ไอ้โจ๊กมาแล้ววววววววววววว
ยังวันที่ 18 อยู่นะกิ๊
วันที่ 18.2.
.
.
.
“ลูกเต๋า......นี่.....ไอ้โจ๊ก”
“กิ๊”
“โจ๊ก....นี่ลูกเต๋า.....มึงเองก็เคยเห็นรูปเค้าแล้วนี่....นึกดี ๆสิ”
เมื่อไม่มีทางเลือก เด็กหนุ่มจำต้องแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน ไอ้โจ๊กค่อย ๆคลายมือออกจากลำคอของอีกฝ่าย ก่อนจะพุ่งเข้าไปสูดดมกลิ่นกายของลูกเต๋าอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายทำได้แค่เกร็งจนตัวแข็ง ตาค้าง ผิวที่ขาวอยู่แล้วกลับดูซีดเข้าไปอีก เจ้าสัตว์ร้ายสูดดมจนแน่นอนใจ ตั้งแต่หัวจรดเท้า สูดดมกลิ่นหอมหวานจากซอกคอขาว ๆนั่นจนชุ่มปอด ก่อนจะแสยะยิ้มหวานโชว์เขี้ยวแหลมและปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ
มันเคยเห็นคน ๆนี้....ในโทรศัพท์ของต้นกล้า
เคยได้ยินชื่อนี้นับครั้งไม่ถ้วน....จากปากของนายผู้เป็นทุกสิ่ง
“ลูกต๋าววววว”
“ห่าโจ๊ก.....อย่าทำแบบนี้อีกนะ กูตกใจหมด”
ต้นกล้าเองก็แทบหยุดหายใจเช่นกัน
.
.
.
.
“สรุปว่ากล้าแอบเลี้ยงมันเอาไว้เหรอ....เราไม่เข้าใจ มีคนให้กล่องนายมา แล้วก็เป็นไอ้ตัวนี้อ่ะนะ”
“แฮฮฮฮฮฮฮ่......กรรรรรรรรรรรรรร์”
“กะ....กล้า....มันจะกินเรามั้ย”
“มันคงอยากให้เต๋าเรียกชื่อ”
“ไง........อ่ะ....อะ....อะ......ไอ่.....โจ๊กก-กกก-กก”
“กิ๊กิ๊”
ต้นกล้าเล่าทุกอย่างให้ลูกเต๋าฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่าเรื่องราวบางส่วนถูกบิดเบือนไปบ้าง อย่างเช่นเรื่องที่ว่าเขาฆ่าไอ้แม็ค อย่างทารุณ หรือตอนที่แต่งเป็นเด็กผู้หญิงออกไปหลอกล่อไอ้ปุ่น ที่เขาไม่แม้แต่จะเอ่ยถึงให้อีกฝ่ายได้ฟัง ต้นกล้าแสร้งทำเป็นว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ เป็นการตกกะไดพลอยโจน เขายอมรับว่าจัดการกับพ่อเลี้ยง แต่นั่นเพราะต้องการป้องกันตัว และก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตกบันไดคอหักตาย เขากะใช้ไอ้โจ๊กเพื่อขู่ให้ไอ้ชดกลัวและไม่กล้าข่มเหงรังแกเขาก็เท่านั้น
“เรื่องใหญ่แล้ว......พวกนั้นหลอกกล้าไปที่บ้านไอ้เบนซ์ เพราะขู่จะแฉคลิปของเราเนี่ยนะ....แล้วไอ้ตัวนี่....เอ่อ....หมายถึงไอ้โจ๊กก็เลยตามไปช่วย แล้วก็ฆ่าพ่อแม่ไอ้เบนซ์ตาย คือ.....ไม่มีใครเชื่อแน่ ๆ เว้นเสียแต่ว่าจะเอาตัวไอ้โจ๊กไปยืนยัน แต่มีหวังได้ตายกันระนาวแน่นอน”
แม้ต้นกล้าจะรู้สึกผิดต่อลูกเต๋า ที่บิดเบือนเรื่องเสียจนตัวเองดูเป็นฮีโร่ แต่มันก็เป็นเรื่องที่จนปัญญา เกินกว่าจะหาทางออกอื่นได้อีก เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเกลียดเขา หรือมองว่าเป็นคนอำมหิต แม้ว่าที่ทำไปทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากปกป้องและแก้แค้นให้ลูกเต๋าเท่านั้นเอง
“เราให้ใครเห็นมันไม่ได้หรอกเต๋า......ถ้าเรื่องไอ้โจ๊กแพร่งพรายออกไปจนกลายเป็นข่าวใหญ่ มีหวังว่ามันต้องโดนฆ่าทิ้งแน่”
“แต่ถ้าเราปล่อยเอาไว้มันก็จะ....”
“ระวังหน่อย....มันเข้าใจภาษามนุษย์ดีทีเดียวแหละ”
“แล้วถ้ามันหิวล่ะ”
“ตอนนี้คงยังหรอก”
“กล้าไม่กลัวเหรอ”
“กลัว?”
“ก็มันอาจจะกินกล้าน่ะสิ
“โจ๊กรักกล้า....ไม่กิน.....ไม่กินนนนน....กรรรรรรร์”คำถามสุดท้ายไอ้โจ๊กเป็นฝ่ายชิงตอบ มันส่งเสียงคำรามอย่างน่าสยอง และจ้องมองลูกเต๋าด้วยสายตาประหลาดที่ดูชั่วร้าย ต้นกล้าไม่อาจเดาอารมณ์ของมันในตอนนี้ได้เลย หากว่ามันเกิดอาละวาดจนเกินควบคุม และทำร้ายลูกเต๋าขึ้นมา เขาคงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ มันไม่ใช่ก้อนเนื้อหรือว่าคนแคระอีกต่อไปแล้ว
“พวกมันคิดว่ากล้ามีส่วนเรื่องที่เพื่อนมันหายไปเหรอ”
“อื่อ....คงอย่างนั้นแหละ”
“แล้วมันตามไปช่วยกล้าถูกได้ไงอ่ะ.....ไอ้โจ๊กน่ะ”
“มันก็บินไป.....ล่ะมั้ง...ก็มันมีปีกนี่”
"เรื่องนั้นเรารู้น่า....แค่สงสัยว่ามันตามไปถูกได้ยังไง"
"คงเพราะมันมีญาณทิพย์ล่ะมั้ง เราก็ไม่รู้ว่ะเต๋า"
“เฮ้ออออ.......เอาเถอะ ๆ อยู่ที่โรงงานนี่ก็ไม่ปลอดภัยอีกแล้วรู้มั้ย ลองเรื่องเลยเถิดแบบนี้ พวกมันยิ่งปักใจเชื่อไปกันใหญ่ แล้วทีนี้พวกมันก็จะเบนเข็มมาเล่นงานกล้าเต็ม ๆ โดยเฉพาะไอ้เบนซ์ มันต้องอยากแก้แค้นนายแน่ ๆ ก็เล่นฆ่าพ่อกับแม่มันนี่นะ”
“ตัวมันโตขึ้นทุกวันแบบนี้ เราคงต้องเอาไปปล่อยในป่า.....”
“แล้วถ้ามันหิวล่ะ ใครจะคอยควบคุม มีหวังออกมาอาละวาดหาของกินในเมืองแน่ ๆ”
“น่ะ...นั่นสิเนอะ.....”
“กล้าบอกเองว่ามันกินเนื้อดิบ ๆได้ อย่างน้อยถ้ายังมีกล้าอยู่ด้วย มันจะได้ไม่ฆ่าคนสะเปะสะปะ”
ต้นกล้าจะพูดอย่างไรดีล่ะ ขืนบอกว่าเขาตั้งใจจะฝึกมันให้ออกล่าเหยื่อเอง อีกฝ่ายจะคิดกับเขาอย่างไร คงมองเขาเป็นไอ้คนใจร้าย จิตใจอำมหิตและเห็นแก่ตัว แต่เรื่องที่ลูกเต๋าพูดมามันก็ถูก ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าตอนนี้ไอ้เสือจะยังไม่รู้ แต่มันต้องสืบเสาะตามมาจนเจอแน่ ๆ
“เอางี้....เอาไปซ่อนที่ห้องใต้ดินบ้านเราก็ได้นะ”
“ห๊ะ”
“จริง ๆนะ.....บ้านที่เราอยู่มีห้องใต้ดินใหญ่มาก.....เห็นพ่อเราบอกว่าเจ้าของเดิมเป็นนักวิทยาศาสตร์สองคนผัวเมีย เคยไฟไหม้มาแล้วด้วย แต่คนที่ซื้อมันมาก่อนหน้าก็ปรับปรุงซ่อมแซมจนใหม่เอี่ยม นายพอนึกภาพออกมั้ย ห้องทดลองลับ ๆน่ะ มีทางเชื่อมกับท่อระบายน้ำใต้ดินของเมือง มันต้องปลอดภัยกว่าแน่ ๆ อย่างน้อยเราเป็นเจ้าของบ้าน คงไม่มีใครกล้าเข้ามาวุ่นวาย หรือบุกเข้ามาง่าย ๆหรอก อีกอย่างรั้วบ้านเราแน่นหนากว่าของนาย แถมคนละแวกนั้นก็เป็นคนใหญ่คนโต....พวกไอ้เสือไม่กล้าเสี่ยงหรอก”
ไอ้โจ๊กมองคนทั้งสองคุยกันอย่างเคร่งเครียด และความรู้สึกประหลาดในใจของมันก็ค่อย ๆก่อตัวขึ้น ช่องว่างระหว่างต้นกล้ากับมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แม้จะพอเข้าใจภาษามนุษย์อยู่บ้าง แต่เรื่องที่คนสองคนคุยกันนั้นค่อนข้างซับซ้อนเกินกว่ามันจะเข้าใจได้ทัน
ที่ตรงนั้นเต็มแล้ว.....ไม่มีที่ว่างสำหรับโจ๊ก
สองคนนั้นดูเหมาะสมกัน
แน่ล่ะ....ต้นกล้ากับลูกเต๋าคือสายพันธุ์เดียวกัน
แต่ว่าโจ๊ก.....ไม่ใช่
โจ๊กเป็นสัตว์ประหลาด
โจ๊กรักกล้า
ไม่กินกล้า
ถึงโจ๊กจะหิว
ถึงแม้จะเจ็บข้างใน.....เจ็บในนี้
เจ็บข้างในมันยิ่งกว่าเจ็บแผล
เจ็บแผลเป็นความรู้สึกใหม่ แต่ตอนนี้ไอ้โจ๊กชินเสียแล้ว
แต่เจ็บข้างใน ไอ้โจ๊กไม่เคยชิน
มันเหมือนกับว่าไอ้โจ๊กนั้นหล่นจากที่สูง หัวใจมันรู้สึกหวิว ๆ
สมองปั่นป่วน
ความรู้สึกหดหู่และเสียใจ ไอ้โจ๊กเองก็ไม่เข้าใจ
เพราะมันไม่ใช่มนุษย์
“ว่าแต่ทำไมถึงได้ตามเรามา” ต้นกล้าเอ่ยถามอย่างสงสัย วันนี้ลูกเต๋าควรจะนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่น ๆมากกว่า ลูกเต๋าขาดเรียนน้อยครั้งจนนับนิ้วได้เลย
“เราเป็นห่วงกล้าน่ะสิ ช่วงนี้ทำตัวแปลก....ปกติก็แปลกอยู่แล้ว เข้าเรียนก็ไม่ค่อยเข้า”
“วันนี้นายก็เลยโดดเรียนมาหาเรา”
“ใช่.....เรารอกล้าอยู่หน้าบ้าน แต่พอกล้ากลับมาเราก็.....เราอยากรู้ว่านายทำอะไรอยู่ก็เลยซ่อนตัว แล้วก็สะกดรอยตามมา”
“......อืม”
เป็นคำตอบที่ฟังแล้วชื่นใจดีไม่น้อย ต้นกล้ารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญของอีกฝ่ายขึ้นมาเลยทีเดียว
“กล้าไม่โกรธเราใช่ไหม....เราเป็นห่วงกล้าจริง ๆนะ กลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ก็ตอนที่กล้าไม่อยู่ พวกไอ้เสือก็ไม่มาเรียน มีแต่ไอ้เสือเข้ามาคนเดียว มันเข้ามาแค่ช่วงเช้าแล้วก็หายไป ก่อนไปมันยังมาเค้นเอากับเราเรื่องกล้าเลย ทำไมมันถึงได้ปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือกล้าก็ไม่รู้.....เฮ้ย....อย่าเงียบไปดิ”
“.......ตีนนายเบามาก”
“ชิส์....บ้าเอ๊ย.....ก็เพราะนายไม่ทันระวังตัวต่างหาก นายเอาแต่เดินจ้ำเอา ๆ”
“คือเราต้องรีบมาทำแผลให้มันน่ะ”
“ดูท่ากล้าเองก็รักมันนะ”
“ไม่หรอก....เราจะไปรักมันได้ยังไง”
เผลอพูดออกไปจนได้ พูดออกไปแล้วโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัวด้วยซ้ำ ต้นกล้าแค่ไม่อยากให้ลูกเต๋ามองเขาแย่ไปกว่านี้ และความจริงก็คือเขาไม่ได้รักมันเสียหน่อย
เขาเป็นมนุษย์นะ
แล้วมันก็เป็นสัตว์ประหลาด
ถ้าแค่ความเอ็นดูในฐานะเจ้าของ....เขาก็พอจะมีให้มันอยู่ไม่น้อย
แต่ประโยคเมื่อครู่นี้ แม้คนพูดจะหลุดออกมาด้วยความไม่ใส่ใจ
แต่ไอ้โจ๊กนั้นรับรู้.....กล้ารักโจ๊กไม่ใช่เหรอ.....กล้าบอกโจ๊กบ่อย ๆ โจ๊กก็รักกล้า แต่ทำไมเมื่อกี้นี้กล้าไม่รักโจ๊กแล้วล่ะ
เจ็บเหลือเกิน.....
กล้าไม่รักโจ๊กแล้ว.....
ไม่รักเหมือนกับที่รักลูกเต๋า....
ก็กล้าไม่เคยละเมอออกมาว่ารักโจ๊กเลยสักครั้งนี่นะ
“แล้วเราจะไปยังไง”
“ปกติเราจะให้น้าข้างบ้านมาช่วย.....เอ่อ.....เราเองก็ไม่รู้ชื่อ”
“ไว้ใจได้เหรอ เค้าก็เห็นมันแล้วนี่ แน่ใจได้ไงว่าจะไม่บอกใคร”
“ไว้ใจได้สิ”
“แล้วเราจะไปยังไง”
“เชื่อใจเราไหมล่ะ.....เราให้ค่ำก่อน.....ระหว่างนี้ก็เก็บของ....แล้วค่อยมาเอาวันหลัง”
ต้นกล้าหันมาหามันและส่งยิ้มให้เช่นเคย ยิ้มที่เคยทำให้โจ๊กรู้สึกดี แต่ว่าตอนนี้โจ๊กกลับไม่แน่ใจเสียแล้ว ทำไมมนุษย์ช่างซับซ้อนเช่นนี้ และในบรรดามนุษย์ทุกคนที่ไอ้โจ๊กรู้จัก อาหารทั้งหลาย.....ต้นกล้านี่แหละที่ซับซ้อนที่สุด
ใจคนยากแท้หยั่งถึง
.
.
.
.
“กล้า.......น่ากลัวว่ะ....”
“ไอ้โจ๊ก....กอดพวกกูแน่น ๆนะ”
ไอ้โจ๊กพาเด็กหนุ่มทั้งสองบินขึ้นไปบนท้องฟ้า หลังจากที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ลูกเต๋านั้นแหกปากร้องโวยวายในตอนแรก ก่อนจะกอดไอ้โจ๊กแน่น ต้นกล้านึกขำอีกฝ่าย และพาลขำตัวเองตอนที่ได้บินกับมันเป็นครั้งแรก เขาก็กลัวแบบนี้แหละ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป ลูกเต๋านั้นเกร็งนิ่งและหลับตาปี๋อยู่นาน ก่อนจะค่อย ๆเปิดเปลือกตาขึ้นดูบรรยากาศเบื้องล่าง มองได้ชั่วเสี้ยววินาทีก็หลับตาปี๋อีกครั้ง
อย่างน้อยในตอนนี้ลูกเต๋าก็กลัวมากกว่าเขา แบบนี้สิยิ่งดีใหญ่ เขาจะได้ปลอบอีกฝ่ายให้หายกลัว
“หึหึ.....กลัวความสูงเหรอต๋าวววว”
“เออดิ”
“ตอนแรกเราก็กลัว.....แต่เพราะมองลงไปจากบนนี้มันสวยดีน่ะ....เหมือนเราเป็นนกเลย.....จริงไหมไอ้โจ๊ก”
“กิ๊”
ต้นกล้าคงลืมไปแล้วล่ะมั้ง ว่าตอนนี้ร่างกายของมันกำลังบาดเจ็บ ไอ้โจ๊กต้องแบกรับน้ำหนักคนสองคน ไม่ไหวก็ต้องไหว ในเมื่อเป็นคำสั่งของคนที่มันรักและเทิดทูน ยิ่งได้เห็นอีกฝ่ายมีความสุข ส่งเรียกหัวร่อต่อกระซิก มันก็พอจะกัดฟันข่มความเจ็บลงไปได้บ้าง
“เต๋า....นายลืมตามองไปรอบ ๆสิ หายใจเข้าลึก ๆ เดี๋ยวพอนายเริ่มชินแล้วนายก็จะชอบจนต้องขอลองอีก”
“ไอ้บ้า.....แม่ง...พูดสองแง่สองง่าม”
“หึหึหึ....เราน่ะ....เคยฝันอยากจะมีปีก จะได้บินหนีไปไกล ๆ จากไอ้บ้านเฮงซวยแล้วก็สังคมที่นี่ มีปีกแบบเท่ห์ ๆ บินไปไหนก็ได้อย่างที่ใจต้องการ”
ไอ้โจ๊กลอบมองหน้าคนพูด น้ำเสียงและแววตาของเจ้านายฉายแววเศร้า แม้จะแสร้งทำเป็นเริงร่า ไอ้โจ๊กเองก็รู้สึกมีความสุขที่ได้ทำให้คนที่มันรักสมหวัง ถึงต้นกล้าจะไม่มีปีก ไอ้โจ๊กก็จะขอเป็นปีกให้เด็กหนุ่มเอง
ตราบเท่าที่ต้นกล้าต้องการ
“กล้าอยากไปไหน....บอกโจ๊กนะ....โจ๊กจะพากล้าไป”
“เออ....ได้สิ...รอให้เสร็จเรื่องวุ่นวาย....เอ่อ....หมายถึงรอให้เรื่องสงบ กูจะให้มึงพาบินรอบเมืองเลย”
“กิ๊....รอบเมือง....กิ๊”
“กูไว้ใจมึงนะโจ๊ก....กูเชื่อว่ายังไงมึงก็ไม่ปล่อยให้กูตก...ใช่ไหม.....”
“ใช่กิ๊”
“กับลูกเต๋าก็เหมือนกันนะ เขาเป็นคนสำคัญของกู มึงก็ต้องปกป้องเขาสุดชีวิตเลยเข้าใจไหม”
“โจ๊กเข้าใจ”
“มึงพูดได้สักทีนะไอ้คำนี้อ่ะ.....หึหึหึ...เต๋า....นายเลิกกลัวได้แล้ว นายต้องเชื่อใจมัน มันไม่มีทางปล่อยนายตกแน่ ๆ”
“โอ้วววว......สวยจังแฮะ.....คืนนี้ท้องฟ้าสวยมาก.....อากาศก็ดี.....ไป ๆมา ๆก็ชักจะเพลิน แต่ขอไม่มองข้างล่างนะ”
ต้นกล้าเองก็ลอบมองรอยยิ้มไร้เดียงสาของอีกฝ่ายเช่นกัน
รู้ตัวดีว่าไม่คู่ควร
แต่อย่างน้อยคนข้างบนก็ยอมโน้มตัวลงมาหาเศษดินที่แสนต่ำต้อย
แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน แม้เพียงช่วงสั้น ๆ
ชีวิตของต้นกล้าก็ถือว่ามีความหมายมากมายแล้ว
ถ้าไม่มีลูกเต๋า
ป่านนี้เขาคงจะเชือดข้อมือตัวเองตายไปแล้วล่ะ
และถ้าไม่มีไอ้โจ๊ก
เขาก็คงยังเป็นไอ้ขี้แพ้ที่โดนรังแกไปจนวันตาย
ขอบคุณนะ....เต๋า
มึงด้วยนะไอ้โจ๊ก
.
.
.
.
.
“คืนนี้มึงนอนที่นี่แหละ ดีกว่านอนที่โรงงาน เดี๋ยวกูหาผ้าห่มอุ่น ๆมาให้”
“กล้านอนกับโจ๊กนะ.....นอนกับโจ๊ก”
“เออ....กูก็อยู่ข้างบนแหละ มึงนอนพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้ากูค่อยลงมาเปลี่ยนผ้าพันแผลให้มึง....แล้วก็หาอะไรให้มึงกินด้วย”
เด็กหนุ่มเอ่ยราตรีสวัสดิ์กับมัน หลังจากที่เขากับลูกเต๋าช่วยกันขนหมอนและผ้าห่มลงมาให้ วันนี้ไอ้โจ๊กไอ้นอนหลับบนที่นอนนุ่ม ๆ ที่นอนปิกนิกสามชิ้นซ้อนกัน มีหมอนหนุนหัว มีผ้าห่มที่ไม่หนาและบางจนเกินไป ปกคลุมร่างกายของมันจากความเย็นยามค่ำคืน
นอนสบายกว่าในตึกร้างและโรงงานร้าง
แต่รู้อะไรไหม
ไอ้โจ๊กอยากนอนในที่ที่ลำบากแบบนั้นมากกว่า เพราะไอ้โจ๊กมีต้นกล้านอนเป็นเพื่อน
แม้จะไม่ทุกวัน แต่ไอ้โจ๊กนั้นก็พอจะเข้าใจถึงเหตุจำเป็น
แต่ในวันนี้ ต้นกล้าอยู่ที่เดียวกับมัน แต่เด็กหนุ่มกลับเลือกที่จะทิ้งมันไปนอนกับใครอีกคน นั่นทำให้หัวใจของมันเจ็บปวดอีกแล้ว
ไอ้โจ๊กไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย
เจ็บในนี้....เจ็บ.....เจ็บแบบนี้ไม่ชอบเลย.....
“เอ่อ.....ฝันดีนะไอ้โจ๊ก”
ลูกเต๋าเองก็บอกลามันเช่นกัน ต้องยอมรับว่าลูกเต๋าเอง....ในสายตาของไอ้โจ๊ก ก็เป็นเด็กหนุ่มที่น่ารักน่าเอ็นดู และสามารถทำให้ร่างกายของมันตื่นตัวได้ไม่แพ้กัน โดยฌฉพาะกลิ่นตัวที่หวานหอมนั่น
แต่ลูกเต๋าไม่ใช่ต้นกล้า
คนละคนกัน
แทนที่กันไม่ได้
สำหรับมันต้นกล้าไม่ใช่ความคุ้นชิน
แต่คือโลกทั้งใบ.
.
.
.
To be con
จบวันที่ 18
แง๊ ๆ ๆ หายหัวไปนานมากจริง ๆค่ะ พอดี(พอดีอีกแล้ว----แก้ตัวตลอด) คนแต่งกำลังจะย้ายที่ทำงาน และย้ายที่อยู่ไปไกลจากที่เดิมมาก ๆ ช่วงนี้เลยวิ่งวุ่นหาที่พักเป็นระวิง หาคนช่วยขนของอีก หัวเลยไม่ค่อยแล่นเลย ทั้ง ๆที่แต่งค้างมาเป็นอาทิตย์แล้วกิ๊.....