ไม่ได้ต่อนานมาก ลืมกันไปหรือยังไม่รู้สิคร้าบบ
แต่กว่าจะหาเจอผมยังหาตั้งนานเลย
อย่าช้าอยู่ใยต้องลงเลยสินะครับ
..................................
ความผิดหวังกับการเปลี่ยนแปลง
ผมได้แต่นั่งใจเต้นลุ้นรอคำตอบตลอดเวลาที่ติรับโทรศัพท์
ผมไม่เคยรู้สึกลุ้นอะไรขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
เวลา5นาทีที่ติคุยโทรศัพท์แต่กับผมตอนนี้มันเหมือน5ชั่วโมงยังไงยังงั้นเลย
หลังจากคุยเสร็จแล้วติหันกลับมาทางผมที่นั่งรออยู่
“เมื่อกี้นัทถามเราใช่ไหมว่าคิดยังไงกับนัท”
“อือ” ผมทำได้เพียงพยักหน้า เพราะตอนนี้รู้สึกว่าเหมือนพูดไปก็ไม่มีเสียงออกมา
“เราจะบอกยังไงกับนัทดีนะว่าเรารู้สึกยังไง แบบว่า.............”
‘รู้สึกยังไงก็พูดสักทีสิ รู้ไหมมันลุ้นจนหัวใจจะวายอยู่แล้ว’
ผมนึกในใจระหว่างที่รอคำตอบ พร้อมกับแอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่แก้อาการคอแห้ง
.
.
.
‘ทำไมมันคิดนานจังวะ ชอบก็ไม่ไม่ชอบก็บอกคิดไงก็บอกสักทีดิโว้ยยยยย’
ผมล่ะอยากตะโกนออกไปแบบนี้จริงเลยตอนนี้
“เออออ” เอาแล้วคงได้เวลาทำใจแล้วสินะ
“เราจะพูดยังไงดีล่ะ คือว่าเราเห็นว่านัทมีนิสัยกับท่าทางนัทนะเหมือนน้องชายเราเลย เราเลยรู้สึกเหมือนว่าต้องดูแลนัทน่ะ เพราะพอเราย้ายมากรุงเทพก็ไม่ค่อยได้หลับบ้านเท่าไหร่ แล้วเราสนิทกับน้องคนนี้มากด้วย พอเห็นนัทคล้ายกันเลยอยากดูแลเหมือนกับน้องเราอีกคน” ติพูดไปทำท่าทางเขินอายไป
ตอนที่ผมได้ยินตอนนั้นมันรู้สึกยังไงบอกไม่ถูกเลย
เพราะว่าเขาไม่ได้คิดกับผมอย่างที่ผมคิดคิดแค่ว่าผมเหมือนน้องเขา
มันจะเสียใจก็บอกไม่ถูกเพราะอย่างน้อยติก็ยังมีความรู้สึกดีๆให้กับผม
แต่มันก็รู้สึกกระอักกระอวลขึ้นมาเล็กน้อยมันบอกสภาพตัวเองไม่ถูกจริงๆครับตอนนี้
แต่ผมก็ยิ้มตอบกลับไปเพราะตอนนั้นผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้วจริงๆ
“แต่ว่านัทมาถามเราเรื่องนี้ทำไมอะ”
“อ๋อ ๆๆๆ” ผมจะตอบยังไงอะทีนี้
“ไม่มีอะไรหรอกเราก็แค่เห็นติใจดีกับเราก็เท่านั้นเอง นานๆจะมีคนมาใจดีกับเราสักที”
“อืมก็อย่างที่เราบอกนะแหละ ถ้านัทมีอะไรบอกเราได้เลยนะ” ติเอามือขยี้หัวผมเบาๆอย่างเอ็นดู
“อือ งั้นเรากลับก่อนนะ” ผมกลัวตัวเองจะปรับอารมณ์ไม่ถูกเลยรีบขอตัวกลับทันที
หลังจากที่เดินออกมาจากหอติได้พักใหญ่ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแมวมันที
“ฮัลโหล แมวตอนนี้อยู่ไหนไปเที่ยวกันเถอะ”
“เราอยู่กับทีเล่นเกมกันอยู่ที่ห้อง แต่นัทเป็นไรป่าวเสียงฟังดูไม่ดีเลย”
“ไม่หรอกเราแค่อยากไปเที่ยวนะ ออกมาได้เปล่าล่ะ”
“ได้ๆๆสิแต่เจอกันที่ไหนดี”
“งั้นเจอกันที่ร้านxxxxนะ เรานั่งที่เดิมแหละโทรไปจองแล้วยังว่างอยู่”
“โอเค เดี๋ยวเราตามไป เออทีบอกขอไปด้วยได้เปล่า”
“ก็มาสิเที่ยวหลายคนสนุกดี เดี๋ยวเราว่าจะลองชวนไอ้แนทไอ้ฝนด้วย”
“อืมๆ งั้นเดี๋ยวเจอกันที่ร้านนะ เราจะรีบไป”
“โอเค”
ผมนั่งรถมาที่ร้านประจำที่RCA(สมัยนั้นRCAดังมาก)
ผมตรงไปยังโต๊ะประจำที่จองไว้ พอนั่งเครื่องดื่มก็ตามมา
พวกผมมาเที่ยวบ่อยมากจนรู้จักพนักงานเกือบทุกคนแค่เห็นหน้าไม่ต้องสั่งก็จัดมาให้เรียบร้อยแล้ว
คนอื่นยังไม่มาผมก็เปิดฉากกินก่อนเลยเพราะว่าวันนี้ผมรู้สึกอยากเมา
เพราะตื่นขึ้นมาผมจะได้ทำใจกับเรื่องของติเสียใหม่
แล้วผมอาจจะลองคบกับทีดูจริงๆจังๆก็ได้
ผมรินเหล้าหนักมากเพราะว่าอยากเมาเร็วๆ
ที่ผมไม่กลัวเมาเพราะว่าเดี๋ยวยังไงพวกแมวก็ต้องมาอยู่ดีแล้วไอ้แนทกับไอ้ฝนก็บอกว่าจะตามมา
ผมกินไปสามสี่แก้วแมวกับทีก็ตามมาถึงผมก็เริ่มรู้สึกตึงๆบ้างแล้วเหมือนกัน
“เป็นอะไรหรือเปล่านัททำไมรีบกินขนาดนี้ล่ะ” แมวถามหลังจากที่สังเกตปริมาณเหล้าในขวด
“เปล่าไม่มีอะไรหรอกก็มันอยากเมามั่งไง” ผมตอบแบบมึนๆ
“ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร แต่ว่าจะกลับบ้านไหวหรอแบบนี้”
“งั้นเราไปนอนห้องแมวได้ไหมล่ะ เดี๋ยวเราโทรบอกที่บ้านเลย”
“ตามใจนัทสิ นอนห้องเราก็ได้”
หลังจากตกลงกับแมวแล้วผมก็โทรบอกที่บ้าน
ผมนั่งกินอีกสักพักแนทกับฝนก็ตามมาถึง
“ไอ้นัทแกเป็นไรป่าววะ ตั้งแต่ชั้นมาแกนั่งกินแต่เหล้าอย่างเดียวเลย”
ไอ้แนทมันเริ่มสงสัยจริงๆจัง ก็มีมันอีกคนนี่แหละครับที่ผมคุยด้วยทุกอย่าง
แล้วมันก็รู้นิสัยผมเป็นอย่างดีเพราะมันเลยรู้ว่าผมต้องมีเรื่องไม่สบายใจแน่ๆ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า เราก็แค่อยากกินเหล้าเฉยๆเท่านั้นเองพวกแกสนุกกันไปเถอะ”
“เออๆๆ เชื่อก็ได้วะ แต่ถ้ามีอะไรแกต้องเล่าให้ชั้นฟังนะโว้ย”
“เอออออ รู้แล้วน่า”
หลังจากดสนทนากับมันแล้วผมก็หันกลับมากินเหล้าต่ออยู่คนเดียว
หันไปคุยกับพวกมันบ้างเป็นครั้งคราว
จนผมรู้สึกว่าเริ่มเมาเต็มที่แล้ว และอยากไปห้องน้ำสักหน่อย
“เฮ้ย เดี๋ยวเราไปห้องน้ำแปบนะ เดี๋ยวมา” ผมหันไปตะโกนบอกพวกมัน
ผมค่อยเดินฝ่าผู้คนที่อยู่ในร้านอย่างแน่นขนัดไปจนถึงทางออกหลังร้านเพื่อเข้าห้องน้ำ
พอพ้นคนเหล่านั้นออกมาผมก็รู้สึกว่าโลกมันหมุนๆเล็กน้อย
ทีตอนเดินมาไม่เห็นรู้สึกแบบนี้หรือเพราะว่าเหมือนมีคนประคองตลอดทางจากการเดินเบียดเขาออกมา
ผมเริ่มเซเล็กน้อยแต่ผมคิดว่าประคองตัวได้
“เอาๆๆ เดี๋ยวก็ไม่ถึงห้องน้ำหรอก” เสียงคุ้นๆดังขึ้นข้างหลังพร้อมกับเข้ามาดึงแขนผมไว้
ผมหันไปมองต้นเสียง
“อ่าว ทีมาทำอะไร เข้าห้องน้ำเหมือนกันหรอ” ผมทักคนที่กำลังพยุงผมไว้
“เปล่าเรามาดูนัทนะแหละ ท่าทางเมามากแล้วเรากลัวนัทจะเป็นอะไรหรือเปล่าไง” ทีส่งสายตาเป็นห่วงให้ผม
“เราไม่เป็นไรหรอก เราเดินเองได้” ผมดึงแขนออกจากมือที
แต่พอออกแรงดึงจนแขนหลุดผมก็เริ่มเซอีกครั้ง
“นั่นๆ แล้วบอกว่าไม่เมาได้ยังไง ยืนยังจะไม่อยู่แล้วนะ”
แล้วทีก็พยุงผมอีกครั้ง ครั้งนี้เขาพาผมเข้าห้องน้ำ
เราต้องยืนต่อคิวนิดหน่อย
หลังจากผมปฏิบัติภารกิจส่วนตัวแล้วก็เดินออกมา ทียังรออยู่หน้าห้องน้ำ
“มาเดี๋ยวเราพากลับไปโต๊ะ” ทีจะเข้ามาพยุงผมอีกครั้ง
“ไม่ต้องเราเราไม่ได้เมาขนาดนั้น ฉี่ออกก็ดีขึ้นแล้ว”
“เอาน่าเราพากลับไปเอง” ทีก็ดึงแขนผมกลับไปที่โต๊ะ
มาถึงโต๊ะผมก็นั่งกินเหล้าเหมือนเดิม แมวคอยมองผมอยู่ตลอดเวลา
แต่ทีนั่งข้างๆแล้วคอยห้ามไม่ให้ผมกินเหล้าเยอะมาก
จนผับที่เราไปเลิกประมาณตีสอง เราก็กลับ
แนทแยกตัวกลับไปกับฝนก่อนหน้านี้สักพักแล้ว เพราะว่ากลัวหารถแท็กซี่ยาก
ผมกลับพร้อมทีกับแมวเพราะยังไงคืนนี้ผมจะไปนอนห้องแมวอยู่แล้ว
ระหว่างเดินกลับแมวเกิดปวดฉี่ขึ้นมาเลยบอกให้ผมกับทีรอก่อนขอย้อนกลับไปเข้าห้องน้ำที่ผับ
ผมก็เดินเลยมายืนที่มุมตึกเพื่อเอาตัวพิงไว้ เพราะรู้สึกว่ายืนเองนานๆไม่ไหวแล้ว
ขณะที่ผมยืนอยู่นั้นทีดึงผมเข้าไปในมุมตึกอีกนิดหน่อยพอที่จะไม่ให้ใครเห็นได้
“นัทเรื่องที่เราถามนัท นัทจะตอบเราได้หรือยังทีนี้” ทีทำเสียงจริงจังมาก
“เรื่องที่ขอคบเรานะหรอ ทียากคบเราจริงหรอ เราไม่ได้ดูดีอะไรเลยนะ”
“ก็ใช่นะสิ เราไม่ได้ล้อเล่นนะ นัทว่าไงคบกับเราได้ไหม”
“เราคบกับทีก็ได้นะ แต่แบบดูๆกันไปก่อนนะเรายังไม่แน่ใจอะไรเลยตอนนี้”
“แค่ตกลงเราก็ดีใจแล้ว”
ทีใช้สองมือจับหน้าผมไว้ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าเขากำลังค่อยๆขยับหน้าเข้ามาใกล้
ผมจะหันหน้าหลบก็ไม่ได้เพราะทีจับหน้าผมไว้ ตอนนี้ได้แต่หลับตาปี๋เท่านั้นเอง
“อยู่นี่เองหรอ นึกว่าหายไปไหนกัน” สำเนียงทองแดงนิดดังขัดจังหวะพอดี
ทีรีบปล่อยหน้าผมแล้วหันไปตอบแมวอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรหรอก พานัทมายืนหลบๆคนน่ะ เผื่ออยากจะอวก”
‘ใครอยากจะอวกวะ โกหกทั้งทีก็ต้องเอาตูไปอ้างอีกนะ ไอ้บ้าที’
ผมแอบคิดในใจ
“เออ แล้วนัทเป็นยังไงบ้างล่ะไหวไหม” แมวถาม
“ไหวๆๆ กลับห้องกันดีกว่าเราอยากนอนแล้ว”
ทีเข้ามาโอบเอวผมไว้ก่อนที่จะพาเดินไปหารถกลับห้องแมวกัน
กลับมาถึงห้องแมวทีก็ขอนอนด้วย
แมวก็ไม่ได้ว่าอะไรผมมาถึงก็จะล้มตัวลงนอนเลย แต่แมวกลับไม่ยอม
“ไปอาบน้ำก่อนเลยนัท จะได้ไม่เหนี่ยวตัวด้วย” แมวดึงแขนผมแล้วลากไปที่ห้องน้ำ
ผมเลยต้องจำใจอาบน้ำก่อนเข้านอน
เดี๋ยวนี้ผมนอนห้องแมวได้อย่างสบายใจเพราะผมเอาเสื้อผ้ากับชุดนักศึกษามาทิ้งไว้หลายชุดแล้ว
อาบน้ำเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอนอย่างไม่รู้เรื่องด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์
“อืมมมม อือออ” ผมเริ่มงัวเงียตื่น
แต่ทำไมตัวผมมันหนักขยับลำบากขนาดนี้นะ
ผมค่อยพยายามขยับตัวออกมาทีละน้อยก่อนจะมองสิ่งแปลกปลอมที่ทับตัวผมไว้
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไม่ใช่อะไรนอกจากทีที่มันนอนกอดไม่สินอนทับเลยดีกว่า
เพราะเกือบครึ่งตัวของมันทับอยู่บนตัวผม จนขยับแทบไม่ได้
ผมค่อยๆแทรกตัวออกมาจนได้ก่อนที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำ
หลังจากผมอาบน้ำเสร็จมองหาผ้าเช็ดตัว ตายล่ะไม่ได้เอาเข้ามานี่หว่า
‘ก๊อก ก็อก’ เสียงเคาะประตูห้องน้ำเบาๆ
“ใครนะ” ผมถาม
“เราเอง เอาผ้าเช็ดตัวมาให้ลืมอีกล่ะสิ” เสียงแมวดังผ่านประตูห้องน้ำเข้ามา
“อืม ขอบใจนะ” ผมค่อยแง้มประตูเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดตัว
“เอานี่เสื้อผ้า เราเอามาเผื่อให้เลย” แมวยื่นชุดนักศึกษาส่งเข้ามาให้
“อืม ขอบใจ” ผมรับมาแล้วปิดประตูกลับคืน
หลังจากแต่งตัวเสร็จผมก็รีบเข้ามหาลัย
ยังดีนะที่ผมรู้สึกตัวก่อนบ่าย เพราะช่วงบ่ายผมมีสอบเก็บคะแนนเสียด้วย
ผมมาถึงไอ้แนทกับไอ้ฝนนั่งรออย่างใจจดใจจ่อที่ซุม
“โหย ชั้นนึกว่าแกจะเมาจนมาสอบไม่ได้แล้วสิ” ไอ้แนทบ่นทันทีที่เห็นหน้า
“แล้วทำไมไม่โทรปลุกเราวะ เกือบไม่ตื่นเหมือนกัน” ผมบ่นมันบ้าง
“โทรแล้วมันโทรติดที่ไหนล่ะ แกปิดเครื่องทำไม”
ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ผมไม่ได้ปิดเครื่องนี่นาเมื่อคืนนี้
ผมกดสวิตเปิดเครื่องแล้วมันก็ดับอีกครั้ง
“ไม่ได้ปิดนะ แบตมันหมด ช่างมันเรื่องนี้มีแนวข้อสอบอะไรเปล่า”
แล้วผมก็สุมหัวดูแนวข้อสอบทันทีเพราะว่าจะถึงเวลาสอบแล้ว
‘ข้อสอบอะไรวะยากฉิบหาย ที่อ่านมาแทบไม่ตรงเลยกูจะได้คะแนนไหมเนี่ยครั้งนี้’
ผมบ่นกับตัวเองในใจเพราะว่าหัวมันมึนๆไปหมดตอนนี้คิดอะไรไม่ค่อยออก
แต่ผมก็พยายามทำจนเสร็จก่อนหมดเวลานิดเดียวเท่านั้นเอง
พอเดินออกจากห้องมาทีก็มายืนรออยู่หน้าห้อง พร้อมกับเดินมาหาผม
“เอาของมาเราช่วยถือ”
“ไม่เป็นไรเราถือเองได้”
แต่ทีก็ยังแย่งหนังสือในมือผมไปจนได้
“ตื่นมาทำไมไม่เรียกเราบ้างล่ะ” ทีหันมาถามระหว่างเดินลงมาข้างล่าง
“ก็เราเห็นทีกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุกน่ะ”
“ไม่ได้นะคราวหน้าปลุกเราด้วย เราจะได้เดินมาส่งด้วยไง เดี๋ยวไปกินข้าวกันนะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา”
“อืมก็ดี กำลังหิวเลย” ผมยิ้มให้ที
ลงมาข้างล่างแมวกำลังคุยอยู่กับพวกแนทที่รอผมอยู่
“อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะ เราลงมาช้านิดหน่อยเองไปกินข้าวกันหิวววววว” ผมบอก
“ไปดิพวกชั้นรอแกตั้งนานแล้วนะ ยืนจนขาใหญ่หมดแล้ว” ไอ้แนทมันกวนตีนผมอีกแล้ว
“ปกติมันก็ใหญ่อยู่แล้วนะ ฮ่า ฮ่า” ผมย้อนมันกลับ
“ไอ้นัทไอ้ปากหมา เร็วเลยจะได้ไปกินข้าวกัน”
พวกเราทั้งหมดไปทีข้าวร้านประจำหลังมหา’ลัย
ทีดูเหมือนจะคอยเดินตามผมตลอดเวลา
“ทีจะกินไรก็ไปซื้อสิ จะมาเดินตามเราไม” ผมหันไปบอก
“เดี๋ยวเราช่วยนัทก่อนแล้วค่อยไปซื้อของเราที่หลัง”
“ไม่ต้องเลยเราไม่ได้เป็นง่อยนะ ไปซื้อมาเลยถึงเราจะตกลงคบกันแต่ก็ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้”
“อะไรนะพวกแกคบกันแล้วหรอ” ไอ้แนทมันเดินตามผมกับทีมาเมื่อไหร่ไม่ทันสังเกต
ผมกับทีตกใจเล็กน้อยก่อนหันไปมองหน้าเอ๋อๆของไอ้แนทมัน
“เบาๆสิวะแกเสียงดังอะไร” ผมดุมัน
“ก็พวกแกไปตกลงกันตอนไหนไม่เห็นเล่าให้ชั้นฟังเลย” มันยังคงทำเสียงแปลกใจ
“ก็เมื่อคืนนี้เอง เอาน่าเดี๋ยวเราเล่าให้ฟังเอง ขอกินอะไรก่อนนะ”
ผมเดินแยกออกมาที่โต๊ะเพราะว่าซื้อของกินครบแล้ว
หลังจากกินอิ่มแล้วไอ้แนทเพื่อนตัวดีของผมก็ยิงคำถามทันที
“เอาบอกมาได้หรือยังว่าแกสองคนคบกันตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไง”
ผมกับทีหันไปมองหน้ากันก่อนที่ผมจะเป็นคนตอบ
“ก็เมื่อคืนนี้แหละ ตอนร้านปิดแล้ว” คนอื่นยังทำหน้างงโดยเฉพาะแมว
“อ่าวทำไมยังไงถึงตกลงกันได้ แล้วคนที่แกชอบล่ะ” ไอ้แนทยิงคำถามไม่เลิก
“ก็ไม่มีอะไร เขาไม่ได้คิดอะไรกับเรานี่นา แต่เรากับทีก็แค่ดูไปก่อนนะ”
“เออ ก็แล้วแต่นะแกเป็นคนตัดสินใจแล้วนี่ ทีแกอย่ามาหลอกเพื่อนชั้นแล้วกัน”
ไอ้แนทหันไปมองหน้าที ทียิ้มตอบหน้าแดงอย่างเดียวตอนนี้
แต่คนที่เงียบลงไปเห็นจะเป็นแมว ไม่ซักถามอะไรเพิ่มเลย
ผิดจากนางเพื่อนสองคนของผมที่ยิงคำถามต่ออีกเป็นชุดๆเลยที่เดียว
แต่ผมก็อดคิดไม่ได้นะว่าการตัดสินใจครั้งนี้มันถูกหรือผิดกันแน่
ยังไงก็ตัดสินใจไปแล้ว คงต้องดูๆกันต่อไปแล้วกันนะผมว่า
TBC.