•10•
คิดว่าได้เลี้ยงแมวอีกตัวที่ไหนได้...ดันคิดเกินแมว.. พยายามไม่คิดเกินเลยกับน้อง แต่ความรู้สึกไม่ใช่สิ่งที่จะควบคุมได้ รู้ตัวอีกทีก็สนใจน้องอาการสาหัสเข้าไปแล้ว พยายามหลอกตัวเองว่าเป็นเพราะความใกล้ชิด แถมตอนนี้ก็โสดเลยเหงา เจอปายเข้าไปเลยรู้สึก..
คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่
มีคนตั้งมากมายเข้าหา แต่ก็นั่นแหละ...ไม่ได้สนใจ
แล้วทำไมถึงสนใจปาย
เรียกได้ว่าเป็นโจทย์ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าแก้สมการใดๆ ความประทับใจแรกก็แค่ปายหน้าตาน่ารักเหมือนสำลี แมวที่เคยเลี้ยงก็เท่านั้น พอได้เข้าใกล้ถึงได้รู้ว่าความน่ารักของน้องนั้นแม่งเทียบไม่ได้กับหน้าตา
หน้าตาน่ารักเท่าไหน นิสัยน่ารักมากกว่านั้นล้านเท่า
ปายเหมือนแมว ยิ่งดูยิ่งเหมือน เวลาเราพูดอะไรก็จะเงยหน้ามาสบตา จ้องหน้าเหมือนสีเทาเวลามาขออาหารเวลาหิว เหมือนจะเป็นคนนิ่งๆ แต่ที่จริงแล้วเป็นคนคิดเยอะ ขี้เกรงใจ ที่สุดของคำว่าน่ารักโดยธรรมชาติ อยากจับมาบาบีบูบีบู ไม่รู้ว่าการที่เราเนียนไปหลายต่อหลายอย่างปายจะจับสังเกตได้มั้ย แต่คงได้...
ก็เล่นหนีไปซะอย่างนี้
ลำบากเอาการ...ถ้าไม่เข้าหาปายก็คงไม่มีทางรู้ แต่พอเข้าใกล้กลับระแวง ดีดตัวเองออกห่างซะอย่างนั้น ยังกับสีเทาเลย เข้าใกล้ก็ไม่ได้ พอไม่สนใจก็จะวิ่งเข้ามาหา ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันไม่เคยจีบเด็กผู้ชายนี่หว่า แต่เห็นหน้าแล้วคันมืออยากแกล้ง
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
หลังจากที่ลองเนียนกอดน้องไป ปรากฏว่าโดนตีตัวออกห่างเลย ไม่โผล่มาเลยตลอดสองอาทิตย์ สังเกตอาการปายวันรุ่งขึ้นหลังจากน้องรู้สึกตัวก็คิดว่าน่าจะเนียนสำเร็จ เหมือนปายจะไม่ว่าอะไรถึงจะทำท่าทีฟึดฟัด แต่ก็ไม่ได้ดูจริงจังซีเรียสจนเผลอคิดไปเองว่าน้องโอเค
โดนทิ้งเลย
ตอนปายไม่อยู่ เรากับสีเทาแทบไม่ต่างกันคือมีกิจวัตรเฝ้าหน้าประตูทุกวัน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ปายจะมา ถึงจะรู้ว่าถ้าน้องมาก็คงเข้ามาในหอไม่ได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด แต่ก็เออ จะมองอ่ะจะทำไม
สีเทานี่ก็ด่าใหญ่เชียว แรกๆ ก็เฝ้าประตูห้องเงียบๆ เหมือนทุกที แต่พอหลังจากผ่านไปอาทิตย์นึงไม่มีวี่แววของคนตัวขาว สีเทานี่ร้องโวยวายทั้งวัน ตื่นก็ร้อง กินข้าวเสร็จก็ร้องกลับมาจากที่ทำงานก็ร้อง ส่งเสียงดังไม่หยุด ดีนะห้องข้างๆ ไม่ด่า ถึงห้องจะเก็บเสียงอยู่พอควรก็เถอะ
รู้สึกผิดเลย
โดนน้องตีตัวออกห่าง แมวก็ด่า ห้องนอนดูโล่งกว่าที่เคยทั้งที่ปกติก่อนหน้าที่จะเจอปายก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รู้ว่าเรียกว่าอกหักได้มั้ย แต่โลกก็กลายเป็นสีเทาไปซะหมด มองอะไรก็พาลนึกถึงปายเสียอย่างนั้น หยิบมือถือขึ้นมาก็บ่อย หวังให้น้องโทรมาหาไม่ก็อยากจะกดโทรไปเอง
คิดถึง
เชื่อว่าไอ้ตัวข้างๆ ก็คิดเหมือนกัน ไม่งั้นไม่ร้องโวยวายไม่มีเหตุผลหรอก ร้องจนเหนื่อยก็ไปเฝ้าประตูเหมือนเดิม เห็นแล้วสงสารจับจิต อยากให้สีเทาได้เจอปายเหมือนกัน แต่ติดที่น้องอาจจะไม่อยากเจอเรา... ก็รู้หรอกว่านอนกอดกันมันไม่ปกติใครก็คิดได้ แต่อยากลองไง ที่ผ่านมาก็เนียนได้ตลอด หลอกล่อเค้าจนได้แอบจับมือ จนน้องมานอนบนเตียงเราได้เนี่ย คิดว่าน้องต้องสบายใจเมื่ออยู่กับเราไม่มากก็น้อยบ้างแหละ ถ้าน้องเป็นแมวคงจะหมายความว่าอย่างนั้น..
ก็ถึงขนาดที่เผลอหลับในห้องเรา ยอมให้เรานอนกอดถึงแม้เราจะกึ่งๆ บังคับก็ตาม แต่ตอนเช้าปายนั่นแหละเป็นฝ่ายมากอดเราเอง ที่จริงตื่นไปให้อาหารสีเทาแล้วเหอะ แต่อยากอยู่ใกล้ๆ ปายไงเลยมาเนียนนอนมองหน้าน้องต่อ ไม่คิดว่าน้องจะกลิ้งพลิกมากอดซะงั้น
คอสเพลย์เป็นหมอนข้างไปเลย
ตื่นมาปายก็ดูตกใจ แต่ก็ไม่พูดอะไรตามนิสัย นั่งจ้องเราเหมือนจะรอให้เราเปิดประเด็นก่อน ไอ้เราพอเห็นอย่างนั้นก็อยากแกล้ง ทำเป็นไม่สนใจนั่งอ่านหนังสือให้น้องจ้องอย่างหงุดหงิด ทั้งห้องเงียบจนกระทั่งน้องเผลอเอ่ยขอโทษสีเทาทำให้เราหลุดขำ โอ๊ย คนอะไรน่ารัก
สังเกตได้น้องหน้าบึ้งกว่าปกติ เดินมาหา เอาสีเทามาให้ก่อนขอตัวออกจากห้องไป และใครจะไปรู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอน้องจนถึงตอนนี้..
ไม่คิดว่าพอรุกหนักน้องจะดีดตัวหายไปเลย อยากจะโทรหาแต่ก็ไม่กล้า เป็นไอ้ขี้ป็อดอยู่อย่างนั้น กลัวโทรไปแล้วน้องไม่รับ กลัวน้องตัดสาย ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องเจ็บกว่าเดิมแน่ๆ ปายไม่เล่นไลน์ เลยไม่มีช่องทางติดต่อเขา แอพลิเคชั่นสีเขียวกลายเป็นหมันเมื่ออีกฝ่ายไม่มีไอดีไลน์ เฟสบุ๊คก็ไม่ได้ขอไว้ไง โง่บรม
เลยตัดสินใจไม่ทำอะไร ลองทำเนียนต่อไปว่าไม่ได้คิดอะไร ไม่มาก็ไม่มีอะไรนี่ บอกเลยว่าทรมานตัวเองทั้งนั้น วันๆ หนึ่งผ่านไปก็แทบตาย ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรสักอย่างเมื่อคิดว่ากลับห้องไปจะไม่ได้เจอเขา มีสีเทารออยู่เพื่อร้องด่าเท่านั้น
ขอโทษได้ป่ะล่ะ
แง้ว!!
นั่น ด่ากูอีกละ
จ้องหน้ามันปุ๊บเหมือนมันรู้ตัว หันมาด่าทันที เออรู้แล้วโว้ย ให้มันทำยังไงล่ะ จากปกติเวลาเครียดๆ จากอะไร กลับมานอนมองสีเทา เกาหัวเกาหางให้มันไปวันๆ ก็หายเครียดละ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ไง น้องเก็บสีเทามา เวลามองสีเทาก็จะนึกถึงน้อง แถมแมวอ้วนยังติดปายยังกะอะไร อยากจะมองมันคลายเครียดปรากฏเครียดกว่าเดิมเพราะคิดถึงน้อง
โว้ย อยากเจอ อยากกอดชะมัด
คิดพลางข่มตาหลับ นึกถึงไออุ่นครั้งสุดท้ายที่ได้สัมผัส
.
ทำงานไปหาวหวอดๆ ไป ง่วงจะบ้าตาย แต่ก็ต้องทำงาน ใส่หน้ากากคุณหมอที่ใจดีและสดใส ต่อหน้าลูกค้าและหมาน้อยคือยิ้มแย้ม ถ้าถอดออกมาจะกลายเป็นไอ้หมอหมาหน้าง่วงและโง่
กว่าจะเลิกงานก็ปาไปห้าโมง จะแวะซื้อข้าวหน้าปากซอยก็เสือกปิดอีก เลยได้แต่เดินซึมกะทือเข้าซอยหอไปตัวลอยๆ
พลันปรากฏร่างบางคุ้นตา เบิกตาโพลง ยืนจ้องพิจารณาจนแน่ใจ
ไม่ผิดตัวแน่!
แมวที่หายไปตั้งนาน..สปายมายืนด้อมๆ มองๆ อะไรตรงนี้!!
ทันทีที่ได้สบตา ตรงดิ่งเข้าไปคว้าตัวน้องไว้จนน้องตกใจ จับไหล่บางๆ นั่นไว้พร้อมจ้องไปยังใบหน้าที่คิดถึง ให้แน่ใจว่าเป็นปายจริงๆ น้องมาหาจริงๆ แม้ไม่อยากปล่อยแต่ก็ต้องคลายมือตัวเองออกเพราะน้องดูตื่นกลัว แต่เพื่อป้องกันไม่ให้น้องดีดหนีไปอีกจึงเลื่อนไปจับข้อมือน้องไว้
อยากกอดอ่ะ อยากกอดชะมัด
จบความคิด ร่างกายทำงานไวกว่าสมอง ลากน้องขึ้นห้องโดยไม่ทันคิดว่าเพราะไอ้การกระทำบุ่มบ่ามแบบนี้นี่แหละที่ทำให้น้องดีดตัวหนีไป
ปิดประตูห้อง สวมกอดกับความคิดถึงเสียแน่น
“ปาย...คิดถึง..”
กล่าวคำที่อัดอั้นมานาน
“...แมวหรอ”
“เปล่า..พี่เนี่ย”
“...”
คงเพราะที่ผ่านมาเอาแต่เล่นมาเกินไปจนน้องทำให้น้องไขว้เขว เอาตรงๆ ก็รู้สึกได้ในความสัมพันธ์ที่มากกว่าพี่น้อง ปายไม่ดิ้น แต่เกร็งตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่พอผ่านไปสักพักน้องก็เริ่มผ่อนคลาย ถึงได้ปล่อยอ้อมแขนออก
“พี่ขอโทษ..”
พลางจ้องมองใบหน้าที่แสนคิดถึง ให้ตาย ทำไมยังน่ารักเหมือนเดิมเลย ความคิดถึงที่อัดอั้นมานานมันมากจนล้นทะลัก จดจ้องใบหน้าละมุนเลื่อนลงไปที่ริมฝีปากแดง อยาก…
“..เรื่องอะไร”
“ทุกอย่าง...ที่ทำก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้...”
น้องพยักหน้า ไม่โกรธแล้ว...ทำให้ตัดสินใจ...
“รวมถึงเรื่องที่จะทำต่อจากนี้ด้วย...”
“จูบนะ...”
จนกระทั่งริมฝีปากของเราสัมผัสกัน
น้องชะงักแต่ไม่ดิ้น ทำให้ได้ใจมากกว่าเดิม ออกแรงบดริมฝีปากบางนั่นเข้าไป ดุนดันให้เขาเผยอปากออกก่อนส่งตัวแทนไปสำรวจ เกี่ยวตวัดลิ้นเล็กที่หดหนี ไล่คุกคามจนเกิดเสียงดังประหลาด ทั้งรสน้ำหวานและไออุ่นทำให้ขาดสติแทบคลั่ง บดเบียดริมฝีปากร้อนมากกว่าเดิม ห้ามใจไม่ไหว
คล้ายเวลาจะหยุดเดิน
ปายส่งเสียงอื้ออึง คล้ายจะขอพักยก ตอบแทนด้วยการปิดปากน้องให้มากกว่าเดิม รสจูบทั้งหวานทั้งร้อนยากเกินจะผละออก ไล่ละเลียดชิมน้ำหวานในโพรงปากพร้อมทั้งตวัดลิ้นสำรวจเสียทั่ว กดย้ำริมฝีปากล่างซ้ำๆ คลอเคลียจนอิ่มเอมแล้วถึงค่อยๆ ปล่อยตัวปาย ที่ตอนนี้สั่นยังกับอะไรดี
ชิบหาย
รุกหนักกว่าเดิมอีกไอ้แม่มึง
ตายห่า โดนเกลียดแน่ๆ มีที่ไหนลากน้องเข้าห้องมากอดมาจูบแบบนี้ ทำอะไรทำไมขาดสติ ทำไมไม่คิดวะ!
เพราะความคิดถึงที่โจมตีอย่างหนักจนทำให้รู้ใจ ทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้แต่ก็รู้ว่าไม่ใช่ข้ออ้างที่ดี
ก้มลงไปสำรวจคู่กรณีที่ตอนนี้ขยุ้มปลายเสื้อเราพร้อมหอบไม่หยุด มีสีเทาเดินวนเวียนส่งเสียงร้องโวยวายอยู่ตามพื้น พอปายสติสตังเริ่มกลับเข้าที่แล้ว น้องไม่ได้เงยหน้ามามองเรา แต่ก้มลงไปอุ้มสีเทาขึ้นมา เดินรุดไปนั่งที่โซฟา
แต่เห็นนะว่าหูแดง…
เข้าข้างตัวเองปกปิดความผิดทันที...น้องเขินแน่ๆ
การที่ปายไม่พูดอะไรทำให้เปิดโอกาสให้เรายัดเยียดความคิดตัวเองใส่ ทั้งน้องเขิน น้องไม่รังเกียจ น้องชอบเพราะน้องไม่หนี รู้ทั้งรู้ว่าอาจจะกำลังหลอกตัวเองอยู่ ทั้งที่ความจริงสปายอาจจะเกลียดเราจนพูดไม่ออกอยู่ก็ได้
เอาแล้ว ทำไงดี
“กินข้าวหรือยัง...”
ใจกล้าถามไปหลังจากเพิ่งเสร็จภารกิจจูจุ๊บอย่างดูดดื่ม แน่นอน...น้องไม่ตอบ ไม่หันมาเหมือนทุกทีด้วย แก้ตัวให้ตัวเองว่าน้องเขินอยู่ สปายกอดสีเทาไม่ปล่อย ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไรเพราะไม่เห็นหน้า แต่เหมือนน้องอุ้มเพื่อนร่วมโลกตัวสีเทานี้ไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว
กอดไม่ปล่อยเลย ฮือ อยากเป็นแมว
ไอ้เทาพอน้องมาก็เงียบทันที ไม่ร้องโวยวายแล้ว ซุกไซร้น้องซะจนน่าถีบ แมวทรพี ทีกับเราแทบจะไม่อ้อนกันอย่างนี้ ทำไมต้องมาทำให้อิจฉา
แกล้งเดินวนไปหาน้อง สปายหลบหน้า เบือนหน้าหนีไม่ให้เราเห็น ถอนหายใจพร้อมเดินออกไปตรงระเบียง ไม่อยากเดินย้อนกลับมากวนใจน้องอีก
ดูก็รู้ว่าปายมาหาสีเทา ไม่ได้เจอมาตั้งสองอาทิตย์น้องต้องคิดถึงคุณเกรย์ของเขาอยู่แล้ว แต่มีไอ้หน้าด้านที่ไหนไม่รู้ไปกอดจูบเขาจนขวัญเสียแบบนี้ ถ้าใจเย็นกว่านี้ ห้ามใจตัวเองได้ทันก็คงได้คุยกับน้องไปแล้ว
โง่
แอบเหลือบผ่านกระจกระเบียงมองร่างเล็กที่คุดคู้อยู่กับแมวสีเทา น้องหันหลังให้เราโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นหน้าตามคาด เอาเถอะ เวลาย้อนกลับไม่ได้ ถึงย้อนได้ก็ไม่แน่ใจว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีก อย่างไรครั้งนี้เราก็ผิดเอง
จรดไฟแช็คลงปลายบุหรี่ จนติดควันแล้วจึงยัดเข้าปาก สูดเข้าไปหนึ่งเฮือก ปลดปล่อยควันเสียออกมา
ปกติไม่สูบ สูบไม่บ่อยแค่นานๆ ที ไม่เครียดจนถึงขั้นทำอะไรไม่ได้อย่างนี้ก็ไม่สูบ เพราะมีสีเทาไว้คอยคลายเครียดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ตัวบันเทิงในชีวิตไม่อยู่ไง แถมไอ้ที่พึ่งทำลงไปก็แม่งโคตรสถุล
กลัวน้องเกลียด
ก่อนทำไม่คิด หลังทำเพิ่งมาสำนึก เอาเข้าไปไอ้คราม ไม่รู้จะเริ่มคุยอย่างไรดีถึงได้เดินหนีออกมาตั้งสติก่อน ปายพยายามไม่มองหน้าเราอยู่เลยไม่อยากไปวอแวด้วย เดี๋ยวน้องหงุดหงิดใส่มากกว่าเดิม ได้วิ่งปรู๊ดออกนอกห้องหนีไปอีก
ถอนหายใจอีกครั้งก่อนได้ยินเสียงเปิดประตู ไม่ใช่เสียงประตูห้องเพราะนั่นต้องใช้ลูกบิด แต่นี่เสียงบานเลื่อน แถมดังใกล้ขนาดนี้ สะดุ้งเมื่อรู้ว่าใครกำลังเข้ามาใกล้ หันไปก็เจอปายยืนอยู่ในห้อง ระยะห่างคั่นด้วยธรณีประตู
น้องค้นหาที่ว่างก่อนเดินออกมาที่ระเบียง ยืนอยู่ข้างๆ เรา
ใจสั่นชิบหาย ไอ้แม่เอ้ย
จนตอนนี้ก็พูดอะไรไม่ออก ถ้าจู่ๆ ปายเปิดประตูห้องละออกไปยังจะเข้าใจง่ายกว่านี้ แต่นี่เล่นมาอยู่ข้างตัว ต้องคิดยังไงดี หัวสมองว่างแต่รู้ว่าตอนนี้ต้องทำหน้าโง่ใส่น้องอยู่แน่ๆ
เสียงใสเอ่ยถามทำลายความเงียบ “สูบบุหรี่หรอ...”
“อ่ะ...อืม”
“สูบบ่อยหรอ”
“..ไม่บ่อยหรอก”
“งั้น..ดับก่อนได้มั้ย....ครับ”
ทำตามที่ขอ ขยี้ปลายบุหรี่ลงบนที่เขี่ยอย่างรวดเร็ว ไม่รู้สึกเสียดายแม้จะเผาผลาญไปไม่ถึงครึ่งแท่ง
คนตัวเล็กก้มหน้า เม้มปากก่อนเสหน้ามองออกไปนอกระเบียง
เห้อ คนอะไร หน้าด้านข้างยังน่ารักเลย
เหนื่อยหัวใจ
สะดุ้งเฮือกเมื่อน้องหันกลับมาสบตากับเรา ปากบางที่บวมเจ่อเล็กน้อยจากผลการกระทำเมื่อครู่ขยับเอ่ย
“..ที่ทำเมื่อกี้...ทำไม..” เสียงทุ้มใสน่าฟังเอ่ยขึ้นอย่างสั่นๆ
“.......”
“..ปกติ..ก็ทำอย่างนี้กับทุกคน..หรอ”
“ไม่ใช่” รีบตอบโดยพลันต่างจากคำถามก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ดวงตากลมขยับขึ้นมาจ้องเรามากกว่าเดิม
“แล้วทำ..ทำไม”
“แล้วปายคิดว่าพี่ทำทำไมล่ะ”
ไอ้ชิบหายไปถามกวนตีนน้องกลับอีก
“.....” คราวนี้น้องไม่ตอบ เม้มปากแน่น
“...ถ้าถามว่าพี่รู้สึกยังไง...ให้จูบเมื่อกี้เป็นคำตอบได้ไหม”
คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมามองเราใหม่อีกรอบ หน้าตาน่ารักจนทำให้ใจที่สั่นอยู่แล้วสั่นแรงกว่าเดิม สปายจ้องหน้าเราอยู่นาน ไม่ได้รู้สึกขัดเขินอะไรเพราะเราก็ชอบที่จะได้มองหน้าน้องเหมือนกัน
เหม่อมองใบหน้าจิ้มลิ้มนั้น..โดยไม่รู้ตัว
ริมฝีปากเราถูกประทับจากริมฝีปากอีกฝ่าย
ใจกระตุกไปถึงตาตุ่ม ไม่คิดว่าน้องจะเริ่มแต่ก็ไม่คิดรังเกียจ แม้สัมผัสจะไม่ได้รุนแรงเหมือนที่เราทำกับน้อง แต่กลับนุ่มนวล ปายเม้มปากแน่น ตัวสั่นระริกแต่ก็ยังไม่ยอมถอนความอุ่นนี้ออกไป จนเราเผลอคว้าตัวน้องให้เข้ามาบดเบียดให้ใกล้กันมากกว่าเดิม
กดจูบย้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พึงพอใจในรสหวานละมุน มือสองข้างของน้องที่วางแนบอกเปลี่ยนเป็นขยุ้มเสื้อเราแน่น เข้าใจคำตอบที่ปายมอบให้พลันทำให้รู้สึกตัวลอย ความเครียดที่สะสมมาลอยหายไปกับสายลม เคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
จูบกับใครก็ไม่เคยให้ความรู้สึกอย่างนี้
จนอยากให้เวลาผ่านไปช้าๆ..
แง้ว!!
แมวเลว!
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
สงสารอิพี่
#คุณเกรย์