คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 167625 ครั้ง)

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #690 เมื่อ05-02-2008 09:26:06 »

อ่ะนะนึกว่ามาต่อ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #691 เมื่อ05-02-2008 09:54:14 »

ตอนจบอย่าดักตีหัวนัทนะพี่กั้ง 555
ทั้งรักทั้งแค้น 

รอจ้ารอ   :oni2:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #692 เมื่อ07-02-2008 10:16:58 »

                 “นอนได้แล้ววู้ววววว........” ตอนนี้นัทไม่สามารถจะนอนหลับอย่างเป็นสุขได้อีกต่อไปแล้ว.........ตราบใดที่ผมยังคงนั่งกอดอก ทำหน้าบึ้งตึง ยืนกรานว่าจะต้องคุยให้รู้ดำรู้แดงให้จงได้อยู่อย่างนี้....................

                 ท่าทีของเค้าดูเหมือนว่าอยากจะจบการสนทนาลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...........บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า เค้าคงยังไม่พร้อมที่จะพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนก็เป็นได้ (คงกำลังสับสนมั้ง)............หึ........แล้วจะเพราะอะไรล่ะ...... ถ้าไม่ใช่เพราะว่า พอเห็นผมทำท่าจะเอาจริงเข้าให้ เค้าก็ดันเกิดความลังเลขึ้นมาซะอย่างงั้นล่ะมั้ง..............

                  ผมยังคงใช้ยุทธวิธีนั่งนิ่งไม่พูดไม่จาท่ามกลางความมืดมิดต่อไป...........เสียงสั่นสะเทือนจากพัดลมบนเพดานห้องดังแว่วทำลายความเงียบมาเป็นครั้งคราว.........นัทนอนพลิกตัวไปมา ทำท่าทางฟึดฟัดอึดอัดใจกับพฤติกรรมดื้อแพ่งของผมดังกล่าว..........

                 “มานอนตรงนี้มา”.........ในที่สุดนัทก็เอื้อมมือมาลากแขนผมลงไปนอนอยู่ใกล้ๆ............

                 “จะทำอะไร”........ผมพยายามขืนตัวออกจากการกอดเกี่ยวของเค้าพอเป็นพิธี.........คิดเหรอว่าจะใช้วิธีนี้ได้ผล.......มุขเดิมๆ........

                  “หันมานี่”...........นัทดึงเอาตัวผมเข้าไปกอดไว้แนบชิดกับอก............ไออุ่นจากอ้อมกอดของเขาทำให้ผมรู้สึกปั่นปวนในท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก...........ให้ตายสิ เค้าชอบหาวิธีมาทำให้ผมใจอ่อนได้เสมอนั่นแหล่ะ...........

                   “ต้องให้นอนกอดแบบนี้ใช่มั้ยถึงจะพอใจ”............นัทประชดด้วยเสียงน้ำเสียงอ่อนระทวย............

                    แม้ว่าอ้อมกอดและความรักจากนัทจะเป็นสิ่งที่ผมถวิลหามาโดยตลอดในช่วงหลังนี้..........แต่ผมไม่เคยคาดว่าจะต้องได้มันมาด้วยวิธีนี้..........ผมเคยได้มันมาโดยที่ไม่ต้องร้องขอหรือใช้วิธีการข่มขู่ใดๆ............แต่ตอนนี้มันไม่ใช่............คิดแล้วก็ชวนให้รู้สึกเวทนาตัวเองเหลือเกิน..........นี่เค้ายังรักผมอยู่หรือเปล่า.........ถ้าไม่รักแล้วจะมาทนอยู่ด้วยกันให้เจ็บปวดต่อไปอีกทำไม.........ผมไม่เข้าใจเค้าเลยจริงๆ..............

                  นัทเลื่อนริมฝีปากไล้ลงไปตามซอกคอของผมอย่างแผ่วเบา............ผมรู้สึกร้อนวาบสั่นสะท้านไปทั้งร่าง.........ไฟปรารถนาของเราสองคนลุกโชนท่ามกลางความขัดแย้ง..............เค้าปรารถนาที่จะดำเนินตามครรลองที่ถูกต้องของศาสนา........ในขณะที่ผมปรารถนาที่ครอบครองเค้าทั้งกายและใจ...........เราสองคนไม่มีวันจะเดินทางร่วมกันไปจนถึงจุดหมายปลายทางได้หรอก..........เราคงเพียงแค่เดินทางมาบรรจบกันเพื่อรอวันที่จะแยกจากกันไปทีละน้อย.............

                 ผมพลิกตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับนัทด้วยลมหายใจที่รวยริน..............เราสองคนโถมเข้าหากันราวกับแม่เหล็กต่างขั้ว.................ความโมโหของผมเมื่อครู่ได้มลายหายสิ้นไปเสียแล้ว.........หลงเหลืออยู่ก็เพียงแต่ความปรารถนาที่กำลังคุกรุ่นอยู่ภายในใจเท่านั้น.........

                 แม้ว่านาทีนี้ผมจะไม่อาจทัดทานอารมณ์เบื้องต่ำของตนเองได้ก็ตาม..........แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่นัทได้เคยกระทำและเพิ่งกระทำไป..........บัดนี้ เค้าได้สร้างรอยแผลเอาไว้ในใจให้กับผมแล้ว............ถึงแม้ว่าเซ็กส์จะเป็นวิธีการคืนดีที่ได้ผลชะงัดอีกวิธีหนึ่ง และผมก็ยอมรับว่าชื่นชอบมันซะด้วย........แต่มันก็คงจะใช้ไม่ได้ผลตลอดไปหรอก.......คงอีกไม่นาน..........


                 โธ่เอ้ย........ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อคืนผมทำตัวง่ายกับนัทแค่ไหน.........ยังช็อกกระหรี่ข้างถนนที่ไร้ศักดิ์ศรีกระนั้น.........ไม่ใช่สิ........คนพวกนั้นได้เงินนี่..........แต่ผมมีแต่เสียกับเสีย..........โดยเฉพาะ เสียใจ.....ถึงยังไงผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นในตอนนี้ เนื่องจากนโยบายเดิมที่ได้ตั้งเอาไว้คือต้องพยายามประคับประคองความรักของเราสองคนให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้............เพราะฉะนั้นทำตัวง่ายๆเข้าไว้ก็ดี แม้ว่าจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างก็เถอะ...........

                  นัทหายขึ้นไปจัดฟันที่ตึกคณะทันตแพทย์ได้สักพักหนึ่งแล้ว.........ตอนนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะทำนอกจากเดินเตร็ดเตร่รออยู่แถวๆนั้น...........หวนคิดไปถึงเรื่องที่นัทได้ปากเสียเอาไว้กับอ้นก็พาลรู้สึกผิดขึ้นมาตะหงิดๆ.............คืนนั้นผมไม่ได้พาหล่อนกินข้าวก่อนกลับซะด้วยสิ ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือเปล่า.........แม้ว่าผมไม่ได้เป็นคนก่อเรื่อง แต่ผมก็ควรจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับเรื่องนี้เหมือนกัน..........ขนาดหมาของเราไปกัดคนอื่น เรายังต้องจ่ายค่ารักษาให้เลย........ว่าแล้วก็โทรไปหยั่งเชิงดูดีกว่า............

                  “ฮัลโหล อยู่ไหนจ้ะสาวสวย”.........รู้สึกเหมือนเสียงตัวเองสั่นๆยังไงพิกล..........

                  “อยู่ห้อง........พี่กั้งอ่ะ อยู่ไหน”..........ฟังน้ำเสียงหล่อนยังดูตึงๆอยู่ สงสัยจะยังไม่หายโกรธ.........

                  “พี่พานัทมาจัดฟัน.......ตอนนี้ก็นั่งรออยู่ที่รถ.......คงสักพักถึงจะเสร็จ”..........อืม.........จะเริ่มตรงไหนดีหว่า........เว้ากันซื่อๆก็แล้วกันเนาะ..........

                 “เมื่อคืนพี่ขอโทษแทนนัทด้วยนะ........เค้าก็ปากเสียแบบนี้แหล่ะ อย่าไปถือสาเลย”..........

                  “ไม่เป็นไรหรอกพี่...........แต่มันก็พูดกะน้องแรงเหมือนกันนะที่บอกให้ไปกินดินน่ะ..........เอ..........หรือว่ามันจะหึงที่เห็นน้องไปกะพี่กั้งนะ”...........อ้นตั้งข้อสันนิษฐานเป็นตุเป็นตะ..........

                 “ไม่หรอกมั้ง........ใครมันจะบ้าคิดไปได้ หึหึ”............หึงแกนี่นะนังอ้น..........คิดได้ไง.........หรือนัทจะรู้ว่าหล่อนเป็นรุกนะ อิอิ............อันที่จริงอ้นก็ชอบประกาศตัวว่าเป็นรุกกับคนรอบๆข้างเสมอ (ปกติคนเป็นรุกนี่มันต้องประกาศตัวด้วยเหรอ ดูแค่ภายนอกก็รู้กันอยู่แล้วมั้ง)........ผมว่าอ้นดูออกสาวกว่าผมอีกในบางที.........เวลาที่ผมแหย่ว่าหล่อนสาว หล่อนจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเสมอ......เรื่องความหล่อหรือสวยของหล่อนก็ไม่ต้องถามถึง เพราะไม่อยากจะบรรยาย........เพราะฉะนั้นเลิกคิดเรื่องหึงไม่หึงนี่ไปได้เลย..........

                 “ไม่รู้สิ.......ก็พอมันเห็นน้องมาด้วย มันก็แสดงท่าไม่พอใจอ่ะ”.........ผมควรจะบอกหล่อนดีมั้ยนะว่าที่นัทไม่ชอบขี้หน้าหล่อน ก็เป็นเพราะหล่อนชอบไปปากเสียใส่เค้า............อันที่จริงนัทบอกเรื่องที่ไม่ชอบอ้นให้ผมฟังมาตั้งนานแล้วล่ะ.......แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงถึงขนาดนี้.........แต่ก็ช่างมันเถอะ......เรื่องมันแล้วไปแล้ว.........

                 “อืม.......ไม่ได้ถือสาก็ดีแล้ว......พี่จะได้สบายใจ”.........เราคุยเรื่องนัทต่อสักพัก โดยมากอ้นจะเป็นคนรับฟังและแสดงความคิดเห็นบ้างเป็นบางครั้ง..........ผมเล่าเรื่องที่ปราบพยศนัทเมื่อคืนให้หล่อนฟังด้วย........รู้สึกภูมิใจในตัวเองอยู่หน่อยๆแฮะ.........แต่ถ้าเมื่อคืนนัทไม่ยอมหงอให้........บางทีวันนี้ผมอาจจะได้เล่าทั้งน้ำตาแทนก็เป็นได้..........

                “จำแหวนที่เราไปซื้อที่วัวลายได้มะ........พี่ว่าจะให้นัทวันนี้เธอว่าดีมั้ย”...........ผมปรึกษาหล่อนทั้งที่ใจก็ได้วางแผนเอาไว้แล้ว.........

                “ก็ให้มันเลยสิ......ใส่คนละวงโรแมนติกดีออก”.........อ้นเห็นดีเห็นงามด้วย

                   “แล้วเค้าจะยอมใส่เหรอ........คิดๆแล้วก็กลัวๆอยู่เหมือนกันนะเนี่ย อิอิ”........ผมพูดพลางหัวเราะคิกคักด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแกมเขิน.........

                ก็ลองไม่ยอมใส่สิ.......แล้วเราจะได้เห็นดีกัน.......ตอนนี้ผมยิ่งหาเรื่องจะเลิกกับเค้าอยู่ด้วย........ถ้านัทไม่ยอมให้ความร่วมมือ โอกาสจะที่เราจะคุยเรื่องเลิกกันมันง่ายมาก.......เพราะว่าตอนนี้ผมได้ถอดใจแล้ว........ถอดใจทั้งที่ยังรักอยู่......ดังคำที่ว่าตบมือข้างเดียวไม่ดัง......เพราะฉะนั้นก็ควรจะเลิกตบมันซะเถอะ ถ้ามือมันจะไม่สามัคคีกันขนาดนั้นน่ะ.........


                รอแล้วรอเล่า..........นัทก็ยังไม่ลงมาซักที..........ยืน........เดิน........นั่ง........สูบบุหรี่..........บางทีผมก็ชอบอะไรแบบนี้นะ.........ชอบที่จะรับบทรอคอยคนรักด้วยความซื่อสัตย์.........ในขณะที่เค้าช่างกักขฬะ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจเอาซะบ้างเลย........มันรันทดดี..........พอมาคิดดูดีๆแล้ว ผมอาจจะเป็นโรคจิตก็ได้นะ........บางครั้งผมก็ไม่รู้ว่าอันไหนเป็นความรู้สึกจริงๆของเราหรืออันไหนเป็นสิ่งที่เราปรุงแต่งขึ้นตามแต่ใจอยากจะให้เป็น........สับสนดีพิลึก.........

                หลังจากที่ผมรอคอยมาครึ่งค่อนวัน........ไม่นาน นัทก็เดินตัวปลิวลงมาจากตึก..........เฮ้อ........ถึงเวลาจะได้กลับกันซะที........พอไปถึงที่ห้องแล้ว ผมจะเอาแหวนนั่นให้เค้า..........ถ้าเป็นไปได้ บทสนทนาเกี่ยวกับแหวนแทนใจสองวงนั้นมันควรจะเป็นไปตามสคริปที่ผมได้วางเอาไว้..........แต่ถ้ามันจะไม่เป็นไปตามนั้นก็หยวนๆกันไปก็แล้วกัน.........ผมไม่ซีเรียสอะไรมากหรอก.......ขอแค่เค้ายอมใส่มันตามที่ผมต้องการเป็นพอ...........

                “กลับกันเถอะ”........นัทร้องเรียกมาแต่ไกล.........ผมส่งยิ้มเย็นๆไปให้เป็นการตอบรับ........การได้มาอยู่ด้วยกัน อะไรต่ออะไรมันคอนโทรลง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ.........เสียดาย เค้าไม่น่าจากผมไปเร็วขนาดนี้เลย............

                ผมขับรถฝ่าเปลวแดดมุ่งหน้ากลับห้องด้วยความสบายใจ.........วันนี้ยังมีอะไรให้ต้องทำอีกมาก.......โดยเฉพาะเรื่องแหวนนั่น........แน่ล่ะ มันไม่ได้เป็นแค่แหวน.........แต่มันจะเป็นสิ่งบ่งบอกถึงสายสัมพันธ์ระหว่างเราว่า.......จะอยู่หรือไป...............

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #693 เมื่อ07-02-2008 11:38:41 »

ขอให้นัทยอมใส่นะ  :เฮ้อ:

ปล  ถ้านัทกับพี่กั้งไปวนๆเวียนๆอยู่แถวคณะทันตะบ่อยๆ ประมาณช่วงสามปีก่อน  เราอาจจะเคยเดินสวนกันก็ได้นะ  :a4:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #694 เมื่อ07-02-2008 12:52:24 »

ทำไมโลกถึงได้กลมงี้อ่ะ.........มันเป็นช่วงเวลาเดียวกันพอดีเรยจ้ะ..........

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #695 เมื่อ07-02-2008 13:00:17 »

จะเป็นยังไงต่อไปนะ
ลุ้นขอให้ลงเอยด้วยดีเถอะคุณกั้ง :a1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #696 เมื่อ07-02-2008 13:33:21 »

โอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว

อ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า  มันเหมือนแรงเทียนสุดท้ายก่อนไฟจะดับเลย

หรือคุณพี่ว่าไง


yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #697 เมื่อ07-02-2008 14:27:36 »

ทำนายแม่นยังกะตาเห็นแน่ะ....หุหุ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #698 เมื่อ07-02-2008 14:34:39 »

ก็พี่เขียนมาอย่างนี้

น้องก็อ่านแล้วรู้สึกแบบนั้นจริงๆ  อะ

หรือว่ามันจะ.....

 :serius2:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #699 เมื่อ07-02-2008 17:16:47 »

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปไหงกลายเป็นบ้องกัญชาซะได้
อ้ายเราก็นึกว่าจะมีโหด เดือด เลือดสาดกันมั่ง
กลายเป็นคนดูเลือดสาดไปซะงั้น   :m25:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #699 เมื่อ: 07-02-2008 17:16:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #700 เมื่อ14-02-2008 11:11:53 »

                 “พี่มีอะไรจะให้นัทด้วยล่ะ”..........เอาล่ะกั้ง..........ใจเย็นๆ...........ค่อยๆต้อนเค้าไปตามหมากที่วางเอาไว้........ทุกอย่างต้องไหลลื่นและสุดแสนจะโรแมนติกแน่ๆ.........

                 นัททำหน้าตาเหรอหราด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นผมชูแหวนเงินสองวงวาววับขึ้นบนอากาศ........

                 “เป็นไงสวยมั้ย”..........ผมเดินยิ้มกริ่มมาที่นัท ซึ่งตอนนี้กำลังทำสีหน้าตกตะลึงเล็กน้อย........ประหลาดใจใช่มั้ยล่ะ........ผมว่าเค้าน่าจะเดาออกนะว่าการใส่แหวนเงินเกลี้ยงคนละวง มันหมายถึงอะไร.........

                  “อะไรอ่ะ........ไปเอามาจากไหน......เฮอะๆ”........นัทหัวเราะถามเขินๆ แต่ก็ยังทำหน้าตาย ไม่ยอมรับมุข...........ผมว่าเค้าค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการแสดงออกเกี่ยวกับความรักนะ..........

                  “ก็พี่ซื้อแหวนเอาไว้ให้ใส่กันคนละวงไง”...........ผมว่าพลางเดินเข้ามานั่งประชิดข้างๆ.........

                  “เอามือมานี่ เดี๋ยวพี่จะสวมให้”...............เอาล่ะ.........พอสวมให้เค้าแล้ว ผมจะต้องพูดอะไรซึ้งๆอย่างที่ได้ซ้อมเอาไว้..........รับรองคราวนี้ ต่อให้เป็นคนใจหินแค่ไหนก็ต้องอ่อนระทวยลงไปกองกับพื้นแน่ๆ............

                   ผมเอื้อมมือไปหยิบมือของนัทมากุมเอาไว้อย่างช้าๆ............จะเริ่มต้นพูดอะไรก่อนหลังดีนะ...........เริ่มตรงที่ว่า พี่อยากให้แหวนวงนี้เป็นตัวแทนของพี่ดีกว่า.............

                  “เอามานี่........เดี๋ยวนัทจะใส่เอง”...............ยังไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากพูดตามบทที่วางเอาไว้ นัทก็ชิงแย่งเอาแหวนจากมือผมไปซะก่อน.............หมดกัน.......แล้วที่ซ้อมเอาไว้จะทำยังไงกันล่ะทีนี้......

                  นัทคว้าเอาแหวนจากมือผมไปสวมที่นิ้ว..........ผมได้แต่ตลึงมอง เนื่องจากไม่คาดฝันว่าอะไรต่ออะไรมันจะกลับตาลปัตรไปอย่างนี้...........

                  “มันไม่พอดี.........สวมไว้ที่นิ้วกลางก็แล้วกัน”...........นัทขยับแหวนเข้าๆออกๆระหว่างนิ้วนางกับนิ้วกลาง........สุดท้ายเค้าก็เลือกที่จะสวมมันไว้ที่นิ้วกลาง

                      โหย............เล่นไม่ยอมรับมุขแบบนี้ผมก็เดินหมากต่อไม่ถูกเลยอ่ะดิ..............เอาล่ะ..........ไหนๆก็ไหนๆแล้ว........ถึงเค้าไม่ยอมให้ผมสวมแหวนที่นิ้วนางให้ แต่อย่างน้อยๆเค้าก็น่าจะยอมสวมแหวนอีกวงที่นิ้วนางของผมบ้างแหล่ะ............

                 “นัทสวมให้พี่ด้วยสิ”.........ผมพยายามข่มใจทำเสียงออดอ้อนต่อ.........รู้สึกอายตัวเองพิลึก..........

                  “พี่กั้งก็ใส่เองดิ”.........นัทว่า แล้วลุกเดินปุเลงๆหนีไปเข้าห้องน้ำเสียฉิบ.............โธ่เว้ย..........ไม่โรแมนติกเอาซะเลย...........อยากจะบ้าตาย..........ผมฟึดฟัดด้วยความขัดใจอยู่เงียบๆ.......

                  ในเมื่ออะไรต่ออะไรมันไม่เป็นไปตามที่คิดตั้งแต่ต้น.........ก็คงต้องปล่อยให้มันจบแบบอุบาทว์ๆ ไปแบบนี้ก็แล้วกัน.............

                  ผมก้มหน้าก้มตาสวมแหวนวงที่เหลือของผมต่อเพียงลำพัง............แหวนเงินวงเกลี้ยงสวยแวววับจับใจ...........เสียดายที่เค้าไม่ยอมสวมให้ผมตามที่ขอ..........แต่ก็ช่างมันเถอะ..........ถึงมันจะไม่เป็นไปตามที่คิด แต่ก็พออนุโลมได้ว่าเค้ายอมรับรู้ถึงพันธะสัญญาของแหวนทั้งสองวงที่เราสวมกันอยู่นี้ก็พอ.............หวังใจว่ามันคงจะเป็นเครื่องเตือนใจเค้าถึงผมได้บ้างไม่มากก็น้อย..........ผมคงทำได้แค่นี้แหล่ะ............


                   การกลับมาเชียงใหม่ของนัทในครั้งนี้ ทำให้ผมมีความสุขแค่ครึ่งๆกลางๆ........ได้อย่างใจบ้าง ไม่ได้อย่างใจบ้าง...........แต่อย่างน้อยๆเราก็มีเซ็กส์ดีๆกันในช่วงบ่าย และขลุกอยู่ด้วยกันตลอดทั้งคืนจนถึงค่อนสายของวันรุ่งขึ้น.........

                   “พี่กั้ง......ไปส่งนัทหาน้องชายหน่อย”............นัทเดินมาบอกผมหลังจากที่เค้าคุยโทรศัพท์กับใครสักคนเสร็จเรียบร้อยแล้ว.............

                   “อ้าว........จะไปไหนอีกอ่ะ”...........กำลังจะเอ่ยปากชมอยู่แล้วเชียวว่าทำตัวน่ารัก อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน.......แต่พ่อเจ้าประคุณดันเล่นหาเรื่องจะไปข้างนอกอีกแล้วเหรอ.........

                   “ใจคอจะไม่ให้นัทไปเจอญาติพี่น้องเลยหรือไง”.........นัทโวยวายเสียงอ่อน.........สงสัยจะกลัวผมไม่ให้ไป.........ช่างน่าหมั่นไส้นัก...........ทีอยู่ที่เชียงใหม่กะเราทำตัวยังกะลูกไก่อยู่ในกำมือเชียว............แต่ทำไมน๊า พอไปอยู่ที่แพร่ทีไร พฤติกรรมของเค้าถึงได้เปลี่ยนราวกับเป็นคนละคน.........ผมคงจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆหรอก.......ยังไงตอนขากลับไปส่งเค้าที่แพร่ ผมต้องหาโอกาสคุยเปิดใจกับเค้าเรื่องนี้ให้ได้.........ผมรู้ว่าครั้งนี้เค้าจะต้องฟังในสิ่งที่ผมจะพูดแน่ๆ.........ถ้าไม่รีบพูดตอนนี้ผมคงจะไม่มีโอกาสได้พูดอีกต่อไป...........ถึงตอนนั้น อะไรต่ออะไรก็คงจะสายจนเกินกว่าจะแก้ไขได้เสียแล้ว...........

                  นัทหายไปตลอดเช้าจนคล้อยบ่าย เค้าจึงติดต่อกลับมา..........เมฆฝนกำลังตั้งเค้ามาแต่ไกลเหนือดอยสุเทพสูงทะมึน..........บ่ายนี้ผมต้องเดินทางไปส่งนัทที่แพร่..........แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว........เหนื่อยทั้งกาย........เหนื่อยทั้งใจ.........

                 “พี่กั้ง........นัทไม่กลับเข้าห้องแล้วนะ.........ตอนนี้กำลังอยู่ที่บ้านน้า........พอดีแม่นัทมา........เดี๋ยวนัทจะให้เค้าไปส่งที่อาเขต.........พี่กั้งมารอนัทที่นั่นเลย เก็บของนัทออกมาให้ด้วยนะ”.........

                 ผมปล่อยให้เค้าไปอยู่กับญาติตลอดบ่าย จนถึงเวลาที่เค้าจะต้องกลับแพร่..........รู้สึกเซ็งนิดๆที่ต้องโดนแย่งเวลาส่วนตัวไปแบบนี้........แต่จะทำไงได้ ก็นั่นมันแม่และก็ญาติพี่น้องของเค้านี่.........ผมควรจะสนับสนุนเค้าสิถึงจะถูก...........




ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #701 เมื่อ14-02-2008 11:27:29 »

หง่ะ นัทนี่ไม่ได้ดั่งใจเลยให้ตายเหอะ :m21:

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #702 เมื่อ14-02-2008 13:54:43 »

ดูหนังดูละครมาจนนับไม่ถ้วน
อ้ายฉากสวมแหวนก็เห็นบ่อยๆ
แต่ฉากสวมแหวนแบบนี้เพิ่งเคยได้ยินอ่ะ    :m23:
มีการเอาไปใส่นิ้วกลางด้วยนะ  เซ็งจริงๆ

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #703 เมื่อ14-02-2008 15:00:31 »






ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #704 เมื่อ14-02-2008 17:04:41 »

555555555
เป็นฉากสวมแหวนที่จำไปอีกนาน


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #705 เมื่อ14-02-2008 18:44:53 »

:L2: :c1: :L2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #706 เมื่อ14-02-2008 18:56:54 »

 :เฮ้อ: ไม่รอดแล้วล่ะ รักครั้งนี้  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #707 เมื่อ14-02-2008 21:02:21 »

จะว่าไป  ไอ้นัทมันก็วางแผนได้แนบเนียนเหมือนกันเลยนะ

ให้ญาติไปส่งที่อาเขต อิอิ  คงจะบอกว่าตัวเองขึ้นรถทัวร์กลับแพร่อะดิ

เก่งนะ  อิอิ

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #708 เมื่อ20-02-2008 11:28:46 »

เฮ้อ  ไม่ได้ดั่งใจเลยนัทนิ
เซ็งแทน

ปล  สุขสันต์วันวาเลนไทด์ย้อนหลังน้า

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #709 เมื่อ20-02-2008 15:48:27 »

หายศีรษะไปไหนเคอะเนี้ย?

กำ
 :sad2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #709 เมื่อ: 20-02-2008 15:48:27 »





ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #710 เมื่อ21-02-2008 08:52:54 »

มารอคุณกั๊ง  :oni2: :oni2: จิ้มตูดเจ้ด้วย

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #711 เมื่อ23-02-2008 11:02:25 »

 :โหลๆ:  คุณกั้งหายไปหนายยยย
ใครเจอรีบตามกลับเล้าด่วน!
รออ่านยุทธการหักเหลี่ยมนัทโหดอยู่จ้า

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #712 เมื่อ28-02-2008 11:42:45 »

                  เวลาแห่งการรอคอยอันแสนยาวนานผ่านไปเกือบสองชั่วโมง...........นาฬิกาที่ข้อมือของผมบอกเวลาบ่ายสองโมงตรงพอดิบพอดี........สงสัยว่าคืนนี้ผมต้องกลับมาถึงเชียงใหม่ดึกอีกแน่ๆ.........เรื่องที่จะได้นอนค้างที่ห้องนัทน่ะเหรอ..........ฝันไปเถอะ...........

                 ในที่สุดนัทก็มาถึงพร้อมกับข้าวของพะรุงพะรัง........ผมไม่ทันเห็นว่าใครเป็นคนมาส่งเค้า และก็ไม่ได้อยากจะรู้ด้วยว่าใคร.......แค่เค้ามาถึงเพื่อที่จะให้ผมขับรถไปส่งที่แพร่ให้มันจบๆภาระกิจกันไปก็เป็นพอ (ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นภาระกิจมากกว่าจะเป็นความสุข).........ผู้รู้สึกเหมือนอารมณ์ข้างในของตัวเองแกว่งไปแกว่งมา ระหว่างความสุขกับความทุกข์..........แน่ล่ะ มันคงไม่ใช่ความรู้สึกของคนที่มีความรักที่น่าพิสมัยสักเท่าไหร่...........แต่จะว่าไปแล้ว ผมเองก็ไม่เคยได้สัมผัสกับมันจริงๆสักครั้งหรอก ไอ้ความรักดีๆที่ว่านั่นน่ะ ไม่รู้ว่ามันมีอยู่ในโลกนี้จริงๆหรือเปล่า............

                 “พี่กั้งมารอนานแล้วเหรอ........ขอโทษทีนัทมาช้า.......รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ แฮ่ะๆ”.........นัทยิ้มเจื่อนๆ รีบขอโทษขอโพยเมื่อเข้ามานั่งในรถแล้ว...........

                  ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้มให้นัทอย่างเยือกเย็น..........ดูท่าก็รู้ว่าเค้ารู้สึกผิดจริงๆ.........สำหรับคนที่ผมรักต่อให้นานแค่ไหนก็รอได้ ถ้าเค้ายังคิดจะกลับมาหาผมอยู่อ่ะนะ...........

                  “พี่กั้งกินข้าวหรือยังล่ะ”............ผมใคร่ครวญคำตอบอยู่ในใจครู่หนึ่ง..........จะตอบว่ายังไงดีล่ะ.........โวยวายว่าเค้าปล่อยให้ผมรอตั้งเกือบสองชั่วโมง และผมก็ได้กินแค่ซาลาเปาร้ายๆกันตายดีมั้ย.......ผมมีสิทธิ์ทำได้อยู่แล้วนี่.........

                   “กินแล้ว”........เฮ้อ.......เป็นงี้ทุกทีเลยสิเรา.........

                   “กินที่ไหนล่ะ”........นัทยังไม่วายซักต่อ

                       “ก็แถวๆนี้แหล่ะ”..........รู้สึกสงสารตัวเองอยู่หน่อยๆที่ต้องโกหกเพื่อให้เค้าไม่รู้สึกผิดมากไปกว่านี้........แต่จะว่าไปแล้วผมก็ไม่ใคร่ชอบพูดทำร้ายจิตใจใครนักหรอก (เว้นแต่บางครั้งกับคนที่สนิทอ่ะนะ.......อิอิ)


                    รถของเราแล่นฉิวออกจากเชียงใหม่มุ่งหน้าสู่แพร่..........นัทเริ่มรื้อข้าวของที่ได้มาจากบ้านญาติออกมาอวด...

                   “พี่กั้งดูสิ มีทับทิมด้วยนะ ลูกเบ้อเร่อเลย”.........ผมเหลือบตาไปมองทับทิมที่นัทเอาออกมาโชว์อย่างภูมิใจ..........จริงแฮะ......ผมไม่เคยเห็นทับทิมลูกโตขนาดเท่าหัวเด็กแบบนี้มาก่อน.........ท่าทางจะเนื้อแดงหวานฉ่ำดีไม่น้อย............นัทคงไม่รู้หรอก ว่าทับทิมเป็นผลไม้ที่ผมชอบมากเป็นพิเศษ แต่ไม่ค่อยได้กินบ่อยนักเพราะมันมีขายในบางฤดูเท่านั้น.........

                   “พี่กั้งเอาไว้กินลูกนึงก็ได้ นัทแบ่งให้”...........นัทว่าแล้วจัดแจงวางทับทิมลูกเขื่องใบนั้นไว้ที่เบาะหลัง........สงสัยจะรู้สึกผิดที่มาสาย ถึงได้ทำทีมาเป็นเอาใจแบบนี้.......หึหึ........

                  “กินลิ้นจี่มั้ย เดี๋ยวนัทแกะให้”...........นัทเสนอเมนูลิ้นจี่ที่เอามาจากที่บ้านญาติอีกเช่นเดียวกัน.......

                  “อืม”.........ผมพยักหน้าหงึกหงัก.........

                  นัทค่อยๆแกะลิ้นจี่ป้อนให้ผมทีละลูกอย่างบรรจง........เค้าชอบปรนนิบัติผมแบบนี้บ่อยๆเวลาที่เราขับรถไปไหนมาไหนด้วยกัน.........บางครั้งผมก็รู้สึกว่านัทรักผมมาก.........แต่บางครั้งเค้าก็รู้สึกเกลียดที่ผมมารักและก็ทำดีกับเค้าแบบนี้.........และบางครั้งเค้าก็อาจจะเกลียดตัวเองด้วยที่ต้องเผลอใจมารักคนอย่างผม.........แต่จะมาพูดฟื้นฟอยหาตะเข็บกับปมในใจเดิมๆของเค้าซ้ำๆซากๆก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา.........มันฝังอยู่ในใจของเค้ามาเนิ่นนานจนยากที่จะเจือจางลงได้ด้วยพลังอำนาจใดๆแล้ว.........ที่ผ่านมา ผมได้แต่แอบหวังลึกๆว่า ความรักและความจริงใจที่ผมมีให้เค้า อาจจะพอช่วยเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการใช้ชีวิตของเค้าได้บ้าง.........แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นมันกำลังเลือนรางลงทุกที........เลือนรางลงไปพร้อมๆกับเรี่ยวแรงภายในใจของผมที่กำลังจะแห้งเหือดหายไปเช่นกัน...........
 

                  วันนี้นัทดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ........เค้าคอยชวนผมคุยเรื่องนั่นนี่มาตลอดทาง........และที่สำคัญผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกรักที่เค้ากำลังปลดปล่อยมันออกมาทีละน้อย หลังจากที่พยายามปฏิเสธมันมาตลอดระยะเวลาสองเดือนที่เราต้องแยกกันอยู่คนละทาง.........อาจจะเป็นเพราะการที่ผมอดทนทำดีกับเค้ามาตลอด รวมทั้งเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายนั่นด้วยที่ทำให้เค้ารู้สึกซึ้งใจในความรักที่ผมมีต่อเค้าก็ได้..........แต่ความรู้สึกนี้มันจะคงทนอยู่ได้นานแค่ไหนล่ะ........ในเมื่ออารมณ์คนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา.........พอผมส่งเค้าลงจากรถคล้อยหลังออกมาแล้ว เค้าก็คงกลับไปคิดอะไรตามหลักศาสนาเหมือนเดิม..........และเหตุการณ์เดิมๆก็คงจะเกิดซ้ำๆซากๆไม่รู้จักจบสิ้น.........

                  ผมลอบชำเลืองมองดูนัทด้วยความความรู้สึกรักและอาลัย.........ผมคงจะต้องเสียเค้าไปในไม่ช้า เพราะผมไม่สามารถจมอยู่กับสภาวะกดดันแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว........แต่ด้วยความรักและอาลัยดังกล่าว ผมจึงคิดว่าจะต้องเปิดใจคุยกับเค้าอีกสักครั้งเพื่อที่จะหาทางออกร่วมกัน........เผื่อว่าอะไรต่ออะไรมันอาจจะดีขึ้น.........และก็คงไม่มีโอกาสไหนเหมาะไปกว่าตอนนี้อีกแล้ว..........เพราะเค้าอยู่ในรถหนีไปไหนไม่ได้ เค้าจะต้องฟัง........เค้ากำลังรู้สึกรักและซึ้งใจในความดีของผม........เค้ากำลังอารมณ์ดี และผมเองก็มีความในใจที่อยากจะถามมากมาย..........

                 “นัท........พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ”..........ผมกลั้นใจพูดออกมาได้ในที่สุด........บรรยาการศในรถเริ่มตึงเครียดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ........ผมรู้สึกได้ถึงการตั้งป้อมป้องกันตัวของนัท.........

                 “อะไร”.........

                  “นัทไม่ชอบคุยโทรศัพท์เหรอ.......ทำไมเวลาที่พี่โทรไปหานัทถึงชอบโวยวายใส่พี่ตลอด.......พี่รู้สึกว่าพักหลังมานี้เราไม่เคยได้คุยโทรศัพท์กันดีๆเลยสักครั้ง”..........ผมยิงคำถามเข้าประเด็นทันที........สังเกตุว่าตอนนี้นัทมีท่าอึกอักเล็กน้อย..........ความจริงแล้วเค้าชอบคุยโทรศัพท์จะตาย บางทีเห็นโทรหาเพื่อนคนนั้นคนนี้ตั้งนานสองนาน...........

                  “ก็พี่กั้งอ่ะชอบเซ้าซี้.........โทรมาทีไรก็มีแต่ถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ๆ.......นัทรำคาญ”........หึ........ไม่จริงสักนิด.........บทสนทนาดังกล่าวมันธรรมดาจะตายไปกับคนที่เป็นแฟนกัน.........และสาบานได้เลยว่าผมพยายามโทรหาเค้าให้น้อยลงด้วยซ้ำ เพราะเค้าไม่ยอมสนทนาเรื่องใดๆกับผมทางโทรศัพท์เลย.......แล้วจะให้ผมถามอะไรล่ะ นอกจากถามว่า จะมาเชียงใหม่วันไหน พอได้คำตอบก็ต้องรีบวางสาย...........นี่ถ้าเค้าไม่มีธุระต้องมาจัดฟันทุกเดือน ผมก็คงไม่ได้คุยและไม่ได้เจอเลยสินะ...........

                   “พี่เคยบอกนัทแล้วใช่มั้ยว่า การที่เรามาคบกันแบบนี้ วันนึงเราอาจจะต้องแยกทางกัน อันนั้นพี่เข้าใจ.......แต่ถ้าเราจะเป็นแฟนกันต่อไปนัทก็ต้องทำตัวให้ดีกว่านี้สิ”.........เงียบ.........

                  “พี่รู้ว่านัทไม่อยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ไปตลอด.........แต่ถ้านัทอยากจะมีพี่ต่อไปนัทก็ต้องจริงจังและก็ดูแลความรู้สึกพี่บ้าง.......อนาคตจะเป็นยังไงพี่ไม่รู้ แต่ถ้าตอนนี้เรายังคบกันอยู่เราก็น่าจะทำให้มันดีกว่านี้.........มันก็เหมือนกับการเล่นเกมส์นั่นแหล่ะ..........ถึงแม้ว่าเราจะแข่งเอาแพ้ชนะ หรือว่าแข่งเอาสนุก แต่พี่ก็จะทุ่มเทและตั้งใจกับมันทุกครั้ง........ผลสุดท้ายมันจะเป็นยังไงก็ช่างมัน........เมื่อถึงตอนจบมันก็ต้องจบ........แต่อย่างน้อยๆก็ถือว่าเราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว”..........

                  นัทนั่งนิ่งเงียบไม่ยอมเอื้อนเอ่ยอะไรออกมา.........เค้าค่อยๆหลับตาลงช้าๆ และเป็นอยู่อย่างนั้นนิ่งนาน...สีหน้าของเค้าบ่งบอกถึงความทุกข์ใจอย่างชัดเจน.........ผมรู้สึกโมโหขึ้นมาตะหงิดๆเมื่อได้เห็น........นี่เค้าเป็นอะไรของเค้ากันนักกันหนา........ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมไอ้ความคิดบ้าๆนั่นมันช่างมีอิทธิพลเหนือความต้องการของเค้าได้มากถึงขนาดนี้............

                 “ที่พี่โทรไปหาก็เพราะว่าพี่รักและคิดถึงหรอก........พี่แค่อยากจะคุยกับนัทดีๆบ้างก็เท่านั้น........ถ้านัทอยากจะเลิกกับพี่เมื่อไหร่พี่ก็พร้อมจะไปจากชีวิตนัททันที ขอแค่ให้บอก.........แต่อย่างทำร้ายจิตใจพี่แบบนี้มันทรมานความรู้สึกกันเปล่าๆ.........”..........ตอนนี้นัทหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างแล้ว........เค้าไม่ยอมโต้ตอบใดๆทั้งสิ้น...........ผมค่อยๆชะโงกหน้าไปมองว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ทำไมจึงนิ่งเงียบไป.........

                  ไม่รู้สินะว่าเค้าเป็นอะไรไป..........แต่ผมคิดว่าเค้ากำลังร้องไห้เงียบๆอยู่...........ถ้าผมจะพูดมากไปกว่านี้ก็คงมีแต่จะทำให้เสียบรรยากาศเปล่าๆ..........อย่างน้อยๆผมก็ได้พูดสิ่งที่ผมอยากบอก..........ถ้าจะมาคาดคั้นเอาคำตอบกันตอนนี้ก็คงดูจะใจร้ายเกินไป...........ถึงเค้าจะแสดงท่าทีว่าเจ็บปวดในสิ่งที่เค้ากำลังแบกรับอยู่.........และผมก็รู้ดีว่าเค้าคิดอะไร แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นล่ะ............

                   “อ่ะๆ.........พี่เลิกพูดก็ได้.......ไม่พูดแล้ว”..........ผมเอื้อมมือไปตบที่บ่านัทเบาๆเป็นการปลอบใจ........เฮ้อ.........เวรกรรม.........เจอไม้นี้ทีไรผมใจอ่อนทุกทีสิ.........


                   หลังจากนั้นไม่นานบรรยากาศต่างๆก็ค่อยคลี่คลายขึ้นมาเป็นลำดับ...........แต่ผมยังไม่ละความพยายามที่จะจิกกัดให้เค้าได้คิดไปง่ายๆหรอก..........

                   “นัทฟังเพลงนี้สิ........พี่ว่าเหมือนชีวิตของพี่เลย”..........ผมหรี่เสียงเพลงขึ้นช้าๆ...........เสียงดนตรีค่อยๆดังกระหึ่มขึ้นมาเหมือนจะสื่อความหมายมากกว่าแค่การให้ความบันเทิงใจธรรมดา.........

                    ใจความของเพลงมีอยู่ว่า.......ในค่ำคืนวันหนึ่ง เจ้าหิ่งห้อยน้อยได้ออกมาเที่ยวเล่นตามลำพัง........แล้วมันก็ได้มาพบกับแมงมุมน้อยผู้น่าสงสาร ซึ่งกำลังเดินหลงทางอยู่ในความมืด..... เจ้าแมงมุมอยู่ในสภาพที่หนาวเหน็บ และหวาดกลัว.........หิ่งห้อยจึงอาสาใช้แสงของตัวมันเองนำทางเจ้าแมงมุมกลับไปยังบ้านของมัน...........ระหว่างที่พวกมันเดินทางไปด้วยกันนั้น..........ทั้งสองได้พบเจอสิ่งต่างๆร่วมกันมากมาย จนสุดท้ายก่อเกิดเป็นความผูกพันและกลายเป็นความรักในที่สุด.........ถึงแม้หิ่งห้อยจะรู้อยู่แก่ใจว่ามันกับแมงมุมนั้นแตกต่างกันมากสักเพียงใดแต่สุดท้ายเจ้าหิ่งห้อยก็เผลอรักแมงมุมไปจนสุดหัวใจเสียแล้ว.........เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงรังของแมงมุม.......ด้วยความรักและไว้ใจจนไม่ทันนึกระวังตัว......หิ่งห้อยผู้น่าสงสารก็บังเอิญบินไปติดที่ใยของแมงมุมจนไม่สามารถจะดิ้นหลุดออกมาได้.....ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัดจนแทบจะขาดใจ.......และสุดท้ายมันก็ต้องจบชีวิตลงภายใต้คมเขี้ยวของเจ้าแมงมุมอย่างน่าเวทนา....ก่อนที่ความรู้สึกสุดท้ายของมันจะดับสูญไปชั่วนิรันดร์......หิ่งห้อยจึงได้เรียนรู้ว่า.....ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆที่จะร่วมทางไปด้วยกันได้ หากทั้งสองนั้นมีจุดหมายปลายทางในชีวิตที่แตกต่างกัน........แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เคยนึกเสียใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เคยทุ่มเททำลงไป...... เพียงเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียว ...............

                   “อย่างน้อยๆ พี่กั้งก็ไม่ได้ตายตอนจบเหมือนหิ่งห้อยแหล่ะ”.......นัทวิจารณ์หลังจากฟังเพลงนั้นจนจบ..........ดูมันพูดเข้า........น่าโมโหจริงๆ

                       “เดี๋ยวนี้ชักจะเอาแต่ใจตัวเองจนเคยตัวใหญ่แล้วนะ”.........ผมปรามทีเล่นทีจริง แต่ดูเหมือนนัทจะไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร..........

                    “ก็มีคนคอยตามใจนี่”....สงสัยผมจะตามใจเค้าจนเสียนิสัยไปแล้วจริงๆ........สักวันหนึ่งเถอะจะรู้สึก........


                     จวบจนห้าโมงเย็นเราจึงมาถึงที่โรงพยาบาล........ผมไม่ได้ขึ้นไปบนห้องนัท และนัทก็ไม่ได้ชวนผม.......เราจึงรำรากันอยู่ที่หน้าแฟลต.........

                      “อ้าว........ไหนว่าทับทิมลูกนั้นเอาให้พี่ไง”..........ผมท้วงเมื่อเห็นนัทหยิบเอาทับทิมลูกที่ยกให้ผมลงรถไปด้วย..........นัทหันยิ้มเขินๆ........

                      “เอาไปพี่กั้งก็ไม่กินหรอก..........ไม่ต้องพูดมาก.........เดี๋ยวก็เอาค่าน้ำมันรถคืนซะเลยนี่”..........เค้ารู้ได้ยังไงว่าผมจะไม่กิน..........คบเด็กสร้างบ้านจริงๆหนอ............คำพูดไม่ได้เคยอยู่กับร่องกับรอยเลยสักครั้ง............ไม่รู้ว่ารักเข้าไปได้ยังไง.........

                       ผมจึงได้แต่ยิ้มไม่ได้ว่ากระไร ก่อนจะเอ่ยคำลาและขับรถจากมา.........เวลาที่เหลือต่อไปนี้ ก็คงต้องกลับไปคอยตั้งรับกับพฤติกรรมแย่ๆของนัทก่อนที่เราจะมาเจอกันในอีกหนึ่งเดือนถัดมา........จะอยู่หรือจะไปเดี๋ยวก็คงได้รู้กัน..............


ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #713 เมื่อ28-02-2008 12:49:29 »

เป็นรักที่ไร้ปลายทางจริงๆ อ่านแล้วรู้สึกแบบนี้ค่ะคุณกั้ง :a6:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #714 เมื่อ28-02-2008 19:09:59 »

นับถอยหลัง รอการจากลา  :o12: :o12:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #715 เมื่อ28-02-2008 19:21:51 »

สงสารทั้งคู่แฮะ  เฮ้อ
รอวันเลิกงั้นเหรอ  อย่างน้อยก็ยังได้รักกัน

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #716 เมื่อ02-03-2008 08:10:51 »

มานับถอยหลังรอคุณกั๊ง  :a6: :a6: เห็นลางไม่ค่อยดีเลย

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #717 เมื่อ18-03-2008 16:33:32 »

ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งนาน คุณกั้งก็ยังไม่มาต่อเลย
งานยุ่งมากป่าวจ๊ะ  รักษาสุขภาพด้วยนะ
ตอนนี้อากาศร้อนตับแลบดีจริงๆ    :m29:
จะพาลเป็นหวัดแดดได้ง่ายๆนะเนี่ย

รอคุณกั้งมาต่ออยู่นะ    :m13:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #718 เมื่อ19-03-2008 10:48:37 »

มาแว๊ววววว.........ถามถึงก็มาพอดีเรย ใจตรงกันจริงๆ......โทษทีนะครับที่หายไปนาน.ช่วงนี้เดินทางบ่อยมากๆ




----------------------------------------------------------------------------------------------

                  ......โธ่เอ๊ย........เพิ่งพูดไปแหม็บๆอยู่แท้ๆ.........พอกลับไปถึงแพร่ก็หายลับเข้ากลีบเมฆอีกตามเคย.........เวรกรรมจริงๆ........

                  เกือบอาทิตย์แล้วที่นัทไม่เคยแม้แต่จะโทรมาถามข่าวคราวผมบ้างเลย.........ไม่เข้าใจเค้าเลยจริงๆว่าจะเอายังไงกันแน่.......ครั้นบอกว่าจะให้เลิกรากันไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเสียที ก็ทำเป็นไม่หือไม่อือซะอย่างนั้น.........แต่ถ้าหากไม่ยังอยากจะเลิก ก็กลับทำตัวห่างเหินไม่ใส่ใจใยดีเช่นเดิม........ทำเหมือนผมเป็นสิ่งของไม่มีหัวจิตหัวใจ อยากจะมาเมื่อไหร่ก็มา อยากจะไปเมื่อไหร่ก็ไป...........


                  หลังจากที่ผ่านความทุกข์ทรมานในการรอคอยความรักจากนัทมาได้เกือบสามเดือนเต็มๆ.......ในที่สุดผมก็เริ่มปลงตกและยอมรับกับสภาพอันน่าอดสูที่เกิดขึ้นได้.........ผมอยู่อย่างคนไร้ศักดิ์ศรีมามากจนเกินพอแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ต้องเรียกเอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมาก่อนที่หัวใจของผมจะตายด้านจนไม่อาจนำพากับความรักได้อีกต่อไป...........ผมจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อซ้ำซากอีกแล้ว.........ต้องทำอะไรซักอย่าง.........คราวนี้คงต้องเอาจริงซักที.........ก่อนอื่นต้องลองใช้ไม้นวมดูซะก่อน.......ลางทีเรื่องมันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็เป็นได้.........

                  “วันหยุดยาวนี้นัทจะมาเชียงใหม่ป่าว”...........รู้สึกงี่เง่าจังที่ต้องถามคำถามโง่ๆ ซ้ำๆซากๆแบบนี้......จะโดนเอ็ดตะโรเหมือนเดิมอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้.........

                  “ไม่ได้ไป........นัทจะกลับบ้าน”..........น้ำเสียงนัทเริ่มตึงขึ้นมาอีกแล้ว........นี่ผมทำอะไรผิดอีกล่ะทีเนี้ย.........

                   “โหยยยนัท เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ.......ถ้าอย่างนั้นนัทมาต่อรถที่เชียงใหม่ได้ป่าว......ได้เจอกันนิดนึงก็ยังดีนะ”.........ผมพยายามต่อรองทั้งที่ใจจริงอยากจะได้เวลาจากเค้าตลอดสุดสัปดาห์นี้มากกว่า.......ครั้งที่แล้วยังคุยกันดีๆอยู่แล้ว.......มาคราวนี้ก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว........แล้วจะมาเสแสร้งบีบน้ำตาทำซากอะไรกัน.........

                   “อือๆ........ไว้จะโทรบอกอีกทีก็แล้วกัน”.............นัทรับคำส่งเดชเพื่อตัดรำคาญ ก่อนจะวางสายไป


                      ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกาฝากในชีวิตของนัทมากขึ้นเรื่อยๆ.........แต่อยู่ดีๆให้จะลุกขึ้นมาบอกเลิกกันง่ายๆ...มันเหมือนกับไร้เหตุผลเกินไป...........มันน่าจะมีสถานการณ์ที่เหมาะสมมากกว่านี้.........ถึงตอนนั้นทางออกที่สวยงามคงจะเปิดรอท่าอยู่ตรงปลายทาง....ถ้าจะจบ ผมขอจบแบบเศร้าและสวยงามดีกว่า.........คุณเคยได้ยินคนเลือกวิธีตายมั้ยล่ะ......อย่างน้อยๆเค้าก็ได้ตายแบบที่เค้าต้องการล่ะ........ถึงแม้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว เค้าจะต้องแลกกับการตายในแบบที่ต้องการนั้น ด้วยความตายของตนเองจริงๆก็ตาม.........


                   นัทไม่แวะมาหาผมจริงๆอย่าที่คิดไว้ไม่มีผิด......เค้ามักจะมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองอย่างเย็นชาเสมอๆ......ช่างไม่นึกถึงความรู้สึกของเราซะบ้างเลย.........เฮ้อ........

                 “พี่กั้ง....นัทไม่ได้แวะไปเชียงใหม่นะ.........นัทมากับพี่ที่ทำงานน่ะ.........พอดีเค้าจะกลับบ้านก็เลยติดรถเค้ามา”.............กะอยู่แล้วเชียวว่าต้องเป็นแบบนี้.........ถึงยังไงผมก็ยังคงอดทนกัดฟันแข็งใจเจรจาต่อ..

                  “ถ้าอย่างนั้นตอนขากลับก็มาเชียงใหม่ก่อนได้มั้ย..........พี่คิดถึงอ่ะ”..........อย่างน้อยๆได้เจอกันสักแว๊บก็ยังดีวะ.......ดีกว่าไม่ได้เจอเลย........

                  “ไม่ได้ไปทางนั้นหรอก........ที่บ้านเค้าจะไปส่ง........วู้ววววววว เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็มาจัดฟันแล้ว......เดี๋ยวก็ได้เจอกันเองแหล่ะ ไม่รู้จะคิดถึงอะไรกันนักกันหนา”...........นัทตอบเสียงสะบัดอย่างไม่ใยดี......หึ..........คนแบบนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา.........สักวันหนึ่งเถอะ จะรู้สึก.............


                   ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไร..........ยิ่งเค้าไม่ใยดี ในตัวเรา ใจมันกลับยิ่งคิดถึง............แม้ตอนนี้ผมจะตั้งโปรแกรมการตายเอาไว้ในใจอย่างคร่าวๆแล้ว........แต่ด้วยความที่เป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อและจิตวิญญาณ ผมย่อมหลีกไม่พ้นความเจ็บปวดจากการไม่สนใจใยดีของเค้าไปได้..........ผมผิดหวังที่มองคนอย่างนัทผิดไป........ผมเสียดายวันเวลาที่สู้อุตส่าห์ทุ่มเทความรักให้.........ผมเกลียด และอยากทำให้เค้าเจ็บปวดให้สาสมกับความอำมหิตที่เค้าได้ก่อเอาไว้...........ความรู้สึกรักและเกลียดเวียนไปวนมาในใจของผมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.........มันคงถึงเวลาที่จะต้องจบแล้วจริงๆเสียที...........



                  สุดสัปดาห์แห่งความระทมทุกข์ผ่านไปอย่างเชื่องช้า............ผมใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับตัวเองและความฟุ้งซ่าน.......ผมมีเรื่องต้องให้คิดและทบทวนอย่างละเอียดรอบคอบมากมาย........ป่านนี้นัทคงกลับถึงแพร่แล้ว..........ศุกร์หน้าเค้าคงจะมาที่เชียงใหม่เพื่อรับการจัดฟัน.............ผมจะใช้โอกาสนี้บอกเลิกกับเค้าจริงๆเสียที........คบกันมาตั้งนานจะให้บอกเลิกกันทางโทรศัพท์คงดูไม่ดีหรอก..........อย่างน้อยๆเราน่าจะมีโอกาสอยู่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นการร่ำลา..........ลึกๆในใจ ผมก็ยังคงเหลือความหวังอยู่บ้าง แม้ว่าจะหริบหรี่เต็มทีแล้วก็ตาม..........โอกาสที่ผมจะลงมือมีถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีกสามสิบเผื่อเอาไว้สำหรับสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย...........ถ้าไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน.......ผมจะทำตามแบบที่ได้วางแผนเอาไว้แล้ว.........เฮ้อไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าผมจะอยู่ในสภาพยังไงเมื่อถึงตอนนั้น........มันน่าจะต้องเศร้าแบบดูดีหน่อยนึงดีมะ.......ไม่ต้องฟูมฟายโวยวาย.....พูดกันดีๆอย่างคนที่เจริญแล้วเค้าทำกันน่าจะดีกว่า........ว่าแล้วก็ลองโทรไปหยั่งเชิงดูหน่อย.........ป่านนี้เค้าคงถึงแพร่ไปนานแล้วมั้ง...........

                  “นัท.....ถึงนานหรือยัง”.........ผมพยายามทำใจดีสู้เสือสุดฤทธิ์.........ยังไงก็ต้องพยายามไม่เปิดช่องให้เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งให้ได้มากที่สุด.........

                  “อืม.......มีอะไร”........ผมพยายามระงับจิตใจไม่ให้โมโหกับคำถามของนัทดังกล่าว.........ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองจนเกินไป.......ผมว่าผมทำดีที่สุดแล้วนะ แต่ทำไมเค้าถึงคอยจ้องแต่จะหาเรื่องกันอยู่ตลอดเวลาก็ไม่รู้สิ.........

                 “แล้วใครมาส่งล่ะ”.........คงเป็นพ่อแม่หรือไม่ก็ญาติๆของเค้าสินะ.....

                 
                 “โอ๊วะ........แล้วมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย.....รำคาญ”.........สติสัมปะชัญญะของผมขาดสะบั้นลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดหยาบคายดังกล่าว........นี่ผมไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะถามอะไรเลยใช่ไม่เนี่ย........แม้แต่คำว่าเพื่อนก็ยังดูสูงเกินไปกับสถานะของผมในตอนนี้.........ผมระเบิดความโมโหออกมาทันทีเมื่อสิ้นสุดคำพูดของนัทเมื่อครู่........

                 “นี่พี่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะถามหรือรู้อะไรเลยใช่มั้ย.........ถามแค่นี้มันผิดนักหรือไง”........ผมได้ยินน้ำเสียงของตัวเองตะโกนออกไปด้วยความโมโห.........มือที่กุมโทรศัพท์เอาไว้สั่นระริก........

                  “มันรำคาญน่ะ เข้าใจมั้ย”..........นัทยังไม่ยอมลดราวาศอก.......ผมรู้สึกเจ็บปวดจนไม่สามารถจะรับฟังคำพูดร้ายๆจากเค้าได้อีก...........ผมตัดสินใจกดโทรศัพท์วางสายไปในทันที..........ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าผมทำผิดอะไร........ไม่เข้าใจเลย........

                  สมองของผมเบาโหวงรู้สึกเหมือนหัวหมุนติ้วอยู่ตลอดเวลา........คำพูดเมื่อครู่ของนัทยังคงดังก้องอยู่ในหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า........มายุ่งอะไรด้วย.........มายุ่งอะไรด้วย.........มายุ่งอะไรด้วย........ผมยกมืออันสั่นเทาขึ้นลูบใบหน้าอย่างแผ่วเบา......รู้สึกถึงลำคอที่แห้งผาก......ขอบตาของผมร้อนผ่าวอ่อนล้าและกำลังจะพังทลายลงด้วยแรงปะทะจากน้ำตาที่กำลังเอ่อล้น.........ผมแข็งใจกลืนน้ำตาทั้งหมดลงคอไปอย่างยากเย็น.......หมดเวลาแล้วสำหรับการร้องไห้.........ผมเจ็บมามากจนเกินพอแล้วกับคนๆนี้.........มันเกิดขึ้นซ้ำซากจนเกินจะทนรับไหวแล้ว......ผมรู้ว่าหลังจากที่เรามีปากเสียงกัน อีกสักสองสามวันเค้าต้องโทรมา และบอกว่าจะมาเชียงใหม่อย่างที่เคยทำ........ถึงตอนนั้นผมจะทำตัวให้เป็นปกติที่สุด.......ทำให้ดีที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย............เพื่อความทรงจำที่ดีของเราสองคน............แล้วผมจะปล่อยเค้าไป พร้อมๆกับปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระเสียที.....

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #719 เมื่อ19-03-2008 11:54:06 »

เลิกเลย  :angry2: ไม่ต้องรอแล้ว  :angry2: งานนี้เลิกตลอดกาล  :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด