ตอนที่ 9 กิจกรรมวัดใจ มึงและกรู
“พี่ครับมันไม่ใช่อย่างที่พี่เข้าใจนะครับ!”
“กูจะเข้าใจอะไรมันก็เรื่องของกรูมึงนี่ร้ายนะเผลอเป็นไม่ได้ กรูถึงต้องดูมึงไว้ตลอดเวลาไง! แม่งลับตากรูหน่อยเดียวเสือกไปให้ท่าคนอื่น!”
“พี่พูดอย่างนี้ได้ยังไงครับ พี่วัชเพื่อนพี่นะครับให้เกียรติกันหน่อยเถอะถึงพี่จะไม่อะไรกับผมก็ตามที!”
“มึงไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น หุบปากซะถ้ายังไม่อยากให้เรื่องราวมันแฮงซวยไปมากกว่านี้!”
ผมไม่รู้จะพูดยังไงกับคนที่อีโก้สูงอย่างพี่ทิวา พูดไปก็เหมือนสาดน้ำมันลงบนกองไฟ พูดมากเท่าไหร่ก็เท่ากับสาดน้ำมันให้ไฟก็ยิ่งโหมหนักขึ้นเท่านั้น
“เฮ้ย! อะไรกันวะไอ้ทิวาลากน้องเค้ามาซะอย่างกับลากวัวลากควาย ให้มันเบาๆ หน่อย”กรณ์เดินมาทางผมที่กำลังถูกพี่ทิวาพยายามลากผมให้เดิมตามซึ่งผมพยายามเดินให้ทันโดยไม่ได้ขัดขืนแต่พี่ทิวากลับทำอย่างกับผมขัดขืนที่จะเดินมาด้วยจึงพยายามกระชากแขนผมทุกก้าวที่ผมเดินช้า ก็ผมขายาวซะที่ไหนล่ะครับเดินเร็วได้แค่นี้ก็บุญแล้ว
“เรื่องของกรูมึงอย่าเสือก!”
“เออขอบใจ ไอ้สัด!”พี่ทิวากับพี่กรณ์แรงพอๆ กันเลยครับ
“แล้วไหนไอ้วัชล่ะ กรูไม่เห็นมันมากับมึงเลย”พี่ดินพูดพร้อมชะเง้อคอหา
“ช่างมัน มันจะซุกหัวอยู่ที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องของกรู ไอ้ดิน! มึงไปคู่กับไอ้กรณืแล้วกัน ครั้งนี้กรูจะเอามันลงด้วย!”
พี่ทิวาพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจครับ!
“อ้าวเชี่ยแล้วไง! แล้วไอ้วัชล่ะ ไอ้กรณ์มันคู่กับไอ้วัช กรูจะไปแย่งแทนที่คนอื่นได้ไง!”พี่ดินโวยขึ้น
“ไม่เป็นไร ปีนี้กรูงด มึงลงคู่กับไอ้กรณ์เถอะ”เสียงพี่วัชมาจากข้างหลังครับ ผมหันไปมองพี่วัชได้แวบนึง เมื่อพี่ทิวาเห็นว่าผมมองพี่วัชพี่เค้าก็บีบแขยผมกระดูกแทบกรอบ
เจ็บครับ....เจ็บจนน้ำตาซึมเลย
“แต่จะไม่เป็นไรเหรอวะได้ทิวา น้องเค้ายังเด็ก....”
“มึงจะขัดใจกรู!”
“ตามหลักการแล้ว น้องเค้ายังไม่โปร! มึงจะเอาเดย์ไปลงทำไมวะเดี๋ยวน้องเค้าก็ไม่ไหว แถมมันอันตรานมึงก็รู้”พี่ดินขมวดคิ้วกลุ่มและงัดเอาหลักการที่สร้างขึ้นมาเองเอามาพูดครับ
“กรูไม่สน พวกมึงจะประคบประหงมมันไปถึงไหน มึงเห็นอย่างนี้มันอาจไม่เป็นอย่างที่มึงเห็นก็ได้”ผมรู้สึกเหมือนพี่ทิวาพูดประชดผมครับ
“ไอ้ทิวา มึงกำลังโกรธกรูแล้วพาลไปเดือดร้อนเดย์ กรูขอให้มึงคิดใหม่”
“กรูไม่คิด!”ว่าแล้วพี่ทิวาก็ลากผมฝ่าฝูงคนจำนวนไม่น้อยที่ยืนเกาะกลุ่มกันลงชื่ออะไรสักอย่าง ผมไม่รู้หรอกครับว่าพี่ทิวาคิดจะทำอะไร แต่ไม่ได้ถามความสมัครใจผมแบบนี้มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอน ผมเหมือนมีลางสังหรณ์ครับ ใจไม่ดีเลยสักนิด
“ผูกมือมึงไว้!”พี่ทิวาส่งริบบิ้นเส้นยาวสีฟ้าให้ผม และพี่ทิวาเองก็ผูกมันไว้กับข้อมือเช่นกันครับ
“ทำไมผมต้องผูกล่ะครับ”
“มึงอย่าถามมาก ถ้ามึงถามอีกล่ะก็มึงโดนกรูต่อยปากฟันร่วงแน่!”ผมเห็นถึงอารมณ์ที่ไม่ดีของพี่ทิวาตั้งแต่ลากผมมาจากพี่วัชแล้วครับ ซึ่งผมเป็นคนบอกให่พี่วัชปล่อยเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกับพี่ทิวา ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วพี่ทิวาก็ดูโมโหไปหมด แต่ไม่ยักหมดอารมณ์ทำกิจกรรมลึกลับพวกนี้ที่ผมยังไม่รู้ แต่เท่าที่พี่ดิน พี่กรณ์ และพี่วัชเตือนผมคิดว่ามันคงไม่ใช่กิจกรรมบำบัดหรือผ่อนคลายกันสักเท่าไหร่นักหรอกครับ
“กรูกับไอ้ดินได้สีเหลืองว่ะ สีเดียวกับปีก่อนแป๊ะ หึๆๆ”
“กรูสีฟ้า มึงไปห่างๆ ตอนนี้มึงกับกรูคือคู่แข่ง!”
“กรูแกรงว่าปีนี้กรูจะเป็นคนทำคะแนนได้สูงสุดว่ะ หึๆๆ”
“มึงจะสูงทะลุชั้นบรรยากาศหรือสัดห่าอะไรของมึงก็ตาม แต่มึงช่วยไปห่างๆ กรูก่อนที่กรูจะแตะมึงสลบคาตรีน”
“ตามหลักการแล้วมึงกำลังอารมณ์เสียไอ้วัชที่ไปคุยกับน้องเดย์สองคน แต่มึงบ้ารึเปล่าวะที่มาพาลพวกกรูด้วย กรูล่ะโคตรเกลียดมึง!”พี่ดินพูดขึ้น ผมว่ามันแรงไปนะครับ
“กรูขอเกลียดมึงด้วยคน ชิส์! ไอ้หมาบ้า!”
“พวกมึง!!!!!”
“ฮาๆ ฮาๆ ฮาๆ! เตรียมตัวแพ้พวกกรูได้เลยยยยย!”พี่กรณ์กับพี่ดินพูดให้พี่ทิวาแค้นเสร็จก็รีบโกยแน่บและทิ้งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยเอาไว้ พี่ทิวาทำท่าจะวิ่งไล่กวดพวกพี่ดินไปแต่ผมก็คว้าแขนพี่ทิวาไว้ซะก่อน กลัวว่าพี่ทิวาจะทำงานเค้าล่มไม่เป็นท่าน่ะสิครับ เพราะผมอีกแล้วแท้ๆ เรื่องมันเลยไม่แฮปปี้เลยสักครั้ง T^T
“มึงก็ด้วย! แม่งหาเรื่องดีนักนะถ้ากรูแพ้พวกเชี่ยๆ นั่นขึ้นมาล่ะก็มึงโดนกรูยำรวมมิตรแน่!!!”
จู่ๆ พี่ทิวาก็หันมาตะคอกใส่ผมจนคนข้างๆ หันมามองเราเป็นตาเดียวเลยครับผมตกใจจนสะดุ้งโหยง ผมก้มหน้างุดคิดไม่ตกเลยครับว่าพี่ทิวาไม่เคยคิดถึงใจเขาใจเราเลยจริงๆ หรือครับ แม้แต่สักครั้งจะมีบ้างรึเปล่า เพราะสิ่งที่พี่ทิวาทำผมเห็นแล้วว่าพี่เค้าใช้ใจตัวเองเป็นใหญ่โดยไม่คิดถึงคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ถึงไม่คิดถึงใจผม แต่อย่างน้อยพี่เค้าน่าจะนึกถึงใจเพื่อนๆ ของพี่เค้าบ้างก็ยังดี
“พี่ครับๆ พวกเราจะทำอะไรกันเหรอครับ”ผมเขย่าแขนพี่ทิวาน้อยๆ ให้พี่ทิวาหันมาสนใจผมมากกว่ามองพี่วัชที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากเรานัก และพยายามพูดในสิ่งที่คิดว่าจะไม่ทำให้พี่ทิวาโกรธขึ้นมาเป็นอีกกเท่าตัว แค่นี้ผมก็จะแย่อยู่แล้วครับมากกว่านี้คงทนรับแรงอารมณ์พี่เค้าไม่ไหว
“มึงไม่ต้องถามจะได้มั้ย เดี๋ยวก็รู้เองว่าจะทำอะไร อย่างเดียวที่มึงต้องทำคือ ทำให้กรูชนะ!”
“คะครับ....”
“..........”
“แล้วถ้าผลมันออกมาไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ล่ะครับ....”ผมอยากรู้จริงๆ ครับว่าแค่เรื่องแพ้ชนะ พี่ทิวาจะคิดและทำยังไงกับผลที่น่าผิดหวังหากมันออกมาแล้วว่าเราแพ้
“หึ! มึงไม่ต้องถามก็น่าจะรู้คำตอบ”มือข้างนึงของพี่ทิวาคว้าเอวผมมากระแทกชิดกับลำตัวกับพี่ทิวา ก่อนที่อีกมือจะเชยคางผมขึ้นสูงและบีบแน่นมองผมด้วยแววตาดุดันที่พร้อมจะกลืนกินผมได้ทุกเมื่อ ผมพยายามหลบสายตาที่ถึงกับทำให้ผมใจเต้นแรงเป็นว่าเล่น และรู้สึกกลัวจนอยากจะหนีกลับบ้านไปซะให้ได้
“พี่ครับผม!”
“อะไร! สีหน้าแบบนั้นมึงคิดจะอ้อนกรูรึไง! ถ้ามึงอยากให้กรูหายโกรธล่ะก็ ทำตัวให้มันดีๆ อย่ารี่เข้าหาผู้ชายให้เกินหน้าเกินตา ถ้ามึงอยากนักก็บอกกรู!”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ พี่พูดอย่างกับผมชอบนักที่มาที่นี่ แล้วใครล่ะครับที่พาผมมา ทำไมไม่ปล่อยให้ผมอยู่บ้านล่ะครับ!”ผมตะคอกใส่พี่ทิวากลับบ้างด้วยสีหน้าเดือดดานก่อนที่คนรอบๆ ข้างเราจะค่อยๆ ถอยหนีไปเรื่อยๆ
“นี่มึง!”
“หรือไม่จริงครับ!”
“เอาล่ะครับ! ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน season change festival 20xx ที่มาพร้อมกับบรรยากาศดี ๆ และค่ำคืนอันหรรษา และขาดไม่ได้สำหรับกิจกรรมที่ท้าทายทุกความสามารถ เร่งเร้าทุกจังหวะการเต้นของหัวใจให้เสียวซ่าน! และที่ขาดไม่ได้คือการคัดเลือกผู้ที่เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ทางเราจัดขึ้นทุกปี! ซึ่งแน่นอนว่ารางวัลใหญ่รอท่านอยู่แล้วครับ ครับ ครับ !!!!(เอคโค่)”
“เย่!!! วูว์!!!!!”
เสียงโห่ร้องอย่างรึกครื้นดันสนั่นทั่วชายหาดทันที่ที่โฆษกประจำงานคว้าไมล์ลอยขึ้นกล่าวต้อนรับทุกคน เลยพาให้ผมหันไปสนใจเสียงพูดของโฆษกมากกว่าจะสนใจพี่ทิวาที่ทำหน้าบูดเบี้ยวไม่เป็นท่า แต่หลังจากการพูดเสร็จดูเหมือนจะมีการเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างตรงทางชายหาดครับ คนที่จับคู่กันแล้วต่างพากันไปออกันที่นั่นนับสิบๆ คู่ ต่างก็มีชายบ้าหญิงบ้าง แต่ส่วนน้อยครับที่ผู้หญิงจะลงเล่นกิจกรรม โดนส่วนมากจะอยู่เชียร์มากกว่า
“เดินมานี่”พี่ทิวาคว้าขอมือผทให้เดินไปตรงที่มีคนอยู่กันเยอะๆ ดูเหมือนทุกคนกำลังจับจ้องวัตถุบางอย่างที่อยู่ในทะเล แสงไฟที่มีน้อยบวกกับความมืดที่มาเยือนมันทำให้ผมมองเห็นไม่ชัด ถึงแม้จะมีคบเพลิงไฟปักไว้ตลอดริมหาดให้แสงสว่างก็ตาม
“กิจกรรมแรกของเราก็เผยโฉมออกมาแล้วครับ เจ็ตสกีเครื่องแรงสี่สูบ พร้อมที่จะให้แต่ละคู่ทะยานเหนือน้ำสัมผัสความท้าทายในเกมส์แรกแล้วครับ!!!!”
“เจ็ตสกี.....พี่ครับผมไม่ขี่เด็ดขาด!”ผมหันหน้าไปมองพี่ทิวาด้วยท่าทีตื่นๆ และส่านหน้ารัวเร็วปฏิเสธสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
“มึงจะกลัวอะไรแค่ขี่มันเท่านั้นเอง ป๊อดไปได้ไอ้นี่!”
ผมไม่ได้รังเกียจเจ็ตสกีหรอกครับ แต่ผมกลัวความเร็วแรงของมัน และผืนน้ำที่มืดสนิทตอนกลางคืน มันน่ากลัวมากครับ และผมเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย ไม่มีทางเด็ดขาดครับที่ผมจะทำเรื่องเสี่ยงอันตรายแบบนั้น ถ้าเกิดผมพลาดตกลงมาผมคงจะไม่รอดแน่ๆ คงไม่มีใครเห็นผมในขณะที่มืดสนิทกลืนกับผิวน้ำได้หรอกครับ
“มึงจะไปไหนวะ!”
“พี่ครับผมจะถอนตัว ผมไม่อยากเล่น!”
“ไม่ได้! มึงนี่พูดไม่รู้เรื่องรึไงว่ากรูจะชนะห๊ะ!”ขาผมสั่นไปหมดครับ ไม่อย่ากจะทำเลยแต่ก็ถูกบังคับจนได้ พี่ทิวาลากผมลงทะเลในระยะที่เจ็ตสกีจอดอยู่ น้ำทะเลสัมผัสกับผิวของผมให้ความรู้สึกเย็นเยือกครับ ถึงแม้ว่ากลางคืนน้ำทะเลจะไม่ได้เย็นมากก็ตามแต่เพราะผมที่กำลังหวาดกลัวน้ำเพียงหนึ่งหยดที่กระเซ็นใส่ผมก็หนาวจับใจแล้วครับ
เรื่องอันตรายแบบนี้ถ้าพ่อกับแม่รู้ท่านไม่มีทางยอมให้ผมทำเด็ดขาดครับ!
“อย่ายืนบื้อขึ้นมาซิวะ!”พี่ทิวากระโดดขึ้นเจ็ทสกีเรียบร้อยแล้วครับและทุกคนก็ดูเหมือนจะเตรียมตัวกันเสร็จแล้วด้วย แต่ผมไม่กล้าครับ ผมกลัวจริงๆ นะครับ
“พะพี่ครับ...ผะผมกลัว”
“กรูบอกให้ขึ้นมาไงวะ หรือมึงอยากโดนดีจากกรูถึงจะยอมขยับตัวเอง!”พี่ทิวาตะคอกใส่ผมลั่นจนผมแทบอดกลั้นน้ำตาไม่ไหว มันอื้ออึงไปหมดครับ ไม่ว่าผมจะได้ยินเสียงอะไรมันก็หวืดไปหมดสายตาก็สั่นเคลือด้วยแววตาหวาดกลัว
“อะแฮ่ม! เรามาฟังกติกากันนะครับทุกท่าน! มันคงจะไม่สนุกถ้าให้คุณแค่ขับเจ็ตสกีโต้คลื่นให้สนุกเล่นๆ อย่างไร้ประโยชน์ แน่นอนครับว่าเส้นทางบนผืนน้ำข้างหน้าเราจะสร้างอุปสรรค์ให้คุณได้ฝ่าฟัน เพื่อที่จะไปชิงธงผืนสีขาวที่เป็นเส้นชัย ซึ่งธงที่เรามีไว้ให้นั้นมีอยู่แค่หกผืนสำหรับผู้ที่ถึงก่อนคว้าก่อนเท่านั้นและกลับายังฝั่ง และปักธงในที่ๆทางเราเตรียมไว้ แต่มีข้อแม้นะครับว่าต้องมาปักธงพร้อมคู่ของคุณเท่านั้น! ส่วนคู่ที่เหลือที่ไม่สามารถพิชิตธงขาวได้ เราขอบอกกับคุณเลยครับว่า You lose! get out ! ”
“เย่ๆ!!!! วู้ววววววววว!!!!! กรี๊ดดดดดดดด!!!!”
ทันที่ที่โฆษกประกาศกล่าวเสร็จเสียงโห่ร้องส่งเสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่ม ผมหันหลังไปมองยังริมชายหาดที่ห่างออกมาก็เห็นคนจำนวนมากกระโดดโลดเต้นโบกมือกันเต็มไปหมดเลยครับ ผมจะวิ่งกลับไปยังฝั่งจะทันรึเปล่าครับ ผมใจไม่สู้จริงๆ ครับเกิดมาไม่เคยทำเรื่องอันตรายแบบนี้เลย ผมกลัวครับ ฮือๆ ใจเต้นไปหมด มือไม่ก็สั่นจนบีบกำแทบไม่ได้
“ขึ้นมา!”พี่ทิวาพูดด้วยความเหลืออดเลยใช้แขนข้างนึงกระชากตัวผมให้ไปนั่งคร่อมเจ็ตสกีด้านหลังครับ ผมขึ้นมานั่งในพื้นที่ที่เหลือไว้น้อยเต็มที และผมกลัวมากครับเพราะผมไม่เคยนั่งมาก่อนเลยในชีวิตนี้ผมต้องตกแน่ๆ เลยครับ
“พะพี่ครับ ฮือๆ”
“กอดกรู!”
“พี่ผะผม ฮือๆ”พี่ทิวาสั่งเสียงแข็งแต่ผมอยากจะลงครับ และตอนนี้สติผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วด้วย ผมพยายามจะกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้แต่ตอนนี้ผมทำไม่ได้แล้วครับ ผมเลยปล่อยน้ำตาออกมาเหมือนเขื่อนแตกจนได้
“กอดซิวะ!”พี่ทิวาจัดการกระชากแขนผมทั้งสองข้างให้โอบกอดรัดรอบเอวของพี่ทิวา ผมสะอึกครับเพราะมันทำให้ตัวผมกับพี่ทิวาติดกันจนแทบไม่มีช่องว่าง ใบหน้าของผมอิงแอบแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่ยังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่และโลชั่น มันยิ่งแย่เข้าไปกันใหญ่เพราะหัวใจผมเต้นจนระบบเลือดที่สูบฉีดแทบจะระเบิด
“ฮือๆ พะพี่ครับ...ผะผมกลัวจริงๆ นะครับพี่ ฮือๆ”ผมยังคงพร่ำบอกความกลัวของตัวเองไม่มีที่สุดพร้อมน้ำตาที่ไหล่บ่าอย่างหนัก และตอนนี้ผมแทบไม่กล้าปล่อยมือจากการโอบรัดพี่ทิวาแต่ผมกลับยิ่งสวมกอดกระชับแน่นเข้าไปอีกทันทีที่ได้ยินเสียงกรรมการแข่งขันเริ่มให้สัญญาณอะไรบางอย่าง
“มึงอย่าร้องไห้ได้มั้ยวะ! แม่ง!”
“ฮือๆ ผมกลัว....”
“เออๆ กรูรู้! พอใจยัง! มึงคิดรึไงว่ากรูจะปล่อยให้มึงตายห่าในน้ำห๊ะ! แม่งมึงนี่เจ้าน้ำตามาเกิดรึไงวะ ร้องไห้จนหลังกรูเปียกไปถึงก้นตั้งแต่ไม่ได้ตกน้ำ”
“ซืดๆ ฮึก!”
“มึงเลิกร้องไห้ให้กรูอายคนได้แล้ว กรูสัญญาว่ากรูจะไม่ให้มึงเจ็บหรือเป็นอะไรแม้แต่ปลายก้อยได้ยินมั้ย!”
พี่ทิวาพูดเสียงดังฟังชัดเจนก่อนเสียงสัญญาณยิงปืนจะดังปล่อยตัวผู้แข่งขันให้ไปล่าธงกลับมาให้ได้ เสียงเร่งเครื่องเจ็ตสกีดังกระหึ่งผู้คนโห้ร้องส่งเสียงเชียร์ขาดใจ แต่ตอนนี้ผมกลับลืมที่จะหวาดกลัวกับอันตรายแต่กลับได้ยินแต่ประโยคที่พี่ทิวาสัญญากับผมว่าจะปกป้องผมไว้ พี่เค้าพูดจริงๆ กับผมใช่มั้ยครับ
แล้วทำไมผมถึงรู้สึกหัวใจพองโตได้ขนาดนี้กัน....กับแค่คำพูดที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้พวกนั้นจากปากพี่ทิวาคนในอ้อมกอดผม.....
มาแล้วฮับสำหรับตอนที่เก้า รู้สึกลั้นลามากฮับวันนี้
เพราะเป็นวันประกาศผลสอบเข้า ม.1 ของเจ้าน้องชาย
ดีใจอย่างกับเป็นแม่มันเลยฮับเมื่อรู้ผลว่ามันสอบผ่านได้แล้ว
:เฮ้อ:โลงใจได้อีกฮับ วันนี้เลยพามันไปรายงานตัวด้วยความปลาบปลื้ม แอร็ยยยย
เพื่อฉลองแด่น้องชาย เลยมาฮัพนิยายต่อ ฮาๆๆ (เกี่ยวกับมันมั้ยเนี่ย=’’= )
....................................................................
ส่วน ร.ร. ที่น้องชายข้าพเจ้าไปสมัครไว้ก็เป็น ร.ร.ประจำจังหวัดฮับ
มันเข้าได้ตามรอยพี่ดั่งใจหวังก็ยินดีกับมันด้วย
และอีกครั้งที่ขอบคุณทุกรีทุกกำลังใจนะฮับที่ติดตามกัน
นี่ก็ใกล้จะสิบตอนเข้าไปแล้วเร็วจังเลยเนอะ
ยังไงก็ขอให้สนุกกับเรื่องนี้ต่อๆ ไป นะฮับ
(สะกดจิต>>>>จงหลง จงหลง จงหลง จงหลง โอมเพี้ยง! @@@)