พิมพ์หน้านี้ - รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่28 (23/06/21) P.9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Christa ที่ 10-12-2016 02:20:17

หัวข้อ: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่28 (23/06/21) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 10-12-2016 02:20:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


รัก ไม่ 'นิ่ง'
[/size]

Intro

“ไอมิว  มึงเดินให้มันเหมือนผู้เหมือนคนหน่อยได้ไหมวะ  ลอยไปลอยมาเป็นผีเลยไอสัด”          ไอซีเพื่อนในภาคผมตะโกนทักตอนที่ผมเดินผ่านโต๊ะมัน
 
“ข้อสอบทำพิษใส่กูอะ”   ผมหันไปบอกมันด้วยเสียงเนือยๆ  พร้อมปรายตามองคนที่เดินตามหลังผมมาติดๆด้วยท่าทางไร้เรี่ยวแรงเหมือนกัน  มันทิ้งตัวลงบนที่นั่งทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ

               โรงอาหารในตอนเที่ยงเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย  หลากหลายอารมณ์  แต่สิ่งที่มีเหมือนกันแทบทุกคนเลยก็คือใบหน้าอิดโรย  พร้อมด้วยรอยคล้ำใต้ตาเป็นพรอพเสริม  หึหึ  น่ารักดีไหมล่ะ   ผมวางของลงบนโต๊ะ  หยิบกระเป๋าตัง  แล้วเดินไปที่หน้าร้านข้าวทันที

“อ้าว  หนูมิว  วันนี้ป้ามีตับผัดกระเทียมของโปรดด้วยนะ”   ป้าเจ้าของร้านประจำเอ่ยทัก

“จัดมาเลยป้า  เอาต้มข่าใส่ถ้วยแล้วก็น้ำเปล่าด้วยนะครับ”  ผมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วลงมือกินทันทีโดยไม่รอไอเบที่เพิ่งจะลุกไปต่อคิวร้านที่อยู่ในสุดของโรงอาหาร
               
               ผมชื่อมิวครับ  เรียนอยู่สถาปัตย์ปีสอง  ไอเบนั่นก็เหมือนกัน  บรรยากาศในคณะที่พวกรุ่นพี่บิวท์กันนักบิวท์กันหนาว่าเปรียบเสมือนบ้านของเรา  ทุกคนในนี้คือครอบครัว  ช่วยเหลือกันได้แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม  ฟังดูเหมือนเวอร์ใช่ไหมครับแต่จากที่ได้อยู่ที่นี่มาปีกว่าๆ  ผมว่ามันคือความจริงเลยแหละ

“พี่มิว  พี่เบ  หวัดดีครับ”  รุ่นน้องปีหนึ่งเดินเข้ามาทักผมกับไอเบที่เดินถือจานข้าวกลับมาพอดี

“เออ  ดีมึง  มีสอบหรอวะวันนี้”  ไอเบตอบกลับคนเดียว  เพราะผมกำลังเคี้ยวข้าวในปากอยู่

“ใช่พี่  เดี๋ยวผมมานั่งด้วยนะ  ไปซื้อข้าวแปป”


“วันนี้สอบวิชาไรวะไอดิน”  ผมถามคนที่นั่งลงข้างๆผม  ส่วนไอเบกำลังยัดข้าวเข้าปากอย่างหิวโหย

“สอบประวัติศาสตร์อะพี่  โคตรตึ้บ  ข้อสอบทำผมมึนไปหมดแล้วเนี่ย”

“หึหึ  วิชาในตำนานเลยไอสัด”  ตำนานที่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่หรอกครับ  คือไอวิชาเนี้ย อาจารย์ใจดี  บวกกับเนื้อหาที่สามารถหาอ่านเองทีหลังได้  ทำให้มันกลายเป็นวิชาพักผ่อนของผมและใครอีกหลายๆคน  ส่วนใหญ่เข้าไปให้อาจารย์เห็นว่ามาเท่านั้นแหละครับ  พอหาที่นั่งได้ก็ฟุบหลับแทบจะทันที  แล้วสุดท้ายเวลาของพวกผมมันก็มีไม่พอสำหรับที่จะอ่านเนื้อหาเพื่อนำมาสอบ  ทำให้มันกลายเป็นวิชาที่โคตรยากสำหรับพวกผม

“แล้วตอนบ่ายมีสอบอีกไหมเนี่ย”  ผมถามดินต่อ

“ไม่มีแล้วพี่  กินเสร็จผมจะกลับหอไปนอนเลยเนี่ย  ไม่ไหวแล้ว”

“เออๆ  รีบๆกินไป”
   
               ธรรมเนียมอย่างหนึ่งของคณะผมคือ  เด็กปีหนึ่งจะไม่มีโต๊ะในโรงอาหารเป็นของตัวเอง  คือถ้ามันจะกินข้าวก็ต้องเดินเข้าไปทักพี่แล้วขอนั่งด้วยนั่นแหละครับ  จุดประสงค์ก็เพื่อให้น้องได้รู้จักกับพี่เยอะๆ  และนั่นมันทำให้ผมต้องคอยสรรหาเรื่องมาพูดคุยกับน้องที่เข้ามาขอนั่งด้วย  เพื่อไม่ให้น้องมันอึดอัด  และก็เป็นการสร้างความสนิทสนมไปด้วยในตัว
   
               พอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับหอ  ผมกับไอเบเดินไปวิศวะ  เป็นคณะที่อยู่ติดกับคณะพวกผม  เมื่อเช้ามาซื้อของที่เซเว่นกินรองท้องก่อนเข้าห้องสอบเลยจอดมอ’ไซค์ทิ้งไว้ที่นั่นเลย

“นั่นใช่ไอพี่เนมอะไรนั่นปะ”  ไอเบพูดพร้อมกับพยักเพยิดไปข้างหน้าที่มีผู้ชายตัวสูงใส่ชอปเดินเข้าเซเว่นไป

“ใช่มั้ง  กูไม่ใช่ไอเฟย์นะที่จะจดจำทุกรายละเอียดของพี่เค้าได้”

“ฮ่าๆๆ  เออๆ  กูไปนอนและ  เดี๋ยวมืดๆกูไปหาที่หอ”  มันพูดพร้อมกับขึ้นคร่อมมอ’ไซค์และขับออกไปทันที  ผมได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา  ไอนี่แม่งไม่เคยถามความสมัครใจผมเลยซักคำ  ผมขึ้นคร่อมฟีโน่ของผมบ้าง  เงยหน้ามองเข้าไปในเซเว่นก็สบตาเข้ากับคนที่ไอเบพูดถึงพอดี  ผมว่าผมได้คำตอบแล้วแหละ  ผู้ชายคนนั้นคือพี่เนมที่ไอเฟย์เพื่อนผู้หญิงในภาคผมคลั่งไคล้อย่างแน่นอน  ผมละสายตาออกมาแล้วได้แต่พึมพำอยู่คนเดียว

คนเหี้ยไร ‘นิ่ง’ ชิบหาย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่1 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 10-12-2016 04:08:15
Chapter 1

          ผมนอนลืมตาอยู่บนเตียงหลังจากที่ตื่นมาได้สักพัก  รู้สึกเหมือนยังนอนไม่พอ  อยากจะนอนต่ออีกแต่ในหัวก็ได้แต่คิดถึงงานที่จะต้องส่งในอาทิตย์ถัดไป  ทำให้ผมต้องนอนถ่างตาอยู่อย่างนี้  พอทำใจได้แล้วผมก็ลุกไปอาบน้ำแล้วออกไปซื้อข้าวที่เซเว่นหน้าปากซอย

         
          หอผมอยู่ต้นๆซอยเลยครับ  เรียกว่าเป็นหอแรกเลยดีกว่า  ก่อนถึงหอผมจะเป็นโซนร้านอาหาร  และก็มีเซเว่นอยู่ตรงหน้าปากซอย  ผมเดินผ่านโซนร้านอาหารที่มีร้านเปิดอยู่แค่สองสามร้าน  สายๆแบบนี้ยังไม่ค่อยเปิดกันหรอกครับส่วนใหญ่จะเปิดกันเย็นๆรอรับนักศึกษาหลังเลิกเรียนกันมากกว่า  ผมเดินเลี้ยวเข้าเซเว่น  ไม่ได้เอารถมาหรอกครับใกล้แค่นี้


          “อ๊ะ!!”   ผมที่กำลังยืนกอดอกพิจารณาเมนูข้าวแช่แข็งอยู่  เซเข้าหาชั้นวางจนหัวกระแทกเข้ากับชั้น

หันไปหาต้นเหตุที่ชนผมจนหน้าทิ่มด้วยความหงุดหงิด  แม่ง! เจ็บนะเว้ย  คนตัวสูงที่ถอยหลังมาชนผมหันมามองด้วยใบหน้านิ่งๆ  ไอพี่เนมนี่เอง  ไอสัดเอ๊ย  แล้วทำไมผมต้องเป็นฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นไปอีกแล้ววะ  คุยกับไอเบทุกวันนี้ก็ต้องเงยหน้าแบบนี้แหละครับ  คือผมไม่ได้เตี้ยนะ  ก็มาตรฐานชายไทยปกติ  พวกที่ผิดปกติน่ะคือพวกที่สูงเกินไปแบบคนตรงหน้าผมต่างหากเล่า

         
          “หื้อ!!”  ผมเอียงหน้าหลบนิ้วเรียวยาวที่ยื่นมาสัมผัสหน้าผากบริเวณที่ชนเข้ากับชั้นวางเมื่อกี้   แล้วไอสายตาขัดใจนั่นมันคืออะไรวะ  มันต้องเป็นผมไม่ใช่หรอที่ต้องทำแบบนั้น  คนไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกัน  อยู่ดีๆคิดอยากจะจับก็จับกันได้ง่ายๆเลยหรอ  ไอบ้า


          “เจ็บรึเปล่า”  พี่เนมถาม  แต่ขอโทษนะ  ไอหน้านิ่งๆแบบนั้นนี่เต็มใจถามจริงๆใช่ไหมครับ


          “เจ็บสิ  ถอยมาได้ ไม่ดูเลย”  ผมพูดพร้อมกับเอามือลูบหน้าผากไปด้วย


          “ขอโทษ”  คนตัวสูงบอกออกมาด้วยใบหน้าที่นิ่งเหมือนเดิม  คือมันก็ดูหล่อดีนะ  ไอตาเรียวๆสวยๆ  จมูกโด่งๆ  กับปากสีชมพูเข้ม   และผมสีดำที่ขับให้ใบหน้าเรียวขาวดูสว่างขึ้นไปอีก   พอดูรวมๆแล้วก็....  ‘มีเสน่ห์เหลือเกิน  ไม่ต้องมาเขิน  ผมชมตัวเองงงง ~~~~~’  ฮ่าๆๆๆ  พี่เขามองผมด้วยแววตาประหลาด   คงงงว่าไอนี่มันบ้าเปล่าวะ  จากหน้าที่หงุดหงิดของผมกลายเป็นอมยิ้มน้อยๆเพราะมัวแต่ชมตัวเองอยู่ในใจ  ฮ่าๆๆๆ


          “ไม่เป็นไรพี่  ทีหลังก็ระวังหน่อยละกัน”   ผมที่ไม่ได้ติดใจอะไรก็หันมาเลือกข้าวต่อ  ส่วนพี่เขาก็หันกลับไปเลือกนมที่อยู่ในชั้นถัดไป


          “นมรสสตรอเบอรี่ไม่มีหรอครับ”  เสียงทุ้มด้านหลังผมเอ่ยถามพนักงานเซเว่นที่เดินผ่านมา


          “อ๋อ  หมดแล้วค่ะ  ของจะเข้ามาส่งตอนบ่ายนะคะ”

ผมที่เลือกของเสร็จแล้วก็เดินไปจ่ายตังค์ที่เคาเตอร์  พร้อมกับร่างสูงที่เดินออกจากเซเว่นไป  อะไรวะ นมรสอื่นก็มีเยอะแยะกินไม่ได้เลยรึไง  หรือว่ารสสตรอเบอรี่มันกินแล้วสูง  มันใช่หรอวะ  ไว้วันหลังผมต้องลองกินบ้างแล้วล่ะ


   
          ผมเข้าคณะตอนช่วงบ่ายๆเพื่อมาทำโปรเจคมิดเทอมที่เหลืออยู่อีกตัวหนึ่ง   คณะผมมีสอบไม่เยอะก็จริงแต่โปรเจคนี่ละลานตามาก  เพื่อนคณะอื่นชอบบอกว่าพวกผมโชคดีที่ไม่ต้องอ่านหนังสือสอบมากมาย  แต่มึงลองมาทำโปรเจคแบบพวกกูไหมครับ  เวลานอนไม่ได้มีมากไปกว่ากันเลย  เผลอๆได้นอนน้อยกว่าพวกที่อ่านหนังสือสอบอีก


          “ไอมิว  มีกาวร้อนป่าววะ”  ไอนายเพื่อนผมเดินเข้ามาถาม


          “ไม่มี  มึงไปซื้อที่พี่นาสิ”


          “วันนี้วันอาทิตย์  พี่นากับป้าสาไม่เปิดร้าน   ไอควายยย”   พี่นาคือเจ้าของร้านขายเครื่องเขียนในคณะผมครับ  มีคู่แข่งก็คือป้าสิที่ชอบขึ้นราคาของเป็นช่วงๆ  ช่วงที่คนซื้อเยอะๆน่ะครับ หึหึ


          “งั้นมึงก็ไปเซเว่น”


          “งั้นมึงก็ไปกับกู”  พวกเพื่อนผมนี่มันเหมือนกันทั้งภาคแม่งไม่ค่อยจะถามความสมัครใจของผมหรอก  ผมเคยบ่นพวกมันนะครับเรื่องนี้แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ  ‘พวกกูรู้ว่ามึงใจดี’  ครับ  ก็ตามนั้น

         
   
          และแล้วผมก็เข้ามาอยู่ในเซเว่นที่วิศวะกับไอนายครับ  คณะนี้เป็นอะไรที่น่าหมั่นไส้มาก ก็เข้าใจนะครับว่าคนที่เข้าเรียนคณะนี้มีเยอะ  เยอะกว่าคณะผมประมาณสามเท่าได้  แต่ไอการที่มีเซเว่น  2 สาขา  ในขณะที่คณะผมไม่มี   โรงอาหารใหญ่โตที่ทำให้โรงอาหารเล็กๆในคณะผมกลายเป็นโรงอาหารโรงเรียนเด็กชนบทไปเลย    คณะผมหลงใหลในธรรมชาติมากครับ  ถ้าคนนอกมองเข้ามาก็คงนึกว่าป่าดีๆนี่เอง  และไอคณะนี้มันยังมีร้านปริ้นงาน-ถ่ายเอกสารอยู่อีก 3 ร้าน  ในขณะที่พวกผมได้แต่งงว่าทำไมร้านปริ้นมันไม่มาอยู่ฝั่งพวกผมวะ  เพราะงานพวกผมต้องปริ้นกันอยู่เป็นประจำแถมปริ้นทีเป็นปึก  แต่พวกวิศวะที่ใช้งานกันแค่ถ่ายเอกสารและปริ้นรายงานขาวดำทำไมมันถึงได้ไปครอบครอง  ฮืออออออ  มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าของพวกผมครับ


          “กูหาของกินแปป”  ไอนายบอกผมหลังจากที่เดินไปหยิบกาวมาแล้ว  ผมเดินไปดูอะไรกินบ้าง  เผื่อหิวตอนทำงานจะได้ไม่เสียเวลาออกมาอีก


ผมเลือกแซนวิชไส้กรอกชีสมาอันนึง  แล้วก้สั่งฟุตลองชีสอีกชิ้นนึง   ระหว่างรอแซนวิชกับไส้กรอกผมก็เดินเล่นรอ  พอผ่านชั้นนมก็อดที่จะมองนมรสสตรอเบอรี่ที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นไม่ได้    ตกลงว่ารสสตรอเบอรี่นี่กินแล้วสูงจริงป่าววะ  คือผมเป็นพวกชอบกินนมนะเพราะเขาว่ากันว่ากินนมแล้วจะสูง  แต่ผลที่ได้ก็อย่างที่เห็นนี่แหละครับยังอยู่ในมาตรฐานชายไทยเช่นเดิม  ปกตินมที่ผมเลือกกินจะเป็นรสจืดผมว่ามันอร่อยดีนะแล้วก็ดูเหมือนจะทำให้สูงได้มากกว่ารสที่ปรุงแต่งขึ้นมา  ผมหยิบนมรสจืดไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์


ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะว่ารสสตรอเบอรี่กินแล้วสูงกว่าจริงรึเปล่า  แต่ผมกลัวว่าถ้าเลือกรสสตรอเบอรี่มา คนที่คณะนี้อาจจะไม่ได้กินนมก็ได้


หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' Intro+รักที่1 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 10-12-2016 11:13:10
เราต้องเข้าเซเว่นซื้อนมรสสตอเบอรี่มารอพี่เนมหน่อยละ.

วิศวะ-ถาปัตย์

รออยู่นะคะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' Intro+รักที่1 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 10-12-2016 12:20:03
มาต่ออีกไวๆนะอยากอ่านอีก :call:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 10-12-2016 19:38:33
Chapter 2

    “ พวกมึง!! จารย์บอกเริ่มตรวจเก้าครึ่งนะ ”  เสียงไอซีตะโกนบอกพวกผมที่กำลังจัดดิสเพลย์งานกันอยู่ 

     วันนี้เป็นวันส่งโปรเจคมิดเทอมตัวสุดท้ายครับ  เหลือเวลาอีกประมาณ 15 นาทีกว่าอาจารย์จะมา  ต่างคนต่างเร่งมือทำงานของตัวเองให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้  ทั้งจัดแบคดรอป  ตัดเพลท  แต่งโมเดลกันวุ่นวายไปหมด


   
     “ ไอเบยังไม่มาอีกหรอวะมิว ”  ไอซีเดินเข้ามาถามผม


     
     “ มันไปปริ้นเพลท  กำลังมา ”  ผมตอบไปด้วยแปะเพลทไปด้วย



     “ เห้ย!  พวกมึง  วันนี้เมาคลีเว้ย  เจอกัน ”  เสียงเพื่อนในภาคตะโกนบอกทันทีที่อาจารย์เดินออกจากสตูไป


     ธรรมเนียมแปลกๆอย่างนึงของพวกผมคือ  หลังส่งงานเสร็จจะต้องหาเหล้าหาเบียร์เข้าปากกันทันทีแทนที่จะนอนกันยาวๆ  และสถานที่นัดพบสำหรับคืนนี้คือ  เมาคลี  ร้านเหล้าแถวมหาลัยผมเอง  แต่ก่อนมหาลัยผมมีร้านเหล้าเปิดอยู่เยอะมาก  เปิดกันในโซนหอเลยก็มี  ตรงข้ามหอผมก็เคยเป็นร้านเหล้ามาก่อนแต่หลังจากที่เคร่งเรื่องร้านเหล้าใกล้สถานศึกษากันมากขึ้น  ร้านหลายๆร้านก็ถูกปิดตัวลง  ตอนนี้ก็มีเหลืออยู่แค่ไม่กี่ร้าน และเมาคลีก็เป็นร้านหนึ่งที่ยังอยู่รอดมาได้  อย่างว่าแหละครับ  คนมันจะกินถึงจะไม่ได้ใกล้เหมือนอยู่หน้าหอยังไงพวกผมก็ถ่อสังขารไปหามันได้อยู่ดี


     
     “ ไอมิว  ไอเบ  ชวนพวกไอทิมมาด้วยนะเว้ย ” 



     “ เออๆ  มันสอบเสร็จกันละ  เดี๋ยวกูบอกให้ ”  เพื่อนผมพยักหน้ารับแล้วขนงานออกจากสตูไป

     พวกไอทิมคือกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยมของผมกับไอเบครับ  เรียนอยู่มหาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ  สถานที่นัดรวมตัวกันก็ร้านเหล้านั่นแหละครับ  ตอนกลางวันต่างคนต่างเรียนไม่ค่อยว่างมาเจอกันหรอก  ทำให้เพื่อนผมเคยเจอพวกมันอยู่บ้าง  คุยกันง่ายตามประสาผู้ชายทั่วๆไปแหละครับ  พอเหล้าเข้าปากก็กลายเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยาก



     “ ไอมิว  มึงไม่ต้องเอาฟีโน่ไปนะ  เดี๋ยวกูไปรับที่หอ ”  ไอเบหันมาบอกผม  ผมพยักหน้ารับ  เดินออกจากสตูพร้อมมันเพื่อกลับหอ



     “ เจอกันสี่ทุ่มมึง ”  มันบอกก่อนออกรถไป



     ผมกลับมาถึงหอ  วางของเสร็จก็ขึ้นเตียงนอนทันที  หยิบโทรศัพท์มาเช็คอะไรเรื่อยเปื่อย   ไลน์ไปบอกในกรุ๊ปเพื่อนสมัยมัธยมว่าเจอกันที่เมาคลี  มองดูเวลาตอนนี้บ่ายสอง  ตื่นซักทุ่มนึงละกัน  ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก่อนจะหลับตาลง



19.40 น.
   
       ผมนอนลืมตาอยู่บนเตียง  ผมเป็นพวกชอบเลื่อนนาฬิกาปลุกไปเรื่อยๆน่ะครับ  เวลาจะตื่นไปส่งงานทีต้องตั้งเวลาล่วงหน้าไว้เกือบๆชั่วโมง  และไม่ได้ตั้งแค่อันเดียวนะครับ  ตั้งเป็นสิบๆอัน  ระยะเวลาห่างกัน 10 นาที  ใกล้เคียงกับเวลาที่เลื่อนปลุกไป  ทำให้นาฬิกามันดังอย่างน่ารำคาญสุดๆ  ต่อให้เผลอกดปิดไปก็มีอันใหม่มาปลุกอยู่ดี  ผมเชื่อว่าเพื่อนๆผมก็ทำแบบนี้กันเกือบทุกคน  นาฬิกาปลุกสองสามรอบใช้ได้ผลแค่ตอนที่เข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ๆเท่านั้นแหละครับ  ตอนนี้สิบกว่ารอบยังตื่นยากเลย


   
       ผมหาอะไรกินก่อนจะไปอาบน้ำ  แต่งตัวเสร็จก็ประมาณ  2 ทุ่มครึ่งแล้วครับ  วันนี้ผมใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวพอดีตัวสีดำ  นั่งเป่าผมบนเตียงพร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วย  เข้าไปดูไลน์กลุ่มที่ขึ้นแจ้งเตือนอยู่สิบกว่าข้อความ  เป็นพวกเพื่อนผมที่เรียนที่นี่ตอบรับคำชวนของผม  เรื่องแบบนี้พวกมันไม่มีพลาดหรอกครับ  จริงๆกลุ่มผมไม่ได้มีแค่ที่นี่นะครับ  มีอีก 2 คนที่มันเรียนอยู่อีกมหาลัยนึง  ส่วนใหญ่จะได้เจอกันช่วงปิดเทอมนั่นแหละครับ

   
       ผมกับไอเบได้เรียนคณะเดียวกัน  ตัวนี่ติดกันเป็นแฝดสยามเลยครับ  แหม  ก็พวกผมคบกันมาตั้งแต่มัธยมต้นแล้วนี่ครับ  จะสนิทกันมากก็ไม่แปลกหรอก  สนิทกันจนพวกเพื่อนๆล้อผมกับมันว่าเป็นคู่เกย์กันประจำ  ไอเบมันสูง  สูงแบบนายแบบอะไรประมาณนั้นน่ะครับ  ส่วนผมก็สูง  สูงในแบบฉบับของผมเอง  ฮ่าๆๆ  มันเป็นหนุ่มตี๋ผิวขาว  หน้าตาดูผู้ดี๊ผู้ดีผิดกับนิสัยเถื่อนๆของมัน  เวลาเดินผ่านสาวๆทีนี่กรี๊ดกันเป็นแถบๆ  ถ้าไม่ได้กรี๊ดเพราะความหล่อของมันกับผมก็คงกรี๊ดเพราะพวกเธอเป็นสาววายนั่นแหละครับ  ผมรู้จักสาววายตั้งแต่ช่วงเข้ามาปีหนึ่งใหม่ๆ   ผมยังจำได้ดี  ตอนนั้นไอเฟย์  เพื่อนผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง  มันชอบกระซิบกระซาบกับกลุ่มเพื่อนแล้วมองมาทางผมกับไอเบด้วยนัยน์ตาหวานเยิ้ม  ด้วยความที่มันน่ารักพวกผมเลยยิ้มกลับไปให้  บวกกับความคิดที่ว่าไม่ผมก็มันนั่นแหละที่ไอเฟย์ชอบ  แต่แล้วความจริงก็ปรากฏ  เมื่อไอเฟย์มันเดินมาขอถ่ายรูปคู่ผมกับไอเบแล้วบอกว่าขอเอาไปลงเพจคู่รักเกย์นะ  ตอนนั้นพวกผมสตั๊นไปประมาณสามวิ  ก่อนจะหันมามองหน้ากันแล้วเบือนหน้าหนีไปคนละทาง

   
       ‘เฟย์ว่าอะไรนะครับ’  ผมถามเฟย์กลับอย่างไม่ค่อยอยากจะยอมรับความจริงเท่าไหร่  ความจริงที่ว่า  มันไม่ได้ชอบผมหรือไอเบ  แต่มันชอบที่พวกผมอยู่ด้วยกัน

   
       ‘เราบอกว่า  ขอเอารูปไปลงเพจคู่รักเกย์ได้ไหม?  ถ้ามิวไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะแต่เราขอเอาไปให้แก๊งค์สาววายของเราดูได้ไหม  สัญญาจะไม่เอาไปเผยแพร่ที่ไหน’   เฟย์พูดพร้อมกับชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว  เหมือนบอกว่าเธอจะทำตามอย่างที่พูดแน่นอน

   
       ‘เอ่อ..  สาวอะไรนะ’  ไอเบถามคำถามที่ผมเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน   ชื่อแก๊งค์หรอวะ  หรืออะไร  แล้วทำไมต้องเอารูปพวกผมไปดูกันด้วยล่ะ
   

       ‘สาววายไง  เบไม่รู้จักหรอ  เป็นพวกผู้หญิงที่ชอบเกย์น่ะ’


       ‘เอ่อ..  ชอบแบบสนใจอะไรอย่างงี้น่ะหรอ’  ผมถามขึ้นมาบ้าง


       เฟย์ยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะตอบมาว่า


       ‘เปล่าหรอก  พวกเราชอบเห็นผู้ชายรักกันน่ะ   แล้วมิวกับเบคบกันมานานรึยังล่ะ  สังคมสมัยนี้มันเปิดกว้างแล้วนะ  เป็นเกย์ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายหอก  ถ้ามีใครมาว่าอะไรแกบอกพวกเราเลยนะ  เราจะไปจัดการให้เอง’  เฟย์พูดพร้อมชูกำปั้นมาข้างหน้า 


       ‘เราไม่ได้เป็นแฟนไอเบมัน  เฟย์พูดอะไรเนี่ยเราขนลุกไปหมดแล้ว’  ผมที่ตั้งสติได้ก่อนไอเบรีบตอบออกไปพร้อมเอามือลูบแขนตัวเองไปด้วย   


       ‘อ้าว  ก็เราเห็นเบกับมิวตัวติดกันตลอดเลย  แล้วก็นะ....’  เฟย์ยิ้มแล้วก็บิดตัวไปมาอย่างเขินอาย  ก่อนจะพูดต่อ


       ‘เบก็หล่อซะขนาดนี้  แถมมิวก็น่ารักน่าทะนุถนอมอีก  งือออ  เราเขินจะแย่เวลาที่พวกแกสกินชิพกัน  อยากจะกรี๊ดอยู่บ่อยๆ
ว่าแต่พวกแกไม่สนใจจะเป็นแฟนกันจริงๆหรอ  บางทีแกอาจจะรักกันอยู่แต่ไม่รู้ตัวก็ได้น้า~~’  เฟย์ยืนเอานิ้วจิ้มๆกันแล้วบิดตัวไปมา

   ‘พอเถอะว่ะ  จะอ้วกอะ  กูกับไอมิวเนี่ยนะ  แหวะ!’  ไอเบพูดพร้อมกับทำท่าจะอ้วก

   
       ‘กูก้ไม่เอามึงหรอก  นี่หล่อแล้วหรอวะ  ถ้ากูจะมีผัวก็ขอที่ดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้หน่อยได้ไหมวะ’ คนอื่นชอบมองว่าผมน่ารัก น่าทะนุถนอม  อย่างที่เฟย์บอกนั่นแหละครับ  เพราะฉะนั้นอย่าหวังว่าผู้ชายที่ไหนจะมายอมให้ผมกดเลย  มีแต่จ้องจะเอามากกว่า  แม่ง!พูดแล้วขึ้น

   
       ‘เชอะ!  แล้วอย่าให้เห็นนะว่ามาแอบคบกันทีหลัง  เราจะเอารูปไปแปะให้รู้กันทั่วคณะเลยคอยดู’ 

   เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละครับ  มันล้อจนพวกผมเบื่อที่จะรังเกียจกันแล้ว  เลยปล่อยเลยตามเลย  อยากล้อก็ล้อไปยังไงผมกับมันก็ไม่ได้กันอยู่แล้ว





~Rrrr~~

   
       “ ฮัลโหล ”  ผมรับสายไอเบ


   
       “ กูถึงหน้าหอมึงและ  ลงมาเลย ”  ผมกดวางสาย  หยิบกระเป๋าตังค์  คีย์การ์ด และโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง  ก่อนจะเดินลงไปหามัน

   



       พวกผมใช้เวลาประมาณสิบนาทีก็มาถึงร้านเมาคลี  หาที่จอดรถได้แล้วก็เดินเข้าร้าน  พวกเพื่อนผมหาตัวได้ไม่ยากครับ  เดินเข้าไปก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สิบกว่าชีวิตนั่งมั่วสุมกันอยู่  เสียงโหวกเหวกโวยวายจากโต๊ะพวกมันดังไปทั่วทั้งร้าน  ผมนั่งลงตรงที่ว่างบนโซฟาข้างๆไอทิว  ส่วนไอเบก็เดินไปนั่งข้างไอฟาร์  กลุ่มผมที่เรียนที่นี่มีกันอยู่  4 คนครับ  คือ  ผม  ไอเบ  ไอทิว  แล้วก็ไอฟาร์     ไอทิวเรียนนิติส่วนไอฟาร์เรียนวิศวะ


   
       “ พี่ไม่ดื่มหน่อยหรอครับ    พวกผมทำให้รำคาญรึเปล่า ”  ไอฟาร์ที่นั่งอยู่โซฟาตรงข้าม  ถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆผมอีกที
   
       ผมหันไปมองข้างตัวทันที  ตอนแรกนึกว่าเพื่อน  เพราะงานนี้พวกผมไม่ได้ชวนรุ่นพี่ปีอื่นมา  ก่อนจะพบว่าคนทางขวามือผมคือพี่เนม  รุ่นพี่วิศวะปี 3  ผัวในอุดมคติของไอเฟย์มัน   มันบอกว่าพี่เค้าเป็นแบบหล่อด้วยสวยด้วย  อารมณ์เหมือนเทพบุตรที่หล่อแบบงดงามอะไรประมาณนั้นน่ะครับ   ผมฟังมันเพ้อจนเบื่อ


   “ เปล่า  ไม่ได้รำคาญ  แค่ง่วง ”  คนข้างตัวผมตอบไอฟาร์


   
       “ แล้วพี่ไม่กลับไปนอนล่ะครับ  ไอพวกนี้มันเสียงดังกันจะตาย ”


   
       “ ไอมอสมันยืมห้องกินเหล้ากัน  กูรำคาญพวกมันเลยออกมานี่แทน ”


   
       “ รำคาญพวกพี่มอสหรือพี่เบลล่ะครับ  หึๆๆ ”


   
       “ มึงก็รู้  ยังจะถาม ”  พี่เนมตอบอย่างเซ็งๆ


   
       “ แล้วทำไมถึงไปห้องพี่กันล่ะครับ  ทำไมไม่กินที่ห้องพี่มอส ”


   
       “ เมียมันพาเพื่อนมาที่ห้อง  มันเลยมาขอใช้ห้องกู ”


   
       “  พี่เบลเป็นคนเสนอสินะครับ ฮ่าๆๆ ”  คนข้างๆผมถอนหายใจแล้วทิ้งตัวพิงโซฟา


   
       “ กูง่วงอะ ”  พี่เนมบ่นเบาๆ


   



       “ น้องมิวจ๊ะ  น้องมิวจ๋า~~ ”  หลังจากที่ผมกินเหล้าไปได้ไม่กี่แก้ว  เสียงเพื่อนในคณะที่เดินโงนเงนถือแก้วมามาทางผมก็ดังขึ้น


   
       “  พี่ทัตอยากได้ขนมนมเนยมากินกับเหล้ากับเบียร์  เพื่อเพิ่มสารอาหารหน่อยน่ะจ่ะ ”  สารอาหารบ้านพ่อมึงแดกกับเหล้ากับเบียร์หรอไอสัด  ผมได้แต่มองหน้ามันอย่างระอา


   
      “  เออๆๆ  เดี๋ยวกูไปเซเว่นแปป  มีใครจะไปปะ ”  ผมลุกขึ้นยืน  แล้วหันไปถามเพื่อนๆ


   
       “ เดี๋ยวกูไปกับมึงเอง ”  ไอทิวลุกขึ้น  ก่อนจะจับมือผมพาเดินออกไปหน้าร้าน

   

       ผมเลือกพวกขนมและก็ถั่วที่พวกมันชอบกินกันใส่ตะกร้าในมือ  ส่วนไอทิวยืนสูบบุหรี่รออยู่หน้าเซเว่น  ที่มันใช้ให้ผมมาสาเหตุนึงก็เพราะผมรู้ใจพวกมัน  รู้ว่าใครชอบอะไรไม่ชอบอะไร  ผมชอบสังเกตความรู้สึกคนอื่นน่ะครับ  ผมไม่ชอบเวลาที่ตัวเองทำให้ใครไม่พอใจเท่าไหร่  เวลาทะเลาะกันมันต่อติดยากน่ะครับเพราะผมเป็นพวกไม่ชอบตื๊อใคร  เรื่องเดินตามง้อต้อยๆนี่ตัดไปได้เลย  ถ้าผมผิดจริงผมก็ขอโทษส่วนจะให้อภัยหรือไม่นั้น  ผมให้เวลาตัดสินใจเสมอ  ถ้ายังไม่อยากคุยกับผม ผมก็ไม่คุยด้วย แค่นั้น  แต่ถ้าผมไม่ผิดอย่าหวังว่าจะได้ยินคำขอโทษที่ไม่มีสาเหตุออกจากปากผม  ต่อให้โกรธผมเป็นปีๆ ผมก็ไม่ขอโทษหรอก  ก็ผมไม่ผิดนี่  เผลอๆอาจจะโดนผมโกรธกลับก็ได้นะครับ  หึๆๆ

   
       ผมเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์โดยไม่ลืมที่จะหยิบนมรสสตรอเบอรี่ติดมือไปด้วย  ไอทิวดับบุหรี่ตอนที่ผมเดินออกไปพอดี  ผมไม่ชอบควันบุหรี่น่ะครับ  มันทำให้ผมหายใจไม่ค่อยออก  เรื่องนั้นเพื่อนในกลุ่มผมรู้กันดี  เพื่อนที่คณะบางคนก็รู้นะครับ  แต่มันก็ยังพ่นควันใส่หน้าผมอยู่บ่อยๆ  มันบอกว่าแกล้งผมแล้วสนุกดี  เพราะผมโกรธยาก  แต่ถ้าอารมณ์อยากจะโกรธเมื่อไหร่แค่แตะตัวผมเบาๆ  ผมก็โกรธแล้วครับ  ซึ่งเพื่อนในกลุ่มผมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้มีโมเมนต์นั้นเกิดขึ้น  ส่วนเพื่อนๆในคณะยังไม่เคยมีใครได้เห็นผมตอนโกรธเลยซักคน


   

       ผมเดินเอาขนมไปแจกให้พวกเพื่อนๆที่เริ่มเลื้อยกันแล้ว  มีปกติอยู่แค่ไม่กี่คน  พวกมันไม่ได้คออ่อนกันซักเท่าไหร่หรอกครับ  แต่ที่เมาเละจนเป็นแบบนี้  ก็เพราะแดกกันอย่างกับอาบ  เหล้าเบียร์นี่ผสมกันมั่วไปหมด    ท้ากัน แข่งกันบ้าง เพื่อความบันเทิง  และเหตุผลสำคัญอีกอย่างคือต้องการปลดปล่อยตัวเองออกจากงานที่มันเครียดๆนั่นแหละครับ


   “ น้องมิวยังรู้ใจพี่เหมือนเดิม  ไหนมาหอมหน่อยสิ~~~~ ”  ไอซีที่เมาไม่รู้เรื่องพยายามตะเกียกตะกายมาหาผม  โดยมีไอเบจับไว้อยู่


   
       “ อะไรอะเบ  แค่นี้ทำหวง  ไหนบอกไม่ใช่เมียๆ  ทำไมต้องมาหลอกพวกกูด้วยล่ะ  ฮีก  ฮึกๆ ”  แล้วมันก็เริ่มเป่าปี่  น้ำหูน้ำตานี่ไหลเยิ้มอย่างกับเขื่อนแตก  ไอนี่แม่งแอคติ้งดีจริงๆ  เดือดร้อนไอเบต้องคอยปลอบมันอีก


   
       ผมเดินกลับมานั่งที่เดิมโดยไม่ลืมที่จะเอานมวางไว้ตรงหน้าคนข้างๆ  พี่เนมหันมามองผมอย่าง งงๆ


   
       “ ผมให้ ”  ผมหันไปบอกคนตัวสูง  แล้วหยิบแก้วขึ้นมาจรดริมฝีปาก


   
       “ ขอบคุณครับ ”  ผมยิ้มนิดๆก่อนจะเทเหล้าเข้าปากไป


   ก็บอกแล้วไงว่าผมน่ะ  ‘ใจดี’





*******************************************************************************************

        สวัสดีค่าา  เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกของเราเอง  ใครมีคำแนะนำหรือความคิดเห็นใดๆเม้นบอกเราได้เลยนะ  ยังไงก็ขอฝากพี่เนมกับน้องมิวไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ  แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' Intro+รักที่1 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 10-12-2016 19:53:41
 :really2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 10-12-2016 20:39:09
ตอนแรกๆกินนมกล่องไปก่อนแต่ถ้าลงเอยกันเมื่อไหร่ต้องนมสดจากเต้าเท่านั้นนะ :-[555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-12-2016 21:25:25
ไรท์ ไม่เติมไม้โท ที่คำว่า "ไอ" เหรอ
มันเลยขัดๆ นะ คำถูกต้องเป็น ไอ้พี่เนม อย่างนี่ไง
รักไม่นิ่งหรอ
รักไปเรื่อยๆ เปลี่ยนคนรักบ่อยๆ
หรือรักไม่ราบเรียบ
แบบเดี่ยวรักกัน เดี๋ยวโกรธกัน
รอ นะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 10-12-2016 23:54:18
มิวน่ารักแฮะ ชอบคนนิสัยแบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 11-12-2016 00:22:53
ใจดีเป็นพิเศษกับพี่เนมสินะ :)
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 11-12-2016 09:23:55
ชอบนิสัยอ่ะ  555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2016 11:20:05
ติดตาม
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่3 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 11-12-2016 15:06:40
Chapter 3



    หลังจากหมดช่วงมิดเทอมไปก็เรียนกันต่อเลยครับ  ความเครียดที่ผ่านมานี่แค่น้ำจิ้มของจริงเจอได้ที่ไฟนอล   คณะผมส่วนใหญ่แล้วจะสอนกันได้ไม่มากหรอกครับ   เนื่องจากมันเป็นเรื่องของดีไซน์   เซนส์ใครเซนส์มัน   ความคิดใครความคิดมัน 


     ภาควิชาที่ผมเรียนคือออกแบบผลิตภัณฑ์ครับ  ไม่ใช่พวกสถาปัตย์หลักหรือว่าภายใน หลายคนคงงงว่า  แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ในคณะนี้  คือมันเป็นแบบนี้ สถาปนิกสร้างบ้านใช่ไหมครับ มัณฑนากรก็ตกแต่งภายในไป  แล้วของที่นำมาใช้มันก็มาจากพวกผมนี่แหละครับ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ วอลเปเปอร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เป็นงานหลักๆของพวกผมเลยครับ   ส่วนงานรองๆที่เด็กในคณะนี้สามารถทำได้ก็คืองานดีไซน์  ดีไซน์อะไรก็ได้ครับ  กราฟฟิก นิทรรศการ  หรือแม้แต่การถ่ายภาพ   อาจจะไม่ได้เก่งเท่าพวกนิเทศน์ที่เรียนมาเฉพาะทาง  แต่ตอนพรีเซนท์งานพวกผมก็ต้องใช้มันเป็นตัวสื่อออกมาให้อาจารย์เห็น  และผมก็คิดว่าตัวเองเลือกคณะไม่ผิด  ถึงจะมีเครียดไปบ้างตอนที่คิดงานไม่ออก ไอเดียไม่มา  แต่ถ้าผมไม่ได้เลือกเรียนคณะนี้คงเสียดายน่าดู



     “ มิว  ไอ้ฟาร์ชวนไปกินข้าวคณะมัน ”  เบบอกผมตอนเลิกคลาส



     “ เออ ไปดิ วันนี้กูอยากกินสเต็ก ”



     เนื่องจากวิศวะกับสถาปัตย์มันอยู่ใกล้กัน   วันไหนที่ว่างตรงกันพวกผมก็จะนัดมากินข้าวด้วยกันแบบนี้แหละครับ  แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกเพราะผมกับเบเลิกไม่เป็นเวลา   เดี๋ยวตรวจแบบ   เดี๋ยวพรีเซ้นท์งาน   ลากยาวกันหลายชั่วโมง   ช่วงที่เริ่มเนื้อหาใหม่เนี่ยแหละครับโอกาสทอง   อาหารตกถึงท้องตรงตามเวลา







     “ โอ้โห  น่ารักจังเลยอะนายคนนั้น  สนใจไปกินข้าวกับพวกผมมั้ยครับ  ฮิ้วววว~~~~ ”   



     ‘ ไอ้พวกเหี้ย ’  ผมได้แต่สบถในใจ



     พวกเด็กโยธานั่งเกาะกลุ่มแซวคนโน้นคนนี้อยู่หน้าตึก  ที่ผมรู้ว่ามันเรียนโยธาก็เพราะว่าบนตึกมันเขียนเอาไว้ว่าภาควิชาโยธา   แต่ถึง ไม่ได้เขียนเอาไว้คนแถวนี้เค้าก็รู้กันดีว่าภาคที่ขี้แซวที่สุดในคณะวิศวะแห่งนี้คือภาควิชาโยธา   ผมเดินแยกจากไอ้เบตอนลงจากตึกเรียนมา เพราะต้องมาเอางานที่สั่งปริ้นไว้ที่ร้านหน้าภาคโยธา   ไอ้เบที่หิวมากจึงขอตัวไปก่อน   ทำให้ผมต้องมารับกรรมคนเดียวแบบนี้   ผมกระชับงานในมือแล้วรีบเดินเร็วๆ



     “ นายๆเพื่อนเราชอบ  ขอไลน์หน่อยได้เปล่า ”   ผู้ชายหน้าหนวดคนนึงเดินมาขวางทางผมไว้



     “ เอ่อ  ผมไม่เล่นไลน์ ”   ปฏิเสธอะไรได้ก็ต้องปฏิเสธไปก่อนล่ะครับ



     “ งั้นเบอร์ก็ได้   อ๊ะๆ  อย่าบอกว่าไม่มีโทรศัพท์นะครับเพราะผมเห็นมันอยู่ในกระเป๋าเสื้อคุณ ”  ไอ้ชิบหาย  จะมาสังเกตอะไรกูนักหนา   เอาไงดีวะ  วิ่งหนีก็คงไม่ทันมัน ขาสั้นซะขนาดนี้  เตะมันให้พ้นๆทางก็ไม่ได้อีก เดี๋ยวมันเตะกลับแล้วผมจะซวย   นี่ยังไม่รวมพวกที่นั่งมองผมอยู่ตรงบันไดตึกอีกเพียบนะ



     “ มานั่งแซวอะไรใครกันอีกล่ะพวกมึง ”   เสียงดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท  แต่ผมไม่สนใจหรอก  ตอนนี้ขอหาทางเอาตัวรอดก่อน แล้วไอ้เหี้ยหนวดนี่จะยืนกดดันกูอีกนานไหม



     “ ว่าไงครับ  เบอร์อะไร  เพื่อนผมรออยู่นะ ”   โอ้ยยย   ไม่ต้องมายิ้มเลย   หน้าตาแบบนั้นยิ้มทีเหมือนพวกโจรที่มันคิดอะไรชั่วๆอยู่ในใจตลอดเวลาน่ะ


     “ ขอเบอร์ใครวะไอ้บอล  ให้เพื่อนกูขอให้เอาไหม ฮ่าๆๆ ”   เสียงติดตลกตะโกนมา



     “ เอาดิพี่  ไอ้นิคมันอยากได้ แต่แม่งปอด มองมานานละคนเนี้ย ”   ไอ้หน้าหนวดตะโกนกลับไป 


 
     “ มึงก็ไปช่วยน้องมันหน่อย  เสร็จแล้วจะปล่อยไปกินข้าวเลยเนี่ย ”  เสียงพูดคุยจากคนที่ยืนหน้าตึกดังแว่วมา  ผมมองไม่เห็นพวกเขาหรอกครับ  เพราะไอ้หนวดนี่มันยืนบังผมซะมิด 



     ผู้ชายตัวสูงเดินเข้ามาหาผม  พอเงยหน้าขึ้นไปก็อดดีใจไม่ได้   นี่มันพี่เนมหนิ   พี่เขาต้องช่วยผมแน่ๆ   เขาจำผมได้แน่นอนเพราะว่าเขาชะงักไปนิดนึงตอนที่เราสบตากัน   ผมได้แต่ส่งสายตาอ้อนวอนไปหาคนตรงหน้า  ช่วยผมทีเถอะ ผมหิว ฮืออออ



     “ เบอร์อะไร ” คนตัวสูงเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าผมในระยะประชิด



     “ ห้ะ? ”  ผมได้แต่ยืนงง   นึกว่าคนตรงหน้าจะช่วยผมออกจากสถานการณ์บ้าๆนี่   แต่ทำไมนัยน์ตาเขาดูสนุกเหมือนคนอื่นๆที่ยืนลุ้นกันอยู่



     “ ขอเบอร์หน่อยได้ไหมครับ ”   คนตัวสูงก้มลงมากระซิบข้างใบหู   ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปตามเดิม  ผมมองค้อนเขาไปทีนึง   แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้สึกอะไร  ผมโกรธ  ทำไมเขาไม่ช่วยผม  คิดว่ามันสนุกมากนักรึไงที่ผมต้องมาโดนขอเบอร์เป็นสาวน้อยแบบเนี้ย



     คนตรงหน้ายื่นโทรศัพท์ที่หยิบจากกระเป๋ากางเกงมาตรงหน้าผม  ผมรับมาแล้วกดเบอร์ไปมั่วๆทันที  ผมอยากจะออกไปจากตรงนี้จะแย่อยู่แล้ว



     “ อย่ามั่วสิครับ  คิดว่าพี่หาเบอร์จริงๆของเรายากนักรึไง ”  คนตัวสูงยืนกอดอกอมยิ้มน้อยๆ   ให้ตายเถอะ  ไอ้หน้านิ่งๆก่อนหน้านี้มันหายไปไหนวะ  มันคือคาแรคเตอร์ที่ผมจดจำเขามาโดยตลอด  ใบหน้านิ่งๆที่ไม่ทำให้ผมรู้สึกอยากจะต่อยคนตรงหน้าแบบนี้  เอามันกลับมาทีได้ไหม



     ผมกดเบอร์โทรจริงๆของผมลงไป  ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้เขาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง  เขารับมันกลับไปก่อนจะเก็บเข้ากางเกงตัวเอง  แล้วหันไปหาเพื่อน  ผมเดินหนีออกมาทันที



     “ กูไปกินข้าวได้แล้วใช่มะ ”



     “ เหยดดด  คนหล่อขออะไรก็ได้หวะ  ฮ่าๆๆ  ก่อนไปก็เอาเบอร์ให้น้องมันด้วยละกัน ”



     “ กูบอกว่าจะขอ  แต่ไม่ได้บอกว่าจะให้ ”








     ผมเดินเข้าไปหาไอ้เบกับไอ้ฟาร์ที่นั่งอยู่หน้าร้านข้าวมันไก่ในโรงอาหารด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง



     “ หน้านิ่งเชียวไอ้เหี้ย  ไปโกรธใครมา ”   ไอ้ฟาร์ถามผมที่นั่งลงตรงข้ามมัน  บนโต๊ะนอกจากจะมีไอ้เบกับไอ้ฟาร์แล้ว  ยังมีเพื่อนไอ้ฟาร์นั่งอยู่อีกสองสามคน



     “ อ้าวพี่เนม  จะนั่งกับพวกผมหรอ ”  ไอ้ฟาร์เงยหน้าไปคุยกับคนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่ด้านหลัง



     “ อืม กูนั่งด้วย ”



     ผมเคยบอกรึยังครับว่าเวลาผมโกรธ  ผมจะ 'นิ่ง'



     ผมลุกไปซื้อสเต็กก่อนจะเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ  พร้อมกับคนตัวสูงที่เดินถือจานข้าวกลับมาพอดี



     “ ตกลงเป็นอะไรครับเพื่อนมิว  ใครทำอะไรบอกกูได้ ”  ไอ้ฟาร์ยังทำหน้าที่ซักถามผมต่อไป  ส่วนไอ้เบกำลังตักน้ำแข็งใสเข้าปาก  แต่ตาจ้องมาที่ผมเหมือนไอ้ฟาร์ไม่มีผิด



     “ เพื่อนมึงโดนพวกไอ้บอลขอเบอร์น่ะ ” คนที่นั่งข้างๆผมตอบแทน  เมื่อเห็นว่าผมเอาแต่เงียบ



     “ อ่า...  แต่มึงก็โดนขอบ่อยอยู่แล้วป่าววะ หรือว่าครั้งนี้มันทำอะไรมึง ” ผมนั่งกินสเต็กต่อไป   ไม่ได้สนใจที่จะตอบมัน  มันเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปหาคนข้างๆผมแทน



     “ พวกไอ้บอลมันทำอะไรเพื่อนผมรึเปล่าพี่ ”



     “ เปล่านี่ ”   เมื่อไม่ได้คำตอบ  ไอ้ฟาร์กับไอ้เบก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างงงๆ







     ผมกินเสร็จก็ลุกเอาจานไปเก็บ   ก่อนจะเดินกลับมาเอางานที่วางไว้บนโต๊ะ  โดยไม่สนใจสายตาของใครบางคนที่มองตามผมอยู่ตลอดเวลา



     “ กูกลับละ ”  ผมบอกไอ้ฟาร์กับไอ้เบที่ยังนั่งกินขนมกันอยู่



     “ อ้าว  ไม่กินหนมกับพวกกูก่อนหรอวะ ”  ไอ้เบถาม   ปกติแล้วเวลาพวกผมกินข้าวเสร็จจะซื้อขนมมากินกันต่อ   มันเป็นนิสัยที่ติดมาตั้งแต่ตอนอยู่ที่โรงเรียนน่ะครับ



     “ ไม่อะ  จะกลับไปนอน ”



     “ เอ้า  ก็ไม่ได้โกรธอะไรกูนี่หว่า ”  เสียงไอ้เบกระซิบกันกับไอ้ฟาร์   สิ่งที่พวกมันรู้คือ   ถ้าผมตอบคำถามใครแสดงว่าผมไม่ได้โกรธคนนั้น



     “ แล้วจะกลับยังไง ”   เสียงคนที่ผมไม่ยอมมองหน้าเอ่ยถาม



     ผมหมุนตัวเดินออกจากโรงอาหาร  ไปเอาฟีโน่ที่จอดไว้หน้าตึกเรียนแล้วกลับหอทันที



     ไลน์เด้งขึ้นมาขณะที่ผมกำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง


     Phar  ::  มึงโกรธอะไรพี่เนม




********************************************************************************************
   
     โดนน้องมิวโกรธแล้วนะคะพี่เนม  รู้ตัวรึยังเอ่ย? 555555

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์และคำแนะนำนะคะ  เราจะปรับปรุงแก้ไขให้  ยังไงก็เม้นท์พูดคุยให้กำลังใจกันได้เหมือนเดิมเนอะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่3 (11/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 11-12-2016 15:53:42
พี่เนมแกล้งน้องมิวหรอ???? หรือตัังใจอยากได้เบอร์น้องจริงๆคะ แล้วตอนนี้โดนน้องโกรธแบบยังไม่รู้ตัวอีก 555+

มาต่ออีกๆๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่3 (11/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2016 17:00:11
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 11-12-2016 17:42:28
อ่านเเล้วนึกถึงม.ตัวเองเลย วิดวะมี7-11สองที่อันเปิดใหม่ใหญ่มาก แต่ก็อยู่ใกล้ถาปัตนะ
แต่ร้านปริ้นมี4อะ 3ที่ใต้โรงอาหาร อีก1ที่ตึกภาค นิยังไม่นับอีกฝั่งของวิดวะนะ 55555

ใกล้เคียงเวอร์ ร้านเหล้าปิดไปหลายแห่ง 55555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' รักที่2 (10/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-12-2016 18:17:50
พี่เนมทำน้องโกรธเลย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่3 (11/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 11-12-2016 21:31:39
รีบง้อเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่3 (11/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 11-12-2016 21:55:06
มาลงชื่อรอลุ้นพี่เนมกะน้องมิวค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่3 (11/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-12-2016 22:51:53
พี่เนม ช่วยมิวนะ
เบอร์โทรของมิว พี่เนมเก็บไว้เอง
มิว เลิกโกรธพี่เนมเถอะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 12-12-2016 12:00:57
Chapter4





    “ กูคิง! ”  เสียงไอ้ซีตะโกนดังลั่นสตู

     
     เช้านี้อาจารย์ยกคลาสครับ  แต่ที่พวกผมมากันเยอะแยะขนาดนี้ก็เพราะอาจารย์แกเพิ่งจะมาบอกเอาตอนสายๆ  พวกผมที่มีเรียนวิชานอกคณะต่อในตอนบ่ายเลยหาอะไรเล่นฆ่าเวลากัน  อุปกรณ์ในการละเล่นของพวกผมที่ต้องมีติดสตูอย่างขาดไม่ได้เลยก็คือไพ่  และเกมที่เอามาเล่นกันวันนี้ก็คือเกมพระราชา  เป็นเกมที่จะให้หยิบไพ่ขึ้นมาคนละหนึ่งใบ  คนที่ได้ไพ่คิงก็จะสามารถสั่งให้ใครทำอะไรก็ได้ตามเลขไพ่ที่ถืออยู่ในมือ  ตอนนี้ผม เบ ทัต เต้ มิน และก็นัท กำลังลุ้นจนเยี่ยวเหนียว ว่าคนพิเรนทร์ๆอย่างไอ้ซีที่มันถือไพ่คิงอยู่ในมือจะใช้อำนาจที่มีสั่งให้ใครทำอะไร


     พวกผมตั้งวงเล่นกันอยู่ 7 คน  เพื่อนคนอื่นไม่มีใครอยากเล่นด้วยหรอกครับ  มันตั้งใจรอดูอย่างเดียวเลย  มันบอกว่าพวกผมเปรียบเสมือนเจ็ดประจัญบาน  กล้าได้  กล้าเสีย กล้าขายขี้หน้าตาย   ส่วนพวกมันเป็นเพียงชาวบ้านที่คอยหัวเราะเยาะพวกผมก็เท่านั้น



     “ กูขอสั่งให้เบอร์สอง  จูบตีนเบอร์ห้า  ปฏิบัติ!! ”  สิ้นเสียงไอ้ซีผมได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก  เพราะไพ่ในมือผมคือเบอร์เจ็ด



     “ ไอเหี้ยยยยย  ใครเบอร์ห้า ”  ไอ้เบที่นั่งข้างผมว้ากขึ้นมาทันที  ฮ่าๆๆ  แม่งคือไอ้เบอร์สองชัวร์



     “ อย่าบอกว่าเป็นมึงนะ ไอ้เต้ ”  ไอ้เบมองหน้าไอ้เต้อย่างไม่เก็บซ่อนความรังเกียจใดๆ  ไอ้เต้ยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะตอบ



     “ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเป็นกูอยู่แล้วสิจ๊ะน้องเบ ”



     “ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ”  พวกผมฮาลั่น  ขำหน้าไอ้เบมากครับ มันทำหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ คือเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เท้าเนี้ย  เต้มันขึ้นชื่อลือชามากครับ  มันเคยไปทำงานที่หอผม  เอาซันไลมาล้างตีนกลิ่นก็ยังไม่จางหายไปเลยครับ  ผมยังจำฝังใจอยู่จนทุกวันนี้  เพราะมันทำให้ห้องผมเหม็นกลิ่นตีนไปเกือบอาทิตย์



     “ ไอ้ซี  มึงเปลี่ยนคำสั่งเดี๋ยวนี้!!  พวกมึงแอบเตี๊ยมกันมาใช่ไหม ”  ไอ้เบหันไปโวยวายใส่ไอ้ซี  แล้วชี้หน้ามันกับไอ้เต้สลับกันไปมา



     “ อะไรครับคุณเบ  ผมไม่ได้เตี๊ยมอะไรกันทั้งนั้นแหละ  วันนี้เป็นวันที่ฟ้าลิขิตแล้วว่าคุณเบจะได้พบรักแท้ ”



     “ ฮ่าๆๆๆๆ ”  พวกผมและชาวบ้านฮาลั่น หลังจากที่ฟังไอ้ซีตอบกลับไอ้เบ



     “ เร็วครับน้องเบ  รักแท้รออยู่ ”  ไอ้เต้เร่ง พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาจ่อหน้าไอ้เบ   อื้อหือ ขนาดผมที่นั่งข้างไอ้เบยังเหม็นจนแทบอ้วกขนาดนี้  แล้วคนที่โดนตีนจ่อจมูกอยู่ตอนนี้  อาการมันจะน่าเป็นห่วงขนาดไหน


     ไอเบที่โดนเพื่อนกดดันกันทั้งสตู กลั้นใจ ยื่นปากไปแตะที่กลางฝ่าเท้าของไอ้เต้หนึ่งที  ก่อนจะรีบปัดเท้ามันลงพื้นอย่างรวดเร็ว  พร้อมกับเสียงหัวเราะของพวกผม  สงสารมันเหมือนกันนะครับเนี่ย  ว่าแต่ใช่รักแท้ของมึงรึเปล่าวะเพื่อน  ฮ่าๆๆๆ




     “ กูคิง อิอิ ”  หลังจากที่ฮาน้ำหูน้ำตาไหลกันได้สักพัก  ก็เริ่มตาใหม่กัน  โดยคราวนี้ไอ้นัทได้เป็นคิง



     “ เบอร์เจ็ดจุ๊บปากเบอร์หกสามที  ปฏิบัติ!! ”  ผมว่าแล้วว  อย่างไอ้นัทมันไม่พ้นเรื่องแบบนี้หรอกครับ  เรื่องลามกจกเปรตเพศสัมพันธ์นี่ยกให้มันได้เลย  เป็นพวกชื่นชอบสกินชิพและสกินเพียวน่ะครับ  เนื้อหนังมังสาบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้การปกปิดใดๆนี่มันชอบมาก



     “ หึหึ  ไหนใครเบอร์หก มารับรักแท้ไปจากกูซะดีๆ ”  พวกผมฮากันอีกรอบเมื่อเป็นไอ้เบที่ได้ไพ่เบอร์เจ็ด



     “ กะ กะ...กู ”  ไอ้ซีพูดตะกุกตะกัก   ไม่ต้องกังวลไปหรอกเพื่อน  กลิ่นตีนไอ้เต้ยังติดอยู่ที่ปากไอ้เบอย่างแน่นอนผมรับประกัน



     “ หึหึ  วันนี้เป็นวันที่ฟ้าลิขิตแล้วว่าคุณซีจะได้พบรักแท้ต่อจากผม ”  ไอ้เบเลียนแบบคำพูดของไอ้ซีเมื่อตาที่แล้ว  พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย 

     มันเดินไปนั่งลงข้างหลังไอ้ซีที่ตอนนี้ตัวแข็งทื่อ  ไอ้เบนั่งหันออกไปนอกวง  เท้าแขนไว้กับพื้นแล้วยื่นหน้าเข้ามาอยู่ตรงหน้าไอ้ซี ตอนนี้คนที่เห็นหน้ามันเลยมีแค่ไอ้ซีคนเดียวเพราะพวกชาวบ้านยืนกันอยู่อีกฝั่ง



     “ จุ้บ!! ”  ไอ้เบจุ้บปากไอ้ซีเสียงดัง  เสียงโห่แซวดังไปทั่วทั้งสตู



     “ จุ้บ!!  จุ้บ!! ”  ไอ้เบเดินกลับมานั่งที่  ส่วนไอ้ซีนี่ช็อคตาค้างไปแล้วครับ  หน้ามันนี่แดงสุดๆ เหงื่อมันก็ออก  สงสัยจะพบรักแท้จากกลิ่นตีนไอเต้ ฮ่าๆๆ


     พอแซวกันจนหนำใจก็เริ่มตาต่อไปกัน   ผมเบิกตาขึ้นเมื่อไอ้เต้ที่จับได้คิงมันสั่งให้เบอร์ห้าวาดหน้าแมวให้เบอร์เก้า  ซึ่งไพ่ในมือผมเนี่ยมันเสือกเป็นเบอร์เก้า  และยิ่งไปกว่านั้นไอ้คนที่ได้เบอร์ห้าก็คือไอ้ทัต  บุคคลที่ขี้แกล้งที่สุดในโลก



     “ น้องมิวจ๋า  คืองี้นะ  ตานี้อะไอ้เต้มันได้เป็นคิง  แล้วมันก็สั่งให้เบอร์ห้าซึ่งก็คือกูเนี่ย  วาดหน้าแมวให้เบอร์เก้า  คือกูชอบแมวไง  กูรักแมวอยู่แล้ว  วาดวงกลมรอบตา  มีหนวด  มีจมูก ลากมาปาก  มันไม่ใช่เรื่องยาก  ศิลปะระดับกู  อิอิ ”  ไอ้ทัตพูดพร้อมทำท่าทางประกอบเมื่อเห็นว่าผมเอาแต่อ้าปากค้าง



     “ หื้ออ ไอทัตตต ไม่เอาาาา มันล้างยากก ไอเหี้ยย อื้อออ!! ”  มันยื่นมือมาปิดปากผมที่ร้องโวยวาย  แล้วจัดการเอาปากกาตราม้าสีแดงมาวาดลงบนหน้าผม  ผมที่หยุดนิ่งไปแล้วเพราะกลัวว่าถ้ายิ่งดิ้นมันจะยิ่งเลอะ  สู้อยู่นิ่งๆให้มันวาดดีกว่า  ก็ไอ้ปากกาเหี้ยนี่มันล้างออกง่ายซะที่ไหนกันล่ะ



     “ งื้ออ!!!  น่าร้ากกกกก~~~ ”  มันวาดเสร็จก็ดึงแก้มผมยืดออกทั้งสองข้าง  พร้อมพูดจาด้วยน้ำเสียงยียวนกวนส้นตีน



     “ ปล่อยเลยไอ้เหี้ย ”  ผมปัดมือมันทิ้งแล้วหันไปมองค้อนพวกชาวบ้านที่เอาแต่หัวเราะเยาะผม






     “ เอาน่าไอ้มิว   เป็นแมวก็ดีกว่าต้องจูบตีนไอ้เต้แบบกูล่ะวะ ”  ไอ้เบตบบ่าผม  ขณะที่เดินออกจากโรงอาหารในคณะ
พอเล่นกันอีกสองสามตาก็ได้เวลาลงมากินข้าวกันแล้วครับ  กินเสร็จก็เตรียมไปเรียนกันต่อ  ผมได้แต่กลอกตาขึ้นข้างบนอย่างปลงๆ คือถ้าอยู่แต่ในคณะผมมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกครับ   มีคนเล่นอะไรแบบนี้กันเยอะแยะ  บางทีเล่นแรงกว่านี้ด้วยซ้ำ  แต่วันนี้ผมต้องไปเรียนที่ตึกเรียนรวมของมหาลัยน่ะสิครับ  คนคณะอื่นแม่งไม่ชินกันหรอกเชื่อผม   ผมกับไอ้เบขี่รถไปจอดหน้าตึกเรียนรวมก่อนจะเดินเข้าตึกไป



     “ อีมิวววว ”  ไอ้เฟย์เดินเข้ามาดึงแก้มผมไปมา  พร้อมกับยิ้มตาหยี



     “ มีจุดประสงค์อะไรถึงได้แต่งหน้าแต่งตาได้น่ารักน่าขย้ำขนาดนี้คะ ”



     “ ที่บ้านมึงเขาใช้มาร์กเกอร์แต่งหน้ากันหรอ ”



     “ ว้าย!   อีมิว  อีบ้า  หน้าตาอย่างงี้ระวังจะได้ผัวไม่รู้ตัว  รีบขึ้นกันได้แล้วเดี๋ยวสาย ”  ไอ้เฟย์ลากผมกับเบเข้าไปในลิฟท์ที่เปิดขึ้นมาพอดี



     ประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้นสอง  ผมขยับถอยหลังให้คนที่เข้ามาใหม่จนชนเข้ากับคนด้านหลัง  ผมรีบหันไปจะขอโทษเขา  แต่พอเห็นว่าร่างสูงนั่นเป็นใคร  ผมก็หันหน้ากลับมาในทันที  ผมออกจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นห้า  โชคดีที่มาทันอาจารย์เช็คชื่อพอดี







     เดินลงจากตึกมาก็มีแต่คนมอง  แม่ง จะมองอะไรนักหนาไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง  ผมเดินออกจากตึกเพื่อไปขึ้นวิน  สาเหตุก็เพราะเพื่อนผมมันยืมฟีโน่ไปเอางานที่สั่งร้านทำไว้  และเพราะมันเป็นงานกลุ่มสี่คน ที่อาจารย์ให้จับฉลากกันทำให้ไอ้พวกนั้นมันได้อยู่กลุ่มเดียวกับไอ้เบ   ครับ กับไอ้'เบ' ไม่ใช่กับผมแต่อย่างใด   แต่ถ้าจะให้ผู้ชายตัวควายๆสี่คนซ้อนท้ายมอ’ไซค์กันออกไป  คงเป็นภาพที่อุจาดตาต่อผู้พบเห็นอย่างแน่นอน  และด้วยเหตุผลที่ว่าผมเป็นเพื่อนสนิทมันซึ่งยืมรถได้ง่ายที่สุดแล้ว  เวรกรรมเลยมาตกที่ผม  โดยที่มันบอกแค่ว่าพรุ่งนี้จะไปรับผมที่หอเอง  เพราะขี้เกียจเอารถมาคืน ค่อยเอาพรุ่งนี้ที่คณะทีเดียว   ผมจะไม่บ่นเลยนะ ถ้ามันไม่ใช่วันที่หน้าผมเป็นแมวแบบนี้ ไอ้เชี่ยเบ!!



     “ เพื่อนไปไหนล่ะครับ  ทำไมมาเดินอยู่คนเดียว ”  คนที่มาเดินอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  เอ่ยทัก  ผมที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาหลบผู้คน  เงยหน้าขึ้นไปมองคนข้างๆ  เหอะ!  ไอ้พี่เนมนี่เอง   

     ผมเดินต่อไปเรื่อยๆ  อย่าหวังว่าจะมีคำตอบให้นะครับ  ผมโกรธเขาอยู่  เขาที่ผมคิดว่าจะช่วยผมแต่สุดท้ายกลับเป็นคนที่แกล้งผมซะเอง



     “ จะไม่ตอบพี่หน่อยหรอครับแมวน้อย ”  คนตัวสูงที่เดินมาพร้อมๆกับผม เอาสองมือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง ก้มหน้าลงมาพูดกับผมที่ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไป



     “ งอนอะไรพี่ครับตัวเล็ก ”  คนข้างๆเดินมาดักหน้าผมแล้วยื่นหน้ามาใกล้ซะจนปลายจมูกโด่งๆนั่นแทบจะทิ่มจมูกผมอยู่แล้ว 



     “ ตัวเล็กบ้าบออะไร  พี่จะไปไหนก็ไป  ไม่ต้องมายุ่งกับผม ”  ผมตะโกนใส่คนตรงหน้า  เขายกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเอามือออกจากกระเป๋าข้างนึงมาเกลี่ยที่แก้มผมเบาๆ



     “ พูดแล้ว ”  พี่เนมพึมพำเบาๆ โดยที่นิ้วเรียวยาวยังไม่หยุดลูบแก้มผมไปมา



     “ อะ  อะไร ”  ผมที่มัวแต่สตั๊นกับรอยยิ้มในระยะประชิดของพี่เขา ไม่ทันได้ฟังว่าเขาพูดอะไร



     “ พี่บอกว่า  ถ้าจะง้อแมวตัวนี้ต้องง้อด้วยปลารึเปล่าครับ ”



     “ ปละ ปลาอะไรเล่า  พี่เอามือออกไปได้แล้ว ”  ผมปัดมือเขาออกจากแก้ม



     “ หึๆ  แล้วนี่มิวจะไปไหน ”  คนตรงหน้ายืดตัวขึ้นแล้วเอามือล้วงกระเป๋าไว้ตามเดิม



     “ ผมจะกลับหอ ”  ผมตอบพี่เขาไป เวลาผมโกรธ วิธีที่ทำให้หายได้ก็คือทำยังไงก็ได้ให้ผมยอมพูดด้วย  ถ้าผมพูดด้วยแล้วก็แสดงว่าไม่โกรธแล้ว



     “ กลับยังไงครับ ”  เราเดินไปข้างหน้าพร้อมกัน  พี่เขาก็ยังคงถามผมต่อ


     “ วินครับ พอดีเพื่อนมันยืมรถไป ”  ผมเงยหน้าไปคุยกับคนตัวสูงข้างๆ



     “ งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง  แต่มิวต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ก่อนนะ ”  พี่เนมพูดพร้อมกับจับมือผมเดินไปยังรถยนต์คันหรู  เปิดประตูให้ผมเสร็จสรรพ  ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับนอกจากขึ้นไปนั่งบนรถดีๆ  ทำไมผมไม่เคยได้มีโอกาสปฏิเสธอะไรใครเลยวะ




     ว่าแต่นี่ผมหายโกรธเขาแล้วหรอครับ?  ปกติวิธีที่เพื่อนใช้ง้างปากผม นอกเหนือจากคำขอโทษ  ก็คือมุกตลกๆหรือไม่ก็หน้าตาท่าทางประหลาดๆที่มันทำให้ผมหลุดขำออกมา  แต่นี่พี่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนะ  หรือจะเป็นเพราะรอยยิ้มนั่นที่มันทำให้ผมเบลอจนเผลอพูดกับเขาไป



     แบบนี้ก็ได้หรอวะไอมิว?




********************************************************************************************
น้องมิวหายโกรธพี่เนมแบบงงๆ 55555   มาต่อให้แล้วน้าาา  ยังไงก็คอมเม้นท์ให้กำลังใจกันด้วยเนอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-12-2016 12:54:11
ชื่อเรื่องที่ว่า  รัก ไม่ 'นิ่ง' นี่คือไม่ใช่อาการเรรวนหลายใจมีคนใหม่ไปเรื่อยๆ
แต่เป็น พี่เนมที่น้องมิวบอกว่าหน้านิ่ง แต่เรื่องความรักพี่เนมไม่นิ่งใช่ไหม :hao3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-12-2016 13:20:50
เป็นวิธีที่ง่ายดี
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-12-2016 14:04:32
นั่นไง พี่เนมชอบมิว จริงๆแหละ  :mew1: :mew1: :mew1:
มีทักตัวเล็ก ลูบแก้มด้วย
มิว ที่มีหน้าแมว คงหน้ารักมากๆเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-12-2016 14:23:45
น้องมิววววววววหายโกรธง่ายมากกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ijuney ที่ 12-12-2016 14:51:10
น่ารักมากเลย รับมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-12-2016 15:56:19
น้องกำลังอึ้งเพราะรอยยิ้มพี่เนมที่หล่อสาดดดดดดมากใช่ป่ะ. น้องเลยเบลอๆ หายโกรธทันทีทันใด

พี่เนมคะ ? เอามือลูบแก้มน้องได้ด้วยหรอ ถึงเนื้อถึงตัวเป็นแฟนกันไหม?ก็ยังไม่ใช่นะ อะไรยังไง คิคิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 12-12-2016 17:38:32
พี่เนมนี้อะไรยังไงคะ  :-[
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่4 (12/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 12-12-2016 20:50:35
เง้ออออ ตัวเล์กงอนอะไรคะ
โฮก อ่านแล้วจะละลาย  :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่5 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 13-12-2016 16:24:19
Chapter 5





    “ นังมิวววววว ”  เสียงคุณหญิงเฟย์ดังมาก่อนตัว



     “ เล่ามาเดี๋ยวนี้! ”  มันนั่งลงตรงข้ามผมแล้วเอาแต่จ้องหน้า จนผมงง



     “ อะไรของมึง  ช่วยบอกชื่อเรื่องให้กูรู้ก่อนได้ไหม ”



     “ กูรู้  กูเห็น  มึงไม่ต้องมาเสแสร้งนังมิว ”



     “ ใจเย็นๆนะครับคุณเฟย์  อยากให้กระผมเล่าเรื่องอะไรครับ ”



     “ เมื่อวานตอนเลิกเรียน  กูเดินตามผัวกูไป แล้วก็เจอมึงมาอี๋อ๋อกับผัวกู  มันหมายความว่ายังไงยะ ”



     “ เห้ย!!  กูไปอี๋อ๋อกับไอ้เต้ตอนไหน ”  ผมงง  แฟนของเฟย์ก็คือไอ้เต้ตีนเหม็นนั่นแหละครับ  แล้วผมก็ไม่ได้ไปอี๋อ๋ออะไรกับมันเลยด้วย  คิดแล้วก็ขนลุก



     “ อีเต้นั่นมันขี้ข้า  ส่วนผัวกูน่ะคือพี่เนมเทพบุตรสุดหล่อต่างหากเล่า ”  ผมล่ะอยากจะให้ไอ้เต้มันมารับรู้สถานะจริงๆของมันซะเหลือเกิน 



     ตอนนี้ผมกำลังนั่งกินชาอยู่ที่ร้านกาแฟข้างโรงอาหารคณะระหว่างที่พักจากการปั่นโปรเจค  ไอ้เบและเพื่อนคนอื่นๆยังอยู่ในสตูกันอยู่เลยครับ  ฟิตกันสุดๆ  ถึงจะเพิ่งผ่านมิดเทอมไปแต่งานก็ไหลมาเรื่อยๆไม่มีหยุด  แค่เปิดคลาสแรกก็ได้งานมาทำเต็มไม้เต็มมือแล้วครับ



     “ อย่ามาเงียบนะนังมิว  เล่ามา! ”  ผมที่ทำเมินมันไปต้องกลับมาสนใจมันอีกรอบ  เพราะโต๊ะอื่นๆเขาหันมามองกันหมดแล้ว  ผู้หญิงนี่ขัดใจไม่ได้จริงๆนะครับ  แม่งโวยวายตลอด



     “ ก็อย่างที่มึงเห็น ”  ผมตอบแบบขอไปที 



     “ ขยายความด้วยค่ะ  เดี๋ยวแม่ขว้างแก้วทิ้งซะเลย ”  มันทำท่าจะคว้าแก้วชาในมือผม  จนผมหลบแทบไม่ทัน  เกือบไปแล้วน้องชามะลิของพี่



     “ ก็มึงบอก  มึงรู้  มึงเห็น แล้วจะให้กูเล่าอะไร ”  นี่ไม่ได้กวนนะครับ  ก็มันบอกว่ามันรู้  แล้วจะให้ผมเล่าอะไรอีกล่ะ



     “ ฉันเห็นพี่เนมเดินเข้าไปหาแก  มีจับก้งจับแก้มกันด้วย ”  มันทำหน้าเพ้อ  บิดตัวไปมาอย่างกับเป็นคนโดนจับซะเอง  ถ้ามึงเป็นกูไม่มีอารมณ์มายืนบิดเหี้ยอะไรหรอก  เอ๋อแดกอย่างเดียว  นิ้วเรียวที่ลากสัมผัสบนแก้มไปมามันทำเอาผมไปไม่เป็นเลย



     “ นั่นไง  มีแก้มดงแก้มแดง  มันเป็นแผนใช่มะ แกมันนังแมวยั่วสวาท  แผนสูงนักนะยะ ”



     “ เดี๋ยวๆ  แมวยั่วสวาทอะไรของมึง ”



     “ ก็เมื่อวานมึงทำแอ๊บแบ๊วแต่งหน้าเป็นแมวน้อย  คิดว่าน่ารักมากรึไง ”  ผมนึกอยากจะเตะไอ้เต้ที่มันสั่งอะไรปัญญาอ่อนแบบนั้น 



     “ กูจะบอกอะไรให้นะ ”  เฟย์ทำเสียงกระซิบกระซาบ  เอามือป้องปากแล้วกวักมือเรียกผมไปฟังใกล้ๆ



     “ ไอ้หน้าแมวน้อยของแกน่ะ  มันน่ารักมว๊ากกกกก  แล้วเหมือนมันจะใช้ได้ผลด้วย  เพราะฉันเห็นพี่เขาเดินยิ้มตลอดเลย  ใครเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่ายิ้มของพี่เนมมันเป็นอะไรที่แรร์สุดๆ ”  มันพูดพร้อมกับทำหน้าเพ้อหนักกว่าเดิม



     “ ถ้าแฟนพี่เนมเป็นแก  ฉันยอมก็ได้  นังเฟย์คนนี้จะไม่สู้  ขอแค่แกต้องมารายงานฉันว่าพี่เขาแซ่บขนาดไหน  โอ้ย  คิดแล้วก็ฟินนน ”



     “ มึงใจเย็นๆเนอะ  กูไม่ได้เป็นอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ  แล้วก็ไม่ได้ยั่วอะไรใครด้วย ”



     “ แค่หน้าปกติก็ยั่วผู้ชายไปเป็นฝูงละ  ยังไม่รู้ตัวอีก ”  ไอ้เฟย์ขมุบขมิบปากด่าอะไรของมันก็ไม่รู้



     “ บ่นอะไรมึง  งานเสร็จแล้วรึไงถึงได้มาตามรังควานกูอยู่นี่ ”



     “ ยังไม่เสร็จย่ะ  เดี๋ยวจะไปทำต่อและ  แต่ก่อนไปขออีกหนึ่งคำถาม  เมื่อวานพี่เขาพามึงไปทำอะไรมาหรอ ”  มันเอานิ้วจิ้มๆกันแล้วทำหน้าหื่นใส่



     “ ไม่ได้ทำอะไรแบบที่มึงคิดก็แล้วกัน ”



     “ ว้าา~~~  ไม่ได้ทำหรอวะ  กูก็นึกกว่ามึงจะได้ซักน้ำสองน้ำ ”  มันพูดไปก็ทำหน้าเสียดายไป



     “ ไอสัดเฟย์!! ” มันวิ่งหนีผมกลับสตูทันทีที่ผมลุกขึ้นจะตบหัวมัน  วันๆคิดแต่จะให้ผู้ชายเขาได้กัน ไอ้บ้านี่



     เมื่อวานพี่เขาก็พาผมไปกินข้าวปกตินี่แหละครับ  เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นตรงหน้าหอผม  แต่ที่ไม่ปกติก็คือพี่เนมแม่งเล่นสั่งแต่เมนูที่เป็นปลามาให้ผม  ทั้งเบนโต๊ะปลาซาบะ  สลัดทูน่า  แล้วก็ยำแซลมอน  คือพี่เป็นอะไรครับ  อินหรอ?   กินเสร็จพี่เขาก็เดินมาส่งผมที่หอแล้วก็กลับแค่นั้น ไม่ได้ทำอะไรบ้าๆแบบที่ไอ้เฟย์มันคิดซักนิด  แล้วไอ้คาแร็คเตอร์นิ่งๆนั่นโยนมันทิ้งไปได้เลยครับ  ใบหน้านิ่งๆนั่นมันเป็นแค่หน้ากากจอมปลอมที่พี่เขาสร้างขึ้นมาปกปิดตัวตนที่โคตรจะกวนตีนเอาไว้เท่านั้นเอง







     “ ไอ้มิว  มึงหายโกรธพี่เนมเขาแล้วหรอ เห็นไอ้เฟย์มันมากรี้ดกร้าดใส่กูว่าเพื่อนกูเป็นเมียพี่เนมแล้ว ”  ไอ้เบถามทันทีที่เห็นผมเดินเข้าสตูมา



     “ เมียบ้านมันสิ  ไม่ได้เป็นโว้ยย ”  ไอ้เฟย์นี่ก็นะ บอกว่าไม่มีอะไรๆ แค่พี่เขาเอามือมาลูบแก้มไม่เห็นจะแปลกอะไร เขาคงอยากจะช่วยลบมาร์กเกอร์ออกให้มั้ง  ไอ้ทัตเล่นวาดไว้ชัดซะขนาดนั้น



     “ เออกูก็งง  ไปแอบเอากันตอนไหนกูไม่เห็นรู้เรื่อง ”



     “ ไอ้เหี้ยเบ! ”  ผมว้ากใส่มัน ไอ้นี่หนิทำไมกูต้องไปเอากับพี่เขาด้วยวะ สาวๆสวยๆก็มีเยอะแยะ ที่พูดนี่ไม่เคยทำหรอกนะครับ คำว่าสุภาพบุรุษมันค้ำคอ อิอิ



     “ เออๆ  ไม่ได้เอาก็ดีแล้ว  ว่าแต่เขาไปทำอะไรให้มึงโกรธ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีใช่ไหม ”  ไอ้เบถามผมหน้าเครียด  พี่เนมเป็นรุ่นพี่ที่มันเคารพอยู่พอสมควร  หลังจากที่เจอกันที่เมาคลีคืนนั้นก็คุยกันถูกคอเพราะเป็นพวกชอบแข่งรถเหมือนกัน  และผมก็เป็นเพื่อนที่มันหวงซะอย่างกับเป็นลูก  แซวเล่นขำๆมันไม่ว่าอะไรหรอกครับ  แต่ถ้ามาถึงเนื้อถึงตัวผมเมื่อไหร่ระวังตีนมันไว้ให้ดีก็แล้วกัน  ด้วยเหตุผลนั้นมันคงไม่อยากให้ผมกับพี่เขาผิดใจกัน



     “ เปล่า  เขาแค่มาขอเบอร์กูไปให้ไอ้หน้าหนวดนั่น แม่ง พูดแล้วก็ขึ้น แทนที่จะช่วยกันดันมาขู่เอาเบอร์จริงกูไปซะงั้น ”



     “ ขู่เลยหรอวะ ”  ไอ้เบทำหน้าเครียดหนักกว่าเดิม  มันรู้ว่าผมไม่ค่อยปลื้มกับการจีบของเพศเดียวกันซักเท่าไหร่



      “ ไม่ได้ขนาดนั้น  เขาแค่บอกว่าเขาหาเบอร์กูได้ไม่ยากก็แค่นั้น  แต่กูไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว  มึงสบายใจได้ ”  ผมตบบ่าไอ้เบให้คลายกังวล  ก็ผมไม่ได้โดนรบกวนอะไรนี่ครับ  โทรศัพท์ยังปกติดีทุกอย่าง  สงสัยคนที่ชื่อนิคอะไรนั่นคงจะปอดเหมือนที่ไอ้หนวดบอกจริงๆ  ถือเป็นโชคดีของผมล่ะนะ



     “ เออๆ  งั้นก็ดีแล้วแหละ  แต่ถ้ามีใครมาทำอะไรมึง  มึงต้องบอกกูนะ ”



     “ คร้าบบพ่อเบ~~~ ”  ผมลากเสียงกวนมัน  จนโดนมันผลักหัวถึงได้เดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ





     คืนนั้นผมเข้านอนตั้งแต่ห้าทุ่ม  เพราะคืนต่อไปต้องโต้รุ่งปั่นโปรเจคให้ทันส่ง  จนไม่ทันเห็นว่าโทรศัพท์ผมมันไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว




     N. Added you by phone number

     N. :: สวัสดีครับ



*******************************************************************************************
ตอนนี้มาแบบสั้นๆ  เน้นพูดคุยนะคะ 555555   มีคนเดาถูกด้วยนะว่ารักไม่'นิ่ง'  ก็คือคนนิ่งๆที่เมื่อมีความรักแล้วจะเปลี่ยนไป  แต่จะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนยังไง  ต้องติดตามดูกันต่อไปนะคะ  :mc4: :mc4: :mc4:


หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่5 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-12-2016 18:56:06
 :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่6 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 13-12-2016 19:29:33
Chapter 6



    “ ป้าคร้าบบ  มิวเอาผัดผักกับต้มยำ  แล้วก็น้ำเปล่า ”  ผมเดินไปสั่งข้าวร้านประจำทันทีที่เข้าไปในโรงอาหาร



     “ อ่ะ  นี่จ่ะ ”  ผมรับจานข้าวกับขวดน้ำมา  จ่ายเงินเสร็จก็เดินไปนั่งที่โต๊ะไอ้ซีทันที



     “ ไปอดอยากมาจากไหนครับคุณมิว ”  ไอ้ซีถาม



     “ มาจากหอกูนี่แหละเพื่อน เมื่อวานลืมกินข้าว ”



     เมื่อวานพวกผมปั่นงานอยู่ที่สตูจนสี่ทุ่มกว่าๆค่อยแยกย้ายกันกลับหอ   ผมอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีเพราะคืนนี้ต้องโต้รุ่งต่อ  โปรเจคนี้มันส่งวันพรุ่งนี้น่ะครับ   ทำแต่งานจนลืมความหิวไปเลย   วันนี้เลยรีบมาคณะแต่เช้าจะได้กินข้าวก่อนเข้าเรียน



     “ แล้วพวกมึงเหลือกันอีกเยอะป่าววะโปรเจคจารย์ดิว ”  ผมถามไอ้ซี ไอ้นัท แล้วก็ไอ้เต้ที่นั่งกินข้าวกันอยู่ก่อนแล้ว



     “ เหลือแค่มู้ดบอร์ด ”  ไอ้ซีตอบ



     “ กูเสร็จแค่โมเดล ”



     “ กูเหมือนมัน ”  ไอ้นัทตอบก่อนไอ้เต้จะสมทบ



     “ กูก็เสร็จแค่โมเดลเหมือนกัน  คืนนี้อยู่ยาวเลย ”



     “ ไอ้ซีมึงเสร็จแล้วมาช่วยกูหน่อยน้าาา   กูเดือด   กูเบลอ   กูจะบ้า ”  ไอ้นัททำหน้าล่องลอยเหมือนคนเมายา



     “ ไม่ว่าง!! ”



     “ จะไปแรดที่ไหนอีกล่ะ  กี่งานๆกูก็เห็นมึงเสร็จเร็วทุกที   รีบไปหาผัวรึไงหะ ”  ไอ้เต้แขวะไอ้ซีที่งานเสร็จไวตลอด



     “ ผัวเหี้ยอะไร  อย่างกูต้องไปหาเมียสิ ”



     “ โอ๊ยยย   พูดอะไรดูสารรูปตัวเองด้วย   สปีชีส์เดียวกับไอ้มิวนี่ริจะหาเมียหรอมึง ”



     “ แค่กๆ ”  ผมสำลักน้ำแทบพุ่งหลังจากที่โดนพาดพิง



     “ สปีชีส์กูมันทำไมไอ้เต้  พูดให้ดีๆนะเว้ย ”  ผมหันไปจ้องไอ้เต้ทันที



     “ ก็สปีชีส์ที่ชะนีไม่เอาไง  กูไปละ  บายย ”  มันพูดแล้วยกจานไปเก็บทันที



     “ ไอ้เหี้ยเต้!! ”  ผมตะโกนไล่หลังมันไป



     “ หน้าพวกกูมันแย่ขนาดผู้หญิงไม่เอาเลยหรอวะไอ้นัท ”  เมื่อไอ้ต้นเหตุมันหนีไปแล้ว   ผมเลยหันมาถามความคิดเห็นไอ้นัทแทน เครียดเลยนะเนี่ย   ผมว่าหน้าผมก็ไม่ได้แย่อะไรมาก   ผู้หญิงก็มีเข้ามาบ้าง   ถึงมันจะไม่มากเท่าผู้ชายก็เถอะ เหอะ พูดแล้วหงุดหงิด



     “ หน้าพวกมึงไม่ได้แย่หรอก  แต่ชะนีเขากลัวพวกมึงไปแย่งผัวเขามากกว่า   กูไปละ   เจอกันสตู ”  มันพูดเสร็จก็รีบเผ่นไปทันที   ผมกับไอ้ซีได้แต่มองหน้ากันอย่างปลงๆ   หน้าอย่างพวกกูก็มีเมียได้เว้ย   ไอ้พวกเหี้ย





     ผมกับไอ้ซีเดินเข้าสตูมาก็เห็นอาจารย์เปิดงานให้ดูอยู่ก่อนแล้ว   พวกผมรีบเดินไปหาที่นั่งกันทันที   โดนมองเล็กน้อยแต่อาจารย์ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากหรอกครับ


     หลังจากดูตัวอย่างงานกันไปแล้ว   อาจารย์ก็ปล่อยให้สเก็ต   ส่งสเก็ตร้อยห้าสิบแบบในอาทิตย์หน้า   พวกผมที่ไม่มีเรียนอะไรต่อก็นั่งสเก็ตกันอยู่ที่สตู   บางส่วนก็แยกย้ายกันกลับไปทำงานที่หอ

     
     พอสเก็ตไปได้สิบกว่าแบบผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น   เข้าไปเช็คนู่นเช็คนี่เรื่อยเปื่อย   สเก็ตติดกันนานๆไม่ค่อยได้ครับ   แบบมันจะคล้ายกันไปหมด   เปิดเข้าแอพพลิเคชั่นไลน์ที่มีแจ้งเตือนอยู่ร้อยกว่าอัน   แปดสิบกว่าแจ้งเตือนมาจากกลุ่มภาคที่มันคุยงานกัน   อีกยี่สิบกว่าอันมาจากกลุ่มพวกไอ้ทิวที่กวนตีนกันไปมา   อ่านละขำดีครับ    กับอีกหนึ่งแจ้งเตือนจาก... ใครวะ?



     N. :: สวัสดีครับ

     เอ็นไหนวะ   ผมไม่มีเพื่อนชื่อเอ็นนะ   แล้วอีกอย่างเพื่อนผมมันคงไม่ทักด้วยคำว่าสวัสดีแบบนี้หรอกครับ



     Mewtation :: อ่า  สวัสดีครับ นั่นใคร?

     ในเมื่อไม่รู้ว่าใครก็ต้องสุภาพไว้ก่อนครับ   รักษาภาพพจน์กันหน่อย   กันไว้ดีกว่าแก้ ฮ่าๆๆๆ


     
     N. :: กินข้าวรึยังครับ

     อะไรวะ กูถามว่ามึงคือใครเสือกมาถามกูกลับว่ากินข้าวยัง?   ผมว่ามันต้องเป็นเพื่อนซักคนนี่แหละ   พวกมันชอบแกล้งผมกันจะตาย จะกวนตีนหรอหะ   เล่นผิดคนแล้วไอ้น้อง


     
     Mewtation :: ชื่อยาวจังเลยนะครับ  สงสัยคนตั้งคิดเยอะไปหน่อย


     
     N. :: มิวเทชั่นนี่สงสัยคนตั้งไม่ค่อยได้คิดใช่มั้ยครับ   แบบว่าเห็นหน้าแล้วตั้งให้เลย

     อะไรของมันวะ จะบอกว่าหน้าผมเหมือนคนกลายพันธุ์มารึยังไง



     Mewtation :: ??

     ผมส่งสติกเกอร์หน้างงไป



     N. :: ก็น่ารักขนาดนี้  คนตั้งคงคิดว่ากลายพันธุ์มาจากแมวน้อย

     แมวน้อยอะไรของมึงครับ  แม่ง  เพื่อนในภาคผมแน่นอน  คนนอกเขาจะรู้เบอร์ผมได้ยังไงล่ะครับ  ต้องเป็นพวกชาวบ้านซักตัวแหงๆ หลังจากวันนั้นพวกมันยังล้อผมเหมียวๆอยู่เลย



    Mewtation :: ถ้าน่ารักก็รักซะสิครับ
                   :: สติกเกอร์

     ผมกดสติกเกอร์ที่มีรูปหัวใจส่งไปด้วย  ในเมื่ออยากเล่นนักผมเล่นด้วยก็ได้



     N. :: ตอบแบบนี้แฟนไม่ว่าหรอ
 
     แหนะ   มีแซวๆ เห็นกูโสดหน่อยไม่ได้   ล้อกูตลอด   อย่าให้รู้นะว่าใคร นี่ไม่ใช่ว่าผมไม่มีใครเอานะ ผมแค่เลือกเยอะเฉยๆเอ๊ง เชื่อสิ



     Mewtation :: แฟนตัวจริงยังไม่มีหรอกครับ  คือผมไม่รู้ว่าจะเลือกใครดี



     N. :: ถ้ายังเลือกไม่ได้แบบนี้  สนใจรับตัวเลือกเพิ่มไหมครับ

     อื้อหือ   มีเสนอตัวด้วยนะ



     Mewtation :: ถ้าคิดว่ามีดีให้ผมเลือก  ผมจะรับไว้พิจารณาก็ได้ครับ



     N. :: งั้นแปลว่าอนุญาตให้จีบได้ใช่ไหมครับ



      Mewtation :: จีบหมูจีบกุ้งได้หมด   แต่ถ้าจีบปูจะชอบเป็นพิเศษเลยครับ

     ไม่มีอะไรมาก   กูหิววว   จะเที่ยงอยู่แล้วชวนไอ้เบไปกินข้าวดีกว่า



     “ ไอ้เบ  เก็บของไปแดกข้าวกัน ”



     “ เออ   เสร็จแล้วกลับหอเลยปะ กูจะไปปั่นงานจารย์ดิวต่อ เดือดชิบหาย ”



     “ เออกลับเลย  กูก็จะไปทำต่อเหมือนกัน ”



     N. :: แล้วจีบมิวได้ไหมครับ

     ผมหยิบโทรศัพท์ที่ส่งเสียงเตือนขึ้นมาดูอีกครั้ง     ไอ้นี่แม่งเล่นไม่เลิกนะ คนจะไปกินข้าว



     Mewtation :: สติกเกอร์

     ผมกดสติกเกอร์โอเคกลับไปแบบตัดรำคาญ  เดี๋ยวมันเบื่อก็เลิกเล่นเองแหละ  ว่าแล้วก็ไปหาขนมจีบปูกินดีกว่า  นึกแล้วก็อยากกินขึ้นมาเลย



********************************************************************************************
 :katai4: :katai4: :katai4:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่6 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 13-12-2016 20:04:12
N ไหนหว่า N เนมหรือนิค ถ้าเป็นนิคนี่กร๊าวน่าดู >_<
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 13-12-2016 20:07:21
Chapter 7





    “ เป็นไงกันบ้าง  ผ่านไปครึ่งเทอมละ  เริ่มชินกันรึยัง ”  เสียงไอ้นัทถามพวกน้องปีหนึ่ง  วันนี้พวกผมนัดน้องๆประชุมครับ   ประชุมของพวกผมก็คือเรียกมารวมตัวกันเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบทั่วๆไป   แล้วก็มีเรื่องที่จะต้องแจ้งให้น้องๆทราบกันนั่นแหละครับ


     หลังจากที่พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอก็ได้ความมาว่าพวกปีหนึ่งเริ่มชินกับการอดนอนกันขึ้นมานิดนึง   ปีหนึ่งเป็นอะไรที่หนักนะครับผมว่า   ไม่ใช่แค่เรื่องงานเพราะไม่ว่าปีไหนๆงานมันก็เยอะพอกัน   แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาพร่างกายและจิตใจที่ต้องมาปรับจูนให้เข้ากับที่นี่มากกว่า   จากที่เคยนอนปกติ  กลายมาเป็นต้องนอนเช้าต่อกันหลายๆคืน   ไม่ใช่จะเปลี่ยนกันได้ทันทีนะครับ   แรกๆพวกผมก็ไปช่วยงานน้องกันบ่อย   เพราะรู้ดีว่าเด็กเข้าใหม่ต้องเกิดอาการวาร์ปกันแทบทุกคนแน่ๆ   การวาร์ปก็คือการหลับนั่นแหละครับ หลับแบบไม่รู้ตัว  ตื่นมาอีกทีก็ได้เวลาส่งงานแล้วอะไรประมาณนี้


     “ วันนี้มีแข่งบาสตอนทุ่มนึงนะครับ  อย่าลืมไปเชียร์เพื่อนๆกันด้วย  พวกพี่มีเรื่องจะพูดแค่นี้แหละ เชิญน้องๆตามสบาย ”







     หลังจากปล่อยน้องเสร็จพวกผมก็มาช่วยพี่สโมยกของไปสนามบาสกัน  ช่วงนี้เป็นช่วงแข่งกีฬาเฟรชชี่ครับ  เป็นกีฬาสำหรับเด็กปีหนึ่ง  ก็แยกกันแข่งขันไปตามรายการ  เก็บรอบชิงไว้วันงานกีฬามหาลัย  ส่วนสนามบาสที่ใช้แข่งก็เป็นของคณะวิศวะ  คณะเพื่อนบ้านนี่เอง



     “ มิวเฝ้าของไว้ก่อนนะ  เดี๋ยวพวกพี่ไปรวมน้องที่ใต้ตึกก่อน ”  พี่อั้มประธานสโมหันมาพูดกับผม  ผมพยักหน้ารับ ผมไม่ได้มีหน้าที่อะไรที่ใต้ตึกเหมือนไอ้เบกับไอ้นัทที่มันเป็นพี่ระเบียบต้องไปคอยคุมน้อง  ผมเลยรับหน้าที่ยืนเฝ้าของอยู่คนเดียว



     “ ไอเหี้ยเนม  มึงเปลี่ยนตัวกับไอ้มอสเลย  มึงแม่งนำพวกกูไปไกลแล้วเนี่ย ”  เสียงของพวกวิศวะที่เล่นบาสกันอยู่ดังลั่นสนาม   ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาแข่งเลยยังใช้สนามกันได้อยู่   ที่ผมรู้ว่าเป็นพวกวิศวะเพราะร่างสูงที่ใส่เสื้อสีเทากับเดฟยีนส์สีเข้มในสนามนั่นคือพี่เนมผัวไอ้เฟย์มัน


     คนตัวสูงเดินมานั่งตรงสแตนด์ฝั่งเดียวกับที่ผมยืนอยู่  แต่เขามองไม่เห็นผมหรอกเพราะผมยืนเยื้องมาทางด้านหลังนิดนึง แล้วยังมีเงาต้นไม้มาบังแสงไฟทำให้ตรงที่ผมยืนมันมืดสนิท  ถ้าไม่สังเกตดีๆก็ไม่เห็นหรอกครับ  คนที่หอบเล็กน้อยจากการเล่นกีฬายกขวดน้ำขึ้นดื่มก่อนจะใช้มันล้างหน้าจนหมดขวด  ไอ้ท่ายกมือเสยผมจนหยดน้ำสาดเป็นทางนั่นขอซื้อได้ไหมครับ   จะเอาไปขายบริษัทโฟมล้างหน้า   น่าจะได้หลายบาทอยู่



     “ พี่เนมคะ ”  สาวสวยตัวเล็กผมยาวเดินเข้ามาจากอีกทาง   หยุดยืนตรงหน้าพี่เนมที่ล้างหน้าเสร็จพอดี  เขาหันไปมองหน้าเธอโดยที่ไม่ได้ตอบรับอะไร



     “ คือว่าวันนี้เนยไม่ได้เอารถมาน่ะค่ะ  ขอติดรถพี่เนมไปหน่อยได้ไหมคะ ยังไงก็ทางเดียวกัน ”



     “ อืม ”  พี่เขาตอบรับแล้วหันไปมองเพื่อนในสนามที่กำลังแข่งกันทำแต้มอยู่อย่างไม่สนใจคนตรงหน้าแม้แต่น้อย 
     เธอทำท่าเหมือนอยากจะพูดคุยต่อ  แต่ติดที่ร่างสูงไม่มีทีท่าจะสนใจเธอสักนิด  เลยได้แต่นั่งลงเงียบๆ   คือว่า ถ้าพี่ไม่เอา  ผมขอได้ไหมอะ ตัวเล็กๆสเปคผมเลย ที่ผมไม่ชอบผู้หญิงตัวสูงๆเพราะผมเกรงว่าจะต้องเงยหน้าคุยกับพวกเธอน่ะครับ ฮ่าๆๆ



     ผ่านไปเกือบสิบนาที  เพื่อนพี่เนมก็เลิกเล่นแล้วเดินมาหยิบกระเป๋าที่สแตนด์  จัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็ตั้งท่าจะกลับกันเลย



     “ ไอมอสไปส่งคนนี้ด้วย ”  พี่เนมบอกเพื่อนเขาที่หันมามองด้วยใบหน้างงงวยไม่แพ้หญิงสาวตัวเล็กคนนั้น



     “ อะไรมึง  น้องเนยเขาไม่ได้มาหามึงหรอ ”



     “ เขาบอกว่าขอติดรถกลับด้วย  ยังไงก็ทางเดียวกัน ”



     “ เออ   ก็ทางเดียวกับมึงไง  มึงก็ไปส่งน้องเขาสิวะ ”  เอ่อคือ ถ้าพวกพี่ไม่ไป  เดี๋ยวผมไปส่งให้ก็ได้ครับ  อิอิ  มากับพี่ไหมจ๊ะน้องสาว



     “ เธอ เอ่อ... ”



     “ เนยค่ะ ”  ไอ้เหี้ย  ผมแทบจะหลุดขำ   นี่พี่ไม่แม้แต่จะจำชื่อเขาหน่อยหรอครับ   โถๆๆ   มาให้พี่มิวโอ๋มามะสาวน้อย



     “ อืม  ไปกับมอสนะ ”



     “ เดี๋ยวๆไอ้เนม  อะไรมึงเนี้ย ”  พี่คนที่ชื่อมอสโวยวาย   คนอื่นๆแยกย้ายกันกลับไปหมดตั้งแต่สองคนนี้เริ่มเถียงกันแล้วครับ



      “ กูง่วง   จะรีบไปนอน  บาย ”  พี่เขาหันหลังมาจะเดินออกจากสนาม  เห็นผมที่ยืนอยู่ในเงามืดก็ชะงักไปนิดนึง  นี่คนครับพี่  ไม่ใช่ผี



     “ มาทำอะไรตรงนี้ครับ ”  ร่างสูงที่เอาเสื้อชอปพาดบ่าไว้   ยื่นมือมาขยี้หัวผมจนยุ่งไปหมด



     “ หื้ออ  ผมยุ่งหมด ”  ผมปัดมือเขาออกแล้วรีบจัดผมให้เข้าทรงทันที   แม่ง  ตัวเองหล่อแล้วก็อย่ามาขัดขวางความหล่อของคนอื่นสิวะ ดูสิน้องสาวคนสวยเห็นหมดแล้ว



     “ หึหึ   ตกลงว่ามาทำอะไรครับ ”



     “ มารอเชียร์บาส ”  ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มให้สาวน้อยที่จ้องมาที่ผม   แหมหลงสเน่ห์ผมแล้วล่ะสิ   ก็อย่างว่าล่ะนะ  ผมขี้เหร่ซะที่ไหน



     “ ไอมอส  มึงกลับไปได้แล้ว ”  คนตัวสูงหันไปบอกเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์  อะไรวะ  ตัวเองไม่เอาแล้วยังทำหวง  ไอ้หมาหวงก้างเอ๊ย



     “ มิว  น้องมาแล้ว ”  เสียงพี่อั้มตะโกนบอกผมจากอีกฝั่งของสนาม   ผมพยักหน้ารับแล้วเดินไปช่วยไอ้นัทจัดแถวน้องขึ้นไปนั่งบนสแตนด์   ส่วนของตรงนี้  เดี๋ยวพวกพี่เขามายกกันเองครับ



     “ แล้วพี่จะตามผมมาทำไมเนี่ย ”  ผมหันไปถามคนตัวสูงที่เดินตามผมมาจนถึงสแตนด์อีกฝั่ง



     “ อยากดูบาสด้วย ”  อ้าว  เมื่อกี้บอกง่วงจะรีบไปนอนไม่ใช่หรอวะ   อะไรของเขา   ช่างเขาก่อนละกันเดี๋ยวทนไม่ไหวก็คงกลับไปเอง







     วันนี้ปีหนึ่งคณะผมแข่งกับนิติครับ  กองเชียร์ฝั่งนั้นมาถึงก็ร้องเพลงให้กำลังใจระหว่างที่นักกีฬากำลังวอร์มอัพกันอยู่


     “ อ้าว  น้องสองคนนั้นชี้อะไรกันครับ  พี่อยากดูด้วย ”  เสียงไอ้ทิวตะโกนถามน้องมัน  วันนี้มันเป็นคนคุมน้องนิติมาครับ  แล้วดูท่าทางเหมือนจะโกรธไอ้เด็กสองคนนั้นที่ไม่ยอมตบมือตามจังหวะ  มัวแต่ชี้อะไรกันก็ไม่รู้



     “ ผมถาม  ช่วยตอบด้วยครับ ”  โถ่ ไอ้สัด ทำเป็นเข้ม   ผมอยากจะเดินไปตบหัวมันให้หายเก๊กซักที



     “ คะคือ  ผม... ”



     “ มันมีอะไรน่าสนใจกว่าเพื่อนของน้องที่กำลังวอร์มกันอยู่หรอครับ ”  ไอ้ทิวยังคงคาดคั้นน้องมันต่อไป  โดยที่ฝั่งผมก็หยุดร้องเพลงไปแล้วเมื่อเห็นฝั่งนั้นกำลังเคร่งเครียด   จริงๆแล้วก็แค่อยากเสือกน่ะครับ  ไม่ได้มารยาทดีอะไรหรอก



     “ พวกผมกำลังมองพี่คนนั้นอยู่ครับ ”  เมื่อทนความกดดันไม่ไหว  ไอ้เด็กปีหนึ่งก็ยอมพูดออกมา  แล้วชี้มาทางผม     ผมหันซ้ายหันขวา   มึงชี้ใครวะ ไอ้พี่เนมที่นั่งข้างกูหรือน้องหน้าหมวยที่นั่งอยู่หลังกู



     “ คนนี้หรอ ”  ไอ้ทิวชี้มาที่พี่เนมที่ต่อให้คนจะมองกันทั้งสนามยังไงพี่แกก็ยังคงหน้านิ่งไว้ได้อยู่



     “ ปละ เปล่าครับ ”



     “ คนนั้นอะนะ ”  ไอ้ทิวชี้ไปที่น้องหมวย



     “ มะ ไม่ใช่ครับ ”



     “ อ้าว!!ละคนไหน มึงบอกกูมาดิ ”  ไอ้ทิวที่เริ่มจะหัวเสีย  เริ่มขึ้นมึงกูกับน้องแล้วครับ



     “ พี่คนที่น่ารักๆคนนั้นอะครับ ”  แล้วไอ้เด็กเวรนั่นมันก็ชี้มาที่ผม   น่ารักบ้านพ่อมึงสิ กูหล่อ เก็ทมั้ยว่ากูหล่อ ไอ้ทิวมองมาที่ผมแล้วยกยิ้มแบบชั่วๆ ก่อนจะเดินมาหาผม



     “ คนนี้หรอครับ ”  มันหันไปถามน้อง ก่อนจะลากผมไปสแตนด์ฝั่งมัน  แต่ติดตรงมือเรียวที่รั้งแขนผมไว้  ทำให้มันลากผมไปไม่ได้ ผมหันไปมองพี่เนมอย่างขอบคุณ  ลำพังแรงผมจะไปสู้อะไรไอ้ทิวได้ล่ะครับ



     “ จะกลับแล้ว ”  พี่เนมบอกไอ้ทิวเสียงเรียบ



     “ อะไรนะครับ ”  ไอ้ทิวที่ยังคงงงว่าพี่เขามาดึงแขนผมไว้ทำไมเอ่ยตอบกลับไป



     “ มิวจะกลับแล้ว ”  ตอนนี้ก็ตาผมงงล่ะครับ   ผมไปบอกเขาตอนไหนว่าผมจะกลับ  แต่ยังไงก็ขอออกจากตรงนี้ก่อนละกันนะ  ผมยังไม่อยากดังเท่าไหร่



     “ อะ เออ   กูจะกลับละ มึงปล่อยเลยไอ้สัด ” ผมสะบัดแขนออกจากมือไอ้ทิว



     “ เออๆ   อย่าไปน่ารักใส่ใครเขาอีกล่ะ  เดือดร้อนพวกกูกันไปหมด ”  มันว่าก่อนจะปล่อยผม แล้วเดินกลับไปคุมน้องต่อ



     “ ไป ”  คนตัวสูงบอกก่อนจะเดินจูงมือผมออกจากสนาม    พี่เขาพาผมเดินไปทางด้านหลังจนผมต้องบอกเขาว่ารถจอดอยู่ที่คณะ  เขาถึงได้เปลี่ยนทิศทางไปยังคณะผมแทน








     “ พี่เป็นอะไร ”  ผมถามคนตัวสูงที่เงียบมาตลอดทางทันทีที่เดินมาถึงฟีโน่  เขามองหน้าผมนิ่งๆโดยที่ไม่ได้ตอบอะไร



     “ ง่วงหรอ  ให้ผมไปส่งไหม ”  ผมเอียงหน้าถามเขาเมื่อเขาไม่ยอมตอบคำถามผม   พอผมพูดจบพี่เขาก็ยิ้มบางๆ  ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวผม   นี่เป็นอะไรกับหัวกูนักหนาครับ



     “ งั้นพี่รบกวนเราหน่อยนะตัวเล็ก ”  ผมพยักหน้ารับ   

      สงสัยจะง่วงจริงแฮะซ้อนท้ายผมได้ก็เอาหัวมาซบบ่าผมแล้วหลับไปทันที


 




     ว่าแต่   หอพี่เขาอยู่ไหนหรอครับ?


********************************************************************************************
 :katai4: :katai4: :katai4: 
คอมเมนท์กันหน่อยนะตัวเอง
:hao5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-12-2016 20:20:21
จะไปส่งพี่เนมไม่รู้หอไหนก็พาไปไว้ที่หอมิวนั่นแหละ :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 13-12-2016 20:26:25
ชอบจังน่ารักดีเรื่องนี้ :hao7:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 13-12-2016 20:34:33
พี่เนมน่ารักจัง น่ารักแบบที่น่ารักกับน้องมิวคนเดียว โง้ยเขิน ทำไมละมุน ♡ _ ♡
ปล. อัพเร็วมากเลยค่ะ 55555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 13-12-2016 20:48:24
น่ารักมากกกก ทั้งพี่เนมทั้งน้องมิว
อ่านไปเขินไป ยิ้มแก้มแตก  :hao5:
ปูเสื้อรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อค่ะ!!  :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-12-2016 21:02:13
พี่เนม ชัดเจนนะเรื่องหญิงเนย
ที่มาอ่อย ขอกลับด้วยเพราะทางเดียวกัน
แล้วยังหึงอีกที่แมวน้อยยิ้มให้ชี  ชอบบบ
ปากบอกง่วงนอนแต่ตามมิว ไปดูบาสเฉยเลย
แถมช่วยมิว จากช่วงคับขันอีก
แอ่ะ.....พี่เนมได้ซบหลับกับไหล่มิวด้วย ฟินนนนน
แล้วหอพี่อะ อยู่ไหน?  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-12-2016 21:33:45
พี่เนมชัวร์
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-12-2016 21:34:11
 :hao7:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 13-12-2016 21:35:03
 :กอด1: พี่เนมน่ารัก น้องมิวก็น่ารัก โอ้ยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 13-12-2016 22:11:20
หนูมิว หนูจะซื่อไปมั้ยลูก :hao7:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 14-12-2016 00:37:37
พี่เนมของบ่าววววว ขี้หึงขี้หวงไม่เบานะคะ
อยากเข้าไปสิงน้องมิว อยากให้พี่เนมลูบหัว อยากถูกเรียดว่าตัวเล็ก #กรีดร้อง  :ling1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 14-12-2016 01:50:08
นี่มันแผนพี่เนมใช่ป่ะ

ร้ายนะเราน่ะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 14-12-2016 04:49:46
น่าร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 14-12-2016 07:15:41
แักกค่ะ น่ารักกอะ
พี่เนมน่ารักมากกกก
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-12-2016 10:53:08
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-12-2016 11:35:34
หยอดเข้าไปนะพี่เนม
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 14-12-2016 16:53:37
จงหาความต่างระหว่างพี่เนมกับคนอื่น
และพี่เนมกับตัวเล็ก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 14-12-2016 20:19:14
เข้ามาส่อง :katai5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 14-12-2016 23:01:19
ปักป้ายๆ ได้นิยายเรื่องใหม่อ่านละ
เนื้อเรื่องน่ารักกร๊าวใจมาก ชอบหนุ่มถาปัตที่สูดดดด
รอตอนต่อไปจ๊ะ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 14-12-2016 23:03:19
น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 15-12-2016 02:41:11
Chapter 8





     “ พี่เนมๆ ”  ผมยักไหล่ขึ้นลงเพื่อปลุกคนตัวสูง เมื่อขับรถมาถึงหน้าหอตัวเอง



     “ ครับ ”  พี่เขาเงยหน้าขึ้นมาตอบรับผม



     “ หอพี่อยู่ไหนอะ ”  ตอนนี้เพิ่งจะสองทุ่มกว่าๆ   ผมยังพอมีเวลาไปส่งพี่เขาได้อยู่  คืนนี้ผมก็ยังคงต้องปั่นงานอีกเช่นเคยครับ



     “ ตอนนี้ผมยังพอมีเวลาไปส่งพี่ได้  พี่อยู่หอไหนอะ ”  ผมถามต่อเมื่อเขาไม่ตอบ



     “ อยู่ซาวน์ทิส ”



     “ อ๋อ  งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง ”  ซาวน์ทิสคือหอที่อยู่ซอยเดียวกันกับหอผมนี่แหละ หอผมอยู่ต้นซอย ส่วนหอหรูนั่นอยู่สุดซอยเลยครับ



     “ เอ่อ คือ... ”  พี่เขาทำเหมือนมีอะไรจะพูดตอนที่ผมกำลังจะกลับรถออกจากหอ



     “ มีอะไรรึเปล่าครับ  หรือว่าเพื่อนยืมห้องไปใช้อีก ”  ผมยังจำได้นะ  ที่เมาคลีพี่เขาบอกว่าเพื่อนยืมห้องไปใช้ก็เลยหนีออกมา  และท่าทางที่ดูไม่อยากจะกลับของคนตรงหน้านี้ก็อาจจะมาจากสาเหตุเดิมก็ได้



     “ ครับ  เพื่อนมันยืมห้องไปใช้อีกแล้ว ”  พี่เขาเงียบไปแปปนึงก่อนจะตอบกลับมา



     “ แล้วเอาไงอะพี่  ให้ผมไปส่งหอเพื่อนปะ ”



     “ เพื่อนมันก็อยู่ที่ห้องพี่กันหมดนั่นแหละ ”



     “ อ่าาา   แล้วมีใครอีกไหมอะพี่ ”



     “ ไม่มี ”



     “ แล้วทำไมพี่ไม่กลับไปอยู่กับเพื่อนล่ะ ”



     “ ไม่ชอบคนเยอะ วุ่นวาย แต่ยังไงก็คงต้องกลับแหละมั้ง  พี่ไม่มีที่ไปแล้ว ”  คนตัวสูงพูดพร้อมกับทำหน้าหงอยๆ  อื้อหือ  หน้าใหม่หวะ   ผมเพิ่งเคยเห็นพี่เขาทำหน้าแบบนี้   มันก็ดู...น่ารักดีนะ



     “ หรือว่าพี่จะอยู่กับผมก่อน   แต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าห้องผมโคตรรก   ถ้าจะอยู่ต้องห้ามบ่นนะ ”  ผมหยุดคิดไปสามวิก่อนจะเสนอทางเลือกให้คนตรงหน้า  ห้องผมเต็มไปด้วยเศษซากจากการทำงาน  ไม่มีค่อยมีเวลาเก็บหรอกครับ  เวลาว่างผมมักจะใช้มันไปกับการนอนมากกว่า  ก็อย่างว่าล่ะครับ  มีโอกาสนอนก็ต้องรีบนอนไว้ก่อน



     “ ไม่บ่นครับ ”  นี่ก็รีบตอบจัง  ถ้าเห็นว่าบ่นแม้แต่คำเดียวนะ พ่อจะไล่กลับห้องทันทีเลย



     “ งั้นพี่ลงไปก่อน  เดี๋ยวผมเอารถไปเก็บแล้วเราไปกินข้าวกัน ”  ผมบอกให้เขาลงจากรถแล้วเดี๋ยวค่อยเดินไปกินข้าวกัน  ยังจำกันได้ใช่ไหมครับว่าหน้าหอผมเป็นโซนร้านอาหาร









     “ พี่เนมอยากกินไรอะ ”  ผมถามคนที่เดินอยู่ข้างๆพลางมองหาร้านเป้าหมายไปด้วย



     “ แล้วแต่เราเลย ”  ผมว่าแล้ว  ร้อยทั้งร้อยแม่งก็ตอบกันแบบนี้  นี่ถ้าเลือกให้แล้วไม่กินนะ พ่อจะตบให้คว่ำเลย  ผมล้อเล่นนะครับ  อย่าเอาไปฟ้องพี่เขาล่ะ



     “ งั้นกินข้าวมันไก่กัน ”  ผมเสนอแล้วชี้ไปทางร้านข้าวมันไก่ที่อยู่ทางซ้ายมือ  คนตัวสูงพยักหน้าแล้วจับมือผมเดินไปยังร้านข้าว  ผมชินแล้วล่ะครับที่ทุกคนทำเหมือนผมเป็นเด็กตัวเล็กๆ  ต้องคอยจูงไปไหนมาไหนตลอดเวลา  และไอ้พวกที่ทำกับผมแบบนี้ก็พวกไอ้ทิวนั่นแหละครับ  เป็นกันทั้งกลุ่ม  จูงแม่งตั้งแต่ผมอยู่มอต้นจนถึงตอนนี้ ไม่รู้ว่าหน้าผมดูโง่หรือยังไง ถึงต้องคอยจับไว้ตลอดเวลา



     “ นี่พี่  ทำไมต้องจูงมือผมด้วยอะ ”  ผมถามคนตัวสูงตอนที่เราหาที่นั่งกันได้แล้ว  พี่เขานิ่งไปเลย สงสัยกำลังนึกหาคำตอบที่ฟังดูดีมากกว่าการด่าผมออกมาตรงๆว่าหน้าโง่



     “ พี่กลัวผมหายหรอ  หน้าผมมันดูโง่ขนาดนั้นเลยหรอพี่ ”  อะ ผมเปิดโอกาสให้และ ทีนี้อยากด่าก็เชิญเลยพี่ ผมอนุญาต



     “ เปล่า  กลัวคนอื่นมาลากไปต่างหาก ”  ผมหน้ามุ่ยทันทีเมื่อได้ฟังคำตอบ



     “ มันต่างจากด่าผมว่าหน้าโง่ยังไงวะพี่   คิดว่าผมจะเดินตามคนอื่นไปง่ายๆรึไง ”  ดูคนเราสิครับ  อยากจะด่ายังต้องรักษาน้ำใจ  ไม่ทันแล้วพี่  ผมเจ็บไปแล้วแหละ



     “ ไม่ได้หน้าโง่แต่น่ารั.. ”



     “ อะไรนะพี่  ผมฟังไม่ถนัด ”  พูดอะไรอยู่ในลำคอก็ไม่รู้  วิถีคนหล่อหรอวะ จะพูดอะไรต้องดูดีมีมารยาทไว้ก่อน  น่าสงสารเขานะครับ  มีคนจับตามองอยู่ตลอดเวลา



     “ พี่บอกว่าเราตัวแค่นี้  จะไปสู้แรงคนอื่นเขาได้ยังไง  ถ้ามีใครมาฉุดเราไปพี่จะทำยังไงล่ะ ”



     “ พี่ก็ตามไปช่วยผมสิครับ  รออะไรล่ะ ฮ่าๆๆ ”  ผมพูดติดตลกเพื่อสร้างความสนิทสนมกับคนตรงหน้า  ตีสนิทคนหล่อไว้เผื่อออร่าความหล่อมันจะแผ่มาทางนี้บ้าง  คิกๆ



     “ หึหึ  ครับ  พี่ไม่ปล่อยให้ใครมาเอาเราไปง่ายๆหรอก ”



     “ พี่หวงผมหรอ ”  ผมแกล้งแหย่เขาต่อไป



     “ เปล่า  พี่ต้องได้ส่วนแบ่งก่อนถึงจะยอมปล่อยเราไป ”  คนตรงหน้าตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มที่มองยังไงก็กวนอวัยวะเบื้องล่างสุดๆ



     “ โห่  อะไรอะ  แล้วอย่างผมนี่ค่าตัวเท่าไหร่อะพี่ ”  เขาเล่นมาก็เล่นกับเขาหน่อยละกัน



     “ นั่นสิ  ถ้าอยากได้คนนี้  ต้องจ่ายเท่าไหร่นะ ”  เขาถามพร้อมเอามือมาเท้าคางไว้แล้วทำหน้าสงสัย  น่ารักมากมั้งน่ะ  แล้วสาวๆโต๊ะข้างๆนี่เป็นไรกันครับ  เคลิ้มซะขนาดนั้น  เอาทิชชู่ไปเช็ดน้ำลายกันหน่อยไหม



     “ เอาไว้เดี๋ยวถามแม่ให้ละกันนะ ”  ผมตอบก่อนจะลงมือกินข้าวมันไก่ตรงหน้าที่มีคนยกมาเสิร์ฟพอดี



     “ อย่าลืมมาบอกพี่ด้วยนะครับ ”



     “ หึหึ  ครับๆ ”  ผมได้แต่ขำ   คนนิ่งๆนี่เวลาเล่นอะไรแล้วก็ดูน่ารักดีนะครับ  แบบว่ายิ้มของเขามันทำให้โลกดูสดใสขึ้นมาได้ อะไรประมาณนั้น








     “ พี่เนมจะอาบน้ำเลยเปล่า  เดี๋ยวผมหยิบผ้าเช็ดตัวให้ ”  กินข้าวเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่ห้องผม  โดยที่พี่เขาจูงมือผมเดินเช่นเคย หลังจากได้เห็นสภาพห้องแล้ว   พี่เขาก็ไม่ได้บ่นอะไรอย่างที่สัญญาไว้จริงๆครับ  ผมเคลียร์ของนิดๆหน่อยๆให้พอมีทางเดิน  แล้วก็ให้พี่เขาไปนั่งอยู่บนเตียง  ยังไงคืนนี้ก็ต้องทำต่ออยู่แล้วครับเก็บไปก็เท่านั้น



     “ อาบเลยก็ได้ครับ ”



     “ งั้นเดี๋ยวผมหาชุดให้แล้วกันนะ  รอแปปนึง ”  ผมว่าก่อนจะเดินไปขุดคุ้ยหาเสื้อผ้าที่พี่เขาพอจะใส่ได้



     “ มีแต่กางเกงอะพี่  เสื้อผมมีแต่ตัวเล็กๆ พี่ไม่น่าจะใส่ได้ ”  หลังจากคุ้ยอยู่สักพัก  ก็ได้กางเกงของเพื่อนผมที่มันมาทิ้งเอาไว้  แต่แม่งเสือกไม่ทิ้งเสื้อไว้ด้วยซะงั้น  แล้วเสื้อผมนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ พี่เขาใส่ไม่ได้แน่นอน



     “ ไม่เป็นไรครับ  ใส่แค่กางเกงก็ได้ ”  ผมพยักหน้าแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวกับกางเกงให้

     ระหว่างที่พี่เขาอาบน้ำผมก็เริ่มเอางานที่ทำค้างไว้ออกมาทำต่อ  เหลืออีกไม่เยอะเท่าไหร่  ตีหนึ่งตีสองก็น่าจะเสร็จแล้วมั้ง








     ผ่านไปยี่สิบกว่านาทีพี่เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ  พร้อมกับเอาผ้าเช็ดผมที่เปียกไปด้วย   อื้อหือ  ซิกแพ็คนั่นมันอะไร  แล้วไหนจะกล้ามแขนนั่นอีก   นอกจากหน้าดีแล้วหุ่นยังโคตรจะดีอีก  กล้ามพี่เขาไม่ได้เยอะขนาดนักเพาะกล้ามอะไรหรอกครับ  แต่เป็นหุ่นแบบหนุ่มสุขภาพดีที่สาวๆเห็นแล้วจะต้องละลายอย่างแน่นอน



     “ มองอะไรครับตัวเล็ก ”  เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะล้อเลียนอยู่หน่อยๆ



     “ หา  ปละเปล่าครับ  ทำไมพี่ชอบเรียกผมว่าตัวเล็กอยู่เรื่อยเลย ”  ผมทำโวยวายกลบเกลื่อน  แล้วหันมาก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ใครจะไปบอกละครับว่ากำลังอิจฉาหุ่นพี่เขาอยู่  บอกไปเดี๋ยวได้ใจหมด



     “ ก็เราตัวเล็กแค่นี้เองนี่ ”  พี่เขาเดินมาตรงโต๊ะที่ผมนั่งทำงานอยู่   มือนึงจับที่พนักเก้าอี้ส่วนอีกมือนึงก็เท้าไว้กับโต๊ะ  แล้วโน้มตัวลงมาหาผม  สายตาเราประสานเข้าหากัน  ก่อนที่ผมจะเป็นฝ่ายหลบตาไปก่อน



     “ เอ่อ  ผมว่าผมไปอาบน้ำบ้างดีกว่า  แหะๆ ”  ผมหัวเราะแห้งๆแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที   โอ๊ยยย  ใจผมมันเต้นเร็วมากเลยครับ  แล้วทำไมหน้ากูต้องแดงขนาดนี้ด้วยเนี่ย  หวังว่าพี่เขาคงไม่ทันสังเกตหรอกนะ   ผมรีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วเปิดน้ำจากฝักบัวมารดหัวทันที  เขาก็แค่หล่อ  มึงแค่ไม่ชินกับการอยู่ใกล้คนหล่อๆในระยะประชิดก็แค่นั้นเองไอ้มิว  ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน  ผมได้แต่หาเหตุผลมาปลอบใจตัวเองตลอดเวลาที่อยู่ในห้องน้ำ

     
     พออาบน้ำเสร็จถึงได้รู้ตัวว่า  ผมไม่ได้หยิบผ้าเช็ดตัวเข้ามา  โคตรจะควายไอ้มิว   แล้วจะทำอะไรได้นอกจากขอให้คนข้างนอกหยิบมาให้   หลังจากที่คิดไปคิดมาตลอดการอาบน้ำแล้ว  ผมว่ามันก็ไม่ได้แปลกอะไร  ถ้าผมจะใจเต้นแรงไปกับสิ่งที่ไม่เคยสัมผัส   อย่างเช่น การได้สัมผัสความหล่อระดับพี่เนมในระยะประชิด




     “ พี่เนมมม   มิวลืมหยิบผ้าเช็ดตัวเข้ามาอะ  พี่เอามาให้มิวหน่อยได้ไหม ”  ผมที่ติดนิสัยเวลาจะอ้อนขออะไรใครแล้วมักจะเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อ  ตะโกนออกไปอย่างลืมตัว



     “ มิวตากไว้ที่ระเบียงอะ ”  ผมบอกต่อเมื่อพี่เขาเงียบ  หรือว่าหลับแล้ววะ  พี่เขาง่วงตั้งแต่อยู่สนามบาสแล้วนี่หว่า



     “ แหะๆ ”  ผมที่ยืนแอบอยู่หลังประตูโผล่ออกไปแต่หน้าได้แต่หัวเราะแห้งๆ   เมื่อคนที่ผมคิดว่าหลับไปแล้วเดินมาเปิดประตูระเบียงออกไปเอาผ้าเช็ดตัวมาส่งให้ผม   คือห้องผมพอเปิดเข้ามาจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือกับทีวี   ถัดมาก็เป็นเตียง   ห้องน้ำ  แล้วก็ระเบียง เพราะฉะนั้นถ้าจะเปิดประตูระเบียงก็ต้องเดินผ่านหน้าห้องน้ำก่อนน่ะครับ



     “ ขอบคุณครับ ”  ผมรับมาแล้วปิดประตู  ก่อนจะพันผ้าเช็ดตัวไว้ที่เอวแล้วเดินออกไปหาชุดนอนใส่



     “ พี่เนมนอนเปิดไฟได้ไหมครับ ”  ผมถามพี่เขาที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง  พี่เขาหันมามองผมก่อนจะตะแคงตัวหันหลังให้ผมทันที  อะไรของเขาวะ สงสัยจะเมื่อยพอดีล่ะมั้ง



     “ พี่เนม ”  ผมเรียกเขาอีกทีเมื่อเขายังไม่ได้ตอบคำถามผม



     “ ครับ  ได้ครับ ”



     “ งั้นผมขอทำงานก่อนนะเดี๋ยวเสร็จแล้วจะปิดไฟให้   พรุ่งนี้พี่มีเรียนกี่โมงครับ ”  ผมที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน  แล้วหันหลังไปถามพี่เนมที่นอนตะแคงหันหน้ามาทางนี้



     “ เรียนบ่ายครับ ”  เขาตอบพร้อมกับเงยหน้ามองผมตาแป๋ว



     “ อ่า  งั้นพี่ตื่นเเล้วปลุกผมแล้วกันนะครับ  เดี๋ยวผมไปส่งที่หอ ”  พรุ่งนี้ผมก็ไม่มีเรียนเช้าเหมือนกันครับ  มีแค่ส่งงานตอนบ่าย  ทำให้มีเวลานอนเพิ่มขึ้นมาหน่อย



     “ ครับตัวเล็ก   แล้วงานเราเหลืออีกเยอะไหม   มีอะไรให้พี่ช่วยรึเปล่า ”



     “ เหลือเรนเดอร์อีกนิดหน่อยครับ  พี่นอนไปก่อนเลย ”  ผมบอกคนตัวสูงก่อนจะหันหน้ามาทำงานต่อ



     “ ฝันดีนะครับตัวเล็ก ”



     “ อ่า  ครับ ”  ผมรึเปล่าวะที่ต้องพูดคำนั้น  ก็พี่เขากำลังจะนอนแล้วแต่ผมยังไม่ได้นอนเลยหนิ   ประหลาดคน





     ~ตึ๊ง~~

     ผมหยิบโทรศัพท์ที่มีเสียงไลน์เข้าขึ้นมาดู



     N. :: ทำอะไรอยู่ครับ

     ไอ้เอ็นเจ้าเก่าเจ้าเดิม  จะมาสืบหรอว่างานกูถึงไหนแล้ว



     Mewtation :: ทำงานอยู่ที่หอ



     N. :: อยู่คนเดียวหรอครับ

     เอ้า ไอ้นี่ งานมันก็ไม่ได้ยากถึงขนาดต้องไปสุมหัวกันทำปะวะ  นี่ก็ถามอะไรไม่คิดเลย



     Mewtation :: อยู่กับแฟนครับ  แฟนนอนอยู่

     อ่านแล้วก็ช่วยจินตนาการไปถึงสาวสวยตัวเล็กๆด้วยนะจ๊ะ  แล้วก็ฝากไปป่าวประกาศบอกเพื่อนคนอื่นๆด้วยว่า ‘กูมีเมียแล้ว’ ฮ่าๆๆๆๆ



     N. :: อ้าว  ไหนบอกว่ายังไม่รู้ว่าจะเลือกใครไงครับ
         :: สติกเกอร์

     มันส่งสติกเกอร์ร้องไห้มาให้ผม



     Mewtation :: ผมเลือกได้แล้วครับ แล้วผมก็เลือกคนนี้
                    :: สติกเกอร์

     ผมส่งสติกเกอร์คู่รักไปให้มัน  ก่อนจะหันไปมองคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง





     “ พี่เป็นแฟนผมไปก่อนละกันเนอะ คิกๆ ”  ผมได้แต่หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว  เมื่อในหัวจินตนาการว่าพี่เนมเป็นสาวน้อยน่ารัก





     สาวน้อยคนนี้มี'ซิกแพ็ค'ด้วยนะ  จะบอกให้  ฮ่าๆๆ



********************************************************************************************
แอบย่องมาอัพให้ตอนดึกๆ  5555555  ตอนนี้คนเขียนปิดเทอมแล้วค่ะ  ยังไงก็มาอัพให้เรื่อยๆ ไม่หายไปไหนแน่นอน  ถ้าไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหนนะ :z2:

คอมเมนท์พูดคุยกันได้น้าา เราอ่านทุกคอมเมนท์เลย ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ :กอด1:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-12-2016 04:17:15
ดูเหมือนจะเข้าแผนของใครบางคนนะ ฮา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 15-12-2016 06:03:36
แผนร้าย ...นายเนมเจ้าเล่ห์

แกล้งตัวเล็กอยู่รึป่าว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่7 (13/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-12-2016 07:20:42
 :z1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 15-12-2016 18:58:51
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 15-12-2016 20:05:27
เนมฟินเลยสิ น้องตู่เป็นแฟน อิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-12-2016 20:30:41
พี่เนม เนียนมานอนห้องมิวเลยนะ
แอ่ะ.....นอนหันหลังให้เลย
พอเห็นมิวนุ่งผ้าเช็ดตัว พี่เนม ใจสั่นละซี้  :ling1: :ling1: :ling1:
เข้าใจส่งไลน์ มาถามมิว
แถมมิวตอบให้ชื่นใจซะอีก
ว่าอยู่กับแฟน อะจ๊ากกกกก
มิว ตอบอย่างนี้ พี่เนมตีขลุมแล้วนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 15-12-2016 20:37:28
เข้าทางเลยสิพี่เนม  :laugh:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 15-12-2016 21:06:52
ตกลง N นี่ใช่พี่เนมแน่ๆใช่มั้ย ถ้าไม่ใช่เราเงิบละนะเนี่ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-12-2016 21:16:23
เนียน
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-12-2016 21:27:47
มิวไม่รอดเงื้อมมือพี่เนมแน่ๆ :hao6: :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-12-2016 23:00:16
น้องเนมน่าร้ากกกก  :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-12-2016 23:47:12
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 16-12-2016 00:00:13
เดาว่าพี่เนมนอนกลั้นยิ้ม กัดปากตัวเองอยู่
555 พี่เค้าคงฟินไปสามโลก  :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 16-12-2016 08:15:11
พี่เนมลอยไปถึงไหนแล้ววว5555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่8 (15/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 16-12-2016 12:16:19
ร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 16-12-2016 20:18:59
Chapter 9





     “ ตัวเล็กลงมาดีกว่า  เดี๋ยวพี่ขี่ให้ ”  คนตัวสูงบอกก่อนจะขึ้นมานั่งแทนที่ผมที่ถอยไปด้านหลัง


     
     “ ไปกินข้าวที่ไหนดีครับ ”  เขาถามก่อนจะค่อยๆออกรถไป


     
     “ วิศวะก็ได้ครับ  มีให้เลือกหลายร้านดี ” ผมตอบเมื่อเปรียบเทียบจำนวนร้านอาหารของคณะตัวเองกับคนตรงหน้าในใจ  พี่เขาพยักหน้ารับแล้วขี่รถไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์   ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเราก็มาถึงครับ  พี่เขาเอารถไปจอดไว้หน้าเซเว่นที่ตั้งอยู่ติดกับโรงอาหาร


     
     “ ไปครับตัวเล็ก ”  เสร็จแล้วก็เดินมายีหัวผมที่ยืนรออยู่ด้านหลัง  ก่อนจะจูงมือผมให้เดินไปด้วยกัน



     “ ไอ้เนมๆ!! ”  ทันทีที่ก้าวเข้าไปในโรงอาหารเสียงร้องเรียกคนตรงหน้าก็ดังขึ้น   พร้อมกับมือที่โบกหยอยๆเชิญชวนให้เดินเข้าไปหาที่โต๊ะ  พี่เขาหันมามอง ผมก็เลยพยักหน้าให้  ร่างสูงจึงเดินจูงมือผมไปยังโต๊ะที่มีกลุ่มชายโฉดนั่งกันอยู่สามสี่คน   ผมหมายถึงให้พี่เดินไปหาเพื่อนไม่ได้ให้ลากผมมาด้วยโว้ยยย



     “ อ้าว  นี่ใครวะ? ”  พี่คนที่โบกมือเรียกทำหน้างงๆเมื่อเห็นผม  ตอนเดินเข้ามาผมเดินอยู่ข้างหลังพี่เนมน่ะครับ  ตัวพี่เขาคงบังผมจนเพื่อนมองไม่เห็นละมั้ง   



     “ สวัสดีครับพี่ชื่อซันนะเราชื่ออะไรเอ่ย ”  หน้างงๆปรากฏอยู่ไม่นานก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเอ่ยถามเสียงหวาน



     “ มิวครับ ”  ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มกลับไป  ก็เขายิ้มมาเราก็ต้องยิ้มตอบสิครับ  ผมก็เป็นคนดีมีมารยาทนะเออ



     “ หื้อ!! ”  คนตัวสูงที่ยังจับมือผมไม่ยอมปล่อย  ยื่นมืออีกข้างมาปิดปากผม  อะไรของเขาวะเนี่ย!! 



     “ ไม่หิวข้าวรึไง ”  คนตัวสูงถามเสร็จก็ลากผมไปยังร้านข้าวทันที   ถ้าไม่ฟังจะถามทำไม~~~  คึคึ  ผมได้แต่ร้องเพลงอยู่ในใจ   แล้วปล่อยให้คนตรงหน้าลากต่อไปอย่างไม่ขัดขืน  วันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษครับ เมื่อคืนได้นอนเยอะกว่าวันอื่นๆ อิอิ



     “ ข้าวต้มไหมครับ? ” ไม่ต้องถามก็ได้ครับ  มายืนหน้าร้านซะจนป้าเขาออกมายืนรอรับออเดอร์แล้วเนี่ย   ถ้าปฏิเสธก็คงจะเป็นการทำร้ายจิตใจป้าเขาเกินไป



     “ ครับ  ข้าวต้มทะเลนะ เสร็จแล้วพี่ไปนั่งก่อนเลย  เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำให้ ”  ผมให้พี่เขายืนรอข้าว  ส่วนผมก็เดินมาร้านน้ำ  ร้านนึงนี่มีขายทุกอย่างเลยครับ  ตั้งแต่ชา  กาแฟ  น้ำเปล่า  น้ำอัดลม ยันน้ำปั่น   อยากกินอะไรมีหมด   แล้วร้านแบบนี้ไม่ได้มีแค่ร้านเดียวนะครับ  มีตั้งสามร้านในโรงอาหารแห่งนี้    ก็อย่างว่าล่ะครับ  เด็กวิศวะมันเยอะเปิดร้านซ้ำๆกันยังไงก็ไม่ขาดทุนหรอก



     “ เอาชามะลิเย็นกับนมสตรอเบอรี่ปั่นครับ ”  ผมสั่งเมนูที่ต้องการกับพี่สาวเจ้าของร้าน  พี่เนมอยากกินไรไม่รู้แต่ผมอยากสั่งแบบนี้อะครับ  หวังว่าคงจะชอบล่ะนะ









     “ อ่ะ ”  ผมวางแก้วลงตรงหน้าพี่เนม  ก่อนจะนั่งลงข้างๆ



     “ ขอบคุณครับ ”  พี่เขายิ้มให้ผมก่อนจะยกแก้วนมขึ้นมาดูด  ถือว่ากินได้แหละเนอะ  ว่าแล้วว่าผมเดาใจเขาไม่ผิด อิอิ



     “ เพื่อนเนมกับน้องมิวนี่สนิทกันมานานแล้วหรอครับ  ทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเราเลย ”  พี่ซันเจ้าเก่าเจ้าเดิมเอ่ยถาม  ที่เพิ่มเติมมาก็คือสายตาอีกสามคู่ที่มองมาที่ผมเช่นกัน   และหนึ่งในนั้นก็มีพี่มอสคนที่ได้ไปส่งน้องเนยคนงามด้วย



     “ ก็...เพิ่งรู้จักกันไม่นานนะครับ ”  จะเรียกว่าสนิทเลยก็คงไม่ได้  ถ้าพี่เขาไม่ได้อยากสนิทด้วยนี่หน้าแตกเลยนะครับ



     “ อ้าว   แล้วทำไมมาด้วยกันได้ล่ะครับ ”  พี่ซันนี่ขี้สงสัยจังนะครับ  ให้ผมได้ตักข้าวเข้าปากบ้างเหอะ   ผมได้แต่ยิ้มน้อยๆแล้วตักข้าวเข้าปาก  หิวครับหิว  นี่มันสิบเอ็ดโมงกว่าแล้วไม่หิวก็บ้าแล้วครับ



     “ เมื่อคืนกูไปนอนกับน้องเขามา ”  เสียงคนข้างๆตอบคำถามเพื่อนให้



     “ แค่กๆ ”  พี่ซันที่กำลังซดน้ำซุปข้าวมันไก่อยู่สำลักออกมา  จนต้องรีบยกขวดน้ำขึ้นมากระดกเข้าปาก    ส่วนคนอื่นๆได้แต่ถือช้อนค้างไว้กลางอากาศ   เป็นไรกันวะ  ผมได้แต่มองอย่างงงๆแต่มือก็ยังคงตักข้าวเข้าปากต่อไป  ก็คนมันหิวนี่ครับ



     “ นะ...นี่  มึงเปลี่ยนแนวหรอวะ ”  พี่ซันที่วางขวดน้ำลงแล้ว ยื่นหน้าเข้ามาถามพี่เนม



     “ แค่กๆ ”  เป็นผมเองที่สำลักขึ้นมาบ้าง  ผมว่าผมรู้สาเหตุที่พวกพี่เขาอึ้งกันแล้วล่ะครับ  ไอ้พี่เนมนี่ก็ตอบอะไรกำกวมชะมัด  ผมรับแก้วน้ำที่คนข้างๆส่งให้มาดูด   พร้อมกับส่งสายตาให้เขาอธิบายเพื่อนให้เข้าใจอะไรๆให้มันถูกต้องด้วย



     “ ก็ไปนอนกับมิวที่หอไง  ก็เลยมาด้วยกัน ”  ครับ  อธิบายได้ชัดเจนแจ่มแจ้งดี 



     “ คือพวกพี่ยืมห้องพี่เนมไปใช้ไง  พี่เขาเลยขอนอนที่ห้องผม  นอนเฉยๆน่ะ  พี่เข้าใจใช่ไหม ”  ผมถามย้ำเมื่อพี่ทั้งสี่คนเอาแต่ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์  แล้วส่งสายตาล้อเลียนไปให้พี่เนม



     “ อ๋อออออออ   พวกกูยืมห้องมึงไป  มึงเลยไม่มีที่นอนว่างั้น? ”  พี่คนที่นั่งข้างๆพี่ซันลากเสียงยาว  ถามพี่เนมด้วยหน้าตาที่มองยังไงก็โคตรกวนตีน  พี่คนนี้ใส่จิวที่หูด้วยข้างนึงทำให้หน้าดูเลวขึ้นไปอีก   แต่ก็หล่อดีนะครับ   สงสัยพี่เนมคบเพื่อนที่หน้าตา  แม่งหล่อกลบรัศมีผมกันทั้งโต๊ะเลย



     “ เออ  รู้แล้วก็อย่าวุ่นวายให้มันมาก ”  พี่เนมตอบกลับพี่หน้าเลวไป



     “ ฮ่าๆๆ  ไม่วุ่นวายกับมึงก็ได้    น้องมิวครับ  ว่างๆพี่ขอไปนอนที่หอด้วยได้ไหม  แบบว่าเบื่อห้องตัวเองน่ะ ”  พี่หน้าเลวหันมาถามผมที่นั่งดูดชาในแก้วอยู่   ข้าวต้มในชามนี่หมดไปแล้วครับ  อร่อยสุดๆ  ไว้วันหลังชวนไอ้เบมากินดีกว่า



     “ มาได้นะพี่  แต่ห้องผมรกมากกกก   ห้ามบ่นเด็ดขาด ”  ผมชินแล้วครับ  เพื่อนผมในภาคที่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากก็ชอบขอมาทำงานที่หอบ่อยๆ  นี่ผมก็ยังงงอยู่นิดๆว่าผมไปเฟรนด์ลี่ใส่พวกมันตอนไหน  แบบว่าตอนปีหนึ่งที่ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก  พวกแม่งก็ขอมานอนอยู่เรื่อย  จนตอนนี้สนิทกันหมดทั้งภาคแล้วครับ  ไอ้เบที่ว่าสนิทที่สุดนี่ยังมาไม่บ่อยเท่าพวกมัน  เวลามีงานเบมันชอบทำของมันอยู่ที่หอน่ะครับ  ไม่ค่อยมาทำกับผมหรอก



     “ หืม?  ห้องรกแล้วคนแถวนี้ไม่บ่นเลยหรอครับ ”  พี่มอสถามขึ้นมาพร้อมกับพยักเพยิดไปทางร่างสูง



     “ ไม่ให้บ่นหรอกครับ  เพราะถ้าบ่นผมไม่ให้นอนด้วยแน่ๆ ”  ผมว่าขำๆก่อนจะหันไปมองคนที่เอาแต่นั่งดูดนมไม่พูดไม่จา  แอบคิ้วขมวดอยู่หน่อยๆ  สงสัยปวดท้อง  ฮ่าๆๆ  ห้องน้ำไหมครับพี่เนม



     “ พี่ไม่บ่นแน่นอนครับ  ไม่ใช่พวกรักความสะอาดอะไรเท่าไหร่  งั้นพี่ขอไลน์มิวหน่อย  เผื่ออยากไปนอนด้วย ”  พี่หน้าเลวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมกดไอดีผม



     “ ไม่ให้!! ”  คนข้างๆพูดออกมาเสียงดัง  คนเขาหันมามองกันหมดแล้วเนี่ย  เป็นอะไรของพี่ครับพี่เนม



     “ ไม่ให้อะไรหรอครับเพื่อนเนม ”  พี่หน้าเลวถามด้วยท่าทางยียวน



     “ ไม่ให้น้องเขาไปหาเพื่อนรึไง  นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว ”  พี่เขามองหน้าผมเล็กน้อย  ส่วนพี่สี่คนที่เหลือนี่นั่งหัวเราะกันจนตัวงอ 



     “  เอ้อ  เดี๋ยวผมไปหาเพื่อนก่อนนะ  บายครับ ”  ผมบอกลาพี่ๆ แล้วลุกขึ้นเอาจานไปเก็บก่อนจะเดินออกจากโรงอาหาร  ผมต้องเอางานไปส่งก่อนเข้าเรียนครับ  นี่มันก็เกือบๆเที่ยงครึ่งละ  เอางานไปส่งแล้วขึ้นไปนั่งรอบนสตูเลยดีกว่า



     “ มิว! ”  ผมหันไปมองเสียงเรียกที่ดังมาจากด้านหลัง



     “ อ้าวพี่เนม  มีอะไรหรอครับ ”  ผมถามคนตัวสูงที่วิ่งมาหยุดอยู่ข้างๆผม



     “ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ”



     “ อ่อ  เดี๋ยวผมเดินไปเองก็ได้พี่  แค่นี้เอง ”  จอดรถไว้นี่แหละครับ  เดี๋ยวเลิกเรียนค่อยมาเอา  ตึกเรียนอยู่แค่นี้เองเดินไปยังไม่ทันเมื่อยก็ถึงแล้วครับ



     “ เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน ”  คนตัวสูงว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมไว้แล้วพาเดิน



     “ อ่า  งั้นไปเอางานที่รถก่อนนะครับ  แล้วค่อยไปที่ตึก ”  อยากไปส่งก็ให้ไปครับ  ผมไม่ชอบขัดใจใครอยู่แล้ว  เราเดินกลับไปเอางานที่แขวนไว้ที่รถผม  ก่อนพี่เขาจะเอามันไปถือไว้ด้วยมืออีกข้างที่ไม่ได้ใช้จับมือผม








     “ อุ๊ย!!พี่เนม  มาทำอะไรแถวนี้คะ ”  เฟย์ที่เพิ่งวางงานลงกับโต๊ะส่งงานเสร็จหันมาเจอผมกับพี่เนมที่เพิ่งเดินมาถึง  ก่อนจะแสดงอาการเคลิบเคลิ้มที่เห็นคนตัวสูงข้างๆผม



     “ นี่เฟย์  เพื่อนมิวเอง ”  ผมบอกคนตัวสูงที่ไม่สนใจจะตอบคำถามของไอ้เฟย์เลยสักนิด



     “ อ่า  มาส่งมิว...ครับ ”  คนข้างๆดูลังเลนิดนึงที่จะเอ่ยถ้อยคำแสดงความสุภาพกับคนตรงหน้าที่แม่งยืนบิดไปบิดมา  พยาธิไชก้นมึงรึไงไอ้เฟย์



     “ อ๋ออออออออ  มาส่งมิวนี่เอง ”  มันว่าเสียงยาวมองมือของผมกับพี่เนมที่จับกันอยู่  จนผมต้องดึงมือออกแล้วหยิบงานจากมือคนตัวสูงเดินไปวางบนโต๊ะ



     “ แล้วพี่เนมทานข้าวมารึยังคะ ”  เสียงเจื้อยแจ้วดังอยู่ด้านหลังผมที่ทำเป็นจัดนู่นจัดนี่บนโต๊ะส่งงาน  เดี๋ยวแม่งต้องมีคำถามหมื่นแปดมาถามกูอีกแน่นอน  ไอ้มิวฟันธง!!



     “ ทานกับมิวเรียบร้อยแล้วครับ ”  พี่ก็ช่วยตอบอะไรที่มันไม่มีชื่อผมเข้าไปเกี่ยวข้องหน่อยได้ไหมครับ  ผมขี้เกียจจะตอบคำถามเมียพี่



     “ อื้มม  ไปทานข้าวด้วยกันมาแล้ว  งั้น!!พี่เนมรีบไหมคะ?  ไปนั่งเล่นบนสตูเย็นๆกันดีกว่า ”  สาวสวยกำลังล่อลวงว่าที่ผัวมันด้วยแววตาเจ้าเล่ห์



     “ นังมิว  แกก็จะไปสตูเลยใช่ไหม ”  มันถามผมที่เดินกลับเข้าไปในวงสนทนา



     “ เออ  เดี๋ยวขึ้นไปเลย  ไอ้เบมาแล้วใช่ปะ  กูเห็นงานมันวางอยู่ ”



     “ มาแล้วย่ะ  มันไปแดกข้าวอยู่โรงอาหารนู่น  กูเดินสวนมันมาเมื่อกี้ ”



     “ พี่เนมไม่รีบไปเรียนหรอครับ ”  ผมพยักหน้ารับคำเพื่อน  แล้วหันไปถามคนตัวสูงต่อ   นี่มันก็จะบ่ายละครับอีกประมาณสิบห้านาที



     “ ไม่รีบครับ  เดี๋ยวไปส่งมิวที่สตูก่อนก็ได้ ”  พี่รีบบ้างก็ได้ครับผมไม่ว่าอะไรหรอก    หลังจากที่ฟังคำตอบของพี่เนมไอ้เฟย์นี่หันมาส่งยิ้มชั่วร้ายให้ผมทันที  เข้าทางมันล่ะครับที่นี้



     “ งั้นไปกันดีกว่าค่ะพี่เนม  อ้อ!ฝากจูงมือนังมิวด้วยนะคะ  เดี๋ยวมันเดินโง่ไปชนนู่นชนนี่พังหมด ”  มันว่าแล้วเดินนำไปทันที



     “ กูไม่ได้โง่  ไอ้สั..  อ๊ะ!! ”  ผมที่กำลังอ้าปากจะด่าไอ้เฟย์เดินชนฐานโมเดลที่วางเกินออกมาจากชั้นจนมันเกือบจะตกลงไปที่พื้น  ดีนะจับไว้ทัน  ฟู่วววว~~~  งานพี่ด้วยครับชิ้นนี้  เกือบไปแล้วไอ้มิว



     “ เห็นความโง่ของตัวเองรึยังคะ  คุณมิว  ฮ่าๆๆ ” ไอ้เฟย์หันมาเยาะเย้ยผม  ก่อนจะสะบัดตูดเดินนำไปตามเดิม



     “ งานมันเกะกะขวางทางกูเองต่างหากเล่า ”  ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ  มือเรียวยื่นมายีหัวก่อนจะเลื่อนลงมากุมมือผมให้เดินตามไอ้เฟย์ไป  ชิส์  ไอ้เสียงขำในลำคอนั่นผมได้ยินนะเว้ย  ผมได้แต่หันไปมองค้อนใส่คนข้างๆ








     “ นังมิวคะ  กูพร้อมแล้วค่ะ ”  ไอ้เฟย์เดินมาหาผมทันทีที่อาจารย์เดินออกจากสตูไป  แม่งนึกว่าลืมๆไปแล้วนะเนี่ย  พอพี่เนมเดินมาส่งผมถึงสตูเสร็จก็ขอตัวกลับไปเรียนเลยครับ  ทิ้งปัญหาไว้ให้ผมอีกเนี่ย 



     “ พร้อมอะไรครับเมีย  ทีกับผมบอกยังไม่พร้อมๆ ”  ไอ้เต้ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับผมถามแฟนมัน  ทำให้เพื่อนคนอื่นๆที่นั่งอยู่บนโต๊ะพากันขำไปด้วย  โต๊ะผมนั่งกันอยู่เจ็ดคนครับ  มีผม  ไอ้เบ ไอ้ซี  ไอ้เต้  ไอ้นัท ไอ้มิน แล้วก็ไอ้ทัต  แก๊งค์เจ็ดประจัญบาน  ภาควิชาผมมีสตูอยู่สามสี่ห้องครับ  มีทั้งห้องที่เป็นโต๊ะยาวๆไว้นั่งกันเป็นกลุ่มอย่างห้องนี้  แล้วก็ห้องที่เป็นโต๊ะดราฟไว้สำหรับเขียนแบบ  ส่วนอีกสองห้องก็เป็นโต๊ะยาวๆเหมือนกันครับแต่ไม่เยอะเท่าห้องนี้  เอาไว้ใช้สำหรับทำงานกัน



     “ หุบปากไปค่ะแฟน  จะบอกกูมาดีๆหรือต้องให้ใช้น้ำตาคะนังมิว ”  ช่วยด้วยครับ  ผมโดนผู้หญิงขู่ด้วยน้ำตา



     “ มีไรกันวะ ”  ไอ้เบที่นั่งอยู่ข้างผมหันมาถาม  ขี้เสือกเหมือนกันนะเราอะ



     “ ก็วันนี้พี่เนมมาส่งนังมิว  มีจับมือถือแขนกันด้วยนะ  กูเห็นกับตาเลย ”  ไอ้ไฟย์ได้ทีรีบฟ้องไอ้เบเลยครับ  มันหันมามองผมด้วยสายตาคาดคั้นเหมือนพ่อจับได้ว่าลูกมีเรื่องปิดบัง



     “ ไม่ต้องมามองแบบนั้นเลย  กูกำลังจะเล่าให้ฟังอยู่นี่แหละ ”



     “ เร็วๆเลย ”  เสียงงี้เข้มเชียวนะไอ้สัด



     “ ก็เมื่อวานที่พวกมึงหนีกลับไปก่อน... ” ผมเหล่ตาไปคาดโทษไอ้เบกับไอ้นัทที่พอมันปล่อยน้องมาสนามบาสเสร็จก็ชิ่งกลับทันที ไม่บอกไม่กล่าว



     “ กูก็เจอพี่เบที่สนามบาส  แล้วพี่เขาง่วงกูก็เลยอาสาไปส่งที่หอ ”



     “ มึงเล่าข้ามช็อตที่โดนไอ้เด็กปีหนึ่งนิติเต๊าะไปนะ ”  ไอ้เบบอกผมเสียงนิ่ง



     “  ก็กูรู้ว่าไอ้ทิวต้องเล่าให้พวกมึงฟังอยู่แล้วไงเลยไม่ได้บอก  ไม่โกรธเนอะ ”  ผมหันไปเกาะแขนไอ้เบที่ทำท่าจะงอนผมที่มีอะไรแล้วไม่ยอมเล่าให้มันฟัง  เรื่องแบบนี้พวกมันต้องบอกกันทั้งกลุ่มอยู่แล้วครับ  ไม่มีพลาดแน่นอน



     “ ใครเต๊าะใครอะไรยังไงวะ ”  ไอ้นัทยื่นหน้าเข้ามาถาม



     “ เสือก!! ”  ผมกับไอ้เบหันไปตอบพร้อมกันทันที



     “ แล้วไงต่อ ”  ไอ้เบเอามือเท้าคางแล้วหันมาจ้องผม



     “ ก็...เพื่อนพี่เขายึดห้องไป  พี่เขาเลยขอนอนที่หอกู  ตอนเช้าก็กลับไปเปลี่ยนชุดแล้วก็ติดรถกูมาคณะ  เพราะพี่เขาไม่ได้เอารถกลับไป  จบ ”



     “ แล้วมึงก็ให้เขาไปนอนด้วยง่ายๆเนี่ยนะ ”  ไอ้เบยังคงจ้องผมอยู่เช่นเดิม



     “ อ้าว  ก็ปกติป่าววะ  ไอ้พวกนี้แม่งก็ไปนอนหอกูอยู่บ่อยๆ ”  ไอ้พวกที่เหลือพยักหน้าเห็นด้วยกับผม



     “ แต่กูว่าแม่งไม่ปกติ ”  ไอ้เบหันไปบ่นอะไรก็ไม่รู้นอกวง  ก่อนจะหันมาบอกให้ผมกลับหอไปก่อนเลย  เพราะมันมีธุระต่อ




     ธุระอะไรของมึงวะให้กูไปด้วยไม่ได้ไง๊?



********************************************************************************************
เอ..  น้องเบว่าอะไรที่มันไม่ปกติหรอคะ? o18
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้านะคะทุกคนนน :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 16-12-2016 20:30:03
พี่เนมมม รุกหนักๆค่ะพี่
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-12-2016 21:14:27
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าพี่เนมเขาอ่อยหนักขนาดไหนนะมิว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-12-2016 21:35:31
พี่เนม เปิดตัวมิว กับเพื่อนๆ แล้ว แถมพูดจองมิว ให้รู้ด้วย
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: มิว นี่ซื่อมากกกกกก
พวกเพื่อนพี่เนม ขอไปนอนด้วย ก็ยอม ไม่สงสัยไรเล้ย
เบ ยังตามทัน นี่ไปคุยกับพี่เนมแน่เลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 16-12-2016 21:37:32
พี่เนมทำขนาดนี้ น้องมิวยังไม่รู้ตัวเลย จับจูบเถอะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 16-12-2016 21:46:28
ขำพี่เนม55555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ก๊าบก๊าบ ที่ 16-12-2016 22:25:04
มาต่อเถอะ ~ อยากอ่านนนนน. ~
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-12-2016 22:27:30
น้องเป็นคนใสๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-12-2016 00:27:00
น้องมิวค่อดน่ารักเลย ชอบๆๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 17-12-2016 00:40:10
น้องมิวคนซื่อ :mew3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-12-2016 00:45:38
น้องเบจะทำอะไรคะเนี่ย?

พี่เนมชอบตีเนียนอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-12-2016 01:21:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 17-12-2016 01:45:50
ปกติ๊ปกติค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่9 (16/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 17-12-2016 04:19:51
หนูมิวซื่อหนักมากกห โดนพี่เนมอ่อยขนาดนี้แล้วว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 17-12-2016 19:43:09
Chapter 10






     “มิคเอารสไหนครับ”  เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามเด็กชายตัวน้อย



     “ช็อคแลตๆ”  เสียงเล็กตอบกลับพร้อมกับกระโดดไปมา



     “อยากได้อะไรอีกไหมครับ?”  คนตัวโตที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นถามอย่างเอาใจ เด็กน้อยส่ายหน้าไปมาจนผมสะบัด



     “โอเคครับตัวเล็ก  งั้นเราไปจ่ายตังค์กันเนอะ”  ผมรีบหลบไปหลังชั้นวางขนมทันทีที่ร่างสูงยืนขึ้นแล้วจูงมือเด็กน้อยเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อคิดเงินค่าขนมที่มีอยู่เต็มตระกร้า   พร้อมกับนมรสช็อคโกแลตและสตรอเบอรี่อย่างละกล่อง



     “ยี่สิบห้าบาทค่ะ”



     “อะ นี่ครับ”  ผมที่เดินมาซื้อกาวร้อนที่เซเว่นรีบจ่ายเงินแล้วแอบเดินตามร่างสูงไปทันที



     “อาเนมๆ  มิค  ขี่มะๆ”  เด็กตัวน้อยกระโดดเหยงๆทำท่าประกอบการพูด



     “หึหึ  มาครับตัวเล็ก”  พี่เนมย่อตัวลงให้เด็กตัวน้อยขึ้นไปขี่หลัง  ก่อนจะออกเดินโดยหยอกล้อกับเด็กน้อยไปด้วย สร้างเสียงหัวเราะคิกคักไปตลอดทาง



     “มาแล้วเหรอตัวแสบ  เหมาขนมมาหมดเซเว่นเลยมั้งน่ะ”  เสียงพี่มิคเย้าแหย่เด็กน้อย  พี่เนมปล่อยเด็กตัวเล็กลงเมื่อเดินไปถึงโต๊ะที่เพื่อนๆนั่งอยู่



     “ไม่หมดฮับ  เหยืออีกเต็มย้านเยย”



     “หึหึ  มากินนมกันดีกว่าครับตัวเล็ก”  เสียงพี่เนมเรียกเด็กน้อยให้เข้าไปหาพร้อมยื่นกล่องนมรสช็อคโกแลตที่เจาะแล้วไปให้   เด็กน้อยรับมาแล้วดูดทันที   หลังจากนั้นคนตัวสูงก็เจาะนมรสสตรอเบอรี่ของตัวเองขึ้นมาดูดบ้าง



     “น้องมิวมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ”  ผมหันควับไปมองเสียงทักจากด้านหลัง   แม่ง! ตกใจหมด



     “อ่า  สวัสดีครับพี่...”



     “เฟรมครับ”  พี่หน้าเลวเพื่อนพี่เนมบอกชื่อตัวเองมา



     “อ่าครับ  พี่เฟรม”



     “ตกลงว่ามายืนแอบมองใครอยู่ตรงนี้หรอครับ”  พี่เฟรมถามพร้อมส่งสายตาล้อเลียนมาให้



     “มองนู่นน่ะครับ  โคตรน่ารักเลย”  ผมชี้ไปทางโต๊ะที่พี่เนมนั่งแล้วยิ้มออกมา



     “น่ารักก็ไปหาเลยสิครับ”  พี่เฟรมว่าเสร็จก็ลากผมเข้าไปที่โต๊ะทันที



     “เพื่อนครับ  มีคนมาแอบมอง  เขาบอกว่าโคตรน่ารักเลย”  พี่เฟรมจับแขนผมพาเดินไปหยุดตรงหน้าพี่เนมที่นั่งดูดนมกล่องอยู่ริมโต๊ะโดยมีเด็กน้อยที่มองผมตาแป๋วนั่งดูดนมอยู่บนตักอีกที



     “หืม?  มาได้ยังไงครับตัวเล็ก”



     “อามอส  มา”  พี่เนมถามผม แต่เด็กบนตักรีบตอบทันทีเพราะนึกว่าถามตัวเอง



     “อาถามพี่มิวครับ  ไม่ได้ถามเราสักหน่อย”  มือเรียวยื่นไปบีบจมูกเด็กตัวน้อยเบาๆ



     “ก็มึงเล่นเรียกมิวว่าตัวเล็กเหมือนที่เรียกมิคเลย  เด็กมันก็งงสิวะ”  พี่ซันพูดขึ้นมาบ้าง



     “อ่า  งั้นมิวมาทำอะไรแถวนี้ครับ”  ที่นี่คือใต้ตึกวิศวะครับ  ตั้งอยู่ตรงข้ามคณะผมมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่ถ้าผมจะมาเดินอยู่แถวนี้  แต่ที่พี่เขาถามก็คงเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์มั้งครับ



     “ผมมาทำงานที่คณะน่ะครับ  แล้วก็เดินมาซื้อของที่เซเว่น  เห็นพี่ก็เลย...”  ผมว่าก่อนส่งยิ้มเขินๆไปให้พี่เนม  อ่า น่ารักโคตรเลยครับ ผมจะทำยังไงกับคนตรงหน้าดี



     “ก็เลยเดินตามเพื่อนพี่มาหรอครับ”  พี่มอสเสริมขึ้นมา



     “อ่าครับ  น่ารักดี”



     “เพื่อนพี่เวลาอยู่กับเด็กมันก็น่ารักอย่างนี้แหละครับ  พอดีมันเป็นพวกรั...”



     “งือออ  โคตรน่ารักเลยอะ”  ผมร้องออกไปเมื่อทนมองดวงตากลมโตของเด็กน้อยที่จ้องหน้าผมไปดูดนมในมือไปด้วยไม่ไหว  ผมทำเป็นไม่สนใจว่าพี่มอสพูดอะไรออกมา   ดูสิแก้มป่องหมดแล้ว  ผมนึกในใจแล้วยื่นมือไปบีบแก้มนิ่มเบาๆ ฮื่อออ อยากได้~~~



     “หมาเลยเพื่อนกู”  พี่ซันสบถเบาๆ



     “ไหนหมาครับพี่ซัน”  ผมถามเมื่อได้ยินพี่ซันพูดอะไรหมาๆ  คือผมกลัวหมาน่ะครับ   เจอหน้ากันได้แต่อย่ามาใกล้กันเป็นพอ   มิวขอ



     “แถวนี้ล่ะครับน้องมิว”  พี่ซันตอบขำๆ    ผมได้แต่มองไปรอบๆ  ไม่เห็นจะมีหมาซักตัวเลย



     “น่ายัก”  ผมหันกลับไปสนใจเด็กน้อยบนตักพี่เนมที่ยื่นมือมากำนิ้วผม



     “ฮื่อออ  เราก็น่ารัก”  ผมบีบแก้มเด็กน้อยเล่น   ฮึ่ยย   หมั่นเขี้ยวชะมัด



     “นี่ของใครหรอครับ”  ผมถามไปมือก็บีบแขนป้อมๆนั่นเล่นไปด้วย



     “อะไรของใครครับ”  พี่เนมก้มหน้าลงมาถามผมที่นั่งยองๆเล่นกับเด็กบนตัก



     “ก็น้องคนนี้ไงครับ  ของใครหรอ”



     “แม่งถามซะเป็นของเล่นเลยสัด”  พี่เฟรมบ่นเบาๆ   ผมได้ยินนะเว้ย   แต่เด็กน้อยนี่ก็เหมือนของเล่นผมจริงๆแหละ ผมชอบเล่นกับเด็กตัวเล็กๆ   แบบว่า  เด็กมันไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะครับ  วิ่งหนีเราก็ไม่ทันด้วย   ผมล่ะช๊อบชอบ   ฮ่าๆๆ



     “นี่หลานพี่เองครับ  ชื่อมิค”  พี่มอสตอบ



     “หืมม  น้องมิค  อยากไปเล่นกับพี่มิวไหมครับ?”  ผมที่เอาแต่จ้องหน้าเด็กน้อยไม่ละสายตาไปไหน  ถามเจ้าตัวเล็กตรงหน้า  เดี๋ยวผมต้องรีบกลับสตูแล้วครับ  มีงานต้องทำต่ออีก  แต่อยากเอาเจ้าเด็กตัวน้อยนี่ไปเล่นด้วยอะ  งืออ น่าฟัดสุดๆ



     “ไปฮับ”  เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ  โง้ยยย  เข้าทางไอ้มิว



     “พี่มอสสสส  มิวขอเอาน้องมิคไปเล่นด้วยได้ไหมครับ  สัญญาจะดูแลอย่างดีเลย  นะครับนะ”  ผมลุกขึ้นยืนแล้วส่งสายตาออดอ้อนไปให้พี่มอส  งือ  ให้นะๆ ผมอยากเล่น



     “อะแฮ่มๆ  เอ่อ  พาไปเล่นได้ครับแต่เอาไอ้เนมไปด้วยนะ  เผื่อพี่ตามกลับ จะได้โทรหาไอ้เนมมัน”  พี่มอสกระแอมเบาๆ ก่อนเหลือบมองหน้าพี่เนมที่ขมวดคิ้วมุ่น



     “ครับ  พี่เนมไปกับมิวนะ นะนะนะ”  ผมหันไปอ้อนคนตรงหน้าต่อ  นี่เพิ่มออพชั่นเกาะแขนให้ด้วยนะ กลัวพี่เขาไม่ยอมไปด้วยน่ะครับ  ฮ่าๆๆ



     “อ่า  ครับ”



     “เย้!! พี่เนมโคตรน่ารักเลย  มามะ  ไปกับพี่มิว”  ผมยื่นมือไปจะอุ้มเด็กตัวป้อม  แต่พี่เนมลุกขึ้นยืนแล้วกระชับเด็กตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน  ก่อนจะหันมาบอกผม



     “เดี๋ยวพี่อุ้มเอง  เจ้านี่มันตัวหนัก”



     “อ่าครับ  งั้นเราไปกันเลยเนอะ  เอาขนมนี่ไปด้วยใช่ไหม?”  ผมหันไปหยิบถุงขนมบนโต๊ะขึ้นมาชูให้คนตัวสูงดู



     “ครับ  เอาไปด้วย”  พี่เนมว่าก่อนจะปล่อยมือข้างนึงออกจากตัวเด็กมาจับมือผมแล้วพาเดินไปทางคณะผม









     “มิคครับ  อันนั้นเล่นไม่ได้~~~~”  ผมร้องเสียงหลงเมื่อมือเล็กเอื้อมมาจับขวดกาวร้อนบนโต๊ะผม  หูย  ถ้ากาวหกไปโดนน้องนี่งานเข้าแน่ๆ



     “อยู่นิ่งๆครับตัวเล็ก  กินขนมนี่ไหมครับ”  พี่เนมที่มีเด็กตัวป้อมนั่งอยู่บนตัก หยิบขวดกาวออกจากมือเล็กมาวางไว้บนโต๊ะผมตามเดิม ก่อนจะเอาขนมมาหลอกล่อ



     “กินฮับ”  น้องมิคที่พอเห็นขนมก็ตาวาว  เลิกสนใจอุปกรณ์ทำงานบนโต๊ะผมทันที


     หลังจากที่กระเตงกันมาถึงสตูผมได้  ก็วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยทั้งคู่   หมายถึงน้องมิคและก็ผมนะครับ ส่วนพี่เนมนั่งดูความปลอดภัยอยู่ห่างๆ  เด็กอะไรก็ไม่รู้โคตรซน   แต่น่ารักดีครับ ผมชอบ   พี่เนมที่เห็นผมเล่นกับน้องมิคจนเหนื่อยแล้วเลยเดินมาอุ้มเจ้าตัวแสบไปนั่งตัก  ส่วนผมพอหายเหนื่อยก็ไปลุยงานต่อ  แต่ไม่ปล่อยเจ้าตัวเล็กกลับไปหรอกนะครับ  ให้นั่งอยู่เป็นอาหารตาผมก่อน  ถ้าพี่มอสยังไม่ตามผมก็ไม่ให้กลับหรอกครับ



     “มิวเหลืออีกเยอะไหมครับ”  พี่เนมถามผมเมื่อจัดการให้เด็กแสบนั่งนิ่งๆได้แล้ว



     “เสร็จแล้วล่ะครับ  เดี๋ยวผมเก็บของแปปนึงนะ ละเดี๋ยวเดินไปส่ง”  ผมที่ทำงานเสร็จพอดีรีบเก็บของลงกระเป๋าเพื่อที่จะได้ไปเล่นกับเด็กน้อยที่ใต้ตึกวิศวะต่อ   วันนี้ไม่มีใครมาทำงานที่สตูหรอกครับ  งานมันไม่ได้ใหญ่อะไรมากแค่กระดาษเอสองแผ่นเดียวเอง  แต่ผมดันลืมเอางานกลับไปก็เลยต้องมาเอาที่สตู  แล้วก็อยู่ทำมันซะที่นี่เลยจะได้ไม่เสียเวลา  คืองานมันส่งพรุ่งนี้น่ะครับ  แหะๆ  อย่าแอบด่าผมว่าดองงานนะ ผมไม่ได้ดอง  แต่งานมันเย้อออ~~








     “มิว  อู~~~~”  เด็กตัวน้อยเรียกชื่อผมยาวจนปากจู๋


 
     “ฟอดดด~~  น่ารักจังเยย   จุ้บๆ”  ผมหอมแก้ม ก่อนจะจุ้บที่ปากน้องมิคที่นั่งอยู่บนตักผมโดยหันหน้าเข้ามาหาอีกสองทีติด   โง้ยยย หลงครับหลง   แก้มนุ่มๆกับปากเล็กๆน่ารักๆ   อยากขโมยไปไว้ที่บ้านเลย



     “จุ้บ  จุ้บ  คิกๆ”  น้องมิคจุ้บแก้มผมคืนทั้งสองข้างก่อนจะหัวเราะคิกคัก



     “อะแฮ่ม!!  มิคครับ  อย่าซน”  พี่เนมที่ขับรถอยู่หันมาดุน้องมิคเบาๆ   ผมได้แต่ยิ้มขำเมื่อน้องมิคทำหน้างอ   ตอนนี้เรานั่งอยู่บนรถพี่เนมครับ   พี่เขาอาสามาส่งผมที่หอโดยบอกว่าจะเอาน้องมิคมาด้วยผมเลยรีบตกลงทันที    ฟีนงฟีโน่อะไร  ทิ้งไว้ที่คณะนั่นแหละครับ  พรุ่งนี้ค่อยไปเอาก็ได้



     “ขอบคุณนะครับพี่เนม”  ผมหันไปยิ้มตาหยีให้พี่เนมเมื่อรถจอดลงที่หน้าหอ



     “พี่ไปก่อนนะครับน้องมิค  ไว้ว่างๆมาเล่นด้วยกันใหม่เนอะ”  ผมหันไปยีหัวเด็กตัวน้อยที่ปีนไปเล่นของเล่นอยู่ที่เบาะหลังทันทีที่รถเลี้ยวออกจากรั้วมหาลัย   ซนจริงๆ



     “ฮับ!!”  เด็กน้อยหันมายิ้มฟันหลอก่อนจะหันไปสนใจของเล่นเหมือนเดิม  ผมหันไปยิ้มให้ร่างสูงอีกที ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ





     น่ารักชะมัดเล้ยยยยยย   ทั้งน้องมิคแล้วก็คนที่มาส่งนั่นแหละครับ  ตอนที่พี่เนมอยู่กับเด็กนี่โคตรน่ารัก  ดูอ่อนโยนโคตรๆ  แล้วการที่พี่เขายิ้มออกมาอยู่บ่อยๆ  มันเป็นอะไรที่โคตรละมุน  อ่า  นึกแล้วใจมันสั่นนิดๆแฮะ   




อย่าไปบอกพี่เขานะครับว่าผมแอบชม 





แบบว่า






‘ผมเขินนนนนน’  ><






********************************************************************************************
พี่เนมเขารักเด็กค่ะ  โดยเฉพาะเด็กที่มีชื่อขึ้นต้นด้วย ม.ม้าเนี่ย  จะได้รับการเอ็นดูเป็นพิเศษ :oo1: :
oo1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 17-12-2016 20:15:40
ดีต่อใจ พี้เนมน่ารักจริงๆ อบอุ่นรักเด็ก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-12-2016 20:33:00
หลงหนักเข้าไปอีก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-12-2016 20:41:14
มิว รักเด็ก ชอบเด็ก เข้าทางพี่เนม :mew1: :mew1: :mew1:
พี่มอส ก็ช่วยเพื่อนซี้เลย
พี่เนม ได้ขลุกทั้งมิค ทั้งมิว ถูกใจพี่ละสิ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-12-2016 21:20:49
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 17-12-2016 21:20:59
แหม พี่เนมใช้น้องมิคมาอ่อยน้องมิวเลยน้าา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 17-12-2016 21:29:41
พี่เนมน่ารักมาก  เพื่อนพี่เนมสนับสนุนกันตลอด
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-12-2016 21:44:33
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 17-12-2016 22:37:50
น่ารักกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-12-2016 01:19:44
น่ารักทั้งคู่เลยยยย :-[
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 18-12-2016 04:00:10
 :z13:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 18-12-2016 06:59:37
พี่เนม :-[ :-[

น่ารักเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 18-12-2016 09:32:16
โอ้ย คิดภาพแล้วฟินนน
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่10 (17/12/16)
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 18-12-2016 13:58:14
หล่อ เจ้าเล่ห์ รักเด็ก  :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 18-12-2016 19:49:30
Chapter 11


   



        “ไอ้มิววว  วันนี้กูไปห้องมึงนะ”
   

   “กูด้วย”


   “กูด้วย”


   “กูด้วย” 


   “ใครจะไปก็หาที่นั่งกันเองละกันนะ  กูจองบนเตียง  จบ แยก!!”  คืนนี้เป็นคืนเดือนเดือดครับ  พวกผมต้องซ่องสุมกำลังอยู่รวมกันเพื่อไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งเกิดอาการวาร์ปจนไม่สามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปได้ 



     ภารกิจอันยิ่งใหญ่ในค่ำคืนนี้คือการปั่นโปรเจคครับ   เป็นโปรเจคเดี่ยวและยังเป็นโปรเจคที่มีโพรเซส*ล้านแปด  ในส่วนของงานที่ต้องส่งนั้นก็ยังไม่ได้เป็นตัวไฟนอลหรอกครับ  ตอนนี้อยู่ระหว่างส่งความคืบหน้าไปเรื่อยๆ  แต่เป็นความคืบหน้าที่ถูกกำหนดไว้แล้ว  กำหนดไว้ว่าต้องส่งมากมายหลายอย่างเลยครับ  คืนนี้พวกผมเลยอยากจะอยู่ด้วยกันเพื่อชวนกันคุยแก้ง่วง  และสถานที่สำหรับค่ำคืนนี้ก็คือที่ห้องผม  ตอนนี้เพิ่งเลิกคลาสพวกมันก็แยกย้ายกันไปที่หอตัวเองเพื่อเตรียมสัมภาระอะไรกันให้เรียบร้อย   เวลานัดหมายคือราวๆสองทุ่มครับ




     “ไอ้เบ ไอ้ซี  มึงมาปะเนี่ย”  ผมหันไปถามไอ้เบกับไอ้ซีที่ไม่ได้เข้ามาเกาะแข้งเกาะขาผมเหมือนคนอื่นๆ



     “ไม่ไปๆ  กูอยู่ทำห้องกูเนี่ยแหละ”  ไอ้เบตอบมา  และไอ้ซีก็พยักหน้าหงึกๆสื่อว่าทำอยู่ที่ห้องเหมือนไอ้เบนั่นแหละ



     “เออๆ  พวกมึงอยู่หอเดียวกันก็ดูๆกันด้วยนะ  ไม่ใช่วาร์ปกันหมด”  ไอ้เบกับไอ้ซีนี่อยู่หอเดียวกันครับ  ผมเลยให้พวกมันช่วยดูๆกันหน่อย  เดี๋ยววาร์ปไปแล้วจะซวยกันหมด  งานเดี่ยวก็จริงครับ  แต่ถ้างานเพื่อนไม่เสร็จยังไงพวกผมก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว



     “จ่ะคุณเมียยย  ผัวไม่หลับแน่นอนจ่ะ”  ไอ้เบตอบเสียงกวนตีน  ผมชี้หน้าคาดโทษมันก่อนจะเก็บของกลับหอตัวเองบ้าง  ต้องไปเคลียร์พื้นที่นิดหน่อย  ก่อนพวกมันจะมากัน











     หลังจากกลับมาถึงหอผมก็จัดการเคลียร์ห้องให้มันพอมีพื้นที่ทำงานได้หน่อย   นอนพักเอาแรงแปปนึงจนตอนนี้ก็ทุ่มกว่าๆแล้วครับ  พวกมันบอกว่าจะมากันสองทุ่มก็คงจะกินอะไรกันมาแล้วแหละ  เพราะงั้นผมออกไปหาอะไรกินก่อนพวกมันจะมาดีกว่า  ว่าแล้วก็หยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ แล้วก็คีย์การ์ดออกมา  ลงมาก็ทักทายพี่ยามนิดหน่อย  พวกผมค่อนข้างสนิทกับแกน่ะครับ  แกเป็นยามกะดึกที่ประจำอยู่ที่หอผมเลยเห็นพวกผมที่เดินเข้าออกกันตลอดทั้งคืน  บางวันแกยังช่วยดูงานที่พวกผมเอาลงมาทำข้างล่าง  อย่างเช่น พ่นสีโมเดล  อะไรแบบนั้นน่ะครับ  แกก็คอยเฝ้าให้ตลอด




     “เอายำมาม่าใส่ทุกอย่างครับ  เดี๋ยวมาเอานะครับ”  ผมสั่งยำที่เป็นร้านตั้งโต๊ะขายธรรมดา  ไม่ได้มีที่สำหรับนั่งกินที่ร้าน  เอาง่ายๆไว้ก่อนครับเพราะเวลานี้ร้านอาหารที่เป็นที่นั่งมีนักศึกษาจับจองกันเต็มไปหมด   ร้านยำนี่ก็มีคนยืนรอกันพอสมควรครับเพราะพี่เขาทำอร่อย  แต่รอคิวนิดหน่อยก็ดีกว่าข้าวในเซเว่นแหละครับ  อันนั้นผมกินจนเบื่อแล้ว


     
     N. :: ถึงหอรึยังครับ

     
     Mewtation ::  ถึงแล้ว

     ไอ้เอ็นคนเดิมเพิ่มเติมคือคุยกับผมทุกวัน  คุยเล็กคุยน้อยนี่ขอให้ได้คุยเถอะครับ  วันๆถามแต่อะไรก็ไม่รู้  กินข้าวยัง  ทำไรอยู่  เข้านอนรึยังครับ   ตามติดสถานการณ์ชีวิตกันแบบเรียลไทม์กันเลยทีเดียว  ตอนอารมณ์ดีๆผมก็ตอบมันนะครับ  สงสารอะ  มันคงเหงา  ฮ่าๆๆ  แต่เวลาผมไม่ตอบมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ  ยังคงส่งคำถามมาได้เรื่อยๆเหมือนเคย




     “ป้าครับ  ผมขอกระดาษร้อยปอนด์เอสองแบบเรียบ  3  แผ่นครับ”  ระหว่างรอก็เดินมาซื้อของที่ร้านเครื่องเขียนครับ  เดินถัดมาจากซอยหอผมซอยนึง  ไม่ไกลจากเซเว่นเท่าไหร่  ซื้อเสร็จก็กลับไปรอที่ร้านยำเหมือนเดิม

     อ่า  นั่นมันพี่เนมหนิ


     หลังจากที่เล่นกับน้องมิคเมื่ออาทิตย์ก่อนนู้นผมก็ไม่ได้เจอพี่เนมอีกเลยครับ  แบบว่างานผมเยอะ  ไม่ค่อยได้ไปเหยียบแถววิศวะซักเท่าไหร่   กลับมาก็ปั่นงานที่ห้องต่อ   กินข้าวกินน้ำอะไรอยู่ในห้องนั่นแหละครับ  วันนี้ฤกษ์งามยามดีมาม่าในห้องหมด  เลยได้ออกมากินยำมาม่าข้างนอกแทน  แจ่แฮ้!!  ทำไมชีวิตผมมันมีแต่มาม่าวะครับ


     
      N. ::  วันนี้ยังทานมาม่าอยู่รึเปล่าครับ  เลิกได้แล้วนะ  ออกมาหาอย่างอื่นทานบ้าง

     นอกจากตามติดสถานการณ์ชีวิตผมแล้ว  มันยังชอบทำตัวเป็นพ่อผม  สั่งนู่นสั่งนี่เต็มไปหมด  มีเหรอครับที่ผมจะฟัง  พอดีเป็นพวกกวนตีนน่ะโดนสั่งแล้วไม่ค่อยอยากจะทำ  ผมชอบเอาใจก็จริงครับแต่นั่นต้องไม่ใช่การสั่ง  ผมไม่ชอบให้ใครมาสั่งนู่นสั่งนี่สักเท่าไหร่  แล้วไอ้ที่บอกให้ผมทานอย่างอื่นบ้างนี่มันบอกมาตั้งแต่รู้ว่าผมทานมาม่าเป็นวันที่สองแล้ว   จนป่านนี้เมนูในมือผมก็ยังคงเป็นมาม่าอยู่ดี  ฮ่าๆๆๆ



     Mewtation :: You  sent  a  photo
     
     ผมยกถุงที่ใส่ถ้วยยำมาม่าขึ้นมาถ่ายรูปแล้วส่งไปให้มันดู   มาม่าต้มกับยำมาม่ามันก็คนละอย่างกันแหละเนอะ  ฮ่าๆๆ



     “พี่ๆหวัดดีครับ”  ผมเดินเข้าไปด้านหลังคนตัวสูงที่นั่งอยู่ในร้านอาหารตามสั่งกับพี่มอสและพี่ซัน  พี่เนมที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่หันมามองผมด้วยใบหน้านิ่งๆก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้ดู 



     “เหี้ย!!”  ผมสบถใส่หน้าจอโทรศัพท์ที่พี่เนมยื่นมา  นะ นั่นมัน  รูปที่ผมถ่ายส่งไปให้ไอ้เอ็นหนิ



     “ไหนเหี้ยครับมิว”  พี่ซันเงยหน้าจากจานข้าวมามองผม



     “อะ...เอ่อ  เปล่าครับ  ไม่เหี้ย  ไม่มีเหี้ย  แหะๆ”  ผมหันไปหัวเราะแห้งๆใส่คนตัวสูงที่ยังมองหน้าผมนิ่งๆเหมือนเดิม    แม่งอะไรวะเนี่ยยยยยย  งงโว้ยยยยย



     “นะ..นี่  นี่ไลน์พี่เนมหรอครับ”  ผมไถลตัวลงไปนั่งเก้าอี้ข้างพี่เนมแล้วเอานิ้วจิ้มจึกๆบนหน้าจอโทรศัพท์ของคนตัวสูงที่วางอยู่บนโต๊ะ



     “อืม”  คนตัวสูงตอบเสียงเรียบโดยที่ไม่หันมามองหน้าผม  เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวในจาน



     “ละ  แล้ว  พี่  เอ่อ  พี่เนมเอาเบอร์ผมมาจากไหนอะ”  ก็ไอ้เอ็นนั่นมันแอดมาจากเบอร์โทรศัพท์นี่



     “ก็ขอที่หน้าตึกโยธาไง”  เขาหันมาขมวดคิ้วใส่ผมนิดๆ  ก่อนจะหันไปกินข้าวต่อ 



     “อ๋อออ  ที่ขอไปให้รุ่นน้องหรอครับ”  ตอนนั้นพี่เขาใช้โทรศัพท์ตัวเองเมม  คงไม่ได้ลบเบอร์ออก



     “ขอ  แต่ไม่ให้”  หืมม?  ขอแต่ไม่ให้  แปลว่าเบอร์ผมก็ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือไอ้พวกนั้นน่ะสิ  เยส 


   
     “อ่า  ขอบคุณนะครับที่ไม่เอาเบอร์ผมไปให้พวกนั้น”  ผมยิ้มดีใจให้คนข้างๆที่ไม่ยอมมองหน้าผมเลย









     “พี่เนม..”  ผมอาศัยจังหวะที่พี่ซันกับพี่มอสขอตัวออกไปซื้อขนม  ยื่นหน้าไปใกล้ๆคนที่เอาแต่สนใจจานข้าว



     “โกรธอะไรมิวรึเปล่า”  ปกติพี่เขาไม่เมินผมขนาดนี้นี่  หรือจะโกรธที่ผมไปกวนตีนเขาในไลน์ไว้เยอะ  ก็คนมันนึกว่าเพื่อนนี่หว่า 



     “มิวขอโทษที่กวนตีนพี่  มิวไม่รู้ว่าเป็นพี่เนมอะ  ขอโทษนะครับ”  ผมยังยื่นหน้าค้างไว้ที่เดิม  ตอนนี้พี่เขาหยุดกินแล้วครับ  แหงล่ะ  หัวผมขวางอยู่ซะขนาดนี้



     “พี่บอกให้ทานอย่างอื่นใช่ไหมครับ  ทำไมถึงยังเป็นมาม่าอยู่”  พี่เนมหันไปมองถ้วยมาม่าที่ผมวางไว้บนโต๊ะ  ก่อนจะเลื่อนสายตากลับมาที่หน้าผมเหมือนเดิม



     “อ่า  ก็....  มิวไม่รู้จะกินอะไร  แต่ร้านนี้อร่อยนะครับ  พี่เนมชิมไหม”  ผมทำตลกกลบเกลื่อน  ถ้าบอกว่าตั้งใจขัดคำสั่งนี่โดนกระทืบแหง 



     “ไปสั่งข้าวแล้วมานั่งทานกับพี่”  หลังจากที่มุกผมแป้กจนเกิดเดดแอร์อยู่เกือบนาทีได้  พี่เนมก็พูดขึ้นมา



     “แต่ผมซื้อมาแล้วนะ”  ผมชี้ไปยังถ้วยยำที่วางอยู่ข้างหน้า



     “อะ เอ่อ  ป้าๆผมเอาข้าวผัดปลาหมึก”  ผมรีบหันไปสั่งป้าร้านข้าวที่เดินผ่านมาพอดี  ถ้าจะมองขนาดนี้  ด่าออกมายังรู้สึกดีกว่าเลยครับพี่เนม



     “อ้าว  มิวจะทานข้าวที่นี่หรอ  พวกพี่ขอตัวก่อนนะมีนัดคุยงานที่คณะกัน  มึงแดกเสร็จยังไอ้เนม”  พี่มอสที่เดินกลับมาพร้อมกับพี่ซันในมือถือเครปกันคนละอัน  มองที่ถ้วยยำผมงงๆ  แล้วหันไปเร่งร่างสูง



     “พวกมึงไปก่อนเลย  ฝากบอกไอ้พวกนั้นด้วย  เดี๋ยวกูตามไป”



     “อะครับ  ตามแต่หัวใจคุณเพื่อนเลยครับ  เดี๋ยวกระผมจะบอกคนอื่นๆให้”  พี่มอสว่าก่อนจะเดินออกไปพร้อมพี่ซันที่หันมาขยิบตาให้ผม  เซ็กส์เสื่อมมากเลยครับพี่



     “พี่เนมไปก่อนเลยก็ได้นะ  เดี๋ยวผมให้ป้าเอาใส่กล่องไปกินบนห้องก็ได้”  ผมบอกเมื่อคนตัวสูงทานข้าวหมดแล้วแต่ยังไม่ยอมลุกไปไหน



     “ข้าวผัดปลาหมึกจ้า”  คุณป้าตัวอ้วนเดินเอาจานข้าวผัดมาวางไว้ตรงหน้าผม  ขอบคุณที่ช่วยให้ผมหลุดออกจากสภาพเดดแอร์ได้นะครับ  พี่เนมนั่งนิ่งๆมองผมทานข้าวจนหมด  แล้วยื่นแก้วน้ำที่พี่เขาลุกไปตักเมื่อไม่นานมานี้ส่งมาให้  จากนั้นก็ลุกไปจ่ายเงินค่าอาหารทั้งของพี่เขาแล้วก็ของผม  พอผมจะคืนเงินให้ก็ไม่เอาอีก  เบื่อที่จะตื๊อแล้วครับ



   





      “ทีหลังห้ามทานมาม่าติดกันบ่อยๆเข้าใจไหมครับ”  พูดได้แล้วหรอครับ  ผมหันไปมองคนที่บอกว่าจะพาไปส่งที่หอและกำลังเดินจูงมือผมอยู่ตอนนี้



     “ก็มิวไม่มีเวลานี่”  ผมหันไปบ่นใส่คนตัวสูง  นี่อีกนิดนึงจะงอนละนะ  เงียบใส่ผมนานๆแบบนี้ผมก็เฟลเป็นเหมือนกัน  งอนมางอนกลับไม่โกงโว้ยยย



     “ตอนมีเวลาก็ยังซื้อยำมาม่าอยู่เลยนี่ครับ” 



     “ก็แล้วมาสั่งทำไมเล่า”  ผมแอบบ่นเบาๆ



     “ก็แล้วพี่เป็นห่วงไม่ได้หรอครับ”  คนข้างๆนี่ก็หูดีซะเหลือเกินนะ



     “ก็มิวไม่รู้ว่าเป็นพี่นี่  ถามแล้วก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร มิวก็นึกว่าเพื่อนมันแกล้ง  แม่งง”  ผมเดินเตะหินเตะทรายไปมั่วๆ  โมโหครับโมโห   ถามแล้วไม่บอก  พอผมไม่ฟังทำมาเป็นบอกว่าเป็นห่วง  แหวะ  ผมไม่สนหรอก



     “แสดงว่าถ้าเป็นพี่  มิวจะยอมให้สั่งใช่ไหมครับ”  คนตัวสูงก้มหน้าลงมาถาม



     “เป็นใครก็ไม่ให้สั่งทั้งนั้นแหละ  อยากให้มิวทำอะไรก็บอกมิวดีๆสิ  มาสั่งๆๆใครที่ไหนเขาจะอยากทำกัน”  ผมยังคงบ่นต่อไปเรื่อยๆ  ต่อให้เป็นพี่เนมก็สั่งไม่ได้หรอกโว้ยยย



     “งั้นตัวเล็กทานอาหารที่มีประโยชน์หน่อยได้ไหมครับ  พี่เป็นห่วง”  คนตัวสูงเดินมาดักหน้าผมแล้วเอามือที่ว่างมาลูบหัวเบาๆ   ฮึ่ยยย  มาสายนี้ตลอด  ไอ้พี่เนมเวอร์ชั่นอ่อนโยน  นี่ผมไม่ใช่มิคนะเว้ย



     “อื้ม  จะพยายามละกัน”  และเนื่องจากผมไม่ใช่เด็กน้อยแบบมิค  มาทำแบบนี้ใส่ผมก็เขินเป็นเหมือนกัน  แหะๆ



     “หึหึ  ถ้ามิวไม่มีเวลาบอกพี่ก็ได้ครับ  เดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไปให้”  พูดไปเดินไปเฉยๆก็ได้ครับ  ไม่ต้องมาแอบขำผมที่ยอมลงให้ง่ายๆหรอก



     “ไม่ต้องเกรงใจนะ  พี่เต็มใจ”  ผมที่กำลังจะอ้าปากบอกว่าไม่เป็นไร  ต้องหุบปากลงแล้วก้มหน้าเดินไปตามเดิม


     
     “พี่จะเอาอะไรจากผมปะเนี่ย”  มาดีด้วยแบบนี้ต้องหวังอะไรแน่นอน  จะให้ผมไปช่วยงานอะไรรึเปล่าวะ  แบบว่าถาปัตย์ดูเป็นพวกสายอาร์ตน่ะครับ  วิศวะที่อยู่ใกล้ๆเลยชอบมาขอให้ช่วยนู่นช่วยนี่อยู่บ่อยๆ  นี่พี่เนมก็กะจะให้ผมไปเป็นลูกน้องล่ะสิ



     “จะเอาใจครับ”



     “ห๊ะ  จะเอาใจผมไปทำไมอะพี่”  อยู่ๆก็จะมาคอยเอาใจคนอื่นเนี่ยนะ  พี่เรียนเยอะจนเบลอรึเปล่า  หรือว่าพี่ว่างเกินเลยจะออกมาเซอร์วิสคนอื่น


 
     “นั่นสิ  เอาใจมิวไปทำอะไรดีนะ”  คนตัวสูงหันมายิ้มกรุ้มกริ่มใส่ผม  ไอ้เหี้ยเอ๊ยย  เอาหน้านิ่งๆแบบเดิมได้ไหมอะ   พอดีว่าหน้าแบบนี้ผมเขินนน  ><



     “ นะ  นี่  พี่จะจีบมิวหรอ”  อยากรู้ก็ถามแม่งเลยครับ  มาอ่อยผมขนาดนี้  ถ้าพี่ไม่จีบผมนะ   เดี๋ยวผมจะจีบพี่เอง  ฮ่าๆๆๆ



     “อ้าว  รู้ตัวแล้วหรอครับ?”  พี่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมต้องเอามือดันหัวพี่เขาออกไปไว้ที่เดิม



     “ยังไม่รู้ตัวเลยครับ  ช่วยจีบต่อไปเรื่อยๆก่อนได้ไหม”  ผมหันไปกวนคนข้างๆเมื่อเราเดินมาถึงหน้าหอผม



     “ได้ครับตัวเล็ก”  พี่เขาลูบหัวผมเบาๆ  ก่อนจะขอตัวกลับไปที่คณะเพราะเพื่อนโทรมาตามแล้ว  ไอ้ผมก็เดินขึ้นห้องอย่างเบลอๆ  ตัวมันเบาๆ ลอยๆน่ะครับ  สะดุดบันไดไปได้สามสี่รอบ  ก็มาถึงห้องพอดี








     งื้อออออออออออ  พี่เนมอะ  พี่เนมที่คนค่อนมหาลัยอยากได้เป็นแฟน  คนที่วันๆไม่ค่อยคุยกับใครนอกจากเพื่อนตัวเอง  คนที่ชอบทำหน้านิ่งๆ   คนที่เมินคนที่เข้ามาทักแทบจะทุกคน   คนที่อ่อนโยนกับผมเสมอ  คนที่วนเวียนอยู่ในหัวผมมาเป็นอาทิตย์  เขาจีบผมมมมมมมม  เขาจีบผมอะ  ไม่เคยรู้สึกดีเวลาที่โดนผู้ชายมาจีบเท่าวันนี้มาก่อนเลยจริงๆ  ไม่ใช่เพราะเขาหล่อ  ไม่ใช่เพราะมีแต่คนอยากได้เขา  แต่เพราะความพิเศษที่เขามอบมันให้กับผม  ให้แค่ผม  มันทำให้ผมอยากจะลองเปิดใจให้เขาได้เข้ามาพิสูจน์  ว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับผมรึเปล่า


     หลังจากที่ดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนเตียงอย่างบ้าคลั่ง  บ้าจริงๆครับ  ผ้าปูที่นอนผมนี่ยับยู่ยี่เลย  ผมลุกไปอาบน้ำสงบจิตสงบใจเพื่อที่จะได้มาลุยงานในค่ำคืนนี้ต่อ  แล้วก็รอไอ้พวกเพื่อนเวรนั่นมาด้วยครับ  ต้องเก็บอาการไว้ก่อน  จะให้พวกมันรู้ไม่ได้  ผมไม่อยากให้ใครมาสมน้ำหน้าถ้าหากว่ามันเตือนแล้วผมจะไม่ฟัง  ก็อย่างที่รู้ๆกันดีว่าพี่เขาฮอตขนาดไหน  ถึงจะไม่ได้สนใจใครแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาก่อน  เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไปมีวันไนท์สแตนด์กับใครบ้างตามภาษาผู้ชาย  ที่ถึงแม้ผู้หญิงอยากจะสานต่อแค่ไหน  ก็ได้แต่ความเฉยชากลับไปเท่านั้น  ผมไม่รู้ว่าเขาจริงใจกับผมแค่ไหน  อาจจะแค่อยากรู้อยากลองรึเปล่า  หรือบางทีอาจจะท้ากันกับเพื่อนอยู่ก็ได้ใครจะไปรู้   แต่ในเมื่อวันนี้ผมเองก็อยากจะลองเหมือนกัน  อยากจะรู้ว่าเขาใช่คนๆนั้นรึเปล่า  และถ้าหากมันจะต้องผิดหวัง  หรือต่อให้ผมโดนหลอก  ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนๆมาเป็นกังวลไปกับผมด้วย  เอาไว้ถ้ามันไปได้ดี  กูจะบอกมึงละกันนะเพื่อน






03.00 น.

     “ไอ้มิว  กระดาษทรายอยู่ไหน”  ไอ้ทัตเดินใส่แมสปิดปากเข้ามาหาผม



     “ในตะกร้าข้างโต๊ะดราฟอะ”  ผมตอบมันพร้อมชี้ไปตรงโต๊ะดราฟที่วางอยู่ตรงข้ามกับเตียง

       
      ตอนนี้เข้าสู่ช่วงเวลาเดือดอย่างเต็มตัวแล้วครับ  ไอ้ทัต  ไอ้นัท  ไอ้มิน นี่เดินกันวุ่นไปหมดในห้องผม  ส่วนไอ้เต้อยู่นอกระเบียงครับ  นั่งพ่นสีโมเดลอยู่  ถ้าโมเดลตัวเล็กๆก็พ่นที่ระเบียงได้ครับ  แต่ถ้างานใหญ่ๆคงต้องลงไปพ่นกันข้างล่าง  และก็ดีแล้วที่มันนั่งอยู่ข้างนอก  พวกผมจะได้ไม่ต้องทนดมกลิ่นตีนมัน



     “ไอ้มิว  น้ำยาเชื่อมๆ”  ไอ้นัทตะโกนมาถามบ้าง  มันนั่งอยู่หน้าห้องน้ำครับ  ใครจะเดินข้ามงานมันไปเข้าห้องน้ำทีนี้แม่งบ่นยาวตลอด 



     “อยู่ข้างขวดสเปรย์อะ”  ผมที่ปั่นโมเดลเสร็จแล้ว  กำลังนั่งทำเพจพรีเซนท์อยู่ เป็นเพจของสตั๊ดดี้โมเดล  ยังไม่ใช่ของไฟนอลตัวจริงครับ ต้องทำประมาณสองสามแผ่น  พรีเซนท์รูปด้าน  วิธีการใช้งาน  แล้วก็ตัวเทียบสเกลจริง  กว่าจะเสร็จก็คงเช้าพอดี  คงได้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไปส่งงานเลยครับ  หรือถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินก็คงไม่ต้องอาบน้ำกันแหละครับ  ไปส่งแม่งเลย  ส่งเสร็จค่อยว่ากัน  พวกผมทำกันบ่อย  ฮ่าๆๆ




     N. ::  ใกล้เสร็จรึยังครับ?

     Mewtation :: คงลากยาวถึงเช้าเลยอะ  พี่เนมนอนไปก่อนเลยครับ




     คืนนี้ไอ้มิวไม่มีง่วงครับ  แบบว่ากำลังใจดี  ฮ่าๆๆๆ




********************************************************************************************
คนเขาจะจีบกันอะเนอะ :z1:   ฝากติดตามตอนต่อไปกันด้วยนะค้าาา :L1:

*โพรเซส = process (กระบวนการการทำงาน)
ในการส่งโปรเจคของถาปัตย์(ในส่วนของการออกแบบอุตสาหกรรม)  ถ้าเป็นโปรเจคใหญ่ๆจะค่อยๆส่งไปทีละขั้นค่ะ 
แบบว่าอาทิตย์แรกส่งResearch  Task analysis
อาทิตย์ถัดมาเป็น Sketch
Develop
Study model
Develop model
Prototype/Mock up 
Working drawing
Presentation
อะไรประมาณนี้ตามลำดับค่ะ  โดยที่จะต้องแก้งานของอาทิตย์ก่อนๆไปด้วย  แบบว่างานจะทวีคูณขึ้นเรื่อยๆเลย :katai1: :katai1: :katai1:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 18-12-2016 20:02:01
หนูมิวพอรู้ว่าพี่เนมจีบนี่ถึงกับเพ้อเลยหรอลูก5555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-12-2016 21:34:27
มิวยอมเปิดใจให้พี่เนมจีบด้วย :m3: :m3: :m3: :m4: :m4: :m4: :m4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-12-2016 22:09:49
รู้ตัวสักทีนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 18-12-2016 22:21:55
โหย พี่เนมคะ มีงงมีงอน  :hao3: ตั้นล๊ากกกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 18-12-2016 22:29:46
น้องมิววว 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่11 (18/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 19-12-2016 00:12:53
ทั้งมั่น ทั้งอิจ ทั้งเอ็นดูวว
55555555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 26-12-2016 18:45:54
Chapter 12







     “ไอ้เหี้ยยย   มึงตัดนี่ให้หน่อยดิ”



     “มึงๆ แปะกาวให้กูเสร็จยัง”



     “เพจกูได้ยังวะ”



     “สัดๆๆ  กูลืมทำแท็กติดโมเดล”



     “ใจเย็นๆไอ้นัท   ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงเหลือแค่แท็กอันเดียวแล้วเนี่ย อย่าลนๆ”  ผมบอกไอ้นัทที่แม่งเดือดสัดๆ   เมื่อคืนมันมัวแต่ขัดแต่งโมเดลจนเพลิน  ทำให้งานส่วนอื่นๆเดือดไปหมด  พวกผมจึงยกงานมาสตูกันตั้งแต่หกโมงเช้า  แล้วระดมพลเพื่อนๆทั้งหลายมาช่วยงานไอ้นัทมัน  งานของผมและคนอื่นๆนี่เรียบร้อยกันหมดแล้วครับ  บางคนก็จบงานแบบสวยๆ ส่วนบางคนก็ตัดจบงานตัวเองเพื่อมาช่วยไอ้นัทที่แม่งลนจนประสาทแดกไปแล้ว



     “ว้ากกก   กูตัดเบี้ยว”



     “ก็ตัดใหม่สิสัด”  ผมตบหัวมันไปที   หมั่นไส้แม่ง   เหลือเวลาอีกตั้งเยอะกับอีแค่แท็กชื่ออันเล็กนิดเดียว  ตัดผิดไปสิบอันยังเหลือเวลาให้ตัดใหม่อยู่เลย








     “เห้อออออ  กูเบื่อวิชานี้สัดๆ  กูเหนื่อย  กูท้อ  กูเพลีย”  ไอ้นัทพูดขึ้นหลังจากที่ส่งงานกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว  วิชานี้มันกินแรงจริงๆนะครับ  ทำแทบตายยังไง  อาทิตย์ต่อไปก็ต้องทำมาส่งใหม่อยู่ดี  วนลูปไปจนกว่าจะไฟนอล  แต่มันเป็นวิชาภาคไงครับ  จะไม่เรียนก็ไม่ได้



     “วันนี้ไปกินข้าวที่วิศวะกันมึง  พลังกูหมด  อยากชาร์จจจ”  ไอ้เฟย์เดินเข้ามาหาพวกผมหลังจากที่เก็บของเรียบร้อยแล้ว



     “เออ  กูอยากได้ข้าวเยอะๆ  เต็มๆจาน  ข้าวคณะเราแม่งได้เท่าแมวดม  ไอ้พวกคณะอื่นที่เสร่อมาแดกนี่สงสัยจะอยากไดเอทกัน”  ไอ้เต้ว่าขึ้นมาบ้าง   ผมว่าพลังของไอ้เฟย์นี่ไม่ใช่ข้าวเยอะๆหรอกครับ  แต่เป็นหนุ่มหล่อๆเยอะๆมากกว่าที่จะมาชุบพลังชีวิตมันได้



     “งั้นไปกันค่ะแฟน  พวกมึงก็ตามมาเร็วๆ”  มันพูดจบก็ลากแขนแฟนมันออกไปทันที  พวกผมที่เก็บของเสร็จแล้วก็เดินตามพวกมันไป






     “อ๊ะ!! / โอ๊ย!!”  ผมที่กำลังเลือกร้านอาหารอยู่เดินชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่ง   เธอเดินออกมาจากทางแยกทำให้ผมมองไม่เห็น  ตัวผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอกครับ   แต่เธอนี่สิลงไปกองกับพื้นเรียบร้อย  ดีที่ตอนนี้เป็นช่วงสายๆคนในโรงอาหารไม่เยอะเท่าไหร่  ไม่งั้นผมคงถูกกล่าวหาว่ารังแกผู้หญิงแน่ๆ



     “เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”  ผมก้มลงไปเก็บข้าวของของเธอที่กระจัดกระจายออกจากกระเป๋า  พลางมองสำรวจความเสียหายบนตัวเธอไปด้วย



     “เจ็บข้อเท้านิดหน่อยน่ะค่ะ  ไม่เป็นอะไรมากหรอก  ขอบคุณมากนะคะ”  เธอบอกก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าที่ผมเก็บของให้เรียบร้อยแล้วพร้อมกับลุกขึ้นยืน   เธอเซเล็กน้อยจนผมต้องเข้าไปช่วยพยุงกันเธอล้มลงไปอีกรอบ



     “อ่า   ไหวไหมครับ  ให้ผมพาไปหาหมอไหม”  ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง  เพราะดูท่าจะเจ็บเกินกว่าที่จะเดินแบบปกติได้



     “ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ  ฉันเดินไม่ทันระวังเอง  ยังไงก็ขอโทษและก็ขอบคุณมากนะคะ”  เธอว่าก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา  โคตรนางฟ้าเลยครับ  เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก  สวยแบบดูดี สุภาพ อ่อนโยน   แม่ง ตอนผมชนเธอนี่น่าจะคว้าเธอมาไว้ในอ้อมกอดจะได้ไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้ ทำไมคิดไม่ได้นะไอ้มิวนี่



     “เอ่อ  ให้ผมช่วยถือดีกว่านะ คุณจะไปไหนหรอครับ”  ผมเห็นท่าเดินกระเผลกๆบวกกับมือบางที่อุ้มชีทไว้อีกปึกนึงก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปช่วยเหลือ  เห็นผมไร้สาระไปวันๆแบบนี้แต่ผมก็เป็นคนมีน้ำใจนะเออ



     “ตอนแรกว่าจะไปตึกโยธาน่ะค่ะ  แต่ตอนนี้คิดว่านั่งรอที่นี่น่าจะดีกว่า”  เธอหันมายิ้มให้ผมอย่างใจดี   คือมันดูเป็นรอยยิ้มที่อ่อนหวาน  จนทำให้บรรยากาศมันละมุนไปหมดเลยครับ



     “อ่า  มีนัดที่ตึกโยธาหรอครับ”  ผมถามเพราะเห็นเธอใส่ชุดนักศึกษาปกติ  ไม่ได้ใส่ชอปแต่อย่างใด  และดูๆแล้วเธอก็ไม่น่าจะใช่พวกเด็กปีหนึ่งเพราะไม่ได้แต่งกายถูกระเบียบเป๊ะขนาดนั้น  แสดงว่าคงมาจากคณะอื่นแล้วก็คงจะมีนัดถึงได้มาที่นี่



     “ก็ประมาณนั้นค่ะ  แต่ถ้านั่งรอที่นี่ก็คงอีกนานเลยล่ะค่ะกว่าเขาจะมา”  ตอนนี้ผมพาเธอเดินมานั่งที่โต๊ะเรียบร้อยแล้วครับ  โซนนี้เป็นคนละโซนกับที่พวกเพื่อนผมมันนั่งกัน  เลยทำให้มันไม่เห็นว่าผมมานั่งกับสาวสวยอยู่แบบนี้



     “งั้นให้ผมรอเป็นเพื่อนไหมครับ  ไถ่โทษที่ผมเดินชนคุณเมื่อกี้”  ผมเสนอตัวนั่งเป็นเพื่อนเธอ  ก็ถ้าผมไม่เดินชนเธอจนข้อเท้าเจ็บ  เธอคงเดินไปหาเพื่อนที่ภาคโยธาได้โดยไม่ต้องมานั่งรอแบบนี้



     “เอ่อ  ผมไม่ได้จะจีบคุณนะครับ  แค่อยากไถ่โทษเฉยๆ”  ผมรีบอธิบายเมื่อเธอมองหน้าผมอย่างงงๆ  ผมก็ไม่ได้ชอบคนง่ายขนาดนั้นไหมล่ะครับ  แล้วอีกอย่างนึงผมก็....มีคนที่ชอบอยู่แล้วด้วย



     “หึหึ  ค่ะ  ฉันก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะจีบฉันหรอก  แค่งงๆนิดหน่อย  แต่ถ้าคุณไม่รีบร้อนอะไรอยู่เป็นเพื่อนกันหน่อยก็ดีค่ะ”  เธอขำเล็กน้อยกับท่าทีร้อนรนของผม  แล้วก็เอ่ยชวนให้ผมนั่งลงตรงข้ามเธอ  ที่เธอยอมให้ผมอยู่เป็นเพื่อนเพราะหน้าตาผมมันคงดูน่าไว้ใจมากกว่าไอ้พวกแก๊งค์ชายโฉดที่นั่งกันอยู่สามสี่โต๊ะในโซนนี้  แม่งจ้องซะอย่างกับพี่เขาเป็นของแปลกที่โชว์ตามงานวัด  รู้ครับว่าเขาสวย  แต่พวกมึงช่วยเก็บอาการกันหน่อยได้ไหม



     ~Rrr~

     “ไอ้มิว!!  มึงไปซื้อข้าวถึงดาวไหนวะ  หรือว่าโดนฉุดไปแล้ว”  เสียงไอ้เบดังกระแทกหูทันทีที่ผมกดรับ



     “ฉุดบ้านมึงสิ   กูมีธุระนิดหน่อย  ถ้ากินกันเสร็จแล้วก็ไปก่อนได้เลย  ไว้เจอกันสตู”  ไม่อยากบอกหรอกครับว่านั่งอยู่อีกโซน  เดี๋ยวแม่งเดินมาดูก็ต้องตอบคำถามกันยาวเหยียดอีก  เอาไว้เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟังละกัน



     “ธุระอะไรของมึง”  มาละครับพ่อเบ  น้ำสงน้ำเสียงนี่ใช้กดดันกูดีจังเลยนะ



     “กูปวดขี้!  มึงมีไรไหมห๊ะ”  คนตรงหน้าผมขำเล็กน้อย  ผมยกมือขอโทษเธอหน่อยๆ  ก็ผมเล่นพูดคำว่าขี้ใส่หน้าเธอเต็มๆเลยนี่ครับ



     “เออไอ้สัด  แดกขี้เสร็จแล้วก็รีบตามมา   เดี๋ยวพวกวิศวะมันพักกันแล้วมึงจะโดนฉุดไปจริงๆ  เดือดร้อนพวกกูอีก”



     “สัดเบ   เออๆเดี๋ยวรีบแดกรีบไป”  เอ๊ะ  นี่เท่ากับว่าผมยอมรับว่าแดกขี้อยู่จริงๆใช่ไหมเนี่ย



     “ทานข้าวมารึยังครับ  ให้ผมไปซื้อให้ไหม”  หลังจากวางสายผมก็หันมาคุยกับคนตรงหน้า  ผมหิวอะ  นี่จะสิบเอ็ดโมงละ  ข้าวยังไม่ตกถึงท้องไอ้มิวเล้ยยย



     “ไม่เป็นไรค่ะ   เดี๋ยวรอทานตอนเที่ยงเลยดีกว่า   เชิญคุณ เอ่อ..”



     “มิวครับ  อยู่ถาปัตย์ปีสอง”  ผมบอกชื่อตัวเองพร้อมคณะด้วยเลยจะได้ดูไว้ใจได้ขึ้นมาอีกหน่อย  รึเปล่าวะ



     “พลอย  นิติปีสามค่ะ”



     “อ่า  งั้นผมเรียกพี่พลอยละกันเนอะ”



     “จ่ะ  มิวไปซื้อข้าวเลยก็ได้นะ  ท่าทางจะหิวน่าดู”  ผมยิ้มเขินๆนิดหน่อยก่อนจะวิ่งไปหน้าร้านข้าวมันไก่แล้วสั่งข้าวพิเศษมาหนึ่งจาน   พอซื้อน้ำเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมาที่โต๊ะ  โชคดีที่กลุ่มชายโฉดไม่มาฉุดพี่พลอยไป  ไม่งั้นผมต้องรู้สึกผิดที่หิวแน่ๆ



     “พี่พลอยมีนัดกี่โมงหรอครับ”  ผมชวนเธอคุยเพื่อไม่ให้มันเงียบจนเกินไป



     “มีนัดทานข้าวเที่ยงน่ะจ่ะ  มิวรีบรึเปล่า”



     “ไม่รีบครับๆ  วันนี้ผมไม่มีเรียนแล้ว  ว่าจะอยู่ทำงานที่สตูเรื่อยๆน่ะครับ”  วันนี้ผมกะชิลล์  ทำงานไปเรื่อยๆเมื่อยก็กลับ อิอิ



     “อ่อ  งานเยอะล่ะสิพวกถาปัตย์เนี่ย”



     “โหยยย   เยอะมากครับ  นี่เมื่อคืนก็เพิ่งจะฝ่าฟันกันมาแบบไม่ได้หลับได้นอนเลย”  ผมเป็นพวกอินเวลาที่คนพูดถึงคณะผม  ฟีลลิ่งงี้มาเต็ม  คนอื่นในคณะไม่รู้เป็นกันไหม  แต่ผมนี่เป็นทุกทีเหมือนอยากจะระบายให้คนคณะอื่นรับรู้บ้าง



     “แล้วก็คงไม่มีเวลาทานข้าวเช้าด้วยใช่ไหมจ๊ะ  ถึงได้หิวขนาดนี้”  เธอยิ้มเล็กน้อยมองผมที่ตักข้าวคำใหญ่เข้าปาก



     “แหะๆ  ใช่ครับ  แล้วนิติเป็นไงบ้างครับ  เริ่มเรียนหนักกันรึยัง”  ผมพอรู้มาบ้างว่ามันจะมีช่วงนึงที่พวกเด็กนิติต้องท่องต้องทวนกฎหมายกันเยอะแยะจนปวดหัวไปหมด  ไอ้ทิวมันชอบบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ  ยังจำกันได้ใช่ไหมครับ  ไอ้ทิวเพื่อนผมมันเรียนอยู่นิติ



     “ตอนนี้จริงๆแล้วก็ยังไม่หนักมากหรอกจ่ะ  แต่พี่เพิ่งกลับมาจากแลกเปลี่ยน  เลยต้องตามเพื่อนๆให้ทันก็เลยยุ่งอยู่นิดๆ”



     “พี่พลอยไปแลกเปลี่ยนมาหรอครับ!”  ผมถามอย่างตื่นเต้น  อยากจะไปอยู่เหมือนกันนะครับ  แต่ระดับความรู้ความสามารถในภาษาต่างชาตินั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินจริงๆ  ให้ไปสอบแข่งกับใครเขาก็คงไม่น่ารอด



     “ใช่จ่ะ  นี่ก็เพิ่งกลับมาได้ไม่กี่วันเอง”



     “โห  แล้วพี่พลอยไม่หยุดพักหน่อยหรอครับ  อยู่ที่นู่นก็เรียน  กลับมาที่นี่ก็ยังต้องมาเรียนต่ออีก”



     “หึหึ  พักไม่ได้หรอกจ่ะ  แค่นี้ก็ต้องตามเก็บงานจนหัวฟูแล้ว”



     “ไม่เห็นจะฟูเลย  ผมพี่พลอยยังสวยเหมือนเดิม”  ผมบอกพร้อมยิ้มยิงฟันไปให้เธอ  ผมเธอนุ่มสลวยเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ ดัดปลายหน่อยๆ  ทำให้เธอดูเป็นสาวหวานน่าทะนุถนอม



     “หึหึ  ไม่ต้องมาชมพี่เลย  พี่ไม่หลงสเน่ห์เราหรอกนะ  เพราะพี่มีคนรักอยู่แล้ว”



     “โถ่พี่พลอย  แบบนี้ผู้ชายเกือบค่อนโรงอาหารก็อกหักกันหมดน่ะสิครับ”



     “แล้วมิวล่ะ  มีคนที่รักแล้วรึยังจ๊ะ”



     “อ่า   ก็...มีคนที่ชอบแล้วล่ะครับ”



     “งั้นก็คงได้อกหักกันทั้งโรงอาหารแน่ๆ  เพราะพี่เห็นมีแต่คนมองมิวกันทั้งนั้นเลย”



     “มองพี่พลอยนั่นแหละครับ  ไม่ต้องโยนมาให้ผมเลยนะ”  เธอหัวเราะคิกคักกับท่าทางของผม   โถ่  คนเขาก็มองพี่ด้วยนั่นแหละครับ เผลอๆมองมากกว่าผมซะอีก



     ~Rrr~

     “ไอ้มิว  แดกเสร็จรึยังสัด  ต้องให้กูเดินไปรับไหมเนี่ย  แม่งจะเที่ยงอยู่แล้ว”  ผมคุยเพลินจนแม่งจะเที่ยงอย่างที่ไอ้เบว่าจริงๆแหละครับ



     “เออๆ  เดี๋ยวรีบไป  ไม่ต้องมารับหรอก”  ผมวางสายจากไอ้เบแล้วยกจานไปเก็บก่อนจะเดินกลับมาหาพี่พลอยที่โต๊ะ



     “มิวไปเลยก็ได้นะ  อีกเดี๋ยวก็คงพักกันแล้วแหละ”  พี่พลอยที่ได้ยินผมคุยโทรศัพท์เอ่ยบอกอย่างเกรงใจ  อีกเดี๋ยวคนรักของพี่เขาก็คงพักแล้วมาหาที่โรงอาหารเอง   ผมเลยขอตัวกลับคณะตัวเองก่อน  ไม่อยากเจอฝูงวิศวะแตกรัง  อย่างที่บอกครับว่าวิศวะคนเยอะ  แล้วยิ่งเที่ยงๆแบบนี้คงแห่กันมาลงที่โรงอาหารอย่างแน่นอน  ผมขอกลับไปอยู่สตูอย่างสงบดีกว่า


     Mewtation :: มิวทานข้าวแล้วนะ พี่เนมอย่าลืมทานด้วยล่ะ

     ผมไลน์ไปบอกคนตัวสูงอย่างเคยชิน  หลังจากวันนั้นเราก็คุยกันมาได้เกือบเดือนแล้วครับ  มีเจอกันบ้าง  ทานข้าวด้วยกันบ้าง  แล้วแต่โอกาสไป  แต่ก็คุยกันเรื่อยๆนั่นแหละครับ  ผมไม่ได้รีบร้อนอะไร แล้วพี่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรด้วย







     “เชดแม่!  อย่างสวยอะ”  เสียงไอ้เต้ที่กำลังอู้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ดังขึ้นมาตอนที่ผมกำลังเก็บของเตรียมจะกลับหอ 
     
     วันนี้ก็ได้งานไปนิดๆหน่อยๆ  ทำไปเล่นไปแหละครับ  แต่จนป่านนี้แล้วพี่เนมก็ยังไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเลย  สงสัยวันนี้คงยุ่งๆล่ะมั้ง



     “สวยมากไหมคะอีเต้   ไหนเอามาดูสิ”  ไอ้เฟย์เดินไปแย่งโทรศัพท์จากมือแฟนมันมาดู



     “อร้ายยย   ยัยพี่พลอยยย   กลับมาทำไมย๊ะ  นังมารหัวใจ ฮืออออ”  เสียงไอ้เฟย์ร้องโหยหวน  หลังจากที่ดูรูปในโทรศัพท์ของไอ้เต้



     “รู้จักด้วยหรอจ๊ะแฟน”



     “ก็พี่พลอยเขาเป็นแฟนพี่เนม  เห็นว่าคบกันมานานแล้ว  แต่พี่พลอยไปเรียนต่อฉันก็คิดว่าเลิกกันไปแล้วน่ะสิ  นี่จะกลับมาทำไมย๊ะ”  ผมที่ฟังแล้วก็ได้แต่หวังว่าคนที่มันพูดถึงคงไม่ใช่คนในความคิดผมหรอกนะ







     “ไอ้มิว  นี่แกกับพี่เนมคงไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันเพ้อๆไปหรอกใช่ไหม”  ไอ้เฟย์หันมาเห็นผมตอนที่จะตามไอ้เต้กับคนอื่นๆออกจากสตูไป  เดินกลับเข้ามาถามอย่างร้อนรน



     “มึงหมายถึงพี่เนมไหนล่ะ  ใช่ที่เรียนวิศวะปีสามอยู่รึเปล่า”



     “ก็ใช่น่ะสิ  พี่เนมที่ฉันตามกรี้ดก็มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ”  ผมได้แต่นิ่งเงียบกับคำตอบที่ได้ยิน



     “ฉันคิดว่าแกคงไม่ได้คิดอะไรเพราะฉันก็จิ้นแกกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ  และฉันก็คิดว่าพวกแกเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันเฉยๆ  เลยไม่ได้บอกว่าพี่เขามีแฟนอยู่แล้ว  ฉันขอโทษนะเว้ย  แกโอเครึเปล่ามิว”



     “หืม  โอเคสิวะ  มีแฟนแล้วก็ดี  มึงจะได้เลิกล้อกูกับเขาสักทีไง  ไปๆ กลับกันได้แล้วเดี๋ยวไอ้เต้ได้อาละวาดกันพอดี”  ผมทำเหมือนไม่มีอะไร   เพื่อให้เพื่อนผมไม่ต้องกังวลไปกับผมด้วย  ก็บอกแล้วไงว่าผมเลือกเอง  ผมก็ต้องเจ็บเองคนเดียวสิ  แล้วอีกอย่าง  ผมก็ยังไม่รู้อะไรแน่ชัดเลยด้วย









     “ไอ้มิวขึ้นมาเร็ว  กูง่วงแล้วเนี่ย”  ไอ้เบเร่งให้ผมเดินไปขึ้นรถมันที่จอดอยู่หน้าเซเว่นวิศวะ  ไอ้ฟาร์มันยืมรถผมไปน่ะครับ  เดินมาเอากุญแจถึงหน้าสตูก่อนจะบอกให้ผมกลับกับไอ้เบเพราะมันกะยึดหลายวันเลย



     “มึงไม่ซื้อไรไปแดกรึไง”  ผมพูดเเล้วเดินนำมันเข้าเซเว่นมา  วันนี้กลับไปก็คงไม่ออกมาอีกแล้วล่ะครับ  และไอ้เบก็คงไม่ออกเช่นกัน เลยหาซื้ออะไรในเซเว่นกลับไปกินนี่แหละ



     “ไอ้เบ  กูไปรอที่รถนะ”  ผมที่ซื้อเสร็จก่อน  หันไปบอกมันที่ยังยืนลังเลเลือกไม่ได้สักที  แล้วบ่นว่าง่วงนะไอ้สัด  ยืนถ่างตาเลือกได้ตั้งนาน



      “เดินไหวรึเปล่า  บอกให้กลับไปก่อนก็ไม่เชื่อกันอีก”  เสียงที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นมาจากบันไดโรงอาหาร  ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วครับ คนไม่ค่อยมี  ทำให้ผมได้ยินเสียงเขาชัดเจนจนอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง  ภาพที่เห็นทำเอาผมชาวาบไปทั้งตัว  คนตัวสูงโอบประคองร่างบางลงจากบันไดด้วยความทะนุถนอม   คนที่ไม่เคยสนใจใครนอกจากผมกำลังมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใย  หรือไม่บางทีผมก็คงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปถึงได้คิดว่ามีแค่ผมที่พิเศษสำหรับเขา  มองจากตรงนี้พวกเขาทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก  และคงเป็นภาพที่เข้ากันได้ดีกว่าตอนที่มีผมเดินอยู่ข้างๆ



     '...พี่มีคนรักอยู่แล้ว'


     'ก็พี่พลอยเขาเป็นแฟนพี่เนม  เห็นว่าคบกันมานานแล้ว...'





     แปลกดีนะครับ  ผมตั้งใจจะเล่าให้พี่เนมฟังว่าวันนี้ได้พูดคุยกับสาวสวยจากนิติอย่างพี่พลอยด้วย  แต่เขาสองคนกลับรู้จักกันดีกว่าที่ผมรู้จักพวกเขาซะอีก  เป็นความรู้สึกแปลกๆที่มันทำให้ผมเจ็บไปหมด  เจ็บที่ผมมองโลกในแง่ดีเกินไป  ผมคิดมาเสมอว่าการที่รอบๆตัวผมมีแต่คนดีๆ เพื่อนดีๆ  การที่ตัวผมไม่เคยพบเจอกับสิ่งร้ายๆในโลกใบนี้อย่างที่ใครๆเขาเจอกัน  มันมาจากการที่ผมคิดว่าตัวเองดี  คิดว่าทำดีแล้วโชคร้ายจะไม่เข้ามาใกล้   แต่เปล่าเลย  เพราะโลกมันก็มีสองด้านเสมอมีโชคดีก็ต้องมีโชคร้าย   มีคนดีๆก็ต้องมีคนไม่ดีเหมือนกัน  นึกโกรธตัวเองที่มองโลกดีเกินไปจนทำให้เชื่อใจใครได้ง่ายๆขนาดนั้น   พอมาคิดๆดูแล้วผมมันก็ใจง่ายเหมือนกันนะ








     แล้วผมก็คงได้คำตอบที่รอคอยมาทั้งวันแล้วแหละ

     
     ตอนเที่ยงพี่เขาคงไม่ลืมที่จะทานข้าวหรอกก็มีคนรักมานั่งทานด้วยกันทั้งที



     



      แต่ที่เขาลืม    คงจะเป็นผมล่ะมั้ง


********************************************************************************************
พาน้องมิวมาอัพเดทชีวิตกันหน่อยค่ะช่วงนี้  :really2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-12-2016 19:08:17
 :a5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-12-2016 19:25:51
 :serius2: คืออะไรยังไงเนี่ยพี่เนม :angry2:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 26-12-2016 19:38:15
เพื่อนกันรึป่าว อย่าคิดมากน้องมิว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-12-2016 19:49:45
พี่เนมกับพี่พลอย คบกันเพื่อเป็นตัวหลอกใช่ไหม
กันไม่ให้คนเข้าหา เพราะต่างฝ่ายต่างฮอต
ดูจากเพื่อนๆพี่เนมไม่มีใครพูดถึงพี่พลอยเลย
มิว นิ่งๆไว้ก่อน แล้วก็รู้เอง แหละว่าจริงหรือไม่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 26-12-2016 20:01:47
เดี๋ยวววววว
นี่มันอะไรกันอิพี่เนมมม
ที่ผ่านมาคืออะไรไหนตอบบบ!!!
 :katai4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 26-12-2016 20:23:17
อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด...
แต่ถ้าใช่นี่พี่เนมจะโดนด่าแบบไม่ต้องผุดต้องเกิดอะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 26-12-2016 22:32:42
ยังไงล่ะพี่เนม...  o22
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 26-12-2016 23:12:37
ขอมองแง่ร้ายไว้ก่อนละกันว่าน่าจะแฟนแน่ๆแหละ ถ้าเป็นแฟนจริงๆอิพี่เนมน่าจะมาคุยกับมิวแก้เหงา น้องมิวไม่เป็นไรนะลูก อยากกอดโอ๋จัง ฮือ ไม่ต้องไปสนใจอิพี่มันละ ใช้ชีวิตของหนูต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 26-12-2016 23:51:46
 :m31: พี่เนมมมมม  :angry2: ทำไมทำอย่างนี้หละ
สงสานน้อง  :ling3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-12-2016 00:23:26
ง่าาาา.    ทำไมอีพี่เนมทำแบบนี้อะ.   :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 27-12-2016 02:51:29
ฮือออ อิพี่เนมมมม ทำไมทำกับน้องแบบนี้ มาอธบายเลยย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 27-12-2016 04:47:58
อิพี่เนม มาเคลียร์ด่วนเลย  :angry2:
ทำไมทำกับน้องมิวอย่างนี้ สงสารน้องอะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 27-12-2016 10:55:24
จะมาม่าไหม
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 27-12-2016 13:32:44
ขอกระโดดถีบพี่เนมก่อนละกันค่ะ   :z6:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 28-12-2016 15:14:52
อะไรยังไงครับพี่เนม
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-12-2016 16:32:23
อ่าววว มาตามอ่านทั้งที เจอดาม่าไปเลย


หน่วงแทนมิว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 28-12-2016 17:40:58
แฟนเก่าแน่ๆ    สงสารมิว    เราชอบความชัดเจน  อยากอัดพี่เนม :katai1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 29-12-2016 19:24:15
ตกลงตกลงอะไรยังไงคะเนมมม
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่12 (26/12/16) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Abbeynggn ที่ 30-12-2016 11:27:23
มาต่อเร็วๆค่า วนอ่านสามสี่รอบแล้ว :z3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 30-12-2016 20:01:49
Chapter 13



   


    “ร้อนโว้ยยย!!  ใครจะไปร้านพี่จ๋ามั่ง”  ไอ้เบหันมาถามพวกผมที่ง่วนอยู่กับการทำโมในช็อป



     “กู!!”  ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกันเพราะตอนนี้ร้อนโคตรๆเลยครับ   อากาศตอนบ่ายๆในชอปแบบนี้  ร้อนระอุจนอยากจะละลายหายไปกับพื้น



     “ชาจืดใส่หวานครับพี่จ๋า”  ผมสั่งเครื่องดื่มกับพี่จ๋าเจ้าของร้านกาแฟข้างโรงอาหารคณะ   ผมชอบทานชาครับแบบจืดๆหวานๆหน่อย เมนูโปรดก็ชามะลิ   แต่วันนี้งบน้อยเอาชาจืดไปก่อนละกัน  ชาจืดร้านพี่จ๋าเป็นชาไทยครับใส่หวานด้วยก็คือใส่น้ำเชื่อมลงไปให้เกิดความหวานขึ้นมา  ทานแล้วสดชื่นดีครับ  แต่ชามะลิจะมีดีกว่าที่กลิ่น  กลิ่นมันช่วยให้ผ่อนคลายได้  แต่ราคาย่อมเยาว์คงต้องยกให้ชาจืดไป  แก้วละสิบบาทเองนะ



     “คืนนี้บาร์เล่ไหมมึง”  ไอ้มินถามขึ้นมา  ขณะที่ทุกคนกำลังละเลียดทานเครื่องดื่มและขนมนมเนยบนโต๊ะ  วันนี้เป็นวิชาปล่อยฟรีครับ ลงช็อปทำงานกันไปแล้วแต่สะดวก  กำหนดส่งตอนไฟนอลทีเดียวเลย  ตอนนี้เลยยังชิลๆกันอยู่ไม่รีบเท่าไหร่



     “ไป!  ทุกคนต้องไป  กูว๊อนท์มากกก”  ไอ้นัทเอ่ยแสดงความต้องการอันล้นเหลือของมัน



     “เออ  พรุ่งนี้เรียนบ่าย  จัดไปยาวๆเลยครับ”  ผมที่ห่างหายจากวงการนี้ไปนาน  ตอบตกลงพวกมันไป  ไอ้นานที่ว่านี่ก็อาทิตย์กว่าๆได้ครับ  ฮ่าๆๆ



     “เจอกันกี่โมงดี”  ไอ้เต้ถามขึ้นมาบ้าง  ตอนนี้อยู่กันครบองค์ประชุมครับ  แก๊งค์เจ็ดประจัญบานของเรา



     “สามทุ่มละกัน  ใครถึงก่อนก็เปิดโต๊ะเลย  ไอ้มิวเดี๋ยวกูไปรับที่หอเอง”  ไอ้เบเอ่ยสรุปเสร็จสรรพ  จนป่านนี้ไอ้ฟาร์ยังไม่คืนฟีโน่ลูกรักของผมเลยครับ   มันบอกอยากเปลี่ยนแนวบ้าง  ขับรถยนต์แล้วเบื่อ  รถแม่งก็ติดอีก  คุณเพื่อนไม่ได้สำเหนียกเลยว่านั่นมันรถกูครับ  อยากได้มอ'ไซค์ก็ไปขอแม่มึงนู่น  พูดแล้วเซ็ง  แต่มีไอ้เบไปรับไปส่งก็ดีเหมือนกันครับ  สบายดี  ฮ่าๆๆ



     “แดกเสร็จแล้วก็กลับช็อปครับ  อย่ามัวแต่อู้  เดี๋ยวมึงได้เดือดกันหมด”  ไอ้ซีตบหัวไอ้นัทที่ทำท่าจะฟุบหลับไปกับโต๊ะ  ในกลุ่มผมก็มีไอ้ซีนี่แหละครับที่คอยเคี่ยวเข็ญให้พวกผมทำงาน  เหมือนแม่ที่คอยบ่นได้ตลอดเวลาที่ลูกๆอย่างพวกผมขี้เกียจจนเกินไป








     หลังจากวันนั้นที่ผมเจอพี่เนมก็ผ่านมาอาทิตย์กว่าๆแล้วครับ  พี่เขาก็ยังมีทักมาบ้าง  เพราะผมถามคำตอบคำ  ไม่ค่อยมีอะไรอยากจะเล่าให้ฟังเหมือนเมื่อก่อน  เลยไม่ได้คุยกันเยอะเท่าไหร่   รู้สึกปลงๆ อยากจะปล่อยวางทุกอย่าง  ใครจะหลอกเราก็หลอกไปครับ  สำหรับผมน่ะแค่ตัวเราจริงใจก็พอแล้ว  ผมชอบคิดเสมอว่าถ้าไม่อยากให้ใครทำแบบไหนกับเรา เราก็ไม่ควรทำแบบนั้นกับคนอื่น  ต่อให้เขามาโกหกหลอกลวงเรา  ก็ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องกลายเป็นคนหลอกลวงเพื่อให้มันสมน้ำสมเนื้อ หรือจะต้องไปโวยวายเรียกร้องอะไร ซึ่งผมว่ามันดูไร้สาระ ถ้ามันไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนอะไรมากมายก็ช่างมันเถอะ  ถ้าไม่ยอมปล่อยวาง  แก้แค้นกันไปมาเรื่องมันก็คงจะวุ่นวายไปหมด  ซึ่งผมค่อนข้างจะเกลียดความวุ่นวายด้วย  ถามว่าแล้วเราทำอะไรได้บ้าง  คำตอบก็คงจะเป็น 'ทำใจ' นั่นแหละครับ



      “น้องมิว!”



      “อ้าวพี่เฟรม  มาทำอะไรแถวนี้ครับ”  ผมมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ  นี่มันก็จะหกโมงเย็นอยู่แล้ว  พี่เขามาทำอะไรที่โรงอาหารคณะผมกัน



     “พี่มาซื้อของน่ะ  ร้านที่คณะมันไม่มี  มิวรู้ปะร้านไหนขายอะคริลิคใสมั่ง”



     “อ่า  งั้นเดี๋ยวผมพาไปละกันนะ  ไอ้เบ  เดี๋ยวกูมา”  ผมตะโกนบอกไอ้เบที่นั่งกินขนมอยู่ที่โต๊ะกับเดอะแก๊งค์  เลิกงานจากช็อปพวกผมก็มาหาอะไรกินที่โรงอาหารกันครับ  ร้านข้าวยังพอมีเปิดอยู่บ้าง  พวกผมก็กินกันเลย กลับหอไปจะได้นอนพักเอาแรงซะหน่อย  ก่อนออกไปสังสรรค์กันคืนนี้



      “พี่เฟรมเอาขนาดไหนอะ”  ผมถามเมื่อพาพี่เฟรมเข้ามาร้านพี่นาแล้ว  ร้านขายพวกอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆในคณะผมตั้งอยู่ข้างโรงอาหารทั้งสองร้านครับ  ทั้งของพี่นาและก็ป้าสา  ที่ต้องพามาเพราะกลัวพี่เขาเดินเข้าร้านป้าสาน่ะครับ  ช่วงนี้อะคริลิคร้านป้าสากำลังขึ้นราคาเนื่องจากมีคนมาซื้อเยอะ ฮ่าๆๆ



      “มีขนาดไหนมั่งอะ”



     “น่าจะมีตั้งแต่เอสี่ถึงเอหนึ่ง  เอศูนย์ไม่น่ามีนะผมว่า”  ปกติผมก็ซื้ออะคริลิคมาทำงานอยู่บ่อยเหมือนกันครับ  แต่มีขนาดไหนมั่งนี่ก็ไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่  ตอนมาซื้อก็สั่งๆตามขนาดงานไป



      “พี่ไม่ค่อยรู้เรื่องไซส์เลย  จะเอาไปทำเป็นกล่องประมาณนี้อะ  มิวว่าต้องขนาดไหน”  พี่เฟรมทำท่าประกอบการพูดไปด้วย



     “อืม  เอสองก็น่าจะพอนะพี่”  ผมกะขนาดน่าจะไม่เกินเอสองนะ  แต่เอาไปทำเป็นกล่องใหญ่ๆนี่ใจปล้ำน่าดู  อะคริลิคมันแพงครับ  ซื้อทีนี่แทบไม่เหลือตังกินข้าวเลย



      “งั้นเอาเอสองห้าแผ่นครับ”  พี่เฟรมหันไปสั่งของกับพี่นา



     “พี่เฟรมมีคัตเตอร์ตัดอะคริลิคยัง  แล้วจะติดกันยังไง  ใช้กาวปะ”  ผมถามเพราะพวกวิศวะน่าจะไม่ค่อยรู้เรื่องกันเท่าไหร่



     “หืม  ต้องมีคัตเตอร์เฉพาะด้วยหรอ  อ่า กาวด้วยๆ  ไอ้พวกนั้นแม่งก็ใช้กูมาคนเดียวอีก”  หลังๆนี่พี่เขาเริ่มบ่นคนเดียวเเล้วครับ  ผมก็ได้แต่ขำเบาๆ  แล้วเดินไปหยิบของจำเป็นมาให้



   






     “ขอบคุณมิวมากเลยนะ  นอกจากช่วยเลือกแล้วยังจะช่วยถือมาอีก  ไม่ได้มิวนี่พี่แย่แน่”  พี่เฟรมหันมาขอบคุณผม  ตอนนี้ผมช่วยพี่เขาถือของมาที่ตึกโยธาครับ  บอกไอ้เบแล้วเรียบร้อยว่าพี่เฟรมจะไปส่งที่หอเอง  ไว้ค่อยเจอกันคืนนี้



     “เห้ย!! ไอ้เนม”  พี่เฟรมตะโกนเรียกคนที่กำลังจะเดินเข้าตึกไป



     “อ้าวมิว  มาทำอะไรครับ”  คนตัวสูงเดินเข้ามาลูบหัวผม   ก่อนจะแย่งของจากมือผมไปถือ  ผมได้แต่มองเขานิ่งๆ รู้สึกอาการขี้เกียจพูดมันจะกำเริบขึ้นมาหน่อยๆ



    “กูไปซื้อของที่ถาปัตย์มา  ได้น้องเขามาช่วยเนี่ย  ไม่งั้นกูตายแน่  แล้วนี่มึงไปส่งพลอยมาแล้วหรอ”



     “อืม  มิวเป็นอะไรรึเปล่า”  คนตัวสูงตอบรับเพื่อน  โดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากผมที่เอาแต่ยืนนิ่ง  อยากจะเดินออกจากตรงนี้ แต่มันคงดูเสียมารยาทไปหน่อย



     “เปล่าครับ”  ผมตอบแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า  ผมชอบท้องฟ้าตอนเย็นๆนะ  สีมันสวยดี



     “มิวรอแปปนะ  เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อน”



     “มึงจะให้มิวรอทำไม”  คนตัวสูงหันไปมองเพื่อนทันที



     “ก็เดี๋ยวจะไปส่งน้องที่หอ  มึงก็เดินตามกูมาเร็วๆ  เดี๋ยวไอ้แมนได้บ่นหูชา”  พี่เฟรมพูดก่อนจะเดินเข้าตึกไป



     “เดี๋ยวกูไปส่งเอง”  เขาพูดแล้วหันมามองผมเหมือนจะบอกให้รอเขาอยู่ตรงนี้



     “อ้าว ไอ้นิค  จะกลับแล้วหรอวะ”  เสียงพี่เฟรมที่เพิ่งก้าวขึ้นบันไดตึกได้ไม่กี่ขั้นดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมกับพี่เนมหันไปมอง



     “ครับพี่  ถือไรมาเยอะแยะเนี่ย ให้ผมช่วยปะ”  คนตัวสูงผิวขาวหน้าออกไปทางตี๋ๆหน่อย  ตอบพี่เฟรม แล้วทำท่าจะเข้าไปช่วยถืออย่างที่ว่า



      “เห้ย ไม่ต้องๆ  มึงอยู่หอไหนวะไอ้นิค”



     “ก็ทูซันอะพี่  มีไรเปล่า”



     “ดีเลยมึง  กูฝากไปส่งน้องกูหน่อยดิอยู่ซอยเดียวกับมึงอะ  มิวๆให้ไอ้นี่ไปส่งนะ  รถมันนั่งสบายรับรองว่าถึงหออย่างปลอดภัยแน่นอน”  พี่เฟรมพูดก่อนจะหันมาบอกผม  เอาไงก็ได้พี่ ให้ผมไปจากตรงนี้เร็วๆก็พอ



     “กูส่งเอง!”  พี่เนมพูดขัดผมที่กำลังจะอ้าปากตอบพี่เฟรม



     “อะไรมึง  มึงอะถือของมาแล้วรีบขึ้นไปทำงาน เร็วๆเลยสัด”



     “จิ๊! กูจะไปส่งมิว”  คนตัวสูงสบถออกมาอย่างเอาแต่ใจ  นี่พี่ถามความเห็นผมสักคำรึยังวะ  แล้วไอ้ตี๋นี่ก็จ้องผมอยู่ได้  มึงไม่สนใจพี่ๆมึงเลยรึไงจะแดกหัวกันอยู่แล้ว



     “อย่ามาเรื่องเยอะไอ้เนม  เมื่อกี้มึงไปส่งพลอยมาแล้วไง  จะส่งอะไรหลายคนวะ ไม่ชอบให้คนอื่นมานั่งรถตัวเองไม่ใช่หรอ”  พี่เนมเอาแต่จ้องหน้าไอ้ตี๋ไม่เลิก   แล้วไอ้ตี๋ก็ละสายตาจากผมไปหาพี่เนมแล้วเรียบร้อย  นี่มึงสู้กันทางสายตารึยังไง



     “กูบอกว่าจะไปส่งมิวเอง”



     “กูก็บอกว่าให้มึงเลิกเอาแต่ใจและไปกับกูเดี๋ยวนี้  ก่อนที่มึงจะไม่มีชื่อในงานกลุ่ม”  พี่เฟรมพูดแล้วเดินมาลากพี่เนมขึ้นตึกไปทันที สภาพพี่เฟรมน่าอนาถมากครับ  ของเต็มมือไปหมดแล้วยังต้องคอยกันไอ้พี่เนมที่จะเดินกลับลงมาอีก  ผมได้แต่รีบเดินออกมาจากตรงนั้น  ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีครับ  ไปส่งคนสำคัญมาแล้ว แล้วจะมายุ่งอะไรกับผมอีกวะ



     



     “นี่!”  ไอ้ตี๋นั่นก้าวยาวๆมายืนข้างผม แม่ง กูเดินเร็วจนแทบจะวิ่งอยู่ละ  ทำไมมึงก้าวแปปเดียวถึงเลยวะ โลกแม่งไม่ยุติธรรม  ผมเหล่ตามองคนข้างๆอย่างขุ่นเคือง



     “อะไร  อยากให้พี่เนมไปส่งมากกว่าหรอ”  คนข้างๆหันมาถามผมยิ้มๆ ดูยังไงก็โคตรกวนตีนอะ



     “ไม่ให้ใครส่งทั้งนั้นแหละ  กูจะกลับเอง”  ผมพูดแล้วก้าวเร็วๆไปทางประตูด้านข้างของวิศวะ  ปกติกลับหอก็ออกประตูนี้แหละครับ เร็วดี  ไม่ต้องไปอ้อมไกลถึงหน้าคณะด้วย



     “หึหึ  เดี๋ยวไปส่ง”  ไอ้ตี๋ว่าแล้วลากผมไปยังรถยนต์คันหรู  ก่อนจะจับผมยัดเข้าไปเสร็จสรรพ  แม่ง! เดจาวู



     “กูนิค  วิศวะปีสอง”  มันสตาร์ทรถแล้วพูดแนะนำตัว  กูถามหรอห๊ะ โว๊ะ!! ทำไมกูขัดอะไรใครไม่ได้เลยวะเนี่ย



     “มิว  ถาปัตย์ปีสอง”  รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับ  เผื่อจะได้เพื่อนมาหารเหล้าเพิ่ม ฮ่าๆๆ



     “อื้มมม  อยู่หอไหนอะ”  มันขับรถไปยิ้มไป  มึงเมากัญชารึไงวะ  แต่รถมันนี่นั่งสบายเหมือนที่พี่เฟรมบอกไว้เลยครับ  เบาะนุ๊มนุ่ม เป็นบุญตูดของไอ้มิวจริงๆ  อิอิ



     “อยู่อาทการ์เด้นอะ” 


   
     “กูอยู่ทูซัน”  ผมพยักหน้าแล้วมองไปตามทางเรื่อยเปื่อย  ได้ยินตั้งแต่ที่คุยกับพี่เฟรมแล้วแหละ  หอมันอยู่สุดซอยหอผมครับตรงข้ามกับหอไอ้พี่เนม



     “ไป..กินข้าวกันปะ”  มันถามขึ้นมาทำลายความเงียบ



     “กูกินแล้วอะ  ไว้วันหลังละกันนะ”



     “งั้นเอาเบอร์มึงมา”



     “หืม?”  ผมหันไปมองมันงงๆ  เอาเบอร์ไปทำไมวะ  มีเรื่องให้คุยกันรึไง



     “ก็วันไหนถ้ากูไม่มีเพื่อนกินข้าว  จะได้ชวนมึงไง  ไหนๆหอก็อยู่ใกล้กัน”  มันพูดรัวๆจนผมฟังแทบไม่ทัน  คือมึงจะรีบไปไหนครับ



     “หรอ  เออๆปกติกูก็ไม่ค่อยมีเพื่อนกินข้าวเหมือนกัน มีมึงก็ดี”  ผมเอาโทรศัพท์มันมายิงเข้าเบอร์ตัวเอง  ปกติก็กินคนเดียวบ่อยครับ แล้วก็มีไอ้พี่เนมมากินด้วยบ้าง  แต่ตอนนี้ก็คงต้องกินคนเดียวอีกแล้วแหละ  ผมไม่ซีเรียสกับการนั่งกินข้าวคนเดียวเท่าไหร่  แต่ถ้าเพื่อนอยากได้คนกินข้าวด้วย  กูก็ไปได้ครับ



     “งั้นพรุ่งนี้กินข้าวด้วยกันนะ”



     “หืม  ข้าวเช้าหรอ หรือเย็น”  ไอ้นิคนี่มันดูเป็นคนรีบๆนะครับ  ตกลงปุ๊บก็ชวนปั๊บเลย  นี่กูเพิ่งคุยกับมึงได้ไม่กี่คำเองนะ



     “เช้าด้วยเย็นด้วย”  มึงไม่มีเพื่อนคบขนาดนั้นเลยหรอวะ  หน้าตาก็ไม่ได้แย่  แถมยังดูเฟรนด์ลี่เล่นขี้  คนแบบนี้เพื่อนน่าจะเยอะอยู่นะ



      “พรุ่งนี้กูไม่มีเรียนเช้า คงไม่ตื่นหรอก  เอาไว้มื้อเย็นละกัน มึงเรียนเสร็จแล้วบอก”  ผมเป็นคนง่ายๆครับ  ใครชวนไปไหนก็ไป  แต่ก็ดูคนด้วยนะ ไอ้นิคมันก็ดูเป็นคนดีไม่มีพิษมีภัยอะไร  แล้วอีกอย่างก็รุ่นน้องพี่เฟรม รู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย



     “อะ อื้มม   เดี๋ยวเรียนเสร็จละโทรหานะ”



      “ครับเพื่อน  ขอบคุณที่มาส่งนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”  ผมขอบคุณมันแล้วเปิดประตูลงจากรถ  หน้ามันดูแดงๆหน่อยๆ  สงสัยอากาศนอกรถคงจะร้อนเกินไปสำหรับมัน  รีบปิดประตูดีกว่า









     “เฮ้อออ~~”  ผมทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน  วันนี้อยู่ช็อปทั้งวันโคตรจะเพลีย  ไปอาบน้ำแล้วมานอนก่อนดีกว่า สองทุ่มครึ่งค่อยตื่นมาแต่งตัวรอไอ้เบมารับ



     N. :: ถึงหอรึยังครับ หาอะไรทานด้วยนะ

     N. :: ห้ามทานมาม่านะครับ
     ผมมองแจ้งเตือนไลน์ของพี่เนม  ที่ส่งมาเมื่อสองนาทีที่แล้ว  แต่ยังไม่ทันจะเปิดดูก็มีแจ้งเตือนเด้งเข้ามาใหม่


     N. :: ห้ามไปทานกับไอ้นิคด้วย!
     อะไรของเขา  นั่นรุ่นน้องตัวเองนะเว้ย ไม่ใช่คนร้ายอะไรสักหน่อย   แล้วก็.. ห่วงแค่คนของตัวเองก็พอมั้ง ไม่ต้องเผื่อมาถึงผมหรอก


     Mewtation :: ทานแล้ว
     ผมเข้าไปตอบแล้วออกมาดูห้องสนทนาอื่นๆที่มีแจ้งเตือนขึ้นอยู่



     N. :: ไปทานกับไอ้นิคมาแล้วหรอ
     N. :: ทำไมมิวต้องไปทานกับมันด้วย
     N. :: ทีหลังห้ามไปกับมันนะครับ
     ไลน์พี่เนมก็ยังคงเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ  แต่ผมขี้เกียจจะเปิดเข้าไป  บ่นอะไรของเขาวะ ไม่ไปทำงานทำการรึไง หรือไม่ก็ไปคุยกับแฟนตัวเองนู่น!!



     MuNich :: พรุ่งนี้กลับด้วยกันนะ ไม่ต้องเอารถมา
     มิวนิค  ไอ้นิคหรอ


     Mewtation :: รถกูเพื่อนยืมไปยังไม่คืนเลยสัด
     นึกแล้วหงุดหงิด  สงสัยต้องไปทวงคืนด้วยตัวเอง  โทรไปทวงมันไม่เอามาคืนง่ายๆหรอกครับ คนอย่างไอ้ฟาร์



     MuNich :: งั้นกูไปรับไปส่งมึงเอง


     Mewtation :: ไม่ต้องๆ เพื่อนกูมารับมาส่งอยู่แล้ว  ขอบใจมากมึง  มึงนี่ใจดีเหมือนกันนะ


     MuNich :: สติกเกอร์
     มันส่งสติกเกอร์ยิ้มแป้นมาให้ผม ฮ่าๆๆ ตลกดีครับ


     
     Mewtation :: ว่าแต่ มึงรู้ได้ไงว่ากูมีรถ
     อ่านเสร็จแล้วตายเลยหรอไอ้นี่  ขึ้นว่าอ่านแล้วแต่นี่ผ่านไปจะห้านาทีแล้วมันยังไม่ตอบเลยครับ  ผมว่าผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า  เดี๋ยวไม่ทันได้นอนกันพอดี







     MuNich :: ผู้ชายส่วนใหญ่เขาก็ต้องมีรถกันอยู่แล้วเปล่าวะ

     หรอวะ?

     ผมอาบน้ำเสร็จมันก็ตอบกลับมาพอดี   ผมเปิดอ่านแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป   ขอนอนก่อนโว้ยยย
   

     คืนนี้ยังอีกยาวไกล~~





********************************************************************************************
 :katai5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-12-2016 20:25:23
นิคก็น่ารักอยู่นะ :D
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 30-12-2016 20:55:50
ยังไงล่ะหนูมิว / ยังงอนพี่เนมอยู่รึ?
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-12-2016 21:13:22
รอไอ้พี่เนมมาอธิบาย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 30-12-2016 21:30:38
นิคก็ดีแฮะ น่ารักจัง ชอบผชเขินง่ายๆแบบนี้5555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-12-2016 21:40:06
พี่เนม ไม่พูด ไม่อธิบายหรือ
มีปัญหาแน่  :katai1: :katai1: :katai1:
นิค ชอบมิวแน่ๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 30-12-2016 23:57:19
ยังอิพี่เนม ยังไม่รู้ตัวอี๊กกกก  :z6:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 31-12-2016 00:30:50
ย้ายข้างเชียร์มาทีมนิค เพราะไม่ชอบคนไม่ชัดเจน
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 31-12-2016 01:30:25
เอาเว่ยยยย ยาวววว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 31-12-2016 02:07:09
อ่านทีไรนึกถึงม.ตัวเองทุ๊กกกที
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 31-12-2016 19:13:38
นิคก้น่ารักอยุนะ
พี่เนมไม่อธิบายไม่เคลียตัวเองซะทีอะ
พูดชื่อพลอยต่อหน้าน้องละก้ยังไม่ยอมเคลีย
น้องถามคำตอบคำแถมหลบหน้าก้ยังไม่ร้อนรนไรเลย
ทีงี้มาหวงก้าง
นิคนี่ใช่คนที่ตอนต้นๆเรื่องให้เพื่อนมาขอเบอร์มิวใช่มั้ยย
ที่พี่เนมเอาเบอร์ไปละไม่ยอมให้
จำได้ว่าชื่อ น. ตัวเอ็นเหมือนกันน ใช่แน่ๆๆๆๆๆ
รอค่าาา ถ้าพี่ไม่เคลียร์โหวตเปลี่ยนพระเอกเลย5555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่13 (30/12/16) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-12-2016 21:39:45
ถ้ายังไม่เคลียร์มีสิทธิ์อะไรมาหวงล่ะพี่เนม :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 03-01-2017 19:39:24
Chapter 14







    09.30น.

     

     ~Rrr~


     หื้ออออ


     ~Rrrr~


     "ฮัลโหลลล~~"  ผมรับสายด้วยเสียงยานคาง  ใครมันโทรมาแต่เช้าวะเนี่ย



     (ไอ้มิวววว มึงอยู่ไหนวะ)



     "ฮื่อออ  อยู่หอ~~ นั่นใครง่ะ"  เช้าๆแบบนี้กูกดรับสายถูกก็บุญแค่ไหนละ  เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบๆตีสามนู่นแหละครับ



     (กูทิว  มึงไม่มีเรียนเช้าหรอวะวันนี้)



     "ม่ายมี~~ มึงมีไรอ่ะ  โทรมาซะเช้าเลยสัด"



     (มีเรื่องให้ช่วยหวะ  พอดีพวกกูจะทำโปสเตอร์ชวนน้องมาค่ายติวกัน  แต่พวกนิเทศน์ที่เพื่อนกูคุยไว้มันไม่ว่างแล้วหวะ กูเลยนึกถึงมึงกับไอ้เบ  แต่ไอ้เบนี่สงสัยตายห่าไปละโทรแล้วไม่รับ)



     "เมื่อคืนพวกกูไปแดกกันมา  ว่าแต่มึงจะเอาเมื่อไหร่อะ  รีบปะ"



     (ไม่รีบมากหรอก  กูอยากได้เย็นนี้)
 


     "Kยย  ถ้ามึงรีบนี่คงจะเอาห้านาทีหลังจากนี้เลยใช่มะ"



     (ก็ไหนจะต้องเอาไปโปรโมท  เอาไปติดที่นู่นที่นี่อีก  กูอยากทำเร็วๆจะได้มีระยะเวลาในการสมัครยาวๆหน่อย  น้องๆจะได้เตรียมตัวทันกัน)



     "ไม่มีคนอื่นแล้วหรอวะ"



     (ไม่มีแล้วคร้าบบบ  นะมิวน้าาา~~~  เพื่อนเลิฟ ช่วยกูหน่อย  สัญญาว่ากูจะไม่ฟ้องไอ้แทนว่ามีผู้ชายมาจีบมึงเยอะแยะไปหมด)



     "จีบหน้ามึงอะ  แล้วมึงจะเอาไรมั่ง  ส่งข้อมูลมาให้กู"



     (มึงมาทำที่คณะกูเลยได้ปะ  แบบว่ากูยังไม่ได้เตรียมข้อมูลอะไรเลย  ฮ่าๆๆ)



     "ไอ้สัด  นี่คือมึงรีบแล้วใช่มะ  กูไม่มีรถ  ไอ้ฟาร์ยืมไปยังไม่คืนเลย"



      (เดี๋ยวกูไปรับ  อาบน้ำปะแป้งรอเลยจ้ะหนูมิว)



     "หนูมิวบ้านมึง  กูขอยี่สิบนาที"



     (จ่ะเพื่อนรัก  จุ๊บๆ)




     ฮืออออออ เวลานอนกู~~~~
     
     กว่าผมจะลุกจากเตียงได้ก็เกือบสิบนาทีแล้วครับ  ตอนนี้ไอ้ทิวรออยู่ข้างล่างเรียบร้อย  ผมเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเมื่อกี้นี้เอง  ปล่อยมันรอไปก่อนครับ  โทษฐานที่มารบกวนเวลานอนอันแสนน้อยนิดของผม  (การกินเหล้าสังสรรค์ถือเป็นกิจอย่างนึงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้  ไม่นับเป็นการรบกวนเวลานอน)










     "มึงจะเอาขนาดเท่าไหน"



     "อยากได้แบบไม่ใหญ่ไม่เล็กอะมึง  มึงว่าไง"



     "งั้นเอสาม  อยากได้ฟีลไหน"



     "มึงว่าไงอะ"



     "ค่ายมึงตีมไร"



     "ยังไม่ได้คิดเลย  มึงว่าไงอะ"



     "กูว่ากูจะกลับหอละ  ไม่มีข้อมูลเหี้ยไรให้กูซักอย่าง  สาบานสิว่ามึงอยากได้งานเร็วๆกันจริงๆ"


     ตอนนี้ผมมาอยู่ที่คณะนิติศาสตร์ท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาปีสองเพื่อนๆของไอ้ทิว ที่มารวมหัวกันหารือเรื่องค่ายติวอยู่ใต้ตึก  โดยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรผมได้ซักอย่าง  พวกมันกำลังเถียงกันไปมาในเรื่องต่างๆ โดยมีไอ้ทิวที่ทำหน้าที่ดีลงานกับผมโดยเฉพาะ  แต่มึงเรียกกูมาโดยที่ยังไม่มีอะไรเลยซักอย่างนี่หมายความว่าไงครับ  คุณนักศึกษานิติทั้งหลาย



     "ไอ้มิววววว  ใจเย็นก่อน  คือพวกกูเพิ่งหาเวลามาคุยกันได้จริงๆจังๆก็ตอนนี้เนี่ยแหละ  แล้วแบบว่าอยากให้มันคืบหน้าไปเร็วๆก็เลยลากมึงมาเลย  มึงอย่าเพิ่งหงุดหงิดน้าาา  เดี๋ยวกูเลี้ยงเค้กตอบแทน  ซีเคร็ทเลยไหมมึงกินเค้กไปจิบชาไป   อื้อหือ สบายสุดๆ "  มันพูดไปก็บีบนวดแขนผมไปเรื่อย  คิดว่าเอาเค้กซีเคร็ทมาล่อแล้วจะได้ผลหรอวะไอ้ทิว



     "แดกฟรีไม่อั้น"



     "ครับๆเพื่อนมิว  อยากทานเท่าไหร่ตามใจเพื่อนเลยครับ"   หึหึ มึงคิดถูกแล้วล่ะเพื่อน ฮ่าๆๆ



     "ดีมากกก"   ผมตบไหล่มันปุๆอย่างถูกใจ



     "ไว้กูไปเก็บตังกับไอ้แทนทีหลัง  ฮ่าๆๆ"



     "ไอ้สัดนี่  แล้วมีตีมงานที่สนใจกันมั่งยัง  พวกมึงคุยกันถึงไหนแล้ว" 
ผมเดินหนีจากไอ้ทิวมาที่วงสนทนาของเพื่อนๆมัน โดยที่ไอ้ทิวก็ลุกตามมาด้วย   มีบางคนเคยเจอกันบ้างแล้ว  บางคนก็ไม่เคยเห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ  แต่พวกมันเรียกผมมาช่วยเองนี่ แถมยังไม่มีข้อมูลอะไรให้เลยด้วย  เพราะฉะนั้นผมก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจพวกมันหรอกครับ  คุยกันสบายๆเหมือนเพื่อนคณะตัวเองไปเลย ฮ่าๆๆ



     "กำลังคุยเรื่องเวลาและก็สถานที่สำหรับกิจกรรมอะ"  ผู้หญิงผมสั้นคนหนึ่งตอบขึ้นมา



     "แล้วคุยเรื่องตีมกันบ้างยัง  ถ้าได้ตีมแล้วกูว่างานน่าจะเร็วขึ้นนะ  แบบแบ่งฝ่ายไปทำนู่นทำนี่ได้"



     "อ่า งั้นเรามาเสนอตีมกัน...."

     พวกมันเสนอตีมขึ้นมาสี่ห้าตีมแล้วก็โหวตกัน โดยที่ให้ผมร่วมโหวตด้วย   มึงให้กูมาช่วยติวด้วยเลยไหมสัด  ทำเหมือนกูเรียนคณะนี้ด้วยงั้นแหละ  แล้วในที่สุดก็ได้ตีมสำหรับค่ายนี้มาครับ กูจะได้เริ่มงานซักที!!   ส่วนพวกนั้นก็แบ่งฝ่ายกันทำงานไป มีทั้งฝ่ายพร็อพ   ฝ่ายสถานที่   สวัสดิการ   สันทนาการ  อะไรก็ว่ากันไป







     "ประมาณนี้โอเคปะวะ"  ผมนั่งทำโปสเตอร์ไปเรื่อยๆจนตอนนี้ใกล้เสร็จแล้วครับ  เหลือใส่พวกข้อมูล และก็ปรับนู่นปรับนี่นิดหน่อย



     "เออเจ๋งดีหวะ  มึงมีเรียนบ่ายใช่มะ  เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่คณะก่อน  เลิกเรียนเดี๋ยวไปรับมาใหม่"  พวกมันยังตกลงเรื่องข้อมูลต่างๆไม่ลงตัวน่ะครับ เลยขอให้ผมช่วยมาอีกทีตอนเย็น   จริงๆจะส่งไฟล์งานให้แทนก็ได้  แต่ผมขี้เกียจแบกคอมไปเรียนด้วยเลยฝากไว้แล้วค่อยกลับมาทำที่นี่เลย จะได้ให้พวกมันดูด้วย



     "อ้าว น้องมิว"  ผมเงยหน้ามองตามเสียงใสที่เรียกผมอยู่



     "พี่พลอย"  ผมยิ้มให้คนสวยที่เดินเข้ามาหา  ไอ้ทิวขอตัวไปเข้าห้องน้ำครับเลยไม่ทันได้เจอกับพี่พลอย



     "มาทำอะไรจ๊ะเนี่ย"



     "มาช่วยงานเพื่อนครับ  แต่เดี๋ยวจะกลับคณะแล้ว  มีเรียนตอนบ่ายน่ะครับ "



     "พอดีเลย  พี่จะไปวิศวะน่ะ  มิวไปด้วยกันเลยไหม"



     "อ่า  เดี๋ยวเพื่อนไปส่งน่ะครับ  เชิญพี่พลอยตามสบายเลย"  ผมตอบคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม  แต่ในใจกระตุกนิดๆกับคำว่าวิศวะนั่น   ไปทานข้าวกับแฟนก็คงไม่แปลกเท่าไหร่หรอก



     "เนม! "  คนตรงหน้าตะโกนเรียกคนที่เดินเข้าตึกมา  ผมที่ยืนหันหลังอยู่ไม่ได้เห็นใบหน้าของเขา  แต่ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ครับ  เนมแฟนพี่พลอยก็มีอยู่คนเดียวแหละ



     "ผมขอตัวก่อนนะครับ"  ผมรีบบอกลาพี่พลอยเพื่อที่จะได้ไปจากตรงนี้  ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาสักเท่าไหร่  เขาที่ยืนคู่กับใครอีกคน  ยังไม่พร้อมจริงๆครับ



     "มิว"  เขาจับข้อมือผมไว้ตอนที่ผมหมุนตัวจะเดินออกไป



     "เฮ้อ~~ "  ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเงยหน้าไปยิ้มอ่อนใส่เขาแทนคำทักทาย   รู้สึกเหนื่อยชะมัด  เหนื่อยที่ใจน่ะครับ



     "รู้จักกันด้วยหรอเนม  นี่มิวกำลังจะกลับคณะพอดี  พลอยเลยชวนไปด้วยกันเลย ให้มิวไปด้วยนะ"  พี่พลอยเดินเข้ามาเกาะแขนอีกข้างของคนตัวสูงแล้วพูดคุยด้วยท่าทางออดอ้อน



     "เดี๋ยวผมไปกับเพื่อนครับ  ขอตัวก่อนนะ"  ผมยังจำคำพูดพี่เฟรมได้ดี  คนตรงหน้าไม่ชอบให้คนอื่นนั่งรถของเขาซักเท่าไหร่  ถึงผมจะเคยนั่ง  แต่ตอนนี้เจ้าของที่ก็กลับมาแล้วไม่มีความจำเป็นที่ผมจะต้องเอาตัวเองเข้าไปแทรก



     "ไอ้มิว  โทษทีเว้ยพอดีกูเจอเพื่อนเลยคุยนานไปหน่อย  จะไปเลยปะ"  ไอ้ทิวเดินเข้ามากอดคอผม



     "อ้าวพี่เนมพี่พลอย  หวัดดีพี่"  มันโค้งหัวให้พี่เขาโดยที่แขนยังพาดอยู่บนบ่าผมเหมือนเดิม



      "จะไปส่งมิวหรอ  เดี๋ยวไปส่งให้ยังไงก็ทางเดียวกัน"  คนตัวสูงละสายตาจากผมไปคุยกับไอ้ทิว ไม่ถามผมอีกละ ไม่ได้อยากจะไปด้วยเลยโว้ยยย



     "เดี๋ยวผมไปส่งเองดีกว่าพี่  เดี๋ยวไอ้แทนจะมาแดกหัวกู"  ประโยคหลังมันหันมาพูดกับผมด้วยรอยยิ้มกวนๆ  ไอ้แทนมันคือเพื่อนสนิทอีกคนของผมครับ  เรียกว่าสนิทที่สุดเลยก็ว่าได้  แล้วก็หวงผมที่สุดด้วย  มันเรียนอยู่อีกที่นึง โดยมีไอ้พวกนี้คอยรายงานข่าวเรื่องผมอยู่ตลอด และผมก็จะโดนมันบ่นประจำ



      "กูจะฟ้องแทนด้วยว่ามึงใช้งานกู"



     "โถ่  ก็เดี๋ยวพาไปกินเค้กไงจ้ะ   ไปๆกูจะไปแดกข้าวกับไอ้เบด้วย  แม่งตื่นจากบรรทมละ"



     "ผมไปก่อนนะครับพี่พลอย"   ผมหันไปโบกมือลาพี่พลอย โดยที่มีสายตาของคนตัวสูงมองมาตลอด  แต่ผมไม่อยากจะสนใจเท่าไหร่ เอาเวลาไปคิดว่าเที่ยงนี้จะกินอะไรยังมีประโยชน์ซะกว่า



   



      "มึงรู้จักพี่พลอยด้วยหรอวะ"  ไอ้ทิวถามตอนที่เรานั่งอยู่บนรถเรียบร้อย  ผมเอื้อมมือไปเปิดเพลงก่อนจะตอบ



     "เออ   เจอที่วิศวะอะเลยได้คุยกันนิดหน่อย"



     "แล้วมึงยังสนิทกับพี่เนมอยู่ปะ"



     "กูไปสนิทกับเขาตอนไหน"



     "ก็ตอนดูบาสมึงอยู่กับพี่เขา แล้วยังกลับด้วยกันอีก"



     "หอใกล้กันก็เลยกลับด้วยกันไง  ไม่มีอะไรซักหน่อย"  ผมมองวิวข้างทางไปเรื่อย ไม่อยากให้มันเห็นแววตาที่กำลังสั่นของผม



      "แล้วที่ให้เขาไปค้างที่หอนี่มันเรียกว่าสนิทได้รึยัง"  ผมหันไปมองไอ้ทิวทันที   มันรู้ได้ไงวะ



      "ไม่ต้องมาทำหน้างง  ไอ้เบบอกพวกกูและ  เหลือแค่ไอ้แทนที่ยังไม่รู้ มึงอยากให้พวกกูบอกมันว่าไง หรือมึงจะบอกมันเอง"



      "ก็ไม่ได้สนิทกันแล้วไง  ช่างมันเหอะ"



     "มิว  มึงก็รู้ว่าพวกกูห่วงมึงขนาดไหน  และพวกกูก็เคารพการตัดสินใจของมึงเสมอ  ถ้ามึงเลือกแล้วพวกกูก็ไม่ได้ว่าอะไร  แต่มึงก็เห็นใช่ไหม  ว่าที่ตรงนั้นมันมีคนยืนอยู่  มึงจะไปยืนอยู่จุดๆเดียวกับเขาคงเป็นไปไม่ได้   เข้าใจใช่ไหม"



     "อืม เข้าใจ"  ผมปิดคนอื่นได้ แต่กับพวกมันคงจะไม่ได้   พวกผมคบกันมานานจนมองออกว่าใครคิดอะไรยังไง



     "มีอะไรก็คุยกับพวกกูได้   เข้าใจไหม   ไอ้เบก็อยู่ใกล้ๆใช้มันให้เป็นประโยชน์หน่อยเดี๋ยวจะโดนงอนไม่รู้ตัว"  มันเอื้อมมือมายีหัวผม ก่อนจะจอดรถเมื่อมาถึงโรงอาหารคณะผม



     



     "ไอ้เบ   เย็นนี้มึงว่างปะเนี่ย ไปช่วยไอ้มิวที่คณะกูหน่อย"  ไอ้ทิวถามระหว่างที่เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่สามคน   เพื่อนคนอื่นมันคงมากันบ่ายๆแล้วซื้อของไปกินบนห้องกันเลย  วิชานี้อาจารย์ใจดีน่ะครับ



     "กูจะไปตลาดกับไอ้ซีอะ"



     "อ้าว  ไม่เห็นชวนกู"  ผมหันไปบ่นไอ้เบอย่างไม่จริงจัง



     "มันมาช่วยงานกู  กูเลยสัญญาว่าจะพามันไปตลาด  มึงจะไปด้วยไหมล่ะ"



     "ไม่ต้องเลยมึง  เย็นนี้มิวต้องไปกับกู   เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงซีเคร็ทแทนเนอะ"  มันยื่นมือมาเกาคางผม กูไม่ใช่แมวนะไอ้สัด



     "งั้นก็โชคดีนะจ๊ะหนูมิว"  ไอ้เบหันมาส่งสายตาเยาะเย้ยผม ไม่ช่วยแล้วยังจะกวนตีนอีกนะมึง



     MuNich :: มิวเลิกเรียนกี่โมง
     
     เห้ย!   ผมมีนัดทานข้าวเย็นกับไอ้นิคนี่หว่า   ลืมไปเลย




     Mewtation :: เรียนเสร็จกูต้องไปช่วยงานเพื่อนต่อหวะ โทษทีนะมึง

     

     MuNich :: หรอ

     MuNich :: งั้นไม่เป็นไร

     

     Mewtation :: ไว้วันหลังเดี๋ยวกูเลี้ยงมึงนะ

     

     MuNich :: มึงพูดแล้วนะ
 
     MuNich :: กูจะรอ
   
     MuNich :: สติกเกอร์

     มันส่งสติกเกอร์หน้ายิ้มมาให้ผม อยู่ๆก็ได้กินฟรี ดีใจล่ะสิมึง











     22.00น.

     "ขอบคุณมึงมากไอ้มิว  ไว้เดี๋ยวกูพาไปแดกเค้ก  จัดเต็มได้เลยมึง"



     "หึหึ  จะสั่งไม่ยั้งเอาให้มึงหมดตัวเลยสัด"



     "เออๆ ไปนอนได้และ เดี๋ยวมาบ่นกูอีก  บายยย"  มันว่าก่อนจะขับรถออกจากหอผมไป  กว่าจะแก้นู่นแก้นี่เสร็จก็เนี่ยแหละครับ ปาไปสี่ทุ่ม  พรุ่งนี้จารย์ยกคลาสพอดี  นอนได้ตามสบาย อิอิ

     ผมชะงักนิดหน่อยที่เห็นร่างสูงนั่งอยู่ที่ม้านั่งหน้าหอผม  ผมเดินผ่านเขาแล้วเอาคีย์การ์ดเเตะเข้าประตูหอ โดยที่มีเขาเดินตามมาด้วย สงสัยมาหาเพื่อนแต่เข้าหอไม่ได้มั้ง   ผมเดินขึ้นบันไดทางซ้ายเพื่อไปที่ห้อง จนมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง  ถึงได้หันกลับไปมองเขา



     "มีอะไรครับ"  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะมีอะไรกับผม  แต่เล่นเดินตามมาหยุดอยู่หน้าห้องผม ก็คงจะมาหาผมนั่นแหละ



     "ขอคุยด้วยหน่อย"



     "ครับ"  ผมยืนนิ่งๆรอให้เขาพูด



     "ไม่เข้าห้องก่อนหรอ"   ผมมองไปตามตัวคนพูด ที่มีจุดแดงๆจากยุงกัดอยู่เต็มไปหมด   ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะเปิดประตูเข้าห้อง แล้วเดินไปหยิบยามาส่งให้เขาที่นั่งลงบนเตียง



     "ไม่เป็นไร"  คนตัวสูงไม่ยอมรับตลับยาไปจากมือผม  ผมถอนหายใจแล้วนั่งลงข้างๆเขา  แม่ง วันนี้ถอนหายใจไปกี่รอบแล้ววะ  เดี๋ยวได้ตายไวก่อนพอดี   ผมเปิดตลับยาแล้วจับแขนเขามาป้ายยาลงไปเบาๆ  รอยยุงกัดอย่างเยอะ นี่นั่งมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย



     "พลอยเป็นเเฟนเก่าพี่"  ผมชะงักนิดหน่อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทายาต่อไป



     "พลอยยังไม่ได้ไปเอารถที่บ้านมา   คุณน้า... หมายถึงแม่ของพลอยน่ะ  เลยให้พี่ช่วยไปรับไปส่งให้ก่อน"

     ได้รับความไว้วางใจจากครอบครัวขนาดนี้  คงไม่ต้องบอกว่าสนิทสนมกันถึงขนาดไหน



     "คุณแม่พี่กับคุณแม่ของพลอยเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะ  พี่เลยสนิทกับพลอยมาตั้งแต่เด็กๆ"

     จะบอกว่ารักกันมานานแล้วว่างั้น

     

     ผมปิดตลับยาก่อนจะลุกเดินไปเก็บ  และเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ    มองเข้าไปในกระจกก็เจอกับใบหน้าตัวเอง  ให้ตายเถอะไอ้มิว  หน้ามึงจะนิ่งอะไรเบอร์นั้น   มีอะไรให้ไม่พอใจรึไง   ผมกวักน้ำมาล้างหน้าล้างตาก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิม



     "มีอะไรอีกไหมครับ"  ผมเหนื่อย อยากจะนอนแล้ว



     "มิวหายโกรธพี่รึยัง"  ผมเงยหน้าไปสบตากับคนตัวสูง



     "มิวไม่โกรธหรอก  พี่สองคนรู้จักกันมานาน  เวลาเดินคู่กันก็ดูเหมาะสมกันดี  แต่มิวขอแค่พี่อย่ามายุ่งกับมิวอีกได้ไหม"



     "ไม่ได้"  ผมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ  ในเมื่อข้างๆพี่มันมีคนยืนอยู่แล้ว จะเอาผมไปไว้ตรงไหนวะ



     "พี่บอกแล้วไงว่าพลอยเป็นแฟนเก่า   แปลว่าตอนนี้คนที่พี่ชอบก็คือมิว  กับพลอยก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น"  ผมล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขา  พี่บอกว่าพี่ชอบผม แต่สายตาท่าทางทุกอย่างที่พี่มอบให้เขามันยังติดตาผมอยู่เลย   ไม่อยากจะคิดอะไรต่อแล้วตอนนี้   ขอนอนเลยละกัน


     "มิวครับ"  ผมสะดุ้งเมื่อคนตัวสูงลงมานอนซ้อนทางด้านหลังแล้วดึงผมเข้าไปในอ้อมกอด



     "ปล่อย.."  ผมพูดเนือยๆ ไม่มีแรงจะขัดขืน   ได้แต่พูดความต้องการของตัวเองออกไป หวังให้เขาทำตาม   แต่เขากลับกระชับอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม   จนผมได้แต่ถอนหายใจ นี่กูจะต้องตายไวจริงๆใช่ไหมเนี่ย



     "ขอโทษ... ขอโทษที่ไม่ได้อธิบายให้ฟังตั้งแต่แรก  ตัวเล็กยกโทษให้พี่ได้ไหมครับ"



     "แล้วทำไมไม่อธิบายตั้งแต่แรกล่ะ"



     "ก็ไม่คิดว่าตัวเล็กจะขี้หึงนี่ครับ"



     "ใครหึง!"  ผมหันหน้าไปหาคนข้างหลังทันที  ตั้งใจจะด่าซักหน่อย  แต่พอเจอใบหน้าหล่อเหลาที่อมยิ้มอยู่ในระยะประชิดแล้วมันพาลให้พูดไม่ออก



     "ตัวเล็กไงครับ จุ๊บ!"  ผมเบิกตาโตทันทีที่ริมผีปากแดงๆนั่นจุ๊บลงบนแก้มผม



     "ทะ ทำอะไรน่ะ"  เคยเป็นกันไหมครับเวลาตกใจอะไรมากๆแล้วปากมันจะไปเอง จนเผลอถามอะไรโง่ๆออกไป



     "ง้อครับ  หายงอนนะ  เดี๋ยวพี่พาไปกินเค้ก"  เดี๋ยวนะ พี่เขาต้องจำมาจากไอ้ทิวแน่นอน  ที่มันบอกจะเลี้ยงเค้กผมตอบแทน   เจ้าเล่ห์นักนะ



     "แน่ใจหรอครับ  มิวทานเก่งนะ"



     "พี่เลี้ยงไหวอยู่แล้วครับ  สนใจให้เลี้ยงทั้งชีวิตเลยไหม"



     "หึหึ  เอาตอนนี้ให้รอดก่อนไหมครับ"



     "อ่า  แล้วมิวว่าพอจะไปรอดไหมครับ"



     "ก็คงต้องรอดูความประพฤติกันก่อน   เริ่มจากตอนนี้เลย พี่เนมต้องปล่อยมิวและกลับไปได้แล้วครับ"



     "อ้าว   นอนกับมิวไม่ได้หรอครับ"



     "ไม่ได้ครับ  ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย"  คนตัวสูงยังคงกระชับอ้อมแขนเข้ามาอีก   จนผมต้องหันไปมองอย่างดุๆ



     "อ่า  พี่ยอมแล้วครับ   ตัวเล็กอย่าลืมอาบน้ำก่อนนอนด้วยนะ จุ๊บ"  คนตัวสูงยันตัวขึ้นก่อนจะก้มมาจุ๊บที่หน้าผากผม



     "งื้ออ~~   ดะ เดี๋ยวมิวลงไปส่ง"  ต้องลงไปแตะคีย์การ์ดให้ครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอคนอื่นมาเปิด นี่มันก็ดึกแล้วด้วย



     "ฝันดีนะครับตัวเล็ก พรุ่งนี้พี่มารับไปเรียนนะ"  คนตัวสูงพูดไปก็เกลี่ยแก้มผมไป   โว้ยยย ไม่อายลุงยามเขาบ้างรึไง  ผมปัดมือคนตัวสูงออกเบาๆ



     "ไม่ต้องไปรับพี่พลอยหรอครับ   เดี๋ยวมิวไปกับไอ้เบได้"



     "พรุ่งนี้พลอยไปกับเพื่อนครับ   มิวไปกับพี่นะ นะครับ"



     "อ่า   งั้นไว้เจอกันนะครับ"





     Mewtation :: พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปเองนะ

     ผมส่งไลน์ไปบอกไอ้เบไว้   มันจะได้ไม่ต้องแวะมารับผมตอนเช้า

   
     เพราะผมตัดสินใจแล้ว ว่า...



     'ผมจะไปกับเขา'







********************************************************************************************
สวัสดีปีใหม่นะคะทุกคน  ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีสำหรับทุกคนนะคะ :mc4: :mc4: :mc4:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 03-01-2017 19:58:50
ดีกันแล้วน้า :)
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-01-2017 20:17:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 03-01-2017 20:19:46
รีบเคลียร์ตัวเองเลยนะพี่เนมไม่งั้นไม่หายเคือง!!
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 03-01-2017 20:22:47
รอดูพี่เนมกันต่อไปนะ  ว่าจะจริงใจแค่ไหน
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 03-01-2017 20:26:48
เหมือนจะเคลีย แต่การกระทำอิพี่มันก้ไม่ได้เคลียขนาดนั้นน
หนูมิวของเราก้หายโกรธง่ายไปมั้ยยยยย
รอค่าา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-01-2017 20:38:09
❤️ HAPPY NEW YEAR 2017 ❤️
สวัสดีปีไหม่ ๒๕๖๐
ขอให้ไรท์ มีความสุข มากๆ
。◕‿◕。
พี่เนม ยอมเปิดปากและ
แฟนเก่า ขอให้เก่าจริงๆ
แต่ทำไมยังถึงเนื้อถึงตัวจัง
พี่เนม หวงเนื้อหวงตัวบ้าง
เอ๊ะ.......ควรใช้คำนี้กับชีนี่นา
แฟนเก่า ทำไมเพื่อนๆ พี่เนมไม่รู้ล่ะ
แล้วจะยังมีสิทธิ์หวงที่นั่งสำคัญในรถอีกเรอะ :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-01-2017 21:08:48
เคลียร์ทางให้เรียบร้อยก่อนเถอะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 03-01-2017 21:38:02
ยังคงไม่สนิทใจกับพี่เนม มันดูมีอะไรมากกว่านั้นอะ ยอมเชื่อแค่ 30% ก่อนแล้วกัน ขอดูต่อไปเรื่อยๆ
ส่วนน้องมิวที่ยอมใจอ่อนง่ายๆนี่เราเข้าใจว่าน้องเป็นคนไม่ค่อยคิดมากรึเปล่า เลยแบบ ถ้าอธิบายก็โอเค เชื่อก็ได้ ประมาณนี้
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-01-2017 21:54:11
เบี้ยวแหง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 03-01-2017 22:04:54
ง่ายไปเปล่า  คืนดีกันเร็วไปมั้ย   ฝ่ายชายคิดว่าเป็นเพื่อน  ผู้หญิงล่ะ ยังบอกว่าเป็นแฟนกันอยู่เลย  เอาให้ชัดเจนกว่านี้  แบบนี้มันคาใจ :katai1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-01-2017 23:18:41
มิวจะนกไหมหรือไม่ก็ไม่นกแต่ แฟนเก่า ที่พี่เนมบอกอาจมาด้วย


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่14 (3/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-01-2017 23:29:59
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 04-01-2017 16:17:15
Chapter 15





     08.00น.


     วันนี้ผมมีเรียนเก้าโมงครับ  แต่ที่ตื่นมาแต่เช้าเพราะนัดกับพี่เนมไว้ ว่าจะไปทานข้าวที่ร้านหน้ามหาลัยกันก่อน   ตอนนี้พี่เนมกำลังออกจากหอแล้วครับ ผมลงไปรอข้างล่างเลยจะดีกว่า



     "มิวอยากทานอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า"



     "ไม่มีนะ อะไรก็ได้เลย"  ปกติผมเป็นคนทานง่าย อะไรก็ได้ครับ   แต่ถ้ามีช่วงไหนที่อยากทานอะไรเป็นพิเศษขึ้นมาผมก็จะกินซ้ำๆอยู่อย่างนั้นจนเบื่อกันไปข้างเลย



     "งั้นไปทานข้าวต้มกันเนอะ"



     "ครับ"

     ร้านข้าวต้มหน้ามอเป็นอะไรที่คนเรียนที่นี่จะรู้จักกันดีครับ เพราะมีแต่คนบอกว่าอร่อยซะจนต้องหาโอกาสมาทานกันให้ได้   เรียกได้ว่าถ้าเรียนที่นี่แต่ไม่เคยกินร้านนี้นี่ถือว่าล้าหลังสุดๆ



     "มิวทานอะไร"



     "ข้าวต้มปลาอะ   พี่เนมล่ะเลือกได้รึยังครับ"   นี่ร้านข้าวต้มก็จริงครับ  แต่เล่นเอาทุกอย่างที่กินได้มาต้มนี่ก็คงต้องดูเมนูกันนานหน่อย ผมเลือกเบสิกๆเลย   เนื้อปลากระพงนุ่มๆ หึหึ ฟินแน่นอนครับ

     

     คนตัวสูงเอาแต่จ้องเมนูไปมาระหว่างข้าวต้มปลากับข้าวต้มกุ้ง  หึหึ  คิ้วจะชนกันอยู่แล้ว



     "เอาข้าวต้มปลากับข้าวต้มกุ้งครับ  ส่วนน้ำเอาเป็นน้ำเปล่าละกันเนอะ"   ผมหันไปขอความเห็นจากคนที่นั่งตรงข้ามซึ่งก็พยักหน้ากลับมา
 

     จากที่เคยไปทานข้าวด้วยกันมาทำให้ผมรู้ว่าคนตัวสูงสั่งอาหารตามร้านพวกนี้ไม่ค่อยจะเป็น   เขาบอกว่าปกติเพื่อนๆจะคอยสั่งให้หรือไม่ก็จิ้มๆที่เมนูเอา  เดาได้ว่าคงจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจไม่ใช่น้อย



     "ถ้าอยากทานปลาก็แบ่งของมิวไปละกันเนอะ  เห็นพี่ลังเลจนคิ้วจะชนกันอยู่แล้ว"



     "หึหึ ครับ"  คนตรงหน้ายิ้มอารมณ์ดีไม่มีอาการคิ้วขมวดมาให้เห็นอีก



     "วันนี้มิวเลิกกี่โมง เดี๋ยวพี่ไปรับ"



     "หืม แล้วพี่พลอยล่ะ"



     "ถ้าพลอยเลิกแล้วค่อยให้มาหาที่คณะก็ได้"



     "งั้นมิวกลับกับเบดีกว่า   ไม่อยากรบกวนพี่เนม   ต้องไปส่งพี่พลอยแล้วยังต้องมาส่งมิวอีก"  จากที่คุยกับพี่เนม เห็นว่าพี่พลอยมาอยู่หอเพื่อนเพื่อเคลียร์งานได้เกือบเดือนแล้วครับ   ปกติพี่พลอยจะอยู่บ้าน ซึ่งเย็นวันนี้ซึ่งเป็นวันศุกร์พี่เนมต้องไปส่งพี่พลอยถึงที่บ้านเลย



     "แต่ว่า..."



     "เอาตามนี้แหละครับ  แค่ไลน์มาบอกมิวบ้างก็พอว่าถึงไหนแล้ว"   ผมพูดต่ออีกหนึ่งประโยคเมื่อคนตรงหน้าทำท่าจะขัดขึ้นมาอีก



     "แน่ใจนะครับว่าจะไม่ไปด้วยกัน"  คนตรงหน้ายังมีท่าทีลังเล กลัวผมจะไม่เชื่อใจกัน



     "แน่ใจครับ"  ผมมองสบดวงตาคู่สวยอย่างมั่นใจ ก่อนจะเริ่มทานข้าวต้มเจ้าอร่อย








     "มิว วันนี้มายังไง"  ไอ้เบเดินเข้ามาถามผมหลังจากที่อาจารย์ปล่อยให้สเก็ตงานกันได้ตามสะดวก   ส่งอาทิตย์ต่อไปเช่นเคยครับ วันนี้เราเรียนในห้องที่เป็นโต๊ะเขียนแบบกัน เลยนั่งแยกโต๊ะเป็นคนๆไป



     "มากับพี่เนม"  ปิดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อมันมองออกอยู่แล้ว



     "ถามจริง   มึงกับพี่เนมเป็นอะไรกัน"  ไอ้เบถามผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด   ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าบอกจะต้องเป็นห่วงกันแน่ๆ



     "ก็คุยๆกันอยู่"



     "แล้วแฟนเขาที่อยู่นิติอะไรนั่นล่ะ"  ข่าวพี่เนมกับพี่พลอยก็ถือว่าดังอยู่เหมือนกันครับ  ถ้าไม่ได้โลกแคบจนเกินไปก็ต้องได้ยินข่าวนี้กันแน่นอน 'คู่รักรีเทิร์น'



     "พี่พลอยเขาเป็นแฟนเก่า   พี่เนมบอกมางั้นนะ"  ผมตอบไปมือก็สเก็ตไปครับ ไอเดียกำลังมาเลย



     "แล้วมึงก็เชื่อเขาง่ายๆหรอมิว"



     "ก็อืม   ถ้าจะรักกันก็ต้องเริ่มจากการเชื่อใจกันก่อนเปล่าวะเบ"



     "ก็ใช่  แต่.."



     "ถ้ากูโดนหลอกมันก็คือโดนหลอกแค่นั้นแหละ  แต่ถ้าเขาเป็นคนที่ใช่ของกูจริงๆ แล้วกูปิดกั้นตัวเองไว้เพื่อป้องกันความเจ็บ  มันหมายความว่าชาตินี้กูอาจจะไม่ได้เจอคนที่ใช่อีกเลยก็ได้นะ"



     "เฮ้ออออ~   เขาเป็นพี่ที่กูเคารพนะเว้ย  แต่ถ้าทำมึงเจ็บเมื่อไหร่ กูก็พร้อมจะตัดเขาออกทันที"  มันคงจะเสียดายคนที่คุยกันถูกคอ  ชอบอะไรเหมือนๆมันอย่างพี่เนมน่ะครับ



     "หึหึ   ถ้ามึงเลือกเขาล่ะก็  กูจะให้ไอ้พวกที่เหลือไปรุมกระทืบมึงเอง"  ผมพูดติดตลกเพื่อลดบรรยากาศเครียดๆลงไปบ้าง  แต่หน้าไอ้เบก็ยังคงจริงจังอยู่เหมือนเดิม



     "เอาเป็นว่ากูเคารพการตัดสินใจของมึง  แต่ถ้ามึงเสียใจ อย่าลืมว่ามีพวกกูอยู่ตรงนี้ละกัน"



     "ขอบใจมากเว้ย"  ผมยืนเข่าบนเก้าอี้เเล้วยืดตัวไปโยกคอมัน  ถ้าให้ยืนที่พื้นคงเอื้อมไม่ถึงหรอกครับ ไอ้เบมันสูงเกินคน



     "แล้วนี่กูต้องรายงานไอ้แทนไหมเนี่ย  พญาเสือกำลังจะขโมยลูกแมวน้อยไปได้อยู่แล้ว"



     "แมวน้อยบ้านมึง  เอาไว้ให้กูแน่ใจก่อนละค่อยบอกไอ้แทน  กูไม่ใช่เด็กแล้วนะเว้ย  กูรับมือกับความเจ็บได้  ไม่ตายง่ายๆหรอก"



     "ก็แค่ไม่อยากให้มึงเจ็บ  แต่ว่าคนเรามันก็ต้องมีทั้งทุกข์และสุขแหละเนอะ  ถ้ากูไม่ให้มึงเสี่ยงเจ็บตอนนี้ มึงก็อาจจะไม่ได้เจอความสุขที่มันมากกว่าก็ได้"



     "เออ ขอบใจที่มึงเข้าใจกูนะ  ว่าแต่งานจารย์เจมึงเสร็จยังวะ"  ผมถามถึงงานที่ต้องส่งในวันพรุ่งนี้



     "เหลือแค่อัพโฟโต้ลงเพจ"  มันคือการอัพรูปถ่ายผลงานลงในเพจเฟสบุ๊คน่ะครับ  บางรายวิชาจะให้โพสงานลงเพจเพื่อให้คนอื่นๆสามารถเข้ามาดูได้   ซึ่งการจะถ่ายรูปได้ก็แปลว่างานมันต้องเสร็จแล้ว



     "ไอ้เหี้ยยย   ไมมึงเสร็จไววะ   แอบไปแดกอะไรผิดสำแดงมารึเปล่า"  ปกติไอ้เบนี่สายเดือด  ชอบปั่นคืนสุดท้ายตลอด แล้วนี่มันอาร๊ายยยยย   ทำไมมันเสร็จก่อนผมได้อะ



     "ก็ไอ้ซีมันเสร็จแล้วเลยมาช่วยกูทำ"  ไอ้เบพูดไปก็หยิบเลย์เข้าปากไปด้วย   ถ้ามันหกใส่งานกูนะไอ้สัด จะตบให้คว่ำเลย



     "เดี๋ยวนี้สนิทกับไอ้ซีจังเลยนะ"  ผมอดแขวะมันไม่ได้ เห็นกัดกันได้ทุกวี่ทุกวัน  แต่ก็ช่วยเหลือกันอยู่ตลอด  มันยักไหล่อย่างไม่แคร์อะไร



     "ก็เพื่อนกูมัวแต่ไปหาผัวนี่ โอ้ย!! "  ผมตีหลังมันดัง 'อั่ก' จนพวกที่เหลือพากันขำเสียงดัง  โทษฐานที่มึงว่ากูไอ้เบ!






     "พวกมึง  วันก่อนกูโดนเด็กแก๊งค์แซวด้วยเว้ย"  ไอ้มินพูดขึ้นมาระหว่างที่พวกเราเจ็ดประจัญบานมานั่งให้อาหารปลาที่บ่อน้ำในคณะ งานการก็พักกันไว้ก่อนครับ ฮ่าๆๆ  ในคณะผมนอกจากต้นไม้จะเยอะแล้ว บ่อน้ำก็เยอะด้วยครับ  เนเชอรัลสุดๆไปเลย



     "หน้าอย่างมึงน่าจะไปแซวเขามากกว่านะ"



      "หุบปากไปเลยไอ้มิว   ใช่ซี้~~กูไม่ได้หน้าแบ๊วน่าฉุดเหมือนมึงหนิ"



     "ฉุดบ้านมึงสิ  ไอ้สัด" ผมมีองครักษ์พิทักษ์ตัวอยู่เต็มไปหมด  ต่อให้ฉุดได้ก็คงต้องมานอนรอแดกตีนเพื่อนผมต่ออยู่ดี  เพราะฉะนั้นอย่าได้คิดจะฉุดผมเชียวนะครับ ฮ่าๆๆ



     "มาๆ  กูจะเล่าให้พวกมึงฟัง"  พวกผมก็รอฟังมันเล่ากันปกตินี่แหละครับ  จะมีก็แต่ไอ้นัท ที่ดูจะตั้งใจจนเกินเหตุ มึงจ้องไอ้มินจนตาจะถลนอยู่แล้ว ไอ้นัท!   ผมทนไม่ไหวเลยปาขนมปังใส่มัน โทษฐานที่โอเวอร์แอคติ้ง   มันหัวเราะชอบใจที่มีคนสังเกตเห็นแอคติ้งของมัน  เรียนเยอะจนเพี้ยนไปแล้วครับ



     "คือกูกำลังเดินกลับหอเว้ยวันนั้น  พวกมันยืนกันเป็นฝูงเลย  แต่ละคนนี่จ้องมาที่กูอย่างไม่ปิดบัง  แม่ง พูดละขนลุก"  มันพูดแล้วลูบแขนลูบขาไปด้วย



     "กูก้มหน้าก้มตารีบๆเดินให้พ้นพวกมันไป   แต่แม่งไม่ทันหวะ..."



     "ทำไมวะ"  ไอ้ซีถาม



     "ไอ้หัวหน้าแก๊งค์ที่ยืนอยู่มันหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาใส่เว้ย   แล้วตะโกนเสียงดังลั่นซอย...."



     "ว่า?"  ไอ้ซีถามต่อ เพราะไอ้มินมัวแต่ลีลาไม่ยอมพูดซักที



     "เฮ้ย!! ไอ้น้อง!!! ให้พี่ไปส่งเปล่า!"



     "ละ...แล้ว มึงตอบว่าไงวะ"  ไอ้ซีที่ผ่านประสบการณ์โดนแซวมาไม่น้อยไปกว่าผม ถามอย่างลุ้นระทึก



     "กูก็ตะโกนกลับไปว่า..."



     "มีห้าบาทส่งถึงเซเว่นหอนอกได้เปล่าพี่!!"  หืม?



     "เด็กแกงค์มึงนี่ใส่เสื้อสีส้มๆปะ"  ไอ้นัทถาม



     "เออดิ   ทำไมมึงรู้วะ"



     "ไอ้สัด!!!  นั่นมันแก๊งค์วินมอไซค์"   ไอ้ซีตบหัวไอ้มินดังลั่นเลยครับ   ฮ่าๆๆ   กูก็ว่าแปลกๆตั้งแต่หยิบหมวกมาใส่ละ



     "ละเขาว่าไงวะ"  ไอ้ทัตถามขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด ไอ้นี่มึงก็อินกับเรื่องบ้าๆบอๆได้ตลอดเวลา   เรื่องเรียนมึงเคยทุ่มเทขนาดนี้ไหมห๊ะ แต่ผมก็แอบอยากรู้เหมือนกันนะ อิอิ



     "เขาก็บอกว่า   โทรไปเรียกพ่อมึงนู่น!!!!"



     "ฮ่าๆๆๆๆๆ"  เขาไม่เข้ามากระทืบมึงก็บุญละไอ้มิน



     "ละมึงได้โทรบอกพ่อเปล่าวะ"  คำถามนี้จากไอ้นัทครับ



     "โทรแล้ว....แต่ผู้หญิงรับหวะ"



     "แม่มึงหรอ"   ไอ้เบถามบ้าง   แต่ดูจะเน้นตรง'แม่มึง'เป็นพิเศษ



      "ไม่ใช่แม่มึง!  เขาบอกว่า   'เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้'  "   โถไอ้สัด กูก็นึกว่าพ่อมึงมีกิ๊ก  นี่ขนาดพ่อมึงก็ยังเอามาเล่นกันเนอะ  เจริญจริงๆ



     N. :: เรียนเสร็จแล้วหรอ
 
     หืม?  ผมมองไปทางวิศวะเพื่อหาคนตัวสูง ทักมางี้แสดงว่าต้องเห็นผมชัวร์



     N. :: อยู่โรงอาหารครับ

     ผมมองไปก็เห็นร่างสูงนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อน  เขาโบกมือให้ผมเห็นก่อนจะเอาแขนลง  บ่อน้ำที่ผมมานั่งกันวันนี้ติดกับฝั่งวิศวะน่ะครับ อยู่เยื้องๆกับโรงอาหารวิศวะเลย



     Mewtation :: จารย์ปล่อยแล้ววววว
   
     Mewtation :: พี่เนมยังไม่ไปอีกหรอ


     N. :: เดี๋ยวจะไปแล้วครับ ออกไปรับพลอยที่คณะเลย


     
     Mewtation :: โอเคครับ
 
     Mewtation :: ถึงแล้วบอกมิวด้วยนะ



     N. :: ครับตัวเล็ก

     ผมมองร่างสูงบอกลาเพื่อนๆ ก่อนจะลุกเดินไปทางอีกฝั่งของโรงอาหาร   เมื่อเช้าพี่เขาจอดรถไว้ตรงนั้นน่ะครับ  นี่ก็จะห้าโมงเย็นและ ผมชวนไอ้เบกลับเลยดีกว่า








      ผมมาถึงหอตั้งแต่ห้าโมงกว่าแล้วครับ   อาบน้ำ ทานข้าวอะไรเรียบร้อยก็มานั่งทำงานต่อ  เหลือไม่เยอะเท่าไหร่   แต่ต้องอัพรูปก่อนเที่ยงคืน   นี่ก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว  ผมวางมือจากงานและเริ่มจัดฉากจัดแสงเพื่อถ่ายรูป   ผ่านไปสิบกว่านาทีก็ได้รูปที่พอใจ  แสงโอเคดีไม่ต้องแต่งอะไรมากครับ  ใส่ชื่องานแล้วก็โพสลงได้เลย



     23.45 น.

     ผมส่งงานเสร็จแล้วแต่ก็ยังนอนไม่หลับ   ทั้งๆที่ผมก็ง่วงนะ   แต่...คนตัวสูงยังไม่ติดต่อมาหาผมเลย   ถึงบ้านพี่พลอยรึยังก็ไม่รู้  หรือกลับมาถึงหอแล้ว  หรือว่าเป็นอะไรรึเปล่า   ผมไม่รู้...   โทรไปก็ปิดเครื่อง   แบตหมดหรอ?   แล้วชาร์จบนรถไม่ได้รึไง? 

 

     ผมขี้เกียจจะคิดแล้วนะ....




     00.30 น.


     ก๊อกๆๆ

     ก๊อกๆๆ

 
     หื้อออ ใครง่ะ


     ก๊อกๆๆ


     ง่วงงง....


     ก๊อกๆๆ

     ไปเปิดก็ได้โว้ยยยย   ถ้าเป็นไอ้พวกมือบอนมาเคาะเล่นนะ พ่อจะด่าให้ลั่นหอเลย



     ผมงัวเงียลุกขึ้นจากเตียงไปเกาะอยู่ตรงประตู   พยายามจะเพ่งมองคนที่มาเคาะผ่านช่องตาแมว   แบบว่ามันเมาขี้ตาอะครับ   มองไม่ค่อยจะชัดเท่าไหร่   เห็นแค่ว่าตัวสูงๆ คุ้นๆแหะ   เปิดแม่งเลยละกันขี้เกียจส่องละ



     'หมับ'

     คนตัวสูงรวบผมไปไว้ในอ้อมกอดทันทีที่ประตูเปิด



     "อื้อออ!!    ....พี่เนมหรอครับ"  ถึงจะมองไม่ชัดเพราะผมไม่ได้เปิดไฟในห้องไว้   แต่กลิ่นนี้ผมคุ้นเคยดี...คิดว่านะ   ก็แหม ผมไม่ได้กอดกับเขาบ่อยซะหน่อย   ปกติก็ได้แต่กลิ่นหอมจางๆ   แต่กอดแน่นขนาดนี้ก็คงใช่แหละครับ



     "ขอโทษครับ"     พี่เนมล็อคประตูห้องแล้วพาผมที่กำลังงัวเงียไปนอนบนเตียง กอดผมไว้แน่นจากทางด้านหลัง  แล้วซุกหน้าลงบนบ่าผม  ตัวก็อุ่นๆ นี่เขาไปทำอะไรมาเนี่ย



     "ขอโทษนะครับ  โทรศัพท์พี่แบตหมด  ไอ้แมนมันเอาสายชาร์จไปพี่เลยติดต่อมิวไม่ได้เลย"



     "อ่า แล้วนี่เพิ่งกลับมาหรอครับ"



     "มาถึงเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ  กว่าลุงยามจะยอมใจอ่อนเปิดประตูให้ก็นานอยู่เหมือนกัน  แกเห็นว่าพี่รู้จักกับมิวเลยยอมเปิดให้"  คงตัวสูงพูดงึมงำอยู่บนบ่าผมอย่างสำนึกผิด



     "บ้านพี่พลอยไกลหรอครับถึงได้กลับมาซะดึกเลย  หรือว่ารถติด"



     "พอดีคุณแม่พี่ให้ไปทานข้าวด้วยกันก่อนที่ห้าง..... แล้วท่านก็ให้พลอยไปชอปปิ้งเป็นเพื่อนอีก  กว่าจะถึงบ้านพลอยก็เกือบๆสี่ทุ่ม"  ห้างที่ว่านั่นอยู่คนละฝั่งกับมหาลัยผมเลยครับ กว่าจะขับรถไปถึงก็คงใช้เวลาน่าดู



     "พี่เนมจะอาบน้ำก่อนไหมครับ  หรือว่าจะนอนเลย"  ขับรถไปมาท่าจะเหนื่อยน่าดู



     "มิวไม่โกรธนะครับ"



      "หืม  ไม่โกรธหรอกครับ พี่ก็มีเหตุผลให้มิวหนิ"  ผมลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองคนตัวสูงที่นอนอยู่  ดวงตาของเขาสะท้อนกับแสงที่ลอดเข้ามาในห้องทำให้เห็นว่าคนตรงหน้ามีน้ำตาคลอ



     "พี่ไม่อยากให้มิวสงสัยในตัวพี่   ไม่อยากให้คิดมาก  อยากให้เชื่อใจกัน  มิวขอแค่ให้พี่บอกมิวบ้าง  แต่พี่ก็ทำไม่ได้"



     "มิวเชื่อพี่เนมครับ"  ผมลูบศรีษะเขาเบาๆอย่างปลอบโยน  ก่อนจะเอาหลังมือไปทาบลงบนหน้าผาก



     "ทำไมตัวร้อนขนาดนี้ล่ะครับ "  ผมลุกไปเปิดไฟเพื่อที่จะได้มองคนตัวสูงชัดๆ   ริมฝีปากซีดๆกับรอยยุงกัดเต็มไปหมด   ตอนกลางคืนอากาศมันหนาวนะครับ  ยิ่งหลังฝนตกแบบนี้แล้วด้วย
     


     ผมมองคนตัวสูงที่หลับตาลงโดยยึดมือของผมไปกุมไว้ไม่ยอมปล่อย   
 
     เห็นทีวันหยุดนี้ไอ้มิวคงจะต้องรับภารกิจ 'ดูแลคนป่วย' แล้วล่ะครับ




********************************************************************************************
ไม่มีใครอยู่ฝั่งพี่เนมเลย   :katai1: สงสัยต้องเปลี่ยนตัวพระเอกแล้วมั้งเนี่ย  ฮ่าๆๆ
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันนะคะ :mew1: :mew1: :mew1:

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 04-01-2017 16:36:36
มิวนี่เป็นคนดีมากๆ เชื่อใจพี่เนม ขอพี่เนมอย่าทำร้ายความรู้สึกของมิวล่ะกัน

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 04-01-2017 17:03:50
แฟนเก่านี่เก่าแค่พี่เนมรึป่าว
รีบๆเคลียร์ทีเถอะ จะฟินก็ฟินไม่สุด :katai4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 04-01-2017 17:22:09
น้องมิว ถึงจะเป็นคนอ่อนหวานดูแลคนอื่น แต่ใจก็เข้มแข็งนะ พี่เนม ถ้าทำน้องเสียใจนี้คงแย่แน่
ไหนจะตัวน้องเอง ที่คิดว่าถ้าตอบโต้กลับพี่เนมต้องเจ็บ ไหนจะเพื่อนๆที่รักน้องอีก
พี่เนม รักน้องมิวอย่างเดียวพอไหม ต้องทำอะไรสักอย่างมากกว่านี้เพื่อเคลียร์ตัวเองนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-01-2017 17:23:51
พ่อแม่พี่เนม รู้มั้ยว่าพี่เนมเลิกกับพี่พลอยแล้ว  :katai1: :katai1: :katai1:
ไม่ค่อยไว้ใจ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่
จะทำให้พี่เนม มิว ผันแปรหรือเปล่า
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 04-01-2017 17:34:09
ก็ยังไม่สนิทใจกับพี่เนมแฮะ ฮือ หนูขอโทษ 555555555555555555 แต่พฤติกรรมมันน่าสงสัยจริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 04-01-2017 18:29:10
ตามรับตามส่ง   ไปด้วยกันขนาดนี้  แม่ก็เห็นด้วย  ใคร ๆ ก็คิดว่าเป็นแฟนกันอยู่แล้วล่ะ  เอาให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยได้มั้ย  พาน้องไปแนะนำว่าเป็นแฟนหรือโพสลงเฟสอะไรก็ได้  ตอนนี้ก็ยังไม่เคลียร์อยู่ดี   :m16:  ไม่ชอบเลย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2017 18:42:27
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-01-2017 20:45:16
หาความน่าเชื่อถือในคำพูดและการกระทำของพี่เนมไม่เจอเลย o16 o16 o16

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่15 (4/01/17) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 04-01-2017 21:23:01
อ้าวพี่เนมป่วยซะงั้น
 :katai5: :katai5:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 07-01-2017 19:52:51
Chapter 16

 



     เช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสสำหรับใครหลายๆคน  แต่คงไม่ใช่สำหรับพวกผมครับ  วันนี้เป็นวิชาทำโมเดล ต้องลงช็อปกันแต่เช้าเลย  โดยมีอาจารย์รักความสะอาดเป็นอย่างมากกกกกกท่านนึง  แบบว่าวิชานี้มีอาจารย์สอนอยู่ประมาณสี่คนได้ครับ ท่านสั่งให้พวกผมเก็บช็อปทำความสะอาดกันยกใหญ่  ไม่งั้นจะปิดช็อปไม่ให้ได้ใช้กันอีก  เนื่องจากช่วงนี้โปรเจคเยอะครับ  แต่ละชั้นปีก็แห่กันมาทำงานที่ช็อปมากมาย  จนมันสกปรกเละเทะไปหมด  แจ็คพอตแตกที่ชั้นปีพวกผมที่มีเรียนกับอาจารย์แกพอดี  เลยต้องรับเวรรับกรรมกันไป




"นี่เธอๆ  เก็บให้หมดเลยนะตรงนั้นน่ะ  อะไรที่ใช้ได้ก็แยกออกไปไว้มุมนู้นนน"  ไอ้นัทล้อเลียนเสียงอาจารย์  หลังจากที่แกปล่อยให้พวกผมทำความสะอาดกันเอง




"นี่เธอไม่เห็นตรงนั้นหรอ  กวาดออกมาเลยนะ"  ไอ้เต้ก็เป็นไปกับเขาด้วย  จนพวกผมพากันหัวเราะเสียงดังให้กับความดัดจริตของพวกมัน

     

     งานวิชานี้เป็นโปรเจคใหญ่ครับ  ทำส่งไฟนอลทีเดียวเลย  ก็มีปรึกษาให้คำแนะนำอะไรกันบ้างตอนมีคลาส  แต่วันนี้ยกให้เป็นบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ไปครับ  เสร็จแล้วก็ตามสบายกันไป  เพราะช่วงบ่ายอาจารย์ติดประชุมกันหมด  แล้วคิดว่าพวกผมจะอยู่กันหรอครับ  แน่นอนว่าคำตอบคือไม่  วันนี้นัดกันไปหาบุฟเฟ่ต์กินที่ห้างแถวๆนี้แหละครับ




"วันนี้กูเอารถมา  ใครจะไปรถกูมั่ง"  ไอ้ซีถามขึ้นมาหลังจากที่เราเคลียร์ช็อปกันเสร็จเรียบร้อย  เพื่อนคนอื่นก็เริ่มทยอยกันไปแล้วครับ  ไอ้ซีมันมีรถยนต์ที่ปกติไม่ค่อยจะขับมาเท่าไหร่  เพราะมาพร้อมไอ้เบเลยด้วยความที่อยู่หอเดียวกัน แต่ช่วงนี้ไอ้เบต้องมารับผมมันเลยเอารถมาเอง  ที่พวกผมไม่ติดรถมันมาด้วยกันเลยก็เพราะว่าเวลากลับไม่ค่อยจะตรงกันเท่าไหร่ครับเลยไม่อยากจะรบกวนมัน  มันเป็นพวกกลับเร็ว  พวกขยันทำงานน่ะครับ 

   

     สรุปแล้วผม  ไอ้เบ  ไอ้นัท มารถซีครับ  ส่วนไอ้ทัต  ไอ้มิน  ก็ไปรถไอ้เต้  เอาไปสองคันก็พอครับขับแยกกันไปหมดคงต้องหาที่จอดกันวุ่นวาย 



Mewtation  ::  มิวไปห้าง...นะ  ตอนบ่ายไม่มีเรียนแล้ว

ผมส่งข้อความไปบอกคนตัวสูงระหว่างที่อยู่บนรถ



N.  ::  ไปทำอะไรครับ


Mewtation  ::  ทานข้าวกับเพื่อน


N.  ::  ตอนบ่ายพี่ว่าง  ดูหนังกันไหม


Mewtation  ::  โอเคครับ


N.  ::  งั้นเดี๋ยวพี่ทานข้าวกับเพื่อนก่อน  แล้วจะไปหานะครับ


Mewtation  ::  คร้าบบบ










"น่าสงสารหมูมันเนอะ  ดูสิต้องมาตายให้พวกมนุษย์แดก"  ไอ้นัทพูดไปก็คีบหมูใส่ปากไปเรื่อย  มันคงสงสารจริงๆแหละครับ




"มันเกิดมาเพื่อเป็นอาหาร  มึงก็อย่าคิดอะไรให้มันมาก" ไอ้เบพูดเพื่อเบรคความเพ้อเจ้อของไอ้นัท




"ก็ช่ายย  แต่หมูมันไม่ได้ทำไรผิดเปล่าว้าาา  ต้องมาโดนสั่งประหารชีวิตเพื่อพวกเราเนี่ย  มันไม่แฟร์เลย  มึงว่าปะ"  มันหันไปถามความเห็นจากไอ้เต้ที่นั่งอยู่ข้างๆ




"แปลว่ามึงจะไม่แดก"  ไอ้เต้ทำท่าจะหยิบจานที่มีหมูกองพะเนินของไอ้นัทไป  ปากบอกสงสารนะ  แต่ในจานมึงเยอะสุดเลยสัด




"แปลว่ากูจะแดกให้คุ้ม  เพื่อตอบแทนความเสียสละของน้องหมู"  โถ  กูก็นึกว่าจะแน่




"มึงคิดดูถ้ากูไม่แดก  มันก็ต้องกลายเป็นศพหมูที่เน่าอยู่หลังร้าน  การที่กูเอามันมาย่างเนี่ย  ก็เท่ากับเป็นการฌาปานกิจศพไปด้วยเลย มันจะได้ไม่ต้องตายอย่างไร้ค่า  กูเป็นคนดีใช่มะ"  ดีจ่ะ  ดีสุดๆไปเลย  แต่จะดีกว่านี้ถ้ามึงคิดเรื่องเรียนให้ได้เยอะๆแบบนี้บ้าง  ใส่ไอเดียลงไปให้งานมันฟุ้งๆ  จนอาจารย์ต้องเอ่ยปากชมแบบนั้นน่าจะดีกว่า





"เบ  เดี๋ยวกูดูหนังต่อ  มึงกลับก่อนเลยนะ"  ผมหันไปบอกไอ้เบที่นั่งข้างๆระหว่างรอเช็คบิล




"กับพี่เนมอะนะ" 




"อื้ม"




"เฮ้ออ~~  มึงว่าไงก็ว่างั้น  ถึงหอละบอกกูด้วยละกัน"




"คร้าบบ  คุณพ่อ"  หลังจากนั้นผมก็แยกกับพวกมันแล้วมานั่งรอพี่เนมที่หน้าโรงหนัง








Mewtation  ::  มิวรอหน้าโรงหนังนะ


N.  ::  พี่จอดรถอยู่ครับ  รอแปปนะ




     ระหว่างรอผมก็ดูโปรแกรมหนังไปเรื่อยๆ ก่อนมาก็ไม่ได้สนใจจะดูเรื่องไหนเป็นพิเศษด้วย พอมาดูตรงนี้ก็มีสนใจอยู่บางเรื่องครับ เป็นหนังแนวเพลง  ผมชอบฟังเพลงน่ะครับ  คงไม่แปลกถ้าจะสนใจเรื่องนี้  แต่ก็คงต้องรอถามพี่เนมก่อนว่าอยากจะดูรึเปล่า




"ตัวเล็กครับ"  อ่า  พี่เขาโคตรเด่นเลยครับตอนที่เดินมาหาผม  คนมองเขาเยอะแยะไปหมด  จนผมรู้สึกประหม่าหน่อยๆ




"อยากดูเรื่องไหน  คิดไว้รึยังฮึ"




"อยากดู.....ครับ  พี่เนมล่ะ"




"พี่ตามใจเรานั่นแหละ  งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อตั๋วก่อน"  คนตัวสูงว่าก่อนจะหันหลังไป  แต่ก็หันกลับมาอีกจนผมงง




"ครับ?"




"ไปด้วยกันดีกว่า"  คนตัวสูงขมวดคิ้วหน่อยๆ  แล้วจับมือผมเดินไปด้วยกัน




"ทำไมมีแต่คนมองมิว" พี่เนมหันมาถามตอนที่เราต่อแถวซื้อป๊อปคอร์นกันอยู่  ทานข้าวแล้วก็จริงครับ  แต่สำหรับผมแล้วป๊อปคอร์นเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลยตอนดูหนัง  ถ้าไม่มีมันเหมือนเรานั่งอยู่เฉยๆนานๆน่ะครับ  ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่




"มองพี่เนมนั่นแหละ  เด่นซะขนาดนี้" ผมว่าอย่างขำๆ  แล้วหันไปสั่งป๊อปคอร์นเมื่อถึงคิวเรา




"พูดอย่างกับเราไม่เด่นงั้นแหละ" คนตัวสูงพูดแล้วกอดคอผมเดินเข้าโรงหนังไป  เตี้ยๆอย่างผมนี่จะเอาอะไรมาเด่นครับพี่ 








Name  Part




                 หลังจากที่ดูหนังจบผมก็พาน้องไปเข้าห้องน้ำของโรงหนังครับ  ระหว่างทางคนก็ยังมองมาที่คนตัวเล็กข้างๆผม  จนผมหงุดหงิด  ไม่เห็นรึไงว่าผมก็เดินอยู่ข้างๆเนี่ย  สายตาพวกนั้นมันน่ารำคาญชะมัด  มิวเป็นคนตัวเล็กๆขาวๆ  ขาวเเบบอมชมพูน่าฟัดสุดๆ  แก้มนิ่มๆนั่นผมโคตรชอบ แถมเวลาอยู่ใกล้ๆยังได้กลิ่นหอมๆจากตัวเขาจนผมรู้สึกดีสุดๆ อยู่กับมิวแล้วผมโคตรจะมีความสุขเลย



     ผมเคยเห็นมิวมาก่อนที่เราจะรู้จักกันซะอีก  ตอนนั้นเขาเหมือนเด็กหน้ามึน ที่มาเดินดุ๊กดิ๊กอยู่แถวคณะผมบ่อยๆ  ผมจำหน้าตาท่าทางต่างๆของเขาได้  แต่ไม่ใช่ว่าผมชอบเขาหรอกนะ  เขาแค่น่ารัก  มองแล้วเพลินตาดี  พอเขาเข้ามาอยู่ในบริเวณสายตาเมื่อไหร่  ผมเลยละสายตาไปจากเขาไม่ได้เท่านั้นเอง 

     จนตอนนี้ที่ผมได้มารู้จักเขาจริงๆ  มันทำให้ผมรู้สึกได้ว่า  'ผมชอบเขามาก'  เลยแหละ




"เนม!  มิว!  มาดูหนังกันหรอ"  เดินออกจากห้องน้ำมาก็เจอเข้ากับพลอย  ผมกับพลอยรู้จักกันตั้งแต่ตอนเด็กๆทำให้เราเป็นพวกที่รู้ใจกันอยู่เสมอ  ไม่อยากเรียกว่าสนิทกัน  เพราะไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าคุยกันทุกเรื่อง  แค่พอจะรู้อารมณ์กันก็เท่านั้น 




     ผมกับพลอยเคยคบกันช่วงขึ้นม.ปลายใหม่ๆ  ตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าความรักคืออะไร  เพื่อนๆผมบอกว่ามันคือการที่คนสองคนเข้าใจกัน  ผมเลยคิดว่าระหว่างผมกับพลอยมันคือความรัก  แต่คบกันได้ปีกว่า  ผมก็รู้ตัวว่ามันไม่ใช่  ผมรู้สึกเฉยๆเวลาที่มีคนมองพลอย  เข้ามาขอเบอร์พลอย  หรืออะไรก็แล้วแต่  ไม่ได้รู้สึกหึงหวงอะไรเหมือนที่เพื่อนคนอื่นๆมันเป็นกัน  ตอนนั้นผมก็บอกพลอยไปตรงๆและเธอก็เข้าใจดี แต่ติดที่ว่าพลอยรู้สึกกับผมมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน  เธอเลยขออยู่ข้างๆจนกว่าผมจะเจอคนของผม  จนคนอื่นๆพากันเข้าใจว่าผมกับพลอยยังคบกันอยู่เหมือนเดิม  พวกที่รู้ความจริงก็มีแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละครับ  ส่วนคนอื่นๆผมไม่ค่อยแคร์อะไรก็เลยปล่อยไป



      'มิว'เป็นอีกคนที่ผมแคร์   ไม่อยากจะให้เขาเข้าใจผิด   อยากอธิบายทุกๆเรื่องที่เขาอยากรู้  แต่มิวไม่เคยเอ่ยปากถามอะไรผม  เขาคิดของเขาเอง  แล้วก็ปล่อยวางไปเอง  มิวเป็นคนที่ใช้คำว่า 'ช่างมัน' กับชีวิตอยู่ตลอดเวลา  อะไรที่มันเกินความจำเป็น  หรือว่าไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อนอะไรมากมาย เขาก็จะปล่อยมันไป  ผมที่เพิ่งมารู้สึกตัวว่ากำลังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาเลือกจะปล่อยไป  กว่าจะรู้ว่าสาเหตุมันมาจากอะไรก็เกือบจะสายไปแล้ว 




"อืม"  ผมเป็นคนนิ่งๆ  ถ้าจะคาดเดาอารมณ์จากสีหน้า  บอกได้เลยว่ายาก
ผมไม่ชอบวุ่นวายกับใคร  และก็ไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายด้วย  แต่ที่เห็นผมเป็นห่วงพลอยนั่นก็เพราะเธอเปรียบเสมือนน้องสาวคนนึง  เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ  และแม่ก็บอกเสมอว่าให้ผมดูแลเธอให้ดี  เพราะพลอยก็เหมือนลูกเหมือนหลานท่าน ท่านรู้เรื่องของเราทั้งหมด  เพราะผมค่อนข้างสนิทกับแม่  มีอะไรก็เล่าให้ท่านฟังตลอด  รวมถึงเรื่องของแมวตัวน้อยนี่ด้วย  ตอนนั้นผมเล่านู่นเล่านี่ไปเรื่อย  แต่แม่กลับบอกว่าผมเอาแต่พูดถึงคนตัวเล็กหน้ามึนนั่น  และมันก็บ่อยขึ้นๆจนแม่ต้องเอ่ยปากบอกว่า 'ชอบเขามากก็รีบไปจีบซะไป  เดี๋ยวโดนตัดหน้าไปแล้วจะมาฟูมฟายทีหลัง'  คนอย่างผมเนี่ยนะจะมานั่งฟูมฟาย  ผมแค่ไม่อยากให้คนตัวเล็กนั่นกลายเป็นของคนอื่น  เป็นคนที่ผมมองไม่ได้  แตะต้องไม่ได้  ผมเลยต้องเอามาไว้ใกล้ๆตัวก็เท่านั้นเอง





"อ้าว!  ตาเนม  มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงย๊ะ  ตอนแม่ชวนก็บอกไม่ว่างๆ  น่าตีจริงๆเลย" แล้วคุณนายคนสวยนั่นก็คือแม่ผมเอง  ท่านเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็เดินเข้ามาตีแขนผมเบาๆ  เบาในความคิดเขาคนเดียวน่ะครับ   คนตัวเล็กข้างๆผมนี่หน้าซีดไปแล้ว แม่ผมดูน่ากลัวหรือยังไง?




"ก็ผมมาดูหนังกับน้อง"  ผมพูดแล้วเบี่ยงตัวให้ท่านเห็นคนตัวเล็กที่ตอนนี้เข้ามาหลบอยู่ข้างหลังผม




"อุ๊ยตาย  แม่ไม่ทันเห็น  ขอโทษด้วยนะจ๊ะ  ว่าแต่หนูชื่ออะไรจ๊ะ"  แม่ผมถามด้วยรอยยิ้มหวาน  สงสัยอาการจะกำเริบแล้วล่ะมั้ง




"เอ่อ  ม..มิว  ครับ"  คนตัวเล็กเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ  มิวไม่ต้องกลัวหรอกครับ  คนที่ต้องกลัวน่ะควรจะเป็นพี่มากกว่า  ดูแม่ผมจ้องมิวสิ  น่าหงุดหงิดชะมัด




"ชื่อน่ารักเหมือนหน้าตาเลยนะจ๊ะ"  พูดอย่างเดียวก็ได้  จำเป็นต้องเอามือมาลูบแก้มคนของผมด้วยหรอครับคุณนาย 




"พอเลยแม่  แล้วนี่จะไปไหนกันต่อ"  ผมดึงมิวมาไว้ข้างหลังตัวเอง  เพื่อป้องกันการลวนลามจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของผม  แม่ผมเป็นพวกแพ้ทางคนน่ารักน่ะครับ  อย่างมิวนี่ไม่ต้องเดาให้ยาก  ถูกใจคุณนายเขาล่ะ




"จะไปทานข้าว  แกจะไปด้วยไหมล่ะ" แม่หันมาจิกตาใส่ผมนิดหน่อย  โทษฐานที่ผมหวงแมวน้อยจนออกนอกหน้า  ก็มิวของผมนี่!




"เชิญแม่กับพลอยตามสบายเลย"  ผมอยากจะไปทานกับมิวแค่สองคนน่ะ 




"งั้นหนูมิวไปทานข้าวกับแม่นะลูก  ปล่อยตาเนมไป  เดี๋ยวแม่ไปส่งหนูเอง"  แม่ผมได้ทีจับมือมิวเอาไว้แล้วทำสายตาออดอ้อน  โถ่แม่  อายุปูนนี้แล้ว  มันไม่ได้ดูน่ารักหรอกนะ!




"เอ่อ..."  คนตัวเล็กหันมามองผม ดูหน้างงๆนั่นสิ  น่ารักชะมัด!  ผมได้แต่พยักหน้าให้เขาหน่อยๆ  ขืนไปขัดใจคุณนายเขาเดี๋ยวได้หาเรื่องมาแกล้งผมอีก  งานอดิเรกของคุณนายคือแกล้งลูกๆและสามีน่ะครับ 










"หนูมิวทานนี่สิจ๊ะ  อร่อยนะ"




"หนูมิวทานเผ็ดได้ไหมจ๊ะ"




"หนูมิวอยากทานอะไรเพิ่มไหม  เดี๋ยวแม่สั่งให้"


     และอีกหลายๆหนูมิวของคุณนาย  ที่ทำเอาพลอยแอบขำนิดๆกับอาการคลั่งไคล้ของน่ารักๆที่ดูจะกำเริบขึ้นมาอย่างหนัก  ผมได้แต่มองเงียบๆ  ยอมตามใจวันนึงก็ได้  ให้คุณนายได้ชื่นชมว่าที่ลูกสะใภ้เขาซักหน่อย




"มิวเป็นรุ่นน้องพี่เขาหรอลูก"  แม่ผมถามขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังทานของหวานกัน



"ครับ  แต่ไม่ได้อยู่คณะเดียวกัน  คือมิวเรียนอยู่'ถาปัตย์  ใกล้ๆกันน่ะครับ"  แมวน้อยของผมลดอาการเกร็งลงไปบ้างแล้ว  แต่ยังคงประหม่าอยู่หน่อยๆ  แหงล่ะ  เพิ่งเจอกันครั้งแรกก็โดนแม่ผมอ้อนซะขนาดนั้น




"อ๋อ  แล้วพี่เขามาจีบหนูก่อนหรอจ๊ะ"  แม่ผมถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ  แต่มองตาก็รู้แล้วว่าตั้งใจจะแกล้งให้คนตัวเล็กเขิน  คราวนี้ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นละกัน  เพราะผมชอบเวลามิวเขิน  ยิ่งต้นเหตุมันมาจากผม  ผมยิ่งชอบเข้าไปใหญ่




"เอ่อ..  คือ"  นอกจากจะหน้าแดงแล้วยังดูตกใจอยู่ไม่น้อย  คงกลัวว่าแม่ผมจะรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้  ผมจะบอกให้ละกันนะครับว่าแม่ผมเป็นพวกหัวสมัยใหม่  ทันยุคทันสมัยไปซะหมด  ตอนนี้พวกผู้หญิงเขานิยมเป็นสาววายกันใช่ไหมครับ  แม่ผมก็เป็นไปกับเขาด้วยนั่นแหละ  คราวที่แล้วที่เจอกันผมก็คุยเรื่องมิวกับแม่และก็พลอยด้วย   แม่ผมนี่ชอบใจใหญ่ที่ผมเริ่มจีบมิวซักที แต่พลอยนี่ผมต้องไปเคลียร์กันที่บ้านเธออีกที  เพราะเธอเพิ่งจะรู้ว่าผมเจอคนของผมแล้ว  และคนๆนั้นก็คือ'มิว'รุ่นน้องที่เธอรู้จัก   



"ว่าไงจ๊ะ  หรือว่าเราจีบพี่เขาก่อน"




"เปล่านะครับ!!  พี่เขาจีบผมก่อนต่างหาก" ตกหลุมพรางแม่พี่จนได้นะตัวเล็ก  ก้มหน้ายังไงพี่ก็ยังเห็นหูแดงๆนั่นอยู่ดีแหละครับ  ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มงุดๆ 





หึหึ  จะน่ารักไปไหนครับ


'แมวน้อยของพี่'




************************************************
เอาพี่เนมมาสารภาพบาปค่ะ
ปล.ตอนนี้อัพในโทรศัพท์นะคะ  การแบ่งวรรคหรือย่อหน้าอะไรอาจมีแปลกๆไปบ้าง  เดี๋ยวจะเข้ามาแก้ไขให้ทีหลังนะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:





 







หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 07-01-2017 20:36:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
มิวน่ารักกก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-01-2017 20:49:16
คืนคะแนนความเป็นพระเอกให้พี่เนม o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-01-2017 20:52:44
คุณแม่กะมิวน่ารักจังงงงงง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 07-01-2017 21:18:04
แมวน้อยของพี่เนม

คุณแม่น่ารักมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 07-01-2017 21:19:24
คืนความเป็นพระเอกกลับสู่พี่เนม 55555555555555 พี่พลอยก็ดูไม่ใช่ปัญหา โอเค ยอมได้ 555555555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-01-2017 21:20:33
น้องมิวน่ารักน่าฟัดมาก ปลูกอ้อยไว้กี่ไร่ละลูก มีแต่คนจ้องจะมาตัด
แอบหมั่นอิพี่เนมเล็กน้อย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 07-01-2017 21:41:45
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-01-2017 22:11:43
 o13
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2017 23:12:40
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 08-01-2017 00:47:11
มันต้องแบบนี้สิพี่เนม
ชัดเจนดี
ว่าแต่ชอบตอนมิวเขินเหมือนกันเลยนะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 08-01-2017 13:00:28
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่16 (7/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-01-2017 13:27:01
คืนตำแหน่งให้พี่เนมมค่ะ
ถ้าจะชัดเจนกันขนาดนี้555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่ 17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 18-01-2017 23:34:15
Chapter  17




    มหกรรมการเอาตัวรอดเริ่มกลับเข้ามาสู่ชีวิตพวกผมอีกครั้ง  หลังจากที่เราวอร์มเครื่องกันมานานแล้ว  โปรเจคต่างๆต้องการความเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น  พวกผมนี่ทำงานกันหัวหมุนชนิดที่ว่างานชนงานกันเลย  ทำโปรเจคนี้เสร็จก็ต้องปั่นโปรเจคอื่นต่อ  เรียกว่าลากเลือดกันเลยครับ

   ผมกับพี่เนมเราก็คุยกันทุกวัน  ทานข้าวเที่ยงด้วยกัน  เดี๋ยวนี้กลุ่มผมกับกลุ่มพี่เนมเริ่มสนิทกันแล้วครับ  เพราะบางวันถ้าพี่เนมไม่มาทานข้าวคณะผม  ผมก็ไปคณะพี่เนมแทน  พวกเพื่อนผมมันก็มีแซวบ้างพอเป็นพิธีเพราะแซวมาผมก็นิ่ง  พี่เนมนี่นิ่งยิ่งกว่าผมอีก  เสมือนว่าเป็นเสียงนกเสียงกาที่ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ  ส่วนสาเหตุที่ผมนิ่งก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ  คือผมก็เขินแต่ว่าถ้ายิ่งออกอาการพวกมันก็จะยิ่งแซวไม่จบไม่สิ้นกันซักที  ส่วนตอนเย็นผมก็กลับพร้อมพี่เนม  ฟีโน่นี่ไอ้ฟาร์มันเอามาคืนแล้วครับ. แต่ลูกรักผมก็ต้องทนเหงาอยู่หอไป  เพราะคุณชายท่านสั่งให้ไปไหนมาไหนกับเขาเท่านั้น  ไม่มีสิทธิที่จะไปเป็นแว๊นบอยหรือสก๊อยกายอะไรทั้งสิ้น ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ

     "วันนี้เพื่อนจะไปหาผัวหรือผัวจะมาหาเพื่อนจ๊ะ"  ไอ้เต้เดินเข้ามากระแหนะกระแหนผมจนต้องตบกระโหลกมันไปทีนึง  ผัวเผออะไรของมึง  หยาบคายสุดๆ  ไอ้มิวรับไม่ได้ครับ

   "เดี๋ยวกูไปวิศวะ  พวกมึงจะไปด้วยหรือจะแยกกันเลย"

   ตอนนี้จบคลาสช่วงเช้าแล้วครับ  ตอนบ่ายไม่มีเรียนด้วย  เดี๋ยวพวกมันกินข้าวเสร็จก็คงกลับไปปั่นงานกันต่อ  เอ๊ะ!หรืออาจจะนอนเอาแรงกันก่อน  พวกผมมันคนกลางคืนครับ  สว่างๆแบบนี้มันชวนให้ง่วงแต่ถ้าฟ้ามืดเมื่อไหร่นี่ตาสว่างกันทันที  ส่วนตัวกระผมนั้นต้องอยู่กับคุณชายเขาจนกว่าจะเลิกเรียน  ช่วงบ่ายนี้พี่เนมลงช้อปครับทำงานเสร็จก็น่าจะกลับได้เลย  ปกติเวลาเราเลิกเรียนไม่ตรงกันพี่เนมก็จะไปส่งผมก่อนแล้วค่อยกลับเข้ามาเรียนซึ่งผมไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่เพราะมันทำให้คนตัวสูงลำบาก  บางครั้งเลยขอกลับกับไอ้เนมบ้างไอ้ซีบ้างแล้วแต่อารมณ์คุณชายเขาว่าจะอนุญาตหรือไม่  ไม่ใช่ว่าผมตามใจเขาไปหมดซะทุกอย่างหรอกนะครับ  แต่อะไรที่ยอมได้เราก็ยอมจะมานั่งทะเลาะกันให้เสียเวลาทำไม

   "พวกกูว่าจะไปแดกสุกี้กันที่ห้าง  แต่นกน้อยในกรงทองอย่างมึงคงไม่มีวาสนาจะได้ไป  ไว้พวกกูกินเผื่อละกันเนอะ"  ไอ้ทัตเดินมาตบบ่าผมปุๆพลางทำหน้าเศร้าเหมือนเห็นใจผมเสียเต็มประดา. โถ่. ไอ้ตอแหล

   "เชิญพวกมึงไปต้มใบไม้ใบหญ้าแดกกันตามสบาย  ไว้เจอกันคืนนี้เว้ยย"  ผมหันมาหยิบกระเป๋าเตรียมตัวเดินออกจากสตูก็สวนกับไอ้เบไอ้ซีที่เพิ่งกลับจากห้องน้ำพอดี  หน้างี้บูดบี้เหมือนขี้ไม่สุดกันทั้งสองตัว

   "ไปไหนเตี้ย!"  ไอ้เบหยุดคุยกับผม  คนข้างหลังมันก็หยุดตามด้วย

   "ไปวิศวะ  มึงจะไปกินสุกี้กับพวกนั้นปะ  หรือจะไปกับกู"  ที่โดนเรียกว่าเตี้ยนี่ก็เดือดอยู่เหมือนกันครับ  แต่ท่าทางไอ้เบมันจะเดือดกว่า  ผมยังไม่อยากเสี่ยงโดนมันกระทืบซักเท่าไหร่

   "เหอะ!  ไปหากันได้ทุกวี่ทุกวัน  แฟนก็ไม่ใช่  มึงนี่มันปัญญาอ่อนชิบหาย  เล่นตัวอะทำเป็นไหมไอ้สัด  หรือเป็นแต่ทำตัวเล่นๆไปวันๆ  ไม่จริงจังห่าอะไรกับใครทั้งนั้น  เชี่ยแม่ง!มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป  รำคาญลูกตา"
   แล้วมันก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไป  ไอ้ผมนี่ได้แต่ยืนงงว่ากูไปสะกิดต่อมอะไรมันตอนไหนรึเปล่า  อยู่ดีๆก็โดนใส่เป็นชุดสำนึกผิดแทบไม่ทันเลยทีเดียว

   "เอ่อ...กูทำอะไรผิดรึเปล่าวะ"  ผมหันไปถามไอ้ซีที่เอาแต่ยืนก้มหน้าไม่พูดไม่จา  ใบ้แดกไปซะอย่างงั้น

   "มึงไม่ผิดหรอก  กูเนี่ยแหละที่ผิด  ผิดอยู่คนเดียวไอ้สัด  เพื่อนมึงแม่งถูกตลอ  เหี้ยเอ้ย!"
    ไอ้สาดดดดด  ด่าเสร็จมันก็หันหลังเดินออกไปทันทีเลยครับ  คือว่า...นี่เราคุยเรื่องเดียวกันไหม  หรืออะไรยังไง  ใครพอจะให้คำตอบกูได้บ้าง!!



~Rrr~

My Name



   "ฮัลโหล"
   
    ผมยกโทรศัพท์ในมือขึ้นมากดรับสายเมื่อเห็นเป็นชื่อของคนตัวสูง  ชื่อนี้คุณชายเขาเม็มเองนะครับ  ผมไม่มีสิทธิทักท้วงหรือต่อต้านด้วยประการใดๆทั้งปวง  และที่สำคัญไม่มีสิทธิเปลี่ยนชื่อด้วยครับ


   "พี่อยู่หน้าตึกแล้วนะครับ  ตัวเล็กเก็บของเสร็จรึยัง"


   "เสร็จแล้วครับ  มิวกำลังลงไป"

    คนตัวสูงรับคำก่อนจะกดวางสาย  ส่วนใหญ่พี่เนมจะเป็นฝ่ายมาหาผมที่คณะมากกว่าครับ  และถ้าวันไหนที่ผมจะไปคณะเขา  เขาก็จะเป็นคนมารับเองถึงที่  ไม่ค่อยยอมให้ไปเองซักเท่าไหร่  มีอยู่วันนึงผมแอบไปหาโดยที่ไม่บอกล่วงหน้า  คือว่าวันนั้นเลิกคลาสเร็วน่ะครับแล้วก็ไม่อยากให้พี่เนมเดินไปเดินมาให้เหนื่อยเล่นด้วย  พอพี่เนมลงมาเห็นผมนั่งอยู่ใต้ตึกก็บ่นยาวเลยครับ  บอกว่าถ้าโดนฉุดไปจะทำยังไง  บลาๆๆ  คือพี่เห็นผมเป็นสาวน้อยร่างบางหรือยังไง  แต่ก็นั่นแหละครับ  ต้องยอมเขาไปไม่งั้นไม่เลิกบ่นแน่  ไม่รู้จะหวงอะไรนักหนา



    "พี่เนมม~~"
   ผมเดินเข้าไปอ้อนคนตัวสูงที่ยืนกอดอกทำหน้านิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้ง  ไอ้นิสัยหน้านิ่งนี่เป็นกับทุกคนที่ไม่สนิทครับ แก้ไม่ได้  และผมก็ไม่ได้อยากให้แก้ด้วย  แบบว่าอยากให้คนตัวสูงนี่ยิ้มให้ผมแค่คนเดียว  แอร๊ยยยยย



    "หืม  อ้อนเอาอะไรครับตัวเล็ก"  พี่เนมลูบหัวผมเบาๆก่อนจะจูงมือพาเดินไปโรงอาหารของวิศวะ



    "หื้อ!  มิวไม่ได้จะเอาอะไร  แต่ว่าไอ้เบอะ  อยู่ดีๆก็มาอารมณ์เสียใส่  ไอ้ซีก็อีกคน  ด่าซะมิวงงเลยว่าตัวเองผิดอะไร"



    "แล้วตัวเล็กไปดื้อไปซนอะไรมารึเปล่าครับ  อาจจะทำให้เพื่อนโกรธโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้นะ"



    "ดื้อซนอะไรเล่า  มิวไม่ใช่เด็กซะหน่อย"
     ผมทำหน้ามุ่ย  แกว่งมือที่จับกันอยู่ไปมาแรงๆ  คนตัวสูงก็เอาแต่หัวเราะชอบใจ  ไม่รู้ทำไมถึงได้ชอบใช้คำพูดเด็กน้อยกับผมอยู่เรื่อยเลย   ฟังแล้วมันจั๊กจี้โว้ยยยยย







    "ฮิ้ววววววว~  น่ารักจังเลยอะครับ  มีแฟนรึยังเอ่ย"

    หลังจากทานข้าวกันเสร็จ  พี่เนมก็พาผมมาที่ช้อป  ผมก้มหน้างุดเดินตามแรงจูงของคนตัวสูงเข้าไปในช้อป  ถ้าเป็นเพื่อนผมนี่ตบกบาลเรียงตัวไปแล้วครับ  แต่นี่เพื่อนพี่เนมเขา  ผมเลยทำได้แค่ก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไป



    "โอ้ยๆๆ  คุณเนมครับ  ที่พามาด้วยนี่ใครหรอครับ  ทำหัวใจผมสั่นไปหมดแล้ว  ฮิ้ววววว~~"

    คลาสนี้ไม่มีอาจารย์คุมครับ  มีแค่ลุงช้อปที่ช่วยดูเรื่องความปลอดภัยให้  พวกพี่เขาเลยแซวกันได้เต็มที่  ปกติผมก็เจอกับเพื่อนๆพี่เนมบ้างตอนที่มาทานข้าวที่นี่  แต่ที่ตามเข้ามาเรียนด้วยนี่ครั้งแรกครับ  เหมือนอยู่ในดงชายเสี่ยว  แซวได้แซวดี  แม่งเอ้ยย



    "น่ารักจังครับ  ขอพี่จูงมือบ้างได้ไหม"

    พี่หน้าตี๋ยื่นมือมาตรงหน้าผมเหมือนท่าขอมือ  ผมไม่ใช่หมานะเว้ย  เดี๋ยวก็กระโดดกัดซะหรอก



    "ถ้าใครพูดว่าน่ารักอีกคำเดียว  มาเคลียร์กับกูตัวๆเลย"

    พี่เนมพาผมมานั่งลงที่โต๊ะของกลุ่มเขา  แล้วอย่าคิดว่าคำขู่ของพี่เนมจะทำให้พวกพี่มันเลิกแซวกันนะครับ  ยังคงส่งเสียงเห่าหอนกันอยู่เหมือนเดิม  โดยใช้คอนเซ็ปแซวยังไงก็ได้ไม่ให้มีคำว่าน่ารัก  พอผมนั่งพี่แกก็จัดการถอดช้อปมาคลุมหัวผมไว้ แล้วจับให้หันหลังให้คนพวกนั้น  คนที่มีวาสนาได้ยลโฉมผมเลยมีแค่พี่เฟรม  พี่แมน  พี่ซัน  ที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันเท่านั้นครับ  แต่นั่งได้ไม่นานพวกพี่ๆก็เริ่มลุกไปทำงานกัน  เสียงแซวนี่ไม่มีแล้วครับ  มีแต่เสียงเครื่องจักร  เสียงโวยวายเถียงเรื่องงานกันไปมา   วิศวะนี่มันก็วุ่นวายไม่เเพ้พวกผมเหมือนกันนะเนี่ย










    "พี่เนม  มิวไปเซเว่นแปปนึงนะ"
    ผมที่นั่งว่างงานดูคนตัวสูงกับเพื่อนๆเหงื่อแตกพลั่กๆมาพักใหญ่   ก็บังเกิดความคิดดีๆอย่างการจะไปหาน้ำหาท่ามาให้พวกพี่ๆเขาซักหน่อย  ไอ้ความดีก็ส่วนนึงครับ  แต่อีกส่วนนึงคือเบื่อ  นั่งเฉยๆไม่มีอะไรทำ  จะไปช่วยก็โดนห้าม  โถ่เอ้ยยย  นี่ผมก็เคยลงช้อปเหมือนกันนะโว้ยยย  เลื่อยไม้  ตัดเหล็ก  เชื่อมเหล็กนี่ไอ้มิวผ่านมาหมดแล้ว  แต่เอาเถอะครับ  ไม่ให้ช่วยงานก็ช่วยอย่างอื่นแทนละกัน



    "หิวหรอครับ  เดี๋ยวพี่พาไป"
     คนตัวสูงพูดพลางยกมือเลอะๆขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามไรผม  เห็นแล้วสงสารครับเลยล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาซับหน้าให้เบาๆ  ด้วยส่วนสูงที่ต่างกันนิดหน่อย  ย้ำว่าแค่นิดเดียวเท่านั้น!  ผมเลยต้องเขย่งหน่อยๆส่วนคนตัวสูงก็ก้มหน้าลงมาให้ผมเช็ดได้ถนัดๆ



    "เดี๋ยวมิวไปเองครับ  จะไปซื้อน้ำมาให้"



    "ไม่ให้ไปครับ  อีกแปปเดียวพี่ก็จะเสร็จแล้ว  ทนอีกนิดนึงเนอะ"



    "มิวรอได้  แต่เห็นพี่เหนื่อยๆไง  ดูเหงื่อสิ  ไม่หิวน้ำหรอครับ"



    "หึหึ  ไม่เป็นไรครับ  เราไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะ  เดี๋ยวพี่ตามไป"



    "อ่า  ก็ได้ๆ"
    ผมยอมแพ้ความขี้หวงขึ้นสมองของพี่เนมแล้วกลับมานั่งรอที่โต๊ะดีๆ   นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนกันยังหวงขนาดนี้ถ้าได้เป็นแฟนพี่มันไม่จับผมขังไว้เลยรึไงครับ

   
      ที่เห็นตัวติดกัน  ไปไหนมาไหนด้วยกัน  ทำตัวเหมือนแฟนให้เพื่อนๆแซวกันสนุกปากนี่  ผมกับพี่เนมยังไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกครับ  ก็พี่เขายังไม่ขอหนิ  แล้วตัวผมเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร  อยู่แบบนี้ก็มีความสุขดีครับ



    "ไปครับตัวเล็ก  กลับหอกัน"
 

     ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายสามโมงกว่า  เราตกลงกันว่าจะไปนอนที่ห้องของพี่เนมกันก่อนแล้วช่วงหัวค่ำค่อยมาหอผมให้ผมอาบน้ำเตรียมตัวไปสตู   โดยมีพี่เนมไปส่ง   คืนนี้นัดกันไปทำงานที่สตูครับ   เพราะสภาพห้องแต่ละคนเละเทะจนไม่มีที่ให้ทำงานกันแล้ววว









    "พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ  มิวนอนก่อนได้เลย"
     พวกผมหาข้าวทานกันก่อนเข้าหอเพราะกะนอนยาวเลย  ค่อยตื่นอีกทีค่ำๆ  ผมเคยมาค้างที่ห้องพี่เนมบ้างแล้วครับ  ครั้งแรกก็วันที่ผมทำงานอยู่คณะโดยมีพี่แกตื่นไปรับดึกๆดื่นๆแล้วก็ตีมึนขับรถเลยหอผมเข้ามาที่หอตัวเองแทน  โดยให้เหตุผลว่าห้องผมรกแล้วคุณชายเขาอยากให้ผมได้นอนที่สบายๆบรรยากาศดีๆไรงี้   ผมก็ตามน้ำไปครับ  ตอนนั้นมันง่วงสุดๆไม่มีอารมณ์เล่นตัวเท่าไหร่  หลังจากนั้นมีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะตีมึนพาผมมาที่หอตัวเองด้วยเลย  และวันนี้ก็เช่นกันครับ  ผมเห็นว่าคนตัวสูงเหนื่อยเลยไม่อยากขัดใจอะไรมาก



     เรานอนกอดกันโดยที่คนตัวสูงใส่แค่กางเกงขายาวแล้วมีผมซุกอยู่ตรงแผงอกเปลือยเปล่า   ตอนแรกก็เขินแหละครับส่วนตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก...เขินเหมือนเดิม   ผมที่ตื่นก่อนขยับตัวขึ้นไปให้ใบหน้าอยู่ระดับเดียวกันกับคนตัวสูง  จ้องมองใบหน้ายามหลับของอีกคน  มันดูเหมือนเด็กน้อยที่ไม่มีพิษมีภัยอะไร  แต่ผมอยากบอกว่าเด็กคนนี้แม่งโคตรหล่อเลย  ฮ่าๆๆๆ  มองกี่ทีก็เขิน  ไม่เห็นจะชินซักที



    "ตัวเล็ก"
     
    พี่เนมปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะคว้าตัวผมเข้าไปกอดไว้เหมือนเดิม  ทำให้หน้าเราอยู่ใกล้กันมากๆ  โอ๊ยยยย  หัวใจจะวาย



    "ตื่นแล้วหรอครับ"  พี่เนมขยับตัวซุกหน้าลงกับอกผมแล้วถามด้วยเสียงงัวเงีย



    "ครับ  แต่นี่เพิ่งหกโมงกว่าเอง  พี่เนมนอนต่อก็ได้   เดี๋ยวมิวปลุกเอง"



    "มิวครับ"



    "หืม"  ผมครางรับก่อนจะเอามือสางกลุ่มผมของคนตัวสูงเล่น



    "อยู่กับพี่มีความสุขไหม"  ผมชะงักมือนิดนึงก่อนจะเอ่ยตอบไป



    "มีความสุขครับ  เเล้วพี่เนมล่ะ  อยู่กับมิวแล้วมีความสุขรึเปล่า"



    "พี่มีความสุขมากๆ...."  คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมาสบตาโดยเอาคางเกยไว้ตรงอกผม  อื้อหือออ!มุมพิฆาต  สายตาหวานๆนั่นกะน็อคผมให้ตายตรงนี้เลยรึไงครับ



    ".....พี่ชอบเวลาที่ได้อยู่กับมิว  ชอบเวลาที่มิวยิ้ม  ชอบเวลาที่มิวอยู่ข้างๆพี่  ชอบที่มิวเป็นห่วง  ชอบที่มิวใส่ใจ  ชอบที่มิวเป็นคนใจดี   ชอบแก้มนิ่มๆ  ปากเล็กๆ  จมูกรั้นๆนี่ก็ด้วย  ชอบทุกอย่างเลย..."
     คนตัวสูงพูดไปก็เอามือจิ้มไปตามที่พูดด้วย  หน้าผมจะแดงขนาดไหนถามใจดู เขินโว้ยยยยยยยย



    "....แล้วก็ชอบมากๆ   ตอนที่ตื่นมาแล้วเห็นหน้ามิวเป็นคนแรก  รู้ไหมว่าเราทำให้พี่หลงจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว   เพราะฉะนั้น ให้พี่ดูแลมิวได้ไหมครับ  ให้พี่เป็นคนที่อยู่ข้างๆมิวได้รึเปล่า"



    "อะ...คือ..."  ผมเอ๋อไปแล้วครับ  หลังจากที่ได้ฟังประโยคยาวๆนั่น  น่าจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาเลย (ถ้าไม่นับรวมเวลาที่บ่นอะนะ)  สติสตังอะไรไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวเลยครับ  แบบว่าใจมันลอยไปหาคนตรงหน้านี้แล้ว  ฮิ้ววววว~~~



    "เป็นแฟนพี่นะครับตัวเล็ก"



     "....ครับ"
     
     ผมไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไง  เรายังจะมีความสุขที่ได้อยู่ข้างๆกันเหมือนตอนนี้ไหม  หรือความสุขมันจะอยู่กับเราได้นานรึเปล่า  แต่แค่ได้เห็นรอยยิ้มกว้างๆหลังจากที่ผมตอบตกลงไปมันก็ทำให้ผมรู้ว่า  รอยยิ้มของเขาคือความสุขของผม  แล้วถ้าวันไหนที่ผมไม่สามารถทำให้เขายิ้มได้อีก  วันนั้นผมค่อยเดินออกมาก็ได้  แต่ตอนนี้ผมขอทำหน้าที่สร้างรอยยิ้มนั้นด้วยตัวเองก่อนแล้วกัน



    "พี่รักมิวนะครับ"  คนตัวสูงพูดเสียงนุ่มก่อนจะจูบเบาๆที่ปลายคางของผม



    "มิวก็รักพี่เนมนะ"  ว่าแล้วก็จูบที่หน้าผากคนตัวสูงบ้าง  เสร็จแล้วก็ซุกหน้าลงกับหมอนทันที  ได้ยินเสียงคนตัวสูงขำเบาๆ  ตลกตรงไหนเล่า  ก็คนมันเขินนนนนนนน


     งื้อออออ ~~



****************************************************************************************************
ตอนนี้ก็อัพในโทรศัพท์อีกแล้วค่า   :katai5:
อ่านแล้วเป็นยังไงบ้าง  คอมเมนท์บอกกันด้วยน้าา :sad4:











หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 18-01-2017 23:46:14
ขอบคุณมากค่ะ  หวานขึ้นอีกระดับแล้วนะจ๊ะ
เป็นแฟนกันแล้ว  อิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-01-2017 00:37:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-01-2017 07:58:54
เป็นแฟนกันแล้ว   พี่เนม มิว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่เนม ดูอบอุ่น เอาใจใส่ดูแลมิวดีมาก
แถมเนียน พามิวมานอนหอตัวเองตลอด
เบ กับซี มีซัมซิ่งกันปะ  :hao3: :hao3: :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-01-2017 09:20:47
 :m3: :m3: :m3: :m1: :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 19-01-2017 21:16:25
ดูแลน้องมิวดีๆนะพี่เนม สมบัติของคณะนะนั่น
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 20-01-2017 19:47:45
แฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 21-01-2017 22:57:14
ลุ้นต่อไปว่ารักของใครที่ไม่นิ่ง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่17 (18/01/17) P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 14-02-2017 13:17:01
รอเนมมิว  :mew2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 16-03-2017 03:30:31
Chapter 18





"เสร็จซักทีโว้ยยยยย"  เออ  เสร็จซักที


"กูจะนอน  กูจะนอน  กูจะนอน......"  มึงสะกดจิตตัวเองอยู่รึไงไอ้นัท


"เตียงจ๋า  รอพี่ก่อนนน"  เออ  ต้องรอก่อน  รอพี่เนมมารับบบบบบ


"กูไปก่อนนะเตี้ย  ไม่ไหวละ"  ไอ้เบเดินขยี้หัว(ที่ไม่ได้สระมาหลายวัน)เข้ามาบอกลาผม 


"เออ  ขี่รถดีๆมึง  จับไอ้ซีไว้ด้วย  เดี๋ยวแม่งร่วงกลางทาง"  หลังจากที่ผมมีสารถีส่วนตัวมาคอยรับคอยส่ง  คนที่ได้ซ้อนท้ายไอ้เบกลับก็กลายเป็นไอ้ซีนี่แหละครับ  ทำตัวอย่างกะผัวเมีย  บางวันอยากขับรถเก๋งก็เอาของไอ้ซีมา  โดยที่คนขับก็เป็นไอ้เบเหมือนเดิม 



     สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์นรกเลยครับ  ต้องส่งโปรเจคติดต่อกันทั้งอาทิตย์  นี่ก็เพิ่งส่งตัวสุดท้ายเสร็จไป  ดีที่ยังมีเวลาพักเสาร์-อาทิตย์บ้าง  แค่สองวันนี่ก็ถือว่าดีมากแล้วนะครับ  เพราะปกติพวกผมก็ต้องใช้เสาอาทิตย์ปั่นโปรเจคของวันจันทร์ต่อ  แต่จันทร์หน้าอาจารย์ยกคลาสครับ  ขอถือโอกาสนี้พักร่างกายหน่อย   ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยย







"มิว"  เสียงทุ้มของคนตัวสูงเรียกให้ผมหันไปมองที่หน้าสตู  หลังจากที่นั่งเอ๋อมาสักพัก  แบบว่ามันเบลอๆน่ะครับ 


"พี่เนมมม"  ผมครางชื่อคนตัวสูงเบาๆแต่ยังนั่งอยู่ที่เดิมจนเจ้าตัวต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเอง


"ไหวไหมเนี่ยเรา  กลับห้องกันครับ"  พี่เนมลูบหัวผมเบาๆ  ก่อนจะหันไปหยิบสัมภาระของผมมาถือไว้แล้วพาเดินไปที่รถ







"ตัวเล็กไปอาบน้ำก่อนครับ  เดี๋ยวออกมาทานข้าว  เสร็จแล้วค่อยนอนเนอะ"  ผมพยักหน้าเบาๆทำตามที่พี่เนมบอก  เหมือนหุ่นยนต์ไม่มีผิด  เวลานี้สมองไม่ประมวลผลอะไรแล้วครับ  ยืมสมองพี่เนมคิดเเทนก่อนแล้วกัน


"พี่เนมม~"  เปิดประตูห้องน้ำออกมาผมก็เรียกคนตัวสูงทันที  เรียกทำไมไม่รู้ครับ  รู้แค่ว่าอยากเรียก  นี่ไม่ได้กวนตีนเลยนะ  ฮ่ะฮ่ะ


"ฟอด~~  อ้อนเอาอะไรครับ  หืม?"  พี่เนมเดินเข้ามาหาลูบแก้มเบาๆข้างหนึ่ง  ส่วนอีกข้างคนตัวสูงก็จัดการกดจมูกลงมาพร้อมกับสูดกลิ่นหอมเข้าไปฟอดใหญ่


"อืออ~  ไม่ได้จะเอาอะไรครับ"  พูดไปก็เอาหัวถูแผ่นอกคนตรงหน้าไปด้วย  ไม่ได้อ้อนซักหน่อย....     มั้ง


"หึหึ  ทานข้าวก่อนครับ ฟอด~"  หอมอีกแล้ววววว  ชอบจัง  อิอิ  เวลาพี่เนมหอมเขาจะหอมเบาๆเหมือนกลัวว่าแก้มผมจะช้ำอย่างงั้นแหละ





     ตอนนี้ผมสิงสถิตอยู่ห้องพี่เนมครับ  จะว่าพี่เขาเนียนพามาห้องตัวเองก็คงไม่ได้มั้ง  ห้องผมเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมา  ไม่มีที่ให้นอนหรอกครับ  พี่เนมเขาคงจะคิดไว้แล้วแหละเนอะ  ถึงพาผมมาที่นี่แทน  จริงๆก็มาบ่อยจนเริ่มชินแล้วครับ  ของๆผมก็มีอยู่ที่นี่แล้วส่วนนึง  ก็ห้องแฟนอะเนอะ  คิกๆ


"คิดถึงจัง  ฟอด~~" พี่เนมชอบหอมแก้มผมบ่อยๆ  เขาบอกว่ามันหอม  ยิ่งตอนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆนี่ไม่ต้องทำอะไรเลยครับ  ต้องนั่งให้เขาหอมจนกว่าจะพอใจ  พี่เนมบอกว่ามันเย็นๆดี


"อื้ออ~"  ผมดันอกคนตัวโตเอาไว้หน่อยๆ  นี่ตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ  กินข้าว  จนมานอนอยู่บนเตียงก็แล้ว  ยังไม่เลิกหอมแก้มผมอีก


"พี่หอมไม่ได้หรอครับ"


"ยังไม่พออีกหรอครับ"  นี่ใจคอจะหอมแก้มอย่างเดียว  ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลยรึไง


"ไม่พอครับ พี่ไม่ได้หอมตั้งนาน  มิวจะใจร้ายกับพี่หรอ"  ไม่ต้องมาทำหน้าตาน่าสงสารเลยนะ  แววตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นมันปิดกันได้ซะที่ไหน


"อืมม  มิวจะนอน  ไม่หอมแล้วครับ"  ผมง่วง  แบบโคตรง่วง  ตาจะปิดอยู่แล้วเนี่ย


"ไม่เจอกันตั้งนาน มิวไม่คิดถึงพี่เลยใช่ไหม  โอเค  ฝันดีครับ"  คนตัวโตพูดเสร็จก็หลับตาลงทันทีโดยที่ยังกอดผมไว้เหมือนเดิม  เหมือนจะไม่งอนนะ  แต่ทำไมผมรู้สึกว่าต้องง้อวะ?


"จุ้บ! คิดถึงนะ"  ผมเงยหน้าไปจุ้บปลายคางคนตัวโต  พร้อมกับบอกคิดถึงเสียงอ่อยแบบโคตรจะง่วง  อย่างที่บอกว่าอาทิตย์นี้มันสัปดาห์นรกครับ  ผมปั่นโปรเจคทั้งวันทั้งคืน  ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย  พี่เนมก็แวะมาหาบ้างแต่คุยกันไม่ถึงห้านาทีผมก็ต้องกลับไปปั่นงานต่อ  เห้อออ  ชีวิตมันเศร้าครับ


"คิดถึงใครครับ"  ทีอย่างงี้ลืมตาขึ้นมาเลยนะ  แฟนใครวะโคตรจะเจ้าเล่ห์


"คิดถึงพี่เนมครับ" ตามใจเขาหน่อย  ไม่อยากเล่นตัวมากครับ  ผมง่วง  ฮ่าๆๆๆ


"คิดถึงมากไหม"


"คิดถึงม๊ากมากกก"  พอใจรึยังครับคุณชาย


"หึหึ  มาจุ๊บหน่อยครับ"  เงยหน้าไปให้คนตัวสูงจูบให้หายคิดถึง


".... อืม~~~  จุ๊บ! " ปิดท้ายด้วยจุ๊บหนักๆที่ปากหนึ่งทีเป็นอันเสร็จพิธี  นอนได้!!!




แต่จูบนานขนาดนี้ไม่เรียกว่าหน่อยแล้วมั้งครับ  "คุณแฟน"








****************************************************************************************************
หายไปนานนน  งานรุมเร้ามากกกกกกกกกก :hao7:
กลับมาพร้อมกับตอนสั้นๆให้หายคิดถึง?

คอมเมนท์ให้กำลังใจกันด้วยน้าา  รักคนอ่านทุกคนค่าา  จุ้บๆ :mew1:


หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 16-03-2017 07:43:24
มุ้งมิ้งกิงก่องแก้วจริงๆค่าคุณณณณณ

พี่เนมนี่สิ้นลายแล้วเรอะ
ไม่มีมันแล้วเนอะฟงฟอร์มอะไร55

เป็นกำลังใจให้คนเขียนเสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-03-2017 10:59:43
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 16-03-2017 14:46:58
งื้อออออออออออ เขินนนนนนน  :-[ :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-03-2017 14:51:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-03-2017 15:23:31
จะหวานอะไรกันขนาดนี้!!!!!!!

อิจฉา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-03-2017 17:58:37
พี่เนม คนหน้านิ่งจริงหรือ
อยู่กับมิว หวานแหวว อ้อนมิว
หอมแล้วหอมอีก อื้อหือ ไม่น่าเชื่อ
มีงอนด้วย พอบอกคิดถึง
ยังถามอีกคิดถึงแค่ไหน
แล้ว มาจุ๊บหน่อย อะจ๊ากกกก
นี่นะคนหน้านิ่ง  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-03-2017 19:59:28
น่ารักจังเนอะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่18 (16/03/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 17-03-2017 00:02:47
ขอให้น่ารักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ไม่เอาดราม่านะคะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 16-04-2017 01:41:11
Chapter 19






Sea  Part


"มึงจะไปไหน"


"ไปหาเพื่อน"


"แล้วคืนนี้จะกลับรึเปล่า"


"ไม่รู้  ไม่กลับมั้ง"


"เออ  บาย"


ดูแม่ง  เคยหวงเคยห่วงอะไรกูบ้างไหม  เห็นกูเป็นเพื่อนมึงก็เลยคิดกับกูแค่เพื่อนงั้นหรอสัดเบ  คิดมากกว่านี้อีกหน่อยมันจะตายรึไง  มึงไม่คิด แต่กูคิด  คิดจนหัวจะระเบิดแล้วสัด  โมโห  หงุดหงิด!!



"ไงครับคุณซี  วันนี้มีอะไรมาปรึกษาหมอครับ"


"หมอผีอะดิ  อาทททททท"  ผมร้องเรียกชื่อเพื่อนยาวเหยียด  ฮื่ออออ  มันอึดอัดอะ  แบบอยากระบาย


"มีไรอีกอะ  คุณเบเขามีเมียแล้วรึไง"



"ม่ายยยยยย  ไม่มี๊  ไม่ให้มี"  ไม่เอาอะ  จะไปมีเมียได้ไง  นี่ก็เกาะติดจะทุกฝีก้าวอยู่และ  ถ้ายังมีเวลาไปหาเมียอีกนะ  กูจะ  จะ  จะร้องไห้แม่งเลยยย  ฮือออออ


"ทำหน้าทำตาอะไรของมึง  อุบาทว์อะ  เพราะแบบนี้ไงไอ้เบมันเลยไม่สนมึงซะที"


"ทำไมอะอาร์ท  หน้ากูมันแย่มากเลยหรอ"  โคตรจะเศร้า  ถ้าหนังหน้าผมมันเป็นสาเหตุให้ไอ้เบมันไม่เคยคิดเกินเลยกับผม  ผมก็จนปัญญา



"โอ้ยไอ้นี่  อะไรที่เกี่ยวกับเบนี่อ่อนไหวไปหมดเลยนะ  ลองใช้สมองอันน้อยนิดของมึงคิดดูว่าถ้าหน้ามึงเหี้ยจะโดนผู้ชายตามจีบเยอะขนาดนี้ไหม" 
เออหวะ  ทุกวันนี้ก็มีคนเข้ามาคุยกับผมหลายคนนะ  แต่ส่วนใหญ่แม่งเป็นผู้ชาย  ผมนี่ง๊ง งง  แต่ที่งงกว่าคือหนึ่งในนั้น  ทำไมไม่มีไอ้เบวะ


ผมชอบเบ  ชอบมานานแล้ว  ก่อนที่มันจะรู้จักผมซะอีก  ตอนที่รู้ว่าเราได้เรียนที่เดียวกันแถมยังอยู่ภาคเดียวกันอีกมันเป็นอะไรที่โคตรจะแฮปปี้  แต่แฮปปี้ได้ไม่นานผมก็พบเจอสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่มาทำลายความฝันของผม  เขายืนอยู่เคียงข้างเบ แทบจะทุกเวลา  อยู่ใกล้กันตลอดจนผมคิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสเข้าไปยืนข้างๆมันตรงนั้น  และคนๆนั้นก็คือไอ้มิว 

มันสองคนตัวติดกันจนทำให้ผมและเพื่อนคนอื่นๆเข้าใจว่ามันเป็นแฟนกันมาเกือบเทอมนึงได้  กว่าใจดวงน้อยๆของผมจะรู้สึกว่ามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง  เมื่อได้รู้ว่าจริงๆแล้วแม่งเป็นเพื่อนกัน 

ผมอยู่หอเดียวกับเบ  อันนี้ไม่ได้บังเอิญ  มันเป็นความจงใจของผมเอง  ก็ทำได้แค่มองมานานแล้วอยากอยู่ใกล้ๆบ้างไรบ้าง  อย่าหาว่าผมแรดเลยนะ  นี่อ่อยมาจะทุกวิถีทางละแม่งยังไม่รู้สึกอีก  ยิ่งตอนนี้ไอ้มิวมันเป็นฝั่งเป็นฝาไปเรียบร้อยแล้ว  ยิ่งเปิดโอกาสให้ผมได้เข้าใกล้มันได้มากขึ้นไปอีก  แต่แม่งก็ยังไม่เห็นวี่แววที่รักของผมจะสมหวังซักกะที  เห้ออออ


"อาร์ท  กูเป็นเพื่อนที่ดีไหม"


"อะไรมึง  ดึงเข้าดราม่าเฉย"


"กูแค่อยากรู้ว่า  กูเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยหรอ  เบมันถึงอยากมีกูเป็นเพื่อน เป็นแค่เพื่อนอะ"


"ทำดีแล้วมันไม่ชอบ  มึงก็ไม่ต้องทำดิ"


"อะไร  ให้กูเลวหรอ  ยังไงดีอะ  จับปล้ำเลยปะ"  หรือว่าวิธีนี้มันจะเวิร์ควะ  รวดเร็วทันใจดีด้วย  ฟงแฟนไม่ต้องเป็น  ไม่ต้องพูดไรมาก  จับทำผัวแม่งเลย  ต้องลองๆ


"ใจเย็นไอ้สัด  กูหมายถึงที่ผ่านมามึงดีกับมัน  เอาใจใส่มันตลอด  มึงลองไม่สนใจมันดูมั่งสิ  เผื่อมันจะสนใจมึงมั่ง"



"ไม่ให้สนใจมันละจะให้สนใจใคร  รอมันหันมากูคงเหี่ยวตายก่อน"


"แค่แกล้งเมินอะ  มีปัญญาทำไหม  ถ้าไม่มีก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อไป  กูนอนละ  บาย"


อืมม  กูก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน  ในเมื่อมึงไม่สนใจกู  กูก็จะไม่สนใจมึงมั่ง  มั้งนะ












"ซี  กูหิว  ไปกินข้าวกัน"  ทุกวันนี้ผมอยู่ห้องเบครับ  แบบว่าตอนแรกๆก็ชวนมันมาทำงานที่ห้องผมบ่อยๆ  พอทำเสร็จก็ขี้เกียจเก็บห้องกัน  มันเลยให้มานอนห้องมันแทน  เหมือนว่าห้องผมเป็นที่ทำงาน  ส่วนห้องมันก็เป็นที่นอน  จะว่าฟินก็ฟินอยู่หรอก  แต่ตัวขัดอารมณ์ก็ไอ้เจ้าของห้องนี่แหละครับ  ไม่เคยจะอินไปกับกูเล้ยยย


"กูจะไปกินกับเพื่อนอะ"  มันทำหน้างงหน่อยๆ  เพราะปกติผมจะกินข้าวกับมันทุกวัน  ถ้าวันไหนจะไปหาเพื่อน  ก็จะไปหลังกินข้าว  ผมไม่ปล่อยมันไปคนเดียวหรอกเดี๋ยวนี้ผู้หญิงน่ากลัวจะตาย   เดี๋ยวมันจะโดนฉุดเอา


"จะไปเลยหรอ"


"อืม นัดไว้แล้วอะ  ไปนะ"  ว่าแล้วก็หมุนตัวออกจากห้องแบบสวยๆ  นัดล้งนัดแล้วอะไรล่ะ  นี่กูด้นสดหมดเลย  ผมสะกดจิตตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่สนใจมัน  ต้องทำได้สิวะ ไอ้ซี!


"อาร์ท  ไปกินข้าวกัน"  ผมโทรหาไอ้อาร์ท  เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยม  และก็ยังเป็นที่ปรึกษาปัญหาหัวใจมาจนถึงปัจจุบัน  เราเรียนที่เดียวกันแต่คนละคณะครับ  ไอ้อาร์ทมันเรียนวิศวะ


(วันนี้ไม่ทานข้าวกับผัวรึไงครับ) มันถามผมเสียงกวน


"ช่วงนี้ตั้งใจไว้ว่าจะเมินผัวอะครับ  คุณอาร์ทช่วยมารับประทานมื้อเย็นเป็นเพื่อนหน่อยจะได้ไหมครับ"


(เกรงว่าวันนี้คุณซีจะต้องทานข้าวคนเดียวแล้วล่ะครับ  พอดีว่ากระผมออกมาทานข้าวกับสายรหัสน่ะครับ) 


"ง่ะ  ไรอ่า  นี่กูต้อง....."


"น้องซี"  ผมหันไปมองคนที่สะกิดหลังผม


"พี่ทาม    เอ่อ  แค่นี้ก่อนนะมึง"  ประโยคหลังผมพูดใส่โทรศัพท์เสียงเบา  ก่อนจะเงยหน้ามาคุยกับรุ่นพี่ที่เข้ามาทัก


"น้องซีกำลังจะไปไหนครับ"


"ผมกำลังจะไปทานข้าวอะ  พี่ทามทานข้าวยังครับ  ไปด้วยกันไหม"  อยากได้เพื่อนทานข้าวครับตอนนี้


"อืม  เอาสิ  น้องซีชวนทั้งที"  จำเป็นต้องยิ้มหล่อขนาดนั้นไหมครับพี่  ผมแสบตา


"กินชาบูไหม  พี่เลี้ยงเอง"  อู้ววว  ลาภปากสุดๆ


"กินครับ"  ผมยิ้มตาหยีขณะที่คนตัวสูงยกมือมาขยี้หัวผม  ยอมหมดครับตอนนี้  มีชาบูเป็นของกำนัล  อิอิ











"ฮื้อออ  อิ่มจัง~"  ผมเอามือลูบๆท้องขณะรอเช็คบิล  ร้านที่มากินก็อยู่แถวๆหน้าหอผมนี่และครับ  สะดวกดี  กินเสร็จก็กลับไปนอน  อิอิ


"หึหึ  เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะ"  ก่อนไปยังเอามือมาขยี้หัวอีก  พี่เป็นไรกับหัวผมปะครับ

พอพี่ทามลุกออกไปสายตาผมก็ปะทะกับร่างสูงที่นั่งอยู่เยื้องๆออกไปทันที  เชี่ย....  ไอ้เบมันมานั่งกินชาบูคนเดียว  มันมองผมด้วยสายตานิ่งเฉยก่อนจะละสายตาออกไป  แล้วคีบของกินเข้าปากอย่างเชื่องช้า


ปกติเบเป็นคนกินเร็ว  ยิ่งชาบูร้านโปรดมันนี่ยิ่งเร็วเข้าไปอีก  ไอ้อาการเนือยๆนี่ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่ามันต้องมีเรื่องที่ทำให้นอยด์แน่ๆ  หวังว่าเรื่องนั้น  คงไม่เกี่ยวกับผมนะ






หลังจากเช็คบิลล์พี่ทามก็พาไปกินน้ำแข็งใสต่อ  ผมเลยยังไม่ได้เข้าไปคุยกับเบ   จนถึงตอนนี้  ผมกลับมาถึงห้องได้เกือบๆชั่วโมงแล้ว  เบมันก็ยังไม่กลับมา  ไปไหนของมันวะ   ก่อนที่ผมจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหามัน  ประตูห้องก็เปิดออกพอดี


"มึง...ไปไหนมาอะ"  ด้วยบรรยากาศแปลกๆที่แผ่ออกมารอบๆตัวมัน  ทำให้ผมประหม่าแม้กระทั่งประโยคธรรมดาๆที่ถามออกไป

มันปรายตามามองผม  ก่อนจะเดินผ่านเตียงที่ผมนั่งอยู่ออกไปที่ระเบียง  โดยที่ไม่ตอบอะไรกลับมา


"เป็นไรอะ  ไม่สบายหรอ"  เห็นมันดูซึมๆ ผมเลยเดินตามมันออกมาที่ระเบียง  แล้วยกมือขึ้นอังหน้าผากมัน  ตัวอุ่นๆแฮะ


"กินยายัง  เดี๋ยวกูไปเอามาให้" 


"ไม่กิน" 


"ทำไมไม่กินอะ  อยากปวดหัวตายหรอ"  เวลามันไม่สบายที  เหมือนคนอื่นซะที่ไหนล่ะ  ปวดหัวจะเป็นจะตาย  เห็นแล้วทรมานแทน  ใจมันจะขาดโว้ยยยยย


"อืม"  มันพูดแล้วก็เดินเข้าห้องไปเลย  เออดี  ถ้าปวดหัวขึ้นมาไม่ต้องมาเรียกเลยนะ











"เบ  ปวดหัวหรอ"  ตอนนี้ตีหนึ่งกว่าๆ  ผมตื่นมาเข้าห้องน้ำ  พอกลับมาก็เห็นเบนอนขดตัวมือก็กำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น



"เบครับ~"  ผมเรียกมันเสียงอ่อน  เวลาไม่สบายยิ่งโคตรจะงอแงอยู่ด้วย


"คุยกับซีหน่อยได้ไหมครับ"  ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ  ไม่กล้าจับครับ  กลัวว่ามันจะเจ็บ  เวลาไม่สบายนี่เป็นกันไหมครับ  เหมือนมันจะแตกหักไปทั้งตัว


"เบ~~  ซีเป็นห่วง"  ผมเรียกเสียงอ่อนกว่าเดิมอีก  เบมันไม่ยอมพูดกับผมตั้งแต่เมื่อเย็นแล้วอะ  ไม่รู้โกรธอะไร  แต่ตอนนี้ช่วยหายโกรธกูแปปนึงได้ไหม  ขอร้อง


"ซี  ไม่ห่วง"  เบพูดออกมาเสียงเบา  แต่ผมอยู่ใกล้แค่นี้  ทำไมจะไม่ได้ยิน


"ห่วงสิครับ  ปวดหัวใช่ไหม  บอกซีหน่อย"


"ซีไม่ห่วง"  คนตัวโตเงยหน้าขึ้นมามองค้อนผม   ไม่ห่วงแล้วกูจะมานั่งเซ้าซี้เพื่ออะไรครับคุณเบ


"ไหน  ซีไม่ห่วงเบตอนไหนครับ  บอกมาสิ" 


"ตอนหิว"  ห้ะ  อะไรยังไงวะ 


"เบหิวซีก็ไม่สน  ซีไปกับคนอื่น" 


"อ่า...  ก็ซีนัดเพื่อนไว้"  นัดไว้ว่าจะไม่สนใจเบอะ


"พี่ทามนี่เป็นเพื่อนซีหรอ"  ชิบหาย  พี่ทามเป็นรุ่นพี่ในคณะครับ  ไอ้เบมันรู้จักดี  และเหมือนมันจะไม่ค่อยชอบขี้หน้าพี่เขาด้วย


"คือ...  บังเอิญเจอกันน่ะ  แล้วเพื่อนซีมันเบี้ยวไม่ยอมมา  ซีก็เลยไปกับพี่เขา"


"หึ"  หึเสร็จมันก็หลับตาลง  แล้วจิกผ้าปูที่นอนแน่นเหมือนเดิม 


"เบ  กินยานะ"  ผมลุกไปหยิบยามาให้คนตัวสูง  ก่อนจะป้อนเข้าปาก  โดยที่อีกคนก็พยายามจะขัดขืน  แต่สภาพนี้สู้แรงผมไม่ได้หรอก


         ผมลุกเอาแก้วน้ำไปเก็บแล้วล้มตัวลงนอน   ก่อนจะดึงคนตัวสูงมาไว้ในอ้อมกอดให้มันซุกหน้าลงกับอกผม  เวลาเบไม่สบาย  มันขี้หนาว  ชอบให้กอด   ถึงผมจะชอบที่ได้กอดมัน  แต่ผมไม่ชอบให้มันทรมานแบบนี้ 




ผมแค่อยากให้มีสักวันนึงที่ผมจะกอดมันได้โดยที่มันไม่เจ็บปวด




สักวัน





****************************************************************************************************

TBC*

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-04-2017 02:11:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-04-2017 03:31:00
ขอทวนความจำเดี๋ยว
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-04-2017 10:36:52
เจอคู่ซีเบแล้วแบบว่าเอามาต่อเลยได้มะ อิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-04-2017 12:20:04
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 16-04-2017 12:27:47
อืม  ความรู้สึกช้าจังนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 16-04-2017 16:01:41
คู่น้องมิวนี่ หวาน นุ่มนวลจริงๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 16-04-2017 17:16:35
ขอหวานแบบนี้เรื่อยๆไม่เอาดราม่าน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่19 (16/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-04-2017 17:45:53
เบ กับมิว ดูแลดี
กับซี ทำเฉยๆ นิ่งๆ
เบ เป็นพวกชอบนะ แต่ไม่แสดงออก หรือเปล่า
ซี แสดงออกเต็มที่ว่าชอบเบ ดูแลเบ
แต่เบ ยังกั๊กไว้อีก
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 17-04-2017 00:58:07
Chapter 20




"เดี๋ยวกูไปข้างนอกแปปนึง"  ผมบอกคนที่นอนสำออยอยู่บนตักผม



"หนาว"  กูจะบ้า!!  เบมันบอกว่าหนาวทุกครั้งที่ผมจะลุกไปจากตัวมัน  แค่จะไปเข้าห้องน้ำมันยังบอกหนาวจะเป็นจะตาย



"จะไปซื้อข้าวมาให้กิน  จะกินไหมห๊ะ"  เมื่อเช้าลงไปซื้อโจ๊กให้มัน  ผมก็เลยกินเหมือนกันไปเลย  อย่างที่รู้ๆกันว่าโจ๊กมันย่อยง่าย  อยู่ท้องซะที่ไหน  แล้วนี่ก็ใกล้จะเที่ยงแล้วด้วย  ท้องผมประท้วงแล้วเนี่ย



"ทำไมต้องดุอะ"



"เห้อออ  ลุกก่อน  จะลงไปซื้อข้าวให้" 



"ไปด้วย"  นอกจากจะไม่ลุกแล้วยังเงยหน้ามามองตาแป๋วอีก  เดี๋ยวก็จับจูบแม่งเลย



"ไหวรึไง  หายดีแล้วหรอ"



"ยังไม่หาย  แต่กลัวมึงหาย"  เออ  กลัวกูหายแค่ตอนไม่สบายเท่านั้นแหละ  เวลามันไม่สบายชอบพูดอะไรเอาแต่ใจตลอด  หรือเรียกง่ายๆว่า 'งี่เง่า'  อย่าแอบไปบอกมันนะ  ครับ  เดี๋ยวผมจะโดนงอนเอาได้



"ไม่หาย  ไปแปปเดียว"



"ไปด้วย"  เอากับมันซิ 



"แดดมันร้อน"



"ก็กางร่ม"



"จะไปก็ลุกขึ้น  เร็วๆ"  ขี้เกียจจะเถียงกับมันแล้วครับ  ผมหิววว











"มายืนในร่มดีๆ"  ผมจับตัวมันเข้ามายืนใต้ร่มของร้านอาหารระหว่างรอ  ส่วนร่มตัวเองผมก็พับเก็บไว้ก่อน  มันเกะกะ



"ร้อนอะ"



"บอกให้รอบนห้องก็ไม่เชื่อ"



"ก็เดี๋ยวมึงหาย"



"กูจะหายไปไหนได้อะ  มึงไม่สบายอยู่แบบนี้" 



"น้องซี  มาทานข้าวหรอครับ" 



"อ้าวพี่ทาม  ผมจะซื้อขึ้นไปกินบนห้องอะพี่ พี่มาคนเดียวหรอ"  ผมหันไปคุยกับคนที่เข้ามายืนขนาบข้างอีกฝั่ง



"พี่นัดกับเพื่อนไว้ครับ  แต่ป่านนี้ยังไม่มาเลย"



"อ่า   ให้ผมรอเป็นเพื่อนปะ"  เมื่อวานพี่เขาอุตส่ามาทานข้าวเป็นเพื่อนผม  จะให้ไม่สนใจเลยก็คงดูเลวไปหน่อย



"อื้ออ  ปวดหัว"  หัวเบที่ซบลงมาบนไหล่  เรียกความสนใจผมได้ทันที



"ปวดมากไหม  บอกแล้วไงว่าให้รอข้างบน  กูไม่หายไปไหนหรอก"  ผมรีบหันไปหาเบทันที  ไม่สบายแล้วยังจะดื้ออีก 



"ขนาดลงมาด้วยยังจะหายเลย" 



"บ่นไรของมึง  ข้าวได้แล้ว  ขึ้นไปรอบนห้องก่อน  เดี๋ยวตามไป"  ผมเอาถุงข้าวกับร่มยัดใส่มือมันก่อนจะดันตัวมันให้เดินกลับหอไป 



"น้องซีมากับเบหรอครับ  อยู่หอเดียวกันหรอ"   พี่ทามถามขึ้นมา  ขณะที่ผมดันอกคนตัวสูงให้ออกเดิน 



"ครับ   รีบขึ้นไปเร็วๆ  แดดมันร้อน"  ผมตอบพี่ทามโดยที่ไม่ได้มองหน้า  ก็ไอ้เบมันไม่ยอมเดินไปซักที  ยืนตากแดดอยู่นั่น 



"เบ~  เป็นอะไรครับ"  ผมถามมันเสียงอ่อน เมื่อมันเอาแต่มองหน้าผมนิ่งๆไม่ยอมเดินออกไปซักที  แดดมันร้อนโว้ยยย  เดี๋ยวได้เป็นลมพอดี



"เบ~  แดดมันร้อน  เดี๋ยวเป็นลม"  ผมหยิบร่มในมือมันขึ้นมากางให้ 



".....นี่คือที่มึงบอกว่าจะไม่หายไปไหนหรอวะซี"  มันพูดเสร็จก็เดินออกไปทันที  ไอ้ชิบหาย  มาคิดเล็กคิดน้อยอะไรตอนนี้  แล้วผมต้องแคร์มันหรอ  ก็บอกแล้วไงว่าจะไม่สนใจอะ




ได้ซะที่ไหนล่ะวะ 

"ผมไปก่อนนะพี่"  ผมใส่เกียร์หมาวิ่งตามไอ้เบไปทันที  โถ่ไอ้ซี  กูก็นึกว่ามึงจะแน่  เฮ้อออ










"เบ~~  กินข้าวหน่อยนะ  จะได้กินยา"  ผมพูดกล่อมมันมาจะครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว  มันยังไม่มีวี่แววว่าจะยอมลุกขึ้นมากิน  ฮืออออ  คือกูหิวอะเบ  ถ้ากูกินก่อนมึงนี่จะดูเหี้ยปะ  งือออ  จะบ้าาา



"เบ  กูก็อยู่นี่แล้วไง  ไม่ได้ไปไหนซักหน่อย  ลุกมากินข้าวก่อนได้ปะ  แล้วค่อยงอนต่อ"  ไอ้อาร์ทสอนมาว่าในเมื่อทำดีแล้วมันไม่ได้อะไร  ก็ไม่ต้องทำ!!!


 มันหันมามองค้อนผม  ก่อนจะหันกลับไปซุกหน้าลงกับหมอนเหมือนเดิม  ให้ตายเถอะ สัดเบ  ถึงกูจะรักมึงกูก็โมโหเป็นเหมือนกันนะโว้ยยยยย



"จะไม่กินใช่ไหม  งั้นกูกินเอง" กูหิว!!!



"หื้อออ  หมูกระเทียมนี่โคตรอร่อยอะ  มึงไม่กินใช่ปะ  ขอหมดเลยนะ "  ผมตักของโปรดมันเข้าปาก  แค่คำแรกก็โคตรจะฟินนนน  นี่ป้าเขาทำอร่อยหรือผมหิววะ



"อีกกล่องมันเป็นผัดขิงอะ  มึงกินได้ใช่ปะ"  ผมยังคงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างมันไปเรื่อยๆ  ของโปรดมันคือหมูผัดกระเทียม  ส่วนสิ่งที่มันเกลียดที่สุดก็คือขิง  แล้วคนหวงของกินอย่างมันมีรึจะยอมมม



แม่งยอมหวะ



จะงอนอะไรขนาดนั้นอะที่รักกกกก  หันมาคุยกับเค้าหน่อยสิคนดี   ห้วยยยย  ปวดกบาล












"เบ  คุยกันหน่อย  มึงงอนอะไร  อยากให้กูทำอะไร  ไหนบอกมาดิ๊"  ผมที่กินข้าว(ของมัน)หมดแล้ว  เดินอ้อมมาอีกฝั่ง แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆคนขี้งอนไม่ให้มันได้มีโอกาสหันหน้าหนี



"ไม่พูดแล้วกูจะรู้ไหม"  ประสาทจะเสีย  พูดออกมานี่ดอกพิกุลมันจะร่วงรึไง



"เหอะ  พูดอย่างกับว่ามึงใส่ใจคำพูดกูมากเลยนะ" 



"กูไม่ได้ใส่ใจคำพูดของมึงทุกคำหรอก  แต่กูใส่ใจมึง...."  ผมไม่ได้ฟังมันทุกคำพูด  ไม่ได้เก็บมาคิดซะทุกอย่าง  เพราะถ้าผมทำแบบนั้น  ได้ช้ำในตายกันพอดี  คำพูดที่มีแต่ผมที่คิดไปไกลอยู่ฝ่ายเดียว


"กูไม่รู้หรอกว่ามึงคิดอะไรอยู่  กูทำอะไรให้มึงไม่พอใจ  หรือทำแบบไหนถึงจะถูกใจมึง  บอกกูหน่อยได้ไหมเบ"  ผมขี้เกียจจะเดาใจมันแล้ว  เลยเลือกที่จะถามมันไปตรงๆเลยดีกว่า  เพราะการตัดใจจากมัน  ไม่มีอยู่ในตัวเลือกของผม



"ใส่ใจกูหรอ  หรือมึงใส่ใจทุกคน  กูเห็นมึงก็ใจดีกับคนอื่นไปทั่ว" 



"กูไม่รู้ว่ามันเรียกว่าใส่ใจรึเปล่า  แต่กูไม่ชอบการถูกเมิน  ไม่ชอบที่โดนมองข้ามความรู้สึก  เพราะฉะนั้นกูก็จะไม่มองข้ามความรู้สึกของคนอื่นเหมือนกัน  แต่กูก็ทำเท่าที่กูทำได้อะเบ  เท่าที่คนอย่างกูจะทำให้ได้"



".....แต่มึงมองข้ามความรู้สึกกูไงซี  มึงใส่ใจแค่ตัวกู  แต่คำพูดกูมึงไม่เคยใส่ใจเลย  แล้วมึงจะให้กูสื่อสารกับมึงทางไหน     ต้องใช้ภาษากายหรอวะมึงถึงจะเข้าใจ"  เบประกบริมฝีปากเข้ามาทันทีที่พูดจบ  เหมือนว่ามันเองก็หงุดหงิดอยู่เหมือนกันที่ผมไม่เข้าใจมันซักที  เบขบเม้มริมฝีปากผมไม่เบานัก  เหมือนเป็นบทลงโทษที่ผมทำให้มันหงุดหงิด  ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดแล้วซุกหน้าลงบนไหล่



"เบไม่ชอบให้ซีใส่ใจคนอื่น  ไม่ชอบให้ไปอยู่ใกล้ๆคนอื่น  ไม่ชอบให้ใครมาเข้าใกล้ด้วย  แล้วก็อยากอยู่แต่กับซี  ไม่อยากให้ซีหายไปไหน  เบขอมากไปรึเปล่า"  ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมากว้างๆ  และก็ห้ามน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาไม่ได้ด้วย  ที่มันพูดคือสิ่งที่ผมรอคอยมานาน  รอว่าสักวัน  สักวันที่มันจะขาดผมไม่ได้ 



"มึง....จะให้กูอยู่ข้างมึงในฐานะอะไรล่ะ  ถ้าแค่เพื่อน  สิ่งที่มึงขอมามันมากเกินไป  กูคงให้ไม่ได้"  ผมอยากถามให้แน่ใจ  ว่าผมตีความคำพูดของมันไม่ผิด  ไม่ได้คิดไปไกลอยู่คนเดียว



"งั้นขอเพิ่มอีกอย่างได้รึเปล่า"  ก็บอกว่ามันมากเกินไปแล้วไง   ผมถอนตัวออกจากอ้อมกอดแล้วขมวดคิ้วมองหน้ามัน



"ขอเป็นมากกว่าเพื่อนได้ไหมครับ"  พูดเฉยๆไม่ได้รึไง  จำเป็นต้องเอามือมาเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มกูไหม  แม่งเอ๊ยยยย  หัวใจจะวาย



"ฮึก... "  นั่น  สะอึกเลยกู  ไอ้น้ำตานี่ก็ไม่หยุดไหลสักที  รู้เว้ยว่าดีใจ  รู้ว่ารอวันนี้มานาน  แต่ถ้ามึงไม่รีบตอบตกลง  ฝันมึงอาจจะสลายไปในพริบตาก็ได้นะไอ้ซี



"ไม่ได้หรอครับ"  ไม่ต้องยื่นหน้ามาใกล้ขนาดนั้น  แล้วก็หยุดลูบแก้มกู  ฮืออออ



".....ฮึก"



"..ได้.....สิ.."  คนตรงหน้าผมยิ้มออกมา  ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดปลอบ  ลูบหัวลูบหางกันอยู่สักพัก  ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า




"หิวอะ"  ไอ้คนตัวโตมันยังไม่ได้ทานข้าวเลย


"สมน้ำหน้า  เล่นตัวดีนัก"  ผมว่าอย่างหมั่นไส้  ก่อนจะเดินไปหยิบข้าวหมูกระเทียมอีกกล่องมาให้  แบบว่ามันชอบกินอะไรผมก็กินตามมันนั่นแหละ  ก็เลยสั่งเหมือนกันมาสองกล่องเลย 



"ซี  ป้อนด้วยดิ"  นี่มันชักจะขอมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ





แต่สำหรับมันแล้ว






"อ้าปากสิ..."  ผมให้ได้ทุกอย่างแหละ





****************************************************************************************************
TBC*
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-04-2017 02:46:23
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 17-04-2017 05:46:40
ยอมใจลุกอ้อนเบ 5555
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-04-2017 07:05:13
เบน่ารักไม่เบาเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 17-04-2017 07:45:59
พวกนางไปจีบกันตอนไหน? งง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 17-04-2017 08:43:53
ซีแพ้ทางเบ ฮ่าๆๆๆๆ น่ารัก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-04-2017 09:15:43
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 17-04-2017 12:33:40
รักเรื่องนี้แล้วชอบๆๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-04-2017 13:02:35
หมั่นไส้เบ อยู่กับเพื่อนมิว เบแมนโคตร
ช่างแตกต่าง หน้ามือเป็นหลัง......
อยู่กับซี เบ อ้อนโคตร มุ้งมิ้ง งอนก็เก่ง
กว่าจะเอ่ยปากว่า ชอบซี มันช่างยากเย็น
ผิดที่เบ แหละ ปากหนักซะจริง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 17-04-2017 17:50:46
อยู่กับซีกลายเป็นเบแบ๊วไปซะแล้ววว

รักษาความรักดีดีน้า
เอาใจช่วยทั้งคู่จ้า
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-04-2017 18:28:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่20 (17/04/17) P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 17-04-2017 22:56:22
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--10%-- (6/07/17) P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-07-2017 07:15:11
อือ.....สั้นอ่ะ ค้างงงงงงง  :ling1: :ling1: :ling1:
มิว เป็นพี่เนียนด้วย  :mew1:
แล้วพี่เนม ไม่หวงแย่เหรอ
รอตอนใหม่  :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--10%-- (6/07/17) P.8
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 07-07-2017 02:43:55
คิดถึงงงงง :sad4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--50%-- (23/11/17) P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 23-11-2017 22:28:25
Chapter 21



     วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกครับ  ปิดเทอมผ่านไปไวอย่างกับโกหก  ช่วงเวลาอันน้อยนิดที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ทัดเทียมกับความเหนื่อยในการปั่นงานที่ผ่านมาเลย  โลกนี้แม่งอยู่ยาก  โลกมีแต่ความลำเอียง   


     ปีนี้ผมก็เป็นพี่ปีสามแล้วครับ  รู้สึกแก่  แต่ว่าด้วยความหน้าเด็กนี้(ขอพื้นที่อวยตัวเองนิดๆหน่อยๆ)  ทำให้ผมได้รับการโหวตจากบรรดาผองเพื่อนที่น่าถีบ  ให้รับบทเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งใสๆให้เข้ากับหนังหน้าอันเยาว์วัย  หรือที่เขาเรียกกันว่าพี่เนียนน่ะครับ   จริงๆไอ้พี่เนียนเนี่ย  มันต้องมาเนียนตั้งแต่วันปรับพื้น   หรือเฟิร์สเดทไรงี้แล้วล่ะครับ  แต่พอดีว่าผมเส้นใหญ่ก็เลยได้รับการอนุโลมให้มาเนียนในวันนี้เป็นวันแรก  ผมไม่บอกหรอกนะครับว่าอำนาจมืดนี้ผมได้แต่ใดมา  แต่จะใบ้ให้แค่ว่า"หล่อมาก"อิอิ




"นาย  ปีหนึ่งปะ" ขณะที่ผมกำลังรายงานผู้สั่งการอำนาจมืดที่เพิ่งแยกจากกันเมื่อกี้แต่ยังไม่วายไลน์มากำชับให้ผมทานข้าวให้เรียบร้อยด้วย   ผู้ชายที่ส่วนสูงผิดมนุษย์มนา(ใครสูงกว่ากูมึงผิดปกติหมด)ก็เดินเข้ามาถามพร้อมกับจานข้าวในมือ



ผมได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร  ให้หน้าตามันทำงานไปครับ  ฮ่าๆๆๆ 



"นั่งด้วยคนนะ  เรานิว นายชื่อไรอะ" คนพูดเอ่ยถามทันทีที่ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับผม



"ชื่อมิว  เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำแปปนะ  เดี๋ยวกลับมาคุยด้วย"  ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม  แบบว่ากินข้าวหมดตั้งแต่นิวเดินเข้ามาแล้วครับ  แต่ไม่อยากทิ้งมันไว้เลยไปซื้อน้ำมานั่งกินต่อ  จะได้ยึดมันมาเป็นเพื่อนเลยด้วย  อย่าลืมนะครับว่าผมมีหน้าที่ต้องเนียน  ก็เท่ากับว่าตอนนี้ผมยังไม่มีเพื่อนในคณะ  เพราะฉะนั้น  เหยื่อเข้ามาแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือครับ



"มิวเรียนสาขาไรอะ"



"เราเรียนไอดีอะ  นิวอะ"



"เราเรียนเต็กอะ"  เอ้า  เวรกรรมกะจะยึดไว้เป็นเพื่อนเสือกเรียนคนละสาขาอีก  นี่ผมต้องไปหาเพื่อนในสาขาอีกใช่มะ  โถะ น้องนิว 


กูลุกหนีตอนนี้ทันไหมวะ



“แต่เรามีเพื่อสนิทเรียนไอดีนะ” ระหว่างที่กำลังเซ็งไอ้น้องนิวก็ชี้ทางสว่างให้ผมครับ  ให้มันได้อย่างนี้สิวะ  ค่อยมีประโยชน์ขึ้นมาหน่อย



“เห้ย!!  จริงอ่อ  แล้วเพื่อนนิวอยู่ไหนอะ”  ผมรีบถามพลางใส่แอคติ้งให้ดูเว่อวัง  ประมาณว่า ‘กูจะได้เพื่อนในสาขาคนแรกแล้วนะเว้ยยยย  ดีใจชิบหายเลย’ จะว่าไปผมนี่ถ้าเรียนนิเทศก็น่าจะรุ่งอยู่นะ อิอิ



“กำลังมา...นั่นไง  ไอ้เวย์!!!” ไอ้น้องนิวมองไปทางด้านหลังผมแล้วโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนมัน  และว่าที่เหยื่อ(ที่แท้จริง)ของผม



“ไอ้เชี่ยนิว  ตื่นละไม่ยอมปลุกกู  สันดาน  สายเลยแม่ง  ละมานั่งแดกข้าวสบายใจอยู่กับ...” เดินมาถึงโต๊ะเหยื่อผมก็บ่นเพื่อนมันยาวจนลืมนั่งเลยครับ  มึงยืนค้ำหัวกูอยู่เนี่ยไอ้เด็กเวร  นี่รุ่นพี่นะ รุ่นพี่  แต่หน้ากูเด็กมึงคงไม่อิน  กูเข้าใจ  ฮ่าๆๆ


ละมึงจะยิ้มหวานหยดย้อยใส่กูเพื่อ?  ไม่ด่าเพื่อนมึงต่อแล้วหรอ



“....ใครวะ”  มันเอี้ยวตัวไปทางนิวพร้อมกับเอามือป้องปากเหมือนกับไม่อยากให้ผมได้ยิน  แต่ขอโทษนะเสียงมึงไม่ได้เบาไปกว่าตอนที่ตะโกนด่าเพื่อนมึงเมื่อกี้เลย  ไอ้เด็กเวร



“เราชื่อมิว  เรียนไอดีอะ  นายก็เรียนไอดีเหมือนกันใช่ปะ”  ผมแนะนำตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มสดใส  ที่(คิดว่า)เหมาะกับวัยเฟรชชี่สุดๆ



“…เอ่อ  เราพูดไรผิดเปล่า  หรือว่าเพื่อนนิวที่เรียนไอดีไม่ใช่คนนี้?”  ผมหันไปถามนิวเมื่อไอ้เหยื่อที่ยืนค้ำหัวผมอยู่มันเอาแต่มองผมตาค้างไม่กระดิกเลย  ตะคริวแดกหรอ  หรือง่วง หรือไง?  อาการมันเป็นยังไงวะน้อง 



“...ไม่ๆ  เราเรียนไอดี  เอ่อ..มิว..  มิวใช่ปะ  เมื่อกี้ฟังไม่ถนัด”  เอ้า หูไม่ดีไปอีก  จะไหวไหมเนี่ยเหยื่อผม



“อื้ม  เรามิว ^^”  แถมรอยยิ้มพิมพ์ใจให้อีกหนึ่งที  เพื่อความเป็นมิตร



“มึงจะจ้องอีกนานไหมไอ้เวย์” นิวหันไปว่าเพื่อนมัน(ที่นั่งลงแล้ว)ด้วยน้ำเสียง  เอ่อ  ยังไงอะ  เหมือนไม่พอใจมั้ง  เพราะตอนคุยกับผมไม่ได้เสียงแข็งขนาดนี้  มึงอย่าเพิ่งฆ่ากันตอนนี้นะเว้ยยยย  กูยังไม่อยากเป็นพยานในที่เกิดเหตุ



“อุต๊ะ!!  เพื่อนผมแพ้ทางของแบบนี้นี่นะ  เอาเป็นว่าผมจะไม่ยุ่งก็ได้ครับคุณนิว  ว่าแต่มิวเรียนไอดีเหมือนกันช้ะ  มีเพื่อนมั่งยังอะ”  มันหันไป ‘อุต๊ะ’ ด้วยท่าทางตอแหลใส่เพื่อนมัน  ก่อนจะหันมาสนใจผม  เออ!!  สักทีนะ  สนใจกูได้สักทีไอ้เด็กพวกนี้



“เรายังไม่มีเลยอะ  ก็มีนายคนแรกนี่แหละ  เป็นเพื่อนกันนะ^^”  แหวะ เกลียดตัวเองมากครับตอนนี้  นี่ตอนอยู่ปีหนึ่งผมยังไม่พูดเพราะขนาดนี้เลยนะ  นี่กูแสดงเป็นตัวอะไรอยู่  เด็กน้อยภาษาดอกไม้หรอ หรือยังไง 



“ได้ดิ เราเพื่อนกัน  แล้วมึงอะนิว สนใจเป็นเพื่อนนนนน...กับมิวปะ”  ตอบรับผมเสร็จมันก็หันไปถามนิวด้วยท่าทางกวนประสาท 



“สนสิ  นิวต้องอยากเป็นเพื่อนเราอยู่แล้วเนอะ!”  ผมหันไปยิ้มกว้างใส่นิว  เอาสิ! มึงจะปฏิเสธคนหล่อๆอย่างกูได้เยี่ยงไรไอ้น้องนิว



“…..อืม”  มันหลบตาผมพร้อมกับตอบรับเสียงเบา



“ฮ่าๆๆๆ  ไมเสียงมึงเบาหวิวขนาดนั้นวะเพื่อน  ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้น้องเวย์ระเบิดเสียงหัวเราะใส่เพื่อนมัน  เอออ  มึงเอาซะกูขาดความมั่นใจเลย  ผมไม่น่าคบหรืออย่างไรครับ  ทำไมน้องนิวทำกับพี่เยี่ยงนี้  หื้มมม?



ไอ้น้องนิวไม่ตอบอะไร  แต่เงยหน้ามายิ้มให้ผมนิดนึง  เออ กูจะถือว่ามึงยอมรับกูละกันนะ  ยังไงก็ไม่มีใครบนโลกนี้ปฏิเสธที่จะเป็นเพื่อนกับคนหล่ออย่างผมหรอก  เนอะ!




BaeS:) :  คุณน้องครับ  อย่ายิ้มบ่อยได้ไหมครับ  พี่ใจไม่ดี

ไอสัดเบ มันและเดอะแก็งค์นั่งอยู่โต๊ะโซนด้านหน้าผมครับ มันเลยเห็นว่าผมยิ้มปัญญาอ่อนใส่น้องๆอยู่ กูจะผูกมิตรกูก็ต้องยิ้มการค้าหน่อยป่าววะ คนใจโฉดอย่างมึงจะไปเข้าใจอะไร!


Mewtation : ใจพี่ไม่ดี  แต่ใจพี่ “ซี” ใช่ไหมครับ

แหม  ทำมาเป็นเปลี่ยนชื่อไลน์  เหม็นความรักอะครับ


BaeS:) : ใช่ครับ เจ้าของหัวใจพี่ชื่อSea  แล้วน้องละครับ เจ้าของชื่ออะไรนะ? พี่จะได้ไลน์ไปบอกให้ว่ามีแฟนขี้อ่อย

Mewtation :
อยู่นิ่งๆไปเลยสัดเบ!!!


อย่ามาเพิ่มงานให้กู  กว่าจะยอมให้มาเป็นพี่เนียนนี่ก็เลือดตาแทบกระเด็นละ 

ถ้าพี่เนมรู้ว่าผมมายิ้มการค้าใส่เด็กๆพวกนี้ล่ะก็  อย่าหวังว่าจะได้นงได้เนียนอะไรกันอีกเลยครับ 

อวสานเฟรชชี่แน่นอน 


--------------------------------------------------------------50%--------------------------------------------------------------------

แงงงงงงงง  คิดถึงเค้าไหมมมมมม

หายไปนานเลย  ขอโทษทุกคนนะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ไม่รู้ว่ายังตามอ่านกันอยู่ไหม  แต่เราพาพี่เนมน้องนิว  มาฝากแล้วน้าาาาา :hao5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--50%-- (23/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-11-2017 22:53:49
ต้องทวนความจำกันหน่อย
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--50%-- (23/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-11-2017 23:09:04
มิว เป็นพี่เนียน
ยิ้มหวาน ให้เพื่อนใหม่ปีหนึ่ง
เล่นเอาเวย์ ตะลึง ค้างไปเลย
นิว เวย์ ติดใจมิวแล้ว
เดี๋ยวตามติดมิว พี่เนมหึงแน่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--50%-- (23/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-11-2017 23:28:13
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (23/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 24-11-2017 00:00:31
-----------------------------------ใครอ่าน50%แรกแล้ว  ข้ามสีน้ำเงินไปได้เลยน้าาา----------------------------------------

Chapter 21



     วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกครับ  ปิดเทอมผ่านไปไวอย่างกับโกหก  ช่วงเวลาอันน้อยนิดที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ทัดเทียมกับความเหนื่อยในการปั่นงานที่ผ่านมาเลย  โลกนี้แม่งอยู่ยาก  โลกมีแต่ความลำเอียง   


     ปีนี้ผมก็เป็นพี่ปีสามแล้วครับ  รู้สึกแก่  แต่ว่าด้วยความหน้าเด็กนี้(ขอพื้นที่อวยตัวเองนิดๆหน่อยๆ)  ทำให้ผมได้รับการโหวตจากบรรดาผองเพื่อนที่น่าถีบ  ให้รับบทเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่งใสๆให้เข้ากับหนังหน้าอันเยาว์วัย  หรือที่เขาเรียกกันว่าพี่เนียนน่ะครับ   จริงๆไอ้พี่เนียนเนี่ย  มันต้องมาเนียนตั้งแต่วันปรับพื้น   หรือเฟิร์สเดทไรงี้แล้วล่ะครับ  แต่พอดีว่าผมเส้นใหญ่ก็เลยได้รับการอนุโลมให้มาเนียนในวันนี้เป็นวันแรก  ผมไม่บอกหรอกนะครับว่าอำนาจมืดนี้ผมได้แต่ใดมา  แต่จะใบ้ให้แค่ว่า"หล่อมาก"อิอิ




"นาย  ปีหนึ่งปะ" ขณะที่ผมกำลังรายงานผู้สั่งการอำนาจมืดที่เพิ่งแยกจากกันเมื่อกี้แต่ยังไม่วายไลน์มากำชับให้ผมทานข้าวให้เรียบร้อยด้วย   ผู้ชายที่ส่วนสูงผิดมนุษย์มนา(ใครสูงกว่ากูมึงผิดปกติหมด)ก็เดินเข้ามาถามพร้อมกับจานข้าวในมือ



ผมได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร  ให้หน้าตามันทำงานไปครับ  ฮ่าๆๆๆ 



"นั่งด้วยคนนะ  เรานิว นายชื่อไรอะ" คนพูดเอ่ยถามทันทีที่ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับผม



"ชื่อมิว  เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำแปปนะ  เดี๋ยวกลับมาคุยด้วย"  ผมตอบพร้อมรอยยิ้ม  แบบว่ากินข้าวหมดตั้งแต่นิวเดินเข้ามาแล้วครับ  แต่ไม่อยากทิ้งมันไว้เลยไปซื้อน้ำมานั่งกินต่อ  จะได้ยึดมันมาเป็นเพื่อนเลยด้วย  อย่าลืมนะครับว่าผมมีหน้าที่ต้องเนียน  ก็เท่ากับว่าตอนนี้ผมยังไม่มีเพื่อนในคณะ  เพราะฉะนั้น  เหยื่อเข้ามาแล้วอย่าปล่อยให้หลุดมือครับ



"มิวเรียนสาขาไรอะ"



"เราเรียนไอดีอะ  นิวอะ"



"เราเรียนเต็กอะ"  เอ้า  เวรกรรมกะจะยึดไว้เป็นเพื่อนเสือกเรียนคนละสาขาอีก  นี่ผมต้องไปหาเพื่อนในสาขาอีกใช่มะ  โถะ น้องนิว 


กูลุกหนีตอนนี้ทันไหมวะ



“แต่เรามีเพื่อสนิทเรียนไอดีนะ” ระหว่างที่กำลังเซ็งไอ้น้องนิวก็ชี้ทางสว่างให้ผมครับ  ให้มันได้อย่างนี้สิวะ  ค่อยมีประโยชน์ขึ้นมาหน่อย


“เห้ย!!  จริงอ่อ  แล้วเพื่อนนิวอยู่ไหนอะ”  ผมรีบถามพลางใส่แอคติ้งให้ดูเว่อวัง  ประมาณว่า ‘กูจะได้เพื่อนในสาขาคนแรกแล้วนะเว้ยยยย  ดีใจชิบหายเลย’ จะว่าไปผมนี่ถ้าเรียนนิเทศก็น่าจะรุ่งอยู่นะ อิอิ



“กำลังมา...นั่นไง  ไอ้เวย์!!!” ไอ้น้องนิวมองไปทางด้านหลังผมแล้วโบกไม้โบกมือเรียกเพื่อนมัน  และว่าที่เหยื่อ(ที่แท้จริง)ของผม



“ไอ้เชี่ยนิว  ตื่นละไม่ยอมปลุกกู  สันดาน  สายเลยแม่ง  ละมานั่งแดกข้าวสบายใจอยู่กับ...” เดินมาถึงโต๊ะเหยื่อผมก็บ่นเพื่อนมันยาวจนลืมนั่งเลยครับ  มึงยืนค้ำหัวกูอยู่เนี่ยไอ้เด็กเวร  นี่รุ่นพี่นะ รุ่นพี่  แต่หน้ากูเด็กมึงคงไม่อิน  กูเข้าใจ  ฮ่าๆๆ


ละมึงจะยิ้มหวานหยดย้อยใส่กูเพื่อ?  ไม่ด่าเพื่อนมึงต่อแล้วหรอ



“....ใครวะ”  มันเอี้ยวตัวไปทางนิวพร้อมกับเอามือป้องปากเหมือนกับไม่อยากให้ผมได้ยิน  แต่ขอโทษนะเสียงมึงไม่ได้เบาไปกว่าตอนที่ตะโกนด่าเพื่อนมึงเมื่อกี้เลย  ไอ้เด็กเวร



“เราชื่อมิว  เรียนไอดีอะ  นายก็เรียนไอดีเหมือนกันใช่ปะ”  ผมแนะนำตัวเองพร้อมกับรอยยิ้มสดใส  ที่(คิดว่า)เหมาะกับวัยเฟรชชี่สุดๆ



“…เอ่อ  เราพูดไรผิดเปล่า  หรือว่าเพื่อนนิวที่เรียนไอดีไม่ใช่คนนี้?”  ผมหันไปถามนิวเมื่อไอ้เหยื่อที่ยืนค้ำหัวผมอยู่มันเอาแต่มองผมตาค้างไม่กระดิกเลย  ตะคริวแดกหรอ  หรือง่วง หรือไง?  อาการมันเป็นยังไงวะน้อง 



“...ไม่ๆ  เราเรียนไอดี  เอ่อ..มิว..  มิวใช่ปะ  เมื่อกี้ฟังไม่ถนัด”  เอ้า หูไม่ดีไปอีก  จะไหวไหมเนี่ยเหยื่อผม



“อื้ม  เรามิว ^^”  แถมรอยยิ้มพิมพ์ใจให้อีกหนึ่งที  เพื่อความเป็นมิตร



“มึงจะจ้องอีกนานไหมไอ้เวย์” นิวหันไปว่าเพื่อนมัน(ที่นั่งลงแล้ว)ด้วยน้ำเสียง  เอ่อ  ยังไงอะ  เหมือนไม่พอใจมั้ง  เพราะตอนคุยกับผมไม่ได้เสียงแข็งขนาดนี้  มึงอย่าเพิ่งฆ่ากันตอนนี้นะเว้ยยยย  กูยังไม่อยากเป็นพยานในที่เกิดเหตุ



“อุต๊ะ!!  เพื่อนผมแพ้ทางของแบบนี้นี่นะ  เอาเป็นว่าผมจะไม่ยุ่งก็ได้ครับคุณนิว  ว่าแต่มิวเรียนไอดีเหมือนกันช้ะ  มีเพื่อนมั่งยังอะ”  มันหันไป ‘อุต๊ะ’ ด้วยท่าทางตอแหลใส่เพื่อนมัน  ก่อนจะหันมาสนใจผม  เออ!!  สักทีนะ  สนใจกูได้สักทีไอ้เด็กพวกนี้



“เรายังไม่มีเลยอะ  ก็มีนายคนแรกนี่แหละ  เป็นเพื่อนกันนะ^^”  แหวะ เกลียดตัวเองมากครับตอนนี้  นี่ตอนอยู่ปีหนึ่งผมยังไม่พูดเพราะขนาดนี้เลยนะ  นี่กูแสดงเป็นตัวอะไรอยู่  เด็กน้อยภาษาดอกไม้หรอ หรือยังไง 



“ได้ดิ เราเพื่อนกัน  แล้วมึงอะนิว สนใจเป็นเพื่อนนนนน...กับมิวปะ”  ตอบรับผมเสร็จมันก็หันไปถามนิวด้วยท่าทางกวนประสาท 



“สนสิ  นิวต้องอยากเป็นเพื่อนเราอยู่แล้วเนอะ!”  ผมหันไปยิ้มกว้างใส่นิว  เอาสิ! มึงจะปฏิเสธคนหล่อๆอย่างกูได้เยี่ยงไรไอ้น้องนิว



“…..อืม”  มันหลบตาผมพร้อมกับตอบรับเสียงเบา



“ฮ่าๆๆๆ  ไมเสียงมึงเบาหวิวขนาดนั้นวะเพื่อน  ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้น้องเวย์ระเบิดเสียงหัวเราะใส่เพื่อนมัน  เอออ  มึงเอาซะกูขาดความมั่นใจเลย  ผมไม่น่าคบหรืออย่างไรครับ  ทำไมน้องนิวทำกับพี่เยี่ยงนี้  หื้มมม?



ไอ้น้องนิวไม่ตอบอะไร  แต่เงยหน้ามายิ้มให้ผมนิดนึง  เออ กูจะถือว่ามึงยอมรับกูละกันนะ  ยังไงก็ไม่มีใครบนโลกนี้ปฏิเสธที่จะเป็นเพื่อนกับคนหล่ออย่างผมหรอก  เนอะ!



BaeS :  คุณน้องครับ  อย่ายิ้มบ่อยได้ไหมครับ  พี่ใจไม่ดี

ไอสัดเบ มันและเดอะแก็งค์นั่งอยู่โต๊ะโซนด้านหน้าผมครับ มันเลยเห็นว่าผมยิ้มปัญญาอ่อนใส่น้องๆอยู่ กูจะผูกมิตรกูก็ต้องยิ้มการค้าหน่อยป่าววะ คนใจโฉดอย่างมึงจะไปเข้าใจอะไร!


Mewtation : ใจพี่ไม่ดี  แต่ใจพี่ “ซี” ใช่ไหมครับ

แหม  ทำมาเป็นเปลี่ยนชื่อไลน์  เหม็นความรักอะครับ


BaeS : ใช่ครับ เจ้าของหัวใจพี่ชื่อSea  แล้วน้องละครับ เจ้าของชื่ออะไรนะ? พี่จะได้ไลน์ไปบอกให้ว่ามีแฟนขี้อ่อย
Mewtation : อยู่นิ่งๆไปเลยสัดเบ!!!


อย่ามาเพิ่มงานให้กู  กว่าจะยอมให้มาเป็นพี่เนียนนี่ก็เลือดตาแทบกระเด็นละ 


ถ้าพี่เนมรู้ว่าผมมายิ้มการค้าใส่เด็กๆพวกนี้ล่ะก็  อย่าหวังว่าจะได้นงได้เนียนอะไรกันอีกเลยครับ 


อวสานเฟรชชี่แน่นอน 


--------------------------------------------------------------50%--------------------------------------------------------------------




“วันนี้อาจารย์ก็มีเรื่องจะฝากไว้เท่านี้แหละ  กลับไปพักผ่อนได้  แต่คุณมิวมาหาผมแปปนึงนะ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”
เนื่องจากผมมาเนียนเอาในวันเปิดเทอมแล้ว  ก็เลยต้องเนียนมาเรียนพร้อมน้องๆไปด้วย  ส่วนเรื่องการเรียนของผม  อาทิตย์แรกๆอาจารย์ปล่อยชิวอยู่แล้วครับ  หรือไม่ก็เกริ่นเรื่องโปรเจคไว้เนิ่นๆแต่ไม่มีงานส่งในคลาสแน่นอน  พวกเพื่อนๆมันเลยให้ผมมาทำหน้าที่เนียนให้เต็มที่หนึ่งอาทิตย์
อาจารย์แกมองหน้าผมบ่อยมากระหว่างสอน  มีคำถามอะไรนี่สาบานได้ว่าผมตอบคนเดียวทุกคำถาม  ถ้าอาจารย์จะสุ่มให้ตอบคำถามด้วยการชี้นิ้วมาทางผมตลอดเนี่ย  อย่าเรียกว่าสุ่มเลยครับ!



“แม้แต่อาจารย์มึงก็ไม่เว้นเลยนะไอ้มิว”  ไอ้เวย์เอาไหล่มากระแทกผมเป็นเชิงหยอกล้อ 



“ไม่เว้นอะไรมึง อาจารย์เขาคงเห็นกูหน้าตาดีสุด เลยอยากให้เป็นหัวหน้ารุ่นก็ได้เว้ย”  หลังจากแยกย้ายกับนิวที่โรงอาหาร  ผมกับเวย์ก็มาเรียนคลาสแรกด้วยกัน  โดยเราก็คุยนู่นนี่กันระหว่างเดินมาที่ตึก ทำให้สนิทกันได้ระดับนึงแล้ว....ระดับที่ใช้คำหยาบได้แล้วนะครับ  มันบอกผมว่า‘เรากันเองอยู่แล้ว’  เป็นบุญของผมครับที่ไม่ต้องมาแอ๊บพูดภาษาดอกไม้กับมันอีก  นึกแล้วคันปากยุบยิบไปหมด



“จ่ะ!! พ่อคนหน้าตาดี  เป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล  รีบไปหาอาจารย์ไป๊  กูรอหน้าห้อง” พูดเสร็จมันก็เก็บของโกยแน่บออกจากห้องไป 



“อาจารย์มีอะไรหรอครับ” เมื่อเห็นน้องๆเดินออกจากห้องกันไปเกือบหมดแล้ว  ผมก็เดินไปหาอาจารย์ที่โต๊ะด้านหน้า



“ไอ้ธรรมเนียมพี่เนียนนี่มันยังมีกันอยู่อีกหรอ?”  อ้าว!ไอ้เพื่อนเวร  พวกมันบอกผมว่าเรื่องอาจารย์มันเตี๊ยมไว้ให้บางคนแล้ว  แต่อาจารย์คลาสแรกมึงเสือกไม่ได้เตี๊ยมให้กูเนี่ยนะ!  เห็นกูเป็นพวกอัจฉริยะ  แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งหรืออย่างไร  คลาสแรกก็เล่นกูเลยนะ!!!



“เอ่อ... คือ  พวกผมอยากเข้าถึงน้องๆให้มากที่สุดน่ะครับ  แบบว่าถ้าเป็นเพื่อนกันน่าจะเปิดใจคุยกันและเรียนรู้กันได้ง่ายกว่า  พวกเพื่อนๆก็เลยลงความเห็นกันว่าควรจะมีพี่เนียนน่ะครับ” ผมพยายามสรรหาคำพูดสวยหรูมาสนับสนุนหน้าที่อันทรงเกียรติ?ที่เพื่อนๆมอบหมายไว้ให้อย่างสุดความสามารถ




“แล้วเรื่องเรียนของคุณล่ะ  ไม่เรียนแล้วหรือไง  จะสอนแต่น้องๆใส่ใจแต่น้องๆ  แต่เรื่องของตัวเองกลับทิ้งไปน่ะหรอ คุณรักน้องมากกว่าตัวคุณเองหรอ?”  อื้อหือ  แรงชัดจัดเต็ม  คือถ้าเอาตามความคิดผม นอกจากได้เข้าถึงน้องแล้ว มันก็เป็นความสนุกเล็กๆน้อยๆที่จะได้เห็นน้องๆมันหน้าเหวอกันตอนที่รู้ความจริงก็แค่นั้น 




“คือเรื่องเรียนเพื่อนๆผมคอยตามงานให้น่ะครับ รับรองว่าไม่ทิ้งแน่นอน ^^” ยิ้มเข้าไว้ไอ้มิว  คิดไรไม่ออกก็ยิ้มสู้แม่งเลย




“เฮ้อออ ผมล่ะไม่เก็ทจริงๆ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ นี่มันชีวิตพวกคุณ น้องของพวกคุณ ดูแลกันให้ดีละกันล่ะ ใช้ชีวิตมหาลัยให้มันคุ้ม จบไปก็ไม่มีแล้วนะบรรยากาศแบบนี้  ยังไงผมก็ฝากน้องๆมันด้วยละกัน  แค่นี้ล่ะ คุณไปได้แล้ว”




“ครับอาจารย์! สวัสดีครับ” ผมไหว้ลาอาจารย์แล้วหันหลังเดินออกนอกห้องด้วยท่าทีเรียบร้อยที่สุดในชีวิต  แต่ในใจกูนี่อยากจะวิ่งสี่คูณร้อยออกไปโดยไว  ไอ้พวกเพื่อนเวรรรร  เห็นหน้ากูเด็กแบบนี้ สมองกูก็เด็กไม่ต่างกันหรอกโว้ยยยย




“มิว”  เดินพ้นประตูห้องออกมาก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยร้องเรียก  ผมหันไปตามเสียงก็เห็นคนตัวสูงยืนพิงประตูห้องรออยู่




“งืออ  พี่เนมมม~” ผมเดินไปหาพี่เนม พร้อมกับส่งเสียงอ้อนไปด้วย เพิ่งเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญมาครับ  ใจมันบางๆ  เลยต้องหาที่พึ่งสักหน่อย  อิอิ




“เป็นอะไรครับ  หืม?”  พี่เนมถามเสียงนุ่มแล้วลูบหัวผมเบาๆ พร้อมกับจ้องหน้าผมด้วยดวงตาหวานเยิ้ม  โอ้ยยยยย  ก็บอกว่าใจมันบาง!



“อยากกลับแล้วครับ” ผมพูด แล้วจูงมือพี่เนมออกมา วันนี้ปีหนึ่งมีเรียนแค่วิชาเดียวครับ  เพราะงั้นจบคลาสแล้วก็กลับได้เลย



“มิว!!” ผมหันหลังไปก็เจอกับเวย์ เพื่อนใหม่ของผม  เออ ลืมไปเลยมันบอกจะรอหน้าห้องนี่หว่า 



“โทษที กูลืมว่ามึงรออยู่ นี่มึงอยู่หอปะ หรือกลับบ้าน?”



“อยู่หอ” มันตอบโดยที่ตามองคนข้างหลังผม



“หอไหนวะ  โซนนอกมอปะ” ผมยังมีภารกิจจะต้องเข้าหาพวกน้องๆต่อ เลยกะว่าจะไปกินข้าวเย็นกับพวกน้องๆ เพื่อเพิ่มความสนิทสนมสักหน่อย



“อืม  แล้ว นี่...”  มันตอบผมแต่ยังมองคนข้างหลังเหมือนเดิม  แล้วสายตามันก็เลื่อนลงมามองมือผมที่จับมือพี่เนมอยู่



“อ่อ  นี่พี่เนม  แฟนกูเอง^^”  ผมตอบด้วยความภาคภูมิใจ เป็นไง แฟนกูหล่อใช่ปะ ฮ่าๆๆๆ



“…”  เวย์มันนิ่งไปเลย  เอ่อ  หรือว่ามันรับไม่ได้กับพวกรักเพศเดียวกันไรงี้  ผมไม่ทันระวังเพราะพวกเพื่อนๆผมมันไม่มีปัญหาอะไรกับเรื่องพวกนี้  ผมลืมไปเลยว่า...มันคงไม่ใช่กับทุกคนที่จะรับเรื่องนี้ได้



“เอ่อ..มึง  โอเคเปล่าวะ” ผมถามมันเสียงอ่อย โดยที่ไม่คิดจะปล่อยมือจากพี่เนม  ก็ถ้าให้ผมเลือกระหว่างสายตาคนนอกกับพี่เนม  ผมก็ต้องเลือกพี่เนมอยู่แล้ว



“ห๊ะ  โอเคดิวะ  ทำไมจะไม่โอเค” ไอ้เวย์เหมือนจะตื่นจากภวังค์ตอนที่ผมใช้น้ำเสียงเศร้าสร้อย  ก็แหม  ถึงผมจะแคร์พี่เนมมากกว่า  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่แคร์คนอื่นเลยนี่



“ก็เห็นมึงเงียบ  เลยนึกว่าไม่โอเคกับเรื่องพวกนี้” ผมพูดกับมันด้วยท่าทีร่าเริงเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้นึกรังเกียจอะไร



“กูโอเคเว้ย! เพื่อนกูเป็นแบบนี้เยอะแยะไป...” มันตอบผมด้วยท่าทางกวนตีนแบบเดิมทำเอาผมยิ้มออก



“…แต่เพื่อนกูแม่งไม่น่าจะโอเค”



“หืม? มึงพูดอะไรนะ กูไม่ค่อยได้ยิน” บ่นอะไรของมันวะ  เล่นมาลดเสียงเอาตรงท้ายประโยค กูปรับอารมณ์ไม่ทัน



“อ่อ  เปล่าๆ  ละนี่มึงจะกลับแล้วหรอ”



“อื้ม  กูง่วง อยากนอนก่อน เดี๋ยวเย็นๆไปกินข้าวกัน ชวนคนอื่นมาด้วยนะ คนเยอะๆสนุกดี”



“เออ เดี๋ยวกูชวนเพื่อนในสาขามา  อ้อ กูชวนไอ้นิวมาด้วยนะ มันคงอยากกินกับมึง” เออออ  มึงเอามาให้หมดนั่นแหละ  เอามาเยอะๆยิ่งดี  จะได้หงายเงิบกันทั้งแผงตอนกูเปิดตัว ฮ่าๆๆๆๆ



“ได้ดิ  เอาพวกเพื่อนนิวมาด้วยก็ได้นะ กูอยากรู้จักเยอะๆ”



“เออได้”



“งั้นกูไปก่อนนะ  ง่วงว่ะ บายยย”  ผมโบกมือลาไอ้เวย์  แล้วจูงมือพี่เนมเดินไปลานจอดรถ






“วันนี้มิวขอไปทานข้าวเย็นกับพวกนั้นได้ไหมครับ” ผมหันไปอ้อนพี่เนมระหว่างกำลังเดินออกจากตึก



“จะทิ้งพี่หรอครับตัวเล็ก” พี่เนมเอามืออีกข้างที่ไม่ได้จับกันไว้มายีหัวผมเบาๆ



“หื้อ ไม่ทิ้งครับ กินข้าวเสร็จก็กลับไปหาพี่เนมไง  แปปเดียวเองนะ นะ นะครับ” ผมหยุดเดินแล้วเอามือพี่เนมมากุมไว้ด้วยสองมือของตัวเอง  พร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปอ้อนอีกหน่อย 



“หึหึ อ้อนขนาดนี้ กะไม่ให้พี่ปฏิเสธได้เลยใช่ไหมครับ” พี่เนย์ยิ้มขำกับท่าทางของผมพร้อมกับเอามือมาขยี้หัวผมเบาๆ 



เป็นอันว่า  เรียบร้อย!!!  เรื่องอ้อนพี่เนมนี่ขอให้บอก  ไม่เกินความสามารถของไอ้มิวคนนี้หรอก  ฮ่าๆๆๆ



แล้วเราก็ออกเดินกันต่อ 



โดยที่มีสายตาคู่หนึ่งมองตามอยู่ตลอด.....



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เอามาต่อให้ครบร้อยเปอร์แล้วเด้ออออ

รักทุกคน :mew1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (24/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 24-11-2017 00:52:08
คิดถึงงงงงงงงง :sad4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (24/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-11-2017 15:54:38
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (24/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 26-11-2017 21:28:05
ใครแอบมอง?
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (24/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 27-11-2017 09:23:39
พี่เนมคนนิ่งของน้อง   คิดถึงค่ะ

ใครแอบมอง? แสดงตัวเดี๋ยวนี้
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่21--100%-- (24/11/17) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 29-11-2017 04:23:49
คิดถึง รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่22 (4/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 04-01-2018 17:02:31
Chapter 21



   “มิว  กลับไง ให้เราไปส่งปะ” ไอ้น้องนิว รุ่นน้องในคณะถามผม หลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จ



   “ไม่เป็นไร เดี๋ยวแฟนเรามารับ นิวกลับก่อนเลย” ผมยิ้มให้มันเล็กน้อย ใจดีจริงวุ้ยเด็กนี่ จัดไว้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆเวลาเรียกมาช่วยงานดีกว่า อิอิ



   “อ่า....แฟนหรอ  ให้เรารอเป็นเพื่อนไหม”



   “เห้ย ไม่เป็นไรๆ นิวพาไอ้เวย์กลับเหอะ มันง่วงแล้วมั้งน่ะ” ผมตอบนิวกลับไป น้องๆคนอื่นทยอยกลับกันไปหมดแล้วครับ เหลือพวกผมสามคนที่ยังยืนตกลงกันอยู่หน้าร้านเนี่ย  ไอ้เวย์ก็หาวได้หาวดี  เห็นแววว่าจะเป็นสายวาร์ปชัวร์ๆ



   “แฟนเรากินข้าวอยู่ร้านตรงข้ามเนี่ย เดี๋ยวเราเดินไปหาเอง กลับไปนอนกันได้แล้ว ไปๆ” ผมพูดย้ำอีกรอบเมื่อเห็นน้องมันมองมาอย่างเป็นห่วง เดินไปดันหลังมันให้ไปที่รถอีกที พูดยากพูดเย็นจริงๆเด็กพวกนี้ นี่แก่ป่านนี้แล้วหน้าผมยังไม่หายโง่อีกหรอ งงใจ



   วันนี้ผมมากินข้าวเย็นกับพวกน้องๆ ตีสนิทมันตามหน้าที่พี่เนียนที่ดี ไอ้เวย์ชวนน้องในภาคผมมาได้ห้าหกคน แล้วก็มีน้องภาคเต็กเพื่อนๆของนิวอีกสองสามคน กวนตีนกันดีทุกคน  กินข้าวไปก็กวนกันไปมา สรุปว่าวันนี้ก็ไม่มีเรื่องราวอะไรสำคัญ เพิ่งเปิดเทอมวันแรกด้วยแหละครับ มันเลยยังไม่เครียดกันเท่าไหร่ แต่เห็นมีแอบบ่นๆเรื่องงานรุ่น ที่ต้องทำสคัพเจอร์ส่งพวกพี่ๆกันอยู่ เรื่องการนัดวันเวลามาทำกันแหละครับ ปัญหาอื่นๆยังไม่มีให้เห็น เลยไม่น่ากังวลเท่าไหร่ ว่าแล้วก็ส่งเรื่องราวรายงานไปในกรุ๊ปไลน์ของรุ่น เพื่อบอกสถานการณ์ของน้องๆ







   “เงยหน้ามองทางบ้างก็ได้ครับ” ผมเงยหน้าจากจอโทรศัพท์มองตามเสียงเรียกของพี่เนม ที่เดินออกมารับผมที่หน้าร้าน พอแยกย้ายกับน้องๆผมก็เดินมาหาพี่เนมที่ทานอาหารอยู่ร้านตรงข้าม ก็อยากจะคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญนะครับที่พี่เนมกับเพื่อนๆมาทานอาหารร้านตรงข้ามพอดี แต่คนขี้หวงอย่างพี่เนม ผมว่ามันไม่มีคำว่าบังเอิญหรอก ตามมาเฝ้ากันชัดๆ




   “พี่มอส พี่เฟรม พี่ซัน หวัดดีครับ” ผมเดินตามพี่เนมเข้ามาในร้านแล้วสวัสดีพวกเพื่อนๆพี่เนมที่ทานข้าวไปทำงานไปด้วย....ครับ พวกพี่เขาแบกงานมาทำกันที่ร้านอาหารด้วย




   “งานเยอะขนาดนี้ ซื้อกลับไปทานที่หอไม่ดีกว่าหรอครับ เดี๋ยวงานก็เลอะหมด” กินข้าวไปทำงานไปนี่ผมทำบ่อยครับ แต่งานกับอาหารต้องวางคนละโต๊ะกันนะ ไม่งั้นไม่รอดหรอกครับ เป็นคนดวงซวย งานเลอะของกินอยู่ตลอด




   “เหอะ บอกแฟนมิวสิครับ พวกพี่นี่โดนลากมา จะไม่มาก็ไม่ได้ คำว่าเพื่อนมันค้ำคอ” พี่ซันเงยหน้ามาฟ้องผม ฮ่าๆๆ ผมว่าและ คนคิดเรื่องนี้คงไม่พ้นพี่เนมแน่นอน ถึงจะอนุญาตให้ผมมาทานข้าวกับคนอื่นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่แกจะไม่ตามมานี่ครับ นี่ยังดีนะที่ไม่ตามไปเฝ้าถึงในร้าน




   “แล้วงานพี่เนมเสร็จแล้วหรอครับถึงตามมาเฝ้ามิวได้เนี่ย” ผมถามคนที่นั่งข้างๆ เพราะไม่เห็นเขาเอางานมาทำเหมือนพวกเพื่อนคนอื่นๆ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของพี่ๆเขาครับ คงวุ่นวายกันเรื่องวิทยานิพนธ์กัน ต้องเสนอหัวข้อกันตั้งแต่เปิดเทอมเลยทีเดียว




   “เหลืออีกนิดหน่อยครับ เดี๋ยวพี่กลับไปทำ  กินกันเสร็จยังอะพวกมึง เสร็จแล้วก็กลับ” พี่เนมหันมาตอบผมก่อนจะหันไปถามพวกพี่คนอื่นๆ




   “แหม สัดเนม รีบเลยนะ” พี่มอสเงยหน้าจากงานมามองค้อนพี่เนมนิดๆ ก่อนจะเรียกเช็คบิล แล้วเก็บของกลับ









   “จริงๆไม่ต้องมารอรับมิวก็ได้นะ ทานข้าวหน้าซอยหอแค่นี้เอง มิวกลับเองได้” ผมบอกพี่เนมระหว่างที่เรากำลังขับรถกลับหอพี่เนม คืนนี้ผมนอนที่ห้องพี่เนมครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้กลับห้องตัวเองเลยด้วยซ้ำ จะกลับก็แค่ตอนทำงานเท่านั้น แต่ทำเสร็จก็ไปนอนหอพี่เนมอยู่ดี เรียกว่าพี่ยามที่หอนี่จะจำหน้าไม่ได้แล้วมั้งครับ




   “ขนาดมารอรับ ยังมีคนคิดจะไปส่งอยู่เลยนี่ครับ” แหนะ มีประชดประชัน




   “รู้ได้ยังไงครับว่าน้องเขาจะไปส่ง ได้ยินหรอ ร้านอยู่ห่างกันตั้งไกล” ผมแกล้งแซวพี่เนม ร้านอยู่คนละฝั่งซะขนาดนั้น จะได้ยินที่พวกผมคุยกันได้ยังไง




   “ก็คนอื่นเขากลับกันหมดแล้ว ยืนร่ำลากันอยู่ได้ ถ้าไม่ขอไปส่งนี่จะขออะไรครับ ขอเบอร์ขอไลน์เลยไหม” หึหึ ขี้ประชดจัง แก่แล้วแน่ๆ




   “เบอร์กับไลน์เขาขอกันเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนทานข้าวแล้วครับ ไม่ต้องรอให้ทานข้าวเสร็จก่อนหรอก” ผมแหย่คนตัวสูงเล่น ฮ่าๆๆ ขมวดคิ้วเป็นปมเลย คนอะไรหงุดหงิดง่ายจัง แต่ก็อย่างว่าแหละครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับผมนี่ พี่เนมก็ต้องคิดเยอะเป็นธรรมดา อิอิ




   “มิวล้อเล่นครับ  อย่าเพิ่งงอนนะ เดี๋ยวต้องทำงานต่ออีก อารมณ์ดีเข้าไว้ครับ ฮึบๆ” ผมยิ้มขำพี่เนม นี่ตั้งแต่ขับรถเข้ามา จนตอนนี้เดินขึ้นมาถึงห้องแล้วพี่แกยังไม่เลิกขมวดคิ้วเลยครับ




   “ล้อพี่เล่นแต่ว่าเบอร์กับไลน์นี่ให้ไปจริงๆใช่ไหมครับ” พี่เนมพูดแล้วหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งผมยืนงงอยู่กลางห้อง งานเข้าเฉยไอ้มิว อยู่ดีไม่ว่าดี




   “พี่เนม คือ....” พอพี่เนมอาบน้ำเสร็จ ผมก็ตั้งใจจะอธิบายให้ฟังทันที




   “ไปอาบน้ำก่อนครับ แล้วค่อยมาคุยกัน” อื้อหือ ท่าทางจะยาว  รีบอาบรีบมาเคลียร์ดีกว่า ผมชอบพี่เนมมุมอ้อนๆมากกว่ามุมโหดอย่างนี้นะ




   “พี่เนมมมมม...”




“ไปเช็ดผมก่อนครับ”  ผมรีบอาบแล้วรีบวิ่งออกมาหาพี่เนม แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวพี่แกก็พูดขัดไว้ก่อน โดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหน้าผมสักนิด




“พี่เนมโกรธมิวจริงๆหรอครับ” ผมวิ่งไปหยิบผ้าเช็ดผมมาคลุมหัวไว้ แล้ววิ่งกลับไปหาพี่เนมที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ พี่เนมหันมามองผมนิดหน่อยแล้วหันกลับไปทำงานต่อโดยที่ไม่ตอบอะไรเลย




“พี่เนมม~~  มิวขอโทษครับ ดีกันนะ” ผมพูดเสียงอ่อยใส่พี่เนมที่นั่งหันหลังให้อยู่ มือก็ดึงแขนเสื้อพี่เขา หันมาหน่อยสิครับ ฮืออออ




“....พี่เนม  หันมาหน่อยนะ” ผมว่าเสียงเศร้ากว่าเดิม  จะโกรธกันจริงๆหรอ คือผมก็ขอก่อนแล้วไง การเป็นพี่เนียนก็ต้องสนิทกับน้องๆอยู่แล้ว เรื่องเบอร์เรื่องไลน์นี่มันโคตรจะเบสิกเลยนะ ไหงมางอนกันเฉย




“พี่ทำงานอยู่ครับ” คนตัวสูงว่าเสียงเรียบ




“......โอเค งั้นมิวไปนอนนะ ฝันดี” ผมปล่อยมือจากแขนเสื้อคนตัวสูง แอบเคืองนิดหน่อย ไม่พอใจก็ไม่ยอมคุยกันให้จบๆ จะปล่อยไว้ก็ตามใจ แล้วแต่เลย เชอะ  ผมเดินไปนั่งเช็ดผมที่ปลายเตียง  พอผมเริ่มหมาดก็ลุกเอาผ้าไปตาก แล้วมานอนเลย ไม่มีอารมเช็ดให้แห้งหรอกครับ คนกำลังเซ็ง นอนแม่งเลย บรัยส์









“วันนี้มิวมีประชุมตอนเย็น พี่เนมกลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวมิวกลับกับเพื่อน” ผมหันไปบอกคนตัวสูง ตอนที่รถจอดหน้าตึกเรียนของผม ตั้งแต่เมื่อคืนเราก็ไม่ได้คุยเรื่องนั้นกันอีก ตื่นเช้ามาต่างคนก็ต่างทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมง้อก่อนแล้วนะเว้ยยย ขอโทษแล้วด้วย ไม่ยอมคุยเอง ก็แล้วแต่พี่เขาแล้วกันครับ




“ครับ” พี่เนมเงียบไปสักพัก ก่อนจะรับคำออกมา เหอะ ไม่หวงแล้วก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องคอยตามง้ออีก ผมขมวดคิ้วก่อนจะเปิดประตูรถลงมา ที่ขมวดคิ้วนี่ไม่ใช่อะไรหรอกนะ แดดมันแยงตาเฉยๆอะ เชื่อผมสิ





“เป็นอะไรครับตัวเล็ก หน้างี้เป็นตูดเชียว” ผมเดินเข้าตึกมาก็เจอไอ้เบกับไอ้ซี เบมันเอามือมาเชยคางผมขึ้นก่อนจะทำหน้าล้อเลียน ทำเป็นมาเป็นคู่ รำคาญ!!





“ตัวกูไปเล็กบนหน้ามึงหรอ ไม่ต้องมายุ่งเลย” ผมปัดมือมันออก เรียกมาได้ตัวลงตัวเล็ก ผมเดินหนีมันไปกดลิฟท์เพื่อขึ้นไปสตู ภาควิชาผมมีสตูประจำอยู่ที่ชั้น3ครับ นักศึกษาสามารถใช้ลิฟท์ได้ แต่ประตูลิฟท์เปิดช้ามากขอบอก เวลามาทำงานดึกๆแล้วต้องขึ้น-ลงลิฟท์ทีก็จะหลอนๆหน่อย แบบประตูเปิดไปนี่กูจะเจออะไรหรือเปล่าวะ




“โอ้โห มึงพูดอีกทีสิ กูจะอัดเสียงไปให้พี่เนมฟัง” มันเดินเข้าลิฟท์ตามผมมาโดยจูงมือไอ้ซีที่เอาแต่ขำกับท่าทางของผมเข้ามาด้วย ก่อนจะพูดอะไรที่ไม่ค่อยจะสร้างสรรค์เท่าไหร่ พูดเรื่องอื่นไม่ได้หรือไงวะ หงุดหงิดโว้ยยยย




“หุบปากไป” ผมหันไปมองค้อนมันก่อนจะหันกลับมาทำหน้าบึ้งใส่ประตูลิฟท์ที่ปิดสนิทตามเดิม




“มึงทะเลาะกับพี่เขาหรอ” ไอเบถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นกว่าเดิม ปกติผมกับพี่เนมก็มีงอนๆกันบ้างครับ ตามประสาคนขี้หวง จริงๆพี่เนมก็ไม่ได้หวงผมฝ่ายเดียวหรอก ผมก็หวงเขาเหมือนกัน แต่ทุกครั้งเราก็แค่งอนกันเล่นๆ มีครั้งนี้ละมั้งที่ไอ้เบมันเห็นว่าผมหงุดหงิดจริงจัง ยิ่งพูดถึงพี่เขาหน้าผมก็ยิ่งบูดบึ้ง




“ก็ใช่...มั้ง” ผมพูดเสร็จมันก็ทำหน้างง อย่าว่าแต่มึง งง เลยเบ กูก็งงเหมือนกันเนี่ย จะว่าทะเลาะกันก็ไม่ใช่ โกรธกันก็ไม่เชิง แต่ที่รู้ๆกูไม่แฮปปี้อะตอนนี้




“มั้งอะไรของมึง ไปคุยกันให้เคลียร์ไป รำคาญลูกตา” มันพูดเสร็จก็จูงมือไอ้ซีเดินออกจากลิฟท์ไปเมื่อถึงชั้นสาม คิดว่ากูไม่อยากเคลียร์หรือไง มึงไปบอกพี่มึงนู่น ให้รีบมาเคลียร์ให้เสร็จๆเลย หน้ากูจะได้หายเป็นตูดสักที




“เชี่ยมิว!  สตูมึงอยู่นู่น”  ไอ้เบหันมาด่าผมที่เดินใจลอยตามมันเข้าสตูปีสามมา สำหรับภาคผมสตูปีหนึ่งจะอยู่ห้องแรกเลยครับ ส่วนสตูปีอื่นๆก็จะถัดเข้ามาเรื่อยๆ ริมในสุดจะเป็นห้องน้ำ




“เออ เลยนิดเลยหน่อยไม่ได้หรือไง” ผมบ่นไอ้เบนิดหน่อย ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปสตูปีหนึ่ง โวะ คนอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากจะนงจะเนียนอะไรแล้วเนี่ย อยากกลับไปนอนโว้ยยยยยย




“อ้าวไอ้มิว เป็นไรมึง หน้างี้เป็นตูดเชียว” ผมเดินมานั่งที่โต๊ะข้างไอ้เวย์มัน ปากมึงกับไอ้เบนี่พอกันเลยนะ เสือกพอกัน




“กูง่วง” ผมตอบแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที ไม่นานอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามา คาบนี้เป็นบรรยายครับ ไม่มีงานให้ทำ ผมเลยนอนยาวแม่งเลย เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับครับ รู้นะว่าพี่เนมนอนกอดผมทั้งคืนอะ ตอนเช้าทำมาเป็นตื่นก่อน ไม่รอให้ผมตื่นแล้วจุ๊บตอนเช้าเหมือนทุกที คิดว่าผมสนหรือไง บอกเลยว่า คิดถูก!! เซ็งโว้ยยยยย




Mewtation :: กูขี้เกียจเข้าประชุม กลับก่อนได้ปะ


เย็นนี้พวกเพื่อนๆผมนัดประชุมกับน้องๆครับ มีแจ้งเรื่องระเบียบ เรื่องข่าวกิจกรรมต่างๆ เรื่อยเปื่อยแหละ แต่วันนี้ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้นอะ และวันนี้ก็ไม่มีข้อความจากคนตัวสูงเลยแม้แต่ข้อความเดียว เหอะ ปกติไลน์หาทุกครึ่งชั่วโมง วันนี้เน็ตหมดหรือยังไง หงุดหงิดชะมัด



BaeS :: ไม่ได้

BaeS :: พวกกูให้มึงไปเนียนชวนน้องๆทำกิจกรรมนะเว้ย นี่มึงจะโดดซะเอง ตลกละ



Mewtation :: ก็กูเบื่อ อยากกลับแล้ว



BaeS :: ยังไม่ได้คุยกับพี่เนมเขาหรือไง


ทำมาเป็นรู้ดีนะไอ้บ้านี่



Mewtation :: เออ ยังไม่ได้คุย

Mewtation :: เขาไม่อยากคุยมั้ง



BaeS :: อย่ามาเยอะไอ้มิว เขาไม่อยากคุยแต่มึงอยากคุยหนิ

BaeS :: ทักก่อนไม่ตาย เชื่อกู



ไม่เกี่ยวกับทักก่อนทักหลังหรอกเว้ย  แต่คนที่เคยทักกันเป็นประจำแล้วมาหายไปเนี่ย ทำกูจะตาย แงงงงงง



BaeS :: เลิกแล้วพาน้องลงมาประชุมด้วย พวกกูรออยู่ข้างล่างละ


ปกติพวกผมจะประชุมกันตรงชั้น1ของอาคารเรียนครับ นั่งกันตรงประตูเลย ถ้าจะกลับยังไงก็ต้องผ่านพวกมัน ไม่รอดพ้นสายตามารแน่นอน





Tarnin :: คืนนี้เจอกันเตี้ย

หืมมม ไอ้แทน เพื่อนสนิทของผมอีกคนที่เรียนอยู่คนละมหาลัย ทักมาตอนที่พวกผมประชุมกันเสร็จพอดี



   “ไอ้! เอ้ย พี่เบ!!” เกือบแล้วไหมล่ะกู ไอ้เวย์งี้หันขวับมามองทันทีที่ผมส่งเสียงออกมา คือคนอื่นเขากำลังทยอยกันกลับอยู่ดีๆผมเสือกตะโกนขึ้นมาซะงั้น  ไอ้เบนี่หันมาขำผมใหญ่ อย่าให้ถึงทีกูมั่งนะมึง




   “มีอะไรหรอครับน้องมิว” ไอ้เบเดินเข้ามาหาผมโดยมีไอ้ซีเดินตามหลังมาด้วย มันสองคนกลับด้วยกันครับ ตั้งแต่เปิดตัวว่าเป็นแฟนกันนี่ตัวติดกันตลอด ตอนเบมันโทรมาบอกว่าคบกับซีนี่ผมยัง งงๆ เอ๋อๆ ถามมันว่าซีไหนอยู่เลย ก็ไม่คิดว่าคนที่กัดกันแทบทุกเวลามันจะมารักกันได้  ส่วนเพื่อนคนอื่นๆพอรู้นี่แซวยับเลย เล่นเอาไอ้ซีอายม้วนไม่พูดไม่จาไปเป็นอาทิตย์




   “ไอ้ เอ่อ พี่แทนบอกว่าเจอกันคืนนี้” ผมที่ตื่นเต้นที่เพื่อนจะมา เลยตะโกนเรียกไอ้เบทันที ลืมคิดไปเลยว่าค่อยบอกมันในไลน์ก็ได้ แต่ไหนๆเรียกมันมาแล้วก็บอกเลยละกัน ไอ้เวย์ก็ยืนมองพวกผมคุยกันงงๆ มันคงสงสัยว่าผมรู้จักกับรุ่นพี่ได้ยังไง แต่ช่างมันครับ ปล่อยมันสงสัยไป




   “หึหึ พี่แทนหรอครับ มันบอกผมแล้วครับ เดี๋ยวไปรับที่หอละกัน ไปละ” มันล้อเลียนผม เรื่องที่ผมเรียกไอ้แทนว่าพี่ คุยเสร็จมันก็รีบกลับทันที บอกว่าไอ้ซีหิวข้าว เหอะ รำคาญคู่รักพวกนี้ รักกันมากไหมห๊ะ เห็นละ’รมณ์บ่จอย




   “มึงรู้จักพี่เบด้วยหรอวะ เหมือนจะสนิทเลยนะนั่น มีจะไปรับที่หอด้วย” พอไอ้เบไปปุ๊บไอ้เวย์ก็ถามปั๊บเลย เรื่องเสือกนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆนะครับ




   “เออ ก็พี่ที่รู้จักแหละ สนิทกันตั้งนานแล้ว” ผมตอบมันไป มันก็พยักหน้าหงึกๆไม่ได้ติดใจอะไร แล้วเราก็พากันเดินออกมาที่ลานจอดรถหน้าตึก




   “กลับไง ต้องไปส่งปะ” ไอ้เวย์วาดขาขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์มัน ก่อนจะสวมหมวกกันน็อคแล้วหันมาถามผม มึงไม่ถามตอนขี่รถออกไปแล้วเลยล่ะ ถ้าจะเตรียมพร้อมขนาดนี้




   “กลับกับเพื่อน เชิญมึงตามสบายเลยครับ”




   “เพื่อนหรือแฟนเอาดีๆ” ปากอยู่ไม่สุขจริงๆนะมึงเนี่ย ขอให้ได้แซว แต่ขอโทษที วันนี้ไม่มีแฟนมารับโว้ย




   “เพื่อนเว้ย” ผมตอบกลับแบบตัดรำคาญ ขี้เกียจต่อปากต่อคำ เดี๋ยวจะยาว



   “เพื่อนคนไหนอะ กูรู้จักปะ”




   “มึงไม่รู้จักหรอก ไปๆสักที กูหิวข้าวและเนี่ย” ถามอยู่นั่น มองดูก็รู้ว่าตั้งใจกวนให้ผมได้กลับช้าๆ กูหิวข้าวเนี่ย




   “ฮ่าๆๆ  เออๆ ไปละ เจอกัน” ว่าเสร็จมันก็บิดรถออกไป ส่วนผมก็เดินไปตึกโยธา  ไม่ได้จะไปหาแฟนหรอกนะ ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้ไม่กลับกับแฟนอะ








Mewtation :: กูอยู่หน้าตึกละ เลิกยัง


MuNich :: เลิกแล้วๆ กำลังลงไปครับ


วันนี้ผมนัดไอ้นิคไปทานข้าว หลังจากที่ติดมันไว้เมื่อเทอมที่แล้ว  ไม่ค่อยจะนานเท่าไหร่หรอกเนอะ ฮ่าๆๆ  ก็ปกติมีคนคอยหวงนี่ครับ แต่วันนี้ม๊ายมี~  แล้ววันนี้มันทักมาทวงพอดี ผมเลยตอบตกลงซะเลย ตอนแรกมันจะไปรับที่ตึก แต่ผมบอกว่าจะมาหามันเอง ที่มาถึงนี่ไม่ได้หวังว่าจะมาเจอใครหรอกนะ จริงจริ๊งงง




“มิวอยากกินไรอะ” พอขับรถออกมาได้สักพักไอ้นิคก็ถามผมขึ้นมา




“อะไรก็ได้อะ แล้วแต่มึงเลย” ผมขี้เกียจคิดตอนนี้  ไม่มีอารมณ์ จนป่านนี้พี่เนมยังไม่ทักมาตามผมเลย  นี่มันหกโมงกว่าแล้วนะเว้ย จะให้โกรธจริงๆใช่ไหม




“อะก็ได้ งั้นกูแดกยาวๆเลยนะ ชาบู บิงซู กินเค้ก แล้วต่อด้วยร้านนมดีปะ” ไอ้นิคตอบกวนตีนผม




“ถ้าจะแดกขนาดนั้นมึงไปคนเดียวเลยไป” ผมหันไปโวยวายใส่มัน แดกขนาดนั้นได้ตายกันพอดี




“ฮ่าๆๆ ก็มึงบอกว่าอะไรก็ได้อะ”




“อะไรก็ได้ แบบง่ายๆเร็วๆอะ”




“ทำไม ไม่อยากอยู่กับกูนานๆ ว่างั้น?” ไอ้นิคหันมาทำหน้ากวนตีนใส่ผม




“เปล่า เดี๋ยวคืนนี้กูจะออกไปกินเหล้ากับเพื่อน กินข้าวเยอะๆเดี๋ยวได้อ้วกกันพอดี” คืนนี้พวกไอ้แทนกับไอ้คินจะมา พวกเพื่อนๆผมที่นี่รอรับกันเต็มที่ พวกเพื่อนในคณะเคยเจอมันสองคนมาสองสามครั้งแล้วครับ ตอนสมัยปีหนึ่ง แต่พอขึ้นปีสองเห็นบอกยุ่งๆเลยไม่ได้มากัน พอขึ้นปีสามนี่เสือกว่างมาซะงั้น แต่นี่ก็เพิ่งเปิดเทอมแหละครับ ไม่น่าจะมีงานอะไรมากมายมั้ง มันเลยมากัน




“ออกไปกินเหล้านี่แฟนไม่ว่าหรอ” เรื่องที่ผมคบกับพี่เนมนี่ก็ไม่ได้ประกาศเป็นเรื่องเป็นราวอะไร แต่คนรอบๆตัวส่วนใหญ่ก็รู้กันอยู่แล้วครับ ไอ้นิคมันเป็นรุ่นน้องพี่เนม จะรู้ก็ไม่แปลก แล้วก็ไม่แปลกอีกเหมือนกันถ้าจะรู้ว่าพี่เนมหวงผมขนาดไหน




“วันนี้ไม่ว่า ไปได้” พูดแล้วก็เซ็ง ทุกคนจะพูดถึงแต่แฟนผมทำไมครับ คนโดนพูดถึงเขายังไม่ติดต่อมาเลยสักนิด




“จริงดิ! งั้นกูไปด้วยได้ปะ” ไอ้นิคจอดรถในโซนร้านอาหารเสร็จก็หันมาขออนุญาตผม น้ำเสียงมึงนี่จะตื่นเต้นดีใจอะไรหนักหนา อยากกินเหล้าขนาดนั้นเลยหรือไง แต่ก็อย่างว่าแหละครับ มันอยู่วิศวะหนิ สายแดกพอๆกับพวกผม




“แดกกับพวกคณะกูนะ มึงโอเคปะล่ะ โอเคก็ไป” คณะผมค่อนข้างมีชื่อเสียงเรื่องความเรื้อนน่ะครับ เมาก็เรื้อน ไม่เมาก็เรื้อน ฮ่าๆๆ บางคนเขาก็ไม่ชอบไง ผมเลยต้องเตือนมันไว้ก่อน




“กูโอเคๆ นี่พวกเพื่อนกูแม่งนัดไปกับสาวกันคืนนี้ กูเบื่อๆอะ ไปกินกับมึงดีกว่า”




“โอ้โห มีเบื่อด้วยหวะ ฮอตมากหรอครับคุณ” ผมกับนิคลงจากรถแล้วพากันเดินเข้าไปในโซนร้านอาหาร หน้าซอยหอพวกผมที่เก่าที่เดิมเนี่ยแหละ ขี้เกียจไปที่อื่นครับ กินเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าหอได้เลย ดีจะตาย




“เจอกันคืนนี้นะเว้ย เดี๋ยวกูโทรหา” ไอ้นิคบอกผมหลังจากที่เรากินข้าวกันเสร็จ วันนี้ก็กินอะไรง่ายๆเร็วๆแบบพวกอาหารตามสั่งนี่แหละครับ




“เออ ไม่ต้องแต่งตัวดีมากนะเว้ย เกรงใจคณะกูด้วย” ผมพูดดักมันไว้ก่อน ปกติคนเขาไปเที่ยวตามร้านเหล้าก็แต่งตัวจัดเต็มกันแทบทุกคณะ มีคณะผมนี่แหละครับ เสื้อยืด ขาสั้น หนีบแตะ บางคนก็ชุดนอนมันนั่นแหละ ชิวๆ แดกเสร็จก็นอนเลย ฮ่าๆๆ




“ฮ่าๆๆ ครับๆ ผมจะพยายามแต่งตัวให้หล่อน้อยที่สุดนะครับ” ไอ้นิคหัวเราะจนตาหยี แล้วยกมือมาขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว เห้ย นี่กูจริงจังนะเว้ย แต่งเต็มไปแดกกับพวกกูยังไงก็ดับอยู่ดีอะ ความเซอร์ของพวกผมมันบดบังหมด ฮ่าๆๆ




“มิว!” ยังไม่ทันที่ผมจะปัดมือมันออกจากหัว เสียงเรียบนิ่งจากคนตัวสูงที่ยืนอยู่หน้าร้านก็ดังขึ้น





งานเข้าอีกละกู




...

เพิ่งว่างเอามาลง :hao5: คิดถึงกันม๊ายยยยย

ดูวันที่ที่ลงไว้ตอนแรก นี่ก็อยู่มาเป็นปีแล้วนะเนี่ย ฮ่าๆๆ  :katai2-1:

เนื่องในโอกาสดี  เอาพีเนมกับน้องมิว มาสวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้เป็นปีที่ดีของทุกคน :mc4: :mc4: :mc4:

ช่วง2-3วันนี้ จะเอามาลงอีกเรื่อยๆ ก่อนจะเปิดเทอม รอไม่นานแน่นอนค่ะรอบนี้ ฝากติดตามกันด้วยน้าาา


ปล. เดี๋ยวคืนนี้จะแวะมาลงอีกนะคะ รักทุกคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่22 (4/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-01-2018 18:48:44
งานเข้าละ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 05-01-2018 04:22:41
Chapter 23





   “มิว!” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียง งานเข้าอีกละไอ้มิว  ผมปัดมือไอ้นิคออกจากหัว ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวสูงข้างหน้า



   “แทน มึงมาได้ไงวะ นึกว่าจะมามืดๆซะอีก” ผมเงยหน้าคุยกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน ไอ้แทนมันเรียนอยู่ม.เอกชนแถวนี้แหละครับ แต่ไม่ค่อยได้มาหาผมเท่าไหร่ ถึงจะไม่ได้มาแต่พวกเราก็คุยกันอยู่ตลอด



   “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ไอ้ตัวขาวนี่ใคร กูว่าแฟนมึงหล่อกว่านี้เยอะนะ” ไอ้แทนพูดกับผมแต่ตามองไปที่ไอ้นิค หลังจากที่ผมตกลงคบกับพี่เนมผมก็บอกเพื่อนๆในกลุ่มทันทีครับ ถ้าไม่บอกแล้วปล่อยให้มันรู้เองทีหลังนี่น่าจะไม่ตายดี  แทนกับคินยังไม่เคยเจอพี่เนมหรอกนะครับ แต่พวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวก็ไปโม้เอาไว้แล้วว่าแฟนผมหล่อมาก พร้อมปารูปไปให้ดูเสร็จสรรพโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรสักอย่าง



   “ก็เพื่อนไง กูจะกลับหอละ ไปกันเหอะ” ผมดึงมือไอ้แทนให้เดินตามมา แต่แม่งเสือกยืนนิ่งไม่ยอมขยับซะงั้น ไอ้แทนมันเป็นคนที่หวงผมมากที่สุดในกลุ่มแล้วครับ ผมเลยอยากจะลากมันออกจากตรงนี้ก่อนที่จะมีเรื่องกัน แค่เรื่องไปเป็นแฟนกับพี่เนมนี่มันก็คาดโทษเอาไว้อยู่ แต่พอพวกนั้นมันบอกว่าพี่เนมดูแลผมดี มันเลยปล่อยไปก่อน



   “หน้ามึงนี่ดูไม่น่าไว้ใจเลยนะ คิดแค่เพื่อนแน่ปะ” มันพูดหาเรื่องไอ้นิคที่ยืนจ้องหน้ามันอยู่เหมือนกัน



   “ไม่แน่หวะ แล้วมึงอะ เป็นแค่เพื่อนเหมือนกันใช่ปะ” ไอ้นิคตอบด้วยน้ำเสียงกวนตีน มึงอย่าเพิ่งกวนมันตอนนี้จะได้หรือไม่ แค่นี้งานกูก็งอกเงยเป็นถั่วเขียวในทิชชู่เปียกแล้วววววว



“หืม แค่เพื่อนหรือเปล่านี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน” มันพูดแล้วก็เอามือมาโอบไหล่ผมดึงเข้าไปชิดตัว  บทประจำของมันแหละครับ ถ้ามีคนมาจีบผมเมื่อไหร่ไอ้แทนจะทำตัวราวกับเป็นผัวผมทุกที แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว มันเลยหันไปเล่นบทชู้แทน เจริญจริงๆ



“พอๆๆ เลิกเถียงกันได้ละ กูจะไปอาบน้ำ มึงก็เจอกันที่ร้านละกันนะนิค ส่วนมึง มากับกู” ผมตัดบทพวกมัน ไม่มีอารมณ์จะฟังมันเถียงกัน รีบกลับไปอาบน้ำแล้วออกไปกินเหล้าดีกว่า ว่าแต่ผมต้องขอพี่เนมก่อนไหมอะ แฟนผมนี่ก็เงียบจริงเงียบจัง สรุปเราโกรธกันอยู่จริงๆหรอวะ



“มึงนี่ตัวล่อผู้ชายไม่เปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ  แฟนมึงไม่ปวดหัวตายหรอวะ” ผมพาไอ้แทนมานั่งรอผมอาบน้ำเปลี่ยนชุด ที่หอตัวเอง พอมันหาที่นั่งได้ปากมันก็ทำงานทันที



“ไม่รู้ เขาคงจะปวดหัวละมั้ง เลยเลิกยุ่งกับกูไปละ” ผมเปิดตู้เสื้อผ้าหาชุดใส่ วันนี้ใส่ขาสั้นหนีบแตะก็ได้แหละเนอะ  ปกติมีคนห้ามใส่ขาสั้นกับเสื้อบางๆ  แต่ก็นั่นแหละฮะ ผมจะย้ำเป็นรอบที่ล้านว่า ‘วันนี้ไม่มี!!!’



“หึหึ  ยังไม่คืนดีกับเขาอีกหรือไง เห็นไอ้เบบอกว่าหน้างี้เป็นตูดทั้งวัน” ไอ้พวกนี้ก็ประสานงานกันไวเหลือเกิน ขนาดอยู่กันคนละมหาลัยนะ ถ้ามันอยู่ด้วยกันครบทั้งแก๊งค์มีหวังผมโดนรุมเละแน่นอน



“เอาจริงนี่กูยังงงอยู่เลย ว่ากูกับเขาทะเลาะกันหรอวะ” ผมพูดเซ็งๆแล้วนั่งลงบนเตียงข้างมัน



“เอ้า มึงไม่รู้แล้วใครจะไปรู้วะ รีบๆไปอาบน้ำไป แล้วค่อยออกมาคุยกัน”



“เออๆๆ เดี๋ยวกูรีบอาบ” ผมเดินเข้าไปอาบน้ำ ระหว่างอาบก็คิดทบทวนเรื่องพี่เนมไปด้วย คือเขาโกรธที่ผมให้เบอร์คนอื่นหรอ หรือโกรธที่ไปกินข้าวกับคนอื่น หรือโกรธที่วันนี้ผมขอกลับเอง คือตอนแรกผมก็พูดไปงั้นแหละ อยากให้เขาห้าม อยากให้เขาบอกว่าไม่ให้ไปกับเพื่อน เดี๋ยวจะมารับเองเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่มันไม่เป็นไปตามนั้นไง ผมนี่โคตรเซ็ง









“แล้วมึงมาโผล่นี่ได้ไงวะแทน นึกว่าจะไปเจอที่ร้านเลยซะอีก” ผมเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ถามไอ้แทนที่นอนคว่ำหน้ากดโทรศัพท์อยู่บนเตียง



“ก็กูเลิกเรียนไวเลยโทรหาไอ้เบมัน เห็นว่ามึงเล่นบทพี่เนียนอยู่เลยไม่ได้โทรหามึง นี่ก็ไปกินข้าวกับไอ้เบไอ้ซีมา มันบอกว่ามึงกลับมาแล้วกูเลยจะเดินไปหาที่หอสักหน่อย เสือกเจอมึงยืนเอ๋อให้ชู้เล่นหัวอยู่พอดี เลยเข้าไปทักทายนิดหน่อย” นั่นปากหรอไอ้สัด กูนึกว่ากรรไกร



“ชู้บ้านมึงสิ แล้วแบบนั้นเขาไม่เรียกว่าทักทายหรอกนะ เรียกว่าหาเรื่องมากกว่า” ผมตบหัวมันไปทีนึง โทษฐานที่กวนตีนคนอื่นเขาไปทั่ว



   “ดูจากสายตาที่มันมองมึงแล้ว ไอ้ขาวนั่นเหยื่อมึงชัวร์ มาติดกับดักรักสวาทของมึงนี่ผัวมึงรู้หรือยังครับ” มือก็กดโทรศัพท์ยิกๆ แต่ปากนี่กัดกูซะยับเลยนะเพื่อนแทน




   “มึงอย่ามาเพิ่มงานให้กู แค่นี้ก็งอนกันจนไม่รู้จะง้อยังไงแล้ว และนี่จะคุยกับใครนักหนาห๊ะ มือนี่รัวยิกๆเลยนะ” ผมชะโงกหน้าไปดูโทรศัพท์มัน ก็เห็นเป็นกลุ่มไลน์ของพวกไอ้เบ ไอ้ฟาร์ ไอ้คิน ไอ้ทิว ที่รู้ว่ามีใครบ้างก็เพราะหน้าต่างสนทนามันเลื่อนขึ้นเรื่อยๆ จากการที่พวกมันคุยกันอย่างจริงจัง และดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับผม



   “ชื่อกลุ่มนี่เปลี่ยนสักทีได้ไหม กูสงสารตัวเองยังไงก็ไม่รู้” พวกมันมีกรุ๊ปไลน์อีกอัน ที่มีสมาชิกครบทุกคนยกเว้นผม!  โดยใช้ชื่อกลุ่มว่า “องครักษ์พิทักษ์ชายน้อย”  ไอ้กลุ่มเวรนี่มันตั้งขึ้นมาตอนช่วงม.ปลาย โดยให้เหตุผลที่ต้องแยกออกมาคุยกันอีกกลุ่มเพื่อไม่ให้ผมรำคาญ เนื่องจากไลน์มันจะเด้งแทบทุกเวลา และอีกเหตุผลหนึ่งคือผมจะได้ไม่ล่วงรู้แผนการในการกำจัดคนที่เข้าหาผมให้ปวดหัวเล่น หรือจริงๆแล้วก็คือ พวกมันกลัวผมจะขัดขวางนั่นแหละ




   “ไม่เปลี่ยนอะ ชื่อนี้แหละเท่สุดละ กูชอบ” ตามสบายเลยครับคุณแทน




   “แล้วมึงคุยเรื่องอะไรกันอีก มันมีไรให้คุยวะ” ผมยืดตัวขึ้นมานั่งเช็ดผมต่อ อ่านไม่ทันครับ แชทเลื่อนไวเกิน แต่ดูเหมือนมันกำลังหาตัวใครสักคนนะ เห็นพิมพ์ว่าใช่คนนี้ไหม คนนั้นไหม



   “ไม่ต้องรู้หรอกมึงอะ เป็นแค่ชายน้อย สมองก็น้อย จะคิดอะไรให้มันเยอะแยะ”



   “ไอ้สัด!!  แล้วนี่จะไปกันกี่โมง  ไอ้คินอยู่ไหนอะ มายัง”  ผมถามถึงเพื่อนในกลุ่มอีกคน เรียนที่เดียวกันแท้ๆเสือกไม่มาพร้อมกันอีก บ้าบอ




   “มันมีทำแลปกูขี้เกียจรอ ป่านนี้เลิกแล้วมั้ง น่าจะไปหาพวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเจอกันที่ร้าน” พวกไอ้ฟาร์ไอ้ทิวนี่อยู่หอโซนเดียวกันครับ  โซนถนนหน้ามอนู่น  ส่วนผมกับไอ้เบอยู่โซนหลังมอ




   “ไอ้เบบอกสามทุ่มค่อยออก มึงบอกแฟนมึงยังอะ” ไอ้แทนหันมาถามผมก่อนจะหันกลับไปคุยไลน์ต่อ




   “มึงว่าเขาโกรธกูอยู่ปะ แล้วกูควรบอกเขาไหมอะ” ผมทำเสียงงอแงใส่มัน จนมันต้องลุกขึ้นมานั่งคุยกับผม




   “แล้วมึงคิดว่าถ้าเขาจะไปไหนมาไหน เขาควรจะบอกมึงปะ”



   
   “ก็ต้องบอกดิ  แต่นี่พี่เขาโกรธกูอยู่ไง วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ทักกูมาเลยเนี่ย” พูดแล้วก็เศร้า จะร้องไห้แล้วนะเว้ย ไอ้พี่เนมบ้า!


   “แล้วถ้ามึงเป็นฝ่ายโกรธเขา มึงอยากรู้ปะว่าเขาจะไปไหน”




   “ก็ยังอยากรู้เหมือนเดิมอะ  และตอนนี้กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาไปไหน” คิดถึงจะแย่อยู่แล้วโว้ยยยยยย




   “อยากรู้ก็ถาม มีปากไว้ทำไม กูนอนรอละ สามทุ่มแล้วปลุกด้วย บาย” มันขยี้หัวผมก่อนจะทิ้งตัวลงนอน แทนเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้ผมได้เสมอ มันจะแนะนำด้วยวิธีของมัน วิธีที่ให้ผมตอบคำถามของตัวเองให้ได้ แล้วทำตามใจตัวเองซะ ถึงแม้มันจะปากหมาไปหน่อย และชอบให้ผมใช้สมองคิดตามอยู่เรื่อย แต่ผมก็พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการปรึกษามันทุกครั้ง






   “พี่เนม...” ผมกรอกเสียงลงไปเมื่ออีกฝ่ายกดรับ เวลานี้ต้องโทรอย่างเดียวครับ ไลน์มันไม่ทันใจ อยากได้ยินเสียงอะ คิดถึงงงง



   “ครับ” พี่เนมตอบรับกลับมา  หูย แค่ได้ยินเสียงก็อยากเห็นหน้าเลยอะ  อยากกอด อยากเอามือมาลูบหัว โอ้ยยย



   “พี่เนมอยู่ไหนครับ”




   “อยู่หอครับ มิวอยู่ไหน” ถ้าไม่ได้คิดไปเอง ผมว่าพี่เนมก็คิดถึงผมเหมือนกัน ดูได้จากการรีบถามผมกลับทันทีที่ตอบเสร็จ



   “อยู่หอมิวครับ วันนี้เพื่อนมิวมา เลยไม่ได้กลับไปห้องพี่เนม พี่เนมทานข้าวหรือยังครับ” ไม่ได้คุยกันวันเดียวทำไมมันคิดถึงได้ขนาดนี้ก็ไม่รู้เนอะ ผมคุยไปก็หยิบหมอนขึ้นมากอดเอาไว้ด้วย คิดถึงพี่เนมจัง



   “ทานแล้วครับ มิวก็ทานแล้วใช่ไหม มิวจะกลับมากี่โมง ให้พี่ไปรับไหม” พี่เนมตอบกลับมายาวเหยียด ทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว มันก็อย่างที่เพื่อนผมบอกแหละครับ ทักก่อนคุยก่อน ไม่ได้เสียหายอะไร และผมก็คิดว่ามันดีมากซะอีก อยากคุยก็ได้คุย ไม่ต้องทนหงุดหงิด ทนคิดถึงกันนานๆ



   “วันนี้เพื่อนมิวจะไปกินเหล้ากันน่ะครับ มิวก็เลยจะโทรมาขอพี่เนมก่อน พี่เนมให้มิวไปนะ วันนี้เพื่อนที่โรงเรียนก็มา” ผมอ้อนพี่เนมด้วยน้ำเสียงสดใสกว่าเดิม ก็คนมันแฮปปี้แล้วนี่ครับ จะมัวทำเสียงเศร้าอยู่ทำไม




   “ไปร้านไหนครับ แล้วกลับกี่โมง เดี๋ยวพี่ไปรอรับ” งืออออ  น่ารักอะ ตามใจผมด้วย อิอิ




   “ไปบาร์เล่ครับ  พี่เนมว่างไหม ไปด้วยกันนะ มิวอยากให้รู้จักกับเพื่อนมิว” ไอ้แทนกับไอ้คินจะได้รู้สักทีว่าแฟนผมตัวจริงน่ะ หล่อกว่าในรูปตั้งเยอะ ฮ่าๆๆ



   “ไปครับ!  เดี๋ยวพี่ไปรับเราที่หอนะ” พี่เนมตอบด้วยน้ำเสียงที่ติดจะดีใจหน่อยๆ อะไรของเขานะ แต่ช่างมันเถอะ พี่เขาแฮปปี้ ผมก็แฮปปี้เหมือนกัน



   “ไม่ต้องมารับก็ได้ครับ เพื่อนมิวเอารถมาเหมือนกัน เดี๋ยวสามทุ่มมิวจะออกจากหอและ ไว้เจอกันที่ร้านนะครับ”



   “ก็ได้ครับ คืนนี้มิวจะกลับมานอนที่ห้องกับพี่ใช่ไหม” หึหึ เสียงอ้อนๆนั่นมันอะไรกันครับ อย่าน่ารักไปมากกว่านี้ได้ไหม



   “ครับ” ถ้าไอ้แทนตื่นมาเห็นผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียว มันต้องหาว่าผมเป็นบ้าแน่ๆ



   “โอเคครับตัวเล็ก ไว้เจอกันที่ร้านนะ”



   “ครับ เจอกัน” อาการผมนี่ท่าจะหนักแล้วนะครับ วางสายจากพี่เนมแล้วยังนั่งยิ้มอยู่เลย เฮ้อ~~ ได้คุยกันแล้วมันดีแบบนี้เองสินะ










   พอสามทุ่มผมก็ปลุกไอ้แทนให้ไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็ไลน์บอกไอ้นิคว่ากำลังจะออกจากหอแล้ว พอเสร็จธุระ ผมกับมันก็เดินมาขึ้นรถมันที่จอดไว้หน้าหอผม มันบอกว่าเอามาจอดทิ้งไว้ก่อนจะเดินไปกินข้าว หอผมมันอยู่ติดกับโซนอาหารน่ะครับ เดินไปสะดวกดี



   “มิวมานี่” พอหาที่จอดรถได้ แทนก็กวักมือเรียกผมเข้าไปหา แล้วจับมือผมข้ามถนน เพราะเราจอดรถไว้ฝั่งตรงข้ามร้าน ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆไปได้



   “มิวครับ” ข้ามถนนมาก็เจอพี่เนมที่หน้าร้านพอดี พี่เนมก้มมองมือผมที่จับกับมือแทนอยู่ ก่อนจะขมวดคิ้วเบาๆ



   “พี่เนม  นี่ไอ้แทนที่มิวเคยเล่าให้ฟัง ส่วนไอ้แทน นี่แฟนกู” ผมเดินเข้าไปเกาะแขนพี่เนม แล้วแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกัน  พี่เนมคลายคิ้วที่ขมวดกันออก ก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ไอ้แทน ผมเล่าเรื่องแทนกับคินให้พี่เนมฟังบ้างแล้ว เพราะพี่เขาเห็นผมคุยไลน์กับพวกมันบ่อยๆ แล้วก็เล่าให้ฟังด้วยว่าพวกมันเป็นเหล่าองครักษ์ของผม



   “แล้วทำไมเราใส่ขาสั้นมาครับ พี่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ใส่มาข้างนอก” อ้าว ผมลืมไปเลยว่าใส่ขาสั้นมา หันไปยิ้มแห้งๆให้คนตัวสูงนิดนึงก่อนจะรีบเข้าไปอ้อน  กลัวจะได้โกรธกันอีกรอบน่ะสิครับ แบบนั้นผมไม่เอาด้วยแล้ว



   “คือ...มิวลืมเปลี่ยนกางเกงอะ ไม่โกรธเนอะ ยังไงวันนี้พี่เนมก็มาด้วย ไม่เป็นไรหรอก” คนตัวสูงส่ายหัวเบาๆกับการแถของผม พอเห็นพี่เนมไม่ได้บ่นอะไรต่อ ผมเลยพาพี่เนมเดินตามไอ้แทนเข้าร้านไปหาพวกเพื่อนคนอื่นๆที่มากันครับแล้ว ทั้งแก๊งค์เจ็ดประจัญบานเพื่อนในคณะผม และเหล่าองครักษ์ทั้งหลาย



   “ไอ้คินนนนนน” ผมกระโดดกอดไอ้คินที่นั่งหันหลังอยู่ จนหัวมันเกือบทิ่มโต๊ะแหนะ ฮ่าๆๆ



   “สัดมิว!  ถ้ากูเสียโฉมขึ้นมามึงต้องชดใช้นะ”  ปากก็ด่า แต่มือนี่จับแขนผมที่คล้องคอมันเอาไว้แน่น แหนะๆๆ คิดถึงเหมือนกันละเซ่ ทำมาเป็นปากหมากลบเกลื่อน ผมรู้ทันหรอก



   “หูยยย หล่อขนาดนี้ใครจะปล่อยให้เสียโฉมครับ  เพราะนอกจากหน้าตาแล้วเพื่อนผมก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย ฮ่าๆๆ” ผมปล่อยมือออกจากคอมัน แล้วเดินไปนั่งข้างพี่เนมที่มองมานิดหน่อย แหะๆ ผมลืมตัว ไม่ได้เจอเพื่อนนานเลยคิดถึงมากไปหน่อย แต่พี่เนมจะหวงผมก็เข้าใจแหละนะ เพราะถ้าพี่เขาไปกอดคนอื่นแบบนั้นต่อให้เป็นเพื่อน ผมก็หวงเหมือนกัน


   “แหะๆ ขอโทษครับ มิวลืมตัว” พอหันไปขอโทษพี่เนม ก่อนจะแนะนำเพื่อนๆให้รู้จัก



   “นี่คินครับ ส่วนนั่นก็ทัต มิน นัท เต้ ซีแฟนไอ้เบ แล้วก็ทิว  ส่วนพวกมึง นี่พี่เนม” ผมแนะนำเพื่อนตามลำดับที่นั่ง ไอ้เบกับฟาร์นั่งอยู่ระหว่างซีกับทิว แต่พี่เนมรู้จักอยู่แล้ว ผมเลยข้ามพวกมันไป ไอ้แทนนั่งอยู่ระหว่างไอ้ทิวกับพี่เนม ถัดมาก็เป็นผม เพื่อนผมในคณะพี่เนมก็เคยเจอแล้วครับ แต่ไม่เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว วันนี้ผมเลยแนะนำให้รู้จักอีกที



   “พี่เป็นแฟนไอ้เตี้ยมันหรอครับ พี่มองเห็นมันได้ไงอะ ผมว่าส่วนสูงมันไม่น่าจะถึงระดับสายตาพี่ได้นะ” ไอ้คินเปิดประโยคมาก็ปากหมาเลย เมื่อไหร่จะเลิกตอกย้ำเรื่องความสูงสักทีวะห๊ะ



   “สูงไม่ถึงระดับสายตา แต่พอดีกับหัวใจใช่ไหมพี่  ฮ่าๆๆ” ไอ้นัทที่เริ่มเมาๆแล้ว เล่นมุกที่เพื่อนๆพากันขำตามทั้งวง ไอ้นี่มันคออ่อนแต่ชอบกระดกเอาๆ แถมเมาแล้วยังเสี่ยวแดก น่าสงสารเขานะครับ



   “ว่าไงพี่  ใช่แบบที่ไอ้นัทมันบอกปะ” ไอ้แทนหันมาเอาคำตอบจากพี่เนม  พอเรื่องกูนี่สนุกกันใหญ่เลยนะ



   “หึหึ ตามนั้นครับ”



   “ฮิ้ววววววว~~” พอพี่เนมตอบ พวกมันก็ส่งเสียงเห่าหอนให้คนมองกันทั้งร้าน พวกมึงไม่อาย แต่กูอายเว้ย  หน้าร้อนเลย ฮือออออ



   พอแซวผมเสร็จพวกมันก็กินกันไปคุยกันไป บางคนก็ลุกออกไปเต้น ส่วนพี่เนมของผมนี่สุมหัวอยู่กับแก๊งค์องครักษ์ครับ ไม่รู้คุยอะไรกันนักหนา ไอ้แทนแอบกระซิบผมตอนพี่เนมไปเข้าห้องน้ำว่า จริงๆมันกะจะรับน้องพี่เนมซะหน่อย โทษฐานที่ล่อลวงชายน้อยของพวกมันไป แต่คุยกันถูกคอ เลยกลายเป็นว่าถูกอกถูกใจแฟนผมซะอย่างงั้น  ผมก็นั่งเล่นเกมเล่นโซเชียลไปเรื่อยเปื่อย ผมเป็นสายชิลครับ ชอบจิบเหล้าฟังเพลงไปเรื่อยๆ ฟังเพื่อนๆมันคุยกันมากกว่า ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่ผมคอแข็งพอตัวนะ กินได้เรื่อยๆ ถ้าไม่ได้ชงเข้มมาก



MuNich :: กูไม่ไปแล้วนะ ไว้เจอกันวันหลัง


Mewtation :: อ้าว ไหงงั้นอะ


MuNich :: เพื่อนมันบังคับให้ไปด้วยอะ ปฏิเสธไม่ได้


Mewtation :: อ๋อ โอเค ไว้กินด้วยกันวันหลังเนอะ


MuNich :: ครับ


   กินไปได้เกือบชั่วโมงไอ้นิคก็ไลน์มา  ผมนั่งดื่มไปเรื่อย ลืมไปแล้วนะเนี่ยว่ามันจะมา  แต่เอาไว้วันหลังก็ดีเหมือนกัน  มาวันนี้สงสัยจะได้กัดกับไอ้แทนไม่เลิกแน่




   “มิวครับ คนตัวขาวๆที่แทนพูดถึงคือใคร” พี่เนมที่สุมหัวกับพวกไอ้แทนอยู่ดีๆ หันมาถามผม ถึงหัวพี่แกจะสุมอยู่ในวงไอ้แทน แต่มือนี่กอดเอวผมไม่ปล่อยเลยครับ ไม่รู้กลัวผมหายหรืออะไร



   “หืม ขาวๆไหนครับ” ผมหันไปมองพี่เนมงงๆ  ขาวไหนอะ แล้วพี่กับแทนคุยเรื่องอะไรกันอยู่ ผมจะไปรู้ด้วยไหมเนี่ย



   “ก็ไอ้ขาวที่มึงไปกินข้าวด้วยไง” ไอ้แทนยื่นหน้ามาตอบแทน



   “อ่อ มิวนิค รุ่นน้องพี่เนมไงครับ”



   “แล้วมิวไปทานข้าวกับมันทำไมครับ พี่ว่าพี่เคยห้ามมิวแล้วนะ ว่าอย่าไปกับมัน” ไอ้แทนทิ้งระเบิดไว้ให้ผม แล้วหันไปคุยกับคนอื่นๆต่อ ไอ้นี่นี่ ขยันหางานให้เพื่อนจัง



   “ก็มิวติดมันไว้ตั้งแต่เทอมที่แล้ว วันนี้ว่าง ก็เลยไปกับมันครับ”



   “ไหนตอนเช้าบอกพี่ว่ามีประชุม แล้วจะกลับกับเพื่อนไงครับ”



   “เห้ย วันนี้มิวมีประชุมจริงๆนะ ไม่ได้โกหก แต่เรื่องเพื่อนนี่ไม่ได้คิดไว้อะ ว่าจะเป็นเพื่อนคนไหน แหะๆ” ผมหันไปยิ้มอ่อนใส่พี่เนม กลัวพี่เขาจะเข้าใจผิด ผมไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งนะเว้ย  แค่สถานการณ์มันพาไปอะ



   “ถ้าแทนไม่บอก มิวก็ไม่คิดจะบอกพี่ใช่ไหมครับ”



   “หื้อออ  ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ก็วันนี้พี่เนมหายไปเลยนี่นา ไลน์ก็ไม่มี โทรหาก็ไม่โทรอีก มิวก็นึกว่าพี่ไม่อยากคุยด้วยนี่ เลยไม่ได้บอก” ผมพูดเสียงอ่อย นึกถึงตอนนั้นแล้วโคตรเศร้า เหมือนพี่เนมไม่สนใจผมเลยอะ



   “กลับไปคุยกันที่ห้องดีไหมครับ” พี่เนมลูบหัวผมเบาๆ เมื่อเห็นผมเริ่มน้ำตาคลอ ไม่ได้อยากจะดราม่านะ แต่มันเป็นฟีลลิ่งงงงง ฮืออออ  ผมพยักหน้าหงึกๆใส่พี่เนม พูดไม่ได้ครับ เดี๋ยวน้ำตาไหล อายคนเขา



   พี่เนมหันไปบอกไอ้แทนและเพื่อนคนอื่นๆว่าขอพาผมกลับก่อน ซึ่งไอ้พวกนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร เราเลยเดินออกจากร้านมาที่รถแล้วกลับหอกัน











   “พี่เนมโกรธมิวใช่ไหม....มิวขอโทษ ดีกันนะ” ผมยืนอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงหลังจากที่เราอาบน้ำกันเรียบร้อยแล้ว ผมเอาคางเกยอกพี่เนมแล้วเงยหน้าขึ้นไปมอง  น้ำตาที่แห้งไปแล้วก็กลับขึ้นมาคลออีกครั้ง ถ้าพี่เนมจะโกรธ ผมยอมขอโทษเลยดีกว่า ไม่อยากให้เราต้องเป็นแบบนั้นกันอีก



   “พี่ไม่ได้โกรธเราครับ”



   “แต่พี่เนมไม่คุยกับมิว ไม่โทรหามิวเลยนะ ฮึก” ถ้าไม่โกรธแล้วจะทำแบบนั้นทำไมเล่า ฮึก ร้องไห้เลยแม่ง ดูเด็กน้อยเข้าไปอีก แต่ถ้าเป็นเด็กน้อยในสายตาพี่เนม คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง



   “พี่แค่พยายามเข้าใจมิวอยู่  ไม่ได้โกรธเลยครับ....จุ๊บ” พี่เนมจุ๊บเบาๆที่หน้าผาก แล้วดึงผมไปกอดแนบอกพร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ



   “เข้าใจว่าอะไรครับ”



   “เข้าใจว่ามิวต้องทำตามหน้าที่ของมิว เป็นพี่เนียนมันก็ต้องสนิทกับพวกน้องๆพี่เข้าใจ แต่มันก็ยังหวงอยู่ดี แล้วพี่ก็พยายามเข้าใจว่ามิวต้องไปทำกิจกรรมกับน้อง ต้องใช้เวลากับพวกนั้นมาก พี่เลยไม่อยากกวน  ในเมื่อพี่อนุญาตให้มิวทำแล้ว พี่ก็ต้องเข้าใจหน้าที่ของมิวด้วย ถูกไหมครับ”



   “แต่ต่อให้เป็นพี่เนียน มิวก็ยังเป็นแฟนพี่เนมอยู่ดีนี่ ไลน์มาหา โทรมาหากันบ้างก็ได้” ผมซุกหน้าลงกับอกคนตัวสูง แล้วกอดเอาไว้แน่นๆ คิดถึงเป็นบ้าเลย



   “ถ้าทำแบบนั้นพี่คงทนไม่ไหวหรอกครับ ต้องฟังมิวบอกว่าอยู่กับคนนู้นคนนี้ จะไปทานข้าวกับคนอื่น แบบนั้นพี่ไม่ฟังดีกว่า รอมิวว่างแล้วโทรมาหาพี่เองจะดีกว่า”



   “หื้ออออ  แล้วทำแบบนี้พี่เนมทนไหวหรอครับ ไม่คิดถึงมิวบ้างเลยหรอ” ผมขยับใบหน้าออกมามองคนตัวสูง ทำแบบนี้ไม่คิดถึงผมบ้างหรือไงกัน



   “คิดถึงสิครับ คิดถึงมากเลยด้วย แต่ก็ไม่อยากกวนเรา คิดว่าทนไปแค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวมิวก็ไม่ต้องทำแบบนั้นแล้ว  แต่ตอนนี้พี่ว่าไม่น่าไหว  ห่างกันแค่วันเดียว...พี่ก็ทนไม่ไหวแล้วครับ” พี่เนมดึงผมเข้าไปกอด ซุกหน้าลงบนบ่าผม ผมเองก็คิดว่าไม่น่าไหวเหมือนกัน แค่วันเดียวก็ทรมานจะแย่



   “งั้นก็ไม่ต้องห่างแล้วนะครับ ฮึก ห้ามหายไปไหนอีกนะ เข้าใจ...ไหมครับ ฮึก” พี่เนมไม่ได้โกรธอะไรผมเลย เขาแค่ปล่อยให้ผมทำหน้าที่ของตัวเอง คอยสนับสนุนผมอยู่ห่างๆ แต่ผมชอบให้เขาอยู่ใกล้ๆมากกว่า จะหึงจะหวงอะไร ผมอนุญาตหมดเลยนะ ขอแค่อย่าหายไปไหนก็พอ



   “พี่เนมจะหวง ฮึก จะตามไปเฝ้า จะทำอะไรก็ได้  มิวไม่ว่า ฮึก แต่ไม่เอาแบบนี้แล้วนะ....นะครับ” พี่เนมพาผมมานอนบนเตียง เรานอนกอดกันเหมือนอย่างทุกวัน พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน ส่วนพี่เนมมีนัดคุยกับอาจารย์ช่วงบ่าย วันนี้เลยนอนดึกกันได้ไม่เป็นไร



   “ไม่ไปไหนแล้วครับ พี่จะอยู่ข้างๆเราตรงนี้แหละ  ฝันดีนะครับ ตัวเล็กของพี่” พี่เนมให้คำสัญญา ก่อนจะจุมพิตลงบนหน้าผาก ให้ผมหลับฝันดี




ผมอยากจะบอกทุกคนว่า



มีอะไรก็รีบคุยกันนะครับ  อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้นาน



จะทักก่อนทักหลังไม่มีผลอะไร



ผลมันจะตามมาหลังจากที่เราคุยกันแล้วต่างหาก



ส่วนจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีหรือร้าย ก็ขึ้นอยู่กับความรักของพวกคุณแล้วล่ะครับ



ฝันดีนะครับ...ความรักของผม



…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

มาต่อล้าวววววววววววววววววว  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-01-2018 05:53:05
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

พี่เนม มิว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คิดแล้ว พี่เนียน ทำให้เป็นปัญหาแน่ๆ
แต่ก็ดีกันแล้ว เข้าใจกันแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:

จะมีอะไรตามมาอีกไหมนะ  :hao3:
ไหนจะเวย์ ไหนจะนิค ที่ดูจะชอบมิว
         :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 05-01-2018 12:25:53
คิดถึงพี่เนมน้องมิวมากเลยยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 05-01-2018 20:45:47
ฮืออออ แค่การเป็นพี่เนียนยังมีเรื่องได้
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-01-2018 20:53:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 06-01-2018 21:10:30
มิวขี้อ้อน  สิบพี่เนมก้อใจแข็งไม่ไหวหรอกเนอะ 
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 06-01-2018 23:07:57
หึ เริ่มส่อแววรักไม่นิ่งซะแล้วสิเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 23-01-2018 03:10:46
รอออออออ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่23 (5/01/18) P.8 UP!!!
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 27-01-2018 18:50:42
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 (7/02/18) P.8 UP!!! 50%
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-02-2018 01:48:33
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 (7/02/18) P.8 UP!!! 50%
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 07-02-2018 19:50:38
 o13
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 (7/02/18) P.8 UP!!! 50%
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 07-02-2018 20:22:00
เย้!! คิดถึงพี่เนมกับน้องมิวมากกก :hao5:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 (7/02/18) P.8 UP!!! 50%
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-02-2018 20:32:41
ลงเรือพี่เนมแต่ไหนแต่ไรล้าว  :z3:

พี่เนม  มิว  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 (7/02/18) P.8 UP!!! 50%
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 16-02-2018 15:33:30
อร๊ายยยยย ฟินนนนนนเขามีหวงงงงง
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (17/03/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 17-03-2018 01:15:54
------------------แจ้งข่าว--------------------------

ก่อนอื่นเราต้องขอโทษทุกๆคนที่รอพี่เนมน้องมิวและตัวละครอื่นๆในเรื่องนี้

เนื่องจากว่าตอนนี้เรากำลังทำธีสิสอยู่  เป็นโปรเจ็คเดี่ยวด้วย  งานรุมเร้ามาก

อยากจะปลีกตัวออกมาลงพี่เนมน้องมิวบ้าง แต่ว่ามันไม่ได้จริงๆ  :katai1:

เราขอโทษทุกๆคนที่ทำให้ต้องรอนานนะ  ถ้าเรามีเวลามาลงได้ จะรีบเอามาลงให้เลย

แต่ถ้าไม่มี คงต้องรอเราส่งธีสิสเสร็จก่อน  ประมาณเดือนกรกฎานู่นเลยยยย  ถ้ารอไม่ไหวหรือยังไงเราต้องขอโทษด้วยจริงๆนะ

แต่เราสัญญาว่าเรื่องนี้จะไม่หายไปไหนแน่นอน  ถ้ามีเวลาแล้วจะมาต่อให้ยาวๆให้แฮปปี้กันทุกคน

ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามและรอคอยกันอยู่ แม้จะมีอยู่น้อยนิด 55555555  แต่เรารักทุกคนนะ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

แล้วเจอกันจ้าาาา :pig4:

ปล.เรื่องรวมเล่มตอนนี้เรายังไม่มีแพลน  แต่ถ้าใครสนใจหรือคิดเห็นยังไงบอกกันได้น้าาา  ถ้ามีคนอยากได้เยอะเราจะลองคิดดูอีกที  รักทุกคนนะค้าาา  จุ้บๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (17/03/18)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 17-03-2018 03:54:17
 o22 ok ค่ะ...ขอบคุณมากนะค่ะที่แวะมาบอก...good luck and fighting na kaa  :bye2: จะรอค่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (17/03/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 17-03-2018 09:42:06
รอค่ะ ตามสะดวกเลยค่ะ  แต่ต้องมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (17/03/18)
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 08-08-2018 18:42:16
สวัสดีค่ะ

หลังจากที่เราหายไปนาน ตอนนี้เราเรียนจบแล้วค่ะ จะกลับมาอัพต่อแล้ว

แต่เนื่องจากเราหายไปเป็นเวลานานมากกกกก เกรงว่าทุกคนจะจำเนื้อเรื่องตอนก่อนๆไม่ได้ และต้องย้อนไปอ่านกันใหม่

เราเลยคิดว่าจะทำการรีไรท์ใหม่ตั้งแต่ตอนแรก โดยที่เนื้อเรื่องยังคงเดิมอยู่ แต่จะมีการตรวจทานคำผิดและแก้ไขคำให้เหมาะสม

หากใครไม่สะดวกอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรก สามารถข้ามไปยังตอนล่าสุดได้เลยนะคะ เพราะเราไม่ได้เปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง

โดยเราจะเริ่มอัพในอาทิตย์หน้านะคะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แล้วพบกันค่าาา  :L1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (8/08/18)
เริ่มหัวข้อโดย: yjm ที่ 08-08-2018 19:54:09
 :mew1:จะรอนะ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (8/08/18)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-08-2018 21:26:31
รอ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: แจ้งข่าว (8/08/18)
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 07-09-2018 04:40:16
 :mew2:
หัวข้อ: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 100% (16/09/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 16-09-2018 20:35:42
Chapter 24


~Rrrr~


~Rrrr~


"หื้ออ  ฮัลโหล" ใครมันโทรมาแต่เช้าวะเนี่ย คนจะนอนกอดแฟนซักหน่อย ผมกดรับโทรศัพท์ที่สั่นรบกวนการนอนของผมทั้งๆที่ยังไม่ลืมตานั่นแหละ



"ไอ้มิว มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ"



"อะไรของมึงอะเวย์~  วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่หรอ" ไอ้เด็กเวรนี่ เดี๋ยวเปิดตัวพี่เนียนเมื่อไหร่จะลงโทษมันหนักๆเลย โทษฐานสร้างความรำคาญให้คนหล่อ



"เขานัดกันทำสกัพเจอร์รุ่นวันนี้ มึงอย่ามาเด๋อ  ไปอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวนี้!!"



"นัดบ้านัดบออะไรกูไม่เห็นรู้เรื่องเลย มึงอย่ามาอำ ไม่ตลกนะโว้ยยย" 



"กูก็ไม่รู้เรื่องเหมือนมึงอะแหละ เชี่ยวินโทรมาปลุกเฉย แล้วก็สั่งให้กูมาปลุกมึงด้วยเนี่ย"



"ละมาด่ากูเด๋อ มึงก็เด๋อเหมือนกันแหละสัด" ไอ้บ้านี่ ผมเลือกคบถูกคนใช่ไหมเนี่ย รู้สึกเหมือนจะไร้ประโยชน์ยังไงก็ไม่รู้



"ก็กูอยากจะถ่ายทอดคำด่าให้มึงฟังด้วย มึงจะได้อินเหมือนกู แล้วมึงรีบๆออกมาด้วย เขานัดกันสิบโมง แค่นี้แหละ บรัยส์" เชี่ยยย สิบโมงงง  ละมึงจะปลุกกูตั้งแต่แปดโมงเช้าเพื่อ! เพื้อออออ!!  ฮืออออ  ผมจะสั่งลงโทษมันยกรุ่นไปเลยย



"จิ๊!!  อ้าว ผมทำพี่เนมตื่นหรอครับ" หลังจากที่วางสายจากไอ้เวย์ผมก็กะว่าจะหันกลับไปซุกอกพี่เนมต่ออีกซักหน่อย  แต่เห็นพี่เขานอนมองผมตาแป๋วอยู่ก่อนแล้ว  สงสัยผมจะคุยกับไอ้เวย์ดังไปหน่อยมั้ง



"ขอโทษนะครับ มิวคุยโทรศัพท์ดังไปหน่อย เรานอนต่อกันนะ มิวยังง่วงอยู่เลย~" ผมเอื้อมมือไปกอดเอวพี่เนมแล้วซุกหน้าลงกับอกแกร่งของคนตัวโต  ไม่อยากตื่นเลยยย นี่กูปีสามแล้วนะโว้ยย ทำไมต้องไปทำสกัพเจอร์รุ่นกับพวกมึงด้วยเนี้ยยย



"เพื่อนโทรมาว่าไงครับ" พี่เนมกอดผมไว้พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆไปด้วย อืมมม  แบบนี้มันน่านอนยาวๆจังเลยนะครับ



"มิวต้องไปคณะตอนสิบโมงอะครับ น้องๆนัดทำสกัพเจอร์รุ่นกัน  ห้าววว~" ผมพูดไปหาวไป  คนก็คนมันง่วงนี่ครับ



"หึหึ  เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงพี่ปลุกเราละกัน  แล้วเดี๋ยวจะไปส่งที่คณะนะครับตัวเล็ก"



"คร้าบบ~~"













"กรี้ดดดด  พี่เนมๆๆ  ฮือออออ  เป็นบุญของลูกช้างจริงๆที่ได้มาเรียนที่นี่ พี่เนมของน้อง~~~" ทันทีที่ผมเดินเข้าตึกมาพร้อมพี่เนมก็เจอน้องเกดเข้ามากรี้ดใส่แล้วบ่นพึมพำอะไรก็ไม่รู้



"เอ่อ...เกด  ไหวไหมอะ" ผมถามอาการน้องอย่างเป็นห่วง  คือน้องเขายืนบิดไปบิดมาอยู่นานแล้วครับ กลัวน้องจะเคล็ดขัดยอกไปซะก่อนที่จะได้เริ่มทำสกัพเจอร์กัน



"คือเราเป็นแฟนคลับพี่เนมอะ แอบกรี้ดมาตั้งนานแล้ว ฮือออออ  มิวรู้จักกับพี่เนมด้วยหรอ" น้องเกดยังคงดิ้นกระแด่วๆอยู่ตรงหน้าผม หึๆๆ ตลกดีครับ พี่เนมเขาเคยได้ลงเพจคิ้วท์บอยอยู่บ้าง จะมีแฟนคลับก็คงไม่แปลก ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้ลงบ่อยๆเพราะพี่แกไม่ค่อยชอบให้ถ่ายรูปน่ะครับ



"รู้จักสิ" ผมตอบน้องเกดยิ้มๆ ไม่อยากจะอวดนะว่ารู้จักกันดีมากด้วย ไม่อยากอวดเลยจริงจริ้งงงง



"งะ  งั้น  เราขอ...เอ่อ..ถ่ายรูปกับพี่เขา ได้ไหมอะ"



"หืม  เราต้องถามพี่...  หึๆๆ  เป็นอะไรไปครับ" ผมหันไปหาพี่เนมเพื่อจะถามความสมัครใจจากเขาซะหน่อย  แต่กลับต้องมากลั้นขำแทน  หน้าพี่เนมโคตรนิ่งเลย



"หึๆ ว่าไงครับ ให้ถ่ายรูปด้วยได้ไหม" ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่เนมมากกว่าเดิม  เห็นโหมดนิ่งๆที่ผมไม่ได้เจอมานานแล้วนี่มันรู้สึกหมั่นไส้ยังไงก็ไม่รู้



"....." พี่เนมเหลือบตามองผมนิดหน่อย ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ



"ตามใจมิวเลยครับ" ปากบอกตามใจผม แต่หน้านี่หันหนีไปทางอื่นแล้วครับ ฮ่าๆๆ



"มิวก็ตามใจพี่เนมเหมือนกันครับ" พี่เนมหันกลับมามองผมทันที  หึๆ ก็ผมรู้ว่าเขาไม่ชอบนี่ครับ แล้วจะบังคับเขาไปทำไมล่ะ



"ว่ายังไงครับ  อยากถ่ายไหม" ผมมองพี่เนมยิ้มๆ  รู้สึกดีชะมัดที่เวลาเขามองมาที่ผมกี่ทีๆมันก็ยังคงเป็นสายตาแบบเดิม  สายตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ไร้ความรู้สึกเหมือนตอนมองไปที่คนอื่น



"งั้น...ไม่ถ่ายได้ไหมครับ" ผมยิ้มกว้างออกมาทันที  ไอ้สายตาอ้อนๆแบบนั้นมันอะไรกันครับ  ผมไม่ได้จะบังคับสักหน่อย  บอกแล้วไงว่าผมน่ะใจดี แล้วจะให้มาใจร้ายกับแฟนตัวเองได้ยังไงล่ะจริงไหม



"หึหึ  ได้สิครับ"



"เกดคือ เอ่อ...เกด ไหวไหม" ผมต้องถามคำถามเดิมกับน้องอีกรอบ เพราะตอนนี้น้องยืนบิดยิ่งกว่าเดิมอีกครับ  ตัวจะเป็นเลขแปดอยู่แล้วโว้ยยยยยย



"ฮือออออ  ไม่ไหววว เราไม่ไหว ฮือออออ"



"เฮ้ย  เกดเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม" จากที่น้องยืนบิดอยู่ดีๆ ตอนนี้น้ำตามาเฉยเลยครับ  หรือว่าน้องจะเสียใจที่ไม่ได้ถ่ายรูปกับพี่เนม



"เกด เราขอโทษนะ แต่พี่เนมเขาไม่ชอบถ่ายรูปจริงๆ เกดขออย่างอื่นได้ไหม" ผมถามเกดด้วยสีหน้าลำบากใจ  คือไอ้อย่างอื่นที่ว่าเนี่ย ผมยังไม่รู้เลยว่าพี่เนมจะยอมไหม โว้ยยยย



"มะ...ไม่"



"ไม่ได้หรอ" เครียด คนหล่อเครียดเลย ฝั่งหนึ่งก็แฟน อีกฝั่งก็น้อง การเป็นคนหล่อที่ดีนี่มันลำบากจริงๆเลยนะครับ



"หื้อ!!  ไม่ใช่  ฟืดด~ เราจะบอกว่า..." เกดปาดน้ำตาแล้วสูดน้ำมูก ก่อนจะเอ่ยต่อ



"เอารูปคู่พี่เนมกับมิวแทนได้ไหม" เกดมองผมกับพี่เนมตาแป๋ว  บทจะหยุดร้องก็หยุดกันง่ายๆอย่างนี้อะเรอะ!



"พี่เนมสนิทกับมิวอยู่แล้วใช่ไหมคะ  ถ่ายรูปด้วยกันคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ" พอเห็นผมทำหน้างง น้องเลยหันไปคุยกับพี่เนมแทน  อะไรของเขาวะ  ละจะเอารูปผมไปด้วยทำไม  ผมยังไม่อยากดังหรอกนะ  ผมอยากโฟกัสที่การเรียนก่อนน่ะครับ ฮ่าๆๆ



"เกดจะเอารูปเราไปด้วยทำไมอะ" ผมชิงถามน้องออกไปก่อน เพราะรู้ดีว่าคนข้างตัวนี่คงจะไม่ยอมอ้าปากพูดกับใคร ถ้าไม่จำเป็น  ยกเว้นผมกับเพื่อนๆของเขาอะนะ



"ก็มิวน่ารัก...หูยย  พี่เนมอย่ามองหนูแบบนั้นสิคะ"  ผมหันไปมองหน้าคนตัวสูงข้างๆแล้วได้แต่ยิ้มขำ  ไปจ้องหน้าคนอื่นแบบนั้นได้ยังไงครับ  สายตาหงุดหงิดเสียเต็มประดาแบบนั้นน่ะ



"หนูหมายถึง  เวลามิวอยู่กับพี่เนมแล้วมันฟินน่ะค่ะ  คือมันดี  มันน่ารัก มัน...โอ้ยยย  อย่างกับเป็นแฟนกัน ให้หนูถ่ายเถอะนะคะ ไม่งั้นคืนนี้หนูนอนไม่หลับแน่" เหตุการณ์มันคุ้นๆนะครับแบบนี้



"อย่าบอกนะว่า เกดเป็นสาววายอะ" สาววายแบบไอ้เฟย์ ที่หลงผิดคิดว่าผมกับไอ้เบเป็นผัวเมียกัน  พูดแล้วก็ขนลุก



"เยสเซอร์!!!  ตอนแรกเราจิ้นเวย์มิวนะ  คือพวกแกชอบอยู่ด้วยกันอะ  แต่ตอนนี้เราขอขึ้นเรือเนมมิวก่อน  คือมันดี~~ โคตรละมุน โคตรเข้ากัน"  เอ่อ  ผมจะช็อคเรื่องไหนก่อนดี  เรื่องที่น้องเป็นสาววาย  เรื่องที่จิ้นผมกับไอ้เวย์ หรือเรื่องที่มันพูดว่าผมกับเวย์อยู่ด้วยกันบ่อยๆ โว้ยยยย เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกับพี่เนมอีกหรอก  ส่วนประโยคสุดท้ายนี่เข้าท่าดีนะครับ  เอาไปสิบคะแนน อิอิ



"พี่เนมคะ  หนูขออนุญาตมโนว่าพี่เนมกับมิวเป็นแฟนกันได้ไหมคะ" พอเปิดโอกาสให้พูดนี่พูดซะยาวเหยียดเลยนะครับน้องเกด  แล้วจะมามนงมโนอาร๊ายยยย



"ไม่ต้องมโนหรอกครับ  พอดีว่าพี่เป็นแฟนมิวอยู่แล้ว" อื้มมมม  ส่วนคนนี้ที่ผมไม่คิดว่าจะพูดอะไร ก็ดันพูดออกมาซะงั้น   ทำเอาอึ้งกันไปเป็นแถบๆ  แถบผมกับแถบน้องเกดเนี่ย  แมลงวันจะบินเข้าปากอยู่แล้ว  พูดอะไรของพี่เนี่ยยย



"แล้วเรื่องคู่จิ้นอะไรนั่น  อย่าไปคิดมันเลยนะครับ เสียเวลาเปล่า เพราะว่ามิวเป็นของพี่คนเดียว" อ่าฮะ  พี่เนมคนจริง 2018  ใบ้กินกันทั้งแถบแล้วโว้ยยยยย



******************************************ต่อ*********************************************



“กรี้ดดดด  จริงหรอคะ เป็นแฟนกันจริงๆหรอ หนูขอถ่ายรูปนะ นะมิว นะๆๆ” น้องเกดหันมาขอร้องอ้อนวอนด้วยท่าทางระริกระรี้เต็มที  การคบกันของพวกผมมันทำให้น้องเขามีความสุขขนาดนั้นเลยหรอครับ


“เอาสิครับ” พี่เนมโอบไหล่ผมที่ยืนงงอยู่เข้าไปประชิดตัวแล้วเอียงหัวมาชนกัน ไหนบอกไม่อยากถ่ายรูปไง!!!!


“ฮือออ  ดีอะ  รักกันนานๆนะคะ เกดเอาใจช่วย มิวต้องไม่ดื้อกับพี่เนมนะ มีอะไรก็คุยกันดีๆ อย่าใช้อารมณ์ เราไปก่อนนะ จะไปแบ่งปันความฟินกับเดอะแก๊งค์ บ๊ายบายยย”


“พูดอย่างกับอวยพรงานแต่งงานเลยเนอะพี่เนม ฮ่าๆๆ” น้องแม่งตลก แต่ก็น่ารักดีนะครับ


“อืม ไว้งานแต่งเรา ให้น้องเขามาอวยพรอีกทีละกันนะ” พี่เนมหันมาพูดนิ่มๆ เหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วไป


“มิวไม่คุยด้วยแล้ว ไปช่วยน้องก่อนนะ” แล้วผมก็วิ่งหนีพี่เนมมาพร้อมกับหน้าร้อนๆ พูดบ้าอะไรก็ไม่รู้ ใครเขาจะแต่งด้วยกัน ยังไม่ได้ขอเลยนะ!!









“ไอ้มิว เกดมันชอบมึงหรือเปล่าวะ กูเห็นมันมองมึงแล้วยิ้มหลายรอบละนะ ถึงมันจะหน้าตาน่ารัก แต่กูก็แอบหลอนอยู่เหมือนกันนะ” ไอ้เวย์ที่เลื่อยไม้อยู่ข้างๆ หันมากระซิบกระซาบกับผม


“เกดไม่ได้ชอบกูหรอก แล้วมึงล่ะ ชอบเกดหรอ” ผมหันไปตอบกลับไอ้เวย์ มันชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะโวยวายกลบเกลื่อน


“ตลกละไอ้สัด เพ้อเจ้อชิบหาย” ตะโกนใส่หน้าผมเสร็จ มันก็ก้มหน้าก้มตาเลื่อยไม้อย่างเอาเป็นเอาตาย


“เอ้า ก็มึงบอกว่าเห็นเกดมองมาหลายรอบ แปลว่ามึงมองเขาอยู่ไม่ใช่หรือไง”


“แกทเชื่อมโยงมึงคงได้เต็มสินะไอ้สัด”


“ก็เต็มสิวะ สมองระดับกู ฮ่าๆๆ” สมองผมมันก็ดีเหมือนหน้าตานั่นแหละ


“สมองเด๋อๆเหมือนหน้ามึงอะนะ กูไปทาสีดีกว่า เบื่อหน้ามึง”  มันวางเลื่อยลงแล้วเดินไปทาสีไม้ที่อยู่อีกมุมหนึ่งแทน มาว่ากูเด๋อ ก่อนไปกูเห็นนะเว้ยว่ามึงแอบเหล่น้องเกดอะ!!


“มิว เลื่อยไม้เสร็จแล้วยกไปวางตรงนู้นด้วยนะ แล้วก็ไปพักกินข้าวได้เลย เดี๋ยวกูออกไปซื้อของแปป” ไอ้น้องวินเดินมาสั่งผม  แล้วทำไมกูต้องมาช่วยพวกมึงด้วยวะเนี่ยยยยยย


~Rrrr~


~Rrrr~

“ว่าไงไอ้สัด” ผมทักทายเพื่อนสนิท ที่โทรมาได้จังหวะพอดี พอดีกับที่ผมอารมณ์เสียน่ะ


“ทำไมน้องมิวพูดกับพี่เบอย่างนี่ล่ะครับ สั่งลงโทษซะเลยดีไหม หืม?” ไอ้เบพูดเสียงหล่อกวนประสาทผม


“ไปลงโทษเมียมึงโน่น กูเห็นเดินอยู่กับพี่ธามเมื่อกี้นี้”


“ไอ้สัด แทนมันจะมากินข้าวด้วย เจอที่โรงอาหารวิศวะ บาย” เบมันพูดใส่ผมรัวๆ


“พี่เบจะรีบวางสายไปไหนล่ะครับ ไม่อยากคุยกับน้องมิวแล้วหรอ” ผมแกล้งกวนประสาทมันต่อ ฮ่าๆๆ อยากเห็นหน้ามันชะมัด


“เมียคนอื่นกูไม่คุยเว้ย กูจะคุยกับเมียกู!” แล้วมันก็ตัดสายใส่ผมทันที ขี้หวงชิบหาย


ว่าแต่ ไอ้แทนมันมาทำอะไรที่มหาลัยผมวะ?









“ขอบคุณครับ” ผมหันไปเอ่ยกับคนตัวสูง ที่วางจานข้าวพร้อมแก้วน้ำลงตรงหน้าผม แล้วนั่งลงข้างๆกัน พี่เนมเดินไปหาผมที่คณะแล้วมาที่โรงอาหารวิศวะพร้อมกัน  ผมบอกว่าจะมาเองก็ไม่ยอม ไม่รู้จะเดินไปเดินมาให้เมื่อยทำไม


“สรุปว่ามึงมาทำอะไรที่นี่วะแทน” ผมถามไอ้แทนที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยความสงสัย โดยมีไอ้เบกับไอ้ซีที่นั่งงอนง้อกันอยู่ข้างๆมันเป็นพร็อบประกอบ


“ธุระ” มันเงยหน้าจากจานข้าวมายักคิ้วใส่ผม


“ไอ้สัด!” ผมด่ามันแบบไม่ออกเสียง เนื่องจากเกรงใจคนหล่อข้างกาย


คำว่า ‘ธุระ’ ถ้าเอามาพูดกับเพื่อนมันมีความหมายเดียวกับคำว่า ‘อย่าเสือก’ นั่นแหละครับ





Sea  Part


“เบ~~~  กูบอกแล้วไงว่าไปคุยงานที่คณะอ่ะ” หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็กลับหอพร้อมกับเบ  มันขับรถเงียบๆไม่พูดไม่จา พอเข้าห้องได้ก็มานอนหันหลังใส่ผมอยู่บนเตียงเนี่ย แฟนใครวะ โคตรขี้งอนเลย!


“เบครับ คุยกันก่อน” ผมสะกิดหลังมันเบาๆ  เบพลิกตัวหันมาทางผม พร้อมกับตาค้อนๆของมันนั่นแหละ


“มึงบอกว่าไปคุยงาน แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปเดินจู๋จี๋กับพี่ธามนี่”


“ตลกละเบ จู๋จี๋อะไรของมึง กูก็เดินคุยกันปกติ” ผมเอื้อมมือไปทัดปรอยผมที่ปรกตาของอีกคนไว้ที่หู ก่อนจะลูบกลุ่มผมนิ่มของมันเบาๆ


“ไม่ให้คุย” มันจับมือผมไปกุมไว้ที่หน้าอกกว้างแทน


“คุยงานไงครับ พอดีจารย์ดิวให้ช่วยงานนิดหน่อย” ผมกระเถิบตัวลงไปนอนข้างๆคนตัวโต แล้วยิ้มหวานๆให้คนตรงหน้า


“แล้วเกี่ยวไรกับพี่ธามอะ” คนตัวโตยังงอแงไม่เลิก ผมก็เลยเลิกยิ้มไม่ได้สักที คนอะไรวะ ขี้งอนแล้วยังน่ารักอีก


“ก็งานส่วนหนึ่งอยู่กับพี่ธาม ซีก็เลยต้องคุยกับเขาไงครับ คุยแค่เรื่องงาน ไม่มีเรื่องอื่นเลย”


“หวงอะ” คนตรงหน้าขมวดคิ้วแล้วหลุบตาต่ำลง ไม่ยอมมองหน้าผมซะงั้น


“งั้นทำยังไงดีครับ” ผมก้มหน้าลงให้อยู่ในระดับสายตาของอีกคน ก่อนที่คนตัวโตจะเขยิบเข้ามาซุกที่อกผม แล้วรวบผมไว้ในอ้อมกอด


“เบไปด้วย” คนตัวโตพึมพำอยู่กับหน้าอกผม


“อะไรนะครับ” ผมเกยคางไว้บนศีรษะของอีกคน


“ถ้าจะไปคุยงานอีก เบไปด้วยนะ ได้ไหม?” เบเลื่อนศีรษะออกแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมด้วยแววตาอ้อนวอน จะฆ่ากูหรอครับคุณแฟน มองแบบนี้จับปล้ำซะเลยดีไหม หืม?


“ได้สิครับ” ผมยิ้มแล้วตอบรับอีกคนเบาๆ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไปจูบกับคนตัวโต ใครใช้ให้ทำตัวน่ารักขนาดนี้ล่ะครับ แบบนี้ต้องลงโทษซะให้เข็ด


“ดีกันนะ” ผมถอนจูบที่อีกคนเป็นฝ่ายควบคุมทั้งๆที่ผมเป็นคนเริ่มแท้ๆ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ไม่อยากให้โกรธกันเลย ถึงเบจะทำตัวน่ารักก็เถอะ แต่ผมไม่อยากให้เขาไม่สบายใจ


“มาจูบอีกทีก่อน” คนที่ใช้ริมฝีปากคลอเคลียผมอยู่ไม่ห่างตั้งแต่ถอนจูบออกมา ต่อรองกับผมด้วยการขอจูบอีกที


“อีกหลายทีก็ได้นะ” ผมยิ้มตาหยีใส่อีกคน ก่อนจะโดนประกบปากโดยคนตัวสูง


อนุญาตให้จูบได้ตลอดชีวิตเลยครับ 



********************************************************************************************

ขอโทษที่ให้รอนะคะ เรากลับมาแล้วว ฮือออออ  :sad4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 100% (16/09/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-09-2018 21:22:50
โหห คิดถึงเลย มาต่ออีกๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 100% (16/09/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 17-09-2018 06:27:58
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่24 100% (16/09/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-09-2018 11:27:29
ไรท์ มาดีต่อใจจริงๆ   :mew1: :mew1: :mew1:

พี่เนม  มิว   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่25 (02/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 03-10-2018 20:56:49
Chapter 25


“เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วมิวโทรหานะ” 

         ผมบอกพี่เนมที่ขับรถมาส่งผมถึงหน้าตึกเรียน  ก่อนจะวนรถไปที่คณะวิศวะของตัวเอง  บอกให้จอดรถที่นั่นเดี๋ยวผมเดินมาเองก็ไม่ยอมอีก  เถียงกันไปมาจนผมต้องยอมเขา เพราะไม่งั้นเราจะสายกันทั้งคู่


“ไงเตี้ย  เกือบเข้าไม่ทันจารย์ละนะมึง  เมื่อกี้ไอ้นัทบอกว่าเห็นจารย์กำลังจอดจักรยานอยู่หน้าตึก” 

         ขึ้นมาถึงสตูก็มานั่งรวมโต๊ะกับเดอะแก๊งค์  วันนี้เรียนสตูที่จัดโต๊ะให้นั่งกันเป็นกลุ่มครับ



“เออ  กูเห็นจารย์แล้ว  วิ่งแซงแกมาเมื่อกี้เนี่ย  ลิฟท์มีก็ไม่ใช้นะคนเรา”  ผมตอบไอ้เบไปหอบไปด้วย 

   ตอนผมเดินเข้าตึกมาเห็นอาจารย์ประจำวิชากำลังเดินขึ้นบันไดอยู่พอดี  ผมเลยทำใจกล้าหน้าด้านโดยการวิ่งแซงแกขึ้นมา  ตอนผ่านหน้าแกก็หันไปยิ้มให้เบาๆพอเป็นพิธีแล้วใส่เกียร์หมาต่อ ที่ตึกเรียนของผมมีลิฟท์นะครับ  แต่จุดเด่นของมันคือประตูลิฟท์เปิดช้ามาก!  นับ1-5ในใจจบไปสามรอบได้ถึงจะเปิด  ในเวลาเร่งรีบเราจึงไม่สามารถพึ่งพามันได้  ไร้ประโยชน์อย่างถึงที่สุด




“จารย์รักษ์โลกไงมึง  ขนาดมาสอนยังขี่จักรยานมาเลย  แค่ขึ้นมาชั้น3 ลิฟท์นี่คงไม่จำเป็นสำหรับแก ฮ่าๆๆ”




“โห ไอดอลเลยครับ คุณเบน่าจะเอาเป็นแบบอย่างนะ ทำเรื่องดีๆซะบ้างพ่อแม่จะได้ภูมิใจ”




“หาลูกสะใภ้ดีๆให้ก็น่าภูมิใจแล้วปะ”  ไอ้เบหันมายักคิ้วให้ผม2จึก   

         ตอนนี้จารย์แกเปิดสไลด์บรรยายเกี่ยวกับศิลปะไทยอยู่ครับ  พวกผมเลยคุยกันได้  อ๊ะๆแต่ผมใช้หูในการฟังบรรยายอยู่นะ  ไม่ได้เกเรเลยจริงจริ๊ง




“สะใภ้ดีๆก็ต้องคู่กับสามีดีๆใช่ไหมครับคุณเบ  แล้วอย่างมึงนี่ดีสู้พี่ธามเขาได้หรือเปล่าวะ”  ประโยคหลังผมเอียงตัวไปกระซิบกับมันเบาๆ  เพราะข้างมันอีกฝั่งหนึ่งคือไอ้ซี  สะใภ้ดีเด่นที่มันจะเอาไปอวดพ่อกับแม่




“ความดีสู้ได้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ความรักของพวกกูชนะเขาแน่นอนว่ะ หึหึ” ถึงจะฟังดูเสี่ยว  แต่ผมก็ยิ้มให้กับคำตอบของมัน 

         ที่กวนมันนี่เอาจริงๆก็คือเป็นห่วงนั่นแหละ  หรือที่จริงกว่านั้นอีกก็คือ อยากเสือก ฮ่าๆๆ  ล้อเล่นหน่า  เอาเป็นว่าคำตอบของมันทำให้ผมยิ้มได้ก็แล้วกัน




“ยอมแล้วครับๆ  ไอ้ซี! เบมันจะพาไปเจอพ่อแม่อะ  มึงเตรียมตัวยังวะ”  ผมชะโงกหน้าผ่านไอ้เบไปคุยกับซี

         มันกำลังตั้งใจจดเลคเชอร์  เพื่อให้พวกผมเอาไปถ่ายเอกสารตอนก่อนสอบกัน ฮ่าๆๆ  ล้อเล่นครับ  มันเป็นคนตั้งใจเรียนน่ะ  แต่พวกผมก็เอาเลคเชอร์มันไปถ่ายจริงๆนะเพราะลายมืออ่านง่ายแถมจดให้เข้าใจง่ายอีกต่างหาก  ส่วนที่ล้อเล่นก็น่าจะเป็นจดเพื่อพวกผม เพราะความจริงแล้วมันน่าจะจดให้ตัวมันเองและก็แฟนมันมากกว่า



“ห๊ะ  หาพ่อแม่อะไรวะ  ไม่เห็นบอกกูเลยเบ”  ซีปล่อยปากกาหลุดมือ  ก่อนจะหันมาทำหน้าเหวอใส่แฟนมัน ผมนี่เกือบปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะไม่ทัน  ฮ่าๆๆ




“ก็ยังไม่รู้จะพาไปเมื่อไหร่เลยยังไม่ได้บอกไง  ไว้ช่วงไหนว่างๆไปบ้านกูกันนะ”  มันหันไปตอบพร้อมรอยยิ้มละมุน  มดไต่ผมแล้วอะครับ  ช่วยด้วยยยยย




“ด้นสดเลยนะครับคุณ  เก่งจังนะเรื่องแบบนี้” ผมกระซิบกวนมันต่อ  คือว่าถ้าให้ตั้งใจฟังอาจารย์บรรยายดีๆกลัวอาการง่วงจะกำเริบน่ะครับ




“ผมคิดไว้ตั้งแต่ได้เป็นแฟนซีแล้วครับ  ใครจะสู้คุณได้ล่ะ ไปเจอแม่เขาตั้งแต่ยังไม่ทันได้เป็นแฟน” มันยิ้มชั่วใส่ผม  ผมเลยหันไปสนใจอาจารย์ที่หน้าชั้นเรียนแทน  แกบรรยายเรื่องอะไรอยู่นะ น่าสนใจจังเลย




“จดต่อไหมครับ  เดี๋ยวตามอาจารย์ไม่ทันนะ” ไอ้เบหันไปพูดเสียงอ่อนเสียงหวานใส่ไอ้ซีที่นั่งเอ๋อตั้งแต่เมื่อกี้  มือนี่ก็ยกขึ้นไปลูบหัวสองสามที  ก่อนจะเลื่อนลงมาโอบเอวซีเอาไว้หลวมๆ  กลัวเพื่อนไม่รู้หรอว่าคนไหนเมียน่ะ 


น่าหมั่นไส้เนอะ ว่าไหมครับ?














"ไอ้มิว มึงกินข้าวโรง'ไหนวะ"  พอเลิกเรียนปุ๊บ ไอ้เด็กเวย์ก็โทรมาปั๊บ  ดีนะวันนี้เลิกเที่ยงพอดี ไม่งั้นเด็กนี่จะต้องโทรมารัวๆแน่ถ้าผมไม่รับสายมัน




"ว่าจะกินที่เรียนรวมเลย มึงออกจากหอยัง" วันนี้ปีหนึ่งมีเรียนแค่ช่วงบ่ายครับ  ตอนเช้าผมเลยแว๊บไปเรียนวิชาของตัวเองได้




"กำลังจะออกละ  เจอนู่นเลยละกัน" เวย์บอกก่อนจะวางสายไป




"เบย์ กูไปกินข้าวกับปีหนึ่งนะ มึงจะกลับหอเลยปะ" วางสายเสร็จผมก็หันไปคุยกับเบต่อ  ชีวิตดูวุ่นวายกว่าคนอื่นนะครับ กูเนี่ย




"เออ กลับเลย ซีมันง่วง" ปากตอบผมแต่ตานี่มองแฟนตัวเองเก็บของใส่กระเป๋า  โคตรจะหลงอะ  บอกเลย




"กูไปด้วย ขอลงตรงเรียนรวม" วันนี้มันสองคนมารถยนต์ของซีครับ ผมขอติดรถมันไปเลยง่ายดี ยังไงก็ทางผ่านอยู่แล้ว





"ได้เลยครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งน้องมิวเองนะ" ตอนจะพูดกวนตีนนี่หันหน้ามาได้นะไอ้เวร  ไม่มองแฟนมึงต่อแล้วไง๊?





"หึ! วันนี้กูจะเป็นน้องมิววันสุดท้ายแล้ว  ต่อไปเตรียมตัวเรียกกูว่าลูกพี่มิวได้เลย" 

         วันนี้ผมจะเป็นพี่เนียนวันสุดท้ายแล้วครับ เย็นนี้จะทำการเฉลยพี่เนียนกัน  ผมว่าต้องมีคนเหวอแน่นอน อย่างน้อยๆก็ไอ้เวย์คนหนึ่งล่ะ ฮ่าๆๆๆ แค่คิดก็สนุกแล้ว





"ครับๆ ไปกันเถอะ อย่ามัวเพ้อฝันอยู่เลย" ไอ้สัดนี่  มันว่าผมเพ้ออะ  ใครก็ได้ดักตีหัวมันให้ที




"ตอนเย็นมึงต้องมาด้วย!!"

         ผมทนทรมานกับการต้องแอ๊บเป็นเด็กปีหนึ่งมา2อาทิตย์  ต้องมาประชุมทุกครั้งที่ปีอื่นๆนัด เพราะว่าต้องเป็นตัวอย่างให้พวกปีหนึ่ง  วันนี้เฉลยพี่เนียน ผมไม่ยอมให้พวกเพื่อนผมมันนอนสบายอยู่หอกันหรอก พวกมันต้องมาชดใช้กรรมเหมือนกับผม ซึ่งเรื่องนี้ผมกำชับพวกมันในไลน์รุ่นแล้ว  ถ้าใครไม่มานะ!!!!  เค้าจะไม่คุยด้วย โป้ง!  น่ากลัวไหมครับ ฮ่าๆๆๆ  ล้อเล่นนะ ในความเป็นจริงคือผมจะงอนนิดหน่อยแค่นั้นแหละ











"มิว เลิกประชุมวันนี้แล้วมึงจะไปไหนต่อ" ระหว่างที่นั่งเรียนวิชานอกคณะกับพวกปีหนึ่งอยู่ ไอ้เวย์ก็หันมาชวนผมคุย  เป็นวิธีกันหลับน่ะครับ ฮ่าๆๆ




"ไม่บอก" ผมหันไปยิ้มกวนประสาทมัน




"เป็นบ้าอะไร ทำเป็นเล่นตัว  คิดว่ากูอยากรู้มากหรอ"




"ฮ่าๆๆ  เอาเป็นว่าเลิกประชุมแล้วค่อยมาถามกูใหม่อีกทีละกันเนอะ" ผมยิ้มยิงฟันใส่มันหนึ่งที ฮ่าๆๆ อยากให้ถึงตอนเย็นเร็วๆจังโว้ยยยยยย





"พี่เนม  วันนี้มิวเลิกค่ำๆนะ  กลับไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวมิวกลับกับเบ" ผมออกมาเข้าห้องน้ำ เลยเนียนๆโทรหาพี่เนมซะเลย  ยังไม่อยากกลับเข้าห้องน่ะครับ ขอผมอู้หน่อยนะ




"เฉลยพี่เนียนวันนี้ใช่ไหม?"



"ใช่แล้ววว~" ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเริงร่าสุดๆ



" เดี๋ยวพี่ไปรอรับครับ" นั่นไง ทายหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ  (แค่ทายนะครับ ผมไม่ซื้อ เพราะไม่มีตัง ฮ่าๆๆ)




"ฮื้อ~ กลับไปก่อนเลยครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" วันนี้พี่เนมนัดคุยเรื่องวิทยานิพนธ์กับเพื่อนๆทั้งวันเลยครับ  แถมช่วงนี้พี่เนมดูเครียดๆด้วย ผมอยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆมากกว่า




"พี่เหนื่อยก็เลยอยากเจอเราไงครับ  ขอไปเห็นหน้ามิวเร็วๆได้ไหม  ให้นอนรอเราพี่คงเหนื่อยกว่าเดิม"  เขินแฟนนี่แปลกไหมครับ  ต่อให้คบกันมานานแค่ไหน  ผมก็ยังแพ้เขาอยู่ดี  เวลาแพ้ทีไรหน้านี่แดงทุกทีเลยครับ 

ผมควรไปพบคุณหมอไหม?




"ปฏิเสธแบบไหนได้บ้างครับเนี่ย หืม?" ผมถามเขาด้วยความอ่อนใจ  คำพูดแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้ ให้ผมปฏิเสธยังไงไหวล่ะครับ เห้อ~~~




"ไม่ให้ปฏิเสธหรอกครับตัวเล็ก ยังไงพี่ก็จะไปรอรับเรา จะกลับกับเบก็ตามใจ พี่แค่อยากไปเห็นหน้าเราเฉยๆ"




"ตามใจมิวจริงหรอ  งั้นมิวไปกับเพื่อนนะ คืนวันศุกร์แบบนี้น่าจะยาว  พี่เนมมาดูหน้ามิวเสร็จแล้วกลับไปนอนเลยนะครับ"




"...ก็ได้ครับ  แต่พี่คงนอนไม่หลับหรอก ถ้าเราไม่อยู่" หึๆๆ  แกล้งนิดแกล้งหน่อย  ทำมาเป็นเสียงอ่อยเลยนะครับ แฟนใครเนี่ย




"งั้นทำยังไงดีล่ะครับ?" ผมแกล้งถามเขาต่อ  ดูสิคนเจ้าเล่ห์จะมีกลลวงอะไร




"มิวกลับพร้อมพี่ดีกว่าไหม  รอพี่หลับก่อนแล้วเราค่อยออกไปหาเพื่อน" ฮ่าๆๆ  ดูเอาไว้นะครับ  ตัวอย่างคนเจ้าเล่ห์ในคราบแมวน้อย  น้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง เหมือนจะยอมตามใจเรา  แต่ผมถามหน่อยเถอะ  กลับพร้อมพี่นี่ผมจะมีโอกาสได้ออกมาข้างนอกอีก กี่เปอร์เซ็นต์?



ติ๊ง~~~



เสียงแจ้งเตือนจากไลน์ ทำให้ผมยกโทรศัพท์จากใบหูออกมาดูข้อความ  เวย์ไลน์มาบอกว่าอาจารย์ปล่อยแล้ว




'หมดเวลาสนุกแล้วสิ~'




"ว่าไงครับคนดี" โอ้โห  ถ้าพี่เนมจะเรียกกันแบบนี้  ฆ่าผมเลยก็ได้  หัวใจเต้นเร็วชะมัด




" มิวไม่แกล้งแล้ว  เอาเป็นว่าเสร็จงานแล้วมาหามิวที่ตึกนะครับ  เดี๋ยวเรากลับพร้อมกัน"  ปีหนึ่งเริ่มทยอยกันออกมาแล้ว  อีกเดี๋ยวก็คงไปรวมกันที่ตึกในคณะ




"ครับเด็กดี  อย่าซนมากนะ  แล้วเจอกันครับ" พี่เนมวางสายไปแล้ว  แต่หน้าผมยังร้อนอยู่เลยอะ!


         ซนเซินอะไรกันเล่า  ผมไม่ใช่เด็กๆซะหน่อย




"ไปได้แล้วไอ้มิว  ยืนเอ๋ออะไรอยู่ได้  ไปช้าเดี๋ยวก็โดนพี่ทำโทษหรอก"

         โถ น้องเวย์ของพี่ หนูเคยกลัวรุ่นพี่ลงโทษด้วยหรอจ๊ะ  ทำเป็นพูดดี  จะหลอกด่ากูก็บอก


เอ๊ะ!!


เมื่อกี้ที่ผมบอกว่า'หมดเวลาสนุกแล้วสิ'


จริงๆมันต้องเป็น 'ได้เวลาสนุกแล้วสิ' ต่างหากล่ะ  ว่าไหมครับ?


หึหึหึ  เจอกันปีหนึ่งน้องรัก!!!






*********************************

สวัสดีค่าทุกคนนน
เราจะมาแจ้งว่าต่อจากนี้เราจะอัพให้อาทิตย์ละ2ครั้งเนอะ  หรืออาจจะมากกว่านั้นถ้าเรามีเวลา  ช่วงนี้เรางานเยอะมากจริงๆ ต้องขอโทษทุกคนด้วยน้าาา

ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะคะ
สามารถพูดคุยกันใน #รักไม่นิ่ง ได้นะ
ใครไม่เล่นทวิตไม่เป็นไรน้าาา  เราไว้คุยขำๆมากกว่า  มีอะไรอยากถามคอมเมนท์ไว้ได้เดี๋ยวเรามาตอบให้นะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ;)

-Christa-









หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่25 (02/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-10-2018 21:17:02
ตอนหน้าสนุกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่25 (03/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-10-2018 21:59:44
รอจ้ะรอ
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่25 (03/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 05-10-2018 00:09:19
ดีใจที่กลับมานะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่26 (15/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 15-10-2018 21:41:53
Chapter 26



"เป็นอย่างไรกันบ้างครับปีหนึ่ง  นี่ก็เปิดเทอมมาหลายอาทิตย์แล้ว  ปรับตัวกันได้หรือยังครับ"


          ตอนนี้พวกผมและน้องๆมานั่งรวมกันที่คณะเรียบร้อยแล้ว  ไอ้นัทกำลังทำหน้าที่ชวนน้องๆคุยอยู่  ก่อนที่เราจะปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่อย่างการเปิดตัวพี่เนียน อิอิ



"อ่ะๆ เอาเป็นว่าถ้ามีปัญหาอะไรก็ปรึกษาเพื่อนๆหรือพี่ๆได้เสมอ  ที่นี่เราอยู่กันเป็นครอบครัว เข้าใจใช่ไหมครับ มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันเนอะ" ไอ้นัทพูดจริงจังเป็นการเป็นงาน ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลย  เพื่อนผมครับเพื่อนโผมมมมมม



"วันนี้พวกพี่มีเรื่องจะมาแจ้งน้องๆกัน  เกี่ยวกับภารกิจอันใหญ่ยิ่ง"



"ยิ่งใหญ่!!" พวกเพื่อนๆผมรวมทั้งน้องปีหนึ่งต่างช่วยกันตะโกนรับมุกกะโหลกกะลาของไอ้นัท  คือกูเพิ่งชมไปเมื่อกี้ ห้าวิต่อมาสาระมึงหายแล้วหรอวะ



"ฮ่าๆๆ อย่างนี้แหละครับ ที่เขาเรียกว่าครอบครัว  ใครปล่อยมุกมาเราต้องช่วยกันตบให้ฮานะ เข้าใจไหม"  มุกมึงก็มีแค่มึงที่ฮานั่นแหละ โอ๊ยยย  เพื่อนใครครับมารับกลับไปที



"อ่ะ เข้าเรื่องๆ  เดี๋ยวจะเสียฤกษ์งามยามดีหมด" ว้อท? ใครไปดูฤกษ์ไว้หรอครับ  ขยันเล่นใหญ่จัง



"เรื่องที่พี่จะบอกก็คือ....  คือ.......  คือ......"



"โอ้ยยยยย!!!"  พวกผมต่างพากันโห่ร้องให้กับความลีลาของไอ้นัท  มึงจะเล่นอีกนานไหม  พี่เนมกูโดนแทะโลมทางสายตานานแล้วเนี่ย  ลีลาเก่งจริง!



"คือ......." ยังอีก!



"คือ......." - -



"คือว่า......ให้พี่เบพูดดีกว่าครับ!" ไอ้สัด!!  หลังจากนั้นมันก็ได้รับเสียงโห่อย่างเกรียวกราวจากน้องๆ  สมน้ำหน้ามึง สภาพนี้น้องที่ไหนจะอยากเคารพ โว๊ะ



"เรื่องที่พี่จะบอกพวกเราในวันนี้ คือเรื่องที่เราจะไปรับน้องนอกสถานที่กัน" หลังจากที่คุณชายเบเดินมาพูดแทนไอ้นัทที่ด้านหน้าแล้ว  เราก็ได้เข้าเรื่องกันซักที  ใช่แล้วล่ะครับ  เราจะพาน้องๆไปรับน้องที่ต่างจังหวัดเพื่อกระชับความสัมพันธ์กัน ไม่ใกล้ไม่ไกลเนี่ยแหละ  แต่เรื่องนี้ผมยังไม่ได้บอกพี่เนมเลยครับ  ดูสิจ้องใหญ่แล้ว  ใจเย็นนะตัวเอง  เดี๋ยวเลิกแล้วเค้าจะไปอธิบายให้ฟังนะ  ผมทำตาอ้อนๆใส่พี่เนมนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับไปมองไอ้เบที่ยืนพูดรายละเอียดอยู่ด้านหน้า



"เอาเป็นว่างานนี้พวกพี่ๆตั้งใจจัดให้พวกน้องจริงๆ  อยากให้เราได้ไปกัน ปีหนึ่งมีแค่ครั้งเดียวนะครับ เอาให้คุ้ม ปีต่อไปเราก็ต้องขึ้นมาเป็นพี่ ต้องดูแลน้องกันต่อ ยังไงก็ชวนกันไปเยอะๆนะครับ"  เบพูดจบมันก็ยิ้มหล่อทีหนึ่ง  จนสาวๆรุ่นน้องนี่เก็บเสียงกันแทบไม่ทัน  ผมแอบได้ยินเสียงกรี้ดเบาๆด้วยนะ  หล่อจังครับ  พูดจบมันก็เดินไปโอบเอวแฟนมันที่ยืนล้อมวงน้องๆอยู่ด้านข้าง  มีใครหมั่นไส้มันเหมือนผมไหมครับ?



"เรื่องยังไม่หมดแค่นั้นนะครับน้องๆ  วันนี้พวกพี่มีเรื่องจะคุยกับพวกเราอีกหนึ่งเรื่อง"  พอเบออกไปด้านข้างไอ้นัทก็กลับเข้ามาประจำตำแหน่ง และเริ่มมีสาระอีกครั้ง



"พวกคุณได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆมาตั้งแต่ก่อนเปิดเทอมแล้ว  บางคนอาจจะเพิ่งมาเจอกันตอนเปิดเทอมจริงๆ  แต่ยังไงก็ถือว่าพวกคุณเป็นรุ่นเดียวกันหมด ถูกไหมครับ?"  บรรยากาศเริ่มเข้าสู่ความตึงเครียดนิดๆ  ทุกคนตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ ไม่หลงเหลือบรรยากาศสนุกสนานอย่างเมื่อครู่



"การเป็นรุ่นเดียวกัน แสดงว่าพวกคุณต้องมีความสามัคคี มีความรักพวกพ้อง เห็นอกเห็นใจกัน  ไม่เอาเปรียบกัน ที่ผมพูดมานี่ถูกไหมครับ?"



"งานที่ได้รับมอบหมาย  พวกคุณทำมันออกมาได้อย่างสมบูรณ์  ตรงนี้พวกผมรับรู้และชื่นชม"



"แต่การเป็นรุ่นเดียวกัน  ไม่ใช่แค่ต้องทำงานร่วมกันเท่านั้น  แต่พวกคุณต้องใช้ชีวิตร่วมกันไปอีกหลายปี  แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องงาน"



"การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  ดูแลเอาใจใส่กัน  เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้พวกคุณสามารถประคับประคองกันไปจนถึงจุดหมายได้  เพื่อนกันก็ควรจะไปด้วยกันใช่ไหมครับ?  มันไม่สมควรที่จะมีใครถูกทิ้งระหว่างทางใช่ไหม?"



"ใช่ไหมครับ!"  นัทถามย้ำเมื่อไม่มีคนตอบรับ



"ใช่ครับ!/ค่ะ!" ผมและปีหนึ่งตะโกนตอบ



"ตรงนี้ผมยังไม่ค่อยเห็นมันในรุ่นพวกคุณนะครับ"



"มีใครจะโต้แย้งหรือเปล่าครับ?" มันถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย  ตีนผมยังกระตุกเลยครับ แล้วพวกน้องๆล่ะ จะไม่รู้สึกกันได้ยังไง



"ผมครับ!"  น้องวินที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดยกมือขึ้น



"เชิญครับ" นัทผายมืออนุญาตให้น้องวินโต้แย้งข้อกล่าวหานั้นได้



"พวกผมเป็นรุ่นเดียวกัน  ทำงานด้วยกันมา  เหนื่อยด้วยกัน สู้ด้วยกัน  และพวกผมใส่ใจกันและกันมาตลอดครับ!" วินตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น  รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดีครับ ผมการันตีได้เลย  ไม่มีใครเอาเปรียบใคร ถึงจะมีพวกที่ติดเล่นไปบ้าง แต่เมื่อถึงเวลางานทุกคนก็ร่วมด้วยช่วยกันเสมอ  ถือว่าเป็นรุ่นที่โชคดีมากๆ



"คุณคิดว่าคุณใส่ใจกันมากพอแล้วหรอครับ?" ไอ้นัทยังคงขยี้ต่อไป



"พวกผมไม่มีวันทิ้งใครไว้แน่นอนครับ  ถ้าจะไปเราก็ไปด้วยกันทั้งหมด  แต่ถ้ามีคนที่ไม่ไหว  พวกเราจะช่วยกันพยุงไปให้ได้"



"แล้วถ้าเขาไม่ได้อยากไปกับพวกคุณล่ะ?" น้องวินขมวดคิ้วทันทีที่ได้ฟังคำถามจากไอ้นัท



"ผมก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเขาครับ  แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นผมต้องได้รับรู้ปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เขาไม่อยากเดินไปกับพวกผมก่อน" น้องวินตอบกลับอย่างหนักแน่น  เท่จังเลยครับน้อง  พี่ขอกรี้ดทีหนึ่งได้ไหม



"หึ  ก็ดีครับ  ผมหวังว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง  พวกคุณจะยอมรับมันได้จริงๆนะ"



"สงสัยกันไหมครับว่าทำไมผมถึงถามคุณเรื่องนี้  สงสัยไหมว่าอะไรที่ทำให้ผมไม่เห็นถึงความใส่ใจกันและกันของพวกคุณ?"



"ไม่สงสัยหรอ?" มันถามกวนตีนอีกครั้งเมื่อน้องๆเงียบ



"สงสัยครับ/ค่ะ"



"งั้นผมจะบอกให้"



"ง่ายๆแบบนี้เลยหรอวะ" ไอ้เบถามไอ้นัทเสียงขรึม  มันไม่ได้จริงจังอะไรกันหรอกครับ แค่บิวท์บรรยากาศแกล้งน้องกันเฉยๆ



"ง่ายแบบนี้แหละครับ  ผมไม่อยากพูดเยอะ เจ็บคอ" แหนะ ยังมีมุก ไอ้นี่



"เพื่อพิสูจน์ความเอาใจใส่ของพวกคุณ  ผมจะสุ่มเพื่อนๆคุณมาถามละกันนะครับ  ถ้าตอบกันได้  พวกผมก็จะยอมรับ  ว่าพวกคุณเป็นรุ่นเดียวกันจริงๆ"


          หลังจากพูดจบนัทก็สุ่มน้องๆออกไปยืนด้านหน้าทีละคน  ถามคำถามเกี่ยวกับคนๆนั้น 2-3คำถาม  ผ่านไปแล้วสามคน  พวกน้องยังตอบกันได้หมดครับ



"น้องคนที่สามแถวสี่ เชิญครับ"



"น้องคนนี้ชื่ออะไรครับ"



"โก้ครับ/ค่ะ" น้องๆช่วยกันตะโกนตอบ



"มาจากจังหวัดอะไร?"



"สงขลาครับ" น้องที่รู้ก็ช่วยกันตะโกนตอบ



"โรงเรียนล่ะครับ?"  คำถามนี้ทำให้น้องที่อยู่กลุ่มเดียวกับโก้มองหน้ากันไปมา



"ไม่รู้หรอครับ?  ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อนมาจากโรงเรียนไหนหรอ"



"อ่ะ งั้นผมข้ามไปก่อน  คุณยืนรอตรงนี้ก่อนครับ"  ไอ้นัทผายมือให้โก้ยืนข้างหลังแล้วเรียกคนต่อไป



"น้องแนน  พักอยู่หอไหน  ทราบไหมครับ?"



"งั้นผมข้าม ยืนรอด้านหลังเลยครับ"



"คนที่สี่ แถวที่หกครับ"  อ๊ะ สุดหล่อเองครับ  ถึงตาผมแล้ว ตื่นเต้นๆ



"คนนี้ชื่ออะไร"



"มิว!!" น้องๆส่วนใหญ่ตอบได้ แสดงว่าผมก็มนุษยสัมพันธ์ดีเหมือนกันนะเนี่ย



"น่ารักไหม?" เล่นกูแล้วไง  พี่เนมจ้องเขม็งแล้วเนี่ย มึงเห็นไหม



"โทษทีๆ  ผิดครับถามครับ  ผมจะถามว่า  มีแฟนหรือยังครับ"  ไม่ได้ดีกว่าเมื่อกี้เลยไอ้สัด กวนตีน!!



"มี... / ไม่ ...." น้องๆหันไปปรึกษากัน  โอ้โห เรื่องของผมนี่อย่างกับปัญหาระดับชาติ



"มีแล้วครับ/ค่ะ"  เสียงไอ้เวย์และน้องเกดตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน  อ่า...ครับ น้องเขารู้จริง!



"อ่าห๊ะ  มีแล้วเนอะ"  ไอ้นัทหันมาเล่นหูเล่นตาใส่ผม  บรรยากาศสนุกสนานเริ่มกลับมาอีกครั้ง  ที่ผมสงสัยก็คือ ทำไมมึงต้องใช้เรื่องของกูมาบิวท์น้องห๊ะ!!!



"แล้วน้องมิวสูงเท่าไหร่ครับ?"  ไอ้สัดดดดดดดด  อยากต่อยคนครับ



"170กว่าครับ/ค่ะ"  172 เว้ย 172!!! สองเซนก็มีค่าอะ เข้าใจไหม!



"อันนี้พี่ไม่ได้ถามครับ  พี่แค่บอกว่าน้องมิวเขาสูงเท่าไหล่เอง  เนี่ยๆ" มันเอามือทาบส่วนสูงผมแล้วไปเทียบกับไหล่มัน  เดี๋ยวเฉลยน้องเสร็จผมจะฆ่ามันทันทีเลยดีไหมครับ?  แล้วนั่นพี่เนมยิ้มทำไม ผมเห็นนะเว้ยยยย



"คำถามสุดท้าย  ชื่อจริงของมิวชื่อว่าอะไรครับ?"  อันนี้ผมไม่เคยบอกใคร  ตอนอาจารย์เช็คชื่อผมก็เนียนๆออกไปข้างนอก  พอกลับเข้าไปก็แกล้งๆไปยืนคุยกับอาจารย์เหมือนว่าขอเช็คชื่อ  ไอ้เวย์ก็เลยไม่ได้สงสัยอะไร  ส่วนน้องโก้กับน้องแนนก็ใช้วิธีเดียวกันครับ  หรือไม่ก็เข้าสายไปเลย  ประมาณว่าโดนเช็คขาด



"ไม่รู้หรอครับ?  ทีนี้พวกคุณจะยังยืนยันเหมือนเดิมไหม  ว่าพวกคุณใส่ใจเพื่อนกันมากพอ?"  เวย์มันขมวดคิ้วทำหน้าเครียดเลยครับ  เพราะมันสนิทกับผมที่สุด  แต่กลับตอบคำถามเกี่ยวกับผมไม่ได้  โถ่...ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูกนะ



"สิ่งที่พวกผมอยากจะบอกคุณก็คือ  ในวันนี้พวกคุณได้มาเจอ มารู้จักกันแล้ว  อย่าให้มันเป็นเพียงการรู้จักแบบผิวเผิน  ผมอยากให้พวกคุณใช้ใจ  เอาใจใส่เพื่อนๆของคุณ  อย่าให้เขาต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพัง  และถ้าหากคุณหลงลืมใครคนใดคนหนึ่งไป  ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าพวกคุณจะไม่เสียใจหากเขาเลือกที่จะจากไป"



"ส่วนสามคนนี้ที่คุณใส่ใจเขาไม่มากพอ  ผมขอคืนละกันนะ"  น้องๆปีหนึ่งนั่งเงียบกันเป็นแถว บางคนมีน้ำตาคลอด้วยอะ  ไอ้นัท  ไอ้สารเลว



"ไม่ได้ครับ นั่นเพื่อนผม"  เวย์ยืนขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง ท่าทางมันดูโกรธมากจริงๆ



"เพื่อนคุณ? แน่ใจหรอครับ" ไอ้นัทถามกวนตีนสุดๆ



"ครับ!" ไอ้นี่ก็ตอบเสียงดังฟังชัด เอ้อ! เท่วุ้ย



"ถามเขาหรือยัง...."  ไอ้เวย์ยืนจ้องผมเงียบๆ  กดดันมากครับ ณ จุดนี้  ดูเหมือนจะไม่สนุกอย่างที่คิดไว้เท่าไหร่  ไอ้เด็กนี่มันโคตรจะจริงใจเลย



"งั้นผมถามให้ละกัน  คุณมิว  เขาเป็นเพื่อนคุณหรือเปล่า?" โห ไอ้นัท ไอ้สัด ส่งมางี้  ไม่แรงไปหรอวะ  แต่ยังไงความจริงมันก็คือความจริงแหละเนอะ  เอาเป็นว่าอย่าโกรธกูละกันนะ.....น้องเวย์




"ไม่ใช่ครับ...." ไอ้เวย์แสดงสีหน้าผิดหวังออกมาอย่างเห็นได้ชัด  ไม่สิ  ต้องเรียกว่าผิดหวังและเสียใจมากๆ



".....ผมไม่ใช่เพื่อนคุณ  ผมมิว ไอดี ปี3 เป็นพี่ของพวกคุณครับ" หลังจากผมพูดจบก็เกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้น  ทุกคนต่างตกใจกับคำบอกเล่าของผม  ส่วนเวย์มันยืนนิ่งแล้วมองหน้าผมอยู่แบบนั้น



"สวัสดีครับ  ผมโก้ ไอดี ปี2"  น้องโก้ก้าวขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม  ตามด้วยน้องแนน



"สวัสดีค่ะ แนน ไอดี ปี2 ค่ะ"




            หลังจากที่พวกผมเปิดเผยตัวตนว่าเป็นพี่เนียนกันเรียบร้อยแล้ว บรรยากาศก็กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง น้องๆต่างตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีพี่เนียนแฝงมาจนถึงตอนเปิดเทอม ส่วนใหญ่ต่างสนุกสนานเฮฮา มองว่ามันเป็นเรื่องตลก  แต่ไอ้น้องเวย์ที่ตอนนี้นั่งลงไปแล้ว  ยังไม่พูดไม่จากับใครเลย  ลักษณะเหมือนงานจะเข้าผมนะ


"เราให้พี่เนียนพูดอะไรกับพวกคุณหน่อยละกัน ในฐานะที่เขาเข้าไปสัมผัสพวกคุณมากกว่าพวกผม" ไอ้นัทส่งสัญญาณให้น้องปีสองพูดก่อน  ผมที่เป็นพี่เนียนปีโตสุด เลยต้องรับหน้าที่กล่าวปิดท้าย




"สำหรับผม รุ่นพวกคุณเป็นรุ่นที่โชคดีมาก  พวกคุณเข้ากันได้ดี  ช่วยเหลือกันตลอด คุณโชคดีที่ไม่มีปัญหาให้ต้องเลือกตัดใครหรือมีปัญหากับใครเป็นพิเศษ  มิตรภาพของพวกคุณมันสวยงามมากจริงๆ ผมอยากให้คุณเก็บมันไว้  และก็ขอบคุณที่ให้ผมได้เข้าไปสัมผัสมิตรภาพที่สวยงามของพวกคุณด้วย.....




"......ถึงตอนนี้ผมจะพูดกับคุณในฐานะรุ่นพี่ แต่มิตรภาพที่คุณมอบให้ผมมา  มันไม่ได้หายไปพร้อมกับสถานะหรอกนะ  ขอบคุณมากนะครับสำหรับสิ่งดีๆ  ขอบคุณทุกอย่างเลย :)" ประโยคสุดท้ายผมมองหน้าเวย์ที่เงยหน้าขึ้นมามองผมเหมือนกัน  อยากขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง  ขอบคุณที่เป็นเพื่อน  ขอบคุณที่ดูแล  ขอบคุณที่คอยถามไถ่ตลอด  ขอบคุณที่ใส่ใจ  และจะขอบคุณมาก....ถ้าจะไม่โกรธกัน



"พี่ว่าน้องหลายๆคนคงจะมีคำถามที่อยากจะรู้กันอีกใช่ไหมครับ" ไอ้นัทพูดต่อจากผม  น้องๆก็พากันทำหน้างงๆ คงสงสัยกันว่ามันจะมีเรื่องน่าตกใจอะไรอีก  นี่ผมก็สงสัยเหมือนกันเนี่ย



"อย่างเช่นว่า....  ไอ้มิวมีแฟนแล้วจริงหรอ อะไรแบบนี้อะครับ  คงต้องให้เจ้าตัวยืนยันกันหน่อย ว่าไงครับ  มีแฟนหรือยังเอ่ย?"  ไอ้สัด!



"มีแล้ว!" ผมตะโกนใส่หน้ามัน หมั่นไส้แม่ง!  หลังจากนั้นก็มีเสียงโห่ดังขึ้นมาเบาๆ



"อ้าว  ที่โห่กันนี่ยังไงครับๆ"  ไอ้นัทขยี้ต่อ  พวกผมเฉลยพี่เนียนกันที่ใต้ตึกในคณะครับ  ตอนนี้พวกที่ยืนดูอยู่เลยมีพวกภาควิชาอื่นๆด้วย



"เสียดายครับ"  มีเสียงตะโกนออกมาจากวงด้านหลัง  แต่ผมไม่เห็นว่าใครเป็นคนพูด  ตอนนี้มองแต่พี่เนมอยู่ครับ  ขมวดคิ้วอีกแล้วนั่น



"โอ้วว  ผมว่าเปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าครับ  ก่อนที่บรรยากาศจะรุนแรงไปมากกว่านี้"  ไอ้นัทที่ก็คงสังเกตเห็นพี่เนมเหมือนกันเลยรีบหาทางเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่จะได้เกิดเรื่องจริงๆ




"ไหนใครสงสัยอะไรอีกไหมครับ  เรื่องรับน้อง  กำหนดการ  หรือเรื่องอื่นก็ได้  เสร็จแล้วเราจะได้กลับไปพักผ่อนกัน"




"เรื่องมิวคร้าบบบ  แฟนหวงมากไหมอะ  เป็นกิ๊กได้เปล่าครับ"  ไอ้พวกวิจิตรศิลป์ตะโกนถามขึ้นมา  ภาควิชานี้มันบ้าๆบอๆครับ  คือถามกวนตีนไปงั้นไม่คิดอะไรหรอก  และส่วนใหญ่คนภาควิชานี้เป็นเพื่อนที่ดีมากๆครับ  ผมก็เลยต้องทนคบพวกมันไว้




"หวงมากเว้ย!  แล้วมึงอะเคลียร์กับเมียได้ยัง  เดี๋ยวได้นอนหน้าห้องอีกหรอก"  พอผมตะโกนตอบกลับไปก็เกิดเสียงหัวเราะขึ้นทันที  อาทิตย์ที่แล้วมันโดนเมียไล่ออกมานอนหน้าห้องน่ะครับ  รีบมาปรึกษาพวกผมใหญ่เลย ฮ่าๆๆ




"ไม่มีวันนั้นอีกแล้วโว้ย  เพราะมันไล่กูไปนอนระเบียงแทน"




"ฮ่าๆๆ"  นี่คณะสถาปัตย์หรือคณะตลกครับ?




"แฟนหวงมากทำไมไม่มาเฝ้าล่ะครับ  เดี๋ยวน้องมิวก็โดนฉุดหรอก"  กวนส้นตีนจริงๆให้ตาย





"ผมก็เฝ้าอยู่นี่ไงครับ  พวกคุณหมดธุระแล้วใช่ไหม  ผมจะได้พาแฟนผมกลับ"  ก่อนที่ผมจะได้โต้ตอบมัน  พี่เนมก็เดินเข้ามาโอบเอวผม  แล้วตอบแทน




"เชี่ย//กรี้ดด" เสียงสบถและเสียงกรี้ดดังขึ้นเบาๆ  ผมว่าทุกคนน่าจะเกรงใจใบหน้านิ่งๆของพี่เนม เลยไม่กล้าส่งเสียงดัง  และเผื่อทุกคนจะลืม  ผมยืนอยู่กลางวงและต่อหน้าน้องปีหนึ่งนะครับ  ให้ทายว่าหน้าผมเหวอแค่ไหน




"ตกลงว่ากลับได้แล้วใช่ไหม?  ไปครับ" พี่เนมหันไปถามพวกเพื่อนๆผม ซึ่งก็พยักหน้ารับกันรัวๆ  ประโยคหลังก็หันมาพูดกับผม แล้วพาเดินออกจากวงล้อมทันที






หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นผมไม่รู้



รู้แต่ว่า'หน้าร้อน'สัดๆ



แต่ถ้า'น่ารัก'อะ......






แฟนผม!!!!!





******************************************************************

ฮืออออ  เค้ามาแล้วตัวเอง  รักทุกคนน้าาาาา












หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่26 (15/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-10-2018 22:13:20
สงสารน้องเวย์อะ คงช๊อค ขวัญเอ๊ยขวัญมา
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่26 (15/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-10-2018 22:56:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่26 (15/10/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 15-10-2018 23:55:08
 :hao7:  :hao7:  :hao7: น้องน่ารัก แล้วอย่าลืมรัดแน่นๆนะค่ะ  :hao7:  :hao7:  :hao6:
หัวข้อ: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 07-11-2018 23:05:54
Chapter 27



"มิว งานจารย์โจ้มึงได้กี่สเก็ตแล้ววะ" ไอ้เต้เดินมานั่งข้างผม หลังจากที่มันขยี้ก้นบุหรี่ด้วยฝ่าเท้า 



"ประมาณยี่สิบกว่าแบบได้  กูคิดไม่ค่อยออกว่ะ ตันๆ"



          หลังจากเฉลยพี่เนียนแล้ว ผมก็กลับมาเรียนกับเพื่อนๆตามปกติ  และมีงานท่วมหัวเป็นปกติเช่นกัน  ตอนนี้ผมมานั่งพักที่ร้านกาแฟในคณะครับ  ร้านเดิมกับเมนูเดิมๆอย่างชามะลิ :)



"เออ  กูก็ตัน แม่ง! คืนนี้เมาคลีปะ" คิดงานไม่ออกก็คิดเรื่องเหล้าเรื่องเบียร์แทนเลยนะคุณมึง



"เชิญมึงชวนคนอื่นเลยครับ กูไม่ไป"



"โห่  ไรวะ  คลายเครียดไงมึง  เผื่อจะคิดงานออกตอนมองแก้วเหล้างี้  ฮ่าๆๆ"



"ช่วงนี้พี่เนมเครียดๆว่ะ  กูไม่อยากให้อยู่คนเดียว"



"เอ้า!  กูปูอย่างฮา ดึงเข้าดราม่าเฉย  พาพี่เนมมาคลายเครียดด้วยกันเลยดิ"



"คงจะยอมวางงานหรอก  ทุกวันนี้กูเรียกไม่ต่ำกว่าห้ารอบ  ถึงจะยอมมานอนได้"  ช่วงนี้พี่เนมเครียดเรื่องโปรเจ็คจบมากครับ เห็นบอกว่าหัวข้อที่เสนอไปยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่  พอเขาเครียด ผมก็เครียดไปด้วยเลยเนี่ย  ไม่กล้ากวนเลยครับ




"มึงก็คลายเครียดให้เขาสิ ยากอะไรวะ" พูดง่ายเหลือเกินนะไอ้สัด 



"ถ้ากูทำได้  กูจะมานั่งเครียดอยู่อย่างนี้ไหมครับคุณเต้ คิดสิคิด"



"มึงเป็นแฟนเขา  แล้วเขาก็รักมึง  ถ้ามึงทำให้เขามีความสุขไม่ได้  แล้วใครจะทำได้วะ  กูไปทำงานต่อและ  เหม็นหน้าคนโง่"




"สัด!"  พูดจบมันก็วิ่งหนีไปอย่างไว  ให้คำปรึกษาดีๆแบบไม่กวนตีนกันนี่ไม่ได้เลยนะพวกเพื่อนผมเนี่ย  เฮ้อออ~~












"พี่เนม~  หิวไหมครับ  พักทานขนมก่อนไหม"  ผมถือจานคุ้กกี้เข้าไปหาพี่เนมที่โต๊ะ  พี่เนมนั่งขมวดคิ้วมาสองชั่วโมงแล้วครับ ตั้งแต่ผมกลับมาที่หอเขา  ไม่รู้ว่าก่อนผมมานี่นั่งเครียดไปกี่ชั่วโมงแล้วด้วยนะ




"ทานก่อนเลยครับ  พี่ขอแก้งานอีกนิดนะ"  ว่าแล้ว  ซื้อหวยไม่ถูกอย่างนี้บ้างวะ   ช่วงนี้ขนมนมเนยอย่าหวังว่าคุณพี่จะกิน  ขนาดอาหารที่ต้องกินสามมื้อพี่ท่านยังไม่อยากจะกินเลยครับ  จะจบก่อนหรือป่วยก่อน คงต้องให้คุ้กกี้ทำนายกัน

.

.

.

.

.


"พี่เนมมม~ "



"แปปนึงครับ" 



          หลังจากบังคับพี่เนมให้ทานข้าวเย็นได้  ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้วครับ  พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียนเลยกะว่าจะรีบเข้านอน(นอนเที่ยงคืนนี่ถือว่าเร็วกว่าปกติแล้วนะครับ)  พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาทำงานได้เต็มๆวัน  พี่เนมเองก็ไม่มีเรียนเหมือนกัน ผมเลยชวนมานอนพร้อมกัน  นี่ก็ชวนเป็นรอบที่หกได้แล้ว  ชนะสถิติเมื่อวานที่เรียกไปห้ารอบได้  ถือว่ามีพัฒนาการนะครับเนี่ย  เฮ้อออออ



"ฟอด~~ งอนหรอครับ  ดีกันนะ"  หลังจากที่เห็นผมเงียบไป  คุณชายตัวดีถึงได้ยอมปิดคอมแล้วเดินมานอนด้วยกัน  ถามว่างอนไหม  ก็เปล่าหรอกครับ  ผมแค่เป็นห่วงน่ะ




"ไม่ดีได้ไหม  ช่วงนี้พี่เนมดื๊อดื้อ"  ผมทำหน้ามุ่ยอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโต



"หึหึ  ขอโทษครับคนดี  อาทิตย์นี้พี่ต้องพรีเซนต์หัวข้อรอบสุดท้ายแล้ว  เลยต้องรีบทำ  เราอย่าโกรธพี่เลยนะ"  พูดแล้วก็เอาจมูกมาชนกันเบาๆ  อย่างนี้จะโกรธลงหรอครับ




"มิวไม่ได้โกรธ~  แค่เป็นห่วง  และก็รู้ด้วยว่ายังไงพี่เนมก็ต้องทำ  แต่ว่า....มิวก็แค่อยากให้พี่คลายเครียดบ้าง  แค่อยาก...จะเป็นความสุขของพี่บ้าง เท่านั้นเอง"  พูดไปก็ทำตาอ้อนพี่เนมไปด้วย  เคยเป็นกันไหมครับ ไม่อยากให้คนที่เรารักเครียดเลย  แต่รู้ว่ายังไงเขาก็ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำอยู่ดี  ยังไงก็ขอแค่ช่วยให้ผ่อนคลายได้บ้าง ก็ยังดี




"เหนื่อยไหมครับ"  พอเห็นพี่เนมเอาแต่ยิ้ม  ผมเลยถามต่อซะเลย  แอบเอามือไปเกลี่ยแก้มเล่นด้วย  คนอะไรหน้าใสเป็นบ้า




"หึหึ  เห็นหน้าเราก็หายเหนื่อยแล้วครับ"  พี่เนมยิ้มกว้างแล้วลูบแก้มผมบ้าง  มือไม้เราพันกันไปหมด  แต่ก็....รู้สึกดีนะ




"จริงหรอ~~~~"  ผมลากเสียงยาวกวนเขา  แถมดึงแก้มพี่เนมให้ยืดออกอย่างหมั่นเขี้ยว  เรื่องพูดให้คนอื่นเขินนี่เก่งจริงนะ




"กล้าแกล้งพี่หรอเรา  พี่กำลังเครียดอยู่นะ"  พี่เนมยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วใช้ปลายจมูกเกลี่ยจมูกผมไปมา  โอ๊ยยยย  มันเขินนะ!!!




"ฮื้อ~~  เรื่องงานไว้ค่อยเครียดต่อพรุ่งนี้นะ  ตอนนี้พักผ่อนก่อน โอเคไหมครับ?"  ผมข่มความเขินเอาไว้  แล้วพูดปลอบคนตัวสูงด้วยใบหน้าร้อนจัด  ก็คนมันเขิน ให้ทำยังไงอ่ะ  ก็รู้ว่าแฟนเครียด!!  แต่ก็ยังเขินอยู่ไง!!





"พี่จะหายเครียดถ้าเราอ้อนพี่บ่อยๆ"




"หืม?  ได้หรอครับ"




"ทำไมจะไม่ได้ครับ  หืม?"  กวนจริงๆเลย  ช่างยอกช่างย้อน  ถ้าเป็นเด็กจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู   




"......."  ผมมองค้อนพี่เนมไปทีนึง  ไม่อยากพูดครับ  พูดไปก็แพ้  แพ้ทุกทางเลยแหละ




"ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเราอ้อนพี่เลย  โกรธที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้หรือเปล่า" 




" เปล่าครับ  มิวเข้าใจ  มิวแค่ไม่อยากกวนพี่เนมมากเท่านั้นเอง"  พูดแล้วก็ซุกตัวลงในอ้อมกอดอุ่น  ให้คนตัวสูงลูบหัวลูบหลังให้   




"แต่พี่อยากให้เรากวนนะ  อยากเอาแต่ใจ  อยากงอแงแค่ไหน  ตามใจเราเลย  ในเมื่อเราอนุญาตให้พี่ดูแลเราแล้ว  พี่ก็อยากดูแลแฟนพี่ให้ดีที่สุด  เข้าใจไหมครับ"  พูดจบก็จุ๊บที่หน้าผากหนึ่งที  คือยังไงอะ  อยากให้รักมากกว่านี้อีกหรอ  แค่นี้ก็รักมากจนไม่รู้จะมากกว่านี้ได้ยังไงแล้วครับคุณเนม





"ฮื้อ~  เข้าใจครับ..."





"....อยากให้อ้อนใช่ไหม?" ผมผละออกจากอ้อมกอดคนตัวสูง  แล้วปีนขึ้นมาคร่อมบนตัวเขาแทน   ยื่นหน้าลงไปใกล้ๆ  แล้วก็....




"จุ๊บ!"  ผมจุ๊บที่ปากสวยได้รูปหนึ่งทีแล้วยิ้มตาหยี  ก่อนจะจุ๊บลงไปอีกทีบนปลายจมูกคม




"อย่าเครียดเลยนะ  ฟอด~"  หอมแก้มซ้ายไปที




"พรีเซนท์รอบนี้ต้องผ่านแน่ๆ  ฟอด~"  ต่อด้วยแก้มขวา




"แล้วก็......"  ผมโน้มตัวลงให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูของคนด้านล่าง  ก่อนจะกระซิบคำที่อยากให้เขารับรู้มากที่สุด




"รักมากนะครับคนดี"  โคตรรักเลย~~




"หายเครียดไหมครับ?"  ผมยืดตัวขึ้นมานั่งหลังตรง  มือสองข้างเท้าอยู่กับหน้าอกแกร่ง  ก่อนจะเอียงคอถามคนด้านล่าง




"พี่เครียดกว่าเดิมอีกตัวเล็ก" 




"อ้าว..."  ผมเกาหัวอย่าง งงๆ  เมื่อกี้พี่เขามัวแต่คิดเรื่องงานจนไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยหรือไง  ทำไมถึงยังเครียดอยู่ล่ะ  นี่ผมก้อ้อนเต็มที่แล้วนะ!




"....อย่าเครียดเลยนะ  นะๆ  รอบนี้ผ่านแน่นอน  เชื่อมิวสิ!"  ผมให้กำลังใจคนตัวสูงอย่างฮึกเหิม  จะเครียดอีกกี่ครั้ง  ผมก็พร้อมจะเป็นกำลังใจให้เสมอนั่นแหละ




"พี่ไม่ได้เครียดเรื่องงาน"




"มีเรื่องอะไรอีกหรอครับ?"  พี่เนมมีปัญหาเรื่องอื่นอีกหรอ  ทำไมผมไม่รู้ล่ะ  เป็นแฟนที่แย่จริงๆเลย  ให้ตาย




"เรื่องเรานั่นแหละ"  พอได้ฟังคำตอบ  ผมถึงกับขมวดคิ้วทันที  ปากก็เริ่มเบะนิดๆแล้วด้วย  ไม่ได้จะร้องเลยนะ  เชื่อผมสิ!




"....ทำไมล่ะครับ"  ผมหลุบตาลงมองมือตัวเองที่อยู่บนอกเขาแทน  ไม่กล้าสบตาเลย  เหมือนเด็กที่กำลังกลัวความผิด  กลัวว่าจะเผลอไปทำอะไรที่ไม่ถูกใจเข้า




"น่ารักขนาดนี้  จะให้พี่อดใจไหวได้ยังไง"




"เห้ย!!  พี่เนม~~"  ผมร้องเสียงหลง  เมื่ออยู่ดีๆคนตัวสูงก็จับผมพลิกลงไปนอนแทนที่ตัวเองที่ด้านล่าง




พี่เนมโน้มตัวลงมาเกลี่ยปลายผมที่ปรกหน้าออก แล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้กัน  ก่อนจะหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มกว้าง




"พี่ไม่กล้ามองหน้าเราเลย  กลัวว่าเราจะน่ารักไปมากกว่านี้  กลัวว่าหัวใจมันจะเต้นแรงกว่านี้  กลัวว่าพี่....จะอดใจไม่ไหวจริงๆ"




"อดใจเรื่องอะไรครับ  อยากจะจูบมิวหรอ  จูบได้เลย  มิวไม่ได้ห้ามซักหน่อย"  ผมประคองใบหน้าได้รูปไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง  ก่อนจะดึงลงมาให้ปลายจมูกเราแตะกัน  ชอบจัง  ชอบที่ได้อยู่ใกล้ๆเขาแบบนี้




"อื้ม~~"  พี่เนมลืมตา  แล้วประกบปากลงมาทันที  เรียวลิ้นแทรกเข้ามาหยอกล้อในโพรงปากผม  ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นรสจูบแสนหวาน  เชื่อแล้วครับ  ว่าอยากจะจูบกันจริงๆ  และผม...ก็ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธเขาเลย  ไม่เคยเลยจริงๆ




"ไม่ใช่แค่จูบนะ  พี่อยากทำกับเรามากกว่าจูบด้วย  ถ้าเรายังไม่พร้อม  ช่วยอย่าน่ารักมากไปกว่านี้เลยได้ไหมครับ  ถือว่าช่วยพี่ละกันนะ"  พอถอนริมฝีปากออก  คนตัวสูงก็ซุกหน้าลงกับซอกคอผม  ก่อนจะเอ่ยคำขอร้อง




คำขอร้อง....ที่โคตรจะน่ารัก!




"หมายความว่าถ้ามิวพร้อม  มิวจะทำตัวน่ารักมากกว่านี้ก็ได้ใช่ไหมครับ?"  ผมยกมือขึ้นคล้องรอบคอคนตัวสูง  ก่อนจะเอียงคอถามคนที่เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน




"ตัวเล็ก!  พี่พูดจริงๆนะ  ห้ามซนรู้ไหมครับ"  พี่เนมโวยวายเสียงดังเมื่อผมเลื่อนมือไปลูบแขนเขา  กล้ามเนื้อบนต้นแขนนั่นทำให้ผมต้องแอบกลืนน้ำลาย  หรือว่าผมไม่ควรจะซนจริงๆนะ?




"พี่เนมอยากทำอะไร  มิวก็ให้หมดนั่นแหละ  ในเมื่อมิวยอมให้พี่ดูแลแล้ว  แสดงว่ามิวเป็นคนของพี่ถูกไหมครับ?"




"พี่ไม่อยากเร่งรัดเรา  พี่อยากให้เรามีความสุขที่สุด  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับมิวนะ  พี่ให้สิทธิ์เรา"




"ไม่ครับ  ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ'เรา'  เราสองคน  ถ้าพี่เนมมีความสุข  มิวก็มีควาสุข"




"แต่พี่....."




"พี่ไม่เชื่อว่าตัวเองจะทำให้มิวมีความสุขได้หรอ?  แต่มิวเชื่อนะ   เชื่อว่าคนตรงหน้านี้  ไม่มีวันทำร้ายมิวแน่นอน  จริงไหมครับคนดี"  ผมยิ้มให้คนด้านบนที่คิ้วค่อยๆคลายออกจากกันช้าๆ




"พี่ไม่มีวันทำร้ายเราแน่นอนครับ  สรุปว่า  เราอนุญาตให้ทำมากกว่าจูบได้ใช่ไหม?"  จากหน้าเครียดเมื่อกี้  กลายเป็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันที  ให้มันได้อย่างนี้สิ  เฮ้ออ~~~




"อนุญาตครับ  แต่ไม่ใช่ตอนนี้"  ผมหยุดมือหนาร้อนที่กำลังรุกล้ำเข้ามาในปลายเสื้อ    คิดถูกใช่ไหมครับที่อนุญาตเนี่ย




"ดึกแล้วครับ  นอนกันนะ  พรุ่งนี้ต้องตื่นมาทำงานกันอีก"  คนตัวสูงยิ้มขำ  ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆ




"ครับๆคนดี  นี่ไม่ได้กลัวพี่เลยเนอะ  ตัวสั่นเชียว" 



"เปล่ากลัวนะ!  กะ..ก็แค่  คนมันไม่เคยอะ"



"มากอดหน่อยมา  ไม่ต้องกลัวนะครับ  พี่ไม่ทำแล้ว"  คนตัวโตดึงผมเข้าไปในอ้อมกอด ลูบหัวลูบหลังปลอบกันเบาๆ




"เอาไว้....หัวข้อผ่านก่อนละกันเนอะ  ถือว่าเป็นรางวัล  แต่ตอนนี้นอนกันก่อนนะ  นะครับ"  ผมไม่ได้ไม่อยากให้ทำ  ไม่ได้กลัวพี่เนม  แต่ว่า...ขอทำใจแปปได้ไหมอะ




"หึหึ  ครับๆ  นอนกัน"




"ฝันดีนะครับตัวเล็ก  จุ๊บ!"




"ฝันดีครับตัวโต  จุ๊บ!"




ฝันดีนะครับทุกคน  ;)





----------------------------------------------------------------------

พี่เนมเครียด  เราก็เครียด  แงงงง

หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-11-2018 00:03:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-11-2018 05:55:29
เมื่อไหร่มิวจะพร้อมอ่ะ..............  :hao5:
คนอ่าน รอมิวพร้อมมานานแล้วน้าาาาา   :z3:  :เฮ้อ:  :monkeysad:

พี่เนม  มิว   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 10-11-2018 08:39:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 11-11-2018 23:31:34
ฝันดีจ้า ทั้งสองคน   :katai3:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-11-2018 08:13:42
คิดว่าจะ..... :hao6: รอวันพี่เนมผ่านจะได้รางวัลจากน้องมิว น่ารักกันจังเลยพี่ตัวโต น้องตัวเล็ก
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 06-12-2018 10:33:35
 :L2:
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 16-09-2019 22:38:46
คุณคนเขียนนนน
จะครบปีแล้วน้า
คิดถึงนะคะ

ถ้าพอมีเวลา
อย่าลืมแวะมาทักทายกันน้า
ยังรออยู่เสมอนะคะ~~
หัวข้อ: Re: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่27 (7/11/18) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 16-01-2020 23:12:25
ยังรอคุณอยู่นะจ๊ะ  :katai3:
หัวข้อ: รัก ไม่ 'นิ่ง' :: รักที่28 (23/06/21) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Christa ที่ 23-06-2021 22:30:32
Chapter 28





“เงยหน้ามองเครื่องบินอยู่หรอจ๊ะน้องมิว”    เสียงกวนประสาทของไอ้เต้ดังมาจากทางด้านหลัง  ตามด้วยน้ำหนักแขนมันที่พาดลงมาบนหัวผม
อ่านไม่ผิดกันหรอกครับ ‘หัวผม!!’





“มองหาพ่อมึงต่างหาก เมื่อไหร่จะลงมารับมึงไปสักที อยู่ไปก็หนักหัวกูเปล่าๆ”   แขนแม่งใหญ่กว่าขาผมอีกมั้งเนี่ย





“พ่อกูยังไม่ตายไหมล่ะ   มีผัวคุ้มกะลาหัวหน่อย  ทำปากดีนะครับ”





“กูไม่ได้มีดีแค่ปากหรอกน้า~~~~  เพื่อนเต้อยากลองไหมล่ะครับ”    ผมพูดจาล้อเลียนมัน  พร้อมส่งสายตาปิ๊งๆ ให้อีกหนึ่งที
อย่างผมน่ะ  มีอะไรให้ลองอีกเยอะเลยนะ  ใครสนใจทักแชทมาได้เลยครับ อิอิ




“หึ ทำเป็นปากดีนะครับน้องมิว  ไอ้ที่ว่ามีดีให้ลองเนี่ย  แฟนคุณมึงได้ลองรึยังครับ?”   ไอ้เต้ก้มหน้ามาล้อเลียนผม  โดยที่แขนมันก็ยังพาดอยู่ที่เดิมนั่นแหละ  โอ๊ย หนักหัวโว๊ย!




“คือว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับแฟนผมอะครับ  ไม่อยากจะพูดออกสื่อสักเท่าไหร่  กลัวแฟนผมจะดูไม่ดี”  ผมตอบกลับมันไป
พร้อมกับเอาแขนมันออกจากหัวผม  ไอ้พวกตัวถ่วงความสูงคนอื่น!




“หึๆ  คนที่ดูไม่ดีน่ะมันมึงต่างหากแม่สาวน้อย  เล่นตัวมาก ระวังเขาไม่อยู่เล่นกับมึงน้า~~ กูกลับและ อิอิ” มันพูดกวนประสาทใส่ผมเสร็จก็เดินออกจากตึกเรียนไป  ไอ้เวรนี่  เก่งจริงก็อย่าหนีเซ่!!  ตัวๆกับพี่เนมไหมล่ะ  โถ่!




            ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงกว่าๆ   เพื่อนๆผมทยอยกลับหอกันไปหมดแล้ว  ไอ้เบก็หิ้วไอ้ซีกลับตั้งแต่เลิกคลาส   ตัวผมที่ไม่ได้มีธุระรีบร้อนอะไร   ก็เลยยืนชมท้องฟ้ายามเย็นอยู่หน้าตึก    ไอ้เต้ที่ลงมาคนสุดท้ายเพราะเก็บของเสร็จช้าที่สุดก็กลับไปแล้ว   ตอนนี้เลยเหลือแค่ผมที่ยืนมองวิวทิวทัศน์  รับลมเย็นๆอยู่คนเดียว



เฮ้อออ~~~~ มันผ่อนคลายดีนะครับ



            เวลาที่ผมว่างหรือเหนื่อย  ผมจะชอบมองดูท้องฟ้า    ไม่ว่าจะตอนเช้า  ตอนสาย  ตอนบ่าย  หรือตอนเย็น   ชอบสังเกตดูก้อนเมฆที่แปรเปลี่ยนรูปร่างแตกต่างกันไป    ยิ่งตอนที่มันมีรูปร่างเป็นก้อนหยักๆ  เหมือนที่เราชอบวาดกันในตอนเด็ก  รูปร่างแบบนั้นน่ะ  ผมชอบมันมากๆเลยล่ะ 


            มันให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เราเป็นเด็ก  ช่วงเวลาที่เรามองหาความสนุก ความสุข อยู่ตลอดเวลา  ช่วงเวลาที่คำว่าหน้าที่  ความรับผิดชอบ  หรือสิ่งต่างๆที่เราแบกไว้  มันไม่ได้เยอะมากนัก   เราจึงยังมองเห็นความสุข ความสนุก จากสิ่งเล็กๆน้อยๆได้   ช่วงเวลาที่สิ่งที่เราแบกไว้  มันไม่ได้กดให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ขยับตัวไม่ได้   กรอบที่ล้อมรอบตัวเรา  มันยังไม่ได้บีบการกระทำของเราให้อยู่ในวงที่แคบลงจนไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองได้ 


            แต่ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่  ยิ่งเราเติบโตขึ้น  ผ่านเรื่องราวต่างๆมากขึ้น  มองเห็นโลกในมุมมองที่กว้างขึ้น  สิ่งที่เราแบกไว้มันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  บีบบังคับการกระทำของเราให้อยู่ในกรอบที่มันควรจะเป็น  พอได้นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาเด็กนั้น  มันเลยทำให้ผมผ่อนคลายได้ทุกที  ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมไหมนะ  เวลาที่นึกถึงเรื่องราว  ความรู้สึก  หรือเหตุการณ์ต่างๆที่มันเคยเกิดขึ้น และผ่านไปแล้ว   มันจะเกิดอาการ หวิวๆ ชาๆ  เป็นความรู้สึกดีๆ  ที่อธิบายไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่  บางความทรงจำที่เป็นเรื่องราวดีๆเราก็รู้สึกคิดถึง  อยากจะย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น  หรือแม้แต่ความทรงจำที่มันแย่ เราก็ยังรู้สึกดีที่ผ่านมันมาได้  ไม่รู้ทุกคนเป็นเหมือนกันไหมนะ 




แต่ผมว่า ‘ความทรงจำ’ น่ะ 




มันทำให้ ‘คิดถึง’ ได้ตลอดเลยล่ะ








Mewtation  ::  มิวกลับหอแล้วนะครับ  พี่เนมอย่าลืมกินข้าวเย็นด้วยล่ะ

N.  ::  โอเคครับ  ถึงหอแล้วบอกพี่ด้วยนะ

Mewtation  ::  โอเค


ผมเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปยังฟีโน่คู่ใจของผม   กลับไปนอนสักตื่น  แล้วคืนนี้ค่อยลุยงานกันต่อ  ไอ้มิว สู้ สู้!











   ช่วงนี้ผมกับพี่เนมไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไหร่   ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ   ตัวพี่เนมหลังจากที่ได้หัวข้อสำหรับ        โปรเจ็คจบแล้ว  ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นของการทำโปรเจ็คแล้วครับ   ตัวผมเองหลังจากที่เปิดเทอมมาได้สักพัก  งานก็เข้าตามระเบียบ  อย่างพวกผมน่ะชิลล์กันได้ไม่นานหรอก  เนื้อหาที่อาจารย์ต้องสอนมีไม่เยอะเท่าคณะอื่นก็จริง  แต่คณะเราเน้นการปฏิบัติ  งานมันก็เลยเยอะกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา  เฮ้อ~~  ว่าแล้วก็ถอนหายใจสักหน่อย  แต่ถามว่าถ้าเลือกได้อยากเปลี่ยนไปเรียนคณะอื่นไหม  ก็ตอบได้เลยว่า ‘ไม่’  ในเมื่อเราเลือกทางของเราแล้ว  ก็มาทำมันให้ดีที่สุดกันเถอะ!


Mewtation  ::  มิวถึงหอแล้วนะ  พี่เนมกินข้าวยัง?


            หลังจากที่ส่งข้อความรายงานสถานการณ์เสร็จเรียบร้อย   ผมก็โยนโทรศัพท์ลงไปบนเตียง   ก่อนเข้าหอเมื่อกี้ ผมแวะซื้อข้าวมาเรียบร้อยแล้วครับ  ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อนละกัน  อาบเสร็จแล้วค่อยมากินก็ได้  ผมยังไม่ค่อยหิวสักเท่าไหร่  เป็นห่วงก็แต่คนตัวโต  กินข้าวรึยังนะ?  ข้อความผมก็ส่งทิ้งไว้แบบนั้นแหละ  ถ้าเขารับรู้ว่าผมถึงหอแล้ว  กว่าคุณชายเขาจะตอบมาอีกทีก็คงหลังจากกินข้าวเสร็จ  เพื่อป้องกันการโดนผมบ่น  หากเขาตอบกลับมาว่า’ยังไม่กิน’   แล้วช่วงเวลาที่ตอบกลับมาน่ะ  ห้าทุ่มบ้าง  เที่ยงคืนบ้าง  ตีหนึ่งตีสองก็มี  แบบนี้มันน่าตีไหมล่ะ!




21.00 น.

Mewtation  :: พี่เนม  ทานข้าวได้แล้ว

Mewtation  :: อย่าให้ต้องไปดุถึงหอนะ


N.  ::  ยังไม่อยากทานเลยครับ  ช่วยมาดุหน่อยได้ไหม


หึ  รู้ว่าผมไปไม่ได้ก็ยังจะกวนประสาทกันอีกนะ 


Mewtation  :: รีบๆไปทานเลยครับ  งานมิวเหลืออีกเยอะเลย  ไว้จบงานนี้เมื่อไหร่  จะรีบไปหานะ

Mewtation  :: แต่ถ้าพี่เนมยังไม่รีบไปทานข้าว  มิวจะไม่ไปหาแล้วนะ 


N.  ::  กำลังจะทานแล้วครับ  อาหารเพิ่งมาส่งเมื่อกี้เลย 


Mewtation  :: โอเคครับ  วันนี้เที่ยงคืนก็นอนได้แล้วน้า  ไว้ค่อยลุยงานต่อพรุ่งนี้  สู้ๆนะครับ


N.  ::  กำลังใจดีขนาดนี้  พี่ต้องจบก่อนเพื่อนแน่ๆเลย 


Mewtation  :: หึ  รีบๆกินเลยครับ  มิวไปทำงานต่อแล้ว


N.  ::  สู้ๆนะครับ ตัวเล็ก

N.  ::  สติกเกอร์ ‘กอด’


            ผมแวะเติมกำลังใจนิดนึง  ก่อนจะปั่นงานต่อ  ได้คุยนิดคุยหน่อยก็แฮปปี้แล้วครับ  เคยเห็นคน’คลั่งรัก’กันไหมครับ?  ถ้าไม่เคยมามุงดูตรงนี้ได้เลย :D














   งานนี้ค่อนข้างจะเป็นโปรเจ็คใหญ่  ผมต้องแยกตัวออกมาทำที่หอตัวเอง  เพราะต้องใช้อุปกรณ์ทำโมเดลและงานส่วนอื่นๆอีกเยอะแยะ   ตอนแรกพี่เนมก็จะให้ผมไปทำที่หอเขา  แต่ผมเกรงใจน่ะ  ทำงานทีห้องเละหมด  และอีกอย่าง  ตัวพี่เนมเองก็มีงานที่ต้องทำด้วย  จะให้ผมไปนั่งตัด  นั่งขัดโมเดล  เสียงมันจะไปรบกวนพี่เขาเปล่าๆ  เลยแยกตัวออกมาทำที่หอตัวเองน่าจะดีกว่า  แต่ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ  งานนี้ค่อนข้างจะเป็นงานใหญ่   ใช้ระยะเวลาในการทำแต่ละขั้นตอน  กว่าจะจบโปรเจ็คก็อีกสักพักเลย   ผมกับพี่เนมไม่ได้เจอหน้ากันมาสองอาทิตย์ได้แล้วล่ะครับ  คุยกันทางโทรศัพท์หรือไม่ก็ทางไลน์  ช่วงแรกๆก็มีคอลหากันอยู่  แต่เนื่องจากเสียงในการทำงานของผมอาจจะไปรบกวนพี่เนมได้  ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ  แต่ผมว่าไม่รบกวนเขาจะดีกว่า  เลยเปลี่ยนเป็นใช้ข้อความพูดคุยกันผ่านทางไลน์แทน



   ถามว่างานมันเยอะจนไม่มีเวลาแม้แต่จะมาเจอกันสักนิดเลยหรอ  คณะก็อยู่ใกล้กันแค่นี้   จริงๆเวลามันก็พอมีแหละครับ  แต่เนื่องด้วยช่วงนี้พี่เนมกำลังอยู่ในขั้นตอนของการรวบรวมข้อมูล   พี่เขาก็จะไปอยู่สองที่หลักๆ คือ หอ กับ หอสมุด  ที่คณะจะเข้ามาแค่ตอนมาพบอาจารย์ที่ปรึกษาเท่านั้นแหละครับ  ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงที่ผมมีเรียน  พอพบอาจารย์เสร็จก็ต้องกลับไปหาข้อมูลต่อ เลยไม่ได้อยู่รอเจอหรือทานข้าวด้วยกัน  จริงๆพี่เนมก็อยากรอผมแหละนะ  แต่ผมอยากให้เขากลับไปพักผ่อนมากกว่า  มีเวลาได้พักสักนิดนึงก็ยังดี  ไม่อยากให้เขาเอาเวลานั้นมาทุ่มกับผม  มันจะเหนื่อยเอาน่ะ 



   ส่วนตัวผมเอง  แต่ละวิชาก็มีงานของมัน  ทำงานนี้เสร็จต้องทำงานนั้นต่อ วนลูปไปเรื่อยๆ  เวลาว่างก็มีแค่ตอนที่ส่งงานเสร็จเท่านั้นแหละครับ  ผมอาศัยเวลาว่างตรงนี้ไปหาพี่เนม  ไปอยู่ด้วยกัน  มันก็ถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งแหละเนอะ  ยิ่งมาเจอโปรเจ็คใหญ่ตัวนี้   กลายเป็นว่าผมไม่ได้มีเวลาว่างสักเท่าไหร่    แอบหนีไปหาพี่เนมไม่ได้เลยครับ  แต่ก็นั่นแหละนะ  พี่เนมมีหน้าที่ของเขา  ผมก็มีหน้าที่ของผม  อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้วแหละ  ถามว่าคิดถึงกันไหม  ผมตอบเลยว่า ‘มากกกกกกกกก’   




คิดถึงช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน  ได้เจอ  ได้พูดคุย




ความรู้สึกที่มีอยู่ในความทรงจำที่มีร่วมกัน  ยิ่งมีมากเท่าไหร่ 




มันยิ่งทำให้ ‘คิดถึง’ ได้มากเท่านั้นแหละครับ





   จะว่าไปก็แอบอิจฉาไอ้เบกับไอ้ซีเหมือนกันนะครับ  เป็นแฟนกัน  เรียนด้วยกัน  ปั่นงานด้วยกัน  ตัวติดกันตลอดเวลาเลย  ผมล่ะคิดถึงคนของผมจะแย่  แต่ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป  ให้มันเสร็จไวๆ จะได้ไปเจอคนของผมเร็วๆ  หลังจากจบโปรเจ็คนี้  คงมีช่วงเวลาให้ได้พักหายใจหายคอกันบ้าง  ยังไงวันนี้ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไปก่อนล่ะกันเนอะ  จุดหมายรอเราอยู่  เป้าหมายมีไว้พุ่งชน 



เป้าหมายของคนอื่นคืออะไรผมไม่รู้ 



แต่เป้าหมายของผมในตอนนี้ คือ



‘พี่เนม’


















“ฮัลโหล  พี่เนมตื่นรึยังครับ?”


“ตื่นแล้วครับ  มิวจะออกไปคณะแล้วหรอ”


“ช่ายย~~ เดี๋ยวมิวจะออกไปและ  วันศุกร์นี้มิวจะส่งโปรเจ็คนี้แล้วนะ  ส่งเสร็จจะรีบไปหาเลย~~~”


“วันศุกร์นี้พี่ก็จะมีพรีเซนท์รอบที่ 1 หลังจากเสร็จรอบนี้  คงมีเวลาได้พักสักหน่อยแล้วแหละ”


“จริงหรอครับ!!  จะได้พักสักทีสินะ  ดูพี่เนมพักผ่อนน้อยมากเลย”


“หึหึ  จริงสิครับ  ว่างตรงกับมิวเลยด้วย  พี่ว่าเราหาที่เที่ยวกันดีไหม?”


“หืม~~  อยู่พักที่หอ หรือกลับบ้านไม่ดีกว่าหรอครับ  ไปเที่ยวเดี๋ยวก็ไม่ได้พักกันพอดี”


“ไปเที่ยวกับตัวเล็กไงครับ  ได้อยู่กับตัวเล็กแค่นั้นก็ถือเป็นการพักผ่อนแล้วครับ  ตั้งแต่คบกันมาเรายังไม่ได้ออกไปเที่ยวที่อื่นกันเลยนะ”


“อืม~~  ถ้าพี่เนมอยากไป  มิวไปก็ได้ครับ”


“งั้นเราไปเสาร์-อาทิตย์เนอะ”


“โอเคครับ”


“แต่วันศุกร์  มิวส่งงานเสร็จแล้วมานอนที่หอพี่นะครับ  เอาแก้มมิวมาให้พี่หอมก่อน  ให้รอวันเสาร์คงไม่ไหว”


“มิวก็รอเจอพี่วันเสาร์ไม่ไหวเหมือนกัน  เสร็จแล้วจะรีบไปให้หอมนะครับ”


“ขอบคุณครับ  ไว้เจอกันนะตัวเล็ก  แต่ตอนนี้รีบออกจากหอได้แล้วครับ  เดี๋ยวไปเรียนสายนะ”


“โอเคครับ!  บ๊ายบาย~~~”





อีกไม่กี่วันก็จะได้เจอพี่เนมแล้ว




คิดถึงแทบแย่แหนะ




ทุกคนล่ะครับ ‘คิดถึง’ กันบ้างไหม?




*******************************************************************************************

สวัสดีทุกคนนนนนนนนนนน   ห่างหายไปนานมากๆ :hao5:

ขอโทษทุกคนที่รอกันอยู่น้าาา  ตอนนี้เราเรียนจบ  และใช้ชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนเรียบร้อยแล้ว

คิดถึงบรรยากาศเก่าๆมาก  คิดถึงความรู้สึกที่เข้ามาอ่านนิยายจากเล้า 

ความรู้สึกเราเหมือนเนื้อหาในตอนนี้เลย  ความคิดถึงที่มันย้อนมาพร้อมกับความทรงจำ

คิดถึงทุกๆคนมากๆเลยนะ  ไม่รู้มีใครยังจำพี่เนมกับน้องมิวได้รึเปล่า

เอาเป็นว่ามาฝากตอนนี้ไว้หายให้คิดถึงกันเนอะ

แล้วตอนหน้า  'เราไปเที่ยวกัน ~~~~~'  :hao7: :hao7: :hao7: