ตอนที่ 21
“แชมป์” เต็นเอ่ยเรียกชื่อฝ่ายนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกเดินมาหา พร้อมกลิ่นแอลกอฮอล์โชยหึ่ง
“เออกูเอง นึกว่าจะไม่กลับห้องอีกนะมึง คู่ขาไปไหนซะล่ะ ไม่ตามมาด้วยเหรอ” แชมป์บอกออกไปด้วยอาการมึนหน่อยๆ เมื่อเดินมาหยุดหน้าเต็น จำได้ว่าก่อนเข้ามาที่หอนี่เพื่อรอพบคนนี้ ตอนเดินผ่านร้านฟาสฟู้ดส์หน้าโรงภาพยนตร์ เห็นเจ้าตัวนั่งคุยอยู่กับเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งอย่างสนิทสนม ตอนแรกคิดจะเข้าไปทักเพื่อขัดคอ เพราะเกิดอาการหมั่นไส้อย่างประหลาด แต่คิดอีกทีเข้ามารอที่หอนี่เพื่อรอเจ้าตัวน่าจะดีกว่า เพราะตอนนั้นก็ชักมึนๆ อยู่
เวลาเป็นนานสองนานที่เด็กหนุ่มนั่งรอเจ้าตัวที่หน้าร้านมินิมาร์ทนี่ นึกฉุน แต่ก็ไม่คิดจะกลับไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อยู่ๆ ก็นึกอยากคุย อยากเคลียร์ว่าไอ้คนที่เจ้าตัวไปนั่งพูดคุยหน้าระรื่นในร้านฟาสฟู้ดส์นั่นเป็นใคร คิดว่าเป็นแฟนเก่าของเจ้าตัวที่ชื่อนพก็ไม่น่าจะใช่ เพราะฝ่ายนั้นทำงานแล้วน่าจะมีบุคลิกเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนๆ นั้น หากไม่ใช่แฟนเก่าก็น่าจะเป็นคู่ขาใหม่ เร็วใช้ได้นี่ หาคนมาดามอกได้ไวขนาดนี้ เชี่ยเอ้ย!
“ถ้าเมาก็กลับบ้านไปดีกว่าแชมป์” เต็นพยายามทำใจดีๆ เอ่ยบอกกับคนที่ยังคงจ้องตนตาขวาง
“ทำเป็นไล่ จริงๆ อยากให้กูค้างด้วยใจจะขาดล่ะไม่ว่า” แชมป์เอ่ยออกมาเพราะเริ่มมึนหนักจากฤทธิ์ของเบียร์สามกระป๋องที่สั่งมาซดดื่มต่อระหว่างรอคนตรงหน้า ภาพที่ตนมองเห็นก่อนเข้ามามันกระตุ้นให้เด็กหนุ่มอยากดื่มให้หนักไม่รู้ทำไม และเมื่อยืนนานๆ ก็เกิดอาการเซจนได้ ซึ่งทิศทางที่เซไปก็คือร่างของเต็นนั่นเอง
เต็นรีบพยุงร่างของคนที่เซมาหาตนให้ยืนให้นิ่ง แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเจ้าตัวสะบัดตัวพร้อมตวาด
“ไม่ต้องมาโดนตัวกู กูไม่ชอบให้เกย์มาถูกตัวโว้ย”
“ท่าทางจะเมาหนัก พูดจาไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย น้องพาเพื่อนขึ้นห้องไป” เจ้าของมินิมาร์ทเดินออกมาบอก เต็นหน้าเสียเมื่อคิดว่าการกระทำของแชมป์เป็นการรบกวนคนอื่น ไม่คล้อยตามคำพูดของฝ่ายนั้นหรอกที่ว่าแชมป์เริ่มเมาแล้วเริ่มพาล เพราะแม้ตอนปกติ คนๆ นี้ก็ไม่ต้องการให้ตนถูกเนื้อต้องตัวอยู่แล้ว
“กลับบ้านนะแชมป์ เดี๋ยวเราไปเรียกแท็กซี่ให้” เต็นเอ่ยบอกกับคนตรงหน้าที่พยายามยืนให้นิ่งอยู่
“นี่มึงไล่กูเหรอ พอได้คู่ขาใหม่ปุ๊บ ไล่คนเก่าปั๊บ มันจะเกินไปหน่อยมั้ยเฮอะ!” แชมป์ผลักอกเต็นจนร่างเด็กหนุ่มเซหน่อยๆ เต็นรู้สึกอายต่อสายตาที่เจ้าของมินิมาร์ทจ้องมอง จึงตัดสินใจชกหน้าแชมป์จนล้มลงหมดสติอย่างง่ายๆ อาจจะเพราะเจ้าตัวตกอยู่ในอาการมึนเมาอยู่ด้วยมั้งที่ทำให้หมดสติได้ง่ายดายขนาดนั้น
“ว้าย! ต่อยเพื่อนทำไมอ่ะน้อง” เจ้าของมินิมาร์ทร้องถาม เต็นไม่ตอบ นอกจากนั่งลงพยุงร่างที่อ่อนปวกเปียกของคนที่ตนชกหน้าพาเดินออกไปยังหน้าหอเพื่อเรียกแท็กซี่ พอได้รถสมใจก็จัดการพาร่างนั้นขึ้นไปเพื่อไปส่งบ้านที่วงเวียนใหญ่
ระหว่างทางที่แท็กซี่วิ่งไป เต็นนั่งคิดกลุ้มใจอยู่เงียบๆ ว่าทำไมแชมป์จะต้องกลับมาวนเวียนในชีวิตตนอีก จะตามหลอกหลอนตนไปถึงไหนกันถึงจะพอใจ
“มันเป็นใคร ไอ้นั่นมันเป็นใคร มึงเห็นมันดีกว่ากูเหรอไอ้เต็น” อยู่ๆ คำพร่ำเพ้อก็หลุดออกมาจากปากของคนที่นอนพับอยู่เบาะหลัง เต็นเอี้ยวตัวกลับไปมอง เห็นเจ้าของคำพูดยังคงนิ่งอยู่จึงคิดสงสัยว่าเมื่อครู่คือคำละเมอเหรอ เด็กหนุ่มคิดว่าแชมป์คงจะเห็นตนคุยอยู่กับแม็ค แต่แล้วยังไงล่ะ เหตุการณ์นั่นไม่น่าจะมีอิทธิพลพอที่คนอย่างแชมป์จะเก็บไปละเมอถึงตอนไม่รู้สึกตัวหรอก
รถแท็กซี่เลี้ยวเข้าเขตวงเวียนใหญ่ นาทีนั้นแชมป์รู้สึกตัวขึ้นมาลุกนั่งมองสองถนน จำได้ว่าเป็นแถวบ้านตน จึงเอ่ยขึ้น
“นี่มันแถวบ้านนี่”
เต็นได้ยินเสียงพูดจึงหันกลับมามอง
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม แชมป์ยังไม่ตอบในทันทีเพราะยังมึนๆ กับเหตุกาณ์อยู่ สำนึกสุดท้ายก่อนจะจำอะไรได้เลือนรางและหมดสติ เขานั่งอยู่ที่ร้านมินิมาร์ทหน้าหอของเต็นนี้นา
“เดี๋ยวพี่จอดป้ายหน้าให้ผมลงด้วยนะครับ” เมื่อเห็นแชมป์เงียบอยู่ เต็นจึงหันมาบอกโซเฟอร์แท็กซี่ สายตาเหลือบดูมิเตอร์หยิบเงินในกระเป๋าออกมาเตรียมไว้ตอนแท็กซี่กำลังจะจอดเทียบให้ลง
“นี่ครับ” เด็กหนุ่มยื่นสิ่งนั้นให้คนขับแล้วเปิดประตูลงจากรถไปตอนรถจอดสนิท แชมป์เมื่อเริ่มหายงง และเห็นเหตุการณ์จึงรีบเปิดประตูลงตาม
“ไม่ต้องรอนะพี่ ออกรถไปเลยครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกโซเฟอร์แท็กซี่ตอนกำลังจะปิดประตู บอกเสร็จจึงรีบเดินตามร่างของเต็นที่เดินหนีลิ่วๆ ไม่หันหลัง
“รอก่อนเต็น” เด็กหนุ่มร้องบอกฝ่ายนั้นเมื่อเดินตามไม่ทัน เต็นได้ยินแต่ไม่อยากใส่ใจ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าจะมีเหตุการณ์สะท้านใจอะไรเกิดขึ้นอีกหากได้อยู่ต่อหน้ากับคนใจร้ายอย่างแชมป์ จึงเตรียมเรียกแท็กซี่เพื่อพาร่างหนีไปให้ห่าง
แชมป์เห็นคนที่ตนเดินตามเตรียมโบกรถ จึงตัดสินใจวิ่งไปจนถึงร่างเจ้าตัวฉุดแขนไว้ไม่ให้เจ้าตัวทำอย่างที่หวัง
“จะรีบหนีไปไหน คุยกันก่อนดิ” เด็กหนุ่มเอ่ยตวาดแข่งกับเสียงรถบนท้องถนนเพื่อให้เจ้าตัวได้ยิน
“มันดึกแล้วเราจะรีบกลับหอ” เต็นหันมาตอบ พยายามไม่มองสบตาคนฉุด เพราะกลัวตัวเองจะหวั่นไหวอีก
“หอตัวเองหรือหอใครล่ะ” แชมป์หลุดประชดออกไปอย่างไม่รู้ตัว นาทีนี้เต็นจะไม่มองสบตาก็น่าจะผิดนัก เพราะรู้สึกแปลกใจในสิ่งที่ได้ยิน ไม่อยากจะคิดว่านั่นมันคือการประชด จึงตอบออกไป
“นายรีบเข้าบ้านไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วก็นนอนเถอะแชมป์”
“แชมป์หายเมาแล้ว” แชมป์ตอบในสรรพนามเดิม ในขณะที่มือยังจับแขนอีกฝ่ายไว้อยู่ จู่ๆ ก็นึกอยากเคลียร์ให้ชัดว่าเหตุการณ์ที่ตนเห็น มันมีที่มาที่ไปยังไง
“หายเมาก็ดี คนที่บ้านจะได้ไม่ว่า” เต็นบอก จัดการแกะมือฝ่ายนั้นที่จับตนอยู่ออก แชมป์รับรู้ว่าสิ่งที่ได้ยินมันเจือด้วยความห่วงใยมากกว่าต่อว่า จึงยอมปล่อยแขนเจ้าตัวโดยง่าย
“ห่วงแชมป์เหรอ” เด็กหนุ่มถามออกไป ไม่ใช่แกล้ง แต่นึกอยากได้คำตอบจริงๆ
“ไม่ต้องถามอะไรมากหรอก กลับเข้าบ้านไปเถอะไป” เต็นออกปากบอกอีก พยายามถอยร่างออกห่างแชมป์ให้มากที่สุด เป็นสัญชาตญาณของการไม่อยากโดนดูถูกอีกว่าอยากใกล้ชิดกับผู้ชายแท้ๆ จนตัวสั่น
แชมป์มองอาการคนตรงหน้า เห็นอาการระวังตัวของเจ้าตัวก็รู้สึกสะท้านใจแปลกๆ ลองเดินเข้าไปหาเจ้าตัวอีกเพื่อพิสูจน์ว่าฝ่ายนั้นกลัวตนได้มากขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ ซึ่งเพียงแค่ก้าวแรกที่ขยับเด็กหนุ่มก็เห็นอาการถอยหนีอย่างอัตโนมัติของคนนั้นทันที จึงหยุดเดินแล้วเอ่ยถาม
“กลัวอะไรแชมป์อ่ะเต็น”
เต็นยังไม่ตอบคำถามในทันที เพราะกำลังนึกคิดในใจว่าเด็กหนุ่มอย่างแชมป์จำอะไรที่เคยทำเคยพูดได้บ้างหรือเปล่านะ ถามออกมาได้ไงว่าเขากลัวอะไร ตัวเองเคยทำอะไรไว้จำมาได้เลยหรือไงกัน
“เปล่ากลัว” ที่สุดคำปฏิเสธก็หลุดออกมาจากปากเพราะไม่อยากสาธยายอะไรในเชิงตัดพ้อหรือน้อยใจ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องมานั่งแกะสะเก็ดแผลที่ใจให้ได้เจ็บขึ้นมาอีก อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันจบไป ต่อแต่นี้ก็แค่ระวังตัวเองให้มากอย่าเผลอให้คนตรงหน้าดูถูกได้อีกก็น่าจะพอ
“เปล่าแล้วถอยทำไม” แชมป์ถามเสียงดุ ถึงตอนนี้เต็นไม่เอ่ยอะไรออกมาเขาก็พอจะรู้ว่าเจ้าตัวคงยังจำการกระทำก่อนหน้าของตนได้ แต่ทำไมเขาจะต้องมาใส่ใจความรู้สึกฝ่ายนั้นด้วยล่ะ เขาไม่ได้คิดอะไรกับเจ้าตัวไม่ใช่เหรอ
“ขอตัวนะ รถมาแล้ว” เต็นตัดบทเพราะไม่ต้องการอยู่สนทนาอะไรให้มากความ ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าการอยู่ใกล้เด็กหนุ่มตรงหน้ามากๆ อาจทำให้ใจเกิดหวั่นไหวขึ้นมาได้อีก
“เฮ้ย! เดี๋ยวดิ” แชมป์รีบเอ่ยค้านพลางรีบเดินเพื่อไปฉุดคนตรงหน้าไม่ให้เรียกรถแท็กซี่ที่กำลังวิ่งผ่านมา แต่ช้าไป เพราะตอนกำลังจะถึงตัวคนนั้นก็เรียกรถจอดได้สำเร็จพร้อมตัวร่างเข้าไปนั่งตรงเบาะหลังอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่รถเคลื่อนตัวออกไปจู่ๆ แชมป์ก็ใจหล่นวูบ เมื่อเต็นไม่แลสายมามองตนแม้สักนิด ในใจสั่งให้ต้องโทรศัพท์หาเจ้าตัวอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จะพูดอะไรด้วย แต่การจากไปแบบไร้เยื่อใยของเจ้าตัวเมื่อครู่ทำให้ความรู้สึกภายในมันร้อนรนอย่างประหลาด
หมายเลขที่ติดต่อไปไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับอีกตามเดิม เด็กหนุ่มเรียกซ้ำอยู่หลายครั้งจนคิดว่าหมดหนทางติดต่อได้จึงถอยร่างมานั่งริมฟุตบาธด้วยความรู้สึกวุ่นวายในใจอย่างที่ไม่เคยเป็น
ทางฝั่งเต็นหลังรถแท็กซี่แล่นผ่านมาจนไกลสายตาแชมป์ เด็กหนุ่มนั่งกอดอกห่อตัวหลับตาข่มใจไม่ให้นึกถึงใบหน้าของคนที่ตนเพิ่งจากมา รวมถึงพยายามต่อต้านไม่ให้สมองคิดถึงเรื่องราวทุกอย่างที่ตนได้เคยเผชิญระหว่างที่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกตัวเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน คนที่โทรเข้ามาคือเพื่อนใหม่อย่างแม็คนั่นเอง
“หวัดดีแม็ค” เด็กหนุ่มเอ่ยทักทาย โดยพยามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ซึ่งไม่ได้ผลเท่าไหร่นักเพราะอีกคนได้ทักกลับมาว่า
“เสียงไม่ค่อยดีเลยเต็น มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่านี่ รถวิ่งอยู่คลื่นมันขาดๆ หายๆ มั้ง” เด็กหนุ่มหาข้ออ้างมั่วๆ เพื่อให้พ้นจากการสืบถาม แต่คำอ้างนั้นกลับเป็นการชวนสงสัยยิ่งกว่าเดิม
“รถแล่นอยู่ หมายความว่าไงอ่ะ เต็นอยู่ไหนเหรอ”
“อืม นั่งแท็กซี่อยู่”
“อ้าว ไปไหนเหรอครับตะกี้แม็คไปส่งที่หอแล้วนี่”
“อ๋อ เต็นลืมไปว่าต้องซื้อยาน่ะ เลยออกมาใหม่” เต็นโกหกอีก แต่ก็ยังไม่วายโดนถามเพิ่ม
“ยาอะไรเหรอ”
“วิตามินทั่วไปแหละ แม็คอย่าสนใจเลยนะ”
“ไม่รู้ไงนึกว่าไม่สบาย ที่จริงโทรบอกแม็คก็ได้นะ แม็คแวะซื้อให้แล้วขับรถเอาไปให้ที่หอก็ได้ เต็นไม่เห็นต้องลำบากออกมาเองเลย”
เต็นนิ่งอึ้งไปสักพักเมื่อได้ฟังถ้อยคำห่วงใย รู้สึกดีขึ้นนิดๆ จากอาการเก็บกดเมื่อครู่
“ทำไมเงียบไปล่ะเต็น แล้วนี่ใกล้ถึงหอยัง” แม็คถามออกมาอีก เด็กหนุ่มจึงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงดีขึ้น จุดประกายการสนทนาที่ราบรื่นขึ้น
“อีกนิดก็ถึงแล้ว แล้วแม็คล่ะถึงคอนโดหรือยัง”
“ถึงนานแล้วครับ ทำโน่นทำนี่เสร็จ อาบน้ำแล้วกำลังจะนอนเลยโทรมากู๊ดไนท์เต็น”
“อืม ฝันดีละกัน”
“ขอบคุณครับ แต่เปลี่ยนใจดีกว่า ไม่นอนแล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“คุยเป็นเพื่อนเต็นดีกกว่า เต็นถึงหอแล้วค่อยนอน”
“เฮ้ย ไม่เอา ไปนอนเถอะไป อย่ามาเสียเวลากะเต็นเลย”
“โห ไล่กันแบบนี้เลยเหรอครับ”
“ไม่ได้ไล่ แต่แม็คพักผ่อนน่ะดีแล้ว เพิ่งออกกำลังกายมา ท่าจะเหนื่อย”
“ไม่เท่าไหร่หรอก เล่นจนชินแล้ว วันหลังไปเล่นกับแม็คมั้ยจะได้แข็งแรง”
“ไม่เอาอ่ะ ไม่ได้เป็นสมาชิก”
“อยากเล่นมั้ยล่ะ เดี๋ยวสมัครให้”
“ไม่ดีกว่า รายจ่ายยังเยอะอยู่”
“โหย แม็คบอกสมัครให้ก็แสดงว่าแม็คจ่ายให้สิ”
“ตลกล่ะ เราเป็นอะไรกันแม็คถึงจะมาทำอะไรแบบนี้ให้เต็น”
“จำไม่ได้จริงเหรอว่าเราเป็นอะไรกัน”
“ล้อทำเป็นล้อ”
“โทษที แล้วโกรธหรือเปล่าอ่ะ”
“ไม่หรอก แต่อย่าพูดถึงมันอีกเลยนะ”
“ได้ๆ แม็คไม่พูดแล้ว ว่าแต่สนใจจะออกกำลังกายกับแม็คมั้ย แมคสมัครให้ได้จริงๆ”
“ไม่ต้องหหรอก เกรงใจ”
“เฮ้ย เรื่องเล็ก แม็คจ่ายได้จริงๆ”
“รู้ครับว่าจ่ายได้ แต่เต็นไม่ชอบเล่นด้วยไง”
“อืม ไม่เล่นก็ไม่เล่น แต่ถ้าสนใจเมื่อไหร่ก็บอกนะ สำหรับเต็นแม็คเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องฟิตเนสก็ได้นะ ต่อไปนี้อยากทำอะไร ไปไหน บอกมาเดี๋ยวป๋าแม็คจัดให้”
“เฮ้อ แบบนี้เรียกว่าเอาเงินเข้าล่อได้ป่ะเนี่ย”
“แม็คทำได้ทุกอย่างแหละ เพื่อให้เต็นเก็บแม็คไปพิจารณาการเลื่อนขั้นจากเพื่อนไปเป็นอย่างว่า”
“อย่างว่าคืออะไร”
“ก็แฟนไงครับ”
“บอกตรงๆ นะแม็คว่าตอนนี้เต็นยังเข็ดอยู่”
“แม็คเข้าใจ อย่างน้อยตอนนี้แค่แม็คได้เป็นเพื่อนเต็น แม็คก็พอใจแล้ว ตามสบายเลยนะหากเต็นจะปรึกษา จะพูดคุย หรือจะวานให้แม็คทำอะไร หากแม็คทำได้แม็คพร้อมจะทำ”
“เฮ้อ เมื่อก่อนเขาก็เคยพูดทำนองนี้กับเต็นนะ สุดท้ายก็ นะ...”
“เขา หมายถึงคนนั้นน่ะเหรอ”
“อืม”
“เต็นยังคิดถึงเขาอยู่เหรอ”
“ช่างมันเถอะ เราอย่าพูดถึงเขาเลยนะ เต็นใกล้จะถึงหอแล้ว แม็คไปนอนเถอะ”
“ครับผม เต็นก็เหมือนกันนะ ถึงหอแล้วก็อาบน้ำนอนซะ อย่าไปนั่งคิดนอนคิดถึงอะไรที่มันปวดใจเลย”
“จะพยายามแล้วกัน แค่นี้นะ ฝันดีครับ”
“ครับ ฝันดีเช่นกัน ตื่นแล้วจะโทรหานะ”
การสนทนาจบลงเมื่อต่างฝ่ายต่างตัดสัญญาณทิ้ง รถแท็กซี่คันที่นั่งอยู่ยังขับต่อไปอีกเรื่อยๆ เต็นเอนกายพิงพนักเบาะ ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนั่งจมอยู่กับความรู้สึกตัวเอง ภาพของคนใจร้ายที่ทำให้หัวใจต้องเป็นแผลก็ลอยมาให้เห็นอีกครั้ง
ถ้อยคำดีๆ จากแม็คทำไมไม่ลบเลือนการกระทำร้ายๆ ต่างๆ จากแชมป์ได้เลยนะ...หัวใจนึกไม่เข้าใจเลยจริงๆ
โปรดติดตามตอนต่อไป