บทที่ 19 หนาวโป๊ะแตก
เธอมาได้ทันเวลาพอดี อย่างกับรู้ใจ
คิงกับผองเพื่อนปรากฏตัวขึ้นราวกับเปิดตัวซุปเปอร์ฮีโร่ (สามคนนี่พาวเวอร์พัพเกิร์ลใช่มั้ย) คิงมองปราดแล้วมาหยุดที่ผม ซึ่งนั่งแถวติดกับแพรโดยมีช่องว่างทางเดินคั่นไว้
เฮ้! อย่ามองผมแบบนั้น ผมไม่ได้คิดอะไรเชิงชู้สาวกับเธอแล้ว เพียงแต่เราเป็นคนชวนเขามา ก็ควรจะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ่งมาอยู่ในดงเสือสิงห์กระทิงแรดแบบนี้ ยังไงผมก็ต้องดูแลเธอ
“เอ๊ะ! นั่นกอด แก้ว พากษ์นี่นา”
ตัวเป็นๆ เลยล่ะ
คิงไม่ได้เดินเข้ามากระชากแขนผมเหมือนในละคร แต่กลับนั่งบริเวณท้ายรถ ถึงกระนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงพลังความกดดันที่ลอยมา
“พ่อมึงมาว่ะ” ไอ้กั้งที่นั่งอยู่ข้างกันกระทุ้งๆ สีข้างผมพลางกระซิบ
“เออ”
“มันตามมาตีมึงปะเนี่ย” ไอ้เพียงที่นั่งอยู่เบาะหลังชะโงกมากระซิบบ้าง
“เออ วุ้ย! ไร้สาระ”
ตามมาตีตูดกูเนี่ย
“ไอ้กั้ง” ผมเรียก
“ว่า”
“เปลี่ยนที่กัน”
เผื่อเมารถน่ะ อยากนั่งติดหน้าต่าง ไม่ได้เกรงใจใครเล้ย
“อ๋อ เจ้าที่แรงล่ะสิ หึหึ”
“แสนรู้นักไอ้ฟาย”
ผมยอมโดนมันแซวเพื่อให้ได้สลับที่ เพราะรู้ดีว่าตัวเองอยู่ในสายตาคิงตลอด อย่างน้อยการทำแบบนี้ศาลน่าจะลดโทษให้กึ่งนึง
ว่าแล้วก็กำกระเป๋าที่มียาแก้อักเสบไว้แน่น แวะปั๊มเมื่อไหร่เตือนด้วย จะซื้อยาแก้ปวดมาตุนไว้ ฮือ
.
.
.
[
กอด
]
การกระทำของไอ้หนาวทำให้ผมอมยิ้ม
ไอ้การเปลี่ยนที่นั่งกับเพื่อน ไหนจะอาการหล่กหันมามองทางผมบ่อยๆ นั่นอีก
น่ารัก ผมบอกแล้วว่ามันน่ารัก
ผมดึงหมวกให้ลงมาปิดหน้า เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นผมยิ้มพร่ำเพรื่อ เดี๋ยวจะหาว่าผมบ้าซะเปล่าๆ ระหว่างที่รถทัวร์กำลังแล่นออกต่างอำเภอ
ถ้าถามว่าผมรู้ได้ไงว่าภาคของหนาวมันมีค่าย ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องยาก และไม่มีเรื่องไหนที่ผมอยากรู้แล้วไม่ได้รู้ โดยเฉพาะเรื่องที่กำลังสนใจอยู่
ผมสมัครเข้าร่วมค่ายจิตอาสาภาคมัน โดยลากเพื่อนตัวเองเข้ามาด้วย พวกมันโอดครวญกันใหญ่ที่ผมพามันมาเข้าค่ายที่มีแต่ผู้ชาย
“จะมาคุมเมียแล้วทำไมต้องกูมาด้วยเนี่ยย เมียมึงกูก็ไม่ได้ด้วยมั้ย” ไอ้พากษ์บ่นไม่เลิก
“เดี๋ยวจะได้ไปค่ายแบบมีรอยตีน”
“อ่อนโยนกับเพื่อนบ้างก็ได้ ฮึก ใช่ซี่ กูไม่ได้ชื่อหนาวนี่”
ผมชี้หน้ามัน ก่อนจะจัดการสมัครให้พวกมันเองเสร็จสรรพ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดเป็นความลับอะไร แต่คิดว่าไอ้หนาวคงไม่ได้สนใจว่าใครจะมาบ้าง เพราะมันไม่ใช้ชั้นปีที่จัดค่ายโดยตรง
นี่เป็นเหตุผลที่ผมสามารถจัดกระเป๋าให้ไอ้คนขี้ลืมได้ จะโทษมันอย่างเดียวก็ไม่ได้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมใช้การหายไปของตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้สึกของมัน ไอ้พากษ์กับไอ้แก้วท้วงว่าจีบแบบนี้จะติดเหรอ ถ้าไอ้หนาวมันไม่มีปฏิกิริยาอะไรล่ะ จะทำยังไง
.
กูก็หาวิธีอื่นจีบต่อสิ
ผลลัพธ์ที่ได้ดีเกินคาด ใครจะไปคิดว่าคนอย่างป๋าหนาวจะยอมเอารองเท้าบูตมาให้ผมท่ามกลางสายตาเด็กเกษตรถึงแปลง
ใจฉิบหาย นั่นยิ่งทำให้ผมชอบมันขึ้นไปอีก
“แวะปั๊มละ เข้าห้องน้ำปะวะ”
ผมส่ายหน้า เมื่อกี้เผลอหลับไปเพราะนอนน้อย เมื่อคืนเผลอจัดหนักไปถึงสาม ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะหยุดแค่สอง เพราะวันนี้ต้องเดินทาง แต่ถ้าคุณมีเมีย คุณจะเข้าใจทันทีว่าแพลนทุกอย่างจะพังลงเมื่อถูกเมียยั่ว
และเมื่อคืนนี้ก็ดีมาก
ผ่านไปสักพักนักศึกษาก็เริ่มทยอยขึ้นมาบนรถพร้อมถุงขนมขบเคี้ยว ตอนแรกกะจะลงไปทายาให้ไอ้หนาว แต่คิดอีกทีน่าจะโดนตีนกลับมา คงไม่ดีแน่ถ้ามีใครเห็นผู้ชายสองคนเข้าห้องน้ำพร้อมกัน ผมกับมันอาจจะโดนแซว จนทำให้รู้สึกเสียศักดิ์ศรี
ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเป็นสิ่งสำคัญ ผมไม่อยากให้หนาวรู้สึกแย่
จากการประเมินสถานการณ์ ไอ้หนาวไม่น่าจะเป็นอะไรมาก เดี๋ยวถึงค่ายแล้วค่อยหาจังหวะไปทาให้ละกัน
“คิง”
ระหว่างที่นั่งหลับตาคิดอะไรเพลินๆ เสียงคุ้นหูกับแรงสะกิดเบาๆ ก็ปลุกให้ผมตื่นจากความคิด
ไอ้หนาว ในสภาพมีหมอนรองคอสีเขียวยืนทำหน้าไม่มั่นใจอยู่ตรงหน้าผม
“อะไร”
“กูนั่งหน้าแล้วเมารถ”
“...”
.
“ขอนั่งด้วยได้มั้ย”
บึ้ม!
เสียงระเบิดในหัวดังขึ้นทันที คนคนนี้อันตรายที่สุดในชีวิตเลยว่ะ
มึงไม่รู้จริงๆ เหรอหนาว ว่าข้างหลังนั่งแล้วเมากว่าข้างหน้าอีก
“อ้าว ตอบสิครับคุณคิง จะปล่อยให้ควีนยืนเหน็บแดกรึไง”
จนไอ้แก้วกระทุ้งสีข้างผมนั่นแหละถึงจะรู้ตัว ผมพยักหน้าแล้วเตะขาไอ้แก้วเบาๆ เป็นเชิงให้มันลุกให้หนาวนั่ง
“เออนะ กูเสียสละให้มึงได้เมียขนาดนี้ กูต้องได้บ้างละนะ มึงนั่งที่กูเลยควีน เดี๋ยวกูไปนั่งกับไอ้กั้งเอง”
ไอ้แก้วบ่นงุ้งงิ้งก่อนจะเดินไปนั่งด้านหน้าให้ไอ้หนาวนั่งลงแทน หนาวมีอาการประหม่าที่ตกเป็นเป้าสายตากับผม จนผมต้องควานหาหูฟังแล้วยื่นให้
“ฟังเพลงซะ จะได้ไม่เขิน”
“ไอ้ห่า กูไม่ได้เขิน”
“...”
.
“ฟังด้วยกันดิ”
.
หูฟังเล็กๆ ถูกยื่นมาแนบแก้ม ผมรับหูฟังข้างนั้นมาใส่ หนาวก้มหน้าเลือกเพลงในโทรศัพท์ตัวเอง จนดนตรีเริ่มบรรเลงเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก
แล้วจู่ๆ นิ้วก้อยของคนข้างๆ ก็สอดเข้ามาเกี่ยวกับนิ้วก้อยผมไว้
...ว่าฉันไม่เคยจะเหงา ไม่คิดถึงเลย...
(ไม่คิดถึงเลย
– Nap a Lean)
อืมม ไม่คิดถึงเลยเนาะ
.
.
.
[
หนาว
]
อ้วกกกก
เมารถของจริงเลยมั้ยล่ะมึง
ผมถูกหิ้วลงรถโดยฝีมือคิงกับไอ้พากษ์ มายืนโก่งคออ้วกอยู่โพรงหญ้าทันทีที่ถึงจุดหมาย ตายังไม่สัมผัสบรรยากาศห่าเหวอะไรทั้งนั้น
วิวแรกที่เห็นเต็มตาก็คืออ้วกกูนี่แหละ
ใครจะไปคิดว่าหลังรถมันจะกระเด้งกระดอนขนาดนี้ เห็นในซีรีส์แม่งชอบไปนั่งเอ้วๆ กันอยู่ด้านท้ายนี่หว่า
“โห ไม่ทันก็ท้องซะแระ” (ไอ้พากษ์)
“ไอ้สัด...อ้วกก”
“เฮ้ยๆๆ เชี่ยกอด อย่าหันเมียมึงมาอ้วกใส่กูสิวะ” (ไอ้พากษ์)
คิงที่หิ้วปีกผมอยู่จับผมไปหาไอ้พากษ์ ผมเลยแกล้งอ้วกใส่มัน
“ไอ้พากษ์ กูเคยบอกมึงว่าไง” (คิง)
“เออๆ ดุทั้งคู่เลยวุ้ย หนีดีกว่ากู” (ไอ้พากษ์)
แล้วไอ้พากษ์ก็เดินหนีไป แต่ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก ไอ้เพียงกับไอ้กั้งเดินมาหาผมต่อราวกับผลัดเวร ไอ้กั้งน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้เพียงนี่สิ
“อะไรยังไงเนี่ยย บอกเพื่อนหน่อยซิป๋า เค้าข้องใจอ่า” (ไอ้เพียง)
สายตามึงเหมือนอยากข้องตีนมากกว่า
“ไม่มีอะไร เพื่อนมึงแค่เมารถเฉยๆ” (คิง)
“แล้วไปนั่งหลังทำไม ตอนแรกมึงนั่งข้างแพรไม่ใช่เหรอ หรือว่า...” (ไอ้เพียง)
“พอๆ จะไปแซวอะไรมันนักหนาวะ มึงไปหาที่นอนกับกูเลย เดี๋ยวก็ได้นอนกับแก๊งนางฟ้าหรอก” ไอ้กั้งหนีบคอไอ้เพียงเอาไว้
“เชี่ย ลืมเลย อิติ๊กแม่งยิ่งชอบจับหรรมกูอยู่” (ไอ้เพียง)
“กระเป๋ามึงมีใบเดียวใช่มั้ย” กั้งหันมาถามผม หลังจากยันไอ้เพียงให้ไปหากระเป๋าใต้ท้องรถ
“อือ เดี๋ยวกูยกไปเอง”
“เดี๋ยวกูยกไปให้ ไปล้างอ้วกเหอะ”
“ขอบใจนะมึง”
ผมสบตามันเพื่อจะสื่อว่าไม่ใช่แค่เรื่องยกกระเป๋า ขอบใจที่มันคอยช่วยเหลือทุกอย่าง
“ขอบใจเหมือนกัน” คิงเองก็พูดออกมา และผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ไหนแต่ไรที่กั้งคอยทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างแก๊งเรา ตอนแรกๆ ไอ้พากษ์กับไอ้เพียงมันกัดกันดุเดือดจริง แต่หลังๆ มานี้เริ่มเพลาๆ ลงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเมาแล้วเผลอกอดคอก้นร้องเพลง ชนแก้วบ่อย เลยกลายเป็นคู่กัดกันพอแสบๆ คันๆ
“กูชักเข้าใจความรู้สึกพ่อหวงลูกสาวแล้วสิ” กั้งเสยผมทำเหมือนว่ากลุ้มซะเต็มประดา
“ลูกสาวพ่องดิ”
ทำไมวะ เราจะซึ้งกันให้เกินหนึ่งพารากราฟไม่ได้เลยเหรอ
“คืนนี้จะนอนไหนก็บอกกูด้วยละกัน”
“เอ้า ก็นอนกับพวกมึงไง”
“ดูสายตาพ่อมึงก่อน” ไอ้กั้งพยักเพยิดไปหาคิง ผมเลยหันไปมอง แต่คิงชิ่งเสไปมองทางอื่นก่อน
อะไรของพวกมันวะ ตกลงกูมีพ่อกี่คนกันแน่
.
“กอดด หนาวว”
ยังไม่ทันได้ไขข้อข้องใจ เสียงเจื้อยแจ้วของหญิงสาวก็ดังลอยมาแต่ไกล พร้อมกับการวิ่งดุ๊กๆ เข้ามา ผมรีบชิงเหยียบตีนไอ้กั้งไว้ก่อนที่มันจะชิ่งหนี แฟนไอ้กั้งมันขี้หึงครับ แค่อยู่เฟรมถ่ายรูปเดียวกับผู้หญิงก็เป็นเรื่องมาแล้ว แต่ตอนนี้ถ้าไม่มีมันอยู่ด้วย ผมตายแน่ๆ
“สัด! เจ็บบ!” (ไอ้กั้ง)
“อ้าว กั้ง หวัดดีๆ” (แพร)
“เอ่อ หวัดดีครับ” (ไอ้กั้ง)
“ดีใจจังที่กอดมาด้วย นี่หนาวรู้มั้ยว่าคนนี้น่ะตามตัวยากสุดๆ” (แพร)
รู้
“นานๆ ทีจะเห็นเดือนมหา’ลัยออกอีเว้น ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อย”
แพรผูกขาดบทสนทนาไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่ใช่ว่าเธอไม่เว้นช่องไฟให้คนอื่นพูดหรอกนะครับ เพียงแต่ตอนนี้พวกผมได้แต่ยืนมองหน้ากัน เหมือนตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
.
“หนาว ช่วยถ่ายรูปคู่เรากับกอดทีดิ”
#หลับก่อนเป็นเมีย
LingLom : โฮ่ๆ กั้งผัวมากอะ เดี๋ยวจะทำให้นางเลิกกับแฟนก่อน
แม่ แม่ว่าใครหลงใครมากกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ หนาวกลัวหลัวว่ะ 5555555
เราเหงาอะ มาคุยกันในทวิต @Holic199x
โง้ยย เห็นแบบนี้ละใจฟูอะ ทำไมจำด้ายย ทำไมแยกออกว่าเป็นภาษาเราา เขิลลล

ปล. ฮัลโหลพี่กั้ง