[คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [คุ ณ ช า ย] : บทที่ 38 - บทสุดท้ายของภาค 1 - "เปลี่ยน" - 17/10/11 - 11.50  (อ่าน 231400 ครั้ง)

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ต้องให้หนูน้ำมันตายก่อนใช่ไหมคะ  คุณชายถึงจะเสด็จมาช่วยได้
ช่วยทำอะไรให้มันเด็ดขาดรวดเร็วหน่อยเถอะ
ความรู้สึกช้าไปไหม
 :beat:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-07-2011 22:42:47 โดย myapril »

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
ชีวิตของนทีจะมีแย่กว่านี้อีกไหม โปรดส่งมาช่วยนทีที

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
อีตาคุณชายนี่ถ้าไม่ได้คุณหญิงดาช่วย คงมึนอึนอยู่อย่างนั้น

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
แงงงงงงงงงงงง

สงสารน้องน้ำอ่า ไม่เอาไม่คิดแบบนั้นนะ ถึงคุณชายจะบื้อๆไปบ้าง แต่ก็มีใจให้น้าาาาา

อย่าทำร้ายตัวเองนะน้ำ แค่นี้คนอ่านก็น้ำตาซึมแล้ว

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
คุณชายรู้แล้วก็รีบมาเข้าซี่ แต่ตำรวจมันจะไว้ใจได้เร๊อะ พี่คุณหญิงคงเชื่อได้ แต่ถ้ารั่วถึงหูพรรคพวกอดิสร...ไม่อยากจะคิด

 :z6:  :beat: สำหรับ อดิสร

น้องน้ำ  :o12: นายเอกคุณฟ้าม่วง มีชีวิตรันทดทุกเรื่องเลยมั้ยเนี่ย

+1 ให้สำหรับนิยายที่แสนบีบหัวใจอีกเรื่องคร๊าบบบ

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: สงสารนทีสุด ชีวิตอาภัพสุดๆเลย T T
เห็นความเลวของพ่อเลี้ยงอดิสรณ์แบบนี้แล้ว มันเลวบริสุทธิ์จริงๆ
ทำเลวขนาดนั้นอย่าหวังความรักจากนทีเลยแก เลวมากกก  :angry2:
ขอให้คุณชาย คุณหญิง กับพี่คุณหญิงช่วยนทีกับปุยฝ้ายสำเร็จด้วยเถอะ สาธุ  :call:

ออฟไลน์ jojobuffy

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-4
อ่า รู้สึกเหมือน ขุนช้าง ขุนแผน เลยยย

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ from_mars

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-0
พระเอก ไ้ด้โปรดมาให้ทัน...อย่าให้นทีต้องเสียใจไปกว่านี้เลย..ได้โปรด...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
36

    “ไม่เคยอะไร!” เสียงของอดิสรณ์ปลุกนทีขึ้นมาจากความคิดของตัวเอง “ไม่เคยมีอะไรกับไอ้คุณชายนั่นรึ เธอยอมรับได้เต็มปากหรือไง!” นทีอึกอัก น้ำตาไหลอาบแก้มเถียงอดิสรณ์ไม่ออกสักคำ “นั่นไง เธอมันก็ร่าน! ไม่ต่างอะไรจากอีผู้หญิงโสเภณีตามข้างถนน ทั้งที่เธอมีฉันเป็นผัวอยู่แล้วทั้งคน”
    “คุณอดิสรณ์!” นทีตวาดลั่น จนเจ็บคอ คำด่าของอดิสรณ์บาดลงลึกไปในใจอย่างเดียวไม่พอ มือของชายคนนั้นก็ล้วงลึกลงไปในที่ที่เขาไม่เคยนึกอยากให้ใครมาสัมผัสสักครั้ง นทีน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บปวด
    “ในเมื่ออยากนัก ได้! ฉันจะจัดให้เธอสักดอก ให้มันรู้ว่าระหว่างฉันกับไอ้คุณชายผู้สูงส่งของเธอนั่น ใครมันจะลีลาดีกว่ากัน!” นทีสะดุ้งเฮือกเมื่ออดิสรณ์จู่โจมเข้ามารวดเร็วจนเขาแทบไม่มีเวลาทำใจ หนุ่มน้อยกัดริมฝีปากด้านในของตนด้วยความเจ็บแค้น จะร้องก็ร้องไม่ได้ นอนน้ำตาไหล นึกอยากละลายหายไปจากตรงนั้นเสียทีเดียว
     พออดิสรณ์โน้มตัวลงมาจูบเท่านั้น นทีก็กลั้นใจกัดลิ้นของอีกฝ่ายเต็มแรง ไม่แรงพอให้มันขาด เลือดกระฉูดอย่างในหนังแต่ก็แรงพอให้อดิสรณ์ร้องโวยขึ้น นทีรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายยันเท้าทั้งสองข้างเข้าที่ท้องน้องของอดิสรณ์ พลิกตัวหลุดจากพันธนาการ คว้าผ้าห่มพันร่างเพียงไม่ให้อุจาดตา แล้วเตรียมออกวิ่งหนีไปจากนรกขุมนี้ให้เร็วที่สุด
    แต่นทีคงช้าไป ไม่ก็ออกแรงน้อยไปทำให้อดิสรณ์หายเจ็บเร็วกระมัง หนุ่มใหญ่ คว้าแขนนทีได้ก็ต่อยเปรี้ยงเข้าที่หน้าจนนทีล้มลงไปกองกับพื้น
    “มึง! ไอ้อกตัญญู มึงกล้าทำกูหรือ มึงกล้าทำระยำกับกูขนาดนี้หรือ!” ชายร่างใหญ่ ตามไปที่ร่างอ่อนเปลี้ยบอบบางจะลากกลับมาขึ้นเตียง แต่หนุ่มน้อยก็รีบคลานหนีหัวซุกหัวซุน จนเมื่อลุกยืนได้ก็เตรียมจะวิ่งออกไปนอกห้อง อดิสรณ์จึงคว้าเสื้อไว้ กระชากหนุ่มน้อยข้ามห้องกลับไปที่เตียง โชคร้ายที่นทีสะดุดผ้าห่มที่คลุมตัวไว้อยู่ ล้มหัวฟาดโต๊ะร้องโอ๊ยขึ้นดังลั่น
    อดิสรณ์เห็นนทีลงไปกองอยู่กับพื้นก็วิ่งเข้ามาซ้ำ ระบายโทสะลงบนร่างบอบบางนั้น ราวกับไม่ใช่คนที่ตนรัก ทั้งเตะทั้งถีบจนนทีแทบจะตายแทบเท้าลงไปตรงนั้น ปากก็ตะโกนด่าไปด้วย
    “ไอ้เลว! มึงมันระยำตำบอน เลี้ยงเสียข้าวสุก ไม่รู้จักบุญคุณกู มึงกล้าทำกูรึ มึงกล้าดีรึ ไหนมึงลุกขึ้นมาสู้กับกูซิ มึงลุกขึ้นมาสิ! ถ้ามึงเก่งจริง มึงลุกขึ้นมา”
    นทีเจ็บระบมไปทั้งตัว สติสัมปชัญญะแทบจะหลุดลอยไปจากร่าง กระนั้นก็ยังพอมีแรงลืมตาขึ้นมองคนที่เขาเกลียดฝังใจ สาบานแลกอะไรก็ได้ให้ได้ล้างแค้นครั้งนี้ พ่อเลี้ยงของเขายืนอยู่คร่อมร่าง เห็นหน้าของนทีจ้องกลับมาก็เพิ่งรู้สำนึก เนื้อตัวของฝ่ายนั้นฟกช้ำไปหมด บอบช้ำเกินกว่าจะมีแรงไปทำอะไรอย่างอื่น
    อดิสรณ์กำลังจะอุ้มนทีขึ้นมาไว้บนเตียง พร้อมจะขอโทษที่ทำไปเกินกว่าเหตุเพราะฤทธิ์สุรา แต่นทีก็พึมพำอะไรออกมาสองสามคำ
    “คุณ... คุณชาย”
    ภาสกร ผมอยากให้คุณอยู่ตรงนี้ ผมอยากให้คุณมาช่วยผม คุณใจร้ายมานะ ที่ทิ้งผมไปได้แบบนี้ ทั้งๆที่ผม... ทั้งๆที่ผม รักคุณคนเดียวเท่านั้น
     นทีมั่นใจว่าตัวเองกำลังจะหมดลมหายใจแน่แล้ว จึงลืมตาขึ้นมองโลกครั้งสุดท้าย สายตามองแน่วไปที่ประตู... คาดหวังให้เจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเขาไว้ได้ทันเวลา คุณชาย... คุณชายมาแล้ว คุณชาย... หนุ่มน้อยคิดว่าสติตัวเองหลุดจากร่างไปแล้วเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่ตนรักเหลือเกินยืนมองด้วยสายตาโกรธแค้นมาตรงนั้น... คุณชายไม่มีวันตามมาที่นี่ได้หรอก นี่ใกล้ตายจนเพ้อแล้วนทีเอ๋ย
    แต่เสียงหวาดหวั่นของอดิสรณ์ดังขึ้นปลุกเขาขึ้นมาจากภาวะไร้สติของตัวเอง ทันทีที่หลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้ง  เขาก็เห็น ภาสกรเดินเข้ามาช้าๆ
    ภาสกรไม่เคยมีแววตาโกรธจัด ขยะแขยง สมเพทเวทนารวมกันเอาไว้ในสองตาเพื่อใช้มองใครมาก่อนเท่าที่นทีเคยเห็น ตอนนี้แม้ภาสกรจะน่ากลัวสักเพียงใด แต่นทีก็มั่นใจ และอุ่นใจเหลือเกินว่าชายหนุ่มคนนี้คือคนที่จะปกป้อง ดูแลเขาได้ เป็นทั้งคนที่อ่อนหวาน และอ่อนโยนเมื่ออยู่กับเขาเพียงสองคน แต่ก็แข็งแกร่ง หนักแน่นพอที่จะไม่ให้มีอันตรายใดมาแผ้วพานเขา
    ชายหนุ่มตัวเปียกโชกเพราะสภาพอากาศข้างนอก หนาวจนตัวสั่น แต่ก็อุ่นในอกเมื่อเหลือบไปเห็นคนที่ตนรัก ขอเพียงเรื่องวุ่นวายนี้จบลงเท่านั้น นทีจะไม่มีวันได้อยู่ที่ไหนในโลกนอกจากในสายตาของเขาเท่านั้น มองไปทั่วตัวนทีก็เห็นว่าฝ่ายนั้นอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า นอนหายใจรวยรินอยู่กับพื้นอย่างน่าเวทนา ต่อให้อุ่นใจเพียงใดที่ได้เจอคนรัก ภาสกรก็ไม่หายโกรธแค้นอดิสรณ์ที่ทำให้นทีเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มเดินตรงเข้ามา กระชากคอเสื้อดึงเอาอดิสรณ์เข้ามาติดอก
    “คุณอดิสรณ์ อย่ามายุ่งกับคนรักของผม!” ขาดคำภาสกรก็ต่อยหน้าชายฉกรรจ์นั้น จนล้มลงไปที่โต๊ะเดียวกับนทีนั้นเอง เจ้าชายที่ขี่ม้าขาวมาช่วยกำลังจะตรงเข้ามาประคองนทีลุกขึ้นพอดี แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผันให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิมเมื่ออดิสรณ์คว้าปืนออกมาชี้ตรงแน่วตรงหน้าของภาสกร
    ปืนอยู่ในลิ้นชักโต๊ะนั้นเอง
    “แกมาได้ยังไง! นี่มันเกาะส่วนตัวของฉันแกกำลังบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว ถ้าก้าวเข้ามาอีกก้าวเดียวสมองแกระเบิดแน่!”
    “ผมไม่กลัว ถ้าคุณอยากให้เสียงปืนดังไปถึงตำรวจที่อยู่ข้างล่างละก็เอาเลย คุณได้ข้อหาฆ่าคนโดยเจตนาเพิ่มไปอีกข้อหาแน่” ภาสกรพูดอย่างใจเย็นก้าวเข้ามาใกล้อดิสรณ์โดยไม่กลัวอันตรายอะไรทั้งสิ้น
    “อย่ามาขู่หน่อยเลย” อดิสรณ์ว่าเสียงหนักแน่นอย่างไม่กลัวอะไรทั้งนั้น หากแต่แววตาล่อกแล่กนั้นบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวชักไม่แน่ใจแล้วว่าที่อีกฝ่ายหนึ่งพูดมานั้นจริงหรือไม่ “ตำรวจจะมาที่นี่ได้อย่างไร นี่มันพื้นที่ส่วนตัว ถ้าตำรวจเข้ามาก็ถือว่าบุกรุกละ”
    “ไม่บุกรุก เพราะเขามีหมายจับ คุณฉุดคร่าคนรักของผมมาไว้ที่นี่ หลักฐานมัดตัวเป็นดีวีดีทั้งหมดที่คุณมีอยู่ในครอบครอง ในนั้นมีใบหน้าของคุณกระทำอุบาทว์เอาไว้กับนทีหลายฉากจนตำรวจต้องออกหมายจับคุณ”
    “แกตามมาเจอฉันได้อย่างไร!”
    “นทีเขียนจดหมายบอกผม คุณคงไม่รู้หรอกว่าเราสองคนรักกันมากถึงขั้นสื่อสารกันเข้าใจทุกอย่างโดยที่คุณไม่มีวันจับผิดได้เลย”
    อดิสรณ์โกรธจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นหน้า อยากจะฆ่าภาสกรให้ตายไปเดี๋ยวนี้ แต่ก็นึกหวั่นว่าหากภาสกรพาตำรวจมาด้วยจริงๆ เขาก็คงจะต้องติดคุกติดตะรางจนหัวโตไม่มีวันดิ้นได้เลย แม้จะใจชื้นอยู่บ้างว่า ตำรวจไม่ได้ติดตามภาสกรขึ้นมาถึงห้องนอนนี่ ทั้งที่ควรจะเป็นตำรวจมากกว่าภาสกรที่ขึ้นมาจับเขา จึงอุ่นใจได้อยู่บ้างว่าภาสกรคงไม่มีปัญญาลากตำรวจมาถึงนี่ได้จริงๆ ก็คงจะขู่ให้เขากลัวไปอย่างนั้นเฉยๆ กระมัง
    “แกก็แค่ขู่เท่านั้น จริงๆไม่มีตำรวจหรอกจริงไหมเล่า” อดิสรณ์ตวาดก้อง
    “ก็แล้วแต่ซี จะเชื่ออย่างนั้นก็ตามใจ ลดปืนลงเสียเถอะคุณอดิสรณ์ คุณทำอย่างนี้กับนทีไม่ได้ ถ้าเขาไม่เต็มใจมากับคุณ คุณก็ควรจะส่งเขาคืนให้เจ้าของเขาได้แล้ว” ภาสกรว่า “ผมเป็นเจ้าของของนที ทั้งตัวและหัวใจโดยไม่ต้องใช้วิธีบีบบังคับอย่างหน้าด้านๆ แบบที่คุณทำเลยคุณอดิสรณ์ ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีพอ ส่งนทีคืนมาให้ผม!”
    คำพูดของภาสกรแล่นเข้าหูของหนุ่มน้อยที่นอนหอบแทบหมดสติ กระนั้นคำพูดก็ผ่านซึมเข้าไปได้ถึงหัวใจ ความหนาวเหน็บเพราะร่างเปลือยเปล่าแทบจะเปลี่ยนเป็นความอบอุ่น ความเจ็บปวดตามบาดแผลแทบจะกลายเป็นสุขสบายสำหรับนที รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหนุ่มน้อยก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัว
    สิ้นประโยคของภาสกร อดิสรณ์ก็ลั่นปืน
   ปัง!
    กระสุนพุ่งเข้าถูกกลางลำตัวของคุณชายหนุ่มพอดิบพอดีจนตัวงอ กระเด็นไปด้านหลังสุดแรงจนล้มลง กระนั้นเสียงร้องเดียวที่ดังผ่านปากหม่อมราชวงศ์หนุ่มคือเสียงร้อง “โอ๊ะ” เบาๆ ก่อนที่นที จะร้องออกมาด้วยความตกใจ ดังก้องในความคิดของตัวเอง แต่ความเป็นจริงกลับเบาไม่ต่างจากเสียงกระซิบ
    “คุณชาย!”
    ฉับพลัน เสียงปืนก็ลั่นขึ้นอีกสองครั้ง ทีแรกนทีคิดว่าอดิสรณ์ยิง
ภาสกรซ้ำให้แน่ใจว่าคุณชายหนุ่มตายลงกับที่จริงๆ แต่ภาพที่เห็นคืออดิสรณ์ผงะถอยหลังมือซ้ายกุมแขนขวาเปล่าเปลือยที่ถูกเจาะเป็นรูสีแดงสด เลือดสาดกระจายน่ากลัวอย่างกับในหนัง ปืนของตัวเองกระเด็นหายไปจากมือแล้วจะยิงสวนกลับไปเพื่อป้องกันตัวเองก็ไม่ได้ 
    พอก้มลงเห็นเลือดสีแดงฉาน อดิสรณ์ก็ล้มลงไปกองกับพื้นแทบจะทันที
    เสียงฝีเท้าดังโครมคราม เสียงคนโวยวายโหวกเหวกดังก้องไปหมดทั้งห้อง แต่นทีไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้ว รู้แต่ภาสกรตายไปเขาก็ไม่อยากอยู่อีก เด็กหนุ่มนอนหลับตากับพื้นห้อง น้ำตาไหลเป็นทางไม่มีแรงแม้แต่จะสะอื้นร้อง ปล่อยให้น้ำใสๆ ไหลมาอาบหน้าท่านั้น
    กระทั่ง สองมือแข็งแกร่งคว้าเข้ากับต้นแขนของเขา ล้วงลงไปที่หลังกอดร่างเปื้อนเลือดไว้กับอกด้วยความรักใคร่ทะนุถนอม ริมฝีปากอุ่นประทับลงกลางกระหม่อม กระซิบเบาๆว่า
    “ไม่เป็นไรนะนที ไม่เป็นไรนะครับ”
    “คุณชาย...” นทีกระซิบตอบเสียงแห้งเท่าที่แรงของเขาจะอนุญาต พยายามจะลืมตาขึ้นมองแต่ก็บาดเจ็บเกินกว่าจะทำอะไรได้นอกจากนอนนิ่งในอ้อมกอดของชายที่เขารักหมดใจเท่านั้น ไม่อยากเชื่อว่าคุณชายถูกยิงเข้ากลางท้องอย่างนั้นแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย
    “ตำรวจมาแล้วครับ จับคุณอดิสรณ์ไปแล้ว นทีไม่ต้องกลัวนะ ผมมาช่วยนทีแล้วคราวนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยนทีไปไหนอีกแล้ว” ภาสกรกอดร่างบางไว้แนบอกพักหนึ่งแล้วก็อุ้มหนุ่มน้อยขึ้นวางอย่างทะนุถนอมบนเตียง ห่มผ้าห่มให้กับนทีก่อนจะหันไปคุยกับใครสักคนที่นทีไม่รู้เป็นใคร ได้ยินแต่เสียงก็ไม่คุ้นสักนิดว่าเป็นเสียงใคร “คุณชายเต้ ขอบคุณมากครับ”
    “ไม่เป็นไรหรอก” เสียงห้าวตอบกลับมา “คุณเล่าเจ็บหรือเปล่า นาย
อดิสรณ์ยิงเข้ากลางท้องพอดี”
    “เกราะกันกระสุนของคุณชายได้ผลดีครับแม้จะจุกอยู่บ้างก็ตามตอนแรกแต่หายแล้วล่ะครับ” ภาสกรว่า “คุณชายว่า อดิสรณ์จะมีสิทธิ์รอดตัวไปไหมครับ”
    “ไม่มีทางครับคุณชาย ฉุดคร่า ข่มขืน พยายามฆ่า ค้าอาวุธ และยาเสพติด นายคนนี้ไม่มีวันได้เห็นโลกอีกนอกจากเห็นผนังคุกเท่านั้นละคุณ” คนที่ชื่อคุณชายเต้ตอบขรึมๆ “คุณดูแลคนเจ็บเถอะ ผมจะคุมตัวนายอดิสรณ์ไปเอง ปฐมพยาบาลให้คนเจ็บแล้ว นรัตถพลคงรอคุณอยู่ด้านล่าง”
    เสียงฝีเท้าดัง ตึก ตึก ตึก ห่างไกลออกไป นทีตระหนักว่าเขาอยู่ในห้องตามลำพังกับภาสกร แต่นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาจำได้ เพราะสติสัมปชัญญะของเขาหลุดลอยออกไปจากร่างเสียแล้ว ด้วยความที่ทั้งเจ็บ ทั้งช็อกกับหลายๆอย่าง นทีสลบไปและไม่ฟื้นอีกเลยกระทั่งถึงเมืองภูเก็ต

    ชายหนุ่มลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ในรถที่กำลังแล่นอยู่คันหนึ่ง เสื้อผ้าอยู่ติดร่างครบทุกชิ้น ศีรษะพิงอยู่บนไหล่กว้างของคุณชายภาสกร พอได้สติก็รีบลุกขึ้นนั่งตรงลูบจุดที่เจ็บที่สุดบนร่างของตนก็พบว่า ศีรษะที่แตกนั้นปิดไว้ด้วยผ้าพันแผลแล้วเรียบร้อย นอกนั้นตามเนื้อตัวก็เพียงแต่ช้ำเพราะถูกซ้อมเท่านั้นเอง กระดูกกระเดี้ยวไม่ได้แตกหักไปอย่างที่กลัวไว้แต่แรก
    “ตื่นแล้วหรือ” ภาสกรว่าเมื่อนทียกหัวที่พาดอยู่บนตัวเขาออก หนุ่มน้อยกำลังจะขืนตัวออกจากภาสกรก็พบว่ามือของฝ่ายนั้นกุมอยู่บนไหล่ของเขากระชับแน่นไว้กับตัวไม่ยอมปล่อย... ภาสกรไม่เคยแสดงออกซึ่งความรักกับเขามากเท่านี้มาก่อนเลย นทีไม่รู้ตัวว่าหน้าแดงเพราะเขินอาย จึงไม่ได้จมอยู่กับอารมณ์หวานนานนัก เมื่อนึกไปถึงส่วนหนึ่งของร่างที่เจ็บเหลือประมาณ
    ตอนนอนเจ็บกองอยู่ที่พื้นนั้นเขาสัมผัสได้เลยว่ามีเลือดไหลออกมามากอยู่พอควร มันคงจะฉีกขาดไปแล้วด้วยน้ำมือของอดิสรณ์ หากแต่ตอนนี้แม้จะเจ็บมากอยู่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีเลือดไหลเปียกอยู่แต่อย่างใด ภาสกรคงจะเช็ดเลือดให้เขาแล้ว... จะเห็นไปถึงไหน สัมผัสไปถึงไหนก็ไม่รู้
    “คุณชาย อย่ามาใกล้ผมเลยครับ ผมถูกทำเสียขนาดนั้นคุณชายก็เห็น อย่าเข้ามาใกล้ชิดกับผมเลย” นทีกลั้นใจพูด เสียงแหบพร่าเบาจนแทบฟังไม่ได้ยิน “ร่างกายของผมถูกกระทำราวกับไม่ใช่คน ผมไม่เหลืออะไรที่น่าภิรมย์อีกแล้ว คุณชายปล่อยผมเถอะนะครับ”
    “ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากปกป้อง อยากดูแล” เขาว่า “ใครจะทำให้นทีเจ็บผมไม่รู้ แต่แผลของนที ผมต้องเป็นคนรักษาเท่านั้น”
    “ครับ รู้ครับว่ารักกันมาก แต่ยังมีพวกเราอยู่ตรงนี้นะครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ” เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหน้า นทีจึงเพิ่งจะรู้สึกว่าตนไม่ได้อยู่บนรถกับภาสกรเพียงสองคน มองไปเบื้องหน้าก็เห็นว่ามีทั้งดาริกาและชายหนุ่มอีกคนนั่งเป็นคนขับอยู่ มีปุยฝ้ายหลับไม่รู้เรื่องอยู่ด้านหลัง
    “ไอ้ฝ้ายเป็นอย่างไรบ้างครับ”
    “ปลอดภัยดีทุกอย่างค่ะ คุณชายไปช่วยคุณฝ้ายก่อนคนแรกทันทีที่ถึงเกาะ ตอนนั้นนะคะพวกลูกน้องของนายอดิสรณ์แทบจะเข้ามารุมทึ้งเราทีเดียว แต่พอเห็นตำรวจก็หน้าถอดสี วิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน โชคดีที่พี่ชายเต้เอากำลังมาแทบจะหมดทั้งกองเลยตามจับมาได้ครบ บีบคั้นความจริงมาว่าคนที่ถูกลักมาอยู่ไหนก็เลยรู้ว่าน้องฝ้ายอยู่ที่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่ที่น้องน้ำอยู่ก็เลยเข้าไปช่วยไว้ทัน จากนั้นคุณชายก็ตกลังกับตำรวจว่าจะเข้าไปช่วยน้องน้ำเอง ถ้าท่าไม่ดีเมื่อไหร่ตำรวจคอยเข้าไปช่วยเขาอีกแรง” ดาริกาอธิบาย “น้องน้ำไม่ต้องกลัวอะไรแล้วนะคะ คุณอดิสรณ์ถูกจับไปแล้ว และคุณชายก็จะไม่มีวันปล่อยให้ใครมาทำร้ายน้องน้ำอีกแน่ค่ะ”
    นทียิ้มให้หญิงสาว น่าแปลกเขาเคยคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมาแย่งภาสกรไปจากเขา แต่ตอนนี้หล่อนยิ้มให้เขาอย่างให้กำลังใจ แถมพูดสนับสนุนเขากับคุณชายอีกต่างหาก นทีซึ้งใจจนน้ำตาคลอ
    “ขอบคุณคุณหญิงมากครับ”
    “ค่ะ ขอบคุณพี่ชายรัตเถอะน้องน้ำ คนนี้เป็นคนหาตั๋วเครื่องบิน บินด่วนมาภูเก็ต สืบหาเกาะลับอะไรของคุณอดิสรณ์มาได้ รวมถึงขับเรือไปส่งคุณชายถึงที่เกาะด้วยค่ะ พี่หญิงรออยู่ที่ท่าเรือที่ภูเก็ตอย่างเดียว ส่งใจไปช่วยทางเดียวเท่านั้นพี่รัดไม่อนุญาตให้ตามไปถึงที่เกาะ” ดาริกาว่า
    “ขอบคุณมากครับ คุณชาย” นทีประนมมือไหว้อย่างงดงาม สรุปเอาเองว่าถ้าดาริกานับชายคนนี้เป็นพี่ก็ย่อมเป็นหม่อมราชวงศ์เหมือนกัน “ไม่รู้จักกันแท้ๆ”
    “จ้ะ ไม่เป็นไรหรอก คนดีถูกคนชั่วรังควานยังไงก็ต้องมีใครช่วย จะรู้จัก
ไม่รู้จักไม่รู้ แต่รู้จากปากใครหลายๆคนว่าน้องเป็นคนน่ารักนิสัยดีที่หนึ่งก็ต้องยื่นมือมาช่วย” นรัตถพลว่ามองหน้านทีผ่านกระจกมองหลัง “คุณชายภาส จะลงที่ไหนดี”
    “คุณชายกรุณาส่งผมที่สถานทีรถทัวร์เถอะครับ ผมจะหาทางกลับบ้านเอง” นทีเอ่ยขึ้นเสียงอ่อนๆ คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแยกกับภาสกรในเมื่ออีกฝ่ายมาช่วยเพราะเขาขอ ช่วยแล้วก็ควรแยกย้ายกันไป คงเพราะสงสารคุณชายถึงพูดจาอะไรอย่างเมื่อสองสามประโยคก่อนๆ แต่พอถึงเวลาคุณชายก็คงจะต้องทิ้งเขาไปอยู่ดีในเมื่อคุณชาย... ไม่ได้ชอบผู้ชายนี่นะ
    “เหลวไหลน่านที” ภาสกรว่า “ผมปล่อยคุณหลุดมือไปสองครั้งแล้วนะ ถ้าครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สามผมคงเป็นคนโง่ที่สุดในโลก ที่นอกจากจะไม่มีปัญญาเข้าใจหัวใจตัวเองแล้ว ยังจะโยนเพชรน้ำหนึ่งทิ้งไปอย่างง่ายดายอีก”
    นทีหน้าแดงซ่านด้วยความเขินอาย นี่คุณชายเมาหรืออย่างไรทำไมพูดอย่างนี้ เห็นนทีหน้าแดงไม่ว่าอะไรภาสกรก็เลยหันไปตอบนรัตถพลว่า
    “ผมรบกวนพี่ชายรัตส่งผมที่โรงแรมที่ไหนก็ได้ที่ใกล้ที่สุดแล้วกันครับ นทีกำลังเจ็บมาก เดินทางกลับกรุงเทพคืนนี้เลยคงไม่ไหว”
    คุณหญิงดาริกาเอ่ยเสียงใสแย้งในทันที
    “ไปนอนโรงแรมทำไมคะ ไปนอนบ้านหญิงดีกว่า ซื้อทิ้งไว้เฉยๆไม่เคยได้ไปนอนเลย หญิงจะทิ้งกุญแจไว้ที่คุณชายแล้วกันนะคะ กลับกรุงเทพเมื่อไหร่ค่อยเอาไปคืน” ภาสกรกำลังจะปฏิเสธ แต่หญิงสาวก็ชิงพูดดักคอไว้อีก “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ หญิงกับพี่ชายรัตจองตั๋วเครื่องบินกลับกรุงเทพไว้แล้ว ไม่รู้ทำไมลืมจองเผื่อคุณชายกับน้องน้ำ อยู่ภูเก็ตไปก่อนล่ะค่ะดีแล้วกลับไหวเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับ”
    นทีอ้าปากเตรียมบอกว่าเกรงใจอีกฝ่าย  นรัตพลคงรำคาญก็เลยเป็นฝ่ายพูดเสียเองเลยว่า “อย่าเถียงนะ ถ้าคิดว่าเป็นข้อเสนอแล้วไม่ยอมทำตามละก็ พี่จะถือว่านี่คือคำสั่ง ถ้าคิดจะขัดคำสั่ง พี่จะฟ้องท่านชายเรืองเดชทันทีที่เจอพักตร์เลยทีเดียว” สิ้นเสียงคุณชายนรัตถพลก็ถือว่าสิ้นบทสนทนาในคืนที่แสนเหน็ดเหนื่อยและตื่นเต้นนี้แล้ว เท่ากับว่านทีเองก็ต้องจำยอมหมดซึ่งคำโต้แย้งใดๆด้วย
    หันหน้าไปมองภาสกรก็พบว่าคุณชายกำลังยิ้มให้เขาอยู่
    รอยยิ้มของคุณชายยังเหมือนเดิม คือเรียบๆ แต่อ่อนหวาน ดวงตาแฝงไปด้วยความรู้สึกมากมายที่เมื่อก่อนนทีต้องเพ่งผ่านหมอกมัวแห่งความลังเลสงสัยในแววตาเพื่อให้เห็น... แต่บัดนี้ความรู้สึกของคุณชายช่างชัดเจนเหลือเกิน
    ภาสกรบรรจงวางร่างบอบบาง และบอบช้ำทั้งกายใจลงบนเตียงสี่เสากลางห้องนอนในบ้านพักของดาริกา ชายหนุ่มค่อยๆดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบางข้างๆ ช้าๆแผ่วเบา ลืมตามองคนรักของเขาข้างกายใจสั่นระรัวไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นจริง อีกฝ่ายก็เหนื่อยและบอบช้ำเกินกว่าจะคิดเล็กคิดน้อยจึงปล่อยเลยตามเลยหายใจลึกๆอย่างสงบอยู่ข้างๆ
    “เจ็บไหมนที” เสียงของเขาอ่อนโยน อ่อนโยนกว่าครั้งใดที่นทีเคยได้ยินจากชายหนุ่ม เขาลูบผมของหนุ่มน้อยที่เพิ่งเช็ดให้จนแห้งดีเบาๆ แล้วเลยมาที่แก้มขาวเนียนลูบไล้อยู่นานสองนาน นทีพยักหน้าช้าๆ แทนคำตอบแล้วบอกว่า
    “ผมหนาว”
    ร่างหนากว่าจึงดึงร่างเล็กเข้าไปกอดไว้แนบอก หลับตาพริ้มอย่างมีความสุขเกินจะบรรยาย ซุกใบหน้าคมสันของตนเข้ากับผมนุ่มละเอียด หอมกรุ่นกลิ่นแชมพูของนที 
    “คุณชาย ทำอย่างนี้ทำไม... เรื่องของเรา...”
    “หายหนาวแล้วหรือยัง” ภาสกรถามขัดขึ้นเบาๆที่ข้างหู หนุ่มน้อยก็พยักหน้าอย่างเขินอาย จากนั้นคุณชายหนุ่มก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นเข้าก่อนที่จะกระซิบบอกคนรักอีกครั้ง เป็นประโยคสุดท้ายของคืนนั้นว่า “หลับเสียเถอะนะ เรื่องของเรา... ไว้พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาคุยกัน”

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ให้ความรู้สึกเหมือนเรื่องจริงอิงนิยาย  นิยายส่วนใหญ่ (เน้นว่าส่วนใหญ่) พระเอกจะมาทัน
สำหรับกรณีนี้ต้องถือว่าไม่ทัน  เพราะโดนไปแล้ว  ยังงัยพ่อเลี้ยงก็คงไม่ฆ่า
ตั้งใจแค่จะกระทำชำเราอยู่แล้ว  เฮ้อออ  อ่านไปก็เผลอกลั้นหายใจไปด้วย  เหนื่อยเลย
กลับไปนี่ก็ต้องไปรบกับหม่อมแม่  และยัยนางเอกละครนั่นอีก  โฮ้ยยยยย  แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว
+1

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
น้องน้ำน่าสงสารมากค่ะ ดีที่คุณชายมาช่วย ตอนนี้อ่านหลายรอบเพราะคุณชายบอกรักน้องน้ำแล้ว   

fffx

  • บุคคลทั่วไป
ลืมเปลี่ยนวันอัพเดทรึเปล่าคะ อิอิ
โอ้ยยย ในที่สุดคนเลวก็โดนจับไปซักทีค่อยยังชั่ว
ส่วนเรื่องอื่นๆคงต้องรอวันพรุ่งนี้อย่างที่คุณชายบอก
น้องน้ำหายเร็วๆน๊าาาาาา

ออฟไลน์ lee-jeans

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตัวละครโปรดในนิยายเรื่องนี้คือ คุณชาย ค่ะ o13
ถึงจะดูไม่มั่นใจและบื้อๆในความรัก แต่ก็อภัยให้ได้เพระาความน่ารักของคุณชาย

ตอนแรกนึกว่าคุณชายจะเป็นพวกมากประสบการณ์ เพลย์บอยตัวพ่อ อะไรประมาณนี้นะคะ
ที่ไหนได้ พอเจอน้องน้ำแล้ว เหมือนปั๊ปปี้เลิฟซะงั้น เหมือนหนุ่มน้อยพบรักครั้งแรกยังไงยังงั้นเลย อิอิ
อีกอย่างที่ชอบคือ เวลาคุณชายพูดจีบน้องน้ำ ดูเป็นจีบแบบฉบับผู้ดี น่ารักมากกก555

ในที่สุดก็มาช่วยทันนะคะ รู้อยู่แล้วว่าคุณชายต้องมาช่วยทัน
อดิสรณ์ก็น่าสงสารนะคะ เค้ารักน้องน้ำจิง เพียงแต่รักแบบไม่ถูกต้อง
ชอบมุมมองนี้มากเลยค่ะ...
v
v
อดิสรณ์ที่ดูเหมือนเลวร้าย แต่ก็ไม่คิดจะทิ้งเขาสักครั้ง
    หรือภาสกรที่มาแบบผู้ดี สุดท้ายได้เขาแล้วก็ตั้งใจจะทิ้ง

พอเห็นก็ เออจิงว่ะ...
คุณชายเล่นไปทำร้ายจิตใจน้องเค้าซะขนาดนั้น น้องคิดงี้ก็ไม่แปลกค่ะ -_-"
ชื่นชมอดิสรณ์ตรงที่เป็นพวกซื่อสัตย์กับความรัก
รักระหว่างพ่อเลี้ยง-ลูก มันร้ายแรงกว่าเคสของคุณชายเยอะเลย
คุณชายแค่รับไม่ได้กับการที่ตัวเองจะเป็นเกย์ ก็ทิ้งน้องซะแล้ว


“ใครจะทำให้นทีเจ็บผมไม่รู้ แต่แผลของนที ผมต้องเป็นคนรักษาเท่านั้น”
คำพูดนี้กินใจมากค่ะ คุณชายน่ารักมากกกกก เป็นแฟนคลับคุณชายนะคะ o13

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ในที่สุด ในที่สุด

55555555

คุณชายเริ่มเปิดเผย อิอิ

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
ดีนะเนี่ย ที่คุณชายมาช่วยไว้ได้ทัน

patz

  • บุคคลทั่วไป
แอบลุ้นตาม นึกว่านทีจะต้องช้ำในตายซะก่อน ที่คุณชายจะไปช่วยทันซะแล้ว

เด็กกะโปโล

  • บุคคลทั่วไป
    “ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากปกป้อง อยากดูแล” เขาว่า “ใครจะทำให้นทีเจ็บผมไม่รู้ แต่แผลของนที ผมต้องเป็นคนรักษาเท่านั้น”
เอาใจคนอ่านไปเลยฮะคุณชาย :give2:

อ่านรวบยอดมา3ตอน อยากจะบอกว่า

"ทำไมคุณชายถึงบื้อขนาดนี้---!!!! :o211:"
ไม่คิดจะเอะใจอะไรบ้างเลยใช่ไหมเนี่ย คุณหญิงดาริกาหัวไวกว่าตั้งหลายเท่า
ถ้าคุณหญิงดาริกาเป็นผู้ชายนะจะเชียร์สุดใจให้เป็นพระเอกแทนเลย (ว่าแต่คุณหญิงชอบดูโคนันรึเปล่าเนี่ย o17)
เรื่องนี้ถ้าขาดคุณหญิงดาริกาไปเนี่ย ป่านนี้คุณชายกะนทีคงไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วหล่ะ

ลุ้นมากๆช่วงที่คุณชายมาช่วยนที(ถึงจะช้าไปหน่อยก็เถอะนะ ^^") โชคดีที่ใส่เสื้อกันกระสุนไว้นะคุณชาย
ไอ้อดิสรณ์เข้าคุกไปจนได้ ตัวร้ายหมดไปอีกหนึ่งตัว(แต่ยังเหลืออีกให้รึ่ม :try2:)

นทีกับคุณชายได้รักกันซะที แต่ยังมีมาม่ารอต้มอีกหลายถ้วยเหมือนกัน = ="
+1ให้คนเขียนนะคร้าบ~ ขอบคุณสำหรับนิยายนะฮะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Non_stop

  • Until we meet again
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
 :impress3: :impress3:

คุณชายค่ะจะดีๆแบบนี้ได้ที่ไหน

สงสารนทีได้อีก สู้ต่อไปน่ะค่ะ

ความรักจะชนะทุกอย่างจริงๆรึเปล่า

ต้องให้กำลังใจทั้งสองคนจริง  :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ต่อไปนี้ ด่านใหญ่ที่สุด คงจะเป็นครอบครัวคุณชาย :เฮ้อ:

ยัยดารานั่น คิดว่าไม่น่าวิตกเท่าไรนะ  เพราะชีก็มีจุดอ่อนตรงที่ความเน่าเฟะของชีอยู่เหมือนกัน ซึ่งถ้าคุณชายเปิดขึ้นมาเมื่อไหร่ หม่อมแม่คงไม่คิดจะเผาผียัยนี่เลยทีเดียว

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
37

     พอแสงแรกแห่งอรุณรุ่งฉายพาดมาบนดวงหน้าเรียบเนียนคมสันของภาสกร ชายหนุ่มก็ลืมตาขึ้นสู้แสงช้าๆ ก่อนจะพบว่าข้างกายมีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ใจหนึ่งเป็นกังวลไปว่านทีคงทิ้งเขาไปเสียแล้ว จะด้วยไม่แน่ใจว่าเขายังโลเลไม่รู้ใจตัวเองอยู่หรือไม่ หรือว่ายังกังวลเรื่องท่านพ่อ หม่อมแม่ของเขาอยู่ภาสกรก็สุดจะเดา แต่อีกใจหนึ่งชายหนุ่มก็มั่นใจว่าเมื่อคืนนี้เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขายอมตายแทนหนุ่มน้อยได้ ฝ่ายนั้นคงไม่ใจร้ายพอจะทิ้งเขาไปไหนหรอก
    พอเปิดประตูห้องออกมา ภาสกรก็เดินผ่านห้องนั่งเล่นเห็นเคาน์เตอร์ครัวทางซ้าย เลยลึกเข้าไปเป็นโต๊ะกินข้าว เมื่อคืนนี้เขาไม่ทันเห็นความสวยงามของบ้านหลังนี้ เพราไม่ได้เปิดไฟดูอะไร เพียงแต่เข้าบ้านมาก็พานทีเข้านอนเลย แต่แม้ตอนนี้จะเป็นเวลากลางวันสว่างจนเห็นทุกอย่างแน่แล้วเขาก็ไม่สนใจเครื่องรือนสวยงามราคาแพงของคุณหญิงดาริกานัก เพราะทางขวาของเขานั้นเป็นร่างของหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่เขาเพิ่งรู้ตัวว่ารักหมดใจมานานแสนนานแล้ว ร่างนั้นเองที่ดึงดูดทั้งสายตา และความสนใจไปจากเขาจนหมดไม่เหลือไว้สนบรรยากาศรอบข้างเลย
    นทียืนอยู่บนระเบียงบ้านชั้นเดียวที่อยู่บนเขาสูงในอำเภอเมืองภูเก็ตนี้ มองออกไปยังเนินเขาเขียวสลับซับซ้อนตลอดไปจนตัวเมืองและชายหาดที่บัดนี้มีเพียงคลื่นลูกน้อยๆซัดเข้าฝั่งเท่านั้น ราวกับว่าพายุเมื่อคืนที่พัดที่เกาะของอดิสรณ์ และกระหน่ำซัดในใจของเขานั้นได้สงบหายไปพร้อมกับการติดคุกของชายชั่วแล้ว
    หนุ่มน้อยยืนหันหลังให้เขา จึงไม่รู้ตัวเมื่อภาสกรเดินตามออกไปถึงระเบียงสวมกอดที่เอวบางอ้อนแอ้นจากด้านหลัง ก่อนจะก้มลงจูบที่ซอกคอของหนุ่มน้อยคนรักของเขาเบาๆ
    “อรุณสวัสดิ์ครับนที” ภาสกรกระซิบข้างหู พบว่าหนุ่มน้อยเพียงสะดุ้งด้วยความตกใจชั่วขณะแรกเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้คิดปัดป้อง หรือต่อต้านสัมผัสของเขาแต่อย่างใด คุณชายหนุ่มจึงกระชับอ้อมกอดแน่นเข้า แนบหน้าลงข้างๆหนุ่มน้อย
    “คุณชายตื่นเร็วจัง”
    “ครับ” เขารับคำ “พลิกตัวมาหาคนรักไม่เจอ เลยต้องรีบออกมาตามกลับไปนอนด้วยกัน”
    นทีตัวสั่นน้อยๆ ขนลุกจนภาสกรสัมผัสได้ ไม่รู้ว่าที่ขนลุกนี้หนาวเพราะลมที่พัดมาหรือเพราะว่าเขินคำหวานของเขากันแน่ หนุ่มน้อยตอบเบาๆว่า
    “ใครเป็นคนรักคุณชายกันครับ”
    เจ้าแง่แม่งอนเสียด้วย!
    “นทีไงครับ” เขาว่าซุกจมูกเข้ากับแก้มขาวเนียน สิ่งนี้แหละ ช่วงเวลานี้ บรรยากาศนี้ การกระทำอย่างนี้แหละที่เขาต้องการมาตลอดชีวิต... กับหนุ่มน้อยคนนี้ ไม่ใช่ทิฆัมพร ไม่ใช่ดาริกา หรือใครก็ตาม
    หนุ่มน้อยแทบจะดิ้นออกจากอ้อมกอด แต่ก็ไม่อยากทำลายบรรยากาศจึงปล่อยให้ภาสกรยืนกอดอยู่อย่างนั้น
    “คุณชายบอกว่าคุณชายไม่ได้ชอบผู้ชาย...”
     “ครับ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ผมรักนที” เขาว่าเสียงแผ่วเบา อ่อนโยนจนทำให้นทีรู้สึกราวกับมีผีเสื้อนับร้อยมาพร้อมใจกันกระพือปีกข้างในตัวเขา “นทีเป็นคนเดียวในโลกเลยนะ ที่ทำให้ผมรู้สึกแบบนี้ได้”
    ภาสกรโยกตัวช้าๆอย่างรักใคร่ นทีก็พลอยเคลิ้มไปด้วยจนปล่อยให้คุณชายกอดอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ขัดขืนอย่างที่ตั้งใจไว้เมื่อแรกตื่นนอนว่า จะปฏิเสธทุกอย่างไม่ว่าคุณชายจะพูดอะไรอย่างไร เพราะแน่ใจเหลือเกินว่าคุณชายภาสกรคงไม่ได้รักอะไรเขา คงจะเผลอใจไปอย่างคนโลเลไม่รู้ใจตัวเองเหมือนเดิม
    แต่พอมาได้ยินเสียงที่แสนจะอ่อนโยนแต่หนักแน่นนี้ นทีก็แพ้เสียราบคาบ
    “ผมรักนทีมาตลอด ตั้งแต่อยู่ที่โรงพยาบาลจนนทีหนีผมไปครั้งแรก ตอนนั้นผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดถึงแต่นทีแล้วก็ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกนี้คืออะไร พอเทียวไปเทียวมาตื๊ออยู่นั่นแหละ จนเราใกล้ชิดกันจนไปที่นครนายกผมถึงรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า ผมอยากจะเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างๆนทีตลอดเวลา รัก ทะนุถนอม คอยดูแล เป็นห่วงเป็นใย จนคืนนั้น... คืนแรกของเรา รู้ไหมว่าผมมีความสุขที่สุดตั้งแต่เกิดมาไม่เคยสุขเท่านั้นมาก่อน
    แต่ผมก็ยังลังเล ไม่เข้าใจตัวเอง เพราะผมโตมาไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นๆทั่วไป ผมคิดแต่ว่าสักวันผมต้องรักผู้หญิงสักคน แล้วก็แต่งงานมีลูก จนคุณนั่น
แหละมาทำให้แผนชีวิตของผมพังไปเลย จะกลับไปใช้แผนเดิมก็ไม่ได้ จะใช้ชีวิตแบบไหนก็ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณ”
    “คุณชายไปหัดพูดแบบนี้มาจากไหน” นทีเบี่ยงตัวออกจนได้ เดินหนีไปแทบสุดปลายระเบียงจนภาสกรต้องอมยิ้มแล้วเดินตามไป ยืนเท้าระเบียงจ้องออกไปยังผืนน้ำกว้างไกลสุดสายตา “ทั้งที่เป็นฝ่ายทิ้งผมไปแท้ๆ”
    “ผมคิดถึงคุณตลอดเลยนะนที” ภาสกรแก้ตัว “ตั้งแต่กลับจากนครนายก ผมไปหาคุณที่หอคุณฝ้ายคุณก็หายไป ผมตามหาอยู่นานก็ไม่เจอ จนร้องไห้น้ำตาแทบหมดร่างแล้ว ผมถึงจะรู้ตัวว่า ผมรักคุณนั่นเอง”
    นทีแสร้งทำเสยผมที่เริ่มจะยาวรุงรังเกินไปแล้วออกให้ผมไปจากหน้า เผยให้เห็นดวงตาที่เริ่มแดงรื้นไปด้วยน้ำตา
    “คุณชายจะรักผมได้ยังไง... คุณชายไม่ได้เป็นเกย์ไม่ใช่หรือ”
    “ผมไม่ได้เป็นเกย์เพราะผมไม่ได้รักผู้ชายทุกคนในชีวิตผม แต่ผมรักคุณคนเดียวเท่านั้น... นทีทำให้ผมรู้จักโลกใบหนึ่งที่แสนสวยงาม ที่เรียกว่าโลกแห่งความรัก บนโลกนั้นมีเราอยู่แค่สองคน ใครคนอื่นไม่ว่าใครก็ตามไม่มีตัวตนบนโลกนั้นเลยสำหรับผม...”
     “แต่คุณก็ผลักไสผมไปให้คุณอดิสรณ์”   
    “เพราะผมคิดว่ายังไงพ่อเลี้ยงก็ต้องสำคัญกว่าผมอยู่แล้ว ผมตัดใจจากคุณทันทีที่รู้ว่าคุณมีพ่อเลี้ยงและต้องกลับไปอยู่กับพ่อ คุณไม่รู้หรอกว่าผมทำใจลำบากแค่ไหน ผมอยากรั้งคุณไว้แล้วไม่ยอมปล่อยคุณให้คุณอดิสรณ์ แต่ก็ตัดสินใจทำสิ่งที่ผมคิดว่าถูกในตอนนั้น ไม่รู้เลยว่าจริงๆคุณอดิสรณ์จะ....”
    ภาสกรเว้นวรรคอย่างไม่อยากพูดถึงอดิสรณ์
    “ผมคลั่งแทบเป็นบ้าตอนเห็นในดีวีดีว่าคุณโดนอะไรมาบ้าง ผมรู้สึกว่าคุณเป็นของผมคนเดียว ใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้คุณ ไม่มีสิทธิ์สัมผัสคุณ กอดคุณ จูบคุณอย่างที่ผมทำ คุณไม่รู้หรอกนที ว่าผมปวดใจแค่ไหนที่ต้องเอาภาพพวกนั้นมาดู ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อหาภาพหน้าของอดิสรณ์ชัดๆ ใช้เป็นหลักฐานออกหมายจับ
ผมสาบานว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็ต้องตามหาคุณให้เจอ แล้วก็พาคุณไม่อยู่กับผมให้ได้... และคราวนี้ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปไหน ไปเป็นของใครอีกเลย”
    ภาสกรพูดจบเท่าที่คิดทบทวนมาแล้วตลอดเวลา ทำเอานทีน้ำตาคลอเบ้าด้วยความซึ้งใจ แต่หนุ่มน้อยก็ยังจะหันกลับมาแล้วพูดว่า
    “คุณชายดูดีวีดีนั้นแล้วคุณไม่เห็นหรือครับ ไม่ใช่มันคนเดียว เพื่อนมัน ลูกน้องมัน... ของอะไรหลายอย่างที่คุณชายคิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้... ทำอะไร ผมก็โดนมาหมดแล้ว ร่างกายผมพังหมดแล้ว ไม่ใช่อะไรน่าพึงใจสักนิด คุณชายยังจะรักผมได้ลงอีกหรือ...”
    “นที” ภาสกรเอ่ยชื่อคนรักแผ่วเบา เห็นหนุ่มน้อยหลบตาก็พูดขึ้นว่า “มองตาผมซีครับ นที... นที มองตาผม”
    พอเห็นว่านทีไม่ทำตาม ภาสกรก็ประคองใบหน้าของหนุ่มน้อยให้มองหน้าตนเต็มๆ ตา จ้องอยู่นานจนนทีเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในแววตาของคุณชายหนุ่มตรงหน้าเขา
    “นทีเคยเห็นผมมั่นใจเท่านี้ไหม แต่ก่อนมองกันแวบหนึ่งผมก็หลบตา จะพูดอะไรก็ไม่กล้า จะทำอะไรอย่างใจคิดก็ไม่กล้า คราวนี้นทีเห็นหรือเปล่าว่าผมแน่ใจ ผมตัดสินใจแล้ว... ว่าผมรักนที ผมรักนทีเข้าใจไหมครับ” นทีพูดอะไรไม่ออก เงียบไปนานแทบจะกลายเป็นใบ้ไปแล้วกระทั่งภาสกรพูดประโยคต่อมา “นทีกลับไปอยู่กับผมที่วังที่พัทยานะ”
    คำว่า วัง ปลุกนทีให้ตื่นจากฝันเดี๋ยวนั้น ความจริงที่ว่าภาสกรไม่ใช่ “แค่ภาสกร” แต่เป็น “หม่อมราชวงศ์ ภาสกร รชตานันต์” ก็กลับเข้ามาหลอกหลอนเข้าจนได้ กำแพงใหญ่ที่เคยเขียนว่า “ความเหมาะสม” ที่กั้นอยู่ระหว่างเขาและภาสกร ถูกทั้งคู่ทำลายทิ้งไปแล้วชั่วขณะหนึ่ง แต่ก้อนอิฐเล็กๆก็เริ่มก่อตัวเป็นกำแพงของความเหมาะสมอีกครั้ง
    “คุณชาย... จะเป็นไปได้อย่างไร คุณชายเป็น... หม่อมราชวงศ์นะครับ สักวันคุณชายก็ต้องแต่งงานกับคุณทิฆัมพร คุณชายกับผม... เราเป็นไปไม่ได้สักนิด ถ้าหม่อมแม่ของคุณชายรู้ ถ้าท่านชายเรืองเดชทรงทราบ...”
    “นที” ภาสกร เอื้อมมือหนุ่มน้อยเข้ามากุมไว้ “ท่านพ่อ กับหม่อมแม่ไม่เกี่ยว ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน แต่ก่อนผมเคยกังวลเรื่องนี้มากนะ แต่หลังจากที่ผมใช้เวลาทบทวนอยู่นานสองนาน ผมก็คิดได้ว่า ท่านพ่อกับหม่อมแม่ หรือใครในสังคมก็ไม่ได้มาเป็นทุกข์เป็นร้อน กินไม่ได้ นอนไม่หลับกับผมสักคน เวลาผมทุกข์เพราะไม่เจอนที ผมทุกข์ของผมคนเดียวคนอื่นไม่มีส่วนได้ส่วนเสียด้วย เวลาผมสุขก็ไม่มีใครสนใจจะมาแบ่งความสุขไปด้วยเช่นกัน”
    “แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจะไม่เห็นแก่ตัวไปหรือคุณชาย...”
    “เราไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนะครับ” ภาสกรว่า “ผมเชื่อว่าถ้าท่านมีโอกาสได้มารู้จักกับนทีของผม ท่านทั้งคู่ก็จะรักและเอ็นดูนทีมากเช่นกัน”
    เงียบ เงียบไปนานจนนทีถอนหายใจ เดินกลับเข้ามาทิ้งตัวนั่งที่โซฟา มีคุณชายที่รักของเขาเดินตามเข้ามาด้วย คุณชายนั่งข้างๆ จ้องหน้านทีด้วยแววตาร้อนใจเหลือเกิน
    “ถ้าเพียงนทีบอกผมมาคำเดียวว่า นทีไม่ต้องการผม ให้ผมออกไปจากชีวิตนทีเสีย เมื่อนั้นแหละผมจะยอมไปโดยไม่มีข้อแม้ แต่หากใจเราตรงกัน ผมจะไม่ยอมให้มีอะไรก็ตามมาพรากเราจากกันอีกเด็ดขาดครับ”
    หนุ่มน้อยหลบตา ไม่กล้าตอบจะให้เขาพูดได้อย่างไรว่าเขาไม่ต้องการภาสกร ในเมื่อเขารักภาสกรหมดใจไปแล้วเรียบร้อย
    “นที จำได้ไหมที่นทีบอกรักผม... ที่นครนายก ที่บอกว่าผมเป็นคนหนึ่งในเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ยินคำว่ารักจากนที” หนุ่มน้อยหันกลับมามองหน้าภาสกร ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจำคำพูดของเขาได้แทบทุกคำ “พูดให้ผมฟังอีกครั้งนะครับ”
    “ไม่เอา พูดไปแล้วคำพูดแบบนั้นพูดได้ครั้งเดียว ไม่พูดแล้ว” หนุ่มน้อยเดินไปเข้าครัว โดยไม่หันมามองภาสกรสักนิด แต่เมื่อพิจารณาใบหน้าที่แดงซ่านด้วยความเขินอายแล้ว ภาสกรก็ไม่ต้องการคำพรรณนาอะไรอีก “คุณชายจะรับอะไร ผมจะทำให้กิน”
    เท่านี้ก็เท่ากับว่า นทียอมรับแล้วว่าตัวเองไม่ได้รังเกียจภาสกร ซ้ำก็เหมือนบอกอยู่กลายๆด้วยซ้ำว่ารักภาสกรเช่นกัน
    คุณชายหนุ่มเดินเข้าไปหาพ่อครัวจำเป็น
    “รับรักนที”
    สิ้นประโยคนทีก็ก้มหน้าขำอย่างห้ามไม่ได้ โผเข้ากอดภาสกรจนชายหนุ่มร่างใหญ่ตกใจแทบหงายหลังล้มตึงไป
    “ยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่ารักคิดไปเองฝ่ายเดียว” กระนั้นก็ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของภาสกรที่ยกมือขึ้นลูบผมของคนรักช้าๆ “คุณชายเล่นเขียนเรียงความมาแสดงปาฐกถาส่งผมเสียเกือบสิบหน้ากระดาษขนาดนี้...”
    เขาได้ยินเสียงนทีกระซิบกับหัวใจของเขา
    “ผมจะบอกก็ได้... ผมรักคุณชาย เหมือนกัน”
    หลังจากปล่อยให้ภาสกรแทบจะพูดอยู่คนเดียวจนนานสองนานแล้ว นทีจึงเป็นฝ่ายพูดแทน ขณะที่ภาสกรกินอาหารเช้าแบบง่ายๆ ที่นทีเป็นคนลงมือทำให้ด้วยตัวเอง นทีเริ่มเล่าเรื่องของอดิสรณ์อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทั้งที่เขาไม่ได้ขอให้นทีเล่าแต่อย่างใด ตอนแรกภาสกรอยากจะบอกให้นทีหยุดเล่าเพราะคิดว่าในเมื่อมันเป็นเรื่องน่าอายก็ไม่อยากจะให้นทีเล่า แต่พอคิดอีกที ถ้าหากนทีตัดสินใจเล่าให้เขาฟังแล้วก็แสดงว่า นทีไว้ใจเขามากพอที่จะระบายเรื่องที่ไม่ควรพูดที่สุดให้เขารับรู้เขาก็ดีใจที่จะนั่งรับฟัง แม้ว่าจะต้องสลดใจกับหลายๆอย่างที่ผ่านปากนทีมา
    “คุณอดิสรณ์เป็นเพื่อนของพ่อผมเอง เป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียน แต่พอเรียนจบก็ไม่ค่อยได้เจอกัน คุณอดิสรณ์หัวดี ดวงก็ดี จับอะไรก็ขึ้นเป็นเงินหมด ส่วนพ่อผมก็มาแต่งงานกับแม่ ทำมาหากินไม่ค่อยจะได้ดีนัก เพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียน อีกอย่างก็ไม่ชอบทำงานที่มันเป็นงานประจำด้วย พอใจที่จะนำเที่ยวฝรั่งที่พัทยาเท่านั้นเองก็เลยไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนกับเพื่อนรัก
    จนวันหนึ่ง พ่อก็เจอคุณอดิสรณ์โดยบังเอิญเข้านัดกันไปคุยเฮฮาสังสรรค์ตามประสาเพื่อนเก่า แล้วก็ชวนกันมาที่บ้านผม วันนั้นเป็นวันที่ผมเจอเขาครั้งแรก ผมยังเด็กอยู่เลยจำอะไรไม่ได้มาก จำได้แต่ว่าโตมาเรื่อยๆก็มีคุณอดิสรณ์อยู่ในความทรงจำแล้ว เขามาที่บ้านผมบ่อยขึ้น บ่อยขึ้นเรื่อยๆ เอาอาหารมาเลี้ยงบ้างคอยช่วยพ่อเรื่องเงินบ้าง หลายครั้งก็ช่วยแม่เลี้ยงผม ผมก็โตมาจนเป็นวัยรุ่นแล้วยังหาเรื่องเป็นธุระไปประชุมผู้ปกครองให้บ้างละ พาไปเที่ยวบ้างละ ไม่งั้นก็มาติวการบ้านให้บ้าง ตอนนั้นผมคงไม่ค่อยประสีประสาเลยไม่ได้สังเกตอะไร
    มารู้ตัวเอาอีกทีก็ตอนเริ่มขึ้นม.ปลาย
    ผมเริ่มสังเกตว่าคุณอดิสรณ์ชอบมองผมแปลกๆ บางครั้งก็โอบกอดผมเกินความจำเป็นหลายๆครั้งก็เอาอะไรต่อมิอะไรมาชนผมบ้าง ไม่ก็จับโน่นจับนี่ผมบ้าง ผมอยากจะฟ้องใครก็ฟ้องไม่ได้ อายไปหมด...ผมเริ่มรู้เรื่องเพศมากขึ้นก็รู้เลยว่าผมไม่ค่อยปลอดภัยแล้ว
    ผมพยายามตีตัวออกห่างเขา พยายามเรียนให้มากๆ แล้วก็ไปติวหนังสือบ้านเพื่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ใกล้เขา จนเขาเองนั่นแหละที่ค่อยๆหายไปจากชีวิตของผมเอง ตอนนั้นผมคิดว่าโชคดีแล้วนะที่เขาไปจากชีวิตผมได้ แต่เปล่าหรอกเขาไปเข้าทางแม่ผมแทนต่างหาก”
    ภาสกรฟังมาถึงตรงนี้ก็แทบจะเดาตอนต่อได้โดยไม่ต้องฟังจากปากนทีเลยด้วยซ้ำ “คุณอดิสรณ์ตีสนิทกับแม่เพราะถ้ายิ่งใกล้ชิดแม่ได้แค่ไหน ก็เท่ากับว่าได้ใกล้ผมมากขึ้นด้วย มันอาศัยจังหวะที่แม่ว้าเหว่จากการที่พ่อมัวแต่นำเที่ยวลูกค้าจนไม่ค่อยสนใจแม่ทำให้แม่โอนอ่อนเข้าหาทั้งที่มันไม่ได้คิดอะไรกับแม่ด้วยซ้ำ”
    นทีเปลี่ยนสรรพนาม เขา เป็น มัน เมื่อพูดมาถึงตรงนี้หากแต่น้ำเสียงของเด็กหนุ่มยังราบเรียบไม่ได้แสดงอารมณ์อะไรนัก
    “มัน... ทำไม่ดีกับแม่ผมหลายครั้งผมก็พอจะรู้บ้าง อาการของผู้หญิงเวลาที่คิดว่ามีความรักนี่มันอ่านง่ายมากนะครับ พ่อเองก็คงดูออกเหมือนผมเลยวางแผนทำให้มันตายใจ มาตีท้ายครัวถึงบ้านแล้วก็เข้าไปจับได้คาหนังคาเขา พ่อโกรธมันมาก ด่าว่ามันเป็นเพื่อนทรยศแล้วก็หุนหันออกจากบ้านไป คืนนั้นเองที่พ่อถูกรถชนตาย”
    ภาสกรเอื้อมมือมากุมมือขาวนุ่มนิ่มของนที ยิ้มเศร้าๆให้กำลังใจแล้วนทีก็ตัดสินใจเล่าต่อไป
    “พอไม่มีพ่อ อดิสรณ์ก็ทำอะไรง่ายขึ้น มันรับผมเป็นลูกบุญธรรมทันที ส่วนแม่ก็ไปซื้อบ้านใหม่อยู่กับมัน บ้านที่ผมหนีออกมาแล้วก็... มาเจอคุณชายนั่นแหละ” หนุ่มน้อยตาลอยมองออกไปนอกหน้าต่างในใจคิดอะไรหลายอย่างจนชายหนุ่มข้างๆเดาไม่ถูกว่าคิดเรื่องไหนอยู่แน่ “โชคดีมากที่มาเจอคุณชายไม่งั้นผมคงไม่มีวันได้พ้นจากขุมนรก”
    หนุ่มน้อยเว้นไปนิดหนึ่งแล้วก็พูดเล่าต่อว่า “ดีวีดีที่คุณชายเจอและที่ผมส่งไปนั้นก็แค่เบาๆหลังจากหลายๆครั้งมาแล้ว แต่ครั้งแรกๆ เนี่ยสิผมไม่มีวันลืม”

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
 “คุณชายดูดีวีดีนั้นแล้วคุณไม่เห็นหรือครับ ไม่ใช่มันคนเดียว เพื่อนมัน ลูกน้องมัน... ของอะไรหลายอย่างที่คุณชายคิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้... ทำอะไร ผมก็โดนมาหมดแล้ว"

ชั่วกว่าที่คิดไว้มาก  เลวสุดขั้ว  ชั่วสุดขีด
ตอนนี้ชอบคุณชายมาก ๆ เป็นคนอื่นจะรับนทีได้แบบนี้บ้างมั๊ย
คุณชายรักนทีด้วยหัวใจจริง ๆ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
อ้างถึง
  “นทีเขียนจดหมายบอกผม คุณคงไม่รู้หรอกว่าเราสองคนรักกันมากถึงขั้นสื่อสารกันเข้าใจทุกอย่างโดยที่คุณไม่มีวันจับผิดได้เลย”

เอ่อ...จริง ๆแล้วต้องคุณหญิงไม่ใช่เหรอ 555

ตอนต่อไปเริ่มหวานแล้วใช่ไหมคะ หวังว่าคงไม่มีใครมาวุ่นายอีก เอ๊ะ ลืมดาราสาวกะคุณหญิงแม่ไปเลย  :เฮ้อ:
ขอบคุณคนแต่งมากๆคะ เนื้อเรื่องสนุกภาษาสวยเหมือนเดิม


อ้างถึง
หนุ่มน้อยเว้นไปนิดหนึ่งแล้วก็พูดเล่าต่อว่า “ดีวีดีที่คุณชายเจอและที่ผมส่งไปนั้นก็แค่เบาๆหลังจากหลายๆครั้งมาแล้ว แต่ครั้งแรกๆ เนี่ยสิผมไม่มีวันลืม”

อ่านมาถึงตรงนี้ ใจคนอ่านจะขาดรอน ๆ สงสารนทีเหลือเกิน แค่ในดีวีดีนั่นก็รับไมได้แล้ว ยังเจอหนักยิ่งกว่านี้อีกเหรอ T T
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-07-2011 18:44:45 โดย IIMisssoMII »

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
สงสารนทีจัง คงผ่านเรื่องร้ายๆมาเยอะ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
อดิสรณ์เลวมากกกกก
ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
เดี่ยวต้องเจอคุณหญิงเเม่อีก เฮ้อ

*คุณฟ้าม่วงลืมเปลี่ยนตอนตรงหัวเรื่องค่ะ *

patz

  • บุคคลทั่วไป
นทีน่าสงสารมากๆอะ

อุปสรรคจากด่านของอดิสรณ์ผ่านไปแล้ว รอลุ้นอุปสรรคด่านต่อไป อยากรู้ว่าคุณชายจะไฟท์ได้แค่ไหน

theman92

  • บุคคลทั่วไป
writer ลงเยอะๆด็จะดีนะครับ
แห่ๆ
ผมอ่านมาตั้งแต่หน้าแรกละ
แต่ไม่ได้เม้นให้เลยขอฝากตัวด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด