Sex Toy 16
แก๊ปกลับมาบ้านด้วยอารมณ์หม่นหมอง อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายรู้สึกปวดหนึบแปลกๆหลังจากที่ถูกอีกคนหันหลังให้แล้วไปกับผู้หญิง แม่ง...ทำไมเขาต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ ไอ้พี่มาร์คมันจะไปไหนกับใครอะไรยังไงมันก็เรื่องของมันสิ ไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย
“พ่อหวัดดี” แก๊ปยกมือไหว้ผู้เป็นพ่อที่กำลังซ่อมรถอยู่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้าบ้านไปด้วยสภาพเหม่อลอยจนผู้เป็นพ่อทำหน้างุนงง เป็นอะไรของมันวะ?
“เฮ้อ!” แก๊ปถอนหายใจออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงที่นอนของตัวเอง มือบางยกขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างใช้ความคิด ในหัวเต็มไปด้วยภาพของอีกคนตีกันจนยุ่งเหยิงไปหมดก่อนที่คำถามของอีกคนจะลอยเข้ามาในหัว
‘มึงชอบกูใช่มั้ยไอ้แก๊ป’ แก๊ปสะบัดหัวตัวเองไปมาทันทีแต่ไม่วายก็กลับมาคิดถึงคำถามของอีกคนอีกจนได้
‘มึงชอบกูใช่มั้ยไอ้แก๊ป’
“หรือกูจะชอบพี่มันจริงๆวะ...” แก๊ปพึมพำออกมาก่อนที่อวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายจะเต้นรัวจนแก๊ปต้องเอามือไปทาบทับไว้ ให้ตายสิ...เต้นแรงขนาดนี้กูคงไม่ต้องหาคำตอบแล้วมั้ง ไอ้เชี่ย!...ทางด้านของมาร์ค...ที่มาร์คต้องออกมากับชมพู่ก็เพราะว่ามีนัดกับที่บ้าน ชมพู่เป็นผู้หญิงที่แม่เขาแนะนำให้มา คุมถุงชนเหรอ? ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกแต่เพราะเขายังหาแฟนเป็นตัวเป็นตนไม่ได้สักที แม่เลยจัดให้เสียเลย ถามว่าชมพู่โอเคมั้ย? ก็สวย หุ่นดี มีการศึกษาครบครันนั่นแหละแต่ก็คิดอะไรด้วยไม่ลงหรอก ในเมื่อในหัวของเขามีแต่ภาพไอ้เด็กนั่นอยู่เต็มไปหมด มาร์คยังอดหัวเราะตัวเองเบาๆไม่ได้เลยที่เป็นเอามากขนาด ทั้งๆที่ตอนแรกแค่คิดว่าสนใจและชอบแกล้งมัน ไปๆมาๆโดยมันแกล้งกลับให้ตกหลุมรักเสียนี่ รักงั้นเหรอ? เผลอพูดไปแล้วแฮะ หึๆ
“พี่มาร์คกินนี่สิคะอร่อยมากเลย” ชมพู่ว่าพร้อมกับตักอาหารใส่จานของมาร์คซึ่งวันนี้ชมพู่เป็นฝ่ายมากินข้าวที่บ้านของมาร์ค ซึ่งนานๆครั้งมาร์คถึงจะเข้าบ้านใหญ่ที ไม่ใช่ว่ามีปัญหากับพ่อแม่หรือครอบครัวไม่อบอุ่นเหมือนละครหลังข่าวนะ เพียงแต่ที่เขาอยู่มันใกล้มหาวิทยาลัยสะดวกต่อการไปเรียนมากกว่าก็เท่านั้น แต่เขาก็โทรคุยกับพ่อแม่ตลอด บางวันหยุดก็พาคุณนายแม่ไปช็อปปิ้งบ้างตามประสาลูกคนเล็กสุดที่รักอะไรทำนองนั้น มาร์คมีพี่ชายที่แก่กว่าตัวเอง3ปี ซึ่งตอนนี้พี่เมฆก็ช่วยงานบริษัทของพ่ออยู่ ซึ่งเป็นบริษัทเกี่ยวกับวิศวกรรมแบบที่มาร์คเรียนมานั่นแหละ บอกได้เลยว่าทั้งบ้านของเขามีแต่วิศวกรทั้งนั้น
“หนูชมพู่นี่น่ารักและอัธยาศัยดีจังเลยนะจ๊ะ มาร์คว่างั้นมั้ยลูก” แม่ของมาร์คถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นว่าลูกชายก็ไม่มีทีท่าปฏิเสธอะไรหญิงสาว แปลว่าคนนี้คงถูกใจ
“ครับ น้องชมพู่น่ารักดี” ชมพู่หน้าขึ้นสีทันทีที่ถูกชมต่อหน้าต่อตาแบบนี้
“หึๆ สงสัยแม่คงได้ยินข่าวดีเร็วๆนี้แล้วมั้ง” ผู้เป็นแม่ว่าอย่างแซวๆ
“ครับ เร็วๆนี้แน่” มาร์คว่าต่อ ซึ่งก็ทำให้ชมพู่เขินหนักยิ่งไปใหญ่ ไม่คิดว่ารู้จักกันไม่กี่วันแบบนี้อีกคนจะถูกใจเธอถึงขนาดนี้ ซึ่งเธอเองก็ถูกใจร่างสูงไม่ใช่น้อย แหงแหละ...หล่อ รวย เรียนดี มีชาติตระกูลแบบนี้
“แหมตามาร์คก็ พูดอะไรตรงๆต่อหน้าหนูชมพู่แบบนี้กันล่ะ น้องเขินหมดแล้ว”มาร์คเลิกคิ้วกับคำพูดของผู้เป็นแม่ก่อนจะยกยิ้ม
“ผมไม่ได้หมายถึงน้องชมพู่นี่ครับ”
แกร๊ง
ชมพู่ทำช้อนล่วงกระทบจานทันที
“เอ่อ...ขอโทษค่ะ”
“พูดอะไรกันตามาร์ค” ผู้เป็นแม่เอ็ดขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเริ่มหน้าเสีย
“น้องชมพู่น่ารัก ถูกใจผมครับแม่ แต่ผมมีคนที่ชอบอยู่แล้ว เอาไปว่าเรื่องหาแฟนเนี่ย ผมหาเองดีกว่าไม่รบกวนแม่ละกันนะครับ” มาร์คว่าด้วยรอยยิ้ม ผู้เป็นแม่และชมพู่ทำหน้าเหวอทันที ต่างจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายที่หัวเราะเบาๆออกมา เพราะรู้นิสัยมาร์คดีว่าคงไม่ยอมให้แม่มาจับคู่ให้ง่ายๆหรอก
“ให้ตายสิ เสียมารยาทที่สุด ทำไมพูดแบบนี้กันนะตามาร์ค” ผู้เป็นแม่ว่าอย่างไม่ค่อยพอใจ
“เอ่อ...ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้า ถ้าพี่มาร์คยืนยันแบบนั้น ชมพู่ก็คงพูดอะไรต่อไม่ได้” ชมพู่ว่าเสียงเศร้าก่อนจะหันไปมองหน้ามาร์ค
“แต่ชมพู่อยากรู้ค่ะ ว่าชมพู่ด้อยกว่าคนที่พี่มาร์คชอบเหรอคะ? พี่มาร์คเลยเทใจมาให้ชมพู่ไม่ได้” ชมพูถามขึ้น มาร์คยิ้มรับก่อนจะตอบออกมา
“เปล่าครับเพียงแค่...” มาร์คเว้นวรรค
“...คนที่พี่ชอบเป็นผู้ชาย”...หลังจากที่ทำผู้เป็นแม่แทบหัวใจวายไปแล้วมาร์คก็ขอตัวทันที ถามว่ามาร์คไม่กลัวเหรอที่พูดไปตรงๆแบบนั้น อย่างที่บอกครอบครัวของเขาไม่ใช่ครอบครัวเหมือนละครหลังข่าวหรือนิยายน้ำเน่าที่พ่อกับแม่จะรับไม่ได้ อีกทั้งก่อนออกมาพ่อกับพี่ชายยังยกนิ้วให้เขาในความกล้าที่พูดออกมาตรงๆแบบนี้แม้ว่าคุณนายของบ้านจะแทบลมจับก็ตาม หลังจากที่ออกมาจากบ้านมาร์คก็ขับรถมายังบ้านของแก๊ปทันที ทั้งๆที่ยังรู้สึกงอนๆมันเหมือนกันที่วันนั้นไม่ยอมตอบออกมาว่าชอบเขาหรอกเปล่า ความจริงก็พอดูออกแหละว่ามันชอบเขา แต่ท่าทางซื่อๆบื้อๆแบบมันถ้าไม่ถามกระตุ้นคงไม่มีทางรู้ตัวรู้ใจหรอก แต่วันนี้พอมันเข้ามาทักแล้วชวนไปกินข้าว อารมณ์น้อยอกน้อยใจก็หายไปทันที อีกอย่างยังรู้สึกดีนิดๆที่ทำมันหน้าเศร้าตอนที่เห็นเขามากับชมพู่ หึๆ แล้วยังปฏิเสธอีกว่าไม่ได้ชอบ
“สวัสดีครับพ่อ” มาร์คยกมือไหว้พ่อแก๊ปซึ่งก็เริ่มคุ้นเคยกันดีเพราะมาร์คมาบ้านแก๊ปอยู่หลายครั้ง
“เอ้า...รุ่นพี่เจ้าแก๊ปนี่ เจ้าแก๊ปยู่ในห้องน่ะ ไม่รู้เป็นอะไรหน้าหงิกหน้างอตั้งแต่กลับมา” มาร์คพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มก่อนจะขออนุญาตเข้ามาในบ้านแล้วเดินมายังห้องนอนของอีกคนทันที
แอดดดด
“ยังไม่หิวข้าว พ่อกินไปก่อนเลย” พอได้ยินเสียงเปิดประตูแก๊ปที่นอนหันหลังอยู่ก็พูดขึ้นทันทีเพราะคิดว่าพ่อคงมาตามให้ไปกินข้าว มาร์คยกยิ้มกับท่าทางของอีกคนก่อนจะเดินเข้าไปหาก่อนที่จะ...
พรึ่บ
“เฮ้ย...พี่!!” แก๊ปร้องเสียงดังก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาสวมกอดเขาคือไอ้พี่มาร์ค
“หึๆ พ่อมึงบอกว่ามึงหน้าหงิกหน้างอตั้งแต่กลับมาละ เป็นอะไรเหรอวะ?”มาร์คแกล้งถามทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าอีกคนเป็นอะไร
“เรื่องของผม แล้วพี่มาไมวะ กลับไปเลย” แก๊ปออกปากไล่ด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ถ้าไม่กลับจะทำไมวะ” มาร์คลอยหน้าลอยตาตอบก่อนจะเนียนนอนกอดเอวอีกคนต่อ แก๊ปรีบแกะมืออีกคนออกแล้วลุกขึ้นนั่งมองอีกคนด้วยความไม่พอใจทันที
“แล้วทำไมถึงไม่กลับวะ ผู้หญิงของพี่เขาไม่รออยู่หรือไง เฮอะ!” แก๊ปว่าออกมาตามอารมณ์ ก่อนจะชะงักเมื่อคิดได้ว่าเผลอพูดอะไรออกไป มาร์คหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่งประชันหน้ากับอีกคน
“หึงหรือไง” มาร์คเลิกคิ้วถาม แก๊ปเงียบพร้อมกัดปาก มาร์คกระตุกยิ้มอีกครั้งก่อนจะใช้นิ้วสัมผัสที่ปากบางเบาๆ
“โอ๊ย! กัดกูไมเนี่ย” มาร์คร้องออกมาเมื่ออยู่ๆแก๊ปก็กัดนิ้วเขา
“หมั่นไส้มีไรมะ!” แก๊ปตอบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง เคืองอีกคนที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของเขา
“หึๆ เป็นหมาหรือไงวะ” มาร์คล้ออย่างขำๆ
“เออ เป็นทั้งหมาทั้งคนขายตัวแหละ พี่อยากคิดยังไงก็คิดเถอะ” แก๊ปว่าอย่างประชดประชันด้วยใบหน้าบึ้งตึง มาร์คหัวเราะเบาๆกับท่าทางของอีกคน
“แล้วเมื่อไหร่จะเลิกขายตัววะ?” มาร์คยังคงแกล้งอีกคนต่อ
“ไม่เลิก เงินดีจะตาย” แก๊ปประชดกลับต่อ ก่อนจะอดด่าตัวเองในใจไม่ได้ว่าประชดเชี่ยอะไรไปวะเนี่ย ยิ่งประชดตัวเองก็ยิ่งเป็นฝ่ายเสีย อีกคนก็แม่งเอาแต่หัวเราะสนุกมากหรือไงแกล้งกูเนี่ย!
“งั้น....ขายตัวได้เงินเท่าไหร่ กูจ้างสองเท่าให้มึงมาเป็นเมียกู!” มาร์คว่าออกมา
“สามเท่าได้มั้ย สองเท่ามัน...เอ๊ย เดี๋ยวนะ” แก๊ปชะงักทันทีก่อนจะมองอีกคนตาโต เมื่อกี้ไอ้พี่มาร์คมันพูดว่าอะไรนะ? ประชดไปประชดมาชักติดลม ขอประมวนผลในสมองแปบ
“หึๆ ว่าไง ขายตัวได้เงินเท่าไหร่ กูจ้างสองเท่าให้มึงมาเป็นเมียกู” มาร์คว่าออกมาก่อนจะมองหน้าแก๊ปด้วยใบหน้าจริงจัง ตาคมสบเข้าที่ตากลมอย่างสื่อความหมายจนแก๊ปรู้สึกหวั่นไหวในอกไม่ใช่น้อย
“อะ…ไอ้บ้า” แก๊ปว่าก่อนจะรีบลุกหนีทันทีแต่มีหรือที่มาร์คจะยอมปล่อยไปมือหนาเกี่ยวเอวบางให้ล้มลงมานั่งที่หน้าตักก่อนจะกอดเอวบางแน่นไม่ทันให้แก๊ปได้ดิ้นหนี
“ปะ...ปล่อยผมนะเว้ย” แก๊ปว่าเสียงสั่น
“หึๆ ปล่อยได้ไง มึงยังไม่ได้ให้คำตอบกูเลย” แก๊ปกัดปากด้วยใบหน้าแดงก่ำอวัยวะในหน้าอกด้านซ้ายยังคงเต้นแรงไม่ลดละ
“พี่หมายความว่าไงวะ...จะแกล้งอะไรผมอีก ไม่สนุกนะเว้ย” แก๊ปถามขึ้นด้วยน้ำเสียงติดไม่มั่นใจ
“ถ้าครั้งนี้จริงจัง ไม่เล่นล่ะ” มาร์คว่าก่อนจะจับอีกคนให้หันหน้ามาสบตา แก๊ปก้มหน้าหลบสายตาคมอย่างเขินอายจนมาร์คต้องเชยคางอีกคนให้เงยขึ้นมา
“ที่กูถามมึงวันนั้นมึงยังยืนยันคำตอบเดิมเหรอวะ?” มาร์คถามขึ้น แก๊ปกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่กล้าพูดออกมา ใช่...วันนั้นเขาบอกว่าไม่ชอบแต่ความจริงแล้ว...ไม่ๆ เขาต้องไม่ใช่ฝ่ายพูดก่อนดิ มันไม่เท่นะเว้ย!
“แล้วพี่ล่ะ พี่พูดมาก่อนดิ” แก๊ปแย้งขึ้น
“พูดอะไร?” มาร์คเลิกคิ้ว แก๊ปกัดปาก
“ก็พูด...คำตอบในคำถามที่พี่เคยถามผมไง” มาร์คยกยิ้มมุมปาก
“มึงตอบก่อนไม่ได้หรือไง กูถามมึงก่อนนะ” แก๊ปหน้างอกับคำพูดของอีกคน
“ได้ไงวะ ให้ผมบอกว่าชอบพี่ก่อนมันก็ไม่เท่ดิ เอ๊ย!” แก๊ปสะดุ้งออกมาทันทีที่เผลอหลุดปากพูดออกไป มาร์คหัวเราะร่าทันทีทำเอาแก๊ปหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายทันที
“ปล่อยผมเลยนะเว้ย แม่งๆๆ” แก๊ปว่าด้วยน้ำเสียงงอแงพร้อมดิ้นไปมาบนหน้าตักอีกคน
“ฮ่าๆๆ อะไรของมึงวะ หลุดพูดออกมาเองนะเว้ย”
“ก็พี่แม่ง...แม่งชอบแกล้งผมอ่ะ แม่งๆๆๆ” แก๊ปยังคงหน้างอไม่ลดละ
“หึๆ โอเคไม่แกล้งมึงละ อย่าพึ่งงอแงดิวะ” มาร์คว่าอย่างจำยอมพร้อมจับเอวบางไว้ให้อีกคนเลิกดิ้น แหงสิ...ดิ้นไปดิ้นมาอะไรๆเขาก็ตื่นหมด จากฉากหวานๆจะกลายเป็นฉากเรทเข้าเอานะ
“ฮึ่ย์ พี่ก็พูดออกมามั่งดิ แม่งเอาเปรียบผมชิบหาย” แก๊ปว่าออกมาพร้อมกับหัวใจที่ยังคงเต้นแรงไม่ลดละ แม่งทั้งๆที่จะให้ไอ้พี่มาร์คพูดก่อนแท้ๆแต่กลับโง่พูดไปก่อน ทั้งเขิน ทั้งอับอายชิบหาย
“โอเคๆ พูดละ...” มาร์คเว้นวรรคก่อนจะมองหน้าแก๊ปอย่างจริงจัง
“...กูชอบมึง คบกันนะ”
ความฟินไม่มีเอาความฮาไปแทนนะคะ 555555 เรื่องนี้เป็นนิยายแนวบ้าๆบอๆเนอะ สารภาพรักกันง่ายๆแบบนี้นี่แหละ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง 5555555
___จางบิวตี้___