NOTE : ขออภัยสำหรับคำผิดค่ะ
Chapter 7
ในวันถัดมา ผมไปเรียนปกติ เจอทั้งแสงแดดที่แรงกว่อินเตอร์เน็ตและยังเจอตัวเงินตัวทองยาวสองเมตร ซิกเนเจอร์ประจำมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม จะต่างก็ตรงที่ผมตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะผมไม่ได้นอน คิดเหตุการณ์ของเมื่อวานทั้งคืนเลยน่ะสิ กว่าจะทำใจให้เย็นลงแล้วข่มตาหลับได้ก็เข้าเช้าวันใหม่เข้าไปแล้ว
เมื่อได้เจอเพื่อนทั้งสองคน ผมเล่าเหตุการณ์ต่างๆให้เอมและแม๊กซ์ฟัง พวกนั้นหัวเราะคิกคักกันใหญ่ แถมวันนี้ยังมีสายตาล้อเลียนมีเลศนัยส่งให้มาตลอดทั้งวันจนทำให้ผมแทบเป็นบ้า ยิ่งไปรวมพลังกันอีกยิ่งเป็นบ้าขึ้นไปใหญ่ แล้วยังมีบทสนทนาระหว่างสองคนนั้นที่มักจะเป็นการล้อเลียนผมตลอด จนผมอยากจะฉีกร่างของเพื่อนตัวดีทั้งสองคนเป็นชิ้นๆ!
“น้องใบไม้เจ็บแขนมากไหมครับ”
“ใช่ครับ เจ็บมากเลย”
“โอ๋ๆ งั้นเดี๋ยวพี่จะทายาให้นะ”
“ผมตกใจมากเลย พี่ต้องปกป้องผมนะ ฮึก”
“แน่นอนครับ ขวัญเอ๋ยขวัญมานะน้องคนดีของพี่”
เห็นมะ น่าฉีกเป็นชิ้นๆสุดๆ เพื่อนทั้งสองคนที่เล่นละครสมบทบาทซะเลยเกิน จนกรอกตาใส่เป็นสิบรอบ มองบนอีกสิบห้ารอบ มองค้อนอีกนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้ไปกระตุกต่อมสำนึกแต่อย่างใด แถมยังเพิ่มสกิลการล้อเลียนอีกเนี่ยสิ มันน่านัก!!
ทุกอย่างดำเนินมาแบบปกติทั้งวัน แม๊กซ์กับเอมก็ยังทะเลาะ เถียงกันไปเถียงกันมาตลอด ผมก็ไม่ป่วยทั้งที่ทำใจไว้ว่าอาจจะป่วย อากาศก็ปกติ ไม่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนเมื่อวาน ทุกอย่างปกติมาทั้งวันจนกระทั่งหลังเลิกเรียนที่ใบไม้ได้พบสิ่งที่ไม่ปกติว่า....
พี่จอมทัพไม่สบาย!!
วันนี้ในตอนเย็นหลังเลิกเรียนใบไม้โดนเอมบังคับบวกขู่เข็ญให้ไปที่สนามเตะบอลด้วย หลังจากที่ได้นัดกับเดอะแก๊งค์เสื้อช็อปว่าวันนี้จะมาเตะอีก ด้วยความหวังดี(สุดๆ) ของเอมที่หวังจะให้เพื่อนได้เจอกับคนในดวงใจเลยทั้งลากทั้งขู่ใบไม้ให้ไปด้วย แต่เมื่อไปถึง...ใบไม้ก็ต้องรีบขอตัวกลับทันทีหลังจากได้ยินเตวินพูดว่า
“อ๋อ....ไอ้จอมทัพมันไม่สบาย นอนซมอยู่ที่ห้อง ไม่รู้มันไปตากฝนทำไม ยังไงใบไม้ก็อยู่ห้องตรงข้าม ฝากดูแลมันด้วยนะ” พูดจบก็ยิ้มร่ามาให้เหมือนทุกที แต่พอได้ยินอย่างนั้นใบไม้เลยขอตัวกลับ พร้อมข้ออ้างเหมือนเดิม “เมื่อคืนผมไม่ได้นอนครับ รู้สึกเวียนหัว ขอตัวนะครับ”
ก็เมื่อคืนไม่ได้นอนจริงๆนะ! มัวแต่คิดถึงเหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา อย่างกับเป็นแผ่นซีดีกรอเทปไปมาอย่างนั้นแหละ กลิ่นตัวที่ติดมากับเสื้อก็ติดจมูกทั้งคืนก็ทำให้นอนไม่หลับเหมือนกัน กลิ่นตัวที่ว่านี่ไม่ใช่กลิ่นเหม็นเปรี้ยวนะ! อย่าคิดว่าพี่จอมทัพจะมีกลิ่นตุติดจมูกจนนอนไม่หลับเชียวนะ แค่..แค่..กลิ่นตัวที่ดูเซ็กซี่ดีเท่านั้นเอง พอพูดเรื่องกลิ่น ยัยเอมนั่นก็คิดว่าพี่จอมทัพเหม็นเปรี้ยวรึเปล่า พอบอกว่ากลิ่นเซ็กซี่ก็ล้อผมว่าหื่นอีก ผมเปล่าหื่นนะ จริง จริ๊งงง เสื้อเซ่อสีขาวแนบตัวอะไร ไม่มี๊!
ผมรีบเดินกลับหออย่างรีบร้อน อาจจะมีแวะร้านข้างทางแถวๆหอบ้าง เพื่อแวะซื้อทั้งยาแล้วก็อาหารขึ้นไปให้พี่จอมทัพ ผมอดจะเป็นห่วงแล้วก็รู้สึกผิดไม่ได้ พี่เตวินบอกว่าพี่จอมทัพป่วยจนลุกขึ้นไม่ไหวด้วย และเพราะผมคนเดียวที่ทำให้พี่เขาป่วยแบบนั้น พอเล่าเรื่องต้นเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกผิดขนาดนี้ให้เพื่อนทั้งสองคนฟัง ทั้งเอมและแม๊กซ์ก็ผลักไส ไล่ส่งผม แถมยังตราหน้าว่าเป็นคนอัมหิตอีก มันไม่ขนาดนั้นสักหน่อย อย่ามาว่าสิ
เรื่องเป็นไงมาไงน่ะเหรอ? งั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อวาน หลังเราทั้งสองคนมาถึงหอแล้ว.....
สภาพเปียกปอนของทั้งสองคนที่เดินออกมาจากลิฟต์โดยไร้คำพูดใดๆ ตั้งแต่เข้ามาถึงหอ จนถึงเข้าลิฟต์ ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ร่างเล็กกุมมือตัวเองแน่น ไม่กล้าที่จะหันไปมองคนที่เดินอยู่ข้างๆแม้แต่น้อย ในเมื่อหัวใจที่สั่นไหวอย่างรุนแรงยังไม่สามารถที่จะควบคุมให้มันเป็นปกติเหมือนเดิมได้
เมื่อถึงหน้าห้อง ทั้งสองก็ยืนมองกันแบบนั้นเงียบ คนตัวเล็กที่ดูเหมือนยังไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมามองและพูดกับคนตัวสูงได้ ได้แต่เม้มปากตัวเองและกำมือตัวเองแน่น พลางเหลือบมองร่างสูงที่ยืนมองมาเหมือนจะรอให้ตัวเองพูดอยู่ จะให้เงยหน้าไปมองได้ไง เสื้อนักศึกษาที่เปียกชุ่มจนแนบลู่ไปกับตัวแบบนั้นน่ะ แบบนั้นน่ะ! ให้ตายยังไงก็ไม่เงยหน้าขึ้นไปมองหรอก!!
“หนาวเหรอ?” เป็นคนตัวสูงที่พูดขึ้นมาก่อนเพราะเห็นมือของคนตรงหน้ากำแน่นและริมฝีปากที่เม้มแรงแบบนั้นแต่ก็ยังคงซีดอยู่
“เอ่อ..นิ..นิดหน่อย..ค..ครับ”
“งั้นเข้าห้องไปเถอะ รีบอาบน้ำและกินยาไว้ด้วยนะ” ร่างสูงที่เห็นคนตัวเล็กเปียกเล็กน้อยและยังโดนละอองฝนไปแบบนั้นก็รีบเร่งให้คนตัวเล็กเข้าห้องทันที พูดเสร็จก็หันหลังไปไขกุญแจห้องตัวเองทันที ก่อนจะมีเสียงเล็กที่พูดขัดขึ้นมาก่อน
“เอ่อ..เดี๋ยวก่อนครับ...”
“....??”
“ข...ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไร เข้าห้องเถอะ” ร่างสูงแอบยิ้มกับตัวเองเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตัวเล็กตรงหน้า พูดขึ้นมาทั้งที่หน้าตัวเองยังก้มหงุดมองเท้าตัวเองอยู่แบบนั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไป
“ด..เดี๋ยวครับ!”
“หืม??”
“เสื้อ...เสื้อ..ผมเอาไปซักให้นะครับ” ได้ยินแบบนั้นดวงตาคมก็ละลงมามองเสื้อช็อปในแขนตัวเองที มองคนตัวเล็กที
“ไม่ต้องหรอกพี่ซักเอง”
“ให้ผมซักให้นะครับ!”
เป็นครั้งแรกตั้งแต่ถึงหอที่ใบหน้าเล็กเงยหน้าขึ้นมามองร่างสูงอย่างเต็มตา ก่อนจะรีบก้มลงเมื่อได้สบกับดวงตาคม เห็นอย่างนั้นจอมทัพก็แอบยกยิ้มน้อยๆอีกครั้งเมื่อได้เห็นแววตาดื้อรั้นที่ฉายออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะรีบก้มหลบไป
“ไม่เป็นไรพี่ซักเอง เข้าห้องไปได้แล้ว”
“ไม่ครับ ผม...”
“ดื้อ...ทำไมดื้อ”
เสียงของร่างเล็กขาดหายไปเมื่อได้ยินสิ่งที่ร่างสูงพูดแทรกขึ้นมา และแล้วปากอิ่มก็เบะออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่ององ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ดื้ออีกแล้ว ทำไมต้องมาว่าเราดื้อตลอด แค่..แค่อยากจะเอาเสื้อไปซักให้แทนคำขอบคุณที่สละเสื้อมาคลุมให้เราแบบนี้ ต้องว่าตลอด ตัวเองนั่นแหละที่เอาแต่ใจ ชอบว่าเราดื้อ แล้วยังส่งสายตาดุๆทำเหมือนกับเราเป็นเด็กอย่างนั้นแหละ
“ผมเปล่านะ!..”
“ถ้าเปล่าก็รีบเข้าห้องแล้วอาบน้ำกินยาซะ”
ทำตาดุใส่อีกแล้ว! เชอะ เร่งดีนัก แถมยังดุอีกต่างหาก ทำไมต้องชอบว่าให้อยู่เรื่อย คิดอย่างนั้นร่างเล็กก็สะบัดหน้าใส่ร่างสูง เร่งไขกุญแจแล้วเข้าห้องปิดประตูใส่คนตัวสูงทันที ทิ้งให้ร่างสูงยิ้มขำๆกับท่าทางขัดใจของเด็กดื้อแบบนั้นก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองปิดประตูตามไป
ร่างเล็กถึงแม้จะเข้าห้องปิดประตูไปแล้วก็ยังแอบส่องตาแมวดูร่างสูงกำลังเดินเข้าห้อง และยังทันเห็นรอยยิ้มขำๆนั่นด้วย ปากเล็กเบะขึ้นมาเมื่อคิดไปเองว่าตัวเองคงโดนร่างสูงแกล้งเข้าแน่ๆ แต่ถึงยังไงก็เจ๊ากันละกันนะ กับการที่ทั้งโดนว่าว่าดุ ทำตาดุใส่ แถมแกล้งให้สงสัย ให้ขัดอยู่เรื่อย มือเล็กคว้าสิ่งของที่อยู่ในมือตัวเองออกมาจากกระเป๋าก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อสามารถแกล้งร่างสูงกลับคืนได้
คือเรื่องนี้ตอนแรกใบไม้ก็อยากจะสารภาพกับพี่อยู่หรอกนะ แต่พี่ก็ชอบว่า ชอบดุผมอยู่เรื่อย แถมยังตามใจตัวเองสุดๆ ผมคิดว่า ผมก็ไม่สารภาพดีกว่า ก็จะอะไรล่ะ จะสารภาพว่าจริงๆแล้วใบไม้ก็มีร่มน่ะสิ!
ฮ่าๆๆๆๆๆ พี่จอมทัพโดนใบไม้แก้แค้นแล้ว
นั่นแหละครับ มันทำให้ผมมายืนคอตกอยู่หน้าห้องพี่แบบนี้....
_____________________________________________________________________________________________
ผมยืนช่างใจอยู่ระหว่างหน้าห้องตัวเองกับหน้าห้องพี่จอมทัพมาพักหนึ่งแล้ว ใบหน้าใสหันไปหันมาอย่างใช้ความคิด หรือเราจะเข้าห้องดี? ไม่น่า เราควรรับผิดชอบการกระทำ อืมใช่ งั้นควรไปเยี่ยมพี่จอมทัพ มือเล็กยกขึ้นเตรียมเคาะประตูก่อนจะลดลงมาจกอยู่ข้างตัวอีก แต่มัน..ไม่กล้าอะ มันก็เขินอะ ทำไงดีๆ
“เฮ้อ....”
ใบไม้ถอนหายใจออกมาอย่างแรงอย่างคิดไม่ตก ความคิดทั้งสองอย่างตีกันไปมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆระงับความตื่นเต้นของตัวเอง คือ เข้าห้องคนที่ชอบมันก็ต้องตื่นเต้นกันบ้างปะล่ะ ก้มมองตรวจของในมือไปหลายทีแล้วเหมือนกัน ทั้งสองมือเต็มไปด้วยของของพี่จอมทัพ ทั้งโจ๊กถุง โจ๊กซอง ยาแก้นู่นนี่ ยาอมแก้เจ็บคอก็ซื้อมาหลายรส แผ่นเจลลดไข้ ข้าวผัดกะเพรา แล้วก็ไอศกรีม เอ่อ.... สองอันหลังนั่นของผมเอง
ผมสูดหายใจเข้า..หายใจออก...หายใจเข้า..หายใจออก ไปแบบนี้อยู่หลายรอบ เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!! จนในที่สุดผมก็ยกมือขึ้นเคาะประตูไปสามที ผลที่กลับมา...
อืมม.. เงียบ... หรือจะอาการหนัก ไม่นะ... ใบไม้เบะปาก ผ่านไปพักนึง จึงตัดสินใจเคาะประตูไปอีกครั้ง และ ได้ผล!! มีเสียงตอบรับกลับมา ใบหน้าวิตกกังวลเริ่มหายไป แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนหน้า
“เอ่อ... ผมใบไม้เองครับ”
และมันก็เงียบไปอีก ความกังวลที่หายไปเริ่มกลับขึ้นมาฉายชัดบนใบหน้า ความคิดต่างๆวิ่งแล่นไปมาในสมอง เอ...หรือพี่จอมทัพไม่อยากเจอเรา หรือจะลุกขึ้นไม่ไหว หรือจะเข้าห้องน้ำอยู่ หรือจะ.. หรือ...
ก่อนใบไม้จะคิดอะไรไปมากกว่านั้น ประตูตรงหน้าก็เปิดออก พร้อมใบหน้างัวเงียของจอมทัพที่โผล่ออกมาให้เห็น แต่สิ่งที่ทำให้ใบไม้ยืนนิ่งไปพักหนึ่งนั่นก็คือ.. พี่..จอมทัพ...ใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว! โอ้! มาย! ก๊อด! คือถ้าพี่จะตามสบายกับแขกที่รู้จักกันไม่กี่วันขนาดนี้อะนะ
ผมเข้าใจนะ แต่คิดถึงจิตใจผมบ้างสิ!!! คิดว่าผมจะเป็นยังไงกับการเปลือยท่อนบนของพี่อย่างนี้น่ะ!! ผมยืนจ้องพี่อยู่แบบนั้ เบิกกว้าง สายตาผมไล้ลงมาตั้งแต่ ช่วงไหล่ ช่วงคอแข็งแกร่ง ไหปลาร้า หน้าอก หน้าท้อง ฮืออออ ผมป่าวหื่นนะ ใครเจอแบบนี้ก็ต้องเป็นแบบผมทั้งนั้นแหละ เชื่อสิ! หัวใจผมเต้นรัวขึ้น สัมผัสได้ถึงเลือดร้อนที่สูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้า ดวงตาเริ่มพร่ามัว และร่างทั้งร่างผมก็นิ่งงันจนขยับไม่ได้
คนตัวเล็กยืนนิ่งมองแบบนั้น กับแก้มแดงจัดที่กระจายอยู่เต็มใบหน้าของใบไม้ จอมทัพเลิกคิ้วมองเล็กน้อย ก่อนจะส่งเสียงที่แหบแห้งเพราะพิษไข้เรียกให้คนตัวเล็กได้สติขึ้นมา
“ใบไม้...”
“เอ่อ..ครับ!”
คนตัวเล็กสะดุ้งขึ้นมาได้สติก่อนจะละสายตากับกล้ามเนื้อสวยๆ เอ๊ย ร่างกายท่อนบนของจอมทัพเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าจอมทัพโดยที่พยายามจะไม่มองไปที่ร่างกายแบบนั้นอีกเป็นอันขาด จะมองตรงไหนก็ได้แต่ไม่ใช่ร่างกายแบบนั้น ไม่!! อีกแล้ว!!
“ผม...ได้ยินว่า..พี่ไม่สบาย.. เอ่อ..ผมเลยมาเยี่ยมครับ”
ได้ยินแบบนั้นจอมทัพก็พยักหน้าเบาๆ ของที่เต็มสองมือก็ทำให้จอมทัพเข้าใจว่าคนตัวเล็กมาเยี่ยมจริงๆ พลางมองคนตรงหน้าที่มีแก้มแดง ก้มหน้างุดมองปลายเท้าตัวเองที่ย่ำไปย่ำมาอยู่นั้น และรอยยิ้มของร่างสูงที่ใบไม้ไม่ได้เห็นก็ผุดขึ้น แล้วเปิดประตูให้ออกกว้าง พลางผายมือเชื้อเชิญคนตัวเล็กให้เข้ามา
“เข้ามาสิ”
คนตัวเล็กมองไปรอบๆห้องอย่างสำรวจ ในห้องดูจะอบอ้าวกว่าข้างนอกเล็กน้อยและดูอึมครึมกว่า ดูได้จากหน้าต่างกับม่านที่ปิดสนิท แอร์ไม่ได้เปิด พัดลมก็เปิดส่ายไปมาแค่นั้น คงรักษาอุณภูมิเพราะป่วยอยู่ล่ะมั้ง มีตู้เย็น ไมโครเวฟ ทีวี อืม ก็ถือว่าครบอยู่แฮะ บนโต๊ะมีกองเอกสารและหนังสือที่จัดวางไว้ลวกๆ ตะกร้าเสื้อผ้าที่อยู่ข้างตู้เสื้อผ้า เอ๊ะ..ตรงนั้น และใบไม้ก็หน้าแดงอีกครั้งเมื่อหันไปเจอกางเกงในที่ม้วนเป็นเลขแปดที่กระเด็นออกมาอยู่นอกตะกร้า!
อืม...พี่คงเป็นกันเองจริงๆนั่นแหละ
ใบไม้ยืนเคว้งอยู่กลางห้องอย่างทำอะไรไม่ถูก มองจอมทัพที่เดินเอื่อยๆไปเปิดแอร์ หยิบเสื้อแขนยาวที่พาดอยู่กับเตียงมาใส่ ก่อนจะเดินมาล้มตัวนอนห่มผ้าห่มบนเตียงหลังใหญ่ที่วางอยู่มุมห้อง พร้อมกับใบหน้าเหยเกและมือที่คลึงขมับ ก่อนใบไม้จะตัดสินใจ เอาไอศกรีมของตัวเอง เอ่อ.. ที่ละลายไปเยอะแล้ว และเจลลดไข้ไปใส่ในตู้เย็น วางถุงยาถุงอาหารไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ก่อนจะทำใจกล้า ค่อยๆลากเก้าอี้ไปนั่งที่ข้างเตียงอย่างเบามือ
“พี่...ปวดหัวมากเลยเหรอครับ” จอมทัพปรือตาขึ้นมามอง พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหลับตาลงไปอีกครั้ง
“พี่กินยาหรือยังครับ” พี่จอมทัพพยักหน้าให้เบาๆ
“แล้วข้าวละครับ กินรึยัง”
“ยังเลย” เสียงแห้งๆที่ตอบกลับมานั่นไม่ได้ทำให้ใบไม้หงุดหงิดเท่ากับคำตอบของร่างสูงที่ทำให้ใบไม้ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“แล้วพี่ก็กินยาไปทั้งที่ท้องว่างๆเหรอครับ” จอมทัพลืมตาขึ้นมองใบไม้ที่เสียงแข็งขึ้นมาเล็กน้อย ใบหน้าบึ้งๆนั่นทำให้ร่างสูงยิ้มบางๆตามประสาคนยิ้มยากขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ทำให้ใบไม้ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก
“พี่จอมทัพต้องกินข้าวด้วยนะครับ”
“ได้สิ มีอะไรให้พี่กินล่ะ”
จอมทัพระบายลมหายใจออกมาแล้วก็ตอบกลับไปแบบนั้น นั่นทำให้ใบไม้ยิ้มกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างสูงตอบรับแล้วค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมานั่งพิงหัวเตียง ก่อนจะรีบเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ โดยมีร่างสูงที่มองตามไปพร้อมรอยยิ้ม มองคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้อยู่ จัดการเทโจ๊กลงถ้วย แล้วพูดจ้อไม่หยุด
“คิดว่าพี่คงจะยังกินอะไรไม่ค่อยลงแน่ๆ เลยซื้อโจ๊กหมูมา ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ คนเยอะทุกวันเลย ผมก็ชอบกิน ไม่ใส่ขิงกับต้นหอมผักชีด้วย เพราะผมก็ไม่รู้ว่าพี่จะกินได้หรือเปล่า ผมซื้อโจ๊กสำเร็จรูปมาให้ด้วย เผื่อครั้งหน้าพี่ยังลุกไม่ไหว แต่อย่างน้อยก็ยังมีโจ๊กซองให้กินนะ ยาอมแก้เจ็บคอก็มี ผมซื้อมาหลายรสเลย มีทั้ง...”
จอมทัพมองคนที่พอให้ทำอะไรตามใจก็พูดจ้อไม่หยุดแบบนั้นด้วยรอยยิ้ม คงจะชอบให้ตามใจสินะ ถ้าไม่ตามใจก็จะหน้าบึ้ง เบะปากใส่ พอทำหน้าดุก็ใบไม้จะหน้างอขึ้นไปอีกแล้วก็จะหลบหน้า จากการสังเกตมาเมื่อวาน คนตัวเล็กทั้งดื้อ ขี้สงสัย และก็ชอบให้ตามใจด้วย
“พี่กินโจ๊กไปก่อนนะ ถ้าหายเมื่อไหร่เดี๋ยวผมจะเลี้ยงข้าวเอง”
“หืม.. ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก”
ร่างสูงเลิกคิ้วเล็กน้อย มองคนที่ค่อยๆเดินประคองถ้วยโจ๊กมาให้แล้วมานั่งข้างๆเตียง วางถ้วยโจ๊กลงบนโต๊ะที่ตั้งไว้ชิดหัวเตียงแล้วก้มหน้าลง ประสานมือไว้บนตักพร้อมปากอิ่มที่เม้มแน่นและใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
“คือจริงๆผมรู้สึกผิด เลยอยากจะเลี้ยงข้าวขอโทษ” นั่นทำให้ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างงงๆ
“ทำไมต้องขอโทษ ไม่สบายเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หาย”
“ไม่..ไม่ใช่หรอกครับ”
“แล้ว??..”
“คือผมมีเรื่องอยากจะสารภาพ คือ..คือ...เมื่อวานน่ะ จริงๆแล้ว...ผม..ผ..ผมมีร่มอยู่”
เงียบ... ห้องทั้งห้องเงียบลงไปทันทีที่ใบไม้ตัดสินใจสารภาพออกไปตรงๆ ใบไม้ก้มหน้างุด ยี๋ตาลงเมื่อไม่มีเสียงตอบรับกลับมา แม้กระทั่งเสียงหายใจก็ไม่ได้ยิน ... ฮึก พี่อย่าโกรธผมเลยนะ ผมไม่ตั้งใจจริงๆนะ ผมเม้มปากแน่น หัวใจที่เต้นรัวมันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความเขิน แต่มันเกิดขึ้นเพราะความกลัว ผม..ขอโทษนะท่านเดวิด ผมทำให้พี่ไม่สบายและโมโหแบบนี้
“ผม... ผม..ขอโทษครับ.. ผมไม่ได้ตั้งใจแกล้งพี่นะ..”
ถึงจะพูดไปแบบนั้นก็ทั้งห้องก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม ใบไม้สูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ รวบรวมความกล้า ค่อยๆเงยหน้ามองร่างสูงที่มองกลับมานิ่งๆ ปกติก็นิ่ง แต่มันไม่ใช่แบบนี้ ผมสัมผัสได้ว่ามันมีประกายแห่งความโมโหฉายออกมา
“แกล้งพี่งั้นเหรอใบไม้...”
ฮึก! พี่ต้องโมโหผมแน่ ใบไม้ย่นคอลงเมื่อยินเย็นชาแบบนั้น เบะปากทำท่าทางจะร้องไห้ออกมา ผมอยากจะร้องไห้จริงๆนะ! ไอบางอย่างที่มันแผ่ออกมาจากตัวพี่มันทำให้ผมยากจะร้องไห้ ฮือออ อย่าโกรธผมเลยนะครับ อย่าทุ่มผมลงพื้น อย่าจับผมถ่วงน้ำเลยนะ คนตัวเล็กก้มหน้าลงภาวนาในใจเงียบๆไปคนเดียว ก่อนจะเสียงคนตรงหน้าทำให้ใบไม้เงยหน้าขึ้นมอง
“ทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ”
“....??...” ร่างสูงมองร่างเล็กที่มีดวงตาฉ่ำเคลือบไปด้วยน้ำตา คิ้วที่ขมวดแล้วเอียงคอมองมาอย่างสงสัยแล้วยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่ทำให้ใบไม้เบิกตาขึ้นอย่างหวาดกลัว
“หึ...เราเริ่มจากอะไรดีล่ะ”
พี่ต้องจับผมถ่วงน้ำแน่ๆ!! ฮือ..ทำยังไงดี
____________________________________________________________________
Talk : พี่คิดจะทำอะไรน้องคะตอบบบบบบ
นิสัยที่เก็บไว้ของพี่นี่เริ่มออกมาแล้วนะคะ
ความจริงไม่ได้เป็นแบบที่เห็นเสมอ 5555555
น้องแกล้งพี่นิดเดียว เรื่องแค่นี้ทำไมต้องให้น้องกลัวด้วยไม่รู้เนอะ
เพราะอะไรนะพี่จอมทัพพพ
ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์และขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ