องค์กรลวงจิต Explicit Content
บทที่ 8
เด็กแว้นรุ่นเยาว์ที่มีร่องรอยถูกทำร้ายมาอยู่กับสารวัตรได้สามวันแล้ว แม้จะตัวเด็กเองจะยังไม่ยอมพูดถึงว่าสาเหตุคืออะไรและใครเป็นคนทำ แต่ระหว่างนี้นายตำรวจหนุ่มก็สืบเรื่องราวไปได้เยอะแล้ว เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อและอยู่กันสองคนกับแม่มาตั้งแต่เด็กๆ แต่ก็ไม่ลำบากอะไรเพราะแม่เป็นนักบัญชีระดับหัวหน้าที่ทำงานเก่ง จนเมื่อสองปีก่อนแม่ของเขาก็ได้แต่งงานใหม่กับเจ้านายที่ทำงานของตัวเอง เด็กหนุ่มย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ ฐานะดูจะยิ่งดีขึ้น ครอบครัวใหม่นอกจากพ่อเลี้ยงแล้วยังมีลูกติดของพ่อเลี้ยงอีกหนึ่งคน เมื่อปีที่แล้ว มีข่าวอื้อฉาวเรื่องการโกงของบริษัทที่แม่และพ่อเลี้ยงทำงานอยู่ แม่ของหนุ่มน้อยเป็นคนเดียวที่ถูกจับข้อหาตกแต่งบัญชี จนขณะนี้ คดีก็ยังอยู่ในชั้นศาล เนื่องจากคนเป็นแม่ถูกคุมขังระหว่างการไต่สวน เด็กหนุ่มจึงอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยง
ถึงจะไม่มีระบบข้อมูลที่น่าทึ่งแบบขององค์กร แต่สารวัตรหนุ่มก็มีช่องทางในการหาข่าวของตัวเองเช่นกัน ตอนนี้เขาได้ข้อมูลมาแล้วว่า พ่อเลี้ยงไม่ได้ให้ความร่วมมือในการทำคดีนี้เท่าไหร่ทั้งๆ ที่มีข้อมูลและเงินเพียงพอเหมือนไม่อยากให้คดีจบ แหล่งข่าวบอกว่าจากรูปคดีแล้วแม่ของเด็กหนุ่มน่าจะถูกโยนความผิดให้และคนโกงจริงๆ อาจเป็นคนที่ควรไว้ใจอย่างสามีของตัวเอง
เรื่องพวกนี้ยังไม่น่าตกใจเท่ารสนิยมทางเพศของตัวพ่อเลี้ยง สายข่าวบอกว่าพ่อเลี้ยงมีคู่ขาหลายคนซึ่งมักจะพาเข้าไปร่วมหลับนอนในบ้านภายหลังจากที่ภรรยาตัวเองถูกคุมขัง บางคนในนั้นเป็นโสเภณีที่เป็นที่รู้กันว่าให้บริการแบบซาดิส ทั้งหมดนี้ ทำให้สารวัตรยิ่งมั่นใจว่าบาดแผลที่พบน่าจะเกิดจากพ่อเลี้ยงและคู่ขาแน่ แต่ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ความที่ตัวเด็กเองยังเป็นผู้เยาว์ ยิ่งทำให้การทำงานเรื่องนี้ยากขึ้น โดยสถานะที่พ่อเลี้ยงคือผู้ปกครองคนเดียวของเด็กในขณะนี้ทำให้ตำรวจอย่างเขาไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก
ในขณะที่ยังมืดแปดด้านว่าจะทำยังไงต่อองค์กรก็ติดต่อให้ความช่วยเหลือมา ข้อมูลที่ส่งมาให้ไขข้อข้องใจได้อย่างมาก แน่ล่ะ ข้อมูลที่ถูกแฮ็คมาแบบนี้มันใช้ในชั้นศาลไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็เอาไปใช้ขยายผลการสอบสวนได้ รวมถึงเอาไปโน้มน้าวสร้างเมตตาธรรมกับคนที่มีอำนาจในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างไม่เป็นทางการได้ นายตำรวจหนุ่มเริ่มประติดประต่อเรื่องราวจากภาพและคลิปที่ได้รับ
เด็กหนุ่มถูกใช้เป็นเครื่องมือประกอบการมีเซ็กส์แบบซาดิสของพ่อเลี้ยงและคู่ขา เคราะห์ดีที่พ่อเลี้ยงไม่ได้มีอารมณ์โดยตรงกับเด็กผู้ชายจึงรอดจากการถูกข่มขืนไป จากหลักฐานที่ได้มา พ่อเลี้ยงจะทรมานเด็กหนุ่มด้วยวิธีต่างๆ ทั้งหยดน้ำตาเทียน มัดแขนมัดขา เฆี่ยนตี ช้อตไฟฟ้า เอาบุหรี่จี้หัวนม จนตัวเองเกิดอารมณ์ถึงที่สุดแล้วจึงไปร่วมเพศกับคู่ขาที่เป็นผู้หญิง ทั้งหมดนี้มีการถ่ายรูปและคลิปเก็บไว้ด้วย แต่พ่อเลี้ยงฉลาดพอที่จะไม่เผยแพร่ออกมาให้ตัวเองเดือดร้อน
ลูกชายพ่อเลี้ยงวัยสิบเก้าปีก็ถ่ายทอดความวิปริตมาได้ไม่แพ้กันแต่ฉลาดน้อยกว่านั้นเยอะ ดูเหมือนตัวลูกชายจะแอบเอารูปและคลิปที่พ่อบันทึกไว้ไปโพสต์เรียกคะแนนนิยมในเวปลับใต้ดิน จากนั้นก็ต่อยอดเอาตัวน้องชายนอกสายเลือดมาทรมานแบบวิปริตต่างๆ แล้วถ่ายเป็นคลิปขายหาเงิน ยังดีที่พรางหน้าให้แล้วก็ยังไม่รุนแรงถึงกับเป็นแผลหนักๆ พอมีข้อมูลมาอยู่บนอินเตอร์เน็ทอย่างนี้แล้ว ต่อให้เป็นความลับหรือมีมาตรการป้องกันอย่างไรก็ไม่พ้นมือองค์กรที่จะเจาะเข้าไปได้ คลิปที่สะเทือนใจสุดคงไม่พ้นคลิปล่าสุดที่พี่ชายโรคจิตรู้ว่าน้องชายไปเข้าแก๊งค์ซิ่งหวังจะให้คนในแก๊งค์ช่วย เลยบังคับให้น้องเอาจู๋อ่อนวัยยัดใส่ท่อไอเสียของรถมอเตอร์ที่ขับกลับมาจอดได้ซักพัก ความร้อนคงยังพอมีอยู่พอสมควร ในคลิปน้องเลยร้องไห้น่าสงสารมาก
ที่สารวัตรหนุ่มไม่เข้าใจคือทำไมหนุ่มน้อยไม่ขัดขืนเลย ยอมทำแต่โดยดี ถึงแม้สีหน้าจะแสดงว่าเจ็บปวดหวาดกลัวแค่ไหนก็ตาม แต่ในเมื่อรู้เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสอบถามเจ้าตัวโดยตรง
นายตำรวจหนุ่มคุยกับเด็กน้อยอีกครั้ง คราวนี้เปิดตัวเลยว่ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว จะไปเอาเรื่องกับพ่อเลี้ยง เด็กร้องไห้โฮ ละล่ำละลักบอกว่า อย่าทำ ไม่งั้นพ่อเลี้ยงจะไม่ช่วยเรื่องคดีความแล้วแม่ตัวเองจะติดคุกตลอดชีวิต นี่คงเป็นเรื่องพ่อเลี้ยงใช้ขู่มาโดยตลอดอย่างได้ผล ทำไมคนเราถึงใจระยำกับเด็กที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกบุญธรรมได้ขนาดนี้ เด็กหนุ่มที่ยังใช้คำนำหน้าว่าเด็กชายอยู่เลยเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้ว
สารวัตรชั่งใจ ถึงจุดๆ นี้เขาควรจะขอให้องค์กรดำเนินการต่อเพื่อให้คนเลวได้รับโทษอย่างสาสมโดยเร็วที่สุด หรือจะให้เดินไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ช้าหน่อยแต่เขาก็เชื่อว่าจะได้รับความยุติธรรมในที่สุด ในฐานะผู้พิทักษ์กฎหมาย เขารู้ว่าความล่าช้าส่วนหนึ่งนั้นเป็นผลจากกระบวนเพื่อให้มั่นใจว่าคนบริสุทธิ์จะไม่ถูกตัดสินผิดๆ ในที่สุดสารวัตรก็ตัดสินใจได้ เขาจะดำเนินเรื่องตามกฎหมายตามปกติ ระหว่างนั้นถ้ายังไม่ถูกจับหรือจับแล้วได้ประกันตัว ก็ให้องค์กรเอาตัวไปรับโทษเรื่อยๆ ไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด คนเลวแบบนี้มันต้องโดนทั้งสองทาง
หลังจากได้ระบายเรื่องทั้งหมดออกมาพร้อมทั้งได้รับคำยืนยันจากสารวัตรว่าจะดูแลเรื่องของแม่ตัวเองให้ เด็กน้อยก็มีท่าทางสดใสและพูดคุยมากขึ้น ทั้งยังช่วยดูแลทำความสะอาดบ้านรกๆ แบบหนุ่มโสดที่มาอาศัยอยู่ด้วยเป็นอย่างดี ช่างเป็นเด็กที่เข้มแข็งจริงๆ สารวัตรคิด ตอนนี้เด็กแว้นตัวน้อยเริ่มเป็นห่วงว่าพวกเพื่อนๆ ที่ต้องไปทำงานกับองค์กรเพื่อล้างความผิดจะลำบากขนาดไหน ในขณะที่ตัวเขาเองได้รับยกเว้นจากองค์กรเพราะมีคดีโดนทำร้ายร่างกายที่ต้องสะสาง
สารวัตรจะบอกให้สบายใจก็บอกไม่ถูกเพราะไม่เคยเห็นกับตาสักทีว่าเด็กพวกนั้นไปทำอะไร ลำบากหรือเปล่า บอสเคยบอกว่าเป็นงานบริการเพื่อหาเงินไปสนับสนุนมูลนิธิต่างๆ เขาค่อนข้างไว้ใจบอสและองค์กรอยู่แล้วเลยไม่ได้ถามรายละเอียด รู้แต่ว่าเด็กที่ถูกจับแล้วไปทำงานนี้ก็อยู่ดีเป็นปกติทุกคน แถมดูๆ ความประพฤติก็ดีขึ้นด้วย พ่อแม่บางคนยังมาชมให้ฟังกับตำรวจเลย แต่คราวนี้เขาน่าจะลองไปดูด้วยตัวเองซักที จะได้มาเล่าให้ไอตัวยุ่งฟังได้ บอสเคยให้ใบปลิวโฆษณามาเมื่อหลายเดือนก่อน เขาถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์แล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเลย
สารวัตรไล่หารูปดังกล่าวในโทรศัพท์ พบว่าใบปลิวที่ว่าโฆษณาไว้ตามนี้
######เปิดแล้ว บริการล้างรถการกุศลสำหรับชาวเกย์######
บริการล้างรถแนวใหม่ที่จะสร้างความซาบซ่านให้กับชีวิต
ค่าบริการล้างรถภายนอกเริ่มต้นที่ 300 บาท
กำไรทั้งหมดมอบให้การกุศล
##########รถสวย - อิ่มตา - อิ่มใจ - ได้บุญ##########
ดูแล้วก็งง ทำไมต้องสำหรับชาวเกย์ แล้วถ้าไม่ใช่จะเป็นอะไรหรือเปล่า หรือจะถามบอสก่อนดี สารวัตรคิดในใจ รบกวนเปล่าๆ งั้นชวนเพื่อนทหารเรือที่เป็นเกย์ไปด้วยดีกว่า ไปคนเดียวรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน ตำรวจหนุ่มรีบโทรไปหาเพื่อนสนิทสมัยเรียนเตรียมทหาร ที่พอแยกเหล่าแล้วดันกลายพันธ์เป็นเกย์ไปซะงั้น แต่มันก็ไม่ได้แต๋วแตกอะไรนะ แมนเหมือนเดิม แค่เปลี่ยนจากมีแฟนสาวเป็นแฟนหนุ่มเท่านั้นเอง และพอยิ่งแน่ใจว่าตัวเองไม่ใช่สเปคของทหารเรือหนุ่มอย่างแน่นอน ก็คบกันมาอย่างสนิทใจจนถึงเดี๋ยวนี้
ตำรวจหนุ่มขับรถไปรับเพื่อนทหารเรือถึงกองบัญชาการ เขาบอกให้เพื่อนโดดงานออกมาเร็วหน่อย รอซักพักหนุ่มทหารเรือร่างสูงโปร่งท่าทางอารมณ์ดีก็เข้ามานั่งในรถบ้างคนขับ
“เป็นไงวะ งานยุ่งเปล่า โทษทีที่รบกวน” สารวัตรถาม
“ไม่ยุ่งๆ พอย้ายมาอยู่ส่วนกลางอย่างนี้ ไม่ค่อยมีอะไรทำเลยว่ะ นี่กูก็อยากจะกลับไปอยู่สายบู๊เหมือนเดิมแล้ว แต่เจ้านายบอกว่ามาอยู่ไปก่อนให้ได้รู้จักผู้ใหญ่บ้างแล้วค่อยวนออกไปอยู่หน่วย มึงโทรมาก็ดี กำลังเซ็งๆ ว่าแต่จะพาไปไหนวะ ตอนโทรมาฟังไม่ค่อยทัน” เห็นท่าทางสะโอดสะองอย่างนี้ แต่เพื่อนเขาก็เป็นขาลุยตัวจริง ผลงานเพียบ
“จะเอารถไปล้าง” ตำรวจตอบตรงๆ
“แค่นี้อะนะ” ทหารแปลกใจ
“ล้างแบบเกย์ๆ” ตำรวจขยายความ
“งั้นต้องล้างตู้เย็นแล้ว ไม่ใช่ล้างรถ” ทหารปล่อยมุก
“...” ตำรวจเงียบเพราะไม่เข้าใจ
สารวัตรขับตรงไปยังสถานที่ที่ระบุในใบปลิว เขาแปลกใจตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าแถวนั้นไม่น่าจะเป็นที่ที่ร้านล้างรถจะตั้งอยู่เลย ไม่ได้อยู่นอกเมืองก็จริง แต่ก็ไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร เซเว่นยังไม่รู้จะมีไหม แล้วใครจะเอารถมาล้างกัน เดี๋ยวนี้มันต้องไปตั้งในที่จอดรถห้าง คนเอารถมาทิ้งไว้จะได้ไปซื้อของ ดูหนัง กินข้าวได้ ไม่ต้องมาคอยให้เสียเวลา แล้วอย่างนี้มันจะรอดได้ยังไง
ไม่ทันไรก็มาถึงสถานที่ที่ว่า คงเพราะพวกเขาออกมาตั้งแต่ช่วงบ่าย รถเลยไม่ติด ถึงติดถนนใหญ่แต่แถวนั้นก็ไม่มีอะไรจริงๆ ดูโล่งไปหมด ดูจากด้านนอก ร้านล้างรถเหมือนจะไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไร รั้วเป็นแผ่นโลหะทึบสำเร็จรูปแบบที่ใช้ในไซ้ท์งานก่อสร้างบังสายตาสิ่งที่อยู่ด้านในไว้หมด แนวรั้วที่เรียงยาวกันไปทำให้รู้ว่าร้านล้างรถแห่งนี้มีพื้นที่กว้างมากทีเดียว ด้านหน้ามีตัวอักษรขนาดใหญ่ติดอยู่ว่า “G-Wash”
สารวัตรขับรถไปที่ทางเข้า มีรถจอดรอคิวอยู่สองคันทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย นึกว่าจะไม่มีลูกค้าซะอีก ทางเข้าเป็นอาคารเล็กมีหลังคาคล้ายตู้ทางด่วน แต่ไม้กั้นอัตโนมัติจะเป็นแผงกั้นแทน แผงกั้นนี้ทึบตลอดแนวความสูง ถ้าปิดอยู่คนก็เดินผ่านเข้าไปไม่ได้ เขาเห็นรถคันหน้าเปิดกระจกมาจิ้มๆ หน้าจอที่ติดตั้งอยู่ตรงหน้าแผงกัน ซักพักก็เอาแบ็งค์แดงๆ ป้อนไป แล้วแผงกั้นก็เปิดออกให้รถคันหน้าขับเข้าไป ทันสมัยดีแฮะ ตำรวจหนุ่มคิด
พอถึงตาเขา เขาก็ให้เพื่อนทหารเรือยื่นหน้ามาช่วยดูด้วย พวกกลไกลอย่างนี้ตำรวจไม่ชำนาญเท่าไหร่ ทหารจะเก่งกว่า หน้าจอปรากฏข้อความดังนี้
*** โปรดตอบคำถามสุ่ม เพื่อเข้าระบบ เมื่อท่านกดปุ่มแดง จะต้องเลือกข้อที่ใช่ที่สุดภายในสิบวินาที ***
ตำรวจท่าทางงงๆ ทหารเลยบอกให้กดปุ่มสีแดง ทันใดนั้นหน้าจอก็แสดงปุ่มสี่เหลี่ยมขึ้นมาหกปุ่ม แต่ละปุ่มแสดงชื่อภาษาอังกฤษที่เขาไม่คุ้นตาเท่าไหร่ ด้านบนมีตัวเลขนับถอยหลัง 9 8 7…
คราวนี้ทหารก็งงเหมือนกัน สายตากวาดไปที่ชื่อแต่ละปุ่ม แล้วก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นว่า
“มึงกดปุ่มนั้นเลย Bel Ami Bel Ami ล่างซ้าย ล่างซ้าย เร็วๆ สิ”
สารวัตรรีบกดปุ่มที่เพื่อนบอกได้ทันเวลาพอดี ถึงแม้จะไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น หน้าจอเปลี่ยนไปเป็นหน้าสำหรับเลือกประเภทบริการ ซึ่งมีตัวเลือกขึ้นมาเพียงอันเดียว คือล้างรถภายนอก 300 บาท หลังจากนั้น ระบบก็ให้ชำระค่าบริการ ตำรวจหนุ่มใส่แบ๊งค์ห้าร้อยลงไป เครื่องก็ทอนออกมาสองร้อยพร้อมตั๋วกระดาษแข็งเล็กๆ อันนึง จากนั้นแผงกั้นก็เปิดออก หน้าจอแจ้งว่าให้ขับไปยังช่องตามหมายเลขที่ระบุบนตั๋ว พร้อมข้อความเตือนว่า ห้ามบันทึกภาพและห้ามลงจากรถโดยเด็ดขาด
เมื่อขับรถผ่านแผงกั้นเข้ามา ตำรวจหนุ่มก็คิดว่าเหมือนลานจอดรถตามสวนอาหารมากกว่า เป็นพื้นซีเมนต์โล่งๆ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างอะไรเลย ช่องที่ว่ามีลักษณะเป็นซองที่ใหญ่กว่าที่จอดรถปกติมากพอสมควร สิ่งที่คั่นแต่ละช่องออกจากกันคือกระถางต้นไม้ที่วางเรียงกันแน่นทั้งสามด้านจนเหมือนเป็นกำแพง ต้นไม้ในกระถางก็สูงประมาณท่วมหัวทำให้มองไม่เห็นด้านในของช่องที่อยู่ติดกันนอกจากที่เป็นรูระหว่างใบไม้
ช่องที่ว่าน่าจะมีราวๆ ห้าสิบช่อง เรียงกันไปบนลานซีเมนต์ แต่ละช่องมีหมายเลขกำกับ และบนถนนก็มีป้ายบอกว่าแต่ละซอยเป็นช่องที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ สารวัตรขับไปจนถึงช่องที่ 21 ตามที่ระบุในตั๋ว พอเข้าไปจอดในช่องดังกล่าว ก็มีเด็กวัยรุ่นหุ่นดีขนเยอะคนหนึ่งนุ่งกางเกงในสีขาวตัวเดียวออกมายกมือไหว้ แล้วเอาป้ายผ้ามากางบนกระจกหน้า บนป้ายผ้ามีข้อความที่อ่านจากในรถได้จัดเจนว่า
เกี่ยวกับการบริการและการให้ทิป
ชุดมาตรฐานในการบริการคือกางเกงในตัวเดียว
ผู้ให้บริการอาจทำเกินกว่านั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจ
ผู้รับบริการอาจให้ทิปได้ที่ทางออกขึ้นอยู่กับความพอใจ
ค่าบริการหลังหักค่าใช้จ่ายเข้าการกุศลทั้งหมด
ทิปแบ่งให้ผู้ให้บริการครึ่งนึงและเข้าการกุศลครึ่งนึง
เมื่อต้องการเริ่มบริการให้ส่งสัญญาณมือ “OK”
พอเขาทำท่าโอเค เด็กวัยรุ่นคนนั้นก็เก็บป้ายผ้าไป แล้วเอาสายยางมาฉีดทั่วรถเพื่อล้างคราบฝุ่นทรายออกไปก่อน มีเด็กวัยรุ่นเข้ามาช่วยอีกสองคน ผิวเข้มมีกล้ามพอสวยคนนึง อีกคนผิวขาวตัวเล็ก ทั้งคู่ใส่กางเกงในสีขาวเช่นกัน สารวัตรสังเกตเห็นว่าที่กางเกงในของเด็กทั้งสามคนมีลายกราฟฟิกแปลกๆคล้ายๆ เป็นโลโก้พิมพ์หรือปักไว้ที่ด้านซ้ายของกางเกงในเหมือนกันทั้งสามคน คงซื้อมาพร้อมกันหรือไม่ก็เป็นเครื่องแบบ ขณะที่ตำรวจหนุ่มกำลังสงสัยว่ามันเป็นโลโก้ของร้านหรือเปล่า ก็ไปเห็นรอยสักบนหน้าออกขาวล่ำของเด็กหนุ่มคนแรก ลายสักเล็กๆ ที่ดูคล้ายกับลายที่กางเกงในแต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว มองไปที่เด็กอีกคนก็มีเหมือนกันแต่อยู่ตรงหน้าท้อง งั้นคงเป็นลายอะไรซักอย่างที่นิยมกันในหมู่เด็กวัยรุ่น เขาสรุป
เด็กที่มาใหม่ช่วยกันเอาฟองน้ำเช็ดคราบฝุ่นออกจากตัวรถ สารวัตรสังเกตเห็นเพื่อนทหารเรือส่องแล้วส่องอีกท่าทางจะชอบมาก เด็กที่ถือสายยางอยู่ก็แกล้งฉีดน้ำใส่เพื่อนอย่างสนุกจนเปียกไปหมด พอกางเกงเปียก รูปร่างของสิ่งที่อยู่ในกางเกงในก็ยิ่งชัดขึ้น ลำเป็นลำ เงี่ยงเป็นเงี่ยง เงาะเป็นเงาะ โดยเฉพาะคนที่ผิวเข้ม สีมันตัดกับกางเกงในสีขาวเหลือเกิน ยิ่งตอนที่เด็กไปเช็ดบนหลังคาโดยเอาม้านั่งเตี้ยมารองตรงข้างประตูแล้วขึ้นไปยืนเพื่อจะได้เอื้อมกวาดไปได้ทั่วหลังคา จังหวะนั้นแหละ ที่เครื่องเคราทั้งพวงเบียดบี้ไปกับกระจกข้างที่หนุ่มนาวีนั่งอยู่ คนนี้กับคนที่ฉีดสายยางดูจะไม่อายเท่าไหร่เพราะปล่อยตัวเต็มที่ มีแต่เด็กตัวเล็กที่ดูหน้าบางพยายามเองมือกุมของไว้ตลอด นายทหารเรืออ้าปากค้างจ้องมองไม่กล้ากระพริบตาเลยจนพักยกแรกเพื่อเตรียมน้ำยาล้างรถถึงได้พูดว่า
“โอ้ย ไม่คิดว่าจะได้เจออย่างงี้ เสียวยิ่งกว่าแก้ผ้าหมดซะอีก น้องคนผิวเข้มๆ นี่กูชอบจัง เห็นหนุ่มๆ นุ่งกางเกงในตัวเดียวแล้วตัวเปียกแบบนี้ นึกถึงตอนปลอมตัวไปสืบข้อมูลเรือประมงเถื่อนชะมัด ชุดทำงานของหนุ่มตังเกบนเรือก็แบบนี้เลย กางเกงในตัวเดียว ฉี่ก็ฉี่กันตรงท้ายเรือไม่ปิดไม่อายทั้งนั้น ยิ่งเวลาอาบน้ำนะ ทั้งควักทั้งล้วงทีเป็นเกือบสิบคน กูอยาก...เฮ้ย... น้องมันฉี่ตรงนั้นเลยเหรอ” ทหารเรือหลุดจากโหมดรำลึกความหลังเมื่อเห็นน้องผิวเข้มที่ตัวเองชอบเบี่ยงตัวนิดนึง แล้วควักแท่งเนื้อที่สีเข้มยิ่งกว่าปลดปล่อยน้ำสีเหลืองตรงกระถางต้นไม้ใกล้ๆ เห็นได้พอรำไรๆ
พอผสมน้ำยาเสร็จ เด็กสามคนก็มารุมเอาฟองน้ำชุบน้ำยาถูไปตามตัวรถ เนื้อหนุ่มแน่นๆ ก็พลอยเบียดไปกับกระจกรถด้วย นายทหารเรือไม่รู้จะโฟกัสตรงไหน เพราะมีของที่น่าสนใจอยู่รอบตัวไปหมด
“น้องเข้มก็ดี คนโน้นพอขนเปียกน้ำก็เซ็กซี่ ตัวเล็กก็น่ารัก โอ้ย เดี๋ยวจู่โจมน้องเข้มนี่แหละ”
ขั้นตอนล้างน้ำยาเสร็จไปอย่างรวดเร็วเพราะช่วยกันสามคน ถัดจากนั้นก็เป็นการล้างน้ำเปล่าโดยการฉีดอย่างเดียว แล้วก็ถึงขั้นตอนเช็ดแห้งที่นายทหารเรือรอคอยเพราะหนุ่มทั้งสามจะเข้ามาประชิดรถอีกครั้ง
พอน้องผิวเข้มโฉบเข้ามา ทหารเรือก็ยกข้อความที่เขียนเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ให้ดู เด็กหนุ่มอ่านแล้วก็หัวเราะส่ายหน้า หนุ่มนาวีทำท่าขอร้องอีกรอบ หนุ่มผิวเข้มทำท่ายักไหล่ แล้วทำมือเป็นจีบเหมือนจะบอกว่านิดเดียวนะ จากนั้นก็ถลกกางเกงในลงต่ำประมาณครึ่งก้น โชว์หมอยดกดำแล้วก็ส่วนโคนของท่อนลำอวบ ค้างไว้อย่างนั้นไม่ได้เอาขึ้น แล้วก็ตั้งใจเช็ดน้ำให้แห้งต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเสร็จโดยมีทหารหนุ่มมองตามไม่คลาดสายตาทุกจังหวะ
จากนั้นเด็กหนุ่มทั้งสามก็มายกมือไหว้เป็นการอำลา หนุ่มทหารเรือโบกมือกลับอย่างร่าเริงจนน่าหมั่นไส้ในสายตาของเพื่อนตำรวจ พอขับรถมาถึงทางออก ระบบเครื่องกั้นก็ให้คืนตั๋วพร้อมทั้งถามว่า จะให้ทิปเพิ่มเติมหรือเปล่า นายทหารเรือก็ควักแบ็งค์พันส่งให้อย่างไม่เสียดาย
สารวัตรขับรถออกมาจากที่ล้างรถ อย่างน้อยเขาก็สบายใจว่า พวกเด็กแว้นที่เขาจับส่งให้องค์กรไปจัดการต่อนั้น ไม่ได้ต้องทำงานเหนื่อยยากหรือโดนลงโทษรุนแรงอะไร ท่าทางดูสนุกเหมือนกันเห็นฉีดน้ำเล่นตลอด แต่ถ้าล้างติดต่อกันทั้งวันก็น่าจะเหนื่อยพอสมควร ที่เขากังวลคือจะมีใครแอบถ่ายรูปหรือคลิปแล้วเอาไปเผยแพร่หรือไม่ แม้ว่าจะมีประกาศห้ามไว้แต่คนเดี๋ยวนี้ชอบทำตามอำเภอใจ ยากที่จะมาเคารพกฎกติกาอะไรถ้าไม่มีถูกบังคับ ขนาดเข้าคิวยังไม่ค่อยจะเข้ากันเลย เขาหวังว่าองค์กรคงมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่านี้ แต่อาจไม่เป็นอะไรก็ได้ เพราะน้องๆ ก็ไม่ถึงกับแก้ผ้ากัน มันไม่น่าจะต่างจากการใส่กางเกงในเล่นน้ำตกหรือหาปลาในคลองซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามากๆ สำหรับผู้ชาย คิดมาถึงตรงนี้เขาก็เริ่มไม่ค่อยแน่ใจว่าวิธีนี้มันจะช่วยกำหราบหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กเกเรได้จริงๆ มันไม่เห็นจะน่าอายเท่าไหร่ ยิ่งถ้าเป็นคนหน้าหนาอาจไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ เผลอๆ จะสนุกด้วยแถมมีโอกาสได้ทิปอีก
เขาพาเพื่อนทหารไปกินข้าวก่อนที่จะพากลับไปส่งที่กองบัญชาการ ฝ่ายนั้นขอเลี้ยงข้าวเป็นการขอบใจที่แนะนำร้านล้างรถที่เด็ดขนาดนี้ ไม่งั้นเลยชาติเกิดเกย์แน่ถ้าไม่รู้จัก หลังจากวันนั้น เพื่อนทหารเรือมาเล่าทีหลังว่าติดใจจนไปล้างรถบ่อยมาก แถมยังลงทุนเปลี่ยนฟิล์มติดกระจกรถ จากสีดำเข้มไปเป็นแบบใสแต่กันความร้อนได้ซึ่งแพงหูฉี่ แล้วก็ไปบอกต่อในแวดวงเกย์ที่เป็นนายทหารด้วยกัน ส่วนตัวเขาคิดว่านอกจากเพื่อนเขาแล้ว ไม่น่าจะมีใครยอมจ่ายสามร้อยเพื่อไปล้างรถแบบบ้านๆ อย่างนั้น แต่จากที่เพื่อนเขาบ่นให้ฟังว่าถ้าเป็นตอนเที่ยงกับตอนเย็นคิวจะยาวมาก ทำให้รู้ว่ากิจการอันนี้ขององค์กรไปได้ดีจริงๆ