The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 449210 ครั้ง)

ออฟไลน์ kanunsak

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
ตอนนี้ดีต่อใจอ่า....  ชอบที่สมุทรดูแลไฟ  และก็ชอบที่ไฟใส่ใจสมุทร  คือตอนนี้มันดีงามมากๆอ่ะ
.
.

เค้าแอบเชียร์เข้มนะ ... กล้าๆหน่อย สอยดอกฟ้ามาให้ได้  สู้ๆๆ

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
คิดถึงคุณไฟมากๆเลย โฮรววววววววววววว  :sad4: :sad4:

คิดถึงความกวนตีน ขี้โมโห ขี้หนาวด้วยอะ น่ารักกกกก

หงส์กับไฟคุยกันได้ฮาร์ดคอมาก ความเพื่อนสนิทนี้ ดูเข้ากันดีมากๆ ก็เอะใจว่าคุยกันถูกคอถูกใจไม่ชอบกันหรอ คุณไฟก็ตอบให้ว่าเคมีไม่เข้าทันที55555 เข้มหงส์จะมีลุ้นมั้ยคะนี่  :hao7:

ไฟกับสมุทรก็เหมือนใกล้กันขึ้นมาอีกนิดนึง  :katai2-1:

ออฟไลน์ Maree

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชื่อไฟที่ขี้หนาว นะคะคุณไฟ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ และก็สวัสดีปีใหม่ไทยด้วยค่ะ

ออฟไลน์ kik

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
แอบเขินเบาเบา :-[ :-[

รอตอนต่อไปนะคะ :pig4: :pig4: :L1: :L1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
วุ่นวายไปหมด แล้วไฟก็ยังกวนไม่เลิก สมควรแล้วที่เป็นเพื่อนกัน หงส์ไฟ รู้ใจกันไปหมด

ในที่สุด ไฟก็ได้รู้ว่าทำไมสมุทรถึงไปที่นั่น

สมุทรคงอึดอัดมาก เหมือนรู้สึกผิด แต่บอกใครไม่ได้ แต่ยังไงไฟก็พูดถูก บอกไปแล้วมีไรดี
ไฟจะปล่อยสมุทรกลับไปจริงหรอ คิดถึงนะ

ขอบคุณมากนะคะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า

ออฟไลน์ +pEnGuIn+

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เฮ้ยย พี่ไฟจะให้กลับไปจริงๆเหรออออ
เวลาแบบนี้หายากนะคะพี่ สมุทรออกจะอยาก
ดูแลพี่นะคะ ถถถถถถถถถ แค่นอนเตียงเดียวกัน
คืนเดียวคนอ่านยังไม่พอนะคะพี่ไฟ อยากได้อีกกกกกก
ตอนนี้ละมุนซอฟท์ๆ ตอนหน้าขออีกซักตอนได้มั้ยคะ

เบบี้พักผ่อนให้หายป่วยก่อนนะคะ สู้ๆน้า เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะค๊าาา :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
อุ้ยเรื่องบนเตียง  :mew3:
ไฟเขินอะดิพูผิด ๆ ถูก ๆ  :impress2:

 :pig4: คะ

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 :serius2: งะจะให้กลับจริงๆเหรอไฟ นั่นมันโอกาสดี๊ดีนะ พี่สูงก็อยู่ปะ อย่าซื่อบื้อสิคะลูก

ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ความสัมพันธ์ของไฟกับสมุทรทำให้เราอึดอัด
มันให้ความรู้สึกสุขไม่สุดอ่ะ มันมีเส้นบางๆ แต่ให้ความรู้สึกหน่วงๆ กั้นอยู่ เป็นกำลังใจให้ทั้งไฟทั้งสมุทรนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
เจอกันวันหยุดยาวไหมไฟ  :mew1: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
คิดถึงคุณไฟขา > <

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

[ จันทร์ที่ 10 เม.ย 60 ]  ตอนที่ 42  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49086.1650


_ _ _ _ _ _ _ _ _ _

ตอนที่ 43
..ไฟ..




08:00 น.

“คุณไฟอยากได้อะไรไหมครับ” คนของหงส์เข้ามาสอบถาม  ไอ้เข้มกับไอ้เด่นออกไปกับหงส์แล้ว  เธอจึงส่งลูกน้องของเธอให้มาดูแลแทน

“ไม่ครับ ขอบคุณ ขอผมอยู่คนเดียว” ผมบอก  อีกฝ่ายผงกหัวน้อย ๆ ลงจากบ้านไป 

ผมไม่ทราบว่าสมุทรกลับไปแล้วหรือยัง  ผมยังไม่เห็นหน้าเขาเลยตั้งแต่ที่ตื่นนอนและเจ้าตัวขอตัวออกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  อย่างน้อยควรต้องมีการร่ำลากันบ้างแต่ผมก็ยังไม่พบ  ไอ้เด่นเป็นคนนำอาหารเช้ามาให้ผมกิน  มันไม่ได้พูดอะไร  แน่นอนครับว่าผมเองก็ไม่ได้ถามด้วย  หลังจากกินข้าวเสร็จไอ้เข้มกับไอ้เด่นก็มาขออนุญาตออกไปกับหงส์เพื่อไปซื้อของใช้จำเป็นในตัวเมือง 

ผมต้องการออกจากห้องนอนเพราะอยากสูดอากาศข้างนอก  แม้คนของหงส์จะไม่เห็นดีด้วยแต่อีกฝ่ายก็ไม่ขัดคำสั่ง  เขาเป็นคนช่วยพาผมออกมานั่งที่ริมระเบียงตรงชานหน้าบ้าน  จัดโต๊ะกับเก้าอี้นอนไว้ให้ผมเรียบร้อยโดยไม่ต้องออกปาก   

บ้านที่ผมใช้พักอาศัยหลังนี้เป็นหลังประจำของผม  บ้านไม้ใต้ถุนเปิดโล่ง  ครัวเป็นครัวแบบเปิดตั้งอยู่ที่หน้าบ้านในแนวเดียวกันกับระเบียง  ระเบียงด้านหน้าตามการคาดคะเนด้วยสายตาแล้วกว้างเกือบสามเมตร  ทอดยาวเกือบสิบเมตรเห็นจะได้  เรียกว่าเป็นระเบียงบ้านที่อิงความเป็นไทยสมัยก่อนอยู่มากทีเดียว  ชานด้านนอกเหมาะแก่การนั่งพักผ่อน  ผ่อนคลายไปกับต้นไม้ที่ล้อมรอบ  สงบและเป็นส่วนตัว  หากคนงานคนไหนชอบโหวกเหวกส่งเสียงดังทำตัวไร้สกุลก็มักจะโดนหลานเจ้าของบ้านด่ายับยันโคตรเหง้า  ทุกคนจึงค่อนข้างระวังตัว  เป็นคนงานที่ค่อนข้างสุภาพ 

ลึกเข้าไปในตัวบ้านที่อาศัยปิดล้อมด้วยมุ้งลวด  ออกแบบให้ทันสมัย  หากจะนอนเล่นในบ้านก็ลมโกรกเป็นอย่างดี  ไม่ปิดทึบจนทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจลำบาก  ดูท่าลูกน้องของปู่จะชอบอะไร ๆ เหมือนเจ้านาย  เพลง Country ยุค 70s – 80s ผมได้ยินแว่วตั้งแต่เช้าแล้ว  เรียกว่าเปิดต้อนรับวันใหม่กันเลยทีเดียว  เห็นสมุทรบอกว่าเมื่อช่วงกลางดึกฝนลงเม็ด  เช้านี้ดินก็ดูชื้นอย่างที่เขาว่า  บางที่เป็นแอ่งน้ำขัง  กลิ่นต้นไม้ที่เปียกชื้นทำให้รู้สึกดีแบบที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้วหากอยู่ในกรุงเทพ  ถ้าที่นั่นฝนตกคงกลั่นเอาแต่ความร้อนที่เก็บสะสมไว้มาให้เราแน่  แค่นึกก็เซ็งแล้ว

.
ปู่หาญผันตัวมาทำเกษตรโดยไม่ใช้สารเร่งอย่างจริงจังหลังจากออกจากตำรวจ  แรก ๆ แกเคยใช้สารเร่งเพื่อที่จะให้ผลผลิตออกสู่ตลาดได้เร็ว  แต่ผักพวกนั้นก็เป็นผักจะที่นำมาทำอาหารให้ลูกหลานกินเหมือนกัน  แกเป็นห่วงคนใกล้ตัว  แกจึงเริ่มศึกษาการปลูกแบบไม่ใช้สารเร่งอย่างจริงจัง  หงส์ก็สนุกไปกับปู่ด้วย  ปู่หาญเคยเป็นกำนันหมู่บ้านอยู่สมัยหนึ่ง  เมื่อแกได้ทำตามหน้าที่ที่แกควรทำแล้วแกก็วางมือเพื่อให้โอกาสคนอื่นบ้าง  แต่ถึงอย่างนั้นกลับยังเป็นที่นับหน้าถือตาในจังหวัดและแถบหมู่บ้านนี้เป็นอย่างดี  เรียกว่ากว้างขวางคงจะดีกว่า  คนละแวกนี้รู้กันดีว่าแกเป็นนักเลงเก่ามาก่อนที่จะรับข้าราชการตำรวจ  ไม่เชิงว่าเป็นคนไม่ดีหรอกนะครับ  แต่เป็นคนที่เถรตรงในความยุติธรรมเกินไป  ความตงฉินของแกทำให้ขัดขาผู้มีอิทธิพลหลายคน

ลูกหลานที่แกเลี้ยงมากับมืออย่างหงส์เป็นเด็กเรียนดีมาตั้งแต่เล็ก  แม้แต่ก่อนเธอจะห้าวไม่ยอมคน  เอนเอียงไปทางทอมบอยแต่เดี๋ยวนี้ก็เบาลงมากแล้ว  เราถูกฝึกศิลปะการต่อสู้กันที่นี่ในบางครั้งที่ปิดเทอม  ขี่ม้า  เลี้ยงสัตว์  อยู่กับดินกินกินทราย  เธอจัดว่าเป็นขาลุยประจำถิ่นนี้  วัยรุ่นไม่ว่าจะหญิงหรือชายที่นักเลงแค่ไหนก็ไม่กล้ายุ่งกับเธอ  แต่อย่างนั้นเธอก็ไม่เคยระรานใคร  ส่วนหลานชายอีกคนที่อายุมากกว่าผมและหงส์  เรียนจบทางด้านรัฐศาสตร์และมักหายตัวจากบ้านไปบ่อย ๆ เพื่อไปช่วยผู้ยากไร้ในต่างประเทศ
 
ลูกน้องของปู่หาญ  หากไม่นับคนงานในไร่  บางคนเป็นนักเลงเก่ามาก่อนทั้งนั้น  เคยนอนคุกมาบ้างและอยากกลับตัว  ปู่เสมอต้นเสมอปลายอ้าแขนต้อนรับ  แต่แน่นอนว่าแต่ละคนต้องยอมรับกฏของการอยู่ร่วมกันของที่นี่ให้ได้  ตั้งแต่ที่หงส์เริ่มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และศึกษางานที่ไร่ของปู่  เธอกลับเด็ดขาดยิ่งกว่าปู่ของเธอเสียอีก  บางอย่างที่ปู่ยังพอให้อภัยได้ในมุมมองแบบผู้ชาย  สำหรับหงส์กลับไม่ยอมลงให้ใครเลย  บางเรื่องที่ต้องรอการอนุมัติปู่กลับยังเอ่ยปากพูดว่า “ต้องถามหงส์ก่อน” ต่อหน้าคนงานหลายคน  ทุกคนเลยทราบกันเป็นนัยยะว่าสิทธิ์ขาดในตอนนี้คือหงส์ไม่ใช่ปู่หาญอย่างเคยอีก

ผมคิดว่าการที่ปู่หาญทำแบบนี้ทีละเล็กทีละน้อย  โดยไม่ใช่การเปลี่ยนการทำงานของไร่อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์  เป็นเพราะปู่อยากให้คนงานยอมรับหงส์ในฐานะเจ้าของไร่มากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่มากกว่า  เพราะถ้าหากปู่จากโลกนี้ไปเมื่อไหร่  หรือถ้าไร่ต้องเปลี่ยนมือคนบริหารกะทันหัน  คนงานอาจจะไม่ยอมรับหงส์ก็เป็นได้  ถึงแม้ว่าเธอจะเก่งแค่ไหนอย่างไรเธอก็เป็นผู้หญิง  สมัยนี้คนงานหัวหมอยิ่งกว่าอะไรดี  โชคดีหน่อยที่หงส์เองก็เป็นเด็ดขาด  ในบางครั้งเธอมักส่งสัญญาณประมาณว่า “ถ้าใครไม่พอใจกฏของฉัน ก็ไสหัวออกจากไร่ไปซะ”   


“เฮ้ย! ไอ้เด็กใหม่!” ผมยืนมองคนงานมีอายุคนหนึ่งตะโกนเรียกเด็กวัยรุ่น  คงรุ่น ๆ เดียวกับพายุ  คนถูกเรียกกำลังขนฟืนอยู่ถึงกับชะงักงง

“ครับ” คนเด็กกว่าขานรับ  ลุงแกชี้มือไปทางด้านหลัง  มีฟืนตกอยู่เป็นกอง
 
“เปียกน้ำแล้ว เดี๋ยวนายหญิงมา” ลุงแกถลึงตาเตือน

“ขอโทษครับ” เด็กวัยรุ่นคนนั้นผงกหัว  วิ่งกลับหลังไปเก็บฟืนที่ตกอยู่กลับมาใส่รถลากอย่างร้อนรน   

“หึ” ผมหัวเราะ

“น้ำขิงร้อน ๆ ครับ” ผมชะงักที่ได้ยินน้ำเสียงคุ้นหูอยู่ทางด้านหลัง  พอหันกลับไปมองก็พบสมุทรยืนถือถาดน้ำขิงอยู่ไม่ไกล  เขาควรจะออกไปกับลูกน้องของหงส์ตั้งแต่เช้าแล้ว 

“ขอโทษครับที่ผมขัดคำสั่ง ไม่ได้กลับไปตามที่คุณบอก” สมุทรเอ่ย 

“........” ผมนิ่ง  ตามองไปยังน้ำขิง  เรายืนนิ่งอย่างนั้นอยู่นานเกือบนาที  เสียงเพลงยอดฮิตสมัยรุ่นพ่อก็ดังขึ้น  ถ้าผมจำไม่ผิดมันคือเพลง How deep is your love ของศิลปินในตำนาน Bee Gees เพราะพ่อชอบร้องบ่อย ๆ  เวลาเมา(ค้าง)


- I know your eyes in the morning sun. I feel you touch me in the pouring rain -

“เพลงพ่อนี่ครับ..?” อีกฝ่ายพูดขึ้นทำลายความเงียบ  ผมจ้องหน้าเขาด้วยความแปลกใจ  ไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้  อยู่ ๆ ฟันก็ขบกัดไว้แน่นไปโดยอัตโนมัติ

“หึ!” สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวแล้วพ่นหัวเราะออกมา  สมุทรเองก็หัวเราะเหมือนกัน   


- How deep is your love? -

“ผม...” เขาเอ่ย  รอยยิ้มเดิมกลายเป็นหุบลงทีละนิด  ผมเองก็เช่นกัน

“ไม่ได้อยู่ต่อเพราะรู้สึกผิดหรอกนะครับ”

“เพราะอากาศดีงั้นเหรอ” ผมพูดเชิงถามอย่างไม่ให้ตรงประเด็นเกินไปนัก

“ครับ ที่นี่อากาศดีมาก” สมุทรตอบ 

“หน้าที่งั้นสินะ ?” ผมถามตรง ๆ  มันจะกลายเป็นอีหรอบเดิมอย่างก่อนหน้านี้ก็ได้  หากผมไม่หลงตัวเอง  สามสิบเปอร์เซ็นต์สามารถเป็นไปได้ตามนั้น

“ถ้าให้พูดความจริง นั่นก็ส่วนหนึ่งครับ”   

“แล้วส่วนที่เหลือล่ะ...” ผมสวนทันควัน 

“.........” สมุทรไม่ตอบ  สายตาเหลงคล้ายหลบหลีก 

“น้ำขิงครับ ไม่ใส่น้ำตาล” เขาจงใจเปลี่ยนเรื่องพูดถึงสิ่งที่ผมชอบ  วางถาดน้ำขิงลงบนโต๊ะตรงระเบียงบ้าน  การบอกข้อมูลของน้ำขิงเพื่อให้ผมทราบก่อน  คล้ายกับเขารู้อยู่แล้วว่าผมจะต้องถามว่าใส่น้ำตาลหรือไม่  ผมไม่ชอบดื่มน้ำขิงใส่น้ำตาล  เข้าขั้นเกลียดเลยล่ะ

“ถ้านายไม่ขยายความในคำถามของฉันแบบนี้ละก็ ฉันก็อาจจะคิดเข้าข้างตัวเองในมุมอื่นอีกนะ” ผมลอยหน้าลอยตาพูด  การที่เขาปัดประเด็นเช่นนี้มันอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง

ผมนั่งลงที่เก้าอี้นอน  สมุทรยกแก้วน้ำมาเสิร์ฟให้ถึงมือ  กลิ่นจาง ๆ ของน้ำค้างทำให้น้ำขิงอุ่น ๆ ที่ไหลลงคออร่อยมากขึ้น 

“แล้วถ้าฉันจะโกรธขึ้นมาอีก นายจะชกฉันอีกไม่ได้นะ...” ผมแสยะยิ้มมุมปาก  เหล่ตามองไปทางสมุทร
 
“ไม่มีประกันรับรองซะด้วย” ผมเลิกคิ้วขึ้นก่อกวน  สมุทรก้มหน้าลง  ใบหน้าเปื้อนยิ้มนิดหน่อยหากสังเกตให้ดี 

“นายก็ดื่มด้วยสิ” ผมพูดถึงน้ำขิงในโถที่เขาเตรียมไว้สำหรับเติมให้ผม  สมุทรผงกหัว  ผลิยิ้มเล็กน้อย  เขากลับเข้าครัวและออกมาอีกครั้งพร้อมกับแก้วชาของตน  ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้นอน  น้ำหนักตัวทำให้พนักเก้าอี้เอนไปด้านหลังในองศาที่กำลังสบายตัว  สมุทรรินน้ำขิงใส่แก้วของตนก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ  เสียงเพลง Country ยังคงได้ยินแว่วไม่ขาดสาย  เราจิบน้ำขิงโดยไม่มีบทสนทนา  ไร้แม้กระทั่งเสียงรบกวนจากผู้คนรอบข้าง  ไม่มีคนงานเดินผ่านในพื้นที่ส่วนนี้แล้ว  ป่านนี้คงเข้าสวนกันหมด 

เราทั้งคู่ต่างหันหน้าไปในทางเดียวกัน  คือวิวจากลานหน้าระเบียงบ้านและต้นไม้หนาทึบ  ผมไม่ค่อยขยับตัวมากนัก  สังเกตด้วยความรู้สึกแล้วคนข้าง ๆ ก็เช่นกัน  แขนจะถูกยกขึ้นบ้างครั้งคราวเมื่อต้องการจิบน้ำขิง  เวลาผ่านไปนานจวนครึ่งชั่วโมงน้ำขิงก็เย็นลงเรื่อย ๆ  มันเย็นเร็วผิดปกติคงเพราะอากาศที่นี่ค่อนข้างหนาว  สมุทรถึงกับต้องนำผ้าห่มที่อยู่ในตู้เก็บที่นอนตรงห้องนั่งเล่นมาห่มให้  เขารบเร้าที่จะให้ผมกลับเข้าไปนอนพักในห้องนั่งเล่นแต่ผมปฏิเสธ  สมุทรนำโถน้ำขิงกลับเข้าครัวไปนานห้านาที  เขากลับออกมาอีกครั้ง  แก้วของผมถูกเติมน้ำขิงอีกครั้ง  ไอร้อนที่พุ่งขึ้นสูงทำให้ทราบว่าเขาเพิ่งเข้าไปอุ่นมันมา

“ร้อนนะครับ ระวังด้วย” เขาย้ำเตือนเสียงนุ่ม  ผมรับแก้วมาก่อนที่อีกฝ่ายจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม  ด้วยระยะของสายตาที่ใบหน้ายังคงตั้งตรง  ยังคงรับรู้ได้ว่าถูกอีกฝ่ายมองอยู่  ผมเป่าน้ำขิงให้พออุ่นก่อนจิบเพียงเล็กน้อย  มันร้อนเกินไปที่จะดื่มได้มาก 

“ขอบใจ” ผมพูด  เบือนหน้ามองไปยังคนที่นั่งอยู่ด้วย  สมุทรไม่ตอบ  อีกทั้งไม่พยักหน้ารับ  เขายังคงมองผมและผมเองก็เช่นกัน  เราไม่ได้ส่งยิ้มให้กัน --เราทั้งคู่ค่อนข้างเรียบสงบ  มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ต่างกำลังกวาดมองใบหน้าของฝั่งตรงข้าม  รอยยิ้มสุภาพที่ไม่ปรากฏให้เห็นอย่างทุกที  แต่อย่างนั้นผมกลับสัมผัสได้ถึงใจจริงที่แสนอ่อนโยนของเขา  สิ่งที่ผมพยายามที่จะอธิบายให้ตัวเองและสำรวจมองเขามาตลอด  เส้นแบ่งเบาบางที่ดูเจ้าเล่ห์เจ้ากลในบางครั้ง  เบื้องลึกที่ซ่อนอยู่ชั้นสุดท้ายในก้นบึ้งของเขานั้น  ผมกลับสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่เลย  สิ่งนั้นที่ทำให้ผมรู้สึกอยากครอบครองมันไว้คนเดียว
   
วันนั้น เขาจูบผมทำไมนะ ?


- - - - - - - - - - - - - - -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2017 12:28:57 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

11:20 น.

ตั้งแต่วันเกิดเหตุนี่ก็ผ่านมาสามวันแล้ว  ผมไม่ได้ติดต่อใครเลยนอกจากพี่ธาน  ผมจะต้องอยู่ที่นี่ต่ออย่างไม่มีกำหนด  คงจะพักให้แผลหายสนิทแล้วค่อยว่ากันอีกที  ป่านนี้ไม่รู้ว่าพี่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง  โปรดกับภาคิณส่งข้อความมาหาอยู่เรื่อย ๆ  ผมสั่งห้ามทุกคนงดเล่นโซเชียลอย่างเด็ดขาด  และผมเองก็คงไม่ได้แตะโทรศัพท์มือถือบ่อย ๆ ด้วยเหมือนกัน

“กลับมาแล้วครับนาย!” ไอ้เด่นส่งเสียงรายงานการกลับมาของพวกมัน  ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิมที่เก้าอี้ระเบียงหน้าบ้าน  กวาดตามองสำรวจของที่มันหิ้วมาเต็มไม้เต็มมือ  มันสองพี่น้องผงกหัวให้ผมน้อย ๆ  ขอตัวนำของเข้าไปเก็บในบ้าน  ส่วนหนึ่งเป็นอาหารสดซึ่งสมุทรรับหน้าที่นำไปจัดเก็บในครัวด้านในบ้าน  ตู้เย็นและตู้กับข้าวอยู่ในโซนนั้นทั้งหมด  การแยกครัวแบบนี้มีความลำบากนิดหน่อยก็ตรงที่หากต้องการทำอาหารจะต้องเตรียมเครื่องเคียงจากครัวในบ้านและนำออกมาทำอาหารที่ครัวตรงระเบียงหน้าบ้านอีกทีหนึ่ง  แต่ถึงอย่างนั้นครัวในลักษณะเปิดโล่งแบบนี้ก็มีประโยชน์อยู่มากไม่น้อย  หากทำอาหารไทยที่มีกลิ่นแรงมักจะไม่เหม็นอับในบ้าน  ไม่สกปรก  ประตูหน้าต่างรอบห้องครัวจะช่วยให้กลิ่นระบายได้รวดเร็วขึ้น

“กลางวันนี้ผมจะทำโจ๊กนะครับ จะลองใช้ข้าวไรซ์เบอรี่ทำดู..จะได้มีประโยชน์หน่อย แต่คงใส่ได้แค่ผักนะครับ” สมุทรเข้ามารายงานอาหารมื้อกลางวันเหมือนเกรงว่าผมจะไม่ชอบ

“อืม” ผมผงกหัวรับ  ไม่ได้มองหน้าอีกฝ่าย

“ในครัวมีผักอะไรบ้าง” ผมถามถึง

“ก็มีเยอะอยู่นะครับ ผักชี บรอกโคลี หัวหอม เห็ดออรินจิ เห็ดหอม ปวยเล้ง มะเขือเทศ คะน้ากับกะหล่ำปลีมีในสวนของคุณหงส์น่ะครับ ต้องไปเก็บ แต่ผมว่ามันย่อยยากคุณยังไม่ควรกิน เห็นว่าปลูกออร์แกนิคเหรอครับ ไว้ถ้าคุณหายดีกว่านี้ผมจะทำกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาให้นะครับ” อีกฝ่ายตอบซะยาว  ผมเท้าคาง  สายตาตกลงมองไปที่เท้าของสมุทรพลางใช้ความคิด

“เอาบรอกโคลีลวกพอสุกสักกำมือนึง” ผมพูด  สมุทรเงียบฟัง

“ปั่นกับผักชีสักหน่อย มีแอปเปิลรึเปล่า ?” ผมถาม

“มีครับ เด่นเพิ่งซื้อมา” สมุทรตอบ  เขามองหน้าผมงง ๆ  สงสัยว่าผมต้องการอะไร

“แอปเปิลปลอกเปลือกทั้งลูกเลย ปั่นสามอย่างนี้เข้าด้วยกัน ไม่ต้องใส่อะไรนะ แล้วกรองกากออก ฉันจะกิน” ผมสั่ง

“ไม่ใส่อะไรเลยนะครับ” สมุทรย้ำถามให้แน่ใจ

“ใช่” ผมพยักหน้า 

“ได้ครับ” เขาขานรับ 

ผมไม่ชอบเวลาที่ผมป่วยเท่าไหร่  และไม่ค่อยชอบเวลาที่พี่ธานกับพายุไม่อยู่ใกล้ ๆ เวลาที่ต้องออกนอกบ้านอีกด้วย  พอไม่มีคนรู้ใจ  มันมักจะทำให้ตารางอาหารที่ผมกินประจำนั้นเปลี่ยน  แม่บ้านจะรู้ว่าผมจะกินอะไรเวลาไหน  นอกจากตอนนี้จะไม่ได้ออกกำลังกายทั้งที่บรรยากาศดีขนาดนี้แล้ว  ผมก็ไม่อยากให้ร่างกายสูญเปล่าไปกับการกินแค่ข้าวต้มกับโจ๊กไปวัน ๆ  ซึ่งปกติน้ำพวกนี้ผมก็ดื่มเป็นประจำอยู่แล้ว  หากร่างกายปกติกว่านี้ก็คงไม่กรองกากออกด้วยซ้ำน่ะนะ

“ทำก่อนเลย ฉันจะกินก่อนอาหาร” ผมพูด

“ได้ครับ” สมุทรผงกรับทราบ  ตรงกลับเข้าบ้านไป  เขาออกมาอีกครั้งพร้อมกับถาดยาก่อนอาหาร  ไอ้เด่นเข้ามาช่วยจับถือให้ผมถนัดมือเพราะสมุทรเข้าครัวไปแล้ว 

“ไอ้เข้มเป็นไงบ้าง” ผมกระซิบถาม  แก้วยาที่กินเสร็จเรียบร้อยถูกไอ้เด่นรับไปเก็บ

“มันจะไม่ปกติยังไงเหรอครับนาย” ไอ้เด่นถามตาใส 

“นี่มึงไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ สินะ” ผมจ้องมันอย่างเหนื่อยหน่าย  ทำเอาคนตรงหน้างงยิ่งกว่าควายหนักกว่าเดิม

“แล้วนี่ว่าง ?” ผมมองมันหัวจรดเท้า 

“แฮ่ ผมกำลังจะขออนุญาตนายเข้าไปในไร่หน่อยได้ไหมครับ คุณหงส์เธอจะไปตรวจผักท้ายไร่ ผมอยากไปด้วย” ไอ้เด่นยิ้มกว้าง  น้ำเสียงของมันตื่นเต้นมากไม่รู้ว่ามันรู้ตัวรึเปล่า  ขณะเดียวกันไอ้เข้มก็ออกมาจากครัวพอดี

“เดี๋ยวพี่สมุทรเขาจะซ่อมลานฝึกให้คุณหงส์ มึงมาอยู่ช่วยเลย” ไอ้เข้มพูดแทรกเข้ามา

“เอ๊ะ พี่สมุทรจะซ่อมเองเหรอครับ !?” ไอ้เด่นหน้าจ๋อย  สมุทรที่กำลังเตรียมของอยู่ตรงครัวโผล่หน้าลอดผ่านหน้าต่างมองมา

“เด่นไปเถอะ พี่ทำคนเดียวได้” สมุทรยิ้มตอบ

“พี่ไปให้ท้ายมันครับ” ไอ้เข้มท้วง  สมุทรอมยิ้ม  ไอ้เด่นทำปากขมุบขมิบแอบด่าพี่ชายของตนลับหลัง

“ก็ไปสิ” ผมพูดขึ้น  มันทั้งคู่ชะงักมองมาทำเอาไอ้เข้มถึงกับหน้าสลดลง

“ขอบคุณครับ” ไอ้เด่นยิ้มกว้างแทบกระโจน

“พี่สมุทร เด่นขอเข้าไปไร่กับคุณหงส์นะครับ ไว้จะมากินข้าวกลางวันครับ!”

“พี่ทำข้าวผัดน้ำพริกปลาทูนะ” สมุทรชะโงกบอก  ผมถึงกับถอนหายใจแรงเมื่อได้ยินชื่อเมนู 

“ครับ! ขอเผ็ด ๆ เลย!” ไอ้เด่นยิ้มกว้างกว่าเดิม  เมื่อมันขยับตัวมายืนใกล้ปลายเท้าผมพอดี  ผมจึงยกขาขึ้นและออกแรงถีบก้นมันไปทีหนึ่งด้วยนึกหมั่นไส้

“นายถีบผมทำไมครับ” ไอ้เด่นหันมาด้วยสีหน้าตกใจ

“จะไขว่ห้าง แต่ลืมไปว่าทำไม่ได้” ผมตอบตาใส  ขาชักกลับวางลงทีเดิม  ไอ้เด่นมองตามมาที่ขาผมงง ๆ

“ครับ” มันผงกหัวยอมความ

“จะไปก็รีบไป” ผมว่า

“ขอบคุณครับนาย” มันก้มหัวพร้อมโค้งเกือบเก้าสิบองศา  วิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็วอย่างกับมีใครไปปลดโซ่ที่คอ
 
“ไม่ไปกับมันล่ะ” ผมพยักพเยิดหน้าไปทางไอ้เด่นที่กำลังวิ่งไปยังโรงจอดรถ  เสียงเจี๊ยวจ๊าวของคนงานที่ต้อนรับขับสู้ไอ้เด่นเป็นอย่างดีดังแว่ว 

“เอ่อ...ผม ไปได้เหรอครับ” ไอ้เข้มหลบตา

“หน้ามึงถึงรถละไอ้ห่า” ผมแซว  ไอ้เข้มหลุดยิ้มอย่างเขินอาย

“เชิญตามสบายครับท่าน” ผมประชด  ไอ้เข้มผงกหัวแทนคำขอบคุณแต่กลับไม่ยอมจากไป  ผมเหล่หางตามองทำให้ใบหน้าของมันหุบยิ้มลงอย่างรักษาอาการ 

“มาใกล้ ๆ ซิ” ผมกวักนิ้วเข้าหาตัวเอง  ไอ้เข้มมองกะหลับกะเหลือก  ขยับตัวเข้ามาใกล้ผมตามที่สั่ง  ผมเอื้อมมือคว้าคอมันกระชากเข้ามาใกล้ริมฝีปาก

“ขอเตือนไว้ก่อน” ผมฉีกยิ้ม

“ยัยนั่นมือหนักอย่างกับตีน ก็เป็นลูกศิษย์พี่ใหญ่นี่นะ ฮิ ๆ ๆ” ผมหัวเราะ 

“.........” เราต่างเงียบลง 

“ผม...” อีกฝ่ายอ้ำอึ้งหลบสายตา

“ผมไม่กล้าหรอกครับนาย” มันบอก

“ไม่กล้าอะไร ?” ผมถาม  เลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้างรอคำตอบด้วยความตื่นเต้น
 
“กล้าอะไรงั้นเหรอ หือ” ผมกระซิบ

“เปล่าครับ” ไอ้เข้มก้มหน้าลงกว่าเดิม

“ผมขอตัวนะครับนาย” มันบอกเสียงเบาในลำคอ 

“เชิญครับ” ผมตอบ  ปล่อยมือออกจากต้นคออีกฝ่าย  ไอ้เข้มตะโกนบอกไอ้เด่นอย่างเร่งรีบคล้ายกลัวว่าคนของหงส์จะจากไปแบบไม่รอ

“ไอ้เด่น! รอกูด้วย!”  แล้วแทนที่มันจะวิ่งไปหาไอ้เด่นแต่มันกลับวิ่งตรงไปหาสมุทรที่ครัว  ปากขมุมขมิบกระซิบกระซาบ  ผมอ่านออกจับใจความได้ง่ายว่า “ฝากนายด้วยนะครับ”  พอสมุทรรับปากไอ้เข้มก็รีบวิ่ง  โค้งตัวผ่านผมไปอย่างรวดเร็ว 

“นี่กูปล่อยเชือกพวกมึงรึไง” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง  ตาเหลือบมองเห็นหงส์ยืนรออยู่กับคนงาน  เธอเท้าเอวขมวดคิ้วคล้ายจับผิด  ผมอมยิ้ม  ยกมือขึ้นโบกทักทายน้อย ๆ ให้เพื่อนรัก  อีกฝ่ายชูนิ้วกลางขึ้นกลางอากาศทำเอาผมพ่นหัวเราะ  กระทั่งลูกน้องของเธอที่สังเกตเห็นก็หัวเราะด้วยเช่นกัน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2017 12:02:33 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

คนในครัวกำลังกุลีกุจอเตรียมอาหาร  เขาเดินเข้าเดินออกระหว่างห้องครัวหน้าบ้านกับครัวในบ้านสลับไปมา  ไม่นานนักผมก็ได้น้ำผักที่สั่งไว้มาดื่ม  มันหมดแก้วภายในพริบตา  ห้องครัวริมระเบียงขนาดสี่คูณสี่  ประตูหน้าต่างบานพับรอบด้าน  ดูเหมือนจะได้รับการทำสีใหม่ไม่นานนี้  กลิ่นหอม ๆ ของข้าวที่กำลังหุงลอยโชยเตะจมูกเป็นครั้งคราว  คนทำอาหารดูตั้งอกตั้งใจอย่างไม่มีวอกแวก  ผมนั่งมองจากที่ระเบียง  เก้าอี้ตัวเดิม  องศาที่เก้าอี้ตั้งอยู่นั้นพอดีกับที่จะมองกวาดไปทั่วได้  ดูเหมือนสมุทรจะรู้ตัวว่าตัวเองถูกมองจากตรงนี้  จังหวะที่พอจะเดาออกได้ว่าเขาพยายามที่จะตรวจสอบว่าเขาถูกมองอยู่หรือไม่  ผมจึงเหสายตามองไปอีกทางแทนอย่างไม่ให้ดูผิดเพี้ยนนัก  ซึ่งการทำแบบนี้มักเป็นการหลบหลีกที่ได้ผล  ตามตรงแล้วผมจะให้เขารู้ตรง ๆ ไปเลยก็ได้ว่าผมนั่งมองเขาทำอาหารอยู่  แต่ถ้าทำแบบนั้นก็คงไม่สนุกเท่าไหร่  และดูเหมือนมันจะได้ผลเสียด้วยเพราะอีกฝ่ายเองก็พยายามที่จะทำเช่นเดิมเพื่อตรวจสอบอยู่ถึงหลายครั้ง 

อาหารของผมเสร็จก่อนอันดับแรก  สมุทรนำมาเสิร์ฟให้ถึงที่โดยนำโต๊ะกินข้าวสำหรับนั่งด้านนอกเลื่อนมาวางให้กินได้สะดวก  เสร็จแล้วเขาก็เข้าไปทำอาหารต่อ  จะบอกว่าเขาเป็นคนที่มีลักษณะแบบที่ผมชอบคงไม่ใช่เสียทีเดียว  ผมคิดว่าแต่ละคนมีจุดที่จะเชื่อมตรงถึงความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบอยู่  เหมือนกับเวลาที่เราพบหน้าใครแล้วไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรก  โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ให้มาก  ลักษณะเฉพาะตัวในแบบของสมุทร  คนที่ชอบชีวิตเรียบ ๆ ก็คงชอบผู้ชายแบบนี้ทั้งนั้น  ผมไม่ได้บอกว่าชีวิตผมราบเรียบเสียทีเดียว ผมแค่ต้องการความราบเรียบนั้นที่เขามี  ผมมักจะใช้ของมีคุณภาพและสามารถยอมรับในราคาที่สูงนั้นได้  อีกทางหนึ่งผมก็ไม่ชอบคนที่ฟู่ฟ่าเกินจำเป็น  ผมไม่ชอบให้เงินกับคนประเภทนั้น  แต่สมุทรกลับมีมุมนั้น ๆ ที่ผมถูกใจ  เขาเป็นคนแบบที่ไม่แตะโทรศัพท์มือถือแต่ก็ไม่เดือดร้อนเลย  ผมสังเกตเขาในมุมนี้อยู่หลายครั้ง  เขาดูไม่ร้อนใจเลยสักนิดเดียว  เหมือนกับว่าสั่งเสียน้องสาวเรียบร้อยแล้วทุกอย่างจึงสบายใจในหน้าที่ของตน

หลังมื้ออาหาร  สมุทรดูสบายใจที่เห็นผมกินยาได้ครบถ้วน  เขาลงไปเตรียมอุปกรณ์ซ่อมลานฝึก  ลูกน้องหงส์เข้ามาจัดแจงนำของที่ต้องใช้เตรียมไว้ให้และสักพักก็หายไป  เหลือเพียงคนงานคนเดียวที่คอยเป็นลูกมือให้สมุทรได้  ผมลากสังขารตัวเองลงไปนั่งดูใกล้ ๆ  สมุทรมีสีหน้ากังวลขึ้นมาในทันที  เขาออกปากว่า “ทำไมคุณไม่นอนพักละครับ!” ด้วยความตกใจ  ผมทำหูทวนลม  อีกฝ่ายจึงไม่พูดอีก

เสียงตอกตะปูเพื่อล็อกเป้าหมายก่อนทำการเจาะสว่าน  แดดสาดส่องเข้าเต็มตาเมื่อต้องเงยหน้าขึ้นมองสมุทรที่ปีนอยู่บนบันไดสูง  ผมจึงหย่อนก้นนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ไม่ไกลนัก  ดูท่างานคงจะไม่เสร็จง่าย ๆ

“ขอสว่านหน่อยครับ” สมุทรบอกคนที่อยู่ข้างล่างเพื่อคอยเป็นลูกมือให้  ลูกน้องของหงส์รับค้อนกับตะปูกลับไปก่อนจะยื่นสว่านไฟฟ้าขนาดใหญ่ให้คนด้านบน  สมุทรหมุนดอกสว่านตรวจให้เรียบร้อยอีกครั้งก่อนเล็งไปที่เป้าหมายที่ได้ทำเครื่องหมายไว้ในทีแรก  เขาหันตัวกลับมามองผมที่นั่งมองอยู่ทางด้านหลัง 

“ระวังกระเด็นใส่นะครับ” อีกฝ่ายพูดบอกด้วยสีหน้ากังวลไม่เลิก

“ถ้ามันจะกระเด็นใส่ฉัน มันก็กระเด็นใส่หน้านายก่อนนั่นแหละ” ผมพูด  ดันมาห่วงอะไรไม่เข้าท่า  ลูกน้องหงส์หัวเราะอ่อน ๆ  สว่านทำหน้าที่เจาะลงเสาปูนจนเสียงสะท้อนดังลั่นน่าปวดหัว  แต่วิวตรงหน้ามันดีเกินกว่าที่ผมจะเดินหนีได้  ผมแสยะยิ้มมองกล้ามแขนของคนที่ถือสว่านอย่างมั่นคง  กล้ามเนื้อหลังที่เห็นผ่านเนื้อผ้าทะลุออกมาอย่างชัดเจนแบบนี้นี่มันให้ความรู้สึกซาบซ่านดีจริง ๆ 


- - - - - - - - - - - - - - -


6 วันผ่านไป : 07:00 น.

“ขอบคุณ” หงส์บอกลูกมือ  สมุทรผงกหัวพร้อมรอยยิ้ม  แผลถูกทำความสะอาดให้ครั้งใหญ่หลังจากที่ผมเพิ่งเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อย  กล่องเครื่องมือแพทย์ปิดสนิท  คุณหมอและผู้ดูแลของผมนั่งเงียบ  ผมอมยิ้มทำเฉยเมยต่อสถานการณ์ระหว่างพวกเรา

“ไม่ทราบว่าคุณท่านต้องการรับอะไรเพิ่มไหมคะ วันนี้ดิฉันต้องเข้าโรงพยาบาล จะกลับอีกทีก็ค่ำ ๆ โน่นล่ะค่ะ” หงส์ถามด้วยน้ำเสียงประดิษฐ์ประชดประชัน

“ไม่ล่ะ ขอบคุณนะ” ผมตอบอย่างประดิษฐ์กลับเช่นกัน

“..........” เราสองคนเหล่มองกันและกันด้วยหางตา 

“ลูกตามึงนี่น่าหมั่นไส้จริง ๆ!” หงส์สบถ

“หน้ามึงทั้งหน้าอะ น่าหมั่นไส้!” เธอกระแทกเสียง  ทำมือโบ้ยไปมา

“หน้ามึงก็อุบาทว์ใช่หยอก” ผมย้อนนิ่ง ๆ  หงส์จิปากกลอกตาหนี

“นี่ชุดไปโรงบาลของมึงเหรอ” ผมกวาดตามองเสื้อสายเดี่ยวคอวีที่ไม่มีแม้แต่สายชุดชั้นใน  มันโชว์ทั้งอกและไหล่ที่แสนกระชับของเธอ  ถึงแม้มันจะดูสวยและเข้ารูปไปกับรูปร่างจนผมละสายตาไปไหนไม่ได้  ไหล่ที่มีแต่กล้ามเนื้อแข็งแรงกับหน้าอกที่ได้รูปแบบที่ผู้หญิงปกติทั่วไปไม่สามารถมีรูปร่างแบบนี้ได้ง่าย ๆ  ซึ่งถ้าให้พูดตามตรงแล้วมันเป็นเป้าหมายอย่างโจ่งแจ้งสำหรับบ้านนอกแบบนี้เลยนะครับ  นี่ไม่ใช่ต่างประเทศ  บ้านเรายังห่างไกลกับคำว่าทัศนคติอย่างสากลโดยสิ้นเชิง

“ทำไม” หงส์ทำเสียงห้วน  มองขวางไม่พอใจ

“ล่อไอ้เข้ขนาดนี้น่ะนะ” ผมจิปากว่า

“มึงไงหัวหน้าไอ้เข้!” หงส์วกกลับมาด่าผม

“ฮึ” ผมพ่นหัวเราะไม่ปฏิเสธ 

“เดี๋ยวกูใส่เสื้อทับ” เธอบอก  ผมกลอกตาพยักหน้ารับทราบยิ้ม ๆ  สมุทรนั่งเงียบ  สายตาตกลงมองพื้นมานานแล้ว  เขาเก็บอาการเก่งมากทีเดียวที่ไม่มองหุ่นของหงส์สักตา 

“ขออนุญาตครับ กระเป๋าของคุณหงส์ครับ” ไอ้เข้มเปิดประตูเข้ามา  มันคลานเข่าเข้ามาใกล้เพื่อที่จะนำกระเป๋าของหงส์มาวางให้ใกล้มือ  ผมจึงเอื้อมมือคว้าคอเสื้อไอ้เข้มแล้วกระชากเจ้ามาอย่างแรงจนไอ้เข้มหน้าเกือบทิ่ม  หงส์ตกใจ  เบี่ยงตัวหลบโดยสัญชาตญาณ 

“เอ๊ะ นายครับ” ไอ้เข้มอุทานหน้าเหวอ  ผมนำมืออีกข้างที่ว่างอยู่ล็อกหน้าของไอ้เข้มไว้แน่นก่อนออกแรงบังคับให้มันหันหน้ากลับไปทางร่างกายของหงส์  หน้าของมันอยู่ในระดับหน้าอกของหงส์พอดิบพอดี 

“ขนาดกำลังดีเลยใช่ไหมละ” ผมพูด  แสยะปากแลบลิ้นด้วยความพอใจ

“ไอ้สัสไฟ!” หงส์ร้องเสียงหลงด้วยความโมโห  ทันทีนั้นเธอก็ง้างมือขึ้นตบหน้าไอ้เข้มอย่างแรง


เพี้ยะ !!!!

เสียงดังลั่นไปทั่วห้อง  ผมอ้าปากยิ้มกว้างเพราะหงส์ตบมาเต็มแรงจนหน้าไอ้เข้มสะเทือนเลย

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ผมขำก๊าก  ไอ้เข้มหน้าหันแทบจะทิ่มลงมาบนที่นอนที่ผมนอนอยู่  ผมปล่อยมือออก  เมื่อลูกน้องผมเป็นอิสระมันก็คลานถอยหลังหนีหน้าตาตื่น

“ขอโทษครับ ผมไม่ได้...” ไอ้เข้มก้มหัว  ตะกุกตะกักพูดด้วยสีหน้าร้อนรน 

“ไปตายซะ!” หงส์ตะคอกใส่  ไอ้เข้มผงกหัว  รีบลุกออกจากห้องไปในทันที

“เอ้า เดี๋ยวมันก็ไปตายจริง ๆ หรอก” ผมยังไม่เลิกกวน

“มึงนี่มัน....อ้าก!” จู่ ๆ อีกฝ่ายก็กระแทกเสียงร้องคล้ายหงุดหงิดและอึดอัดใจ

“ฮิ ๆ ๆ ๆ” ผมก้มหน้างุด  ขำฉิบหาย

“........” หงส์นิ่งไปแล้ว  คราวนี้จับจ้องผมเขม็งดูท่าจะไม่ชอบจริง ๆ

“โอเค ๆ  กูขอโทษ” ผมผายมือยอมแพ้  พยายามควบคุมปากตัวเองไม่ให้ยิ้ม

“ขอโทษครับ” ผมยื่นมือเข้าไปจะจับแก้ม  อีกฝ่ายปัดมือผมออกงอน ๆ

“มึงนี่มันควรไปตายซะหลาย ๆ รอบเหมือนที่ไอ้โปรดว่าจริง ๆ” หงส์บ่นพึมพำพลางถอนหายใจยอมความ  สะบัดหน้าหนีแล้วก้มลงตรวจดูสัมภาระของเธอในกระเป๋าอีกครั้ง  ผมยิ้มมอง  ไม่ปฏิเสธ  นึกถึงไอ้โปรดขึ้นมาเพราะมันเคยด่าผมว่า “ไปตายห่าซะหลาย ๆ รอบ! ไปตายซะไอ้เหี้ย!”  จำได้ขึ้นใจเลยว่าตอนนั้นไอ้โปรดโกรธผมมากจนหน้าดำหน้าแดง  ดูเหมือนมันจะด่าผมออกมาจากใจจริงซะด้วย

“..........” ผมเม้มปาก  กะพริบตาปริบ ๆ

“อยู่กับไอ้บ้านี่ นายต้องระวังตัวไว้ให้มากล่ะ” หงส์เปลี่ยนประเด็น  หันไปหาพักหาพวกกับสมุทรที่นั่งอยู่ข้างหลังเธอ

“ครับ” สมุทรผงกหัวขอบคุณซะงั้น 

“ฉันไม่ได้หมายถึงระวังตัวทั่ว ๆ ไปนะ ฉันหมายถึงระวังทุกเรื่อง นี่คิดยังไงถึงได้มาอยู่กับมันล่ะ” หงส์ขึ้นเสียง

“คิดน้อยมั้งครับ” สมุทรตอบทันทีอย่างกับเตรียมคำตอบไว้แล้วอย่างนั้น

“ฮึ!” หงส์ยิงฟัน  กลั้นหัวเราะด้วยความตกใจ  ดูเหมือนเธอจะพอใจในคำตอบเป็นอย่างมากทีเดียว

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ  กร๊าก!” หงส์ปล่อยหัวเราะลั่น  อ้าปากซะกว้าง  ตกลงอีนี่ใช่ผู้หญิงเหรอ ? 

“ชอบอะ! วันหลังว่าง ๆ มานั่งคุยกันนะ” หงส์ตบไหล่สมุทรพร้อมผงกหัวขึ้นลงอย่างกับตัวการ์ตูน

“นี่...”

“ฉันจะบอกวิธีไม่หลงกลคนประเภทนี้ให้เอาไหม” หงส์กุมมือสมุทรไปด้วยสีหน้าเป็นห่วง  ทำอย่างกับว่าโลกจะแตก  สมุทรยิ้มอย่างสุภาพตั้งหน้าตั้งตารอฟัง  ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอฟังอยู่ด้วย  แค่คิดว่าท่าทางของสมุทรในตอนนี้น่ามองดี

“มันก็เหมือนหมานั่นแหละ เมื่อไหร่ที่นายสบตาจ่าฝูง แสดงว่านายพร้อมสู้”

“อ๋อ แบบนี้นี่เอง กูไม่ยักรู้มาก่อน” ผมทำเสียงแทรกก่อกวน  หงส์เหล่ตาขวางมา

“หลีกเลี่ยงการสบตาไว้นะรู้ไหม” เธอย้ำ

“หน้ามันเจ้าเล่ห์ใช่ไหมละ กฏไม่สบตาน่ะ ฉันรู้มาจากคนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวเรื่องบนเตียงกับมันมาแล้วทั้งนั้นเลยนะ”
 
“อีหงส์” ผมสบถ 

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ  โอ๊ย!” หงส์ขยับตัวหนีออกไปไกลมือไกลเท้าทันควัน  เธอยกมือขึ้นปรามผมคล้ายขอเวลานอกเพื่อหัวเราะให้เต็มที่

“ไฟ.. นี่กูไม่ได้หัวเราะขนาดนี้นานเท่าไหร่แล้ววะเนี่ย กูคิดถึงมึงจริง ๆ นะ” หงส์ปิดปากตัวเอง  คุณคิดว่าตอนนี้เธอขำหนักขนาดไหนละครับ  ขำขนาดที่น้ำตาเล็ดออกมาได้

“สมุทร” หงส์ขยับตัวไปอยู่ด้านหลังสมุทรเพื่อเป็นเกราะกำบัง 

“มันขึ้นอีกับฉันอะเมื่อกี้ นายได้ยินไหม” เธอฟ้องไปยิ้มไป  หางตายังเห็นน้ำตาเปื้อนอยู่เลย  สมุทรยิ้มกว้าง

“นาน ๆ ทีจะได้ยิน สะเทือนใจ” เธอบอกปนหัวเราะพร้อมนำมือแนบอก

“ขำพอรึยัง เก็บกดขนาดนี้มึงก็เข้ากรุงเทพสิ” ผมถอนหายใจ 

“ก็นะ เออ..ไปแล้ว มีอะไรก็โทรมาแล้วกัน” หงส์ตัดบททำท่าจะลุกขึ้น

“เดี๋ยวผมช่วยครับ” สมุทรรีบเข้าไปคว้ากล่องแพทย์ของหงส์ไว้  หงส์มองสมุทรกะหลับกะเหลือกและยังคงนั่งเฉย  ทำให้สมุทรนั่งลงตามเธอเหมือนเดิม

“มาทำงานกับฉันไหม” หงส์ยิ้มถาม  ใบหน้าปรับเปลี่ยนเป็นจริงจัง   

“ได้ข่าวว่าเคยทำสวนมาก่อน เคยอยู่ฟาร์มโคนมด้วยนี่ ผ่านงานใช้แรงมามากแล้วสินะ” เธอพูด

“ไปได้แล้ว” ผมพูดดักคอ

“เราทำสวนออร์แกนิคนะ มีฟาร์มโคนมด้วยอยู่ทางเหนือไร่โน่นแหละ นายมัวแต่เฝ้ามันก็เลยไม่ได้ไปเปิดหูเปิดตาแถวนี้เลยใช่ไหมละ” หงส์ส่งสายด่ากึ่งด่ามาทางผม

“หงส์..” ผมย้ำเรียกด้วยน้ำเสียงจริงจังกลับเช่นกัน  เธอควรไปทำงานได้แล้ว

“คนงานที่นี่ได้กินอาหารออร์แกนิคกันหมดล่ะ มีอาหารให้สามมื้อ มีเงินออมให้ด้วย โบนัสก็มี สวัสดิการเจ๋งเป้งสุด ๆ  ฉันอยากได้คนที่มีความเป็นผู้นำ...แต่ก็โอบอ้อมอารี มีระเบียบวินัย อึดถึกควายด้วยจะดีมาก ทำงานกับคน ๆ นี้ได้ดูแล้วนายน่าจะอึดพอทน” หงส์มองสมุทรด้วยแววตาเป็นประกาย  ผมคิดว่าเธอไม่ได้แค่แกล้งกวนผมเท่านั้นแต่กำลังสนใจสมุทรในฐานะลูกน้องอย่างจริงจัง  สมุทรรับฟังยิ้ม ๆ ไม่ได้สบตาเธอ

“ฉันชอบ.. กำลังมองหาผู้จัดการไร่แถบที่ดินฝั่งนี้อยู่ ยังไม่ได้ใครถูกใจสักที มีที่พักให้สำหรับผู้จัดการไร่โดยเฉพาะด้วยนะ ไม่หรูหรอก เป็นบ้านไม้โง่ ๆ ขนาดสี่เหลี่ยมพอกระดิกตัวได้ไม่อึดอัด ไม่เหมือนคฤหาสน์ของท่านที่นอนป่วยอยู่นี่หรอก ถ้านายสนใจ ฉันจะสตาร์ทเงินเดือนให้เลยสองหมื่น สามเดือน...ถ้านายผ่านทดลองงานกับปู่ฉัน ฉันจะเพิ่มเงินให้อีก” หงส์สาธยายยาว  รายละเอียดมาเต็มเมื่อได้โอกาส  พูดตามตรงว่าผมกลัวใจคนฟังมากเลย

“น่าสนใจมากเลยนะครับ ถ้าผมอยู่ที่นี่ หกพันก็ไม่รู้ว่าจะใช้ถึงรึเปล่า” สมุทรยิ้มตอบ

“ใช่ไหมละ !?” หงส์กระแทกเสียงด้วยความตื่นเต้น

“คนงานที่นี่คนไหนที่ไม่มีหนี้ก็มีเงินเก็บกันหมดแหละ ถ้านายความประพฤติดีเยี่ยมถูกใจปู่ละก็ ขาดเหลืออะไรบอกได้เลย อยากจะขอกู้เงินก็ได้นะ ฉันคิดดอกเบี้ยไม่โหดเหมือนคนแถวนี้หรอก”

“กูบอกให้ไปได้แล้ว!” ผมขึ้นเสียง  เอื้อมแขนออกไปอย่างลืมตัว  มือคว้าผมของหงส์มาไว้ในมือจนเจ้าตัวกรีดร้องเสียงหลง  ผมของเธอยาวพอดีมือ  ความแรงที่ผมดึงทำให้อีกฝ่ายเกือบล้มจนสมุทรรีบเข้าไปคว้าตัวช่วยพยุงไว้  ผมจึงปล่อยมือออก

“ไอ้เหี้ยไฟ!” หงส์โวยวาย  ปากยิ้มกว้าง  ทรงผมยุ่งกระเซิงไม่เป็นทรง

“สมุทรดูสนใจมาก มึงดูตาเขาสิ” เธอพูดแทบตะโกน  ทำเอาไอ้เด่นถึงกับวิ่งกรูมาดูเหตุการณ์

“มึงนี่เป็นผู้หญิงที่น่าเอาส้นตีนยัดปากจริง ๆ”

“อ๋อ อีกอย่างนึงนะสมุทร ฉันไม่ได้อารมณ์ผีเข้าผีออกแบบมันด้วยนะ” หงส์ยังไม่หยุดเพิ่มข้อดีของตน

“ผมยังมาทำงานที่นี่ให้ไม่ได้หรอกครับ พอดีว่า ติดสัญญาบางอย่างกับคุณเขาอยู่น่ะ” สมุทรตอบ  อมยิ้มด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่ม

“เรื่องเงินเหรอ ? ให้ฉันช่วยไหมละ” หงส์ยิ้มกว้าง

“มึงจะลองดีกับกูใช่ไหม” ผมเลิกคิ้ว  หงส์เม้มปากยิ้ม ๆ  ขยับตัวหนีห่างออกไป

“นี่นามบัตรฉัน” หงส์กระซิบ  เธอหยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อีกฝ่าย 

“หงส์! อีสัสเอ๊ย!” ผมหลุดยิ้มและตวาดอย่างสุดทน  หยิบไม้เท้าของปู่หาญที่ให้ผมไว้ใช้ระหว่างที่อาศัยอยู่ที่นี่ขึ้น  ร่างกายเคลื่อนที่ไม่ได้มากจึงยื่นปลายไม้เท้าไปทางเพื่อนสนิท  หงส์หัวเราะลั่นกระโดดลุกขึ้นยืน
 
“จะไปแล้วนี่ไง เอากล่องเครื่องมือมาสิ” เธอว่า  ไม่ยอมเข้ามาหยิบกล่องเครื่องมือด้วยตัวเอง  สมุทรทำท่าจะยกกล่องเครื่องมือไปให้  ผมจึงดันปลายไม้เท้าเข้าที่คอของเขาในทันทีเพื่อสั่งห้าม

“ไอ้เด่น มาเอาไป!” ผมสั่ง  มือปัดกล่องจนมันกระเด็นไปไกล  เจ้าของกล่องยังคงหัวเราะชักดิ้นชักงอชอบใจอยู่ที่ไกล ๆ  หงส์หันกลับมาโบกมือบอกลาผมอีกครั้งก่อนลงจากบ้านไปพร้อมกับไอ้เด่น  ผมวางไม้เท้าลงที่เดิม  เหลือบตามองสมุทรที่ยังคงถือนามบัตรของหงส์ไว้ในมือ  ความเงียบสงบกลับมาอีกครั้ง  ทันทีที่ผมจะเข้าไปคว้านามบัตรมาแต่อีกฝ่ายกลับรู้ทัน  นำนามบัตรชูขึ้นสูงเหนือหัว 

“ฉีกทิ้งเดี๋ยวนี้เลย” ผมว่า  ศอกข้างซ้ายตั้งเท้าไว้กับที่นอน

“ไม่ครับ เผื่อจำเป็น” สมุทรตอบด้วยทีท่านิ่งสงบ

“จำเป็นอะไร” ผมถามเสียงห้วน

“จำเป็นสิครับ อีกอย่าง.. คุณหงส์ก็พูดถูก ผมชอบที่นี่น่ะครับ”

“........” ผมนิ่ง  ดูเหมือนเขาจะพูดออกมาจากใจจริง  ขวดน้ำใกล้มือถูกคว้าขึ้นยกดื่มตัดอารมณ์ที่ค่อนข้างเซ็งก่อนเอนหลังพิงพนักพิง  หันหน้ามองออกไปทางระเบียงบ้าน

“คุณเองก็ดูผ่อนคลายเวลาอยู่กับคุณหงส์ด้วย” อีกฝ่ายพูด  ทำเป็นรู้ดี  ผมเงียบฟังเมินไปที

“โกรธเหรอครับ”

“เปล่านี่” ผมตอบส่ง ๆ

“ถึงโกรธก็ไม่ทิ้งหรอกนะครับ”

“เลิกกวนตีนสักทีได้ไหม” ผมขมวดคิ้ว  หันกลับไปมองอีกฝ่าย  สมุทรอมยิ้มเล็กน้อย  เราทั้งคู่เงียบลง  พอได้โอกาสผมจึงคว้ามือเข้าไปเพื่อจะแย่งมันมาอีกครั้ง  ร่างกายที่ขยับไม่ถนัดทำให้อีกฝ่ายรู้ทันนำนามบัตรหลบหลีกไปได้ทั้งที่เขายังคงนั่งอยู่กับที่  ด้วยความหมั่นไส้และทั้งหงุดหงิดร่างกายตัวเองในตอนนี้  ผมจึงคว้าคอเสื้อของสมุทรมาอย่างแรง  การที่ออกแรงดึงมาอย่างแรงและอีกฝ่ายกับผมก็ตัวเท่า ๆ กันทำให้สู้แรงกันพอสมควร  สมุทรยอมเป็นฝ่ายตามแรงดึงของผมมา  คงเห็นว่าร่างกายผมยังไม่หายดีนัก  หลังผมเซพิงกลับไปทางด้านหลัง  สมุทรล้มตัวเข้ามาไม่ทันได้ตั้งหลัก  แขนทั้งของข้างของเขากางออกคร่อมตัวผมไว้โดยสัญชาตญาณ   

“จะมาที่นี่ก็ได้” ผมพูด  มือยังคงกำคอเสื้อสมุทรไว้แน่นไม่คิดปล่อย  อีกฝ่ายมองผมไม่วางตา  พอเขาขืนตัวเพื่อที่จะลุกขึ้นก็ยิ่งทำให้คอเสื้อยืดออกจนเกือบเสียทรง  สมุทรจึงไม่คิดขัดขืนอีก  ผมจ่อหน้าเข้าไปใกล้  ใบหน้าของเราจดจ่ออยู่ใกล้กันเพียงคืบเท่านั้น 

“แต่ต้องหลังจากที่ฉันอนุญาตให้นายออก” ผมกวาดตามอง  อีกฝ่ายหลบสายตาลง

“อ๋อ ไม่ดีกว่า” ผมจ่อปลายจมูกเข้าไปใกล้ปลายคางของเขา

“หลังจากที่ฉันอึ๊บนายแล้วดีกว่า เข้าใจคำว่าอึ๊บไหมละ” ผมเลิกคิ้วพลางแสยะยิ้ม 

“เปลี่ยนสีหน้าทำไม ? หรือว่านายอยากอึ๊บฉัน ? ก็ได้ ๆ  เอาเป็นว่าหลังจากที่เราอึ๊บกันก็แล้วกัน ถ้านายคิดจะมาอยู่ที่นี่ ฉันก็จะตามมาอึ๊บนายที่นี่ด้วย” ผมกระซิบกวนไม่หยุด  จมูกจดจ่อเกลี่ยแก้มอีกฝ่ายอย่างคลอเคลียแต่ก็ไม่คิดที่จะหอมอย่างตรงไปตรงมา 


โป๊ก!!! 

“โอ๊ย!” ผมร้อง  มือที่กำคอเสื้อสมุทรอยู่ปล่อยออกเปลี่ยนมาจับหน้าผากตัวเองในทันที 

“นี่นายใช้หัวโขกฉันอีกแล้วนะ เวรฉิบ!” ผมสบถประท้วง  มือขยี้หน้าผากตัวเองไปพลาง
 
“คุณนี่มันไม่เปลี่ยนจริง ๆ นะครับ” สมุทรบ่นเสียงเข้ม  เขาจะบ่นก็ไม่แปลก

“คึ!” ผมกุมหัว  เอนตัวซุกหน้าลงบนที่นอนและกลั้นหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย  ที่ผ่านมาตลอดเกือบหนึ่งอาทิตย์นี้  ผมไม่ได้ถึงเนื้อถึงตัวอีกฝ่ายเลย  ไม่ทำรุ่มร่าม  แม้จะมีเย้าหยอกเล่นอยู่บ้างแต่ทำแบบเพียงพอ  ผมแค่อยากให้อีกฝ่ายตายใจ  แผลผมยังไม่หายดีแม้ร่างกายจะได้ฟื้นฟูสภาพขึ้นมากแล้ว  ผมอยากให้ตัวเองหายดีกว่านี้ก่อนที่จะใช้โอกาสที่ได้อยู่กันลำพังนี้ทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ  ดังนั้นจึงมีการควบคุมอาการมาโดยตลอด 

“เจ็บ” ผมแกล้งร้องเสียงเบาอยู่ในลำคอ  เสริมไปด้วยการขดตัวเอาหน้าทิ่มซุกกับที่นอนไว้ด้วย  สมุทรนั่งนิ่งไร้ปฏิกิริยาตอบโต้เหมือนไม่เชื่อผมอีก  ผมเลยแกล้งเงียบแล้วค้างท่าไว้อยู่อย่างนั้น 

“ขอผมดูหน่อยสิครับ” อีกฝ่ายยอมเป็นฝ่ายก้มเข้ามาจับใบหน้าผมอย่างเบามือ  ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมฉีกยิ้มกว้าง  ล็อกมือของเขาไว้ที่ข้างแก้มพร้อมหอมลงที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายในทันที  จุ๊บ!

“.........” สมุทรนั่งเงียบ  ดวงตาถึงกับนิ่งไปเลย  สงสัยกำลังโกรธตัวเองอยู่ที่ดันเชื่อผมง่าย ๆ   

“อยากฝึกฉันให้เชื่องงั้นเหรอ เร็วไปพันปีมั้ง” ผมอมยิ้มมอง 

“แต่ก็นะ... อยากเชื่องจะแย่แล้ว” ผมพูดบอก  ริมฝีปากที่ยังคงยิ้มอยู่อย่างไม่สามารถหุบยิ้มลงได้  ผมบังคับมันไม่ได้เลย  ไม่รู้ว่าทำไม  สมุทรมองผมด้วยหางตา  ความหมายแรกของสายตาดูเอือมระอา  ผมนอนมองเขาตรง ๆ  ทำให้อีกฝ่ายหลบตาไปอีกทางหนึ่ง  มือซ้ายกุมมือของสมุทรไว้ใกล้ตัว  นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กรีดนิ้วชี้ของอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างเย้าหยอก  สมุทรหันกลับมามองผมอีกครั้งแต่กลับไม่ชักมือกลับทั้งที่เขาสามารถทำได้  ร่างกายของเราต่างไม่ขยับเลย  มีเพียงนิ้วมือของผมเท่านั้นที่กำลังขยับเล่นฝ่ามือของอีกฝ่ายอยู่  สงครามปัญญาอ่อนสงบลงแล้ว  แต่มือของผมยังคงโอบเกี่ยวนิ้วชี้ของสมุทรไว้ไม่ปล่อย 

“ถ้าใครมาบอกคุณว่าเจ้าชู้ แล้วเขาไม่ไว้ใจคุณ คุณก็ยอมรับทั้งหมดนั่นไปซะนะครับ” อีกฝ่ายพูดว่า

“ได้ครับ” ผมขานรับโดยง่าย



...............(ไฟ)..............

ไว้อาลัย 5 วิให้ ท่านเข้ม ---- :ling2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2020 09:49:20 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
 รอคุณไฟขา อิอิ  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
เบบี้มาแล้ววว  ดีใจมากกกกกกกกกกกก    :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :3123: :3123:

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
สวีทกันแบบเถื่อนๆ
เรื่องนี้มีคนปรกติไหม555555
ขอบคุณค่ะ^^

ออฟไลน์ Cateuk133

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณนะค้าาาา พึ่งเป็นสาววาย มาตามอ่านผลงานคุณเบบี้ค่าาา  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ตอนนี้มันก็จะหวานหน่อยๆ :o8:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
มาน้อยแต่ได้ ฟินกันเบาเบา   :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pornvrin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สวีทแบบเจ็บๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
สมุทรนี่เนื้อหอมมาก เจอใคร ก็มีแต่คนอยากได้ 5555

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
ไฟขี้หวง และอ้อนได้น่าหมั่นไส้มาก  :mew1:

ขอบคุณเบบี้ค่ะ
 :L2:

ออฟไลน์ Youch06

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
สงสารเข้มหน้าสั่น 555555555555555
อิคุณไฟก็คืออิคุณไฟนั่นแหละนะ เป็นสมุทรนี่คงจะถอนหายใจวันละร้อยรอบ

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ฮาได้อีกค่ะ เจ้หงส์กะเฮียไฟ จิกกัดกันตลอด ชอบอ่ะ

หวานกันนะคะเนี่ย อ่านแล้วอมยิ้มตลอดเลย แลดูเป็นห่วงเป็นใยกัน สมุทรเหมือนกำลังตามใจพี่ไฟนะคะ


ปล.สงสารพี่เข้ม ทำไมพี่ไฟแกล้งเข้มคะ ไหนตอบมาสิ ? คะแนนการจีบคุณหงส์เหมือนจะติดลบแน่ๆ แต่ก็ยังเชียร์อยู่นะคะ

ขอบคุณเบบี้ คิดถึงๆคุ้มค่ากับการรอคอยเลย อ่านจุใจมากกกกก

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
อะอะอะ สมุทร ยังอยู่...คืออะไร? ติดแท๊ก #มีใจแต่ทำยังไงไม่ให้เขารู้ ใช่มะๆๆๆๆ 55555 นี่ช่วยคิดเข้าข้างไฟ เลือกข้างได้ชัดมากบอกเลย 555555

พี่เข้ม!!! พี่ยังไม่นกนะคะ อย่าท้อค่ะ ผู้หญิงตบเขาว่าผู้หญิงรักค่ะพี่ พี่โดนซะหน้าหันขนาดนั้น แสดงว่าคุณหงส์เขารอพี่ดับเครื่องชนอยู่ค่ะ ไฟช่วยเปิดทางให้แล้ว(?) อย่าช้าค่ะเวลามีน้อยใช้สอยให้คุ้ม ทีมไฟของแท้ต้องใช้วิธีนี้ค่ะ ปล้ำก่อน เคลียร์ทีหลัง !! สกิลทุกอย่างที่ไฟสอนพี่เข้มมาศาสตร์ทุกแขนง  ถึงเวลางัดมันออกมาใช้แล้วค่ะพี่ #งานใหญ่ยิ่งกว่าทำงาน  55555

คิดถึงเบบี้นะ สบายใจเมื่อไหร่ก็ค่อยอัพ รอได้เสมอจ้าาา  :mew1:

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อ่านมานานและ ยังไม่รู้เลนใครรุกใครรับ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด