ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะคะ
ตอนที่ 9“พี่ธีๆ” ...ใครเรียกกูวะ กำลังหลับสบายเลย...ผมซุกหน้าลงกับหมอน ไถแก้มไปกับเนื้อผ้าเย็นเฉียบแล้วทอดถอนใจทีนึง สบายชะมัด
“พี่ธี ตื่นได้แล้ว” มือใครซักคนที่อุ่นร้อนแนบลงบนแก้มผม...เปี๊ยกเหรอ ทำไมเรียกพี่ว่าพี่ธีอีกแล้วล่ะ...
“ไม่สบายเปล่าวะ ไมเรียกไม่ตื่น” มือนั้นแนบเข้ามาในซอกคอของผม
ตอนนี้เริ่มจะตื่นๆหน่อยแล้วครับ ผมได้ที กะจะหยอกไอ้เปี๊ยกเล่นแบบคู่แต่งงานใหม่ซะหน่อย ก็เลยจับข้อมือมันหมับ ดึงตัวมันให้ทับลงมาบนตัวผม...ทำไมวันนี้มันหนักผิดปกติ...สงสัยต้องจำกัดอาหารจริงๆซะแล้ว..ผมยกแขนโอบมันเอาไว้ มันดิ้นขลุกขลักเลยครับ อืม...สงสัยเพิ่งออกกำลังกายมา กลิ่นเหงื่อกับแสงแดดอวลอยู่ในผิวของมัน ผมกดจมูกเข้ากับซอกคอแล้วสูดกลิ่นมันเข้าเต็มปอด
“อือ~ ตาต้า...หอมดีจัง” ผมครางอย่างมีความสุข ไม่สนใจอุ้งมือที่ตอนนี้เปลี่ยนมาดันหน้าผากผมแทน
“เฮ้ย!! ไอ้ลุง...ทำไรน้องกูวะ!!!” เอ๋...นั่นเสียงที่รักของผมนิครับ ทำไมเสียงมันอยู่ไกลอย่างนี้ล่ะ มันควรจะอยู่ในอ้อมกอดผมสิ ไม่อย่างนั้นไอ้ตัวใหญ่ยักษ์ในอ้อมแขนผมมันใครกันล่ะ?
อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย...ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมอง...
“เจร๊ยยยย!!!”
“จ๊ากกกกก!!!!”
ผมคงร้องเสียงดังมากจนไอ้ต้อยตกใจ มันเลยร้องแข่งกับผมซะงั้น ด้วยความมึน ผมยกฝ่าเท้า ถีบมันจนกลิ้งตกเตียงดังพลั่ก!
“โหย~ พี่ต้า! เพื่อนพี่เป็นไรมากเปล่าเนี่ย!” ไอ้ต้อยคลำก้นตัวเองป้อยๆ
“ก็...นึกว่าเป็นต้านี่หว่า” ผมกดหน้าอกตัวเอง ปลอบขวัญให้หายสยอง ลูบๆขนแขนที่ตั้งโด่เด่ให้ล้มราบไปเหมือนเดิม พูดออกไปอย่างลืมตัว...พอนึกได้เท่านั้นล่ะ รีบเอามือปิดปากทันที แต่ไม่ทันแล้วครับ ไอ้เปี๊ยกถลึงตามองผมซะจนแทบจะถูกเผาไหม้ให้พุพอง
“เออ~ ช่างแม่งวะ ซวยจริงๆ โดนใช้มาปลุกแล้วยังโดนถีบอีก ซวยจริงๆ” โชคดีหน่อยครับ ท่าทางไอ้ต้อยจะไม่ได้ยิน เพราะมันก็แค่ลูบๆ ตูดตัวเองบ่นหงุงหงิงออกจากห้องไป
ประตูปิดลง เหลือแค่ผมกับไอ้เปี๊ยกอยู่ในห้องสองคน
วันนี้ไอ้เปี๊ยกใส่เสื้อร.ด.ย้วยๆกับกางเกงบอลขาสั้นครับ ท่าทางจะออกไปวิ่งกับน้องมันมา เพราะเหงื่อซกซะจนเสื้อเปียกกลายเป็นสีเขียวเข้มเลยครับ
พอมาถึงตอนนี้ก็เพิ่งนึกได้ เมื่อคืนหลังจากที่นัวเนียกันได้ซักพัก ผมเป็นคนไล่มันกลับห้องพ่อแม่มันเองนี่หว่า...เพราะกลัวจะอดใจไม่ไหวน่ะครับ ทั้งรักทั้งหึงอย่างนั้นถ้าเผลอปล้ำมันไปล่ะก็...
“ลุกขึ้นมาได้แล้วลุง” ไอ้เปี๊ยกคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดบ่าตัวเองขึ้นเช็ดซอกคอ
“อืม...ลุกไม่ไหว” ขอมารยาหน่อยครับ ก็ตอนนี้แก้มมันแดงฝาดน่าจูบชะมัด ผมแบมือยื่นไปหามันเชิงให้มันช่วยฉุดผมขึ้นมาหน่อย
“เรื่องดิ รู้หรอกน่ะ ว่าจะทำไร ลุกเองแค่นี้ไม่ไหวรึไงลุง แก่แล้วใช่มั้ย งั้นก็นอนอยู่อย่างนี้แหละ แม่งหิวจะตายห่าแล้ว เล่นตัวอยู่ได้” มันบ่นหงุงหงิงแต่ก็ทำให้ผมยิ้มแฉ่งได้ล่ะครับ เพราะในขณะที่ปากมันด่า ตามันมองหน้าต่าง มือมันก็ยื่นมาให้ผมจับ
ผมคว้ามือมันได้ก็ฉุดมันลงมาล่ะครับ...อา...ต้องน้ำหนักขนาดนี้สิ ถึงจะเป็นไอ้เปี๊ยกของผม
“โอ๊ย!!” มันร้องเสียงดังจนผมตกใจ...ก็แค่ฉุดมันเฉยๆ เจ็บตรงไหนวะ
“เจ็บตรงไหนน่ะ?” ผมถามมัน มันไม่ตอบแต่ก้มหน้างุดๆแทน เห็นแก้มมันแดงๆด้วยครับ
ผมลูบหัวลูบหูมัน เอามือไล้ไปตามแผ่นหลังชื้นเหงื่อของมัน ดูแล้วก็ไม่น่ามีส่วนไหนเจ็บนี่นา
พอลูบไปถึงก้นเท่านั้นล่ะ มันเกร็งตัวเหย็งเลย ถึงค่อยนึกได้...ผลงานผมเองแหละ หึๆๆ
“หยุดหัวเราะเลย ไอ้ลุงหื่น” แก้มมันแดงกว่าเดิมอีกครับ ผมยิ่งหัวเราะดังกว่าเดิม จับคางมันให้เงยหน้าขึ้นแล้วจูบเบาๆที่ปากมัน จากนั้นก็ใช้ความเร็วเลียคราบเหงื่อที่ซอกคอมันอีกหน่อย...อืม เหงื่อไอ้เปี๊ยกมีน้ำตาลหรอวะ หวานซะขนาด
อยากแกล้งมันอีกหน่อยครับ ผมเลิกเสื้อร.ด.มันขึ้นแล้วมุดหน้าเข้าไปเลียหน้าท้องมัน
“พอแล้ว หิวโว้ย พอ! เว้ยลุง!” มันร้องไม่ดังมาก คงเพราะกลัวน้องมันได้ยิน ไม่สนใจหรอกครับ ผมเลียไปถึงร่องสะดือ เลื้อยลงล่างอีกหน่อยไอ้เปี๊ยกก็เหลวเป็นเยลลี่แล้ว
“อือ...อะ...” มือมันลูบหัวผมแทนแล้วครับ...หึๆ ไอ้นี่มันมีอารมณ์ง่ายชะมัด ผมเลื่อนตัวขึ้นมานอนคร่อมมันไว้ จับมือมันให้จับน้องชายของผมไว้ แล้วขยับเอวเข้าหามัน
“อา...ต้า...ต้า...ยอดเลย...ต้า...” กิจกรรมเข้าจังหวะยามเช้าเริ่มขึ้น...เฉพาะผมนะครับ ของมันเองมันกลับไม่ยอมให้ผมจับ ด้วยแรงอารมณ์สุดท้ายผมก็เลยล้มเลิกความตั้งใจ กลับมาใส่สมาธิเต็มร้อยกับร่างกายตัวเองแทน จูบปากมันหนักๆมันก็เผยอออกรับลิ้นผมเข้าไป แต่มันคงอายล่ะครับ เพราะมันชักลิ้นหนีใหญ่ คราวนี้เลยเกิดมหกรรมวิ่งไล่จับเข้าไปอีกอย่าง
ผมเร่งความเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มือขาวๆของไอ้เปี๊ยกนอกจากจะเปียกเหงื่อแล้ว ยังเปียกอย่างอื่นด้วย น้ำใสๆหยดลงบนหน้าท้องมันจนแฉะ เห็นแล้วแทบจะทนไม่ได้ล่ะครับ
“ซี๊ด! ต้า...ต้า...” ผมเร่งจังหวะขึ้น รู้ตัวว่าใกล้จะถึงแล้ว ไอ้เปี๊ยกนอนปรือตา แวบหนึ่งมันเหลือลงมองมือมัน แล้วก็ต้องหลบตาหนีอย่างอายๆ ผมไล่จูบปากมัน มันก็หันหน้าหนีผม...ไอ้ตัวดื้อเอ๊ย...ดื้ออย่างนี้ต้องสั่งสอนให้หนัก
ใกล้แล้วครับ ผมครางเสียงดังจนมันต้องยกอีกมือมาปิดปากผม แต่พอเลียฝ่ามือมันเท่านั้นมันก็ชักมือกลับ สุดท้ายมันเลยยอมให้ผมจูบมันเพื่อปิดเสียง
“อือ...อื้อ...” เสียงของผมกับมันประสานกันจนแยกไม่ออก ท้องน้อยของผมร้อนวาบไปหมด มือของไอ้เปี๊ยกร้อนอย่างกับไฟ
“อา...ต้า...พี่....อือ...” ผมหลับตาปี๋ เร่งเสือกสะโพกเข้ามือมัน ดันแรงจนเสียดสีกับหน้าท้องแบนราบของมัน จังหวะนี้คิดอะไรไม่ออกแล้วครับ คิดแต่ว่าต้องไปให้ถึงฝั่งฝันให้ได้
ผมปลดปล่อยออกมาจนเปื้อนหน้าท้อง แผ่นอกของมัน เลยไปถึงริมฝีปากมัน...ไอ้เปี๊ยกหลับตาปี๋ คงตกใจล่ะครับ ผมหมดแรงล้มลงนอนทับมัน เอาลิ้นเลียน้ำสีขาวออกจากริมฝีปากให้มัน มือมันก็ยังจับน้องชายผมอยู่...เช้าวันนี้สุดยอดจริงๆครับ
ปังๆๆๆๆๆ!!!!
“พี่ต้า! อาบน้ำเสร็จยังวะ หิวแล้ว!!”
เสียงเคาะประตูพร้อมกับเสียงตะโกนของน้องชายมันทำให้เราสองคนสะดุ้งโหยง
“อึ้ก!!!!” ไอ้เปี๊ยกมันไม่ได้สะดุ้งอย่างเดียวครับ มันบีบมือหมับ! ...เจ็บจนพูดไม่ออกครับ...ได้แต่นอนกุมจุดยุทธศาสตร์ดิ้นไปมา ท่าทางไอ้เปี๊ยกก็ไม่รู้สึกผิดเลยซักนิด มันกระโดดออกจากเตียง คว้าผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำพลางตะโกนบอกน้องมัน
“รอเดี๋ยว!”
ประตูปิดปัง ซักพักก็เปิดใหม่ มีไอ้เปี๊ยกยื่นหน้าออกมา
“ลุง...หายเจ็บแล้วก็ไปอาบน้ำห้องไอ้ต้องนะ”
...โอยยย อยากร้องไห้...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พอผมอาบน้ำเสร็จเดินลงบันไดมาข้างล่างก็พบว่าสองพี่น้องนั่งกระดิกตีนดูทีวีกันที่โต๊ะกินข้าวแล้ว
พอไอ้ต้อยเห็นผมเดินลงมา มันก็ลุกขึ้นยืน “ปะ...พี่” ...ปะไรของมึง ภาษาวัยรุ่นคนแก่ไม่สนับสนุนครับ
“ไปไหน” ผมถามมันแต่ตาก็เหลือบมองแต่ไอ้เปี๊ยก มันไม่หันมาทางผมเลยครับ เอาแต่จ้องทีวี...ผมหล่อกว่าลุงสอระตื๊ดนะ ทำไมไม่มองผมล่ะ...น้อยใจว่ะ
“ไปโลตัสซื้อของมาทำข้าวเช้า อาหารหมดตู้เย็นพอดี เมื่อคืนท้องกิ่วไปหน่อย” ไอ้ต้อยว่าแล้วเดินนำออกไป
“แล้วต้าล่ะ ไม่ออกไปกินข้างนอกด้วยกันเลยล่ะ?” ผมถามมัน
“ทำกินที่บ้านดีกว่าพี่ ระลึกอดีตกัน ให้พี่ต้าทำให้กินอร่อยดี” ไอ้เปี๊ยกมันไม่ตอบครับ ให้น้องต้อยที่น่ารักตอบแทนหมด...เอาวะ จะได้กินอาหารเช้าฝีมือไอ้เปี๊ยกด้วย ไม่เคยเห็นมันเข้าครัวครับ ล่าสุดสุกี้หม้อไฟที่ทำกินกัน มันก็แค่เด็ดๆผักเท่านั้นเอง
มันลากผมออกมาจากบ้าน เดินมายืนกระดิกตีนรอที่รถ ผมเหลือบมองไอ้เปี๊ยกทำแววตาหมาหงอยส่งให้อีกพักนึง พอมันไม่หันมาเลยเดินคอตกขึ้นรถไป
...
...
“พี่ธี...” นั่งมาได้ซักพักไอ้ต้อยก็เรียกผม
“หือ ไปไงต่อนะ?” ไม่ชินทางครับ ไม่เคยขับในตัวจังหวัด ต้องให้มันชี้บอกทาง
ไอ้ต้อยชี้ไปด้านซ้าย พลางชวนผมคุย “พี่ธีเป็นแฟนกับพี่ต้าหรอ?”
เอี๊ยด!
ตรงจุดมากครับ พี่เป็นยังไงน้องก็เป็นอย่างนั้นเลย เล่นซะผมเหยียบเบรกจนรถเกือบหมุน ไอ้ต้องมันโวยวายนิดหน่อย หลังจากนั้นผมก็ค่อยออกรถต่อไป
“ก็...นะ...รู้ได้ไง?” ตอนนี้ผมใจเต้นตุ้มๆต่อมๆแล้วครับ ให้ครอบครัวไอ้เปี๊ยกจับได้อย่างนี้ เรื่องจะถึงหูพระบิดามือปืนภาคสนามรึเปล่าวะ?
“เมื่อคืนจะชวนพี่ต้านั่งกินข้าวผัด” ความตะกละของครอบครัวทำเรื่องครับ คงเผลอเปิดห้องมาเจอผมจ๊วบกับไอ้เปี๊ยกพอดี
“แล้วเมื่อเช้า...ได้ยินเสียง” ...มันจงใจแกล้งให้ผมกับไอ้เปี๊ยกตกใจรึเปล่าวะ? นี่ผมเกือบสูญพันธุ์เพราะมันเนี่ยนะ?
“ต่อไปเลี้ยวขวานะพี่...ไอ้พี่ต้าน่ะ ห่างกับผมแค่หัวปีท้ายปีเอง” ไอ้ต้อยนั่งพูดไปเรื่อย ผมก็บิดพวงมาลัยเลี้ยวรถตามที่มันบอก
“แต่ผมเรียนช้ากว่ามันเพราะซิ่วไปเข้าคณะเดียวกับมัน” ท่าทางจะรักพี่มันน่าดูครับ
“ไม่ใช่ไรหรอก ตั้งแต่ตอนม.ต้นแล้ว พี่ต้ามันน่ารัก เห็บไรมันเลยคอยจ้องจะหาเศษหาเลย เฮ้อ~ ไอ้พี่บ้านี่มันก็ไม่รู้ตัวอะไรกับใครเค้าเลย” ก็พอเข้าใจครับ ไอ้เปี๊ยกมันน่ารักขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครมาจีบ
“ผมงี้นะ ต้องคอยกันออกไปให้ตลอด พอเข้ามหาลัยก็ไม่ไว้ใจ อยากจะไปคุมด้วยตัวเอง...ลุงเห็นผมกับพี่ต้าผอมๆงี้ พ่อส่งเราไปฝึกที่ค่ายมวยเพื่อนพ่อทุกปิดเทอมนะ” มิน่าล่ะ ไอ้เปี๊ยกมันถึงเข่าเก่ง
“แต่หลังๆพี่ต้ามันเอาแต่ฝึกกีต้าร์ มันไม่ชอบออกกำลังกาย เลยเหลือผมฝึกคนเดียว” ดีแล้วล่ะน้อง แค่นี้พี่ก็หงอจะแย่แล้ว
“ไอ้พี่ต้ามันโดนคนเอาเปรียบบ่อย แต่มันซื่อ เลยไม่ค่อยรู้ตัว...ลำบากผมต้องจัดให้” ผมต้องขอบคุณมันใช่มั้ย ที่ทำให้ไอ้เปี๊ยกบริสุทธิ์ผุดผ่องจนเรียนจบมาเจอผม
“พี่เชื่อปะ เห็นผมฮาๆงี้ ผมเคยกระทืบคนซี่โครงหักด้วยนะ” เชื่อว่ะ กล้ามใหญ่ขนาดนี้ต่อยทีคงตับแตก
ผมหัวเราะมันเบาๆ เป็นการร่วมสนทนา เดี๋ยวจะหาว่าปล่อยให้มันพูดคนเดียวครับ ไอ้ต้อยมันทำท่าฮึดฮัดเหมือนยังไม่หายแค้นคู่กรณี
“แล้วต้อยไปกระทืบเค้าทำไมล่ะ” สงสัยมีเรื่องตามประสาเด็กวัยกระทงครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจหรอก เพราะผมเป็นเด็กกรุงที่อยู่แต่โรงเรียนผู้ดีมาตลอด เอาแต่เรียนพิเศษจนไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย...แต่ก็ดีแล้วครับ ไม่งั้นแม่ผมคงหัวใจวายตาย
“โหยพี่~ ก็มันเสือกมาโอบเอวพี่ต้าน่ะสิ! อ๊ะ! พี่ๆ จอดตรงนี้ล่ะ”
แอร์ในรถก็เย็นดีนะครับ แต่เหงื่อผมมันย้อยจากขมับหยดติ๋งๆแล้ว...ไหนวะโลตัส...กูเห็นแต่ทุ่งนา
“หลงทางเหรอ?” ผมถามมัน
“เปล่า...พี่เดินออกมาหน่อยดิ” มันเปิดประตูรถ กระดิกนิ้วชี้เรียกผมออกไป
ฉิบหายแล้วกู...หวงพี่ก็ไม่บอก...
“โหย ยังไม่หมดแค่นั้นนะพี่ มีอีกคนแม่งแอบมอมเหล้าพี่ต้าแล้วหอมแก้ม ไอ้นั่นน่ะ ฟันหักไปสามซี่ ตอนนี้มันยังพูดไม่ชัดอยู่เลย”
มันหัวเราะร่า แต่ตอนนี้ผมชักหัวเราะไม่ออกครับ
“อีกรายมันเป็นมือกลองในผับ ชวนพี่ต้าไปเล่นวงกับมัน ขากลับมันแอบจับก้นว่ะ ตอนนี้มือมันแหลกจับไม้กลองไม่ได้แล้ว ฮ่าๆๆๆ”
มันเดินกล้ามโตหุบจั๊กกะแร้ไม่ลงมาทางผม....โอบเอวซี่โครงหัก หอมแก้มเสียฟัน จับก้นมือแหลก แล้วถ้าปล้ำมันไปนับครั้งไม่ถ้วนจะโดนอะไรวะ?
“ผมไม่คิดอะไรเอาเองหรอกนะพี่ ผมเชื่อแค่ที่ผมเห็นกับตาเท่านั้นล่ะ เมื่อคืนพี่จูบพี่ต้าใช่ปะ เมื่อเช้าพี่ใช้มือพี่ต้าทำให้ อืมมม...” มึงจะคิดอะไรนานขนาดน๊านนน!!!
มันควักคัดเตอร์ออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์...
“....ตัดแม่งเลยดีมั้ย” ไม่ใช่ว่าผมอ่อนนะครับ แต่น้องต้อยของไอ้เปี๊ยกมันน่ากลัวจริงๆ
ผมยืนกลืนน้ำลาย สบตามันอยู่อย่างนั้น...มันก็ไถคัตเตอร์ขึ้นลงเล่น เกิดเสียงแกรกกรากระคายจู๋ เอ๊ย หู
เราจ้องตากันนานพอดู สุดท้ายมันก็เก็บคัตเตอร์ลงกระเป๋าแล้วหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆๆ หน้าซีดเลยว่ะ! ผมล้อเล่นน่ะพี่ ไอ้ที่พูดมาทั้งหมดน่ะมันเวอร์ไปเปล่า ล้อเล่นน่ะล้อเล่น!!” ...แต่กูเชื่อว่ะ...
มันเดินมาตบบ่าผมดังปั้บๆ แรงดีจริงๆครับ สะเทือนไปถึงม้ามเลย “ผมรู้น่า ว่าพี่ต้ามันก็ชอบพี่เหมือนกัน ไม่งั้นมันไม่ยอมให้ทำอะไรอย่างนั้นหรอก”
ไอ้ต้อยมันก็น่ารักดีนะ มีให้กำลังใจกันด้วย ผมว่าต่อไปผมอาจจะจับมันมาเป็นกำลังหลักในการช่วยผมง้อไอ้เปี๊ยกได้ก็ได้นะครับ
“แต่ว่า” มันหันมาถอนหายใจกับผม แล้วหลังจากนั้นมันก็...
ปึ๊ก!!!
ท่านผู้อ่าน...ขาสองข้างผมลอยจากพื้นเลยครับ มันเสยเข้ามาเต็มท้องเล่นซะจุก โชคดีนะยังไม่ได้กินข้าวเช้า ไม่งั้นคงอ้วกอนาถแน่ๆ
“ยังไงพี่ต้ามันก็พี่ผม คาบไปแดกก่อนขออย่างนี้ไม่ปลื้มว่ะ” มันแค่นเสียงรอดไรฟัน กระซิบกับหูผม
ว่าแล้วมันก็เดินกลับไปที่รถ ปล่อยให้ผมนั่งยองๆ กุมท้องตัวเองอยู่อย่างนั้น ยังไม่วายโผล่หน้าออกมาอีก
“หายเจ็บแล้วมาขับรถต่อนะพี่ จะได้ไปซื้อข้าวต่อ หิวว่ะ”
...พี่น้องนี่มันนิสัยเดียวกันเด๊ะเลยว่ะ...
...
...
สุดท้ายมันก็ไม่ได้ไปโลตัสหรอกครับ มันให้ผมจอดรถที่เซเว่นหน้าซอยบ้านมันเท่านั้นเอง...หลอกกูวนรถตั้งนาน เปลืองน้ำมันนะเว้ย
“ปะพี่ กลับบ้านกัน” ไอ้ต้อยออกไปเลือกของคนเดียวครับ ปล่อยให้ผมนั่งสะกดความเจ็บอยู่บนรถคนเดียว
พอกลับถึงบ้านมันก็ยื่นถุงอาหารให้ไอ้เปี๊ยกเข้าไปทำอาหารในครัว มีการชวนผมคุยเหมือนไม่เคยมีเรื่องกันอีกนะ
ระหว่างนั้นไอ้เปี๊ยกไม่หันมาคุยกับผมเลยครับ สงสัยวันนี้จะต้องพามันไปเที่ยวง้อซะหน่อยแล้ว
...ถ้าน้องมันไม่ขอติดรถกลับกรุงเทพด้วยล่ะก็นะ...
+++++++++++++++++++++++++++++
TBC