20
มีแต่เรา โคตรจะดี
Jai’s partวันเวลาผ่านไปอย่างเร็วมาก เร็วจนคิดว่าเวลาที่ผมอยู่กับพี่ไซน์มันไม่พอให้หายคิดถึง ผมกับพี่ไซน์คบกันมาได้เกือบสามเดือนแล้ว พี่ไซน์กำลังเร่งทำธีสิสจบ ส่วนผมก็ยังเรียนไปเรื่อยๆ ปีสามเทอมสองนู่นแหละ กว่าจะได้ฝึกงาน และช่วงนี้ผมลักพาตัวพี่ไซน์มานอนที่บ้านผมบ่อยๆ แหงหละ เวลาปกติ พวกพี่แฝดเคยอยู่ห่างจากพี่ไซน์ที่ไหน เวลาที่จะสวีทกันก็ไม่ค่อยจะมี ผมก็เลยต้องแอบบังคับ ขู่เข็ญ อ้อนวอน ทำไปจนถึงลักพาตัวพี่ไซน์มานอนบ้านนี่แหละ ฮ่าๆๆ
“ไจ๋...” นั่นพอนินทาก็เหมือนเจ้าตัวจะรู้ ขยับตัวที่นอนหนุนแขนผมอยู่ไปมายุกยิก บิดขี้เกียจจนเสื้อนอนเลิกขึ้นโชว์เอวขาวๆ ก่อนจะหันหลังให้ผมแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่อตัวเองไว้ ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ จนผมคิดว่าเจ้าตัวคงจะหลับต่ออีกรอบนั่นแหละ
“ตื่นได้แล้ว ไหนบอกอยากไปหาพี่ปิง”
“ฮื่อ...”
“ขี้เกียจตัวเป็นหมา” ผมว่าให้คนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะรวบก้อนผ้าห่มมากอดก่ายทับไว้ กดจมูกลงไปยังต้นคอของคนตัวเล็กกว่า แอบงับเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว กวนคนตัวเล็กให้ตื่นสักที
“หมาไจ๋”
“หมาไซน์ อ้วน”
“ฮื่อ...สายๆค่อยไปไม่ได้หรอ”
“จะเอาสายแค่ไหนอีก นี่ก็สายแล้วนะครับบบ” ผมพูดจบ พี่ไซน์ก็ยังคงนิ่งเงียบ นี่จะหลับให้ได้เลยใช่มั้ยเนี่ย ผมแอบขำเบาๆ เป็นแบบนี้ทุกที เมื่อคืนก่อนจะนอนก็ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแท้ๆว่าให้ปลุกเลย ปลุกจนกว่าจะตื่น แต่พอตอนเช้าขึ้นมาพอเขาปลุกพี่ไซน์ก็ชอบงัวเงีย ขอนอนต่ออีกห้านาที สามนาที ตลอด เล็กๆน้อยๆก็เอา ขอแค่ให้ได้นอน
“กอดหน่อย หนาว” นั่นลูกอ้อนเขาแหละครับ พอรู้ว่าผมจะพูดมากเขาก็มาไม้นี้แหละ น้ำเสียงง่วงๆอ้อนๆนะใช้ได้ผลเสมอ และนี่แหละที่ให้ได้ไปเรียนสายกันตลอด ผมดึงผ้าห่มที่ห่อพี่ไซน์ออก แล้วค่อยๆสอดมือเข้าไปใต้เสื้อ วนลูบเอวบางๆ ก่อนจะเลื่อนไปลูบหน้าท้องแบนๆ เขยิบตัวเข้าไปใกล้คนตัวเล็กที่ยังนอนนิ่ง แอบขบเม้มใบหูเบาๆก่อนจะกระซิบบอก
“ถ้าไม่ลุกจากเตียงตอนนี้ ก็ไม่ต้องลุกทั้งวันเลยนะ” ที่จริงผมก็แกล้ง ผมก็ขู่ไปอย่างนั้นแหละครับ ไม่ได้คิดจะทำจริงๆหรอก (แต่ถ้าได้ก็โอเค) แต่ผมพูดยังไม่ทันไร พี่ไซน์ก็พลิกตัวหันหน้าเข้าหาผม มือเล็กๆแสนซนนั่นก็สอดเข้ามาใต้เสื้อ ลูบซิกแพคอ่อนๆ เลียนแบบที่ผมกำลังทำกับเขาอยู่ตอนนี้พร้อมลืมตาปรือๆขึ้นบอก
“ทำเลย ยอมมม”
“หืม? ใครสอนให้พูดจาแบบนี้ มือนี่ด้วย ซนมากระวังจะโดน”
“ใครจะสอน กูก็ลอกเลียนแบบมาจากมึงนั่นแหละ” ปากเล็กพูดเถียงปาวๆ จนผมหมั่นไส้ โน้มหน้าเข้าไปจุ๊บเบาๆ พี่ไซน์ละมือออกจากหน้าท้องผมแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงใหม่ นี่แหละ พอเขินแล้วก็ชอบหนีทุกที ยัยแมวยั่วสวาทปากดีเมื่อกี้หายไปไหนแล้วหละ
ผมสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่าเวลาผมพูดกวนตีน พูดขู่ บังคับ ทำอะไรฮาร์ดคอ แสดงออกแบบฮาร์ดคอ หยอกล้อ ถีบกัน เตะกัน จับมาจูบแรงๆ อะไรแบบนี้ พี่ไซน์จะไม่ค่อยกลัว ไม่ค่อยเขิน แถมยังเล่นกับผม ตอบสนองผม อารมณ์เหมือนชินแล้วอะไรประมาณนี้ แต่ถ้าผมทำอะไรหวานๆให้เมื่อไหร่ ทำอะไรที่โรแมนติก แบบจุ๊บปาก จุ๊บแก้มเบาๆเหมือนเมื่อครู่นี้ เจ้าตัวจะเขิน แก้มนี่แดง หูแดง แล้วโวยวาย ชอบเปลี่ยนเรื่อง ชอบหนีทุกที ทั้งๆที่ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ผมรู้ว่าพี่ไซน์ชอบให้ทำแบบนี้ ผมเลยเดาเอาว่า พี่ไซน์คงจะชินกับการที่อยู่กับพวกพี่แฝดแบบแมนๆ เล่นกันรุนแรง พอผมทำด้วยเลยชิน ไม่เขิน มีภูมิคุ้มกันเยอะ คงจะเหมือนเล่นกับพี่ตัวเองละมั้ง
“ไซน์ตื่น วันนี้จะพาไปหาปันปันด้วย เร็วๆ”
“จริงนะ! มึงอะชอบโกหก”
“อือ ไม่โกหกแล้ว ไปอาบน้ำเร็ว”
“ไจ๋ไปอาบก่อน เดี๋ยวพี่ไซน์จะอาบทีหลัง”
“อย่ามา ผมอาบเสร็จตั้งแต่เช้าแล้ว นอนมองหน้าพี่ได้เป็นชั่วโมงแล้วเนี่ย”
“โรคจิตหรอ”
“เอ้า มองหน้าแฟนตัวเองมันผิดตรงไหนครับ” ผมว่าให้ พี่ไซน์ลุกขึ้นเอาผ้าห่มมาคลุมผมไว้ ก่อนจะเอาหมอนมาปิดหน้าผม กระโดดลงมาทับตัวอีกที แล้วรีบลุกวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป มันน่าตีจริงๆเลย
น้องปันปันที่พูดถึงก็คือลูกสาวของพี่ปิงปิง ไม่อยากจะโม้เลยว่าโคตรน่ารัก ช่วงที่ผมไปโรงบาลแล้วเจอพี่แฝดคนโตนั่นแหละครับ คือพาพี่ปันปันไปตรวจครรภ์ แล้วน้องก็พึ่งคลอดช่วงที่พี่ไซน์ไปฝึกงานนี่เอง ตอนนี้ก็อายุประมาณห้าเดือนได้แล้ว พี่ไซน์กับน้องนี่สนิทกันยิ่งกว่าอะไรดี ฟังไม่ผิดหรอกครับ สองคนนั่นนะสนิทกันยิ่งกว่าอะไรซะอีก พอเจอหน้ากันเจ้าตัวเล็กเหมือนจะรู้ ยิ้มอารมณ์ดีตลอด พี่ไซน์พาทำอะไร เล่นอะไรด้วยก็หัวเราะ น่ารัก น่าหยิก ผมนี่กลายเป็นหมาเลยครับ
.
.
.
“ปันนนนนน ไซน์มาแล้ววว” เสียงคนตัวเล็กร้องเรียกหาน้องปันปันตั้งแต่หน้าประตูบ้าน ช่วงนี้พี่ปิงปิงไม่ค่อยได้เข้าร้านเพราะต้องอยู่ดูและเจ้าตัวเล็กก่อน แต่ก็ยังทำขนมไปให้พนักงานที่ขายอยู่เหมือนเดิม ที่บ้านผมรู้เรื่องที่ผมคบกับพี่ไซน์แล้ว ตอนแรกพ่อกับแม่เฉยๆ ออกแนวโกรธผมด้วยซ้ำ แต่ก็ได้พี่ปิงปิงนี่แหละ สารธยายความดี ความน่ารักของพี่ไซน์ กล่อมหูให้พ่อกับแม่ผมฟังทุกวัน จนตอนนี้ท่านทั้งสองก็เริ่มเปิดใจมากขึ้นแล้ว ส่วนพ่อกับแม่ของพี่ไซน์รายนั้นตอนแรกผมคิดว่าน่าจะหนักอยู่เหมือนกัน แต่พอได้พูดคุยกันจริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่าท่านทั้งสองสนับสนุนด้วยซ้ำ บอกเหตุผลกับผมอีกว่า ถ้าผ่านเจ้าพี่แฝดทั้งสองมาได้ พ่อกับแม่ก็ไม่จำเป็นต้องทดสอบอะไรอีกแล้วหละ ฮ่าๆ ผมนี่โล่งเลยครับ
“แอ๊ะ แอ๊ะ” นั่นไง เจ้าตัวเล็กพอได้ยินเสียงแจ๋วๆ ก็ยกตัว คลานกระดึ๊บๆมาหา ส่งเสียงร้องอ้อแอ้ อยู่ ชูไม้ชูมือ อยากให้อุ้ม
“พี่ปิง หวัดดีครับ วันนี้ไจ๋พามาหาเจ้าตัวเล็ก คิดถึง” บอกพร้อมกับอุ้มน้องขึ้นมากอด มาหอม ฟัดแก้มย้วยๆนั่น เจ้าตัวเล็กก็ชอบใจ ยิ้มร่าเชียว
“ไจ๋นี่ ถ้าน้องไซน์ไม่อยากก็จะไม่กลับบ้านเลยใช่มั้ย น่าตีจริงๆเจ้าเด็กคนนี้”
“โถ่ เรียนหนักไง วันนี้ว่างก็มาแล้วนี่”
“ก็อ้างเรียนหนักตลอดนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าไปเถลไถลที่ไหนใช่มั้ยน้องไซน์”
“ช่วงนี้ออกไปกับเพื่อนบ่อยมากพี่ปิง จัดการเจ้าไจ๋เลยเนอะปันปัน” หันไปตอบพี่ปิงปิง แล้วหาแนวร่วม เนาะเนอะกับเจ้าตัวเล็ก รุมเลยยยย รุมผมเลยครับ
“ฮ่าๆ แล้วน้องไซน์เป็นไงมั่ง ทำไมผอมลงตั้งเยอะ”
“ไซน์ทำธีสิสอยู่ อดข้าวด้วยแหละ ผอมลงจริงหรอพี่ปิง ทำไมไจ๋ยังบอกอ้วนตลอดเลย” พี่ไซน์ปล่อยเจ้าตัวเล็กลงกับเบาะ นั่งลงคุยกับพี่ปิงปิง ผมค่อนข้างจะตกใจนิดหน่อย พึ่งรู้ว่าพี่ไซน์ไม่ค่อยกินข้าว งั้นแสดงว่าที่บอกว่าไม่หิว กินไม่ลงนี่คือพี่ไซน์อดอาหาร ลดความอ้วนแค่เพราะผมเรียกว่าอ้วนหรอ? อยากจับคนตัวเล็กนั่นมาถาม แต่ก็ต้องเก็บเงียบไว้ก่อน พี่ไซน์ยังคงไม่นึกว่าผมได้ยินมั้งเนี่ย เดี๋ยวคอยดูนะ จะจับมาขุนให้อ้วนเหมือนเดิมเลย
“เจ้าไจ๋มันก็แกล้งไปอย่างนั้น อย่าอดข้าวนะ แก้มตอบลงตั้งเยอะเนี่ย”
“เจ้าไจ๋นี่นิสัยไม่ดีเลยเนอะปันปัน ชอบแกล้งคนอื่นอยู่ได้ ปันปันโตขึ้นมาแล้วต้องจัดการเจ้าไจ๋ให้ไซน์นะ ตีแรงๆให้เจ็บๆเลย”
“แอ้!”
“ฮ่าๆ เอ้อ สองคนไม่รีบกลับใช่มั้ย พี่ว่าจะเข้าไปดูที่ร้านสักแปปนึง ไม่ได้เข้าไปนานแล้ว อยากฝากเจ้าตัวเล็กไว้หน่อยหนะ”
“ได้ครับบบบ ปันปัน อยู่กับไซน์นะ เล่นด้วยกันสองคนเนอะ”
“พี่ให้นมก่อนพวกเราจะมาแล้ว เดี๋ยวอีกสักหน่อยก็นอนแล้วหละ ยังไงพี่ฝากด้วยนะ”
“อือ ให้ผมไปส่งมั้ย หรือยังไง”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวแฟนมารับ จะไปซื้อของให้ลูกด้วย ฝากด้วยนะน้องไซน์ ฝากด้วยนะไจ๋”
“คร้าบบบบ” พี่ไซน์ยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี หันหน้าไปเล่นไปคุยกับเจ้าตัวเล็กอยู่ เดี๋ยวก็หัวเราะตลกเมื่อเจ้าตัวเล็กพลิกคว่ำ พยายามจะคลานโชว์ พี่ปิงปิงคว้ากระเป๋าสะพาย พร้อมบอกถ้าน้องจะนอนก็พาขึ้นไปนอนบนห้องก็ได้ เพราะเจ้าตัวเล็กติดแอร์ ต้องนอนที่เย็นๆ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป เอาหละ ถึงเวลาที่ผมจะต้องคุยกับพี่ไซน์สักที
“พี่ไซน์...อดข้าวทำไม”
“หะ หือ?...ไม่ได้อด มันกินไม่ลง”
“ก็พี่บอกเมื่อกี้ว่าอดข้าว อย่าบอกนะว่าลดความอ้วน” คนตัวเล็กทั้งสองที่หัวเราะคิกๆคักๆกันอยู่เมื่อกี้ก็เงียบทันทีที่ผมเริ่มทำเสียงดุ
“ไจ๋...อือ”
“ลดทำไม? แล้วทำไมต้องอดข้าว วิธีอื่นไม่มีหรอครับ”
“แอะ แอ๊!”
“ไม่ต้องเข้าข้างกันเลยนะปันปัน” ผมบอกเหมือนเจ้าตัวเล็กจะฟังรู้เรื่อง แต่เพราะน้ำเสียงผมมันดังมั้งเลยทำให้ปันปันเริ่มเบะปาก
“อย่าดุสิ”
“ว่าไงพี่ไซน์ ทำไมต้องอดข้าว”
“...ก็ไจ๋ชอบเรียกเราว่าอ้วน แถมช่วงนี้ยังออกไปกับเพื่อนบ่อยๆ เรากลัวไจ๋ไม่ชอบที่อ้วน ก็เลยอดข้าว...” ผมถอนหายใจยกใหญ่ นึกขำที่คนตัวเล็กดูจะคิดมากไปรึเปล่า พยายามเรียบเรียงคำพูดมาอธิบายให้คนตัวเล็กฟัง
“...”
“...”
“แง๊ แง้”
“ฮึก โกรธหรอ”
“เอ้า ร้องไห้ทำไม ทั้งสองคนเลย” ยังไม่ทันจะได้อธิบายอะไร เจ้าตัวเล็กก็ร้องงอแง เบะปากคว่ำ พี่ไซน์ก็เหมือนกัน น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นจากดวงตาเล็กๆ ร้องไห้เบะปากตามเจ้าตัวเล็กไปอีกคน
“ก็ไจ๋ดุทำไม ฮึก”
“ไม่ได้ดุ ชู่ว ปันปัน หยุดร้อง เดี๋ยวพาขึ้นไปนอน เปิดแอร์เย็นๆเนอะ” ผมอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา หยิบจุกของเล่นติดมือมาด้วย พร้อมกับเอื้อมมือไปจับพี่ไซน์ที่เช็ดน้ำตาป้อยๆให้ลุกขึ้น จูงมือเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน เข้าไปในห้องตัวเอง เปิดแอร์เอาใจคุณหนูตัวน้อย ก่อนจะวางลงบนเตียง ยื่นจุกนมให้เจ้าตัวเล็กดูดเล่น จนผล็อยหลับไป แล้วก็หันมาดูคนตัวเล็กอีกคนที่ร้องไห้เงียบๆอยู่ข้างง
“โกรธพี่ไซน์รึเปล่า”
“โกรธ...โกรธที่ทำไมพี่ไซน์ไม่ห่วงตัวเอง อดข้าวแบบนั้นถ้าเป็นลมไปจะทำยังไง อีกอย่างที่ผมออกไปกับเพื่อน ผมไม่ได้เถลไถล ผมไปคุยงาน เราคุยกันแล้วไม่ใช่หรอเรื่องนี้...”
“...”
“พี่ไซน์ ที่ผมเรียกพี่ว่าอ้วน ผมมองว่ามันน่ารัก เห็นคนอื่นเรียกแฟนตัวเองว่าอ้วน มันก็น่ารักดี ผมเลยเรียกบ้าง ... ถ้าผมจะไม่ชอบพี่เพราะพี่อ้วน ผมก็คงจะไม่ชอบตั้งนานแล้วปะ?”
“ฮืออ ไจ๋...ไอ้บ้า หลอกด่ากันนี่”
“ฮ่าๆๆๆ อ้วนๆก็น่ารัก มีแต่คนมาจีบจนผมหึงไม่ไหวแล้ว อย่าผอมเลยนะ” ผมบอก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้พี่ไซน์ ก่อนจะดึงเข้ามากอด
“อือ”
“หรือถ้าจะลดก็ออกกำลังกาย ไม่ใช่อดข้าว เข้าใจรึเปล่า...หืม?”
“อื้อ รู้แล้วครับ” พยักหน้าหงึกหงัก พูดอู้อี้อยู่ในอ้อมกอดของผม ผมเอนตัวลงนอนกับเตียง ดึงพี่ไซน์ให้ล้มลงมานอนตรงกลาง ระหว่างผมกับปันปันด้วย
“ขอโทษนะพี่ไซน์ วันหยุดทั้งทีไม่ได้พาไปเที่ยวไหนเลย”
“กูชอบ”
“หือ?”
“ก็ชอบแบบนี้ ได้นอนกับมึง ทำตัวติดมึง อยู่กับมึงแค่สองคนทั้งวันเลย ชอบกว่าไปเที่ยวอีก”
“ผมก็ชอบ ดีเนอะ”
“อือ โคตรจะดีเลย...ไจ๋...”
“ครับ” พี่ไซน์พลิกตัวนอนตะแคงหันหน้ามาหาผม มือเล็กนั่นจับมือผมไปนาบกับแก้มนุ่มๆ พี่ไซน์ชอบทำแบบนี้ ชอบเอามือผมไปเล่น ไปนอนกอด เอาไปแนบแก้ม แนบหน้า ไปหอมบ้าง บอกว่ามือผมอุ่นดี
“มึงอยากมีลูกมั้ย”
“...อยากมีดิ มีเด็กมาวิ่งเล่น ส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วในบ้าน ครอบครัวในฝันผมเลยนะพี่ไซน์”
“...”
“...”
“...ขอโทษนะที่กูมีให้มึงไม่ได้”
“พี่ไซน์” เรียกชื่อคนตัวเล็กที่หลับตาซึมซับสัมผัสที่มือของผมเสียงแผ่ว
“ถ้าในอนาคต มึงเจอคนที่ใช่กว่ากู มึงบอกกูนะ ไม่ต้องกลัวกูเสียใจ กูจะปละ..”
“นอกจากพี่ ผมก็ไม่อยากมีลูกกับใครที่ไหนอีกแล้ว ผมอยากสร้างครอบครัวกับพี่” ผมโน้มหน้าไปใกล้พี่ไซน์จนหน้าผากของเราทั้งคู่ชนกัน กระซิบพูดชิดริมฝีปากคนตัวเล็กก่อนที่เขาจะพูดจบเสียอีก ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะเจอใครที่ดีกว่ามั้ย แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่า พี่ไซน์คือคนเดียวที่ผมอยากใช้ชีวิตด้วย อยากดูแล อยากอยู่ด้วยตลอดเวลา อยากนอนหลับไปพร้อมๆพี่ไซน์ ตอนเช้าก็อยากตื่นมาเจอพี่ไซน์ อยากให้ทุกๆอย่างที่ผมทำเกิดขึ้นพร้อมกับพี่ไซน์ ผมอยากสร้างครอบครัว ผมอยากเป็นหัวหน้าครอบครัว แค่เรื่องลูกไม่ใช่ปัญหา ผมว่าเราสองคนสามารถเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้มีชีวิตที่พร้อม มีพ่อแม่ มีครบเหมือนคนอื่นได้ แน่นอน
“ตะ แต่”
“งั้น เรามาทำกันจนกว่าพี่จะท้องเลยดีมั้ย”
“มึง บ้าแล้ว ชาตินี้กูก็ไม่ท้องให้มึงหรอก”
"ทำบ่อยๆ ได้ทั้งลูก ได้ทั้งออกกำลังกายเลยนะพี่"
"..."
“พี่ลองคิดดูดิ ทำทุกวันๆ พี่อาจจะท้องก็ได้นะ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยมา” ไม่ว่าเปล่า ผมเริ่มจูบคนตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะเริ่มรุนแรงขึ้น สอดลิ้นเข้าไปไล้เลีย หยอกล้อกับลิ้นพี่ไซน์ มือก็บีบเค้นสะโพกกลม ไล่ขึ้นไปยังเอวบาง สอดมือเข้าไปใต้เสื้อ จงใจปัดผ่านยอดอกที่ตั้งชูชันรอรับสัมผัสจากผม ในขณะที่ปากก็ละออกมา เลื่อนลงมาที่ซอกคอหอม กลิ่นแป้งเด็กของน้องปันปันติดตัวพี่ไซน์ยิ่งทำให้ผมอารมณ์เตลิด ดูดดึงเนื้อนิ่มจนเกิดรอยแดงช้ำทั่วคอ
“อ๊ะ อ๊า” พี่ไซน์ร้องเสียงหลงเมื่อผมบีบขยี้ยอดอกจนแข็งเป็นไต ถอดเสื้อคนตัวเล็กออก ขึ้นคร่อมแล้วก็เลี้ยเลียยอดอกแดงๆนั่นอย่างหิวกระหาย มือก็ปลดกระดุมกางเกงขาสั้น ก่อนจะดึงออกพร้อมทั้งชั้นในโยนทิ้งไว้ข้างเตียง จับส่วนอ่อนไหว นวดคลึงไปมาเบาๆ พี่ไซน์ร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเชิดหน้าขึ้นเมื่อถูกเล้าโลมทั้งส่วนล่างและส่วนบน
“อย่าเสียงดัง เดี๋ยวปันปันตื่น”
“ฮื่อ พอ...พอแล้ว อายน้อง”
“ไปทำในห้องน้ำมั้ย”
“ไม่ อ๊ะ พอ เดี๋ยวพี่ปิงปิงมาแล้ว อะ อา ...ไจ๋” พี่ไซน์เรียกชื่อผมเสียงกระเส่าเมื่อผมรูดรั้งส่วนล่างแรงขึ้น มือทั้งข้างกำเสื้อตรงหัวไหล่ผมแน่น กัดปากตัวเองกลั้นเสียงครางไว้ไม่ให้หลุดออกมา เหี้ย เอ็กซ์โคตร ผมละมือออกจากส่วนอ่อนไหวของพี่ไซน์มาถอดเสื้อและกางเกงของตัวเองออกให้เหลือเพียงแค่บ็อกเซอร์ จับขาเล็กของพี่ไซน์ให้ยกขึ้นชิดหน้าอก ก้มหน้าลงไปเล่นกับช่องทางรักสีแดงสด ตวัดไล้เลียช่องทางที่ตอดตุบๆ เชิญชวนให้สอดใส่แรงๆ
“ฮึก อ๊ะ อ๊ะ...” พอไล้เลียจนช่องทางชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลาย ก็เริ่มสอดนิ้วเข้าไปสำรวจ พี่ไซน์ร้องครวญครางเสียวจัด ผมจึงเลื่อนหน้าขึ้นไปปรนจูบปิดเสียงครางดังๆนั่นไว้ แล้วค่อยๆเพิ่มนิ้วเข้าไปอีกเป็นสามนิ้ว วนช่องทางคับแคบเป็นวงกลม สอดกระแทกขยับเข้าออกบ้างสลับกันไป จนรู้สึกว่าช่องทางของพี่ไซน์เริ่มผ่อนคลายค่อยถอนนิ้วออกมา ตรงนั้นของผมแทบไม่ต้องแตะมันก็ตั้งขึ้นมาเพียงเพราะมีอารมณ์กับพี่ไซน์ ผมดึงบ๊อกเซอร์ลงให้กองอยู่หน้าขา ก่อนจะค่อยๆสอดแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องที่เบิกทางไว้แล้วเมื่อกี้
“ฮื่อออ เดี๋ยว อ๊า... อ๊ะ ค่อยๆ...อื้อ ไจ๋..อ่ะ แฮกๆ” ดันของตัวเองเข้าไปจนสุดแล้วแช่ไว้สักพักให้คนตัวเล็กได้พักหายใจ
“แอ๊” ผมที่กำลังจะขยับหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กร้องขึ้นมา ปันปัน ยกตัวขึ้นมาก่อนจะพลิกตัวขยับท่านอนของตัวเองแล้วล้มลงไปนอนต่อ
“อ่า ...ซี้ดดส์” ผมร้องเสียงกระเซ่าเมื่อแรงตอดรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ พี่ไซน์กำลังตื่นเต้น.... ผมรู้ พี่ไซน์ตื่นเต้นกลัวน้องตื่นมาเห็นแน่ๆช่องทางถึงได้บีบขนาดนี้ ให้ตายสิ อ่าส์
“อื้อ จะ ...ไจ๋ ช้าๆ” ร้องบอกเมื่อผมเริ่มขยับตัวรัวและถี่เร็ว
“ช้าได้ที่ไหน พี่รัดผมจนจะแตกอยู่แล้วเนี่ย อื้อ...”
“เหี้ยไจ๋...อ๊ะ อ๊า อ๊า” ผมดันตัวเข้าตัว กระแทกเข้าไปจนสุด เข้าคงไปโดนจุดกระสันของคนตัวเล็กเข้ามั้ง พี่ไซน์ถึงได้ร้องเสียงหลง และตอดรัดเข้าไปใหญ่ ผมดึงพี่ไซน์ขึ้นมาให้นั่งบนตัก กอดเอวบางไว้อย่างหลวมๆ ก่อนจะยกสะโพกพี่ไซน์ให้ขยับขึ้นลงเองบ้าง
“ทำสิ อยากได้เร็วได้ช้าแค่ไหนก็ทำเอาเอง” ผมบอก พี่ไซน์เอื้อมมือจับไหล่ผมไว้แน่น ก่อนจะเริ่มเขยิบด้วยตัวเอง บดเบียดสะโพกลงช้าๆอย่างยั่วยวน แล้วค่อยเริ่มจัวหวะเร็วขึ้น ผมโน้มหน้าลงไปชิมยอดอกสีแดงฉ่ำที่แอ่นขึ้นตามแรงอารมณ์ ตาปรือของพี่ไซน์ก็มองผมอย่างออดอ้อน ก่อนพี่ไซน์จะซบหน้าลงกับบ่าผม หอบหายใจแรง
“เหนื่อย ทำไมไหวแล้ว” ผมกดจูบลงไปที่ขมับ ขบกัดใบหู วนมาปรนเปรอจูบให้อีกครั้งก่อนจะเป็นฝ่ายสวนสะโพกขึ้นไปแทน
“อื้อ ไจ๋ อ่า มะ...ไม่ไหวแล้ว”
“อีกนิดนึง ไปพร้อมกันนะ” ผมบอกก่อนจะเร่งสะโพก ขยับถี่รัว พี่ไซน์ปล่อยมือที่จับไหล่ผมออก แล้วเอื้อมมือไปรูดรั้งแกนกายของตัวเองแทน เงยหน้าขึ้นมาจูบผมจนน้ำลายใสไหลเปรอะออกมาตามมุมปาก ยิ่งพี่ไซน์รูดรั้งส่วนล่างของตัวเองเร็วเท่าไหร่ ช่วงล่างของพี่ไซน์ก็ยิ่งตอดรัดเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
“อ๊ะ อ๊าส์...” ปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเต็มือเล็กของตัวเอง ซบหน้าลงกับไหล่ผมกอดเอวสอบของผมแน่น ช่องทางด้านหลังยังคงรัด ตอดตุบๆอยู่ ผมรีบกระแทกเอวสวนขึ้นไปอย่างแรงอีกสองสามที ก็ปล่อยน้ำขาวขุ่นเข้าไปในตัวพี่ไซน์จนมันไหลออกมาทางเดิม
“อืม อ่า... เก่งมากเจ้าหมาอ้วน” ผมบอกพร้อมกอดคนตัวเล็กไว้แน่น ลูบหัว ลูบหลังให้ทั้งชมและปลอบโยน แช่แก่นกายของตัวเองอยู่อย่างนั้นไม่ถอนออก
“ไจ๋...” พี่ไซน์หอบหายใจหนัก ก่อนจะปรับลมหายใจให้อยู่ในจังหวะปกติ ร้องเรียกชื่อผมเสียงแผ่ว ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอ ไม่ต้องก้มหน้าไปดูก็รู้แล้วว่าคนตัวเล็กในอ้อมกอดสิ้นฤทธิ์ หลับไปเรียบร้อยแล้ว
“ท้องยัง...ถ้ายังไม่ท้องต้องตื่นมาทำอีกนะ...ผมรักพี่นะพี่ไซน์”
END จบแล้วววววว
ฮ่าๆ จบแบบ งงๆ ทั้งสองคนอาจจะรักกันง่ายไป
พล็อตตลาดๆที่หาอ่านได้ทั่วไป
แต่ก็นั่นแหละ สำหรับมือใหม่อย่างเรา ก็อยากให้มันง่ายไว้ก่อน
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามเจ้าพวกสามแฝด และน้องไจ๋นะคะ
ขอบคุณจริงๆ สำนวนเราอาจจะไม่ดี เนื้อเรื่องอาจจะไม่กินใจเท่าเรื่องอื่นๆ
ไว้จะปรับปรุงแก้ไขกันต่อไปเนอะ
ขอบคุณจริงๆนะคะที่หลงกดเข้ามาเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ
รักทุกคน