ชายหนุ่มซึ่งกำลังเคลิ้มหลับได้ที่ ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อจู่ ๆ ร่างเล็กที่นอนหลับข้าง ๆ กลับซุกเบียดเข้าหาร่างกายเขาอย่างแนบชิด
โชเฮพยายามขยับกายออกห่าง แต่ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะตามเขยิบเข้าหา จนในที่สุดชายหนุ่มก็ต้องยอมแพ้ ปล่อยให้เด็กชายกอดเขาแบบนั้น และขณะที่เขากำลังเคลิ้มหลับอีกรอบ ร่างเล็กก็ลืมตาตื่นขึ้น กะพริบตาปริบ ๆ และจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
“อืม...” โชเฮครางเบา ๆ ก่อนจะปรือตาขึ้นมองอย่างงุนงง เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสบางอย่างที่ผิวกาย ของตน
แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องตะลึง ตาเบิกกว้าง หายง่วงเฉียบพลัน เมื่อเห็นร่างเล็ก ๆ กำลังนั่งอยู่บนตัวเขา และกำลังง่วนอยู่กับการปลดกระดุมเสื้อนอนของเขา
“ไคริ! เธอจะทำอะไรน่ะ!”
โชเฮถามด้วยความตกใจ ทว่า อีกฝ่ายกลับยิ้มหวานส่งให้แทนคำตอบ พร้อมกับก้มหน้าก้มตาถอดเสื้อผ้าของชายหนุ่มต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“นี่เดี๋ยวก่อน ฉันถามว่าเธอจะทำอะไรกันแน่!”
โชเฮจับร่างเล็กยกขึ้นแล้วกดนอนลงไปกับเตียงแทน พร้อมตะคอกถามอย่างหงุดหงิด
“ก็ผมอยากให้คุณกอดผมนี่…”
น้ำเสียงและสีหน้ายิ้มยั่วยวนอย่างไม่ตั้งใจ ของอีกฝ่ายทำเอาชายหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อกลงคอ พยายามตั้งสติ ข่มอารมณ์แปลก ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่
“เธอคิดจะแกล้งฉันอีกแล้วใช่ไหม?”
ชายหนุ่มพยายามถามกลับอย่างใจเย็นสุด ๆ ทว่า คำตอบที่ตอบกลับมา ยิ่งทำให้เขากลุ้มหนักมากยิ่งขึ้น
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะครับ ตอนแรกผมอาจจะแกล้ง แต่ตอนนี้ผมจริงจังนะ”
ไคริบอกด้วยสีหน้าและแววตาเอาจริง ชนิดที่โชเฮต้องอุ้มเจ้าตัวขึ้นมานั่งเผชิญหน้าคุยกับเขาแทน
“แล้วทำไมถึงคิดอะไรแบบนั้นขึ้นมาได้ล่ะ เธอเองไม่ใช่หรอกหรือที่เป็นคนร้องไห้บอกให้ฉันหยุดกะทันหันก่อนหน้านั้นน่ะ”
ชายหนุ่มพยายามใช้เหตุผลในการพูดคุย เพราะคิดว่าถึงอีกฝ่ายจะเด็ก แต่ก็แก่แดดพอที่จะทำให้สามารถรับรู้และเข้าใจอะไรง่าย ๆ แต่คราวนี้เขาคิดผิด เมื่อจู่ ๆ อีกฝ่ายกลับเอาแต่ใจ และใช้นิสัยแบบเด็ก ๆ เถียงขึ้นมาอย่างผิดคาด
“ตอนนั้น ก็ส่วนตอนนั้นไม่เห็นเกี่ยวกันสักหน่อย! ก็ตอนนั้นผมยังไม่ชอบคุณนี่ แต่ตอนนี้ผมชอบแล้ว และก็อยากให้คุณกอดผมตอนนี้เลยด้วย!”
โชเฮอึ้งสนิท กับความเอาแต่ใจของเด็กตรงหน้า ที่เพิ่งจะแสดงตัวตนสมกับเป็นเด็กให้เห็นก็คราวนี้ แต่ว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่น่าดีใจสักนิด ตรงกันข้ามมันค่อนข้างจะหนักใจพอสมควร โดยเฉพาะกับข้อเรียกร้องที่อีกฝ่ายกำลังขอกับเขานี่สิ
“ไคริ ...ฟังนะ เธอเข้าใจสิ่งที่เธอกำลังขอฉันมากขนาดไหน มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ หรือเรื่องสนุกที่เด็ก ๆ สมควรจะทำหรอกรู้ไหม?”
ชายหนุ่มพยายามใช้เหตุผล และความใจเย็นในการอธิบาย แต่ใบหน้าที่แดงระเรื่อน้อย ๆ ด้วยพิษไข้นั่นกลับมุ่ยลง ก่อนจะลุกขึ้นยืน และโถมเข้าใส่เขา จนล้มลงไปด้วยกันบนที่นอน
“ผมรู้น่ะ ผมบอกแล้วไงว่าเคยเห็นแม่บ้านกับแฟนมีอะไรกันมาก่อน เรื่องพวกนี้ผมรู้ดีอยู่แล้ว คุณไม่ต้องมาพยายามสอนผมหรอก”
ร่างเล็กที่เปลี่ยนขึ้นไปเป็นนั่งคร่อมอยู่บนร่างของโชเฮแทน กล่าวขึ้นอย่างหัวเสีย
“แต่นี่มันผู้ชายกับผู้ชายนะ เหมือนกันตรงไหนเล่า!”
โชเฮโวยใส่ให้บ้าง พลางพยายามยึดข้อมือเล็ก ๆ ที่หันกลับมาสนใจจัดการกับเสื้อผ้าของเขาอีกครั้ง
“ก็เหมือน ๆ กันนั่นล่ะ คุณโชเฮเลิกอ้างโน่น อ้างนี่ได้แล้ว ยังไงวันนี้ผมก็ไม่ยอมปล่อยคุณไปแน่”
โชเฮเงียบกริบ นึกสังเวชสถานภาพของตัวเองยามนี้ยิ่งนัก ประโยคดังกล่าว ความจริงเขาควรจะเป็นฝ่ายพูด และคนที่กำลังถูกโดนจับแก้ผ้าอยู่ขณะนี้ ก็ไม่น่าจะเป็นเขาด้วยซ้ำไป
“ก็ได้ ๆ ฉันยอมแพ้เธอก็ได้ เลิกทำเหมือนฉันเป็นฝ่ายรับแบบนี้ได้แล้ว”
ชายหนุ่มบอกพร้อมกับยกมือสองมือยอมแพ้ ซึ่งไคริก็ยิ้มอย่างชอบใจ และก้มลงจูบที่ปากอีกฝ่ายเบา ๆ
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ทำให้ผมดูสิ ว่าคุณเองก็เก่งเรื่องรุกคนอื่นน่ะ”
คำกล่าวท้าทายออกไปชนิดที่ทำให้โชเฮต้องสั่นศีรษะ และเริ่มต้นลงมือสั่งสอนบางอย่าง เพื่อให้เด็กน้อยตรงหน้า รู้จักโลกของผู้ใหญ่ให้มากขึ้นกว่านี้
“อ๊ะ...คุณจะทำอะไรน่ะ...”
ไคริสะดุ้งด้วยความตกใจและความเจ็บ หลังจากที่โชเฮถอดเสื้อผ้าของเด็กชายออก และจัดการใช้นิ้วยาวของตัวเองล่วงล้ำไปยังเบื้องล่างของร่างเล็กช้า ๆ
“ไหนบอกรู้ดีแล้วไงล่ะ นี่แค่เตรียมพร้อมเท่านั้นนะ”
โชเฮขู่ยิ้ม ๆ ซึ่งก็ทำให้อีกฝ่ายหน้ามุ่ย และเถียงกลับ
“ฮึ! แค่นี้ผมก็รู้หรอกน่า....อ๊ะ!”
เด็กชายสะดุ้งอีก เมื่อคนฟังชักหมั่นไส้และแกล้งเคลื่อนไหวนิ้วเข้าออกแรง ๆ
“อ๊ะ...จะ...เจ็บ...คุณโชเฮ”
ไคริซึ่งถูกชายหนุ่มจับให้นอนคว่ำโก้งโค้งลงไปบนเตียง กำผ้าปูที่นอนแน่น น้ำตาซึมด้วยความเจ็บ จนโชเฮรู้สึกสงสาร
“ฉันก็เตือนแล้วไม่ใช่หรือไง ว่าเธอตอนนี้น่ะยังไม่เหมาะกับเรื่องแบบนี้หรอก”
ชายหนุ่มปลอบ และดึงนิ้วออกช้า ๆ แต่อีกฝ่ายกลับสะดุ้งด้วยความเจ็บปวดปนเสียวซ่านอย่างน่าประหลาด
“จะเลิกแล้วหรือครับ...”
น้ำเสียงอ่อนแรงถาม ซึ่งโชเฮก็ยิ้มตอบ พลางจับเด็กน้อยขึ้นนั่งตักของเขา ซึ่งไคริก็สะดุ้ง หน้าแดงนิด ๆ เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่กำลังตื่นตัวอยู่เบื้องล่าง
“ช่วยไม่ได้ ฉันเคยเตือนเธอแล้ว ว่าอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าเธอเจ็บจนลุกไม่ขึ้นในวันพรุ่งนี้ ฉันไม่ขอรับผิดชอบนะ”
“...คุณโชเฮไม่ใช่คนเย็นชาแบบนั้นหรอกครับ”
น้ำเสียงและแววตาเชื่อมั่นของเด็กชายที่หันมาบอกเขา ทำให้โชเฮถอนหายใจเบา ๆ และคิดจะเลิกทำในสิ่งที่คิดไว้ ทว่า อีกฝ่ายก็พอจะเดาออก และรีบกอดเขาไว้แน่น
“ไม่นะครับ...ผมตัดสินใจแล้ว ถึงจะเจ็บผมก็จะทน”
ชายหนุ่มลูบศีรษะเล็ก ๆ นั่นอย่างเอ็นดู และพยายามกล่าวปลอบโยน
“ไคริ...ไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้ก็ได้นี่”
“แต่ถ้าไม่ใช่วันนี้...ผมกลัวว่าคุณจะไม่ยอมอีก กลัวว่าคุณจะหลีกเลี่ยงผมน่ะสิ”
เด็กชายเถียงกลับอย่างรู้ทัน ทำเอาคนที่คิดเช่นนั้นจริง เถียงไม่ออก
“เรื่องนั้นมันก็....”
“ต้องเป็นวันนี้เท่านั้น ผมตัดสินใจไปแล้ว และจะไม่ยอมเปลี่ยนใจด้วย”
เจ้าตัวยังคงดื้อดึงผิดจากยามปกติ ทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ อย่างระอา และจับมือเล็ก ให้สัมผัสกับบางส่วนที่เริ่มตื่นตัวของร่างกายเขา
“มันเจ็บมากนะ เห็นไหม...เจ้านี่มันต้องเข้าไปในตัวเธอนะ”
เด็กชายกลืนน้ำลายอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะเงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายพร้อมกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้
“ผมทนไหว”
“เด็กดื้อ!”
โชเฮดุเบา ๆ อย่างไม่จริงจังนัก และตัดสินใจลงมือเล้าโลมให้เด็กชายเคลิบเคลิ้ม เพื่อบรรเทาความหวาดหวั่นในหัวใจที่เขารับรู้ได้ของอีกฝ่ายให้คลายไปบ้าง
“อืม...คุณโชเฮ...ผมชอบคุณนะ”
เสียงเล็ก ๆ ที่ครางออกมา ทำให้มือใหญ่ที่กำลังลูบไล้ร่างนั้นชะงัก เจ้าตัวถอนหายใจกับตัวเองเบา ๆ ไม่คิดเลยว่าจะดันเผลอตัวเผลอใจ ลงมือทำสิ่งที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำมาก่อนในชีวิตตอนนี้ลงไปได้
แต่ชายหนุ่มก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ร่างเล็กที่ยั่วยวนโดยที่เจ้าตัวไม่ตั้งใจจะให้เป็นตรงหน้า จะมีเสน่ห์ทำให้เขาถึงกับลืมตัวลืมตน จนไม่อาจหักห้ามความปรารถนาตามธรรมชาติของร่างกายไว้ได้
เวลาแบบนี้ เรื่องผิดชอบชั่วดี เป็นยังไง เขาไม่อยากไปคิดถึงมันให้หนักหัวแล้วล่ะ!
“อื้อ...คุณโชเฮ...เจ็บ...”
เสียงเล็ก ๆ ครางประท้วง เมื่อชายหนุ่มพยายามดันส่วนที่แข็งขึงของร่างกายเข้าไปในร่างนั้นอย่างช้า ๆ ทว่า น่าแปลกที่ใบหน้าหวาน ๆ นองน้ำตานั้น กลับทำให้โชเฮรู้สึกมีอารมณ์มากขึ้นกว่าเดิม
“เจ็บแค่แป๊บเดียว เดี๋ยวก็ชินเองนั่นล่ะ”
ร่างสูงกระซิบปลอบเสียงแหบพร่า ทำให้ร่างเล็กที่นอนโก้งโค้งคว่ำหน้าหันกลับมายิ้มให้น้อย ๆ ส่งผลให้คนมองเกิดอดใจไม่อยู่จับร่างนั้นพลิกหงาย และประกบจูบที่ริมฝีปากบางทันที
“อื้ม...อืม” ไคริพยายามดันร่างสูงออกไป เพราะเขารู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก และเมื่อโชเฮยอมปล่อยริมฝีปากเขาให้เป็นอิสระ เด็กชายก็สูดลมหายใจคืนเข้าปอดเฮือกใหญ่
“ไม่คิดว่า...คุณโชเฮ...จะอารมณ์รุนแรง...แบบนี้เลย”
เจ้าตัวบอกด้วยน้ำเสียงหอบ ๆ พร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มยิ้มรับ ก่อนจะอุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักเขา
“ยังมีอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับฉันที่เธอไม่รู้”
โชเฮกระซิบพร้อมไล้เลียติ่งหูขาวนวลนั่นเล่น จนเจ้าของรู้สึกจั๊กจี้
“...ก็คงต้องศึกษาไปเรื่อย ๆ”
ไคริตอบพร้อมกับหน้าแดงน้อย ๆ เมื่ออีกฝ่ายยกตัวเขาขึ้น และนำสิ่งนั้นจ่อปากทางเบื้องล่างของเขาอีกครั้ง
“ไว้จะสอนจนเบื่อเลยล่ะ... ว่าแต่ต่อเลยนะ”
คำขอพร้อมกับกับริมฝีปากซุกซนที่ไซ้เล่นบริเวณลำคอของตน ทำให้เด็กชายเกิดอาการวาบหวิวทั่วทั้งร่าง
“…แล้วแต่คุณสิครับ”
คำตอบค่อย ๆ ด้วยน้ำเสียงเขินอาย ทำให้โชเฮพลิกร่างเล็กให้หันมานั่งเผชิญหน้ากับเขา และจูบที่ริมฝีปากบางนั่น ก่อนที่เบื้องล่างจะค่อย ๆ สอดใส่ส่วนที่ขึงขังเข้าไปในร่างเล็กอย่างช้า ๆ
“อื้อ...อื้ม...” ไคริแม้จะเจ็บแสนเจ็บ แต่ทว่าเสียงที่จะร้องครวญคราง กับถูกอีกฝ่ายปิดกลั้นไว้ด้วยริมฝีปากและกลืนหายไปในลำคอ จึงทำได้แต่เพียงใช้มือทั้งสองจิกบ่าร่างสูงไว้เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของตนเท่านั้น
“เจ็บมากเหรอ? … ให้หยุดไหม?”
คำถามแรกหลังจากที่ชายหนุ่มยอมปล่อยให้ริมฝีปากบางเป็นอิสระ ซึ่งก็เรียกเสียงครางหลุดออกมาจากอีกฝ่ายทุกครั้งที่เขาขยับกาย
“ไม่เป็นไร...ผมทนไหว”
ไคริตอบพร้อมรอยยิ้มฝืน เมื่อสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างเกินกว่าครึ่ง
“เธอเกร็งมากไป มันก็เลยเจ็บ”
โชเฮบอก พร้อมกับจูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าหวาน เพื่อหวังปลอบโยนให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย
“ไม่ต้องกลัวนะ นี่เป็นครั้งแรกของเธอ ฉันจะไม่ทำรุนแรงหรอก”
ถ้อยคำกระซิบอ่อนโยนสุดท้ายที่ไคริได้ยิน ก่อนที่สติของเจ้าตัวจะขาดหาย เมื่อร่างสูงเริ่มขยับกายดันเข้าไปในร่างของเด็กชายจนเบื้องล่างของทั้งสองแนบสนิทซึ่งกันและกัน
=== จบบทที่ 3 ===