พระลักษณ์
Writer :TanYung0209
File : 19
[ทศกัณฐ์ Talk]
ไร้คำพูดใดๆที่ออกจากปากของพวกเราสองคน ผมเหลือบมองคนที่นั่งร้องไห้เงียบๆ ทุกหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้นมันมีอิทธิพลที่ทำให้ผมเจ็บปวด ผมไม่อยากให้ลักษณ์ร้องไห้แต่ผมก็ต้องทำ ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัวที่อยากให้ร่างบางอยู่กับผม มองแค่ผม เพียงคนเดียว นั่นเท่ากับว่าผมจะต้องทำร้ายลักษณ์และทำร้ายหัวใจตัวเองไปด้วย ตราบใดที่ลักษณ์ยังละเมอหาไอ้ราม ผมก็จะเป็นตัวร้ายที่กักขังลักษณ์เอาไว้ให้กับตัวเอง
ทั้งที่คิดจะกักขังแต่วันนี้ผมอยากพาลักษณ์ออกมาข้างนอก มางานวันเกิดแพร ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนผมจะต้องอยู่ในงานเยอะก็ถือว่าเป็นการให้ทั้งสองฝ่ายได้รู้จักกันแต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ผิด เมื่อไอ้พายลูกพี่ลูกน้องของแพรและบุคคลที่ผมไม่กินเส้นด้วยมาเจอลักษณ์จนผมหึงหวงหน้ามืดตามัวจนเผลอด่าทำร้ายจิตใจคนรักไป พอใจเย็นก็ดูเหมือนว่าลักษณ์เขาจะไม่สนใจผมเสียแล้ว อาจจะโกรธหรือเกลียดผมไปแล้วก็ได้
"แฮ่ก...ฮึก..แฮ่ก" เสียงหอบจากคนที่นั่งใกล้ๆดังขึ้นมายิ่งในตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรผมก็ยิ่งได้ยินชัดเจน ผมหันไปมองลักษณ์ที่มือกำลังกุมหน้าอกเอาไว้ ใบหน้าสวยที่เริ่มซีดเซียวเชิดขึ้น ปากก็เผยอกอบโกยอากาศ
"ลักษณ์!!! เป็นอะไร" ผมหันไปถามก่อนจะเลี้ยวรถจอดข้างทาง
"หายใจ..ฮึก..มะ..ไม่ออก...อุบ" ลักษณ์เอ่ยแล้วอาเจียนออกมาจนเลอะเต็มเสื้อ ผมรีบตั้งสติก่อนจะขับรถเปลี่ยนเส้นทางจากที่จะกลับคอนโดเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดแทน
"ลักษณ์ หายใจลึกๆช้าๆนะ อดทนนะเดี๋ยวพี่จะพาไปโรงพยาบาล" ผมบอกกับคนป่วยที่นอนตาปรือพลางหยิบกระดาษทิชชู่ซับปากให้ลักษณ์ไปด้วย ถึงปากจะบอกให้ลักษณ์อดทนแต่ผมกลับไร้ความอดทนขึ้นมาเสียเอง
ในที่สุดก็มาถึงโรงพยาบาล ผมรีบจอดรถและอุ้มลักษณ์ที่ใกล้หลับเต็มทีเข้าไปในตัวอาคาร
"หมอ!!! ช่วยเมียผมด้วย" ผมเรียกหาหมอให้มาช่วยลักษณ์และไม่อายที่จะใช้สรรพนามเรียกคนที่อยู่ในอ้อมแขนว่า 'เมีย' ไม่นานบุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงผู้ป่วยเข้ามาผมวางลักษณ์ให้นอนลงไป จากนั้นลักษณ์ก็ถูกนำตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
'อย่าเป็นอะไรเลยนะลักษณ์' ผมนั่งทรุดอยู่หน้าประตูโดยไม่อายสายตาของคนอื่นที่จ้องมอง ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรนอกจากลักษณ์แล้ว ภาพในรถยังคงติดตา ลักษณ์ทรมานมากขนาดไหนมันถูกแสดงออกทั้งทางแววตาและท่าทาง ถึงตอนนี้ลักษณ์จะถึงมือหมอผมก็ยังไม่วางใจอยู่ดี
"คุณคะ..คุณเป็นญาติกับคุณพระลักษณ์ใช่ไหมคะ?" พยาบาลสาวเข้ามาถามผมที่กำลังนั่งเหม่อลอย
"ใช่ครับ" ผมตอบกลับไป
"คุณตามดิฉันมานะคะ พอดีว่าคุณหมอมีเรื่องจะคุยด้วย" พยาบาลเอ่ย คำว่าคุณหมอมีเรื่องจะคุยด้วยทำให้หัวใจผมกระตุกวูบแสดงว่าลักษณ์คงจะไม่เป็นไข้ธรรมดาแน่นอน
"คุณคะ ได้ยินไหมคะ?" ด้วยความที่ผมจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ทำให้พยาบาลเรียกอีกรอบผมถึงจะเดินตามหญิงสาวเพื่อไปพบคุณหมอ
"เชิญเข้าไปได้เลยค่ะ" พยาบาลหยุดที่หน้าห้องตรวจห้องหนึ่ง แล้วผายมือพร้อมพูดให้ผมเข้าไปภายในห้อง ซึ่งพอย่างก้าวเข้าไปผมก็เจอกับหมอผู้ชายอายุน่าจะห่างจากผมไม่กี่ปีนั่งดูเอกสาร
"สวัสดีครับคุณหมอ" ผมเป็นฝ่ายทักทายให้อีกฝ่ายที่นั่งดูเอกสารได้รู้ตัวว่าผมนั้นมาภึงแล้ว
"เชิญนั่งครับ" คุณหมอเอ่ย ผมก็นั่งลงตามที่หมอได้บอก คุณหมอจ้องหน้าของผมก่อนจะทำท่าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
"คุณกับคุณพระลักษณ์เป็นอะไรกันครับ?" คุณหมอถามเล่นเอาผมถึงกับเลิกคิ้วขึ้นมา ผมไม่คิดว่าหมอจะมาถามเรื่องนี้เพราะมันดูเป็นเรื่องส่วนตัวและไม่เกี่ยวกับอาการป่วยของลักษณ์เลย
"ผัวเมียครับ" ผมตอบออกไปน้ำเสียงเรียบนิ่ง
"อ่อ ครับ แล้วเรื่องบนเตียงนี่รุนแรงใช่ไหมครับ?" คุณหมอถามต่อ คราวนี้คำถามทำให้ผมอึ้งยิ่งกว่าเดิม
"นี่คุณรู้ตัวไหมว่ากำลังพูดอะไร!!!" ผมขึ้นเสียงใส่
"พวกคุณทะเลาะกันบ่อยใช่ไหม?" คุณหมอยังคงถามต่อ ท่าทางไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของผม
"ทำไมผมต้องตอบด้วย" ผมพูดน้ำเสียงติดจะไม่พอใจอีกฝ่าย
"ก็คำตอบของคุณผมจะได้รู้ว่าอาการของคนไข้ตรงกับสิ่งที่ผมคิดหรือเปล่า ยังไงก็ช่วยตอบผมด้วย" คุณหมอเอ่ย ดวงตาผ่านกรอบแว่นหนาก็มองผมไม่กระพริบ
"ครับ ตามที่คุณหมอพูด" พูดจบผมก็ทิ้งตัวนั่งเอนกายไปพิงกับพนักพิงพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมเลือกที่จะพูดความจริงออกไปเพราะนั่นเท่ากับว่าจะช่วยลักษณ์
"คนป่วยเป็นโรคเครียดและกำลังจะเข้าสู่ภาวะโรคซึมเศร้า" คุณหมอเอ่ย มือก็ขยับแว่นแล้วจ้องมองผมไม่วางตาราวกับผมเป็นคนร้ายทำคดีร้ายแรงแต่จะว่าไปผมว่าผมก็เลวไม่ต่างจากคนร้ายฆ่าคนหรอกครับ
"จากร่องรอยตามตัวและก็อาการหายใจติดขัดของผู้ป่วยที่เกิดจากความเครียดทำให้ผมคิดว่าคุณคงจะปฏิบัติตัวกับคนป่วยไม่ดีสักเท่าไหร่ ดังนั้นผมขอให้คุณปรับพฤติกรรมหรือทำยังไงก็ได้ให้ผู้ป่วยสบายใจมากที่สุด คุณทำได้ไหม?" พอผมเงียบไม่พูดอะไร หมอก็ร่ายคำพูดออกมายาวเหยียดแล้วไอ้แต่ละประโยคก็ตรงตามที่หมอพูดเสียด้วยแถมยังปิดท้ายให้ผมทำดีกับลักษณ์อีก
"ว่าไงครับ?" หมอถามย้ำ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ดูเหมือนจะคาดคั้นให้ผมรีบตอบ
"ครับ ผมจะพยายามทำให้เขาสบายใจที่สุด" ผมตอบ
"ดีครับ ถ้าคืนนี้ผู้ป่วยไม่มีไข้หรืออาการอะไรพรุ่งนี้เช้าก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วครับแล้วก็หมอจะจ่ายยาให้ซึ่งหมอขอบอกเลยว่ายามันรักษาแค่ภายนอกเท่านั้น ถ้าจะรักษาจิตใจคุณจะต้องรักษาคนรักของคุณเอง" คุณหมอพูดกับผม จากคำพูดเหมือนหมอจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผมกับลักษณ์
"คุณกำลังสงสัยว่าหมอใช่ไหม?...หมอก็เคยเป็นฝ่ายเจ็บเหมือนกับคนรักของคุณแต่ยังดีที่สุดท้ายคนรักหมอก็ทำดีกับหมอ" หมอหนุ่มบอกกับผมพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้องไป ผมเองก็เดินตามหลังเช่นกัน
"คีร์ เหนื่อยไหม?" ผู้ชายร่างใหญ่ หน้าตาดีและน่าเกรงขามพูดกับหมอที่ออกจากห้อง
"นิดหน่อยครับป๋าวิน" คุณหมอยิ้มให้ชายคนนั้นแล้วพากันเดินออกไป แวบหนึ่งผมเห็นหมอหันหน้ามายิ้มแล้วยักคิ้วส่งสายตาให้ผมเหมือนกับให้ผมรับรู้ว่าผู้ชายคนนี้ก็คือคนที่หมอพูดถึง ผมมองทั้งคู่จนสุดสายตาท่าทางพวกเขาจะรักกันมากจนผมอิจฉา ผมกับลักษณ์ยังจะมีโอกาสที่จะรักกันแบบนี้ไหม? ในเมื่อผมทำเลวใส่มากมายจนลักษณ์ต้องร้องไห้และเข้าโรงพยาบาลแบบนี้แต่ก่อนที่ผมจะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ผมก็นึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการไปหาลักษณ์
"ลักษณ์..."
ตอนนี้ผมยืนมองร่างโปร่งที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงท่ามกลางไฟสลัวจากด้านนอกที่ส่องเข้ามา มือข้างหนึ่งของลักษณ์มีสายพลาสติกสีใสเชื่อมโยงกับถุงน้ำเกลือ ผมเข้าไปจับปลายนิ้วสวยอย่างเบามือราวกับว่านี่คือแก้วชั้นดีที่สวยและเปราะบาง
ผมเดินอ้อมไปอีกด้านของเตียงก่อนจะขยับตัวของคนที่หลับตาพริ้มเล็กน้อย จากนั้นผมก็แทรกตัวไปนอนยังที่ว่างที่พอจะมีอยู่บ้าง ผมสอดแขนเข้าไปใต้ศีรษะให้ลักษณ์ได้นอนหนุน แขนที่ว่างอีกข้างก็รั้งกอดเอวบางเอาไว้ ผมนี่เห็นแก่ตัวจริงๆขนาดลักษณ์ป่วยแทนที่จะปล่อยให้พักผ่อนผมกลับมานอนเบียดนอนกอด
"อื้อ" เสียงครางอือดังลอดออกมาจากลำคอของคนนอนหลับ ก่อนที่จะขยับเข้ามาซุกอกกว้างของผม ผมยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วจุมพิตที่หน้าผากเนียนเบาๆ
"พรุ่งนี้และวันต่อๆไปทศกัณฐ์จะรักษาพระลักษณ์เอง"
☆-☆-☆-☆-☆-☆-☆-☆
"พี่ทศ...ตื่น" เสียงเพราะๆปลุกผมให้ตื่นขึ้นมา ผมมองไปทางหน้าต่างก็พบว่าตอนนี้ก็ถึงเวลาเช้าวันใหม่ ผมก้มมองลักษณ์ที่กำลังหลบตาผม แก้มขาวเริ่มมีสีแดงจางๆปรากฏขึ้นมาจนผมอดไม่ได้ที่จะ...
'ฟอด'
ผมหอมแก้มลักษณ์ฟอดใหญ่จนลักษณ์ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ตาคู่สวยมองผมเลิกลั่กท่าทางคงจะตกใจไม่น้อย ผมยิ้มกว้างกับปฏิกิริยาของลักษณ์ที่เห็นแล้วอยากจะจับหอมแก้มทั้งวันให้รู้แล้วรู้รอด ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องอดใจเอาไว้และลุกออกจากเตียงก่อนที่หมอหรือพยาบาลจะเข้ามาเห็น
"พะ...พี่ทศ" ลักษณ์คงจะตกใจจริงๆขนาดเรียกชื่อผมก็ยังจะติดอ่าง
"หืม? เรียกทำไมหรือว่ามึงเจ็บตรงไหน ปวดตรงไหน" ผมจับบ่าของลักษณ์ไว้แน่นตามด้วยรัวคำถามใส่
"ลักษณ์ไม่เป็นอะไรครับ คือลักษณ์แค่อยากรู้ว่าลักษณ์เป็นอะไรก็เท่านั้น" ลักษณ์ถามผมพลางเม้มปากตัวเองไปด้วย
"บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วไม่ให้เม้มปาก" พูดจบผมประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากนิ่มและผละออกทันที
"ถ้าวันหลังยังจะเม้มปากแบบนี้อีกกูจะจับจูบหนักๆ จูบสูบวิญญาณ มึงอยากโดนไหม?" ผมเอ่ยแล้วแกล้งทำเสียงดุแต่เหมือนคนตรงหน้าจะกลัวถึงได้รีบพยักหน้าตอบรับ
"พี่ทศยังไม่ตอบลักษณ์เลยนะครับว่าลักษณ์เป็นอะไร?" ลักษณ์ทวงถามผมอีกรอบ
"กูจะไม่บอกมึงตอนนี้แต่ที่แน่ๆหมอบอกว่าคนที่จะรักษามึงได้ก็คือกู" ผมตอบ ตาก็มองคนที่นอนทำหน้างงกับคำพูดของผม
"รักษายังไง พี่ทศไม่ได้เป็นหมอ"
"ถึงกูไม่ใช่หมอแต่กูจะรักษามึงหายได้แค่มึงไม่ดื้อไม่ซน กินยาตามที่หมอสั่งก็พอเข้าใจไหม?"
"ครับ" ลักษณ์ตอบรับ ผมถึงกับยิ้มพราวขึ้นมา ในใจก็คิดว่าผมจะใช้เวลาตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปในการที่จะทุ่มเทความรู้สึกที่ผมมีต่อลักษณ์ให้มากที่สุด หวังว่าพระลักษณ์จะรับรู้แล้วเปลี่ยนใจจากรักพระรามมามองและรักทศกัณฐ์ยักษ์แสนร้ายกาจบ้าง
[ทศกัณฐ์ Talk - The End]
เมื่อคืนผมฝันว่าพี่ทศนำดอกไม้มาให้แล้วพูดดีกับผม ทำดีกับผม ไม่คิดเลยว่าตื่นมาความฝันมันจะเป็นจริง พี่ทศดูใจดีกับผมมากถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดีเพราะพี่ทศเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายจนผมตามไม่ทัน
"ลักษณ์นั่งไหวไหม?"
"คะ...ครับ อะไรนะครับ?" ผมรีบดึงสติกลับมาพอได้ยินเสียงทุ้ม พี่ทศจะโกรธ จะรำคาญไหม? ที่ผมถามย้ำ
"พี่ถามว่านั่งไหวไหม?" พี่ทศทวนคำถามให้แถมสรรพนามที่ใช้แทนตัวเองของพี่ทศทำเอาผมแปลกใจ
"ไหวครับ" ผมตอบแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง
"ถอดเสื้อ" พี่ทศเอ่ย
"ถอดทำไมครับ?" ผมพูดพร้อมกับจับเสื้อตัวเองเอาไว้ นี่พี่ทศคิดจะทำอะไรกับผมที่โรงพยาบาลอย่างนั้นเหรอ?
"เช็ดตัวลักษณ์มีไข้แบบนี้จะให้พี่พาไปอาบน้ำหรือไง?" พี่ทศตอบ ผมถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ถอนหายใจแบบนี้แสดงว่าคิดอะไรแปลกๆแน่เลย คิดว่าพี่จะ....กับลักษณ์ที่โรงพยาบาลเหรอ? น่าสนใจดีเหมือนกัน" พี่ทศโน้มใบหน้ามากระซิบข้างหูของผมแถมคำพูด การเว้นระยะระหว่างคำทำให้ผมอายที่ถูกจับได้ว่าคิดเรื่องลามก
"คือลักษณ์...อื้อ.." ผมพยายามปฏิเสธแต่พี่ทศก็เอามือมาปิดปากของผมเอาไว้
"ไม่ต้องพูดอะไร นั่งเงียบๆรอพี่เอาน้ำเอาผ้ามาเช็ดตัวดีกว่า" พี่ทศเอ่ยตาก็จ้องมองใบหน้าผมที่ห่างกันไม่กี่เซ็น มุมปากของพี่ทศยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่พี่ทศจะขยับตัวออกห่างและเดินพูดอะไรบางอย่างแล้วถ้าผมได้ยินไม่ผิดพี่ทศพูดว่า 'แม่ง..น่ารัก'
"นั่งตัวตรงๆเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้" พี่ทศออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับอ่างพลาสติกใบเล็กที่ข้างในบรรจุน้ำและมีผ้าขนหนูผืนบางอยู่ด้วย พี่ทศนั่งลงตรงหน้าผม มือหนาบิดผ้าขนหนูชุ่มน้ำให้เปียกพอหมาดๆแล้วเริ่มแตะที่หน้าผากของผม
"พี่ทศ ลักษณ์ว่าเดี๋ยวลักษณ์ทำเองดีกว่าครับ" ผมจับข้อมือพี่ทศเอาไว้ พี่ทศมองหน้าผมนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยของพี่ทศทำให้ผมนึกกลัว ผมไม่น่าพูดออกไปเลย พี่ทศอุตส่าห์ใจดีกับผมแต่ผมกลับฆ่าตัวเองโดยเรียกยักษ์ร้ายกลับมา
"อย่าดื้อ เข้าใจไหม?" พี่ทศพูดออกมาสั้นๆ น้ำเสียงที่ใช้ก็ไม่ได้ตะคอกหรือแสดงออกถึงความไม่พอใจ ถึงอย่างนั้นผมก็เชื่อฟังและปล่อยข้อมือพี่ทศให้เป็นอิสระ
ผ้าเปียกน้ำค่อยๆซับตามใบหน้าของผมอย่างเบามือ ก่อนที่จะลากผ่านมาที่ซอกคอ บ่าเนียน จนถึงแผ่นอกที่มีรอยสีกุหลาบจางๆกระจายอยู่ทั่ว
"อื้อ.." เสียงครางอือดังลอดออกมาเพราะถูกพี่ทศเช็ดวนบริเวณยอดอก พอผมเงยหน้ามองคนเช็ดตัวก็พบว่าพี่ทศยกยิ้มอยู่ แสดงว่าพี่ทศจงใจแกล้งผม
"พี่ทศอย่าแกล้งลักษณ์" ผมร้องห้าม พี่ทศก็เลยเลื่อนมือออกจากบริเวณอกของผมเป็นหน้าท้องแทน
"เกร็งหน้าท้องทำไม?" พี่ทศถามแต่หน้ายิ้มระรื่น นี่คงจะถามเพื่อให้ผมอายสินะ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าผมเกร็งหน้าท้องเพราะความเสียวซ่าน
"พี่ทศ..ลักษณ์รู้สึกไม่ดีเลยพี่ทศรีบเช็ดได้ไหมครับ?" ผมไม่ตอบ มือก็กุมขมับแสร้งว่าปวดหัว ผมคิดแก้เกมโดยการใช้ความไม่สบายของผมมาใช้ ดูเหมือนจะได้ผลพี่ทศนำผ้าเช็ดตัวใส่ในอ่าง หลังมือที่ว่างก็มาแตะตามหน้าผากและซอกคอของผม จากสีหน้าดูเหมือนพี่ทศจะกังวลอยู่ไม่น้อย
"ตัวก็ร้อนไม่มาก ทำไมถึงปวดหัวขึ้นมาหรือว่าจะร้อนใน" พี่ทศพึมพำ ผมก็แอบขำในใจนานๆทีผมจะเห็นพี่ทศลนลานขนาดนี้
ในระหว่างที่ผมนึกขำอยู่นั้นพี่ทศก็ใช้โอกาสนี้ประกบริมฝีปากของพี่ทศเอาไว้ด้วยกัน ลิ้นหนาสอดเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างรวดเร็ว ทั้งฉกตวัดลิ้นหยอกเหย้ากับลิ้นของผมสลับก็ดูดเม้มริมฝีปากบางจนผมแทบหมดแรงหงายลงนอนบนเตียง ยังดีที่มือของพี่ทศคอยโอบแผ่นหลังเอาไว้ทำให้ผมยังทรงตัวได้
"อืม.." พี่ทศผละริมฝีปาก ตาคมมองใบหน้าของผมด้วยความอ่อนโยน นิ้วโป้งก็เกลี่ยริมฝีปากล่างของผมอย่างเบามือ
"พะ..พี่ทศมาจูบผมทำไม?" ผมเลือกถามคำถามโง่ๆออกไป ทั้งที่รู้ว่าถามไปก็ไม่ได้อะไร ดีไม่ดีอาจได้รับพูดถากถางก็ได้เพราะปกติพี่ทศอยากจะทำอะไรผม พี่ทศก็ทำโดยไม่ถามหรือนึกถึงจิตใจของผมอยู่แล้ว
"พี่แค่ใช้ปรอทวัดไข้..ลักษณ์มีอาการร้อนใน พี่ว่าลักษณ์ต้องทานน้ำเยอะๆนะ" พี่ทศตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างผู้มีชัย
"พี่ทศบ้า" ผมพึมพำเสียงแผ่วเบากลัวว่าคนร่างสูงจะได้ยิน ใครเขาวัดไข้กันแบบนี้ นี่พี่ทศหาเรื่องลวนลามผมสินะ
"ลักษณ์...คิดว่าพี่ไม่ได้ยินเหรอ!" พี่ทศพูดเสียงดุดัน เล่นเอาผมถึงกับสะดุ้งโหยง ผมไม่น่าวางใจเลย พอเห็นพี่ทศใจดีผมก็นึกเล่นนึกหยอกเหมือนที่เคยได้ทำตอนอยู่ที่ร้านเหล้า
"พี่ทศ..คะ..คือ..อุ๊บ!!" ผมที่จะพูดคำขอโทษก็ถูกพี่ทศใช้มือปิดปากเอาไว้
"ถึงพี่จะบ้า..พี่ก็บ้าเพราะลักษณ์(รัก)"
........................................................................................
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นมาเป็นกำลังใจให้นะคะ
ช่วงนี้อาจจะอัพเป็น เปอร์เซ็นถึงเดือนตุลาคมค่ะ ช่วงตุลาคิดว่าว่างกว่านี้แน่นอน
ไรท์งดมาม่าหันมาบริโภคน้ำตาลแทนค่ะ