Chapter 23
“มิว!” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียง งานเข้าอีกละไอ้มิว ผมปัดมือไอ้นิคออกจากหัว ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวสูงข้างหน้า
“แทน มึงมาได้ไงวะ นึกว่าจะมามืดๆซะอีก” ผมเงยหน้าคุยกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน ไอ้แทนมันเรียนอยู่ม.เอกชนแถวนี้แหละครับ แต่ไม่ค่อยได้มาหาผมเท่าไหร่ ถึงจะไม่ได้มาแต่พวกเราก็คุยกันอยู่ตลอด
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ไอ้ตัวขาวนี่ใคร กูว่าแฟนมึงหล่อกว่านี้เยอะนะ” ไอ้แทนพูดกับผมแต่ตามองไปที่ไอ้นิค หลังจากที่ผมตกลงคบกับพี่เนมผมก็บอกเพื่อนๆในกลุ่มทันทีครับ ถ้าไม่บอกแล้วปล่อยให้มันรู้เองทีหลังนี่น่าจะไม่ตายดี แทนกับคินยังไม่เคยเจอพี่เนมหรอกนะครับ แต่พวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวก็ไปโม้เอาไว้แล้วว่าแฟนผมหล่อมาก พร้อมปารูปไปให้ดูเสร็จสรรพโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง
“ก็เพื่อนไง กูจะกลับหอละ ไปกันเหอะ” ผมดึงมือไอ้แทนให้เดินตามมา แต่แม่งเสือกยืนนิ่งไม่ยอมขยับซะงั้น ไอ้แทนมันเป็นคนที่หวงผมมากที่สุดในกลุ่มแล้วครับ ผมเลยอยากจะลากมันออกจากตรงนี้ก่อนที่จะมีเรื่องกัน แค่เรื่องไปเป็นแฟนกับพี่เนมนี่มันก็คาดโทษเอาไว้อยู่ แต่พอพวกนั้นมันบอกว่าพี่เนมดูแลผมดี มันเลยปล่อยไปก่อน
“หน้ามึงนี่ดูไม่น่าไว้ใจเลยนะ คิดแค่เพื่อนแน่ปะ” มันพูดหาเรื่องไอ้นิคที่ยืนจ้องหน้ามันอยู่เหมือนกัน
“ไม่แน่หวะ แล้วมึงอะ เป็นแค่เพื่อนเหมือนกันใช่ปะ” ไอ้นิคตอบด้วยน้ำเสียงกวนตีน มึงอย่าเพิ่งกวนมันตอนนี้จะได้หรือไม่ แค่นี้งานกูก็งอกเงยเป็นถั่วเขียวในทิชชู่เปียกแล้วววววว
“หืม แค่เพื่อนหรือเปล่านี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน” มันพูดแล้วก็เอามือมาโอบไหล่ผมดึงเข้าไปชิดตัว บทประจำของมันแหละครับ ถ้ามีคนมาจีบผมเมื่อไหร่ไอ้แทนจะทำตัวราวกับเป็นผัวผมทุกที แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว มันเลยหันไปเล่นบทชู้แทน เจริญจริงๆ
“พอๆๆ เลิกเถียงกันได้ละ กูจะไปอาบน้ำ มึงก็เจอกันที่ร้านละกันนะนิค ส่วนมึง มากับกู” ผมตัดบทพวกมัน ไม่มีอารมณ์จะฟังมันเถียงกัน รีบกลับไปอาบน้ำแล้วออกไปกินเหล้าดีกว่า ว่าแต่ผมต้องขอพี่เนมก่อนไหมอะ แฟนผมนี่ก็เงียบจริงเงียบจัง สรุปเราโกรธกันอยู่จริงๆหรอวะ
“มึงนี่ตัวล่อผู้ชายไม่เปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ แฟนมึงไม่ปวดหัวตายหรอวะ” ผมพาไอ้แทนมานั่งรอผมอาบน้ำเปลี่ยนชุด ที่หอตัวเอง พอมันหาที่นั่งได้ปากมันก็ทำงานทันที
“ไม่รู้ เขาคงจะปวดหัวละมั้ง เลยเลิกยุ่งกับกูไปละ” ผมเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดใส่ วันนี้ใส่ขาสั้นหนีบแตะก็ได้แหละเนอะ ปกติมีคนห้ามใส่ขาสั้นกับเสื้อบางๆ แต่ก็นั่นแหละฮะ ผมจะย้ำเป็นรอบที่ล้านว่า ‘วันนี้ไม่มี!!!’
“หึหึ ยังไม่คืนดีกับเขาอีกหรือไง เห็นไอ้เบบอกว่าหน้างี้เป็นตูดทั้งวัน” ไอ้พวกนี้ก็ประสานงานกันไวเหลือเกิน ขนาดอยู่กันคนละมหาลัยนะ ถ้ามันอยู่ด้วยกันครบทั้งแก๊งค์มีหวังผมโดนรุมเละแน่นอน
“เอาจริงนี่กูยังงงอยู่เลย ว่ากูกับเขาทะเลาะกันหรอวะ” ผมพูดเซ็งๆแล้วนั่งลงบนเตียงข้างมัน
“เอ้า มึงไม่รู้แล้วใครจะไปรู้วะ รีบๆไปอาบน้ำไป แล้วค่อยออกมาคุยกัน”
“เออๆๆ เดี๋ยวกูรีบอาบ” ผมเดินเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างอาบก็คิดทบทวนเรื่องพี่เนมไปด้วย คือเขาโกรธที่ผมให้เบอร์คนอื่นหรอ หรือโกรธที่ไปกินข้าวกับคนอื่น หรือโกรธที่วันนี้ผมขอกลับเอง คือตอนแรกผมก็พูดไปงั้นแหละ อยากให้เขาห้าม อยากให้เขาบอกว่าไม่ให้ไปกับเพื่อน เดี๋ยวจะมารับเองเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่มันไม่เป็นไปตามนั้นไง ผมนี่โคตรเซ็ง
“แล้วมึงมาโผล่นี่ได้ไงวะแทน นึกว่าจะไปเจอที่ร้านเลยซะอีก” ผมเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ถามไอ้แทนที่นอนคว่ำหน้ากดโทรศัพท์อยู่บนเตียง
“ก็กูเลิกเรียนไวเลยโทรหาไอ้เบมัน เห็นว่ามึงเล่นบทพี่เนียนอยู่เลยไม่ได้โทรหามึง นี่ก็ไปกินข้าวกับไอ้เบไอ้ซีมา มันบอกว่ามึงกลับมาแล้วกูเลยจะเดินไปหาที่หอสักหน่อย เสือกเจอมึงยืนเอ๋อให้ชู้เล่นหัวอยู่พอดี เลยเข้าไปทักทายนิดหน่อย” นั่นปากหรอไอ้สัด กูนึกว่ากรรไกร
“ชู้บ้านมึงสิ แล้วแบบนั้นเขาไม่เรียกว่าทักทายหรอกนะ เรียกว่าหาเรื่องมากกว่า” ผมตบหัวมันไปทีนึง โทษฐานที่กวนตีนคนอื่นเขาไปทั่ว
“ดูจากสายตาที่มันมองมึงแล้ว ไอ้ขาวนั่นเหยื่อมึงชัวร์ มาติดกับดักรักสวาทของมึงนี่ผัวมึงรู้หรือยังครับ” มือก็กดโทรศัพท์ยิกๆ แต่ปากนี่กัดกูซะยับเลยนะเพื่อนแทน
“มึงอย่ามาเพิ่มงานให้กู แค่นี้ก็งอนกันจนไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว และนี่จะคุยกับใครนักหนาห๊ะ มือนี่รัวยิกๆเลยนะ” ผมชะโงกหน้าไปดูโทรศัพท์มัน ก็เห็นเป็นกลุ่มไลน์ของพวกไอ้เบ ไอ้ฟาร์ ไอ้คิน ไอ้ทิว ที่รู้ว่ามีใครบ้างก็เพราะหน้าต่างสนทนามันเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ จากการที่พวกมันคุยกันอย่างจริงจัง และดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผม
“ชื่อกลุ่มนี่เปลี่ยนสักทีได้ไหม กูสงสารตัวเองยังไงก็ไม่รู้” พวกมันมีกรุ๊ปไลน์อีกอัน ที่มีสมาชิกครบทุกคนยกเว้นผม! โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “องครักษ์พิทักษ์ชายน้อย” ไอ้กลุ่มเวรนี่มันตั้งขึ้นมาตอนช่วงม.ปลาย โดยให้เหตุผลที่ต้องแยกออกมาคุยกันอีกกลุ่มเพื่อไม่ให้ผมรำคาญ เนื่องจากไลน์มันจะเด้งแทบทุกเวลา และอีกเหตุผลหนึ่งคือผมจะได้ไม่ล่วงรู้แผนการในการกำจัดคนที่เข้าหาผมให้ปวดหัวเล่น หรือจริงๆแล้วก็คือ พวกมันกลัวผมจะขัดขวางนั่นแหละ
“ไม่เปลี่ยนอะ ชื่อนี้แหละเท่สุดละ กูชอบ” ตามสบายเลยครับคุณแทน
“แล้วมึงคุยเรื่องอะไรกันอีก มันมีไรให้คุยวะ” ผมยืดตัวขึ้นมานั่งเช็ดผมต่อ อ่านไม่ทันครับ แชทเลื่อนไวเกิน แต่ดูเหมือนมันกำลังหาตัวใครสักคนนะ เห็นพิมพ์ว่าใช่คนนี้ไหม คนนั้นไหม
“ไม่ต้องรู้หรอกมึงอะ เป็นแค่ชายน้อย สมองก็น้อย จะคิดอะไรให้มันเยอะแยะ”
“ไอ้สัด!! แล้วนี่จะไปกันกี่โมง ไอ้คินอยู่ไหนอะ มายัง” ผมถามถึงเพื่อนในกลุ่มอีกคน เรียนที่เดียวกันแท้ๆเสือกไม่มาพร้อมกันอีก บ้าบอ
“มันมีทำแลปกูขี้เกียจรอ ป่านนี้เลิกแล้วมั้ง น่าจะไปหาพวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเจอกันที่ร้าน” พวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวนี่อยู่หอโซนเดียวกันครับ โซนถนนหน้ามอนู่น ส่วนผมกับไอ้เบอยู่โซนหลังมอ
“ไอ้เบบอกสามทุ่มค่อยออก มึงบอกแฟนมึงยังอะ” ไอ้แทนหันมาถามผมก่อนจะหันกลับไปคุยไลน์ต่อ
“มึงว่าเขาโกรธกูอยู่ปะ แล้วกูควรบอกเขาไหมอะ” ผมทำเสียงงอแงใส่มัน จนมันต้องลุกขึ้นมานั่งคุยกับผม
“แล้วมึงคิดว่าถ้าเขาจะไปไหนมาไหน เขาควรจะบอกมึงปะ”
“ก็ต้องบอกดิ แต่นี่พี่เขาโกรธกูอยู่ไง วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ทักกูมาเลยเนี่ย” พูดแล้วก็เศร้า จะร้องไห้แล้วนะเว้ย ไอ้พี่เนมบ้า!
“แล้วถ้ามึงเป็นฝ่ายโกรธเขา มึงอยากรู้ปะว่าเขาจะไปไหน”
“ก็ยังอยากรู้เหมือนเดิมอะ และตอนนี้กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาไปไหน” คิดถึงจะแย่อยู่แล้วโว้ยยยยยย
“อยากรู้ก็ถาม มีปากไว้ทำไม กูนอนรอละ สามทุ่มแล้วปลุกด้วย บาย” มันขยี้หัวผมก่อนจะทิ้งตัวลงนอน แทนเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ผมได้เสมอ มันจะแนะนำด้วยวิธีของมัน วิธีที่ให้ผมตอบคำถามของตัวเองให้ได้ แล้วทำตามใจตัวเองซะ ถึงแม้มันจะปากหมาไปหน่อย และชอบให้ผมใช้สมองคิดตามอยู่เรื่อย แต่ผมก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการปรึกษามันทุกครั้ง
“พี่เนม...” ผมกรอกเสียงลงไปเมื่ออีกฝ่ายกดรับ เวลานี้ต้องโทรอย่างเดียวครับ ไลน์มันไม่ทันใจ อยากได้ยินเสียงอะ คิดถึงงงง
“ครับ” พี่เนมตอบรับกลับมา หูย แค่ได้ยินเสียงก็อยากเห็นหน้าเลยอะ อยากกอด อยากเอามือมาลูบหัว โอ้ยยย
“พี่เนมอยู่ไหนครับ”
“อยู่หอครับ มิวอยู่ไหน” ถ้าไม่ได้คิดไปเอง ผมว่าพี่เนมก็คิดถึงผมเหมือนกัน ดูได้จากการรีบถามผมกลับทันทีที่ตอบเสร็จ
“อยู่หอมิวครับ วันนี้เพื่อนมิวมา เลยไม่ได้กลับไปห้องพี่เนม พี่เนมทานข้าวหรือยังครับ” ไม่ได้คุยกันวันเดียวทำไมมันคิดถึงได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ ผมคุยไปก็หยิบหมอนขึ้นมากอดเอาไว้ด้วย คิดถึงพี่เนมจัง
“ทานแล้วครับ มิวก็ทานแล้วใช่ไหม มิวจะกลับมากี่โมง ให้พี่ไปรับไหม” พี่เนมตอบกลับมายาวเหยียด ทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันก็อย่างที่เพื่อนผมบอกแหละครับ ทักก่อนคุยก่อน ไม่ได้เสียหายอะไร และผมก็คิดว่ามันดีมากซะอีก อยากคุยก็ได้คุย ไม่ต้องทนหงุดหงิด ทนคิดถึงกันนานๆ
“วันนี้เพื่อนมิวจะไปกินเหล้ากันน่ะครับ มิวก็เลยจะโทรมาขอพี่เนมก่อน พี่เนมให้มิวไปนะ วันนี้เพื่อนที่โรงเรียนก็มา” ผมอ้อนพี่เนมด้วยน้ำเสียงสดใสกว่าเดิม ก็คนมันแฮปปี้แล้วนี่ครับ จะมัวทำเสียงเศร้าอยู่ทำไม
“ไปร้านไหนครับ แล้วกลับกี่โมง เดี๋ยวพี่ไปรอรับ” งืออออ น่ารักอะ ตามใจผมด้วย อิอิ
“ไปบาร์เล่ครับ พี่เนมว่างไหม ไปด้วยกันนะ มิวอยากให้รู้จักกับเพื่อนมิว” ไอ้แทนกับไอ้คินจะได้รู้สักทีว่าแฟนผมตัวจริงน่ะ หล่อกว่าในรูปตั้งเยอะ ฮ่าๆๆ
“ไปครับ! เดี๋ยวพี่ไปรับเราที่หอนะ” พี่เนมตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะดีใจหน่อยๆ อะไรของเขานะ แต่ช่างมันเถอะ พี่เขาแฮปปี้ ผมก็แฮปปี้เหมือนกัน
“ไม่ต้องมารับก็ได้ครับ เพื่อนมิวเอารถมาเหมือนกัน เดี๋ยวสามทุ่มมิวจะออกจากหอและ ไว้เจอกันที่ร้านนะครับ”
“ก็ได้ครับ คืนนี้มิวจะกลับมานอนที่ห้องกับพี่ใช่ไหม” หึหึ เสียงอ้อนๆนั่นมันอะไรกันครับ อย่าน่ารักไปมากกว่านี้ได้ไหม
“ครับ” ถ้าไอ้แทนตื่นมาเห็นผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียว มันต้องหาว่าผมเป็นบ้าแน่ๆ
“โอเคครับตัวเล็ก ไว้เจอกันที่ร้านนะ”
“ครับ เจอกัน” อาการผมนี่ท่าจะหนักแล้วนะครับ วางสายจากพี่เนมแล้วยังนั่งยิ้มอยู่เลย เฮ้อ~~ ได้คุยกันแล้วมันดีแบบนี้เองสินะ
พอสามทุ่มผมก็ปลุกไอ้แทนให้ไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็ไลน์บอกไอ้นิคว่ากำลังจะออกจากหอแล้ว พอเสร็จธุระ ผมกับมันก็เดินมาขึ้นรถมันที่จอดไว้หน้าหอผม มันบอกว่าเอามาจอดทิ้งไว้ก่อนจะเดินไปกินข้าว หอผมมันอยู่ติดกับโซนอาหารน่ะครับ เดินไปสะดวกดี
“มิวมานี่” พอหาที่จอดรถได้ แทนก็กวักมือเรียกผมเข้าไปหา แล้วจับมือผมข้ามถนน เพราะเราจอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามร้าน ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆไปได้
“มิวครับ” ข้ามถนนมาก็เจอพี่เนมที่หน้าร้านพอดี พี่เนมก้มมองมือผมที่จับกับมือแทนอยู่ ก่อนจะขมวดคิ้วเบาๆ
“พี่เนม นี่ไอ้แทนที่มิวเคยเล่าให้ฟัง ส่วนไอ้แทน นี่แฟนกู” ผมเดินเข้าไปเกาะแขนพี่เนม แล้วแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน พี่เนมคลายคิ้วที่ขมวดกันออก ก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ไอ้แทน ผมเล่าเรื่องแทนกับคินให้พี่เนมฟังบ้างแล้ว เพราะพี่เขาเห็นผมคุยไลน์กับพวกมันบ่อยๆ แล้วก็เล่าให้ฟังด้วยว่าพวกมันเป็นเหล่าองครักษ์ของผม
“แล้วทำไมเราใส่ขาสั้นมาครับ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ใส่มาข้างนอก” อ้าว ผมลืมไปเลยว่าใส่ขาสั้นมา หันไปยิ้มแห้งๆให้คนตัวสูงนิดนึงก่อนจะรีบเข้าไปอ้อน กลัวจะได้โกรธกันอีกรอบน่ะสิครับ แบบนั้นผมไม่เอาด้วยแล้ว
“คือ...มิวลืมเปลี่ยนกางเกงอะ ไม่โกรธเนอะ ยังไงวันนี้พี่เนมก็มาด้วย ไม่เป็นไรหรอก” คนตัวสูงส่ายหัวเบาๆกับการแถของผม พอเห็นพี่เนมไม่ได้บ่นอะไรต่อ ผมเลยพาพี่เนมเดินตามไอ้แทนเข้าร้านไปหาพวกเพื่อนคนอื่นๆที่มากันครับแล้ว ทั้งแก๊งค์เจ็ดประจัญบานเพื่อนในคณะผม และเหล่าองครักษ์ทั้งหลาย
“ไอ้คินนนนนน” ผมกระโดดกอดไอ้คินที่นั่งหันหลังอยู่ จนหัวมันเกือบทิ่มโต๊ะแหนะ ฮ่าๆๆ
“สัดมิว! ถ้ากูเสียโฉมขึ้นมามึงต้องชดใช้นะ” ปากก็ด่า แต่มือนี่จับแขนผมที่คล้องคอมันเอาไว้แน่น แหนะๆๆ คิดถึงเหมือนกันละเซ่ ทำมาเป็นปากหมากลบเกลื่อน ผมรู้ทันหรอก
“หูยยย หล่อขนาดนี้ใครจะปล่อยให้เสียโฉมครับ เพราะนอกจากหน้าตาแล้วเพื่อนผมก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย ฮ่าๆๆ” ผมปล่อยมือออกจากคอมัน แล้วเดินไปนั่งข้างพี่เนมที่มองมานิดหน่อย แหะๆ ผมลืมตัว ไม่ได้เจอเพื่อนนานเลยคิดถึงมากไปหน่อย แต่พี่เนมจะหวงผมก็เข้าใจแหละนะ เพราะถ้าพี่เขาไปกอดคนอื่นแบบนั้นต่อให้เป็นเพื่อน ผมก็หวงเหมือนกัน
“แหะๆ ขอโทษครับ มิวลืมตัว” พอหันไปขอโทษพี่เนม ก่อนจะแนะนำเพื่อนๆให้รู้จัก
“นี่คินครับ ส่วนนั่นก็ทัต มิน นัท เต้ ซีแฟนไอ้เบ แล้วก็ทิว ส่วนพวกมึง นี่พี่เนม” ผมแนะนำเพื่อนตามลำดับที่นั่ง ไอ้เบกับฟาร์นั่งอยู่ระหว่างซีกับทิว แต่พี่เนมรู้จักอยู่แล้ว ผมเลยข้ามพวกมันไป ไอ้แทนนั่งอยู่ระหว่างไอ้ทิวกับพี่เนม ถัดมาก็เป็นผม เพื่อนผมในคณะพี่เนมก็เคยเจอแล้วครับ แต่ไม่เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว วันนี้ผมเลยแนะนำให้รู้จักอีกที
“พี่เป็นแฟนไอ้เตี้ยมันหรอครับ พี่มองเห็นมันได้ไงอะ ผมว่าส่วนสูงมันไม่น่าจะถึงระดับสายตาพี่ได้นะ” ไอ้คินเปิดประโยคมาก็ปากหมาเลย เมื่อไหร่จะเลิกตอกย้ำเรื่องความสูงสักทีวะห๊ะ
“สูงไม่ถึงระดับสายตา แต่พอดีกับหัวใจใช่ไหมพี่ ฮ่าๆๆ” ไอ้นัทที่เริ่มเมาๆแล้ว เล่นมุกที่เพื่อนๆพากันขำตามทั้งวง ไอ้นี่มันคออ่อนแต่ชอบกระดกเอาๆ แถมเมาแล้วยังเสี่ยวแดก น่าสงสารเขานะครับ
“ว่าไงพี่ ใช่แบบที่ไอ้นัทมันบอกปะ” ไอ้แทนหันมาเอาคำตอบจากพี่เนม พอเรื่องกูนี่สนุกกันใหญ่เลยนะ
“หึหึ ตามนั้นครับ”
“ฮิ้ววววววว~~” พอพี่เนมตอบ พวกมันก็ส่งเสียงเห่าหอนให้คนมองกันทั้งร้าน พวกมึงไม่อาย แต่กูอายเว้ย หน้าร้อนเลย ฮือออออ
พอแซวผมเสร็จพวกมันก็กินกันไปคุยกันไป บางคนก็ลุกออกไปเต้น ส่วนพี่เนมของผมนี่สุมหัวอยู่กับแก๊งค์องครักษ์ครับ ไม่รู้คุยอะไรกันนักหนา ไอ้แทนแอบกระซิบผมตอนพี่เนมไปเข้าห้องน้ำว่า จริงๆมันกะจะรับน้องพี่เนมซะหน่อย โทษฐานที่ล่อลวงชายน้อยของพวกมันไป แต่คุยกันถูกคอ เลยกลายเป็นว่าถูกอกถูกใจแฟนผมซะอย่างงั้น ผมก็นั่งเล่นเกมเล่นโซเชียลไปเรื่อยเปื่อย ผมเป็นสายชิลครับ ชอบจิบเหล้าฟังเพลงไปเรื่อยๆ ฟังเพื่อนๆมันคุยกันมากกว่า ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่ผมคอแข็งพอตัวนะ กินได้เรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ชงเข้มมาก
MuNich :: กูไม่ไปแล้วนะ ไว้เจอกันวันหลัง
Mewtation :: อ้าว ไหงงั้นอะ
MuNich :: เพื่อนมันบังคับให้ไปด้วยอะ ปฏิเสธไม่ได้
Mewtation :: อ๋อ โอเค ไว้กินด้วยกันวันหลังเนอะ
MuNich :: ครับ
กินไปได้เกือบชั่วโมงไอ้นิคก็ไลน์มา ผมนั่งดื่มไปเรื่อย ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่ามันจะมา แต่เอาไว้วันหลังก็ดีเหมือนกัน มาวันนี้สงสัยจะได้กัดกับไอ้แทนไม่เลิกแน่
“มิวครับ คนตัวขาวๆที่แทนพูดถึงคือใคร” พี่เนมที่สุมหัวกับพวกไอ้แทนอยู่ดีๆ หันมาถามผม ถึงหัวพี่แกจะสุมอยู่ในวงไอ้แทน แต่มือนี่กอดเอวผมไม่ปล่อยเลยครับ ไม่รู้กลัวผมหายหรืออะไร
“หืม ขาวๆไหนครับ” ผมหันไปมองพี่เนมงงๆ ขาวไหนอะ แล้วพี่กับแทนคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ผมจะไปรู้ด้วยไหมเนี่ย
“ก็ไอ้ขาวที่มึงไปกินข้าวด้วยไง” ไอ้แทนยื่นหน้ามาตอบแทน
“อ่อ มิวนิค รุ่นน้องพี่เนมไงครับ”
“แล้วมิวไปทานข้าวกับมันทำไมครับ พี่ว่าพี่เคยห้ามมิวแล้วนะ ว่าอย่าไปกับมัน” ไอ้แทนทิ้งระเบิดไว้ให้ผม แล้วหันไปคุยกับคนอื่นๆต่อ ไอ้นี่นี่ ขยันหางานให้เพื่อนจัง
“ก็มิวติดมันไว้ตั้งแต่เทอมที่แล้ว วันนี้ว่าง ก็เลยไปกับมันครับ”
“ไหนตอนเช้าบอกพี่ว่ามีประชุม แล้วจะกลับกับเพื่อนไงครับ”
“เห้ย วันนี้มิวมีประชุมจริงๆนะ ไม่ได้โกหก แต่เรื่องเพื่อนนี่ไม่ได้คิดไว้อะ ว่าจะเป็นเพื่อนคนไหน แหะๆ” ผมหันไปยิ้มอ่อนใส่พี่เนม กลัวพี่เขาจะเข้าใจผิด ผมไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งนะเว้ย แค่สถานการณ์มันพาไปอะ
“ถ้าแทนไม่บอก มิวก็ไม่คิดจะบอกพี่ใช่ไหมครับ”
“หื้อออ ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ก็วันนี้พี่เนมหายไปเลยนี่นา ไลน์ก็ไม่มี โทรหาก็ไม่โทรอีก มิวก็นึกว่าพี่ไม่อยากคุยด้วยนี่ เลยไม่ได้บอก” ผมพูดเสียงอ่อย นึกถึงตอนนั้นแล้วโคตรเศร้า เหมือนพี่เนมไม่สนใจผมเลยอะ
“กลับไปคุยกันที่ห้องดีไหมครับ” พี่เนมลูบหัวผมเบาๆ เมื่อเห็นผมเริ่มน้ำตาคลอ ไม่ได้อยากจะดราม่านะ แต่มันเป็นฟีลลิ่งงงงง ฮืออออ ผมพยักหน้าหงึกๆใส่พี่เนม พูดไม่ได้ครับ เดี๋ยวน้ำตาไหล อายคนเขา
พี่เนมหันไปบอกไอ้แทนและเพื่อนคนอื่นๆว่าขอพาผมกลับก่อน ซึ่งไอ้พวกนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เราเลยเดินออกจากร้านมาที่รถแล้วกลับหอกัน
“พี่เนมโกรธมิวใช่ไหม....มิวขอโทษ ดีกันนะ” ผมยืนอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงหลังจากที่เราอาบน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ผมเอาคางเกยอกพี่เนมแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง น้ำตาที่แห้งไปแล้วก็กลับขึ้นมาคลออีกครั้ง ถ้าพี่เนมจะโกรธ ผมยอมขอโทษเลยดีกว่า ไม่อยากให้เราต้องเป็นแบบนั้นกันอีก
“พี่ไม่ได้โกรธเราครับ”
“แต่พี่เนมไม่คุยกับมิว ไม่โทรหามิวเลยนะ ฮึก” ถ้าไม่โกรธแล้วจะทำแบบนั้นทำไมเล่า ฮึก ร้องไห้เลยแม่ง ดูเด็กน้อยเข้าไปอีก แต่ถ้าเป็นเด็กน้อยในสายตาพี่เนม คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“พี่แค่พยายามเข้าใจมิวอยู่ ไม่ได้โกรธเลยครับ....จุ๊บ” พี่เนมจุ๊บเบาๆที่หน้าผาก แล้วดึงผมไปกอดแนบอกพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ
“เข้าใจว่าอะไรครับ”
“เข้าใจว่ามิวต้องทำตามหน้าที่ของมิว เป็นพี่เนียนมันก็ต้องสนิทกับพวกน้องๆพี่เข้าใจ แต่มันก็ยังหวงอยู่ดี แล้วพี่ก็พยายามเข้าใจว่ามิวต้องไปทำกิจกรรมกับน้อง ต้องใช้เวลากับพวกนั้นมาก พี่เลยไม่อยากกวน ในเมื่อพี่อนุญาตให้มิวทำแล้ว พี่ก็ต้องเข้าใจหน้าที่ของมิวด้วย ถูกไหมครับ”
“แต่ต่อให้เป็นพี่เนียน มิวก็ยังเป็นแฟนพี่เนมอยู่ดีนี่ ไลน์มาหา โทรมาหากันบ้างก็ได้” ผมซุกหน้าลงกับอกคนตัวสูง แล้วกอดเอาไว้แน่นๆ คิดถึงเป็นบ้าเลย
“ถ้าทำแบบนั้นพี่คงทนไม่ไหวหรอกครับ ต้องฟังมิวบอกว่าอยู่กับคนนู้นคนนี้ จะไปทานข้าวกับคนอื่น แบบนั้นพี่ไม่ฟังดีกว่า รอมิวว่างแล้วโทรมาหาพี่เองจะดีกว่า”
“หื้ออออ แล้วทำแบบนี้พี่เนมทนไหวหรอครับ ไม่คิดถึงมิวบ้างเลยหรอ” ผมขยับใบหน้าออกมามองคนตัวสูง ทำแบบนี้ไม่คิดถึงผมบ้างหรือไงกัน
“คิดถึงสิครับ คิดถึงมากเลยด้วย แต่ก็ไม่อยากกวนเรา คิดว่าทนไปแค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวมิวก็ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว แต่ตอนนี้พี่ว่าไม่น่าไหว ห่างกันแค่วันเดียว...พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วครับ” พี่เนมดึงผมเข้าไปกอด ซุกหน้าลงบนบ่าผม ผมเองก็คิดว่าไม่น่าไหวเหมือนกัน แค่วันเดียวก็ทรมานจะแย่
“งั้นก็ไม่ต้องห่างแล้วนะครับ ฮึก ห้ามหายไปไหนอีกนะ เข้าใจ...ไหมครับ ฮึก” พี่เนมไม่ได้โกรธอะไรผมเลย เขาแค่ปล่อยให้ผมทำหน้าที่ของตัวเอง คอยสนับสนุนผมอยู่ห่างๆ แต่ผมชอบให้เขาอยู่ใกล้ๆมากกว่า จะหึงจะหวงอะไร ผมอนุญาตหมดเลยนะ ขอแค่อย่าหายไปไหนก็พอ
“พี่เนมจะหวง ฮึก จะตามไปเฝ้า จะทำอะไรก็ได้ มิวไม่ว่า ฮึก แต่ไม่เอาแบบนี้แล้วนะ....นะครับ” พี่เนมพาผมมานอนบนเตียง เรานอนกอดกันเหมือนอย่างทุกวัน พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน ส่วนพี่เนมมีนัดคุยกับอาจารย์ช่วงบ่าย วันนี้เลยนอนดึกกันได้ไม่เป็นไร
“ไม่ไปไหนแล้วครับ พี่จะอยู่ข้างๆเราตรงนี้แหละ ฝันดีนะครับ ตัวเล็กของพี่” พี่เนมให้คำสัญญา ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผาก ให้ผมหลับฝันดี
ผมอยากจะบอกทุกคนว่า
มีอะไรก็รีบคุยกันนะครับ อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้นาน
จะทักก่อนทักหลังไม่มีผลอะไร
ผลมันจะตามมาหลังจากที่เราคุยกันแล้วต่างหาก
ส่วนจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีหรือร้าย ก็ขึ้นอยู่กับความรักของพวกคุณแล้วล่ะครับ
ฝันดีนะครับ...ความรักของผม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
มาต่อล้าวววววววววววววววววว