Dear my flower #ช่างสักรักคุณครู
Intro. Gun and Roses
เขาว่ากันว่าคนชอบรอยสักส่วนใหญ่มักจะมีภาพลักษณ์ไม่ดี แต่กับคุณครูแป้ง ครูประจำชั้นแห่งห้องอนุบาล 2/1 กลับมีภาพลักษณ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง เขารักเด็ก ใจเย็น ใจดีและยิ้มหวาน เพียงแต่หลงรักเพลงร็อกและลวดลายศิลปะบนร่างกายมากเท่านั้นเอง
...และนั่นเป็นความลับที่คุณครูไม่เคยบอกใคร...
เพราะกลัวจะกระทบภาพลักษณ์คุณครูใจดีของเด็กเล็ก แป้งหาข้อมูลมาหลายปีเกี่ยวกับเรื่องการสัก ทั้งลังเลเพราะอาชีพที่ทำอยู่ถึงไม่มีข้อห้ามให้สัก แต่ก็ไม่ควรให้ใครเห็น ครูแป้งรวบรวมความกล้าตั้งแต่เป็นวัยรุ่นจวบจนอายุ 28ปี ถึงได้ตัดสินใจที่จะสัก
แป้งผลักประตูเข้าไปในสตูดิโอสีขาวสะอาด ก่อนจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของร้าน
“สวัสดีครับ มาใหม่ใช่ไหมครับ? ”
“ครับ” แป้งยกมือรับไหว้คนที่น่าจะอายุน้อยกว่าอยู่หน่อย
สิ่งแรกที่สังเกตได้คือใบหน้าเรียวสวย ผมประบ่าแต่เป็นผู้ชาย แขนผอมบางของเขาคนนั้นมีรอยสักลายเขมทิศเส้นบาง ครูแป้งมองไปรอบๆ สตูดิโอ ที่นี่ดูดีและสะอาดเหมือนคลินิกเสริมความงามมากกว่า และนี่น่าจะเป็นลูกชายเจ้าของร้านแบบที่รีวิวในอินเทอร์เน็ตบอก
“ดูลายไหนไว้ไหมครับ”
แป้งมองไปที่แฟ้มลายสัก
“ดูไว้ครับ” เขาตอบระคนตื่นเต้น ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาส่งรูปรอยสักลายดอกไม้เส้นคมให้ดู
“อ๋อ แบบนี้ต้องช่างสามใช่ไหมครับ” ลูกชายเจ้าของร้านพูดถึงช่างฝีมือดีของร้านผู้ถนัดงานขาวดำแบบเส้นคมและละเอียด
“ครับ” คุณครูที่ศึกษาทุกอย่างมาแล้วตอบรับ สายตาแอบเผลอมองคนตรงหน้าอยู่บ่อย
แป้งชอบองค์ประกอบของคนข้างหน้ามาก ทั้งความสูงพอดี ร่างกายที่เพรียวบาง ใบหน้าหมดจด ทั้งหมดนั่นทำให้รอยสักบนตัวดูสวยขึ้นไปอีก ว่ากันว่ายิ่งร่างกายสวยรอยสักก็จะยิ่งสวย แต่เขากลับตัวไม่สูงแถมยังค่อนข้างจะมีเนื้อหนังเยอะ ถึงได้เลือกสักในจุดที่ไม่มีใครมองเห็นไปก่อน
ถึงจะชอบรอยสักมาก...แต่ก็อาย
“ตอนนี้คิวช่างสามเต็มครับ ถ้าเป็นคิววันเสาร์หน้าตอนเช้าพอจะสะดวกไหมครับ” ใครคนนั้นบอกพร้อมกับทำหน้าลำบากใจ
“อ่า...ได้ครับ” คุณครูตอบรับด้วยความเสียดาย
“สามมาพอดี มีลูกค้ามาจองตัวนะครับ” ลูกชายเจ้าของร้านมองไปยังประตูกระจกที่ผลักเข้ามา
แป้งมองตามสายตาอีกคนไปยังช่างฝีมือดี คนที่เพิ่งมาตัวสูงใหญ่ สวมเสื้อยืดสีดำพอดีตัว ทำให้เห็นอกตึงและกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนชัด สิ่งที่สะดุดตามากกว่านั้นคือรอยสักสีดำเต็มแขนทั้งสองข้าง มือหนึ่งข้างถือหมวกกันน็อกส่วนอีกข้างถือแก้วกาแฟร้อน
“คนนี้เหรอพี่” สายตาคมปรายมายังลูกค้าคนใหม่ของร้าน
เพราะสวมผ้าปิดปากไว้แป้งถึงไม่ได้เห็นว่าช่างของตัวเองทำหน้ายังไง แต่ที่รับรู้ได้คือสายตาไม่เป็นมิตร ครูอนุบาลค้อมหัวให้นิดหน่อยเป็นการทักทายคนที่น่าจะเด็กกว่าหลายปี ก่อนจะหันกลับมาจัดแจงนัดหมายและแจ้งรายละเอียดกับลูกชายเจ้าของร้าน
สามมองตามหลังลูกค้าคนใหม่ที่เดินออกจากสตูดิโอไปแล้ว แค่แว๊บแรกก็รู้แล้วว่าเป็นใคร…
“สเป็กมึงเลยนี่” ลูกชายอีกคนของเจ้าของร้านที่นั่งเงียบๆ อยู่ก่อนหน้านี้โพล่งออกมา
ช่างฝีมือดีของร้านถอดผ้าปิดปากออก
“พี่คู้รู้ได้ไง” สามขมวดคิ้วให้กับหน้าตาทะเล้นของรุ่นพี่
“ดูจากตามึงก็รู้ ขาวๆ อวบๆ ” คู้ยิ้มไปบอกไป
“ไม่ใช่โว้ยพี่ เขาเป็นครูหลานผม ครูอนุบาล” สามรีบอธิบาย ที่มองขนาดนั้นเพราะคุ้นหน้า
“พรหมลิขิตเลยนะครับ” ลูกชายอีกคนของเจ้าของร้านเดินเข้ามาสมทบ
“เอาเข้าไป พี่คนดีนั่นครูหลานผม ครูอนุบาล 2/1” สามย้ำอีกรอบแต่สองพี่น้องก็ยังไม่เชื่อ
“เป็นครูแล้วสักได้เหรอวะ” พี่คู้ถาม
“สักในร่มคงได้มั้งพี่ ไปแล้วๆ ” ท้ายประโยคช่างของร้านบอกปัดก่อนจะรีบเดินเข้าห้องทำงานเพื่อรอลูกค้าตอน 10 โมง เพราะรู้ว่าขืนยืนคุยนานกว่านี้ ก็จะโดนแซวไม่จบไม่สิ้น
...เพราะเรื่องที่สเป็กเขาเหมือนคุณครูอนุบาล 2/1 นั่นเป็นเรื่องจริง…
.
.
.
.
วันนี้เป็นเย็นวันศุกร์แห่งชาติที่รถแสนจะติด คุณครูแป้งจัดการพาเด็กวัยสี่ขวบโดยประมาณตื่นจากการนอนกลางวัน ตื่นมาดื่มนมและรอผู้ปกครองมารับในตอนเกือบบ่ายสาม ในบรรดาเด็กเกือบ 20 คนมีเพียงเด็กชายสิปป์ที่ผู้ปกครองจะมาเป็นคนท้ายสุดทุกรอบ แต่ก็ไม่เคยเลทเกินบ่ายสามโมงสิบห้า
“น้องสิบ คุณน้ามารับแล้วนะครับ” ครูแป้งก้มบอกเด็กชายตัวเล็กที่กำลังระบายสีอยู่ในห้องเรียน
ได้ยินดังนั้นเด็กน้อยก็ชูมือหราท่าทางดีใจ “เย้ อาฉามมาแล้ว”
“กลับบ้านกันครับ” ครูแป้งจูงมือเด็กชายตัวจ้ำม้ำมาหาคุณน้าผู้มารับหลานสลับกับคุณแม่ของน้องบ้าง
“สวัสดีคุณครูยัง” คุณน้าของน้องสิบบอกหลานพร้อมกับอุ้มเด็กขึ้นมาแนบอก
ครูแป้งลูบผมน้องสิบด้วยความเอ็นดู ก่อนจะส่งยิ้มเผื่อแผ่ไปยังคุณน้าของน้อง คนตัวสูงสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสุภาพเหมือนหนีออกมาจากออฟฟิศเพื่อรับหลานชายยิ้มกลับให้ พลางมองยิ้มหวานและลักยิ้มบุ๋มตรงแก้มของคุณครู
...แก้มขาวๆ นั่นน่าเอากลับบ้านไปขย้ำเล่น...
“สวัสดีฮะ” น้องสิบยิ้มเขิน ยกมือป้อมสวัสดีคุณครู
“ครับ เดินทางปลอดภัยอย่าลืมทำการบ้านนะครับ” คุณครูบอกพร้อมกับรับไหว้
แป้งยืนส่งนักเรียนตัวเองจนลับสายตา มองแผ่นหลังคุณน้าน้องสิบแล้วคุ้นเหลือเกิน...แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน
.
.
.
.
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่แป้งนัดช่างสักไว้ตอนสิบโมง แต่ตื่นเต้นถึงได้มารอตั้งแต่เก้าโมงเช้า ครูแป้งเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีโดยการไม่ดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับให้เต็มอิ่ม กินข้าวดื่มน้ำกันการเวียนหัว และเตรียมบัตรประชาชนให้พร้อม
“คุณแป้ง เชิญที่ห้องด้านในสุดเลยนะครับ เดินตรงไปตรงนั้นเลย” วันนี้คนที่อยู่ต้อนรับลูกค้าเป็นพนักงานที่ให้คำแนะนำครูแป้งในโซเซียล
แป้งเดินตามทางที่น้องพนักงานบอก ที่นี่ดูมิดชิดเป็นสัดส่วน สังเกตเห็นว่าลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติเพราะราคาค่อนข้างแพง แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพ ความสวยและความสะอาด แป้งว่าคุ้มที่สุดแล้ว เขาผลักประตูเข้าไปเจอช่างกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่
“สวัสดีครับ” แป้งทักทายคุณช่าง
“อืม ดี” แล้วก็ได้การทักทายกลับที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนเดิม แต่คุณครูศึกษาและอ่านรีวิวมาแล้วว่าช่างสามไม่ค่อยเสวนา
ไม่ค่อยพูด...ทำอย่างเดียว
“ของคุณเป็น Gun and roeses hip side tattoo นะ” ช่างทวนถามถึงลายกุหลาบและปืนเส้นละเอียด นึกแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมถึงชอบลายเซ็กซี่ของผู้หญิงแบบนี้ แต่ก็นะ...รอยสักนี่มันเป็นรสนิยมลึกๆ ของแต่ละคน
วันนี้ครูแป้งเห็นว่าเขายังสวมผ้าปิดปากสีดำเหมือนเคย เห็นก็แค่คิ้วเข้มๆ กับตาเรียว
“ครับ” แป้งตอบรับพร้อมกับมองกระดาษแผ่นใหญ่ในมือ
“ถอดกางเกงออกแล้วนอนบนเตียงเลย” สามสั่งเมื่อเห็นอีกคนไม่รู้จะทำตัวยังไง
“เอ่อ...”
“เร็วสิ ไม่ต้องเขิน เห็นมาหมดแล้ว” ช่างบอกปัดๆ พร้อมกับหยิบกระดาษลอกลายมาดู
“อ่า ครับๆ ” คุณลูกค้าตอบรับพร้อมกับหันรีหันขวางด้วยความเขิน ถึงจะเตรียมตัวมาดีแค่ไหนแต่การจะให้ถอดกางเกงต่อหน้าผู้ชายตัวโตก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ยิ่งแป้งไม่ค่อยมั่นใจในหุ่นของตัวเองด้วย
แป้งเป็นคุณครูอายุ 28 แต่หน้าตาเหมือนเด็กอายุ 18 สูงแค่ 170 เรื่องน้ำหนักไม่ได้ชั่งมานานแล้ว แต่ใครๆ ก็บอกว่าครูแป้งเหมือนขนมโมจิ...ที่ขาวๆ แล้วน่าจะกอดอุ่น
“อยากได้ลายใหญ่แค่ไหน ผมวัดมาเหนือเอวนิดเดียว” คุณช่างที่จัดการกระดาษลอกลายเสร็จหันมาถามคนบนเตียง
...เพิ่งสังเกตเห็นว่าขาที่อยู่ใต้ร่มผ้านั้นขาวเนียนเตะตา...
สามกะพริบตาอยู่สองสามครั้งเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆ ออกไป
“คือ ผมไม่แน่ใจ ช่างว่าแบบไหนสวยเอาแบบนั้นก็ได้ครับ” คุณครูพูดเร็วปรื๋อเพราะเขิน
“นอนตะแคงหน่อย” สามสั่ง กะว่าจะลองทาบแบบลงบนสะโพกด้านซ้ายของลูกค้า
ครูแป้งพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้ช่าง คิดว่าดีแล้วจะได้เก็บความเขินของตัวเองให้พ้นตาคุณช่าง แต่หารู้ไม่ว่าบั้นท้ายอวบแน่นภายใต้ชั้นในรัดรูปนั้นเตะตาแค่ไหน
...อื้อฮือ...
ช่างสามชะงักงัน เขามองก้นกลมกลึงล้นมือนิ่ง ใกล้กันเป็นช่วงเอวเว้าเข้าทำให้ลำตัวไม่ตัน ส่วนขาแน่นขาวเนียนนั้นก็น่า…
สามจะกะพริบตาไล่ความรู้สึกเสียววูบตรงท้องน้อยออกไปอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ วางกระดาษลอกลายลงบนข้างสะโพก มันเป็นลายช่อดอกไม้ยาวจากบั้นเอวลงมาถึงแก้มก้น อีกส่วนยาวไปถึงหน้าขา เขากะส่วนมาใหญ่กว่าปกตินิดหน่อยในตอนแรก แต่พอวางลงกับสรีระลูกค้าคนนี้กลับพอดีเป๊ะ
... sexy ฉิบหาย…
“ขนาดพอดีแล้ว แต่รู้ใช่ไหมว่าลายนี้สักวันเดียวไม่เสร็จ ต้องประมาณ 3 - 4 รอบ ไม่รวมสักซ้ำ” ช่างบอก
“ครับ คุณคนดีแจ้งไว้แล้ว”
“งั้นก็ถอดกางเกงใน ผมจะลอกลาย”
“ห้ะ!? ” คนที่กำลังนอนอยู่หันขวับมามองตาคุณช่าง
สามเห็นแก้มกับหูคุณครูแดงแล้วก็ยิ่งปั่นป่วน ไม่คิดว่าครูอนุบาลของหลานชายจะ...ขนาดนี้
“ครับๆ ” แป้งรีบตอบรับเมื่อเห็นช่างนิ่งไป
คราวนี้คุณครูถอดกางเกงในพอดีตัวออก ก่อนใช้มือและผ้าชิ้นเล็กปิดส่วนกลางของตัวเองไว้ ในตอนที่กำลังเขินจัดก็เหลือบไปเห็นช่างกำลังสวมถุงมือยางและเตรียมอุปกรณ์ คนเป็นลูกค้าถึงเบาใจลง เพราะคิดว่าคุณช่างน่าจะชินแล้ว ส่วนตัวเองกลับอายเป็นเด็ก
สามเงยหน้าขึ้นก็เจอคุณครูนอนอยู่ในท่าเดิม เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีผ้าสีเข้มขวางก้นกลมขาวไว้แล้ว เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก
...เจอคุณครูยิ้มหวานของหลานชายมีหุ่นเต็มไม้เต็มมือแบบนี้ก็ตายเอาเหมือนกัน…
ช่างเตรียมมีดโกนอันใหม่
“ผมต้องโกนขนก่อนนะ นอนนิ่งๆ” เขาบอกพร้อมกับค่อยๆ โกนขนตามแนวรูขุมขน พลางนึกชอบใจที่คุณครูมีแค่ไรขนอ่อนบางๆ แบบที่ตัวเองชอบ ใช้เวลาไม่นานก็เรียบร้อย
...จากที่เนียนอยู่แล้วก็ยิ่งเนียนไปใหญ่…
“คราวนี้ผมจะลอกลาย อย่าขยับนะ” ช่างสั่ง
แป้งนอนลืมตานิ่ง จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหายใจหรือเปล่าเพราะรู้แค่ว่าโดนกระดาษแผ่นใหญ่แปะเข้าที่สะโพก ก่อนช่างจะทาของเหลวหนืดลงมาทับกระดาษ
สามค่อยๆ ปาดน้ำยาลอกลายไปทั่วสะโพกและก้นกลม ปกติเขาจะจดจ่อกับงานมาก แต่คราวนี้กลับไม่กล้าจ้องลายตอกไม้นี้มาก คิดว่าโชคดีที่สวมถุงมือยางและมีกระดาษกั้นผิวเนื้อไว้ ไม่อย่างนั้นคงรู้สึกแปลกๆ
ไม่นานนัดช่างก็ดึงกระดาษลอกลายก่อน สามแพลนว่าวันนี้ทั้งเช้าจะขึ้นลายไว้ก่อน อาทิตย์หน้าถึงจะลงรายละเอียดเพราะลูกค้าคนนี้ไม่เคยสักมาก่อน เขากลัวจะทนเจ็บไม่ไหว
“ชอบวงนี้เหรอ” สามอดที่จะถามไม่ได้ เพราะรอยสัก Gun and roses มันพ้องเสียงกับชื่อวงร็อกในตำนาน สามเองก็ไม่สันทัดเพราะเกิดไม่ทันยุคนั้น
“ครับ” คุณครูยิ้มเขินๆ เพราะนี่เป็นความลับหนึ่งของเขา
ช่างเผลอขมวดคิ้วแต่แล้วก็ปัดความสงสัยตกไป เรื่องของลูกค้าไม่ใช่เรื่องของเขา แต่ก็พอเข้าใจแล้วว่าคนลุคเรียบร้อยแบบนี้ถึงอยากสัก
“พร้อมยัง” สามถามคนที่นอนหน้าแดงหูแดง แล้วตอนนี้ก็แดงไปทั้งตัว
“อ่า ครับ"
“อย่าเกร็ง นอนสบายๆ มันต้องเจ็บอยู่แล้วล่ะ”
คุณครูขมวดคิ้วด้วยความกังวล ปกติดูในยูทูปมีแต่ช่างปลอบว่าเจ็บนิดเดียว นี่เป็นคนยังไงถึงมาขู่กันว่าต้องเจ็บอยู่แล้ว…
ทันทีที่แป้งได้กลิ่นน้ำยากับเครื่องสักดังขึ้น เขาก็หลับตาปี๋ ถึงจะบอกว่าห้ามเกร็ง...มันก็ทำไม่ได้จริงๆ
สามไล่มองลายสวยบนสะโพกคุณครู เขาว่าจะเริ่มจากตรงแก้มก้นก่อน แต่พอนึกว่าต้องจับก้นแน่นมือพร้อมกับเค้นเนื้อให้ตึงไปด้วยก็เปลี่ยนใจ
“นอนหงาย ผมจะเริ่มจากหน้าขาก่อน”
คนโดนสั่งสะดุ้ง ก่อนจะค่อยๆ หันมาตามเสียงเรียก
แป้งใช้กางเกงปิดกลางลำตัวไว้ เหลือแต่หน้าขาขาวโพลน
สามมองหน้าลูกค้าที่หลับตาปี๋แล้วนึกอยู่ว่าจะวางมือยังไงไม่ให้มัน...โดนตรงนั้น
“สักยากฉิบหาย” เขาบ่นตัวเองแล้วถอนหายใจไปพลาง...กับลูกค้าคนอื่นเห็นหมดยังไม่เห็นเป็นอะไร กับคนนี้กลับทำงานยาก
ลูกค้าหน้าถอดสีเพราะคิดว่าโดนช่างดุถึงได้ลืมตามาขอโทษ
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะครับ” ครูแป้งบอกเบาๆ รู้ว่าคงอุจาดตาช่างที่ต้องมามองผู้ชายด้วยกันถอดเสื้อผ้า หุ่นก็ไม่ได้น่าดู แถมเขาเองยังเขินไม่รู้เรื่องอีก
สามที่เห็นว่าอีกคนซึมไปเงียบลง ลากเก้าอี้ให้เข้าที่แล้วเริ่มทำงาน
“อ๊ะ…”
เสียงร้องทำเอาช่างถดมือออก เข็มเพิ่งจิ้มโดนเนื้อนิดเดียวเอง
“ผมตกใจ ไม่เป็นไรครับ” แป้งรีบบอกเพราะแค่นี้ก็ทั้งเกรงใจและอึดอัดมากพออยู่แล้ว
เสียงเข็มสักดังขึ้นถี่ หยุดพักบ้างแล้วก็ดังขึ้นใหม่ สลับกับการเช็ดหมึกออกจากผิวไปเรื่อยๆ สามเหลือบมองคนที่กัดปากจนห้อเลือด แถมน้ำตายังคลอเบ้า ปกติแล้วลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้ทั้งนั้น
แต่กับคนนี้...เขาว่ามันต่างไป
“อ๊ะ…” แป้งหลุดเสียงเมื่อช่างเปลี่ยนตำแหน่งมือ
สามพยายามไม่วางมือทับลงไปบนผ้า แต่ถึงแบบนั้นก็เฉียดส่วนนั้นอยู่หลายรอบ ...จนรู้สึกว่าบางอย่างใต้นั้นมันใหญ่ขึ้น
...เหี้ยแล้ว…
ช่างสักพยายามไม่สนใจ แต่เมื่อไหร่ที่เผลอมองเนื้อขาวสลับกับหน้าคุณครูก็ต้องลอบถอนหายใจทุกรอบ
“ผมขอโทษนะครับ คือ...” แป้งบอกเสียงขาดห้วง เขาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ พอร่างกายเป็นแบบนี้ก็ทำเอาอายจนอยากจะมุดดินหนี ไอ้เจ็บก็เจ็บ แต่พอโดนมือใหญ่เฟ้นเข้าก็ตื่นขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้ ทั้งแป้งเองก็ความรู้สึกไวเป็นทุนเดิม
เขาหาข้อมูลเรื่องการสักมาหมด แต่ลืมคิดอย่างเดียวคือเรื่องสถานการณ์บนเตียงสักแบบนี้
“คิดมาก สักตรงนี้ก็แข็งทุกคนแหละ” ช่างว่าเสียงเรียบเมื่อเห็นอีกคนกำลังลำบากใจ คุณครูถึงดูเบาใจลง
ช่างสามนั่งสักไปเขย่าขาไปแบบไม่ปกติ ปกติเขานิ่งกว่านี้เยอะ พอสักตรงหน้าขาเสร็จก็โล่งอก เขาพักให้เวลาดื่มน้ำนิดหน่อยก่อนจะนั่งลงที่เดิม
“นอนตะแคง” เขาสั่งลูกค้า รู้สึกครูของหลานชายจะเริ่มหายเกร็งแล้ว แต่พอเห็นก้นเต็มมือเต็มตาตรงหน้า...ก็เป็นช่างที่เกร็งแทน
เสียงเครื่องมือดึงขึ้นอีกรอบ สามวางมือลงที่ก้นขาว มันติดมือเพราะถุงมือยาง วินาทีแรกที่สัมผัสแทนที่จะโฟกัสที่ลายเส้นกลับกลายเป็นว่าช่างยิ้มกริ่มมองก้อนสีขาวฟูล้นมือ
“อื้อ..” คุณครูครางในลำคอเมื่อรู้สึกว่าส่วนลึกตรงบั้นท้ายโดนอากาศเย็น เมื่อช่างใช้มือข้างที่ถือสำลีชุบน้ำยาทำความสะอาดระหว่างสักเช็ดถูหมึกออก มันทำให้เนื้อขาวติดมือช่างไปด้วย เป็นเวลาเดียวกับที่สามเห็นรอยจีบปิดสนิทสีชมพูสดเต็มตา
...ทำเอาปวดหนึบที่กลางตัวขึ้นมาเลย…
ครูอนุบาลรู้สึกผิดที่ส่งเสียงน่าอาย เขาเอี้ยวตัวหันมามองสายตาดุที่สบตากันอยู่พอดี ในมือช่างถืออุปกรณ์ไว้แต่ไม่ยอมสักต่อ ในตอนนั้นแป้งเหลือบเห็นสิ่งใต้กางเกงวอร์มแบรนด์ดังของคุณช่างที่นูนจนผิดปกติ
“คือ...ปกติช่างก็แข็งเหมือนกันเหรอครับ? ”
สามไม่ตอบคำถามแต่วางทุกอย่างไว้แล้วรีบลุกออกจากบริเวณนั้นทันที แป้งได้ยินเสียงทุ้มบอกอย่างหัวเสียว่า
“รอนี่แหละ ไปเข้าห้องน้ำก่อน”
TBC
ช่างสามแพ้ความโมจิ 55555555555555
ฝาก #ช่างสักรักคุณครู ไว้ด้วยนะคะ โทนคล้ายๆ พี่คนดีคือไม่รู้จะดราม่าอะไร เขียนไปเพราะอยากบีบอะไรแน่นๆ ขาวๆ ><
*ถ้ามีขั้นตอนไหนของการสักผิดพลาดหรือมีคำผิดตรงไหน คอมเมนต์บอกได้เลยนะคะ :]