ห า กั น จ น เ จ อ // ตีพิมพ์กับสนพ.เฮอร์มิทค่ะ [4.10.61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ห า กั น จ น เ จ อ // ตีพิมพ์กับสนพ.เฮอร์มิทค่ะ [4.10.61]  (อ่าน 195446 ครั้ง)

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ห า กั น จ น เ จ อ // ตอนที่ 19 [26/12/17] P.10
«ตอบ #300 เมื่อ29-12-2017 00:56:07 »

ชอบพี่ดีน ความจริงจังนี้น่ารัก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4
ห า กั น จ น เ จ อ

ตอนที่ #20
(ตอนจบ)






อีกไม่กี่วันรณณ์ก็จะพ้นจากสถานภาพนักศึกษาฝึกงานของนิตยสารไลฟ์แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาเขาจะใช้ชีวิตคู่รักกับคุณดีนแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ได้อย่างแนบเนียน เพราะนอกจากดาวที่ชอบพูดจาสองแง่สองง่ามกับเขาแล้วก็ไม่เคยมีคนอื่นพูดเรื่องความสนิทสนมของเขากับคุณดีนให้ได้ยินเลยสักครั้ง


“ฝึกงานเสร็จแล้วผมจะกลับบ้านซักสองสามวันนะครับ” รณณ์พูดขึ้นในตอนที่ตนนั่งทำรีพอร์ตฝึกงานขณะที่ดีนนั่งพิงเตียงเขาอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อสองวันก่อน มุมเดิม ๆ ที่กลายเป็นมุมประจำของบก.ไปเสียแล้ว


“คิดถึงบ้าน?”


“ส่วนหนึ่งครับ”


ดีนพอจะรู้ว่า ‘อีกส่วน’ คืออะไร เขามองดวงหน้าใสนิ่งที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว ตัดสินใจพับหนังสือเก็บแล้วกวักมือเรียกอีกฝ่ายให้ลงมานั่งข้างกัน รณณ์ยอมทำตามอย่างว่าง่าย สองหนุ่มพิงหลังกับขอบเตียง ดีนยกแขนขึ้นพาดบนเตียงคล้ายโอบไหล่ร่างโปร่งกลาย ๆ


“ไว้ค่อยบอกเรื่องของเราหลังเรียนจบก็ไม่สายไปหรอกนะ รับปริญญาให้เรียบร้อยก่อน อะไร ๆ คงง่ายขึ้นเยอะ” แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ต้องเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับครอบครัวที่มีลูกคนเดียว ความหวังทั้งหมดของพ่อแม่ต้องตกที่รณณ์อย่างไม่ต้องสงสัย ต่อให้พวกท่านใจดีหรือตามใจลูกขนาดไหนก็คงยากที่จะทำใจยอมรับกับความสัมพันธ์แบบนี้ได้ แต่ดีนไม่อยากพูดให้รณณ์คิดมากและมัวแต่สู้กับปัญหาทางด้านนี้จนหลุดโฟกัสเรื่องการเรียนได้
ฝ่ามือหนาวางลงบนศีรษะทุย ลูบเส้นผมนุ่มอย่างเบามือ “ไว้คุณรับปริญญาแล้ว ผมจะไปหาพวกท่านพร้อมคุณด้วยดีไหม”


“ครับ” รณณ์รับคำ ความจริงเขาก็ยังไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ เพียงแต่เพราะว่าเคยเกริ่นไว้แล้วและมันค่อนข้างรบกวนจิตใจจึงอยากบอกให้ทราบโดยเร็ว แต่เหตุผลที่คุณดีนว่ามานั้นก็ถูก พอถึงตอนที่เขาโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวอย่างที่แม่ว่าไว้ อะไร ๆ ก็อาจจะง่ายขึ้นก็ได้


“แล้วหลังเรียนจบคิดไว้แล้วรึยังว่าอยากทำอะไร”


“ผมอยากทำสื่อครับ พวกรายการทีวี” ถ้าให้ไปทำงานกับคุณดีนคงไม่ไหว ไม่อยากตกอยู่ท่ามกลางคำนินทาว่าได้งานเพราะเป็นแฟนเจ้านาย ขี้คร้านจะมีคนขุดเรื่องเก่า ๆ มาโยงเต็มไปหมดอีก แต่จะให้ไปทำกับนิตยสารหัวอื่นก็เกรงใจคุณดีน เลือกทางที่ตัวเองตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกก็คงดีที่สุด


ดีนหันมองด้วยความฉงน “แล้วทำไมเลือกมาฝึกงานกับนิตยสารล่ะ”


“ที่คณะไม่บังคับให้ฝึกเฉพาะเอกครับ ผมอยากเรียนรู้ตัวหนังสือที่เขาเขียนกันเลยลองมาฝึกด้านนี้ดู” ...ไม่คิดว่านอกจากจะได้ความรู้แล้วยังได้แฟนด้วย


“แล้วไม่ชอบเหรอ” ดีนหลบตาถามเสียงอ่อน รณณ์ยิ้มกว้าง คบกันมาเดือนครึ่งก็พอรู้ว่าท่าทางแบบนี้คุณดีนกำลังน้อยใจเขาไม่ผิดแน่


“ชอบครับ ชอบทั้งงานและหัวหน้า”


ดีนขมวดคิ้วมุ่น “หัวหน้าคนไหน”


“ใครเป็นหัวหน้า ผมก็ชอบหมดแหละครับ”


“หึ หลายใจนะเรา” ดีนเขกมะเหงกลงหน้าผากอีกฝ่ายไม่แรงนักแต่ก็เรียกเสียงโอ๊ยหลอก ๆ ได้ดีทีเดียว


“แต่รักอยู่คนเดียวหน่า”


“หืม? รักใคร?” ใช่ว่าคนเด็กกว่าจะพูดเบา แต่เขาแค่อยากได้ยินอีกครั้งเท่านั้นเอง


“ไม่รู้~~~~~~” คนที่เพิ่งสารภาพรักก้มหน้างุดซ่อนความอายแต่มีหรือที่อีกคนจะปล่อยผ่าน รีบล็อกคอเด็กหนุ่มเข้าหาตัวก่อนที่จะทันได้หนีไป


“จะบอกไม่บอกหื้ม รักใครครับเบ๊บ คุณรักใคร บอกให้ชื่นใจสิ”


“อะไรเล่า ยอมให้ใครกอดก็รักคนนั้นแหละครับ”


“ใคร ๆ ก็กอดคุณได้”


“พูดอย่างกับคุณจะยอมให้คนอื่นกอดผมงั้นแหละ” คนถูกต้อนบ่นงึมงำแต่เพราะว่าอยู่ใกล้กันมากดีนจึงได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน


“ก็ผมรักของผม ผมก็ต้องหวงเป็นธรรมดาสิ”


“มะ ไม่รู้ครับ ผมจะไปทำงานต่อแล้ว” คนขี้อายดิ้นขลุกขลักจะหนีท่าเดียวส่วนคนที่ยังไม่ได้คำตอบก็กอดรัดแน่น ทั้งสองกอดรัดดิ้นฟัดกันจนสุดท้ายก็ล้มราบลงไปกับพื้นห้องเย็นเฉียบ กายโปร่งสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับความเย็นนั้นผ่านเสื้อเนื้อบาง แต่ที่ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวสงบนิ่งคงหนีไม่พ้นนัยน์ตาเรียวรีที่ใหญ่โตเกินกรอบมองมาในระยะประชิด ลมหายใจร้อนรดรินใส่กันก่อนที่ทุกอย่างจะขาวโพลนเมื่อคนที่คร่อมอยู่ประทับริมฝีปากลงมาแนบชิดทว่าไร้ซึ่งการรุกล้ำ ปิดซ้ำด้วยการกดย้ำหนัก ๆ อีกครั้งก่อนผละออกแล้วซุกหน้าลงกับซอกคอขาว


“My body is yours, Your body is mine.Babe your mess was yours,Now your mess is mine”


ประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่ารักถูกเน้นชัดแทบทุกคำทำเอาคนฟังใจเต้นรัว มันเป็นการบอกรักที่ให้ความรู้สึกมั่นคง สบายใจและวาบหวามยิ่งกว่าคำว่ารักเสียอีก


“เข้าใจผมใช่ไหม?”


“ครับ”


ดีนผงกศีรษะขึ้นมาจ้องมองกันตรง ๆ “ครับอะไร”


รณณ์หน้าร้อน ไม่สิ ร้อนไปทุกส่วนที่สัมผัสกับร่างกายคุณดีนตอนนี้ นัยน์ตาที่จ้องมองมานั่นกำลังกดดันให้เขาพูดสิ่งที่ติดค้างกันไว้ก่อนหน้านี้  “ผมรักคุณครับคุณดีน”


ดีนยิ้มกว้างอย่างพอใจ “ผมก็รักคุณ”


จบคำบอกรักริมฝีปากได้รูปก็ประทับลงที่เดิมอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ลึกซึ้งและหอมหวานกว่าครั้งแรกจนคนใต้ร่างแทบสำลักความสุข คำว่ารักที่หวานหูกับรสจูบที่อ่อนโยนซึมลึกไปถึงใจที่กำลังเต้นรัว รณณ์มีความสุขกว่าที่เคยจูบครั้งไหน ๆ และแน่นอนว่าเพราะเขากำลังจูบกับคนที่กล้าพูดได้เต็มปากว่ารักอย่างหมดหัวใจ






ถึงจะบอกให้รณณ์ใจเย็น อย่าเพิ่งบอกเรื่องความสัมพันธ์ครั้งนี้กับครอบครัว แต่ดีนกลับไม่ประวิงเวลา ชายหนุ่มรีบนัดแนะสมาชิกในครอบครัวอันมีอาม่าเป็นประมุขเพื่อประกาศเรื่องสำคัญนี้ ซึ่งนัดหมายที่ว่าก็เกิดขึ้นก่อนรณณ์ฝึกงานเสร็จอีกเพียงสองวันเท่านั้น


ผู้ใหญ่ที่ดีนเคารพรักที่สุดยึดครองโซฟาตัวยาวแต่เพียงผู้เดียว บุพการีทั้งสองนั่งเก้าอี้เดี่ยวฝั่งซ้ายมืออาม่า ฝั่งตรงข้ามเป็นตำแหน่งของหลานอันประกอบไปด้วยพี่ชายและตัวเขาเอง ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องสำคัญที่เขานัดทุกคนมาพร้อมหน้าในวันนี้คือเรื่องอะไร แต่ดีนคิดว่าคริสน่าจะพอเดาได้ อีกฝ่ายถึงมีสีหน้ากังวลยิ่งกว่าเจ้าของเรื่องอย่างเขาเสียอีก


“อาดีน ลื้อขยับมานั่งใกล้ม่านี่มา” ดีนทำตามอย่างว่าง่าย ตำแหน่งใหม่คือพื้นตรงหน้าอาม่า ภาพหลานรักคุกเข่าลงตรงหน้าทำให้หญิงชราเชื้อสายจีนไต้หวันถึงกับตกใจ “ลื้อจะทำอะไร ลุกขึ้นมานั่งข้างม่านี่ ทำอย่างกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตายไปล่าย” สำหรับคนจีน การคุกเข่าถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมันคือศักดิ์ศรีทั้งหมดของพวกเขา ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่บุพการี ไม่มีทางที่เข่าทั้งสองข้างของลูกผู้ชายจะสัมผัสพื้นแบบนี้เด็ดขาด


ดีนบอกปฏิเสธก็เพราะคิดว่ามันอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเขาถึงได้ทำแบบนี้ นอกจากจะเป็นการขอโทษจากใจแล้วยังเป็นการร้องขออย่างที่สุดเช่นกัน ถึงอย่างไรวันนี้เขาจะไม่ยอมกลับไปพร้อมความผิดหวังเด็ดขาด


“ผมมีคนรักแล้วครับ”


อาม่ายกมือทาบอกด้วยความตกใจ “อาดีนอ่า ลื้อพูดจริง ๆ เหรอ ลื้อไม่ได้หลอกม่าเล่นใช่ไหม”
หลานชายคนโปรดพูดซ้ำยืนยันเนื้อความเดิมอีกครั้ง “ข่าวดี เป็นข่าวดีมาก ๆ” นอกจากอาม่าแล้วเตี่ยกับมัมของเขาก็ดีใจไม่ต่างกัน


“สิ่งที่ผมอยากบอกทุกคนก็คือคนรักของผมเป็นผู้ชายครับ”
สิ้นคำประกาศของดีนทุกสรรพเสียงเงียบลงราวกับถูกสับสวิตซ์ ผู้ใหญ่ทั้งสามท่านนิ่งอึ้ง ไม่มีใครมีสติพอจะเอ่ยถามย้ำว่าเขาพูดเล่นหรือเปล่า มีเพียงแค่คริสที่นั่งนวดขมับเบา ๆ


“ลื้อว่าไงนะ!!” เป็นเตี่ยของเขาที่ได้สติก่อนใคร ชายวัยหกสิบต้น ๆ ลุกขึ้นยืนชี้หน้าลูกชายคนเล็กด้วยความโมโห ไม่คิดถามให้เจ้าตัวพูดซ้ำเพราะรู้นิสัยลูกดีว่าไม่ใช่คนพูดปดพูดเพ้อ แต่การบอกว่ามีคนรักเป็นผู้ชายถือว่าหยามศักดิ์ศรีตระกูลชาวจีนของเขามาก


“ใจเย็นก่อนสิ” ศรีภรรยาชาวแคนาดายื้อยุดสามีก่อนที่อีกฝ่ายจะพุ่งเข้าถึงตัวลูกชาย


“จะให้เย็นยังไงไหว!” คนเป็นสามีตะคอกถาม “อ๋อ นี่เธอให้ท้ายลูกเหรอ วัฒนธรรมบ้านเธอเขารับได้นี่ แต่บ้านฉันไม่!”


“เงียบหน่าอาตี๋!” ผู้สูงวัยที่สุดตวาดดังลั่นอย่างทรงอำนาจจนลูกชายกระฟัดกระเฟียดยอมเงียบแล้วนั่งลงที่นั่งตัวเองดังเดิม
หญิงชราเลื่อนสายตาจากลูกชายมามองหลาน หลานที่มีส่วนผสมของสามเชื้อสายตรงหน้าและกำลังมองเธออย่างแน่วแน่ไม่ไหวหวั่น


มุมปากเหี่ยวย่นตามวัยขยับยิ้ม “อาดีน ลื้อได้เลือดนักสู้จากเตี่ยลื้อมาเต็ม ๆ เลยนะ” หญิงชราเชื้อสายจีนมองหลานคนโปรดด้วยความภาคภูมิ “เกือบสามสิบปีก่อนเตี่ยลื้อก็สู้เพราะอยากแต่งงานกับมัมของลื้อ”


“มันไม่เหมือนกันนะม่า” คนถูกพาดพิงแย้งขึ้นทันควัน


“ไม่เหมือนกันยังไง!”


“ถึงอั๊วจะแต่งกับฝรั่ง แต่อีก็มีหลานให้ม่าได้ ผิดกับ…” เขาไม่อยากจะพูดออกมาเลยจริง ๆ “ม่าจะเสียสกุลก็คราวนี้!”


“อั๊วเสียสกุลไปตั้งแต่แต่งงานกับป๊าลื้อละอาตี๋ อีกอย่างนะหลานอั๊วก็เยอะแยะ ให้มันรู้ไปสิว่าจะไม่มีใครสืบสกุลป๊าลื้อ”
ดีนยิ้มบางแต่เต็มไปด้วยความสุข ไม่อยากจะดีใจเกินหน้าเกินตาไปนักเพราะเกรงใจบุพการีอยู่บ้าง


“ม่าไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำหรอกนะ แม้ว่าอั๊วจะรับไม่ได้ที่ลื้อรักกับผู้ชาย แต่ม่าก็เคารพการตัดสินใจของลื้อ”


“ขอบคุณครับอาม่า”


“โชคดีที่ลื้อเกิดมาเป็นหลาน ถ้าลื้อเกิดเป็นลูกอั๊ว อั๊วไม่มีทางยอมเด็ดขาด แต่ในเมื่อเป็นหลาน ลื้อต้องขอความเห็นจากเตี่ยกับมัมของลื้อเอง”


ดีนกลืนน้ำลายหนืดลงคอ ไม่ใช่ว่ากลัวเตี่ยจะไม่ยอม เขาพร้อมสู้อยู่แล้ว แค่กลัวว่าเวลาจะยืดเยื้อไปนานเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ เพราะดีนคิดไว้ว่าหากครอบครัวเขายอมรับความรักครั้งนี้ได้ก็คงช่วยเสริมน้ำหนักให้พ่อแม่ของรณณ์ยอมฝากน้องให้เขาดูแลได้เช่นกัน


“ดีนรักใครมัมก็รักด้วย” หญิงสาวต่างชาติเพียงคนเดียวในบ้านเลือกจะพูดภาษาไทยให้แม่สามีเข้าใจด้วย


“Thanks mom, I love you.” มัมก็ยังเป็นมัมที่พร้อมให้สิทธิขาดแก่ลูกเสมอ ครั้งที่คริสแนะนำคนรักให้รู้จัก มัมของเขาก็พูดแบบนี้


“อั๊วไม่...”


“แม่อียอมแล้ว ลื้ออย่าดื้อด้านให้เปล่าประโยชน์” อาม่าขัดขึ้นก่อนที่ลูกชายตัวเองจะบอกปฏิเสธออกมา


“อาม้า!?” คนถูกขัดร้องเรียกอย่างขัดใจ “ไหนม้าบอกให้อั๊วตัดสินใจเองไง”


“แล้วลื้อต้องการอะไรจากลูกล่ะอาตี๋”


“อาม้า...”


“ลูกลื้อไม่ใช่คนเที่ยวหยำฉ่าเมาหยำเป อีเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นคนดี ขยัน และที่สำคัญอีเป็นคนซื่อสัตย์”
คนเป็นลูกชายหันหน้าหนีอย่างเสียมารยาทจนหญิงชราอยากจะฟาดตีต่อหน้าหลานเสียจริงหากไม่ติดว่าเข้าใจความรู้สึกของลูกชายดี เพราะหากว่าดีนเป็นลูกของเธอ เธอเองก็คงจะรับไม่ได้อย่างที่ลูกชายเธอกำลังเป็น


“อาดีนอีซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองและให้เกียรติพวกเราทุกคน อีถึงได้มาบอก”


“...”


“อาตี๋อ่า อั๊วไม่ได้บอกให้ลื้อยอมรับตั้งแต่ตอนนี้ แต่อยากให้ลื้อคิดให้ดี เปิดใจให้กับความสุขของลูกบ้าง เหมือนอย่างที่อาป๊ากับม้ายอมรับลื้อกับเมีย” ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนจีนที่จะยอมรับลูกสะใภ้ที่เป็นฝรั่งตาน้ำข้าวได้ ในตอนนั้นเธอก็ต้องใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าจะยอมให้ทั้งคู่สร้างครอบครัวด้วยกันได้
คนเป็นลูกตั้งท่าจะแย้งขึ้นอีกครั้งว่ามันไม่เหมือนกรณีของเขาสักนิดแต่ดีนขัดขึ้นเสียก่อน “ผมขอโอกาสจากเตี่ย”
คนเป็นพ่อหันมองหน้าลูกชายคนเล็กอย่างพิจารณา นึกเกลียดความมุ่งมั่นแน่วแน่ในหน่วยตาคู่นั้นก็วันนี้ มันคงจะเหมือนเขาเมื่อเกือบสามสิบปีก่อนไม่มีผิด คนเป็นพ่อถอนหายใจ รู้ว่าท้ายที่สุดไม่วันใดก็วันหนึ่งตนคงพ่ายแพ้ให้กับความตั้งใจของลูก ในระหว่างที่กำลังคิดไตร่ตรองอย่างหนักก็พลันคิดได้ว่าอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ตนได้ครองคู่กับคนรักคืออะไร


“อั๊วจะให้ซินแสตัดสินเรื่องนี้!”


คนเป็นลูกร้องเหอะ นึกสมเพสชีวิตตนเองที่ท้ายที่สุดก็ต้องเอาชีวิตไปฝากไว้กับคำทำนายของซินแสตามความเชื่อของเตี่ย และที่น่าเจ็บใจคืออาม่าก็ยอมรับวิธีนี้ด้วย ไม่ต้องพูดถึงคนหัวอ่อนอย่างมัม รายนั้นก็ปล่อยเลยตามเลยมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง คริสเองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองน้องด้วยความเป็นห่วง


เรื่องดวงที่แท้จริงเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ซินแสคงไม่เข้าใจในความรักของเพศเดียวกันแน่ ซึ่งนั่นคงไม่ใช่ผลดีในการดูดวงครั้งนี้
ดีนเองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้คงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมตามน้ำไปก่อน ดื้อรั้นไปตอนนี้ก็คงไม่มีประโยชน์ ได้แต่หมายมั่นในใจว่าตนต้องทำทุกวิถีทางให้ลงเอยตามความต้องการตน








งานเลี้ยงเล็ก ๆ ในแผนกคอลัมน์ช่วงกลางวันเป็นการเลี้ยงส่งนักศึกษาฝึกงานที่อยู่ร่วมกันมานานถึงสามเดือน อาหารชุดมากมายหลากหลายล้วนเป็นอภินันทนาการจากหัวหน้าแผนกสาว มีเพียงเครื่องดื่มเท่านั้นที่เป็นการรวมเงินกันของพี่ ๆ ในแผนกที่ขออนุญาตหัวหน้าเพราะอยากมีส่วนในการเลี้ยงน้องบ้าง
รณณ์บอกเล่าแผนในอนาคตของตนคร่าว ๆ เมื่อทศและกลุ่มพี่ที่สนิทกันถามไถ่ บอกอีกด้วยว่าจะไม่ลืมทุกคนที่นี่และจะแวะมาหาบ่อย ๆ


“นึกว่าจบแล้วจะเข้าทำงานที่นี่ซะอีก” ดาวพูดยิ้ม ๆ ในตอนที่บังเอิญเดินผ่านมาได้ยิน นานพอควรแล้วที่เธอปั่นป่วนความสัมพันธ์ของรณณ์กับดีน แม้ว่ารุ่นน้องร่วมคณะที่มีศักดิ์เป็นเจ้านายเธอจะไม่ยอมรับออกมาตรง ๆ ว่าคบหาอยู่กับเด็กฝึกงานคนนี้ แต่ด้วยลักษณะนิสัยเป็นสันโดษไม่ให้ความสนิทสนมกับใครง่าย ๆ และจากการสังเกตของเธอจึงทำให้ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ได้ไม่ยาก ต้องยอมรับว่าสองคนนี้วางตัวดีจนเธอไม่อาจจะสร้างเรื่องได้มากกว่าคอยหาโอกาสให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในที่ทำงานให้คนอื่นเห็นบ้าง แต่หากมีสักครั้งที่ดีนพลาด เธอสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่รอช้าที่จะฉวยโอกาสนั้นไว้ในมือ


“ไม่ล่ะครับ ผมฝันอยากทำงานด้านสื่อมากกว่า”


“บอกอคงเสียดายแย่”


รณณ์ยิ้มเป็นมิตร “ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น”


ดาวยิ้มบาง ไม่ต่อความให้มากเรื่อง หันไปพูดเชิญชวนให้ทุกคนสังสรรกันต่อตามสบาย เธออยู่พูดคุยกับคนนั้นคนนี้อีกครู่หนึ่งก่อนปลีกตัวออกไป









สิ้นสุดฤดูกาลฝึกงานของนักศึกษาไปได้เพียงไม่กี่วันหัวหน้าฝ่ายพิสูจน์อักษรสาวก็สร้างเรื่องฮือฮาให้บรรดาพนักงานทุกฝ่ายในบริษัทด้วยการโพสรูปคู่ของเธอกับบรรณาธิการหนุ่มในสีหน้ายิ้มแย้มลงโซเชียลเน็ตเวิร์คที่คนส่วนใหญ่ในบริษัทติดตามเธออยู่พร้อมแคปชั่นที่ทำเอางงงวยทั่วทุกผู้คน


‘ความสัมพันธ์ที่ไม่เคยเปลี่ยน เพื่อนก็คือเพื่อน เพื่อนกันตลอดไป’


“แคปชั่นนั่นเพื่อนายเลยนะ” ผิงว่าขึ้นในมื้อกลางวันของวันทำงานต้นสัปดาห์หลังจากที่ปล่อยให้สเตตัสดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงมาเกือบสามวันแล้ว ก็เพิ่งมีโอกาสได้เจอได้คุยกันก็วันนี้ ส่วนตัวเธอไม่ได้ยุ่งอะไรนัก แต่บก.เพื่อนรักติดประชุมผู้บริหารถี่เสียจนถ้าไม่ถือเป็นการละลาบละล้วงเธอก็อยากจะเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ว่ามีประเด็นอะไรกันถึงได้ประชุมทั้งวี่วันมาหลายวันแล้ว
ดีนไม่ตอบอะไร ได้แต่ร้องอื้ออึงในลำคอตอบรับ “เป็นของขวัญให้รณณ์ด้วย”
คนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเงยขึ้นมองคนพูดทันทีที่ได้ยินชื่อคนรัก “ยังไง”


“น้องจะได้สบายใจไง”


“เขาเชื่อใจฉันอยู่แล้ว” ก็เคยพูดต่อหน้าทั้งคู่ไปแล้วว่าใครคือคนที่เขาแคร์ที่สุด ดีนเชื่อว่ารณณ์จะเข้าใจแม้เขาจะไม่ได้บอกว่าเรื่องที่คนลือกันทั้งบริษัทเป็นเพียงแค่ละครฉากหนึ่ง


“ย่ะ แต่ก็นั่นแหละ ประกาศแบบนี้คนจะได้เลิกคิดไปเองว่าฉันกับนายคบกัน ป้องกันเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย” อย่างน้อยตอนที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันในห้องกระจกนี่ก็ไม่มีสายตาของใครจับจ้องอยู่เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แม้จะยังมีบางคนที่เชียร์คู่เธอกับเขาอยู่บ้างแต่ก็ไม่มีใครกล้าแสดงออกเกินควรเหมือนก่อนอีกแล้ว


“อะไร”


หญิงสาวถอนหายใจ มองคนที่เคยรอบคอบแต่กลับบกพร่องไปเสียทุกอย่างกับเรื่องความรัก “ก็ถ้าทุกคนรู้ว่านายคบกับรณณ์ คนเขาจะโยงเอาได้ว่าน้องเป็นมือที่สาม สู้ฉันประกาศให้ชัดไปเลยดีกว่า”
ดีนพยักหน้าเข้าใจ


“นายเองก็ต้องคิดให้เยอะนะดีน ความรักก็เรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์ก็อีกเรื่องหนึ่ง ความสัมพันธ์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรักอย่างเดียว หลายคู่ที่แยกทางกันไปทั้งที่ยังรักกันมากก็มี จะพูดจะทำอะไรก็คิดให้รอบคอบเหมือนเวลาทำงานด้วยค่ะ” ท้ายประโยคดีนโดนเพื่อนรักแดกดันไปเต็มเสียง


ดีนชะงัก คิดตามแล้วพึมพำขอบคุณออกไป ยอมรับว่าเรื่องความรักความสัมพันธ์ยังมีอะไรให้เขาได้เรียนรู้อีกมาก





บ่ายวันนั้นห้องทำงานของดีนได้เปิดต้อนรับคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกันในห้องนี้ ดาวถือแฟ้มเอกสารเดินเข้ามาหลังจากเขาอนุญาต เป็นแฟ้มรายงานสรุปการฝึกงานของนักศึกษาในช่วงที่ผ่านมาซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากรณณ์ แต่ที่ทำให้ดีนสงสัยคือเธอเดินถือรายงานขึ้นมาให้เขาด้วยตัวเอง ทั้งที่ของคนก่อนหน้านี้เธอเพียงแค่ใช้ลูกน้องมาเท่านั้น



ทว่าดีนกลับเก็บความสงสัยใคร่รู้ไว้ในใจแล้วตั้งหน้าตั้งตาอ่านรายงานไปขณะที่เธอเองก็ยังไม่ไปไหน หากแต่ก็ไม่ได้นั่งลงตามคำเชิญของเจ้าของห้องด้วย


“รักษาความสัมพันธ์เก่งเหมือนกันนี่”


“หมายถึงอะไร” ดีนถามทั้งที่ยังก้มหน้าอ่านรายงานทั้งที่ไม่มีความจำเป็นจะต้องสนใจก่อนงานอื่น ๆ บนโต๊ะเลยด้วยซ้ำ


“กับเด็กในปกครองของฉันไง”


ดีนเงยหน้าขึ้นมองแต่ไม่เอ่ยยอมรับ แฟ้มรายงานในมือถูกปิดลงก่อนไถลไปวางบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี


“ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนอย่างนายจะมีความรักได้” เรื่องคบผู้ชายด้วยกันนั้นเธอไม่ค่อยแปลกใจนัก รู้มาตลอดว่าดีนค่อนข้างรับวัฒนธรรมฝั่งมารดามาเยอะ โลกของดีนจึงเปิดกว้างกว่าครอบครัวคนจีนทั่วไปมาก


“คุณเองก็ควรจะเริ่มต้นใหม่ได้แล้วนะ” ดีนไม่ถือสากับเรื่องที่ผ่านมา ในเมื่อสิ่งที่ดาวทำไม่ได้ร้ายแรงอะไรนัก มันก็แค่วิธีการของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ผิดหวังจากความรักแล้วหาหนทางขัดขวางผู้หญิงอื่นที่อาจมาแทนที่เธอได้ ส่วนเรื่องของเขาก็แค่ผลกระทบจากความเกลียดชังของเธอ ความเกลียดชังที่สะท้อนกลับมาจากความรู้สึกที่เขาส่งให้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เขาต้องขอบคุณเธอด้วยซ้ำ เพราะถ้าเธอไม่ทำแบบนี้ นักหัดรักอย่างเขาก็คงทำให้รณณ์เดือดร้อนด้วยการวางตัวแบบไม่สนสายตาใครไปแล้ว


“รอให้ถึงวันที่ตัวเองถูกทิ้งก่อนเถอะ นายคงเข้าใจความรู้สึกฉันได้ไม่ยากหรอก”


“คริสไม่ได้มองผิงเกินเลยไปกว่าน้องสาว” ที่พูดบอกเพราะรู้มาตลอดว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่เคยวางใจเรื่องนี้เลยสักครั้ง ไม่อย่างนั้นคงไม่วิ่งเต้นเอาเรื่องผิงเพียงแค่คริสพูดเข้าข้างผิง


“ไม่มีอะไรเป็นจีรังหรอกดีน”


“ผมรู้…”


“...”


“...และหวังว่าวันหนึ่งความรู้สึกที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ก็จะหายไปเหมือนกัน”







หลังจากการประกาศสถานะเพื่อนกับดีนอย่างเป็นทางการของผิง ทำให้ชายหนุ่มเริ่มหายใจหายคอกับความสัมพันธ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเกือบสองเดือนก่อนได้มากขึ้น หลังเลิกงานก็ออกไปเที่ยวเล่นกับรณณ์บ้างแต่ส่วนใหญ่ยังใช้ชีวิตด้วยกันในห้องพักแคบ ๆ ตามความเคยชินเสียมากกว่า ครั้นจะไปเล่นกันที่ห้องเขาบ้างก็ดูจะไม่สะดวกสำหรับชีวิตนักศึกษาในช่วงโค้งสุดท้ายสักเท่าไหร่นัก


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมารณณ์กลับบ้านไปถึงสามวันตามที่เคยบอกไว้ กลับมาถึงก็บอกเล่าถึงเรื่องที่คุยกับพ่อแม่ตนเอง รณณ์บอกพวกท่านแค่ว่ามีคนรักแล้วและจะพาไปแนะนำให้รู้จักเมื่อถึงเวลาอันสมควรตามคำแนะนำของเขา ถึงตรงนี้พ่อแม่ก็ไม่ได้เร้าหรืออะไรมากมาย


“ครับมัม” ดีนหันมองคนที่กำลังปั่นโปรเจคจบชิ้นสุดท้ายแวบหนึ่งก่อนรับสายแล้วเดินออกไปคุยตรงระเบียง


[วีคเอนนี้พาแฟนลูกมาที่บ้านอาม่าด้วยนะ] สำเนียงไทยแปร่ง ๆ ดังมาตามสาย


“ไปทำไมครับ”


[ซินแสทำนายดวงให้ลูกแล้ว]


ดีนหันกลับไปมองคนที่ยังจดจ่อกับงานด้วยความเป็นห่วง


“ผมขอรู้ก่อนครับ ผมไม่มีทางยอมให้น้องไปรับแรงกดดันที่บ้านเราเด็ดขาด”


[พามาเถอะหน่าดีน ไม่มีอะไรร้ายแรงหรอก ลูกปกป้องคนของลูกได้อยู่แล้ว เชื่อมัมเถอะ]


“...”


[ตามนี้นะลูก เจอกันดินเนอร์วันเสาร์นะ]


คนทางนี้ยังไม่ทันรับปากอีกฝ่ายก็วางสายไปเสียแล้ว ดีนถอนหายใจยืนมองคนรักอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ อีกพักหนึ่งจนคนถูกมองหันมาหา รณณ์เอียงคอเล็กน้อยอย่างฉงน เจ้าตัวคงสงสัยว่าทำไมเขาออกมาคุยโทรศัพท์นานนัก ดีนยิ้มให้คนรักสบายใจก่อนจะเดินเข้าไปแล้วสวมกอดคนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังวางคางเกยบนไหล่เล็ก


“อะ อะไรกันครับ” ไม่บ่อยนักที่คุณดีนจะจู่โจมถึงเนื้อถึงตัวกันแบบนี้ นอกจากจูบในวันนั้นก็มีแค่กอดคอโอบไหล่บ้างเล็กน้อยแต่ไม่เคยแนบชิดกันถึงขนาดนี้


“เสาร์นี้ว่างไหม ไปทานอาหารบ้านอาม่ากัน”
ดีนโยกตัวไปมาเบา ๆ คล้ายปลอบประโลมคนที่นิ่งอึ้งไปตั้งแต่ได้ยินประโยคบอกเล่าเรียบ ๆ เมื่อครู่ “ผมเคยบอกไว้แล้วว่ามีแฟน บอกพวกท่านด้วยว่าเป็นผู้ชาย”


“...”


“ทุกคนยอมรับเรื่องของเราได้นะ แต่เตี่ยผมขอดูดวงเราสองคนก่อน”


“ดูดวง?”


ดีนลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู “อย่ากังวลไปเลยเบ๊บ มันก็แค่ดวง”


“แต่...”


“ไปพิสูจน์ความรักของเราให้พวกท่านเห็นกัน...นะ”


จุมพิตข้างขมับเป็นรางวัลตอบแทนคำตอบรับของคนเด็กกว่า ดีนเองก็กังวลอยู่ไม่น้อย หวั่นกลัวทั้งดวงที่เตี่ยได้มาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับใจคนรัก แต่ก็ต้องสร้างความมั่นใจให้อีกฝ่าย ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่ดีนเชื่อว่าการแสดงออกว่าจะอยู่ข้างกันเสมอจะทำให้รณณ์เบาใจขึ้นได้






(มีต่อนะคะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-02-2018 00:15:26 โดย ธัญญ์ »

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4


“I found a love for me. Darling, just dive right in and follow my lead”


เสียงฮัมเพลงในท่อนขึ้นต้นคล้ายจะเรียกขวัญกำลังใจกันดังขึ้นพร้อมมือที่ยื่นมากุมกันไว้ทำให้รณณ์คลายกังวล นัยน์ตาใสละจากวิวข้างทางกลับมามองคนที่นั่งตำแหน่งหลังพวงมาลัย รถคันหรูกำลังทะยานออกสู่ชานเมืองอันเป็นที่ตั้งของบ้านญาติผู้ใหญ่ของคุณดีน


“ยิ้มหน่อยสิเบ๊บ ผมชอบรอยยิ้มคุณนะ”


ไม่รู้ว่าเคยบอกไปหรือยัง รู้แต่ทุกครั้งที่ิอยู่ด้วย ไม่เคยมีครั้งไหนที่ต้องร้องขอกันแบบนี้ รณณ์มักติดรอยยิ้มบนใบหน้าเสมอยามที่อยู่ด้วยกัน


รณณ์ยิ้มกว้างออกมาให้คนร้องขอได้ชื่นใจ ดีนเลื่อนมือขึ้นลูบแก้มใสเบามืออย่างแสนรัก ตาก็คอยหันมองคนข้างกายเป็นระยะ

“อย่ากังวลไป ผมเชื่อว่าคำทำนายต้องออกมาดี ไม่อย่างนั้นพวกท่านคงไม่อยากเจอคุณหรอก”


“แล้วถ้า...”


“ถ้าไม่ดีเราก็จะพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าคำทำนายของซินแสมันไม่จริง”


“...”


“เราสัญญากันแล้วนะว่าจะเดินไปด้วยกัน คุณไม่เชื่อใจผมเหรอ” ถึงจะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจอคนที่เข้ากันได้และเติมเต็มชีวิตให้กันแบบนี้ และถึงจะเพิ่งคบกันได้แค่ไม่กี่เดือน แต่ดีนก็พร้อมสู้เพื่อให้มันไม่หยุดอยู่แค่นี้


รณณ์จับมือที่กอบหน้าตัวเองมากุมไว้แน่น “เชื่อสิครับ เชื่อทั้งใจคุณและใจตัวเอง”


ดีนยิ้มกว้าง ขอแค่รณณ์เชื่อใจกันเขาก็พร้อมจะสู้กับทุกอุปสรรคที่พบเจอ


ระหว่างทางรณณ์ให้ดีนแวะร้านขายของสะสมโบราณ คนอ่อนวัยกว่าต้องการจะหาของสักชิ้นที่ไม่แพงจนเกินตัวไปฝากอาม่าของคนรักเพราะรู้ว่าท่านชอบเผื่อว่าท่านจะเอ็นดูและปรานีเขาไม่มากก็น้อย


“ของพวกนี้มันแพงมากนะรณณ์ คุณยังไม่ได้ทำงาน ยังไม่มีรายได้ ผมไม่อยากให้คุณมาสิ้นเปลืองกับมัน”


“แต่ผมไม่ควรไปหาพวกท่านมือเปล่า อย่างน้อยถ้ามีของที่อาม่าคุณชอบไปให้ ท่านคงเอ็นดูผมบ้าง”


ดีนยิ้มในความซื่อของรณณ์ แค่รู้ว่าอีกคนก็พยายามจะรักษากันไว้เขาก็ดีใจมากแล้ว “ถ้าพวกท่านได้รู้จักรณณ์ ผมเชื่อว่าทุกคนจะเอ็นดูคุณเหมือนกับผม”


เด็กหนุ่มยังไม่คลายกังวล แม้ว่าดีนจะขับรถเลยร้านดังกล่าวมาแล้วก็ตาม


“เราไปซื้อผลไม้กันก็ได้นะ เหมาะกับทุกโอกาสดี” ดีนออกความเห็นซึ่งรณณ์ก็ไม่ได้แย้งอะไร



สองหนุ่มมาถึงบ้านของอาม่าก่อนเวลานัดเล็กน้อย เด็กหนุ่มตื่นเต้นจนเนื้อตัวเริ่มสั่น เขากลัวจนไม่แม้แต่จะกล้ามองเข้าไปในบ้าน ดีนมองด้วยความสงสาร ยื่นมือไปกอมกุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น รณณ์หันมองสบตาคู่คมของคุณดีน นัยน์ตาใสสั่นไหวจ้องมองรอยยิ้มอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้ด้วยใจที่เต็มตื้น รู้สึกได้ว่าความกล้าหาญที่หดหายไปได้กลับคืนมาบ้างแล้ว แม้จะยังไม่มากมายแต่ก็คงเพียงพอให้พร้อมเผชิญหน้ากับทุกคนในวันนี้


ก็อก ก็อก ก็อก


เสียงเคาะกระจกรถฝั่งรณณ์ทำเอาคนที่เพิ่งได้กำลังใจสะดุ้งโหยง สองหนุ่มในรถหันมองคนที่มาขัดจังหวะแล้วพบกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาและบุคลิกออกไปทางเชื้อตะวันตก รณณ์เดาว่านี่น่าจะเป็นท่านประธานที่พี่ในแผนกพูดถึงกันซึ่งก็คือพี่ชายของคุณดีนด้วย


‘get out!’


ดีนสะกิดคนรักส่งสัญญาณให้ลงจากรถเมื่ออ่านรูปปากของพี่ชายทางด้านนอกได้


“สวัสดีครับ”


คริสยกมือรับไหว้เด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งเคยเจอครั้งแรก นัยน์ตาสีอ่อนไล่สำรวจคนตรงหน้าคร่าว ๆ อย่างไม่โจ่งแจ้งนัก หน้าตาผิวพรรณท่าทางก็ไม่ได้ออกสาวอะไรนัก รูปร่างสูงโปร่งไม่ได้ตัวเล็กดูน่าทะนุถนอมสักนิด จะว่าไปแล้วก็ไม่ต่างจากเด็กผู้ชายทั่วไปแต่ทำไมน้องชายเขาถึงติดใจนักหนา


“นี่คริสพี่ชายผม” ดีนเดินอ้อมรถมาจับมือคนของตนไว้หลวม ๆ รณณ์ตกใจระคนเขินอายคริสแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกแต่อย่างใด

“ส่วนนี่รณณ์ แฟนไอ”


คริสพยักหน้ารับรู้ สามหนุ่มไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันต่อเพราะผู้เป็นแม่เดินออกมาตามเสียก่อน


“มากันแล้วเหรอลูก” หญิงสาวชาวต่างชาติหน้าตาสะสวยท่าทางใจดีคือภาพแรกที่รณณ์เห็น เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบยกมือไหว้สาวเจ้าด้วยท่าทางนอบน้อม เธอยิ้มรับเอ็นดู แม้จะอยู่เมืองไทยมาหลายปีแต่ก็ยังไม่ชินกับการทักทายแบบนี้สักเท่าไหร่ เธอจึงยื่นมือออกมาให้เด็กหนุ่มเพื่อทักทายตามแบบฉบับของเธออีกครั้ง


รณณ์ยื่นมือไปตอบรับด้วยท่าทางเคอะเขินท่ามกลางการแนะนำให้รู้จักกันของดีน


“เรียกว่ามัมเหมือนดีนก็ได้นะจ๊ะ”


รณณ์หน้าเหวอ หันมองคุณดีน อีกฝ่ายก็พยักหน้าสนับสนุนให้ทำตามที่เธอบอกเด็กหนุ่มถึงพูดตอบรับออกมาด้วยท่าทีประหม่าเล็กน้อย


“ครับมัม”


พี่ชายคุณดีนนิ่งเฉยไม่แสดงอาการ ส่วนมัมคุณดีนยิ้มแย้มเป็นมิตรให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เพียงแต่นั่นยังไม่สามารถทำให้รณณ์เบาใจลงไปได้ เมื่อประมุขใหญ่ของบ้านอย่างหญิงชราชาวจีนที่คุณดีนเรียกว่าอาม่ายังนั่งหน้าตึงขณะที่คุณเตี่ยจ้องมองมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อกัน


ดีนกุมมือของคนรักที่นั่งคุกเข่าข้างกันบนพื้นเย็นเฉียบ ออกแรงบีบเล็กน้อยให้อีกฝ่ายไม่เสียกำลังใจไปเสียก่อน ตำแหน่งที่นั่งของทุกคนไม่ต่างจากวันที่เขาเข้ามาสารภาพในวันนั้นเลยสักนิด จะต่างออกไปก็แค่วันนี้เขาไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง


ดีนสะกิดให้รณณ์ยื่นกระเช้าผลไม้ที่ตั้งใจซื้อมาให้กับอาม่าหลังจากแนะนำตัวเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มสูดหายใจลึกก่อนจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก “ผลไม้ครับอาม่า”


“ขอบใจลื้อมากนะ” เธอเผยยิ้มบางให้คนรักของหลานชาย แต่รอยยิ้มน้อย ๆ แค่นั้นกลับสร้างความมั่นใจให้คนรับมากขึ้นอีกเท่าตัว


“ซินแสอีดูดวงพวกลื้อสองคนแล้ว” รณณ์ไม่รู้ว่าดีนเอาข้อมูลของตนมาจากไหนไปให้ซินแส คาดว่าอาจจะเอามาจากแฟ้มประวัติของเขาที่ยื่นให้กับบริษัทตอนขอฝึกงานก็เป็นได้


“อีบอกว่าถึงจะเพศเดียวกันแต่ก็อยู่ด้วยกันได้” หญิงชราเอ่ยเสียงราบเรียบ “ดวงพวกลื้อฮะกัน”


“อาม่าหมายความว่าไงครับ ฮะกันคืออะไร” ดีนถามด้วยความสงสัย รณณ์เองก็เช่นเดียวกัน


“ฮะหมายถึงดวงสมพงษ์กัน เป็นคู่มิตรกัน ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญ สามารถครองคู่กันได้นาน”


“แต่ก็ไม่จริงเสมอไป!” คนเป็นลูกชายแย้งขึ้นทันควันจนเธอตวัดตาไปมองอย่างตำหนิ


“ก็จริงนี่ม้า ดวงพวกอีเป็นไห่ด้วย”


คราวนี้ไม่ใช่แค่เจ้าของดวงที่งงหนักแต่หญิงต่างชาติหนึ่งเดียวและลูกชายคนโตที่ไม่เคยได้รู้เรื่องนี้มาก่อนก็งงเช่นกัน ก่อนหน้านี้พวกเขารู้แค่ว่าดวงทั้งคู่สมพงษ์กันเท่านั้นเรื่องห่งเรื่องไห่อะไรนี่ไม่เคยเข้าหูเลยสักครั้ง


“ดวงพวกให้ร้าย” ชายวัยหกสิบต้น ๆ พูดเฉลยอย่างเดียวไม่พอ สายตายังมองเหยียดคนรักของลูกชายอีกด้วย


รณณ์ตื่นตระหนก ตกใจกับคำทำนายจนทำตัวไม่ถูก นัยน์ตาที่เคยสุกใสก้มต่ำเอาแต่มองมือที่ยังจับกันกับคนรักแนบแน่น รู้ตัวว่าฝ่ามือตัวเองกำลังชื้นเหงื่อด้วยความกลัวแต่ถึงอย่างนั้นคุณดีนก็ยังจับกันไว้ไม่ปล่อย ซ้ำยังกระชับให้แน่นขึ้นอีกด้วย


“ก็แค่ปีเกิด!” อาม่าแย้งขึ้นเสียงดัง “ไห่กันทั้งปี ถ้าลื้อจะมองที่ตรงนั้นอาดีนอีก็คงคบใครที่เกิดปีนั้นไม่ได้แล้ว”


“แต่...”


“ลื้อจะเถียงทำไมอีก ดวงพวกอีกสมพงษ์กันจะตาย อยู่กันไปก็มีแต่จะพากันเจริญ ซินแสอีบอกลื้อก็ได้ยินนี่อาตี๋”


“ก็แค่ดวง”


“เธอเป็นคนอยากพึ่งดวงเองไม่ใช่เหรอ” มัมของดีนแย้งขึ้นมาเสียงเรียบทำเอาคนถูดขัดปรายตามองด้วยความขัดใจ


“เพิ่งจะคบกันได้ไม่กี่เดือน เอาอะไรมามั่นใจ”


“ถึงผมจะไม่เคยมีความรัก แต่ผมก็รู้ว่าความสัมพันธ์ที่ดีไม่จำเป็นว่าต้องเดินช้าหรือเร็ว แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เดินไปตามเวลาที่เหมาะสม” ดีนตอบเสียงดังฟังชัด มันทั้งชัดเจนและแน่วแน่จนคนถามยังแอบหวั่น


“แกอินกับโลกวรรณกรรมมากเกินไปรึเปล่า มองโลกความเป็นจริงบ้าง” นึกเจ็บใจที่ส่งลูกชายคนเล็กไปเรียนอักษรฯ นอกจากจะใช้ภาษาไทยแตกฉานกว่าพวกลูกผสมคนไหน ๆ แล้วความเจ้าบทเจ้ากลอนก็ไม่เป็นสองรองใครเสียจนน่าปวดหัว


“โลกความเป็นจริงคือตอนนี้สังคมยอมรับคนแบบเราได้เยอะขึ้นแล้วนะเตี่ย แค่เราเป็นคนดี ไม่ทำอะไรเสื่อมเสีย ผมเชื่อว่าใครต่อใครจะยอมรับความรักของเราได้”


“กับเด็กนี่น่ะเหรอ” คนเป็นพ่อมองเหยียด “เป็นเกย์รึไง”


รณณ์ส่งสัญญาณให้ดีนรู้ว่าตนจะเป็นคนพูดเอง เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องตาสู้กับคนเป็นพ่อของคนรักที่ยังยืนปั้นหน้าถมึงตึง ถึงจะหวั่นกลัวอยู่บ้างแต่ก็พร้อมสู้ไม่ถอยเช่นกัน “ถ้าท่านนิยามว่าความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณดีนเป็นเหมือนเกย์ ผมก็อยากจะบอกว่าผมเป็นเกย์แค่กับเขาคนเดียวครับ”


“เหอะ”


“เราอาจจะเพิ่งรู้จักกัน เพิ่งรักกัน ความรู้สึกที่ว่าจะมีกันตลอดไปเป็นแบบไหนกันแน่ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่ผมคิดว่า...” ดีนหันมองคนรัก “...เราสองคนคงรู้สึกไม่ต่างจากตอนที่คุณลุงอยากจะรักกับมัมของคุณดีนทั้งที่ขัดกับวัฒนธรรมของคนจีนหรอกครับ”
“แล้วเธอท้องได้ไหมล่ะ!” ชายลูกครึ่งวัยหกสิบต้น ๆ ตวาดดังลั่นเผยความในใจเพียงหนึ่งเดียวที่ยังทำให้เขายอมรับคนทั้งคู่ไม่ได้ เด็กหนุ่มสะดุ้งตัวเล็กน้อยด้วยความตกใจ ดีนรีบขยับตัวมาบังน้องไปกว่าครึ่งแต่รณณ์กลับขยับออกมาสู้หน้าด้วยความกล้าหาญอันน้อยนิด


“เธอมีหลานให้ฉันได้ไหม!”


รณณ์ลอบสูดหายใจลึก “ผมอาจจะมีหลานให้ท่านไม่ได้ แต่ถ้าเรารับเลี้ยงเด็ก ผมมั่นใจว่าจะเลี้ยงเขาให้เป็นคนดีได้ครับ”


“เด็กที่โตมากับผู้ชายสองคนจะเป็นคนที่สมบูรณ์ได้ยังไงกัน”


“เอาหน่าเตี่ย” คริสขัดขึ้นก่อนที่การถกเถียงด้วยอารมณ์คุกรุ่นจะถลำไปมากกว่านี้ “เด็กสองคนนี่ก็แค่อยากคบกัน ในเมื่อดวงสมพงษ์กันเราก็แค่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้กัน ทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มเองนะเตี่ย ที่เตี่ยกำลังคิดน่ะมันขั้นแต่งงานแล้วนะ”


“แต่น้องชายแกคิด” ถึงไม่พูดออกมาแต่ความจริงจังแน่วแน่ในสายตาลูกชายคนเล็กบอกเขาแบบนั้น ดีนไม่ได้คิดจะคบเล่น ๆ อะไรบางอย่างในนั้นบอกเขาว่าดีนจะดูแลความสัมพันธ์ครั้งนี้เป็นอย่างดี


“อีกนานน่ะเตี่ย ถ้ามีวันนั้นจริงเราค่อยมาคุยกันใหม่ก็ได้นี่ครับ”


“อั๊วเห็นด้วยกับอาคริส”


“แต่อีอายุยี่สิบห้าแล้วนะ จะมาคบใครให้เสียเวลาทำไม เวลานี้ต้องเลือกคบคนที่จะมาเป็นแม่ของลูกเท่านั้นได้แล้ว”


“ระยะเวลาไม่ใช่ตัวชี้วัดหรอกเตี่ย ผมเองก็เพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันมานานนะ ผู้ชายอย่างเราแต่งงานตอนไหนก็ได้หน่า”


“ฉันเห็นด้วยกับคริส” คนเป็นภรรยาแสดงความเห็นบ้าง “อย่าทำลายความสุขของลูกสิ”


เขาตั้งใจจะแย้งอีกครั้งแต่คนเป็นประมุขของบ้านกลับตัดสินเด็ดขาดออกมาเสียก่อน “เอาตามนั้นแหละ ปล่อย ๆ พวกอีไป ถ้าพวกอีจะแต่งงานกันจริงลื้อต้องการเวลาเตรียมใจกี่เดือนหรือกี่ปีล่ะ อั๊วจะได้หาฤกษ์ให้หลานรอไว้เลย”


“อาม้า!”


ดีนอดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มมุมปากออกมาด้วยความขบขัน อาม่าชอบเล่าให้ฟังอยู่เสมอว่าเตี่ยเขาเหมือนเด็กน้อย เห็นโหดเห็นดุกับน้องหรือลูกหลานแต่ก็มักจะทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตกับอาม่าเสมอ




(มีต่ออีกนิดนะคะ)

ออฟไลน์ ธัญญ์

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-4


“พวกลื้อขยับมาใกล้ม่าสิ” มือเหี่ยวย่นยกขึ้นกวักเรียกหลานรักกับคนรักเข้าไปใกล้ ดีนยิ้มรับบีบมือเล็กเป็นสัญญาณให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน


มือที่กวักเรียกเมื่อครู่วางทาบลงบนศีรษะของเด็กหนุ่มด้วยความอ่อนโยนก่อนเลื่อนไปหาหลานรัก เธอแย้มยิ้มแบมือขอมือหลานทั้งสองมาซ้อนทับกันบนมือเธอ


“จำเอาไว้นะ คนเราจะอยู่ด้วยกันได้ต้องไม่คาดหวังในตัวอีกคนนัก ร้อยพ่อพันแม่คนเราย่อมไม่เหมือนกัน อย่าหวังว่าเขาจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อยู่กันด้วยความเข้าใจ เข้าใจธรรมชาติพื้นฐานของกันและกันแล้วค่อยพิจารณาปรับแก้ไขเข้าหากัน สำคัญคือต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล” เสียงพูดเอื่อยเฉี่อยตามธรรมชาติคล้ายจะต้องการเน้นยำแต่ละถ้อยคำให้ฝังลึกในความคิดของคนหนุ่มอยู่ในที


“ครับอาม่า” สองหนุ่มตอบรับออกมาพร้อมกัน รณณ์ในตอนนี้ดูผ่อนคลายขึ้นจนดีนเองก็คลายกังวลไปด้วย


“แล้วยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ พวกลื้อต้องลดศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายกันคนละครึ่ง เอาใจเขามาใส่ใจเราให้เยอะ อย่าหยามเกียรติกันและกัน อาดีน ลื้อเป็นพี่อย่าข่มเหงน้องด้วยถือว่าตนใหญ่กว่า พึงระลึกว่าน้องก็เป็นผู้ชาย เข้าใจที่ม่าพูดใช่ไหม”
ดีนหันมองคนรัก รอยยิ้มกว้างสว่างไสวดุจไออุ่นแรกของรุ่งอรุณทำให้รณณ์อุ่นใจจนยิ้มตาม


“เข้าใจครับอาม่า”


หญิงชรายิ้มรับ นัยน์ตาอ่อนล้าตามวัยสนใจแต่ภาพตรงหน้า ไม่อยากจะปรายมองลูกชายที่ยังปั้นหน้าขมึงตึงอยู่ให้อารมณ์เสีย


“ม่าไม่ได้เตรียมของรับขวัญ เอาเป็นว่าม่ายกหลานรักคนนี้ให้ลื้อนะอารณณ์”


“แต่ถ้าวันไหนเลิกกันแล้วก็มารับของรับขวัญจากอั๊วะ!” ลูกชายตัวดีของเธอแทรกทะลุกลางปล้องจนเธอต้องหันไปตำหนิทั้งสายตาและคำพูด ภรรยาที่นั่งข้างกันก็อดไม่ได้ที่จะวาดมือลงบนไหล่หนาของคนปากเสีย


“ลื้อคิดว่าอาดีนจะยอมให้มีวันนั้นเหรอ พูดอะไรไม่คิด”


“อาม้า!”


เลี้ยงหลานรักมาแต่อ้อนแต่ออดมีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าหากเธอไม่ชิงพูดขึ้นก่อน หลานชายคนโปรดจะพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกมา ดีนเป็นคนตรงคนซื่อ ไม่ได้ซื่อบื้ออ่อนต่อโลก แต่ซื่อตรงกับความคิดความรู้สึก ได้แต่หวังว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะทนอยู่กับดีนได้จริง ๆ แต่ถ้าจะให้ดี ขอให้ช่วยกันแก้ไขสิ่งไม่ดีในตัวกันและกันจะดีกว่า



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารไม่ได้ชื่นมื่นนักแต่ก็ไม่ถึงกับตึงเครียด มีเพียงแค่ท่าทีมึนตึงของอาเตี่ยและสีหน้าเรียบเฉยเดาอารมณ์ยากของคริสเท่านั้นที่ทำให้รณณ์ทำตัวไม่ถูกไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อึดอัดอะไรนัก เพราะคนอื่น ๆ คอยผลัดกันชวนคุยและเทคแคร์เขาเป็นอย่างดี


“อาดีนบอกว่าลื้อชอบทานรสจัด อั๊วะเลยบอกให้อากิมอีปรุงให้เป็นพิเศษ ลองชิมดูสิว่าถูกใจรึเปล่า” อากิมคือแม่บ้านคนเก่าคนแก่ที่คอยดูแลอาม่าของดีนทุกสิ่งอย่าง ดีนอมยิ้มขณะที่รณณ์หันมอง นัยน์ตาล้อเลียนมองสบคนช่างเอาใจชั่วครู่ก่อนหันไปหาหญิงชรา “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ จริง ๆ แล้วผมเป็นคนทานง่าย”


คนเป็นอาม่าหัวเราะชอบใจ “ไม่เรื่องมากเหมือนอาดีนสินะ”


เด็กหนุ่มหลุดขำพรืดออกมา เห็นจริงอย่างที่เธอว่าแต่ก็ไม่คิดว่านั่นคือปัญหา ขณะที่คนถูกพาดพิงได้แต่นั่งหน้านิ่งเหมือนเดิมแต่ใคร ๆ ต่างก็สังเกตเห็นว่านัยน์ตาที่เคยว่างเปล่ากลับวูบไหวดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา


อาดีนของอาม่ากำลังหวั่นกลัว


เห็นหน้านิ่ง ๆ แบบนั้นแต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าในใจดีนคงอยากจะร้องท้วงอาม่าเต็มแก่แล้ว คนเป็นพ่อเองแม้ไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกชายคนเล็กกำลังแคร์ความรู้สึกเด็กหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก เมื่อก่อนแม่เขาเผาเจ้าลูกคนนี้ให้คนอื่นฟังมากมายไม่ยักจะเห็นอีกฝ่ายแสดงอาการอะไรสักนิดนอกจากใช้ความนิ่งสยบความเคลื่อนไหว เห็นจะมีก็แต่ครั้งนี้ครั้งแรก


“ถ้าเข้าร้านอาหารไทยคุณดีนก็จะลำบากหน่อยเพราะรสชาติไม่ถูกปาก แต่อย่างถ้าผมทานอาหารที่บ้านนี้ ผมก็กลายเป็นคนเรื่องมากทานยากเหมือนกันนะครับ ดูได้จากการที่อาม่าต้องสั่งปรุงอาหารถ้วยนี้เป็นพิเศษให้” เด็กหนุ่มตอบด้วยความนอบน้อม


แววตาของดีนไม่เพียงคลายกังวลแต่ยังระรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านต่างก็นิ่งอึ้งกันไปนานหลายอึดใจก่อนจะหัวเราะแผ่วออกมาอย่างชอบใจ คริสเองที่เหมือนจะไม่สนใจเรื่องบนโต๊ะอาหารนักแต่ก็คอยสังเกตตลอดมอง ‘น้องสะใภ้’ อย่างพิจารณา รอยยิ้มมุมปากจุดขึ้นบนใบหน้าหล่อโทนชาติตะวันตกก่อนจะสนใจอาหารตรงหน้าเพียงลำพังต่อไป






“จำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ”


รณณ์ถูกอาม่ารั้งให้ฟังท่านคุยโม้ถึงของสะสมแต่ละชิ้นในห้องนั่งเล่น ดีนจึงต้องมานั่งดื่มเบียร์กับพี่ชายที่สระว่ายน้ำมุมเดิม


“หืม?”


“เพิ่งคบกันได้แค่ไม่กี่เดือนทำไมถึงต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่เห็นจะต้องรีบบอกให้ทุกคนรู้ ไม่ใช่จะดูถูกนะ แต่รอให้คบกันนานกว่านี้ค่อยบอกไม่ดีกว่าเหรอ แบบนี้ดูรีบไปหน่อย” คริสรู้ว่าน้องเป็นคนจริงจังกับทุกอย่างในชีวิต แต่ครั้งนี้ดูจะเกินไปสักหน่อย


“คริส ทุกคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าความรักของไอกับรณณ์มันไม่ใช่เรื่องธรรมชาติทั่วไป และเพราะว่าเป็นอย่างนั้น ไอเลยต้องรีบทำให้ครอบครัวเรายอมรับให้ได้เพื่อที่รณณ์จะได้เชื่อมั่นในความสัมพันธ์แบบนี้มากขึ้น”


“...”


“สำหรับเราแล้วความรักเป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่เพราะเป็นการรู้สึกดีกับผู้ชายเป็นครั้งแรก แต่นี่คือความรักที่เราต่างรู้สึกว่าใช่ ถ้าใครต่อใครคอยขัดขวาง ไม่ยอมรับ ความสัมพันธ์มันก็จะสั่นคลอนได้ตั้งแต่เพิ่งเริ่มต้น ไม่มีใครอยากฝืนเดินต่อทั้งที่รู้ว่าทางข้างหน้าไม่มีทางไปต่อได้หรอก ถ้าไอไม่ทำให้ทุกคนยอมรับตอนนี้ เมื่อเรารักกันมากขึ้นแล้วไม่อาจลงเอยกันได้ ยูคิดว่ามันจะเจ็บปวดขนาดไหนล่ะ ไอไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด อีกอย่าง...”


“...”


“...ไออยากให้เขาเชื่อมั่นในตัวไอมากพอที่จะร่วมเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง”


“แล้วพ่อแม่เขาล่ะ”


“รอให้รณณ์เรียนจบ มีการมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ ไอจะไปหาพวกท่านด้วยตัวเอง”


ดีนยังคงเป็นดีน น้องชายที่มุ่งมั่นในทุกอย่างที่คิดจะทำ จริงจังทุกครั้งในการตัดสินใจและกล้าพุ่งเข้าชนอุปสรรคโดยผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วเสมอ


คริสยื่นเบียร์อีกกระป๋องให้น้องรับไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเหยียบกระป๋องเปล่าให้แบนไปแล้ว


“ไม่ล่ะ ต้องขับรถ”


“ทำอย่างกับคออ่อนไปได้”


ดีนส่ายหน้า “มีรณณ์มาด้วย”


คริสพยักหน้าเข้าใจ ถ้าขับรถคนเดียวดีนสามารถดื่มได้ถึงสี่หรือห้ากระป๋องแบบสบาย แต่นี่คงเป็นห่วงความปลอดภัยของคนรักเสียมากกว่า


“ดึกแล้ว ไอกลับละนะ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืนไม่รอฟังคำลาของพี่ชายสักนิด


“เดี๋ยว”


ดีนหันมองเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นแทนคำถาม


“เลือกแฟนเก่งนี่หว่า”


คนน้องไหวไหล่แทนคำตอบที่ว่า ‘ของมันแน่อยู่แล้ว’ ให้คนพี่หมั่นไส้ก่อนเดินจากไปทิ้งให้คริสมองตามหลังด้วยความยินดีกับความรักของทั้งคู่จากใจจริง






“เอ่อ...คุณดีนครับ”


“หื้ม”


“คุณดีนว่า...เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันข้ามขั้นไปหน่อยไหมครับ” เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นมันรวดเร็วเสียจนราวกับฝันไป เด็กหนุ่มยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตนได้รับการยอมรับจากครอบครัวของคุณดีนแน่แล้วหรือ


ดีนทำท่าคิด “จริงสิ เรายังไม่เคยเดทกันเลยใช่ไหม?” ไม่ว่าจะเจอกันด้วยความบังเอิญหรือไปไหนมาไหนด้วยเรื่องงานนั่นนับว่าเดทหรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจ


รณณ์หัวเราะคิกคัก “ครับ เพิ่งตกลงคบกันแค่สองเดือนกว่าเอง เดทสักครั้งยังไม่เคย แต่เมื่อกี๊นี้…” พูดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกกระดากอายอย่างไรชอบกล ดีนมองคนที่เพิ่งเริ่มเขินทั้งที่ระบายออกมาเสียเกือบหมดแล้ว


“เมื่อกี๊นี้อะไร” ดีนเอนตัวเข้าไปใกล้


“อย่าแกล้งกันสิครับ ชอบแกล้งกันอยู่เรื่อย” รณณ์กระแทกไหล่ใส่อีกคนเบา ๆ เพื่อให้ถอยห่างออกไป


“ก็เมื่อกี๊นี้อะไรล่ะ” ดีนกอดคอคนเด็กกว่าแล้วออกเดินไปด้วยกัน “เหมือนแต่งงานกันแล้วน่ะเหรอ”


อ่า...แก้มใสสุกปรั่งเย้ายวนจนต้องฝังจมูกลงไปหอมเสียฟอดใหญ่ให้อีกฝ่ายร้องท้วงเสียงแผ่วด้วยความอายเพราะยังไม่พ้นประตูรั้วบ้านอาม่าเลย


“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็ส่งตัวเข้าหอน่ะสิ ใช่ไหม”


รณณ์หันมองคนพูดตาโต รู้ว่าวันหนึ่งเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นแต่ก็อดตกใจไม่ได้เพราะที่ผ่านมาคุณดีนไม่เคยพูดหรือทำอะไรลุ่มล่ามมากไปกว่ากอดจูบ ซึ่งก็จูบแทบจะนับครั้งได้ด้วยซ้ำ “กะ ก็แค่เหมือนครับ ไม่ได้แต่งจริงซะหน่อย”


ดีนยิ้มเอ็นดู ลดมือลงจากไหล่เล็กมากุมมืออีกฝ่ายไว้หลวม ๆ เงยหน้ามองท้องฟ้าที่แถบชานเมืองแบบนี้ทำให้เห็นดาวพร่างพรายไปทั่ว “คืนนี้ดาวสวย ไปหาที่นอนดูดาวกันไหม”


“ที่ไหนครับ”


ดีนยิ้ม ไม่เฉลยความสงสัย รณณ์ได้รับคำตอบก็เมื่อตอนที่รถหรูเลี้ยวเข้าจอดในตึกสูงเสียดฟ้าที่มองอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นหอพักของเขาไปได้


“คุณดีน…”


ดีนยิ้มเอ็นดู “นอนดูดาวไง”


ไม่มีท่าทีใดไม่น่าไว้วางใจ และไม่มีเหตุผลใดที่รณณ์จะไม่ไว้ใจคนรัก



แม้จะไม่ได้เป็นเพ้นท์เฮาส์หรูอย่างห้องของดาวแต่ห้องของคุณดีนก็กว้างขวางกว่าหอพักแคบ ๆ ของเขาเยอะ ระเบียงที่ยื่นยาวออกไปได้รับการปรับแต่งเพิ่มโดยการกั้นกระจกใสปิดครอบเตียง beanbag สีขาวขนาดใหญ่สำหรับนอนดูดาวอย่างที่คุณดีนว่าไว้ได้


ในเมืองแบบนี้ไม่มีดาวระยิบระยับทั่วฟ้าให้มองเพลินตาเหมือนแถบชานเมืองแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความมืดมิดของมันก็เพลินตามากทีเดียว ยิ่งได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของคนรักด้วยแล้ว รณณ์แทบจะเพลินเสียจนเกือบเคลิ้มหลับ


“คุณดีนหลับรึยังครับ”


“มีอะไรหื้ม?” ดีนละสายตาจากผืนฟ้ากว้างมามองคนรักในอ้อมกอดที่เปลี่ยนมาใส่ชุดนอนของเขาได้เกือบพอดีเพราะขนาดตัวไม่ต่างกันมาก


“ผมมีอะไรอยากจะบอกครับ”


ดีนหอมกลุ่มผมนุ่มแทนการตอบรับให้อีกฝ่ายเล่าต่อได้ “ผมรู้จักคุณดีนมาก่อนนานแล้วครับ”


“หืม?”


“รู้จักผ่านทวิตฯกับไอจี”


ดีนกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น แม้ตรงนี้จะไม่มีลมพัดเอื่อยไร้ผิวเนื้อให้หนาวเหน็บแต่อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศภายในห้องก็ทำให้ต้องการไออุ่นจากคนรักไม่น้อยทีเดียว


“ผมเองก็รู้จักคุณนะ...คุณอาร์โอเอ็นเอ็น” จริงอยู่ที่มีคนรีทวิตเนื้อหาของคนอื่นต่อจากเขาเยอะ การแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าจอถี่แทบทุกชั่วโมงจนเขารำคาญและไม่คิดจะสนใจมัน แต่เห็นจะมีอยู่แค่คนเดียวที่สะดุดตาเพราะตามเฟบทวีตที่เขาโพสเองเสียทุกครั้ง แม้ไม่ได้สนใจนักแต่เห็นอย่างนั้นก็ย่อมเกิดความสงสัยจนต้องตามเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์ของอีกฝ่าย ทวีตส่วนใหญ่ก็มาจากการรีต่อจากเขาทั้งนั้น จะมีบ้างนานครั้งที่เจ้าตัวเล่าเรื่องตัวเองผ่านตัวอักษรบ้างเพียงแต่ดีนไม่ได้สนใจมันเท่าที่อีกฝ่ายรู้สึกด้วยเท่านั้นเอง


...ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้เจอกัน…


อย่างที่เขาเคยบอกผิงไว้ ไม่ต้องออกไปค้นหาให้เสียเวลา ถ้าจะเจอ...มันก็เจอเอง


“รณณ์…”


“ครับ” เด็กหนุ่มไม่เพียงแต่ตอบรับ ใบหน้าหล่อใสยังเงยขึ้นมองอีกฝ่ายด้วย


ดีนยิ้มบาง นับวันเด็กนี่จะยิ่งทำให้เขาหลงจนหัวปักหัวปำ นัยน์ตาใสมองมาอย่างซุกซนไม่ต่างจากรอยยิ้มนั่นก็น่่าหมั่นไส้จนต้องก้มลงไปสัมผัสมันด้วยริมฝีปากอย่างไม่รู้จักพอ “...เราเจอกันแล้วนะ ต่อจากนี้...ถึงเวลาเรียนรู้กันและกันให้มากขึ้น”


รณณ์ยิ้มกว้าง เป็นยิ้มในแบบที่ดีนชอบ ยิ้มที่ทำให้ดีนหลงรักตั้งแต่แรกเจอ




“ในที่สุดก็หากันจนเจอสักทีนะครับ”









(จบบริบูรณ์)
--------------------------------------------------------------------------
คืนนั้น...บทเรียนแรกคือการเรียนรู้ร่างกายของกันและกัน

นานมากแล้วที่ไม่ได้แต่งนิยายจนจบ ต้องขอบคุณแรงใจจากทุกคนนะคะ ตอนนี้เลยมาช้าหน่อย มันยากมากจริงๆค่ะ ขออภัย

ธัญญ์เป็นคนที่มีเรื่องราวมากมายอยู่ในหัวมานานเป็นสิบปีได้แล้วค่ะ
คิดอะไรได้ก็เขียนก็พิมพ์เก็บไว้ ส่วนเรื่องนี้ไม่เคยพิมพ์อะไรเก็บไว้เลย
ไม่มีอะไรมาต่อยอด มีเพียงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหมือนกันทุกครั้งเวลาฟังเพลงหากันจนเจอ
ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ จะคิดเสมอว่าชอบท่อนร้องที่ว่า
“ใบไม้เพียงใบหนึ่ง หล่นตอนที่เดินผ่าน ฉันคงจะมองมัน เมื่อเธอเดินผ่านมา”
เพราะมันตรงกับชีวิตเรา ถ้ามีอะไรเคลื่อนไหว เราจะสนใจสิ่งนั้นมากกว่าผู้คนที่เดินสวนกัน
จนสุดท้ายก็กลั่นออกมาเป็นเรื่องนี้จนจบ
ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องแรกในรอบสามปีที่แต่งจบ
ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะจบแล้ว
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้เดินมาถึงจุดจบแล้ว จุดจบของการ “หากันจนเจอ”
ไม่รู้ว่าจะถูกใจคนอ่านไหม หรืออาจมีบางคนคิดว่ามันยังไม่สุด
แต่ก็ยอมรับว่ามันไม่สุด เพียงแต่บางประเด็นถ้ายืดไปก็มีแต่จะน้ำเน่า
(ถ้าจะแต่งให้จบแบบสุดคือสรุปเรื่องเอาว่าน้องรณณ์ของเรามโนเรื่องทั้งหมดขึ้นมาหลังจากวันที่รู้ว่าคุณดีนเป็นเจ้านายตัวเอง เรื่องคงจะจบแบบสุดได้เพราะไม่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรกันแล้ว)
สิ่งที่ทำให้ธัญญ์คิดว่ายังไม่สุดเพราะส่วนที่ยังไม่มีคือความสัมพันธ์ที่มันจะดำเนินต่อไป
ธัญญ์ยังไม่ได้เล่าถึงวิธีที่พวกเขาทรีตกันและกัน
คุณดีนคนที่ไม่เคยมีความรักจะดูแลแฟนแบบไหน
คุณดีนคนที่รักสันโดษมาทั้งชีวิตจะอยู่กับคน ๆ หนึ่งได้ตลอดจริงเหรอ
คุณดีนคนที่พูดตรง ยึดมั่นทั้งกฎและความคิดต่าง ๆ จะเผลอทำร้ายความรู้สึกน้องบ้างไหม
รณณ์คนที่ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายจะทำตัวอย่างไร
รณณ์คนที่เป็นเด็กดีเข้าใจเชื่อใจคุณดีนทุกอย่างจะมีช่วงเวลาที่งี่เง่าเข้าใจอะไรยากบ้างไหม
ชีวิตของเราไม่มีวันจบจนกระทั่งตาย ความสัมพันธ์ของคนเราก็เช่นกันค่ะ
เพราะฉะนั้นในความรู้สึก “หากันจนเจอ” จบลงตรงนี้แล้วค่ะ
ตรงที่พวกเขาเจอกัน รักกัน และสามารถคบกันโดยข้ามผ่านอุปสรรคขั้นต้นไปกันได้
แต่ธัญญ์ไม่ทิ้งคนอ่านไว้กับความรู้สึกแค่นี้หรอกค่ะ
จะมีตอนพิเศษตามมาค่ะ ที่ลงในเว็บคือคุณดีนจะแกรนด์โอเพนนิ่งน้องรณณ์กับเพื่อน ๆ
และบทส่งท้ายคือวันงานรับปริญญาของรณณ์ค่ะ
ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน คอมเม้นท์แสดงความเห็นต่าง ๆ (รวมถึงตั้งชื่อใหม่ของดาวไว้มากมายด้วย)
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบ หวังเป็นอย่างยิ่งจริง ๆ ว่าทุกคนจะพอใจกับตอนจบ
ปล.แต่ละตัวละครมีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ อย่างเช่น คริส ดาว ผิง เพราะพวกเขาคือคน ไม่มีใครเกิดมาเพื่อทำแต่เรื่องแย่ ๆ ไม่มีใครเกิดมาเพื่อให้มีแต่คนรักหรือเกลียด
คุณดีนเองก็ไม่ได้ทำถูกไปซะทุกอย่าง มีคนไม่ชอบการแก้ปัญหาของเขา แต่ก็มีคนชอบ เพราะพวกเขามีความเป็นคนค่ะ

#ไม่ดิ้นรนหา
ด้วยรักและขอบคุณ
ปล.จะกลับไปอัพ #โรคประจำใจ แล้วน้าาา ฝากด้วยค่ะ

ธัญญ์

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ในที่สุดก็สมหวังกันทั้งคู่ ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆแล้ว ประทับใจคุณดีนมากเลยค่ะ ชายในฝัน อยากติดตามคนหล่อในทวิตเตอร์แล้วได้มาครองบ้าง 5555555 ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ ติดตามโรคประจำใจต่อค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
เป็นตอนจบที่สมบูรณ์ในความคิดเรานะ ตอนนี้เจอกันแล้ว ที่เหลือก็ค่อยๆเรียนรู้กันไป

ไอ้ปิดท้ายเรื่องการเรียนรู้ร่างกายนี่ เราก็อยากจะไปเผือกกะเขาด้วยสิ  :hao3:

ขอบคุณมาก :L2: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ดีจัง เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเวลาอ่านเรื่องของคุณดีนกับรณณ์ ชอบความรู้สึกซื่อตรงของทั้งคู่ มันคงเป็นอะไรที่พิเศษมากๆเวลาที่มีใครสักคนบอกเราว่า "ในที่สุดเราก็หากันจนเจอซะที" อบอุ่นดีจัง รอติดตามโอมอินคนขี้หวงต่อนะคะ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ฮืออออ  จบอย่างมีความสุข ละมุนละไมที่สุด  :m1:
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ดีมาก ๆ ชอบมาก ๆ เลยค่ะ
ทั้งคุณดีนทั้งน้องรณณ์ เป็นพระเอกนายเอกแบบที่เราชอบเหลือเกิน
เป็นเรื่องที่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีตอนไหนที่ทำให้รู้สึกขัดใจกับคุณดีนและน้องรณณ์เลย
อีกตัวละครที่ชอบมาก ก็คืออาม่า ผู้สนับสนุนคนสำคัญของทั้งคู่  น่ารักมาก
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ภาษาสวยมาก อ่านเพลินสบาย ๆ ทำให้มีความสุขมากค่ะ
ขอบคุณคนเขียนอีกครั้ง รอติดตามตอนพิเศษนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Meercorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แงง น่ารักทั้งคนพี่คนน้อง อบอุ่นมากค่าา นักกันไปนานๆเน้อทั้งคู่

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
จบได้ดีแล้วจ๊ะ ที่ได้มาพบกันแล้ว หลังจากนั้น ก็คงเป็นปกติชีวิตคู่
ไม่ว่าคู่หญิงชาย ชายชาย หญิงหญิง ย่อมมีปัญหามาให้ทั้งนั้น
อยู่ที่ว่า ทั้งคู่รักกันมากพอที่จะจับมือฝ่าฟันไปด้วยกัน
รักคนเขียน
 :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sompong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 355
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ไม่ต้องหา ถ้าจะเจอ ก็คงได้เจอ ชอบคำนี้จัง

ออฟไลน์ PharS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
 สนุกมากๆเลยค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ mybear_sr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
มันดียยยย์

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณค่ะ  สนุกมากค่ะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
จบละมุนดีจัง

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
มีความสุข  :-[
เจอเรื่องแย่ ๆ มา ได้อ่านเรื่องนี้ช่วยได้เยอะเลยค่ะ ฮือออ
ขอบคุณตอนจบที่แสนอบอุ่น รักคุณดีนน้องรณณ์มากกก
ขอบคุณคนเขียนที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ นี้ขึ้นมาค่า  :L1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
พี่ดีนเท่มาก
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะ

ออฟไลน์ artit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
สมหวังแล้ว ดีใจด้วยจ้ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ wetter

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ชอบมากเลยค่ะ ละมุนมาก
ชอบในความมั่นคงของทั้งสองคน ปัญหาเยอะแต่จากคนอื่นทั้งนั้น สองคนนี้เขาดีมาก แงๆๆ
รณณ์น่าเอ็นดูมากเป็นเด็กที่วางตัวดีจริงๆ ส่วนคุณดีนพอรู้จักความรักแล้วอ่อนโยนมากเลย
ถึงจะตะหงิดกับคุณผิงมากๆแต่ก็ดีที่ไม่ใข่ปัญหาใหญ่ ดูเป็นคนที่เหมือนจะช่วยแต่ก็สร้างปัญหาเช่นกัน555555

รอตอนพิเศษนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ  :L1:

ออฟไลน์ FeaRes

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ชอบมากกก ดีมากจริงๆ
 :กอด1: :hao5: :mc4: :o8: :pig4: :L1:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อบอุ่นละมุนขอบคุณที่คุณดีนมั่นคงมากหากันเจอแล้วอย่าปล่อยให้หายไปน้า

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด