At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน43 (12-07-17) ​p.23 ตอนจบ  (อ่าน 185103 ครั้ง)

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
งานเลี้ยงไม่มีวันเลิกรา ฉันใดก็ฉันนั้นครับ
โอกาสที่ผมรับปริญญา ขึ้นแท่นท่านมหาฯ อย่างเป็นทางการไม่ได้วนมาทุกปี เพราะฉะนั้น นายมือโปรเลยมีข้ออ้างในการพาไปเลี้ยงนั่นกินนี่อีกหลายโปรแกรมครับ และโปรแกรมล่าสุดก็คือ ปาร์ตี้กับเพื่อนพี่ที่ผับ

ผมไม่ได้ค้านขัดอะไร ใช่ว่าชอบปาร์ตี้หรอกครับ แต่ผมรู้ว่าเขามีจุดประสงค์แอบแฝงในการจัดงานสังสรรค์ครั้งนี้ ผมก็เลยยอมให้เขาใช้โอกาสที่ไม่ได้มีทุกปีของผม มาเป็นข้ออ้าง จะว่าผมเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดผมก็ไม่เถียง เพราะผมยังสยบต่อมเสือกไม่ลงเลยจริงๆ

คืนนี้พวกเรา .... น่าจะนึกรายชื่อแขกกันได้นะครับว่าจะมีใครบ้าง พวกเราจะมาปาร์ตี้คาราโอเกะกันครับ ที่ผับของพี่โป๊ะ
จะว่าคาราโอเกะก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะวงดนตรีสดมีพร้อมมาเล่นให้ด้วย ก็วงเฉพาะกิจของพี่จิวและไอ้หมาโอมแล้วก็คุณต้อมนั่นแหละ
วงดนตรีพร้อม นักร้องก็พร้อมนะครับ ประกอบด้วย เจม ผม แล้วก็น้องธาม
รายหลังนี่ดูตั้งอกตั้งใจมาก เพราะจะเป็นการโชว์ร้องเพลงไทยของน้องธามครั้งแรกเลย
ตอนที่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไร ผมก็เข้าใจเอาเองว่าน้องไม่คล่องภาษาไทย เลยขอแร๊พปนภาษา แต่มารู้จากเจมอีกทีว่าน้องธามจงใจร้องเพลงนี้ให้พี่นำเลยทีเดียว
ผมล่ะอยากรู้ว่าพี่หมอนำได้ยินเพลงนี้แล้วจะทำยังไงต่อ
แต่ที่อยากรู้มากกว่านั้นก็คือ ใครยุให้น้องธามร้องเพลงนี้ และข้อสันนิษฐานว่าคือเจมนั้นต้องตกไป เพราะผมถามตรงๆ แล้ว เจมก็ถามผมตรงๆ กลับมาว่า อ้าว ไม่ใช่วินกับพี่โป๊ะแนะนำหรอ

“ทำอะไรไอ้ยุ่ง”

“นึกอยู่ว่าคืนนี้พี่นำจะว่ายังไง”

“สนมันทำไม ไอ้หมอบื้อพรรค์นั้น”
“พี่นะ อยากยุให้ธามทิ้งมันจริงๆ เลย ตีมึนอยู่ได้”

“ไม่สงสารเพื่อนพี่หรอ พี่หมอนำเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะครับ เขาแค่ทำงาน”

“พี่ก็ทำงาน วินก็ทำ ที่หนึ่ง เจม หมาธาม ใครๆ ก็ทำงานกันทั้งนั้น ทำไมเรายังใส่ใจกันและกันได้ ทำไมไอ้หมอใส่ใจธามไม่ได้”

“พี่โป๊ะดูโกรธแทนน้องธามมากเลยนะ”

“โกรธสิ ธามก็เหมือนน้องพี่”

“ไม่เข็ดหรอครับ เรื่องโกรธแทนคนอื่นเนี่ย” ผมลองจี้ใจดำ นายมือโปรเลยสะดุดปากตัวเองแล้วหันมาขยี้หัวผม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ จังหวะเคลื่อนมือไม้จึงมีกลิ่นครีมอาบน้ำหอมๆ โชยมาให้ดมดอม

“มันไม่ใช่แบบนั้น พี่ไม่ได้เข้าข้างธามไม่ลืมหูลืมตาหรอกนะ”
“แต่ที่ไปคุยๆ กับไอ้หมอกัน วินก็เห็นว่ามันยึกยักขนาดไหน”
“มันเป็นพี่กว่า โตกว่าหมาธามตั้งเยอะ และเป็นหมอจิตฯ ด้วย มันต้องรู้สิว่าธามกำลังคิดอะไร รู้สึกยังไง เพราะอะไร”

“เดี๋ยวๆ พี่โป๊ะ”
“พี่นำไม่ใช่ผู้รู้ขนาดนั้นมั้ง”
“พี่โป๊ะเองเถอะ บางทีวินไม่พอใจเรื่องนั้นนี้ น้อยใจโน่นนี่พี่โป๊ะก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“แต่วินไม่ได้เก็บมาคิดข้ามวันไง เพราะวินเองก็เก็บอาการไว้ เก็บอารมณ์ไว้ ไม่สื่อสารให้พี่ได้รู้”
“เพราะงั้น ที่พี่นำเขาตามน้องธามไม่ทันทุกอารมณ์ ก็เพราะธามเก็บไว้ด้วยรึเปล่า ถ้าบอกตรงๆ แล้วยังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอีก ค่อยด่าเขาสิ”

“เข้าข้างมันหรอ?”

“ถ้าใช่แล้วไงล่ะ?”

“ก็ไม่แล้วไง แค่รู้ไว้ว่าแฟนพี่เห็นอกเห็นใจเพื่อนพี่มากกกกกก”

“ชิ” ผมจึ๊ปากใส่ แล้วก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำบ้าง แต่นายมือโปรรั้งเอวไว้แล้วดึงให้นั่งลงบนตักเขาแทน

“แต่ไม่ต้องเข้าใจใครเยอะหรอกนะครับ เข้าใจพี่คนเดียวพอ เนอะ”

“.........”

“นะ”
“หึง กับเพื่อนก็หึง”
“นะวิน รับปากสิ”

“อื้อ ไม่เข้าใจใครนักหรอก แค่เข้าใจพี่โป๊ะก็เสียพลังงานเยอะพอแล้ว”

“ปากหวานที่สุดเลย แฟนพี่เนี่ย”

ด่าหรือชมวะเนี่ย?

“แล้วนี่จะร้องเพลงอะไรแข่งกับคนอื่น”

“ไม่บอกกกกก”

ครับ ที่ว่าร้องเพลงนั้น แน่นอนว่าต้องมีเดิมพัน ไม่อย่างนั้นผมไม่ลงสนามให้เปลืองแรงหรอกครับ เจมก็เหมือนกัน รายนั้นบอกว่าให้มาแหกปากโดยไม่ได้อะไร นอนฟังพี่หนึ่งครางเพี้ยนๆ ดีกว่า นั่นก็ปากร้ายขึ้นทุกวัน ผมค่อนข้างเห็นใจพี่หนึ่งนะครับ แต่ดูอีกที พี่แกก็ชอบใจใหญ่โตไม่ว่าเจมจะว่ากระทบยังไงก็เถอะ เขาคงรักของเขามากจริงๆ

“บอกพี่ไม่เห็นเป็นไร”

“ก็พี่โป๊ะก็แข่งไง แข่งขี้โกงด้วย  3 คนเพลงเดียว”

“พวกพี่ไม่ได้แข่ง แต่ร้องให้เป็นเพลงแทนนความรู้สึกต่างหาก เงินนิดหน่อย ให้ลูกหมาลูกแมวได้หรอกน่า”

นิดหน่อยนี่คือห้าหมื่นบาทนะครับ ห้าหมื่น!! ใครยังไม่เก็ตว่ามันเยอะยังไงก็ให้คิดเสียว่าครึ่งแสน ทำหน่วยให้ใหญ่ไว้จะได้มีแรงบันดาลใจครับ

“นั่นแหละ ถือว่าเป็นคู่แข่ง วินไม่บอกหรอก”

“โธ่เอ้ย พี่ไปถามไอ้โอมเอาก็ได้ มันซ้อมกีตาร์ให้วินด้วยไม่ใช่หรอ”

“มันไม่บอกพี่โป๊ะให้โง่หรอก”
“วินติดสินบนไว้แล้ว หรือถ้าพี่โป๊ะจะไปสินบนซ้อน ก็ให้เลิกคิดเลย ไอ้โอมมันไม่ทรยศวินหรอก แล้วเงินพี่โป๊ะ แค่ขอพี่ มันก็ได้แล้ว”

“ไอ้พวกยุ่ง ไม่รู้ก็ได้ โธ่”  แล้วก็งอนครับ ตัวยังกะควาย ใจนี่เท่า.....เติมคำกันตามสบายนะครับ ผมไม่อยากบ่นเขามากกว่านี้แล้ว

เขาฟัดหลังผมก่อนจะยอมปล่อยให้ไปอาบน้ำ ส่วนเขาก็เดินดึงผ้าเช็ดตัวไปหาเสื้อผ้าใส่

เราจะต้องขึ้นเวทีประลองร้องเพลงกันตอนสองทุ่มคืนนี้ครับ และผมก็ตั้งเป้าเอาไว้แล้ว...ผมต้องชนะ


#### @ D A W N  #####


ผับปิดเฉพาะกิจในคืนนี้
แต่ทางผับเขาบริหารจัดการได้ดีครับ ไม่มีลูกค้ามาเก้อเลยแม้แต่คนเดียว
ผมกับนายมือโปรมาถึงผับเป็นลำดับเกือบสุดท้าย พี่หนึ่งกับเจมมารอยอู่ก่อนแล้ว วงดนตรีจัดว่าไม่จ้างก็พร้อมแล้วเหมือนกัน สามคนที่ผมรู้จักและอีก 1 คนที่ผมไม่รู้จักกำลังเซ็ทอัพเครื่องดนตรีกันอยู่

โต๊ะเก้าอี้ที่เคยกางแผ่เต็มร้านถูกวางเรียงติดมุม มีไม่คู่ที่ถูกกางเพื่อทำหน้าที่เป็นที่วางของ วางก้นกันไม่กี่ตัว

ผมนั่งดูวงดนตรีรวมกันเฉพาะกิจเขาวอร์มเครื่องดนตรีอย่างเพลินหูเพลินตา ตอนเรียนระดับมัธยมผมก็ต้องมีชมรมเหมือนกัน และผมชมรมภาษาต่างประเทศ แต่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรกับเขาหรอกครับ อาศัยฝากชื่อไว้เท่านั้น 

แต่ว่า...เรื่องร้องเพลง ผมก็พอมีดีเหมือนกันแหละน่า อย่างน้อยก็ตรงจังหวะ ตรงคีย์

“อ้าววิน โป๊ะล่ะ?”

“ในครัวครับ บอกว่าจะทำอาหารเตรียมไว้ก่อน”

“แหม่เว้ย พ่อครัวตัวจริง”
“เจมเอาข้าวผัดมั้ย รองท้อง เดี๋ยวพี่ทำให้ ไอ้โป๊ะชอบแกล้งเจมเดี๋ยวก็ไมได้กินหมูกินไก่อีก แม่งผัดให้แต่ผัก”

“อ่อ ก็ดีครับ เจมเอาข้าวผัดกุนเชียงได้ป่าวอ่ะพี่หนึ่ง ไอ้จิวก็ชอบ กินเหมือนๆ กันนี่แหละ”

“โอเค รอนี่นะ”
“วินล่ะ? ด้วยมั้ย?”

“อ่อ พี่โป๊ะทำข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ให้แล้วครับ ขอบคุณพี่หนึ่งมาก”

“โอเค โอเค พี่ลืมว่ามันดูแลรอบด้านระดับไหน งั้นนั่งอยู่นี่กันนะ เดี๋ยวมา อ้อ ถ้าไอ้หมอมาแล้วเรียกพี่ที”

“ครับ/อื้อ” ผมจะกับเจมรับปากพร้อมๆ กัน แล้วก็หันหน้าไปฟังเครื่องดนตรีถูกบรรเลงเป็นทำนองเพลงต่างๆ โดยมีเสียงเบาๆ ของหมาโอมร้องคลอไปด้วย ตอนนี้พวกเขากำลังซ้อมเพลงรักเพลงหนึ่งครับ

แล้วคนที่ทำให้ความเสือกของผมถือกำเนิดขึ้นบนโลกก็ปรากฏตัวครับ
น้องธามมาที่ผับด้วยรถของที่บ้าน ช่างเป็นภาพที่น่าเอ็นดูสำหรับผม เพราะมันเหมือนผมส่งกระจกมองตัวเองตอนไปเที่ยวผับตามคำชวนของเพื่อนโดยมีลุงสมานไปส่งและรอรับกลับ

“มาแล้วหรอธาม มานั่งตรงนี้”
“ให้ลุงคนขับเขากลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่โป๊ะไปส่ง”

“ไม่ดิวิน”
“พี่นำพากลับได้ ธามให้ลุงเผือกกลับก่อนได้เลย คืนนี้คงดึก อยากให้แกหิวข้าวหิ้วท้องรอหรอ?”

“ให้กลับไปแล้ว ธามรู้เรื่องน่า”
“อันนี้เสร็จกันมั้ยหรอ?”

มาถึงก็พางงเลยครับ ผมกับเจมมองหน้ากัน พยายามเรียงประโยคให้ใหม่

“หมายถึงยังไงนะธาม เสร็จกันมั้ยนี่ไม่ควรถามใครนะ เว้นแต่ธามเป็นคุณครูแล้วทวงงานเด็กนักเรียน”

“ธามไม่คูลหรอกน่า”

“ออกอ่าวแล้วอ่ะธาม”
“เอาเป็นว่า หิวมั้ย พี่หนึ่งทำข้าวผัดกุนเชียง กินด้วยกัน”

“ธามอยากกินข้าวไข่ทอดคนกับซอส”

“อ่อ ข้าวไข่เจียว เดี๋ยวพี่บอกพี่โป๊ะให้นะ” คราวนี้ผมรีบเดาเมื่อมั่นใจว่าต้องถูก หลังจากฟังเจมเดาผิดมาครั้งนึงแล้ว ใช่ว่าเข้าใจหลักภาษาน้องธามหรอกนะครับ แต่อยู่ออฟฟิศเดียวกัน เห็นธามกินบ่อย เลยเดาได้ว่าชอบกินอะไรที่สุด เด็กน้อยที่สุดในกลุ่มนี้พยักหน้ายิ้มให้ ดูแล้วน่ารักมาก มากจนไม่อยากให้ธามเศร้าเลยแม้แต่นิดเดียว

ผมเข้าครัวมาเพื่อบอกพี่โป๊ะว่าธามอยากกินอะไร  รายนี้จัดให้ชุดใหญ่ด้วยใข่เจียวกุ้งสับพร้อมหัวหอมใหญ่ ผมปล่อยให้ 2 พ่อครัวเขาปาดหน้ากันด้วยกระทะกับตะหลิว ส่วนตัวเองเดินออกมาหน้าเวทีเตี้ยอีกหน แล้วก็สบตาเข้ากับบุคคลที่ดูเหมือนจะเป็นจำเลยของทุกคน ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด...อย่างน้อยเขาคนนี้ก็ไม่ได้อยากให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้

“พี่นำ มาแล้วหรอครับ”

“ครับ” แค่เสียงตอบรับยังสื่อได้เลยว่าพี่หมอนำคนนี้เหนื่อยมากๆ



cut



สามเดือนที่ห่างกันไป คิดถึงมากค่ะ
จริงๆ ก็เขียนทั้ง2  เรื่องอยู่เรื่อยๆ เท่าที่มีเวลา ไม่ได้ทิ้งไปไหนเลย แต่ด้วยความที่ใกล้จบแล้วทั้ง 2  เรื่อง เลยต้องละเอียดหน่อย ไม่อยากทิ้งปมไว้แบบไม่ได้สางให้ไหลรื่น (แหม่ ดูดี)
จริงๆ ก็คือเวลาน้อยลงนั่นแหละ
แต่อย่าเพิ่งทิ้งเราไปไหนน้า
เราจะวนเวียนอยู่ในนี้เรื่อยๆ อาจเป็นเรื่องใหม่ หรือตอนพิเศษสวิงกิ้งสมภารกับไก่อ่อนไก่คุณหนูไก่เด็กนอก ถ้าหากว่าเราคิดถึงมากๆ

ช่วยติดตามกันต่อด้วยนะคะ  >.,<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-03-2017 01:02:14 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
วั๊ยยยย. ตั้ยแล้ววววววววว  สามเดือนที่รอคอย มาแว้วววววว.   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
มาแว้ววววววว
มาร้องเพลงรอแปปเดี๋ยวมาต่อเลย
คราวหลังต้องมาร้องบ่อยๆซะแล้ว อิอิ

ตัดจบได้ตึงโป๊ะเลยค่าตอนนี้
กำลังอยากรู้เลยว่าหนุ่มๆเค้าจะร้องเพลงอะไรกัน
แต่พี่โป๊ะนิจะมา 3คนเพลงนึงไม่แฟร์เลย 555

ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
มาแว้ววววววว คิดถึงนะตะเอง คิดถึงวิน-โปร (โดนอิพี่โปรเตะ55555) คิดถึงนำ-ธามด้วย
จะมาช้ามาเร็วก็รอได้ แค่รู้ว่ายังจะมาก็พอ
ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายให้ยิ้มเวลาอ่าน
❤❤❤❤

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
 :katai2-1: อ่านหมาธามแล้วมาต่อด้วยเรื่องของวินนี่อารมณ์มันต่อเนื่องกันดีมากๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ therappizdrum

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โหยยย คิดถึงมากค่ะๆๆๆๆ

กลับมาต่อแล้ววววววว

นอนก็ตื่นมาดูพระอาทิตย์ยามเช้าได้นะ 55555

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
เข้ามาอ่านเรื่องนี้ แต่ใจนี่อยากรู้อยากเห็นเรื่องหมอนำกับน้องธามมากกว่า 555

หมอนำเหนื่อยหน่อยนะ ใครๆก็เข้าข้างธาม รวมเราด้วย อิอิ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :katai2-1: :katai2-1:
  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
วินน่ารักขึ้นเน้อ  :m19: :m19:

ออฟไลน์ iimayuworld

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องวิน น่ารักจัง ดูแบบเข้าใจอะไรง่ายขึ้น ไม่ค่อยคิดซับซ้อนวกวนเท่าไหร่แระ
แต่ก็ยังคงมีความกวนๆแบบวินๆอยู่ สรุปคือน่ารักทั้งพี่โป๊ะ ทั้งน้องวินเลย  :mew1: :mew1:

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  :mew3: :mew3:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน41 (23-03-17) ​p.22
« ตอบ #669 เมื่อ: 04-04-2017 16:07:45 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
รออ่านตอนหน้าอยู่นะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ Ninnin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ถ้าบนโลกนี้มีคนแบบคุณโปรเยอะๆก็คงดี
ไม่ว่าวินจะดื้อ จะพูกหยาบใส่แค่ไหนก็ไม่โกรธ
คือยังเหมือนเดิมได้แบบน่าใจหาย เป็นคนดีมาก
ดีจนอยากร้องไห้ เราเป็นคนคล้ายๆวิน flight zone
กว้าง ไม่ชอบให้ใครแตะตัว ไม่ชอบพูดกับคนที่ไม่
อยากพูด คุณเขียนได้ดีมาก มากแบบมากที่สุดในโลก
เราเคยอ่านพี่ที่หนึ่ง ตอนนั้นหลงหนักมาก เป็นเรื่อง
แรกๆที่อ่าน หลังจากนั้นอ่านเรื่องอื่น แต่พี่ที่หนึ่งยัง
เป็นเรื่องที่ไม่เคยลืม จริงๆเราชอบเจมมากกว่าพี่ที่หนึ่ง
เรื่องนี้เราชอบคุณโปร เค้าทนดีรักเรื่องนี้มากกกกกกกกก เคยแวะมาบ่อยแต่อ่าน 3 บรรทัดก็กดออกเพราะไม่ชอบพี่โป๊ะ ไม่คิดว่าตอนนี้จะรัก คุณเขียนดีมากเลย สำหรับเราไม่มีที่ติ ทุกอย่างสมจริง สมเหตุสมผล ขอบคุณจากใจค่ะ มีความสุขมากเลย นี่ยังอ่านไม่จบนะคะ ขออ่านต่อก่อน

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ตามอ่านทันจนได้ สนุกมาก ๆ ค่ะ เดี่ยวจะไปตามอ่านเรื่องอื่น ๆ ของคนแต่งต่อนะคะ  o13

ออฟไลน์ marisa9397

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพิ่งได้อ่าน สนุกมากค่ะ มาต่อไวๆนะคะ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 42




“เอาล่ะ เอาล่ะครับ เพื่อนๆ น้องๆ ทั้งหลาย”
“จริงๆ ผมก็แค่อยากหาข้ออ้างพักจากงานและอยู่กับแฟนผมบ้าง และเราก็อยากอยู่กันเงียบๆ นะ....แต่”

 แต่อะไรของเขา?

“แต่จิตใจใฝ่ดีของผมมันยังเติบโตอยู่ภายใน ซึ่งผมก็ยังแปลกใจอยู่”
“การนัดกากๆ ครั้งนี้จึงเกิดขึ้น”
“ทุกคนที่มา ช่วยเทิดทูนเจ้าของวันสำคัญที่เสียสละความเป็นส่วนตัวให้พวกคุณละลาบละล้วงด้วยครับ”
“วินครับ ลุกขึ้นยืนรับการคาราวะของพวกแขกที่แค่เชิญเล่นๆ ก็มาด้วยครับ”

แม่งเอ้ย!!! กล้าสาบานมั้ยว่าไม่เมา หา ไอ้พี่โป๊ะ!
เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ

เฮหาพ่อหาแม่กันรึไงวะ?!
ปกติผมก็ไม่ใช่คนหยาบคายนะครับ แต่ไอ้เสียงโห่ฮาพวกนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ เพราะว่าพวกเขาแซวผมอ่ะ แม่งเอ้ย

แต่สุดท้ายก็ต้องยืนขึ้นแหละครับ สาบานเลยว่าไม่ได้ชื่นใจที่เขายกผมขึ้นเป็นตัวสร้างสีสัน ทื่ยืนขึ้นก็เพราะว่าไม่ต้องการให้เขาสรรเสริญซ้ำซากอีก

“นั่นแหละครับ ผู้มีพระคุณสูงสุดที่ทำให้ชาวเราได้กินเหล้ากันในค่ำคืนนี้”
“แต่ๆๆ ยังไม่หมดเท่านี้ครับ เนื่องจาก ความใฝ่รู้ของแฟนผมอีกเช่นกัน”
“วินครับ ยืนอีกรอบได้มั้ยครับ”

ไอ้เหี้ยยยยย ว่ากูเสือกอีกแล้วนะเฮ้ย!!!

“ไอ้พี่โป๊ะ!!”  รอบนี้ผมชี้หน้าด้วยเอ้า ให้รู้กันไปว่าอย่าเล่นเหี้ยๆ แบบนี้อีก
“แม่ง ก็อยากเสือกกันทุกคนแหละว่ะ เลิกเรียกได้แล้ว”

“ไม่ได้ครับ คิดถึง”
“โอเคนะครับ แฟนผมถนัดท่านั่ง”

“ไอ้พี่โป๊ะ!!!” ไอ้กวนตีน

“ครับ กลัวแล้วครับ”
“อย่างที่เห็นกันทั่วโดยที่กูก็ไม่อายเลยนะครับ แฟนดุครับ”
“กลับเข้าเรื่องจิตใจใฝ่ดีของผมและความใฝ่รู้ของวิน”

ปึง!!!!
“เฮ้ย!” ผมเฮ้ยเสียงดัง ไม่ใช่ขู่ใครหรอกครับ ตกใจที่ตบโต๊ะได้แรงขนาดนี้ และแม่งก็โคตรเจ็บ  คนอื่นๆ ก็ยังคงหัวเราะชอบใจกับกิริยาเล่นหัวผมด้วยคำพูดของนายมือโปร

“เพื่อนผม ดูเหมือนจะกระทำการบางอย่างลงไป และกำลังเผชิญกับผลที่เกิดขึ้น โดยที่มันไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่า การกระทำอะไรที่ทำให้มันต้องมาเผชิญสถานการณ์คับข้องใจแบบนี้”
“ผมใช้คำถูกต้องมั้ยไอ้หมอ อ๊ะๆ ผมไม่ได้บอกนะครับว่าเพื่อนผมคือคนไหน แต่ที่หนึ่งกับเด็กบ้าของมันก็ปกติดี พีชเองก็ยังคงเป็นเพื่อนผู้ไม่เคยกล้าหือกับแฟน”
“ว่าไง ไอ้หมอ ผมใช้คำพูดถูกมั้ย”

“เออ เออ ถูก ลงมาได้แล้วโป๊ะ อย่าเสือกมากกว่านี้ มันเรื่องของผม” ดูท่าทีแล้ว ผมคงไม่ใช่คนเดียวที่อยากให้ไอ้พี่โป๊ะมันเลิกพล่ามสักที แต่พอเขาพล่ามเรื่องเพื่อนเขา ผมก็อยากให้พี่นำเข้าใจไว้ด้วยว่า ผมกับพี่นำไม่ใช่พวกเดียวกันหรอกนะครับ แม้ว่าจะอยากให้พี่โป๊ะลงจากเวทีเหมือนกันก็ตาม

“อ่า  ทุกคนคงรู้แล้วนะครับว่าเป็นเรื่องของหมอนำ”
“งั้นก็อัญเชิญคุณหมอ....”
“เชิญคุณหมอนั่งสำนึกผิดไปเรื่อยๆ เลยครับ take your time or....”
“take your ธาม”

เท่ชิบหายเถอะแหม่ แต่ผมก็เสือกนั่งอมยิ้มให้กับลูกล่อลูกชนในการเปิดประเด็นให้เพื่อนได้ทำความเข้าใจกับแฟน

“คิดได้ไงวะนั่น” เจมถามขึ้นระหว่างละริมฝีปากจากขอบแก้วที่มีแต่น้ำอัดลม คนนี้โดนสั่งห้ามดื่มครับ แฟนเขาเป็นห่วงมาก

“วินว่าไม่ได้คิดหรอก คงบังเอิญน่ะ พี่โป๊ะไม่ได้มีสมองขนาดนั้น” ผมหันไปตอบให้ แล้วก็ลงท้ายด้วยการหัวเราะกันอยู่ 2 คน ส่วนน้องธามก็ยังดูงงๆ อยู่ดี ผมก็ได้แต่หวังว่าการสร้างความบันเทิงแกมเหน็บแนมของพี่โป๊ะเมื่อครู่จะทำให้ธามรู้ว่าพวกพี่โป๊ะ รวมถึงผมและเจม อยากให้น้องธามกับพี่นำปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง

“มาเข้าเรื่องของพวกเราดีกว่าครับ”
“มาวันนี้ อย่างที่บอกไว้กับทุกคน บอกครบบ้างไม่ครบบ้าง แต่ใจความสำคัญผมไม่น่าพลาดไปนะ”
“คืนนี้ เราจะมาร่วมทำกิจกรรม ร้องเพลงล่ารางวัลกัน” และแล้วพี่โป๊ะก็เข้าประเด็นของการรวมตัวกันในค่ำคืนนี้เสียที  ครับ ผมมาเพื่อล่ารางวัลเหมือนกัน และผมต้องชนะด้วย

“เงินเท่าไหร่เฮีย”
“พี่โป๊ะบอกมาก่อนจ่ายเท่าไหร่”
“กี่ล้านนนนนนนน”

เป็นล้านเลยหรอวะ?
ผมก็ไม่ได้สงสัยในความรวยของพี่โป๊ะหรอกครับ รู้อยู่ว่าสินทรัพย์ทั้งหมดทั้งมวลของเขามันมีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสมควรนะครับ ถ้าเงินรางวัลเป็นล้านจริงล่ะก็....ให้ผมเถอะ

“เอาว่า ก้อนใหญ่ก็แล้วกันครับ”
“ขอให้ทุกคนตั้งใจ”
“มาถึงลำดับการร้อง”
“เพื่อตอบสนองต่อจิดใจใฝ่ดีของผมและความใฝ่รู้ของแฟนผม”

นี่เขาจะไม่เลิกด่าผมเสือกใช่มั้ย แม่งเอ้ย!!

“เราจะเริ่มกันที่... คนที่เด็กสุดในที่นี้ ลูกหมาน้องธาม”​

อ้าว!!
ผมกับเจมมองหน้ากัน เพราะไม่ได้ทำใจกันมาก่อนว่าจะต้องร้องคิวแรก คิดถึงตรงนี้แล้วก็ถอนหายใจให้กับความโง่ของตัวเอง ผมน่าจะเดาได้สิ ก็พี่โป๊ะมันปูเรื่องธามมาตั้งแต่วินาทีแรกที่จับไมค์ แม้ว่าจะแทรกด้วยเรื่องความเสือกของผมอยู่ตลอดก็เถอะ

เด็กรุ่นเจ้าของชื่อลุกขึ้นยืนอย่างมาดมั่น แลดูไม่สะทกสะท้านอะไร
อ๋อ...ก็แน่สิ น้องธามร้องอยู่ไม่กี่ท่อน และจะเรียกว่าร้องก็ไม่ได้ มันคือการแร็พเท่าที่จะจำเนื้อเพลงทันก็เท่านั้น

“พี่เจม พี่วิน”
“ไปสิ”

“โอเค พร้อมเสมอ ถ้าได้ตังค์แบ่งกันนะ พูดแล้ว” เจมผู้มั่นใจเสมอตอบรับคำเรียกแล้วก็ลุกขึ้นพร้อมกับดึงแขนผมให้ลุกขึ้นและเดินไปเวทีพร้อมๆ กัน

“ให้ร้องจบเถอะเจม บอกตรงๆ นะ วินจำเนื้อเพลงไม่ได้” ผมสารภาพตามความจริงเลยครับ ไม่ตื่นเต้นไม่อะไรทั้งนั้น จำไม่ได้ก็เดดแอร์

“ไม่เป็นไร นี่โพย กางเลยวิน อย่าได้อาย” งี้ก็โอเค คุณไม่อายผมก็ไม่อายครับ

พวกเรา 3 คนมองหน้ากัน พยักหน้าส่งสัญญาณแล้วก็เดินดุ่มๆ ขึ้นเวที

“อ้าวเฮ้ยวิน”
“อะไรอ่ะ”
“เจม...ไม่เห็นบอกก่อนอ่ะ”
“เฮ้ยโป๊ะ มึง เดี๋ยวดิ ถ่ายแฟนกูด้วย ไอ้โป๊ะ”

ลุง 2 คนนี้คือใครกันวะ​?
และแม่งก็เป็นลุงบ้าเห่อแฟน อีมือถือนี้ก็ถ่ายจ่ออยู่ตรงหัวเข่า อยากรู้มากว่าพี่โป๊ะกับพี่หนึ่งเล่นอะไรกัน

“พี่โป๊ะ ไม่ต้องถ่าย กลับไปเลย”
“ม่ายยยยยยยยยย”

“พี่หนึ่ง มันมืดเถอะ แสงสาดเข้าหน้ากล้องอ่ะ ไม่เอา ไม่หล่อ”
“ก็ปกตินะเจม”

ผมรู้ว่าพวกลุง 2 คนนี้เป็นใคร ใช่ครับ...เป็นคนบ้า

อาการโวยวายใส่ความหน้าด้านจำต้องหยุดลง เมื่อเสียงดนตรีที่คุ้นหูดังขึ้นมา
จากนั้น จิตวิญญาณนักร้องก็เข้าสิงผมเลยครับ นี่ก็ไม่ได้อยากอวด แต่ในบรรดานักร้อง 3 คนบนเวที ผมร้องตรงคีย์ที่สุดครับ   

เสียงปรบมือแซ่ซ้องมันทำให้อกพองแบบนี้นี่เอง ผมเพิ่งรู้ตัวว่ายิ้มแฉ่งมากก็ตอนที่ลงเวที (เตี้ยๆ) มาแล้วรู้สึกได้ว่าเมื่อยแก้มเมื่อยปาก พอรู้ตัวมุมปากก็ตรงเหมือนเดิมแหละครับ

“ฝึกนานป่ะ?”

“เพื่อเงินเถอะ” ผมตอบคนถาม เหล่มองแบบไม่ให้เขาเห็นว่าผมเขิน

“เงินอะไร?”

“เอ้า” ครั้งนี้หันมองหน้าตรงๆ เลยครับ ไม่องไม่อายมันแล้ว
“ก็เงินรางวัลนี่ไง พี่โป๊ะบอกเองว่าก้อนใหญ่”

“เออ ก็ใหญ่ แต่บอกตอนไหนว่าเงิน”

“ชิบ!!!”

“อ๊ะๆ อย่าด่านะ”
“ถ้าด่า พี่จับจูบตรงนี้จริงๆ”

“คิดว่าวินกลัวหรอ? อิธ่อ” เบ้ปากให้เขารู้อารมณ์ด้วยครับ นายมือโปรหัวเราะในลำคอพลางพยักหน้าย้ำความมั่นใจ ซึ่งก็...ถูกแล้วล่ะครับ ผมกลัวเขาจูบผมตรงนี้จริงๆ

ผมไม่ต่อความเพราะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว ตัดสินใจเดินกลับมานั่งที่โต๊ะเดิมกับเจม นายมือโปรไม่ได้ตามมา น่าจะเป็นเพราะไปกำกับวงดนตรีบทเวทีว่าให้เล่นเพลงอะไรต่อ
แต่ครู่เดียวเขาก็เดินมานั่งกับผมที่โต๊ะ
คือ...นึกภาพนะครับ ผับเขาก็ใหญ่ โอเค วันนี้จัดร้านให้มันกระจุกอยู่ตรงกลางๆ ใกล้เวทีหน่อย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้พร้อมนั่งอยู่ราวๆ 5-6 โต๊ะได้ ซึ่งคนก็จะโล่งหน่อยๆ เพราะมีกันแค่พวกเราเท่านั้น แต่เขาก็ยังมานั่งเบียดกับผมและเจม และพี่หนึ่ง

“ธามไปไหนวะโป๊ะ”

“เอ้า คุณก็อยู่กับผม ดูแฟนคุณร้องเพลงเหมือนที่ผมดูแฟนผม เดินไปรับกลับมานั่งโต๊ะเหมือนๆ กันนี่ไง ผมจะรู้ได้ไงว่าหมาธามไปไหน”

“ผมถามสั้นๆ มั้ย”

“ก็ผมมันคนยาวๆ”

“เออ คุณมันยาวทุกอย่างเว้นอายุล่ะสิ”
“วิน เห็นน้องธามมั้ยครับ ไอ้หมอมันฝากไว้ แต่นี่มันก็หายไปอีกคน”​ พี่หนึ่งหันมาถามหาคำตอบจากผมแทน หลังจากถามพี่โป๊ะแล้วไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร

ผมเองก็อยากตอบสั้นๆ ว่าไม่รู้ แต่กลัวเขาจะจิกกัดกลับมาว่าตอบซะสั้นเท่าอายุพี่โป๊ะเลย มันจะไม่ดีกับพี่โป๊ะเกินไป ผมก็เลยตอบกลางๆ

“วินก็ไม่เห็นเหมือนกันครับ”

“เจมว่าน่าจะไปเคลียร์กันมั้งพี่หนึ่ง พี่นำก็หายไปด้วยนี่”

“ก็เป็นไปได้ เดี๋ยวพี่ลองเดินหาหน่อย เผื่อมันกลับไปไม่บอกกล่าว เราจะได้ไม่ต้องนั่งห่วงทั้งคู่”

“สนใจมันทำไมวะไอ้หมออ่ะ เล่นตัวก็เท่านั้น บ้างานก็เท่านั้น ทึ่มอีก หมอจิตห่าไรไม่รู้ว่าแฟนตัวเองอาการหนัก” พี่โป๊ะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจพี่นำเท่าไหร่  พอพูดขัดพี่หนึ่งเสร็จก็หันมองหน้าผมแล้วพยักเพยิดขอความร่วมมือ
“เนอะวิน”

“เอ่อ....” ​ผมจำเป็นต้องตัดสินพี่นำด้วยหรอ? มันก็เรื่องของพี่นำกับน้องธามเขานะ จะจบแบบไหนก็ต้องเคารพการตัดสินใจกันสิ

“เนอะวิน ช่างหัวไอ้หมอมัน ปล่อยมันแก่ตายไปคนเดียว ไม่ต้องมีหรอกฟงแฟน มีแล้วแม่งดูแลไม่ได้ ไอ้บ้านี่”

“พี่โป๊ะนี่ก็ห่วงแฟนเพื่อนมากกว่าเพื่อนตลอดอ่ะ” เจมสวนขึ้นมาแล้วก็เบี่ยงตัวหลบอยู่หลังพี่หนึ่งทันทีที่พี่โป๊ะหันมอง

“อะไรไอ้ยุ่ง พี่ก็พูดตามที่เห็น ก็ไอ้หมอมันละเลยจริงๆ นี่”

ก็ฉันมันคนโง่เหนือใครๆ มีรักแท้อยู่....ดูแลไม่ได้
เสียงไอ้โอมกับพี่จิวช่วยร้องเพลงขึ้นมาครับ พวกผม 4  คน สะดุดอารมณ์และประสานสายตาไปยังเวทีทันที จากนั้นก็หันมองหน้ากันเองแล้วก็หลบมุมไปทิ้งปลายเสียงหัวเราะไว้ข้างตัว

“เออ นั่นแหละ ไงๆ พี่ก็คิดว่าไอ้หมอมันผิดมากไปนะ เรื่องนี้ มันต้องได้รับบทเรียน”

“ก็ถ้าธามไม่ให้บทเรียนอะไร พี่โป๊ะจะไปทำอะไรได้ครับ” เจมยังโต้ตอบในประเด็นนี้

“ได้ดิวะ”
“บังคับธามกลับไต้หวันไปเลย ทิ้งไอ้หมอเน่าตายอยู่ที่นี่แหละ”

“ตลกแล้วโป๊ะ เรื่องของหมอมันน่า”

“ไอ้หนึ่ง มึงก็เป็นงี้ตลอด อิสระตลอด เคารพความรู้สึกตัวเองตลอด เพื่อนเราเห็นแก่ตัวก็ต้องได้รับบทเรียน”

“ไอ้โปร”

“ไอ้หนึ่ง”

“มึงไม่เข็ดหรอ ลงโทษเพื่อนจากการตัดสินของบรรทัดฐานมึงเองว่าเพื่อนสมควรได้รับบทลงโทษ”
“กูไม่ได้ว่าไอ้หมอไม่ผิด แต่คนที่มันทำผิดใส่คือธาม ไม่ใช่มึง ไม่ใช่กู ไม่ใช่ใคร เพราะงั้นคนที่ลงโทษไอ้หมอได้ก็คือธาม”
“อย่า อิน”

“นั่นสิพี่โป๊ะ”
“เดี๋ยวก็มาเสียใจที่โยนความผิดให้เพื่อนเกินเหตุอีกหรอก”

ผมย้ำคำว่าอีก และคิดว่าเขาน่าจะเข้าใจว่า ครั้งแรกของการโยนความผิดให้เพื่อนแบบเกินกว่าเหตุ คือเรื่องไหน

เขาดูอ่อนความโกรธเพื่อนแทนน้องลงบ้าง วัดจากอาการถอนหายใจยาว หันมองทางเวทีที่ยังคงร้องเพลงเดิมอยู่ แต่ก็น่าจะใกล้จบแล้ว


“พี่ก็แค่เป็นห่วง ... ทั้งคู่นั่นแหละ”
“ไม่อยากให้ใครมีแผลจากความรัก”

“วินรู้  วินว่าเพื่อนพี่เขาก็รู้ว่าพี่โป๊ะเป็นยังไง”
“แต่เราปล่อยให้เขาคุยกันเอง น่าจะดีกว่านะครับ”
“อีกอย่าง พี่นำก็ไม่ใช่คนโง่หรือทึ่มอย่างที่พี่โป๊ะด่าหรอก”

“เจมก็ว่างั้น”

“ผมก็ว่างั้น”

โชคดีจังที่ผมมีกำลังเสริม ไม่เคยคิดเหมือนกันครับว่าผมคนนี้จะสามารถพูดให้ใครสักคมเย็นอารมณ์ตัวเองลงมาได้ โดยเฉพาะคนอารมณ์ร้อนอย่างนายมือโปร

“ก็ถ้าวินว่างั้น ก็อื้อ” แล้วทำไมเขามาทำเสียงน่ารักใส่ผมไวขนาดนี้ล่ะ? พี่หนึ่งคงทนความกระแดะไม่ไหว ถึงเหยียดแขนยื่นมือมาผลักไสหัวพี่โป๊ะให้เอียงห่างจากแก้มผม ขณะที่เจมหันไปอ้วกลมลงพื้นเลยครับ ผมนั่งหัวเราะเบาๆ

.....ฉันนั่งยิ้มลำพัง หัวเราะลำพัง สุขยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา....

พอประกอบกิริยาของผมเข้ากับเพลงที่ไอ้โอมร้องแล้ว ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนบ้า

“ตั้งแต่ได้พบกับเธอนั้น เรื่องจริงกับความฝัน เกิดขึ้นด้วยกันทันตา” นายมือโปรร้องเพลงใส่หน้าผมเบาๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-06-2017 23:20:30 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
หยุด หยุด
ผมไม่ได้ร้องเพลงคลอไปด้วยหรอกครับ ผมแค่อยากให้เขาหยุดทำหน้ากระแดะใส่ผมเสียที ผมเขินเว้ย!!!
ผมไม่ได้หน้าบางไปเองนะครับ ก็นายมือโปรเล่นร้องคลอทั้งเพลง แล้วก็ร้องใส่แก้ม ใส่หู ใส่หัวไหล่ที่ผมยกมันขึ้นมาบังแก้มบังหูผม และเขาร้องจนจบเพลง

“โป๊ะ ผมเลี่ยนเถอะ”
“พรุ่งนี้เดี๋ยวพี่พากินกาแฟดำนะเจม น้ำตาลแม่งเข้าตาเข้าผิวจนเลือดกูหวานแล้วโป๊ะ พอๆ อายมั่ง”

“อายทำไม เรารักกัน เนอะวิน”

ตอบรับก็บ้าแล้วเว้ย!
ผมพยายามขมวดคิ้วเพื่อดึงกล้ามเนื้อแก้มและปากไม่ให้ไปกอดกันเป็นมุมเป็นก้อนมากนัก แต่ก็คงไม่ได้ผล เพราะผมรู้สึกหน้าร้อนผ่าว สายตาแซวของเจมไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้พี่หนึ่งเนี่ยสิ เขาเป็นผู้ใหญ่ที่ผมให้ความเชื่อถือ เขาดูเป็นคนมีหลักการ มีเหตุผล คุมอารมณ์อยู่ ใจดี ใจเย็น พูดจาดี
ไม่คิดเลยว่าเขาจะมีรอยยิ้มกวนส้นตีนได้ขนาดนี้

“แม่งเอ้ย”

“เอาคืนสิ ร้องเพลงรักใส่พี่ เอาให้อายม้วน ทำได้เอารางวัลใหญ่ไปเลย”

เอาเงินล่ออีกแล้ว เฮ้ย! ป้าผม คุณตาผม แม่ผมรวยมากนะ ถึงจะไม่ใช่เงินผม แต่ผมก็ขอเขาได้ไง เอาเงินล่อกันทำไม คิดว่าอยากได้รึไงวะ? เออ! หลักล้านขนาดนี้ก็อยากได้ก็ได้เว้ย

“เดี๋ยวเจอ” ผมท้า ทำหน้าตามั่นใจใส่ด้วย ตอนนี้หัวสมองผมกำลังวางแผนว่าจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วแอบเปิดยูทูบฟังเพลงที่เตรียมมาอีกรอบ ต้องทวนเนื้อเพลงด้วย แม่งเสือกมีท่อนที่วนๆ งงๆ ซะด้วยสิ

“เอ้าพีช มาซะเลท”

“โทษที พอดีรอบัวน่ะ” พี่พีชมาเป็นทางออกให้ผมแท้ๆ ผมอาศัยจังหวะที่เพื่อนเขาทักทายกัน ขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่มีนายมือโปรเดินตามเป็นเงา


มีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นอีกเรื่องแล้วครับ
พี่พีชกับพี่บัวกำลังจะแต่งงานกัน
แน่นอนว่าไม่มีใครประหลาดใจ เพราะพวกเขาคบกันมานานแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วจริงๆ ระหว่างที่พี่พีชกำลังเล่าให้เพื่อนฟังว่าแผนขอแต่งงานพี่บัวไม่เซอร์ไพรส์ขนาดไหน

ผมเดินมาร่วงวงสนทนาตอนที่พี่บัวเล่าว่า เหนื่อยแค่ไหนในการทำเป็นตื่นเต้นกับช่อดอกไม้และกล่องแหวนขอแต่งงาน แต่เธอก็ประทับใจในความพยายามของพี่พีชมาก แม้ว่าจะขอเบอร์ร้านดอกไม้จากเธอ โทรถามว่าชอบดอกไม้อะไรที่สุด และก่อนหน้านั้นที่ไปทานข้าวกันก็พาไปวัดไซส์นิ้วที่ร้านทอง

ทุกคนดูสนุกสนานกับการแซวพี่พีชที่ยืนแก้มแดง ล้อมด้วยบรรดาผู้ชายปากหมาหน้าหวานบ้างเหี้ยบ้างแล้วแต่ดีเอ็นเอ

“เฮ้ย หนึ่ง นำ โป๊ะ อย่าแซวผมดิ ผมก็เรียนรู้จากพวกคุณแหละ”
“ปกติผมไม่จีบสาวไง”

“อ้าว” เจมทักขึ้นแล้วหันมองพี่หนึ่งทันทีเลยครับ ส่วนน้องธามที่หน้าตายิ้มแย้มขึ้นมากกกก ยังคงงงๆ อยู่ ส่วนผมเหล่มองพี่โป๊ะด้วยสายตาเคลือบแคลง

“เฮ้ยยยย พีช พูดดีๆ ผมไปจีบใคร ไม่มี”
“คุณเรียนรู้จากไอ้โป๊ะเถอะ เรื่องผู้หญิงอ่ะ”

“อ้าว” เจ้าของชื่อหน้าตึงเลยครับ เขามองหน้าผมแล้วก็โน้มตัวมาจ้องตากันใกล้ๆ

“พี่ไม่เคยนะ”

“อือ” ผมตอบรับ ถอยตัวออกห่างแล้วตัดสินใจนั่งลงกับเจม เมื่อพวกลุงๆ เขาพากันขึ้นไปเล่นจำอวดกันบนเวทีเตี้ย โดยมีวงดนตรีจำเป็นคอยใส่จังหวะตึงโป๊ะ! รับลูก 

คนประกาศแต่งงานตอบอะไรไม่ได้สักอย่างเลยครับ ต้องให้ว่าที่เจ้าสาวตะโกนบอกจากโต๊ะด้านล่าง การกลั่นแกล้งพี่พีชทำให้พวกเราอารมณ์ดีกันมาก ทั้งยินดีกับพวกเขา ทั้งขำว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวในเรื่องของการสลับบทบาทกันตลอดเวลาที่คบหากันมา เรียกได้ว่าพี่บัวน่าจะได้รับการจัดอันดับสุดยอดผู้นำเร็วๆ นี้ ส่วนพี่พีช ตอนนี้สั่งจองผ้ากันเปื้อนออนไลน์มาหลายโหลแล้วครับ

พวกเราถือเอาวันนี้เป็นวันจัดงานอวยพรคู่บ่าวสาวไปเลยทีเดียว บรรดาเพื่อนเขา รุ่นน้องเขาดาหน้ากันขึ้นไปอวยพรบนเวที

พี่หนึ่งได้รับเกียรติให้พูดคนแรก และทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบเพื่อฟัง ผมว่านี่มันเหมือนบรรยากาศของการฟังหัวหน้าห้องบรีฟเรื่องการสอบนอกตารางเลยครับ

พี่นำเป็นลำดับถัดมา
รายนี้แนะนำเรื่องการเลี้ยงลูกให้มีพัฒนาการที่เหมาะสมทั้งไอคิวและอีคิว ผมไม่แปลกใจเลยครับที่ธามทำหน้างงๆ แล้วหันมาหาผมและเจมเพื่อให้แปลไทยเป็นไทย

และก็พี่โป๊ะ
เขาคนนี้ยืนเด่นอยู่บนเวทีคนเดียว ขณะที่เพื่อนคนอื่นและเจ้าบ่าวเองก็เดินตามกันลงมาหมดแล้ว เขาพูดแค่ว่า “ผมรู้ คุณจะมีความสุขนะพีช”
แล้วเขาก็ร้องเพลงให้กับเพื่อนรักของเขา เพื่อนที่มีน้องสาวที่เขาก็รักก็ห่วงไม่น้อยไปกว่ากัน

และดูท่าว่า ความรักและความห่วงนั้น จะเติบโตอยู่ในหัวใจของเขาไปตลอดกาล

เธอคงพอรู้ ในสิ่งเหล่านี้
โดยไม่มีถ้อยคำบอกไว้
เธอคงพอรู้ จากทุกความเป็นไป
ในวันที่สองเราใกล้กัน

แม้ในวันนั้น ยั่งยืนเพียงฝัน
เป็นแค่เพียงเมื่อวานผ่านไป
เธอคงพอรู้ไม่ว่านานเพียงใด
ไม่นานเกินไปให้ใจฉันจำ

จะเก็บมันเอาไว้ในใจ เมื่อครั้งมีเธอ
และฉันรู้สึกครั้งนี้ยังไง
ให้เป็นความคิดถึง แม้นานเท่าไหร่
เธอจะอยู่ในใจ เป็นเรื่องจริงในความทรงจำ

จะเก็บมันเอาไว้ในใจ เพราะฉันไม่อาจ
ฝืนย้อนคืนวัน ให้หวนได้ใหม่
ทำได้เพียงคิดถึง นับจากนี้ไป
เธอจะอยู่ในใจ เป็นเรื่องจริงในความทรงจำ

จะเก็บมันเอาไว้

จะเก็บมันเอาไว้ในใจ เมื่อครั้งมีเธอ
และฉันรู้สึกครั้งนี้ยังไง
ให้เป็นความคิดถึง แม้นานเท่าไหร่
เธอจะอยู่ในใจ เป็นเรื่องจริงในความทรงจำ

จะเก็บมันเอาไว้
จะเก็บมันเอาไว้



เขากำลังอวยพรพี่พีช ในฐานะเพื่อนที่มีน้องสาวน่าเป็นห่วง และในฐานะที่เป็นพี่ชายของผู้หญิงที่เขาเป็นห่วงเหลือเกิน

ผมก้มมองแก้วเหล้าตัวเอง คิดว่าไม่น่าจะมีใครทันได้เห็นน้ำตาหยดใหญ่ที่ไหลลู่ตกลงไปกระทบกระจกโต๊ะ

น้ำที่หล่นไปเมื่อครู่ คือทั้งหมดของความรู้สึกผมที่เกิดขึ้นกะทันหัน ผมไม่ได้ตั้งตัว ไม่ได้ตั้งสติ ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะร้องไห้ เพียงเพราะได้รู้ว่าเขาไม่เคยตัดขาดจากความทรงจำที่มีลูกแพร์เป็นศูนย์กลางเลย

“วิน...เป็นอะไร”

“อ่อ มึนๆ คงดื่มเยอะไป”
“วินไป...เอ่อ...” ผมไม่อยากหนีเลยจริงๆ แต่ตอนนี้ผมอยากสงบอารมณ์ด้วยการอยู่คนเดียวมากๆ
“ไปห้องใต้ดินหน่อยนะ”

“อือ....เดียวเจมบอกพี่โป๊ะให้”

“....ถ้าถาม...ค่อยบอกแล้วกัน” ผมบอกเพิ่ม พยายามไม่ใช้เสียงและสีหน้าที่เรียบเกินไปเพราะไม่อยากให้เจมรู้สึกว่าถูกสั่ง แต่ผมก็ไม่ได้กำลังขอร้อง

ผมเดินห่างจากเสียงอึกทึกมา เดินลงบันได มุ่งสู่ห้องใต้ดินที่คุ้ยเคย ห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำของผมกับนายมือโปร แม้จะเล็กน้อย สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง มันคือความทรงจำที่ผมอยากจดจำไว้ อยากเก็บเอาไว้เป็นของเรา

แต่ผมไม่รู้ว่า เรา....เก็บความรู้สึกและความทรงจำได้มากแค่ไหนกัน
เรา...ของนายมือโปร ยังมีที่เหลือให้ผมอีกเท่าไหร่กัน?


Cut


แฮ่...
อย่าว่าวินงี่เง่า บ้าบอ ง๊องแง๊ง เลยน้า คือ....การควบคุมความคิดและจินตนาการของวินสั่นคลอนง่ายอ่ะค่ะ เข้าใจวินนะคะ ถ้าอยากด่า ด่าเราก็ได้ค่ะ
แงงงงงง

ตอนหน้าจบแล้ว ติดตามนะคะ

ขอโทษด้วยที่หายไปนานค่ะ

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ง่ะ...ดราม่านี้มันมาได้ยังงัยยยย
มาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ทั้งๆที่บรรยากาศปาตี้ในงานก้กำลังสนุกๆ
มีแต่ความแฮปปี้ อารมณ์เหมือนจุดบั้งไฟขึ้นไปแล้วมันระเบิดเฉย
 :a5: :a5: :a5:

อิพี่โป๊ะมารับผิดชอบเลย
เลือกร้องเพลงอะไรก้ไม่รู้
จะอวยพรก้อวยพรไปแค่คำพูดดีๆก้พอ
พอร้องเพลงแล้วเปนงัยละ
จบเลย ต้มมาม่าชามโตไปอีก
ทำวินเสียใจอีกแล้วดูดิ รีบตามไปเคลียร์เลย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวว. ดึงดราม่าเฉย

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
 :3123:  :pig4: :pig4: 

ออฟไลน์ imymild

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อ้าว ทำไมดราม่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: At Dawn : แล้วพบกันใหม่....ตอน42 (13-06-17) ​p.23
« ตอบ #679 เมื่อ: 14-06-2017 09:00:22 »





ออฟไลน์ noomasoi3

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ม่ายยยยยยย อิโปนอย่ามาทำแบบนี้กะวิน
ม่ายยยยยยย วินอย่าคิดไปเองแบบนี้กะพี่โปร
ม่ายยยยยยย ไม่เอาดราม่าน้า

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
Title :  At Dawn
วารินทร์ x วิณณ์
*********
ตอนที่ 43



นายมือโปร คือคนที่มาตามหาผมเป็นคนแรก ซึ่งก็ไม่น่าประหลาดใจหรอกครับ ถ้าเป็นพี่หนึ่งมาตามเนี่ยสิ ผมจะงงและหาเหตุผลเชื่อมโยงไม่ได้มากๆ

สิ่งแรกที่เขาถามก็คือ...ท้องเสียหรอ?
อืม นี่แปลว่าเขาไม่รู้ว่าเพิ่งทำเรื่องกระทบใจผม ไม่รู้สึกถึงเงื่อนงำที่เกิดขึ้นมาบิดใจจนงอมาถึงใบหน้าผมเลย

“เปล่าครับ วินปกติ” ผมตอบเรียบๆ ยืนพิงเคาท์เตอร์หน้าครัว ข้างหลังเยื้องไปมีแก้วเบียร์และขวดเบียร์ที่ผมเปิดดื่มคนเดียววางอยู่

“ค่อยยังชั่ว”
“กินอะไรไปบ้าง อาหารน่ะ”

“ก็ที่พี่โป๊ะทำให้นั่นแหละ นอกนั้นก็พวกของทอดนิดหน่อย”

“คงต้องเปลี่ยนน้ำมัน”
“แล้วดื่มอะไรไปบ้าง”

“เหล้า เบียร์ ไวน์ วิสกี้ เจออะไรก็ดื่ม”

“พอแล้วนะ เดี๋ยวไม่สบาย”
“ผื่นขึ้นมั้ย  ขอพี่ดูหน่อย”

“วินบอกว่าวินปกติไง”

“ปกติแล้วทำไมมาอยู่ตรงนี้”​
“หือ?” เขาเดินเข้ามาใกล้ โค้งตัวเพื่อยื่นหน้ามารอคำตอบจากปากผม
“วินที่ปกติ ไม่มาขลุกอยู่คนเดียวหรอก”
“มีอะไรครับ บอกพี่ไม่ได้หรอ?”

รู้ด้วยว่ะ
แต่รู้แล้วก็เท่านั้นแหละ เพราะเขารู้อยู่ว่าทำแบบนั้นแล้วผมจะเป็นยังไง เขาก็ยังทำ

“โอเค วินไม่ปกตินิดหน่อย”

“เป็นอะไรล่ะครับ หือ?”

“พอดี แฟนวินทำให้วิน... นอยด์”

“ไอ้บ้านั่นโง่รึเปล่า? ได้ข่าวว่าแฟนวินเป็นคนดีมีเหตุผลมากเลยนี่ ทำไมถึงทำอะไรโง่ๆ แบบนั้น”
“ทำให้วินนอยด์นี่ฆ่าตัวตายชัดๆ” เขายังโต้ตอบผมด้วยท่าเดิม หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ถ้ากลิ่นที่แตะปลายจมูกผมคือกลิ่นเหล้าจากเขา  จมูกเขาก็น่าจะได้กลิ่นเบียร์จากผมเหมือนกัน

กล้าจะถาม ก็ต้องกล้าฟังคำตอบด้วยล่ะสิ
ก็ได้...

“ครับ เขาทำให้วินนอยด์”

“เขาร้องเพลงอาลัยอาวรณ์ผู้หญิงที่เขารักชิบหาย และจะจดจำความรู้สึกรักครั้งนั้นไปจนตาย”

นายมือโปรไม่มีอาการหวั่นวิตกอะไร ไม่ลนลานรีบขอโทษ และก็ไม่ได้อธิบายอะไรทั้งนั้น
สิ่งที่เขาทำคือการยิ้ม และมันทำให้ผมโมโห

ผมเป็นฝ่ายหันหน้าหนีเขาก่อน ผมยังไม่อยากเจรจาพาทีอะไรกับเขาตอนนี้ วันนี้เป็นวันดีของพี่พีช เพื่อนๆ พี่พีช น้องๆ พี่พีช ผมไม่ควรทำลายบรรยากาศดีๆ ที่กำลังโอบล้อมทุกคนอยู่

“จะไปไหนล่ะ?”

“กลับบ้าน”

“หลังไหน ไม่ค้างที่นี่หรอ”

“ไม่”

“โกรธพี่หรอครับ”

“มาก”

“ถึงพี่จะบอกว่าไม่มีอะไรต้องโกรธหรือต้องนอยด์ใส่เลย พี่กับลูกแพร์ไม่เคยมีอะไรต่อกัน พี่แค่สงสารน้องสาวคนนึง ก็ไม่เชื่อหรอ?”

“ไม่เชื่อ”

“วิน เราโตๆ กันแล้วนะ”
“พี่ไม่ถนัดเรื่องอ้อนวอนตามง้อตามอ้อนอะไรเยอะแยะหรอก”

งั้นก็ขอบคุณมาก เพราะวิธีการแบบนั้นผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน

“เชื่อใจกันหน่อยไม่ได้หรอ”
“พี่ยังเชื่อวินเลย เชื่อทุกอย่าง ไม่คิดระแวงอะไรในตัววินเลย ไม่ว่าคนรอบข้างคนไหนจะมาป้วนเปี้ยน ถึงจะไม่พอใจบ้าง หึงบ้าง แต่พี่ไม่เคยไม่มั่นใจในความรู้สึกวินเลยนะ”

“.............”

“พี่ก็อยากให้วินเชื่อใจพี่เหมือนกัน”

“วินไม่ได้ระแวง ไม่ได้หึงด้วยครับ”
“แต่วินนอยด์”
“วินไม่พอใจไง วินเอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผล ไม่เข้าใจเหตุผลคนอื่นด้วย”
“และวินก็ไม่คิดจะแก้นิสัยเสียๆ แบบนี้ของตัวเองด้วยครับ”
“เพราะมันเป็นอาวุธเดียวที่วินมี”
“วินไม่พอใจที่สมองพี่โป๊ะยังมีเรื่องของลูกแพร์อยู่”
“วินไม่ชอบ ไม่อนุญาตให้แฟนวินนึกถึง คิดถึง ระลึกถึงผู้หญิงคนนั้น”
“ถ้าพี่โป๊ะรับไม่ได้กับความนิสัยเสียของวินข้อนี้ ก็ตัดสินใจใหม่ได้นะครับ เรื่องของเรา”

“มัน...ขนาดนั้นเลยหรอวิน” คงเพราะเห็นแล้วว่าผมนอยด์จริงๆ เขาถึงได้เดินมาใกล้ แล้วดึงแขนไปเหนี่ยวรอบเอวเขาแทน

“ครับ วินไม่ชอบ”
“มากๆ”

“แต่พี่ ... ไม่เคยขอให้วินลืมรินนาเลยนะ ไม่เคยขอให้วินลบคุณรุตต์ออกจากสมองเลยด้วย”

“ก็ถ้าพี่ขอ วินก็จะทำให้ จะพิสูจน์จนกว่าพี่โป๊ะจะพอใจ และเชื่อว่าวินไม่มีคนพวกนั้นในสมอง ในความทรงจำแล้วจริงๆ”

“พี่ไม่ขออะไรแบบนั้นหรอกไอ้ยุ่ง”
“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่ไม่หึง หรือพออกพอใจกับการที่วินยึดติดอดีต”
“แต่เป็นเพราะพี่เข้าใจ ว่าเราเลือกส่วนผสมให้กับประสบการณ์ชีวิตเราไม่ได้”
“แต่เราเลือกจำได้”

“............”

“พี่ให้เกียรติวินในอดีต ให้คุณค่า ให้เครดิต ให้ความรู้สึกขอบคุณเพราะเรื่องทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับวินในอดีต ทำให้วินเป็นวินที่พี่รักในวันนี้”

“ก็พี่โป๊ะโตแล้ว พี่โป๊ะผ่านอะไรมาเยอะแยะ พี่ก็ทำความเข้าใจเรื่องราวคนอื่นได้ดีกว่าวินสิ”
“แต่วินโตมาแบบนี้ วินทำความเข้าใจกับไอ้อาการโหยหาคนตายไปแล้วของพี่ไม่ได้หรอกครับ”
“วินต้องฟังอีกกี่เพลงหรอ? ก่อนหน้านี้ก็อะไรนะ เพลงของเรา”
“แล้วมาเพลงที่ร้องเมื่อกี้”
“ถ้ามันมีความรู้สึกที่ทำให้หวนคิดถึงเขามากนัก พี่ก็ไม่ต้องคบวิน”
“พอ!”

“ไอ้ยุ่ง อย่าเป็นแบบนี้สิ”

“ก็วินเป็นของวินแบบนี้”
“วินไม่ชอบให้พี่รักคนอื่น ต่อให้แค่เคยรักก็ไม่ชอบ”
“นี่ของวินนะ!” ผมชกเข้าที่กลางอก แล้วก็ลามปามไปตามอารมณ์จนถึงขั้นขยุ้มผมเขาแล้วจับให้หัวเขาโยกไปมา

เขาโตกว่าผมร่วม 5 ปี
เขาเป็นคนที่ดูวูบแรกก็รู้ว่าคบหาความรุนแรงและความหยาบคายมาแต่ไหนแต่ไร
แต่ที่นายมือโปรแสดงออกตอนนี้ กลับเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกดต่ำในลำคอ

“ของวิน!!” ผมย้ำอีกครั้งแล้วก็สะบัดหัวเขาทิ้งจากมือ

“ครับ ของวิน ทั้งตัวทั้งตับทั้งไตทั้งหัวใจ ของวินหมดเลย”
“พี่...ไม่ได้รู้สึกอะไรกับลูกแพร์เลยยยยย จริงที่สุดแล้วครับ”

“แล้วทำไมต้องร้องเพลงนั้นให้เขาด้วย”

“พี่ร้องให้เพื่อนพี่”
“ร้องแทนความรู้สึกพี่ชาย ที่สูญเสียน้องสาวไปตลอดกาล”
“พีชเป็นคนอ่อนไหว”
“หยาบๆ อย่างพี่ยังทำใจเรื่องลูกแพร์ตายได้ช้า พีชก็คงใช้เวลานานกว่า”
“พี่...พวกพี่คบหากันมานานนะวิน”
“จุดเล็กๆ น้อยๆ พวกพี่ก็รู้ทันไอ้พีชมัน”
“คิดว่าเพราะอะไรมันถึงแต่งงานเอาป่านนี้ ทั้งที่คบกับบัวมาเป็นชาติ”
“ทั้งที่ก็พร้อมด้วยกันทั้งสองฝ่าย พีชไม่เคยนอกใจ บัวไม่เคยไม่เข้าใจ แต่ที่มันไม่แต่งสักที เพราะพีชมันทำใจไม่ได้ มันไม่หลุดจากความรู้สึกผิดสักที มันไม่กล้าเริ่มต้นมีความสุขเพื่อตัวเอง”

“.............”

“มันก็เหมือนพี่ เหมือนไอ้หนึ่ง ที่พูดไม่ได้เต็มปาก ว่าไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้คนคนหนึ่งต้องตาย”
“แต่มันหนักกว่าพวกพี่ตรงที่ มันเป็นพี่ชายแท้ๆ”
“พี่รู้ มันไม่อยากให้สักคนลืมน้องมัน ตัวมันเองก็ไม่อยากลืม”
“แต่คนเรามันแยกแยะได้ไม่เท่ากันหรอกวิน”
“วันนึง ถ้าแสงจากอีกจุดนึงสว่างกว่า เราก็ต้องคว้าเอาไว้หรือไม่ก็เดินไปหา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จุดที่เคยสำคัญ เคยสว่างมากๆ แต่กำลังอ่อนแสงหรือดับแสงลงไปแล้ว สุดท้ายก็จะไม่มีใครมอง ไม่มีใครเห็น”
“น่าสงสารใช่มั้ยล่ะ พีชเองก็ติดอยู่กับอะไรแบบนี้เหมือนกันนั่นแหละ”
“มันสงสารน้องมัน แต่อีกด้านหนึ่งของชีวิต มันก็อยากก้าวไปหาแสงที่สว่างกว่าบ้างเหมือนกัน”
“ไม่ใช่ว่าทุกคนจะปล่อยได้ แม้จะอยากปล่อยแค่ไหนก็ตาม”​

“..............”

“พี่รู้ว่าวินเข้าใจ และพี่ก็จะไม่ขอให้วินเข้าใจอะไรไปมากกว่านี้แล้ว”
“แค่อยากขอให้เชื่อใจพี่ แค่นั้นพอ”

“............”

“ได้มั้ย”

“ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน” ผมบอกเท่านี้ ดันตัวเองห่างออกมา ก้าวเดินจากมาด้วยความรู้สึกสับสนนิดๆ ไม่เข้าใจหน่อยๆ แต่ไม่พอใจมากๆ

ไม่ใช่ว่าเขาอธิบายไม่เคลียร์หรอกครับ
เขาคิดว่าผมเข้าใจ ซึ่งผมก็เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ เรื่องมันก็ไม่ได้ซับซ้อน แต่ที่ซ่อนเงื่อนคือความคิดของผมเอง แต่จะทำยังไงได้ ก็ผมมันเป็นคนแบบนี้

ไม่ใช่ว่าปัดความรับผิดชอบหรือปฏิเสธการรับฟังคนอื่นหรอกนะครับ แต่ผมไม่ถนัดด้านการเข้าอกเข้าใจผู้คนจริงๆ ลำพังตัวเองยังไม่เข้าใจในทุกมิติเลย

แต่ที่ไม่พอใจมากๆ อยู่นี่ ก็เพราะว่าผมไม่ชอบใจที่เขายังสนใจเรื่องคนนั้น เข้าใจอารมณ์คนนี้อยู่ตลอดเวลา ผมไม่ชอบที่เขาทำตัวสาธารณะ

ผมเป็นคนเก็บตัว และแน่นอนว่าชอบเก็บแฟนไว้ใกล้ตัวด้วยเหมือนกัน
แต่ดูเหมือนเขาจะเป็นสัตว์สังคมจนเคยตัว

“อ้าววิน ว่าจะมาตามเลย โอเคขึ้นแล้วใช่ป่ะ?”
“ป่ะ ร้องเพลง คิววินแล้ว”

“วินไม่ร้องแล้ว โทษนะ ว่าจะกลับแล้ว”

“พี่วินนนนนน”

คนรั้งครั้งแรกคือเจม สมทบด้วยน้องธาม ที่ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเริ่มเมาแล้ว แววตาน้องธามดูคึกคักเสียขนาดนี้

“พี่ว่าจะกลับแล้ว โทษนะ”

“แต่ว่าถ้าหากเราได้รางวัลล่ะ มันใหญ่นะ ต้องช่วยกันสินะ” เด็กมีลักยิ้มนี่บอกอย่างซื่อตรง ผมอดขำไม่ได้จริงๆ และดูเหมือนเจมจะมองอะไรบางอย่างออกเมื่อพี่โป๊ะเดินตามมาสบทบ นักข่าวคนนี้ถึงได้คว้ามือผมไว้แล้วลากกลับไปยังโต๊ะที่ปลึกตัวจากมาเมื่อชั่วโมงที่แล้ว

บรรยากาศชื่นมื่นยังไม่จางหาย ก็ดีแล้วแหล่ะครับ คนเรามันจะเสพสมกับความสุขได้สักกี่นาทีต่อวันเชียว เมื่อเจอโอกาสก็ต้องตักตวงเอาไว้

บนเวทีเตี้ย ที่มีนักดนตรีรับเชิญที่บรรเลงดนตรีกันแบบมืออาชีพ มีนักร้องสมัครเล่นคือพี่นำ และพี่หนึ่งครับ ผมยังไม่ทันได้นึกออกว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร คนบนเวทีก็ส่งเสียงเรียกดึงสติ

“โป๊ะ เร็วดิ”
“โชว์นี้คุณรีเควสไม่ใช่รึไง อย่ามาตีเนียน เร็วๆ”
“ร้องให้จบๆ แล้วก็เข้าครัวทำอะไรมาให้กินหน่อย” พี่หนึ่งล้วนๆ ครับที่ออกคำสั่ง ส่วนพี่นำ กำลังก้มดูไอแพดที่แผ่วางบนแท่นวางโน้ตอย่างเอาเป็นเอาตาย

คนที่ผมเดาเอาว่าเดินตามผมมา เดินผ่านเลยผมไปเพื่อขึ้นไปนั่งอวดขายาวๆ แข่งกับเพื่อนเขาบนเวที พอนั่งเรียงกัน 3 คนแบบนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบพวกเขาทั้ง  3 คน

เท่สุดพี่โป๊ะ ผมไม่ได้ลำเอียงนะครับ แต่เขาเท่จริงๆ
ดิบสุดก็พี่โป๊ะ
กวนตีนสุดก็พี่โป๊ะ
นักเลงสุดก็พี่โป๊ะ

แต่หล่อสุดคือพี่หนึ่ง
ดูดี ดูแพงสุดก็คือพี่หนึ่งอีก
ดูอบอุ่นสุดก็พี่หนึ่งอยู่ดี

ดูน่าเชื่อถือสุดคือพี่นำ
ทำให้เชื่อและทำตามทุกอย่างที่พูดก็พี่นำ
ดูพึ่งพาได้มากที่สุดก็พี่นำ
กระทั่งดูดุสุดก็พี่นำ

และคนที่ดึงสายตาผมไว้นานที่สุดใน 1-2 นาทีที่ผมจมกับความคิดตัวเองอยู่นี้ ผมมอบสายตาให้เขาไปแล้ว 80%

“เพลงของคุณนะ”  นายมือโปรกระซิบกับไมโครโฟนตรงหน้า และเงยหน้ามาอีกครั้งพร้อมกับคำร้องจากปาก

หากันจนเจอ

สิ่งที่ฉันหวัง สิ่งที่ฉันคอย อาจดูเหมือนเลื่อนลอย เกือบจะฝันไป
มองหาคนๆหนึ่ง ที่ไม่รู้เป็นใคร และไม่รู้เมื่อไหร่ จะพบคนผู้นั้น

ส่วนชีวิตฉัน บอกเลยว่ามี เจอะคนที่แสนดี อยู่ทุกๆวัน
เพียงแค่ไม่มีใคร ที่จะฝันตรงกัน แต่ว่าฉันมั่นใจ จะพบในไม่ช้า

อาจบางทีในเมืองกว้างใหญ่ หมอกและควันช่วยกันพรางตา
มีขอบรั้วขอบกำแพงสร้างมา ตึกระฟ้าคอยบังเราอยู่

แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่ แต่มันคงไม่ยากเกินไป ที่ฉันจะพบเธอ

อาจมีสักครั้งที่เราสองคน ผ่านทางที่วกวน อยู่ใกล้ๆกัน
ใบไม้เพียงใบหนึ่ง หล่นตอนที่เดินผ่าน ฉันคงจะมองมัน เมื่อเธอเดินผ่านมา

อาจบางทีในเมืองกว้างใหญ่ หมอกและควันช่วยกันพรางตา
มีขอบรั้วขอบกำแพงสร้างมา ตึกระฟ้าคอยบังเราอยู่

แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา รู้สึกไหมว่าชีวิตคุ้มค่า เมื่อมีใครสักคนข้างกาย
เกิดมาเพื่อหาใครคนหนึ่ง เป็นคนที่ฟ้าสร้างมาตรงใจ เราต่างรู้โลกมันแสนกว้างใหญ่ แต่มันคงไม่ยากเกินไป ที่ฉันจะพบเธอ



ผมนั่งฟังเสียงร้องพวกเขาอยู่เงียบๆ ไม่ได้คุยกับเจมและน้องธาม ไม่ได้โยกตัวตามจังหวะ ไม่ได้อมยิ้มจนแก้มกอดตัวกันเป็นรอยบุ๋ม และไม่ได้เป่าปากให้กำลังใจคนร้องเพลงที่เพิ่งจบลงไป

ผมแค่ฟังความคิด ความรู้สึกของเขา ตามที่เขาขอไว้ ว่าให้เชื่อ
แต่ความรักไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ ที่แค่เชื่อตามที่ครูสอน เราก็จะได้ผลลัพท์หรือคำตอบที่ถูกต้องตามทฤษฎี เหมือนที่คนอื่นเขาได้รับ

ความรัก ไม่ใกล้เคียงตรรกะใดๆ ทั้งนั้น

ความรักก็คือความรัก... ก็แค่ความรัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2017 01:21:06 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
“คุณมือโปรครับ เพลงที่เพิ่งจบไปเมื่อกี้ ดูคุณอินมากเลยนะครับ ต้องให้ผมชงมั้ยว่าร้องให้ใคร”

“แฟนผมฉลาด ต้องรู้อยู่แล้วว่าผมรู้สึกมาก...ขนาดไหน” นายมือโปรตอบพิธีกรกะทันหันอย่างพี่หนึ่ง เขาโยนสายตาจริงจังข้ามหัวทุกคนมาตกใส่กะบาลผม ที่ก็หันหนีทันทีที่ได้รับแววตานั้น

“โอเคครับ คนฉลาดคนนั้นน่าจะรู้แล้วว่าต้องร้องเพลงเป็นลำดับถัดไป” ถ้าคิดว่าพี่หนึ่งแม่งก็กวนตีนพอๆ กับพี่โป๊ะนี่ผมจะหยาบคยเกินไปมั้ยครับ?

และที่กวนตีนกว่าพี่หนึ่ง ก็แฟนพี่หนึ่งนี่แหละครับ

“วิน...ในร้านนี้ไม่มึใครโง่เป็นแฟนพี่โป๊ะแล้ว มีวินคนเดียวอ่ะ ลุกไปร้องเพลงดิ”

“รู้แล้วน่า” ผมตอบแล้วก็ลุกขึ้น เดิน หลบตาพี่โป๊ะ บอกชื่อเพลงที่จะร้อง นั่งบนเก้าอี้สูง ที่ไอ้พี่โป๊ะ พี่หนึ่ง และพี่นำ นั่งแล้วยังสามารถอวดขายาวได้ แต่ผมกลับรู้สึกถึงความสูงระดับพอดีกับช่วงขาที่ตึงทันที ทุกอิริยาบถของผม มีพื้นฐานจากอารมณ์นอยด์ทั้งนั้นแหละครับ คนไม่สังเกตผู้คนอย่างพี่จิวยังสัมผัสได้

“วิน ดูงอแงว่ะ เป็นไร”

“เปล่าครับ”

“ตอบงี้เป็นชัวร์” ไอ้สาระแนโอมกระซิบตอบพี่จิวผ่านไมโครโฟน ขอบคุณมากเพื่อนสำหรับความเป็นส่วนตัวที่มึงมอบให้

“เอาเพลงนี้จริงหรอ?”

“เล่นแบ็คไม่ได้อ่ะดิมึงอ่ะ” ผมลามปามไปดูถูกความสามารถเพื่อนด้วยครับ เลยโดนมาเขกหัวเอา แล้วทั้งร้านก็ได้ยืนเสียง “เฮ้ย หมาโอม กูแช่งให้จู๋หดไอ้ห่า” ในระดับที่ดังมาก เพราะคนตะโกนอยู่เกือบครัวแล้วครับ

ผมเป้ปากใส่กิริยาหึงหวงไม่เข้าท่า และก็ต้องรีบวางสีหน้าปกติ เพราะรู้สึกขึ้นมาตะหงิดๆ ว่าข้อหาไม่พ้นตัว

“เออ เพลงที่บอกก่อน อีกเพลงค่อยร้องทีหลัง ถ้ากูมีอารมณ์ร้องนะ” ผมบอกความมากเรื่องของตัวเอง แล้วก็รออินโทร ซึ่งก็ช้าสมใจคนบ้าอย่างไอ้โอมแหละครับ


เธอแปลคำว่ารักของเราต่างกัน

คงเป็นเพราะฉันฝันถึงเธอเมื่อคืน พอตื่นมาก็ยังนั่งนึกถึงเธอ เธอที่เคยรัก เธอที่จากไป
มันทำให้ฉันยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตา นึกถึงสัญญาที่ทำไม่ได้ จะอยู่ด้วยกัน จนวันสุดท้าย

เธอแปลคำว่ารักไม่ตรงกับฉัน แค่เรามองรักด้วยสายตาต่างกัน
ฉันรู้เพียงแค่เธอคือโลกของฉัน ขาดเธอเหมือนขาดใจ
แต่ไม่รู้ใจคนอย่างเธอ

ก็คงไม่มีใครผิดหรือถูก สิ่งที่ล่วงเลยก็เปลี่ยนไม่ได้ ได้แค่นึกถึง ได้แค่เสียดาย

เธอแปลคำว่ารักไม่ตรงกับฉัน แค่เรามองรักด้วยสายตาต่างกัน
รักคำเดียวไม่พอให้อยู่ด้วยกันจนถึงวันสุดท้าย
ทำไมคำว่ารักของเราถึงต่างกัน ทำไมเธอและฉันไปกันไม่ได้
ฉันรู้เพียงแค่เธอคือโลกของฉัน ขาดเธอเหมือนขาดใจ
แต่ไม่รู้ใจคนอย่างเธอ (คำว่ารักเราช่างต่างกัน)

ความรักแรกรักก็สวยงามดั่งเพลงรักที่ซึ้งในนิยาม
เวลาที่หมุมที่ผ่านไปทั้งเธอกับฉัน คิดคนละอย่าง ไม่เหมือนเดิม

เธอแปลคำว่ารักไม่ตรงกับฉัน แค่เรามองรักด้วยสายตาต่างกัน
รักคำเดียวไม่พอให้อยู่ด้วยกันจนถึงวันสุดท้าย
ทำไมคำว่ารักของเราถึงต่างกัน ทำไมเธอและฉันไปกันไม่ได้
ฉันรู้เพียงแค่เธอคือโลกของฉัน ขาดเธอเหมือนขาดใจ
แต่ไม่รู้ใจคนอย่างเธอ (คำว่ารักเราช่างต่างกัน)



ผมไม่ได้ร้องเพลงนี้เพราะอยากตั้งคำถาม แต่ผมร้องเพื่อบอกความคิด
เนื้อเพลงทั้งหมดที่ยังต้องจ้องไอแพดบ่อยๆ ไม่ได้สาธยายผม 100%  และไม่ได้สะท้อนเขา 100% เหมือนกัน
ผมอยากบอกเขาว่า คำว่ารักของผมกับเขา มันไม่ได้เหมือนกันราวกับโลกและเงาของตัวเอง

หวังว่าเขาจะเข้าใจ

“ขอบคุณครับ” ผมตอบรับเสียงปรบมือ คนฟังกลุ่มน้อยๆ นี้หันมองกันเองก็มี หันมองหาคนที่ยืนกอดอกฟังอยู่หน้าครัวก็เยอะ ผมก็มองเขาเหมือนกัน

“เมื่อกี้ แค่ลองของครับ อยากรู้ฝีมือนักดนตรี แต่ก็รู้แล้วว่าเก่งครับ”
“ที่ตั้งใจเลือกมา คือเพลงต่อไปครับ”  ผมบอกกับทุกคนแล้วก็ทิ้งสายตาสุดท้ายไว้ที่นายมือโปร

ไม่คิด

ก็ไม่คิดก็ไม่เคยจะฝัน ว่าจะได้เจอเธอคนนั้น
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉัน เหมือนเรื่องราวอย่างในนั้น

ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน
ก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป ก็ไม่รู้จะจบลงแบบไหน

แต่เราสองนั้นก็ได้มาพบ และเจอกัน
เธอกับฉัน เหมือนว่าฟ้านั้นขีดมาให้พบเจอ
และตัวฉัน นั้นก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอ
ว่าเธอคนนี้ จะใช่คนนั้นหรือเปล่า

ก็ไม่คิดว่าจะรักคนนี้ ก็ไม่คิดว่าจะรักกับคนแบบนี้
ไม่ใช่แบบที่คิดเลย
ก็ไม่ใช่คนที่เคยฝันเอาไว้ ก็ไม่ใช่คนที่ใจอยากยอมรับ ว่าใช่
แต่รู้ตัวเองอีกทีก็รักเธอ

ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน
ก็ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป ก็ไม่รู้จะจบลงแบบไหน

แต่เราสองนั้นก็ได้มาพบ และเจอกัน
เธอกับฉัน เหมือนว่าฟ้านั้นขีดมาให้พบเจอ
และตัวฉัน นั้นก็ยังถามตัวเองอยู่เสมอ
ว่าเธอคนนี้ จะใช่คนนั้นหรือเปล่า

ก็ไม่คิดว่าจะรักคนนี้ ก็ไม่คิดว่าจะรักกับคนแบบนี้
ไม่ใช่แบบที่คิดเลย
ก็ไม่ใช่คนที่เคยฝันเอาไว้ ก็ไม่ใช่คนที่ใจอยากยอมรับ ว่าใช่
แต่รู้ตัวเองอีกทีก็รักเธอ

สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น เพราะน้องธามวิ่งติดสปีดขึ้นมาบนเวที คว้าไมค์ไว้ เอาปากจ่อ แล้วก็บอกจุดประสงค์ของตัวเองว่า “ธามแร็พสินะ”

ก็เหมือนกับเส้นผมเล็กจะบัง...เหา
สิ่งที่สำคัญจริง ๆ อาจจะอยู่ข้าง ๆ เมา
ฉันกับเธอ....อั่นแสงกับเมา
ที่อยู่ข้าง ๆ กัน แต่......จะเอา
ก็ไม่เคย คิด คิด คิด ว่าเราจะได้กัน
ก็ไม่เคย วัง วัง วัง ว่าเว้าจะ ข้างฟัน
ก็ไม่เคย ฟัน ฟัน ฟัน ว่าเธอจะเตียง ทุกวัน
เราอาจจะเริ่มต้นไร แต่ก็จบรักกัน


มันแร๊พอะไรวะเนี่ย ?!?
ผมหันไปมองหน้าไอ้โอมกับพี่จิวเหลอหลา ซึ่งก็เหมือนกับส่องกระจกนั่นแหละครับ ผีหลอกหน่อยตรงที่เงาที่สะท้อนสีหน้าผมระเบิดเสียงหัวเราะทั้งที่มือยังประคองเครื่องดนตรีอยู่ ผมก็เลยหันกลับมาร้องให้จบ เพื่อให้ความตั้งใจของผมจบลงด้วยดี

ก็ไม่คิดว่าจะรักคนนี้ ก็ไม่คิดว่าจะรักกับคนแบบนี้
ไม่ใช่แบบที่คิดเลย
ก็ไม่ใช่คนที่เคยฝันเอาไว้ ก็ไม่ใช่คนที่ใจอยากยอมรับ ว่าใช่
แต่รู้ตัวเองอีกทีก็รักเธอ

ความคิดแรกหลังจากร้องเพลงนี้จบคือ ใครก็ได้ เอาวุ้นแปลภาษาให้ผมแดกที!
ความคิดถัดมา คือความรู้สึกขอบคุณน้องธาม ที่ทำให้ความรู้สึกรักของผม สร้างความบันเทิงให้กับคนอื่นได้ขนาดนี้

นี่ไม่ได้ประชดเลยนะครับ เพราะถ้าร้องคนเดียว แล้วร้องจบแล้วทุกคนเอาแต่จ้องผม หรือแซวไปถึงพี่โป๊ะ ผมก็วางสีหน้าไม่ถูก

“น่ารักไปเลยอ่ะวิน กะสอยรางวัลจริงๆ ใช่ป่ะเนี่ย”

“อื้อ” ผมตอบเจมที่นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม  ส่วนธามที่อารมณ์ดีนั่งลงข้างๆ ผม แต่มีหมอนำเขาเดินมาตบรางวัลด้วยการหอมเบาๆ ที่แก้มทิศตะวันออกเฉียงใต้ เฉียดปากไปนิดเดียวครับ

“ซ้อมนานป่ะ?” เจมถามขึ้นระหว่างผมดื่มน้ำเปล่า พอได้ตื่นเต้นจนเหงื่อออกและหัวใจเต้นรัว  ความขุ่นในอารมณ์ก็เริ่มหายไปบ้าง

“ไม่นานหรอก แต่ธามอ่ะนานเลย บอกว่าจำไม่ได้”

“อ่อ ธามก็จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ภาษาไทยมันยาก เนอะธาม”

“ใช่สิ” ลูกหมาภาษาฝืดยอมรับแต่โดยดีครับ ผมหัวเราะเพราะอารมณ์ดีขึ้นมามากโข และก็เลยเถิดไปถึงการดื่มแอลกอฮอลล์ไปอีกหลายแก้ว มากขนาน มือชงก็คือเจมครับ ส่วนมือยัดเยียดคือหมาธาม ซึ่งวัดจากสายตาผมที่เริ่มมัวๆ แล้ว ธามเมาแล้วโคตรคึก คึกจนพี่นำก็กำราบไม่ลง

“ไอ้ยุ่ง” จู่ๆ ก็มีเสียงดังบนหัว ผมเลยต้องแหงนหน้ามอง
“กินนี่ไปด้วย”

“อะไร” ผมว่าผมถามเคลียร์แล้วนะ ทำไมพี่โป๊ะทำหน้าประหลาดๆ
เขาวางข้าวต้มกุ้ง (น่าจะใช่แหละครับ ผมก็มองไม่ชัดเท่าไหร่) ตรงหน้าผม แล้วก็ดึงแก้วเบียร์ออกจากมือ

“กิน ข้าว ต้ม”
“เร็วๆ เลยวิน คำสองคำก็ได้”

“ไม่ ปนกันก็อ้วกพอดี วินกินได้ เอาแก้วมา”

“ไอ้ยุ่ง เชื่อพี่หน่อยจะตายรึไง”
“นี่เมาตาเยิ้มขนาดนี้ยังกล้าขอเหล้าอีกหรอ ที่บ้านสกัดเหล้าขายหรอ?”

“เปล่า แต่แฟนมีเหล้าให้กินฟรี ทำไม ทำไม?”

ผลลัพท์คือการถูกผลักหัว แต่ก็เบามากครับ
เจมกับน้องธามเห็นผมถูกทำร้ายก็เข้ามารุมผลักไสพี่โป๊ะให้ออกไปห่างๆ แล้วพวกผมก็สุมหัวกันอยู่ 3 คน ผมรู้ตัวว่าผมเริ่มเมามากแล้ว แต่ก็ยังก็ยังพูดไหว หัวเราะได้ อารมณ์ดีสุดๆ เลยด้วยครับ ส่วนเจมกับธามเมามากหรือน้อยกว่าผม อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ

เสียงเพลงยังขับกล่อมเราไม่ขาด ยิ่งดึกดื่นควรนอนก็ยิ่งคึกคัก สนุกสนานกันไปทั้งร้าน ผมไม่ได้รู้จักพวกเขาทุกคน แต่ดูเหมือนเขาจะรู้จักผมกันหมดแล้วในฐานะแฟนเฮียโป๊ะ ก็เลยมีคนมาชนแก้วอยู่เป็นระยะ และคนที่ดื่มกับพวกเขาจริงๆ ก็คือพี่โป๊ะครับ ไม่ใช่ผมหรอก

ผมหมอบแล้ว
หมอบคาโต๊ะ คาตัวพี่โป๊ะเลยครับ เรียกว่าส่วนไหนพิงเขาได้ก็พิงไว้ ผมไม่ได้รักไม่ได้หวงอะไรเขามากมายหรอก แต่โลกมันเอียงนะครับ ใครๆ ก็รู้เนอะ

“ไปนอนมั้ย พี่แบกไป”

“โอ้ยยย แฟนนี่นา”
“ไม่ๆ วินดีอยู่”

“หนักนะเราเนี่ย”

“ไม่ๆ วินแค่ห้าสิบสอง”

“พี่หมายถึงเมาหนัก”

“ไม่ๆ แฟนกัน ไม่แบกก็ดี”
“ไปเอง แมนๆ”
“โอม! กูกลับก่อนนะ”

เอาเป็นว่า ผมรู้ว่าผมจะพูดจะสื่อสารอะไร แต่ที่ออกจากปากไปน่าจะทำให้คนฟังปวดหัว พี่โป๊ะหัวเราะใส่หน้าแล้วก็ลูบแก้มเบาๆ ผมได้ยินเขาบอกผม ได้ยินชัดเลยด้วย

“เอาที่สบายใจเลยไอ้ยุ่ง”  อืม ผมก็สบายใจท่านี้แหละ


“พี่โป๊ะ”

“หือ?”

“นี่ใคร”
“นี่แฟนไง”
“นี่ใคร”
“นี่ของวิน”
“ของวิน ห้าม”
“ห้าม”

เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ หรือต่อให้พูด ก็คงเบามากเพราะผมไม่ได้ยินอะไรเลย
นายมือโปรปัดมือผมที่กำลังชก (อย่างน้อยผมก็เข้าใจว่าไอ้ที่ทำอยู่คือการชก) เขาอย่างเอาเป็นเอาตายออก ดูเหมือนเขาจะไม่เจ็บเลยสักนิด เฮอะ หมั่นไส้ว่ะ

“ไปนอน ไม่ต้องกงต้องกินแล้ว เหล้าเนี่ย”
“เมาแล้วก็ดราม่า” อันนี้ได้ยินครับ เต็ม2 รูหูเลย เพราะเข้าพูดอยู่ข้างแก้ม

รู้ตัวอีกที ผมก็ถูกจับขึ้นคร่อมหลังเขาเอาไว้ แล้วเขาก็แบกผมไปจริงๆอย่างที่พูด
ตอนแรกคิดว่าจะพากลับห้องชั้นใต้ดิน แต่นายมือโปรมุ่งหน้าออกจากผับ ทิ้งเพื่อนทั้งฝูงไว้กับความสนุกสนานตามประสางานเลี้ยงที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนวัตถุประสงค์ไป

“พี่โป๊ะ ไม่ได้ ทำงี้ไม่ได้”

“ทำไปแล้ว ไม่สนแล้วโว้ย”
“นิ่งๆ วิน มุดหัว ก้มดิ โก้มมมมมมม” แม่งจะทำเสียงย้วยทำไม ผมไม่ได้โง่นะ ผมรู้ว่าก้มทำยังไง แต่ทำไมหัวแม่งยังชนขอบประตูรถอีกวะเนี่ย

“พี่โป๊ะ!”
“รางวัลล่ะ ให้ใครล่ะ ยังไม่ได้บอกเลย”

“ไอ้ยุ่ง นี่รู้ป่ะว่ารางวัลคือไร จะเอาจะเอาอยู่เนี่ย”

“เงินไง บอกเป็นแสนอ่ะ หรือเป็นล้าน”
“พี่โป๊ะบอกใหญ่ไง” ผมว่าผมพูดไม่ยาน แต่หูผมน่าจะเพี้ยน เพราะผมฟังที่ตัวเองพูดไม่ค่อยรู้เรื่องนัก

“เออ ใหญ่มาก”

“อะไรล่ะ?”

“ความรักจากพี่ไง ใหญ่โคตร”
“ก้มเร็ววิน อย่าชนอีกนะ สงสารรถ”

“หัววิน!!”

“อ่ะ งั้นชนให้พอใจ เอาที่สบายใจเลยไอ้ยุ่ง”

“...........” เอาจริงหรอวะ? ตรงนี้ทำไมมืดๆ มองอะไรไม่ถนัดเลย เออๆ ไปกับแม่งก็ได้วะ แต่ผมไม่ลืมง่ายๆ หรอกนะ ว่าทำอะไรให้ผมขุ่นไว้ .... อืม แล้วเขาทำอะไรไว้วะ? อะไรว้า?

เออ ทำไมถึงลืมเล่าไอ้วิน!!!


#### @ D A W N  #####


ผม...ไม่กล้าพูดหรอกครับว่าจำได้ทุกอย่าง
ผมกระดากปาก กระดากใจจนพูดไม่ออกว่าจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ทั้งหมด
เอาจริงๆ เลยนะ ผมจำได้แค่บางช่วง
จำได้ว่านอยด์เขา หนีออกจากห้องมาก็ฟังเขาร้องเพลง ความหมายมันโคตรดี แต่ตอนนั้นไม่ซึ้งเท่าไหร่ คนมันนอยด์นี่ครับ
ผมร้องเพลงที่เตรียมมา คิดว่าทำได้ดีนะ น่าจะได้รางวัล จะเล็กจะใหญ่ก็ช่างมัน ขอให้ได้สักอันเถอะ
จากนั้นก็อาบเหล้าอย่างสนุกสนาน
แค่นี้แหละครับที่พอจะจำได้

เช้านี้...ผมตื่นขึ้นมาสบตากับพระอาทิตย์เหมือนเคย แสงสว่างอ่อนตาทำให้ผมสดชื่นขึ้นได้ตามปกติ แต่ที่ไม่ค่อยปกติก็คือ ผมนอนแก้ผ้า

อืม...ทำไมผมถึงไม่ใส่เสื้อผ้าก่อนนอนวะ?
นี่ผมอาบน้ำรึเปล่า?
บางที ผมควรจะเริ่มต้นแบบนางเอกในนิยาย คือการเมคชัวร์ว่า ที่นี่ที่ไหน?

ผมมองเพดานพลางม้วนตัวนอนหงายแล้วตะแคงมาอีกฝั่ง เตียงใหญ่โตขนาด 6 ฟุตนี้ ตั้งอยู่ในห้องนอนบนอาคารสูง วัดจากวิวที่เห็นแสงพระอาทิตย์เมื่อครู่ ผมสรุปได้ว่า ผมอยู่ที่คอนโดนายมือโปรครับ

พอระลึกรู้ว่านี่คือที่ไหน ผมก็ลุกขึ้น พุ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินแล้วคว้ากางเกงนอนและเสื้อยืดพี่โป๊ะมาสวมใส่ จากนั้นก็ออกจากห้องนอน เพื่อมายืนเคว้งคว้างอยู่กลางห้องนั่งเล่น

“พี่โป๊ะ”

“ในครัว”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2017 01:14:42 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ kajidrid

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +249/-3
อ่อ ก็นึกว่าคิดไปเองว่าอยู่คอนโดเขา ผมเดินเข้าครัวไปเจอกับพ่อครัวที่ยังใส่ชุดนอนอยู่ เขาไม่ได้สวมผ้ากันเปื้อน แต่มือสวมถุงมือกันความร้อนอยู่ ดูเหมือนกำลังจะไปหยิบยกอะไรสักอย่าง

“ตื่นแล้วครับ”

“เห็นแล้วครับ”
“หาเสื้อผ้าใส่ก่อนออกมาหาพี่ได้ แสดงว่าไม่เมาค้างเนอะ”

“ครับ”

“แน่นะ”

“แน่” ผมรับคำ พยักหน้าประกอบ นายมือโปรเลยเดินไปที่ไมโครเวฟ เพื่อเฉลยมื้อเช้าของเราสอง

“ไข่ตุ๋นร้อนๆ นะ”

“ครับ”

“มีซุปไก่มันฝรั่ง พี่ตำพริกใส่ลงไปด้วย จะได้ไม่เลี่ยน”

“พี่โป๊ะ....ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”

“ยังไม่ได้นอนเลย”
“วุ่นวายกับวินอยู่”

“วินทำอะไร?” ผมถามตรงๆ เดินมาลากเก้าอี้เพื่อนั่งลงรอคำตอบ

“เยอะ” เขาบอกเท่านี้ แล้วก็จัดชุดอาหารเช้าให้กับผม ซึ่งเพิ่งรู้สึกตัวว่าโคตรหิว

ออกจากห้องน้ำหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเพื่อกินมื้อเช้า ผมก็ไม่เจอพ่อครัวแล้วครับ ก็เลยเดินไปหาในห้องนอน ถึงได้เห็นว่าเขาจัดหมอน ปูผ้าคลุมเตียงให้เข้าที่ ผมก็เลยไปช่วยดึงผ้าคลุมที่อีกมุมหนึ่ง

“พี่โป๊ะ”
“วินทำอะไรหรอครับ เมื่อคืน”
“วินไปตีใครเข้ารึเปล่า”

“เรานี่นะ...ไม่รู้ตัวเองเลยหรอว่าเมาแล้วจะเป็นยังไง”

“ก็....” ผมทบทวนระหว่างลูบผ้าคลุมเรียบลายสีขาวมุก
“เท่าที่ไอ้โอมเล่า วินก็ไม่เคยทำร้ายใครนะ อาจงี่เง่าปากเสียบ้าง ดื้อก็นิดหน่อย แต่วินไม่มึแรงชกใครกรามหักหรอก”

“วินเมาแล้วดราม่า”
“ดราม่าแบบ...แบบที่ตอนไม่เมาก็ว่าพูดรู้เรื่องกันแล้ว พอเมาปุ๊บก็เอาไปดราม่า

“อ่อ”
“พี่โป๊ะ คิดว่าวินดราม่าเรื่องลูกแพร์ เพราะวินเมาหรอ?”

“ก็แล้วไม่ใช่หรอ? มันมีเรื่องอะไรให้วินต้องหยิบเรื่องนั้นมาคิดอีก ถ้าไม่เมา
“คราวก่อนก็เมา แล้วก็ดราม่าใส่พี่เรื่องนี้”
“พี่ต้องทำยังไง ต้องทำอีกแค่ไหน วินถึงเชื่อใจพี่ หือ?”

ผมตอบได้มั้ยว่าไม่รู้
หรือจะตอบแบบเอาแต่ได้ไว้ก่อน ก็ต้องตอบว่า ตลอดไป
แล้วเหตุผลที่จะทำให้เขาทำตามที่คำตอบผมให้ได้ มันต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันล่ะ?
เพราะรักผม เลยต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ผมพอใจหรอ? ไม่หรอก เขารักผมได้ตราบเท่าที่ต้องการจะรัก แม้จะทำให้ผมพอใจไม่ได้ทุกแง่ทุกมุม มันก็สิทธิของเขาในการรักผม

ส่วนสิทธิของผม ก็คือรักเขาได้ตามใจตัวเอง
แต่เราจะรักกันได้อีกกี่วัน กี่รอบพระอาทิตย์ขึ้นลง ใครได้สิทธิในการกำหนดคำตอบกันล่ะ?
ผม?
ก็คงจะเป็นผม เพราะเขาทำทุกอย่างเพื่อให้ผมเชื่อมั่นว่าเขาจะรักผมเหมือนกับกลางคืนรอต้อนพระอาทิตย์พักผ่อน
และเขาอยากให้ผมรักเขาเหมือนท้องฟ้ารุ่งสางอ้าแขนรับพระอาทิตย์

“วินไม่ได้เมาแล้วดราม่า แต่วินไม่กล้าเชื่อว่าพี่โป๊ะลืมผู้หญิงคนนั้นได้หมดใจจริงๆ”
“พี่ยังคิดถึงเขาตลอดเวลา คิดถึงในกรอบความห่วงเพื่อน ในกรอบคนในความทรงจำ ในกรอบประสบการณ์รักตอนวัยรุ่น หรืออะไรก็แล้วแต่”
“วินรู้สึกได้ว่า พี่ไม่เคยคิดจะลืม ไม่เคยลืม เหมือนเรื่องมันฝังอยู่บนผิวพี่ ในสมองพี่ เป็นส่วนหนึ่งของการกระพริบตาของพี่ เหม่อลอย เงียบ หรือแม้แต่ฟังเพลงแล้วฮัมตาม วินก็รู้สึกได้ว่า มันเป็นเพราะเขา”​

“วิน....มันไม่ใช่เลย วินคิดไปถึงไหนครับ”

“วินรู้ว่าวินคิดมาก วินไม่ได้ระแวงกลัวพี่ไม่รักวิน หรือรักน้อยลง แต่วินใจแคบ วินไม่แบ่งคนของวินให้ใคร แม้แต่เสี้ยวความรู้สึกก็ห้ามเจียดให้ใครทั้งนั้น”
“วินเป็นแบบนี้ พี่รักวินตลอดไปได้แน่หรอครับ”
“พี่โป๊ะลองคิดดูดีๆ ก่อนนะ เพราะคำพูดมันจะบีบรัดตัวพี่โป๊ะถ้าหากว่าทำไม่ได้ตามที่พูด”

“ได้สิ พี่จะรักวินคนเดียว รักที่สุด รักตลอดไป”

“.............” ผมมองเขาอยู่ที่มุมเตียง ส่วนเขายืนมองผมอยู่ที่หัวเตียง เราจ้องกันอย่างเงียบเชียบ คล้ายกับเราว่ากำลังเล่นเกมจับผิดกันอยู่ ใครหลบตาถือว่าแพ้

และคนที่แพ้ ก็คือผม
ครับ ผมหลบตา เพราะน้ำตาเอ่อขึ้น มาจนได้
ผมเชื่อเขาได้ใช่มั้ย นายมือโปรคนนี้ พี่โป๊ะคนนี้ อาจารย์วารินทร์คนนี้ ผมเชื่อหัวใจเขาได้ใช่รึเปล่า ผมวางความไว้ใจไว้บนความรู้สึกเขาได้ใช่มั้ย
ผมจะไม่ต้องเผชิญความรู้สึกผิดหวังใช่มั้ย
ผมกลัว....

“วินเชื่อพี่โป๊ะได้ใช่มั้ย”

“ที่สุด”

ผมเดินเตาะแตะไปหาเขาที่อ้าแขนรอ พอมือถึงกันแล้วผมก็ถูกกอดจมอก ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นตึงตัง เขาเองก็น่าจะได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นเหมือนกัน หรือถ้าหัวใจผมมันห่างหูเขานัก อกเขาก็น่าจะรับรู้ถึงความรุนแรงในอกผมได้

“ไอ้ยุ่งเอ้ย”
“พี่เป็นของวินไง พี่ต่างหากที่ต้องกลัววินทิ้งพี่ ติสๆ แบบนี้ เอาแน่เอานอนไม่ได้อีกต่างหาก”
“โพรไฟล์วินก็ดีเวอร์ แม่วินก็ยังคงหาคนที่ดีสำหรับวินให้วินอยู่ตลอด ป้าวินก็ตรวจสอบพี่ตลอด พ่อพี่เองยังจับตาดูพี่ว่าจะเดินจูงมือวินไปได้สักกี่น้ำ เพื่อนพี่เองยังด่าอยู่บ่อยๆ ว่าไม่น่าไปดึงวินลงมา”
“ไม่มีใครเชื่อมั่นใจตัวพี่เลย พี่ก็ยังไม่สนใจ ไม่เอามาบั่นทอนตัวเอง”
“พี่สนแค่วินเท่านั้น คนเดียว”

“.........”

“ถ้าวินรอพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน พี่ก็จะไปอยู่ในสายตาวินทุกวัน”
“มองตรงไหนก็ต้องเจอพี่ ต้องการอะไรก็แค่บอกพี่ รู้สึกกลัวก็บอกพี่ เจออันตรายก็บอกพี่”
“พี่จะเป็นให้วินทุกอย่าง ทั้งหมดของพี่ ตัวพี่ ใจพี่ เวลาพี่ ความคิดพี่ เพื่อวินคนเดียว”

“........”

เมื่อผมเงียบ เขาก็ปิดท้ายประโยคสารภาพความรู้สึกท่วมท้นของเขาไว้ที่หน้าผากผม เรายืนกอดกัน หอมกัน จูบเบาๆ  และก็กอดกันแน่นกว่าเดิม จนท้องผมทนไม่ไหวส่งเสียงร้องออกมา มื้อเช้าที่หน้าตาดูดีถึงได้รับความสนใจอีกครั้ง


#### @ D A W N  #####


ไปทำบุญกันนะ
อย่าว่าแต่ใครจะประหลาดใจที่พี่โป๊ะชวนเข้าวัดไปทำบุญเลยครับ ผมก็นั่งระแวงอยู่ว่าเขาหลอกพาผมไปไหนรึเปล่า?
แต่จุดหมายของเขาก็คือวัดจริงๆ
ผมไม่รู้สึกแปลกสถานที่ เพราะวัดนี้คือวันที่ผมกับรินนาเจอกันในวาระสุดท้าย เราแยกกันที่นี่ จากกันในนี้
และผมก็ได้เจอนายมือโปรที่นี่เป็นครั้งแรก

“นัยยะคืออะไรหรอครับ บอกเลยได้มั้ย วินขี้เกียจเดา”

“ลากันให้เห็นเลยไง”
“จะได้ไม่สงสัยอะไรในความรู้สึกพี่อีก ร้อนใจวินเปล่าๆ”

“แค่นี้?”

“ว่าจะมาผูกดวงเราไว้ด้วยกัน เอาแบบไตเดียวกันสิบชาติเลยดีมั้ย”

“ไม่เอาหรอก ชาติเดียวก็เกินพอ” ผมบอกแกมประชดแล้วพยักหน้า ส่งสายตาให้เขาเดินนำทางไปเสียที

จริงๆ แล้ว เขาก็แค่พามาไหว้พระเท่านั้นแหละครับ เพราะผมยืนยันหนักแน่นว่าเชื่อแล้ว ไม่ต้องลากผมไปคุยกับเถ้ากระดูกหรอก ผมก็กลัวด้วยอะไรด้วยไง

นั่งกันเงียบๆ บนศาลาหน้าน้ำพอให้จิตใจได้รู้สึกสงบลง หยุดฟุ้งซ่านสัก 10-20  นาที  เขาก็พาผมกลับบ้าน แน่นอนว่าคือบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีกลิ่นน้ำกร่อยเคลือบแผ่นไม้กระดานปรุแทบทุกแผ่น

เขาจอดรถเสร็จก็เข้าบ้านไปเร่เปิดหน้าต่างให้ลมโกรกเข้ามา แม้จะหอบเอาอากาศร้อนๆ ของยามบ่ายมากระทบผิวบ้าง แต่ผมก็รับได้ และรู้สึกดีที่ได้อังผิวแก้มกับความร้อนผะแผ่วแบบนี้

“เย็นนี้กินอะไร?”

“ไม่รู้สิ พี่โป๊ะล่ะ”

“เดี๋ยวพี่ทำอะไรง่ายๆ ให้กิน แต่เราต้องซื้อของที่ตลาด”

“ไปแมคโครหรอ ทำไมพี่ไม่แวะตั้งแต่เมื่อกี้”

“ไม่ต้องแมคโคร ร้านโชว์ห่วยปากซอยก็น่าจะมีอะไรให้ซื้อมาผัดๆ ต้มๆ กินนะ”
“ไปมั้ย”

“เอาดิ”

ผมไม่คิดเลยว่าการเดินนำหน้าเขาจะทำให้โมโหได้หนักขนาดนี้ จริงๆ ก็จะไม่โมโหหรอกครับ แต่แม่งเดินเหยียบส้นรองเท้าผมตลอดทาง พอหันไปด่าก็หัวเราะใส่แล้วยื่นตีนมาให้เหยียบคืน พอผมเหยียบคืนไปแล้วเดินต่อ ไอ้บ้าพี่โป๊ะแม่งก็ทำเหมือนเดิม วนลูปกันอยู่แบบนี้อยู่ 3-4 รอบ ก็ถึงปากซอย มีร้านโชว์ห่วย แล้วก็ร้านขายผักพื้นๆ ร้านขายอาหารสำเร็จก็มี จริงๆ ซื้อแบบนี้ไปเลยก็ได้นะ

แต่นายมือโปรเป็นพวกชอบทำเองตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตอนนี้เราก็เลยเขามาในร้านสะดวกซื้อมากสาขา เพื่อเลือกซื้อน่องไก่และเนื้อหมูครับ

ผมเดินตามเขาต้อยๆ ดูเขาซื้อของเพื่อประกอบอาหารสำหรับยังชีพ เบ็ดเสร็จแล้วผมคิดว่าซื้ออาหารสำเร็จร้านแรกที่เจอน่าจะถูกกว่า นี่เขาควักแบงก์ 500 จ่าย ได้เงินทอนเป็นแบงก์สีแดงไม่กี่ใบ และแบงก์เขียวยุ่ยๆ ไม่กี่ใบ รวมกับเหรียญไล่ระดับ

“ไป กลับ หรือเอาขนมมั้ย”  อยากถามเหมือนกันว่าเห็นผมอายุเท่าไหร่ แต่กลัวคำตอบก็เลยมองเขาเงียบๆ ครับ พ่อบ้านเขาจ่ายตลาดเสร็จก็จูงมือผมข้างนึง หิ้วถุงสารพัดสีข้างนึง พากลับเข้าบ้านท้ายซอย ระหว่างทาง ผมผ่านร้านขนมหวานหาบเร่ที่เห็นอยู่บ่อยๆ ตอนนี้อาศัยนอนที่บ้านหลังนี้ คุณป้าแกส่งยิ้มให้ผมด้วยสีหน้าตกใจนิดๆ คล้ายแกจะทักจะถามอะไร ผมก็เลยยิ้มให้บางๆ และเร่งฝีเท้าเดินนำพี่โป๊ะไป

สำรับข้าวเย็นเล็กๆ วางประดับบนโต๊ะม้าหิน
ตอนนี้ก็เกือบ 6 โมงเย็นแล้ว แต่ด้วยฤดูกลางรร้อนกลางฝนแบบนี้ ทำให้แสงอาทิตย์ยังไม่ทอนความสว่าง เมื่อพระอาทิตย์ไม่รีบ เราก็ไม่รีบครับ พี่โป๊ะขอเวลาทอดไก่กระเทียมอีกเมนู ปากก็สั่งให้ผมตักข้าวรอไว้เลย ซึ่งผมก็ยืนเฉยๆ มันซะแบบนั้น เพราะตระเตรียมสำรับเสร็จหมดแล้ว รอแค่ไก่ฟ้าลีลาทอดกระเทียมอยู่อย่างเดียวเนี่ย

“มาแล้ว มาแล้ว หอมอ่ะ  โคตรอร่อยชัวร์” ผู้ชายตัวสูงถือจานไก่กระเทียมร่อนมาจากครัวยันหน้าบ้าน นายมือโปรยื่นจานมาให้คิวซีอย่างผมดมพิสูจน์ ผมก็ดมฟุดๆ แล้วก็ปักหลักนั่งรอกินเลยครับ

เลี้ยงง่ายมากเลยใช่มั้ย ผมเนี่ย

เราทานมือเย็นเย้ยแสงพระอาทิตย์ และเมื่อเราอิ่ม พระอาทิตย์ก็เข้านอนพอดีครับ เราช่วยกันเก็บจานชามเข้าครัว พี่โป๊ะเป็นคนล้างทั้งหมดทั้งที่เขาก็เป็นคนทำกับข้าวแล้ว

ผมเลี้ยงง่ายมากใช่มั้ยครับ?

ล้างจานชามเสร็จแล้ว นายมือโปรก็ชวนผมขึ้นห้องนอนครับ ผมก็ไม่ขัดขืนเพราะไม่เห็นประโยนชน์ใดจากการฝืนใจเขา เราพักพุงกันบนเตียงนอนใหญ่ที่ก็คุ้นเคยกันดี

ประตูเชื่อมไประเบียงถูกเปิดออกโดยนายมือโปร ผมไม่ทักท้วงอะไรเพราะอยากรู้ว่าจะทำอะไรอีก
แต่ครั้งนี้ก็ทักแล้วครับ เพราะเขามายุ่งกับกระดานวาดรูปของผม

“จะทำอะไรอ่ะพี่โป๊ะ”

“วาดรูปวินบ้าง”

“บ้า พี่ถนัดหรอ? มันไม่ใช่ใครๆ ก็วาดได้นะ เปื้อนหมด”

“งั้นวินวาด”
“เอา ... วาดท้องฟ้าตอนนี้” หึ งานหมูมาก แต่เอาสีดำปาดๆ เอง ผมหลุดหัวเราะ แต่ก็มานั่งเก้าอี้แล้วเปิดกระดาษขาวแผ่นใหม่ขึ้นมา
ผมวาดรูปท้องฟ้าไร้พระจันทร์ ดาวก็แทบมองไม่เห็น แต่ก็ไม่ได้มืดดำเสียทีเดียว ยอมรับว่าผสมสียากมาก แต่ตอนนี้ผมอารมณ์ดี ก็เลยลองผสมสีไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าพอใจ ก็เริ่มละเลงท้องฟ้า แสงไฟจากวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา และไฟประดับตึกสูงที่พยายามระฟ้าทั้งหลายเท่าที่ตาผมจะมองเห็นและจับสังเกตได้

นายมือโปรนั่งทำงานอยู่บนเตียง เขาเปิดเพลงคลอเคลียอารมณ์ผม ชวนผมคุย แกล้งให้หัวเราะ หยอกให้โมโหแล้วก็ทำตัวไม่สมอายุเพื่อง้อผม  แค่นี้ผมก็มียิ้มกว้างมากแล้วครับ

ผมรักง่ายใช่มั้ยครับ?

เมื่อดึกเข้าเราก็นอน เตียงใหญ่ที่เคยนอนคนเดียวแล้วกอดความปลอดภัยและเหงาเอาไว้ ตอนนี้มีคนมาแชร์จนเบาะที่นอนเรียนรู้รูปร่างคนมานอนด้วยแล้ว ผ้าห่มนวมทำหน้าที่ให้ความอบอุ่นในคืนที่อากาศข้างนอกอาจจะระอุหน่อย แต่ในห้องนอนเย็นมาก

นายมือโปรนอนตะแคงกอดผมเอาไว้ ส่วนผมก็นอนหงายปกติแต่ก่ายเขาเอาไว้ใกล้ตัว ก่อนจะหลับเพื่อต่างคนต่างฝัน เราร่ำลากันด้วยข้อความว่า...

“แล้วพบกันใหม่ครับ”


ความรัก. 


The End.



จบแล้วค่ะ บทสรุปของคนหนึ่งที่แสนกลัว อีกคนก็ช่างกล้า
หวังว่าเรื่องราวของพี่โป๊ะ และน้องวิน จะเป็นที่ชื่นใจของคนอ่านนะคะ หนึ่งคน สองคนก็ยังดีค่ะ
แรกเริ่ม หลายคนก็น่าจะรู้ว่าพี่โป๊ะไม่ใช่พระเอกเจตนาปั้นของเราเลย ออกแนวตัวแถมของเรื่องพี่หนึ่งเจมด้วยซ้ำ ระดับความพระเอกของพี่โป๊ะน้อยกว่าพี่นำอีก แต่พี่โป๊ะก็ได้เดฯ ได้มีเรื่องราวของตัวเอง

พอเขียนคาแรคเตอร์ขึ้นมาจริงจังแล้ว ความเฮียของพี่โป๊ะอาจจะลดลง ไม่ถูกจริตคนที่มีภาพจำพี่โป๊ะจากเรื่องพี่หนึ่ง ซึ่งเราก็เข้าใจดีค่ะ เพราะเรายัดความเฮียให้พี่โป๊ะเยอะ ก็เลยส่งความดีงามพระรามสิบเก้าให้พี่หนึ่ง

แต่เราคิดว่า เมื่อถึงจุดที่พี่โป๊ะต้องบริหารจัดการความรักของตัวเองแล้ว พี่โป๊ะก็จะเป็นพระเอกในหนทางของตัวเองในที่สุด

ส่วนตัวนายเอก น้องวิน น้องหน่วง น้องนอยด์ น้องซึมของเราคนนี้ เป็นคาแรคเตอร์ที่มีพื้นฐานความคิดดาร์ค แต่การกระทำไม่ดาร์คเลย เราวางให้วินใกล้เคียงกับคนทั่วไปที่มีความนูนหน้านูนหลังตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่ามองเขาด้วยตะเกียงไหน การตอบสนองของวินขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายคือใคร อันนี้น่าจะเป็นนิสัยพื้นฐานของมนุษย์ ไม่ใช่การเฟคหรือใส่หน้ากาก แต่คือการประเมินไว้ก่อนว่ายอมใกล้เขาระดับไหน และควรตอบสนองแบบไหนเพื่อให้ระยะห่างระหว่างกันมีเท่าเดิม

เราก็ไม่รู้ว่า คนอ่านจะรู้สึกว่าวินน่ารักมั้ย แต่สำหรับเรา วินเป็นคนน่ารักแล้วค่ะ

พี่โป๊ะก็เลยรักวินไงคะ 555 ไม่น่าจะงงเราเนอะ

เราขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบนะคะ
2 ปีกว่าที่ดมดอมตัวหนังสือกันมา หวังว่าจะสร้างความสุขให้คนอ่านได้บ้าง นิดหน่อยก็ยังดีค่ะ
ขอบคุณที่ทำให้นามปากกากะจิ๊ดริดมีเส้นที่หนาขึ้น แต่ไม่ต้องกลัวเราส่องแสงหรอกค่ะ อีกนาน5555

ไว้มีโอกาสใหม่ จะนำเสนอเรื่องราวในแนวๆ อื่นดูบ้าง หวังว่าเห็นชื่อเราแล้วจะลองเปิดใจกดเข้ามาอ่านกันนะคะ

ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ

กะจิ๊ดริด.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2017 01:36:23 โดย kajidrid »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่โป๊ะ ยอดมาก อบอุ่น กวน.....มาก เฮียมากกกก
วิน คิดมาก นอยด์บ่อย ค่อนข้างเอาแต่ใจตัว ขี้หวงคนรักสุดๆ
ถ้าไม่ใช่พี่โป๊ะ คงเปิดหมวกลาวินไปนานแล้ว
วินน่ารัก ในแบบของวิน  :mew1: :mew1: :mew1:

พี่โป๊ะ วิน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขคนอ่าน
อยากได้ตอนพิเศษอีกนะ นะ นะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ manami1155

  • ~I Still Love You~
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
แอร๊ยยยย...มาถึงเจอตอนจบ
ยังไม่อยากให้จบเลยค่าาาาา
นึกว่าจะมาม่ามากกว่านี้เอาให้พี่โป๊ะกระอักเลือด 5555

ตามอ่านมาจนจบก้อยากจะบอกว่า
ชอบวินมากกกกก ชอบความไม่ใช่นายเอกแบบขนบนิยม
มีความเทาๆอยู่ในตัวแบบที่มนุษย์ทุกคนมี
แต่ก้แฝงไปด้วยความน่ารักแบบอึนๆมึนๆ 555
เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมพี่โป๊ะถึงรัก

ตัวพี่โป๊ะจริงๆก้ชอบนะคะ
คาแรกเตอร์แบบไม่ใช่พระเอกจ๋า
แต่พี่โป๊ะทำให้เห็นถึงพัฒนาการ
เมื่อเวลาเรามีคนรักแล้วพยายามทำอะไรเพื่อเค้าอะ

พร่ำเพ้อซะเยอะเลย แต่ชอบเรื่องนี้มากจริงๆนะคะ
ว่าแต่มีโครงการจะออกเป็นรูปเล่มไหมคะ
ถามเผื่อเรื่องพี่หมอนำกับธามด้วยค่ะ
ถ้ามีนี้ชูปุกหมูเตรียมอุดหนุนเลยค่ะ

หวังว่าจะได้ผลงานเรื่องต่อไปในเร็ววันนะคะ

^________________^

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
ขี้หวงนี่หน่าวิน 5555 ส่วนเฮียก็ได้ใจเลยใจเย้นนเยน ดีแล้วล่ะ บทสรุปของความรักของคู่นี้ก็มาถึงบทสุดท้ายจนได้ อยู่ด้วยกันจนในที่สุด  o13
เสียดายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฉากอัศจรรย์หายยยไปหนายยยยยยยย ขอเป็นตอนพิเศษได้ม๊ายยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
จบแล้ว   :hao5: :hao5:

ยังไม่หายคิดถึงเลย  :m15: :m15:

ออฟไลน์ Ezi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบทั้งพี่โป๊ะ ทั้งวินเลย
เราว่าวินน่ารัก น่ารักในแบบของวิน แบบยังไงดี บอกไม่ถูกแต่เราว่าเค้าน่ารักนะ


พี่โป๊ะคือ ผู้ชายแบบที่สาวหลงนะ กวนๆหน่อย ขี้เล่น เทคแคร์ก้ดี

จบแล้ว ยังไม่อยากให้จบเลย ยังอยากอ่านชีวิตพี่โป๊ะกับวินต่อไปเรื่อยๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ มีหลายๆ อย่างที่ทำให้เราคิดตาม มีแง่คิดบางอย่างที่เราคาดไม่ถึง ให้เราเอาคิดต่อด้วย
จะรออ่านเรื่องต่อๆไปจ้า

ปล. ชอบวิธีการเล่าเรื่องของคุณมากเลย


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด