]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1565813 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
กีตาร์กะอาร์มตอนใหม่ลงไปแล้วนะครับ ^__^

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
กอดคุณต้น!
มันจบได้เจ๋งมากค่ะ  ประทับใจอ่ะ  เป็นเฟรนด์ชิพที่ใหญ่ที่สุดและประทับในความทรงจำเราได้แนบแน่นที่สุดเท่าที่จิเคยเห็นเลยล่ะค่ะ  สุดยอด!
แล้วก้อยากอ่านตอนที่คุณต้นอยากเขียน555 พี่แมทอ่ะค่ะ  ชอบบบบบ
เอาบวกและเป็ดไปนอนกอดนะคะ  ส่วนเรื่องสั้น  จิค่อยตามเก็บทีหลังเนอะ
 :pig4: :กอด1: :กอด1:

watari_tj

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทันซะที หลังจากตามอ่านมา 4 วันรวด
ชอบเรื่องนี้มากเลย  แต่ดีใจอ่านไปแอบเชียร์โจอยู่ สมหวังแล้ว เย้ๆๆ
โดยเฉพาะตอนจบ มิตรภาพระหว่างเพื่อนๆ ซึ้งๆ


temp.jr

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยคับ o13
จบได้ซึ้งมากๆ ชอบๆ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
b56


โจ


หลังจากคืนที่เราแอบเข้าไปในตึกร้างเป็นต้นมา นนท์ก็มานอนอยู่ที่ห้องของผมเป็นวันที่สามแล้ว และผมก็กำลังรู้สึกหงุดหงิดตัวเองอยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะทั้งที่ตัวเองก็รู้สึกดีใจและมีความสุขมากกับการมีเขามาอยู่ด้วย แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่สามารถพูดหรือแสดงออกทางสีหน้าได้มากกว่านี้ ทั้งๆที่เวลาผมอยากจะบอกรักเขาผมยังกล้าพูดออกไปได้อย่างเต็มปากเต็มคำเลยแท้ๆ แต่พอในตอนนี้ ในตอนที่เขามานอนอยู่ข้างๆผม ในตอนที่เขาไม่มีพันธะและอยู่ห่างจากผมแค่เพียงอื้อมมือแล้วแท้ๆ ผมกลับทำได้แค่ตีสีหน้าเย็นชาใส่ และทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าแท้ที่จริงภายในใจมันอยากจะกู่ร้องแสดงความดีใจ แสดงความเป็นเจ้าของ และรวบตัวเขาเข้ามากอดไว้โดยไม่ยอมปล่อยเขาออกไปอีกเลยแท้ๆ

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของเขากับนัท และเขากับผม ย่อมสร้างความแปลกใจและก่อให้เกิดคำถามจากคนอื่นๆมากมาย แต่ผมก็ไม่สนใจ และไม่เคยคิดที่จะสนใจแม้แต่นิดเดียวด้วย โชคดีที่พวกนนท์และไอ้นัทเองต่างก็รู้สึกแบบเดียวกันและคิดจะปล่อยให้เรื่องมันเงียบไปเองแทนที่จะคอยตอบคำถามของทุกๆคน ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มากนัก

ที่จริงผมก็ยอมรับความรู้สึกลึกๆของตัวเองอยู่เหมือนกันนั่นแหละว่าผมรู้สึกชอบและขอบคุณกลุ่มของไอ้นัทมันมากขนาดไหนสำหรับสิ่งที่พวกมันมีให้แก่ผม มันเป็นเรื่องที่พูดและอธิบายได้ลำบากนะ เพราะผมเป็นคนที่ถูกพ่อแท้ๆของตัวเองปฏิเสธและไม่เคยได้รับการยอมรับจากเขาหรือจากใครมาก่อน  ผมไม่เคยมีเพื่อนที่หวังดีกับผมจริง แต่ตอนนี้กลับได้รับการยอมรับและการต้อนรับจากคนกลุ่มนี้เป็นอย่างดี มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากด้วยเช่นเดียวกัน....

ดูท่าทางว่าผมคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกพักใหญ่ๆเลยล่ะมั้ง ถึงจะเคยชินกับการไปไหนมาไหนกับไอ้พวกเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวพวกนี้ได้อย่างสบายใจจริงๆสักที

“เดี๋ยววันนี้มึงจะไปทำการบ้านกับพวกไอ้นัทอีกรึเปล่า” ผมหันไปถามนนท์ที่เพิ่งวางกระเป๋านักเรียนลงบนเตียง

“ก็คงไปแหละ แล้วมึงไม่ไปด้วยกันอะ ไอ้โจ” เขาเองก็ถามคำถามแบบเดิมกับผมมาหลายครั้งแล้วด้วยเหมือนกัน แต่คำตอบของผมก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม....

“ไม่อะ กูอยากอยู่คนเดียวมากกว่า”

“นี่ บางทีกูก็สงสัยนะ ไอ้โจ ว่าที่กูมานอนอยู่กับมึงเนี่ย เท่ากับกูมารบกวนการอยู่คนเดียวของมึงรึเปล่า” เขาถอนหายใจเบาๆ “แต่ช่างมันเถอะ ถ้ามึงอยากให้กูกลับบ้านเมื่อไหร่ก็บอกได้นะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ กูไม่คิดอะไรหรอก.... เอาล่ะ กูไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ต้องไปซ้อมบาสแล้วว่ะ”

“เดี๋ยว” ผมเดินไปจับหัวไหล่ของเขาเอาไว้ ใจอยากจะบอกว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้น ผมไม่ได้คิดว่าเขาทำให้ผมรำคาญหรืออะไรเลย แต่ก็พูดไม่ออก “....เดี๋ยวกูจะไปด้วยก็แล้วกัน”

“ไปไหนวะ”

“ไปสนาม”

นนท์มองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาน้อยๆ “ก็ดีดิ งั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าซะเลยสิวะ”

เขาหยิบเสื้อผ้าออกจากในตู้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนหงุดหงิดตัวเองอยู่แบบนั้นคนเดียว

ที่สนามบาส นนท์ในเสื้อยืดสีขาวและกางเกงขาสั้นที่วิ่งไปทั่วสนามอย่างไม่รู้จักเหนื่อยอ่อนนั้นดูมีชีวิตชีวาและมีความสุขมาก ถึงบาสเก็ตบอลจะไม่ใช่กีฬาหลักของผม แต่ผมก็ดูออกว่าเขาเล่นได้ดีมากและยังดูมีความสุขมากยิ่งกว่าใครๆในสนามอีกด้วย ลูกบาสที่ถูกเขาชู้ตปล่อยออกจากมือไปมักจะลอดลงห่วงและทำให้ทีมได้คะแนนแทบจะตลอด ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าเขาจะมีความสามารถด้านนี้สูงถึงขนาดนี้ และผมก็ยังรู้สึกแปลกใจตัวเองนิดๆด้วยเหมือนกันว่าทำไมกับไอ้แค่การได้เห็นเขาวิ่งไปวิ่งมาพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าแบบนั้น ถึงได้ช่วยทำให้ความขุ่นมัวในใจของผมจางลงไปได้เยอะถึงเพียงนี้

เมื่อเสียงนกหวีดหมดเวลาดังขึ้น นักกีฬาในสนามทุกคนก็ถูกเรียกไปรวมตัวกันเพื่อฟังรุ่นพี่พูดอะไรบางอย่าง และหลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ถูกปล่อยตัวออกมา ตามด้วยทีมใหม่อีกสองทีมที่เดินลงสนามไป นนท์กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตอบกลับไปไม่ได้ แต่เมื่อผมรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังยิ้มไร้สาระอะไรอยู่ ใบหน้าของผมมันจะดูงี่เง่าขนาดไหนทั้งๆที่มีเด็กคนอื่นอยู่ใกล้ๆแบบนี้ ผมก็รีบหุบยิ้มลงทันที

“เฮ้อออออ.... สนุกว่ะ สบายใจด้วย!” นนท์หยุดยืนตรงหน้าผมแล้วเหยียดแขนออกบิดตัวไปมา

“นั่งพักก่อนสิ”

“ไม่เป็นไรว่ะ ขอยืนอีกสักพักดีกว่าเดี๋ยวค่อยนั่ง”

“เอ้านี่ น้ำ....” ผมยื่นขวดน้ำที่วางอยู่ข้างตัวให้กับเขา

“แต๊งกิ้วๆ” นนท์รับขวดน้ำไปดื่มพร้อมกับหันมองไปรอบๆ “อ้าว พวกไอ้ตี๋กลับไปแล้วเหรอวะ เมื่อกี้มันยังซ้อมวิ่งกับน้องๆกันอยู่เลยนี่”

“เออ สักพักนึงแล้ว”

“แล้วมึงอะ เบื่อมั้ยวะ ไอ้โจ มานั่งเฝ้ากูเฉยๆเนี่ย”

“ไม่เบื่ออะ กูอยากทำ”

นนท์ฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ รอยยิ้มบริสุทธิ์ของเขาทำให้ใจของผมแทบจะละลาย

“อะไรวะ ส่ายหน้าทำไม”

“ป๊าวววว” เขานั่งลงข้างๆผม

“เป็นไง เหนื่อยมั้ย นนท์” เสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นจากตรงที่เรานั่งกันอยู่ไม่ไกล

“นิดหน่อยอะครับพี่โป้ง แต่ก็สนุกดี” นนท์หันไปยิ้มตอบให้กับพี่โป้งที่กำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา

“เหรอ ดีแล้วล่ะ ดูท่าทางจะหายดีแล้วนี่ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะ แบบเนี้ย”

“ไม่ต้องห่วงหรอกคร้าบบบ หายดีตั้งนานแล้วล่ะ นนท์แข็งแรงจะตายไปเหอะ”

“คร้าบบ พี่เชื่อน่ะ แบบนี้บาสสีเรามีหวังได้เหรียญทองแน่นอน ใช่มั้ยล่ะ พี่หวังในตัวนนท์นา”

“โหหหห พี่ อย่ามาหวังอะไรในตัวนนท์เลย แบบนี้มันกดดันกันชัดๆนี่หว่าาา”

ผมชักเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นทุกทีๆแล้วนะเว้ย นี่ไอ้พี่โป้งมันจะมาหยอกมาแหย่อะไรกับคนของผมอีกนานมั้ยวะเนี่ย

“ไอ้นนท์” ผมพูดพร้อมกับยืนขึ้น “กลับห้องกันเหอะ”

“อ้าว จะกลับเลยเหรอวะ” มันเงยหน้าขึ้นมามองผมงงๆ

“เออ มึงต้องไปทำการบ้านอีกไม่ใช่รึไง”

“เออว่ะ จริงด้วยๆ” มันยืนขึ้นตามผม จากนั้นก็หันไปหาพี่โป้ง “ถ้างั้นนนท์กลับห้องไปทำการบ้านก่อนนะพี่ เดี๋ยวไม่เสร็จอะ ลืมสนิทเลย”

“โอเคๆ ช่วงนี้ก็ขยันๆหน่อยก็แล้วกันนะ ทั้งมาซ้อมทุกเย็น ทั้งทำการบ้าน คงเหนื่อยหน่อย แต่พี่เชื่อว่าเราทำได้อยู่แล้วล่ะเนอะ คนเก่ง”

“ฮ่าๆๆ ขอบคุณคร้าบพี่ ไงไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”

“โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่แวะไปหาที่โรงอาหารแล้วกัน แล้วเจอกันครับ” พี่โป้งโบกมือให้กับนนท์ จากนั้นก็เหลือบมามองผม และในชั่วงเวลาสั้นๆที่เขากับผมสบตากันนั้นเอง สายตาของเขาก็ช่วยยืนยันสิ่งที่ผมคิดเอาไว้อยู่แล้วได้เป็นอย่างดี

“เสน่ห์แรงนักนะมึง”

“เหอออ จู่ๆก็อะไรของมึงอีกวะ ไอ้โจ”

“นี่มึงไม่รู้ตัวจริงหรือว่าแกล้งโง่วะ ไอ้นนท์ มึงไม่รู้เลยรึไงว่าไอ้พี่โป้งมันชอบมึงอยู่น่ะ กูว่าเผลอๆอีกเดี๋ยวแม่งต้องจีบมึงแน่ๆด้วย”

“เฮ้ยยยยย จริงเหรอวะ กูไม่เห็นรู้สึกเลย กูเห็นพี่เค้าก็คุยกันคนอื่นแบบนี้ทั้งนั้นอะ”

“กูไม่รู้หรอกนะว่ามันคุยกับคนอื่นแบบไหนน่ะ แต่ที่กูรู้แน่ๆคือสายตาที่มันมองมึงอะ มันฟ้องเว้ย”

“เฮ้ย มึงคิดมากไปป่าววว ไอ้โจ มึงแค่หึงกูไปเองม้างงง”

“เออ กูหึงมึง และกูก็ยืนยันว่ากูมั่นใจความคิดของกูร้อยเปอร์เซ็นต์ ไอ้พี่โป้งนั่นมันต้องชอบมึงแน่นอน เพราะงั้นมึงต้องยืนยันกับกูนะเว้ยว่ามึงจะไม่คิดอะไรกับแม่งเด็ดขาดน่ะ ถ้าแม่งมารุ่มร่ามอะไรมึง มึงต้องบอกกู เข้าใจรึเปล่า”

“เออน่า กูบอกมึงอยู่แล้วล่ะ เพราะกูไม่ได้คิดอะไรกับพี่เค้าเลยสักนิด และที่สำคัญ มึงเองก็น่าจะรู้ไม่ใช่เหรอวะว่ากูยังไม่อยากคิดอะไรกับใครคนอื่นทั้งนั้นแหละ....”

ผมไม่รู้ว่าที่มันพูดนี่รวมถึงผมอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่า แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ถามออกไป เพราะบางทีคำตอบของมันก็อาจจะทำให้เราต้องทะเลาะกันอีกก็เป็นได้ และผมก็ยังไม่พร้อมและยังไม่อยากที่จะมีปัญหาอะไรกับมันในตอนนี้ด้วย

หลังจากที่เรากลับมาถึงในห้องแล้ว นนท์ก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นพาดบ่าพร้อมกับรื้อหาเสื้อกับกางเกงที่จะใส่นอน ส่วนผมก็ได้แต่ยืนมองเขาด้วยความอึดอัดใจ

ผมนึกย้อนไปถึงวันที่ผมเดินตากฝนกลับบ้านแล้วเจอเขาเข้า ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นและความอ่อนโยนจากดวงตาของเขายังคงตรึงตราอยู่ในใจของผมอย่างชัดเจนราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ในตอนที่ผมไม่สบายกาย ผมก็ได้กำลังใจและการดูแลอย่างดีจากเขาคนนี้คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ และเมื่อผมมีเรื่องให้ไม่สบายใจ ก็ยังเป็นความห่วงใยจากเขาคนนี้อีกเช่นกันที่ทำให้ผมมีกำลังใจลุกขึ้นสู้ต่อไป ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสงครามที่ไม่มีวันชนะ อย่างเช่นเรื่องระหว่างผมกับพ่อ แต่ผมก็จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะผมรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ผมอ่อนแอและยอมแพ้ เมื่อนั้นเขาคนนี้ก็จะรู้สึกเจ็บปวดไปกับผมด้วยอย่างแน่นอน และผมก็ไม่อยากให้เขาต้องเป็นแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

ผมไม่แปลกใจเลยที่ไอ้นัทจะเคยรักนนท์มากขนาดนั้น เพราะว่านนท์เป็นคนที่อ่อนโยนแต่ก็ยังเข้มแข็ง เป็นคนอบอุ่นแต่ก็ยังดูเปราะบางได้ในขณะเดียวกัน เขาเป็นคนที่ทำให้ใครๆรู้สึกหลงรักได้โดยง่าย ด้วยเสน่ห์ของเขา และความที่ทำให้คนรู้สึกอยากจะปกป้องดูแล แต่ในขณะเดียวกันก็อยากจะมีเขาคอยดูแลและให้ความอบอุ่นอยู่ข้างกายตลอดนี้นั่นเอง ที่คงเรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักในการทำให้ผมไม่ยอมตัดใจจากเขาไปง่ายๆ และแน่นอนว่า ผมไม่คิดว่าความรักที่ผมมีให้แก่เขามาตลอดจะน้อยกว่าใครคนอื่นหรอกนะ เพียงแต่ผมต้องพยายามแสดงมันออกไปให้ดีและมากกว่านี้เท่านั้นเอง

“เฮ้อออ...!!” ผมถอนหายใจแรงๆ

“เอ๊าเฮ้ย! เป็นไรวะ ถอนหายใจขนาดนั้น” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผม

“เปล่า.....” ผมหันไปทางอื่น

“เออๆ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนนะ จะได้รีบไปทำการบ้านอะ สรุปมึงไม่ไปด้วยกันแน่นะ ไอ้โจ”

ผมไม่ตอบ แต่เหลือบมองเขาด้วยหางตา จึงเห็นว่าเขาลอบถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆก่อนจะเดินตรงไปยังห้องน้ำ ผมส่ายหัวแรงๆ สะบัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออก แล้วรีบพุ่งตัวไปกอดเขาเอาไว้จากทางด้านหลังทันที

“เดี๋ยว”

“เอ้ยยย! ทำไรวะเนี่ยมึง! ตัวกูเหนียวนะเว้ย มีแต่เหงื่อเต็มไปหมดเลยอะ” เขาขัดขืนเล็กน้อย

“กูไม่แคร์หรอก แต่ขอกูกอดมึงแบบนี้อีกสักพักได้มั้ย ไอ้นนท์.....”

เขาหยุดดิ้นและเลื่อนมือขึ้นมาจับแขนผมเบาๆ “เป็นไรวะ ไอ้โจ มึงมีไรไม่สบายใจรึเปล่าเนี่ย”

“มี....” ผมชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ “กูรักมึงนะ มึงก็รู้ใช่มั้ยวะ”

“อ... อะ เออ.... กูรู้”

ผมกอดเขานิ่งๆอยู่แบบนั้นครู่หนึ่ง พยายามรวบรวมความคิด ความกล้า และคำพูดที่จะพูดออกไป

“กู..... กู..... ที่กูพูดว่ากูอยากอยู่คนเดียวอะ ค... คือ... ที่จริงแล้วกูอยากอยู่กับมึงนะเว้ย กูดีใจนะ ที่มึงมานอนกับกูอะ” ในที่สุดผมก็พูดออกไปจนได้ “กูอาจจะแสดงออกได้ไม่ดี แต่จริงๆแล้วกูดีใจนะเว้ย กู ข... ขอ... ขอโทษว่ะ”

“หืมมมมมมม”

“แล้วมึงอะ คิดยังไงวะ ที่ต้องมานอนกับคนอย่างกูเนี่ย”

“ไม่คิดอะไรหรอกน่า.... คืออ.... ก็ดีอะ นอนกับมึงมันก็ดีเหมือนกัน ก็ไม่ได้แย่อะไร ไรเงี้ย”

“แค่ไม่ได้แย่เองเหรอวะ”

“อ้าววว ไอ้ห่า แล้วมึงจะให้กูตอบยังไงล่ะ” เขาแกะแขนของผมออก “พอๆๆ กูไปอาบน้ำแล้วนะ”

“กูอาบด้วยดิ”

“ไม่ต้องเลยยย ไอ้ตูดดด!” เขาหน้าแดงจนถึงใบหู ผมล่ะชอบเวลาที่เขาเขินจัดๆแบบนี้จริงๆ

“ทำไมวะ แค่อาบด้วยกันเฉยๆเอง ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย ที่มึงมานอนกับกูตั้งสามคืนแล้วแต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักทีเนี่ย ยังพิสูจน์ไม่พออีกเหรอวะ มึงยังไม่เชื่อใจกูอีกรึไง”

“เออๆ กูรู้น่าว่ากูไว้ใจมึงได้ แต่กูเขินนี่หว่า” เขาหลบตาผม “พอๆๆ กูไปอาบน้ำละนะ”

“หึๆ เออ”

หลังจากนั้นเขาก็รีบเดินเข้าห้องน้ำไป แต่ผมไม่รู้ว่าเขาลืมไปหรือเปล่านะว่าผมมีกุญแจห้องน้ำอยู่กับตัว ดังนั้นถ้าผมจะไขกุญแจเปิดเข้าไปเมื่อไหร่ผมก็ย่อมทำได้อยู่แล้ว แต่เอาเถอะ..... ตอนนี้ผมจะยังรอไปก่อนก็แล้วกัน รอจนกว่าจะถึงวันที่เขามอบหัวใจให้กับผมทั้งดวงอย่างที่เขาเคยมอบให้ไอ้นัทไป

ในตอนกลางคืน หลังจากที่เราสองคนปิดไฟในห้องทุกดวงลงและนอนกันอยู่บนเตียงแล้ว ผมก็เขยิบตัวเข้าไปกอดเขาเอาไว้จากทางด้านหลังเหมือนอย่างทุกที ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในชีวิตของผม ผมก็ฝันร้ายน้อยลง และยิ่งเมื่อมีเขามานอนอยู่ข้างกายแบบนี้ ผมก็ไม่รู้สึกกลัวความฝันและการหลับตานอนอีกเลย เพราะผมรู้ว่าถ้าหากว่าความฝันนั้นย้อนกลับมาทำร้ายผมอีกครั้ง เขาก็จะช่วยปลอบประโลมผมและช่วยให้ผมผ่านพ้นมันและค่ำคืนอันเลวร้ายไปได้แน่นอน

ถึงความฝันอาจจะเลวร้ายได้มากเพียงไหน แต่ถ้าหากผมลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นว่ามีคนที่ผมรักนอนอยู่ข้างๆ ความฝันเหล่านั้นก็ไม่น่ากลัว และไม่สามารถทำร้ายผมได้อีกต่อไปแล้ว

“จะว่าไปช่วงหลังๆมานี้มึงไม่ได้ฝันร้ายแล้วใช่มั้ยวะ ไอ้โจ” จู่ๆนนท์ก็พูดในสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่พอดีขึ้นมา

“ตั้งแต่เปิดเทอมและมีมึงมานอนด้วยก็ไม่อะ ไม่มีอีกเลย”

“แล้วก่อนหน้านี้ล่ะวะ”

“น้อยลง” ผมตอบสั้นๆ

“มึงพอจะรู้รึยังวะ ว่ามันเกิดจากอะไรน่ะ” เขาพลิกตัวเป็นหันมาหาผม “เพราะมึงจะปล่อยให้มันกัดกินมึงไปเรื่อยๆไม่ได้นะเว้ย กูรู้ว่ามึงฝันร้ายน้อยลงแล้ว และกูรู้ว่าเวลากูนอนอยู่กับมึงแล้วมึงอาจจะแทบไม่ฝันแบบนั้นอีกเลย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกล่ะ..... คือ กูไม่สบายใจไง กูเห็นมึงเป็นแบบนั้นแล้วกูก็รู้สึกทรมานแทนมึงอะว่ะ ไอ้โจ มึงเข้าใจใช่ป่าว”

เราสองคนนอนสบตากันในความมืด มีความจริงข้อหนึ่งที่เขายังไม่รู้เกี่ยวกับอาการฝันร้ายของผม นั่นก็คือผมเริ่มจะรู้สึกตัวมาสักพักแล้วว่าความฝันเหล่านั้นมันน่าจะเกิดจากอะไร และสิ่งๆนั้นก็คือการที่ผมเคยถูกพ่อทำร้ายเมื่อตอนเด็กๆนั่นเอง คืนแรกที่ผมกลับไปนอนที่บ้านของตัวเองหลังออกจากโรงพยาบาลนั้น ผมฝันว่าถูกพ่อใช้ไม้เรียวฟาดอย่างรุนแรง ในฝันนั้นแม่คอยเข้าห้ามพ่อ และพยายามจะยื้อแขนของพ่อเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายผม แต่ก็ไม่สำเร็จ และหลังจากนั้น ภาพทุกอย่างก็พลันกลับกลายเป็นความมืดมิด ผนังทั้งสี่ด้านของห้องสี่เหลี่ยมที่มืดสนิทค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ ผมในวัยเด็กนั่งกอดเข่าและกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวว่าผมจะถูกกรอบสี่เหลี่ยมนั้นบีบอัดจนตาย แต่แล้วจู่ๆหลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับมาสู่ภาวะปกติ นั่นคือผมลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองแค่เพียงฝันไป และพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนคนเดียว ไม่มีพ่อที่ถือไม้เรียว ไม่มีแม่ ไม่มีห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ไม่มีความมืดที่น่าอึดอัด แต่มีแค่เพียงความหวาดกลัวที่ยังคงทำให้หัวใจของผมเต้นแรงและเหงื่อที่ไหลออกมาปริมาณมหาศาลถึงแม้ว่าผมจะนอนอยู่ในห้องแอร์ก็ตาม

นั่นคือครั้งแรกที่ผมฝันแบบนั้น เช้าวันต่อมา ผมจึงเล่าเรื่องนี้ให้แม่ฟังและถามว่าเมื่อตอนเด็กๆเคยเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นกับผมหรือเปล่า และปฏิกิริยาตอบรับที่ผมได้รับกลับมาจากแม่ก็ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี แม่ร้องไห้และบอกขอโทษผม แม่เล่าให้ผมฟังว่าผมเคยถูกพ่อตีจนสลบไปครั้งหนึ่งเมื่อตอนอายุราวๆห้าขวบ และผมก็เริ่มฝันร้ายตอนกลางคืนนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

“เฮ้ย ไอ้โจ มึงฟังกูอยู่รึเปล่าวะ....” นนท์เขย่าแขนผมเบาๆ ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์

“เฮอะ มึงว่าไงนะ”

“เปล่า กูแค่บอกว่ามึงไม่ควรปล่อยมันไว้แบบนี้นะเว้ย กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนั้นเลย มันทรมานออกอะ”

“มึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไอ้นนท์ มึงเชื่อกูเหอะว่าแค่การที่มีมึงอยู่แบบนี้ มันก็กำลังค่อยๆช่วยรักษาให้กูหายจากอาการฝันร้ายนั้นได้ทีละน้อยแล้ว”

“หืออออ จริงเหรอวะ”

“จริงสิวะ” ผมจุ๊บลงบนแก้มของเขาเบาๆ “ถ้าไม่มีมึงสักคน กูคง.....”

“คงอะไรวะ” เขายิ้มน้อยๆ

“ไม่บอก” ผมยิ้มตอบ “ช่างมันเหอะ เอาเป็นว่ากู ‘ขอบใจ’ มึงก็แล้วกัน ไอ้นนท์ ขอบใจที่เข้ามาในชีวิตของกู และขอบใจที่ให้โอกาสกูนะเว้ย”

เขาไม่ตอบอะไร แต่พลิกตัวไปเป็นนอนหงายแทน ผมรู้ได้ทันทีว่าเขาคงกำลังเขินมากอีกแน่ๆ

“แล้วตกลงตอนนี้เราเป็นอะไรกันอยู่วะ” ผมถาม

“ก็..... ก็เพื่อนกันไง จะถามทำไมวะ”

“แล้วเพื่อนคนนี้จะขอรักและขอหึงมึงได้รึเปล่าล่ะวะ”

“ก็เรื่องของมึงดิ....”

“แล้ว ‘เพื่อนคนเนี้ย’” ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมอยู่บนร่างของเขาแล้วใช้นิ้วชี้จิ้มลงบนหน้าอกของเขา “จะปล่อยให้กูต้องรออีกนานมั้ยวะ”

“รออะไร”

“รอว่าเมื่อไหร่จะได้เป็นมากกว่าเพื่อนสักทีน่ะสิ”

“แล้วรอได้ปะล่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย

“เออ ได้ กูจะรอให้มึงดู นานแค่ไหนกูก็จะรอ แต่ว่ากูขอ ‘ค่ารอ’ หน่อยได้ปะล่ะ”

“อะไร มึงจะเอาอะไรจากกูอีก”

ผมไม่พูดอะไร แต่ก้มลงจุ๊บหน้าผากเขาเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนต่ำลงมาจุ๊บลงบนปลายจมูก แล้วจากนั้นจึงจูบลงบนริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนแรกนนท์ก็ยังคงปิดปากสนิท แต่หลังจากที่ริมฝีปากของเราแตะกันได้สักพัก เขาก็ค่อยๆเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ผมจึงฉวยโอกาสนี้ตวัดลิ้นเข้าไปและจูบเขาอย่างดูดดื่มทันที และเมื่อลิ้นของเราสัมผัสกัน ผมก็รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าที่แล่นไปทั่วทั้งร่างจนต้องเผลอครางในลำคอออกมาเบาๆ

“อืมมม..ม...ม....”

นนท์ยกมือทั้งสองข้างขึ้นประคองใบหน้าของผมเอาไว้อย่างอ่อนโยน และการที่เขาทำแบบนั้นก็ยิ่งทำให้อารมณ์ของผมกระเจิงมากขึ้นไปอีก ผมที่เห็นท่าจะไม่ดีแล้วจึงรีบถอนริมฝีปากออกทันที

“เดี๋ยว.... เดี๋ยวก่อน....” ผมหอบเบาๆ “กูขอโทษที กูเผลอไปหน่อย”

“เออ.... ไม่เป็นไร” เขาตอบเบาๆ

“มึงโกรธกูมั้ยวะ ไอ้นนท์”

“ไม่..... ไม่อะ เพราะนั่นถือว่าเป็น ‘ค่ารอ’ เพียงอย่างเดียวที่กูให้มึงได้ในตอนนี้ใช่มั้ยล่ะ”

ผมทิ้งตัวลงนอนข้างๆเขาเหมือนเดิม จากนั้นก็เขยิบตัวเข้าไปกอดเขาเอาไว้ในอ้อมแขน “กูรักมึงนะ ไอ้นนท์....”

“กูรู้.....” เขาเงียบไปพักหนึ่ง “มึงรอหน่อยนะ ไอ้โจ”

“เออ กูรอได้.....”

“ขอบใจว่ะ กูขอบใจมึงจริงๆ” เขาหันมายิ้มให้กับผม “ถึงตอนนี้กูจะยังใช้คำว่า ‘รัก’ กับมึงได้ไม่เต็มปาก แต่กูขอสัญญาเลยว่าหลังจากนี้กูจะไม่มีทางไปชอบใครคนอื่นอีกนอกจากมึงแน่นอน”

“เออ ได้ยินแค่นี้กูก็พอใจแล้ว” ผมชะโงกหน้าเข้าไปจุ๊บปากเขาเบาๆอีกครั้ง “นอนเถอะ ฝันดีก็แล้วกันนะ มึง”

“มึงก็ฝันดีเหมือนกันนะเว้ย” เขาพึมพำเบาๆ และหลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีถัดมา เสียงลมหายใจหนักๆของเขาก็บอกให้ผมรู้ว่าเขาหลับลงไปเรียบร้อยแล้ว

ผมยิ้มให้กับตัวเองและคิดในใจว่า เขาคงไม่รู้เลยสินะว่าช่วงหลังๆมานี้ เวลาที่เขานอนอยู่ข้างๆผมแบบนี้ นอกจากว่าผมจะไม่ฝันร้ายแบบนั้นอีกแล้ว ผมยังเริ่มรู้จักคำว่าฝันดีแบบคนอื่นเขาแล้วด้วยเหมือนกัน......

“มึงไม่ใช่แค่คนที่นำพาสิ่งดีๆมาสู่ชีวิตของกู แต่ยังเป็น ‘ฝันดี’ ของกูทั้งตอนที่กูตื่นและตอนกูหลับด้วยอีกนะ ไอ้นนท์” ผมกระซิบที่หูของเขาเบาๆ “ขอบใจนะเว้ย แล้วสักวันกูจะเป็นแฟนที่ดีของมึงให้ดู กูสัญญา”



ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
หมดจริงๆ แล้วนาา ต่อจากนี้ถ้าเกิดครึ้มอยากเขียนอะไรขึ้นมา จะลงแค่ในแฟนเพจนะครับ กระทู้นี้จะถูกย้ายไปห้องนิยายจบแล้วจบเลยไม่มาต่อแล้วนะเออ

ออฟไลน์ peppier

  • ขาดคนรักนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีแค่ใจที่รักตัวเองก็พอ.. ~ ♥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
จิ้มพี่ต้นเบาๆ จบแล้วง่ะ
อ่านก่อนนะครับบบ

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
มาจบที่โจแบบนี้ ถึงจะรู้สึกว่า"อิ่ม"จริง o13

ออฟไลน์ keem

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เรื่องของแม็กซ์ เคยพูดไปแล้วในนิยายและในเบื้องหลังที่โพสลงในเฟซน่ะครับ

ส่วนผีที่เจอที่สระว่ายน้ำนี่อันไหนหว่าาาา????

แบบว่าผมอาจจะอยากให้แม็ก ลงเอยกับน้องคนนั้นมากไปหน่อยๆ อิอิ จริงๆก็อ่านที่โพสบอกในเฟซแล้วหละ

ส่วนผี ถ้าจำไม่ผิดคือ คนที่หน้าแขกๆอะ สงสัยจำผิดเรื่องเป่าหว่า

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ suginosama

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
ตามมาอ่านจนจบแล้วค่ะ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ ^^
สนุกมาก ฉากหวานๆของโจกับนนท์ น่ารักค่ะ

TimelessOne

  • บุคคลทั่วไป
อ่านฉากจบแล้วคิดถึงเพื่อนเก่าๆสมัยมัธยมขึ้นมามากๆเลยครับ  :n1:
นนท์ โจ นัท และคนอื่นๆ ยังมีเรื่องให้เรียนรู้อีกเยอะ แต่เชื่อว่าต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่ๆ ก็ทุกคนมีกันและกันขนาดนี้  :กอด1:

เฮ้อ เรานี่ก็แก่แล้วเนาะ  :เฮ้อ:

ชอบมิตรภาพในเรื่องนี้มากๆ อ่านแล้วทำให้ฉุกคิดมองมิตรภาพรอบๆตัวเราตอนนี้
ผมเชื่อว่ามันทำให้ผมใส่ใจเพื่อนของตัวเองมากขึ้นนะ
แบบอยากมีกลุ่มเพื่อนที่รักกันมากๆแบบนี้บ้าง  :n1:

ให้กำลังใจคุณต้นนะครับ  :n1: แล้วจะรอผลงานเรื่องๆอื่นๆต่อไปนะะ
จากนี้ไปก็คงคิดถึงเจ้าพวกกลุ่มนี้เรื่อยๆแน่ๆ : )

อยากอ่าน b side อีกเยอะๆ  :m31:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ถ้ามีลงในแฟนเพจ พี่ต้นน่าจะเข้ามาแจ้งในกระทู้ด้วยจะดีมากเลยนะเนี่ย เหอๆ

rubytears

  • บุคคลทั่วไป
โดนใจมากอ่ะ ไม่อยากให้จบเลย สนุกตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายจริงๆ

Benze030

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วมีความสุขจังเลยอ่ะพี่ต้น แต่ก้แอบหวิวๆนะเนี่ยที่จบแล้ว ฮ่าๆๆ
ถึงจะเชียร์นัทมาโดยตลอด แต่ก้ไม่รู้สึกเสียใจเลยที่จบแบบนี้
ขอบคุณพี่ต้นนะสำหรับสิ่งดีๆ :pig4:

ออฟไลน์ comics_boy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขอบคุณนะครับ ตอนก่อนก้อนึกว่าจะจบแล้วซะอีก แต่มาจบที่โจแบบนี้มันอิ่มมากๆเลยยย ขอบคุณมากๆค้าบบบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ boworange

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
:m3:กรี๊ดให้กับน้องนนท์และน้องโจ.......
ขอบคุณ คุณต้น :m1: ที่นำเสนอผลงานดีๆมาให้อ่าน...อยากบอกว่าเราอ่านเรื่องนี้หลายรอบมากๆเพราะชอบการดำเนินเนื้อเรื่องและภาษาที่คุณต้นเขียน :m11:....มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ อยากกดบวกเป็ดให้เป็นฟาร์มแทนคำขอบคุณ :ped144:


 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13



เรียงตามลำดับ โจ  นนท์  นัท  น่าจิ้นที่สุดในสามโลก  :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2011 12:28:50 โดย boworange »


watari_tj

  • บุคคลทั่วไป
จบจริงๆซะแหละ เรื่องนี้สนุกทุกตอนเลย
  o13 o13

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
ลูกโจของป้าต้องนอนหลับฝันดีแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
หนุกมากๆเลย เกือบร้องไห้อ่ะ ซึ้งมากๆ มิตรภาพดีๆระหว่างเพื่อนเนี่ยๆ ยากเกินจะอธิบายๆ

ออฟไลน์ LittlePrince

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ในที่สุดเรื่องนี้ก็ปิดฉากลงอย่างสวยงาม และเนื่องจากคนแต่งเรียกร้องคอมเมนท์เราก็จะจัดให้ด้วยความเต็มใจ แต่คอมเมนท์มันก็ต้องมีทั้งชมทั้งตินะครับ เพื่อให้อะไรๆดีขึ้น ไม่โกรธกันนะ...

เริ่มจากอะไรเล็กน้อยแบบว่าอยากกรี๊ดตอนจบนิดนึงก่อน คือเคยคิดมานานแล้วเหมือนกันว่าทำไมเรื่องนี้ถึงชื่อว่ากระดานดำ...ทั้งๆที่มันไม่มีกระดานสักแผ่นปรากฏตัวมาในเรื่องเลย ในที่สุดก็มาเฉลยเอาตอนจบนี่เอง แสดงว่าคิดมาก่อนนานแล้ว มีการวางแผนวางพล็อตมาอย่างดี ยอดเยี่ยมมากครับ และเมื่อผูกเข้ากับชื่อเรื่องมันเลยทำให้ซึ้งขึ้นอีกเยอะเลย ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างนี้หรือเปล่า แต่ผมรู้สึกนะ

ตอนหลังจบนี่ก็เห็นความอ่อนโยนของน้องโจมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นเด็กน้อยขี้อายไปเลย น่ารักดีครับ

บุคลิกตัวละครผมว่าดีแล้ว มีบ้างที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเด็กพวกนี้มันคิดมากจริง เกินวัยหรือเปล่า อันนี้ก็แล้วแต่จะคิด ผมเคยเห็นคุณต้นมายืนยันแล้วว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันแก่แดด ผมก็เชื่อตามนั้น แล้วผมก็ผ่านวัยนี้มานานแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นตัวเองแก่แดดขนาดไหน (แต่ผมว่าผมอ่อนใสนะ เหอะๆ)

การดำเนินเรื่องก็มีปมเล็กๆน้อยๆมาเรื่อยๆพอให้ลุ้นให้ตื่นเต้น สนุกดีครับ ทำให้อยากตามอ่านต่อเรื่อยๆ แต่บางปมก็ให้ความรู้สึกเหมือนมันยังไม่คลี่คลายชัดๆ(พวกตัวร้ายทั้งหลาย) ซึ่งส่วนตัวผมโอเค แต่บางคนก็อาจจะอยากเห็นภาพให้หมดว่าสุดท้ายแล้วใครเป็นอะไรยังไง บางทีบทแบบ Epilogue อาจจะช่วยเสริมตรงนี้ (ซึ่งผมก็คิดว่าคุณต้นก็คงจะแต่งต่อตามอารมณ์อย่างที่บอก) สำหรับปมใหญ่ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องของนนท์ นัท โจนั้นก็ดูเหมาะสมและเป็นเหตุเป็นผลดี อาจจะดูยืดเยื้อไปบ้างซึ่งเรื่องนี้จริงๆมันก็ต้องใช้เวลาคิดหรือตัดสินใจเป็นปกติอยู่แล้ว ความรู้สึกยืดเยื้อน่าจะมาจากการบรรยายมากกว่า ดูย่อหน้าถัดไปครับ

เรื่องที่คิดว่าจะต้องติ ซึ่งแน่นอนไม่ได้หมายความที่เขียนอยู่ไม่ดี แต่เป็นข้อเสนอแนะเผื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงงานถัดๆไป ก็คือเรื่องของการบรรยายอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกของตัวละคร รวมทั้งคำพูดของตัวละคร อันนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ตอนที่อ่านเรื่องของเมฆกับซันแล้ว แต่เรื่องนี้เหมือนว่ามันจะชัดขึ้นอีก คือเหมือนจะเป็นสไตล์ของคุณต้นที่มักจะเขียนบทพวกนี้ไว้สวยและให้ข้อคิดอยู่เสมอ แต่พอเจอเยอะๆเข้ามันกลับทำให้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่ ทำให้บทพูดยาวเกินไปอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติและก็ทำให้การบรรยายโดยรวมดูยืดเยื้อ ตัวอย่างชัดๆ สำหรับเรื่องนี้ก็คงจะเป็นวายุ ที่มักจะเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนๆเสมอ และทุกๆครั้งเขาก็จะมีความคิดคมๆ มีคำแนะนำที่ดี แต่มันกลายเป็นว่าคำพูดของวายุเป็นแบบนี้ซะเกือบหมด เรียกว่ายาวและสวยเกินจริงไปหน่อย หรือเรื่องรักสามเส้าของนนท์ นัท โจ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆเรื่องพวกนี้ก็คงไม่ได้ดูยาวนานเยอะแยะขนาดนี้ แต่เพราะกว่าจะผ่านบทบรรยายความคิด หรือผ่านคำปรึกษาของเพื่อนแต่ละคนไปได้หมด ตอนอ่านมันก็เลยเหมือนกับว่านานแสนนานเหลือเกินกว่านนท์จะคิดได้

ขออภัยในความยาว ถือว่าแทนคำขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ คงไม่เสียกำลังใจนะ ผมชอบงานที่คุณต้นแต่งครับ ประทับใจทุกเรื่องเลย

keang

  • บุคคลทั่วไป
อยากเขียนเรื่องของเคนกับพี่แม็ทต่ออีกเลย ^_____^


อยากอ่านเรื่องของเคนกับพี่แม็ทเหมือนกัน
 
เชียร์ นัท แต่อ่านมาก็รู้ตัวสักพักแล้วว่านัทไม่ใช่  :sad2:

แคร์ความรู้สึกของนัทจริงๆ แต่งออกมาได้ happy ending

ยอมรับได้ทั้งสองฝ่าย  o13

รอให้แต่งเรื่องยาวๆแบบนี้อีกนะ จะติดตามข่าว เรื่องยาวใหม่นะ

 :pig4: คนแต่ง  :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ในที่สุดนนท์ก็คือคำตอบที่ทำให้โจกระด้าง เป็นโจที่ละมุนได้ น่ารักจริง ๆ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ในที่สุดเรื่องนี้ก็ปิดฉากลงอย่างสวยงาม และเนื่องจากคนแต่งเรียกร้องคอมเมนท์เราก็จะจัดให้ด้วยความเต็มใจ แต่คอมเมนท์มันก็ต้องมีทั้งชมทั้งตินะครับ เพื่อให้อะไรๆดีขึ้น ไม่โกรธกันนะ...

เริ่มจากอะไรเล็กน้อยแบบว่าอยากกรี๊ดตอนจบนิดนึงก่อน คือเคยคิดมานานแล้วเหมือนกันว่าทำไมเรื่องนี้ถึงชื่อว่ากระดานดำ...ทั้งๆที่มันไม่มีกระดานสักแผ่นปรากฏตัวมาในเรื่องเลย ในที่สุดก็มาเฉลยเอาตอนจบนี่เอง แสดงว่าคิดมาก่อนนานแล้ว มีการวางแผนวางพล็อตมาอย่างดี ยอดเยี่ยมมากครับ และเมื่อผูกเข้ากับชื่อเรื่องมันเลยทำให้ซึ้งขึ้นอีกเยอะเลย ไม่รู้คนอื่นคิดอย่างนี้หรือเปล่า แต่ผมรู้สึกนะ

ตอนหลังจบนี่ก็เห็นความอ่อนโยนของน้องโจมากขึ้น รู้สึกว่าเป็นเด็กน้อยขี้อายไปเลย น่ารักดีครับ

บุคลิกตัวละครผมว่าดีแล้ว มีบ้างที่อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเด็กพวกนี้มันคิดมากจริง เกินวัยหรือเปล่า อันนี้ก็แล้วแต่จะคิด ผมเคยเห็นคุณต้นมายืนยันแล้วว่าเด็กเดี๋ยวนี้มันแก่แดด ผมก็เชื่อตามนั้น แล้วผมก็ผ่านวัยนี้มานานแล้ว จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นตัวเองแก่แดดขนาดไหน (แต่ผมว่าผมอ่อนใสนะ เหอะๆ)

การดำเนินเรื่องก็มีปมเล็กๆน้อยๆมาเรื่อยๆพอให้ลุ้นให้ตื่นเต้น สนุกดีครับ ทำให้อยากตามอ่านต่อเรื่อยๆ แต่บางปมก็ให้ความรู้สึกเหมือนมันยังไม่คลี่คลายชัดๆ(พวกตัวร้ายทั้งหลาย) ซึ่งส่วนตัวผมโอเค แต่บางคนก็อาจจะอยากเห็นภาพให้หมดว่าสุดท้ายแล้วใครเป็นอะไรยังไง บางทีบทแบบ Epilogue อาจจะช่วยเสริมตรงนี้ (ซึ่งผมก็คิดว่าคุณต้นก็คงจะแต่งต่อตามอารมณ์อย่างที่บอก) สำหรับปมใหญ่ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องของนนท์ นัท โจนั้นก็ดูเหมาะสมและเป็นเหตุเป็นผลดี อาจจะดูยืดเยื้อไปบ้างซึ่งเรื่องนี้จริงๆมันก็ต้องใช้เวลาคิดหรือตัดสินใจเป็นปกติอยู่แล้ว ความรู้สึกยืดเยื้อน่าจะมาจากการบรรยายมากกว่า ดูย่อหน้าถัดไปครับ

เรื่องที่คิดว่าจะต้องติ ซึ่งแน่นอนไม่ได้หมายความที่เขียนอยู่ไม่ดี แต่เป็นข้อเสนอแนะเผื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงงานถัดๆไป ก็คือเรื่องของการบรรยายอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกของตัวละคร รวมทั้งคำพูดของตัวละคร อันนี้ผมเห็นมาตั้งแต่ตอนที่อ่านเรื่องของเมฆกับซันแล้ว แต่เรื่องนี้เหมือนว่ามันจะชัดขึ้นอีก คือเหมือนจะเป็นสไตล์ของคุณต้นที่มักจะเขียนบทพวกนี้ไว้สวยและให้ข้อคิดอยู่เสมอ แต่พอเจอเยอะๆเข้ามันกลับทำให้รู้สึกว่ามันไม่ค่อยน่าสนใจ ไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่ ทำให้บทพูดยาวเกินไปอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติและก็ทำให้การบรรยายโดยรวมดูยืดเยื้อ ตัวอย่างชัดๆ สำหรับเรื่องนี้ก็คงจะเป็นวายุ ที่มักจะเป็นที่ปรึกษาให้เพื่อนๆเสมอ และทุกๆครั้งเขาก็จะมีความคิดคมๆ มีคำแนะนำที่ดี แต่มันกลายเป็นว่าคำพูดของวายุเป็นแบบนี้ซะเกือบหมด เรียกว่ายาวและสวยเกินจริงไปหน่อย หรือเรื่องรักสามเส้าของนนท์ นัท โจ ซึ่งถ้าเป็นเหตุการณ์จริงๆเรื่องพวกนี้ก็คงไม่ได้ดูยาวนานเยอะแยะขนาดนี้ แต่เพราะกว่าจะผ่านบทบรรยายความคิด หรือผ่านคำปรึกษาของเพื่อนแต่ละคนไปได้หมด ตอนอ่านมันก็เลยเหมือนกับว่านานแสนนานเหลือเกินกว่านนท์จะคิดได้

ขออภัยในความยาว ถือว่าแทนคำขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ คงไม่เสียกำลังใจนะ ผมชอบงานที่คุณต้นแต่งครับ ประทับใจทุกเรื่องเลย


น้อมรับเลยครับ เพราะคิดว่าเป็นนิสัยตัวเองจริงๆ ตอนนี้เลยพยาามแก้ไขตอนเขียนเรื่องสั้นครับ ให้มันกระชับขึ้น ก็พยายามฝึกไปเรื่อยๆน่ะครับ โดยเฉพาะตอนนี้มานั่งอานเมฆกับซัน ก็เกิดความคิดแบบนี้ขึ้นทันทีเลยเหมือนกันครับ

ขอบคุณมากๆๆนะครับผม ^^

Gulp

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนของโจจบรู้สึก มีความสุขมากเลยครับ อ่านแล้วยังเพ้ออยู่พักใหญ่ๆเลยครับ ถ้ามีคนรักเรามากขนาดโจรักนนท์คงจะดีไม่น้อย

sakuracity

  • บุคคลทั่วไป
ว้าาา แอบเสียดายncมาไม่เต็ม 555 แต่ก็ขอบคุณมากๆนะครับสำหรับเรื่องราวทั้งหมดที่เขียนมา ขอบคุณครับ ^^

ออฟไลน์ mickeynut

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-3

ออฟไลน์ Also

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ง่า~จบซะแล้ว
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ อ่านแล้วแอบสงสารนัท แต่ก็ดีใจค่ะที่นนท์รู้ใจตัวเองและเลือกที่จะให้คำตอบโจและนัทแบบนี้
 :กอด1:คุณต้นค่ะ

ออฟไลน์ kengjung23

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 61
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สวัสดีครับ คุณต้น ไม่ได้เข้าเล้ามานานมากๆ :-[ เพราะหน้าที่การงานอาจจะยุ่งไปบ้าง ก็เลยไม่มีเวลา แต่พอกลับมาอีกที ก็รู้สึกดีใจ :z2:ที่เห็นว่า เรื่องที่เราชอบเเละรู้สึกผูกพันอยากลุ้นว่า คนที่เราเชียร์จะได้คบกับนนท์มั๊ย เเละเรื่องต่างๆจะเป็นยังไงจะได้รู้สักที หลังจากที่ลุ้นๆมาตลอด เเต่พอได้อ่านถึงตอนจบเเล้ว กลับรู้สึกใจหาย :เฮ้อ:ไม่อยากให้จบเลย อยากเห็นเรื่องราวชีวิตของเด็กๆกลุ่มนี้อีก รู้สึกรักตัวละครทุกตัว เเต่ละคนดูเหมือนมีชีวิตอยู่จริงๆ  :impress2:สงสัยจะอินไป อยากให้มีภาค2ต่อจัง คิดถึงทุกคนนะ นัท นนท์ โจ เจย์ ยุ คริส ตี๋ ป๊อป เคน :L1: :3123: :L2: :กอด1:สุดท้ายขอขอบคุณคุณต้นมากๆ (ขอบคุณเล้าด้วย) ที่เเต่งนิยายดีๆมาให้อ่านกัน  :pig4: :pig4: :pig4:ขอบคุณจากใจจริง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด