[กระซิบ] + [บอก] จบในตัว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [กระซิบ] + [บอก] จบในตัว  (อ่าน 221169 ครั้ง)

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
 :m17:ไหนๆคนเขียนก็เขียนมาถึงขนาดนี้.  คนอ่านก็ตามอ่าน ตามเม้นท์กันจนนิ้วกุดแล้ว. อีกนิดนุง สู้โว๊ยยยยยยยยย :a1:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


เมื่อเลยออกมาจากทางด่วน และเลยออกมาจากเมืองหลวง ถนนเริ่มเพิ่มเลนเป็นแปดเลน

และเมื่อออกมาจากถนนแปดเลน เส้นทางที่รถขับผ่านเริ่มดูสบายตาด้วยผืนนาและพุ่มป่า

นายภักดีมองทางไปตลอด เขารู้แค่ว่าตัวเองไม่ได้ถูกพาไปทะเล...

......

.....

....

...

..

.

รถยนต์ถูกขับต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีผ่อนความเร็ว เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่ใกล้ถึงที่หมายของคนขับ

นายภักดีมองภาพข้างทางไปเรื่อยๆ...นั่งฟังเพลงที่คนขับเปิดไปเงียบๆ

......

.....

....

...

..

.

วันพักผ่อน....ที่เขาได้พักจริงๆ

......

.....

....

...

..

.

รถวิ่งผ่านเส้นทางหนึ่งที่คุ้นตา

เขามองถนนเส้นหนึ่งซึ่งแยกจากถนนสายหลักและเป็นทางเข้าไปยังบ้านของตัวเองด้วยความรู้สึก...บางอย่าง แต่เขาไม่บอกคนขับ

......

.....

....

...

..

.

เขาปล่อยให้คนขับ ขับต่อไปอย่างเงียบๆ

......

.....

....

...

..

.

ราวสิบโมงแก่ๆ รถก็หักเลี้ยวเข้าไปยังถนนเส้นหนึ่ง...ซึ่งเหลือเพียงแค่สองเลน

......

.....

....

...

..

.

คันเร่งยังคงถูกเหยียบแรง และนำพาพวกเขาไปยังถนนลูกรัง

“พี่...ผมขอเหยียบได้ป๊ะ กลัวล้อติดหล่มอ่ะครับ” คนขับถามเขาทันทีที่ล้อเริ่มบนกับดินแดงของพื้นถนน

“ครับ ไว้ค่อยกลับไปล้างได้ครับ” นายภักดีบอก

“โอเค แต่เดี๋ยวขอหลบหลุมบ้างนะครับ พี่เมารถแล้วบอกผมนะ” คนขับแจ้งกับคนที่นั่งมาด้วยกันเป็นการเบื้องต้น

“ครับ” นายภักดีรับคำ

......

.....

....

...

..

.

“วันก่อนมานี่สินะครับ” นายภักดีเอ่ยถามอีกฝ่ายจนได้...เมื่อเขารู้สึกว่าคนขับ ขับหลบหลุมได้เป๊ะ...เหมือนกับว่าใช้ทางมาเส้นนี้มาก่อน

“ถูกต้อง!” คนขับพูดอย่างร่าเริงก่อนหลักวุ๊บ หลบหลุมใหญ่ข้างหน้าได้อีกหลุม “ช่วงล่างไอ้เฉาก๊วยเจ๋งอ่ะ” คนขับชมเปราะ

“ก็ต้องให้คุ้มค่าทำหน่อยสิครับ” นายภักดีบอก

“สิงห์สนามตัวจริงเลยน๊า ก่อนนี้เคยไปแข่งรถมะป๊ะเนี่ย?” นายมะยมแซว

“สมัยหนุ่มๆ น่ะครับ” นายภักดีบอก

“อุ้ย! ผมได้แฟนเป็นอดีตเด็กแว้นเหรอเนี่ย!” นายมะยมทำเสียงเหมือนตกใจมาก

“ผมเล่นรถยนต์ไม่ใช่เล่นมอเตอไซด์นะครับ!” นายภักดีท้วงด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายมะยมหัวเราะร่วน

......

.....

....

...

..

.

เสียงหัวเราะจากคนขับเงียบลงยังไม่ทันถึงอึดใจ รถยนต์ก็เลี้ยวเข้าไปยังทางแยกที่อยู่ขวามือ

......

.....

....

...

..

.

ล้อสี่ล้อบดกับดินลูกรังไปสักสิบนาที เขาก็เห็นบ้านหลังหนึ่งชูหลังคาเหนือร่มไม้ผืนใหญ่

......

.....

....

...

..

.

รถถูกพาเข้าไปในรั้วลวดหนามที่ติดตึงด้วยท่อนไม้เป็นระยะ... แสดงอาณาบริเวณของบ้านแห่งนี้ในแบบชาวบ้านๆ

......

.....

....

...

..

.

นายภักดีมองทุกสิ่งด้วยใจระทึก...ผิดจากปกติ

เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งบอกกับเขาว่า ไปบ้านที่ต่างจังหวัดมา...และระยะเวลาที่ขับมาที่แห่งนี้ เหมือนเท่าๆ กับที่เขารออีกฝ่ายกลับมาในคืนนั้น

......

.....

....

...

..

.

นายภักดีหันไปจ้องหน้าของคนขับนิ่ง

สักพักใหญ่ คนขับก็จอดรถและหันมาส่งยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะเอ่ยปากบอกว่า “ถึงแหละ พร้อมรึยัง?”

“บ้านคุณ?” นายภักดีไม่แน่ใจว่าใช่บ้านของอีกฝ่ายรึเปล่า เพราะเขาจำได้ว่าคนคนนี้เหลือแค่ตัวคนเดียวแล้ว ทว่า ในบ้านที่อยู่เบื้องหน้ารถยนต์คันที่เขานั่งมานี้ มีคนเดินออกมา...และหลายคนด้วย

“บ้านลุงผมครับ บ้านผมอยู่ข้างหลังกันไปนี่เอง ไปทักทายลุงกับป้าผมก่อนนะ เดี๋ยวผมจะพาไปดูบ้านผมต่อ” นายมะยมบอกเขา

“แล้วคุณจะบอกว่าผมเป็นใคร?” นายภักดีกะเตี๊ยมกันไว้ก่อน

“อ๋อ เมื่อวานซืนบอกผมมาบอกไว้แล้วว่าจะพาหลานสะใภ้มาไหว้” นายมะยมยักคิ้วให้...อย่างกวนบาทา

“บอกด้วยมั้ยล่ะครับว่าหลานสะใภ้เป็นผู้ชาย?” นายภักดีต่อความให้

“บอกแหละ” นายมะยมฉีกยิ้ม...แบบผู้ชนะ

“คุณนี่! เหลือเกินจริงๆ ไม่มีบอกกันให้เตรียมใจเลย ทั้งบ้าน ทั้งนี่” นายภักดีดุ...เหมือนเล่นๆ ไม่จริงจัง

“ก็อยากเห็นหน้าแบบเนี้ยะ.....” นายมะยมจับที่ปลายคางของแฟนตัวเองเล่น “น่ารักดี”

นายภักดีปัดมือของอีกฝ่ายออกไป เมื่อหางตาเห็นว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ตัวรถมากแล้ว

......

.....

....

...

..

.


ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
ฮ่าๆ
น่ารักดีอะ
แต่นึกถึงช่วงทอล์กทีไรแล้ว ......

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ฮ่าๆ
น่ารักดีอะ
แต่นึกถึงช่วงทอล์กทีไรแล้ว ......


ต้องถอนหายใจหนักๆออกมาใช่ป่ะ คุณ Rafael

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่เกี่ยงหรอกค่ะว่าจะหน่วง อึน ซึน มึน เศร้า
ยังไงก็ติดตาม กด f5 บ่อยที่สุดก็เรื่องนี้แหละ
ตามติดแทบจะเหยียบส้นเท้ากันเลยทีเดียว
สนุกทั้งเนื้อเรื่องและอารมณ์ร่วมของคนอ่าน
ขอบคุณคนเขียนที่ขยันเหลือเกิน

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
ยังไงก็อยาสลืมนะคะ
เรื่องนี้ แนว น่ารัก ไม่ปวดหัวใจ :))

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
เปิดตัวสะใภ้แว้วววว จะเกิดอะไรขึ้นบ้างน้อ
ลุ้นๆๆ แต่บ้านนี้คงชิวอยู่ม้าง

คุณเบาๆ สู้ๆ สู้ตาย ไว้ลาย สู้ๆ
:ped149:

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:“ก็อยากเห็นหน้าแบบเนี้ยะ.....” นายมะยมจับที่ปลายคางของแฟนตัวเองเล่น “น่ารักดี”.      น่ารักโน๊ะะะะะะะ :m15:

ออฟไลน์ BitterSweet~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 788
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
อ่านทอล์คของคุณเบา เบา
แล้วเราก็ถอนใจ
เข้าใจนะคะว่าชีวิตจริงมีกันทุกรสชาติ
สุข ทุกข์ เศร้า เหงา เสียใจฯลฯ

ไหน ๆ ก็ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว
เรารักตัวละครในเรื่องนี้มาก
อินไปในทุกตัวอักษร
สุขเราก็ยิ้มตาม เศร้าเราก็น้ำตาซึม
กดรีเฟรชในทุกครั้งที่เราเข้ามาดูตอนคุณลงตอนใหม่
ตามติดยิ่งกว่าเรื่องไหน ๆ ที่เคยอ่านมา

ไม่ว่าคุณเบา เบา จะเขียนต่อในทิศทางใด
เราก็จะตามอ่านจนจนจบค่ะ
อย่าเครียดเลยนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

“สวัสดีครับ ป้าเย็น” นายมะยมยกมือไหว้แล้วเดินเข้ากอดหญิงกลางคนคนหนึ่งที่เดินยิ้มมาทางพวกเขา

“ป้ายังคุยกับไอ้เฒ่าอยู่เลยว่าหยุดสองวันนี้ พ่อยมจะมาเที่ยวบ้านมั้ยน๊า เนี่ย เคี้ยวหมากยังไม่แหลก พ่อก็มาแหละ” ป้าเย็นบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“พี่มานี่ครับ” นายมะยมกวักมือเรียกนายภักดีที่ยืนยิ่งอยู่ตรงประตูในฟากของตนเอง แล้วหันไปพูดกับป้าของตนเองต่อ “นี่แฟนผมครับ ที่เล่าให้ฟังเมื่อวันก่อน หลอกเอาตัวมา ไม่ได้บอกเค้าหรอกว่าจะพามาเยี่ยมป้าเย็นกับลุงหมาย”

“โธ่ พ่อยมนี่!” ป้าเย็นตีแขนหลานตัวเองแทนการทำโทษ แล้วหันหน้าไปหาผู้ชายอีกคนที่ตัวขาวจั๊วะ “พ่อไม่ต้องเกรงใจนะ ถือว่ามาเที่ยวบ้านนอกก็ได้ มะ มะ กินข้าวกลางวันกัน ป้ากำลังย่างปลาค้างไว้อยู่เลย ต้องรีบกลับไปดู เดี๋ยวมันไหม้ ไอ้เฒ่ามันจะโวยเอา”

ป้าเย็นพูดจบก็เดินกลับไปยังตัวบ้าน

นายภักดียังยืนกับที่เพราะมีชายอีกคนที่ยังไม่ถูกแนะนำให้เขาได้รู้จัก

“พี่ศักดิ์ นี่แฟนผมครับ น่าจะอายุเท่าพี่ล่ะมั๊ง พี่ภัก นี่ญาติผู้พี่ผมชื่อพี่ศักดิ์ แล้วตัวเล็กนั่นก็น้องบัว ลูกสาวพี่ศักดิ์ครับ” นายมะยมหันมาแนะนำ

“ไหว้น้ามะยมรึยังบัว” นายศักดิ์ก้มหน้าบอกลูกสาวตัวเอง

น้องบัวโผล่หน้าออกมาจากขาของพ่อ และยกมือไหว้แบบ...นางสาวไทย

“โรงเรียนเค้าสอนมาดีครับ ไหว้ทีจะเต็มยศ ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายมะยมแซวหลานสาวตัวเอง

น้องบัวเขินที่รู้ว่าตัวเองถูกเอาไปหัวเราะเยาะเลยวิ่งตื้อกลับเข้าไปในบ้านทันที

“มึงนะ ไอ้ยม ลูกกูยิ่งขี้อายอยู่” นายศักดิ์บ่นอุบ

นายภักดีรอจังหวะที่จะยกมือไหว้อีกฝ่าย...ถึงอาจอายุเท่ากันแต่เขาก็ไหว้ด้วยความเคารพว่าคนนี้เป็นญาติผู้พี่ของนายมะยม

“โหย ไม่ต้องไหว้ครับคุณ ไอ้ยมบอกว่าคุณแก่กว่ามันหกปี งั้นคุณก็เท่าๆ กับผม....ยินดีทีได้เจอตัวครับ” นายศักดิ์ยื่นมือมาทางเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

นายภักดียื่นมือไปจับกับอีกฝ่ายทันที “ครับ เช่นกันครับ”

“ว๊า......คุณสุภาพเหมือนที่ไอ้ยมบอกเลย แต่อย่าถือนะ ผมมันคนโผงผาง ไม่ใช่คนเถื่อนอะไร หากพูดห้วนๆ ไปก็ขอโทษล่วงห้ด้วยนะครับ” นายศักดิ์ออกตัวก่อน

“คุณศักดิ์ตามสบายเถอะครับ ผมไม่ได้ถืออะไร” นายภักดีออกตัวบ้าง

“นั่นไง แค่คุณก็คันแหละ” นายศักดิ์พูดจบก็หัวเราะร่วน

“เอ่อ...” นายภักดีพูดไม่ถูก... เพราะไม่เคยเรียกใครห้วนๆ มาก่อน ถึงพี่รักพี่ชายฝาแฝดตัวเองจะพูดในแบบคล้ายๆ กันนี้ แต่ไม่รู้อย่างไร เขาถึงติดใจกับการเรียกคนอื่นว่าคุณไว้เสมอ...ก็ไม่ทราบได้

“มันล้อเล่นครับพี่ อย่าไปเอาสาระกับมัน ป๊ะ หอมปลาแหละ กินข้าวกันดีกว่า” นายมะยมพูดพลางยื่นแขนมาดันหลังเขาให้เดินเข้าไปในเขตของบ้าน

......

.....

....

...

..

.

ตั้งวงทานข้าวมื้อกลางวัน...โดยมีลุงหมาย ป้าเย็น คุณศักดิ์ น้องบัว นายมะยมและเขามุงกันเป็นวงกลมอยู่บนแคร่ขนาดใหญ่

ลุงและป้าของนายมะยมซักถามบ้านเกิดและหน้าที่การงานกับเขาตามความเหมาะสม และนอกนั้นก็คุยกันเรื่องทั่วไป

ครอบครัวนี้เลี้ยงวัวเป็นอาชีพ และปลูกข้าวไว้กินกันเอง ส่วนต้นไม้ที่เห็นไปทั่วบริเวณรั้วบ้าน ก็ปลูกไว้เก็บกินเอง เหลือจึงแบ่งปันเพื่อนบ้าน

นายภักดีฟังผู้ใหญ่เล่าอดีตของนายมะยมไปพลางค่อยๆ ละเลียดกินข้าวกลางวันไป...อย่างไม่เร่งรีบ เพราะไม่มีใครรีบกินสักคน

......

.....

....

...

..

.

ชีวิตของคนต่างจังหวัดที่อยู่เลยออกมาจากตัวเมือง อยู่โดยอิงไปตามธรรมชาติ...ใช้นาฬิกาแดดแทนนาฬิกาเฟือง แดดร่มก็ทำงาน แดดจ้าเกินไปก็หลบเข้ามาในบ้าน

น้ำประปามีใช้ แต่ก็มีโอ่งใหญ่ไว้รองรับน้ำฝนเรียงยาวไปตามความยาวของบ้านไม้ที่ตั้งเสาสูง

บ้านที่อยู่กันชั้นเดียวคือชั้นบน ส่วนด้านล่างใต้ถุนนั้นมีไว้ทำกิจกรรมอื่นๆ อาธิ ทำกับข้าว นอนกลางวัน จักรสานกระบุง และแม้กระทั่งถักแห

ปลาที่กินกันนี้ ไม่ได้ซื้อ ลุงหมายไปเหวี่ยงแหได้มา...เลือกไม่ได้ว่าวันนี้จะได้กินอะไร เสี่ยงเอาตามโชค----วันนี้นายภักดีโชคดีที่ได้ปลานิลมาย่าง ไม่อย่างนั้นเขาคงลำบากใจว่าจะบอกพวกเขาอย่างไรดีว่าตนไม่กินปลาที่มีก้างเยอะ

......

.....

....

...

..

.

กินข้าวเสร็จ นายภักดีเดินเอาจานไปล้างกับนายมะยม....อันที่จริงพวกเขาจะไม่ให้ทำเสียด้วยซ้ำ ดีที่นายมะยมช่วยบอกให้ จึงได้ล้างจานแทนค่ากับข้าวที่กินไปซะพุงกลางของเขาบ้าง

......

.....

....

...

..

.

อ่างล้างจานของบ้านนี้ มีแค่กาละมังสามใบและตะกร้าใบใหญ่หนึ่งใบ....ตั้งอยู่ตรงระยะช่วงกึ่งกลางของความยาวบ้าน เถิบออกไปจนเกือบพ้นหลังคาที่ยื่นยาวเผื่อออกมาเป็นร่มให้กับตัวบ้าน

เขานั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ พอดีก้น... ข้างๆ กับนายมะยมที่จองกาละมังน้ำยาล้างจาน

นายมะยมเอาฟองน้ำลูบจานแล้วหย่อนมันลงกาละมังหนึ่ง

นายภักดีจุ่มมือลงไปในน้ำแล้วเอาจานมาลูบๆ คราบน้ำยาจนพอใจก่อนที่จะเอามันหย่อนลงไปยังกาละมังน้ำเปล่าอีกใบ

“แช่ไว้อย่างนั้นก่อนครับ เดี๋ยวค่อยเอาไปคว่ำในตะกร้า” นายมะยมบอก...

“ก็ล้างไปทีละใบสิ บ้านผมก็ทำแบบนี้” นายภักบอก

“เอาไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยไปทำ” นายมะยมยืนยันคำเดิม

“คุณนี่แปลก!” นายภักดีบอก...แต่ก็ยอมทำตาม

......

.....

....

...

..

.

ล้างน้ำหนึ่งจนครบหมดแล้ว นายมะยมจึงหยิบเก้าอี้ของตัวเองมาวางข้างๆ เขา..ตรงหน้าตะกร้า “พี่ไปนั่งนั่นป๊ะ”

“ทำไมล่ะ?” นายภักดีไม่เข้าใจ แต่ก็ลุกไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวตามที่นายมะยมบอก

นายมะยมเดินไปนั่งที่เก้าอีกซึ่งเขาเพิ่งลุกขึ้นมา

“โอ้ย! ไอ้คู่นี้มันน่าดูชมเนอะ! นั่งกินข้าวก็ต้องนั่งข้างกัน นั่งล้างจานก็ยังจะนั่งข้างกันอี๊ก” ลุงหมายเดินหัวเราะร่วนมายื่นผ้าให้นายภักดี

นายภักดีรับผ้าสีขาวมาแบบงงๆ ....ด้วยใบหน้าร่อนผ่าว

“ไอ้เฒ่า! รู้ว่าพ่อภักแกขี้อายยังไปแหย่เค้าอีกนะ! เดี๋ยวเหอะ! เดี๋ยวเค้าไม่มาหาเอ็งอีกอย่ามาบ่นเชี๊ยว!” ป้าเย็นเอ็ดเสียงดังตะโรมาจากแคร่ตัวเดิมที่นั่งทานข้าวกัน

ลุงหมายหัวเราะถูกใจและเดินเลยพวกเขาเข้าไปในสุมทุมพุ่มไม้...หลังบ้าน

“เอาไว้เช็ดจานก่อนคว่ำครับพี่” นายมะยมบอกเขา

“อื้อ....” นายภักดีรับคำในลำคอแล้วเอาใบหน้าที่ร้อนผ่าวของตัวเองกลับมา...รับจานไปจากมือของนายมะยม

“ลุงหมายแกชอบแหย่คนน่ะ ไม่มีอะไรหรอก” นายมะยมพูดพลางก้มหน้าลงไปเอามือรูดจานในน้ำ และยกขึ้นมาใช้นิ้วลูบจนได้ยินเสียงปื๊ดๆ แล้วจึงยื่นมาทางเขา

“อื้อ....” นายภักดีรับคำในลำคอ...ยังอายไม่หาย จึงนั่งเช็ดจานไปพลางฟังเสียงนายมะยมหัวเราะเยาะในลำคอไปพลาง...นิ่งๆ ไม่แสดงอาการ

......

.....

....

...

..

.



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
พ่อมึงก็น่ารักเหมือนกันนะ ฮ่าๆๆ


ถ้าเป็นอย่างคนข้างล่างว่า
ก็อ่านต่ออย่างสบายใจล่ะครับ
vvv
vv
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 17:03:33 โดย -~iK@iZ_KunG~- »

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
แหะ...ขอโทษที่พาหน่วงนะคะ พอดีเราได้รับ pm จากคุณเบาเบาแล้ว
ไม่แน่ใจว่าให้บอกคนอื่นได้ไหมคะ? แต่ใบ้ให้ว่ามันทำให้เรายิ้มกว้างอะค่ะ
แบบว่า เราคิดมากกันไปเอง >______< ~ แฮ่ๆ

ออฟไลน์ ทิวลิปสีส้ม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
เฉาก๊วย = BM ไม่ X สินะคะ ฮาๆ เราเดาตั้งแต่ที่คุณภักถามแล้วว่าเอาเฉาก๊วยมาด้วยรึเปล่า
ตอนแรก คิดไปถึงหมา แต่ ...(นิ่งไปสองวิ) คุณภักกับเจ้าหัวลูกเจี๊ยบไม่ได้เลี้ยงหมานี่นาแล้วก็อืม...นิ่งไปอีกแว่บ แล้วก็ "อ่อ" ฮ่าๆ (แล้วนี่เราจะมาอธิบายกระบวนการคิดทำไม? กร๊าก)

เข้าเรื่องนะคะ สารภาพ กับเรื่อง รู้แล้ว เราไปอ่านมาตั้งแต่ตอนที่คุณเบาเบาลงไว้ใหม่ๆ แต่ไม่ได้เม้น เพราะ...
เม้นไม่ออกค่า ไม่รู้ว่าใครเป็นไหมแต่เวลาเจออะไรที่บีบความรู้สึกมากๆ หัวสมองมันจะประมวลอะไรออกมาไม่ได้ เราก็เลยตัดสินใจไม่เม้นเพราะถ้าเม้นมันจะไม่รู้เรื่อง (ขนาดเม้นตอนปกติยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย กร๊าก) หวังว่าคงไม่โกรธกันนะคะ
ตอนแรกเราว่าจะไม่พูดถึงแหละแต่พอได้มาอ่านเรื่องของมะยมที่โยงไปกับเรื่องนั้นแล้วทำให้เราได้รู้รายละเอียดอีกด้านเรางี้น้ำตาคลอเลยค่ะ จมูกแดงมาก แบบว่ากลั้น อดทนอ่าน อดทนอ่านไป อ่านไปให้จบ ฮือ โครตบีบเลยค่ะ ชอบนะ แต่ก็ไม่ชอบที่มันเศร้า (มากเกินไป) ซึ้งเกินไป ตรงเกินไป มันเป็นอะไรที่บีบความรู้สึกมากๆ เป็นความจริงที่ว่าคนเป็น ไม่มีทางสู้คนตายได้ จริงๆ ค่ะ ไม่มีทางที่คนเป็นจะมาแทนที่คนตายได้ ไม่มีเลย ความรู้สึกที่เรามีให้คนที่สูญเสียไปมันจะมีแต่คงอยู่ รึไม่ก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น ไม่มีทางลดลง ให้ตายเหอะ น้ำตาจะไหลอีกแล้ว
โคตรเศร้าเลยแม่ง (ขออนุญาตสบถไม่ไหวแล้วค่า บ้าเอ้ย)
เอาเป็นว่า กับเรื่องนี้เราขอบอกว่าเราไม่ผิดหวังนะคะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุขเวลาที่เราได้อ่าน และจะมีความสุขมากเมื่อตัวละครในเรื่องมีความสุข ฮ่าๆ ที่สำคัญเรายึดมั่นกับคำที่คุณเบาเบาเคยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ปวดหัวใจนะคะ เราเชื่อ เพราะงั้นไม่ว่ายังไงก็จะไม่ผิดหวังจะติดตามต่อไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ บวกหนึ่งนะคะ สู้ๆ :a2:
อีกอย่างได้รับคำยืนยันจากคุณ 맀..Lich✿  มาด้วยแล้ว เราก็เบาใจ ไปกับคุณเบาเบา ฮา (แอบมีเล่นคำบ้าง'ไรบ้าง ฮ่าๆ)
จะอมยิ้มแก้มตุ๋ยรอตอนต่อไปค่ะ !!!
ว่าแต่ว่านายมะยมล้างจานแล้วมีรูดเสียงดังปื๊ด... ป๊าด!!! แสดงว่าสะอาดมากๆ เลยนะคะ สุดยอด   :laugh:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :กอด1:

สู้ๆ  ค่ะ  ตามต่อไป

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :m15: :m15: :m15:  ต้องเตรียมตัวทำใจ หรือป่าวคะ

armmyrine

  • บุคคลทั่วไป
 :m17:        :m13:      :m26:       :m3:    o9 o9 o9 o9 o9 o9.                                                                                                                       เค้่าเสียใจ.  พ่อมึงน่ารัก(อื้อ).  เค้ากะซิบกันหลังไมค์ว่าhappy end.   เค้าจะเอาตอนต่อไป อื้อๆๆๆๆๆๆ....

ออฟไลน์ minchy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +173/-0
ถึงผู้เขียนที่รัก

ทีแรกพ่อกูก็เหมือนไม่ยอม แต่ก็โอเคแหละ ไม่มีปัญหา...ส่วนชื่อเจ้าบ้านกูอยากให้เป็นชื่อพ่อกูว่ะ” นายมะยมบอกเพื่อน

“อืม...กู้คนนึง แต่ชื่อเจ้าของบ้านเป็นอีกคน มันจะยุ่งมั๊ง...ที่สำคัญ พ่อมึงเค้าจะรับเรอะ” นายศรเกาคางพลางคิด “

“นั่นแหละ เฮ้อ....” นายมะยมถอนลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน

“ถึงบ้านมันไม่ใช่รถ แต่ยังไงมันก็เป็นทรัพย์สิน มึงลองคุยกับพ่อมึงดีๆ ก่อน คุยกันแล้วเค้าอาจรับก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก.... หากเค้าไม่รับมึงก็จดชื่อเป็นเจ้าของบ้านร่วมกันไปเลย” นายศรเสนอทางเลือกเพิ่มให้อีกทาง

จากท่อนความนี้  คืออยากแชร์ความรู้กับผู้เขียนว่า  เจ้าบ้านกับเจ้าของบ้านไม่เหมือนกันนะคะ   เราสามารถเป็นเจ้าบ้านได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของบ้าน แล้วการเป็นเจ้าบ้านไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนั้น เช่นเราอาจมีเงินซื้อบ้านได้หลายหลังแต่เป็นเจ้าบ้านตามทะเบียนบ้านได้เพียงหลังเดียว  ส่วนหลังอื่นๆ ที่ซื้อมาอาจให้ใครเป็นเจ้าบ้านก็ได้  ส่วนการจดชื่อร่วมทำไม่ได้ค่ะถ้าเรากู้แบงค์ซื้อบ้าน บ้านจะต้องเป็นของคนกู้เพียงคนเดียวไม่สามารถเพิ่มเจ้าของร่วมไปได้ เว้นแต่ว่าจะกู้ด้วยกัน


อยากให้เรื่องที่แต่งมีความสมจริงค่ะ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
มีหลังไมค์กันด้วย ฮี่ฮี่
ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยนึง ฮาาา
ตามกันต่อไป ฮิ้ววว

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

“ป้า ขอกุญแจด้วยครับ จะพาพี่ภักไปดูบ้าน” นายมะยมเดินไปแบมือหน้าป้าเย็น

ป้าเย็นวางหยุดมือและทำท่านึก.... “อยู่ในกล่องแฮ๊กซ์ในตู้บนบ้านแหละพ่อยม เดินไปเอาเองไป๊ ป้าขี้เกียจเดินขึ้นเดินลง หัวเข่ามันไม่ค่อยดี”

“ครับ..พี่ภักเดี๋ยวผมมานะ” นายมะยมหันมาบอกเขาก่อนที่จะวิ่งตึกตึกขึ้นกระไดบ้านไป

......

.....

....

...

..

.

นายภักดีนั่งลงตรงข้ามกับป้าเย็น “ป้าทำอะไรเหรอครับ?”

“แกะเม็ดมะรุมน่ะพ่อ” ป้าเย็นบอก

“แกะไปทำไมเยอะแยะล่ะครับ” นายภักดีได้เรื่องชวนคุย

“มีคนมาขอซื้อบ้างน่ะพ่อ เค้าว่าจะเอาไปทำยา เนี่ย หลังบ้านพ่อยมเค้ามีเต็มเลย เดี๋ยวพ่อยมคงพาพพ่อภักไปดูล่ะจ้า ไอ้นี่มันชอบอวด ประเดี๋ยวพ่อเอาร่มไปด้วยนะ เกิดมันนึกครึ้มพาเดินไปเที่ยวนาน่ะ พ่อจะเป็นลมเป็นแล้งเอา” ป้าเย็นพูดด้วยความห่วงใย

“ผมไม่อ่อนแอขนาดนั้นหรอกครับ” นายภักดีบอกกับหญิงวัยกลางคนด้วยใบหน้าอมยิ้ม

“คนเมืองกรุง อยู่แต่ในตึก ไม่ค่อยได้ออกมาเจอแดด อาจไม่รู้ แดดบ้านนอก ตรงที่นามันแรง พ่อภักเอาติดมือไปน่ะดีแล้ว ยังไงก็เผื่อฝนตกล่ะนะ” ป้าเย็นบอก

“ครับ” นายภักดีรับคำ

“พ่อแม่พ่อภักยังสบายดีมั้ยล่ะ ป่วยไข้อะไรมั้ย?” ป้าเย็นเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอารีย์

“ก็มีโรคคนแก่บ้างครับ แต่ไม่หนักหนาอะไร” นายภักดีตอบ

“อยู่อำเภอใกล้ๆ กันนี่เองเนอะ โลกมันกลมเสียจริง นี่ขากลับพ่อภักจะแวะไปที่บ้านรึเปล่าล่ะ?” ป้าเย็นถาม

“คงไม่ล่ะครับ กว่าจะได้ออกจากนี่คงเย็น ไปถึงบ้านฝนค่ำๆ กลัวว่าท่านจะไม่สะดวก” นายภักดีบอก

“ฮ๊าย...ลูกไปหาทั้งที คนเป็นพ่อเป็นแม่มีอะไรไม่สะดวกรึพ่อภัก? ถ้าอยากไปก็ไป อย่าไปคิดมาก คนแก่อย่างป้าน่ะนะ แค่ได้เห็นหน้าลูกหน้าหลาน ได้รู้ว่าอยู่ดีมีสุข เท่านี้ก็พอแล้วล่ะ” ป้าเย็นบอก

“ครับ งั้นเดี๋ยวผมดูเวลาก่อน ถ้าออกไม่เย็นมากนักคงได้แวะไป” นายภักดี...โกหกไปคำโต

......

.....

....

...

..

.

บางเรื่อง...มันก็ยากที่อธิบาย

บางเรื่องถึงบอกไป...ก็เกรงว่าผู้ใหญ่อาจไม่เข้าใจ

......

.....

....

...

..

.

นายภักดีเดินตามหลังนายมะยมไปเรื่อยๆ จนเดินมาถึงบ้านที่ร้างหลังหนึ่ง

บ้านไม้เหมือนกับของป้าเย็นและลุงหมาย เสาสูง บันไดชัน และตัวบ้านที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ซึ่งอยู่...ชั้นบน

“โห มีแต่ฝุ่น สงสัยพายุปีนี้จะแรงแฮะ” นายมะยมพูดพลางเอาไม้ที่กั้นทางขึ้นลงบันไดบ้านออก แล้วก้าวขึ้นนำขึ้นไป

นายภักดีเดินตามหลังไปในระยะเว้นสองขั้นบันได

......

.....

....

...

..

.

เมื่อประตูเปิด นายภักดีจึงเห็นภายในของบ้านหลังนั้น... ทุกสิ่งยังคงเหมือนมีผู้อาศัย ไม่มีผ้าคลุมไว้ ไม่มีกล่องอะไรให้ระเกะระกะ

หยากไย่มีให้เห็นบ้าง...แต่ไม่มากอย่างที่เขาคิดไว้เมื่อแรกเห็นบ้านหลังนี้จากภายนอก

ทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้าน เขารู้สึกเย็นนิดๆ ผิดกับตอนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงบ้าน...ที่ว่าก็เย็นผิวในระดับหนึ่งแล้ว

“ตอนคุณอยู่คงแทบไม่ต้องเปิดพัดลมเลยสินะครับ” เขาเอ่ยถามพลางเหลียวมองนั่นนี่ด้วยความ...สนุก ความรู้สึก-----คล้ายกับมาเปิดกรุสมบัติ...ของคนอื่น

“เวลาหน้าร้อนก็เปิดนะ อันที่จริงหน้าอื่นก็เปิด แต่พ่อกับแม่ชอบมาปิด” นายมะยมบอกให้ฟัง

“หึหึหึ...ในบ้านนี้มันเย็นแล้ว นั่งตากพัดลมมากๆ มันจะเป็นหวัดได้นะครับ” นายภักดีบอกอีกฝ่าย

“พี่พูดเหมือนพ่อแม่ผมเลย” นายมะยมบอกแต่ไม่หันหน้ามาทางเขา เพราะยังวุ่นอยู่กับการเปิดประตูบานหนึ่ง

......

.....

....

...

..

.

แอ๊ด---เสียงประตูบานนั้นเปิด

ภาพวิวของที่นาซึ่งมีผืนติดๆ กันขนาดใหญ่ปรากฏสู่สายตาของนายภักดี ลมเย็นพัดวูบมาโดนตัวเขา และไล้เหงื่อที่ซึมอยูกับผิวของเขาให้เหือดแห้ง...ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ

นายมะยมไม่รู้ไปเอาผ้าจากที่ไหนมาเช็ดที่พื้น ก่อนจะเรียกเขาให้ไปนั่งห้อยขาอยู่ตรงประตูบานนั้น

นายภักดีเดินไป และชโงกดู...ด้านล่างไม่มีอะไรเลย มันเห็นพื้นดินที่อยู่ด้านล่าง ชวนให้เสียวไส้พิกล “มัน....”

“มานั่งน่า ไม่ตกลงไปหรอก ผมนั่งบ่อยไป” นายมะยมกระตุกมือเขาหยิกๆ ...ให้ลงมานั่งห้อยขาด้วยกัน

“มันเสียวตกน่ะครับ......ผมนั่งตรงนี้ดีกว่า” นายภักดีบอกพลางเดินถอยหลังมาก้าวหนึ่งและกะว่าจะนั่งยองๆ ที่ตรงนั้น

“พี่อ่ะ มานั่งนี่” นายมะยมยึดข้อมือของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย....และแก้มเริ่มป่อง

“เฮ้อ-----” นายภักดีถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินไปตรงนั้น ไม่มองลงไป และค่อยๆ นั่งลง...ห้อยขาแบบอีกคน “คุณ...ช่วยจับผมไว้หน่อยนะ มันยังไม่ชินน่ะ” เขาบอกแบบเสียงสั่น...นิ๊ดนิ๊ด

“ฮึฮึฮึ...” นายมะยมหัวเราะในลำคอพร้อมกับสอดแขนมาโอบเอวของอีกฝ่ายไว้ ส่วนมืออีกข้างนั้น...คว้ามือที่มีสีผิวขาวกว่าของตัวเองมากุมไว้ตรงหน้าตัก

นายภักดีทำตาดุใส่....

“ไม่มีใครนิ” นายมะยมหาข้ออ้าง

“ถ้ามีใครมาต้องปล่อยนะครับ มันไม่ใช่ในห้องเรา” นายภักดีเตือน

“คร๊าบบบบ” นายมะยมรับคำเสียงยาน

......

.....

....

...

..

.

เขานั่งอยู่ในท่านั้น มองดูที่นาสีเขียวอ่อนพลางฟังอีกฝ่ายเล่าเรื่องตัวเองสมัยเด็ก... ตกบันไดเพราะเล่นเวิ่งขึ้นลงบันได โดนพ่อตีเพราะลูกจับปลาช่อนมาขังไว้ในถัง โดนแม่หวดเพราะเอารังนกกับไข่นกมาเก็บไว้ในบ้าน.....และอีกมากมาย

นายภักดีทั้งยิ้มทั้งขำกับสิ่งที่ได้ยิน

......

.....

....

...

..

.

“เคยบอกมั้ยว่าผมรักพี่” นายมะยมถามขึ้นมาดื้อๆ

“เคยได้ยินครับ” นายภักดีอมยิ้ม

“แล้วเคยได้ยินรึเปล่าว่าผมรักพี่ม๊ากมาก” นายมะยมถามต่อ

“หึหึหึ...ยังไม่เคยครับ” นายภักดีตอบพร้อมกับหัวเราะในลำคอ

“เคยแล้ว” นายมะยมแย้ง

“เมื่อไหร่ล่ะครับ? ไม่เคยสักหน่อย” นายภักดีบอก

“เมื่อกี้ไง” นายมะยมยักคิ้วให้

“.....สมกับที่พ่อคุณบอกว่าปวดหัวกับลูกคนนี้นะครับ” นายภักดีว่าเข้าให้

“ฮื้อ... ตอนแม่เสียนะ พ่อจะบวชอยู่แล้ว แต่พ่อก็มีห่วงกับผมเลยไม่บวชเสียเดี๋ยวนั้น พ่อรอจนผมทำงานเองได้ ถึงค่อยทำตามที่ตัวเองต้องการ....ไอ้ศรก็เหมือนกัน ไอ้กันด้วย ไอ้ต้นไม้ด้วย ผมรู้นะว่าพวกมันก็ห่วงผมต่อจากพ่อผม” นายมะยมบอก

“คุณเป็นคนคิดน้อย แถมใจดีกับคนอื่นเขาไปทั่ว ชอบสงสารคนโน้นคนนี้...ไม่น่าห่วงไวเหรอครับ” นายภักดีเห็นด้วยกับเพื่อนๆ ของคนคนนี้

“พี่อ่ะ ปวดหัวกับผมป๊ะ” นายมะยมถามเขา

“ฮ่าฮ่าฮ่า....ต้องตอบด้วยเหรอครับ รู้เองแล้วล่ะมั๊ง” นายภักดีเล่นแง่

“ปวดหัวมากมั้ย?” นายมะยมถามต่อ

“ฮ่าฮ่าฮ่า...” นายภักดีไม่ตอบแต่ขำแทน

“แล้วรักมากด้วยป๊ะ?” นายมะยมถามโต้งๆ

“รักมากสิครับ มากขึ้นทุกๆ วันเลยล่ะครับ” บางสิ่งเขาอยากบอก...บอกให้ชัดๆ บอกให้ทราบ บอกให้เข้าใจ

“เหมือนกันเลย” นายมะยมพูดด้วยน้ำเสียงเริงร่า

“งั้นขออะไรอย่างนึงสิครับ” นายมะยมบอกเขา

“อย่าบอกนะว่าจะขอแต่งงานน่ะ” นายภักดีเลิกคิ้ว...เป็นเชิงว่ารู้ทัน

“อันนั้นมันก็ใกล้เคียง...พี่ๆ บ้านที่ซื้อน่ะ เอาเป็นชื่อพี่นะ ผมให้” นายมะยมได้โอกาสบอก...พอดี

นายภักดีขมวดคิ้วสักพัก ก่อนจะเอ่ยปาก “มัน...ยุ่งยากครับ อย่าเลย”

“งั้นชื่อเราสองคน” นายมะยมไม่ยอม

“คุณกู้เงินซื้อบ้านนะครับ เรื่องมันจุกจิกเยอะ ใครกู้ก็ชื่อคนนั้นง่ายกว่าครับ” นายภักดีบอก

“ไม่เอาอ่ะ จะให้พี่อ่ะ” นายมะยมโยเย

“ถึงให้ก็ไม่เอาครับ” นายภักดีบอกปัดชัดถ้อยชัดคำ

“พี่อ่า ไหนว่ารักมากไง ขี้ปดอ่ะ” นายมะยมแก้มป๋องเต็มที่

“ผมก็ไปอยู่กับคุณอยู่แล้วนี่ครับ บ้านจะเป็นของคุณหรือผมไม่เห็นสำคัญเลย” นายภักดีพูดปลอบใจอีกฝ่าย

“แต่ขอพี่แต่งงานแล้วไม่มีอะไรให้พี่เลยได้ยังไงอ่ะ” นายมะยมบอกด้วยเสียงขัดใจ

นายภักดีฉีกยิ้ม “ให้ผมเข้าไปอยู่บ้านนั้นด้วย สำหรับผมมันเป็นรางวัลชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตผมแล้วล่ะครับ”

“ก็อยากให้มันเป็นของเรา ไม่ใช่ของผมคนเดียวนี่นา” นายมะยมยังไม่ยอม

“แหวนสักวง ก็พอแล้วมั๊งครับ” นายภักดีต่อรอง

“อันนั้นจะให้อยู่แล้ว” นายมะยมทำปากจู๋

“นี่เหรอครับสิ่งที่จะขอกับผมถึงขนาดต้องผมพามาที่นี่” นายภักดีย้อนถาม

“ไม่ใช่ครับ” นายมะยมส่ายหน้า

“แล้วอะไรล่ะครับที่จะขอผม” นายภักดีเบียงประเด็น

“เนี่ย บ้านเนี้ยะ เป็นชื่อผมแล้ว ก่อนพ่อบวชพ่อยกทุกอย่างไว้ให้ผมหมดแล้ว พื้นที่ก็เท่าที่พี่เห็นนี้แหละ ผมมีวัวอีกยี่สิบตัว มันก็มีลูกเพิ่มมาทุกปีนะ แต่ตามธรรมชาติ ไม่ได้ไปเร่งอะไรมัน...แล้วก็มีที่นา ให้เค้าเช่า....พื้นที่มันรวมกันทั้งของพ่อของแม่ ราวๆ สิบไร่ได้” นายมะยมจ้องตากับคนที่รักด้วยใบหน้าจริงจัง

“แล้ว....” นายภักดีรู้สึกว่าอีกฝ่ายยังพูดไม่หมด

“เรื่องบ้านที่ซื้อผมยังไงก็ได้ จริงๆ แล้ววันนี้ผมอยากขอพี่อย่างนึงมากกว่า มันอาจไม่สำคัญสำหรับคนอื่น...หรือพี่ แต่ผมคิดว่ามันสำคัญสำหรับผม ผมเคยไม่คิดถึงมันมาแล้วครั้งนึง ตอนที่พี่บอกว่าพ่อพี่ไม่ชอบในสิ่งที่พี่เป็น แต่พอไปงานศพของแฟนคุณวี...อันที่จริงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องพวกเขาหรอกครับ แต่พอกลับมาจากงานนั้น พอนึกถึงเรื่องของพวกเขา แล้วผมหยุดคิดถึง ‘สิ่งนี้’ ไม่ได้...” นายมะยมค่อยๆ พูดแต่ละคำให้เขาฟัง

“ ‘สิ่งนี้’ มันคือ...” นายภักดี...เริ่มอยากรู้

......

.....

....

...

..

.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 21:30:44 โดย BaoBao »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :a5:  มันคือ.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 19:46:14 โดย Noo_Patchy »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
มันคืออะไรล่ะค้าาาาา
อย่างค้างเติ่งแบบนี้สำคะคุณเบาๆขา

 :serius2:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :z3:

ค้างอ่ะ  มันคืออะไรคะ  มะยม  มาตอบด่วนนนน

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ยิ่งอยากรู้เข้าไปใหญ่

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
คือ...............

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
คือ...................................อะไร?

ตามลุ้นติดจอจ้า

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

คุณเบาเบา

ส่งกำลังใจมาให้นะคะ  :L2: พร้อมกอดแรงๆ  :กอด1:


เรื่องนี้น่ารัก จึงมีความเชื่อเป็นส่วนตัว  :man1:


ส่วนนายมะยมจะพูดอะไรกับพ่อมึงก้อให้ว่อง
ชาวบ้านเค้าอยากรู้อยากเห็นกันมากมายแล้ว ทิ้งไว้มันอึดอัดนะพ่อนะ

 :z3:


ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2


......

.....

....

...

..

.

“ผมอยากขอให้พี่เปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกันกับผม!” นายมะยมบอกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“.....” นายภักดีนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน

......

.....

....

...

..

.

ไม่มีคำตอบใดจากปากนายภักดี
 
......

.....

....

...

..

.

ไม่มีคำขอใดอีกจากปากนายมะยม

......

.....

....

...

..

.

คนทั้งสองนั่งเหม่อมองที่นาสีเขียวอ่อนที่กว้างสุดตาเบื้องหน้า...และต่างตกอยู่ในภวังค์ความคิดของแต่ละฝ่าย

......

.....

....

...

..

.

เป็นนานกว่าที่คนหนึ่งจะเอ่ยขึ้นมา

“แดดอ่อนแหละ ไปเดินเล่นที่นากันครับ” นายมะยมลุกขึ้นและชวน...พร้อมกับยื่นมือไปให้อีกฝ่าย

นายภักดีมองฝ่ามือที่มีสีผิวเข้มกว่าตัวเอง...นิ่ง

......

.....

....

...

..

.

นายภักดียื่นมือไปให้อีกคน...ฉุดตัวเองให้ลุกขึ้น
 
......

.....

....

...

..

.

เมื่อปิดประตูบานนั้นแล้ว นายมะยมก็เอามือของเขาไปกุม และจับมือนั้นจูงเดินลงไปจากบ้าน....

นายมะยมหยิบร่มที่นายภักดีถือติดมือมา...กาง และพานายภักดีเดินเลาะรั้วบ้าน จากนั้นจึงเดินเข้าสู่ผืนนาสีเขียวอ่อนสดชื่น

......

.....

....

...

..

.

พวกเขาเดินกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำพูดใด...มีแค่เสียงของนกกาซึ่งบินผ่านไปมา...เพื่อหากิน

......

.....

....

...

..

.
 
บางสิ่ง...อาจไม่สำคัญสำหรับคนอื่น

แต่บางสิ่งที่ว่านี้อาจสำคัญยิ่งกับคนคนหนึ่ง

หาก...ทางบ้านของเขาเป็นแบบญาติของนายมะยม นายภักดีคงไม่คิดมากขนาดนี้
 
......

.....

....

...

..

.

นายภักดีตามความคิดของนายมะยมทัน... และซาบซึ้งกับความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้ตัวเอง

สิ่งที่เขาตามหามาตลอดชีวิต เขาได้มันมากุมไว้ในมือแล้ว

และเวลานี้สิ่งนั้นกำลังเรียกร้องเอาจากเขาบ้าง...


......

.....

....

...

..

.

อย่าให้คิดถึงเรื่องทางกฏหมาย มันยุ่งยาก และซับซ้อน

แต่มันจะง่ายหากเป็นไปในทางกลับกัน....คือให้นายมะยมมาใช้นามสกุลของเขา

หากเป็นกรณีนี้ สิ่งที่ยุ่งยากกว่ากฏหมายคือ....พ่อของเขา

......

.....

....

...

..

.

“นั่นไง บ่อที่ผมชอบไปจับปลาตอนเด็กๆ ตอนนี้แห้งหมดแล้ว” นายมะยมชี้ให้เขาดูแท่งซีเมนส์ทรงกลมที่ซ้อนกันสามชั้น

“ไปนั่งตรงนั้นได้ไหมครับ?” นายภักดีชี้ไปที่เถียงนาหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ

“ร้อนแล้วเหรอครับ?” นายมะยมหันมามองเขาด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าครับ อยากนั่งคุยกันให้สบายหน่อย” นายภักดีบอกอีกฝ่าย

นายมะยมส่งยิ้มให้ แล้วเดินจูงมือเขาไปยังที่นั้น...

......

.....

....

...

..

.

นายมะยมวางร่มโดยไม่หุบไว้ที่พื้น จากนั้นถึงมานั่งข้างๆ เขา...บนแคร่ตัวเล็ก

“ทำไมคุณถึงคิดว่าการที่ผมเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเดียวกับคุณ...มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ” นายภักดีเอ่ยถาม

“ผมไม่รู้เรื่องกฏหมายหรอกนะครับ ก็คิดเองง่ายๆ ว่าจะให้ลุงหมายรับพี่เป็นลูกบุญธรรม แล้วค่อยใส่ชื่อเราอยู่ในทะเบียนบ้านที่จะซื้อ ถึงแต่งงานกันไม่ได้ ถึงทำแบบนี้ก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ผมอุ่นใจ” นายมะยมบอกแบบซื่อๆ

“แล้ว...” นายภักดีรู้ว่าอีกฝ่ายยังบอกไม่หมด

“ผมแค่อยากหาอะไรหลายๆ มามัดเราให้ยุ่งอีรุงตุงนังกันไว้... ผมอยากให้บ้านนั้นกับพี่ อยากยกที่ดินที่ผมมีทั้งหมดให้พี่ ทั้งฝูงวัวนั่นด้วย ทั้งบ้านหลังนั้นด้วย” นายมะยมชี้ไปที่บ้านไม้หลังเก่า...ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิต

“เพื่ออะไรครับ?” นายภักดีถาม

“เพื่อให้เวลาหนึ่งในวันข้างหน้า วันที่เราอาจรักกันน้อยลง หรือวันที่ผมหรือพี่โมโหกัน วันที่เราอาจบอกเลิกกัน....เราจะได้บอกเลิกกันลำบาก” นายมะยมบอกในสิ่งที่ตัวเองคิด

“คุณ...คิดว่าจะมีวันนั้นเหรอครับ?” นายภักดีถามอีกฝ่าย

“สำหรับผม “ไม่มีทาง!”...แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เดิมทีใจจริงผมแค่อยากยกขันหมายไปสู่ขอพี่ จริงๆ นะ...ให้พ่อแม่พี่รับรู้ ให้เค้ารู้กันไปทั่วๆ เลย ทั้งทางบ้านผมนี่ แล้วก็บ้านพี่ด้วย... เวลาที่พี่โกรธผม จะได้มีคนช่วยพูดยั้งๆ เราไว้” นายมะยมบอกและหันมากุมมือทั้งคู่ของนายมะภักดีไว้ “แต่พอพี่เอาผมไปไหว้ทางบ้านพี่ไม่ได้ ผมเลยต้องหาวิธีอื่นเพราะผมอยากผูกมัดพี่ไว้กับผม ผมอยากมีสิทธิ์ในตัวพี่ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่อยากให้เราเลิกกันง่ายๆ แบบคู่อื่นๆ....แต่ผมก็โง่ ที่คิดอะไรซึ่งสามารถทำให้เป็นจริงได้มากกว่านี้ไม่ออก”

นายภักดีเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เมื่อ ‘ซึ้ง’ เมื่อได้รู้ถึงความคิดของคนคนนี้ “ถึงโง่ก็น่ารักครับ”

“มันพอทำได้มั้ยล่ะครับ? พี่สะดวกใจให้ตามที่ผมขอมั้ย?” นายมะยมอยากได้คำตอบแทบใจจะขาด

“คุณคิดไหมว่า หากให้ผมเปลี่ยนนามสกุลไปใช้ของคุณแล้ว เวลาทำงานคุณจะบอกใครๆ เขาว่ายังไง” นายภักดีถามอีกฝ่ายบ้าง

“คิดสิ! ผมว่าจะลาออก ไปเรียนทำขนม แล้วทำขนมส่งขาย...” นายมะยมบอกเสียงใส

“แล้วงานที่คุณทำมันไม่ดีกว่ารึไงครับ ได้เงินเท่าๆ กันเหนื่อยน้อยกว่าอีก” นายภักดีย้อนให้อีกฝ่ายคิด

“พี่รู้มั้ย? ก่อนนี้นะ ผมแค่ทำงานไปวันๆ ไม่เคยรักชอบอะไรกับงานที่ทำเลยสักนิด มันก็แค่ทำได้ครับ ทำแล้วก็สนุก ไม่ได้ต้องอดทนอะไรกับมัน...” นายมะยมบอกด้วยใจจริง

“คุณคิดน้อยไป” นายภักดีติเตือน

“ฮื้อ!...แต่เพราะพี่นะ ที่ทำให้ผมคิดถึงอนาคต...ดูเหอะ ทำเอาผมอยากซื้อบ้าน อยากลาออกมาทำขนมขาย อยากยกสมบัติให้ มันจะหนักหรือเหนื่อย แต่หากได้ทำเพื่อพี่ ผมเต็มใจทำนะครับ” นายมะยมบอกกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น...พร้อมบีบมือยาวนุ่มนั้น...แทนคำมั่นจากใจของตัวเอง

“........” นายภักดีกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว เขาปลื้มสุดหัวใจกับความรู้สึกที่อีกฝ่ายบอกเขา

“ผมไม่อยากเป็นแฟนพี่แล้วอ่ะ ขอผมเป็นคู่ชีวิตพี่ได้มั้ยครับ?” นายมะยมขอกับเขา ด้วยดวงตาที่ฉ่ำน้ำ

“.......” ไม่มีคำพูดใดจากนายภักดี มีแค่หน้าที่พยักหน้ารับ...คำขอ

......

.....

....

...

..

.

นายมะยมรวบเอานายภักดีเข้ามากอดและกอดกันร้องไห้

......

.....

....

...

..

.

คำขอของนายมะยมอาจมากไปสำหรับนายภักดี...แต่ถึงมากไปหรือไม่สามารถให้ได้...ก็เพียงพอแล้วที่ได้พูดคุยกัน

......

.....

....

...

..

.

ทุกอย่างในชีวิตต่างมีเงื่อนไขและข้อแม้ในตัวเอง....ในทุกย่างก้าว

......

.....

....

...

..

.

แต่หากมีสิ่งที่ยังทำได้...ก็ลองทำมันดู

......

.....

....

...

..

.

ก่อนที่เราจะไม่มีโอกาส...ทำมัน
























































































......

.....

....

...

..

.

นายภักดีร่ำลาผู้ใหญ่ทั้งสอง นายศักดิ์และน้องบัว....พร้อมสัญญากับพวกเขาว่า หากว่างจะมาเยี่ยมใหม่

ป้าเย็นเอาของมาให้เขาเป็นกระบุงใหญ่ บอกว่าฝากให้พ่อแม่ของเขา เมื่อตอนแวะขากลับ

นายมะยมจะค้าน แต่นายภักดีแอบส่งซิกไว้ทัน

......

.....

....

...

..

.

เมื่อเข้ามาในรถ

ครั้งนี้นายภักดีขอเป็นคนขับกลับเอง

นายมะยมคอยบอกทางไปเรื่อยๆ จนเขามาถึงทางหลวง...ซึ่งนายภักดีสามารถขับไปได้ด้วยตัวเอง

......

.....

....

...

..

.

นายมะยมเปลี่ยนแผ่นซีดี....เสียงบรรเลงเนิบๆ ดังลอยขึ้นมา...เข้ากับบรรยากาศของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน

“เพลงอะไรน่ะครับ?” นายภักดีเอ่ยปากถาม

“เพลงบรรเลงน่ะครับ ชื่อ Sad Romance...ผมฟังที่เค้าสีไวโอลินเมื่อตอนไปร่วมงานศพแล้วติดหูดี เลยให้คุณเชษฐ์หาแผ่นมาให้” นายมะยมบอกเล่า

“ทำไมต้องเพลงนี้ครับ? คนที่เสียไปเค้าชอบเหรอครับ?” นายภักดีถาม

“ครับ เห็นว่างั้น” นายมะยมพยักหน้า

“จะว่าซึ้งก็ซึ้ง จะว่าเศร้าก็เศร้า” นายภักดีสรุปความรู้สึกตัวเองกับเพลงๆ นี้

“ผมว่าเหมาะกับชีวิตคุณคนนั้นนะครับ สุขเศร้าคละเคล้ากันไป” นายมะยมบอก

“เล่าให้ผมฟังทีสิ เรื่องของพวกเขาน่ะครับ” นายภักดีเอ่ยปาก

“พี่....อยากฟังจริงๆ น่ะเหรอ?” นายมะยมท้วง

“ผมก็โตมาจนป่านนี้แล้วครับ ไม่ใช่เจอเรื่องเศร้ามาเรื่องเดียวซะเมื่อไหร่...ผมแค่อยากรู้ว่าคนที่เค้าชอบเพลงนี้ เค้ามีชีวิตยังไง ก็แค่นั้นครับ” นายภักดีบอก

“ถ้าผมเล่าแล้วพี่อย่าอินนะครับ...” นายมะยมขอกับอีกฝ่ายก่อน

“ซึมไปเป็นวันสองวันแบบคุณน่ะเหรอ.....ไม่มีทางครับ หัวใจผมไม่ได้หวั่นไหวง่ายเหมือนใครบางคน” นายภักดีว่าให้

“แหน็บน๊า เดี๋ยวนี้พัฒนา เดี๋ยวนี้พัฒนา” นายมะยมยืนมือไปจิ้มแก้มอีกฝ่ายด้วยความหมั่นเขี้ยว

......

.....

....

...

..

.

สักพัก นายมะยมก็บอกเล่าสิ่งที่ตัวเองรู้....ให้กับนายภักดี

......

.....

....

...

..

.

เมื่อนายมะยมเล่าจบ พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วสักพัก

เบื้องหน้าเริ่มถูกความมืดเข้าครอบคลุม....แสงไฟตามทางได้มาจากหลอดไฟประดิษฐ์ของมนุษย์

รถที่พวกเขานั่งมาเริ่มเข้าสู่ถนนสายใหญ่....แปดเลน

......

.....

....

...

..

.


เพลง Sad Romance ที่เป็นเวอร์ชั่นไวโอลินยังคงบรรเลงทวนซ้ำ...อยู่เช่นเคย


......

.....

....

...

..

.

“อินมั้ย?” นายมะยมถามด้วยความตื่นเต้น

“ก็อินครับ แต่ไม่ซึมเหมือนคุณ” นายภักดีบอกเสียงเรียบ...เป็นปกติ

“ใจร้ายอ่ะ?” นายมะยมว่าให้

“เดี๋ยวโตอีกหน่อยคุณก็จะเหมือนผม” นายภักดีบอกกับอีกฝ่าย...ไม่ได้ถือสาเอาความ

“นี่ก็โตแล้ว สามสิบแล้วนะ!” นายมะยมท้วง

“ยังแก่ไม่พอครับ” นายภักดีเถียง

“ที่รักผมไม่แก่สักหน่อย แค่สามสิบหกเอง ไม่เอานะ ไม่พูดว่าแก่” นายมะยมทำเสียงเล็กเสียงน้อย

“แล้วจะเสียใจไหมครับ หากที่รักของคุณจะบอกว่าทำตามที่คุณขอไม่ได้” นายภักดีฉวยโอกาสบอกกับอีกฝ่ายไปตรงๆ

“...........” นายมะยมเงียบไปทันควัน...เพราะไม่นึกว่าจะเจอไม้นี้จากสุดที่รักของตัวเอง

......

.....

....

...

..

.

“ช่างมัน! แต่ผมไม่ใช่แฟนพี่แล้วนะ เราเป็นคู่ชีวิตกัน ห้ามเลิกกับผม ถึงพี่จะเลิกผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่แน่ ผมจะเกาะพี่ไม่ยอมปล่อยเลยคอยดู ถึงตายผมก็จะมาอยู่กับพี่ไม่ไปเกิดล่ะ ขอบอก” นายมะยมพูดทั้งที่แก้มยังป๋อง...ไม่พอใจ

“หึหึหึ...ถ้าไม่มีคุณ แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ?” นายภักดีขำกับข้อห้ามของอีกฝ่าย

นายมะยมหน้าหงายและนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะฟุบหัวมาวางที่หัวไหล่ของนายภักดี “เราจะอยู่ด้วยกันน๊า ให้แก่ไปด้วยกัน แล้วไปพร้อมๆ กันน๊า....”

......

.....

....

...

..

.

“อินอีกแล้วนะครับ” นายภักดีท้วงเมื่อได้ยินเสียงซู๊ดน้ำมูกจากคนที่พิงไหล่ของเขาอยู่

“..............” ไม่มีเสียงตอบจากอีกฝ่าย

......

.....

....

...

..

.

ทางเส้นหนึ่งที่อีกฝากของถนนแปดเลนผ่านมาสู่สายตาของนายภักดี

......

.....

....

...

..

.

เขาขับผ่านทางยูเทรินมาแล้วสามจุด

......

.....

....

...

..

.

เรื่องของคุณวีกับแฟนเก่า ไม่ได้มีอิทธิพลกับเขาเหมือนกับคนที่ซบหัวอยู่กับไหล่ของเขา..เวลานี้

......

.....

....

...

..

.

มีแค่คนคนนี้เพียงคนเดียวที่มีอิทธิพลต่อ...หัวใจและชีวิตของนายภักดี

......

.....

....

...

..

.

ในคืนหนึ่ง

ในเธคแห่งหนึ่ง

ในคืนวันข้ามปี

เขาเคยกระซิบบอกกับคนคนนี้....และตั้งใจพิสูจน์คำพูดของตัวเองมาโดยตลอด

You may not have known how I much love you.
You may also have question about this guy.
You might not have laid your eyes on me, this guy is true.
But you will understand it someday.

......

.....

....

...

..

.

เคยสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลคนคนนี้

เคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่ทีทางทำให้คนคนนี้เสียน้ำตา

เคยบอกกับตัวเองว่าจะคอยอยู่เคียงข้างกับคนคนนี้ในทุก...ช่วงเวลา ทุกช่วงของความรู้สึก

......

.....

....

...

..

.

คนคนนี้ยังไม่แน่ใจในตัวเขาเต็มที่...ที่สุด

คนนี้ยังมีพะวงกับความรักของเขา






































































































......

.....

....

...

..

.

เขาหักเลี้ยวและกลับรถ...เมื่อถึงจุดยูเทรินจุดที่สี่

คนที่ซบอยู่กับหัวไหล่ของเขายกหัวขึ้นและหันมามองเขา...ทั้งที่ตาฉ่ำ “หิวข้าวแล้วเหรอครับ?”

“ก็....ครับ” นายภักดีตอบ

“แถวนี้มันจะมีที่กินเหรอครับ?” นายมะยมมองดูข้างทาง

“ก็...มีครับ แต่อาจไม่ถูกปากคุณ พอกินได้ครับ” นายภักดีบอก

“อื้อ....ตามใจพี่เลยนะ ผมไม่รู้จักทางแถวนี้” นายมะยมบอกอีกฝ่าย

“ครับ...” นายภักดีเหยียบมาถึงจุดหนึ่งที่คุ้นตา...แม้นหลับตาขับมาก็เข้าถูกทาง

......

.....

....

...

..

.

รถ BMW สีดำถูกหักเข้าไปในถนนเส้นหนึ่งซึ่งแยกมาจากถนนใหญ่...แปดเลน

......

.....

....

...

..

.

รถคันนั้นบดล้อผ่านถนนราดคอนกรีตไปสักสิบห้านาทีก็หักเลี้ยวเข้าไปในทางสองเลนที่แคบว่าของเดิม

......

.....

....

...

..

.

รถถูกขับไปจอดที่รั้วบ้าน...สูงตะหง่าน

......

.....

....

...

..

.

เสียงบีบแตรดังมาจากรถ BMW สีดำที่พวกเขานั่งอยู่...ภายใน

......

.....

....

...

..

.

ไม่นานจากนั้น ประตูก็เปิด....มันเป็นประตูเลื่อนแบบอัตโนมัติ

......

.....

....

...

..

.

รถสีดำขับผ่านประตูมาโดยไม่ปิดประตูนั้น....

นายมะยมหันกลับไปมองที่ประตูนั้น เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนยามยืนอยู่แถวประตูเลื่อน...เมื่อกี้

......

.....

....

...

..

.

นายมะยมหันกลับมามองกระจกหน้า...เขาเริ่มเห็นแสงที่สว่างมากขึ้นอยู่ตรงข้างหน้า

......

.....

....

...

..

.

รถถูกขับมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง....ซึ่งมองแล้วก็ไม่ได้ใหญ่มากนัก...แต่มันดูขลังพิกลในความรู้สึกของนายมะยม

......

.....

....

...

..

.

คนขับเดินลงไปโดยไม่พูดอะไร

......

.....

....

...

..

.

“ลงมาสิครับ” นายภักดีเปิดประตูทางฝั่งของเขาแล้วบอก

......

.....

....

...

..

.

นายมะยมเดินลงไปยืนด้วยสีหน้าเหวอๆ

ปัง---- เข้าได้ยินเสียงนายภักดีปิดประตูรถ...และในขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงแหลมเล็กหนึ่งที่คุ้นหูที่สุด

“คุณพ่อ!!!!”

......

.....

....

...

..

.

“ครูมะยม!” เด็กชายตะโกนเสียงดังลั่นเมื่อเห็นเขา จากนั้นก็วิ่งมาเกาะขาของเขา...ด้วยความคิดถึง

เขาหันหน้าไปมองนายภักดี....เขาเห็นนายภักดียิ้มที่มุมปาก

......

.....

....

...

..

.

น้องหนูชูแขน....ให้เขาอุ้ม

นายมะยมอุ้มตัวเด็กชายขึ้นมาแล้วหอมแก้ม..ทักทาย

เด็กชายหัวเราะคิกคัก และกอดคอเขาไว้ “ครูมะยมกินข้าวยังฮะ!”

“ยังครับ!” นายมะยมบอกเด็กชาย

“ป๊ะ กินข้าวกันโน๊ะ” เด็กชายชวน

นายมะยมหันหน้าไปทางนายภักดี

นายภักดีไม่พูดอะไร เขายิ้มและพยักหน้าให้หนึ่งที ก่อนจะเดินนำเข้าไป...ด้านในของบ้านหลังนั้น

นายมะยมก้าวตามไปด้วยหัวใจที่สั่นระทึก

......

.....

....

...

..

.

“น้องหนูครับ นี่บ้านใครเอ่ย?” นายมะยมกระซิบถามเด็กชาย

เด็กชายกระซิบบอกเขาที่ข้างหู ...รู้กัน รู้กัน

......

.....

....

...

..

.

“บ้านคุณปู่คุณย่าฮะ”

......

.....

....

...

..

.
























































































เอวัง  :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2012 21:55:33 โดย BaoBao »

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

เอวังด้วยประการฉะนี้

เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป สุดแท้แต่ชีวิตจะลิขิตพาไป

คุณเบาเบา ... เจ๋งค่ะ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เอวังแล้วเหรอ...หงอยเลย :serius2:
ซึ้งกับความรักของทั้งคู่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด