Chapter25
| Ex-friend
เช้าวันใหม่สดใสกว่าวันเก่า...
นั่นคงจะเป็นความคิดที่เกิดขึ้นยามที่ผมตื่นมาในเช้าอีกวันหลังจากที่ได้ปลดปล่อยไป แถมได้ปลดกับอีกคนที่บอกเลยว่าไอหมาธีร์รู้สึกดี...เกินคาดเลยเเหละ
ถ้าใครคิดว่าเมื่อคืนมันจบเเค่รอบเดียวผมออกตัวไว้เลยว่าคุณคิดผิด
หลังจากมันปล่อยมารอบนึงเเล้ว บอกรักผมให้เขินเล่นๆ แต่เเทนที่จะจบเเค่นั้นมันกลับส่งมือชี้ไปยังด้านล่าง เผยให้เห็นอนาคอนด้าที่ท่าทางยังเหลือพิษอีกมากโข
และด้วยความที่ธีร์น้อยเองก็ตื่นขึ้นมาตั้งเเต่มันมาถูๆผมเเล้ว ฉะนั้นก็เลย...ต่อ
ต่อยังไงก็ไม่ทราบ ที่เเน่ๆคือผมหลับคาที่ไปเลย ไม่รู้ด้วยว่ากี่โมงกี่ยาม
ออด! ออด! ออดๆๆๆๆๆ
"โอ้ย!! ได้ยินเเล้ว!"
ใช่ เช้านี้มันเกือบจะดีถ้าไม่มีเสียงออดจากหน้าประตูดังมารัวๆจนคนที่นอนฝันหวานอย่างสบายตัวอย่างผมต้องกระเด้งตัวขึ้นมายีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด
ไอธีร์เป็นคนไม่คิดมากไม่ค่อยโกรธหรือหงุดหงิดใคร...เเต่ถ้ายามเพิ่งตื่นนอนมันอีกเรื่อง
ผมกร่นด่าคนที่มารบกวนเวลานอนอยู่ในใจ ก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง ก็เห็นว่าเสื้อผ้าตัวใหม่ถูกเปลี่ยนให้เรียบร้อยเเล้วซึ่งไม่ต้องเดาให้เมื่อยสมอง ก็รู้ว่าเป็นคนที่นอนอยู่ข้างกาย...
"เอ้ะ ไม่อยู่?"
ออด!
"ใจเย็นโว้ย!!"
เสียงออดที่ดังขึ้นอีกรอบทำเอาผมต้องตะโกนออกไปเสียงดัง กลัวว่าถ้ามันยังกดอีกออดห้องผมต้องไหม้เเน่ๆ ก่อนที่จะลุกออกจากเตียงเพื่อไปดูสิว่าใครมันช่างไม่รู้จักเกรงใจอะไรเลย
ถ้ามันอยู่คงไม่ปล่อยให้คนมายืนกดออดเล่นเเบบนี้หรอก
ความคิดของคนที่เดินโงนเงนไปหน้าห้องเเบบที่ตายังไม่เปิดดี เพราะถ้ามันอยู่มันคงเดินมาเปิดเรียบร้อยเเล้ว
แอด..
"อ่าว พี่เร..."
"นี่อย่าบอกนะว่ามึงเพิ่งตื่นน่ะไอธีร์!!!!"
"ห้ะ? ทำไมหรือพี่ วันนี้วันหยุดนี่"ผมตอบกลับไปอย่างงงๆ จริงๆเเค่เปิดประตูมาเจอหน้ารุ่นพี่ลูกครึ่งก็งงเเล้ว ร้อยวันพันปีไม่เคยจะถ่อมาหาถึงห้อง
"ก็เพราะเป็นวันหยุดนี่ไง! นี่มึงลืมนัดกูหรอวะไอหำน้อย!!"
นานเเล้วที่พี่เรนไม่ได้เรียกผมว่าไอหำน้อย..
เดี๋ยวๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนะไอธีร์
จากท่าทีร้อนรนเหมือนอยากจะเข้ามาขย้ำคอผมเสียตรงนี้จากรุ่นพี่ตรงหน้าที่ฟิดฟัดดันผมเข้ามาในห้องเเล้วปิดประตูเสียงดัง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาเขย่าไหล่ผมเเรงๆจนหัวผมสั่น สมองตื้อๆเลยพลันประมวลอย่างช้าๆ ก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างขึ้นนิดเเล้วพูดได้คำเดียว...
"ฉิบหาย!!!!!!!"
"เออ! ฉิบหาย!"พี่เรนว่าย้ำ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกจากไหล่ผม ก้มลงไปดูโทรศัพท์ที่สั่นไม่หยุดของตัวเองจากนั้นก็ถอนหายใจหนักๆ
"เห้ยพี่ผมขอโทษ เดี๋ยวรีบไปอาบน้ำเเต่งตัวแปปนะ"ผมว่ารัวๆ ความรู้สึกผิดเกาะกินจิตใจ ยามมองหน้ารุ่นพี่ที่มักมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กำลังขรึมขึ้นเรื่อยๆจนชักขะเห็นออร่าสีทะมึนเเผ่ออกมาอยู่เเล้ว
หมับ
"ไม่ตอบอาบเเล้ว"
"ห้ะ?"
"ไปเปลี่ยนชุด ไวๆ"
"เห้ยพี่! ขออาบเถอะ สิบ ไม่สิ ห้านาที"
เมื่อคืนถึงเเม้จะเเค่นั้นเเต่เเน่นอนว่าเหงื่อนี่ออกเป็นลิตร...
"หำน้อย"
"ยอมเเล้วครับ"ผมยกมือยอมเเพ้เมื่อสรรพนามที่คุ้นเคยย้อนคืนกลับมา ทั้งสายตาดุๆที่ปรามบอกว่าอย่าดื้อนี่อีก
พี่เรนในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้เจอตั้งเเต่นาน...
ผมไม่ยืนพูดให้เสียเวลาอีก จริงๆก็อยากจะพูดอีกหน่อยละว่าให้พี่แกเลิกเรียกผมอย่างนั้นซักทีเเต่พอเจอสายตาที่กดดันมา ผมก็ได้เเต่น้อมรับความผิด รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนกางเกงในห้อง ดีหน่อยที่ขอล้างหน้าแปรงฟันได้ ไม่งั้นไม่อยากนึกสภาพเวลาคุยกับคนอื่น
คงได้มีโศกนาถกรรมเเน่
แต่เอาจริงๆตอนเเรกที่ดึงดันจะอาบก็เพราะคิดว่าต้องเหนียวตัวกับเหม็นเหงื่อ เเต่พอตื่นเต็มตาเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พบว่าไม่มีทั้งสองอย่าง ทั้งยังได้หลิ่นหอมๆเหมือนแป้งเด็กจากตัวเองอีกต่างหาก
"พร้อมเเล้วใช่ไหมไอหำน้อย"พี่เรนที่ยืนพิงเคาท์เตอร์ครัวเอ่ยถามทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งผมก็พยักหน้าตอบเเล้วเอ่ยท้วง
"พี่เลิกเรียกผมงั้นเถอะ ถึงที่บ้านมันจะปกติ เเต่ในเมืองมันน่าอายนะพี่"ผมเเทบจะยกมือไหว้ในขณะที่เดินออกมา
"ถ้าเอาให้ถูกต้องเป็น บักหำน้อยสินะ"พี่เรนว่ากลั้วหัวเราะ มีการยักคิ้วหลิ่วตาให้อีกเป็นหลักฐานว่าอารมณ์พี่เเกกลับมาเป็นปกติเเล้ว ผิดกับเมื่อตอนเเรกที่ทำท่าจะเเดกหัวผมอย่างเดียวเลย
"เอาที่พี่สบายใจเลย"ผมบอกตัดบทเพราะรู้ตัวว่าพูดไปก็เถียงสู้อีกคนไม่ได้เลยขอยอมเเพ้ตั้งเเต่เเรกเเล้วรีบเดินตามคนที่เมื่อเช้าเร่งยิกๆเเต่ตอนนี้กำลังเดินไปที่บิ๊กไบค์คันใหญ่เเบบที่ผมบอกได้เลยว่าโคตรชิล
แล้วจะมาเร่งผมทำไมวะครับ!
--------------
ใช้เวลาไม่นานเลยในการเดินทางมาที่ห้างหรูที่อยู่ไม่ไกล ที่ไม่นานก็เพราะมันใกล้บวกกับความซิ่งที่ยังสงสัยว่าทำไมไม่โดนตำรวจเรียกของพี่เรน
"ผมคิดว่าจะไม่ถึงซะเเล้ว"
"หือ?"
"คิดว่าพี่จะพาผมไปเฝ้ายมบาลก่อนที่จะถึงเนี่ย"ผมพูดเเล้วก็เอามือทาบอก ถึงจะยอมซ้อนอีกฝ่ายหลายรอบเเล้วก็เถอะ เเต่เเบบเหตุการณ์ฝังใจที่ได้ไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มมันก็ยังคอยหลอกหลอนผมอยู่นะเฮ้ย
"อย่าเว่อร์ไอธีร์ อย่างมากก็เเค่พาไปให้นางพยาบาลเฝ้าเเค่นั้นเอง"
"ทำไมพี่ดูชิลจัง ตอนเช้าเร่งผมเเทบตาย"
"ก็เพราะมันจะถึงเวลานัดเเล้วไงกูเลยต้องเร่ง เเต่ไหนๆเเม่งก็เลทละ ขอเลทให้คุ้มไปเลยแล้วกัน"ว่าเเล้วก็ตอบหน้าระรื่น ผมนี่ถึงกับส่ายหน้ากับตรรกะประหลาดๆของพี่เรน ก็อย่างที่ผมเคยบอกประเภทพี่เเกนี่เรียกว่าอะไรนะ...อินดี้? ทำนองนี้เลย
"แล้วเอ่อ...คนนัดเขาไม่ด่าพี่หรอ"ผมถามยามที่ก้าวตาแผ่นหลังกว้างของอีกคนไป ซึ่งคนโดนถามจู่ๆก็หยุดเดินกระทันหันส่งให้ผมเกือบจะชน
"ก็คงด่าเเหละ"แล้วหันมาบอกง่ายๆ
"เอ้า!"
ยังไม่ทันได้งงกับความคิดในหัวของรุ่นพี่ร่างสูงไปมากกว่านี้ คนที่หยุดเดินก็ถอยมายืนข้างกันเเทนจากนั้นมือกร้านก็ขยับมากุมมือผมไว้
ผมเงยหน้ามองอีกคนอย่างงงๆ ซึ่งพี่เรนก็ขยิบตาให้ จากนั้นก็กระชับมือให้เเน่นขึ้นอีกต่างหาก
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงไม่สะบัดทิ้ง บอกได้เลยว่าถ้าจู่ๆพี่เรนมาจับมือนี่มันต้องไม่ปกติเเน่ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยหรอกครับมาเดินกุมมือเหมือนสาวน้อยวัยใสกลัวพลัดหลงกันเเบบนี้เนี่ย
"อีกชั้นจะถึงเเล้ว ช่วยเนียนๆตามน้ำกันไปหน่อย วันนี้วันสุดท้ายเเล้วนะ"คนตัวสูงก้มลงมากนะซิบเบาๆ ให้ผมพยักหน้ารับเข้าใจทันที อีกนิดเดียวพันธะประหลาดๆระหว่างผมกับพี่เรนก็จะจบเเล้วครับ อีกนิดเดียวเท่านั้น!
พวกเราขึ้นบรรไดเลื่อนซึ่งเป็นบรรไดเลื่อนชั้นสุดท้ายเเล้ว ใจจริงผมเเอบประหม่าอยู่ไม่น้อย เพราะผมรู้ตัวเองดีว่าโกหกใครไม่เก่ง ถ้าความเเตกขึ้นมาผมน่ะไม่เป็นอะไรหรอกเเต่คนที่จะเเย่คือพี่เรน ทุกวันนี้ผมยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นผมที่รับบทบาทนี้ทั้งๆที่หน้าตาก็ไม่ได้ดูเหมาะกับพี่เรนเลยซักนิดไม่แปลกที่คนที่ตามตื๊อพี่เรนเขาจะไม่เชื่อ
หมับ
เเรงบีบมือจากคนข้างๆทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง พี่เรนฉีกยิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้พูดอะไร เเต่เเค่นั้นก็ทำให้คนที่รู้จักกันมานานอย่างผมเข้าใจว่าพี่แกไม่อยากให้กังวล ผมเลยได้เเตายิ้มตอบไป
พวกเราถึงชั้นที่นัดไว้เรียบร้อยเเล้ว พี่เรนเป็นฝ่ายนำทางไปยังร้านอาหารเเห่งหนึ่งโดยที่ยังคงกุมมือผมไว้ตลอดเวลา
"กี่ท่านคะ"
"พอดีมีคนมาจองไว้เเล้วน่ะครับ"พี่เรนตอบพนักงานสาวที่ออกมาต้อนรับตามหน้าที่ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านจนถึงโต๊ะมุมในสุดที่เหมือนตั้งใจสร้างให้มันออกมาอยู่เดี่ยวๆในมุมอับสายตาคน
"เลทสี่สิบนาที พี่เรนคะ นี่มันเกินไปเเล้ว!"หญิงสาวที่นั่งอยู่หันมาเเหวเสียงดังเมื่อหันมาเจอพี่เรน ผมมองเธอด้วยความอึ้งอยู่พักนึง เธอสวย...สวยมากด้วย เเละหน้าก็คุ้นมาก เธอคงเคยเล่นละครหรือโฆษณามาเเน่ๆ ผมเกือบจะมองเธอสวยเเล้วนะ เเต่พอฟังน้ำเสียงที่หาเรื่องของอีกฝ่ายนี่ชักจะเข้าใจที่พี่เรนเคยเล่าให้ฟัง
เเต่ที่อึ้งจริงๆคือเธอไม่ได้มาคนเดียวนี่สิ
"เธอก็พาคนนอกมานะ ใบเตย"พี่เรนปรายตามองคนนอกที่ว่า น้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบในพริบตา ซึ่งคนนอกคนนั้นก็ได้หาสนใจไม่ฉีกยิ้มการค้าเเล้วเเนะนำตัว
"ปกป้องครับ เรียกป้องเฉยๆก็ได้ครับ"
------ครึ่งแรก-----
อนญาติผ่าเป็นครึ่งๆเพราะตัวอักษรเกินค่ะ