....
...
..
.
เมื่อไม่มีคำตอบจากคนที่นอนข้างๆ นายภักดีจึงเอื้อมแขนไปควานหามือของอีกฝ่ายมากุมไว้-----โดยที่ตายังคงหลับอยู่เช่นเดิม
เขาเหนื่อยมากจากงานวันนี้ พอได้อาบน้ำแล้วจึงง่วงมาก…ทว่า ตอนนี้ยังหลับไม่ได้ แต่มันก็ง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น…เช่นเดียวกัน
เมื่อกุมมือของอีกฝ่ายไว้ได้ เขาจึงค่อยบอก “ดีกันนะครับ พรุ่งนี้ผมก็ไม่อยู่แล้ว ให้ผมไปดูงานทั้งๆ แบบนี้ ผมไม่สบายใจ”
นายมะยมหันตะแคงมาทางนายภักดี มือที่ถูกเขากุมเลื่อนตกจากหน้าท้องของเขามาที่ฟูกซึ่งอยู่ระหว่างตัวพวกเขาทั้งสองคน “คุณมีอะไรจะบอกผมมั้ย?”
อีกฝ่ายยังคงนิ่ง เสียงลมหายใจยังคงดังสม่ำเสมอ
คงไม่ทันแล้ว เขาคงหลับไปแล้ว…. นายมะยมถอนหายใจหนัก
โกรธที่คนคนนี้ไม่บอกเรื่องหนึ่งกับเขา…ถึงเป็นข่าวไม่กรองแต่มันก็มีเปอร์เซ็นต์สูง…. มันสามารถเป็นจริงได้ เขาจึงหงุดหงิดอยู่แบบนี้
แต่อีกฝ่ายปิดเขาไว้ แล้วเขาจะบอกอีกฝ่ายได้อย่างไรตัวเองรู้ “ความลับ” ของเขา
……
…..
….
....
...
..
.
ขณะที่เขากำลังจะหลับตา เสียงของอีกฝ่ายก็ดังขัดจังหวะขึ้นมา
“ดีกันนะครับ”
นายมะยมลืมตาพรึบ------- อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีว่าจะตื่นมันคงเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะ…หลับไปจริงๆ
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมยิ่งไม่ชอบ…มากกว่าเดิม!....โมโหหนักกว่าเก่า!
……
…..
….
....
...
..
.
แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่าย….ง่วงมากจนยั้งตัวเองไม่อยู่
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมมองเสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึก…สบายใจ
อยู่ด้วยกันจนเริ่มชิน แล้วนี่ก็เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ต้องห่างกัน…ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอะไรหรือไม่ แต่สำหรับนายมะยมเขาคงหลับยากหน่อย เพราะชอบมองหน้าของคนนี้ไปจนง่วงและหลับไปเอง----จนติดเป็นนิสัย
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมสอดแขนเข้าไปที่ช่วงคอของเขา และใช้วงแขนของตัวเองรัดตัวอีกฝ่ายเข้ามากอด…หลวมๆ
ปกติจะนอนท่านี้กันตั้งแต่แรก…แต่เพราะวันนี้โมโหเขาอยู่เลยต่างคนต่างนอน
พรุ่งนี้คนคนนี้จะไปดูงานที่ปักกิ่งหนึ่งอาทิตย์…แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่นายมะยมโมโหอีกฝ่าย!
'เห็นแก่ที่จะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกอาทิตย์นึงหรอกนะคุณ! ไว้กลับมาก่อนเหอะ-----ผมจะเค้นคอคุณให้พูดให้ได้!'------นายมะยมคาดโทษไว้ในใจ
เมื่อแขนคู่ที่ขาวกว่าของตัวเองยกขึ้นมาวางพาดที่ช่วงเอวของเขา… ส่วนอีกข้างพับครึ่งและเอาหลังมือแปะไว้ที่ตำแหน่งของหัวใจของ…เขา-----นายมะยมจึงข่มตาให้ลงได้เสียที
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่นานนักคนที่โมโหเป็นบ้าอยู่คนเดียวก็หลับไป….
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมหารู้ไม่อีกฝ่ายที่ถูกกอดไว้นั้น หลับๆ ตื่นๆ ตลอดเวลา…. จนเมื่อกลับมาสู่ในท่าคุ้นเคยของทุกวัน อีกฝ่ายถึงหลับได้สนิทใจ------ สบายใจ เมื่อคิดว่าคนที่ตัวเองรักหายโกรธแล้ว
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่ได้เห็นหน้านี้แล้วมันหลับไม่ลง-----เป็นกันทั้งสองฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
หากไม่ได้ตื่นมาแล้วเห็นใบหน้านี้…มันหัวโหวงๆ-----ก็เป็นกันทั้งสองฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่อยากห่างกันแม้สักวัน-----ก็เป็นกันทั้งสองฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายก็คิดอย่างเดียวกัน----เป็นแบบนั้นกันทั้งคู่
……
…..
….
....
...
..
.
แต่ก็พยายามนึกถึงจิตใจและความคิดของอีกฝ่าย-----เหมือนกันทั้งคู่
……
…..
….
....
...
..
.
พยายามปรับตัวเองให้เข้ากับอีกฝ่าย โดยที่ไม่ได้ทิ้งความเป็นตัวเองไป----ด้วยกันทั้งคู่
……
…..
….
....
...
..
.
เรียกว่าดูๆ ใจกันอยู่ แต่เวลานี้มันเหมือนกับต่างก็ดูแลหัวใจของอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
-
จะไปนอนแทรกกลาง...กรี๊ดดดดด
สองคนนี้ทำให้นิมารู้สึกอยากเป็นอาชญากรปล้ำผู้ชายทีละสองคนพร้อมกัน! :haun4:
-
เข้ามากรี๊ดดดดด
คู่นี้มันแบบว่า อร๊ายยยยย กรีดร้อง น่ารักอะ
มองไม่ออกมาใครจะรับ บางทีนายมะยมก็ชอบทำตัวน่าฟัด 555
แต่หัวหน้าก็ดูเหมือนจะสวย ฮาาา
ลุ้นกันต่อไป
ว่าแต่...ความลับที่ว่านี่มันคืออะไรกันนะ
จดจ่อ..
:a5:
-
ดูแลหัวใจกันและกัน กิ๊วก๊าว
ปลาบปลื้มใจ
ซึ้งอ่ะ โอยยย ทิชชู่อยู่ไหนฟร้า น้ำตาปริ่ม
ดีใจจริงๆ นะ สองคนนี้อบอุ่นกันดีจัง
และแม้ตอนนี้ตำแหน่งจะยังไม่แน่ชัดแต่เราก็ยังดันให้พ่อมึงเมะกันสุดลิ่มทิ่มประตูค่ะ
ปักธงโบกสะบัดเชียร์กันแบบออกนอกหน้า
ปากแดง ขาสวย ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นรับนี่คะ กร๊าก
อีกอย่าง ลักษณะของนายมะยมน่ะ จนตอนนี้ยังไม่เห็นการบรรยายแบบชัดๆ เลยนะ
แต่เราว่าคงจะน่ารักมาก ดูจากนิสัย
ยิ่งไปกว่านั้นมะยมยังทำให้ป๋อง (ที่คิดว่าตัวเองเมะ) แอบชอบได้เลยนะเออ
5555555555
พยายามหาเหตุผลมาเกื้อกูลกันสุดฤทธิ์ กร๊าก
-
ลูกสองเมียหนึ่ง....เป็นของพี่ชายฝาแฝดของคุณภักสิคะ (หุหุหุ....ต่างคนต่างสร้างครอบครัวไง)
คุณภัก มีพี่ชายผาแฝดตอนไหนเนี้ย รบกวนเฉลยด่วนๆ ค่ะ
-
คุณภัก มีพี่ชายผาแฝดตอนไหนเนี้ย รบกวนเฉลยด่วนๆ ค่ะ
อยู่ในเนื้อเรื่องนั่นแหละค่ะ บางทีอาจจะอ่านข้ามไป ลองย้อนกลับไปดูนะคะ
ก่อนหน้านี้ไม่มากเท่าไหร่หรอกค่ะ
-
ชอบบบบบบบบบบบบบ ><!!!!
พวกเทอไม่เป็นแฟนกันให้รู้แล้วรู้รอดเลยค่ะ
-
จะมีฉากแบบว่า...เอิ่ม...แบบว่า...มั๊ยอะคะ โอ๊ยยเดาไม่ถูก คนอ่านเครียดค่ะ
-
มาทิ้งความลับให้อยากแล้วจากไป
อ่านเรื่องนี้ทีไรหัวใจเต้นแรงกว่าปกติเพราะลุ้นทุกทีเลย :z3:
-
อบอุ่นหวานเว่อร์ ผิดปกติ แต่ชอบมาก
เรื่องนี้ขอหวานๆนะคะ เอาให้สุดติ่งไปเลย
คิดมาตลอดว่าพ่อมึงเป็นเมะ แต่พออ่านมาถึงจุดนี้
ชักไม่แน่ใจ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้กับนิยายเรื่องนี้
ปล.พ่อมึงมีความลับไรอ่ะ อยากรู้จัง
-
ถึงแม้เราอ่านตอนจบ[แอบ]ไปแล้ว
แล้วรู้สึกว่ามะยมช่างอ่อนไหวเหลือเกิน ฮ่าๆ
แต่ยังไงเราก็คิดว่ามะยมเป็นรุกนะ
แล้วก็หัวหน้าก็เป็นรับ เพราะมันติดใจกับผิวขาวๆ
ปากแดงๆ ขาสวยๆ และก้นอันกลมกลึง
(ชักเริ่มติดเรท ๕๕๕)
อ่านตอนนี้แล้วค้าง อยากรู้ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้นายมะยมอารมณ์เสีย
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉากนอนกอดกันนี่มันช่างฟิน
เป็นอะไรที่.. เขินมาก
ดูเข้ากันได้ดีนี่น่าาา รออ่านต่อจ้า
-
น่ารักที่สุดอ่ะ หวานจนมดขึ้นจอคอมแล้วเนี่ย :-[ :-[ :-[
-
นิยายคุณสนุกมากอ่ะ กรี๊ดดดดดดด
แอบฮามะยมงอนอะไรหัวหน้าอีกล่ะเนี่ย
-
อยู่ในเนื้อเรื่องนั่นแหละค่ะ บางทีอาจจะอ่านข้ามไป ลองย้อนกลับไปดูนะคะ
ก่อนหน้านี้ไม่มากเท่าไหร่หรอกค่ะ
ขอบคุณค่ะ เจอแล้วค่ะ อ่านข้ามหน้าไปจริงๆ ด้วย แถมยังอ่านรู้เรื่องอีกด้วยสิ
-
สุดยอดดดดดด o13 วันนี้ต้องออกไปธุระแต่เช้า เพิ่งกลับเข้ามาบ้าน
เห็นเรื่องนี้ขึ้นจบในตัวแล้ว. โอย ดีใจสุดขีดค่ะ เฉลยสักที
พ่อมรึงน่ารักขึ้นเรื่อยๆนะคะ เอิ่ม...จิ้นพ่อมรึงเป็นรับ ตอนนี้ก็โอนะ เล่นปากแดงๆ ขนาดนั้น
ตอนต่อ แค่อ่านถึงตอนนอนกอดกันก็ฟินแล้วค่ะ แหมๆๆๆเดี๋ยวนี้เขามีพ่อแง่ พ่องอนกันด้วยนะ
จะทำให้ติดไปถึงไหนเนี่ย แค่นี้ก็เวลาลุ้นที ก็ไม่อยากทำอะไรแล้ว :z3:
-
โคตรสนุกเลยค่ะ !
-
ป๊าดดดดดดดด เดี๋ยวนี้มีงอน...
คุณหัวหน้าก็...โคตรน่ารักเลยเหอะ ทำตัวแบบนี้ตั้งแต่แรก น้องกัสไม่ได้เกิดเลยขอบอกกกกก!
จริงๆที่นายมะยมโกรธเนี่ย ไม่ใช่เพราะคุณหัวหน้าไปไกลใช่ป่าว
แต่เป็นเพราะ............... ไม่ยอมทำหน้าที่ของสามีที่ดี(ในอนาคต)ใช่มั้ยล่ะ!!!
ปล. อ่านไปอ่านมา อ่านซ้ำไปซ้ำมา คุณหัวหน้านี่มันสเป็คเราเลยนี่หว่าา~~ ถ้าไม่บอกรักคุณหัวหน้าเร็วๆ เราจะแย่งนะขอบอกก~~
:3123: ให้คุณคนเขียนนะคะ รักคุณคนนี้จริงๆ : )
-
เราเพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้เอง ได้อ่านรวอดเดียวก็จุใจดี
เราอ่านไป ดิ้นไป และกรั๊ดไป แทบจะตลอดเรื่องเลย
ด้วยสาเหตุหลายๆอย่างอ่ะนะ ฮ้าๆๆๆ
ทั้งเพราะเดาเรื่องถูก ทั้งถูกใจที่เรื่องเป็นไปตามที่คิด
ทั้งขัดใจตัวละคร ทั้งถูกใจตัวละคร และอื่นๆอีกจิปาถะ
อ่านตั้งแต่เมื่อเย็นวาน จนง่วงเผลอหลับไปช่วงคำที่เก้า
อ่านไปเกีอบจบแต่หลับซะก่อน เซงตัวเองนิดหน่อย
เพราะทำให้อารมณ์ขาดช่วงไป ตื่นมาอ่านต่อตอนเช้า
อ้าว...จบซะและ ไม่เป็นไรมีตอนพิเศษต่อ แล้วก็
อ้าว...ตอนพิเศษยังไม่จบเลย ไม่เป็นไรเดี๋ยวมาตามลุ้นต่อ
เราเดาว่าคู่ของมะยมคือหัวหน้ามาแต่แรก และปักใจเชื่อมาตลอด
ระหว่างที่อ่านเรื่องก็ได้อ่านเม้นบางเม้นด้วย เห็นหลายคนก็เดากันไป
ยิ่งอ่านมาช่วงครึ่งหลังๆยิ่งมันใจ เลยเกิดอาการ ว่าทำไมคนอื่นไม่เดาคนเดียวกัน
ทั้งที่องค์ประกอบต่างๆ ล้วนบ่งบวกว่าคือคนๆนี้ แต่คิดว่าคงเป็นเพราะไม่แน่ใจ
เลยไม่อยากเดากันส่งเดด ให้มาผิดหวังกันทีหลังหล่ะมั้ง
และแล้วเมื่อเปิดตัวว่า คู่ของมะยมคือใครนี่ เรากรี๊ดๆๆ(แบบเสียงเบาๆ) แล้วก็ดิ้นๆๆ
ไปหลาบตลบเลย ทำไม่ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้นะ (ทั้งๆไม่เคยซื้อหวยอ่ะนะ)
ถ้าเป็นหวย คงเหมือนถูกรางวันที่หนึ่ง แบบตรงเป๊ะๆ ไม่พลาดซักตัว
เพราะเรื่องก็เดาถูก ทั้งเหตุการณ์กหลายๆตอนก็เดาถูก ว่าใครเป็นใครทำอะไรไว้
ทำให้ตอนที่รุ้ว่าหัวหน้าเป็นคู่ของมะยมเลยดีใจมาก และโนใจมาก กรี๊ด+หัวเราะ(เสียงเบาๆ)เหมือนคนบ้า
แต่ที่ยังข้องใจอยุ่คือใครเป็นรุกขรับกันแน่ เพราะตอนแรกเลย เดาว่ามะยมรับ ตอนเปิดเรื่องที่ยังไม่รุ้อะไรเลย
ต่อมาพ่อเริ่มเดาว่าเป็นหัวหน้าได้ซักพักก็เดาว่ามะยมรุก แต่ตอนนี้ที่อ่านถึงปัจจุบันกลับ.....
คิดเหมือนบางคนหรืออาจหลายคนที่เม้นไว้ก่อนหน้านี้ว่า "นายมะยมจะเป็นรับแทนรึไง"
และ "ถ้าไม่ติดว่าหัวหน้า ผิวขาว ปากแดงธธรรมชาติ ขาสวย และก้นสวยหละก็ เราจะยุให้หัวหน้ารุก" ฮ้าๆๆๆ
แต่ก็คิดว่ามะยมน่าจะเป็นรุกอยุ่ดีหล่ะนะ เพราะท่าตอนนอนเลยที่ยังทำให้ปักใจเชื่ออยุ่แบบนี้
แต่เพื่อความชัว เราจะรออ่านตามตอนต่อไป ไม่รุ้จะมีฉากที่บ่งบอกสถานะที่ชัดเจนไหม แต่ก็จะรอ ฮ้าๆๆๆ
:L2: :pig4: :L2:
-
พ่อมึงจะไม่อยู่
แล้วทิ้งมะยมไว้กับความข้องใจ
ความลับที่คนหนึ่งไม่บอก
อีกคนก็ไม่ถาม แต่เก็บมางอน
โอ๊ยยย สงสัยๆๆ ความลับเรื่องอะไรน้อ :serius2:
ตอนล่าสุด มะยมเริ่มคิดถึงเส้นผมนิ่มๆของพ่อมึง :o8:
งอนที่เขามีความลับ
ต้องนอนมองหน้าจนง่วง
ต้องกอดไว้ในอ้อมแขนเวลานอน
แสดงว่าพ่อมึงได้ก้าวเข้ามาอยู่ในใจของมะยมหลายส่วนแล้ว
อ่ะนะ รักเขาแล้วล่ะสิ ฮิ๊ววววว~
-
อ๊าก.......น่ารัก......น่ารัก......น่ารัก
-
……
…..
….
....
...
..
.
หลังจากส่งอีกฝ่ายขึ้นเครื่องแล้ว เขาก็ขับรถของอีกฝ่ายกลับมาที่หอพัก…
……
…..
….
....
...
..
.
ก่อนไปอีกฝ่ายยังถามย้ำอีกว่าหายโกรธแล้วจริงๆ รึเปล่า…เขาโกหกไปว่าหายแล้ว
แม้เป็นเรื่องที่ไม่มีมูล แต่มันส่งกลิ่นของความเป็นจริงทิ่มแทงหัวใจของนายมะยม
....เขาต้องเก็บมันไว้ก่อน รอให้อีกฝ่ายกลับมาจากดูงานก่อนถึงค่อยคุยกัน
……
…..
….
....
...
..
.
ระหว่างที่รอ เขามีสิ่งต้องทำความเข้าใจ
……
…..
….
....
...
..
.
เขาจอดรถยนต์ไว้ในที่ของมัน จากนั้นก็เดินไปที่จักรยานของตัวเอง… เขาปั่นมันเข้าไปหาเพื่อนสนิท
……
…..
….
....
...
..
.
เอี๊ยด---- เสียงเบรคล้อดังแสบหู
เสียงเอะอะดังมาจากด้านใน สักพักศิลป์ก็วิ่งเข้ามานัวเนียเขา…เขาทักทายน้องชายบุญธรรม และเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกัน
ศิลป์คุยเล่นกับเขาสักครึ่งชั่วโมงถึงออกไปซ้อมเต้นที่บ้านเพื่อน
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังคุยทางไกลข้ามประเทศกับแฟนอยู่
เขาเดินไปข้างหลังเพื่อนสนิท โบกมือให้น้องกัสที่น่ารักขึ้นมากๆ :z1: … ไอ้ศรหันควับมาทำตาเขียว “ยุ่ง! พ่อมึงไม่อยู่ก็มาเสือกเรื่องชาวบ้านเค้าเชียวนะมึง!”
“อ๊ะ! ปาก!” นายมะยมชี้หน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่อง
แหย่ไอ้ศรกับน้องกัสอีกสักพัก กัสก็บอกว่าต้องเข้าไปในเมืองแล้ว เขาจึงลากเพื่อนสนิทมาคุย
“ไรของมึง จุ๊กจิ๊กจุ๊กจิ๊ก” ศรสะบัดมือที่ลากแขนตัวเองออกไปทันทีที่ตัวเองนั่งลงบนโซฟาแล้ว
“ลับสุดยอด! ฟังป๊ะ?” นายมะยมยั่วต่อมของเพื่อน
“ว่าไป!” นายศรเอนหลังพิงโซฟา…รอฟัง
“กูแอบได้ยินท่านรองคุยกับพ่อกูว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อนสนิท (ท่านรอง=รองผู้บริหาร)
“ปากไม่มีหูรูด! เรื่องในที่ทำงานอย่าเอามาพูดซี๊ซั๊วสิวะ!” นายศรขมวดคิ้ว
“กูไม่ได้จะคาบข่าวอะไรมาบอกมึง แต่มันเกี่ยวกับพ่อกู!” นายมะยมบ่นฉิว
“เอาที่เกี่ยวกับพ่อมึงพอนะ อย่างอื่นกูไม่อยากฟัง” นายศรกั้นเชือกไว้ก่อนที่เพื่อนจะบอกทุกอย่างที่รู้มา
“เค้าจะย้ายพ่อกูไปประจำที่ปักกิ่งว่ะ” นายมะยมพูดแล้วก็เก็บสีหน้าเศร้าของตัวเองไม่อยู่
……
…..
….
....
...
..
.
เรื่องนี้เขาแอบได้ยินมาได้อาทิตย์นึงแล้ว… ไม่ได้ตั้งใจ แต่มันพอดีเดินไปรอเอกสารจากกองเลขาของท่านรอง แล้วประตูห้องของท่านรองมันก็ปิดไม่สนิท...เลยได้ยินที่เขาคุยกัน
เขาควรที่ถามจากคนของตัวเองตั้งแต่คืนแรกนั้นแต่เขาทำไม่ได้ เพราะเขาได้ยินว่า…
ถึงที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ และทางปักกิ่งเป็นสำนักงานสาขา แต่ตัวตั้งตัวตีที่ก่อร่างสร้างสาขาในปักกิ่งเป็นพนักกงานชาวจีนซึ่งเดิมมาประจำที่ไทย
เป็นเรื่องปกติหากทางนั้นจะได้เป็นหัวหน้าสาขา…ประจำปักกิ่ง แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ทำให้ผู้บริหารไม่ไว้วางใจและต้องการให้คนของสำนักงานใหญ่ไปคุมงานในช่วงแรกให้ก่อน แน่นอนว่าพนักงานชาวจีนคนนั้นย่อมมีปัญหา----ที่จะให้คนไทยไปเป็นหัวหน้าเขาอีกทอด
เขาได้ยินหัวหน้าตัวเองบอกว่า ขอดูความเหมาะสมก่อนถึงค่อยตัดสินใจ
ท่านรองถามว่า ไม่ปัญหาไหมหากต้องไปอยู่ที่จีนหลายปี
หัวหน้าของเขาบอกว่าไม่มีปัญหา
----และนั่นแหละ ไม่มีปัญหาของอีกฝ่ายคือปัญหาของเขา!
……
…..
….
....
...
..
.
ถึงแค่ 50-50
แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนของบริษัท เขาย่อมรู้ว่าหัวหน้าของตัวเองมีศักยภาพมาก---แค่ไหน
หากให้หัวหน้าของเขาไป… เขาสามารถสอนงานคนอื่นได้ และช่วยวางระบบระเบียบให้แก่สำนักงาสาขานั้นได้-----ผู้บริหารเล็งถูกคนแล้ว
ยิ่งตอนนี้… ที่หัวหน้าของเขาไปดูงาน มันทำให้เขายิ่งมั่นใจว่า หัวหน้าของเขาต้องย้ายไปประจำที่ปักกิ่งในเร็ววันนี้แน่!
……
…..
….
....
...
..
.
“ก็ดีนี่มึง กลับมากูว่าคงก้าวหน้ากว่านี้ เดี๋ยวมึงได้นั่งเป็นคุณชายส่องเพรชเล่นอยู่กับบ้านก็อย่าลืมกูนะเว้ย!” นายศรตบหลังเพื่อนสนิทปุ๊ปุ๊...พลอยยินดีกับเพื่อน
แต่เพื่อนมันมาแปลก มันไม่ด่า ไม่เถียง แต่มันทำหน้าเศร้าแทน นายศรเริ่มตะหงิดในใจ “เป็นเหี้ยไร? ทำหน้าเป็นตูดเลย ก่อนไปพ่อมึงไม่ทำการบ้านเรอะ!”
เพี๊ยะ!...... เสียงเบิ๊ดกระโหลกนายศรดังขึ้นหนึ่งที พอให้แสบๆ คันๆ
“กูจะมาปรึกษา สงสัยแม่งคงมาหาผิดคน!” นายมะยมบ่นอุบ
นายศรลูบหัวตัวเองเบาๆ พลางครางเสียงอ่อนว่า “ตั้งแต่เป็นฝั่งเป็นฝานี่ ประจำเดือนมาบ่อยนะมึงน่ะ!”
นายมะยมยกมือง้างขึ้น แต่นายศรชิงลุกหนีไปจากรัศมีของมือนายมะยมได้ก่อน…. “เอา เอา แล้วเป็นเหี้ยไร? อยากตามพ่อมึงไปด้วย หรือพ่อมึงเค้าขอรุกมึงล่ะ?”
“ไอ้ศร! กูแค่ดูใจกันอยู่ มึงหยุดเรื่องบนเตียงเลย! นี่กูเครียดนะ ไม่เล่น!” นายมะยมของขึ้น
“โอ๋ โอ๋ โอ๋นะ” นายศรกลับมานั่งข้างๆ เพื่อนสนิทเหมือนเดิม “แล้วเป็นไรล่ะครับคุณมะยม?”
“…….” นายมะยมไม่พูด
แต่เพื่อนสนิทกัน ถึงไม่อ้าปากนายศรก็เห็นลิ้นไก่ของอีกฝ่าย “พ่อมึงยังไม่ตัดสินใจมั๊ง… หากผู้ใหญ่เค้าตัดสินใจกันได้แล้ว มึงกับกูต้องรู้ก่อนใครดิ๊ งานเกี่ยวกันโดยตรงเลยนะเว้ย!” นายศรชักแม่น้ำสายหนึ่งมาให้เพื่อน
นายมะยมแก้มป๋องไม่รับเหตุผลจากเพื่อนสนิท…ก็เขาอยู่ในฐานะคนพิเศษด้วย จะให้รู้ทีหลังคนในที่ทำงานได้ไง… เขาคือคนที่จะถูกทิ้งไว้ที่ไทย…นานเท่าไหร่ หนึ่งปี สองปี หรือมากกว่านั้น----เขาไม่อยากได้เวลาแค่หนึ่งเดือนแบบเพื่อนร่วมงาน! ไม่รู้อีกฝ่ายเค้าจะคิดถึงใจกันบ้างมั้ย?!
“ยังไงก็ได้ไปชัวร์ ถ้าเป็นงั้นกูคงไม่ไหวว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อนสนิท
“อะไรไม่ไหว?” นายศรงงความคิดเพื่อนตัวเอง
“ถ้าพ่อกูไปปักกิ่งจริง กูคงขอบายว่ะ” นายมะยมบอกความคิดที่ตัวเอง…คิดวนเวียนมาแล้วหลายวัน
“เหี้ยละ! เอาหัวแม่ตีนมาคิดเรอะ! ไปแค่ไม่กี่ปีเอง มึงก็ทนๆ เอาสิวะ!” นายศรตวาดเพื่อน
----- เลื่อนฐานะก็ยังไม่เลื่อน ยังแค่ดูใจกันอยู่ แล้วมันจะบายเค้า แล้วคนดีๆ แบบนี้มึงจะหาจากที่ไหนได้อี๊กไอ้มะยม!
“ก็ทนไม่ได้อยู่นี่ไงวะ…ไปด้วยก็ไม่ได้แล้วมึงจะให้กูทำยังไง มึงก็รู้นิสัยกูอยู่!” นายมะยมบอกเพียงเสียงแข็ง
นายศรทำสีหน้าละเหี่ยใจ…คนนึงไป คนที่อยู่ก็มีหน้าที่รอ----ไม่เห้นจะยาก
ทว่า เขารู้ดีว่าเพื่อนตัวเองขี้เหงาแค่ไหน...
มันขี้อ้อน มันอยากได้ความรัก มันอยากให้มีคนดูแลมัน… ตอนที่แม่มันยังอยู่มันก็อ้อนแม่ แต่พอแม่มันเสีย มันก็อ้อนพ่อ จนมันโตและทำงานได้ พ่อมันไปบวช มันก็หันมาอ้อนเพื่อนๆ แทน… มองลึกไปให้ถึงความรู้สึกของมันแล้ว เขาจึงนึกเอ็นดูไอ้เพื่อนคนนี้
เขาเป็นลูกคนโต เลี้ยงน้องมาแต่เด็ก มีน้องตัวควายมาอีกหนึ่งก็ไม่ลำบากอะไร… ไอ้ยมมันเลี้ยงง่ายเหมือนกัน ถึงบางครั้งจะหน้ามึนบ้าง ดื้อบ้าง แต่ก็พูดรู้เรื่องดี----แต่หากมันอยู่ห่างเราเท่านั้นแหละ...เราจะไม่สามารถคุมมันได้!
……
…..
….
....
...
..
.
“นี่ตั้งแต่เข้าสังกัดพ่อมึง…มึงดูโง่ขึ้นเยอะเลยนะ รู้ตัวมั้ย?” นายศรทำหน้า---เวทนา
นายมะยมหันควับ “กูโง่ตรงไหน?”
“อ๊าว! ไม่รู้ตัวอ่ะดิ นี่ไง” นายศรเอานิ้วจิ้มหน้าผากเพื่อนสนิท “คิดโง่ๆ เอาสาระกับเรื่องไม่น่าจะมีสาระ รักเค้ามากเลยโง่มาก” นายศรจี้ใจดำเพื่อนสนิท
พอนายมะยมจะเอ่ยปากเถียง นายศรก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน “อ๊ะ! อย่าเถียงกู โชว์โง่กับกูอยู่แหม่บๆ”
นายมะยมถลึงตาใส่เพื่อน----เถียงเขาไม่ได้
เลยเอาหมอนอิงพาดใส่หน้าขาเพื่อนแล้วเอนตัวลงไปนอนตะแคงหันหลังใส่เพื่อน----หน้ามันร้อนจนเจ้าตัวรู้สึกได้ แต่ไม่อยากให้เพื่อนเห็นว่าตัวเองหน้าแดง…. ปรึกษาปัญหาหนักอกกับเพื่อนยังไม่แล้ว จะหนีกลับห้องก็ยังไม่ได้ด้วย
นายศรหัวเราะร่าที่เห็นเพื่อนอาย “ไม่ใช่มึงคนเดียวหรอกที่จะคิดงี่เง่าแบบนี้ กูก็ไม่ชอบหรอกนะที่ต้องห่างจากน้องมันแบบนี้ ของมึงแค่ย้ายที่ทำงานชั่วคราวปีสองปี แต่ของกูต้องรอจนมันเรียนจนจบโน่น มึงนับเอาเองว่ากี่ปี…"
นายศรมองเพื่อนที่นอนหนุนตักตัวเองตลอดเวลาที่พูด เพื่อนยังนิ่ง นายศรจึงชักแม่น้ำมาช่วยอีกสาย "ไอ้กันมันก็ต้องห่างกับแฟนมัน สองสามเดือนถึงได้เจอหน้ากันที… ใครๆ เค้าก็ไม่ชอบกันทั้งนั้นละ แต่มันช่วยไม่ได้เว้ยมึง มันเป็นงาน มันคือชีวิต หากมึงไม่ให้อีกฝ่ายเขาก้าวและยืนด้วยตัวเอง มึงเองละที่จะเสียใจเพราะความแต่ใจของมึงไปตัดอนาคตของคนที่มึงรัก”
เพื่อนเขานิ่ง----มากเกินไป ไม่มีปฏิกริยามากเกินไป เขาจึงเอามือไปลูบหัวเพื่อน…เพื่อปลอบใจ
……
…..
….
....
...
..
.
“ที่เค้าไม่บอกมึงตอนนี้ พ่อมึงเค้าคงมีเหตุผลของเค้า มึงก็เห็นไม่ใช่เหรอ…เค้ารักมึงจะตาบห่า แล้วมึงจะกลัวอะไร เดี๋ยวพอทุกอย่างมันแน่นอนแล้วเค้าคงบอกมึงเอง มึงอย่าคิดมากล่วงหน้าไปคนเดียวสิวะ ทำตัวดีๆ หน่อย อย่าไปทำหน้าเป็นตูดแบบนี้กับพ่อมึงละ ไม่น่ารัก! เดี๋ยวเค้าจะเบื่อหน้ามึงซะเปล่าๆ” นายศรสอนเพื่อน…จากประสบการณ์ของตัวเอง
“ไม่ทันละ” คนที่นอนซบหัวกับหมอนอิงตอบเขา
นายศรระบายลมหายใจยาวอย่าง----เอื่อมระอา
เมื่อเราถือ “เวลาที่เหลืออยู่” เราควรใช้มันเก็บเกี่ยวความรู้สึกดีๆ ให้ต่างคนต่างประทับใจ… ให้ความประทับใจนั้นเป็นน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจที่แห้งผากยาวที่เราสองคน…ต้องไกลกัน-----ประสบการณ์ตรงของนายศร
……
…..
….
....
...
..
.
หลายเดือนที่ผ่านมา สิ่งที่นายศรเห็นกับตา และได้รู้มาจากที่ไอ้เพื่อนคนนี้มันเล่าให้ฟัง---- กับพ่อมัน ไอ้ยมมันเป็นตัวของตัวเองเต็มที่ มันไม่เคยกั๊ก!
แต่นั่นล่ะที่แสดงว่า....มันก็รักเค้า!
……
…..
….
....
...
..
.
หากพูดถึงรักระยะไกล เป็นแฟนกันก่อนต้องไกลกัน ร้อยทั้งร้อยมันย่อมดีกว่าจีบกันทางไกล
“แฟน” หมายความว่าเรามีสิทธิ์ในตัวอีกฝ่าย เราเป็นเจ้าของร่วมในหัวใจดวงนั้น มันเป็นตำแหน่งซึ่งมีสัญญาอยู่ในตัวมันเอง-----สัญญาที่ว่าเมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง “คนคนนี้” จะยังเป็นของเรา
แต่นิสัยอย่างไอ้ยม----ยากที่จะทำตามสัญญาได้!
……
…..
….
....
...
..
.
“ศร!” นายมะยมเรียกเพื่อน
“ไร?” ศรถาม
“มึงมีอะไรกับน้องกัสยังวะ?” เขาถามเพื่อนห
“เสือก! ไม่ต้องมาอยากรู้เรื่องส่วนตัวของกู!” นายศรตอบคำถามเพื่อน
“กูแค่หอมแก้มก็ยังไม่เคย ได้แค่กอดเค้าตอนนอน จับมือก็มีบ้าง” เขาบอกให้เพื่อนฟัง
“เออ ถ้างั้นกูชนะมึงว่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” ศรเริ่มอวด
“มึงว่ากูจะทนไม่ไปมองคนอื่นได้มั้ยวะ?” นายมะยมถามคำถามที่เขาถามตัวเองแล้วไม่ได้คำตอบสักที…
ศรไม่มีคำตอบให้เพื่อน สิ่งนี้เพื่อนต้อง---วัดดวงกับตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
ความเหงาที่ต้องห่างกัน
ช่วงที่ห่างกันมันอาจทำให้เขาเผลอเอาใจไปไว้กับคนอื่น
และหากมันเป็นเช่นนั้นเขาคงทำให้อีกฝ่ายเสียใจ
……
…..
….
....
...
..
.
อีกฝ่ายทุ่มเทให้เขามากแค่ไหน เขาเห็นมันมาตลอด
ที่ไม่เคยขอมีอะไรกับอีกฝ่ายเพราะคิดว่า… อยากที่จะเรียนรู้นิสัยกันและยอมรับความเป็นตัวเองของกันและกันให้ได้เสียก่อน
เขาคิดว่าผู้ชายคนนี้สามารถก้าวข้ามฐานะ “แฟน” แล้วมาเป็น “คู่ชีวิต” ของตัวเองได้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ทำกับอีกฝ่ายแบบที่เคยทำกับเด็กคนอื่นที่เคยคบกันมา
……
…..
….
....
...
..
.
หากก่อนไปเขาขยับฐานะระหว่างกัน มันจะกลายเป็นข้อผูกมัดให้แก่กัน
สำหรับคู่อื่นๆ มันอาจเป็นเส้นด้ายสีแดงที่ผูกใจกัน แต่นายมะยมกลัวว่าสำหรับคู่ของตัวเองมันจะเป็นโซ่เหล็กที่ร้อนฉ่า จนทำให้อีกฝ่ายเกิดบาดแผลได้----เมื่ออีกฝ่ายกลับมา...นายมะยมคนนี้จะเป็นคนของเขาได้อยู่อีกหรือไม่
……
…..
….
....
...
..
.
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของนายมะยม ทำให้....กระทั่งตัวเองก็ยังไม่แน่ใจตัวเองว่าจะทำมันได้!
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมปั่นจักรยานมาจากบ้านศรเมื่อตัวเองรู้สึกง่วงแล้ว
……
…..
….
....
...
..
.
เขาขึ้นไปยังห้องของตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
รดน้ำต้นตำลึงที่ระเบียงห้อง
……
…..
….
....
...
..
.
แล้วเดินออกไปจากห้องของตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงบันไดมาที่ชั้น 5
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเสียบกุญแจที่ประตูห้องหนึ่ง และไขเปิด
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินเข้าไปในห้องของ “คนที่ดูใจกันอยู่”
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินไปรดน้ำต้นตำลึงที่ระเบียงห้องนั้น
……
…..
….
....
...
..
.
จากนั้นจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของห้องนั้น
……
…..
….
....
...
..
.
หยิบผ้าเช็ดตัวที่พับเรียงตั้งไว้อย่างเป็นระเบียบออกมาหนึ่งผืน---สีกรมท่า…สีโปรดของเจ้าของห้อง
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินเข้าไปอาบน้ำ
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินออกมาจากห้องน้ำและเอาชุดนอนชุดหนึ่งมาใส่
……
…..
….
....
...
..
.
เขาพาร่างตัวเองที่สวมชุดนอนแบบปาจามาไปทุ่มที่เตียงนอนของห้องนั้น
……
…..
….
....
...
..
.
เขาซุกหน้ากับหมอนอันเดียวที่วางอยู่บนเตียงนั้น
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มมาห่ม
……
…..
….
....
...
..
.
สักพักเขาก็…..หลับ
……
…..
….
....
...
..
.
คืนนั้นเขาฝันถึงเจ้าของห้องนี้
……
…..
….
....
...
..
.
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเขาจะฝันถึงเขา…บ้างไหม?
……
…..
….
....
...
..
.
-
รักเขาแล้วละสิมะยม
เพราะรักมาก มันเลยคิดมาก
เพราะรักมาก มันเลยกังวล
และเพราะรักมาก เลยไม่อยากให้เขาเจ็บใช่ไหม?
ดีที่มะยมเองก็รู้ตัวว่าตัวเองเป็นยังไง
แต่ทางที่ดีคือหันหน้าคุยกันดีกว่านะ
นี่มันเป็นเรื่องของคนสองคน คือเรากับเขา
อย่าคิดไปเองฝ่ายเดียว
ตัดสินใจฝ่ายเดียว โดยที่อีกคนไม่รู้เรื่อง
ไม่งั้นสิ่งที่เราคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อาจจะเป็นทางเลือกที่แย่ที่สุดสำหรับเขาก็ได้
เป็นกำลังให้คนแต่ง นายมะยมและพ่อมึงจ๊ะ
-
กรี๊ดดดด นายมะยม
ทำตัวน่ารักอะ ฮาาาา
พ่อมึงจะรู้บ้างไหมว่าอีกคนเค้าก็รักมากขนาดนี้
ต้องห่างกัน ต้องไกลกัน
นายมะยมแอบหวั่นใจ
อยางนี้พ่อมึงต้องรีบจัดการด่วน อย่าให้ฟุ้งซ่านนน 555
-
จะมีมาต่อไหม จะมีมาต่อไหมน้า
มะยมคงกลัวใจตัวเองล่ะสิท่า
เข้มแข็งไว้นะมะยม :กอด1:
พ่อมึงรีบกลับมาเสริมสร้างความมั่นใจ
ด้วยการให้ความ "รัก" กับมะยมมากๆ ด่วน :haun5:
เห็นมะยมอ้อนศรแล้วจะละลาย
โดยเฉพาะชอตที่นอนหนุนตัก อ๊าก
อย่ามาทำให้หัวใจฉันวูบไหวสิเฟ้ย ไอ้ศร ไอ้บ้า
55555
-
โปรดอย่าห้ามถ้านิมาจะจับผู้ชายหลายคนในเรื่องนี้ปลุกปล้ำ!
-
:-[ :o8:รักคนแต่งเรื่องนี้จริงๆ. สำหรับคำชมขอเป็นคำยืนยันจากคุณbal bao อีกสักครั้งนึงว่า. มันจะจบแบบ"happy ending"ง่ะ :กอด1:
-
ตอบ "มันจะจบแบบหวานฟุ้ง แก้มปริ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม!!!"
ตอบเสริม " o22 [บอก] มันยาววุ้ย เท่าที่พิมพ์ไว้....ลงจนจบเลยไม่ได้ค่ะท่าน!"
ปล. ท่านผู้มีอุปการะคุณไม่ต้อง เอฟ5 ก็ได้นะคะ ตั้งแต่วันนี้ไป ผู้เขียนมีภาระกิจหลวง :sad4: จะค่อยๆ ทยอยมาเสริมจนเต็มทีหลัง..... (ไม่เคยได้วันหยุดตรงกับชาวบ้านเค้าเล๊ย ให้ตายสิ! ซาร่า)
:pig4: ทุกแรงใจและทุกๆ ตัวเลขที่เพิ่มขึ้น รักท่านผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่สุดในโลก
อ้อ! ใครจะเอา กระทาชายนายภักดี กะ กระทาชายนายมะยม....ในเรื่องไปเลี้ยงดูและดูเล่นที่บ้านก็เชิญนะคะ ผู้เขียนขออย่างเดียว กรุณาเอาไปเป็น "คู่" :laugh:
-
เอาใจช่วยมะยมให้ผ่านอุปสรรคทางความคิดไปให้ได้
บวกเป็ด
-
:man1: o18 o13กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่อ่ะคนอ่านเรื่องนี้. เอ่อ. คุณ. Bao. Baoคะ. โรงพิมคุณ. "nima". เค้าว่างอ่ะค่ะติดต่อเค้าหลังไมค์ได้เลยนะคะ. เอ้า ใครเห็นด้วยกับเรายกมือขึ้น. คริคริ :call: :call: o13
-
รับทราบบบค้าาาาา
เอาใจช่วยคนเขียนเสมอ
แอบชอบที่บอกว่าตอนนี้จะหวานนน ฮาา
ป.ล.ขอเก็บสองคนนี้ไปนอนกอดเล่นที่บ้านด้วยคน
มาเป็นแพ็คคู่ 5555
-
โรงพิมพ์ว่างเสมอนะคะ...ฮี่ๆ
ถ้าไม่ว่างจะตบกะบาลเจ้าของโรงพิมพ์ให้ค่ะ.... รับรองคิวเคลียร์ว่างทันทีค่ะ
ฮี่ๆ
ปล. อยากอ่านซีนมะยมอ้อนพ่อมึง อยากอ่านมะยอมหนุนตักพ่อมึง อยากอ่านตอนมะยมงอแงใส่พ่อมึง...อยากอ่านทุกสิ่งอย่างงงงง
ปล.ถ้าคิดจะรวมเล่มเมื่อไหร่ นิมาว่างเพื่อคุณBaoBao เสมอเลยนะคะ
รบกวนส่งสองคนนี้มาให้ด้วยนะคะ จะแพ็คคู่ หรือออออออออ...สองคน หรือมะยม และพ่อมึง ก็ได้ค่ะ
อิอิ
-
มารอความหวานฟุ้ง แก้มปริค่ะ
ตอนนี้แก้มก็ปริแล้ว เพราะว่า [บอก] ยาว...ฮ่าๆ
ดีใจได้อ่านยาวๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
มะยมนอนห้องตัวเองไม่ได้ ต้องมานอนห้องพ่อมึงงี้
ช้านว่านายอาการหนักแร้ว ทั้งรัก ทั้งหลง หัวปักหัวปำเลยแหละ ฮุๆๆ
คนแต่งบอกจบแบบแก้มปริ...ดีจายอ่ะ :m4:
-
มะยม รักแท้หายาก ต้องอดทน นะ
หัวหน้า ดีเลิศ ปานนี้ ห้ามปล่อยหลุดมือ.
-
รอลุ้นเรื่องราวน่ารักๆ ต่อไป
สนุกมากจริงๆ
:L2: :L2:
-
http://i572.photobucket.com/albums/ss166/Ai-Bao/Mayom-1.jpg
http://i572.photobucket.com/albums/ss166/Ai-Bao/Mayom-2.jpg
http://i572.photobucket.com/albums/ss166/Ai-Bao/Mayom-3.jpg
http://i572.photobucket.com/albums/ss166/Ai-Bao/Mayom-4.jpg
ด้วยรัก "ท่านผู้มีอุปการะคุณ" ทุกๆ ท่าน
สิ่งแทนใจจากผู้เขียน
-
ขอบคุณค่ะ อิอิ
-
ยังจบไม่สนิท มีมาต่ออีก สงสัยว่าพ่อมึงมีแผนจะหิ้วไปปักกิ่งด้วยกันหรือเปล่า อิอิ
ขอบคุณนะค่ะ
-
รออ่านตอนต่ออย่างใจจดจ่อ
มะยมเปรี้ยวจะหวานได้ขนาดไหน
-
:กอด1: :L1:
-
……
…..
….
....
...
..
.
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่เปิดอ้าไว้บนพื้นห้องซึ่งปูด้วยพรมผืนนุ่ม
เจ้าของมันอาบน้ำและแต่งตัวเสร็จแล้ว
10 นาทีสุดท้ายที่มันจะอยู่ในห้องนี้…. แต่เจ้าของมันกลับยังไม่ได้ใส่ของชิ้นสุดท้ายลงไปในกระเป๋า มันจึงยังคง--เปิดอยู่
…
..
.
“คุณภักเอากระเป๋าลงไปวางที่หน้าลอบบี้ได้เลยนะครับ คนของผมจะเอาขึ้นรถไปรอเอง ทานข้าวตามสบายนะครับ”
พนักงานประจำสาขาปักกิ่งในอนาคตเข้ามาบอกกับนายภักดี
“ขอบคุณครับ” นายภักดีบอกตามหลังเขาไป
เมื่ออีกฝ่ายไปแล้ว เขาจึงเดินไปที่เตียงนอน เอามือล้วงเข้าไปใต้หมอน
กรอบรูปขนาดพอเหมาะ ติดมือนายภักดีออกมา เขามองคนที่ยิ้มสดใสในรูปซึ่งยืนข้างๆ เขา…บนถนนสายหนึ่งกลางแหล่งชอปปิ้งของประเทศญี่ปุ่น
กรอบนี้ปกติจะอยู่บนหัวนอนของเขา และมักติดตัวเองไปทุกที่ที่เขาต้องไปจากห้องพักเป็นเวลาเกินหนึ่งคืน
……
…..
….
....
...
..
.
กระเป๋าเดินทางที่เปิดอ้ากว้างถูกปิดเมื่อสิ่งสุดท้ายเข้านอนอยู่ด้านใน----กรอบรูปถ่ายของคนสองคน
……
…..
….
....
...
..
.
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ดูและและปกป้องมันมาจนถึงที่ตั้งเดิมของมัน------ เมื่อทันทีที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกเจ้านายของมันเปิดกว้าง
สิ่งแรกที่ออกไปจากตัวมันคือ….กรอบรูปสี่เหลี่ยมที่ถูกใส่ลงมาเป็นชิ้นสุดท้าย
……
…..
….
....
...
..
.
เมื่อกรอบรูปถูกวางลงที่เดิม....บนหัวเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าของกระเป๋าจึงเริ่มจัดกับสิ่งอื่นที่อยู่ภายในตัวมัน
เมื่อของทุกชิ้นถูกนำออกไปจากตัวมันทั้งหมดแล้ว มันจะถูกส่งไปทำความสะอาดที่อื่น และมันจะกลับมาในสภาพเอี่ยมอ่อง…ในถุงพลาสสติกใส-----รอการใช้งานจากเจ้านายในภาระต่อๆ ไป
……
…..
….
....
...
..
.
-
อ๊าาา
เข้ามานั่งลุ้นกันต่อ
-
เข้าใจมะยมค่ะ
คนกำลังดูใจกัน แล้วต้องห่างกัน
ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้กอด
มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวด
ถึงแม้มะยมจะคิดว่ากำลังดูใจกัน
แต่การที่ห่างกันแล้วตัวเองนอนไม่หลับ
ต้องลงไปนอนในห้องพ่อมึงถึงจะหลับได้
มะยมได้ถามตัวเองหรือยัง
ว่านั่นเป็น"รัก"ใช่ไหม
พ่อมึงไปทำงานที่ไหนก็เอารูปมะยมไปด้วย
อ่านถึงตรงนี้..
สงสารทั้งสองคนเลยค่ะ
-
อุ้ย พ่อมึงนี่แสนดีไปไหนมาไหนมีรูปมะยมเป็นยันต์กันผีไปทุกที่ด้วย
แบบนี้นายมะยมรู้เข้าจะว่ายังไง จะเห็นใจและคิดจะรอบ้างมั้ยน้อ
แต่ก็นะ รู้ว่ารักกันทั้งคู่แบบนี้ จับมือกันและก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกันดีกว่า
คนอย่างพ่อมึงหาที่ไหนไม่ได้ง่ายๆเน้อ
บวกเป็ด และ :กอด1: คนเขียนที
-
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีรวบรวมเสื้อผ้าที่ใช้แล้วใส่ลงในตระกร้าผ้าและนำมันลงไปยังชั้นหนึ่งเพื่อส่งซัก… ขณะที่เขาจะเดินออกไปจากร้านเจ้าของร้าซ้กผ้าเรียกเขาเอาไว้ และยื่นชุดนอนกับผ้าเช็ดตัวมาให้เขา
เขาค่อนข้างไม่เข้าใจเพราะจำได้ว่า ก่อนที่จะเดินทางเขาไม่ได้เอาชุดนอนหรือผ้าเช็ดตัวลงมาซัก เขาทิ้งมันไว้ในตระกร้า และเอามันลงมาซักพร้อมกับชุดที่เอาไปใส่ที่ปักกิ่งนี้….เขายังเห็นมันเมื่อกี้ไม่ผิดแน่
ทว่า ชุดนอนและผ้าเช็ดตัวสีกรมในมือเขาก็เป็นของเขาจริง!
……
…..
….
....
...
..
.
“ผมลืมไว้เหรอครับ?” นายภักดีถามคุณน้าเจ้าของร้านซักผ้า
“อ๋อ หนูมะยมแกเอาลงมาให้น่ะค่ะ พอดีเห็นว่าเป็นชื่อคุณภัก น้าเลยแยกกองไว้ เนี่ยหนูมะยมแกไปไหนไม่รู้ ไม่ลงมาเอาเสื้อผ้าเลย น้าเลยเอาส่วนของคุณภักมาให้ซะเลย เผื่อคุณจำเป็นต้องใช้” น้าเจ้าของร้านซักผ้าบอกเขา
……
…..
….
....
...
..
.
เขาอมยิ้มกับคำเรียกของคุณน้า----หนูมะยม
คนที่เขากำลังดูใจอยู่...เค้าน่ารักเป็นที่นิยมของคนทั่วไป หน้าตาที่ธรรมดาของเขาพอยิ้มปุ๊บจะประทับอยู่ในสายตาของคนที่ได้เห็น...ทันที
คนที่ยิ้มแล้วทำให้คนอื่นเผลอยิ้มตาม
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินถือชุดนอนและผ็าเช็ดตัวของตัวเองไปที่ลิฟท์...ทันทีที่เขากดปุ่ม ประตูก็เปิด
เขาเดินเข้าไปและกดปุ่มเลข 6
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินออกมาจากลิฟท์ และเดินไปยังห้องของคนที่ตั้งใจมาหา...เขาจะมาทักทายและบอกคนคนนั้นว่าเขากลับมาแล้ว
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเคาะประตูหลายครั้ง ไม่มีเสียงตอบรับจากภายในห้อง
เขามองเวลาในมือถือของตัวเอง
เขานึกขึ้นได้ว่า คนคนนั้นน่าจะไปบ้านเพื่อนเพื่อรดน้ำแปลงผักเล็กๆ ที่เขาเคยถ่ายรูปมาอวด
คิดได้ดังนั้น เขาจึงหันหลัง และเดินลงบันไดมาที่ชั้น 5
……
…..
….
....
...
..
.
และรอคนคนนั้นอยู่ที่ห้องของตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
เขามีเบอร์อีกฝ่าย แต่เขาก็บอกวันและเวลาที่ตัวเองจะกลับมากับอีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะเดินทางไปเสียด้วยซ้ำ
……
…..
….
....
...
..
.
เขายังอยู่ในฐานะ “คนที่ดูใจกันก่อน”... เขาจึงไม่โทรตามอีกฝ่าย
ไม่สิ ถึงได้เลื่อนฐานะ เขาก็คงไม่โทรตามอีกฝ่ายอีเหมือนกัน----ก็มันไม่ใช่นิสัยของเขา
เขาชอบให้อีกฝ่ายทำอะไรก็ได้ตามใจ...
……
…..
….
....
...
..
.
แค่เห็นนายภักดีก็มีความสุขตาม
……
…..
….
....
...
..
.
-
อ๊ายยยหนูมะยม
การเรียกแบบนี้แล้วมันน่าฟัดจริงวุ้ยยยย 555
-
:o8:โว๊ะะะะะะ. ดีแบบนี้หาได้ที่ไหนคะ. เอาแบบคุณภักดีอ่ะ :o8: :-[. (แอบอมยิ้มเหมือนกันกับคำว่า"หนูมะยม")
-
……
…..
….
....
...
..
.
ขณะที่นายภักดีนั่งดูข่าวภาคค่ำต้นชั่วโมง...เสียงเคาะประตูห้องเขาดังรัว----การเคาะเป็นเอกลักษณ์ ...สิ่งที่เขาเพิ่งรู้ว่าเมื่อเริ่มดูใจกับคนคนนี้...
เขาอมยิ้มและเดินไปเปิดประตูห้อง
ยิ้มระรื่นโชว์สะท้อนสู่นัยน์ตาของนายภักดี...เขายิ้มตอบอีกฝ่าย...ยิ้มนิดๆ ที่แทบมองไม่ออก แต่ก็ยังเรียกว่ายิ้มได้....ตามสไตล์ของเขา
“กินข้าวเย็นรึยังครับ?” อีกฝ่ายถามเขา
“ยังครับ?” เขาบอกอีกฝ่าย
“รอผมรึเปล่า?” อีกฝ่ายถามเขา
“ก็.....ครับ” ทีแรกเขาคิดว่าจะตอบเลี่ยงตามมารยาท แต่นานๆ ครั้งเขาก็อยากลองพูดตามความจริงดูบ้าง
“กะถูกเป๊ะ! ผมหุงข้าวไว้แล้ว เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะเอาลงมาพร้อมผมนะ อะ หัวหน้าเอานี่ไปก่อน” เขาพูดแล้วยื่นปิ่นโตเถาหนึ่งมาให้เขา
“ไม่ใช่เวลางานนะครับ” เขารับปิ่นโตมาพร้อมเตือนอีกฝ่าย
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็ลืมน่า! เดี๋ยวผมมานะพี่ อาบน้ำก่อน” อีกฝ่ายทำหน้าปุเลี่ยนและบอกลาเขา
“ครับ ไม่ต้องรีบ” เขาบอกอีกฝ่ายี่กำลังสาวเท้าก้าวขึ้นบันได
“ครับ!” เสียงดังฟังชัด แต่ไม่ได้ลดระดับความเร็วในการซอยเท้าก้าวขึ้นบันไดเลยแม้แต่น้อย
นายภักดีส่ายหน้ากับภาพที่เห็น และเดินถือปิ่นโตเข้ามาในห้อง
……
…..
….
....
...
..
.
เมื่อเขาลองเปิดดู ภายในนั้นก็คงเป็นรายการอาหารเดียวกันกับที่เพื่อนสนิทของคนคนนั้นกินในคืนนี้
เขาผมยิ้มที่ปริมาณอาหารในปิ่นโตมีมากเกินกว่าที่เขาคนเดียวจะกินได้หมด
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีเอาอาหารแต่ละอย่างเทใส่จานและชามเพื่อรอเตรียมอุ่นเมื่ออีกฝ่ายมาที่ห้องเขาอีกครั้งพน้อมข้าวสวย
เขาวางจานชามไว้หน้าเตาไมโครเวฟ และเดินเอาปิ่นโตไปล้าง เขาเอามันไปผึ่งที่ระเบียงห้อง จากนั้นถึงค่อยเดินกลับมานอนดูข่าว...อย่างเงียบๆ
……
…..
….
....
...
..
.
-
โอ้! คุณพระ ขออย่างนี้ซักคนเถอะ
-
น่ารักมากเลยย รู้สึกเหมือนเค้าเริ่มใช้ชีวิตคู่กันแล้ว
ถ้าต้องอยู่ห่างกัน เรานึกภาพไม่ออกจริงๆ น่าสงสารออก...
ปล. เราก็ยังดูว่านายมะยมน่ารักน่าฟัด เหมาะเป็นรับชัดๆ 5555 แต่จากที่บรรยายพ่อมึงเอาไว้ เฮ่ออ แล้วแต่คนเขียนละกันค่ะ :laugh:
-
หนูมะยมกับพี่ภักจะมานั่งกินข้าวด้วยกัน จู๋จี๋
วุ้ย หวานๆๆ
ชอบเวลาที่มะยมถูกเรียกว่า "หนูมะยม" จังเลย
มันแบบดูน่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดู
คุณภักสุดยอดมากพกรูปหนูมะยมติดกระเป๋า >///<
มะยมรู้คงดีใจแหละ
ดีใจพอกับที่คุณภักเองก็ดีใจที่หนูมะยมเขาเอาเสื้อผ้าคุณภักมาใส่ ฮุๆ
ปลื้มที่สองคนนี้ห่างกันไม่นาน
หวังว่าตอนที่ต้องไปประจำสาขาคงมีแพลนหิ้วมะยมไปด้วยนะคะ ไม่งั้นคนอ่านจะงอแง ฮ่าๆ
ไม่อยากให้สองคนนี้เค้าห่างกันเลย เพราะมันคงน่าสงสารกันทั้งคู่
รึว่าคุณภักจะไม่ไปกันนะ
ตามลุ้นกันต่อค่า อ่านคู่นี้แล้วอมยิ้มจริงๆ เลยอ่า หวานๆ ค่ะ หวานๆ
:man1:
-
ชอบบรรยากาศแบบสองคนนี้ :n1:
-
โอ๊ยอิจฉานายมะยมจริงๆ
พ่อมึงทำมัยแสนดีอย่างนี้ :กอด1:
บวกเป็ด
-
พ่อมึงกลับมาแล้ว ขอให้เคลียร์กันดีๆ จบแบบหวานๆ(บนเตียง)น้า
:กอด1:
บวกเป็ด
-
หนูมะยมของคุณภัก ....
น่ารักเชงเชงงงง~~~
ขอโคลนนิ่งคุณภักซักคนได้มั้ยคะ~~~~
ขอแบบอายุน้อยกว่าคุณภักสักครึ่งกำลังโอเบยยยย!
-
:-[ น่ารัก น่าอิจฉาดีจัง 555+++
-
โอ๊ยยยย
หรือจะเป็นหนูมะยม กับ หนูภักดี หุหุหุ
-
อาหารมื้อนี้มีตำมะยมด้วยหรือเปล่าคะคุณภัก ถ้าไม่มีก็ตำเองเลยค่ะ :oo1:
(เพราะตัวแกเองแหละมะยม คนอ่านเลยเชียร์ให้พ่อแกเป็นรุก มันไม่ได้เกิดจากพ่อแกดูแมนแต่อย่างใด)
-
โอ๊ยยยย
หรือจะเป็นหนูมะยม กับ หนูภักดี หุหุหุ
โป้งงงงงงงงงง! ไม่เอาน้า ไม่เอาหนูภักดีน้าา
-
ฮาาาา
น่ารักอ๊าาาา
หนูมะยม กับ หนูภักดี ฮาาาา
แฟนคลับเรื่องนี้หัวคลีเอทเป็นเลิศ
-
……
…..
….
....
...
..
.
เสียงเคาะประตูดังรัว-----บ่งบอกได้ทันว่า “ใคร” ที่มาหาเขา
เขาลุกจากเตียงและเดินไปเปิดประตู
เขารับหม้อข้าวมาจากอีกฝ่าย
เขาเอาหม้อข้าวไปวางที่โต๊ะกินข้าว
อีกฝ่ายเอาหมอนที่หนีบจักกะแร้ไปวางบนที่นอน---ข้างๆ กับใบที่อยู่บนเตียงมาแต่เดิม
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเทียวเดินเอากับข้าวที่อุ่นเสร็จไปวางที่โต๊ะ
พอชามสุดท้ายที่อุ่น…อุ่นเสร็จแล้ว เขาร้องบอกคนที่นั่งจ้องทีวีว่า “ตักข้าวเลยครับ”
เสียงแกร๊งๆ เกิดจากช้อนและส้อมที่ถูกเทพรวดลงไปอีกจาน
เขายกชามแกงเห็ดหอมฉุยมาวาง
“พี่เอาข้าวเยอะมั้ยครับ?” อีกฝ่ายถามเขา
“อืม…สองทัพพีก่อนครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
พอจานข้าวของเขามาวางที่หน้าเขา คิ้วของเขาก็เกิดขมวดปมขึ้นทันที “นี่สองทัพพีเหรอครับ”
อีกฝ่ายหันหน้ามามองเขาแบบงงๆ …. “ก็ใช่น่ะสิ” ยืนยันตัวเอง
“โอเค! เอาคืนไปละกันครับ” เขายกจานข้าวของตัวเองไปแบ่งส่วนที่เกินมาให้อีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
จะกินหมดได้ยังไง ก็คุณมะยมเค้าตักหนึ่งทัพพีซะพูนจนนูน…. สองทัพพีของเขา คาดว่าคราวหน้าต้องบอกว่า เอาทัพพีเดียวซะแล้ว
……
…..
….
....
...
..
.
“คุณตักแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” เขาถามอีกฝ่ายเมื่อเคี้ยวข้าวคำแรกเข้าคอไปแล้ว
“อื้อ!” อีกฝ่ายยังเคี้ยวไม่เสร็จจึงตอบเขาได้แค่นั้น
“ถ้าเปิดร้านอาหารคงเจ๊งนะครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
อีกฝ่ายกลืนข้าวในปากคงคอไปแล้ว “ก็พี่ผอมไปอ่ะ กินเยอะๆ หน่อยสิ”
……
…..
….
....
...
..
.
ในสายตาของเขา เขามองตัวเองว่า มันพอดีแล้ว… ไม่มีไขมันส่วนเกิน แต่ก็ไม่ได้ผอมแห้งเก้งก้าง เขาทำให้มันเข้าไปอยู่ในกล้ามเนื้อได้อย่างพอดิบพอดีแล้ว----แต่ยังผอมเกินไปสำหรับสายตาอีกฝ่ายอยู่ดี
กินเยอะๆ หน่อย----คำนี้ได้ยินบ่อย นับแต่เริ่มดูใจกัน
ซึ่งเขาก็กินเยอะขึ้นมากแล้วนับแต่ที่คบกับคนคนนี้ ไม่รู้ว่าจะเพราะสรีระที่เป็นมาแต่เกิดรึเปล่าที่ทำให้ตัวเขาไม่บึกเท่าอีกฝ่าย
พี่ชายฝาแฝดของเขา แม้ภรรยาทำอาหารให้กินมากแค่ไหน ก็ยังตัวเท่าๆ กัน…ด้วยเหมือนกัน
……
…..
….
....
...
..
.
เขาล้างจานชามเสร็จ อีกฝ่ายก็เดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันในห้องน้ำ
……
…..
….
....
...
..
.
เขาแปรงฟันแล้วตั้งแต่ล้างจานเสร็จ เมื่อเอาจานชามไปผึ่งที่ระเบียงแล้วเขาจึงเดินขึ้นไปนอนบนเตียงเลย
เขาเอาแว่นตาบนหัวเตียงมาสวม และนอนหงายอ่านหนังสือที่อ่านค้างไว้ตั้งแต่ก่อนไปปักกิ่ง
อ่านไปได้ย่อหน้าเดียวอีกฝ่ายก็เดินออกมาจากห้องน้ำและโดดขึ้นเตียง เอาหน้าที่เปียกน้ำมาถูๆ ใส่ชุดนอนของเขา…..ช่วงหน้าท้อง
“ฮึ๊ย!” ความเย็นและเปียกทำให้เขาสะดุ้งจนต้องเผลออุทานออกมา
อีกฝ่ายหัวเราะร่าที่ได้แกล้งเขา
……
…..
….
....
...
..
.
ดูท่าคนคนนี้จะชอบแกล้งให้เขาทำหน้าตกใจ หรือทำสีหน้าแบบอื่นๆ
เคยถามว่านิสัยแบบนี้เหรอ…อีกฝ่ายบอกว่า เปล่า แต่เพราะเขาชอบทำหน้าตาย เลยเห็นแล้วยิ่งอยากแกล้ง
หึหึหึ… ก็พอรู้ละว่าหน้าตัวเองมันไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง แต่ฝาแฝดของเขาก็เป็นเหมือนกันเด๊ะ เลยเฉยๆ ไม่ค่อยให้ความสำคัญ
และด้วยหน้าที่นิ่งเกินไปจึงทำให้คนอื่นมองแล้วเห็นว่าดุบวกเย็นชา----จึงไม่มีใครเคยมากระตุ้นให้เขาเปลี่ยนสีหน้าบ่อยๆ แบบคนนี้
……
…..
….
....
...
..
.
คงไม่เคยมีใครบอกคนคนนี้ล่ะมั๊งว่า….ดูไม่เบื่อเลย
……
…..
….
....
...
..
.
“พรุ่งนี้เช้าไปทำงานพร้อมกันไหมครับ?” เขาถามคนที่ยังหัวเราะงอหาย
“หึหึหึ…ไม่ครับ จะไปใต้ดิน เบื่อโจ๊ก” อีกฝ่ายบอกเขา
……
…..
….
....
...
..
.
ตั้งแต่ดูใจกันมา เขาอยากให้อีกฝ่ายนั่งรถไป-กลับด้วยกันทุกวันที่ทำงาน แต่หากต้องนั่งรถยนต์ไปทำงาน อีกฝ่ายต้องไปกับเขาแต่เช้า และพวกเขาจะแวะไปกินโจ๊กเจ้าอร่อยที่อยู่ถนนตรงข้ามกับตึกสำนักงาน
ถึงอร่อย แต่อีกฝ่ายดูไม่ค่อยปลื้มกับโจ๊ก เขาชอบต้มเลือดหมูมากกว่า….ดังนั้น หากวันไหนที่อีกฝ่ายเบื่อโจ๊กแล้ว เขาจะนั่งรถไฟใต้ดินไปเอง
แต่อย่างไรก็ได้ เขาไม่บังคับ เพราะขากลับอีกฝ่ายก็รอกลับพร้อมเขาอยู่แล้ว----ทุกวัน
……
…..
….
....
...
..
.
อีกฝ่ายหมดความสนใจและเริ่มเตรียมอุปกรณ์สำหรับดูทีวี
……
…..
….
....
...
..
.
เจ้าหัวลูกเจี๊ยบเอาหมอนที่ตัวเองหนีบมาจากห้องของตัวเองมาวางที่หน้าท้องของเขา และหนุนนอนมัน โดยพับขาซุกบนเตียงไม่ปล่อยให้หลุดพ้นไปจากอาณาบริเวณของฟูก
“ห่มผ้าด้วยสิครับ” เขาบอกอีกฝ่ายเพราะห้องเขาเปิดแอร์ค่อนข้างแรง
“อื้อ!” อีกฝ่ายหยิบผ้าห่มที่เขาพับไว้ปลายเตียงมาห่มให้เขา…..!!! จากนั้นเจ้าหัวลูกเจี๊ยบก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของเขา และหยิบสิ่งหนึ่งออกมา
อีกฝ่ายหลับมาหนุนหมอนใบเดิม และคลี่..ผ้าแพรมาห่มตัวเอง
“ของผมเหรอ?” เขาถามอีกฝ่าย---เขาจำได้ว่า ตัวเองไม่มีผ้าแพร เพราะเป็นคนขี้หนาว แต่อีกฝ่ายหยิบมาจากในตู้ของเขา
“ก็เห็นอยู่ในกล่องพลาสติกขาวข้างบนตู้นะ ไม่ใช่ของคุณเหรอ?” เขาเอาศอกเท้ากับฟูกและหันหน้ามาบอกเขา
“ไม่นะ อ้อ ของน้องหนูมั๊ง” เขาเพิ่งนึกขึ้นมาได้ หากอีกฝ่ายเอามาจากกล่องนั้น มันก็ต้องของพี่สะใภ้กับหลานๆ เท่านั้น
“จิ๊กมาใช้ก่อน น้องหนูไม่ว่าหรอกเนอะ ผ้านวมพี่มันหนาไป ผมแทบจะแก้ผ้านอนอยู่แล้ว” อีกฝ่ายบอก
“ก็ตามสบายสิครับ ผมไม่ว่า” เขาบอกอีกฝ่ายพน้อมรอยยิ้มมุมปาก
“จ่ายมาสิครับ ท่อนบนราคานึง ท่อนล่างราคานึง ด่านสุดท้ายขอราคาพิเศษ” อีกฝ่ายยียวนเขา
……
…..
….
....
...
..
.
แรกๆ ที่เจออีกฝ่ายพูดสองง่ามแบบนี้ เขาอายหน้าแดงจนต้องเอาหน้าหลบ…ซึ่งก็ถูกใจอีกฝ่ายเค้าละ
……
…..
….
....
...
..
.
แต่ก็นะ พอบ่อยๆ ขึ้น ยางมันคงเริ่มหนาขึ้นตามกัน ปากของเขาจึงขยับและเอ่ยว่า “สงสัยไม่ต้องจ่ายพิเศษ รู้สึกว่าจะไม่ใส่…………นอนนี่ครับ” เขาจงใจเว้นว่างคำหนึ่งให้อีกฝ่ายไปคิดเอง
“ฮั่นแน่! แอบแต๊ะอั๊งผมตอนผมหลับอ่ะดิ๊” อีกฝ่ายชี้นิ้วมาหาเขา….เตรียมจับเท็จ
“หึหึหึ….” เขาไม่ตอบ แต่หัวเราะในลำคอ ยักคิ้วยั่วอีกฝ่าย
---------- จะไม่รู้ได้ยังไง ก็นอนกอดกันทั้งคืน ถึงตอนนอนไม่รู้ แต่เช้าๆ ตื่นมามันก็เห็นกับตา---ทุกวัน!
……
…..
….
....
...
..
.
มวยปล้ำยกเล็กๆ เกิดขึ้นสักสิบกว่านาที อีกฝ่ายก็ปล่อยเขาและหันกลับไปสนใจรายการทีวีต่อ
เขาหยิบหนังสืออันเดิมขึ้นมาอ่าน…ด้วยมือเดียว เพราะอีกมือถูกอีกฝ่ายเอาไปนับนิ้วเล่นเป็น “ของว่าง” ระหว่างดูทีวี
……
…..
….
....
...
..
.
ถึงอ่านหนังสือได้ลำบากมาก---แต่เขาก็ดีใจ
……
…..
….
....
...
..
.
-
ตื่นเช้ามาเห้นอะไรเหยออ เค้าไม่รู้~~
เค้าใสซื่อ..
เค้ายังไม่อยากให้เป็น 'หนูภักดี' นะคะ ไม่เอานะคะ!!!!~~~
-
กร๊าสสสส
เบาหวานขึ้นตากันเลยทีเดียวว
กรี๊ดดด หวานได้อีกมั้ย 5555
หนูมะยมหัวลุกเจี๊ยบน่ารักอะ
พ่อมึงก็น่ารัก พูดจากันสองแง่สองง่าม
คนอ่านคิดไปไกลนะ ฮาาา
-
สิ้นใจ เพราะจิ้นไปไกลโพ้นนนน :jul1:
-
เพิ่งมาตามอ่าน ไม่อยากบอว่าสนุกมาก น่ารักมาก o13
-
พี่มะยม (แอบดีใจ)น่ารักเนอะ
:o8:
อ่านแล้วใจเราก็ยังเอนเอียงให้พี่มะยมรุกหัวหน้า
แต่การกระทำบางอย่างมันช่างเคะเหลือเกิ้น
เอาน่า ส่วนสูงไม่มีผลในแนวราบ
:oo1: :z1:
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:laugh:
-
คนอ่านก็ยังเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่นเป็นผู้แต่งเข้ามาอ่านก็หลายคน(อ๊ะๆเรารู้นะว่าใครมั่ง)เห็นด้วยกะเรามะว่าเรื่องนี้"ดี"จริงๆ
-
กลับบ้านมาสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ เปิดเล้ามาอ่านเรื่องนี้ :กอด1:
น่ารักสุโค่ย อยากอ่านไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้จบเลย
อ่านไปยิ้มไป มีความสุขกับหนูมะยมกับพ่อมรึง
หวานกันไปเรื่อยๆนะ คนอ่านมีความสุขมาก
-
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีเดินลงมาจากรถยนต์…เดินตรงเข้าไปในตึก
เขาเดินขึ้นบันไดไปชั้นที่ 2 …….ตรงไปยังร้านกาแฟเจ้าประจำ
……
…..
….
....
...
..
.
หากมากพร้อมอีกคน เขาจะนั่งดื่มกาแฟที่นี่ด้วยกัน----วันนี้ไม่ใช่ เขามาคนเดียว เขาจึงมานั่งดื่มของตัวเองและสั่งให้กับอีกฝ่าย…เหมือนเช่นเคย
“ของผมลาเต้ร้อนครับ ส่วนอีกแก้วขอมอคค่าร้อน” เขาสั่งกับพนักงานคนเดิม….ที่เดินส่งกาแฟให้เขาเป็นประจำ และก็ยังต้องทำอยู่ เพราะเรื่องบางอย่างก็ควรให้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่อย่างนั้นอาจกระทบไปถึงการทำงานได้
“ค่ะ” เด็กสาวรับรายการและเดินไปบอกพนักงานที่มีหน้าที่ชงกาแฟ
เขานั่งต่อไม่ถึงอึดใจ ผู้จัดการร้านก็เดินมานั่งที่โต๊ะเขา
“คุณภัก ทำส่งผมเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ก็ได้ ไม่ก็ขายสูตรให้ผมเถอะ นะครับ” ผู้จัดการร้องขอ
“ผมไม่ค่อยว่างครับ ทำงานไม่เป็นเวลาจริงๆ ไอ้สูตรที่ว่ามันก็ไม่มี ผมซื้อหนังสือมาเปิดทำตามเฉยๆ ครับ” เขาบอกผู้จัดการร้านเป็นครั้งที่ 3…แล้ว
เหตุมันเกิดจากช่วงหนึ่งในก่อนหน้านี้ที่นายมะยมตามเขามาทำงานตอนเช้าพร้อมกัน….ขนมที่ให้นายมะยมก่อนช่วงที่จะ “ดูใจกัน”… เขาไม่ได้ซื้อมาจากี่ไหน
เขาไปซื้อหนังสือที่ร้าน เลือกเอาเล่มที่เขียนว่าทำขนมอบด้วยไมโครเวฟ------แล้วก็ทำตามสูตรในหนังสือ
ตอนชิมเองก็ว่ากินได้ เอามาให้อีกฝ่ายเค้าก็ชอบ เห็นกินหมดทุกวัน----ไม่ได้รู้ว่ามันอร่อยขนาดไหน เพราะไม่ใช่คนชอบกินขนมหวาน
พอคบกันแล้ว…อีกฝ่ายรู้ว่าเขาทำเอง เลยออเดอร์รายการด้วยตัวเอง และไม่รบกวนให้เขาหิ้วมาให้อีก----- อีกฝ่ายเค้าจะเลือกใส่ถุงเองว่าวันนี้อยากกินอะไร และฝากสั่งกาแฟมากับเขาแค่นั้น.
ส่วนวันที่มานั่งกินกาแฟด้วยกันที่ร้าน อีกฝ่ายจะเอามานั่งกินที่ร้านนี้เลย
ทีแรกเขาก็เกรงใจทางร้านมาก แต่พ่อคนนี้มีวิชาเป็นมิตรขั้นสูง…ไปชวนผู้จัดการร้านชิม แล้วคราวนี้ล่ะ-----เขาจึงตกที่นั่งลำบากต้องมานั่งปฏิเสธเกือบทุกวัน
……
…..
….
....
...
..
.
“คุณภัก เปลี่ยนใจบอกผมได้นะครับ” ผู้จัดการบอกเขาอีกครั้งหลังจากที่เขาเดินไปชำระเงิน
“ครับ” เขารับคำตามมารยาท
……
…..
….
....
...
..
.
ถึงเปลี่ยนใจเขาก็ทำไม่ได้เพราะกำหนดที่เขาจะต้องไปปักกิ่งมันออกมาแล้ว
ความยาวของช่วงเวลาที่ต้องไปประจำที่นั่น-----ยังไม่มีกำหนด
แต่มันมีเป้า… หากสำนักงานสาขาตั้งตัวเองได้เมื่อไหร่ เขาจึงกลับมาประจำที่ไทยต่อได้
……
…..
….
....
...
..
.
เรื่องงาน….เขาไม่มีปัญหา เขาไม่มีความกังวลกับการต้องย้ายที่อยู่ ไร้ความเครียดที่จะต้องไปอยู่ต่างแดน ไม่มีความไม่ชอบที่จะต้องไปอยู่ท่ามกลางชาวจีน
เรื่องส่วนตัว…เขาหนักอก
……
…..
….
....
...
..
.
ทีแรกที่รองผู้บริหารแจ้งเขาเป็นการส่วนตัว…เขาอยากเอาเรื่องนี้ไปบอกกับอีกฝ่าย แต่เมื่อมาฉุกคิดได้ว่า หากได้ไปหรือไม่ได้ไป การที่เขาไปบอกอีกฝ่าย….มันจะเป็นการกระตุ้นอีกฝ่ายเกินไป---รึเปล่า
เขาเพิ่งจะได้ดูใจกันกับอีกฝ่ายแค่ไม่กี่เดือน เขาอยากให้อีกฝ่ายชอบเขาและรักเขาก่อนที่จะเปลี่ยนฐานะมาเป็น “แฟน” หรือ “คนรัก”
……
…..
….
....
...
..
.
เลิกกัน----แน่นอนว่าคำนี้เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
แต่หากต้องเลิกเพราะความเข้ากันไม่ได้ นิสัยไม่ตรงกัน หรืออยู่ๆ ไปเกิดเบื่อกันไปเอง เลยต้องเลิก---- แบบนี้เขารับไม่ได้มากกว่า
เท่าที่สังเกตุ….เขาว่านายมะยมก็คิดเหมือนเขา
……
…..
….
....
...
..
.
ในความคิดของเขา…. คิดว่าพวกเขาต้องใช้เวลากันอีกหน่อย เพื่อให้ต่างก็ “มั่นใจ” ในอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
แต่นิสัยของอีกฝ่ายนี่สิที่ทำให้คนหนักใจ-----พ่อเจ้าประคุณที่ใจดีกับคนอื่นไปทั่ว ผูกมิตรกับคนอื่นทั่วทุกหัวระแหง แถมยังใจไม่หนักแน่นชอบคนน่ารัก ขี้เหงาก็ปานนั้น ขี้อ้อนก็ปานนั้น…. แต่ละอย่างไม่ชวนให้เขาหนักใจได้ไงไหว
หากอยู่ใกล้กัน ในที่ที่สายตามองเห็น ในที่ที่สามารถคว้ามืออีกฝ่ายมากุม….เพื่อเตือนว่า ----ผมยังอยู่ตรงนี้นะ….
ถ้าอยู่ใกล้กัน...เขามั่นใจตัวเองว่าสามารถทำให้อีกฝ่ายไม่เผลอเอาใจไปผูกติดกับใครได้
แต่หากไกลกันมากแบบนี้----????
……
…..
….
....
...
..
.
:a12:
-
หัวลูกเจี๊ยบ!! :-[
นึกภาพตามแล้วจะเป็นลม
เอ็งจะน่ารักไปแล้วนายมะยม ฮ่าๆ
ตอนนี้เล่นกันน่ารักจัง
มีเล่นมงเล่นมือ อื้อหือออ
บรรยากาศหวานชื่นน่าดู ฮ่าๆ
รออ่านต่อจ้า ยังค้างคากับเรื่องปักกิ่งน่ะ
มะยมจะเปิดอกคุยกับพ่อมึงไหมน้อ??
__________________
เม้นเสร็จคุณBaoBaoก็มาลงต่อ
เราเลยเม้นต่อ
อื้อหือ แสดงว่าพ่อมึงนี่รู้จักนิสัยของยอดชานนายมะยมดี
เลยคิดแบบที่เจ้าตัวเขาคิดนี่นะ
เฮ้อ แล้วจะเอาไงทีนี้ลุ้นๆ
ปล.คุณภักดีนี่เป็นศรีภรรยาที่ดีจัง ทำอาหารเก่งอย่างนี้ ก๊ากก
ปลล.อาจจะมีแฟนคลับเชียร์พ่อมึงรุก แต่เราเชียร์พ่อมึงรับ ไม่ว่ากันน้อ ฮ่าๆ
-
คุณภักดีจะไปไหนค้า กำลังหวานเลย
เอาอีกแล้ววววว
ลุ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย :เฮ้อ:
-
เรื่องแบบนี้ต้องคุยกันบนเตียงค่ะคุณภัก....แจ่มแน่นอน :z1:
(คนเขียนเขาจะละเมียดละไม อินี่ก็พาเข้าเรื่องอย่างว่าตลอดเวลา :z6: )
-
ตอนนี้เริ่มเชียร์ไม่ถูกแล้วจะให้ใครเป็นรับเป็นรุก
หนูมะยมก็ดี หนูภักดีก็ใช่ หนักใจแท้ :z3:
พ่อมึงก็รู้นิสัยลูกกูดีเหมือนกันนะ ว่าอ่อนไหว รักคนง่าย
งานนี้จะออกหัวออกก้อยแบบไหน
-
ตัวทำให้นิมาไม่เป็นอันเขียนงานของตัวเองแล้วน้าาา
งี๊ดดดดด
รับผิดชอบเสียดีๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (ข่มขู่มากกกกกกก) :m15:
นั่งF5 ตลอดเลยอะ
อิโมของคุณทำซะเจ็บปวดดดดด :sad4: :o12: :L3:
-
ไปไหนไกลๆ ม่ายยยน้าาาา
-
น่ารักเนอะ ฉากสวีทมีมาเรื่อยๆ แต่แอบกลัวว่ามาม่าจะตามมา
ไอ้ที่จบแฮปปี้ก็เชื่อนะ แต่ก่อนที่จะแฮปและปี้นี่สิ คนอ่านแบบเรา
คงกัดหมอนขาดเป็นใบๆไป อย่าใจร้ายนักน้า :monkeysad:
เอาพอดีๆนะคะ :กอด1:
บวกเป็ดเอาใจ :laugh:
-
อ่านตอนที่เขาคลุกคลีกันแล้วเราก็อยากจะเข้าไปคลุกวงในกับเขาบ้างอะไรบ้าง
ช่างหยิกหยอกกันได้น่ารักเหลือใจ >///<
แถมคำพูดแต่ละคำก็ นะ... เขินค่ะ ฮี่ๆ
ลุ้นมานานเห็นเขาหวานกันแล้วจะละลาย
หัวลูกเจี๊ยบ คำนี้แทบทำเรากระอัก ช่างเรียกแทนได้น่ารัก ชอบ
ยิ่งตอนเอาหัวไปไถพุง ------- กรี๊ด แทบจะฟินจนจะโบยบิน!
แถมมีอาฟเตอร์ช็อคกุ๊กกิ๊ก คิกขุ เล่นมือกันอี๊กกกกกกกกกกกกกกกก
โฮกกกกกกกกกกกกกก
โฮก---จนหมดพลังเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
คุณหัวหน้า...น่ารักที่สุด~
...ส่วนเอ่อ..ตำแหน่งอะไรยังไง ....จับไม้สั้นไม้ยาวกันไปละกันครับ แต่แอบเชียร์คุณหัวหน้าอยู่เบาๆ 55
-
หนูมะยมพออยู่กับพ่อมึงแล้วก็ขี้อ้อนเหมือนกันเนอะ
ส่วนคุณภักก็เป็นผู้ใหญ่ ให้ความสำคัญกับหน้าที่การงาน แต่ก็เป็นคนที่โรแมนติกและอบอุ่น
หวังว่าจะหาทางออกที่ดีได้สำหรับการห่างไกลกันที่กำลังจะเกิด
-
ไอ้หัวลูกเจี๊ยบขี้อ้อน ฮาาา
ไม่อยากให้ไกลกันเลย
ให้ตายสิ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
-
: 222222: งดให้ยืมแพ็คคู่พ่อภักดีและหนูมะยม
ผู้เขียนจะพาแพ็คคู่ไป......
(https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-snc6/s720x720/154525_448808325134229_113434652004933_96332413_487548200_n.jpg)
ออกถิ่นทุรกันดาน
-
ไปดีมาดีค่ะ
รอนิยายอยู่ทางนี้ค่ะ
-
อร๊ายยยยยยยยยย
รักแท้จะแพ้ระยะทางรึป่าวน๊าาา :m15:
-
อิอิ ฮาการ์ตูนสามช่องอ่ะ ช่องสุดท้ายหน้าเหวอเชียว
เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ
เม้น..หนูมะยม ทะลึ่งทะเล้นน่าดู ทำพ่อมึงหน้าแดง
สงสัยย้อนหลัง... ตอนที่ห้องแช่น้ำร้อนที่ญี่ปุ่น พ่อมึงรู้สึกอะไรบ้างป่าว
โดนเห็นทั้งตัวขนาดนั้น
(คิดแล้วย้อนกลับไปอ่านอีก ซี๊ดส์ เคลิ้มกับหุ่นพ่อมึงอ่ะ :-[ หนูมะยมทนเฉยได้ไง จับกดเลยเซ่)
เอามะยมพริกเกลือมาฝากพ่อมึง เผื่อจะเปรี้ยวปากอยากกิน(ซะที)
(http://www.lesla.com/board/file/4/20101102-112646-2132645888.jpg)
-
บอกได้คำเดียวว่า โดน! อีกแล้ว
-
คำสั่งมาแล้ว
รีบไปเคลียร์
กับมะยมด่วนเลย :L1:
บวกเป็ด
-
เริ่มจะเครียดซะแล้ว :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
พ่อมึง..
จะทำอะไรก็คิดแล้วคิดอีก
นิสัยเป็นผู้ใหญ่ รู้ใจไอ้หัวลูกเจี๊ยบไปหมด
เฮ้ออ.. จะมาม่ากันอีกนานไหมเนี่ย
แม่ยกเชียร์จนกัดหมอนขาดไปหลายใบแล้ววว
คุณคนเขียนไปต่างจังหวัดเดินทางปลอดภัยนะคะ
เป็นกำลังใจให้กลับมาเขียนนิยายดี ๆ อีกค่า ^^
-
เดินทางปลอดภัยนะคะ
เป็นกำลงใจให้เสมอ
ป.ล.แต่ขอแอบเก็บไอ้หัวลูกเจี๊ยบกับคุณภักไว้หน่อยไม่ได้เหรอ ฮาา
-
หว้าน....หวาน เห็นเค้าหวานกันแล้วอิจฉา อยากมีอย่างนี้ซักคน ฮ้าๆๆๆ
เค้าหยอกกันหวาน น่ารักเชียว ฮิ้วววว แล้วเรื่องไปปักกิ่งจะทำไงล่ะเนี่ย
หัวหน้า ก็ขอพาผู้ช่วยไปคนนึ่งซิ่ แล้วก็หิ้วนายมะยมไปด้วยกันซะเลย ฮ้าๆๆ
หรือไม่ก็คงต้องคิดซะว่า นี่เป็นบททดสอบของความรักระหว่างกัน
:L2: :pig4: :L2:
-
ลุ้นๆๆๆๆ หิ้วไปจีนด้วยกันเลย ย้ายตามกัน
-
พ่อมึงนี่เป็นแม่ศรีเรือนเกินคาดนะ
:laugh:
-
สนุกมากเลยคะ ฝากเนื้อฝากตัวกะคนเขียนคนนี้เลย
อ่านเเล้วต้องอ่านต่อเรื่อยๆ หยุดไม่ได้เ่ลย จะตามค่อยๆ อ่านทุกๆเรื่องเลยคะ
บวกหนึ่งนะคะ
-
เรื่องนี้ สนุกเหมือนเดิมครับ สนุกมาก ชอบครับ ติดตามครับ :z13:
-
bon voyage ค่าาาาาาาา
-
แว๊บมาบอกข่าว
(แอ๊บมาขอเช็คเมล)
เนื่องจากเอาพ่อภักดีกะหนูมะยมมาถิ่นทุรกันดาน
ตอนพิเศษ นอกเหนือจากเดิมอิชั้นพิมพ์แล้นค่า :jul3: ไปเตรียมหมอนใบใหม่มานะคะ กัดกระจุย หุหุหุ
คิดๆ ไปก็อยากบ้องหูตัวเอง
มันยาวอีกแหละ ของเก่ายังพิมพ์ไม่เสร็จเลย (ลืมเอาไฟล์ [บอก] มาด้วย เลยไปต่อมะด้าย :o12:) อิชั้นดันพิมพ์ของใหม่อีกแหละ
นายมะยม....สมกับชื่อจริงๆ (นิยม)
ปล.บทบนเตียงเรื่องนี้มันมีนะวุ้ย...ไม่ใช่จะอยากเอาใจตลาด แต่เรื่องนี้ตัวละครเค้าพาไป.....ไม่มีเลือด ไม่ต้องสำรองเลือด แค่นี้ "อะฮุ" แล้วปิดไฟเฉยๆ จ้า
:pig4:ทุกเม้นท์ และทุกตัวเลขที่เพิ่มขึ้น....
ผู้เขียนยิ้มแก้มปริเลย :กอด1:
-
ไม่ได้เข้าเล้ามานาน หรือเข้ามาก็แอบๆ มาแวบๆ แล้วก็จากไป ไม่ได้เม้นใครมานานมากกกกก
แต่อ่านเรื่องนี้แล้วอดใจไม่อยู่ ต้องมาแสดงตัวสักหน่อย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องคอยเข้ามาดูทุก ๆ ชั่วโมง ว่ามาลงหรือยัง เหมือนรีบนๆ เลย ที่กด F5 กันทุกๆ ห้านาทีสิบนาที
มันบอกไม่ถูกอ้ะ มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ อ่านแล้วอยากรู้เรื่องต่อไป ติดใจบุุคลิกลักษณะของตัวละคร ต้องบอกว่าทุกตัวเลยที่อยู่ในเรื่องนี้ มันน่าสนใจไปซะหมดทุกคน ที่สำคัญ เพื่อนๆ มีความรักกันดีมาก สนใจ เอาใจใส่กันดีจริงๆ
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ
-
5555
รอค่าาาาา
เป็นกำลังใจให้คนเขียน
-
คุณเบาๆบอกจะมีฉาก :m1:
อู๊ย~เตรียมผ้ามาซับน้ำ...ลาย
-
ด้วยรักจากถิ่นทุรกันดาน
……
…..
….
....
...
..
.
ช่วงสายของวันหนึ่ง ณ ชั้นที่ 30 .......ฝ่ายต่างประเทศ
เริ่มงานไปได้เพียงชั่วโมงครึ่ง เลขาหัวหน้าฝ่ายก็เรียกทุกคนในแผนกมาประชุม... พวกเขาไม่ได้เดินไปที่ไหน แค่พักงานของตัวเองไว้ และมากระจุกตัวกันใกล้ๆ โต๊ะของน้องพันซ์
เมื่อทุกคนมารวมกันแล้ว น้องพันซ์จึงเริ่มแจ้งหัวข้อให้ทุกคนทราบ
“หัวข้อวันนี้ มีแค่เรื่องเดียว ซึ่งแค่แจ้งให้ทุกๆ คนทราบนะคะ...หลังจากนี้ไปอีกหนึ่งเดือน หัวหน้าของเราต้องไปประจำที่ปักกิ่ง สาขาใหม่ของเรา คิดว่าพี่ๆ ทุกคนน่าจะทราบเรื่องสาขาที่ปักกิ่งกันแล้วนะคะ ทีนี้ช่วงหนึ่งเดือนนี้ เราอาจต้องเตรียมงานขลุกขลักกันหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ จะมีคนมาแทนตำแหน่งที่ว่างนี้ได้ทันเวลากันค่ะ รายละเอียดปลีกย่อย ไว้พันซ์จะทำเปเปอร์แจ้งพี่ๆ อีกครั้งหลังการประชุมนี้เสร็จสิ้นแล้ว...ตอนนี้ขอเชิญหัวหน้าเลยค่ะ” น้องพันซ์หันไปบอกหัวหน้าฝ่ายต่างประเทศของเธอ...เป็นสัญญาณให้หัวหน้ากล่าวต่อจากเธอได้เลย
“ขอบคุณครับ ผมไม่มีอะไรต้องแจ้งมาก เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ถึงผมจะไป ทุกๆ คนก็ยังอยู่ในตำแหน่งของตัวเองและทำงานที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงครับ อืม ช่วงคาบเกี่ยวระหว่างที่ผมใกล้จะไปกับคนที่จะมาแทนรับหน้าที่นี้ไป...อาจต้องหนัก คุณพันซ์ คุณศร คุณมะยมหน่อย แต่แค่ระยะเดียว หากคนที่มาแทนเขาปรับสภาพได้ ผมว่าทุกอย่างจะลงตัวเหมือนตอนที่ผมอยู่ครับ ไม่ต้องกังวลกันนะครับ” หัวหน้ายิ้มนิดๆ ให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา
แน่นนอนว่า ลูกน้องในแผนกต่างใจหายวาบกันทุกคน หลายคนเพิ่งรู้ข่าวก็เมื่อนาทีนี้... และหลายคนก็มีคำถามเดียวซึ่งตรงกัน....
“ไม่ทราบว่า หัวหน้าต้องไปกี่ปีครับ?” พนักงานเก่าแก่คนหนึ่งเอ่ยถาม เขาผ่าน ‘หัวหน้า’ มาหลายคนในชีวิตการทำงาน และเขาชอบหัวหน้าคนนี้ที่สุด...เขาไม่อยากให้เป็นการย้ายไปถาวร และด้วยศักยภาพของหัวหน้าของเขาคนนี้ เขาว่า ‘คุณภักดี’ เหมาะแก่หน้าที่การงานประจำสาขาใหญ่มากกว่า
“ยังไม่มีกำหนดครับ แต่หากทางสาขาปักกิ่งเข้าที่ และดำเนินงานต่อเองได้ ก็คงเวลานั้นครับ” นายภักดีบอกกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่สูงวัยกว่าตัวเอง
และอีกหลายคำถามก็ค่อยๆ ทยอยมีมา.... ทว่า สองในสามคนที่อาจยุ่งหากหัวหน้าไปกลับไม่พูดอะไรกันสักคำ
……
…..
….
....
...
..
.
-
พ่อมึงทำไมไม่บอกมะยมก่อนน้า
งานนี้สงสัยงอนแก้มป่อง
-
……
…..
….
....
...
..
.
“พี่ศร เอกสารค่ะ สงสัยยังไง หัวหน้าแจ้งว่าให้พี่ๆ เข้าไปพบได้เลยนะคะ ส่วนอันนี้ของพี่มะยมค่ะ” น้องพันซ์ที่ยิ้มละไมยื่นเอกสารมาให้พวกเขาคนละชุด แล้วเดินกลับไปทำงานที่โต๊ะของเธอ
นายศรพลิกดูเอกสารและอ่านอย่างตั้งใจ...ไปเงียบๆ
……
…..
….
....
...
..
.
นายมะยมก้มหน้ามองเอกสารในมือตัวเอง เขาอ่านหน้าแรกเสร็จแล้ว และพลิกมาดูหน้าต่อไป ตอนที่เขาไล่สายตาไปดูหัวข้อของเอกสารนั้น เขาเห็นอะไรสักอย่างอยู่ตรงมุมกระดาษด้านใน เขาจึงเอาคลิปหนีกระดาษออก และเอาชิ้นกระดาษเล็กๆ นั้นไป...เปิดดู
……
…..
….
....
...
..
.
กระดาษอันเท่าหนึ่งส่วนสี่ของผ่ามือซึ่งพับอยู่แค่ทบเดียวถูกเปิด...สายตาคู่หนึ่งอ่านข้อความที่เขียนไว้ด้านใน----- โกรธผมรึเปล่า เย็นนี้เรากลับด้วยกันนะครับ
……
…..
….
....
...
..
.
ก่อนนี้...ไม่เคยรู้จักลายมือนี้เพราะเอกสารที่ว่อนอยู่ในออฟฟิศจะถูกน้องพันซ์พิมพ์ส่งมาให้เสมอ...ลายมือของหัวหน้า พนักงานคนอื่นๆ จะรู้จักและจำได้ก็แค่...ลายเซ็นต์
หลังจากที่คบแบบดูใจกัน เวลาอยู่ในที่ทำงานพวกเขาจะระวังไม่ให้ผิดสังเกตุ----ว่าอยู่ดีๆ สนิทกันมากขึ้นได้ยังไง
ดังนั้น เมื่อทำงานพวกเขาจะไม่โทรคุยเรื่องส่วนตัวกัน หากมีเหตุให้ต้องคุย อาจเอาช่วงที่เจอกันและคุยงานส่วนตัวแอบบอกกัน หรือแอบบอกด้วยกระดาษโน้ตหรือข้อความทางมือถือ... ไอ้อย่างหลังมีน้อยครั้ง เพราะคนที่อายุมากกว่าเขาบอกว่ามือถือพิมพ์ยาก
……
…..
….
....
...
..
.
ปกติเขาจะตอบทางมือถือ แต่วันนี้เขา...ไม่มีอารมณ์จะตอบ
……
…..
….
....
...
..
.
เพราะมันโกรธจริงจัง ไม่ใช่เล่นๆ
……
…..
….
....
...
..
.
ติ๊ง! ลิฟท์เลื่อนลงมาถึงชั้นล่างสุด
พนักงานกินเงินเดือนต่างค่อยๆ ทยอยกันเดินออกไปจากภายใน
นานๆ ครั้งที่ลิฟท์ทั้งห้าตัวจะเปิดพร้อมกัน...ทันทีที่เขาและเพื่อนสนิทเดินออกมา เขาก็เห็นใบหน้าที่ขาวนวลแต่ติดว่าดุและเย็นชา...อยู่ที่ฝั่งตรงข้าม
เขาหลบสายตาของคนคนนั้นและเดินตามหลังของเพื่อนสนิทไป... เพื่อนสนิทเขาคงไม่ทันเห็นคนคนนั้น เพราะมันยังก้มหน้าพิมพ์อะไรสักอย่างอยู่ในมือถือ------‘สงสัยจะคุยกับน้องกัส’...นายมะยมคาดคะเนในใจ
เดินไปได้ระยะหนึ่ง เมื่อพวกเขาเลี้ยวออกมาจากทางหนึ่ง เขาก็เจอเพื่อนสนิทในก๊วนซึ่งยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว.... เขามองเห็นเพื่อนสนิทยังไม่เงยหน้ามามองทางจึงเอามือไปจับคอเพื่อนและบังคับมันให้เดินดีๆ ไม่ให้ไปชนใครคนอื่น
“มันดูอะไรอยู่” นายต้นไม้ถามเพื่อน
“แชทกับน้องกัส” นายมะยมบอกไอ้ไม้
“มีแฟนเด็กก็ต้องหัดเล่นแบบเด็กๆ เนอะ” นายกันแซวเพื่อน
“ถ้ามีแฟนแก่ต้องหัดเข้าวัด! โอ๊ย! เหี้ยไม้!” นายศรแซวเพื่อนตัวเองแต่โดนไอ้ไม้กระทืบเท้า...แรงพอดู
“มึงแนะนำเพื่อนมึงให้เพื่อนรู้จักหน่อยสิ ปล่อยเค้ายืนเฉยอยู่ได้!” นายกันบอกนายศร
นายศรเอาหน้างงผสมเจ็บเท้าที่เพิ่งถูกกระทืบหันไปมองตามสายตาของนายกัน...เขาหน้าเหวอเพิ่มขึ้น ใจสั่นระทึก...เขาหันไปมองหน้าเพื่อนสนิท
มันก็หันไปมองตามสายตาไอ้กันเหมือนกัน แต่มันหันกลับมาและไม่พูดอะไร...แต่ทำแก้มป่อง
นายศรสวดเพื่อนสนิทอยู่ในใจ....ก่อนจะเอ่ยปากถามเพื่อนใหม่ที่ไม่ได้รับเชิญว่า...
……
…..
….
....
...
..
.
“พักเที่ยงเหรอครับหัวหน้า”
……
…..
….
....
...
..
.
แต่พอถามไปแล้วนายศรก็อยากกัดลิ้นตาย...ก็อยู่แผนกเดียวกัน ไม่พักเที่ยงแล้วจะไปไหน!
……
…..
….
....
...
..
.
“ครับ” คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าตอบสั้นๆ
“ง่า...เอ่อ...ไปทานข้าวด้วยกันมั้ยครับ?” นายศรพูด...ไม่ใช่ตามมารยาท แต่ช่วงเวลาแบบนี้มันไม่มีอะไรเหมาะไปว่าคำนี้แล้ว
“ขอบคุณครับ” คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าบอกและสักพักเขาถึงค่อยพูดต่อมาอีกว่า “แต่ผมแค่จะมาถามอะไรนิดหน่อย คงไม่รบกวนเวลาพักส่วนตัวของพวกคุณ”
“อ้อ เชิญครับ ถามอะไรล่ะครับ?” นายศรยิ้มปุเลี่ยน
“วันนี้กลับด้วยกันใช่ไหมครับ?” คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าเอ่ยถาม
นายศรทำหน้าเง็ง... ไม่เคยกลับด้วยกันสักครั้งเดียว และไม่คิดจะกลับด้วยกันด้วย มาถามทำไม!!!!
……
…..
….
....
...
..
.
แต่แล้วนายศรก็นึกได้ว่า..คำนี้ไม่น่าจะถามเขา มันน่าจะถาม....เพื่อนสนิทเขาซะมากกว่า
เมื่อเขาหันไปหาเพื่อนสนิท.....มันนิ่ง!
……
…..
….
....
...
..
.
นายศรเขาเท้าสะกิดเพื่อน มันก็นิ่ง...นายศรหันไปหาตัวช่วย
……
…..
….
....
...
..
.
“ปกติกลับกี่โมงล่ะครับ?” นายต้นไม้ถามคนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้า
“คาดว่าน่าจะปกติ เวลาเลิกงานครับ” คนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าบอกนายต้นไม้
“งั้นเดี๋ยวถึงเวลาจะจับใส่พานไปถวายให้ครับ” นายต้นไม้ยักคิ้วให้
……
…..
….
....
...
..
.
นายกันและนายศรต่างชูนิ้วโป้งให้นายต้นไม้แทนรางวัล
……
…..
….
....
...
..
.
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย
คนแก่นิ ทำอะไรเนี่ย
มะยมงอนแล่ว
-
:sad4: :sad4: :sad4: มะยม อย่างอนนานเลยนะ
-
……
…..
….
....
...
..
.
เหล็กมีล้อพาคนสองคนเคลื่อนไปสู่ถนนราดยาง… พวกเขาออกมาในช่วงที่คนเลิกงานกันแล้วสองชั่วโมง ไม่ใช่ว่าหลีกเลี่ยงรถติด แต่เพราะคนขับหาคนที่นั่งข้างๆ ไม่เจอ
……
…..
….
....
...
..
.
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เขานั่งรออยู่ที่ห้องจนครบสิบนาทีเขาจึงเดินออกไปจากห้อง
ไม่มีคนที่จะต้องกลับด้วยกันกับเขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเอง-----เป็นเรื่องปกติ
เขาจึงเดินออกมาจากแผนกและลงลิฟท์เพื่อไปที่รถยนต์ของตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
หากเขาไม่ได้อยู่ดึกเพราะทำงาน… เมื่อถึงเวลาเลิกงาน พวกเขาจะต่างคนต่างออกไปจากออฟฟิศ แต่พวกเขาจะเดินไปที่เป้าหมายเดียวกันซึ่งก็คือรถของเขา---ที่จอดประจำของเขา
กรณีที่เขาออกไปข้างนอก หากกลับมาทันก็จะกลับมารับอีกฝ่ายกลับหอไปด้วยกัน แต่หากไม่ทันจะต่างคนต่างกลับไป…และไปเจอกันที่หอพัก
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเดินไปถึงรถตัวเอง เขาเปิดประตูและรอสักห้านาที-----ผิดปกติ
……
…..
….
....
...
..
.
เขาจึงรอต่อไปอีกสักพัก….เผื่ออีกฝ่ายจะไปทำธุระอะไรสักอย่าง ทำให้ยังไม่มาขึ้นรถ
……
…..
….
....
...
..
.
เขารออีกยี่สิบนาที จากนั้นจึงกดข้อความที่พิมพ์เป็นแม่แบบเอาไว้แล้ว และส่งไปให้อีกฝ่าย------รออยู่ที่รถแล้วนะครับ
……
…..
….
....
...
..
.
สิบนาทีผ่านไปไม่มีการตอบกลับมา…เขาเริ่ม “ซึ้ง”
เขาซบหน้ากับพวงมาลัย
……
…..
….
....
...
..
.
----- โดนเข้าให้แล้ว
……
…..
….
....
...
..
.
---- แต่ก็สมควร
……
…..
….
....
...
..
.
-
มะยมงอนแต่พองามนะหนู
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
นายต้นไม้ ไหนบอกจะ จัดการ ส่งให้ไง
-
มะยมอย่างอลนานนักน๊า
เวลามีน้อย :z3:
บวกเป็ด
-
อืม ถ้าเป็นเจ๊เป็นมะยม ก็คงโกรธเหมือนกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน ก็น่าจะบอกกันมั่งอ่ะ
นี่เล่นให้รู้พร้อมคนอื่น เหมือนเรามันไม่ใช่คนสำคัญเลย แต่มะยมคงหายโกรธเร็วมั้งนะ เหอๆ
-
เหมือนมันจะ หน่วง o1 o1
-
……
…..
….
....
...
..
.
เขากดหมายเลขของอีกฝ่าย...รอสายจนหลุด
เขากดซ้ำอีกสามครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะรับสาย....
เขาระบายลมหายใจยาวทีหนึ่ง และเปลี่ยนหมายเลขที่โทรออก
เมื่ออีกฝ่ายรับสายเขาถึงถาม “มะยมอยู่ตรงนั้นรึเปล่าครับ?”
“เห? ไม่มีครับ อ้าว ไม่ได้กลับด้วยกันเหรอครับ?” ปลายสายถามเขาบ้าง
“ผมรออยู่ที่รถ แต่เขายังไม่มา และไม่รับสายผมครับ” เขาบอกปลายสาย
“อ้าว ก็ลงลิฟท์มาด้วยกันถึงชั้นล่างนะครับ...อ๊ะ ไม่ใช่มันกลับห้องไปแล้วเหรอครับ?” ปลายสายบอก
“ไม่ทราบครับ รบกวนคุณช่วยโทรถามเขาทีได้ไหมว่า เขาถึงห้องแล้ว หรืออยู่ไหน?” เขาบอกปลายสาย
“ได้ครับหัวหน้า เดี๋ยวได้ความยังไงผมโทรกลับนะครับ สักครู่ครับ” ปลายสายบอกเขา
“ขอบคุณครับ” เขาบอกปลายสายและตัดสายไป
....ไม่ค่อยอยากทำแบบนี้ แต่หากไม่ทำแบบนี้เขาคงไม่รู้ว่ามะยมไปไหน จะให้เขาไปเลยมันก็ไม่ได้ เพราะวันนี้เขามีชงัดติดหลังอยู่
……
…..
….
....
...
..
.
ตะลึ๊ง-------
เม้าส์คลิกไปที่หน้าต่างของคู่สนทนาที่ชื่อ “คันศร”
คันศร---ด่วน ลับสุดยอด ตัวต่อตัว!
ต้นไม้---ฟ้าใสเปลี่ยน! :z2:
คันศร---ไอ้ยมอยู่กับมึงป่าว
ต้นไม้---เออ อยู่ ไมวะ?
คันศร---พ่อมันตามหา!
ต้นไม้---เชี่ย! มันบอกกูว่ารอพ่อมันทำงานอยู่????
คันศร--- :z6:ตอแหล! มันงอนพ่อมัน!
ต้นไม้---แล้วเอาไง?
คันศร---กูถึงบ้านแล้ว! พ่อมันรออยู่ที่รถ ลานจอดรถในตึกอ่ะมึง! :serius2:
ต้นไม้---ตึกเนี้ยอ่ะนะ!
คันศร---เออ เมื่อกี้พ่อมันโทรมาถามกู พ่อมันบอกว่ารอไอ้ยมอยู่ที่รถ โทรไปมันก็ไม่รับสายเค้า :serius2:ฮึ่ม ไอ้เด็กเปรต!
ต้นไม้---งั้น ให้พ่อมันไปรอที่ร้านกาแฟชั้นสอง ไอ้ร้านชื่อวีวาโกปี๊..พ่อมันรู้จักมั้ยวะ?
คันศร---อ้อ รู้!
ต้นไม้---จัดไป! บอกพ่อมันด้วยว่าถ้ากูซื้อเค้กเสร็จแล้วค่อยเดินมาหาพวกกู… นานนิดนึง แต่ขอกูแพ็คมะยมใส่ถุงก่อน อิอิอิ
คันศร---ถวายพ่อมันเสร็จแล้วโทรมาเล่าให้กูฟังด้วยนะเว้ย! โทรนะ ไม่พิมพ์ กูปวดนิ้ว!
ต้นไม้---ใช่ซี่! นิ้วล็อคเพื่อน้องกัสคนเดียว อิอิอิ
คันศร---ถูก! :bye2:
คันศร---ออกจากห้องสนทนา
……
…..
….
....
...
..
.
นายต้นไม้หมุนเก้าอี้และหันไปบอกเพื่อนที่นั่งเล่นเกมส์อยู่เครื่องข้างหลัง “ไอ้ยม! ไปส่องเด็กกับกูป๊ะ ได้เวลาแหละ”
คนที่ถูกเรียกหมุนเก้าอี้มาหาเพื่อน “กูเอากระเป๋าไปเลยนะ เกมส์มึงแม่งไม่หนุกเลย กลับห้องดีกว่า”
“เออ แล้วแต่มึง” นายต้นไม้กระหยิ่มใจว่ามันช่างเป๊ะเด๊ะเหลือเกิน ไม่ต้องออกหัวคิดต่อให้ยุ่งยากอีก
พวกเขาสองคนเดินออกมาจากคอกของฝ่ายออกแบบ คนตัวเล็กหน้าเหี้ยมๆ ร้องทักพวกเขา “ไอ้เปรตไม้ อู้งานเหรอมึง?”
“ไปซื้อกาแฟก๊อบลิน อย่ามายัดเยียดข้อหาให้คนอื่น” นายต้นไม้ตอกกลับ
“เอสเพรชโซ่ร้อนหนึ่งเอาวีวาโกปี๊นะมึง ร้านอื่นไม่แดก!” คนตัวเล็กหน้าเหี้ยมบอกนายต้นไม้
“คร๊าบบบ” นายต้นไม้รับคำเสียงยานคางและกอดคอเพื่อนเดินออกไปจากบริษัทตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
คืนนี้บริษัทนายต้นไม้อยู่โต้รุ่ง ช่วงทุ่มสองทุ่มได้จิบกาแฟหน่อยงานจะได้เร่งเครื่อง
แค่ลุกแล้วพูดว่ากาแฟ คอกาแฟจะร้องฝากกันทันที…. แต่วันนี้คอกาแฟในออฟฟิศเหลือแค่เจ้าของบริษัทกับเขาเพียงแค่สองคน
เท่านี้ก็เรียบร้อย เขาก็พ้นข้อกล่าวหาจากเพื่อนว่าเอาเพื่อนใส่พานไปถวายพ่อมันแหละ (อิอิอิ)
นายต้นไม้กระหยิ่มยิ้มย่องในแผนของตัวเอง พลางเดินกอดคอเพื่อนไปในห้องน้ำ กระซิบบอกเพื่อนว่า “เด็กของเขา” วันนี้ใส่เสื้อสีอะไร กางเกงแบบไหน แล้วให้ไอ้ยมทำทีเป็นทำธุระอยู่ในห้องน้ำ
สิบนาทีต่อมาเสียงคนสองคนคุยกันก็ค่อยๆ ดังเข้ามาหา…ห้องน้ำประจำชั้นนั้น
ไม่นานนักชายหนุ่มที่แต่งตัวแบบพนักงานออฟฟิศเดินเข้ามา คนหนึ่งตัวสูงแบบชายไทยปกติ แต่อีกคนสูงจนเกือบเท่ากับนายต้นไม้
……
…..
….
....
...
..
.
ส่องเด็กเสร็จ นายต้นไม้ก็บอกเพื่อนว่า “ป๊ะ เดี๋ยวกูลงไปส่งมึง แม่งบอกก๊อบลินว่าจะไปซื้อกาแฟ แถมต้องขึ้นมาให้ก๊อบลินด้วย”
“เออ ว่าแต่ว่าที่เด็กมึงหน้าตาซื่อแท้วะ สงสารว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อน
“อ๊ะ! มึงไม่รู้อะไร” นายต้นไม้ทำน้ำเสียง..เหมือนมีความลับ
“อ้าว แล้วกูไม่รู้อะไรล่ะ?” นายมะยมถามเพื่อน
“ความลับ!” นายต้นไม้เอาสองมือมาปิดปากตัวเอง
เพื่อนสองคนก็แหย่กันไปตลอดทางจนลิฟท์มาถึงชั้นหนึ่ง
……
…..
….
....
...
..
.
“เอสเพรชโซ่หนึ่ง คาปูชิโน่หนึ่ง ร้อนนะครับ” นายต้นไม้สั่งกาแฟเสร็จก็ยืนรอ
“กูไปได้ยัง?” นายมะยมที่ถูกเพื่อนล็อคคอไว้ยังไม่ให้กลับเริ่มดีดดิ้น
“เดี๋ยวดิ๊! อยู่เป็นเพื่อนกูก่อน!” นายต้นไม้ไม่ปล่อย-----ด้วยความสูงเกือบสองเมตรและเรี่ยวแรงทึกหากนายต้นไม้ตั้งใจไม่ปล่อย คนที่ถูกเขาล็อคแขนก็ไม่สามารถดิ้นให้หลุดไปเองได้..โดยง่าย
นายมะยมคร้านจะเสียเปล่า จึงยอมให้เพื่อนล็อคคอไว้นิ่งๆ…อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ สายตาของเขาจึงไล่มองไปที่----เค้ก!
“ไรอยากกินเหรอ?” นายต้นไม้มองตามสายตาเพื่อน
“เปล่า เห็นมันน่ากินดีเลยมองเฉยๆ” นายมะยมบอกเพื่อน
“เอาชิ้นนี้กับชิ้นนี้ด้วยครับ” นายต้นไม้ชี้ไปที่เค้กสองชิ้นในตู้
“ไม่เอา! ไอ้ไม้!” นายมะยมร้องเสียงหลง
“เอาน่า! กูให้ฟรีไม่เก็บตังค์ ค่าที่มึงมายืนเป็นเพื่อนกู” นายต้นไม้บอกเพื่อน
“ไม่ใช่! กูจะเอาถาดนั้น ไม่เอาสีขาว!” นายมะยมบอกเพื่อน
“เหี้ย! สมบัติผู้ดีน่ะมีมั้ย?!” นายต้นไม้ชมเพื่อนตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
นายต้นไม้จ่ายเงินเสร็จก็ยื่นถุงเค้กไปให้เพื่อนตัวเอง เขาเห็นพ่อไอ้ยมเดินมาแล้ว จึงเริ่ม...แสดงละคร
……
…..
….
....
...
..
.
“อ๊าว พอดีเลย ไม่ต้องกลับเองแหละมึง” นายต้นไม้พูดพลางยึดกล่องเค้กคืนมา ไม่ใส่มันลงไปในมือของเพื่อนตัวเอง
เขาเห็นไอ้ยมหันควับไปตามสายตาของเขา----ด้านหลังของมัน
ไอ้ยมหันหน้ากลับมาอีกครั้ง.... หน้าเป็นตูด
นายต้นไม้ทำทีว่าตัวเองไม่ได้สังเกตุเห็นหน้าเพื่อนตัวเอง “ทำงานเสร็จแล้วเหรอครับ” ทักคนที่เพิ่งเดินมาถึงพวกเขา
“ครับ”
“เนี่ย ไอ้ยมมันว่าเบื่อๆ เลยจะกลับเองอยู่พอดี อ่ะ นี่ครับ ของไอ้ยมมัน งั้น...ผมฝากด้วยนะครับ” นายต้นไม้ยื่นกล่องเค้กไปให้พ่อไอ้ยม และหันไปบ๊ายบายเพื่อนตัวเองด้วยรอยยิ้ม---ใสซื่อแบบหนูไม่รู้
“ครับ” คนที่ถูกฝากถุง+มะยมรับคำ....และรับฝากเอากลับบ้านให้
“ไปนะครับ” นายต้นไม้โบกมือให้เพื่อนเสร็จก็หันไปบอกลากับคนที่อายุมากกว่า ก่อนจะค่อยๆ เดินไปทาง....ที่ตั้งของลิฟท์
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดียืนนิ่งสักครู่ อีกฝ่ายก็ไม่พูดอะไรกับเขา
ครั้นอีกฝ่ายเมินหนีจะเดินไปคนละทางของลานจนรถ เขาจึงรีบยื่นมือไปคว้าข้อมือของอีกฝ่าย..ทันที
“กลับกันเถอะครับ นะครับ” นายภักดีพูดเสียงเบาราวกับกระซิบ...ระดับเสียงที่ดังพอให้ได้ยินกันแค่---สองคน
……
…..
….
....
...
..
.
ชั่วอึดใจ พอเขาเริ่มลองขยับขา อีกฝ่ายก็เดินตามเขาไปง่ายๆ
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีจับข้อมือของอีกฝ่ายแบบไม่แน่นจนเกินไปนัก และจูงเดินไปยังรถของตัวเอง...พร้อมถุงขนมของอีกฝ่ายที่รับฝากมาถือให้
……
…..
….
....
...
..
.
-
โถ่มะยม อย่างอนคุณภักดีเลยน่า
-
มะยมยอมตามมาง่าย ๆ เนี่ยเป็นห่วงเค้กหรือเปล่านะ อิอิ :bye2:
-
:z3:
-
มะยม รอเค้าง้ออยู่อ่ะดิ๊
-
……
…..
….
....
...
..
.
กล่องเหล็กสี่ล้อเคลื่อนมาจอดยังที่จอดของมัน..ใกล้ทางเข้า-ออกของสวนหย่อม
ทันทีที่รถจอด คนที่นั่งข้างๆ ก็เปิดประตูเดินออกไปจากรถ...เลยทันที
คนขับมองตามคนคนนั้น....ด้วยกระจกที่มีในรถทั้งหมด
คนขับถอนหายใจหนัก....
สักพักเขาก็เปิดประตูรถ และเดินออกไปเปิดประตูหลัง
เขาเข้าไปหยิบกระเป๋าหนัง กระเป๋าสะพาย และเค้กกล่องหนึ่งซึ่งอยู่ในถุงออกมา...
ปิดประตูหลังและประตูหน้าของฝั่งตัวเอง..จากนั้นก็ล็อครถ และค่อยๆ เดินเข้าไปในตึก
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีรอจนสี่ทุ่มก็แล้วยังไม่มีเสียงเคาะประตู
เขาจึงเดินไปหิ้วถุงเค้ก และเอาหมอนบนเตียงมาเหน็บที่จักแร้ ปิดไฟของห้องตัวเอง ล็อคห้อง และเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้น 6
เสียงแปะ แปะ แปะ ของรองเท้าสลิปดังสะท้อนก้องในช่องตึกมันดังเรื่อยมาจนถึงหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียง แปะ ก็หยุดลง เปลี่ยนมาเสียง ก๊อก ก๊อก ก๊อก แทน
นายภักดียืนนิ่งรอฟังเสียงเคลื่อนไหวจากภายในห้องนั้น..ด้วยใจที่สั่นระทึก
……
…..
….
....
...
..
.
คลิ๊ก!.....ดังขึ้น ใจของนายภักดีสั่นระรัว เขายิ้ม....ยิ้มจากใจด้วยความดีใจ
……
…..
….
....
...
..
.
ประตูเปิด…คนที่เขามาหายืนอยู่ข้างหน้า
คนที่เขามาหายื่นมือมา….ฉวยถุงเค้กไปจากมือเขา
แกร๊ก!...ประตูถูกปิดไปอีกครั้ง
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีระบายลมหายใจยาว…เวทนาตัวเองเหลือเกิน
ถึงโทรไปหาอีกฝ่ายก็คงไม่รับสาย
แต่อยากพูด…อยากพูดด้วยตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
เขายืนคอตก พลางยื่นมือไปกุมลูกบิดของประตูห้อง
……
…..
….
....
...
..
.
“แกร๊ก!”
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีหน้าเหวอ เขาแค่หมุนมันเล่นๆ ไม่คิดว่าประตูมมันจะเปิด!
……
…..
….
....
...
..
.
เขาลองผลัก ประตูก็เปิดกว้าง….. เจ้าของห้องไม่ได้ใส่สายยูคล้องกุญแจไว้!
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีเริ่มเรียนรู้จากการกระทำของอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
และปรับกลยุทธ์เพื่อเข้าหา…เจ้าของห้องนี้
……
…..
….
....
...
..
.
ถึงโกรธแต่ก็แค่ระดับงอน…. ไม่ใช่แบบตัดเป็นตัดตายกัน
……
…..
….
....
...
..
.
-
5555...ชอบเพื่อนนายมะยมทุกคนเลยอ่า เป็นตัวละครที่ไม่มีไม่ได้โดยเด็ดขาด....แพ็คมะยม + ใส่พานถวายให้ ...โดนใจมากครับ 5555
-
งานนี้งอนเอาจริงมากกกก
แต่คุณภักก็ใจเย็นดีนะ งานนี้ถึงเอาเด็กอยุ่ไง
-
มีอีกไหมค่ะ TT^TT ลุ้น
หนูมะยมงอนน่าใจหายเลย
คุณภักเสร็จแน่ๆๆ
-
ลุ้นๆๆ :o12:
-
F5 รัว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
หน่วงโคตรๆ
วันนี้คุณ Bao Bao จะลงถึงไหนอ่ะ
พรุ่งนี้เค้าต้องขอลาจากเรื่องนี้ไป5วัน
ต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดที่ไม่มีสัญญาณเนต
ใจจะขาดแน่เลย โฮๆ
-
พ่อมึง
เห็นมั้ยมะยมงอนเลยอ่ะ
ไม่ยอมบอกกันก่อนให้รู้พร้อมพนักงานในฝ่าย
เหมือนไม่มีความสำคัญ
เป็นเรา เราก็งอนอ่ะ
ง้อให้ได้น๊า พ่อมึงสู้ ๆ ^^
-
ทำไมหนูมะยมงอนเป็นเด็กอย่างนี้ล่ะ สงสารพ่อมึง
ดีที่เพื่อนมะยมคอยสนับสนุน ไม่งั้นคงได้แต่กระซิบกับสายลม
-
Mayom so cute hahhhh
Kunpakdee fighting!!!!
-
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีเดินเข้าไปในห้อง….และล็อคลูกบิด คล้องสายยู
เขาเห็นอีกฝ่ายนอนเท้าแขนตะแคงดูทีวีอยู่บนเตียง..โดยไม่สนใจมองเขาที่เดินเข้ามาในห้องแล้วสักนิดเดียว
นายภักดีเดินเจี๋ยมเจี้ยมเอาหมอนไปวางที่เตียง….แต่เขายืนเก้กังเพราะไม่รู้ว่าจะวางหมอนมันตรงไหนดี ขณะที่เขายึกยักอยู่นั้น!
……
…..
….
....
...
..
.
เพี๊ยะ!...เสียงผ่ามือพาดใส่สะโพกของเขา…นายภักดีสะดุ้งเฮือก
“บัง!” เสียงเบาทว่าเน้นหนักจากอีกฝ่าย
นายภักดีรีบเดินหนีออกมาให้พ้นรัศมีของสายตาที่มองทีวี..คิ้วขมวดมุ่น
เขาเดินเลี่ยงมาทางปลายเตียงและยื่นเอาหมอนของตัวเองวางไว้ตรงช่วงกลางเตียงในฝั่งด้านในซึ่งเป็นที่ประจำของตัวเขาเอง
เขานั่งที่ปลายเตียงนิ่งๆ พลางคิด….
……
…..
….
....
...
..
.
เขาเหลือบตาไปเห็นถุงเค้ก
เขาลุกขึ้นมาและเดินไปแกะกล่องเค้กมาใส่จานใบเล็ก…เขาถือช้อนส้อมคันเล็กกว่าปกติมาพร้อมกับจานขนมเค้ก
……
…..
….
....
...
..
.
เขาคุกเข่าและนั่งทับขาตัวเอง
จานเค้กถูกเขาวางไว้ที่เตียง
ส้อมคันเล็กถูกตักเนื้อเค้กสีดำขึ้นมาและส้อมคันนั้นก็ถูกยื่นไปใกล้ปากของ…คนที่นอนตะแคงอยู่บนเตียง
ส้อมคันเล็กที่มีชิ้นเค้กคาอยู่ถูกยกค้างไว้นิ่ง…นาน
……
…..
….
....
...
..
.
ส้อมคันเล็กถูกมือที่มีผิวสีเข้มกว่าแย่งไปถือและเอามันเข้าไปในปาก จากนั้นมันก็ถูกวางลงบนจานเค้ก
ส้อมคันเดิมถูกยกขึ้นไปตัดเค้กเนื้อสีเขียว
……
…..
….
....
...
..
.
ส้อมที่มีเค้กเนื้อสีเขียวถูกยื่นไปใกล้ปากของคนคนเดิม แต่ครั้งนี้ไม่ต้องรอนานมือของคนคนนั้นก็ฉวยเอาส้อมคันนั้นเข้าปากตัวเอง
……
…..
….
....
...
..
.
ส้อมถูกเวียนไปเวียนมาจนเหลือเค้กชิ้นสุดท้าย แต่ครั้งก่อนที่อีกฝ่ายจะเอามือมาจับมัน คนที่เพียรตักให้เอ่ยขึ้นมาว่า “กินคำสุดท้ายแล้วหายโกรธกันนะครับ มาคุยกันดีๆ นะ”
……
…..
….
....
...
..
.
ส้อมที่จิ้มเค้กคำสุดท้ายนิ่งอยู่ใกล้ปากคนคนนั้นเป็นนาน
……
…..
….
....
...
..
.
“พี่ไม่ชอบกินเค้กใช่มั้ย?” คนที่นอนตะแคงเอ่ยถาม
“ครับ มันหวานไป” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
คนที่นอนตะแคงรับส้อมที่มีเค้กคำสุดท้ายไปถือและเอามันเข้าปาก
นายภักดียิ้มนิดๆ ด้วยความพอใจ
ขณะที่เขากำลังจะลุกและหยิบจากเค้กไปล้าง…คนที่นอนตะแคงก็ผุดลุกขึ้นมา แย่งจานเค้กไปจากมือเขา…เอามันไปวางที่เตียงใกล้จุดเดิมที่มันเคยถูกนำไปวาง
……
…..
….
....
...
..
.
คนที่นอนตะแคงเวลานี้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
……
…..
….
....
...
..
.
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขายกมือที่มีสีผิวเข้มกว่าเขาทั้งคู่มาจับหน้าเขาไว้----ล็อคแน่น!
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีตาโตเป็นไข่ห่านเมื่ออีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขา นัยน์ของอีกฝ่ายที่เขาเห็นเป็นสิ่งสุดท้ายนั้น-----ดูชั่วร้าย
……
…..
….
....
...
..
.
ความหวานเลี่ยนจนน่าขนลุกถูกใส่เข้ามาในปากของเขา
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีขนลุกซู่
……
…..
….
....
...
..
.
อีกฝ่ายไม่ยอมให้เขาดิ้นหลุดจนแน่ใจว่าเขากลืนเค้กลงคอไปแล้วจึงยอมปล่อยให้เขาเป็นอิสระ!
……
…..
….
....
...
..
.
“อร่อยมั้ยครับ?” อีกฝ่ายถามเขา
“เลี่ยน!” เขาบอกอีกฝ่ายหน้าแหย๋เก
“อร่อยของผม!” อีกฝ่ายบอกเขา
“หวานไปผมไม่ชอบ!” เขาบอกอีกฝ่าย
“ผมก็ไม่ชอบ!” อีกฝ่ายบอกเขา
“อะไรครับ?” เขางง…ก็ชอบเคกไม่ใช่เหรอ เห็นกินคนเดียวหมดตั้งสองชิ้น…น่าขนลุกจะตาย
“ผมเป็นอะไรสำหรับคุณ มีฐานะอื่นที่นอกเหนือจากลูกน้องของคุณมั้ย? ทำไมผมต้องรู้เรื่องของคุณพร้อมกับคนอื่น!” อีกฝ่ายบอกเขา
……
…..
….
....
...
..
.
นายภักดีอึ้ง!
……
…..
….
....
...
..
.
“ฐานะไหนผมก็เคยบอกคุณไปแล้ว” เขาอ้อมแอ้มบอกกับอีกฝ่าย
“เหรอ แต่ที่เห็น…ผมนึกว่าคุณลืมมันไปแล้วซะอีกนะครับ” อีกฝ่ายย้อนเขา
“ผมขอโทษ” เขาบอกอีกฝ่ายเสียงอ่อย
“ผมคาดโทษคุณไว้หนึ่งเรื่อง จำไว้เลยนะครับ!” อีกฝ่ายบอกเขาเสียงเข้ม
“ครับ” เขาก้มหน้า…รับคำเสียงอ่อย
“อย่าทำอีก! ผมไม่ชอบถูกใครมาทำแบบนี้!” อีกฝ่ายย้ำกับเขา
“ครับ” เขารับคำและยังก้มหน้านิ่ง
“คุณรับผมได้มั้ย?” อีกฝ่ายถามเขา
“ครับ…หือ?” เขารับคำและเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
รอยยิ้มยียวนเหมือนผู้ชนะรอยเคว้งอยู่ต่อหน้านายภักดี
……
…..
….
....
...
..
.
-----โดนแล้วมั้ยล่ะ!
……
…..
….
....
...
..
.
“รับไหวมั้ยครับ” อีกฝ่ายยักคิ้วให้เขาพลางเอานิ้วชี้หา…ตัวเอง
“ไหวสิครับ! แค่นี้เอง” นายภักดีกัดฟันบอกอีกฝ่าย
……
…..
….
....
...
..
.
กินมะยมแล้วนอนซะนะคะ :onion_asleep:
-
พ่อมึงเผด็จศึกซะเลย
:oo1:
งานนี้ไม่ต้องง้อเดี๋ยวก็หายงอนแล้ว
:z1:
-
เห็นนายมะยมแล้วอยากยุให้เป็นเคะไปซะ ฮ้าๆๆ :laugh:
งอนได้น่ารักดี คุณภักดีก็ไม่รุ้จะง้อยังไง
งานนี้เค้าจะคืนดกันไงหล่ะเนี่ย ฮ้าๆๆๆ :m20:
คุณภักดีสู้ๆ มะยมงอนน้อยๆหน่อย
เดี๋ยวคุณภักง้อไม่ไหว ฮุฮุฮุ
:L2: :pig4: :L2:
-
พ่อมึงของนิมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แอร้ยยยย (แอบอยากให้รับแต่แรกหอะ)
โฮ๊ะๆๆ ๆ ๆ
-
:-[
น่ารักจริงน้ามะยม งอนพอดีๆอย่าทำพ่อมึงเสียใจนะจ๊ะ
-
ไม่เอา เค้าไม่นอนๆๆๆ o9
เค้าจะรอคุณภักกินมะยม เอ้ยยย!
o18
-
ติดนิยายเรื่องนี้มาก เทียบได้คงเสมือนเป็นนิยายเสพติดประเภทหนึ่ง :z1:
สนุกมากจริงๆ อรรถรสครบเครื่อง ชวนติดตามทุกตอน
อ่านแล้วมันในอารมณ์ ลุ้นตัวโก่ง สุดยอด
:กอด1:
เจ๋งตรง คนอ่านมีอารมณ์เดียวกันสุดๆ "F5 - refresh"
o22
ที่ถามว่ารับได้มั๊ย จะรุกละซิมะยม 555
คุณเบ๊าเบาชอบให้คนอ่านคิดเอาอีกแระว่าใครรับใครรุก
เหมือนกันกับเชษฐ์เลย ... จับไม้สั้นไม้ยาว หุหุ
รีบมาต่อนะคะ :L2:
-
โอ้วววว เล่นดื้อ ๆ เลย มะยมเอ้ย แสบจริง ๆ
-
มะยมแสบจริงๆ
"คุณรับผมได้ไหม" มันกำกวมจริงๆ
แต่คุณภักดี ก็พลาดไปแล้ววว หุหุหุ
-
คนเขียนไกด์มาขนาดนี้ไม่น่าพลิกโผ "ปากแดง ขาสวย ก้นในฝัน" กรี๊ดดดดดดด (คนอ่านก็กลายเป็นคนบ้าไปหมด อินจัด)ยังยืนยันคำเดิม "รวมเล่มเถอะค่ะ"
-
หึหึ นั่นไงละ
ว่าแล้วเชียว ฮ่าๆ เขินแทนพ่อมึง
นายมะยมนี่ก็เจ้าเล่ห์กับเขาก็เป็น
ตอนนี้มะยมดูเป็นคนเข้มๆขึ้นมาเลยอะ
5555 ดูจริงจังและเท่มาก
รออ่านต่อจ้า
-
ไม่อยากนอนอ่ะ
อยากอ่านต่อ :z3: ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้านะเนี่ย
แต่ยัวปิดคอมไม่ลงเลย
รออ่านแต่มะยมงอนพ่อมรึงอยู่ ตกลงพ่อมรึงเขารับได้ใช่ป่ะ กร๊ากก มะยมเล่นทีเผลอ
-
แหย่ให้เขารับเหรอหนูมะยม 55555
พ่อมึงอย่าไปยอมนะ จับไอ้หัวลุกเจี๋ยบกดซะ
กดเลย เชียร์ขาดใจ
-
เอ้า มายกป้ายไฟเชียร์มะยม
-
แผนพี่ต้นไม้ ณ ร้านวีวาโกปี๊นี่มันสุดยอดจริงๆ
เนียนเน้อะะ~~
หัวหน้าความอดทนสูงมาก!
เป็นเราคงมีขึ้นเสียงกันไปแล้ว ฮ่าๆ
แล้ว....."คุณรับได้มั้ย" ..... มันไม่มีความหมายแฝงใช่มั้ยคร๊าาาาาาา
ไม่น๊าาาาาาาาาา
เค้ารอออฉากนั้น~
คิดถึง~~
-
หึหึ มะยม...
คนพูดมักจะไม่ได้ทำ แต่คนที่ทำอ่ะมักจะไม่พูด
ระวังไว้ให้ดีเถ้อ~
ถึงออร่าเมะจะจับมะยมในบทนี้นิดๆ แต่ทว่ามันก็ยังไม่กลบออร่าเคะอยู่ดี อิอิ
คุณภักดีจับกดซักทีจะได้ยืนยันสถานะกันไปเล้ย!
นะ ... เค้าเชียร์อ่ะ เค้าอยากให้คุณภักเป็นฝ่ายหม่ำมะยมนี่นา!
ว่าแต่ ต้นไม้สุดยอดไปเลยอ่า ความจริงจบสาขาการแสดงมาใช่มะ? เนียนเนอะ
เก๊กู๊ด ชอบตรงที่ยื่นถุงเค้กให้หัวหน้าเนี่ยละ ฮ่าๆ อุบายอันแยบยล
เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก
-
เพิ่งเห็นว่าตอนเราเม้นอยุ่ ตอนใหม่มาต่อแล้ว ฮ้าๆๆ
เลยเพิ่งเข้ามาอ่านต่อ แล้วก็เม้นต่อด้วยยยย
มะยมหายงอนแล้วเนอะ เลยซะคุณภักหงอยไปเลย
ตอนนี้คุณภักน่ารักอ่ะ ฮิ้วววว
:L2: :pig4: :L2:
-
:z6:เอ่อ. แบบว่าเราแอบนอกเรื่องนิดนึงได้มั๊ยอ่าาาาา่. เรื่องนายต้นไม้กับน้องหินอ่ะ. ชื่อเรื่องอะไรนะ. รู้สึกจะได้อ่านไปตอนนึง. แต่คนเริ่มเรื่องไม่ใช่นายต้นไม้เป็นผู้ชายคนนึงที่แอบรักน้องหินซึ่งเป็นเพื่อนแต่ไม่กล้าบอก. จนน้องหินมาเจอนายต้นไม้พาไปห้องแล้วขโมยจูบอ่าาา. เรื่องอะไรหว่าา :เฮ้อ:
-
:z6:เอ่อ. แบบว่าเราแอบนอกเรื่องนิดนึงได้มั๊ยอ่าาาาา่. เรื่องนายต้นไม้กับน้องหินอ่ะ. ชื่อเรื่องอะไรนะ. รู้สึกจะได้อ่านไปตอนนึง. แต่คนเริ่มเรื่องไม่ใช่นายต้นไม้เป็นผู้ชายคนนึงที่แอบรักน้องหินซึ่งเป็นเพื่อนแต่ไม่กล้าบอก. จนน้องหินมาเจอนายต้นไม้พาไปห้องแล้วขโมยจูบอ่าาา. เรื่องอะไรหว่าา :เฮ้อ:
นายต้นไม้-ไตร-หิน********** เรื่อง [ทะเล_ฝัน] จ้า
ลิงค์เรื่องอยู่หน้าที่ 1 ของทุกๆ เรื่องจ้า
-
อ๋ายยย~ หนูมะยมกล้าตีก้นหัวหน้าด้วยวุ้ย อยากลงโทษ ลงไม้ ลงมือแล้วล่ะสิ
หัวหน้าบอกว่า อ๊า~ ตีแรงๆเลย ตีอีกๆ ซี๊ดสสส~
:laugh:
โดนคุณเบาๆ :beat:
-
นายมะยมมาแผนสูงนะค๊า :z2:
บวกเป็ด
-
:onion_asleep:
-
ย่องมาดู :laugh:
-
ย่องมาดูด้วยคน :m32:
-
มารอกินมะยม
-
รอด้วยคน อิอิ
-
โย่ว!!!
-
:monkeysad: :impress3: :m15:ย่องมาปูเสื่อรอด้วยคน
-
:pigwrite: :pigwrite:
-
รอ.. ^^
-
สู้กันสักตั้งเว้ย!!!....555+
-
ง้องอนกันได้น่ารักดี แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้แก้ไข รอชมต่อไปจ๊ะ
-
รอ ร๊อ รอ
ตกลงคุณภักดีต้อง 'รับ' มะยมหรอ :o8:
-
......
.....
....
....
...
..
.
ดวงตาคู่หนึ่งลืมขึ้นมาในความมืด
หูของเขาได้ยินเสียง…ลมหายใจที่ไม่ใช่ของตัวเอง มันดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เมื่อดวงตาของเขาปรับตัวเข้ากับความมืดได้แล้ว เขาก็เห็นโครงหน้าของคนที่นอนอยู่ข้างๆ กัน
เขาลากนิ้วไปบนแนว…กราม และนึกถึง----
......
.....
....
....
...
..
.
----จูบหวานเลี่ยนเมื่อหลายวันก่อน
......
.....
....
....
...
..
.
ไม่รู้คนคนนี้เขานับไหมว่ามันคือ…จูบครั้งแรก----ระหว่างกัน
หรือเขานับว่า แค่แกล้ง…เฉยๆ
......
.....
....
....
...
..
.
มุมปากของเขาขยับยก…ขำ
จูบครั้งแรกมันต้องประทับใจมาก แต่นี่ไม่เลย! เค้กชิ้นนั้นหวานเจี๊ยบจนเขาขนลุกและพะอืดพะอมอยู่อีกนาน
......
.....
....
....
...
..
.
แต่จูบครั้งเดียวนั้นก็…ฝังลึกอยู่ในส่วนหนึ่งของความทรงจำได้ด้วยเหมือนกัน
......
.....
....
....
...
..
.
เขาเป็นกังวล
เขาไม่สบายใจมาโดยตลอด
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่เอ่ยปากบอกเรื่องที่ต้องไปประจำที่ปักกิ่งกับคนคนนี้
......
.....
....
....
...
..
.
รู้แก่ใจว่า หากให้รู้พร้อมคนอื่น ด้วยนิสัยของคนคนนี้…คนคนนี้ต้องไม่พอใจและโกรธมาก
แต่เขาก็เสี่ยง…
......
.....
....
....
...
..
.
หากอีกฝ่ายคิดอะไรกับเขาอยู่บ้าง อีกฝ่ายต้องหายโกรธเขา
และก็เป็นดังคาด…. ถึงแม้เขาจะใจหายแทบตายก็ตาม
......
.....
....
....
...
..
.
ขอบคุณที่ไม่โกรธ
ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้
ขอบคุณที่ยังคงเป็น “คนที่ดูใจกันไปก่อน”
......
.....
....
....
...
..
.
แล้วเขายังต้องการอะไรอีก…อยากได้อะไรมากไปกว่านี้เหรอ?
......
.....
....
....
...
..
.
ความมั่นใจ-----ก่อนที่ตัวเองจะต้องห่าง…และไกล----จากคนคนนี้
......
.....
....
....
...
..
.
ปักกิ่งไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกล
ทว่า ปักกิ่งไกลเกินสายตาที่เขาจะมองเห็น ไกลเกินกว่าที่เขาจะเอื้อมมือ…มาจับมือของคนคนนี้
......
.....
....
....
...
..
.
ดังนั้น ปักกิ่ง….สำหรับเขา มันจึงเป็นเมืองที่ไกลสุดหัวใจ
......
.....
....
....
...
..
.
แวบหนึ่งเคยคิดว่าจะใช้อำนาจมืดย้ายคนคนนี้ไปเสียด้วยกัน
จนแล้วจนรอก็ได้แค่คิด...ไม่ได้ทำ
เรื่องงานไม่ควรเอามาปนกับเรื่องส่วนตัว...ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าอะไรมันก็จะยุ่งเหยิงปนเปกันไปหมด
หากเราแยกมันออก ชีวิตเราจะมีพื้นที่ให้...เดินและพักหายใจ
......
.....
....
....
...
..
.
ถึงกระนั้นเขาก็มีจุดเสียข้อใหญ่
เขา…บริหารเรื่องส่วนตัวไม่ค่อยเก่ง โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ!
......
.....
....
....
...
..
.
หลายครั้ง…ในอดีตที่ผ่านมา
เมื่อเริ่มดูใจกับใครสักคน หรือแม้กระทั่งฝากหัวใจไว้กับใครสักคน
ถึงเขาพยายามดูและประคองใจของอีกฝ่ายไว้ดีแค่ไหน
มันกลับต้องเดินไปหา “จุดจบ”
......
.....
....
....
...
..
.
ทุกครั้งที่เขามองหน้าคนคนนี้…
ความสัมพันธ์ระหว่างกันจะเริ่มต้นเมื่อไหร่เขาไม่แคร์ เขาไม่เร่งรีบ
เขาภาวนาแค่ว่า หากเริ่มแล้วเขาไม่ขอเดินไปถึง “จุด” ที่ว่านั้น
......
.....
....
....
...
..
.
เขาไม่เคยกลัวการเริ่มต้น… เขากลัวแค่-----
......
.....
....
....
...
..
.
ขออย่าได้มีวันนั้น
......
.....
....
....
...
..
.
ไม่อยากให้มีวันนั้น
......
.....
....
....
...
..
.
เขาภาวนาเช่นนี้ทุกค่ำคืน…นับแต่เริ่มดูใจกันมา
......
.....
....
....
...
..
.
-
อ่า งี้ก็ต้องห่ากันอ่าดิ
เป็นบทพิสูจน์ที่ท้าทายมาก TT^TT
-
......
.....
....
....
...
..
.
ระหว่างที่เขาอาบน้ำ เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังขึ้นชั่วครู่และ…หยุดลง
.....
....
....
...
..
.
เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ อีกฝ่ายนั่งรออยู่แล้ว
เขาเดินไปหา “ถ้าง่วงก็นอนต่อสิครับ ไว้ไปวิ่งสายหน่อยก็ได้ วันหยุดทั้งที”
“หึ” อีกฝ่ายทำเสียงเข้มห้วนในลำคอและลุกเดินเข้าห้องน้ำไป
เขามองตามหลัง…
.....
....
....
...
..
.
เมื่อคืนกว่าคนที่เพิ่งเดินเข้าไปในห้องน้ำจะลงมาเคาะประตูห้องเขา….ดูเหมือนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว
ภายในฝ่ายต่างประเทศ…เริ่มมีการถ่ายงานและเตรียมความพร้อมสำหรับการไปของเขากันแล้ว
หนึ่งวันถัดมาจากที่เขาแจ้งการไปกับทุกคน เขาก็เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องทันที… ถึงกระชั้นชิดแต่เมื่อวันเป็นวันศุกร์ เขาตั้งใจให้ทุกคนเอาสิ่งที่ประชุมไปพิจารณาเป็นการบ้าน ก่อนมาประชุมกันต่อในอาทิตย์หน้า
งานหลายส่วนของเขา…. คนสามคนหลักที่กล่าวถึงในที่ประชุม ต้องรีบทำความเข้าใจในเนื้องานที่ตัวเองต้องช่วยและประสานงานกับ “หัวหน้าคนใหม่”
หากไม่เข้าใจ ไม่แน่ใจ พวกเขาสามคนต้องรีบถามและทำความเข้าใจให้แจ่มแจ้งก่อนที่เขาจะเดินทางไป
ถึงเขามี “ตัวเลือก” ที่ดีและเหมาะ….นำเสนอขึ้นไป แต่ใช่ว่าผู้บริหารจะเห็นดีด้วย!
ดังนั้น การเทรนคนของตัวเองให้รู้งานไว้…เป็นสิ่งที่ดีกว่ามานั่งเดาใจผู้บริหาร
.....
....
....
...
..
.
พออีกฝ่ายเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ยื่นแก้วน้ำตำลึงไปให้ทันที
“ต้องกินนี่ด้วยเหรอ” อีกฝ่ายเบ้หน้า
“ควรครับ” เขาเน้นคำ
อีกฝ่ายถอนหายใจเฮือกใหญ่และรับแก้วไปดื่ม…รวดเดียวหมด และยื่นแก้วส่งคืนเขา จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้เย็นและหยิบขนมปังชิ้นสุดท้ายที่เขาทำทิ้งไว้ให้กินทั้งอาทิตย์…เข้าปาก
เขายิ้มขำๆ พลางเดินไปหยิบเสื้อวอร์มมาสวม…รูดซิป
.....
....
....
...
..
.
เขาหันหน้ามาอีกที คนที่เคี้ยวขนมปังในปากก็ยืนถือแว่นตากรอบหนารอท่าไว้แล้ว
เขายืนนิ่งให้อีกฝ่ายสวมแว่นตาให้…เหมือนเช่นทุกครั้ง
พอเขาเอาฮู๊ดขึ้นมาคลุม อีกฝ่ายจะขำทุกครั้ง…และวันนี้ก็ยัง---ขำเหมือนเดิม
.....
....
....
...
..
.
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด----- เสียงรองเท้าผ้าใบสองคู่ดังก้องในความเงียบสงบยามค่ำคืน
.....
....
....
...
..
.
“กินข้าวเช้าเสร็จไปเต้นท์รถกันไหมครับ” คนที่สวมชุดวอร์มถามขณะที่ต่างยืนอยู่ในลิฟท์
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ หาวเสร็จถึงตอบ “ปา------ย”….เสียงยานคาง
คนที่สวมชุดวอร์มใช้สายตาหลังกรอบแว่นมองอากัปกริยาของอีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยปากว่า “คุณนอนต่อเถอะ ผมไปแป๊บเดียวก็กลับ แค่เอารถไปให้เขาตีราคาเฉยๆ”
“ฮ๊าว----- ก้อด้าย” อีกฝ่ายบอกเขาและหาวต่อ
คนที่สวมชุดวอร์มยังคงจ้องหน้าคนที่หาวไม่หยุด…จนอีกฝ่ายต้องสงสัย “อะไรครับ? หน้าผมเป็นอะไรเหรอ?”
“คุณไม่อยากเอารถไว้ใช้เหรอครับ?” คนที่สวมชุดวอร์มถาม
“ฮึ๊! ขี้เกียจขับ เบื่อรถติดอ่ะครับ” อีกฝ่ายตอบ….แบบไม่ใยดีมัน
“ผมก็แค่ไม่อยากให้มันจอดไว้เฉยๆ กว่าผมจะมา มันคงเสียไปเปล่าๆ” เขาชี้แจง
“ถ้าพี่ไม่อยากขาย พี่ก็เอาไปให้พ่อน้องหนูใช้สิครับ” อีกฝ่ายแนะเขา
“พี่ผมเขามีของเขาแล้ว ผมอยากให้คุณไว้ใช้มากกว่า” เขาตัดสินใจบอกกับอีกฝ่ายตรงๆ
“ไม่อ่ะครับ ผมไม่อยากได้มันมาเป็นภาระ” อีกฝ่ายตอบเขา
.....
....
....
...
..
.
ติ๊ง!
ประตูลิฟท์เปิด เขาหันหน้ากลับมามองตรง และเริ่มวิ่งเหยาะๆ ออกไป
.....
....
....
...
..
.
-
ฮืออออ กำลังจะไปนอนเลยชั้น
ไอ้คำว่า ภาระเนี่ย สะดุ้งเลย
-
.....
....
....
...
..
.
เขามองหาคนที่สวมกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดคอกลมสีดำ
ก่อนหน้าที่เขาจะเข้าไปคุยกับพนักงานประจำเต้นท์รถ อีกฝ่ายบอกว่าจะไปเดินดูรถเล่นๆ… เขาจึงกวาดสายตาไปมองรอบๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง
.....
....
....
...
..
.
----ไม่มีเงาของคนที่เขามองหา
เขาคลำหามือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์สีหม่นของตัวเอง…มันแต่กระเป๋าเงิน เขาจึงเดินกลับไปที่รถของตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เดินไปใกล้รถ…เขาก็เห็นคนที่เขามองหา
.....
....
....
...
..
.
เขาเปิดประตูรถทางฝั่งคนขับ เสียบกุญแจและรีบเปิดเครื่องปรับอากาศ….รอสักพัก
คนที่นั่งคอพับอยู่ที่นั่งข้างคนขับ…ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกตัว
.....
....
....
...
..
.
เขาส่ายหน้าและค่อยๆ พารถของตัวเองออกไปจากเต้นท์รถแห่งนั้น
.....
....
....
...
..
.
-
.....
....
....
...
..
.
แสงลอดผ่านม่านตาเมื่อดวงตากระพริบ
ดวงตาทั้งคู่รีบปิดลงและนิ่งสักพัก
เมื่อสติเริ่มคืนมาสู่ตัว…ตัวขี้เกียจก็แสดงฤทธิ์
ร่างของเจ้าของดวงตาบิดตัวเพื่อสะบัดตัวขี้เกียจออกไป
.....
....
....
...
..
.
“ฮื๊อ-------” ดวงตาทั้งคู่ของเขาค่อยๆ ลืมขึ้นมาดูทัศนียภาพเบื้องหน้า
สถานที่ดูคุ้นตามาก แต่ภาพตรงหน้าเขากลับสะกิดใจตัวเขาเอง เขาหันหน้าไปมองที่เบาะข้างๆ เขาสะดุ้งนิดๆ ที่เห็นคนซึ่งนั่งอยู่ในที่คนขับ----จ้องมองเขา
“ถึงนานรึยังครับ?” เขาถามคนที่นั่งข้างๆ กันในรถ
“ดูนาฬิกาสิครับ” คนที่นั่งกอดอกอยู่ในที่นั่งฝั่งคนขับบอกเขา…น้ำเสียงปกติ ไม่มีวี่แววขุ่นเคือง
เขาก้มหน้ามองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง-----บ่ายสามโมงกว่า!
“เฮ้ย! แล้ว แล้ว แล้ว….” เขาพูดไม่ออก
.....
....
....
...
..
.
พวกเขาไปที่เต้นท์รถตอนเก้าโมง มันอยู่ใกล้หอพัก ขับแค่ 20 นาทีก็ถึง…
เขาเดินดูรถเล่นฆ่าเวลาได้สักแป๊บก็เบื่อจึงเข้ามานอนรอในรถ… ไม่รู้ว่าคนที่นั่งกอดอกอยู่นี่ คุยธุระนานแค่ไหน เขารู้แค่ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน…อย่างเดียว
.....
....
....
...
..
.
มือขาวๆ เอื้อมไปปิดแอร์และบอกเขาว่า “ป๊ะ! ตื่นแล้วก็ไปกินข้าวกัน” พูดจบก็เปิดประตูออกไปจากรถ
เขารีบตามออกไป…เดินไปหา “พี่ก็ไม่ปลุกผม”
ล็อครถเสร็จอีกฝ่ายก็หันมาบอกเขา “เห็นคุณหลับดี ผมไม่อยากรบกวน”
นายมะยมเดินตามอีกฝ่ายไปติดๆ “แล้วพี่นั่งอยู่อย่างนั้นตลอดไม่เบื่อรึไงครับ หลับเหมือนกันล่ะซี่”
คนที่เดินข้างๆ หันมาส่งยิ้มและบอกเขา “ไม่ได้หลับครับ ตื่นอยู่ตลอด”
นายมะยมทำสายตาเจ้าเล่ห์ “เก็บค่าดูนะครับ กี่ชั่วโมงจ่ายมาเลย!”
“เก็บค่าแอร์ครับ บวกค่าน้ำมันไปด้วย กี่ชั่วโมงคูณ…ไปครับ” อีกฝ่ายยักคิ้วให้เขาแบบท้าทาย
.....
....
....
...
..
.
ขาสองคู่ก้าวเข้าไปในตึก…..พร้อมๆ กัน
.....
....
....
...
..
.
-
จะบอกว่า..นั่งซุ่มอยู่ค่ะ
-
ต้มมาม่ารอ...
-
แอบสงสารพ่อมึง
:m15:
-
พ่อมึงเป็นผู้ใหญ่ดีจัง ใช้สมองมากไปใจก็ทุกข์ได้น้า
เอานายมะยมไปด้วยอำนาจมืดในมือก็สิ้นเรื่อง :laugh:
ไม่ต้องมาคอยพะวงว่ามะยมจะเป็นอื่น
-
เฮ้ออ สงสารพ่อมึง
สงสารมะยมด้วย
ถ้าไกลกันจะเป็นยังไงต่อน๊อ
ไม่อยากให้ไกลกันเลยอ่ะ
-
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15: พ่อมึง :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินคาดผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ…เขาเช็ดตัวแล้ว และกำลังเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
เสียงเรียกเข้าดังขึ้น เขาเดินไปหยิบมือถือที่หัวเตียงมารับสายก่อน
“เออ” นายมะยมรับสายจากเพื่อน
“พรุ่งนี้ฉลองไหน?” นายกันถาม
“ไม่ไปว่ะ” นายมะยมปฏิเสธเพื่อน
“อ๊าว วันมึงชิงหมาเกิดเลยนะ ไม่ฉลองหน่อยเรอะ!” นายกันถามเสียงหลง ไม่เคยมีปรากฏการณ์นี้นับแต่รู้จักคนที่ชื่อ…ไอ้มะยม
“ปีนี้ กูขอส่วนตัวหน่อย ไว้ปีหน้ามึงค่อยชวนใหม่นะ” นายมะยมบอกเพื่อน
“โถ…” นายกันทำเสียงเวทนาสงสาร “ตามสบายมึงเหอะ แต่มะรืนวันทำงานนะเว้ย อย่าลืม! ฮ่าฮ่าฮ่า”
“เออ! ถ้ากูไม่ไปทำงานอย่าเสือกโทรมาล่ะ รู้หน้าที่เพื่อนที่ดีหน่อยนะมึง!” นายมะยมต่อปากกับเพื่อนเสร็จก็วางสายทันที
เขารีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะตอนนี้มันเลยเที่ยงคืนอีกแล้ว…สองคืนที่ผ่านมาเขาโหมอ่านเอกสารทั้งหมดให้จบในรวดเดียว----เพื่อวันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้…ถึงไม่ใช่วันที่สำคัญที่สุดในชีวิต แต่เขาอยากให้มันเป็นวันพิเศษ
ถนอมช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด----เพื่อนสนิทของเขาบอกเขาไว้
เขาพยายามทำมันทั้งที่ใจ…ลังเล
.....
....
....
...
..
.
ไม่รู้ว่าการทำแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บมากมั้ย เมื่อถึงวันนั้นที่เขาต้องพูดคำนั้น….
จะเสียใจมากแค่ไหน....
.....
....
....
...
..
.
แต่เขาตัดสินใจไว้แล้ว… และหวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจ
.....
....
....
...
..
.
แปะ แปะ แปะ------เสียงรองเท้าแตะสัมผัสกับพื้นกระเบื้องยางมาตามขั้นบันได…จากชั้น 6 ลงมายังชั้น 5
เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องที่คุ้นเคย นายมะยมล้วงกุญแจออกมาไข
.....
....
....
...
..
.
ในห้องมืดสนิท…มองอะไรไม่ค่อยเห็น รู้สึกชัดได้แค่ความเย็นที่ไหลรื่นอยู่ภายในห้องนั้น
นายมะยมถอดรองเท้าแตะแล้วเดินหนีบหมอนของตัวเองไปยังเตียง…ตามภาพในความทรงจำ
.....
....
....
...
..
.
เขาคลำเจอหมอนอีกใบที่อยู่บนเตียงนั้นแล้วจึงเอาหมอนของตัวเองวางลงไปตรงตำแหน่ง….ข้างๆ กัน
.....
....
....
...
..
.
พอนายมะยมซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแพร คนที่นอนอยู่ด้านในก็พลิกตัวมาทางเขา “กี่โมงแล้ว”
“เลยเที่ยงคืนมาแล้วครับ” นายมะยมพูดพลางสอดแขนทั้งคู่ของตัวเองเข้าไปรับตัวของอีกฝ่ายที่มีผ้านวมม้วนตัวอยู่…เข้ามากอดกระชับแบบหลวมๆ
.....
....
....
...
..
.
“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปวิ่งนะครับ” คนที่ซุกหน้ากับซอกคอของเขาบอก
“วิ่งแล้วค่อยกลับมานอนก็ได้ครับ” นายมะยมหลับตาและบอกอีกฝ่าย…
มือเย็นๆ แปะที่ลำคอของนายมะยม “ไว้วิ่งตอนเย็นก็ได้”
“ถึงยังไงพรุ่งนี้เช้าผมก็ต้องลงไปใส่บาตรอยู่ดี” นายมะยมเริ่มเคลิ้ม…ง่วง
“วันอะไรครับถึงอยากใส่บาตร?” มือเย็นๆ อีกข้างใช้สองนิ้วเกี่ยวคอเสื้อของนายมะยม…เล่น
“อืม…วันชิงหมาเกิดครับ” เสียงของนายมะยมเริ่มงึมงัม
“หึหึหึ” เมื่ออีกฝ่ายหัวเราะลมหายใจอุ่นจึงเป่ารดลำคอของนายมะยม
นายมะยมจักกะจี้ “หึหึหึ แล้ววันเกิดพี่วันไหนล่ะครับ?”
ความเย็นจากมือและนิ้วของอีกฝ่ายทำให้นายมะยมเริ่มเข้าสู่นิทรา
“อืม…เพิ่งผ่านมาเมื่อกี้ครับ” เสียงของอีกฝ่ายเริ่มงึมงัมบ้าง
.....
....
....
...
..
.
-
.....
....
....
...
..
.
พลึ๊บ------- นายมะยมผุดลุกขึ้น “อะไรนะพี่!” เขาถามคนที่ซุกตัวอยู่ในผ้านวม
“ฮือ…เป็นอะไรครับ?” คนที่ขดอยู่ในผ้านวมถามเสียงงึมงัม
“เมื่อวานวันเกิดพี่เหรอ!” นายมะยมถามเต็มเสียง ที่สำคัญตาเขามันเริ่มตื่นขึ้นมาด้วยแล้ว
“อื้อ!...คุณจะตื่นเต้นทำไม ดึกแล้วนอนเถอะ” คนที่ขดอยู่ในผ้านวมบอกเขาเต็มเสียง
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมนั่งเหวออยู่อย่างนั้นสักพักก็ล้มตัวลงนอน…แต่ยังไม่เข้าสู่ท่าเดิม “พี่ไม่บอกผมเลย ไม่ได้เตรียมอะไรให้สักอย่าง” นายมะยมบ่นอุบอิบ
เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นก่อนที่เจ้าของมือเย็นเฉียบที่ยื่นมาแปะแก้มเขาจะบอกเขาว่า “ได้แล้วล่ะครับ ได้มองหน้าคุณตอนหลับตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ”
นายมะยมคว้ามือข้างที่แปะแก้มตัวเองมาเล่น “อันนั้นไม่นับสิ เอาอย่างอื่นครับ อยากได้อะไรเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมหามาให้”
“แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะ พรุ่งนี้ผมจะได้หามาให้” อีกฝ่ายย้อนถามเขาบ้าง
“พี่เกิดก่อนผม พี่ต้องบอกก่อน เอาอะไรครับ? ว่ามา ว่ามา” นายมะยมเร่ง
“อืม….ถ้าบอกแล้วอย่าอารมณ์เสียนะ” อีกฝ่ายเหมือนยังคิดไม่ตก
“อื้อ ไม่เสียครับ บอกมาเลย” นายมะยมลุ้น
.....
....
....
...
..
.
“ไปเปลี่ยนใส่ชุดนอนผมหน่อยสิ เสร็จแล้วก็กลับมานอน แค่นี้ล่ะครับ”
.....
....
....
...
..
.
“พี่แกล้งผมใช่มั้ย?” นายมะยมชักไม่แน่ใจ
“ผมพูดจริงๆ ผมแค่อยากเห็น ก็คุณชอบทำแบบนี้ตอนผมไม่อยู่ทุกที” อีกฝ่ายบอกเขา
“พี่แกล้งผมแน่ๆ เลย” นายมะยมยังโอดครวญ
“ถ้าไม่สะดวกใจก็ไม่เป็นไรครบ มานอนเถอะครับ ดึกแล้ว” อีกฝ่ายสรุปความให้โดยไม่ต่อปากต่อคำกับเขาอีก
“ได้! ให้ใส่ตัวไหนล่ะ!” นายมะยมลุกลงไปจากเตียง เดินไปยังตู้เสื้อผ้า
“ตัวไหนก็ได้ ทำให้เหมือนกับตอนที่ผมไม่อยู่ แล้วคุณมานอนห้องผม เอาแค่นั้นล่ะครับ” อีกฝ่ายบอกเขา
นายมะยมหันควับ
.....
....
....
...
..
.
ความมืดทำให้เขามองไม่เห็นสีหน้าแววตาจากอีกฝ่าย แต่มายมะยมกล้าสาบานเลยว่า ตัวเองถูกอีกฝ่ายแกล้งอยู่แน่ๆ
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมพาตัวเองที่เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนแบบปาจามาขึ้นไปบนเตียง
.....
....
....
...
..
.
เขายื่นมือไปคว้าผ้าห่มนวม…ดึงมันมาคลุมตัวเอง และนอนตะแคงตัว โดยเอาหัวของตัวเองไปฟุบกับหมอน---ของเจ้าของห้อง
“อ่ะ เหมือนแหละ เอาอีกมั้ย?” นายมะยมบอกอีกฝ่ายที่…ใบหน้าอยู่ห่างกันแต่ปลายจมูก
“พอแล้วครับ” อีกฝ่ายกลั้วหัวเราะ
“แล้วทุกครั้งผมก็จะฝัน….” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
“ฝันว่าทำแบบนี้….” นายมะยมคว้าหามือของอีกฝ่ายมากุมไว้
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเอามืออีกข้างสอดเข้าไประหว่างหมอนและแก้มของอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
นิ้วโป้งลูบผิวหน้าลื่นนุ่มของอีกฝ่ายด้วยความเพลิดเพลินใจ
.....
....
....
...
..
.
เมื่อนายมะยมขโมยจุ๊บริมฝีปากของคนที่นอนตรงข้ามกัน…ทีหนึ่ง อีกฝ่ายผุดลุกและเตรียมขยับหนี
นายมะยมยึดมือที่กุมเล่นดึงไว้และชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “ผมขอของขวัญวันเกิดจากพี่บ้างสิครับ”
.....
....
....
...
..
.
“ถ้า….ไม่มากเกินไป….” อีกฝ่ายพูด….เบาจนแทบไม่ได้ยิน
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมลุกขึ้นมานั่ง…หันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายที่ผุดลุกขึ้นมาก่อน
.....
....
....
...
..
.
เขาเอามือทั้งคู่ของตัวเองกุมมือทั้งสองของอีกฝ่ายไว้แน่น
สายตาจับจ้องที่แววตาคู่หนึ่ง…ในความสลัว
เมื่อมองในความมืดนานเข้า สายตาเราจะปรับสภาพได้ ทำให้เขาเห็นสีหน้าที่ตื่นตกใจจากอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
เขายืนหน้าไปแนบริมฝีปากกับอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
เขาจูบแผ่วๆ กับอีกฝ่าย…
.....
....
....
...
..
.
“ขอแค่นี้ล่ะครับ มากไปมั้ย?” นายมะยมถามหลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมาแล้ว
เขาเห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าอยู่ในความสลัวนั้น….นายมะยมยกยิ้มที่มุมปาก มองอีกฝ่ายที่ก้มหน้างุด
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมยื่นหน้าไปกระซิบที่ข้างใบหูของอีกฝ่าย “เงยหน้าหน่อยสิครับ ผมไม่ได้ขอครั้งเดียวนะครับ!”
.....
....
....
...
..
.
อีกฝ่ายไม่ได้เงยหน้าตามที่เขาบอก
.....
....
....
...
..
.
คนที่เขากุมมืออยู่เอนหลังพิงผนังห้องและหันใบหน้าด้านข้างของตัวเองมาทางเขา
นายมะยมอมยิ้มและปล่อยมือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
.....
....
....
...
..
.
พอเขาขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายชนิดห่างกันแค่ปลายจมูก มือทั้งสองที่เขาเพิ่งปล่อยไปนั้น เวลานี้มันกุมอยู่สองข้างลำคอของเขา…ด้วยตัวมันเอง
เขาหอมแก้มนั้นแรงๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว….สองสามครั้ง
จากนั้นจึงไล้ริมฝีปากลงมาตามลำคอขาวนุ่ม ขณะที่เขากำลังพรมจูบที่ลาดไหล่ แรงจากสองมือที่กำลำคอเขาไว้…ดันใบหน้าเขาให้ออกมาห่างจากที่ตรงนั้น
ใบหน้าที่เบือนหนีเขามาตลอดหันมาหาเขาแล้ว
.....
....
....
...
..
.
เขาจึงทำในสิ่งที่ขอกับอีกฝ่าย….ไปเรื่อยๆ ซ้ำไปซ้ำมา
.....
....
....
...
..
.
จากสัมผัสเพียงฝ่ายเดียว แปรเปลี่ยนมาเป็น…ด้วยกันทั้งสองฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
ไม่มากไปกว่าคำที่ขอ
.....
....
....
...
..
.
ไม่มากไปกว่าจูบ
.....
....
....
...
..
.
แต่ในความรู้สึก….ของคนทั้งคู่ซึ่งใช้เรียวแขนโอบกอดกันไว้….มันท่วมท้นมากมายจนบรรยายไม่รู้จบ
.....
....
....
...
..
.
เมื่อจูบลาร้างไปแล้ว เรียวแขนกลับยังกระหวัดกอดกันไม่ยอมปล่อย…ในท่าเดิมเหมือนเช่นทุกวัน
.....
....
....
...
..
.
ความมืดของยามค่ำคืน อีกทั้งความเย็นที่ฟุ้งอยู่ในห้อง...เห่กล่อมให้คนสองคนที่ตัวร้อนรุมเข้าสู่ความฝัน...โดยที่พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้ตัวกัน
-
ตื่นมาเจอกับนายมะยมหลังจากไม่ได้เจอมาหลายวัน กระชุ่มกระชวยใจดีแท้ คิกๆๆๆ น่ารักอะ >///<
ฉันล่ะอยากจะทึ้งหัว(ได้ข่าวว่าทำไปแล้ว) กับการนอนของคุณภักและนายมะยม น่ารักดีแท้ อายุปูนนี้แล้วนะ เอ๊ยยยยย
ถ้าแกจะตบหน้าตัวเองได้เสียงดังขนาดนี้นะแพร ก๊ากกกก(เริ่มแสบวุ้ย)
“เงยหน้าหน่อยสิครับ ผมไม่ได้ขอครั้งเดียวนะครับ!” คลั่งอ๊ากกกกกกกก
เขาหอมแก้มนั้นแรงๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว….สองสามครั้ง ตายฉันตาย ณ ตรงนี้
จากนั้นจึงไล้ริมฝีปากลงมาตามลำคอขาวนุ่ม ขณะที่เขากำลังพรมจูบที่ลาดไหล่ เอ๊ยยยยยยยยยยยยย น่ารักอะ(ตะปบหน้าตัวเองอีกแล้ว)
ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนคนบ้าแฮะ อิอิ น่ารักที่สุดเลยอะ
-
อบอุ่นดีจัง
-
ตกลงเป็นแฟนกันเถอะไม่ไหวแระ
-
แอร๊ยยย
ละลายอะ
มองจากภาพแล้วคุณภักดีสงสัยจะเสร็จไอ้หนูมะยมนะ 555
แต่ยังไงเราก็เชียร์ให้พ่อมึงกดมะยม อ๊ากกก
-
ทิวลิปสีส้ม: คุณภัก :o !!! ทำไมคุณภักบทนี้ถึงได้ดูหน่อมแน้มนักล่ะค่ะ?? Why??
คุณภัก : ที่จริงผมแค่จะทำให้มะยมตายใจเท่านั้นล่ะน่า หึหึ หึ หึ หึ หึ o3
-
:-[ :กอด1: :L1:
บวกเป็ด
-
คืบหน้าไปอีกนิด :o8:
ช้าๆแต่ว่ามั่นคง...
คุณภักช่างมีความอดทนสูงส่ง นั่งรอหนูมะยมตื่นตั้งห้าชั่วโมง
รออ่านวันชิงหมาเกิด... :z2:
-
ไม่ได้มาอ่านหลายวัน
กรี๊ดดดด จะจากกันไปอีกแล้ว
-
:o8:
น่ารักจังเลยยยยยยยย :-[
-
บทนี้อ่านแล้วละลายย
เป็นแฟนกันจริง ๆ เถอะนะ
อร๊ายยย ^^
-
:a5:พึ่งรู้สึกตัวว่าลืมหายใจ :really2:
-
:-[
แต่ว่านะนายมะยมจะบอกอะไรกับคุณภัก หวังว่าไม่ใช่บอกเลิกเพราะไม่มั่นใจว่าตัวเองจะรักษาสัญญาได้นะ ไม่งั้นนะคุณภักเสียใจแย่
-
หวานมากจ้า
ขอบคุณนะจ๊ะ
-
หัวหน้า~ ทำไมหัวหน้าไม่รุกบ้างล่ะค๊า
เค้าจิกหมอนเชียร์เลยน้า ท่าทางจะ'คะคดีพลิก'
ตอนนี้น่ารักมากเลยค่ะ หวานกันเบาๆ น่ารักๆ
แต่ยังไงเค้าก็ยังเชียร์ให้หัวหน้ารุกอยู่ดี เอ... ที่มะยมคุยกับคุณเพื่อนสนิทนี่มันหมายความว่ายังไงน้า อิอิ
วันนี้ขอนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเฝ้าทั้งวันเลยค่า
รัก* จูจุ๊บบ~ ♥
-
เป็นบทเลิฟซีนที่อ่านแล้วเขินเป็นบ้าเลยค่า
-
จูบกัน(แบบจริงจัง)แล้ว เว้ยเฮ้ย!! วิดวิ้วววว
วันเกิดติดกันแบบนี้ ฉลองรวบยอดพร้อมกันได้เลย
เค้าเกิดมาเพื่อคู่กัจริงๆ
:L2: :pig4: :L2:
-
ทุกคนเชียร์คุณภักรุกจะตายแล้วววววววว
อยากเห็นด้านร้อนเร้า เอ้ย ด้านรุกๆของคุณภักจัง^O^
-
คู่นี้จะไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า ชักหวั่นๆ
-
.....
....
....
...
..
.
ดวงตาคู่หนึ่งลืมขึ้นมาในความมืด
หูของเขาได้ยินเสียง...ลมหายใจที่ไม่ใช่ของตัวเอง มันดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
เมื่อดวงตาของเขาปรับตัวเข้ากับความมืดได้แล้ว เขาก็เห็นโครงหน้าของคนที่นอนอยู่ข้างๆ กัน...เจ้าของแขนทั้งคู่ที่รัดตัวเขาไว้
เขาลากนิ้วไปบนแนวเคราของคนที่หนุนหมอนใบเดียวกัน...และนึก
.....
....
....
...
..
.
จูบ...ที่เขานับได้ครั้งที่สอง แต่สำหรับคนคนนี้เค้าอาจเพิ่งเริ่มนับหนึ่ง
.....
....
....
...
..
.
เมื่อคืน...เกือบเลยเถิดไปบ้าง แต่ตัวเขายั้งมือของอีกฝ่ายไว้ก่อนที่มันจะเริ่มเล้าโลมร่างกายของเขา
ใจยังนึกว่าคนคนนี้จะโมโหไหม....แล้วก็ไม่ หลังจากนั้น...จูบยังคงมีต่อ อารมณ์ที่เกินเลยดับลงไป
.....
....
....
...
..
.
ขอบคุณที่เข้าใจ
ขอบคุณที่ยังอยู่ตรงนี้
ไม่รู้ว่าเขานึกขอบคุณอีกฝ่ายเป็นครั้งที่เท่าไหร่
.....
....
....
...
..
.
การเริ่ม...ของบางอย่างมันง่ายดาย
.....
....
....
...
..
.
เขาไม่อยากให้เริ่มง่ายๆ และจบกันง่ายๆ
.....
....
....
...
..
.
ไม่ใช่ว่า...จะเล่นแง่ เอาร่างกายตัวเองเป็นข้อเสนอในสนามหัวใจ
เขาคิดแค่...ไม่อยากให้ตัวเองต้องเจ็บ หากเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงเมื่อต้องห่างกันไกล---เท่านี้เท่านั้น
.....
....
....
...
..
.
หากต้อง “เจ็บ” เพราะรู้จักกัน
เจ็บเพราะรู้จักกัน “เท่านี้” ...มันทรมานน้อยกว่าการรู้จักกันดีทั้งหัวใจและร่างกาย
.....
....
....
...
..
.
เขาหันไปมองผิวที่ไหล่ซึ่งไร้เสื้อปกคลุม…ต่างจากร่างกายส่วนอื่นอันมีผ้านวมห่มไว้-----เขาจามทีหนึ่ง…ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้เขาคันจมูก
เขาลุกขึ้นมานั่ง…เขาก้มลงมองหน้าอกเปล่าๆ ไร้เสื้อผ้าของตัวเอง และหันไปมองคนที่นอนอยู่ข้างกัน
หน้าอกหนาที่มีสีผิวเข้มกว่าของเขากระเพื่อมด้วยจังหวะของการหายใจ...
ถึงเมื่อคืนจะไม่ได้สวมเสื้อนอน แต่พวกเขากลับอุ่น...ด้วยอุณหภูมิจากร่างกายของกันและกัน
.....
....
....
...
..
.
เขาหันหน้ากลับมา ปรับสายตาให้คุ้นกับความมืดของห้อง แต่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นปกติของตัวเองทำให้เขาต้องนั่งนิ่งนานหน่อย...กว่าที่จะลุกจากเตียงได้
.....
....
....
...
..
.
นิ้วเย็นเฉียบลากลงจากกลางหลังของเขาไปจรดที่ด้านล่าง...เขาสะดุ้งเฮือกและหันหน้าควับกลับมาทันที “อย่าซนสิครับ” เขาดุอีกฝ่าย
“ก็อย่านั่งยั่วกันสิครับ ยิ่งเช้าๆ อยู่” อีกฝ่ายพูดด้วยเสียงใส...ไร้วี่แววของคนเพิ่งตื่น
“หยิบแว่นให้หน่อยครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
มือหนาที่เอานิ้วไล้วนอยู่ช่วงแนวกระดูกสันหลังของเขาถูกดึงกลับไปควานหาแว่นตาบนหัวเตียง...เมื่อเจอมันแล้ว อีกฝ่ายผุดลุกขึ้นมานั่งเคียงกัน และสวมแว่นตานั้นให้กับเขา...พร้อมจุ๊บเบาๆ ที่แก้มของเขา
“หึหึหึ...ยังไม่พออีกเหรอครับ” เขานึกขำ
“ก็วันนี้วันเกิดผม คำขอมีผลทั้งวันครับ” อีกฝ่ายบอกเขา
.....
....
....
...
..
.
เขาจับมือที่หนาและสีผิวเข้มกว่าของตัวเองออกไปจากหน้าของตัวเอง และขยับลุกไปจากเตียง
เขาเดินไปเอาผ้าขนหนูที่ระเบียงและเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ...ท่ามกลางสายตาคู่หนึ่งซึ่งคอยจับจ้องเขาอยู่อย่างไม่วางตา
.....
....
....
...
..
.
เขามองหน้าที่แดงเรื่อของตัวเองในกระจก...กับรอยยิ้มนิดๆ...บนใบหน้า
.....
....
....
...
..
.
มีความสุข พึงพอใจ และเคลิ้มฝัน
แต่เขายั้งความเพ้อฝันนั้นไว้ ยกมือขึ้นมาถอดแว่นตากรอบหนาและถอดกางเกงของชุดนอนออกไปจากตัว...ใช้สายน้ำดึงความคิดตัวเองให้กลับมาสู่โลกในปัจจุบัน
.....
....
....
...
..
.
ไม่ปล่อยความคิดลอยฝันถลำลึกให้มากจนเกินไปไป...แม้ใจให้เขาไปหมดแล้วทั้งดวง
.....
....
....
...
..
.
เขาเช็ดตัวเสร็จ สวมกางเกงชุดนอนตัวเดิม และเดินออกมาจากห้องน้ำ “คุณจะอาบน้ำรึเปล่า?” เขาถามคนที่นอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง....กางเกงนอนของเขา แต่เสื้อนั้นไม่มีอยู่บนตัว...เหมือนกับเขา
“อาบครับ” อีกฝ่ายบอกเขาพลางลุกลงมาจากเตียง และฉวยเอาผ้าขนหนูที่เขาถือจะนำไปตากเข้าห้องน้ำไปด้วย
“ของคุณอยู่โน่น” เขาชี้ไปที่ผ้าขนหนูอีกผืนนอกระเบียง
“เซอร์วิสครับ ทำเหมือนอย่างตอนที่พี่ไม่อยู่ไง คิกคิกคิก” พูดจบอีกฝ่ายก็ปิดประตูห้องน้ำ..และล็อค
เขายกยิ้มที่มุมปาก
.....
....
....
...
..
.
ไม่ได้รังเกียจที่จะใช้สิ่งของร่วมกัน แต่ตลอดมาอีกฝ่ายจะเอาของของตัวเองขึ้นมาไว้ที่นี่ และแยกใช้ของใครของมัน...
วันนี้อีกฝ่ายมาแปลก...แต่เขาก็ยินดีกับการเซอร์วิส “หลังวันเกิด” จากอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
เขาสวมชุดวอร์มเสร็จก็เดินไปค้นหาเสื้อนอนสองตัวออกมาจากกองผ้าห่ม…ที่บนเตียง----เมื่อเจอพวกมันแล้ว เขาก็นำพวกมันไปหย่อนลงตะกร้าผ้า
.....
....
....
...
..
.
เขาเปิดหนังสือคู่มือทำขนมด้วยไมโครเวฟอ่านพลางรออีกฝ่ายอาบน้ำและแต่งตัว---ชุดเดิมของอีกฝ่ายที่ใส่ติดตัวมาก่อนที่จะเปลี่ยนมาใส่ชุดนอนของเขา
.....
....
....
...
..
.
“ป๊ะ! เสร็จแล้วครับ” อีกฝ่ายบอกเขา....
.....
....
....
...
..
.
เขาเปิดตู้หยิบรองเท้าผ้าใบอีกคู่ของตัวเองส่งให้อีกฝ่าย และหยิบคู่ประจำของตัวเองมาสวม
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่ยืนอยู่ในลิฟท์
“วันนี้คุณอยากไปไหนรึเปล่า?” คนที่สวมชุดวอร์มหันหน้าที่สวมแว่นตากรอบหน้าไปถามคนซึ่งยืนพิงผนังลิฟท์อยู่ข้างๆ กัน
“คิดว่าไม่ไปนะครับ วันนี้อยากอยู่กับพี่เฉยๆ” คนที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นบอกกับคนที่สวมชุดวอร์ม
“งั้น อยากกินเค้กไหม? แต่อร่อยรึเปล่าไม่รู้นะครับ” คนที่สวมชุดวอร์มบอกกับคนที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น
“กิน!” น้ำเสียงดีใจ
“ไปคิดเอาละกันนะครับว่าอยากกินแบบไหน เอาง่ายๆ นะครับ” คนที่สวมชุดวอร์มพูดพลางยกฮู๊ดขึ้นมาสวม
“คร๊าบ”คนที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นตอบด้วยเสียงยานคาง
.....
....
....
...
..
.
คนที่สวมชุดวอร์มวิ่งเหยาะๆ ออกไปจากลิฟท์
คนที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินเรื่อยเฉื่อยออกมาจากลิฟท์....ในหัวมีแต่ภาพของเค้กสีสันต่างๆ
.....
....
....
...
..
.
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ น่ารักทั้งคู่เลยยยย
-
มารอตอนต่อไปครับ
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
-
ไม่อยากยกธงขาวเลิกเชีบร์พ่อมึงให้กดหนูมะยมเลย
แต่สภาพการมันให้ซะขนาดนี้ คงต้องเป็นหนูภักดีซะแล้วล่ะมั้ง
-
ถึงจะนิสัยง้องแง้ง ไม่ค่อยทรีทคนรัก(คนนี้) แต่หนูมะยมก็ตัวหนากว่า ดำกว่า ทะลึ่งกว่านะจ๊ะ ฮุๆ
HBD คุณภักกับหนูมะยมจ้า^^
(http://pirun.ku.ac.th/~b5102181/cakeา.jpg)
-
ตอนเย็นมาถึง. คุณภัก : คิดได้รึยังครับว่าอยากกินเค้กแบบไหน... หนูมะยม. : อืมมมมมม. แบบไหนก็ได้ครับ. แต่ตอนกินผมขอกินบนตัวพี่นะ :z1: คุณBAO BAO. : :z6: :beat: :z6:
-
น่ารักจังคู่นี้ ขอให้เก็บเกี่ยวความสุขกันเยอะๆก่อนแยกจากน้า
แอบกังวลว่ามะยมตัดสินใจทำอะไรอยู่อยากรู้จัง
:กอด1:
-
เหมือนจะรออะไรบางอย่าง :m28: :m28:
-
อ่านทันแล้ว เย้ๆ เป็นเรื่องสั้นที่ให้อารมณ์หลายๆแบบ หวานบ้าง หน่วงบ้าง แต่โดยรวมแล้วน่ารักมากๆ
กว่าจะรู้ตัวพระเอก(หรือนายเอก)ก็เล่นซะมึนตึ้บไปหลายยกเหมือนกัน
แต่ตัวเราตัดเหลือสองคือหัวหน้ากะนายศร
เพราะความว่ารองเท้าหนังนี่ล่ะ
ส่วนน้องป๋องกะน้องกัสอยู่นอกลู่ไม่สามารถนำมาเปรียบได้ 555
แต่ไอ้จ๊อกกิ้งแมนก็หามาหลอกได้เนอะ ที่ไหนได้ก็คนเดียวกะพ่อ
ถ้าจบแบบแฮปี้ก็ขอเหมารวมว่าเป็นแนวหวานแล้วกันเนอะ ถึงตอนนี้จะเริ่มได้กลิ่นมาม่าโชยมาก็ตาม
-
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย
คุณBaoBaoแต่งสนุกทุกเรื่องเลยค่ะ
ตอนแรกนึกว่าคุณภักจะเป็นฝ่ายกดซะอีก555
แต่หลังจากตอนนี้เริ่มไม่ใช่ซะและ
รอตอนต่อไปค่ะ^^
-
โว๊ะ....อยาก กิน เค้ก!!!!!!
-
แอร๊ววววววววววว
อยากกินมะยม เอ๊ย เค๊กด้วยจัง
:z1:
-
ตามลุ้นขอรับ
-
มีความสุขคร่าาาาาาาา
ปิดหูปิดตา ปล่อยไปตามไม้สั้นไม้ยาวละกันค่า
T^T
อยากมีส่วนร่วมกับเค้กของสองคนนั้นบ้าง
พูดถึงเค้ก ท้องร้องเลยนะฮว๊าฟฟฟฟฟ
♥
-
โอย เจ็บปวดหัวใจ
เค้าหวานกันแต่เราจะร้องไห้
ทำม้ายยยยยย คุณภัก!!!!!!
ผิดหวังอีกละ :เฮ้อ:
เอาเป็นว่าจะพยายามไม่ยึดติดกับคำว่า รุก กับ รับ นะคะ
55555555555555
แต่เขาก็ยังอยากให้มะยมเป็นหนูมะยมอยู่ดี
55555555555555
(มันไม่เลิกๆ :laugh:)
-
วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม 2555
ไม่ลงนะคะ สู้แรงเน็ทชาวเมืองไม่ไหว ......
ด้วยรักจากถิ่นทุรกันดาน
ปล. :pig4: ทุกๆ แรงใจที่ส่งมาค่ะ
-
ค่าๆ
รอค่าา
-
แง้วววว~ เศร้าอ่ะ อดอ่าน
เมื่อไหร่กลับอ่ะตัว
-
โฮ๊ะ...ตอนนี้เซ็กซี่อ่ะ ทั้งคู่เลย ฮุฮุฮุ
จะรอดูเค้กที่คุณภักทำ รอดูมะยมกิน...เค้ก ด้วย อิอิอิ
:L2: :pig4: :L2:
-
คิกๆ รออย่างเต็มใจค่ะ
-
โอเค ครับ
-
.....
....
....
...
..
.
พนักงานเดินเอกสารเข็นรถเข็นมายังชั้นที่ 30 และเดินเลี้ยวเข้าไปยังฝ่ายต่างประเทศ... พนักงานเดินเอกสารหันซ้ายขวา...มองหาพนักงานสักคน---ไม่มีเลย
ทั้งแผนกมีแค่โต๊ะและเก้าอี้ว่างๆ...พนักงานเดินเอกสาร ถือเอกสารที่ต้องนำมาส่งไปวางที่โต๊ะของเลขาหัวหน้าแผนก
.....
....
....
...
..
.
สักพักหลังจากที่พนักงานเดินเอกสารเข็นรถเข็นออกไปจากแผนก ประตูของห้องหัวหน้าแผนกต่างประเทศ..เปิด
พนักงานที่มีทั้งหมดในแผนกต่างเดินพึมพำออกมาจากภายในห้องนั้น และต่างกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
ความเงียบเข้าครอบคลุมฝ่ายต่างประเทศอีกครั้ง
.....
....
....
...
..
.
จนกระทั่งเข็มนาฬิกาวนมายังเลข 6 เหล่าฟันเฟืองของบริษัทจึงเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว...
“อ๊ากกกกก....กลับบ้านเว้ย! กูไปห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวมา!” นายศรเลื่อนเม้าท์ไปที่ปุ่มปิดเครื่อง และผุดลุกออกไปทันทีหลังจากที่พูดจบ
ขณะที่นายมะยมกำลังรอเครื่องคอมพิวเตอร์ปิด เสียงข้อความเข้าดังขึ้น เขาก้มลงอ่านข้อความที่ส่งเข้ามา--------วันนี้กลับดึกหน่อยนะครับ
.....
....
....
...
..
.
เขาส่งข้อความกลับไปถาม----อยากทานอะไรครับ เดี๋ยวผมลงไปซื้อขึ้นมาให้
.....
....
....
...
..
.
นายศรเดินตัวปลิวเข้ามา...และตรวจดูความเรียบร้อยของโต๊ะทำงานตัวเอง สะพายกระเป๋าพลางยืนรอเพื่อนสนิท
สักพักเพื่อนก็ลุกจากเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน และพยักหน้าให้
.....
....
....
...
..
.
ชายหนุ่มสองเกลอเดินเข้าไปในลิฟท์...ไม่มีคนอื่นอยู่ภายในนั้นด้วย
“มึงจะกลับเลยรึเปล่า?” นายศรถาม
“พ่อกูบอกว่ากลับดึกว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อน
“อ้าว แล้วมึงจะเดินลงมาทำไมวะ?” นายศรถามหน้างง...ปกติหากกลับดึกเพื่อนของตัวเองจะนั่งรออยู่ในแผนกไม่เคยลงมานี่นา
“กูว่าจะไปซื้อข้าวขึ้นมาให้พ่อกูอ่ะ ไม่อยากให้เค้าจอดแวะกินตามทาง เสียเวลาพักผ่อนเปล่าๆ”
นายศรพยักหน้ารับรู้
.....
....
....
...
..
.
ลิฟท์เลื่อนลงมาถึงชั้น 1.... ผู้คนภายในลิฟท์ต่างทยอยเดินออกไปข้างนอก
นายศรเดินแยกจากเพื่อนตรงก่อนถึงหน้าประตูใหญ่ของตึก
นายมะยมยกมือถือขึ้นมาไล่รายชื่อและโทรออก
.....
....
....
...
..
.
“เออ มึงกลับยังวะ?” นายมะยมถามปลายสาย
.....
....
....
...
..
.
เพื่อนอีกคนยังไม่กลับ และไปนั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านหนึ่งไม่ไกลจากตึกที่เขาทำงานอยู่ เขาจึงเดินไปหาเพื่อนของเขา
.....
....
....
...
..
.
นายเดินเข้าไปในร้านก็เห็นเพื่อนของตัวเองนั่งหัวโด่อยู่ในนั้นทันที
“นั่งเหมาร้านเลยนะมึง” นายมะยมทักเพื่อนตัวเอง
“แหม ให้มันรู้ซะมั่งว่าเพื่อนมึงอ่ะใคร!” นายกันโอ่ตัวเอง
“อะไรอร่อยวะ?” นายมะยมพูดพลางพลิกเมนูของร้าน
“อ๋อ นี่ นี่ นี่ นี่ด้วย อันนี้ต้องปลาหมึกเท่านั้น นี่อีก นี่ แล้วก็นี่” นายกันจิ้มนิ้วไปที่จุดต่างๆ ของเมนู
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมนั่งคุยกับเพื่อนพลางรออาหารที่ตัวเองสั่งในกล่อง
.....
....
....
...
..
.
“มึงเคยคิดจะไปอยู่กับที่รักของมึงบ้างมั้ยวะ?” นายมะยมถามเพื่อน
นายกันตักข้าวเข้าปาก เคี้ยว เคี้ยว และกลืน ก่อนจะตอบว่า “คิดดิ!”
“แล้ว...ทำไมยังอยู่นี่วะ?” นายมะยมถามต่อ
“ก็...ไปไม่ได้ไง” นายกันตักข้าวคำใหม่เข้าปากและเคี้ยวอย่างเมามัน
นายมะยมขมวดคิ้ว “อะไรของมึง!”
นายกันกลืนข้าวเข้าปากและยิ้มเจ้าเล่ห์ “มึงนะนั่นแหละ อะไรของมึง!”
นายมะยมเตะเท้าเพื่อนที่ใต้โต๊ะ ก่อนจะเอ่ยปากว่า “พวกมึงน่ะ อะไรยังไง”
“เสือกเรื่องของชาวบ้านนะมึงน่ะ” นายกันโอ้เอ้แกล้งเพื่อน
.....
....
....
...
..
.
ติ๊ง! ประตูลิฟท์เปิด
นายมะยมหิ้วถุงข้าวกล่องสามกล่องเข้าไปในลิฟท์
.....
....
....
...
..
.
เมื่อออกมาจากลิฟท์ นายมะยมเดินเลยไปที่พื้นที่ส่วนรวมซึ่งถูกจัดให้เป็นห้องครัว
เขาเทอาหารกล่องสามกล่องลงไปในบนจานแต่ละใบ ก่อนเดินออกไปจากตรงนั้น เขาหนีบกล่องพลาสติกที่ตัวเองถือออกมาจากห้องพักติดตัวมาด้วย
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินก้าวเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวซึ่งหน้าห้องมีป้ายสีทองซึ่งเขียนด้วยอักษรสีดำว่า...หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศ
“พี่กินข้าวก่อนครับ” เขาวางจานสามใบที่ถือและเทินมาบนแขนลงที่โต๊ะทำงานตัวเดียวของในห้องน้ำ
มือที่ขาวกว่าของเขารีบยื่นมารับจานที่เหลือไปจากนายมะยม
“ค่อยๆ ถือมาก็ได้นี่ครับ วันหลังอย่าทำแบบนี้นะ อันตราย” นายภักดีขมวดคิ้ว
นายมะยมหยิบกล่องพลาสติกที่เอาจักกะแร้หนีบไว้มาวางบนกองเอกสารริมโต๊ะทำงานตัวนั้นก่อนจะถามอีกฝ่ายว่า “ล็อคประตูได้มั้ยครับ?”
“ครับ” นายภักดีตอบรับและจัดโต๊ะให้มีพื้นที่ว่างเพิ่มขึ้น
.....
....
....
...
..
.
“พี่ลองนี่ดิ ไอ้กันมันว่าอร่อยม๊าก!” นายมะยมยกเสียงสูงเลียนแบบเพื่อนตัวเอง
“หึหึหึ...” นายภักดียิ้มขำและเอื้อมมือไปตักปลาหมึกผัดผงกะหรี่จากจานของนายมะยมมาชิม
เมื่อนายภักดีพยักหน้า นายมะยมก็ยิ้ม และบอกให้ชิมอีกจานที่ถูกวางไว้ตรงกลาง
“อันนี้หวานไป” นายภักดีบอก และก้มหน้ากินจานของตัวเองต่อ
“ของพี่อร่อยมั้ยครับ?” นายมะยมถาม
“พอดีๆ นะครับ” นายภักดีตอบ
“ชิมบ้าง!” นายมะยมขอ
“เอาสิครับ” นายภักดีบอก....ไปแล้ว แต่นายมะยมกลับนิ่งต้องหน้าเขานิ่ง และยิ้มกริ่ม ไม่ยอมตักไปชิมสักที
นายภักดีเริ่มไม่แน่ใจ... แต่เขาก็ลอง-----ตักอาหารในจานของตัวเอง...เข้าปากตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
“ใจร้ายอ่า” นายมะยมแก้มป่องทันทีที่เขาเริ่มเคี้ยว
.....
....
....
...
..
.
นายภักดีกินข้าวในจานของตัวเองต่อไปท่ามกลางความเงียบสงัด
.....
....
....
...
..
.
ข้าวคำสุดท้ายที่เหลือในจานถูกตักขึ้นมาอยู่บนช้อน แล้วมือที่ขาวเรียวก็ยื่นช้อนไปใกล้ปากของคนที่นั่งกินข้าวอยู่ตรงข้ามกัน
.....
....
....
...
..
.
เป็นนานกว่าคนที่นั่งตรงข้ามจะงับข้าวคำนั้นเข้าไปในปาก
“คำสุดท้ายแฟนหล่อ!” คนที่กำลังเคี้ยวข้าวพูด
.....
....
....
...
..
.
“แล้วคนตรงนี้หล่อพอไหมครับ” นายภักดีถามด้วยความนึกขำ
“คนนี้ไม่ใช่....แค่ดูๆ กันอยู่” นายมะยมพูดทั้งที่ข้าวยังเต็มปาก
“แล้วเมื่อไหร่จะได้เป็นแฟนล่ะครับ?” นายภักดีมองจ้องตาของอีกฝ่าย
นายมะยมกลืนข้าวลงคอก่อนจะเอ่ยปากถามอีกคนว่า “พี่แน่ใจแล้วเหรอว่ารู้จักผมดีพอ?”
“ครับ” นายภักดีรับคำหนักแน่น
“แล้วพี่รู้มั้ยว่าผมจะตอบพี่ว่ายังไง?” นายมะยมย้อนถามอีกฝ่าย
“คุณจะตอบว่า ไม่อะไรทั้งนั้น คุณจะบอกให้ผมเป็นอิสระจากคุณ และคุณก็ด้วย” นายภักดีบอกอีกฝ่ายอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“พี่รู้แล้วพี่จะถามผมทำไม?” นายมะยมถามคืน
“เผื่อ....คุณเปลี่ยนใจ” นายภักดีบอกตามที่ใจตัวเองคิด
“ถึงพี่พูดอย่างนี้ ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าผมจะรอพี่ได้รึเปล่า? ถ้าพี่ยังอยู่ใกล้ๆ กันผมจะไม่ตอบคำนี้” นายมะยมบอกกับอีกฝ่าย...ด้วยความจริงใจ
“ผมห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ ผมก็ห้ามหัวใจคุณไม่ได้...แต่ผมจะรอครับ” นายภักดีตอบและยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองกับอีกฝ่าย
นายมะยมจ้องหน้าเขานิ่ง
นายภักดีเห็นอีกฝ่ายขบริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น เป็นนานกว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้ง.... “ทำงานเถอะครับ เดี๋ยวจะดึก…ผมไปล้างจานก่อน”
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมล้างจานพลางคิดถึงเรื่องราวที่เพื่อนเพิ่งเล่าให้เขาฟัง…
เส้นทางที่ไอ้กันกับคุณเชษฐ์เลือก…มันก็ดี
หรือแบบที่ไอ้ศรกับน้องกัสทำ…มันก็ดี
.....
....
....
...
..
.
แต่คนเราย่อมมีทางเดินของตัวเอง… นายมะยมรู้ตัวเองดีว่า ใจตนไม่หนักแน่นพอที่จะรอใครสักคนในระยะที่ไกลเกินเอื้อมมือคว้ากัน
.....
....
....
...
..
.
เขาแน่ใจว่าตัวเองรักผู้ชายคนนี้แล้ว และมั่นใจในความรักที่คนคนนี้มีให้กับเขา แต่เพราะเหตุนี้เขาจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเจ็บ “กับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ที่อาจเกิดขึ้นจากตัวเขาเอง
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมตัดสินใจนานแล้วว่าจะไม่เอา “ฐานะ” ใดมาผูกมัดทั้งตัวเองและคนคนนี้
.....
....
....
...
..
.
และตั้งใจไว้แล้วว่าจะถนอมเวลาที่เหลืออยู่นี้ไว้ให้ดีที่สุด
.....
....
....
...
..
.
แค่นั้น
:m26: บ้านไหนมะรุ มะใส่รหัสเน็ท ผู้เขียนแสนชั่วเลยจิ๊กมาลงซะเลย....เราทำเพื่อปวงชน
-
:pig4: :pig4:
-
5555
ดีจังทึ่เค้าไม่ใส่รหัส เราเลยได้อ่าน
สงสารคุณภัก มะยมใจร้ายที่สุด
-
:z13:
-
แต่ละคู่ย่อมมีทางเดินของความรักต่างกัน
มะยมเลือกแบบนี้ก็ดี เพราะคิดถึงคุณภักก่อนตัวเอง
ด้วยรู้ว่าถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไกลห่างภักดีจะเสียใจมากกว่าการปล่อยไป
แต่ไอ้เอกสารที่มีคนมาส่งนี่คืออะไร หวังว่าจะแจ้งว่าภักไม่ต้องไปนะ
ขอบคุณที่มาต่อค่ะ
-
หัวหน้าาาาาาาาาา
:z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
รักหัวหน้าที่ฉูดดดดดดดดดด ตอนนี้ทำให้หัวหน้าเราแมนขึ้นมาหน่อย
5555555
แต่ก็สงสาร......ไม่อยากให้จากกันเลย
:'(
ขอบคุณที่มาลงต่อให้ค่า เห็นตอนแรกบอกว่าจะไม่ลง
ฮิฮิ
ดีใจมากเลยค่า
-
รักมะยมต้องขมขื่นใจในบางครั้งนะคุณภัก
คุณภักเป็นคนหนักแน่นดูได้จากเฝ้ารักมะยมมาตั้งหลายปี
ในขณะที่มะยมตกหลุมรักได้ง่าย โดยเฉพาะเด็กๆ
-
มะยมจะโชคดีเกินไปล่ะ ชักจะหมั่นไส้
-
อิชชี่มะยมนะคะ ณ จุดนี้!!!
-
กลับมารายงานตัวแล้วค่า
นึกว่าจะจบไปเสียแล้ว ตอนนี้อ่านแล้วมันแน่นไปหมด หวานปนเศร้า ตามฟอร์มคุณ Bao Bao เขาเลยละ :z10:
หนูมะยมจ๋า ทำไมลูก หัวใจหนูเป็นไม้เลื้อยเหรอคะ ต้องหาหลักพันตลอดเวลา พยายามสร้างหัวใจของเราให้เป็นไม้ยืนต้นดีกว่าไหมจ๊ะ
มีรากแก้วของตัวเอง จะได้ช่วยกันปลูกต้นรักกับพ่อมึงไง
คนเราถ้ารักกันได้ตอนอยู่ใกล้กันเท่านั้น มันแปลกๆอะ
ปากบอกว่าไม่ใช้คำว่าแฟน แต่การกระทำโคตรใช่ ไม่รู้ว่าจะเลี่ยงไปทำม้าย
-
มิมีอะไรจะเซด
นอกจาก
:monkeysad:
-
พูดอะไรไม่ออก แต่จะเป็นกำลังใจ :L2:
ให้ทั้งคุณภักและนายมะยม (รวมทั้งคนเขียน)
ให้อดทนสู้ผ่าน วันเวลาเหล่านี้ไปให้ได้ :กอด1:
:L2: :pig4: :L2:
-
บ้านไหนมะรุ มะใส่รหัสเน็ท
เขาใจกว้างน่ะ เผื่อแผ่เพื่อนบ้าน อิอิ ด้วยอานิสงข์นี้ก็ขอให้เขารวยๆละกัน
ตอนนี้ ยังคงดูๆกันไป ยังไม่สุขเต็มสตรีม
แต่ได้กินข้าวด้วยกันงี้ก็สุขอยู่เนอะ
-
ตอนนี้อ่านแล้ววูบ ๆ โหวง ๆ ในใจ
ทำไมล่ะมะยม
รักได้เฉพาะตอนเห็นหน้าแล้วอยู่ด้วยกันเหรอ
ถ้าไกลกันแล้วใจจะเปลี่ยน..
นั่นมันใช่รักแน่หรือ
หรือว่าเป็นแค่ความหวั่นไหว
สงสารพ่อมึง :m15:
-
.....
....
....
...
..
.
อาทิตย์สุดท้ายในประเทศไทย
วันเสาร์นายภักดีเอาของชิ้นใหญ่ภายในห้องไปไว้ที่บ้านของพี่ชายจนหมดแล้ว…และช่วงบ่ายของวันอาทิตย์นั้น เขาจึงเอารถไปขายที่เต้นท์รถตามที่เคยคุยกันไว้ก่อนหน้า
เขากับนายมะยมนั่งรถแท๊กซี่กลับมาที่หอพัก และเข้าไปลุยเก็บแยกของที่เหลือในห้องของเขากันต่อ
.....
....
....
...
..
.
“คุณจะเอาอะไรก็หยิบไปเลยนะครับ” เขาพูดพลางเลือกเสื้อผ้าเป็นสองกอง หนึ่งเพื่อแพ็คใส่กล่องรอพี่ชายของเขามารับไป และอีกหนึ่งเพื่อเอาติดตัวไปที่ปักกิ่งด้วย
นายมะยมที่กำลังหน้าเครียด นั่งคุกเข่ากับพื้นห้องตั้งหน้าตั้งตาเอาของที่เขากองไว้จัดใส่กล่องพลาสติกให้ได้ทั้งกองบอกลอยๆ “ผมได้มาตั้งนานแล้ว!”
นายภักดีหันหน้ามามองหลังของนายมะยม “ได้อะไรครับ? ไม่เห็นคุณเอาอะไรไปสักอย่าง”
“ก็ตำลึงที่ห้องผมไง” นายมะยมหันหน้ามาฉีกยิ้มกว้าง…ให้เขา
เขาวางกางเกงที่อยู่ในมือ “โลภหน่อยสิครับ” สายตายังคงจับจ้องแผ่นหลังนั้นไว้
“เป็นคนพอเพียงครับ หลวงพ่อสอนไว้” นายมะยมยังคงเอานั่นใส่เอานี่ออกมา จับๆ เรียงๆ…ไม่ยอมหยุด
เขาเดินไปหานายมะยม นั่งหันหลังพิงหลังของนายมะยม…นิ่งและเงียบ
“อู้นะ! ของยังเหลืออีกตั้งเยอะ ไป ไป” นายมะยมโยกตัวไปมา
“เหนื่อย…..ขอพักหน่อยนะครับ” เขาบอก
.....
....
....
...
..
.
แผ่นหลังที่แนบกันเคลื่อยออกไป
.....
....
....
...
..
.
แผ่นหลังของเขาสัมผัสได้ถึงความอุ่นและ...แรงเต้นของหัวใจ
เขาเอนหลังพิง... คนที่นั่งซ้อนหลังเขายื่นหน้ามาเกยคางกับไหล่ด้านซ้ายของเขา
มือที่สีผิวเข้มกว่าของเขาดึงแว่นตากรอบหนาออกไปจากใบหน้าเขา
เขาหันหน้าไปทางซ้ายเพื่อมองใบหน้าของนายมะยม
.....
....
....
...
..
.
เขาสบสายตากับอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
เขาหลับตารับจูบจากอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
เมื่อมีจูบแรก ก็ต้องมีจูบ…ต่อๆ ไป
.....
....
....
...
..
.
หลายวันมานี้คนคนนี้อยากจูบเขาเมื่อไหร่….ก็ทำ----โดยที่เขาเองก็ไม่เคยปฏิเสธอีกฝ่าย
การสัมผัสกันในฐานะคนพิเศษแน่นอนว่าเขาปรารถนามันเช่นกัน…หากอะไร “ไม่มากเกิน” เขาก็ยอมตามใจคนคนนี้ได้…ทุกอย่าง
สิ่งที่เขาต้องการจากผู้ชายคนนี้คือ “หัวใจ”… เขาปรารถนาแค่ให้คนคนนี้หยุดหัวใจไว้กับเขา
.....
....
....
...
..
.
นับแต่เย็นวันนั้น…วันที่อีกฝ่ายบอกเขาว่า ถึงเขาจะไปปักกิ่งนานแค่ไหน… เราจะเป็นแค่คนที่ดูใจกันไปก่อน----เท่านั้น
ยอมรับเลยว่าเขาเสียใจมาก แต่เมื่อได้มองดวงตาที่หวั่นนิดๆ ของอีกฝ่ายแล้ว…เขาตัดสินใจแทบจะในทันทีว่าจะไม่คาดคั้นเอาอะไรกับคนคนนี้อีก และจะไม่บีบให้อีกฝ่าย “ยอมรับ” เขาด้วย
เขารู้ดีว่าคนคนนี้นิสัยยังไง… หากไม่เพราะคนคนนี้ชอบเด็กหน้าใส และต้องการการดูแลเทคแคร์อยู่ไม่ขาด เขาคงเข้าไปจีบคนคนนี้นานแล้ว
ถึงตอนที่อีกฝ่ายจับได้ว่าเขา “แอบมอง” อยู่… เขากังวลและลังเลแทบตายว่าจะสารภาพกับคนคนนี้ดีไหม
.....
....
....
...
..
.
เพราะทนเก็บกดมานานปี ใจมันร่ำร้องอยากบอกคนคนนี้…เช้าวันนั้นเขาจึงไปสารภาพความในใจกับอีกฝ่าย
ซึ่งก็โชคดีมากที่อีกฝ่ายรับเขาไป “พิจารณา”….
.....
....
....
...
..
.
ตลอดมาเขาพยายามที่จะเป็น “ผู้ชายที่ดี” สำหรับนายมะยม
เขาอายุมากกว่า เขาหน้าไม่ใส เขาอ้อนไม่เป็น เขาพูดไม่เก่ง เขาเป็นคนจริงจัง เขาหน้าดุ… ไม่ใช่อะไรสักอย่างในสเปคของคนคนนี้....
“คนที่ดูใจกันอยู่” ฟังดูเป็นตำแหน่งที่เลื่อนลอย แต่เขาพอใจกับการกระทำที่คนคนนี้แสดงออกมาให้เขาเห็นและรับรู้
.....
....
....
...
..
.
ถึงต้องห่างกันไกล
ถึงต้องอยู่กับความคิดถึงกันนานปี…และไม่รู้ว่ามันจะยาวนานไปอีกกี่ปี
ถึงต้องรอคอย “วันข้างหน้า” ที่ราวกับความฝันเพียงฝ่ายเดียว----เขาก็ยอม
.....
....
....
...
..
.
เขาจะทำวันนี้…ให้ดีที่สุด
เขาจะทุ่มเทความรักกับคนคนนี้….ไว้ให้ได้มากที่สุด
และเขาจะทำทุกอย่างให้คนคนนี้….ไม่ลืมเขา
.....
....
....
...
..
.
-
:monkeysad: :เฮ้อ:
ไม่อยากให้ห่างกันเลย >.<
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
โธ่่่ๆๆพ่อมึง
:o12:
-
ตอบ "มันจะจบแบบหวานฟุ้ง แก้มปริ ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม!!!". :m16: :m31: :fire: :angry2: :serius2: :beat: :z6: :a5: o22 :m8: :เฮ้อ: :really2: :z3: ณ. จุด. จุด. นี้. :seng2ped:
-
:o12:
-
และเขาจะทำทุกอย่างให้คนคนนี้….ไม่ลืมเขา
เอ๊ะๆๆๆๆ คุณภักจาทำอาราย :z1:
-
โอ๊ย..........สงสารพ่อมึง มะยมจั๊ดง๊าว เจอคนดีๆขนาดนี้ยัง ยัง ยัง แอร๊ยยยย :m31:
-
ซูฮกพ่อมึงจริงๆ ทุ่มเทให้นายมะยมมาก
-
ไอ้พัสดุ หรือเอกสาร หรืออะไรสักอย่างที่เด็กส่งเอกสารมาส่งไว้ที่หน้าโต๊ะของน้องพันช์นั่นคืออะไรคะ?
มันยังไม่เฉลยในตอนล่าสุด ไม่ใช่ว่าเป็นเอกสารที่สำคัญมากๆ นะคะ....แอร้ยยยยยย
-
.....
....
....
...
..
.
นายภักดีมองกล่องพลาสติกที่เทินและวางไว้ทั่วห้องแล้วรู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่…เขาชอบความเป็นระเบียบ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่ออีกเจ็ดวันเขาก็ต้องคืนห้องนี้และเดินทางออกไปจากแผ่นดินเกิด
ในระหว่างเจ็ดวันนี้ เขาคงทำใจนอนที่ห้องตัวเองไม่ลง
นายภักดีถอนหายใจแล้วเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มแพรที่พับไว้ปลายเตียง….ออกไปจากห้อง
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินกอดหมอนกับผ้าแพรขึ้นบันไดไปยังชั้น 6
.....
....
....
...
..
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก…. เขาเคาะประตูและยืนรออยู่อย่างนั้นจนบานประตูเปิดกว้าง
นายป๋องโผล่หน้ามาจากหลังประตู และกล่าวทักทายเขา “ขอรบกวนหน่อยนะครับคุณภัก แหะแหะแหะ” หัวเราะหน้าปุเลี่ยน
“อ่อ! ตามสบายครับ” บอกกับนายป๋อง และยั้งเท้าไว้ตรงหน้าประตูห้อง ไม่แน่ใจว่าจะเข้าไปข้างในห้องนั้นดีหรือไม่ดี…
เมื่อสบสายตากับเจ้าของห้อง คนคนนั้นจึงเดินตรงมาหาเขา...มือที่มีสีผิวเข้มกว่ายื่นมาเอาหมอนกับผ้าแพรไปจากอ้อมกอดของเขา
“ป๋องมายืมแผ่นหนังน่ะครับ” นายมะยมกระซิบกระซาบบอกพร้อมทั้งจับข้อมือเขา...และดึงเข้าไปในห้อง
.....
....
....
...
..
.
เขานั่งที่ปลายเตียงสายตามองจ้องทีวีบ้าง มองเจ้าของห้องกับแขกที่มาเยือนบ้าง…สลับกันไป
บทสนทนาของสองคนนั้น ไม่เหมาะกับเด็กอย่างสิ้นเชิง…
.....
....
....
...
..
.
“ไปก่อนนะครับคุณภัก ขอโทษที่รบกวนเวลาส่วนตัวนะครับ” นายป๋องฉีกยิ้มน่ารักให้เขา และหันไปลาเจ้าของห้องอีกครั้ง “ไปนะครับพี่มะยม เดือนหน้ามีของใหม่บอกน้องมั่งน๊า”
“เดือนหน้าคงเป็นแผ่นจีนว่ะ” นายมะยมบอกนายป๋อง
“เหรอ! จะเจ๋งกว่าญี่ปุ่นมั้ยพี่?” นายป๋องตาแวววาว
“เสี่ยงดวงว่ะ แผ่นจากจีนนี่ต้องให้คุณภักเค้าสกรีนแล้วส่งมาให้ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมหัวเราะร่า
“อ้าว----- คุณภัก เป็นพลพรรคเดียวกันก็ไม่บอก” นายป๋องหันไปหานายภักดี
นายภักดีนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนจะตอบนายป๋องอย่างสุภาพ “ผมไม่นิยมแบบคุณมะยมเค้าหรอกครับ” เขาหันหน้าไปจ้องตาเขม็งกับเจ้าของห้อง
.....
....
....
...
..
.
เจ้าของห้องไม่สะดุ้งสะเทือนแถมยังหัวเราะอีก!
.....
....
....
...
..
.
ระหว่างที่นายมะยมคุยจุ๊กจิ๊กกับแขกอยู่หน้าประตูห้อง เขาก็เริ่มเตรียมตัวนอน…
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เขานั่งพิงหมอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง นายมะยมที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็เดินมาทุ่มตัวลงบนที่นอน…อย่างแรง
“เบาๆ หน่อยครับ เกรงใจคนที่ห้องอยู่ข้างล่างบ้างสิครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
นายมะยมฉวยมือของเขาไปเล่น พร้อมทั้งหนุนหัวกับหน้าท้องของเขาอย่างสบายอารมณ์ “ก็คนห้องข้างล่างอยู่นี่แล้วไง พี่จะให้เกรงใจใครที่ไหนอีกล่ะครับ?”
เขาจ้องตากับนายมะยมอีกครั้ง…แล้วก็ตัดใจ กลับมาอ่านหนังสือต่อ ท่ามกลางเสียงหัวเราะในลำคอแบบ----ผู้ชนะ
.....
....
....
...
..
.
พอเขาวางหนังสือและถอดแว่นตาออกไปวางบนหัวเตียง นายมะยมก็ลุกขึ้นไปปิดไฟ…แต่ไม่ปิดทีวี
เขาสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มนวม ขณะที่นายมะยมรอจังหวะ...เอนหลังเอาหัวมาหนุนที่หน้าท้องของเขาต่อ
เขานอนฟังเสียงรายการโชว์ไปได้แป๊บเดียวก็นึกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยปากบอกอีกฝ่าย “เอ้อ ตั้งวันนี้ไปผมขอมานอนห้องคุณนะ ผมเห็นกล่องในห้องแล้วมันไม่คุ้นตายังไงพิกล...”
“ไม่อนุญาติ!” เจ้าของห้องบอกแต่ยังเล่นนิ้วของเขาไม่ยอมปล่อย
เขาระบายลมหายใจยาว “ไม่มีเตาไมโครเวฟแล้วนะครับ ทำขนมเซ่นให้ไม่ได้แล้วนะ”
“นั่นไง! ขนมก็ไม่ทำให้แล้ว แล้วยังมานอนห้องผมอีก!” เจ้าของห้องบ่นพึม
.....
....
....
...
..
.
เจ้าหัวลูกเจี๊ยบ!
.....
....
....
...
..
.
“แล้วอยากได้อะไรล่ะครับ” เสียงระเหี่ยใจ......เขาง่วงมาก เล่นกับเจ้าหัวลูกเจี๊ยบไม่ไหวแล้ว
“อยากได้คนกินข้าวเช้าด้วยกัน นั่งรถไฟใต้ดินไปทำงานด้วยกัน นั่งรถไฟใต้ดินกลับมาห้องนี้ด้วยกัน ทำได้มั้ยล่ะครับ?” เจ้าของห้องบอกค่าตอบแทนที่เขาต้องจ่ายหากเขาขอนอนที่ห้องนี้นับแต่นี้ไป
“หึหึหึ” เขาอดขำไม่ได้
.....
....
....
...
..
.
เสียงทีวีเงียบลงแล้ว เจ้าของห้องเริ่มเลื้อยมาหาเขา และรวบเอาตัวเขาไปกอดแทนหมอนข้าง
พอเขาหลับตา….มือของเขาก็เลื่อนขึ้นไปเกี่ยวคอเสื้อยืดของเจ้าของห้องนี้โดยอัตโนมัติ... ขณะที่เขาจะตกสู่ห้วงนิทรา เขาส่งเสียงงึมงัมบอกอีกฝ่าย “ผมไม่กล้าไปซื้อไอ้แบบนั้นคนเดียวหรอกนะคุณ”
“ผมรู้น่า...” เสียงที่ตอบเขาดังอยู่บนหัวของเขา มันหยุดไปสักพักก็ยั่วต่อมโมโหเขาขึ้นมาอีก “อย่างพี่น่ะ ดูแต่ออนไลน์ คิกคิกคิก”
.....
....
....
...
..
.
“อุ๊ก!...อูยยยยยยย-------” ได้ยินเสียงจุกเจ็บจากเจ้าของห้องสักที นายภักดีถึงหลับได้อย่างสบายใจ
.....
....
....
...
..
.
-
:z3: :z3: :z3: :z3: ตะกุย F5 อย่างเร่งด่วน อิอิ
-
.....
....
....
...
..
.
นายภักดีถอดชุดวอร์มที่ชุ่มเหงื่อลงตะกร้าก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ
.....
....
....
...
..
.
เขาเช็ดผมกับผ้าหนูผืนเล็กเสร็จ…ผมยังหมาดๆ ไม่แห้งดีนัก ปกติเขาจะเอาที่เป่ามาเป่ามันให้แห้งในทันที ทุกอย่างในยามเช้าของเขาเร่งเรีบเพราะปกติเขาต้องขับรถไปทำงาน
แต่วันนี้และอีกห้าวันหลังจากนี้…มันจะเปลี่ยนไปจากปกติ
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินไปเด็ดใบตำลึงที่ระเบียงมาใส่ถุงที่นายมะยมเลือกมาให้…เค้าบอกให้ใส่มาจนเต็มถุงนี้ นายภักดีเด็ดไปพลางก็นึกไปพลางว่า-----มันจะไม่เยอะไปเหรอ
.....
....
....
...
..
.
แต่งตัวเสร็จแต่ยังไม่เซ็ตทรงผม หยิบแว่ตากรอบหนามาใส่ แล้วนายภักดีก็รีบเดินขึ้นไปยังชั้น 6 ก่อน
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินเข้าไปในห้องของนายมะยมโดยไม่เคาะประตู เพราะมันเปิดค้างอยู่ไว้แล้ว… เขาเดินเอาถุงตำลึงที่ล้างไว้แล้วไปให้เจ้าของห้อง
.....
....
....
...
..
.
เขานั่งกินต้มเลือดหมูกับเจ้าของห้องนั้นจนหมด…อันที่จริงก็ไม่หมดหรอก แต่เจ้าของห้องเขาช่วยแบ่งไปกินให้
เขาเคยกินแต่กาแฟกับขนมปังนิดหน่อย…แทนมื้อเช้า จู่ๆ จะให้กินข้าวชามหนึ่ง ถึงอีกฝ่ายว่าแค่นี้น้อยแล้ว แต่มันก็เยอะไปสำหรับท้องของเขา
.....
....
....
...
..
.
เจ้าของห้องล้างจานชาม เขาก็เดินลงไปที่ห้องของตัวเอง----ชั้น 5
ทำผมให้เป็นทรง ใส่คอนแทคเลนส์ สำรวจของใช้ในกระเป๋าหนัง….เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ปิดล็อคห้องของตัวเองและเดินขึ้นไปหานายมะยมที่ชั้น 6
.....
....
....
...
..
.
เขาเคาะประตูสามครั้ง ชั่วอึดใจ คนที่อยู่ในห้องก็เปิดประตู เขารู้สึกได้ถึงไอเย็นจากในห้อง… เขารีบถอยหนีออกมาจากช่องประตู---- อากาศภายนอกอ้าวนิดๆ หากเขาต้องเดินตามทางไปขึ้นและลงรถไฟใต้ดิน เขาอยากพยายามเลี่ยงความเย็นของเครื่องปรับอากาศ…เพื่อไม่ให้ร่างกายสับสนกับอุณหภูมิ
.....
....
....
...
..
.
พวกเขาเดินมาถึงหน้าประตูของตึกหอพัก
แดดยามเช้าเริ่มส่องแยงตา…นายภักดียกมืออีกข้างที่ว่างมาบังแดดให้กับตาตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
พอเขาจะก้าวขาลงบันไดของตึก ร่มเงาหนึ่งทอดมาคลุมตัวเขาไว้
นายภักดีหันไปทางขวามือของตัวเอง… เขาเห็นนายมะยมส่งยิ้มให้พร้อมมือขวาซึ่งถือร่มคันหนึ่งที่กางไว้แล้วเป็นที่เรียบร้อย
“แดดมันร้อนอ่ะ เดินไปสิครับ” นายมะยมบอกเขา
.....
....
....
...
..
.
แปดโมงเช้าของวันที่สดใส…
ชายหนุ่มสองคนที่ท่าทางเหมือนพนักงานออฟฟิศเดินอยู่ภายใต้ร่มคันเดียวกัน…ตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินซึ่งอยู่ใกล้ๆ
ผู้คนที่ตื่นเช้าในแถบนั้นจะได้เห็นภาพนี้อีกแค่ห้าวัน….
.....
....
....
...
..
.
-
ลุ้นๆ
หน่วงๆ ไงไม่รุ้ อยากให้มีความสุขเร็ว ๆ เรื่องหน้าที่การงานมันบังคับจริง ๆ
-
เอาใจช่วยทั้งคู่
-
5วัน. Ohhhh. Nooooooo :o12: :o12: :o12:
-
.....
....
....
...
..
.
กระดานสนทนาหนึ่งเด้งขึ้นมา…นายมะยมกดดูว่าใครจะพูดอะไรกับเขา
ต้นไม้: พ่อมึงไปวันไหนวะ?
นิยม: วันเสาร์เช้า
ต้นไม้: พวกกูเลี้ยงส่งมะ พ่อมึงสะดวกใจป๊ะ?
นิยม: ไม่รู้ว่ะ แต่เห็นพ่อกูบอกว่ามีของต้องเก็บอีก พรุ่งนี้แล้วนะมึง
ทำไมไม่เลี้ยงตั้งกะสองสามวันก่อนวะ?
ต้นไม้: ก็กูเพิ่งส่งงานเสร็จว่ะ 555555+
นิยม: ถุย!
ต้นไม้: ไว้เย็นนี้กูแวะไปหาพ่อมึงที่หอก็ได้ เดี๋ยวเอาของไปให้
นิยม: มึงหวังอะไร!!!
ต้นไม้: คิกคิกคิก…
ต้นไม้: ออกจากห้องสนทนา
.....
....
....
...
..
.
“เฮ้อ----------------” นายมะยมถอนหายใจยาวเหยียดและแผ่หราบนเตียง…ด้วยความเหนื่อยไปแล้วหนึ่ง
เสียงกุกกักยังดังให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ… เขายังคงแยกโน่นนี่และตรวจเช็คอีกสักพักก่อนจะร้องบอกคนที่นอนมองตามเขาตาแป๋วอยู่บนเตียงของเขาว่า “ต้นตำลึงครับ ไปจัดการซะ”
คนที่นอนอยู่บนเตียงผุดลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉงแล้วเดินถือกรรไกรไปที่ระเบียงห้อง
นายภักดีได้โอกาสไปถกผ้าปูที่นอนออกมาและพับมันลงตะกร้าผ้าซึ่งถูกจัดไว้ใกล้ประตูห้องน้ำ
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินถือตะกร้าลงลิฟท์ไปพร้อมอีกคนที่อุ้มกระถางตำลึงวึ่งตอนนี้หดสั้นเหลือแค่ใบไม่กี่ใบ…และแยกกันไปคนละทาง
.....
....
....
...
..
.
“น้าครับ” นายภักดีเรียกเจ้าของร้านซักผ้า
“จ้า คุณภักไปพรุ่งนี้ใช่มั้ย?” น้าเจ้าของร้านถาม
“ครับ” นายภักดีบอก
“งั้นซักเสร็จแล้วน้าฝากเอาไปหนูมะยมไว้ละกันเนอะ” น้าเจ้าของร้านบอกด้วยเสียงรื่นเริง
นายภักดียิ้มกริ่ม…กับทุกครั้งที่ได้ยินคุณน้าคนนี้เรียกนายมะยมของเขา “ครับ รบกวนด้วยนะครับ”
“จ้า คุณภักก็เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ กลับมาเร็วๆ นะ” น้าเจ้าของร้านอวยพร
.....
....
....
...
..
.
นายภักดีเดินออกมาจากร้านด้วยใบหน้าอมยิ้ม… เขาเดินเรียบไปกับตึก ตรงไปยังลานจอดมอเตอร์ไซด์ที่อยู่ด้านหน้าของตึก
เขาเดินตรงไปหาคนที่นั่งกอดอกคุยโทรศัพท์อยู่บนรถจักรยาน
.....
....
....
...
..
.
“มาแล้ว เดี๋ยวถึงนะมึง แค่นี้ก่อน” นายมะยมบอกกับปลายสายก่อนที่จะเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
“บอกทางนั้นเค้ารึยังครับ?” เขาถามอีกฝ่ายเพื่อนเตือน
“เรียบร้อยครับ!” นายมะยมพูดจบก็ขึ้นคร่อมเบาะรถจักรยานและตั้งท่าเตรียม…เดินทาง
เขาอุ้มกระถางต้นตำลึงขึ้นมาและนั่งซ้อนหลัง “ขี่ดีๆ นะคุณ”
.....
....
....
...
..
.
รถจักรยานที่อักษรย่อต่างกับรถยนต์ของเขาแค่อักษรหลังตัวเดียว w-----x.....พุ่งออกไปอย่างแรงโดยที่เขานึกไม่ถึง
เขาผวากอดเอวคนปั่น...หลับตาปี๋ พร้อมฟังเสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากคนปั่น-----โดยไม่สามารถทำอะไรเค้าได้----ไปตลอดทาง
.....
....
....
...
..
.
เมื่อถึงบ้านนายศร
ทันทีที่เสียงเบรคของจักรยานดังขึ้น เด็กผู้ชายตัวเล็กคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามากอดนายมะยม “คิดถึงจังเลย คิดถึงจังเลย”
“กัส มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!” นายมะยมกอดตอบด้วยความดีใจ
เขามองสองคนนั้นนิ่ง...ด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก จะว่าไม่หึงไม่อิจฉาเลยก็ใช่ที่-----แต่ภาพตรงหน้าที่เขาเห็นมันก็ดูน่ารักดี
แต่เขาไม่ต้องเข้าไปแยกสองคนนั้น คนคนหนึ่งก็ทำหน้าที่ของเขา.... “กัส ออกมาเลย! มึงปล่อยเดี๋ยวนี้ เหี้ย! เผลอเป็นไม่ได้!”
.....
....
....
...
..
.
“พี่ นั่นน้องกัส แฟนไอ้ศรครับ” นายมะยมชี้นิ้วไปที่เด็กผู้ชายซึ่งโดนนายศรลากเข้าไปในบ้าน
“คนที่ร้านหนังสือ” เขารู้สึกว่า...น่าจะใช่
“จำได้ด้วย!” นายมะยมเติมความมั่นใจให้เขา
“หึหึหึ เรื่องของคุณผมจำได้หมดละครับ” เขาย้ำให้อีกฝ่ายรู้...บ้าง
นายมะยมยิ้มมากกว่าเก่า และฉวยเอากระถางต้นตำลึงไปจากมือเขา พร้อมทั้งจับข้อมือเขาไปยังแปลงผักเล็กๆ ภายในรั้วบ้านของนายศร
.....
....
....
...
..
.
คืนนั้น เพื่อนๆ ของนายมะยมมารวมตัวกันกินข้าวที่บ้านนายศร ทั้งเลี้ยงต้อนรับน้องกัสที่เพิ่งกลับมาและเลี้ยงส่งเขาที่กำลังจะต้องไป
แรกๆ ก็เกร็งกันบ้าง แต่พอเหล้าเข้าปาก เพื่อนๆ นายมะยมก็ลืม-----มารยาท
เขาจึงกลายเป็นคนรุ่นเดียวกับพวกเค้าไปโดยปริยาย....คืนนั้นเขาจึงได้รู้เรื่องของนายมะยมเยอะมาก
.....
....
....
...
..
.
ก่อนกลับ คนที่ชื่อต้นไม้เอากล่องกระดาษอันหนึ่งให้เขา บอกว่าเป็นของขวัญสำหรับคนที่ต้องเดินทางไกล
เขารับมันมาแต่ยังไม่ได้เปิดมันเพราะคนที่ให้กำชับว่าเขาจะสามารถเปิดมันได้ก็ตั้งแต่ขึ้นเครื่องไปแล้วเท่านั้น
เขารับปากทั้งใบหน้าอมยิ้ม------เพื่อนกลุ่มนี้เค้าเหมือนไม่ค่อยโตกันเท่าไหร่
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมกดปุ่มเลข 6
เขายื่นมือไปกดปุ่มเลข 5
“อ้าว!” นายมะยมท้วง
“ผมจะเอาของไปเก็บก่อนเฉยๆ” เขาบอกอีกฝ่าย
“ไปด้วย!” นายมะยมร้องบอกและเล่าเรื่องของเพื่อนที่ชื่อกันกับนายเชษฐ์ให้เขาฟังต่อ
.....
....
....
...
..
.
เขาเอาของที่ได้มาจากนายต้นไม้ใส่เข้าไปในกระเป๋าสะพาย…
ของที่จัดไว้มีแค่สองกองใหญ่กับเล็ก กลองเล็กมีแค่กระเป๋าสะพายหนึ่งใบกับกระเป๋าเดินทางใบโต และชุดสำหรับใส่วันพรุ่งนี้
นอกนั้น แม่น้องหนูจะมาขนไปไว้ที่บ้านให้ทีหลัง….เรื่องคืนห้อง เขาฝากนายมะยมไว้แล้ว และแจ้งกับทางหอพักล่วงหน้าแล้วด้วย
.....
....
....
...
..
.
“ผมอาบน้ำก่อนนะ จะได้ขึ้นไปทีเดียว” เขาหันไปบอกอีกฝ่าย…. นายมะยมพยักหน้า
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินคาดผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ หยุดยืนอยู่บนพรมหน้าประตูห้องน้ำ….ผมเขายังคงเปียก เขาจึงเอาผ้าขนหนูผืนเล็กยีเส้นผมบนหัวตัวเอง…เพื่อซับน้ำออกมาก่อน
“พี่”
เสียงหนึ่งเรียกเขา เขาเงยหน้าและหันไปหาคนที่เรียกเขา
“ผมเดินไปหาพี่...ได้มั้ยครับ?”
คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงถามเขา
.....
....
....
...
..
.
-
.....
....
....
...
..
.
นายภักดีรู้สึกว่านายมะยมถามพิกล…ปกติจะทำอะไรก็ทำไม่เคยถามกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
.....
....
....
...
..
.
ระหว่างที่เขายืนนิ่ง…ประเมินสถานการณ์หน้ามันก็พยักหงึกๆ ไปเองโดยที่เขายังไม่ได้สั่ง!
.....
....
....
...
..
.
ยังไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากอะไร นายมะยมก็เดินมาจนถึงตัวเขาแล้ว
.....
....
....
...
..
.
แขนของอีกฝ่ายโอบรอบเอวของเขาและเหนี่ยวตัวเขาเข้าไปหา…. เขาหลับตารับจูบจากอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่เต้นถี่กว่าปกติ-----เพราะบางอย่างของอีกฝ่ายผิดไปจากปกติ!
.....
....
....
...
..
.
กลิ่นแอลกกอฮอร์ฉุนกึกจมูกของเขา… ลิ้นของเขาที่เกี่ยวกระหวัดกับอีกฝ่ายเริ่มอ่อนแรง
ขาของเขาเริ่มยืนไม่อยู่ เขาจึงใช้แขนทั้งคู่กอดคอของอีกฝ่ายไว้แน่น…เพื่อพยุงตัว
.....
....
....
...
..
.
เมื่อในหัวของเขาเริ่มขาวโพลน ตัวเขาเหมือนลอยขึ้น… กว่าเขารู้ว่าตัวเองถูกกอีกฝ่ายอุ้มลอยมาวางบนที่นอนก็เมื่อหลังของตัวเองสัมผัสกับความเย็นของผ้ายาง…จากฟูก
.....
....
....
...
..
.
ปากที่ครอบครองปากของเขาจนเปียกชื้น…ถอนออก
เขามองตามันด้วยความเสียดาย
.....
....
....
...
..
.
เสียงหอบหายใจดึงความสนใจของเขาให้เลื่อนสายตาไปมอง…ดวงตาของอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
“ความอยาก” สะท้อนอยู่ในแววตาของคนคนนั้น
.....
....
....
...
..
.
เมื่อฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบไล้ช่วงหน้าอกของเขา เขาหลับตาและกัดริมฝีปากตัวเองแน่น…แทบจะในทันที
ไฟของเขาเริ่มถูกอีกฝ่าย…จุดติด
ทว่า ความคิดของเขายังคง…ลังเล
.....
....
....
...
..
.
หากอีกฝ่าย “ขอ” เขาจะ “ให้” ได้ไหม???
.....
....
....
...
..
.
สติของเขาเริ่มหลุดลอยเมื่ออีกฝ่ายลากลิ้นไปบนร่างกายส่วนบนของเขา…ทั่วทุกตารางนิ้ว
.....
....
....
...
..
.
“ฮ้า------” เขาหลุด….ทันทีที่ผ้าขนหนูซึ่งพันร่างกายเขาไว้ ถูกกระฉากออกไป
.....
....
....
...
..
.
เสื้อยืดคอกลมของอีกฝ่ายถูกถอดออกไปลำดับต่อมา
.....
....
....
...
..
.
แผ่นอกที่หนาและมีสีผิวคล้ำกว่าเขาเสริมเชื้อเพลิงให้แก่ “กองไฟ” ของเขา….
และเมื่อผิวที่เย็นนิดๆ ของอีกฝ่ายแนบเข้ากับผิวของร่างกายส่วนบนเขา “กองไฟ” ที่ว่านั้นก็พลันโชติช่วง!!!
.....
....
....
...
..
.
อีกฝ่ายสัมผัสเขาที่ตรงไหน เขาสัมผัสตอบอีกฝ่ายที่ตรงนั้นเช่นเดียวกัน
.....
....
....
...
..
.
เมื่ออีกฝ่ายคุกเข่าและนั่งเบาๆ บนหน้าท้องของเขา เมื่อดวงตาสะท้อนภาพมือของอีกฝ่ายที่กำลังปลดกระดุมของกางเกงยีนส์…ให้กับตัวเอง---ดวงตาของเขาก็พลันสะท้อนภาพมือที่สีตัดกันกับของอีกฝ่าย
มันกำลังช่วยมือที่มีสีผิวเข้มกว่าปลดซิป….ลง
.....
....
....
...
..
.
และลูบไล้ “บริเวณนั้น” ไม่ยอมห่าง
.....
....
....
...
..
.
เขาเห็นอีกฝ่ายเชิดหน้าขึ้นและครางเสียงลึก…อย่างพึงพอใจ
.....
....
....
...
..
.
สายตาของเขาจับจ้องอีกฝ่ายที่ยืนตะหง่านอยู่เหนือร่างกายของเขา…เพื่อถอดกางเกงยีนส์นั้นออกไปจากตัว…ตลอดเวลา ทุกอากัปกริยา
.....
....
....
...
..
.
เขาหลับตา
ริมฝีปากเขาถูกครอบครองอีกครั้งพร้อมผิวเนื้อที่แนบสนิทชิดกับร่างกายของเขา…ทุกสัดส่วน
.....
....
....
...
..
.
“อื้ม…พี่…เคย...อือ....” ปากที่กำลังดูดดื่มริมฝีปากของเขาเอ่ยกระซิบถามเขา…. ถึงไม่จบประโยคเขาก็รู้ความหมายของอีกฝ่าย
เขากระซิบบอกตอบ...ทั้งที่ยังประกบปากกับอีกฝ่าย “ไม่…เคย…ครับ”
.....
....
....
...
..
.
-
สงสาร คงไม่เศร้าหรอกมั้ง
:L2:
เพิ่มๆ
o9 ฮ่วย มะยม ทำงี้ไม่ได้นะ ไหนบอกไม่ผูกมัดไง
แต่ถ้ามะยมโดนกดนี่จะไม่ว่าอะไรเลย :z1:
-
อ๊าก.......ต่อด่วนๆ ไม่งั้นเค้าจะประท้วงไม่นอนจริงๆด้วย
-
กรี๊ดดดดดดดดด
ยังไม่ได้นิ่งนอนใจว่าใครจะทำหน้าที่อะไร
ต้องมาต่อด่วนค่ะ
-
มะยม นายจะทำอะไรอ่ะ :haun5: :haun5:
-
ณ จุด จุดนี้มีความรู้สึกเหมือนอยู่ข้างฟูก
-
.....
....
....
...
..
.
ริมฝีปากที่เปียกนุ่มถอยห่างออกไป เขาปรือตาขึ้นมามอง…คนที่ยันตัวอยู่เหนือตัวของเขามองเขาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
“เป็นอะไรครับ” เขาถามอีกฝ่ายด้วยเสียงแหบพล่า
“พรุ่งนี้พี่ลงเครื่องแล้วทำงานต่อเลยใช่มั้ย?” อีกฝ่ายถามเขา
“ครับ” เขาพยักหน้า
.....
....
....
...
..
.
อีกฝ่ายลุกไปจากตัวเขาและเดินไปนั่งกุมหัวที่ข้างเตียง
เขาเอาศอกเท้า…พยุงตัว
.....
....
....
...
..
.
เขาสอดแขนทั้งคู่ของตัวเองไปกอดรอบแผ่นอกของอีกฝ่าย เกยคางที่ไหล่ข้างหนึ่งของอีกฝ่าย พูดที่ข้างใบหูของอีกฝ่าย “ต่อเถอะครับ”
อีกฝ่ายหันหน้ามาหาเขา
เขาจูบอีกฝ่ายด้วยความเสน่หา
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เขาเริ่มล่องลอยอีกครั้ง อีกฝ่ายก็พูดด้วยเสียงแหบพล่าทั้งที่ยังลิ้มชิมผิวที่ลำคอของเขา “ไม่…ได้…”
“อื๊อ….ได้…สิ…” เขาหลับตาและรับรู้แค่…สัมผัสจากอีกฝ่าย
มือที่หนาของอีกฝ่ายกดที่หัวไหล่ของเขา…แรงจนผิดปกติ เขาลืมตาขึ้น เขาเห็นใบหน้าที่ยุ่งเหยิงไปด้วยความคิดและความรู้สึกของอีกฝ่าย
“ต่อสิครับ” เขายกมือกุมข้อมือของอีกฝ่าย และใช้นิ้วโป้งไล้…โหมไฟให้กับคนคนนี้
“ผมไม่อยากทำแบบนี้กับพี่” อีกฝ่ายบอกเขาหน้าเครียด
เขายิ้มที่มุมปาก “ผม…เข้าใจ”
อีกฝ่ายยิ้มที่มุมปาก “พี่ไม่เข้าใจหรอก”
เขาจ้องตากับอีกฝ่าย “เข้าใจสิ!”
“ไม่เข้าใจ!” อีกฝ่ายเถียงเขาทันควัน
.....
....
....
...
..
.
จุ๊บ------ อีกฝ่ายแนบริมฝีปากที่หน้าปากของเขาก่อนจะบอกเขาว่า “คืนนี้แยกกันนอนนะครับ”
.....
....
....
...
..
.
เขามองตาอีกฝ่ายทุกอากัปกริยาจนบานประตูของห้องเขา…ปิดลง
ถึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงเขา…ความอ่อนเปลี้ยที่จะเกิดหลังจากมีอะไรกัน แต่กระนั้นเขาก็ยังเสียใจ…และขอบคุณไปพร้อมๆ กัน
.....
....
....
...
..
.
ขอบคุณที่ห่วงใย
ขอบคุณที่มอบพื้นที่ใกล้ๆ…ให้เขายืน
ขอบคุณที่ยอมให้เดินเคียงข้างกัน
.....
....
....
...
..
.
เขานั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงห้อง เพื่อรอแสงตะวันยามเช้า
คืนนี้คงนอนไม่หลับ ที่สำคัญเขาหลับตาไม่ลง
.....
....
....
...
..
.
เขานั่งมองรูปปึกหนึ่งในมือ….รูปภาพที่เขาเอาออกมาจากกล่องกระดาษที่นายต้นไม้ให้เป็นของขวัญ
รูปของคนที่เขารัก…ในช่วงเวลาที่เขายังได้เจอกับคนคนนี้
ไม่มีพันธะอะไรกัน ไม่มีคำสัญญาอะไรกัน…แต่เขาก็จะกอดฐานะ “คนที่ดูใจกัน” ข้ามน้ำข้ามทะเลไปกับเขา
.....
....
....
...
..
.
-
กรี๊ด........ ไม่ไหวแล้ว อยากเขวี้ยงจานใส่มะยม
-
มะยมนายแน่มาก แมนที่สุดอ่ะ
แต่รู้มั้ยว่าเราขัดใจนายมากเหอะ
:z3:
-
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง และรีบก้าวจ้ำเข้าไปในห้องน้ำ
เขาเปิดฝักบัวรดร่างของตัวเองทั้งไที่ยังไม่ถอดเสื้อผ้า
เขาหลับตา…และลืมตา….เขาสะบัดและหลับตาลงอีกครั้ง
.....
....
....
...
..
.
เมื่อหลับตาเขาจะเห็นภาพ…ผิวที่ขาวโพลนและมีกล้ามเนื้อพอดีๆ แบบที่เขาชอบ บอดี้ในฝันของเขาที่เขาได้จับจูบลูบไล้มันมาแล้วกับมือ
.....
....
....
...
..
.
เขาปล่อยมือจากตัวจริง และปล่อยใจไปกับตัวปลอมที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในหัวของเขา
.....
....
....
...
..
.
เขาปลดเปลื้องความปรารถนาของตัวเองไปแล้ว…แต่เมื่อหลับตา ภาพของคนคนนั้นกลับยังคงฉายชัด…ขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกของเขาพองตัวขึ้นอีก…ครั้ง!!
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินหอบเหนื่อยออกมาจากห้องน้ำ
เขาเดินตัวเปล่าไปนอนแผ่ที่เตียงนอน…เป็นนานกว่าที่ลมหายใจของเขาจะเป็นปกติ
ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์หรือเพราะร่างเปลือยของคนคนนั้น…ที่ทำให้เขามีอารมณ์มากกว่าปกติ
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมข่มตาให้หลับ
.....
....
....
...
..
.
ด้วยความเพลีย…ไม่นานเขาก็ผลอยหลับไปจริงๆ
.....
....
....
...
..
.
“ฮัดชิ๊ว!” นายมะยมรู้สึกตัวตื่นด้วยอาการจามของตัวเอง
เขาลุกขึ้นนั่ง….ก็ไม่แปลกหากจะจามหรือเป็นหวัด ก็เขาเล่นนอนทั้งๆ ที่ไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้นแถมยังเปิดแอร์อีก!!
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้า…เสื้อยืดกางเกงขาสั้น
จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม…เขายกขวดน้ำตำลึงที่คนคนนั้นทำทอ้งไว้ในตู้เย็นขึ้นมาซด..อัก อัก
.....
....
....
...
..
.
เขาเอาขวดน้ำเก็บเข้าที่เดิมของมันและปิดประตูตู้เย็น
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินตรงไปที่เตียงและจะหลับต่อ
.....
....
....
...
..
.
เขาล้มตัวลงหนุนหมอนของตัวเอง…แต่พอเห็นหมอนที่วางอยู่ข้างๆ กันเขาก็เปลี่ยนเอาหมอนของคนคนนั้นมาหนุนนอนแทน
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมลากเอาผ้าแพรมาคลุมตัว และลากเอาผ้าห่มนวมที่พับอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากอด…แทนหมอนข้าง
กลิ่นของคนคนนั้นนำให้เขาเข้าไปสู่ความฝัน
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เริ่มเห็นใบหน้าของคนคนนั้นที่กำลังส่งยิ้มให้เขา….อยู่ในความฝัน
ดวงตาของเขาพลันเปิด! พร้อมกับความคิดหนึ่งที่ไหลวูบขึ้นมา….กระตุกหัวใจเขา
นายมะยมรีบผุดลุกขึ้นและหานาฬิกามาดู…เวลา------น่าจะผ่านไปแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง
.....
....
....
...
..
.
เขารีบตะกายออกมาจากที่นอน วิ่งตื๋อไปที่ประตูห้อง และวิ่งเท้าเปล่าลงไปยังชั้น 5
.....
....
....
...
..
.
!!!!!!!
-
จะมาแมนอะไรตอนนี้ หนูมะย๊มมมมม....
-
จะไปส่งพ่อมึงทันมั้ยเนี่ย
-
.....
....
....
...
..
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก------- เสียงเคาะประตูแม้ไม่ดังมากแต่มันรัวเร็ว
นายภักดีลุกจากเก้าอี้ที่ระเบียง พร้อมรีบเดินมาเปิดประตู
นายมะยมที่หน้า…ยุ่งแบบบอกไม่ถูกยืนอยู่หน้าห้องเขา
.....
....
....
...
..
.
“เป็นอะไรครับ?” เขาถามอีกฝ่าย
“พี่นอนรึยัง?” อีกฝ่ายถามเข้าเสียงรนพิกล
“ก็….” เขาไม่รู้จะบอกยังไงดี แต่พอเห็นหน้าที่ยุ่งเหยิงของอีกฝ่ายแล้ว เขาจึงคิดว่าบอกความจริงไปดีกว่า “ไม่ได้นอนหรอกครับ กะว่าจะไม่นอนน่ะครับ”
นายมะยมยกมือไหว้เขาพร้อมพูดเสียงอ่อยว่า “พี่…..ผมขอโทษ ผมลืมไปว่าหมอนพี่อยู่ห้องผม ห้าห่มก็อยู่ห้องผม ผมไม่ตั้งใจ ผมขอโทษ------”
“ฮ่าฮ่าฮ่า” นายภักดีหัวเราะร่วน-----หน้าตาตื่นมา นึกว่ามีเรื่องอะไร
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมยืนแก้มป่องอยู่หน้าห้อง…รอจนเขาหยุดขำเอง ถึงค่อยออกปากให้เขาไปนอนด้วยกันที่ห้องของตัวเอง
“เดี๋ยวผมตามไปเอาผ้าห่มกับหมอนลงมานอนนี่ก็ได้ครับ” เขาบอกกับอีกฝ่าย
“พี่!” นายมะยมเรียกเสียงหนัก
“ครับ!” เขารับคำหนักแน่นตาม
“เมื่อกี้ผมเมาหน่อยๆ คิดว่าคงห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่ผมเสร็จไปแหละ เท่านี้! คืนนี้มันคงไม่ลุกขึ้นมาชักธงได้อีกแหละ” นายมะยมเก็บแค่นิ้วโป้งและชูนิ้วที่เหลือมาให้เขา
“คึ…คึกคึกคึก” เขารีบเอามือขึ้นมากุมปากตัวเอง
“พี่อ่ะ ไหวป๊ะล่ะ นอนเฉยๆ นะ ห้ามยั่วกันด้วย!” นายมะยมท้า
“เกรงใจจังครับ เอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ผมที่นี่ดีกว่านะ” เขายวนอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
ข้อมือของเขาถูกมือที่หนาและสีผิวเข้มกว่าจับจูงขึ้นบันไดมายังห้องของ…คนที่คุณก็รู้ว่าใคร
.....
....
....
...
..
.
ในห้องไม่ได้เปิดไฟ แต่เขาเดินไปที่เตียงได้ด้วย….ภาพในความทรงจำ
เขาเข้าไปซุกตัวในผ้าห่มและหนุนหัวกับหมอน
.....
....
....
...
..
.
เขาผุดลุกขึ้นและเพ่งมองที่หมอนใบหนึ่งซึ่งตัวเองเพิ่งหนุนมัน
เมื่อเตียงยวบด้วยน้ำหนักของคนอีกคน เขาจึงหันไปถาม “ผมมองไม่ชัด นี่มันหมอนผมเหรอ?”
เขาเห็นอีกฝ่ายยืนมือมาหยิบหมอนสลับที่กัน และอีกฝ่ายก็ล้มตัวนอน พร้อมยื่นแขนพาดมาทางฝั่งของเขา
.....
....
....
...
..
.
เขานอนตะแคงหนุนทั้งหมอนทั้งแขนนั้น
.....
....
....
...
..
.
มือของอีกฝ่ายลูบเล่นที่แนวสันหลังของเขาเหมือนเช่น…ทุกๆ วัน
.....
....
....
...
..
.
เขาจับคอเสื้อยืดของอีกฝ่ายเล่น….เหมือนเช่นทุกวัน
.....
....
....
...
..
.
“พรุ่งนี้ไม่ต้องไปส่งผมนะครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
“อือ” เสียงฮัมในลำคอ….บอกว่าอีกฝ่ายรับรู้
.....
....
....
...
..
.
เสียงลมหายใจเริ่มดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ…เหนือหัวของเขา
.....
....
....
...
..
.
เขาหลับตาลงและกระซิบบอก….อีกฝ่าย “ผมรักคุณ”
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เขากำลังจะหลับ เขาได้ยินเสียงกระซิบดังอยู่เหนือหัวของเขา “ถ้าวันที่พี่กลับ”
.....
....
....
...
..
.
เขาลืมตาขึ้นมา…ทันที
เขากำลังฝันหรือ…มันเป็นความจริง?
.....
....
....
...
..
.
“ถ้าวันนั้นผมไปรับพี่…เราค่อยเป็นแฟนกันนะ” เสียงกระซิบดังขึ้นที่เหนือหัวของเขาอีกครั้ง
.....
....
....
...
..
.
เขายื่นแขนของตัวเองไปกอดคนที่นอนกอดเขา…ไว้แน่น
.....
....
....
...
..
.
เขาฝังหน้าร้องไห้กับแผ่นอกหนาและอุ่นร้อนนั้น
.....
....
....
...
..
.
ยิ่งมีมือตบเบาๆ ที่หลังของเขา เขายิ่งหยุดน้ำตาของตัวเองไม่ได้
.....
....
....
...
..
.
-
แอร๊ย... ตื่นเต้น จะทำอะไรเนี่ยะ >_<
-
:a5:
ใส่เกียร์หมาเดี๋ยวนี้เลยครับนายมะยมมมมมมมมมมมมมม
-
ว๊าย เราก็นึกว่าจะตื่นไปส่งไม่ทัน เค้ายังไม่ได้นอนกันเลย ฮ่าๆๆ
-
พ่อมึงรีบทำงานเคลียร์ปักกิ่งให้เสร็จเลยนะ
-
โอ้ยลุ้นแทนเลยอะ :-[
-
.....
....
....
...
..
.
ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด------ เสียงนาฬิกาปลุกดังไม่หยุด จนกระทั่งมือหนึ่งคว้ามันมา…..ปิด
นายภักดีปรือตาขึ้นมา
พอเห็นคนที่นอนอยู่ข้างๆ กำลังจะลุกขึ้น เขารีบก้มลงไปกระซิบว่า “บอกแล้วไงครับว่าไม่ต้องไปส่งผมหรอก”
ตาที่ปรือเพียงครึ่งปิดลงอีกครั้ง พร้อมเสียงงึมงัม….ประโยคหนึ่ง
“ครับ” เขารับปากอีกฝ่ายก่อนที่จะลุกไปจากเตียง
.....
....
....
...
..
.
เขาสวมกางเกงยีนส์สีหม่นจนเกือบดำเข้ากับตัว และสอดชายเสื้อเชิ้ตเข้าในกางเกง…ก็เป็นอันว่าแต่งตัวเสร็จ วันนี้เขาไม่เซ็ตผม
เขาใส่คอนแทคแลนส์แล้วจึงค่อยสำรวจของสำคัญในกระเป๋าเป้…เมื่อแน่ใจดีแล้ว เขาจึงลากกระเป๋าเดินทางออกไปไว้ที่หน้าประตูห้อง…
ขณะที่เขากำลังเดินขึ้นไปชั้นที่ 6 พร้อมกระเป๋าเป้ที่ติดอยู่กับหลังของตัวเอง เขาได้ยินเสียงลิฟท์ดัง…อยู่ด้านล่าง
กึก กึก กึก กึก-----เสียงรองเท้าหนังหนัก…ดังขึ้นมาอย่างเป็นจังหวะ
.....
....
....
...
..
.
เขาหยุดและยืนชโงกหน้ามองลงไป… พอเห็นตัวของคนที่เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องของเขาแล้ว เขาจึงเดินขึ้นบันได…ไปต่อ
.....
....
....
...
..
.
เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องที่มีไอเย็นเฉียบ
.....
....
....
...
..
.
เขานั่งคุกเข่ามองคนที่กำลังหลับตาพริ้มด้วยรอยยิ้ม…
.....
....
....
...
..
.
เขาหอมแก้มของคนที่กำลังหลับและกระซิบบอกอีกฝ่ายว่า “อย่าลืมผมนะครับ”
.....
....
....
...
..
.
เขาปิดประตูห้องของคนที่ตัวเองรักสุดหัวใจ และเดินไปขึ้นลิฟท์
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินออกจากลิฟท์และเดินออกไปจากตึก
.....
....
....
...
..
.
เขาเปิดประตูรถยนต์คันที่จอดรออยู่หน้าตึก และก้าวเข้าไปนั่งยังที่นั่งข้างคนขับ
.....
....
....
...
..
.
“โอเค” เขาบอกคนขับ...แล้วรถยนต์คันนั้นก็เคลื่อนออกไปจากอาณาบริเวณของตัวตึก
เขามองตามห้องห้องหนึ่งจน…มันลับหายไปสายตาของเขา
.....
....
....
...
..
.
เขารับกระเป๋าเดินทางของตัวเองมาจากคนที่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อมโผเข้าไปกอด….แน่น
“ฝากด้วยนะ”
คนที่เขากอด กอดตอบเขาแน่นพอกัน “ดูแลตัวเองด้วย!” คนพูดหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง
เขาก็หอมแก้มของคนนั้นทั้งสองข้าง…ด้วยเหมือนกัน
.....
....
....
...
..
.
คนที่มาส่งเขาเดินจับมือเขามาด้วยกันจนสุดทางถึงยอมปล่อย
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินเข็นกระเป๋าเข้าไปในพื้นที่สำหรับผู้เดินทาง….และหันกลับมาหาคนที่มาส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย
.....
....
....
...
..
.
คนที่มาส่งเขาโบกมือลา และหันหลังกลับไปทันที
.....
....
....
...
..
.
เขามองตามร่างนั้น…ส่งเขาอย่างเงียบๆ จนลับสายตาของตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินเข้าไปในทางเดิน….เพื่อเข้ายังที่นั่งของตนเอง
.....
....
....
...
..
.
เขาหยิบสมุดบันทึกประจำตัวมาเปิด…และมองรูปคู่ที่มีเพียงไม่กี่ใบของพวกเขา…. ภาพที่ถ่ายด้วยกันที่ญี่ปุ่น
.....
....
....
...
..
.
กับฐานะ “คนที่ดูใจกัน”
กับประโยคที่ว่า “ถ้าวันที่พี่กลับมา…ถ้าวันนั้นผมไปรับพี่ เราเป็นแฟนกันนะ”
กับสิ่งที่เขา “ทิ้งไว้” กับคนนั้น
.....
....
....
...
..
.
เวลาจะทำให้คนคนนั้นเปลี่ยนไหม
ความห่างไกลและความเหงาจะทำให้คนคนนั้นหวั่นไหวไหม
….เขาไม่อาจรู้ได้
.....
....
....
...
..
.
ณ วินาทีนี้เป็นต้นไป เขาทำได้แค่ภาวนาว่าอีกฝ่ายจะไม่ลืมเขา------เท่านั้น
.....
....
....
...
..
.
เมื่อเครื่องบินทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า
นายภักดีหลับตา…เขาไม่มองแผ่นดินเกิด
.....
....
....
...
..
.
เขาหลับตาเพื่อมองดูคนที่เขารัก…จากในความทรงจำของตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
จวบจนถึงมหานครที่เรียกกันว่า…ปักกิ่ง
.....
....
....
...
..
.
-
ไปแล้วอ่าาา T.T
-
TToTT
ฮือๆ โฮๆ กระซิกๆ พ่อมึงของเค้า
-
อินค่ะ :z3:
-
หัวหน้าาาาาาา
มะยม~~~~~~~
หัวหน้าไปแล้ว........กลับมาเร็วๆนะคะ
ฮืออ T T
-
เงื่อนไขเยอะเหลือเกินหนูมะยม :serius2:
ความจริงถ้าพ่อมึงส่งแผ่นหนังจากเมืองจีนมาอาทิตย์ละเรื่อง รับรองนายมะยมไม่มีทางลืม :laugh:
-
1 ปีผ่านไป 555++[เป็นตัวเลขที่รับได้]คริคริ
-
เศร้าที่สุดดดด อ่านไปน้ำตาไหลไป แงๆ
รู้ได้เลยว่า พ่อมรึงรักมะยมแค่ไหน
เมื่อไรจะกลับมาค้า. อยากอ่านตอนกลับมาแล้วอ่ะ
ไม่อยากเศร้าอีกแล้ว :L3:
กลับมาเร็วๆนะคะคุณภักดี :sad4:
-
พ่อมึงไปแล้ว รีบๆ กลับมานะ
-
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:sad4:
พ่อมึ้ง!!!!!!
รีบๆกลับมาน้า คนอ่านจะตายแล้ว
มันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
:z3:
-
.....
....
....
...
..
.
ร่างที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง…ลืมตานานแล้ว
เจ้าของดวงตารู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เสียงนาฬิกาปลุกดัง------ และก็ตื่นอยู่ตลอดเวลา
นายมะยมยกมือขึ้นมาจับแก้มที่ถูกอีกฝ่ายขโมยหอม….เป็นครั้งสุดก่อนที่เขาจะไป
.....
....
....
...
..
.
‘อย่าลืมผมนะครับ’ ประโยคเดียวที่ดังก้องอยู่ในหัวเขามาหลายชั่วโมง
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมลุกขึ้นเปิดตู้เย็น และหยิบขวดน้ำตำลึงที่คนคนนั้นทำใส่ตู้เย็นไว้ออกมา
เขายกมันขึ้นมาดื่มฮึกใหญ่…จากนั้นจึงเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมสวมรองเท้าผ้าใบเสร็จก็เดินออกไปจากห้องของตัวเอง
.....
....
....
...
..
.
ผิดเวลาจากปกติไปหน่อย แต่วันนี้เป็นวันเสาร์…เขาไม่ได้งาน และเมื่อไม่มีคนคนนั้นอยู่เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรดี
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมวอร์มร่างกายตัวเองเสร็จ ถึงเริ่มออกวิ่งเหยาะๆ…วนรอบสวนหย่อม
.....
....
....
...
..
.
เหงื่อโทรมกาย ลมหายใจหอบแฮก… ขาเปลี้ยหน่อยๆ-----นายมะยมจึงเลิกวิ่งและเดินไปที่ตลาดใกล้หอพัก
.....
....
....
...
..
.
หลายครั้งที่เขาลืมตัวจะเดินไปซื้อของกิน….เผื่อคนคนนั้น
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินกลับมาที่ตึกหอพักพร้อมด้วยถุงต้มเลือกหมูและข้าวเปล่าสองถุง… หลังจากนี้คาดว่าหม้อหุงข้าวของเขาคงเป็นหมัน
.....
....
....
...
..
.
เขาเดินไปรอลิฟท์ สักพักประตูก็เปิด
คนที่เดินออกมาพร้อมหมู่คนทักเขาเสียงใส “อ้าว...พี่มะยม ยังไม่รีบไปอาบน้ำอีกเหรอ?”
นายมะยมขมวดคิ้วนิดๆ งงว่าป๋องพูดอะไร “ทำไมต้องรีบอาบน้ำ?”
“อ๊าว! ก็จะไปส่งคุณภักไม่ใช่เหรอ โน่น...เค้าแต่งตัวเสร็จแล้วจนไปยืนรออยู่หน้าห้องพี่แล้ว มาเดินโอ้เอ้อยู่ได้ เดี๋ยวคุณภักเค้าก็ตกเครื่องหรอก!”
.....
....
....
...
..
.
ทันทีที่ฟังคำที่ป๋องพูดจบ นายมะยมก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปทันที
.....
....
....
...
..
.
เขามาถึงชั้นที่ 6
นายมะยมเห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้องของเขา….อย่างที่ป๋องบอก!!!
.....
....
....
...
..
.
คนคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์…และนายมะยมจำได้ว่าเป็นกางเกงยีนส์ที่คนคนนั้นซื้อมาจากญี่ปุ่น
ผิวที่คอขาวใส เส้นผมพริ้วสีดำ….คุ้นตา
รองเท้าหนังสีน้ำตาลแบบที่คนคนนั้นชอบ
คนคนนั้นยืนอยู่หน้าห้องเขานิ่งๆ พร้อมซองสีน้ำตาลในมือขาวนวล
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินไปกอดคนคนนั้นจากข้างหลัง….แน่น ราวกับว่าชาตินี้จะไม่ปล่อยให้ไกลจากมือเขาอีกแล้ว
.....
....
....
...
..
.
“ร้อนครับ! ร้อน!” คนที่นายมะยมกอดพยายามดิ้นออกไปจากวงแขนของเขา
“อุ้ย! ขอโทษครับพี่ ผมลืมไป” นายมะยมลืมปล่อยอีกฝ่ายออกไปอ้อมกอดของตัวเอง…และขอโทษอีกฝ่ายที่เผลอเอาถุงต้มเลือดหมูไปโดนหลังเค้า
“ถุงอะไรน่ะครับ?” อีกฝ่ายถามเขา
นายมะยมแขวนถุงไว้ที่ลูกบิดประตูและกลับมากอดรัดคนคนนั้นอีกครั้ง “ไม่ต้องไปแล้ว…ใช่มั้ยครับ?” พูดพลางถูแก้มของตัวเองกับอีกฝ่าย
.....
....
....
...
..
.
“คุณมะยม ผิดตัวแล้วครับ” คนที่ถูกนายมะยมกอดรัดตบหลังของคุณมะยม…เพื่อเรียกสติของคุณมะยมคืนมา
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมคลายอ้อมกอดและมองหน้าอีกฝ่าย “ไม่ผิดหรอกครับ” เชยคางของอีกฝ่ายขึ้นมาและเตรียม…จูบต้อนรับ
.....
....
....
...
..
.
ขณะที่เขาเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากสีชมพูตามธรรชาตินั้น… คนคนนั้นก็บอกเขาว่า “คุณมะยม...ไม่เหมือนกันนะ ดูดีๆ สิครับ”
.....
....
....
...
..
.
“ฮั่นแน่! หลอกผมเล่นละสิ!” นายมะยมเลื่อนตัวออกมาห่าง แต่ยังไม่ปล่อยวงแขนที่โอบเอวของคนคนนั้น
“อ่ะ อ่านนี่สิครับ” คนคนนั้นยิ้มมุมปากพร้อมชูซองสีน้ำตาลมาให้เขา
นายมะยมรับมันไป….ตราที่ซองเป็นเครื่องหมายของบริษัทเขา นายมะยมเงยหน้ามองอีกฝ่ายอีกครั้ง
“เปิดดูข้างในสิครับ” อีกฝ่ายคะยั้นคะยอ
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเปิดซองที่เหมือนเปิดไว้อยู่แล้ว เขาเห็นกระดาษสีขาวใบหนึ่งอยู่ในนั้น…เขาหยิบมันมาอ่าน
.....
....
....
...
..
.
“เฮ้ย!!!!!!” นายมะยมอึ้ง…และงงเป็นไก่ตาแตกว่า ไอ้สิ่งที่อยู่ในซองนี้ มัน…..เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่!!!
.....
....
....
...
..
.
คนที่นามสกุลเดียวกับคนที่เขารู้จักส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับยื่นมือมาหา…. “โอเคแล้วนะครับ งั้นแนะนำตัวกันอีกที ผมรักดี พี่ชายฝาแฝดของนายภักดี คุณมะยมจะเรียกผมว่า "พี่รัก" เหมือนที่ไอ้ภักเรียกก็ได้นะครับ”
นายมะยมจับมือเชคแฮนด์กับอีกฝ่าย “เอ่อ…เกรงใจครับ ขอเรียกคุณรักดีเต็มยศดีกว่า”
“ตามใจครับ” นายรักดียักไหล่ “ไอ้ภักมันบอกคุณรึเปล่าว่าผมจะมาเอากุญแจ”
“เปล่า….เอ้ย บอกครับ แต่บอกว่าแม่น้องหนูจะมาเอาของในห้อง..." นายมะยมเปิดห้องตัวเองและเชิญคนที่หน้าเหมือนคนคนนั้นอย่างกับแกะเข้าไปในห้อง "กุญแจอยู่กับผม เชิญครับ รกนิดหน่อย แต่นั่งรอก่อนนะครับ ขอผมหาก่อน”
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมทำตัวไม่ถูก เพราะใบหน้าและท่าทางที่เหมือนเป๊ะกับคนคนนั้น….ของคนคนนี้
“เรื่องคืนห้องผมฝากคุณมะยมได้ไหมครับ ส่วนของในห้องเดี๋ยวผมเอาไปวันนี้เลย” คุณรักดีชวนคุย
“ได้ครับ…พี่…ภัก…บอกไว้แล้ว…” นายมะยมทำใจลำบากว่าตอนนี้ตัวเองคุยกับใครอยู่
“ผมมาแทนไอ้ภักแค่ชั่วคราว แต่ยังไงก็ต้องฝากตัวด้วยนะครับ มีอะไรไม่ถูกไม่ควร คุณมะยมบอกผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” คุณรักดีบอกคุณมะยม
“อ้าว! มาชั่วคราวแล้วที่เก่าเค้าไม่ว่าเหรอครับ” นายมะยมถาม
“อ๋อ ผมเตรียมเรื่องลาออกมานานแล้วครับ มาแทนไอ้ภักก็แค่ช่วงที่มันไม่อยู่นี้เท่านั้นครับ ถ้ามันกลับมาผมก็จะเริ่มเปิดบริษัทของตัวเองเลย” คุณรักดีบอกคุณมะยม
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมอยู่ช่วยคุณรักดีขนของจากห้องของนายภักดีมาใส่รถจนหมด
ก่อนไปคุณรักดีถามเขาว่าจะสะดวกไหมหากจะเอาน้องหนูมาเรียนภาษาอังกฤษและภาษาอื่นกับเขาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์
นายมะยม…ปฏิเสธใบหน้าวอนขอของคนคนนี้ไม่ลง-----จึงรับปากคุณรักดีไป
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมยืนส่งคุณรักดีจนรถคันนั้นลับไปจากสายตา
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมเดินหน้าเหวอไปที่ร้านซักผ้าเพื่อเอาเสื้อผ้าของตนเอง
.....
....
....
...
..
.
“อ้าว หนูมะยม มาเอาผ้าเหรอจ๊ะ” น้าเจ้าของร้านทักเขา
“ครับ” นายมะยมยิ้ม…รับแขก
.....
....
....
...
..
.
“เอ้า นี่จ๊ะ!” น้าเจ้าของร้านยกผ้าตั้งโตที่อัดกันอยู่ในตะกร้ามาวางบนโต๊ะ...ให้เขา
นายมะยมคิ้วขมวดปมกับจำนวนของผ้า “น้า ผมไม่ได้เอามาซักมากขนาดนี้นะครับ เอาของคนอื่นมาให้ผมรึเปล่าเนี่ย!”
“ก็ของคุณภักรีดเสร็จพอดี น้าก็ใส่มาให้เลยไงจ๊ะ…คุณภักบอกให้ฝากไว้ที่หนูมะยม” น้าเจ้าของร้านซักผ้าพูดพลางจรดปากกาขีดฆ่าจำนวนผ้าของเขาและของคุณภักออกไปจากสมุดบันทึก
.....
....
....
...
..
.
นายมะยมยืนอุ้มตะกร้าผ้าหน้าเอ๋อ….อยู่ในลิฟท์
.....
....
....
...
..
.
พอเข้าไปในห้องเขาก็รื้อกองผ้านั้นออกมาดู…. ชุดนอนสองชุด ผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืน ชุดวอร์มหนึ่งชุด ผ้าปูเตียง ปลอกหมอน
.....
....
....
...
..
.
แกล้งแน่ๆ….ประชดกันใช่มั้ย!!-----นายมะยมคิด
.....
....
....
...
..
.
คนคนนั้นจะตั้งใจหรือไม่ นายมะยมไม่รู้
แต่เล่นเอาคนหน้าเหมือนตัวเองเด๊ะมาทิ้งที่ออฟฟิศแบบนี้-----------คงกะไม่ให้ลืมกันเลยใช่มั้ย?!!
.....
....
....
...
..
.
เอวัง :pig4:
-
กด Like พ่อมึงค้าาาาาาา
สาแก่ใจนัก!!!
-
รอตอนพิเศษนะจ๊ะ สุดท้ายอยากบอกว่าLOVEคนเขียน
-
เป็นงั้นไป ฮ่าๆๆ
-
ใจหายเมื่อเห็นคำว่าเอวัง ยังไม่อยากให้จบเลย
ชอบเรื่องนี้ที่สุด อาจเพราะเราตามลุ้นมานาน มันทำให้รู้สึกว่ามีส่วนร่วมในชีวิตสองคนนี้ตลอด ลุ้นตั้งแต่ยังไม่รู้ว่าใครน้อ คอยกระซิบอยู่นั้น
เป็นเรื่องที่คอยกดแต่refresh ตลอดเวลา ลุ้นจนตัวเกร็งไปหมด
ขอบคุณ :pig4: คุณBao Bao มากค่ะที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านกัน
คุณเขียนดีขึ้นเรื่อยๆเลยนับจากเรื่องแรก
จะคอยติดตามผลงานของคุณต่อไปนะ o13
อยากขอว่าเขียนตอนพิเศษออกมาเรื่อยๆนะคะ รักมะยมกับคุณภักดีที่สุดแล้ว
-
พ่อมึงนี่ร้ายจริงๆ
:laugh:
ถึงมันจะหน่วงในใจนิดๆ
แต่มันก็ดีใจมากกว่า
o7
รอพ่อมึงกลับมาหามะยมน้า
:o12:
-
คุณภักแผนสูงอ่ะ เจ้าเล่ห์มากเลย
-
:L2: :pig4:
-
555555555
ไม่ต้องเดาเลยใช่ไหม? ว่ายังไงก็คงไม่ลืม
ให้ตายสิ
แอบร้ายนะเนี่ย พ่อเมิง
ชอบเรื่องนี้ที่สุด
กว่าจะมารู้ว้่เปนใครยังไง ลุ้นแทบตายเหมือนกันนะเนี่ย มีพาทพิเศษไหหมอ่า
-
เห็นหน้าคู่แฝดพ่อมึงทุกวัน..
มะยมลืมได้ก็ให้มันรู้ไป
พ่อมึงแผนสูงจริง ๆ
จะมีตอนพิเศษไหมคะคุณเบา เบา
อยากเห็นพ่อมึงมีความสุขกับเค้าบ้าง ^^
-
อ้าว.....นึกว่าพ่อมึงตัวจริง แต่แกล้งอำ เอวัง orz
-
อ่านจบแล้วนึกถึงเพลงใจรัก
ว่าจะกลับไปอ่่านตอนท้ายๆใหม่แล้วเปิดเพลงคลอไปด้วย :3
ตอนแรกว่าจะไว้อ่านพรุ่งนี้บ้าง แต่กลับติดจนต้องอ่านรวดเดียวเลย
สนุกมากๆค่ะ
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆน่ารักเรื่องนี้
:pig4:
-
:pig4: :pig4:
-
พ่อมึงสุโค่ยมาก ฉลาดที่สุด
อยากอ่านตอนที่กลับมาหวานกันจัง
มาต่ออีกนิดนะคะ
-
จบแล้ววว
คุณภักดีเนี่ยกะจะไม่ให้ลืมกันเลยใช่ไหมเนี่ยย 555
-
เอิ้ว.....เจร๋งว่ะพ่อเมิง!
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: รอตอนพิเศษนะ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
555 คุณภัก
ระวังมะยมอกแตกตาย หน้าใช่แต่กอดไม่ได้ ตายๆๆๆ
-
:a5:เอวังซะแล้ว ไม่อยากเลย ยังอยากอ่านอีกอ่ะ :impress3:
คุณรักที่โผล่มาตอนสุดท้าย เป็นไพ่ที่คุณภักนำมาใช้เตือนใจหนูมะยมสินะ o13
อนุมานได้ว่าหนูมะยมคงได้ไปรับคุณภักที่สุวรรณภูมิแน่นอน :กอด1:
แอบเสียดายฉาก ต้องอารมณ์ค้างกันเป็นแถวเพราะบริษัทโหด ลงเครื่องปั๊บจะให้ทำงานปุ๊บ
เรื่องเดินเรื่อยๆแต่มีลุ้นเป็นระยะ สนุกมากค่ะ ขอได้รับความขอบคุณจากเรานะคะ
:pig4:
-
:L1: :กอด1:
-
เจ๋งอ่ะ พ่อมึง
มะยมได้อยู่ในสายตาตลอด
-
คำที่รอคอย
กรุงเทพมหานคร
เสียงฟ้าครางครืน…ลมเย็นพัดกรรโชก เหล่าพนักงานหลายคนยืนอออยู่ในตัวตึก สายตาของใครหลายคนมองฝ่าไปในสายฝน-----เช่นเดียวกับเขา
ฤดูฝน….เป็นฤดูแห่งความเหงา
ฤดูแห่งความชุ่มฉ่ำที่กลับทำให้หัวใจของผู้คนแห้งผาก
เขามองนาฬิกาบนหน้าจอมือถือ
เขามองภาพ 'ใบหน้าขาวเกลี้ยงซึ่งกำลังนอนหลับพริ้ม...หนุนแขนของเขา' ....ภาพที่เขาตั้งไว้บนหน้าจอมือถือ
ทุกครั้งที่มองภาพนี้ใจเขาจะลอยไปหาคนคนนั้น------ “คิดถึง” คือคำเดียวที่มีอยู่ในเวลานี้
ถึงแม้การได้คุยทางเมลทุกวันจะช่วยให้คลายความคิดถึงไปได้บ้าง… แต่มันก็แค่ “ได้บ้าง” ไม่ใช่ได้ทั้งหมด
…….
……
…..
….
…
..
.
ม่านสายฝนบางตาลง ผู้คนเริ่มวิ่งลุยไปยังจุดหมาย….. เขาเดินกางร่มไปเรื่อยๆ โดยไม่เร่งรีบ----กลับห้องไปก็ไม่มีอะไรให้ทำ จะไปเดินเล่นฆ่าเวลาเขาก็ไม่มีอารมณ์
....
...
..
.
เขาค่อยๆ เดินตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน
....
...
..
.
เขาหุบร่มและเอามันใส่ไปในถุงพลาสติกทรงยาวที่แจกฟรี เขาเอาด้ามร่มคล้องที่แขน จากนั้นก็ก้าวเท้าเข้าไปยืนบนขั้นบันไดของบันไดเลื่อน
มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาสั่น เขารับสาย…. เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่าวันนี้มีเมนูปิ้งย่างให้มาที่บ้านด้วย เขาตอบรับและเดินอมยิ้มไปที่โต๊ะแลกเหรียญ
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาแวะซื้อของไปตามที่น้องกัสโทรมาบอก
....
...
..
.
จากนั้นเขาก็นั่งมอเตอไซด์ไปยังบ้านของเพื่อนสนิท
....
...
..
.
เพียงแค่ก้าวเท้าลงมาจากมอเตอไซด์รับจ้างกลิ่นเนื้อที่ย่างสุกแล้วลอยเตะจมูกเขาทันที เขาได้ยินเสียงเฮฮาดังมาจากด้านในบ้าน-----ปิดเทอม ทั้งศิลป์และกัสมารวมตัวกันที่นี่เกือบทุกวัน….จะว่าไปหากไม่ได้พวกนี้ เขาคงเฉาตายอยู่ในห้อง
ตอนที่ “ยังไม่มีใคร” มันก็อยู่ได้ด้วยตัวเองหรอก ครั้นแค่มีคนมาขอจับจองหัวใจ เขาก็คล้ายกับอยู่คนเดียวไม่เป็นซะแล้ว… ที่สำคัญกว่านั้นคนที่ขอจองหัวใจเขาก็ดันไม่อยู่ตรงนี้ แถมอยู่ไกลแสนกันเหลือเกิน
โทรศัพท์อาจเป็นทางเลือกของใครหลายคน… แต่สำหรับพวกเขามันเป็นของแสลง!!
…….
……
…..
….
…
..
.
ยิ่งได้ยินเสียงยิ่งโหยหา
…….
……
…..
….
…
..
.
ทุกคำพูดที่ออกมาจากกระบอกเสียง….พวกเขาไม่อยากได้ยิน พวกเขาอยากฟังเสียงอีกฝ่ายด้วยหูของตัวเอง
…….
……
…..
….
…
..
.
ด้วยเหตุนี้ จึงมีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่เขาโทรหาคนที่ไปทำงานไกลยังต่างประเทศ…. และไม่มีอีกเลยตลอดสองปีที่ผ่านมา
…….
……
…..
….
…
..
.
“เฮ้ย! ช้าว่ะ!” นายศรลุกขึ้นมาเอาของในมือเขาไป
มะยมมองไปทางโต๊ะกินข้าว น้องกัสกวักมือเรียก เขาวางกระเป๋าไว้บนตู้เตี้ยๆ ใบหนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปนั่งเก้าอี้หัวโต๊ะ
“วันนี้กัสเอาเนื้อนี่มาเผื่อพี่มะยมเยอะเลยน๊า กินเยอะๆ นะครับ” กัสบอกพลางเอาเนื้อสามชั้นที่หั่นอย่าบางเฉียบวางลงบนตะแกงย่าง
เขายกมือหยิกแก้มน้องกัสเบาๆ ด้วยความเอ็นดู “น่ารักจังเลย! มาให้พี่ดูแลเถอะครับ!”
“กินบนเรือนขี้บนหลังคานะมึง!” นายศรตะโกนมาจากในห้องครัว ศิลป์ได้ทีช่วยพี่มะยมแหย่เพื่อนตัวเอง…. และยั่วโมโหพี่ชายตัวเอง
เสียงโหวกเหวกดังแกล้มเสียงฝนที่พรมหนัก--------ช่วยให้มื้อค่ำในคืนนั้น…สดใส
…….
……
…..
….
…
..
.
-
กรี๊ด........... มาต่อแล้ว
ที่สุดๆ รักคุณคนเขียนจัง จุ๊บๆ
นั่ง นอน เอฟห้าต่อ :D
-
มาต่อแล้วววว
สองปีผ่านไป
กับใจมะยมที่(ดูเหมือนจะ)เหมือนเดิม??
นั่ง F5 รัว ๆๆๆๆ
-
:mc4: เย้ๆๆๆ มาต่อแล้ว
สองปีผ่านไป หนูมะยมของพี่ยังรักมั่น ดีใจมากค่ะ
แอบอู้งานมาอ่านนิยาย มีฟามสุขจริงจริ๊ง
-
…….
……
…..
….
…
..
.
เอี๊ยด เอี๊ยด เอี๊ยด------ เสียงเหล็กของเบาะรถจักรยานที่ดังเสียดสีกันแหวกความเงียบในยามค่ำคืนมาอย่างเชื่องช้า
“ไอ้ไม้มันทำป้ายไว้รอรับพ่อมึงเสร็จแหละนะ ง๊ามงาม!” นายศรร้องบอกเพื่อนขณะที่ค่อยๆ ปั่นจักรยานไปตามทาง
“มึงเก็บป้ายไว้ไปรับน้องกัสของมึงเหอะ! พ่อกูเค้าไม่เหมาะกับของแบบนั้น” เขาย่นจมูก
“อ๊าว! ต้อนรับเพื่อนเขยกลับบ้าน น้อยๆ ได้ที่ไหนวะ! ฮ่าฮ่าฮ่า” นายศรหัวเราะร่วน
เขาหลับตา สูดกลิ่นสดชื่นของหมุ่ต้นไม้ในช่วงหนึ่งของถนน เมื่อตึกของหอพักอยู่ในสายตาของเขา….ลิบๆ หางตาของเขาพลันปราดไปเห็นสถานที่หนึ่ง เขารีบร้องบอกเพื่อน “ไอ้ศร! มึงเลี้ยวไปทางนั้นดิ” เขาชี้นิ้วไปที่สวนหย่อม
จักรยานถูกปั่นไปยังทิศที่เขาชี้-----ยังไม่อยากกลับขึ้นห้อง วันนี้อากาศเย็นดี เขาอยากนั่งเล่นอยู่ตรงนี้….สวนหย่อมใกล้หอพักของเขา
…….
……
…..
….
…
..
.
“มึงไปเหอะ กูจะอยู่นี่ก่อน” เขาบอกเพื่อนทันทีที่เดินลงไปจากเบาะหลังของจักรยาน
“ฮ่าฮ่าฮ่า…อยากเป็นพระเอกมิวสิคว่างั้น” นายศรขำเพื่อนแบบไม่ไว้หน้า
“ไม่จบนะมึง!….” ไอ้มะยมหน้าง้ำ
เพื่อนสนิทของเขาหัวเราะร่วนพลางเลี้ยวจักรยานคันเก่งกลับไปในทิศทางเดิมที่เพิ่งปั่นมา….
....
...
..
.
เขามองตามจักรยานของเพื่อนไป----จนลับตา
เขาคิดถึงวันนั้น…วันที่มีคนคนนั้นนั่งซ้อนท้ายจักรยานคันที่เพิ่งลับสายตาเขาไป----เขายิ้ม
…….
……
…..
….
…
..
.
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้เหล็ก พิงพนักของเก้าอี้ และหลับตา
ถึงเป็นเวลาที่ค่อนข้างดึกแล้ว แต่สวนแห่งนี้นับว่าปลอดภัย ด้วยเพราะมีขนาดกลางๆ และเป็นสวนแห่งเดียวในแหล่งชุมชนจึงมีการลงขันดูแลความปลอดภัยร่วมกัน
ยามในหมู่บ้านใกล้เคียงหรือในหอพักซึ่งรายรอบบริเวณนี้ จะจัดแบ่งเวลาและผลัดกันมาตรวจความเรียบร้อยในสวนแห่งนี้
ถึงเขานั่งอยู่คนเดียวในสวนแห่งนี้ก็ไม่อาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้… หากแต่ “ไม่ประมาท” ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง โชคดีที่เก้าอี้ตัวที่เขานั่งแช่อยู่นั้นอยู่ใต้เสาไฟพอดี เขาจึงนั่งทอดอารมณ์ไปได้อย่างสบายใจ
ห้าทุ่มแล้ว ตายังไม่หนัก ใจยังไม่นึกอยากหลับ…. เขาตื่นเต้นกับวันพรุ่งนี้----วันที่คนคนนั้นจะกลับมา
…….
……
…..
….
…
..
.
สองปีแล้วที่คนคนนั้นถูกขอให้ไปประจำที่ปักกิ่งเป็นการชั่วคราว…
ดีที่เป็นการชั่วคราว หากไปแบบไม่มีกำหนด คาดว่าเขาคงหอบผ้าหอบผ่อนตามคนคนนั้นไปปักกิ่งด้วย---- ใครเล่าจะอยากทรมานกับการรอคอยและความคิดถึง…แบบนี้
สองปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แต่ทุกค่ำคืนสำหรับเขาเหมือนมันผ่านไปอย่างเชื่องช้า…มาก
…….
……
…..
….
…
..
.
และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาต้องนอน…..เพียงลำพัง
…….
……
…..
….
…
..
.
ครืน------- เสียงฟ้ากระหึ่ม ปลุกความฝันให้ลอยกลับมาสู่ความเป็นจริง
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า…. ไม่นานนักหยดน้ำเม็ดเล็กๆ ก็พร่างพรมลงมาโดนตัวเขา
เขายกร่มขึ้นมากางและยืนอยู่อย่างนั้น----อีกสักพัก
…….
……
…..
….
…
..
.
ร่มถูกหุบ เม็ดฝนตกต้องร่างกายของคนที่ยืนอยู่ในสวนหย่อม---จนเปียกซก
…….
……
…..
….
…
..
.
ฝนทำให้หนาว…. ฝนอาจทำให้ไม่สบาย
…….
……
…..
….
…
..
.
ทว่า ทุกครั้งที่ร่างกายของเขาได้สัมผัสกับเม็ดฝน…เขากลับคิดถึงกลิ่นมินต์อ่อนๆ จากตัวคนคนนั้น
เขาคิดถึงวันนั้น…วันที่เขาเดินกางร่มเคียงกันไปสถานีรถไฟใต้ดิน…กับคนคนนั้น----เพราะยางรถของคนคนนั้นโดนไอ้ไม้มาแอบเจาะทั้งสี่ล้อ จนกระทั่งทุกวันนี้เขาก็ยังไม่กล้าบอกคนคนนั้นว่า “ใครเป็นคนทำ”
ร่มคันไม่ใหญ่ เมื่อผู้ชายสองคนเดินกางร่มคันเดียวกัน...เพื่อให้คนคนนั้นไม่เปียก ไหล่ข้างหนึ่งของเขาจึงต้องออกมาให้พ้นรัศมีของ...ร่ม
แต่เขาก็ยังได้กลิ่นมินต์อ่อนๆ จากคนคนนั้น....ตลอดทาง
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาฉีกยิ้มบนใบหน้าที่เปียกน้ำ
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเริ่มก้าวขาไปจากเก้าอี้ยาวตัวนั้น…อย่างไม่เร่งรีบ
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเดินไปเรื่อยๆ ….เรื่อยๆ….จนถึงหอพัก
…….
……
…..
….
…
..
.
ถึงจะหนาวด้วยความเย็นของสายฝน....
…….
……
…..
….
…
..
.
ถึงต้องกลับไปนอน...กับความเหงา
…….
……
…..
….
…
..
.
ทุกครั้งที่คิดถึง หัวใจมันจะปวด แต่เขาก็ยัง “คิดถึง”.....ไม่เคยขาด-----ไม่รู้ว่าอีกฝ่าย...จะรู้สึกเหมือนกันมั้ย
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง และรีบก้าวเข้าไปในห้องน้ำ
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเปิดน้ำอุ่นชำระล้างร่างกาย และเดินออกมาสวมชุดนอน….ขายาวของคนคนนั้น
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเอาตัวเองที่สวมชุดนอนขายาวเข้าไปในผ้าห่มแพร หยิบหมอนที่อยู่ด้านในของเตียงมาหนุน เอื้อมมือเอาหมอนที่อยู่ริมนอกไปวางตั้งเหนือหมอนที่ตัวเองหนุน…ลากผ้าห่มนวมที่พับเป็นแนวยาวมากอดแทนหมอนข้าง
…….
……
…..
….
…
..
.
เขายิ้มที่มุมปากกับภาพคนคนนั้นที่กำลังส่งยิ้มหวานให้เขา…ภาพในความทรงจำ
…….
……
…..
….
…
..
.
เมื่อคนคนนั้นหลับตา…เขาก็หลับตาพร้อมกับคนคนนั้น
…….
……
…..
….
…
..
.
เสียงลมหายใจค่อยๆ ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
…….
……
…..
….
…
..
.
เสียงสายฝนยังลงเม็ดอยู่…ไม่ขาด
…….
……
…..
….
…
..
.
ฝนที่ตก “ทางนี้” … ในเวลาเดียวกันมันก็ตกที่ “ทางนั้น” ด้วย
…….
……
…..
….
…
..
.
-
ทำไมช่วงนี้มีแต่เรื่องหน่วงๆ นะ ฮือออ เจ็บปวดจังงงงงงง
-
:z3: :z3: :z3: :z3: มาตะกุย F5 อยู่เป็นเพื่อน :z3: :z3: :z3: :z3:
-
จะได้เจอกันแล้ววว :o8:
-
ปักกิ่ง
ไอเย็นลอยออกมาจากปากของคนที่พูด….แค่ฤดูฝน แต่อุณหภูมิของที่แห่งนี้ต่ำกว่าเมืองไทยมาก
เขายืนอยู่บนตึกสูงที่มีกระจกสีเขียวแกมน้ำเงินประดับไว้โดยรอบ…เขายืนเหม่อมองม่านน้ำฝนที่พร่างพรมลงป่าคอนกรีต
เวลานี้ยังเป็นเวลางาน แต่เขาไม่มีงานให้ทำ…อีกแล้ว
…….
……
…..
….
…
..
.
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่… เคยได้รับโทรศัพท์จากคนนั้นแค่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่มีมาอีกเลย----ทีแรกก็สะดุดใจว่าตัวเองทำอะไรผิดไปอีกรึเปล่า
คิดมากอยู่สองวัน เลยลองเมลไปหา….อีกฝ่ายก็ตอบเขามาแบบปกติ
เพราะอยู่ไกลกันจึงมองไม่เห็น… ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอะไรแบบไหนอยู่… คนนั้นเค้าชอบแสดงออกทางสีหน้า เลยดูง่าย---- แต่นั่นล่ะคือข้อเสีย
หากไม่เห็นหน้าอีกฝ่าย เขาจะไม่รู้เลยว่า คนนั้นกำลังไม่พอใจ โกรธ หรือแกล้งอะไรเขาอยู่…รึเปล่า?
‘ทำไมไมโทรมาอีกล่ะครับ โกรธอะไรผมรึเปล่า?’ เขาถามอีกฝ่ายไปในอีเมล
ใจเขาลุ้นระทึกจากเมลที่ตอบกลับมา…แทบจะในทันที แต่แล้วพอได้อ่านมันใจเขากลับเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม
…….
……
…..
….
…
..
.
‘เปล่าครับ ไม่ได้โกรธ แต่ได้ยินเสียงพี่แล้วยิ่งคิดถึงน่ะครับ เลยไม่โทรดีกว่า…?’
…….
……
…..
….
…
..
.
เครื่องหมายคำถามที่ทิ้งท้ายอยู่ในประโยคนั้น…เขารู้ความหมาย----- ความไม่แน่ใจว่าเขาคิดเหมือนกันด้วยรึเปล่า
…….
……
…..
….
…
..
.
คำตอบคือใช่----- เขาเองก็เป็นเหมือนกัน
ดังนั้น ตลอดสองปีที่ผ่านมา พวกเขาจึงได้แต่ส่งเมลหากัน…อย่างเดียว
แค่เสียงก็แทบทนไม่ได้แล้ว อย่าให้เล่นกล้องอะไรอีกเลย บอกตรงๆ หากให้เขาใช้เทคโนโลยีอันล้ำค่าเหล่านั้น…เขาอาจยื่นใบลาออก แล้วบินกลับประเทศไทยภายในข้ามคืนเป็นแน่
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเดินหิ้วกระเป๋าหนังสีน้ำตาลออกมาจากห้องทำงานส่วนตัวของตัวเอง
พนักงานที่ยังทำล่วงเวลาอยู่…ต่างกล่าวลาเขาเป็นเสียงเดียวกัน “一路春風!”
เขาก้มโค้งให้ด้วยความขอบคุณพร้อมกล่าว “謝謝你們! 再見!”
คำว่า “再見!” ดังเป็นระยะตลอดทางที่เขาเดินออกไปจาก...พื้นที่ของบริษัทสาขา
เพราะความร่วมมือที่ดีของผู้ร่วมงานในที่นี้ และความขยันอดทนของทุกคนในที่นี้ ทำให้เขา...ใช้เวลาอยู่ที่นี่แค่สองปีเท่านั้น เร็วกว่าที่เขาคาดไปตั้งหนึ่งปี
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเดินลงมาจากตึกที่ทำงานในช่วงเวลาที่เลทกว่าพนักงานกินเงินเดือนทั่วไป เพราะไม่แออัดกับฝูงชน…
ตอนที่เขาลงมาถึงชั้นที่หนึ่ง ผู้คนบางตาลงมากแล้ว
แม้ฝนยังตก แต่คนที่นี่ก็สวมชุดกันฝนแล้วเดินทางกลับบ้านอย่างไม่มีการเอ้อละเหยลอยชาย…แบบเขา
ก็แน่ล่ะ! ที่ซุกหัวนอนของเขาไม่มีใครรอเขากลับไปนี่ แล้วเขาจะรีบกลับไปทำไม…
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาค่อยๆ เดินมาจนถึงนอกตึกแต่ยังไม่พ้นส่วนของหลังคาตึกที่ยื่นกางประดุจเป็นร่มให้เขา…. เขาล้วงเอาร่มพับสีกรมท่าเรียบๆ ด้ามหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า เขายิ้มนิดๆ ที่มุมปาก
ไม่เคยมีใครทำให้เขายิ้มได้เรี่ยราดแบบคนที่ซื้อร่มด้ามนี้ให้เขา…
คนนั้นแอบเอาร่มคันนี้มาซุกไว้ในกระเป๋าเดินทางเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้… เขาไปถึงที่พักและเอาของออกมาจัดถึงได้เห็นมัน
ถ้าเห็นคนนั้นยิ้มแล้วใจเขามันนึกอยากยิ้มตามตลอด----- เวลานี้ก็เช่นกัน…เขากำลังยิ้มตามรอยยิ้มของคนที่ฉายภาพอยู่ในหัวของเขา
ทันทีที่ร่มสีกรมท่าถูกชักให้ยาวขึ้น สายฝนก็เริ่มบางตาลง
เขาเดินใต้ร่มคันนั้นไปยังจุดรอรถประจำทาง….ไม่นานนัก สายที่เขารอก็มาเทียบที่ท่ารถ
เขาหุบร่มและเดินขึ้นไปบนรถ
พาหนะหกล้อเริ่มหมุนวงล้อ พาผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางที่แตกต่างกันไป
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาไปยืนรอที่ประตูทางลง เมื่อถึงป้าย รถก็จอด…ประตูเปิดกว้าง เขายื่นมือออกไปจากตัวรถและกางร่มก่อนที่จะ ก้าวขาลงไปอยู่ใต้ร่มคันนั้น
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเดินไปเรื่อยๆ ตามทางเดิน
ที่พักเขาอยู่ในระยะสายตาของเขาแล้ว
สายฝนเริ่มโปรยลงมาหนักขึ้นในทุกย่างก้าว รองเท้าของเขาเริ่มชื้น ปลายขากางเกงแสลคของเขาเริ่มเปียก แต่เขาไม่สนใจ… ถึงอย่างไรอีกนิดก็จะถึงที่พักอยู่แล้ว
ทันใดนั้น รถคันหนึ่งขับเข้ามาใกล้กับริมทางเดิน ล้อของรถคันนั้นกรีดน้ำที่ขังอยู่แอ่งบนถนนให้เป็นดั่งเกลียวคลื่น….ซัดมาโดนตัวเขาจนเปียกซก
เขามองตามรถยนต์คันนั้นไปด้วยความฉุน คิ้วเขาขมวดมุ่น…. เขานึกติเตียนคนขับคนนั้นอยู่ในใจ ขณะที่เขาโมโหอยู่นั้น มือที่ถือร่มอยู่เริ่มคล้อยต่ำลงมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
…….
……
…..
….
…
..
.
เม็ดฝนเย็นเฉียบตกลงมาโดนหน้าของเขา
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าที่หลั่งน้ำตาลงมาเป็นหยดน้ำ
…….
……
…..
….
…
..
.
ความเย็นปกคลุมร่างกายของเขา
…….
……
…..
….
…
..
.
แค่เขาอ้าปากเล็กน้อย เขาก็เห็นไอขาวลอยออกมา
…….
……
…..
….
…
..
.
เขายกร่มขึ้นมาใหม่ แล้วเดินถือไปตามทาง….เรื่อยๆ
…….
……
…..
….
…
..
.
ฝนของที่นี่หนาวกว่าที่เมืองไทย
…….
……
…..
….
…
..
.
แต่ความอบอุ่นของวันฝนพรำในประเทศไทยเมื่อวันนั้น-----ส่งไออุ่นมาให้หัวใจของเขา
…….
……
…..
….
…
..
.
มันอุ่นไปถึงขั้วหัวใจ
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาค่อยๆ เดินไป…ท่ามกลางสายฝนที่ลงเม็ดหนักพร้อมกับคิดถึง… “วันนั้น”
ต้องขอบคุณเด็กมือบอนที่ไหนก็ไม่รู้….ที่มาเจาะยางรถของเขา ทำให้เขาได้มีโอกาสเดินอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันกับคนนั้น---- เหมือนที่เขาเคยฝันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
คนนั้นใจดีกับเขามาก ยอมไหล่เปียกเพื่อไม่ให้เขาเปียก…
…….
……
…..
….
…
..
.
ตอนนั้น…แค่ได้เดินข้างกันบ้างเขาก็สุขใจแล้ว
…….
……
…..
….
…
..
.
ตอนนี้…เขาโลภมากหลายอย่าง แต่เขาอยากได้เพียงแค่อย่างเดียว…จากคนนั้น
…….
……
…..
….
…
..
.
พรุ่งนี้….. ถึงเรียกว่าพรุ่งนี้ แต่ความจริงมันเป็นแค่…อีกไม่กี่ชั่วโมง
…….
……
…..
….
…
..
.
เขาลุ้นระทึกมากกับตอนที่ตัวเองต้องเดินออกมา…จากประตูทางออก----ตื่นเต้นล่วงหน้ามานานเป็นเดือน
…….
……
…..
….
…
..
.
“คิดถึงคุณจัง” เสียงกระซิบของเขา....ไม่มีใครได้ยิน แม้กระทั่งตัวเขาเอง เนื่องจากประโยคที่เขาพูดถูกเสียงของฝนกลบไปจนสิ้น
…….
……
…..
….
…
..
.
ทุกครั้งที่คิดถึง หัวใจมันจะปวด แต่เขาก็ยัง “คิดถึง”.....ไม่เคยขาด-----ไม่รู้ว่าอีกฝ่าย...จะรู้สึกเหมือนกันไหม
http://youtu.be/nXLwmznb5CU
…….
……
…..
….
…
..
.
-
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ดีใจจังเลย! :mc4: o13
-
ทำไมเราน้ำตาไหลอ่ะ :m15:
-
รอเวลาที่คุณภักจะกลับมาค่ะ
-
:oni2:ว้าวมีต่อ
บรรยากาศเหงาๆ แต่กำลังจะไม่เหงาแล้วน้า
-
นอนรอพรุ่งนี้เป็นเพื่อนคุณภักกะหนูมะยม ><
-
สนามบินสุวรรณภูมิ
ชายหนุ่มที่สวมกางเกงยีนส์สีกลางเก่ากลางใหม่กับเสื้อเชิ้ตลายตารางสีกรมตัดขาว เหยียบย่างรองเท้าหนังสีน้ำตาลก้าวฉับๆ เข้ามาในสนามบินสุวรรณภูมิ---ขาเข้า
ทันทีที่เดินเข้าไป เขาพบกับคลื่นคนหนุ่มสาวเดินกึ่งวิ่งไปยังจุดนัดพบ....ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกับเขา
ชายหนุ่มเดินต่อไปยังจุดหมายของตัวเอง เมื่อยิ่งเข้าไปใกล้เขาก็พบว่ามีคนมาออรออยู่ตรงที่นั้นจนเต็มเอี๊ยดไปหมด ชายหนุ่มขยับแว่นกันแดดขึ้น เขาใช้สายตาที่ฝ้าฟางเล็กน้อยอันเป็นผลจากการนอนไม่หลับของเมื่อคืนมองอักษรที่อยู่บนป้ายสี่เหลี่ยมหลายอัน
เขาไม่รู้จะอ่านตัวอักษรพวกนั้นว่าอะไรดี... ตอนนี้เขารู้แต่ว่า เขาคงฝ่าคลื่นมหาชนเหล่านี้ไปไม่ได้...
ชายหนุ่มหันมามองที่จอแสดงตารางเวลาขึ้นลงของเครื่องบิน จากนั้นจึงก้มลงมองนาฬิกาที่มือถือ-----เขาเงยหน้าขึ้น ดึงแว่นกนแดดลงมาอยู่ที่เดิม....ของมัน
ยังมีเวลาเหลืออีกเกือบชั่วโมง เขาจึงเดินออกมาจากตรงนั้น และไปหากาแฟดื่มพลางรอ...เวลา
....
...
..
.
30 นาทีจากนั้น
ตาของชายหนุ่มตื่นเต็มที่.... ด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดซึ่งดังลอยมาถึงตรงจุดที่เขานั่งดื่มกาแฟอยู่
เขาก้มลงมองนาฬิกา.... เหลืออีก 5 นาทีที่เครื่องจะแลนดิ้งลงมา เขาจึงลุกขึ้นและเดินไปทางฝูงชนคนหนุ่มสาว
....
...
..
.
5 นาทีผ่านไป เขาเห็นหมายเลขเที่ยวบินที่จำได้ขึ้นสมอง ปรากฏขึ้นมาบนตาราง..... และทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของสาวๆ ก็ดังสนั่น ชายหนุ่มรีบอุดหูและถอยหลังออกมาห่างๆ
นอนไม่พอ หัวยังมึนอยู่...เขาจึงไม่สามารถทนยืนฟังเสียงที่สั่นเส้นประสาทแบบนั้นได้
“โอ๊ย!” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังของเขา
ชายหนุ่มรีบหันหลังไป “ขอโทษครับ! ขอโทษ! ผมไม่ได้ตั้งใจ!” เขาบอกกับคนที่ตัวเองเผลอไปเยียบเท้าเค้าเข้า
“มะ...มะเป็นไรครับ อู๊ยยย....” เสียงเจ็บที่กลั้นไว้ไม่อยู่ทำให้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกผิด
“เป็นไรมากไหมครับ ขอโทษด้วยจริงๆ ครับ” ชายหนุ่มย้ำอีกครั้ง
คนที่ถูกเหยียบเท้าโบกมือให้พลางบอกเขาว่า “นิดเดียวครับ ไม่ถึงตาย เดี๋ยวก็หาย.....คิดว่าไม่เข้าไปไกลแล้วจะปลอดภัยนะเนี่ย” ประโยคสุดท้ายเหมือนพูดกับตัวเอง
“ผมก็มัวแต่ถอยเลยไม่ได้ดูให้ดี ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ” ชายหนุ่มยังย้ำคำเดิม
คนที่ถูกเหยียบตบไหล่ของเขาด้วยรอยยิ้ม “พอเหอะคุณ ไม่ต้องขอโทษแล้ว คนเยอะแบบนี้ก็งี้แหละ ช่างมันเหอะ... ว่าแต่คุณมารอรับคนเหรอครับ”
“ครับ เครื่องลงแล้ว เลยต้องมารอตรงนี้...” ชายหนุ่มชะเง้อคอมองข้ามหัวดำแดงทองของเหล่าวัยรุ่น “แต่ไม่รู้จะเจอมั้ย เข้าไปไม่ถึงเลยครับ”
“โชคร้ายละครับ มาช่วงไอดอลมาพอดี” คนที่ถูกเหยียบเท้าเหมือนไม่เจ็บมากแล้ว เพราะเริ่มยืนตัวได้ตรงเป็นปกติ
“ใครมาครับ? ไอ้ตัวอังกฤษที่อยู่บนป้าย...ไม่รู้จะอ่านว่าอะไรดี” ชายหนุ่มชวนคุย...ท่าทางของคนคนนี้ก็เหมือนมารอรับคนด้วยเหมือนกัน
“ผมสอบผ่านแค่วิชาภาษาไทยครับ” ชายที่สวมเสื้อดำบอกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน
“คุณรอเที่ยวบินไหนอยุ่ล่ะครับ?” ชายที่สวมเสื้อดำถามเขา
“อ๋อ....เที่ยวบินที่ xxxxxx 10 โมง 45” ชายหนุ่มบอก
ชายคนที่สวมเสื้อดำเดินไปถามเด็กสาวที่ยืนชะเง้อชะแง้อยู่ใกล้ๆ ว่าไอดอลของพวกเธอจะมาเที่ยวบินไหน... ปรากฏว่า พวกเขามารอรับคนที่มาโดยเที่ยวบินเดียวกันกับไอดอล!!
พวกเขารีบล้วงเอามือถือมาเปลี่ยนเป็นระบบสั่น ด้วยคาดว่าลองลงมาจากเครื่องเดียวกันแบบนี้ “คนมารับ” คงคาดสายตาจาก “คนมา” ได้อย่างง่ายดาย
ทันทีที่ชายหนุ่มเก็บมือถือไปในกระเป๋ากางเกง เสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นกว่าทุกๆ ครั้งพลันดังขึ้น เขาและชายที่สวมเสื้อดำซึ่งยืนอยู่ข้างกันต่างพากันถอยหลังกรูให้ห่างจากแหล่งกำเนิดเสียงนั้น
....
...
..
.
เมื่อถอยมาได้ระยะหนึ่ง...จุดที่เสียงไม่ดังกลบหู พวกเขามองหน้ากันและกัน จากนั้นก็ยิ้มขำกันเอง
“ไม่ไหวครับ ไม่ไหว ต้องรักษาหูกันไว้หน่อย ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายหนุ่มบอกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวเอง
“เหมือนกันครับ ฮ่าฮ่าฮ่า.... เอาตรงนี้ก็พอเห็นเนอะ” ชายที่สวมเสื้อดำบอกเขา
....
...
..
.
ไอดอลมาแล้ว และพวกเขาทั้งสองก็มองไม่เห็นใครอีกเลย...คนที่เดินออกมาก่อนยังไม่ใช่คนที่พวกเขามารอรับ
“โอย... ลองแบบนี้คงมองไม่เห็นใครอีกแล้วล่ะนะครับ” ชายที่สวมเสื้อหนังสีดำซึ่งยืนข้างๆ เขาบ่นอุบ
“คงต้องรอสักพักมั๊งครับ” ชายหนุ่มลองคิดตามนิสัยของคนคนนั้น... หากคนคนนั้นรู้ตัวว่าตนเองเดินทางมาพร้อมไอดอล เขาน่าจะยังไม่รีบออกมา เพราะคนคนนั้นเค้าไม่ชอบเสียงดังโหวกเหวก และไม่ชอบเบียดเสียดกับฝูงชน
“น่าเบื่อชะมัด!” ชายเสื้อดำบ่นต่อ
“ไปหาที่นั่งกันมั้ยครับ?” ชายหนุ่มชวน
ทว่า ขณะที่ทั้งสองจะเดินห่างออกไปจากคลื่นมหาชน การสั่นสะเทือนจากสิ่งที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังก็เกิดขึ้น....
ชายหนุ่มทั้งสองล้วงเอามือถือของตัวเองขึ้นมา และหันหลังให้กัน พร้อมคุยกับคนที่อยู่ปลายสาย....เบาๆ
....
...
..
.
“ครับ พี่ภักเดินเลยมาหน่อยนะครับ ผมอยู่ใกล้ทางออกหมายเลข 3 ....วันนี้ผมใส่เสื้อเชิ้ตลายตารางสีกรม ใส่แว่นกันแดด ยืนข้างๆ คนผมเกรียนที่ใส่เสื้อคลุมหนังสีดำ เสื้อยืดขาว กางเกงยีนส์สีเข้มหน่อย แต่ดูแล้วเท่ๆ น่ะครับ”
....
...
..
.
“เออออ เร็วๆ เลย เบื่อแล้ว เหี้ย!ยืนคอยจนเมื่อย!....." เสียงพูดหยุดไปสักพักจึงพูดต่อ "มึงเดินเลยมาหน่อย เนี่ย! กูยืนอยู่กับผู้ชายที่ใส่แว่นกันแดด ใส่กางเกงยีนส์ เสื้อเชิ้ตลายตารางสีกรมขาวอ่ะ......” เขาหยุดฟังสักครู่จากนั้นถึงได้ตอบด้วยเสียงรำคาญว่า “เหี้ยนี่!ก็เค้าเด่นกว่ากู กูก็บอกจุดสังเกตุให้ฟัง มึงจะได้เห็นง่ายๆ....อย่ามากเรื่องน่า! มาเร็วๆ!” พูดจบก็วางสายไป
....
...
..
.
ทั้งสองหนุ่มหันหน้ามาส่งยิ้มแห้งๆ ให้กัน----- ถึงพูดเบาๆ แต่ต่างก็ได้ยินเสียงที่อีกฝ่ายพูดกับคนที่อยู่ปลายสาย
....
...
..
.
ยืนรอกันเงียบๆ อีกสัก 20 นาที ------- คนที่พวกเขารอก็ปรากฏตัวออกมาจากฝูงชน
....
...
..
.
เขาเห็นคนสูงโย่งคนหนึ่งเดินตรงมาทางเขา...พร้อมกับ "คนที่เขารอ"
ชายสูงโย่งที่หน้าถมึงถึง...ดูน่ากลัวพิลึกก้าวฉับๆ มาทางที่เขายืนอยู่....
พอมาถึงตรงที่เขายืนอยู่ คนหน้าดุก็จ้องหน้าเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ------แต่เขาไม่สนใจ เขาหันหน้ากลับไปมองอีกคนที่ยังเดินมาไม่ถึง พร้อมส่งยิ้มให้คนคนนั้น
วันนี้คนคนนั้นใส่เชิ้ตสีเขียวลายทางตรงดูสบายๆ ไม่เป็นทางการ ทว่ายังคงไว้ซึ่งความสุภาพ กางเกงยีนส์ที่สวมถึงเป็นยีนส์แต่อีกฝ่ายชอบเลือกที่สีเข้มจนเกือบสีดำซึ่งหากมองผ่านๆ แล้วจะเหมือนกางเกงเสล็คของชุดทำงาน----- วันนี้คนคนนั้นไม่เสยผม และปล่อยผมให้เป็นไปตามธรรมชาติ.... แถมยังสวมแว่นกันแดดด้วย!
แม้ดูสบายตาสำหรับคนอื่น ทว่าสิ่งหนึ่งมันขัดตาของเขา---- “แว่นกันแดด” ...ผิดธรรมชาติของคนคนนั้น----ชายหนุ่มนึกสงสัยอยู่ในใจ และรอให้อีกฝ่ายเดินมาจนใกล้ก่อนถึงค่อยถาม
“ใส่ทำไมครับ? เป็นอะไร?” ถามพลางยื่นมือไปถอดแว่นของคนคนนั้น
“อื๊อ!.... เอาคืนมาครับ!” เสียงดุ คิ้วขมวดเป็นปมเล็กๆ
ด้วยความขาวของใบหน้าคนคนนี้ทำให้รอยแดงที่ขอบตาและรอบดำใต้ตา...เด่นชัดจนชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ
ชายหนุ่มยกมือไปทาบแก้ม และใช้นิ้วโป้งเขี่ยเบาๆ ที่ใต้ตาของอีกฝ่าย “เป็นไรครับ? ทำไมตาช้ำแบบนี้” เขามองอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง
------ ตาแดงเหมือนคนไม่ได้นอน เหมือนเพิ่งร้องไห้
....
...
..
.
ตาที่แดงกลับเริ่มแดงก่ำมากขึ้น ดวงตาที่แห้งเริ่มดูฉ่ำชื้น....
....
...
..
.
เขายื่นหน้าไปแนบหน้าผากกับอีกฝ่าย และกระซิบบอกว่า “เป็นอะไรครับ? มีอะไรก็บอกผมสิ เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ดวงตาฉ่ำชื้นเริ่มมีหยดน้ำตา...
ชายหนุ่มที่สวมแว่นดำหัวเราะในลำคอที่เห็นน้ำตาจากอีกฝ่าย------ เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้กำลังเสียใจ แต่มันเป็นน้ำตาจากความดีใจ เขาจึงจูบซับน้ำตาให้กับอีกฝ่าย..... และหอมแก้มนั้นจนเกือบช้ำ---- ด้วยความสนุก
“อายคนอื่นเค้าบ้างไหมครับ?” คนที่ร้องไห้เริ่มมีน้ำเสียงดุเข้มมากขึ้นจนเกือบเหมือนเวลาปกติ.....
ชายหนุ่มที่สวมแว่นดำหันไปมองรอบๆ ตัว ไม่มีเพื่อนที่ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตหนังสีดำที่เมื่อกี้ยืนรออยู่ข้างๆ กันแล้ว ไม่มีผู้ชายตัวสูงหน้าเหี้ยมนั่นด้วย.... แต่ยังมีฝูงมหาชนแฟนคลับที่ยังรุมล้อมไอดอลของตัวเอง
“ไม่เห็นมีใครมองเลยครับ เค้ามองแต่ดารา” ชายหนุ่มที่สวมแว่นดำพูดจบปุ๊บก็ขโมยจุ๊บริมฝีปากคนที่รักทีหนึ่ง
มือที่ขาวนุ่มข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบลำคอของคนที่สวมแว่นดำ “กลับกันได้แล้วครับ!...” มือที่ขาวนุ่มคลายแรงบีบ และแย่งเอาแว่นกันแดดจากมือของคนที่ลามปามมาใส่ จากนั้นก็เดินนำไป
ชายหนุ่มเข็นรถเดินตามหลังคนเสียงดุ....ด้วยรอยยิ้ม
....
...
..
.
ภายนอกมีฝนตกมาแล้ว…. ก็แน่สิ! นี่มันหน้าฝน หากฝนไม่ตกสิน่าแปลก
....
...
..
.
ชายหนุ่มสองคนเดินเคียงกันมาตามทางยาวเหยียด…ของสนามบิน
สายตาของคนทั้งคู่ต่างจับจ้องเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาเป็นม่านน้ำ..ไปตลอดทาง จวบจนพวกเขาก้าวผ่านประตูออกมา ลมกรรโชกพัดละอองน้ำเข้าประทะหน้าของคนทั้งสอง
....
...
..
.
ใครหลายคนยังหลบอยู่ข้างในเพราะกลัวฝน----กลัวเปียก
....
...
..
.
แต่พวกเขาสองคน
....
...
..
.
เขาบอกกับคนที่ยืนแหงนมองท้องฟ้า “พี่ภัก อย่ารอเลยเนอะ เปียกนิดเดียว แต่ขึ้นแท๊กซี่ไปแป๊บเดียวก็ถึงห้องเราแหละ”
"ครับ" และพยักหน้า
....
...
..
.
พวกเขาสองคนเดินเคียงกันไปยังจุดจอดรับผู้โดยสารของรถแท๊กซี่
ชายหนุ่มที่ใส่กางเกงยีนส์ยกกระเป๋าไปเก็บไว้หลังรถ ในขณะที่ชายหนุ่มซึ่งสวมยีนส์สีดำบอกสถานที่ที่จะไปกับคนขับรถ
เมื่อคนขับรถพยักหน้า----เข้าใจ…
เขาเปิดประตูด้านหลังและยืนนิ่ง…รอให้ชายที่สวมกางเกงยีนส์สีดำเดินเข้าไปนั่งด้านในก่อนจึงตามเข้าไปนั่งข้างๆ กัน
เมื่อประตูด้านหลังถูกปิดลง ล้อสี่ล้อก็เคลื่อนตัวออกไป และพาพวกเขาไปยัง…..
....
...
..
.
เอวัง :pig4:
-
กระซิกๆ
:impress3:
พ่อมึงจะกลับมาแล้ว
ขออย่าให้มีอะไรมาเป็นอุปสรรคเลย
:monkeysad:
-
:impress2: :impress2: :impress2: เค้ารอ พรี ฮันนีมูน ของหนูมะยม กะ พ่อมึง อยู่นะ :impress2: :impress2: :impress2:
-
ในที่สุดก็ได้เป็นแฟนกัน :o8:
กรี๊ดให้กับฉากหวานๆแบบประเจิดประเจ้อที่สุวรรณภูมิ :-[
ตอนแรกคิดว่าคุณภักจะเข้าใจผิดหนูมะยมที่มีหนุ่มหัวเกรียนมายืนข้างๆซะแล้ว :laugh:
-
เอาอีกๆ ยังไม่จุใจเลยค่า
ขออีกนะๆๆ
เป็นfc มะยมกับคุณภักไปแล้ว :z2:
-
เป็นแฟนกันแล้ววว
แถมจุ๊บกลางสุวรรณภูมิด้วย ^^
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คุณภักของนิมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ขออนุญาติตบตีมะยมแล้วแย่งพ่อมึงมาค่ะ แอร้ยยย ณ จุดนี้ หลงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
เขายื่นหน้าไปแนบหน้าผากกับอีกฝ่าย และกระซิบบอกว่า “เป็นอะไรครับ? มีอะไรก็บอกผมสิ เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
กรี๊ด.........อ่านถึงประโยคนี้แล้วกรี๊ดบ้านแตกเลย ในที่สุด :impress3:
เรื่องนี้จบแล้วเราจะทำไงกะชีวิตเนี่ยะ ชอบเรื่องนี้มากเลย ตามอ่านตั้งแต่แรก ขำช่วงนึงที่คุณเบาเบาลงมันเกือบทั้งคืน วันต่อมาเราสอบด้วย อ่านหนังสือเรียนไป F5 ไป ฮ่าๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆแบบนี้นะคะ :pig4:
ปล. พ่อมึงทำเราหน้าแตกหลายรอบจนเลิกเดาไปเลย
-
ฮิ้วววววววววววววว :z2:
-
:-[ :mc4:
อ่านแล้วแต่เด่วมาเม้นนะค้าาา แปะก่อนจ้าา
-
ไม่น้าๆๆๆ อย่าเพิ่ง เอวัง สิ
ต่อก่อนๆ
:กอด1:
-
มันต้องมีต่อๆๆๆ
:oni3:
ไซโคคนเขียนก่อน
พ่อมึงกลับมาแล้ว
ดีใจๆ
:oni2:
-
ยิ้มแก้มปริให้กับความรักของพ่อมึงที่เป็นจริง
-
อ่านตอนนี้ไปพร้อมฟังเพลงคลอทำเอาอยากกรี๊ดดังๆจริงๆนะ
น่ารักมากกก ดูเรื่อยๆแต่มีความสุข(เพราะทำนองเพลงเราเปล่าหวา?)
ปล.คนที่เจอสอนคนนั้นใช่โต้กับเจตเปล่าหวา หรือเพราะเราฟุ้งซ่านไปเองอีกแล้ววว
ปล.ขอบคุณนะคะ สนุกมากๆเลยค่ะ :pig4:
-
อ่านไปยิ้มไปเลยค่ะ
น่ารักมากกกก
-
น่ารักทั้งคุณภักและมะยมเลย :กอด1: :กอด1:
-
สุดยอดมาก สนุกจริงๆ ค่า
:กอด1: :กอด1:
-
ฟินนาเล่มากครับ อ่านแล้วมีความสุขสุดๆ ต้องมาอ่านทุกวันไม่งั้นจะนอนไม่หลับ
ขอบคุรมากสำหรับนิยายดีๆครับ
-
เย่ๆ........วู้ว...ลุ้นแทบตาย!
-
กรี๊ดดดดดดดดด
สองปีผ่านไปเร็วยิ่งนัก
-
จบจริงๆหรอ :m15: :sad4:
ไม่เอา จะเอาอีกอ่าๆ
จะเอาๆ :o12:
-
ให้ตายสิอ่านเรื่องนี้แต่ดันไปคิดถึงคุณโต้ซะได้ ก็ตอนที่นายมะยมอธิบายลักษณะของคนที่ยืนข้างๆ แล้วบอกว่าดูเท่ๆ แค่คำว่าเท่ก็นึกถึงคุณโต้เลยแฮะ ยิ่งเจอบทสนทนา คอนเฟิร์มเลย แหะๆ อยากบอกว่าชอบคาแรคเตอร์ของคุณนักเขียนทุกคนแต่หลงคุณโต้ที่สุดแล้ว(ขออภัยหากข้ามเรื่อง) แต่นายมะยมกับคุณภักดีนี่ก็ทำให้คลั่งไปมากเหมือนกันนะ ตอนนี้ต้องหนีไปก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะเอาคอมเมนท์รวบยอดตั้งแต่ต้นมาส่ง อาจยาว+เวิ่นมากหน่อยโปรดอย่าถือสา
-
:n1:
:pig4:
-
โอยสุขใจจจจ :impress2:
ดีใจแบบว่าบอกไม่ถูก
ชอบจังเลยค่ะ
:o8: :o8:
อ่านแล้วคิดถึงคนทางไกล......แต่เค้าเป็นใครก็ไม่รู้
ขอบคุณมากๆเลย อยากกด love .///.
จะติดตามเรื่องต่อไปค่ะ สัญญาๆ : )
-
:mc4: Happy ซะที :impress2:
-
เขาเป็นแฟนกันแล้ววววววว ดีใจเว้ยย
-
คนอ่านก็ดีใจแทบร้องไห้ไปกับคุณภัก เป็นแฟนกันแล้ว ทั้งลุ้น ทั้งรอ
กว่าจะรักกันได้ไม่ง่ายเลย ขอให้ทั้งสองคนครองคู่ มีความสุขตราบนานเท่านาน
ขอบคุณคนเขียนที่ขยันเหลือเกิน เรื่องราวน่ารักจริง ๆ
-
สิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนานเนอะคุณภัก
จะมีโมเมนต์หวานๆของ 2 คนนี้มาให้ชื่นชมไหม
-
สุขๆๆๆๆที่สุด
:m11:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
อบอุ่นหัวใจมาก
:กอด1:
-
ว้าไม่อยู่สองวันจบเสียแล้ว อิอิ
ขอบคุณคนเขียนมากๆนะคะที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ออกมาให้ได้อ่านกัน
น่ารักกันทั้งคู่เลย
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ รออ่านเรื่องใหม่ๆนะคะ
-
กระซิบ
อะแฮ่ม วันนี้จะชวนคุณนักเขียนมามึนๆงงๆ กับคอมเมนท์ป่วงๆ ของอิฉัน^^ ถ้าไม่ขี้เกียจอ่านซะก่อนนะคะ
ตอนแรกที่อ่านจะบอกว่าชอบประโยคนี้มาก "แต่สามสิบแล้วนะครับ... ทำไมเดินนานจังอ่ะ อย่าบอกนะว่าเพิ่งเกิด!" พูดถึงเรื่องนายกระซิบคนนั้นแน่นอนว่าน้องกัสนี่ไม่ใช่แน่ๆ ถึงปกติจะเชียร์คนที่เจอครั้งแรกในเรื่องก็เถอะแต่ว่ามันง่ายเกินไปสำหรับคุณนักเขียนและเนื้อหามันบอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าครั้งนี้ก็กลายร่างเป็นสะพาน ตลกตอนที่กันเชษฐเถียงกันเรื่องขึ้นไปส่งนายมะยมอะ นั่นเพราะหึงกันเองใช่ป่ะน่ารักดี ยิ้มๆแน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่คิดตอนแรกคือนายกระซิบอยู่ชั้น5ตึกเดียวกับนายมะยมแน่ แถมต้องเป็นคนที่คอยมองตลอดเวลาถึงเอานายมะยมมาส่งที่ห้อง จากที่แอบเดาว่าจะตื่นอยู่ห้องคนอื่น ตอนที่นายมะยมหลับข้ามวันก็แอบชอบประโยค "วันอาทิตย์มันหายไปไหน?!" แต่ครั้งนั้นแอบคิดไปไกลว่าคนที่แอบรักมะยมคือผู้บริหาร ก๊ากกก ฮาตัวเองมาก คิดได้ไง แต่มาตะงิดๆคิดว่าเป็นหัวหน้าตอนที่นายมะยมนัดเจอน้องกัสโดยที่ให้ศรไปนั่งสังเกตการณ์ห่างๆ แล้วศรบอกว่า พ่อมึงจ้องมึงนิ่งเลยว่ะ ตอนนี้แอบเชียร์หัวหน้าไปนิดนึงเพราะว่าจากตอนที่ศรบอกว่าดูแลนายมะยมเหมือนน้อง ตอนนั้นคิดว่านิสัยเหมือนเด็กน่าจะมีแฟนเป็นผู้ใหญ่ แต่ดันมาเขวมากตอนที่เจอน้องป๋องถามว่า "พี่....ไม่คุ้นหน้าผมเลยเหรอ?" แล้วร่ายรายละเอียดงานของมะยมแถมอยู่ชั้น5อีก แงะ พอมาญี่ปุ่นที่นายมะยมบรรยายคุณสมบัติหัวหน้าเธอนั้น เริ่มกลับมาเชียร์หัวหน้าอีกรอบเพอร์เฟ็คแมนมาก แล้วที่เดินไปยืนข้างๆแล้วบอก "ยิ้มครับ" น่ารักมาก ตอนไปซื้อหนัง “ให้เกย์เลือกหนังโป้ให้ผู้ชายเนี่ยนะ! เพื่อนผมมันก็อ้วกกันหมดสิครับ!” ชอบประโยค แต่แอบสงสัยก็เพื่อนในก๊วนเป็นเกย์หมดไม่ใช่เหรอ แล้ว..ไม่เลือกแบบที่มะยมชอบอะ แต่ก็ถึงบางอ้อตอนที่ไปเซี่ยงไฮ้ว่าเพื่อนคุณต้นไม้เค้าฝากซื้อ แล้วหัวหน้า ชั้นที่อยู่ข้างๆ คืออารายยยยย ตอนนี้เลเวลเชียร์หัวหน้าเพิ่มขึ้นอีกนิด และเพิ่มขึ้นอีกเยอะตอนเรียนภาษาญี่ปุ่นจากคำโปรยดีวีดีโป้ นานสองนาน ฮา น่ารักเนาะ แล้วนั่นเคยเห็นแต่คนอื่นปฏิเสธว่าไม่ใช่เกย์ แมนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่นายมะยมมาเหนือไม่ใช่ชายแท้ แต่เป็นเกย์100% ซะงั้นอะ เลเวลเชียร์หัวหน้าเพิ่มอีกตอนเลือกกางเกงยีนส์(รู้สึกช่วงนี้อัพเลเวลเร็วมาก) และเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดก็ตอน แช่น้ำร้อนวันสุดท้าย! กรี๊ดหนัก ก็ตอนที่นายมะยมถามเรื่องสายตาว่า "แค่ไหนถึงจะเห็น" แล้วหัวหน้าเคลื่อนตัวมาซะใกล้ขนาดนั้น อ๊ากกกกก ตาย เล่นเอาเคารพธงชาติซะนาน คิกๆ ตั้งแต่ตอนนั้นมาไม่เขวอีกแล้ว ถึงจะไม่ได้หวังก็เถอะว่านายกระซิบจะเป็นหัวหน้าแต่เชียร์เต็มที่ อิอิ ตอนที่น้องหนูกับคุณแม่โผล่มา อาจทำให้หลายคนเขว แต่นางคนนี้ยึดมั่นในความตั้งใจ ฮ่าๆๆ มันต้องมีบางอยากที่ไม่ปกติ อิอิ แล้วคนชุดวอร์มก็โผล่มา แฮ่ แถมเป็นชั้น5อีก ถึงตอนนี้คิดในใจว่าคนที่อยู่ชั้นห้าห้องใต้มะยมนี่แหละปลูกตำลึงเหมือนกัน(ตรรกะอะไรของแก๊) แล้วก็ต้องไม่ใช่ป๋องเพราะห้องป๋องมะยมไปมาแล้ว(ถึงจะคิดยังไงแต่ก็ยังเชียร์หัวหน้าอยู่ดี ฮ่าๆ) พอมาถึงตอนที่ มะยมไปรับรองลูกค้าแล้วตากฝนกลับมาจนป่วย หัวหน้าให้ไปนอนพักในห้อง แล้วนายกระซิบก็โผล่มาแน่ล่ะว่าแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่านายกระซิบจะเป็นหัวหน้า เพราะห้องทำงานส่วนตัวถ้าเจ้าของห้องไม่อยู่ใครจะเข้ามา แต่ก็บอกกับตัวเองว่าอย่าเดาๆ ดูไปเรื่อยๆ (ทั้งๆที่ใจทุ่มกับหัวหน้าไปหมดแล้วตอนนั้น) เพราะคุณนักเขียนบอกว่าอาจไม่เป็นดังที่หวังก็เลยไม่กล้าหวัง ฮ่าๆๆ จากนั้นก็เลยได้แต่นั่งอ่านโดยที่เชียร์หัวหน้าไปพลางบอกตัวเองว่าอย่าเดาไปพลาง ฮ่าๆๆ กันเชษฐ แอบตะงิดตั้งแต่ตอนกันยืนถือถุงฝรั่งอยู่หน้าลิฟต์(แรกๆ) พอมาถึงตอนที่มะยมทักคุณเชษฐว่ามากี่วันแล้วก็นึกถึงเรื่องกระดาษเลย แอบฮาที่มะยมสงสัยในตัวนายศรอยู่แล้วหัวหน้ามาถาม "เพื่อนคุณเป็นอะไร?" "เออ กูก็คิดอยู่เนี่ย!" ฮามากตรงนี้เพราะเคยมีประสบการณ์ตรง ที่แบบกำลังยืนเม้ามอยกับเพื่อนอยู่ ผู้ใหญ่เดินมาข้างหลังสะกิดไหล่พร้อมเรียกชื่อเราถ้าเรียกชื่อจริงจะไม่ว่าอะไรเลย ดันเรียกชื่อเล่นก็เลยหันไปพร้อมพูดว่า "มีไรวะ" เต็มๆตอนนั้น อยากมุดดินหนีมากพูดแบบนั้นกันผู้ใหญ่ ได้แต่ยิ้มแหยๆเลยทีเดียว เอ๊ะแล้วนอกเรื่องทำไมเนี่ย กลับมาๆ หัวหน้าแอบยิ้มในห้องน้ำคนเดียว น่ารักอะ ช่วงหลังหัวหน้ากับมะยมกลับมาจากเซี่ยงไฮ้ เป๊ะมากอะ กระเป๋าหนัง+กดลิฟต์เลข5 แทบกรี๊ด อิอิ แต่ก็ยั้งไว้ พอรดน้ำตำลึงเท่านั้นแหละ กรี๊ดดดดดด เป๊ะ เป๊ะเวอร์ แล้วช่วงที่น้องกัสเรียบร้อยลงเอยไปกับนายศร นายมะยมนั่งร้องไห้อยู่ส่วนหย่อมแล้วยังเอาผ้ามาให้อีก ช่างเป็นบุคคลลึกลับที่ทำตัวได้น่ารักจริงๆเชียว>< กะรี้ด~ ตอนที่หัวหน้ามัดผมอะ น่ารักจนตบหน้าตัวเองแล้วตีโต๊ะอีกหลายปั่ก ในวันคริสต์มาสแอบฮาตอนที่บริกรรับข้อความมาบอกต่ออะ เหมือนมะยมโดนบริกรสารภาพรักเลย ประโยคอาจเป็นภาษาอังกฤษ อ่านตอนแรกโอเคเข้าใจความหมายในตัวไม่ต้องแปล แต่พอลองแปลเป็นไทยแล้วนึกถึงเพลง "เพื่อเธอตลอดไป" แล้วก็ใช่จริงๆด้วยแฮะ ดีใจอะที่เดาถูก ชอบอะ "คุณมะยม เคยคิดแบบนี้มั้ยครับ คือระหว่างที่เรามองหาคนที่ใช่....เราอาจมองข้ามคนที่รักเราอยู่....ก็เป็นได้นะครับ" ที่คุณเชษฐเหมือนจะออกตัวเชียร์นายกระซิบเพราะตัวเองก็คล้ายแบบนี้เป็นนายกระดาษมาก่อนสินะ ^^ ตอนที่ไปขอเพลงให้มะยมรับปีใหม่นี่ถือว่ากล้าพอตัวนะ น่ารัก น่ารักสุดๆเลย เริ่มจะมั่นใจกับตัวเองว่านายกระซิบคือคุณภักดีก็ตอนที่สาววายเด็กเสิร์ฟร้านกาแฟ บอกว่าคนที่คุยกับผู้จัดการคงมีต่ำแหน่งใหญ่ใช้ได้นั่นแหละคิดล่วงหน้าไปก่อนอีกแล้ว แล้วที่นายมะยมนั่งร้องไห้หลังจากได้ข่าวว่าหลวงพ่อมรณะภาพ นายชุดวอร์มเข้ามานั่งเป็นเพื่อน ตอนมะยมจิ้มแก้มก็อมยิ้มบางๆอยู่หรอก พอถอดแว่นแล้วเรียก "หัวหน้า" กรี๊ดเลย ^^
ขำกิ๊กเลยตอนที่นายมะยมรู้ว่าพ่อตัวเองโสด มาประชุมบอกเพื่อน ชอบที่กันบอกว่าให้ไปแก้ผ้าอ่อยเหยื่อ เหมือนนายกันจะเชียร์หัวหน้า เพราะรู้หรือเปล่านะว่าเป็นคนเดียวกับนายกระซิบ แต่ก็นั่นแหละ ตอนสุดท้ายของ "กระซิบ" ทำเอาอ่านไปอมยิ้มไป มีความสุขมากกับการอ่านเรื่องนี้มาก หัวหน้าที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่ใช่สเป็คแต่ก็ยังกล้าที่จะเดินหน้า แบบนี้แหละมะยมที่เขาเรียกว่ากล้าแล้ว
"บอก" ไม่ต้องจับจุดอะไรมากมาย ไม่ต้องไขปริศนาว่าใครเป็นใคร มีเพียงเรื่องราวระหว่างคุณภักและมะยม ที่ทำให้อ่านไปยิ้มไปกับทั้งสองคน เรื่องราวความรักที่ติดตามกันต่อมาจนถึง "คำที่รอคอย” คลั่งที่สุดก็ตอนที่บอกว่า “มีอะไรก็บอกผมสิครับ เราเป็นแฟนกันแล้วนะ” ทั้งยิ้มทั้งจะร้องไห้ตามคุณภักเลยอะ ซึ้งมาก) หวานกันมากที่สนามบิน ถ้าอยู่แถวนั้นไอดอลไอดอลเถอะ ไม่สนอะจะมาแอบมองคุณภักกับนายมะยมนี่แหละ>///<
ผลจากการอ่านเรื่องนี้
เวลาเห็นการอัพเดตหน้าเรื่องสั้นก็จะยิ้มแล้วรีบคลิกเข้ามา
เวลาไม่เห็นการอัพเดตก็จะค่อยๆ กดปิดออกไปจากหน้านิยาย
เวลานั่งเด็ดใบตำลึง ซึ่งช่วงนี้(ตั้งแต่อ่านตอนแรกๆจนถึงตอนนี้)กินเกือบทุกวัน จะคิดถึง---นายมะยม
เวลามองแก้วน้ำใบย่านางที่คั้นไว้ก็จะคิดถึง---นายมะยมและคุณภัก
เวลานอนก็จะนึกถึงท่านอนของนายมะยมกับคุณภัก อมยิ้มแล้วหลับไปด้วยการกอดหมอนข้าง
อยากลองดูว่าเมาหลับข้ามวันเป็นอย่างไร
อยากลองซื้อต้มเลือดหมูมากินสักครั้ง(ไม่เคยเลยจริงๆเคยได้ยินแต่เพื่อนพูด)
อยากลองทำงานจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้วหลับเป็งอย่างไร
อยากบอกว่าเรื่องนี้ช่างมีอิทธิพลต่อความคิดของคนอ่านคนนี้อยากมาก
เข้าใจอารมณ์นักอ่านคนอื่นๆว่ากดF5 ตลอดเป็นอย่างไร เพราะได้สัมผัสมาแล้วด้วยตัวเอง
ทั้งยิ้มทั้ง ทั้งกรี๊ด ทึ้งหัว ตบหน้า ตบโต๊ะ ดิ้นบนที่นอน(เป็นเอามาก) เวลาอ่านฉากน่ารัก แบบ เบาๆ
ขอบคุณคุณนักเขียนค่ะ ^______^
ปล.รอบนี้เวิ่นมากไป และแปลกๆ เนื่องจากช่วงที่คอมเมนท์ “กระซิบ” นางคนนี้อ่านไปพิมพ์ไป แบบว่าเก็บความรู้สึกเป็นช่วงๆ เกือบทุกช็อต อาจจะมึนๆ เบลอๆ คุณนักเขียนโปรดอย่าถือสา ฮ่าๆๆ
-
แว๊บมาบอกอีกอย่างว่า คำว่า “ต่อสิครับ” พร้อมกับจินตนาการถึงหัวหน้าในตอนนั้น กำลังทำให้ฉันคลั่ง คิดถึงทีไรใจสั่นทุกที ฮู้ววว
-
มันมีต่อสินะ อิอิ
-
คำขอ
วันสุดท้ายของสัปดาห์การทำงาน...หน้าตาของพนักงานกินเงินเดือนต่างดูสดชื่นกันอย่างถ้วนหน้า
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมและเพื่อนสนิทเดินมาจนถึงประตูใหญ่ของหน้าตึกแล้ว แต่พวกเขายังออรวมอยู่กับพนักงานออฟฟิศคนอื่นๆ
หน้าฝน...ฝนจะตกเมื่อไหร่ ฝนไม่เคยบอกล่วงหน้า แม้บางครั้งฟ้าจะแลบหรือท้องฟ้าจะคำราม ทว่า มันอาจไม่ตกก็ได้...ไม่ใช่หรือ?
......
.....
....
...
..
.
“มึงไม่ได้หยิบร่มมาเหรอวะ?” นายศรถามเพื่อนตัวเอง
“กูคิดว่าไม่ตกนี่หว่า” นายมะยมบอกเพื่อน
“หน้าอะไรแล้ว จำใส่หัวไว้บ้าง มันจะตกไม่ตกมึงก็ต้องถือติดมือมา!” นายศรดุเพื่อนตัวเองตามความเคยชิน
“เออ...” ขณะที่นายมะยมจะต่อปากกับเพื่อน มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา...สั่น
นายมะยมล้วงเอามือถือขึ้นมาแนบหู... “ครับ!”
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมวางสายและหันไปบอกเพื่อนสนิท “เดี๋ยวกูตามไป มึงเดินไปก่อนเลย”
“ไปกับกูนี่แหละ ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นไปเอาร่มของมึงหรอก” นายศรบอกเพื่อนสนิทพลางเหนี่ยวคอเพื่อนให้เข้ามาในร่มคันเดียวกัน
“เปล่า! กูจะรอพ่อกูก่อน เค้าประชุมเสร็จพอดี” นายมะยมรีบบอกเพื่อนสนิท
“อ่าว! แล้วก็ไม่รีบบอก” นายศรปล่อยมือจากเพื่อน “งั้นกูรอด้วย! จะได้ดูเป็นปกติ” นายศร...รู้หน้าที่
......
.....
....
...
..
.
รักสำหรับผู้ชายด้วยกัน...ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหลบซ่อน
ความรักในที่ทำงาน...ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
แค่.....เขาและแฟนเคารพงานที่พวกเขาทำ----สังคม...เกิดจากคนหมู่มากมารรวมตัวกัน ยิ่งมากคนก็ยิ่งมากความ ถึงการที่เขาและแฟนคบหากันจะไม่ใช่เรื่องที่ผิดและเป็นสิ่งซึ่งต้องหลบซ่อน ทว่า พวกเขาก็อยากแยกเรื่อง “ส่วนตัว” ออกจาก “งาน”
ดังนั้น ในระหว่างเวลางานและในสถานที่ทำงาน พวกเขาจึงค่อนข้างระวังตัวไม่ให้ผิดสังเกตุ...มากจนเกินไป
......
.....
....
...
..
.
ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนดูภูมิฐานและสุภาพไปทั้งตัวเดินตรงมาหานายมะยมและนายศร...พร้อมร่มคันยาวในมือ
นายศรเดินออกไปจากประตูใหญ่ของตึกและกางร่มให้ตัวเองก่อนที่จะหันหลังไปมองอีกสองคน...และยืนรอกลางสายฝนพรำ
เมื่อร่มถูกส่งมาอยู่ในมือนายมะยมแล้ว ร่มจึงถูกกางออก...นายมะยมเว้นที่ว่างด้านขวามือให้กับคนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียว
......
.....
....
...
..
.
ร่มที่นายมะยมถือกว้างกว่าของเพื่อนสนิท มันจึงสามารถกางให้ร่มแก่ผู้ชายตัวโตสองคนได้โดยที่ไม่มีใครต้องเปียกจากละอองฝน
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาสามคนเดินมาไกลจากตึกที่ทำงาน...ทุกครั้งที่คนซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวจะลงมากินข้าวกลางวันพร้อมกัน พวกเขาจะไปกินไกลจากบริเวณตึกที่ทำงานหน่อย
......
.....
....
...
..
.
ร้านก๋วยเตี๋ยวสีเขียววันนี้มีผู้คนบางตาแม้เกินเที่ยงวันมาแล้วสิบห้านาที จึงสามารถเลือกที่นั่งกันไดตามสบาย
พวกเขาเลือกที่นั่งซึ่งไกลจากพัดลมมากหน่อย เพื่อไม่ให้คนคนหนึ่งหนาวจนเกินไป
“ข้าวสองหน้าครับ ขอน้ำเปล่าไม่เอาน้ำแข็งนะครับ” นายศรสั่งอาหารกับเด็กที่มารับออเดอร์
นายมะยมยื่นมือไปเลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมา และพาตัวเองไปหย่อนก้นนั่งที่เก้าอี้อีกตัวที่อยู่ข้างๆ กัน...ซึ่งมันอยู่ใกล้กับพัดลมมากกว่า
“บะหมี่น้ำพิเศษครับ ขอน้ำเปล่าไม่เอาน้ำแข็งเหมือนกัน” นายภักดีบอก พร้อมนั่งลงที่เก้าอี้หนึ่ง...ซึ่งอีกคนเลื่อนออกมาให้แล้ว
“บะหมี่แห้งหมูแดงล้วน ข้าวหมูแดง โค้กขวดเล็ก น้ำแข็งแก้ว ครับ” นายมะยมสั่งรายการอาหารของตัวเอง
เด็กที่จดรายการพยักหน้าและเดินห่างไปจากโต๊ะของพวกเขา...นายศรก็บ่นเพื่อนทันที “หนาวๆ แบบนี้ยังกินน้ำแข็งอีกนะมึง เดี๋ยวก็เข้าไปนั่งตากแอร์อีก!”
“อ๊าว! กินโค้กไม่ใส่น้ำแข็ง แม่งก็เหมือนกินส้มตำไม่ใส่พริกนะมึง” นายมะยมแย้งเพื่อน
น้ำดื่มถูกวางลงที่โต๊ะไม่ทันไร พนักงานอีกคนก็เอาอาหารที่พวกเขาสั่งมาให้....
นายศรเลื่อนข้าวสองหน้าของตัวเองไป
นายมะยมเลื่อนเอาข้าวหมูแดงไปวางตรงหน้าตัวเอง
นายภักดีเลื่อนบะหมี่แห้งมาใกล้และค่อยๆ ปรุงรส จากนั้นจึงสลับเอาบะหมี่น้ำของตัวเองมาไว้ตรงหน้า และหยิบตะเกียบคีบเส้นเข้าปาก...โดยใช้ช้อนตักน้ำซุปร้อนๆ เข้าปากเป็นช่วงๆ
......
.....
....
...
..
.
เมื่อข้าวหมูแดงหายวับไปจากจาน นายมะยมจึงหยิบเอาชามบะหมี่แห้งมาวางตรงหน้าแทน เขาคลุกทุกอย่างในชามจนเป้นที่พอใจแล้วจึงคีบเส้น...เข้าปาก
“...งึม...เผ็ดอ่ะ...” นายมะยมพูดทั้งๆ ที่ยังเคี้ยวไม่เสร็จ
“อืม...กินน้ำสิครับ สงสัยหนักมือไปหน่อย” นายภักดีบอก
“จะไปทำของกันวันไหนครับ” นายศรถามหัวหน้าของตัวเอง
นายภักดีเงยหน้าขึ้นมา “พรุ่งนี้เช้ามั๊งครับ ลองดูก่อน”
“เตามาแล้วนะครับ เมื่อเย็นเค้าเอามาส่งที่บ้านผมแล้ว ว่าแต่หัวหน้าจะทำอะไรมั่งล่ะครับ?” นายศรบอกและถามต่อ
นายภักดีเคี้ยวหมูแดงในปากอยู่จึงไม่ได้ตอบคำถามในทันที แต่เขายื่นหน้านิดๆ ไปทางคนที่นั่งข้างๆ ซึ่งกำลังเหงื่อแตกพลักเต็มหน้า
“...ฮู๊ยย เผ็ด!” พูดจบนายมะยมก็หยิบแก้วโค้กเย็นเฉียบมาดับความเผ็ดร้อน
......
.....
....
...
..
.
พอคนเริ่มเข้าร้านมาเรื่อยๆ จนเต็มทุกโต๊ะ พวกเขาสามคนก็ทานมือกลางวันกันเสร็จ
ขณะที่อีกสองคนเดินไปจ่ายค่าอาหาร นายมะยมเดินออกมายืนรออยู่หน้าร้าน...พร้อมยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
“แวะซื้อกาแฟก่อนเปล่าวะ?” นายศรกางร่มพลางหันหน้าไปถามเพื่อนตัวเอง
“เออ...ซี๊ด...” นายมะยมยังเผ็ดร้อนปากไม่หาย...กางร่มบ้าง
นายภักดียื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้นายมะยม พลางรับร่มมาถือไว้ในมือพร้อมกับตอนที่นายมะยมรับผ้าเช็ดหน้าไปซับเหงื่อที่หน้าและคอ
“ไปเถอะครับ เหมือนจะตกกว่าเดิมล่ะ” นายศรบอกหัวหน้าของตัวเอง พลางเดินนำไป
นายมะยมก้าวขาตามเพื่อนไปพร้อมๆ กับขาอีกคู่ซึ่งกางร่มให้เขา “พี่แกล้งผมป๊ะเนี่ย...ซี๊ด...” ยังเผ็ดไม่หาย
“มองโลกในแง่ร้าย ไม่ดีนะครับ” นายภักดีพูด
นายมะยมเหล่ตามองคนที่เดินข้างๆ กัน.....ไม่เชื่อ! “.....ซี๊ด....ไม่ให้กินน้ำแข็งก็บอกดีๆ สิคร๊าบ”
นายภักดีเหล่ตามองคนที่เดินข้างๆ กัน “พูดแล้วจะฟังเหรอครับ?”
“ฟังสิครับ!” นายมะยมยืนยันเสียงแข็ง
“งั้นไปร้านกาแฟกับคุณศร คุณห้ามสั่งกาแฟเย็นล่ะ” นายภักดีบอก
“อ๊าว! ก็คนมันเผ็ดอ่ะ!” นายมะยมโวย
“กินหมดนี่ก็ไม่เผ็ดแล้วมั๊ง” นายภักดีล้วงเอาห่อกระดาษออกมาจากกระเป๋าเสื้อของตัวเองส่งให้นายมะยม
นายมะยมรับห่อกระดาษนั้นมาเปิดดู “เอามาจากไหนอ่ะครับ ไม่ใช่ที่พี่ทำไว้นี่” พุดพลางหยิบคุ๊กกี้ชิ้นหนึ่งในห่อกระดาษเข้าปาก
“เค้าให้ตอนประชุมน่ะครับ เห็นว่าเจ้ามีชื่อ” นายภักดีบอก
“อร่อยดีครับ” เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างมีความสุข
“อื้ม...” นายภักดีฮัมเบาๆ ในลำคอ
“แต่ผมชอบคุ๊กกี้ที่แฟนผมทำให้มากกว่าอ่ะ” นายมะยมพูดพลางส่งคุ๊กกี้ชิ้นที่สองเข้าปาก
“อื้อ...”นายภักดีฮัมเบาๆ ในลำคอ
......
.....
....
...
..
.
หากเราเดินท่ามกลางฝนที่ตกพรำเม็ดหนามากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจรู้สึกหนาวได้... ทว่า แขนนายภักดีมันก็รู้สึกเย็นๆ อยู่หรอกนะ แต่ทำไมมันร้อนที่หน้าพิกล
......
.....
....
...
..
.
-
เริ่มเห็นความสัมพันธ์ของคำว่าแฟนชัดเจนขึ้นจริงๆ
ช่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ดูแลกันจริงๆ
-
อิอิ ดีใจที่มีต่อ
สองคนนี้เค้าน่ารักกันจริงๆ
-
อิ..อิ เราก็ชอบให้นายมะยมกินคุ๊กกี้ที่แฟนทำให้มากกว่านะ >_<
-
แค่เห็นว่ามีต่อ ก็ลนลานเปิดเข้ามาอ่านแทบไม่ทัน :mc4:
พออ่านจบ คนอ่านยิ้มแก้มแตก มีความสุขมาก ฟินนาเล่ อยากร้องกรี๊ดให้กับความน่ารักในตอนนี้
:pig4: ขอบคุณมากค่ะที่มีมาให้พวกเราอ่านต่อ
รักมะยมพ่อมรึง และก็คุณ Bao Bao กดเป็ดให้แล้วนะคะ ยังกดคะแนนให้ไม่ได้ เสียดาย
-
......
.....
....
...
..
.
เสียงจอแจจากเหล่าพนักงานในฝ่ายต่างประเทศดังขึ้นทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน...
เพื่อนร่วมงานค่อยๆ เปิดคอมพิวเตอร์และเก็บกระเป๋า
พนักงานสาวต้องเจียดเวลาเข้าไปเติมความงามก่อนกลับบ้าน พนักงานหนุ่ม โทรหาแฟนเพื่อนัดเวลากัน----นายมะยมก็ไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ
“พ่อมึงกลับมายังวะ?” นายศรหันมาถาม
“ไม่รู้ดิ ส่งเมสแซสไปถามแล้ว ยังไม่เห็นตอบกลับเลยว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อนสนิท
“งั้นกูคุยกับไอ้กัสดีกว่า” นายศรพูดเสียงระรื่นจบก็เปิด Facebook ในคอมเครื่องของตัวเองและแชทคุยกับแฟนไปเงียบๆ
นายมะยมค้นหารายชื่อของหวานใน google ....พลางรอเมสแซสตอบกลับ
......
.....
....
...
..
.
ติ๊งหน่อง!.....เสียงเตือนเข้าของข้อความดังขึ้นมาจากมือถือของนายมะยม----รอที่ลานจอดรถใต้ตึกนะครับ
นายมะยมอ่านข้อความเสร็จก็หันไปบอกเพื่อนสนิท “ป๊ะ ปิดเครื่อง”
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาปิดไฟในแผนกจนหมดทุกดวง...ก่อนพากันเดินไปที่ลิฟท์
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินนำเพื่อนสนิทไปยังลานจอดรถใต้ตึก...
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาสองคนเดินเข้าไปนั่งในรถ BMW สีดำคันหนึ่งซึ่งสตาร์ทเครื่องรออยู่
......
.....
....
...
..
.
“ร้านอยู่แถวไหนครับ?” นายภักดีถามเพื่อนสนิทของแฟนตัวเองที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“แถวxxxxx ครับ จะไปทันมั้ยครับ” นายศรไม่แน่ใจ
“น่าจะทันครับ” นายภักดีพูดจบก็ออกรถไปทันที
“พี่! เอานี่นะ ขนมปังไส้หมูหยองพริกแกงนะครับ แล้วก็ไส้ช็อคโกครีม เอาวานิลลาด้วย ทำเป็นทรงแบบครัวซองได้มั้ยครับ?””
“ได้ครับ แต่คุณทำนะ ผมสอนตอนเริ่มให้” คนขับพยักหน้าพร้อมยื่นข้อเสนอ
“ไม่มีปัญหา!” นายมะยมรับคำหนักแน่น “แล้วก็เอาหนมปังลูกเกดด้วยดีมั้ยครับ ส่วนอีกอันก็เอา....ขนมปังเฉยๆ แต่เราเอาทำเนื้อแป้งสองสามรสมาพันๆ ผสมกันไปเลย...ดีมั้ยครับ?” คนทำรายการหันหน้ามาถามคนทำอีกครั้ง
“ขนมปังลูกเกดเอาลูกเล็กหน่อยไหมครับ ผสมไปในเนื้อขนมปังเลย คุณจะได้กินง่ายๆ” คนทำเสนอบ้าง...
“เอ่อ ผมได้ข่าวว่าทำส่งร้านเค้าไม่ใช่เหรอครับ” นายศรที่นั่งเงียบมาตลอดสอดปากแย้ง
“หึหึหึ...” คนขับยิ้มที่มุมปากพร้อมหัวเราะในลำคอ
“เค้าให้กูคลีเอทของไปให้เลยเว้ย! เหี้ยนี่! กูก็ทำการบ้านมาเยอะนะ!” นายมะยมหันไปว๊ากเพื่อน
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีขับรถไปพลางฟังเพื่อนสนิทเค้าเถียงกันไปพลาง....พร้อมใบหน้าที่อมยิ้ม
......
.....
....
...
..
.
ปกติ...นายศรไม่ได้กลับด้วยกันแบบนี้ แต่เพราะวันก่อนนายศรซื้อจักรยานคันใหม่มาให้น้องชายตัวเอง แล้วนายมะยมเกิดไปโดนใจกับมันเข้า วันนี้จึงต้องรบกวนนายศรมาบอกทางไปร้านนั้นให้...
ไม่พอ ก่อนหน้าคดี BMX ... มีอีกหนึ่งดคี
ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิง อยู่ดีๆ นายมะยมก็ดันเกิดนึกครึ้มเห็นดีด้วยกับคำขอของเจ้าของร้านกาแฟในตึกที่ทำงานซึ่งไปกินกันเป็นประจำ ทำให้เขาต้องทำขนมส่งร้านนั้นอาทิตย์ละครั้ง-----แต่ก็แค่ลองดูก่อน
ทีแรกนายศรด่าเจ้าหัวลูกเจี๊ยบจนหงอยไปเยอะทีเดียว... แต่แล้วสองสามวันต่อมา นายศรก็มาบอกเขาเป็นเชิงปรึกษาว่าให้เขาไปทำขนมที่บ้านตัวเอง
เขาก็เห็นดีด้วยกับนายศร เพราะหอพักถึงผ่อนปรนให้เขาซึ่งทำขนมให้เจ้าหัวลูกเจี๊ยบทุกวันอาทิตย์ได้ แต่หากทำเพื่อส่งร้าน...กลิ่นอาจรบกวนห้องข้างเคียงมากเกินไป
อันที่จริง...ไปทำที่บ้านพี่ชายของเขาก็ได้ แต่ดูท่าเจ้าหัวลูกเจี๊ยบจะสะดวกใจกับบ้านเพื่อนสนิทของตัวเองมากกว่า
ส่วนเขาน่ะเหรอ...ทำที่ไหนก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ใกล้ที่พักมากกว่าก็ดี ไปมาง่ายๆ ไม่เหนื่อยกับการเดินทาง
......
.....
....
...
..
.
-
อร๊ายยยยยยเขิล
กลับมาตามคำเรียกร้องด้วยอ่ะ ><
-
น่ารักกกกอ่ะ เจ้าหัวลูกเจี๊ยบ พ่อมรึงใช้คำแทนมะยมได้น่าเอ็นดูมากๆ
แล้วคุณภักกลับมาอยู่หอเดิม หรือเปล่าคะ อยู่ห้องใครเยอ หึหึ :z1:
รอตอนกลับห้อง จะเกาะขอบเตียงกันเลยทีเดียว
-
น่ารักกกกอ่ะ เจ้าหัวลูกเจี๊ยบ พ่อมรึงใช้คำแทนมะยมได้น่าเอ็นดูมากๆ
แล้วคุณภักกลับมาอยู่หอเดิม หรือเปล่าคะ อยู่ห้องใครเยอ หึหึ :z1:
รอตอนกลับห้อง จะเกาะขอบเตียงกันเลยทีเดียว
ชอบสรรพนาม "เจ้าหัวลูกเจี๊ยบ" เหมือนกันเลย
เกาะขอบเตียงด้วยคน จนตอนนี้ยังเอาคำว่า "ต่อสิครับ" ออกจากหัวไม่ได้
-
น่ารักอ่ะ แต่เมื่อไหร่จะร้อนแรงบ้างน้า
:กอด1:
-
พ่อมึงกับเจ้าหัวลูกเจี๊ยบ
ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มแก้มแตก ^^
-
......
.....
....
...
..
.
“ไม่มีแบบที่มีเบาะหลังเหรอครับพี่” นายมะยมถามคนขาย...หน้าซื่อๆ
“มึงบ้าป่าว! BMX มีเบาะหลังแม่งเค้าไม่เรียก BMX แหละ!” นายศรเจริญพรให้เพื่อน
“ไม่เป็นไร ไว้กูไปต่อเบาะหลังเองก็ได้” นายมะยมยักไหล่...ไม่แคร์ศักดิ์และศรีของBMXเลยสักนิด
“น้อง! แต่งอะไรแต่งได้ อย่าเสริมเบาะหลังเพิ่มนะพี่ขอร้อง” คนขายหน้าเหวอ
“ไอ้ยม! มึงอย่าหยามBMXกูนะ ถ้ามึงอยากได้แบบมีเบาะ เดี๋ยวกูพามึงไปดูร้านอื่น!” นายศรเสียงเข้มใส่เพื่อน
“ก็กูชอบทรงเนี้ย! กูจะเอาคันเนี้ย!” นายมะยมชี้นิ้วไปที่จักรยานคันที่ตัวเองเล็งไว้แล้ว
“ซื้อแล้วห้ามเสริมเบาะหลัง ไม่งั้น มึงกับกูมีเฮ!” นายศรเข้มใส่เพื่อนสนิท...เพื่อศักดิ์ศรีของรถที่รัก
“อ๊าว!”
ขณะที่นายมะยมกำลังขึ้นเสียงสูง คนที่ยืนเงียบอยู่ข้างหลังมาตลอดเอามือมากุมบ่าเขา แล้วถามเสียงเรียบว่า “มันสวยอยู่แล้ว คุณจะไปทำเพิ่มทำไมครับ?”
“ก็ถ้าไม่เสริมเบาะหลังพี่จะนั่งยังไงอ่ะ” นายมะยมบอก
“ผมยืนก็ได้ครับ ถ้า BMX มันก็ต้องปั่นคนนึง ยืนหลังคนนึง” นายภักดีบอก-----ถึงเป็นสิงห์ BMW แต่การให้เกียรติรถทุกประเภทมันติดอยู่ในสายเลือดของคนรักรถทุกคน
“ไม่ได้ครับ!” นายมะยมเสียงแข็ง.....แก้มเริ่มป่อง
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างที่นายมะยมกับนายศรกำลังเถียงกัน เขาถอนหายใจเฮือกยาวและมองดูเวลาจากนาฬิกาของทางร้าน จากนั้นจึงเดินไปกระซิบบอกเจ้าของร้าน แล้วเดินออกไปที่รถของตัวเองซึ่งจอดอยู่หลังร้าน
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีปิดกระโปรงรถพร้อมทั้งกล่าวขอโทษกับเจ้าของร้านอีกครั้ง...เป็นการทิ้งท้าย
......
.....
....
...
..
.
นายภักดียกมือถือขึ้นมากดสาย เมื่อปลายสายรับ เขาจึงบอกกับปลายสายว่า “มะยมครับ กลับเถอะครับ”
เมื่อเขาพูดเสียงเข้ม ปลายสายจึงรีบรับคำอย่างไม่เยิ่นเย้อ
เขาเดินเข้าไปรอคนทั้งสองในรถ... สักพักนายมะยมก็เดินหน้ามุ่ยมาพร้อมนายศร
......
.....
....
...
..
.
รถมาจอดส่งนายศรที่บ้าน นายมะยมก็ยังไม่พูดอะไรกับเพื่อนสนิทสักคำ...
......
.....
....
...
..
.
“พรุ่งนี้คุณไปขอโทษคุณศรเค้าซะนะครับ” นายภักดีดับเครื่องพลางบอกคนที่นั่งแก้มป่องอยู่ข้างๆ
“ผมไม่ผิด!” นายมะยมยืนยัน
“ถ้าคุณซื้อ BMW แล้วคุณเอามันไปทำแต่งลายแบทแมน ผมก็ไม่ยอมนะ” นายภักดีพูดพลางหันไปหยิบกระเป๋าหนังที่วางอยู่เบาะหลังมาไว้ในมือ
“เหมือนกันตรงไหน!” นายมะยมขึ้นเสียงแข็ง----พูดจบเขาก็เปิดประตูรถและเดินออกไปเลย
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีเดินตามหลังนายมะยมไปแบบห่างๆ
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้น 6
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีเดินเข้าไปในห้อง วางกระเป๋าไว้เหนือตู้รองเท้า ถอดรองเท้าเก็บเข้าตู้รองเท้า แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปในห้องพลางปลดเน็คไทออกจากคอ
......
.....
....
...
..
.
แขนคู่หนึ่งรัดรอบเอวของเขา...พร้อมเสียงกระซิบที่ดังขึ้นข้างหูด้านหนึ่ง “ไม่เอา BMX แล้วก็ได้”
“แย่ล่ะ! ผมจะทำไงกับไอ้นี่ดีล่ะ?” นายภักดีอุทานเสียงเครียด
คิ้วของนายมะยมขมวดปม
กระดาษที่พับสองทบใบหนึ่งถูกชูขึ้น
......
.....
....
...
..
.
ใบเสร็จค่าของ
......
.....
....
...
..
.
“แบบนี้โอเคไหมครับ?” ทันทีที่นายภักดีถามจบ แก้มของเขาก็ถูกระดมกดจนแทบช้ำ
......
.....
....
...
..
.
อาบน้ำเสร็จ...นายภักดีก็ถูกอีกคนรบเร้าให้พาไปดูจักรยาน BMX สองคันซึ่งนอนนิ่งอยู่ในกระโปรงหลังรถ----คาดว่าหากไม่ได้เห็นกับตาคงนอนไม่หลับ
......
.....
....
...
..
.
-
o13
ดีใจกว่าตอนจบอีก
ดีใจที่คู่หัวหน้ากับหัวลูกเจี๊ยบยังอยู่กับเราต่อ
อิอิ
-
ถึงนั่งคันเดียวกันไม่ได้ แต่ก็ขี่ไปข้างๆกันได้นี่เนอะ
o13
-
น่ารัก :impress2:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อันนี้คือความรู้สึกหลังอ่านจบ จริงจัง
แม่ง น่ารักเวอร์
อ๊ายยย คืนนี้ฝันดีแน่ๆเลยเรา
:pig4:
-
ยิ้มแก้มแตก แอร๊ยยยยยยยยย พ่อมึงน่ารักเหลือเกิน ป๋ามาก
-
......
.....
....
...
..
.
ตี๊ด! ตี๊ด!-------- เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
ทันทีที่แขนซึ่งพาดอยู่บนตัวเขาถูกดึงไปปิดเสียงนาฬิกาปลุก ตาเขาก็เริ่มเปิดขึ้นมา...ลืมตาสักพัก จนสายตาปรับให้เข้ากับความมืดได้แล้ว เขาจึงลุกออกจากเตียง
......
.....
....
...
..
.
เขารูดซิปเสื้อวอร์มและเดินไปหยิบแว่นตากรอบหนามาสวม...คนที่เข้าไปล้างหน้าแปรงฟันก็เดินออกมาจากในห้องน้ำ
เขาเดินไปหยิบรองเท้าผ้าใบคู่หนึ่งออกมาวางตรงพื้น และหยิบอีกคู่มาสวมเอง
......
.....
....
...
..
.
คนที่ลงลิฟท์มาด้วยเริ่มวิ่งเหยาะๆ ไปพร้อมกับเขาตั้งแต่เริ่มก้าวออกจากลิฟท์
......
.....
....
...
..
.
วิ่งจนเหงื่อชุ่มและครบรอบตามที่กำหนดแล้ว เขาจึงไปนั่งรออีกคนที่เก้าอี้ยาวตัวหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
เมื่ออีกคนวิ่งครบรอบแล้วก็เดินมาหาเขา ชุดวอร์มของเขาก็แห้งพอดี
......
.....
....
...
..
.
เดินมาถึงตัวปุ๊บ คนนั้นก็ยื่นมือมาหยิบผ้าขนหนูที่เขาคล้องคออยู่ไปเช็ดเหงื่อที่หน้าและคอของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เมื่ออีกฝ่ายหายหอบเหนื่อยแล้ว พวกเขาจึงลุกขึ้นและเดินออกไปจากสวนหย่อม...
พวกเขาเดินเลยตึกหอพักไป...เดินไปเรื่อยๆ จนถึงซอยหนึ่งซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามาชุมนุมกัน
......
.....
....
...
..
.
ปกติในวันทำงาน เขาไม่เอาแน่เอานอนกับอาหารเช้า...ต่างกับอีกคนที่มุ่งมั่นกับการกินตำลึงที่ปลูกเองตรงระเบียงกับต้มเลือดหมู----เป็นมื้อเช้า
แต่หากเป็นวันหยุด เขาต้องกินเมนูเดียวกัน...เท่านั้น
นายมะยมบ่นว่าเขาผอม
ส่วนเขา...เขาชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายอ้วนเกินไปรึเปล่า? เพราะอาทิตย์นี้เขาวิ่งครบรอบเร็วกว่านายมะยมมาทั้งอาทิตย์!!
......
.....
....
...
..
.
“ผมว่าคุณเลิกกินขนมปังเล่นเถอะ เอาแค่กินกับกาแฟก็พอมั้ย?” เขาลองเลียบเคียงขอความเห็นจากอีกฝ่าย
“หือ?...” ปากที่กำลังจะอ้างับหมูชะงักค้าง “ทำไมล่ะ?”
“ผมว่าคุณเหนื่อยง่ายนะช่วงนี้” เขาบอกอีกฝ่าย
“ก็เมื่อคืนพี่ Hot เกิ๊น ผมเลยเสร็จเร็วเฉยๆ หรอกน่า” อีกฝ่ายบอกเขา
“ผมหมายถึงตอนคุณวิ่ง!” นายภักดีเถียงทันควัน
“ไมอ่ะ? เกี่ยวไรกับวิ่ง” อีกฝ่ายพูดจบก็งับเนื้อหมูเข้าปาก
“กินขนมปังมากมันสะสมในร่างกายนะครับ” เขาบอกอีกฝ่าย
“ผมไม่มีพุงน๊า พี่อย่าหาว่าผมอ้วนสิ!” อีกฝ่ายพูดพลางลุกขึ้นมาเลิกเสื้อให้ดู...พุงที่เรียบแต้-----กินไปตั้งเยอะ ไม่รู้ไปออกส่วนไหนหมด
“มันไม่ได้ไปจุกอยู่ตรงนั้นอย่างเดียวนะครับ ถ้ามันไปสะสมที่อื่น อาการที่แสดงออกมาคือเหนื่อยง่าย กำลังถดถอย” เขาบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียง...เอาจริงเอาจัง
“อ๋อ! ช่วงประจำเดือนจะมาก็งี้แหละครับ” อีกฝ่ายยียวน
เขาระบายลมหายใจยาวและเลิกที่จะพูดเรื่องนี้กับอีกฝ่ายอีก
เขาคิดไว้ในใจแล้ววันนี้ว่าจะทำขนมปังในส่วนของนายมะยมให้น้อยชิ้นลง----เอาแค่พอกินวันละสองชิ้น...พอ
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีจอดรถที่หน้าบ้านนายศร และช่วยกันขนของที่เพิ่งไปซื้อมาจากร้านค้าขนาดกลางซึ่งขายทุกอย่างเกี่ยวกับการทำขนมหวานและเบอเกอรี่...ใกล้กับหอพักของพวกเขา...เข้าไปด้านในบ้าน
......
.....
....
...
..
.
เป้าหมายทำส่งร้านตามนายมะยมวางแผนไว้คือ...อย่างละสิบชิ้น
ขนมปังไส้หมูหยองพริกแกง ช็อคโกแลตครีม วานิลลาครีม กับขนมปังลูกเกด ขนมปังสามสีแบบไม่ใส่ไส้----รวมแล้วก็แค่ 50 ถุงเอง!!
ด้วยเตาไมโครเวฟที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติหน่อย...ถึงไม่ใช่งานยาก (เพราะมีผู้ช่วยถึงสองคน) แต่มันก็เป็นงานที่ใช้เวลา
......
.....
....
...
..
.
เที่ยงกว่าๆ ขนมปังทุกอย่างก็เสร็จพร้อมใส่ถุง แต่คนทำและผู้ช่วยต่างเหงื่อซกท้องเบาหวิว...จึงต้องพักเบรคกันก่อน
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินไปล้มตัวนอนยาวที่เก้าอี้ไม้ริมหน้าต่าง...สักพักนายมะยมก็นั่งยองๆ เกาะเก้าอี้ถามเขาว่า “พี่อยากกินอะไรครับ?”
“กระเพราไข่ดาวกรอบครับ” เขาบอก
“เอาหมูหรือไก่ครับ?” นายมะยมถามเขา
“ไก่ครับ” เขาบอก
นายมะยมบอกเขาก่อนลุกขึ้นยืน “ถ้าง่วงพี่นอนเลยนะ” และเดินเข้าไปทางครัว
เขาหลับตา...นอนฟังเสียงที่ดังมาจากในครัวไปเรื่อยๆ....จนผลอยหลับไปเอง
......
.....
....
...
..
.
กินข้าวกลางวันเสร็จ พวกเขาก็มานั่งสบายๆ เอาขนมปังใส่ถุง
“หนุกดีเนอะมึง” พนักงานแม็กปากถุงทำหน้าที่อย่างพิถีพิถัน
“หนุกกับผีสิ! ร้อนจะตายชัก!” พนักงานจัดเรียงพูดพลางรับถุงที่แม็กปากแล้วไปเรียงในกล่อง
“หึหึหึ...ถ้าไม่ได้ทำงาน แล้วให้ทำแบบนี้ไปวันๆ ก็สบายดีเหมือนกันนะครับ” เขาพูดพลางยื่นถุงที่ใส่ขนมปังเข้าไปแล้วให้แผนกแม็ก
“เนอะ!” พนักงานแม็กปากถุงหันมาหาพรรคพวก....เขาส่งยิ้มคืนให้
“แค่นี้มันจะได้สักกี่ตังค์วะ ไอ้ย๊ม! กูว่าจะไม่คุ้มค่าน้ำค่าไฟซะล่ะมั๊ง!” พนักงานจัดเรียงรับถุงที่แม็กปากแล้วไปเรียงในกล่อง
“กูไม่ได้กะเอากำไรเว้ย!” พนักงานแม็กปากถุงหันไปบอกเพื่อนตัวเอง
“ไม่ได้เอากำไรแล้วทำทำเหี้ยไร? ไม่ใช่เรื่องมาเล่นขายของนะมึง!” พนักงานจัดเรียงเจริญพรเพื่อนตัวเอง
“กูทำฝึกฝีมือเอาแค่ทุนคืนเฉยๆ เว้ย!” พนักงานแม็กปากถุงหันไปบอกเพื่อนตัวเอง ก่อนจะหันหน้ามาพูดกับเขา “เผื่อวันไหนที่พี่เกษียณแล้วเรามาทำขนมขายกันเนอะ”
เขาส่งถุงที่ใส่ขนมปังเข้าไปแล้วให้แผนกแม็ก “เผื่อเร็วไปไหมครับ ผมไม่ได้แก่ขนาดนั้นซะหน่อย”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” พนักงานจัดเรียงหัวเราะร่า
“พี่อ่ะ! ผมพูดถึงอนาคต ไม่ได้แอบว่าพี่น๊า” พนักงานแม็กปากถุงพูดเสียงอ้อน
“เอาจริงน่ะ?!” เขาถามย้ำ
“อื้อ!” พนักงานแม็กปากถุงพยักหน้าหงึกๆ
“แล้วระหว่างผมรอคุณเกษียณ ผมจะทำอะไรล่ะ?” เขาถามพนักงานแม็กปากถุง
“พี่เกษียณ ผมก็ลาออกไง!” พนักงานแม็กปากถุงยักคิ้วให้เขา----แบบผู้ชนะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า...เอาไปแล้วไม่รับคืนนะครับ!” พนักงานจัดเรียงหัวเราะร่า
“ไม่เคยคิดคืนครับ” เขายกยิ้มมุมปากให้พนักงานจัดเรียง
......
.....
....
...
..
.
-
ฟินนนนนนนนนน มะยมน่ารักตลอด
-
น่ารักกกกกกกกกกกกก :กอด1: :กอด1:
-
หวานมากกกก แอบจิ้นที่มะยมว่า เมื่อคืนพี่ hot เกินผมเลยเสร็จเร็ว
:laugh:
อยากไปเกาะขอบเตียงเลยทีเดียว
-
ช๊อบบบชอบ นึกว่าจบแล้วมีต่ออีกดีใจจัง
อบอุ่น รักแบบผู้ใหญ่ เวลาพักกลางวันยืนรอลิฟท์เห็นหนุ่มๆเค้าเดินมาด้วยกันก็จิ้นไปเรื่อยๆ
จนเค้าสะกิดกันเองนึกว่าเราสนใจเค้าซ๊ะงั้น ถ้ารู้ว่าเราเอาเค้าไปจิ้นจะเป็นไงนะ :laugh:
-
นายมะยมน่ารักเกินไปแล้ว :L1:
-
เอาไปเอามากรี้ดคุณภัก มากกว่ามะยมซะแล้วเรา อบอุ่นจัง
-
มันน่ารักนักสองคนนี้
ไอหัวลูกเจี๊ยบมันกวน แต่น่ารักอ๊าาาา 555
-
แต่ผมชอบคุ๊กกี้ที่แฟนผมทำให้มากกว่าอ่ะ
วี๊ดวิ้วๆ วู้~ไม่ค่อยจะหวานเล้ยหนูมะยม :no2:
ฮาคุณภักห่วงมะยมจะอ้วน :m20:
ก็เมื่อคืนพี่ Hot เกิ๊น ผมเลยเสร็จเร็วเฉยๆ
:a5:เฮ้ยๆ อิ๊อ๊ะกันแล้วเรอะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไง ท่าไหนบ้าง (ไทเกอร์กุ๊กๆ อ่ะ)
แว๊ก! วิ่งหนีคุณภัก :5779:
-
วุ้ย ไม่ไหว น่ารัก น่ารักจนทนไม่ไหว คิดดีแล้วจริงๆ ที่อดทนรอจนมาอ่านรวดเดียวแบบนี้
จริงๆ ก็แอบชะแว้บๆ มาอ่านผ่านๆ แต่ก็กลั้นใจปิดเก็บไว้เพราะติดงาน
เป็นเรื่องที่จะอ่านตอนฟุ้งซ่านไม่ได้เด็ดขาด กว่าจะเริ่มอ่านนี่ต้องรวบรวมสมาธิขนานใหญ่
อ่านเรื่องนี้อารมณ์เหมือนจิบกาแฟอ่ะค่ะ มันจะรีบๆ ซดไม่ได้
ต้องให้ได้ไอ ได้กลิ่นแล้วค่อยๆ เอาลิ้นแตะๆ ชิม รับรู้รสชาติซาบซ่าน ฮา
อบอุ่นจริงๆ เลยค่ะ ยังรอตอนต่ออีกนะ คาดว่าจะมีมาอีก ใช่ไหม ใช่ไหม อิอิ
บวกหนึ่งนะคะ ขอบคุณค่ะ หนูมะยมกับคุณภัก แอนด์เดอะแก้งค์น่ารักมากๆ เลยค่ะ
-
นายมะยมน่ารักตลอด อิอิ
อ่านไปยิ้มไปแบบมีความสุขมาก
-
อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ ลุ้นตลอดให้มะยมเป็นรับ
แต่พออ่านไปเรื่อยๆ กลายเป็นคุณหัวหน้าที่โดนมะยมรุก
เรื่องสนุกมาก อ่านแล้วลุ้นตลอด ว่าใครคือเจ้าของเสียงกระซิบ
-
สองคนนี้รักกันหวานชื่นดีแท้
ดูแลห่วงใยกันไม่ห่าง
อ่านแล้วมีความสุขจริง ^^
-
ฮิ้ว........... คิดถึงกิจการตอนแก่ร่วมกันแล้ว :-[
-
แอร๊ยยยยยย มะยมรุกอ่า
เซ็งเลย อุส่าวาดฝันไว้
ไม่เปนไร น่ารักเหมือนกัน
-
ขอบคุณมากจ้า ที่เขียนมาให้อ่านกันเรื่อยๆ
มะยมกับคุณภัึคน่ารักมาก รักนั้นนิรันดร
หนูมะยมน่ารักซะ แก้มป่อง น่ารักจริง
ขอบคุณมากค่า
+1 นะจ๊ะ
-
มะยมวางแผนไปถึงเกษียณแล้ว
แบบนี้รักจริง ถือไม้เท้าไปด้วยกัน
พ่อมึงคงปลื้มน่าดู
-
เง้อ......น่ารักเว่อ
-
อ๊าย.......อาย
เฮียมะยมน่ารักเกินไป~
ถึงคุณหัวหน้า...
ตอนพูดประโยค "ไม่เคยคิดคืนครับ"
คิดมั้ยครับว่าคนฟังจะตัวลอยขนาดไหน
......แล้วคิดเผื่อคนกลางที่บังเอิ๊ญบังเอิญ(????)มารับรู้เหตุการณ์อย่างเราบ้างมั้ยยยยย
เราอายนะเว่ยยยยยยยย!!!!!!
........อยากเป็นหัวหน้า .... อยากอ่านใจหัวหน้าว่าหัวหน้าคิดอะไรอยู่ววว
ขอบคุณค่า จูจุ๊บบบบบบบบบส์~~
-
......
.....
....
...
..
.
วันจันทร์...ที่เย็นสบาย ด้วยเพราะอากาศคลึ้มฟ้าคลึ้มฝน ส่งผลให้หลายคนรีบเร่งมาทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงฝน และอีกหลายคน....หลับเพลิน ซึ่งเสี่ยงต่อการเข้างานสาย
......
.....
....
...
..
.
ตีห้า ณ ตึกหอพักหนึ่ง
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเบาๆ มาจากห้องหนึ่ง...บนชั้นที่ 6
......
.....
....
...
..
.
นาฬิกาปลุกแล้ว...แต่วันนี้เขาสองคนอาจไม่ลงไปวิ่งตอนเช้า เพราะมีฝนโปรยลงมาบางตา
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีผุดลุกขึ้นมาจากเตียง เขาปิดแอร์ที่ส่งอากาศเย็นยะเยือกมากรีดผิวของเขา และเปิดระเบียงห้องให้ลมเย็นชื้นจากสายฝนพัดเข้ามาในห้องนี้แทน
“พี่------” เสียงงึมงัมเรียกหาเขา เขาหันหน้าไปหาคนที่เรียกตัวเอง
เขาเห็นคนที่นอนอยู่เอามือตบปุ๊ๆ ที่เตียงนอน เขาจึงเดินไปเอนตัวลงตรงที่ว่างซึ่งคนที่นอนอยู่เว้นที่ให้...ริมนอกของเตียง แม้ผิดตำแหน่งไปบ้าง แต่แค่ไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็ต้องออกไปทำงานกัน
และเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอดิ้นลงไปกองกับพื้น เขาจึงหันตัวนอนตะแคง เบียดตัวเข้าไปชิดสนิทแนบกับอีกคน...เพื่อให้คนที่นอนตะแคงอยู่ด้านในของเตียงรัดร่างเขาไว้...กันเหนียว
......
.....
....
...
..
.
เขาหลับตาและเริ่มผ่อนอารมณ์ให้เคลิ้มง่วงไปอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่เขากำลังเคลิ้มหลับ มือที่ลูบอยู่ข้างหลังของเขา เริ่มไล้เข้าไปในกางเกงนอนของเขา
แรกๆ เขาก็ยังหลับตานิ่ง เพราะไม่แปลกอะไรที่คนซึ่งกำลังหลับอยู่คนนี้จะนอนโดยเอาฝ่ามือแปะก้นของเขา...เพราะบางครั้งคนคนนี้ก็เคยทำแบบนั้น....แต่ทุกครั้งฝ่ามือนั้นจะลูบนิดๆ และแปะนิ่งเฉยๆ-----ต่างจากวันนี้ที่มันมีชีวิต!
“ไม่ซนนะครับ ก่อนนอนก็ทำไปแล้วนะ” เขาบอกอีกฝ่าย
“นั่นมันเมื่อวาน อันนี้ของวันนี้” เสียงระรื่นนั้นดังอยู่บนเหนือหน้าผากของเขา
“อืม....ไม่ไหวนะครับ” เขาบอกย้ำกับอีกฝ่าย...เพราะนิ้วมือของฝ่ามือซึ่งไล้อยู่บนแก้มก้นของเขาเริ่ม...ล่วงล้ำเข้าไปภายในส่วนหนึ่งของร่างกายตนเอง
“ฮึฮึฮึ....” เสียงหัวเราะในลำคอดังอยู่เหนือหน้าผากของเขา
เขาระบายลมหายใจยาว......เพราะรู้อนาคต
......
.....
....
...
..
.
-
:pighaun: :haun4: :m25: :jul1: ทิชชู่ค่ะทิชชู่!!!!!!!!!!!!!
แอร้ยยยยยยยย :m3: :m1: :m10:
-
คุณเบาเบาขา
แล้วไงต่อ อร๊ายยยย
มัน..... อ่ะค่ะ
:L2: :L2:
-
อ๊ากก ขอตอนต่อจากนี้ไม่ได้เหรอ
ปิ๊งๆๆๆ 5555
-
o22
-
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มสองคนก้าวเท้าขึ้นไปบนบันไดเลื่อน...เพียงไม่นานนัก พวกเขาก็ก้าวออกมาอยู่ตรงหน้าทางออกของสถานีรถไฟใต้ดิน
ฝนยังคงโปรยปรายสายน้ำลงมาแบบบางๆ...ชายหนุ่มสองคนจึงเดินกางร่มคันใหญ่กว่าปกติหน่อยมาตามทางเดินเท้า
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาเดินเข้าไปในตัวตึก แต่ไม่ขึ้นไปที่ออฟฟิศ
พวกเขาเดินไปที่ชั้นสองของตึกเพื่อเข้าไปหาอาหารเช้าทานที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง----วีวาโกปี๊
เมื่อพนักงานสาวเดินมารับออเดอร์อาหารเช้าชุดบีหนึ่ง ชุดดีหนึ่ง และเอสเพรชโซ่ร้อนสองแก้วไปแล้ว ผู้จัดการร้านจึงเดินเข้ามาคุยกับลูกค้าสองคนนั้น
“เช้านี้เอสเพรชโซ่สองเลยเหรอครับ นี่ผมออเดอร์ของมากไปรึเปล่าครับ?” ผู้จัดการร้านมีสีหน้าเป็นกังวล
“เปล่าครับ พอดีเมื่อวานนอนน้อยไปหน่อยน่ะครับ อุ๊ย!” เท้าของคนพูดถูกรองเท้าหนังที่นั่งตรงข้ามกันเหยียบ...อยู่ใต้โต๊ะ
“ฮึฮึฮึ...ครับ เข้าใจกันครับ” ผู้จัดการร้านอมยิ้ม
“คุณวาชิมรึยังครับ เมื่อวันเสาร์ที่คุณป๋องไปรับของ ผมแยกทุกรสส่งไปให้ชิมต่างหาก” นายภักดีถามผู้จัดการร้านกาแฟ
“ครับ รสพอดีๆ ไม่หวาน ดีไซด์รูปแบบขนมปังได้แปลกดีครับ ยั่วน้ำลาย แถมยังเป็นอาหารตาที่ดีอีกนะครับ” ผู้จัดการร้านอวย
“รสชาติผมลดความหวานลงมาหน่อย เพราะคิดว่าคนที่มาดื่มกาแฟคงไม่ชอบรสหวานมาก แต่รูปลักษณ์ของขนมปัง ติชมที่คนนั้นครับ” นายภักดีบอกพลางรับกาแฟของตัวเองขึ้นมาจิบ
ผู้จัดการร้านหันไปคุยกับอีกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกัน “ขนมปังลูกเกดน่ารักดีครับ กินเล่นได้พอดีคำ ลูกค้าที่มากันวันอาทิตย์ชอบมากเลยครับคุณมะยม”
“เหรอครับ แล้วอย่างอื่นขายได้เยอะไหมครับ?” นายมะยมสอบถามยอดจำหน่าย
“ลูกเกดน่ะหมดไปตั้งเมื่อวานตอนบ่ายครับ ส่วนอย่างอื่นยังเหลือครึ่งต่อครึ่ง” ผู้จัดการร้านบอก
“มันกินกับกาแฟไม่อร่อยเหรอครับ” นายมะยมถามด้วยความอยากรู้
“ผมก็คอกาแฟนะครับ แต่ผมว่ามันอยู่ที่รูปลักษณ์มากกว่า อันนั้นมันเล็กๆ พอดีคำ ลูกค้าคงรู้สึกว่าทานสะดวกดีน่ะครับ หากทานไม่หมด ก็ถือถุงเก็บไปได้เลย มันน่ากินตลอด มากกว่าขนมปังชิ้นใหญ่ที่กินเหลือครึ่งน่ะครับ” ผู้จัดการร้านเอาผลการวิเคราะห์ของนายป๋องมาบอกแก่ผู้ทำ
“ผมว่าก็จริงนะ ผมชอบอันเล็กๆ มากกว่า...คนกินกาแฟ ส่วนใหญ่กินขนมปังกันเล่นๆ ถึงขนาดที่คุณทำมันไม่ใหญ่ แต่เป็นผมก็ทานไม่หมดเหมือนกันครับ” นายภักดีเสริม
“แล้วพี่ก็ไม่บอกผมตั้งแต่เมื่อวันที่เราทำล่ะครับ?” นายมะยมท้วง
“ผมคิดว่าตัวเองเป็นชนกลุ่มน้อยครับ” พูดจบนายภักดีก็งับแฮมเข้าปากและเคี้ยว
“แรกๆ เราต้องลองตลาดไปก่อนครับคุณมะยม เนี่ยทำมาสองแบบตั้งแต่แรกเลยก็ดี เห็นผลง่ายดีครับ แต่แบบใหญ่ก็ขายได้กับลูกค้าที่กลุ่มที่ชอบทานขนมปังครับ คุณมะยมอย่ากังวลมากไป” ผู้จัดการร้านขยายความความต้องการของลูกค้าให้แก่ผู้ทำ
“แล้วอาทิตย์หน้าเอาไงดีล่ะครับ?” นายมะยมถามผู้จัดการร้าน
“อืม....” ผู้จัดการร้านหันหน้าไปหานายภักดีก่อนจะเอ่ยปากถามว่า “คุณภักทำนานไหมครับ เท่าที่ทำมานี่คุณภักเหนื่อยมากรึเปล่าครับ?”
“ไม่ครับ ผมเริ่มทำประมาณแปดโมงเช้า พักทานข้าวกลางวันแล้วก็แพ็คใส่ถุง บ่ายสองก็โทรเรียกคุณป่องมารับของไปเลย ไม่เสียเวลาเท่าไหร่หรอกครับ” นายภักดีอธิบาย
“อืม...ผมกำลังจะขอความเห็นว่า หากทำมากขึ้นเป็นเท่าตัวจะไหวกันไหมครับ?” ผู้จัดการร้านบอก
“โห...ตกลงมันขายได้เหรอครับคุณวา” นายมะยมยังสงสัย
“ขายได้สิครับคุณมะยม พวกลูกค้าเค้าชอบรสชาติของคุณภักกันออก เค้าบอกผมว่าอรอ่ยทุกรส แต่ผมว่ารูปแบบครั้งหน้าเอาแบบชิ้นเล็กๆ พอดีครับจะดีกว่าครับ ส่วนขนมที่เอาแป้งหลายรสมาพันรวมกันนั่นก็ดีครับ ทุกอย่างลดขนาดลงมาจากเดิม แค่นี้ผมว่าน่าจะถูกใจลูกค้าส่วนใหญ่ของเราแล้วล่ะครับ” ผู้จัดการร้านสรุปความให้กับนายมะยม
“เอ่อ...” นายมะยมอมส้อมที่เพิ่งจิ้มไส้กรอกรมควันเข้าปากไปเมื่อตะกี้ “ถามคนนู้นครับ ผมแค่คนถ่วงแข้งถ่วงขาเชฟเค้าอ่ะครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” ผู้จัดการร้านหัวเราะร่วน และหันไปถาม ‘เชฟ’ “ฝากคุณภักไปพิจารณาก่อนนะครับ ผมแล้วแต่คุณภักสะดวกครับ”
“เพิ่มเรื่องจำนวนขอผมคิดดูก่อนละกันครับ ส่วนเรื่องลดขนาดผมไม่มีปัญหาครับ” นายภักดีบอก
ผู้จัดการร้านรู้ดีว่าบังคับ ‘เชฟ’ ไม่ได้ จึงบอกแกมเว้นที่เหลือไว้ให้เขาปฏิเสธได้...แต่เขาก็มีแผนสำรอง
......
.....
....
...
..
.
-
อ่าาาาาา
ตามกันต่อไป
-
:a5:ส่วนไหนหรอคะคุณภัก :-[ :o8: :jul1: :z1: :pighaun:[อาร์มแอบอยากรู้ก่อนที่มันจะมาถึง. ณ จุดจุด นี้. เค้าเริ่มอิ๊อ๊ะกันยังไงหยอ...]
-
น่ารักๆๆ
-
เดี๋ยวนี้มะยมแอบหื่นนะ
:z1:
แต่แหม อิตอนยังไม่ได้กัน
คนอ่านก็อยู่เป็นกำลังใจให้ตลอดเลยนะมะยม
อิตอนนี้พอเป็นทองแป่นเดียวกันแล้ว
ไม่คิดจะให้คนอ่านรู้มั่งเหรอ
:o9: :oo1:
-
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาเดินตามกันไปแบบห่างๆ และแยกกันขึ้นลิฟท์ไปคนละตัว
......
.....
....
...
..
.
เดินเคียงกันบ้าง เดินแยกกันบ้าง...ไม่เป็นปัญหาสำหรับนายภักดีและนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินถือร่มคันยาวออกมาจากลิฟท์... เขาเห้นหลังเพื่อนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำจึงรีบวิ่งไปหา
......
.....
....
...
..
.
“มึง ขายหมดอย่างนึงแล้วนะเว้ย!” นายมะยมเอาความดีใจและเป็นปลื้มมาบอกล่าวแก่เพื่อนสนิท
“เหรอ! อะไรหมดก่อนวะ?” นายศรเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
“หนมปังลูกเกดอ่ะ คุณวาเค้าบอกว่ามันเล็กดี กินพอดีคำ ลูกค้าชอบว่ะ” นายมะยมพูดพลางเดินคล้องคอเพื่อนไปตามทางเดิน
“ชิ้นกระติ๋วเดียวเอง ไม่มันส์ปากกูเลย” นายศรบอกแกมบ่น
“มึงไม่ใช่พวกละเลียดกินกาแฟนิ” นายมะยมบอกเพื่อนสนิท
“แล้วอย่างอื่นล่ะว่ะ” นายศรถามต่อ
“เหลือครึ่งต่อครึ่ง ไว้กลางวันไปดูกันใหม่เนอะ” นายมะยมนัดเพื่อนล่วงหน้า
“เออดี!” นายศรรับคำหนักแน่น
......
.....
....
...
..
.
ช่วงพักกลางวันเริ่มต้น
นายมะยมไปเข้าห้องน้ำก่อนลงไปกินข้าว... เขรอคิวเล็กน้อยก็ถึงลำดับปลดปล่อยของตัวเอง
ระหว่างที่เขาล้างมือ เขาก็เห็นมองเห็นคนคนหนึ่งในกระจก------คนคนนั้นเพิ่งเดินหน้าเรียบตึงเข้ามาในห้องน้ำที่มีคนอยู่ประปราย
“หัวหน้าครับ” นายมะยมร้องทัก
คนที่ถูกเรียกหยุดเดินและหันมาหานายมะยม
“ไปทานข้าวด้วยกันมั้ยครับ?” นายมะยมส่งยิ้มให้พร้อมคำชวน
“ผมต้องไปทานกับท่าน...บ่ายนี้เรามีเลี้ยงรับรองแขกครับ” หัวหน้าบอก
“ครับ! งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” นายมะยมพยักหน้าและเดินสวนออกไปจากห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินไปรอลิฟท์กับเพื่อนสนิทที่มายืนรออยู่ก่อนแล้ว
“พ่อมึงล่ะ? ไม่ลงไปด้วยกันเหรอวะ?” นายศรถามถึงเพราะก่อนหน้านี้นัดกันไว้
“เหมือนโดนสั่งด่วนให้ไปกินข้าวกับท่านว่ะ” นายมะยม
“โห ลาภปากเลย!” นายศรพูดแล้วน้ำลายสอ
“ชิ!” นายมะยมเบ้ปาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า...ไอ้เด็กติดพ่อเอ๊ย!” นายศรหัวเราะร่วนที่เห็นเพื่อนทำแก้มป่อง....อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน แค่หัวหน้าไปกินข้าวกับผู้บริหารไม่กี่ชั่วโมง มันจะไม่พอใจ
ประตูลิฟท์เปิดพอดี พวกเขาจึงเดินเข้าไปด้านใน
......
.....
....
...
..
.
-
555 น่าสงสารเด็กติดพ่อ
-
:monkeysad:อยากให้เรื่องนี้อยู่กันไปนานๆๆๆๆๆๆเลยอ่ะ. จบคำนี้ก็มีคำต่อๆๆๆไปเรื่อยๆ น่าจะดีเนอะ :m15:
-
นึกว่าจบไปแล้วแต่ก็ยังมีต่อเรื่อยๆอีก ชอบมากเลยจ๊ะเรื่องนี้
ตามลุ้นคำต่อๆไป
-
......
.....
....
...
..
.
เลิกงานแล้ว แต่ฝนยังตกพรำไม่หยุด...ซึ่งมันก็หยุดบ้างนะ แต่มันหยุดตอนที่เหล่าพนักงานกินเงินเดือนเค้านั่งทำงานกัน----แกล้งกันใช่มั้ย?
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงมาพร้อมนายศร แต่เขาแยกไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟชั้นสอง...ไม่กลับไปพร้อมกับเพื่อนสนิท
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในร้าน เขาก็ฉีกยิ้มกว้าง...ไม่เหงาแหละมีคนให้คุยเล่นด้วยระหว่างรอ
เขาเดินยิ้มไปหาคนที่นั่งอยู่โต๊ะมุมในสุดของร้าน “ไงป๋อง พี่นั่งด้วยคนนะครับ”
“ตามสบายเลยพี่มะยม” น้องป๋องเงยหน้าขึ้นมาจากสมุดจดตรงหน้า
“ทำไรน่ะครับ?” นายมะยมถามน้องป๋อง
“อ๋อ...สูตรน้ำน่ะพี่” นายป๋องยื่นสมุดตรงหน้าไปห้พี่มะยม
นายมะยมก้มลงไปอ่านสักพักก็เงยหน้ามาคุย “จะลาออกมาช่วยคุณวาเค้าเหรอครับ?”
“ผมคิดตกนานแหละ แต่ตานั่นอ่ะ ไม่ยอมท่าเดียว!” นายป๋องพูดด้วยสีหน้ากระฟัดกระเฟียด
“คุณวาเค้าคงอยากให้ป๋องมีอิสระมั๊งครับ” นายมะยมบอกความคิดของตัวเอง
“ขายกาแฟมันก็หนุกดีนะพี่” แล้วนายป๋องก็กระซิบกระซาบบอกพี่มะยมต่อว่า “เนี่ยผมอ้อนจนยอมให้มาช่วยตอนวันเสาร์-อาทิตย์ได้แหละ เดี๋ยวรอก่อนเหอะ...เผลอเมื่อไหร่ ผมลาออกเลย!”
นายมะยมขำในลำคอกับความคิดรุ่นน้องคนนี้
......
.....
....
...
..
.
นั่งคุยเล่นกับป๋องจนทุ่มนิดๆ มือถือเขาก็สั่น....เมื่ออ่านข้อความเข้าแล้ว เขาจึงขอตัวกลับบ้าน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงมาที่ชั้นหนึ่ง และเดินไปทางระตูหลังตึก....และตรงเข้าไปในลานจอดรถ
......
.....
....
...
..
.
ทันทีนายมะยมก้าวเข้าไปในนั่งในรถ BMW เขาก็ได้ยินเสียง....เจื้อแจ้วซ้ำไปซ้ำมา “อยากกินติม จะกินติม อยากกินติม จะกินติม....”
“เหรอ! งั้นไปกินติมก่อนกลับบ้านกัน” นายมะยมหันหน้าไปบอกสิ่งมีชีวิตตัวเล็กที่เต้นโหยงๆ อยู่คนเดียวที่เบาะหลัง
“คุณพ่อไม่ไปอ่ะ” ลูกชาย(นอกทะเบียนบ้าน) ชี้นิ้วฟ้อง
“ทำไมคุณพ่อใจร้ายจังครับ” นายมะยมหันหน้าไปถามคุณพ่อ
“พี่รักบอกว่าเพิ่งหายไข้ ห้ามให้กินของแสลงครับ” คุณพ่อบอกเสียงเรียบ...แบบปกติ และขับรถเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมรับตัวน้องหนูมานั่งเล่นที่ตักตัวเอง...ซึ่งโดยสารมาในที่นั่งข้างคนขับ “วันนี้ใครจะมารับน้องหนูเอ่ย?”
“วันนี้หนูมานอนกับคุณพ่อฮะ” เสียงดังฟังชัดตามประสาเด็กอารมณ์ดี
“เหรอครับ! ดีจังเลย!” นายมะยมกัดฟันพูด
น้องหนูนั่งตะแคงพิงตัวพี่ใจดีและก้มหน้าเล่นเกมส์กดต่อไป
นายมะยมหันหน้าไปมองสีหน้าของคนขับ คนขับยังคงตั้งสมาธิกับการขับรถไปอย่างเงียบๆ “พี่แกล้งผมป่าวเนี่ย!”
“ผมไปแกล้งอะไรคุณล่ะครับ” ถามกลับทันที
“นี่ไง!” นายมะยมเอานิ้วชี้ชี้ไปที่สิ่งมีชีวิตหนึ่งซึ่งง่วนอยู่กับเกมส์กด
คนขับหันหน้ามามองแวบหนึ่งก่อนจะหันหน้าตรงมองถนนเหมือนเดิม “เกี่ยวอะไรครับ?”
“ได้! งั้นคืนนี้ก็.... MY BATHROOM SECRET!” นายมะยมพูดชื่อหนังเรื่องหนึ่งที่เขามีไว้ในครอบครองที่ห้องของตัวเอง พร้อมฉีกยิ้มแบบ....ผู้ชนะ
สัญญาณไฟแดงขึ้น รถที่ขับมาทุกคันต่างชะลอ....และจอด
คนขับหันหน้ามาจ้องตากับคนที่ฉีกยิ้ม...เจ้าเล่ห์ สักพักจึงเอ่ยปากว่า “เล่นไปคนเดียวเถอะครับ!”
“เล่นอะไรในห้องน้ำฮะ?” สิ่งมีชีวิตตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมาถาม “คุณหมอบอกว่าหนูต้องอาบน้ำอุ่นนะฮะครูมะยม?”
:man1:อายุยังไม่กี่ขวบ รู้แค่ศัพท์พื้นฐานในชีวิตประจำวันตามที่ครูมะยมสอนให้เท่านั้น
“ครับ! น้ำอุ่นห้องพี่มีเหลือเฟือเลย จะอาบนานแค่ไหนก็ได้ครับ!” คุณครูมะยมก้มหน้าไปบอกลูกศิษย์ตัวน้อย
"เย้ เย้ เย้!" เด็กน้อยส่งเสียงร้องด้วยความดีใจที่จะได้เล่นน้ำ
เมื่อรถเริ่มจะออกตัวอีกครั้งเพราะสัญญาณไฟเขียวขึ้นมาแล้ว....นายมะยมได้ยินเสียงถอนลมหายใจหนัก...แกมรำคาญนิดๆ จากคนขับรถ
......
.....
....
...
..
.
อดข้าวมิตายดอก แต่อย่าอดสเน่หา------คติประจำใจของนายมะยมเค้าล่ะครับ
......
.....
....
...
..
.
-
มะยมน่ารักเกินไปแล้ว
น้องหนูน่ารักๆ มาอีกแล้ว
-
อ้าว อึ้ง ยังมีต่อ หุหุ อ่านแล้วกระชุ่มกระชวย
-------------
กำลังคิดว่าเย็นนี้กินไรดีว้า
พอมาอ่านเรื่องนี้เลยไปหาข้าวหมูกรอบกิน :laugh:
(ชาวบ้านเขาอยากกินต้มเลือดหมูกัน :z3: )
-
5555555
คืนนี้นายมะยมมีก้าง
ว่าแต่ในห้องน้ำเหรอ
ก็น่าสนนะ อิอิ
-
กด Refresh ..... ประสบการณ์ครั้งแรก ไม่เคยตามติดเรื่องไหนขนาดนี้มาก่อนเลย 555+
-
คู่นี้น่ารักอย่างร้ายกาจที่สุด ชอบบบบ
o13
-
:m19:อยากอ่านDelete. Seen :sad11:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ ความลับในห้องน้ำ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
......
.....
....
...
..
.
“แช่เย็นไม่ได้นะครับ” นายภักดีรีบบอกก่อนที่หลานชายจะเดินถือแก้วน้ำตำลึงไปแช่ไว้ในตู้เย็น
“นิ๊ดนึงโนะ” หลานชายทำหน้าเว้าวอน
“หึ” นายภักดีส่ายหน้าและเน้นเสียงให้หนักแน่น
“ฮื๊ออออออออ” หลานชายร้องอุทานไม่เป็นคำ
“ฮ่าฮ่าฮ่า....” นายมะยมขำเสียงอุทานของเด็กชาย “มะนี่มะ ใส่นี่หน่อยเนอะ” พูดพลางกวักมือเรียกเด็กชายไปหา
เด็กชายเดินด้วยหน้าตามีความหวังไปหาพี่ใจดี “ใส่อะไรฮะ?”
นายมะยมชูหลอดที่อยู่ในมือซึ่งเขาเพิ่งหยิบมันออกมาจากตู้เย็นมาให้เด็กชายดู----น้ำผึ้งโครงการหลวง
“ว้าวววว” เด็กชายร้องพลางรีบยื่นแก้วน้ำตำลึงปั่นไปให้พี่ใจดี
นายภักดีส่ายหน้าและเดินเอากระบอกปั่นไปล้างในห้องน้ำ....
......
.....
....
...
..
.
ทำแบบฝึกหัดเสร็จ นายภักดีก็พาหลานชายไปอาบน้ำ...
......
.....
....
...
..
.
“หลับตา” นายภักดีบอกหลานชาย
เด็กน้อยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเตี้ยหลับตาพร้อมกับยกมือทั้งคู่ขึ้นมาปิดตาของตัวเอง
เขาเอาฝักบัวที่เปิดน้ำอุ่นๆ ไปไว้เหนือหัวเด็กชายเพื่อล้างฟองของแชมพู
......
.....
....
...
..
.
“คุณพ่อ!!! หนาวๆ หนาวๆ” เด็กชายยืนซอยเท้าอยู่ในห้องน้ำ เขารีบเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาห่มและห่อตัวหลานชายไว้...และอุ่มขึ้นมากอด
“ไปให้พี่ใจดีใส่เสื้อให้นะครับ” พูดพลางอุ้มเด็กชายขึ้นมา และพาเดินออกไปนอกห้องน้ำ
“เสร็จแล้วเหรอ!” นายมะยมเดินเข้ามายื่นมือจะรับเด็กชายไป....และยื่นหน้ามาหอมแก้ม ‘คุณพ่อของเด็กชาย’-----“จุ๊บ!”
“หอมมั้ยฮะ?” เด็กชายที่ไปอยู่ในวงแขนของนายมะยมถามเสียงใส
“ยังไม่อาบน้ำเหม็นนิดๆ ไหน คนนี้อาบน้ำแล้วใช่ม๊าย มะหอมสิ” นายมะยมยักคิ้วให้เขา แล้วหันไประดมหอมเด็กชาย...เป็นพัลวัล
“กรี๊ด-----คิก คิก คิก” เด็กจั๊กกะจี้
นายภักดีส่ายหน้าให้กับอีกฝ่าย แล้วเดินเข้าไปในห้องย้ำอีกครั้ง...เพื่ออาบน้ำ
......
.....
....
...
..
.
แกร๊ก!.....เสียงลูกบิดดังขึ้นพร้อมประตูห้องน้ำเปิด
นายภักดีที่กำลังบีบแชมพูเพื่อจะสระผมหันควับมาทันที-----ห้องน้ำนี้ ลูกบิดมันเสียมาตั้งนานแล้ว แต่นายมะยมขี้เกียจเปลี่ยน เพราะอยู่คนเดียวมาตลอด...
“มีอะไรครับ?” เขาเดินเข้าไปด้านในอีกหน่อย เพื่อให้กำแพงซึ่งกั้นระหว่างโถชักโครกกับส่วนของฝักบัว...บดบังร่างกายตัวเองไว้บ้าง
“MY BATHROOM SECRET!” อีกฝ่ายฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์
“คุณจะบ้าเหรอ! หลานผมอยู่ด้วยนะ!” เขากระซิบเสียงเบา แต่สีหน้าดุเอาจริง
“พี่ก็ออนท็อปให้ผมสิ แต่อย่าจัดเต็มแบบคืนวันอาทิตย์อ่ะ เดี๋ยวผมกลั้นเสียงไม่ไหว” อีกฝ่ายกระซิบกระซาบ...ชี้แจงแถลงไขให้เขาฟัง
นายภักดีหน้าแดงพรึ๊บ.....เขาหันหน้าควับ...มองตรง ตัวสั่นเพราะสะกดกลั้นกับการถูกอีกฝ่ายยั่วต่อมโมโห
......
.....
....
...
..
.
แกร๊ก.....ประตูห้องน้ำปิด
......
.....
....
...
..
.
คนที่ปิดมันยืนพิงมัน...นิ่ง
......
.....
....
...
..
.
“จูบทีเดียวก็ได้ อย่าช้าสิครับ เดี๋ยวน้องหนูสงสัยนะเอ้อ!” คนที่ยืนพิงประตูกระซิบบอก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินเข้ามาหาเขา
......
.....
....
...
..
.
เขายื่นมือไปปิดฝักบัว
......
.....
....
...
..
.
หลังของเขาแนบกับกำแพงของห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
แขนของนายมะยมนาบอยู่กับกำแพงห้องน้ำใกล้ใบหน้าของเขา
......
.....
....
...
..
.
เขาตอบรับจูบของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
เขาต้องสอดแขนไปคล้องคอของนายมะยมไว้...เพื่อรั้งตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้น..ของห้องน้ำ
......
.....
....
...
..
.
ริมฝีปากของเขาถูกลิ้นอุ่นๆ เลียไล้...เล่นอย่างสนุก
......
.....
....
...
..
.
“พอแล้วนะครับ เดี๋ยวหยุดไม่อยู่” นายกระซิบบอกอีกฝ่ายด้วยเสียงแหบพล่าทั้งที่ตาของตัวเองยังไม่ลืมขึ้นมา
......
.....
....
...
..
.
เขาลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายถอนใบหน้าออกไปจากเขา...เขาเห็นดวงตาไหวระริกจับจ้องเขา
......
.....
....
...
..
.
เขาจ้องตากับดวงตานั้น
......
.....
....
...
..
.
“ก็ปล่อยแขนสิครับ” นายมะยมกระซิบบอก
เขาถอนลมหายใจทีหนึ่งก่อนตอบอีกฝ่ายว่า “ก็มันยืนไม่อยู่นี่ครับ”
......
.....
....
...
..
.
เขาถูกรวบตัวเข้าไปกอด และต้องฟังเสียงหัวเราะในลำคอของนายมะยม...ไปอีกสักพัก ถึงได้มีแรงยืนได้ด้วยตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
-
แอร๊ยยย
เขินอะ
ไร้คำบรรยาย
-
ตบตีมะยม!!!~
อิจฉาอะ อิจฉาาาาาาาาา
คุณภักของนิมาาาาาาาาา
กรี๊ดดดด ตบตีมะยมอีกที!!
-
เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่นึกว่าจะหวานได้ปานนี้
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินคาดผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำ...เขาลืมเอาชุดเข้าไปเปลี่ยนด้วย
“ใส่นี่โนะ!” เด็กชายนั่งแต้อยู่บนเตียงพร้อมยื่นผ้าสองพับมาให้พี่ใจดี
“อะไรน่ะครับ?” นายมะยมเดินไปหาเด็กชายและหยิบผ้าชิ้นหนึ่งมาคลี่ดู
“เค้าอยากให้ใส่น่ะครับ” นายภักดีบอก
“ทำไมล่ะครับ?” นายมะยมหันมาถามเขา
“จะได้เป็นแก๊งค์เดียวกันไงครับครูมะยม” เด็กชายบอกเสียงใส-----น้องหนูอยากตั้งแก๊งค์ชุดนอนอ่ะนะ
......
.....
....
...
..
.
“ครูมะยมห่มผ้าอ่ะ” น้องหนูยื่นผ้าห่มนวมที่คลุมตัวของตนเองมาให้
“ไม่เอาอ่ะ ร้อน ของพี่มีนี่แล้ว” นายมะยมชูชายผ้าแพรของตัวเองให้เด็กชายดู
“หนาวน๊า” เด็กชายพูดพลางซุกมือเข้าไปในผ้าห่มนวม
“เหรอ?” นายมะยมทำเสียงหรอหรา “งั้นขอกอดหน่อยสิครับ พี่จะได้อุ่นๆ ไง”
“กอดกัน กอดกัน กอดกัน” เด็กชายยื่นแขนป้อมสั้นออกมาทางนายมะยม
นายมะยมหัวเราะในลำคอพร้อมกับขยับตัวไปกอดเด็กชาย...ไว้แนบอก----แต่แขนของเขามันยาวจึงเลยไปพาดกับหน้าอกของคนที่นอนถัดไปได้
“น้องหนู เวลานอนอย่าซนนะครับ พี่ใจดีเค้าดุนะ” นายภักดีบอกหลานชายตัวเอง...และฝากบอกเผื่อไปถึงพี่ใจดี
“ฮะ” เสียงเริ่มลากยาว...เพราะความง่วง
นายมะยมยกหน้าขึ้นไปแลบลิ้นให้เขา
......
.....
....
...
..
.
ไม่นานจากนั้น...สายฝนที่โปรยปรายก็เห่กล่อมให้ผู้ใหญ่อีกสองคนหลับใหล
......
.....
....
...
..
.
-
น้องหนูมาขัดจังหวะหรอคะ
มามะมาอยู่กับพี่มา
ปล่อยให้ผู้ใหญ่สองคนเค้าสวีทกัน 5555
-
เขิลลลลลแทนคุณภัก
มะยมหื่นจริงนะ
-
:-[ o13 :กอด1:
-
ความลับเรื่องที่คาใจมันน่าจะเฉลยมาตั้งนานและ
แต่สองท่อนที่ผ่านมานั้นตอกย้ำความจริง
ออนท็อป :z1:
น้องหนูน่ารัก :m1:
-
ครอบครัวอบอุ่น หัวหน้าน่ารักอ่ะ :bye2: :bye2:
-
น่ารักจังเลย อ่านแล้วมีความสุขกับนายภักดีที่สมหวังในรัก และรู้สึกถึงความอบอุ่นที่นายมะยมเสาะหามาตลอด
คุณเบาเบาเขียนได้ดีมากเลยที่สามารถตีแผ่ความรู้สึกของตัวละครในเรื่องนี้
ออกมาได้อย่างชัดเจน และเราก็เหมือนกับรีบนๆ ที่พอเข้ามาในเล้า เรื่องที่มองหาเรื่องแรกก็คือเรื่องของนายมะยมนี่แหละค่ะ คุณเบาเบาเขียนต่อไปอีกสักสิบตอนยี่สิบตอน เราก็ยังคงมีความสุขที่ได้อ่านค่ะ แต่ขออย่างเดียวให้น่ารักกุ๊กกิ๊กแบบนี้นะคะ ห้ามมาม่าเด็ดขาด มันบั่นทอนสุขภาพจิตค่ะ
-
พ่อมึงของเรา..
อิจฉาไอ้หัวลูกเจี๊ยบจริงวุ๊ยย!!! :serius2:
-
o13
น่ารักมาก หวานเชียว
-
น่ารักจัง น่ารักที่สุด อ่านไปยิ้มไป
ขำตรงที่ศรบอกว่า “ชิ้นกระติ๋วเดียวเอง ไม่มันส์ปากกูเลย” นายศรบอกแกมบ่น
ฮาก๊ากเลย คุณภักรู้ดี ยิ่งอ่านยิ่งน่ารักจริงน้าเรื่องนี้ >3<
-
น่ารักเนาะ อ่านแล้วรู้สึกอีกทีก็ยิ้มซะล่ะ
-
:pig4:
-
ใส่นี่โนะ.....โอย....เด็กน้อยน่าร้าก...
-
น้องหนูคะ ถึงหนูจะน่ารักขนาดไหนนะลูกนะ
แต่ถ้ามาขัดคอไม่ให้พี่มะยมเค้าบึ้ดจ้ำบึ้ดกับคุณพ่อเนี่ย
ไม่น่ารักเลยนะคะ
มานี่มะมากินขนมกับน้าดีกว่าเร้วๆ
:z1: :oo1:
-
คุณภัคคค คุณภัคของบ่าวววว
คุณภัคออนท็อป โอ้ม่ายยยย~~~~~~
น้องหนู....เด็กอะไรก็ไม่รู้ น่ารักจริงๆ!
ถึงคุณคนเขียน......ที่น่ารัก : )
ฝนตกก็กางร่ม หนาวก็ใส่เสื้อ เมื่อเป็นหวัด.................
...
..
.
ก็อย่าลืมคิดถึง"กัน" บ้างนะคะ เอ้ย ก็อย่าลืมทานยานะคะ ^^
.//////.
-
อบอุ่นละมุนละไมปนหื่นนิด ๆ
หนูมะยมถนอมพ่อมึงบ้าง เก็บไว้ใช้งานนาน ๆ
-
อบอุ่น มีความสุข สมบูรณ์แบบ perfect o13
-
จะทำให้รัก ให้หลงกันไปถึงไหนคะ หนูมะยม คุณภัก
คุณBao Bao คะ คุณไม่ใช่จะเขียนดีแค่เรื่องหน่วงๆเท่านั้นนะ เรื่องหวานๆ น่ารัก อบอุ่นขนาดนี้ก็เริ่ดมากค่ะ :กอด1:
เราว่าเขียนดีกว่าเรื่องดรามาอีก หายากนะที่จะหาคนเขียนที่เขียนแล้วทำให้อุ่นๆในใจขนาดนี้
ทำให้หลงรักตัวละครแบบนี้ (รักคุณภักออนท๊อป โฮ๊ะๆ)
Fc มะยมกับคุณภัก +เป็ดแล้วนะคะ
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: รักน้องหนู อิอิ
-
มะยมอ่ะ ชอบทำให้คุณภัก(ของเค้า)เขิน ชริ!!!!!!!!!!!
-
:m15:เค้าอยากอ่าน. Seenเมื่อวันอาทิตย์ง่ะ. ว่าคุณภัก. จะhot. ขนาดไหน. :call:
-
น่ารักขนาด :z2:
-
ไม่ได้เข้ามาอ่านสองสามวัน จบซะละ
แต่ก็ดีอีกแบบ ได้อ่านรวดเดียวเลย ฮ้าาาา
ได้อ่านตอนที่คุณภักยังไม่กลับ ตอนนั้นซึ้งมากเลย
ชอบคุณภักเรียก"เจ้าหัวลูกเจี๊ยบ"น่ารักดี นึกภาพออกเลยอ่ะ
คุณภักรับศึกหนักทุกคืน เจ้าหัวลูกเจี๊ยบมันหื่นนนน ฮ้าๆๆๆๆ
คุณภักเค้าอยากจะพักบ้าง เลยเอาน้องหนูมานอนด้วยซะเลย
โฮ๊ะๆๆๆ น่ารักจริงๆเลย น้องหนูก็น่ารัก
:กอด1: :o8: :-[
:L2: :pig4: :L2:
-
......
.....
....
...
..
.
ตี๊ดดดดดดด-----------เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น
เจ้าของมือที่มีสีผิวเข้มจะเอื้อมไปกดปุ่มปิด...มือเขาถูกยึดเอาไว้ด้วยมือที่นุ่มอุ่น
เขารู้สึกได้ถึงความอุ่นจากร่างกายตัวเองสองจุด....หน้าอกและที่มือ
เสียงนาฬิกาปลุกยังแผดร้องตามหน้าที่ของมัน เขาจึงค่อยๆ เลื่อนแขนอีกข้างซึ่งกอดเด็กชายเอาไว้...ออกมากดปุ่มปิด
ขณะที่เขาซบหน้าลงกับหมอนอีกครั้งเป็นเวลาเดียวกับที่มืออุ่นนุ่มซึ่งสอดนิ้วอยู่กับร่องนิ้วของเขาเริ่มจะขยับออกไป...เขารีบกำมันไว้ แล้วบอกคนคนนั้นว่า “วันนี้ไม่ต้องไปวิ่งหรอกครับ”
“ไม่ออกกำลังแล้วผมจะรู้สึกแปลกๆ ครับ คุณนอนต่อเถอะ” คนที่นอนติดฝาผนังบอก พร้อมลุกขึ้นมานั่ง
“ไม่เอาอ่ะ พี่ไปผมก็ไปด้วย” เขาเริ่มงอแง...รั้งมือนั้นไว้ไม่ยอมปล่อย
“แล้วใครจะดูน้องครับ” อีกฝ่ายถาม...เด็กถึงแม้ว่าหลับอยู่ ก็ไม่ควรให้ไกลจากสายตา
“ชดเชยตอนเย็นก็ได้นี่ครับ” เขาเสนอทางเลือกให้อีกฝ่าย
......
.....
....
...
..
.
สักพัก...คนคนนั้นก็ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง “ตั้งปลุกไว้นะครับ ผมต้องไปส่งน้องหนูที่โรงเรียนก่อนเข้าที่ทำงาน”
“ผมกดเผื่อแล้วเมื่อกี้....” เขาเล่นนิ้วมือนุ่มๆ นั้นไปพลางชวนคุย “ให้น้องกินข้าวก่อนเนอะ”
“อือ.....” อีกฝ่ายลากเสียงยาวพลางคิด “เค้าเลือกกินนะคุณ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมพาน้องไปเดินตลาดเอง พี่ก็อาบน้ำแต่งตัวไปละกัน” เขาบอกอีกฝ่าย
“ไปด้วยกันไหมครับ?” อีกฝ่ายชวนเขา.....ให้นั่งรถไปด้วยกันเลย
“อืม--------” เขาลากเสียงยาวคล้ายกับว่าต้องคิดหนัก แต่ไม่ใช่หรอก แกล้งทำไปงั้นแหละ
“กินข้าวเช้าแล้วนั่งรถออกไปด้วยกันเลย...นะครับ” อีกฝ่ายชวนซ้ำ
“อ่ะ....ก็ได้ ก็ได้” เขาพูดเหมือนเสียมิได้
“หึ...คุณเหมือนหลานผมเลยรู้ตัวรึเปล่า?” อีกฝ่ายถามเขา
“น่ารักล่ะซี่” เสียงกระหยิ่มยิ้มย่อง
“วุฒิภาวะทางอารมณ์ครับ” เสียงกระหยิ่มยิ้มย่องกว่า
“อย่าเผลอนะครับ จะโดนมิใช่น้อย!” เขากัดฟันกรอด
......
.....
....
...
..
.
คุยเล่นคุยหัวกันไปชั่วโมงกว่านาฬิกาก็ปลุก...
เขาปลุกน้องหนูไปล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วก็อุ้มเด็กชายซึ่งยังตื่นไม่เต็มตานักออกไปจากห้อง
ก่อนปิดประตูห้อง เขาร้องบอกอีกฝ่ายว่า “พี่ ฝากเด็ดตำลึงด้วยนะครับ”
“ครับ”
......
.....
....
...
..
.
“ตลาดมีอะไรกินมั่งฮะ?” เด็กชายยกมือขึ้นกอดคอผู้ใหญ่พลางถาม
“เยอะแยะเลย” นายมะยมบอกเด็กชาย
“หนูขอเลือกเองได้มะฮะ” เด็กชายทำเสียงออดอ้อน
“ได้! แต่ต้องกินข้าวด้วยนะครับ ให้เลือกขนมได้อย่างเดียว” นายมะยมทำหน้าเคร่งขรึมใส่เด็กชาย
“อือ......” เด็กชายลากเสียงยาวคล้ายครุ่นคิด สักพักก็ตอบว่า “ก้อด้าย ก้อด้าย...” ทำหน้าเหมือนเบื่อนิดหน่อย
“อื้มมมมม!” นายมะยมหอมแก้มเด็กชายด้วยความหมั่นเขี้ยว เด็กชายส่งเสียงหัวเราะคิกคัก
......
.....
....
...
..
.
ออกจากลิฟท์มา เด็กชายก็เหมือนตื่นเต็มตาแล้ว... นายมะยมจึงชวนปั่นจักรยานไปตลาด โดยให้เด็กชายเกาะหลังเขาไว้แน่น
เด็กชายเอาขาเกี่ยวเอวและเอาแขนรัดรอบคอพี่ใจดีไว้แน่นตามสั่ง
พอจักรยานเริ่มเคลื่อนตัวไป เด็กชายก็ร้อง “ว้าววววววววว” ไปตลอดทาง
......
.....
....
...
..
.
-
มะยมน่ารักอ่ะ :impress2:
-
หุหุ
มันเหมือนจะเป็นครอบครัวสุขสันต์ 55555
-
:จุ๊บๆ:น่ารักอ่ะ. ติดตามอย่างต่อเนื่องงงงงง.....
-
น่ารักทั้งมะยมและน้องหนูเลย อิอิ
-
น่ารักมากเลยค่ะ :o8: :-[
อ่านแล้วรู้สึกดี ยิ้มแก้มแตก จนไม่อยากให้มีตอนจบเลย
เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ...นะคะ *ส่งสายตาปิ๊งๆ*
:impress:
-
หุหุหุ เราเพิ่งอ่านจบ เม้นไปได้แป๊ปเดียวเอง ตอนใหม่มาแล้ว ฮ้าๆๆๆ
น้องหนูน่ารัก ทำไมน้องๆหลานๆเราไม่น่ารักแบบนี้มั่งนะ จะฟัดทั้งวันเลย
ตอนนี้ครอบครัวอบอุ่นๆเนอะ คุณพ่อ พี่ใจดี กับน้องหนู :กอด1: :-[
:L2: :pig4: :L2:
-
:-[
น่ารักอ่ะ
-
น่าเอ็นดูแท้ๆ
เด็กๆไปจ่ายตลาด
:laugh:
-
กินต้มเลือดหมูเป็นประจำอย่างนี้ สงสัยเลือดเยอะ ไปบริจาคได้สบาย^^
ตอนนี้ ถึงจะมีน้องหนูมาเป็นกขค แต่หนูมะยมก็พยาย๊าม~
ลวนลามคุณภรรยาอย่างสุดความสามารถ นิๆโหน่ยๆก็ยังดี ว่างั้น ฮุๆๆ
-
อยากฟัดแก้มเด็กบ้าง :กอด1:
-
น่ารักกันจริงๆ :L1:
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมอุ้มเด็กชายเดินตลาด ให้เจ้าตัวน้อยชี้นิ้วของที่อยากกินมา...เพราะต้องเซฟเวลา
เด็กชายอยากกินขนมครก เห็นแล้วก็นึกอยากตามเขาจึงซื้อสองชุดใส่รวมกันมาเลย ส่วนข้าวเช้าก็กินต้มเลือดหมูเหมือนกัน เขาจึงสั่งพิเศษหนึ่งและธรรมหนึ่ง----ให้คุณพ่อกับหลานชายเค้ากินถุงพิเศษด้วยกัน ถ้าเหลือเขาก็ค่อยเก็บตามทีหลัง
......
.....
....
...
..
.
เขาปั่นจักรยานมาในท่าเดิมที่มีลิงเกาะหลัง...
ขณะที่ปั่นมาจนใกล้จะถึงตึกหอพักเด็กชายก็ร้องขึ้นมาว่า “คุณพ่อ!”
พอเงยหน้าขึ้นไปดู จึงเห็น ‘คุณพ่อ’ แต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้วกำลังเดินขึ้นบันไดของตึก...พร้อมกระเป๋าใบย่อมๆ หนึ่งใบ
......
.....
....
...
..
.
เอี๊ยด------ เสียงล้อเสียดสีกับพื้นถนน
“พี่ไปเอากระเป๋ามาจากที่ไหนครับ?” เขาถามอีกฝ่ายที่ชะงักค้างอยู่ที่บันได
“คุณมะยม!!!” คนที่ถือกระเป๋าปล่อยกระเป๋าหล่นลงพื้นอย่างไม่สนใจและรีบเดินกลับมาหาเขา
“มะยม!” คนที่หน้าตาเหมือนกับชายที่เดินมาจะถึงตัวเขาแล้ว เรียกชื่อเขาเสียงแข็ง พร้อมกับรีบซอยเท้าตามหลังอีกคนมาติดๆ
“มะนี่ครับ ลงมาลูก” ชายที่เดินมาถึงก่อนสอดมือเข้ามารับตัวเด็กชาย...แต่เด็กชายไม่ยอมปล่อยแขนจากคอของนายมะยม
“ทานข้าวเช้ากันก่อนมั้ยครับ คุณรัก?” นายมะยมเอ่ยปากชวน
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะตอบ ชายที่ตามมาทีหลังก็ตะคอกเขาเสียงดุเข้ม...กว่าปกติ “ใครสั่งใครสอนให้คุณทำแบบนี้!”
“ทำไรครับ?” นายมะยมย้อนถาม
“คุณเอาหลานผมปั่นจักรยานไปแบบนี้ได้ยังไง? มันอันตรายมาก รู้ไหม!” ใบหน้าเรียบตึงคิ้วขมวดเป็นปม....สีหน้าที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก หากคนคนนี้ไม่โกรธจริง
“น้องเค้าเกาะผมแน่นน่าพี่ พี่น่ะเบาๆ หน่อยสิ โวยวายไปได้ เดี๋ยวน้องเค้าตกใจกลัวกันพอดี” นายมะยมพูดพลางก้าวขาลงมาจากจักรยาน...เพราะเขาเริ่มได้ยินเสียงกระซิกจากใบหน้าเล็กๆ ที่ซุกอยู่ตรงซอกคอของตัวเอง
“ใจเย็นๆ น่าไอ้ภัก” คุณรักดีบอกน้องชายฝาแฝดของตัวเองด้วยสีหน้าที่...ตื่นตกใจไม่ต่างกัน
“พี่จะโกรธจะว่าผมก็ได้ แต่ช่วยอย่าทำเสียงดุได้มั้ย น้องเค้าไม่ได้ผิดซะหน่อย” นายมะยมพูดพลางเอื้อมแขนไปหาเด็กน้อยที่เกาะคอเขาแน่น “มานี่นะน้องหนู กอดกันน๊า มะ มะ มะ มะ มะ”
เด็กชายคลายมือ ยอมให้พี่ใจดีเอาตัวเองไปกอด...แนบอก
“เฮ้อ------” คุณรักดีระบายลมหายใจทิ้งก่อนบอกกับนายมะยมว่า “ปกติ ลูกผมเค้าจะไม่ค่อยอยู่นิ่ง ถึงให้เกาะหลังคุณแน่นๆ ก็อาจเผลอปล่อยมือตัวเองจากคุณก็ได้ ไอ้ภักมันคงห่วงแบบนั้นน่ะครับ”
“ผมขอโทษครับคุณรัก คราวหน้าผมจะระวังให้มากๆ กว่านี้” นายมะยมบอกกับพ่อของเด็ก
“ครับ แต่อยู่กับคุณแล้วเค้าไม่ค่อยดื้อดีเหมือนกัน ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ” คุณรักดีส่งยิ้มบางๆ มาให้ พร้อมยื่นมือไปลูบหัวลูกชายตัวเอง
“ของที่พี่รักเอามาให้ผม มีแค่กระเป๋านั่นใช่ไหมครับ?” นายภักดีถามพี่ชายตัวเอง
“ใช่! เอ้อ...อยู่ตรงบันไดโน่นว่ะ” คุณรักดีพูดพลางชี้นิ้วไปที่กระเป๋าใบหนึ่งตรงบันไดทางขึ้นลงตึกหอพักซึ่งเมื่อกี้ตนเองถือไว้ในมือ
“ให้น้องทานข้าวก่อนไปรึเปล่าครับ?” นายมะยมพูดพลางลูบหลังปลอบเด็กชายซึ่งร้องไห้นิดๆ ยังไม่หยุด
“หือ?.... แล้วแต่ทางคุณเถอะครับ นี่ก็สายแล้ว ผมคงต้องไปก่อน” คุณรักดีพูดพลางยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูเวลา
“โชคดีครับพี่รัก เดินทางปลอดภัยนะครับ” นายภักดีอวยพร พร้อมสวมกอดพี่ชายตัวเอง
“ฝากด้วยนะ” คุณรักดีพูดจบก็หอยแก้มน้องชายฝาแฝดของตัวเอง...ข้างละที-----จากนั้นน้องชายก็ทำเหมือนพี่ชาย
นายมะยมที่เห็นภาพนั้นกับตาอ้าปากเหวอ...แบบไม่รู้ตัว
ไม่เคยเห็น... แต่พี่น้องสองคนนี้เค้าทำเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งเขาอาจต้องเรียกว่า ‘ยังไม่เคยเห็น’ มากกว่ามั้ย?
เมื่อสองพี่น้องร่ำลากันเสร็จตามพิธีการของพวกเขา คุณรักดีก็เดินมาหาลูกชายของตัวเอง “คุณพ่อไปก่อนนะครับ หนูอย่าดื้อกับอาภัก กับพี่ใจดีน๊า” ...พูดจบก็หอมกระหม่อมของลูกชายฟอดใหญ่
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นครับคุณมะยม อยากให้หอมด้วยเหมือนกันเหรอครับ” คุณรักดียิ้มยั่ว
“เฮ้ย! เปล่า....ครับ...” นายมะยมสะดุ้งโหยง พูดตะกุกตะกัก...และรีบหันไปมองอีกคนทันที---คนที่กำลังยิ้มให้มึงคือสามีของชาวบ้านเค้า แต่คนที่ทำหน้าดุใส่มึงคือคนของมึง...ไอ้ยมมึงต้องแยกให้ออก ท่องไว้ ท่องไว้
......
.....
....
...
..
.
น้องหนูโบกบ๊ายบายคุณพ่อของตัวเองทั้งที่ตาเปียก...
พอรถเคลื่อนออกไปจากที่ตรงนั้นแล้ว น้องหนูก็กอดคอและซุกหน้ากับซอกคอของพี่ใจดีต่อ---คราวนี้แค่อ้อน ไม่ได้ร้องไห้ แต่ยังกลัว ‘คุณพ่อภัก’ อยู่
“คุณขึ้นไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมเอาจักรยานไปเก็บที่เอง ให้เค้ากินข้าวก่อนอาบน้ำนะ ตัวจะได้ไม่เปื้อน ชุดนักเรียนเค้าอยู่ในกระเป๋าครับ” อีกฝ่ายพูดสั่งการมายาวเหยียดก่อนจะเดินลงไปจูงจักรยาน...เก็บในที่จอดให้เรียบร้อย
......
.....
....
...
..
.
อาบน้ำเสร็จ นายมะยมคาดผ้าเช็ดตัวให้ตัวเองและพันตัวเด็กชายเป็นหมูห่อสาหร่าย จากนั้นก็พากันออกมาจากห้องน้ำ
“ปะแป้งมั้ยครับ” นายมะยมถาม ‘คุณพ่อ’
“ไม่ต้องครับ กระเป๋าล่ะ?” นายภักดีหันซ้ายทีขวาที
“โน่น บนตู้รองเท้าโน่นแน่ะ” นายมะยมพูดพลางแกะสาหร่ายออกมาจากตัวหมูที่หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
“นี่ครับ” พูดพลางยื่นผ้าพับเล็กกระติ๋วมาให้
นายมะยมรับไปและคลี่ดูว่าไหนเสื้อไหนกางเกง “คุณรักเค้าไปไหนครับ”
“ไปญี่ปุ่นครับ” นายภักดีตอบ
“แล้วมิกกี้เม้าส์จะอยู่กี่วัน?” นายมะยมถาม
“สิบวันครับ” นายภักดีตอบ
“ห๊า!!!” นายมะยมหันหน้าไปทำตาโตเท่าไข่ห่านกับคนที่พูดกับเขา
“เร็วครับ เดี๋ยวน้องหนูเข้าเรียนสาย” นายภักดีพูดพลางส่งสายตาไปหาหลานชายที่เริ่มเบ้หน้าและจ้องหน้าพี่ใจดี..ตาเขม็ง
“หนูอยู่ด้วยมะด้ายเหยอ” เด็กชายหน้าเสียนิดๆ
“เปล๊า! ดีจังเลย! จะได้เล่นด้วยกันตั้งสิบวันแน่ะ” นายมะยมพลิกลิ้นและรีบระดมหอมแก้มเด็กชาย...จนเด็กชายเริ่มหัวเราะร่า เขาจึงจัดการใส่เสื้อนักเรียนให้
“ผมใส่เสื้อผ้าแป๊บนึงนะครับ” นายมะยมบอกคนที่นั่งรออยู่บนเก้าอี้
“ดูการ์ตูนได้มะฮะ” เด็กน้อยในชุดนักเรียนเดินไปเกาะขา ‘คุณพ่อ’
“ครับ” นายภักดีหยิบรีโมทมากดช่องการ์ตูน
“นั่งด้วย!” เด็กชายชูสองมือมาหา ‘คุณพ่อ’
นายมะยมมองคุณพ่ออุ้มคุณลูกขึ้นไปนั่งดูการ์ตูนบนตักด้วยความรู้สึกหลายอย่าง...จนบรรยายไม่ถูก
เขาใส่ชุดทำงานไปพลางนึกเวทนาตัวเองไปพลาง...สิบวันต่อไปนี้ เขาจะอยู่อย่างไรหนอ
......
.....
....
...
..
.
เด็กชายไม่ยอมนั่งหลัง และขอนั่งหน้ากับพี่ใจดีด้วย... รถเคลื่อนตัวเข้าสู่ถนนใหญ่ได้สักพัก น้องหนูก็ร้องหิวขนมครก
“ป้อนเค้าครับ เดี๋ยวมือเค้าเปื้อน” คนขับบอกเขา
“อ่ะ หนูถือไว้นะ ถือดีๆ นะ” นายมะยมเอากล่องขนมครก วางใส่ฝ่ามือป้อมๆ ของเด็กชาย จากนั้นก็หยิบขนมครกฝาหนึ่งออกมา “อ้าปาก อ้าม----”
เด็กชายอ้าปากและงับขนมครกไปเคี้ยว
“เคี้ยวช้าๆ นะครับ ถึงค่อยกลืน” คนขับบอกเสียงเข้ม
นายมะยมมองหน้าคนขับแล้วหันมามองหน้าเด็กชาย... สักพัก “เอาอีก เอาข้าวโพดนาฮะ”
“อ่าว...แล้วพี่จะรู้มั้ยว่าอันไหนข้าวโพด” นายมะยมทำปากจู๋และเล็งหยิบชิ้นหนึ่งออกมาจากคู่ “ว๊า เผือกอ่ะ เอาเผือกเนอะ!”
“ม่ายเอา” เด็กชายส่ายหน้า
“แล้วใครจะกินเผือกล่ะ” นายมะยมถามเด็กชาย
“คุณพ่อชอบเผือก” เด็กชายเอามือข้างหนึ่งมาจับมือของนายมะยมที่หยิบขนมครกหน้าเผือก...ดันไปหาคุณพ่อที่ขับรถอยู่ แล้ว....“คุณพ่อกิน...”
“คุณพ่อขับรถอยู่ครับ” นายภักดีบอก...สายตายังจ้องอยู่ที่ถนน
“ครูมะยมป้อนหน่อย” เด็กชายเงยหน้ามาบอกเขา
“ป้อนไม่ได้ครับ” นายภักดีแย้งทันที
“ได้จิฮะ คุณแม่ยังคงป้อนคุณพ่อเลย หนูเห็นกับตา” เด็กชายบอกเสียงจริงจัง
“คิกคิกคิก.....อ่ะ คุณพ่อ อ้าม-----” นายมะยมเริ่มสนุก
......
.....
....
...
..
.
สักพัก...ขนมครกหน้าเผือกก็ถูกป้อนเข้าปากคนขับไป
......
.....
....
...
..
.
ตลอดทางจนถึงโรงเรียนของเด็กชาย หากเขาเปิดฝามาเจอหน้าเผือกอีก เขาก็ต้องเอามันไปป้อน ‘คุณพ่อ’....เพราะเด็กชายไม่ยอมกินหน้านี้!
......
.....
....
...
..
.
ส่งตัวน้องหนูถึงมือคุณครูแล้ว ‘คุณพ่อ’ ก็นั่งลงหอมแก้มหลานชายสองฟอด จากนั้นเด็กชายก็มาดึงขากางเกงของพี่ใจดี
“อุ้ย ลืมได้ไงเนี่ย” นายมะยมทำเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับรีบลงไปนั่งยองๆ และขม้ำแก้มของเด็กชาย... เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดไปได้อีกก๊อก ก่อนจะลาเด็กชายและพากันเดินกลับมาที่รถ
......
.....
....
...
..
.
“พี่ต้องมารับพี่โมงครับ?” นายมะยมถามเมื่อกำลังคาดเข็มขัดนิรภัย
“เลิกงานค่อยมา เค้าเรียนพิเศษในโรงเรียน เลิกเรียนพอดีกันครับ” นายภักดีพูดพลางคาดเข็มขัดนิรภัย
“พี่!...อ่ะ...” นายมะยมเรียกอีกฝ่าย
นายภักดีเงยหน้าขึ้นมา เห็นนายมะยมถือขนมครกและยื่นมา...ป้อนเขา “ไม่กินแล้วครับ น้องหนูไม่อยู่แล้ว”
พูดจบนายภักดีมองหน้าหลังเตรียมออกรถ
“คำนี้ ถ้าพี่ไม่กินผมจะถือว่าพี่ยังโกรธผมเรื่องเมื่อเช้า” นายมะยมทำเสียงเข้มและจริงจัง
“ผมไม่ได้โกรธคุณ! แต่ผมห่วงคุณ ห่วงหลานด้วย ถ้าหลานผมเค้าเผลอตัวปล่อยมือจากคุณ คุณก็ต้องตกใจเผลอปล่อยมือจากแฮนด์รถ... ขอเหอะ อย่าทำอีก ผมไม่อยากถึงภาพไม่ดี” นายภักดีได้โอกาสที่จะระบายความอัดอั้นของตัวเอง
“ผมขอโทษที่คิดน้อยไป ไว้คราวหน้าผมจะคิดให้มากๆ ครับ ผมสัญญา” นายมะยมพูดด้วยน้ำจริงจัง
“ผมห่วงคุณจริงๆ นะ...แต่ก็โกรธจริงๆ ล่ะ” นายภักดีย้ำและสารภาพไปในตัว
“นั่นไง! งั้น อ้าม-----" นายมะยมยื่นขนมครกไปใกล้ปากอีกฝ่าย "ถ้าพี่กิน ผมจะถือว่าพี่หายโกรธผมแหละ”
“ผมไม่โกรธคุณแล้วน่า ไม่กินแล้วครับ อิ่มแล้ว” นายภักดีหันหน้าหนีและสตาร์ทรถ
......
.....
....
...
..
.
มือที่ถือขนมครกยังยื่นมาทางเขา
นายภักดีเห็นหน้าของอีกฝ่ายแล้ว....อ่อนอกอ่อนใจ------ แก้มป่องปากจู๋อีกละ
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีหันหน้าไปงับขนมครกที่อยู่ตรงปลายนิ้มของอีกฝ่าย พลางบอกว่า “ชิ้นสุดท้ายนะ พอแล้วนะครับ”...หันหน้าไปมองถนน และเตรียมจะออกรถ
แกร๊ก!------- เสียงปลดเข็มขัดนิภัย
นายภักดีหันควับไปมองคนข้างๆ...ด้วยความงุนงง
“อร่อยมั้ยครับ?” คนที่นั่งข้างๆ ถามเขา
“ก็ดี ไม่ค่อยหวาน” นายภักดีบอกพลางจ้องตากับอีกฝ่าย...เขาเริ่มลังเลกับสายตาที่อีกฝ่ายมองตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
โดยไม่ทันรู้ตัว ใบหน้าเขาก็ถูกอีกฝ่ายล็อคไว้...ด้วยเพราะตัวเขาคาดเข็มขัดนิรภัยไว้แล้ว ทำให้เขาขยับหนีอีกฝ่ายไม่ถนัด
......
.....
....
...
..
.
“ไหน อร่อยใช่มั้ย? ขอชิมหน่อยนะครับ” นายมะยมพูดพลางฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้
......
.....
....
...
..
.
ลิ้นอุ่นร้อนปาดเข้ามาเอาขนมครกที่อยู่ไนปากเขาไป...ชิม
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่อีกฝ่ายถอนปากออกไป เขาก็ดุอีกฝ่ายทันควัน “ดูสถานที่บ้างไหม! คุณนี่!”
“ก็ผมบอกพี่แล้วว่าให้เอารถไปติดฟิมล์...พี่ก็ไม่เชื่อ” นายมะยมพูดอย่างลอยหน้าลอยตาพลางเคี้ยวหมุบหมับในปาก
“คุณสิดื้อ! ผมพูดอะไรก็ไม่ฟัง!” นายภักดีเถียง
“ตอนเย็นผมมารับน้องหนูด้วยนะ” นายมะยมพูดพลางคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองอีกครั้ง
“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมมาคนเดียว!” นายภักดีพูดพลางรีบออกรถไปจากที่ตรงนั้น...ก่อนที่จะไปทำงานสายเข้าจริงๆ
“ทำไมล่ะ? ไหนพี่ว่าไม่โกรธผมแล้วไง อย่าบอกนะว่าจูบแค่เนี๊ย พี่ก็จะโกรธผมอ่ะ” นายมะยมโวยวายเสียงดัง
“ของแค่นั้นผมไม่เก็บไปถือให้เมื่อยหรอกครับ กลัวก็แต่คุณจะชวนผมเล่น MY CAR SECRET ต่างหากล่ะครับ!” นายภักดีที่ตั้งสมาธิกับการมองการจราจรบนท้องถนนบอกกับคนที่นั่งข้างๆ ด้วยสีหน้าที่เฉยไม่เปลี่ยน
......
.....
....
...
..
.
หลังจากนั้น....BMW 5 Series สีดำเรียบเท่ก็ขับทะยานไปบนท้องถนนเพื่อให้ทันเวลาเข้างาน...พร้อมกับเสียงหัวเราะงอหายจากคนที่นั่งข้างคนขับ
......
.....
....
...
..
.
-
:-[
น่ารักมากมาย :L2:
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o8: :o8: :o8:
-
ก๊าก...........ทำไมมันน่ารักขนาดนี้ คุณภักน้าคุณภัก น่ารักหน้าตายตลอด....
น้องหนูก็โมเอ้จัง
-
มีบาธรูมซีเคร็ต มีคาร์ซีเคร็ต ต่อไปจะเป็นอะไรดี
-
รอ kitchen secret ^_^
-
แอร๊ยย น่ารักอะ
คาร์ซีเคร็ด ฮาาา
อยากได้ซักตอนนะ แบบนี้
-
:-[ :-[ :-[ :-[ น่ารักอ๊ะ :-[ :-[ :-[
มีน้องหนูอยู่ ถึงไม่มีฉากนั้น ก็อิ่มใจ เพราะน้องหนูน่ารักมากกกกกกกกก :man1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เล่นอะไรก็ไม่รู้สองคนนี้
:o8:
-
:L2: :กอด1:
:pig4:
-
อร๊ายยยยยยยยยยยย กรี๊ดดดดดดดดดดดด
-
น่ารักมากมาย
-
หัวหน้าดุหว่ะ..........
ขอให้เจอ office secret :m19:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: มากอดหนูมะยม
-
เอาเล้าเป็ดซีเคร็ทก็ได้ รับรองคนอ่านจามุบมิบๆไม่บอกใครน้า :z1:
อุๆ ฝาแฝดเค้าหอมแก้มกันด้วย จะสี่สิบแล้วนะเนี่ย น่ารักเนาะ
ตอนแรกที่คุณภักดุมะยม นึกว่าไม่พอใจที่มะยมแยกแฝดไม่ออกซะอีก
ไปคิดว่าคุณรักเป็นคุณภักไรงี้
-
:call: :call: :call:วันนี้ยังไม่ได้อ่านสัก secretเรยอ่าาาาาาาาา. ร่วมกันจุดธูปอัญเชิญคุณ bao. Bao. เผื่อได้กลิ่นจะได้รีบมา. คริคริ
-
:call: :call: :call:วันนี้ยังไม่ได้อ่านสัก secretเรยอ่าาาาาาาาา. ร่วมกันจุดธูปอัญเชิญคุณ bao. Bao. เผื่อได้กลิ่นจะได้รีบมา. คริคริ
ชายหนุ่มหัวลูกเจี๊ยบเลื่อนเม้าท์มาคลิก....และอ่านกระทู้
ชายหนุ่มอ่านข้อความที่เพิ่งเม้นท์ล่าสุดด้วยใบหน้าอมยิ้ม... ชายหนุ่มหันหน้าไปจากหน้าจอและกวักมือเรียกอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาจากระเบียง...ห้อง
"พี่ภัก ดูนี่สิ" ชายหนุ่มพูดพลางชี้นิ้วไปที่หน้าจอ
ชายหนุ่มผมยาวรองทรงเดินมาที่โต๊ะคอมและอ่าน....
ชายหนุ่มผมรองทรงกระซิบที่ข้างหูของอีกคน
คอมพิวเตอร์ถูกปิดลง
สักพัก ชายหนุ่มทั้งสองก็เดินออกไปจาก....ห้องพัก
ลงไปยังชั้นที่หนึ่งของตึกหอพัก
กระป๋องสี่ล้อขับเคลื่อนตัวออกไปจากที่จอดของมัน พร้อมกับพาชายสองคนไปที่.......ที่พวกเขานัดกันไว้
หุหุหุ เอวัง ณ วันอาทิตย์ที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕
-
555 คุณเบาเบา ร้ายนัก
เอาซี้....
:กอด1: :L2:
-
เอ้ยย
อย่างนี้เลยเหรอ 55555
o18
-
เล่นกันแบบนี้...
ทำเอาไปไม่เป็นกันทีเดียวนะคุณเบา เบา ^^
-
o9ไปไหนกันง่ะ. :confuse:
-
ไปไหนกันอ่ะ ไปด้วยจิคะ ขอเป็นเห็บได้ป่ะ
อยากเกาะติดไปด้วยทุกที :กอด1:
-
:z3:
-
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มสองคนเดินออกมาจากลิฟท์และไหลไปตามฝูงชนคนกินเงินเดือน...ในมือของใครหลายคนถือร่มเตรียมไว้ ด้วยเพราะมีเสียงเปาะแปะของสายฝนพรำให้ได้ยินกันตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน
ทว่า ยังไม่ทันที่เขาและเพื่อนสนิทจะกางร่มเดินออกไปจากตัวตึก มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขาก็สั่น...เขาหยิบมันขึ้นมาแนบหู
“ครับพี่” เขาบอกกับปลายสาย
“รอที่รถแล้วนะครับ” ปลายสายบอกเขา
“อ้าว ไหนว่าไม่ให้ผมไปด้วยไงครับ” เขาขมุ่นคิ้ว
“อ้าว....” อีกฝ่ายอุทานแค่นั้นและไม่พูดอะไรอีก
“คนอาร๊าย ปากไม่ตรงกับใจนี่นา” เขายั่วอีกฝ่ายด้วยความนึกสนุก
“เร็วเลยครับ ขืนไปรับช้าเดี๋ยวหลานผมเค้าจะใจเสีย” ปลายสายสะบัดเสียงข่ม
“ไม่อ่ะ ผมจะไปซื้อของกับไอ้ศร เนี่ย มันยืนหัวโด่อยู่นี่แหละ พี่ไปเหอะ เจอกันที่ห้องเราแล้วกันนะครับ” เขาบอกกับปลายสาย
“ซื้ออะไรครับ?.... รับน้องหนูแล้วผมพาคุณไปซื้อก็ได้นะ” ปลายสายลดความเข้มของเสียงลง
“โอ๋ โอ๋ โอ๋...เค้าไปแป๊บเดียว แวะซื้อของตรงทางผ่านก่อนขึ้นรถใต้ดินนี่เอง ตัวเองไม่ต้องห่วงเค้าน๊า เค้าถึงบ้านก่อนตัวเองชัวร์ๆ ไม่มั่วนิ่ม...คิกคิกคิก” เขาจีบปากจีบคอยั่วเย้าคนอยู่ปลายสาย
“.......” ปลายสายไม่พูด แต่เขาได้ยินเสียง...สูดลมหายใจลึก----- ฮา
“ตัวเองรับลูกแล้วตรงกลับบ้านเลยน๊าคร๊าบ ห้ามเถลไถลน๊า-------” เขายังเล่นสนุกต่อ
แกร๊ก!..... ปลายสายวางทันที
เขายิ้มให้หน้าจอมือถือของตัวเอง....เป็นนานแค่ไหนไม่รู้ จนเพื่อนสนิทมันทัก “มึงจะยิ้มเรี่ยราดทำเหี้ยแบบนี้อีกนานมั้ย?”
เขาเงยหน้าขึ้นไป เบ้ปากใส่เพื่อนสนิทตัวเอง “ชิ! ไอ้โดดเดี่ยวและเดียวดาย”
“เออ! ขอให้โดนทิ้งในเร็ววัน ขอให้มีมือที่สาม ขอให้พ่อมึงเบื่อมึงเร็วๆ ....สาธุ!” เพื่อนอวยพรเขา
“ไอ้ปากเสีย! ตบปากสามทีเดี๋ยวนี้เลย! ผุย ผุย ด้วยนะ เหี้ย!...พูดจาไม่สร้างสรร” เขากระโจนไปล็อคคอเพื่อน
“มึงเริ่มก่อน!” เพื่อนเถียงเขาทั้งที่ยังไม่หลุดจากแขนล็อคของเขา
“มึงสิก่อน!” เขาเถียงเพื่อน...ไม่ยอมให้หรอก!
......
.....
....
...
..
.
วันนี้พานายมะยมกะนายภักดีไปเที่ยวถิ่นทุรกันดานอีกแล้ว....
ไอ้หัวลูกเจี๊ยบ พา "พ่อ" ไปเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ สนุกเค้าล่ะ.....กลับมา "พ่อมัน" ดำ ผู้เขียนจะ :jul3:
คำขอ-------เป็นตอนพิเศษที่ยาวพอดู...เพราะมันมีเหตุการณ์ของมัน ก่อนที่จะ เอวัง โดยสมบรูณ์
ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอค่อยๆ ทยอยลงให้ท่านผู้มีอุปการะคุณอ่าน...ไปก่อนนะคะ
เวลาพิมพ์ช่วงนี้ค่อนข้างมีน้อย
งานหลวงเยอะมากค่ะ
แต่ก็มาตามคำสอบถามข้างบน.....มาเรื่อยๆ ลงเรื่อยๆ อย่าหายไป..... อ่ะนะ
ผู้เขียนทำแล้วน๊า
ปล. ไว้จบเรื่องนี้เราไป :m25: กันเรื่องต่อไปโน๊ะ
:sleep2:
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: มาตะกุย f5 อิอิอิ
-
หมั่นไส้อยากตบปากลูกเจี๊ยบ ฮ่าๆ
-
ไอ้หัวลุกเจี๊ยบมันขี้อ้อน
ไม่น่าเป็นรุกเลยให้ตายสิ
เปลี่ยนตอนนี้ยังทันไหม ฮ่าๆๆๆ
-
กวนตีนได้โล่ห์....ยกให้นายมะยมเลย 5555
-
เดี๋ยวนี้กล้าล้อเล่นกับพ่อเหรอ //โบกหัวลูกเจี๊ยบ :fcuk:
-
พ่อมึงเจอไอ้หัวลูกเจี๊ยบไปสงสัยแอบยิ้มอยู่คนเดียวแน่ๆ
อ๊ายยย น่ารักเว่อร์
-
กวนได้โล่ห์จริงๆ
นายมะยม :z2:
-
ถ้าจะน่ารักขนาดนี้นะ ฮ่าๆๆ
-
:m25:คุณbao bao. จะต่อ. 3p. กับเรื่อง. ทะเล. ฝัน ชิมิๆๆๆๆๆๆๆๆ. คริคริ
-
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่เขากำลังสวมกางเกงวอร์มสีดำให้ตัวเองเสียงเจื้อแจ้วก็ดังลอยมา...มันค่อยเคลื่อนเข้ามาทางห้องของเขาพร้อมกับเสียงของรองเท้าหนังที่กระทบกับพื้นกระเบื้องยาง
เขารีบสวมเสื้อยืดสีดำ แล้วค่อยไปเปิดประตูห้อง...ก็พอดีกับ ‘คุณพ่อ’ กับหลานชายเค้าเดินขึ้นบันไดมา
“ใครจะไปปั่นจักรยานยกมือขึ้น!” เขาร้องบอก
เด็กชายตัวเล็กที่เดินจูงมือกับ ‘คุณพ่อ’ ชูแขนสั้นป้อมของตัวเองขึ้นมาทันที
“ไม่เอานะครับ ปั่นแบบนั้นมันอันตราย” ชายที่จูงเด็กชายบอกเขา
“คราวนี้ผมมีอุปกรณ์ ฮุฮุฮุ” นายมะยมยักคิ้วให้อีกฝ่าย
“ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” ชายหนุ่มจูงเด็กชายเข้ามาในห้องแล้วจึงก้มหน้าไปบอกกับเด็กชาย
“ฮะ!” เด็กชายสะบัดรองเท้า และวิ่งตื๋อเข้าไปในห้องน้ำ
“พี่จะไปวิ่งออกกำลังมั้ยล่ะครับ?” นายมะยมถามพลางเดินไปทางห้องน้ำ
“ครับ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วจะลงไป” พูดพลางคลายปมเนคไทของตัวเอง
“ไปกับผมก่อนนะ รดน้ำผักเสร็จเราค่อยกลับมาวิ่ง ปั่นจักรยานไปกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
นายภักดีขมวดปมที่หัวคิ้วตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปคุยกับอีกคน...ที่อยู่ในห้องน้ำ “เดี๋ยวผมพาไปก็ได้ครับ เอาน้องไปด้วยคุณอย่าปั่นจักรยานเลยนะ”
นายมะยมหันหน้ามาส่งยิ้มให้ “ผมมีอุปกรณ์เสริม...เดี๋ยวอาบน้ำให้น้องเสร็จผมจะเอาให้พี่ดูนะ...” หันหน้าไปหาเด็กชายที่ตัวเปล่าล่อนจ้อน “เอาน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นดีเอ่ย?”
“น้ำเย็นฮะ!” เด็กชายเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเล็กของตนเอง...และรอให้ผู้ใหญ่ส่งน้ำมาให้
......
.....
....
...
..
.
เมื่อนายมะยมอุ้มเอาหมูห่อสาหร่ายออกมากจากห้องน้ำ....นายภักดีจึงเปลี่ยนเข้าไปอาบบ้าง
......
.....
....
...
..
.
เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็เห็น ‘แบทแมนกับลูกค้างคาว’ ยืนอยู่ในห้อง!!-----นายมะยมเอาเด็กชายไปเกาะหลังของตัวเองโดยใช้กระเป๋าสำหรับสะพายเด็ก...ไว้ข้างหลัง
“นี่ลงทุนไปซื้อมาเลยใช่ไหมครับ?” นายภักดียิ้มที่มุมปากอย่างอดไม่ได้...พลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
“ข้างหลัง ขอเสียงหน่อย!” นายมะยมร้องบอกขอเสียงจากคนที่อยู่ข้างหลังตัวเอง
“เย้ เย้ เย้!” น้องหนูร้องเสียงดัง...และหัวเราะต่อด้วยความสนุก
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีเปลี่ยนมาสวมชุดวอร์มและเอาแว่นตากรอบหนามาใส่แทนคอนแทคเลนส์...เสร็จแล้ว เขากับนายมะยมจึงปั่นจักรยาน BMX ไปบ้านนายศรเพื่อรดน้ำแปรงผักก่อนกลับมาวิ่งที่สวนหย่อมทีหลัง
......
.....
....
...
..
.
แบทแมนกับลูกค้างคาวปั่นจักรยานนำโรบิ้นไป...ด้วยอัตราความเร็วแบบเดินทอดน่อง
-
555555
น่ารักอะ กรี๊ดดๆ
-
น่าร๊ากกกกก ครอบครัวสุขสันต์ :o8:
-
ไอเดียเริ่ด มะยมนี่ร่าเริงจัง ชอบเวลาคุยกะน้องหนู
-
......
.....
....
...
..
.
การมีเด็กเล็กมาพักอยู่ด้วย...แม้ต้องใช้ชีวิตช้ากว่าปกติ ทำอะไรก็ต้องคิดให้ละเอียดมากขึ้น ชีวิตประจำวันที่เคยใช้เวลาแม้ไม่เร่งรีบ หากแต่เมื่อน้องหนูมาอยู่ด้วย พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกว่า...เวลาเหมือนมีไม่พอใช้ยังไงไม่รู้
ว่าแล้ว...พวกเขาจึงแยกกัน
นายภักดีพาหลานชายตัวเองไปรดน้ำแปลงผัก...ส่วนนายมะยมก็เดินเข้าครัวทำกับข้าวทันที ฝ่ายเจ้าของบ้านที่เอื้อเฟื้อสถานที่นั่งแชทกับแฟนที่อยู่ต่างประเทศไปตามปกติ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินถือจานผัดผักและแกงจืดผักกาดดองมาวางที่โต๊ะกินข้าว...แล้วเดินเข้าไปหยิบจานเปล่ามาตั้งไว้เพียงใบเดียว
เพราะตารางเวลาผิดไปจากเดิม นายมะยมจึงแบ่งกับข้าวในส่วนของตัวเองใส่ปิ่นโตกลับมากินที่ห้องพัก หลังจากที่พวกเขาวิ่งออกกำลังกายกันเสร็จแล้ว
“ศร กูไปก่อนนะเว้ย” นายมะยมเดินหิ้วปิ่นโตออกมาจากครัว
“ไม่กินกับกูก่อนล่ะวะ” นายศรพูดผุดลุกจากโต๊ะคอม
“กินก่อนวิ่งแม่งก็จุกดิ” นายมะยมบอก
“อ้าว พ่อมึงเค้าวิ่งตอนเช้าไม่ใช่เหรอ?” นายศรถาม
“อื้อ...ตอนเช้าแม่งยุ่งๆ ว่ะ ไหนจะให้น้องหนูกินข้าว ไหนจะพาไปส่งที่โรงเรียน ไม่มีเวลาว่ะมึง” นายมะยมบอกกับเพื่อนสนิท
“ซ้อมไว้ๆ เผื่อมีเป็นของตัวเองจะได้สบาย ก๊ากกกก” นายศรพูดพลางคดข้าวใส่จาน
“ส้นเหอะ! พ่อกูไม่มีมดลูกนะเว้ย!” นายมะยมบอก
“ก็ขอคุณรักดีเค้ามาสักคนดิวะ หน้าเหมือนกันจะตาย ไม่มีใครดูออกหร๊อก” นายศรบอกพลางตักข้าวคำแรกเข้าปาก
นายมะยมเปลี่ยนใจเดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับเพื่อนตัวเอง “เลี้ยงเด็กมันยากนะมึง กินเวลาเราไปเยอะ ห้องกูก็เล็ก ไม่พอให้เด็กวิ่งเล่นหรอก”
“ยากอะไร มึงก็ให้พ่อมึงซื้อบ้านดิ ไปแออัดกันในห้องแคบๆ ทำเหี้ยไร จะอิอ๊ะกันทีก็ต้องปิดปากทำเบาๆ...รึมึงชอบแบบนั้นล่ะ?” นายศรย้อนถาม
“คิกคิกคิก...มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบนะมึง มึงลองกับน้องกัสดูดิวะ” นายมะยมพูดพลางเท้าคางมองสุดที่รักซึ่งเล่นอยู่กับหลานชาย...อยู่นอกบ้าน
“กูไม่นิยมว่ะ กูชอบแบบให้มันร้องดังๆ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายศรหัวเราะร่วน
“นี่กูต้องถือศีลตั้งสิบวันแน่ะ ฉิบหาย ถ้ากูรู้ก่อนหน้านี้นะ กูจะเก็บดอกล่วงหน้าไว้เลย!” นายมะยมกัดฟันกรอดที่ไม่ได้รู้ตัวมาก่อน...ว่าน้องหนูจะมาพักอยู่ด้วยหลายๆ วัน
“สม...ให้มันรู้จักหัวอกกูบ้าง หนอย...หน้าบานเป็นกระด้งมาทำงานทุกวัน เหี้ย! เห็นแล้วคันทีนฉิบ!” นายศรบ่นอุบ
“มึง!” นายมะยมหันมาทำหน้าจริงจัง
“ไร?” นายศรเงยหน้ามองเพื่อน...จริงจังพอกัน
“กูเพิ่งนึกออก...วันอาทิตย์ก่อนน่ะ ตอนกูจะกลับห้องกู อาม่าเค้าทักกูเว้ย แล้วก็เล่าให้กูฟังว่าเฮียตี๋เค้าซื้อบ้านที่อื่นแล้วนะ เฮียตี๋แกขอให้ม่าไปอยู่ด้วยด้วยว่ะ” นายมะยมเล่าให้เพื่อนฟัง
“เออ กูรู้แล้ว เฮียบอกกูไว้แล้ว ถ้าอาม่าไปจริงเฮียแกว่าจะขายทิ้งเลย” นายศรเล่าให้ฟังบ้าง
“นั่นแหละ! มึงไปถามราคาพิเศษกับม่านะ บอกม่าว่ากูขอซื้อ” นายมะยมบอกเพื่อน
“แล้วมึงไปคุยเองล่ะ” นายศรย้อนถาม
“อาม่าเค้าไม่อยากไป ถ้ากูไปถามเดี๋ยวม่าจะเสียใจว่ากูไล่เค้าดิ มึงอ่ะไปถามก่อน ค่อยๆ ถามนะเว้ย หากอาม่าเค้าอยากขายจริงๆ ค่อยบอกว่ากูสนใจจะซื้อ...งี้นะ” นายมะยมสอนเพื่อน
“เอออออ...” นายศรรับคำ
นายมะยมลุกขึ้นยืน “งั้นกูไปแหละ....อ้อ ลับสุดยอดนะมึง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะซื้อเรือนหอน่ะ มึงมีสินสอดให้ทางบ้านเค้ารึยัง?” นายศรแซวเพื่อน
“ผมก็พอมีวัวอยู่ฝูงหนึ่งที่บ้านนอก ขายวัวทั้งฝูงเอาเงินไปแต่งงานคงพอได้มั๊งครับ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมต่อคำกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดี
“เดี๋ยวกูเป็นตัวแทนทางบ้านมึงยกขันหมากไปขอให้ละกัน ฮ่าฮ่าฮ่า” นายศรหัวเราะร่วน
“ถ้ามึงกลับคำ กูจะแช่งให้กัสทิ้งมึง!” นายมะยมพูดพลางหิ้วปิ่นโต....เดินออกไป โดยมีเสียงอวยพรของเพื่อนดังไล่หลังมา
......
.....
....
...
..
.
“พี่! กลับกันเถอะครับ” นายมะยมร้องบอกนายภักดี
“ครับ... น้องหนูมาล้างมือก่อน” นายภักดีเดินไปถือสายยางมารอท่า...เด็กชายรีบลุกมาล้างมือตามที่ ‘คุณพ่อ’ บอก
“คุณ...ขากลับผลัดกันนะครับ เดี๋ยวผมเอาน้องไปกับผมเอง” นายภักดีพูดพลางจูงเด็กชายเดินมาทางจักรยานที่จอดไว้หน้าบ้าน
“คุณไม่ไหวหรอกครับ” นายมะยมพูดพลางใส่กระเป๋าเข้ากับตัวและเสียบล็อคจนครบทุกสาย
“ผมก็ผู้ชายนะครับ อย่าดูถูกกันสิ” นายภักดีแย้ง
“แต่พี่เป็นแฟนผม โอเค๊” นายมะยมยักคิ้วและแยกยิ้ม----แบบผู้ชนะ
เขามองดูชายคนที่จูงมือเด็กชายพร้อมกับกลั้นหัวเราะ...ใบหน้าของอีกฝ่ายที่จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม มันน่าขำสำหรับนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
-
โหยๆ
หวานซะ
นี่เราจะไม่ได้เห็นฉากเค้าอิ๊อ๊ะกันจริงเหยอ อิอิ
-
น่ารักจังหนอครอบครัวนี้
-
จะเก็บตังค์ซื้อเรือนหอกันแล้ว
พอซื้อเรือนหอเสร็จก็ต้องเก็นเงินค่าสินสอดต่อสินะ
นายมะยมขนหน้าแข้งจะร่วงมั้ยเนี่ย
-
ครอบครัวเป็นรูปเป็นร่างแล้ว น่ารักมากทั้งสามคนพ่อลูก
-
:กอด1:‘แบทแมนกับลูกค้างคาว’. น่ารักโน๊ะะะะะะะะะะะ. ส่วนอิ๊อ๊ะๆๆ. น่ะอะยัยเหยอ. บอกเค้าที เค้าไม่รู้ความหมาย. เค้าใสซื่อ. คริคริ :-[
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ รออิ๊อ๊ะซีน อ่ะ
-
......
.....
....
...
..
.
กว่าจะวิ่งเสร็จก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่ม เพราะเจ้าหนูเค้าจะวิ่งด้วย เลยให้วิ่งไปพร้อมๆ กันในสปรีดของเจ้าหนูเค้า... ผู้ใหญ่นั้นถือได้ว่าออกกำลังไปแค่หนึ่งส่วนสาม แต่เวลาไม่เหลือแล้ว พวกเขาจึงตัดใจและขึ้นไปเตรียมตัวกินข้าวเย็นกันต่อ
......
.....
....
...
..
.
ระหว่างรอข้าวสุกก็ผลัดกันอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเสร็จทั้งสามคนก็พอดี..ข้าวสุก หลังจากนั้น แก๊งค์ชุดนอนปาจามาจึงเริ่มทานมื้อเย็นกัน
อาจเพราะเด็กชายออกแรงเยอะ วันนี้เลยตั้งหน้าตั้งตากินข้าวไม่ชักช้าเหมือนปกติ...แค่สี่สิบนาทีมื้อเย็นก็สิ้นสุดลง
นายมะยมรับอาสาล้างจานชาม และปล่อยให้ ‘คุณพ่อ’ ทำน้ำตำลึงให้หลานชายดื่มก่อนนอน
......
.....
....
...
..
.
ล้างจานเสร็จนายมะยมก็เดินไปหยิบแก้วน้ำตำลึงของตัวเองไปเติมน้ำผึ้งแล้วยกซดรวดเดียว...หมดแก้ว “ฮ๊า-----!”
“มันไม่ได้เย็นซะหน่อย คุณจะร้องสะใจทำไมครับ?” นายภักดีที่นั่งหนุนหมอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเอ่ยถาม
“ไอ้ที่สะใจน่ะ เพราะจะได้พักต่างหากล่ะครับ” นายมะยมพูดพลางเดินมาทางเตียงนอน
ทันทีที่นายมะยมเอนหลังนอนราบ เด็กชายก็ร้องเสียงดังด้วยความขัดใจ “ครูมะยมบังหนูอ่ะ”
“อ้าว! โทษที โทษที มะมะ เปลี่ยนที่กัน” นายมะยมเด้งตัวขึ้น แล้วให้เด็กชายมาอยู่ริมเตียงโดยเปลี่ยนที่กับของเขา
เจ้าหนูกำลังติด ‘มูกา มูก้า ไดโนเสาร์จอมซน’...ตั้งหน้าตั้งดูภาพซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ที่หน้าจอทีวีจนตาไม่กระพริบ
“เจ้าเล่ห์นะ...” เสียงเรียบไม่แสดงความรู้สึกดังลอยมาจากด้านหลังของนายมะยม
“ก็ผมเป็นผู้ใหญ่นี่ครับ คิกคิกคิก” นายมะยมพูดพลางเอาหัวตัวเองไปหนุนที่หน้าขาของอีกฝ่ายซึ่งนุ่มหัวด้วยความหนาของผ้านวม
“เค้าฉลาดนะ ทำอะไรก็ระวังด้วยนะครับ” อีกฝ่ายบอกเขา
“นิดเดียวเอง... พี่ก็รู้ว่าผม ‘ทานเจ’ ไม่ได้ เอาแค่ ‘ชีวจิต’ ละกันเนอะ” พูดจบก็แนบริมฝีปากที่กลางฝ่ามือซึ่งขาวกว่าของตัวเอง
“ช่วงนี้...ตอนเช้าคุณออกไปพร้อมผมนะ ไว้น้องกลับแล้วค่อยไปกลับตามใจคุณ” นายภักดีก้มหน้ามาคุยด้วย...หลังจากที่เขาวางหนังสือที่หัวเตียงแล้วถอดแว่นออกไปวางพร้อมๆ กัน
“ขอไปรับน้องด้วยได้มั้ยครับ?” นายมะยมถามพร้อมกับยึดมืออีกฝ่ายไปกุมไว้ตรงหน้าอกของตัวเอง
“ถ้าคุณไม่ซนก็ได้ครับ” นายภักดีบอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“เดี๋ยวเสาร์นี้ผมจะเอารถพี่ไปติดฟิมล์ คอยดู!” นายมะยมทำแก้มป่อง...
“ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในหนังของคุณนะ บ้านเมืองเราเค้ามีวัฒนธรรมดีๆ อยู่แล้ว อย่าไปเลียนแบบต่างชาติเค้าสิครับ” นายภักดีถือโอกาสสอน
“ไม่รู้ไม่ชี้!” นายมะยมไม่สนใจหันหน้าไปดู ‘มูกา มูก้า’ ต่อ
“ดื้อ! พูดไม่เคยฟัง...” นายภักดีย้อนถาม
“ก็ผมเป็นเด็กนิ” นายมะยมตอบ
“ไหนเมื่อกี้ว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วไงครับ? กลืนน้ำลายตัวเองนี่” นายภักดีขุดขึ้นมาแย้ง
“ผมอ่ะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ผมเป็น ‘เด็ก’ ของพี่ไง รึว่าไม่จริง?” นายมะยมเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้
“...............” ถึงนายภักดีมองไม่ชัดว่าอีกฝ่ายทำสีหน้ายังไง...แต่เขาก็พอเดาออก
......
.....
....
...
..
.
บางครั้ง...เราก็เถียงสู้ ‘เด็ก’ (ของเรา) ไม่ได้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสิน่า!
......
.....
....
...
..
.
คืนนี้กะให้จบ แต่ไม่รู้จะพิมพ์ที่คิดไว้หมดมั้ย? ไม่รู้ฝนจะตกหนักมั้ย?
ที่บ้านนอกชอบตกกลางคืน เน็ทจะหลุดกระจาย
ใครทำงานมีเรียนวันพรุ่งนี้ก็ไปนอนตามเวลานะคะ...อย่าอดนอน มันเป็นศัตรูต่อความงามของเราน๊า
ว่างๆ ค่อยกลับมาอ่าน ตื่นแล้วมาอ่านก็ทัน....
อย่า "เอฟห้า" มากไป....เดี๋ยวนิ้วล็อค
ด้วยความห่วงใยจากผู้เขียน :pig4:
-
:pig4:ติดตาม เด็ก. และ. พ่อเด็กอย่างต่อเนื่อง. เรื่องนี้จบเราจะไป. ทะเล ต่อ. คริคริ :m25: [แอบคาดหวัง]. คุณBAO. BAO :z6:ทวงดีนักใช่มั๊ย. นี่แน่ะๆๆ...
-
น่ารักเกินไปแล้วคู่นี้อ่ะ
-
ตามติดชิดขอบสนาม ฮาาาา
เด็กมันเจ้าเล่ห์ คุณภักก็ต้องตามให้ทันหน่อย
เป็นกำลังใจให้คุณเบาเบานะคะ อิอิ
-
อยากให้น้องหนูอยู่ด้วยนาน ๆจังแต่ก็สงสารนายมะยมจะลงแดงตายซะก่อน
-
นายมะยมร้าย และทะลึ่งได้ทุกสถานการณ์ :m20:
-
มะยมขนาดทานชีวจิตนะเนี่ย :laugh:
ชอบตอนคู่นี้อยู่ด้วยกันจังเลย
-
เทศกาลกินเจ10 วันนี้ มะยมจะโหยตายมั้ย:laugh:
ศรไอเดียดีอ่ะ ซื้อบ้านๆ จาได้อิ๊อ๊ะกันให้หนำใจ คริๆๆ :z1:
หนูมะยมจะขายวัวทั้งฝูงมาแต่งคุณภัก เขินวุ้ย :-[
-
หวานน่ารักมาก
กรี๊ดดดดดดดดดดด นายมะยมจะซื้อเรือนหอแล้ว ดีใจ กรี๊ดดดดดดดดดดดด
-
......
.....
....
...
..
.
พ้นช่วงสามสี่วันที่น้องหนูมาอยู่ด้วยไปแล้วผู้ใหญ่สองคนจึงเริ่มปรับตัวได้...
ช่วงเช้า...กินข้าวเสร็จ พวกเขาก็พาเด็กชายไปส่งที่โรงเรียน และไปรับกลับมาห้องพร้อมกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนชุดไปรดน้ำแปลงผักที่บ้านนายศร หากวันไหนฝนตกก็ไม่วิ่ง แล้วอยู่กินข้าวบ้านนายศรแทน
การเลี้ยงเด็ก...ก็เหมือนได้ออกแรงกว่าปกติอยู่แล้วในตัว
‘น้องหนูดื้อน้อยหากอยู่กับพี่ใจดี’... คำที่นายภักดีมักได้ยินจากพี่สะใภ้และพี่ชายของตัวเอง
ทว่า ในสายตาของนายภักดีกลับเห็นเป็นภาพ-----ซนระเบิดเถิดเถิง ... ก็พี่ใจดีเล่นกับหลานชายของเขาแบบเต็มที่สุดๆ ชนิดไม่มีกั๊กไม่มียั้ง... จริงอยู่ว่าเวลาน้องหนูอยู่กับพี่ใจดีแล้วว่าง่ายขึ้น ไม่งอแง แต่ก็เสียงดังเป็นสามเท่าตัวด้วยเหมือนกัน
“มะยม! ดังไปแล้วครับ” นายภักดีเตือนสองคนที่เล่นหมุนคอปเตอร์อยู่กับพื้นห้อง
“อุ่ย อุ่ย....เม้มปากไว้นะ เอาล่ะน๊า” นายมะยมบอกเด็กชายแล้วเริ่มเล่นต่อ
นายภักดีมองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ---วันนี้นายมะยมคลีเอทของเล่นใหม่ โดยเอาจานหมุนที่คนอื่นเค้าเหยียบและหมุนๆ ออกกำลังมาวางบนฝ่าเท้าตัวเองซึ่งนอนหงายกับพื้นยกขางอเข่าชี้ฟ้า...ส่วนหลานชายของเขาน่ะเหรอ โน่น!.... นอนกางแขนกางขาอยู่บนจานหมุน โดยสมมุติว่าตัวเองเป็นใบพัดของเฮลิคอปเตอร์!
แล้วมันส์กันขนาดนั้น...แล้วจะให้เล่นกันเงียบๆ ได้ยังไง!
“พอเลยครับ พอเลย” นายภักดีหมดความอดทนลุกขึ้นมาจากเตียง และเดินไปหานักเล่นทั้งสอง “น้องหนู...ไปอาบน้ำใหม่เลยนะครับ ตัวเปียกไปหมดแล้ว เห็นไหม?” พูดพลางยกตัวเด็กชายออกมาจากหมุน
“คุณพ่ออ่า------” น้องหนูสะบัดขากลางอากาศอย่างขัดใจ
“โหยยยยยย------ พี่อ่ะ กำลังมันส์เลย” นายมะยมสะบัดกลางอากาศอย่างขัดใจ
“คุณไปอาบกับน้องเลยนะ ดูเหงื่อชุ่มเสื้อหมดแล้ว อาบเสร็จออกมาเปลี่ยนชุดนอนตัวใหม่กันทั้งสองคนเลยนะครับ” นายภักดีสั่งเฉียบขาด
“คร๊าบบบ” นายมะยมลุกขึ้นจากพื้นมาอย่างเกียจคร้าน “ป๊ะ เล่นน้ำกัน!” ยื่นมือให้เด็กชาย
“อื๊อ!” เด็กชายพยักหน้าหงึกๆ และวิ่งนำเข้าไปก่อน
......
.....
....
...
..
.
เสื้อผ้าชุดใหม่วางอยู่แล้วตรงปลายเตียง แต่อีกคนที่อยู่ในห้องนั้น ย้ายไปคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงห้อง
นายมะยมแกะสาหร่ายออกจากหมูและเอาชุดนอนตัวใหม่ใส่ให้เด็กชาย เสร็จแล้วก็ไล่เด็กชายขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงและเดินไปเปิด ‘มูกา มูก้า’ แผ่นใหม่ให้ดู
พอเด็กชายถูกตรึงอยู่กับจอทีวี เขาจึงเริ่มใส่ชุดนอนของตัวเอง...โดยไม่ติดกระดุมเสื้อ
......
.....
....
...
..
.
เขามองเด็กชายจนแน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กเข้าไปอยู่กับมูกามูก้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเดินไปที่ระเบียง พร้อมรูดม่านปิด...จนมิด
“ครับ แล้วค่อยคุยกัน พี่รักกินเยอะๆ นะครับ ดูแลสุขภาพด้วยครับ” นายภักดีพูดจบ พี่ชายของเขาก็ลาและวางสายไป
“คุณรักเหรอครับ?” นายมะยมค่อยๆ เดินไปหาอีกคน
“ครับ...คุณจะใส่เสื้อกล้ามนอนไหม?” นายภักดีถามอีกฝ่ายเพราะคิดว่าเค้าเล่นเยอะจนร้อน
“ไม่อ่ะ เสื้อแบบนี้แหละ” นายมะยมส่ายหน้านิดๆ
“ก็ติดกระดุมให้ดีสิครับ ปล่อยแบบนี้แล้วนอนๆ ไปแล้วมันรัดตัว อึดอัดเปล่าๆ” นายภักดีบอก...ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่อ่ะ...” นายมะยมปฏิเสธซ้ำ
“ดื้อ...” นายภักดีว่าให้
“อยากให้ติด พี่ก็ติดให้ผมสิ” นายมะยมบอก
นายภักดีระบายลมหายใจทิ้งทีหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปกลัดกระดุมเสื้อให้นายมะยม...ทว่า ทันทีที่เขาเอื้อมมือไปจับที่สาบเสื้อ นายมะยมก็ยื่นแขนมารัดตัวเขาเข้าไปแนบชิด...โดยไม่แจ้งกันล่วงหน้า
“ไม่จูบนะครับ” นายภักดีบอกไว้ก่อน
“อื๊อ...” นายมะยมครางเสียงเหมือนคนถูกขัดใจอย่างหนัก “กี่วันแล้ว พี่นับมั้ยครับ?”
“ไม่ได้นับครับ” นายภักดีควานหาสาบเสื้อ...มาชนกัน
“ห้าวันแล้วน๊า...” นายมะยมบอก
“สี่วันครับ” นายภักดีแย้ง
“ไหนว่าไม่ได้นับ หายไปไหนวันนึงอ่ะ” นายมะยมท้วง
“ก็วันจันทร์ตอนไปส่งน้อง คุณจัดไปแล้วหนึ่ง” นายภักดีแถลงไข
“อันนั้นผมกินขนม ยังไม่ได้จูบสักหน่อย” นายมะยมแก้ต่าง
“เหรอ------” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่หนึ่ง
“ขอทีเดียวน๊า แป๊บเดียว...” นายมะยมออดอ้อน
นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สอง “ไม่เอาครับ เดี๋ยวผมหยุดใจตัวเองไม่อยู่”
“คิดถึงพี่จังครับ” นายมะยมบอกที่ริมใบหูของอีกฝ่าย
“เหมือนกันครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สาม
“พรุ่งนี้น้องมีเรียนพิเศษอะไรรึเปล่าครับ?” นายมะยมกระซิบถาม
“ปกติเวลาเสาร์อาทิตย์ก็เรียนกับคุณ พอไม่ได้เรียนกับคุณแล้ว พี่รักเค้าก็ไม่ได้ส่งไปเรียนอะไรอย่างอื่นนะครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่สี่
“อื๊อ...” นายมะยมครางฮือ เพราะระยะห่างของกระดุมเม็ดที่สี่มันเริ่มต่ำ...ใกล้กับจุดไวต่อสัมผัส
“พาเค้าไปทำขนมด้วยกันที่บ้านนายศร แล้ววันอาทิตย์เราค่อยไปซื้อของใช้กันนะครับ” นายภักดีกลัดกระดุมเม็ดที่ห้า
“อูย------” นายมะยมกัดปากตัวเองทันที
“คุณเป็นอะไรน่ะ?” นายภักดีเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นมาสัมผัสที่แนวกรามของนายมะยม
“...ถ้าผมบวชพระนะ พี่อ่ะมารผจญดีๆ นี่เอง” นายมะยมพูดจบก็เดินตัวปลิวเข้าห้องไปทันที......
ปัง!------- เสียงปิดประตูห้องน้ำ....และสักพักนายภักดีก็ได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวที่ดังกระทบพื้นกระเบื้อง
“คึก คึก คึก...” นายภักดีพยายามกลั้นหัวเราะ----- ก็รู้ว่าคนคนนี้ของขึ้นไว แต่ไม่คิดว่าแค่กลัดกระดุมให้จะถึงกับมีอารมณ์
นายภักดีเดินอมยิ้มเข้าไปในห้อง และเดินไปล้มตัวลงบนเตียง
“น้องหนูมานอนดูการ์ตูนกับคุณพ่อนะครับ” นายภักดีเรียกหลานชายมานอน...พาเด็กชายตะแคงตัวลงมานอน เขาก็รวบตัวเด็กชายมากอดและห่มผ้าให้
......
.....
....
...
..
.
มูกามูก้าจบแผ่นพอดีกับตอนที่นายมะยมเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาจึงบอกอีกฝ่ายว่า “คุณปิดทีวีให้ด้วยนะครับ น้องหนูนอนได้แล้วนะครับ”
เด็กชายพลิกตัวมาหานายภักดี “พรุ่งนี้เราจะไปทำขนมบ้านอาศรกันใช่มั้ยฮะ?”
“ครับ” นายภักดีเปลี่ยนมานอนคะแคงเข้าหา...หลานชาย
“หนูอยากกินเค้ก” น้องหนูบอก
“เอาเค้กอะไรครับ” นายภักดีถาม
“ไม่รู้ฮะ” น้องหนูบอก...หน้าซื่อๆ----ไม่รู้จักชื่อเค้ก รู้แต่ว่าอันไหนขนมปัง อันไหนเค้ก
ไฟของห้องถูกปิดลง....ความมืดเข้ามาครอบคลุมห้องแห่งนั้น เด็กชายรีบซุกหน้าเข้าไปในอกของ ‘คุณพ่อ’
“เอาสีอะไรล่ะครับ” นายมะยมนอนเอนลงมาพร้อมกับเอาผ้าแพรมาคลุมให้กับตัวเอง...คนเดียว
“เขาสีขาวนะฮะคุณพ่อ!” น้องหนูบอกอู้อี้กับอกของ ‘คุณพ่อ’
“ครับ ครับ...เอ้า หลับตาได้แล้วนะ” พอนายภักดีพูดจบปุ๊บเด็กชายก็หลับตาปั๊บ
......
.....
....
...
..
.
ทิ้งบรรยากาศในห้องให้เงียบไปชั่วหลายอึดใจ...เด็กชายก็จะหลับไป----เป็นสเตปปกติที่ชายหนุ่มสองคนเริ่มเรียนรู้
“ทำไมพี่จัดระเบียบนอนแบบนี้ล่ะครับ ใจร้ายอ่ะ” นายมะยมอุทรณ์ทันทีเมื่อแน่ใจแล้วว่าเด็กชายหลับไปแล้ว
“ก็ผมกลัวตัวเองไปเผลอจุดไฟคุณน่ะสิครับ” นายภักดีพูดทั้งที่อมยิ้มอยู่ในความมืด
“เฮ้อ! อีกตั้งหลายวัน....แย่แน่ๆ แย่แน่ๆ” นายมะยมยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก
“หึหึหึ...ฝันดีครับ” นายภักดีหัวเราะในลำคอก่อนที่จะปิดเปลือกตาของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“ผมคงฝันร้ายทั้งคืนมากกว่า” เสียงอีกคนแหวกขึ้นมาในความมืด
......
.....
....
...
..
.
-
:pig4: :pig4:
-
o18
-
แอบเยาะเย้ย :m20:
-
......
.....
....
...
..
.
นายศรกัดขนมชิ้นโตเข้าปากตัวเอง “อึ้ม! อร่อยอ่ะ”
“เห็นมั้ยพี่ เอาอีกมั้ยครับน้องหนู” นายมะยมเงยหน้าไปบอกคนทำและหันหน้าไปถามคนชิมคนแรกอีกครั้ง----เด็กชายพยักหน้า
“ไม่ได้ครับ กินทีละชิ้นพอ ไม่ดีกับสุขภาพเด็ก” คนทำแย้งและเดินไปดูปริมาณแป้งที่ข้างกล่องอย่างละเอียด
“แม่ง! ไอ้นี่เรียกไรวะ มันเค้กแน่เหรอมึง” นายศรที่เป็นคนชิมรายที่สองถามชื่อของสิ่งที่ตัวเองกำลังจะยัดเข้าปาก
“ชิฟฟอนมึง แต่กูเอาแป้งแบบเนื้อเค้กมาทำ ครีมกูก็เอาแบบที่แต่งหน้าเค้กมาใช้เลย เลี่ยนไปมั้ยวะ?” นายมะยมแจกแจงพลางถามซ้ำ
“ไม่นะ มึงทำรสกาแฟ ชอกโกแลต ไม่ก็ทำครีมรสอื่นด้วยดิ จะได้ดูไม่น่าเบื่อ สีขาวๆ บางคนไม่ชอบนะมึง...เช่นกูเป็นต้น” นายศรแนะนำพลางสอดไส้ความชอบตัวเองให้เพื่อนสนิท
นายมะยมพยักหน้าหงึกๆ และเดินไปปรึกษากับคนทำ
......
.....
....
...
..
.
วันนี้ทำขนมปังเสร็จไปแล้ว ยังไม่ใส่ถุงเพราะรอมันเย็นอีกหน่อย นายภักดีจึงเปลี่ยนมาทำเค้กให้หลานชาย แต่คนที่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครแต่งหน้าเค้กกันเป็นสักคน แค่ครีมที่ทาหน้าเค้กก็ทำกันแบบลูกผีลูกคนแล้ว...อาศัยว่าทำเป๊ะๆ ตามหนังสือ รสชาติจึงพอไหว
ว่าแล้วเค้กก็แปลงร่างมาเป็นชิพฟอน...นายมะยมชิมก่อนเป็นรายแรก รสชาติใช่ได้ จึงเอาไปให้น้องหนูชิมบ้าง “อร่อยฮะ!” ... เด็กเค้าไม่โกหก...คุณก็รู้!
ดังนั้น นายมะยมจึงเกิดไอเดียและเอาอีกชิ้นไปบังคับเพื่อนสนิทตัวเองให้ชิม...ไอ้ศรไม่ค่อยชอบเค้ก แต่มันกินขนมปังได้...นายมะยมเอาแผ่นหนัง! ที่ฝากคุณรักดีซื้อจากญี่ปุ่นมาเป็นตัวประกัน เพื่อนจึงยอมเสียสละลิ้นมาชิมให้...แล้วก็ถูกปากเพื่อน
นายมะยมโล่งใจ แต่แล้วก็กลับมาหนักใจต่อว่า หากทำอันนี้ไปขาย มันจะอะไรยังไง...ทุนพอไหม ต้องใช้แป้งใช้ของเท่าไหร่ และเก็บไว้ได้นานแค่ไหน
......
.....
....
...
..
.
ขณะที่นายมะยมและนายภักดีกำลังง่วนอยู่กับการคิดตัวเลข คนที่มารับขนมก็เดินเข้ามาในบ้านนายศร
“มารับขนมคร๊าบ” นายป๋องตะโกนบอกเสียงดังพลางถอดรองเท้า
“เฮ้ย! ยังไม่ได้ใส่ถุงเลยป๋อง นั่งรอก่อนๆ” นายมะยมรีบวางปากกาและหันไปหยิบถุงไปวางที่โต๊ะตัวใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับแพ็คใส่ถุง
......
.....
....
...
..
.
ทีมแพ็ควันนี้มีสองทีม
นายภักดีมีหน้าที่เอาขนมปังใส่ถุงเหมือนเดิม
นายมะยมมีหน้าที่แม็กปากถุงเหมือนเดิม
นายศรเปลี่ยนมาทำหน้าที่แม็กปากถุง
และคนมารับขนมเพิ่มหน้าที่เป็นคนเอาขนมปังใส่ถุง...อีกหนึ่งตำแหน่ง
แล้วใครเอาห่อขนมปังใส่กล่องล่ะ?
......
.....
....
...
..
.
“เรียงให้สวยๆ นะครับ” นายภักดีกำชับหลานชายตัวเอง
“ฮะ!” เด็กชายพยักหน้ารับคำ...
แผนกจัดเรียงวันนี้ได้ที่พิเศษ...นั่งอยู่บนโต๊ะโดยมีกล่องขนาดเท่าครึ่งตัวของตัวเองขนาบสองข้าง
“น้องเค้าทำเป็นเหรอครับ ให้น้องเค้านั่งเล่นก็ได้นะครับ” นายป๋องหันไปถามเหมือนไม่แน่ใจ
“เค้าทำได้ครับ ก็เหมือนๆ กับต่อเลโก้น่ะครับ” นายภักดีเติมความมั่นใจ!
......
.....
....
...
..
.
สายพานการผลิตขนมเดินเครื่องไปอย่างสบายๆ ...เมื่อเข้าที่ และรับส่งกันได้เป็นจังหวะ ปากที่เคยหุบจึงเริ่มขยับ
“ป๋อง เดี๋ยวพี่เอาชิฟฟอนฝากไปให้คุณวาชิมด้วยนะ” นายมะยมบอกนายป๋อง...พลางยื่นถุงให้ฝ่ายจัดเรียง
“โห คุณภักทำเป็นด้วยเหรอครับ?” นายป๋องหันไปทำตาโต...พลางยื่นถุงให้พี่ศร
“เพิ่งลองครับ พอดีน้องเค้าอยากกินเค้ก ผมเลยเอาส่วนผสมของเค้กมาทำเป็นรูปแบบของชิฟฟอน ไม่รู้มันจะดีรึเปล่า? ยังไงรบกวนป๋องชิมแล้วบอกผมด้วยนะครับ” นายภักดีบอก...พลางยื่นถุงให้นายมะยม
“ได้เลยครับ ว่าแต่คุณภักไม่ทำคุกกี้บ้างเหรอ ผมชอบคุ๊กกี้ของคุณภักอ่ะครับ” นายป๋องบอก...พลางหยิบขนมปังใส่ถุง
“แบบไหนเหรอครับ?” นายภักดีถาม...พลางหยิบขนมปังใส่ถุง
“ชิ้นใหญ่ๆ อ่ะครับ แบบที่กินชิ้นเดียวพอน่ะครับ” นายป๋องบอก...พลางยื่นถุงให้พี่ศร
“ผมขอดูก่อนนะ ทำกินเองมันก็ได้ แต่ทำขายผมกลัวราคามันจะสูงไปน่ะสิครับ” นายภักดีพูดด้วยความเป็นกังวล...พลางยื่นถุงให้นายมะยม
“แต่คุ๊กกี้มันเก็บไว้ได้นานดีนะครับ ทำเยอะหน่อยคงพอดีทุนได้อยู่นะครับ” นายป๋องลุ้นต่อ...พลางหยิบขนมปังใส่ถุง
“หึหึหึ...เพิ่มจำนวนขนมปังผมยังไม่ไหวเลยนะครับ” นายภักดีบอก...พลางหยิบขนมปังใส่ถุง
“รับผมเป็นลูกมือมั้ยล่ะครับ เดี๋ยวให้เด็กที่ร้านมาช่วยทำวันเสาร์ด้วยเลยเอ้า!” นายป๋องเริ่มใจป๋า...พลางยื่นถุงให้พี่ศร
“ฮ่าฮ่าฮ่า....พี่ไม่มีปัญญาจ้างคนหรอกนะป๋อง” นายมะยมหัวเราะร่วน...พลางยื่นถุงให้ฝ่ายจัดเรียง
“คุณภักไม่ต้องกลัวผมมาจดสูตรนะ ลูกค้าเค้าชอบรสมือคุณภักอ่ะ ผมเลยขอทุ่มสุดตัว” นายป๋องชี้แจง...พลางเอาขนมปังใส่ถุง
“ผมไม่มีสูตรครับ ผมแค่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำมากกว่านี้ไหวรึเปล่ามากกว่าครับ ถึงมีหลายคนมาช่วย งานมันเพิ่มขึ้นความเหนื่อยมันก็พอกัน เผลอๆ อาจเหนื่อยมากกว่าเดิมเพราะเราอยู่กับมันทั้งวัน” นายภักดีแบ่งรับแบ่งสู้...พลางเอาขนมปังใส่ถุง
“พี่ไม่ชอบทำรึเปล่าครับ?” นายมะยมถามแฟนตัวเอง...พลางรับถุงขนมปังมาถือไว้ในมือและแม็กปากถุง
“ผม.....มันก็สนุกดี” นายภักดีตอบแบบเป็นกลาง
“งั้นก็คิดว่าเราทำเล่นๆ ก็ได้ ลองดูสักครั้ง ถ้ามันเหนื่อยไป อาทิตย์หน้าเราก็ทำเท่าเดิม...เนอะ” นายมะยมชักแม่น้ำมาช่วย
“ใช่เลย! นะครับคุณภัก ลองดูก่อนเนอะ ผมมาช่วยคนเดียวก็ได้ คุณภักจะได้สบายใจ” นายป๋องเริ่มเอาค้อนมาตีเหล็ก
“......เอ้า! ลองดูก็ได้ แต่เสาร์หน้าเอาแค่ทำขนมปังเพิ่มก่อนนะ อย่างอื่นผมยังไม่ทำนะครับ” นายภักดีบอกกับทุกฝ่าย
นายป๋องยิ้มแฉ่ง....ให้กับผลการเจรจาที่ได้รับมอบหมายมา
แล้วสายพานการแพ็คขนมก็เริ่มเดินหน้า...ต่อ
......
.....
....
...
..
.
“บ้ายบาย!” น้องหนูโบกมือให้รถคันที่บรรทุกขนมของ ‘คุณพ่อไปจนหมด’
นายภักดีอุ้มหลานชายเข้ามาในบ้าน...เขาเดินไปเอนหลังที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวตัวเดิม เขาหลับตาแต่ยังไม่หลับ เขาได้ยินเสียงเจื้อแจ้วของหลานชายซึ่งเข้าไปหาพี่ใจดีที่ในครัว
......
.....
....
...
..
.
สักพักใหญ่...แผนกเก็บล้างก็ทำหน้าที่เสร็จและเดินมาตามเขา
“นอนอยู่หรือเปล่าครับ?” นายมะยมเขี่ยแก้มเขาเล่น
“เปล่าครับ แค่พักตาเฉยๆ” นายภักดีพูดจบก็ลุกขึ้นมานั่ง “น้อง...” เขากำลังจะถามว่าหลานชายของตัวเองไปไหน ตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเด็กชายที่นั่งตักนายศร...และโบกมือกับหน้าจอคอม
“เค้าเล่นกล้องกับน้องกัสอยู่น่ะครับ” นายมะยมบอกเขา
“คุณ! ถึงเราทำเล่นกันเฉยๆ แต่ให้ป๋องเค้ามาช่วยด้วยผมว่ามันไม่ค่อยดีนะ งานต้องเป็นงานนะครับ” นายภักดีถือโอกาสคุยกับนายมะยม
“ว่าแล้ว!” นายมะยมพูดพลางเบียดตัวลงมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดียวกัน “ลองดูก่อนครับ หากเรารู้ว่ามีคนช่วยเราทำกี่คนต่อปริมาณเท่าไหร่แล้ว เราค่อยมาคิดตามความสะดวกใจของเราก็ได้นี่ครับ ผมบอกพี่แล้วไง ช่วงนี้ลองมันให้หมดทุกอย่างไปก่อน”
“สถานที่อีก เกรงใจค่าน้ำค่าไฟบ้านนายศรเค้าบ้างนะครับคุณ” นายภักดียังคิดมากต่อ
“ถ้าอยู่บ้านตัวเอง พี่จะเหนื่อยใจน้อยกว่านี้มั้ยครับเนี่ย?” นายมะยมถามด้วยใบหน้าอมยิ้ม
“ถ้ารวมไปถึงต้นทุนค่าของกับต้นทุนชีวิตตัวเอง ทำของขายในบ้านตัวเองมันก็ต้องคุ้มกว่าอยู่แล้วล่ะครับ เย็นๆ ถ้าไม่ทำงานล่วงเวลาผมก็ยังมาทำแป้งทิ้งไว้ได้ ทำไส้ทิ้งไว้ในตู้เย็นได้...ได้อีกเยอะเลยล่ะครับ” นายภักดีแจกแจง
“แล้วถ้ามีบ้านอ่ะ เวลาน้องหนูมาหาพี่ ให้น้องนอกแยกห้อง แล้วผมกับพี่นอนอีกครั้งได้ป๊ะล่ะ?” นายมะยมถาม
“เวลาน้องอยู่บ้าน...พี่รักก็ให้น้องนอนแยกห้องนะครับ แล้วเรื่องทำขนมมันเกี่ยวอะไรกับน้องหนูล่ะครับ” นายภักดีตอบอีกฝ่ายไปก็คิดสงสัยไปในตัว
นายมะยมฉีกยิ้มให้เขาแทนคำตอบ แล้วหันไปตะโกนบอกเพื่อนสนิท “ไอ้ศร กูไปบ้านอาม่านะเว้ย ฝากดูลูกกูด้วย”
“เออ!” นายศรรับคำแล้วเล่นกับเด็กชายและแฟนตัวเองต่อ
“ป๊ะ! ไปบ้านอาม่ากัน” นายมะยมพูดพลางจับมือของนายภักดี ดึงให้ลุกขึ้นมา
นายภักดีลุกขึ้นเดินตามคนที่จูงตัวเองไป “บ้านอาม่าข้างๆ นี่น่ะเหรอครับ?”
“อื้อ!” นายมะยมรับคำในลำคอ
“ไปทำไมครับ?” นายภักดีไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวก็รู้ครับ” นายมะยมบอกแค่นั้นและไม่ยอมบอกอะไรอีก
......
.....
....
...
..
.
"ฝันดีฮะ" :จุ๊บๆ:
-
ไปๆ ย้ายบ้านกันเต๊อะ
จะได้ทำอะไรๆให้มันสะดวกๆ
อิอิ เค้าไม่ได้คิดอะไรเลยนะ จริงๆ
-
ไปดูบ้านหรืออย่างไร รอมาเฉลยไข ^___^
:z3: :z3:
-
อ่านเพลินเลยอ่า ชอบมากก อย่าเพิ่งรีบจบนะเออ เรื่อยๆๆๆ อิอิ
-
ชอบนายมะยมที่สุดเลย
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: จะมีบ้านอยู่ด้วยกันแล้ววว :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
กิจการขนมเริ่มขยายไลน์ โห~ แล้วงี้มะยมจะอ้วนมั้ยเนี่ย
ผ่านมา 5 วันละ อดทนๆไปก่อนนะมะยม อีก 5 วันออกเจค่อยกินชอมื้อใหญ่ๆ
ว่าแต่อย่าลืมมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ ว่ากินไปกี่ยก ท่าออนท็อปหรือท่าอะไรบ้าง :z1:
-
อ่านเพลินเลยทีเดียว
มันน่ารักเกิ๊นหวานๆ :L1:
-
รอ รอ รอ นายมะยมซื้อเรือนหอรอรัก อิอิ :-[
-
......
.....
....
...
..
.
กดออดหน้าบ้านได้ชั่วอึดใจ ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินยิ้มออกมาจากในตัวบ้าน แล้วทักทาย “ไง ไอ้ยม มีไรวะ?”
“หวัดดีครับเฮียตี๋ มารบกวนเวลาพักรึเปล่าครับ” นายมะยมพูดพลางยกมือขึ้นไหว้...นายภักดียกมือไหว้ตาม ถึงแม้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอายุเท่าไหร่
ชายหนุ่มที่ถูกเรียว่าเฮียตี๋ เดินเอาหน้าตี๋จัดๆ มาเปิดประตูให้พวกเขาสองคน “นอนคุยกับม่าเล่นอยู่ ไม่มีไรมากหรอก มะ เข้ามา”
นายมะยมเดินนำนายภักดีเข้าไปในรั้วบ้าน....บ้านนี้มีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้หลายต้น เมื่อก้าวเข้าไปในร่มเงาของมัน นายภักดีจึงรู้สึกเย็นสบายและใจสงบ
“แล้วนั่นคนที่จะอยู่ด้วยกันเหรอ?” เฮียตี๋ถามพลางเหล่ตามามองคนที่มีสีผิวขาวกว่านายมะยม
“อ้อ...เฮีย นี่แฟนผมครับ ชื่อภักดี พี่ภักนี่เฮียตี๋ ลูกชายอาม่านะครับ” นายมะยมเดินพลางแนะนำคนที่ไม่รู้จักกันให้ได้รู้จักกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” นายภักดีหน้าเหวอนิดๆ กับการแนะนำอย่างตรงไปตรงมาของนายมะยม
“ครับ ไม่ทราบ คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ?” เฮียตี๋ถามด้วยรอยยิ้ม
“ย่าง 36 ครับ” นายภักดีตอบ
“งั้นเท่ากัน งั้นผมขอเรียกคุณภักละกันนะครับ” เฮียตี๋พูดสรุปความ
“ม่านอนรึยังอ่ะเฮีย” นายมะยมถาม
“กำลังดูหนังอยู่ เพิ่งกินข้าวกลางวันกันเสร็จ” เฮียตี๋เปิดประตูของตัวบ้านแล้วตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างใน “ม่า! อามะยมพาแฟนมาดูบ้าน ลื้อจะพาไปรึจะให้อั๊วพาไป!”
“อาม่าหูตึงนะพี่ เวลาพี่พูดกับม่าต้องพูดดังๆ ตะโกนก็ได้ ไม่แปลก” นายมะยมกระซิบที่ข้างหูของนายภักดี
“นี่คุณบอกเค้าเหรอว่าเราเป็นแฟนกันน่ะ!” นายภักดีได้ที...ถาม
“สิครับ ทำไมหรือผมเป็นชู้ของสามีชาวบ้าน?!” นายมะยมเล่นลิ้น
นายภักดีหน้าง้ำและเตะขาคนที่ยืนข้างกันไปทีนึง
“ปายล่วยกานตี๋ มะ มะ อายม หนายกิ๊กลื๊อ อาวน่ามาลูซิ” หญิงชราอายุเลยเจ็ดสิบแต่ยังมีท่าทางกระฉับกระเฉงเดินเข้ามาหาพวกเขา
“คนนี้! ม่า...หล่อป๊ะล่า?” นายมะยมชี้นิ้วมาทางนายภักดีพร้อมตะโกนเสียงดัง
อาม่าค่อยๆ เดินมาจนถึงข้างหน้าของนายภักดี อาม่ามองนายภักดีตั้งหัวจรดเท้า ก่อนจะส่งยิ้มให้แล้วหันไปบอกอายมว่า “อีโหงวเฮ้งลี ช๊ายล่าย ช๊ายล่าย นี่อั๊วเอาดวงพวกลื๊อไปให้ซินแสดูแล้วนะ อู๊ย----”
“เป็นไงมั่งอาม่า ดีป๊ะ?” นายมะยมกระวีกระวาดอยากรู้
“เยอะ เยอะ...ปายลูบ้างก่องดีกั่ว” อาม่าเปลี่ยนเรื่องทันควัน
“โหยยยยย....ม่าอ่า!” นายมะยมขัดใจและรีบเดินไปคล้องแขนอาม่าที่เดินนำไปก่อนแล้ว...
นายภักดีมองตามสองคนนั้นไปด้วยความฉงนฉงาย...มาดูบ้านก็ยังไม่เคลียร์ แล้วไอ้ดวงพวกลื๊อที่เอาไปให้ซิยแสดูมันคือดวงใครกับของใคร
“เราค่อยๆ ตามม่าแกไปนะครับ คนแก่ ห้ามขัดใจแก เดี๋ยวจะกลายเป็นเด็ก...ฮึฮึฮึ” เฮียตี๋ผายมือให้เขาเดินไป พร้อมบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“มะยมเค้าจะซื้อบ้านในหมู่บ้านนี้เหรอครับ” นายภักดีอดรนทนไม่ไหว...จึงเอ่ยปากถามกับคนใกล้ตัวที่สุดเสียเลย เพราะเหมือนคนคนนี้ก็รู้กันกับนายมะยม
“อ้าว มันไม่ได้บอกคุณเหรอ?” เฮียตี๋ทำหน้าเหมือนตกใจ
“ถ้าเรื่องเกี่ยวกับบ้านนี่ไม่เคยพูดอะไรนะครับ” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
“แล้วเค้าเล่าให้ฟังมั้ยว่าผมซื้อบ้านใหม่ แล้วจะพาอาม่าไปอยู่ด้วยน่ะครับ” เฮียตี๋ถาม
“ครับ” นายภักดีตอบสั้นๆ
“ก็นั่นแหละครับ ก่อนนี้ม่าผมน่ะไม่ยอมไปอยู่ด้วยกัน ให้ตายก็ไม่ไป แกรักบ้านนี้น่ะครับ อยู่มาตั้งแต่แต่งกับเตี่ยผม ถึงแกไปแกก็ว่าไม่ขายจะเก็บไว้ดูจนตาย แล้วไม่รู้ไงอยู่ดีๆ สองสามวันก่อนแกก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาจะไปอยู่ด้วยแถมยังจะขายบ้านอีก ผมก็งงนะ ถามแก แกเลยเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อวานซืนไอ้ศรมันมาถามว่าม่าจะย้ายบ้านจริงๆ เหรอ แล้วก็บอกว่าหากม่าไม่อยากเก็บบ้านไว้เป็นภาระ...ก็บอกมันได้ เพราะเพื่อนมันสนใจมาอยู่ใกล้ๆ กัน พออาม่ารู้ว่าเป็นอายมที่อยากซื้อต่อ ม่าผมเลยจะขายบ้านนี้ให้ แต่พอรู้ว่าไอ้ยมจะซื้อเป็นเรือนหอ ม่าผมก็กลัวอีกว่าแฟนอายมจะไม่ถูกใจ เลยให้พาเจ้าตัวมาดูบ้านก่อน แต่คุณภักไม่ต้องกังวลอะไรนะครับ ถ้าไม่ชอบใจก็ไม่ต้องให้ไอ้ยมมันซื้อ ม่าผมเค้าอยากให้อายมคนเดียว หากไม่ใช่อายมแกก็จะเก็บบ้านไว้ดูเล่นน่ะครับ” เฮียตี๋บอกเล่าให้ฟัง
นายภักดีเดินไปพลางฟังเฮียตี๋เล่าความเป็นมาไปเรื่อยๆ พร้อมกับเดินตามหลังนายมะยมและอาม่าที่คุยกันเสียงโหวกเหวก...ไปสามบ้านแปดบ้าน
“ผม......ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน คงตัดสินใจอะไรทันทีไม่ได้ ทีแรกก็นึกว่าไม่เกี่ยวกับผม คิดว่าเขาชวนมาดูบ้านเล่นๆ” นายภักดีพูดเป็นกลาง..แต่ก็บอกเฮียตี๋ไปตามความจริงที่ตนเองคิด
“ฮึฮึฮึ...คุณภักไม่รักไอ้ยมมันเหรอครับ?” เฮียตี๋ถาม
นายภักดีสะดุ้งโหยง “คะ..ครับ มันเกี่ยว...อะไรด้วย...รึครับ?”
“บ้านที่ผมซื้อใหม่ ก็ซื้อเป็นเรือนหอนะครับ เรื่องคุณกับไอ้ยมผมก็รู้มาตั้งแต่ปีก่อนแล้วล่ะครับ กับความรัก เวลาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันในบ้านของเรา ผมว่ามันสำคัญที่สุด ม่าผมพูดกรอกหูผมทุกวันเลยล่ะครับ” เฮียตี๋บอกเล่า
“ผะ...ผม...” นายภักดีพูดอะไรไม่ออก ไม่ใช่ว่าไม่ได้รัก ไม่ใช่ว่าไม่อยากสร้าง ‘ครอบครัว’ แต่ที่เขาตอบอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เพราะเพิ่งรู้เรื่องนี้มากกว่า
“บ้านหลังไหนก็ได้นะครับ เอาตามที่คุณภักกับไอ้ยมชอบใจ” เฮียตี๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ผมรู้จักไอ้ยมมันหลายปี นับถือกับเป็นพี่เป็นน้อง เห็นมันไม่มีใครเลยก็สงสารครับ อยากให้มันมีครอบครัวของตัวเอง ผมจะย้ายไปนู่นผมก็ห่วงมันนะครับ แต่มันยังมีไอ้ศรอยู่ใกล้ๆ ผมก็พอเบาใจ แต่หากคุณภักรับมันไปดูแลแบบไม่คืนพวกผม ม่าผมแกคงนอนตายตาหลับ”
“.......ขอบคุณครับ” กับเฮียตี๋นายภักดีพูดได้เพียงเท่านี้...
ถูกแนะนำว่าเป็น ‘แฟน’ ถึงตกใจและอาย แต่เขาก็ดีใจ ดีมากมากๆ อีกต่างหาก...
บ้านที่อีกฝ่ายคิดจะซื้อโดยอุบอิบไม่บอกเขา ยิ่งได้ฟังจากปากคนอื่นว่าอีกฝ่ายตั้งใจซื้อเพื่อให้เขามาอยู่ด้วยกัน ถึงแต่งงานกันไม่ได้ตามประเพณีและกฎหมายของสังคม...เขาก็จะไม่เรียกร้องอะไรกับอีกฝ่ายอีก...ตลอดชั่วชีวิตนี้
แต่เดิมที่คิดว่าจะดูแลอีกฝ่ายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้...พามาได้ยินคนอื่นพูดถึงคนของเขาเช่นนี้แล้ว เขากลับยิ่งมุ่งมั่นที่จะดูแลอีกฝ่ายให้มากกว่าเดิม...ให้ดีที่สุดของที่สุดของที่สุด...ของที่สุด
......
.....
....
...
..
.
ใช้เวลาเดินรอบบ้านเกือบชั่วโมง แล้วอาม่าก็พาพวกเขามานั่งคุยกันต่อ ทั้งเรื่องดวงที่นายมะยมฝากเอาไปให้ซินแสดู และเรื่องรายละเอียดของบ้านหลังนี้
ส่วนที่ต้องซ่อมแซมอาม่าบอกให้พวกเขารู้โดยละเอียดและมีเบอร์ช่างที่ไว้ใจได้มาให้พร้อม
สภาพบ้านโดยรวมถึงแม้ว่าจะเก่าด้วยอายุ ทว่า ตัวบ้านนั้นเป็นการสร้างแบบรุ่นเก่าที่ทำฐานและโครงไว้อย่างดี จึงยังสามารถทนแดดทนฝนไปได้อีกนาน
อาม่าบอกว่า ซื้อบ้านแค่มีเงินจะซื้อดีแค่ไหนก็ได้...แต่เพื่อนบ้าน “เงิน” ซื้อไม่ได้
นายภักดีเห็นด้วยกับคำพูดของอาม่า... เขาไม่ได้รู้สึกมีปัญหาอะไรกับบ้านมือสองและเก่าหลายสิบปี ถึงมันพังและไม่ไหวจริง เขาก็สร้างมันใหม่ได้ทั้งหลัง...แบบไม่มีปัญหา
ให้นายมะยมอยู่ใกล้เพื่อนสนิทไว้ก็ดี...จะได้ไม่เหงา
ส่วนเขา...พี่ชายฝาแฝดก็ซื้อบ้านที่ไม่ห่างจากตรงนี้ไว้แล้ว เกิดอะไรขึ้นก็ไปมาหาสู่กันได้สะดวก
บ้านที่ต่างจังหวัด...ไกลหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าขับรถไปไม่ถึง
นายภักดี...รู้ตัวดีว่าตนเองคงไม่อาจแต่งงานมีลูกได้ เขาจึงไม่เคยคิดที่จะซื้อบ้านใหญ่ๆ มาอยู่ให้เคว้งหัวใจตัวเองเล่น แม้ว่าพ่อแม่จะบอกให้ซื้อเป็นสินทรัพย์ไว้ เขาก็เฉยๆ ไม่สนใจ...ถึงลาออกจากงานแล้ว เขาก็ยังมีบ้านของพ่อแม่ ซึ่งพี่ชายของเขายกให้เขาไว้แล้ว
หากยังอยู่ตัวคนเดียว...เขาคงไม่คิดถึงสิ่งเหล่านี้
หากแฟนคนปัจจุบันไม่ใช่ ‘นายมะยม’ คนนี้ เขาก็คงไม่มีวันคิดเรื่องพวกนี้
แฟนหลายๆ คนที่ผ่านมา...ส่วนใหญ่ดูท่าเป็นได้แค่แฟน ไม่เคยมีใครสักคนที่เขามองแล้วรู้สึกว่า----คนนี้ล่ะ...คู่ชีวิตของเรา
เขายอมรับกับตัวเองมาหลายเดือนแล้วว่า ‘นายมะยม’ คนนี้----แตกต่างกับทุกๆ คนที่ผ่านมา
......
.....
....
...
..
.
เหลือแค่เพียงว่า ‘นายมะยม’ คนนี้จะคิดเหมือนกันเขาด้วยหรือเปล่า
......
.....
....
...
..
.
-
ฮ่าา มาต่อแล้ว
รอดูเรื่อนหอ กี๊ดกิ๊ว
-
......
.....
....
...
..
.
“อาภัก ลื๊อชอบม๊าย?” อาม่าถาม
“ครับ” เขาพยักหน้า
“ม่ายค่อยพุด แต่ใจหนักแน่นลี เหมาะก๊ะลื๊อ ลื๊อมานม่ายค่อยอาวสาระ” อาม่าหันไปว่านายมะยม
“พี่ ซินแสบอกว่าเราอยู่ด้วยกันแล้วจะเฮง เฮง เฮงด้วยน๊า” นายมะยมอวด
“ต้องทามงานล่วยกาน ที่เลียวกาน ลวงพวกลื๊อมานค้ามคูนกานเอง” อาม่าบอกให้อาภักฟัง
“พี่ชอบมั๊ย? ผมซื้อให้อ่ะ เอาป๊ะ?” นายมะยมถามนายภักดี
“....แล้วแต่คุณชอบเถอะ ผมยังไงก็ได้” นายภักดีตอบอ้อมแอ้ม....เขารู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนฉ่าเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักจากเจ้าบ้านทั้งสอง
“ม่า วันที่ไอ้ยมมันขึ้นบ้านใหม่เนี่ย แห่ขันหมากด้วยเลยเนอะ” เฮียตี๋หันบอกแม่ของตัวเอง
“อ๊าย อาตี๋ อาวโทระสัพมาซี่ ม่าลึมถามซินแสอีว่าอ้ายคู่นี้ เริกมงคงมันวังหนาย” อาม่ารีบไล่ลูกชายตัวเองไปเอาโทรศัพท์มาให้แก...โทรหาหมอดูเพื่อดูฤกษ์มงคล
นายภักดีก้มหน้างุด ไม่กล้าเงยขึ้นมาเลย
“ม่า! ผมยังไม่ได้ไปขอกับพ่อแม่เค้าเลยนะ” นายมะยมเขย่าแขนอาม่า
“ฮึ๊ย! วังลีนี่เค้าถามกานก่องล่าย ยางงาย ยางงาย อาภักอีแล่วแต่ลื๊ออยู่แล้ว” อาม่าเหมือนไม่สนใจ...คำตอบจากพ่อแม่อีกฝ่าย
“อาภัก ป๊าม๊าลื๊ออยู่หนายล่ะ กุงเทพ รึจางหวาดหนาย” อาม่าถามนายภักดี
“อยุธยาครับ” นายภักดีตอบ
“อั๊วม่ายล่ายยิง ลัง ลัง” อาม่าบอก
“อยุธยาครับ!” นายภักดีตอบเสียงดังกว่าเดิม
“ก้าย ก้าย... อายมลื๊อก้อปายวานนี้วานพุ่งเลยซี่ เหลียวม่าก๊ะเฮียตี๋เป็นยาดพู่หย่ายห้ายลื๊อเอง สินส๊อดท่าวหร่ายบอกมะเลย” อาม่าบอก
“ถ้าของไอ้ยมมันไม่พอไปขอ เดี๋ยวม่าผมช่วยลงขันเองครับ เรียกมาให้เต็มที่เลยนะครับ อย่าเกรงใจ แต่ฝ่ายผมจะเอาคนนี้ล่ะ!” เฮียตี๋บอกย้ำ
“ขะ...ขอตัวก่อนครับ อาม่าครับ ผมลาก่อนนะครับ” นายภักดียกมือไหว้อาม่าแล้วรีบปลีกตัวออกมา....ตามใจสั่ง
......
.....
....
...
..
.
เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ไหวแล้ว...ใจมันแทบจะกระเด้งออกมาอยู่เต้นอยู่ข้างนอกซะให้ได้
......
.....
....
...
..
.
ทำไมไม่มีใครคิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายไปสู่ขอนายมะยมบ้าง?!!------นายภักดีคิดพลางเดินจ้ำอ้าวไปยังบ้านนายศร
......
.....
....
...
..
.
-
ประโยคสุดท้ายน่าจะเป็นของคุณดีใช่มั้ยคะ อิอิ
ชอบอะ คุณภักเขิน
กรี๊ดดดด
-
อาม่าสุกยอกอ่า :m20:
งานใหญ่แล่วน่อ อาภักเอ้ย
-
กรี้ดจะมีบ้านเป็นของตัวเองแล้วนะ คุณภัก มะยม ทีนี้ จะปลูกตำลึงเท่าไหร่ก็ได้แล้ว
จะเป็นร้านขายขนม ก็ได้แล้วน้า
ดีจัง
-
แอร๊ยยยยยยยยยยย >/////////<
แต่งเล้ยยยยยๆๆๆ :mc4:
-
o13
รักอาม่าที่สุดอ่ะ กรี๊ดดด ถูกใจคุณภัคเขินด้วย
-
กด Like ให้อาม่าเลย ^^
-
อร๊ายยยย พ่อมึงเขินอ่ะ
ซื้อบ้านแล้วก็แต่งเลยเนอะ
จะเปิดร้านเบเกอรี่ก็ได้
ไม่ต้องเกรงใจค่าน้ำค่าไฟบ้านนายศรแล้ว ^^
-
กรี๊ดคุณภักเค้าเขินอ่ะ
-
ชอบจัง คู่ชีวิต
-
ปีนี้ดาราแต่งกันเยอะ นายมะยมก็อินเทรนด์
แต่งปีนี้แหละจะได้เฮงๆ
-
เขาจะไปสู่ขอกันแล้ว
-
คุณภักเขินใหญ่เลย
นายมะยมเป็นลูกผู้ชายตัวจริง
-
เค้าจะไปสู่ขอกันแล้ว แอร๊ยยยยยยยย :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
อร๊ายยยยยย :-[ :-[ :-[
จะอ่านอีกๆๆๆ
-
o13กดไลท์ อาม่าพันครั้ง !!!!!
-
มะยมน่ารักเกินไปแล้ว :กอด1:
อาม่าเยี่ยมที่สุด o13
-
อร๊ายยยยยย พ่อมึงเขินนนนนนน :o8:
-
......
.....
....
...
..
.
ออกมาจากบ้านนายศร นายมะยมและนายภักดีพาเด็กชายไปกินไอติมก่อนเข้าห้อง...
เด็กชายกินหมดแล้วหนึ่งก้อน และขอไปดูปลาในบ่อของทางร้าน
“พรุ่งนี้พี่พาผมไปไหว้พ่อแม่พี่หน่อยสิครับ” นายมะยมได้โอกาสพูดต่อ
“คุณ....” นายภักดีหันหน้ามาหาคนที่นั่งตรงข้ามกับตัวเอง...แต่ไม่พูดต่อ
“ทำไมครับ? พี่ทำหน้าแบบนั้นทำไมอ่ะ?” นายมะยมเริ่มผิดสังเกตุ
“ผมบอกอะไรตรงๆ กับคุณได้ไหม? แต่หากบอกคุณแล้ว คุณอย่าเอาไปคิดมากนะครับ” นายภักดีบอกกับอีกฝ่ายด้วยเสียง...เครียด
“ครับ ผมโอเค พี่พูดมาเหอะ” นายมะยมบอกอีกฝ่ายอย่างหนักแน่น
“พ่อแม่ผม...” นายภักดีระบายลมหายใจหนึ่งทีก่อนพูดต่อ “พวกเค้ารับไม่ได้กับเรื่องที่ผมเป็นแบบนี้ครับ” นายภักดีบอก
“พี่....” นายมะยมอ้าปากเหวอ
“ตอนนี้พี่รักมีหลานให้พวกเค้าแล้ว ท่านก็ไม่อะไรกับผมมากเหมือนก่อน แต่ผมคงพาคุณไปพบท่าน.....ไม่ได้หรอกนะครับ” ตลอดเวลาที่พูดนายภักดีสบตากับคู่สนทนานิ่ง
“............” นายมะยมพูดอะไรไม่ออก เขากำลังนึกถึงความเจ็บช้ำหัวใจที่อีกฝ่ายได้รับ...ก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาพบกัน
เขานั่งคิดพลางคิดไปถึง...ชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
แม่เสียไปตั้งแต่เขายังไม่รู้ตัวว่าตนเองรักเพศเดียวกัน
พ่อมารู้ทีหลังตอนที่เขาขึ้นม.ปลาย... พ่อไม่ได้ดุว่าอะไรเขา แต่พ่อบอกให้เขาคิดพิจารณาให้ดีว่าเป็นความชอบ หรือความหลงใหล
พ่อไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาเป็นนั้น...ผิด
แต่พ่อสอนให้คิด
......
.....
....
...
..
.
ถ้ามั่นใจแล้วว่าตนเองเป็นเกย์จริง พ่อบอกเขาว่า...ให้รักให้เป็น
พ่อเป็นห่วงมาก เพราะข่าวหลายอย่างเกี่ยวกับบุคคลในแบบของเขา...อกหักรักคุด และการเสียคน เสียอนาคต รวมไปถึงเสียชีวิต
พ่อไม่ได้ห่วงว่าลูกตัวเองจะไปในทางไม่ดี เพราะพ่อกับแม่มั่นใจว่าสอนลูกตัวเองให้เป็นคนดีแล้ว ทว่า คู่กรณีของเขานั้น...อาจเลือกไม่ได้ หรือ “รู้หน้าไม่รู้ใจ”
ดังนั้น พอจึงมองเขาด้วยความเป็นห่วง
แรกเริ่มเดิมทีหลังจากแม่เสีย พ่อจะไปบวชเสียตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทว่า เพราะเขานี่เองที่ทำให้พ่อตัดใจไม่ลง
พ่อมองว่าการที่ตัวเอง “รักทางธรรม” และเขาที่ “รักเพศเดียวกัน” ....เป็นวิถีเดียวกัน ทว่า ต่างกันที่วาระ...ก็เท่านั้น
ไม่ว่าความคิดของเขาหรือพ่อ...มันก็แปลกสำหรับชาวบ้านเค้าทั้งสองคน
ทว่า บวช ฤา จะน่าห่วงกว่าการ “เบียดป่าเดียวกัน”....เช่นนี้เอง ทำให้พ่อยังคงเป็นพ่อและอยู่ในทางโลกจวบจนพ่อมั่นใจแล้วว่า ลูกใช้ชีวิตเป็นและมองคนเป็น----จึงออกบวช
......
.....
....
...
..
.
ปัญหาทางครอบครัวของบุคคลประเภทเดียวกับเขา...เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
คนรอบตัวเขา...หลายคน ก็มีปัญหาเรื่องนี้กับครอบครัว...หนักบ้างน้อยบ้าง และร้อยทั้งร้อย ไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดถึง-----เพียงคำเดียวของบุคคลอันเป็นที่รักของเรา แค่นิดหน่อยก็ทำให้เราเจ็บปวดไปได้...ทั้งชีวิต
เฉกเช่นใบหน้าที่เรียบตึง ทว่า นิ่งไปเลยของนายภักดี
นายมะยมเรียนรู้จากนิสัยของอีกฝ่าย และจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านๆ มา-----จงอยู่กับปัจจุบันและพอใจกับปัจจุบัน
......
.....
....
...
..
.
เพียงวันนี้ที่เรารักกัน...เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
......
.....
....
...
..
.
“ผมรักพี่นะครับ ป๊ะ เรากลับกันเถอะนะ” นายมะยมเอื้อมมือไปกุมมือของอีกฝ่ายที่วางราบอยู่กับโต๊ะ พร้อมส่งยิ้มที่อบอุ่นให้
นายภักดีจ้องตากับนายมะยมสักพัก....แล้วจึงพยักหน้า
......
.....
....
...
..
.
จ่ายเงินเสร็จก็เรียกน้องหนูไปขึ้นรถ
นายภักดีเดินนำไปก่อน...เพื่อเปิดแอร์รอ
นายมะยมเดินจูงมือเด็กชาย...ที่ค่อยๆ ก้าวเดินมายังรถยนต์ด้วยระยะฝีเท้าของเด็ก
นายมะยมอุ้มเด็กชายมานั่งหน้าด้วยกัน...และคุยเล่นกันไปตลอดทาง
......
.....
....
...
..
.
ขึ้นห้องมาสักพักก็ได้เวลาอาหารเย็น นายมะยมเอาน้องหนูสะพายหลังแล้วพาออกไปเลือกของกินกลับมาทานที่ห้อง
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีลงไปวิ่งที่สวนหย่อม
นายมะยมเล่นคอปเตอร์กับน้องหนู
......
.....
....
...
..
.
เมื่อนายภักดีวิ่งออกกำลังเสร็จและขึ้นมาบนห้อง น้องหนูก็วิ่งไปอาบน้ำกับ ‘คุณพ่อ’
สองพ่อลูกอาบน้ำเสร็จ นายมะยมก็ผลัดกันเข้าไปอาบบ้าง
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินออกมาและสวมชุดนอนที่นายภักดีเตรียมไว้ให้...ซึ่งวางอยู่บนปลายเตียง----วันนี้ลายและสีเดียวกันหมดทั้งสามคน
......
.....
....
...
..
.
ดูมูก้ามูก้าจบแผ่น ก็ถึงเวลาที่น้องหนูจะนอน
......
.....
....
...
..
.
พรุ่งนี้ต้องออกไปซื้อของเข้าห้อง
น้องหนูอ้อนขอ ‘คุณพ่อ’ ซื้อการ์ตูนแผ่นใหม่ เพราะของเดิมที่เอาติดมาที่ดูวันนี้เป็นแผ่นสุดท้ายแล้ว
นายภักดีรับปากหลานชายและบอกให้หลานชาย...หลับตาได้แล้ว
เด็กชายเป็นเด็กดีรีบหลับตา...เพราะกลัวว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้การ์ตูนเรื่องใหม่
......
.....
....
...
..
.
คืนนั้น...น้องหนูยังคงนอนคั่นกลางระหว่างพวกเขา ทว่า บนพุงของน้องหนู พวกเขานอนจับมือกันไว้...ไม่ปล่อย...จนกระทั่งรุ่งสางของอีกวัน
......
.....
....
...
..
.
-
ฮ่า ครอบครัวสุขสันต์
รักกันนะ รักกัน
-
โอย ทิ้งร้างไปแว่บเดียวมาอ่านอีกทีแทบจะกระอัก...!!!
กระอักกับความหวาน...มากๆๆๆๆ ถึงมากที่สุดของคู่นี้
แต่กับบทล่าสุดนี่แลดูจะเจือเศร้านิดนึง
ถึงยังไงก็เชื่อว่าจะผ่านไปด้วยดี ก็คุณภักมีไอ้หัวลูกเจี๊ยบอยู่ด้วยนี่
ที่สำคัญอาม่ายังให้ซินแสฟันเฟริม์มาอีกด้วยว่า
'คู่นี้เค้าค้ามจุนกาน' เอิ๊ก :-[ เขินจริง เขินจัง
อบอุ่น อ่อนหวาน ที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: มะยมดูแลพ่อมึงดีดีนะ
-
ตอนนี้ดราม่าเล็กๆนะคะ พ่อแม่คุณภักหัวโบราณอ่ะ
ดูอย่างอาม่าซิ ทันสมัยที่สุดอ่ะ รับได้ทันทีไม่ตกใจ หรือรังเกียจเลย
อาม่าน่ารักมากอ่ะ เอาดวงไปดูให้พร้อม หาฤกษ์แต่งให้ด้วย
มีแถมสินสอดอีก งานนี้อาม่าทุมสุดตัว เพื่อหลายสะใภ้เลยเอ้า
แต่ตอนท้ายก็มีฉากให้อบอุ่นใจ น่ารักๆซึ้งๆ ให้ได้อมยิ้มกัน
:o8:
:L2: :pig4: :L2:
-
อ่านแค่นี้แล้วไปนองก่องนะ
-
รักกันๆๆ อิอิ
-
น้องหนูน่ารักจัง อิอิ
-
หวานชื่นรื่นรมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
......
.....
....
...
..
.
เวลาพักเที่ยงเวียนมาถึง
เหล่าพนักงานต่างปิดเครื่องของตัวเองและเตรียมตัวลงไปทานอาหารกลางวัน
พนักงานหญิงต้องไปเติมความงามกันสักนิดก่อนไปเข้าลิฟท์ แต่อย่าคิดว่าพวกเธอจะชักช้า...พวกเธอทำมันด้วยความเร็วแสง จนผู้ชายอย่างนายมะยมยังอึ้ง
“ช่างพยายามกันจิง!” นายมะยมพูดด้วยความชื่นชน
“นิโหน่ยค่ะเพื่อนขา พอดีปิ๊งหนุ่มชั้น 12 ไว้น่ะคร่า” เพื่อนผู้หญิงร่วมแผนกบอก
“อะไรกัน อะไรกัน แล้วหนุ่มที่ให้ดอกกุหลาบตอนวาเลนไทน์ล่ะครับ คุณเอาไปไว้ที่ไหน?” นายศรทักท้วง
“เค้าดี๊ดีอ่ะ ศร” เพื่อนผู้หญิงร่วมแผนกบอก
“แล้วก็เลยทิ้งเค้าไป เพราะชอบเลวนิดๆ สินะ” นายมะยมต่อความให้
“ทำเป็นรู้ใจนะยะ” เพื่อนผู้หญิงร่วมแผนกยี๊หน้า
“ทรัพยากรเหลือน้อยยังเลือกอีกนะแม่คุณ” นายศรจิกให้
“อย่าย้ำได้มั้ย มันเจ็บ!” เพื่อนผู้หญิงร่วมแผนกตีผวั๊ะให้ที่แขนนายศร
ลิฟท์เลื่อนลงมา....และเปิดประตูออก ทำให้การต่อปากต่อคำเล่นนั้นต้องพักไว้ก่อน
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์ลงมาถึงชั้นที่ 22....เพื่อนในก๊วนของเขาเดินเข้ามาในลิฟท์ตัวเดียวกัน
......
.....
....
...
..
.
ลิฟท์เลื่อนมาถึงชั้นที่ 12.... ทันที่ประตูเปิดและคนหนึ่งคนเดินเข้ามา เพื่อนผู้หญิงร่วมแผนกของนายมะยมก็เอาเท้าสะกิดเขาหยิกๆ...และบุ้ยปากไปทางผู้ชายคนที่เข้ามาใหม่
นายมะยมมองคนคนนั้นแล้วรู้สึกคุ้นตา...และไม่คุ้นตาในเวลาเดียวกัน
แต่ด้วยอากัปกริยาของเพื่อนสาว เขาจึงรู้ว่าคนนี้ล่ะ คือคนที่ ปิ๊งๆ อยู่
......
.....
....
...
..
.
เมื่อประตูลิฟท์เปิดที่ชั้นหนึ่ง นายมะยมเห็นเพื่อนตัวเอง...นายกันเดินไปคว้าไหล่ของชายที่ขึ้นมาจากชั้น 12
เพื่อนสาวรีบเหนี่ยวไหล่ของนายมะยมมากระซิบ “รู้จักเพื่อนแกด้วย สืบชื่อมาให้หน่อยนะ เดี๋ยวชั้นซื้อเค้กหน้านิ่มมาถวายให้!”
นายมะยมอมยิ้มและพยักหน้าให้เพื่อนสาว จากนั้นก็เดินตามหลังนายศรไปหานายกันที่ยืนคุยกับชายชั้น 12
......
.....
....
...
..
.
ยังไม่ได้วางแผนอะไร ชายชั้น 12 ที่นายกันแนะนำว่าชื่อ โต้ ก็จะไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน-----งานสบายๆ อ้าปากนิดหน่อยก็ได้เค้กหน้านิ่มมากินเล่นแหละ...นายมะยมกระหยิ่มยิ้มย่อง
......
.....
....
...
..
.
เมื่อชายหนุ่มสี่คนนั่งที่โต๊ะและสั่งอาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ง นายกันจึงทำตัวเป็นคนกลางที่ดี แนะนำคนกันเองให้ได้รู้จักกัน
“พวกมึงครับ นี่คุณโต้ คนที่ช่วยเชษฐจีบผมนะครับ ส่วนนี่ไอ้ศรกับไอ้มะยมเพื่อนผมครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณศร...คุณมะยม” นายโต้ยิ้มทักทาย
“ครับ” นายศรยิ้มให้ตามมารยาท
“อ๊ะ! คนที่เจอที่สนามบินใช่มั้ยครับ คุณไปรับผู้ชายหน้าโหดๆ คนนึง คนที่สูงเกือบสองเมตรน่ะ ใช่มั้ยครับ” นายมะยมชี้หน้าเพื่อนใหม่
“ผู้ชายหน้าโหดนี่ใช่นะ แต่เราเจอกันตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะครับ?” นายโต้นึกไม่ออก
“ปีก่อนมั๊งครับ ตอนผมไปรับแฟนผม...มีไอดอลนั่งเครื่องเดียวกันมาด้วย เรายืนรอด้วยกันไงครับ” นายมะยมบอกรายละเอียด
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ...จำได้แหละ ว้า อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง” นายโต้บ่นอุบ
“โลกกลมเนอะครับ” นายมะยมบอก
“ผมจำแฟนคุณได้นะ หัวหน้าฝ่ายต่างประเทศ สวนกันอยู่ในตึกหลายครั้งเลย” นายโต้บอก
“จุ๊ จุ๊ นะครับ คุณโต้....ฟามลับ” นายกันหันไปบอกเพื่อนที่นั่งข้างๆ
“อ๊ะ อ๊ะ โอเคครับ โอเค” นายโต้ยกมือขึ้มมาทำสัญลักษณ์ ok
“แหะแหะแหะ...ก็ไม่ถึงขนาดปิดอะไร แต่ก็เกรงใจที่ทำงานน่ะครับ” นายมะยมยิ้มปุเลี่ยน
“ผมเข้าใจครับ แล้วยังรักกันดีมั้ยครับ ผมชอบนะ ฉากเลิฟซีนที่สนามบินน่ะ ฮึฮึฮึ” นายโต้หัวเราะในลำคอ
“ไรว๊า...แม่ง มีเลิฟซีนในที่สาธารณะด้วยเว้ย ไม่บอกนะมึง ปิดน๊า ปิดน๊า” นายศรชิกไหล่เพื่อนสนิท
“ละเอียดเลยครับคุณโต้ ขอด่วน!” นายกันเอามือมาติ๊ต่างเป็นไมค์
“อ๊ากกกกกกกก....อย่าน๊า” นายมะยมจะลุกไปปิดปากคุณโต้ที่กำลังอ้า แต่ถูกนานศรล็อคตัวไว้ได้ก่อน
“ฮ่าฮ่าฮ่า.......จับไว้ดีๆ นะครับ เผอิญผมมีคลิป!” นายโต้ยักคิ้วให้พร้อมแกว่งมือถือในมือ
“ห๊า!!!” “ห๊า!!!” นายศรและนายมะยมอุทานเสียงดังขึ้นมาพร้อมๆ กัน
“ขอก่อน!” นายกันยื่นมือไปรอ... ‘คลิป’
......
.....
....
...
..
.
“เซี๊ยวจริงๆ เลยคุณโต้นี่ ดู๊ดู มีการเลื่อนมุมด้วยมึง” นายศรดูภาพอีกครั้งเมื่อขึ้นมาบนห้องทำงานแล้ว
“นี่ถ้าไอ้กันไม่เป็นคนแนะนำนะ กูคงคิดว่าคุณโต้แกเป็นพวกโรคจิตว่ะ” นายมะยมบ่นพลางอมยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า..... ก็จริง อ้อ แล้วมึงจะเอาไงกับบ้านวะ? เฮียตี๋ฝากกูมาถาม...เมื่อเช้า” นายศรปิดคลิปในมือถือและส่งคืนเพื่อนสนิท
“ยังไม่รู้ว่ะ วุ่นๆ กับน้องหนู นี่คุณรักเพิ่งมาเอาตัวไปเมื่อเช้า เอาไม่เอากูคงแล้วแต่พ่อกูว่ะ” นายมะยมบอกเล่าให้เพื่อนฟัง
“อาม่าบอกว่าให้ตั้งขันหมากไปสู่ขอพร้อมกับวันขึ้นบ้านใหม่ คิกคิกคิก” นายศรแซว
“มึงอย่าพูดไป พ่อกูเค้า...ไม่ได้รับการยอมรับจากทางบ้านเค้าว่ะ มึงอย่าเอาไปพูดเล่นอีกนะ กูไม่อยากให้พ่อกูเสียใจ” นายมะยมพูดหน้าเครียด
“อ้าว ไมล่ะ!...ก็เห็นคุณรักดีเค้าไม่อะไรยังไงนี่นา” นายศรเง็งเล็กน้อย
“เรื่องในครอบครัวของเค้า กูไม่ได้ซักว่ะ วันนั้นกูบอกพ่อกู ให้พากูไปไหว้พ่อแม่เค้า เค้าเลยบอกว่า พ่อแม่เค้าไม่ชอบที่เค้าเป็นแบบนี้ เฮ้อ....ก็นะ” นายมะยมถอนหายใจยาว
“มีเรา มีกัน...ได้เท่านี้ก็มากพอแล้วมึง ค่อยๆ ใช้ชีวิตกันไปเว้ย” นายศรตบบ่าเพื่อนเป็นกำลังใจ
......
.....
....
...
..
.
นายศรรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของ...อยากไต่ระดับของความสัมพันธ์ระหว่างกัน
การบอกให้ทางบ้านของอีกฝ่ายรู้เรื่องที่คบกัน...ถึงไม่ได้แต่งงานกันตามประเพณี แต่ก็ได้การรับรู้และยอมรับ...คืนกลับมา
......
.....
....
...
..
.
เมื่อเจ้าของห้องทำงานส่วนตัวเดินออกมาจากห้อง... นายมะยมทิ้งช่วงสักสิบห้านาทีก่อนที่จะเดินออกไปจากแผนกเพื่อกลับบ้าน
......
.....
....
...
..
.
เขาเดินไปที่ที่รถจอด... โดยไม่ต้องโทรถามเพราะเมื่อเช้าออกไปส่งน้องหนูที่โรงเรียนและเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปคืนคุณรักดีที่นั่นเลย
เขาก้าวขึ้นรถไปรับไอเย็นและคาดเข็มขัดนิรภัย
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่รถเคลื่อนออกมาถึงถนนใหญ่ นายมะยมจึงเริ่มชวนคุย “พี่ เฮียตี๋ฝากไอ้ศรมาถามว่าจะเอายังไงกับบ้าน”
“แล้วแต่คุณสิครับ” นายภักดีตอบสั้นๆ
“ไม่เอาสิ พี่ชอบรึเปล่า?” นายมะยมท้วง
“คุณชอบไหมล่ะครับ? แล้วถ้าไม่ชอบ คุณไม่ชอบตรงไหน?” นายภักดีไม่ตอบแต่ย้อนถามเขาแทน
“ผม......ชอบนะ บ้านหลังเล็กดี มีต้นไม้ด้วย ใกล้ไอ้ศรด้วย มีสวนหย่อมนั่นด้วย แต่บ้านมันเก่า หากพี่ไม่ชอบ ผมซื้อหลังใหม่ก็ได้นะ” นายมะยมตบท้ายด้วยให้อีกฝ่ายเป็นคนตัดสินใจ
“งั้นก็หลังนั้นครับ” นายภักดีสรุปให้
“ฮื๊อ” นายมะยมส่งเสียงแบบขัดใจ
รถค่อยชะลอและจอด....เพราะสัญญาณไฟแดง “ถ้าคุณชอบ ผมก็ชอบ” นายภักดีหันหน้ามามองคนที่นั่งข้างๆ....พร้อมส่งยิ้มให้
“งั้นแต่งบ้านผมให้พี่ทำตามใจเลยละกัน” นายมะยมบอก
“คุณจะซื้อยังไงครับ” นายภักดีถาม
“เดี๋ยวไปกู้ธนาคารสิ ผ่านอยู่แล้ว!” นายมะยมยักคิ้วให้
“ผมซื้อให้ไหม แล้วคุณก็ไปแต่งบ้านตามใจคุณ” นายภักดีลองยื่นข้อเสนอ
“ไม่เด็ดขาด! เผื่อพ่อแม่พี่ถาม ผมก็เสียสิ เอาลูกเค้ามาเลี้ยงดูยังเอาเงินลูกเค้ามาซื้อบ้านอยู่เองอีก ไม่ได้!” นายมะยมไม่ยอม
“เสียใจไหมครับที่ผมพาไปเจอครอบครัวผมไม่ได้” นายภักดีถาม
“ถ้าพี่ยอมไปอยู่บ้านที่ผมซื้อ ผมก็ไม่เสียใจแหละ” นายมะยมเอาหัวไปถูที่หัวไหล่ของคนขับ
“งั้นขอผมคิดดูก่อนนะครับ” นายภักดีแกล้งเล่นแง่
“พี่อ่า-------”นายมะยม...แก้มป่องอีกแล้วครับท่านผู้ชม
......
.....
....
...
..
.
-
โอ๊ยย น่าร๊ากกก เอาอีกๆๆๆ อิอิ
-
:impress3:
น่ารักอีกแล้ว ชอบมาก แต่แอบสงสารคุณภักจัง
-
ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว มีกันและกัน อย่างน้อยครอบครัวก็ไม่ได้กีดกันให้เห็นชัดเจน พ่อมึงก็ยังใช้ชีวิตอิสระได้
-
ขอแสดงความเสียใจกับพนักงานหญิงตึกนั้นด้วย คงต้องรับทานแห้ว หนุ่ม ๆ เขานิยมรับทานกันเอง
เบื้องหลังคุณภักก็มีเรื่องที่ไม่รื่นรมย์เหมือนกันเนาะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: จะเริ่มสร้างครอบครัวกันแล้ว สู้ ๆ นะ มะยม
-
อ๊าาาา
น่ารัก ฮิ้วววววว
รอดูบ้านหลังใหม่ๆกับชีวิตครอบครัวที่จะเริ่มขึ้นใหม่ อิอิ
-
มันก็เศร้านิดๆนะ รักกันแต่ต้องปิดบัง
ที่ทำงานก็ต้องระวังแจ
ที่บ้านก็บอกไม่ได้
-
:freeze: บางทีแค่. รัก. อย่างเดียวมันคงยังไม่พอ. วันนี้รักมาก. พรุ่งนี้จะยังคง. รักมากอยู่ไหม. ถึงแม้จะทำปัจจุบันให้ดีขึ้นมากเท่าไหร่ แต่ผลที่ได้ใช่ว่า. จะ ดีมากขึ้นตาม.... :m15:
-
......
.....
....
...
..
.
ทานมังสวิรัตงวดนี้ นายมะยมขึ้นขั้นโปรเพราะ “เนื้อ” ก็ไม่ได้แตะ....ใกล้เคียงกับกินเจ ดังนั้น เมื่อส่งเจ้าขึ้นสวรรค์แล้ว...นายมะยมจึงเตรียมกลับมาทาน “เนื้อ” ตามปกติ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินไปปิดไฟ...และเอนตัวลงนอนในที่ประจำของตัวเอง เขาปล่อยให้ “ปลาทับทิม” นอนเล่นอย่างสบายใจไปก่อน
และเมื่อได้ยินเสียงหายใจอย่างสม่ำเสมอ นายมะยมก็กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ...คนเดียว
นายมะยมเลื่อนตัวไปควานเอา “ของจำเป็น” ซึ่งอยู่ในลิ้นชักข้างหัวเตียง มาสอดเตรียมไว้ใต้หมอน
นายมะยมถอดเสื้อผ้าของตัวเอง...ล่วงหน้า ก่อนที่จะค่อยๆ สอดตัวเข้าไปกอดก่ายอีกฝ่าย...และลูบไล้มือไปบนตัวปลา
พอปลาเริ่มรู้สึกตัว นายมะยมประกบปากจูบปิดปากปากไว้ และเริ่มขอดเกร็ดของปลาออกไป...จนหมดตัว
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมขึ้นคร่อมเหนือตัวปลาซึ่งเนื้อขาวละเอียด เขาเลียรอบริมฝีปากด้วยความกระหายอยาก
ปลาน้อยดิ้นขลุกขลักแต่ไปไหนไม่ได้ เพราะนายมะยมล็อคตัวปลาไว้ด้วยขาทั้งคู่ของเขาแล้ว
นายมะยมรวบข้อมือทั้งคู่ของปลาไปเหนือหมอน ปลาน้อยกระซิบเสียงกระเซ่าตลอดเวลาที่นายมะยมลากไล้ลิ้น...ไปที่ซอกคอและหน้าอกของปลาน้อย
อย่า ไม่เอา....บอกแค่นี้ไม่อาจหยุดในมะยมได้
......
.....
....
...
..
.
“คุณ...ผม...เป็น...แผล...ยัง...ไม่...หาย...” นายภักดีพยายามบอกอีกฝ่ายด้วยความยากลำบาก...
นายมะยมสะดุดกึกและเงยหน้าขึ้นมาจากเนินอกของเขา “แผลอะไรครับ?”
“ก็...” นายภักดีกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
“พี่ไปโดนอะไรมาถึงเป็นแผล เมื่อกี้ตอนผมไซ้ตัวพี่ก็ไม่มีรอยแผลอะไรนี่ครับ” นายมะยมจ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง
“ก็...” นายภักดีพูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าตัวเอง...มีแผลที่ตรงไหนของร่างกาย
“...........” นายมะยมจ้องตาอีกฝ่าย...อีกสักพักใหญ่ ก็ถอนหายใจยาว และเลื่อนตัวออกไปจากร่างของอีกฝ่าย...และนอนหันหลังให้อีกฝ่าย โดยไม่พูดอะไรอีก
......
.....
....
...
..
.
ทันทีที่รู้สึกถึงแรงกอดรัดที่มาจากด้านหลัง นายมะยมก็พูดเสียงเข้มขึ้นมา “พี่ไม่มีอารมณ์ก็อย่ามายั่วผมสิ ไปนอนห่างๆ หน่อยครับ”
“ผมไม่ได้ไม่มีอารมณ์นะ แต่มัน....” เสียงดังอู้อี้อยู่กับแผ่นหลังของนายมะยม
นายมะยมหันกลับไป ก็พบกับใบหน้าของอีกฝ่ายทันที เขายกมือขึ้นมาบีบปลายคางของอีกฝ่ายเล่น ด้วยความหมั่นเขี้ยว “แล้วพี่เป็นอะไรล่ะครับ เอาความจริงเลย ตรงๆ เลย”
“....................” นายภักดีกัดปากตัวเองอีกชั่วอึดใจก่อนจะตัดสินใจบอกกับอีกฝ่ายว่า “ครั้งล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์น่ะครับ คือ...”
“อื๊อ... ผมชอบนะ ถึงใจดี รึพี่ไม่ถูกใจล่ะครับ” นายมะยมเลื่อนมือไปลูบที่เนินออกของอีกฝ่าย...เล่นๆ ไม่จริงจัง
“มัน......แรงไปนิด เอ่อ.....” นายภักดีกระอึกกระอัก
“งั้น...คืนนี้ผมจะเบามือกว่าวันนั้น...นะ” นายมะยมทำเสียงออดอ้อน กอดจะเข้าคลุกวงในอีกครั้ง
“ไม่! ไม่ใช่ครับ! ดะ...เดี๋ยวคุณ! คุยกันก่อน” นายภักดีร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าไปลงช่วงล่างของตนเอง
“อะไรอีกครับ เร็วๆ เถอะพี่ เดี๋ยวนอนดึกอีกพี่ก็ว่าผมอีก” นายมะยมเลื่อนขึ้นมาข้างบนอีกครั้ง
“คืนนี้ยังไม่ได้ครับ ผมเป็นแผล มันยังไม่หาย...” นายภักดีตัดสินใจบอกอีกฝ่าย
“ตรงไหนล่ะครับ ผมไม่เห็นสักกะแผล” นายมะยมพูดด้วยน้ำเสียง...ขัดใจ
“ก็ตรงนั้น....” นายภักดีพูดจบก็เอาฝ่ามือของตัวเองมาปิดใบหน้าตนเอง
“แล้วมันตรงไหนล่ะ!......” นายมะยมไม่เข้าใจจึงถามซ้ำ แต่แล้วเมื่อเอ่ยปากถามไป พุทธปัญญาของนายมะยมก็พลันเกิด “อ๊ะ!”
นายมะยมรีบลุกขึ้นไปเปิดไฟ และเดินกลับมาจับอีกฝ่ายตะแคง... อีกฝ่ายคงรู้ว่านายมะยมจะทำอะไรจึงรีบเอาผ้านวมขึ้นมาคลุมตัวไว้และถอยหลังของตัวเองไปชิดกับผนังห้อง
“พี่จะหนีไปไหนล่ะ ขอดูหน่อยสิครับ” นายมะยมบอกและขยับเข้าหา
นายภักดีส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ไม่เอา!”
“แล้วผมจะรู้ได้ไงว่าพี่ไม่หลอกผมอ่ะ” นายมะยมแย้ง
“ผมเคยหลอกคุณที่ไหนล่ะ?” นายภักดีเถียง
“เยอะแยะไป!” นายมะยมไม่ยอม
“ไม่เคยครับ!” นายภักดียืนยันเสียงแข็ง
“ก็เนี่ยไง โกหกอยู่!” นายมะยมบอก
“ไม่ได้โกหกครับ ไม่เชื่อก็ดูเลย!” นายภักดียันเสียงแข็ง แล้วเขาก็แทบจะกัดลิ้นตัว เมื่อคิดได้ทันว่า เมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรออกไป
นายภักดีมองจ้องใบหน้าของนายมะยมที่ยักคิ้วให้และฉีกยิ้ม...แบบผู้ชนะ พร้อมกับว่าตัวเองอยู่ในใจ
......
.....
....
...
..
.
“หันหลังมาซะดีครับพี่” นายมะยมบอก
“ไปปิดไฟก่อนสิครับ” นายภักดีชี้นิ้วไปที่ปุ่มข้างกำแพง
นายมะยมลุกไปจากเตียงพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ
นายภักดีระบายลมหายใจ...ไว้อาลัยให้ตัวเอง ก่อนจะนอนคว่ำหน้าไปกับที่นอน
......
.....
....
...
..
.
ถึงมองไม่ค่อยเห็นรอยแผล แต่เมื่อนายมะยมเอานิ้วไปแตะจุดนั้น อีกฝ่ายก็ร้องโอยขึ้นมาทันควัน...ซึ่งนายมะยมรับรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หลอกเขาแน่แล้ว
นายมะยมก็นึกเสียใจและเอ็นดูอีกฝ่าย...เขาลงไปนอนข้างๆ ในที่ของตัวเอง แต่เปลี่ยนมานอนตะแคงโดยให้อีกฝ่ายหนุนที่แขนของตนเอง ส่วนแขนอีกข้างเขาเอามันไปเหนี่ยวรั้งเอวของคนคนนั้นไว้ “วันหลังพี่อย่าเก็บอะไรไว้คนเดียวสิครับ ผมมันเป็นคนใช้ไม่ได้เลยรึไงครับ”
นายภักดีโล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ได้โกรธ “มันพูดลำบากนี่ครับ”
“แล้วเอาน้องหนูมาคั่นเวลาเนี่ย ลำบากผมมากกว่ามั้ย? วันหลังบอกผมแล้วให้ผมนอนกอดพี่เฉยๆ ก็ได้นะ” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
“ผมเปล่านะ น้องหนูเค้ามาพอดีกับจังหวะมากกว่า” นายภักดีปฏิเสธข้อหา
“แม่น้องเค้าก็มี” นายมะยมแย้ง
“คุณก็รู้ว่าน้องนาสุขภาพไม่ค่อยดี ถ้าพี่รักไม่อยู่ พี่สะใภ้ผมเค้าดูแลลูกสองคนไม่ไหวหรอกครับ” นายภักดีเอามือแปะที่แก้มของคนซึ่งนอนหันหน้าชนกันอยู่
“....แล้วเมื่อไหร่จะหายล่ะครับ” นายมะยมเปลี่ยนเรื่องเพราะประเด็นนั้นสิ้นสุดไปแล้ว
“ไม่รู้สิครับ” นายภักดีบอก
“ไปหาหมอดีกว่ามั้ย?” นายมะยมถามอีกฝ่าย
“ฮื๊อ------” นายภักดีร้องเสียงหลง
“ก็มันกี่วันแล้ว ไม่หายสักที” นายมะยมบ่นฉิว
“ลองเป็นคุณ คุณจะเอาตัวเองไปขึ้นเขียงให้หมอดูแผลตรงนั้นเรอะ” นายภักดีย้อนถาม
“ครับ ถ้าเป็นผม ผมไปหาหมอทันทีเลย...จะได้หายไวๆ ไงครับ” นายมะยมหัวเราะในลำคอ
“ใครเค้าจะหน้าหนาแบบคุณล่ะครับ” นายภักดีหยิกแก้มของอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว
“โอ๊ย......เจ็บน๊า------” นายมะยมเลื่อนมือที่พาดไว้ตรงเอวของอีกฝ่ายมากุมมือที่หยิกแก้มตัวเอง...และดึงไปจูบที่ฝ่ามือก่อนจะบอกอีกฝ่ายว่า “ผมเป็นห่วงนะครับ ทำแผลไม่ถูกวิธีเดี๋ยวมันเป็นเรื่องขึ้นมาผมก็แย่ เอ้ย พี่ก็แย่น่ะสิครับ”
“ผมโทรไปถามเพื่อนที่เป็นหมอแล้ว ผมทำถูกวิธีน่า” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
“ก็นั่นแหละ มันสิบวันแล้วนะครับ นานไปมั้ย?” นายมะยมท้วง
“ไม่นะ เพื่อนผมมันบอกว่าแบบนี้น่าจะราวๆ เดือนนึงถึงค่อยยังชั่ว” นายภักดีแย้ง
“เดือนนึง! เหี้ยแล้ว! พี่เอาปืนมายิงผมเลยดีกว่า” นายมะยมครางครวญ
แปะ แปะ แปะ-----นายภักดีตบแก้มของนายมะยมเป็นการเตือน
“อุ๊บ! ลืมตัว โทษทีครับพี่ แหะแหะแหะ” นายมะยมหัวเราะแห้งๆ เมื่อถูกเตือนว่าตัวเองพูดคำหยาบ
“ฝึกไว้สิครับ ผมไม่อยากให้หลานผมรู้คำพวกนี้” นายภักดีบอกย้ำ
“คร๊าบ....” นายมะยมรับคำ แล้วเอาแขนเดียวที่เหลือไปรวมตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดก่าย
“นอนนะครับ หลับตา” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
“ผมไม่ใช่น้องหนูนะ” นายมะยมแย้งไม่ยอมหลับตา
“อ้าว คุณไม่ใช่ ‘เด็ก’ ของผมหรอกเหรอ?” นายภักดีย้อนถามด้วยคำที่อีกฝ่ายเคยบอกกับเขา
“ฮั่นแน่! เอาไปใช้ไม่ขอน๊า จ่ายค่าลิขสิทธิ์มาเลย!” นายมะยมท้วง
นายภักดีหัวเราะในลำคอแล้วจ่ายค่าลิขสิทธิ์ด้วยการจุ๊บเบาๆ ที่ปากของอีกฝ่ายทีหนึ่ง “หลับตาครับ”
นายมะยมหัวเราะในลำคอและหลับตาตามที่อีกฝ่ายบอก...อย่างว่าง่าย
นายภักดียกยิ้มที่มุมปากและหลับตาลง
......
.....
....
...
..
.
สักพักเมื่อนายภักดีเริ่มเคลิ้มและใกล้เข้าสู่ห้วงความฝัน เสียงหนึ่งงึมงำขึ้นมาในความเงียบของยามค่ำคืน “พี่...”
“ครับ...” เขาครางรับทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“น้องมะยมยังคึกคักอยู่เลยอ่า” เสียงใสบอกกับนายภักดี
นายภักดีถอนหายใจเฮือกใหญ่...เพลียกับ ‘เด็ก’ ----- “จะทำเองหรือจะให้ผมช่วยล่ะครับ?”
อีกฝ่ายไม่ตอบนายภักดีแต่อีกฝ่ายจับมือของนายภักดีไปกุมน้องมะยม...แทนคำตอบ
......
.....
....
...
..
.
-
:-[
เลิฟซีนเบาๆ แต่น่ารักอ่ะ อายแทนคุณภัคเลย
นายมะยมก็ขอดูกันง่ายๆเนอะ :impress3:
-
พ่อมึงกับไอ้หัวลูกเจี๊ยบรักกันหวานชื่นดี
แค่มีกันและกันก็พอเนอะ
อ่านเรื่องของคู่นี้แล้วยิ้มหน้าบานอยู่หน้าคอม ^^
-
หวานทุกตอน :o8:
-
:jul1: :jul1:
-
......
.....
....
...
..
.
รถ BMW สีดำเลื่อนเข้ามาจอดในที่จอดภายใต้ตึกสำนักงานสูงตะหง่าน...
ชายสองคนเดินออกมาจากรถ และเดินเข้าไปในตึกพร้อมกัน....พวกเขาเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของตึกเพื่อทานอาหารเช้าและจิบกาแฟก่อนเริ่มทำงาน
......
.....
....
...
..
.
“อ้าว------- ปิด!” นายมะยมชะงักเท้าทันทีที่เดินขึ้นมาจนถึงบันไดขั้นสุดท้าย
“แล้วคุณจะไปกินไหนล่ะครับ?” นายภักดีถาม
“...เบื่อโจ๊กแล้วอ่ะ เอาไรดีน๊า” นายมะยมพูดพลางเดินกลับลงมา...โดยมีอีกคนเดิมตามหลังมาติดๆ กัน
“ไปซอยนั้นกันไหมครับ ผมจะได้ซื้อกาแฟด้วย” นายภักดีเสนอ
“อ๊ะ! ใช่เลย” นายมะยมหันหน้ามาฉีกยิ้มกว้าง
แล้วชายหนุ่มสองคนก็เดินออกไปจากตึกทางด้านหน้า...จากนั้นก็เดินไปทางซ้าย เพื่อไปหาข้าวเช้ากินในซอยที่ว่า...
......
.....
....
...
..
.
ร้านข้าวราดแกงในซอยเป็นเป้าหมายของชายหนุ่มสองคน...
นายมะยมรับออเดอร์จากอีกฝ่ายและเดินไปเข้าไปสั่งข้าวราดแกงสองจานมาเตรียมรอ..อีกคนซึ่งเดินไปซื้อกาแฟมาให้
ระหว่างที่นายมะยมนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่นั้น แขกที่ไม่ได้รับเชิญเดินลงมานั่งที่โต๊ะของเขา
“คุณภักไปไหนครับพี่” นายป๋องถาม
“ไปซื้อกาแฟ เดี๋ยวก็มา มีไรป่าวครับ?” นายมะยมสังเกตุเห็นสีหน้าอิดโรยจากรุ่นน้องร่วมที่ทำงาน
“พี่วาฝากมาบอกน่ะพี่ ว่าของดขนมไปก่อนระยะหนึ่ง” นายป๋องพูดหน้าเครียดไม่ร่าเริงเหมือนปกติ
“เออ วันนี้ร้านก็ปิด มีรึเปล่าครับ?” นายมะยมพับหนังสือพิมพ์ไปวางที่โต๊ะด้านหลัง
“พอดีมีงานศพน่ะพี่ เลยปิดร้านไปช่วยงานกัน” นายป๋องบอก
“เฮ้ย! ใครเป็นไร?” นายมะยมหน้าเสีย
“แฟนพี่ชายพี่วาเค้าเสียน่ะพี่...อันที่จริงก็แฟนเก่า แต่ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่” นายป๋องบอก...คำพูดนั้นชวนให้งุนงงพิกล
“พี่งงครับ ตกลงแฟนหรือแฟนเก่า?” นายมะยมถามย้ำ
“แฟนเก่าของพี่วีเค้าน่ะพี่ แต่เลิกกันแล้วพี่ๆ เค้าก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกัน ยังแชร์ห้องพักด้วยกันอยู่ นี่ก่อนเสียเพิ่งเลิกกันได้สามเดือนเองอ่ะ” นายป๋องบอกเล่า
“คุยอะไรกันครับ?” นายภักดีนั่งลงที่เก้าอี้ของตนเองและยื่นกาแฟร้อนแก้วนึงไปให้นายมะยม
“คุณภัก สวัดดีครับ” นายป๋องทักทาย
“ครับ” นายภักดีพยักหน้ารับรู้ พลางยกช้อนส้อมขึ้นมาเตรียมตักข้าว
“พี่ คุณวาเค้าบอกหยุดขนมชั่วคราวนะพี่ เค้าต้องไปช่วยงานศพน่ะครับ” นายมะยมบอกกับนายภักดี
“งานใครครับ” นายภักดีขมวดหัวคิ้ว
“แฟนเก่าของพี่ชายคุณวาน่ะครับพี่” นายมะยมบอกนายภักดี แล้วหันหน้าไปถามนายป๋อง “แล้วเค้า...อะไรยังไงล่ะครับ?” นายมะยมนึกอยากรู้ขึ้นมา
“ก็....เศร้าโคตรเลยพี่มะยม แฟนเก่าพี่วีอ่ะ เค้าเจออุบัติเหตุทางรถอ่ะ แล้วพอเกิดเหตุ โรงพยาบาลเค้าก็โทรมาเบอร์ที่แฟนเก่าพี่วีเค้าเมมไว้ว่า ‘ฉุกเฉิน’ พี่วีรับสายแล้วก็รีบไป หมอบอกว่าต้องผ่าตัดด่วนให้เซ็นต์ยินยอมก่อน เพราะความเสี่ยงมันสูง แต่พี่วีเค้าก็เซ็นต์ให้ไม่ได้” นายป๋องบอกเล่าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
“แล้วได้โทรหาทางบ้านเค้าไหมล่ะครับ” นายภักดีเอ่ยถาม
“เนี่ยล่ะที่เศร้า...ทางบ้านนั้นเค้านับถือคริสต์แบบเคร่งครัด พ่อของแฟนเก่าพี่วีเลยเค้าตัดพ่อตัดลูกกันเพราะพี่เค้าเป็นเกย์ เลยไม่มีเบอร์โทรของทางพ่อแม่พี่เค้า พี่วีก็บอกนะว่าเป็นเพื่อนสนิทแล้วก็เป็นแฟนกันด้วย แล้วก็บอกความจริงเรื่องทางบ้านตัดขาดกันแล้วกับทางโรงพยาบาล... แต่มันก็นะ ถ้าความเสี่ยงไม่สูงมากขนาดนั้น ทางนั้นเค้าคงไม่เคร่งปานนี้” นายป๋องบอก
“แล้ว...” นายมะยมหน้าเสียความการคิดล่วงหน้าในหัวของตัวเอง
“พี่วีไล่โทรหาเพื่อนของแฟนเก่าเค้าทั้งคืน กว่าจะได้เบอร์แม่แฟนเก่าพี่เค้ามา...แต่ตอนที่พี่วีไปรับแม่พี่เค้ามาโรงพยาบาล มันก็....ไม่ทันแล้วอ่ะพี่" นายป๋องบอกด้วยน้ำตาเริ่มคลอเบ้า "... ไม่ใช่ว่าเพราะพี่วีช้าเกินไป... อันที่จริงหมอเค้าผ่าตัดให้ ตั้งแต่ตอนที่พี่วีไล่โทรหาเบอร์แม่ของแฟนเก่าพี่เค้าแล้ว หากแม่มาก็คงให้แม่เซ็นส์รับทราบหลังผ่าเฉยๆ ...พี่เค้าเจ็บหนักมาก หากรอดก็ถือว่าโชคช่วยสุดๆ... คนตายไม่เท่าไหร่ แต่คนเป็นนี่สิพี่มะยม....พี่วีเค้าโทษตัวเองไม่หยุดเลยอ่ะ พี่วาเห้นแล้วใจเสียมากกลัวว่าพี่วีจะ....”
......
.....
....
...
..
.
-
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
แต่ตอนล่าสุดอ่ะ T^T
-
:monkeysad:
สงสารคุณวีจังเลย คิดถึงเรื่องโน้นก็ยิ่งเศร้า
ปล.คุณภัคกับนายมะยมก็ยังน่ารัก
:กอด1:
-
......
.....
....
...
..
.
“พี่เดินไปก่อนก็ได้นะครับ” นายมะยมยกแก้วกาแฟที่เย็นชืดมาดื่มรวดเดียว
“ไม่เป็นไรครับ ไว้เดินไปด้วยกัน” นายภักดีนั่งรอ
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาทั้งสองเดินออกจากร้านข้างแกงไปโดยไม่พูดอะไรกันอีก เมื่อโผล่ขึ้นมายังทางเดินเท้าริมถนน นายภักดีจึงผ่อนฝีเท้าให้อีกฝ่ายเดินนำไปก่อน
นายภักดีเดิมตามหลังนายมะยมไป...โดยที่จับจ้องอีกฝ่าย มองไปให้ลึกจนถึงความรู้สึกของเจ้าของแผ่นหลังนั้น
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกันมา แต่ยืนแยกกันคนละมุม
......
.....
....
...
..
.
ประตูลิฟท์เปิด พวกเขาก้าวออกไปจากลิฟท์
นายภักดีเดินนำอีกฝ่ายไปก่อน...จนไปถึงหน้าห้องน้ำ เขาหันหน้ากลับมาสบตากับนายมะยม แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
นายภักดีเดินไปที่อ่างล้างหน้า เปิดน้ำมาล้างมือ
นายมะยมเดินตามเข้ามาและเข้ามาล้างมือที่อ่างถัดกัน
ชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในห้องน้ำมาแต่แรกล้างมือเสร็จก็เดินออกไป
นายภักดีมองตามหลังชายคนนั้นจากกระจกบานใหญ่...จนเขาลับตาไป นายภักดีจึงคว้าข้อมือของนายมะยม...และลากเขาเข้าไปในห้องน้ำห้องใกล้ๆ
......
.....
....
...
..
.
“ยิ้มหน่อยสิครับ” นายภักดีกระซิบที่ริมฝีปากของนายมะยม
นายมะยมยิ้มบางๆ...ไม่เต็มที่ เพราะเขารู้สึกหนักและหน่วงอยู่ในหัวใจ
“ก่อนกลับบ้าน ผมต้องได้เห็นคุณยิ้มนะครับ สัญญาไหม?” นายภักดีกระซิบเบาๆ ที่ริมฝีปากนายมะยมแล้วถึงค่อยจูบ...ปลอบใจ
นายมะยมค่อยๆ ตอบรับจูบของนายภักดี...แทนคำสัญญา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมยอมให้อีกฝ่ายผละไปจากเขาได้ง่ายๆ ผิดวิสัยปกติของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
วันนั้นทั้งวัน นายมะยมทำงานไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มือว่างจากงานเมื่อไหร่ หัวของเขาก็เฝ้าคิดวนเวียนอยู่ในเรื่องเดิมๆ...
......
.....
....
...
..
.
ถ้าไม่รักมาก เขาคงไม่คิดมาก...ขนาดนี้
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมมีคำหนึ่งอยากขอกับคนที่ตัวเองรัก
......
.....
....
...
..
.
และนายมะยมก็คว่ำคำขอนั้นมาแล้วครั้งหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
ตอนนี้คำขอนั้นมากลับหน่วงหัวใจเขาอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
คำง่ายๆ ที่คิดว่าอีกฝ่ายต้องไม่ปฏิเสธ ทว่า...เขากลัวว่าคำขอด้วยความเอาแต่ใจของเขา มันจะไปรบกวนหรือสร้างภาระให้หัวใจของคนที่เขารัก...ซ้ำอีก
......
.....
....
...
..
.
-
:a5: เอิ่ม เค้าอ่านยิ้มๆมาดีๆ ไหงตอนท้ายทำเค้าน้ำตาซึมอ่ะ เรื่องรู้แล้วไม่อยากจะบอก. ทำเค้าร้องไห้ด้วยง่ะ :m15:
-
อ่าาา
อะไรกันนะ
ตามต่อนะคะ
-
ตอนนี้โยงไปถึงเรื่อง "รู้แล้ว" สินะ
เรื่องนั้นเศร้ามาก ๆ ทำเอามะยมซึมเลย :(
-
นายมะยมจะขออะไรอ่า อยากรู้ๆ
-
เค้ายังไม่ได้อ่านเรื่องนั้น เพราะรู้ว่ามันเศร้า TT ฮึกๆ
แต่พอมาอ่านผ่านที่ป๋องเล่าอีกทีมันก็แบบบ เศร้าอ่ะ แง้ๆ :monkeysad:
-
มะยมฟังเรื่องแฟนคุณวีแล้วสะท้อนใจคู่ตัวเองสินะ
เรื่องขอ ถ้าเราเป็นมะยม เราคงขอไปเยี่ยมพ่อแม่คุณภักสักครั้ง บอกแค่ว่าเป็นลูกน้องก็ได้
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินตัวปลิวเข้าตึกหอพัก...หลังจากไปรดน้ำแปลงผักและกินข้าวเย็นที่บ้านเพื่อนสนิทมาแล้ว
“พี่มะยม!” นายป๋องเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา
“ครับ” นายมะยมยืนรอ...ยังไม่เข้าไปในลิฟท์
“ฝากถามคุณภักหน่อยสิพี่” นายป๋องบอก
“ถามว่า...” นายมะยมพยักหน้าพลางพูด
“เย็นวันอาทิตย์น่ะพี่ เค้าจะทำพิธีฝังกัน พี่วาอยากรบกวนให้คุณภักช่วยทำขนมปังง่ายๆ ไปเลี้ยงแขกหน่อยน่ะครับ ไม่รู้คุณภักสะดวกรึเปล่า?” นายป๋องเอาข้อความที่แฟนตัวเองฝากบอกมาถามต่อ
“พี่ภักไม่อยู่อ่ะป๋อง ไปฮ่องกงกับท่าน นี่เพิ่งขึ้นเครื่องไปตอนสี่โมงเย็นนี่เอง” นายมะยมบอกเด็กรุ่นน้อง
“อ้าว เมื่อเช้ายังเจอกันอยู่เลย” นายป๋องหน้าเหวอ
“ธุระด่วนน่ะ กลับช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์นี้เอง” นายมะยมบอก
“ว๊า ไม่ทัน เอาไงดีเนี่ย ผมไม่รู้จะไปสั่งที่ไหนทำดี มันเป็นหน้าเป็นตาของพี่วีซะด้วยสิ” นายป๋องหน้าเครียด
“หน้าตาอะไรหือ? ป๋อง” นายมะยมไม่ค่อยเข้าใจ
“ก็แฟนเก่าพี่วีไงพี่ ทางพ่อเค้าไม่มาร่วมงานเลยนะ พี่วีกับพี่วาเลยเป็นพ่องานช่วยกันจัดงานศพ แม่พี่เค้าก็มาบ้าง แอบๆ พ่อพี่เค้ามา เนี่ยวันอาทิตย์บ่าย จะทำพิธีฝังในสุสานของศาสนาเค้า ก็เลยอยากได้ขนมไปให้แขกในงาน” นายป๋องบอกกล่าวให้ฟัง
“งานแบบคริสต์เหรอ?” นายมะยมถาม
“ครับ วันอาทิตย์มันสำคัญมากนะพี่ เพราะพี่วีฝากบอกแม่พี่เค้าให้เชิญพ่อมาร่วมพิธีกันเป็นวันสุดท้าย แม่ของพี่เค้าบอกว่า ญาติๆ จะมาแน่ เพราะบอกกันไว้แล้ว แต่พ่อนี่ไม่แน่ใจ แต่พี่วีเค้าก็อยากทำให้ดีที่สุด ไม่อยากทำสั่วๆ เพราะพี่วีไม่ได้บอกแม่พี่เค้าว่า เพิ่งเลิกกัน... พี่วีเค้าอยากทำให้พ่อกับแม่กับญาติๆ ทางนั้นเค้าเห็นว่าลูกชายเค้าไม่ได้เลือกทางผิด...ถึงความเป็นจริงพี่พี่เค้าจะเลิกกันไปแล้วก็ตาม” นายป๋องเริ่มน้ำตาเอ่ออีกครั้ง
“ก็ดูว่าคุณวียังรักแฟนเก่าเค้านะ แล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะครับ” นายมะยมถามด้วยความอยากรู้
“รักครับ พี่ลองไปถามพี่วีสิ พี่เค้าพูดคำว่ารักได้ไม่ลังเลเลย ต่อหน้าแฟนใหม่ของพี่วีเลยด้วย” นายป๋องบอก
“อ้าว ทำไมทำงั้นล่ะ?” นายมะยมขึ้นเสียงสูงด้วยความไม่พอใจ
“พี่วาบอกว่า พี่วีกับแฟนเก่าเริ่มต้นกันด้วยความเป็นเพื่อน และความสงสารที่พี่เค้าถูกทางบ้านตัดขาดมา พี่วีกับแฟนเก่าพี่เค้าเลยมาแชร์คอนโดอยู่ด้วยกัน”
“จากเพื่อนรักกลายเป็นคนรัก” นายมะยมต่อความ
“ครับ...แล้วก็กลับมาเป็นเพื่อนรัก” นายป๋องต่อให้จนจบ
“มันเป็นความผูกพัน” นายมะยมพูดเหมือนพูดให้ตัวเองฟัง
“ถึงความเป็นแฟนมันจางลง แต่พวกพี่พี่เค้าก็ยังอยู่คอนโดเดียวกัน... แปลกเนอะ..มากกว่าเพื่อน มากกว่าแฟน มากกว่าพี่น้อง มากกว่าครอบครัว....คงเป็นความผูกพันอย่างที่พี่มะยมว่านั่นแหละ” นายป๋องบอก
“งั้น พี่ทำขนมไปให้มั้ย?” นายมะยมลองเสนอ
“พี่ทำเป็นเหรอ?” นายป๋องทำหน้าเหลือเชื่อ
“...เป็นบางอย่างนะ คุ๊กกี้ก็เป็น ขนมปังลูกเกดก็เป็น แล้วก็...แค่นี้แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า” นายมะยมฉีกยิ้มกว้างเพราะอวดได้แค่นี้เท่านั้น
“ชิ ทำมาอวดนะ” นายป๋องชกท้องพี่มะยมแบบทีเล่นทีจริง “สองอย่างนั้นก็ได้ ค่าของค่าทำเท่าไหร่ เอาบิลไปเก็บกับพี่วาเลย”
“ไว้ให้พี่ภักกลับมาแล้วค่อยออกบิลให้ได้ป๊ะ พี่ไม่รู้เรื่องพวกนี้อ่ะครับ” นายมะยมออกตัวก่อน
“ได้ๆ เอาอร่อยๆ เหมือนคุณภักทำเป็นใช้ได้ ว่าแต่ทำเป็นจริงมั้ยเนี่ย!” นายป๋องหรี่ตา...ไม่ค่อยเชื่อใจพี่มะยมสักเท่าไหร่
“ดูถูกว่ะ” นายมะยมพูดพลางเอามือถือขึ้นมากดเบอร์ รอสักพักปลายสายก็รับสาย “พี่ ว่างคุยมั้ยครับ?”
‘ครับ’ ปลายสายรับคำสั้นๆ
“พี่น้องป๋องเค้าสงสัยและไม่แน่ใจว่าผมทำคุ๊กกี้ก๊ะหนมปังลูกเกดเองเป็น พี่ช่วยผมการันตีหน่อยสิครับ อ่ะ ป๋อง ถามเลย” นายมะยมยื่นมือถือของตัวเองไปให้รุ่นน้อง
“หวัดดีครับคุณภัก” นายป๋องรับไปคุย
‘ครับ เปิดอะไรขึ้นถึงมาถามแบบนี้ครับ’ ปลายสายถามนายป๋อง
“ก็ผมจะมารบกวนคุณภักให้ทำขนมไปเลี้ยงแขกในพิธีฝังศพน่ะครับ แต่คุณภักไม่อยู่แหละ พี่มะยมเลยบอกว่าเค้าทำเองเป็น น่าเชื่อถือมากกกกกก” นายป๋องลากเสียงยาวแทนการประชดพี่มะยม
‘หึหึหึ...มะยมเค้าทำเป็นครับ แค่คุ๊กกี้กับขนมปังลูกเกดน่ะครับ อย่างอื่นยังมือไม่ถึง’ ปลายสายบอกนายป๋องด้วยรอยยิ้ม
“โอเค ถ้าคุณภักการันตรีให้ ผมก็สบายใจ งั้นผมไม่รบกวนแล้วครับ เผื่อคุณภักจะขึ้นเครื่อง” นายป๋องเตรียมลา
‘หึหึหึ...ผมมาถึงโรงแรมแล้วครับ’ ปลายสายบอกนายป๋อง
“เฮ้ย! ตายล่ะโทรทางไกลข้ามประเทศ งั้นแค่นี้ครับ แค่นี้...”
ขณะที่นายป๋องจะวางสายนายมะยมก็มาคว้ามือถือไปก่อน....
“งั้นจะเอากี่ชิ้น เอาเวลาไหน ให้ไปส่งรึมารับเองป๋องค่อยมาบอกพี่นะครับ” นายมะยมบอกนายป๋องเสร็จก็เดินลิ่วขึ้นบันไดไปเลย
......
.....
....
...
..
.
เดินขึ้นมาจนพ้นชั้นหนึ่งนายมะยมก็กรอกเสียงไปตามสาย “พี่...” เรียกเสียงอ้อนหวาน
‘คุณเป็นคนที่น่าเชื่อถือมาเลยเนอะ ถึงกับต้องโทรข้ามประเทศมาขอคำการันตรีจากผม’ นายภักดีได้ดียียวนอีกฝ่าย
“โห เค้าเพิ่งหัดทำหรอก ไว้รอก่อนเหอะ พี่อ่ะจะชิดซ้าย” นายมะยมโอ่ตัวเอง
‘หึหึหึ...ตกลงโทรมาแค่นี้เหรอครับ’ นายภักดีพูดกลั้วหัวเราะ
“เปล่า เรื่องสำคัญว่านั้นคือ...” นายมะยมเจตนาไม่พูดต่อ
‘คือ...’ นายภักดีย้อนคำ
“คิดถึงนะ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ” นายมะยมทำเสียง ‘จุ๊บ’ ดังกว่าปกติกับมือถือ...กะเอาว่าให้มันดังไปได้ถึงฮ่องกง
‘ฮ่าฮ่าฮ่า.....’ นายภักดีอดไม่ไหว
“ตัวเองอ่ะ ไม่คิดถึงเค้ามั่งเหรอ?” นายมะยมทำเสสียงจีบปากจีบคอขณะเดินพ้นชั้นที่สามมาแล้ว
‘หึหึหึ...ไม่อ่ะครับ’ นายภักดีบอก
“ใจร้าย! ไม่เคยรู้สึกอะไรเลยใช่มั้ย?!” นายมะยมว่าเข้าให้
‘อือ...ก็รู้สึกนะครับ’ นายภักดีพูดเหมือนไม่แน่ใจ
“รู้สึกอะไร! ว่ามาเร็วๆ เลย!” นายมะยมเสียงเข้ม
‘คิดว่าน่าจะรู้สึกว่า.....’ นายภักดีเจตนาไม่พูดต่อให้อีกฝ่ายมีน้ำโหเล่น
“ว่า....!” นายมะยมลุ้นสุดติ่งและยิ่งก้าวขึ้นบันได...ให้ไวมากขึ้น
‘รู้สึกว่าน่าจะรักคุณมากกว่าเดิมอีกแล้วน่ะสิครับ’ นายภักดีบอก
นายมะยมหยุดอยู่กับบันไดขั้นหนึ่งของชั้นที่สี่....เขายืนอมยิ้ม และเดินไปพิงกับราวบันได “พูดดีนะเนี่ย กลับมาเดี๋ยวให้รางวัล” เอานิ้วไปจิ้มกับราวบันไดเล่น
‘คุณไม่กล้าให้รางวัลผมหรอกครับ’ นายภักดีบอก
“โหย ผมอ่ะลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้นครับพี่” นายมะยมโอ่ตัวเอง...อีกครั้ง
‘งั้นกลับไปเจอกันครับ...อย่ากลืนน้ำลายตัวเองล่ะครับ!’ นายภักดีส่งคำท้ามาจากฮ่องกง
“ผมเอาศักดิ์ลูกผู้ชายเป็นประกันเลยเอ้า!” นายมะยมรับคำท้าที่ส่งมายังประเทศไทย
‘หึหึหึ....แค่นี้ก่อนนะครับ ท่านมาแล้ว’ นายภักดีพูดจบก็วางสายไปทันที
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมขมวดคิ้วตัวเองยุ่ง....เขาเสียวสันหลังแปลกๆ กับเสียงหัวเราะของนายภักดี
......
.....
....
...
..
.
-
โอ๊ย เศร้า :monkeysad:
แม้จะอมยิ้มได้ตอนจบก็เถอะ
:3123:
-
ฮ่าๆ รางวัลนี่
จะยอมเป็นหนูมะยมให้พ่อมึงซักวันใช่ไหม 55555
-
รางวัลอะไรหนอ
-
หน่วงไปกับอีกคู่
:monkeysad:
แต่ก็ฮากับอาการเสียวตูดของมะยม
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
:laugh:
-
รางวัลๆๆ
รอวันพี่ภัก รุกมานานแล้ว
ขอเห่อะๆๆ
-
......
.....
....
...
..
.
เช้าวันต่อมา...ฝนไม่ตกนายมะยมจึงออกไปวิ่ง ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัวไปบ้านนายศร เพื่อยืมรถยนต์ของเพื่อนสนิทไปเลือกซื้อของมาเตรียมรอท่าไว้
......
.....
....
...
..
.
นั่งเล่นบ้านศรจนเบื่อ นายมะยมจึงเดินไปคุยกับอาม่า...จนถึงเวลานอนตอนบ่ายของอาม่า เขาจึงเดินกลับมาบ้านนายศรอีกครั้ง
......
.....
....
...
..
.
ไปป่วนเพื่อนสนิทโดยการยึดคอมเพื่อนแล้วคุยเล่นกับน้องกัสอยู่เป็นชั่วโมง...สะใจแล้วก็ปั่น BMX กลับบ้าน
......
.....
....
...
..
.
ขากลับโดนฝนนิดหน่อยพอให้เปียกตัว...แต่ถึงหอพักพอดี นายมะยมเลยยังไม่หงุดหงิด
......
.....
....
...
..
.
อาบน้ำอุ่นเปลี่ยนเอาชุดนอนของแฟนมาใส่ แล้วเดินไปเด็ดตำลึงที่ระเบียงมาแช่น้ำล้าง...รอท้องร้องก่อนถึงจะต้มน้ำร้อน----ไวไว ควิก
......
.....
....
...
..
.
ว่าง...ไม่รู้จะทำอะไร เลยนั่งเล่นเอาสูตรขนมจากบล๊อกนู้นบล๊อกมาเซฟเก็บไหว้ให้แฟนทำฝึกฝีมือ
......
.....
....
...
..
.
ดูของหวานจนหิว ก็เดินไปต้มน้ำร้อน...ระหว่างรอน้ำร้อนก็โทรกลับไปหาญาติผู้พี่ที่ฝากเลี้ยงฝูงวัวไว้ฝูงหนึ่ง-----นายมะยมเค้ามีวัวฝูงนึงจริงๆ นะเออ!
......
.....
....
...
..
.
ถามสารทุกข์สุขดิบของคนและวัวเสร็จก็วางสายและกลับมาตั้งหน้าตั้งตากิน----ไวไว ควิก ใส่ตำลึง
......
.....
....
...
..
.
ข่าวเริ่มรายงาน...นายมะยมเดินเอาชามที่ล้างแล้วไปตาก ยืนมองสายฝนที่โปรยหนักบ้างเบาบ้างสลับกันไป
......
.....
....
...
..
.
อยากโทรหาแฟน แต่กลัวโทรไปไม่ถูกจังหวะ เลยได้แต่รอแฟนโทรมาหา
......
.....
....
...
..
.
ข่าวน่าเบื่อ เลยไม่สนใจจะแล หันไปหยิบหนังสือที่แฟนอ่านค้างอยู่...บนหัวนอนมาเปิดอ่านดูบ้าง
......
.....
....
...
..
.
หนังสืออะไรไม่รู้...ลุ้นฉิบหาย ไม่สงสัยล่ะว่าทำไมแฟนนั่งอ่านเงียบได้ทุกคืน
......
.....
....
...
..
.
ละครหลังข่าวจบ แต่อ่านไปได้ครึ่งเล่มเอง...นายมะยมจำใจปิดมันและเข้านอน
......
.....
....
...
..
.
พรุ่งนี้ต้องทำขนมแต่เช้า เผื่อเวลาไว้หน่อย
......
.....
....
...
..
.
อยู่ดีๆ ก็นึกอยากไปดูพิธีฝังศพแบบคริสต์ เพราะเมื่อกี้เพิ่งอ่านเจอในหนังสือ ท่าจะได้บรรยากาศดี
......
.....
....
...
..
.
“ชวนไอ้กันไปด้วยดีกว่า” นายมะยมพูดพึมพัมกับตัวเองและหลับตา
......
.....
....
...
..
.
นึกขึ้นได้ว่านอนผิดที่ เลยเขยิบตัวเองเข้ามาด้านในของเตียงนอน และเอาหัวหนุนหมอนที่อยู่ด้านใน
รวบผ้านวมเป็นก้อนยาว แล้วหยิบผ้าแพรมาคลุมตัว
......
.....
....
...
..
.
พลิกไปพลิกมาเท่าไหร่ก็ไม่หลับซักที เลยลุกขึ้นมานั่ง...ถอนหายใจ
......
.....
....
...
..
.
นึกขึ้นอย่างหนึ่งเลยควานหามือถือของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
เจอแหละ......
นายมะยมเลื่อนหน้าจอไปที่ ...คลิป...หนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
เขานอนดูแฟนตัวเองที่เคลื่อนไหวอยู่ในคลิปด้วยรอยยิ้ม
......
.....
....
...
..
.
ก็ชอบภาพนิ่งของแฟน...แต่ชอบภาพเคลื่อนไหวของแฟนมากกว่า
มันดูแล้วได้บรรยากาศกว่า
......
.....
....
...
..
.
ดูคลิปไม่รู้กี่รอบ...ไม่ได้นับ เพราะมันหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้ตัวเลย-----ฮา
......
.....
....
...
..
.
-
เฮ่ยๆ
คลิปอะไรอะไอหัวลูกเจี๊ยบ มาแบ่งกันดูบ้างจิ
กร๊ากกกกกก
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
นายมะยมคงคิดถึงพ่อมึงมากนะเนี่ย :กอด1:
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเริ่มงานตั้งแต่แปดโมงเช้า...แนวแป้งเตรียมไว้แล้วพักมาทานข้าวเช้า จากนั้นจึงเริ่มทยอยทำก้อน และทยอยเอาไปอบทีละอย่าง
เขาจำได้ว่าคุ๊กกี้ต้องใส่ถุงตอนเย็นแล้วเท่านั้น จึงเริ่มอบคุ๊กกี้ก่อนขนมปังลูกเกด
วันนี้ได้ผู้ช่วยมาสองคน...ไอ้กันกับคุณเชษฐ
สองคนนี้บอกว่าจะตามเขาไปเดทที่สุสาน...ช่างเป็นคู่ที่น่าเอาเยี่ยงอย่างจริงๆ!
......
.....
....
...
..
.
“มึงเบาๆ หน่อย เดี๋ยวแขกที่มางานเค้าจะเอียน...ความหวานที่พวกมึงทำ” นายมะยมอดไม่ได้ที่จะแซวไอ้คู่นั้น
“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเที่ยงคืนน้องซินก็ต้องไปแล้วนี่เนอะ” นายกันหันหน้าพยักเพยินกับนายเชษฐ
“ผมเพิ่งมาเมื่อเย็นวันศุกร์เองน๊าคุณ อีกตั้งหลายวันถึงจะกลับ...คุณจำผิดคนรึเปล่าครับ?” นายเชษฐไม่รับมุกของแฟนตัวเอง
“เออ ผิดคน คนนี้อยู่นานนี่เนอะ” นายกันรับสมอ้าง
“แล้วช่วงนี้มีกี่คนล่ะครับ บอกได้มั้ย?” นายเชษฐถามแฟนตัวเอง
“เยอะ จะฟังตัวเลขเหรอครับ” นายกันถาม
“งั้นเก็บตัวเลขมันไว้กับคุณน่ะดีแล้ว แต่ให้คุณรู้ไว้นะครับว่าคนคนนี้รักคุณคนเดียว” นายเชษฐบอกด้วยรอยยิ้ม...หวานยอด
“ขนลุกว่ะ!” นายศรสอดปากมาจนได้...คันมานานแหละ
“กูน่าจะนัดไอ้คู่นี้มันมาตอนเราเอาขนมไปส่งเนอะ คิดผิดแท้ๆ เลย” นายมะยมบอกกับเพื่อนสนิท
“มึงก็อยากได้นัก ลูกมือ ไหนล่ะ แม่งนั่งจีบกันมือก็ไม่ทำงาน เปลืองค่าไฟค่าพัดลมบ้านกูแท้ๆ” นายศรประชดให้
“อ่ะทำงานคุณ ทำงาน เจ้าของบ้านเค้าว่ามาแล้ว มาช่วยฟรีๆ ก็เหอะน๊า แต่เราก็ต้องมีมารยาทนะครับ” นายกันบอกกับแฟนตัวเอง
“ฟรีเหี้ยไร! หนังกูมึงยังไม่เอามาคืนเลย เอาไปแต่แผ่นเด็ดๆ ทั้งน้าน!” นายมะยมทวง
“คุณมะยมอย่าว่ากันเค้าครับ พอดีผมยืมเอาไปดูที่โน่นด้วย เนี่ยเอาติดรถมาแล้วครับ เดี๋ยวไปเอามาให้เลยครับ”
นายเชษฐทำท่าว่าจะลุกนายศรก็เรียกไว้ก่อน
“คุณครับ ทำงานเถอะครับ มันจะได้เสร็จเร็วๆ ไอ้ที่นั่งอยู่เนี่ย ลูกมือทั้งน้าน ทำแล้วแหลกร่ายมั้ยยังไม่รู้เลย”
“มึงแม่ง! อย่าให้กูได้เปิดร้าน กูจะไม่ลดราคาให้มึงสักบาท!” นายมะยมคาดโทษที่เพื่อนหยามตัวเองไว้ล่วงหน้า
“กูให้กัสไปซื้อก็ได้...มึงหเอะ อย่าให้ฟรีมาก็แล้วกัน คึคึคึ” นายศรกระหยิ่มยิ้มย่อง
“ฮ่าฮ่าฮ่า....” คู่รักหวานแหวนฮาครืน
......
.....
....
...
..
.
คุ๊กกี้ถาดแรก ชิมแล้ว----แหลกร่าย
......
.....
....
...
..
.
หมดคิวคุ๊กกี้ก็มาถึงขนมปังลูกเกดก้อนจิ๋ว-----แหลกร่าย เช่นกัน
......
.....
....
...
..
.
พักทานข้าวกลางวันเสร็จ ชายหนุ่มทั้งสี่จึงค่อยมาจัดใส่กล่องเหล็กที่นายป๋องเอามาทิ้งไว้ให้ที่บ้านนายศรตั้งแต่เช้าตรู่
......
.....
....
...
..
.
บ่ายสองโมงกว่า ชายหนุ่มทั้งสี่ก็ขนกล่องขนมขึ้นรถกระบะของนายเชษฐ และนั่งรวมกันไปในคันเดียว
......
.....
....
...
..
.
ขับมาสักเกือบชั่วโมง พวกเขาทั้งสี่ก็มาถึงสุสานที่ป๋องบอก
แจ้งกับเจ้าหน้าที่ด้านหน้าและถามทางมาจุดเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานได้แล้ว นายเชษฐจึงขับรถเข้ามาในที่จอดรถด้านใน
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมมองหญ้าสีเขียวสุดลูกหูลูกตาด้วยความรู้สึก...แปลก
ถึงสบายตาแต่มันแลดูวังเวง...หัวใจ
“ไม่เหมือนในหนังเลยเนอะ” นายกันเดินมายืนอยู่ข้างๆ
“อื้อ...เดี๋ยวกูโทรบอกป๋องก่อน” นายมะยมหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเลือกเบอร์
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มทั้งสี่เดินถือกล่องเหล็กมาคนละกล่อง...พวกเขาเดินตรงลึกเข้าไปยังตึกสีขาวหลังคาสีฟ้าน้ำทะลที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากลานจอดรถ
......
.....
....
...
..
.
-
:-[ :-[ คลิป เลิฟซีน ที่สนามบินหรือป่าว อ๊ะ หรือว่ามีคลิปพ่อมึงแบบภาคต่อ
-
นายกันกับุณเชษฐนี่หวานกันจริง
อ่านแล้วนึกถึงเรื่องกระดาษ
น่ารักอะ
:-[
-
......
.....
....
...
..
.
“สวัสดีครับคุณมะยม” นายวาเดินมาทักทาย...หน้าตาเขาดูซูบมาก ขอบตาก็ดำคล้ำ
“เอาขนมมาส่งครับ ให้ลูกมือชิมแล้ว แหลกร่ายอยู่ครับ” นายมะยมเล่นมุกนิดหน่อย...ไม่มากเกิน
“ฮึฮึฮึ...คุณภักการันตรีมาให้แล้วผมเชื่อใจครับ” นายวาพูดพลางเรียกเด็กๆ มารับของไปจากมือของพวกเขา
เด็กที่มาช่วยในงานหลายคนเป็นพนักงานของร้านกาแฟ
“พี่มะยม พี่กัน พี่ศร พี่เชษฐ สวัสดีครับ” นายป๋องเดินมาไหว้รุ่นพี่ทุกคน...รุ่นพี่รับไหว้ตามมารยาทและทักทายกันอีกสักพัก ป่องก็ไล่ให้พี่วาไปนั่งพักและคุยเล่นกับพวกเขา
......
.....
....
...
..
.
“ได้พัก ได้ทานข้าวบ้างรึยังครับคุณวา” นายมะยมถามด้วยความห่วงใย
“สามวันนี้ไม่ได้พักเลยครับ ต้องคอยดูพี่วีไว้ตลอด” นายวาบอกเล่าด้วยเสียงเหนื่อยหน่าย
“แล้วพี่ชายคุณวาอยู่ไหนล่ะครับ?” นายศรมองหาคนที่ดูคล้ายๆ นายวาคนนี้...ไม่เจอเลยสักคน
“พี่วีเค้ากลับไปที่คอนโดน่ะครับ...แม่ของแฟนพี่ผมเค้าอยากให้เอาของรักของชอบของลูกชายเค้ามาฝังไปด้วยกัน” นายวาเล่าให้ฟัง
“แล้วใครไปกับคุณวีล่ะครับ” นายมะยมถาม
“เค้าไปคนเดียวครับ” นายวาบอก
“เอ่อ.....มันจะดีเหรอครับ” นายกันอดที่จะเอ่ยปากแทรกขึ้นมาไม่ได้ เพราะเท่าที่เขาฟังความมาก่อนนี้ หากเป็นเขา เขาคงไม่ปล่อยคนเป็นที่เหลืออยู่...ให้อยู่คนเดียวตามลำพังแน่
“ผมให้พี่วีสัญญากับผมไว้แล้ว ว่าต้องกลับมาทำพิธีให้เสร็จ” นายวาบอกด้วยเสียงหนักแน่น
“หลวงพ่อของผมเขาเคยบอกเอาไว้ คนไปแล้ว...เขาไปสบาย เราที่ยังอยู่เสียอีกที่ต้องทนทุกข์กันต่อไป” นายมะยมกุมมือนายวาเป็นกำลังใจให้
“ตอนเค้าเลิกกันผมว่าผมเสียใจแล้วนะ...แต่เลิกกันแล้วก็ยังกลับมาคืนดีกันได้....แต่ตอนนี้...มันเลือกอะไรไม่ได้อีกแล้ว...” นายวาพูดจบก็ถอนหายใจและทอดสายตาไปยังพื้นหญ้าเสียว...สบายตา
......
.....
....
...
..
.
หากมีแต่ผืนดินและแท่งหิน...คนที่มาร่วมงานคงได้ห่วงอาลัยกันมาก
......
.....
....
...
..
.
หากในสุสานมีเพียงผืนหญ้าและผืนฟ้ากับท่อนหินเล็กๆ...ผู้ที่มาร่วมงานจะเหลือแค่----ความรู้สึก ‘ทอดอาลัย’
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาทั้งสี่เดินร่วมไปกับแขกคนอื่นๆ ที่มาร่วมงาน แต่พอขบวนเดินใกล้หลุมศพ พวกเขาก็พร้อมใจที่จะหยุดยืนดูอยู่ห่างๆ...พื้นที่นั้น เหมาะสำหรับญาติและผู้คนอันเป็นที่รักของผู้เสียชีวิต
......
.....
....
...
..
.
พิธียังไม่เริ่มเพราะรอ...อะไรบางอย่าง
......
.....
....
...
..
.
นายป๋องเดินตาแดงเข้ามาหาพวกพี่ๆ
“รออะไรเหรอครับ?” นายกันถาม
“เผื่อคุณพ่อของพี่เค้าจะมาน่ะครับ คุณแม่พี่เค้าบอกแบบนั้น” นายป๋องปาดน้ำตาด้วยความเศร้าระคนเจ็บใจ...เขาเจ็บแค้นแทนพี่เค้าที่คนเป็นพ่อร่วมสายเลือด ตัดกันเป็นตายถึงเพียงนี้
นายมะยมดึงไหล่รุ่นน้องมากระชับใกล้เพื่อเป็นกำลังใจให้
พวกเขาทั้งห้ายืนทอดอารมณ์กันไปเรื่อยจนคนคนหนึ่งเดินผ่านหน้าพวกเขาไป
“คุณมาทำไม!” นายป๋องพูดอย่างเอาเรื่องทั้งที่น้ำตายังนองหน้า
ชายคนที่เพิ่งเดินผ่านหน้าพวกเขาไป หันกลับมาหาพวกเขา...เขาถือไวโอลีนตัวหนึ่งไว้ในมือข้างหนึ่ง
“วีเค้าโทรบอกพี่ให้มา...ร่วมพิธี” ชายคนนั้นบอกนายป๋อง
“กลับไปเลย! ถ้าไม่มีพี่ พี่เค้าคงไม่เป็นแบบนี้ ถ้าไม่มีพี่สักคน พี่เค้าอาจไม่ตาย! กลับไป! กลับไป!” นายป๋องระเบิดอารมณ์ใส่อีกฝ่ายอย่างไม่ไว้หน้า
นายมะยมรีบรวบตัวนายป๋องไว้ทันก่อนที่ป๋องจะกระโจนไปทำร้ายชายคนนั้น
เสียงของป๋องคงดังจนไปถึงกลุ่มคนที่รอร่วมพิธี...ไม่นานนัก พวกเขาก็เห็นคุณวาเดินหน้าเคร่งมาทางพวกเขา
......
.....
....
...
..
.
“ป๋อง อย่าเสียมารยาทกับพี่เค้านะ” นายวาดุแฟนของตัวเองและหันไปพูดกับชายคนนั้น “พี่วีโทรมาบอกแล้วครับ ขอโทษแทนแฟนผมด้วย เขายังเด็กเกินไปสำหรับเรื่องซับซ้อนแบบนี้ เชิญคุณทางนี้ดีกว่าครับ”
ชายคนนั้นพยักหน้าให้และกำลังจะก้าวไป
ชายคนนั้นไม่เดินไปตามทางที่นายวาผายมือให้ แต่เขาหันหน้ากลับมาและเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้านายป๋อง
“ถ้าวีไม่ขอ ผมจะไม่มีวันมา และที่มายืนตรงนี้เวลานี้ก็เพื่อมาทำสิ่งที่คู่แข่งของผมเค้าชอบ...ให้เป็นครั้งสุดท้าย
น้องรู้มั้ย? ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมกับเค้า...เราสู้กันมาแบบแฟร์ๆ เสมอ...ถึงตอนนี้วีจะเลิกกับเค้าแล้วมาคบกับผม แต่น้องรู้มั้ย?...ว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไง?”
นายป๋องสะบัดหน้าหนี...และไม่ตอบชายคนนั้น
“ผมได้วีมาก็จริง แต่ผมจะต้องแพ้เค้าไปตลอดชีวิต...เพราะวีจะไม่มีวันรักผมได้มากขนาดที่วีรักเค้า...แล้วนับแต่วินาทีนี้ไป วีจะไม่มีวันเลิกหรือหยุดรักเค้าเลย ...
ส่วนผม...วีจะเลิกรักผมเมื่อไหร่ก็ได้!...”
ชายคนนั้นพูดจบก็เดินไปตามทางที่นายวาผายมือไว้รอท่านานแล้ว
นายมะยมกอดป๋องไว้แน่น...เพราะรับรู้ถึงอาการสั่นจากตัวของนายป๋อง
......
.....
....
...
..
.
ในสนามความรัก...ไม่มีใครถูกหรือผิด
......
.....
....
...
..
.
ในสนามความรัก...คนที่ตายไปแล้วมักถูกยกให้อยู่เหนือ...ทุกสิ่ง
......
.....
....
...
..
.
คนเป็น ฤา จะสู้คนตายได้
......
.....
....
...
..
.
-
เศร้าใจนิดๆ
เรื่องของสองคนนี้
-
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมกอดป๋องไว้ไม่ปล่อย และบอกให้ป๋องยืนส่งพี่เค้าที่ตรงนี้ด้วยกัน...
อีกเป็นนานพิธีก็ยังไม่เริ่ม เมื่อนายศรสงสัยและเอ่ยปากถาม
ป๋องจึงบอกว่า “พี่วียังไม่มา ถึงพ่อพี่เค้าไม่มา แต่ยังไงเราก็ต้องรอพี่วี”
ทันที่ที่ป๋องบอกจบ พวกเขาก็ได้ยอนเสียงล้อรถบดมากับหินที่ถูกเทลงมาเป็นพื้นถนน
พวกเขาทั้งห้าต่างมองไปที่รถยนต์คันหนึ่งซึ่งเพิ่งเคลื่อนเข้ามาจอด
“พี่วีมาแล้ว เดี๋ยวผมจะไปบอกพี่วาก่อนครับ พี่มะยมปล่อยผมเหอะ ผมโอเคแล้ว” นายป๋องขืนตัวออกมาจากกรงแขนของรุ่นพี่
“เราโตแล้วนะครับ ต้องทำตัวให้ถูกกับโอกาสนะป๋อง” นายมะยมสอนรุ่นน้องก่อนจะคลายวงแขนให้
“ครับ” นายป๋องรับคำด้วยความเศร้าสร้อย ก่อนจะเดินเข้าไปยังกลุ่มคนที่ยืนออกันอยู่ในสนามหญ้า
นายมะยมหันไปทางคนที่นายป๋องเรียกว่าวี...เขาเห็นคนชื่อวีมายืนอยู่ตรงประตูของที่นั่งข้างคนขับ
คุณวียืนถือกระเป๋าด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือคุณวีกำมือถือเอาไว้...แต่ประตูรถนั้นปิดได้ด้วยตัวมันเอง
นายมะยมมองภาพนั้นด้วยอาการตาค้าง เขามองตามคุณวีไปโดยไม่ละสายตา เขาเห็นคุณวีไม่ทำอะไรที่แปลกไปเลยสักนิด... ไม่แม้แต่ตกใจใดๆ ทั้งสิ้น
คุณวีเดินตรงไปหาชายคนที่เขาคาดว่าเป็นแฟนคนปัจจุบันของคุณวี นายมะยมเห็นพวกเขาสองคนคุยอะไรกันสักครู่ ชายคนที่ถือไวโอลินก็พยักหน้าและเดินไปยังตำแหน่งเหนือหลุมศพ
คุณวีผละจากตรงนั้นไปหาหญิงชราคนหนึ่ง และยื่นกระเป๋าในมือไปให้หญิงชรา
นายมะยมมองตามนายวาที่มารับกระเป๋าไปจากหญิงชรา...อีกทอด แล้วกระเป๋าใบนั้นก็ถูกส่งไปให้....ผู้ที่ต้องหลับไปชั่วนิจนิรันดร์
นายมะยมเห็นบาทหลวงพูดอะไรสักอย่าง...สักยี่สิบนาทีได้ จากนั้นเสียงเพลงก็เริ่มบรรเลง..ท่วงทำนองเศร้าปนหวาน
เสียงไวโอลินบาดลึกไปถึงทุกคนที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้น....หลายคนซบหน้าร้องไห้ หลายคนโผไปกอดกัน...
นายมะยมมองดูภาพนั้นไปจนเพลงบรรเลงครบรอบและเริ่มทวนซ้ำท่วงทำนองเดิม...เขาเบือนหน้าไปมองทางอื่นเพราะรู้สึกจุก...ที่หน้าอก
เขาเห็นนายเชษฐกอดเพื่อนของเขาไว้แนบอก แต่ใบหน้าและสายตาของนายเชษฐกลับมองไปคนละทาง....นายเชษฐมองไปที่ลานจอดรถ
นายมะยมเผลอมองตามไปด้วยจึงได้เห็นประตูรถคันเดิม....เปิดได้ตัวเอง!!!
นายมะยมยืนอึ้งอยู่กับที่...เป็นนานกว่าที่เขาจะมีสติ
สักพักนายเชษฐก็หันหน้ากลับมาและสบตากับเขาเข้าพอดี
“คุณเห็น...” นายมะยมพูดได้แค่นั้น
“ครับเห็น” นายเชษฐบอกแค่นั้นแล้วทอดสายตาไปมองยังกลุ่มคนที่ยืนร่วมพิธีอยู่เหนือหลุมศพ
......
.....
....
...
..
.
ไวโอลินจากคนที่ไม่ควรมาอยู่ตรงนี้ บรรเลงท่วงทำนองหวานเศร้าไปจนครบสามรอบจึงหยุดลง
ทันทีที่ชายคนนั้นบรรเลงเพลงนั้นเสร็จ เขาก็ทำเดินออกมาจากฝูงชนอย่างเงียบๆ
นายมะยมมองตามเขาไปตลอดจนเขาขับรถออกไปจากสุสานแห่งนั้น
“เพลงอะไร ใครรู้บ้าง?” นายมะยมอยากรู้ชื่อของเพลงนั้น
“Sad Romance” นายเชษฐบอก
“สมกับชื่อ...ซื๊ด!” นายศรสูดน้ำหมูกเข้าจมูกได้ยากยิ่ง
“คุณเห็นอย่างที่ผมเห็นใช่มั้ย?” นายมะยมจ้องตากับนายเชษฐ
“ผมว่าผมคงเห็นมากกว่าที่คุณเห็นมั๊งครับ” นายเชษฐยิ้มนิดๆ ที่มุมปาก
“นั่นมันรถคุณวีไม่ใช่เหรอครับ?” นายมะยมถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่ใช่ทุกครั้งไปหรอกนะครับคุณมะยม....ที่คนตายจะสบาย เท่าที่ผมเห็น ‘เขา’ ดูเสียใจมากกว่าคนเป็นเสียด้วยซ้ำ” นายเชษฐบอกกับนายมะยมโดยเน้นถ้อยคำที่สำคัญไว้ให้...นายมะยมทำความเข้าใจเอาเอง
......
.....
....
...
..
.
-
ฮือออ เศร้าอะ
-
คุณเบาเบา
สุดยอด ... ต่อจาก เรื่องสั้น... [รู้แล้ว] นั่นเอง
ขณะที่เขากำลังมองไปรอบๆ ประตูทางฝั่งเขาก็เปิดออกพร้อมเสียงบอกของวี “ออกมา ไปกับกู…นะ”
และ Sad Romance
โอ๊ย!!! เข้าใจแระ
คารวะค่ะ
:L2:
-
:m15:
-
:sad4:
-
แง้ๆๆๆๆ
:sad4:
อุตส่าห์ไม่ยอมอ่านเรื่องโน้น
ยังตามมาแกล้งเราเรื่องนี้อีก
กระซิกๆ
:impress3:
-
พูดไม่ออกอ่ะ :m15:
-
......
.....
....
...
..
.
ก่อนกลับ นายมะยมบังคับให้คุณเชษบ์ไปบอกกับคุณวี...ให้รู้ตัวไว้
นายมะยมกับนายเชษฐเถียงกันเล็กน้อย แต่แล้วอีกฝ่ายก็ยอมนายมะยมและเดินไปกระซิบบอกในสิ่งที่ตนเองเห็น...ให้เขารู้
......
.....
....
...
..
.
รู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น นายมะยมไม่ได้ตามต่อ...
หากแต่อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ก็ให้สุดแล้วแต่กรรมของพวกเขาสองคนที่ทำมา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมขอลงที่หอ ไม่เข้าไปบ้านของนายศร...เขามีหลายสิ่งให้ต้องคิด
......
.....
....
...
..
.
เขาเข้าไปเอาเอกสารจากในห้องและเดินลงมาที่ชั้นล่าง...เดินไปขึ้นรถ BMW คันสีดำ และขับมันออกไป
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมมาถึงสถานที่หนึ่งในยามหัวค่ำ...เขาเอาของที่แวะซื้อระหว่างทางออกมาจากหลังรถ และเดินลิ่วเข้าไปในบ้านไม้หลังหนึ่ง
เสียงโหวกเหวกร้องถามว่าเขาเป็นใคร พอเขาตอบว่าตัวเองเป็นใคร คนที่อยู่ด้านในก็เฮโลกันออกมา
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมอยู่ให้พวกเขาต้อนรับและพูดคุยกันจนหายคิดถึงแล้ว จึงขอพูดธุระของตัวเองอย่างรวบรัด
ประเด็นเล็กน้อยแต่...เป็นนานกว่าที่คนที่นี่จะให้คำตอบเขาได้
......
.....
....
...
..
.
เมื่อนายมะยมได้คำตอบที่เขาต้องการแล้ว เขาจึงกราบลาผู้ใหญ่ที่กรุณาเขามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ลาญาติผู้พี่ของตัวเอง แล้วขอตัวกลับไปก่อน โดยให้สัญญาว่าจะกลับมาอีกในเร็ววันนี้
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมขับรถมาอย่างเงียบๆ ...ตลอดทาง
เมื่อเขาขับออกมาพ้นตัวอำเภอ มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เขาจอดรถที่ข้างทางและรับสาย “มาถึงแล้วเหรอครับ?”
“คุณอยู่ไหน? เอาเฉาก๊วยไปด้วยใช่ไหมครับ?” ปลายสายถามเขา
“พี่ห่วงเฉาก๊วยหรือห่วงผมล่ะครับ?” นายมะยมต่อปากต่อคำ
“ก็ห่วงทั้งสองนั่นล่ะครับ อยู่ไหนแล้วครับ ผมเข้าห้องมาแล้วนะ” ปลายสายถามย้ำกับเขา
“อีกชั่วโมงคงถึงครับ เบื่อๆ เลยออกมาขับรถเล่น” นายมะยมบอก
“เอาเฉาก๊วยไปรับส่ง ‘เด็ก’ รึเปล่าครับ” ปลายสายถามเขา
“เบื่อเด็กแหละ กระดูกเปราะ กัดแล้วติดฟัน” นายมะยมบอก
“หึหึหึ กลับเร็วๆ นะครับ ถ้ามาดึกผมนอนก่อนนะครับ” ปลายสายบอก
“นี่เหยียบมาร้อยแล้วนะ พูดแบบนี้เดี๋ยวเหยียบสักสองร้อยเลยเป็นไงครับ” นายมะยมบอก
“หยุดเลยนะครับ! อันตราย เอาพอดีๆ นะคุณ” ปลายสายเสียงร้อนรนมากขึ้น
“งั้นก็รอผมนะ อย่าเพิ่งหลับ...นะครับ” นายมะยมออดอ้อน
“......หึหึหึ....คุณนี่ เจ้าเล่ห์นะ” ปลายสายพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
“รอน๊า...นะคร๊าบ น๊า..” นายมะยมอ้อนต่อ
“ครับ จะรอ...คุณค่อยๆ ขับนะครับ ไม่ต้องรีบ” ปลายสายรับปากพร้อมกำชับอีกครั้ง
“ครับ เดี๋ยวเจอกัน” นายมะยมพูดจบก็วางสายทันที...
......
.....
....
...
..
.
รถ BMW สีดำ ขับเคลื่อนสู่ถนนราดยางอีกครั้ง...ด้วยความเร็วเกินร้อย
นายมะยมมองนาฬิกาแล้วก็รู้ตัวว่าตนเองต้องรีบทำเวลาหน่อย...ถนนในยามค่ำคืนของต่างจังหวัดค่อนข้างโล่ง...เขาต้องฉวยใช้ความเร็วตอนนี้ให้เป็นประโยชน์
ก่อนจะต้องไต่ไปถนนอย่างช้าๆ เมื่อถึงเมืองหลวงของประเทศไทย
......
.....
....
...
..
.
-
อ่านแล้วเศร้า T^T
-
เศร้ามากเลย และอยากรู้เรื่องวีต่อจัง :เฮ้อ:
นายมะยมเหยียบเบาๆหน่อยอย่ารีบช่วยดูแลหัวใจคุณภักนิดน้า
:laugh:
-
เรื่องคุณวีกับแฟนตายนี่จะเชื่อมมีนัยสำคัญกับเนื้อเรื่องของมะยมไหมคะ
แบบว่าอ่านแล้วเราต้องขอติหน่อย ถ้าเรื่องไม่มาเชื่อมแบบจุดสำคัญ เช่น ความตายที่เห็นไปหาจุดอะไรสักอย่าง
เราว่าใส่มามันทำให้เรื่องงงจัง เราอ่านรอบแรกนี่แบบอะไร เราอ่านข้ามอะไรไป
อ่านรอบสองถึงเข้าใจว่าตัวเรื่องกำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรลำดับเรื่องเป็นยังไง
แต่เราก็ว่ามันก็ไม่เข้าพวกอยู่ดีอ่ะจ้ะ มันไม่เหมือนคู่ศร คู่นายกัน คู่คุณเจ้าของร้านกาแฟ
อันนั้นมันเชื่อมกับเรื่องหลักแบบสมูท
แต่อันนี้แบบอยู่ดีๆก็มา มีอีกคู่ที่ไม่ค่อยสมูทคือคู่ของคุณโต เราก็พอรู้เนื้อเรื่องอีกเรื่อง
แต่เราว่ามันอยู่ดีๆก็ไปให้ความสำคัญกับตัวประกอบมากไปแบบแป๊บๆ แบบอยากให้มารวมกันก็มา
เราว่าเขียนให้เชื่อมหลายๆคู่จากเรื่องหลักเรื่องอื่นมากเกินเอามารวมๆในเรื่องเดียวมันไม่ค่อยสมูท เยอะไป เรื่องไม่รวมศูนย์
เราชอบเรื่องนี้มากนะคะ แต่ก็อยากให้ความเห็นตามความรู้สึกจ้ะ
-
อ่านตอนนี้ทำให้get อีกเรื่องมากขึ้น
-
อ้อ เขาเกี่ยวโยงกันแบบนี้เอง
-
เรื่องคุณวีกับแฟนตายนี่จะเชื่อมมีนัยสำคัญกับเนื้อเรื่องของมะยมไหมคะ
แบบว่าอ่านแล้วเราต้องขอติหน่อย ถ้าเรื่องไม่มาเชื่อมแบบจุดสำคัญ เช่น ความตายที่เห็นไปหาจุดอะไรสักอย่าง
เราว่าใส่มามันทำให้เรื่องงงจัง เราอ่านรอบแรกนี่แบบอะไร เราอ่านข้ามอะไรไป
อ่านรอบสองถึงเข้าใจว่าตัวเรื่องกำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรลำดับเรื่องเป็นยังไง
แต่เราก็ว่ามันก็ไม่เข้าพวกอยู่ดีอ่ะจ้ะ มันไม่เหมือนคู่ศร คู่นายกัน คู่คุณเจ้าของร้านกาแฟ
อันนั้นมันเชื่อมกับเรื่องหลักแบบสมูท
แต่อันนี้แบบอยู่ดีๆก็มา มีอีกคู่ที่ไม่ค่อยสมูทคือคู่ของคุณโต เราก็พอรู้เนื้อเรื่องอีกเรื่อง
แต่เราว่ามันอยู่ดีๆก็ไปให้ความสำคัญกับตัวประกอบมากไปแบบแป๊บๆ แบบอยากให้มารวมกันก็มา
เราว่าเขียนให้เชื่อมหลายๆคู่จากเรื่องหลักเรื่องอื่นมากเกินเอามารวมๆในเรื่องเดียวมันไม่ค่อยสมูท เยอะไป เรื่องไม่รวมศูนย์
เราชอบเรื่องนี้มากนะคะ แต่ก็อยากให้ความเห็นตามความรู้สึกจ้ะ
เห็นด้วยค่ะ อ่านตอนล่าสุดแล้วยังงง ว่าคนตายมาอยู่ด้วยไม่ไปไหน หรืออะไร
ตอนแรกนึกว่าพ่อมาแต่ไม่ลงจากรถ อ้าวสรุปว่าเป็นผีหรือเนี้ย แล้วคู่นี้เกี่ยวอะไรด้วย
-
เรื่องคุณวีกับแฟนตายนี่จะเชื่อมมีนัยสำคัญกับเนื้อเรื่องของมะยมไหมคะ
แบบว่าอ่านแล้วเราต้องขอติหน่อย ถ้าเรื่องไม่มาเชื่อมแบบจุดสำคัญ เช่น ความตายที่เห็นไปหาจุดอะไรสักอย่าง
เราว่าใส่มามันทำให้เรื่องงงจัง เราอ่านรอบแรกนี่แบบอะไร เราอ่านข้ามอะไรไป
อ่านรอบสองถึงเข้าใจว่าตัวเรื่องกำลังคุยกันถึงเรื่องอะไรลำดับเรื่องเป็นยังไง
แต่เราก็ว่ามันก็ไม่เข้าพวกอยู่ดีอ่ะจ้ะ มันไม่เหมือนคู่ศร คู่นายกัน คู่คุณเจ้าของร้านกาแฟ
อันนั้นมันเชื่อมกับเรื่องหลักแบบสมูท
แต่อันนี้แบบอยู่ดีๆก็มา มีอีกคู่ที่ไม่ค่อยสมูทคือคู่ของคุณโต เราก็พอรู้เนื้อเรื่องอีกเรื่อง
แต่เราว่ามันอยู่ดีๆก็ไปให้ความสำคัญกับตัวประกอบมากไปแบบแป๊บๆ แบบอยากให้มารวมกันก็มา
เราว่าเขียนให้เชื่อมหลายๆคู่จากเรื่องหลักเรื่องอื่นมากเกินเอามารวมๆในเรื่องเดียวมันไม่ค่อยสมูท เยอะไป เรื่องไม่รวมศูนย์
เราชอบเรื่องนี้มากนะคะ แต่ก็อยากให้ความเห็นตามความรู้สึกจ้ะ
เห็นด้วยค่ะ อ่านตอนล่าสุดแล้วยังงง ว่าคนตายมาอยู่ด้วยไม่ไปไหน หรืออะไร
ตอนแรกนึกว่าพ่อมาแต่ไม่ลงจากรถ อ้าวสรุปว่าเป็นผีหรือเนี้ย แล้วคู่นี้เกี่ยวอะไรด้วย
เท่าที่อ่านๆเรื่องของคุณนักเขียนคนนี้มา เหมือนกับว่าเค้าจะเขียนทิ้งเงื่อนงำให้สงสัยไว้เรื่องนึง แล้วก็มักจะไปเฉลยให้เข้าใจอีกเรื่องนึง ซึ่งเราก็ชอบนะมันน่าลุ้นดี ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า
-
:กอด1: :L1:
-
:เฮ้อ: หน่วงง่ะ. เอิ่มมมม. คุุณbao bao. คะโดยส่วนตัวไม่ชอบเซอไพรส์นะจ๊ะ. แบบหนูมะยมขับรถมาดีๆ. แล้วรถชนงี้ไม่เอานะคะ. ไม่ดีๆ :z4:[มันมีขู่ด้วยเว้ยเฮ้ยยย]
-
รักไม่มีวันตาย :impress3: แม้ร่างกายจะจากไป แต่ในหัวใจไม่มีวันลืม
หวังว่าจากเรื่องของคุณวี น้องมะยมของพี่กับคุณภัก จะพยายามทำให้ครอบครัวยอมรับความรักของทั้งสองคนมากขึ้น
มันเศร้านะ ที่แม้แต่ งานศพลูกตัวเองก็ยังไม่มา คนเรามักจะรักคนอื่น เวลาเขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นเท่านั้น
ตอนนี้เม้นต์ไม่ค่อยออก มันเศร้า แต่ที่แน่ๆ คือต้องไปอ่านเรื่องคุณวีน่ะจิ อุตส่าห์หลบไม่อ่านมาตั้งนาน นายแน่จริวคุณBao Bao
-
นายมะยมเจ้าเล่ห์นัก
เรื่องของคุณวีก็เศร้านัก เฮ้อ แต่ก็นะ ความจริงก็เป็นแบบนี้
-
มะยมกับเชษฐ์เห็นของดี(?)เข้าซะแล้ว :sad3:
มะยมยังเห็นแค่ประตู แต่คุณเชษฐ์เห็นเป็นตัวๆเลยเหรอ(มีซิกซ์เซนซ์รึพ่อคุ๊ณ)
เชื่อว่า เรื่องนี้คุณเบาๆโยงมา มีเหตุผลแน่
ที่ชัดๆเลย คือเป็นอุทาหรณ์ ทำให้มะยมนำมาคิด และตัดสินใจทำบางสิ่ง
เพื่อให้เรื่องราวไม่จบเศร้าเหมือนอย่างคู่คุณวี
สู้ๆ มะยม :a2:
-
o22 เราเป็นผู้อ่านที่ไม่ค่อยนิยม มาม่า ดังนั้นเลยไม่รู้เรื่องของคุณวี
กลัวอ่านแล้วหน่วง ปวดจิต ทำใจไม่ได้ค่ะ ถึงอ่านตอนนี้จะหน่วงหน่อยๆ
นายมะยมยังพอบิ้วอารมณ์ให้ดีขึ้นมาได้นิดหน่อย รอมะยมมอบรางวัลให้คุณพ่อนะคะ :oo1:
หวังว่าไม่มีเซอร์ไพรส์ ก่อนเจอคุณพ่อน้าาาาา o18
-
มารอหนูมะยมจ้า :L2: :L2: :L2:
-
มารอ ฮรี่ๆๆ
-
ไปอ่าน รู้แล้ว ให้บีบหัวใจเล่นเพื่อจะต่อเรื่องนี้ได้สนิท
รอชมต่อตอนไปค่ะ
-
:call: :call:
-
......
.....
....
...
..
.
รถ BMW สีดำเคลื่อนผ่านหน้าตึกสูงหกชั้นและเลยไปจอดอยู่หน้าสวนหย่อม...ซึ่งเป็นที่เกือบประจำของมัน
ประตูฝั่งคนขับถูกเปิด ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากรถและเดินไปเปิดท้ายกระโปรงเพื่อเอาถุงใบใหญ่ใบหนึ่งออกมา
เขาเดินกลับมาปิดประตูรถและล็อคมัน...จนแน่ใจดีแล้วว่าทุกอย่างเรียบร้อย เขาจึงค่อยเดินห่างออกมาจากรถคนนั้นเพื่อเข้าไปยัง...หอพักของตนเอง
......
.....
....
...
..
.
ชายหนุ่มก้าวขึ้นบันไดไป...
สี่ทุ่มแล้ว ยามสองนายมานั่งประจำที่อยู่หน้าประตูทางเข้าเหมือนเช่นปกติ
ชายหนุ่มทักทายยามสองนายอย่างสนิทชิดเชื้อและแบ่งของกินในถุงใบใหญ่ให้กับยามประจำหอพัก
ชายหนุ่มทาบการ์ด เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น เขาผลักประตูและเดินก้าวไปด้านใน
ภายในตึกก่อนถึงลิฟท์ มีโซฟาที่ทางหอพักจัดไว้ให้นั่งเล่น ที่ตรงนั้น...ชายหนุ่มมองเห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่ ชายที่สวมแว่นตากรอบหนาใส่ชุดนอนแบบปาจามาพร้อมหนังสือเล่มหนาอยู่บนตักกำลังมองตรงมายังเขา
ชายหนุ่มแปลกใจ...และเดินตรงเข้าไปหาคนคนนั้น
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับ” นายมะยมถาม
“ก็มันเกินชั่วโมงนึงมาแล้วนี่ครับ” นายภักดีตอบคำถามเพียงแค่นั้นและลุกขึ้นมายืน
“ไม่เอานะครับ วันหลังรอที่ห้องก็ได้ ป๊ะ...” นายมะยมพูดพลางแตะหลังช่วงเอวของอีกฝ่าย...เพื่อแทนการบอกว่าให้ขึ้นไปบนห้องกันดีกว่า
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีเดินนำนายมะยมมาที่หน้าประตูห้อง เขาไขกุญแจห้องและผลักประตูเปิด...
นายมะยมเดินตามหลังเข้ามา เขาถอดรองเท้าใส่ตู้แล้วจึงเดินเอาถุงใบใหญ่ไปวางบนโต๊ะกินข้าว
“อะไรน่ะครับ?” นายภักดีถาม
“ของกินครับ ฝากเก็บด้วยนะพี่ ผมขออาบน้ำก่อน” นายมะยมพูดพลางเดินไปหยิบผ้าขนหนู แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ
นายภักดีลองไปดูสิ่งที่อยู่ในถุง...เขาหยิบมันออกมาเรียงและจับเข้าตู้เย็นตามความเหมาะสมของสิ่งนั้น
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น...และนอนแผ่ลงไปบนเตียง ในที่ประจำของตนเอง “เฮ้อ----- เมื่อยชะมัดเล๊ย!”
นายภักดีปิดหนังสือแล้วเอามันขึ้นไปวางบนหัวนอนพร้อมแว่นตา... “ขับทางไกลมาสินะครับ”
“ครับ ว่างอ่ะ ไม่มีอะไรทำ เลยกลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านเกิดมาน่ะครับ พวกของในถุงก็ของในสวนทั้งนั้น” นายมะยมเลื่อนหัวไปหนุนที่หน้าขาของนายภักดีที่มีผ้านวมผืนหนาห่มคลุมไว้
นายภักดีเอามือข้างหนึ่งไปลูบหัวที่มีทรงผมสั้นแหลม...ที่เหมือนลูกเจี๊ยบตัวเล็กๆ พร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้
นายมะยมคว้ามืออีกข้างของคนที่ลูบหัวตัวเองมาเล่นนิ้ว...“ผมเอาเอกสารไปยื่นที่ธนาคารแล้วนะครับ เค้าว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะผมขอกู้น้อยกว่าวงเงินที่สามารถกู้ได้”
“ค่าตกแต่งผมออกเองนะครับ จะได้ไม่เป็นภาระคุณมากไป” นายภักดีบอก
“ฮื๊อ----- ไม่เอาอ่ะครับ” นายมะยมส่ายหน้ายิกยิก
“......ตามใจครับ” นายภักดีไม่เซ้าซี้อีกฝ่ายและเปลี่ยนเรื่องคุยแทน “ขนมที่ทำให้คุณวาเป็นไงบ้างครับ”
“พวกลูกมือบอกว่าพอแหลกร่ายครับ” นายมะยมตอบ
“หึหึหึ...มีลูกมือด้วย” นายภักดีเลิกคิ้ว
“สามคนแน่ะ เจ๋งป๊ะล่ะครับ” นายมะยมชูนิ้วขึ้นมาบอกจำนวนด้วย
“ไม่กล้าทำคนเดียวล่ะสิ” นายภักดีย้อนให้
“ดูถูก!” นายมะยมผุดลุกขึ้นมา...เล่นมวยปล้ำกับอีกคน
......
.....
....
...
..
.
เมื่อแหย่อีกฝ่ายเล่นจนหนำใจแล้ว นายมะยมจึงเลื่อนตัวไปนอนที่ของตัวเอง และรวบเอาอีกคนมากอดไว้ในท่าเตรียมพร้อม...นอนหลับ
เมื่อมือที่มีสีผิวขาวกว่าและเย็นนิดๆ สัมผัสลำคอของเขา นายมะยมเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่ว “แผลหายดีรึยังครับ?”
“ก็ดีขึ้น...แต่ยังไม่ได้นะครับ” นายภักดีบอก
“ผมไม่ได้จะอะไรอย่างนั้น....ดีขึ้นก็ดีแล้วครับ” นายมะยมหอมที่หน้าผากของอีกฝ่าย....แรงๆ สองสามที แล้วจึงหลับตาของตนเองลง
นายภักดียิ้มอยู่ในความมืดก่อนที่จะหลับตาของตัวเอง...บ้าง
......
.....
....
...
..
.
เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ...นายภักดีจึงลืมตาขึ้นมาในความมืด
เขารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติจากอีกฝ่าย...เหมือนดอกหญ้าที่ตั้งตรงแต่เฉาลงเล็กน้อย
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีซุกหน้าไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย...มากกว่าทุกวัน
......
.....
....
...
..
.
เมื่ออีกฝ่ายกอดกระชับตัวของเขามากขึ้น...นายภักดีจึงหลับตาลง....ได้ในที่สุด
......
.....
....
...
..
.
-
มีอะไรอยากพูดมากมาย...แต่ไม่พิมพ์ดีกว่า
ตามที่แจ้งทุกท่านไว้แต่กลางเรื่อง
...อย่าคาดหวังใดๆ กับเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้อาจทำให้ใครหลายคนผิดหวัง...
นายภักดีและนายมะยม...มีเส้นทางที่ผู้เขียนเตรียมให้เขาเดินแล้ว
นับแต่เริ่มลง [บอก] ตอน คำขอ
สิ่งสุดท้ายที่อยากบอกกับท่านผู้มีอุปการะคุณทุกๆ ท่านคือ ขอบคุณ และ ขอโทษ
:n1:
-
ใจไม่ดีเลย คุณเบาเบาจะทำอะไรหรือคะ?
จากคำพูดฟังแล้วมีเค้าลางว่าคู่นี้จะไม่แฮปปี้ยังไงชอบกล TT
ถ้าจะแบ๊ดเอนรบกวนเตือนก่อนได้ไหมคะ? เราจะได้ทำใจล่วงหน้าอะค่ะ จะได้ไม่ตามติดจนเกินไป พอมีเค้าจะได้รีบถอยฉาด
(เราเป็นคนอ่านเห็นแก่ตัว เรากลัวความเจ็บปวดน่ะค่ะ ขอโทษเช่นกัน) แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณเบาเบาต่อไปนะคะ
แต่ถ้าเราเข้าใจผิดไปเองก็ถือว่าไม่ได้อ่านข้างบนนั้นนะคะ 55555
สู้ๆค่ะ ^ ^
-
:L2:เป็นกำลังใจให้ค่ะ ต้องบอกว่าอย่างน้อยก็มีอาร์ม1เสียงที่ไม่ผิดหวัง. เราไม่อาจทำให้คน100%ชอบเราทั้งหมดได้แต่ก็มีถึง99%ที่ชอบผลงานคุณBAO. BAO. แต่อยากเป็นกำลังใจให้เขียนผลงานดีๆออกมาให้ผู้อ่านที่ติดตามผลงานได้อ่านอีก ต่างคนต่างความคิดต่างที่มา ยอมรับเปิดกว้าง. เพื่อที่เราเองจะได้สบายใจนะคะ o13
-
สู้ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะจบแแบบไหนก็ตามอ่านเช่นเคยค่ะ
^^
-
......
.....
....
...
..
.
วันจันทร์นี้เป็นวันที่แปลก
นานปีดีดักถึงจะมีวันหยุดที่ผ่ากลางอาทิตย์มาให้เหล่าพนักงานกินเงินเดือนได้ชุ่มชื้นหัวใจ.... ทำงานแค่จันทร์และจะได้หยุดอีกสองวัน ก่อนจะกลับมาทำงานอีกสองวันและได้หยุดเสาร์-อาทิยต์อีกที----แล้วใครบ้างล่ะที่จะไม่ยิ้ม
“มึงไปทะเลด้วยกันกับพวกกูมั้ย?” นายศรหันหน้ามาถามกันเบาๆ...ขณะที่ว่างจากงานและรอเวลาให้ถึงช่วงพักกลางวัน
“นึกยังไงจะไปทะเล” นายมะยมสงสัย
“ก็ไอ้ศิลป์มันอยากไป เพื่อนมันก็เลยจะเช่ารถตู้ไปกัน แบบวันที่ไปเขาใหญ่น่ะ งวดนี้ไอ้กันกับที่รักมันก็ไปด้วย วันหยุดทั้งที...ไปพักผ่อนบ้างก็ดีนะมึง”
“.........ขอกูดูก่อนนะ ยังไงก็ต้องถามความสะดวกใจของพ่อกูด้วยว่ะ” นายมะยมดูลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบเพื่อนสนิท
นายศรวางมือที่หน้าขาของเพื่อน ก่อนบอกว่า “เรื่องของคนอื่น ฟังได้...เป็นอุทาหรณ์ อย่าเสือกอินจนจมไปกับมันนะเว้ย”
“ฮึฮึฮึ...กูรู้น่า แต่เรื่องคุณวีมันกระตุ้นต่อมกูว่ะ ยิ่งจะได้บ้านมามันก็ยิ่งชวนให้ต้องคิด ไม่รู้สิมึง... มันสำคัญจริงมั้ยกูก็ไม่รู้...แต่กูก็ดันเสือกเริ่มมันไปแล้วว่ะ” นายมะยมพูดเหมือนคุยกับตัวเอง
“เหี้ย! กูฟังไม่เข้าใจว่ะ มึงทำเหี้ยอะไร?” นายศรย้ายมือขึ้นมาเบิ๊ดหลังหัวเกรียนๆ ของเพื่อนตัวเอง
“เมื่อวานหลังจากกลับมาที่หอ กูไปส่งเอกสารที่ธนาคารแล้ว วงเงินกูยังเหลือ กูเลยกู้เงินตกแต่งมาด้วยเลย กูบอกพ่อกูแล้วว่ากูจะออกเองทั้งหมด” นายมะยมบอกเพื่อน...เพราะหลังจากที่ส่งเอกสารแล้ว ตนเองก็ขับรถเลยออกไปต่างจังหวัดทันที
“แล้ว.....” นายศรรู้ว่านี่แค่การเกริ่นนำ
“ทีแรกพ่อกูก็เหมือนไม่ยอม แต่ก็โอเคแหละ ไม่มีปัญหา...ส่วนชื่อเจ้าบ้านกูอยากให้เป็นชื่อพ่อกูว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อน
“อืม...กู้คนนึง แต่ชื่อเจ้าของบ้านเป็นอีกคน มันจะยุ่งมั๊ง...ที่สำคัญ พ่อมึงเค้าจะรับเรอะ” นายศรเกาคางพลางคิด “
“นั่นแหละ เฮ้อ....” นายมะยมถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ถึงบ้านมันไม่ใช่รถ แต่ยังไงมันก็เป็นทรัพย์สิน มึงลองคุยกับพ่อมึงดีๆ ก่อน คุยกันแล้วเค้าอาจรับก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก.... หากเค้าไม่รับมึงก็จดชื่อเป็นเจ้าของบ้านร่วมกันไปเลย” นายศรเสนอทางเลือกเพิ่มให้อีกทาง
“เออ กูก็เผื่อทางเลือกไว้แบบนั้นแล้วล่ะ...แต่บ้านไม่ใช่ประเด็นหลักเว้ย กูอยากขออีกอย่างจากพ่อกูมากกว่าว่ะ” นายมะยมยังทำหน้าเครียดไม่หาย
“เหี้ยไรอีกวะ?” นายศรขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินตรงไปที่รถยนต์ BMW สีดำ....ในสถานที่เดิมซึ่งจอดไว้ตั้งแต่เช้า
เขาเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับ...ทันที เพราะเห็นคนขับประจำที่อยู่แล้ว...คนขับกำลังคุยโทรศัพท์อยู่
“ครับพ่อ...” คนขับพูดกลับปลายสาย
นายมะยมหันควับไปมองอีกฝ่าย
“อาจไม่ได้กลับครับ” คนขับคุยกับปลายต่อ
นายมะยมหันหน้ากลับมามอง...ข้างหน้าต่างทางฝั่งตัวเอง พลางฟังคำที่คนขับพูดไปเรื่อยๆ----ตลอดจบการสนทนาฟังดูก็เหมือนกับถามสารทุกข์สุกดิบกันทั่วไป....
......
.....
....
...
..
.
เมื่อรถเคลื่อนเข้ามาสู่ถนนใหญ่ นายมะยมจึงตัดใจถามอีกฝ่าย “เมื่อกี้พี่คุยกับพ่อพี่เหรอครับ?”
“ครับ....” นายภักดีเว้นไปสักพักจึงเอ่ยถามบ้าง “ทำไมเหรอครับ?”
“คราวก่อนพี่บอกว่า....พ่อพี่....” นายมะยมไม่รู้จะใช้คำไหนดี
“อ้อ...ที่ผมบอกว่าท่านไม่ชอบที่ผมเป็นแบบนี้ใช่มั้ยครับ?” นายภักดีเหมือนนึกออกแล้ว
“ครับ...แต่ก็ยังคุยได้เหรอครับ?” นายมะยมพูดพลางหันหน้าไปมองทางฝั่งคนขับตลอดเวลา
“ครับ...อันที่จริง พ่อผมเค้าไม่ชอบเห็นหรือรู้เรื่องคนที่ผมคบด้วยน่ะครับ แต่ยังไงผมก็ยังเป็นลูกชายคนนึง เราก็คุยกันได้ปกติครับ เสียแต่ว่าอย่าพูดเรื่องแวดวงเรากับพ่อผม ท่านก็จะอารมณ์เป็นปกติ” นายภักดีบอกกล่าวแก่อีกฝ่าย
“แล้วพี่ได้ไปเยี่ยมพ่อพี่บ้างไหมครับ?” นายมะยมยังอยากรู้ต่อ
“ไปบ้างครับ แต่นานๆ ที ทำงานแล้วก็เหนื่อยครับ ขับไปๆ มาๆ ทุกอาทิตย์ไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะคบกับคุณ ผมก็กลับไปช่วง วันหยุดยาวๆ น่ะครับ” นายภักดีบอก
“อ้าว...งี้ตั้งแต่คบกับผมพี่ก็ไม่เคยกลับบ้านเลยน่ะสิ?” นายมะยมเร่งเสียงดังขึ้น...เขาจำได้ว่า ตั้งแต่คบกันเป็นแฟนมานี้ ไม่มีครั้งไหนเลยที่อีกฝ่ายจะบอกกับเขาว่า กลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้าน
“ครับ...” นายภักดีพูดเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่
“แล้วเมื่อกี้ พ่อพี่ถามว่าวันหยุดสองวันนี้พี่จะกลับบ้านมั้ยใช่รึเปล่า?” นายมะยมถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ
“ครับ...” นายภักดียังคงพูดเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่..เช่นเดิม
“กลับไปเลย!” นายมะยมไล่ส่ง
“หึหึหึ....พี่รักเค้ากลับไปอยู่ครับ แทนกันได้ครับคุณ” นายภักดีพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า พ่อพี่เค้ามีลูกชายฝาแฝดนะ ไม่ใช่มีลูกชายคนเดียว!” นายมะยมบอกเสียงเข้ม
“ก็บอกไปแล้วนี่ครับว่าไม่กลับ ผมว่าจะกลับไปตอนปีใหม่ทีเดียว” นายภักดีแจงให้นายมะยมทราบ
“อยุธยาใกล้แค่นี้เอง พี่ไปกลับก็ได้ ค้างสักคืนก็ไม่เหนื่อยมาก ถ้าไม่อยากขับเอง ให้ผมขับไปส่งไปรับก็ได้ แต่พรุ่งนี้พี่กลับไปเลยนะ!” นายมะยมยังยืนยันเสียงแข็ง
“........” อีกฝ่ายไม่ตอบรับและไม่ตอบปฏิเสธ
นายภักดีใช้ความเฉยของตัวเองสู้กับนายมะยม...ไปตลอดทาง....และตลอดคืน
......
.....
....
...
..
.
-
เห็นทอล์คของคุรเบาๆแล้วแอบกลัว
แต่ก็นะคะ เราต้องยินดีรับกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ทุกคนมีเส้นทางเป็นของตัวเอง
ไม่มีใครที่จะสุขสมหวังไปตลอดชีวิต
ไม่งั้น ชีวิต มันจะเป็น ชีวิต เหรอ อิอิ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
-
......
.....
....
...
..
.
ร่างของคนสองคนวิ่งเหยาะเคียงกันอยู่ในสวนหย่อมแห่งหนึ่งในยามที่ฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้น แต่ยังไม่มีแสงแดดส่องแสง....
อากาศเย็นชื้นบ้าง เพราะเมื่อคืนมีฝนพรำลงมาทั้งคืน
ภาพเดิมๆ ที่เหมือนฉายซ้ำไม่รู้จบของใครหลายคนในบริเวณนั้น.... คนสวมชุดวอร์มทั้งชุดแถมยกฮู๊ดขึ้นมาคลุมหัวกับชายร่างบึกกว่าแต่อีกฝ่ายสวมแค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น
ในสายตาของคนหลายคู่ที่ผ่านมาเห็น....ฉีกยิ้มนิดๆ กับภาพนั้น
แรกเริ่มคนที่สวมเสื้อยืดวิ่งไม่ทันกับคนที่สวมชุดวอร์ม....ทว่าไม่นานนัก หรือว่านานก็ไม่รู้ ทุกสายตาไม่ได้ใส่ใจ...แต่เมื่อรู้สึกทั้งสองคนนั้นก็วิ่งทันกันแล้ว
มันเป็นภาพที่ธรรมดาสามัญ แต่ผู้ที่เฝ้ามองมาตลอดต่างอมยิ้มทุกครั้งที่เห็นคนสองคนนั้นวิ่งเหยาะ เคียงกันไป----ยิ้มเพราะนึกไปถึงวันที่...วิ่งตามไม่ทัน แล้วคนที่สวมเสื้อยืดยืดหอบหักอยู่กับที่
......
.....
....
...
..
.
“ครบแล้ว!” นายมะยมร้องบอก ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนจากวิ่งมาเดิน.... ไม่ควรหยุดในทีเดียว เพราะเราจะเหนื่อยมาก
นายภักดีผ่อนจังหวะฝีเท้ามาเป็นก้าวเดินไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่วนไปวนมาในสวนหย่อม...เคียงข้างกับนายมะยม
“สรุปไปเหอะนะ นะ นะ” นายมะยมเปิดฉากไล่อีกฝ่ายต่อ หลังจากที่พักฉากแล้วนอนไปเมื่อคืน
“.....” นายภักดียังคงเงียบ
“เฮ้อ..........ดื้อ!” นายมะยมว่าเข้าให้ด้วยความสุดกลั้น
“คุณต่างหากล่ะที่ดื้อ!” นายภักดีย้อนให้
“งั้นไปทะเลกัน!” นายมะยมตัดใจแล้วที่จะไล่ให้อีกฝ่ายกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่
“ไป...ยังไง?” นายภักดีหันหน้างุนงงไปมองอีกฝ่าย
“ไอ้ศรมันชวนไว้ตั้งแต่เมื่อวานครับ มันจะพาน้องเพื่อนน้องมันเช่ารถตู้ไปกัน เหมือนคราวนั้นที่ผมเล่าให้ฟังไง ที่เช่ารถไปเที่ยวเขาใหญ่อ่ะ” นายมะยมบอก
“มีใครไปมั่งครับ?” นายภักดีถาม...สนใจนิดๆ
“มีไอ้ศร ไอ้ศิลป์น้องไอ้ศร เพื่อนไอ้ศิลป์อีกห้าคนพวกแก๊งค์เต้นของมันอ่ะพี่ แล้วก็ไอ้กันกับแฟนมัน เท่านี้แหละ” นายมะยมไล่นิ้วให้ฟังจนครบ
“ฟังดูเหมือนว่ามันเต็มรถแล้วนะครับ” นายภักดีแย้ง
“ยังได้สิพี่ รถมันนั่งได้สิบสองคนรวมคนขับด้วย” นายมะยมบอก
“.....คุณอยากไป?” นายภักดีถามด้วยเสียงลังเล
“เฉยๆ ครับ แล้วแต่พี่” นายมะยมส่งยิ้มมาให้
“นั่งเบียดหน่อยผมก็เฉยๆ แต่ผมไม่ชอบไปกับคนที่ไม่รู้จักคราวละเยอะๆ มัน...ทำตัวไม่ถูกน่ะครับ” นายภักดีบอกอีกฝ่ายไปตรงๆ
“ก็ว่าแหละ เลยไม่รับปากมัน” นายมะยมพยักหน้ารับรู้...และเข้าใจ
“ถ้าคุณอยากไปเราไปกันเองก็ได้นะครับ” นายภักดีพูด...อย่างเอาใจ
“อืม.....มันก็ว่างเนอะ” นายมะยมลากเสียงยาวในลำคอ
“ไปกันมั้ยล่ะครับ? กินข้าวแล้วค่อยไปก็ยังทัน” นายภักดีเสริม
“งั้น....ให้ผมขับเฉาก๊วยพาพี่ไปเที่ยวได้ป๊ะล่ะ?” นายมะยมหันมาถาม
“ทะเล? เกาะ?” นายภักดีถาม
“ไม่บอก...ว่าแต่จะไปมั้ยล่ะครับ?” นายมะยมทำอุบอิบ
“หึหึหึ....” นายภักดีหัวเราะในลำคอ
“ไม่ปฏิเสธ...งั้นป๊ะ กินต้มเลือดหมูเสร็จแล้ว อาบน้ำไปกันเลยเนอะ” นายมะยมไม่เดินต่อแล้ว เขาคว้ามือของอีกฝ่ายมากุมและเดินจูงมือกันออกไปจากสวนหย่อม
......
.....
....
...
..
.
-
เฉาก๊วยย อืมมตอนแรกเห็นชื่อนี้คิดว่าอะไร
ที่แท้ก็บีเอ็มของพ่อมึงนี่เอง 5555
เค้าจะไปทะเลกันแล้วววว
-
เห็น talk ของคุณ BaoBao แล้วใจคอไม่ดี คู่นี้เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ อยากให้ได้ใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนที่วาดไว้
แต่ถ้ามีทางที่จะเป็นไป ก็น้อมรับ
แต่ขอถอนหายใจดังๆซัก 100 ที เฮ้อ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
-
:m17:ไหนๆคนเขียนก็เขียนมาถึงขนาดนี้. คนอ่านก็ตามอ่าน ตามเม้นท์กันจนนิ้วกุดแล้ว. อีกนิดนุง สู้โว๊ยยยยยยยยย :a1:
-
เมื่อเลยออกมาจากทางด่วน และเลยออกมาจากเมืองหลวง ถนนเริ่มเพิ่มเลนเป็นแปดเลน
และเมื่อออกมาจากถนนแปดเลน เส้นทางที่รถขับผ่านเริ่มดูสบายตาด้วยผืนนาและพุ่มป่า
นายภักดีมองทางไปตลอด เขารู้แค่ว่าตัวเองไม่ได้ถูกพาไปทะเล...
......
.....
....
...
..
.
รถยนต์ถูกขับต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีผ่อนความเร็ว เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่ใกล้ถึงที่หมายของคนขับ
นายภักดีมองภาพข้างทางไปเรื่อยๆ...นั่งฟังเพลงที่คนขับเปิดไปเงียบๆ
......
.....
....
...
..
.
วันพักผ่อน....ที่เขาได้พักจริงๆ
......
.....
....
...
..
.
รถวิ่งผ่านเส้นทางหนึ่งที่คุ้นตา
เขามองถนนเส้นหนึ่งซึ่งแยกจากถนนสายหลักและเป็นทางเข้าไปยังบ้านของตัวเองด้วยความรู้สึก...บางอย่าง แต่เขาไม่บอกคนขับ
......
.....
....
...
..
.
เขาปล่อยให้คนขับ ขับต่อไปอย่างเงียบๆ
......
.....
....
...
..
.
ราวสิบโมงแก่ๆ รถก็หักเลี้ยวเข้าไปยังถนนเส้นหนึ่ง...ซึ่งเหลือเพียงแค่สองเลน
......
.....
....
...
..
.
คันเร่งยังคงถูกเหยียบแรง และนำพาพวกเขาไปยังถนนลูกรัง
“พี่...ผมขอเหยียบได้ป๊ะ กลัวล้อติดหล่มอ่ะครับ” คนขับถามเขาทันทีที่ล้อเริ่มบนกับดินแดงของพื้นถนน
“ครับ ไว้ค่อยกลับไปล้างได้ครับ” นายภักดีบอก
“โอเค แต่เดี๋ยวขอหลบหลุมบ้างนะครับ พี่เมารถแล้วบอกผมนะ” คนขับแจ้งกับคนที่นั่งมาด้วยกันเป็นการเบื้องต้น
“ครับ” นายภักดีรับคำ
......
.....
....
...
..
.
“วันก่อนมานี่สินะครับ” นายภักดีเอ่ยถามอีกฝ่ายจนได้...เมื่อเขารู้สึกว่าคนขับ ขับหลบหลุมได้เป๊ะ...เหมือนกับว่าใช้ทางมาเส้นนี้มาก่อน
“ถูกต้อง!” คนขับพูดอย่างร่าเริงก่อนหลักวุ๊บ หลบหลุมใหญ่ข้างหน้าได้อีกหลุม “ช่วงล่างไอ้เฉาก๊วยเจ๋งอ่ะ” คนขับชมเปราะ
“ก็ต้องให้คุ้มค่าทำหน่อยสิครับ” นายภักดีบอก
“สิงห์สนามตัวจริงเลยน๊า ก่อนนี้เคยไปแข่งรถมะป๊ะเนี่ย?” นายมะยมแซว
“สมัยหนุ่มๆ น่ะครับ” นายภักดีบอก
“อุ้ย! ผมได้แฟนเป็นอดีตเด็กแว้นเหรอเนี่ย!” นายมะยมทำเสียงเหมือนตกใจมาก
“ผมเล่นรถยนต์ไม่ใช่เล่นมอเตอไซด์นะครับ!” นายภักดีท้วงด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายมะยมหัวเราะร่วน
......
.....
....
...
..
.
เสียงหัวเราะจากคนขับเงียบลงยังไม่ทันถึงอึดใจ รถยนต์ก็เลี้ยวเข้าไปยังทางแยกที่อยู่ขวามือ
......
.....
....
...
..
.
ล้อสี่ล้อบดกับดินลูกรังไปสักสิบนาที เขาก็เห็นบ้านหลังหนึ่งชูหลังคาเหนือร่มไม้ผืนใหญ่
......
.....
....
...
..
.
รถถูกพาเข้าไปในรั้วลวดหนามที่ติดตึงด้วยท่อนไม้เป็นระยะ... แสดงอาณาบริเวณของบ้านแห่งนี้ในแบบชาวบ้านๆ
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีมองทุกสิ่งด้วยใจระทึก...ผิดจากปกติ
เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งบอกกับเขาว่า ไปบ้านที่ต่างจังหวัดมา...และระยะเวลาที่ขับมาที่แห่งนี้ เหมือนเท่าๆ กับที่เขารออีกฝ่ายกลับมาในคืนนั้น
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีหันไปจ้องหน้าของคนขับนิ่ง
สักพักใหญ่ คนขับก็จอดรถและหันมาส่งยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะเอ่ยปากบอกว่า “ถึงแหละ พร้อมรึยัง?”
“บ้านคุณ?” นายภักดีไม่แน่ใจว่าใช่บ้านของอีกฝ่ายรึเปล่า เพราะเขาจำได้ว่าคนคนนี้เหลือแค่ตัวคนเดียวแล้ว ทว่า ในบ้านที่อยู่เบื้องหน้ารถยนต์คันที่เขานั่งมานี้ มีคนเดินออกมา...และหลายคนด้วย
“บ้านลุงผมครับ บ้านผมอยู่ข้างหลังกันไปนี่เอง ไปทักทายลุงกับป้าผมก่อนนะ เดี๋ยวผมจะพาไปดูบ้านผมต่อ” นายมะยมบอกเขา
“แล้วคุณจะบอกว่าผมเป็นใคร?” นายภักดีกะเตี๊ยมกันไว้ก่อน
“อ๋อ เมื่อวานซืนบอกผมมาบอกไว้แล้วว่าจะพาหลานสะใภ้มาไหว้” นายมะยมยักคิ้วให้...อย่างกวนบาทา
“บอกด้วยมั้ยล่ะครับว่าหลานสะใภ้เป็นผู้ชาย?” นายภักดีต่อความให้
“บอกแหละ” นายมะยมฉีกยิ้ม...แบบผู้ชนะ
“คุณนี่! เหลือเกินจริงๆ ไม่มีบอกกันให้เตรียมใจเลย ทั้งบ้าน ทั้งนี่” นายภักดีดุ...เหมือนเล่นๆ ไม่จริงจัง
“ก็อยากเห็นหน้าแบบเนี้ยะ.....” นายมะยมจับที่ปลายคางของแฟนตัวเองเล่น “น่ารักดี”
นายภักดีปัดมือของอีกฝ่ายออกไป เมื่อหางตาเห็นว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ตัวรถมากแล้ว
......
.....
....
...
..
.
-
ฮ่าๆ
น่ารักดีอะ
แต่นึกถึงช่วงทอล์กทีไรแล้ว ......
-
ฮ่าๆ
น่ารักดีอะ
แต่นึกถึงช่วงทอล์กทีไรแล้ว ......
ต้องถอนหายใจหนักๆออกมาใช่ป่ะ คุณ Rafael
-
ไม่เกี่ยงหรอกค่ะว่าจะหน่วง อึน ซึน มึน เศร้า
ยังไงก็ติดตาม กด f5 บ่อยที่สุดก็เรื่องนี้แหละ
ตามติดแทบจะเหยียบส้นเท้ากันเลยทีเดียว
สนุกทั้งเนื้อเรื่องและอารมณ์ร่วมของคนอ่าน
ขอบคุณคนเขียนที่ขยันเหลือเกิน
-
ยังไงก็อยาสลืมนะคะ
เรื่องนี้ แนว น่ารัก ไม่ปวดหัวใจ :))
-
เปิดตัวสะใภ้แว้วววว จะเกิดอะไรขึ้นบ้างน้อ
ลุ้นๆๆ แต่บ้านนี้คงชิวอยู่ม้าง
คุณเบาๆ สู้ๆ สู้ตาย ไว้ลาย สู้ๆ
:ped149:
-
:m15:“ก็อยากเห็นหน้าแบบเนี้ยะ.....” นายมะยมจับที่ปลายคางของแฟนตัวเองเล่น “น่ารักดี”. น่ารักโน๊ะะะะะะะ :m15:
-
อ่านทอล์คของคุณเบา เบา
แล้วเราก็ถอนใจ
เข้าใจนะคะว่าชีวิตจริงมีกันทุกรสชาติ
สุข ทุกข์ เศร้า เหงา เสียใจฯลฯ
ไหน ๆ ก็ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว
เรารักตัวละครในเรื่องนี้มาก
อินไปในทุกตัวอักษร
สุขเราก็ยิ้มตาม เศร้าเราก็น้ำตาซึม
กดรีเฟรชในทุกครั้งที่เราเข้ามาดูตอนคุณลงตอนใหม่
ตามติดยิ่งกว่าเรื่องไหน ๆ ที่เคยอ่านมา
ไม่ว่าคุณเบา เบา จะเขียนต่อในทิศทางใด
เราก็จะตามอ่านจนจนจบค่ะ
อย่าเครียดเลยนะคะ :กอด1:
-
......
.....
....
...
..
.
“สวัสดีครับ ป้าเย็น” นายมะยมยกมือไหว้แล้วเดินเข้ากอดหญิงกลางคนคนหนึ่งที่เดินยิ้มมาทางพวกเขา
“ป้ายังคุยกับไอ้เฒ่าอยู่เลยว่าหยุดสองวันนี้ พ่อยมจะมาเที่ยวบ้านมั้ยน๊า เนี่ย เคี้ยวหมากยังไม่แหลก พ่อก็มาแหละ” ป้าเย็นบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“พี่มานี่ครับ” นายมะยมกวักมือเรียกนายภักดีที่ยืนยิ่งอยู่ตรงประตูในฟากของตนเอง แล้วหันไปพูดกับป้าของตนเองต่อ “นี่แฟนผมครับ ที่เล่าให้ฟังเมื่อวันก่อน หลอกเอาตัวมา ไม่ได้บอกเค้าหรอกว่าจะพามาเยี่ยมป้าเย็นกับลุงหมาย”
“โธ่ พ่อยมนี่!” ป้าเย็นตีแขนหลานตัวเองแทนการทำโทษ แล้วหันหน้าไปหาผู้ชายอีกคนที่ตัวขาวจั๊วะ “พ่อไม่ต้องเกรงใจนะ ถือว่ามาเที่ยวบ้านนอกก็ได้ มะ มะ กินข้าวกลางวันกัน ป้ากำลังย่างปลาค้างไว้อยู่เลย ต้องรีบกลับไปดู เดี๋ยวมันไหม้ ไอ้เฒ่ามันจะโวยเอา”
ป้าเย็นพูดจบก็เดินกลับไปยังตัวบ้าน
นายภักดียังยืนกับที่เพราะมีชายอีกคนที่ยังไม่ถูกแนะนำให้เขาได้รู้จัก
“พี่ศักดิ์ นี่แฟนผมครับ น่าจะอายุเท่าพี่ล่ะมั๊ง พี่ภัก นี่ญาติผู้พี่ผมชื่อพี่ศักดิ์ แล้วตัวเล็กนั่นก็น้องบัว ลูกสาวพี่ศักดิ์ครับ” นายมะยมหันมาแนะนำ
“ไหว้น้ามะยมรึยังบัว” นายศักดิ์ก้มหน้าบอกลูกสาวตัวเอง
น้องบัวโผล่หน้าออกมาจากขาของพ่อ และยกมือไหว้แบบ...นางสาวไทย
“โรงเรียนเค้าสอนมาดีครับ ไหว้ทีจะเต็มยศ ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายมะยมแซวหลานสาวตัวเอง
น้องบัวเขินที่รู้ว่าตัวเองถูกเอาไปหัวเราะเยาะเลยวิ่งตื้อกลับเข้าไปในบ้านทันที
“มึงนะ ไอ้ยม ลูกกูยิ่งขี้อายอยู่” นายศักดิ์บ่นอุบ
นายภักดีรอจังหวะที่จะยกมือไหว้อีกฝ่าย...ถึงอาจอายุเท่ากันแต่เขาก็ไหว้ด้วยความเคารพว่าคนนี้เป็นญาติผู้พี่ของนายมะยม
“โหย ไม่ต้องไหว้ครับคุณ ไอ้ยมบอกว่าคุณแก่กว่ามันหกปี งั้นคุณก็เท่าๆ กับผม....ยินดีทีได้เจอตัวครับ” นายศักดิ์ยื่นมือมาทางเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
นายภักดียื่นมือไปจับกับอีกฝ่ายทันที “ครับ เช่นกันครับ”
“ว๊า......คุณสุภาพเหมือนที่ไอ้ยมบอกเลย แต่อย่าถือนะ ผมมันคนโผงผาง ไม่ใช่คนเถื่อนอะไร หากพูดห้วนๆ ไปก็ขอโทษล่วงห้ด้วยนะครับ” นายศักดิ์ออกตัวก่อน
“คุณศักดิ์ตามสบายเถอะครับ ผมไม่ได้ถืออะไร” นายภักดีออกตัวบ้าง
“นั่นไง แค่คุณก็คันแหละ” นายศักดิ์พูดจบก็หัวเราะร่วน
“เอ่อ...” นายภักดีพูดไม่ถูก... เพราะไม่เคยเรียกใครห้วนๆ มาก่อน ถึงพี่รักพี่ชายฝาแฝดตัวเองจะพูดในแบบคล้ายๆ กันนี้ แต่ไม่รู้อย่างไร เขาถึงติดใจกับการเรียกคนอื่นว่าคุณไว้เสมอ...ก็ไม่ทราบได้
“มันล้อเล่นครับพี่ อย่าไปเอาสาระกับมัน ป๊ะ หอมปลาแหละ กินข้าวกันดีกว่า” นายมะยมพูดพลางยื่นแขนมาดันหลังเขาให้เดินเข้าไปในเขตของบ้าน
......
.....
....
...
..
.
ตั้งวงทานข้าวมื้อกลางวัน...โดยมีลุงหมาย ป้าเย็น คุณศักดิ์ น้องบัว นายมะยมและเขามุงกันเป็นวงกลมอยู่บนแคร่ขนาดใหญ่
ลุงและป้าของนายมะยมซักถามบ้านเกิดและหน้าที่การงานกับเขาตามความเหมาะสม และนอกนั้นก็คุยกันเรื่องทั่วไป
ครอบครัวนี้เลี้ยงวัวเป็นอาชีพ และปลูกข้าวไว้กินกันเอง ส่วนต้นไม้ที่เห็นไปทั่วบริเวณรั้วบ้าน ก็ปลูกไว้เก็บกินเอง เหลือจึงแบ่งปันเพื่อนบ้าน
นายภักดีฟังผู้ใหญ่เล่าอดีตของนายมะยมไปพลางค่อยๆ ละเลียดกินข้าวกลางวันไป...อย่างไม่เร่งรีบ เพราะไม่มีใครรีบกินสักคน
......
.....
....
...
..
.
ชีวิตของคนต่างจังหวัดที่อยู่เลยออกมาจากตัวเมือง อยู่โดยอิงไปตามธรรมชาติ...ใช้นาฬิกาแดดแทนนาฬิกาเฟือง แดดร่มก็ทำงาน แดดจ้าเกินไปก็หลบเข้ามาในบ้าน
น้ำประปามีใช้ แต่ก็มีโอ่งใหญ่ไว้รองรับน้ำฝนเรียงยาวไปตามความยาวของบ้านไม้ที่ตั้งเสาสูง
บ้านที่อยู่กันชั้นเดียวคือชั้นบน ส่วนด้านล่างใต้ถุนนั้นมีไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ อาธิ ทำกับข้าว นอนกลางวัน จักรสานกระบุง และแม้กระทั่งถักแห
ปลาที่กินกันนี้ ไม่ได้ซื้อ ลุงหมายไปเหวี่ยงแหได้มา...เลือกไม่ได้ว่าวันนี้จะได้กินอะไร เสี่ยงเอาตามโชค----วันนี้นายภักดีโชคดีที่ได้ปลานิลมาย่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงลำบากใจว่าจะบอกพวกเขาอย่างไรดีว่าตนไม่กินปลาที่มีก้างเยอะ
......
.....
....
...
..
.
กินข้าวเสร็จ นายภักดีเดินเอาจานไปล้างกับนายมะยม....อันที่จริงพวกเขาจะไม่ให้ทำเสียด้วยซ้ำ ดีที่นายมะยมช่วยบอกให้ จึงได้ล้างจานแทนค่ากับข้าวที่กินไปซะพุงกลางของเขาบ้าง
......
.....
....
...
..
.
อ่างล้างจานของบ้านนี้ มีแค่กาละมังสามใบและตะกร้าใบใหญ่หนึ่งใบ....ตั้งอยู่ตรงระยะช่วงกึ่งกลางของความยาวบ้าน เถิบออกไปจนเกือบพ้นหลังคาที่ยื่นยาวเผื่อออกมาเป็นร่มให้กับตัวบ้าน
เขานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ พอดีก้น... ข้างๆ กับนายมะยมที่จองกาละมังน้ำยาล้างจาน
นายมะยมเอาฟองน้ำลูบจานแล้วหย่อนมันลงกาละมังหนึ่ง
นายภักดีจุ่มมือลงไปในน้ำแล้วเอาจานมาลูบๆ คราบน้ำยาจนพอใจก่อนที่จะเอามันหย่อนลงไปยังกาละมังน้ำเปล่าอีกใบ
“แช่ไว้อย่างนั้นก่อนครับ เดี๋ยวค่อยเอาไปคว่ำในตะกร้า” นายมะยมบอก...
“ก็ล้างไปทีละใบสิ บ้านผมก็ทำแบบนี้” นายภักบอก
“เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปทำ” นายมะยมยืนยันคำเดิม
“คุณนี่แปลก!” นายภักดีบอก...แต่ก็ยอมทำตาม
......
.....
....
...
..
.
ล้างน้ำหนึ่งจนครบหมดแล้ว นายมะยมจึงหยิบเก้าอี้ของตัวเองมาวางข้างๆ เขา..ตรงหน้าตะกร้า “พี่ไปนั่งนั่นป๊ะ”
“ทำไมล่ะ?” นายภักดีไม่เข้าใจ แต่ก็ลุกไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวตามที่นายมะยมบอก
นายมะยมเดินไปนั่งที่เก้าอีกซึ่งเขาเพิ่งลุกขึ้นมา
“โอ้ย! ไอ้คู่นี้มันน่าดูชมเนอะ! นั่งกินข้าวก็ต้องนั่งข้างกัน นั่งล้างจานก็ยังจะนั่งข้างกันอี๊ก” ลุงหมายเดินหัวเราะร่วนมายื่นผ้าให้นายภักดี
นายภักดีรับผ้าสีขาวมาแบบงงๆ ....ด้วยใบหน้าร่อนผ่าว
“ไอ้เฒ่า! รู้ว่าพ่อภักแกขี้อายยังไปแหย่เค้าอีกนะ! เดี๋ยวเหอะ! เดี๋ยวเค้าไม่มาหาเอ็งอีกอย่ามาบ่นเชี๊ยว!” ป้าเย็นเอ็ดเสียงดังตะโรมาจากแคร่ตัวเดิมที่นั่งทานข้าวกัน
ลุงหมายหัวเราะถูกใจและเดินเลยพวกเขาเข้าไปในสุมทุมพุ่มไม้...หลังบ้าน
“เอาไว้เช็ดจานก่อนคว่ำครับพี่” นายมะยมบอกเขา
“อื้อ....” นายภักดีรับคำในลำคอแล้วเอาใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองกลับมา...รับจานไปจากมือของนายมะยม
“ลุงหมายแกชอบแหย่คนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” นายมะยมพูดพลางก้มหน้าลงไปเอามือรูดจานในน้ำ และยกขึ้นมาใช้นิ้วลูบจนได้ยินเสียงปื๊ดๆ แล้วจึงยื่นมาทางเขา
“อื้อ....” นายภักดีรับคำในลำคอ...ยังอายไม่หาย จึงนั่งเช็ดจานไปพลางฟังเสียงนายมะยมหัวเราะเยาะในลำคอไปพลาง...นิ่งๆ ไม่แสดงอาการ
......
.....
....
...
..
.
-
พ่อมึงก็น่ารักเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ
ถ้าเป็นอย่างคนข้างล่างว่า
ก็อ่านต่ออย่างสบายใจล่ะครับ
vvv
vv
v
v
-
แหะ...ขอโทษที่พาหน่วงนะคะ พอดีเราได้รับ pm จากคุณเบาเบาแล้ว
ไม่แน่ใจว่าให้บอกคนอื่นได้ไหมคะ? แต่ใบ้ให้ว่ามันทำให้เรายิ้มกว้างอะค่ะ
แบบว่า เราคิดมากกันไปเอง >______< ~ แฮ่ๆ
-
เฉาก๊วย = BM ไม่ X สินะคะ ฮาๆ เราเดาตั้งแต่ที่คุณภักถามแล้วว่าเอาเฉาก๊วยมาด้วยรึเปล่า
ตอนแรก คิดไปถึงหมา แต่ ...(นิ่งไปสองวิ) คุณภักกับเจ้าหัวลูกเจี๊ยบไม่ได้เลี้ยงหมานี่นาแล้วก็อืม...นิ่งไปอีกแว่บ แล้วก็ "อ่อ" ฮ่าๆ (แล้วนี่เราจะมาอธิบายกระบวนการคิดทำไม? กร๊าก)
เข้าเรื่องนะคะ สารภาพ กับเรื่อง รู้แล้ว เราไปอ่านมาตั้งแต่ตอนที่คุณเบาเบาลงไว้ใหม่ๆ แต่ไม่ได้เม้น เพราะ...
เม้นไม่ออกค่า ไม่รู้ว่าใครเป็นไหมแต่เวลาเจออะไรที่บีบความรู้สึกมากๆ หัวสมองมันจะประมวลอะไรออกมาไม่ได้ เราก็เลยตัดสินใจไม่เม้นเพราะถ้าเม้นมันจะไม่รู้เรื่อง (ขนาดเม้นตอนปกติยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย กร๊าก) หวังว่าคงไม่โกรธกันนะคะ
ตอนแรกเราว่าจะไม่พูดถึงแหละแต่พอได้มาอ่านเรื่องของมะยมที่โยงไปกับเรื่องนั้นแล้วทำให้เราได้รู้รายละเอียดอีกด้านเรางี้น้ำตาคลอเลยค่ะ จมูกแดงมาก แบบว่ากลั้น อดทนอ่าน อดทนอ่านไป อ่านไปให้จบ ฮือ โครตบีบเลยค่ะ ชอบนะ แต่ก็ไม่ชอบที่มันเศร้า (มากเกินไป) ซึ้งเกินไป ตรงเกินไป มันเป็นอะไรที่บีบความรู้สึกมากๆ เป็นความจริงที่ว่าคนเป็น ไม่มีทางสู้คนตายได้ จริงๆ ค่ะ ไม่มีทางที่คนเป็นจะมาแทนที่คนตายได้ ไม่มีเลย ความรู้สึกที่เรามีให้คนที่สูญเสียไปมันจะมีแต่คงอยู่ รึไม่ก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่มีทางลดลง ให้ตายเหอะ น้ำตาจะไหลอีกแล้ว
โคตรเศร้าเลยแม่ง (ขออนุญาตสบถไม่ไหวแล้วค่า บ้าเอ้ย)
เอาเป็นว่า กับเรื่องนี้เราขอบอกว่าเราไม่ผิดหวังนะคะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขเวลาที่เราได้อ่าน และจะมีความสุขมากเมื่อตัวละครในเรื่องมีความสุข ฮ่าๆ ที่สำคัญเรายึดมั่นกับคำที่คุณเบาเบาเคยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ปวดหัวใจนะคะ เราเชื่อ เพราะงั้นไม่ว่ายังไงก็จะไม่ผิดหวังจะติดตามต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ บวกหนึ่งนะคะ สู้ๆ :a2:
อีกอย่างได้รับคำยืนยันจากคุณ 맀..Lich✿ มาด้วยแล้ว เราก็เบาใจ ไปกับคุณเบาเบา ฮา (แอบมีเล่นคำบ้าง'ไรบ้าง ฮ่าๆ)
จะอมยิ้มแก้มตุ๋ยรอตอนต่อไปค่ะ !!!
ว่าแต่ว่านายมะยมล้างจานแล้วมีรูดเสียงดังปื๊ด... ป๊าด!!! แสดงว่าสะอาดมากๆ เลยนะคะ สุดยอด :laugh:
-
:กอด1:
สู้ๆ ค่ะ ตามต่อไป
-
:pig4:
-
:m15: :m15: :m15: ต้องเตรียมตัวทำใจ หรือป่าวคะ
-
:m17: :m13: :m26: :m3: o9 o9 o9 o9 o9 o9. เค้่าเสียใจ. พ่อมึงน่ารัก(อื้อ). เค้ากะซิบกันหลังไมค์ว่าhappy end. เค้าจะเอาตอนต่อไป อื้อๆๆๆๆๆๆ....
-
ถึงผู้เขียนที่รัก
ทีแรกพ่อกูก็เหมือนไม่ยอม แต่ก็โอเคแหละ ไม่มีปัญหา...ส่วนชื่อเจ้าบ้านกูอยากให้เป็นชื่อพ่อกูว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อน
“อืม...กู้คนนึง แต่ชื่อเจ้าของบ้านเป็นอีกคน มันจะยุ่งมั๊ง...ที่สำคัญ พ่อมึงเค้าจะรับเรอะ” นายศรเกาคางพลางคิด “
“นั่นแหละ เฮ้อ....” นายมะยมถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“ถึงบ้านมันไม่ใช่รถ แต่ยังไงมันก็เป็นทรัพย์สิน มึงลองคุยกับพ่อมึงดีๆ ก่อน คุยกันแล้วเค้าอาจรับก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก.... หากเค้าไม่รับมึงก็จดชื่อเป็นเจ้าของบ้านร่วมกันไปเลย” นายศรเสนอทางเลือกเพิ่มให้อีกทาง
จากท่อนความนี้ คืออยากแชร์ความรู้กับผู้เขียนว่า เจ้าบ้านกับเจ้าของบ้านไม่เหมือนกันนะคะ เราสามารถเป็นเจ้าบ้านได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของบ้าน แล้วการเป็นเจ้าบ้านไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น เช่นเราอาจมีเงินซื้อบ้านได้หลายหลังแต่เป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้านได้เพียงหลังเดียว ส่วนหลังอื่นๆ ที่ซื้อมาอาจให้ใครเป็นเจ้าบ้านก็ได้ ส่วนการจดชื่อร่วมทำไม่ได้ค่ะถ้าเรากู้แบงค์ซื้อบ้าน บ้านจะต้องเป็นของคนกู้เพียงคนเดียวไม่สามารถเพิ่มเจ้าของร่วมไปได้ เว้นแต่ว่าจะกู้ด้วยกัน
อยากให้เรื่องที่แต่งมีความสมจริงค่ะ
-
มีหลังไมค์กันด้วย ฮี่ฮี่
ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยนึง ฮาาา
ตามกันต่อไป ฮิ้ววว
-
......
.....
....
...
..
.
“ป้า ขอกุญแจด้วยครับ จะพาพี่ภักไปดูบ้าน” นายมะยมเดินไปแบมือหน้าป้าเย็น
ป้าเย็นวางหยุดมือและทำท่านึก.... “อยู่ในกล่องแฮ๊กซ์ในตู้บนบ้านแหละพ่อยม เดินไปเอาเองไป๊ ป้าขี้เกียจเดินขึ้นเดินลง หัวเข่ามันไม่ค่อยดี”
“ครับ..พี่ภักเดี๋ยวผมมานะ” นายมะยมหันมาบอกเขาก่อนที่จะวิ่งตึกตึกขึ้นกระไดบ้านไป
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีนั่งลงตรงข้ามกับป้าเย็น “ป้าทำอะไรเหรอครับ?”
“แกะเม็ดมะรุมน่ะพ่อ” ป้าเย็นบอก
“แกะไปทำไมเยอะแยะล่ะครับ” นายภักดีได้เรื่องชวนคุย
“มีคนมาขอซื้อบ้างน่ะพ่อ เค้าว่าจะเอาไปทำยา เนี่ย หลังบ้านพ่อยมเค้ามีเต็มเลย เดี๋ยวพ่อยมคงพาพพ่อภักไปดูล่ะจ้า ไอ้นี่มันชอบอวด ประเดี๋ยวพ่อเอาร่มไปด้วยนะ เกิดมันนึกครึ้มพาเดินไปเที่ยวนาน่ะ พ่อจะเป็นลมเป็นแล้งเอา” ป้าเย็นพูดด้วยความห่วงใย
“ผมไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอกครับ” นายภักดีบอกกับหญิงวัยกลางคนด้วยใบหน้าอมยิ้ม
“คนเมืองกรุง อยู่แต่ในตึก ไม่ค่อยได้ออกมาเจอแดด อาจไม่รู้ แดดบ้านนอก ตรงที่นามันแรง พ่อภักเอาติดมือไปน่ะดีแล้ว ยังไงก็เผื่อฝนตกล่ะนะ” ป้าเย็นบอก
“ครับ” นายภักดีรับคำ
“พ่อแม่พ่อภักยังสบายดีมั้ยล่ะ ป่วยไข้อะไรมั้ย?” ป้าเย็นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอารีย์
“ก็มีโรคคนแก่บ้างครับ แต่ไม่หนักหนาอะไร” นายภักดีตอบ
“อยู่อำเภอใกล้ๆ กันนี่เองเนอะ โลกมันกลมเสียจริง นี่ขากลับพ่อภักจะแวะไปที่บ้านรึเปล่าล่ะ?” ป้าเย็นถาม
“คงไม่ล่ะครับ กว่าจะได้ออกจากนี่คงเย็น ไปถึงบ้านฝนค่ำๆ กลัวว่าท่านจะไม่สะดวก” นายภักดีบอก
“ฮ๊าย...ลูกไปหาทั้งที คนเป็นพ่อเป็นแม่มีอะไรไม่สะดวกรึพ่อภัก? ถ้าอยากไปก็ไป อย่าไปคิดมาก คนแก่อย่างป้าน่ะนะ แค่ได้เห็นหน้าลูกหน้าหลาน ได้รู้ว่าอยู่ดีมีสุข เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ” ป้าเย็นบอก
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมดูเวลาก่อน ถ้าออกไม่เย็นมากนักคงได้แวะไป” นายภักดี...โกหกไปคำโต
......
.....
....
...
..
.
บางเรื่อง...มันก็ยากที่อธิบาย
บางเรื่องถึงบอกไป...ก็เกรงว่าผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจ
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีเดินตามหลังนายมะยมไปเรื่อยๆ จนเดินมาถึงบ้านที่ร้างหลังหนึ่ง
บ้านไม้เหมือนกับของป้าเย็นและลุงหมาย เสาสูง บันไดชัน และตัวบ้านที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ซึ่งอยู่...ชั้นบน
“โห มีแต่ฝุ่น สงสัยพายุปีนี้จะแรงแฮะ” นายมะยมพูดพลางเอาไม้ที่กั้นทางขึ้นลงบันไดบ้านออก แล้วก้าวขึ้นนำขึ้นไป
นายภักดีเดินตามหลังไปในระยะเว้นสองขั้นบันได
......
.....
....
...
..
.
เมื่อประตูเปิด นายภักดีจึงเห็นภายในของบ้านหลังนั้น... ทุกสิ่งยังคงเหมือนมีผู้อาศัย ไม่มีผ้าคลุมไว้ ไม่มีกล่องอะไรให้ระเกะระกะ
หยากไย่มีให้เห็นบ้าง...แต่ไม่มากอย่างที่เขาคิดไว้เมื่อแรกเห็นบ้านหลังนี้จากภายนอก
ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้าน เขารู้สึกเย็นนิดๆ ผิดกับตอนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงบ้าน...ที่ว่าก็เย็นผิวในระดับหนึ่งแล้ว
“ตอนคุณอยู่คงแทบไม่ต้องเปิดพัดลมเลยสินะครับ” เขาเอ่ยถามพลางเหลียวมองนั่นนี่ด้วยความ...สนุก ความรู้สึก-----คล้ายกับมาเปิดกรุสมบัติ...ของคนอื่น
“เวลาหน้าร้อนก็เปิดนะ อันที่จริงหน้าอื่นก็เปิด แต่พ่อกับแม่ชอบมาปิด” นายมะยมบอกให้ฟัง
“หึหึหึ...ในบ้านนี้มันเย็นแล้ว นั่งตากพัดลมมากๆ มันจะเป็นหวัดได้นะครับ” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
“พี่พูดเหมือนพ่อแม่ผมเลย” นายมะยมบอกแต่ไม่หันหน้ามาทางเขา เพราะยังวุ่นอยู่กับการเปิดประตูบานหนึ่ง
......
.....
....
...
..
.
แอ๊ด---เสียงประตูบานนั้นเปิด
ภาพวิวของที่นาซึ่งมีผืนติดๆ กันขนาดใหญ่ปรากฏสู่สายตาของนายภักดี ลมเย็นพัดวูบมาโดนตัวเขา และไล้เหงื่อที่ซึมอยูกับผิวของเขาให้เหือดแห้ง...ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ
นายมะยมไม่รู้ไปเอาผ้าจากที่ไหนมาเช็ดที่พื้น ก่อนจะเรียกเขาให้ไปนั่งห้อยขาอยู่ตรงประตูบานนั้น
นายภักดีเดินไป และชโงกดู...ด้านล่างไม่มีอะไรเลย มันเห็นพื้นดินที่อยู่ด้านล่าง ชวนให้เสียวไส้พิกล “มัน....”
“มานั่งน่า ไม่ตกลงไปหรอก ผมนั่งบ่อยไป” นายมะยมกระตุกมือเขาหยิกๆ ...ให้ลงมานั่งห้อยขาด้วยกัน
“มันเสียวตกน่ะครับ......ผมนั่งตรงนี้ดีกว่า” นายภักดีบอกพลางเดินถอยหลังมาก้าวหนึ่งและกะว่าจะนั่งยองๆ ที่ตรงนั้น
“พี่อ่ะ มานั่งนี่” นายมะยมยึดข้อมือของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย....และแก้มเริ่มป่อง
“เฮ้อ-----” นายภักดีถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินไปตรงนั้น ไม่มองลงไป และค่อยๆ นั่งลง...ห้อยขาแบบอีกคน “คุณ...ช่วยจับผมไว้หน่อยนะ มันยังไม่ชินน่ะ” เขาบอกแบบเสียงสั่น...นิ๊ดนิ๊ด
“ฮึฮึฮึ...” นายมะยมหัวเราะในลำคอพร้อมกับสอดแขนมาโอบเอวของอีกฝ่ายไว้ ส่วนมืออีกข้างนั้น...คว้ามือที่มีสีผิวขาวกว่าของตัวเองมากุมไว้ตรงหน้าตัก
นายภักดีทำตาดุใส่....
“ไม่มีใครนิ” นายมะยมหาข้ออ้าง
“ถ้ามีใครมาต้องปล่อยนะครับ มันไม่ใช่ในห้องเรา” นายภักดีเตือน
“คร๊าบบบบ” นายมะยมรับคำเสียงยาน
......
.....
....
...
..
.
เขานั่งอยู่ในท่านั้น มองดูที่นาสีเขียวอ่อนพลางฟังอีกฝ่ายเล่าเรื่องตัวเองสมัยเด็ก... ตกบันไดเพราะเล่นเวิ่งขึ้นลงบันได โดนพ่อตีเพราะลูกจับปลาช่อนมาขังไว้ในถัง โดนแม่หวดเพราะเอารังนกกับไข่นกมาเก็บไว้ในบ้าน.....และอีกมากมาย
นายภักดีทั้งยิ้มทั้งขำกับสิ่งที่ได้ยิน
......
.....
....
...
..
.
“เคยบอกมั้ยว่าผมรักพี่” นายมะยมถามขึ้นมาดื้อๆ
“เคยได้ยินครับ” นายภักดีอมยิ้ม
“แล้วเคยได้ยินรึเปล่าว่าผมรักพี่ม๊ากมาก” นายมะยมถามต่อ
“หึหึหึ...ยังไม่เคยครับ” นายภักดีตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ
“เคยแล้ว” นายมะยมแย้ง
“เมื่อไหร่ล่ะครับ? ไม่เคยสักหน่อย” นายภักดีบอก
“เมื่อกี้ไง” นายมะยมยักคิ้วให้
“.....สมกับที่พ่อคุณบอกว่าปวดหัวกับลูกคนนี้นะครับ” นายภักดีว่าเข้าให้
“ฮื้อ... ตอนแม่เสียนะ พ่อจะบวชอยู่แล้ว แต่พ่อก็มีห่วงกับผมเลยไม่บวชเสียเดี๋ยวนั้น พ่อรอจนผมทำงานเองได้ ถึงค่อยทำตามที่ตัวเองต้องการ....ไอ้ศรก็เหมือนกัน ไอ้กันด้วย ไอ้ต้นไม้ด้วย ผมรู้นะว่าพวกมันก็ห่วงผมต่อจากพ่อผม” นายมะยมบอก
“คุณเป็นคนคิดน้อย แถมใจดีกับคนอื่นเขาไปทั่ว ชอบสงสารคนโน้นคนนี้...ไม่น่าห่วงไวเหรอครับ” นายภักดีเห็นด้วยกับเพื่อนๆ ของคนคนนี้
“พี่อ่ะ ปวดหัวกับผมป๊ะ” นายมะยมถามเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า....ต้องตอบด้วยเหรอครับ รู้เองแล้วล่ะมั๊ง” นายภักดีเล่นแง่
“ปวดหัวมากมั้ย?” นายมะยมถามต่อ
“ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายภักดีไม่ตอบแต่ขำแทน
“แล้วรักมากด้วยป๊ะ?” นายมะยมถามโต้งๆ
“รักมากสิครับ มากขึ้นทุกๆ วันเลยล่ะครับ” บางสิ่งเขาอยากบอก...บอกให้ชัดๆ บอกให้ทราบ บอกให้เข้าใจ
“เหมือนกันเลย” นายมะยมพูดด้วยน้ำเสียงเริงร่า
“งั้นขออะไรอย่างนึงสิครับ” นายมะยมบอกเขา
“อย่าบอกนะว่าจะขอแต่งงานน่ะ” นายภักดีเลิกคิ้ว...เป็นเชิงว่ารู้ทัน
“อันนั้นมันก็ใกล้เคียง...พี่ๆ บ้านที่ซื้อน่ะ เอาเป็นชื่อพี่นะ ผมให้” นายมะยมได้โอกาสบอก...พอดี
นายภักดีขมวดคิ้วสักพัก ก่อนจะเอ่ยปาก “มัน...ยุ่งยากครับ อย่าเลย”
“งั้นชื่อเราสองคน” นายมะยมไม่ยอม
“คุณกู้เงินซื้อบ้านนะครับ เรื่องมันจุกจิกเยอะ ใครกู้ก็ชื่อคนนั้นง่ายกว่าครับ” นายภักดีบอก
“ไม่เอาอ่ะ จะให้พี่อ่ะ” นายมะยมโยเย
“ถึงให้ก็ไม่เอาครับ” นายภักดีบอกปัดชัดถ้อยชัดคำ
“พี่อ่า ไหนว่ารักมากไง ขี้ปดอ่ะ” นายมะยมแก้มป๋องเต็มที่
“ผมก็ไปอยู่กับคุณอยู่แล้วนี่ครับ บ้านจะเป็นของคุณหรือผมไม่เห็นสำคัญเลย” นายภักดีพูดปลอบใจอีกฝ่าย
“แต่ขอพี่แต่งงานแล้วไม่มีอะไรให้พี่เลยได้ยังไงอ่ะ” นายมะยมบอกด้วยเสียงขัดใจ
นายภักดีฉีกยิ้ม “ให้ผมเข้าไปอยู่บ้านนั้นด้วย สำหรับผมมันเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตผมแล้วล่ะครับ”
“ก็อยากให้มันเป็นของเรา ไม่ใช่ของผมคนเดียวนี่นา” นายมะยมยังไม่ยอม
“แหวนสักวง ก็พอแล้วมั๊งครับ” นายภักดีต่อรอง
“อันนั้นจะให้อยู่แล้ว” นายมะยมทำปากจู๋
“นี่เหรอครับสิ่งที่จะขอกับผมถึงขนาดต้องผมพามาที่นี่” นายภักดีย้อนถาม
“ไม่ใช่ครับ” นายมะยมส่ายหน้า
“แล้วอะไรล่ะครับที่จะขอผม” นายภักดีเบียงประเด็น
“เนี่ย บ้านเนี้ยะ เป็นชื่อผมแล้ว ก่อนพ่อบวชพ่อยกทุกอย่างไว้ให้ผมหมดแล้ว พื้นที่ก็เท่าที่พี่เห็นนี้แหละ ผมมีวัวอีกยี่สิบตัว มันก็มีลูกเพิ่มมาทุกปีนะ แต่ตามธรรมชาติ ไม่ได้ไปเร่งอะไรมัน...แล้วก็มีที่นา ให้เค้าเช่า....พื้นที่มันรวมกันทั้งของพ่อของแม่ ราวๆ สิบไร่ได้” นายมะยมจ้องตากับคนที่รักด้วยใบหน้าจริงจัง
“แล้ว....” นายภักดีรู้สึกว่าอีกฝ่ายยังพูดไม่หมด
“เรื่องบ้านที่ซื้อผมยังไงก็ได้ จริงๆ แล้ววันนี้ผมอยากขอพี่อย่างนึงมากกว่า มันอาจไม่สำคัญสำหรับคนอื่น...หรือพี่ แต่ผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับผม ผมเคยไม่คิดถึงมันมาแล้วครั้งนึง ตอนที่พี่บอกว่าพ่อพี่ไม่ชอบในสิ่งที่พี่เป็น แต่พอไปงานศพของแฟนคุณวี...อันที่จริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกเขาหรอกครับ แต่พอกลับมาจากงานนั้น พอนึกถึงเรื่องของพวกเขา แล้วผมหยุดคิดถึง ‘สิ่งนี้’ ไม่ได้...” นายมะยมค่อยๆ พูดแต่ละคำให้เขาฟัง
“ ‘สิ่งนี้’ มันคือ...” นายภักดี...เริ่มอยากรู้
......
.....
....
...
..
.
-
:a5: มันคือ.....
-
มันคืออะไรล่ะค้าาาาา
อย่างค้างเติ่งแบบนี้สำคะคุณเบาๆขา
:serius2:
-
:z3:
ค้างอ่ะ มันคืออะไรคะ มะยม มาตอบด่วนนนน
-
ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่
-
คือ...............
-
คือ...................................อะไร?
ตามลุ้นติดจอจ้า
-
คุณเบาเบา
ส่งกำลังใจมาให้นะคะ :L2: พร้อมกอดแรงๆ :กอด1:
เรื่องนี้น่ารัก จึงมีความเชื่อเป็นส่วนตัว :man1:
ส่วนนายมะยมจะพูดอะไรกับพ่อมึงก้อให้ว่อง
ชาวบ้านเค้าอยากรู้อยากเห็นกันมากมายแล้ว ทิ้งไว้มันอึดอัดนะพ่อนะ
:z3:
-
......
.....
....
...
..
.
“ผมอยากขอให้พี่เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกันกับผม!” นายมะยมบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“.....” นายภักดีนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีคำตอบใดจากปากนายภักดี
......
.....
....
...
..
.
ไม่มีคำขอใดอีกจากปากนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
คนทั้งสองนั่งเหม่อมองที่นาสีเขียวอ่อนที่กว้างสุดตาเบื้องหน้า...และต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของแต่ละฝ่าย
......
.....
....
...
..
.
เป็นนานกว่าที่คนหนึ่งจะเอ่ยขึ้นมา
“แดดอ่อนแหละ ไปเดินเล่นที่นากันครับ” นายมะยมลุกขึ้นและชวน...พร้อมกับยื่นมือไปให้อีกฝ่าย
นายภักดีมองฝ่ามือที่มีสีผิวเข้มกว่าตัวเอง...นิ่ง
......
.....
....
...
..
.
นายภักดียื่นมือไปให้อีกคน...ฉุดตัวเองให้ลุกขึ้น
......
.....
....
...
..
.
เมื่อปิดประตูบานนั้นแล้ว นายมะยมก็เอามือของเขาไปกุม และจับมือนั้นจูงเดินลงไปจากบ้าน....
นายมะยมหยิบร่มที่นายภักดีถือติดมือมา...กาง และพานายภักดีเดินเลาะรั้วบ้าน จากนั้นจึงเดินเข้าสู่ผืนนาสีเขียวอ่อนสดชื่น
......
.....
....
...
..
.
พวกเขาเดินกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำพูดใด...มีแค่เสียงของนกกาซึ่งบินผ่านไปมา...เพื่อหากิน
......
.....
....
...
..
.
บางสิ่ง...อาจไม่สำคัญสำหรับคนอื่น
แต่บางสิ่งที่ว่านี้อาจสำคัญยิ่งกับคนคนหนึ่ง
หาก...ทางบ้านของเขาเป็นแบบญาติของนายมะยม นายภักดีคงไม่คิดมากขนาดนี้
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีตามความคิดของนายมะยมทัน... และซาบซึ้งกับความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้ตัวเอง
สิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิต เขาได้มันมากุมไว้ในมือแล้ว
และเวลานี้สิ่งนั้นกำลังเรียกร้องเอาจากเขาบ้าง...
......
.....
....
...
..
.
อย่าให้คิดถึงเรื่องทางกฏหมาย มันยุ่งยาก และซับซ้อน
แต่มันจะง่ายหากเป็นไปในทางกลับกัน....คือให้นายมะยมมาใช้นามสกุลของเขา
หากเป็นกรณีนี้ สิ่งที่ยุ่งยากกว่ากฏหมายคือ....พ่อของเขา
......
.....
....
...
..
.
“นั่นไง บ่อที่ผมชอบไปจับปลาตอนเด็กๆ ตอนนี้แห้งหมดแล้ว” นายมะยมชี้ให้เขาดูแท่งซีเมนส์ทรงกลมที่ซ้อนกันสามชั้น
“ไปนั่งตรงนั้นได้ไหมครับ?” นายภักดีชี้ไปที่เถียงนาหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ
“ร้อนแล้วเหรอครับ?” นายมะยมหันมามองเขาด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าครับ อยากนั่งคุยกันให้สบายหน่อย” นายภักดีบอกอีกฝ่าย
นายมะยมส่งยิ้มให้ แล้วเดินจูงมือเขาไปยังที่นั้น...
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมวางร่มโดยไม่หุบไว้ที่พื้น จากนั้นถึงมานั่งข้างๆ เขา...บนแคร่ตัวเล็ก
“ทำไมคุณถึงคิดว่าการที่ผมเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเดียวกับคุณ...มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ” นายภักดีเอ่ยถาม
“ผมไม่รู้เรื่องกฏหมายหรอกนะครับ ก็คิดเองง่ายๆ ว่าจะให้ลุงหมายรับพี่เป็นลูกบุญธรรม แล้วค่อยใส่ชื่อเราอยู่ในทะเบียนบ้านที่จะซื้อ ถึงแต่งงานกันไม่ได้ ถึงทำแบบนี้ก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ผมอุ่นใจ” นายมะยมบอกแบบซื่อๆ
“แล้ว...” นายภักดีรู้ว่าอีกฝ่ายยังบอกไม่หมด
“ผมแค่อยากหาอะไรหลายๆ มามัดเราให้ยุ่งอีรุงตุงนังกันไว้... ผมอยากให้บ้านนั้นกับพี่ อยากยกที่ดินที่ผมมีทั้งหมดให้พี่ ทั้งฝูงวัวนั่นด้วย ทั้งบ้านหลังนั้นด้วย” นายมะยมชี้ไปที่บ้านไม้หลังเก่า...ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิต
“เพื่ออะไรครับ?” นายภักดีถาม
“เพื่อให้เวลาหนึ่งในวันข้างหน้า วันที่เราอาจรักกันน้อยลง หรือวันที่ผมหรือพี่โมโหกัน วันที่เราอาจบอกเลิกกัน....เราจะได้บอกเลิกกันลำบาก” นายมะยมบอกในสิ่งที่ตัวเองคิด
“คุณ...คิดว่าจะมีวันนั้นเหรอครับ?” นายภักดีถามอีกฝ่าย
“สำหรับผม “ไม่มีทาง!”...แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เดิมทีใจจริงผมแค่อยากยกขันหมายไปสู่ขอพี่ จริงๆ นะ...ให้พ่อแม่พี่รับรู้ ให้เค้ารู้กันไปทั่วๆ เลย ทั้งทางบ้านผมนี่ แล้วก็บ้านพี่ด้วย... เวลาที่พี่โกรธผม จะได้มีคนช่วยพูดยั้งๆ เราไว้” นายมะยมบอกและหันมากุมมือทั้งคู่ของนายมะภักดีไว้ “แต่พอพี่เอาผมไปไหว้ทางบ้านพี่ไม่ได้ ผมเลยต้องหาวิธีอื่นเพราะผมอยากผูกมัดพี่ไว้กับผม ผมอยากมีสิทธิ์ในตัวพี่ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่อยากให้เราเลิกกันง่ายๆ แบบคู่อื่นๆ....แต่ผมก็โง่ ที่คิดอะไรซึ่งสามารถทำให้เป็นจริงได้มากกว่านี้ไม่ออก”
นายภักดีเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เมื่อ ‘ซึ้ง’ เมื่อได้รู้ถึงความคิดของคนคนนี้ “ถึงโง่ก็น่ารักครับ”
“มันพอทำได้มั้ยล่ะครับ? พี่สะดวกใจให้ตามที่ผมขอมั้ย?” นายมะยมอยากได้คำตอบแทบใจจะขาด
“คุณคิดไหมว่า หากให้ผมเปลี่ยนนามสกุลไปใช้ของคุณแล้ว เวลาทำงานคุณจะบอกใครๆ เขาว่ายังไง” นายภักดีถามอีกฝ่ายบ้าง
“คิดสิ! ผมว่าจะลาออก ไปเรียนทำขนม แล้วทำขนมส่งขาย...” นายมะยมบอกเสียงใส
“แล้วงานที่คุณทำมันไม่ดีกว่ารึไงครับ ได้เงินเท่าๆ กันเหนื่อยน้อยกว่าอีก” นายภักดีย้อนให้อีกฝ่ายคิด
“พี่รู้มั้ย? ก่อนนี้นะ ผมแค่ทำงานไปวันๆ ไม่เคยรักชอบอะไรกับงานที่ทำเลยสักนิด มันก็แค่ทำได้ครับ ทำแล้วก็สนุก ไม่ได้ต้องอดทนอะไรกับมัน...” นายมะยมบอกด้วยใจจริง
“คุณคิดน้อยไป” นายภักดีติเตือน
“ฮื้อ!...แต่เพราะพี่นะ ที่ทำให้ผมคิดถึงอนาคต...ดูเหอะ ทำเอาผมอยากซื้อบ้าน อยากลาออกมาทำขนมขาย อยากยกสมบัติให้ มันจะหนักหรือเหนื่อย แต่หากได้ทำเพื่อพี่ ผมเต็มใจทำนะครับ” นายมะยมบอกกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น...พร้อมบีบมือยาวนุ่มนั้น...แทนคำมั่นจากใจของตัวเอง
“........” นายภักดีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว เขาปลื้มสุดหัวใจกับความรู้สึกที่อีกฝ่ายบอกเขา
“ผมไม่อยากเป็นแฟนพี่แล้วอ่ะ ขอผมเป็นคู่ชีวิตพี่ได้มั้ยครับ?” นายมะยมขอกับเขา ด้วยดวงตาที่ฉ่ำน้ำ
“.......” ไม่มีคำพูดใดจากนายภักดี มีแค่หน้าที่พยักหน้ารับ...คำขอ
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมรวบเอานายภักดีเข้ามากอดและกอดกันร้องไห้
......
.....
....
...
..
.
คำขอของนายมะยมอาจมากไปสำหรับนายภักดี...แต่ถึงมากไปหรือไม่สามารถให้ได้...ก็เพียงพอแล้วที่ได้พูดคุยกัน
......
.....
....
...
..
.
ทุกอย่างในชีวิตต่างมีเงื่อนไขและข้อแม้ในตัวเอง....ในทุกย่างก้าว
......
.....
....
...
..
.
แต่หากมีสิ่งที่ยังทำได้...ก็ลองทำมันดู
......
.....
....
...
..
.
ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาส...ทำมัน
......
.....
....
...
..
.
นายภักดีร่ำลาผู้ใหญ่ทั้งสอง นายศักดิ์และน้องบัว....พร้อมสัญญากับพวกเขาว่า หากว่างจะมาเยี่ยมใหม่
ป้าเย็นเอาของมาให้เขาเป็นกระบุงใหญ่ บอกว่าฝากให้พ่อแม่ของเขา เมื่อตอนแวะขากลับ
นายมะยมจะค้าน แต่นายภักดีแอบส่งซิกไว้ทัน
......
.....
....
...
..
.
เมื่อเข้ามาในรถ
ครั้งนี้นายภักดีขอเป็นคนขับกลับเอง
นายมะยมคอยบอกทางไปเรื่อยๆ จนเขามาถึงทางหลวง...ซึ่งนายภักดีสามารถขับไปได้ด้วยตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเปลี่ยนแผ่นซีดี....เสียงบรรเลงเนิบๆ ดังลอยขึ้นมา...เข้ากับบรรยากาศของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน
“เพลงอะไรน่ะครับ?” นายภักดีเอ่ยปากถาม
“เพลงบรรเลงน่ะครับ ชื่อ Sad Romance...ผมฟังที่เค้าสีไวโอลินเมื่อตอนไปร่วมงานศพแล้วติดหูดี เลยให้คุณเชษฐ์หาแผ่นมาให้” นายมะยมบอกเล่า
“ทำไมต้องเพลงนี้ครับ? คนที่เสียไปเค้าชอบเหรอครับ?” นายภักดีถาม
“ครับ เห็นว่างั้น” นายมะยมพยักหน้า
“จะว่าซึ้งก็ซึ้ง จะว่าเศร้าก็เศร้า” นายภักดีสรุปความรู้สึกตัวเองกับเพลงๆ นี้
“ผมว่าเหมาะกับชีวิตคุณคนนั้นนะครับ สุขเศร้าคละเคล้ากันไป” นายมะยมบอก
“เล่าให้ผมฟังทีสิ เรื่องของพวกเขาน่ะครับ” นายภักดีเอ่ยปาก
“พี่....อยากฟังจริงๆ น่ะเหรอ?” นายมะยมท้วง
“ผมก็โตมาจนป่านนี้แล้วครับ ไม่ใช่เจอเรื่องเศร้ามาเรื่องเดียวซะเมื่อไหร่...ผมแค่อยากรู้ว่าคนที่เค้าชอบเพลงนี้ เค้ามีชีวิตยังไง ก็แค่นั้นครับ” นายภักดีบอก
“ถ้าผมเล่าแล้วพี่อย่าอินนะครับ...” นายมะยมขอกับอีกฝ่ายก่อน
“ซึมไปเป็นวันสองวันแบบคุณน่ะเหรอ.....ไม่มีทางครับ หัวใจผมไม่ได้หวั่นไหวง่ายเหมือนใครบางคน” นายภักดีว่าให้
“แหน็บน๊า เดี๋ยวนี้พัฒนา เดี๋ยวนี้พัฒนา” นายมะยมยืนมือไปจิ้มแก้มอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว
......
.....
....
...
..
.
สักพัก นายมะยมก็บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองรู้....ให้กับนายภักดี
......
.....
....
...
..
.
เมื่อนายมะยมเล่าจบ พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วสักพัก
เบื้องหน้าเริ่มถูกความมืดเข้าครอบคลุม....แสงไฟตามทางได้มาจากหลอดไฟประดิษฐ์ของมนุษย์
รถที่พวกเขานั่งมาเริ่มเข้าสู่ถนนสายใหญ่....แปดเลน
......
.....
....
...
..
.
เพลง Sad Romance ที่เป็นเวอร์ชั่นไวโอลินยังคงบรรเลงทวนซ้ำ...อยู่เช่นเคย
......
.....
....
...
..
.
“อินมั้ย?” นายมะยมถามด้วยความตื่นเต้น
“ก็อินครับ แต่ไม่ซึมเหมือนคุณ” นายภักดีบอกเสียงเรียบ...เป็นปกติ
“ใจร้ายอ่ะ?” นายมะยมว่าให้
“เดี๋ยวโตอีกหน่อยคุณก็จะเหมือนผม” นายภักดีบอกกับอีกฝ่าย...ไม่ได้ถือสาเอาความ
“นี่ก็โตแล้ว สามสิบแล้วนะ!” นายมะยมท้วง
“ยังแก่ไม่พอครับ” นายภักดีเถียง
“ที่รักผมไม่แก่สักหน่อย แค่สามสิบหกเอง ไม่เอานะ ไม่พูดว่าแก่” นายมะยมทำเสียงเล็กเสียงน้อย
“แล้วจะเสียใจไหมครับ หากที่รักของคุณจะบอกว่าทำตามที่คุณขอไม่ได้” นายภักดีฉวยโอกาสบอกกับอีกฝ่ายไปตรงๆ
“...........” นายมะยมเงียบไปทันควัน...เพราะไม่นึกว่าจะเจอไม้นี้จากสุดที่รักของตัวเอง
......
.....
....
...
..
.
“ช่างมัน! แต่ผมไม่ใช่แฟนพี่แล้วนะ เราเป็นคู่ชีวิตกัน ห้ามเลิกกับผม ถึงพี่จะเลิกผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่แน่ ผมจะเกาะพี่ไม่ยอมปล่อยเลยคอยดู ถึงตายผมก็จะมาอยู่กับพี่ไม่ไปเกิดล่ะ ขอบอก” นายมะยมพูดทั้งที่แก้มยังป๋อง...ไม่พอใจ
“หึหึหึ...ถ้าไม่มีคุณ แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ?” นายภักดีขำกับข้อห้ามของอีกฝ่าย
นายมะยมหน้าหงายและนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะฟุบหัวมาวางที่หัวไหล่ของนายภักดี “เราจะอยู่ด้วยกันน๊า ให้แก่ไปด้วยกัน แล้วไปพร้อมๆ กันน๊า....”
......
.....
....
...
..
.
“อินอีกแล้วนะครับ” นายภักดีท้วงเมื่อได้ยินเสียงซู๊ดน้ำมูกจากคนที่พิงไหล่ของเขาอยู่
“..............” ไม่มีเสียงตอบจากอีกฝ่าย
......
.....
....
...
..
.
ทางเส้นหนึ่งที่อีกฝากของถนนแปดเลนผ่านมาสู่สายตาของนายภักดี
......
.....
....
...
..
.
เขาขับผ่านทางยูเทรินมาแล้วสามจุด
......
.....
....
...
..
.
เรื่องของคุณวีกับแฟนเก่า ไม่ได้มีอิทธิพลกับเขาเหมือนกับคนที่ซบหัวอยู่กับไหล่ของเขา..เวลานี้
......
.....
....
...
..
.
มีแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวที่มีอิทธิพลต่อ...หัวใจและชีวิตของนายภักดี
......
.....
....
...
..
.
ในคืนหนึ่ง
ในเธคแห่งหนึ่ง
ในคืนวันข้ามปี
เขาเคยกระซิบบอกกับคนคนนี้....และตั้งใจพิสูจน์คำพูดของตัวเองมาโดยตลอด
You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.
But you will understand it someday.
......
.....
....
...
..
.
เคยสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลคนคนนี้
เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่ทีทางทำให้คนคนนี้เสียน้ำตา
เคยบอกกับตัวเองว่าจะคอยอยู่เคียงข้างกับคนคนนี้ในทุก...ช่วงเวลา ทุกช่วงของความรู้สึก
......
.....
....
...
..
.
คนคนนี้ยังไม่แน่ใจในตัวเขาเต็มที่...ที่สุด
คนนี้ยังมีพะวงกับความรักของเขา
......
.....
....
...
..
.
เขาหักเลี้ยวและกลับรถ...เมื่อถึงจุดยูเทรินจุดที่สี่
คนที่ซบอยู่กับหัวไหล่ของเขายกหัวขึ้นและหันมามองเขา...ทั้งที่ตาฉ่ำ “หิวข้าวแล้วเหรอครับ?”
“ก็....ครับ” นายภักดีตอบ
“แถวนี้มันจะมีที่กินเหรอครับ?” นายมะยมมองดูข้างทาง
“ก็...มีครับ แต่อาจไม่ถูกปากคุณ พอกินได้ครับ” นายภักดีบอก
“อื้อ....ตามใจพี่เลยนะ ผมไม่รู้จักทางแถวนี้” นายมะยมบอกอีกฝ่าย
“ครับ...” นายภักดีเหยียบมาถึงจุดหนึ่งที่คุ้นตา...แม้นหลับตาขับมาก็เข้าถูกทาง
......
.....
....
...
..
.
รถ BMW สีดำถูกหักเข้าไปในถนนเส้นหนึ่งซึ่งแยกมาจากถนนใหญ่...แปดเลน
......
.....
....
...
..
.
รถคันนั้นบดล้อผ่านถนนราดคอนกรีตไปสักสิบห้านาทีก็หักเลี้ยวเข้าไปในทางสองเลนที่แคบว่าของเดิม
......
.....
....
...
..
.
รถถูกขับไปจอดที่รั้วบ้าน...สูงตะหง่าน
......
.....
....
...
..
.
เสียงบีบแตรดังมาจากรถ BMW สีดำที่พวกเขานั่งอยู่...ภายใน
......
.....
....
...
..
.
ไม่นานจากนั้น ประตูก็เปิด....มันเป็นประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติ
......
.....
....
...
..
.
รถสีดำขับผ่านประตูมาโดยไม่ปิดประตูนั้น....
นายมะยมหันกลับไปมองที่ประตูนั้น เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนยามยืนอยู่แถวประตูเลื่อน...เมื่อกี้
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมหันกลับมามองกระจกหน้า...เขาเริ่มเห็นแสงที่สว่างมากขึ้นอยู่ตรงข้างหน้า
......
.....
....
...
..
.
รถถูกขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง....ซึ่งมองแล้วก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก...แต่มันดูขลังพิกลในความรู้สึกของนายมะยม
......
.....
....
...
..
.
คนขับเดินลงไปโดยไม่พูดอะไร
......
.....
....
...
..
.
“ลงมาสิครับ” นายภักดีเปิดประตูทางฝั่งของเขาแล้วบอก
......
.....
....
...
..
.
นายมะยมเดินลงไปยืนด้วยสีหน้าเหวอๆ
ปัง---- เข้าได้ยินเสียงนายภักดีปิดประตูรถ...และในขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงแหลมเล็กหนึ่งที่คุ้นหูที่สุด
“คุณพ่อ!!!!”
......
.....
....
...
..
.
“ครูมะยม!” เด็กชายตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเขา จากนั้นก็วิ่งมาเกาะขาของเขา...ด้วยความคิดถึง
เขาหันหน้าไปมองนายภักดี....เขาเห็นนายภักดียิ้มที่มุมปาก
......
.....
....
...
..
.
น้องหนูชูแขน....ให้เขาอุ้ม
นายมะยมอุ้มตัวเด็กชายขึ้นมาแล้วหอมแก้ม..ทักทาย
เด็กชายหัวเราะคิกคัก และกอดคอเขาไว้ “ครูมะยมกินข้าวยังฮะ!”
“ยังครับ!” นายมะยมบอกเด็กชาย
“ป๊ะ กินข้าวกันโน๊ะ” เด็กชายชวน
นายมะยมหันหน้าไปทางนายภักดี
นายภักดีไม่พูดอะไร เขายิ้มและพยักหน้าให้หนึ่งที ก่อนจะเดินนำเข้าไป...ด้านในของบ้านหลังนั้น
นายมะยมก้าวตามไปด้วยหัวใจที่สั่นระทึก
......
.....
....
...
..
.
“น้องหนูครับ นี่บ้านใครเอ่ย?” นายมะยมกระซิบถามเด็กชาย
เด็กชายกระซิบบอกเขาที่ข้างหู ...รู้กัน รู้กัน
......
.....
....
...
..
.
“บ้านคุณปู่คุณย่าฮะ”
......
.....
....
...
..
.
เอวัง :pig4:
-
เอวังด้วยประการฉะนี้
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สุดแท้แต่ชีวิตจะลิขิตพาไป
คุณเบาเบา ... เจ๋งค่ะ
:L2: :L2:
-
เอวังแล้วเหรอ...หงอยเลย :serius2:
ซึ้งกับความรักของทั้งคู่
-
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: มะยมจะได้สู่ขอพ่อมึงกะพ่อตามั๊ยนะ
-
อิ่มใจกับการจบแบบนี้ค่ะ
แค่ทั้งคู่รักกัน
อะไรจะเกิดในอนาคต ก็ให้ฟันฝ่าไปด้วยกัน
ขอบคุณสำหรับนิยายในดวงใจเราเรื่องนี้
ขอบคุณสำหรับมุมมองหลากหลายผ่านตัวละครที่คุณสรรสร้างให้เราอ่าน
ขอบคุณค่ะ ^^
-
งื้ออออ เอวัง แล้วว...
ที่เหลือคงต้องจิ้นต่อเองแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย ฮ่าาา >.<
ไม่รู้จะเม้นท์อะไรอะค่ะ 5555 มันแบบจบแย้วอ๊าาา o13
ขอบคุณงานเขียนดีๆนะคะ ทำให้เราเต็มอิ่ม และ อิ่มใจ มากเลยค่ะ ^ ^
-
อาจจะแสดงออกต่างกัน แต่ก็มีจุดหมายเดียวกัน
หวังว่ามะยมและคุณภักจะก้าวไปอย่างมั่นคงในเส้นทางรักของทั้งคู่
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารัก ๆ และข้อคิดดี ๆ
-
:pig4:
ซึ้งใจจังเลย รักพ่อมึงกับไอ้หัวลูกเจี๊ยบจัง
รอผลงานเรื่องต่อไปนะคะ
:กอด1:
-
จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันค่ะ
o13
เพราะเท่านี้คือโอเคมากแล้วสำหรับคนอ่าน
ตอนนี้ทั้งมะยมและคุณภักมีความสุข
ต่อจากนี้ก็ให้คนอ่านเก็บเอาไปคิดกันต่อเอาเอง
เก็ยไว้แต่ความประทับใจดีกว่าเนอะ
:กอด1:
-
ขอบคุณมากค่ะ
-
เราจะคิดเอาว่าหลังจากนี้มันจบลงด้วยดีเนอะ
-
:pig4:
-
“ผมไม่อยากเป็นแฟนพี่แล้วอ่ะ ขอผมเป็นคู่ชีวิตพี่ได้มั้ยครับ?”
ประโยคนี้ทำเอาร้องไห้ตามเหมือนมีคนมาพูดกับตัวเอง ทั้งที่ปิดตายตัวเองไว้แล้วแท้แท้ น่ารักที่สุดเลยค่ะ ด้วยความที่มาอ่านทีหลัง อ่านคอมเมนท์เห็นผู้อ่านทั้งหลายต่างบอกว่าหน่วงตรงทอล์คของคุณนักเขียนแต่ไม่รู้ทำไมส่วนตัวถึงได้นั่งอมยิ้ม อย่างที่เคยบอกคุณนักเขียนมั้งคะ ว่าไม่ได้คาดหวัง ปล่อยไปตามที่มันจะเป็น ชีวิตมีหลายทางเลือก หลายหนทางขึ้นอยู่กับว่าจะเดินไปทางไหน และเรื่องนี้จำได้ว่าคุณนักเขียน วางเรื่องตอนจบไว้แล้ว ถึงเริ่มเขียนช่วงกลางๆ และเคยบอกไว้ว่าจบแฮปปี้แน่นอนเลยนั่งอมยิ้มไปอ่านไป
แม้ไม่ได้เมนท์ทุกครั้งทีอัพ แม้ไม่ได้ตามตลอดเวลา ไม่ได้ส่งกำลังใจผ่านตัวหนังสือ แต่หากส่งผ่านใจให้ตลอดเวลา
ขอบคุณนะคะสำหรับผลงาน ฉันหลงรักผลงานเขียนของคุณจริงๆ
-
เอวัง แล้วอ่า
เห้อออออออออออ
รักเรื่องนี้ไปแล้วอ่า
-
จบดีกว่าที่ลุ้นคะ 555 เพราะว่า กลัวจะตายจากซะก่อน ชอบคะ
-
โล่งกว่าที่คิด ขอบคุณค่ะ
-
จบแบบนี้แฮปปี้แล้วค่ะ สำหรับเราเรื่องนี้สมบูรณ์แล้ว
ทีเหลือในอนาคตข้างหน้ามะยมต้องเกาะคุณภักดีแบบลูกลิงเกาะแม่แน่แล้ว
สองคนนี้เขาต้องเคียงคู่ไปด้วยกัน
ซินแสของอาม่า "ฟันเฟิร์ม" 55555555555555555
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ เรื่องนี้ทำให้เรามีรอยยิ้มได้ตลอดตอนที่อ่านเลยจริงๆ
ยิ่งตอนที่มะยมขอให้คุณภักเปลี่ยนมาใช้นามสกุลนี่หลุดขำเลยค่ะ
ไม่รู้จะหัวเราะรึร้องไห้ดี เข้าใจเลยว่ามะยมจริงจังกับเรื่องนี้มากขนาดไหน
มันไม่ใช่แค่ใช้นามสกุลเดียวกันแต่มันมากกว่านั้น มันเกี่ยวพันกัน มันลึกซึ้งแล้วก็ซึ้งมากๆ
ขอบคุณมากเลยค่ะ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
-
ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกันอีก
เรื่องราวในชีวิตที่เป็นชีวิต
อยู่กับปัจจุบัน ความเป็นจริง อย่างไม่เพ้อฝัน
อบอุ่นและน่ารัก
สุข เศร้าและความประทับใจแม้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย
คิดถึงแล้วก็แบบว่า เฮ้ออ นี่เราตามอ่านมาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย
ยังจำได้ถึงตอนแรกๆตอนกระซิบที่ตามหาตัวผู้ร้าย?? กันชนิดติดขอบสนาม
จนมาถึงตอนนี้แล้ว ระยะเวลาสั้นๆแต่ก็เหมือนนานจังเลยน้า
5555 บ่นเป็นคนแก่เลยเรา
สุดท้ายแล้วยังไงก็ขอขอบคุณอีกครั้งนะคะ
ป.ล.จะมีอะไรต่อจากนี้ให้ลุ้นอีกไหมเอ่ย ฮี่ฮี่
-
:pig4: :L1:
-
สวัสดีอย่างเป็นทางการ
จบเรื่องสั้น [บอก] ตอน คำขอ แล้ว...โล่งง่า
ขอบคุณท่านผู้มีอุปการะคุณทุกๆ ท่านที่รวมกับแชร์ข้อมูลและความเห็น
ได้รับความรู้เยอะแยะ o13
เพราะทุกๆ ท่านช่วยกันผลักและดัน มันจึงมาถึงจุด เอวัง
ขอบคุณด้วยใจจริงอีกครั้ง :pig4: ทุกรีพลาย ทุกตัวเลขที่เพิ่มขึ้น.....พวกคุณคือแรงใจของผู้เขียนเสมอมาและตลอดไป
ขอใช้พื้นที่ประกาศว่า... เรื่อง [ทะเล_ฝัน] ผู้เขียนเอาเข้าไหดองแหละ
เรื่องสนุก เรื่องหวาน....พิมพ์ยากมากสำหรับ BaoBao (สังเกตกันมั้ยเอ่ย?)
อาจไม่ถูกสเปคของลูกเป็ดหลายท่าน แต่ BaoBao คิดว่าจะกลับไปเขียนแนวบีบหัวใจดีกว่า :oni1:
เวลานี้...ในหัวมันอยากเขียน [ข้างๆ] (ตอนต่อ) กับ [รู้แล้ว] (ตอนปิดฉาก)
ทว่า เวลางานมันบีบรัดตัวเหลือเกิน จึงต้องพักไว้ก่อน...เสร็จงานค่อยกลับมาโซโล่ส่วนที่ว่านี้
ว่าแล้วก็ขอยื่นใบลาพักร้อนคร่า
ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
BaoBao = เปาเปา
-
:undecided:ตามกันต่อไปปปปปป. เค้าอยากอ่านหวานๆง่าาาาา เค้าไม่ยอมมมมมม o9 o9 o9 o9
-
BaoBao = เปาเปา
:a5:
อุ๊ยตายปล่อยไก่+เป็ดไปทั้งเล้า
:o8:
คนอ่านก็คิดว่าชื่อยูสอ่านว่าเบาๆ
เพราะปกติจะเห็นตัว ป ใช้ตัว P มาตลอด
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
:m5:
-
ฮ่าาๆ อย่าฮาเลยค่ะ
ตรง เบาๆ กับ เปาๆ 555555
โอเคค่ะ เข้าใจโดยทั่วกันแล้ว ต่อไปจะได้เรียกกันถูกเสียที
ติดตัวบีเป็นบ.ใบไม้กันตลอดๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ไม่ว่าเรื่องหน้าจะเป็นแบบไหน
จะติดตามเสมอค่ะ
-
ว้ากกกกกก ปล่อยไก่หมดเล้าเลยค่ะ ขอโทษคุณเปาเปา ด้วยนะคะ
คาดว่าตอนนั่งอ่านคอมเม้นคงแอบขำแน่ๆ เบาเบากันใหญ่ 5555
เขินนนน :o8:
-
BaoBao = เปาเปา
:a5:ฮ่าาๆ อย่าฮาเลยค่ะ
ตรง เบาๆ กับ เปาๆ 555555
โอเคค่ะ เข้าใจโดยทั่วกันแล้ว ต่อไปจะได้เรียกกันถูกเสียที
ติดตัวบีเป็นบ.ใบไม้กันตลอดๆ
ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ไม่ว่าเรื่องหน้าจะเป็นแบบไหน
จะติดตามเสมอค่ะ
อุ๊ยตายปล่อยไก่+เป็ดไปทั้งเล้า
:o8:
คนอ่านก็คิดว่าชื่อยูสอ่านว่าเบาๆ
เพราะปกติจะเห็นตัว ป ใช้ตัว P มาตลอด
ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
:m5:
:กอด1:อื้ม ไม่ผิดนะคะ อ่านตามอังกฤษมันได้ "เบาเบา" o13
ผู้เขียนก็ชอบนะ....แบบว่า เขียนเรื่องหนักฉิบ...แต่ดันใช้ยูสว่า "เบาเบา" เก๋อ่า
เค้าอยากให้เรียกเค้า "เบาเบา" อ่ะ :m1: นะนะนะ ขอแบบนี้นะ นะนะนะนะ
มาเรียนภาษาจีนกันดีกว่า....
พอดีผู้เขียน ยืมเสียงสะกดมาจากภาษาจีนอ่ะค่ะ
ตัว B ของจีน มันใช้ ป.ปลาสะกด อ่ะค่ะ
BaoBao = 包包 อ่านว่า "เปาเปา".....อักษรยืมมาจากคำว่า "ซาลาเปา" (包子) ฮ้า...นุ่มอร่อย
ไม่จบ..
BaoBao แผลงเสียงมาจาก "เป๋าเป่า" (寶寶) ..... คำนี้ใช้เรียกเด็กทารก หรือเด็กๆ ที่อายุไม่กี่ขวบอ่ะค่ะ เป็นคำไทยอาจเทียบได้กับคำว่า "ลูกรัก" อารายแบบนี้
อักษรคำว่า 寶 (เป่า) นี้แปลว่า ของล้ำค่า, สมบัติมีค่า
หนุกดีอ่า ภาษาจีน :really2:
-
55555
หว่อจือเต้าเลอ
เข้าใจค่ะ เรียนจีนมาเหมือนกัน ฮ่าาๆๆ
พินอินภาษาจีนตัว B มันก็ ปอ สินะคะ 5555
-
คิดถึงที่สุด......~~~~~
ขอบคุณมากมายเลยค่ะ ที่เขียนเรื่องน่ารักๆแบบนี้ให้อ่านกัน
เวลาเปิดเข้ามาอ่านทีไรก็อบอุ๊นนอบอุ่น
สัญญาว่าจะติดตามเรื่องต่อไปแน่นอน : )
ผู้เขียนก็ชอบนะ....แบบว่า เขียนเรื่องหนักฉิบ...แต่ดันใช้ยูสว่า "เบาเบา" เก๋อ่า
เค้าอยากให้เรียกเค้า "เบาเบา" อ่ะ นะนะนะ ขอแบบนี้นะ นะนะนะนะ
5555 ถูกใจตรง // เขียนเรื่องหนักฉิบ...แต่ดันใช้ยูสว่า "เบาเบา" // เนี่ยแหละค่ะ
ฮาา~~~~~~~~~
จุ๊บบบบ~~~
-
ตอนที่(เหมือน)ขอแต่งงาน ซึ้งอ่ะ
ร่ายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี ยกให้
กาย ใจ วิญญาณ ทุกอย่าง ยกให้
โอย~ ปวดกระบอกตา ฮึกๆ :monkeysad:
ตอนจบระทึกมาก มะยมกับคุณภักจะโดนคุณปู่เหวี่ยงใส่มากแค่ไหนก็ไม่รู้
แต่แบบนี้ก็ดีเนาะ ไม่ต้องเครียด แค่ได้มาก็ยืนยันถึงความรักของทั้งคู่แล้ว :กอด1:
ป.ล. เท่าที่เคยอ่านนิยายมานะ เมะเรื่องนี้ ง้องแง้ง อ่อนไหว ขี้อ้อน ที่ซู้ดเลย
ป.ล.2 แว้ก! เรียกชื่อผิดมาโดยตลอด ขอโทษก๊าบ คุณเปาเปา แต่ตกลงว่าเรียก เบาเบา ดีแล้วเนอะ เครๆ
ป.ล.3 ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นขนาดยาวอันสนุกสนาน หวานบ้าง ลุ้นบ้าง เรื่องนี้คร่า :pig4:
-
5555555555555
:laugh: :jul3:
เข้ามาฮาค่ะ กร๊ากๆ
ฮาตรงที่คุณเบาเบาไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
แค่...
BaoBao = เปาเปา
พรืด!!!!!!
กร๊าก กรั่กๆ กรั่ก ขำกระจาย
ฮ่าๆ ฮ่าๆ
ตกลงจะเรียกว่าคุณเบาเบานะคะ อิอิ
-
อ่านมาเรื่อยๆ สองคนนี้หวานกันจริง
มะยมเจ้าเล่ห์นะ 555
-
You will always be my เบาเบา
:กอด1: :L2: :กอด1:
-
:z13: & กดไลด์ "เขียนเรื่องหนักฉิบ...แต่ดันใช้ยูสว่า "เบาเบา" " o18
-
เราชอบชื่อเบา เบา ค่ะ
เรียกแบบนี้ดีกว่าเนอะ
เขียนเรื่องหนัก ๆ แต่คนเขียนชื่อเบา เบา
เราว่าเท่ห์ดีอ่ะ
เห็นบอกว่าจะเขียนเรื่อง"รู้แล้ว"ต่อ
ตอนอ่านเรื่องนั้นเราก็น้ำตาไหลพรากก
ตอนต่อจากนั้นคงบีบหัวใจน่าดู
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
-
โอ๊ย....คู่นี้ ได้ดังใจจริงๆเลย!
-
กี่เรื่องๆก็ไม่ผิดหวังกับนามปากกานี้จริงๆครับ
จบหักมุมนิดหน่อย ทิ้งปมไว้ให้จินตนาการต่อเอง ดีครับ พูดไม่ออกเลยละ
ชอบมากถึงมากที่สุด บางเรื่องก็อ่านซ้ำซากได้ไม่เบื่อ บางเรื่องครั้งเดียวก็พอเพราะเศร้าเกินไป
รอติดตามผลงานต่อๆไปนะครับ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ
-
หวานๆอยู่ก็แอบมีเครียดๆด้วยเนอะ นี้แหละน้าชีวิต
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรอ่านนิยายแล้วปลงทุกเรื่องเลย ไม่ใช่ปลงเพราะไม่สนุกนะคะ
เรื่องนี้สนุกมากกกก เข้าขั้นเรื่องโปรดอีกเรื่องเลยละ แต่ก็ชี้มุมมองในหลายๆแง่ให้เห็นลึกมากขั้น
แง่ที่เคยรู้แต่ก็ไม่เคยคิดถึงมันจริงๆจังๆ คงเป็นเพราะเมื่อก่อนอ่านนิยายแล้วเอาแต่โลกสวยไม่สนอย่างอื่น 5555
ชอบแนวคิดของนายมะยมนะเรื่องขอให้เปลี่ยนมาใช้นามสกุลตัวเอง ถ้าเราเป็นคนถูกขอนะจะดีใจมากๆเลย
ถึงจะเปลี่ยนได้หรือไม่ได้ในแง่ของความเป็นจริง แต่มันก็สื่อให้เห็นถึงความรักของคนๆหนึ่งว่าเขาจริงจังกับรักครั้งนี้มาก
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
แล้วก็จะรอนิยายเรื่องใหม่นะคะ ไม่ได้กดดันนะ แค่จะบอกว่าถ้าแต่งนิยายอีกก็จะติดตามค่ะ
(ขอดูแนวด้วยนะคะ ถ้าแนวปวดใจปวดไส้และตับมากก็คงจะต้องขอลาป่วยเพราะคงทนไม่ไหวจริงๆ รับความดราม่าได้เพียงประมาณเรื่องเวลาที่คุณเบาเบาแต่งค่ะ และสารภาพว่าถ้าเรื่องนั้นจบไม่แฮบปี้ก็คงไม่กล้าอ่าน ไม่กล้ารับความดราม่าจากนิยายมาก เพราะแค่ในโลกแห่งความเป็นจริงมันก็มีจนหาที่เก็บไม่ได้แล้ว 555 )
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆดีๆเรื่องนี้นะคะ :pig4:
-
น่ารักเนาะ อ่านแล้วรู้สึกดี
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ รวดเดียวเลย ชอบมากค่ะ เป็นความรักของวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเเล้ว
รักที่มีความเป็นจริง เเละความเป็นไปได้ในชีวิต มีข้อคิด ดีๆหลายๆอย่าง
มุมมองทั้งของพ่อมึง กะนายมะยม น่ารักจริงๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับผลงานนะคะ ติดตามรอเรื่องต่อไป
ส่งกำลังใจมาให้คุณเบาเบาค่ะ
-
จบแบบ ยังยิ้มได้ + รู้สึกดีให้คนอ่านคิดต่อกันเอง ตามแต่การมองโลกของแล่ตะคน
ชอบมากๆ ค่ะ ถึงคุณเปาเปาจะชอบเขียน ซีนหนักๆ อารมณ์หน่วง
แต่เราก็จะขอซีน ไม่หน่วง เบาเบา สบายๆ ลุ้นนิดๆหน่อยๆ แบบเรื่องนายมะยมอีก ได้ไหมคะ
ปล.ชีวิตจริงรับดราม่ามาเย๊อะแล้ว ฮืออออ :sad4:
-
555+ เอวัง คือ จบ ไอ้เราก็เพิ่งจะรู้ตอนเห็นในห้องนิยายจบแล้ว ... เออ เอ้า จบแล้วก็จบ ไปจิ้นต่อเองดีก่า 555+ มะยมในผ้ากันเปื้อน รอรับพ่อมรึงกลับบ้านตอนเย็น
-
ไปทำงานมาหลายวัน กลับมาอีกที เรื่องนี้กลับมาอยู่ในห้องจบแล้ว
ต๊กใจหมด
ขอบคุณคนแต่งค่ะ ที่ทำให้เราซาบซึ้งกับความรักได้ขนาดนี้ :กอด1:
จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ
-
จบซะแล้ว...จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ถือว่าเป็นแฮปปี้เอนดิ้ง o13
-
อ่านจบแล้ววววววววววววววววววววว :monkeysad: :o8: :-[ :กอด1: o13 เกินคำบรรยายจริงๆค่ะ
ชอบมากๆๆๆๆอ่านทีเดียวจบเลย ชอบพ่อเมิงกะเจ้าหัวลูกเจี๊ยบมากๆ :impress2: น่ารักที่สุดในโลกเลย โดยเฉพาะพ่อมึง
เค้าชอบแบบนี้ อยากมีแบบนี้สักคน อิอิ รักจริง จริงใจ แสนดี เคะในฝันของเค้า 55555555 เป็นเคะที่1ในดวงใจเลยนะ :L1:
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ อยากอ่านไปอีกเรื่อยๆเลยอะ อ่านแล้วสบายใจมากๆ เป็นเรื่องที่สบายๆ แต่ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด
อ่านได้เพลินมาก ชอบตรงที่ไม่ต้องมีดราม่า พระเอกนายเอกไม่ต้องเข้าใจผิดกันไปมา ไม่ต้องหาอะไรมาหน่วงมากมาย
แต่ทำให้เนื้อเรื่องดูน่าติดตามได้ทุกตอน ชอบที่สุดเลยค่ะ o13 :L2:
แอบอยากได้รวมเล่มจัง อิอิ ถ้าจะมีรวมเล่มบอกด้วยนะคะ :impress2:
ขอบคุณคนแต่งมากๆเลยนะคะสำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้ :กอด1: :pig4:
-
:จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:คิดถึงมะยม
-
อยากอ่าน"ข้างๆ"ภาคต่อกับฉากจบของ"รู้แล้ว"มากเลยค่า
ส่วนเรื่องนี้เนื่องจากว่ามันจบไม่เศร้าดังนั้นจบแบบนี้ก็โอเคค่า
-
เพิ่มอีกนิด...
อยากให้"แอบ"มีภาคต่อจังเลย
ติดใจอ่ะค่ะ
-
อยากอ่าน"ข้างๆ"ภาคต่อกับฉากจบของ"รู้แล้ว"มากเลยค่า
ส่วนเรื่องนี้เนื่องจากว่ามันจบไม่เศร้าดังนั้นจบแบบนี้ก็โอเคค่า
เพิ่มอีกนิด...
อยากให้"แอบ"มีภาคต่อจังเลย
ติดใจอ่ะค่ะ
ยังเหลือสิ่งที่ต้องมาต่อในงานเดิมคือ...ดังต่อไปนี้นะคะ
[ข้างๆ] .... จะต่อด้วยเรื่องยาวแทน...ไม่สั้นแหละ เมกกะโปรเจคกันเลยทีเดียว
[รู้แล้ว] .... มีอีกแค่หนึ่งตอนสั้นค่ะ ฉากปิดจบของเรื่อง...ขอเวลาก่อน ไว้เสร็จงานหลวงแล้วจะกลับมาบิ๊วอารมณ์พิมพ์กันอีก เตรียมทิชชู่โด้ย
[แอบ] .... ใจคนเขียนไม่อยากต่อ...
สงสารพี่ชายน้องชายคู่นี้ แต่ใครหลายคนคงอยากรู้ว่า ไอ้จี๊ดมันเป็นยังไง น้องชายได้ดีกับแฟนใหม่รึไม่ พี่ชายยังคง "แอบ" อยู่ไหม------- ไม่สัญญาใดๆ กับเรื่องนี้ แต่หากมันเกิดมีขึ้นมา ผู้เขียนก็จะเอามาลงให้ค่ะ
ไม่รับปาก ไม่สัญญาใดนะคะ ---- ย้ำ!!
[กระซิบ & บอก].... มันจบให้ยิ้มอยู่แล้ว ไม่ต่อนะคะ ไม่มีอีก... แต่หากมีอีก มันคงไปโผล่ที่เรื่องอื่นแทน
[กระดาษ & ออแกไนท์เซอร์] [หึง & ง้อ] [สองก้าว] [เวลา].... มันจบที่ตรงนั้นแล้วค่ะ ไม่มีต่ออีกนะคะ
[ทะเล_ฝัน].... แขวนมวยไว้ก่อนเรื่องนี้ :z3:
[ค่ำคืน].... ขอมีเวลาว่างแล้วจะกลับมา มันมีแววยาว :jul3:
เรื่องนี้ตั้งไว้แค่สองตอนจบคือ..... คืนที่ไร้แสงจันทร์ / คืนจันทร์กระจ่าง
เท่านี้ล่ะจ้า.... อ้อ เรื่องที่จะต่อนั้น (ยกเว้น [ข้างๆ] ไว้หนึ่งเรื่อง) ผู้เขียนจะต่อในทู้เดิมนะคะ ไม่แตกทู้...คอยตามกันทีหลังนะคะ
หรือจะให้ผู้เขียนแจ้งผู้อ่านด้วยวิธีไหน บอกผู้เขียนไว้ได้นะคะ
ทั้งหน้าทู้และพีเอ็ม
:pig4:
-
รับแซบค่าาาา อิอิ
ยังรอการมาของทุกๆเรื่องเสมอ หุหุ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อ่านจบแล้ว..เรื่องนี้สนุกครบทุกรสจริงๆ o13
.
.
ไม่รู้จะพูดอะไรดี อ่านยิงยาวมาเรื่อย
โอ้ววว มันสนุก อิ่มเอม หวานซึ้ง ลุ้นตัวโก่ง น่ารักน่าเอ็นดู หน่วง เสียว(อย่าคิดลึกนะ เราแค่กลัวเนื้อเรื่องพลิก) อบอุ่น ฯลฯ
ถ้าใครเห็นเรานั่งอ่านเรื่องนี้อาจคิดว่าเรา..บ้า เริ่มจากดูเคร่งเครียต :a5:เพราะกำลังคิดว่าตัวเองเป็นโคนันในช่วงแรกอยู่
แต่บางทีอยู่ก็หัวเราะซะงั้น :jul3:(ประโยคพูดและเนื้อเรื่องบางจุดฮาจริงๆนะขอบอก บางทีก็ฮาคอมเม้นอะ)
สักพักก็เริ่มจิกหมอนขาดเป็นใบๆ :o8:เขิลอายบิดไปมา :-[ :impress2: เบาหวานขึ้นตาอยู่ดีๆก็ทำเราเครียต o22เราลุ้นกลัวพวกเค้าจะเกิดเหตุที่จะทำให้เศร้าอีก
แต่อยู่ๆก็ดันมาทำเราน้ำตาไหลเพราะซึ้ง..สุดๆซะงั้น :m15:
เห็นม๊ะ...คุณเบาๆ o18เป็นคนน่ากลัวจริงๆ สามารถร่ายมนต์ให้เราเป็นบ้าเป็นบอได้ขนาดนี้
แต่ในทั้งหมดนั้น คุณทำให้เรามีความสุข สุขที่ได้อ่าน ได้รับรู้เรื่องราวของพวกเค้า
ตั้งแต่อ่านมาไม่มีตัวละครตัวไหนของคุณ ที่ร้ายอย่างไม่มีเหตุผล หรือดีจนไม่มีข้อเสียเลย ตัวละครทุกตัวมีชีวิต เป็นคนธรรมดา อยู่กับเหตุการณ์ที่เหมือนจะธรรมดา
..
.
แต่คุณทำให้มันไม่ธรรมดา หลายๆเรื่องของคุณมีคำสอนแทรกมาด้วย
แต่ที่แน่ๆ เราได้รู้สัจธรรมข้อนึงจากงานเขียนของคุณ
... ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน..
เพราะคนที่เราคิดว่ารุก อาจกลายเป็นรับได้ -__- ซะงั้น :a5:
อยากบอกว่า "รักคนแต่ง" "รักเรื่องนี้มากๆ" "รักพี่ซิน.ซิงกูล่าร์(เกี่ยวมะ)"
..
.
เป็กำลังใจให้ค่ะ^^
-
ง่า กำลังลุ้นเลยยยย
เอวัง
-
อยากอ่านต่อจัง
-
จบแบบนี้ก็ชอบ แต่เราก็อยากอ่านต่ออ้ะ
-
สนุกมากกกกก อ่านแล้วอินจนต้องหาต้มเลือดหมูทานเลยล่ะค่ะ
ยอดไปเลย o13
-
ขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักๆ ให้อ่านกันค่ะ
ชอบมากๆ อ่านช่วงที่กำลังสอบไฟนอลด้วย (ฮ่าๆๆ)
หนังสือเรียน 3 วิชา อ่าน 1 ชั่วโมงแล้วนั่งอ่านนายมะยมต่อถึงตี 3
(อ้อ หนังสือเรียนแค่ทวนหัวข้อ ที่จริงอ่านจบไปเล่มละหลายรอบล่ะ)
ตอนรอสอบ ชาวบ้านเขาอ่านหนังสือ แต่ข้าน้อยเปิดโทรศัพท์อ่าน "นายมะยม" กับ "พ่อมึง"
อ่านไปยิ้มไป หัวเราะไป...คนอื่นมองเหมือนคนบ้า
...นี่แหละเนอะชีวิตมหาลัย>< :a5:
-
อ่านจบแล้วววววววววว ขอบคุณมากน่ะค่ะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้่ คุณเบาเบาเป็นนักเขียนที่เขียนได้น่าทึ่งมาก ชอบนิยายของคุณค่ะ เวลาอ่านแล้วมันอบอวลด้วยความอบอุ่น ความรักของผู้ชายสองคนให้ความรู้สึกน่ารัก มันเบาเบาเวลาอ่าน มันมีกลิ่นอายของความรักที่ชวนฝันชวนเคลิ้มชวนให้ใจเต้นตามอย่างไร้เหตุผล ชอบมากค่ะถึงอาจจะมีบางตอนที่อาจจะงงบ้างอาจจะเรื่องของการเรียบเรียงคำพูด แต่ชอบเนื้อหาที่เขียนชอบความรักที่มันเบาเบาค่อยๆเริ่ม ค่อยๆเป็นไปให้หัวใจได้เต้นทุกวัน ขอบคุณน่ะค่ะสำหรับความรักดีๆแบบนี้ เอวัง :bye2:
-
นิยายเรื่องนี้ทำให้จดจ่ออยู่กับการอ่านจนไม่หลับไม่นอน
นิยายเรื่องนี้ทำให้ลงไปกินเค้กตอนเวลาตี3กว่าๆ
นิยายเรื่องนี้กำลังทำให้เป็นบ้าาา o13
-
“ผมไม่อยากเป็นแฟนพี่แล้วอ่ะ ขอผมเป็นคู่ชีวิตพี่ได้มั้ยครับ?”
ประโยคนี้ทำให้อยากตามหารักแท้อีกสักรอบ ทำให้เลิกกลัวกับความรักไปเลยค่ะ ชอบเรื่องนี้มากกกกก
ขอบคุณคนแต่งที่ให้เราอ่านมากๆ มันเหมือนได้รับความหวานเข้ากระแสเลือดแม้จะโสดก็ตาม :pig4:
-
เอวัง....
:เฮ้อ: เหงาอ่ะ จะไม่เจอพ่อมึงกะครูมะยมแย้ว :กอด1:
-
สำหรับ [กระซิบ]
สนุกมาก นั่งตัดช้อยส์ออกไปเรื่อย แต่ช้อยส์ไหนที่ตัดออกไปก็กลับเข้ามาใหม่ทุกทีสิน่า
พอชักจะลืมๆคุณพ่อกูของนายมะยมไป คุณพ่อกูก็กลับมา จังหวะของแต่ละตอนมันช่างพอดีจริง
เดาว่าศรกับกัส เดาถูกด้วย
เชียร์คุณพ่อมึงแล้วก็ไม่ผิดหวัง :-[
ไปหัดกางร่มมือเดียวบ้างดีกว่า
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบตอนจบกระซิบจัง
-
ถ้าจำไม่ผิด เคยอ่านจนถึงตอนที่คุณเปาเปาเตือน ก็เลยหนีไม่อ่านต่อเพราะกลัวจบแบบเศร้าเคล้าน้ำตา
เมื่อกี้เห็นคำเตือนอีกรอบก็ใจหวั่นๆ อยู่ ขอบคุณมากที่จบแบบนี้ ไม่งั้นไม่ไหว สงสารหนูมะยมกับคุณภักดีเกิน
-
ตามอ่านจนจบ ชอบ "พ่อมึง" กับ "นายมะยม" มาก
ตัวละครมีมิติมีความเป็นไปได้ในชีวิตจริง (อย่างที่
พ่อแม่ของคุณภักไม่ยอมรับน่ะค่ะ) ชอบเพื่อนๆทุกคน
ในเรื่องด้วยค่ะ เป็นเพื่อนที่สนิทและช่วยเหลือกันตลอด
อ้อ ชอบตอนที่ลูกคู่ทั้งหลายออนไลน์คุยกันด้วยค่ะ ฮาดี
ขอบคุณคุณคนเขียนมากค่ะ ^^
-
ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายดีๆ
จะรอเรื่องต่อไปนะ :mew1:
-
ด้วยความที่ไม่อยากอ่านเรื่องยาวเพราะเดี๋ยวติดหนัก เราจึงมาหาเรื่องสั้นอ่าน
ก็มาเจอกับเรื่องนี้เข้าชื่อเรื่องมีคำว่าเรื่องสั้นกำกับไว้จึงตกลงปลงใจเข้ามาอ่านเรื่องนี้
แต่ต้นเรื่องเขียนไว้ว่าถ้าไปอ่านกระดาษก่อนมาอ่านเรื่องนี้ก็ดีนะ เราจึงตามไปอ่านกระดาษ(แต่ไม่ได้เม้นท์เรื่องนั้น แหะๆ) คู่นั้นก็น่ารักดีค่ะมีต้องลุ้นว่าตกลงเจ้าของกระดาษเป็นใครกัน คนที่คิดว่าจะใช่ดันไม่ใช่ ก็ลุ้นไปเงียบๆสุดท้ายก็เป็นเจ้าของกลิ่นซีเคสีดำนี่เอง แต่เรื่องกระดาษเราก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าใครเป็นฝ่ายไหน คนเขียนบอกว่าใบ้ไว้แล้ว แต่เราคงตีรหัสลับไม่แตกเอง เรื่องนี้เลยกลายเป็นข้อสงสัยในใจต่อไป 555(กลายเป็นว่ามาเม้นท์กระดาษในกระซิบซะแล้วไม่ว่ากันนะคะ) ต่อจากตามไปอ่านกระดาษเสร็จแล้วเรื่องนั้นจบน่ารักแฮปปี้เอนด์แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเจอกันนานๆมีแต่ถ้าตัวละครมีความสุขเราก็สุขตาม ก็มาตามอ่านกระซิบต่อ ด้วยความที่คิดว่าเป็นเรื่องสั้นประมาณกระดาษก็ตกลงปลงใจอ่านแน่นอนละ แต่ๆไปๆมาๆหนึ่งวันผ่านไปก็ยังอ่านไม่จบจึงรู้แน่ชัดแล้วว่าสั้นของเรื่องนี้กับความคิดเรานั้นไม่เท่ากัน แต่ณ จุดนั้นถอนตัวไม่ได้แล้วลุ้นมากว่าใครกระซิบนายมะยม ตอนแรกเชียร์ศรเพราะคิดว่าถ้าศรชอบมะยมจริงๆศรควรได้สิทธิ์นั้นเพราะดูแลมาแต่ไหนแต่ไร แต่สรุปหวยศรไปออกที่น้องกัส เราก็เลยมาเชียร์หัวหน้าบ้างแอบเดาๆไว้ว่าเสื้อฮู้ดน่าจะเป็นหัวหน้าด้วย ส่วนภรรยาและลูกหัวหน้านี่คงจะเป็นตัวหลอก แต่ก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่เพราะรู้สึกว่ายิ่งอ่านอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น พอเฉลยออกมาว่าตรงกับที่คิดไว้แล้วก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย ตอนกระซิบนี่รู้สึกว่าหัวหน้าจีบแมนมากเลยนะ และมะยมดูง้องแง้งมุ้งมิ้งมาก แต่สุดท้ายกดหัวหน้าเฉยแอบสตั๊นท์ 5555
ตอนช่วงหัวหน้าไปอยูปักกิ่งเนี่ยด้วยอำนาจหน้าตาของคุณรักที่หัวหน้าส่งมาแทนตัวเองด้วยใช่มั้ยคะมะยมถึงไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง 5555
ดีใจที่มะยมไปรับหัวหน้าวันที่กลับมาเพราะหมายถึงว่ามะยมอดทนได้และจะไม่มีคนเสียใจ ช่วงเวลาหลังจากนั้นที่สองคนนี้ได้อยู่ด้วยกันเรารับรู้ได้ว่ามีแต่เรื่องดีๆมีงอนกันโกรธกันบ้างนิดหน่อยตามประสาแต่คู่นี้ก็รักกันมาก ถึงขนาดมะยมอยากจะผูกจะมัดหัวหน้าเลย เรื่องครอบครัวของหัวหน้าที่ดูท่าว่าจะไม่ยอมรับ แต่ในตอนสุดท้ายคนเขียนจบไว้แบบนั้น คนอ่านก็จะขอคิดเอาเองว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีนะคะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายที่ทำให้ได้ลุ้นประหนึ่งเป็นนักสืบ บีบหัวใจเป็นช่วงๆ และน้ำตาลขึ้นตอนเขาสวีทกันนะคะ :กอด1:
-
น่ารักมากคะ อ่านไปลุ้นไป
สนุกม๊กมากกกกกกกกกกกกกกกก :o8: :o8: :o8:
-
เรื่องพี่วี อ่านแล้วหน่วงมากกกกกกกกกกกกกกก~ :o12:
(มาเม้นไรในเนนนนนนนนนน้)
แต่เรื่องนี้น่ารักอ่ะ แอบเชียร์ให้หนูมะยมโดนกดมาตลอด (ชอบแบบให้พวกที่เป็นรุกโดนกดอ่ะ สะใจดี ฮ่าๆๆๆ)
แต่อ่านไปอ่านมา o22 ซะงั้น แต่ก็โอนะ เป็นแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ :mew1:
ยิ่งตอนไปงานแฟนเก่าพี่วี(ยังไม่จบ!!) ยิ่งทำให้คิดว่า คนเราเวลาจะรักก็รักกันได้ง่ายๆ เวลาจะเลิกก็เลิกกันได้ง่ายๆเหมือนกัน
แต่แบบ...... มะยมน่าร็อกอ่ะ
สรุปตอนท้าย คนเอาคิดเอาเองว่า แฮปปี้ค่าาา อาจจะมีอุปสรรคต้องผ่าฟันบ้างแต่ก็ต้องแฮปปี้ ฮ่าๆๆๆๆ
แอบคิดอยากให้พ่อแม่คุณภัก รู้จักกับพ่อแม่พี่วี เพื่ออะไรๆ จะง่ายขึ้ง(มั้ง) ฮ่าๆๆๆ
-
อัดอั้น อ่านเรื่องนี้หัวใจเต้นตุบๆๆๆๆ โอ้ย ตำลึงตรึงรักกกก :-[
คิดถึงเพลง ‘นอกสายตา’ มาก ในตอนที่อ่านแรกๆ ได้แต่มองและกระซิบ
คาดว่าหลายคนอ่านแล้ว อยากกินต้มเลือดหมูกันเนอะ 555
ความรู้สึกตอนอ่านกระซิบ ตอนที่มะยมร้องไห้เพราะพระคุณพ่อเสีย พอรู้คนใส่วอร์มเป็นใคร ตะโกนว่า ‘หัวหน้า!!!’ คิดอยู่ว่าต้องเป็นหัวหน้า ...เพราะ...
หัวหน้าเป็นเกย์ ขนาดเอวี ช ญ ยังไม่ดู จะมีลูกเหรอ?
หัวหน้าไม่ใช่สเปคมะยม เพราะเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยพูด ต่างจากเด็กๆสดใสทีมะยมชอบจีบนักหนา เลยบอกมะยมว่าผมไม่ใช่สเปคคุณ
ตอนอ่างอาบน้ำที่ญี่ปุ่น หัวหน้า...พยายามยั่วมะยมรึเปล่า.... แถมมะยมใจกระตุกด้วยนะ
พยายามเอากาแฟไปส่ง โดยมีคนที่มีตำแหน่งใหญ่สั่ง มันก็หัวหน้าชัด ๆ
ตอนแรกเลยที่เมาแล้วไปตื่นอีกทีวันจัน มะยมกดชั้นห้า คนชั้นห้าที่มาวิ่งทุกเช้า ใส่ฮูทใส่แว่น ท่าทางจะไม่เคยเงยหน้ามองกันอย่างชัดเจน ด้วยความว่าลักษณะนิสัยเป็นคนพูดน้อย เลยพูดแค่คำว่า ‘ครับ’ นี่ล่ะหัวหน้า
แล้วไอ้เหมือนในรูปที่น้องหนูทักมะยมอ่ะคือหัวหน้าเก็บไว้ วางไว้หัวเตียง? ตอนเอาครื่องปั่นให้เลยไปพลิกกรอบลง?
ปล ณ ตอนนี้ที่อ่านกระซิบคำที่เก้าอยูกำลังสงสัยว่า นายกัน –ck คงรู้เป็นแน่แท้ว่าหัวหน้าแอบชอบมะยม เลยพูดว่าให้มองคนที่ใกล้ตัวซะบ้าง
ปลล รักคนเขียน อ่านของคุณมาเกือบทุกเรื่อง อ่านแล้วลุ้นดี ใช้สมองดีด้วย โอ้ยยยยย แปลงร่างเป็นนักสืบ
ส่วนของบอก ไม่มีอะไรจะพูดละ หลังพ้นสองปีก็หวานกันเข้าไปสิ อยากบอกว่ารักอาม่านะ กร้าก
รักคนแต่งด้วย คุณเบา ๆ ขอให้มีความสุขมากๆ เหมือนกับที่คุณมาทำให้คนอ่านทุกคนในเรื่องนี้มีความสุขนะคะ
อ่อเรื่องวี เราเพิ่งเข้าใจชายสีไวโอลินก็ตอนมาอ่านรื่องนี้ละค่ะ เศร้าจัง ชีวิตคนเรา เป็นแบบนี้ละนะ ว่าแล้วตอนอ่านเรื่องนู้นก็ยังขนลุกไม่หาย
สุดท้าย ขอบคุณเรื่องดีดีที่มาแบ่งปัน ยังตามผลงานคุณเช่นเคย :กอด1: :L2:
-
เอิ่ม... ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ของซูฮกท่านผู้แต่ง เนื่องจากยาวมาก ใช้เวลาอ่านเกือบ 10 ชั่วโมง แต่เนื้อเรื่องน่ารักมาก อ่านไปแล้วก็เชียร์ไป ดีใจที่นายกระซิบคือคุณหัวหน้า เพราะแอบหวังเป็นอย่างยิ่ง ความจริงก็กะจะลองติดตามหลายๆ เรื่องที่แต่ง แต่ตอนนี้ทราบแล้วว่า "เรื่องรู้แล้ว" เป็นเรื่องที่เศร้าและอาจบีบคั่นหัวใจจนเกินไป จึงขอสารภาพว่าจะไม่อ่าน ความจริงก็อยากรู่ว่าเรื่องไหนเศร้าบ้างเราจะไม่เข้าไปอ่านแน่นอน เพราะเมื่ออ่านเรื่องเศร้าทีไรมันจะเกินการอ่อนไหวทางอารมณ์ ร้องไห้ และวันรุ่งขึ้นจะเกินอาการป่วย นอนซม ไข้ขึ้น ซึ่งเกลียดการไม่สบายมาก เนื่องจากเป็นคนที่ป่วยง่ายหายช้า ดังนั้นจึงไม่อ่านคงไม่ว่ากัน สำหรับเรื่องนี้ขอบอกว่าสนุกมาก และทำให้เข้าใจความรักในอีกมุมมองหนึ่งมากขึ้น ยังไงก็อยากฝากตัวติดตามเป็นแฟนนักอ่านของผู้แต่งต่อไป แต่ก็อย่าแต่งเศร้ามากเลยนะ ไม่งั้นเราหนีไปจริงๆ ด้วย อิอิ
-
ขอบคุณมากมายค่ะ เรื่องน่ารักมากกกกกกกกก :o8:
แอบขัดใจนิดหน่อย กับการเว้นช่วงยาว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คืออ่านในสมาร์ทโฟนค่ะ เลยลำบากนี๊ดดดดดดนึง
เรื่องนี้น่ารักมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ่ะ น่ารักทุกคนเลย
เห็นคุณเบา เบา บอกว่าชอบเสพดราม่า
คงไม่กล้าตามไปอ่านเรื่องอื่นล่ะ แหะ ๆ กลัวอ่ะ :mew2:
-
กลับมาอ่านอีกรอบ ก็ยังชอบเหมือนเดิม
-
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ฉันประทับใจจัง
-
สนุกอ่ะ ชอบมะยม มันบ้าๆ บอๆ ดี ฮ่าๆๆๆๆ
เขียนดี เเต่เว้นบรรทัดเยอะเเละบ่อยเกิ้นนน
คนใช้คอมจอเล็กๆ อย่าเรามันอ่านยากอ่ะ
-
จบแล้วววTT
-
หาพระเอกของเรื่องตั้งแต่เริ่มอ่าน
แรกๆมั่นใจมากว่าต้องเป็นหัวหน้าของมะยมแน่ๆ
แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็
เฮ้ย!ใช่แน่เหรอว๊ะ?
อ่านไปอีกนิดก็
เฮ้ย!หัวหน้านี่ล่ะพระเอก(ความมั่นใจเริ่มมา)
อ่านไปอีกหน่อย
อ่าวเฮ้ย!ทำไมหัวหน้ามีลูกเมียแล้วอ่ะ
หัวหน้าเป็นคนที่ส่งขนมให้มะยมไม่ใช่เหรอ?หรือเราคิดไปเอง?
แต่ก็ยังมั่นคงนะว่าหัวหน้าเป็นพระเอก
อ่านไปอีกน้อยยยย
เห็นไหมๆหัวหน้ายังไม่มีลูกเมีย คิคิคิ
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ~ ลั่นบ้านนนนนนน
อ่านไปอีกน้อยยยๆ
เห็นไหมๆหัวหน้าเป็นคนส่งขนมมาให้มะยมจริงๆด้วย เย้ๆๆๆๆ
ว่าแต่...ทำไมหัวหน้าชักเคะขึ้นเรื่อยๆ
อ่านไปอีกเรื่อยๆ
เป็นแฟนกันแล้ววววว!
เห็นไหมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
และสิ่งที่ได้รู้คือมะยมเป็นพระเอก อึ้งแป๊ป
อ่านไปเรื่อยๆ..เรื่อยๆ
ทำไมมันเริ่มหน่วงๆ
ทำไมมันเริ่มมีกลิ่นมาม่า
ทำไมหัวหน้าต้องไปฮ่องกง
ทำไมหัวหน้าไม่ย้ายมะยมไปด้วย
แล้วมะยมจะรอได้เหรอ
แล้วมะยมจะแอบมีคนอื่นหรือเปล่า
แล้วจะปูดราม่ามาทำไมท่าจะให้เศร้าแค่เนี๊ยยย!
ร้องไห้เลยรู้ป่ะเนี่ย! ชิชิชิ
อ่านไปจนจบ
งงไปแป๊ป
แต่ก็เริ่มเข้าใจ
จบดีมาก
จบแบบให้ไปต่อยอดกันเอาเอง
คือมันจบแบบวายจริงๆ
มันไม่ใช่แค่รักกัน
.....
....
...
..
.
.
ปริ่มมมม
-
ตอนอ่าน 'รู้แล้ว' แค่หน่วง ๆ นะ แต่พอมาอ่านผ่านเรื่องนี้ :hao5: น้ำตาไหลพรากอ่ะ
เพลง Sad Romance ดังวนเวียนอยู่ในหัว ยังดีที่มีเรื่อง มะยมกับคุณภัค ดึงขึ้นมาได้บ้าง
ไม่งั้นไม่รู้ว่าอารมณ์จะดำดิ่งลงไปขนาดไหน :o12:
-
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ :กอด1: :pig4:
-
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ตามอ่านตั้งเเต่คืนวาน จนจบบ่ายวันนี้ ลุ้นตลอดขออย่าให่นายมะยมปิ๊งคนอื่นนอกจาก พ่อมึง
ขอบคุณนักเขียนที่เเต่งเรื่องดีให้อ่านน วันนีจะตามอ่านเรืองอื่นอีกค่ะ
-
สนุก ถึง สนุกดี
-
น่ารัก สนุกดีครับ มีหน่วง ๆ บ้างเล็กน้อย พ่อกู-หัวลูกเจี๊ยบ
ขอบคุณครับ
-
น่ารักดีค่ะ ชอบ
-
เรื่องสนุกดีค่ะ ชอบตอนกระซิบมาก ลุ้นดี ส่วนตอนจบนี่เล่นเอาสตั้นท์ไปนิดนึง แฮะๆ พึ่งเคยเจอตอนจบแบบนี้ แต่ก็ดีค่ะ แอบไปจิ้นเองก็สนุกดีเนาะ :mew3:
-
เรื่องนี้ผ่ามาหลายปีแล้ว กลับมาอ่านใหม่ก็ยังมีความสุขเหมือนเดิม
o13
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
พลาดมาก เพิ่งเข้ามาอ่าน
สนุกค่ะ
จบแบบลุ้นอีกต่างหาก ..... ลุ้นกันเองว่าคู่นี้จะเป็นไง
ขอบคุณค่ะ
-
อยากได้รีปริ๊นอีกเถอะครับ อยากได้มากๆเลยครับ :katai3: :katai3:
-
โอ้ยยยยยยยย กว่าจะอ่านจบนี่ลุ้นจนเหนื่อย
ตอนแรกก็ลุ้นว่าใครเป็นพระเอก พอได้พระเอกก็ลุ้นใครสามีใครภรรยา
โอ้ยมีความเหนื่อยในการไถ แต่ใจมันอยากอ่านต่อ
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้นะคะ
เป็นกำลังใจให้น้า
:katai2-1: :katai2-1:
-
สวัสดีค่ะเพิ่งจะมีโอกาสได้มาเก็บงานอื่นๆของคุณบอกตรงๆเลยนะคะว่า เป็นคนไม่อ่านเรื่องดราม่าหนักๆหรือให้อารมณ์ประมาณว่ารู้สึกปวดใจเศร้ามากมายเพราะเราเป็นคนอินง่ายมากๆตอนที่อ่าน"กระซิบ"เราร้องไห้ไปกับมะยมบ่อยมากๆเลยเกือบจะเลิกอ่านแล้วล่ะแต่ด้วยความที่มันยังคาใจว่า นายกระซิยเป็นใครจะใช่คนที่เรานึกไว้ในใจไหมนะเลยพยายามอ่านต่อ ประกอบกับไล่อ่านคอมเม้นท์ของนักอ่านท่านอื่นๆด้วยเลยรู้สึกมีเพื่อนแบบว่ามีคนรู้สึกแบบเดียวกับเราด้วยนะเนี่ย เลยอ่านต่อได้จนจบค่ะ สำหรับ"บอก"เป็นอะไรที่ชอบมากๆๆแล้วมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าเออ...ผู้ชายดีๆนี่มีแต่ในนิยายจริงๆเนอะ(แล้วเราก็สนับสนุนให้ผู้ชายได้กันเองต่อไป555+)สรุปเราชอบงานเขียนเรื่องนี้ของคุณBaoBaoมากๆๆๆเลยค่ะมีครบทุกรสเลยแถมจบแบบให้เราคิดต่อเองได้อีกด้วยดีจริงๆค่ะขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆสนุกๆแบบนี้นะคะ :mew1: