EP.36 เธียนวิชญ์X กันต์ธีร์ ข้อตกลง
Part’ s กันต์ธีย์ หลังจานทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ผมก็อุ้มเจ้าตัวเล็กไปส่งอาม่าของพี่เธียร ผมรู้ว่าใครหลายคนอาจจะมองว่าผมใจร้าย ที่เลือกพี่เธียรวิชย์ เหตุผลมันมากมายเหลือเกิน แต่ที่ผมเลือกเหตุผลหลักๆ คือ เขาคือพ่อของลูกผม และเขาขอโอกาสเพื่อจะได้ทำหน้าที่พ่อให้ลูกชายของผมกับเขา ผมยอมรับว่าผมเริ่มใจอ่อน เมื่อได้เห็นใบหน้าเจ้าลูกโซ่ที่มองเขาราวกับว่าผูกพันมานาน นี้ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าสายใยแห่งรัก เส้นตายที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแต่สัมผัสได้ด้วยใจ แต่ผมยังมีอีกเหตุผลที่สำคัญมากๆ ผมว่าเหตุผลนี้มันควรจะเป็นอาจารย์กันตภณเท่านั้นที่รู้ ว่าทำไมผมไม่เลือกเขาที่ดีพร้อมมากกว่า
“เอาไว้อาม่ามาเยี่ยมอีกน่ะ” อาม่าบอกผม
“มาอีกเมื่อไหร่อ่ะอาม่า” เฮียธันถาม
“พรุ่งนี้” อาม่าพูด
“อาม่า!!”
“ก็มาเยี่ยมอีกไง พรุ่งนี้อ่ะ” อาม่าพูด
“ม๊า ยิ่งเดินไม่ค่อยจะไหวอยู่ วันหยุดให้อาเธียรพาไปที่บ้านอาม่าแล้วกัน “ม๊าบอกอาม่า
“พาไปนะ ไม่พาไปน่ะ มึงโดน ไอ้เธียร!!” อาม่าพูด ก่อนจะขึ้นรถเฮียธีไป เฮียธีจะไปส่งพี่มิว แฟนสาวของเขาและกลับคอนโดตัวเองด้วย พี่ธีเขานอนคอนโดตัวเอง เพราะว่าใกล้ที่โรงเรียนที่พี่เขาดูแลที่สุด ส่วนพี่ธันก็นอนบ้างไม่นอนบ้าง พี่ธามจะนอนคอนโดเฉพาะคืนวันศุกร์เสาร์และอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี นอนบ้านกัน
“พาลูกไปนอนได้แล้วเธียร ดูซิ ตาปรือแล้ว” ม๊าหันมาบอกพี่เธียร
“ครับม๊า” พี่เธียรหันไปบอกม๊าก่อนจะหันมาพยักหน้ากับผม คนใช้ก็โบกมือโบกมือไม้ให้เจ้าลูกโซ่กันใหญ่ ผมยอมรับว่าอาม่าทำให้ผมคิดถึงยายของผมมาก ท่านรักและเป็นห่วงผม แต่แปลกที่ญาติพี่น้องแม่ผมเขาไม่อยากรับผมเลยสักคน อาจจะเป็นเพราะว่าพ่อผมไม่ค่อยช่วยเหลือทางการเงินเหมือนครอบครัวคนอื่นที่เขาได้สามีเป็นคนต่างชาติและมีบ้านใหญ่โต เหมือนคนอื่นๆ ที่ได้แต่งงานกับสามีต่างชาติ
“บีมอาบน้ำก่อนไหม พี่ดูลูกให้ก่อน” พี่เธียรบอกผม ผมพยักหน้า และพี่เธียรเขาก็ส่งชุดนอนของเขามาให้ผม
“ชุดใหม่ครับ” พี่เธียรพูด
“ไม่ได้ว่าอะไรนี่ “ผมพูดและแอบอมยิ้ม
“บีม เดี๋ยวพี่มาน่ะพี่ไปคุยกับเฮียธันแป๊บหนึ่ง” พี่เธียรพูดก่อนจะอุ้มเจ้าลูกโซ่ไปด้วย ผมหันไปเห็นภาพที่เหมือนจะคล้ายกันแต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกั้น คือภาพที่พี่กันตภณอุ้มเจ้าลูกโซ่กับพี่เธียรวิชย์ผู้ชายที่ทำให้ผมมีลูกโซ่ มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัดตรงรอยยิ้มของลูกโซ่ที่ดูมีความสุข
“ไปเราไปหาแปะธันดีกว่า ไปอ้อนแปะธันซื้อรถแข่งให้ดีกว่า” พี่เธียรเขาบอกลูกชายเขา ผมคิดว่าผมควรจะเลือกได้แล้ว ผมนึกในใจถ้าผมเลือกผิดล่ะแต่ว่ารอยยิ้มของลูกโซ่ที่มีให้พี่เธียรวิชย์ มันทำให้ผมตัดสินใจ
//ฮัลโหลครับน้องบีม//ผมกดโทรหาพี่หมอภีมปภพ ผมมีเบอร์เขาแต่ผมมักจะให้พี่กันเป็นคนโทรทุกครั้ง
//พี่หมอครับ ผม”
// พ่อลูกเขาเจอกันแล้วเหรอครับ//
//พี่หมอรู้ได้ยังไงครับ//
//พี่ไปหากันมาเมื่อสามวันก่อน พี่เจอหลานของกันเขาเข้า คนที่ชื่อเธียรวิชย์น่ะ และพี่ก็ยอมรับว่าพี่ตกใจที่เห็นใบหน้าของเขาและสิ่งที่พี่นึกถึงคือลูกโซ่ //
//ครับพี่หมอ แต่ผมไม่รู้มาก่อน //
//แล้วกันล่ะ //
//พี่กันเขาออกไปแล้วครับ แต่ผมได้ยินอาม่า ม๊าของพี่กันบอกว่าพี่กันไม่ได้กลับบ้าน ผมอยาก….///
//พี่ดูแลเอง พี่รู้ว่ากันมันไปไหน//
//ขอบคุณนะครับพี่หมอ//
//พี่เข้าใจเหตุผลของบีมน่ะ//
//แค่นี้ก่อนนะครับ //
//โอเคบีม มีอะไรปรึกษาพี่ได้น่ะ พี่ยินดี และอย่าลืมพาเจ้าลูกโซ่มาฉีดวัคซีน 8 เดือนด้วยน่ะ //
//ครับพี่หมอ ขอบคุณครับ// ผมกดวางสายจากพี่หมอภีมปภพ ก่อนจะรีบเข้าห้องน้ำอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมเอาเสื้อผ้าพี่เธียรวิชย์มาใส่ มันก็จะหลวมโครงไปสักหน่อย พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นเจ้าลูกโซ่ที่พี่เธียรวิชย์อุ้มมา น้ำตาเอ่อมาด้วย
“พี่ไม่รู้ เล่นกับเฮียธันอยู่ดีดี ก็ร้องไห้จ้าเลย พี่ปลอบเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเงียบเนี๊ยะบีม” พี่เธียรวิชย์พูดด้วยสีหน้ากังวลที่เห็นเจ้าลูกโซ่ร้องไห้ ที่สะอึกสะอื้น
“ฮือๆๆ”
“เป็นอะไรล่ะบอกป๊าซิ ป๊าไม่รู้ หึ เจ้าก้อนเต้าหู้ของป๊า” พี่เธียรวิขย์พยายามปลอบโยนและเรียกลูกผมว่าก้อนเต้าหู้อีก ผมหันไปเหล่ตามอง
“พี่ชอบทานเต้าหู้มาก และลูกพี่ก็ขาวจั๋วเหมือนก้อนเต้าหู้เชียว” พี่เธียรวิขย์พูด ผมเหลือกตาขึ้นมองบนทีหนึ่ง เหมือนตรงไหน???
“น้องน่าจะหิวนมน่ะพี่เธียร เดี๋ยวผมจะลงไปชงนมให้น่ะครับ “ผมพูดและรีบเดินลงไปชั้นล่างทันที ผมเดินไปจัดการประกอบขวดนมที่ผมล้างและใส่เครื่องนึ่งขวดนมที่พี่มิวเอามาให้ ปกติผมใช้ที่นึ่งใส่ไมโครเวฟเอา แต่อันนี้สะดวกกว่า ผมรีบประกอบขวดนมแข่งกับเสียงร้องเจ้าลูกโซ่ที่ร้องไห้ เพราะว่าหิวนม ดูท่าแล้วพี่เธียรจะเอาไม่อยู่ บทจะหิวก็หิว ผมก็รีบวิ่งขึ้นมาบนบ้านทันที ภาพที่ผมเห็นมันทำให้ผมรู้ว่าผมคิดถูกแล้วที่เลือกคนที่นี้ ทั้งป๊าและม๊าของพี่เธียร พี่ชายของพี่เธียรก็พากันออกมา ช่วยปลอบโยน ช่วยหลอกล้อ ให้หยุดร้อง
“ร้องทำไมละลูก มาเล่นกับ…” พี่ธามพูดแต่ว่าหันไปชำเลืองมองป๊าของพี่เธียร
“แปะลูก เรียกน่ะแปะนะลูกน่ะ” พี่ธามพูด
“แหง๋ๆ” ยังคงร้องไห้จ๋าเลย นมก็ยังอุ่นเกินไป ผมวิ่งเข้าไปเปิดน้ำเพื่อจะได้คลายความร้อนออกไปบ้าง ผมได้ยินเสียง ทุกคนกำลังพยายามหลอกล้อลูกโซ่
“มาหาอาม่าลูก ร้องทำไมลูก ไม่ร้องลูกน่ะ นี่ๆ ดูนี่ อากงลูก อากงก็อยู่ลูก ไม่ร้องลูก” ม๊าของพี่เธียรอุ้มอยู่ ผมเดินมาหยุดมอง แต่พอหันมาเห็นขวดนมนี้รีบกางมือมาทันที
“หิวนม!!” บรรดาลุงๆ พูดออกมาพร้อมกัน และเจ้าลูกโซ่ก็รีบรับขวดนมไปจากผมทันที
“เอาล่ะเข้าห้องได้แล้วมั้ง หลานจะได้นอน ร้องแบบนี้ง่วงมากแล้ว” ม๊าพูดและส่งเจ้าลูกโซ่มาให้ผม
“แต่ก็ดีน่ะ บ้านเงียบมานานน่ะป๊าตั้งแต่ ลูกๆ เราโตกันหมดน่ะ” ม๊าพูดก่อนจะหันมายิ้มให้ผม และผมก็พาเจ้าลูกโซ่ที่หิวน่าดูแลประกอบกับง่วงนอนมากด้วย เข้าไปในห้องนอน ผมรีบเอาขวดนมจ่อปากเจ้าลูกโซ่ทันที
“พี่อาบน้ำก่อนน่ะ ม๊า” พี่เธียรวิชย์บอกผม ผมหันไปมองคนที่กำลังถอดแหวนถอดนาฬิกาออกและกำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแต่ว่าผมรู้สึกแปลกๆ ตรงที่เขาเรียกผมว่าม๊า มันแอบรู้สึกดี เหมือนเวลาที่แด้ดแทนตัวเองว่าแด้ดและเรียกแม่ผมว่ามัม
“ก็ไปอาบซิ “ผมพูดและพยายามไม่มองคนที่กำลังถอดเสื้อเชิ้ตออก มันเผยให้เห็นผิวขาว รูปร่างที่ดูสมส่วนแม้จะไม่มีมวลมัดกล้ามเหมือนหนุ่มเล่นกล้ามก็ตาม
“เพื่อว่าลูกหลับจะแอบเข้ามาดูพี่ก็ได้น่ะและพี่ไม่ชอบล๊อกประตูห้องน้ำ” และคนที่ถอดทุกอย่างออกหมดแต่โชคดีที่เอาผ้าขนหนูมาพันกายไว้แบบหมิ่นๆ
“จ้างให้ก็ไม่ไปดูต่อให้เปิดประตูเอาไว้ก็เถอะ!” ผมพูดโดยไม่ได้มองหน้า แอบค้อนด้วย และแอบคิดจะไปดูทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อยแค่แม่ของลูกชิส์! ผมป้อนนมเจ้าลูกโซ่จนหมดขวดแต่ก็ยังไม่ยอมหลับ แถมยังแหวกเสื้อผมเพื่อจะหาเต้าแบนๆ อีกแล้ว ผมก็หันซ้ายแลขวา คงจะไม่มีใครเปิดประตูเข้ามาน่ะ
“จริงอ่ะ” ผมถามลูกโซ่ เจ้าก้อนเต้าหู้ที่ป๊าเขาเรียก ก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าผมทำตาปริบๆ อีก
“ทำแบบนี้มี้ใจอ่อนอ่ะดิ’ ’ ผมบอกเจ้าลูกโซ่ ก่อนจะมองคนที่อยู่ในห้องน้ำ คงยังไม่เสร็จหรอกมั้ง เอาว่ะเดี๋ยวลูกไม่หลับ และผมก็จัดการถลกชายเสื้อขึ้นไป หนึ่งข้างและเจ้าลูกโซ่ก็รีบหมุดหัวเข้าไปอ้าปากงับจุดสี่ชมพูดเรือๆ ของผมดูดอย่างเมามันอีกครั้ง และทำตาปรือเหมือนจะหลับแต่จู่ๆ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก พี่เธี่ยรวิชญ์ และคนที่ตกใจก็คือพี่เธียรวิชญ์
“เฮ้ยยย!!!” ถึงกับผงะไปทันที ผมแค่หันไปชำเลืองตามองพร้อมกับทำนิ้วจุ๊ปากด้วยว่าอย่าเสียงดัง พี่เขาก็ปิดปาก และคนที่นอนมุดหน้ากับอกแบนๆ ของผมที่ตอนแรกกำลังตาปรือเลยเชียว ก็ตาโพลงขึ้นมาอีกและหันไปเอียงคอมอง ป๊าตัวเอง
“เอาจริงดิ” พี่เธียรวิชญ์เขาชี้มาที่เจ้าลูกโซ่ ก่อนจะเดินมานั่งบนเตียงอีกฝั่งตรงข้ามกับผม
“ก็ใช่ไง ไม่อย่างนั้นเขาไม่นอน “ผมหันไปบอกคนข้างๆ
“เออ มี เออ มี “ยังทำมือชี้ตรงอกแบนๆ ของผมด้วยน่ะ
“ไม่มีแล้ว เมื่อก่อนมี แต่มีนิดเดียว และใช้ผมเป็นผู้ชายที่ให้พยายามให้นมลูกไง “ผมตอบผมเข้าใจว่าพี่เขาคงหมายถึงน้ำนมละซิ
“ก็เห็นอยู่น่ะว่ามี นิดเดียว” คนข้างๆ ผมพูดและชี้มาที่อกแบนๆ ของผม
“ผมหมายถึงน้ำนมน่ะมีนิดเดียว “ผมหันมาพูดและถลึงตาใส่คนพูดด้วย
“แม้ทำเป็นผู้หญิงไปได้ พอบอกนมเล็ก ทำหน้างอนเชียว” พี่เธียรพูดปนหัวเราะ ผมหันมาค้อน ก่อนจะหันมาตบก้นเจ้าลูกโซ่ จะได้หลับ ว่าแต่ผมจะนอนยังไง จะนอนเตียงเดียวกันอย่างนั้นเหรอ ไม่ดีมั้ง ผมคิดว่าจะลงไปนอนพื้นดีกว่าและพื้นก็มีพรมหนาอยู่ ส่วนเจ้าลูกโซ่ให้นอนบนนี้แหละ ผมเอามือลูกใบหน้าหล่อๆ นั้น ขนตาที่งอนยาว และเสียงดูดเต้าผมดังจ๊วบๆ ไปด้วยก่อนจะหันมาเจอสายตาคนที่ชะโงกหัวมอง เต้าผมแบบใกล้ชิด
“เฮ้ย!! มองอะไรน่ะ” ผมรีบหนีบเจ้าลูกโซ่ เข้าหาอกของผมทันที
“ก็มองลูกดูดไง”
“ไม่เคยเห็นหรือไง”
“เคยเห็นแต่เต้ากลมๆ นมเด็งๆ แต่อันนี้ไม่เคยอ่ะ แบนแต่ดูเร้าใจน่ะ “คนที่พูดก็ยังชะเง้อคอมองอยู่นั่นแหละ ส่วนเจ้าลูกโซ่ก็ดูดไม่ปล่อยเลย จนผมเองต้องดันหน้าป๊าจอมหื่นนี่ออก
“มีสองข้างเนอะ” คนข้างๆ ผมพูด “หึ??? “ผมหันมามองคนที่พูด
“แล้วใครมีข้างเดียวล่ะ ถามแปลกๆ” ผมหันมาถามยังชะเง้อมองอีก
“ต้องดูดแบบนี้ด้วยเหรอ ถึงจะหลับอ่ะ” พี่เธียรถามผม ผมพยักหน้าและก้มลงมองเจ้าลูกโซ่ที่หลับแต่ยังดูดไม่ยอมปล่อย
“มีตั้งสองข้างอ่ะ แบ่งมาสักข้างได้ไหมอ่ะ นอนไม่หลับเหมือนกัน” ผมหันมามองคนข้างๆ กี่ขวบแล้ว เขาก็มองผมทำหน้าตาออดอ้อน
“ก็แค่ถามดู และพี่รู้สึกช่วงนี้พักผ่อนน้อย นอนไม่ค่อยหลับไง เลยอยากมีตัวช่วยบ้าง “คนข้างผมพูด ผมหันไปมอง
“ตลกบริโภคแล้ว นอนไปเลย “ผมหันมาชี้หน้า
“แค่นี้ก็ดุด้วยอ่ะ”
“นอนไปเลย ทะลึ่งจริงๆ เพี๊ยะ!”
“เอ้าท์” ร้องเสียงหลงเลยผมตีที่ต้นแขนคนข้างๆ พี่เขาก็ค่อยๆ เอนตัวลงนอน ส่วนเจ้าลูกโซ่ ก็อ้าปากปล่อยจุกสีชมพูเรือของผม ผมก็รีบเอาชายเสื้อลงทันที ผมหันมาเห็นพี่เธียรวิชย์เขานอนดูทีวีอยู่ ผมก็เลยหยิบหมอนลงไปวางไว้ที่พื้น ผมขอแม่บ้านเอาไว้ คือผ้าห่มพื้นเล็กๆ พี่เขาก็เลยเอามา เขาคงคิดว่าผมเอาไว้ให้น้องลูกโซ่
“ทำอะไรน่ะบีม” พี่เธียรวิชย์ถามผม
“ผมก็นอนไง”
“ทำไมไม่นอนบนนี้ด้วยกันล่ะบีม”
“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ทำไมผมต้องนอนบนนั้นกับพี่ ผมให้ลูกนอนคนเดียวพอแล้ว” ผมพูดก่อนจะเอนตัวลงนอน แต่คนบนเตียงก็ไม่ได้พูดอะไร
ผมขอหมอนมาเพิ่มหลายใบอยู่เพื่อกันไม่ให้เจ้าลูกโซ่ดิ้นลงมา แต่ดิ้นมาก็เจอผมอยู่ดี เสียงทีวีเงียบไปแล้ว พี่เธียรเขาปิดทีวีเรียบร้อยแล้วเตรียมเข้านอน ตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด ผมก็ทำได้แค่ชะเง้อคอไปดูเจ้าลูกโซ่ที่นอน หลับปุ๋ย และพี่เธียรวิชญ์ก็หลับแล้ว ผมทิ้งตัวลงนอน ผมเองก็พยายามข่มตาให้หลับ จะด้วยแปลกทีก็ใช่ แล้วเราจะอยู่กับด้วยสถานะอะไร แค่พ่อแม่ของลูกใช่ไหม ผมเห็นสีหน้าแววตาของผู้หญิงคนนั้น เขาดูเสียใจ เป็นใครก็เสียใจ ที่มีคนมาฉกเอาของรักของหวงไปแบบนี้ ผมนอนตะแคง คิดอะไรเพลิน จู่ๆ ก็มีคนลงมานอนข้างหลังผม
“เฮ้ย!!” ผมหันมามองคนที่ลงมานอนแทรกระหว่างผมกับที่นอน
“พี่ลงมาทำไมอ่ะ” ผมถามพี่เธียร
“ก็ไม่ยอมขึ้นไปนอนด้วยนิ “พี่เธียรพูด
“ไม่อ่ะ ขึ้นไปนอนเลยน่ะ “ผมพูดและหันหน้าหนี ผมพยายามขยับหนีแต่โดนดึงรั้งเอาไว้
“หมับ” เขากอดผมจากด้านหลัง ผมพลิกตัวหันมามอง มาไม้ไหนอีกเนี๊ยะ!
“ก็อยากรู้”
“อยากรู้ว่า” ผมพลิกตัวหันมาถามคนข้างหลัง
“วันนั้นพี่ทำยังไง “ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าทำยังไง
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาเบา เพราะคนที่นอนตะแคงรวบเอวผมโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ริมฝีปากอวบอิ่มครอบลงที่ริมฝีปากบางๆ ของผม ผมก็พยายามทุบหน้าอกให้หยุด แต่ก็ไม่กล้าส่งเสียงร้องดังเพราะกลัวเจ้าลูกโซ่จะตื่น ถ้าตื่นมานี้ร้องยาวเลย และคนที่จูบผมก็ไม่ยอมหยุดซะด้วยน่ะ มือไม้ก็ลูบไล้ไปเรื่อย ผมต้องปล่อยให้ทำไปสักพัก ผมหยุดดิ้น คนที่จูบผมก็เริ่มได้ใจ เริ่มได้ใจบดขยี้ริมฝีปากอย่างเมามัน
“เห็นลูกดูดอ่ะ ขอมั้งดิ” ไม่พูดเปล่าถลกชายเสื้อขึ้นมาและทำท่าจะครอบปากลงที่สองจุดสีชมพู ผมก็ช้อนตามอง หน้าคนหื่นคงได้ใจคิดว่าผมคงอ่อนระทวยไม่ยอมดิ้นต่อต้านใช่ไหม
“ผลัก!” ผมตีเข่าเข้าตรงพิกัดนั้นเต็ม
“โอ้ววว โอ๊ยย อู้ด บีม”
“ชู้!!” เดี๋ยวลูกก็ตื่นหรอก ผมทำหน้าดุ “อย่าร้องดัง เดี๋ยวลูกตื่น” ผมพูดและทำหน้าดุใส่ คนที่นอนดิ้นกุมเจ้าโลกเอาไว้ไปมา
“ก็ตีเข่า ใส่ ลูกคนโต พี่ทำไมอ่ะ โอ๊ยยย เจ็บ”
“ทะลึ่งหนักนิ และหื่นกามไม่รู้เวลาล่ำเวลาเลย “ผมดันตัวเองขึ้นนั่งมองคนที่นอนตัวงอ
“รู้ไหมว่าพี่เคยผ่าไส้เลื่อนตอนเด็กๆ น่ะบีม” พี่เธียรพูด ผมก็ตกใจซิ
“จริงอ่ะ เฮ้ย! ผมขอโทษ “กลายเป็นผมเองที่ รู้สึกผิด ผมพูดและคนที่นอนตัวงอหรี่ตามองผม ผมเข้าไปสะกิดว่าเป็นไงบ้างล่ะ
“เจ็บมากไหมอ่ะ ผมไม่ตั้งใจอ่ะ “ผมพูดอย่างคนที่รู้สึกผิดจริงๆ
“นี้ขนาดไม่ตั้งใจน่ะ ยังเข้ามาเต็มประตูขนาดนี้ โอ๊ยย! จุกเลยเนี๊ย” พี่เธียรวิชย์พูด
“แล้วใครให้ลงมาล่ะ หื่นนี่ ผมมานอนเพราะลูกน่ะ ไม่ได้มานอนเป็นตัวช่วยบรรเทาอารมณ์หื่นกามของพี่น่ะ” ผมพูด
“ก็ทำหน้าที่ พ่อของลูกไง” ยังมาแถอีก
“ก็นอนกับลูกไปซินั่นแหละหน้าที่พ่อของลูก” ผมพูดและโบ้ยปากไปที่ลูกโซ่ที่นอนกางแขนกางขายึดที่นอนอยู่นั้น
“ลูกหลับแล้ว หน้าที่พ่อของลูกก็คือสามี สามีเขาก็ต้องเล่นจ้ำจี้กับภรรยาไม่ใช่เหรอ” พี่เธียรพูด ยิ้มกริ่มให้ผมด้วยแสดงว่าดีขึ้นแล้วและไม่ได้เจ็บอะไรมาก
“ไม่ ไม่ และก็ไม่ ขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย” ผมชี้นนิ้วไล่คนที่นอนตะแคงหันมามองผม
“ใจร้ายจังเลยอ่ะ “คนที่นอนแผ่ข้างๆ มองผม ผมเหลือกตาขึ้นมองบนก่อนจะหลุบตาลงมองคนข้างๆ
“พี่ผิดมากเลยเหรอครับจนบีมให้อภัยพี่ไม่ได้ และนี้พี่ยอมรับผิดแล้วอ่ะ บีม” เบื่อจริงๆ มิน่าล่ะลูกโซ่มันได้ระบบขี้อ้อนนี้มาจากใคร พ่อมันนี้เอง ผมแอบคิดในใจ
“ก็ลงมานอนพื้นทำไมอ่ะ รังเกียจพี่เหรอ” พี่เธียรเขาถามผม
“ไม่ได้รังเกียจแต่แค่ ผมยังไม่เคลียร์หลายเรื่องอ่ะ เลย ยัง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งที่สุด
“เรื่องอะไรบ้างล่ะ” พี่เขานอนตะแคงและเอามือมายันศีรษะมองผม
“หนึ่งเรื่องสถานะเพราะว่าเรายังไม่ได้รักกัน” ผมพูด
“พี่ต้องพยายามทำให้บีมรักพี่อย่างนั้นเหรอ” พี่เธียรวิชญ์ถามผม ผมหันไปมองพี่เขา
“มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นน่ะ “ผมพูด
“สอง เรื่องผู้หญิงของพี่ “ผมพูด พี่เธียรวิชญ์เปลี่ยนท่ามาเป็นนอนตะแคง
“แพรวานะเหรอ? นี่หึงพี่เหรอ” พี่เธียรวิชย์ถาม มุมปากนั้นกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม แต่ผมหันมากอดอกมอง
“ไม่หึงก็ไม่หึง” พี่เธียรพูด
“เวลาทำตาดุนี้น่ากลัวเหมือนกันเลยน่ะ แม่กับลูกนี่” พี่เธียรพูดและแอบหันไปมองเจ้าลูกโซ่
“พี่น่ะไม่เคยคิดอะไรกับแพรวาเกินไปกว่าน้องสาว ส่วนแพรวาก็เป็นเด็กเอาแต่ใจเพราะว่าเป็นลูกคนเดียวของเพื่อนพ่อพี่อีกที ครอบครัวของแพรวากับครอบครัวพี่สนิทกันมาตั้งแต่รุ่นอากงแล้ว เรียกได้ว่าก่อตั้งโรงเรียนมาด้วยกันแต่จู่ๆ อากงของแพรวาก็ถอนตัวและถอนหุ้นออกไปแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน “พี่เธียรพูด
“อากงแพรวาเขาเสียชีวิตก่อนอากงของพี่ห้าปี ส่วนอากงพี่น่ะเสียชีวิตไป” พี่เธียรพูด
“เมื่อห้าปีที่แล้ว” ผมตอบ พี่เธียรมองผมด้วยแววตาแปลกใจ
“ผมรู้ว่าพี่กันตภณเขาหย่าขาดกับภรรยาเขาหลังจากนั้นเมื่อห้าปีทีแล้วเช่นกัน” ผมพูด พี่เธียรพยักหน้า
“และแพรวาเธอโดนตามใจจนมาก ชนิดที่เรียกได้ว่า เธอไม่เคยไม่ได้สิ่งที่เธออยากได้ ส่วนพี่ก็ไม่อยากทำให้พ่อของพี่ต้องขัดใจกับพ่อเธอและส่วนมากแม่เธอจะเป็นคนขอน่ะเพราะว่าเขารักลูกสาวเขามาก ขอให้พี่ยอมให้เธอตามพี่จนเธอเหลิงได้ใจ ตอนนี้พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่คิดผิดที่ยอมเธอมากเกินไป” พี่เธียรวิชญ์พูด ผมพยักหน้า
“ผมเองก็ไม่อยากมานั่งทำสงครามกับผู้หญิงเพราะว่าคนที่ดูไม่ดีคือผมและยิ่งผมมีลูกผมจะไม่ทำตัวอย่างแบบนั้นให้ลูกดู เพราะนั้นอาจจะทำให้เขาคิดว่าการทำร้ายผู้หญิง คือเรื่องปกติ พี่เข้าใจไหมครับ” ผมพูด พี่เธียรวิชญ์พยักหน้าเบาๆ
“ดังนั้นข้อนี้พี่ก็ต้องจัดการให้ผม เพราะว่าถ้าข้อนี้ไม่ผ่าน ไม่ต้องถามถึงข้อแรกว่าพี่จะได้ไหม” ผมพูด คนที่ตอนฟังถึงกับหน้าเสียไปทันที
“ข้อแรกพี่ทำได้แต่ข้อสองอ่ะ ยากน่ะ เพราะว่าพี่ก็ทำมาตั้งนานแล้ว ไม่รู้จะหาวิธีไหนแล้ว ยังไม่ได้ผลเลย จนป๊าให้พี่เลือกไปเรียนต่อเมืองนอก นางยังไม่ยอมปล่อยพี่เลยอ่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าผมเลือกไปข้อสามเลยดีกว่าพี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย” ผมหันไปพูดกับพี่เธียรวิชย์ยิ้มเลยละซิ
“ข้อสามอะไรล่ะ” พี่เธียรวิชญ์ถามผม
“และสามคือพี่กันตภณเพราะว่าที่ผ่านมาพี่กันตภณเขาดูแลและทำหน้าที่แทนพี่มาตลอด ดูแลผมดูแลเจ้าลูกโซ่ ตั้งแต่อยู่ในท้องด้วยซ้ำ ส่วนพี่น่ะไปหมุดหัวอยู่ตรงไหนผมยังไม่รู้เลย” ผมพูดก่อนจะหันมามองหน้าพี่เธียรวิชญ์ดันตัวเองขึ้นนั่งทันที
“ขนาดตอนคลอดพี่กันยังนั่งเฝ้าผมเลย คนดีขนาดนี้ ผมควรจะทิ้งเขามาหาพี่ไหมล่ะ! “ผมถามพี่เธียรวิชญ์
“แล้วบีมคิดว่าอากันเขาควรทำหน้าที่ได้ดีกว่าพี่หรือเปล่า ทั้งที่พี่ยังไม่ได้ลองเลยน่ะบีมและพี่ก็เป็นพ่อแท้เจ้าลูกโซ่น่ะ อากันไม่ใช่พ่อเด็กซะหน่อย และอากันเขาก็เป็นหมัน” พี่เธียรวิชญ์พูด ทำหน้าเหมือนเด็กน้อยขึ้นมาทันทีเลยน่ะ
“ดังนั้น กว่าเฮียธีจะแต่งงาน ผมยังมีเวลาคิดและตัดสินใจทำให้ผมเห็นว่า ผมกับลูกโซ่ควรฝากชีวิตไว้กับพี่ได้ไหม ถ้าไม่ผมก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก “ผมพูดกับพี่เธียรวิชย์
“และพี่คงรู้น่ะว่า หนึ่งในสามข้อนี้ ข้อไหนที่พี่ควรจะจัดการก่อน “ผมพูดพร้อมกับกอดอกมอง
“สงสัยต้องข้อสองแน่ๆ เพราะเล่นบอกถ้าข้อสอบไม่ผ่านไม่ต้องถามถึงข้อหนึ่งและถ้าสองข้อแรกไม่ได้ ข้อที่สามน่ากลัวกว่า จะทิ้งพี่ไปหาคนอื่นอีกอ่ะ พี่ไม่ยอมอ่ะ “พี่เธียรวิชญ์พูดและทำท่าจะเข้ามากอดผมแต่ผมดันเอาไว้ ชี้หน้าด้วย
“แล้วจะมานอนแยกแบบนี้ได้ยังไงอ่ะ เดี๋ยวลูกขาดความอบอุ่น ไม่ครบพ่อแม่ลูกน่ะ” คนงอแงพูด
“ผมไม่ขึ้น พี่นั้นและขึ้นไปนอนเลย ไปนอนกับลูกนั่นแหละ” ผมพูดและพยายามดันพี่เธียรวิชญ์ให้ขึ้นไปแต่จู่ๆ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เสียงเคาะประตูห้องนอน ก็ดังขึ้น ผมก็หยุดส่งเสียงเพื่อฟัง
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เสียงเคาะอีกสามทีไม่ดังมาก
“เธียร นอนหรือยัง” เสียงม๊าของพี่เธียรวิชย์
“ม๊ามา ถ้าม๊าเห็นบีมนอนบนพื้นแบบนี้ม๊าว่าพี่แน่ พี่โดนป๊าว่ามาแล้วน่ะ จะให้โดนม๊าว่าพี่อีกคนเหรอ” พี่เธียรวิชญ์พูด ผมก็รีบลุกและเก็บทุกอย่างก่อนจะรีบขึ้นไปบนเตียงนอน พี่เธียรวิชญ์เดินไปเปิดประตู
“ป๊าให้ม๊าเดินมาดูว่าตกลงนอนกันได้ไหม เพราะกลัวจะแคบไปน่ะเตียงเราน่ะ และจะดิ้นไปทับลูกเอา ป๊าเขาเป็นห่วง “ม๊าเดินมาถามพี่เธียรวิชย์
“เป็นห่วงผมเหรอม๊า”
“เป็นห่วงหลาน!!” ม๊าพูดชัดเจนมาก ผมแอบสมน้ำหน้า
“นอนได้ม๊า หมอนั้นน่ะหลับปุ๋ยไปแล้วม๊า”
“เอาไว้ซื้อเตียงใหม่หรือไม่ก็ซื้อเตียงเด็กไว้ในห้องนอนแล้วกัน และโตหน่อยค่อยแยกห้อง” ม๊าบอกพี่เธียรวิชญ์
“นึกว่าเดินมาดูกลัวลูกสะใภ้ลงไปนอนพื้นซะอีก”
“แล้วกล้าทำแบบนั้นหรือเปล่าล่ะ”
“ถ้าทำม๊าคงได้”
“แน่ล่ะ ห้ามให้เมียลงไปนอนพื้นล่ะ ไม่งั้นเราน่ะโดนแน่ๆ เอาไปนอนได้แล้ว และพรุ่งนี้เลิกเร็วได้ป๊าบอก พากันไปซื้อของใช้ลูกชายเราด้วยล่ะ “ม๊าพูด
“อีกอย่างน่ะเธียร อย่าเปิดแอร์จนเย็นจัดล่ะ ลูกจะไม่สบายเอา เราน่ะเปิดแอร์จนเย็นม๊าเดินมาปิดให้ทุกคืน เข้าใจไหมเธียร ลูกยังเล็กหนัก” คำสั่งม๊าที่บอกพี่เธียร นี้แค่คืนแรกที่เจ้าลูกโซ่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านนี้ เขายังรักเจ้าขนาดนี้
ผมนอนหลับตาปี๋แต่แอบฟัง ผมไม่รู้ว่าม๊าไปตอนไหน แต่ที่นอนตรงข้ามผมยุบลงเบาๆ ผมลืมตามองคนที่กำลังจะหอมแก้มแต่เป็นแก้มเจ้าลูกโซ่ พี่เธียรวิชย์ ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้คือคนเดียวกับคนในคืนนั้น พฤติกรรมที่ต่างกันราวกับฟ้ากับดินหรือนี่คือสัญญาณของความเป็นพ่อ ผมค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้ง โดยไม่กล้าลืมตาต่อผมนอนใช้ความคิดมากมายในหัว พ่อของลูกสำคัญกว่าคนที่เคยทำหน้าที่ดูแลลูกผมจริงหรือ???
“ป๊าบอกกับพี่ว่า ถ้าพี่ทำได้ไม่ดีพอ ก็ให้คืนให้เจ๊กกันไป หรือบีมคิดว่าพี่ควรจะทำแบบนั้นจริงๆ แต่พี่รักลูกน่ะ และพี่เชื่อว่าลูกพี่รักบีมมาก ดังนั้นคนที่เป็นแม่เขา คนอื่นก็แทนไม่ได้ พี่ไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้น ทั้งบีมและลูกโซ่ พี่ขอโอกาสก่อนได้ไหมครับ ให้พี่ได้ลองก่อน “เสียงที่ดังอยู่ข้างหูผม ไม่รู้ว่านี้คือการตัดพอหรือว่าแค่แอบน้อยใจกันแน่ แต่จะให้ผมยอมเลยมันคงง่ายไปน่ะ เธียรวิชญ์
TBC....