-- ตอนที่ 21 --
อย่าถามว่าสภาพหน้าผมเป็นยังไงเลยครับ
T-T
เข้าใจไหมความรู้สึกของผมไหมครับ
ไม่คิดว่าวุ้นจะหมัดหนักขนาดนี้ เอาซะหน้าผมบวมเลย ผมเลยจัดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ตัวเองและจะใช้ไอ้แผลบนใบหน้า
เนี่ยแหละ มาใช้ให้เป็นประโยชน์
ผมถ่อไปถึงร้านครับ
พบว่า
ร้านปิด
มีใครดวงซวยกว่าผมอีกไหม ! ผมอุตสาห์กะว่าจะใช้วันนี้ที่เป็นวันหยุดมานั่งหยอดวุ้นซะหน่อย หยอดไปหยอดมาก็แอบหวังเหมือนกันนะครับ ว่าจะมีบุญได้กินสักทีไหม
แต่ดูเหมือนว่าดวงผมเข้าขั้นเน่าเลยว่ะ
ทำไมน้องวุ้นที่รักยิ่งของผมไม่บอกผมเลยครับว่าหยุด ไม่ได้ครับ อย่างนี้ต้องโดนผมทำโทษในฐานะเป็นแฟนที่ไม่ดี
ระหว่างที่คิดผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดยิกๆ หาวุ้นทันที
ONE1 : วันนี้หยุดเหรอวุ้น
WUNWUN:C : ครับ วันนี้วันหยุด
ONE1 : ทำไมไม่บอกพี่อ่ะ # สติกเกอร์หมีบราวน์กอดเข่า
ยังคงคอนเซปต์สุภาพไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายครับ
WUNWUN:C : ลืม..
WUNWUN:C : วันนี้ผมตื่นสายด้วย เลยไม่ได้บอก
สรุปคือวันนี้ทั้งผมและวุ้นว่างครับ แบบนี้ต้องเที่ยวเท่านั้น ว่าแต่จะเที่ยวไหนดีวะ ตลาดน้ำเหรอไม่ล่ะร้อนเกิน สุกกันพอดี ห้างไปกินไอติม ไม่ ผมไม่ใช่ผู้ชายมุ้งมิ้ง สวนสัตว์ ? เด็กน้อยเขาไปกัน ไอ้หนึ่ง.. ผมกุบนวดขมับตัวเองหวังว่าจะให้ส่วนที่อยู่ข้างในทำงานได้ดีขึ้น
จริงสิ
ชวนเข้าห้องผมไง
ลึกลับน่าค้นหา มีเกมให้เล่นอย่างเกมผีผ้าห่ม ฮ่าๆ
แต่ยังไม่ทันได้พิมพ์วุ้นก็ชิงพิมพ์มาก่อน
WUNWUN:C : งั้นแค่นี้นะ ผมง่วง
ONE1 : ไม่ง่วงสิวุ้น นานๆ ทีพี่กับวุ้นจะหยุดตรงกันนะ ไปเที่ยวกันดีกว่า
WUNWUN:C : ผมติดหวัดใครล่ะครับ -_-
ONE1 : ป่วยกายไม่เท่าป่วยใจนะวุ้น งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาที่บ้านแล้วค่อยมาคิด
WUNWUN:C : ...
จุดไข่ปลามาแบบนี้แปลว่าอนุญาตครับ
“ มาจริงๆ เหรอครับเนี่ย ” วุ้นที่กำลังนั่งกินโจ๊ะอยู่ทำหน้าเหวอใส่หนึ่ง
หนึ่งยิ้ม “ จะได้รู้ไงว่า พี่เป็นคนพูดจริงทำจริง ทุกคำพูดเชื่อถือได้ ”
วุ้นยิ้มแห้งๆ “ ยังดีที่พ่อผมไม่อยู่ ไม่งั้นคงได้ตอบคำถามกันสนุกแน่ ”
“ อยู่ก็อยู่สิ รายงานความคืบหน้าให้พ่อวุ้นฟังไง ”
“ งั้นบอกพ่อผมไปเลยว่าตอนนี้ลูกเข้าโรงเรียนแล้ว พ่อจะได้ไม่สงสัยอะไรมาก ” วุ้นพูดขำๆ พลางตักโจ๊กเข้าปากอีกคำ
หนึ่งทำหน้าเครียด “ จะว่าไปเรายังไม่เคยทำลูกเลยนะวุ้น แล้วลูกที่ไปโรงเรียนละลูกใคร ” แถมประโยคหลังทำหน้าเศร้าอีก “ อย่าบอกนะว่าวุ้น มีคนอื่น ”
วุ้นเกือบจะพ่นโจ๊กที่กำลังกลืนออกมา วุ้นรีบกลืนลงไปแล้วตอบ “ แค่พี่หนึ่งคนเดียวผมก็พอแล้ว ถ้ามีแบบพี่หนึ่งอีก ผมคงไม่ไหว ”
หนึ่งยังไม่เลิกทำหน้าเครียด “ แล้ววุ้นไม่อยากมีลูกเหรอ พี่ให้ได้หมดเท่าที่พี่ได้มีเลยนะ ”
วุ้นวางช้อนที่กำลังตักโจ๊กลง “ ผมป่วยอยู่ มีลูกเพิ่มผมก็เลี้ยงไม่ไหวดิ ” ซึ่งหูก็แดงก่ำ
หนึ่งเผลอยิ้ม “ แค่เป็นหวัดเอง บอกแล้วแบ่งภูมิต้านทานพี่ไปเดี๋ยวก็หาย ”
วุ้นจ้วงโจ๊กเข้าปากหลีกเลี่ยงที่จะตอบ
“ ไม่ตอบพี่จะร้องเพลงนะ ”
ซึ่งหนึ่งก็แก้ปัญหาด้วยการโชว์ลูกคอ
“ แล้วจะพาผมไปเที่ยวที่ไหน ” วุ้นยอมถามออกมา
“ พี่แล้วแต่วุ้นเลย พี่พาไปได้หมดยกเว้นนรก ” หนึ่งโยนหัวข้อที่ตัวเองคิดไม่ออกให้วุ้นคิดแทน
วุ้นคนโจ๊กในถ้วยอย่างอ้อยอิ่ง “ งั้นไปตลาดที่ผมเคยขายขนมแล้วกัน ” วุ้นหลุบตาลง หลังจากที่เลิกขายไปก็ไม่ได้ไปที่ตลาดนั้นอีกเลย ทำให้อดคิดถึงที่นั่นไม่ได้ ทั้งคนและบรรยากาศที่คุ้นเคย ถึงจะเป็นเวลาไม่นานก็ถือว่าเป็นเวลาที่มีค่า
“ เอาสิ ” หนึ่งยิ้ม “ กลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรา ”
วุ้นเผลอยิ้มตาม
จริงด้วย
มันเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งผมและพี่หนึ่ง
ถ้าตอนนั้นพี่หนึ่งไม่มาซื้อเค้กผมก็คงไม่ได้เจอกัน
ถ้าพี่หนึ่งไม่ติดใจจนมาซื้อหลายๆ รอบ ก็คงไม่ได้คุยกันขนาดนี้
ถ้าได้ลองกลับไปยังจุดเริ่มต้นอีกครั้ง
คงน่าสนุกดี
แต่ว่าจะไปสภาพนี้จริงๆ เหรอวะ “ พี่หนึ่งจะไปทั้งอย่างนี้จริงดิ ? ”
“ ไปทั้งงี้แหละ คนทำจะได้สงสารพี่ ”
วุ้นยิ้ม “ สมน้ำหน้ามากกว่าครับ ”
“ ใจร้ายว่ะ ” หนึ่งบ่นออกมาด้วยสีหน้าเซ็งๆ ติดจะตัดพ้อ แต่ก็เศร้าได้ไม่นานพี่หนึ่งก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนคิดอะไรออก
และนั่นก็ทำให้วุ้นรู้สึกหนาวสันหลังแปลกๆ
พี่แกคิดอะไรออกอีกวะเนี่ย
“ วุ้นรู้ไหม ” พี่หนึ่งทำหน้าจริงจัง
“ ว่า ? ”
หนึ่งกระแอมไอออกมาครั้งนึง “ หยุดหยุดแค่นี้ก่อน ในใจผมร้อน จนทนไม่ไหว จะรักคุณแล้ว“ หนึ่งเว้นช่วงหายใจสั้นๆ มองวุ้นที่เริ่มหน้าแดง
พี่แกเอาอีกแล้ว วุ้นคิดในใจ
“ หยุดหยุดใจไว้บ้าง ห้ามใจเอาไว้ ต้องเตือนตัวเอง คนน่ารักมักใจร้ายกันทุกคน ”
“ คือจะบอกว่าผมใจร้ายเหรอพี่หนึ่ง ? ” วุ้นถามทั้ง ๆ ที่รู้ความหมายแฝงในเพลง
หนึ่งยักไหล่มองวุ้นกวนๆ “ แล้วแต่จะคิดสิ ”
ต้องขอบคุณที่ผมค่อนข้างเป็นคนที่ชอบฟังเพลงเลยเอาเพลงมาใช้ได้ตลอด เอาเถอะ ตอนนี้คนใจร้ายของผมก็กินโจ๊กหมดแล้ว
ถึงเวลาไประลึกความหลังกับพี่หนึ่งแล้วครับ วุ้น
“ ตลาดมันเป็นช่วงบ่าย 3 ตอนนี้มันเพิ่งเที่ยงเอง งั้นผมขอนอนก่อนนะ ” วุ้นหาวหวอดขยี้ตาตัวเอง
“ งั้นให้พี่ขึ้นมาไปด้วยคนนะ พี่ก็ง่วงเหมือนกัน ”
“ อืม ” วุ้นพยักหน้าส่งๆ โยนโจ๊กในมือใส่ถังขยะ พาพี่หนึ่งเข้าห้องนอนเล็กๆ ของตัวเองที่เตียงเหมาะสำหรับนอนคนเดียว วุ้นไม่มีท่าทีอายอะไรแม้แต่น้อย เพราะพอถึงเตียงปุ้ปล้มลงนอนไปเลย
หนึ่งที่ก้าวเดินตามมาถึงกับชะงักค้าง
วุ้นครับ นอนจริงเหรอครับ
หนึ่งเดินเข้าไปใกล้มองร่างบนเตียงที่นอนนิ่งไม่ไหวติง ลมหายใจสม่ำเสมออย่างรวดเร็ว ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายหลับลึกไปแล้ว
เป็นอย่างเพลงจริงๆ ด้วยครับ
คนน่ารักมักใจร้ายกันทุกคน
บรรยากาศคนเดินพลุกพล่านไม่ได้ทำให้หนึ่งหายเจ็บตัวเลยแม้แต่น้อย
เพราะเตียงที่หนึ่งดึงดันจะนอนกับวุ้นด้วยมันช่างเล็กจนหนึ่งแทบจะตัดตัวเองครึ่งตัวออกเพื่อนอนได้สบายๆ พอนอนกอดวุ้นหลวมๆ ไปได้สักพัก หลับเพลินครับ หนึ่งเผลอพลิกตัวไปอีกด้านและเลยออกเยอะไปหน่อย
ผลเป็นอย่างไรงั้นเหรอครับ ?
ตกเตียงไงครับ !
คิดว่าวุ้นเห็นไหมครับ
“ อุ้บ พี่หนึ่งยังไม่หายเจ็บหลังอีกเหรอครับ ” วุ้นพยายามกลั้นหัวเราะไปพูดไป แววตาทอประกายขบขันออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ไหล่ที่สง่าผ่าเผยมาตลอดของหนึ่งถึงกับลู่ลง “ อย่าล้อสิ วุ้นผิดนะที่นอนก่อนพี่เลยต้องนอนด้วยเนี่ย ”
“ ครับๆ ผมผิดครับ ” วุ้นตอบยิ้มๆ พยายามอย่างยิ่งยวดไม่หัวเราะออกมาจนพี่หนึ่งเสียความมั่นใจไปกว่านี้ แต่มันฮาจริงๆ นะ นอนหลับเพลินๆ สะดุ้งตื่นเพราะเสียงของหนักกระแทกพื้น พบว่าเป็นพี่หนึ่งนอนแอ่กอยู่นั่นเอง
ใครจะไปคิดว่าพี่หนึ่งจะมานอนบนเตียงผมแล้วตกเตียงล่ะครับ
หน้าของหนึ่งมีสีแดงจางๆ “ ไหนๆ ก็มาแล้ว พาพี่เดินหน่อยแล้วกัน ”
“ ครับ ” วุ้นรับคำไม่พูดเรื่องตกเตียงต่อ พาอีกฝ่ายเดินอย่างคุ้นเคยตามความเคยชิน พอเดินไปได้สักพักก็เริ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรมาเติมเต็มอะไรสักอย่างที่ว่างๆ ในใจมานาน
ความอบอุ่น
ความคุ้นเคย
อะไรทำนองนั้น ทำให้วุ้นรู้สึกดีจนเผลอยิ้มจางออกมา
“ เฮ้ย ! นั่นไอ้วุ้นนี่หว่า ! ” เส็งที่เป็นคนขายข้าวมันไก่ตะโกนดังลั่นเมื่อเห็นวุ้น
สิ้นเสียงเส็งก็เกิดความโกลาหลย่อมๆ ทันที
ตลาดนี่ค่อนข้างเป็นตลาดที่ใหญ่แต่ดูเหมือนว่าขนาดของมันไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของคนในตลาดห่างเกินกันแม้แต่น้อย
ลุงแช่มที่ปกตินั่งขายของจิปาถะเงียบๆ ยังเดินออกมาหาวุ้น “ หน้าเอ็งดูสดใสกว่าที่ข้าเคยเจอเอ็งเมื่อตอนล่าสุดวะ ไปทำอะไรมาวะไอ้วุ้น ”
“ หายไปไหนมาวะ ไม่บอกไม่กล่าวกันเลย ” เส็งที่ตะโกนลั่นเมื่อกี้ถาม แต่ไม่ได้เดินเข้าไปหาเพราะยังติดพันลูกค้าอยู่
“ รู้ไหมแกไม่อยู่มีแต่คนมาถามร้านแกเนี่ย ” เจ้แตงโมร้านน้ำปั่นขมวดคิ้วพูดในมือยังคงชงชานม
“ หายไปไหนมาเนี่ย ”
ซึ่งก็ยังมีหลายคำถามมากจนฟังไม่ทัน
วุ้นที่ยังงงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ไม่ได้ตอบรับอะไร
ไม่คิดว่าการที่ผมหายไปจะมีคนใส่ใจมากขนาดนี้
“ วุ้น ! ”
เสียงคุ้นเคยทำให้วุ้นเผลอสะดุ้งเฮือก วุ้นหันไปพบว่าเป็น ป้าแก้วนั่นเอง คนที่เขาผูกพันที่สุด คอยให้กำลังใจเวลาที่เขาท้อ วุ้นหลุบตาลง ซึ่งผมก็ไม่ได้มาลาป้าแก้วด้วย.. ทั้งๆ ที่ป้าดูแลผมมาตลอดตั้งแต่มาขายใหม่ๆ
“ ป้าแก้ว.. ” วุ้นครางชื่อออกมาเสียงอ่อน
เจ้าของชื่อยิ้มกว้างเดินเข้ามาหาวุ้น “ รู้ไหมตอนแรกป้านึกว่าเส็งมันพูดเล่น แต่พอเห็นวุ้นเดินมาจริงๆ ป้าดีใจมาก ”
“ ผมขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้ลาป้า ” วุ้นไม่กล้ามองป้าแก้วเพราะความรู้สึกผิด
ป้าแก้วยิ้มอย่างเอ็นดู ทั้งๆ ที่เป็นคนเงียบๆ แต่กลับเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่น “ ไม่เป็นไรหรอกลูก ป้าเข้าใจ พ่อคงไม่ให้เราขายล่ะสิท่า ? ”
“ ครับ ” วุ้นพยักหน้าเงยหน้าขึ้นมาสบตา แววตาของวุ้นยังคงเจือไปด้วยความรู้สึกผิด “ ป้าแก้ว.. ผมขอโทษจริงๆ นะครับ ที่ไม่ได้บอก ”
“ เอ้ะ บอกไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิ ” ป้าแก้วพูดเสียงเอ็ด “ ถ้าจะขอโทษป้า สู้อธิบายมาดีกว่าว่าทำไมหน้าตาถึงได้สดชื่นขึ้นมาขนาดนี้ ”
วุ้นถึงกับกระอักกระอ่วนตอบอะไรไม่ถูก
จะให้ตอบว่ายังไงล่ะ ?
“ เอ่อ.. ” วุ้นยังเรียบเรียงคำตอบไม่ได้
“ เพราะได้ผมเป็นคนดูแลครับ ” หนึ่งตอบด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
ลุงแช่มที่เป็นคนถามนี้คนแรกถึงกับค้าง
อย่าว่าแต่ลุงแช่มเลยทุกคนแถวนี้ค้างหมดนั่นแหละครับ
ใครจะไปคิดว่าพี่หนึ่งป่าวประกาศได้ปาวๆ แบบนี้ล่ะครั้ง
และเป็นเจ๊แตงโมที่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว “ บ้ะ ไม่เจอกันแปปเดียว เดี๋ยวนี้มีผัวเป็นตัวเป็นตนนะ วุ้น แล้วยังแซ่บกว่าเจ้อีกนะเนี่ย ”
ป้าแก้วหัวเราะ “ ตายจริง มีเจ้าของแล้วเหรอเราน่ะ วุ้น ”
“ เงียบๆ แล้วมีแฟนหล่อ งี้กูจะเงียบมั้ง ! ”
เหวอพี่หนึ่งไม่พอ วุ้นต้องเหวอกับปฏิกิริยาคนอื่นต่ออีกครับ
หนึ่งพูดเสียงกระซิบหน้านิ่ง “ นี่ไงข้อดีของการมีพี่หนึ่งไว้ครอบครอง ”
วุ้นกระซิบกลับ “ ยังไม่เคยครอบครองครับ ไม่นับเป็นข้อดี ”
“ แต่ที่แน่ๆ ข้อเสียของวุ้นคือ มีเตียงเล็กไปครั้งหน้ามาใช้เตียงพี่ดีกว่า ” หนึ่งพูดด้วยหน้าไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว
“ ไอ้พี่หนึ่ง ! ” วุ้นหน้าแดง
“ คุยกันสองคนอีก ! กลางตลาดนะเว้ยยย ฮิ้ววว ” เส็งที่ไม่ละความพยายามที่จะร่วมวงคุยด้วยแม้งานจะล้นมือ
และเสียงฮิ้วก็ยังคงดังต่อไป
ซึ่งวุ้นก็ถูกฟอกขาวต่ออย่างสนุกสนาน
กว่าจะได้กลับบ้านก็
... ดึกแน่ๆ
-------------------------------------------
มาช้ามาก อนุญาตให้ตบคนแต่งค่ะ 55555
คิดถึงคนอ่านค่ะ