Twenty-two
(ม.) : มีดโกน (เมา)
[สระ]“จั๊กจี้ว่ะ”
“อะไร?”
ผมเหลือบมองคนที่กำลังขับรถ มือซ้ายของมันกุมมือผมไว้ ส่วนมือขวาหมุนพวงมาลัยด้วยมือเดียว เป็นฉากที่เห็นได้บ่อยๆ ในหนัง แต่พอไอ้นะทำแล้ว...เท่จริงๆ ว่ะ
“ที่เราเป็นอยู่ตอนนี้อะ โคตรจั๊กจี้เลย” ผมบอกกับมัน และคนฟังก็หลุดขำออกมา
“เดี๋ยวมึงก็ชิน”
“คงงั้น” ผมพยักหน้ารับ กุมกระชับมือหนาที่สอดประสานเข้าหากันแน่นขึ้น ไอ้นะบีบมือผมเล่นไปด้วย และผมก็ทำได้แค่อมยิ้ม จะว่าไปแล้วก็มีความสุขจังเลยแฮะ ปกติระหว่างเรามันดีอยู่แล้วก็จริง แต่มันก็ดีเข้าไปอีกพอสถานะของเราสองคนเปลี่ยนไป
ผมใช้มือข้างที่ว่างกดสารพัดแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมาไม่หยุด นับตั้งแต่ที่เราออกจากร้านอาหาร รู้แล้วล่ะครับว่าไอ้นะมันโพสต์อะไรลงไป ซึ่ง...ผมจะน้อยหน้าได้ยังไงล่ะ ก็ต้องโพสต์ลงไปบ้างเหมือนกันสิ จะได้เท่าเทียม
ผมกดถ่ายรูปมือของเราสองคนที่จับกันอยู่ ไอ้นะหันมามองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม ปากของมันยิ้มกว้างมาก แทบจะฉีกไปถึงรูหูแล้วมั้งน่ะ
กดอัปรูปใหม่ลงไปในอินสตาแกรม แคปชั่นสั้นๆ แบบที่เรียกว่าสั้นเสียยิ่งกว่าของไอ้นะซะอีก
BFF = BFF
กดโพสต์แล้วนั่งรอผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ และไม่ช้าเกินคาด คนแรกที่ทักมาหาผมก่อนก็คือเพื่อนๆ นี่ล่ะ หึ สอดรู้สอดเห็นและช่างเสือกเรื่องคนอื่นเก่งจริงๆ
ผมกดโทรแบบวิดีโอคอลในไลน์กรุ๊ปที่มีพวกเราทั้งห้าคนอยู่ด้วยกัน ไม่นานเกินรอไอ้พีก็กดรับคอล อีกฝั่งคือพวกมันสามคนนั่งอยู่ด้วยกันพร้อมหน้า อ้าว นี่มันอยู่ด้วยกันหรอกเหรอเนี่ย แต่เห็นหน้าตาตื่นเต้นของพวกมันแล้วก็ประหลาดดี จะตื่นเต้นอะไรกันขนาดนั้นวะ อ่า แต่จะว่าไปตั้งแต่ตกลงคบกันผมก็ยังไม่ได้บอกใครเลยนี่นะ
“ที่มึงโพสต์หมายความว่าไงวะไอ้หระ ไอ้นะ!” ไอ้พีถามก่อนเป็นคนแรก อีกสองหน่อพยักหน้าเห็นด้วยกันรัวๆ
ผมยิ้มมุมปาก “ไอ้นะอัปรูปไปตั้งนานแล้ว พวกมึงเพิ่งเห็นเหรอถึงได้พึ่งทักมาเนี่ย”
“ก็เออดิวะ! มากินเหล้าด้วยกันอะ เพิ่งได้จับโทรศัพท์นี่แหละไอ้ห่า พอจับปั๊บเลยเพิ่งรู้ข่าว อะไรยังไง พวกมึงคบกันแล้ว?” คราวนี้เป็นไอ้เจ็มถาม
ผมไหวไหล่ให้แทนคำตอบ พวกมันพากันทำตาโต
“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ วันนี้เหรอ?!” ไอ้ยูถามบ้าง
“ไม่ใช่ หลายวันแล้ว”
“โหไอ้เหี้ย แล้วก็ไม่บอกกันบ้าง”
“ก็บอกแล้วนี่ไง”
“ปล่อยให้พวกกูเห็นเองต่างหาก ถ้าพวกมึงไม่อัปรูปพร้อมแคปชั่นแบบนั้น กว่าพวกกูจะรู้คงเป็นตอนที่มึงสองคนมีลูกด้วยกันอะ”
“มีลูกพ่อง! กูเป็นผู้ชายมีลูกไม่ได้เว้ย!”
“อ้าว พูดแบบนี้แปลว่ามึงเป็นเมียเหรอไอ้หระ”
“มึงก็ถามไม่คิดเลยไอ้ยู ดูตัวมันกับตัวไอ้นะดิ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าใครควรเป็นผัวเป็นเมีย”
“ความเป็นผัวเมียไม่มีผลในแนวราบและรูปร่างป่ะวะ”
“ไอ้เจ็มพูดถูก ไม่แน่สระอาจจะเป็นคนเสียบไอ้นะก็ได้”
“โว้ยยย พวกมึงแม่งคุยเหี้ยอะไรกันวะ!? ไม่มีเรื่องจะพูดหรือไง กูว่างละไอ้สัด บาย”
“เฮ้ยเดี๋ยว...”
ผมกดวางทันทีโดยไม่สนใจว่าพวกมันจะถามอะไรอีก เพราะผมไม่คิดจะตอบอะไรทั้งนั้น จู่ๆ ก็ลากไปเรื่องใครผัวใครเมีย ส้นตีนเถอะ เรื่องบนเตียงของกูจะยุ่งกันทำไมวะ
ได้ยินเสียงไอ้นะหัวเราะหึๆ ผมก็เลยหันไปเยแกเขี้ยวใส่มัน ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก เดี๋ยวกูต่อยคว่ำเลย
“ตกลงเป็นเมียนะหรือจะเป็นผัวนะ?”
“ไอ้นะ!”
“เอ๊า นี่ถามให้เลือกเลยนะ”
ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย เม้มปากไม่กล้าถาม แต่ก็อยากจะรู้ว่ามันต้องการอยู่โพซิชั่นไหน เอาวะ ถามก็ถาม เรื่องแบบนี้ยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นในสักวัน คนเป็นแฟนกันนะเว้ย
“มึงอยากเป็นอะไรอะ” ถามจบก็เบือนหน้าหนีไปมองนอกหน้าต่างรถแทนที่จะมองคนถูกถาม ไม่เอาหรอก เกิดมันส่งสายตาแปลกๆ มาให้ผมได้ทำตัวไม่ถูกกันพอดี
มือที่กุมกันเอาไว้ถูกบีบกระชับแน่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบที่ทำให้หัวใจผมพองฟู
“จะเป็นอะไรก็ได้ นะไม่คิดมากหรอก สุดท้ายไม่ว่าตำแหน่งไหนเราก็ทำมันด้วยความรักไม่ใช่เหรอครับ?”
เลี่ยนนะ แต่ก็ทำให้รู้สึกดีชะมัดเลย
ผมบีบมืออีกฝ่ายตอบกลับไป กลั้นยิ้มจนเหนื่อยจะกลั้นแล้วนั่นล่ะถึงได้เผยยิ้มกว้างออกมา หันกลับไปมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังตั้งใจขับรถแล้วอดไม่ได้ต้องตอบกลับไปว่า...
“ขอบคุณนะ”
พยัญชนะยิ้มกว้างอีกแล้ว เขาดึงมือผมไปจุ๊บที่หลังมือรัวๆ จนทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวไปกับความอ่อนโยนนี้ ส่วนเรื่องโพซิชั่นบนเตียงน่ะ...เอาไว้ถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกทีละกัน
“เห็นโพสต์ยัง?”
“โพสต์อะไรวะ?”
“นี่ไง”
BFF = BFF
Best friend forever = Boyfriend forever
ไม่รู้ว่าใช่ไหม แต่เจ๊จะมโนว่ามันใช่ค่ะ กรี๊ด! ก่อนหน้านั้นน้องพยัญชนะก็อัปไอจีว่าดินเนอร์กับบีเอฟ ที่น่าจะแปลว่าบอยเฟรนด์ แล้วไม่กี่นาทีต่อมาน้องสระก็ดันอัปอะไรคล้ายกันอีก เจ๊จะบ้าตาย นี่เขากำลังประกาศตัวว่าคบกันแล้วใช่ไหมคะ เป็นความจริงใช่มั้ยใครก็ได้บอกเจ๊ที อ๊ายยย ฟินตายแล้วค่า ผมขำให้กับโพสต์ของเพจแฮนด์ซัมบอย กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อสบตากับแฟนของผม ก่อนเราทั้งคู่จะขำออกมาพร้อมกันอีกรอบ แต่พอส่องคอมเมนต์ก็แอบขำไม่ออกเหมือนกันนะ เพราะมีทั้งเมนต์ที่แสดงความยินดี เมนต์ฟินกรี๊ดกร๊าด เมนต์เสียดายความหล่อ เมนต์เหยียดว่าเป็นเกย์ บางอันก็หยาบคายเกินจะทนอ่านไหว
แต่ดีนะที่ผมไม่ได้ใส่ใจนัก ไอ้นะก็เหมือนกัน นี่เป็นเรื่องของเราสองคน แค่ว่าเราเป็นที่รู้จักก็เลยกลายเป็นเรื่องดังขึ้นมาก็เท่านั้น ผมไม่เคยใส่ใจว่าคนจะมองยังไง ในเมื่อผมก็ยังเป็นผม ไม่ได้กลายเป็นคนอื่นเพียงเพราะผมคบกับผู้ชาย และครอบครัวของผมก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย
ช่ายยย ผมโทรไปเล่าให้พ่อกับแม่ฟังแล้ว พวกท่านอาจมีแปลกใจบ้างแต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร แถมยังบอกว่าดีแล้วที่เป็นไอ้นะ ดูเหมือนจะเอ็นดูไอ้นะมันมากเลยอะ เจอกันแค่สองสามครั้งเองแต่กลับเอ็นดูมันเหลือเกิน พอบอกว่าคบกันก็เห็นดีเห็นงามซะจนผมแทบไม่ต้องเสียเวลาอธิบายอะไรสักอย่าง
ส่วนแม่กับพี่สาวไอ้นะน่ะเหรอ? พวกเขารู้ตั้งแต่ที่ไอ้นะแอบชอบผมแล้วเถอะ พอไปบอกว่าคบกันก็แทบจะกรีดร้องใส่ (หมายถึงพี่สาวมันน่ะนะ ส่วนแม่แค่แสดงความยินดีด้วย) เล่นเอาผมทำหน้าไม่ถูกไปเลย ฮื่อ
“เออ เมื่อกี้พี่รหัสกูทักมา ชวนไปเลี้ยงสายอะ ไปด้วยกันมั้ย?”
ผมเลิกคิ้ว “เลี้ยงสายก็แปลว่ามีแต่สายมึงไหมล่ะ ไม่เอาอะ กูไม่ไปหรอก”
“พวกพี่เขาไม่ว่าหรอก เขารู้ว่ามึงเป็นแฟนกู”
“ไม่เอา ไม่อยากไปให้ถูกล้อ พวกพี่ๆ มันต้องแกล้งแซวจนกูทำหน้าไม่ถูกแหง”
“ก็ปล่อยให้เขาแซวไปดิ เรื่องจริงจะกลัวอะไรล่ะ” ไอ้นะว่าพลางเดินมาทิ้งตัวลงนอนหนุนตักผมที่นั่งพิงขอบเตียงอยู่ มันดึงมือผมไปจับ หอมแล้วหอมอีกพลางทำตาอ้อน “นะ ไปด้วยกัน”
“ไม่...”
“อยากอวดแฟน”
ผมหน้าร้อน “ไปใหญ่ละ อวดแฟนอะไรของมึง”
“ก็อยากอวด ให้คนอื่นได้เห็นว่ากูรักมึงมากกก”
“..!”
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นี้มัน...ครั้งแรกป่ะวะที่ไอ้นะบอกว่ารักอะ!
“เถอะน่า ไปด้วยกัน”
“เดี๋ยวๆๆ เมื่อกี้มึง...” ผมยื้อมือที่ถูกมันหอมไม่หยุดเอาไว้ “มึงบอกว่ารัก...กูเหรอ?”
คนถูกถามเลิกคิ้ว แล้วมันก็ยิ้มกว้าง ผุดลุกขึ้นนั่งพลางกอบกุมแก้มทั้งสองข้างของผมด้วยอุ้งมือหนา บีบจนปากผมจู๋ หน้าผมยู่ไปหมด แล้วมันก็จุ๊บลงมาซ้ำๆ จนผมได้แต่ร้องประท้วงในคอ
“ฟังให้ชัดๆ นะครับสระ”
“...” ผมนิ่ง จ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่คมที่ผมเพิ่งค้นพบว่ามันน่าหลงใหลมากแค่ไหน รอฟังสิ่งที่จะหลุดออกมาจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่เลื่อนสถานะเป็นแฟนเมื่อไม่กี่วันก่อนอย่างใจจดใจจ่อ
“นะรักสระนะครับ”
ตึกตัก...ตึกตัก...
“รักมาก รักเท่าโลก เท่ามหาสมุทร เท่าจักรวาล”
...หัวใจผมเหมือนจะหยุดเต้นเลย
“รักโคตรๆ เลยครับที่รัก : )”
แล้วผมจะตอบอะไรได้ล่ะนอกจาก...
“ผมก็รักคุณเหมือนกันครัยคุณพยัญชนะ : )”
สุดท้ายผมก็ทนลูกอ้อนไอ้นะไม่ไหว มาเลี้ยงสายกับมันด้วยจนได้ แล้วพอพวกพี่ๆ รู้ว่าผมมา อีท่าไหนไม่รู้ก็โทรไปชวนพี่รหัสผมออกมาเลี้ยงสายด้วย กลายเป็นว่าทั้งสายรหัสผมและสายรหัสไอ้นะนัดมาดื่มด้วยกันซะงั้น
“ถือเป็นการเลี้ยงสายโคแล้วกันเว้ย น้องมึงกับน้องกูคบกันพอดี”
“เออ จริงด้วย น้องนะกับน้องสระเป็นแฟนกันแล้วนี่นา”
พี่รหัสของผมซึ่งเป็นผู้หญิง เห็นดีเห็นงามไปกับพี่รหัสไอ้นะด้วย ส่วนลุงรหัสกับทวดรหัสก็แค่ส่งเสียงโห่แซว และน้องรหัสของเราสองคนก็แค่ยิ้มกับปรบมือให้เป็นการแสดงความยินดี เอาเข้าไป ล้อกันเข้าไป
“พอเลยๆ ถ้าแซวไม่เลิกผมจะกลับแล้วนะ”
“เฮ้ย ไม่ได้ๆ เรียกมาเลี้ยงเหล้า ไม่เมาห้ามกลับเว้ย”
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ เพราะพวกพี่มันชงเหล้าส่งให้ไม่หยุดเลย แรกๆ ก็ชงอ่อนๆ โซดาเยอะกว่าเหล้า แต่หลังๆ นี่เริ่มจะเหล้าเยอะกว่าโซดา อีกนิดผมว่าพี่มันต้องใส่เหล้าเพียวให้กินแน่ๆ
โชคดีหน่อยที่ผมน่ะคอแข็ง เลยยังพยุงตัวเองอยู่ได้แม้จะซดไปไม่ต่ำกว่าสิบแก้วแล้ว ส่วนไอ้นะก็ยังมีสติอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มจะรั่วๆ เลื้อยๆ แล้วเหมือนกัน...ที่ว่าเลื้อยก็คือมันเลื้อยมากอดเอวผมไม่ปล่อยเลย ไอ้ฉิบหาย อยากบอกว่ามีสติหน่อยเถอะไอ้ห่า อายบ้างไหมเนี่ย
“นะ หยุดเลื้อยเป็นงูได้แล้ว”
“ก็ตัวสระหอม นะอยากกอด”
“แต่นี่มันร้านเหล้าป่ะ”
“ทำไม อายเหรอ?”
“ไม่ได้อาย” ผมพ่นลมหายใจ ขยี้หัวที่จัดทรงมาอย่างหล่อของมันจนยุ่งเหยิง “แต่เขินเว้ย คนมองกันแล้วเนี่ย”
“ตามสบายไอ้น้อง กอดกันได้ๆ แต่อย่าเอากันเป็นพอ”
“บ้าเหรอพี่แทน! ใครมันจะมาเอากันต่อหน้าคนเป็นสิบวะพี่!” ผมแย้งเสียงหลง หน้าร้อนผ่าวเข้าไปอีกยิ่งกว่าเดิมเลยทีนี้ ไอ้ลุงรหัสคนชั่ว พูดออกมาได้ไงวะ แล้วน้องรหัสไอ้นะก็เป็นผู้หญิงด้วย น้องมันทำหน้าไม่ถูกแล้วเนี่ย!
“กลับกันดีกว่า”
“หา? อะไรของมึงเนี่ยนะ จู่ๆ ก็จะกลับ” พี่แก้วทวดรหัสไอ้นะถึงกับเหวอ ผมเองยังเหวอเลย เอ๊า นึกอยากจะกลับก็กลับ ได้เหรอวะ?
“อือ ผมอยากกลับแล้ว รู้สึกเหมือนจะไม่สบายขึ้นมาว่ะพี่”
“มึงแค่เมาหรือเปล่า”
“ไม่พี่ มันปวดท้องแปลกๆ”
ได้ยินแบบนั้นผมก็รีบเช็กสภาพอีกฝ่ายทันที “ปวดท้องเหรอ เป็นอะไรวะ?”
“ไม่รู้เหมือนกันอะ เลยอยากกลับห้องก่อน”
“งั้นกลับ” ผมบอกโดยไม่คิดอ้อมค้อม “พี่ๆ ผมพามันกลับก่อนนะครับ”
“เออๆ งั้นไปเถอะ ไว้วันหลังค่อยมากินด้วยกันใหม่”
บอกลารุ่นพี่และรับไหว้รุ่นน้องเรียบร้อยผมก็โอบเอวไอ้นะพาเดินออกจากร้านเหล้า และเพราะว่าเรามาด้วยแท็กซี่ผมก็เลยโบกแท็กซี่กลับ สิบห้านาทีต่อมาเราทั้งคู่ก็มาถึงหอ
“รู้สึกไงบ้างวะ อยากอ้วกหรืออะไรงี้มั้ย?”
“ไม่” มันส่ายหน้าก่อนจะพาร่างตัวเองไปทิ้งตัวลงบนเตียง “ที่จริงไม่ได้เป็นอะไร”
“อ้าว แล้วรีบกลับไหมอะ!” งงครับ อะไรของมันเนี่ย หรือเมาจนไปหมดแล้วสตงสติ
“กูกลับเพราะมีคนมองมึง”
ห๊ะ? “ขอชัดๆ อีกรอบสิครับคุณแฟน”
แทนที่มันจะตอบกลับยิ้มหน้าบานซะงั้น “เรียกใหม่อีกทีได้ป่ะ ชอบว่ะคำว่าคุณแฟนเนี่ย”
“โอ๊ย ไอ้นะ มึงแม่งงง” ผมหลุดขำ แต่ก็ยอมทำตามที่มันขอ “ตกลงรีบกลับทำไมครับคุณแฟนนน”
พอได้รับสิ่งที่ต้องการเจ้าตัวก็ยิ้มกว้าง ก่อนจะหุบยิ้มแล้วบอกคำตอบที่ทำให้ผมอึ้งจนพูดไม่ออก ก่อนเปลี่ยนเป็นหัวเราะดังลั่น “มีคนมองมึงเพียบเลย กูไม่ชอบว่ะ”
“คุณแฟนครับ เขาก็แค่มองมั้ย”
“บางคนก็มองเหมือนอยากได้มึง ทั้งผู้หญิงผู้ชายเลย ก็น่าจะรู้ป่ะวะว่ามึงมีแฟนแล้ว”
“เขาอาจจะไม่ได้ตามเพจนั้นก็ได้ อีกอย่างมึงอาจจะคิดมากไปเองด้วย” ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คนที่นอนแผ่บนเตียงนุ่ม ยื่นมือไปบีบจมูกไอ้หน้าหล่ออย่างอดไม่ได้ จากนั้นก็เอ่ยปลอบมัน “มึงเมาป่ะเนี่ย คิดอะไรเพ้อเจ้อ”
“กูคงเมาจริงๆ อะแหละ เมารักมึงอะ”
“ขออ้วกได้ป่ะ ฮ่าๆๆๆ” ผมขำอัดหน้ามัน “อีกอย่างใครจะมองกูก็ช่างมันสิ กูมองแค่มึง มึงจะกลัวอะไรอะ”
คราวนี้ล่ะคนฟังได้กลับมายิ้มหน้าบานอีกครั้ง “กูก็มองแค่มึง”
พูดแค่นั้นแล้วมันก็รั้งตัวผมลงไปนอนกอด แถมยังฟัดแก้มผมอีกต่างหาก และผมคงจะไม่ว่าอะไรเลยถ้าไม่ใช่เพราะตอหนวดที่เพ่งขึ้นของมันบาดผิวแก้มผมจนทำให้รู้สึกแสบๆ คันๆ จั๊กจี้แปลกๆ
“โอยไอ้นะ~ หนวดมึงอะ ไปโกนออกเลย”
“โกนให้หน่อย” มันทำเสียงอ้อนๆ แล้วผมจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะ เลยลุกขึ้นแล้วลากมันลุกตาม พามันเข้าไปในห้องน้ำแล้วเริ่มลงมือโกนหนวดให้มันทันที
ไอ้นะก็ดีใจจนออกนอกหน้า กับอีแค่โกนหนวดดีใจจนตาเป็นประกายอะไรขนาดนั้นวะ “อยู่นิ่งๆ นะมึง”
“ครับผม”
ผมเริ่มโกนหนวดไอ้คุณแฟนอย่างใจเย็น และมันก็อยู่นิ่งๆ ตามที่ผมบอก จนกระทั่งภารกิจเสร็จสิ้น ผมใช้ผ้าขนหนูซับหน้าให้มันอย่างอ่อนโยน รู้ตัวอีกสายตาของเราก็สบเข้าหากันในระยะประชิด และราวกับโลกหยุดนิ่ง ใบหน้าของเราเคลื่อนเข้าหากันราวกับมีแรงดึงดูด
ริมฝีปากเราประกบเข้าหากัน จูบที่ไม่ใช่จูบแรก แต่ไม่ว่าจะเป็นจูบที่เท่าไหร่ก็ทำให้ผมใจสั่นได้เสมอ
ผมโอบศีรษะไอ้นะเอาไว้ด้วยสองมือ มันเองก็กอบกุมใบหน้าของผมเอาไว้ เราจูบกันดูดดื่ม ปลายลิ้นร้อนที่ซุกซนเข้ามาในปากของผมทำเอาใจผมพองโตพอๆ กับอ่อนระทวย แค่จูบกลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะอ่อนแรง ไอ้ฉิบหาย ทำไมผมอ่อนหัดขนาดนี้
พอเริ่มหายใจไม่ออกเราถึงได้ผละออกจากกัน ไอ้นะแนบหน้าผากเข้าหาผม หอบหายใจแผ่วเบา จุ๊บปากผมอีกซ้ำๆ เหมือนว่ามันยังรู้สึกไม่พอ และเชื่อเถอะ ผมเองก็คิดว่ามันไม่พอเหมือนกัน
“อยากสัมผัสมึงมากกว่านี้” มันกระซิบบอก และทำเอาผมหน้าร้อนผะผ่าว “แต่กูว่ามึงยังไม่พร้อม”
“กูไม่ห้ามนะ ถ้ามึงอยากทำจริงๆ” ผมบอก และผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ นะ
ไอ้นะยิ้มให้ผม จูบผมหนักๆ อีกครั้ง ก่อนผละออก “วันหลังแล้วกัน วันนี้กูอยากทำแค่จูบมึงจนกว่าปากจะเปื่อยกันไปข้าง”
“...”
“ได้มั้ย?”
ผมหัวเราะ ให้คำตอบกับมันก่อนจะเป็นฝ่ายเริ่มจูบครั้งต่อไปเสียอีก
“ได้เท่าที่ต้องการเลยครับคุณแฟน : )”
_______________________
ต้องมีคนแอบคิดว่าเมาแล้วเข้าต้องได้กัน แต่ขอโทษด้วยนะคะที่คุณคิดผิด! 55555 บ้า เพิ่งคบกันเอง งุ้งงิ้งๆ กันก่อนนน ได้กันเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที อิอิ เจอกันตอนหน้าค่ะ จุ๊บๆ