โทษทีค๊าบบบ หายหัวไปวุ่นวายเรื่องหัวใจเล็กน้อย
มาต่อล่ะคับ จะพยายามไม่หายไปไหนอีกนะ
================================
- 8 -ฟิลิปไม่สนใจว่าที่เขากลายเป็นคนดังขึ้นมาชั่วข้ามวันเพราะฝีมือใคร เด็กหนุ่มเชื่อมั่นในตัวเองขึ้นมาว่าเวลาที่ตัวเองขึ้นมาเทียบชั้นศิลปินที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่างจัสตินได้สำเร็จ เพราะฝีมือตนเองล้วนๆ
บาสรู้สึกตะขิดตะขวางใจ ที่ฟิลิปมองไม่เห็นในการเข้ามาจัดการทุกอย่างให้จนดังได้อย่างทุกวันนี้ สองคนจึงเริ่มทำงานอย่างไม่ลงรอยกัน อย่างเช่นวันนี้ วันที่คนตะขิดตะขวางใจต้องบอกคิวงานกับคนที่ทนงว่าตัวเองดังได้เพราะฝีมือตัวเอง
“ต่อไปนี้คุณจะต้องซ้อมหนักนะฟิลิป คอนเสิร์ตเปิดตัวคุณครั้งนี้สำคัญมาก ล่มก็คือล่มเกิดก็คือเกิด”
“อะไรคอนเสิร์ตของผม ยังไงมันก็ไม่มีทางล่มหรอก” คนโดนบอกตอบกลับอย่างมั่นใจ แต่อีกฝ่ายกลับเอือมระอาในใจ
“อย่าเพิ่งอวดเก่งไปหน่อยเลยฟิลิป ไม่ประมาทดีที่สุด”
“คุณเพิ่งเข้ามาดูแลผมอย่ามาสอนมากเลยน่า”
“แล้วไง ไม่เพราะผมเหรอคุณถึงได้มีโอกาสแบบนี้”
“ทุกอย่างพี่ธีเป็นคนจัดการ คุณก็รู้”
“อ๋อเหรอ ธีระ ได้ยินแบบนี้คงดีใจจนเนื้อเต้นสินะ”
“หมายความว่าไง” คนเอือมระอานึกเยาะอยู่ในใจที่เห็นฝ่ายตรงข้ามกระชากเสียงถาม เด็กนี่ไม่ได้รู้ตัวเองบ้างเลยว่าที่ก้าวเข้ามายืนอยู่จุดนี้ได้เพราะอะไร หึ คงคิดว่าตัวเองโดนธีระดันจนได้ออกเทปเนี่ยเพราะฝีมือตัวเองล้วนๆงั้นสิ โธ่เอ้ย ถ้ารูปร่างหน้าตาไม่โดนใจคนดันอย่างธีระมีเหรอแกจะได้ออกเทป ความสามารถที่มองเห็นพูดตามตรงแกยังห่างจากจัสตินเยอะทีเดียว นี่ถ้าแกรู้ว่าโปรดิวเซอร์ตัวเองเป็นเกย์ แกจะรู้สึกยังไงนะฟิลิป
จัสตินนั่งกุมขมับอยู่เงียบๆ หลังจากที่อิ๋งอิ๋งรายงานถึงผลกระทบต่อตัวเขา หลายที่ที่เขาต้องไปเล่นคอนเสิร์ตถูกยกเลิกด้วยเหตุผลคือช่วงนี้เขาได้กลายเป็นขาลง เด็กหนุ่มไม่ได้เครียดถึงเรื่องรายได้หรือความนิยม แต่เขาเครียดเรื่องครอบครัวที่กำลังทุกข์ใจเมื่อเห็นความสำเร็จของเขาล่มสลายไปในพริบตา เพียงเพราะข่าวที่ว่าเขาเป็นเกย์
ทุกคนต้องการฟังคำอธิบายจากเขา แต่เขายังไม่อยากที่จะพูดอะไรกับใครในช่วงนี้ เขาเครียดและเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เขาคิดผิดที่ก้าวเข้ามาตรงจุดที่คนทั้งประเทศรู้จัก ถ้าหากเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา พ่อแม่เขาก็คงจะทุกข์น้อยกว่านี้ แต่นี่เขาเป็นคนที่สังคมกำลังให้ความสนใจและกระหน่ำเรื่องที่เขาเป็นเกย์และสร้างภาพหลอกลวงมาโดยตลอด
“จะไปไหน” อิ๋งอิ๋งทักทันทีที่เห็นจัสตินลุกขึ้น
“ไปไหนคนคงไม่สนใจผมแล้วล่ะ ผมมันซุปเปอร์สตาร์ขาลง” คนโดนถามตอบแบบประชดตัวเอง
“นี่อย่าคิดแบบนี้นะ เธอต้องเชื่อทางค่ายสิ เรื่องนี้เขาไม่ปล่อยให้เธอเผชิญคนเดียวหรอก แค่ข่าวขี้ปะติ๋ว”
“ความจริงมันก็คือความจริงนะ พี่อิ๋ง ทางค่ายชุบตัวผมมากี่รอบแล้วล่ะ เลิกเหนื่อยกับผมดีกว่า”
“แล้วไงคนเป็นเกย์ไม่มีสิทธิ์ร้องเพลงงั้นเหรอ คนอื่นไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนเลย”
“นั่นสิคนอื่นไม่เดือดร้อน แล้วทำไมผมต้องมาเดือดร้อนด้วยก็ไม่รู้”
“เธอต้องเข้าใจนะจั สตินว่าเธอมาในช่วงที่กู้วิกฤติให้ทางค่าย ในขณะที่กระชากคู่แข่งให้กลายเป็นยักษ์ล้ม เธอคิดว่าทางนั้นเขาจะไม่แค้นเธองั้นเหรอ ในเรื่องแบบนี้มันยอมกันได้ที่ไหน เธอมีช่องโหว่ให้เขาทำลายชื่อเสียงได้ เธอถึงต้องวุ่นวายแบบนี้ไง ซึ่งก่อนหน้าพี่ก็เตือนให้เธอระวังไม่รู้กี่ครั้งเป็นไงผลของความรั้นมันกลับมาทำลายเธอมั๊ย”
“ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้”
“อย่ามองโลกในแง่ดีมากเกินไปจัสติน วงการนี้พี่อยู่มานาน เธอทำใจให้สบายเดี๋ยวทุกอย่างทางค่ายเขาหาทางโต้กลับได้อยู่แล้ว”
จัสตินอยากจะคิดอย่างที่ผู้จัดการส่วนตัวบอก แต่เขาไม่รู้ว่าบาสมีอะไรอยู่ในมือที่เล่นงานเขาได้บ้าง บางทีการชุบตัวเขาใหม่อีกครั้งมันอาจกลายเป็นเชื้อไฟให้กระแสสังคมโจมตีเขาอีกก็ได้ ทุกอย่างมันควรจะจบที่ต้นตอนั่นก็คือเขาต้องเคลียร์กับบาสด้วยตัวของเขาเอง