.
.
“ปริ้นกับพี่โอ้ตเป็นแฟนกันเหรอครับ” น้ำเสียงที่มาพร้อมใบหน้าที่ดูหงุดหงิดของไอ้โค้กปะทะ
เข้ามาโสตประสาทของผม
“ท….ทำไมอยู่ๆก็ถามแบบนั้นวะ” ผมรู้สึกอึ้งนิดหน่อยที่มันเป็นฝ่ายถาม
“คุยกันซะดังขนาดนั้น คิดว่าผมไม่ได้ยินเหรอไง” มันเค้นเสียง “- - แล้วตกลงว่าไง”
“เคยเป็น แต่ - - ”
“แล้วทำไมปริ้นไม่เคยบอกผม” ไอ้โค้กดูเหมือนจะลมปราณแตกพล่าน ทำเอาผมตกใจ อะไรกันวะ
แค่เรื่องแค่นี้เอง ทำไมผมต้องบอกมันด้วยวะ
“แล้วทำไมกูต้องบอกมึงทุกเรื่องด้วย ” ผมเถียง รู้สึกยัวะเหมือนกัน
“ก็ปริ้นเป็นแฟนผม” มันตะคอก พลางเอามือมาบีบไหล่ซะแน่นเชียว “- - ที่ปริ้นไม่ยอมบอกผมก็เพราะว่า
ปริ้นยังชอบพี่โอ้ตอยู่ใช่มั้ย !! ”
“ไม่ใช่นะว้อย .. มึงเอาอะไรมาพูด - - กูกะโอ้ตไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ”
“ถ้าผมไม่ได้เห็นท่าทางตอนอยู่ในรถ ผมก็คงเชื่อหรอก” มันดูจะพยายามคาดคั้นให้ได้เหลือเกิน
“มึงไม่เชื่อใจกูเลยเหรอ ? … ถ้ากูบอกมึงว่าเคยคบกะโอ้ต แล้วมันจะได้อะไรวะ” ผมพูดรู้สึกเหมือนมีก้อน
สะอื้นอยู่ในลำคอ
“ปริ้นทำให้ผมไม่ไว้ใจ ! ”
“ทำไมพูดแบบนี้…. มึงไม่เข้าใจความรู้สึกของกูมั่งแหรอไง ? ”
ไอ้โค้กทำตาขวาง
“เถียงเหรอ !! ”
ว่าแล้วมันก็กระชากตัวผมเข้าหาตัว แล้วก็เอาหัวมันโขกเข้ากับหัวผมอย่างแรง มึงดูมวยปล้ำมากไปเป่าวะ
“โอ้ย !! เชี่ยเอ้ย ”
ท่าเฮดบัดของมันทำเอาหัวผมมึนแล้วก็หมุนติ้วๆ จนต้องเอามือคลำว่าหัวกูแตกหรือเปล่าวะ
“โอ้ย …. เจ็บ เจ็บ เจ็บ” นอกจากรู้สึกเจ็บจี้ดที่หัวแล้ว ยังรู้สึกว่า การมองเห็นช่างพล่ามัวเสียเหลือเกิน
มือผมคลำสะเปะสะปะผ่านหัวตัวเอง แล้วก็เลยไปคลำหัวของไอ้คนที่นอนด้วยกันข้างๆ แล้วก็สะดุ้งสุดตัว
ลุกขึ้นมานั่งหอบแฮ่กๆ รู้สึกว่ามีเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นบนหน้าผาก แล้วก็มีบางส่วนไหลย้อยที่ข้างแก้ม
ก่อนที่จะค่อยๆหันไปหาไอ้คนที่นอนหลับปุ๋ย ขนาดกูนอนเอาหัวโขกมึงเจ็บขนาดนี้ ยังหลับสบายใจเฉิบ
เชียวนะ ไอ้หัวแข็ง
ผมนั่งคลำหัวตัวเองที่รู้สึกว่าโนหน่อยๆ แล้วก็ถอนหายใจ ฝันบอกเหตุอีกแล้ว หรือว่ากูมีพลังจิตแบบคาสึกะ
เคียวสึเกะวะ บร้าๆๆ
นาฬิกาบอกเวลาเกือบตีห้าแล้ว อีกไม่นานก็เช้า ผมถอนหายใจอีกรอบ เมื่อวานหลังจากที่ไอ้โอ้ตพาไปขึ้น
ดอยสุเทพ ตลอดทริปเรียกว่างานกร่อยมากๆ ผมไม่พูดกะไอ้โอ้ต ไอ้โอ้ตก็ไม่พูดกับผม มีแต่ไอ้โค้กที่พูด
กับคนนั้นที คนโน้นที มันจะรู้สึกเอะใจบ้างมั้ยน้อถึงความผิดปกติของเราสองคน
ผมล้มตัวลงนอน แต่รู้สึกว่าตาสว่างโร่ เลยหันพลิกนอนตะแคงไปทางไอ้โค้กซึ่งมันนอนหงายอล่างฉ่างอยู่
เห็นหน้ามันแล้วคิดถึงฝันเมื่อกี้เลยวุ้ย น่ากลัวชิบหาย ….
“โค้ก .. มึงอย่าโกรธกูเลยนะ” (ที่กูไม่ได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกูกะไอ้โอ้ต) ผมพึมพำอยู่เบาๆ แล้วก็เอา
นิ้วไปจิ้มแก้มมันเบาๆ
“มันเป็นไปไม่ได้แล้ว ระหว่างกูกะมันอ่ะ … - - แต่ยังไงมันก็พี่กูนะ ” ผมกระซิบ
ไอ้โค้กนอนนิ่ง พร้อมกับเสียงหายใจเบาๆ ปากสีน้ำตาลอ่อนเผยออยู่เล็กน้อย
“มึงอย่าทำเฮดบัดใส่กูอีกนะ … กูกลัว” ผมพูดแล้วก็ก้มลงไปจุ๊บที่ปากมันเบาๆ ได้ยินเสียงมันครางอือๆ อยู่ใน
ลำคอ
.
.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.
.
“อู้ยๆๆ ……” พอไอ้โค้กตื่นนอน ผมได้ยินมันบ่นพึมพำว่าเจ็บหัวหน่อยๆ มึงแค่หน่อยเองเหรอ กูเจ็บอย่าง
มากเลยล่ะ
“นอนดิ้นหัวไปกระแทกหัวเตียงอีกดิ ” ผมอำ พลางเอาผ้าขนหนูเช็ดหัว หลังจากอาบน้ำเสร็จหมาดๆ
อากาศตอนเช้าๆที่เชียงใหม่หน้าหนาวแบบนี้ แทบอยากวิ่งผ่านน้ำกันเลยทีเดียว
“จะบ้าเหรอไง … ผมเคยนอนดิ้นที่ไหน ? ” มันเถียง แล้วก็เอามือไปคลำหัว
“เอาเหอะ ไปอาบน้ำได้แล้ว .. หิวแล้ว ”
“ค๊าบ” มันพูดเสร็จก็วิ่งปรู้ดเข้าห้องน้ำไปไม่ถึง 5 นาที ก็ตัวสั่นออกมาเชียว
“หนาวเป็นเหรอนั่น”
“โห ยังเป็นคนอยู่ ” พูดเสร็จ มันก็ดึงผมเข้าไปกอดทั้งๆที่ตัวมันยังไม่ยอมใส่เสื้อผ้า
“เฮ้ย เสื้อกูเปียกหมดแล้ววว ”
“หนาวๆๆๆ ขอกอดหน่อยดิ๊ ” มันยังไม่ยอมปล่อย
“หนาวก็รีบใส่เสื้อผ้าดิวะ”
“แหม หวงตัวจังนะครับ - - ผมอ่ะ แฟนปริ้นนะ” มันเหน็บ แต่กูเจ็บถึงทรวงเลยล่ะ
“ไรวะไอ้โค้ก” ผมชักหวั่นๆกับสิ่งที่มันพูด มันมีวาระซ่อนเร้นอะไรเหรอเปล่าเนี่ย กลัวฝันเป็นจริงเหลือเกิน
แต่คงไม่หรอก …. ไอ้โค้กมองหน้าผม ดวงตากลมโตจ้องผ่านเหมือนจะอ่านใจ
“ปริ้นมีเรื่องไม่สบายใจอะไรเหรอเปล่า - -” มันถาม อู้ยเอาแล้วไง
“- - มีอะไรก็บอกผมได้นะครับ ผมพร้อมจะฟังปริ้นนะ” มันส่งยิ้มให้ ยิ่งทำให้ตูรู้สึกผิดเข้าไปอีก
โค้ก กูไม่ได้นอกใจมึงจริงๆนะ ตอนนี้กูมีมึงคนเดียว อันนี้ผมคิดในใจ แล้วก็ยิ้มตอบกลับไป
“ไม่มีไรหรอก มีมึงอยู่ด้วย จะมีเรื่องไรไม่สบายใจวะ” ตอบแบบอ้อล้อมันนิดหน่อย รู้สึกเหมือนดวงตา
กลมโตจะมีท่าทางผิดหวังอยู่นิดหน่อย แล้วมันก็ปล่อยตัวผม
“พูดหวานก็เป็นแฮะ แฟนเรา” มันกัด
“ตกลงมึงจะเอายังไงกะกูวะคับ”
“ค๊าบๆ ไม่มีไรหรอก - - เออว่าแต่วันนี้พี่โอ้ตซ้อมรับปริญญาม่ะใช่เหรอ ปริ้นไม่ไปดูเหรอ”
“ไปดูไมล่ะ ไม่ใช่วันซ้อมใหญ่ซะหน่อย ไปก็ไม่มีไรหรอก ” ผมบอกแบบไม่สนใจอะไรมากนัก
“แล้วจะกินไหนอ่ะ โรงแรมป่ะ”
“ไปกินข้างนอกดีกว่า โรงแรมแพงอ่ะ ผมไม่ค่อยมีตังค์ ” ไอ้โค้กว่า
“แล้วจะไปกันไง นั่งรถแดงก็แพงจะตาย ไม่รู้ที่กินอีกต่างหาก” ผมบอกไอ้โค้กที่เดินไปยิ้มไป
เหมือนมีความลับ
“ไม่มีปัญหา …” มันพูดเสร็จก็โชว์กุญแจมอไซต์ที่คล้องไว้ระหว่างนิ้ว พร้อมกับหยิบสมุดจดบันทึกเล็กๆ
ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง
“เอามาจากไหนกันฟ่ะ อย่าบอกนะว่าไปขโมยใครเค้าม”า ผมหันรีหันขวาง
“จะบ้าเหรอของพี่โอ้ตต่างหาก เค้าเอามาฝากไว้เย็นเมื่อวานอ่ะ ” มันบอกผมแล้วก็อ่านข้อความในสมุดบันทึก
ไปพลาง
“อ้าว ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย”
“ก็พี่โอ้ตฝากผมไว้ แล้วปริ้นจะรู้ได้ไงล่ะ” มันพูดพลางหัวเราะ “- - แถมยังใจดีจดแผนที่ร้านกินข้าว
ไว้ให้อีกตะหาก”
“ชมมันเหลือเกิ้นนน”
“อ้าว ไมพูดงั้นล่ะ ปริ้นโชคดีจะตาย มีพี่ใจดีแบบนี้ ” มันพูดเสร็จ ก็ก้มหน้าก้มตาดูแผนที่ โดยไม่รู้ว่าผม
อ่ะหัวเราะหึหึอยู่ในลำคอกับสิ่งที่มันพึ่งพูด
ใจดีมั๊กมาก
.
.
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
.
.
ผมกะไอ้โค้กใช้เวลาร่วมกันในการเดินทางไปหาร้านอาหารตามแผนที่ที่ไอ้โอ้ตให้ไว้เกือบ 2 ชั่วโมง
ก็พอดีได้กินข้าวเที่ยงพอดี
“เด๋วกูขี่เองนะ” ผมรีบห้ามเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะขึ้นคล่อมมอไซต์ “ - - เมื่อกี้มึงเกือบขี่ไปชนเค้าแล้ว”
“ผมไม่ได้ขี่ไปชนเค้าซะหน่อย ก็ไฟมันเขียวแล้วนี่หว่า ดันเสือกทะลึ่งฝ่ามาเอง ” มันพูดเสียงขุ่นแต่ก็
ยอมส่งกุญแจมาให้แต่โดยดี คนที่นี่แปลกอยู่อย่าง ฝ่าไฟแดงกันจัง ! แล้วด้วยไอ้โค้กเป็นคนขี่รถ
เร็วอยู่แล้ว ดันมาเจอคนประเภทนี้อีก ผมยังไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่เมืองล้านนา
“ไปไหนกันต่อดีอ่ะ ” ไอ้โค้กดูจะรื่นเริงเป็นพิเศษเวลาได้เที่ยวเนี่ย
“อืม ไปไหนดีล่ะ ”
“อยากไปสวนสัตว์”
“เขาดินวนาไง ดูยังไม่เบื่ออีกเหรอ ? ”
“มันเหมือนกันที่ไหนกันเล่า” ไอ้โค้กทำเสียงง้องแง้ง แล้วก็ไม่ทำเปล่า เวลาพูดทีนึงนี่ หน้าแทบจะแนบ
กับแก้มตูเลย กลางท้องถนนนะหน้าบางบ้างก็ได้
“ทำตัวเป็นเด็กนะมึงอ่ะ”
“เค้าห้ามผู้ใหญ่เข้าเหรอไง”
“อ่ะ อ่ะ” ผมเลยต้องตามใจมันซะหน่อย แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ เพราะว่าที่นี่กว้างขวางกว่ามากมาย
แล้วเนื่องจากไปวันกันวันธรรมดา คนก็ไม่ค่อยมี ดูส่วนตัวเป็นที่สุด ผมกับมันเดินกันทรหดมาก
จนมาถึงที่สุดท้ายเป็นคอกสิงโตคับ (มันไม่มีกรงเลยเรียกไม่ถูก)
“ไปไหนต่อดีอ่ะ”
“มึงไม่เมื่อยบ้างเหรอเนี่ย ”
ไอ้โค้กส่ายหน้า อ่อ ลืมไปมันเป็นนักบาส
“ไปขี่รถวนในมช มั้ยล่ะ” ผมออกความเห็น
“มีอะไรข้างในเหรอครับ” ถามด้วยเสียงอยากรู้อยากเห็น
“มีละอ่อนเหนือน่าฮักๆ”
พูดเล่นแค่นี้ไอ้โค้กหน้าบูดเป็นตูดไป 10 นาที มึงเข้าใจว่าพูดเล่นเหรอเปล่าวะเนี่ย ผมกะมันขี่รถวน
ดูบรรยากาศไปเรื่อยๆ จริงๆมันก็ไม่มีอะไรเท่าไรหรอก แถมวันนี้ก็มีพวกบัณฑิตที่มาถ่ายรูปเก็บไว้กัน
บานตะไท
“เห็นคนเค้ารับปริญญากันแล้ว อิจฉาจัง” ไอ้โค้กพูดขึ้นมา
“เด๋วก็ได้รับแล้วครับคุณโค้ก”
“หุหุ ปริญญาเรื่องเรียนอ่ะ ผมไม่ค่อยห่วงหรอก ” ไอ้โค้กกระซิบข้างแก้ม “- - ผมห่วงว่า เมื่อไร
เราสองคนจะไปถึงขั้นปริญญารักกันซะทีอ่ะ”
มุขมึง “ลึก” จังนะ แต่กูรู้ว่ามึงลามก
“เสี่ยวไม่ต้องสืบเลยนะมึง”
ขี่วนไปหลงไปหลงมา ก็ขึ้นมาบนเนินซักที่นึง เห็นมีอ่างเก็บน้ำขนาดย่อมๆอยู่ เลยจอดรถเดินเล่น
ดูคนมาถ่ายรูปกัน ผมส่องไปส่องมาแล้วก็รู้สึกว่ามีบางมุมคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนน้า
สี่โมงเกือบห้าโมงเย็นแล้ว บรรยากาศค่อยๆเย็นลง แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องไปทั่วบริเวณอ่างเก็บน้ำ
อ่างแก้ว เพิ่มความโรแมนติกเข้าไปอีกเมื่อไอ้โค้กค่อยๆเอื้อมมือมาจับกับมือผมตอนที่นั่งกันอยู่ที่ริมฝั่ง
ห่างไกลผู้คน
“ดีจังนะครับที่ได้มา ”
“อือ”
“ปริ้น ? ”
“ฮื้อ”
“ดีจังนะที่เราได้คบกันอ่ะ” ไอ้โค้กพูดทำเอาผมต้องหันไปมองมัน
“คบกับกูแล้วดีขนาดนั้นเลยเหรอโค้ก” ผมถามย้ำ ในใจก็ดีใจล่ะครับ ทั้งๆที่มันก็บอกรักผมออกจะบ่อยไป
แต่ครั้งนี้ ฟังแล้วมันรู้สึกอิ่มเอมเป็นพิเศษ
“ครับ --- แล้วปริ้นล่ะ” มันหันมาถามผมบ้าง เออ … ถึงจะชินๆกันอยู่แล้ว แต่กูก็เขินนะ อย่ามองแบบนี้เด๊
“55 เป็นไร เขินผมเหรอ” มันหัวเราะร่วน “ - - เดี๋ยวผมไปหาซื้อน้ำก่อนนะ ปริ้นรออยู่แถวนี้ล่ะกัน ”
อยู่ๆมันก็เปลี่ยนเรื่องพูดซะงั้น แล้วก็เอากุญแจบิดมอไซต์ไป เออ … ค้างเลยกู
“หวัดดีพี่ปริ้น” เสียงที่มาจากข้างหลังทำเอาผมสะดุ้งโหย่ง หันมาอีกที ก็เจอไอ้น้องปิงเข้าให้ ดวงสมพงษ์
เจอกันเหลือเกินนะ
“เฮ้ย มาได้ไงอ่ะ ตกใจหมด ” ผมยิ้มให้น้องแล้วก็ชวนนั่งคุยกัน หวังว่าไอ้โค้กมันมาเห็นคงไม่เข้าใจผิดนะ
“55 ผมบอกแล้ว ว่าต้องได้เจอกันอีก - - เชียงใหม่ไม่ได้กว้างขวางอะไรมากมายซะหน่อย”
“แล้วมากับใครล่ะเนี่ย”
“มาคนเดียวครับ เดี๋ยวก็คงจะกลับแล้วล่ะ ” เด็กปิงพูดแล้วก็หยิบก้อนหินขว้างเลียดไปบนผิวน้ำ
“เก่งนะเนี่ย - - ว่าแต่ไม่เหงาบ้างเหรอครับ ไปไหนมาไหนคนเดียว อย่างงี้พ่อแม่ไม่เป็นห่วงแย่เหรอ” ผมชักสงสัย
ถึงแม้ว่ามันจะอายุสิบสี่สิบห้าแล้วก็เหอะนะ แต่ยังไงมันก็เคยบอกผมว่า ไม่ใช่เป็นคนที่อยู่เชียงใหม่นี่หว่า
“ก็เหงาครับ … แต่ผมอยู่ได้” น้องปิงตอบเสียงติดเศร้าๆ แต่ก็เข้มแข็งอยู่ในที
“- - ว่าแต่แฟนพี่ไปไหนแล้วล่ะครับ เมื่อกี้ยังเห็นอยู่เลย” โพล่งถามมาแบบนี้ กูก็ตกใจเป็นนะ
“เฮ้ย … แฟนที่ไหน เพื่อนนนนน ” ผมละล่ำละลัก แหม เด็กสมัยนี้แรงนะ
เด็กปิงหัวเราะในลำคอ
“เพื่อนผู้ชายเค้าไม่นั่งจับมือกันหรอกมั้งพี่” มันหันมายิ้มชอบใจ
“เวรแล้ว …. แอบดูพี่เหรอเราเนี่ย” ผมแกล้งเอามือไปเขกหัวน้องเค้าทีนึง
“ระวังแฟนพี่มาได้ยิน ว่าพี่โกหกว่าเค้าเป็นเพื่อน จะเสียใจแย่เลยนา” ดูมันสอนผมเด๊ะ
“ไม่เสียจายยหรอกน่า ” มันเข้าใจ
“แฟนพี่เค้าอาจจะไม่คิดเหมือนพี่ก็ได้นา” อ้าวไอ้นี่ จายุให้แตกคอกันซะแหล่ว
“- - ความลับอ่า มันไม่มีในโลก แต่คนเรามันก็ชอบมีความลับกันจัง ว่าม่ะครับ”
“แต่เรื่องบางเรื่อง มันก็ต้องมีเหตุผลที่ไม่อยากบอก หรือว่าไม่จำเป็นต้องบอกใครต่อใครก็ได้นี่คับน้อง” ผมตอบ
แบบมีอารมณ์หน่อยๆ
“55 ครับ ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดแฮะ”
“ว่าอะไรนะ”
“เปล่าครับพี่”
“เห็นตัวแค่นี้ ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย พูดจา….”
“555 ไม่มีไรหรอกพี่ ผมก็เป็นเหมือนกันอย่าคิดมาก”
“ไม่ได้คิดมากว้อยยย” ผมยื่นมือไปเขกหัวมันอีกที อารมณ์หนึ่งก็เหมือนกับจะรู้สึกเคืองมัน แต่ก็แค่แว่บเดียว
แต่สิ่งที่มันพูดแต่ละคำ มันย้อนกลับเข้ามาทำเอาผมจุกไปหลายรอบเลยทีเดียว
“งั้นผมไปก่อนนะครับ”
“แล้วกลับยังไงล่ะ เด๋วไปส่งมั้ย”
“ไม่เป็นไรครับพี่ แป็บเดียวเดี๋ยวก็ถึงแล้ว” มันยิ้มให้แล้วก็วิ่งลัดไปกลับไปทางถนน ปล่อยให้ผมยืนเกาหัว
แกร่กๆ
กูนี่นะ สองมาตรฐาน มันไม่เหมือนกันซะหน่อย จะเอามาใช้กันได้ไงฟ่ะ แต่ก็ยอมรับล่ะว่า เรื่องที่ผมมีความลับ
แล้วไม่ยอมบอกไอ้โค้กเนี่ย เรื่องจริง … แต่จะบอกไปทำไมเล่า ในเมื่อบอกไป มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาซะหน่อย
แถมมาบอกไปแล้วมันคิดมาก ยิ่งแย่กว่าเดิมยิ่งไม่ซวยเข้าไปใหญ่เหรอ
เอ… ประโยคคุ้นสัดๆ เหมือนกูลอกเลียนใครมา
“น.. น้องปริ้นเหรอเปล่าครับ ” ใครบางคนทักกูมาอีกแล้ว วันนี้มีแต่คนทักจัง แต่คราวนี้เป็นใครบางคนที่อยู่ในลิส
ที่ผมไม่อยากเจอ
“หวัดดีครับพี่เต ” ผมหันมาไหวพี่แก พี่เตอยู่ในชุดนักศึกษา กางเกงขาว ผูกเนกไท สงสัยจะมาถ่ายรูปกับเพื่อนๆ
แต่สิ่งที่ดูต่างไป คือ ดูหน้าสดใส แถมมีเนื้อมีหนังขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย สงสัยได้กำลังจู๋ เอ้ย ใจดี
“หวัดดีครับ มางานรับปริญญาโอ้ตเหรอ” พี่เตถามเสียงสดใสเมื่อเห็นว่าผมจำได้
เออ มารับจ้างก่อสร้างมั้ง อันนี้ผมคิดในใจ
“ครับ - - ผมนึกว่าพี่เตอยู่กับพี่โอ้ตซะอีก ”
“อ่อ ไม่หรอกครับ พึ่งเจอกันวันรับลงทะเบียนบัณฑิตเมื่อวันก่อนเองครับ” พี่เตยิ้ม “- - ตั้งแต่ทำงาน
ก็ไม่ค่อยได้เจอโอ้ตหรอก”
อ๋า หมายความว่ายังไงหว่า
“พี่เตทำงานที่ไหนอ่ะครับ”
“พี่ทำอยู่ที่ xxx ครับ ”
“อ้าว ผมไม่ยักรู้ว่า xxx มีสาขาที่เชียงใหม่ด้วย”
พี่เตหัวเราะ แล้วก็บอกว่า ที่เค้าทำอยู่เนี่ย อยู่กรุงเทพ ไม่ได้อยู่เชียงใหม่ตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว
“อ้าว … แล้วทำไม - -” ผมเกือบจะหลุดปากถามไปว่า แล้วทำไมไอ้โอ้ตถึงจะยังทำงานอยู่เชียงใหม่กันล่ะ
ในเมื่อพี่เตซึ่งเป็นแฟนมัน ก็มาทำงานที่กรุงเทพแล้ว ไม่ยักลงมาด้วยกัน หรืออย่างน้อย กลับมาหางาน
ทำแถวบ้านก็ยังดี
“ทำไม ? ” พี่เตถามซ้ำ
“เออ … ค.. คือ แปลกใจนิดหน่อยอ่ะครับ แฮะๆ” ผมทำเป็นหัวเราะแก้เขิน “- - นึกว่าที่พี่โอ้ตไม่ยอมกลับไป
ทำงานที่บ้าน ก็เพราะว่าอยู่กับพี่เตซะอีก”
พี่เตฟังที่ผมพูดแล้วก็ทำหน้าเจื่อน
“ .. พี่นึกว่า โอ้ตจะบอกน้องปริ้นแล้วนะเนี่ย”
“ครับ ? ”
“พี่กับโอ้ตน่ะ - - ”
“ฮะ ? ”
“พี่กับโอ้ต เออ … เป็นเพื่อนกันมาได้ปีกว่าแล้วน่ะครับ” พี่เตพูดแล้วก็ส่งยิ้มให้ ความรู้สึกของผมเห็นแล้วรู้สึกว่า
เป็นยิ้มที่เศร้าที่สุด
ป.. เป็นเพื่อน หมายความว่าไม่ได้เป็นแฟนกันแล้ว ……. เลิกกันแล้วเหรอ ? ….. ปีกว่าแล้วเหรอ ?
แล้ว…. แล้วทำไม ?
“ป.. แปลกนะครับ ท..ทำไมพี่โอ้ตถึงติดใจเชียงใหม่จัง” ผมพยายามกลบเกลื่อนเสียงสั่นๆของตัวเองให้
แนบเนียนที่สุด
“โอ้ตมันคงไม่ได้ติดใจอะไรที่เชียงใหม่หรอกครับ” พี่เตถอนหายใจ เหมือนกับว่า ก็ไม่รู้เหตุผลแท้ๆของไอ้โอ้ต
เหมือนกัน
“โอ้ตบอกแค่ว่า มันกลับไปไม่ได้ แค่นั้นเอง”
ถึงตอนนี้ … รู้สึกเหมือนของเหลวใสๆเออท้นรอบดวงตาของผม
“ก…กลับไม่ได้เหรอ ? ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.โปรดติดตาม บ้านพักอลเวง– HolyNight ตอนจบ
ตอนต่อไป -------------------------------------------------------------------------------------->
http://stpstory.exteen.com// stp: ลงช้า เพราะว่างานล้นทะลักครับ จิตตก จิตหงุดเงี้ยว จิตไม่ว่างครับ
เรียนป โท ทำไมยากงี้ว้า …. เซ็งๆๆ แต่ก็ยังคิดถึงทุกคนนะครับ ^_^
ตอนหน้า เป็นตอนจบของตอนพิเศษแล้วนะครับ รออ่านกันอีกซักตอนน้อ
จาลงตอนจบวันที่ 27 นี้ครับ (มันจะลงได้มั้ยเนี่ย) แฮะๆ หุหุ
ลป. ถึงเรื่องที่จะเขียนมันจะจบแล้ว แต่ชีวิตของปริ้น และก็ของเพื่อนๆ มันก็ยัง
คงดำเนินต่อไปครับ
ลป.2 แอ๊ะๆ ใครมาจีบ มาอิ๊อ๊ะกันในทู้ผมอ่ะ มีเคืองนะ แบบว่าอิจฉาฮะ ไม่มีอะไร 55
ล้อเล่น คุยตามสบายเลยครับ ^_^