ตอนพิเศษ
คุณว่าอะไรเป็นเรื่องทะเลาะที่งี่เง่าที่สุดของคนรักกัน
ผมคิดว่าเรื่องราวในอดีต
“Truth or dare”
งานวันกินเลี้ยงปีใหม่จัดขึ้นที่บ้านของพี่ลม พ่อแม่อนุญาตให้เด็กๆ ปาร์ตี้
ริมสระกันได้ถึงเช้า มีอาหารและเบียร์ รวมไปถึงว้อดก้าชั้นดีที่เป็นของขวัญปีใหม่ ประมาณตีสาม เด็กๆ เริ่มเมา ผมนั่งเกากีต้ตาร์มองน้ำมนต์ดื่มกับเพื่อนโดยไม่แตะแอลกอฮอล์แค่คนเดียว
“Truth” น้ำมนต์ตอบ เกมฮิตในวงเหล้าคือพูดเรื่องจริงหรือทำตามคำสั่ง คราวนี้เป็นโอกาสของทิวฟ้า เพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่มน้ำมนต์และน้องสาวของพี่ลม พี่ชายคนโตของเจ้าของบ้าน
“น้ำมนต์เคยคิดกับเราเกินเพื่อนหรือเปล่า”
ผมเงี่ยหูฟัง เกิดเสียง อู้ววว ลากยาวของพี่ลมกับเพื่อนตัวท้วมที่ดูเนิร์ดที่สุด ส่วนแฟนของเด็กสาว ที่คนนอกรู้จักในนามไฮโซนนท์ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มเงียบๆ ไม่เฮละโลไปกับคนอื่น
“ทำไมถามงั้น”
“ตอบดิ”
“ก็อยากรู้” เสียงทิวฟ้าอ้อแอ้แต่ยังฟังรู้เรื่อง “น้ำมนต์เคยแซวเราว่าขอดูนม จำได้ปะ”
“เชี่ย จริงเหรอ?”
ผมขึงตามองเด็กหนุ่มที่แสดงท่าทีเลิ่กลั่กโดยอัตโนมัติ น้ำมนต์แสดงพิรุธจนน่าหงุดหงิด อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาคิดอะไรเกินเลยกับเพื่อนตัวเองมาตลอด
“อะไรวะ คนพูดพูดไม่คิด กูนี่คิดแล้วคิดอีกว่าจะทิ้งไอ้อุ้ยมาหามึงดีไหม ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับกูเลยมึงจะแซวกูแบบนั้นทำห่าอะไรอีน้ำมนต์”
หญิงสาวโวยวายพลางชี้นิ้วไปยังเพื่อนคู่กรณี
“หรือคิดว่ากูเป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มจะพูดอะไรก็ได้ มึงนะ สันดานหมาเหมือนกันหมดเลย ไอ้พวกผู้ชาย”
“เฮ้ยๆ กูไม่เคยแซวมึงอย่างนั้นนะ” นิวรีบออกตัว “มึงจะเหมา men are trash ไม่ได้ not all men”
“ไม่ใช่ trash แล้วมึงจะเดือดร้อนทำไมอีนิว”
“พอๆ ฟ้าเมาแล้ว เลิก ไม่ต้องเล่นแล้ว” แฟนหนุ่มเจ้าของบ้านที่ยังดูมีสติปราม แต่ดูเหมือนคนเมาจะอัดอั้นตันใจมานานเลยไม่ยอมหยุดแต่โดยดี
“อะไรวะอุ้ย ให้น้ำมนต์ตอบก่อนดิ น้ำมนต์มันไม่เคยแซวใครลามปามเลยนะเว้ย ไม่เหมือนมึงกับอีนิวที่แซวกระทั่งเมียเก่าพี่ทิ”
ผมที่ถือกีต้าร์อยู่ชะงักปลายนิ้วเมื่อมีชื่อตัวเองเข้าเอี่ยว เหลียวมองกลุ่มเด็กๆ ที่รุมตะครุบปากเจ้าของบ้านแค่หางตา
“แล้วเป็นเหี้ยอะไรกับนมกูนักหนา อีอุ้ย ชอบเอากูไปเม้าท์”
“ก็แซวเล่น”
“ขำนักเหรอ กูแซวนมแม่มึงบ้างได้ปะ”
“เฮ้ยๆ ใจเย็น”
“นี่กูยังเย็นไม่พออีกเหรอ ห้ะ กูเคยฉีกหน้าพวกมึงสักครั้งไหม อีพวกเหี้ย”
ดูเหมือนว่าจากเกมเล่นสนุกในตอนต้นจะลุกลามเป็นสงครามขนาดย่อมของหนึ่งหญิง สามชาย พ่อกับแม่ของทิวฟ้าเข้านอนตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน ส่วนพี่ลมออกไปกับรุ่นน้องคนพิเศษสักคนที่เจอกันในแอพหาคู่เมื่อวันคริสต์มาส ทั้งหมดทั้งมวลหมายความว่าในงานปาร์ตี้ขึ้นปีใหม่นี้ผมได้รับหน้าที่เป็นผู้ปกครองที่ต้องควบคุมและดูแลความเรียบร้อยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
อุบัติเหตุที่คะเนไว้ทีแรกก็แค่เมาตกน้ำ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการวิวาทจากความอัดอั้นตันใจของหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มซึ่งเป็นเจ้าของบ้านแต่อย่างใด
“อุ้ย พาฟ้าไปนอนเถอะ เดี๋ยวเราค้างที่นี่ใช่ไหม”
ผมวางกีต้าร์ที่พี่ลมให้ยืมลงก่อนช่วยแยกเด็กสาวออกจากน้ำมนต์ที่โดนเขย่าคอเสื้อจนสีหน้าไม่สู้ดีนัก เจ้าของชื่อตอบผมหน้าแหย “ครับ ผมขออนุญาตพ่อแม่ฟ้าไว้แล้ว นิวจะนอนนี่ก็ได้นะ”
“ไม่เอา กูจะกลับหอ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่นั่งแท็กซี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับพี่ทิ ผมล้างหน้าก็สร่างแล้ว เอาน้ำมนต์ไปส่งเถอะ ดูไม่ไหวแล้ว”
นิวพยักเพยิดชี้มาทางคนที่ผมหิ้วปีกด้วยคาง วันนี้น้ำมนต์ดื่มมากไปจริงๆ
ผมไม่ขับรถ เพราะไม่ชอบบรรยากาศรถติดในเมืองหลวง ลงทุนซื้อคอนโดติดรถไฟฟ้าที่เจนอยากได้ด้วยเงินครึ่งหนึ่งของเงินในบัญชี พื้นฐานแล้วผมมาจากครอบครัวที่ไม่ลำบากเรื่องเงินนัก ช่วงเวลาที่แม่มีชีวิตอยู่ผมไม่ได้ใช้เงินของพ่อเลยสักสตางค์แดงเดียว ตอนที่แม่เสียถึงได้รู้ว่าตัวเองมีเงินในบัญชีมากพอจะใช้ชีวิตตามใจต้องการ ออกตามหาความฝันที่ดูหยิบโหย่งไม่ถูกใจคนรุ่นเก่านัก หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณการมีชีวิตอยู่ด้วยความลุ่มหลง
ความลุ่มหลงที่ว่า เคยมีเจนรวมอยู่ในนั้น
แม้ท้ายสุดแล้วเจนจากไป ผมก็ไม่ปฏิเสธว่าความลุ่มหลงที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องจริง หลักฐานคือผมในวันนี้ ที่กอปรรวมมาจากความพลาดพลั้งในอดีต และการก้าวผ่านเพื่อเป็นตัวเองที่ดีกว่าเดิม
แสงไฟในห้องโถงติดสว่าง ผมแบกร่างที่เกือบๆ สร่างเมาขึ้นหลังเมื่อลงแท็กซี่จนถึงโซฟาก็กึ่งโยนกึ่งวางเด็กหนุ่มตัวจ้อยลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ตัวหนักเหมือนกันนะเรา” ผมว่าพลางวางมือลงบนพวงแก้มแดงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เบาๆ “น้ำมนต์อยากอาบน้ำไหม เดี๋ยวไปรองน้ำให้”
เจ้าของชื่อหยัดตัวขึ้นนั่งตาละห้อย คว้ามือผมที่อยู่บนแก้มตัวเองเมื่อครู่มาจับกุมไว้แล้วซบหน้าผากลง
“พี่ทิ ฟ้ารู้เหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย หลักฐานที่บอกว่าน้ำมนต์ยังไม่สร่างเมาคือคำสารภาพสิ่งที่ติดค้างมาจากบ้านหลังใหญ่ “ฟ้ารู้มาตลอดเลยเหรอว่าผมชอบ”
ถูกแฟนบอกว่าชอบคนอื่นต่อหน้าควรทำยังไงดี อยากจะตีแต่เห็นท่าทางหงอยๆ แบบนี้แล้วก็ดุไม่ลง
“น้ำมนต์ชอบฟ้าเหรอ”
เด็กหนุ่มพยักหน้า หน้าผากเสียดสีกับหลังมือผมเบาๆ
“เคยชอบ จริงเหรอวะพี่ทิที่คนที่เราชอบเขารู้ตัวแต่ทำไม่รู้เพราะไม่อยากเสียเพื่อน แต่ผมไม่เคย...ไม่เคยคิดจะแย่งฟ้ามาจากไอ้อุ้ยเลยนะ ไม่เคยจริงๆ”
ไม่ใช่ทุกรายที่จะเป็นอย่างนั้น แต่ผมไม่ตอบ ไม่ว่าฟ้าจะรู้หรือไม่รู้ความรู้สึกของน้ำมนต์ก็ไม่สำคัญ เพราะตอนนี้น้ำมนต์เป็นของผมคนเดียว และเพราะน้ำมนต์เป็นของผม เป็นคนของผมที่ผมทั้งรักและหวงแหนถึงไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปง่ายๆ
“เคยพูดไม่ดีถึงเจนด้วยเหรอ”
“ก็แซว...แต่ไม่ได้คิดไม่ดีด้วย”
“แล้วกับฟ้าเคยแซวหรือคิดไม่ดีด้วยไหม”
จะเรียกว่าผมฉวยโอกาสหลอกถามก็ได้ แต่น้ำมนต์ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ให้ได้ยินเลยสักครั้ง แม้ผิดหวังแต่ผมก็ต้องรู้ให้มากที่สุด
“ผมคิดว่าฟ้าไม่คิดอะไรมาตลอด”
“เพราะฟ้าไม่เคยพูด?”
คำตอบของน้ำมนต์ก็คือหลังมือที่ถูกถูด้วยหน้าผากถูกดึงเคลื่อนมาวางข้างแก้มขวา สัมผัสเปียกปอนของน้ำตาและความอัดอั้นตันใจ
“ดุ...ไม่สิ ด่าผมก็ได้ ผมมันเหี้ยเอง ผมไม่อยากทำให้ฟ้ารู้สึกไม่ดีเลย ผมคิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่ฟ้าคบด้วยแล้วจะสบายใจที่สุดแท้ๆ ผมไม่รู้...ไม่รู้เลย”
ผมถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ก่อนถาม
“รู้สึกผิดใช่ไหม”
น้ำมนต์พยักหน้าอีกครั้งท่ามกลางความเงียบงัน
“น้ำมนต์ควรไปขอโทษฟ้า ไม่ใช่พี่”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองผมตาปรือปรอย แดงช้ำ แดงที่เปลือกตาและจมูกมากกว่าตรงแก้มที่มีเลือดฝาดแล่นริ้วจากการสูบฉีดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์
“สำหรับพี่ มันเป็นแค่อดีตของน้ำมนต์ ถ้าน้ำมนต์รู้ว่ามันไม่ดี แล้วอยากเป็นคนที่ดีกว่านี้ พี่ก็ไม่โกรธอะไร”
เพราะผมรู้ ผมเข้าใจว่าสภาพแวดล้อมส่งผลยังไงต่อความคิดและการเติบโตของคนหนึ่งคน
ที่พ่อกับแม่เลิกกันเพราะเขามีชุดความคิดแบบนั้น
ระหว่างนั่งรอน้ำมนต์เลือกซื้อของขวัญปีใหม่กับเพื่อนๆ ผมนึกย้อนกลับไปถึงที่พ่อสั่งให้แม่เลิกร้องเพลงแต่แม่ไม่ยอม หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย และนำไปสู่การหย่าขาดกันในที่สุด
ผมได้ใช้เวลากับแม่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ แต่หากเทียบกับพ่อแล้วก็นับว่าเยอะกว่ามาก แม้กระทั่งแม่ที่จากไปก่อน ก็ยังเป็นเศษเสี้ยวของช่วงชีวิตที่คลุกคลีกับผมมากกว่าพ่อที่ยังมีชีวิตอยู่
บ้านไหนก็เป็นกันแบบนั้น พ่อเป็นเจ้าชีวิต พ่อสามารถพูดข่มทับแม่ต่อหน้าเพื่อนฝูง คุยโวโอ้อวดเรื่องสัปดนโผงผาง ยิ่งลุกล้ำพื้นที่ของผู้หญิงได้มากยิ่งภาคภูมิใจเป็นที่นับหน้าถือตาเข้าไปใหญ่
ผมได้ยินเรื่องนี้จากเพื่อนๆ ช่วงมอ.ปลาย กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัยก็ยังเห็นทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจจากกลุ่มเพื่อนชาย กระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมทำใจยอมรับได้เสมอมา
ช่วงวัยรุ่น เป็นช่วงชีวิตที่อินเตอร์เน็ตเฟื่องฟูพอดี ผมหัดเครื่องเล่นดนตรีต่างๆ จากยูทูป และใช้มันเป็นช่องทางเพื่อบันทึกเส้นทางนักดนตรีของผม ผมรู้จักเจนในตอนที่สูญเสียแม่ และไม่มีพ่อมาหลายปี ผมผูกติดตัวเองกับเด็กสาวรุ่นน้องที่มีรอยยิ้มสดใส ความลุ่มหลงที่ผมมีต่อเจนเหมือนพายุพัดพาเส้นทางชีวิตเรียบง่ายของผมให้เปลี่ยนไป ความรักของผมที่มีต่อเจนก็เคยเรียบง่าย และจู่ๆ ก็ยุ่งยากเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมา
“มึงมันเพื่อนทรยศ!”
เสียงอุ้ยดังขึ้นเมื่อเปิดประตูร้านกาแฟเข้ามา เขายกมือไหว้ผม เช่นกันกับเพื่อนตัวท้วมใหญ่ ส่วนคนที่ผมรอเพิ่งถูกเจ้าของเสียงตบหัวจากด้านหลังจนหน้าคว่ำ
“กูก็นึกว่ามึงจะปากหมากับฟ้าเล่นๆ ไอ้ห่า จ้องจะเคลมแฟนเพื่อน มึงนี่มันงูพิษ เห็นหน้าใสๆ พี่ทิระวังมันไว้ ไอ้น้ำมนต์มันเลว”
จากประโยคร่ายยาวของไฮโซหนุ่มผมก็พอเดาได้ว่าบทสนทนาก่อนหน้านี้เป็นเรื่องอะไร คนถูกกล่าวหาเบะปาก เมื่อคืนหลังจากน้ำมนต์ร้องไห้ก็หลับไปทั้งที่ยังกอดมือผมแน่น พอตอนเช้าให้เล่าใหม่ก็อึกอัก ผมบอกว่ารู้หมดแล้วที่น้ำมนต์เคยชอบฟ้าอีกฝ่ายถึงยอมสารภาพด้วยท่าทีหงอยๆ ผมเพิ่งรู้ตอนนั้นว่านอกจากที่เพราะน้ำมนต์เป็นแฟนคลับผมแล้ว ความรู้สึกพิเศษที่เจ้าตัวมีให้หญิงสาวก็เป็นตัวพัดพาเอาไฟที่อยากปลุกผมขึ้นมาจากความเป็นซอมบี้ขี้เมาลุกโชนไม่สิ้นสุด ผมไม่โกรธน้ำมนต์สักนิดเพราะเป็นเพียงเรื่องเก่า เหมือนความสัมพันธ์ของผมกับเจนที่เป็นเพียงชนวนพัดมาให้เรามาเจอกันเท่านั้น
“กูขอโทษ จะให้ทำไง มึงอยากให้กูชดใช้ยังไงว่ามาเลยอุ้ย พี่รู้พี่มันเลว”
“น้ำหน้าอย่างมึงชดใช้อะไรกูได้”
“เอาน่าๆ อย่าตีกัน อย่างน้อยน้ำมนต์มันก็ไม่ได้เสี้ยมให้มึงกับฟ้าทะเลาะกันปะ ตีกันทีไรอีน้ำมนต์ก็รับบทที่ปรึกษาตลอด” นิวช่วยพูดให้ ส่วนคนคิดไม่ซื่อกับแฟนเพื่อนและเพื่อนสนิทยังนั่งจ๋อยสงบปากสงบคำ “เอาเวลาตีกันไปคิดดีกว่าว่าจะขอโทษฟ้ายังไง ตั้งสี่ปีที่เราเล่นอะไรกันไม่รู้เลยว่าอีฟ้าไม่โอเค”
“จริง ฟ้าแม่งเก็บอะไรไว้ในใจเยอะกว่าที่พวกเราคิดมากเลยว่ะ”
“เจ้าแม่ประสาทแดก” นิวค่อนขอด ส่วนน้ำมนต์มองค้อน
“มึงยังไม่รู้สึกผิดอีกเหรอไอ้นิว”
“แค่แซวขำๆ ปะวะ”
“คนโดนไม่ขำหรอกนะ” ผมพูดพลางยกกาแฟขึ้นมาจิบ สามทหารเสือได้ยินก็นั่งสลดเพราะหนึ่งในเหยื่อที่เคยถูกเอามาพูดถึงขำๆ คือแฟนเก่าของผมเอง
to be continue in the book
talk
อันนี้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจว่าจะลงในเว็บค่ะ ตั้งใจจะลงแค่ตอน beside you แต่เนื่องจากเนื้อหาช่วงแรกมีการใช้คำพูด abuse และคนอ่านไม่สบายใจก็เลยcutเอาว่าตอนท้ายฟ้าพูดเรื่องนี้ยังไง และแก้ปมความลับที่น้ำมนต์เก็บไว้กับตัว (เราไม่ได้ใส่ในตอนหลักเพราะpointของเรื่องเน้นไปที่พี่ทิค่ะ)
ตอนพิเศษนี้เป็นตอนที่เราตั้งใจจะเขียนตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ได้มีคนท้วงก็เลยเขียนน้า เมนที่ใส่ตั้งแต่แรกคืออยากสะท้อนความคิดของคนหนึ่งที่มีด้านมืด แต่ตลอดในเรื่องจะเห็นความยับยั้งชั่งใจที่น้ำมนต์มีต่อทิวฟ้าค่ะ ถ้าที่ผ่านมา misleading ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย (ส่วนเรื่องการพูดถึงหน้าอกของทิวฟ้าก็มาโผล่ในตอนพิเศษนี้เช่นกันค่ะว่าการที่ผู้ถูกกระทำไม่พูดไม่ใช่ไม่คิด เรื่องนี้ตั้งใจจะเขียนเพราะประสบมาโดยตรงแต่หาที่ใส่ไม่ได้ค่ะเลยมาโผล่ในตอนพิเศษค่ะ
นอกจากนี้ยังมีตอนพิเศษที่ไม่ได้ลงที่ไหนอีก 2 ตอนในเล่ม (NC อยู่ในนั้นค่ะ)
นิยายเรื่องนี้เป็นหนังสือทำมือที่จะทำเกินยอดพรีไม่มาก และไม่ได้วางขายที่ไหน เปิดพรีตั้งแต่วันนี้ - 30 มิ.ย.63 หลังจากนั้นจะขายในรูปแบบของ ebook ค่ะ
สามารถดูรายละเอียดได้ที่
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSf0vDzgWhr_0RcGzF9crU33iFGXgBs9A_vAI5aH3TTTFpru-w/viewformขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำ เว้ดจะใช้ปรับปรุงในการเขียนเรื่องถัดไปให้ดีขึ้นแน่นอนคับ