[เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)  (อ่าน 106945 ครั้ง)

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 29 ความรักที่ดีที่สุด...สำหรับเราสองคน

เวลาผ่านล่วงเลยไป........
   ผ่านช่วงสอบเอ็นทรานซ์รอบที่สองไปด้วยความสบาย เพราะไม่มีอะไรอยู่ในหัว
เลยแม้แต่น้อย  วินเงียบและซึมลงไปจนใคร ๆ ก็ทัก....วินก็ได้แต่อ้างว่าทำข้อสอบไม่ได้
และก็เครียดตกค้างจากการอ่านหนังสือหนัก.......ตั้งแต่เหตุการณ์ที่โรงพยาบาล
วินก็กลายเป็นคนซึม ๆ ไม่ก็เฮฮาอยู่แล้วจู่ ๆ ก็เงียบไปอยู่บ่อยครั้ง ปุ้ยและฟิวก็สังเกตได้
แต่ทุกคนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้....วินยังคงหัวเราะ ยิ้มแย้มได้เหมือนคนปกติ    เพียงแต่
วินลบเรื่องระหว่างวินและแมทไปไม่ได้.....วินหดหู่อย่างยาวนาน ตั้งแต่เกิดเรื่องในเดือน
กุมภาพันธ์มาจนถึงช่วงสงกรานต์    ปีนั้นเป็นปีแรกที่วินไม่ไปเที่ยวไหน หมกตัวอยู่แต่
ในบ้าน……..คุณพ่อคุณแม่ก็คงสังเกตได้ แต่ท่านไม่พูดหรือซักถามอะไร ได้แต่เอาใจ
และชวนพูดคุยอยู่เสมอ   วินนอนร้องไห้คืนเว้นคืนเลยก็ว่าได้....และวินก็เรียนจบแล้ว
ไม่ต้องไปเรียน ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ เหมือนแต่ก่อน      มันทำให้วินยิ่งเศร้าและหดหู่หนัก
น้ำหนักวินลดลงไปจาก 59 เหลือ 50 กิโลฯ ....วินผอมมาก จนใคร ๆ ก็ทัก
วินไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  ตอนนั้นวินยังไม่รู้จัก ‘โรคซึมเศร้า’  ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น
พี่แสงเดือนโทรมาหาวินอยู่เป็นระยะ.....แมทก็ส่งข้อความมาตลอด
เฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละ 4 ครั้งเห็นจะได้....ส่งมาง้อ ส่งมาแสดงความเป็นห่วง ส่งมาบอกรัก
แต่วินไม่เคยตอบกลับไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว....และวินก็เปลี่ยนเบอร์ฯ หนีไปในที่สุด
ไม่มีวันไหนที่วินไม่นึกถึงเหตุการณ์ในช่วง 11 เดือนก่อนเลย  ฟิวโทรหาวินทุกคืน เราคุย
กันตามปกติ   วินมีความสุขและยิ้มแย้มที่ได้คุยกับฟิวทุกครั้ง .........และข่าวคราวที่
พี่แสงเดือนนำมาฝากวินในช่วงนั้นก็คือ ขณะนั้นแมทกลับไปคบกับพี่กอล์ฟ ตั้งแต่
เลิกกับวินได้ไม่ถึงเดือน   พี่กอล์ฟแทบจะเรียกได้ว่ามาอยู่ที่บ้านนั้นเลย เพราะตอนเช้า
ก็ไปโรงงานพร้อมคุณแม่ หรือวันไหนคุณแม่ไม่ไป ก็จะขับรถไปเอง แต่แมทมีท่าทีที่
รุนแรงกับพี่กอล์ฟเสมอ  แมทกลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น ดื่มเหล้า เที่ยว
กลางคืน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และในที่สุดข่าวที่ทำให้วินตกใจที่สุดก็คือ
ระหว่างที่แมทคบวิน แมทไม่ค่อยเข้าเรียน และขาดสอบไป 3 วิชา แมทไม่ได้สอบ
เอ็นทรานซ์รอบ 2 เพราะแมทไม่จบม.6  และนั่นก็คือเหตุผลให้คุณแม่โทรกลับมาด่าวิน
อีกครั้ง เพราะทำให้แมทต้อง ‘ซ้ำชั้น’  และก็สาปแช่งให้วินเอ็นไม่ติด ซึ่งคำสาปนั้นก็เป็น
ไปตามที่คุณแม่ปรารถนา วินไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่วินเลือกไปได้เลยแม้แต่
อันดับเดียว....
............และในวันประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย นั้นเอง............

วินเปิด MSN ก็พบแต่เพื่อน ๆ ตั้งชื่อกันด้วยความดีใจที่สอบติดกันเป็นส่วนใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น ‘ได้เป็นลูกพระเกี้ยวแล้ว’   ‘ลูกแม่โดม’  ฯลฯ

“วินเป็นไงบ้าง”    ฟิวเข้ามาถามในการสนทนา MSN
“ไม่ติด”       วินตอบ
“ไม่เป็นไรหรอกวิน...อย่าเสียใจนะ”    ฟิวพิมพ์กลับมา (ส่วนฟิวสมัครเรียนอินเตอร์ของ
มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งไปแล้ว เพราะเขารู้ตัวว่ายังไงก็คงไม่ติด)
“ปุ้ยได้ xxxx   xxxx”   ฟิวบอกคณะ และสถาบันที่ปุ้ยสอบติด เป็นมหาวิทยาลัยที่
ใครหลายคนอาจจะอยากเข้า แต่ก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่คนนิยมเลือกเป็นอันดับ 1-2
   และวินก็เห็นแท็ก (เด็กเรียน สายวิทย์ ใส่แว่น ตี๋ ๆ คงจำกันได้นะ) ออนไลน์อยู่
วินจึงเข้าไปทัก และถามเขาว่าสอบติดที่ไหน เพราะเขาไม่ได้ตั้งชื่อ MSN บอกเหมือน
คนอื่น ๆ
“แพทย์ฯ”    แท็กตอบกลับมา ....แค่นี้วินก็ชอคในความเก่งจะแย่
“ที่ไหนอ่ะ”    วินถาม….สถาบันที่แท็กตอบมายิ่งทำให้วินอึ้งในความเก่งกาจของเขา
                   เป็นสถาบันที่ใคร ๆ ก็อยากเข้า ไม่ว่าจะคณะใดก็ตาม
                   (โดยเฉพาะเด็กกรุงเทพฯ....วินว่าใคร ๆ ก็ต้องเลือกไว้อันดับที่ 1)
“เก่งมากกกกก....เราไม่ติด”     วินตอบกลับไป

   วันนั้นวินและแท็กคุยกันอยู่นานมาก มากกว่าปกติวิสัย จากนั้นวินก็ขอตัว
ไปนอน ก่อนที่วินจะออกจากการสนทนาไป แท็กก็พิมพ์ขอเบอร์วิน วินงงเล็กน้อย
คิดในใจขึ้นมาว่า ‘เสน่ห์จะแรงเกินไปแล้วนะเรา’ แต่วินก็ให้ไป เพราะอยากปรึกษา
อะไรหลาย ๆ อย่างกับแท็ก


   และนี่ก็เป็นอีกคืนที่วินร้องไห้หนัก เพราะวินทำให้คุณแม่ผิดหวัง ถึงแม้ว่า
คุณแม่วินจะไม่ได้ว่าอะไรเลย ซ้ำท่านยังลูบศีรษะวินเบา ๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร
แต่วินก็รู้ว่าท่านผิดหวัง ....วินร้องไห้จนต้องโทรหาฟิว   ฟิวปลอบวินได้สำเร็จ
และนัดวินให้ไปทานข้าวด้วยที่ร้านโอลดี้ สยามเซนเตอร์ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราทานข้าว
ด้วยกันสองต่อสอง

“วิน....คิดเรื่องของเราบ้างรึเปล่า”   ฟิวถามขึ้น ระหว่างที่เรารออาหารมาเสิร์ฟ
                                                    เขามีสีหน้าที่ค่อนข้างจริงจัง
“คิด...คิดมาตลอดฟิว”     วินตอบ ขณะเดียวกันน้ำตาก็เริ่มคลอ
“ถ้าเราไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ...ฟิวจะจับมือวิน”     ฟิวกล่าว
“ฟิว.........”      วินเรียกขึ้น น้ำตาไหลออกมาในที่สุด
“ฟิวเป็นคนที่ดีมาก......ฟิวดีกับวินอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”     วินเสียงเริ่มสั่น
“ถ้าฟิวจะถามวินว่า...วินรักฟิวรึเปล่า.......วินบอกได้ตรงนี้เลยว่า ‘รักมาก’ ฟิว
รักมากจริง ๆ ....มันเริ่มจากความชอบ และกลายเป็นความรักตอนไหนวินก็ไม่รู้………
ฟิวทำให้วินมีความสุขที่สุด ตลอดระยะเวลา 1 ปีมานี้ ...ทุกครั้งที่วินร้องไห้ วินจะนึกถึง
ฟิวเป็นคนแรก และฟิวก็คือคนเดียวที่ทำให้วินยิ้มได้ทุกครั้ง”    วินกล่าว
“มีแต่ใช่มั้ยวิน.....”   ฟิวน้ำตาคลอ
“ฟิว........วินผิดหวังกับความรักครั้งแรกมาอย่างสาหัส....วินไม่สามารถกลับไปเป็น
เพื่อนกับแมทได้อีกด้วยซ้ำ”     วินกล่าว
“แล้ว....”     ฟิวถาม
“วินรักฟิว....และต้องการอยู่กับฟิวอย่างนี้ตลอดไป ....วินรักฟิวมาก ......”   
วินร้องไห้หนักขึ้น จนพนักงานเริ่มมอง
“แต่มันมากเกินกว่าที่วินจะคบกับฟิวเป็นแฟนได้......วินมีเหตุผลนะฟิว”    วินกล่าว
....ฟิวมีสีหน้าเศร้าอย่างมาก และรอฟังเหตุผลของวิน
“ฟิว.......ฟังนะ...........ถ้าเราคบกัน มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก.........แต่วินกลัว.......ฟิว - - -
วินกลัวว่าเราจะจบไม่ดี...... วินกลัวว่าในที่สุดเราต้องเลิกกัน........แล้ววินจะเสียคนดี ๆ
อย่างฟิวไป..........วินมีบทเรียนมา 1 ปี.....วินไม่อยากให้เราเป็นอย่างนั้น”   วินกล่าว
“วิน.....ฟิวไม่มีทางทำอย่างนั้นกับวิน.......ฟิวอยากคบวิน....ไม่ใช่แค่เพราะวินน่ารัก
เหมือนที่ฟิวเคยบอก..........แต่ฟิวชอบนิสัย และทุกอย่างที่เป็นวิน......ฟิวว่าวินแตกต่าง
………ให้โอกาสเราทั้งสองคนไม่ได้หรอวิน........เราไม่เลิกกันหรอก”    ฟิวเริ่มน้ำตาไหล
“วินรู้นะฟิว.....ว่าเราอาจจะไม่เลิกกัน หรือคบกันไปจนตาย.........แต่วินไม่กล้าแม้แต่จะ
ลองเสี่ยงคบกับฟิว....เพราะถ้าเลิกกัน.....วินต้องเสียใจมากที่ต้องเสียฟิวไป”   วินร้องไห้
“วิน......”   ฟิวตาแดงก่ำ พยายามกลั้นน้ำตา และมีสีหน้าร้องขอ
“เราเป็นอย่างนี้ดีแล้วฟิว....มิตรภาพของเพื่อนมันยั่งยืนกว่า.......เพื่อนคบกันได้โดยไม่มี
ข้อแม้เลยนะฟิว.........แต่ฟิวรู้ไว้แล้วกัน......ว่าวินรักฟิวมาก”    วินก้มหน้าร้องไห้
“แล้วทำไมเราไม่คบกันหละวิน....ทำไมวินต้องตัดโอกาสของเราสองคน”   ฟิวจ้องตาวิน
“ใครไม่เจอความรักแบบนั้นมาอย่างวิน....ไม่มีทางเข้าใจหรอก...ว่าวินกลัวเพราะอะไร” 
วินตอบ
“วินจะไม่คิดเรื่องนี้อีกแล้วหรอ......วิน”    ฟิวถาม
“วินคิดดีแล้วฟิว.........เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า...........ฟิวอย่าโกรธวิน หรือเลิกเป็น
เพื่อนกับวินเลยนะ.....วินขอร้องนะฟิว เข้าใจวินด้วย”         วินกล่าว
   ฟิวพยักหน้า น้ำตาไหล.....ในที่สุดเราก็ทานอะไรกันไม่ลง จึงสั่งให้พนักงานห่อ
กลับบ้าน
จากนั้นฟิวก็ไปส่งวินที่บ้านปุ้ย ซึ่งวินนัดเจอฟิว และเอารถมาจอดทิ้งไว้ที่นั่น
เพื่อจะได้ออกไปสยามกับฟิว ............
ปุ้ยเห็นเราสองคน เธอก็มีสีหน้าที่พอจะเข้าใจอะไรๆ ได้ จากสีหน้าของวิน
และฟิว เธอจึงไม่พูดหรือไถ่ถามอะไร ฟิวชวนวินไปที่ห้องนอนของปุ้ย โดยให้เหตุผลว่า
อยากคุยกับวินตามลำพัง....และวินก็ตกลง

“ฟิวจะรอนะวิน...”   ฟิวเอ่ยขึ้น  หลังจากเราเข้ามาอยู่กันตามลำพังในห้องของปุ้ย
“อย่าเลยฟิว.....อย่าปิดกั้นตัวเองเหมือนวิน”   วินกล่าว
        ฟิวเข้ามากอดวินไว้แน่น และร้องไห้ วินรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สะเทือนใจวินอย่างมาก
วินคิดในใจอย่างสับสนว่า ‘นี่ตัวเราเป็นบ้าอะไร’  วินรักฟิวที่สุดในตอนนั้น วินรู้สึกดี
กับฟิว อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับแมท แต่ทำไมวินถึงเป็นแฟนฟิวไม่ได้ แต่เหตุผลในใจ  ที่วิน
รู้ดีก็คือ ‘ในที่สุดแล้ว...วินไม่อยากเสียฟิวไป’ 
   ฟิวร้องไห้ออกมาเสียงดัง และกอดวินแน่นขึ้น วินกอดตอบและร้องไห้
“วินขอโทษ...ฟิว….”   วินกล่าวทั้งน้ำตา
ฟิวยังคงร้องไห้หนักต่อไป จากนั้นเขาก็คลายกอดจากวิน และเอามือมาจับแก้มทั้งสอง
ข้างของวินไว้.......ฟิวเอาหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ....วินไม่ฝืนแต่น้อย วินบอกตัวเองในใจ
ว่า  ‘ถ้าฟิวจะจูบ วินก็จะไม่ว่าอะไร’ ให้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ประทับใจของเรา
....ฟิวเข้ามาใกล้จนจมูกและหน้าผากของเราชนกัน ฟิวหลับตา.....

“เราจะเป็นแค่เพื่อนกันต่อไปจริงๆ  ใช่มั้ยวิน”    ฟิวพูดขึ้นเบา ๆ ยังคงหลับตาอยู่
........วินไม่ตอบอะไร ได้แต่ร้องไห้ และรู้สึกเจ็บปวดในใจอยู่อย่างมาก
.…ฟิวพยักหน้ายอมรับสภาพของเราทั้งสอง และเขาเปลี่ยนทิศทาง  จากที่จะจูบปากวิน
มาเป็นหอมที่แก้ม......ฟิวหอมที่แก้มของวิน โดยแช่อยู่นานเกือบ 1 นาที โดยที่ร้องไห้อยู่
ตลอดเวลา
“ในอนาคตใกล้ ๆ นี้.......ฟิวคงรักใครไม่ได้เท่าวินอีก”    ฟิวกระซิบที่ข้างหู
วินได้ยินที่เขาพูดก็ยิ่งร้องไห้หนัก และเป็นฝ่ายเข้าไปกอดเขาก่อนบ้าง
“เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างนี้ ตลอดไปนะฟิว”    วินกล่าว และคลายกอดเขา
.......ฟิวจับมือวินทั้งสองข้าง และมองหน้าวินอยู่พักใหญ่

“หวังว่าแฟนในอนาคตของวินจะรู้นะ.....ว่าเค้าโชคดีแค่ไหน”   ฟิวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
......ฟิวนี่เอง ที่เป็นคนทำให้วินรู้สึก ว่าตัวเองกลับมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง.........

   และเราทั้งสองก็ออกมาจากห้อง โดยที่มีปุ้ยยืนน้ำตาไหลอยู่นอกห้อง

“พวกแกทำไมถึงบ้ากันได้ขนาดนี้ว้ะ.......วิน...ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลย”   ปุ้ยกล่าวจบก็
เข้ามากอดวิน และฟิว
“ไอ้วิน...ชั้นจะไม่ร้องไห้ให้เรื่องของแกอีกแล้วนะ......อย่าเอาอะไรมาใส่กะบาลชั้นอีก”
ปุ้ยกล่าว และหัวเราะทั้งน้ำตา
   
         วินขอตัวกลับออกมาก่อน และเปิดซีดีเพลงโปรดของวินและฟิว ที่ฟิวเป็นคนซื้อให้
ระหว่างทางกลับบ้าน.....วินก็อดไม่ได้ที่จะต้องน้ำตาไหล........แต่ลึก ๆ วินก็รู้ดีว่า   นี่คือ
การตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งแรกของวิน ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา.......จะไม่มีอะไรถูกต้อง และ
ดีที่สุด สำหรับวินและฟิวมากไปกว่านี้แล้ว...........

___________________________________________

โปรดติดตามตอนจบ
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน ... เวลา 20.30 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2008 22:43:09 โดย MaWin »

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 29 ความรักที่ดีที่สุด...สำหรับเราสองคน

โปรดติดตามตอนจบ
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน ... เวลา 20.30 น.

^
^
^
ทำเว่อร์ อลังการบานเบอะไปไหนอ่ะ

ออฟไลน์ naja

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
โอ๊ว เศร้าอ่ะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย o7

ICEME

  • บุคคลทั่วไป
บางทีพี่อาจจะทิ้งคนรักที่ดีที่สุดที่ในชีวิตของพี่จะหาได้ก็เป็นได้นะ
แต่ก็จริง ความสัมพันแบบเพื่อนนี่แหละที่ยั่งยืนที่สุด
รอตอนจบของพี่นะ

ปล. อัพไม่บอก มันต้อง :เตะ1:

แมววาย

  • บุคคลทั่วไป
ทำไม ต้องเลือกวัน เวลานี้ เป็นตอนจบด้วยล่ะ 
เฉลย ๆ ๆ  :oni2:

anston

  • บุคคลทั่วไป
ในเมื่อรู้ใจตัวเองขนาดนี้..แต่ก็ยังปฏิเสธไป
วินคงกลัวที่จะสูญเสียคนดีดีไปเพราะความรัก..
จึงให้คำว่าเพื่อนกับฟิว..มิตรภาพที่ยั่งยืนที่สุด

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
หายไปนานเลยเรา
กลับมาช่วยดัน
ช่วงนี้พี่วินงานหนักน่าดูเลย
สู้ตายน้อพี่ท่าน

ขอคอมเม้นยาวหน่อย
เด๋วพี่วินจาเหงางิ คิๆ

อย่างแมทต้องเจอแบบพี่กอล์ฟนะดีแล้วพี่วิน
เหมาะกันดี  เหมือนผีเน่ากับโลงผุๆ หุๆๆๆๆ
ในเมื่อแม่แมทส่งเสริมให้ลูกได้กะพี่กอล์ฟ ก้อปล่อยแกไป
เอิ๊กๆ
น่าจะประมาณว่า "คนอย่างแมท ต้องเจออย่างกอล์ฟ" 55555+

แมทอะ ดูการกระทำภายนอกแล้วหนูว่าเค้าเลวบัดซบสุดๆ
ก็แค่ไอ่เชี่ยตัวนึงอะไรแบบนี้อะ
แต่โทษแมทคนเดียวมันไม่ถูก
แบคกราวน์การเลี้ยงดูของแม่แมทมันทำให้แมทเป็นอย่างงี้ไม่ใช่หรอ
เลี้ยงลูกยังไง ลูกก็จะเป็นยังงั้น
เคสแมทคือ  แม่ตามใจสุดๆ  แม่ไม่ให้แมทต้องเจอกับความลำบาก (อย่างที่พี่แสงเดือนแกเล่าให้พี่วินฟัง)
เมื่อแมทไม่เคยลำบาก ไม่เคยเจ็บปวด เศร้า ทุกข์ใจ เพราะการเลี้ยงดูที่สุดแสนโอเว่อของแม่
มันทำให้แมทไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เลยซักนิด

"รัก" มันเป็นอะไรที่มีหลากหลายรสชาติ
สำหรับเราเราว่ามันเหมือนช๊อกโกแลตที่มีรสขมปนอยู่
มีทั้งหวานทั้งขม อะไรแบบนั้นเลยล่ะนะ
สุภาษิตจีนโบราณที่ตือโป๊ยก่ายชอบพล่ามในเรื่องไซอิ๋วว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์" สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดีเลยว่า
ถ้าคิดจะรักต้องเผื่อใจเอาไว้ เพราะความรักไม่ได้มีแต่เรื่องที่สุขสมเสมอไป
แต่ความทุกข์ก็มีเช่นกัน
นี่คือธรรมชาติของความรัก

ย้อนกลับไปที่การเลี้ยงดูของแม่แมท
ในเมื่อเค้าไม่เคยที่จะได้รับความเจ็บปวด ความทุกข์ ความเศร้าใจใดๆ
แม่โอ๋ตลอด
เวลาแมทมีความรัก  แล้วต้องเจ็บปวด ต้องเศร้า ต้องเจ็บใจ
แม่ก็จะออกมาปกป้องลูกตัวเองเหมือนอย่างที่เคยทำ
ปรากฎว่า แมทไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติของความรักซักที
จริงๆ แล้ว แมทไม่รู้ว่าการมีความรักรสชาติของมัน และธรรมชาติของมันเป็นยังไง

แมทก็ยังคงเป็นคนที่ไม่รู้อยู่อย่างเงี้ยะ

ขอโทดนะคะ  คนอย่างแมทอะค่ะ  น่าจะรู้จักกับความรู้สึกต่างๆ ในแง่ลบ และยอมรับที่จะแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง
ด้วยวิธีที่คนอื่นเค้าไม่เดือดร้อน
รู้จัก ณ จุดๆ นี้ก่อนเถอะค่ะ

คนอย่างแมทถึงจะรักคนอื่นเป็นซักที

ว่าปะ พี่วิน

แต่แม่แมทก้อใช่ว่าจะผิดไปทุกอย่าง  เค้าบ้านี่นา - -" เหอๆ

ถ้าแมทได้ไปอยู่กะพ่อ แมทคงจะเป็นคนเหมือนคนปกติเนอะพี่วิน

วันนี้หนูมาโหมด วิญญาณ คริกะติก (Critic) เข้าสิง
องค์ลงๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


ดันแล้วนะจ๊า
จัดห้ายยยยย
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:


 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

ช่วงนี้ก็ เรียนซัมเมอร์ เด้

 o2  ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดทุกวี่ทุกวัน

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
 :เฮ้อ: รักครั้งแรกแสนสาหัสจริงๆ ไม่กล้าแม้แต่จะรักใครอีก  :m13: :m13:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ว เศร้าอ่ะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย o7
วินตัดสินใจถูกมั้ยอ่าาา  :o12:

บางทีพี่อาจจะทิ้งคนรักที่ดีที่สุดที่ในชีวิตของพี่จะหาได้ก็เป็นได้นะ
แต่ก็จริง ความสัมพันแบบเพื่อนนี่แหละที่ยั่งยืนที่สุด
รอตอนจบของพี่นะ

ปล. อัพไม่บอก มันต้อง :เตะ1:
ก็จริงอย่างน้องเต่าว่า ฟิวอาจเป็นคนรักที่ดีที่สุดของวิน
แต่วินเองก็กลัวว่าจริง ๆ แล้ว ฟิวอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีได้มากกว่าเป็นแฟนที่ดี
คงไม่มีใครอยากเสียเพื่อนดี ๆ ไปด้วยการเป็นแฟนกัน จริงม้าย

ทำไม ต้องเลือกวัน เวลานี้ เป็นตอนจบด้วยล่ะ 
เฉลย ๆ ๆ  :oni2:

อิอิ ว่าจาเฉลยวันจันทร์ แต่บอกเลยกะได้
เห็นว่าเดือนนี้ เป็นเดือนเดียวกันกับวันที่วินคบแมท (12 เมษา 2546)
ถือเคล็ดว่าให้เรื่องนี้จบในเดือนที่เราคบกันครบรอบ 5 ปี (ถ้ายังคบกันอยู่)
แต่สลับเลขซะหน่อย เหมือนกรวดน้ำแล้วคว่ำขันเป็น  21 เมษา 2551
เรื่องของวินจะได้จบไปพร้อม ๆ กันกับตอนที่ 30 เลย ชาตินี้ไม่ต้องมาเจอกันอีก อิอิ
เว่อร์ไปม้ะ ???

ในเมื่อรู้ใจตัวเองขนาดนี้..แต่ก็ยังปฏิเสธไป
วินคงกลัวที่จะสูญเสียคนดีดีไปเพราะความรัก..
จึงให้คำว่าเพื่อนกับฟิว..มิตรภาพที่ยั่งยืนที่สุด
แอบซึ้งนะเนี่ยคุณ anston เป็น quote เด็ดประจำตอนได้เลยทีเดียว  :oni2:


:เฮ้อ: รักครั้งแรกแสนสาหัสจริงๆ ไม่กล้าแม้แต่จะรักใครอีก  :m13: :m13:

งั้นแสดงว่าวินประสบความสำเร็จในการตั้งชื่อเรื่อง
อันนี้ต้องยกเครดิตให้น้อง Yurameki ที่ช่วยกันตั้งชื่อจนเกือบรุ่งสาง  :a2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-04-2008 22:11:53 โดย MaWin »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






MaWin

  • บุคคลทั่วไป
หายไปนานเลยเรา
กลับมาช่วยดัน
ช่วงนี้พี่วินงานหนักน่าดูเลย
สู้ตายน้อพี่ท่าน

ขอคอมเม้นยาวหน่อย
เด๋วพี่วินจาเหงางิ คิๆ

อย่างแมทต้องเจอแบบพี่กอล์ฟนะดีแล้วพี่วิน
เหมาะกันดี  เหมือนผีเน่ากับโลงผุๆ หุๆๆๆๆ
ในเมื่อแม่แมทส่งเสริมให้ลูกได้กะพี่กอล์ฟ ก้อปล่อยแกไป
เอิ๊กๆ
น่าจะประมาณว่า "คนอย่างแมท ต้องเจออย่างกอล์ฟ" 55555+

แมทอะ ดูการกระทำภายนอกแล้วหนูว่าเค้าเลวบัดซบสุดๆ
ก็แค่ไอ่เชี่ยตัวนึงอะไรแบบนี้อะ
แต่โทษแมทคนเดียวมันไม่ถูก
แบคกราวน์การเลี้ยงดูของแม่แมทมันทำให้แมทเป็นอย่างงี้ไม่ใช่หรอ
เลี้ยงลูกยังไง ลูกก็จะเป็นยังงั้น
เคสแมทคือ  แม่ตามใจสุดๆ  แม่ไม่ให้แมทต้องเจอกับความลำบาก (อย่างที่พี่แสงเดือนแกเล่าให้พี่วินฟัง)
เมื่อแมทไม่เคยลำบาก ไม่เคยเจ็บปวด เศร้า ทุกข์ใจ เพราะการเลี้ยงดูที่สุดแสนโอเว่อของแม่
มันทำให้แมทไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เลยซักนิด

"รัก" มันเป็นอะไรที่มีหลากหลายรสชาติ
สำหรับเราเราว่ามันเหมือนช๊อกโกแลตที่มีรสขมปนอยู่
มีทั้งหวานทั้งขม อะไรแบบนั้นเลยล่ะนะ
สุภาษิตจีนโบราณที่ตือโป๊ยก่ายชอบพล่ามในเรื่องไซอิ๋วว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์" สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดีเลยว่า
ถ้าคิดจะรักต้องเผื่อใจเอาไว้ เพราะความรักไม่ได้มีแต่เรื่องที่สุขสมเสมอไป
แต่ความทุกข์ก็มีเช่นกัน
นี่คือธรรมชาติของความรัก

ย้อนกลับไปที่การเลี้ยงดูของแม่แมท
ในเมื่อเค้าไม่เคยที่จะได้รับความเจ็บปวด ความทุกข์ ความเศร้าใจใดๆ
แม่โอ๋ตลอด
เวลาแมทมีความรัก  แล้วต้องเจ็บปวด ต้องเศร้า ต้องเจ็บใจ
แม่ก็จะออกมาปกป้องลูกตัวเองเหมือนอย่างที่เคยทำ
ปรากฎว่า แมทไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติของความรักซักที
จริงๆ แล้ว แมทไม่รู้ว่าการมีความรักรสชาติของมัน และธรรมชาติของมันเป็นยังไง

แมทก็ยังคงเป็นคนที่ไม่รู้อยู่อย่างเงี้ยะ

ขอโทดนะคะ  คนอย่างแมทอะค่ะ  น่าจะรู้จักกับความรู้สึกต่างๆ ในแง่ลบ และยอมรับที่จะแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง
ด้วยวิธีที่คนอื่นเค้าไม่เดือดร้อน
รู้จัก ณ จุดๆ นี้ก่อนเถอะค่ะ

คนอย่างแมทถึงจะรักคนอื่นเป็นซักที

ว่าปะ พี่วิน

แต่แม่แมทก้อใช่ว่าจะผิดไปทุกอย่าง  เค้าบ้านี่นา - -" เหอๆ

ถ้าแมทได้ไปอยู่กะพ่อ แมทคงจะเป็นคนเหมือนคนปกติเนอะพี่วิน

วันนี้หนูมาโหมด วิญญาณ คริกะติก (Critic) เข้าสิง
องค์ลงๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


ดันแล้วนะจ๊า
จัดห้ายยยยย
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:


 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

ช่วงนี้ก็ เรียนซัมเมอร์ เด้

 o2  ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดทุกวี่ทุกวัน

ไม่เจอซะนาน เม้นยาวเหมือนเดิมนะคุณน้องเอ๋ย  :m4:

คิดถึงจัง ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ ต่างคนต่างมีภาระ

คนนึงใกล้จบ คนนึงยุ่งกับการเริ่มเป็นเฟรชชี่

ยังไงก็สู้ ๆ สู้ตาย หนทางยังอีกยาวไกล (มีแอบขู่  :m23:)

และก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยเน่ออออ

anston

  • บุคคลทั่วไป
เห็นน้องวินเข้ามา..นึกว่ามาต่อเร็วกว่ากำหนดซะอีก
ที่แท้ก็เข้ามาตอบเม้นนี่เอง..ขอบคุณสำหรับคำชมน๊า :m13:
เรื่องนี้ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้วรึนี่..
แล้วตัวละครแต่ละคนนี่ตอนนี้เป็นไงบ้างนะ..
ส่วนน้องวิน..หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆจากความรักมา คงจะรู้จักความรักดีขึ้นแน่ๆ.. :a1:
แล้วจะรออ่านบทสรุป..ความรักของวิน.. :bye2:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 30 ชีวิต...หลังพายุฝน
(ตอนจบ)
   วินและฟิวยังคงโทรฯ คุยกันทุกคืนตามปกติ  พอเวลาล่วงไป ฟิวบอกกับวินว่า
เขาจะพยายามโทรหาวินให้น้อยลง เขาจะได้ทำใจเป็นเพื่อนกับวินให้ได้ในที่สุด
ระหว่างนั้นวินก็โทรคุยกับแท็ก นักเรียนแพทย์เฟรชชี่  คุยกันในเรื่องที่เราสนใจ และ
วินก็ปรึกษาเรื่องเรียนกับแท็ก  เพราะตอนนั้นวินเริ่มคิดถึงเรื่องการสอบเอ็นทรานซ์
ครั้งใหม่ในปีหน้า หรือที่เรียกกันว่า “ซิ่ว”  นั่นเอง......วินและแท็ก เราเริ่มสนิทสนม
และคุยกันถูกคอมากขึ้น.....แท็กเป็นคนดี สุภาพ และตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก

วินขอคำปรึกษาเรื่องสถานที่เรียนกวดวิชา ที่เขาเคยเรียนมา ...กระทั่งวันหนึ่ง
วินกับเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย ไปเดินเล่นเที่ยวที่สยามกัน ...โดยในวันนั้นแท็กนัด
ให้วินมาเจอที่หน้าร้านเอสแอนด์พี (S&P) เขาบอกว่ามีอะไรจะให้....และวินก็ไปตามที่
แท็กนัด…..และในวันนั้นเอง จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตที่ดี และการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตของวิน
ก็เกิดขึ้น   แท็กขนหนังสือทุกวิชาที่เขาเคยไปกวดวิชามา มีลายมือของเขาที่จดเนื้อหาไว้
อย่างละเอียด  ไม่ว่าจะเป็นวิชาภาษาไทย สังคม และยังมีซีดีเพลงศัพท์อีกจำนวนมาก
ใส่มาในถุงใบใหญ่ และเขาก็มอบให้แก่วิน....

“ลองอ่านดูก่อน...แล้ววินค่อยคิดจะสมัครเรียน”   แท็กให้เหตุผล...แท็กเป็นเด็กเรียน
ในสายตาคนร้อยทั้งร้อย  เขาเป็นคนดี สุภาพ พูดจามีเหตุผล และน่าเชื่อถืออย่างมาก
....วินรับหนังสือและซีดีเพลงท่องศัพท์ที่เขาเตรียมมาให้ไว้ และเริ่มทบทวนทั้งหมด
อย่างจริงจัง  วินฟังเพลงศัพท์แทนฟังเพลง วินพกเพลงศัพท์ติดรถไว้ และลงเพลงไว้
ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อนั่งฟังเวลาว่าง ....วินรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่แท็กได้ทำให้วินเป็น
อย่างมาก....และในที่สุด เมื่อเข้าสู่เทอมที่ 2 ของชีวิตมหาวิทยาลัย วินก็เริ่มขอคุณแม่
ไปเรียนพิเศษ เพื่อเตรียมสอบใหม่อีกครั้ง โดยคุณแม่ก็ยอมตกลง แต่ในขณะเดียวกัน
วินก็ไม่ได้ทิ้งการเรียนที่มหาวิทยาลัยเลย เทอมแรกวินได้เกรดเฉลี่ย 3.66 ซึ่งถ้าวิน
รักษาระดับนี้ไว้ได้ วินสามารถทำเกียรตินิยมอันดับ 1 ได้เลยทีเดียว ...คุณแม่เสียดาย
เล็กน้อยที่วินจะทิ้งเกรดนี้ไป แต่ท่านก็ไม่ขัด หากมันคือความฝันของวิน
   แท็กให้คำปรึกษาวินอย่างดีเสมอมา ในขณะที่เขาเองก็เรียนหนัก แท็กและวิน
เริ่มคุยกันเกือบทุกคืน วินไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นไปในแนวทางใด วินรู้แต่ว่า
แท็กเป็นคนดีเหลือเกิน....วินรู้สึกดี และไว้ใจแท็กอย่างมาก จนกระทั่งแท็กนัดวิน
ไปทานสเต็กที่ร้าน “นิวไลท์” ในสยาม นั่นคือร้านแรก และมื้อแรกของเรา
....ฟิวรับรู้เรื่องแท็กมาโดยตลอด....ฟิวดีใจกับวินที่เจอเพื่อนดีๆ  และระหว่างนั้นฟิวเอง
ก็เริ่ม ๆ ศึกษาดูใจกับเพื่อนของเขาที่เรียนด้วยกัน แต่คบกันได้ไม่นาน ฟิวก็เลิก และ
กลับมาคุยกับวินมากขึ้นกว่าเดิม และให้เหตุผลว่า “ยังไงก็ไม่มีใครเหมือนวิน”   
ทำเอาวินลอยสูงไปเลยอยู่เหมือนกัน....แมทยังคงตามรังควาญให้วินลำบากใจอยู่บ้าง
พี่แสงเดือนโทรมาบอกวินว่า แมทเอาอีโต้ไล่สับพี่กอล์ฟ เพื่อไล่ให้ออกไปจากบ้าน
ทั้งสองคบกันได้เดือนเศษ ๆ ก็เลิกกันอีกครั้ง  พี่แสงเดือนบอกว่า แมทควงแฟนมาที่บ้าน
เดือนละคนเลยเห็นจะได้ วินเปลี่ยนเบอร์ไปเป็นเบอร์ที่ 4 เพราะไม่รู้ว่าแมทรู้เบอร์ใหม่ ๆ
ของวินได้อย่างไร จนกระทั่งวันนึง วินเปลี่ยนมาเป็นเบอร์ที่ 7 เห็นจะได้ วินลองไม่บอก
เบอร์ใหม่นี้กับอั้มดู (หลังจากที่สังเกตกับปุ้ยมานาน)  แมทก็ไม่โทรหาวินอีกเลย
มีแต่ส่งอิเมลมา ส่งเพลงซึ้ง ๆ มาให้บ้าง และวันวาเลนไทน์ล่าสุด (2008) เขาก็ส่งเพลง
มาให้ทางอิเมล พร้อมให้คนขับรถนำโหลแก้วที่บรรจุทรายสี ๆ เป็นรูปหัวใจมาให้วิน
ที่บ้าน พร้อมด้วยช็อคโกแลตดูดีมีราคากล่องใหญ่อีก 1 กล่อง โดยมีการ์ดที่เขียนว่า…..
‘ยังรัก และรอคอย’.....และวินก็ทานช็อคโกแลตหมดคนเดียวภายใน 2 วัน (ตายแล้ววิน-*-)

   เมื่อการสอบเอ็นทรานซ์ครั้งที่ 2 ของวินมาถึง วินเข้าไปสอบด้วยความมั่นใจ
และทำข้อสอบ ‘พอได้’ และผลก็เป็นที่น่าพึงพอใจ วิชาภาษาไทยจาก 52 เป็น 68
วิชาสังคมจาก 42.5 เป็น 65  ภาษาอังกฤษจาก 64 เป็น 76 และภาษาฝรั่งเศส
จาก 38.75 เป็น 58.75...................และเมื่อถึงวันประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย
....ในที่สุดวินก็สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่วิน และคุณแม่ใฝ่ฝันได้.....และช่วงนั้นเอง
ที่คุณแม่รับรู้เรื่องของวินและแท็ก ท่านไม่ได้ว่าอะไรเลยแม้แต่น้อย ท่านกลับดีใจ
ที่ชวนกันเรียน ไม่พากันเสีย แท็กและวินเริ่มคุยกันจริงจัง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2547
และคบกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ เราตกลงคบกันเป็นแฟนมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว
แท็กไม่เคยหึง ไม่เคยทำร้าย ไม่เคยตวาด ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ท่าทีของแท็ก
ในวันแรกที่เราเจอกัน คบกัน เป็นอย่างไร ทุกวันนี้แท็กก็ยังคงเป็นเช่นนั้น มีแต่จะดีขึ้น
และหวานขึ้นด้วยซ้ำ  มีบ้างที่เราทะเลาะกัน วินจะเป็นฝ่ายอารมณ์เสีย และมีท่าที
กับแท็กก่อนเสมอ   แต่แท็กก็จะเอาท่าทีใจเย็นของเขาเข้าแลก เราไม่เคยทะเลาะ หรือ
โกรธกันข้ามวันเลย แท็กยอมวินเสมอ และเข้าใจในตัวของวิน และเหตุผลของเขาที่
บอกว่ารักวิน ก็เช่นเดียวกันกับฟิว แท็กบอกว่า “คนอย่างวิน หายาก”  วินดีใจจริงๆ
ที่มีคนชื่นชมวินในลักษณะนี้มาตลอด
วินเป็นแฟนคนแรกของแท็ก..........แท็กรับรู้เรื่องของวินและแมท แต่ก็ไม่มากนัก
เราทั้งสองคนเคยถูกแมทคุกคาม และก่อกวน จนเราเลิกกันไป 1 ครั้ง แต่ก็กลับมาคืนดี
กันได้  เนื่องจาก ‘ฟิว’ เป็นผู้ช่วยทำให้วินและแท็กกลับมาคบกันต่อไป.....จนถึงปัจจุบัน
   ฟิวยังคงโทรหาวินอยู่เสมอ แรก ๆ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง พอนานไปก็เหลือ
อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และพอถึงปัจจุบัน ก็เหลือเดือนละ 1 – 2 ครั้ง....ฟิวโทรมาถาม
สารทุกข์ สุขดิบ และยังคงหยอดคำหวานอยู่เป็นระยะ ทั้งยังพูดทีเล่นทีจริงว่า
“ยังรอวินอยู่นะ” อยู่เสมอ ๆ (วินก็ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า)

   หลังจากที่วินเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ไม่นาน คุณแม่แมทก็โทรมาหาวิน
ขอร้องให้กลับไปคบกับแมท เพราะตั้งแต่เลิกกับวิน แมทเปลี่ยนไปอย่างมาก
เที่ยวเกือบทุกคืน กลับมาก็เมาเหมือนหมา (คุณแม่บอกอย่างนี้นะ) เวลาเมา
แมทก็จะร้องไห้ และพูดถึงแต่วิน  แมทมีแฟนเยอะมาก แต่ไม่คบใครจริงจังเลย
คุณแม่กลัวแมทจะติดโรคร้าย จึงโทรหาวิน เพื่อให้วินกลับไปคบ แต่วินปฏิเสธ
และบอกว่าวินมีแฟนใหม่แล้ว คุณแม่ก็ยอมรับและเข้าใจแต่โดยดี แต่ยังคงทิ้งท้ายไว้ว่า
“ถ้าเลิกกับแฟนคนนี้เมื่อไหร่ ให้กลับไปคบแมททันที”   แต่วินคิดอยู่แล้วว่ายังไงวินก็คง
ไม่กลับไปอย่างแน่นอน

   ในมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่วินใฝ่ฝันนี้ วินได้พบแต่เพื่อนดี ๆ และทุกคนก็ทำให้
วินมีความสุขและลืมทุก ๆ อย่างได้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ฟิวเป็นคนพาวินไปหาจิตแพทย์
ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณพ่อของฟิว  คุณหมอบอกว่าวินเป็นโรคซึมเศร้า ให้วินหลีกเลี่ยง
การอยู่คนเดียวไประยะใหญ่ และก็ให้คำปรึกษาต่าง ๆ นานา จนปัจจุบัน วินก็ไม่ต้อง
นึกถึงเรื่องของวินกับแมทอีกต่อไป   และทิ้งมันไว้ข้างหลัง เป็นความทรงจำ และ
บทเรียนราคาแพง ที่วินจะไม่มีวันลืมเลยในชีวิตนี้

   ช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งกำลังจะขึ้นเทอมสอง  ของชีวิตนักศึกษา
ขณะที่วินกำลังนอนดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน พี่แสงเดือนก็โทรเข้ามาหาวิน........
“คุณวินคะ....พี่แสงเดือนมีเรื่องจะรบกวน”   พี่แสงเดือนทำเสียงขอร้อง
“อะไรพี่แสงเดือน....ว่ามาเลย”    วินตอบอย่างเต็มใจ
“คุณวินช่วยไปส่งพี่แสงเดือนที่หัวลำโพงได้มั้ยคะ” 
“ทำไม....พี่แสงเดือนจะไปไหน”   วินตกใจเล็กน้อย…………และสายก็หลุดไป
วินจึงโทรกลับไปหา
“ขอโทษค่ะคุณวิน....เงินพี่แสงเดือนหมด”   พี่แสงเดือนบอกเหตุผลที่สายหลุด
วินก็ลืมไปเสียสนิท  ว่าควรจะกดวางแล้วโทรกลับไป
“แล้วพี่แสงเดือนจะไปไหน”   วินถามต่อ
“คุณแม่พี่แสงเดือนป่วยมาก....ต้องกลับบ้านแล้วค่ะ.....คุณผู้หญิงโกรธที่พี่แสงเดือน
ลาออก....เลยไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้พี่แสงเดือน ส่วนเงินเดือนของเดือนที่แล้ว
พี่แสงเดือนก็ส่งกลับบ้านไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แม่พี่แสงเดือนหมดแล้ว
พี่แสงเดือนไม่มีเงินนั่งรถไปหัวลำโพงเอง....มีเงินติดตัวอยู่ 800 กว่าบาท
กลัวจะไม่พอค่ารถไฟ......คุณวินช่วยพี่แสงเดือนหน่อยได้มั้ยคะ” 
....พี่แสงเดือนมีน้ำเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
“เฮ้ย...ได้ ๆ พี่แสงเดือน ให้วินไปรับที่ไหน”   วินถาม
“ที่หน้าหมู่บ้านได้มั้ยคะ พี่แสงเดือนรู้ว่าคุณวินไม่อยากมาที่บ้านนี้”  พี่แสงเดือนตอบ
“ได้พี่แสงเดือน...งั้นวินจะออกไปแล้วนะ....จะได้ไปซื้อตั๋วด้วยไง”   วินกล่าว
“ค่ะ....พี่แสงเดือนก็เก็บกระเป๋าแล้ว.....ขอบคุณค่ะคุณวิน”

   วินไปรับพี่แสงเดือนภายใน 20 นาที หลังจากที่วางสาย   และไปส่งพี่แสงเดือน
ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พี่แสงเดือนซื้อตั๋วรถไฟด้วยเงินของเธอเอง เหลือทอนกลับมา
ประมาณ 2 – 3 ร้อยบาท…….รถไฟขบวนของพี่แสงเดือนกว่าจะออกก็เย็นมาก
ตอนนั้นเพิ่งจะบ่ายนิด ๆ วินเลยอยู่เป็นเพื่อนพี่แสงเดือน และพาพี่แสงเดือนไปหา
อะไรทาน   พี่แสงเดือนเล่าเรื่องมากมายในบ้านหลังนั้นให้วินฟัง ก็ไม่มีเรื่องไหน
ที่วินคาดไม่ถึงเลยแม้แต่เรื่องเดียว

“แล้วพี่แสงเดือนจะกลับมาอีกมั้ย”    วินถาม
“ไม่แล้วค่ะ....คงอยู่ดูแลที่บ้านเลย”
“อย่างนี้วินก็คิดถึงพี่แสงเดือนแย่เลยสิ”    วินทำเสียงอ่อย
“โทรคุยกันบ่อย ๆ นะคะคุณวิน”   พี่แสงเดือนยิ้มให้
“ได้เลยพี่แสงเดือน”   วินตอบ
   
   วินและพี่แสงเดือนไปนั่งรอ เพื่อจะส่งพี่แสงเดือน ก่อนรถออกประมาณ 30 นาที

“อะ....พี่แสงเดือนวินให้”   วินยื่นบัตรเติมเงินโทรศัพท์ 500 บาท 2 ใบ ที่วินแวะซื้อ
ระหว่างทาง  ตอนที่ไปรับพี่แสงเดือนที่บ้าน
“โอ๊ย ตายแล้วคุณวิน ให้ทำไมเยอะแยะคะ”  พี่แสงเดือนทำหน้าตกใจ
“พี่แสงเดือนจะกลับบ้าน  แล้วก็ไม่ได้กลับไปเป็นปี ๆ แล้ว ไม่มีเงินในโทรศัพท์เลย
ได้ยังไงกัน”   วินกล่าว
“และก็นี่....”   วินยื่นเงินให้พี่แสงเดือนไป 1,200 บาท (ตอนนั้นวินมีอยู่ 1,300 กว่าๆ
ตั้งใจจะให้พี่แสงเดือนเยอะ ๆ แต่ติดตัวไว้ เผื่อเจอตำรวจตอนขากลับสัก 100 บาท)
“คุณวิน - - พี่แสงเดือนไม่เอาหรอกค่ะ”   พี่แสงเดือนผลักมือวิน
“เอาไปเหอะพี่แสงเดือน”   วินเอาเงินใส่มือพี่แสงเดือน
“คิดซะว่าเป็นค่าจ้าง ที่คอยสืบ และคอยช่วยเหลือวินมาตลอดแล้วกันนะ....ให้วินได้
ให้อะไรพี่แสงเดือนเป็นของขวัญส่งกลับบ้านหน่อยเถอะ....อีกอย่าง มีเงินติดตัวอยู่
2 ร้อยกว่าบาท  ไม่กลัวมีอะไรฉุกเฉินหรอ.....และพอถึงบ้าน ก็รีบโทรหาวินเลยนะ
คราวนี้วินจะไม่โทรกลับแล้วด้วย....โทรมาเองเลย....มีเงินตั้งเยอะแล้ว”  วินกล่าว

...........พี่แสงเดือนน้ำตาไหลพราก เบะปากอีกแล้ว ……
“คุณวินคะ........”  พี่แสงเดือนร้องไห้
“โอ๊ยพี่แสงเดือนอ่ะ”     วินทำทีต่อว่าพี่แสงเดือน เพราะจะทำให้วินร้องตาม
“จะว่าอะไรมั้ยคุณวิน.....ถ้าพี่แสงเดือนจะขอกอดคุณวินซักที”   พี่แสงเดือนถาม
....จบคำถาม วินก็เข้าไปกอดพี่แสงเดือน และร้องไห้ที่ต้องบอกลาพี่สาวที่แสนดี
ของวินคนนี้ไป วินไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน ที่จะได้เจอเธออีก…..เรายืนทำซึ้งกันอยู่
ได้สักพักใหญ่   จากนั้นก็มีประกาศเรียกผู้โดยสาร รถไฟขบวนของพี่แสงเดือน

“ไปนะคะคุณวิน........”  พี่แสงเดือนเอ่ยลา และเข้ามากอดวินอีกครั้ง พี่แสงเดือน
ตัวเล็กเท่าคอวิน จนเธอต้องเขย่ง
“กลับดี ๆ นะพี่แสงเดือน..........ถึงแล้วโทรหาวินเป็นคนแรกเลยนะ”   วินกล่าวทั้งน้ำตา
...พี่แสงเดือนจับมือวินแน่น หน้าตาของเธอแดงก่ำจากการร้องไห้   จากนั้นเธอก็เดินขึ้น
รถไฟไป และหันมาโบกมือให้วินทั้งน้ำตานอง ก่อนจะเข้าไปในตัวขบวน....วินโบกมือลา
ห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่จริง ๆ .................วินยืนอยู่สักพัก หลังจากพี่แสงเดือนขึ้นไป
ในรถไฟแล้ว..............วินมองไปรอบ ๆ และนึกย้อนถึงความทรงจำ เกี่ยวกับพี่แสงเดือน
และวิน และคนบ้านนั้นอีกครั้ง  พี่แสงเดือนทำให้วินต้องนึกถึงเรื่องเก่า ๆ แต่วินก็เพียง
แค่นึกถึงเท่านั้น ไม่ได้เสียใจอะไร....
   
   การได้มาเจอพี่แสงเดือนวันนี้อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมปี มันทำให้
วินคิดอะไรขึ้นมาได้อีกหลายอย่าง.........ตอนนี้  ชีวิตของวินมันได้เข้มแข็งขึ้นมากแล้ว
.....วันเก่า ๆ มันเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้วิน มีวันที่เข้มแข็งอย่างวันนี้
   ต้องขอบคุณคุณแม่และแมท ที่ช่วยทำให้วินมีประสบการณ์ร้าย ๆ ที่มันจะช่วย
ทำให้วินมีกำลังใจต่อสู้กับเรื่องเลวร้ายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต ....ทุกครั้งที่วินมองย้อน
กลับไป ก็ไม่มีเรื่องไหนเลย ที่จะร้ายไปกว่าเรื่องของวินเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้......ทุกอย่าง
มันทำให้วินโตขึ้น เรียนรู้อะไรได้หลายอย่าง        และวินก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ กับคนทุก
รูปแบบที่จะเข้ามาทำลายชีวิตวิน......เหตุการณ์เหล่านั้น ทำให้วินรักตัวเองมากขึ้น และ
ไม่ว่าอย่างไร วินจะไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหน มาหยามศักดิ์ศรีของวินได้อีก และวิน
จะสู้ยิบตา ถ้ามีใครมาดูถูกบุพการีของวินอีกครั้ง
   สิ่งที่วินเรียนรู้ และจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การที่เรา  ต้องเห็นความสำคัญ
ของการ “เริ่มใหม่”   และจงอย่าจมปรัก อยู่กับสิ่งที่ทำร้ายเรา ไม่ว่าเราจะเชื่อมั่น และ
ทุ่มเทกับมันแค่ไหน......คุณค่าของชีวิต คือการที่เราได้ก้าวเดินต่อไป และเผชิญหน้า
กับปัญหาทุกอย่าง และเอาชนะมันให้ได้ด้วยตัวเอง และก้าวข้ามมันมาด้วยความ
ภาคภูมิใจ ........ความรักจากเพื่อน และพ่อแม่ คือพลังสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันเรา
ให้พ้นจากความทุกข์ร้อนต่าง ๆ .....มีคติสอนใจจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่วินท่องจำ
จนขึ้นใจ และเป็นกำลังใจให้วินเดินหน้าใช้ชีวิตต่ออย่างไม่ท้อ ไม่หมดกำลัง นั่นคือ
“Every story has an end, but in life, every end is just a new beginning”
แปลได้ประมาณว่า “ทุกเรื่องราวย่อมมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ทุก ๆ ตอนจบ
จะมีการเริ่มใหม่”    ........เหมือนกับทุกเรื่องราวของวิน ไม่ว่าเรื่องความรักร้าย ๆ ของวิน
มันจะจบลงไปแล้ว  แต่ก็จะมีการเริ่มใหม่ในชีวิตของวิน ที่มันเข้ามาทุกวัน
ถ้าวินมัวแต่ย้ำอยู่กับที่ มัวแต่จมอยู่กับความเสียใจ วินก็จะไม่ได้เริ่มต้นเรื่องใหม่ๆ
ในชีวิต.......วินจะต้องก้าวต่อไปเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
   
   วินและคุณแม่แมท.....แม้ว่าเราจะเคยสู้รบกันมามากมายแค่ไหน   แต่วินดีใจ
ที่วินไม่เคยทำร้ายคุณแม่ด้วยกำลังกลับเลย วินอโหสิกรรมให้คุณแม่ ไม่ว่าชาติไหน
เราไม่ต้องมาจองเวรกันอีก และวินขอให้คุณแม่มีความสุข  กับชีวิตที่คุณแม่ได้ปูทาง
เอาไว้ ให้กับตัวคุณแม่ และลูกชายของคุณแม่เอง
   วินและแมท.....ทุกอย่างจะเป็นความทรงจำดี ๆ ระหว่างเราสองคน วินจะลืม
เรื่องร้าย ๆ ทั้งหมด และอภัยให้ในทุก ๆ อย่าง แม้ว่าแมทอาจจะไม่มีทางอภัยให้วิน
ก็ตาม  ถึงวันนี้ ความโกรธ ความเกลียดชัง ที่วินเคยมีต่อแมท มันก็เปลี่ยนเป็น
การให้อภัย และได้โปรดรับคำ ‘ขอโทษ’ จากวินไปด้วย
   วินและปุ้ย.....เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และยังคงคบกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปุ้ยเอง
ก็สอบเอ็นทรานซ์ใหม่ และติดที่เดียวกับวิน แต่คนละคณะ
   วินและแท็ก.....เราคบกัน รักกัน และเข้าใจซึ่งกันและกัน คนนึงร้อน อีกคนนึง
ต้องเย็น เป็นอย่างนี้เรื่อยมา และเราก็คบกันอย่างมีความสุขมาตลอด 4 ปี จนถึง
ปัจจุบัน....วินขอบคุณแท็ก ที่ทำให้ชีวิตของวินลุกขึ้นได้ จนมีวันนี้ และเข้าใจวินเสมอมา
   วินและพี่แสงเดือน.....พี่สาวสุดที่รัก คนที่คอยช่วยวินเสมอมา คนที่ช่วย
ประคับประคอง    ช่วยเตือนวินให้รู้ตัว และรอดจากเรื่องร้าย ๆ แม้จะทันบ้าง ไม่ทันบ้าง
วินจะไม่มีวันลืมพี่แสงเดือนเลย
   วินและฟิว.....เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่างเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด
จนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่เราได้รู้จักกัน...ฟิว....คนที่วินเคยไม่ชอบหน้า แต่ตอนนี้
เขาเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิต และเป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างวินเสมอมา
ตามคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้....ว่า    ‘เมื่อวินมีปัญหา เขาจะมา’     ฟิวไม่เคยผิดสัญญา
และไม่เคยทำให้วินต้องผิดหวังเลย แม้แต่ครั้งเดียว

         วินนั่งครุ่นคิดถึงอดีตอยู่บริเวณชานชลาได้ไม่นาน ก็ลุกขึ้น และเดินกลับไปยังที่รถ
วินภาคภูมิใจ ที่ได้ผ่านเรื่องต่าง ๆ มาได้ด้วยตัวเอง  และฝันของวินที่มันอาจจะเป็นจริง
ช้าไป 1 ปี.......แต่วินก็ภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต วินทำมันจนสำเร็จได้ในที่สุด   แต่ก็คงมี
ฝันอีกมากมาย ที่ยังคงรอวินในวันข้างหน้า  เพื่อที่วินจะได้ทำมัน ให้สำเร็จในที่สุด.........





“ชีวิตจะมีค่า...ก็ต่อเมื่อมันได้ก้าวต่อไป”
- อวสาน -
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008 18:33:09 โดย MaWin »

ICEME

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ว
จบซะเว่อร์เลยพี่วินจ๋า
ทิ้งคำคมเอาไว้เยอะแยะเลยนะ ในที่สุดชีวิตพี่ก็พ้นภัย
จะว่าไง ถ้าจะบอกว่าแมทน่าสงสารจัง
ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่เจอคนที่รักจริงแล้วล่ะ
หญิืงแม่ก็นะ พอจากไปแล้วจะลากให้กลับมาอ่ะยากส์
แต่ว แล้่วก็คบกะพี่แท๊กซะงั้น
แต่ยินดีด้วยนะที่มีความสุขด้วยกันมาตลอด แทบจะไม่เจออุปสรรคอะไำรเลย
ถึงจะเจอมันก็ไม่เลวร้ายเท่ากับอดีตเมื่อตอนนั้นหรอกใช่มั้ยละ
กะพี่ฟิวก็เป็นเพื่อนที่ดีกันต่อไป ดีแล้วๆ
แต่หญิงอั้มนี่...เหอ...ให้เต่าคิดเล่นๆ นะ เต่าว่าเขางอนพี่ตั้งแต่ตอนเจอกะพี่ฟิวเขามั้ง
ถึงได้ตามจองล้างจองผลาญ
อยากให้สนใจอ่ะป่าวนั่น
น่าจะเป็นแฟนกะเฮียแมทไปเลยนะ
เหมาะกันดี
เปลี่ยนมาคบกะผู้หญิงบ้าง แมทเขาอาจจะใจเย็นขึ้นก็ได้...........................มั้ง



.
.
บ๊ายบาย
จบแล้ว
แต่จะตามราวีทางเอ็ม
555+ :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2008 19:52:16 โดย ICEME »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ลุกขึ้นยืนตบมือ  :m4: :m4: :m4: :m4: จบได้เหมือนในหนังเลย

ชอบบทอวสานมากๆ เคลียร์ทุกอย่าง

ดีใจกับรักครั้งใหม่ของวิน

ดีใจที่ได้รับรู้เรื่องของวิน

ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนเรื่องให้อ่านกัน

 :pig4: :pig4: :pig4:

angsumalin

  • บุคคลทั่วไป
จบได้แบบกำลังใจเต็มร้อยเลยคร๊าบบ  :m1: :m1:

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณทุก ๆ คนเลยน้า ที่เข้ามาอ่านเรื่องของวินจนจบ
และเป็นกำลังใจให้กันเสมอมา คิดถึงจริง  o7
ไว้ว่างจะเอา Deleted scene มาลง
ี่ที่ Deleted ไปเพราะตอนแรกวินเอาไปลงในเด็กดี
เลยต้องลบฉากรุนแรง ถ้อยคำรุนแรง ทำร้ายจิตใจ จากทั้งปากวินและตัวละครอื่น ๆในเรื่อง
เพื่อไม่ให้ทุกคนลืมวิน ไว้จะรวบรวมเอามาลงให้หมดเลย
อิอิ

ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง รักนะจุ๊ฟๆ :o8:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
สาหัสจริง ๆ ด้วย  o2

ยอดมาก ๆ ที่ผ่านมาได้  o13


anston

  • บุคคลทั่วไป
 o7จบได้สุดยอดมาก..ได้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตจากน้องวินเพียบเลย
ก็ขอให้รักษาความเป็นตัวเองไว้ให้สมกับที่เค้าชมว่า..คนอย่างวินน่ะหายาก o13
 :L2:ดีใจด้วยกับความรักที่ลงตัวสุดสุด..
หลังจากผ่านเรื่องร้ายมามากมาก..จากนี้ไปก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ :bye2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
จบแระหรอพี่วิน

เพียวยังไม่ด้ายอ่านตอนจบเรย

เด๋วไปอ่านก่อน

แล้วอย่าลืมเอาเรื่องราวดี ๆ กับคนดี ๆมาให้อ่านมั่งน้า

แต่ยังไงความรู้สึกของเพียวก็ยังสงสารพี่แมทอยู่ดี อ่ะ

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป
DELETED SCENE !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

จามารอเกาะติดสถานการณ์คร่า

อยากอ่านอ่า

ยังไม่เคยอ่านเลย

เอามาลงไวๆ นะ เค๊อะ *-*   :oni1:

Yurameki

  • บุคคลทั่วไป

MaWin

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ย....ยูระ
เค้าขอโต๊ด  ลืมไปเลยว่าจะเขียน Deleted scene
เดี๋ยวขอดึง ๆ มาก่อน
ตอนนี้ว่างแระ เด๋วจาเอามาลงแน่นอนจ้าาาา

ออฟไลน์ ~NeMeSiS_PURE~

  • 행 복 하 길 바 래 ...
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2009
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +196/-2
เงอ ๆๆ  นึกว่าพี่วินลืมไปจิง ๆๆๆ เข้ามาดูทุกวัน ก็ไม่เห็นมา  :laugh: :laugh:

แก้ว

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ppanudet

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ขอบคุณครับ
ชอบๆๆ
เหงา เศร้า ซึ้ง

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นั่งอ่านมาตั้งแต่ตอนเย็นเลย
เกลียดบ้านแมทจริงๆ น่าสงสารที่ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น
ทำให้นึกถึง "หมูแฮม"  :a5:

ออฟไลน์ arty136

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ทนมาได้ไงครับ
แต่ก็อย่างว่าล่ะครับบประสบการณ์สอนเราให้เข้มแข็งขึ้น
ไม่ต่างอะไรกับผมหรอกก
แต่เอ๊ะผมว่าคุณวินก็น่าจะรุ่นๆๆเดี่ยวกับผมซิครับ
นั่งอ่านมานานก็เหมือนได้อ่านเรื่องที่มีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดี่ยวกับผมเลย
(ผ่านบ้านผมบ่อยนะครับบแถรังสิตดอนเมืองง่ะ....อิอิ)
ยังไงก็ขอบคุณนะครับบบที่มีมาเขียนให้อ่านกัน...และยังทำให้รู้ว่าเราไม่ได้มีทุกข์มากขนาดนั้นเมื่อเที่ยบกับคุณวินแล้ว
ผมอ่านข้ามวันเลยครับบบ

mumoo

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาอ่านม้วนเดียวจบคร่า..(โอ้วว...เช้าวันใหม่พอดี)
กดให้คะแนน+1 ไปก่อนจะอ่านเสร็จ นี่กะว่ารีพลายเสร็จจะกดเพิ่มให้อีก

ต้องกดให้เพราะเรื่องนี้รีดน้ำตาพี่จนแห้งเลย  ตาบวมอยู่เนี่ย!! o7
ไม่ได้คิดจะแสดงความสงสารอะไรหรอก แค่อ่านแล้วเผลอจินตนาการว่าเป็นตัวเองน่ะ
ขอบอกว่ามันตื้อๆ แบบหลายอารมณ์ตีกันยุ่งเหยิงไปหมดอ่ะน้อง (ค่อนข้างชัวร์ว่าอายุเยอะกว่า 4-6ปี เพราะของพี่มันเป็นปีแรกที่ใช้ระบบสอบ 2 ครั้ง ทำให้พี่ต้องลี้ภัยความเครียดโดยรีบเอาโควตาสอบตรงก่อนเลยจะได้ไม่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบครั้งหลัง 55+แต่ก็ดีนะเลยได้มาเป็นลูกแม่โดมอย่างเพื่อนน้องไง )

แหม!!ผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะขนาดนี้ ก็ขอให้สิ่งเหล่าเปลี่ยนเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตน้องไปสู่เส้นทางที่ดียิ่งขึ้นๆ นะจร้า และขอบใจมากๆที่อุตสาห์มาถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้คนอ่านได้มุมมองแง่คิดใหม่ๆเพิ่มขึ้น ข้าน้อยขอคารวะ :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด