IT is เต็มสิบ.16
ไม่มีคำตอบอะไรกลับมา เต็มสิบไม่ได้คาดคั้นหรือต้องการจะได้คำตอบ ยังใช้ชีวิตเหมือนปกติทุกวัน ทำงานเหมือนทุกวัน ปวดหัวกับการอยากได้อย่างใจของแต่ละแผนกเหมือนเดิม และแม้จะบอกให้จดข้อความเอาไว้เพื่อให้สามารถตรวจสอบระบบและแก้ปัญหาได้เบื้องต้นก็ไม่เคยมีใครคิดจะทำตาม สุดท้ายก็ยังต้องเรียกหาแต่ไอทีซัพพอร์ตเหมือนเดิม ทั้งที่บางปัญหาก็แก้ได้ง่าย ๆ แต่ไม่คิดจะทำกัน
“นี่เขาคงคิดว่ากูใช้โปรแกรมเวิร์ดเก่งมากเลยสินะ ถึงได้เรียกกูไปช่วยตั้งค่าหน้ากระดาษให้ แม่ง ชิบหายเหอะ กูแทบไม่เคยแตะเลยด้วยซ้ำ แล้วอีกอย่างกูไม่ได้ทำบริษัทขายเครื่องกรองน้ำนะ เครื่องกรองน้ำที่บ้านเสีย เสือกโทรหากูซะงั้น กูไม่ใช่ช่างซ่อมเครื่องกรองน้ำ เขาเห็นกูเป็นอะไรวะ ซูเปอร์แมนหรือไง"
เต็มสิบได้แต่บ่นพึมพำและส่ายหน้าด้วยความกลุ้มใจ และมองไปที่ฐาปัตย์ที่นั่งเงียบอยู่นาน
“ยังไงล่ะมึง ตกลงไอ้เฟืองนี่เอายังไง งานการมันจะไม่ทำใช่มั้ย ลาพักร้อนห่าอะไร สิทธิ์จะหมดแล้วนะนั่น”
ฐาปัตย์ได้แต่ถอนใจยาวและกลุ้มใจกับเรื่องของมะเฟืองไม่เลิก
“มันบอกว่ามันจะออก สิ้นเดือนนี้”
อ้าว ไอ้นี่ก็เรื่องเยอะอีกคนแล้ว
“งี่เง่า แค่ดูดปากกันไปที เสือกเรื่องเยอะ มึงไปเคลียร์กันตรง ๆ ไป ไม่ใช่มาอ้อมโลกกันอยู่อย่างนี้”
ก็อยากจะเคลียร์กันอยู่หรอกนะ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นที่ทำให้ไม่รู้จะเคลียร์ยังไงนี่สิ
“ที่จริงมันมากกว่านั้นว่ะพี่เต็ม”
“ห้ะ มึงว่าไงนะ”
เต็มสิบรีบหันกลับไปมองรุ่นน้องที่พูดเรื่องน่าตกใจให้ได้ยินทันที
“ไวไฟชิบหายเลยพวกมึง”
“ไม่ใช่ว่าไวไฟหรอกพี่เต็ม ยังไม่ได้มากกว่านั้น แต่ก็เยอะอยู่”
เออ เจริญล่ะงานนี้
“เคลียร์กันเองแล้วกัน กูไม่ยุ่งด้วยดีกว่า”
ฐาปัตย์ไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง ได้แต่นั่งถอนหายใจอีกหลายครั้งด้วยความกลุ้มใจ และเต็มสิบก็หันกลับมามองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่กำลังรันระบบอีกครั้ง
“พี่จะไม่ช่วยผมจริง ๆ เหรอ”
กูก็อยากจะช่วยพวกมึงอยู่หรอกนะ แต่ปัญหาของกูก็ยังแก้ไม่ได้เลย
“ให้กูช่วยยังไงล่ะไอ้ห่า ขนาดกูยังไม่ถึงขั้นมึงนะกูยังกลัวใจคนที่กูไปยุ่งด้วยชิบหาย นี่เรื่องของตัวเองกูยังจะเอาตัวไม่รอดเล้ยยยย จะเอาปัญญาที่ไหนไปช่วยมึ้งงงงงง”
+++
.....สวัสดีวันเสาร์ แสนสุขใจ.....
ภาพดอกไม้สีสันสดใส พร้อมกับข้อความทักทายยามเช้าที่เป็นที่นิยมของผู้มีวัยวุฒิที่นิยมใช้กัน ถูกส่งให้ธีรพลในเช้าวันหนึ่งและธีรพลก็อ่านข้อความนั้นและขมวดคิ้วมุ่น กำลังจะวางโทรศัพท์ลงก็มีข้อความอื่นตามมา
“อ่านแล้วไม่ตอบ ต้องโดนกอดหนึ่งที”
สติกเกอร์หมีและกระต่ายกอดกันมีรูปหัวใจประกอบถูกส่งตามมาด้วย และธีรพลก็หยิบข้อความมาพิมพ์ตอบกลับ
“อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์สุขสำราญ ขอให้เบิกบานหัวใจเช่นกัน”
หืออออออ
นี่คืออะไร หมายความว่ายังไงวะ
เต็มสิบมองข้อความที่ถูกส่งกลับมาอย่างไม่เชื่อสายตา และรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“คุณยังสบายดีอยู่ใช่มั้ย ไม่ได้ป่วยไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ย”
“เปล่า ผมสบายดี ผมก็ตอบแบบนี้กับทุกคนแหละ กับลูกค้าหรือใครก็ตามที่จะมีประโยชน์กับผมในอนาคตผมก็ตอบกลับไปแบบนี้ทุกคนนะ เรื่องธรรมดา”
โดนบอกแบบนั้น เต็มสิบก็เลยรู้สึกเหมือนดีใจเก้อ ส่งสติกเกอร์การ์ตูนร้องไห้กลับไป และส่งสติกเกอร์รูปการ์ตูนอื่น ๆ ที่แสดงความเสียใจตามไปอีกหลายตัว
“กินข้าวหรือยังครับคุณธี”
“ยัง”
เต็มสิบคิดว่าแบบนี้มันแปลกเกินไป อยู่ดี ๆ คุณธีรพลก็ตอบกลับมาแบบตรงไปตรงมา ไม่แสดงอาการแปลก ๆ เหมือนอย่างที่คิดเอาไว้
“ผมก็ยังไม่ได้กิน ผมไปกินข้าวบ้านคุณได้มั้ย”
แกล้งลองถาม รู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าอาจจะโดนด่าหรือถูกปฏิเสธ แต่น่าแปลกนอกจากธีรพลไม่ปฏิเสธ ยังตอบกลับมาด้วยท่าทีที่เป็นมิตรอีกด้วย
“ได้”
ทำไมง่ายนักวะ ทำไมถึงตอบรับง่าย ๆ แบบนี้มันผิดปกติเกินไป
เดาไม่ถูกว่าธีรพลมีแกำลังคิดจะทำอะไร แต่เต็มสิบก็ไม่คิดจะหลีกเลี่ยง
จะยังไงก็เถอะ พูดไปแล้วก็พร้อมจะทำตามที่ตัวเองพูด
“แล้วเจอกันครับ”
“อือ แล้วเจอกัน”
+++
แล้วเต็มสิบก็เข้าใจได้ทันที ว่าเพราะอะไรธีรพลถึงยอมให้มาหา ให้มากินข้าวด้วย ก็มันเพราะแบบนี้ยังไงล่ะโว้ยยยยยยยยยยยยย
“คุณทำไมเป็นคนแบบนี้วะ ผมไม่น่าโง่หลวมตัวมาบ้านคุณวันนี้เลย”
เต็มสิบบ่นไม่หยุด และธีรพลก็พยักหน้าตาม
“ผมถนัดหาผลประโยชน์จากคน พูดเองไม่ใช่เหรอว่าจะจีบผม มาช่วยขัดพื้นแค่นี้ จะเป็นไรไป”
มันใช่แล้วเหรอวะ
แบบนี้มันไม่ใช่แล้วโว้ยยยยยยยยย
“ขอพักกินน้ำหน่อย”
“ไม่ได้ ขัดพื้นให้เสร็จแล้วค่อยกิน”
“แต่ผมเหนื่อยแล้ว”
“ทำไปอย่าบ่น”
“ผมไม่ใช่คนใช้คุณนะ”
“ก็ไม่ใช่ไง ผมยังไม่ได้ว่าคุณเป็นคนใช้เลย บ่นแล้วก็ขัดไปด้วย เร็ว ๆ”
“คุณธี!”
“จ๋า”
เสียงขานรับที่ธีรพลตอบกลับมามันยิ่งทำให้เต็มสิบโมโหหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ก็แล้วทำไมต้องตอบแบบนี้ด้วยวะ ตอบแบบนี้ ด่ากันยังดีกว่า แล้วใครมันจะไปกล้าขัดใจ แล้วจะให้พูดอะไรได้อีก ถึงโมโหแค่ไหนก็ต้องลงแรงขัดพื้นต่อไปห้ามหยุดจนกว่าพื้นจะสะอาด
“คุณเต็มสิบ ช่วยธีขัดพื้นหน่อยนะครับ ถ้าคุณไม่ช่วยก็ไม่มีใครช่วยผมแล้วจริง ๆ นะ”
ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ให้มันได้อย่างเน๊ เออเอาเข้าไป ธีอย่างนั้น ธีอย่างนี้ เอาให้กูขัดพื้นจนมือหักตายไปเลยสิโว้ยยยยยย แม่งเอ้ยยยยย
ทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยจีบใครด้วยการลงทุนมาขัดพื้นลานบ้านให้มาก่อนเลยในชีวิต ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเลยตั้งแต่เกิดมาเป็นการลงทุนที่โคตรเหนื่อยเลย
“แตงกวา ไปไกล ๆ ทำงานอยู่นะโว้ย ใช่เวลาเล่นหรือไงวะ”
เต็มสิบเอ็ดหมาโกลเด้นตัวใหญ่ของธีรพลที่มาวุ่นวายวิ่งไปวิ่งมาไม่หยุด นึกว่ากำลังเล่นด้วย แต่นอกจากแตงกวาไม่ยอมหยุดแล้ว ยังนึกว่าเต็มสิบกำลังเล่นด้วย เลยยิ่งกระโดดไปมา
“แตงกวาเก่งมาก แตงกวาช่วยพี่เต็มขัดพื้นใช่มั้ยครับ”
ช่วยขัดบ้าอะไรล่ะ ช่วยทำให้เละยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ
“คุณก็อย่ามัวแต่พูดมากได้มั้ย มีหน้าที่ฉีดน้ำก็ทำสิ เนี่ย ตรงนี้เร็ว ๆ ยืนเก็กหล่ออยู่ได้”
แบบนี้เรียกว่าโกรธ เรียกว่าโมโห เรียกว่าไม่พอใจ และถึงจะไม่ชอบใจแค่ไหน เต็มสิบก็ยังต้องทำงานต่อไปอยู่ดี และธีรพลก็หัวเราะขำที่เห็นเต็มสิบหงุดหงิดโมโห
“หัวเราะดีไปเถอะ คุณเป็นแฟนผมเมื่อไหร่จะเอาคืนซะให้เข็ด”
นั่นมันสมควรพูดออกมาจริง ๆ เหรอ
“คุณจะให้ผมขัดพื้นให้บ้านคุณคืนบ้างหรือไง”
ใครจะไปทำแบบนั้นวะ โง่เง่าเกินไปแล้ว
“ผมจะปล้ำคุณต่างหากล่ะ พูดแล้วก็โมโห แม่ง”
เต็มสิบยังบ่นไม่เลิก แต่ก็ยอมขัดพื้นบ้านให้ธีรพลแต่โดยดี และธีรพลก็หัวเราะออกมาด้วยความขำ ไม่ใช่ขำเพราะคำพูด แต่ขำเพราะคนพูดพูดไปโมโหไป แต่ก็ยังออกแรงขัดพื้นไปด้วยอยู่ดี
“แต่ตอนนี้ขัดพื้นให้สะอาด ๆ ก่อนแล้วกันนะ เรื่องอื่นค่อยมาว่ากันทีหลังนะครับคุณเต็ม”
TBC.