E34 “ส้ม almost cry เพราะชายชื่อไทเกอร์”
RATED 18+
Language and Sex
“ไปทำไม? ไปคนเดียวเหรอวะ? ไม่ให้ไป… หน้ามันดูไม่ปลอดภัยฉิบหาย…”
“…” เจ้าของใบหน้าใสยังคงเครียดเรื่องคืนนี้ น้องรหัสที่หาโอกาสชวนเขาออกไปสังสรรค์ด้วยกันอยู่หลายครั้งจนเขาต้องยอมตอบตกลงไปว่าคืนนี้จะไปด้วย และแน่นอนว่าเมื่อเอามาบอกชายผู้เป็นแฟน ร่างสูงก็เหมือนจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“อีกอย่างจะสอบแล้วมึงควรตั้งใจอ่านหนังสือ อย่าเพิ่งทำตัวดื้อได้ไหมกูเหนื่อย…”
“ทำไมต้องพูดเหมือนส้มเป็นภาระด้วย…” ย่นจมูกบ่นพร้อมกับฟุบหน้าลงบนเตียงนอน ทั้งสองอยู่ในห้อง ซึ่งส้มตำกำลังนอนอ่านหนังสือเล่นอยู่บนเตียง เมื่อเห็นคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพชุดลำลองจึงได้ตัดสินใจบอกออกไปว่าคืนนี้เขาได้ตกลงกับรุ่นน้องที่ชื่อปืนไว้ว่าจะไปสังสรรค์ด้วย
“…” ไทเกอร์ที่ยืนเช็ดหัวมองไปยังคนบนเตียงด้วยใบหน้าแอบกังวล ยังไงก็ไม่อยากให้ส้มตำไปเลยจริง ๆ และยิ่งไปกับผู้ชายคนอื่นตอนกลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ แล้วนี่ยังจะไปคนเดียวกับไอ้รุ่นน้องคนนั้นที่เขาไม่ไว้ใจ หากมันโดนหลอกไปทำอะไรใครจะช่วยทัน
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย แค่เอามาบอกว่าน้องเขาชวน…”
“ไม่ต้องไป…” เอ่ยเสียงนิ่งแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเก็บผ้าเช็ดตัว อย่างน้อยก็ดีที่ร่างบางมันเอามาบอกเขา เพราะถ้าแอบไปกับผู้ชายโดยที่เขาไม่รู้เรื่องนี่คงต้องคุยกันยาวเลยแหละ ออกมาก็ยังคงเห็นคนตัวเล็กมองมาเหมือนแมวหิวปลาทู เสือร่างโตจึงเคลื่อนกายเข้าไปนั่งที่ขอบเตียง ไม่จำเป็นต้องเรียกแมวตัวน้อยก็ขยับมานอนหนุนตักแล้วใช้แก้มถูเบา ๆ
“ไม่ใช่ไม่อยากให้ไป กูไม่ใช่คนงี่เง่าที่จะห้ามแฟนทุกเรื่อง แต่บางเรื่องมันก็ต้องบอกกันเข้าใจไหม?” คุยด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางบีบแก้มนุ่มเล่นเบา ๆ
“อื้ออ... พี่ไทเกอร์ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวส้มคุยกับน้องก่อนว่าติดธุระ”
“เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวคุยเอง...”
“ไม่เอา... เดี๋ยวพี่ก็ใส่อารมณ์จนมีปัญหากันอีกอะ...” ส้มตำลุกขึ้นมานั่งดี ๆ ถ้าหากให้พี่ไทเกอร์คุยมีหวังได้ใส่อารมณ์ว่าน้องรหัสเขาแน่ ๆ อีกอย่างเขาเองก็ไม่ได้อยากจะไปอะไรนักหรอก แต่ที่แอบเครียด ๆ ก็เพราะปฏิเสธน้องรหัสตัวเองบ่อยจนรู้สึกผิดไปแล้ว ใครจะไปคิดว่าอยู่ดี ๆ จะเข้ามาตีสนิททั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้เข้ามายุ่งอะไรเลยด้วยซ้ำ
“งั้นโทรแล้วเปิดลำโพง จะฟังด้วย...”
“ชอบบังคับ”
“ดื้อเหรอ?” ถามพร้อมวงแขนกว้างดึงท้ายทอยขาวมาซบอก ฟัดแก้มเนียนนุ่มหลาย ๆ ทีอย่างมันเขี้ยว ส้มตำแอบจั๊กจี้พร้อมกับพยายามดันอกแกร่งออกก่อนจะทำหน้างอเหมือนเด็กดื้อ แต่ถามว่าปฏิเสธคนพี่ได้ไหมก็คงไม่
โทรศัพท์ถูกยกขึ้นมากดโทรหารุ่นน้องเสียทันควัน ตาคมจับจ้องมองมายังเขาไม่วางตา นิ้วเรียวกดเปิดลำโพงก่อนจะวางไว้บนเตียง เสียงที่ดังขึ้นเป็นจังหวะบ่งบอกว่าสามารถติดต่อปลายสายได้ ก่อนเสียงตอบรับจะดังขึ้นในเวลาต่อมาชวนให้สองสายตาหันไปมองอุปกรณ์สื่อสาร
(ฮัลโหลครับ…)
“เอ่อ… ปืนคือพี่จะบอกว่า-” ส้มตำมองใบหน้าคมตรงหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไปให้คนในโทรศัพท์ได้ยินแต่กลับถูกเจ้าตัวพูดตัดขึ้นเสียก่อน
(ตอนนี้ผมกำลังขับรถไปร้านแล้วนะครับ แน่ใจใช่ไหมว่าจะไม่ให้ไปรับจริง ๆ) ก่อนหน้านี้รุ่นน้องได้คุยกับเขาแล้วว่าจะมารับแต่เขาเลือกที่จะปฏิเสธเพราะกลัวว่าจะเจอเข้ากับเสือตัวใหญ่ที่ตอนนี้นั่งจ้องหน้าเขาคล้ายพยายามกดดันอย่างสุดขีด
“ปืน… พี่ไปไม่ได้แล้วอะ”
(อ้าวอะไรของพี่- เอ่อ… ผมหมายถึงทำไมเหรอครับ?) ปลายสายเหมือนจะแอบหงุดหงิดก่อนจะรีบชะงักแล้วกลับมาถามด้วยน้ำเสียงปกติ
“มันต้องอ่านหนังสือ ต่อไปไม่ต้องชวน แค่นี้แหละ…”
“พี่ไทเกอร์…” ส้มตำมองร่างสูงที่ถือวิสาสะหยิบโทรศัพท์ไปพูดก่อนจะกดตัดสาย ไทเกอร์มองมาที่ร่างของคนตัวบางก่อนจะขยับขึ้นมาดันร่างเล็กลงไปนอนพร้อมกับขึ้นมาคร่อมจนส้มตำจำต้องดิ้นไปมา จะเอ่ยด่าแต่ก็ถูกริมฝีปากหยักได้รูปฉกลงมาปิด ถ่ายโอนความร้อนเข้ามาจนหัวใจอ่อนปวกเปียก กว่าใบหน้าคมจะผละออกก็เล่นซะส้มตำเกือบขาดใจ
จุ๊บ…
ทั้งสองจ้องหน้ากันก่อนไทเกอร์จะก้มลงมาจุ๊บที่หน้าผากเนียนเบา ๆ สื่อให้ทราบว่าคนตัวเล็กเป็นของเขา และเขาจะรักและดูแลตลอดไป ใจดวงน้อยแอบสั่นพร้อมใบหน้าขึ้นสี มองหลังเสือตัวใหญ่ที่เดินออกไปจากห้องพร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า
“อย่าดื้อ… เดี๋ยวจะไปทำงานก่อน ถ้าทำได้เยอะแล้วจะมาเล่นด้วย…”
“…” ทำไมเขาถึงรู้สึกเป็นที่ต้องการขนาดนี้ รู้สึกเหมือนใจมันสั่นทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงประโยคและการกระทำปกติจากคนตัวสูง รอยยิ้มบนใบหน้าหวานเผยออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นมานั่งจับแก้มนุ่มด้วยความเขิน
เขาดีใจที่มีพี่ไทเกอร์อยู่ข้าง ๆ
“คนเคใหญ่น่ารัก!”
“สัด! กูได้ยิน…” เสียงตะโกนเข้ามาจากข้างนอก
“แงงงง อยากอมเคใหญ่นะ!!!”
“…”
________________________________________
#TigerPart
เวลา 23:30 น.
ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ที่มีคนตัวเล็กมันอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าเพราะแค่หลงน้องมันหรือเปล่า ถ้าหากหลงแล้วทำไมถึงไม่คิดที่จะเบื่อส้มตำมันสักที นิสัยก็แปลก ๆ นี่ก็สามเดือนกว่า ๆ แล้วนะครับที่ผมมีคนตัวเล็กมาอยู่ด้วย ทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูจนไม่อยากจะละความสนใจไปจากมันเลยจริง ๆ
ในห้องเงียบสงัด ผมที่นั่งทำงานนำเสนอจากวิจัยของตัวเองที่เพิ่งทำเสร็จไปได้ไม่นานค่อย ๆ ละสายตาออกจากจอคอม ถอดแว่นตาออกก่อนจะปิดเครื่องแล้วลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเดินออกไปจากห้องทำงาน แปลกที่วันนี้คนตัวเล็กไม่ได้มาส่องเลย ปกติมันจะมายืนเกาะหน้าประตูมองเข้ามาเหมือนอยากให้ไปนอนด้วย ไม่ก็แอบคลานเข้ามาคลอเคลีย หรือวันนี้มันจะตั้งใจอ่านหนังสือจริง ๆ
“หือ…” เข้ามาในห้องนอนแต่กลับไม่เห็นคนตัวเล็ก บนเตียงมีเพียงหนังสือที่ส้มตำมันอ่านทิ้งไว้พร้อมกับโทรศัพท์ แล้วคนหายไปไหน เดินไปดูยังส่วนของห้องน้ำก็ไม่เจอผมจึงได้เดินออกไปดูที่ห้องครัว ก่อนจะเห็นแมวตัวน้อยมาแอบนั่งกินขนมอ่านนิยายอยู่เงียบ ๆ เห็นผมเดินเข้ามาส้มตำมันเลยปิดแล้วเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้ว
“พี่ไทเกอร์จะนอนแล้วใช่ไหม…”
“กินขนมดึก ๆ ไม่ดีนะส้ม เดี๋ยวก็อ้วน…”
“อะ อ้วนเหรอ…” ใบหน้าใสแอบกังวลเล็กน้อยจนผมอยากจะขำ ทำไมมันไม่กังวลตั้งแต่ก่อนจะกิน ให้ออกกำลังกายก็ออกไม่เป็น คนบ้าอะไรเข้ายิมแล้วงอแงเหมือนเด็ก
“อือ เดี๋ยวก็อ้วน…”
“มั่ว ๆ เราก็เอากันบ่อยออก…”
“…” เฮ้อออ… เถียงเก่ง ใบหน้าใสรีบย่นจมูกเก็บขนมเอาไปใว้ในตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำออกมาดื่มโดยที่ผมเดินไปแย่งขวดเดียวกันกับที่มันกำลังจะเก็บเอามาดื่มต่อจนหมด
“วันนี้พี่นอนเร็ว…”
“ยังไม่อยากนอน แต่อยากเล่นกับมึง”
“พี่หมายถึงเอากันเหรอ…” ดูมันถามเหมือนเป็นเรื่องปกติ จริง ๆ เอากันบ่อยจนไม่อยากจะรังแกเด็กมันแล้วครับ ถ้ามันไม่อยากผมก็จะไม่บังคับ เห็นมันรอคำตอบจึงได้ส่ายหน้าไปมาแล้วเดินนำออกไปข้างนอกก่อนจะหย่อนตัวลงบนโซฟา ส้มตำมันก็เดินมานั่งข้าง ๆ
“พี่ไทเกอร์จะเรียนจบแล้ว…”
“อื้ม…”
“แล้วเราต้องอยู่ด้วยกันที่นี่เหมือนเดิมป่ะ หรือพี่จะต้องไปทำงานที่อื่น ส้มหมายถึงที่ไกล ๆ” คนตัวเล็กถามด้วยใบหน้าเหมือนให้ความสนใจกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก แต่ผมกลับเงียบแล้วหยิบรีโมตขึ้นมาเปิดดูทีวี รู้ตัวอีกทีก็ตอนได้รับรังสีงอนของคนนั่งข้าง ๆ หันไปมองเห็นหน้ามันงอแงเหมือนแมวพร้อมกระโดดงับจึงกระตุกยิ้มแล้วดึงเข้ามากอด
“อย่าน่ารักให้มากได้ไหมวะ…”
“อื้ออ ปล่อยเลยนะ! ทำไมถามแล้วไม่ตอบ” มือนุ่มดันอกผมออกไปทำหน้างอแง จะยกมือขึ้นไปดึงแก้มมันเล่นเพราะมันเขี้ยวมันก็จับมือไว้ สัมผัสนุ่มนิ่มตรงหน้าโคตรทำให้รู้สึกติดเลยว่ะ ชุดที่มันใส่ก็ไม่ได้ยั่วเยแต่อย่างใด กางเกงขายาวกับเสื้อนุ่ม ๆ ที่เป็นชุดนอน แต่ผมอยากกอดอยากสัมผัส ส่วนผมใส่ชุดกีฬาแขนกุดที่เอาไว้ใส่เล่นบาส แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เล่นก็เอาไว้ใส่นอนนี่แหละ
“บอกไปหลายครั้งแล้วว่าจะอยู่ด้วยกันที่นี่จนแต่งงาน…”
“โกหก… เดี๋ยวพี่ไทเกอร์ก็ไปเจอสาวในที่ทำงานใหม่แล้วก็เบื่อส้มแล่ว…” ดูหน้ามันงอนพร้อมกับหันหนี โคตรหน้าจับบีบเลย แก้มป่อง ๆ เวลางอน จมูกจะย่นไปไหนก็ไม่รู้
“หึ ๆ ทำไมถึงคิดงั้นวะ?”
“ไม่รู้แหละ…”
“เด็กน้อยคิดไปเอง…” ได้ยินใบหน้าใสจึงหันมามองเหมือนอยากตี ปกติมันต้องทุบผมไปแล้วถ้าโดนแกล้งขนาดนี้ แต่กลับเปลี่ยนสีหน้าจากงอนเป็นเหมือนจะร้องไห้พร้อมขยับเข้าไปมากอดใช้หน้าถูเสื้อเหมือนทุกครั้ง ซึ่งผมรู้ในทันทีว่าจริง ๆ แล้วส้มตำมันกำลังคิดมากเรื่องที่ผมจะจบ
“เฮ้อออ… จะไปเอาใครได้อีกวะ ก็มีแค่มึงนี่แหละ”
“อื้อออ… ส้มดีใจนะที่พี่จะจบแล้ว เดี๋ยวส้มก็จะตามไป…”
“หมายถึงจบตาม ๆ กูไป?”
“เปล่า… ตามผู้ชายคนอื่นไป” มันผละออกมาทำหน้าหยอกล้อ แต่รู้แหละว่าไม่จริงจัง เห็นแล้วอดขยับเข้าไปงับแก้มป่อง ๆ ไม่ได้เลยจริง ๆ
“มันเจ็บนะ…”
“ก็อยากกัด ตัวมึงมันหอม หึ… อยากกินเลยว่ะส้ม”
“นะ น่ากลัว พี่ไทเกอร์เป็นเสือหื่น…” มือนุ่มยกขึ้นดันหน้าผมไว้ก่อนจะสู้แรงไม่ไหวถูกผมดึงเข้ามากอดแล้วนั่งดูทีวีด้วยกัน ยอมรับเลยว่าไม่ค่อยได้นั่งดูหนังอะไรแบบนี้ด้วยกันนานแล้วครับ เพราะผมก็ยุ่ง ๆ จนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วช่วงก่อนและวันสงกรานต์ ส้มตำมันแอบน้อยใจเพราะผมไม่มีเวลาให้ ปากบอกว่าเข้าใจแต่ก็ยังงอนใส่ แม่งน่ารักจริง ๆ เว้ย คนบ้าอะไรมันจะน่ารักได้ขนาดนี้วะ
เถียงแต่ละทีก็ไม่มีข้อมูลเอามาอ้าง อยากเถียงก็จะเถียง เหมือนเด็กไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่พอจะจริงจังกับอะไรบางเรื่องก็โคตรเหมือนแม่ผมเลย ยิ่งเรื่องดูแลผิว สุขภาพร่างกายหรือความสะอาดเนี่ย อาบน้ำด้วยกันมันต้องโกนหนวดให้ผมเป็นประจำ ส่วนไทเกอร์น้อยที่มันรักมันหลงก็ล้างให้จนสุดท้ายลงเอ่ยด้วยการจับมันรังแก
หึ… เล่นกับอะไรไม่เล่น
“…” หลับไปละ หัวทุยกับผมนุ่ม ๆ ซบไหล่ผมเบา ๆ เสียงหายใจถี่แผ่ว ๆ แต่ก็ทำให้รู้ว่าน้องมันหลับไปแล้ว ผมค่อย ๆ ช้อนร่างของคนตัวเล็กที่เผลอหลับขึ้นเบา ๆ ใบหน้าใสเผลอครางเล็กน้อยพร้อมกับขยับซบที่อก ค่อย ๆ อุ้มมันเข้าไปในห้องแล้ววางไว้บนเตียงเบา ๆ จัดการกับอะไรหลาย ๆ อย่างเสร็จก่อนจะขึ้นไปนอนกอดมันไว้หลวม ๆ
“ฝันดีส้ม…”
“อื้อออ…”
จุ๊บ…
________________________________________
#SomtumPart
วันถัดไป~
หมับ!
“อ๊ะ!”
“…” แรงกระชากที่ข้อมือทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นเป็นน้องรหัส จึงได้รีบเปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่พอใจ
“พี่เจ็บนะปืน…”
“ทำไมพี่ต้องคอยปฏิเสธผมด้วยวะ?”
“น้อง… ทำตัวดี ๆ หน่อย” ปูนมันเดินมาดันร่างของน้องรหัสผมออก วันนี้มาเรียนแต่เช้าเพราะต้องมาพร้อมพี่ไทเกอร์ แต่มาถึงคณะเลยก็ถูกดึงจนเกือบจะเสียหลักล้ม เอาจริง ๆ ผมไม่ชอบให้ใครมาทำนิสัยแบบนี้ด้วยเลยนะ ยิ่งกับรุ่นน้องคนนี้
“เมื่อวานตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าจะไปกับผม?”
“ก็พี่ไม่ว่างป่ะปืน พี่บอกเราไปแล้วนะ อีกอย่างอย่ามาดึงพี่เหมือนเมื่อกี้อีกพี่ไม่ชอบ…” ยิ่งในที่โจ่งแจ้งแบบนี้ยิ่งไม่ควรป่ะ
“หึ ก็ใช่สิวะ ผมมันไม่เคยอยู่ในสายตาพี่อยู่แล้วหนิครับ… จะขอความช่วยเหลืออะไรจากพี่รหัสตัวเองก็ไม่ได้ โอเค… ผมจะไม่ยุ่งกับพี่แล้วก็ได้” บ่นเสร็จรุ่นน้องตัวสูงก็เดินออกไป ผมมองตามหลังปืนที่เหมือนจะหัวเสียใส่จนต้องทำหน้างงหันไปมองปูนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มันก็ทำหน้างง ๆ อะไรของน้องเขาอะ นิสัยก้าวร้าวมากเลยนะ ก็บอกไปแล้วว่าไม่ว่าง ทำไมต้องมายืนบ่น ๆ ใส่หน้าด้วย
“มองก็รู้ว่าน้องเขาอยากเอามึง พอไม่ได้ก็หัวเสีย…”
“เฮ้อ กูเบื่อ… เกิดมาหน้าตาดีก็งี้แหละมึงว่าป่ะปูน…”
“จ้าอีดอก…” ถึงจะพูดเล่นแต่เอาเข้าจริง ๆ ผมไม่โอเคเลยกับการกระทำของปืนเมื่อกี้ ทั้งเหมือนถูกด่าว่าเป็นพี่รหัสที่ไม่เคยช่วยเหลืออะไร ทั้งรู้สึกไม่พอใจที่น้องบ่นใส่หน้าแล้วเดินหนี และยิ่งมารู้สึกไม่พอใจอีกรอบก็ตรงที่น้องเขาโพสต์ลงโซเชียลว่า ‘มีพี่รหัสก็เหมือนไม่มี’ โคตรรู้สึกหน้าชาเลยอะ แล้วมันไม่ใช่แค่สองสามคนนะที่ตามน้องในเฟซ มีเป็นพัน ๆ คน แล้วส่วนใหญ่อยู่มหา’ ลัยนี้
“ช่างน้องเขาเถอะ กูว่าตั้งใจเรียนดีกว่า เดี๋ยวเลิกคลาสกูพาไปกินติม…”
“อื้ม… กูแค่เสียใจ”
“เออกูกับสายรหัสยังไม่ค่อยได้คุยกันเลย มึงอย่าไปแคร์…” ปูนมันพูดให้กำลังใจ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เจ็บตรงที่ตอนแรกน้องเขาก็ทำเป็นไม่สนใจผมเองป่ะ แล้วอยู่ดี ๆ จะเข้าหาแถมยังทำนิสัยเจ้าเล่ห์ สุดท้ายก็มาทำนิสัยก้าวร้าวใส่ โยนความผิดให้ผมตลอดเลย เดี๋ยวก็มีคนเกลียดเพิ่มอีกแล้วแหละ
เฮ้อ…
ผมพยายามทำเป็นลืมเรื่องเมื่อเช้าแล้วตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน ก่อนออกมาจากห้องก็ส่งงานแล้วขอแยกกับปูนมันไปเข้าห้องน้ำ และที่สำคัญคือเดินผ่านน้องรหัส แน่นอนว่าต้องถูกทำหน้าบึ้งใส่จนผมเลือกที่จะดึงมือน้องเขาไว้
“ทำไมต้องทำนิสัยแบบนี้ด้วยปืน?”
“อะไรครับ?” ใบหน้าคมกระตุกยิ้มทำหน้าเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ส่วนผมกอดอกมองด้วยใบหน้าไม่พอใจ เด็กปีหนึ่งมันจำเป็นต้องก้าวร้าวขนาดนี้ป่ะวะ คิดว่าหล่อดูดีหรือพ่อแม่รวยมาจากไหนถึงกล้าทำนิสัยแบบนี้กับรุ่นพี่
เจ้าเด็กบ้า!
“นิสัยไม่ดีเลยนะปืน แล้วที่ไปโพสต์อะได้คิดก่อนรึเปล่า ไม่คิดจะเห็นใจพี่เลยใช่ไหม?”
“เห็นใจพี่เหรอวะ?” คนตัวสูงกระตุกยิ้มถามพลางขยับเข้าหาจนผมจำต้องถอยหนี น้องยิ่งตัวโต ๆ อยู่ด้วย ถ้าทำอะไรผมมาจะทำไง แต่คิดว่าปืนคงไม่กล้าทำอะไรผมหรอกเพราะคนก็เดินเข้าออกอยู่ตลอด
“แล้วพี่เคยเห็นใจผมบ้างป่ะครับ?”
“…ตอนแรกเรายังไม่สนใจพี่เลยป่ะปืน พยายามหวังดีซื้อของไปให้แต่ก็ถูกน้องนินทาลับหลัง แล้วอยู่ดี ๆ กลับมาทำเป็นเข้าหา ถามจริงใครผิด?”
“ใช่… เพราะผมอยากได้พี่ไง…”
“…” อ้าว… ไอ้ชั่ว
“แต่ตอนนี้ไม่อยากได้แล้วว่ะ คิดว่าอ่อยใครได้ง่าย ๆ ก็อย่าเล่นตัวให้มากนักนะครับ ถ้าผู้ชายมันไม่ได้มันก็ไม่สนใจพี่หรอก ไปหาเอาคนอื่นแก้อยากก็ได้…” พูดจบก็เดินออกไปปล่อยให้ผมยืนหน้าชาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยด้วยซ้ำ นี่น้องมันด่าว่าเรานกเหรอส้ม!? เฮ้ย… คือไม่ได้สนใจอยู่แล้วป่ะวะ ทำไมถึงได้หยาบคายและก้าวร้าวแบบนี้
‘ไอ้เด็กนรก!’ อยากเตะเป้าน้องสักรอบให้หายหงุดหงิด เข้าห้องน้ำเสร็จผมจึงเดินออกมาหาปูนที่ยืนเล่นโทรศัพท์รอ และแน่นอนว่าใบหน้าตัวเองตอนนี้ที่กำลังแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างเห็นได้ชัดมันจะทำให้เพื่อนสนิทรู้สึกได้
“อย่าบอกว่าเพราะน้องที่ออกมาก่อนหน้านี้?”
“เออ ไอ้เด็กเวร…”
“ฮ่า ๆ ช่างเถอะ กูว่ามึงควรสนใจคนนั้นดีกว่า…” ปูนมันพูดพร้อมกับหันไปมองข้างนอกจนผมต้องหันไปมองตาม ก่อนจะเห็นร่างสูงที่คุ้นหน้าคุ้นตากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ไกล ๆ ในใจได้แต่คิดว่าพี่ไทเกอร์ทำไมถึงมาที่นี่ จนกระทั่งเดินไปหาเจ้าตัวที่นั่งอยู่ใบหน้าหล่อจึงเงยขึ้นมามอง
“พี่มีอะไรรึเปล่า?”
“ไม่มีเรียนแล้วไม่ใช่รึไง?”
“อื้ม… แต่พี่มีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่มี…” เมื่อได้ยินจึงแอบขมวดคิ้วเล็กน้อย ปกติวันนี้พี่ไทเกอร์จะมีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ ผมเลยต้องหาที่อยู่รอ หรือไม่ก็ไปนั่งเรียนกับพี่เขาให้คนมองเล่น ๆ
สนุกดี~
“เออมึง งั้นกูจะกลับละ…”
“กลับเร็วจัง…” หันไปถามปูนที่มันยืนทำหน้าเบื่อโลก
“ส้ม… ปกติกูก็อยากกลับทุกครั้งแต่เพราะมึงไม่มีที่อยู่แล้วต้องอยู่เป็นเพื่อน”
“เอ่อ… ไม่ต้องบอกความจริงก็ได้มึง กลับดี ๆ” มันแอบขำก่อนจะพยักหน้าแล้วเดินออกไป ผมจึงได้หันกลับมาหาพี่ไทเกอร์ บ้าจริง! เห็นแล้วเขิน คนบ้าอะไรพออยู่ในชุดนักศึกษาแล้วน่าเยมากเลยอะ ดูดีมีสกุล นี่เรามีแฟนดูดีขนาดนี้เลยเหรอส้มตำ
ฮือออออ…
“ส้ม…”
“หะ หือ?”
“มองหน้ากูเหมือนคิดอะไรอยู่” เจ้าของสายตาเรียบนิ่งถามก่อนจะออกเดินผมจึงรีบสาวเท้าไปเดินข้าง ๆ ก็พี่ไทเกอร์หล่ออะ จะไม่ให้มองได้ยังไง ไม่ได้ตอบคำถามของเจ้าตัวแต่เมื่อตาคมหันมามองอีกรอบก็หยิบกระเป๋าผมไปถือให้อยู่ดี
“ส้มอยากเล่าเรื่องรุ่นน้องให้ฟัง… เราไปนั่งเล่นที่สระว่ายน้ำกันไหม?”
“อยากดูผู้ชายหรือไง?”
“ก็ส่วนหนึ่ง…จะ จะบ้าเหรอ!? พี่ไทเกอร์ชอบแกล้งส้ม” ชอบแกล้งตลอดเลย ยกมือขึ้นไปทุบต้นแขนแกร่งเบา ๆ จนเจ้าตัวกระตุกยิ้มเหมือนถูกใจ จะไปดูทำไมเล่า! ผู้ชายของตัวเองก็มีอยู่แล้วนี่นา
“กูก็มีกล้าม ดูของกูก็ได้…”
“บอกว่าไม่ใช่ พี่ไทเกอร์อะ!”
“แล้วจะไปนั่งทำไม คนเยอะกูไม่ชอบ…” ช่วงนี้ใครเขาจะพากันว่ายน้ำ ไม่มีเหอะ พี่ไทเกอร์พูดมั่ว แต่ยังไงก็คงจะบังคับเสือตัวโตไม่ได้อยู่ดี สุดท้ายไม่รู้ว่าเพราะอะไรดลใจผมถึงนึกขึ้นได้ว่าอยากกลับไปกินส้มตำที่บ้าน พี่ไทเกอร์ก็ไม่ได้บ่นอะไรด้วย ตลอดทางจึงมีแค่ผมที่บ่น ๆ เรื่องของน้องปืน พี่ไทเกอร์ถามด้วยว่าจะให้ไปจัดการให้ไหม ยอมรับว่าแอบตกใจกลัวว่าคนถามจะไปทำอะไรน้องจริง ๆ
“อย่านะ…”
“คันมือว่ะ คงต้องจัดสักหน่อย…”
“พี่ไทเกอร์!” เสียงหัวเราะทำให้รู้ว่าคนตัวสูงแกล้ง ไม่ตลกเลยนะ ถ้าวันหนึ่งเห็นมีข่าวแล้วเจ้าของใบหน้าคมกลับมาพร้อมรอยแผล คนที่จะตกใจมากที่สุดก็คือผมเองนี่แหละ ไม่อยากให้มีเรื่องกันเลย อีกอย่างนั่นรุ่นน้องนะ ตัวเองเป็นรุ่นพี่จะไปทำตัวแบบนั้นไม่ได้ แต่เอาจริง ๆ เหนือสิ่งอื่นใดคือเป็นห่วงคนที่นั่งข้าง ๆ ผมนี่แหละ
“พี่รู้ไหม… สิ่งที่ส้มกลัวที่สุดคือกลัวคนที่ส้มรักได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามบนโลกนี้…” นอกกระจกมีแต่รถมีแต่ราแต่จิตใจผมกลับคิดไปต่าง ๆ นานา ถ้าหากวันหนึ่งเราต้องสูญเสียใครที่รักไปเราจะเป็นยังไง
“ส้มกลัวจริง ๆ นะ…”
“เฮ้อออ… มีคนที่กูรักขี้เป็นห่วงขนาดนี้ใครจะกล้าดื้อวะ…”
“…”
“หืม… ว่าไหม?” ใบหน้าหล่อหันมากระตุกยิ้มเชิงถาม แต่นั่นมันกลับเหมือนทำให้ความกังวลภายในใจหายไปจนหมด พี่ไทเกอร์หมายความว่าเพราะผมเลยทำให้พี่เขาไม่ดื้อใช่ไหม
ฮือออออ…
“อื้ม! ส้มก็จะไม่ดื้อเหมือนกัน…”
“หึ ๆ ส้มเอ๊ย…”
ผมยิ้มให้พี่ไทเกอร์ก่อนเราทั้งสองจะคุยกันเรื่องไร้สาระ มีบางที่ต้องบอกทางไปบ้านของตัวเอง และในที่สุดก็มาถึงบ้านของผม มองไปนี่เห็นแม่ยืนตำส้มตำอยู่เลย ด้านหน้ามีไก่ย่างถูกย่างไว้อยู่ พนักงานในร้านสองสามคนเดินเสิร์ฟอาหารกันไปมา และแน่นอนว่าคนเต็มร้านเลย ไม่อยากจะอวดว่าแถว ๆ นี้ร้านส้มตำป้าส้มจี๊ดดังสุด ขนาดร้านก็ไม่ธรรมดานะจะบอก
“ขายดีจังวะ…”
“ฝีมือแม่อร่อยเด็ดมาก ๆ เลยล่ะ” หลังจอดรถแล้ว ผมจึงเดินนำพี่ไทเกอร์เข้าไปในร้าน และแน่นอนว่าทุกสายตาต้องหันมามองอย่างให้ความสนใจ ตั้งแต่ลูกค้า พนักงานเสิร์ฟ ยันแม่ของผมที่เหมือนจะแอบตกใจลูกตัวเอง แต่แล้วความสนใจก็พุ่งไปอยู่ที่คนตัวสูงแค่คนเดียว ใช่สิ! คนแถวนี้เขาก็เคยเห็นส้มตำลูกป้าจี๊ดหมดแล้วนี่นา
“ส้มตำ…”
“พี่ตอย พี่นัท พี่หยก สวัสดีครับ…” ผมเดินเข้าไปยังส่วนของการเตรียมอาหาร ซึ่งมีแม่ยืนตำส้มตำอยู่เสียงดังโป๊ก ๆ เห็นพี่ ๆ ที่เป็นพนักงานเสิร์ฟที่รู้จักอยู่แล้วจึงได้ยกมือไหว้ และเหมือนคนตัวสูงที่อยู่ยืนข้างหลังผมจะยกมือไหว้ด้วย
“แม่-”
“ไม่ต้องมาเรียก คิดว่าลืมบ้านจนไม่อยากจะกลับมาแล้วซะอีก…”
“แม่อะ…” เลยต้องยกมือไหว้ทั้ง ๆ ที่แม่ไม่ยอมหันมามองเลย จริง ๆ ก็ใช่ที่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน ขนาดสงกรานต์ยังไม่กลับเลยอะ เอาง่าย ๆ ติดผู้ชายกว่าติดครอบครัวอีก
เฮ้อ…
“สวัสดีครับ…”
“สวัสดีจ๊ะลูก…”
“ดู… พอเป็นผู้ชายนี่หันมาเร็วมากเลยนะ” ทำไมพอเป็นพี่ไทเกอร์ยกมือไหว้ แม่ต้องหันมายิ้มและโน้มศีรษะให้ด้วย
“เลิกบ่นส้ม พาเพื่อนเข้าไปนั่งเล่นหลังบ้านรอแม่ เดี๋ยวเข้าไปหา…”
“เอ่อ…แฟนส้มเองแม่”
ขวับ!
“…” ทั้ง ๆ ที่ถือสากตำส้มตำอยู่แต่แม่กลับรีบหันมาหาจนรู้สึกเสียวสากจะลอยอัดหน้า ทำอะไรไม่ถูกเลยนอกเสียจากยิ้มแห้ง ๆ ส่งไปให้ พี่ไทเกอร์เองก็เหมือนจะอยู่นิ่ง ๆ คงไม่รู้จะพูดอะไรตามแบบฉบับผู้ชาย
“ยังไม่ทานอะไรมาใช่ไหมลูก?”
“ใช่-”
“แม่ไม่ได้ถามแก หมายถึงเราอะ…” แม่!!! สองมาตรฐานอะ ฮืออออ…
“เอ่อ… ยังเลยครับ พอดีส้มบอกจะพามาลองทานที่ร้านครับ… ส่วนผมชื่อไทเกอร์ คบกับส้มตำได้หลายเดือนแล้วครับ”
“อ๋อจ้า… เดี๋ยวไปนั่งรอหลังบ้านเดี๋ยวแม่ให้คนเอาของไปเสิร์ฟให้ทาน…” แม่ยิ้มบอกก่อนจะหันไปตำส้มตำ
“ขอบคุณนะครับ…”
“จ๊ะ… แต่แปลกนะ เราได้เลือกคนก่อนคบไหมลูก…”
“แม่อะ! โว๊ะ… เราไปกันเถอะพี่ไทเกอร์…” ผมรีบดึงมือคนตัวสูงเข้าไปในบ้านผ่านออกไปยังข้างหลังซึ่งจะเป็นสวนที่มีร่มของต้นไม้ มีโต๊ะนั่งที่สามารถนั่งทานข้าวได้ บ้านผมไม่ได้สวยงามอะไรมากมาย เป็นบ้านปูนสองชั้นขนาดไม่ใหญ่และค่อนข้างเก่า ด้านหน้าเป็นร้านขายอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าเน้นส้มตำซะส่วนใหญ่
“แม่ดูรักลูกนะ…”
“พอเลย… ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่แม่ก็รักส้มนะ เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่” เป็นแบบนี้ประจำแหละ ถึงจะบ่นแต่ก็จริงใจด้วยตลอด เมื่อกี้ยังแกล้งต่อหน้าพี่ไทเกอร์เลยอะ
“พี่ไทเกอร์…” ใบหน้าคมที่กำลังหันไปมองรอบ ๆ ค่อย ๆ หันหลับมามองพร้อมเลิกคิ้ว
“ส้มไม่ได้รวยนะ…”
“…”
“บ้านก็อย่างที่เห็น แม่ก็ขายส้มตำ พี่ชายก็อยู่ในอู่ซ่อมรถ…” ลองเปรียบเทียบฐานะแล้ว ทำไมเราถึงดูตัวเล็กลงจังเลยวะ ตัดภาพไปที่คนตรงหน้า ฐานะทางบ้านนี่ไม่ต้องพูดถึง
“ดีเหมาะกับกูดี กูชอบเมียแบบนี้…”
“…”
“ยั่วเก่งดี หื่นกามดี…”
“เอ่อ… คนละประเด็นป่ะพี่ไทเกอร์อะ”
“กูรักมึงส้มตำ ไม่ได้รักฐานะมึง…”
“…” น้ำเสียงจริงจังบนใบหน้าที่จริงจังส่งมาให้ทำให้หัวใจรู้สึกสั่นไหว ยอมรับว่าตื้นตันใจ ไม่คิดว่าคนอย่างพี่ไทเกอร์จะพูดอะไรแบบนี้
“อยากตำส้มตำว่ะ…”
“หืม? พี่ตำเป็นด้วยเหรอ?”
“ใช่ ๆ ตำดุ ๆ อึด ๆ ยิ่งกับส้มตำตรงหน้าเนี่ย แม่งน่าตำฉิบหาย…”
“…” พี่ไทเกอร์!!!
“หึ ๆ”
Talk: ส่งฟีดแบคด้วยน้า ไปสกรีมในแท็กด้วยเหงา ๆ ใกล้จบแล้วด้วย
#น้องส้มตำคนกาม
(แก้ไข)
Contact Me