เวรกรรมตามทันในภพนี้
By: Dezair
บทส่งท้าย
………………………
วงการบันเทิงยังคงเดินต่อไป คลื่นลูกเก่าลูกใหม่ซัดซาดไปกับกระแสความนิยมที่มีขึ้นมีลง
ครองภพและร่มธรรมยังคงมุ่งมั่นในสายอาชีพนี้ พวกเขาเรียนรู้และเติบโต อาศัยทั้งพรสวรรค์และพรแสวง ใช้ทั้งฝีมือและโอกาส ผลักดันตนเองให้ยืนหยัดในวงการอย่างสง่าผ่าเผยและน่าภาคภูมิใจ
แต่ในเมื่อมีคนสนับสนุนผลักดัน มีคนเห็นความสามารถ มีคนเห็นประโยชน์ ก็ย่อมมีคนขัดแข้งขัดขา มีคนไม่เห็นความสามารถ และมีคนเห็นว่าขวางประโยชน์
ข่าวลือไม่ใช่เรื่องที่จะควบคุมได้ โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของร่มธรรมและครองภพ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ยอมรับสถานะนี้ ให้อย่างไรปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการประสบความสำเร็จในอาชีพนักแสดงก็คือจริตของสังคม ดังนั้น พวกเขาย่อมต้องรักษาความรู้สึกที่มีต่อกันเอาไว้เป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม สังคมต่างรับรู้กันว่าร่มธรรมเคยช่วยชีวิตครองภพ และรับรู้ว่าพวกเขาเคยผจญกับกรณีเบญญามาด้วยกัน ก็พอจะทำให้เข้าใจว่าความสนิทของพวกเขาเป็นมิตรภาพที่สวยงาม
แต่แม้จะเข้าใจ ความสัมพันธ์ของร่มธรรมและครองภพก็ยังเป็นเรื่องให้นักข่าวหยิบยกมาตั้งคำถามอยู่เนืองๆ
ถามครองภพ ครองภพก็ย้ำแต่คำว่าผู้มีพระคุณ ถามร่มธรรม ร่มธรรมก็พาคุยไปเรื่องอื่น สุดท้าย...หวยเลยมาออกที่รามิล
รามิลในฐานะพระเอกเก่าที่ยังโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงในฐานะผู้จัด แถมยังเป็นคนพาร่มธรรมกลับเข้าวงการ และทำให้ร่มธรรมกับครองภพได้ร่วมงานกัน เขาย่อมเป็นหนึ่งในคนที่ถูกนักข่าวตั้งคำถาม
“ร่มกับครองน่ะหรือ เอาจริงน่ะ? อีเว้นท์นี้ไม่มีสองคนนั้นนะครับ” ชายหนุ่มย้อนถามหน้าตายิ้มแย้ม สมกับเป็นอดีตพระเอกแห่งชาติ แม้จะเกษียณตนเองจากอาชีพนักแสดงแล้ว แต่ก็ยังรักษาภาพลักษณ์ได้อย่างดี
“ถ้าถามผมล่ะก็...จะว่าไงดี Twin Flames นะ ผมคิดถึงคำนั้น”
แน่นอนว่าเกิดเป็นเทรนด์ของการค้นหาความหมายของคำว่า Twin Flames ขึ้นมาทันที แม้ภายหลังจะมีข่าวลือว่าเป็นชื่อซีรี่ส์เรื่องใหม่ที่รามิลกำลังจะเป็นผู้จัด แต่ก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่ารามิลต้องการหมายถึงซีรี่ส์ของตัวเอง หรือต้องการพูดถึงความสัมพันธ์ของครองภพและร่มธรรม
ฝั่งแฟนคลับ ‘พี่ร่มน้องครอง’ บอกว่ารามิลต้องการบอกว่าพี่ร่มน้องครองเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ
ฝั่งแฟนคลับ ‘น้องครองพี่ร่ม’ บอกว่ารามิลลึกซึ้งสุดๆ เพราะคำนี้กินความหมายยิ่งกว่าคู่แห่งพรหมลิขิตอีก
ฝั่งแฟนคลับ ‘ครองภพ’ บอกว่าร่มธรรมมีบุญคุณต่อครองภพน่ะใช่ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เคยช่วยเหลือครองภพมาก่อน ถ้าอย่างนั้นก็คงเรียก Twin Flames ไม่ได้ เรียก Millions Flames ดีกว่า
ฝั่งแฟนคลับ ‘ร่มธรรม’ บอกว่า ร่มธรรมอายุขนาดนี้แล้ว ผ่านทั้งอาชีพนักแสดงและทำธุรกิจ หากจะนับคนที่ร่วมหัวจมท้ายไปกับร่มธรรม ก็ควรเรียก Millions Flames เช่นกัน
ในเมื่อกระแสทางแฟนคลับแตกออกเป็นหลายส่วน นักข่าวเลยไปถามกับเจ้าตัวอย่างครองภพ
“Twin Flames เหรอครับ ก็ดีครับ”
“คุณครองหมายถึง ยอมรับที่คุณรามิลบอกว่าเป็น Twin Flames ของคุณร่มหรือคะ”
“ต้องยอมรับหรือไม่ยอมรับด้วยหรือครับ”
“สรุปว่าคุณครองกับคุณร่มตอนนี้ยังสนิทกันมั้ยคะ”
“เขาเป็น...”
ครองภพกำลังจะตอบคำตอบเดิม แต่นักข่าวรอบตัวประสานเสียงกันขึ้นมาเสียก่อน
“ผู้มีพระคุณของผม!”
นักแสดงหนุ่มอึ้งงัน หน้าตาเหรอหราไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกลายเป็นกระแสข่าวในอินเตอร์เน็ตว่าพระเอกหนุ่มรูปหล่อพูดน้อยเจอนักข่าวย้อนจนชะงัก พอคนได้ดูคลิปสัมภาษณ์ก็พากันหัวเราะด้วยความเอ็นดูเขา
ประเด็น Twin Flames เมื่อถามครองภพแล้วไม่ได้อะไรเพิ่ม นักข่าวก็เลยหันไปจ่อไมค์ถามร่มธรรมแทน
“Twin Flames? เป็นคำที่ดีนะครับ”
“คุณรามิลบอกว่าคุณร่มกับคุณครองเป็น Twin Flames ค่ะ”
ร่มธรรมเลิกคิ้ว แล้วยิ้มจาง ไม่ได้มีท่าทีตกใจราวกับเตรียมตัวสำหรับประเด็นนี้มาแล้ว
“ครองช่วยผมไว้เยอะมากเลยครับ ตอนผมกลับเข้าวงการใหม่ๆ ก็ได้เขาคอยช่วยหลายอย่าง ถ้าไม่ได้เขา ผมก็คงไม่ได้อยู่ในวงการต่อแล้ว” เขาไม่ตอบเรื่อง Twin Flames แต่เล่าเรื่องอื่นแทน
“หมายความว่าคุณร่มเคยคิดจะออกจากวงการอีกรอบหรือคะ”
“ตอนนั้นนะครับ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ตอนนี้อยากทำงานในวงการ อยากเล่นละครอีกเยอะๆ อยากออกรายการอีกหลายๆแบบ อยากพัฒนาตัวเองต่อไปครับ”
ร่มธรรมเก่งเรื่องเบี่ยงประเด็นด้วยท่าทางสุภาพ ดังนั้นสุดท้ายแล้ว คำสัมภาษณ์ของเขาจึงไม่ใช่การตอบคำถามเรื่อง Twin Flames แต่อย่างใด
แม้ต่างคนต่างเลี่ยงที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ แต่กระแสความนิยมในตัว ‘ทั้งคู่’ ก็ยังไม่ซา แต่การจะดึงพวกเขาไปออกรายการหรืออีเว้นท์เป็นเรื่องยาก ต้นสังกัดของครองภพไม่อยากให้ศิลปินมีกระแสในทิศทางนั้นมากเกินไป ในขณะที่ร่มธรรมเองก็ต้องวางตัวให้ความนิยมของเขาอยู่ตรงกลางระหว่างแฟนคลับเดี่ยวและแฟนคลับคู่ อย่างไรก็ตาม เพราะกระแสซีรี่ส์ของผู้กำกับฉายดังเป็นพลุแตก งานประกาศรางวัลของวงการบันเทิงย่อมต้องมีรางวัลสำหรับซีรี่ส์เรื่องดัง
ครองภพและร่มธรรมออกงานร่วมกัน แยกกันมา แยกกันเข้างาน แต่ขึ้นเวทีด้วยกันและรับรางวัลพร้อมกัน
เสียงประกาศรางวัล เสียงประกาศชื่อ ตามมาด้วยเสียงปรบมือ และทีมงานที่เข้ามาเชิญให้ขึ้นเวที
ร่มธรรมก้าวเท้าออกไปยืนเบื้องหน้าของเวที ข้างแท่นวางรางวัล
มีคำกล่าวว่า นักแสดงคือดาราเจิดจรัส มีรูปทรัพย์หล่อสวย มีทรัพย์สินมั่งคั่ง เป็นที่จับจ้องของสังคมรอบข้าง แต่สำหรับร่มธรรม ‘ดาราเจิดจรัส’ คือภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏแก่สายตาของนักแสดงเช่นเขาในขณะนี้
นักแสดงจะเจิดจรัส ก็เพราะคนมากมายสนับสนุนเช่นนี้ต่างหาก
แสงไฟ แสงแฟลชนับร้อยนับพัน พร่างพรายอยู่ในความมืดของหอประชุมขนาดใหญ่ เขามองภาพตรงหน้าด้วยไม่คาดคิดว่าชีวิตของเขาจะพลิกผันมาถึงตรงนี้
หากวันนั้น รินฤดีไม่คะยั้นคะยอให้กลับมารับงานอีกครั้ง
หากวันนั้น คิดจะถอยออกจากเส้นทางนี้อีกหน
หากวันนั้น ไม่ได้ใครหลายคนเตือนสติให้ตระหนักว่าอะไรคือสิ่งที่ต้องการ อะไรคือชีวิต อะไรคือจิตใจ
วันนี้...คงไม่ได้ยืนตรงนี้
มือของเขาเอื้อมไปหยิบป้ายรางวัลคริสตัลระยิบระยับ บนนั้นระบุชื่อรางวัลและชื่อของเขา
‘รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม ประจำปี...’
‘ร่มธรรม’
ชื่อของเขา กับรางวัลที่เป็นเหมือนแรงใจแรงกายให้กับเส้นทางนี้
“ผม...เคยถอยออกไปจากที่แห่งนี้เมื่อหลายปีก่อน เคยคิดจะไม่กลับมาอีก เคยคิด...แม้แต่จะล้มเลิกความตั้งใจของตนเอง โชคดีที่คนรอบข้างช่วยผมเอาไว้ เตือนสติผม ผลักดันผม”
ภาพของรินฤดีที่คะยั้นคะยอให้เขารับงาน ภาพขององอาจที่กดนิ้วลงมาตรงตำแหน่งหัวใจของเขา ภาพของครองภพที่จับจ้องและตอกย้ำให้เขาตระหนักว่าอะไรคือชีวิตของเขา
หากไม่มีคนเหล่านั้น เขาคงอยู่ในอีกโลกหนึ่ง ไม่ใช่โลกที่ตนเองได้ยืนอยู่กลางเวที มีผู้คนนับร้อยนับพันห้อมล้อมเช่นนี้
ร่มธรรมเองก็ไม่รู้ว่าโลกใดดีกว่ากัน ไม่รู้ว่าหากเขาเลือกอีกเส้นทางหนึ่ง ชีวิตจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้หรือไม่
แต่...ในเมื่อเขาเลือกแล้ว เขาเลือกที่จะเดินในเส้นทางนี้ เลือกที่จะอยู่ในโลกใบนี้ ไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลับไปคร่ำครวญถึงการเลือกในอดีต หรืออนาคตจะเป็นเช่นไร
ในเมื่อชีวิตในปัจจุบัน คือโอกาสของการมีชีวิต
“พอผมกลับเข้ามาแล้ว ตัวผมคนเดียว ไม่มีวันทำให้ผมได้มายืนอยู่ตรงนี้ คนมากมายช่วยเหลือผม เป็นกำลังใจให้ผม สนับสนุนผม ทั้งในสายอาชีพและในชีวิตส่วนตัว”
ภาพของรุ่งโรจน์ รามิล อัจฉราและธาดา ทีมงานมากหน้าหลายตา แฟนคลับและคนที่รักเขา แม้กระทั่งเบญญา ชายนุ่งโจง และหนุ่ยที่ทำให้เกิดเรื่องราวอันตรายให้กับชีวิตของเขาและครองภพ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าถ้าไม่ใช่เพราะเบญญารักเขามากขนาดนั้น ก็คงไม่อวดกับรามิล และถ้าไม่ใช่เพราะชายนุ่งโจง เขาก็อาจจะไม่ได้เจอและรู้จักกับครองภพแล้วสานสัมพันธ์กันอย่างทุกวันนี้
หากมีเรื่องใดบิดพลิ้วแม้เพียงเล็กน้อย ชีวิตที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ อาจจะไม่ใช่เช่นนี้เลยก็ได้
“ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ ต่อจากนี้ ผมจะพยายามให้มากขึ้น จะสร้างผลงานที่เป็นความภาคภูมิใจของทุกคน การสนับสนุนของพวกคุณไม่ว่าจะเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อวานนี้ วันนี้ หรือวันต่อไป จะมีค่าสำหรับผมเสมอ ขอบคุณมากครับ” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ถอยห่างออกจากโพเดี่ยม ยกมือไหว้แล้วตามด้วยโค้งกายต่ำ นิ่งค้างอยู่เช่นนั้น
เสียงตบมือดังกระหึ่ม ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมา
บนอัฒจรรย์มีป้ายไฟเป็นชื่อเขาจากเหล่าแฟนคลับ บอกให้รู้ว่านี่คือคนกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนเขาให้มาถึงจุดนี้ มีป้ายชื่อครองภพอยู่อีกมุมหนึ่ง นั่นก็กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่สนับสนุนคนรักของเขา และมี...ป้ายชื่อเขาและครองภพเคียงกัน นี่ก็อีกกลุ่มที่พร้อมจะสนับสนุนทั้งเขาและครองภพ
ร่มธรรมยิ้มจางด้วยความภาคภูมิใจ ที่ทำให้ชื่อของตนเองได้ขึ้นมาเจิดจรัสอยู่ท่ามกลางความมืดในหอประชุมขนาดใหญ่ ที่ภูมิใจไม่น้อยไปกว่ากันคือพอเหลือบมองไปอีกข้างก็เห็นชื่อของครองภพอยู่ด้วย
โอกาสเช่นนี้ ไม่รู้ชีวิตนี้จะได้เห็นอีกหรือไม่ แต่ปัจจุบันนี้มันเกิดขึ้นตรงหน้า
ชายหนุ่มโบกมือให้กับผู้คนในหอประชุม ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับไปยืนเคียงข้างนักแสดงนำที่รับรางวัลร่วมกัน
ชั่วจังหวะที่หันกลับไป สายตาประสานกันเพียงอึดใจเดียว ต่างคนต่างรับรู้ ทว่าไม่มีใครพูดอะไร
“ขอเชิญคุณครองภพรับรางวัลครับ” เสียงของพิธีกรดังขึ้น ครองภพเดินไปยืนที่จุดเดียวกับร่มธรรมเมื่อครู่
ดวงตาดุของชายหนุ่มกวาดมองไปรอบกาย ป้ายชื่อของเขาอยู่มุมหนึ่ง ป้ายชื่อของร่มธรรมอยู่อีกมุมหนึ่ง มีป้ายชื่อพวกเขาทั้งคู่ด้วย เขาไม่รู้ว่าสิ่งใดน่าดีใจกว่ากัน ระหว่างมีคนมากมายสนับสนุนการทำงานของเขา มีคนมากมายสนับสนุนการทำงานของร่มธรรม และมีคนมากมายสนับสนุนการทำงานของพวกเรา
แต่...มันอาจไม่จำเป็นเลย ที่จะต้องเทียบความดีใจ
ในเมื่อความดีใจก็คือความดีใจ
ความดีใจทำให้มีความสุข
เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
“ผมพูดไม่เก่ง...” เขาก้มหน้าลงหาไมโครโฟนบนโพเดี่ยม ประโยคสั้นๆของเขาที่ออกตัวสมกับฉายา ‘หล่อพิกุลจะร่วง’ ทำเอาเกิดเสียงหัวเราะร่วนในหอประชุม
ครองภพเว้นวรรคหายใจ กลืนความตื้นตันลงคอ แต่หยาดน้ำใสคลอหน่วย
เขาไม่ใช่คนร้องไห้ง่าย ในเวลางานนั้นเรื่องหนึ่ง แต่เวลาที่เป็นครองภพ หากไม่ใช่เรื่องที่มีผลต่อจิตใจมากมาย เขาไม่เคยร้องไห้เลย
ครองภพผู้เติบโตมากับความพยายามอย่างหนักเพื่อฝ่าฝันในแวดวงอุตสาหกรรมบันเทิง เหนื่อยยากแค่ไหนก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อ ทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ทำได้แค่กัดฟันแล้วพยายามให้มากขึ้นอีก แต่วันนี้...วันนี้เหมือนมีดอกไม้บานสะพรั่งอยู่รอบตัวเขา
มันสดใส อบอุ่น พร่างพรายด้วยประกายระยิบระยับ
ข้างหน้าคือคนที่สนับสนุนเขา ทั้งครอบครัว แฟนคลับ และทีมงาน ส่วนข้างหลัง...คือคนที่เป็นแรงกายแรงใจ เป็นคนที่แม้บอกใครไม่ได้ว่ามีความสัมพันธ์เช่นไร แต่พวกเขาจะเคียงข้างกัน ดูแลกัน คอยสนับสนุนกันและกันเช่นนี้ต่อไป
เขารู้ว่าเมื่อวันพรุ่งนี้มาถึง วันนี้จะกลายเป็นอดีต เขายังต้องพยายามต่อไป ต้องสู้ต่อไป ต้องฟันฝ่าต่อไป แต่อย่างน้อย...วันนี้...จะเป็นความทรงจำที่แสนงดงามของเขา...ตลอดไป
“...แต่ผมจะพยายามให้มากกว่านี้ จะตอบแทนรางวัลนี้ด้วยความพยายามของผม จะไม่ทำให้คนที่มอบรางวัลนี้ให้ผมต้องเสียใจ ทุกการสนับสนุนของพวกคุณทุกคนจะต้องไม่เสียเปล่า ผมจะพยายามต่อไปครับ”
ครองภพถอยหลังออกมาจากโพเดี่ยมแล้วโค้งกายต่ำ เสียงปรบมือดังกระหึ่ม จนกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมา กวาดสายตาเก็บภาพความทรงจำที่แสนสวยงามนี้เอาไว้ให้ได้มากที่สุด แล้วจึงหมุนตัว เพื่อกลับไปยืนเคียงข้างนักแสดงที่ขึ้นรับรางวัลร่วมกัน
สายตาประสานกันอีกครั้ง ไม่มีใครส่งยิ้มให้ใคร แต่ในดวงตาที่สบกันมีประกายแห่งความยินดีมอบให้
ครองภพและร่มธรรมยืนเคียงข้างกันบนเวที ในมือมีรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม พวกเขาถ่ายรูปร่วมกัน มีทั้งภาพทั้งคลิปเป็นร้อยเป็นพันในค่ำคืนนี้ ที่จะกลายเป็นความทรงจำอันงดงามว่าครั้งหนึ่งพวกเขาได้พบกัน ได้ร่วมงานกัน สนับสนุนและผลักดันกันและกัน ช่วยเหลือและประคับประคองกัน
จนกระทั่งวันนี้...ได้ยืนข้างกัน เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนจำนวนมาก
เรา...จะใช้โอกาสทั้งหมดที่มี เคียงข้างกันในปัจจุบัน แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เหมือนอย่างที่เราก้าวมาด้วยกัน จนได้มายืนข้างกัน ณ ที่แห่งนี้
‘ครองภพ’
‘ร่มธรรม’
‘นักแสดงนำชายยอดเยี่ยมประจำปี’
อดีต...ไม่รู้ว่าพลัดพรากกันมากี่ครั้ง
อนาคต...ยังมาไม่ถึง และไม่แน่ไม่นอน
แต่ปัจจุบัน...คือโอกาส...
โอกาสของชีวิตนี้ หัวใจนี้ ความรู้สึกนี้...
โอกาส...ของชีวิตที่ชื่อ ‘ครองภพ’ และ ‘ร่มธรรม’
FIN