มาแล้วครับ
หลังจากวางโทรศัพท์ ผมปิดมือถือทันที
ผมไม่ควรอยู่บ้าน ถ้าอยู่ตั้มก็ตามมาเจอ ไปคงต้องอยู่กับเพื่อนซักพัก
เพื่อนถามผมว่า ผมเป็นอะไรรึเปล่า พอผมมองหน้า มันก็กอดผมไว้เลย ผมปล่อยโฮ ปล่อยความอ่อนแอ ปล่อยออกมาให้หมด “ขอเราอยู่แบบนี้ซักพักนะ”
แล้วผมก็เล่าให้เพื่อนผมฟัง เพื่อนผมก็รู้นิสัยผมแหละ (เพื่อนคนนี้ไม่ได้เป็นเพื่อนต่อครับ แต่พอรู้จักกัน)
เพื่อนผมบอกว่า มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิดก็ได้ ผมก็ถามมันว่า ก็ตั้มมันไม่พูดอะไรเลย จะให้เราคิดยังไงหล่ะ
เราอยู่ด้วยกันซักพัก มันบอกว่า ถ้าจะจบอย่าจบด้วยโทรศัพท์เลย ไปคุยกันให้รู้เรื่อง (แต่ผมคิดว่า จบแบบไหนก็เหมือนกันถ้ามันจะจบ จะเจอหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ในเมื่อคนเรามันไม่มีใจให้กันแล้ว รั้งเอาไว้ก็ไม่มีความหมาย)
พอเปิดขึ้นมา จะโทรบอกแม่ว่าพักอยู่กับเพื่อน ยังไม่ทันได้กดโทรออกเลย ตั้มก็โทรมา ผมชั่งใจอยู่ แล้วเพื่อนผมมันก็เดินมา “รับเหอะ เชื่อกู”
แล้วผมก็กดรับ
“มีอะไร”
“จิมครับ ผม....”
“ถ้าเรื่องนั้น พี่ไม่อยากฟัง พี่ให้โอกาสตั้มได้พูดแล้วแต่ตั้มไม่พูด มีอะไรก็ว่ามา ถ้าไม่มีจะวาง” องค์ลงครับ โมโหจัด
แต่ตั้มก็เงียบ
“พี่วางละนะ”
“เดี๋ยวครับ จิม ออกมาเจอกันได้มั้ย” ผมเงียบไป คิดในใจไม่อยากไป ไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ผมมองไปที่เพื่อนผม ได้ จบแบบเจอหน้ากันก็ได้
“ได้ งั้นเจอกันที่ทำงานตั้ม ตอน.....”
………….
ได้ ให้มันจบกันไปเลย
ผมเป็นคนไม่ชอบคบใคร 2 คน และแน่นอนครับ ผมก็ไม่อยากให้แฟนของผมคบใครหลายคนเหมือนกัน
ในเมื่อมาแล้ว เดี๋ยวก็จะได้รู้กัน (แล้วก็วางแผนอันแยบยล เอาให้มันรู้เรื่องกันไปเลย)
“มึงคุยกับมันใจเย็นๆหน่อยนะ”
“คงไม่” ผมกำลังจะเดินออกไป
“มันนัดมึงตอนนี้เลยเหรอ”
“เปล่า”
“แล้วรีบไปไหน” ผมยิ้มให้เพื่อนทีนึง ก่อนที่จะเดินออกไป
แล้วผมก็มาถึงเวลา และสถานที่ตามนัด ผมนัดไว้ดึกเหมือนกัน
ผมเห็นตั้มรออยู่ก่อนแล้ว ตั้มเดินเข้ามาหาผม ผมถอยหนีตั้ม ตั้มชะงักอยู่ตรงนั้น สีหน้าตั้มเศร้ามาก
(ทำอย่างกะตูไม่เศร้าเลยนะ)
“ไปนั่งคุยตรงนั้นกัน” ผมเป็นคนพูดขึ้น
“กินอะไรมารึยังครับ”
“ยัง”
“งั้นผมไปหาไรให้กินนะ”
“ไม่ต้องหรอก พี่หากินเองได้ เดี๋ยวคุยเสร็จคงจะไปเลย” ผมนั่งอยู่แป๊ปนึง ตั้มก็พูดขึ้นมา
“พี่ครับ เรื่องนั้น....”
“ตั้ม ไม่ต้องพูดอะไรหรอก รอแป๊ปนึงละกัน อ๊า มาพอดีเลย”
“กิ๊บ” เสียงตั้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ดูตกใจหน่อยๆ
แต่ดูแล้ว คนที่น่าตกใจที่สุดน่าจะเป็นผู้หญิงคนนั้นมากกว่า
คงไม่ได้ตกใจที่เจอผมหล่ะมั้ง เพราะผมเป็นคนนัดมาเองนี่ ใช่ครับ ผมไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่นัดผู้หญิงคนนั้นมาด้วยเท่านั้นเอง
“เชิญนั่งครับ” เสียงผมเอ่ยขึ้น ผู้หญิงคนนั้นนั่งลง “นั่งตรงนี้ ตรงนี้เลยครับ” ผมชี้ไปให้นั่งข้างๆตั้ม ตั้มมองหน้าผม ประมาณว่าไม่เข้าใจที่ผมจะทำ ผมเป็นคนทำอย่างนั้น แต่ผมรู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างที่สุด
“อืม” ผมยิ้ม คงเป็นยิ้มที่ดูแย่ที่สุดในโลก
ผมต้องแสดงหนังเรื่องนี้ให้จบ แม้ผมจะเป็นคนที่เจ็บก็ตาม
“ทั้งสองคนดู เหมาะสมกันดีนะ” ทั้งสองคนมองหน้าผม
“งั้นพี่ไม่รบกวนละ คุยกันไปนะ............. บาย แล้วเจอกัน” มันจุกอยู่ที่อกครับ มันตื้นๆ เหมือนรู้สึกว่าหัวใจโดนบีบเอาไว้
ผมลุกขึ้น
แล้ว ก็ เดิน จาก ไป
ผมเดินไปได้ไม่ถึง 2 ก้าว ก็มีคนมารั้งมือผมเอาไว้ ผมหันไปมอง.....ตั้ม
“ปล่อยย”
................
ตั้มไม่ปล่อยมือผม ผมไม่ได้มองหน้าผู้หญิงคนนั้นเลย ผมจ้องมองแต่คนที่กำลังดึงแขนผมไว้
ตอนนั้นผมรู้สึกได้ว่าผมกำลังจะร้องไห้ อย่าร้องนะโว้ย อย่า อย่า กั้นน้ำตาไว้เท่าที่จะทำได้
“ตั้ม ปล่อย”
หลังจากเรามองหน้ากัน (จ้องหน้ามากกว่า) แล้วตั้มก็หันหนาไปหาผู้หญิงคนนั้น
“คนคนนี้ ..................คือคนที่ผมรัก”