บทพิเศษ
ผ่านมาหลายเดือนความสัมพันธ์ของตะวันกับภุมรินยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแต่กลับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และตลาดประสิทธานนท์ตอนนี้ก็ทำธุรกิจร่วมกับไร่น้ำรินมากกว่าเดิมและกำลังไปได้ดีในตลาดเพื่อนบ้าน
ภุมรินก็ยังคงไปส่งองุ่นที่ตลาดเหมือนเดิม พ่วงด้วยการส่งข้าวส่งน้ำให้ตะวันที่ขึ้นมาดูแลตลาดและธุรกิจอย่างอื่นของประสิทธานนท์อย่างเต็มตัวโดยมีภูผาคอยสอนงานในหลายๆส่วน
บุรินทร์และรัชพลก็เริ่มจะปล่อยให้ตะวันกับภุมรินไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยยิ่งขึ้นแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นตะวันก็ทำอะไรภุมรินไปไม่ได้มากกว่าแอบหอมแก้มคนตัวเล็กตอนเผลอ ยิ่งต่อหน้ารัชพลแล้วนั้น แค่จับมือตะวันยังคิดหนักเลย เพราะบทเรียนครั้งแรกและครั้งเดียวที่มีเรื่องกับรัชพลยังเตือนใจเขาอยู่ เห็นทีต้องรอรัชพลมีแฟนก่อนแล้วกระมัง รัชพลจึงจะยอมปล่อยภุมรินให้ตะวันแบบเต็มๆซักที
และเช้าวันนี้ภุมรินก็ยังคงมาส่งองุ่นเหมือนเดิม พร้อมกับหอบแกงเลียงมาให้ตะวันที่บ่นว่าอยากกินตั้งแต่เมื่อวานอีกด้วย คนตัวเล็กเดือนยิ้มกว้างเข้าไปหาตะวันที่กำลังง่วนอยู่กับเอกสารกองโตบนโต๊ะ
“พี่ตะวัน!” ภุมรินเข้าไปจับไหล่ตะวันที่นั่งหันหลังให้พร้อมกับเรียกชื่อตะวันจนคนตัวโตสะดุ้งโหยงสร้างเสียงหัวเราะให้ภุมรินไม่น้อย
“มาเงียบๆ ตกใจหมดเลยริน” ตะวันหมุนเก้าอี้มาประจันหน้ากับภุมรินก่อนจะถือโอกาสดึงคนตัวเล็กลงมานั่งตักของตัวเอง
“ทำอะไรเนี่ยพี่ตะวัน ไม่หนักรึไง” ภุมรินฟาดมือลงบนแขนของตะวันไม่แรงมากนัก ปกติถ้าอยู่กันสองคนตะวันจะชอบจับนู่นแตะนี่อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เกินเลยมากเกินไปนัก เพราะตะวันเองก็ยังเกรงรัชพลอยู่
“รินตัวนิดเดียว จะหนักอะไร ไหน วันนี้ทำอะไรมาให้พี่กิน” ตะวันกระชับเอวบางเข้าแน่น มือหนาลูบเบาๆที่เอวบางๆนั้น
“แกงเลียงไง เห็นพี่ตะวันบ่นว่าอยากกิน วันนี้รินทำมาให้” ภุมรินดึงกล่องข้าวมาใกล้ๆ นอกจากแกงเลียงแล้ว เขายังทำกับข้าวอีกสองสามอย่างมาให้คนตัวโตด้วย
“น่ารักมาก แฟนใครนะ โคตรจะรู้ใจเลย”
“แฟนพี่ตะวันไง เดี๋ยวรินเอาไปใส่จานให้” ภุมรินยิ้มกว้างก่อนจะลุกออกจากตักของคนตัวโต ร่างเล็กถือกล่องข้าวเดินออกไปข้างนอกห้องเพื่อมุ่งไปยังห้องครัวของสำนักงาน
ตะวันก็ลุกเดินตามภุมรินออกไป เขามองคนรักทำนู่นทำนี่อย่างอารมณ์ดี รู้สึกมีความสุขทุกครั้งเมื่อคิดว่าตัวเองชั่งโชคดีที่มีแฟนเป็นภุมริน เขามองข้ามคนตัวเล็กมาตั้งนานได้อย่างไรกัน และไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งภุมรินจะมาเป็นคนรักของเขาอย่างนี้
“เสร็จแล้ว มากินข้าวกัน” ภุมรินยกอาหารที่ถูกจัดจานมาเรียบร้อยวางบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับตะวันที่นั่งลงก่อนหน้า
“น่ากินมากเลย น่ากินเหมือนริน” หยอดไปอีกหนึ่ง ภุมรินเริ่มมีภูมิต้านทานคำหวานของตะวันก็ได้แต่ทำหน้าเอือมๆ เขาไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนตะวันจะเลิกหยอดเสียที แต่ที่แน่ๆคงไม่ใช่เร็วๆนี้แน่นอน
“รีบๆกินเถอะน่าพี่ตะวัน วันนี้จะไปไร่กับรินไม่ใช่เหรอ” ภุมรินว่า
วันนี้ตะวันจะเข้าไปที่ไร่น้ำรินเพราะต้องไปคุยเรื่องงานกับรัชพล เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ตะวันต้องเข้าไปที่ไร่น้ำรินทุกๆอาทิตย์ อาทิตย์ละสองวันเพื่อเข้าไปคุยเรื่องงาน โดยตะวันก็ถือโอกาสใกล้ชิดกับภุมรินตลอดทั้งวันอีกด้วย รัชพลตอนแรกๆก็มีคิ้วกระตุก แต่พักหลังๆเมื่อเห็นตะวันไม่ทำอะไรรุ่มร่ามกับน้องชายก็เลยปล่อยๆบ้างแล้ว
เมื่อไปไร่น้ำรินหลังจากตะวันคุยงานเสร็จก็เข้าไร่ไปพร้อมภุมริน ช่วยคนตัวเล็กทำงานบ้าง กวนบ้าง หยอดบ้าง บางครั้งก็ไปน้ำตกท้ายไร่ จนตอนนี้ชีวิตของตะวันนั้นมีภุมรินเข้ามาแทรกอยู่ทุกกิจกรรม วันไหนไม่ได้ไปไร่น้ำรินก็ถือโอกาสกินข้าวด้วยกันทุกเช้า บางครั้งตะวันก็ไปรับภุมรินไปกินข้าวเย็น และก็ยังโทรหาและส่งข้อความในทุกๆคืน
เรียกได้ว่าตะวันไม่มีทางหนีไปนอกใจภุมรินแน่นอน ส่วนเรื่องหึงหวงนั้นก็มีบ้างประปรายเพราะตะวันเองก็ใช่ว่าจะไม่มีสาวๆมาหลง ไหนจะพิมพ์ธาราที่เมื่อไหร่ภุมรินคิดได้ก็จะหาเรื่องมาว่ามาหึงตะวันอยู่ทุกครั้งไป พอจะเป็นสีสันให้ชีวิตของตะวันไม่น้อยเลย
หลังจากทั้งสองคนกินข้าวเสร็จตะวันก็พาภุมรินกลับไร่ เมื่อมาถึงก็เจอนพกำลังสั่งคนงานขนองุ่นใส่รถบรรทุกสิบล้อเพื่อไปส่งของที่ตลาดประสิทธานนท์อีกฝั่งหนึ่ง ฝั่งที่ส่งออกเพื่อนำไปแปรรูปและนำส่งนอกประเทศ
ตะวันและภุมรินเดินเข้าไปหารัชพลที่โรงบ่ม กลายเป็นว่าตะวันนั้นเป็นแขกประจำของโรงบ่มไปเสียแล้ว เพราะนอกจากรัชพลก็มีแต่ตะวันและภุมรินเท่านั้นที่เข้าไปบ่อยขนาดนี้ นานๆทีจะมีคนงานเข้ามาช่วยขนไวน์ออกไปส่ง
“วันนี้ทำไมมาแต่เช้า” รัชพลทักเพื่อนรักที่มาเร็วกว่าปกติ เพราะปกตินั้นตะวันจะมาช้ากว่านี้มาก
“วันนี้ไม่มีงานเลยมาพร้อมรินเลย” ร่างสูงของตะวันนั่งลงตรงข้ามรัชพล ตามด้วยภุมรินที่นั่งลงข้างๆพี่ชาย
“ดี เพราะวันนี้กูจะให้มึงลองรุ่นภุมริน ถังอื่นได้ที่แล้ว กะไว้ว่าไม่เกินเดือนนี้น่าจะส่งออกได้อีกรุ่น” รัชพลพูดก่อนจะพาทั้งสองไปที่ถังไม่โอ๊กที่อยู่ไม่ไกล
มือหนาเปิดก๊อกที่ติดอยู่ข้างถังก่อนจะรินให้ทั้งตะวันและภุมรินดื่ม ตะวันพอใจไม่น้อยที่ได้ลิ้มรสของไวน์ เขาเชื่อแล้วว่ารัชพลเป็นคนที่ทำไวน์ได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร เพราะไวน์ภุมรินที่เขาดื่มอยู่ตอนนี้รสชาติไม่ต่างอะไรกับภุมรินที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งหอมหวาน อมเปรี้ยวและละมุนไปด้วยกลิ่นไอที่นุ่มลิ้น
เขาอยากรู้จริงๆว่าถ้าหากลิ้มลองภุมรินจริงๆมันจะละมุนอย่างไวน์ภุมรินที่เขาดื่มอยู่ตอนนี้ไหม แต่ที่แน่ๆรัชพลคงต้องฆ่าเขาก่อนถ้ารู้ว่าเขาคิดแบบนี้
“เป็นไง” พ่อเลี้ยงรัชพลถามเมื่อเห็นคู่ค้ามีสีหน้าพึงพอใจกับผลผลิตของตัวเอง
“ดีเลย รสชาติเหมือนน้องริน” ตะวันพูดพร้อมกับหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ภุมรินได้แต่หน้าแดงตอบ รสชาติเหมือนอะไรเล่า พูดยังกับเคยกิน
“อะแฮ่ม!” รัชพลแกล้งกระแอมไอ มองตะวันตามเขม็งจนตะวันต้องหุบยิ้มฉับ จนป่านนี้ยังไม่เลิกหวง
“แหม ทำมาเป็นหวง กูเป็นน้องมึงนะ”
“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย” รัชพลเสสายตาไปทางอื่นก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานตามเดิม ตะวันและภุมรินตามไปนั่ง
ทั้งสามคนนั่งคุยเรื่องงานกันอีกนานพอสมควรจนเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยง ตะวันร่วมทานอาหารกลางวันพร้อมสองพี่น้องเจ้าของไร่ก่อนจะตามรัชพลเข้าโรงบ่มอีกรอบแล้วออกมาช่วยภุมรินในไร่ตอนช่วงบ่ายของวัน
คนตัวโตเดินตามภุมรินเหมือนเช่นทุกครั้ง เป็นภาพที่ชินตาของคนงานทั้งไร่ไปเสียแล้ว และตะวันเองก็หยอดตามสไตล์ ภุมรินก็เขินบ้าง รำคาญบ้าง โวยตะวันบ้างแต่คนตัวโตก็ยังไม่ยอมเลิก จนภุมรินปลงและเลิกไป
“วันนี้ร้อนมาก พอก่อนมั้ยริน ไปน้ำตกกันเถอะ พี่อยากเล่นน้ำ” ตะวันชวนนายน้อยของไร่น้ำริน ตอนนี้ก็ใกล้จะเย็นมากแล้ว ตะวันเองก็ใกล้จะกลับบ้านเต็มที เขาอยากจะเล่นน้ำที่น้ำตกก่อนกลับ ไม่ได้เล่นมานานแล้ว
“เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนรึไงพี่ตะวัน จะเล่นอะไรเล่า เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว” ภุมรินว่าพร้อมกับใช้สมุดเล่มเล็กที่ใช้จดงานต่างๆพัดไปด้วยเพื่อคลายความร้อน วันนี้ร้อนมากจริงๆนั่นแหละ อากาศอบอ้าวคล้ายว่าฝนจะตกเข้าแล้ว พี่ตะวันยังจะอยากมาเล่นน้ำอะไรอีก
“น่านะ แป๊บเดียวก็ได้” ตะวันยังตื้อไม่เลิก ภุมรินได้แต่ถอยหายใจและสุดท้ายก็ตอบตกลง
“ก็ได้ๆ แก่ขนาดนี้ยังจะเล่นอีก” ถึงปากจะว่าอย่างนั้นแต่คนตัวเล็กก็เดินนำตะวันไปยังน้ำตกที่อยู่ไม่ไกล
พอมาถึงน้ำตกท้ายไร่น้ำรินตะวันก็ยิ้มกว้างพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออกอย่างไมรีรอเหลือแค่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวแล้วกระโดดลงน้ำดังตูมจนภุมรินต้องฟาดมือบนหลังแน่นๆนั้นอย่างหมั่นไส้ ไอ้พี่ตะวันชอบโชว์หุ่นให้เขาดูตลอด คิดว่าดีมากรึยังไงกัน
“มาเล่นด้วยกันสิริน น้ำเย็นมากเลย” ตะวันว่ายมาใกล้ๆภุมรินที่นั่งรออยู่บนแผ่นไม้ที่ถูกใช้ทำเป็นสะพานขนาดเล็กยื่นออกมา
“ไม่เอา ไม่เล่น ไปเลยนะพี่ตะวัน มันเปียกเห็นมั้ย” ภุมรินดึงมือตะวันที่มาจับเข่าของเขาไว้ ตอนนี้มันชุ่มเล็กน้อยจากมือที่ตะวันมาจับ
“ไม่ไป หอมแก้มพี่ก่อน” ตะวันทำแก้มพองพร้อมกับยื่นแก้มไปให้ภุมริน
“หอมอะไรเล่า” คนตัวเล็กหน้าแดง หอมเหอมอะไรเล่าพี่ตะวัน
“น่าเร็วๆ ตอนที่ไอ้รัชมันไม่เห็นเนี่ย” ตะวันยังไม่เลิก แต่ขยับเข้าไปใกล้อีกจนหน้าอกของเขาติดอยู่กับเข่าทั้งสองข้างของภุมริน แขนทั้งสองข้างคร่อมพาดคนตัวเล็กไว้กับแผ่นไม้
“เอาจริงเหรอ” ใช่ว่าเขาจะไม่เคยหอมแก้มตะวันเสียเมื่อไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่บ่อยอย่างนี้
“จริงสิ พี่รอนานแล้วนะ ไม่อย่างนั้นพี่ตะอยู่อย่างนี้แหละ” ร่างสูงกระเง้ากระงอดและยังไม่เลิกยื่นแก้มไปให้ภุมริน
ภุมรินชั่งใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมก้มลงไปหอมแก้มตะวันอย่างที่คนตัวโตขอ จมูกเชิดนั้นก้มลงไปหอมแก้มตะวันก่อนจะรีบเอาหน้าออก ตอนนี้ภุมรินหน้าแดงกว่าเดิมมาก
“โหย อะไรอ่ะริน แค่นี้เองเหรอ แค่เฉียดๆเอง” ตะวันทำหน้ายู่ให้คนตัวเล็ก
“พอแล้วน่าพี่ตะวัน แล้วก็รีบขึ้นได้แล้ว เดี๋ยวฝนก็ตกหรอก ฟ้าเริ่มครึ้มมาแล้วเนี่ย บอกว่าอย่าเล่นก็ไม่ฟัง กลับบ้านไม่ได้จะขำให้ดู” เอ็ดอีกคน เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆนั่นแหละ อากาศอบอ้าวแบบนี้เดี๋ยวไม่นานฝนก็ตก ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มจะครึ้มแล้ว ไอ้พี่ตะวันก็ยังจะมาเล่นน้ำอีก พอเลย เล่นแค่นี้ก็มากพอแล้ว
“โอเค พี่ขึ้นก็ได้ แต่รินต้องหอมแก้มอีกรอบ” หาข้อต่อรอง นานๆทีจะได้หวานๆกันแบบนี้ ตั้งแต่เป็นแฟนกันมาตะวันหอมแก้มภุมรินยังไม่ถึงสิบครั้งเลย ส่วนคนตัวเล็กหอมแก้มเขาน่ะเหรอ สามครั้งยังมากไป
“อย่ามาเล่นลิ้นนะพี่ตะวัน” ภุมรินว่า
“ไม่ได้เล่น หรือรินอยากเล่นลิ้นกับพี่ เร็วๆ ฝนจะตกแล้วเนี่ย” ตะวันคะยั้นคะยอ
“ก็ได้ๆ งั้นพี่ตะวันหลับตาก่อน” ถ้าเกิดต้องหอมแก้มตะวันฟอดใหญ่โดยที่ตะวันมองหน้าอยู่เขาต้องเขินมากแน่ๆ หลับตาน่ะดีที่สุดแล้วพี่ตะวัน
ตะวันก็ว่าง่าย ร่างสูงหลับตาหลงก่อนจะยื่นหน้าไปหาภุมริน คนตัวเล็กทำหน้าเลิกลักมองไปรอบๆก่อนจะโน้มตัวลงไปหอมแก้มตะวันฟอดใหญ่
ยังไม่ทันจะผละออกตะวันก็เลื่อนแก้มหนีแต่มาแทนที่ด้วยริมฝีปากแทน ริมฝีปากบางของภุมรินสัมผัสกับปากของตะวันอย่างจัง เป็นจังหวะเดียวกับที่ฝนตกลงมาพอดี ตะวันลืมตาขึ้นก่อนจะใช้มือกดท้ายทอยของภุมรินให้โน้มลงมาแนบชิดมากยิ่งขึ้น
ภุมรินหลับตาลงเมื่อลิ้นร้อนๆของตะวันสอดเข้ามา ดื่มด่ำรสจูบที่หวานซึ้งท่ามกลางฝนที่โปรยปราย มือน้อยจับไหล่แกร่งทั้งสองข้างไว้แน่นขนัด ขยุ้มเล็กน้อยเมื่อตะวันสัมผัสเข้ากับลิ้นเล็กภายในและดูดดื่มอย่างหิวกระหาย ทั้งร่างเปียกปอนร่วมไปกับคนตัวโตที่อยู่ในน้ำ รสจูบครั้งนี้เป็นครั้งที่สองตั้งแต่ตัดสินใจคบกัน
ตะวันค่อยๆผละออกจากร่างน้อยตรงหน้าก่อนจะโน้มภุมรินมาหอมแก้มอีกครั้ง คนตัวเล็กได้แต่เขินอายไม่กล้าสบตา เขาไม่คิดว่าตะวันจะกล้าจูบเขาอีกแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆเขาเองก็รู้สึกดีไม่น้อยเหมือนกัน
“กลับกันเถอะ ฝนเริ่มตกแรงแล้ว” ตะวันหยิบเสื้อที่เปียกโชกมาใส่ และทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะ... อืม” ภุมรินลุกตามด้วยใบหน้าที่แดงซ่าน
มือน้อยนั้นถูกตะวันจับไปกุมแน่นอย่างหวงแหน ก่อนที่ทั้งคู่จะวิ่งฝ่าฝนไปที่รถกระบะของไร่ที่อยู่ไม่ไกลเพื่อกลับไปยังบ้าน
สุดท้ายแล้ววันนี้ตะวันก็ต้องนอนที่บ้านรักษ์นทีแทนที่จะได้กลับบ้านเพราะพายุฝนเข้าแรงมากจนไม่สามารถลงเขาไปในตัวเมืองได้
เป็นการดีที่รัชพลยังไม่เข้าบ้านทำให้ตะวันเนียนไปอาบน้ำห้องของภุมรินได้ ก่อนอาบก็มีการกระเซ้าเย้าแหย่ให้คนตัวเล็กเขินไปอีกรอบ ตะวันคิดไว้ว่าหากวันนี้รัชพลไม่กลับมานอนที่บ้าน เขากะจะมานอนกับภุมรินเสียหน่อย อากาศเย็นๆจากฝนแบบนี้ กอดคนตัวเล็กคงอุ่นไม่น้อย
ในโรงบ่มรัชพลก็ยังคงนอนมองฝนที่ตกผ่านกระจกใสที่มุมหนึ่งซึ่งขาเปิดหน้าต่างไม้ออก ฝนยังคงไม่หยุดตก และเขาก็กลับบ้านไม่ได้เพราะไม่ได้ถือร่มติดมือมาด้วย มุมที่เขานอนอยู่นี้เป็นมุมที่ป้าจันมาจัดไว้ให้เพราะเขาไม่ชอบกลับบ้าน มีแค่ผ้าปูที่นอนเล็กๆ หมอนและผ้าห่มเอาวางไว้ที่พื้นยกสูงเหนือถังไวน์ เป็นมุมแคบๆที่ไม่สังเกตดีๆคงไม่มีใครเห็น
ร่างสูงของรัชพลจิบไวน์ฟังเสียงฝนตกข้างนอกไปด้วย เขาคิดเรื่องของภุมริน บางทีควรจะปล่อยให้ภุมรินมีอิสระในการคบกับตะวันเต็มที่เสียที เขาเคยชินกับการมีภุมรินให้ดูแล น้องมีคนอื่นแล้วเขาก็แปลกๆอยู่เหมือนกัน มันแค่ไม่ชินก็เท่านั้นเอง
ครืด...
รัชพลที่เหม่ออยู่หันตามเสียงนั้น เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกล ร่างสูงลุกไปหยิบขึ้นมาพบว่าเป็นโทรศัพท์ของภุมริน น้องคงจะลืมไว้ที่นี่ ภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏชื่อของคนโทรเข้า
สิตางศุ์
มือหนากดรับเบอร์นั้น ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าสิตางศุ์คือใคร และทั้งๆที่โทรศัพท์เครื่องนี้ไม่ใช่ของตัวเอง รัชพลยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู เสียงฝนคลอเคล้าอยู่ข้างนอก ล้อกับเสียงสะอื้นไห้จากปลายสาย ปลายสายที่ไม่รู้จักมาก่อน
“ระ...ริน” เสียงนั้นแผ่วเบา รัชพลสัมผัสได้ถึงความหมองเศร้าจากปลายสาย เสียงร้องไห้นั้นยังคงดังแข่งกับสายฝน
สิตางศุ์คนนี้คือใครกัน...
****************************************************************
ฮือออออออออออออ ตอนพิเศษมานานมากกกกกกกกกกก
ไม่ได้แต่งซักที มาแล้วนะคะ จบแบบเปิดตัวววววว อู่ยยยยยยยยยยยยย มีใครอยากอ่านเรื่องพี่รัชบ้าง ยกมือขึ้น
อิอิ ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับที่ดีนะคะ เรามีเรื่องใหม่มาให้อ่านด้วย
เป็นนิยายของเราที่แต่งไว้หลายปีแล้ว เคยเอาลงอีกเว็บนึง ตอนนี้เอามาลงให้อ่านในเว็บนี้ค่ะ ระหว่างรอพี่รัชอ่านเรื่องนี้ไปก่อนได้นะคะ “IT’S WAR บัลลังก์รักสองแผ่นดิน”
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51474.0