บทที่11
ผมพูดตรงๆว่าผมทำตัวไม่ถูก เหมือนมือไม้มันจะเกะกะไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับสายตาทุกคน ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไร ทำไมอยู่ๆไอคินก็พูดออกมาแบบนั้น ตอนนี้ในหัวมันสับสนไปหมด ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตากับยกแก้วดื่มเพื่อหลบสายตาคนอื่นเท่านั้น
ไอคินลงจากเวที มันก็กลับมานั่งที่เดิม.....แต่เหมือนบรรยากาศในโต๊ะจะต่างออกไปจากก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกได้ว่าทุกคนในโต๊ะกำลังลอบสังเกตท่าทีของผมกับไอคิน แต่พวกมันไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ผมพยายามไม่สบตาไอคินที่กำลังนั่งจ้องหน้า ผมนั่งตัวเกร็ง ค้างอยู่ท่าเดิม....ซักพักมันก็บอกว่าขอเวลาคุยด้วย ก่อนจะดึงแขนผมให้ลุกตามมันไปหลังร้าน.......
ความเงียบแทรกตัวอยู่ระหว่างผมกับมันนานหลายนาที จนไอคินคงทนบรรยากาศอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหว เลยถามออกมา
“มึงไม่คิดจะพูดอะไรกับกูหน่อยหรอวะ?”
“จะให้กูพูดยังไงวะ”
“ก็..........มึงรู้สึกยังไง คิดอะไรอยู่....ประมาณนี้มั้ง”
“กูไม่รู้หวะ....คิน.......กู....”
ผมไม่รู้จริงๆว่าควรพูดอะไรกับมัน ตอนนี้ผมเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก เพราะผมยังจัดการกับความคิดตัวเองไม่ได้
“มึงรังเกียจความรู้สึกกูรึเปล่า?” เสียงมันสั่นนิดๆ เหมือนมันกำลังไม่มั่นใจ
“กูไม่ได้รังเกียจ กูจะไปรังเกียจได้ยังไง...แต่กูแค่...ไม่รู้หวะ กูอธิบายไม่ถูก....สับสนมั้ง คำนี้น่าจะใกล้เคียงสุดแล้ว”
“สับสนเรื่องอะไร? มึงสับสนกับสิ่งที่กูทำ หรือสับสนกับความรู้สึกตัวเอง? ถ้ามึงสับสนกับความคิดตัวเอง.....อันนี้กูก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่ถ้ามึงสับสนกับสิ่งที่กูทำ.........กูว่ากูชัดเจนที่สุดแล้วนะ” ไอคินทำหน้ายุ่ง ขยี้หัวตัวเอง
“ก็ทั้งสองอย่าง.......คืออยู่ๆมึงก็พูดออกมาแบบนั้น กู...ไม่รู้หวะ....ขอเวลากูคิดก่อนว่ากูรู้สึกยังไง ตอนนี้หัวกูตื้อไปหมด”
มันเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
“ได้...กูรอได้.....มึงใช้เวลาคิดได้เท่าที่มึงต้องการเลยซี แต่กูอยากให้มึงลองมองกูในมุมอื่นบ้าง อย่าเพิ่งตัดโอกาสกู.....ได้มั้ย?”
ผมแพ้สายตาเว้าวอนของมันตอนนี้ การที่ออกมาคุยกับมัน ไม่ช่วยให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นเลย กลับทำให้ผมสับสนหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ จะไม่ให้ผมสับสนได้ยังไง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาร้องเพลงจีบ พูดเหมือนสารภาพรักต่อหน้าแบบนี้....แถมคนคนนั้นคือไอคิน.....
ที่ผ่านมา เวลาไอนิลกับไอภูมิเห็นผมคุยไลน์กับไอคิน พวกมันก็เคยแซวบ้าง ว่าไอคินกำลังจีบผมอยู่ แต่ผมคิดว่าพวกมันอำผมเล่น ไม่คิดว่าไอคินจะคิดกับผมในแง่นั้นจริงๆ
.
.
.
ผมเดินนำมันกลับมาที่โต๊ะ ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของพวกไอนิล ทั้งโต๊ะเงียบเหมือนเป่าสาก คล้ายจะรอให้ผมพูดอะไรออกไป แต่ผมไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ
“กูว่าวันนี้กูกลับก่อนดีกว่าหวะ...” ผมทนอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว
“งั้นกูกับไอเมฆกลับห้องมึงด้วย ไอเมฆแม่งจะหลับคาโต๊ะแล้วเนี่ย มึงมาช่วยกูพยุงมันหน่อย” ไอป๊อปพยุงไอเมฆให้ลุกขึ้น ไอห่าเมฆนี่คออ่อนแต่ไหนแต่ไรครับ เมาคนแรกทุกที
.
.
.
“มึงจะเอาไงต่อวะ?” ไอป๊อปถามผม หลังจากที่โยนไอเมฆลงบนเตียงเรียบร้อย
“เรื่องไร?”
“เรื่องไอคินดิ่...ควาย ตีมึน เดี๋ยวกูทุบ”
“กูไม่รู้หวะ อยู่ๆมันก็พูดแบบนั้น... เชี่ยย ตกใจชิบหาย กูมึนไปหมด”
“มันพยายามบอกมึงมาก่อนหน้านี้แล้วรึเปล่า แต่มึงอาจจะไม่ได้สังเกต มันเลยต้องพูดออกมาไง”
“บอกอะไรวะ ไม่มีนะ” ผมขมวดคิ้วถามกลับ
“ก็ที่ผ่านมา บางครั้งมันดีกับมึงเกินเพื่อนรึเปล่าหละ?”
“ดีเกินเพื่อนคือยังไงวะ ก็เป็นเพื่อนกัน มันก็ต้องดีต่อกันอยู่แล้วดิ่”
“ไอซี มึงไม่ได้แกล้งโง่ใช่มั้ยวะ.....”
“..................” ผมเงียบ เพราะไอป๊อปทำหน้าจริงจัง แบบที่นานๆครั้งมันจะทำซักที
“บางทีกูก็เกลียดจริงๆ....ที่มึงเป็นคนแบบนี้ คิดอะไรแบบนี้.....แต่กูก็ชอบที่มึงเป็นแบบนี้แหละ” มันพูดเบาๆแล้วส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้ผม
“ก็กูไม่รู้นี่หว่า กูไม่เคยคิดกับมันแบบนั้น.......ถ้าจะให้พูดตรงๆ บางครั้งก็มีบ้างที่กูสงสัย แต่กูก็คิดว่าคงไม่ใช่หรอก”
“เพราะมันเป็นผู้ชายหรอวะ?”
“กูไม่ได้สนใจหรอก ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้ากูชอบ ก็คือชอบ แต่กูแค่ไม่เคยมองมันในแง่นั้น มึงเก็ตป้ะ?”
“มึงว่าพ่อแม่อย่างพ่อแม่พวกเรา จะเข้าใจมั้ยวะ ถ้าลูกเค้ามีแฟนเป็นผู้ชาย”
ไอป๊อปมันเป็นลูกคนจีนครับ ลูกชายคนโตด้วย ป๊าม๊ามันไม่ดุ แต่ค่อนข้างหัวโบราณ มันคงกำลังคิดว่าถ้ามันเป็นผม มันจะทำยังไงดี
“มึงรู้ป้ะ...กูเคยถามแม่ด้วยหวะ ตอนนั้นบ้านกูไปดูโชว์ที่พัทยา แล้วกูเห็นนักแสดงแต่งหญิง กูเลยแกล้งถามพ่อกับแม่ว่า รับได้มั้ย? ถ้ากูเป็นตุ๊ด...แม่กูขำ แล้วตอบว่า จะไปว่าอะไร ก็ตอนกูเกิด กูไม่ได้เลือกเพศตัวเองได้ซักหน่อย”
“บ้านมึงไม่เหมือนบ้านกูนี่หว่า”
“กูว่านะ ไม่ว่าบ้านไหน....ตอนแรกอาจจะตกใจ หรือรับไม่ได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ เดี๋ยวก็รับได้เองหวะ ยังไงก็ลูก เค้าตัดไม่ขาดหรอก........ทำไมอ่ะ มึงชอบผู้ชายหรอ?”
ผมเฉยๆนะ ถ้าเพื่อนจะชอบผู้ชาย ผมคิดเสมอ ว่าคนเราไม่ควรถูกจำกัดหรือตีกรอบความรักเพราะเพศสภาพ...ถ้าผมรักใครซักคน ผมก็คงไม่สนเหมือนกัน ว่าเป็นชายหรือหญิง...แต่ผมแค่ยังไม่ได้รัก....
“นอนเหอะหวะ กูง่วงแล้ว” ไอป๊อปตัดบท แล้วล้มตัวลงนอนข้างเตียง
.
.
.
วันรุ่งขึ้นผม3คนขับรถกลับบ้าน โดยที่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก ผมค่อนข้างสบายใจ ที่ไม่มีใครมาแซวอะไรงี่เง่า หรือถามอะไรเซ้าซี้ตอนนี้ ตอนที่ผมต้องการเวลาให้ตัวเอง
(12.07)
KIN: ถึงบ้านยัง?
Z: ถึงซักพักแล้ว มึงอ่ะ?
KIN: กูไม่ได้กลับ อยู่หอ
Z: อ่อ
KIN: ซี
: กูทำให้มึงคิดมากรึเปล่าวะ?
Z: เปล่าๆ
KIN: กูแค่อยากบอกมึงเฉยๆ แต่ถ้าความรู้สึกกูทำให้มึงลำบากใจ กูขอโทษ
Z: เห้ย ไม่ต้องขอโทษๆ
:แต่
:คิน กูขออะไรมึงอย่างนึงได้มั้ยวะ?
KIN: ได้ดิ่
Z: มึงทำตัวเหมือนเดิมได้มั้ย ไม่ต้องมากหรือน้อยไปกว่านี้
: กูยังไม่พร้อมหวะ
: ให้เวลากูตั้งหลักหน่อย
KIN: อืม
Z: มึงเข้าใจกูใช่มั้ย?
KIN: เข้าใจๆ
__________________________________________________________________
ปล. ด้วยเหตุผลทางการศึกษา คงมาอัพบ่อยแบบนี้ไม่ได้แล้วนะคะ แต่จะพยายามเข้ามาค่ะ ฮืออ T^T