ตอนพิเศษผ้ากันเปื้อนเจ้าปัญหา“เฮ้ยยยย กัสๆ เกิดอะไรขึ้นครับ”
เสียงตกใจและโวยวายของผมดังลั่นบ้านเมื่อผมเพิ่งก้าวขาเข้าบ้านแล้วพบกับควันฟุ้งพร้อมกลิ่นไหม้ลอยออกมาจากส่วนหลังบ้านที่น่าจะเป็นส่วนของห้องครัว ขาผมวิ่งเร่งรีบเข้าหาแหล่งกำเนิดควันปากก็ตะโกนเรียกหาคนรัก
“กัส กัสครับ แค่กๆ”
“แค่กๆ วิน แค่กๆ อยู่นี่”
เมื่อผมถึงประตูครัวก็ร้องเรียกหากัสและต้องสำลักควันที่ลอยคลุ้งแถมกลิ่นอาหารไหม้ก็ลอยเข้าจมูก แต่ผมก็เบาใจที่ได้ยินเสียงกัสตอบกลับมาให้ได้รู้ว่าเจ้าตัวเค้าไม่ได้เป็นอะไร ผมเพ่งมองเข้าห้องครัวหากัสเห็นเงาร่างลางๆที่ยืนอยู่หน้าตู้อบ จึงค่อยๆเดินคลำทางไปด้วยเพื่อไปคว้าแขนเรียวของกัสและจับจูงออกมานอกห้องครัว
“เฮ้อออ กัสครับ กัสทำอะ....ฮ่าๆๆ”
ผมถอนใจเฮือกใหญ่และสูดอากาศเข้าปอดก่อนจะหันไปซักถามกัสว่าเจ้าตัวเค้าทำอะไรทำไมถึงควันเต็มห้องขนาดนั้น แต่ผมต้องหัวเราะออกมากับใบหน้าขาวที่กระดำกระด่างเต็มไปด้วยสีดำ
“วิน หัวเราะอะไร วิน” ใบหน้าหวานคิ้วขมวดด้วยความสงสัยและเริ่มหน้ามุ่ยจากเสียงหัวเราะที่ไม่หยุดง่ายๆของผม
ผมก็พยายามกลั้นหัวเราะอย่างยากเย็นและหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ากางเกงเช็ดใบหน้าหวานที่ดำจากควันไฟ คนหน้าดำก็ยอมอยู่นิ่งๆให้ผมได้เช็ดหน้าและหลับตาพริ้มรอผมเช็ดให้ ผมก็ถือโอกาสจับจ้องส่วนประกอบบนใบหน้าทั้งคิ้วเรียว ขนตาดำเป็นแพร จมูกที่เชิดปลาย ปากบางแดงเรื่อ ผิวแก้มที่กลับมาเนียนใสดังเดิม ทุกอย่างบนใบหน้ากัสลงตัวเหมาะสมกับเจ้าของที่สุดและผมก็รักทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นกัส ผมก้มจูบปากแดงแรงๆของคนยุ่งทำเอาเปลือกตากระพริบเปิดให้เห็นตาใสของคนรัก
“เรียบร้อยแล้วครับ ไหนกัสบอกวินสิครับว่าทำอะไรทำไมควันคลุ้งไปทั้งบ้านแบบนี้ครับ หืม”
ผมคว้าเอวบางให้เดินไปที่ส่วนห้องนั่งเล่นระหว่างถามคำถามกับกัส และให้ร่างบางนั่งทับตักตัวเองส่วนมือผมก็เกาะเอวบางไว้ทั้งสองข้าง คราแรกเจ้าของเอวก็ทำท่าไม่ยอมแต่สู้แรงผมไม่ได้จึงยอมนั่งบนตักผมต่อ
“แหะๆ กัสก็แค่อยากลองทำคุกกี้ครับ เห็นในทีวีเค้าทำง่ายมากเลยวิน อุปกรณ์ก็ครบของก็ขอจากป้านอมเลยลองทำดู แต่อย่างที่เห็น ฮิๆ วินไม่โกรธกัสนะที่ทำครัวใหม่ของเราระเบิดน่ะ”
คนทำความผิดที่ไม่เคยละความพยายามในการเข้าครัวสร้างสรรค์ผลงานพูดไปด้วยความรู้สึกผิด ทั้งน้ำเสียงหวานที่แก้ตัวและท่าทางที่ออดอ้อนเอามือโอบคล้องคอผมไว้แบบนี้คนโดนอ้อนแบบผมมีรึจะไม่ใจอ่อน
“ฮึๆ วินไม่ได้ว่าอะไรกัสสักหน่อย วินกลัวอย่างเดียวกลัวกัสเจ็บตัวครับ เรื่องข้าวของน่ะช่างมันเถอะ เดี๋ยวเราค่อยไปซื้อเข้ามาใหม่ก็ได้ครับ”
หลังคำพูดผมคนที่นั่งตักก็ยิ้มหวานอย่างดีใจที่ไม่โดนผมดุ กัสก้มลงหอมแก้มผมฟอดใหญ่ก่อนแนบแก้มใสของตัวเองกับแก้มผมโยกตัวไปมาหัวเราะเบาๆให้พอได้ยิน ผมก็ถือโอกาสหอมแก้มใสไปหลายฟอดและให้กัสขึ้นไปอาบน้ำจัดการเสื้อ
ผ้าที่เลอะเทอะ ผมก็เดินเข้าครัวไปสำรวจและต้องกุมขมับกับความเสียหาย ‘ครัวระเบิด’ ไม่ผิดไปจากครั้งก่อนที่กัสเคยทำที่ครัวบ้านผมและทำให้ป้านอมแม่ครัวใหญ่บ้านพ่อแม่ผมเป็นลมมาแล้ว ทั้งควันที่ยังหลงเหลือเศษแป้งทำขนมที่เลอะไปทั้งห้องข้าวของแตกบ้างหม้อบุบบ้างและที่สำคัญตู้อบเละฝาตู้ล่องแล่ง
“ฮึๆๆ ฮ่าๆๆ”
เห็นแล้วก็ได้แต่หัวเราะคนรักที่อยากจะเข้าครัวแต่ไม่เคยประสบผลแถมห้องครัวข้าวของก็เสียหาย ผมว่าคงต้องซื้อของ
ใหม่ยกชุดและเก็บกวาดห้องครัวกันยกใหญ่แน่นอน
.............................................................
“วิน เลิกยิ้มแซวกัสได้แล้วนะ” เสียงหวานที่เริ่มไม่หวานเพราะเห็นรอยยิ้มจากหน้าผม
“อะไรครับวินแค่ยิ้มนะครับ กัสต้องไปโกรธคุณแม่กับพี่จักรสิครับนั่นน่ะคนแซวตัวจริง ฮึๆๆ”
เราอยู่บนรถเพื่อเดินทางไปซื้ออุปกรณ์ครัวใหม่ยกเซ็ทเพื่อทดแทนของที่คนเริ่มงอนเค้าทำเสียหายกันครับ และก่อนออกมานี่เราก็ไปทานข้าวเช้ากันที่บ้านใหญ่เพราะผมได้แยกมาอยู่กับกัสที่บ้านเล็กแล้วครับแต่บ้านของเราก็ยังอยู่ในบริเวณเดียวกัน การทานข้าวกับครอบครัวเมื่อเช้ามีแต่เสียงหัวเราะให้กับคนรักของผมเพราะพวกเค้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในครัว คนต้นเหตุก็ได้แต่นั่งอายหน้าแดงรับเสียงแซวตลอดจนมาขึ้นรถ กัสที่เห็นผมมีรอยยิ้มติดหน้าแบบนี้ก็เลยงอนขึ้นมา ผมจึงจับมือบางมากุมและจูบเบาๆไปที่หลังมือ
“ไม่เอานะครับยิ้มหน่อยน้า วินไม่ได้ล้อกัสนะครับที่วินยิ้มก็เพราะดีใจไงที่วันนี้เราได้ออกเดทไปซื้อของเข้าบ้านเหมือนตอนที่เราจะแต่งงานกันไงครับ”
เมื่อกัสได้ฟังก็คลายอาการหน้ามุ่ยลงและส่งยิ้มนิดๆมาให้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแถมไม่ดึงมือกลับ แบบนี้ก็แสดงว่าหายงอนแล้ว ผมจึงเปิดเพลงรักคลอเบาๆให้บรรยากาศให้รถสบายอบอวลด้วยเสียงเพลงรัก
.....................................................................
“วินเอาชุดนี้นะดูซิคล้ายชุดเก่าเราเลย”
กัสชี้ไปที่ชุดเครื่องครัวที่เลือกไว้ผมก็ได้แต่ตามใจมีหน้าที่เดียวคือจ่ายเงิน ที่รักอยากได้ชุดไหนหรือเราต้องซื้ออีกกี่ชุด ผมไม่มีสิทธิบ่นอยู่แล้วครับความสุขของคนรักเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ผมก็ปล่อยให้กัสเลือกตู้อบโดยมีพนักงานผู้หญิงเป็นคนแนะนำ สายตาผมก็กวาดมองไปเรื่อยเดินเรียบเคียงไปอีกฝั่งจนเจอผ้าลูกไม้สีขาวห้อยอยู่จึงจับมาคลี่ดู และก็พบว่ามันเป็นผ้ากันเปื้อนสีขาวระบายขอบไปด้วยลูกไม้สีขาวทั้งตัวมีสายคาดเอวเป็นผ้าลูกไม้ด้วยครับ ความยาวก็ไม่มากคงอยู่เหนือต้นขาคนสวมใส่พอดี ผมก็กะจะวางลงที่เดิมถ้าไม่เห็นรูปภาพที่ติดในถุงที่ยังไม่แกะเป็นสาวน้อยชาวญี่ปุ่นผมดำตาโตใส่ผ้ากันเปื้อนตัวนี้โชว์ขาขาวๆงอเข่ายกขาไปข้างหลัง อย่าคิดว่าผมติดใจสาวน้อยในภาพนะครับแม้เธอจะน่ารักสไตล์สาวญี่ปุ่นแต่สิ่งที่อยู่ในหัวผมตอนนี้เป็นภาพของกัสที่ใส่ผ้ากันเปื้อนลูกไม้ทั้งตัว ‘แบบไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในเลย’ ก็ไม่รู้ทำไมผมถึงคิดภาพนี้ออกมา หรือผมจะหมกมุ่นเรื่องกัสเกินไปนะครับเนี่ย แต่พอจะวางผมก็เปลี่ยนใจหยิบติดมือไปรวมกับของที่ต้องจ่ายเงิน
..........................................................
“วินนี่อะไรอ่ะ” กัสชูถุงพลาสติกที่มีผ้าลูกไม้สีขาวมายื่นตรงหน้าผม ผมตกใจกับสิ่งที่อยู่ในมือกัสจึงรีบคว้ามาและแอบซ้อนไว้ข้างหลัง
“เอ่อ คือ ไม่มีอะไรครับ” ผมลืมไปได้ยังไงนะว่าซื้อผ้าผืนนี้มาด้วย และท่าทางแปลกๆของผมก็ทำให้กัสกอดอกตาเพ่งมองมาที่ผม ก่อนแบมือมาตรงหน้าเป็นสัญญาณว่าให้ส่งมาโดยด่วน
ผมก็ได้แต่ยอมยื่นมันไปอย่างช้าๆ ถุงพลาสติกถูกแกะออกผ้าสีขาวลูกไม้ก็ถูกคลี่ออกมา ความเงียบเข้าครอบคลุมเราทั้งคู่ก่อนที่เสียงหวานจะส่งคำถามออกมาแบบสงสัย
“ผ้ากันเปื้อน ก็แค่ผ้ากันเปื้อนทำไมวินต้องทำลับๆล่อๆด้วยล่ะ” กัสทิ้งมือลงข้างตัวขณะที่กำผ้ากันเปื้อนเจ้าปัญหาไว้ข้างตัว
“เอ่อ คือวิน วินเห็นว่ามันสวยดีก็เลย ก็เลยซื้อมาให้กัสน่ะครับ” ผมไม่ได้ปิดบังพูดไปตรงๆแบบนี้นี่แหละรอดูว่ากัสจะว่าอะไรบ้าง
“แต่วินนี่มันหวานไปมั้ยลูกไม้ทั้งตัวแบบนี้ มันเหมาะกับผู้หญิงนะกัสไม่ใส่หรอก” กัสส่งผ้ากันเปื้อนคืนผมและเลิกสนใจมัน
ผมก็ได้แต่โล่งใจที่กัสไม่ติดใจกับผ้าผืนนี้ นี่ถ้ากัสรู้ว่าผมคิดไปถึงไหนกับเจ้าตัวไม่รู้ว่ากัสจะเลิกสนใจแบบนี้มั้ยหรือผมจะโดนงอนไม่พูดด้วยไปเลย และความจริงผมก็ไม่กล้าบอกให้กัสทำแบบที่ผมจินตนาการด้วยครับ ผมก็เลยเก็บผ้าผืนนี้ไว้ที่ตู้ในครัวและเลิกสนใจมันก็ได้แต่ตัดใจล่ะครับงานนี้
......................................................................
วันนี้ผมตื่นสายครับเพราะเมื่อคืนผมออกไปดื่มกับพวกเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่มันนัดเลี้ยงรุ่นกันเลยจัดเต็มกลับดึกมากครับ ส่วนกัสไม่ได้ไปเพราะอยากให้ผมได้คุยกับเพื่อนอย่างเต็มที่ และที่สำคัญกัสไม่ชอบร้านอาหารกึ่งผับที่มีควันบุหรี่และเสียงดังแบบนั้นเลยไม่ได้ไปด้วย ผมยิ่งกว่าเต็มใจและดีใจไม่อยากให้ที่รักไปเป็นที่ล่อหูล่อตาให้กับผู้ชายคนอื่นหรอกครับน่ารักขนาดนั้นเชื่อได้ว่าย่อมเป็นจุดสนใจแน่ๆครับ และพอผมกลับมาถึงบ้านกัสก็หลับสนิทไม่รู้เรื่องไปแล้ว
ตอนนี้ผมจึงเดินลงมาชั้นล่างหาคนรักหลังจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว ชั้นล่างก็เงียบไม่เห็นกัสแต่ผมได้กลิ่นเบคอนครับเลยเดินตามกลิ่นมาถึงในครัว ผมหยุดนิ่งชะงักที่ประตูครัวเพราะภาพตรงหน้า กัสยังเป็นกัสแม้หันหลังให้ผมก็จำได้แต่ที่ทำเอาผมต้องขยี้ตาก็เพราะแผ่นหลังขาวก้นกลมที่เปิดโล่งมีเพียงลูกไม้คาดที่เอวและหลังคอ เหมือนมนต์สะกดให้ขาผมเดินเข้าหาภาพยั่วยวนตรงหน้า
“กัสสส” เสียงแหบหื่นนี่มันเสียงของผมใช่มั้ยครับทำไมมันถึงบ่งบอกอารมณ์เจ้าของแบบนี้
ผมคว้าเอวบางของคนตรงหน้าและฝั่งจมูกไปที่ซอกคอขาว ก่อนเจ้าของคอหอมจะหันมาและใช้แขนโอบรอบคอผมทั้งสองข้างและส่งยิ้มหวานมาให้ผม
“วินตื่นแล้วเหรอ หิวมั้ยกัสเตรียมเบรคฟาสให้อยู่”
ตาผมพร่าเลือนหูจับใจความไม่ค่อยครบแต่มือผมกลับทำหน้าที่ได้ดีจนเจ้าของอย่างผมภูมิใจที่มันคว้าก้นกลมของกัสและช้อนตัวกัสขึ้น ทำเอากัสต้องกอดคอผมแน่นหัวเราะคิกคักส่วนขาเนียนก็รัดไปรอบเอวผม
“วินหิวแล้วครับ แต่วินหิวกัสนะ”
ผมวางกัสที่โต๊ะกินข้าวในครัวก่อนกระซิบข้างหูหอมและส่งสายตาแสดงความต้องการให้กัส และกัสก็ไม่ได้หลบตากลับยิ้มยั่วตาพราวมาให้ แถมเท้าแขนไปด้านหลังทั้งสองข้างส่งผลให้คนที่ยืนกลางหว่างขาของกัสแบบผมต้องมองตามผ้ากั้นเปื้อนลูกไม้สีขาวทั้งตัวมันแทบปิดร่างขาวเนียนไม่มิด ยิ่งความยาวที่สั้นอยู่แล้วยิ่งถลกขึ้นสูงทำเอาใจเต้นรั่วกับภาพที่เห็นเพราะส่วนล่างของกัสที่นูนเด่นมันดันผ้าขาวออกมาให้เห็นชัดตา และยอดอกทั้งสองข้างก็ดุนดันออกมาชัดตา ผมปวดหนึบที่กลางตัวและรู้สึกได้ว่าไอ้ลูกชายมันผงาดเรียกร้องการปลดปล่อย
“กัสอยู่นี่แล้วไง มาสิครับที่รัก กินกัสที น้าๆๆๆ คิกๆ” เสียงหวานยั่วยวนกระดิกนิ้วเรียกผมเข้าหาก่อนเอนกายลงนอนราบกับโต๊ะ
“เอื๊อกก”
ผมกลืนน้ำลายเสียงดังคอแห้งผากกับภาพยั่วยวนของคนรัก ร่างขาวอมชมพูที่ทอดกายรอผมจับกิน มือผมร้อนรนคว้าแท่งร้อนที่อยู่ใต้ผ้าลูกไม้และจูบส่วนหัวแรงๆก่อนเปิดผ้าเหมือนแกะห่อของขวัญ และครอบปากกลืนกินจนสุดเรียกเสียงครางยาวของกัสออกมา
“อ๊าๆๆๆๆๆ วินดีครับ ซี๊ดดดด”
ผมขยับปากเข้าออกกลืนกินเหมือนคนหิวกระหายและยิ่งเร็วขึ้นเมื่อเสียงครางของกัสดังอย่างชอบใจ มือข้างหนึ่งก็สอดไปใต้ผ้ากั้นเปื้อนเพื่อลูบไล้ยอดอกที่แข็งนูนสัมผัสทั้งบนและล่างจากผมทำเอากัสกระตุกปลดปล่อยธารรักเข้าเต็มปากผม ผมเก็บกลืนแบบไม่นึกรังเกียจ ก่อนมอบจูบดูดดื่มให้คนที่นอนหายใจระทวยได้ชิมรสชาดของตัวเอง กัสเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กตอบกลับแบบไม่ยอมแพ้ก่อนดันตัวเองขึ้นมาทึ้งเสื้อผ้าผมออกจากร่างจนหมด กัสจูบคางผมและไล้ปลายลิ้นไปที่คอก่อนลงลิ้นรัวที่ยอดอกผมแบบที่ผมชอบทำให้เจ้าตัว
“อ๊าๆๆๆ ดี ซี๊ดดดด ที่รัก”
ผมครางจากสิ่งที่กัสปรนเปรอให้มือก็คว้าแท่งร้อนของคนรักที่เพิ่งปลดปล่อยให้ได้ตื่นตัวอีกครั้งอีกมือก็ลูบหลังขาวเนียนที่ยังมีผ้าลูกไม้คาดเอวอยู่ และผมต้องสะดุ้งสุดตัวและครางออกมาอย่างถูกใจ
“โอ้ววว อ๊าๆๆๆๆ กัสสสส”
เพราะมือนุ่มคว้าแท่งร้อนที่พร้อมรบขยับรูดรั้งให้ผมส่วนลิ้นก็ดูดยอดอกผมอย่างแรง และวันนี้มันคงเป็นวันพิเศษจริงๆครับที่กัสบริการให้ผมขนาดนี้ กัสเปลี่ยนจากมือเป็นปากนุ่มเข้าครอบแก่นกาย แม้จะไม่สุดเพราะขนาดที่ไม่เล็กของผมแต่กัสก็เก็บกลืนของผมจนสุดความสามารถ ความนุ่มของลิ้นแดงที่แลบเลียและความอบอุ่นของโพรงปากของคนรักมันทำผมแทบปลดปล่อยออกมาจนต้องจับคางคนรักไว้ให้หยุด
“กัสพอแล้วครับ”
เสียงผมทำให้กัสเงยหน้าที่มีน้ำลายเป็นสายยืดยาวขึ้นและยิ้มหวานส่งมาให้ ก่อนพลิกตัวหันหัวไปอีกข้างในท่าคลาน ส่งผลให้ช่องทางสีสวยลอยเด่นตรงหน้าผมและนั่นยิ่งทำเอาไอ้หนูไม่น้อยของผมที่เพิ่งเคว้งคว้างถูกปล่อยจากปากนุ่มสั่นหงึกหงักขึ้นมา ผมมองหน้ากัสที่เอี้ยวคอมามองมีรอยยิ้มยั่วประดับใบหน้า และเอื้อมมือมาที่ด้านหน้าของตัวเองก่อนปราดธารรักที่เหลืออยู่และสอดนิ้วเบิกทางให้ตัวเองต่อหน้าผม วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันครับเนี่ย
“อ๊ะ อ๊าๆๆ วิน กินครับสิครับ อ๊าๆๆ”
เสียงหวานครางเรียกผมให้จับกิน ผมนั้นไม่รอช้าจับมือที่เบิกทางออกจับสะโพกขาวที่ลอยตรงหน้าและลงลิ้นที่ช่องทางรักสีสวยระรัวและมันส่งผลให้กัสครางเสียงยาวออกมาขยับสะโพกตอบโต้ลิ้นผม เมื่อผมเห็นว่ากัสพร้อมแล้วจึงจับแท่งร้อนที่พร้อมยิ่งกว่าพร้อมของตัวเองไปจ่อช่องทางสีสวยและขยับรวดเดียวจนสุด
“อ๊ายยยย วินนน อ๊าๆๆ” กัสกรีดร้องอย่างตกใจและเรียกชื่อผมยาวก่อนเปลี่ยนเป็นครางหวานออกมา
“อ๊าๆๆๆ ซี๊ดๆๆๆ” ผมก็ครางเพราะความคับแน่นและแรงตอดรัด
“วะ วิน ขยับเร็วๆ ซี๊ดดด ที่รักกินกัสที อ๊าๆๆ” กัสที่น้ำตาคลอออดอ้อนเสียงยั่วยวนและขยับสะโยกเตือน
ภาพที่เห็นทำเอาผมใส่ไม่ยั้งจับสะโพกขาวแน่นและระรัวลงแรงเท่าที่มี เสียงกรีดร้องของกัสอย่างถูกใจผสมเสียงครางยาวของผมปนกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใคร ฝ่ามือผมลูบไล้ไปที่แผ่นหลังขาวและปลดผ้าที่ผูกปมออกก่อนจับร่างที่อมชมพูระเรื่อทั้งร่างพลิกให้นอนหงายแบบที่เจ้าของไม่ตั้งตัวจึงมีเสียงร้องหวีดออกมา ผมดึงผ้าที่คลุมร่างออกก่อนจับขาเนียนพาดบ่าจะลงแรงใส่ร่างบางที่บิดไปมาเพราะความเสียวซ่าน จนเราทั้งคู่มาถึงจุดหมายแห่งความสุข
“วะ วิน อ๊าๆๆๆ” เสียงหวานครางยาวก่อนกระตุกเกร็งและปล่อยธารรักสีขาวขุ่นเต็มมือผม
ผมขยับตัวในร่างคนรักไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยฉีดพ่นภายในจนล้นออกมา ผมซบร่างนิ่มที่หอบตัวโยนสูดอากาศเข้าปอดก่อนจูบที่หน้าท้องเนียน เงยหน้าสบตาหวานที่ยังเยิ้มหวานจากแรงอารมณ์ที่เพิ่งผ่านพ้น มือนุ่มเอื้อมมาลูบหัวผมและส่งยิ้มหวานมาให้ เห็นแบบนี้ผมก็อยากจับคนรักกินอีกสักรอบจึงแกล้งขยับส่วนล่างที่ยังอยู่ในตัวกัสเรียกเสียงครางหวานจากคนที่หอบเหนื่อยออกมา
“อ๊ะ วิน ยังไม่อิ่มอีกเหรอ” เสียงหวานส่งคำถามมาให้
“ยังครับ วินขอกินต่ออีกรอบนะ”
ผมอ้อนกัสหวังอีกรอบก้มหน้าหาใบหน้าหวาน แต่ต้องชะงักกับมือบางที่ยื่นมาดันหน้าไว้และเสียงเรียกชื่อผมดังแบบคนขี้โมโห
“วิน วิน กัส....ให้....ไง วินนน”
เอ๊ะ! ทำไมเสียงกัสเหมือนดิสตกร่องมาไม่เต็มขาดๆหายๆแถมเรียกผมซะดัง ผมกระพริบตาจับจ้องหน้าหวานก็พบใบหน้ามุ่ยคิ้วขมวดหน้าเคร่ง ทำไมกัสเปลี่ยนอารมณ์เร็วแบบนี้กันครับ เมื่อครู่เรายังเร่าร้อนกันอยู่เลย
“กัส มาขอวินกินอีกรอบน้า” ผมคว้าแขนคนหน้ามุ่ยหวังจับกินอีกรอบ
“วินๆ ตื่นเลยนะ พูดอะไรเนี่ย ปล่อยกัสนะ วินๆ ถ้าไม่ตื่นกัสโกรธจริงๆด้วย” เสียงดุจริงจังยืนยันคำพูด
ผมเมื่อได้ฟังก็กระพริบตาและมองไปรอบห้อง อ้าวนี่มันห้องนอนนี่หน่าส่วนผมก็นอนอยู่บนเตียงนุ่มของเรา ผมหันกลับไปมองกัสที่ยังหน้ามุ่ยแต่ลุกขึ้นยืนกอดอกอยู่ข้างเตียงอย่างเอาเรื่อง
“กัส แหะๆ วินตื่นแล้วครับ” ผมลุกขึ้นนั่งและเอื้อมมือไปคว้ามือนุ่มออกจากอกก่อนส่งยิ้มแหยไปให้คนรัก
“ตื่นก็ดีแล้ว วันนี้เรานัดช่างมาซ่อมห้องครัว กัสเห็นว่าสายแล้ววินไม่ลงไปสักที เลยขึ้นมาดูแต่....วินฝันอะไรแปลกๆรึเปล่า ทำไมมัน เอ่อ”
กัสส่งคำถามมาให้ผมพร้อมใบหน้าที่สงสัยจริงจังก่อนก้มมองที่ส่วนกลางตัวผม ผมก็มองตามสายตาคนรักก็พบว่าไอ้หนูผมมันตั้งโด่ดุนผ้าห่มนูนเด่นออกมา
“แหะๆ นิดหน่อยครับ กัสลงไปข้างล่างก่อนนะเดี๋ยววินตามไป แต่เอๆๆหรือว่ากัสจะอยู่ช่วยวินก่อนดี”
ผมคว้ามือนุ่มมาที่กลางตัวทันทีที่พูดจบ แต่เจ้าของมือเค้าชักออกทันทีก่อนบ่นพีมพำเดินหน้าแดงออกจากห้องไป ผมก็ได้แต่หัวเราะในคอและก้มมองไอ้ลูกชายตัวดีและได้แต่ปลดปลงให้กับความหมกมุ่นกับ ‘ผ้ากันเปื้อนเจ้าปัญหา’ ถึงขั้นเก็บไปฝันเป็นฉากๆแบบนั้น และลุกเดินถอนใจยาวแต่ส่วนล่างก็ยังไม่ลงชี้นำหน้าไปทางห้องน้ำ
“ถ้าได้อย่างในฝันก็ดีซินะ เฮ้อออ ไอ้วินน้อไอ้วิน”
The End
..................................................................
ตอนพิเศษตามสัญญา “ใส่ไข่ใส่นมเพิ่มวิปครีม” เร่าร้อนเรียกเลือด
แต่ขอหักมุมนิดนึงนะคะ 555 เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่หมอกัสจะเร่าร้อน
ขนาดนั้นแถมวินยังใส่ไม่ยั้ง ฮุๆๆ เป็นจินตนาการที่ออกเกินจริงซักนิดค่ะ
หวังว่าทุนคนคงพอหายคิดถึงทั้งคู่ไปได้น้า รู้สึกว่าตอนพิเศษมีแต่ตอนเรียกเลือดไปแล้ว
เบื่อมั้ยอ่ะคะและมันมากไปมั้ยอ่ะ คนเขียนองค์ลงทีไรฉุดไม่อยู่ทุกที แหะๆๆ
ปล.เจอกันตอนหน้าที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ถ้ามีคนทวงอาจมาเร็วกว่าที่เคย(มั้ง)
แต่สามารถเจอกัสวินได้ในเรื่อง “เสน่ห์มัดใจนายเพลย์บอย” นะคะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29669.0