บทส่งท้ายสายลมเย็นๆ ที่พัดมากระทบร่างกายยามเช้าทำให้ต้องกระชับเสื้อกันหนาวที่สวมเอาไว้แน่นขึ้น หมอกสีขาวปกคลุมไปด้วยพื้นที่สีเขียวของต้นชาเป็นพื้นที่กว้าง อากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากในเมืองหลวงทำให้ต้องสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศที่นานๆ ครั้งจะมีโอกาสได้เจอ
“ตื่นแต่เช้าเชียวคุณ” เสียงทักจากด้านหลังเรียกให้ต้องหันไปมอง ก่อนจะเห็นคนตัวสูงหน้าตาที่บ่งบอกว่าเพิ่งตื่นนอน ไหนจะปากที่อ้าเพื่อหาว ผมชี้ฟูไม่เป็นทรงนั่นอีก
อากาศก็เย็นเสียขนาดนี้ยังกล้าใส่แค่กางเกงนอนขายาวโชว์แผ่นอกกว้างๆ ที่ประปรายไปด้วยร่องรอยบางอย่างเต็มไปหมด
“หนาวชะมัด…” คนที่เพิ่งเดินออกจากที่ระเบียงว่า ยกมือสองข้างกอดหมับเข้าที่เอวของคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับซุกหน้าลงกับลาดไหล่
“มันก็น่าไหมละ ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยสิ” คนโดนกอดว่า
“หนาวเนื้อต้องห่มเนื้อนะ ไม่เคยได้ยินเหรอคุณ” พูดไปก็ฉีกยิ้มกว้างแบบน่าหมั่นไส้ไปด้วย
“ตลกไหมครับคุณหมอชลธี… ปล่อยผมได้แล้ว แล้วก็ไปแต่งตัวดีๆ เดี๋ยวก็ได้แข็งตายอยู่ที่นี่หรอก” พฤกษ์ว่าพร้อมกับผลักคนที่กอดเขาเอาไว้แน่นออก ซึ่งหมอชลก็ยอมผละออกแต่โดยดี ไม่ใช่อะไร… หนาวมาก เลยต้องรีบเข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อย
เดินออกมาอีกทีก็มีกลิ่นชาหอมกรุ่นลอยโชยมาให้ต้องเดินตามกลิ่นออกไป
จากที่ยืนกอดอกมองภาพของไร่ชาที่กว้างขวางตอนนี้พฤกษ์เปลี่ยนมานั่งไขว่ข้างตามแบบฉบับของเจ้าตัว ในมือก็มีแก้วชากระเบื้องที่มีควันลอยขึ้นมาอยู่ด้วย
“ขอผมแก้วหนึ่งสิ” หมอชลธีที่เพิ่งเดินออกมาที่ระเบียงอีกรอบร้องบอก ให้คนที่กำลังจมอยู่กับบรรยากาศตรงหน้าหันมามอง
“มือมีก็ทำเองได้มั้ง” ถึงปากจะว่าแบบนั้นแต่ก็วางแก้วในมือลงบนจานรองแก้ว แล้วหยิบแก้วกระเบื้องอีกใบมาถือเพื่อที่จะรินชาในกาต้มน้ำชาให้
“นานๆ ผมจะมีวันหยุดสักที ตามใจผมหน่อยสิ” คนเป็นหมอว่า
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า แม้หมอชลจะไม่ต้องเข้าเวรทุกวันและมีวันหยุดประจำอยู่แล้ว แต่โอกาสที่จะได้ลาหยุดยาวๆ เกือบสองสัปดาห์แบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ ยิ่งใกล้ช่วงปีใหม่ด้วยแล้ว
พอได้ยินแบบนั้นคนที่ถูกบอกให้เอาใจก็ถอนหายใจออกมา มือยกขึ้นแหวกคอเสื้อลงจนเห็นร่องรอยสีแดงเต็มไปทั่ว ก่อนจะว่าด้วยน้ำเสียงที่ติดจะขุ่นเคืองปนประชดประชัน “แบบนี้ไม่เรียกว่าตามใจอีกหรือไง”
คนมองทำตาวาวระยับยามมองร่องรอยสีสวยที่เขาเป็นคนบรรจงสร้างขึ้นมาเองอย่างชอบใจ ไม่อยากจะอวดหรอกนะ… แต่พวกเขามาเที่ยวพักผ่อนที่ไร่ชาในแม่ฮ่องสอนได้สามวันแล้ว และตลอดสองวันแรกที่มาถึงก็ไม่ได้ออกไปไหนนอกจากอยู่ในบ้านพักนี่แหละ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นที่เตียงนอนกับห้องนอน
“โชว์แบบนี้จะยั่วให้ผมของขึ้นหรือไง” หมอชลธีว่าตามองคนตรงหน้าไม่กระพริบจนคนถูกมองนึกอยากจะเอาน้ำชาร้อนๆ สาดใส่หน้าให้หายทะลึ่งทะเล้นสักที แต่ก็เสียดายน้ำชาอร่อยๆ
ดังนั้นพฤกษ์เลยเลือกที่จะทำอย่างอื่นแทน เช่นการพาดแขนข้างหนึ่งไปด้านหลังพนักเก้าอี้ มืออีกข้างก็เสยผมที่ลงปรกหน้า คอเสื้อที่ถูกดึงลงก็ปล่อยเอาไว้แบบนั้นไม่ได้จัดให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนที่ริมฝีปากบางสีสวยจะพูด
“คนมันฮอต จะทำอะไรก็มีเสน่ห์ไปหมดนั่นแหละนะ”ครืด!!
เสียงขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้นไม้ดังขึ้นทันทีที่พฤกษ์พูดจบ คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันผลุดลุกขึ้นยืนก้าวขายาวๆ เพียงก้าวเดียวก็มาประชิดตัวคนที่ฮอตแสนฮอต มือที่จับมีดผ่าตัดมานับไม่ถ้วนจับเข้าที่ปลายคางแล้วดันใบหน้าหล่อเหลานั้นขึ้น ตามด้วยริมฝีปากที่ลงไปประกบแนบชิดอย่างรุนแรงและเร่าร้อน
ลิ้นร้อนแลกสัมผัสกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนแทบจะแยกไม่ออกว่าลิ้นของใครเป็นของใครและเหมือนจะหาทางกลับเข้าปากตัวเองไม่เจอ มือของหมอชลปล่อยจากปลายคางไปที่ไหล่ของพฤกษ์และไต่ลงต่ำเรื่อยๆ แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เสียงกระแอมก็ดังขึ้นเสียก่อน
“อะแฮ่ม!! อยู่นอกบ้านพักนะครับคุณทั้งสอง” เสียงทักทำให้คนทั้งสองคนที่ยังแลกจูบกันอยู่ผละออก
หมอชลส่งเสียงจิในลำคออย่างไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนพฤกษ์เพียงแค่หันมาก้มหัวทักทายก่อนจะลุกเดินเข้าไปในบ้านพักเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเห็นคนมาใหม่อยู่ในชุดพร้อมเที่ยวแล้ว
“ขัดจังหวะจริงนะไอ้หมอยา!” หมอชลหันมาว่าเพื่อน
“สองวันนี่ยังไม่พออีกหรือไงวะไอ้หมอ” คนโดนว่าสวนเข้าให้ พร้อมกับส่ายหน้ากับท่าทางของเพื่อนแต่ก็ไม่ได้นึกโกรธเคืองอะไรเพราะรู้ดีว่าหมอชลก็แค่แกล้งว่าเล่นๆ คินเดินขึ้นไปบนบ้านพักสไตล์จีน ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวที่พฤกษ์เพิ่งจะลุกไป
“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะต่ออีกสักสองสามวัน มึงก็รู้ช่วงนี้กูงานโคตรจะยุ่ง ไหนพฤกษ์ที่ต้องเข้าไปบริหารงานบริษัทเขาอีก นานๆ จะได้พักกันแบบนี้” หมอชลว่าพร้อมกับหัวเราะที่คินฟังแล้วดูโรคจิตอย่างบอกไม่ถูก
ตอนนี้พฤกษ์เข้าไปบริหารงานที่บริษัทสโรชาอย่างเต็มรูปแบบขึ้นแท่นประธานกรรมการเรียบร้อย งานจึงค่อนข้างเยอะทีเดียวเพราะต้องตามเก็บงานที่ส่งศักดิ์ทำเอาไว้แบบไม่ได้ใส่ใจให้เข้าที่เข้าทาง แทบจะเรียกว่าโละระบบงานใหม่แทบทั้งหมด ส่วนหมอชลเองก็มีงานไม่เว้นวัน บางทีก็มีเคสเร่งด่วน เคสพิเศษ เวลาพักก็แทบจะไม่ค่อยมี
“อย่างมึงเรียกกามครับ ไม่ใช่เพราะคิดถึงไอ้ห่า”
“ไอ้หมอยา! ด่าแต่กูไม่มองตัวมึงเองเลยนะ มึงก็กาม” พอได้ยินหมอชลด่าแบบนั้นคินก็ทำแค่หัวเราะ ด่าเพื่อนไปก็วกเข้าตัวเองหมดเลย “แล้วพัทธ์กับน้องกันต์ละ”
“พัทธ์แต่งตัวให้น้องกันต์อยู่ วันนี้จะไปไหว้พระกัน พัทธ์เขาอยากไป มึงกับพฤกษ์ก็ไปด้วยกันล่ะ” คินพูด
หมอชลพยักหน้ารับ “เออๆ งั้นเดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”
คินรับคำเบาๆ ปล่อยให้เพื่อนรักเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเวลาเดียวกับพี่เจ้าตัวเล็กที่ตอนนี้ตัวไม่เล็กเท่าไหร่แล้ววิ่งดุ๊กๆ มาตามทาง หมวกแบบชาวเขาที่สวมอยู่บนหัวผลุบๆ โผล่ๆ ให้เห็นมาแต่ไกล ก่อนที่น้องกันต์ในชุดชาวเขาจะวิ่งขึ้นมาบนบ้านพัก
“พ่อคินนนน น้องกันต์หล่อไหม” มาถึงก็ร้องถามทันที หมุนตัวสองสามรอบเพื่อให้เห็นชัดๆ
คินหัวเราะกับท่าทางของเจ้าตัวเล็กก่อนจะคว้าลูกน้อยขึ้นมากอดฟัดอย่างมันเขี้ยว “หล่อครับ ลูกชายพ่อคินนี่หล่อที่สุดในโลกเลย”
เจ้าตัวเล็กหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจกอดคอคนเป็นพ่อเอาไว้แน่น
“ปิดห้องเรียบร้อยแล้วเหรอครับ” คินหันไปถามคนรักที่เดินตามน้องกันต์ขึ้นมา ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ
หลังจากที่ทุกคนพร้อมกันแล้วเรียบร้อยก็เริ่มออกเดินทางกันทันที อันดับแรกก็หามื้อเช้าลงท้องกันก่อน ก่อนที่จะตะเวนไปเที่ยวแทบจะทั่วจังหวัด กว่าจะกลับเข้ามาที่พักอีกทีก็เย็นย่ำมากแล้ว
“พรุ่งนี้ออกแต่เช้านะมึง เดี๋ยวขึ้นไปเชียงใหม่กันต่อ” คินบอกกับเพื่อนรักแล้วก็แฟนของเพื่อนรัก
“เออ กูรู้น่า มึงบอกกูมาสองสามรอบแล้วไหมไอ้สัส!” หมอชลว่าเข้าให้
คินหัวเราะชอบใจ ยกมือตีหัวเพื่อนรักไปทีอย่างหมั่นไส้ หันไปลาพฤกษ์ก่อนจะเดินตามคนรักตัวเองแล้วก็ลูกชายกลับไปที่ห้องพัก
หมอชลยืนมองเพื่อนเดินกลับไปห้องพักของตัวเองก่อนจะเดินตามคนรักเข้าไปในห้องบ้าง สองขาก้าวตรงไปหาพฤกษ์ที่กำลังเก็บเสื้อผ้าเข้ากระเป๋าก่อนจะสวมกอดจากด้านหลัง ให้อีกฝ่ายสะดุ้งศอกใส่เข้าเต็มเอวจนได้แต่ลงไปนอนจุกมือกุมท้องอยู่กับพื้น
“เฮ้ย! ขอโทษทีผมไม่ได้ตั้งใจ” พฤกษ์ที่หันมาเห็นคนรักนอนกุมท้องก็รีบพูดทันที
“คุณนี่นะ เมื่อก่อนชอบทำร้ายผมยังไง ตอนนี้ก็เหมือนเดิม” หมอชลว่าพร้อมกับหัวเราะ เรียกว่าโดนจนชินแล้วมากกว่า
“คุณมันโรคจิต วันไหนไม่โดนมือโดนเท้าผมนี่นอนไม่หลับใช่ไหม”
อีกฝ่ายหัวเราะกับคำพูดนั้น คว้าคอท่านประธานหน้าหล่อมาใกล้
“อืม มันคงเป็นคำบอกรักที่ดีที่สุดสำหรับคู่เรา”“น้องกันต์ยังไม่ตื่นเหรอครับ” นคินทร์เอ่ยถามคนรักเมื่อหันไปเห็นอีกฝ่ายเดินออกมาที่ระเบียงห้อง
“ยังครับ ยังมีเวลาอยู่ผมเลยปล่อยให้น้องนอนไปก่อน” พัทธ์ตอบ ส่งมือมาจับมือของคินที่ยื่นออกมาให้ ก่อนที่จะถูกคนตัวโตกว่ารั้งเข้าไปกอดเอาไว้ในอ้อมแขน
“แล้วพัทธ์ไม่ง่วงเหรอครับ เมื่อคืนกว่าจะจับน้องกันต์นอนได้ก็ดึกแล้ว” เจ้าของอ้อมแขนถาม พลางแนบปลายจมูกโด่งลงที่ข้างขมับของพัทธ์ สูดเอากลิ่นหวานๆ ที่เป็นเหมือนกลิ่นประจำตัวของอีกฝ่ายเข้าเต็มปอด กระชับแขนที่กอดรอบเอวให้แนบแน่นขึ้น
“ไม่ครับ ว่าแต่ผมพี่คินก็เหมือนกัน พี่คินยังตื่นแต่เช้าเลย” พัทธ์เงยหน้าขึ้นมองคนที่ใช้สองมือกอดรอบเอวของเขาเอาไว้
“มันมีความสุขจนหลับต่อไม่ลงครับ” คินบอกพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า “มีความสุขที่ได้อยู่กับพัทธ์ อยู่กับน้องกันต์แบบนี้ ไหนจะได้มาเที่ยวด้วยกันอย่างนี้ในอกมันเลยฟูจนหลับต่อไม่ลง”
ใบหน้าของพัทธ์เอนซบลงที่ไหล่ของคิน “พัทธ์ก็เหมือนกันครับ”
ทั้งสองคนต่างยกมือกอดกันและกัน ถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ข้างในให้อีกฝ่ายได้รับรู้ผ่านอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นนี้ นคินทร์แนบริมฝีปากลงกับผมของพัทธ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังไม่รู้จักเบื่อ ถ้าหากพวกเขาสามารถความอบอุ่นออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ รอบๆ ตัวพวกเขาคงมีเจ้าความอบอุ่นนี้ลอยอยู่เต็มไปหมด
“ถ้าที่ผ่านมา พัทธ์ทำตัวไม่ดี หรือทำให้พี่คินเหนื่อยใจ ไม่สบายใจ โกรธ ไม่พอใจ พัทธ์ขอโทษนะครับ” พัทธ์พูดหลังจากที่เงียบอยู่นาน ให้คนที่ตัวสูงกว่าก้มลงมองและฟังคนรักพูดต่อ “พี่คินคอยดูแล ตามใจพัทธ์ตลอดเลย บางครั้งพัทธ์ก็เอาแต่ใจไปบ้าง พัทธ์ขอโทษนะครับ แล้วก็ขอบคุณพี่คินที่ไม่ทิ้งพัทธ์ไปไหน อยู่กับพัทธ์ในวันที่พัทธ์ร้องไห้ ทุกข์ แล้วก็มีความสุข”
พัทธ์เงยหน้าขึ้นมองคนรัก มือข้างหนึ่งยกขึ้นสัมผัสแก้มของอีกฝ่าย พร้อมกับยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวานที่สุด
“ขอบคุณที่มาเติมเต็มทุกอย่างในชีวิตของพัทธ์ ขอบคุณที่รักพัทธ์นะครับ”คินได้แต่ยิ้มและหัวเราะออกมากับคำพูดคำจาที่แสนจะน่ารักของคนรัก อดใจไม่ไหวจนต้องก้มลงหอมแก้มนวลไปเสียฟอดใหญ่ กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนไม่มีช่องว่างระหว่างพวกเขา
“พี่ก็ต้องขอบคุณพัทธ์... ขอบคุณที่พัทธ์ยอมให้พี่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพัทธ์ ขอบคุณนะครับ”
ริมฝีปากแนบสนิทลงกับริมฝีปากของพัทธ์ เพียงแค่แนบสัมผัส มอบความรักให้ก่อนที่คินจะผละออกแล้วเปลี่ยนเป็นหอมแก้มทั้งสองข้าง และหน้าผากนั้นแทน ข้างในอกของทั้งสองคนมันพองโตอย่างบอกไม่ถูก
เป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ รู้เพียงแค่ว่ามันสุข... สุขเสียจนความสุขมันแทบจะล้นออกมานอกอก
สองมือที่กอบกุมกันเหมือนเป็นดั่งคำมั่นสัญญาว่าพวกเขาจะไม่ปล่อยมือนี้ จะจับมือนี้เดินต่อไปเรื่อยๆ และไม่คิดที่จะปล่อย
“ไม่สิ... พี่มีอีกคนที่จะต้องขอบคุณ”
คำพูดของคินทำให้พัทธ์แสดงสีหน้าที่งุนงงและไม่เข้าใจออกมา แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่สามารถไขข้อสงสัยได้มีเพียงแค่รอยยิ้มจากคนตรงหน้าเท่านั้น จนพัทธ์ต้องร้องอ้อน “ใครเหรอครับ”
“ก็... คนสำคัญยังไงละครับ” คินพูดก่อนจะพยักหน้าไปทางด้านหลังของพัทธ์
พัทธ์หันกลับไปมองก่อนจะยิ้มออกมา เมื่อเห็นน้องกันต์วิ่งเข้ามาหาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม สองแขนเล็กกางออกกว้างให้พัทธ์ต้องย่อตัวลงไปรับแล้วอุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นมา
“มัมมมมมมมมมมมมมมมมม พ่อคินนนนนนนนนนนนนนนน”
คินยกมือขึ้นโอบไหล่ของพัทธ์เอาไว้ อีกข้างก็โอบรอบตัวน้องกันต์เอาไว้ด้วย “นี่ไงครับ คนที่พี่ต้องขอบคุณ ถ้าวันนั้นพี่ไม่เจอน้องกันต์พี่ก็คงไม่ได้เจอพัทธ์ และเราคงไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้”
พัทธ์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคนรัก “นั่นสินะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องกันต์พัทธ์คงไม่มีความสุขแบบนี้” ว่าแล้วก็หอมแก้มเจ้าตัวเล็กที่เขากำลังอุ้มอยู่ “ขอบคุณนะครับน้องกันต์”
คินเองก็ก้มลงหอมแก้มน้องกันต์ด้วยเช่นกัน “ขอบคุณนะเจ้าตัวเล็ก”
“พ่อคิน / มัม รักน้องกันต์นะครับ”น้องกันต์ได้แต่ทำหน้างงๆ อย่างไม่เข้าใจว่าพ่อคินและมัมพัทธ์พูดถึงอะไร แต่เมื่อได้ยินคำบอกรักจากทั้งสองคนเจ้าตัวเล็กก็ยิ้มกว้างอย่างน่ารัก ยื่นหน้าไปหอมแก้มมัมพัทธ์ก่อนจะยืดตัวไปหอมแก้มพ่อคินอีกคน
“น้องกันต์ก็รักมัม รักพ่อคิน รักมากโด้ยยยย”
ทั้งคินและพัทธ์ได้แต่ยิ้ม ก่อนที่คินจะกอดทั้งน้องกันต์และพัทธ์เอาไว้ในอ้อมแขน อ้อมแขนที่จะคอยดูแลและปกป้องคนที่เขารักทั้งสองคนเอาไว้
ขอบคุณน้องกันต์... ที่ทำให้เขาได้เจอใครบางคน คนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของเขา คนที่เข้ามาเป็นทุกอย่างในชีวิต คนที่เป็นความสุขในทุกๆ วัน
ขอบคุณน้องกันต์จริงๆ...************************************************
สวัสดีค่ะ พอดีวันนี้ได้หยุดหนึ่งวัน ฟางก็เลยจัดการพวกรายละเอียดเล่มนิยายต่างๆ จนเรียบร้อยเกือบจะทั้งหมดแล้ว (เหลือแค่ส่งไฟล์ให้โรงพิมพ์จัดการต่อ) ฟางก็เลยเอาบทส่งท้ายมาอัพค่ะ จบลงแบบสมบูรณ์แล้วสำหรับนิยายเรื่อง My Mom ; รักของมัม น้องกันต์จัดให้ อยู่กันมา... 1 ปี 7 เดือน กับนิยายเรื่องนี้ ฟางต้องขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะที่เข้ามาอ่านนิยายของฟาง และติดตามนิยายของฟาง ไม่ว่าจะตั้งแต่วันแรกที่ฟางลงนิยายเรื่องนี้ หรือวันนี้ที่เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ฟางต้องขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
1 ปีกว่าๆ ที่ผูกผันกับนิยายเรื่องนี้ ฟางคงต้องคิดถึงนิยายเรื่องนี้มากแน่ๆ เลยค่ะ แล้วก็หวังว่าทุกคนจะคิดถึงนะคะ ฟางหวังว่านิยายของฟางจะสร้างความสุขให้กับคนอ่านทุกๆ คนค่ะ และฟางก็มีความสุขมากที่ได้แต่งนิยายเรื่องนี้ ที่คนอ่านทุกคนชอบนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณมากค่ะ
นอกจากแวะมาอัพตอนจบของเรื่องนี้แล้ว ก็แวะเอาหน้าปก Box มาฝากกันค่ะ เพราะฟางยังไม่เคยเอามาลงให้ได้ดูกันเลย
สุดท้ายแล้ว... ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ ^^
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)