รอยชัง ๓๗
บ้านพิริยะสกุลนั้นเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่กว่าบ้านปกติทั่วไปหลายเท่า ตัวบ้านที่อยู่ตรงกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด รายล้อมด้วยตึกหลังเล็กๆอีกสามสี่หลัง ด้านหน้าเป็นลานจอดรถ น้ำพุ มีถนนทอดยาวจนมาถึงประตูบ้านขนาดใหญ่ใช้วิธีการเปิดปิดอัตโนมัติ แต่เดิมนั้นนายห้างกับภรรยาจะอาศัยอยู่ที่ตึกใหญ่ ส่วนคนอื่นๆอาศัยอยู่ที่ตึกเล็ก ตั้งแต่นายห้างจากไป อนุสรณ์กับพัชรินทร์ก็เข้ามาอาศัยที่นี่แทนพี่ชาย ควบคุมดูแลคนสนิทเดิมทั้งหมด
พัชรินทร์เป็นคนที่ใช้เงินฟุ้งเฟ้อ เธอกับเพื่อนมักจะจัดปาร์ตี้กันที่นี่สร้างความหนักใจให้คนรับใช้คนเก่าจนต้องขอลาออกกันไปหลายคน เงินที่ได้จากปันผลประจำเดือนเริ่มจะไม่พอใช่ หล่อนจึงพยายามบังคับให้สามีเข้าไปดูแลกิจการห้างร้านในตำแหน่งผู้รักษาการแทน แต่ด้วยความที่ไม่มีความรู้ดี อนุสรณ์ก็เกือบจะทำให้ห้างสูญเสียรายได้มานับไม่ถ้วน ถ้าไม่ได้รองกรรมการผู้จัดการคนสนิทของนายห้างช่วยกอบกู้ ป่านนี้ห้างก็คงจะล่มสลายไปตั้งแต่ให้คนไร้ความรู้เข้ามาบริหารแล้ว
"บ้านโทรมลงไปเยอะแบบไม่น่าเชื่อ" โสภณยืนมองคฤหาสน์ที่เคยใช้คุ้มกะลาหัว คิดถึงภาพเก่าๆที่เขาเคยรับใช้เคียงบ่าเคียงใหล่ให้กับนายห้าง ถ้าหากท่านยังไม่เสีย อะไรๆมันก็คงจะดีกว่านี้
"สวยมากนะครับ" อัศวินชม ประติมากรรมของที่นี่น่าจะมาจากสมัยร.5 ช่วงที่ฝรั่งเข้ามาเผยแพร่วัฒนธรรมในไทย "พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลมากทีเดียว" น่าจะราวๆสิบไร่ได้ อยู่ในใจกลางกรุงเทพแบบนี้ น่าจะขายได้มากกว่าหลักร้อยล้าน
"เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับ ขวัญอยากให้เรื่องมันจบเร็วๆ" จอมขวัญเอ่ย เขาไม่ได้รู้สึกผูกพันกับที่นี่ ดีแล้วที่ตัดสินใจยกให้คุณอาไปซะ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่อยากได้อะไรอยู่แล้ว
ทั้งสามคนเดินเข้ามาด้านในของคฤหาสน์ ที่นี่ยังคงดูใหญ่โตโอ่อ่าสมฐานะ เพราะพัชรินทร์เองก็ไม่ยอมเสียหน้าโดนเพื่อนฝูงในวงสังคมดูถูกเช่นกัน ภายในบ้านจึงต้องตกแต่งให้ดูดีไม่มีทรุดโทรมอยู่ตลอดเวลา
คนรับใช้เข้ามาต้อนรับก่อนจะเดินนำทั้งสามมาที่ห้องรับแขกภายในบ้าน ที่โซฟาตอนนี้มีอนุสรณ์ผู้เป็นอาและพัชรินทร์ที่เป็นภรรยานั่งรออยู่ ส่วนคุณทนายเองท่านก็นั่งอยู่อีกฝั่ง กำลังเตรียมเอกสารในการเซ็นสัญญา
"สวัสดีครับ" จอมขวัญทักทายญาติทั้งสองอย่างนอบน้อมและหันไปไหว้คุณทนายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม อนุสรณ์รีบรับไหว้หลาน ส่วนพัชรินทร์ทำเพียงยกมือขึ้นรับเป็นมารยาท
"เชิญนั่งๆ" อนุสรณ์เชิญให้ทุกคนนั่งตามสบาย "ทำตัวตามสบายเถอะ นี่ก็บ้านของหลาน ไม่ต้องเกรงใจพวกอาหรอกนะ" อนุสรณ์ว่า
"ขอบคุณครับ" จอมขวัญเอ่ย "แต่บ้านหลังนี้มันใหญ่เกินไป ขวัญตั้งใจจะยกให้คุณอาทั้งสอง"
จอมขวัญเอ่ยความคิดออกไปอย่างจริงใจ ส่วนอัศวินนั้นคอยเฝ้ามองปฏิกิริยาของทั้งสอง โดยเฉพาะฝ่ายหญิง
"มันก็ควรจะเป็นแบบนั้น พวกฉันดูแลกันมาเท่าไหร่" พัชรินทร์ตวัดตามองจิก พูดจาราวกับจอมขวัญติดหนี้บุญคุณเธอมาท่วมหัว
"เอ คุณนี่!" อนุสรณ์หันมาดุเมีย "ไม่พูดสักเรื่องจะได้ไหม!"
พัชรินทร์ทำเสียงจิ๊ปากก่อนจะยอมสยบปากสงบคำ
"ผมตั้งใจยกบ้านหลังนี้ให้คุณอาเพราะถึงแม้มันจะเป็นของผม แต่ผมก็ไม่คิดจะมาอยู่ที่นี่หรอกครับ" จอมขวัญเอ่ย "ที่นี่คุณอาทั้งสองก็อยู่กันมานาน อย่างไรผมคงต้องฝากให้คุณอาช่วยดูแลที่นี่ต่อไป"
"ได้สิ อาเองก็รักบ้านหลังนี้มาก" อนุสรณ์รับข้อเสนอนี้
"ส่วนที่ดินทั้งหมด ผมขอยกให้เป็นของหลวง" จอมขวัญพูดต่อ "หวังว่าคุณอาคงจะไม่ขัดอะไร"
"ไม่เลยลูก อยากทำอะไรก็ทำเถอะ" อนุสรณ์รีบส่ายหัว
"พวกฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ได้ข่าวว่าจัดการทุกอย่างไปแล้ว ถ้าเธออยากได้ความเห็นจริงๆคงไม่ทำอะไรโดยพลการไปก่อนแบบนี้" พัชรินทร์เย้ยหยันแดกดัน
จอมขวัญเองพยายามไม่สนใจคำเสียดแทง
"ส่วนเรื่องห้าง.." เขาเอ่ยสิ่งที่คิดมาทั้งคืน
"ผมจะแต่งตั้งคุณประทีบเป็นซีอีโอ แบ่งหุ้นให้สี่สิบเปอร์เซ็นต์เพราะเขาช่วยดูแลห้างมาตลอดและคุณพ่อเองก็เชื่อใจเขา ส่วนคุณอาผมตั้งใจจะให้ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์และแต่งตั้งในตำแหน่งผู้นอกเหนือจากนั้นก็เป็นกลุ่มผู้ร่วมหุ้นรายย่อย คุณอาจะยอมรับข้อเสนอนี้ไหมครับ" จอมขวัญเลือกทางที่ดีที่สุดแล้ว
"ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์! นี่แกดูถูกพวกฉันเหรอ!" พัชรินทร์โวยวาย "นี่อาแกนะ แทนที่จะยกให้อาแกเป็นเจ้าของไปซะ! นี่อะไร"
พัชรินทร์มีสีหน้าไม่พอใจอย่างรุนแรง
"ผมดูความตั้งใจและความเหมาะสมครับ" คุณประทีบเป็นคนดี พ่อโสภณเองก็ยืนยัน จากแค่ลูกน้องนายห้างธรรมดาๆ แต่ตอนนี้ท่านเองก็ช่วยเหลือห้างไว้จนสามารถยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้ การที่จะให้ห้างคงอยู่สืบต่อไปและพนักงานทุกคนอยู่ดีมีสุข จอมขวัญเลือกที่จะฝากฝังการดูแลงานไว้กับคนที่เห็นค่ามันจริงๆ
"แกมันจะไปรู้อะไร! ที่ดินแกก็ไม่แบ่งพวกฉัน แถมนี่อะไร จะมาให้กันแค่นี้มันจะไปพอที่ไหน! เด็กกะโปโลอย่างแกนี่มัน!" พัชรินทร์ไม่ยอม เธอรอเวลานี้มานาน ได้แค่นี้จะไปพออะไร เด็กนี่มันตอกหน้ากันชัดๆ สามรเธอเป็นถึงน้องชายนายห้าง พนักงานรู้ มันคงจะหัวเราะเยาะ
"อยู่เงียบๆได้ไหม! ถ้าฟังแล้วมีปัญหาก็ขึ้นห้องไปซะ!" อนุสรณ์ตวาดเมียตนเอง
"คุณจะยอมรับข้อเสนอห่วยๆนั่นหรือไง!" พัชรินทร์หันไปจ้องอย่างไม่ยอม "มันหยามเราเกินไปแล้วนะคะ!"
โสภณเองทำได้เพียงส่ายหัว คิดไว้แล้วว่าพัชรินทร์จะต้องไม่ยอม
"ผมร่างสัญญาของบ้านมาเรียบร้อย อย่างไรหนูจอมขวัญกับคุณอนุสรณ์รบกวนเซ็นตรงนี้ครับ" คุณทนายเอ่ยขัด
จอมขวัญพยักหน้าจรดลายมือชื่อลงไปก่อนจะส่งให้คนตรงหน้าเพื่อเซ็นยอมรับ
"ตอนนี้เหลือแค่ไปโอนชื่อเจ้าของบ้านเป็นคุณอนุสรณ์ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ส่วนเรื่องห้าง ผมนำสัญญาของบริษัทมาแล้ว รบกวนเซ็นด้วย" คุณทนายยื่นสัญญาให้ทั้งสอง
"ฉันไม่ยอมรับข้อเสนอนี้!" พัชรินทร์คว้ากระดาษสัญญามาฉีกทิ้ง "ถ้าแกให้หุ้นพวกฉันแค่ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ก็ต้องให้เงินพวกฉันเพิ่มห้าร้อยล้าน ไม่มีข้อต่อรอง!" เธอเอ่ยอย่างเห็นแก่ได้
"มันจะมากไปหรือเปล่าคุณ" อนุสรณ์ปรามคนข้างๆ
"คุณควรยอมรับแค่สิ่งที่ได้ เงินนั้นนายห้างมอบให้จอมขวัญไว้ คุณไม่มีสิทธิ์" โสภณเอ่ย ให้คืบจะเอาศอก
"เด็กแรดอย่างมันสิที่ไม่ควรได้อะไร ฉันต่างหากที่สมควรได้รับ!" พัชรินทร์โผเข้ามาอย่างแรง อนุสรณ์เองก็คว้าคนรักไว้ไม่ทัน
"หยุดอยู่ตรงนั้น!"
อัศวินตวาดเสียงเข้ม
"ถ้าคุณทำร้ายจอมขวัญมีแม้แต่รอยขีดข่วน เชื่อสิว่าคุณจะได้รับมากกว่านั้นสิบเท่า"
เขาเข้ามากันคนรักไว้ไม่ให้ถูกหญิงบ้าทำร้าย
"อี๋ พวกรักร่วมเพศ อยากจะอ้วก" พัชรินทร์ทำท่าโก่งคอพลางเบะปาก
"ผมว่าอย่าใช้อารมณ์เลยนะครับ อย่างไรพินัยกรรมได้ระบุว่าหนูจอมขวัญคือผู้รับมรดกทั้งหมดอย่างถูกต้อง เขาจะยกให้ใครเท่าไหร่มันก็เป็นเรื่องที่เราควรยอมรับ" คุณทนายเอ่ยอย่างเป็นกลาง
"ฉันจะไม่ยอมรอมาถึงยี่สิบปีแล้วได้แค่นี้แน่ๆ" พัชรินทร์ตวาดด้วยความโมโห
"แล้วคุณน้าจะเอาอะไรอีกครับ" จอมขวัญไม่เข้าใจ แค่นี้มันยังไม่พออีกรึไงกัน
"ฉันต้องได้ในสิ่งที่พี่พลควรชดใช้ เงิดสดห้าร้อยล้านกับหุ้นห้าสิบเปอร์เซ็นต์ต้องเป็นของคุณอนุสรณ์!" พัชรินทร์เอ่ยอย่างโอหัง
"แต่นั่นมันเป็นเงินจากน้ำพักน้ำแรงนายห้าง ไม่เกี่ยวอะไรกับมรดกแม้แต่น้อย" โสภณอธิบาย เงินส่วนนั้นนายห้างตั้งใจเก็บไว้ให้จอมขวัญ
"ฉันไม่สน!" เธอยืนยัน "เงินพี่พลน่ะมีเป็นพันล้าน แค่นี้ฉันยังไม่คุ้มเลย!"
"คุณ!" อนุสรณ์เหนื่อยใจกับภรรยา
"ก็มันจริงนี่คะ! ว่าไงล่ะ แกจะยอมให้ฉันไหม" พัชรินทร์ถาม จะให้ตามข้อเสนอนี้ได้หรือเปล่า
"คิดว่าคงจะไม่ได้นะครับ" จอมขวัญยืนขึ้นช้าๆ "เงินนั้นเป็นเงินในส่วนของผม เท่าที่คุณน้าได้ไปมันก็มากเกินพอแล้วด้วยซ้ำ อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องให้คุณน้าเลยยังได้"
"จองหอง!" พัชรินทร์ปรี่เข้ามาจะตบหน้าจอมขวัญ แต่อัศวินจับแขนหล่อนไว้ทัน
"โอ๊ย ปล่อยนะ!" พัชรินทร์ส่งเสียงร้องเมื่อถูกอัศวินบิดข้อมือ
"ผมไม่ได้อยากทำร้ายผู้หญิงนะครับ ขอความกรุณาหยุดคิดจะทำร้ายจอมขวัญด้วย" อัศวินปล่อยข้อมือพัชรินทร์ช้าๆ
"บ้าเอ้ย!" หล่อนส่งเสียงพลางสะบัดข้อมือ
"ผมมีเวลาไม่มากนัก รบกวนเซ็นให้จบๆตรงนี้เถอะครับคุณอนุสรณ์" คุณทนายเองท่านก็ต้องกลับต่างประเทศ จะมายื้อกันอยู่แบบนี้คงไม่ได้ประโยชน์
"ได้ครับ" อนุสรณ์รับสัญญาโอนมอบหุ้นที่ระบุเป็นตัวเลขยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์มาอ่านก่อนจะลงชื่อรับทราบการส่งมอบในครั้งนี้
พัชรินทร์แม้จะไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถต่อต้านอะไรได้
เอกสารทุกอย่างถูกเซ็นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ช่วงบ่ายคุณทนายกับอนุสรณ์ต้องไปจัดการโฉนดบ้านต่อ ถือเป็นอันเรียบร้อย
"ขอบคุณคุณทนายมากนะครับที่อุตส่าห์บินกลับมาช่วยพวกผม" โสภณไหว้คนตรงหน้า
"ไม่เป็นไรหรอก นายห้างเขาฝากฝังฉันไว้ ฉันก็ต้องทำตามหน้าที่" คุณทนายเองก็มีสัญญากับนายห้างที่ต้องทำให้สำเร็จ
"ขอบคุณมากนะครับคุณลุง" จอมขวัญไหว้คนที่ถือว่ามีบุญคุณอีกคน
"ไม่เป็นไรเลยหลาน ดูแลตัวเองดีๆนะ ขอให้คลอดน้องออกมาอย่างปลอดภัย" จอมขวัญรับพรจากผู้ใหญ่ เขารู้สึกโล่งอกสักทีที่ได้ทำอะไรให้เรียบร้อย
"ผมลานะครับ" โสภณไหว้ทั้งคุณทนายและอนุสรณ์
"โชคดีๆ จอมขวัญดูแลสุขภาพด้วยนะ ถึงอาจะเพิ่งเจอหนู แต่หนูเป็นเด็กที่น่ารักมากจริงๆ" อนุสรณ์ยิ้มให้หลาน แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่อย่างไรก็เป็นสายเลือดเดียวกัน
"ขวัญลานะครับ" จอมขวัญไหว้ผู้ใหญ่ตรงหน้า
ทุกคนรับไหว้จากหลานอย่างจริงใจ ยกเว้นพัชรินทร์ที่ทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะเดินขึ้นด้านบนไปอย่างไม่แยแส
"อาขอโทษแทนเมียด้วย พัชเขามาร้ายเอาตอนหลัง อาไม่รู้จะทำอย่างไร" อนุสรณ์ส่ายหัว
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ขวัญเข้าใจ ขวัญไปก่อนนะครับ"
"โชคดีลูก"
ทั้งสามแยกออกมาจากบ้านหลังนั้นก่อน อัศวินคิดว่าจะจองตั๋วกลับเย็นนี้เลยดีไหม แต่ก็ตามใจคนรัก ให้จอมขวัญเป็นคนตัดสิน
"เหนื่อยจัง" จอมขวัญอยากจะล้มตัวลงนอนที่เตียงเสียเดี๋ยวนี้ ติดอยู่ที่ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนรถ
"นอนมาสิลูก แล้วนี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" โสภณเอ่ยกับคนข้างๆ
"ไม่เลยครับ พี่วินกันเอาไว้ได้ทันตลอด" จอมขวัญซบลงกับบ่าคนเป็นพ่อ
"คุณพัชรินทร์นี่จะจองล้างกันอีกนานไหมพี่ แล้วคุณอนุสรณ์นี่ดีจริงเหมือนที่ทำหรือเปล่า หรือเสแสร้ง" อัศวินถาม กำลังขับรถกลับโรงแรม
"พี่ก็ไม่รู้เลย แต่คุณอนุสรณ์น่ะเขาเป็นคนเฉยๆนะ ออกจะตามเมียด้วยซ้ำจึงห้ามอะไรไม่ค่อยจะได้อย่างที่เห็น" อนุสรณ์แอบรักพัชรินทร์มาตั้งแต่ที่เธอคบกับพี่ชายแล้ว พอนายห้างแต่งงานกับแม่จอมขวัญ พัชรินทร์จึงไม่มีทางเลือกต้องยอมแต่งกับอนุสรณ์ไปโดยปริยาย
"หิวกันหรือยังครับ จะเที่ยงแล้ว" อัศวินถาม
"พี่นิดหน่อย ขวัญล่ะลูก" โสภณหันไปถามคนที่ตาจะปิด
"อืออ ครับ แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนนะ" จอมขวัญตอบเสียงงัวเงีย ตอนนี้เขาเหนื่อยเหลือเกิน อยากจะพักให้มันหายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่
..........
จอมขวัญตัดสินใจกลับลำปางในรุ่งเช้าของอีกวัน น้อยมารับพวกเขาจากสนามบินไปยังบ้านของอัศวินก่อน โสภณเองคงต้องกลับไปหาวินัยเลยเพราะคนทางนั้นก็บ่นคิดถึงกันจะแย่ ใช่มันคนเดียวเสียที่ไหนล่ะ เขาเองก็คิดถึงไม่ต่าง
"พ่อต้องกลับแล้ว ว่างๆจะมาหาใหม่นะลูก" โสภณกอดลูกชายตัวเล็ก ไม่อยากจะห่างลูก แต่ต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ที่แตกต่างกันต้องทำ
"ฝากบอกคิดถึงพี่วินัยด้วยนะจ๊ะพ่อจ๋า" จอมขวัญกอดพ่อแน่น
"ได้ลูก พ่อไปละ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ" โสภณหอมหน้าผากนิ่มเบาๆก่อนผละออก
"สวัสดีครับ" จอมขวัญกอดพ่ออ้อนๆอีกคราก่อนจาก
อัศวินประคองคนรักเข้าบ้าน จบสักทีสินะเรื่องราวเลวร้าย
"ขวัญลูก" อำพรรีบเข้ามากอดลูกสะใภ้อย่างอุ่นใจ เธอเองติดต่อลูกชายอยู่ตลอด เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตรายกับพวกเขา
"เหนื่อยสินะ หน้าตาน้องดูเพลียๆ" อำพรลูบหน้าลูบตาจอมขวัญ ให้เด็กน้อยนั่งบนโซฟาแล้วไล่เด็กรับใช้ไปเอาน้ำมาให้
"ยังไม่ค่อยได้พักเลยครับ เมื่อครู่ลงรถมาก็อาเจียนไปรอบ" เป็นเพราะเพิ่งจะลงเครื่องที่เชียงใหม่ แล้วยังต้องนั่งรถกลับมาลำปางอีก
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวแม่ให้ลำดวนต้มซุปไก่ขึ้นไปให้ พาน้องขึ้นไปพักผ่อนเถอะลูก" อำพรอยากถามไถ่เรื่องราว แต่ก็ต้องรอให้จอมขวัญสบายดีเสียก่อน คนท้อง แค่เดินทางนิดหน่อยก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแล้ว
อัศวินประคองจอมขวัญขึ้นมาบนห้อง เขาเปิดแอร์ เปิดม่าน ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
"ล้างหน้าเสียหน่อย ทานซุปเสร็จก็นอนพักซะ" ลูบหัวคนตัวเล็กพลางถอดเสื้อเชิ้ตของตนไปด้วย
"มาครับขวัญช่วย" จอมขวัญพยักหน้าก่อนเอ่ย
อัศวินยกยิ้ม ค่อยๆก้มลงมาให้ภรรยาถอดกระดุมเสื้อให้ทีละเม็ด
"เสร็จแล้วครับ" จอมขวัญยิ้ม หน้าที่นี้คุณแม่ท่านบอกว่าเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ดี ตอนนี้ขวัญเองก็ถือเป็นภรรยาของคุณอัศวินแล้ว เรื่องแค่นี้จอมขวัญทำได้
อัศวินยังคงก้มมองคนตัวเล็กอยู่แบบนั้น ก่อนจะก้มลงไปจุ๊บปากคนตรงหน้าเบาๆก่อนผละออก
จอมขวัญหน้าแดงซ่าน ทำตาโต
"เมียเด็กของพี่ นับวันยิ่งน่ารัก" อัศวินยังคงก้มมองแบบนั้น นิ้วมือสากลูบแก้มเนียนของจอมขวัญอย่างทะนุถนอม
"ใครกันเมียเด็ก!" จอมขวัญหน้างอ ทำไมต้องเมียเด็ก
"น่ารักดี ก็เราเด็กกว่าพี่กี่ปีล่ะหืม" โยกหัวเล็กโคลงไปมาจนถูกฟาดเข้าที่แขน
"จะถอดเสื้อผ้าก็ไปเถอะครับ ขวัญจะไปล้างหน้า" จอมขวัญดันคนตัวโตออกห่าง "พี่วิน!"
อุทานทันทีที่ฝ่ายอุ้มตนขึ้นในท่าเจ้าสาว
ก๊อก ก๊อก
"ว้าย! ลำดวนขอโทษค่ะ" สาวใช้ทำท่าตกใจตอนที่เปิดเข้ามาอย่างพลการ
จะไปรู้เหรอว่าเขากำลังสวีทกันน่ะ
"เปิดมาแล้วก็เอาวางไว้บนโต๊ะเถอะ แล้วก็ออกไป" อัศวินอารมณ์ดี ยิ่งเห็นแก้มเนียนแดงปลั่งเหมือนมะเขือเทศสุกยิ่งชอบใจ
"พี่วิน! ทำอะไรครับ!" จอมขวัญโวยวาย ถ้าเกิดว่าหล่นขึ้นมาจะทำอย่างไรล่ะ
"พี่ก็จะพาเราไปล้างหน้าไงครับ"
"แต่ขวัญเดินเองได้ ไม่เอานะแบบนี้กลัวร่วง" จอมขวัญกอดคอคนพี่แน่น
อัศวินแกล้งจุ๊บแก้มก่อนจะวางคนรักให้นั่งบนอ่างล้างหน้า
"กลัวอะไรหืม" คนตัวโตยังแกล้งสอดแขนกอดคนที่นั่งอยู่ กระซิบเบาๆใกล้ริมฝีปาก
"กลัวตกสิครับ ถามได้" จอมขวัญยู่ปาก อัศวินมองว่าจอมขวัญน่ารัก ยิ่งอยู่ด้วยก็ยิ่งไม่อยากกลับเกาะเลยให้ตาย
"หึ พี่ไม่ทำเราร่วงหรอกน่า" อัศวินบีบแก้มนิ่มเบาๆ "อย่างอแงเลยนะ ตื่นมาจะให้เล่นกับลิขิต"
"จริงๆนะครับ" จอมขวัญดีใจ เจ้าลิขิตถูกเนรเทศไปอยู่ด้านล่าง ให้ลำดวนเลี้ยง ป่านนี้คงจะอ้วนท้วนสมบูรณ์แล้วกระมัง อยู่ท้ายครัวขนาดนั้น
"จริงสิครับ มา ล้างหน้าซะ นอนพักผ่อน ตื่นมาจะได้สดชื่น" อัศวินยอมปล่อยคนตรงหน้า เขาไม่แกล้งคนรักแล้ว เดี๋ยวก็งอนตุ๊บป่อง ง้อเท่าไหร่ก็ไม่หายอีก
..........
สองวันต่อมาแทนที่อัศวินจะได้อยู่กับคนรักแบบที่ไม่มีห่วงติดตัว แต่ก็กลับมีสายจากลุงชัยโทรมาเรื่องลูกค้ารายใหญ่ไม่พอใจในมุกล็อตล่าสุดที่ฟาร์มเขาส่งไป อัศวินเริ่มจะปวดหัว ปกติเขาต้องคอยควบคุมการผลิตรวมถึงการตรวจสอบก่อนจะส่งออก แค่มาอยู่ลำปางได้ไม่กี่เดือน สินค้าก็ดันมีปัญหาเสียแล้ว ไว้วางใจอะไรไม่ได้เลย
"ปัดโธ่เว้ย!" อัศวินแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง ไม่ใช่เพราะกังวลใจเรื่องที่เกาะ แต่กระวนกระวายเรื่องที่จะไม่ได้อยู่กับเมียมากกว่า
"อะไรกันครับ" จอมขวัญที่เพิ่งแปรงฟันล้างหน้าเสร็จเดินออกมา เช้าๆแบบนี้ ทำไมถึงได้หน้ามุ่ยแต่เช้า
"ที่เกาะมุกมีปัญหา ถ้าพี่ไม่กลับไปเรื่องก็ไม่จบ" อัศวินคลึงขมับตนเอง เขาอยากจะอยู่ที่นี่อีกสักนิด หรือไม่ก็กลับไปแบบที่ไม่ต้องมีปัญหา
"อื้ออ" จอมขวัญเดินมาทิ้งตัวบนตักกว้าง สองมือโอบรอบคอหนา อัศวินรีบโอบกอดคนรักไว้อย่างรักใคร่ "อย่าคิดมากสิครับ เดี๋ยวพี่ก็แก้ได้ ขวัญเชื่อ" เอ่ยออกไปเพื่อเป็นกำลังใจให้คนตัวโตกว่า
"ใครว่าพี่เครียดเรื่องนั้นล่ะครับ" อัศวินคลอเคลียแก้มใส "พี่เครียดเรื่องที่จะไม่ได้อยู่กับเราต่างหาก ห่างขวัญ ห่างลูก พี่ต้องลงแดงตายแน่ๆ"
จอมขวัญส่ายหัวให้กับคนที่ทำตัวเป็นเด็กๆ
"ก็รีบไปรีบมาสิครับ" จ้องตาคนตรงหน้าก่อนจะโดนจุ๊บนริมฝีปากเบาๆกลับ
"ไปอยู่ด้วยกันไหม เราคลอดตัวเมืองสุราษฎร์ก็ได้ ไม่เห็นต้องอยู่ลำปางเลย" อัศวินอ้อน อยากให้เมียไปอยู่ด้วยกันที่โน่น
"แต่ว่า .. พ่อล่ะครับ ขวัญอยากอยู่ใกล้ๆพ่อนะ" จอมขวัญอยากอยู่ที่นี่ก็เพราะว่าพ่อ
"แล้วพี่ล่ะ .. พี่ไม่สำคัญใช่ไหม" อัศวินงอน งอนจริงๆไม่ได้เสแสร้ง
"พี่วินครับบบ" จอมขวัญเอนตัวลงซบอกกว้าง "พี่วินก็สำคัญ .. แต่ว่า"
"แต่พ่อสำคัญกว่าและขวัญก็จะยอมอยู่ห่างพี่แบบนี้ไปตลอด" อัศวินเอ่ยแทนทั้งหมด เสียงยังคงติดงอน ประชดประชันกันให้ได้เรื่อง
"ขวัญเองก็อยากอยู่กับพี่วินครับ" จอมขวัญส่ายหน้าอ้อนเป็นลูกแมว "แต่ขอเวลาหน่อยได้ไหม"
ตอนนี้จอมขวัญแค่อยากอยู่กับพ่อให้นานๆ ถ้าถึงวันหนึ่งที่อะไรลงตัวแล้ว เขาเองก็อยากไปอยู่ให้กำลังใจคนที่ขึ้นชื่อว่าสามี
..........
อัศวินกลับไปที่เกาะได้หลายวันแล้ว จอมขวัญเองตอนนี้เขาก็เริ่มเหงา ปกติมีคนคอยประคบประหงมเอาใจจนชิน พอคนคนนั้นไม่อยู่ เขาเองก็แอบใจหาย
เหมียวว
เสียงเจ้าแมวตัวเล็กร้องอยู่ข้างๆ จอมขวัญอุ้มเจ้าลิขิตขึ้นมาก่อนจะกอดแน่นให้หายคิดถึง
"ขวัญเหงาจังเลยลิขิต" จอมขวัญบ่นกับเจ้าแมวที่กำลังครางหงิง ชอบให้มนุษย์ลูบท้องเอาใจ
เหมียวว
เหมือนเจ้าลิขิตจะรู้ มันคลอเคลียเอาใจ ไม่ให้จอมขวัญเครียด
"ลูกๆช่วงนี้ก็ไม่ค่อยเล่นด้วยเลย น่าเบื่อจัง" บ่นถึงลูกๆที่พอคุณพ่อไม่อยู่ก็ไม่ดื้อไม่ซนเหมือนเคย
"เมื่อไหร่จะถึงกำหนดคลอดนะ ขวัญอยากเห็นลูกๆทั้งสองคนแล้ว" จอมขวัญลูบท้องที่มีขนาดเริ่มใหญ่เกือบเท่าลูกแตงโม เจ้าเด็กสองคนจะสบายดีไหมนะ
Rrrrrrrrrrrr
กำลังคิดอะไรเพลินๆ โทรศัพท์ก็มีสายเข้า
"ครับ" แอบยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อพี่เขาโทรมาหา
( จะนอนหรือยังเด็กดื้อ ) อัศวินเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ วันนี้ทั้งวันเขาอยู่คุมคนงานทำโอทีชดเชยให้กับสินค้าล็อตแรกที่นำมาคืน
"ครับ เตรียมสวดมนต์แล้ว" จอมขวัญว่า
( วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ขอฟังเสียงเมียให้ชื่นใจ ) อัศวินรัวจูบใส่โทรศัพท์ เสียงจุ๊บน่าอายนั่นทำให้จอมขวัญหน้าแดงก่ำ
คนบ้านี่ ชอบทำอะไรให้เขินอายอยู่เรื่อย
( คิดถึงเมียเด็กของพี่จัง คิดถึงลูกชายทั้งสองของพ่อด้วยนะครับ ) เพียงแค่อัศวินเอ่ย
ลูกๆก็เหมือนจะรับรู้ความรู้สึก
"พี่ครับ ลูกดิ้นแล้ว" จอมขวัญยิ้มหวาน "ลูกคงอยากบอกว่าคิดถึงคุณพ่อเหมือนกันนะครับ"
คนที่ได้ฟังหัวใจพองโตเหมือนจะระเบิด
( โอย คิดถึงเมียกับลูกโว้ยยยย อยู่คนเดียวมันเหงา เข้าใจหรือเปล่าาา ) อัศวินครวญครางผ่านสาย จอมขวัญหลุดหัวเราะเสียงดังลั่นด้วยความชื่นใจ
"รีบทำงานให้เสร็จสิครับ ขวัญกับลูกรอพี่อยู่นะ" จอมขวัญเกาคางให้เจ้าลิขิตไป เขินหน้าแดงไป พูดเองก็เขินเอง
"อาทิตย์หน้าที่รัก สัญญาเลย ทนคิดถึงเราไม่ไหวแล้ว พี่จะลงแดงตาย" อัศวินอ้อนผ่านสาย
"ครับ สัญญาแล้วทำให้ได้นะ ไม่งั้นมีงอนแน่" จอมขวัญเองก็รออีกคนไม่แพ้กัน
"ครับที่รัก พี่ไม่พูดปดหรอก คิดถึงจนอยากจะบินไปเสียตอนนี้เลยล่ะ" อัศวินล้มตัวลงกอดหมอนข้าง หอมหมอนข้างพลางคิดว่าเป็นหน้าเมียหลายๆฟอด
"ขวัญก็เหมือนกันครับ" จอมขวัญเอ่ย "รีบๆมานะ ขวัญคิดถึงพี่ครับ"
ทุกๆวันของพวกเขาในตอนนี้ล้วนมีแต่กันและกัน พอขาดใครคนใดคนหนึ่งไป อีกคนก็จะคิดถึงคนที่เคยอยู่ข้างกาย คนที่เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมฝ่าฟัน จอมขวัญในตอนนี้ไร้ซึ่งความทุกข์ ละทิ้งซึ่งความเจ็บปวด เขาขอแค่มีความสุขในสิ่งที่มันควรเป็นไป เท่านั้นก็เพียงพอ
"พี่รักขวัญมากนะครับ"
"ครับ ขวัญก็เหมือนกัน"
TBC.
Talk: อีกประมาณสองตอนจบค่ะ คิดถึงทุกคนแย่เลย ;-;