The Extension Dawn
ตอนพิเศษ
วารินทร์ x วิณณ์
รชต x ธาม
ตอนพิเศษ 5ใจจริงแล้วผมอยากขอบคุณน้องธาม ที่ทำให้ผมมีข้ออ้างในการมานั่งดื่มของมึนเมาอีกรอบ ได้อยู่ใกล้ๆ พี่โป๊ะอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ผมทำพฤติกรรมน่าเตะเอาไว้ อ้อ..ผมต้องขอบคุณพี่โป๊ะด้วยที่ไม่เตะผม
เราดื่มกันหลายคน แม้ว่าบางคนจะขอตัวไปนอนพักผ่อนแล้วก็ตาม อาทิ เจม ที่ตอนนี้ดื่มอย่างสนุกสนานกับพวกไอ้โอม คุณต้อม พี่จิว และพี่หนึ่ง พี่พีชกับแฟน นั่งอยู่ไม่ห่างนัก ส่วนที่นั่งดื่มกันเงียบๆ ริมสระว่ายน้ำ ก็คือผมกับพี่โป๊ะ
เสียงเกลากีตาร์ของไอ้โอมยังขับกล่อมพวกเราในที่แห่งนี้ แสงไฟสีนวลตาจากรอบวิลล่าไม่สามารถแย่งสายตาพวกเราจากใบหน้ากันและกันได้
หากนี่คือความสุขที่ได้จากผองเพื่อนแล้วล่ะก็.....ตั้งแต่เกิดมา ผมเพิ่งมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนก็ตอนนี้แหละครับ
“อ้าว แล้วพี่โจ้” ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ เมื่อเริ่มมองสำรวจบรรยากาศรอบๆ แล้วนับหัวไม่ครบคน พี่นำกับน้องธามเพิ่งเดินออกไปที่ริมชายหาด ถ้าอย่างนั้น ก็มีแค่พี่โจ้ที่จมอยู่กับความเงียบลำพัง
“วินนี่...อะไรกับโจ้นักหนานะ พี่ล่ะสงสัยจริงๆ”
“ไม่ได้อะไรนักหนาหรอกครับ เพิ่งรู้สึกได้ว่าพี่โจ้ไม่ได้มาดื่ม”
“รายนั้นเค้าไม่ค่อยแตะแอลกอฮอล บอกกลัวเหี่ยว”
“อ่อออ” ผมทำความเข้าใจเหตุผลพี่โจ้อยู่เงียบๆ แต่นายมือโปรกลับหันขวับมาจับหน้าผมให้หันไปจ้องเขา
“ไม่ใช่ว่าพี่รู้จักดีเพราะว่าสนใจหรือชอบพอกันอะไรนะ ไม่ต้องคิดอะไรไปทางนั้นเลย”
“พี่กับโจ้รู้จักกันมานาน จะรู้เรื่องนี้ก็ไม่แปลก แล้วผู้ชายก็ชอบเขาเยอะ พี่ก็ต้องช่วยสกรีน”
“วินก็ไม่ได้อะไรนี่ครับ”
“ไม่อยากให้หึง”
“วินไม่หึงหรอก” ผมตอบตามความจริง ผมไม่หึงเขาหรอก ยอมรับว่ามีรู้สึกนิดๆ แต่ผมไม่ใช่คนที่ใช้ความรู้สึกแง่ลบมาเป็นพลังงานขับเคลื่อนการกระทำของตัวเอง ถึงจะหึง มันก็จะเป็นความหึงที่เงียบงันที่สุดในโลก
“งั้น หึงหน่อยก็ดีนะ พี่จะได้รู้สึกว่าเรารักกัน” พูดเสียตรง ไม่รู้ว่าเมาหรือดึกมากแล้วจิตใจเลยอ่อนไหว ผมยิ้มให้บางๆ แล้วก็แค่ ...
“อืม....” อยู่ในลำคอ
“ง่วงมั้ย” นายมือโปรถามต่อ ผมลองถามตัวเองในความคิดแล้วก็หาวทันที แต่กลับส่ายหน้าปฏิเสธ นี่มันคือการโกหกแล้วใช่มั้ย ผมเห็นเขาหัวเราะขำ เอามือมาปิดตาผมไว้ โอบผมไว้ให้เอนไปพิงเขา แล้วก็โยกตัว ภาษากายนี้แปลความหมายได้ว่า อยากจะกล่อมให้ผมนอนหลับไปเสีย แต่เขากลับทำให้หัวใจผมเต้นรัว กลุ่มแก้มเกาะก้อนกันยกยิ้มมากขึ้น
ผมมีความสุขมากไปแล้ว
มากจนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้กังวลใจเรื่องอะไร
ครืดดดดดด
เสียงโทรศัพท์ผมสั่นคลอนอยู่บนพื้นหินหยาบริมสระว่ายน้ำของวิลล่า ตาที่กำลังมัวเพราะการกล่อมของพี่โป๊ะตื่นตัวอีกหน
“โทรศัพท์วินอยู่ไหนอ่ะ”
“ข้างๆ นั่นไง ตรงพื้น”
“มานี่ หยิบให้ วินเมาแล้วแน่ๆ ตาฉ่ำไปหมดแล้ว”
“อ่ะ นี่”
“อ้าว อาสุโทรมา”
“ด่วนล่ะมั้ง อ่ะวิน” เขาจัดการเอื้อมคว้าโทรศัพท์ให้ ดูหน้าจอ บอกว่าใครโทรมา กดรับ แล้วก็ยื่นให้ผม
ผมก็ทำเพียงแค่
“ครับ ป้าสุ”
ตาวิน!!!
มีปัญหาอะไรลูก?
เจ็บตรงไหนรึเปล่า
เกิดอะไรขึ้น ทำไม ใครทำอะไรลูกแม่?
แล้วตาโปรอยู่ไหน ทำไมไม่ดูน้อง ก็บอกเองว่าจะดูแลดูแล แล้วนี่อะไร ทำไมวินถึงร้องจะกลับบ้าน
ร้อยวันพันปี หนีแม่ไปเที่ยวได้แล้วไม่เคยโทรหา ต้องลากตัวกลับกรุงเทพเองตลอด
แล้วจะให้ไปรับที่ไหน หือ? วิน!!!!
เป็นชุดเชียวครับ
ป้าสุโทรมา ฟังเสียงดังจากโทรศัพท์ด้วยความตกใจจนจบใจความ ผมถึงระลึกได้ว่า ผมโทรไปบอกลุงสมานให้มารับหน่อย เดี๋ยวจะส่งที่อยู่ไปให้ แล้วผมก็ลืมส่งที่อยู่ไป เพราว่าน้องธามเข้ามาในห้องเสียก่อน แล้วก็โวยวายคิดว่าผมหนีกลับกรุงเทพจนคนอื่นเขาวุ่นวาย เช่น เจมที่หลับไปแล้วก็ยังตื่นมา และมานั่งดื่มต่ออย่างขัดใจพี่หนึ่ง
เอาไงดีล่ะทีนี้?
ผมไม่ได้อยากกลับกรุงเทพเร็วนักหรอก อยู่กันแบบพวกเราแล้วสนุกดี แต่ว่า ก็ปากเบา คิดน้อย บอกกับลุงสมานไปแล้ว แล้วป้าสุก็รู้เรื่องแล้วด้วยเนี่ยสิ
ยิ่งไปกว่านั้น พี่โป๊ะรู้แล้วว่าผมคิดชิ่งหนีกลับกรุงเทพ
ผมทำได้แค่เอ่ออออ ให้ป้าสุฟัง ส่วนสายตามองนายมือโปรที่กอดอกฉับราวกับว่า เขาตัดสินไปแล้วว่าคนที่ทำผิดคือผม
เขาแบมือขอโทรศัพท์ไป ผมก็เลยให้แต่โดยดี
“ครับอาสุ ผมเองครับ โปร”
“วินอยู่ดีครับ”
“นั่งดื่มอยู่กับโปรกับเพื่อนครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ เห็นว่ากังวลเรื่องงาน เขาทำค้างไว้ ผมบอกแล้วว่างานไม่เร่ง อีกอย่าง เอกสารโครงการ เราก็ดึงจากออนไลน์ได้ วินก็เลย....ไม่รีบกลับแล้วครับ”
“ครับ ครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“เดี๋ยวผมบอกคุณสาเอง หรือว่าอยู่ด้วยกันครับ ฝากบอกได้มั้ยครับ ไม่อยากโทรไปบอกตอนนี้เพราะกลัวว่าจะรบกวน ผู้ใหญ่พักผ่อนกันทั้งบ้าน แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรด้วย”
“โอเคนะครับ อาสุพักผ่อนเถอะครับ ดึกมากแล้ว”
“ครับ ครับ..... ครับ”
แล้วก็วาง
ทำไมเขาจัดการอะไรได้ดีจัง อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าผม
“วินขอโทษ” ผมบอกอย่างรู้สึกผิดเมื่อรับโทรศัพท์คืนจากเขา นายมือโปรไม่ได้ว่าอะไร แค่มองหน้าผม ถอนหายใจเป็นเสียงหัวเราะ แล้วก็โอบผมไว้เหมือนเดิม
ตอนนี้เขาเป็นคนพาผมนั่งริมสระแล้วหย่อนขาลงน้ำ จริงๆ พวกเราตกลงกันแล้วว่าไม่ลงสระ เพราะทุกคนดื่มกันหมด มันอันตรายเกินไป และต่างก็เกรงว่าจะช่วยกันไม่ทันการ และพวกเราก็เคร่งครัดครับ ไม่มีใครลงน้ำเลย มีเพียงผมและนายมือโปรที่นั่งห้องขากันอยู่ 2 คน
เรากำลังคุยกันเรื่องงานอีกตามเคย แต่ว่าลักษณะการคุยมันอบอุ่นกว่าตอนที่ปรึกษากันที่ออฟฟิศ เขาถามผมบ้าง อ้อมผมบ้าง สั่งก็มี แต่ก็ไม่ได้ดุร้ายหรือเข้มงวดเหมือนที่มักจะแสดงออกกับลูกน้องทีมอื่นๆ ระหว่างที่เรากำลังตกลงกันอยู่ว่าใครจะเป็นคนดีลลูกค้าที่อกหักจากโลเคชั่นถ่ายหนังที่มาเลเซีย คนที่ผมนึกห่วงอยู่อึดใจหนึ่งก็โผล่มา
“โปร น้องวิน”
“อ้าวโจ้”
“พี่โจ้”
“คุยอะไรกัน นั่งด้วยสิ” ผมขยับออกห่างจากนายมือโปรทันทีที่ได้ยินคำขอ แต่นายมือโปรกลับขยับตามมา ผมขยับหนีอีก เขาก็ขยับตามมาอีก
“โจ้ก็นั่งสิ ที่เยอะแยะ” เขาชิงบอกพี่โจ้ก่อนที่ผมจะขยับหนีอีกรอบ มือที่เคยเท้าขอบสระตะปบทับมือผมเอาไว้แน่น
“จ้า จ้า”
“แล้วนี่ทำไมมานั่งกันเงียบๆ ตรงนี้ล่ะ?”
“เอ๊ะ”
“เฮ้ย! โจ้ขอโทษ มาขัดจังหวะแน่เลย”
“ช่างเถอะ จังหวะไว้สร้างใหม่ได้ เนอะวินเนอะ แล้วทำไมไม่นอน” เป็นนายมือโปรอีกนั่นแหละครับที่คุยกับพี่โจ้ด้วยท่าทางปกติ ผมเสียอีกที่เงียบลงจนตัวเองยังรู้สึก
พี่โจ้ไม่ใช่มารหัวใจผม ไม่ได้เป็นมือที่สาม ไม่ใช่คนที่เป็นสาเหตุให้เกิดวังวนรักสามเส้าด้วยซ้ำ
ที่ความรู้สึกของผมสั่นคลอน มันเป็นเพราะตัวผมเองทั้งนั้น เป็นเพราะความขลาดเขลาของผมล้วนๆ เลย
พี่โจ้บอกว่า จริงๆ ก็อยากนอน ง่วงมาก แต่พี่บัวเข้าๆ ออกๆ จากห้อง ก็เลยยังไม่ได้หลับเสียที อีกอย่างคือรู้สึกแปลกที และก็รู้อยู่ว่าทุกคนยังสนุกกันอยู่หน้าวิลล่า ก็เลยเดินมาสมทบ
พวกเขาคุยกัน และก็หันมาชักชวนผมคุยไปด้วย ผมรับรู้ได้ว่านายมือโปรกำลังทำให้เรื่องราวเป็นปกติ เขาอยากให้รับรู้บรรยากาศเวลาเขาคุยกับพี่โจ้ว่ามันคือความเป็นเพื่อนที่บริสุทธิ์ใจแค่ไหน ซึ่งผมก็รับรู้ได้ และรู้ด้วยว่าพี่โจ้กำลังพยายามทำให้การคุยกันได้แค่ระดับเพื่อนนั้น เป็นเรื่องที่เธอพอใจ
“อื้อโปร ไม่ร้องเพลงหรอ เห็นชอบโชว์ประจำ”
“น้องวิน อยากฟังเพลงอะไร ไล่โปรไปร้องให้ฟังเลย”
“เอ่ออ วินว่าไอ้โอมก็ร้องเพราะดีแล้วนะครับ”
“นี่มือโปรน้า...น้องโอมแค่ศิษย์ปลายแถว”
“ไปสิโปร ร้องเพลงให้น้องวินฟัง เร็วสิ”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่นึกอยาก” นายมือโปรงอแง เขาใช้มือวักน้ำเล่นอย่างซุกซน ที่ต้องบอกว่าซุกซนก็เพราะว่าแม่งวักน้ำใส่ขาผม
“พี่โป๊ะร้องเพลงเพราะกว่าไอ้โอ้มหรอ ไม่มั้ง”
“เฮ้ยยย ดูแคลนกันเกินไปแล้ว”
“กระผมนักร้องนำนะครับ”
“นำจังหวะ?”
“นำจังหวะต้องไอ้พีชนู่นนน”
“บอกมาเลยดีกว่าอยากได้เพลงอะไร เดี๋ยวจัดให้”
“อืมมม วินไม่นึกอยากฟังเพลงอะไรเป็นพิเศษหรอก พี่อยากร้องเพลงอะไรก็เอาเถอะ”
“ไอ้ยุ่ง แค่นึกเพลงที่ชอบมาเพลงนึง ยากตรงไหน”
“เร็วสิ เร็วๆ เดี๋ยวร้องให้ฟังเอง”
“อืมมมม”
“ไม่มี”
“วิน....นึกสิ”
“ก็ไม่มี”
“นึกก่อน”
“นึกแล้ว.....” ผมนิ่งแล้วนึกถึงเพลงที่อยากฟังให้เขาเห็นคาตา แป๊บเดียวก็ให้คำตอบ
“ไม่มี”
“จะไม่มีเพลงที่อยากฟังได้ไง เฮ้ย คนเรามันต้องมีเพลงที่ฮัมจนติดปากไง”
“ต้องมีสิวิน เก่าแค่ไหนก็ได้ เพลงสากลก็ได้”
“ไม่มีครับ”
“งั้นเอาเพลงที่พี่ชอบก็แล้วกัน” พูดจบก็ลุกไป ปล่อยผมนั่งห้อยขาแช่น้ำในสระอยู่กับพี่โจ้2คน ผมมองนายมือโปรเดินไปแหย่น้องรักของเขาอย่างสุดเอ็นดู การตบหัวไอ้โอมและเสียงวิ่งมาถึงหูผมนี่เท่ากับว่าไอ้โอมต้องเจ็บชิบหาย แต่ผมเห็นมันหันไปออดอ้อนเฮียมันแทนการโวยวาย คนตบก็หัวเราะใส่อย่างไร้สามัญสำนึก
พวกวงดรตรีกิ๊กก๊อกหารือกันครับ มีการทดลองคอร์ดก่อน ลองกลอง(ยาว) ที่แบกมา คนที่ส่งเสียงโวยวายว่าไม่เอา ไม่ร้อง ไม่อยากเป็นเครื่องมือให้พี่โป๊ะจีบแฟนก็คือเจมครับ แต่เจ้าตัวก็โดนพี่โป๊ะผลักจนตัวกระเด็น ผมเห็นเจมกระโจนใส่วงดนตรีเล็กๆ อีกครั้งด้วยรอยยิ้ม ส่วนพี่หนึ่งนี่หัวเราะดังมาก
“มาๆ รู้เรื่องนะเว้ย”
“เอออออออออออ!!” จำนวนคนที่เยอะกว่าทำให้พี่โป๊ะกลายเป็นเสียงส่วนน้อย พอโดนคนในวงดนตรีน้อยชิ้นนั้นตะคอกใส่ เขาก็หันหน้ามามองผมเพื่อฟ้อง และผมก็หัวเราะกว้างๆ ให้เขาเห็น
เราส่งยิ้มให้กัน จากนั้นเสียงกีตาร์ขี้เล่นก็ดังขึ้น ตามด้วยจังหวะกลองที่ซุกซน เป็นเพลงที่คุ้นหู แต่ไม่คุ้นกับอาการเขินที่เกิดขึ้นเลยครับ
เห็นหรือเปล่านะหรือเปล่านะ รู้หรือปล่าวใครเค้ามองอยู่นะ
มองใบหน้าเธอ มองจ้องเธอ เหมือนโดนสะกด(โอ้ย) (นักร้องนำตัวสูงๆ คนนั้นเขาเอามือกุมหัวใจเขาด้วยครับ)
ฝันหรือปล่าวนะ คงไม่นะ รู้ว่าคนอื่นเค้าก็มองนะ
ตัวเธอถูกจับจองไปด้วยสายตา
ถ้าเค้ามีเวทมนต์ ทำให้เธอประทับใจ ต่างกับฉันมีแค่ใจ คอยให้เธอกรุณา
จะควงเธอไปที่ใด ใครคงอิจฉา เธอคือคนที่ใครหลายคนคิดว่านางฟ้า
โปรดเถอะน่ะ ช่วยมองที่หัวใจของฉันได้ไหม ถ้าเธอคือนางฟ้า
ใครเคยบอกมา ตลอดมา รักเป็นเพียงเรื่องของหัวใจนะ
มีอำนาจใด ทำให้ใจ เธอได้โปรดฟัง
ขอให้เธอรู้ ให้เธอเห็น ใจฉันอยากเป็นของของเธอนะ
ขอโอกาสสวรรค์เห็นใจสักครา
ผมเขินแทบบ้าทั้งที่เพิ่งผ่านไปครึ่งเพลงเท่านั้น
เพลงยกยอปอปั้นจนน่าละอายทำให้ผมต้องหันหนีไปมองทางอื่นอยู่บ่อยครั้ง แต่พอหันกลับไปมองคนร้องทีไร เขาก็ผายมือมาทางผม สบตาผม แล้วก็ยิ้มให้ผมอยู่ตลอด
ผมก็เลยนั่งม้วนอยู่แบบนี้ แม้แต่พี่โจ้ ก็ยังหัวเราะอาการเขินของผมอย่างเอ็นดู เธอชี้หน้าเพื่อแหย่ผมเพิ่มด้วย
“พี่โป๊ะแม่งงงงงง” ผมบ่นอู้อี้กับตัวเอง แต่พี่โจ้กลับพูดต่อความให้
“เขาน่ารักแบบนี้แหละ น้องวินต้องรักเขาให้ดีๆ นะคะ”
“เอ่อออออ” ผมพยายามเก็บสีหน้ามีความสุขของตัวเองเอาไว้ เพราะไม่อยากมีความสุขเกินไป อย่างน้อยผมก็ไม่ควรมีความสุขมากว่าผู้หญิงที่เพียบพร้อมย่างพี่โจ้
“พี่ขอเพื่อเขาได้เท่านี้แหละ นะคะ”
“ครับ.....” ผมรับปาก เพลงจีบนางฟ้ายังคงบรรเลงต่อไป นักร้องนำตัวสูงๆ คนนั้นก็ยังคงมองมาทางผม แต่ผมไม่ได้หันไปสบตาด้วย เพราะผมต้องการทำสิ่งที่น่าจะทำได้ดี และควรทำมาตั้งนานแล้ว
“วินจะรักพี่โป๊ะอย่างดีที่สุด”
“ไม่ใช่เพื่อรักเผื่อพี่โจ้หรืออะไรหรอกนะครับ”
“ที่จะรักเขาอย่างดีที่สุด ก็เพราะ.....”
“ค่ะ เพราะ...เพราะอะไรคะ”
“เพราะพี่โป๊ะเป็นของวิน” ผมไม่รู้ว่าพี่โจ้จะเข้าใจคนอย่างผมรึเปล่า
ความรัก....สำหรับพี่โจ้แล้ว อาจจะหมายถึงการปรารถนาดี การตามเช็คขี้ที่ติดตูดหมาได้อย่างไม่รู้สึกรังเกียจหรือย่อท้อ
แต่สำหรับผมแล้ว...ความรักสำหรับคนอย่างผม ก็คือการดูแลของของผมให้ดีที่สุด เท่านั้นแหละครับ
เพลงแรกจบไปแล้ว ผมรู้สึกปวดแก้มอย่างไรพิกล แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดครับ
มนุษย์ช่างร้องช่างเล่นกลุ่มนี้มีเพลงต่อไปครับ เปลี่ยนไปตรงที่พี่โป๊ะเป็นคนเล่นกีตาร์และร้องเพลงไปด้วย ซึ่งผมสารภาพเลยว่าผมไม่รู้จักเพลงนี้
จากคนเข้มแข็งไม่เคยแพ้ ไม่ยอมให้ผู้ใด
กลับมาอ่อนไหวอ่อนแอไม่เหลือภาพคนที่เข้มแข็ง
ตั้งแต่พบเธอชีวิตเปลี่ยนไป หัวใจต้องยอมแพ้
มันแพ้ทางคนอย่างเธอ
ตัวแค่นี้ ตัวแค่นี้ ดูน่ารัก ดูน่ารัก
แปลกใจนักทำไมถึงทำได้แบบนี้
เกิดมาไม่เคย ไม่เคยรักใครมากมายเท่ากับเธอ
ตื่นมาก็เพ้อ หลับฝันละเมอ ภาพเธอมาหลอนทุกคืน
ต่อจากนี้ หมดทั้งหัวใจ ไม่ขอให้ใคร
ถอดเขี้ยวเล็บไว้ให้เธอไป ไม่ต้องคืน ไม่ต้องคืน
เก็บไว้ที่เธอ ให้ทั้งตัว ให้ทั้งใจ ฝากไว้ได้ไหมเธอ
แล้ว....แล้วทำไมไม่ร้องอยู่ตรงนั้น?
จะเดินเข้ามาทำไมวะเฮ้ย!!!
ที่เป็นแบบนี้เพราะเธอนั้นเป็นคนที่แสนดี
จะมีอีกไหมแบบเธอคนนี้ที่จะเข้าใจฉัน
เธอเปลี่ยนฉันไปให้เป็นอีกคน
เพราะใจของเธอนั้นชนะใจคนอย่างฉัน
ผมมองเห็นเขาแบบสโลว์โมชั่น พี่โป๊ะเดินมาหาผม ย่อตัวลงนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง พี่โจ้ลุกไปยืนหัวเราะอยู่รวมกับคนอื่นๆ ที่กระจายตัวอยู่หลังพี่โป๊ะ แต่ทุกคนก็มองมาที่ผมและพี่โป๊ะทั้งนั้น....โอยยย ผมไม่ชอบอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมขี้เขิน!
ตัวแค่นี้ ตัวแค่นี้ ดูน่ารัก ดูน่ารัก
แปลกใจนักทำไมถึงทำได้แบบนี้
นายมือโปรยื่นหน้ามาหา ลอยหน้าลอยตายิ้มให้ เขากำลังจะอ้าปากร้องท่อนถัดไป แต่ผมเขิน!!!
และผมทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!!!
ตูมมมม!!!!!